Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ยุโรป

ยุโรป

Published by jjpeeraphat, 2020-06-28 03:43:36

Description: ยุโรป

Search

Read the Text Version

ทวีปยุโรป

พัฒนาการดา้ น การเมืองการปกครอง โดยทัว่ ไปกล่าวได้ว่าในอดตี ดนิ แดนส่วนใหญข่ อง ทวปี ยโุ รปมีกษัตริยเ์ ปน็ ประมุขสูงสดุ แมแ้ ต่ในสมัย กรกี เรืองอานาจเม่ือกว่า ๕๐๐ ปกี ่อน คริสตศ์ ักราช ระบอบการปกครองแบบกษัตริย์ก็ เปน็ ท่รี ้จู ักกันแพร่หลายแล้ว ในสมัยจกั รวรรดิ โรมัน (๒๗ ปกี ่อนครสิ ตศ์ กั ราช-ค.ศ.๔๗๖) พระ ประมขุ สงู สุด เรียกว่า ซซี ารห์ รอื จกั รพรรดิซึง่ ทรง ปกครองอาณาจกั รบรเิ วณกว้างขวางครอบคลุม พนื้ ท่ใี นยโุ รปและบางสว่ นของเอเชยี และแอฟริกา

พฒั นาการดา้ นการเมือง การปกครอง เม่อื จกั รวรรดิโรมนั ล่มสลายลงใน ค.ศ. ๔๗๖ ยโุ รปได้เข้าสูส่ มยั กลาง Ages ค.ศ. ๔๗๖-๑๔๙๒ท่ีระยะแรกๆบ้านเมอื งแตกแยกจาก การเข้ารกุ รานของพวกอนารยชนเผ่ากอท ชนเผ่าเยอรมันทอ่ี พยพ ลงมาจากตอนเหนือ ระบอบการปกครองแบบรวมศูนยอ์ านาจของ โรมสลายตัว บา้ นเมืองไรข้ ่ือแป ประมวลกฎหมายโรมนั ทใี่ ชบ้ งั คบั ทวั่ ทงั้ จกั รวรรดิถูกละทง้ิ เกดิ เปน็ ระบอบการปกครองแบบฟวิ ดัล การปกครองแบบกระจายอานาจการปกครองตกอย่ใู นมอื ของขนุ นางเจ้าของทด่ี ิน และมกี ารใชก้ ฎหมายจารีตประเพณี (customary law) ของพวกอนารยชนแทนประมวลกฎหมายโรมัน อยา่ งไรกด็ ี กษัตรยิ ก์ ็ยงั คงได้รบั การยกยอ่ งว่าเปน็ เจ้าของ แผ่นดนิ และไดร้ ับการยกยอ่ งว่าเปน็ พระประมขุ (แต่ไมม่ อี านาจ) แต่ ในปลายสมยั กลางกษัตรยิ ต์ า่ งสามารถสถาปนาอานาจปกครอง แบบรวมศนู ย์อานาจและสร้างรฐั ชาติ ท่ีรวมดินแดนตา่ งๆ เข้าเปน็ ชาติเดียวกันได้ ซงึ่ พระราชอานาจในการปกครองของกษัตรยิ ใ์ น ดินแดนตา่ งๆ มีพฒั นาการทแ่ี ตกตา่ งกัน

พฒั นาการด้านเศรษฐกิจ ระหวา่ ง ค.ศ. ๔๗๖-๑๐๕๐ หรือสมัยกลางตอนตน้ ชาวไรช่ าวนาสว่ นใหญต่ ่างสูญเสียอิสรภาพและ กลายเปน็ ทาสติดท่ีดนิ ตอ้ งอยใู่ นสังกัดของขุนนาง เจา้ ของท่ดี นิ และดารงชีวติ อยใู่ นเขตแมเนอร์ ซ่ึงเปน็ เขต ที่ดินในปกครองของขุนนาง และเปน็ ท่เี พาะปลกู และอยู่ อาศยั โดยมเี ขตท่ีเปน็ ท่ตี งั้ ปราสาทของขุนนางเจา้ ของ ท่ีดนิ และเขตหม่บู า้ นซึง่ เปน็ เขตทอี่ ยอู่ าศยั ของพวกทาส ตดิ ท่ดี นิ และชาวไรช่ าวนาบางคนที่เปน็ เสรชี น เศรษฐกิจ ในเขตแมเนอร์เปน็ เศรษฐกิจพอเลยี้ งตนเอง ท่ีชาวไร่ ชาวนาต่างประกอบอาชีพพอกินพอใช้และผลิตสินคา้ เพื่อใช้เองหรือแลกเปลยี่ นกันการคา้ ท่ีเคยร่งุ เรืองใน สมยั จกั รวรรดิโรมนั ต้องหยดุ ชะงกั เปน็ เวลากว่า ๕๐๐ ปี กอ่ นทีย่ โุ รปจะฟนื้ ตัวจนสามารถสรา้ งความเปน็ ปกึ แผ่นและปลอดภัยจากการรกุ รานของพวกอนารย ชน จานวนประชากรได้เพิม่ มากขน้ึ และสามารถผลิต สินคา้ เพ่ือการคา้ ขายทงั้ ภายในประเทศและสง่ ออกได้

พัฒนาการดา้ นเศรษฐกิจ การฟนื้ ตัวของเศรษฐกิจและสงั คมของยโุ รป สว่ นหนง่ึ เปน็ ผล จากสงครามครเู สด ค.ศ. ๑๐๙๖-๑๒๙๑ ทช่ี าวครสิ ตร์ บกบั ชาว มุสลิมในดินแดนตะวันออกกลาง และมีโอกาสนาเอาความรู้ ความเจรญิ และศลิ ปะวิทยาการของโลกตะวันออกกลบั มา เผยแพรใ่ ห้แกโ่ ลกตะวันตกหลงั จากทค่ี วามรตู้ า่ งๆ เหล่าน้ี หายไปในสมัยกลางตอนตน้ ส่วนสินคา้ ทโ่ี ลกตะวันตกต้องการ ได้แก่ เครอื่ งเทศ น้าตาล ขา้ ว ส้ม มะนาว พริกไทย ผ้าไหม และ พรม โดยมพี ่อคา้ อิตาลเี ปน็ คนกลางและให้อิตาลเี ปน็ ดินแดนท่ี มัง่ คัง่ ทสี่ ดุ ในทวีปยโุ รป พ่อคา้ อติ าลซี ึ่งเปน็ ทรี่ จู้ กั กันดีไดแ้ ก่ มาร์โก โปโล ชาวเวนสิ ไดเ้ ดินทางไปคา้ ขายจนถงึ เมอื งจนี และ กลบั มาเลา่ เรอ่ื งราวความเจรญิ ร่งุ เรืองและวฒั นธรรมของโลก ตะวันออกจนเปน็ ทร่ี จู้ ักแพรห่ ลาย ในช่วงระยะเวลาดงั กลา่ ว เมอื งกลายเปน็ ทตี่ ัง้ ของศูนยก์ ลาง การคา้ และเศรษฐกจิ องคก์ รการคา้ และองคก์ รชา่ งฝีมือแตล่ ะ ประเภท ซง่ึ เรียกว่า กิลด์กลายเปน็ ทฝี่ กึ งานเพอื่ พฒั นาฝมี ือ เกิดระบบทนุ นยิ ม ต่อมาทาให้พอ่ คา้ ทรี า่ รวยซงึ่ เปน็ ผู้มอี ิทธพิ ล ทงั้ ในดา้ นเศรษฐกิจ สงั คม และการปกครอง เศรษฐกิจการคา้ ของชาติตะวันตกมีการขยายตวั มากยงิ่ ข้ึนเม่ือเกดิ การคา้ ขายใน ระดบั โลก

พัฒนาการด้านเศรษฐกจิ ในปลายสมยั กลาง ชาวยโุ รปได้สร้างนวัตกรรมการ คดิ คน้ สงิ่ ประดษิ ฐแ์ ละเทคโนโลยที ีส่ าคญั คอื การ ประดิษฐป์ นื ใหญ่ทเี่ ปลยี่ นแปลงวธิ กี ารรบ และเครอ่ื งพมิ พ์ ทผี่ ลติ หนังสอื ได้มากและมีราคาถูก ซงึ่ สามารถกระจาย ความรไู้ ดอ้ ย่างกวา้ งขวาง ทาให้ชาวยโุ รปหันมาสนใจใน เร่ืองต่างๆ รวมทงั้ ความร้ทู างวทิ ยาศาสตร์ ก่อให้เกดิ สมัยแห่งการคน้ พบและการสารวจโดยคริสโตเฟอร์ โคลมั บัส คน้ พบทวีอเมริกาใน ค.ศ. ๑๔๙๒ และ วาสโก ดา กามา แลน่ เรอื อ้อมแหลมกู๊ดโฮป ในทวปี แอฟริกาสอู่ ินเดยี ใน ค.ศ. ๑๔๙๘ ซง่ึ นับวา่ ยโุ รปได้เขา้ สู่ประวตั ิศาสตร์ สมยั ใหม่ ทงั้ เปน็ กา้ วสาคญั ท่ีทาให้วัฒนธรรมตะวนั ตก แพร่กระจาย มีการเผยแพรค่ รสิ ตศ์ าสนาทงั้ นกิ าย โรมนั คาทอลกิ และนิกายโปรเตสแตนต์อย่างกว้างขวาง เมื่อนานาประเทศในยโุ รปสามารถควบคมุ และยึดคลอง ตลาดการคา้ ในดนิ แดนโพ้นทะเลใต้ ทาให้เกดิ การปฏิวตั ิ ทางการคา้ ทพี่ อ่ คา้ เร่งผลติ สนิ คา้ จานวนมาก กอ่ ให้เกดิ การพฒั นาในดา้ นเศรษฐกิจที่มีรปู แบบต่างๆ มาจนถงึ ปจั จบุ ัน

พฒั นาการด้านสังคมและ ศิลปวัฒนธรรม ในสมยั กลางตอนตน้ สงั คมของตะวันตกประกอบด้วย ชนชนั้ ๓ ฐานนั ดร ได้แก่ กษัตรยิ ์-ขุนนาง นกั บวช และชาวไร-่ ชาวนา (ทาส ติดที่ดิน) แต่เมอ่ื มีการฟนื้ ตัวของเศรษฐกจิ และเมืองขนึ้ ใน ครสิ ต์ศตวรรษท่ี ๑๑ สังคมยโุ รปก็เกิดชนชนั้ ใหม่ คอื ชนชัน้ กลาง หรอื ชนชัน้ กระฎมุ พี ที่ประกอบอาชพี ต่างๆ เชน่ ชา่ งฝมี ือ ลูกจ้าง พอ่ คา้ อาจารย์ นกั ศึกษา โดยอาศัยอยูใ่ นเขตเมือง ถอื ว่าเปน็ ชน ชัน้ ใหม่ ของสังคมตะวันตก ชนชัน้ กลางเหลา่ นไ้ี ดร้ ว่ มกนั วางรากฐานความเจริญให้แก่สงั คมยโุ รปและปลกู ฝงั อดุ มการณ์ และวิธกี ารปฏบิ ัตใิ นการอย่รู ่วมกัน เชน่ สทิ ธแิ ละหน้าทข่ี อง ชาวเมอื ง การจดั เก็บภาษีและคา่ ปรับ เปน็ ตน้ เพื่อนารายไดม้ า บริหาร การทานบุ ารงุ แลการปอ้ งกันเมือง ส่งเสรมิ และขยาย การศกึ ษาการจดั ตงั้ มหาวิทยาลยั และเกิดการฟน้ื ฟศู ิลป วิทยาการและความเจรญิ อน่ื ๆ ตลอดจนสง่ เสริมคณุ ธรรมและให้ ความสาคญั แก่สทิ ธิ เสรีภาพ และความเสมอภาคปจั เจกบคุ คล ซ่งึ เปน็ พื้นฐานสาคญั ทที่ าให้สงั คมยโุ รปสามารถพฒั นาระบอบ การปกครองแบบระบอบประชาธปิ ไตย

จัดทาโดย • พรี พฒั น์ ลช้ี ยั มงคล ม.3/1 เลขท1่ี 0


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook