Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore นิตยสารพลาธิปัตย์ ปีที่ 64 ฉบับที่ 2 พฤษภาคม - สิงหาคม 2564

นิตยสารพลาธิปัตย์ ปีที่ 64 ฉบับที่ 2 พฤษภาคม - สิงหาคม 2564

Published by นิตยสารพลาธิปัตย์, 2021-10-15 15:05:17

Description: นิตยสารพลาธิปัตย์ ปีที่ 64 ฉบับที่ 2 พฤษภาคม - สิงหาคม 2564

Keywords: พลาธิปัตย์

Search

Read the Text Version

๖.๒ นอกเหนือจากส่วนประกอบพ้ืนฐานท่ี ๗.๓ การแยกสลายสารประกอบไฮโดรคารบ์ อน อธิบายไว้ในข้อ ๖.๑ หน่วยเครื่องมือแบบอัตโนมัติยังมี ทเี่ ปน็ สว่ นประกอบของปโิ ตรเลยี มออกเปน็ กลมุ่ (Groups) ระบบวดั และบนั ทกึ อณุ หภมู ิ และวดั ปรมิ าตรทค่ี วบแนน่ น�้ำมันกลุ่มที่ ๑, ๒ และ ๓ รักษาอุณหภูมิท่ีเหมาะสม โดยอัตโนมัตใิ นกระบอกรับการกล่นั ตวั ส�ำหรับของเหลวในอ่างน�้ำ อาจด้วยการคน (ผสมให้ เขา้ กนั ) หรอื การหมนุ เวยี นใหม้ อี ณุ หภมู ติ ำ�่ จากความเยน็ ๗. การเตรียมเคร่ืองมอื ของน�้ำแข็งและน้�ำแข็งสับ, น�้ำเกลือแช่เย็นและเอทิลีน ๗.๑ การเตรียมอุปกรณ์เคร่ืองมือให้ถูก ไกลคอลในตู้เยน็ ต้องตามกลุ่มนำ้� มันทร่ี ะบุไว้ โดยปรับอณุ หภูมิขวดกลนั่ , อุปกรณ์ตรวจวดั อุณหภมู ิเซน็ เซอร์ (อุปกรณส์ ง่ สญั ญาณ ๗.๔ กลุ่มท่ี ๔ ตัวกลางที่เหมาะสมส�ำหรับ ท่ีไวต่ออุณหภูมิหรือ sensor) และอ่างให้ความเย็น อณุ หภมู อิ า่ งนำ�้ ทส่ี งู กวา่ รวมดว้ ย แตไ่ มจ่ ำ� กดั เพยี งนำ�้ เยน็ , ควบคุมตามอุณหภูมิที่ก�ำหนด ตัวอย่างน�้ำมันจะถูก นำ�้ ร้อน และเอทลิ ีนไกลคอลทร่ี ้อน แบง่ ออกเปน็ กลมุ่ สก่ี ลมุ่ การจดั วางเครอื่ งมอื วดั อณุ หภมู ิ คอนเดนเซอร์ (เคร่ืองควบแนน่ ) และตวั แปรการท�ำงาน ๗.๕ การน�ำของเหลวท่ีตกค้างในหลอด อื่น ๆ จะถูกก�ำหนดตามกลุ่มตัวอย่าง (Groups) คอนเดนเซอร์ (เคร่ืองควบแน่น) ออกโดยเช็ดดว้ ยผา้ นุ่ม ทง้ั ๔ กลุ่ม ที่ไม่มีขุยผูกติดกับสายไฟหรือลวดส�ำหรับเช็ดในหลอด ๗.๒ การทดลองจัดท�ำตามข้อก�ำหนดเพื่อ คอนเดนเซอรใ์ หแ้ หง้ รักษาอุณหภูมิในอ่างน้�ำและระดับน้�ำในอ่างน้�ำต้องสูง กว่าจุดเหนือสุดคอนเดนเซอร์ (เคร่ืองควบแน่น) และ ๘ วิธกี ารด�ำเนนิ งาน กระบอกตวงทรงสูงรักษาอุณหภูมิให้คงที่ กระบอกตวง ๘.๑ อัตราการระเหย (Volatility) การ ทรงสูงจะต้องอยู่ในอ่างน้�ำอย่างน้อยระดับของเหลวมี ทดสอบอัตราการระเหยของน�้ำมันตามมาตรฐานสากล ความสงู ถงึ เครอื่ งหมาย ๑๐๐ มลิ ลลิ ติ ร หรอื กระบอกตวง ASTM D86 หาได้จากการน�ำน้ำ� มันเบนซนิ มากลนั่ จะมี ทรงสูงท้ังหมด ล้อมรอบด้วยห้องท่ีมีการหมุนเวียน ชว่ งการกลนั่ หรอื ช่วงจุดเดอื ด (Distillation or Boiling อากาศถา่ ยเท Range) ประมาณ ๒๐ - ๒๐๐ องศาเซลเซยี ส ทค่ี วามดนั บรรยากาศมคี วามสำ� คัญตอ่ การใชง้ าน นิตยสารพลาธิปตั ย์ ปี ท่ี ๖๔ ฉบับท่ี ๒ เดอื นพฤษภาคม - สงิ หาคม ๒๕๖๔ 51

๘.๒ การน�ำน�้ำมันเชื้อเพลิงมาให้ความร้อน เพ่ือช่วยให้เครื่องยนต์สตาร์ทติดง่ายในเวลาเช้าซึ่งมี ด้วยอัตราท่ีก�ำหนด และท�ำการควบแน่นไอที่ได้รองใส่ อากาศเย็น กระบอกตวง เพื่อให้เห็นภาพขอยกตัวอย่างว่าอาจเอา น้�ำมันเบนซินมา ๑๐๐ มิลลิลิตร มาให้ความร้อนอย่าง ๘.๗ การควบคุมการให้ความร้อนเพ่ือให้ ช้าๆ และท�ำการควบแน่นไอท่ีระเหยออกน้ันกลับเป็น อัตราการรวมตัวทสี่ มำ�่ เสมอจาก ๕ หรือ ๑๐% ทถ่ี ูกกู้ ของเหลวใหม่รองใสก่ ระบอกตวงทรงสงู อีกใบหน่ึง คืนเป็น ๕ มลิ ลิลิตรทเ่ี หลือในขวดทีม่ ีอัตราการกล่ัน คอื ๔ ถึง ๕ มิลลิลิตรต่อนาที อัตราการกลั่นจะมีผลต่อ ๘.๓ กลมุ่ ๑, ๒, ๓ และ ๔ กรณีทไ่ี มไ่ ด้ระบุ อุณหภูมิไอท่ีวัดได้ อัตราการกลั่นจะต้องรักษาให้คงท่ี ข้อก�ำหนดบันทึกจุดเดือดเริ่มต้น (IBP) และ EP จุด ทส่ี ุดเท่าท่จี ะทำ� ไดต้ ลอดการทดสอบ สดุ ท้าย (Final Boiling Point, FBP) หรอื จดุ แห้ง หรอื ท้งั สองและการอา่ นอุณหภูมิที่ ๕, ๑๕, ๘๕, และ ๙๕% ๘.๘ จุด ๕๐% เปน็ สว่ นกลางเรียกว่า “Mid ของการควบแน่นกลบั คนื และในแต่ละชว่ ง ๑๐% ของ Fill หรอื Mid Range” เป็นสว่ นท่ีระเหยได้มากขน้ึ เมื่อ ปริมาณทก่ี ารควบแนน่ กลบั คืน จะถกู บนั ทกึ อุณหภูมิสูงขึ้น เพื่อให้เคร่ืองยนต์ร้อนขึ้น (Warm Up) ไดเ้ รว็ มกี ารกระจายตวั ของนำ้� มนั ไปยงั กระบอกสบู ตา่ ง ๆ ๘.๔ ในช่วงเวลาระหว่างจุดเดือดเริ่มต้น ไดส้ ม่ำ� เสมอกนั ชว่ ยให้เร่งเคร่ืองไดเ้ รียบ (IBP) และจุดสิ้นสุดของการกล่ันให้สังเกตและบันทึก ข้อมูลท่ีจ�ำเป็น ส�ำหรับการค�ำนวณและการรายงานผล ๘.๙ จดุ ๙๐% เป็นสว่ นหนักเรยี กวา่ “Back การทดสอบตามทกี่ ำ� หนด End” เป็นส่วนที่ให้พลังงานกับเคร่ืองยนต์และการ ประหยัดเชื้อเพลิง ถ้าส่วนน้ีมีอุณหภูมิสูงมากเกินไป ๘.๕ ตดิ ตัง้ เซ็นเซอร์วัดอณุ หภูมิ (อุปกรณส์ ่ง น้�ำมันจะระเหยไม่หมดและไหลผ่านแหวนลูกสูบลงไป สญั ญาณที่ไวตอ่ อณุ หภมู ิ) ผา่ นอุปกรณก์ ระชับพอดตี าม ท�ำให้น้�ำมันเครื่องเจือจางลง (Crankcase Dilution) ทีอ่ ธิบายไว้ เพ่อื จดั วางเซ็นเซอร์ (อุปกรณส์ ่งสัญญาณที่ และเสอ่ื มคณุ ภาพเรว็ ซงึ่ มกั จะเกดิ ขน้ึ ไดถ้ า้ นำ�้ มนั เบนซนิ ไวต่ออุณหภูมิ) ไว้ตรงกลางที่คอขวด ในกรณีของ ถูก ปลอมปนด้วยน�้ำมนั กา๊ ดหรอื น้ำ� มนั ดเี ซล เทอรโ์ มมเิ ตอร์ หลอดไฟจะอยกู่ ง่ึ กลางทคี่ อขวดและสว่ น ล่างของท่อเล็กๆ อยู่ในระดับที่มีจุดสูงสุดท่ีด้านล่าง ๘.๑๐ จุดเดือดสุดท้าย (Final Boiling ของผนังดา้ นในของหลอดไอ Point, FBP) สว่ นน้แี สดงวา่ มสี ว่ นหนักมากอยมู่ ากนอ้ ย แคไ่ หน ถา้ จดุ เดอื ดสดุ ทา้ ยและจดุ เดือด ๙๐% แตกตา่ งกนั ๘.๖ จดุ เดือดเร่ิมต้น (Initial Boiling Point, เกนิ ๓๐ องศาเซลเซยี ส อาจเกดิ ปญั หาดา้ นความสะอาด IBP) และจดุ เดอื ด ๑๐% (๑๐% evaporated) เปน็ สว่ น ในหอ้ งเผาไหม้ และรอ่ งแหวนลกู สูบได้ เบาเรยี กวา่ “Front End” ท่รี ะเหยไดง้ ่ายทีอ่ ณุ หภูมติ �ำ่ 52 นิตยสารพลาธปิ ัตย์ ปี ท่ี ๖๔ ฉบบั ท่ี ๒ เดือนพฤษภาคม - สิงหาคม ๒๕๖๔

กล่าวโดยย่อกราฟอุณหภูมิการกล่ันนี้สร้างโดย ในเขตอากาศรอ้ นกจ็ ะทำ� ใหน้ ำ�้ มนั ระเหยมากเกนิ ไป เกดิ การน�ำเอาน้�ำมันเชื้อเพลิงมาให้ความร้อนด้วยอัตราท่ี การสญู เสยี ไป สว่ นนำ�้ มนั ทร่ี ะเหยไดย้ ากนนั้ จะเหมาะสม ก�ำหนด และท�ำการควบแน่นไอที่ได้รองใส่กระบอกตวง กบั การใชง้ านในเขตอากาศรอ้ น ทำ� ใหเ้ ครอื่ งยนตท์ ำ� งาน เพอ่ื ใหเ้ หน็ ภาพขอยกตวั อยา่ งวา่ อาจนำ� นำ้� มนั เบนซนิ มา ได้ดที ่รี อบเครื่องสงู และเม่ือเครื่องยนต์มีอุณหภมู ิสงู แต่ ๑๐๐ มิลลิลิตร มาให้ความร้อนอย่างช้าๆ และท�ำการ จะท�ำให้เคร่ืองยนต์สตาร์ทติดยากเม่ืออากาศเย็น และ ควบแน่นไอที่ระเหยออกน้ันกลับคืนเป็นของเหลวใหม่ ยังท�ำงานได้ไม่ดีท่ีรอบเครื่องยนต์ต่�ำ นอกจากน้ีพวกที่ รองใสก่ ระบอกตวงอกี ใบหนงึ่ อณุ หภมู คิ วามรอ้ นทต่ี ม้ จน ไมร่ ะเหยกลายเปน็ ไอ เมอ่ื เขา้ ไปในกระบอกสบู จะละลาย เกบ็ รวบรวมของเหลวในกระบอกตวงได้ ๑๐ มลิ ลลิ ติ ร ก็ เข้าไปในน�้ำมันหล่อลื่นได้ ท�ำให้ความหนืดของน้�ำมัน คืออณุ หภูมกิ ารกลนั่ รอ้ ยละ ๑๐ และเมอ่ื ตม้ ต่อไปจนถึง หล่อล่ืนลดลงและประสิทธิภาพการหล่อลื่นเส่ือมลง อณุ หภมู ทิ ส่ี ามารถเกบ็ รวบรวมของเหลวในกระบอกตวง ไปด้วย ได้ ๕๐ มิลลลิ ิตร ก็คืออณุ หภมู กิ ารกลน่ั ร้อยละ ๕๐ ซง่ึ ท�ำอย่างน้ีไปเร่ือยๆ จนกว่าน้�ำมันเบนซินจะระเหยหมด ดว้ ยวธิ ที ดสอบมาตรฐานสำ� หรบั การกลน่ั ผลติ ภณั ฑ์ สว่ นทต่ี กคา้ งอยกู่ จ็ ะกลายเปน็ กากตะกอนไป (ทางทดี่ ไี ม่ ปโิ ตรเลยี มทคี่ วามดนั บรรยากาศดงั ทกี่ ลา่ วมา เปน็ การตรวจ ควรมกี ากตะกอนหลงเหลอื อย)ู่ นำ�้ มนั เชอ้ื เพลงิ ทไี่ มป่ กติ วิเคราะห์การกลั่นด้วยวิธีวิเคราะห์ที่ได้รับการรับรอง มกี ารปนเปอ้ื นของนำ้� มนั หนกั จะระเหยยาก มกี ากนำ�้ มนั คุณภาพตามมาตรฐานสากล ASTM (American หรือของเหลวทเ่ี หลอื อยู่ในขวดกล่ันปริมาณมาก Standard Test Method) อนั เป็นทีย่ อมรับ ดังนน้ั เพ่ือ ใหน้ ำ้� มนั เชอื้ เพลงิ สามารถใชง้ านไดต้ ลอดชว่ งการทำ� งาน เนอื่ งจากในการทำ� งานของเครอื่ งยนตเ์ บนซนิ ที่ ของเคร่ืองยนต์และทุกสภาพอากาศในแต่ละท้องถิ่น พัฒนาเรื่องระบบจ่ายเชื้อเพลิงเป็นแบบฉีดตรงเพื่อให้ จึงต้องมีการก�ำหนดค่าการระเหยของน้�ำมันเบนซิน ประหยดั นำ�้ มนั มากขนึ้ ทำ� ใหล้ ะอองเชอ้ื เพลงิ กระจายตวั ป้อนเข้าสู่กระบอกสูบเพ่ือท�ำการจุดระเบิด ความ ได้ดี ป้อนเข้าสู่กระบอกสูบเพื่อท�ำการจุดระเบิด ดังนั้น ยาก-ง่ายในการระเหยของน�้ำมันจึงส่งผลต่อการท�ำงาน ความยาก-ง่ายในการระเหยของน�้ำมันจึงส่งผลต่อการ ของเคร่ืองยนต์ให้เหมาะสมกับภูมิอากาศของแต่ละ ท�ำงานของเครื่องยนต์ น้�ำมันที่ระเหยได้ง่ายจะช่วยให้ ประเทศทอ่ี ากาศหนาวจัดหรือร้อนนั้น เครื่องยนต์ท�ำงานได้ดีในขณะท่ีเคร่ืองยนต์เย็นอยู่ รอบเครื่องต่�ำหรือเมื่ออากาศหนาวเย็น แต่ถ้าน�ำมาใช้ นติ ยสารพลาธิปตั ย์ ปี ท่ี ๖๔ ฉบับท่ี ๒ เดือนพฤษภาคม - สงิ หาคม ๒๕๖๔ 53

พลงั อ�ำนาจแห่งชาติ คือ ขดี ความสามารถดา้ นต่างๆ ของชาติ พลเอก เจดิ วุธ คราประยรู กรู้เขารูเ้ รา รบรอ้ ยครงั้ ไม่มแี พ้ ทงั้ ขดี ความสามารถตามพนั ธกจิ (Function Based) และ ารวิเคราะห์พลังอ�ำนาจของชาติกระท�ำ ขดี ความสามารถร่วม (Agenda/Collaborate Based) ในกรอบความคิด รู้เรา ในส่วนของการ วิเคราะห์ จดุ แข็ง (Strength) และจุดออ่ น (Weakness) Scenario Based ของ SWOT/TOWS Analysis สว่ นการทำ� Foresight/ พฒั นายทุ ธศาสตรโ์ ดยสรา้ งภาพอนาคตจากการ Forecast and Scenario Planning เปน็ การทำ� ในส่วน Forecast ระยะสนั้ /ปานกลาง และ Foresight ในระยะ รู้เขาเพ่ือวิเคราะห์สภาวะแวดลอ้ มเรอ่ื งโอกาส (Oppor- ยาวเพื่อสร้างภาพอนาคตที่คาดว่าจะเกิดข้ึนตามห้วง tunity) และภยั คุกคาม/อุปสรรค/สง่ิ ท้าทาย (Threats/ เวลา และวางแผนการใชข้ ดี ความสามารถ (พลงั อำ� นาจ) Obstable/Challenge) ของ SWOT/TOWS Analysis ต่างๆ ของชาติ เพื่อให้ไปสภู่ าพอนาคตทีต่ ้องการ และ เตรียมขีดความสามารถต่างๆ ในการป้องกันและลด การพฒั นายุทธศาสตรม์ ี ๓ ลักษณะ Threats ผลกระทบในกรณที ี่เกดิ ภาพอนาคตทไ่ี ม่ต้องการ Based Capacity building ในปจั จบุ นั เรายงั ขาดองคค์ วามรใู้ นการวเิ คราะห์ เมื่อสามารถก�ำหนดภัยคุกคามในมิติต่างๆ ได้ ขีดความสามารถต่างๆ อย่างเป็นระบบ และขาด เราก็จะวางแผนการใช้ขีดความสามารถต่างๆ (พลัง ผู้เชี่ยวชาญการวิเคราะห์ดังกล่าว จึงจ�ำเป็นจะต้องรีบ อำ� นาจ) ในการปอ้ งกนั แกไ้ ขและลดผลกระทบทางลบท่ี ด�ำเนินการสร้างองค์ความรู้มาตรฐานและผลิตบุคลากร เกิดจากภยั คกุ คามดงั กลา่ ว ทมี่ คี วามรคู้ วามสามารถในการวเิ คราะหเ์ หลา่ นอี้ ยา่ งเปน็ ระบบความรดู้ งั กลา่ ว รวมไปถงึ กระบวนการและขน้ั ตอน Capability Based มาตรฐานในการวเิ คราะห์ พฒั นายทุ ธศาสตรโ์ ดยการสรา้ งและใชข้ ดี ความ สามารถต่างๆ ที่จ�ำเป็นในการบรรลุเป้าหมายแห่งชาติ 54 นิตยสารพลาธิปัตย์ ปี ท่ี ๖๔ ฉบบั ท่ี ๒ เดอื นพฤษภาคม - สิงหาคม ๒๕๖๔

ยุคกอ่ น กญุ แจหลกั ในการสรา้ งขดี ความสามารถตา่ ง ๆ ทต่ี อ้ งการ สงครามระหว่างรัฐต่อรัฐ ขีดความสามารถ ทัง้ ในปจั จุบนั และอนาคต ในการด�ำเนินการของรัฐหลักๆ คือ การทูต การข่าว การทหาร การเงิน จึงก�ำหนดพลังอ�ำนาจออกเป็น ในยุทธศาสตร์ระยะยาว อาจจะมีแผนการใช้ Diplomatic Information Military Economic DIME ขดี ความสามารถซง่ึ ยงั ไมม่ ใี นปจั จบุ นั ดงั นนั้ จงึ จำ� เปน็ จะตอ้ ง ยคุ น้ี มียุทธศาสตร์พัฒนาขีดความสามารถด้วยเช่นเดียวกับ เพิ่มสงครามจาก Non States, เข้าสู่ยุค Hot ยุทธศาสตร์ทหารที่มี ๒ ส่วน คอื ยุทธการการใช้กำ� ลัง Peace คือ ท�ำสงครามกันในหลายๆ มิติ แต่ไม่มีการ (ขีดความสามารถ) และยุทธศาสตร์การเตรียมก�ำลัง ประกาศสงคราม ใช้ขีดความสามารถท่ีมิติของชาติท�ำ (ขดี ความสามารถ) และเช่นเดียวกับการพัฒนาขีดความ เพ่ือบรรลุเป้าหมายแห่งชาติ ตามแนวคิดความม่ันคง สามารถรว่ ม (Joint Capabilities) ของกองทพั ไทยทเี่ ปน็ องค์รวม Comprehensive Security เราพิจารณาว่า พ้ืนฐานในการจัดก�ำลัง Force Structure ในลักษณะ ทุกๆ มิติคือความมั่นคง Social สังคม Technology เดยี วกนั เรากจ็ ำ� เปน็ จะตอ้ งมยี ทุ ธศาสตร/์ แผนการพฒั นา เทคโนโลยี Economics เศรษฐกิจ Environment ท้ังขีดความสามารถเชิงบูรณาการ Collaborated สภาวะแวดล้อม Politics การเมอื ง Military การทหาร Capabilities ส�ำหรับการด�ำเนินการในงานลักษณะ ความมนั่ คงองคร์ วมเปน็ แนวคดิ ทง้ั เชงิ รกุ และ Agenda Based และขีดความสามารถเชิงเด่ียว (เช่น เชิงรบั ขดี ความสามารถทางทหาร) ส�ำหรับการดำ� เนินการงาน การใช้พลังอ�ำนาจ (ขีดความสามารถ) ต่างๆ ลกั ษณะ Function Based การประเมินวดั พลังอ�ำนาจ ของชาติ ควรพิจารณาท้ังใน เชิงพลังเชิงบูรณาการ แห่งชาติมันอาจจะไม่ได้ประโยชน์เท่าไรในการวางแผน Collaborated Capabilities และพลังเชิงมิติเดียว เชน่ ถา้ เราทราบว่านายกมพี ลงั ๑๐๐ แรงม้า มันไมช่ ่วย เรายงั ขาดองคค์ วามรใู้ นการวเิ คราะหพ์ ลงั อำ� นาจ (ขดี ความ ในการวางแผนการใชง้ านนายก แต่ถ้าเราทราบว่านายก สามารถ) เชงิ บรู ณาการ เชน่ ขดี ความสามารถทางทหาร ยกน�้ำหนกั ได้ ๕๐ กก. วงิ่ ไดว้ นั ละ ๔๐ กม. ทำ� งานได้ ร่วมกับขีดความสามารถทางการค้า เราต้องสามารถ วันละ ๑๒ ซม. ในลักษณะน้ีเราสามารถน�ำขีดความ วิเคราะห์เจาะลึกไปถึงขีดความสามารถย่อยๆ ในแต่ละ สามารถต่างๆ ไปวางแผนการใช้งานได้ ประเทศชาติ ดา้ นของ STEEP-M เพอ่ื ใหส้ ามารถวางยทุ ธศาสตร/์ แผน ควรจะจดั โครงสรา้ งการบรหิ ารใหส้ อดคลอ้ งกบั ขดี ความ ไวท้ กุ ระดบั และตอ้ งพจิ ารณาขดี ความสามารถทง้ั ทส่ี รา้ ง สามารถหลกั ๆ ของชาติ เพอื่ ใหร้ บั ผดิ ชอบในการพฒั นา Hard Power และ Soft Power คำ� ถามทสี่ ำ� คญั อะไรคอื และใช้ขีดความสามารถนั้นๆ ในลักษณะ Single Command อ้างอิง:- เจดิ วธุ คราประยรู , พล.อ. : การสมั มนาวิชาการ “การประเมนิ กำ� ลังอ�ำนาจของชาติ เพอื่ ประกอบการจัดท�ำโครงการสำ� คญั ด้านความม่ันคง” ณ โรงแรม Novotel ประตูน�้ำ (๕ ส.ค. ๖๓) นติ ยสารพลาธปิ ตั ย์ ปี ท่ี ๖๔ ฉบบั ท่ี ๒ เดือนพฤษภาคม - สิงหาคม ๒๕๖๔ 55

กทอกุ งมทิตัพิสบนกบั ระสดนมสนุ รรรฐัพบก�ำาลลัง พร้อมชว่ ยประชาชนให้ข้ามผา่ นสถานการณ์โควดิ -๑๙ ไปอยา่ งปลอดภัย ต้ั งแต่ชว่ งปลายปี ๒๕๖๒ ท่เี รม่ิ มกี ารแพร่ ผู้พันชมพู่ จากทุกกองทัพภาค ปฏิบัติภารกิจป้องกันการแพร่ ระบาดของโรคตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนา ๒๐๑๙ ระบาดของ COVID-19 สนับสนุนตามมาตรการของ กองทัพบกได้ร่วมสนับสนุนการท�ำงานของภาครัฐ และ ศบค. เพ่อื ป้องกนั การแพร่ระบาดของโควิด ทสี่ อดคล้อง สาธารณสุขเพ่ือยับย้ังการแพร่กระจายเช้ือ COVID-19 กับสถานการณ์ ด�ำเนินการเฝ้าตรวจลาดตระเวนแนว อย่างต่อเน่ือง ซ่ึงรัฐบาล และ ศบค. ได้บริหารจัดการ ชายแดนทงั้ ทางบกและทางนำ�้ ตลอด ๒๔ ชว่ั โมง ปอ้ งกนั และคลคี่ ลายผลกระทบในทกุ ดา้ นอยา่ งเปน็ ระบบภายใต้ การลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายและไม่ผ่านการ การสนับสนุนของทุกส่วนงาน เพื่อบรรเทาปัญหาท่ีเกิด คัดกรอง, บูรณาการร่วมกับฝ่ายปกครองในพ้ืนท่ีต้ัง ขึ้นให้ประชาชนไดร้ ับผลกระทบน้อยทสี่ ดุ จดุ คดั กรองบรเิ วณจุดผ่านแดน จุดตรวจสายตรวจ และ สถานกักกนั เพอ่ื เฝา้ ระวังป้องกันควบคุมโรค ภารกิจส�ำคัญที่กองทัพบกด�ำเนินการมาตลอด คือการป้องกันแนวชายแดนของประเทศไทย โดยใช้ เม่ือเริ่มมกี ารระบาดในต้นปี ๒๕๖๓ กองทพั บก ศักยภาพของยุทโธปกรณ์ เครื่องมือ และก�ำลังพล ไดร้ บั มอบใหป้ ฏบิ ตั ภิ ารกจิ ควบคมุ โรค ณ พนื้ ทกี่ กั กนั โรค สกดั กน้ั การนำ� เขา้ เชอ้ื จากตา่ งประเทศในทกุ ชอ่ งทาง ซงึ่ แห่งรฐั (State Quarantine) และพ้ืนทก่ี กั กนั โรคระดับ กองทัพบกได้จัดก�ำลังพลประมาณ ๓,๐๐๐ นาย/วัน ท้องถ่ิน (Local Quarantine) โดยพ้ืนที่กักกันโรค 56 นิตยสารพลาธปิ ัตย์ ปี ท่ี ๖๔ ฉบบั ท่ี ๒ เดือนพฤษภาคม - สงิ หาคม ๒๕๖๔

