ศาสตร์และศิลป์ทางการสอน

ศาสตร์และศิลป์ ทางการสอน ผศ.โกวทิ ยอดมงคล รก. คณบดวี ทิ ยาลยั ธาตุพนม มหาวทิ ยาลยั นครพนม

ประวัติ การศึกษา ปริญญาตรี สาขาไฟฟ้า ปริญญาโท สาขา หลกั สูตรและการสอนปริญญาโท สาขาคอมพวิ เตอร์และเทคโนโลยสี ารสนเทศ ประสบการณ์ทางาน เคยเป็ นรองคณบดคี ณะเทคโนโลยอี ตุ สาหกรรม เคยเป็ นรองผู้อานวยการสถานบนั วจิ ยั และพฒั นา เคยเป็ นรองผู้อานวยการสานักวทิ ยบริการ



วงจรชีวิต1. การเกดิ

วงจรชีวิต2. วยั เรียน

วงจรชีวิต3. วยั รุ่น

วงจรชีวิต4. วยั ทางาน

วงจรชีวิต5. วยั ผู้สูงอายุ

วงจรชีวิต6. เจ็บ

วงจรชีวิต7. ตาย

ศาสตร์ ?ศาสตร์ คือ องค์ความรู้ จากประสบการณ์เราได้เรียนรู้มา เรียกว่า ศาสตร์แห่งความรู้ซ่ึงศาสตร์แต่ละอย่างย่อมต่างกนั

ศิลป์ ?ศิลป์ คือ การถ่ายทอดผลงาน ซึ่ง แต่ละคนย่อมมวี ธิ ีการและฝี มือถ่ายทอดแตกต่างกนั

ศาสตรแ์ ละศิลป์ ?ศาสตร์และศิลป์ คือ การนาองค์ความรู้ มาถ่ายทอดผลงานด้วยจติ รบรรจงภายใต้เงื่อนไขดังนี้ 1. ความคิดสร้างสรรค์ การหาวธิ ีทา การสร้างเครื่องมือ 2. ความขยนั อดทน และซ่ือสัตย์หน้าท่ี 3. ฝี มือเที่ยงตรง ม่งั คงตลอดกาล

การสอน ?การสอน คือ วธิ ีการทคี่ รูถ่ายทอดความรู้ อบรมนักเรียน ให้มีความรู้ความคดิ เจตคตแิ ละทกั ษะดงั ทจี่ ุดประสงค์การศึกษาได้ระบุไว้

ศาสตร์และศิลป์ ทางการสอน ?ศาสตร์และศิลป์ การสอน คือ วธิ ีการทค่ี รูนาองค์ความรู้ มาถ่ายทอด อบรมให้ลูกศิษย์ ด้วยจิตวญิ ญาณความเป็ นครู เพ่ือให้บรรลตุ ามจุดประสงค์

การทาสมาธิลดความประหม่า 1. ชีวติ มคี วามเป็ นระเบียบ 2. เริ่มรู้จกั คดิ ก่อนพดู 3. สุภาพและรู้จกั เห็นอกเห็นใจผู้อ่ืน 4. มีพลงั

การทาสมาธิลดความประหมา่ 5. รู้จกั เลือกรับประทานอาหารได้ดขี นึ้ 6. ดูโทรทศั น์น้อยลง 7. ใกล้ชิดกบั ธรรมชาตมิ ากขนึ้ 8. ดขี นึ้ ทุกอย่าง

ทฤษฎีความต้องการมนษุ ย์(มาสโลว์)

หลักการเปิ ดใจ เช่ือ ชอบช่วย

ความต้องการของมนษุ ย์พ้นื ฐาน 3 อย่าง มติ รภาพ พวก ยอมรับ

เทคนิคการโน้มนา้ วนักศึกษา 10 ข้อ 1.ยมิ้ มิตรภาพ ชอบ2.ทักช่ือ/ทักทาย 3.กล่าวชม

เทคนคิ การโนม้ น้าวนักศึกษา 10 ข้อ4.ขอคาแนะนา ยอมรับ เช่ือ5.คาถามชี้นาเงิน เวลา สุขภาพ อสิ รภาพ การท่องเที่ยว

