เหช่ มไม้ กลิน่ หอมหวานซา่ นขจร เห็นจะวอนอ้อนพีช่ าย พิกุลบุนนาคบาน บานบุษบงสง่ กลิน่ อาย แม้นนชุ สุดสายสมร คล้ายกลิ่นผ้าเจา้ ตราตรู เต็งแตว้ แก้วกาหลง หอมอยู่ไมร่ ูห้ าย
เหช่ มไม้ มะลวิ ลั ย์พนั จกิ จวง ดอกเป็นพวงร่วงเรณู หอมมาน่าเอน็ ดู ชชู ื่นจติ คดิ วนิดา ลาดวนหวนหอมตรลบ กลน่ิ อายอบสบนาสา นึกถวลิ กล่นิ บุหงา ราไปเจ้าเศร้าถึงนาง
เหช่ มไม้ รวยรินกลน่ิ ราเพย คิดพเี่ ชยเคยกลน่ิ ปราง น่งั แนบแอบเอวบาง หอ่ นแหห่างวา่ งเวน้ วนั ชมดวงพวงมาลี ศรเี สาวภาคยห์ ลากหลายพรรณ วนิดามาด้วยกัน จะอ้อนพีช่ ีช้ มเชย
เหช่ มนก อัสดง ค่าแลว้ โคลง นชุ พ่ี เพยี งแม่ รอนรอนสรุ ิยโอ้ คลบั คลา้ ยเรียมเหลยี ว ฯ เรื่อยเรอื่ ยลับเมรุลง รอนรอนจิตตจ์ านง เรื่อยเรอ่ื ยเรียมคอยแก้ว
เหช่ มนก ทิพากรจะตกตา่ คานึงหน้าเจ้าตราตรู กาพย์ นกบินเฉยี งไปทั้งหมู่ เรื่อยเรอ่ื ยมารอนรอน เหมอื นพ่ีอยูผ่ ูเ้ ดียวดาย สนธยาจะใกล้ค่า เร่อื ยเรื่อยมาเรียงเรียง ตัวเดียวมาพลัดคู่
เหช่ มนก กาพย์ เห็นฝงู ยูงราฟอ้ น คิดบังอรร่อนรากราย สรอ้ ยทองย่องเย้อื งชาย เหมือนสายสวาทนาดนวยจร สาลกิ ามาตามคู่ ชมกันอยูส่ ู่สมสมร แตพ่ ีน่ ้ีอาวรณ์ ห่อนเหน็ เจา้ เศรา้ ใจครวญ
เหช่ มนก กาพย์ ไม่นวลพกั ตรเ์ หมือนทรามสงวน ด่ังนางฟา้ หน้าใยยอง นางนวลนวลนา่ รัก จบั ไม้เรียงเคยี งคู่สอง แกว้ พนี่ ้ีสดุ นวล รบั ขวญั นอ้ งตอ้ งมือเรา ฯ นกแกว้ แจ้วแจม่ เสียง เหมอื นพีน่ ี้ประคอง
เหช่ มนก เดนิ ทอ่ งเท่ียวเลีย้ วเหลย่ี มเขา เปล่าใจเปลย่ี วเหลยี วหานาง กาพย์ เรียงจบั ไม้ไซป้ ีกหาง ไก่ฟา้ มาตวั เดยี ว เคยแนบขา้ งรา้ งแรมนาน เหมือนพรากจากนงเยาว์ แขกเต้าเคล้าคู่เคียง เรียมคะนึงถึงเอวบาง
เหช่ มนก สน่นั ก้องซอ้ งเสยี งหวาน ปานเสยี งนอ้ งรอ้ งสั่งชาย กาพย์ เหมือนชา่ งฉลาดวาดแตม้ กาย ดุเหว่าเจา่ จบั ร้อง ห่มตาดพรายกรายกรมา ไพเราะเพราะกงั วาล โนรสี ีปานชาด ไมเ่ ทา่ เจา้ โฉมฉาย
เหช่ มนก กาพย์ สัตวานา่ เอน็ ดู คอยหาคอู่ ยู่เอกา เหมอื นพีท่ ีจ่ ากมา ครวญหาเจ้าเศร้าเสียใจ ปกั ษีมีหลายพรรณ บา้ งชมกนั ขันเพรียกไพร ยงิ่ ฟงั วังเวงใจ ล้วนหลายหลากมากภาษา
เหค่ รวญ โคลง เสยี งสรวลระร่นี ี้ เสยี งใด เสียงนชุ พฤ่ี ๅใคร ใคร่รู้ เสียงสรวลเสียงทรามวยั นชุ พ่ี มาแม่ เสยี งบงั อรสมรผู้ อ่นื น้นั ฤๅมี
เหค่ รวญ เสียงแกว้ พ่หี รอื เสียงใคร สดุ สายใจพตี่ ามมา กาพย์ หอมเรอ่ื ยตอ้ งคลองนาสา เสียงสรวลระร่นี ี้ เหลยี วหาเจ้าเปลา่ วงั เวง เสยี งสรวลเสยี งทรามวยั ลมชวยรวยกลน่ิ นอ้ ง เคลือบเคลน้ เหน็ คลา้ ยมา
เหค่ รวญ ทุกคนื คา่ ยา่ อกเอง เหมือนเรียมคร่าร่าครวญนาน กาพย์ จนไกแ่ ก้วแว่วขนั ขาน ยามสองฆอ้ งยามย่า ฝันเหน็ นอ้ งต้องตดิ ตา เสยี งป่มี ีค่ รวญเครง ลว่ งสามยามปลายแล้ว ม่อยหลับกลบั บันดาล
เหค่ รวญ แสนกาสรดอกโอชา อ่มิ โศกาหนา้ นองชล กาพย์ จงึ จาแคลว้ แกว้ โกมล เพรางายวายเสพรส ทุกข์ถงึ เจ้าเศรา้ เสียดาย อิ่มทกุ ขอ์ มิ่ ชลนา เวรามันแล้ว ให้แคน้ แสนสุดทน
เหค่ รวญ งามมารยาทนาดกรกราย งามคาหวานลานใจถวิล กาพย์ กล้ากลืนเขญ็ เปน็ อาจิณ งามทรงวงด่ังวาด ไมเ่ หมอื นพีท่ ่ีตรอมใจ งามพริ้มย้มิ แยม้ พราย แตเ่ ชา้ เทา่ ถงึ เย็น ชายใดในแผน่ ดิน
เหค่ รวญ ถึงเย็น หมน่ ไหม้ โคลง ทกุ ข์เท่า เรียมทนทุกขแ์ ตเ่ ชา้ ทกุ ข์ป้มิ ปานปี มาสู่สขุ คนื เขญ็ ชายใดจากสมรเป็น เรียมเลยจากคูว่ นั เดียวได้
แบบทดสอบ ๑. ขอ้ ใดกล่าวถกู ต้องเกย่ี วกบั วรรณคดีเรอ่ื งกาพย์เห่เรอื พระนิพนธเ์ จ้าฟา้ ธรรมธเิ บศร ก. กวที รงพระนิพนธว์ รรณคดเี รอื่ งน้รี ะหวา่ งเสด็จไปอยุธยาโดยทางเรือ ข. ลักษณะคาประพนั ธ์ประกอบด้วย โคลงสสี่ ุภาพ กาพย์ยานี 11 และรา่ ยยาว ค. เนอื้ หาประกอบด้วยบทพรรณนาชมเรือและชมธรรมชาติ โดยไม่มีการราพงึ ราพนั ถงึ นางอนั เป็นทร่ี ัก ง. กวที รงพระนพิ นธ์เพอ่ื ใชเ้ ห่เรอื พระท่ีนง่ั ของพระองค์เอง แตใ่ นยคุ ตอ่ มา วรรณคดีเร่ืองน้ีใช้ในการเห่เรอื หลวง
แบบทดสอบ เพยี งพิมานผา่ นเมฆา หลังคาแดงแย่งมงั กร ๒. ข้อใดไม่ปรากฏช่อื เรือ งามชดชอ้ ยลอยหลงั สินธุ์ ก. สรมขุ มขุ สดี่ ้าน ลนิ ลาศเลอื่ นเตือนตาชม มา่ นกรองทองรจนา แสงแวววับจับสาคร ข. สวุ รรณหงสท์ รงพูห่ ้อย ด่ังร่อนฟา้ มาแดนดนิ เพียงหงส์ทรงพรหมินทร์ จากนคเรศโดยสาชล ค. สมรรถชยั ไกรกาบแกว้ ยลมจั ฉาสารพนั มี เรยี บเรยี งเคยี งคจู่ ร ง. กรีธาหมู่นาเวศ เหมิ หื่นชืน่ กระมล
แบบทดสอบ ๓. เรียมทนทุกข์แต่เชา้ ถึงเยน็ มาสู่สขุ คืนเขญ็ หมน่ ไหม้ ชายใดจากสมรเปน็ ทกุ ขเ์ ท่า เรยี มเลย จากควู่ นั เดียวได้ ทุกขป์ มิ้ ปานปี บทประพันธข์ า้ งตน้ ใช้ภาพพจนช์ นดิ ใด ก. อปุ มา ข. อตพิ จน์ ค. อปุ ลกั ษณ์ ง. บคุ ลาธษิ ฐาน
แบบทดสอบ งามชดช้อยลอยหลงั สินธ์ุ ลนิ ลาศเลอื่ นเตือนตาชม ๔. ข้อใดไม่ได้ใช้ภาพพจน์อปุ มา ขาวพรายช่วงสีสาอาง ก. สุวรรณหงส์ทรงพู่ห้อย งามเรืองเร่ือเนือ้ สองสี เพยี งหงส์ทรงพรหมินทร์ งามมารยาทนาดกรกราย ข. น้าเงนิ คอื เงนิ ยวง งามคาหวานลานใจถวลิ ไม่เทยี บเปรียบโฉมนาง สน่ันก้องซ้องเสียงหวาน ค. งามทรงวงดั่งวาด ปานเสียงน้องร้องสั่งชาย งามพริ้มยมิ้ แย้มพราย ง. ดุเหว่าเจ่าจบั ร้อง ไพเราะเพราะกงั วาน
แบบทดสอบ ชะวาดแอบแปบปนปลอม จอมสวาทนาฏบังอร ๕. ข้อใดไม่มีค้าทหี่ มายถึง “ผู้หญงิ ” หางไก่คลา้ ยไมม่ ีหงอน ก. ชะแวงแฝงฝ่งั แนบ ผมประบ่าอา่ เอย่ี มไร เหมอื นพ่ีแอบแนบถนอม แสนกาสรดอดโอชา ข. หางไกว่ ่ายแหวกวา่ ย อม่ิ โศกาหน้านองชล คิดอนงค์องค์เอวอร ระยา้ ย้อยหอ้ ยพวงกรอง ค. เพรางายวายเสพรส เจา้ แขวนไวใ้ ห้เรียมชม อิม่ ทุกข์อมิ่ ชลนา ง. ประยงคท์ รงพวงหอ้ ย เหมอื นอบุ ะนวลละออง
แบบทดสอบ ๖. ข้อใดกล่าวถึงชอื่ พรรณไม้มากท่สี ุด ก. สาวหยุดพุทธชาด บานเกล่ือนกลาดดาษดาไป นึกนอ้ งกรองมาลัย วางให้พ่ีข้างท่ีนอน ข. เตง็ แต้วแก้วกาหลง บานบุษบงสง่ กลน่ิ อาย หอมอยูไ่ ม่รู้หาย คลา้ ยกล่ินผาเจา้ ตาตรู ค. พิกุลบนุ นาคบาน กลนิ่ หอมหวานซา่ นขจร แมน้ นุชสดุ สายสมร เหน็ จะวอนอ้อนพ่ชี าย ง. พดุ จบี กลีบแสลม้ พกิ ุลแกมแซมสุกรม หอมชวยรวยตามลม เหมอื นกลิน่ น้องตอ้ งติดใจ
แบบทดสอบ ๗. ข้อใดมกี ารใช้คาเลยี นเสียงธรรมชาติ ก. เรือครุฑยดุ นาคหิว้ ลวิ่ ลอยมาพาผนั ผยอง พลพายกรายพายทอง ร้องโห่เห่โอ้เห่มา ข. เร่ือยเร่ือยมาเรียงเรียง นกบินเฉียงไปท้ังหมู่ ตวั เดยี วมาพลดั คู่ เหมือนพอี่ ย่ผู ้เู ดียวดาย ค. ดุเหว่าเจ่าจบั ร้อง สน่ันก้องซ้องเสียงหวาน ไพเราะเพราะกงั วาน ปานเสียงน้องร้องส่ังชาย ง. ยามสองฆ้องยามย่า ทุกคืนค่าย่าอกเอง เสียงปี่ มคี่ รวญเครง เหมือนเรียมร่าคร่าครวญนาน
แบบทดสอบ ๘. ข้อใดโดดเด่นด้านการใช้คาบรรยายให้เกดิ ภาพเคลอ่ื นไหว ก. แมลงภู่คู่เคยี งว่าย เห็นคล้ายคล้ายน่าเชยชม คดิ ความยามเม่อื สม สนิทเคล้าเจ้าเอวบาง ข. เรือสิงห์ว่งิ เผ่นโผน โจนตามคลนื่ ฝื นฝ่ าฟอง ดูยงิ่ สิงห์ลาพอง เป็ นแถวท่องล่องตามกนั ค. นกแก้วแจ้วแจ่มเสียง จับไม้เรียงเคยี งคู่สอง เหมอื นพนี่ ีป้ ระคอง รับขวญั น้องต้องมอื เบา ง. หางไก่ว่ายแหวกว่าย หางไก่คล้ายไม่มีหงอน คิดอนงค์องค์เอวอร ผมประบ่าอ่าเอย่ี มไร
แบบทดสอบ ๙. ข้อใดสะท้อนภาพการแต่งกายของสตรีไทยในอดีตอย่างชดั เจน ก. เตง็ แต้วแกว้ กาหลง บานบษุ บงส่งกลิน่ อาย หอมอยไู่ ม่รหู้ าย คลา้ ยกลิ่นผาเจา้ ตาตรู ข. งามทรงวงดง่ั วาด งามมารยาทนาดกรกราย งามพรม้ิ ยม้ิ แย้มพราย งามคาหวานลานใจถวลิ ค. เพยี นทองงามดั่งทอง ไม่เหมอื นน้องห่มตาดพราย กระแหแหหา่ งชาย ดั่งสายสวาทคลาดจากสม ง. ปลาสรอ้ ยลอยล่องชล ว่ายเวยี นวนปนกันไป เหมอื นสร้อยทรงทรามวัย ไม่เหน็ เจ้าเศรา้ บว่ าย
แบบทดสอบ ๑๐. ข้อใดไม่ไดก้ ล่าวถงึ งานฝีมอื ของสตรีในราชสานกั ก. ล้าดวนหวนหอมตรลบ กลิ่นอายอบสบนาสา นึกถวลิ กลิ่นบหุ งา รา้ ไปเจา้ เศร้าถึงนาง ข. ประยงค์ทรงพวงห้อย ระยา้ ยอ้ ยหอ้ ยพวงกรอง เหมือนอุบะนวลละออง เจ้าแขวนไว้ให้เรียมชม ค. สาวหยดุ พทุ ธชาด บานเกลื่อนกลาดดาษดาไป นกึ นอ้ งกรองมาลัย วางใหพ้ ข่ี า้ งทนี่ อน ง. ปลาสร้อยลอยลอ่ งชล วา่ ยเวยี นวนปนกันไป เหมือนสร้อยทรงทรามวัย ไมเ่ หน็ เจา้ เศร้าบ่วาย
แบบทดสอบ ๑๐. ข้อใดไม่ไดก้ ล่าวถงึ งานฝีมอื ของสตรีในราชสานกั ก. ล้าดวนหวนหอมตรลบ กลิ่นอายอบสบนาสา นึกถวลิ กลิ่นบหุ งา รา้ ไปเจา้ เศร้าถึงนาง ข. ประยงค์ทรงพวงห้อย ระยา้ ยอ้ ยหอ้ ยพวงกรอง เหมือนอุบะนวลละออง เจ้าแขวนไว้ให้เรียมชม ค. สาวหยดุ พทุ ธชาด บานเกลื่อนกลาดดาษดาไป นกึ นอ้ งกรองมาลัย วางใหพ้ ข่ี า้ งทนี่ อน ง. ปลาสร้อยลอยลอ่ งชล วา่ ยเวยี นวนปนกันไป เหมือนสร้อยทรงทรามวัย ไมเ่ หน็ เจา้ เศร้าบ่วาย
Search
