คู่มือการใช้งาน Logbookสําหรับข้าราชการครู สายงานการสอน เพอื่ ขอประเมนิ วทิ ยฐานะสํานักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
คํานํา คูมือบันทึกประวัติการปฏิบัติงาน (Logbook) เปนเอกสารท่ีสํานักงาน ก.ค.ศ. จัดทําข้ึนสําหรับขาราชการครู สายงานการสอน สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ใชในการบันทึกช่ัวโมงการปฏิบตั ิงาน ชวั่ โมงการอบรมและพัฒนา เพอื่ ประกอบการเสนอขอใหม หี รือเล่ือนวทิ ยฐานะ ในการบันทึกประวัติการปฏิบัติงาน (Logbook) สําหรับขาราชการครู สายงานการสอนตามคูมือน้ี สํานักงาน ก.ค.ศ. ไดใชการบันทึกลงในโปรแกรมไฟล ที่ช่ือวา “LogbookTeacher”ซึ่งตองเปดผานโปรแกรม Microsoft Excel For Windows โดยทานสามารถ Download ไดท่ีเว็บไซต http://www.otepc.go.th/LogbookTeacher หรือติดตอขอไฟลไดท ี่สวนราชการท่ที านสงั กดั หวังเปน อยางย่ิงวา คูมอื การบนั ทกึ ประวัติการปฏิบตั ิงาน (Logbook) เลมนี้ จะเปนเครอื่ งมือที่ชวยใหทานมีความเขาใจในการใชโปรแกรม ซึ่งจะทําใหทานนําไปใชใหเกิดประโยชนตอการปฏิบัติงานและประกอบการขอใหม ีหรอื เล่อื นวิทยฐานะตอไป สํานักงาน ก.ค.ศ. กันยายน 2560
สารบัญ หนาคาํ นํา............................................................................................................................................................... 11. แนวคิดและหลกั การ ................................................................................................................................... 2 1.1 ความสําคัญ .......................................................................................................................................... 2 1.2 วตั ถปุ ระสงค......................................................................................................................................... 32. หลักเกณฑและวธิ กี ารใหข าราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา ตําแหนงครู มวี ทิ ยฐานะและเล่อื นวทิ ยฐานะ.................................................................................................................. 4 2.1. หลกั เกณฑ........................................................................................................................................... 4 2.2 วิธีการ ................................................................................................................................................ 103. หลกั เกณฑและวธิ กี ารพฒั นาขาราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษาสายงานการสอน............................14 3.1 หลกั เกณฑ.......................................................................................................................................... 14 3.2 วธิ ีการ ................................................................................................................................................ 154. โปรแกรมบนั ทกึ ประวตั ิการปฏบิ ัตงิ าน (Logbook) ...................................................................................16 4.1 องคป ระกอบของโปรแกรม LogbookTeacher .................................................................................16 4.2 ความหมายรายการในแผนงาน (sheet) ในโปรแกรม LogbookTeacher..........................................17 4.3 การใชงานโปรแกรม LogbookTeacher............................................................................................18 1) กระบวนการบรหิ ารจดั การ Logbook ..............................................................................................18 2) การบนั ทึกขอมลู ในโปรแกรม LogbookTeacher ............................................................................20บรรณานกุ รม................................................................................................................................................. 47คณะผจู ัดทาํ .................................................................................................................................................. 48
-2- 1. แนวคดิ และหลกั การ1.1 ความสาํ คญั จากพระราชกระแสฯ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เม่ือวันที่5 กรกฎาคม พ.ศ.2555 “ปญหาปจจุบัน คือ ครูมุงเขียนงานวิทยานิพนธ เขียนตําราสงผูบริหารเพื่อใหไดตําแหนงและเงนิ เดือนสูงขึ้น แลวบางทีก็ยา ยไปที่ใหม สวนครทู ี่มุงการสอนหนังสอื กลับไมไดอะไรตอบแทน ระบบไมยุติธรรม เราตองเปล่ียนระเบียบตรงจุดน้ี การสอนหนังสือตองถือวาเปนความดีความชอบ หากคนใดสอนดี ซ่ึงสวนมากคือมีคุณภาพและปริมาณ ตองมี Reward”“ครูบางสวนเวลาสอนนักเรียนจะสอนไมหมดแตเก็บไวบางสวน หากนักเรียนตองการรูทั้งหมดวิชาก็ตองเสียเงินไปสมัครเรียนพิเศษกับครูทานน้ัน จะเปนการสอนในโรเรียนหรือสวนตัวก็ตาม”กระทรวงศึกษาธิการไดตระหนักถึงความสําคัญและมุงม่ันที่จะสืบสานพระราชปณิธาน เพ่ือพัฒนาคุณภาพครูและคุณภาพการศึกษาอยางตอเนื่อง โดยเฉพาะในสวนที่เกี่ยวของกับครู ซ่ึงถือเปนบุคคลสําคัญในการพัฒนาเยาวชนของชาติใหเปนผูท่ีมีคุณภาพสมบูรณพรอมในทุกดาน เพ่ือเปนกาํ ลังสาํ คญั ในการพฒั นาประเทศตอ ไป ประธาน ก.ค.ศ. ไดมอบหมายใหสํานักงาน ก.ค.ศ. ดําเนินการศึกษา วิเคราะห เพื่อพัฒนาระบบการประเมนิ วิทยฐานะและการพัฒนาครูแนวใหม โดยนอมนาํ พระราชกระแสฯ มาเปน แนวทางในการพัฒนาการปรับระบบการประเมินวิทยฐานะและการพัฒนาครูแนวใหมนี้ จึงเปนกระบวนทัศนใหมของการพัฒนาครูท้ังระบบ ซึ่งจะเสริมสรางความเขมแข็งใหกับวิชาชีพครู เพ่ือใหครูมีศักยภาพในอันที่จะพัฒนาผูเรียนใหมีสมรรถนะท่ีสําคัญ และเปนครูผูมีศรัทธาอยางแรงกลา เพ่ือทําใหศิษยเปนคนดี มีคุณธรรม จริยธรรม คุณลักษณะอันพึงประสงค และคานิยมท่ีดีงามสมดังเจตนารมณของการปฏริ ปู การศกึ ษา และเพอ่ื ใหก ารปรับระบบการประเมินวิทยฐานะและการพฒั นาครแู นวใหมน้ีใหสอดคลองกับการศึกษาไทย 4.0 การจัดการศึกษาในศตวรรษที่ 21 และลดการใชเอกสารในการขอประเมินวทิ ยฐานะ สําหรับในระยะเร่ิมตน เพื่อใหขาราชการครูไดมีเวลาศึกษาทําความเขาใจกับระบบประเมินวิทยฐานะและการพัฒนาครูแนวใหม สํานักงาน ก.ค.ศ. จึงไดพัฒนาระบบการบันทึกประวัติการปฏิบัติงาน (Logbook) เพื่อใชในการจัดเก็บขอมูลประวัติการปฏิบัติงาน โดยไดจัดทําระบบการจัดเก็บขอมูลดวยโปรแกรมอยางงายคือ ใชจัดเก็บในแฟมขอมูล (File) Microsoft Excel โดยใชช่ือวา “LogbookTeacher” ซ่ึงขาราชการครูสวนใหญมีความคุนเคยและไมกระทบกับขาราชการครูท่ีอยูในสถานศึกษาพ้ืนที่หางไกลและไมมีเทคโนโลยีเครือขาย Internet รองรับการบริการ การพัฒนาการจัดเก็บขอมูลประวัติการปฏิบัติงาน สํานักงาน ก.ค.ศ. ไดจัดทําคูมือบันทึกประวัติการปฏิบัติงาน(Logbook) ใหกับขา ราชการครไู ดนํามาศึกษาและสามารถใชง านไดสะดวกย่ิงข้ึน
-3-1.2 วัตถุประสงค เพื่อใชเปนคูมือในการอธิบายและแนะนําการบันทึกจัดเก็บขอมูลการปฏิบัติงาน (Logbook)ในโปรแกรม LogbookTeacher แกขาราชการครูสายงานการสอน ตามหลักเกณฑและวิธีการใหขาราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตาํ แหนงครู มวี ทิ ยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะ (ว21/2560)
-4- 2. หลกั เกณฑและวิธีการใหข า ราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา ตาํ แหนง ครู มวี ทิ ยฐานะและเลื่อนวทิ ยฐานะ2.1. หลกั เกณฑ 1) หลักเกณฑและวิธีการใหขาราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตําแหนงครูมวี ทิ ยฐานะและเลอื่ นวิทยฐานะ ใหใชบงั คบั ตัง้ แตวันท่ี 5 กรกฎาคม 2560 เปน ตน ไป 2) ผูข อมีวทิ ยฐานะและเลือ่ นวทิ ยฐานะ ตอ งมคี ณุ สมบตั ดิ งั ตอ ไปน้ี 2.1) ระยะเวลาการดํารงตาํ แหนงครู (1) วิทยฐานะครูชํานาญการ ตองดํารงตําแหนงครู มาแลวไมนอยกวา 5 ป นับถึงวันทีย่ น่ื คําขอหรอื ดาํ รงตาํ แหนงอ่ืนท่ี ก.ค.ศ. เทยี บเทา (2) วิทยฐานะครูชํานาญการพิเศษ ตองดํารงตําแหนงครูที่มีวิทยฐานะครูชํานาญการมาแลวไมน อยกวา 5 ป นับถึงวันท่ียน่ื คําขอ หรือดาํ รงตําแหนงอ่นื ที่ ก.ค.ศ. เทียบเทา (3) วิทยฐานะครูเช่ียวชาญ ตองดํารงตําแหนงครูท่ีมีวิทยฐานะครูชาํ นาญการพิเศษมาแลวไมน อยกวา 5 ป นบั ถึงวนั ทยี่ นื่ คาํ ขอ หรอื ดํารงตาํ แหนงอื่นที่ ก.ค.ศ. เทียบเทา (4) วิทยฐานะครูเช่ียวชาญพิเศษ ตองดํารงตําแหนงครูที่มีวิทยฐานะครูเช่ียวชาญมาแลว ไมนอยกวา 5 ป นับถงึ วนั ทยี่ นื่ คาํ ขอ หรือดาํ รงตําแหนง อืน่ ท่ี ก.ค.ศ. เทียบเทา 2.2) มีชั่วโมงการปฏิบัติงานในตําแหนงครู หรือตําแหนงครูในวิทยฐานะที่ดํารงอยูปจจุบัน ในชวงระยะเวลายอ นหลงั 5 ป นบั ถึงวันที่ยื่นคําขอ ดงั น้ี (1) การขอมีวทิ ยฐานะครูชํานาญการหรือเล่ือนเปนวิทยฐานะครูชํานาญการพิเศษตองมีช่ัวโมงการปฏิบัติงาน ในแตละปไมนอยกวา 800 ชั่วโมง โดยในช่ัวโมงการปฏิบัติงานตองมีชั่วโมงการมีสวนรวมในชุมชนการเรียนรูทางวิชาชีพ ในแตละปไมนอยกวา 50 ชั่วโมง ทั้งน้ี ตองมีชั่วโมงสอนข้ันตา่ํ ตามที่ ก.ค.ศ. กาํ หนดดวย (2) การขอเล่ือนเปนวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญหรือวิทยฐานะครูเช่ียวชาญพิเศษตองมีชั่วโมงการปฏิบัติงาน ในแตละปไมนอยกวา 900 ช่ัวโมง โดยในช่ัวโมงการปฏิบัติงานตองมีช่ัวโมงการมีสวนรวมในชุมชนการเรียนรูทางวิชาชีพ ในแตละปไมนอยกวา 50 ชั่วโมง ท้ังน้ี ตองมีช่ัวโมงสอนข้ันตํ่าตามท่ี ก.ค.ศ. กําหนดดวย โดยในชวงระยะเวลายอนหลัง 5 ป ผูขอจะตองมีช่ัวโมงสอนในวชิ า/สาขา/กลมุ สาระการเรียนรู ท่เี สนอผลงานทางวิชาการน้ัน 2.3) มีวินัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ โดยไมเคยถูกลงโทษทางวินัยหรือจรรยาบรรณวิชาชีพ ในชวงระยะเวลายอนหลัง 5 ป นับถึงวันที่ยื่นคําขอ โดยพิจารณาจากสาํ เนาแฟมประวัติขาราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ. 16) หรือสําเนาทะเบียนประวัติขา ราชการ (ก.พ. 7) 2.4) ผานการพัฒนา ตามหลักเกณฑและวิธีการท่ี ก.ค.ศ. กําหนด ในชวงระยะเวลายอนหลัง 5 ป นบั ถึงวันทีย่ ืน่ คาํ ขอ 2.5) มีผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติหนาที่ สายงานการสอน ในชวงระยะเวลายอนหลัง5 ปการศึกษาตดิ ตอกนั นับถึงวนั ส้ินปก ารศกึ ษากอนวนั ท่ยี ื่นคําขอ ซึ่งไดมีการประเมินตามหลักเกณฑ
-5-ขอ 5 และมีผลการประเมินผานเกณฑตามหลักเกณฑ ขอ 6 ไมนอยกวา 3 ปการศึกษา โดยพิจารณาจากขอ มูลที่บันทึกไวใ นแบบประเมนิ ผลงานท่ีเกิดจากการปฏบิ ัตหิ นา ท่ี ตําแหนง ครู รายปการศกึ ษา (วฐ.2) ทั้งนี้ ใหผูขอและผูอํานวยการสถานศึกษาเปนผูรับรองขอมูล เอกสาร และหลักฐานเกี่ยวกับคุณสมบัติของผูขอดวย หากภายหลังตรวจสอบแลวพบวามีคุณสมบัติไมเปนไปตามหลักเกณฑนี้ ใหถ อื วา เปนผูขาดคุณสมบตั ิ 3) ผูข อมีวิทยฐานะหรือเลือ่ นวิทยฐานะตอ งผา นการประเมนิ ดังน้ี 3.1) ทุกวิทยฐานะ ตองผานการประเมินผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติหนาท่ี โดยพิจารณาจากดานการจัดการเรียนการสอน ดานการบริหารจัดการชั้นเรียน และดานการพัฒนาตนเองและพฒั นาวิชาชีพ 3.2) วิทยฐานะครูเช่ียวชาญและวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญพิเศษ นอกจากตองผานการประเมินตามขอ 3.1 แลว ตองผานการประเมินผลงานทางวิชาการท่ีแสดงใหเห็นถึงสมรรถนะในการวิจยั เพ่ือพฒั นากระบวนการเรียนรูแ ละการพัฒนาวชิ าชพี ดงั น้ี (1) วิทยฐานะครูเชี่ยวชาญ ตองมีผลงานทางวิชาการ ซึ่งเปนงานวิจัยในชั้นเรียน หรือรายงานผลการพัฒนาการจัดการเรียนรูที่เกิดจากชุมชนการเรียนรูทางวิชาชีพ หรือผลงานทางวิชาการในลักษณะอ่ืน ที่มีจุดมุงหมายในการแกปญหาดานการเรียนรูของผูเรียนและสอดคลองกับแผนการจัดการเรียนรู มีการศึกษาแนวคิด ทฤษฎี และองคความรูตาง ๆเพื่อแกปญหาและนําไปสูการสรุปองคความรูเพ่ือพัฒนาคุณภาพของผูเรียน จํานวนไมนอยกวา2 รายการ โดยตองเปน งานวจิ ัยในช้ันเรียน อยางนอย 1 รายการ (2) วิทยฐานะครูเชี่ยวชาญพิเศษ ตองมีผลงานทางวิชาการ ซึ่งเปนงานวิจัยเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอน หรือรายงานผลการพัฒนาการจัดการเรียนรูท่ีเกิดจากชุมชนการเรียนรูท างวิชาชีพ หรอื ผลงานทางวิชาการในลักษณะอ่ืน ที่มีจุดมงุ หมายในการแกปญหาดานการเรยี นรูของผูเรียนและสอดคลองกับแผนการจดั การเรียนรู มีการศึกษาแนวคิด ทฤษฎแี ละองคค วามรูตา ง ๆเพ่ือแกปญหาและนําไปสูการสรุปองคความรูเพ่ือพัฒนาคุณภาพของผูเรียน จํานวนไมนอยกวา2 รายการ โดยตอ งเปนงานวจิ ัยเกยี่ วกบั การจัดการเรยี นการสอน อยา งนอ ย 1 รายการ ทั้งนี้ ผลงานทางวิชาการที่ผูขอเสนอ ตองเปนผลงานในชวงระยะเวลายอนหลัง 5 ปนับถึงวันที่ย่ืนคําขอ และตองไมเปนผลงานทางวิชาการที่ใชเปนสวนหนึ่งของการศึกษาเพื่อรับปริญญา หรือประกาศนียบัตรใด ๆ หรือเปนผลงานทางวิชาการท่ีเคยใชเพ่ือเลื่อนตําแหนงหรือเพื่อใหม ีวทิ ยฐานะหรือเลือ่ นวิทยฐานะมาแลว 4) ใหมีผปู ระเมนิ ดงั นี้ 4.1) ผูอํานวยการสถานศึกษา ในฐานะผูบงั คับบัญชาเปนผูประเมินผลงานท่ีเกดิ จากการปฏิบัติหนาที่ทุกวิทยฐานะ โดยใหผูอํานวยการสถานศึกษาตั้งคณะกรรมการจากขาราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษาน้ันหรือนอกสถานศึกษา เพื่อตรวจสอบและกล่ันกรองขอมูลท่ีผูดํารงตําแหนงครูรายงาน และเสนอความเห็นเพ่ือประกอบการพิจารณาประเมินผลงานที่เกิดจากการปฏิบัตหิ นาท่ี ในแตละปก ารศกึ ษา กรณีการประเมินในปการศึกษาใด หากผูอํานวยการสถานศึกษาไมอาจประเมินผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหนาที่ของผูดํารงตําแหนงครูดวยเหตุใด ๆ ใหเสนอ กศจ. แตงต้ัง