แหง่ รฐั นนั้ กองทพั บกไดส้ ง่ ชดุ คดั กรองชดุ ปฐมพยาบาล เรือนจ�ำกลางเชียงใหม่ หลังเกิดการแพร่ระบาดในกลุ่ม และชุดรักษาความปลอดภัย ดูแลผู้เข้าสังเกตอาการ ผู้ต้องขังแรกรับ กองทัพบกส่งทีมปฏิบัติการฉุกเฉินทาง ร ว ม ท้ั ง ไ ด ้ จั ด ก� ำ ลั ง ส นั บ ส นุ น ท ่ า อ า ก า ศ ย า น แ ห ่ ง ด้านการแพทย์ พร้อมสิ่งอุปกรณ์จากโรงพยาบาล ประเทศไทยในกระบวนการควบคมุ และคดั กรองผทู้ เี่ ดนิ คา่ ยกาวลิ ะ และโรงพยาบาลสมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช ทาง ชุดคัดกรอง ณ ท่าอากาศยานนานาชาตสิ วุ รรณภมู ิ เข้าสนับสนุนการจัดต้งั โรงพยาบาลสนาม เนือ่ งจากการ และทา่ อากาศยานนานาชาติดอนเมอื งมาอยา่ งตอ่ เนือ่ ง ปฏิบัติหน้าที่ต้องใช้ท้ังด้านการแพทย์และงานด้าน ความมั่นคง โดยเม่ือเกิดการแพร่ระบาดขนาดใหญ่แบบ “คลสั เตอร”์ กองทพั บกไดจ้ ดั กำ� ลงั ทหารเขา้ ชว่ ยบรหิ าร ในส่วนของการจัดต้ัง รพ.สนาม กองทัพบกได้ จัดการและควบคุมการแพร่ระบาดในหลายคลัสเตอร์ ด�ำเนินการตามนโยบายของกระทรวงกลาโหมจัดตั้ง อาทิ จ.สมทุ รสาครท่เี กิดการระบาดในระลอกที่ ๒ โดย โรงพยาบาลสนามเพอื่ รองรบั ผตู้ ดิ เชอ้ื โควดิ -๑๙ ทอี่ าการ ไดเ้ ขา้ สนบั สนนุ การจดั ตง้ั โรงพยาบาลสนาม/ศนู ยห์ ว่ งใย ไม่รุนแรง หรือกักตัวเพ่ือสังเกตอาการ เป็นการช่วย คนสาคร ๙ แห่ง บริหารจัดการพ้ืนท่ี รักษาความ ลดภาระของโรงพยาบาลสาธารณสุข โดยใช้สถานท่ี ปลอดภัย, จุดตรวจจุดสกัด จัดระเบียบการรับวัคซีน จน ภายในหนว่ ยทหาร สง่ิ อปุ กรณท์ ม่ี ี รวมถงึ กำ� ลงั พล จดั ตงั้ สถานการณท์ ่ี จ.สมทุ รสาครดขี ้นึ เปน็ ล�ำดับ รวมถึงพน้ื ท่ี โรงพยาบาลสนามสนับสนุนรัฐบาล จ�ำนวน ๒๑ แห่ง สามารถรองรบั ได้ ๓,๓๕๐ เตยี ง อาทิ กรมทหารปนื ใหญ่ ต่อสู้อากาศยานที่ ๑, มณฑลทหารบกท่ี ๑๑, กรม พลาธิการทหารบก, ศูนย์การทหารราบ, กองพันทหาร ราบท่ี ๑ กรมทหารราบที่ ๑๕, กองพลทหารราบที่ ๑๕, กองพันทหารราบท่ี ๓ กรมทหารราบที่ ๕, กองพัน เสนารักษ์ท่ี ๑ เป็นต้น นอกจากน้ันได้จัดเตรียมโรง พยาบาลสนามสนับสนุนโรงพยาบาลสังกัดกองทัพบก เพ่ิมเติมไว้อีกส่วนหน่ึงเป็นการเฉพาะ ในเขตพ้ืนท่ี กรุงเทพฯ จ�ำนวน ๒ แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลสนาม กองทพั บก (เกยี กกาย) และโรงพยาบาลสนามกองทพั บก (กรมยุทธศึกษาทหารบก) ซึ่งบริหารจัดการโดย นติ ยสารพลาธปิ ัตย์ ปี ท่ี ๖๔ ฉบบั ท่ี ๒ เดือนพฤษภาคม - สิงหาคม ๒๕๖๔ 57

รพ.พระมงกุฎเกล้า และโรงพยาบาลสนามในพื้นท่ี ย้ายผู้ติดเชื้อในพน้ื ท่ี กทม. และปรมิ ณฑลจากบ้านไปยัง กองทัพภาครวม ๓๖ แห่ง สามารถรองรับผู้ป่วยได้ โรงพยาบาลสนามหรอื โรงพยาบาลหลกั โดยประสานการ ๓,๕๓๘ เตียง ปฏิบัติร่วมกับสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน ศูนย์เอราวัณ, ศนู ยน์ เรนทร และศนู ยแ์ รกรบั ผปู้ ว่ ย ตง้ั แต่ ๒๗ เม.ย. ๖๔ กองทพั บกยงั ไดร้ ะดมศกั ยภาพทกุ มติ ิ สนบั สนนุ และเม่ือ ๓ พ.ค. ๖๔ ได้จัดตัง้ “ศนู ย์ประสานงานต้าน ก�ำลังพลในการก่อสร้าง การจัดเตรียมสถานที่ ช่วยขน ภยั โควดิ ทบ.” ทำ� หนา้ ทเ่ี ปน็ สอื่ กลางประสานขอ้ มลู และ ย้ายสิ่งอุปกรณ์ เพื่อจัดต้ัง รพ.สนาม ของส่วนราชการ ความชว่ ยเหลอื ใหก้ บั ประชาชน ผตู้ ดิ เชอ้ื หรอื ครอบครวั กทม. และจงั หวดั อนื่ ๆ ทวั่ ประเทศ พรอ้ มกบั ไดส้ นบั สนนุ ในการใหข้ อ้ มลู เกยี่ วกบั โรคโควดิ -๑๙, การรับ-ส่งผู้ปว่ ย, สง่ิ อปุ กรณ์ เตยี ง, เครอ่ื งนอนจากกรมพลาธกิ ารทหารบก การเคลอื่ นยา้ ยศพผเู้ สยี ชวี ติ จากโรคโควดิ ไปประกอบพธิ ี ให้กับโรงพยาบาลสนามประจ�ำจังหวัด ๒๐ แห่งเป็น ยงั ฌาปนสถาน โดยสามารถตดิ ตอ่ ขอรบั การชว่ ยเหลอื ได้ จ�ำนวน ๔,๔๒๑ ชุด รวมถงึ การช่วยเหลืออ่ืนๆ เมอ่ื ไดร้ บั หมายเลขโทรศัพท์ ๐๒-๒๗๐-๕๖๘๕-๙ ตลอด การรอ้ งขอ ๒๔ ชวั่ โมง ประกอบกับกองทัพบกได้จัดต้ัง “ศูนย์ควบคุม สำ� หรบั การชว่ ยเหลอื ประชาชนทไ่ี ดร้ บั ผลกระทบ การเคลื่อนย้าย ศูนย์ปฏบิ ตั ิการแก้ไขสถานการณ์ฉกุ เฉิน จาก COVID-19 กองทัพบกได้สนับสนุนทุกภาคส่วน ด้านความมั่นคงกองทัพบก” สนับสนุนยานพาหนะ มาอยา่ งตอ่ เนอื่ ง โดยเฉพาะการดแู ลพนื้ ทสี่ าธารณะ เชน่ พร้อมก�ำลังพลประจ�ำรถที่ผ่านการฝึกอบรมการเคล่ือน ชุมชน วัด สถานศึกษา โดยจัดก�ำลังพลจิตอาสาเข้า ฉีดพ่นน้�ำยาฆ่าเช้ือโรค และจัดกิจกรรม Big cleaning ท�ำความสะอาดพร้อมปรับภูมิทัศน์ของสถานที่ส่วนรวม ให้มีความสะอาดปลอดภัยลดการสะสมและการแพร่ ระบาดของเชอ้ื โรคโดยจะมกี ารกำ� หนดแผนงานตามหว้ ง ระยะเวลาร่วมกับทางชมุ ชน โรงเรียน เพ่ือคงมาตรการ ป้องกันไว้อย่างต่อเน่ืองจนกว่าสถานการณ์การแพร่ ระบาดจะคลีค่ ลาย 58 นติ ยสารพลาธปิ ัตย์ ปี ท่ี ๖๔ ฉบับท่ี ๒ เดอื นพฤษภาคม - สงิ หาคม ๒๕๖๔

พร้อมจัดชุด “Army Delivery” ส่งมอบ การแพร่ระบาดของโรคและความเข้าใจในแนวทางการ หนา้ กากอนามยั เจลแอลกอฮอล์ อาหารปรุงสกุ รวมถึง ใหว้ คั ซนี โควดิ -๑๙ ทร่ี ฐั บาลกำ� ลงั ดำ� เนนิ การอยู่ เนอื่ งจาก สงิ่ ของอปุ โภคบรโิ ภคถงึ บา้ น บรกิ ารงานชา่ ง ตดั ผม ตรวจ ขณะน้ีได้เร่ิมเข้าสู่การฉีดวัคซีนให้กับประชาชนตามการ สุขภาพ จดั ท�ำตู้ปนั สขุ บริการถึงที่ พร้อมกบั นำ� รถครัว บรหิ ารจดั การวคั ซนี ของ ศบค. และ สธ. ซง่ึ การฉดี วคั ซนี สนามไปประกอบอาหารปรงุ สกุ แจกจา่ ยใหก้ บั ประชาชน เปน็ หนง่ึ ในมาตรการปอ้ งกนั การแพรร่ ะบาด โดยกองทพั บก ในชมุ ชนพน้ื ทต่ี า่ งๆ เพอื่ บรรเทาความเดอื ดรอ้ นและดแู ล ได้ใช้การส่ือสารทุกช่องทางท้ังภายในองค์กรและ ชว่ ยเหลอื ในขนั้ ตน้ รวมถงึ ไดม้ กี ารแจกจา่ ยอาหารเครอื่ ง การส่ือสารกับประชาชนให้มีความรู้ความเข้าใจทันต่อ อุปโภคบริโภคที่จ�ำเป็นตลอดจนผลผลิตทางการเกษตร ข้อมูลข่าวสาร สามารถเข้าร่วมและได้รับประโยชน์จาก ของหนว่ ยทหารในโครงการทหารพนั ธด์ุ ,ี โครงการเกษตร โครงการฉีดวคั ซนี ของรฐั บาลอย่างเตม็ ท่ี ทฤษฎีใหม่ และศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ผ่าน “รถปันสุข” ส่งถึงท่ีพักอาศัยโดยเฉพาะพื้นที่ที่มีการ นอกจากน้ี กองทัพบกได้ด�ำเนินโครงการ ระบาด และประชาชนไม่สามารถเดินทางมารับเองได้ “บริจาคโลหิต จิตอาสาเพื่อชาติ” เชิญชวนก�ำลังพล เป็นการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจ�ำวัน ควบคู่ จติ อาสา ครอบครวั ตลอดจนทหารกองประจำ� การทร่ี า่ งกาย กับการรับซื้อผลผลิตและวัตถุดิบทางการเกษตรจาก มคี วามพรอ้ ม มจี ติ เสยี สละเพอ่ื สว่ นรวม รว่ มบรจิ าคโลหติ เกษตรกรในพ้ืนท่ีใกล้เคียงที่ได้รับผลกระทบไม่มีตลาด ให้กับสภากาชาดไทยและสถานพยาบาลทั่วประเทศ รบั ซอ้ื เกดิ ความลา่ ชา้ ในการระบายผลผลติ และการขนสง่ ซง่ึ ดำ� เนินการมาตง้ั แต่ ม.ค. ๖๔ จนถงึ ปจั จบุ ันสามารถ เพอ่ื นำ� มาประกอบเลย้ี งใหก้ บั กำ� ลงั พลในหนว่ ยพรอ้ มสง่ สำ� รองโลหติ ไดแ้ ลว้ ๒๐ ลา้ นซซี ี โดยจะยงั คงเพม่ิ จำ� นวน ต่อแจกจา่ ยใหก้ บั ชมุ ชนรอบคา่ ย การบรจิ าคโลหติ ใหส้ งู ขนึ้ เพอื่ รองรบั การดแู ลผปู้ ว่ ยจาก โควดิ ระลอกใหมน่ ้ี กองทัพบกได้จัดชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือน มวลชนเครือข่าย ของหน่วยทหารในพื้นท่ีออกรณรงค์ ในขณะเดียวกันกองทัพบกได้อนุเคราะห์ ตามชุมชน สถานทส่ี าธารณะ แหลง่ ทีม่ ผี ู้คนมาใชบ้ รกิ าร ฌาปนสถานของกองทัพบก ได้แก่ วัดอาวุธวิกสิตาราม เป็นจ�ำนวนมาก เพื่อสร้างการรับรู้เก่ียวกับการป้องกัน เขตบางพลดั , วดั โสมนสั วรวหิ าร เขตปอ้ มปราบศตั รพู า่ ย, วดั ศริ ิพงษธ์ รรมนมิ ิต เขตบางเขน และในสว่ นของพนื้ ที่ นิตยสารพลาธิปตั ย์ ปี ท่ี ๖๔ ฉบบั ท่ี ๒ เดอื นพฤษภาคม - สงิ หาคม ๒๕๖๔ 59

ภมู ภิ าคของพน้ื ทกี่ องทพั ภาคที่ ๒ อกี ๑ แหง่ คอื วดั สทุ ธ- แผนการจดั สรรในแตล่ ะจงั หวดั อยา่ งเตม็ ที่ เพอ่ื รว่ มสรา้ ง จินดาวรวิหาร อ.เมือง จ.นครราชสีมา รวมทั้งหมด ๔ ภูมิคุ้มกันให้ประชาชน ตามมาตรการป้องกันโรค และ แห่ง ในการประกอบพิธีทางศาสนาฌาปนกิจแก่ผู้เสีย ช่วยคลี่คลายสถานการณ์โควิดของประเทศไทยให้กลับ ชวี ติ จากโควิด-๑๙ โดยไมเ่ สยี คา่ ใช้จา่ ยใดๆ ท้ังสนิ้ โดย มาสู่ปกติได้ในท่ีสุด โดยโรงพยาบาลกองทัพบกทุกแห่ง ฌาปนสถานของกองทัพบกนั้นมีความพร้อมและ ทั่วประเทศ ได้ใช้ก�ำลังพลสายแพทย์ ๙๕๐ นาย สามารถปฏิบัติได้ตามมาตรการป้องกันและควบคุมการ สนับสนุนหน่วยงานสาธารณสุขและโรงพยาบาลประจ�ำ แพร่ระบาดของโควิด-๑๙ ได้ตามมาตรฐานกระทรวง จงั หวัด รว่ มในการฉดี วัคซีนใหป้ ระชาชน พร้อมจัดบุคลากร สาธารณสุข และหากครอบครัวมีความประสงค์จะ ส�ำรองท่ีเคยปฏิบัติงานสายแพทย์ เข้าสนับสนุนการฉีด ประกอบพิธีฌาปนกิจในศาสนสถานของกองทัพบก วคั ซนี ใหก้ บั ประชาชนในโรงพยาบาลสงั กดั ในกองทพั บก สามารถติดต่อผ่านศูนย์ประสานงานต้านภัยโควิด ทบ. เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของบุคลากรด่านหน้า ท้ังนี้เพ่ือเป็นการลดภาระ และคลายความเดือดร้อนให้ นอกจากนี้ กองทพั บกยงั ไดส้ นบั สนุนสถานท่ีทใ่ี ชใ้ นการ กับครอบครัวผู้ติดเช้อื โดยต้ังแตว่ นั ที่ ๔ พ.ค. ๖๔ จนถงึ ฉดี วคั ซนี จำ� นวน ๓๘ แหง่ ทง้ั ทเี่ ปน็ โรงพยาบาลคา่ ยหรอื ปัจจุบันได้ให้การอนุเคราะห์พิธีฌาปนกิจศพแก่ อาคารของหน่วยทหารตามจังหวดั ตา่ ง ๆ รวมท้ังการจัด ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากการติดเช้ือไปแล้ว ๑๖๗ ราย ก�ำลังพลจิตอาสาช่วยอ�ำนวยความสะดวกให้ประชาชน และจะยังคงอนุเคราะห์ฌาปนสถานต่อไปจนกว่า ท่มี ารบั วัคซนี อกี ด้วย สถานการณจ์ ะคลี่คลาย ทั้งน้ี กองทัพบกได้ให้ความส�ำคัญกับการ สบื เนอื่ งจากการทร่ี ฐั บาลไดป้ ระกาศแผนการให้ ควบคมุ การแพรร่ ะบาดของโควดิ -๑๙ ดว้ ยการเฝา้ ระวัง บริการวัคซีนโควิด-๑๙ เป็นวาระแห่งชาติ และมี และค้นหาผู้ติดเช้ือเชิงรุก ล่าสุดได้เตรียมจัดหารถเก็บ ก�ำหนดการฉีดวัคซีนให้ประชาชนท่ีลงทะเบียนในระบบ ตัวอยา่ งชีวนริ ภยั รถปฏบิ ัติการตรวจเชอ้ื เคล่อื นท่ี และ “หมอพร้อม” เริม่ ในวันที่ ๗ มิ.ย. ที่ผา่ นมา กองทพั บก เครื่องมือแพทย์ท่ีจ�ำเป็นในการตรวจหาเชื้อ โควิด-๑๙ โดย กรมแพทยท์ หารบก เตรยี มการและประสานงานกบั เพ่ือให้การวิเคราะห์ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ สาธารณสุขเพื่อร่วมด�ำเนินการฉีดวัคซีนดังกล่าวตาม สามารถด�ำเนินได้อย่างรวดเร็ว โดยมีแผนมอบให้ กรมการแพทย์ทหารบก น�ำไปใช้ในการตรวจหาเช้ือให้ กับก�ำลังพลและประชาชนกลุ่มเสี่ยง เป็นการเพิ่ม ประสทิ ธภิ าพการปอ้ งกนั และควบคมุ โรคโควดิ -๑๙ ไมใ่ ห้ แ พ ร ่ ร ะ บ า ด แ ล ะ ส า ม า ร ถ อ อ ก ม า ต ร ก า ร ค ว บ คุ ม สถานการณไ์ ด้อย่างทันทว่ งที จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเช้ือไวรัส โคโรนา ๒๐๑๙ ในครั้งน้ี กองทัพบกได้ระดมสรรพก�ำลงั ใช้ศักยภาพทางทหารและทรัพยากรที่มีอยู่ ท้ังก�ำลังพล สิ่งอุปกรณ์ ยุทโธปกรณ์เพื่อสนับสนุนทุกภาคส่วน คล่ีคลายสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคอุบัติใหม่ท่ี ถือเป็นภัยคุกคามของมวลมนุษยชาติอย่างเต็มขีดความ สามารถ ท้ังนี้ ขอให้มั่นใจว่าก�ำลังพลทุกนายของ กองทัพบก จะเสียสละทุ่มเทแรงกายแรงใจ ช่วยเหลือ อ�ำนวยความสะดวก ตลอดจนอยู่เคียงข้างพี่น้อง ประชาชน ให้ผ่านพ้นวิกฤตการณ์ครั้งน้ีไปอย่าง ปลอดภยั .......................๑๕ มถิ ุนายน ๒๕๖๔ 60 นติ ยสารพลาธิปัตย์ ปี ท่ี ๖๔ ฉบบั ท่ี ๒ เดอื นพฤษภาคม - สงิ หาคม ๒๕๖๔

บทเรยี นของ โควดิ -๑๙ และแผนรบั มอื โรคอบุ ัติใหม่ในอนาคต บ ทเรียนของโควิด-๑๙ และแผนรับมือ พลเอก สมศกั ด์ิ รงุ่ สติ า อดตี เลขานกุ ารสภาความม่นั คงแหง่ ชาติ โรคอุบตั ิใหม่ในอนาคต การแพร่ระบาด (๑ ต.ค. ๖๒ - ๓๐ ก.ย. ๖๓) ของ COVID-19 ถือว่าเป็นโรคอุบัติใหม่ท่ีส่งผลกระทบ ตอ่ ความปลอดภยั ในชวี ติ ของประชาชนทกุ คนอยา่ งหลกี สำ� หรบั ประเทศไทยไดร้ บั ผลกระทบอยา่ งหลกี เลี่ยงไม่ได้ และยังสร้างความไม่แน่นอนต่อความมั่นคง เลี่ยงไม่ได้ต่อวิกฤตครั้งนี้ การระบาดของโรคติดเชื้อ เศรษฐกจิ และสงั คม โดยเฉพาะผลกระทบตอ่ การดำ� เนนิ COVID-19 เป็นศัตรทู มี่ องไม่เหน็ ภยั คกุ คามดงั กล่าวซง่ึ วิถีชีวิตในแบบปกติของประชาชน จึงถือว่าเป็นภัย ไม่สามารถปอ้ งกันได้โดยอาศัยกองกำ� ลงั ของชาติ จงึ น�ำ คุกคามในรูปแบบใหม่ท่ีสร้างความเสียหายไปทั่วโลก มาสกู่ ารตดั สนิ ใจของผนู้ ำ� ประเทศ ทต่ี ดั สนิ ใจอยา่ งเฉยี บ อย่างรุนแรง ขาดด้วยการใช้กลยุทธ์ตัดไฟต้ังแต่ต้นลม เพื่อลดความ เสย่ี งในการนำ� เขา้ เชอ้ื จากตา่ งประเทศในชว่ งแรกของการ ระบาดในเดอื นมนี าคม ๒๕๖๓ โดยการตดั สนิ ใจประกาศ สถานการณ์ฉุกเฉินในทุกท้องที่ทั่วราชอาณาจักรอย่าง นิตยสารพลาธิปตั ย์ ปี ท่ี ๖๔ ฉบับท่ี ๒ เดือนพฤษภาคม - สงิ หาคม ๒๕๖๔ 61

ทันท่วงทีก่อนท่ี COVID-19 จะแพร่ระบาดจนควบคุม ซง่ึ การดำ� เนนิ การเพอ่ื ใหบ้ รรลตุ าม ไม่ไดเ้ พอ่ื รักษาชวี ิตประชาชนไทยให้ได้มากทสี่ ุด เป้าประสงค์ดังกล่าว ในระยะแรกซึ่งมี ความเรง่ ดว่ น สำ� นกั งานฯ ไดป้ รบั กลไกภาย การต่อสู้เพื่อปกป้องประชาชนครั้งนี้หลีกเล่ียง ใตแ้ ผนเตรียมพร้อมแหง่ ชาติ ให้สอดคล้อง ไม่ได้ที่จะต้องมีความเสี่ยงจะสูญเสียทางเศรษฐกิจบาง เชื่อมโยงกับแผนยุทธศาสตร์เตรียมความ สว่ น และสง่ ผลกระทบตอ่ ความมน่ั คงของประเทศอย่าง พร้อม ป้องกัน และแก้ไขปัญหาโรคติดต่อ หลกี เลย่ี งไมไ่ ด้ ถงึ แมก้ ารทำ� งานของสำ� นกั งานสภาความ ใหม่ของกรมควบคุมโรค โดยจัดให้มีระบบ ม่ันคงแห่งชาติ และส่วนราชการต่างๆ จะสามารถปรับ บรู ณาการในการบรหิ ารวกิ ฤตการณใ์ นแบบ ตัวอย่างรวดเร็วในการรับมือกับโรคอุบัติใหม่ครั้งน้ีได้ Single Command เพ่ือให้หน่วยงานที่ อย่างรวดเร็ว แต่ในอนาคตจ�ำเป็นต้องพัฒนากลไกการ เกี่ยวข้องสามารถรับมือกับวิกฤตการณ์ที่ เตรียมพร้อมต่อการรับมือกับภัยคุกคามทุกรูปแบบให้มี เกิดข้ึนได้อย่างเป็นเอกภาพและมีแนวทาง ประสิทธภิ าพมากยิ่งขึน้ ปฏิบัติงานได้ในทิศทางเดียวกัน รวมทั้ง ด�ำเนินการพัฒนากฎหมายท่ีเกี่ยวข้องเพ่ือ ให้ครอบคลุมประเด็นการรับมือโรคติดต่อใหม่ท่ีรวมถึง โรคอุบัติใหม่และโรคอุบัติซ้�ำ โดยให้ความส�ำคัญกับการ ด�ำเนินการในเชิงป้องกันท่ีมุ่งเน้นการรักษาความ ปลอดภัยของประชาชนเปน็ หลัก ในระยะต่อไป สมช. จะหารอื รว่ มกับหน่วยงาน ความมั่นคงเพ่ือปรับแผนแม่บทรองรับยุทธศาสตร์ชาติ ดา้ นความมน่ั คง และนโยบายและแผนระดบั ชาตวิ า่ ดว้ ย ความม่ันคงแห่งชาติ โดยจะศึกษาการเตรียมพร้อม เกี่ยวกับกลไกในการรักษาความม่ันคงทางเศรษฐกิจ (Economic Security) ควบคไู่ ปกบั ประเดน็ ความมน่ั คง ของมนุษย์ (Human Security) ซ่ึงปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็น ปจั จัยความสำ� เรจ็ ในการรบั มอื COVID-19 คือความสมดุลระหว่างการรักษาความ มนั่ คงและการขบั เคลอ่ื นระบบเศรษฐกจิ ให้ ไปไดพ้ ร้อมๆ กนั การร่วมมือกันแสวงหาแนวทาง เพอื่ ดำ� รงวถิ ชี วี ติ ตอ่ ไปตามแนวทางของฐาน วถิ ชี ีวติ ใหม่ (New Normal) จะสง่ ผลดีกบั ประเทศชาติ ประชาชน และระบบเศรษฐกจิ ให้มีความย่ังยืน ม่ันคง และมีเสถียรภาพ รวมท้ังมีความพร้อมท่ีจะรับมือกับภัย คกุ คามในรูปแบบใหมๆ่ ทอี่ าจจะเกดิ ขน้ึ ได้ ในอนาคตไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพอกี ดว้ ย 62 นิตยสารพลาธปิ ตั ย์ ปี ท่ี ๖๔ ฉบบั ท่ี ๒ เดือนพฤษภาคม - สงิ หาคม ๒๕๖๔

จสา่วูกิถกาีชรวี ทิต�ำงกาานรททอ่ี อ�ำฟงาฟนิศ ท่บี ้าน (Work form Home) โดย พฒุ ติ า สื บเนอ่ื งจากการแพร่ระบาดของเช้อื ไวรสั กรณีอาจจะใช้เวลาในการฟักตวั ท่นี านกวา่ นัน้ หรอื อาจ จะมเี ช้อื ไวรสั อยแู่ ต่ไม่แสดงอาการกม็ ี โคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) สง่ ผลกระทบ อยา่ งมากตอ่ วถิ ชี ีวติ ความเปน็ อยขู่ องคนไทย ตง้ั แต่ต้นปี อาการของเชอื้ ไวรสั โคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ๒๕๖๓ โดยจดุ กำ� เนดิ ของเชอื้ ไวรสั เรม่ิ ตน้ จากประเทศจนี มคี วามคลา้ ยคลงึ กบั อาการของไขห้ วดั ใหญ่ หรอื ไขเ้ ลอื ด ณ เมืองอฮู่ น่ั มณฑลหูเปย่ ท่ตี ลาดคา้ สัตว์ป่าหรอื ตลาด ออก คอื มไี ขส้ งู ตง้ั แต่ ๓๗.๕ องศาเซลเซยี สขน้ึ ไป ไอ จาม ขายอาหารทะเล และได้แพรก่ ระจายเปน็ วงกว้างอย่าง เจ็บคอ ปวดหัว อ่อนเพลีย หรืออาจปวดเม่ือยร่างกาย รวดเร็วจากภายในเมืองสู่นอกประเทศ โดยมี สาเหตุจากการเดินทางท่องเท่ียวหรือกลับ ภูมิล�ำเนาของประชากรในพ้ืนท่ีเสี่ยง ท�ำให้เกิด การแพร่เชื้อโดยท่ีตนเองไม่ทราบว่า ภายใน รา่ งกายมีเช้ือไวรัสอยู่ เช้อื ไวรสั โคโรนา ๒๐๑๙ สามารถติดต่อ จากคนสคู่ นได้ โดยสมั ผสั กบั ละอองฝอยจากการ ไอหรือการจาม ผ่านทางนำ้� ลาย น�้ำมูกของผู้ติด เช้ือ โดยมีระยะเวลาในการฟักตัว ๒ - ๑๔ วัน หลงั จากนน้ั รา่ งกายจึงจะแสดงอาการ แตใ่ นบาง นิตยสารพลาธิปัตย์ ปี ท่ี ๖๔ ฉบับท่ี ๒ เดอื นพฤษภาคม - สงิ หาคม ๒๕๖๔ 63

ด้วยอาการที่กล่าวมาข้างต้นท�ำให้ใครอาจเกิดค�ำถาม การป้องกันความเส่ียงในการแพร่ระบาด ภายในใจว่า เราติดโควิดหรือยังนะ ? เน่ืองจาก เชอ้ื ไวรัสโควดิ -๑๙ สถานการณ์ในช่วงต้นปี เช้ือไวรัสตัวนี้ยังไม่มีวัคซีนท่ีใช้ ในการรกั ษา มเี พยี งการรักษาตามอาการเท่านน้ั การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) นบั เป็นสถานการณ์ทีเ่ กดิ ขนึ้ จากการเดนิ ทางของนักท่องเท่ียวหรือผู้อาศัยในพื้นท่ีเส่ียงการแพร่ ระบาดนอกประเทศเข้าสภู่ ายในประเทศ โดยทผี่ ้ตู ดิ เชื้อ ไม่รู้ตัว และได้แสดงอาการระหว่างอยู่ภายในประเทศ พรอ้ มเขา้ รับการรกั ษาในโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้เคียง เม่ือ มกี ารพบผตู้ ดิ เชอ้ื จงึ เกดิ การสอบสวนโรค ตรวจสอบ ไทม์ ไลน์ (Timeline) เพ่ือลดการแพรเ่ ชอ้ื เปน็ วงกวา้ ง หรอื ที่ เรยี กวา่ Super Spread (การระบาดของโรคเปน็ วงกวา้ ง) แต่ถึงกระน้ันเพียงแค่การตรวจสอบไทม์ไลน์เพียงอย่าง เดียวคงไม่พอ เพ่ือป้องกันไม่ให้เช้ือนั้นลุกลามไปทั่ว ประเทศอย่างรวดเร็ว จึงได้มีมาตรการป้องกันเช้ือไวรัส โคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) เกดิ ขึน้ ๑. การกักกันโรค กลมุ่ คนทเี่ ดนิ ทางเขา้ มาภายในประเทศหรอื เดนิ ทางข้ามจังหวัดท่ีอยู่ในพ้ืนท่ีเสี่ยงต้องมีการกักตัวอย่าง น้อย ๑๔ วนั ในสถานท่ีที่ทางภาครัฐจดั เตรียมไวใ้ ห้ เพือ่ ตรวจสอบอาการของเชอื้ ไวรสั โคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ๒. ควบคมุ การเดนิ ทางเขา้ ออกภายในประเทศ และนอกประเทศ การควบคมุ นจ้ี ะชว่ ยลดการนำ� เชอ้ื เขา้ สปู่ ระเทศ การคัดกรอง สอบถามประวัติจากผู้ท่ีเดินทางมาใน 64 นิตยสารพลาธิปตั ย์ ปี ท่ี ๖๔ ฉบับท่ี ๒ เดือนพฤษภาคม - สงิ หาคม ๒๕๖๔

พ้ืนที่เสี่ยง หรือการออกนโยบายไม่ให้มีการเดินทาง สถานประกอบการส่วนใหญ่ได้มีมาตรการจ�ำกัดจ�ำนวน เข้ามาของนักท่องเท่ียวหรือผู้ที่พ�ำนักอยู่ในประเทศท่ี คนทนี่ งั่ ในรา้ น หรอื รองรบั เพยี งแคก่ ารสง่ั เดลเิ วอรเ่ี ทา่ นนั้ เปน็ กลมุ่ เสยี่ งเขา้ มา หากตอ้ งเขา้ ประเทศอาจตอ้ งมกี ารทำ� และในบางสถานท่ีท่ีสุ่มเส่ียงกับการพบเจอกลุ่มคน เรอ่ื งรอ้ งขอตอ่ ภาครฐั เพอ่ื ดำ� เนนิ การตามแนวทางปฏบิ ตั ิ หนาแน่น ก็มีการจ�ำกัดจ�ำนวนคนเช่นกัน ของภาครัฐต่อไป ๖. สถานประกอบการทุกแหง่ ตอ้ งมีมาตรการ ๓. ประชาชนทกุ คนต้องใสห่ นา้ กากอนามยั ปอ้ งกันและควบคุมโควิด-๑๙ ท่ชี ดั เจน เพราะเช้ือโควิด-๑๙ สามารถได้รับผ่านทาง ละอองฝอยจากการจามหรือไอ ท�ำให้ทางภาครัฐได้มี ทกุ สถานประกอบการตอ้ งมกี ารคดั กรองลกู คา้ การขอความรว่ มมอื ประชาชนทอี่ อกจากทพี่ กั อาศยั ของ กอ่ นเข้าร้าน ตามนโยบายทท่ี างภาครฐั ได้ก�ำหนดไว้ เช่น ตนเอง ใหส้ วมใสห่ นา้ กากอนามยั ทกุ ครงั้ เพอื่ ปอ้ งกนั การ การตรวจวัดอุณหภูมิ การรักษาระยะห่าง การสวมใส่ สมั ผัสเช้ือจากการพบปะผู้คน หน้ากากอนามัย หรือแม้กระทั่งการงดขายเคร่ืองด่ืม ๔. การเว้นระยะหา่ งทางสงั คม แอลกอฮอล์ เป็นตน้ การยืนใกล้ชิดกันย่อมมีความเสี่ยงท่ีเราจะได้ รบั เชอ้ื ไดง้ า่ ยขน้ึ การเวน้ ระยะหา่ งจงึ เปน็ อกี หนง่ึ ทางออก ๗. การทำ� ความสะอาดพนื้ ทใ่ี นสถานประกอบการ ท่ีจะช่วยลดความเสี่ยงนั้นได้ โดยควรยืนห่างจากผู้อ่ืน ภาครัฐได้มีมาตรการก�ำหนดให้มีการท�ำความ มากกวา่ ๒ เมตร สะอาดพื้นท่ีเส่ียงต่อการแพร่เชื้อในสถานประกอบการ ๕. จำ� กดั จำ� นวนคนในพื้นที่ ทุก ๒ ช่ัวโมง และต้องท�ำความสะอาดบริเวณท่ีมีผู้คน การอยู่ในท่ีที่เต็มไปด้วยผู้คนนั้น สุ่มเสี่ยงเป็น สัมผสั เป็นจ�ำนวนมาก พรอ้ มท้ังเตรียมอุปกรณ์ท�ำความ อย่างมากต่อการสัมผัสเชื้อโดยที่เราไม่รู้ตัว ซึ่งตาม สะอาดใหพ้ รอ้ ม เพอ่ื ลดความเสยี่ งทเ่ี ชอ้ื ไวรสั อาจตกคา้ ง ตามผิวสัมผสั ของสงิ่ ของทผ่ี ใู้ ช้บรกิ ารอาจต้องสัมผัส ที่มาของภาพ : Facebook : news.thaipbs.or.th ๘. ลงทะเบียนเข้าออกสถานประกอบการ ทุกคร้งั เพื่อตรวจสอบความเคล่ือนไหวของผู้ท่ีมี ความเส่ยี งทส่ี มั ผัสกบั ผตู้ ิดเชอื้ ทางภาครัฐได้มีการสร้าง แอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” ข้ึนมา หากพบว่าผู้ใช้ แอปพลเิ คชนั อยใู่ นพนื้ ทเี่ สย่ี ง จะมขี อ้ ความเขา้ แจง้ เตอื น เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้ารับการตรวจได้ฟรี โดยท้ังนี้ เรา สามารถพบเห็นใช้ QR CODE ไทยชนะได้ทุกสถาน ประกอบการท่ีต้องมีการเก็บข้อมูลของผู้เข้าออกตลอด เวลา แตห่ ากไม่ใช้ QR CODE สำ� หรบั สแกน ทางสถาน ประกอบการตอ้ งเตรยี มความพรอ้ มใหล้ กู คา้ กรอกขอ้ มลู บางส่วน เพื่อใช้ในการแจ้งเตือนหากเกิดความเส่ียงใน การสมั ผสั กบั เช้ือไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) แม้ทางภาครัฐจะออกมาตรการต่างๆ เพ่ือ ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) แต่ส่ิงท่ีขาดไม่ไดเ้ ลยคอื ความร่วมมือจาก ภาคประชาชน และหนว่ ยงานเอกชน ท่ีตอ้ งปฏบิ ัตติ าม แนวทางทภี่ าครฐั ไดข้ อความรว่ มมอื ไว้ หากมกี ารเพกิ เฉย หรือไม่ปฏิบัติตาม ผลที่ได้อาจน�ำไปสู่การแพร่เป็น วงกว้างกเ็ ป็นได้ นติ ยสารพลาธิปัตย์ ปี ท่ี ๖๔ ฉบับท่ี ๒ เดอื นพฤษภาคม - สงิ หาคม ๒๕๖๔ 65

ปรับเปล่ียนวิถีชีวิตจากเดินทางต้องท�ำงาน ในการท�ำงาน ท�ำให้เราท�ำงานโดยไม่ไหลไปกับเวลา อยู่บ้าน เรอื่ ยๆ จนเกิดการเสียสมดุลไป และยงั ทำ� ใหเ้ ราอาจไม่มี สมาธิในการท�ำงานอกี ดว้ ย ไม่ใช่เพียงแค่สถานประกอบการเท่านั้นท่ีต้อง ปรับตัวตามมาตรการป้องกันและควบคุมเชื้อไวรัส ๓. เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม โคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) แต่ยังรวมถึงภาคเอกชน การท�ำงานท่ีบ้านไม่เหมือนกับการท�ำงานที่ สถานศกึ ษา และหนว่ ยงานราชการ ทม่ี กี ารออกนโยบาย ออฟฟิศ ปัจจัยหลายอย่างน้ันไม่เท่ากัน การเตรียม รองรบั ปรบั เปลยี่ นวถิ กี ารทำ� งาน จากตอ้ งเดนิ ทางไปยงั อุปกรณ์สำ� นกั งาน ปากกา สมดุ โนต้ คอมพวิ เตอร์ หรือ ออฟฟิศ เป็นการท�ำงานที่บ้าน หรือท่ีเรียกว่า Work อินเทอร์เน็ตให้พร้อมส�ำหรับการท�ำงานที่บ้านจะท�ำให้ form Home (WFH) การท�ำงานของเรานั้นเดินไปข้างหน้าได้อย่างต่อเนื่อง และลดปญั หาของงานทจี่ ะเกดิ ขน้ึ จากความผดิ พลาดของ การทำ� งานทบ่ี ้าน ถือเปน็ วถิ ชี ีวิตใหมท่ ี่ถกู สรา้ ง ความไมพ่ รอ้ มได้ ขึ้นในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ๔. สถานทีท่ �ำงานต้องมี (COVID-19) หลายคนอาจเกิดความคุ้นชิน เตรียมตัว สถานที่ท�ำงานหรือโต๊ะท�ำงานก็เป็นอีกหน่ึง ไมท่ ันกับสถานการณท์ ี่เกดิ ขน้ึ แต่ถึงกระนน้ั เราทุกคนก็ ปจั จยั ทท่ี ำ� ใหก้ ารทำ� งานทบี่ า้ นเปน็ ไปไดอ้ ยา่ งราบรนื่ ใน ต้องเรียนรู้ ปรับเปล่ียนการดำ� เนินชีวิตให้สอดคล้องกับ บางคร้ังหากเราท�ำงานในสถานท่ีที่ไม่เป็นระเบียบ และ วถิ ชี วี ิตใหม่นี้ ดงั น้ันเพ่ือใหเ้ ราสามารถผ่านมันไปได้ด้วย มสี ง่ิ ของวางระเกะระกะ อาจสง่ ผลตอ่ สมาธใิ นการทำ� งาน กัน จึงขอบอกเล่าการปรับตัวกับการท�ำงานในรูปแบบ และสร้างอันตรายในขณะหยิบจับอุปกรณ์ตอนท�ำงาน ใหม่ ดงั น้ี ด้วย ดังนั้น การจดั โตะ๊ ทำ� งานภายในบ้าน หรือในพืน้ ที่ ส่วนตวั ชว่ ยสร้างสมาธใิ นการท�ำงานมากขน้ึ ๑. ตน่ื เชา้ เปน็ ปกติ ๕. วางแผนการท�ำงานอย่างเป็นระบบ ความทไ่ี มต่ อ้ งเสยี เวลาในการเดนิ ทาง ทำ� ใหเ้ รา การวางแผนงานช่วยให้เราบริหารจัดการงานที่ สามารถตื่นสายเพ่ือเร่ิมต้นท�ำงานท่ีบ้านได้โดยไม่ต้อง เข้ามาได้อย่างเปน็ ระบบ สบื เนอ่ื งจากการทำ� งานที่บ้าน กลวั เข้างานสาย จนทำ� ใหเ้ กิดความเคยตัว และเมอื่ กลบั น้ัน เราทุกคนต่างไม่พบเจอหน้ากัน ท�ำให้การแบ่งงาน มาใชช้ วี ติ พนกั งานออฟฟศิ อกี ครง้ั อาจทำ� ใหร้ า่ งกายตอ้ ง อาจเกิดปัญหา เกิดความล่าช้า การท�ำงานไม่มี มีการปรับตัวอีกครั้ง การต่ืนนอนในเวลาปกติเหมือนที่ ประสิทธิภาพ เราจึงจ�ำเป็นต้องมีการวางแผนงาน จัด เราตอ้ งเดนิ ทางไปทำ� งานนน้ั ชว่ ยทำ� ใหร้ า่ งกายของเรามี ลำ� ดบั การทำ� งาน มกี ารอปั เดต และรายงานความคบื หนา้ การเตรยี มพรอ้ มกอ่ นจะทำ� งาน และเราอาจจะใชโ้ อกาส ของงานที่ได้รับมอบหมายให้กับเพื่อนร่วมงานและ หากิจวัตรอะไรท�ำเพม่ิ เติมกอ่ นถึงเวลางานกไ็ ด้ หวั หน้างานรับรู้แบบปจั จุบัน เพ่ือทค่ี นอืน่ จะไดส้ ามารถ ๒. ก�ำหนดเวลาท�ำงาน บริหารจัดงานในส่วนของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ การท�ำงานท่ีบ้านกับการ มากขึ้น ท�ำงานท่ีบริษทั นั้นแตกต่างกัน การ ท�ำงานท่ีบ้านท�ำให้เราเกิดความ สบายและผ่อนคลาย ด้วยสภาพ แวดล้อมรอบตัว การก�ำหนดเวลา 66 นติ ยสารพลาธปิ ัตย์ ปี ท่ี ๖๔ ฉบับท่ี ๒ เดือนพฤษภาคม - สิงหาคม ๒๕๖๔

๖. การสอื่ สารก็เป็นสิง่ สำ� คัญ สถานการณ์ที่ส่งผลเสียข้ึนจากความไม่ได้ต้ังใจของคน หากเกดิ ปญั หาระหวา่ งการทำ� งาน เราสามารถ ในครอบครัว ขอค�ำปรึกษาจากหัวหน้าหรือเพ่ือนร่วมงานได้ในทันที แต่ด้วยสถานการณ์ท่ีเราต้องท�ำงานอยู่ท่ีบ้านนั้น เราไม่ ๙. จดั การตนเอง สามารถขอความช่วยเหลือจากใครได้ทันที ดังน้ันการมี ข้อน้ีคือสิ่งที่ส�ำคัญมากที่สุดส�ำหรับการท�ำงาน แอปพลิเคชันในการติดต่อส่ือสารจึงเป็นสิ่งส�ำคัญ ท่บี า้ น อะไรทีส่ บายเกินไป จะทำ� ใหเ้ ราเคยตวั และขาด การดูความเหมาะสมของเคร่ืองมือที่ใช้นั้น ท�ำให้เรา ระเบยี บวนิ ยั การทำ� งานทบี่ า้ น มบี างอยา่ งทแ่ี ตกตา่ งจาก สามารถแจง้ ปญั หาหรอื สอบถามแนวทางไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ การท�ำงานที่ออฟฟิศ แต่สิ่งที่ไม่แตกต่างกันเลย คือ และไม่กระทบตอ่ การท�ำงานไดอ้ ยา่ งทนั ท่วงที ความรับผิดชอบ ไม่มีอะไรยืนยันว่า เราจะได้ท�ำงาน ๗. เวลาพกั ผ่อนก็จำ� เปน็ นะ ทบี่ า้ นตลอด ในเวลาหนงึ่ เมอื่ สถานการณก์ ารแพรร่ ะบาด การพักผ่อนก็เป็นสิ่งท่ีขาดไม่ได้ส�ำหรับ ของโควดิ -๑๙ นน้ั ดขี น้ึ การทำ� งานอาจมกี ารปรบั เปลย่ี น การทำ� งานทบี่ า้ น เนอื่ งจากการปรบั เปลย่ี นพฤตกิ รรมใน จากท�ำงานที่บ้าน ๕ วัน บริษัทอาจออกนโยบายให้ การทำ� งาน อาจสร้างความเครยี ดให้กบั รา่ งกาย และสง่ ท�ำงานทบ่ี รษิ ทั ๓ วนั ทำ� งานท่บี า้ น ๒ วนั หรืออาจจะ ผลเสียต่อประสิทธิภาพของงาน การหาเวลาพักใน กลับมาทำ� งานแบบปกตเิ ลย ๕ วัน ก็เปน็ ได้ การจัดการ ระหว่างการท�ำงานน้ัน ช่วยสร้างความผ่อนคลายให้กับ ตนเองนนั้ จะชว่ ยใหเ้ ราตอบสนองตอ่ การเปลย่ี นแปลงใน ร่างกาย ลดความเครียดได้ในระดับหนึ่ง อาจเดินเล่น อนาคตได้ง่ายขน้ึ รอบๆ ห้องสักหน่ึงถึงสองรอบ เพื่อให้ร่างกายได้มีการ จากทำ� งานที่ส�ำนักงานส่กู ารท�ำงานทีบ่ า้ น และ ขยบั เขยือ้ น หรอื อาจพักสายตาสกั ๑๐ - ๑๕ นาที และ กลบั ไปท�ำงานปกตอิ กี ครง้ั นับเป็นพฤตกิ รรมใหม่ท่ีตอ้ ง ค่อยกลบั ไปนัง่ ทำ� งานก็ได้ ใชเ้ วลาในการปรบั ตวั ค่อยๆ เรยี นรู้ หรอื หาวิธีรบั มอื ลด ๘. ต้ังกฎเกณฑ์กบั ที่บา้ น ความเครียดจากการเปล่ียนแปลงที่ไม่คุ้นชิน และสิ่งที่ หน่ึงในปัญหาของการท�ำงานที่บ้านคือ การถูก ขาดไมไ่ ด้เลยคือ การสร้างระเบียบวนิ ยั ใหก้ ับตนเอง รบกวนจากส่ิงเร้าภายนอก หรือเหตุการณ์ท่ีไม่คาดฝัน อยา่ งไรกด็ ี การแพรร่ ะบาดของเชอ้ื ไวรสั โคโรนา เกดิ ขน้ึ ในระหวา่ งการทำ� งาน สมาชกิ ในครอบครวั นบั เปน็ ๒๐๑๙ ไมไ่ ด้เพียงสรา้ งความเสยี หายแก่ชีวิตของมนษุ ย์ สาเหตหุ น่งึ ทีอ่ าจเข้ามาขดั จังหวะเรา ในขณะทีเ่ ราก�ำลัง เทา่ นนั้ แตย่ งั สรา้ งความเสยี หายตอ่ ระบบเศรษฐกจิ ปรบั ทำ� งาน หรือในขณะท่ีเราก�ำลงั ประชมุ อยู่ โดยไม่ได้ตง้ั ใจ เปล่ียนวิถีชีวิตของเราไปอย่างส้ินเชิง การท่ีเราต้องใส่ จึงเป็นท่ีมีมาของการต้องต้ังกฎเกณฑ์ให้ชัดเจนกับ หนา้ กากอนามยั ออกจากบา้ น พกเจลแอลกอฮอลล์ า้ งมอื สมาชิกในครอบครัววา่ เวลาไหนเราทำ� งาน เวลาไหนเรา ตลอดเวลา การจำ� กดั คนในบางพน้ื ท่ี หรอื แมก้ ระทง่ั การ พกั หรอื แจง้ เตอื นทกุ ครง้ั วา่ เวลานเี้ ราทำ� งานนะ เพอ่ื ลด ท�ำงานท่ีมีการปรับเปลี่ยนรูป แบบไป จากต้องเดินทางไป ทำ� งานทกุ วนั อาจจะมกี ารปรบั ให้เหลือเพียงสองสามวันต่อ สัปดาห์ สร้างความไม่คุ้นชิน และท�ำให้เราต้องปรับตัวกับ การเปลยี่ นแปลงน้ี แตเ่ รากต็ อ้ ง พยายามคอ่ ยๆ เรยี นรู้ ทำ� ความ เข้าใจ เพื่อที่เราจะอยู่กับมันไปจนกว่าเช้ือไวรัสตัวนี้ จะพบวัคซนี ที่สามารถรกั ษาไดห้ ายขาด แหลง่ ท่ีมา https://news.thaipbs.or.th/content/290347, https://ch9airport.com/how-covid-19-contagion/, https://covid-19.kapook.com/view224756.html, http:// hsscovid.com/files/Covid19elderlyVer6.pdf, https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/index.php, http://covid19.anamai.moph.go.th/th/, https://www. sanook.com/hitech/1502473/, https://www.thairath.co.th/lifestyle/tech/1848121, https://home.kapook.com/view222965.html, https://www.ftpi.or. th/2020/36624, https://www.brandbuffet.in.th/2020/03/8-ways-to-work-from-home/ นติ ยสารพลาธิปตั ย์ ปี ท่ี ๖๔ ฉบบั ท่ี ๒ เดอื นพฤษภาคม - สงิ หาคม ๒๕๖๔ 67

ขงิ และกระชายขาว สองสมุนไพรช่วยเสรมิ สร้าง ภูมคิ มุ้ กนั ตา้ นไวรสั โควิด-๑๙ นั บตง้ั แตใ่ นไทยมกี ารแพรร่ ะบาดโควดิ -๑๙ โดย สมนุ ไพร ในอกี มมุ ...หลายประเทศกห็ นั มาพฒั นา “วคั ซนี ” เกดิ ขนึ้ มาเกอื บครง่ึ ปี ทย่ี งั สามารถเฝา้ ระวงั และ “ยารักษาโรค” ให้ได้โดยเร็วที่สุด ซึ่งเมื่อช่วงต้น ป้องกันได้ดี จนท�ำให้มียอดผู้ติดเช้ือรายใหม่ กลายเป็น สัปดาห์ท่ีผ่านมาน้ี “ประเทศไทย” ก็มีความคืบหน้า ศูนย์มาต่อเน่ือง แต่ตราบใดที่การพัฒนาวัคซีนป้องกัน ในการทดลองวัคซีน และยารักษาโควิด-๑๙ ท่ีเตรียม ยงั ไมส่ ำ� เรจ็ กย็ อ่ มมคี วามเสยี่ ง และโอกาสกลบั มาระบาด มกี ารทดสอบในคนไดเ้ รว็ ๆ นี้ นับว่าประสบความส�ำเรจ็ ใหม่ได้เสมอ... ไปไดด้ ไี มใ่ ชน่ อ้ ย.. การทดลองวัคซีน และยารักษาโควิด-๑๙ น้ี สาเหตมุ าจาก “ทว่ั โลก” ยงั คงเผชญิ กบั เชอ้ื ไวรสั ศ. นพ.มานพ พทิ กั ษภ์ ากร หน.ศนู ยว์ จิ ยั เปน็ เลศิ ดา้ นการ น้ีที่มีการแพร่ระบาดเพิ่มสูง จนยอดผู้ติดเช้ือสะสมทะลุ แพทย์แม่นย�ำ ศูนย์จีโนมิกส์ศิริราช คณะแพทยศาสตร์ ราว ๑๐ ลา้ นคน และมผี เู้ สยี ชวี ติ พงุ่ ขน้ึ รวดเรว็ แมใ้ นบาง ประเทศควบคมุ การระบาดโควดิ -๑๙ ได้แล้ว แต่กลับมาระบาดซ�้ำอีก เพราะเกิดจากการ ผอ่ นปรนมาตรการลอ็ กดาวน์ เพอื่ ใหเ้ ศรษฐกจิ ของประเทศกลบั มาขบั เคลอ่ื นได้ เช่นเดยี วกบั “ประเทศไทย” ทีม่ ีการ ผอ่ นปรนกจิ กรรม และกจิ การ ในบางประเภท มีความเสี่ยงต่อการระบาดสูง ท�ำให้รัฐบาล เตรยี มพรอ้ มหลายดา้ น ทงั้ ยา เวชภณั ฑ์ เครอ่ื ง ช่วยหายใจ เตียงผู้ป่วยไอซียู และห้องแยก ผปู้ ว่ ยหนกั และผูป้ ่วยทั่วไป 68 นติ ยสารพลาธปิ ัตย์ ปี ท่ี ๖๔ ฉบับท่ี ๒ เดือนพฤษภาคม - สิงหาคม ๒๕๖๔

ศิริราชพยาบาล บอกว่า ในไทยไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ ระหวา่ งเศรษฐกจิ และความปลอดภยั ควบคู่กันดว้ ย เกิดขึน้ ตอ่ เนอื่ งกนั มากว่า ๑ เดือน ถา้ มีการติดเชือ้ กอ็ าจ ดังน้ัน...“การผ่อนปรนกิจกรรม หรือการเปิด เป็นคนไม่แสดงอาการ ท�ำให้ไม่มีตวั เลขแนช่ ดั ประเทศ” ต้องใหเ้ ปน็ ระบบขน้ั ตอน เร่ิมจากการทดลอง แต่หากนับตั้งแต่วันที่ไม่มีผู้ติดเช้ือรายใหม่ มา เปดิ ประเทศทมี่ กี ารกกั ตวั ๑๐ - ๑๔ วนั อยา่ งเชน่ ทที่ ำ� กนั จนถงึ วนั นอี้ าจเปน็ ไปไดย้ าก ทจ่ี ะมเี ชอื้ หลงเหลอื ใหก้ ลบั อยู่ตอนน้.ี ..“สเตต ควอรันธนี ” ทรี่ ฐั ต้องกกั ตัวผู้เดินทาง มาแพรก่ ระจายตอ่ คนอนื่ ได้ เพราะโควดิ -๑๙ สามารถอยู่ จากพื้นท่ีท่ีมีการระบาดของโรค เพ่ือป้องกันการแพร่ ในคนมรี า่ งกายแขง็ แรงไมเ่ กนิ ๒ - ๓ สปั ดาห์ และสดุ ทา้ ย กระจายเช้ือออกไปในวงกว้าง ร่างกายจะปรับตัวตามกลไก ท�ำให้การติดเช้ือโรคหายดี เปน็ ปกติ จนเชอ้ื ถูกขับออกไปหมดสนิ้ เมื่อด�ำเนินการไปแลว้ ปรากฏวา่ ไมม่ ผี ูต้ ดิ เช้ือก็ ลดลงเหลอื ๕ - ๗ วนั ในระหวา่ งกกั ตวั นต้ี อ้ งตรวจคดั กรอง ท�ำใหเ้ ชื่อได้ว่า “ในไทย” ไมม่ ผี ้ตู ดิ เช้อื รายใหม่ ไปดว้ ย แตห่ ากไมม่ กี ารกกั ตวั หรอื คดั กรองเลยคงเปน็ ไป ยกเว้นมีการ “เปิดประเทศ” ลักษณะแบบไม่มีระบบ ไมไ่ ด้ เพราะเสย่ี งตอ่ การระบาดเกิดขึ้นในประเทศสูง กักกนั ทีด่ ี หรือ “การเปิดแบบเสรี” ท่ีอาจเป็นโอกาสให้ “คนน�ำพาเชื้อ” เขา้ มาในประเทศได้อยา่ งเสรีเช่นกัน จริงๆ แล้ว...ในหลายประเทศก็มีมาตรการคัด กรองคนออกนอกประเทศอยู่แล้ว หากไม่มีการติดเช้ือ แม้ว่า...มีระบบทราเวลบับเบลิ ในการจับคูท่ ่อง โควดิ -๑๙ กจ็ ะอนญุ าตใหอ้ อกนอกประเทศได้ แตถ่ า้ “ตดิ เชอื้ ” เทยี่ วระหวา่ งประเทศ แตก่ ย็ งั มคี วามเสย่ี งของการนำ� เชอื้ ตอ้ งถูกกักตัวเขา้ สู่กระบวนการรักษาใหห้ ายเปน็ ปกติ โควดิ -๑๙ เขา้ มาประเทศเชน่ เดิม เชน่ มกี ารเจรจาตกลง กบั ประเทศจนี ทม่ี คี วามเสย่ี งตำ่� ของผตู้ ดิ เชอื้ ทวั่ ประเทศ สิ่งส�ำคัญ...แม้ว่ามีกระบวนการตรวจคัดกรอง หลัก ๑๐ คน แตไ่ ม่ได้แปลวา่ “ไมม่ ีผู้ตดิ เชอ้ื เลย” อาจ จากประเทศต้นทางอย่างดีแล้วก็ตาม ในระหว่างขึ้น ส่งผลให้คนกลมุ่ น้นี �ำเช้ือเข้ามาก็ได้ เครอ่ื งบนิ เดนิ ทางเขา้ มาถงึ ยงั ในไทย กย็ งั พบวา่ มผี ตู้ ดิ เชอื้ อยูต่ ลอดเสมอ ทำ� ให้มีความจ�ำเปน็ ที่ต้อง “คงมาตรการ น่ันหมายความว่า...ตราบใดยังรับคนจาก กักตัวให้เป็นด่านสอง” ในการสแกนบุคคลหลุดรอด ประเทศที่มีการติดเช้ืออยู่ ก็ย่อมมีความเส่ียงเกิดการ มาจากด่านแรก เพ่ือให้ประเทศไทย มีความปลอดภัย ระบาดใหม่ได้เสมอ...ท�ำให้ต้องค�ำนึงถึง “ความสมดุล” มากที่สดุ นิตยสารพลาธปิ ัตย์ ปี ท่ี ๖๔ ฉบับท่ี ๒ เดอื นพฤษภาคม - สิงหาคม ๒๕๖๔ 69

เพราะอย่างน้อย...หากในไทยไม่มีการติดเชื้อ ยาชนิดท่ีสอง...“เรมเดสซิเวียร์” ขึ้นเลย ก็ยังสามารถผ่อนปรนกิจกรรมและกิจการ ให้ (remdesivir) ผลิตในสหรัฐอเมริกา เพื่อ เศรษฐกจิ ในประเทศเกดิ การหมนุ เวียนกนั เองได้ ทดลองรักษาผู้ป่วยติดเช้ืออีโบลาท่ีเป็น ยาฉดี เมอ่ื ทดลองใชใ้ นผปู้ ว่ ยอโี บลากลบั ไม่ ประเด็น...“ยารักษาโควิด–๑๙” ในปัจจุบันยัง สำ� เรจ็ แตน่ ำ� มาใชใ้ นผปู้ ว่ ยตดิ เชอื้ โควดิ -๑๙ “ไมม่ ียารกั ษาตรง” เพราะโควดิ -๑๙ เป็นไวรสั ชนดิ ใหม่ กลับได้ผลดี ทำ� ใหไ้ มส่ ามารถพฒั นาหายาจำ� เพาะไดส้ ำ� เรจ็ ทตี่ อ้ งอาจ ใช้เวลาวิจัยระยะหน่ึง ส่วนการรักษากันอยู่ตอนน้ีคือ สว่ นการพฒั นา “ยารกั ษาโควดิ -๑๙ “การใช้ยาเกา่ ทรี่ ักษาไวรัสชนิดอืน่ ” น�ำมาทดลองใช้กบั ใหม่”...นักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยท่ัวโลก ผปู้ ่วยโควิด-๑๙ ที่ได้ผลดี จึงถูกนำ� มารกั ษากันจนมาถงึ มกี ารศกึ ษายาสรา้ งขน้ึ ใหม่ และเปน็ ยาทไ่ี ด้ ทุกวนั น.ี้ .. จากการสกัดของสมนุ ไพรหลายชนดิ แตย่ ัง ไม่ปรากฏว่า...ยาชนิดใดได้ผลเป็นที่น่า ยำ�้ วา่ “ประเทศไทย” มกี ารนำ� ยามารกั ษาผปู้ ว่ ย พอใจ อยู่ ๒ ชนิดคือ...“ฟาวิพริ าเวียร์” (favipiravir) ท่มี ีเก็บ ในจำ� นวนนก้ี ม็ ี “ประเทศไทย” มคี วามพยายาม สต๊อกไว้ที่กระทรวงสาธารณสุข พร้อมใช้กับผู้ป่วยหลัก “สกัดยา” ท่ีไดจ้ ากสมุนไพรไทยเชน่ กนั ตามขอ้ มลู งาน พนั คน ซึง่ ยาชนิดน้คี น้ พบโดยใน “กลมุ่ บรษิ ัทฟูจฟิ ิลม์ ” วจิ ยั ชดั เจนทสี่ ดุ คอื “การวจิ ยั สมนุ ไพรกระชายขาว” เพอื่ ในประเทศญปี่ นุ่ ทเี่ คยใชร้ กั ษาโรคไวรสั ไขห้ วดั ใหญ่ และ ยับยงั้ การเจริญเตบิ โตโควิด-๑๙ ได้ผลถงึ ร้อยเปอรเ์ ซ็นต์ มีฤทธิต์ ้านโควิด-๑๙ มีประสทิ ธิภาพและความปลอดภัย สาระส�ำคัญนี้มีอยู่ในตัวกระชายขาว ๒ ตัวคือ แพนดรู าทนิ เอ (Panduratin A) และพโิ นสโตรบนิ (Pi- nostrobin) เป็นตัวหลกั ท�ำหนา้ ท่ยี บั ย้งั การเจริญเตบิ โต ของเชอื้ ไวรสั ตน้ เหตุของโควดิ -๑๙ ได้ ในการลดจ�ำนวน เซลลท์ ตี่ ดิ เชอ้ื รอ้ ยเปอรเ์ ซน็ ตใ์ หไ้ ดเ้ ปน็ ๐% และยงั ยบั ยงั้ เซลล์ในการผลิตไวรัสได้อกี ดว้ ย ความส�ำเร็จนี้เป็นผลงานของ “คณะ วิทยาศาสตร์ ม.มหิดล” ท่ียังอยู่ในขั้นห้องปฏิบัติการ และก�ำลังน�ำมาทดสอบความปลอดภัยในสัตว์ทดลอง และมนษุ ย์ คาดวา่ จะใชเ้ วลา ๑ ปี เพอ่ื ประสทิ ธภิ าพและ ความปลอดภัยต่อผู้บริโภคในอนาคต นับว่าเป็นข่าวดี ของนักวิจัยไทยสามารถวิจัยสมุนไพรท่ีหาได้ง่ายใน ประเทศเอง ย้อนไปกอ่ นหน้าน้.ี ..ในช่วงต้นการ ระบาดโควิด-๑๙ ท่ีมีองค์กรต่างๆ ท�ำการ ทดลองยาหลากหลายชนิด เมอื่ การระบาด ผา่ นไปราว ๕ - ๖ เดอื น ทำ� ใหข้ อ้ มลู เชอ้ื ไวรสั ชัดเจน สง่ ผลให้ “ยา” ทเี่ คยทดลองกอ่ นนี้ กลับใช้ไม่ได้ผลในการต้านไวรัส ดังนั้นงาน วิจัยในไทย “สมุนไพรกระชายขาว” ถือว่า มคี วามคบื หน้าที่สุดในการยับยง้ั โควิด-๑๙ ส ่ ว น ต ่ า ง ป ร ะ เ ท ศ . . . ก็ มี ก า ร “ทดลองยา” เช่นกัน แต่เป็นการใช้ 70 นิตยสารพลาธิปัตย์ ปี ท่ี ๖๔ ฉบับท่ี ๒ เดือนพฤษภาคม - สงิ หาคม ๒๕๖๔

เทคโนโลยีเข้ามาพัฒนา “ดีไซน์ยา” ด้วยการถอดรหัส เพราะหากมี “วัคซีน” ทน่ี �ำไปสกู่ ารปอ้ งกันท่ีดี เช้อื ไวรสั โควิด-๑๙ และนำ� ไป “ดีไซน์ยา” ท่ีได้จากการ ก็ย่อมไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ เมื่อไม่มีผู้ติดเช้ือก็ไม่จ�ำเป็น สกัดจาก “สารเคม”ี ออกมาใชย้ ับย้งั เช้อื ไวรัสนี้ ตอ้ งใช้ยาในการรกั ษาผปู้ ่วยตามมา... ยกตวั อยา่ ง “ประเทศจนี ” มกี ารทดลองพฒั นา นีค่ อื ...ความหวังของ “คนทั้งโลก” ตา่ งรอเวลา “ยาตา้ นเอนไซม์” ที่เรียกว่า “โปรตเี อสไวรสั โควดิ -๑๙” ได้ใช้ “วัคซีน และยารักษาโควิด-๑๙” ท่ีจะเป็นหลัก มอี ยู่ ๒ ชนดิ คือ ชนดิ แรก...“N3” ทเี่ ปน็ รหสั ช่อื ตามทาง ประกันของความปลอดภยั สูงสดุ ... เคมี และชนิดที่สอง...“11A” ซึ่งยา ๒ ชนิดนี้ในห้อง ขงิ กินแล้วป้องกนั โควดิ จรงิ หรือไม่ ปฏิบัตกิ ารสามารถยับย้ังเชื้อไวรัสได้ดี และก�ำลงั ทดลอง ในสัตว์ เพื่อสังเกต “ความเป็นพิษ” อาจใช้เวลาราว นอกจากกระชายขาวทมี่ งี านวจิ ยั เปน็ วคั ซนี ตา้ น ๒ - ๓ เดือน โควิดแล้ว อีกหนึ่งส่ิงที่เป็นกระแสไม่แพ้กันก็คือ น�้ำขิง หรืออาหารท่ีมีขิงเป็นส่วนประกอบ เพราะมีหลายคน ทวา่ ...การพฒั นา “ยา” มีกรรมวธิ ผี ลติ ต่างจาก กล่าวอ้างว่า ขิงสามารถป้องกันโควิด-๑๙ ได้ แต่จริงๆ “วคั ซีน” เพราะท่ผี า่ นมาไม่เคยมียาต้านตระกลู โคโรนา แล้วขิงไม่ได้ช่วยป้องกัน COVID-19 ด้วยความท่ี ไวรสั หรือโควดิ -๑๙ เกดิ ข้ึนมาก่อน ท�ำใหต้ อ้ งเรมิ่ ต้นคิด COVID-19 เปน็ โรคอบุ ตั ใิ หม่ และยงั ไมม่ รี ายงานวา่ อาหาร ค้นพัฒนาขึ้นใหม่ สว่ น “วคั ซนี ” เคยมกี ารผลิตมาตัง้ แต่ ชนิดใดที่จะช่วยป้องกัน COVID-19 ดังนั้นการกินเพ่ือ “วัคซีนไข้หวัดใหญ่ วัคซีนโรคพิษสุนัขบ้า” มาจนถึง ป้องกัน COVID-19 จะถือว่าผิดวัตถุประสงค์ หากเรา “วคั ซนี โควดิ -๑๙” ทมี่ วี ธิ กี ารพฒั นา และเทคนคิ การผลติ อยากป้องกันโรคนี้ ส่ิงท่ีควรท�ำคือกินอาหารท่ีร้อน สุก ไม่ต่างกนั มาก สะอาด และมผี ักทุกม้ือ แยกชอ้ น แยกชาม แยกของใช้ ของกนั และกนั เวน้ ระยะห่างจากคนอนื่ ๆ ตามหลกั การ ท�ำใหก้ าร “พัฒนาวคั ซีน” มคี วามคืบหนา้ ไปได้ Social Distancing หรือ Physical Distancing ยึดหลัก เรว็ เพราะ “ท่ัวโลก” ตา่ งมีความหวังท่ีไมต่ ้องการให้คน ว่า โรคติดตอ่ จะไม่ติดต่อ ถ้าเราไม่ติดตอ่ กันน่ันเองคะ่ ไม่เคยติดเช้ือโควิด-๑๙ ต้องกลายเป็นผู้ติดเช้ือรายใหม่ แต่ขิงชว่ ยเสรมิ สรา้ งภูมิคุ้มกนั ได้ ขึ้น จึงต่างมุ่งม่ันในการ “ผลิตวัคซีน” เพ่ือป้องกันเป็น หลกั สว่ น “การผลติ ยารักษา” แม้ว่าจะมคี วามจำ� เป็น แม้ว่าขิงจะไม่ได้ช่วยป้องกันโรค แต่มีงานวิจัย กต็ าม แตก่ ย็ งั เปน็ เร่อื งของปัญหาปลายเหตุ หลายๆ ชิ้นที่บอกว่า ขิงน้ันมีสารต้านอนุมูลอิสระ นิตยสารพลาธิปัตย์ ปี ท่ี ๖๔ ฉบับท่ี ๒ เดือนพฤษภาคม - สิงหาคม ๒๕๖๔ 71

(anti-oxidant) และสารต้านการอักเสบ ข้อมลู อา้ งองิ (anti-inflammatory) อยู่มากมาย เชน่ Gingerol, https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3665063/ Shogoal และ Paradoal โดยพบว่า ขิงสามารถ https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC6196930/ ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อหลังจากการ ออกกำ� ลงั กายได้ นอกจากน้ี สารในขงิ บางตวั ยัง www.thairath.co.th/news/local ท�ำหน้าที่ป้องกันการเจริญเติบโตและการกลาย พนั ธข์ุ องเซลลม์ ะเรง็ ไดห้ ลากหลายชนดิ แตก่ ย็ งั อยู่ ในขนั้ ตอนการวจิ ยั ในระดบั หลอดทดลองและสตั ว์ ทดลองเท่านน้ั ยงั คงต้องมีการศึกษาเพ่มิ เติมอีก สรปุ แลว้ ควรกนิ ขิง ดีหรอื ไม่ ค�ำตอบคือ กินได้และดี ควรกินจาก อาหารธรรมชาติเปน็ หลกั เช่น ตม้ น�้ำขงิ ดม่ื แทน นำ�้ หวาน นำ้� อดั ลม หรอื ชาหวานต่างๆ โดยท่เี รา ตอ้ งไมใ่ ส่นำ้� ตาลหรอื นำ้� ผึ้งมากเกิน ๑ ช้อนชาตอ่ แก้ว ตอ่ วนั หรอื อาจจะนำ� ขงิ ไปผดั คกู่ ับเนอ้ื สัตว์ ประเภทต่างๆ เชน่ ปลาผดั ขงิ ก็จะได้คุณคา่ ทาง โภชนาการทดี่ ขี นึ้ 72 นติ ยสารพลาธปิ ัตย์ ปี ท่ี ๖๔ ฉบับท่ี ๒ เดือนพฤษภาคม - สิงหาคม ๒๕๖๔

เชื้อด้ือยา อันตรายเงยี บที่ไม่ควรมองข้าม โดย KungKU ใ นขณะนผี้ คู้ นตา่ งหนั มาสนใจในประเดน็ เรอื่ ง สาเหตุของการเกิดเชอ้ื ดอ้ื ยา การทเี่ ชอื้ ดอ้ื ยาเปน็ เรอ่ื งทเี่ กดิ ขนึ้ โดยธรรมชาติ สุขภาพกันมากข้ึน เนื่องจากสถานการณ์ โรคระบาด เชอื้ ไวรสั โคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ในปจั จบุ นั ซึ่งจะเป็นไปตามหลักของการวิวัฒนาการ คือ เม่ือ แต่สงิ่ ท่ีนา่ กลัวไมแ่ พ้กันน่ันกค็ อื “เช้ือดอื้ ยา” สง่ิ มชี วี ติ ใดกต็ ามถกู คกุ คาม สง่ิ มชี วี ติ นน้ั กจ็ ะพฒั นาตวั เอง เพ่ือท่ีจะรับมือกับภัยคุกคามนั้น ตัวอย่างเช่น การที่ เช้ือดื้อยาเป็นเช้ือโรคท่ีทนต่อ “ยาปฏิชีวนะ” แบคทเี รยี สรา้ งเอนไซมข์ นึ้ มาเปรยี บเสมอื นเกราะปอ้ งกนั กล่าวในอีกแง่หนึ่ง ก็คือการที่เชื้อโรคที่สามารถยับย้ัง ยาที่จะมาท�ำลายตัวมัน ท�ำให้ยาท่ีเคยได้ผลในการฆ่า การทำ� งานหรอื ทำ� ลายการทำ� งานของยาปฏชิ วี นะได้ ทำ� ให้ แบคทเี รยี นไ้ี ดผ้ ลนอ้ ยลงหรอื ไมไ่ ดผ้ ลเลย เราจะเรยี กการ การรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อดื้อยาจะไม่ได้ผลอย่างที่ควร ปอ้ งกนั ยาของแบคทเี รยี นว้ี า่ “การดอ้ื ยา” ซง่ึ เปน็ เรอื่ งที่ จะเป็น ซึ่งการรักษาอาจจะใช้ระยะเวลาท่ียาวนานข้ึน เกิดข้นึ ได้เสมอแมว้ า่ เราจะใช้ยาอย่างถูกตอ้ งก็ตาม โดย คา่ ใชจ้ า่ ยสงู ขนึ้ เพม่ิ ความเสย่ี งตอ่ การแพย้ า เกดิ ผลขา้ งเคยี ง ปกติแล้วการดื้อยาจะเกิดข้ึนอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่ จากการใช้ยาท่ีแรงข้ึน และที่ร้ายแรงที่สุด คืออาจไม่มี การใช้ยาอย่างไม่เหมาะสมก็จะเป็นการเร่งให้แบคทีเรีย ยาปฏิชีวนะใดรักษาไดจ้ นทำ� ใหผ้ ้ตู ดิ เชื้อเสยี ชวี ติ ลง โดยมี กลายพันธุ์และท�ำให้เช้ือด้ือยาได้มากขึ้นและเร็วข้ึน การค้นพบว่าผู้ป่วยท่ีเช้ือมีอาการดื้อยามีอัตราการ ในที่นี้จะขอแยกการใช้ยาอย่างไม่เหมาะสมออกเป็น เสยี ชวี ติ สงู กวา่ การตดิ เชอ้ื ธรรมดาถงึ ๒ เทา่ ปจั จบุ นั พบวา่ สองประเด็นหลักๆ คือการใช้ยาที่ไม่เหมาะสม ประเทศไทยในทุกๆ ๑๕ นาทจี ะมคี นเสียชวี ติ จากการท่ี ในทางการแพทย์ และการใช้ยาท่ีไม่เหมาะสมในทาง เช้ือดื้อยา ๑ คน เฉลี่ยแล้วมีอัตราเสียชีวิตประมาณ เกษตรกรรม ๒๐,๐๐๐ - ๓๘,๐๐๐ ราย/ปี คดิ เปน็ ความสญู เสียทาง เศรษฐกิจโดยรวมสูงถงึ ๔.๖ หม่นื ล้านบาท ซึ่งจะเหน็ ได้ ประเด็นแรก การใช้ยาอย่างไม่เหมาะสมใน วา่ ตวั เลขอตั ราการเสยี ชวี ติ และผลกระทบทางเศรษฐกจิ ทางการแพทย์ สามารถแบง่ ออกได้ ๔ แบบ คือ เป็นจำ� นวนท่ไี มน่ ้อยเลยทีเดยี ว ๑. การใชย้ าปฏชิ วี นะไมต่ รงกบั โรค เชน่ โรคหรอื อาการเหลา่ น้ไี ม่ควรใช้ยาปฏิชีวนะ นิตยสารพลาธปิ ัตย์ ปี ท่ี ๖๔ ฉบบั ท่ี ๒ เดือนพฤษภาคม - สิงหาคม ๒๕๖๔ 73

โรคหวัด ไอ เจ็บคอ เนื่องจากส่วนใหญ่ของ ของมนุษย์มีแบคทีเรียมากมายหลายชนิดอาศัยอยู่ตาม การเป็นหวัด เจ็บคอเกิดจากเช้ือไวรัส ซึ่งยาปฏิชีวนะ สว่ นต่างๆ เช่น ที่ผิวหนงั ลำ� ไส้ใหญ่ ชอ่ งปาก ดังน้ันหาก มีฤทธิ์ในการท�ำลายเช้ือแบคทีเรีย ดังนั้น การทานยา รับประทานยาท่ีออกฤทธ์ิกว้างเกินไป ฤทธ์ิของยา ปฏิชีวนะเข้าไปไม่ได้มีผลต่อการรักษาใดๆ ทั้งสิ้น ปฏชิ วี นะกจ็ ะมผี ลตอ่ แบคทเี รยี สว่ นอนื่ ของรา่ งกายทเี่ ปน็ กลับจะเป็นการเพิ่มความเส่ียงให้เช้ือภายในร่างกาย ปกติด้วย เชื้อแบคทีเรียท่ีไวต่อยา จะถูกยาปฏิชีวนะ ดอื้ ยาแทน ท�ำลาย ส่วนเช้ือที่ไวต่อยาบ้างจะถูกท�ำลายไปส่วนหน่ึง อีกส่วนหนึ่งจะพัฒนาตัวเองจนดื้อยา สะสมอยู่ภายใน ร่างกาย และอาจจะกลายเป็นโรคตดิ เชอ้ื ได้ เชน่ การติด เชื้อทไี่ ต การตดิ เชอ้ื ในกระแสเลอื ด เปน็ ต้น อาการท้องเสีย ไม่มีไข้ ไม่มีมูกเลือด – นอกจากการใชย้ าอยา่ งไมเ่ หมาะสมแลว้ ความ เน่ืองจากอาการท้องเสียส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากเช้ือ เช่ือท่ีผิดและการเข้าถึงยาปฏิชีวนะได้ง่ายยังเป็นปัจจัย แบคทีเรีย ผู้ป่วยไม่ควรทานยาปฏิชีวนะ แต่ควรดื่มน้�ำ เสีย่ งท่ที �ำใหเ้ กิดการใชย้ าปฏชิ วี นะเกินความจ�ำเปน็ เช่น เกลอื แรเ่ พอื่ ทดแทนนำ้� ทร่ี า่ งกายสญู เสยี ไป เลอื กอาหาร การมีความเช่ือว่ายาปฏิชีวนะคือยาแก้อักเสบ การทาน รสออ่ นและไมค่ วรดื่มนม ยาปฏชิ วี นะเพอ่ื ปอ้ งกนั โรค การซอื้ ยาปฏชิ วี นะโดยไมต่ อ้ ง มีใบส่ังแพทย์ ซ่ึงเหตุผลเหล่านี้จะท�ำให้เพิ่มโอกาส ๒. การใช้ยาปฏิชีวนะและหยุดทานยาก่อน ใหเ้ ชอื้ ด้อื ยามากข้ึน ก�ำหนด ในขณะท่ีมีการหยุดยาก่อนก�ำหนดแต่เช้ือ แบคทเี รยี ทอ่ี ยใู่ นรา่ งกายยงั ไมห่ มดไป เชอื้ เหลา่ นเี้ มอื่ เคย ประเดน็ ท่สี อง การใชย้ าที่ไม่เหมาะสมในทาง ได้สัมผัสกับยาปฏิชีวนะซึ่งถือเป็นภัยคุกคามมันแล้ว เกษตรกรรม ในอุตสาหกรรมการเกษตร มีการใช้ ก็มีโอกาสที่เชื้อเหล่านี้จะพัฒนาให้ทนต่อยาปฏิชีวนะได้ ยาปฏิชีวนะเป็นจ�ำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของ มากข้ึน ๓. การใชย้ าในปรมิ าณทตี่ ำ�่ เกนิ ไป ในการฆา่ เชอื้ แบคทเี รยี ไดน้ นั้ จำ� เปน็ ตอ้ งใชย้ าทม่ี คี วามเขม้ ขน้ ในระดบั หนง่ึ แตห่ ากมกี ารใหย้ าในปรมิ าณทตี่ ำ�่ เกนิ ไปหรอื ผปู้ ว่ ย ทานยาไม่ครบตามท่ีก�ำหนด เช่น ทานยาเพยี งเมด็ เดยี ว แตย่ าตอ้ งทาน ๒ เมด็ จะทำ� ใหไ้ มส่ ามารถทำ� ลายแบคทเี รยี ไดท้ ั้งหมด และเพม่ิ ความเสี่ยงให้เช้อื เกิดด้อื ยาได้ ๔. การใช้ยาท่ีออกฤทธิ์กว้างเกินความจ�ำเป็น ยาแตล่ ะชนดิ ออกฤทธกิ์ วา้ งขวางไมเ่ ทา่ กนั โดยในรา่ งกาย 74 นติ ยสารพลาธิปัตย์ ปี ท่ี ๖๔ ฉบบั ท่ี ๒ เดอื นพฤษภาคม - สิงหาคม ๒๕๖๔

การเล้ียงสัตว์ หรือการเพาะปลูกพืช เกษตรกรใช้ ขนึ้ สาเหตสุ ว่ นหนงึ่ มาจากการทน่ี กั วิจัยและผู้พัฒนาให้ ยาปฏิชีวนะเพ่ือหวังผลให้ปศุสัตว์และพืชพรรณมีอัตรา ความสำ� คญั ตอ่ ยาปฏชิ วี นะนอ้ ย เมอื่ เทยี บกบั ยากลมุ่ อนื่ การเจริญเติบโตสูงข้ึน สุขภาพแข็งแรง ท�ำให้ผลผลิตมี เนอ่ื งจากผลตอบแทนระยะยาวทไี่ ดจ้ ากยาปฏชิ วี นะนอ้ ย คณุ ภาพทด่ี แี ละปรมิ าณทมี่ ากขน้ึ ซง่ึ ยาปฏชิ วี นะบางสว่ น กว่ายาในกลุ่มโรคเร้ือรัง ยาต้านมะเร็ง และ จะมีการตกค้างมากับผลิตภัณฑ์จากพืชและสัตว์ส่งต่อ ยาปฏชิ วี นะมักจะถกู ใชเ้ ปน็ ตัวเลือกสุดท้ายในการน�ำมา มายงั มนษุ ยท์ บ่ี รโิ ภค ทำ� ใหม้ นษุ ยไ์ ดร้ บั ยาปฏชิ วี นะเขา้ ไป ใช้รักษา อีกทั้งเมื่อใช้ไปในระยะเวลาไม่นานก็จะมีการ ในรา่ งกายแมว้ า่ จะไม่ไดร้ บั ประทานยาเขา้ ไป ด้ือยาเกิดขึ้น บริษัทยาจึงหันไปลงทุนในยาที่ให้ผล ตอบแทนทด่ี ีกว่า นอกจากน้ียาปฏิชีวนะยังมีการปนเปื้อนและ แพร่กระจายเข้าสู่สิ่งแวดล้อมผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น หากเราไม่เร่งแก้ไขปัญหาการเกิดเช้ือด้ือยาน้ี การขับยาปฏิชีวนะออกจากมนุษย์กับสัตว์ผ่านทาง มกี ารคาดการณว์ า่ ในปี ค.ศ. ๒๐๕๐ จะมกี ารเสยี ชวี ติ จาก ปัสสาวะและอุจจาระ เข้าสู่ระบบบ�ำบัดน้�ำเสียท่ียัง เชื้อดื้อยาสูงถึง ๑๐ ล้านราย ดังนั้น องค์การระหว่าง ไม่มีประสิทธิภาพมากพอในการขจัดยาตกค้างออกจาก ประเทศหลายองค์การ เช่น สหประชาชาติ องค์การ น�้ำท้ิงได้ทั้งหมด หรือการใช้ยาปฏิชีวนะพ่นฆ่าเชื้อโรค อนามยั โลก จึงก�ำหนดใหเ้ ชอ้ื ดือ้ ยาเปน็ วาระระดบั โลกท่ี ในพชื ทำ� ใหย้ าปนเปอ้ื นบนดนิ นำ�้ และอากาศ ซงึ่ สามารถ ประเทศสมาชกิ ทง้ั หมดตอ้ งรว่ มมอื กนั ในการปอ้ งกนั และ แพร่กระจายต่อไปยังผ้อู ่ืนได้ ควบคุมการดอื้ ยา เชอ้ื ดอื้ ยา วกิ ฤตทต่ี อ้ งไดร้ บั การแกไ้ ขโดยดว่ น ดงั นนั้ ในปี ค.ศ. ๒๐๑๕ องคก์ ารอนามยั โลกและ การรักษาโรคติดเชื้อดื้อยาจ�ำเป็นต้องใช้ World Health Assembly ไดอ้ อกรายงานเรอื่ ง Global ยาปฏิชีวนะใหม่ท่ีสามารถท�ำลายเช้ือแบคทีเรียน้ันได้ Action Plan on Antimicrobial Resistance เพ่ือ ท่ีส�ำคัญคือต้องเป็นชนิดท่ีเชื้อน้ันยังไม่มีอาการด้ือยา เปน็ แนวทางสำ� หรบั ผทู้ เี่ กยี่ วขอ้ งและประเทศตา่ งๆ ทว่ั โลก ทวา่ ยาปฏชิ วี นะชนดิ ใหมก่ ลับถกู คิดคน้ ไดล้ ดน้อยลง น�ำไปประยุกต์ใช้ ซ่ึงประเทศไทยในฐานะท่ีเป็นสมาชิก ขององคก์ ารอนามยั โลกไดใ้ หค้ วามสำ� คญั กบั กจิ กรรมการ รูป: การวิจัยและพฒั นายาปฏิชวี นะใหม่ ต่อสู้กับเช้ือด้ือยามาตลอด ในปี ค.ศ. ๒๐๑๖ คณะ ระหว่างปี ค.ศ. ๑๙๘๐ - ๒๐๑๔ รัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบในแผนยุทธศาสตร์จัดการ เชือ้ ดื้อยาแห่งชาติ ๕ ปี ตั้งแต่ปี ค.ศ. ๒๐๑๗ - ๒๐๒๑ จ า ก ภ า พ ข ้ า ง ต ้ น แ ส ด ง ใ ห ้ เ ห็ น ว ่ า จ� ำ น ว น ถือเป็นยุทธศาสตร์ฉบับแรกของประเทศไทยท่ีเน้นการ ยาปฏชิ วี นะใหมม่ กี ารคน้ พบนอ้ ยลงทกุ ชว่ ง ๕ ปี โดยในปี แกไ้ ขปัญหาเรื่องการดอื้ ยาโดยเฉพาะ ค.ศ. ๒๐๑๐ - ๒๐๑๔ มกี ารค้นพบเพิม่ ข้ึนมาบา้ งแตน่ ัน่ วิธีการป้องกันและหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการ ก็ยังไม่เพียงพอกับสถานการณ์ท่ีเชื้อด้ือยามีจ�ำนวนมาก ติดเชอ้ื ดื้อยา เม่ืออ่านมาถึงตรงนี้จะเห็นได้ว่าเร่ืองเชื้อด้ือยา เปน็ เรอ่ื งทใี่ กลต้ วั เรามาก ทง้ั วงการแพทย์ ประเทศตา่ งๆ และองค์การระหว่างประเทศต่างให้ความสนใจและยก ให้เป็นวาระระดับโลก เป็นวิกฤตท่ีมีความรุนแรงไม่แพ้ ภาวะโลกร้อน ซึ่งต้องการความร่วมมือจากหลายภาค สว่ น ในสว่ นของตวั เราทเ่ี ปน็ ประชาชนอาจจะไมส่ ามารถ ไปรว่ มคดิ คน้ ยาปฏชิ วี นะได้ ดงั นนั้ หนา้ ทที่ สี่ ำ� คญั ของเรา คือการป้องกันการติดเชื้อและลดความเส่ียงท่ีจะท�ำให้ เช้อื ด้ือยาใหไ้ ดม้ ากที่สุด โดยมวี ิธปี ฏิบตั ิง่ายๆ ดงั นี้ - ลา้ งมือใหส้ ะอาด เพ่ือลดการเพมิ่ จ�ำนวนและ การแพร่กระจายของเช้ือโรค โดยเราควรล้างมือด้วยน�้ำ นิตยสารพลาธปิ ัตย์ ปี ท่ี ๖๔ ฉบบั ท่ี ๒ เดอื นพฤษภาคม - สิงหาคม ๒๕๖๔ 75

และสบู่ ก่อนรับประทานอาหารและหลังจากการสัมผัส นอกจากนผี้ ้ปู ่วยควรหมน่ั สงั เกตอาการของตนเอง หาก ส่ิงทีม่ คี วามเสีย่ งในการปนเป้อื นเชือ้ แบคทเี รีย มอี าการไมด่ ี ผดิ ปกติ ต้องรีบแจ้งแพทย์ทนั ที - บริโภคน�้ำและอาหารท่ีสะอาด และเก็บ ผปู้ ว่ ยและผมู้ าเยยี่ มตอ้ งปฏบิ ตั ติ ามคำ� แนะนำ� อาหารให้ถูกสุขลักษณะ เพ่ือป้องกันการได้รับเชื้อ ของบุคลากรทางการแพทย์อย่างเคร่งครัด เช่น การ แบคทีเรยี ดอื้ ยาทีอ่ าจปนเป้ือนในอาหารและน้�ำ และลด ล้างมือใหส้ ะอาด กอ่ นและหลังการสมั ผสั ผู้ปว่ ย หรอื ส่ิง การแพร่กระจายของเชอื้ ได้ ที่อาจมีเช้ือโรคปนเปื้อน การสวมหน้ากากอนามัยและ เครอ่ื งป้องกนั รา่ งกาย - ฉีดวัคซีนเพ่ือสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค โดย เฉพาะโรคท่ีมีการแพร่ระบาดเป็นประจ�ำ เช่น วัคซีน ขณะนเี้ ชือ้ ด้อื ยาปฏชิ ีวนะเป็นปัญหาระดับโลก ไข้หวดั ใหญ่ ซ่งึ วคั ซีนนน้ั สามารถควบคมุ การติดเชอ้ื และ ซ่ึงนับวันจะทวีความรุนแรงมากขึ้น และหากแบคทีเรีย ลดการแพรก่ ระจายของเชอ้ื แบคทเี รยี ทง้ั ผทู้ ไ่ี ดร้ บั วคั ซนี พัฒนาสายพันธุ์ได้เร็วกว่าการพัฒนายาปฏิชีวนะ ท�ำให้ และบคุ คลรอบข้างได้ ยาที่เคยใช้ได้ผลกลับไม่ได้ผลอีกต่อไป โลกของเราก็จะ เดินทางเข้าสู่ “ยุคหลังยาปฏิชวี นะ” ทีอ่ าจน�ำไปสู่การ - ใช้ยาปฏิชีวนะเม่ือจ�ำเป็น และใช้อย่าง ล่มสลายทางการแพทย์ นับเป็นความสูญเสียอย่างย่ิง เหมาะสม เชน่ รบั ประทานยาใหถ้ กู กบั โรคหรอื อาการทเี่ ปน็ ดงั นนั้ ทกุ ๆ คนจึงตอ้ งตระหนักถึงปัญหาน้ี และร่วมมือ ไมซ่ อ้ื ยาปฏชิ วี นะทานเอง ไมแ่ บง่ ยาปฏชิ วี นะใหผ้ อู้ นื่ หรอื ร่วมใจกันทุกฝ่าย ทุกระดับในการจัดการกับปัญหา รบั ยาจากผอู้ ่ืนมาใช้ ไมท่ านยาปฏชิ ีวนะทเี่ หลือจากการ เชอ้ื ดอื้ ยา รกั ษาอาการปว่ ยครง้ั กอ่ น ทานยาปฏชิ วี นะใหค้ รบตามที่ แพทย์ส่ัง ซ่ึงจะช่วยลดความเส่ียงที่ร่างกายจะเกิดเชื้อ ด้อื ยาได้ - ควรหลกี เลยี่ งการไปโรงพยาบาลและไมข่ อให้ บคุ ลากรทางการแพทยร์ บั ตนไวร้ กั ษาในโรงพยาบาลหาก ไม่มีความจ�ำเป็น เน่ืองจากโรงพยาบาลถือเป็นแหล่ง สะสมเช้ือดื้อยาปฏิชีวนะ แต่ถ้าหากหลีกเลี่ยงท่ีจะไป โรงพยาบาลไมไ่ ด้ ขอใหป้ ฏิบตั ิ ดงั น้ี ผู้ป่วยควรท่ีจะท�ำความเข้าใจวิธีการรักษา อาการป่วย และในกรณีที่ต้องเข้ารับการผ่าตัด หรือ จ�ำเปน็ ต้องสวมใส่อุปกรณท์ างการแพทย์ เช่น สายสวน ปัสสาวะ ท่อช่วยหายใจ สายสวนหลอดเลือด เป็นต้น ควรสอบถามวิธีการป้องกันการติดเชื้อจากแพทย์และ ปฏิบัติตามค�ำแนะน�ำอย่างเคร่งครัด เพื่อลดการติดเชื้อ แหลง่ ท่มี า : https://www.fda.moph.go.th/sites/drug/Shared%20Documents/AMR/03. pdf https://gnews.apps.go.th/news?news=42647 https://www.rajavithi.go.th/rj/?p=16018 https://www.thaihealth.or.th/Content/34354-%2010%20พฤติกรรมนำ� พา% 20‘เช้อื ดอ้ื ยา’.html https://ccpe.pharmacycouncil.org › showfile https://www.aahrdd.in.th › attach_new › _FORM https://www.khaosod.co.th/pr-news/news_3074822 https://www2.gpo.or.th/Portals/6/Newsletter/RDINewsYr23N03-3.pdf https://www.hfocus.org/content/2016/11/13003 https://www.greenpeace.org/thailand/publication/6900/amr-dictionary/ 76 นติ ยสารพลาธปิ ัตย์ ปี ท่ี ๖๔ ฉบบั ท่ี ๒ เดอื นพฤษภาคม - สิงหาคม ๒๕๖๔

เล่าเรอื่ ง ขนุ ช้าง - ขุนแผน ฝนหลวง กณ เมอื งสพุ รรณบรุ ี เดนิ ทางไปคา้ ขายตา่ งเมอื ง พอกลบั มาถงึ บา้ นกเ็ ปน็ ไขป้ า่ ตาย ล่าวถึงครอบครัวสามครอบครัว คือ เมอ่ื พลายแกว้ อายไุ ด้ ๑๕ ปี กบ็ วชเณรเรยี นวชิ า ครอบครัวของขุนไกรพลพ่ายรับราชการ ทหาร มีภรรยาช่อื นางทองประศรี มีลูกชายดว้ ยกนั ชื่อ อยูท่ ว่ี ดั สม้ ใหญ่ แล้วย้ายไปเรยี นต่อที่วัดปา่ เลไลยก์ ตอ่ พลายแกว้ ครอบครวั ของขนุ ศรวี ชิ ยั เศรษฐใี หญข่ องเมอื ง มาทวี่ ดั ปา่ เลไลยก์จัดใหม้ เี ทศนม์ หาชาติ เณรพลายแก้ว สพุ รรณบรุ ี รบั ราชการเปน็ นายกองกรมชา้ งนอก ภรรยา เทศนก์ ณั ฑม์ ทั รี ซง่ึ นางพมิ พลิ าไลยเปน็ เจา้ ของกณั ฑเ์ ทศน์ ช่ือ นางเทพทอง มีลูกชายช่อื ขนุ ช้าง ซ่ึงหวั ล้านมาแต่ นางพิมเลื่อมใสมากจนเปล้ืองผ้าสไบบูชากัณฑ์เทศน์ กำ� เนดิ และครอบครวั ของพนั ศรโยธา เปน็ พอ่ คา้ ภรรยาชอื่ ขุนช้างเห็นเช่นนั้นก็เปล้ืองผ้าห่มของตนวางเคียงกับ ศรปี ระจนั มลี กู สาวรปู รา่ งหนา้ ตางดงามชอ่ื นางพมิ พลิ าไลย ผ้าสไบของนางพิม อธิษฐานขอให้ได้นางเป็นภรรยา ท�ำให้นางพิมโกรธ ต่อมาเณรพลายแก้วก็สึกแล้วให้ วันหน่ึงสมเด็จพระพันวษา มีความประสงค์จะ นางทองประศรมี าสขู่ อนางพมิ และแตง่ งานกัน ลา่ ควายปา่ จงึ สง่ั ใหข้ นุ ไกรปลกู พลบั พลาและตอ้ นควาย เตรียมไว้ แต่ควายป่าเหล่าน้ันแตกต่ืนไม่ยอมเข้าคอก ทางกรงุ ศรอี ยธุ ยาไดข้ า่ ววา่ กองทพั เชยี งใหมต่ ไี ด้ ขนุ ไกรจงึ ใชห้ อกแทงควายตายไปมากมาย ทร่ี อดชวี ติ กห็ นี เมืองเชยี งทอง ซึง่ เป็นเมอื งข้ึนของกรงุ ศรีอยุธยา สมเดจ็ เขา้ ปา่ ไป สมเดจ็ พระพนั วษาโกรธมากสง่ั ใหป้ ระหารชวี ติ พระพันวษาถามหาเชื้อสายของขนุ ไกร ขนุ ช้างซึง่ เขา้ ไป ขุนไกรเสีย นางทองประศรีรู้ข่าวรีบพาพลายแก้วหนีไป รับราชการอยู่จึงเล่าเรื่องราวความเก่งกล้าสามารถของ อยู่ทีเ่ มืองกาญจนบุรี พลายแก้ว เพ่ือหวังจะพรากพลายแก้วไปให้ห่างไกล นางพมิ สมเดจ็ พระพนั วษาจงึ ใหไ้ ปตามตวั มาแลว้ แตง่ ตง้ั ทางเมืองสุพรรณบุรี มีพวกโจรจันศรขึ้นปล้น ให้เป็นแม่ทัพไปรบกับเมืองเชียงใหม่และได้ชัยชนะ บา้ นของขนุ ศรวี ชิ ยั และฆา่ ขนุ ศรวี ชิ ยั ตาย สว่ นพนั ศรโยธา นายบา้ นแสนคำ� แมนแหง่ หมบู่ า้ นจอมทอง เหน็ วา่ พลายแกว้ นติ ยสารพลาธิปัตย์ ปี ท่ี ๖๔ ฉบบั ท่ี ๒ เดือนพฤษภาคม - สิงหาคม ๒๕๖๔ 77

กบั พวกทหารไมไ่ ดเ้ บยี ดเบยี นใหช้ าวบา้ นเดอื ดรอ้ นจงึ ยก นางวันทองจ�ำตอ้ งตามใจแม่แตน่ างไมย่ อมเขา้ หอ นางลาวทองลกู สาวของตนให้เปน็ ภรรยาของพลายแก้ว ขณะนนั้ พลายแกว้ กลบั มาถงึ กรงุ ศรอี ยธุ ยาและ ส่วนนางพิมพิลาไลย เม่ือสามีจากไปทัพได้ไม่ ไดบ้ รรดาศักดิ์เปน็ ขุนแผนแสนสะทา้ น จากนนั้ กพ็ านาง นานก็ป่วยหนกั รกั ษาเทา่ ไรกไ็ ม่หาย ขรัวตาจู วดั ป่าเลไลยก์ ลาวทองกลับสุพรรณบุรี นางวันทองเห็นขุนแผนพา แนะน�ำให้เปล่ียนช่ือเป็น วันทอง อาการไข้จึงหาย ภรรยาใหม่มาด้วยก็โกรธด่าทอโต้ตอบกับนางลาวทอง ขนุ ชา้ งทำ� อบุ ายนำ� หมอ้ ใหมใ่ สก่ ระดกู ไปใหน้ างศรปี ระจนั และลืมตัวพดู กา้ วร้าวขนุ แผน ท�ำให้ขนุ แผนโมโหพานาง กบั นางวนั ทองดวู า่ พลายแกว้ ตายแลว้ และขวู่ า่ นางวนั ทอง ลาวทองไปอยู่ท่ีกาญจนบุรี ส่วนนางวันทองก็ตกเป็น จะตอ้ งถกู คมุ ตวั ไวเ้ ปน็ มา่ ยหลวงตามกฎหมาย นางวนั ทอง ภรรยาของขุนช้างอย่างจำ� ใจ ไมเ่ ชอื่ แตน่ างศรปี ระจนั คดิ วา่ จรงิ ประกอบกบั เหน็ วา่ ขนุ ชา้ ง เป็นเศรษฐีจึงบังคับให้นางวันทองแต่งงานกับขุนช้าง ตอ่ มาขนุ ชา้ งและขนุ แผนเขา้ ไปรบั ราชการอบรม ในวงั และไดม้ หาดเลก็ เวรทง้ั สองคน วนั หนงึ่ นางทองประศรี ให้คนมาส่งข่าวว่า นางลาวทองป่วยหนัก ขุนแผนจึง ฝากเวรไว้กับขุนช้างแล้วไปดูอาการของนางลาวทอง ตอนเช้าสมเด็จพระพันวษาถามถึงขุนแผน ขุนช้างบอก วา่ ขนุ แผนปนี กำ� แพงวงั หนไี ปหาภรรยา สมเดจ็ พระพนั วษา โกรธจึงสั่งให้น�ำตัวนางลาวทองมากักไว้ในวัง ส่วน ขนุ แผนใหไ้ ปตระเวนดา่ นหา้ มเขา้ วงั อกี ทำ� ใหข้ นุ แผนแคน้ ขุนช้างมากคิดช่วงชิงนางวันทองกลับคืนมา จึงออกหา ของวิเศษ ๓ อยา่ ง คอื ดาบวเิ ศษ กมุ ารทอง และม้าฝเี ทา้ ดี ขุนแผนเดินทางไปถึงซ่องโจรของหม่ืนหาญก็สมัครเข้า เปน็ สมนุ วนั หนง่ึ ไดช้ ว่ ยชวี ติ หมน่ื หาญใหร้ อดพน้ จากการ ถกู ววั แดงขวดิ ตาย หมน่ื หาญจงึ ยกนางบวั คลล่ี กู สาวของ ตนให้เปน็ ภรรยา ต่อมาหมื่นหาญเห็นขุนแผนมีวิชาอาคมเหนือ กว่าตนก็คิดก�ำจัด โดยส่ังให้นางบัวคลี่วางยาพิษฆ่า 78 นติ ยสารพลาธปิ ัตย์ ปี ท่ี ๖๔ ฉบบั ท่ี ๒ เดอื นพฤษภาคม - สงิ หาคม ๒๕๖๔

ขนุ แผน แตโ่ หงพรายมาบอกใหข้ ุนแผนรูต้ ัว คืนนัน้ พอ หม่นื ศรี ขุนช้างจงึ พาพรรคพวกมาฉดุ นางวนั ทองไปเป็น นางบวั คลนี่ อนหลับ ขุนแผนกผ็ ่าท้องนางควกั เอาเด็กไป ภรรยาอีก ทำ� พธิ ปี ลกุ เสกเปน็ กมุ ารทอง ตอ่ จากนนั้ กท็ ำ� พธิ ตี ดี าบฟา้ ฟน้ื และไปซ้ือม้าลักษณะดีได้ตัวหนึ่ง ชื่อ ม้าสีหมอก แล้ว ต่อมานางก็คลอดลูกชาย แล้วตั้งชื่อให้ว่า ขุนแผนก็ไปท่ีบ้านของขุนช้างสะกดคนให้หลับหมดแล้ว พลายงาม ขนุ ชา้ งรวู้ า่ ไมใ่ ชล่ กู ของตนกเ็ กลยี ดชงั วนั หนงึ่ ขึ้นไปบนบ้านแตเ่ ข้าหอ้ งผิด จงึ พบนางแก้วกิริยาและได้ จึงหลอกพาเข้าไปในป่าทุบตีจนสลบแล้วเอาท่อนไม้ทับ นางเปน็ ภรรยา จากนนั้ กไ็ ปปลกุ นางวนั ทองพาขน้ึ มา้ หนี ไว้ โหงพรายของขนุ แผนมาช่วยได้ทนั นางวันทองจงึ ให้ เขา้ ปา่ ไป ลูกไปอยู่กับนางทองประศรีท่ีกาญจนบุรี พลายงามได้ ร่�ำเรียนวชิ าของพ่อจนเชีย่ วชาญ ขนุ แผนจึงพาไปฝากไว้ ขุนช้างไปฟ้องสมเด็จพระพันวษา พระองค์ให้ กับหม่นื ศรี เพือ่ หาโอกาสใหเ้ ข้ารับราชการ ทหารตามจับขุนแผน แต่ถูกขุนแผนฆ่าตายไปหลายคน ขุนแผนกับนางวันทองหลบซ่อนอยู่ในป่าจนนางตั้งท้อง ทางฝ่ายพระเจ้าเชียงอินทร์ เจ้าเมืองเชียงใหม่ จึงพากันออกมามอบตัวสู้คดีกับขุนช้างจนชนะคดี ให้ทหารไปชิงตัวนางสร้อยทองธิดาพระเจ้าล้านช้าง ระหว่างท่ีเดินทางไปยังกรุงศรีอยุธยา เพราะพระเจ้า ขนุ แผน นางวนั ทอง และนาง ล้านช้างต้องการเป็นไมตรีด้วยจึงส่งธิดามาถวายตัวแล้ว แก้วกิริยา จึงอยู่ร่วมกันด้วย พระเจา้ เชยี งอนิ ทรย์ งั สง่ หนงั สอื ทา้ ทายสมเดจ็ พระพนั วษา ความสุข แต่ขุนแผนนึกถึง อกี ดว้ ย พลายงามไดโ้ อกาสจงึ อาสาออกไปรบ และขอให้ นางลาวทองจงึ ขอรอ้ งจมนื่ ศรี ปล่อยขุนแผนออกจากคุกด้วย เพื่อจะได้ช่วยกันท�ำศึก เสาวรักษ์ให้ขอตัวนางจาก ขนุ แผนจงึ พน้ โทษ ในขณะทก่ี ำ� ลงั เตรยี มทพั นางแกว้ กริ ยิ า สมเด็จพระพันวษา ท�ำให้ กค็ ลอดลูกเปน็ ชาย ขุนแผนต้งั ชอื่ วา่ พลายชมุ พล พ ร ะ อ ง ค ์ โ ก ร ธ ว ่ า ขุ น แ ผ น ก�ำเริบจึงสั่งจ�ำคุกขุนแผนไว้ แล้วขุนแผนกับพลายงามก็คุมทัพมุ่งสู่เชียงใหม่ น า ง แ ก ้ ว กิ ริ ย า ต า ม ไ ป ขุนแผนได้แวะเยี่ยมพระพิจิตรกับนางบุษบาซ่ึงเคยให้ ปรนนิบัติขุนแผนด้วย ส่วน ความชว่ ยเหลอื เมอ่ื ครงั้ ขนุ แผนกบั นางวนั ทองเขา้ มอบตวั นางวันทองพักอยู่ที่บ้านของ พลายงามจึงได้พบนางศรีมาลาและได้นางเป็นภรรยา จากนนั้ กค็ มุ ทพั ไปรบกบั เชยี งใหมไ่ ดช้ ยั ชนะ ครน้ั กลบั ถงึ นติ ยสารพลาธปิ ตั ย์ ปี ท่ี ๖๔ ฉบับท่ี ๒ เดอื นพฤษภาคม - สิงหาคม ๒๕๖๔ 79

กรุงศรีอยุธยา ขุนแผนได้เป็นพระสุรินฤาไชย เจ้าเมือง ท�ำเสน่ห์ แต่พระไวยไม่เชอื่ หาวา่ พ่อเลน่ กลใหด้ ู และพูด กาญจนบุรี พลายงามได้เป็นจมนื่ ไวยวรนาถ และสมเดจ็ ลำ� เลิกบญุ คุณท่ชี ่วยพอ่ ออกมาจากคกุ ขุนแผนแค้นมาก พระพนั วษากย็ กนางสรอ้ ยฟา้ ธดิ าของพระเจา้ เชยี งอนิ ทร์ ประกาศตัดพอ่ ตัดลูก แลว้ กลับกาญจนบุรีทนั ที ใหแ้ ต่งงานกับพระไวยพรอ้ มๆ กับนางศรมี าลา พลายชุมพลเรียนวิชาส�ำเร็จแล้วก็นัดหมายกับ พระไวยอยากใหแ้ มม่ าอยกู่ บั ตนและคนื ดกี บั พอ่ ขนุ แผน เพอ่ื ทจี่ ะแกแ้ คน้ พระไวย โดยพลายชมุ พลสกึ จากเณร จงึ ไปลกั พานางวนั ทองมา ขนุ ชา้ งเคอื งมากไปฟอ้ งสมเดจ็ ปลอมเปน็ มอญ ใชช้ อ่ื สมงิ มตั รา ยกกองทพั หนุ่ หญา้ เสก พระพันวษา จึงมีการไต่สวนคดีกันอีกครั้งหนึ่ง ในที่สุด มาถงึ สุพรรณบุรี สมเด็จพระพนั วษาให้ขนุ แผนยกทพั ไป สมเด็จพระพันวษาก็ถามความสมัครใจของนางว่าจะ ต้านศึก ขุนแผนแกล้งแพ้ให้ถูกจับได้ พระไวยจึงต้อง เลือกอยู่กับใคร นางตัดสินใจไม่ได้ สมเด็จพระพันวษา ยกทพั ไปและตอ่ สกู้ บั พลายชมุ พล ระหวา่ งทก่ี ำ� ลงั ตอ่ สกู้ นั หาวา่ นางเป็นหญงิ สองใจ จงึ สัง่ ใหน้ ำ� ตวั ไปประหารชีวติ ขนุ แผนบอกใหพ้ ลายชมุ พลจบั ตวั พระไวยไว้ พระไวยเหน็ พระไวยพยายามอ้อนวอนขออภัยโทษได้ แตไ่ ปหา้ มการ พอ่ กต็ กใจหนกี ลับไปฟอ้ งสมเดจ็ พระพันวษา พระองคจ์ ึง ประหารไม่ทนั ให้นางศรีมาลาไปรับตวั ขนุ แผนกับพลายชุมพลเขา้ วัง ในครอบครวั ของพระไวยก็ไมร่ าบร่ืนนัก เพราะ พลายชุมพลอาสาจับคนที่ท�ำเสน่ห์ โดยขอ นางสร้อยฟ้าไม่พอใจที่พระไวยและนางทองประศรีรัก หมนื่ ศรไี ปเปน็ พยานดว้ ย พลายชมุ พลจบั ตวั เถรขวาดกบั นางศรมี าลามากกวา่ นาง จงึ มกั จะมกี ารทะเลาะววิ าทกนั เณรจ๋ิวไว้ แล้วขุดรูปปั้นลงอาคมท่ีฝังไว้ใต้ดินข้ึนมาได้ อยู่เสมอ นางสร้อยฟ้าเจบ็ ใจจงึ ใหเ้ ถรขวาดทำ� เสนห่ ์ ให้ เสนห่ จ์ งึ คลาย ตกดกึ เถรขวาดกบั เณรจว๋ิ สะเดาะโซต่ รวน พระไวยหลงรักนาง แล้วนางสร้อยฟ้าก็หาเร่ืองใส่ความ หนไี ป ในการไตส่ วนคดี นางสรอ้ ยฟา้ ไมย่ อมรบั วา่ เปน็ คน ให้พระไวยตีนางศรีมาลา พลายชุมพลเข้าไปห้ามก็ถูกตี ทำ� เสนห่ ์ และใสร่ า้ ยวา่ นางศรมี าลาเปน็ ชกู้ บั พลายชมุ พล ไปดว้ ย พอนางจบั ได้พลายชมุ พลกห็ นีไปยยุ งขุนแผน พลายชุมพลน้อยใจจึงหนีออกจากบ้านไปหา ในทส่ี ดุ กม็ กี ารพสิ จู นค์ วามบรสิ ทุ ธโ์ิ ดยการลยุ ไฟ พ่อแม่ทีก่ าญจนบรุ ีเลา่ เรื่องให้ฟงั แลว้ หนีต่อไปหายายที่ นางสร้อยฟา้ แพถ้ กู ไฟลวกจนพุพอง ส่วนนางศรีมาลาไม่ สโุ ขทัย ได้บวชเณรและเลา่ เรยี นอยูท่ ่ีนัน้ ฝา่ ยขนุ แผนรบี เปน็ อะไรเลย สมเดจ็ พระพนั วษาสงั่ ประหารนางสรอ้ ยฟา้ ไปที่บ้านของพระไวย แล้วเสกกระจกมนต์ให้ดูว่าถูก แต่นางศรีมาลาช่วยขออภัยโทษให้ จึงเพียงถูกเนรเทศ กลับไปอยู่ท่ีเชียงใหม่เช่นเดิม ระหว่างเดินทางก็พบ เถรขวาดกบั เณรจวิ๋ จงึ เดนิ ทางไปดว้ ยกนั กลบั ถงึ เชยี งใหม่ ได้ไม่นานนางก็ให้ก�ำเนิดลูกชาย ชื่อ พลายยง ส่วน นางศรีมาลาก็คลอดลูกชายเช่นกัน ขุนแผนตั้งชื่อให้ว่า พลายเพชร พระเจา้ เชยี งอนิ ทร์ ตง้ั เถรขวาด เปน็ พระสงั ฆราช เพ่ือตอบแทนความดีความชอบที่พานางสร้อยฟ้าท่ีกลับ บ้านเมืองได้อย่างปลอดภัย แต่เถรขวาดยังแค้นพลาย ชุมพล จึงเดินทางมาท่ีกรุงศรีอยุธยา แปลงเป็นจระเข้ อาละวาดฆ่าคนและสัตว์เล้ียงไปมากมาย พลายชุมพล จึงอาสาออกปราบจระเข้จนส�ำเร็จ ได้ตัวเถรขวาดมา ประหารชีวิต พลายชุมพลได้บรรดาศักดิ์เป็นหลวง นายฤทธิ์ นับจากนั้นเป็นต้นมาทุกคนก็อยู่กันอย่างมี ความสขุ ที่มา https://sites.google.com/site/katibwrrnkhdithiy/ wrrnkhdi-thiy/khun-chang-khunphaen 80 นิตยสารพลาธปิ ตั ย์ ปี ท่ี ๖๔ ฉบบั ท่ี ๒ เดอื นพฤษภาคม - สงิ หาคม ๒๕๖๔

“ถใ้าหจเงเ้จจก�ำอเรอคางไวนใ้วจ่าใ”จดี ไมใ่ ช่คิดแตจ่ ะเอาเปรยี บเขา สัจธรรม คนเรามกั จะได้ใจเมื่อเจอคนใจดี จนบางที กบั ผอู้ นื่ เขากจ็ ะใจดำ� กบั เรา ถา้ เราใจดกี บั ผอู้ น่ื เขากจ็ ะใจดี กลายเปน็ เอาเปรยี บเขา จงจ�ำไวว้ า่ ... กับเรา จงรจู้ ักอกเขาอกเรา เอาใจเขามาใสใ่ จเรา เพราะ ใจคนเหมอื นถนน ยง่ิ คดิ เลก็ คิดน้อยทางเดนิ จะยิง่ แคบ เเจอคนใจดี ใหเ้ กรงใจ ไม่ใช่ “เอาเปรยี บ” วลาไดด้ มี สี ขุ อยา่ หลงระเรงิ ลมื ตน อยา่ ดแู คลน ยง่ิ โอบอมุ้ ยงิ่ มนี ำ�้ ใจ ทางเดนิ จะยง่ิ กวา้ ง เมอ่ื เจอ ผู้อ่ืน อย่าคิดแต่จะตอบสนองความต้องการ ความลำ� บาก จะเหน็ นำ�้ ใจของคนรอบขา้ ง เมอ่ื เจอปญั หา ของตนฝ่ายเดียว ชีวิตย่อมมีข้ึนมีลง ปีน้ีแย่ ปีหน้าอาจ และอุปสรรค จะเห็นความอดทนของตนเอง หวังน้�ำใจ จะดี ปถี ดั ไปอาจจะแยย่ ง่ิ กวา่ ความสมบรู ณพ์ นู สขุ อาจไมอ่ ยู่ จากคนอนื่ ได้ แต่ใช่วา่ ทกุ ครงั้ ท่ีจะสมใจ แต่อยา่ ช้าใหค้ น ตลอด ความตกต่�ำอาจมาเยอื นสักวัน เม่อื เราได้ดีแลว้ จง อน่ื รอคอยนำ�้ ใจจากเรา เราควรเปน็ ฝา่ ยใหก้ อ่ นเสมอ อยา่ เปดิ ทางรอดใหค้ นอนื่ บา้ ง เมอ่ื ถงึ คราวเรา จะทำ� ใหเ้ ราไม่ มัวแต่คิดเลก็ คดิ นอ้ ย เพราะจะท�ำให้ไมร่ จู้ กั แบ่งปนั เจอทางตัน เม่ือเราเป็นสุขแล้วจงช่วยให้คนอื่นพ้นทุกข์ บ้าง เมอ่ื ถึงคราวเรา จะท�ำใหเ้ รามีหมูม่ ิตรมากข้นึ เม่ือ คนทช่ี อบแยง่ จา่ ยเงนิ คา่ อาหารกอ่ น ไมใ่ ชเ่ พราะ เราอม่ิ แลว้ จงชว่ ยใหค้ นอน่ื พน้ จากความหวิ โหยบา้ ง เมอ่ื เขารวย แตเ่ ปน็ เพราะเขาเหน็ วา่ มติ รภาพสำ� คญั กวา่ ราคา ถงึ คราวเรา จะท�ำใหเ้ ราไมเ่ จอความตกอบั คนเราน้นั ถา้ อาหารในมื้อนั้น คนที่ยอมยกผลประโยชน์ให้ผู้อ่ืน ท�ำอะไรออกไป ก็จะได้กลับคืนมาอย่างนั้น ถ้าเราใจด�ำ มากกว่าเวลาลงทุนร่วมกัน ไม่ใช่เพราะเขาไม่อยากได้ แตเ่ ป็นเพราะเขารจู้ กั แบง่ ปนั นติ ยสารพลาธปิ ัตย์ ปี ท่ี ๖๔ ฉบับท่ี ๒ เดอื นพฤษภาคม - สงิ หาคม ๒๕๖๔ 81

คนที่ยอมท�ำงานมากกว่าคนอ่ืน ยอมท�ำงานท่ี หนักกว่าโดยไม่บ่น ไม่ใช่เพราะเขาโง่ แต่เป็นเพราะเขา อยากเห็นความส�ำเร็จของส่วนรวมมาก่อน คนที่ยอมขอโทษก่อนเวลาทะเลาะกัน ไม่ใช่ เพราะเขาผิด แต่เป็นเพราะเขายังแคร์ความรู้สึก ของคนอนื่ คนท่ียอมช่วยเหลือคนอ่ืนไม่ว่าเร่ืองใด ไม่ใช่ เพราะเขาเป็นหน้ีคุณ แต่เป็นเพราะเขาเห็นผู้อ่ืนเป็น เพื่อนแท้ เห็นมติ รภาพสำ� คัญกวา่ คนอ่นื ชว่ ยเหลอื คณุ นัน่ เปน็ เรอ่ื งของน้�ำใจ ท่ีไม่ ช่วยเหลอื คุณน่นั ก็เป็นเรื่องของเขา อยา่ เก็บมาใสใ่ จ คุณ เคยช่วยใครอยา่ ไปจำ� เปน็ บญุ คุณ ใครเคยชว่ ยคณุ จำ� ไว้ ว่าต้องตอบแทนคณุ ทีม่ า : สหาย 82 นิตยสารพลาธิปัตย์ ปี ท่ี ๖๔ ฉบับท่ี ๒ เดอื นพฤษภาคม - สิงหาคม ๒๕๖๔

ก�ำลังพลพลาฯ เลือ่ นยศ-โยกย้าย นายทหารสัญญาบัตร และบรรจุก�ำลงั พล กรมพลาธกิ ารทหารบก กกพ.พธ.ทบ. เลื่อนยศ เล่ือนยศ พ.ท. เจนวทิ ย์ บญุ คุ้ม เป็น ว่าท่ี พ.อ. ร.ต. วจิ ารณ์ อสิ ี เป็น ว่าที่ ร.ท. พ.ท. สมชาย สิรวิ รพนั ธ์ เป็น ว่าท่ี พ.อ. ร.ต. วชิ ติ ฉมิ ปิ่น เป็น ว่าท่ี ร.ท. พ.ท.หญงิ สุดารตั น์ กลมั พสตุ เป็น ว่าท่ี พ.อ.หญิง ร.ต. วมิ เนตรสว่าง เป็น ว่าท่ี ร.ท. พ.ท.หญงิ วไิ ลลักษณ์ ถนอมปัญญารกั ษ์ เป็น ว่าที่ พ.อ.หญงิ ร.ต. สวสั ด ์ิ เศวตดษิ ฐ์ เป็น ว่าที่ ร.ท. พ.ต.หญิง สรุ างค์ อินทร์บ�ำรงุ เป็น ว่าที่ พ.ท.หญงิ ร.ต. สาคร บญุ โยม เป็น ว่าที่ ร.ท. พ.ต.หญงิ ศริ ิพร อรชร เป็น ว่าที่ พ.ท.หญงิ ร.ต. สรุ นิ ทร์ นชุ เจรญิ เป็น ว่าที่ ร.ท. พ.ต. พนั ธุ บญุ ลกั ษณะ เป็น ว่าที่ พ.ท. ร.ต. สุวฒั น์ รอดสมัย เป็น ว่าที่ ร.ท. พ.ต.หญิง ณฐั กาญ มานะวะ เป็น ว่าที่ พ.ท.หญิง ร.ต. อมร ไม้เล้ียง เป็น ว่าท่ี ร.ท. ร.อ. ทนงศรี กองสวุ รรณ เป็น ว่าที่ พ.ต. ร.ต.หญงิ ณฐั กานต์ เขยี นทอง เป็น ว่าท่ี ร.ท.หญิง ร.อ. นพรตั น์ ธนะพนั ธ์ุ เป็น ว่าท่ี พ.ต. ร.ต.หญิง เบญจภรณ์ เอ่ยี มสอาด เป็น ว่าท่ี ร.ท.หญงิ ร.อ. ปลอบขวญั ชุ่มชาติ เป็น ว่าท่ี พ.ต. ร.ต.หญิง ปราณ ี คณานบั เป็น ว่าท่ี ร.ท.หญงิ ร.อ.หญิง สุญาดา พธิ รตั น์ เป็น ว่าท่ี พ.ต. ร.ต.หญงิ พสิ มยั โรจนวิภาต เป็น ว่าท่ี ร.ท.หญิง ร.อ. กติ ตพิ งศ์ แก้วคง เป็น ว่าท่ี พ.ต. ร.ต.หญงิ ศริ ิยา นลิ ฉว ี เป็น ว่าที่ ร.ท.หญิง ร.อ. ศกั ด์ชิ ยั บณุ ยเลขา เป็น ว่าท่ี พ.ต. ร.ต.หญิง ขนษิ ฐา สลี าแยง เป็น ว่าที่ ร.ท.หญงิ ร.อ. สงกรานต์ กลิ่นภู่ เป็น ว่าท่ี พ.ต. ร.ต.หญิง ปารมติ า ศรีมณียงค์ เป็น ว่าที่ ร.ท.หญิง ร.อ. อนนั สาคุณ เป็น ว่าที่ พ.ต. จ.ส.อ. อภชิ ิต เลศิ รู้ เป็น ว่าที่ ร.ต. ร.อ.หญงิ สุรนิ ทร กุ่มดวง เป็น ว่าที่ พ.ต.หญิง จ.ส.อ. สรุ พรชยั พลับทอง เป็น ว่าที่ ร.ต. ร.ท. ธรี วชิ เสวิกลุ เป็น ว่าที่ ร.อ. นางสาวสฑุ าธณิ ี จงจงประเสริฐ เป็น ว่าที่ ร.ต.หญิง ร.ท.หญงิ ขนษิ ฐา กมลจรสั เป็น ว่าที่ ร.อ.หญงิ รบั ราชการ/ปรบั ย้าย ร.ท.หญงิ กลุ วดี โมอ่อน เป็น ว่าท่ี ร.อ.หญงิ พล.ต. ชนนิ ทร์ โพธิ์พูนศกั ดิ์ เป็น ผู้ทรงคุณวฒุ ิพเิ ศษกองทัพบก พ.อ. วบิ ูลย์ วิชระพล เป็น ผู้ทรงคุณวฒุ กิ องทพั บก ร.ต. เกรียงไกร เวยี งลอ เป็น ว่าท่ี ร.ท. พ.อ. ณรงฤทธ์ิ จันทรกูล เป็น รอง ผอ.สสน.กบ.ทบ. พ.อ. สดุ เขตต์ ชนื่ ภริ มย์ เป็น รอง จก.สก.ทบ. ร.ต. ประวทิ ย์ ปิ่นสุวรรณ เป็น ว่าที่ ร.ท. พ.อ. พสิ ษิ ฐ์ ผาสขุ เป็น รอง เสธ.พธ.ทบ. พ.อ. ณัฐจกั ษ์ สงวนศกั ด ์ิ เป็น ผอ.กชพ.พธ.ทบ. ร.ต. ศุภกจิ นามบัณฑิต เป็น ว่าท่ี ร.ท. พ.อ. อภนิ นั ท์ ทพิ ย์เทพ เป็น ผอ.กซบร.พธ.ทบ. พ.อ. อัครเดช ศริ ชิ ัย เป็น ผอ.กกพ.พธ.ทบ. ร.ต. ส�ำเรงิ ภูชมชน่ื เป็น ว่าท่ี ร.ท. พ.อ. อรรถวุฒิ บตั รเจริญ เป็น ผอ.กกบ.พธ.ทบ. ร.ต. ณัฐพงษ์ สิทธิโสภา เป็น ว่าที่ ร.ท. ร.ต. ด�ำรงค์เกยี รติ เว่นิ ทอง เป็น ว่าที่ ร.ท. ร.ต. ทวีชยั บญุ ช่วย เป็น ว่าที่ ร.ท. ร.ต. นเิ วช ชปู าน เป็น ว่าที่ ร.ท. ร.ต. ประสทิ ธ์ิ แก้วค�ำหอม เป็น ว่าท่ี ร.ท. นิตยสารพลาธิปตั ย์ ปี ท่ี ๖๔ ฉบบั ท่ี ๒ เดือนพฤษภาคม - สิงหาคม ๒๕๖๔ 83

รบั ราชการ/ปรบั ย้าย ช่วยราชการ/พ้นจากช่วยราชการ พ.อ. ดิตถ์ สยู ะนันทน์ เป็น ผอ.กคสป.พธ.ทบ. ร.ท. ศภุ ชยั รักรุ่งเรือง พ้นจาก ชรก. แผนกธรุ การ พธ.ทบ. พ.อ. ดนยั ผลทิพย์ เป็น ผอ.กบร.สนท.พธ.ทบ. ร.ท. ฉัททนั ต์ สงวนนภาพร ชรก. กกบ.พธ.ทบ. ร.ต. ทรงพล วเิ ลปสวุ รรณ เป็น เจ้าหน้าท่ีประจำ� สำ� นกั งาน พ.อ. ทรงรฐั วุฒิวัฒน์ เป็น หก.กทท.พธ.ทบ. รอง เสธ.พธ.ทบ. ร.ต.หญงิ ดวงใจ สขุ สาขา ชรก. กซบร.พธ.ทบ. พ.อ. อุทยั อตุ สาหวงศ์ เป็น รอง ผอ.กบร.สนท.พธ.ทบ. ร.ต.หญิง ปารมติ า ศรมี ณยี งค์ ชรก. รร.พธ.พธ.ทบ. พ.อ. ธรณสั บ�ำรุงกจิ เป็น รอง ผอ.กก.พธ.ทบ. พ.อ. อนสุ รณ์ เมฆานวุ งศ์ เป็น รอง ผอ.กชพ.พธ.ทบ. พ.อ. สุรเชษฏ อดุ มพืชน์ เป็น รอง ผอ.กผสป.พธ.ทบ. บรรจเุ ป็นนายทหารประทวน พ.อ. นพดล ฤทธ์เิ ดช เป็น รอง ผอ.กกพ.พธ.ทบ. น.ส.วรศิ รา ภู่ระหงษ์ เป็น เสมยี นส่งก�ำลัง พ.อ. ปองพล โอภาเฉลมิ พนั ธุ์ เป็น รอง ผอ.กยข.พธ.ทบ. ร้อย.พธ.ส่งกำ� ลงั เสบยี ง และ พ.อ.หญงิ เบญญาภา ต้นสงวน เป็น รอง ผอ.กพผ.พธ.ทบ. รรก.เสมยี น แผนกโภชนาการ บก.ทบ. พ.อ. สกุลเชษฐ์ แก้วมาคูณ เป็น ผช.ผอ.กผสป.พธ.ทบ. นายเจษฎา ตาวงศ์ เป็น (ส.ต.) ประจ�ำ พธ.ทบ. พ.อ.หญงิ ช่อผกา ประทุมทพิ ย์ เป็น ประจำ� รร.จปร. นายพรเทพ จนั ทรตั น์ เป็น (ส.ต.) ประจ�ำ พธ.ทบ. พ.อ.หญงิ ปวีณา เอยี่ มวบิ ูลย์ เป็น ประจำ� พธ.ทบ. นายวรี ภทั ร คงทน เป็น (ส.ต.) ประจ�ำ พธ.ทบ. พ.ท. เจนวทิ ย์ บุญคุ้ม เป็น หน.กวก.พธ.ทบ. นายวฒั นา สขุ อุ่มอุ่น เป็น (ส.ต.) ประจ�ำ พธ.ทบ. พ.ท. ธนศกั ดิ์ สัมมาขันธ์ เป็น ประจำ� .มทบ.๑๒ นายนพเกล้า สงิ ห์ชมภู เป็น (ส.ต.) ประจ�ำ พธ.ทบ. พ.ท.หญงิ วไิ ลลกั ษณ์ ถนอมปัญญารกั ษ์ เป็น ประจ�ำ พธ.ทบ. นายปาณสั ม์ คงทองเอียด เป็น (ส.ต.) ประจ�ำ พธ.ทบ. พ.ท. สมชาย สริ วิ รพนั ธ์ เป็น ประจำ� สลก.ทบ. นายบณั ฑติ จกั รแก้ว เป็น (ส.ต.) ประจ�ำ พธ.ทบ. พ.ท.หญงิ สุดารตั น์ กลัมพสุต เป็น ประจำ� พธ.ทบ. นายคณุ วฒุ ิ คล้ายวงษ์ เป็น (ส.ต.) ประจ�ำ พธ.ทบ. พ.ท. ศริ วิ ัฒน์ ไชยกลุ เป็น หน.กวก.พธ.ทบ. นายปราการ อินทร์ประสทิ ธ์ิ เป็น (ส.ต.) ประจ�ำ พธ.ทบ. พ.ท.หญิง ณฐั กาญ มานะวะ เป็น หน.กก.พธ.ทบ. นายลทั ธพล พร้อมเลศิ เป็น (ส.ต.) ประจ�ำ พธ.ทบ. พ.ท. อภวิ ฒั น์ ทุมวงษ์ เป็น หน.รง.กผสป.พธ.ทบ. นายกรี นิ หัสเสม เป็น (ส.ต.) เสมยี น กจห.พธ.ทบ. พ.ท. ณฐั ภมู ิ เครือสุคนธ์ เป็น ประจ�ำแผนก กวก.พธ.ทบ. นายชาญณรงค์ ตมู ทอง เป็น (ส.ต.) เสมยี น กชพ.พธ.ทบ. พ.ต. กฤษฎา ปั่นสวัสด์ิ เป็น หน.กยบ.พธ.ทบ. นายปรชิ ญา สวัสดิ์รักษ์กลุ เป็น (ส.ต.) เสมยี น กซบร.พธ.ทบ. ร.อ. สงกรานต์ กลิ่นภู่ เป็น หน.มว.กผสป.พธ.ทบ. นายธรี พงษ์ จันทร์แจ้ง เป็น (ส.ต.) พลขบั รถ กบร.สนท.พธ.ทบ. ร.อ. ธนทศั น์ เวชบุญชู เป็น รอง ผบ.ร้อย.พธ.ส่งก�ำลงั น�้ำมัน นายภรู ิเดช จันทนะโสตถ์ิ เป็น (ส.ต.) พลขบั รถ ร.อ.หญิง ปารณยี ์ ศีลพิพฒั น์ เป็น ประจำ� แผนก กจห.พธ.ทบ. ร้อย พธ.ส่งกำ� ลังนำ้� มนั ร.อ.หญงิ มะลวิ ัลย์ กระฐินหอม เป็น ประจ�ำแผนก กชพ.พธ.ทบ. นายสทิ ธพิ ร ตานสูง เป็น (ส.ต.) พลขับรถ กบร.สนท.พธ.ทบ. ร.ท. นาวี อ่อนตา เป็น ประจ�ำแผนก กซบร.สนท.พธ.ทบ. ร.ต.หญิง บงกชกร บุญรักษา เป็น นายทหารซกั ฟอก รพ.รร.๖ ร.ต. อาทติ ย์ อุราแก้ว เป็น ผบ.ตอนส่งก�ำลังเสบียง ร้อย.สกล.สป.พนั .สบร.๒๒ บชร.๒ ร.ต.หญงิ ดรณุ ี พิมพ์รอด เป็น ประจ�ำแผนก กจห.พธ.ทบ. ร.ต.หญิง อมลรดา จิณแสน เป็น รรก.เภสชั กร กบร.สนท.พธ.ทบ. ว่าที่ ร.ต. สรุ พรชยั พลับทอง เป็น ประจำ� แผนก กชพ.พธ.ทบ. ช่วยราชการ/พ้นจากช่วยราชการ พ.อ.หญงิ ปัณชณชั วัจนะพกุ กะ ชรก. กวก.พธ.ทบ. พ.อ.หญงิ สุดารัตน์ กลัมพสตุ ชรก. กกพ.พธ.ทบ. พ.อ.หญงิ ปวีณา เอ่ยี มวิบลู ย์ ชรก. แผนกธรุ การ พธ.ทบ. พ.อ.หญงิ วิไลลกั ษณ์ ถนอมปัญญารักษ์ ชรก. กปช.พธ.ทบ. พ.ท. ภูวนาถ พงษ์หา เป็น หัวหน้าส�ำนกั งาน รอง เสธ.พธ.ทบ. พ.ต. ภกั ดี ขนั ทะวตั เป็น ประจ�ำแผนก ธุรการ พธ.ทบ. 84 นติ ยสารพลาธปิ ตั ย์ ปี ท่ี ๖๔ ฉบบั ท่ี ๒ เดอื นพฤษภาคม - สิงหาคม ๒๕๖๔

ตามประสา(ลคงุ ิด)(โไพป-ดม) า: คนเฝ้าประตู (The Gatekeepers) โพด สุพรรณ ผมเคยอ่านหนังสือ The Gatekeepers ซึ่งผมแปลเป็นภาษาไทยเอาเองแบบตรงตัวเลยว่า “คนเฝา้ ประตู” เปน็ เร่ืองเกย่ี วกับเบ้อื งหลังการท�ำงานของ White House Chief of Staff เม่ือประมาณ ๒ ปีทีแ่ ลว้ และเคยสรปุ ลงใน fb ของผม แตเ่ หน็ ว่ามหี ลายอยา่ งที่พอจะเทียบเคยี งกบั สถานการณ์ของบา้ นเรา ในปจั จบุ นั ไดเ้ ลยขอน�ำมาเสนออีกสกั รอบโดยคร้ังนี้ไดข้ ยายความในหลายจดุ ให้ชัดเจนมากขน้ึ ครับ W hite House Chief of Staff แปล เ ป ็ น ภ า ษ า ไ ท ย ต า ม วิ กิ พี เ ดี ย ว ่ า “เสนาธิการท�ำเนียบขาว” ฟังดูแล้วออกทฮ้าน-ทหาร โ ด ย พั ฒ น า ม า นั บ ร ้ อ ย ป ี จ า ก ต� ำ แ ห น ่ ง เ ล ข า ธิ ก า ร ประธานาธิบดี (The President's Private Secretary) ต่อมาเปลี่ยนช่ือต�ำแหน่งเป็นผู้ช่วยประธานาธิบดี (Assistant to the President)) จนมาถึงยุคของ ประธานาธบิ ดีไอเซนเฮาเวอร์ เขาไดน้ ำ� ระบบ ทส. ทเ่ี ขา คนุ้ เคยตอนเปน็ ทหารมาประยกุ ตใ์ ชแ้ ละเรยี กตำ� แหนง่ นี้ วา่ White House Chief of Staff ตำ� แหน่งน้มี าได้ช่ือ อยา่ งเป็นทางการใหม่จรงิ ๆ จงั ๆ วา่ Assistant to the President and Chief of Staff ในปี ค.ศ. ๑๙๖๑ และ ใช้ชื่อนี้มาจนถึงปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม คนส่วนใหญ่ยัง มักเรยี กตำ� แหนง่ นีว้ ่า White House Chief of Staff ซ่งึ คำ� วา่ Staff นไ้ี มไ่ ดเ้ กย่ี วขอ้ งกบั ทหงทหารอะไรหรอก แต่ หมายถึงเจ้าหน้าที่และพนักงานท่ีท�ำงานอยู่ในท�ำเนียบ ขาว ดังนั้นต�ำแหน่งนี้เรียกให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือหัวหน้า สำ� นกั งานประธานาธบิ ดนี นั่ เอง (ถา้ นกึ ไมอ่ อกวา่ คนคนน้ี เป็นใคร ใกล้ชิดกับประธานาธิบดีแค่ไหน น่าจะยังจ�ำ ภาพนไี้ ดน้ ะครบั วนั ทต่ี กึ World Trade Center ถกู ถลม่ ในขณะทปี่ ระธานาธบิ ดบี ชุ กำ� ลงั อา่ นหนงั สอื ใหเ้ ดก็ ๆ ฟงั อยู่ในห้องเรียนท่ีฟลอริด้า ผู้ชายท่ีกล้าเดินเข้าไป ขัดจังหวะแล้วกระซิบใหป้ ระธานาธิบดีบุชทราบว่าอะไร ผู ้ เข ้ า ด� ำ ร ง ต� ำ แ ห น ่ ง น้ี ถู ก แ ต ่ ง ตั้ ง โ ด ย กำ� ลงั เกิดข้นึ น่ันแหละเขา) ประธานาธิบดี โดยเขามีบทบาทส�ำคัญมากต่อ ประสทิ ธภิ าพการทำ� งานของตวั ประธานาธบิ ดเี อง ในทาง ปฏิบตั ิแล้วคนคนนี้จะเรียกว่าเป็นเบอรส์ องของประเทศ กว็ า่ ได้ เพราะทกุ เรื่องต้องผ่านเขาก่อน (ถึงไดช้ ื่อว่าเป็น คนเฝ้าประตูไง) เขาต้องเป็นท้ังโบรกเกอร์และมือ ประสานสิบทิศ ต้องเจรจาต่อรองกับสมาชิกสภาเพื่อ ผลักดันผ่านกฎหมายที่ประธานาธิบดีหรือฝ่ายบริหาร นติ ยสารพลาธิปตั ย์ ปี ท่ี ๖๔ ฉบบั ท่ี ๒ เดือนพฤษภาคม - สงิ หาคม ๒๕๖๔ 85

เป็นผู้เสนอ ติดตามการปฏิบัติตามนโยบายของ ๑. ทุกคนที่ประธานาธิบดีแต่งต้ังให้เข้ามารับ ประธานาธบิ ดี กำ� กับ ดแู ลตารางงานของประธานาธิบดี ตำ� แหนง่ น้ี ไมม่ ใี ครเอาตำ� แหนง่ และอำ� นาจ (แฝง) ทม่ี อี ยู่ ทซี่ อยย่อยเปน็ ทุก ๑๕ นาที นน่ั คอื มี ๔ นัดใน ๑ ช่ัวโมง แทบจะล้นฟา้ ไปใช้ในทางทผี่ ดิ โดยเฉพาะกบั การทจุ รติ ใครจะเขา้ พบประธานาธบิ ดี ตอ้ งผา่ นคนคนนกี้ อ่ น เมอ่ื คอรร์ ปั ชนั หมดเวลานดั กต็ ้องตอ้ นออกจากห้องทำ� งานรปู ไข่ ไม่งั้น นัดต่อๆ ไปรวนหมด หรือแม้กระทั่งตรวจร่างค�ำกล่าว ๒. เมื่อปลายปี ค.ศ. ๒๐๐๘ ที่จะเปล่ียนจาก สุนทรพจน์ของประธานาธิบดีทุกฉบับที่ออกมาจาก ประธานาธบิ ดีบุชเป็นโอบามา แลว้ ว่าท่ี Chief of Staff ทมี งานร่างฯ โดยไม่ใช่ตรวจสะกดค�ำผิดค�ำถกู แตต่ รวจ คนใหมต่ อ้ งเขา้ ไปเตรยี มรบั งานจากคนเดมิ (ทมี งานจะมี ความเหมาะสมประเดน็ ใดควรพดู หรอื ไมค่ วรพดู หรอื วา่ เวลาประมาณ ๗๐ วัน หลังรู้ผลการเลือกตั้งช่วงต้น ครอบคลมุ เนื้อหาครบถว้ นหรือไม่ คุณสมบัตสิ ำ� คญั ๆ ที่ พฤศจิกายนจนถึงวันที่ประธานาธิบดีคนใหม่สาบานตน บคุ คลคนนต้ี ้องมีคือ เขา้ รบั ตำ� แหนง่ ในวนั ที่ ๒๐ มกราคมในปถี ดั ไป) ปรากฏ วา่ chief คนเติมไปขอให้อดีต chiefs ทั้งหมดไลต่ งั้ แต่ ๑. ตอ้ งเปน็ สดุ ยอดนกั จดั การทพ่ี รอ้ มจะทำ� งาน สมัยประธานาธิบดีนิกสันนับสิบกว่าคนมาช่วยช้ีแนะให้ แบบลืมตาย ยอมสละเวลาทั้งหมดของตนเองเพ่ือให้ ข้อคิดและให้ข้อเตือนใจกับว่าท่ี chief คนใหม่โดยไม่มี ประธานาธิบดีมีเวลาท�ำงานได้มากข้ึน สามารถปฏิบัติ ใครเกยี่ งงอนวา่ เปน็ พรรคการเมอื งเดยี วกนั หรอื ไม่ (ปธน. หน้าท่ีได้อย่างมีประสิทธิภาพและตัดสินใจได้อย่าง บุชกับโอบามาก็คนละพรรคกันอยู่แล้ว) อดีต chiefs ถูกต้อง เหล่าน้ีพูดเหมือนๆ กันว่าตอ้ งการให้ chief ปา้ ยแดงต้งั ไข่ได้เร็วที่สุดและช่วยงานประธานาธิบดี (ป้ายแดง ๒. ตอ้ งรกั ท่จี ะเป็นคนหลงั ฉาก และ เหมอื นกัน) ได้ดีที่สุด เพราะเมอื่ มีประธานาธิบดคี นใหม่ ๓. ที่ส�ำคัญต้องกล้าพูดค�ำว่า “ไม่” กับ เข้ารับต�ำแหน่งแล้ว เขาไม่ได้เป็นประธานาธิบดีของ ประธานาธิบดี และกล้าบอกในส่ิงท่ีประธานาธิบดี พรรครัฐบาล แต่เป็นประธานาธิบดีของประเทศ น่ัน ไม่อยากได้ยิน โดยเขาอาจเป็นคนคนเดียวที่ท�ำให้ หมายถงึ เปน็ ประธานาธบิ ดขี องทกุ คนรวมถงึ อดตี chiefs ประธานาธิบดีมีโอกาสได้รับรู้ถึงโลกแห่งความเป็นจริง เหลา่ นใ้ี นฐานะพลเมอื งของประเทศดว้ ย พวกเขาจงึ ยนิ ดี นอกท�ำเนียบขาวมีประธานาธิบดีท่านหนึ่งต้องการตั้ง และเตม็ ใจทจ่ี ะถา่ ยทอดประสบการณใ์ หม้ อื ใหมป่ า้ ยแดง เพอื่ นของทา่ นเขา้ ดำ� รงตำ� แหนง่ น้ี แตเ่ พอื่ นทา่ นบอกกบั ได้ฟัง เพื่อน ๆ เมอื่ อา่ นมาถึงตรงนล้ี องนึกเอากแ็ ล้วกนั ประธานาธิบดีให้ตั้งคนอ่ืนแทนเพราะเกรงว่าการท�ำ ว่าต�ำแหน่งนี้น่าจะเทียบได้กับต�ำแหน่งอะไรในท�ำเนียบ หนา้ ทใ่ี นขอ้ ที่ ๓ นจี้ ะทำ� ใหผ้ ดิ ใจกนั และเสยี เพอ่ื นเสยี ฝงู รฐั บาล หรอื มใี ครหรอื ไมใ่ นทำ� เนยี บรฐั บาลทมี่ คี ณุ สมบตั ิ ได้ ส่ิงท่ีถูกใจผมอย่างมากเก่ียวกับการท�ำหน้าที่ของ และทำ� หนา้ ทีใ่ กล้เคยี งกับตามที่กล่าวมาขา้ งต้น White House Chief of Staff มี ๒ เรอื่ ง คือ ลุงโพด สพุ รรณ ป.ล. ใครสนใจหนังสือเล่มน้ี หาซ้อื อ่านได้ทรี่ ้าน Asia Book และร้าน Kinokuniya ราคาประมาณเล่มละ ๔๗๐ บาท ครบั 86 นิตยสารพลาธปิ ัตย์ ปี ท่ี ๖๔ ฉบบั ท่ี ๒ เดอื นพฤษภาคม - สิงหาคม ๒๕๖๔

๒๗ คุณประโยชน์ กะเพราของ โดย H ก ะเพรา เขยี นอย่างไร ? ระหว่าง กะเพรา อมขาว และยอดอ่อนมีขนสีขาว มีใบเปน็ ใบเด่ียวสีเขียว รปู รอี อกตรงขา้ มกนั ปลายใบมนหรอื แหลม โคนใบแหลม หรือ กระเพรา หรือ กะเพา ? ตาม ขอบใบเป็นจักฟันเลื่อยและเป็นคลื่น แผ่นใบมีขนสีขาว พจนานกุ รมฉบบั ราชบณั ฑติ ยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒ นนั้ ระบุ ส่วนดอกกะเพราจะออกเป็นช่อที่ปลายยอด ดอกสีขาว ว่าที่ถูกต้องก็คือว่า กะเพรา [-เพรา] ท่ีเป็นไม้ล้มลุก แกมม่วงแดงมจี �ำนวนมาก กลีบเลย้ี งโคนจะเช่ือมติดกัน ใชป้ รงุ เปน็ อาหาร สว่ นคำ� วา่ “กะเพา” จะหมายถงึ เครอ่ื ง ปลายเรยี วแหลม ดา้ นนอกมขี น กลบี ดอกแบง่ เปน็ ๒ ปาก สานชนดิ หนงึ่ และคำ� วา่ “กระเพรา” ไมพ่ บในพจนานกุ รม ปากบน ๔ แฉก ปากล่าง ๒ แฉกและยาวกว่าปากบน แตอ่ ย่างใด สรุปกค็ อื เขยี นวา่ “กะเพรา” มขี นประปราย เกสรตวั ผมู้ ี ๔ อนั สว่ นผลเปน็ ผลแหง้ เลก็ เมอ่ื แตกออกจะมีเมลด็ สดี �ำถงึ น้�ำตาลคล้ายรปู ไข่ กะเพรา ช่ือสามญั Holy basil, Sacred basil กะเพรา ชอื่ วิทยาศาสตร์ Ocimum tenuiflo- กะเพราจัดเป็นสมุนไพรชนิดหน่ึงท่ีมีสรรพคุณ rum L. (ชื่อพ้องวทิ ยาศาสตร์ Ocimum sanctum L.) ทางยาช่วยรักษาโรคได้หลายชนิด ท้ังต�ำรับยาไทยและ จัดอยูใ่ นวงศ์กะเพรา (LAMIACEAE หรอื LABIATAE) สมนุ ไพรกะเพรา มชี ื่อทอ้ งถ่นิ อ่ืน ๆ วา่ กอมก้อ กอมก้อดง (เชียงใหม่), ห่อกวอซู ห่อตูปลู อิ่มคิมหล�ำ (แมฮ่ อ่ งสอน), กะเพราขน กะเพราขาว กะเพราแดง (ภาค กลาง), อีตู่ไทย (ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือ) เป็นตน้ กะเพราเป็นไม้ล้มลุกท่ีมีความสูงของต้น ประมาณ ๓๐ - ๖๐ เซนตเิ มตร โคนตน้ ออกแขง็ กะเพรา แดงจะมีลำ� ตน้ สีแดงอมเขยี ว กะเพราขาวมลี ำ� ตน้ สเี ขียว นิตยสารพลาธปิ ตั ย์ ปี ท่ี ๖๔ ฉบบั ท่ี ๒ เดือนพฤษภาคม - สงิ หาคม ๒๕๖๔ 87

ต่างประเทศก็ระบุว่ากะเพราเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณ ๗. ใบกะเพรามสี รรพคณุ ชว่ ยขบั ลมในกระเพาะ หลายด้าน อย่างต�ำราสมุนไพรไทยบ้านเราก็บรรยาย และใบยังช่วยแก้อาการปวดด้วยการใช้ใบกะเพรานำ� มา สรรพคุณของกะเพราเอาไว้ว่า รสฉุน ร้อน ช่วยขับลม คั้นรับประทานสด ๒ ถ้วยตะไล จะช่วยแก้อาการ แก้ซาง แก้ท้องขนึ้ จุกเสียดแนน่ ทอ้ ง ปวดทอ้ ง ชว่ ยใน ปวดมวนทอ้ งไดเ้ ปน็ อย่างดี การย่อยอาหาร และช่วยบ�ำรุงธาตุ เป็นต้น และใน ต่างประเทศก็มีการใช้กะเพราในการรักษาโรคกันอย่าง ๘. ใบช่วยขับลมแก้อาการปวดท้องอุจจาระ กวา้ งขวางยง่ิ กวา่ บา้ นเราเสยี อกี โดยเฉพาะประเทศอนิ เดยี ชว่ ยแก้อาการจกุ เสียดแนน่ ท้อง เขาถือว่ากะเพราเป็นยารักษาโรคได้ทุกโรค และยังจัด เปน็ ราชินแี หง่ สมุนไพร (The Queen of herbs) หรอื ๙. ใบชว่ ยแกล้ มซานตาง เป็นยาอายุวฒั นะ (The Elixir of life) เลยก็วา่ ได้ ๑๐. นำ้� สกดั จากทง้ั ตน้ ของกะเพรามฤี ทธชิ์ ว่ ยลด การบบี ตัวของล�ำไส้ (น�ำ้ สกัดจากทั้งต้น) กะเพรามีอยดู่ ว้ ยกัน ๒ ชนิด คือ กะเพราแดง ๑๒. นำ้� สกัดจากท้งั ต้นช่วยย่อยไขมนั และกะเพราขาว โดยกะเพราแดงจะมีฤทธิ์ที่แรงกว่า ๑๒. น้�ำสกัดจากท้ังต้นช่วยรักษาแผลใน กะเพราขาว ในสรรพคุณทางยาจึงนิยมใช้กะเพราแดง กระเพาะอาหาร โดยสว่ นทน่ี ำ� มาใชท้ ำ� เปน็ ยาสมนุ ไพรกไ็ ดแ้ ก่ สว่ นของใบ ๑๓. น้�ำสกัดจากท้ังต้นกะเพรามีสรรพคุณช่วย ยอดกะเพรา (ทงั้ สดและแหง้ ) และทัง้ ตน้ แตถ่ า้ นำ� มาใช้ ขบั น�ำ้ ดี ประกอบอาหารจะนิยมใชก้ ะเพราขาวเปน็ หลัก ๑๔. ใบช่วยแก้ลมพิษ ด้วยการใช้ใบกะเพรา สรรพคุณของกะเพรา ประมาณ ๒ ก�ำมือน�ำมาต�ำผสมเหล้าขาวแล้วน�ำมาทา บรเิ วณทเี่ ปน็ ลมพษิ (ใบ) ๑. ใช้ทำ� เปน็ ยาอายวุ ัฒนะ (the Elixir of Life) ๑๕. ใช้ท�ำเป็นยารักษากลากเกลื้อน ด้วยการ ๒. ใบช่วยท�ำให้ร่างกายอบอุ่นและป้องกัน ใชใ้ บสดประมาณ ๒๐ ใบน�ำมาขยใ้ี ห้น�้ำออกมา แลว้ น�ำ อาการหวดั ได้ มาใช้ทาบรเิ วณทเ่ี ป็นวันละ ๒ - ๓ ครงั้ จนกว่าจะหาย ๓. กะเพราเป็นส่วนประกอบของยาสมุนไพร หลายชนดิ เชน่ ยารกั ษาตานขโมยสำ� หรบั เดก็ ยาแกท้ าง เด็ก ฯลฯ ๔. รากแห้งน�ำมาชงหรือต้มกับน�้ำร้อนดื่ม ช่วยแก้โรคธาตพุ ิการ ๕. ใบช่วยบำ� รุงธาตุไฟ (ใบ) ๖. ใบชว่ ยแกอ้ าการคลื่นเหยี นอาเจียน (ใบ) 88 นติ ยสารพลาธปิ ตั ย์ ปี ท่ี ๖๔ ฉบบั ท่ี ๒ เดือนพฤษภาคม - สิงหาคม ๒๕๖๔

๑๖. ใบสดใช้เป็นยารักษาหูด ด้วยการใช้ใบ ๒๓. ใบและก่ิงสดของกะเพรามีการน�ำมาสกัด กะเพราแดงสดน�ำมาขยแี้ ลว้ ทาบรเิ วณทเี่ ปน็ หดู เชา้ -เย็น เป็นน�้ำมันหอมระเหยด้วยการต้มกล่ันจนได้น้�ำมันหอม จนกวา่ หวั หดู จะหลดุ ออกมา โดยระวงั อยา่ ใหเ้ ขา้ ตาและ ระเหยรอ้ ยละ ๐.๐๘ - ๐.๒ โดยมรี าคาประมาณกโิ ลกรมั ถูกบริเวณผิวที่ไม่ได้เป็นหูด เพราะจะท�ำให้เนื้อดีเน่า ละหนึ่งหม่ืนบาท เปื่อยและรกั ษาได้ยาก ๒๔. ใชไ้ ล่ยุงหรือฆ่ายุง ด้วยการใชท้ ง้ั ใบสดและ ๑๗. ช่วยแก้พิษจากแมลงสัตว์กัดต่อยได้ ด้วย ก่ิงสด เอาใบมาขยี้แล้ววางใกล้ๆ ตัว จะช่วยไล่ยุงและ การใชใ้ บกะเพรานำ� มาตำ� ผสมกบั เหลา้ ขาว แลว้ นำ� มาทา แมลงได้ โดยนำ�้ มนั กะเพราทส่ี กดั มาจากใบจะมคี ณุ สมบตั ิ บริเวณท่ีถกู กัด หา้ มนำ� มารบั ประทานเดด็ ขาดเพราะจะ ชว่ ยไลย่ งุ ได้ดีกวา่ ตน้ สด (ใบสด, กงิ่ สด) มสี ารยจู นี อล (Eugenol) ซง่ึ อาจจะทำ� ใหเ้ กดิ การระคาย เคอื งในกระเพาะอาหารและอาจถึงขน้ั โคม่าได้ ๒๕. นำ�้ มนั สกดั จากใบสด ช่วยลอ่ แมลง ท�ำให้ แมลงวันทองบินมาตอมนำ�้ มันนี้ (นำ�้ มนั สกัดจากใบสด) ๑๘. นำ้� มนั ใบกะเพราชว่ ยยบั ยงั้ การเจรญิ เตบิ โต ของเชอ้ื โรคและช่วยฆา่ เชอ้ื จุลนิ ทรยี ์บางชนดิ ได้ ๒๖. ใชใ้ นการประกอบอาหารและช่วยดับกลิ่น คาวของเนอ้ื สตั ว์ ในเมนกู ะเพราสดุ โปรด เชน่ ผดั กะเพรา ๑๙. มีงานวิจัยพบว่าสารสกัดจากกะเพรา แกงเลยี ง แกงปา่ แกงควั่ แกงเขยี วหวาน แกงสม้ มะเขอื ขนื่ สามารถช่วยยับย้ังสารอะฟลาทอกซิน (Aflatoxin) ซึ่ง ผัดกบ ผัดหมู ผัดปลาไหล พล่าปลาดุก พล่ากุ้ง หรือ เป็นสารพิษท่ีมักพบเจือปนในอาหารซ่ึงเป็นสารก่อโรค จะนำ� ใบกะเพรามาทอดแลว้ ใชโ้ รยหนา้ อาหารเมนตู า่ ง ๆ มะเรง็ ได้ ก็ได้ ฯลฯ ๒๐. ใบกะเพรามีฤทธ์ิในการช่วยขับไขมันและ ๒๗. ใบกะเพราสามารถช่วยดับกล่ินปากอันไม่ น�้ำตาลส่วนเกินออกจากร่างกาย ช่วยลดระดับไขมันใน พงึ ประสงค์ได้ (ใบ) รา่ งกายและชว่ ยลดระดบั นำ�้ ตาลในเลอื ด ชว่ ยปอ้ งกนั โรค เบาหวานได้ โดยมีการใช้ใบกะเพราในกระต่ายทดลอง แหล่งอ้างอิง : สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยให้กระต่ายกินใบกะเพราติดต่อ ๔ สัปดาห์พบว่า แหง่ ประเทศไทย (วว.), สำ� นกั งานหอพรรณไม้ กรมอทุ ยานแหง่ ชาติ ระดับไขมันโดยรวมลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งไขมันเลว สัตว์ป่าและพันธุ์พืช, ส�ำนักงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช (LDL) ลดลง แตไ่ ขมนั ชนดิ ดี (HDL) กลบั เพ่มิ ขน้ึ อนั เนอ่ื งมาจากพระราชดำ� รสิ มเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรม ราชกุมารี, กรมชลประทาน, ส�ำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้าง ๒๑. ชว่ ยเพม่ิ นำ�้ นมใหส้ ตรหี ลงั คลอดบตุ ร ดว้ ย เสริมสุขภาพ (สสส.), กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์, วิกิพีเดีย การใชใ้ บกะเพราสดประมาณ ๒ กำ� มอื นำ� มาใสแ่ กงเลยี ง สารานุกรมเสรี (EN) รับประทานบอ่ ย ๆ ในช่วงหลังคลอด ๒๒. น�ำเมล็ดไปแช่น้�ำจะพองตัวเป็นเมือกขาว นำ� มาใชพ้ อกบรเิ วณตา เมอื่ มฝี นุ่ ละอองหรอื เศษผงเขา้ ตา ผงหรอื ฝนุ่ ละอองกจ็ ะหลดุ ออกมา โดยไมท่ ำ� ใหต้ าของเรา น้นั ชำ้� อกี ด้วย นิตยสารพลาธิปตั ย์ ปี ท่ี ๖๔ ฉบับท่ี ๒ เดอื นพฤษภาคม - สิงหาคม ๒๕๖๔ 89

กินไข่ทกุ วนั อันตรายจริงหรอื ไม่ ไ ข่ เป็นอาหารท่ีอุดมคุณค่าทางโปรตีนสูง โดย ประติมา โดยในไข่ ๑ ฟองใหญ่ๆ ประกอบด้วยโปรตีน เพิม่ พัฒนาการสมองและความทรงจ�ำด้วย ขอ้ ดอี กี ประการหนง่ึ ของการรบั ประทานไขก่ ค็ อื ทม่ี คี ณุ คา่ สงู ถงึ ๗ กรมั ซงึ่ คดิ เปน็ รอ้ ยละ ๑๐ ของปรมิ าณ ความอิม่ ทอ้ ง ไข่ ๑ ฟอง ขนมปังธญั พืช ๑ แผ่น และสม้ โปรตีนที่แนะน�ำต่อวัน ไขมัน ๕ กรัม และไขมันอ่ิมตัว ผลเล็กๆ สัก ๑ ผล นับเป็นอาหารเช้าแคลอรี่ต่�ำที่อาจ ๑.๖ กรมั ในขณะทใี่ หพ้ ลงั งานแคลอรเี่ พยี งประมาณ ๗๕ ชว่ ยใหร้ สู้ กึ อมิ่ ไดจ้ นถงึ มอ้ื กลางวนั ซงึ่ ถอื เปน็ ตวั เลอื กทด่ี ี แคลอร่ี หรือราวๆ รอ้ ยละ ๔ ของปริมาณแคลอร่ที คี่ วร ส�ำหรับผู้ที่ต้องการลดน�้ำหนักซึ่งควรรับประทานอาหาร ไดร้ ับในแตล่ ะวนั (๒๐๐๐ แคลอรี่) และยังมีสารอาหาร อันอุดมด้วยคุณค่าทางสารอาหารและท�ำให้อิ่มท้องได้ มากคณุ คา่ อีกหลากหลายชนดิ เช่น ธาตเุ หลก็ วติ ามินบี จนถึงม้ือถัดไป ไม่ต้องรับประทานจุบจิบเพราะรู้สึกหิว โอเมก้า ๓ แร่ธาตุต่างๆ หรือกระทั่งกรดโฟเลตซึ่งเป็น ระหว่างม้ือ สารส�ำคัญท่ีคณุ แมต่ ้งั ครรภค์ วรได้รบั นอกจากน้ี คณุ ประโยชนข์ องไขย่ งั เทยี บ ได้พอๆ กับนมเลยทีเดียว โดยกล่าวกันว่าไข่ยัง มคี ณุ คา่ ทางสารอาหารสำ� คญั สำ� หรบั ชว่ ยปอ้ งกนั โรคตา่ งๆ เช่น สารลทู นี (Lutein) และซีแซนทีน (Zeaxanthin) ซ่ึงเป็นสารท่ีคาดว่าอาจช่วยลด ความเส่ียงต่อโรคจอประสาทตาเสื่อม โรคที่ สามารถนำ� ไปสกู่ ารตาบอดในผสู้ งู อายไุ ด้ รวมถงึ สารโคลีน (Choline) ที่อาจมีประโยชน์ในการ 90 นิตยสารพลาธิปตั ย์ ปี ท่ี ๖๔ ฉบับท่ี ๒ เดือนพฤษภาคม - สิงหาคม ๒๕๖๔

แม้ไข่จะประกอบด้วยสารอาหารทรงคุณค่า ทง้ั นจ้ี ะไมม่ กี ารใหผ้ เู้ ขา้ รว่ มเปลยี่ นแปลงการรบั เพยี งใด แตข่ อ้ หนง่ึ ทที่ ำ� ใหห้ ลายคนไมอ่ าจรบั ประทานไข่ ประทานแตอ่ ยา่ งใด ซงึ่ ผเู้ ขา้ รว่ มทดลองสว่ นใหญร่ ายงาน ไดอ้ ยา่ งสบายใจกเ็ พราะไขม่ ปี รมิ าณคอเลสเตอรอลคอ่ น วา่ ได้รับประทานไข่สัปดาห์ละ ๑ ฟอง สว่ นกลมุ่ ผสู้ ูงอายุ ขา้ งสงู โดยไขฟ่ องใหญๆ่ อาจประกอบดว้ ยคอเลสเตอรอล ผทู้ มี่ นี ำ้� หนกั มากเกนิ หรอื ผทู้ อ่ี อกกำ� ลงั กายนอ้ ย สบู บหุ รี่ สงู ถึง ๒๑๓ มลิ ลกิ รัม หรือเทยี บเท่ากับ ๒ ใน ๓ ของ มคี อเลสเตอรอลสงู และมปี ระวตั ิป่วยเปน็ โรคเบาหวาน ขดี จำ� กัดปริมาณคอเลสเตอรอลท่ีแนะนำ� ใหร้ บั ประทาน และความดันโลหิตสูงมาก่อนนั้น มีแนวโน้มการ ในแต่ละวัน รับประทานไขใ่ นปรมิ าณท่ีมากกว่า ด้วยความกลัวที่ว่าคอเลสเตอรอลที่สูงจะเป็น จากการสรปุ ผลการตดิ ตามเปน็ เวลาอนั ยาวนาน อันตรายต่อร่างกาย หลายคนเลือกรับประทานเฉพาะ มผี เู้ สยี ชวี ติ หลงั ชว่ งเวลาดงั กลา่ วจำ� นวน ๕,๑๖๙ คน และ ไขข่ าวทไ่ี มม่ คี อเลสเตอรอล ทวา่ ไขแ่ ดงนน้ั คอื สว่ นทอี่ ดุ ม แมจ้ ะใชค้ า่ สถติ ิปรับวิเคราะหป์ จั จยั เส่ียงอืน่ ๆ แลว้ ชาย ด้วยคุณค่าทางอาหารสูง การไม่รับประทานไข่แดงจึง ท่ีบริโภคไข่วันละ ๖ ฟองขึ้นไปก็ยังมีโอกาสเสียชีวิต เท่ากับพลาดสารอาหารดีๆ อันมีประโยชน์ไป รวมถึง มากกวา่ ถงึ ๒๓ เปอร์เซ็นต์ โดยอัตราเสย่ี งจะยงิ่ สงู มาก ช่วงหลังท่ีมีการแนะน�ำว่ากินไข่ทุกวันเป็นประโยชน์ ข้นึ ในผู้ป่วยโรคเบาหวาน มากกวา่ โทษ ทำ� ใหเ้ รม่ิ เกดิ ความสบั สนวา่ ควรรบั ประทาน มากน้อยแค่ไหนจึงจะปลอดภัย และไข่มีประโยชน์หรือ อยา่ งไรกด็ ี แมจ้ ะพบอตั ราการเสยี ชวี ติ ทมี่ ากกวา่ โทษตอ่ ร่างกายกนั แน่ แต่การบริโภคไข่ก็ไม่ได้มีส่วนเก่ียวข้องกับความเสี่ยง ต่อภาวะกล้ามเน้ือหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน หรือ ยอ้ นกลบั ไปเมอ่ื หลายสบิ ปกี อ่ น มกี ารศกึ ษาพบ โรคหลอดเลือดสมอง แม้แต่ในกลุ่มที่รับไข่มากกว่า ว่าชายทบ่ี ริโภคไขไ่ ก่มากกวา่ สปั ดาห์ละ ๖ ฟอง มอี ตั รา ๖ - ๗ ฟองต่อสปั ดาห์กต็ าม การเสียชีวิตสูงกว่าผู้ท่ีรับประทานไข่น้อยกว่า โดยงาน วิจัยดังกล่าวเป็นการศึกษาระยะยาวในชายจ�ำนวน เช่นเดียวกับงานวิจัยอีกหลายๆ งานที่ไม่พบ ๒๑,๓๐๐ คน ท่มี ีอายเุ ฉล่ยี ๕๔ ปี เปน็ เวลานานกวา่ ๒๐ ปี ความเชื่อมโยงระหว่างการรับประทานไข่และการเกิด ซ่ึงในทุกๆ ปีจะให้ผู้เข้าร่วมการทดลองจดบันทึกการ ภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันหรือโรคหลอดเลือด บรโิ ภคไข่ การทำ� กจิ กรรมออกกำ� ลงั กายตา่ งๆ พฤตกิ รรม ในสมอง ซึ่งเป็นโรคที่มีสาเหตุหนึ่งมาจากระดับ สูบบหุ ร่ี ด่ืมแอลกอฮอล์ การบรโิ ภคผักผลไม้และธัญพชื คอเลสเตอรอลสะสมในเลอื ดทสี่ งู นอกจากนผี้ เู้ ชย่ี วชาญ ในตอนเชา้ รวมถงึ การปว่ ยเปน็ โรคเบาหวาน ภาวะความ บางคนยังเห็นแย้งว่างานวิจัยท่ีชี้ถึงอัตราการเสียชีวิตใน ดนั โลหิต และการใชย้ าแอสไพรินในแตล่ ะราย ผบู้ ริโภคไขม่ ากกว่า ๖ ฟองต่อสปั ดาห์นัน้ ไมไ่ ดพ้ จิ ารณา อาหารอ่ืนๆ ท่ีผู้เข้าร่วมทดลองอาจรับประทานเช่นกัน นติ ยสารพลาธปิ ัตย์ ปี ท่ี ๖๔ ฉบับท่ี ๒ เดือนพฤษภาคม - สงิ หาคม ๒๕๖๔ 91

และไมไ่ ดร้ ะบสุ าเหตกุ ารเสียชวี ติ จงึ ไมอ่ าจรูไ้ ดแ้ น่ชดั วา่ โรคต่างๆ ทว่าในปัจจุบัน ข้อมูลการศึกษายังมีน้อยอยู่ สาเหตุการเสียชีวิตมาจากการรับประทานไข่มากเกินไป มาก ส่วนใหญ่ยังคลุมเครือและระบุไม่ได้ชัดเจนว่าไข่มี หรือมาจากสาเหตใุ ด คุณสมบตั ใิ นการป้องกันหรอื รักษาโรคเหลา่ นเ้ี พียงใด ตอ่ มานกั วจิ ยั แหง่ มหาวทิ ยาลยั ฮาวารด์ ไดม้ กี าร โรคหลอดเลอื ดสมอง ทมี่ าของคณุ ประโยชนข์ อง ศึกษาและติดตามการรับประทานไข่ของนางพยาบาล ไขใ่ นขอ้ นอ้ี าจมาจากการเผยแพรผ่ ลวจิ ยั ชนิ้ หนงึ่ ทศี่ กึ ษา จำ� นวน ๑๑๗,๐๐๐ คน เป็นเวลา ๘ - ๑๔ ปี ซงึ่ ผลลพั ธ์ ความเชื่อมโยงระหว่างการรับประทานไข่กับความเส่ียง ไม่พบความแตกต่างของอัตราเส่ียงต่อโรคหัวใจระหว่าง ต่อโรคหลอดเลือดในสมองและโรคหัวใจ โดยพบว่าเม่ือ กลุ่มที่รับประทานไข่สัปดาห์ละ ๑ ฟอง และกลุ่มที่ เทยี บกบั กลมุ่ ทรี่ บั ประทานไขน่ อ้ ยกวา่ ๒ ฟองตอ่ สปั ดาห์ รบั ประทานไขม่ ากกวา่ วนั ละ ๑ ฟองแตอ่ ย่างใด กลมุ่ ทร่ี บั ประทานไขป่ ระมาณวนั ละ ๑ ฟอง มคี วามเสย่ี ง ตอ่ การเกดิ โรคหลอดเลอื ดสมองลดลงไป ๑๒ เปอรเ์ ซน็ ต์ นอกจากน้ี จากการศึกษาเพ่ิมเติม ผู้เช่ียวชาญ ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขท่ีค่อนข้างน้อยและไม่ได้มีนัยส�ำคัญ หลายคนยังมีความเห็นว่าการรับประทานอาหารท่ีมี ทางสถิติ อาจเป็นเพียงค่าความคลาดเคลื่อนของการ คอเลสเตอรอลสูงน้ันอาจไม่ได้ส่งผลต่อการสะสมของ ทดลองเทา่ น้นั คอเลสเตอรอลในเลอื ดหรอื มคี วามสมั พนั ธก์ บั ความเสย่ี ง ตอ่ การเกดิ โรคหวั ใจมากอยา่ งทเี่ คยเชอื่ กนั มา หากแตเ่ ปน็ นอกจากนี้ การศึกษาดังกล่าวก็ไม่อาจยืนยัน น้�ำตาลและไขมันชนิดอิ่มตัว เช่น ผลิตภัณฑ์จากนมท่ีมี หรืออธิบายได้ว่าความเสี่ยงต่อโรคที่ลดลงน้ันจะมีความ ไขมันเต็มส่วน หรือเน้ือติดมันท้ังหลายที่มีไขมันอิ่มตัว สัมพันธ์กับจ�ำนวนไข่ที่รับประทานอย่างไร ท้ังยังพบว่า จ�ำนวนมากและเป็นปัจจัยกระตุ้นให้ร่างกายผลิต เป็นการศึกษาที่ได้รับการสนับสนุนโดยศูนย์โภชนาการ คอเลสเตอรอลสะสมในรา่ งกาย รวมถึงการไมอ่ อกกำ� ลงั ไขใ่ นสหรฐั อเมรกิ า ซงึ่ ในงานวจิ ยั ยงั มกี ารกลา่ วอา้ งขอ้ มลู กายทน่ี า่ จะเปน็ ตวั การเพมิ่ โอกาสเสย่ี งเกดิ โรคหวั ใจหรอื จากศูนย์โภชนาการไข่โดยไม่ได้ระบุว่าสถาบันดังกล่าว ส่งผลต่อระดบั คอเลสเตอรอลไดม้ ากกว่า เป็นผู้สนับสนุน ท�ำให้ผลการวิจัยอาจมีความเอนเอียง มปี ระโยชนท์ างการคา้ แอบแฝง และเชอื่ ถอื ไดไ้ มเ่ พยี งพอ ดังนั้น หลังจากกระแสการต่ืนตระหนกต่อ อนั ตรายจากการบรโิ ภคไข่ ในปี ค.ศ. ๒๐๐๐ สมาคมโรค เสรมิ สรา้ งพฒั นาการสมอง เนอ่ื งจากในไขม่ สี าร หัวใจแห่งสหรัฐอเมริกาก็ได้ทบทวนแนวทางการบริโภค โคลนี (Choline) ทเี่ ม่อื ไปรวมกับกรดไขมนั ฟอสโฟลพิ ดิ อาหารและประกาศให้ทุกคนรับประทานไข่ได้ตามปกติ (Phospholipid) จะเกิดเป็นสารเลซิทิน (Lecithin) โดยผทู้ มี่ สี ขุ ภาพดจี ะสามารถรบั ประทานไดท้ กุ วนั วนั ละ ๑ ฟอง ตราบใดทย่ี งั ไมเ่ กนิ ขดี จำ� กดั คอเลสเตอรอล ๓๐๐ มิลลิกรัม ซึ่งไข่ฟองใหญ่ ๑ ฟองจะมีคอเลสเตอรอล ประมาณ ๒๑๓ กรัม จึงควรควบคุมคอเลสเตอรอลใน อาหารอื่นๆ ท่ีรับประทานร่วมด้วย โดยเฉพาะผู้ป่วย โรคหวั ใจ เบาหวาน หรอื มีระดบั ไขมนั ชนิดไมด่ ีในเลือด สูงท่ีควรเลือกรับประทานไข่ฟองเล็กๆ หรือขนาดกลาง มากกว่าไข่ฟองใหญ่ท่ีมีคอเลสเตอรอลสูงกว่า และ แนะนำ� ใหจ้ ำ� กดั การรบั ประทานไขแ่ ดงเพยี งสปั ดาหล์ ะ ๓ ฟอง ส่วนไข่ขาวรับประทานได้ตามปกติเพราะไม่มี คอเลสเตอรอล กนิ ไข่อยา่ งไรให้ได้ประโยชน์ นอกจากอนั ตรายจากการรบั ประทานไขท่ ก่ี ลาย เป็นเพยี งความเข้าใจผดิ ในอดตี ไปแลว้ ยังมกี ารกล่าวถงึ คณุ ประโยชนท์ างสขุ ภาพของไขต่ อ่ การรกั ษาหรอื ปอ้ งกนั 92 นิตยสารพลาธปิ ัตย์ ปี ท่ี ๖๔ ฉบบั ท่ี ๒ เดือนพฤษภาคม - สงิ หาคม ๒๕๖๔

ซึ่งเป็นส่วนส�ำคัญต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการ จอประสาทตาเสอื่ ม อกี หนง่ึ โรครา้ ยแรงเกย่ี วกบั ของสมอง จึงเช่อื กันว่าไขอ่ าจชว่ ยเสรมิ สร้างการทำ� งาน ดวงตาท่ีอาจท�ำให้ผู้ป่วยตาบอดได้เช่นเดียวกับโรค ของสมองได้ โดยเฉพาะในเด็กเล็ก ต้อกระจก ด้วยคณุ สมบัติของไขท่ อ่ี ดุ มไปดว้ ยสารแคโรที- นอยด์ (Carotenoids) ลูทีน (Lutein) และซีแซนทีน นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยที่แนะน�ำให้คุณแม่ต้ัง (Zeaxanthin) ท่ีคาดว่าอาจมีประโยชน์ช่วยป้องกัน ครรภ์รับประทานอาหารที่อุดมด้วยสารโคลีนเพ่ือเพิ่ม เนื้อเยื่อจอตาและการเสื่อมของจอประสาทตาท่ีเป็นไป การพัฒนาด้านความทรงจ�ำและการเจริญเติบโตของ ตามอายุท่ีมากข้ึน โดยสารเหล่าน้ีจะพบได้สูงในไข่แดง สมองทารก ซึง่ อาหารอันอุดมด้วยสารชนิดน้ีสูงทคี่ ุณแม่ นั่นเอง อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังไม่มีการศึกษา สามารถเลือกรับประทานไดก้ ็คอื ตบั วัว (มโี คลีน ๔๑๘ ประสิทธิภาพของไข่ต่อการป้องกันหรือรักษาโรคจอตา มลิ ลิกรมั /๑๐๐ กรมั ) ตับไก่ (มีโคลนี ๒๙๐ มิลลิกรัม/ เสอ่ื มทพี่ อจะยนื ยนั ประโยชน์ข้อนี้ของไขไ่ ด้แต่อยา่ งใด ๑๐๐ กรมั ) และไขไ่ ก่ (มโี คลนี ๒๕๑ มลิ ลกิ รมั /๑๐๐ กรมั ) ลดนำ�้ หนกั การรบั ประทานไขเ่ ปน็ สว่ นหนงึ่ ของ ต้อกระจก ภาวะแทรกซ้อนของโรคต้อกระจก มอื้ อาหารอาจชว่ ยใหอ้ ม่ิ ยาวนานขน้ึ และรบั ประทานนอ้ ย อาจนำ� ไปสอู่ าการตาบอดในผสู้ งู อายุ ซง่ึ เปน็ สาเหตทุ พี่ บ ลงได้ เนื่องจากในไข่ประกอบด้วยไขมันและโปรตีนท่ี ได้มากที่สุดของภาวะตาบอด แต่การรับประทานไข่จะ สามารถเพิ่มความรู้สึกอ่ิมได้ จากการศึกษาในผู้หญิง ช่วยป้องกันการเกิดโรคท่ีร้ายแรงน้ีได้หรือไม่นั้นยังไม่มี จ�ำนวน ๒๕ คน อายุระหว่าง ๒๕ - ๖๐ ปี โดยแบง่ กลมุ่ ให้ การศึกษาท่ีเชื่อถือได้ออกมายืนยัน คุณสมบัติดังกล่าว อดอาหารในคืนก่อนการทดลอง วันต่อมารับประทาน เปน็ เพยี งการเชอ่ื มโยงจากคณุ สมบตั ขิ องสารอาหารชนดิ อาหารเชา้ ทมี่ ไี ขห่ รอื เบเกลิ เปน็ หลกั ตามดว้ ยมอื้ กลางวนั หน่ึงท่ีพบในไข่ คือลูทีน (Lutein) ซ่ึงคาดว่าอาจมี ในอีก ๓.๕ ช่ัวโมงถัดมา ปรากฏว่าในช่วงระหว่างมื้อ ประโยชน์ต่อจอตาและยับยั้งการเกิดโรคต้อกระจก กลางวนั กลมุ่ ทรี่ บั ประทานมอื้ เชา้ เปน็ ไข่ รสู้ กึ อม่ิ มากกวา่ เนื่องจากมีงานวิจัยบางส่วนท่ีพบว่าการรับประทาน และรบั ประทานอาหารมอื้ กลางวนั นอ้ ยกวา่ อกี กลมุ่ อยา่ ง ลูทีนอาจมีส่วนช่วยลดโอกาสเส่ียงเป็นต้อกระจกและ มีนยั สำ� คญั โรคเกย่ี วกบั ตาชนดิ อน่ื ๆ ทเี่ กดิ ขนึ้ ตามอายทุ มี่ ากขนึ้ เชน่ จอประสาทตาเสอ่ื ม ตอ้ หนิ เบาหวานขน้ึ ตา การมองเหน็ เช่นเดียวกับอีกงานวิจัยท่ีมีขนาดใหญ่ขึ้นใน เลอื นราง และอาการตาแหง้ หลายปถี ดั มาทท่ี ดลองกบั อาสาสมคั รทงั้ เพศชายและเพศ หญิงจ�ำนวน ๑๕๒ คนท่ีมีน้�ำหนักเกินมาตรฐานหรือ มภี าวะอว้ น โดยใหร้ บั ประทานอาหารเชา้ ทปี่ ระกอบดว้ ย ไข่ ๒ ฟอง (๓๔๐ แคลอร่ี) อย่างนอ้ ย ๕ วนั ต่อสปั ดาห์ นาน ๘ สัปดาห์ เปรียบเทียบกับอีกกลุ่มท่ีรับประทาน เบเกิลเป็นหลัก พบว่ากลุ่มท่ีรับประทานไข่มีค่าดัชนี มวลกายลดลงมากกว่าอีกกลุ่มคิดเป็น ๖๑ เปอร์เซ็นต์ นิตยสารพลาธปิ ตั ย์ ปี ท่ี ๖๔ ฉบบั ท่ี ๒ เดือนพฤษภาคม - สงิ หาคม ๒๕๖๔ 93

น�้ำหนักลดลงมากกวา่ ๖๕ เปอร์เซ็นต์ และมีรอบเอวลด เวลาการทดลองนานกว่าน้ีหรือเพ่ิมปริมาณโปรตีนจาก ลงมากกวา่ ๓๔ เปอรเ์ ซน็ ต์ รวมถงึ มวลไขมนั ในรา่ งกาย ไข่ขาวท่ีรับประทานเพื่อเปรียบเทียบผลลัพธ์ให้ชัดเจน ที่ลดลงมากกว่าอีกกลุ่ม ๑๖ เปอร์เซ็นต์ โดยผู้วิจัย เช่นเดียวกบั คุณประโยชน์ด้านอนื่ ๆ ของไข่ ได้สรุปว่าการรับประทานไข่ในม้ือเช้าควบคู่กับการ ควบคุมปริมาณพลังงานจากอาหาร มีส่วนช่วยในการ เบาหวาน มกี ารศกึ ษาในผปู้ ว่ ยเบาหวานชนดิ ที่ ลดนำ้� หนักได้ ๒ ดว้ ยการสบั เปล่ียนการรับประทานอาหารเปน็ ๒ ชว่ ง ระยะ โดย ๑๒ สปั ดาหแ์ รกรบั ประทานอาหารทป่ี ระกอบ เพ่ิมความแข็งแรงและขนาดของกล้ามเนื้อ ไข่ ดว้ ยไข่วันละ ๒ ฟอง สว่ นอกี ๑๒ สัปดาหไ์ มร่ บั ประทาน เปน็ หนงึ่ ในเมนโู ปรตนี สงู แตร่ าคาประหยดั ทผี่ ทู้ ต่ี อ้ งการ ไข่ เมอ่ื เทยี บกนั ใน ๒ ระยะ พบวา่ การรบั ประทานไขท่ กุ วนั มีกล้ามเน้ือท้ังหลายต่างเลือกรับประทาน เพราะเชื่อว่า ในช่วงระยะเวลาดังกล่าวไม่ได้ช่วยลดระดับน้�ำตาลใน จะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อได้ดี ส�ำหรับการศึกษาถึง เลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวาน ทว่าจากการประเมินทาง ประสิทธิภาพของไข่ในด้านนี้มีงานวิจัยท่ีทดลองให้ผู้เข้า ภาวะโภชนาการนัน้ มผี ลลพั ธท์ ดี่ ีขน้ึ อย่างไรกต็ าม การ ร่วมรับประทานไข่ขาว ๑๕ กรัม (๗๕ แคลอร่ี) กับอีก ศึกษาดังกล่าวเป็นเพียงการทดลองขนาดเล็กท่ีมีผู้ป่วย กลุ่มทรี่ ับประทานแป้ง ๑๗.๕ กรัม (๗๘ แคลอร)่ี ทกุ วัน โรคเบาหวานชนดิ ที่ ๒ จำ� นวน ๓๔ คน จึงยังไม่อาจสรปุ กอ่ นการออกก�ำลงั กาย นาน ๘ สัปดาห์ ได้ว่าการรับประทานไข่น้ันเป็นผลดีต่อการรักษาผู้ป่วย โรคเบาหวานจริงหรือไม่ ผลลัพธ์ช้ีว่าการออกก�ำลังกายควบคู่กับการ รบั ประทานโปรตนี จากไขข่ าวหรอื คารโ์ บไฮเดรตนา่ จะมี บ�ำรุงผม ผลิตภัณฑ์บ�ำรุงผมบางชนิดมีโปรตีน ส่วนช่วยเพิ่มกล้ามเน้ือท่ีปราศจากไขมันและเพ่ิมความ ไข่แดงเป็นส่วนผสม โดยเช่ือว่าเป็นหน่ึงในสารอาหารท่ี แขง็ แรงของกลา้ มเนอื้ เฉพาะสว่ น แตเ่ มอ่ื เทยี บกบั กลมุ่ ที่ จะชว่ ยบำ� รงุ สุขภาพผม นอกจากน้ยี ังมหี ลากหลายสูตร รับประทานคาร์โบไฮเดรต โปรตีนจากไข่ขาวไม่ได้เพิ่ม หมักผมด้วยไข่ท่ีบอกต่อกันอย่างแพร่หลายถึงสรรพคุณ ความแข็งแรงทั้งหมดของร่างกาย ประโยชน์ข้อน้ีของ ช่วยแกป้ ัญหาผมสารพดั ทัง้ ผมแหง้ เสีย ผมมนั ผมแตก โปรตีนจึงยังควรต้องมีการศึกษาเพ่ิมเติมที่อาจใช้ระยะ ปลาย ไมม่ ีน�้ำหนกั และอนื่ ๆ อีกมาก และแมเ้ คลด็ ลบั เหลา่ นไี้ มไ่ ดม้ กี ารพสิ จู นท์ างวทิ ยาศาสตรอ์ ยา่ งใดกน็ า่ จะ สามารถทดลองใชต้ ามกนั ไดโ้ ดยไมเ่ ปน็ อนั ตราย เพยี งแต่ ไม่อาจรบั ประกันวา่ จะชว่ ยบำ� รงุ ผมไดจ้ ริงหรอื ไม่ เคล็ดลับรับประทานไข่อย่างปลอดภัยและ สขุ ภาพดี เนอื่ งจากไขเ่ ปน็ อาหารทม่ี คี อเลสเตอรอลสงู ผมู้ ี ปัญหาระดับคอเลสเตอรอลสูงที่ควรควบคุมอาหารจึง ควรจ�ำกัดการรับประทานและท�ำตามค�ำแนะน�ำของ แพทยใ์ นการรบั ประทานไข่ นอกจากนผี้ ทู้ ยี่ งั ไมเ่ คยตรวจ 94 นติ ยสารพลาธปิ ัตย์ ปี ท่ี ๖๔ ฉบบั ท่ี ๒ เดอื นพฤษภาคม - สิงหาคม ๒๕๖๔

ไขมันในเลือดก็ควรมีการตรวจวัดระดับคอเลสเตอรอล ๑. ควรเก็บรักษาไข่ในตู้เย็นด้วยอุณหภูมิท่ี และไขมันอ่ิมตัว เพ่ือระมัดระวังและควบคุมพฤติกรรม เหมาะสม การรบั ประทานอาหารได้อยา่ งเหมาะสม ๒. ปรงุ ให้สกุ โดยทัว่ เพือ่ ฆ่าเชอ้ื แบคทเี รียในไข่ท่ี ท้ังนี้การรับประทานไข่เพ่ือให้ได้ประโยชน์ทาง อาจเปน็ อนั ตรายตอ่ รา่ งกาย เชน่ แบคทเี รยี ซาลโมเนลลา สุขภาพสูงสุดมีวธิ ีการปรงุ และปริมาณทีแ่ นะนำ� ดงั นี้ (Salmonella) ที่สามารถท�ำให้มีอาการปวดท้องหรือ ท้องเสียอย่างรุนแรง หรือถ้าไม่ต้องการให้สุกกรอบ จนเกินไป การใช้ไฟอ่อนๆ ก็สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ไดเ้ ช่นกนั ๓. หากต้องการรับประทานไข่ไมส่ ุก ควรใช้ไขท่ ี่ ผา่ นการพาสเจอไรซ์แล้ว ๔. โดยมาก ผู้ท่ีมีสุขภาพดีจะสามารถ รบั ประทานไขไ่ ด้ทุกวนั วนั ละ ๑ ฟอง แต่ควรตอ้ งคอย ควบคุมปริมาณคอเลสเตอรอลที่ได้รับในอาหารชนิด อ่ืนๆ เพราะล�ำพังไข่น้ันถือว่ามีคอเลสเตอรอลในระดับ สูงอยูแ่ ล้ว โดยเฉพาะผปู้ ่วยโรคหวั ใจ เบาหวาน หรือผมู้ ี ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูงท่ีควรเลือกรับประทาน ไข่ฟองเล็กหรือขนาดกลางซ่ึงมีคอเลสเตอรอลน้อยกว่า และรับประทานไข่แดงไม่เกินสัปดาห์ละ ๓ ฟอง ส่วน ไขข่ าวนน้ั ไมม่ คี อเลสเตอรอล สามารถรบั ประทานไดโ้ ดย ไมต่ ้องเป็นกงั วล นติ ยสารพลาธิปตั ย์ ปี ท่ี ๖๔ ฉบับท่ี ๒ เดอื นพฤษภาคม - สิงหาคม ๒๕๖๔ 95

ทุ่งดอกมาชวกนาไปเเรทีย่ ็ตว “สวนป้านกเอี้ยง” จ.เชียงใหม่ โดย Run’br ส วัสดีค่ะ ช่วงนี้ยังอยู่ในช่วงอากาศหนาว ความงดงามของทุ่งดอกมากาเร็ตสีม่วงที่จัดเป็นมุม สวยๆ ปลูกเรียงเป็นแถวบนเนื้อท่ีโล่งกว้างกว่า ๒๐ ไร่ นกั ทอ่ งเทยี่ วหลายทา่ นจะพลาดไมไ่ ดท้ จี่ ะ บรรยากาศโปรง่ โลง่ สบายไมแ่ ออดั และหากใครเดนิ ทาง มาถ่ายรูปท่ีสถานที่แห่งน้ีที่เป็นซิคเนเจอร์ของเชียงใหม่ ไปในช่วงนี้ก็จะได้สัมผัสกับลมหนาวที่พัดโชยในยามเช้า นั่นกค็ ือ “สวนดอกไม้ อ.แม่รมิ ” สวนดอกไม้ท่ีนกั เขยี น และยามเยน็ นอกจากนใี้ นสวนมขี องสวยงามเตรยี มไวใ้ ห้ จะมาเล่า นัน่ กค็ อื สวนดอกไม้ป้านกเอ้ยี ง มากมาย ไม่ว่าจะเปน็ เปยี โนไม้กลางท่งุ ดอกไม้ ร่มหลากสี ให้ยืมฟรี ตะกร้าเก็บดอกไม้ มีเก้าอี้นั่งให้ถ่ายภาพแบบ สวนดอกไม้ป้านกเอ้ียง ถือเป็นอีกหนึ่งสวน ดอกไมข้ อง อ.แมร่ ิม ท่มี นี ักทอ่ งเที่ยวนยิ มเดนิ ทางมาชม 96 นติ ยสารพลาธปิ ัตย์ ปี ท่ี ๖๔ ฉบับท่ี ๒ เดอื นพฤษภาคม - สิงหาคม ๒๕๖๔

ถา่ ยมมุ สงู กม็ ี ทนี่ ก่ี เ็ ปน็ อกี หนงึ่ ตวั เลอื กทหี่ า้ มพลาด หรอื หากไม่มีช่างภาพมาท่ีน่ีก็มีบริการรับถ่ายรูปให้ด้วย ในราคา ๓๐๐ บาท สวนดอกไม้ป้านกเอี้ยง ต้ังอยู่ท่ี ต.เหมอื งแก้ว อ.แมร่ ิม จ.เชยี งใหม่ เปดิ ใหเ้ ขา้ ชมทุกวัน ตงั้ แตเ่ วลา ๐๖.๐๐ - ๑๘.๐๐ น. มคี า่ เขา้ ชมคนละ ๕๐ บาท (ไม่ต้องจองล่วงหน้า) และมีบริการจ่ายโครงการ คนละครึ่งส�ำหรับคุณลูกค้าที่มีสิทธ์ิด้วย ท่ีตั้งของสวน จะอยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ ๑๕ กม. มีท่ี จอดรถอยบู่ รเิ วณลานฝง่ั ตรงขา้ มกบั สวนดอกไมม้ คี า่ จอด ประมาณ ๒๐ บาทหากทา่ นนำ� รถไปเอง สอบถามข้อมูล เพ่ิมเติมไดท้ ี่ โทร. ๐๘๓-๕๘๑-๑๘๕๒ ท่ีสวนดอกไม้นี้สามารถถ่ายได้ท้ังวันไม่จ�ำกัด เวลาและถา้ หากถา่ ยรปู จนจใุ จแลว้ คณุ ผอู้ า่ นสามารถแวะ พักทานน้�ำทานอาหารได้ท่ีบริเวณทางเข้าสวนซ่ึงจะมี กระท่อมสำ� หรบั จ�ำหน่ายเครอื่ งดืม่ อาหาร นิตยสารพลาธปิ ตั ย์ ปี ท่ี ๖๔ ฉบบั ท่ี ๒ เดอื นพฤษภาคม - สงิ หาคม ๒๕๖๔ 97

ครัวพลา...ปรุงโดย ปไู ขห่ ลน BY: NY ส่ิงทต่ี ้องเตรยี ม ๑๑. ผกั เครอ่ื งเคยี งตามชอบคะ่ ขมน้ิ ขาว, แตงกวา, ๑. ปไู ข่ ๑ กก. นง่ึ และแกะเอาแต่เนอ้ื และไข่ (จะ มะเขอื เปราะ ตามชอบ วิธที �ำ ได้ทานง่าย) ถ้าชอบแบบไม่แกะเนื้อก็น�ำมาแกะกระดอง แล้วหนั่ เป็น ๔ สว่ น หรือสับทั้งกระดองเลยค่ะ ๑. น�ำหม้อตง้ั ไฟ เทหวั กะทิลงในหมอ้ ต้มหัวกะทิ ด้วยไฟกลางพอเดือด (ต้องคนตลอดนะคะ กะทิจะได้ ๒. น้�ำมะขามเปียก ๒ ชอ้ นโต๊ะ ไม่เกาะกนั เป็นเม็ดๆ และอยา่ ใหแ้ ตกมนั นะคะ) ๓. น้ำ� ตาลป๊ีบ ๑ ช้อนโตะ๊ ๔. หอมแดงซอย ๑๐ หวั (ตามชอบเลยคะ่ สว่ นตวั ชอบใสเ่ ยอะๆ) ๕. พริกขี้หนูสวนบุบ ๖ เม็ดและส�ำหรับโรยหน้า ตามชอบ ๖. พริกชีฟ้ า้ เหลอื ง-แดง, ห่นั แฉลบบางๆ อยา่ งละ ๑ เม็ด ๗. หวั กะทิ ๑/๒ กก. ๘. น�้ำปลา ๒ ชอ้ นโตะ๊ ๙. เกลอื ๑๐. ผงปรุงรส ๑ ช้อนชา 98 นิตยสารพลาธปิ ตั ย์ ปี ท่ี ๖๔ ฉบับท่ี ๒ เดอื นพฤษภาคม - สิงหาคม ๒๕๖๔

๒. ใส่หอมแดง, พริกชี้ฟ้าแดง-เหลอื ง ปรงุ รสด้วย โรยหน้าด้วยพริกข้ีหนู ทานกับผักเครื่องเคียงต่างๆ นำ้� มะขาม นำ้� ตาลปบ๊ี เกลอื นำ้� ปลา ผงปรงุ รส คนใหเ้ ขา้ กนั ได้เลยค่า แต่ขอท้ิงท้ายไว้สักหน่อยนะคะ ว่าถ้าอยากทาน ใส่พริกข้ีหนูบุบ ชิมรสชาติ เค็ม มัน เปร้ียว หวาน ปูไข่หลนแบบต้นต�ำรับดั้งเดิม ท่ีอร่อยที่สุดในสามโลก ตามตอ้ งการแล้วลดไฟลง ขออนุญาตแนะน�ำให้มาทานที่สถานพักผ่อนบางปูของเรา ค่ะ รบั รองว่าไม่ผิดหวงั แน่นอนคะ่ ๓. น�ำเนื้อปูไข่ท่ีเตรียมไว้ใส่ลงในหม้อ คนพอเข้า กันอย่าคนแรงเนื้อปูที่แกะไว้จะเละนะคะ ตักใส่ถ้วย อภนิ นั ทนาการจาก บรษิ ัท พซี ีเอส แอสโซซเิ อท จ�ากดั ๑๗ ซอยทานสมั ฤทธิ์ ๑๘ ถ.ตวิ านนท์ ต.ทา่ ทราย อ.เมอื ง จ.นนทบรุ ี ๑๑๐๐๐ มือถอื ๐๘๑๘๔๖๑๘๘๕ โทร ๐๒๙๕๐๗๑๕๙ นิตยสารพลาธปิ ัตย์ ปี ท่ี ๖๔ ฉบบั ท่ี ๒ เดอื นพฤษภาคม - สงิ หาคม ๒๕๖๔ 99

คลงั สมอง หนังสอื ทันสมัย มีคุณค่า ได้สาระ หาอ่านได้ ท่ี ห้องสมุดกรมพลาธิการทหารบก ห้องสมดุ พธ.ทบ. ช ม ร ม นั ก ก� ำ ห น ด อ า ห า ร แ ห ่ ง จุ ฬ า ล ง ก ร ณ ์ ทัทยา อนุสสร. มังสโภชนา สารพัดเน้ือเพ่ือ มหาวทิ ยาลยั . เมอ่ื วานปา้ ทานอะไร ?. กรงุ เทพฯ : มตชิ น, สขุ ภาพ. กรงุ เทพฯ : มตชิ น, ๒๕๕๔. ๓๒๐ หนา้ . ๑๒๐.- บาท ๒๕๕๗. ๒๒๔ หนา้ . ๒๐๐.- บาท ต้ังแต่เด็กๆ เราถูกสอนท้ังจากคุณครูท่ีโรงเรียน “เมื่อวานป้าทานอะไร?” แค่ช่ือหนังสือก็ชวนให้ และคุณพ่อ คุณแม่ ให้รู้จักหลักโภชนาการอย่างง่ายคือ อยากจะอา่ น ชวนให้สงสัยว่าปา้ แกกินอะไร แล้วถ้าหากเรา “อาหารหลัก ๕ หมู่” ซ่ึงประกอบไปด้วยโปรตีน กนิ ตามปา้ มนั จะดหี รอื ไมด่ ี แตพ่ อไดอ้ า่ นหนงั สอื เลม่ นจ้ี นจบ คารโ์ บไฮเดรต ไขมนั วิตามิน และเกลือแร่ เปน็ โภชนาการ กถ็ งึ กบั บางออ้ ...ในฐานะทผี่ มเปน็ นกั โภชนาการมายาวนาน ชน้ั ตน้ ทีห่ ากสามารถกนิ ไดค้ รบ ๕ หมูส่ ําหรบั ทกุ ๆ มอ้ื เราก็ เกือบ ๔๐ ปี ผมฝันว่าอยากจะเห็นหนังสือเกี่ยวกับ จะมีสุขภาพแข็งแรง แต่การกินให้ได้สารอาหารครบทุก โภชนาการทอี่ า่ นเขา้ ใจงา่ ย เปน็ เรอ่ื งราววถิ แี หง่ การกนิ ในยคุ ประเภทในทกุ ๆ มอ้ื ดจู ะเปน็ เรอื่ งยากไมใ่ ชเ่ ลน่ เนอ่ื งจากสว่ น ปัจจุบัน และสามารถประยุกต์สู่การปฏิบัติในชีวิตได้จริงๆ ประกอบในอาหารสว่ นใหญม่ กั จะมี “เนอ้ื สตั ว”์ เปน็ ตวั ชโู รง ออกวางตามแผงหนงั สือเป็นจาํ นวนมากๆ เพราะเหล่านค้ี อื ของอรอ่ ยท่ใี ครๆ กช็ อบ เรอ่ื งผัก-ผลไม้ก็มี กนิ กนั บา้ ง พอให้ไม่ละอายใจว่ากินผิดหลัก ครนั้ กนิ อยา่ งน้ี เสนห่ ข์ อง “เมอ่ื วานปา้ ทานอะไร?” ไมไ่ ดอ้ ยแู่ คก่ าร นานเขา้ โรคต่างๆ ก็เลยเขา้ มาทักทายเซย์ไฮกบั รา่ งกายให้ ผูกเร่ืองราวการกินอาหารของผู้คนในปัจจุบันให้สอดรับกับ ตกอกตกใจ บางโรคกท็ กั ทายผา่ นๆ แนะนาํ ใหร้ จู้ กั แลว้ จาก สุขภาวะได้แบบเนียนๆ แต่ยังเป็นการหาทางออกให้คน ไป แตบ่ างโรคพยายามทาํ ตวั สนทิ สนม ขนาดแสดงออกตรงๆ รุ่นใหม่ที่กําลังเผชิญกับภาวะโรคอ้วนได้พบเส้นทางการกิน วา่ รงั เกยี จ กย็ งั ไมว่ ายแวะเวยี นมาเสมอ พอคน้ หาสาเหตลุ กึ อาหารเพอื่ ปอ้ งกนั และลดความอว้ นไดอ้ ยา่ งลงตวั ความจรงิ ลงไปถึงได้รู้ว่าเป็นผลมาจากการกิน แล้วเจ้าเน้ือสัตว์ ทตี่ อ้ งยอมรบั คอื การเขยี นหนงั สอื ดา้ นโภชนาการทจี่ ะทาํ ให้ ทง้ั หลายก็ดจู ะกลายเปน็ “ผ้รู ้าย” ต่อสขุ ภาพไปในทนั ที ผอู้ ่านอ่านไดอ้ ยา่ งเข้าใจง่ายนนั้ เปน็ เรือ่ งที่คอ่ นข้างยาก จากตาํ ราอาหารสขุ ภาพทวี่ างขายอยทู่ ว่ั ไป และใน “โภชนาการ” เป็นเร่ืองท่ีซับซ้อน และมีหลาก หมู่ผู้นิยมอาหารสุขภาพ ท่ีมักจะหลีกเลี่ยงหรืองดกิน หลายประเด็น แต่หนังสือเล่มนี้ได้นําเอาศาสตร์ด้าน เน้ือสัตว์ แล้วหันไปชดเชยสารอาหารทข่ี าดเอาจากพืชแทน โภชนาการมาร้อยเรยี งใหง้ า่ ยต่อการอ่าน และสรรหาสาระ ซงึ่ กไ็ มใ่ ช่วธิ ีทีผ่ ดิ หรือไม่ดี เพียงแตผ่ รู้ ักสขุ ภาพ หลายๆ คน ทีเ่ ปน็ เรื่องใกลต้ วั เรามาบอกไดอ้ ย่างวิเศษ ก็อาจจะยงั ทาํ ใจไมไ่ ด้ ทีจ่ ะต้องบอกลาความหอมอร่อยของ เนอ้ื (วัว) หมู ไก่ ปลา กุ้ง ฯลฯ “เม่ือวานป้าทานอะไร” น่าจะเป็นส่วนหน่ึงของ ความพยายามของวงการโภชนาการในประเทศไทย ทอ่ี ยาก กอ่ นหนา้ นี้ ททั ยา อนสุ สร ไดน้ ําเสนอหนังสือเร่ือง เห็นคนไทยมีภาวะโภชนาการที่สมวัย ไม่มีโรคภัย ท้ังโรค ทกุ อาหารเปน็ ยาถา้ กนิ เปน็ ซงึ่ มเี นอ้ื หาทวี่ า่ ดว้ ยเรอ่ื งของพชื เบาหวาน ความดนั โลหิต และไขมันในเส้นเลือดสงู หากคณุ ผกั ไปแลว้ มาคราวนี้ นกั เขียนผู้มากประสบการณ์ท่านเดมิ อ่านหนังสือเล่มนี้จบ คุณจะได้คําตอบว่า “หนังสือเล่มน้ีดี กก็ ลบั มาเปดิ มุมมองใหมก่ ับหนงั สือ ท่ีชือ่ วา่ “มังสโภชนา : และมสี าระ มากกวา่ ที่คุณคิด” สารพัดเนื้อเพื่อสุขภาพ” พร้อมท้ังยืนยันด้วยน้�ำเสียง หนักแนน่ ว่า เนื้อสตั วก์ ็เปน็ อาหารเพื่อสขุ ภาพไดถ้ ้ากนิ เปน็ 100 นิตยสารพลาธปิ ตั ย์ ปี ท่ี ๖๔ ฉบบั ท่ี ๒ เดือนพฤษภาคม - สงิ หาคม ๒๕๖๔