เทคนิคการโนม้ นา้ วนักศึกษา 10 ข้อ 6.หาจุดเหมือน พวก ช่วย7.บอกจุดเปลย่ี น 8.เสนอค่า Y 9.ขายค่าX10.ปลอบใจให้การบ้าน

สรปุ การโน้มน้าวใจนักศึกษา การโน้มน้าวใจมใิ ช่การเปล่ียน ความร้สู ึกนึกคิดและ ผลลพั ธ์พฤติกรรม ด้วยวิธีข่เู ข็ญ คกุ คาม หรือ หลอกลวง การโน้มน้าวใจมิใช่พฤติกรรมที่ ดีหรือเลว แต่เป็ น พฤติกรรม กลางๆ ข้ึนอยู่กับเจตนาท่ีอยู่ เบ้อื งหลัง

หลักการดาเนินชีวิต “พรหมวิหาร 4”

ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ทักษะการเรียนรู้ (Learning skills)ผลทลักพัษะธก์ารคิด (Thinking skills) ทักษะการทางาน (Working skills) ทักษะชีวิต (Life skills)

ทักษะการเรยี นรู้ (Learning skills) คือ ร้จู ักค้นคว้า ผลลพั ธ์  แยกแยะข้อมลู  และเรียนร้ตู ่อเนื่องไมม่ วี ันจบ

ทักษะการคิด (Thinking skills) การคิดอย่างมีวิจารณญาณและการคิดแก้ไขปั ญหา ผลลพั ธ์ การคิดสร้างสรรค์และการสรา้ งนวัตกรรม

ทักษะการทางาน (Working skills) ทักษะการส่ือสาร (Communication Skills) ผลลพั ธ์ ทักษะการทางานเป็ นทีม (Collaboration Skills) ทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ (Digital Skills)

ทักษะชีวิต (Life skills) คือ การมแี รงบันดาลใจผลมลคี พั วธาม์ ซื่อสัตย์ มคี วามรับผดิ ชอบ เข้าใจผูอ้ ื่น อยู่อย่างมีความสขุ ได้ในสังคม

การสอนแบบใหม่ การถ่ายทอดความรู้ ผผลูส้ ลอนพั ตธั้ง์ปั ญหาเพอื่ ให้ผูเ้ รียนค้นหาความรู้

การสอนแบบใหม่ การเข้าถึงเน้ือหาความรู้ ผเรลยี ลนพัร้ไู ดธ์้คร้งั ละหลายบท หลายวิชา

การสอนแบบใหม่ จานวนผูเ้ รียนต่อคาบ ผลลจพั ากธัด์ จานวนผูเ้ รียน

การสอนแบบใหม่ จานวนผูส้ อนต่อคาบ ผลลรพั ว่ มธส์ อนพร้อมกันได้หลายคน

การสอนแบบใหม่ การวัดผล ผลลวพั ัดธผ์ ลหลายด้าน

การสอนแบบสร้างสรรค์เป็ นฐาน (Creativity Based Learning :CBL)ผลมลี 8พั กธร์ะบวนการ และบรรยากาศ 9 ข้อ

กระบวนการสอน 8 กระบวนการ สร้างแรงบนั ดาลใจ กระต้นุ ความอยากรู้ (inspiration)ผลลพั ธ์ ค้นหา รวบรวม แยกแยะ และนาข้อมลู มาสร้างเป็ นความรู้ และคาตอบ (self-study) การสอนมกั จะทาเมือ่ มคี าถาม และเป็ นการสอนแบบรายคน หรือรายกล่มุ มากกว่าการสอนรวม ให้ผูเ้ รยี นได้มโี อกาสหาทางแก้ปั ญหาด้วยตนเอง (individual problem solving)

กระบวนการสอน 8 กระบวนการ ใช้แนวทางของเกมเป็ นส่วนหน่ึงของการเรียนร้ใู นห้องเรียน เช่นมีรางวัล มกี าร แข่งขัน มีระดับชั้นความสาเรจ็ (game-based learningผลลพั ธ์ แบ่งกล่มุ ทาโครงงาน (learn project ให้นาเสนอผลงานด้วยวิธีการต่างๆ ที่หลากหลาย เช่นผูเ้ ขียน แสดง หรือจัดทาเป็ นสื่อต่างๆ (creative presentation) วัดผลด้านต่างๆ ออกมาตามเป้ าหมายท่ีผูส้ อนได้ออกแบบไว้ล่วงหน้า เช่น วัดความรู้ วัด ทักษะการนาเสนอข้อมลู อย่างมเี หตุผล วัดทักษะการนาเสนอผลงาน วัดทักษะการทางาน เป็ นทีม

กระบวนการสอน 8 กระบวนการ สร้างแรงบนั ดาลใจ กระต้นุ ความอยากรู้ (inspiration)ผลลพั ธ์ ค้นหา รวบรวม แยกแยะ และนาข้อมลู มาสร้างเป็ นความรู้ และคาตอบ (self-study) การสอนมกั จะทาเมือ่ มคี าถาม และเป็ นการสอนแบบรายคน หรือรายกล่มุ มากกว่าการสอนรวม ให้ผูเ้ รยี นได้มโี อกาสหาทางแก้ปั ญหาด้วยตนเอง (individual problem solving)

บรรยากาศ 9 ข้อ ครคู วรเลือกเวลาให้เด็กค้นคว้ามากๆ พูดคยุ มากๆ นาเสนอมากๆ ใช้เวลาใน การสอนให้น้อยลง และควรเดินสอนตามกล่มุ มากกว่ายืนสอนรวมๆผลลพั ธ์ หลีกเล่ียงการอธิบายอย่างละเอียด แต่พยายามให้เด็กค้นหาคาตอบเอง ครู ควรตอบคาถามด้วยคาถาม เพอื่ ให้เด็กเกิดความสนใจ และค้นหาต่อ ในการสอนแบบเดิม ผูเ้ รียนมกั กลัวผดิ เพราะผูส้ อนมกั จะมคี าตอบท่ีถกู เอาไว้แล้ว ดังนั้น ใน การสอนแบบ CBL ครจู ะต้องหลีกเล่ียงการตัดสินใจแบบเด็ดขาด ว่าคาตอบของเด็กนั้นถกู หรือผดิ แต่ใช้วิธีถาม เช่น แน่ใจหรือ ทาไมคิดอย่างนั้น หรือเพอื่ นๆ คิดเห็นอย่างไรในเร่ืองน้ี บรรยากาศการสอนแบบ CBL ท่ีมีความสาคัญมากๆ คือ การสอนสนับสนนุ ให้คิด

บรรยากาศ 9 ข้อ ใช้เร่ืองท่ีเด็กสนใจเป็ นเน้ือหานา และใช้การค้นคว้า เน้ือหาวิชาความร้ตู ามตาราเป็ นตัวตามผลลพั ธ์ ช่วงเวลาเรียนควรยาวกว่า 90 นาที และอาจจะเรียนหลายวิชา พร้อมๆ กัน ข้ึนอยู่กับว่า ปั ญหาท่ีต้ังน้ันเกี่ยวโยงกับวิชาใดบา้ ง โดยครอู าจสอนพร้อมๆ กัน 2-3 วิชาในห้องเรียน เดียวกันก็ได้ CBL เน้นให้เด็กสนใจพฒั นาการของตนเองในด้านต่างๆ จึงไมจ่ าเป็ นต้องวัดผลครงั้ เดียว ควรมกี ารวัดผลและรายงานผลให้เด็กรู้ เพอ่ื ให้เด็กพฒั นาตนเองในแต่ละด้าน การท่ี CBL จะได้ผลดีน้ันต้องเกิดจากความสมคั รใจ ความสนใจ และความรว่ มมือของเด็ก มากกว่าการบงั คับให้รู้ ดังนั้น การตัดคะแนนและการลงโทษเป็ นสิ่งท่ีควรหลีกเลี่ยง ครจู ะเป็ นผูร้ ับฟั งเรื่องราวที่เด็กคิดและนาเสนอ และเรียนร้ไู ปพร้อมๆ กับเด็ก ครอู าจมกี าร เสนอแนะหรือแสดงความคิดเห็นในจังหวะท่ีเหมาะสม แต่ส่ิงท่ีจาเป็ นมากๆ คือการให้กาลังใจ

Google appsนวัตกรรมการเรยี นการสอนแห่งอนาคตผลลพั ธ์

กจิ กรรมแชร์ประสบการณ์สอนของตัวแทนอาจารย์แต่ละสาขาในการจัดการเรียนการสอน 3 นาที

The End