-6-ขาราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในจังหวัดน้ันที่มีความรู ความสามารถเหมาะสมเปนผปู ระเมนิ ผลงานที่เกิดจากการปฏิบตั หิ นาทแ่ี ทน กรณที ี่ผดู ํารงตําแหนงครูไดยน่ื คําขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะ หากผอู ํานวยการสถานศกึ ษามีวทิ ยฐานะต่ํากวาวทิ ยฐานะท่ขี อ ใหเสนอ กศจ. แตงต้ังขาราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในจังหวัดน้ัน ท่ีมีวิทยฐานะไมต่ํากวาวิทยฐานะที่ขอเปนผูรว มประเมนิ สรุปผลการตรวจสอบและประเมนิ ตําแหนง ครู 5 ปก ารศึกษา (วฐ.3) 4.2) คณะกรรมการที่ ก.ค.ศ. ต้ัง เปนผูประเมินผลงานทางวิชาการของผูขอเลื่อนเปน วิทยฐานะครูเช่ียวชาญและครูเช่ยี วชาญพเิ ศษ 5) การประเมนิ ผลงานทีเ่ กิดจากการปฏิบตั ิหนาท่ี ผูดํารงตําแหนงครูตองไดรับการประเมินผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติหนาท่ี ดานการจัดการเรียนการสอน ดานการบริหารจัดการช้ันเรียน และดานการพัฒนาตนเองและพัฒนาวิชาชีพอยางตอ เนื่องทุกป ดังน้ี 5.1) ใหผูดํารงตําแหนงครูจัดทํารายงานผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติหนาที่ ตามแบบรายงานผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหนาท่ี สายงานการสอน รายปการศึกษา (วฐ.2) เสนอผูประเมินปก ารศกึ ษาละ 1 ครง้ั 5.2) ใหผูประเมิน ประเมินผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติหนาที่ของผูดํารงตําแหนงครูเปนระยะเวลา 5 ปก ารศึกษา ภาคเรียนละ 1 คร้ัง โดยในการประเมนิ ภาคเรียนท่ี 1 เปน การประเมินเพ่ือใหคําแนะนําและพัฒนา และการประเมินภาคเรียนที่ 2 ใหประเมินในภาพรวมทั้งป ถามีการประเมินทุกตัวช้ีวัดและผลการประเมินผานเกณฑตามที่กําหนดในขอ 6 สามารถนําผลการประเมินดงั กลา วไปขอมีวิทยฐานะหรือเล่ือนวิทยฐานะได 5.3) ใหผูประเมินสรุปผลการประเมินใหผูดํารงตําแหนงครูทราบ ปการศึกษาละ 1 ครั้งกรณีท่ีผูดํารงตําแหนงครูไมเห็นดวยกับผลการประเมินนั้น ใหเปดโอกาสใหไดปรึกษาและชี้แจง หากผูประเมินพิจารณาแลวเห็นวา ผลการประเมินถูกตองตรงตามความเปนจริงแลว แตผูนั้นมีความเห็นไมสอดคลองกับผูประเมิน ใหผูประเมินแจงไปยังสํานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาเพ่ือแตงตั้งคณะกรรมการตรวจสอบผลการประเมินของปการศึกษานั้น และเมื่อไดขอยุติเปนประการใดใหถือเปน อันส้นิ สดุ 6) เกณฑการตดั สนิ ผูที่จะมีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะตามหลักเกณฑและวิธีการน้ี จะตองมีผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหนาที่ ยอนหลัง 5 ปการศึกษาติดตอกัน นับถึงวันสิ้นปการศึกษา กอนวันท่ียื่นคําขอ โดยตองผานเกณฑการประเมิน ไมนอยกวา 3 ปการศึกษา และผลงานทางวิชาการผานเกณฑตามท่ี ก.ค.ศ. กาํ หนด ดังตอ ไปนี้ 6.1) วทิ ยฐานะครชู ํานาญการและครชู ํานาญการพิเศษ วิทยฐานะครชู ํานาญการ ตองไดรับการประเมินทุกตัวช้ีวดั และมรี ะดับคุณภาพผลงานท่เี กดิ จากการปฏิบัติหนาท่ี ดงั นี้ (1) ดา นท่ี 1 ดานการจดั การเรียนการสอน ทกุ ตัวช้วี ัด ตอ งมผี ลการประเมินไมตํ่ากวาระดบั 2 และ
-7- (2) ดานท่ี 2 ดานการบริหารจัดการชั้นเรียน และดาน ที่ 3 ดานการพัฒนาตนเองและพัฒนาวิชาชีพ แตละดาน ตองมีผลการประเมินไมต่ํากวาระดับ 2 ไมนอ ยกวา 1 ตวั ชี้วดั วิทยฐานะครูชํานาญการพิเศษ ตองไดรับการประเมินทุกตัวชี้วัดและมีระดับคุณภาพผลงานทเี่ กิดจากการปฏิบตั หิ นา ท่ี ดังนี้ (1) ดานท่ี 1 ดานการจัดการเรียนการสอน ทุกตัวช้ีวัดตองมี ผลการประเมินไมต่ํากวา ระดับ 3 และ (2) ดา นท่ี 2 ดานการบริหารจัดการชัน้ เรียน และดานที่ 3 ดานการพฒั นาตนเองและพฒั นาวชิ าชพี ตอ งมผี ลการ ประเมนิ ทั้ง 2 ดาน ไมตา่ํ กวา ระดับ 2 และรวมกันแลว ไมนอ ยกวา 3 ตวั ชีว้ ัด
-8- 6.2) วิทยฐานะครูเชี่ยวชาญและครเู ชี่ยวชาญพิเศษ วิทยฐานะครูเชี่ยวชาญ ตองไดรับการประเมินทุกตัวชี้วัดและมีระดับคุณภาพผลงานท่ีเกดิ จากการปฏิบัติหนาท่ี ดงั น้ี (1) ดานท่ี 1 ดานการจัดการเรียนการสอน ทุกตัวชี้วัดตองมี ผลการประเมินไมต ํา่ กวาระดับ 4 และ (2) ดานท่ี 2 ดา นการบรหิ ารจัดการชัน้ เรียน และดานที่ 3 ดานการพัฒนาตนเองและพฒั นาวิชาชีพ ตองมผี ลการ ประเมนิ ทง้ั 2 ดา น ไมตาํ่ กวา ระดบั 3 และรวมกันแลว ไมนอยกวา 3 ตัวชีว้ ดั และ (3) ผลงานทางวิชาการ ตองไดคะแนนจากกรรมการ แตล ะคน ไมต ่ํากวารอ ยละ 75 วิทยฐานะครูเชี่ยวชาญพิเศษ ตองไดรับการประเมินทุกตัวชี้วัดและมีระดับคุณภาพผลงานท่เี กดิ จากการปฏบิ ตั หิ นาท่ี ดงั น้ี (1) ดานท่ี 1 ดา นการจัดการเรยี นการสอน ทุกตวั ชีว้ ัด ตองมีผลการประเมินไมต ่ํากวาระดบั 5 และ (2) ดานท่ี 2 ดานการบริหารจัดการชัน้ เรยี น และดานที่ 3 ดานการพัฒนาตนเองและพัฒนาวชิ าชีพ ตองมผี ลการ ประเมิน ทง้ั 2 ดา น ไมต ่าํ กวา ระดบั 4 และรวมกันแลว ไมนอ ยกวา 3 ตัวชวี้ ดั และ (3) ผลงานทางวิชาการ ตองไดคะแนนจากกรรมการ แตล ะคน ไมต ่าํ กวา รอ ยละ 80 7) การพิจารณาอนมุ ัตผิ ลการประเมิน 7.1) วทิ ยฐานะครชู ํานาญการและครูชํานาญการพิเศษ ให กศจ. เปนผูอนุมัติ โดยใหมีผลไมกอนวันท่ีสํานักงานศึกษาธิการจังหวัดไดรับคําขอมวี ิทยฐานะหรือเลอื่ นวิทยฐานะ และผลการประเมินผลงานท่เี กดิ จากการปฏิบัตหิ นาท่ี พรอมทั้งเอกสารหลกั ฐานท่ีเกีย่ วขอ งครบถวนสมบูรณ 7.2) วทิ ยฐานะครูเช่ยี วชาญและครเู ช่ยี วชาญพิเศษ ให ก.ค.ศ. เปนผูอนุมัติ โดยใหมีผลไมกอนวันท่ีสํานักงาน ก.ค.ศ. ไดรับคําขอเลื่อนวิทยฐานะผลการประเมินผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหนาท่ี และผลงานทางวิชาการ ซึ่งมีเอกสารหลกั ฐานท่ีเก่ียวของครบถวนสมบรู ณ กรณีท่ีมีการปรับปรุงผลงานทางวิชาการ หาก ก.ค.ศ. อนุมัติ ใหมีผลไมกอนวันที่สํานกั งาน ก.ค.ศ. ไดร ับผลงานทางวิชาการทป่ี รับปรุงครบถว นสมบูรณค รั้งหลงั สุด 8) เมื่อ กศจ. หรือ ก.ค.ศ. แลวแตกรณี พิจารณาผลการประเมินและมีมติเปนประการใดแลวใหถือเปนอนั สนิ้ สุด 9) ใหดําเนินการพิจารณาตามหลักเกณฑและวิธีการนี้โดยเครงครัด หากภายหลังตรวจสอบพบวามีการดําเนินการโดยจงใจหรอื ประมาทเลนิ เลอไมป ฏิบตั ิใหเ ปนไปตามหลักเกณฑแ ละ
-9-วธิ กี ารนี้ หรอื มกี ารดําเนนิ การทม่ี ชิ อบใดๆ ใหถือวา เปน ความรบั ผดิ ชอบของผขู อมวี ิทยฐานะหรอื เลอ่ื นวทิ ยฐานะและผูท ่เี ก่ียวของ และเปน ความผิดทางวินัย แลวแตก รณี 10) ตามหลกั เกณฑและวธิ ีการน้ี “สํานักงานศึกษาธิการจังหวัด” ใหหมายความรวมถึง สวนราชการ ดวย “สํานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา” ใหหมายความรวมถึง สํานักงาน กศน.จังหวัด/กรงุ เทพมหานคร ดวย “กศจ.” ใหหมายความรวมถึง อ.ก.ค.ศ.ท่ี ก.ค.ศ. ตงั้ ดว ย “ชั่วโมงการปฏิบัติงาน” หมายถึง จํานวนชวั่ โมงสอนตามตารางสอน งานสนับสนุนการจัดการเรียนรู และงานตอบสนองนโยบายและจดุ เนน “ผูอํานวยการสถานศึกษา” หมายความรวมถึง ผูอํานวยการสถาบันพัฒนาครูคณาจารยและบุคลากรทางการศกึ ษา ดว ย
-10-2.2 วิธีการ 1) ใหผูประเมิน ดําเนินการประเมินผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติหนาที่ของผูดํารงตําแหนงครูทุกปการศึกษา เมื่อส้ินปการศึกษา โดยแตงตั้งคณะกรรมการตามความเหมาะสม เพ่ือตรวจสอบและกล่ันกรองขอมูลของผูดํารงตําแหนงครู และบันทึกผลการประเมินในแบบรายงานผลงานที่เกิดจากการปฏบิ ัติหนาที่ สายงานการสอน รายปก ารศกึ ษา (วฐ.2) 2) ผูขอมีวิทยฐานะหรือเล่ือนวิทยฐานะ ตองมีคุณสมบัติตามหลักเกณฑขอ 2 โดยใหยื่นคําขอตอสถานศึกษา ไดต ลอดป รอบปละ 1 คร้ัง พรอมเอกสารหลักฐานเพือ่ ประกอบการพจิ ารณา ดังน้ี 2.1) วิทยฐานะครูชํานาญการและวิทยฐานะครูชํานาญการพิเศษ ใหย่ืนเอกสารจํานวน2 ชุด ดงั นี้ (1) คาํ ขอมีวทิ ยฐานะหรอื เลอื่ นวทิ ยฐานะ ตําแหนงครู (วฐ.1) (2) รายงานผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติหนาที่ ตําแหนงครู รายปการศึกษา (วฐ.2)จาํ นวน 5 ปการศกึ ษา (3) บันทึกประวัติการปฏิบัติงาน (Logbook) โดยมีช่ัวโมงการปฏิบัติงาน ช่ัวโมงการอบรมและพัฒนา และผา นการรับรองจากผูอํานวยการสถานศกึ ษา พรอมแนบไฟล Logbook (4) เอกสารหลักฐานอื่นที่เกี่ยวของ เชน ตารางสอน คําส่ังมอบหมายงาน วุฒิบัตรผานการพัฒนา เปนตน 2.2) วิทยฐานะครเู ช่ยี วชาญและวทิ ยฐานะครูเช่ียวชาญพิเศษ ใหยนื่ เอกสารจาํ นวน 4 ชดุ ดังนี้ (1) คําขอมวี ทิ ยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะ ตําแหนง ครู (วฐ.1) (2) รายงานผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติหนาท่ี ตําแหนงครู รายปการศึกษา (วฐ.2)จํานวน 5 ปการศึกษา (3) บันทึกประวัติการปฏิบัติงาน (Logbook) โดยมีชั่วโมงการปฏิบัตงิ าน ช่ัวโมงการอบรมและพัฒนา และผา นการรบั รองจากผอู าํ นวยการสถานศกึ ษา พรอ มแนบไฟล Logbook (4) ผลงานทางวชิ าการตามทีห่ ลักเกณฑกําหนด (5) เอกสารหลักฐานอ่ืนที่เกี่ยวของ เชน ตารางสอน คําส่ังมอบหมายงาน วุฒิบัตรผา นการพฒั นา เปน ตน ทั้งนี้ เอกสารหลักฐาน ตามขอ (2) และ (3) ตองมีการบันทึกขอมูลเปนระยะ ๆ ใหครบถวนและเปน ปจจบุ ัน 3) การขอมีวิทยฐานะหรือเลอื่ นวทิ ยฐานะ สําหรับผูท่ีจะเกษียณอายุราชการ 3.1) ผูขอมีวิทยฐานะครูชํานาญการและขอเล่ือนเปนวิทยฐานะครูชํานาญการพิเศษใหยื่นคําขอ พรอมเอกสารหลักฐาน ตามวิธีการขอ 2.1 ตอสถานศึกษาเพ่ือตรวจสอบและรับรองแลวเสนอผูบังคับบัญชาตามลําดับ ถึงสํานักงานศึกษาธิการจังหวัด กอนวันท่ีจะเกษียณอายุราชการไมน อ ยกวา 6 เดือน 3.2) ผูขอเลื่อนเปนวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญและวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญพิเศษใหยื่นคําขอพรอมเอกสารหลักฐาน ตามวิธีการขอ 2.2 ตอสถานศึกษาเพ่ือตรวจสอบและรับรอง
-11-แลวเสนอผูบังคับบัญชาตามลําดับและสํานักงานศึกษาธิการจังหวัด ถึงสํานักงาน ก.ค.ศ. กอนวันที่จะเกษยี ณอายรุ าชการไมน อ ยกวา 6 เดอื น 4) ใหผ ูอํานวยการสถานศกึ ษาดาํ เนินการ ดังน้ี 4.1) ตรวจสอบคุณสมบัติของผูขอมีวิทยฐานะหรือเล่ือนวิทยฐานะใหเปนไปตามหลักเกณฑ ขอ 2 4.2) ใหสรุปผลการประเมินผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหนาท่ีของผูขอในแตละปการศึกษารวม 5 ปการศึกษา ตามท่ผี ูขอรายงานตามแบบรายงานผลงานท่ีเกดิ จากการปฏิบัติหนาที่ ตําแหนงครูรายปการศึกษา (วฐ.2) และบันทึกลงในแบบสรุปผลการตรวจสอบและประเมิน ตําแหนงครู รวม5 ปก ารศกึ ษา (วฐ.3) 4.3) สงเอกสารหลักฐานตามที่กําหนดไวในวิธีการ ขอ 2.1 (1) (3) และ (4) ขอ 2.2 (1)(3) (4) และ (5) และแบบสรุปผลการประเมินตามวิธีการขอ 4.2 พรอมทง้ั เอกสารหลักฐานทเ่ี ก่ียวของใหส าํ นกั งานเขตพ้ืนที่การศกึ ษาหรอื สว นราชการ แลว แตก รณี 5) สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา ตรวจสอบคุณสมบัติ ผลการประเมิน และเอกสารหลักฐานตามท่ีสถานศึกษาสงมา และใหความเห็นในแบบคําขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะ ตําแหนงครู (วฐ.1)แลว จัดสงเอกสารหลกั ฐานดังกลาวใหส ํานกั งานศกึ ษาธกิ ารจังหวดั 6) สาํ นักงานศึกษาธกิ ารจังหวัด ตรวจสอบคุณสมบตั ิ ผลการประเมนิ และเอกสารหลักฐานตามที่สํานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาสงมาใหถูกตอง ครบถวนตามหลักเกณฑและวิธีการน้ี แลวเสนออกศจ. และ กศจ. พจิ ารณา 7) การพจิ ารณาดําเนินการของ กศจ. 7.1) วทิ ยฐานะครชู าํ นาญการและวทิ ยฐานะครูชํานาญการพิเศษ (1) กรณีท่ี กศจ. มีมติอนุมัติ ใหผูมีอํานาจตามมาตรา 53 ส่ังแตงตั้งใหมีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะ และแจงสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา เพ่ือแจงผูขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะทราบ (2) กรณีที่ กศจ. มมี ติไมอ นุมตั ิ ใหสํานักงานศึกษาธิการจังหวดั แจง ผลการพิจารณาพรอมท้ังขอสังเกตการประเมินไปยังสํานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา เพื่อแจงผูขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะทราบ
-12- 7.2) วิทยฐานะครเู ชี่ยวชาญและวทิ ยฐานะครเู ช่ยี วชาญพเิ ศษ (1) กรณีที่ กศจ. มีมติวาเปนผูมีคุณสมบัติตามท่ี ก.ค.ศ. กําหนด ใหสํานักงานศึกษาธิการจังหวัดสงเอกสารหลักฐาน จํานวน 4 ชุด ไปยังสํานักงาน ก.ค.ศ. ภายใน 30 วัน นับแตวนั ท่ี กศจ. มมี ติ เพือ่ เสนอ ก.ค.ศ. พจิ ารณา ดงั นี้ - คาํ ขอมวี ิทยฐานะหรือเล่อื นวทิ ยฐานะ ตาํ แหนง ครู (วฐ.1) - สรปุ ผลการตรวจสอบและประเมนิ ตาํ แหนงครู 5 ปการศึกษา (วฐ.3) - มติ กศจ. คร้งั ทเ่ี ก่ียวของและมกี ารรบั รองสาํ เนาถูกตอง - ผลงานทางวชิ าการตามทหี่ ลักเกณฑกําหนด ทั้งนี้ ก.ค.ศ. อาจเรียกใหจัดสงเอกสารหลักฐานอ่ืนเพ่ิมเติม เพื่อประกอบการพจิ ารณาก็ได (2) กรณีที่ กศจ. มีมติวาเปนผูไมมีคุณสมบัติหรือไมผานเกณฑตามที่ ก.ค.ศ.กําหนดใหสํานักงานศึกษาธิการจังหวัดแจงผลการพิจารณาพรอมท้ังขอสังเกตการประเมิน และเอกสารหลักฐานท่ีเก่ียวของ จํานวน 3 ชุด ไปยังสํานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา เพ่ือแจงผูขอมีวิทยฐานะหรอื เลอื่ นวทิ ยฐานะทราบ 8) การพิจารณาผลงานทางวิชาการ สําหรับวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญและวิทยฐานะครูเชย่ี วชาญพิเศษ 8.1) ก.ค.ศ. แตงตั้งคณะกรรมการประเมินผลงานทางวิชาการ จากผูทรงคุณวุฒิที่มีความรู ความสามารถ และเชี่ยวชาญในสาขาวิชาที่จะตรวจและประเมิน จํานวน 3 คนเปนคณะกรรมการประเมนิ ตอผูขอเล่ือนวทิ ยฐานะ จาํ นวน 1 ราย 8.2) กรณีคณะกรรมการประเมินผลงานทางวิชาการ พิจารณาแลวเห็นควรใหปรับปรุงผลงานทางวิชาการ ผูขอเลื่อนวิทยฐานะตองมีผลการประเมินผานเกณฑตามที่ ก.ค.ศ. กําหนดจากคณะกรรมการ ไมนอยกวา 2 ใน 3 คน ท้ังนี้ ผลงานทางวิชาการตองอยูในวิสัยท่ีสามารถปรับปรุงไดและ ก.ค.ศ. มีมติใหปรับปรุง ก็ใหปรับปรุงตามขอสังเกตของกรรมการได ไมเกิน 2 คร้ัง ครั้งแรกภายใน 6 เดือน และคร้ังที่ 2 ภายใน 3 เดือน นับแตวันที่สํานักงาน ก.ค.ศ. แจงมติใหสํานักงานศึกษาธิการจงั หวัดทราบ เม่ือผูขอเลื่อนวิทยฐานะปรับปรุงผลงานทางวิชาการแลว ใหสํานักงาน ก.ค.ศ.เสนอคณะกรรมการประเมินผลงานทางวิชาการชุดเดิม ตรวจและประเมินตอ ไป 8.3) กรณีผูขอเลื่อนวิทยฐานะไมสงผลงานทางวิชาการท่ีปรับปรุงตามขอสังเกตภายในระยะเวลาที่กําหนด หรือสง พน ระยะเวลาท่กี าํ หนด ใหถ อื วาสละสิทธิ์ 8.4) กรณีคณะกรรมการประเมินผลงานทางวิชาการ พิจารณาแลวเห็นวาผลงานทางวิชาการมีคุณภาพและเปนประโยชนในการจัดการเรียนการสอนตอผูเรียน อาจใหผูขอเล่ือนวิทยฐานะมานําเสนอกระบวนการและวิธีการดําเนินการในเรื่องดังกลาว และคณะกรรมการอาจไปประเมิน ณ สถานท่ปี ฏบิ ัตงิ านจริงดว ยกไ็ ด 8.5) กรณีที่ ก.ค.ศ. มีมติอนุมัติ ใหสํานักงาน ก.ค.ศ. แจงมติไปยังสํานักงานศึกษาธิการจงั หวดั เพ่อื ดําเนนิ การตอ ไป
-13- 8.6) กรณีท่ี ก.ค.ศ. มีมติไมอนุมัติ ใหสํานักงาน ก.ค.ศ. แจงมติพรอมท้ังขอสังเกตไปยังสํานักงานศึกษาธิการจังหวัด เพ่ือดําเนินการแจงสํานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา เพื่อแจงผูขอเล่ือนวทิ ยฐานะทราบตอ ไป 9) การแตง ตั้ง 9.1) วทิ ยฐานะครูชาํ นาญการ กรณีท่ี กศจ. มีมติอนุมัติและผูขอมีวิทยฐานะผานการพัฒนาตามที่ ก.ค.ศ. กําหนดใหผูมีอํานาจตามมาตรา 53 ส่ังแตงตั้งใหมีวิทยฐานะครูชํานาญการ และใหไดรับเงินเดือนอันดับ คศ. 2ในข้ันหรืออัตราเงินเดือนเทาเดิม ถาไมมีขั้นหรืออัตราเงินเดือนเทาเดิม ใหไดรับในข้ันหรืออัตราเงินเดอื นใกลเคียงทีส่ งู กวา 9.2) วิทยฐานะครูชํานาญการพเิ ศษ กรณีท่ี กศจ. มีมติอนุมัติและผูขอเลื่อนวิทยฐานะผานการพัฒนาตามที่ ก.ค.ศ.กําหนด ใหผูมีอํานาจตามมาตรา 53 สั่งแตงต้ังใหเล่ือนเปนวิทยฐานะครูชํานาญการพิเศษ และใหไดรับเงินเดือนอันดับ คศ. 3 ในข้ันหรืออัตราเงินเดือนเทาเดิม ถาไมมีข้ันหรืออัตราเงินเดือนเทาเดิมใหไดร ับในขัน้ หรืออัตราเงินเดือนใกลเ คียงทีส่ ูงกวา 9.3) วทิ ยฐานะครเู ชี่ยวชาญ กรณีท่ี ก.ค.ศ. มีมติอนุมัติและผูขอเลื่อนวิทยฐานะผานการพัฒนาตามท่ี ก.ค.ศ.กําหนด ใหผูมีอํานาจตามมาตรา 53 ส่ังแตงตั้งใหเลื่อนเปนวิทยฐานะครูเช่ียวชาญ และใหไดรับเงินเดือนอันดับ คศ. 4 ในข้ันหรืออัตราเงินเดือนเทาเดิม ถาไมมีขั้นหรืออัตราเงินเดือนเทาเดิมใหไ ดรับในขนั้ หรอื อตั ราเงนิ เดือนใกลเคยี งที่สูงกวา 9.4) วิทยฐานะครเู ชีย่ วชาญพิเศษ กรณีที่ ก.ค.ศ. มีมติอนุมัติและผูขอเล่ือนวิทยฐานะผานการพัฒนาตามท่ี ก.ค.ศ.กาํ หนดใหผูบังคบั บัญชาสูงสุดของสวนราชการที่ผูน้ันสังกัดอยูเปนผูสั่งบรรจุและใหรัฐมนตรีเจาสังกัดนําเสนอนายกรัฐมนตรี เพ่อื นําความกราบบังคมทูลเพ่อื ทรงพระกรณุ าโปรดเกลาฯ แตงตั้งใหเ ลือ่ นเปนวิทยฐานะครูเช่ียวชาญพิเศษ และใหไดรับเงินเดือนอันดับ คศ. 5 ในข้ันหรืออัตราเงินเดือนเทาเดิมถาไมม ีขั้นหรืออัตราเงนิ เดอื นเทา เดิม ใหไดร บั ในขั้นหรอื อัตราเงนิ เดือนใกลเคียงทีส่ ูงกวา ท้ังนี้ เม่ือออกคําสั่งบรรจุและแตงต้ังในแตละวิทยฐานะตาม ขอ 9.1 – 9.4 ใหสงสําเนาคําส่ังและเอกสารหลกั ฐานท่ีเกย่ี วขอ ง จาํ นวน 1 ชุด ใหส ํานกั งาน ก.ค.ศ. ภายใน 7 วนั นับแตว นั ออกคาํ ส่งั 10) การดําเนนิ การตามหลกั เกณฑและวิธกี ารนี้ ใหเรงรดั การดาํ เนินการใหแ ลวเสรจ็ โดยเรว็ 11) กรณที ี่ไมเปน ไปตามหลักเกณฑและวธิ ีการนี้ ใหเสนอ ก.ค.ศ. พจิ ารณา
-14-3. หลักเกณฑและวธิ ีการพฒั นาขา ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาสายงานการ สอน3.1 หลักเกณฑ 1) ขาราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตองไดรับการพัฒนาอยางตอเนื่องทุกป โดยใหประเมินตนเองตามแบบท่ี ก.ค.ศ. กําหนด พรอมทั้งจัดทําแผนการพัฒนาตนเองเปนรายป ตามแบบทสี่ วนราชการกาํ หนด และเขารับการพัฒนาตามแผนอยางเปน ระบบและตอเนื่อง 2) ขาราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาท่ีผานการพัฒนาตามหลักเกณฑนี้ สามารถนําผลที่ผานการพัฒนาไปใชเปนคุณสมบัติเพ่ือขอมีและเล่ือนวิทยฐานะไดทุกวิทยฐานะ และใหถือวาการพัฒนาตามหลักเกณฑนี้เปนการพัฒนากอนแตงตั้งใหมีและเล่ือนวิทยฐานะ ตามมาตรา ๘๐ แหงพระราชบญั ญตั ิระเบยี บขาราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๗ 3) หลักสูตรการพัฒนาตองมีองคประกอบดานความรู ดานทักษะ ดานความเปนครู และคณุ ลกั ษณะท่คี าดหวัง โดยมเี ง่อื นไข ดงั ตอไปนี้ 3.1) หลักสตู รทส่ี ถาบนั คุรุพัฒนารับรองตามมาตรฐานวทิ ยฐานะ หรอื ตามที่ ก.ค.ศ. กําหนด 3.2) พัฒนาอยางตอเนื่องทุกป ในแตละป ไมนอยกวา ๑๒ ชั่วโมง แตไมเกิน ๒๐ ชั่วโมงและภายในระยะเวลา ๕ ป ตองมีช่ัวโมงการพัฒนา จํานวน ๑๐๐ ช่ัวโมง หากภายในระยะเวลา ๕ ปมีจํานวนชั่วโมงการพัฒนาไมครบ ๑๐๐ ชั่วโมง สามารถนําจํานวนชั่วโมงการมีสวนรวมในชุมชนการเรียนรูทางวิชาชีพ (Professional Learning Community : PLC) สวนที่เกิน ๕๐ ช่ัวโมงในแตละปมานับรวมเปน จาํ นวนชั่วโมงการพัฒนาได
-15-3.2 วธิ ีการ 1) ใหสวนราชการและผูบังคับบัญชามีหนาท่ีสงเสริม สนับสนุน และประสานใหขาราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษาเขารับการพฒั นาอยางเปน ระบบและตอเนื่อง 2) ใหขาราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาประเมินตนเองตามแบบที่ ก.ค.ศ. กําหนด และจดั ทําแผนการพัฒนาตนเองเปนรายป ตามแบบท่ีสวนราชการกําหนด เสนอผูอํานวยการสถานศึกษาพรอ มแนบเอกสารหลักฐานที่เกีย่ วของ 3) ใหผูอํานวยการสถานศึกษาตรวจสอบและพิจารณาอนุญาตใหขาราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษาเขารบั การพัฒนา 4) ใหขาราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเขารับการพัฒนา แลวนําผลสําเร็จของการพัฒนาตามหลักสูตรท่ีสถาบันคุรุพัฒนารับรอง หรือตามที่ ก.ค.ศ. กาํ หนด พรอมเอกสารหลักฐานลงในบนั ทึกประวตั กิ ารปฏิบตั งิ าน เสนอตอ ผอู ํานวยการสถานศึกษาทกุ ครั้ง 5) ใหผูอํานวยการสถานศึกษาตรวจสอบเอกสารหลักฐานเก่ียวกับหลักสูตรท่ีสถาบันคุรุพัฒนารับรองตามมาตรฐานวิทยฐานะ หรือตามท่ี ก.ค.ศ. กําหนด แลวรับรองผลสําเร็จการพัฒนานั้นในบันทึกประวตั กิ ารปฏิบตั ิงาน กรณีที่มีจํานวนช่ัวโมงการพัฒนาไมครบ ๑๐๐ ชั่วโมง ภายในระยะเวลา ๕ ป ใหนําจํานวนชั่วโมงการมีสวนรวมในชุมชนการเรียนรูทางวิชาชีพ (Professional Learning Community : PLC)สวนท่ีเกิน ๕๐ ชั่วโมงในแตละป มานับรวมเปนจํานวนช่ัวโมงการพัฒนาใหครบ จํานวน ๑๐๐ ช่ัวโมงไดโดยใหผูอํานวยการสถานศึกษาตรวจสอบจากบันทึกประวัติการปฏิบัติงานของขาราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และเอกสารหลกั ฐานทเ่ี กย่ี วขอ ง แลว รบั รองผลไวเ ปนหลักฐาน 6) กรณีทีไ่ มเ ปน ไปตามหลักเกณฑและวิธกี ารน้ี ใหเ สนอ ก.ค.ศ. พิจารณา
-16- 4. โปรแกรมบนั ทกึ ประวตั ิการปฏิบตั งิ าน (Logbook)4.1 องคประกอบของโปรแกรม LogbookTeacher 1) แผนภาพของโปรแกรม LogbookTeacher
-17-4.2 ความหมายรายการในแผนงาน (sheet) ในโปรแกรม LogbookTeacher 1) ขอมูลสวนบุคคล เปนแผนงานที่ใชสําหรับบันทึกขอมูลสวนตัวผูขอรบั การประเมินวิทยฐานะเชน ช่ือ นามสกุล เลขที่บัตรประชาชน ตําแหนงเลขท่ี ตําแหนง วิทยฐานะ และเงินเดือนในปจจุบันวันที่เรมิ่ ดํารงตําแหนงวิทยฐานะ ฯลฯ 2) การมอบหมายงานสอน เปนแผนงานที่ใชสําหรับบันทึกการมอบหมายงานสอนตามตารางสอน หรอื การสอนตามโครงการ แผนงานตางๆ ซ่ึงผูขอรับการประเมนิ จะตอ งบันทึกดวยตนเองทุกคร้งั ทไ่ี ดรบั มอบหมายจากผูบงั คับบญั ชา 3) ชว่ั โมงสอนตามตารางสอน เปนแผนงานที่ใชส ําหรบั บนั ทกึ ชว่ั โมงทีส่ อนจรงิ ท่ีผูรบั การประเมนิ จะตอ งบนั ทึกทกุ สปั ดาห หลงั จากทไ่ี ดปฏบิ ัติหนา ท่ีสอนเรียบรอ ยแลว 4) งานสนับสนุนการเรียนรู เปนแผนงานที่ใชสําหรับบันทึกช่ัวโมงการปฏิบัติงานเก่ียวกับงานสนับสนุนการเรียนรตู างๆ ทผี่ รู ับการประเมินจะตองบันทึกหลังจากไดด ําเนินการแลว เสร็จ 5) งานตอบสนองนโยบายและจุดเนน เปนแผนงานที่ใชสําหรับบันทึกช่ัวโมงการปฏิบัติงานเก่ียวกับงานตอบสนองนโยบายและจุดเนน ท่ีผูรับการประเมินจะตองบันทึกตามท่ีไดรับมอบหมายและดําเนินการแลว เสร็จ 6) การพัฒนาตนเอง เปนแผนงานที่ใชสําหรับบันทึกการพัฒนาตนเองตามหลักสูตรที่ ก.ค.ศ.กําหนด ซ่ึงตองเปนไปตามหลักเกณฑและวิธีการพัฒนาขาราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาสายงานการสอน (ว21/2560) โดยที่ผูรับการประเมินนําผลการพัฒนามาบันทึกดวยตนเองหลังจากท่ีไดผา นการพฒั นาแลว 7) PLC เปนแผนงานที่ใชสําหรับบันทึกการจัดกิจกรรมชุมชนแหงการเรียนรูทางวิชาชีพ (PLC)โดยผูรบั การประเมนิ นาํ ผลจากการทํากิจกรรม PLC ในแตละครงั้ มาบนั ทกึ ลงตามรายการท่ีกําหนด 8) ผลการประเมิน 5 ป เปนแผนงานที่ใชสําหรับบันทึกการประเมินผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหนาที่ ท้ัง 3 ดาน ไดแก ดานการจัดการเรียนการสอน ดานการบริหารจัดการชั้นเรียน และดานการพฒั นาตนเองและพัฒนาวิชาชีพ ซึ่งผูบริหารเปนผูนําผลการประเมินในแตละปการศึกษาของผูรบั การประเมนิ มาบนั ทกึ ลงในตารางตามรายการท่ีกําหนด 9) สรปุ Logbook เปนแผนงานท่ีใชสาํ หรับสรปุ ผลการตรวจสอบคุณสมบัติสําหรบั การขอมีหรือเลอื่ นวทิ ยฐานะในเบือ้ งตน ผูรับการประเมินสามารถดูผลการสรุปเบอ้ื งตน ทัง้ ในรายปแ ละภาพรวมวามีคุณสมบัติตาม ว21/2560 หรอื ไม
-18-4.3 การใชงานโปรแกรม LogbookTeacher 1) กระบวนการบรหิ ารจดั การ Logbook จะแบงออกเปน 2 ระยะ 1.1) ระยะที่ 1 เปนการใชโปรแกรมในระยะท่ีเริ่มประกาศใชเกณฑฯ ซ่ึงสํานักงานก.ค.ศ. ยังไมไดพัฒนาระบบการบันทึกประวัติการปฏิบัติงาน (Logbook) ผาน Server จึงกําหนดกระบวนการบรหิ ารจัดการระบบการบันทกึ ประวตั กิ ารปฏบิ ตั งิ าน (Logbook) ดังนี้ ภาคเรียนที่ 1 ผูขอรับการประเมินขอแฟมขอมูล (File) LogbookTeacher จากหนวยงานตนสังกัด แลวเปลย่ี นช่อื แฟมขอมูลใหม รี ปู แบบของชื่อแฟมขอมูลดงั นี้ “LTeacher -เลข 13หลัก-ช่ือ-นามสกุล” ตัวอยางเชน “LTeacher-1234567891234-สมชาย-ใจดี” มีหนาที่บันทึกขอมูลลงในระบบการบันทึกประวัติการปฏิบัติงาน (Logbook) อยางนอยสัปดาหละ 1 ครั้ง พรอมกับจัดเก็บหลกั ฐานตา งๆ ไวใหเปน ระบบ เพอ่ื ใหผูบรหิ ารสถานศึกษาไดตรวจสอบและรับรองขอมูล เม่ือครบภาคเรียนท่ี 1 แลว ใหผูขอรับการประเมินนําแฟมขอมูลท่ีไดบันทึกพรอมหลักฐานเสนอผูบริหารสถานศึกษาท่ีสังกัดอยูในปจจุบันเพ่ือทําการตรวจสอบเมื่อผูบริหารสถานศึกษาตรวจสอบพบวา รายการเอกสารหลักฐานตรงกับรายการที่บันทึก ผูบริหารสถานศึกษาคลิกรับรองขอมูลในแฟมขอมูลแลวทําการสําเนาแฟมขอมูลไวท่ีสถานศึกษาที่ผูขอรับการประเมินสังกัดอยูและใหอยูในความดูแลของผูบริหารสถานศึกษา โดยตั้งชื่อแฟมขอมูลดังนี้“LTeacher -เลข 13 หลัก-ช่ือ-นามสกุล-ปการศึกษา-ภาคเรียน” ตัวอยางเชน “LTeacher-1234567891234-สมชาย-ใจดี-2560-1” และสงคืนไฟลท่ีรับรองแลวใหกับผูขอรับการประเมินเพื่อใหผูขอรับการประเมินใชแฟมขอมูลน้ันในการบันทึกภาคเรียนท่ี 2 ตอไป โดยดําเนินการเหมือนกับภาคเรียนท่ี 1 และเม่ือส้ินสุดภาคเรียนท่ี 2 ใหนําแฟมขอมูลและหลักฐานในภาคเรียนท่ี 2น้ีเสนอผูบริหารสถานศึกษา เพื่อทําการตรวจสอบอีกคร้ัง เม่ือตรวจสอบแลวพบวารายการเอกสารหลักฐานตรงกับรายการที่บันทึก ผูบริหารสถานศึกษาจะทําการสําเนาแฟมขอมูลไวเปนแฟมขอมูลท่ี 2 เก็บไวในสถานศึกษา โดยต้งั ชื่อใหมวา “LTeacher-1234567891234-สมชาย-ใจดี-2560-2” ซ่ึงจะทําแบบน้ีไปเร่ือยๆ ภาคเรียนละ 1 แฟมขอมูล เมื่อครบ 5 ปจะมีทั้งหมด 10 แฟมขอมูล หากการพัฒนาระบบการบันทึกประวัติการปฏิบัติงาน (Logbook) ผาน Server ยังไมแลวเสร็จ หากผูขอรับการประเมินประสงคจะขอรับการประเมินเพื่อมีหรือเลื่อนวิทยฐานะ ใหผูบริหารสถานศึกษานําแฟมขอมูลพรอมหลักฐานทั้งหมดนี้ไปประกอบการพิจารณาขอมีหรือเลื่อนวิทยฐานะตาม ว21/2560ตอไป อน่ึงหากผูขอรับการประเมินมีการยายสถานศึกษาใหผูบริหารสถานศึกษาตนทางสําเนาแฟม ขอมลู ท่สี ถานศึกษาจัดเก็บไวทัง้ หมดสง ใหผบู รหิ ารสถานศกึ ษาปลายทาง ตามแผนภาพ
-19- 1.2) ระยะท่ี 2 เม่ือมีการพัฒนาระบบการบันทึกประวัติการปฏิบัติงาน (Logbook) ผานServer แลว จะมีวธิ ีการใชง าน ดงั น้ี 1) กลุมสถานศึกษาที่ระบบสารสนเทศไมพรอม ใหทําการบันทึกประวัติการปฏิบัติงาน(Logbook) เหมือนในระยะท่ี 1 และเมื่อผูรับการประเมินจะขอรับการประเมินวิทยฐานะใหผูบริหารสถานศึกษาสําเนาแฟมขอมูลพรอมหลักฐานท้ังหมด จัดสงใหสํานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาในสังกัดเพ่ือใหสาํ นกั งานเขตพืน้ ทที่ ําการอัพโหลดเขา สูระบบตอไป 2) กลุมสถานศึกษาท่ีระบบสารสนเทศพรอม ใหผูบริหารสถานศึกษาดําเนินการนําสําเนาแฟมขอมูลพรอมหลักฐานทั้งหมดของขาราชการครูในสถานศึกษาอัพโหลดเขาสูระบบการบันทึกประวัติการปฏิบัติงาน (Logbook) ผาน Server หลังจากนั้นผูขอรับการประเมินบันทึกขอมูลการปฏิบัติงานลงในระบบการบันทึกประวตั ิการปฏิบตั ิงาน (Logbook) ผา น Server ไดโ ดยตรง โดยบันทึกสัปดาหล ะไมนอยกวา 1 ครั้ง สําหรับการตรวจสอบรับรองการบันทึกขอมูลการปฏิบัติงานของผูขอรับการประเมินใหผูขอรับการประเมินทําบันทึกพรอมหลักฐานเสนอผูบริหารสถานศึกษาท่ีผูขอรับการประเมินสังกัดอยู ใหดําเนินการตรวจสอบขอมูลการบันทึกประวัติการปฏิบัติงาน (Logbook)ผาน Server ของผขู อรบั การประเมินในสังกดั ภาคเรียนละ 1 ครัง้ ตามแผนภาพ
-20- 2) การบนั ทึกขอมูลในแฟม ขอมลู LogbookTeacher ใหท า นตรวจสอบแฟม ขอมลู LogbookTeacher ในแผนงานท่ีช่อื วา “สรปุ Logbook” วามีรูปแบบดงั ภาพท่ี 1 หรือภาพที่ 2 หากเปนดังภาพที่ 1 ใหขามไปศึกษาในขอ 2.2) หากเปนดงั ภาพท่ี 2ใหแ กไ ขตามขอ 2.1) แลวจงึ จะบนั ทึกขอ มลู ในแฟมขอมูลน้ี ภาพท่ี 1 ภาพท่ี 2 2.1) การต้ังคาในระบบปฏบิ ัติการ กอนการใชงานโปรแกรม LogbookTeacher กอนท่ีผูขอรับการประเมินจะใชงานโปรแกรม LogbookTeacher จะตองต้ังคาใน ระบบปฏบิ ตั ิการ ดงั น้ี (1) กรณีท่ีเครื่องของทานใชระบบปฏิบัติการ Windows 7 ใหปรบั คาภูมิภาคและภาษา(Region and Language) ดงั นี้
-21- 33 22 11- คลกิ ปุมเริม่ ตน (Start) ตามรูปหมายเลข 1- พมิ พคําวา ภูมิภาค (region) ตามรปู ในหมายเลข 2- คลกิ เมาสที่ปุมภูมิภาคและภาษา (Region and Language) ตามรปู หมายเลข 3
-22- 11 2 2 3 43 5 4 6 5 6 77- ตง้ั คา ในเมนภู ูมิภาคและภาษา (Region and Language) ดงั น้ี • รูปแบบ (Format) เลือก “ไทย (ประเทศไทย) หรอื Thai (Thailand)” ตามรูปหมายเลข 1 • รปู แบบวันที่และเวลา (Date and time formats) วนั ทแ่ี บบสนั้ (Short date): เลอื ก “d/M/yyyy” ตามรูปหมายเลข 2 วันทแี่ บบยาว (Long date): เลือก “d MMMM yyyy” ตามรูป หมายเลข 3 เวลาแบบส้ัน (Short time): เลอื ก “H:mm” ตามรูปหมายเลข 4 เวลาแบบยาว (Long time): เลอื ก “H:mm:ss” ตามรูปหมายเลข 5 วันแรกของสัปดาห (First day of week): เลือก “จันทร” ตามรูป หมายเลข 6 และคลิกปุม ตกลง (OK) ตามรูปหมายเลข 7
-23- (2) กรณีที่เคร่ืองของทานใชระบบปฏิบัติการ Windows 10 ใหปรับคาภูมิภาคและภาษา (Region and Language) ดังน้ี 2 1 - คลกิ ปุมเร่มิ ตน (Start) ตามรปู หมายเลข 1 - คลกิ ปุมต้งั คา (Settings) ตามรูปในหมายเลข 2
-24- - เมอ่ื ปรากฏหนาตาง Windows Settings ใหค ลกิ เมาสท ่ี “Time & language” - เม่ือคลิก Icon Time & language จะปรากฏหนาตาง Date & time ใหเลื่อนเมาสลงมาทลี่ า งสุด และคลิกเมาสที่ “Change date and time formats\"
-25- 1 2 3 4 5- เมื่อปรากฏหนา ตาง Change date and time formats ใหต ง้ั คา ดังนี้ • First day of week: เลือก “Sunday” ตามรปู หมายเลข 1 • Short date: เลือก “dd-MMM-yy” ตามรูปหมายเลข 2 • Long date: เลอื ก “dddd, MMMM d, yyyy” ตามรูปหมายเลข 3 • Short time: เลอื ก “H:mm tt” ตามรูปหมายเลข 4 • Long time: เลือก “h:mm:ss tt” ตามรูปหมายเลข 5
-26- 2.2) การบันทึกขอมูลในแผนงานที่ 1 ผูขอรับการประเมินตองบันทึกขอมูลสวนบุคคลของตนเองในแตละรายการดังนี้ (1) รายการชื่อ-นามสกุล บันทึกขอมูลลงในชองสีเหลือง ซ่ึงเปนขอมูลเกี่ยวกับชื่อนามสกุล เลขที่บัตรประชาชน ของผูขอรับการประเมิน โดยคลิกเมาสดานซายในชองสีเหลืองแลวพมิ พข อ ความลงในชอง ดงั ภาพ (2) รายการตําแหนง วิทยฐานะและเงินเดือนของผูขอรับการประเมินบันทึกขอมูลลงในชองสีเหลืองซึ่งเปนขอมูลเก่ียวกับ ตําแหนงปจจุบัน เลขท่ีตําแหนง วิทยฐานะ วันท่ีไดรับวิทยฐานะ และเงนิ เดือน โดยคลกิ เมาสด า นซา ยในชอ งสเี หลอื งแลวพมิ พขอความลงในชอง ดงั ภาพ - รายการวิทยฐานะ จะเปน ในรปู แบบของรายการใหเลอื ก โดยคลกิ เมาสด านซายท่ีปุม จะปรากฏรายการใหเ ลอื ก ใหค ลิกเมาสดา นซา ยเลือกรายการ ดังภาพ (3) รายการชื่อสถานศึกษาท่ีผูขอรับการประเมินปฏิบัติหนาท่ีอยูในปจจุบัน ผูขอรับการประเมินบันทึกขอมูลลงในชองสีเหลืองซ่ึงเปนขอมูลเก่ียวกับช่ือสถานศึกษา ตําบล อําเภอ จังหวัดและรหัสไปรษณีย ของผูขอรับการประเมินปฏิบัติหนาที่อยูในปจจุบัน (กรณีในปถัดไปมีการยายสถานศึกษาใหแกไขขอมูลในสวนน้ี) โดยคลิกเมาสดานซายในชองสีเหลืองแลวพิมพขอความลงในชองดงั ภาพ
-27- (4) รายการสังกดั หนวยงาน ผูขอรับการประเมินบันทึกสงั กัด/หนว ยงานในชองสีเหลืองตามที่ผขู อรบั การประเมนิ สงั กัดอยู ดังภาพ - รายการสังกัด จะเปนในรูปแบบของรายการใหเลือก โดยคลิกเมาสดานซายท่ีปุม จะปรากฏรายการใหเลือก ใหค ลิกเมาสด า นซา ยเลอื กรายการ ดงั ภาพ - รายการหนวยงาน จะเปน ในรูปแบบของรายการใหเ ลือก โดยคลกิ เมาสดานซายที่ปุม จะปรากฏรายการใหเ ลอื ก ใหคลิกเมาสด านซา ยเลือกรายการ ดังภาพ (5) ในรายการโปรแกรมจะทําการประมวลผลอัตโนมัติ โดยจะอางอิงจากวิทยฐานะปจจุบัน (6) รายการสังกัด ระดับการศึกษา กลุมสาระที่สอน/สาขาวิชาที่สอน/วิชาท่ีสอนชั่วโมงสอนขั้นตํ่า ผูขอรับการประเมินบันทึกขอมูลของสังกัดลงในชองสีฟา และบันทึกขอมูลระดับการศึกษา กลุมสาระท่ีสอน/สาขาวิชาที่สอน/วิชาท่ีสอน ลงในชองสีเหลือง สวนของช่ัวโมงสอนขั้นตํ่าโปรแกรมจะประมวลผลอัตโนมัติโดยอางอิงจากหลักเกณฑและวิธีการใหขาราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตาํ แหนงครูมวี ิทยฐานะและเลอ่ื นวทิ ยฐานะ
-28- - รายการสงั กัด จะเปน ในรปู แบบของรายการใหเลอื ก โดยคลิกเมาสดา นซายทป่ี ุม จะปรากฏรายการใหเลอื ก ใหคลกิ เมาสด านซายเลือกรายการ ดงั ภาพ - รายการระดบั การศึกษา จะเปนในรปู แบบของรายการใหเลอื ก โดยคลกิ เมาสดา นซายท่ปี ุม จะปรากฏรายการใหเลอื ก ใหค ลิกเมาสด า นซายเลอื กรายการ ดงั ภาพ - รายการกลมุ สาระท่ีสอน/สาขาวิชาท่ีสอน/วิชาที่สอน จะเปนในรูปแบบของรายการใหเลอื ก โดยคลิกเมาสด า นซา ยทป่ี ุม จะปรากฏรายการใหเ ลือก ใหคลิกเมาสดา นซายเลือกรายการ ดังภาพ
-29- (7) รายการการลงนามเพื่อรับรองขอมูล เปนการลงนามเพื่อรับรองขอมูล โดยมี2 รายการคอื การรบั รองของตนเองและการรบั รองของ ผอ.สถานศกึ ษา - รายการการรับรองของตนเอง ใหผูขอรับการประเมินบันทึกในสวนของวัน/เดือน/ปท่ีลงนาม โดยคลิกเมาสดานซายในชองสเี หลืองแลวพมิ พข อ ความลงในชอ ง ดังภาพ
-30- - รายการการรับรองของ ผอ.สถานศกึ ษา ใหผูบ รหิ ารสถานศกึ ษาบันทกึ ช่ือและนามสกลุ ตามรูปหมายเลข 1 และบนั ทึกวนั /เดอื น/ป ท่ีลงนาม ตามรปู หมายเลข 2 กรณีที่ในปใดมีการปรับปรงุ หรือแกไขขอมลู ในหนาน้ี ใหผ ูบรหิ ารสถานศึกษาท่เี ปนผบู งั คับบญั ชาในขณะนั้นรับรองใหม ตามรปู หมายเลข 3 ดังภาพ 12 3
-31- 2.3) แผนงานท่ี 2 ผูขอรับการประเมินตองบันทึกการมอบหมายงานสอนดวยตนเองในแตละรายการดงั นี้ (1) บันทึกในชองสีเหลืองเพื่อบันทึกขอมูลเกี่ยวกับ NO (ลําดับที่) ปการศึกษา/ปงบประมาณ ภาคเรียน และหนวยงานการศึกษาในภาคเรียนปจจุบัน โดยคลิกเมาสดานซายในชอ งสเี หลอื งแลว พมิ พขอ ความลงในชอ ง ดงั ภาพ - รายการหนวยงานการศึกษาจะเปนในรูปแบบของรายการใหเลือก โดยคลิกเมาสดานซา ยที่ปุม จะปรากฏรายการใหเ ลือก ใหคลกิ เมาสด า นซา ยเลือกรายการ ดังภาพ (2) บันทึกในชองสีเหลืองตอจากขอ (1) เพื่อบันทึกขอมูลเก่ียวกับ ชื่อสถานศึกษา ระดับการศึกษาที่สอน กลุมสาระที่สอน/สาขาวิชาที่สอน/วิชาท่ีสอน วิชา/กลุมวิชาที่สอน และจํานวนคาบตอ สัปดาห/ หลักสตู ร โดยคลกิ เมาสดานซา ยในชองสเี หลืองแลว พิมพขอความลงในชอ ง ดังภาพ
-32- - รายการระดับการศึกษาท่ีสอนจะเปนในรูปแบบของรายการใหเลือก โดยคลิกเมาสดานซา ยทป่ี ุม จะปรากฏรายการใหเ ลอื ก ใหค ลกิ เมาสด า นซายเลอื กรายการ ดังภาพ - รายการกลุมสาระทส่ี อน/สาขาวิชาที่สอน/วิชาท่ีสอนจะเปนในรูปแบบของรายการใหเลือก โดยคลิกเมาสดานซายที่ปุม จะปรากฏรายการใหเลือก ใหคลิกเมาสดานซายเลอื กรายการ ดังภาพ
-33- (3) ในกรณีท่ีไดรับมอบหมายใหสอนมากกวา 1 รายวิชาใหบันทึกในบรรทัดตอไปเพ่ิมเติม ในขอ (1) และ (2) ไปจนกวาจะครบทุกรายวิชา เชนไดรับมอบหมายใหสอน 3 รายวิชา จะตองบันทกึ ขอมลู 3 บรรทัด ดงั ภาพ (4) รายการการลงนามเพื่อรับรองขอมูล เปนการลงนามเพ่ือรับรองขอมูล โดยมี2 รายการคอื การรบั รองของตนเองและการรับรองของ ผอ.สถานศกึ ษา - รายการการรับรองของตนเอง ใหผูขอรับการประเมินบันทึกในสวนของวัน/เดือน/ปทล่ี งนาม โดยคลิกเมาสดา นซายในชอ งสีเหลอื งแลว พิมพข อความลงในชอง ดงั ภาพ
-34- - รายการการรับรองของ ผอ.สถานศกึ ษา ใหผูบ รหิ ารสถานศกึ ษาบันทกึ ช่ือและนามสกลุ ตามรูปหมายเลข 1 และบนั ทึกวนั /เดอื น/ป ท่ีลงนาม ตามรปู หมายเลข 2 กรณีที่ในปใดมีการปรับปรงุ หรือแกไขขอมลู ในหนาน้ี ใหผ ูบรหิ ารสถานศึกษาท่เี ปนผบู งั คับบญั ชาในขณะนั้นรับรองใหม ตามรปู หมายเลข 3 ดังภาพ 12 3
-35- 2.4) แผน งานท่ี 3 ผขู อรับการประเมนิ ตองบันทกึ ภาระงานสอน (ช่ัวโมงสอนในชนั้ เรยี น) เปนประจําทกุ สัปดาหดวยตนเองในแตละรายการดงั นี้ (1) บันทึกในชองสีเหลืองเพ่ือบันทึกขอมูลเกี่ยวกับ ปการศึกษา/ปงบประมาณ ภาคเรียนท่ีสัปดาหที่ และวัน เดือน ป ของสัปดาห (วันแรก/วันสุดทาย) โดยคลิกเมาสดานซายในชองสีเหลืองแลวพมิ พข อความลงในชอง ดงั ภาพ (2) บันทึกในชองสีเหลืองตอจากขอ (1) เพื่อบันทึกขอมูลเก่ียวกับ กลุมสาระท่ีสอน/สาขาวิชาท่ีสอน/วิชาท่ีสอน ช่ือวิชาท่ีสอน รหัสวิชา ใชสําหรับประเมินวิทยฐานะ จํานวนคาบ และลกั ษณะการสอน โดยคลิกเมาสดานซายในชองสเี หลืองแลวพมิ พข อ ความลงในชอ ง ดังภาพ - รายการกลมุ สาระท่ีสอน/สาขาวิชาที่สอน/วิชาท่ีสอนจะเปนในรปู แบบของรายการใหเลือก โดยคลิกเมาสดานซายท่ีปุม จะปรากฏรายการใหเลือก ใหคลิกเมาสดานซายเลอื กรายการ ดงั ภาพ
-36- - รายการเกี่ยวของกับการขอวิทยฐานะเช่ียวชาญ/เช่ียวชาญพิเศษ หากเปนการขอวิทยฐานะเช่ียวชาญและเชี่ยวชาญพิเศษ ระบบจะตรวจสอบวามีการสอนในรายวิชาท่ีขอผลงานทางวชิ าการ ดงั ภาพ - รายการลักษณะการสอนจะเปนในรูปแบบของรายการใหเลือก โดยคลิกเมาสดา นซายท่ปี ุม จะปรากฏรายการใหเลอื ก ใหค ลิกเมาสด า นซายเลอื กรายการ ดังภาพ (3) ในกรณีท่ีไดรับมอบหมายใหสอนมากกวา 1 รายวิชาใหบันทึกในบรรทัดตอไปเพ่ิมเติม ในขอ (1) และ (2) ไปจนกวาจะครบทุกรายวิชา เชนไดรับมอบหมายใหสอน 3 รายวิชา จะตองบันทึกขอมูล 3 บรรทัด ดังภาพ
-37- (4) จากการบันทึกขอมูลจะปรากฏรหัสเอกสารสําหรับตรวจสอบ ซึ่งเปนรหัสสําหรับใหผูขอรับการประเมินใชกําหนดช่ือในเอกสารท่ีจะตองใหผูบริหารสถานศึกษาตรวจสอบเม่ือครบ1 ภาคเรียน โดยผูขอรับการประเมินสามารถนําช่ือ (รหัส) เอกสารน้ีไปทําเปนสลิปติดแนบเอกสารตนฉบับที่ใหผูบรหิ ารสถานศกึ ษาไวต รวจสอบ (5) ในสวนของผูบริหารสถานศึกษา หลังจากที่ครบ 1 ภาคเรียนแลว ใหผูบริหารสถานศึกษาทําการตรวจสอบวาขอมูลมีความถูกตอง จึงดําเนินการเลือกจาก “ไมถูกตอง”เปน “ถกู ตอ ง” ดงั ภาพ
-38- 2.5) แผนงานท่ี 4 ผูขอรับการประเมินตองบันทึกภาระงานสอน (จํานวนช่ัวโมงสนับสนุนการเรียนร)ู ดว ยตนเองในแตละรายการดงั น้ี (1) บันทึกในชองสีเหลืองเพื่อบันทึกขอมูลเกี่ยวกับ ปการศึกษา ภาคเรียนที่ สัปดาหท่ี วันเดือน ป ของสัปดาห (วันแรก/วันสุดทาย) รายการงานสนับสนุน และจํานวนชั่วโมง โดยคลิกเมาสดานซายในชองสเี หลืองแลวพิมพข อ ความลงในชอง ดังภาพ (2) จากการบันทึกขอมูลจะปรากฏรหัสในชองแนบไฟล ซ่ึงเปนรหัสสําหรับใหผูขอรับการประเมินใชกําหนดช่ือในเอกสารท่ีจะตองใหผูบริหารสถานศึกษาตรวจสอบเม่ือครบ 1 ภาคเรียนโดยผูขอรับการประเมินสามารถนําชื่อ (รหัส) เอกสารนี้ไปทําเปนสลิปติดแนบเอกสารตนฉบับท่ีใหผูบรหิ ารสถานศกึ ษาไวตรวจสอบ (3) ในสวนของผูบริหารสถานศึกษา หลังจากที่ครบ 1 ภาคเรียนแลว ใหผูบริหารสถานศึกษาทําการตรวจสอบวาขอมูลมีความถูกตอง จึงดําเนินการเลือกจาก “ไมถูกตอง”เปน “ถกู ตอง” ดงั ภาพ
-39- 2.6) แผนงานที่ 5 ผูขอรับการประเมินตองบันทึกภาระงานสอน (งานตอบสนองนโยบายและจดุ เนน ) ดวยตนเองในแตละรายการดงั นี้ (1) บันทึกในชองสีเหลืองเพ่ือบันทึกขอมูลเก่ียวกับ ปการศึกษา ภาคเรียนท่ี สัปดาหที่ วันเดือน ป ของสัปดาห (วันแรก/วันสุดทาย) รายการงานตอบสนองนโยบายและจุดเนน และจํานวนชว่ั โมง โดยคลกิ เมาสดา นซายในชองสเี หลอื งแลว พิมพข อความลงในชอ ง ดงั ภาพ (2) จากการบันทึกขอมูลจะปรากฏรหัสเอกสารสําหรับตรวจสอบ ซึ่งเปนรหัสสําหรับใหผูขอรับการประเมินใชกําหนดชื่อในเอกสารท่ีจะตองใหผูบริหารสถานศึกษาตรวจสอบเมื่อครบ1 ภาคเรียน โดยผูขอรับการประเมินสามารถนําช่ือ (รหัส) เอกสารน้ีไปทําเปนสลิปติดแนบเอกสารตน ฉบับทใ่ี หผ บู ริหารสถานศึกษาไวตรวจสอบ (3) ในสวนของผูบริหารสถานศึกษา หลังจากที่ครบ 1 ภาคเรียนแลว ใหผูบริหารสถานศึกษาทําการตรวจสอบวาขอมูลมีความถูกตอง จึงดําเนินการเลือกจาก “ไมถูกตอง”เปน “ถกู ตอง” ดังภาพ
-40- 2.7) แผน งานท่ี 6 ผูขอรับการประเมินตองบนั ทึกการพัฒนาตามที่ ก.ค.ศ. กําหนดของตนเองในทกุ รายการดงั น้ี (1) บันทึกในชองสีเหลืองเพ่ือบันทึกขอมูลเกี่ยวกับ วัน เดือน ป ท่ีบันทึก หลักสูตร (ช่ือหลักสูตร/รหัสหลักสูตร) องคประกอบการพัฒนา (ความรู/ทักษะ/ความเปนครู) โดยคลิกเมาสดานซายในชอ งสเี หลืองแลว พมิ พขอความลงในชอ ง ดงั ภาพ - รายการองคประกอบการพัฒนา (ความรู/ทักษะ/ความเปนครู) จะเปนในรูปแบบของรายการใหเลือก โดยคลิกเมาสดานซายที่ปุม จะปรากฏรายการใหเลือก ใหคลิกเมาสดานซายเลอื กรายการ ดังภาพ (2) บันทึกในชองสีเหลืองตอ จากขอ (1) เพ่ือบนั ทึกขอมูลเก่ยี วกับ จํานวนช่ัวโมงที่อบรมในหลักสูตร วัน เดือน ป ที่เร่ิมพัฒนา ระยะเวลาท่ีเขารับการอบรม (จํานวนวัน) และผลการพัฒนาโดยคลิกเมาสดานซา ยในชองสีเหลืองแลวพิมพข อความลงในชอง ดงั ภาพ - รายการผลการพัฒนา จะเปนในรูปแบบของรายการใหเลือก โดยคลิกเมาสดานซายทป่ี มุ จะปรากฏรายการใหเ ลือก ใหค ลกิ เมาสด านซา ยเลือกรายการ ดังภาพ
-41- (3) จากการบันทึกขอมูลจะปรากฏรหัสเอกสารสําหรับตรวจสอบ ซึ่งเปนรหัสสําหรับให ผู ข อ รั บ ก า ร ป ร ะ เมิ น ใช กํ า ห น ด ชื่ อ ใ น เอ ก ส า ร ท่ี จ ะ ต อ ง ให ผู บ ริ ห า ร ส ถ า น ศึ ก ษ า ต ร ว จ ส อ บเม่ือครบ 1 ภาคเรียน โดยผูขอรับการประเมินสามารถนําช่ือ (รหัส) เอกสารนี้ไปทําเปนสลิปติดแนบเอกสารตนฉบบั ที่ใหผูบ รหิ ารสถานศึกษาไวต รวจสอบ (4) ในสวนของผูบริหารสถานศึกษา หลังจากที่ครบ 1 ภาคเรียนแลว ใหผูบริหารสถานศึกษาทําการตรวจสอบวาใชเปนคุณสมบัติตาม ว21/2560 เรียบรอยแลว ใหเลือกจาก “ไมได”เปน “ได” ดังภาพ
-42- 2.8) แผนงานท่ี 7 ผูขอรับการประเมินตองบันทึกชุมชนแหงการเรียนรูวิชาชีพ (PLC) ดวยตนเองในแตละรายการดงั นี้ (1) บันทึกในชองสีเหลืองเพื่อบันทึกขอมูลเกี่ยวกับ ชื่อกลุมกิจกรรม จํานวนสมาชิก ช่ือกิจกรรม ครัง้ ท่ี วนั เดอื น ป ท่จี ดั กิจกรรม ภาคเรยี นที่ และปการศกึ ษา ดงั ภาพ (2) บันทึกในชองสีเหลืองตอจากขอ (1) เพื่อบันทึกขอมูลเกี่ยวกับ จํานวนช่ัวโมง บทบาทจํานวนสมาชกิ ทเ่ี ขารวมกิจกรรมในคร้ังนี้ ประเดน็ และสาเหตุ ดังภาพ (3) บันทึกในชองสีเหลืองตอจากขอ (2) เพ่ือบันทึกขอมูลเก่ียวกับ ความรู/หลักการที่นํามาใช กิจกรรมทีท่ ํา ผลที่ไดจ ากกจิ กรรม การนําผลที่ไดไ ปใช และอ่นื ๆ ดังภาพ (4) จากการบันทึกขอมูลจะปรากฏรหัสเอกสารสําหรับตรวจสอบ ซ่ึงเปนรหัสสําหรับให ผู ข อ รั บ ก า ร ป ร ะ เมิ น ใช กํ า ห น ด ช่ื อ ใ น เอ ก ส า ร ที่ จ ะ ต อ ง ให ผู บ ริ ห า ร ส ถ า น ศึ ก ษ า ต ร ว จ ส อ บเม่ือครบ 1 ภาคเรียน โดยผูขอรับการประเมินสามารถนําช่ือ (รหัส) เอกสารน้ีไปทําเปนสลิปติดแนบเอกสารตนฉบับทใ่ี หผ บู รหิ ารสถานศึกษาไวตรวจสอบ
-43- (5) ในสวนของผูบริหารสถานศึกษา หลังจากท่ีครบ 1 ภาคเรียนแลว ใหผูบริหารสถานศึกษาทําการตรวจสอบวาขอมูลมีความถูกตอง จึงดําเนินการเลือกจาก “ไมถูกตอง”เปน “ถูกตอ ง” ดงั ภาพ
-44- 2.9) แผนงานท่ี 8 เม่ือสิ้นสุดปการศกึ ษา ผูบ รหิ ารสถานศึกษาจะมีการบนั ทึกการประเมินตามว21/2560 ผูบ รหิ ารจะเปน ผบู นั ทึกการสรปุ ผลรายปก ารศกึ ษาในชอ งสีนํา้ เงนิ (1) รายการผลการประเมิน จะเปนในรูปแบบของรายการใหเลือก โดยคลิกเมาสดานซา ยทปี่ มุ จะปรากฏรายการใหเ ลอื ก ใหค ลิกเมาสด า นซายเลือกรายการ ดังภาพ
-45- 2.10) แผนงานท่ี 9 สําหรับกรณีที่ 5 ปแลวไดผลการประเมินไมผาน 3 คร้ัง ใหดําเนินการบนั ทึกตอในแผนงานที่ 9 ถามีการประเมินครบ 3 คร้ัง แผนงานท่ี 9 ก็ไมตองมีการบันทึก ในสวนของการบนั ทกึ จะมีลกั ษณะเดยี วกับแผนงานท่ี 8 (1) รายการผลการประเมิน จะเปนในรูปแบบของรายการใหเลือก โดยคลิกเมาสดา นซายที่ปมุ จะปรากฏรายการใหเ ลือก ใหคลิกเมาสด านซายเลอื กรายการ ดังภาพ
-46- 2.11) แผนงานท่ี 10 แผนงานสรุป Logbook เปนการตรวจสอบดวยโปรแกรมเบื้องตนวาเม่ือผูขอรับการประเมนิ บนั ทึกขอมลู ลงในรายการ Logbook และผบู รหิ ารสถานศึกษาไดรบั รองขอมูลแลว ผูขอรับการประเมินจะมีคุณสมบัติครบในการขอรับการประเมินการขอมีหรือเล่ือนวิทยฐานะหรอื ไม อกี ทงั้ มีการแสดงผลขอมลู ในแตละปการศึกษา/ปง บประมาณ ดังน้ี แสดงผลสรปุ ผลการตรวจสอบคุณสมบตั ิฯ แสดงผลตรวจสอบระยะเวลาการดาํ รงตาํ แหนง แสดงผลตรวจสอบระยะเวลาการปฏบิ ตั งิ าน แสดงผลตรวจสอบการอบรมและพัฒนาตนเอง(ดา นองคประกอบ) แสดงผลตรวจสอบการอบรมและพัฒนาตนเอง(ดา นชวั่ โมงอบรมและพัฒนาตนเอง) แสดงผลตรวจสอบเวลาท่ใี ชใ นการพัฒนา PLC แสดงผลตรวจสอบผลการประเมินผลการปฏบิ ัติงาน แสดงผลตรวจสอบความเกี่ยวของกับวิชาท่ีขอประเมินกับวิชาท่ีสอน (กรณีวิทยฐานเช่ยี วชาญ/เช่ยี วชาญพิเศษ)
-47- บรรณานกุ รมสํานักงาน ก.ค.ศ. (2560). จากพระราชกระแสฯ... สูการพัฒนาครูทั้งระบบ. กรงุ เทพฯสํานักงาน ก.ค.ศ. (2560). การปรับปรุงมาตรฐานตําแหนงและมาตรฐานวทิ ยฐานะของขาราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษาสายงานการสอน, หนังสือ ท่ี ศธ 0206.4 ว20/2560. หนงั สอื เวียน.กรุงเทพฯสาํ นักงาน ก.ค.ศ. (2560). หลักเกณฑและวธิ กี ารใหขา ราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา ตําแหนงครูมวี ทิ ยฐานะและเลื่อนวทิ ยฐานะ, หนังสือ ท่ี ศธ 0206.4 ว21/2560. หนังสอื เวยี น. กรุงเทพฯสํานักงาน ก.ค.ศ. (2560). หลักเกณฑและวิธีการพัฒนาขาราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สายงานการสอน, หนงั สอื ที่ ศธ 0206.4 ว22/2560. หนงั สอื เวยี น. กรงุ เทพฯ
-48- คณะผูจ ัดทําท่ีปรึกษา สวุ รรณรังค (เลขาธกิ าร ก.ค.ศ.) นายพนิ จิ ศักด์ิ เวณุโกเศศ (ผูเช่ียวชาญเฉพาะดานพฒั นาระบบบริหารงานบุคคล) นายยศพล ลีส้ นิ้ ภยั (ผูเชย่ี วชาญเฉพาะดา นพัฒนาระบบบริหารงานบคุ คล) นายทศพรคณะทํางาน เบญจกลุ (ผูอาํ นวยการภารกจิ ตรวจตดิ ตามและประเมินผลการ นายนพิ นธ ปา ไม (หวั หนา กลมุ เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสือ่ สาร) ชัยสภุ า (นกั วิชาการคอมพวิ เตอรชํานาญการ)บริหารงานบคุ คล) เทยี มวนั (นักวชิ าการคอมพวิ เตอรชํานาญการ) นายกรใจเลศิ ดวงแกว (นักวชิ าการคอมพิวเตอรป ฏิบัติการ) นายพิภพ โยชมุ (นกั วชิ าการคอมพวิ เตอรป ฏบิ ัตกิ าร) นางปยดา นายวรณฎั ฐ นางสาวพัชญพชิ าผเู รียบเรียง ดวงแกว (นักวชิ าการคอมพวิ เตอรป ฏิบัตกิ าร) นายวรณฎั ฐ
Search
Read the Text Version
- 1 - 50
Pages: