Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore นิตยสารพลาธิปัตย์ ปีที่ 64 ฉบับที่ 2 พฤษภาคม - สิงหาคม 2564

นิตยสารพลาธิปัตย์ ปีที่ 64 ฉบับที่ 2 พฤษภาคม - สิงหาคม 2564

Published by นิตยสารพลาธิปัตย์, 2021-10-15 15:05:17

Description: นิตยสารพลาธิปัตย์ ปีที่ 64 ฉบับที่ 2 พฤษภาคม - สิงหาคม 2564

Keywords: พลาธิปัตย์

Search

Read the Text Version

เก็บมาบอก หอ้ งสมดุ พธ.ทบ. ๑. สัญลกั ษณข์ องขงจ๊ือท่แี สดงถงึ มารยาทและวฒั นธรรมคืออะไร ตอบ คอื รปู ชาวจนี ในชดุ โบราณแสดงคารวะต่อไป ๒. ความหมายของ หยิน-หยาง คืออะไร ตอบ คอื ธรรมชาติที่มเี ป็นคู่ เชน่ ขาวกับดำ� เย็นกับรอ้ น ชายกับหญิง ๓. ศาลาแดงในวดั บัวขวญั หมายถึงอะไร ตอบ คอื พลับพลาท่ปี ระทบั แรกนาขวัญในสมยั รชั กาลที่ ๖ ๔. วดั พระแกว้ ดอนเตา้ จังหวัดลำ� ปาง มคี วามสำ� คัญอย่างไร ตอบ เคยเป็นวดั ทีป่ ระดิษฐานพระแกว้ มรกตนานถึง ๓๒ ปี ๕. สถานีโทรทศั นแ์ หง่ แรกของไทยทีแ่ พร่ภาพคือ ตอบ สถานีโทรทัศน์ไทยทีวชี ่อง ๔ (ปจั จบุ นั คือ ชอ่ ง ๙ อ.ส.ม.ท.) ๖. แบบเรียนที่ใชใ้ นโรงเรยี นเลม่ แรกของไทยคือ ตอบ มลู บทบรรพกจิ ๗. จังหวดั รกของไทยท่มี นี �้ำประปาใช้คือ ตอบ จงั หวดั ลพบรุ ี สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ๘. สามเณรรูปแรกในพระพุทธศาสนาคอื ตอบ ราหลุ พระโอรสของพระพุทธเจ้า ๙. แหลง่ อุดมสมบรู ณ์ในทะเลทรายคือ ตอบ โอเอซิส ๑๐. เจดียท์ ี่เก่าแก่ทสี่ ุดคอื ตอบ เจดยี ์ชเวดากอง เมืองยา่ งกงุ้ ประเทศพมา่ ๑๑. ผู้ทีไ่ ด้รบั การยกย่องวา่ เป็นพระบิดาแห่งกฎหมายไทยคือ ตอบ กรมหลวงราชบรุ ดี เิ รกฤทธ์ิ ๑๒. เพลงกราวกีฬาและเพลงสามคั คีชุมนมุ ผปู้ ระพันธค์ อื ตอบ เจา้ พระยาธรรมศกั ด์ิมนตรี ๑๓. ทางรถไฟสายแรกของประเทศไทยคอื ตอบ กรุงเทพฯ - สมทุ รปราการ ๑๔. ผทู้ ่ไี ด้ชอ่ื ว่าเปน็ พระบดิ าแห่งการรถไฟไทยคือ ตอบ กรมพระก�ำแพงเพชรอคั รโยธนิ ๑๕. ประเทศทผี่ ลติ น้ำ� มนั ได้มากทสี่ ดุ ในเอเชยี ตะวันตกเฉียงใตค้ อื ตอบ ซาอุดีอาระเบยี ๑๖. ประเทศที่มีการปกครองดว้ ยระบอบประชาธปิ ไตยทเ่ี ก่าแกท่ สี่ ดุ คือ ตอบ ประเทศกรซี ๑๗. สถาบันเลก็ ทส่ี ุดแตม่ คี วามส�ำคัญตอ่ สังคมมากทีส่ ดุ คอื ตอบ ครอบครวั ๑๘. สัญลักษณ์ของกฬี าโอลมิ ปกิ คือ ตอบ หว่ ง ๕ ห่วงคลอ้ งกัน ๑๙. เขอ่ื นทีผ่ ลติ กระแสไฟฟา้ ไดม้ ากทส่ี ุดคือ ตอบ เข่ือนภูมพิ ล ๒๐. ถนนทนั สมยั สายแรกของกรงุ รัตนโกสินทร์คือ ตอบ ถนนเจรญิ กรุง นติ ยสารพลาธปิ ตั ย์ ปี ท่ี ๖๔ ฉบบั ท่ี ๒ เดอื นพฤษภาคม - สิงหาคม ๒๕๖๔ 101

ค�ำชะโนดประวตั คิ วามเปน็ มาของ โดยสงั เขป ตำ� นานความเป็นมาของค�ำชะโนด I am จงั หวดั อดุ รธานี ซง่ึ ไดม้ ผี คู้ นยา้ ยถนิ่ ทอี่ ยมู่ าอาศยั เดมิ เดนิ เดิมสถานที่ค�ำชะโนดต้ังอยู่ใน ทางมากอ่ สรา้ งครอบครัวที่บ้านโนนเมอื ง ระยะทางหา่ ง ความดแู ลของ ต�ำบลบ้านมว่ ง จังหวดั อุดรธานี จากอดีต จากอ�ำเภอบ้านดุงประมาณ ๒๑ กิโลเมตร พื้นท่ีรอบๆ จนถงึ ปจั จบุ นั จากตำ� นานการเลา่ ขานสบื กนั มา ซงึ่ ในชว่ ง บริเวณเป็นแหล่งน้�ำคร�ำ มีต้นไม้เกิดข้ึนภายในบริเวณ ที่ไม่มีการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร มาถึงช่วงที่ได้มี เนื้อท่ีประมาณ ๒๐ ไร่ ต้นไม้ชนิดน้ีเรียกว่าต้นชะโนด การบันทึกประวัติความเป็นมาแบบลายลักษณ์อักษร มีลักษณะพิเศษคล้ายต้นตาล แต่ขนาดล�ำต้นสูงยาว โดยการสืบค้นจากการเล่าขานจากคนรุ่นก่อนมาเป็น เรยี วเลก็ กวา่ ตน้ ตาล ขนาดกพ็ อๆ กบั ตน้ มะพรา้ ว กา้ นใบจะ ชว่ งๆ สืบตอ่ กนั มา มหี นามแหลมยาวคม ใบจะมลี ักษณะคลา้ ยใบตาล เวลา ต้องลมจะเกิดเสียงและวังเวง ต้นชะโนดมีผลเป็น ค�ำชะโนด ต�ำนานกล่าวว่า เมืองค�ำชะโนดน้ี พวงลกู เลก็ เทา่ พวงองุ่นเลก็ บรโิ ภคไม่ได้ ถา้ บริโภคจะมี ได้เล่าขานสืบต่อกันมารุ่นแล้วรุ่นเล่าจนถึงปัจจุบัน อาการคันปาก ต้นชะโนดเป็นพืชท่ีเกิดจากธรรมชาติ เมอื งคำ� ชะโนดตงั้ อยทู่ ศิ ตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ของตวั เมอื ง นับเป็นเวลาหลายพันปี คนรุ่นเก่าก่อนเรียกพืชชนิดนี้ อ�ำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี ปัจจุบันอยู่ในเขตพ้ืนที่ สืบทอดกันมาว่า ต้นชะโนด และเช่ือว่าเมืองชะโนด บ้านโนนเมอื ง หมทู่ ี่ ๑๑ ต�ำบลบ้านมว่ ง อ�ำเภอบ้านดงุ 102 นติ ยสารพลาธปิ ตั ย์ ปี ท่ี ๖๔ ฉบบั ท่ี ๒ เดือนพฤษภาคม - สิงหาคม ๒๕๖๔

สนั นิษฐานวา่ คงจะเรยี กตามชือ่ ตน้ ชะโนด ป่าช้างดงเสือ เพราะในอดีตท่ีมามีสัตว์เกือบทุกประเภท ส�ำหรับสัตว์และพืชท่ีอยู่ในบริเวณที่แห่งน้ีจะมี อาศยั อยู่ ปจั จบุ นั ทงั้ พชื และสตั วเ์ หลา่ นนั้ ไดส้ ญู พนั ธไุ์ ปเปน็ สว่ นมากมที เ่ี หลอื ใหเ้ หน็ อยบู่ างชนดิ มจี ำ� นวนนอ้ ย คำ� ชะโนด พชื หลากหลายชนดิ เช่น ไผ่ หวายน�้ำ ผกั กูด ผักชชี ้าง วงั นาคนิ ทร์ แดนนาคา หรอื เมอื งชะโนด มเี รอื่ งเลา่ สบื ตอ่ หญา้ ปล้อง หญา้ ไซ บัวบก (ผกั หนอก) ต้นเด่อื ตน้ ไทร กนั มาวา่ เจา้ ศรสี ทุ โธ เปน็ พญานาค ครองเมอื งหนองกระแส ต้นหว้า พืชท่ีกล่าวมาน้ี ในอดีตที่ผ่านมามีจ�ำนวน คร่ึงหนึ่ง อีกครึ่งหนึ่งก็เป็นพญานาคเช่นเดียวกัน ชื่อ มากมาย แต่ปัจจุบันมีเหลืออยู่ให้เห็นไม่มาก ในอดีต สุวรรณนาค เป็นผู้ครองอีกครึ่งหนึ่งต่างฝ่ายก็มีบริวาร จนถึงปัจจุบันจากการเล่าขานสืบต่อมามีสัตว์นานาชนิด ฝา่ ยละ ๕,๐๐๐ เหมอื นกัน ท้ัง ๒ ฝา่ ยอยูด่ ้วยกนั อยา่ งมี ทั้งสัตว์บกและสัตว์น้�ำ และจ�ำพวกครึ่งบกครึ่งน�้ำซ่ึง ความสขุ ไมม่ ปี ญั หาทะเลาะกนั มคี วามรกั สามคั คเี ปน็ นำ�้ คนรุ่นคุณปู่คุณย่าหลายช่ัวอายุ เรียกบริเวณน้ีว่า หนงึ่ ใจเดยี วกนั เปน็ เพอื่ นตายกนั มาโดยตลอด ทง้ั ๒ ฝา่ ย ไดต้ กลงกนั อยขู่ อ้ หนง่ึ วา่ ถา้ ฝา่ ยใดฝา่ ยหนงึ่ ออกไปลา่ สตั ว์ นำ� มาเปน็ อาหาร อกี ฝา่ ยหนง่ึ ไมต่ อ้ งออกไป เพราะเกรงวา่ บริวารไพร่พลจะมีการกระทบกระท่ังกันอาจจะเกิดการ รบราฆา่ ฟนั กนั แตก่ ต็ ง้ั กตกิ าอกี วา่ ถา้ ฝา่ ยทอ่ี อกไปลา่ สตั ว์ ให้น�ำเนื้อสัตว์มาแบ่งปันกัน ฝ่ายละเท่าๆ กัน แบ่งคร่ึง ตอ่ ครึง่ ท้งั ๒ ฝา่ ยอยู่ด้วยกันโดยสงบสขุ ตลอดมา เม่ือเหตุมันจะเกิด มันต้องเกิด อยู่มาวันหนึ่ง สทุ โธนาค พาบรวิ ารไพรพ่ ลออกไปลา่ สตั วไ์ ดฆ้ า่ ชา้ งนำ� มา เปน็ อาหาร กไ็ ดแ้ บง่ ใหส้ วุ รรณนาคตามสญั ญาการแบง่ ปนั ครึ่งต่อครึ่ง พร้อมกับมอบขนช้างให้ดูไว้เป็นหลักฐาน ท้งั ๒ ฝ่ายไดก้ ินเนื้อชา้ งอย่างอมิ่ หนำ� สำ� ราญ ต่อมาอีก วนั หนึ่ง สวุ รรณนาค ได้พาบรวิ ารไพร่พลออกไปลา่ สตั ว์ อกี ไดเ้ มน่ มา สวุ รรณนาคไดแ้ บง่ ใหส้ ทุ โธนาค ตามสญั ญา ครึ่งต่อครึ่งเหมือนเดิม พร้อมกับมอบขนเม่นให้ดูไว้เป็น หลกั ฐาน จะมอี ะไรเกดิ ขน้ึ ตวั เมน่ ตวั ไมใ่ หญ่ แตม่ ขี นยาว แข็ง ใหญ่ ปลายขนแหลม เมน่ ตวั เล็กเวลาแบ่งเน้อื เมน่ นติ ยสารพลาธิปัตย์ ปี ท่ี ๖๔ ฉบบั ท่ี ๒ เดอื นพฤษภาคม - สิงหาคม ๒๕๖๔ 103

ให้สุทโธนาคก็ได้น้อย สุทโธนาคพิจารณาดูว่า ๖๐๐ ให้มีการระดมไพร่พลรุกรบทันที ฝ่ายสุวรรณนาค ก็ ขนาดขนของชา้ งเลก็ ยาวเรียว ตวั ยังใหญ่โต แตเ่ ม่นขน รีบเรียกระดมไพร่พลรับการต่อสู้เช่นเดียวกัน ตามท่ีได้ ยาว แข็งใหญ่ ตัวเม่นจะใหญข่ นาดไหน ถึงอย่างไรสทุ โธ เล่าขานกันมา พญานาคทั้ง ๒ สู้รบกันอยู่ถึง ๗ ปี นาคบอกวา่ ตัวเม่นต้องใหญก่ วา่ ช้างแน่นอน คิดได้อย่าง ต่างฝ่ายต่างเม่ือยล้า ต่างสูญเสียไพร่พลไปเท่าๆ กัน น้ีเลยให้เสนาอ�ำมาตย์น�ำเน้ือเม่นซึ่งสุวรรณนาคได้แบ่ง เพราะต่างฝ่ายต่างจะเอาชนะกันให้ได้ เพ่ือจะได้ครอง ปันแล้วส่งกลับคืนไปให้สุวรรณนาค ข้าพเจ้าไม่รับแล้ว ความเป็นใหญ่ในหนองกระแสเพียงฝ่ายเดียว ท�ำให้ พรอ้ มบอกฝากกับเสนาอำ� มาตย์ ไปบอกกับสวุ รรณนาค ทุกสิ่งทุกอย่างในหนองกระแสเสียหาย เดือดร้อนไป วา่ ขา้ พเจา้ ไมข่ อรบั เนอ้ื เมน่ ทเ่ี ปน็ สว่ นแบง่ ทไ่ี มเ่ ปน็ ธรรม ตามกนั ท�ำใหเ้ หล่าเทวดาเดอื ดรอ้ นไปทั้งสามภพ จากเพอื่ นทไี่ มซ่ อ่ื สตั ย์ ฝา่ ยสวุ รรณนาคไดท้ ราบเรอ่ื งจาก เสนาอำ� มาตยจ์ งึ ไดเ้ ดนิ ทางไปพบสทุ โธนาค เพอื่ ชแ้ี จงให้ ค ว า ม เ ดื อ ด ร ้ อ น ทั้ ง ห ล า ย ไ ด ้ ท ร า บ ไ ป ถึ ง ทราบว่าเม่น ขนมนั ยาว แขง็ ใหญ่ แตต่ วั มนั เล็ก ขอให้ พระอินทรผ์ ้เู ป็นใหญ่ สืบเน่อื งจากเทวดานอ้ ยใหญไ่ ด้ไป สุทโธนาค รับเนือ้ เมน่ ไว้กินเถอะ สวุ รรณนาคไม่สามารถ เฝา้ พระอนิ ทรเ์ พอ่ื รอ้ งทกุ ขแ์ ละเลา่ เหตกุ ารณท์ เ่ี กดิ ขนึ้ ให้ พูดให้สุทโธนาคเข้าใจและเชื่อว่าเม่นกับช้างต่างกัน พระอนิ ทรไ์ ดฟ้ งั เมอ่ื พระอนิ ทรไ์ ดฟ้ งั ความเดอื ดรอ้ นจาก สุดท้ายทั้ง ๒ ฝ่ายไม่เข้าใจกันและไม่มีทางเลือกอ่ืน จึง เหล่าเทวดาจึงได้หาวิธีการท่ีจะให้พญานาคทั้งสองฝ่าย ประกาศทำ� สงครามกนั ขน้ึ ฝา่ ยสทุ โธนาคทมี่ คี วามโกรธแคน้ หยุดสู้รบกัน เพื่อความสงบสุขของไตรภพ พระอินทร์ สุวรรณนาคต้ังแต่เห็นเน้ือเม่นอยู่แล้ว ไม่รอช้าสั่งการ จึงได้เสด็จจากสวรรค์ช้ันดาวดึงส์ ลงมาที่โลกมนุษย์ ที่ หนองกระแส ต้นเหตทุ เ่ี ปน็ สถานที่สรา้ งความเดือดร้อน ซ่ึงพระอินทร์ได้ตรัสเป็นราชโองการว่า ให้ท่านท้ังสอง จงหยุดรบกันเดียวนี้ ในการท�ำสงครามครั้งน้ีถือว่า ทั้งสองฝ่ายเสมอกันก�ำหนดให้หนองกระแสเป็นเขต ปลอดสงคราม และใหพ้ ญานาคทงั้ สองพากนั สรา้ งแมน่ ำ้� ใหไ้ ดฝ้ า่ ยละหน่ึงสาย โดยเริ่มจากหนองกระแสใครสร้าง ถึงทะเลก่อนจะมอบปลาบึกให้อยู่ในแม่น�้ำแห่งนั้นเพื่อ ปอ้ งกนั การทะเลาะววิ าทของพญานาคทง้ั สอง จงึ กำ� หนด ให้ภูเขาไฟเป็นเขตก้ัน ใครข้ามไปรุกรานใครก่อนขอให้ ไฟจากภเู ขาพญาไฟไหมฝ้ า่ ยรกุ รานกอ่ นเปน็ จลุ หายไปใน ทนั ที เมอ่ื พระอนิ ทรไ์ ดต้ รสั เปน็ ราชโองการแลว้ สทุ โธนาค ก็พาไพร่พลอพยพจากหนองกระแสเร่ิมสร้างแม่น้�ำ มุ่งหนา้ ไปทางทศิ ตะวันออกของหนองกระแส เมอื่ สรา้ ง ไปถึงที่คดโค้งก็สร้างไปตามนั้น ตามความยากง่าย ในการสรา้ ง เพราะสทุ โธนาคเปน็ ผทู้ ใ่ี จรอ้ น แมน่ ำ้� ทส่ี ทุ โธ นาคสรา้ งจงึ เรยี กวา่ “แมน่ ำ�้ โขง” คำ� วา่ โขงมาจากคำ� วา่ โคง้ ซ่ึงหมายถึง ไม่ตรง (คดเคี้ยว) ฝั่งประเทศลาวเรียกว่า “แมน่ ้�ำของ” ส่วนสุวรรณนาคเมื่อได้รับราชโองการจาก พระอินทร์ก็พาบริวารไพร่พลอพยพ จากหนองกระแส สร้างแม่น�้ำมุ่งตรงไปยังทิศใต้ของหนองกระแส สุวรรณ นาคเป็นผู้ท่ีตรง พิถีพิถันและมีความใจเย็น การสร้าง แม่น�้ำจึงต้องให้ตรง เพ่ือท่ีจะสร้างให้ถึงจุดหมายปลาย ทางกอ่ น ตนเองจะเปน็ ฝา่ ยชนะ จงึ เรยี กชอ่ื แมน่ ำ้� ทสี่ รา้ ง 104 นิตยสารพลาธปิ ัตย์ ปี ท่ี ๖๔ ฉบบั ท่ี ๒ เดือนพฤษภาคม - สงิ หาคม ๒๕๖๔

ช่ือว่า “แม่น้�ำน่าน” เป็นแม่น�้ำท่ีตรงกว่าแม่น�้ำทุกสาย ทางขึ้น-ลง แห่งท่ี ๑ และ ๒ เป็นทางขึ้นลงสู่ ในประเทศไทย เมืองบาดาลของพญานาคเท่าน้ัน ส่วนแห่งที่ ๓ พรหม ประกายโลกคือ พรหมได้กลิ่นไอดิน แล้วพรหมเทวดา ในการสร้างแมน่ ำ้� ผลปรากฏว่า สทุ โธนาคสร้าง ลงมากินดนิ จนหมดฤทธิ์ กลายร่างเป็นมนษุ ย์ หรอื ผู้ให้ แม่น�้ำเสร็จก่อนตามสัญญาที่ให้ไว้กับพระอินทร์ ดังนั้น ก�ำเนิดมนุษย์ ให้สุทโธนาคต้ังบ้านเมืองครอบครองซ่ึงมี ปลาบึกจึงอยู่ในแม่น�้ำโขง ตามค�ำบอกเล่าต่อๆ กันมา ตน้ ชะโนดเกดิ ขนึ้ เปน็ สญั ลกั ษณ์ ทนี่ ำ� เอาตน้ มะพรา้ ว ตน้ และถ้าเอาน้�ำจากแม่น้�ำโขงและแม่น้�ำน่านมาผสมกัน หมาก ต้นตาลมาผสมพันธ์ุเชื่อว่าเป็นต้นไม้บรรพกาล เกบ็ ไวใ้ นขวดเดยี วกนั จะทำ� ใหข้ วดแตก แตก่ รณนี ย้ี งั ไมม่ ี โดยใหส้ ทุ โธนาคมลี กั ษณะและเปน็ อยใู่ น ๓๐ วนั ดงั น้ี คอื คำ� กล่าวขานเป็นตำ� นานว่ามผี ู้คนกระท�ำ ข้างข้ึน ๑๕ วัน ให้สุทโธนาคและบริวารกลายร่างเป็น มนุษย์ เรียกว่า เจา้ พญาศรีสุทโธ มีวงั นาคนิ ทรเ์ ป็นทีพ่ กั เมอื่ สทุ โธนาคเปน็ ฝา่ ยสรา้ งแมน่ ำ้� ชนะสวุ รรณนาค อาศัยและอีก ๑๕ วันขา้ งแรม ใหส้ ุทโธนาคพรอ้ มบริวาร จึงท�ำให้มีปลาบ้างในแม่น�้ำโขงตามสัญญาสุทโธนาคได้ กลายร่างเป็นนาค เรียกว่า พญานาคราชศรีสุทโธ โดย แสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ เดินทางไปเฝ้าพระอินทร์ ท่ี อาศยั ในเมืองใตบ้ าดาล สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ แล้วก็ทูลขอถามพระอินทร์ว่า ตัว ขา้ พเจา้ เปน็ ชาตเิ ชอ้ื พญานาค ถา้ จะอยบู่ นโลกกบั มนษุ ย์ นานเกินไปก็ไม่ได้หรอก จึงขออนุญาตจากพระอินทร์ ให้มีทางข้ึน-ลง ระหว่างโลกมนุษย์กับบาดาล เอาไว้ ๓ แหง่ และทูลถามพระอนิ ทรว์ ่าจะให้ สทุ โธนาคครอบครองอยู่ตรงไหน พระอนิ ทรก์ ็ อนญุ าตใหม้ ที างขน้ึ -ลง ของพญานาคไว้ ๓ แหง่ คือ ๑. ทางข้ึน-ลง พระธาตุหลวงนคร เวียงจันทน์ ในปัจจุบัน ๒. ทางขึ้น-ลง คือ หนองคันแทเสื้อน�้ำ ปัจจุบันคือ ดอนก�ำ ๓. ทางขน้ึ -ลง พรหมประกายโลก คอื คำ� ชะโนด ในปจั จบุ ัน นิตยสารพลาธปิ ตั ย์ ปี ท่ี ๖๔ ฉบบั ท่ี ๒ เดอื นพฤษภาคม - สิงหาคม ๒๕๖๔ 105

ต้ังแต่น้ันมาจนถึงพุทธกาลจากปี พ.ศ. ๒๕๐๐ ให้ฟังว่า ตนเองได้ไปที่เมืองค�ำชะโนด เจ้าพญา ถอยหลังไป ชาวบ้านม่วง ชาวบ้านเมืองไพร ชาวบ้าน ศรีสุทโธได้จัดให้มีการแข่งขันเรือและประกวด วังทอง อ�ำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี จะพบเห็น ชายงามทเี่ มอื งคำ� ชะโนด และเลา่ เรอื่ งเมอื งคำ� ชะโนด ชาวเมืองค�ำชะโนดท้ังหญิงและชายบ่อยครั้งในลักษณะ ใหญ้ าติพีน่ อ้ งฟังทั้งหมด ผลการประกวดชายงาม ท่ีไปยืมเคร่ืองทอผา้ ทีเ่ รยี กวา่ หกู ท่มี ไี ม้ทอผา้ คอื ฟมื ไป ไดร้ บั รางวลั ชนะเลศิ ที่ ๑ เมอื งคำ� ชะโนดเปน็ เมอื ง ทอผา้ อยบู่ อ่ ยครง้ั และปาฏหิ ารยิ น์ ำ�้ ทว่ มใหญใ่ นทร่ี าบลมุ่ ทส่ี วยงามวจิ ติ ร พสิ ดาร แตกตา่ งจากบา้ นเมอื งเรา แม่น้�ำโขงปี พ.ศ. ๒๕๑๙ รวมถึงพื้นที่ในอ�ำเภอบ้านดุง มาก ผู้คนแต่งกายเรียบร้อยสวยงามมาก ผู้หญิง ทกุ พนื้ ที่ แตน่ ำ้� ไมท่ ว่ มถงึ บรเิ วณคำ� ชะโนด ปาฏหิ ารยิ อ์ กี แต่งกายชุดสีขาว ผู้ชายสวมใส่ชุดโจงกระเบน คร้ังหนงึ่ นายค�ำตา ทองสีเหลือง ซึ่งเป็นชาวบ้านวังทอง ปาฏิหาริย์ครั้งต่อมาซึ่งเกิดข้ึนผ่านมาประมาณ ต�ำบลวงั ทอง อำ� เภอบา้ นดงุ จังหวดั อดุ รธานี ในปจั จบุ นั ๒๐ ปีคือ เหตกุ ารณ์ผีจา้ งหนัง โดยการได้รับการ ไดเ้ กดิ ความคลุ้มคลัง่ อยูป่ ระมาณ ๑ สปั ดาห์ ญาติพนี่ ้อง บอกเล่าจากบริการฉายภาพยนตรค์ อื แจ่มจนั ทร์ ได้ท�ำการรักษาทางเวทมนต์ซึ่งรียกว่า หมอธรรม ญาติ ภาพยนตร์ พี่น้องได้ดูแลรักษา และระวังเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด แต่ไม่รู้ว่าการเฝ้าดูพลั้งเผลออย่างไร นายค�ำตา ทองสี- คำ� ชะโนด มลี กั ษณะเปน็ เกาะกลางนำ�้ หนองนำ�้ เหลือง หายไปแบบไมร่ ้สู าเหตุว่าไปไหน ไม่มคี นรู้ ตอ่ มา มตี น้ ชะโนดเกดิ ขน้ึ รวมกนั เปน็ กลมุ่ ในพนื้ ทป่ี ระมาณ ๒๐ ประมาณสัก ๖ ชว่ั โมงได้ นายค�ำตา ทองสีเหลอื งไดก้ ลบั ไร่ ซ่ึงเป็นต้นไม้ท่ีแทบจะไม่มีในประเทศไทย ถือว่าท่ีน่ี มา ญาติพ่ีน้องก�ำลังอยู่ในอาการตกใจว่าหายไปไหนมา เปน็ แหง่ เดยี ว ทพ่ี บและมปี ระวตั ศิ าสตรย์ าวนานมาจนถงึ ไปไดอ้ ย่างไร นายค�ำตา ทองสีเหลอื ง ก็ไดเ้ ล่าเหตุการณ์ ปัจจุบัน ภายในเกาะค�ำชะโนดยังมบี อ่ นำ้� ศักดิส์ ทิ ธิ์เรยี ก วา่ บอ่ คำ� ชะโนด เปน็ นำ�้ ใตด้ นิ ทใี่ ส ซง่ึ ทางจงั หวดั อดุ รธานี มักเลือกน้�ำจากบ่อน�้ำนี้เพื่อน�ำไปร่วมพิธีส�ำคัญๆ เสมอ และยังมีศาลเจ้าปู่ศรีสุทโธ ที่ประชาชนให้ความเคารพ นับถือในความศักด์ิสิทธ์ิและมีปาฏิหาริย์ให้ได้เห็นมา อย่างต่อเน่ือง โดยมีความเช่ือว่าเป็นสถานที่อาศัยของ พญานาคราชและใช้เส้นทางขึ้น-ลงติดต่อระหว่าง เมืองบาดาลกบั เมืองมนุษย์ บอ่ น�ำ้ ศักดส์ิ ิทธ์ใิ นค�ำชะโนด มคี วามเชอื่ วา่ เปน็ ทางขน้ึ ลงของพญาสทุ โธนาค เสดจ็ จาก เมืองบาดาลข้ึนมาเมืองมนุษย์ และเป็นเส้นทางที่เชื่อม ต่อไปสวรรค์แต่ก่อนมีลักษณะเป็นรูปทรงกลม ปัจจุบัน ไดป้ รับปรงุ บริเวณรอบบอ่ มีลกั ษณะเปน็ ส่เี หลี่ยม เม่ือปี พ.ศ. ๒๕๓๐ ซ่ึงทางจังหวดั อุดรธานไี ดเ้ ลอื กเอาน�ำ้ ในบ่อ ศกั ดส์ิ ทิ ธ์ิ ไปรว่ มพธิ มี หามงคลเฉลมิ พระชนมพรรษา วันท่ี ๕ ธันวาคม ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ทกุ ปี คำ� ชะโนด หรือพรหมประกายโลก เปน็ สถานท่ีพรหมและเหล่าเทวดาลงมากินดินจน หมดฤทธิ์ไม่สามารถกลับสู่สวรรค์ได้ แต่ยังมีฤทธิ์ มอี ำ� นาจเหนอื มนษุ ยเ์ ปน็ ลกั ษณะกง่ึ เทพกง่ึ มนษุ ย์ สามารถปรากฏกายให้มนุษย์มองเห็นตัวได้ ซึ่ง พรหมเหล่านั้นชาวบ้านเรียกตามความเชื่อว่า ผบี งั บด หรอื เทพบงั บด ซงึ่ มตี ำ� นานเลา่ ขานสบื ทอด 106 นิตยสารพลาธิปัตย์ ปี ท่ี ๖๔ ฉบับท่ี ๒ เดอื นพฤษภาคม - สงิ หาคม ๒๕๖๔

มาตลอดว่าผีบังบดมายืมฟืมทอผ้าท่ีบ้านเมืองไพร ผู้ปกครอง ฝั่งลาวมีพญาศรีสัตตนาคราชหรือนาคาธิบดี นายคำ� ตา ทองสเี หลอื ง ถกู นำ� ตวั ไปแขง่ ประกวดชายงาม ศรีสัตตนาคราช เป็นกษัตริย์แห่งนาคราชฝั่งลาว เป็น ทเ่ี มอื งบาดาลและผจี า้ งหนัง พญานาค ๗ เศยี ร ฝง่ั ไทยคอื พญาศรสี ุทโธนาคราชหรอื นาคาธิบดศี รีสุทโธ ซึง่ ท่านชอบจ�ำศีล บ�ำเพ็ญเพียร และ จ า ก ต� ำ น า น บ อ ก เ ล ่ า ข อ ง ห ล ว ง ปู ่ ค� ำ พั น ธ ์ ปฏิบัติธรรม มีนิสัยอ่อนโยน มีเมตตา ไม่ชอบการต่อสู้ โฆสปัญโญ วัดธาตุมหาชัยจังหวัดนครพนม บอกว่า ชอบไปปฏบิ ัติธรรมทพ่ี ระธาตพุ นม ในชว่ งทีป่ ฏิบตั ธิ รรม ทางฝั่งไทยมีกษัตริย์แห่งนาคราชหรือนาคาธิบดีเป็น ทพ่ี ระธาตุพนมก็ใหเ้ หลา่ พญานาค ๖ อำ� มาตยด์ แู ลเมือง คำ� ชะโนดแทน หลวงปู่คำ� พันธ์ โฆสปญั โญ ได้บอกช่ือ ๖ อำ� มาตยพ์ ญานาคไวเ้ พยี ง ๓ ชอื่ คอื ๑. พญาจติ รนาคราช ดูแลเขตการปกครองจากตาลีฟูถึงหนองคายตามแนว แม่น�้ำโขงโดยมีเขตปกครองส้ินสุดที่วัดหินหมากเป้ง ๒. พญาโสมนาคราช ดูแลเขตการปกครองจากวัดหิน หมากเป้งไปส้ินสุดเขตการปกครองท่ีวัดพระธาตุพนม แก่งกะเบา ท่านมีอุปนิสัยเหมือนกับพญาศรีสุทโธ นาคราชคือชอบปฏิบัติธรรม จึงเป็นท่ีไว้วางใจและ โปรดปรานจากพญาศรีสุทโธนาคราชมากกว่าพญานาค อ่ืนๆ ๓. พญาชัยยะนาคราชมีเขตการปกครองจาก แก่งกะเบาไปสิ้นสุดเขตการปกครองที่ปากน้�ำโขง ลงทะเลในเขมร พญานาคตนนีม้ ฤี ทธ์เิ ดชมาก ชอบการ สู้รบ ทำ� สงครามเป็นนิสัย นิตยสารพลาธิปตั ย์ ปี ท่ี ๖๔ ฉบบั ท่ี ๒ เดอื นพฤษภาคม - สิงหาคม ๒๕๖๔ 107

108 นิตยสารพลาธิปัตย์ ปี ท่ี ๖๔ ฉบบั ท่ี ๒ เดอื นพฤษภาคม - สงิ หาคม ๒๕๖๔