แผนสัปดาห์ที่ 26 วันขึ้นปีใหม่

แผนการจัดประสบการณ์ ช้นั อนบุ าล 3 สปั ดาหท์ ่ี 26 วนั ขึน้ ปใี หม่ นางกติ ตมิ า ศรีพรหมมา

การวเิ คราะหโ์ ครงสรา้ งหน่วยการจัดประสบการณ์ตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศกั ราช 2560 หนว่ ยที่ 26 วนั ขน้ึ ปใี หม่ ชัน้ อนบุ าลปีที่ 1 - 3 ภาคเรยี นที่ 2 รายการ อนบุ าลปีท่ี 1 อนุบาลปีที่ 2 อนุบาลปีที่ 3 สาระท่ีควรเรยี นรู้ 1. ประวตั คิ วามเปน็ มาของวันขึน้ ปใี หม่ 1. ประวัติความเปน็ มาของวันข้นึ ปใี หม่ 1. ประวัตคิ วามเปน็ มาของวันข้ึนปใี หม่ 2. ประเพณีในวันขึ้นปีใหม่ 2. ประเพณใี นวนั ขนึ้ ปีใหม่ 2. ประเพณใี นวันขน้ึ ปีใหม่ 3. การปฏบิ ตั ติ นในวนั ข้นึ ปีใหม่ 3. การปฏบิ ตั ิตนในวันขึน้ ปีใหม่ 3. ความสาคญั ของการอวยพรให้ผู้อนื่ 4. ความสาคัญของการอวยพรให้ผู้อ่นื 4. ความสาคัญของการอวยพรใหผ้ อู้ น่ื 4. กจิ กรรมทม่ี ีในงานเลยี้ งปใี หม่ 5. ข้อควรปฏบิ ัติในการจัดงานวันข้ึนปีใหม่ 5. ข้อควรปฏบิ ตั ใิ นการจัดงานวันขนึ้ ปใี หม่ 5. การปฏิบตั ิตนในวันขึน้ ปีใหม่ 6. การนับปากเปล่า 1 - 5 6. การนับจานวนและแสดงจานวน 1 - 8 6. ขอ้ ควรปฏบิ ตั ิในงานเลี้ยงปีใหม่ 7. การนับจานวนและแสดงจานวน 1 - 4 7. การจาแนก จัดกลุม่ จานวน 7. การนบั จานวนและแสดงจานวน 1 - 13 8. การแยกสง่ิ ของ 8. การต่อเตมิ แบบรูป 8. การต่อเตมิ แบบรปู ของขวัญแบบต่าง ๆ มาตรฐาน มาตรฐานท่ี 1 ตบช 1.3 (1.3.1) มาตรฐานท่ี 1 ตบช 1.3 (1.3.1) มาตรฐานที่ 1 ตบช 1.3 (1.3.1) ตัวบง่ ชี้ มาตรฐานที่ 2 ตบช 2.1 (2.1.4) มาตรฐานที่ 2 ตบช 2.1 (2.1.4) มาตรฐานที่ 2 ตบช 2.1 (2.1.4) สภาพที่พงึ ประสงค์ ตบช 2.2 (2.2.3) ตบช 2.2 (2.2.3) ตบช 2.2 (2.2.3) มาตรฐานท่ี 3 ตบช 3.1 (3.1.1) มาตรฐานที่ 3 ตบช 3.1 (3.1.1) มาตรฐานที่ 3 ตบช 3.1 (3.1.1) มาตรฐานที่ 4 ตบช 4.1 (4.1.1) (4.1.3) มาตรฐานที่ 4 ตบช 4.1 (4.1.1) (4.1.3) มาตรฐานท่ี 4 ตบช 4.1 (4.1.1) (4.1.3) มาตรฐานท่ี 8 ตบช 8.2 (8.2.1) มาตรฐานท่ี 7 ตบช 7.2 (7.2.1) มาตรฐานที่ 7 ตบช 7.2 (7.2.1) มาตรฐานท่ี 8 ตบช 8.2 (8.2.1) มาตรฐานท่ี 8 ตบช 8.2 (8.2.1) ตบช 8.3 (8.3.2) มาตรฐานที่ 9 ตบช 9.1 (9.1.2) ตบช 8.3 (8.3.2) ตบช 8.3 (8.3.2) มาตรฐานที่ 10 ตบช 10.1 (10.1.3) มาตรฐานท่ี 9 ตบช 9.1 (9.1.2) มาตรฐานท่ี 9 ตบช 9.1 (9.1.2) มาตรฐานท่ี 11 ตบช 11.1 (11.1.1) มาตรฐานท่ี 10 ตบช 10.1 (10.1.3) มาตรฐานท่ี 10 ตบช 10.1 (10.1.1) (10.1.3) มาตรฐานที่ 11 ตบช 11.1 (11.1.1) มาตรฐานท่ี 11 ตบช 11.1 (11.1.1)

ประสบการณส์ าคญั ด้านรา่ งกาย ดา้ นร่างกาย ดา้ นรา่ งกาย 1.1.1 การใช้กลา้ มเนื้อใหญ่ 1.1.1 การใช้กล้ามเนอ้ื ใหญ่ 1.1.1 การใช้กลา้ มเน้ือใหญ่ (1) การเคล่ือนไหวอยูก่ บั ที่ (1) การเคล่ือนไหวอยู่กบั ที่ (1) การเคลื่อนไหวอย่กู ับที่ (2) การเคล่ือนไหวเคล่ือนที่ (2) การเคล่ือนไหวเคลื่อนที่ (2) การเคล่ือนไหวเคลื่อนที่ (5) การเล่นเครื่องเลน่ สนามอย่างอสิ ระ (5) การเลน่ เครื่องเล่นสนามอยา่ งอสิ ระ (5) การเล่นเคร่ืองเล่นสนามอยา่ งอิสระ (4) การเคล่ือนไหวท่ีใช้การประสานสัมพันธข์ อง (4) การเคลื่อนไหวท่ีใช้การประสานสัมพนั ธ์ (4) การเคล่ือนไหวที่ใชก้ ารประสานสมั พันธข์ องการ การใช้กล้ามเน้ือใหญ่ ในการจับ การโยน ของการใชก้ ล้ามเน้ือใหญ่ ในการจับ การโยน ใชก้ ล้ามเนอ้ื ใหญ่ ในการจับ การโยน 1.1.2 การใช้กล้ามเนื้อเลก็ 1.1.2 การใชก้ ล้ามเนอื้ เล็ก 1.1.2 การใช้กลา้ มเนือ้ เล็ก (1) การเลน่ เคร่ืองเลน่ สัมผสั และการสรา้ งสิง่ (1) การเล่นเคร่ืองเล่นสัมผัสและการสร้างสง่ิ (1) การเลน่ เคร่ืองเล่นสัมผสั และการสรา้ งส่งิ ตา่ ง ๆ ต่าง ๆจากแทง่ ไม้ บลอ็ ก ตา่ งๆ จากแท่งไม้ บลอ็ ก จากแทง่ ไม้ บล็อก (2) การเขยี นภาพและการเล่นกบั สี (2) การเขยี นภาพและการเล่นกับสี (2) การเขยี นภาพและการเล่นกับสี (3) การป้นั (3) การปั้น (3) การปัน้ (4) การประดษิ ฐ์สง่ิ ตา่ ง ๆดว้ ยเศษวสั ดุ (4) การประดษิ ฐ์สงิ่ ตา่ ง ๆด้วยเศษวสั ดุ (4) การประดิษฐส์ ง่ิ ต่างๆ ดว้ ยเศษวสั ดุ (5) การหยิบจบั การร้อยวัสดุ (5) การหยบิ จับ การร้อยวสั ดุ (5) การหยิบจบั การร้อยวัสดุ ด้านอารมณ์ จติ ใจ ดา้ นอารมณ์ จติ ใจ ด้านอารมณ์ จติ ใจ 1.2.1 สนุ ทรียภาพ ดนตรี 1.2.1 สุนทรียภาพ ดนตรี 1.2.1 สุนทรียภาพ ดนตรี (1) การฟังเพลง การรอ้ งเพลง และการแสดง (1) การฟังเพลง การร้องเพลง และการแสดง (1) การฟังเพลง การร้องเพลง และการแสดง ปฏิกิรยิ าโต้ตอบเสยี งดนตรี ปฏกิ ริ ยิ าโต้ตอบเสยี งดนตรี ปฏกิ ิรยิ าโตต้ อบเสียงดนตรี (3) การเคล่ือนไหวตามเสียงเพลง/ดนตรี (3) การเคล่ือนไหวตามเสยี งเพลง/ดนตรี (3) การเคล่ือนไหวตามเสียงเพลง/ดนตรี 1.2.2 การเล่น 1.2.2 การเลน่ 1.2.2 การเลน่ (1) การเล่นอิสระ (1) การเลน่ อสิ ระ (1) การเล่นอิสระ (3) การเล่นตามมมุ ประสบการณ์/มุมเล่นตา่ ง ๆ (3) การเลน่ ตามมุมประสบการณ์/มุมเล่น (3) การเล่นตามมุมประสบการณ์/มมุ เลน่ ตา่ ง ๆ (2) การเล่นรายบคุ คล กลมุ่ ย่อย และกลมุ่ ใหญ่ ตา่ งๆ (2) การเลน่ รายบุคคล กลมุ่ ย่อย และกลมุ่ ใหญ่ (4) การเลน่ นอกห้องเรยี น (2) การเลน่ รายบุคคล กลุม่ ย่อย และ (4) การเคลื่อนไหวที่ใช้การประสานสมั พันธ์ของการ กลุ่มใหญ่ ใช้กลา้ มเนื้อใหญ่ ในการจับ การโยน (4) การเลน่ นอกหอ้ งเรียน (4) การเล่นนอกห้องเรียน

ดา้ นสงั คม ด้านสงั คม ด้านสงั คม 1.3.5 การเล่นและทางานแบบรว่ มมือร่วมใจ 1.3.3 การปฏบิ ัตติ นตามวัฒนธรรมทอ้ งถนิ่ 1.3.3 การปฏบิ ัติตนตามวัฒนธรรมทอ้ งถ่นิ และ (๒) การเลน่ และการทางานรว่ มกับผู้อืน่ และความเป็นไทย ความเปน็ ไทย 1.3.4 การมปี ฏสิ ัมพันธ์ มีวินัย มสี ่วนร่วมและ (2) การปฏบิ ตั ติ นตามวัฒนธรรมทอ้ งถนิ่ (2) การปฏิบัตติ นตามวฒั นธรรมทอ้ งถ่นิ ท่ีอาศยั และ บทบาทสมาชกิ ของสังคม ที่อาศัยและประเพณไี ทย ประเพณไี ทย (3)การให้ความรว่ มมือในการปฏบิ ตั กิ ิจกรรมต่าง 1.3.5 การเล่นและทางานแบบรว่ มมือ 1.3.5 การเล่นและทางานแบบร่วมมือร่วมใจ ๆ ร่วมใจ (๒) การเลน่ และการทางานรว่ มกบั ผ้อู ่นื (๒) การเล่นและการทางานร่วมกบั ผู้อื่น 1.3.4 การมปี ฏสิ ัมพนั ธ์ มีวินัย มีส่วนรว่ มและ ดา้ นสติปญั ญา 1.3.4 การมปี ฏสิ ัมพนั ธ์ มีวินยั มีส่วนร่วม บทบาทสมาชกิ ของสงั คม 1.4.3 จนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์ และบทบาทสมาชิกของสงั คม (3)การให้ความร่วมมือในการปฏบิ ัติกจิ กรรมต่าง ๆ (2) การแสดงความคิดสรา้ งสรรค์ผ่านภาษา (3) การใหค้ วามรว่ มมือในการปฏิบตั ิกิจกรรม ทา่ ทาง การเคลือ่ นไหวและศิลปะ ต่าง ๆ ด้านสติปัญญา (3) การสร้างสรรค์ชิ้นงานโดยใชร้ ปู ร่างรูปทรง ดา้ นสตปิ ัญญา 1.4.3 จนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์ จากวสั ดทุ ห่ี ลากหลาย 1.4.3 จินตนาการและความคดิ สร้างสรรค์ (2) การแสดงความคดิ สร้างสรรค์ผ่านภาษา ท่าทาง 1.4.1 การใช้ภาษา (2) การแสดงความคิดสรา้ งสรรค์ผ่านภาษา การเคลือ่ นไหวและศลิ ปะ (3) การฟังเพลง นิทาน คาคล้องจอง ทา่ ทาง การเคล่ือนไหวและศิลปะ (3) การสรา้ งสรรคช์ น้ิ งานโดยใช้รปู ร่างรปู ทรงจาก บทร้อยกรองหรือเรื่องราวต่างๆ (3) การสร้างสรรค์ชนิ้ งานโดยใชร้ ปู ร่าง วสั ดุที่หลากหลาย (4) การพูดแสดงความคิด ความรสู้ ึก และความ รูปทรงจากวสั ดุทหี่ ลากหลาย 1.4.1 การใช้ภาษา ต้องการ 1.4.1 การใชภ้ าษา (3) การฟังเพลง นิทาน คาคล้องจอง บทร้อยกรอง (6) การพูดอธิบายเกี่ยวกับส่ิงของ เหตุการณ์ (3) การฟังเพลง นิทาน คาคล้องจอง หรอื เรื่องราวตา่ งๆ และความสมั พนั ธ์ของส่ิงต่าง ๆ บทร้อยกรองหรือเร่ืองราวตา่ งๆ (4) การพูดแสดงความคิด ความรสู้ กึ และความ (4) การพูดแสดงความคิด ความรู้สกึ และ ต้องการ ความต้องการ (6) การพูดอธบิ ายเกย่ี วกบั ส่ิงของ เหตุการณ์ และ (6) การพูดอธบิ ายเกี่ยวกับสงิ่ ของ เหตุการณ์ ความสัมพนั ธ์ของสิง่ ตา่ ง ๆ และความสมั พนั ธข์ องสิง่ ตา่ ง ๆ

1.4.2 การคดิ รวบยอด การคดิ เชิงเหตุผล 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคดิ เชงิ เหตผุ ล 1.4.2 การคิดรวบยอด การคิดเชิงเหตผุ ล การตดั สนิ ใจและแกป้ ญั หา การตดั สินใจและแกป้ ัญหา การตดั สนิ ใจและแกป้ ญั หา (5) การคัดแยก การจัดกลุ่ม และการจาแนก (5) การคดั แยก การจดั กลมุ่ และการจาแนก (5) การคดั แยก การจดั กล่มุ และการจาแนก ส่ิงต่างๆ ตามลักษณะและรูปร่าง รปู ทรง สิ่งต่างๆ ตามลกั ษณะและรูปร่าง รูปทรง ส่ิงต่างๆ ตามลักษณะและรูปรา่ ง รปู ทรง (7) การทาซ้า การต่อเตมิ และการสรา้ งแบบรูป (7) การทาซา้ การต่อเตมิ และการสร้าง (7) การทาซ้า การต่อเตมิ และการสร้างแบบรปู (8) การนบั และแสดงจานวนของสงิ่ ต่างๆ แบบรปู (8) การนับและแสดงจานวนของสงิ่ ต่างๆ (13) การจบั คแู่ ละเปรียบเทียบสิ่งตา่ งๆ (8) การนบั และแสดงจานวนของสงิ่ ตา่ งๆ (13) การจบั คแู่ ละเปรยี บเทยี บสงิ่ ต่างๆ ตามลกั ษณะ (13) การจับคูแ่ ละเปรียบเทยี บส่งิ ตา่ งๆ ตามลักษณะ ตามลักษณะ คณติ ศาสตร์  นบั และแสดงจานวน 1 – 4  นับและแสดงจานวน 1 – 8  นับและแสดงจานวน 1 – 13  ระบุตัวเลขฮินดูอารบิก แสดงจานวนของ  ระบุตัวเลขฮนิ ดูอารบิกแสดงจานวนของ  ระบตุ วั เลขฮินดูอารบิกแสดงจานวนของส่ิงตา่ งๆ ส่ิงตา่ งๆ 1 – 8 ส่ิงตา่ งๆ ต้ังแต่ 1 – 5  เปรยี บเทยี บจานวนของสิ่งต่างๆ สองกลมุ่ 1 – 13  บอกจานวนที่เหลือเมื่อแยกกล่มุ ย่อยออกจาก แตล่ ะกลุ่มมจี านวนไม่เกนิ 8  เปรียบเทียบจานวนของส่ิงตา่ งๆสองกลุ่ม แต่ละ  บอกอันดบั ท่ีของส่ิงตา่ งๆ ไม่เกนิ 5 สิ่ง กลมุ่ ใหญท่ ่ีมจี านวนไม่เกิน 5  บอกจานวนทเ่ี หลือเม่ือแยกกลุม่ ยอ่ ยออก กล่มุ มีจานวนไม่เกนิ 13  จาแนกส่ิงต่างๆ ตามเกณฑ์ทีก่ าหนด เชน่ สัตว์ จากกลมุ่ ใหญ่ที่มจี านวนไมเ่ กิน 8  บอกจานวนทเี่ หลือเมื่อแยกกลมุ่ ยอ่ ยออกจาก  จัดกลุ่มส่งิ ตา่ งๆ ตามลักษณะ รปู ร่าง ผลไม้ ของเล่น ของใช้ ฯลฯ รูปทรง กลุม่ ใหญท่ ี่มีจานวนไม่เกนิ 13  สารวจหาแบบรูปจากส่งิ ต่างๆ เช่น ลวดลาย  จาแนก จัดกลุม่ สิง่ ต่างๆ ตามลกั ษณะรูปรา่ ง บนผ้า ส่ิงของเคร่ืองใช้ ลวดลายของ กระเบ้ืองปูพน้ื ในเร่ืองสี ลวดลาย ขนาด รูปทรง หรือตามเกณฑ์ท่ีกาหนด รูปรา่ ง รปู ทรง  ต่อแบบรปู ให้เขา้ ชดุ กับแบบรูปทกี่ าหนด  วางแบบรปู ใหเ้ หมือนกบั แบบรปู ทีก่ าหนด  สรา้ งแบบรูปตามความคิดของตนเอง

วิทยาศาสตร์ 1. ทักษะการสงั เกต 1. ทักษะการสังเกต 1. ทกั ษะการสงั เกต 2. การคัดแยกสงิ่ ต่าง ๆ โดยใชล้ ักษณะต่าง ๆ เป็นเกณฑ์ 2. ทักษะการจาแนก จดั กลมุ่ สิ่งต่าง ๆ โดยใช้ 2. ทกั ษะการจาแนก จัดกลุม่ ส่ิงต่าง ๆ โดยใช้ 3. การเปรียบเทียบลักษณะความเหมอื นความ แตกตา่ ง ลกั ษณะตา่ ง ๆ เปน็ เกณฑ์ ลักษณะต่าง ๆ เปน็ เกณฑ์ 3. การเปรยี บเทียบลักษณะความเหมือน 3. การเปรียบเทยี บลักษณะความเหมือนความ ความแตกตา่ ง แตกตา่ ง พัฒนาการทางภาษา 1. การฟังเพลง นทิ าน คาคล้องจอง 1. การฟังเพลง นิทาน คาคล้องจอง 1. การฟังเพลง นทิ าน คาคล้องจอง และการรูห้ นังสือ 2. การเล่าเร่อื งด้วยประโยคสั้นๆ 2. การเล่าเรื่องเป็นประโยคอย่างต่อเนื่อง 2. การเล่าเป็นเร่ืองราวต่อเน่ือง 3. การอา่ นภาพ และพดู ข้อความด้วยภาษาของ 3. การอา่ นภาพสญั ลกั ษณ์ คา พรอ้ มทง้ั ชี้ 3. การอ่านภาพสัญลกั ษณ์ คา ด้วยการชี้หรอื กวาด ตน บัตรภาพ ตามอง จดุ เริ่มต้นและจุดจบของข้อความ

หนว่ ยการจดั ประสบการณท์ ี่ 26 วนั ขึ้นปีใหม่ ชัน้ อนุบาลปที ่ี 3 แนวคดิ วนั ขึน้ ปใี หมค่ ือวนั เรม่ิ ต้นพทุ ธศกั ราชใหม่ ตรงกบั วันที่ 1 มกราคม ของทกุ ปี ในวันขน้ึ ปีใหม่จะมีการสง่ บตั รอวยพร ให้ของขวญั และทาบุญ ใส่บาตร ในวนั ข้ึนปีใหมจ่ ะมี การจัดงานรน่ื เรงิ และมอบของขวญั ให้แก่กนั ในงานเล้ียงของวันข้ึนปใี หม่ วันขน้ึ ปีใหม่มีการตกแตง่ สถานที่และมีการจดั งานเล้ียง และรว่ มกันร้องเพลงวันปใี หม่ มาตรฐานหลกั สตู รปฐมวัย จุดประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ มาตรฐาน ตวั บ่งช้ี สภาพทพี่ ึงประสงค์ 1. บอกวิธีการเล่น ทากิจกรรม ประสบการณ์สาคัญ สาระทีค่ วรเรยี นรู้ และปฏบิ ตั ติ ่อผู้อื่นอย่างปลอดภัย มาตรฐานที่ 1 1.3 รกั ษาความ 1.3.1 เล่นทากิจกรรม 1.1.1 การใช้กล้ามเนือ้ ใหญ่ 1. ประวัติความเป็นมาของวันข้ึน 2. รับลูกบอลที่กระดอนขนึ้ จาก ร่างกาย ปลอดภยั ของ และปฏบิ ตั ติ ่อผู้อืน่ พื้นได้ (1) การเคลื่อนไหวอยกู่ ับที่ ปใี หม่ การเปลีย่ นพุทธศักราชใหม่ เจรญิ เตบิ โตตามวัย ตนเองและผูอ้ ื่น อย่างปลอดภยั 3. ร้อยวสั ดทุ ่ีมีรูขนาดเส้นผา่ น (2) การเคลื่อนไหวเคล่ือนท่ี โดยการดปู ฏิทนิ ศูนย์กลาง 0.25 เซนตเิ มตรได้ และมสี ุขนสิ ัยที่ดี (5) การเล่นเคร่ืองเลน่ สนามอย่าง 2. ประเพณีในวันขึน้ ปีใหม่ เช่น อสิ ระ การขอพรจากผู้ใหญ่ การทาบุญ มาตรฐานท่ี 2 2.1 เคลอื่ นไหว 2.1.4 รบั ลูกบอลท่ี 1.2.2 การเล่น ตักบาตร การปล่อยนก การ กล้ามเนอื้ ใหญ่และ รา่ งกายอย่าง กระดอนขน้ึ จากพน้ื ได้ กล้ามเนื้อเล็ก คล่องแคล่ว (2) การเลน่ รายบคุ คล กล่มุ ย่อย ปล่อยปลา แข็งแรง ใช้ได้อย่าง ประสานสัมพันธ์ คล่องแคลว่ และ และทรงตัวได้ และกลุ่มใหญ่ 3. การปฏบิ ตั ิตนในวนั ขน้ึ ปีใหม่ ประสานสัมพันธ์ กัน (4) การเคลื่อนไหวท่ีใช้การ 4. ความสาคญั ของการอวยพรให้ 2.2 ใชม้ ือ - ตา 2.2.3 ร้อยวัสดทุ ่ีมรี ู ประสานสมั พนั ธ์ของการใช้ ผู้อนื่ ประสานสมั พนั ธก์ นั ขนาดเสน้ ผา่ น กล้ามเน้ือใหญ่ ในการจบั การโยน 5. ข้อควรปฏิบัติในการจัดงานวนั ศนู ยก์ ลาง 0.25 เซนตเิ มตรได้ ขึ้นปีใหม่ 1.1.2 การใชก้ ล้ามเน้อื เลก็ (5) การหยบิ จบั การร้อยวัสดุ

มาตรฐาน มาตรฐานหลักสตู รปฐมวัย จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ ตวั บง่ ช้ี สภาพที่พึงประสงค์ ประสบการณ์สาคญั สาระที่ควรเรียนรู้ 4. แสดงอารมณ์ 1.4.3 จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ มาตรฐานท่ี 3 3.1 แสดงออกทาง 3.1.1 แสดงอารมณ์ ความร้สู กึ ไดส้ อดคล้อง กบั สถานการณอ์ ย่าง (2) การแสดงความคิดสรา้ งสรรค์ผ่าน มีสขุ ภาพจิตดแี ละมี อารมณ์ได้อยา่ ง ความรู้สกึ ได้สอดคล้อง เหมาะสม ส่ือวัสดตุ า่ งๆผา่ นภาษาทา่ ทางการเคลือ่ นไหวและ ความสุข เหมาะสม กับสถานการณ์อย่าง ศลิ ปะ เหมาะสม (4) การเล่นบทบาทสมมุติ มาตรฐานท่ี 4 4.1 สนใจมคี วามสขุ 4.1.1 สนใจมคี วามสุข 5. สรา้ งผลงานศลิ ปะ 1.1.2 การใชก้ ลา้ มเนอื้ เลก็ ชืน่ ชมและแสดงออก และแสดงออกผา่ น และแสดงออกผ่านงาน เพือ่ สื่อสารความคดิ (2) การเขียนภาพและการเล่นกับสี ทางศลิ ปะ ดนตรี งานศลิ ปะ ดนตรี ศลิ ปะ ความร้สู กึ ของตนเองต่อ (3) การปัน้ และการเคลื่อนไหว และการเคลือ่ นไหว ผอู้ ื่นได้ (4) การประดษิ ฐส์ ิ่งต่าง ๆดว้ ยเศษวสั ดุ 4.1.3 สนใจ มคี วามสขุ (5) การหยบิ จบั การใช้กรรไกร การฉีก การตัด และแสดงท่าทาง/ 6. แสดงทา่ ทาง / การปะ และการร้อยวัสดุ เคลอ่ื นไหวประกอบ เคล่ือนไหวประกอบ 1.2.1 สุนทรภี าพ ดนตรี เพลง จงั หวะและดนตรี เพลง จงั หวะ และดนตรี (1) การฟังเพลง การรอ้ งเพลง และการแสดง ได้ ปฏกิ ิรยิ าโต้ตอบเสยี งดนตรี (3) การเคลื่อนไหวตามเสยี งเพลง/ดนตรี

มาตรฐานหลกั สูตรปฐมวัย จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ มาตรฐาน ตวั บง่ ช้ี สภาพที่พงึ ประสงค์ ประสบการณส์ าคัญ สาระท่คี วรเรียนรู้ มาตรฐานท่ี 7 7. ปฏิบตั ิตนตามมารยาทไทยได้ 7.2 มมี ารยาทตาม 7.2.1 ปฏิบตั ิตนตาม ตามกาลเทศะ 1.3.3 การปฏบิ ตั ิตนตามวัฒนธรรม รักธรรมชาติ สิง่ แวดล้อม วัฒนธรรมไทยและ มารยาทไทยได้ตาม ท้องถิน่ และความเป็นไทย วัฒนธรรมและ รักความเป็นไทย กาลเทศะ (2) การปฏิบตั ติ นตามวัฒนธรรม ความเปน็ ไทย ท้องถน่ิ ท่อี าศัยและประเพณีไทย มาตรฐานที่ 8 8.2 มีปฏิสัมพนั ธท์ ่ีดี 8.2.1 เล่นหรอื ทางาน 8. เล่นหรอื ทางานรว่ มมอื กับเพือ่ น 1.2.2 การเลน่ อย่างมเี ป้าหมายได้ (1) การเล่นอิสระ อยรู่ ่วมกบั ผอู้ ืน่ ได้ กบั ผู้อน่ื รว่ มมอื กับเพื่อนอย่างมี (2) การเล่นรายบคุ คล กลุม่ ย่อย 9. ปฏบิ ตั ิตนเป็นผ้นู าผู้ตามได้ และกลุ่มใหญ่ อยา่ งมีความสขุ เปา้ หมาย เหมาะสมกบั สถานการณ์ (3) การเลน่ ตามมุมประสบการณ์/ มุมเล่นต่าง ๆ และปฏบิ ัติตน (4) การเลน่ นอกห้องเรียน 1.3.5 การเลน่ และทางานแบบ เปน็ สมาชิกทีด่ ี ร่วมมือร่วมใจ (๒) การเล่นและการทางานร่วมกบั ของสงั คมใน ผู้อื่น 1.3.4 การมปี ฏสิ ัมพนั ธ์ มีวินัย ระบอบ มีสว่ นรว่ มและบทบาทสมาชิกของ สังคม ประชาธปิ ไตย (3) การใหค้ วามรว่ มมือในการปฏิบัติ กจิ กรรมต่าง ๆ อนั มี พระมหากษัตรยิ ์ ทรงเปน็ ประมุข 8.3 ปฏิบตั ิตน 8.3.2 ปฏิบตั ติ นเป็นผูน้ า เบ้ืองต้นในการเปน็ และผตู้ ามได้เหมาะสมกับ สมาชิกทด่ี ีของสังคม สถานการณ์

มาตรฐานหลกั สูตรปฐมวัย จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ มาตรฐาน ตัวบ่งช้ี สภาพทีพ่ งึ ประสงค์ 10. เล่าเปน็ เร่ืองราวต่อเน่อื งได้ ประสบการณส์ าคญั สาระที่ควรเรยี นรู้ 1.4.1 การใช้ภาษา มาตรฐานท่ี 9 9.1 สนทนาโต้ตอบ 9.1.2 เลา่ เป็นเรอ่ื งราว 11. จับคูแ่ ละเปรียบเทียบความ (3) การฟังเพลง นิทาน คาคล้องจอง หรอื แตกต่างหรือความเหมือนของสิ่ง เรอ่ื งราวตา่ งๆ ใช้ภาษาส่อื สารให้ และเล่าเรอื่ งใหผ้ ู้อนื่ ตอ่ เนือ่ งได้ ตา่ ง ๆได้ (4) การพูดแสดงความคดิ ความรสู้ ึก และ ความตอ้ งการ เหมาะสมกบั วยั เขา้ ใจ 12. จาแนก จดั กลมุ่ ส่ิงต่าง ๆ (6) การพูดอธิบายเกี่ยวกับสง่ิ ของ โดยใช้ต้ังแต่ 2 ลักษณะเปน็ เหตุการณ์ และความสัมพนั ธ์ของสิ่งต่าง ๆ มาตรฐานที่ 10 10.1 มี 10.1.1 จบั คู่และ เกณฑ์ 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคิด มคี วามสามารถใน ความสามารถใน เปรียบเทยี บความแตกตา่ ง เชิงเหตุผล การตัดสนิ ใจและแกป้ ัญหา การคิดท่ีเปน็ การคดิ รวบยอด หรอื ความเหมือนของส่งิ 13. สร้างผลงานศลิ ปะเพ่ือ (5) การคดั แยก การจัดกลุม่ และ พืน้ ฐานในการ ตา่ งๆ โดยใช้ลกั ษณะที่สงั เกต สอ่ื สารความคิด ความรสู้ กึ ของ การจาแนกสง่ิ ต่างๆ ตามลักษณะและ เรยี นรู้ พบ 2 ลกั ษณะขนึ้ ไป ตนเอง โดยมีการดัดแปลงแปลก รปู ร่าง รูปทรง 10.1.3 จาแนก จัดกลุ่มส่ิง ใหมจ่ ากเดิมและมรี ายละเอยี ด (7) การทาซ้า การต่อเติม และการสรา้ ง ต่าง ๆ โดยใชต้ ้งั แต่ 2 เพิ่มข้ึน แบบรูป ลักษณะเป็นเกณฑ์ (8) การนบั และแสดงจานวนของส่ิงตา่ ง ๆ (13) การจับคู่และเปรียบเทยี บส่งิ ตา่ ง ๆ มาตรฐานท่ี 11 11.1 ทางานศิลปะ 11.1.1 สรา้ งผลงานศลิ ปะ ตามลักษณะ เพ่อื ส่ือสารความคดิ 1.4.3 จนิ ตนาการและความคดิ มีจนิ ตนาการและ ตามจนิ ตนาการและ ความรสู้ กึ ของตนเอง โดยมี สร้างสรรค์ การดัดแปลงแปลกใหม่จาก (2) การแสดงความคดิ สร้างสรรค์ผ่าน ความคิด ความคดิ สรา้ งสรรค์ เดิมและมีรายละเอียดเพมิ่ ขนึ้ ภาษา ท่าทาง การเคลื่อนไหวและศิลปะ (3) การสร้างสรรค์ชิ้นงานโดยใชร้ ูปร่าง สร้างสรรค์ รูปทรงจากวัสดุที่หลากหลาย

ผงั ความคดิ แผนการจดั ประสบการณ์หน่วยวันข้ึนปใี หม่ ชน้ั อนุบาลปีที่ 3 ๑. กจิ กรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ ๒. กจิ กรรมเสริมประสบการณ์ ๓. กิจกรรมสร้างสรรค์ 1. การปฏิบัติตนเปน็ ผนู้ าผู้ตาม 1. ประวัติความเป็นมาของวันปใี หม่ 1. การปั้นดินน้ามันและวาดภาพ 2. การแสดงทา่ ทางประกอบเพลงสวัสดี 2. แสดงบทบาทประเพณวี ันปีใหม่ งานปใี หมข่ องหนู ปใี หม่ 3. การสง่ บตั รอวยพรและคาอวยพร 2. รอ้ ยวสั ดเุ หลอื ใช้เป็นเสน้ และ 3. การแสดงทา่ ทาง / เคล่อื นไหวประกอบ 4. สง่ิ ท่คี วรปฏิบตั ิในการจดั งานเล้ยี งวนั ปีใหม่ การตกแตง่ ต้นคริสมาสต์ คาบรรยาย 5. การแสดงบทบาทสมมตติ ามนทิ านของขวญั วันปีใหม่ การตอ่ 3. การฉกี ตดั ปะกระดาษและการ 4. การแสดงท่าทาง / เคลื่อนไหวตาม เติมแบบรปู ของขวญั แบบตา่ ง ๆ ทาบัตรอวยพรจากเศษวสั ดุ ขอ้ ตกลง 4. ปั้นดินน้ามันและการประดิษฐ์ 5. แสดงทา่ ทางประกอบเพลงราวงปใี หม่ หน่วย สายรงุ้ และรบิ บ้ิน วันข้นึ ปใี หม่ 5. ปั้นดินน้ามันและการห่อ ชน้ั อนบุ าลปีที่ 3 ของขวญั ๔. กจิ กรรมเล่นเสรี ๖. กจิ กรรมเกมการศกึ ษา 1. การเล่นตามมุม ประสบการณ์ ๕. กจิ กรรมกลางแจง้ 1. เกมจบั คู่ภาพเหมือนกล่องของขวญั ท่มี ีลายตา่ งกัน 2. มมุ บทบาทสมมติ 2. เกมสังเกตรายละเอยี ดภาพงานเลี้ยงปใี หม่ 3. มุมธรรมชาติศกึ ษา ๑. การเล่นเคร่ืองเลน่ สนาม 3. เกมจับคู่แบบตารางสมั พนั ธ์ (เมตรกิ เกม) ๒. การเลน่ รับลูกบอลกระดอนกับพ้ืน 4. เกมจบั คู่ภาพลวดลายตามแบบทก่ี าหนด ๓. การเล่นเกมเหยยี บลูกโป่ง 5. เกมจบั คู่ภาพแบบอนกุ รม ๔. การเล่นโยนลูกเทนนสิ ลงตะกร้า ๕. การเลน่ เกมวงิ่ ซกิ แซกส่งบอล 10

การวางแผนกิจกรรมรายหน่วยการจดั ประสบการณ์ ชั้นอนุบาลปีท่ี 3 หน่วยวนั ข้ึนปีใหม่ วันท่ี เคลื่อนไหวและจงั หวะ เสริมประสบการณ์ สร้างสรรค์ กจิ กรรม เสรี กลางแจ้ง เกมการศึกษา - ปฏิบตั ิตนเป็นผ้นู าผู้ - เลา่ ประวัติความ - ดนิ น้ามนั - เล่นตามมมุ - เล่นเครอื่ งเลน่ สนาม - เกมจับคู่ภาพเหมอื น ตาม เปน็ มาของวนั ปีใหม่ - การวาดภาพงานปใี หม่ ประสบการณ์ (เล่นเสรี) กลอ่ งของขวญั ที่มีลาย 1 - การเปล่ียน ของหนู - มุมธรรมชาตศิ กึ ษา ตา่ งกนั พทุ ธศักราชใหม่ โดย การใหเ้ ดก็ รว่ มกนั ดู ปฏทิ ิน - การแสดงทา่ ทาง - การแสดงบทบาท - รอ้ ยวสั ดเุ หลอื ใชเ้ ปน็ - เลน่ ตามมมุ - การเล่นรับลกู บอล - เกมสังเกตรายละเอียด ประกอบเพลงสวสั ดี สมมตปิ ระเพณีวันปใี หม่ เส้น ประสบการณ์ ใน กระดอนกบั พื้น ภาพงานเลีย้ งปีใหม่ 2 ปใี หม่ -การตกแต่งตน้ ห้องเรยี น คริสมาสต์ - การแสดงท่าทาง / - การสง่ บัตรอวยพรและ - การฉีกตัดปะกระดาษ - เลน่ ตามมุม - การเลน่ เกมเหยียบ - เกมจบั คู่แบบตาราง ลกู โปง่ สัมพนั ธ์ (เมตริกเกม) 3 เคลอ่ื นไหวประกอบ คาอวยพร - การทาบัตรอวยพร ประสบการณ์ คาบรรยาย จากเศษวสั ดุ - การแสดงท่าทาง / - สิ่งทีค่ วรปฏิบัติใน - ปั้นดินน้ามัน - เลน่ ตามมมุ - การเลน่ โยนลกู เทนนิส - เกมจับคภู่ าพลวดลาย 4 เคลื่อนไหวตามข้อตกลง การจัดงานเลยี้ งวนั - การประดษิ ฐส์ ายรุง้ ประสบการณ์ ลงตะกรา้ ตามแบบท่ีกาหนด ปใี หม่ - แสดงทา่ ทางประกอบ - การนับแสดงจานวน - ปั้นดินน้ามัน - เล่นตามมมุ - การเลน่ เกมวิ่ง - เกมจับค่ภู าพแบบ ประสบการณ์ ซกิ แซกส่งบอล อนุกรม 5 เพลงราวงปใี หมแ่ ละ กลอ่ งของขวญั 1 - 13 - การหอ่ ของขวญั ริบบ้ิน - การต่อเติมแบบรูป ของขวัญแบบตา่ ง ๆ

แผนการจัดประสบการณช ั้นอนบุ าล ๓ หนว ยท่ี ๒๖ วนั ขนึ้ ปใหม สปั ดาหท ี่ ๒๖ ครงั้ ท่ี ๑ วนั ที่................เดือน..........................พ.ศ..................... จุดประสงคก์ าร สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ เรยี นรู้ 1. เครอ่ื งเคาะจงั หวะ ประสบการณ์สาคัญ สาระท่คี วรเรยี นรู้ 1. กจิ กรรมพน้ื ฐาน ใหเ้ ด็กเคล่ือนไหวรา่ งกายไปทัว่ 2. เพลง “ไชโยปใี หม่” สงั เกต กิจกรรม บรเิ วณอยา่ งอสิ ระ ตามจงั หวะ เมื่อไดย้ นิ สัญญาณ การปฏบิ ตั ิตนเปน็ ผนู้ า เคลอ่ื นไหวและ (1) การเคล่ือนไหวอยู่ “หยดุ “ ให้หยดุ เคล่ือนไหวในทา่ น้นั ทนั ที 1. เพลง ”ไชโยปใี หม่” ผู้ตามไดเ้ หมาะสมกับ จงั หวะ กับที่ 2. เดก็ ยนื เปน็ วงกลม ใหอ้ าสาสมัคร ออกมาทาท่า 2. ปฏิทินที่มี พ.ศ. ต่อ สถานการณ์ ปฏิบัติตนเป็น (2) การเคล่ือนไหว กายบรหิ ารประกอบเพลง “ไชโยปใี หม่” เด็กท่ี กนั เช่น ปฏทิ นิ ปี ผ้นู าผู้ตามได้ เคลอ่ื นที่ เหลอื ทาทา่ ตามเม่ือไดย้ นิ สัญญาณ “หยดุ “ให้ผู้ 2561 และปฏทิ ินปี เหมาะสมกบั (3) การใหค้ วาม นากลับเข้ามาอยู่ในวงกลม 2562 สถานการณ์ รว่ มมอื ในการปฏิบัติ 3. เดก็ ปฏบิ ัตติ ามข้อ 2 ซ้า โดยเด็กผลัดเปลย่ี น กจิ กรรมต่าง ๆ เปน็ ผนู้ า กจิ กรรมเสริม 1. เด็กและครรู ว่ มกันร้องเพลงและทาทา่ ทาง ประสบการณ์ (3) การฟังเพลง 1. ประวตั ิความ ประกอบเพลง”ไชโยปใี หม่” 1.เล่า (4) การพูดแสดง เป็นมาของวนั ปีใหม่ 2. เด็กสนทนาเนอื้ หาในเพลง”ไชโยปใี หม่” ประสบการณ์ ความคดิ ความรูส้ ึก - เดมิ วันปใี หมข่ อง 3. เดก็ ฟงั ประวตั ิความเป็นมาของวนั ปใี หม่ไทยและ เก่ียวกับวนั ปใี หมท่ ่ี และความต้องการ ไทยคือวันท่ี 13 วันปใี หมส่ ากล เด็กมีประสบการณ์ (6) การพูดอธบิ าย เมษายน ซงึ่ คือวนั 4. ครแู นะนาเกย่ี วกบั การเปล่ียนพทุ ธศกั ราชใหม่ เป็นเร่ืองราว เก่ียวกบั สิ่งของ สงกรานตต์ ่อมาทาง โดยใหเ้ ด็กร่วมกันดูปฏทิ นิ โดยใช้สอื่ วงกลมล้อหมนุ ต่อเน่ืองได้ เหตุการณ์ และ ราชการประกาศให้ 5. เดก็ ออกมาเปิดปฏิทนิ แผ่นพลกิ ครนู าอา่ นเดือน ความสัมพนั ธ์ของสิ่ง เป็นวนั ท่ี 1 มกราคม ใหเ้ ดก็ อ่านตาม ต่าง ๆ ของทุกปเี พ่อื ให้ตรง 6. เด็กและครรู ว่ มกันอา่ น วัน เดือน ปี ของวนั ข้ึนปี กับสากลท่วั ไป ใหม่ คือ 1 มกราคม ...... เมื่อหมดวันที่ 31 ธนั วาคม

จุดประสงค์การ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พัฒนาการ เรยี นรู้ ประสบการณส์ าคัญ สาระทค่ี วรเรยี นรู้ 1. ครเู ตรียมอุปกรณ์กจิ กรรม 2 กิจกรรมไดแ้ ก่ 1. ดนิ น้ามัน สงั เกต กิจกรรมศิลปะ (๒) การเขียนภาพและ ปั้นดินน้ามัน, การวาดภาพงานปีใหม่ของหนู 2. กระดาษวาดภาพ 1. การสร้างผลงานศิลปะ สรา้ งสรรค์ การเล่นกับสี 2. ครแู นะนากิจกรรมใหม่ “วาดภาพงานปใี หม่ 3. สีเทยี น เพือ่ สื่อสารความคิด 1. สร้างผลงาน (3) การปน้ั ของหนู”โดยให้เด็กวาดภาพอิสระ ความร้สู กึ ของตนเองต่อ ศลิ ปะเพ่อื สื่อสาร 3. เดก็ เลอื กทากจิ กรรม 1 - 2 กิจกรรม ผอู้ นื่ ความคดิ 4. เดก็ ร่วมกันเกบ็ อุปกรณ์ และสง่ ผลงานพร้อม ความร้สู กึ ของ เลา่ ผลงาน สงั เกต ตนเองต่อผูอ้ น่ื ได้ การเลอื กมุม ประสบการณ์ตามความ กิจกรรมเล่นตาม (1) การเลน่ อิสระ 1. เด็กเลอื กกิจกรรมเสรีตามมุมประสบการณต์ าม มมุ ประสบการณ์ใน สนใจและความต้องการ มุม (2) การเลน่ รายบคุ คล ของตนเองได้ สามารถเลอื กมมุ กลุม่ ยอ่ ย และกลุม่ ความสนใจ เชน่ หอ้ งเรยี น ประสบการณ์ตาม ใหญ่ ความสนใจและ (3) การเลน่ ตามมุม - มุมธรรมชาตศิ กึ ษา - มมุ หนังสอื ความตอ้ งการของ ประสบการณ/์ มุมเลน่ ตนเองได้ ต่าง ๆ - มุมบลอ็ ก - มมุ เกมการศกึ ษา (๒) การเล่นและ การทางานร่วมกบั - บทบาทสมมติ - มมุ เครื่องเลน่ สมั ผัส ผูอ้ ืน่ 2. เม่อื หมดเวลาเด็กเก็บของเขา้ ทีใ่ หเ้ รียบร้อย

จุดประสงคก์ าร สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พัฒนาการ เรยี นรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระที่ควรเรยี นรู้ สังเกต การบอกวธิ กี ารเล่น กจิ กรรมกลางแจง้ (๒) การเลน่ รายบุคคล 1. ครูแนะนาข้อตกลงในการเล่นเครอ่ื งเลน่ สนาม เครือ่ งเลน่ สนาม แตล่ ะชนิดพร้อมท้ังแนะนาวธิ กี ารเล่นอยา่ ง ทากจิ กรรมและปฏิบัติต่อ บอกวิธกี ารเลน่ กลุ่มยอ่ ย กลุ่มใหญ่ ปลอดภยั ผู้อ่นื อย่างปลอดภยั 2. เดก็ บอกวธิ กี ารเล่น ทากิจกรรมในการเลน่ ทากจิ กรรมและ เครอ่ื งเลน่ สนามอย่างปลอดภัย 3. เดก็ เลน่ เคร่ืองเลน่ สนามโดยมคี รดู ูแลอย่าง ปฏิบัตติ ่อผอู้ นื่ ใกลช้ ดิ 4. เมอ่ื ครูให้สัญญาณหมดเวลา เดก็ เขา้ แถวและ อยา่ งปลอดภัย ทาความสะอาดรา่ งกาย เกมการศกึ ษา (13) การจับคแู่ ละ การจับคแู่ ละ 1. เด็กนับปากเปล่า 1 - 20 พร้อมกนั เกมจับคู่ภาพเหมือน สังเกต จับคแู่ ละ เปรียบเทียบสิง่ ต่าง ๆ เปรียบเทยี บความ การจับคู่และ คามลกั ษณะ แตกตา่ งหรือความ 2. ครแู นะนาเกมจับคภู่ าพเหมอื นกล่องของขวญั ที่ กล่องของขวญั ทม่ี ลี าย เปรียบเทียบความ เหมือน เปรยี บเทยี บความแตกตา่ ง แตกต่างหรือความ มลี ายตา่ งกนั ตา่ งกนั หรอื ความเหมือนของลาย เหมือนของลาย กล่องของขวัญ กล่องของขวัญได้ 3. แบ่งเดก็ เป็นกลมุ่ ตามความเหมาะสม โดยให้ เดก็ เลอื กหัวหน้ากลุม่ ออกมารับเกมที่เคยเล่นแล้ว และเกมจับคู่ภาพเหมอื นกล่องของขวญั ทีม่ ลี าย ตา่ งกัน 4. เดก็ เล่นเกมโดยหมุนเวียนสลบั เปล่ยี นกัน ในแต่ละกลุม่ โดยทุกกลุม่ ได้เลน่ เกมจบั คู่ ภาพเหมือนกล่องของขวญั ที่มีลายต่างกัน 5. ครใู ห้สัญญาณหมดเวลา เด็กเก็บเกมการศกึ ษา

แผนการจดั ประสบการณช้นั อนุบาล ๓ หนว ยท่ี ๒๖ วันขนึ้ ปใ หม สปั ดาหที่ ๒๖ ครัง้ ที่ ๒ วนั ท่ี................เดือน..........................พ.ศ..................... จดุ ประสงค์การ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินพัฒนาการ เรยี นรู้ ประสบการณ์สาคัญ สาระทคี่ วรเรยี นรู้ 1. กจิ กรรมพ้ืนฐาน ให้เด็กเคล่ือนไหวร่างกายไป 1. เครื่องใหจ้ งั หวะ สงั เกต กจิ กรรม ท่วั บรเิ วณอยา่ งอสิ ระ ตามจงั หวะ เม่อื ไดย้ นิ 2. เพลงสวสั ดีปใี หม่ การแสดงทา่ ทาง เคลอื่ นไหวและ (1) การเคลื่อนไหว สญั ญาณ “หยุด “ ให้หยดุ เคลอื่ นไหวในทา่ นนั้ ประกอบเพลงสวัสดีปีใหม่ จงั หวะ อยู่กบั ที่ ทันที 1. คาคล้องจองปใี หม่ แสดงท่าทาง (2) การเคล่ือนไหว 2. เด็กแบ่งกลุ่ม 2 กลมุ่ โดยใช้การนับ 1 - 2 วันใหม่ สังเกต ประกอบเพลง เคล่อื นท่ี เดก็ ท่ีนับเลขเดยี วกันอยู่กลุ่มเดยี วกัน 2. บตั รภาพประเพณวี ัน 1. การแสดงบทบาทสมมติ สวัสดปี ีใหม่ได้ (3) การเคลื่อนไหว เดก็ กลุ่ม 1 รอ้ งเพลง สวสั ดปี ใี หม่ กล่มุ 2 ปีหใม่ พรอ้ มเลา่ เป็นเรอ่ื งราว ตามเสียงเพลง/ดนตรี ทาท่ากายบริหารให้ปฏิบัตไิ ปพร้อมๆ กัน ต่อเนอื่ งได้ 3. ปฏิบัตติ ามขอ้ 2 ซ้า โดยใหเ้ ดก็ ผลดั เปลีย่ น 2. การปฏิบตั ติ นตาม กิจกรรมเสรมิ (6) การพูด อธิบาย กลุ่มปฏิบัติ มารยาทไทยได้ตาม ประสบการณ์ เก่ียวกับสง่ิ ของ กาลเทศะ 1. แสดงบทบาท เหตกุ ารณ์ และ 1. เดก็ และครูร่วมกันท่องคาคล้องจองปใี หม่ วนั สมมติพร้อมเล่า ความสมั พนั ธข์ องสิ่ง ใหม่ เป็นเรอื่ งราว 2. เดก็ แสดงความคิดเหน็ เน้ือหาในคาคลอ้ งจอง ต่าง ๆ 3. เดก็ รว่ มสนทนาและแสดงความคดิ เหน็ ตอ่ เนื่องได้ ประเพณวี ันปใี หมจ่ ากภาพ จากคาถาม (2) การปฏิบัตติ น 2. ปฏิบตั ติ นตาม ตามวัฒนธรรมทอ้ ง - ถ้าผู้ใหญ่ให้พร เด็กๆคิดว่าต้องการพรใด มารยาทไทยได้ตาม ถน่ิ ทอ่ี าศยั และ - เดก็ ๆอยากทาอะไรในวันปีใหม่ กาลเทศะ - เม่ือเหน็ ลกู นกถูกขงั ถกู ขงั อยใู่ นกรง เด็กมี ประเพณไี ทย ความรสู้ กึ อยา่ งไร 4. แบ่งกลุ่มเด็กตามความเหมาะสม แต่ละกลุม่ แสดงบทบาทประเพณวี ันปีใหม่ เชน่ การขอพร จากผู้ใหญ่ การทาบุญ การปลอ่ ยนก การปลอ่ ยปลา

จุดประสงค์การ สาระการเรียนรู้ เรยี นรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระทีค่ วรเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พัฒนาการ 5. เด็กชว่ ยกันนับภาพงานปีใหม่ 6. เด็กนบั ปากเปล่า 1 - 30 7. เดก็ และครูรว่ มกนั สรปุ ประเพณวี ันปีใหม่ 8. เด็กและครูรว่ มกนั ท่องคาคล้องจองปใี หม่ วนั ใหม่ กจิ กรรมศิลปะ (๒)การแสดงความคิด 1. ครเู ตรียมอปุ กรณก์ ิจกรรม 2 กจิ กรรมไดแ้ ก่ 1.กระดาษ สังเกต สร้างสรรค์ สรา้ งสรรค์ผ่าน 2.สีเทียน การร้อยวสั ดทุ ี่มีรูขนาด สอ่ื วัสดตุ า่ งๆผ่าน “รอ้ ยวัสดุเหลือใชเ้ ป็นเส้น,การตกแต่ง 3.เชอื ก/เอ็น ร้อยวัสดทุ ี่มรี ู ศลิ ปะ 4.ตน้ ครสิ มาสต์ เสน้ ผา่ นศนู ย์กลาง 0.25 ขนาดเสน้ ผา่ น (4)การประดษิ ฐส์ ิ่ง ต้นครสิ มาสต์” 5.เศษวัสดุเหลอื ใช้ เช่น เซนตเิ มตร ศนู ย์กลาง 0.25 ต่าง ๆดว้ ยเศษวัสดุ เชอื ก ไหมพรม หลอด เซนตเิ มตรได้ (5) การหยบิ จับ 2. ครูแนะนากิจกรรมใหม่ “การตกแต่งตน้ กาแฟ รบิ บิ้น กระดาษสี สงั เกต การใชก้ รรไกร การตัด ลกู ปัด เป็นต้น การแสดงอารมณ์ และการร้อยวัสดุ ครสิ มาสต์” โดยใหเ้ ด็กร่วมกนั ตกแต่งตน้ มมุ ประสบการณ์ใน ความรสู้ ึกสอดคลอ้ งกับ ครสิ มาสต์อยา่ งอสิ ระตามจินตนาการโดยใช้ ห้องเรียน สถานการณ์อย่างเหมาะสม ผลงานการร้อยร้อยวสั ดุเหลอื ใช้เปน็ เสน้ มารว่ ม ตกแตง่ 3. เด็กร่วมกนั ปฏิบตั ิกิจกรรม 4. เด็กร่วมกันเกบ็ อุปกรณ์ และสง่ ผลงานพร้อม เลา่ ผลงาน กจิ กรรมเล่นตาม (1)การเลน่ อิสระ 1. เด็กเลอื กกจิ กรรมเสรตี ามมมุ ประสบการณต์ าม มมุ (2) การเลน่ รายบคุ คล กลมุ่ ยอ่ ย และกลมุ่ ความสนใจ อย่างน้อย ๔ มมุ เช่น แสดงอารมณ์ ใหญ่ ความรสู้ ึกได้ (3)การเลน่ ตามมุม - มุมธรรมชาติศึกษา สอดคลอ้ งกับ ประสบการณ/์ มมุ เล่น สถานการณ์อยา่ ง ต่าง ๆ - มุมหนังสือ - มุมบลอ็ ก เหมาะสม - มมุ เกมการศึกษา - บทบาทสมมติ - มุมเคร่ืองเล่นสัมผัส

จุดประสงคก์ าร สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ เรียนรู้ ประสบการณ์สาคัญ สาระท่ีควรเรยี นรู้ สังเกต การรับลูกบอลที่กระดอน (1) การเลน่ เครื่องเล่น ครูคอยสังเกตพฤติกรรมการช่วยเหลอื และแบง่ ปัน ขน้ึ จากพื้น สมั ผัสและการสร้างสิง่ กันเวลาเล่น ต่าง ๆจากแทง่ ไม้ 2. เม่ือหมดเวลาเดก็ เก็บของเข้าทีใ่ ห้เรยี บร้อย บลอ็ ก 1. ครแู นะนาการเล่นรบั ลูกบอลกระดอนกับพน้ื ลกู บอล กจิ กรรมกลางแจง้ (2) การเล่นและ สาธติ การเล่น รับลูกบอลที่ ทางานร่วมกับผู้อน่ื 2. เด็กเลน่ รับลูกบอลกระดอนกับพื้น โดยครดู ูแล กระดอนข้ึนจาก (4) การเลน่ นอก อยา่ งใกลช้ ดิ พ้ืนได้ ห้องเรยี น 3. เมื่อครูใหส้ ัญญาณหมดเวลา เดก็ เกบ็ อปุ กรณ์ กฬี า เข้าแถวและทาความสะอาดร่างกาย กิจกรรมเกม (5) การคัดแยก การเลน่ เกมสงั เกต 1. ครแู นะนาเกมสังเกตรายละเอยี ดภาพงานเลยี้ ง เกมสังเกตรายละเอียด สังเกต การศึกษา การจาแนกส่งิ ต่าง ๆ รายละเอียดภาพงาน ปีใหม่ ภาพงานเล้ียงปีใหม่ การจาแนกความ สังเกตจาแนก ตามลกั ษณะ เลยี้ งปีใหม่ 2. แบ่งเด็กเปน็ กลุม่ ตามความเหมาะสม โดยให้ แตกต่างของภาพงานเลย้ี ง ความแตกต่างของ เดก็ เลอื กหัวหน้ากลุม่ ออกมารับเกมท่เี คยเล่นแล้ว ปีใหม่ ภาพงานเลย้ี ง และเกมสงั เกตรายละเอียดภาพงานเล้ียงปีใหม่ ปีใหมไ่ ด้ 3. เด็กเลน่ เกมโดยหมุนเวยี นสลับเปล่ียนกนั ในแตล่ ะกลมุ่ โดยทกุ กล่มุ ไดเ้ ล่นเกมสังเกต รายละเอยี ดภาพงานเล้ยี งปใี หม่ 4. ครใู ห้สญั ญาณหมดเวลา เดก็ เก็บเกมการศึกษา

แผนการจดั ประสบการณช นั้ อนุบาล ๓ หนว ยที่ ๒๖ วันขึน้ ปใหม สัปดาหที่ ๒๖ ครง้ั ที่ ๓ วนั ท่.ี ...............เดือน..........................พ.ศ..................... จุดประสงค์การ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินพัฒนาการ เรยี นรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระท่ีควรเรียนรู้ กิจกรรม (1) การเคล่ือนไหวอยู่ 1. กิจกรรมพืน้ ฐาน ใหเ้ ด็กเคลอ่ื นไหวรา่ งกายไปทั่ว 1. เครอื่ งใหจ้ ังหวะ สังเกต เคล่อื นไหวและ จงั หวะ กบั ท่ี บริเวณอย่างอิสระ ตามจังหวะ เมื่อไดย้ ินสญั ญาณ “หยดุ 2. คาบรรยาย การแสดงท่าทาง / แสดงทา่ ทาง / (2) การเคลื่อนไหว “ ให้หยุดเคลอ่ื นไหวในทา่ น้นั ทันที เคลอื่ นไหวประกอบ เคลอื่ นไหว ประกอบอุปกรณ์ เคลอื่ นที่ 2. เด็กเคลื่อนไหวประกอบอุปกรณ์โดยนาบตั รอวยพร อปุ กรณ์ตามจงั หวะ ตามจงั หวะได้ (2) การแสดงความคิด แตะสัมผัสร่างกายตามจังหวะ เมือ่ ได้ยนิ สญั ญาณ “หยุด” กจิ กรรมเสรมิ ประสบการณ์ สรา้ งสรรคผ์ า่ น ให้หยดุ ในท่านน้ั ทันที เล่าเป็นเรอ่ื งราว ตอ่ เนื่องได้ ส่อื วัสดตุ า่ งๆทา่ ทาง 3. เดก็ ปฏบิ ัติตามข้อ 2 ซา้ 4 - 5 ครงั้ การเคล่อื นไหว (3) การฟังเพลง นิทาน การส่งบัตร 1. เด็กฟงั นทิ านเร่ืองของขวัญปใี หม่ 1. นทิ านเรอ่ื ง สังเกต คาคลอ้ งจอง อวยพรและคา 2. เดก็ สนทนาเนือ้ หาจากนิทาน จากคาถาม ของขวญั ปีใหม่ การเลา่ เปน็ เรอื่ งราว บทร้อยกรองหรือ อวยพร - สัตว์ต่าง ๆเตรียมของขวญั ไปใหใ้ คร 2. ตวั อย่างบัตร ต่อเน่อื ง เร่ืองราวต่างๆ - สัตวต์ ่าง ๆเตรยี มของขวัญอะไรกันบา้ ง อวยพรและ - เมอื่ สัตว์ต่าง ๆให้ของขวัญนางฟ้าแล้วนางฟา้ พดู กับ คาอวยพร สัตวต์ ่าง ๆวา่ อย่างไร นางฟา้ อวยพรใหส้ ัตว์ต่างๆเปน็ 3. เพลง“ไชโยปใี หม่” อย่างไร 3. เด็กดตู วั อย่างบัตรอวยพรและคาอวยพร พร้อมท้ัง แสดงความคดิ เห็นเกีย่ วกบั ความสาคญั ของการอวยพรให้ ผู้อนื่ - ทาไมเด็กถึงต้องมีการอวยพรใหผ้ ูอ้ ่ืน - เราใชอ้ ะไรในการอวยพรกันบ้าง 4. เดก็ บอกคาอวยพรคุณพ่อคุณแมจ่ นครบทุกคน 5. เดก็ แสดงความคดิ เหน็ จากคาถาม - ความดีท่ีเด็กควรทามีอะไรบา้ ง - เดก็ อยากส่งบตั รอวยพรให้ใคร เพราะเหตุใด

จดุ ประสงค์การ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พัฒนาการ เรยี นรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระท่ีควรเรยี นรู้ ครูใหค้ วามรู้เพ่มิ เติมเก่ียวกบั การอวยพรใน ปจั จุบันมกี ารส่งคาอวยพรทาง Line ทาง Internet มากกวา่ การส่งคาอวยพรทางบัตร อวยพร 6. เด็กนับบัตรอวยพรพร้อมแสดงจานวน 1 - 13 7. เด็กและครูรว่ มกนั ร้องเพลง “ไชโยปใี หม่” 8. ให้เด็กนาอาหาร ขนม เคร่ืองด่ืม ผลไม้ มาร่วมจดั งานเลี้ยงวันปใี หมใ่ นวันรุ่งข้นึ 9. เด็กร่วมกนั จดั หอ้ ง ทาความสะอาดเพ่ือเตรียม งานเล้ยี งวันปใี หม่ ในช่วงกจิ กรรมเล่นตามมุม กิจกรรมศลิ ปะ (4) การประดิษฐ์ส่งิ ตา่ ง ๆ 1. ครเู ตรียมอปุ กรณ์กจิ กรรม 2 กจิ กรรมไดแ้ ก่ 1. กระดาษสี สังเกต การสรา้ งผลงานศลิ ปะ สร้างสรรค์ ดว้ ยเศษวัสดุ การฉีกตัดปะกระดาษ การทาบตั รอวยพรจากเศษ 2. เศษวสั ดุ เช่น เพ่อื สื่อสารความคดิ สร้างผลงาน (5) การหยบิ จับ การใช้ วสั ดุ โดยใหเ้ ด็กสร้างบัตรอวยพรตามความคดิ ไหมพรม หลอดกาแฟ ความรู้สึกของตนเอง โดยมี การดัดแปลงแปลกใหม่ ศลิ ปะเพ่อื ส่ือสาร กรรไกร การฉีก การตดั ความรู้สกึ ของตนเอง โดยมีการวางแผน ออกแบบ กระดมุ เมด็ โฟม ฯลฯ จากเดิมและมรี ายละเอยี ด เพ่ิมข้นึ ความคิด การปะ ลงมอื สร้าง ดัดแปลงแปลกใหม่ให้มรี ายละเอยี ด 3. กระดาษ ความรสู้ ึกของ เพ่ิมขนึ้ โดยใช้วัสดุที่มีอยู่ 4. กรรไกร ตนเอง โดยมีการ 2. ครูแนะนากิจกรรมใหม่ “การทาบัตรอวยพร 5. กาว ดัดแปลงแปลกใหม่ จากเศษวัสดุ”พร้อมท้งั ตกแต่งตามจินตนาการ จากเดิมและมี 3. เด็กลงมือปฏิบัติกิจกรรม รายละเอยี ด 4. เด็กรว่ มกันเก็บอปุ กรณ์ และส่งผลงานพร้อม เพม่ิ ขึ้น เล่าผลงาน

จุดประสงคก์ าร สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินพัฒนาการ เรียนรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระที่ควรเรยี นรู้ 1. เดก็ เลอื กกจิ กรรมเสรตี ามมุมประสบการณ์ตาม มุมประสบการณ์ใน สงั เกต กิจกรรมเลน่ ตาม การแสดงอารมณ์ มุม (1) การเลน่ อสิ ระ ความสนใจ เชน่ หอ้ งเรยี น (2) การเลน่ รายบคุ คล ความรสู้ ึกสอดคลอ้ งกบั แสดงอารมณ์ กลุ่มย่อย และกลุ่ม - มุมธรรมชาติศกึ ษา สถานการณ์อยา่ งเหมาะสม ความรู้สึกได้ ใหญ่ สอดคลอ้ งกับ (3) การเล่นตามมุม - มุมหนงั สอื - มมุ บล็อก สถานการณ์อยา่ ง ประสบการณ/์ มุมเล่น เหมาะสม ต่าง ๆ - มมุ เกมการศึกษา - บทบาทสมมติ (1) การเลน่ เครื่องเลน่ สมั ผัสและการสร้างสง่ิ - มมุ เครื่องเล่นสัมผัส ตา่ งๆ จากแท่งไม้ บลอ็ ก 2. เม่ือหมดเวลาเด็กเกบ็ ของเข้าทใ่ี หเ้ รียบร้อย กจิ กรรมกลางแจ้ง (2) การเลน่ และ 1. ครูแนะนากติกาและสาธติ การเลน่ เกมเหยยี บ 1. ลูกโปง่ สงั เกต เล่นกบั เพ่อื น ทางานร่วมกับผู้อื่น ลูกโป่งพรอ้ มทง้ั แนะนาการเล่นอย่างปลอดภัย 2. นกหวดี การเลน่ กบั เพ่ือนอย่างมี อย่างมีเป้าหมาย (2) การเล่นรายบคุ คล 2. เด็กเลน่ เกมเหยียบลกู โปง่ โดยมคี รูดแู ลอยา่ ง เปา้ หมาย โดยการเลน่ เกม กล่มุ ยอ่ ย และ ใกลช้ ดิ เหยียบลูกโปง่ ได้ กลมุ่ ใหญ่ 3. เมือ่ ครูให้สัญญาณหมดเวลา จบเกม เดก็ เข้า แถวและทาความสะอาดรา่ งกาย

จดุ ประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ เรยี นรู้ ประสบการณ์สาคัญ สาระทค่ี วรเรียนรู้ กจิ กรรมเกม (13) การจบั คูแ่ ละ เกมจบั คู่แบบตาราง 1. ครแู นะนาเกมจับคแู่ บบตารางสัมพันธ์ลาย 1. เกมจบั คแู่ บบตาราง สังเกต การศึกษา เปรียบเทียบสง่ิ ต่าง ๆ สัมพันธล์ ายของขวญั การเลน่ เกมจับคู่แบบ คามลักษณะ ของขวัญ สัมพนั ธ์ (เมตริกเกม) ตารางสัมพนั ธล์ าย เลน่ เกมจับคู่ ของขวัญ แบบตารางสมั พนั ธ์ 2. แบ่งเดก็ เปน็ กลุ่มตามความเหมาะสม โดยให้ 2. เกมท่ีเคยเล่นแล้ว ลายของขวัญได้ เด็กเลอื กหัวหน้ากลมุ่ ออกมารับเกมทเี่ คยเล่นแล้ว และเกมจบั คแู่ บบตารางสัมพันธล์ ายของขวญั 3. เดก็ เลน่ เกมโดยหมุนเวียนสลบั เปลยี่ นกนั ในแตล่ ะกลุ่มโดยทุกกลุม่ ไดเ้ ล่นเกมจบั คู่แบบ ตารางสัมพันธ์ลายของขวัญ 4. ครใู ห้สัญญาณหมดเวลา เดก็ เก็บเกมการศึกษา

แผนการจดั ประสบการณช นั้ อนุบาล ๓ หนว ยท่ี ๒๖ วันข้ึนปใหม สปั ดาหท ่ี ๒๖ ครง้ั ที่ ๔ วันท่.ี ...............เดือน..........................พ.ศ..................... จดุ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ ผล การเรียนรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระท่ีควรเรยี นรู้ สังเกต กจิ กรรม แสดงท่าทาง / เคลื่อนไหวและ (1) การฟังเพลง การ 1. กิจกรรมพนื้ ฐาน ให้เด็กเคลอ่ื นไหวร่างกายไป 1. เครื่องเคาะให้จงั หวะ เคลอื่ นไหวตามข้อตกลง จงั หวะ ร้องเพลง และ การ แสดงท่าทาง / แสดงปฏกิ ิรยิ าโตต้ อบ ท่ัวบริเวณอยา่ งอิสระตามจงั หวะ เมอื่ ได้ยนิ 2. กลอง สงั เกต เคลื่อนไหวตาม การทางานร่วมมอื กับ ข้อตกลง ได้ สญั ญาณ “หยุด “ ใหห้ ยดุ เคลอื่ นไหวในทา่ นนั้ เพือ่ นอย่างมเี ป้าหมาย กิจกรรมเสริม เสียงดนตรี ทนั ที ประสบการณ์ (3) การเคล่ือนไหว 2. เด็กและครูร่วมกนั กาหนดขอ้ ตกลง ดังนี้ ทางานรว่ มมือกับ ตามเสียงเพลง/ดนตรี - ครตู ีกลอง ให้เด็กทาทา่ ตักบาตร เพื่อนอย่างมี เป้าหมายได้ - ครเู คาะไม้ ใหเ้ ดก็ ทาทา่ ปล่อยนก - ครูปรบมือ ให้เดก็ ทาท่า กราบผใู้ หญ่ 3. ใหเ้ ด็กเคล่ือนไหวรา่ งกายอยา่ งอิสระ เม่ือได้ยนิ สญั ญาณหยดุ ในแตล่ ะครัง้ ให้ปฏิบัติตามข้อตกลง ในข้อ 2 4. ปฏบิ ตั ิตามข้อ 2 ซา้ อีกครั้ง (๒) การเลน่ และการ กจิ กรรมที่มีในงานเลี้ยง 1. เดก็ ราวงเป็นวงกลม เพลง “ราวงปใี หม่” 1. เพลง “ราวงปีใหม่” ทางานรว่ มกับผู้อ่ืน วนั ปใี หม่ 2. เด็กแนะนาอาหาร ขนมเครื่องด่ืมทน่ี ามา 2. อาหาร ขนม ร่วมงาน เครื่องด่ืม 3. เด็กร่วมสนทนาและแสดงความคิดเห็น 3. ภาชนะทใ่ี ส่ เกย่ี วกับกจิ กรรมท่ีจัดในวันข้ึนปีใหม่ “งานเลีย้ งวนั ปีใหม่ทเี่ ด็กเคยร่วมงานมีกิจกรรม อะไรบา้ ง” 4. เดก็ ร่วมแสดงความคิดเห็น “ส่งิ ที่ควรปฏบิ ตั ใิ นการจดั งานเลยี้ งวนั ปใี หม่” - เดก็ ๆควรทาอยา่ งไรบา้ งในในการจัดงานเลี้ยง วนั ปีใหม่

จุดประสงค์การ สาระการเรยี นรู้ เรยี นรู้ ประสบการณ์สาคัญ สาระที่ควรเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ 5. เดก็ และครูรว่ มสรา้ งข้อตกลงในการจดั งาน สังเกต การสร้างผลงานศลิ ปะ เลยี้ งในห้องเรียน เพอื่ สื่อสารความคดิ 6. เด็กร่วมนาอาหาร / ขนม / เครอื่ งด่มื / ความรสู้ ึกของตนเองต่อ ผู้อ่ืน ผลไม้ มาใส่ภาชนะและ สงั เกต จดั งานเล้ียง การเลอื กมุม 7. เด็กและครรู ว่ มกนั ร้องเพลงราวงวันปีใหมแ่ ละ ประสบการณ์ตามความ สนใจและความต้องการ ราวงไปรอบห้องเรียน ของตนเอง 8. เดก็ ร่วมงานเล้ียงปใี หม่ในห้องเรยี น กิจกรรมศลิ ปะ (4) การประดษิ ฐ์ 1. ครูเตรียมอปุ กรณก์ จิ กรรม 2 กิจกรรมได้แก่ 1. ดนิ น้ามัน สร้างสรรค์ สงิ่ ต่าง ๆ ด้วยเศษวสั ดุ (3) การปั้น ปั้นดินน้ามัน , การประดิษฐ์สายรงุ้ 2. สเี ทยี น สรา้ งผลงาน (5) การหยิบจับ การใช้ ศิลปะเพ่อื ส่ือสาร กรรไกร การตดั 2. ครูแนะนากิจกรรมใหม่ “การประดิษฐส์ ายรุง้ ” 3. กระดาษ ความคดิ ความรู้สกึ ของ (1) การเลน่ อิสระ พรอ้ มทงั้ ตัดและทากาวประกอบเปน็ สายรุ้ง 4. กรรไกร ตนเองต่อผู้อื่นได้ (2) การเล่นรายบคุ คล กล่มุ ยอ่ ย และกล่มุ ใหญ่ 3. เด็กลงมือปฏบิ ตั ิกิจกรรม 5. กาว กิจกรรมเลน่ ตาม (3) การเล่นตามมมุ มุม ประสบการณ/์ มมุ เลน่ 4. เด็กร่วมกันเกบ็ อปุ กรณ์ และสง่ ผลงานพร้อม ต่าง ๆ เลือกมุม เล่าผลงาน ประสบการณ์ตาม ความสนใจและ 1. เด็กเลือกกิจกรรมเสรีตามมุมประสบการณ์ตาม มุมประสบการณใ์ น ความต้องการของ ตนเองได้ ความสนใจ อยา่ งน้อย ๔ มุม เชน่ ห้องเรียน - มุมธรรมชาติศึกษา - มมุ หนงั สอื - มุมบล็อก - มุมเกมการศึกษา - บทบาทสมมติ - มมุ เคร่อื งเลน่ สมั ผสั 2. เม่ือหมดเวลาเด็กเก็บของเข้าที่ให้เรียบร้อย

จดุ ประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ เรยี นรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระทค่ี วรเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ (1) การเลน่ เครื่องเลน่ สังเกต การเล่นกบั เพื่อนอย่างมี สมั ผัสและการสร้างสิง่ เป้าหมายโดยการเลน่ โยน ลกู เทนนิสลงตะกร้า ตา่ งๆ จากแท่งไม้ สังเกต บลอ็ ก การจาแนก จัดกล่มุ กล่อง ของขวัญ โดยใช้ต้ังแต่ 2 กิจกรรมกลางแจง้ (2) การเล่นและ 1. ครแู นะนาข้อตกลงในการเล่นโยนลูกเทนนิสลง 1. ลูกเทนนิส ลักษณะเปน็ เกณฑ์ เลน่ กบั เพือ่ น ทางานรว่ มกบั ผู้อืน่ ตะกร้าและการจัดเก็บ 2. ตะกร้า อย่างมเี ป้าหมาย (2) การเล่นรายบคุ คล 2. เดก็ เลือกเล่นโยนลูกเทนนิสลงตะกรา้ อย่าง โดยการเล่นโยนลูก กลุ่มยอ่ ย และกลุม่ อิสระโดยมคี รูดูแลอยา่ งใกลช้ ิด เทนนสิ ลงตะกร้าได้ ใหญ่ 3. เมอื่ ครใู ห้สัญญาณหมดเวลาเด็กเกบ็ อปุ กรณ์ (4) การเคลื่อนไหวที่ กฬี าเด็กเข้าแถวและทาความสะอาดร่างกาย ใช้การประสาน สัมพนั ธ์ของการใช้ กล้ามเน้อื ใหญ่ ใน การจับ การโยน กิจกรรมเกม (5) การคดั แยก 1. ครูแนะนาเกมจับคูภ่ าพลวดลายตามแบบที่ 1. เกมจับค่ภู าพ กาหนด ลวดลายตามแบบที่ การศึกษา การจาแนกสิง่ ต่าง ๆ 2. แบง่ เด็กเปน็ 6 กลุม่ โดยให้เด็กเลือกหวั หน้า กาหนด กลมุ่ ออกมารับเกมท่ีเคยเล่นแลว้ และเกมจับคภู่ าพ 2. เกมที่เคยเลน่ แล้ว จาแนก จดั กล่มุ ตามลกั ษณะ ลวดลายตามแบบทกี่ าหนด 3. เดก็ เลน่ เกมโดยหมุนเวยี นสลับเปลี่ยนกันในแต่ กลอ่ งของขวัญ ละกลมุ่ โดยทุกกลมุ่ ได้เกมจบั คภู่ าพลวดลายตาม แบบที่กาหนด โดยใชต้ งั้ แต่ 2 4. ครูให้สญั ญาณหมดเวลา เดก็ เกบ็ เกมการศกึ ษา ลักษณะเปน็ เกณฑ์ ได้

แผนการจดั ประสบการณชั้นอนบุ าล ๓ หนวยท่ี ๒๖ วนั ข้นึ ปใ หม สปั ดาหท ่ี ๒๖ ครงั้ ท่ี ๕ วนั ท่.ี ...............เดอื น..........................พ.ศ..................... จุดประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พัฒนาการ การเรียนรู้ ประสบการณ์สาคัญ สาระที่ควรเรียนรู้ สังเกต กิจกรรม การแสดงท่าทาง เคล่ือนไหวและ (1) การเคล่ือนไหวอยู่ 1. กิจกรรมพื้นฐาน ให้เด็กเคล่ือนไหวร่างกายไป 1. เคร่อื งให้จงั หวะ ประกอบเพลงราวงปีใหม่ จังหวะ และอปุ กรณ์ แสดงท่าทาง กับท่ี ทว่ั บรเิ วณอย่างอสิ ระตามจงั หวะ เม่ือไดย้ นิ 2. วิทยุเทป ประกอบเพลงราวง สังเกต ปใี หมแ่ ละอุปกรณ์ (2) การเคล่ือนไหว สัญญาณ “หยดุ “ ใหห้ ยุดเคลื่อนไหวในท่าน้นั 3.ริบบ้ินสี การจาแนก จดั กลุ่มสง่ิ ตา่ ง ได้ ๆ โดยใชต้ ั้งแต่ 2 ลกั ษณะ เคล่ือนที่ ทนั ที เป็นเกณฑ์ กจิ กรรมเสรมิ ประสบการณ์ 2. ครูแจกรบิ บน้ิ หลากสีให้เด็กคนละ 1 เสน้ จาแนก จัดกลุ่มส่ิง ตา่ ง ๆ โดยใชต้ ้ังแต่ 3. ครูเปดิ เพลงจากวทิ ยเุ ทป เด็กทาท่าทาง 2 ลักษณะเป็น เกณฑ์ได้ ประกอบเพลงราวงปีใหม่และประกอบรบิ บ้ินสี อยา่ งอสิ ระ เมือ่ ครปู ิดเพลงให้เด็กหยดุ ในท่านั้น ทนั ที 4. เด็กปฏิบตั ติ ามข้อ 2 ซา้ 2 - 3 คร้งั (7) การทาซา้ ส่งิ ท่ีควรปฏิบัติในการจดั 1. ครนู ากล่องของขวัญหลากหลายสมี าวางกอง 1. แผ่นภาพต่อเติมแบบ การต่อเติม และ งานเลี้ยงวันปีใหม่ รวมกนั บนโต๊ะ รปู ของขวัญ การสร้างแบบรูป 2. อาสาสมคั รออกมานับกล่องของขวญั ว่ามี 2. กล่องของขวัญ 2 สี (8) การนับและแสดง จานวนเทา่ ไร (กลอ่ งของขวญั มีจานวนไมต่ ่ากว่า อยา่ งละ 6 กล่อง จานวนของสิง่ ต่าง ๆ 13 กลอ่ ง) เดก็ ๆ รว่ มกนั นบั กลอ่ งของขวญั พร้อม 3. กลอ่ งของขวัญ กบั คณุ ครูอีกครั้ง หลากหลายสี(จานวนไม่ 3. ครนู ากล่องของขวัญ 2 สี อยา่ งละ 6 กล่อง ตา่ กว่า 13 กลอ่ ง) อาสาสมัครครั้งละ 12 คนออกมาหยิบของขวัญ คนละ 1 กลอ่ ง โดยครูมแี ผ่นภาพต่อเติมแบบรูป ของขวัญตามสใี หเ้ ด็กดูแลว้ ให้เดก็ ออกมายืนตาม แบบแผ่นภาพเมื่อเด็กยนื ตามตาแหน่ง ครแู ละ เด็ก ๆร่วมกันสังเกตตาแหน่งทเี่ พ่ือนยนื ได้ถกู ต้อง ตามแผน่ ภาพหรือไม่

จดุ ประสงคก์ าร สาระการเรียนรู้ เรยี นรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระทคี่ วรเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พัฒนาการ (ถ้ามเี ด็กคนไหนยนื ไมถ่ ูก ครตู ้องคอยแนะนา) สงั เกต สร้างผลงานศลิ ปะเพ่อื 4. ครเู ปล่ียนแผ่นภาพต่อเตมิ แบบรปู ของขวัญ สอื่ สารความคดิ ความรูส้ ึก ของตนเองต่อผอู้ ืน่ แบบอน่ื สลับเด็กหมุนเวยี นออกมาปฏิบตั ิกจิ กรรม สังเกต ให้ครบทุกคน การเลือกมุม 5. เด็กและครูรว่ มกนั จาแนก จดั กล่มุ ของขวญั โดย ประสบการณ์ตามความ สนใจและความต้องการ ใช้ ลักษณะเป็นเกณฑ์อกี ครั้ง เช่น สี ลาย ขนาด ของตนเองได้ กจิ กรรมศลิ ปะ (3) การปั้น 1. ครเู ตรียมอุปกรณก์ จิ กรรม 2 กจิ กรรมได้แก่ 1. ปั้นดินน้ามัน สรา้ งสรรค์ (5) การหยบิ จับ การใช้กรรไกร การตดั ปั้นดินน้ามัน, การห่อของขวัญ 2. กลอ่ งของขวัญ สรา้ งผลงาน การปะ ศิลปะเพอ่ื สื่อสาร (2) การแสดงความคดิ 2. ครูแนะนากจิ กรรมใหม่ การห่อของขวญั โดย 3. กระดาษสตี ่าง ๆ ความคดิ สร้างสรรค์ผา่ น ความรสู้ ึกของ สอ่ื วสั ดตุ ่างๆผา่ น ใหเ้ ดก็ วางแผน ออกแบบ หาวธิ กี ารห่อของขวญั 4. กาว ตนเองต่อผูอ้ นื่ ได้ ศิลปะ ของตนเองให้มคี วามหลากหลาย 5. เชือก 3. เด็กลงมือปฏบิ ตั ิกิจกรรม 6. กรรไกร 4. เด็กร่วมกนั เก็บอุปกรณ์ และสง่ ผลงานพร้อม เล่าผลงาน กิจกรรมเล่นตาม (1) การเล่นอิสระ 1. เด็กเลือกกจิ กรรมเสรตี ามมุมประสบการณต์ าม มมุ ประสบการณ์ใน มมุ (2) การเลน่ รายบคุ คล กลุ่มยอ่ ย และกลุ่ม ความสนใจ อยา่ งน้อย ๔ มมุ เช่น ห้องเรียน เลอื กมมุ ใหญ่ ประสบการณ์ตาม (3) การเลน่ ตามมมุ - มุมธรรมชาติศึกษา ความสนใจและ ประสบการณ/์ มุมเล่น ความต้องการของ ตา่ ง ๆ - มุมหนังสอื - มมุ บล็อก ตนเองได้ - มมุ เกมการศึกษา - บทบาทสมมติ - มุมเคร่ืองเลน่ สัมผัส 2. เมือ่ หมดเวลาเด็กเกบ็ ของเขา้ ที่ให้เรยี บร้อย

จุดประสงค์การ สาระการเรียนรู้ เรียนรู้ ประสบการณ์สาคัญ สาระท่คี วรเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ พัฒนาการ (1) การเลน่ เคร่ืองเล่น 1. ครูแนะนาเกมและขอ้ ตกลงในการเล่นเกมว่งิ 1. ลกู บอล สงั เกต สมั ผัสและการสรา้ งสิ่ง ซกิ แซกสง่ บอล การเล่นกับเพื่อนอย่างมี ตา่ ง ๆจากแท่งไม้ 2. เดก็ เลือกเลน่ เกมวิง่ ซกิ แซกสง่ บอลโดยมคี รู เป้าหมายโดยการเล่นเกม บลอ็ ก ดูแลอย่างใกลช้ ดิ วง่ิ ซิกแซกส่งบอล 3. เมอื่ ครใู ห้สญั ญาณหมดเวลาเดก็ เขา้ แถวและทา กจิ กรรมกลางแจง้ (2) การเลน่ และ ความสะอาดร่างกาย สังเกต 1. เล่นกบั เพื่อน ทางานรว่ มกับผู้อื่น การเลน่ รว่ มมอื กบั เพื่อน อย่างมีเป้าหมาย (2) การเลน่ รายบุคคล อย่างมเี ป้าหมาย โดยการเล่นเกมวงิ่ กล่มุ ย่อย และกลุ่ม ซิกแซกสง่ บอล ใหญ่ ได้ (4) การเล่นนอก หอ้ งเรียน กจิ กรรมเกม (13) การจบั คแู่ ละ 1. ครแู นะนาเกมจับคู่ภาพแบบอนุกรม 1. เกมจบั ค่ภู าพแบบ การศกึ ษา เปรยี บเทียบสิ่งต่าง ๆ เล่นร่วมมอื กับ คามลักษณะ 2. แบง่ เดก็ เปน็ 6 กลุ่มโดยใหเ้ ด็กเลือกหวั หนา้ อนกุ รม เพอ่ื นอยา่ งมี เปา้ หมายได้ กลุม่ ออกมารับเกมจบั คู่ภาพแบบอนกุ รมและเกม 2. เกมที่เคยเล่นแลว้ ท่เี คยเล่นแล้ว 3. เดก็ เล่นเกมจับค่ภู าพแบบอนกุ รมโดย หมนุ เวียนสลับเปล่ียนกนั ในแตล่ ะกลุม่ โดยทุกกล่มุ ไดเ้ ล่น 4. ครใู ห้สญั ญาณหมดเวลา เดก็ เกบ็ เกมการศกึ ษา

1. เลขที่ ชื่อ-สกลุ 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. 1. บอกวิธีการเลน่ ทากจิ กรรมและปฏบิ ตั ิ ดา้ นรา่ งกาย ต่อผ้อู ืน่ อยา่ งปลอดภยั ด้านอารมณ์และจติ ใจ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมเด็ก 2. รบั ลกู บอลทกี่ ระดอนข้นึ จากพนื้ ได้ แผนการจดั ประสบการณช น้ั อนุบาล ๓ หนว ยท่ี ๒๖ วนั ขน้ึ ปใ หม ด้านสงั คม ประเมินพัฒนาการ 3. รอ้ ยวสั ดุท่ีมรี ูขนาดเสน้ ผา่ นศนู ย์กลาง 0.25 เซนติเมตรได้ ดา้ นสตปิ ญั ญา 4. แสดงอารมณค์ วามรสู้ กึ ได้สอดคลอ้ งกับ สถานการณ์อยา่ งเหมาะสม 5. สร้างผลงานศลิ ปะเพ่อื สอ่ื สารความคดิ ความรสู้ ึกของตนเองต่อผ้อู ่นื ได้ 6. แสดงท่าทาง / เคลอื่ นไหวประกอบ เพลง จังหวะ และดนตรไี ด้ 7. ปฏิบตั ิตนตามมารยาทไทยไดต้ าม กาลเทศะ 8. เลน่ หรอื ทางานร่วมมอื กับเพอื่ นอยา่ งมี เป้าหมายได้ 9. ปฏิบตั ติ นเปน็ ผูน้ าผตู้ ามไดเ้ หมาะสมกบั สถานการณ์ 10. เลา่ เปน็ เรือ่ งราวตอ่ เนอ่ื งได้ 11. จบั คู่และเปรยี บเทยี บความแตกตา่ ง หรอื ความเหมือนของลายกลอ่ งของขวัญได้ 12. จาแนก จัดกลมุ่ ส่ิงตา่ ง ๆ โดย ใช้ต้ังแต่ 2 ลกั ษณะเปน็ เกณฑ์ 13. สร้างผลงานศลิ ปะเพ่อื ส่ือสารความคิด ความรสู้ กึ ของตนเอง โดยมกี ารดดั แปลง แปลกใหม่จากเดมิ และมรี ายละเอยี ด เพิ่มข้ึน หมายเหตุ

11. เลขท่ี ชื่อ-สกลุ 12. 13. 14. 15. 16. 17. 18. 19. 20. คาอธบิ าย ครสู งั เกตพฤติกรรมเด็กรายบุคคล จดบันทึกสรุปเปน็ รายสัปดาหร์ ะบรุ ะดับคณุ ภาพเป็น ๓ ระดับ คือ 1. บอกวธิ ีการเลน่ ทากจิ กรรมและปฏบิ ตั ิ ด้านร่างกาย ระดบั ๓ ดี ระดับ ๒ ปานกลาง ระดับ ๑ ต้องสง่ เสริม ต่อผ้อู นื่ อยา่ งปลอดภยั ด้านอารมณแ์ ละจิตใจ 2. รบั ลกู บอลทกี่ ระดอนข้นึ จากพนื้ ได้ ด้านสังคม ประเมนิ พฒั นาการ 3. รอ้ ยวสั ดุท่ีมีรูขนาดเสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลาง 0.25 เซนติเมตรได้ ดา้ นสติปญั ญา 4. แสดงอารมณค์ วามรสู้ ึกได้สอดคลอ้ งกบั สถานการณ์อย่างเหมาะสม 5. สร้างผลงานศลิ ปะเพ่อื สอ่ื สารความคิด ความรสู้ ึกของตนเองต่อผ้อู ่นื ได้ 6. แสดงท่าทาง / เคลอื่ นไหวประกอบ เพลง จังหวะ และดนตรไี ด้ 7. ปฏบิ ตั ติ นตามมารยาทไทยไดต้ าม กาลเทศะ 8. เลน่ หรอื ทางานร่วมมอื กับเพอื่ นอย่างมี เป้าหมายได้ 9. ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผูน้ าผตู้ ามไดเ้ หมาะสมกับ สถานการณ์ 10. เลา่ เปน็ เร่ืองราวตอ่ เนอ่ื งได้ 11. จบั คู่และเปรียบเทยี บความแตกต่าง หรอื ความเหมือนของลายกลอ่ งของขวญั ได้ 12. จาแนก จดั กลมุ่ ส่ิงตา่ ง ๆ โดย ใชต้ ั้งแต่ 2 ลกั ษณะเปน็ เกณฑ์ 13. สร้างผลงานศลิ ปะเพ่อื ส่ือสารความคิด ความรสู้ กึ ของตนเอง โดยมกี ารดดั แปลง แปลกใหม่จากเดมิ และมรี ายละเอยี ด เพิ่มข้ึน หมายเหตุ