Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

Published by ณัฐสุรีย์ บุญพัฒน์, 2021-05-31 11:41:19

Description: แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดย นางสาวณัฐสุรีย์ บุญพัฒน์ เลขที่ 24 D5

Search

Read the Text Version

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าภมู ศิ าสตร์ ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ ๑ จดั ทำโดย นางสาวณัฐสรุ ยี ์ บุญพัฒน์ เลขที่ ๒๔ เสนอ ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ดร.พชั รภี รณ์ บางเขียว แผนการจดั การเรยี นรเู้ ลม่ น้ีเป็นสว่ นหนง่ึ ในรายวชิ า การจดั การเรียนรูแ้ ละการจัดการชน้ั เรียน รหสั วชิ า ๑๑๐๐๓๐๑ ภาคเรยี นที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั บา้ นสมเดจ็ เจ้าพระยา

คำนำ แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาภูมิศาสตร์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ จัดทำขึ้นเพื่อใช้เป็นแนวทางการ จัดการเรียนการสอนท่เี นน้ ผู้เรยี นเป็นสำคัญ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบด้วยเนื้อหาสาระต่อไปนี้ แผนการจัดการเรียนรู้รายปี ซึ่งประกอบด้วย มาตรฐานและตัวชี้วัดกลุ่มสาระการเรียนรู้วิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม แผนการจัดการเรียนรู้รายคาบ ทั้งหมด ๓ แผนการจดั การเรียนรู้ ประกอบด้วย เครื่องมือทางภูมศิ าสตร์ การอนุรักษ์และภัยทางธรรมชาติ ปัญหา ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดล้อม ซงึ่ แต่ละแผนการจัดการเรยี นรไู้ ด้ระบุมาตรฐาน ตวั ช้วี ัด จุดประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่หลากหลาย อันได้แก่ รูปแบบการเรียนรู้แบบ สืบเสาะหาความรู้ รูปแบบการเรียนรู้แบบวิธีสอนแบบหนว่ ยและรปู แบบการเรยี นรู้แบบบรรยาย ซง่ึ แตล่ ะรปู แบบมี วธิ กี ารจดั การเรยี นการสอนท่ีแตกต่างกันแตท่ ั้งหมดนำมาซ่งึ การบรรลุจุดประสงค์การเรียนรู้ นอกจากนี้ยังมีใบงาน และเกณฑ์การประเมินผล เพื่อใช้ในการประเมินผลการเรียนรู้ของนักเรียนแต่ละคนว่าหลังจากเสร็จสิ้นการเรียน นกั เรียนมคี วามรู้ ความเขา้ ใจเนอ้ื หาสาระมากน้อยเพียงใด ผ่านเกณฑ์การประเมินหรือไม่ ผู้จัดทำขอขอบพระคุณผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. พัชรีภรณ์ บางเขียว เป็นอย่างยิ่ง ที่ให้ความรู้ คำปรึกษา และคำแนะนำตลอดระยะเวลาการจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ และหวงั เปน็ อยา่ งย่ิงว่าแผนการจัดการเรยี นรู้เล่มนี้ เป็นประโยชน์กบั การจดั การเรยี นรู้ในชนั้ เรยี น ทำใหผ้ ูเ้ รยี นสามารถพัฒนาการเรียนรู้ไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพต่อไป นางสาวณฐั สรุ ีย์ บญุ พฒั น์ ผูจ้ ัดทำ

สารบัญ หนา้ เร่ือง ๑ ๑๘ แผนการจัดการเรียนรู้รายปี ๒๔ ตารางโครงสร้างรายวชิ า ๓๖ แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๑ เครือ่ งมือทางภูมศิ าสตร์ ๓๘ ๓๙ ใบงานท่ี ๑ ๔๐ ใบงานท่ี ๒ ๔๘ ใบงานท่ี ๓ ๕๙ ใบงานที่ ๔ ๖๒ แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ ๒ การอนุรกั ษแ์ ละภัยทางธรรมชาติ ๗๐ ใบงานที่ ๑ ๘๒ ใบงานท่ี ๒ ๘๓ แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ ๓ ปญั หาทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้อม ๘๔ ใบงานที่ ๑ ใบงานท่ี ๒ ใบงานที่ ๓

๑ แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าพน้ื ฐาน รหัสวชิ า ส ๒๑๑๐๒ รายวิชาภูมิศาสตร์ กลุม่ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาละวัตนธรรม ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๕๙ เวลา ๑๒๐ ช่ัวโมง จำนวน ๓ หน่วยกิต ผูส้ อน นางสาวณัฐสรุ ีย์ บญุ พัฒน์ ๑. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้ีวัด มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ส ๑.๑ รแู้ ละเข้าใจประวัติ ความสำคญั ศาสดา หลกั ธรรมของพระพทุ ธศาสนาหรือศาสนา ทต่ี นนบั ถือและศาสนาอ่ืน มีศรทั ธาทีถ่ ูกต้อง ยึดมั่นและปฏบิ ัติตามหลกั ธรรมเพื่ออยรู่ ่วมกันอย่างสันติสุข มาตรฐาน ส ๑.๒ เขา้ ใจ ตระหนกั และปฏิบตั ติ นเปน็ ศาสนิกชนที่ดี และธำรงรกั ษาพระพุทธศาสนา หรอื ศาสนาทตี่ นนบั ถือ มาตรฐาน ส ๒.๑ เขา้ ใจและปฏบิ ตั ิตนตามหน้าที่ของการเปน็ พลเมืองดี มีค่านิยมท่ีดีงามและธำรง รกั ษาประเพณีและวฒั นธรรมไทย ดำรงชวี ิตอยู่ร่วมกนั ในสงั คมไทยและสงั คมโลกอยา่ งสันติสขุ มาตรฐาน ส ๒.๒ เขา้ ใจระบบการเมืองการปกครองในสงั คมปัจจุบนั ยึดมน่ั ศรทั ธาและธำรงรกั ษาไว้ ซ่งึ การปกครองระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษัตริย์ทรงเปน็ ประมุข มาตรฐาน ส ๓.๑ เขา้ ใจและสามารถบรหิ ารจดั การทรัพยากรในการผลติ และการบริโภค การใช้ ทรพั ยากร ทีม่ ีอยจู่ ำกดั ไดอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพและคุ้มคา่ รวมทั้งเขา้ ใจหลกั การของเศรษฐกจิ พอเพียง เพอื่ การ ดำรงชีวติ อย่างมดี ุลยภาพ มาตรฐาน ส ๓.๒ เขา้ ใจระบบและสถาบนั ทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ความสัมพนั ธ์ทางเศรษฐกจิ และความ จำเป็นของการร่วมมือกันทางเศรษฐกจิ ในสงั คมโลก มาตรฐาน ส ๔.๑ เขา้ ใจความหมาย ความสำคัญของเวลา และยคุ สมัยทางประวัติศาสตร์ สามารถใช้ วธิ ีการทางประวัตศิ าสตร์มาวเิ คราะหเ์ หตุการณ์ต่าง ๆ อยา่ งเปน็ ระบบ มาตรฐาน ส ๔.๒ เขา้ ใจพัฒนาการของมนุษยชาติจากอดีตจนถึงปัจจุบนั ในด้านความสมั พันธ์และการ เปลย่ี นแปลงของเหตกุ ารณอ์ ย่างตอ่ เนื่อง ตระหนักถงึ ความสำคญั และสามารถวเิ คราะห์ผลกระทบที่เกดิ ข้นึ

๒ มาตรฐาน ส ๔.๓ เขา้ ใจความเป็นมาของชาติไทย วัฒนธรรม ภูมิปญั ญาไทย มีความรัก ความภมู ใิ จ และธำรงความเป็นไทย มาตรฐาน ส ๕.๑ เข้าใจลกั ษณะของโลกทางกายภาพ และความสัมพนั ธ์ของสรรพส่งิ ซง่ึ มผี ลตอ่ กัน และกัน ในระบบของธรรมชาติ ใช้แผนทแี่ ละเคร่ืองมือทางภูมศิ าสตร์ในการค้นหา วเิ คราะห์ สรปุ และใช้ข้อมูล ภมู สิ ารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพ มาตรฐาน ส ๕.๒ เขา้ ใจปฏสิ ัมพนั ธ์ระหวา่ งมนุษยก์ บั สภาพแวดลอ้ มทางกายภาพที่ก่อใหเ้ กิดการ สรา้ งสรรค์วฒั นธรรม มจี ติ สำนกึ และมีสว่ นร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรและสิ่งแวดลอ้ ม เพอื่ การพัฒนาทยี่ งั่ ยืน ตวั ชี้วัด มาตรฐาน ส ๑.๑ รู้และเขา้ ใจประวตั ิ ความสำคญั ศาสดา หลกั ธรรมของพระพทุ ธศาสนาหรือศาสนา ทต่ี นนบั ถือและศาสนาอื่น มีศรทั ธาท่ีถูกต้อง ยดึ ม่นั และปฏบิ ัตติ ามหลกั ธรรมเพื่ออยูร่ ่วมกันอย่างสันติสุข ส ๑.๑ ม.๑/๑ อธบิ ายการเผยแผ่พระพทุ ธศาสนา หรือศาสนาท่ตี นนบั ถือส่ปู ระเทศไทย ส ๑.๑ ม.๑/๒ วเิ คราะหค์ วามสำคัญของพระพุทธศาสนา หรอื ศาสนาทตี่ นนบั ถือ ทม่ี ตี ่อสภาพแวดลอ้ ม ในสงั คมไทย รวมทงั้ การพัฒนาตนและครอบครวั ส ๑.๑ ม.๑/๓ วเิ คราะห์พทุ ธประวัตติ ้ังแตป่ ระสูตจิ นถงึ บำเพ็ญทุกรกิรยิ า หรือประวัตศิ าสดาทต่ี นนับ ถอื ตามท่กี ำหนด ส ๑.๑ ม.๑/๔ วเิ คราะห์และประพฤตติ นตามแบบอยา่ งการดำเนินชีวิตและข้อคิดจากประวตั ิสาวก ชาดก/เรื่องเลา่ และศาสนิกชนตวั อยา่ งตามทกี่ ำหนด ส ๑.๑ ม.๑/๕ อธบิ ายพทุ ธคุณ และข้อธรรมสำคญั ในกรอบอรยิ สจั ๔ หรือหลักธรรมของศาสนาทต่ี น นบั ถือ ตามท่ีกำหนด เหน็ คุณค่าและนำไปพัฒนาแกป้ ัญหาของตนเองและครอบครวั ส ๑.๑ ม.๑/๖ เห็นคณุ ค่าของการพัฒนาจติ เพ่อื การเรียนรู้และการดำเนินชีวิต ด้วยวิธคี ดิ แบบโยนโิ ส มนสกิ ารคือวิธีคิดแบบคุณค่าแท้ - คุณค่าเทยี ม และวธิ ีคดิ แบบคุณ - โทษ และทางออก หรอื การพัฒนาจิตตาม แนวทางของศาสนาที่ตนนับถือ ส ๑.๑ ม.๑/๗ สวดมนต์ แผ่เมตตา บรหิ ารจิตและเจริญปัญญาด้วยอานาปานสติ หรือตามแนวทาง ของศาสนาที่ตนนบั ถือตามท่ีกำหนด

๓ ส ๑.๑ ม.๑/๘ วเิ คราะหแ์ ละปฏิบัติตนตามหลกั ธรรมทางศาสนาทต่ี นนับถือ ในการดำรงชีวติ แบบ พอเพยี ง และดูแลรกั ษาสิ่งแวดล้อมเพือ่ การอยู่รว่ มกนั ได้อย่างสันติสขุ ส ๑.๑ ม.๑/๙ วเิ คราะหเ์ หตุผลความจำเปน็ ที่ทุกคนต้องศึกษาเรียนรู้ศาสนาอืน่ ๆ ส ๑.๑ ม.๑/๑๐ ปฏิบัตติ นตอ่ ศาสนกิ ชนอืน่ ในสถานการณต์ ่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม ส ๑.๑ ม.๑/๑๑ วิเคราะห์การกระทำของบุคคลที่เป็นแบบอยา่ งด้านศาสนสัมพันธ์ และนำเสนอแนว ทางการปฏิบัติของตนเอง มาตรฐาน ส ๑.๒ เข้าใจ ตระหนักและปฏบิ ัติตนเป็นศาสนิกชนทดี่ ี และธำรงรักษาพระพุทธศาสนา หรอื ศาสนาทีต่ นนับถือ ส ๑.๒ ม.๑/๑ บำเพ็ญประโยชนต์ ่อศาสนสถานของศาสนาท่ตี นนบั ถือ ส ๑.๒ ม.๑/๒ อธบิ ายจริยวัตรของสาวกเพ่ือเป็นแบบอยา่ งในการประพฤตปิ ฏิบตั ิและปฏิบัติตนอยา่ ง เหมาะสมต่อสาวกของศาสนาท่ีตนนบั ถือ ส ๑.๒ ม.๑/๓ ปฏิบัติตนอย่างเหมาะสมต่อบคุ คลตา่ ง ๆ ตามหลกั ศาสนาท่ีตนนบั ถือตามทีก่ ำหนด ส ๑.๒ ม.๑/๔ จัดพิธีกรรมและปฏิบัติตนในศาสนพิธี พิธกี รรมไดถ้ ูกต้อง ส ๑.๒ ม.๑/๕ อธบิ ายประวัติ ความสำคัญ และ ปฏบิ ัติตนในวนั สำคัญทางศาสนา ท่ีตนนับถอื ตามที่ กำหนด ได้ถูกต้อง มาตรฐาน ส ๒.๑ เขา้ ใจและปฏบิ ตั ติ นตามหน้าท่ีของการเป็นพลเมืองดี มีค่านิยมท่ดี ีงามและธำรง รกั ษาประเพณแี ละวัฒนธรรมไทย ดำรงชวี ิตอยูร่ ว่ มกนั ในสังคมไทยและสงั คมโลกอย่างสนั ตสิ ุข ส ๒.๑ ม.๑/๑ ปฏบิ ตั ติ ามกฎหมายในการคุ้มครองสทิ ธิของบคุ คล ส ๒.๑ ม.๑/๒ ระบุความสามารถของตนเอง ในการทำประโยชนต์ อ่ สงั คมและประเทศชาติ ส ๒.๑ ม.๑/๓ อภิปรายเกีย่ วกบั คุณคา่ ทางวฒั นธรรมทเ่ี ปน็ ปจั จัยในการสร้างความสัมพนั ธ์ทดี่ ีหรืออาจ นำไปสู่ความเขา้ ใจผดิ ต่อกัน ส ๒.๑ ม.๑/๔ แสดงออกถงึ การเคารพในสิทธิของตนเองและผูอ้ ืน่ มาตรฐาน ส ๒.๒ เข้าใจระบบการเมืองการปกครองในสังคมปจั จบุ ัน ยึดม่นั ศรัทธาและธำรงรักษาไว้ ซง่ึ การปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษตั ริย์ทรงเป็นประมุข

๔ ส ๒.๒ ม.๑/๑ อธบิ ายหลกั การ เจตนารมณ์ โครงสร้าง และสาระสำคัญของรัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจักรไทย ฉบับปัจจุบันโดยสงั เขป ส ๒.๒ ม.๑/๒ วิเคราะหบ์ ทบาทการถ่วงดลุ ของอำนาจอธปิ ไตยในรัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย ฉบบั ปจั จบุ นั ส ๒.๒ ม.๑/๓ ปฏบิ ตั ติ นตามบทบัญญตั ขิ องรัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทย ฉบบั ปัจจุบนั ท่ีเกย่ี วข้อง กบั ตนเอง มาตรฐาน ส ๓.๑ เขา้ ใจและสามารถบรหิ ารจดั การทรพั ยากรในการผลติ และการบรโิ ภค การใช้ ทรัพยากร ทม่ี ีอยจู่ ำกดั ได้อย่างมีประสิทธภิ าพและคุ้มค่า รวมทง้ั เข้าใจหลกั การของเศรษฐกิจพอเพยี ง เพอ่ื การ ดำรงชวี ิตอยา่ งมีดลุ ยภาพ ส ๓.๑ ม.๑/๑ อธิบายความหมายและความสำคญั ของเศรษฐศาสตร์ ส ๓.๑ ม.๑/๒ วเิ คราะห์ค่านิยมและพฤติกรรมการบรโิ ภคของคนในสงั คมซ่ึงสง่ ผลต่อเศรษฐกิจของ ชุมชนและประเทศ ส ๓.๑ ม.๑/๓ อธบิ ายความเปน็ มาหลักการและความสำคัญของปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงตอ่ สงั คมไทย มาตรฐาน ส ๓.๒ เข้าใจระบบและสถาบันทางเศรษฐกจิ ตา่ ง ๆ ความสมั พันธท์ างเศรษฐกิจและความ จำเป็นของการรว่ มมือกนั ทางเศรษฐกิจในสงั คมโลก ส ๓.๒ ม.๑/๑ วิเคราะห์บทบาทหนา้ ทแ่ี ละความแตกต่างของสถาบันการเงินแตล่ ะประเภทและธนาคาร กลาง ส ๓.๒ ม.๑/๒ ยกตวั อยา่ งท่ีสะท้อนใหเ้ ห็นการพงึ่ พาอาศัยกัน และการแขง่ ขันกนั ทางเศรษฐกิจใน ประเทศ ส ๓.๒ ม.๑/๓ ระบปุ ัจจัยทม่ี อี ทิ ธพิ ลต่อการกำหนด อปุ สงค์และอุปทาน ส ๓.๒ ม.๑/๔ อภปิ รายผลของการมีกฎหมายเกี่ยวกบั ทรพั ย์สินทางปัญญา มาตรฐาน ส ๔.๑ เขา้ ใจความหมาย ความสำคัญของเวลา และยคุ สมยั ทางประวัติศาสตร์ สามารถใช้ วิธีการทางประวตั ศิ าสตร์มาวเิ คราะหเ์ หตุการณ์ตา่ ง ๆ อย่างเปน็ ระบบ ส ๔.๑ ม.๑/๑ วิเคราะหค์ วามสำคญั ของเวลาในการศึกษาประวัตศิ าสตร์

๕ ส ๔.๑ ม.๑/๒ เทียบศักราชตามระบบตา่ ง ๆ ที่ใชศ้ ึกษาประวตั ศิ าสตร์ ส ๔.๑ ม.๑/๓ นำวิธีการทางประวตั ศิ าสตร์มาใชศ้ ึกษาเหตุการณท์ างประวัตศิ าสตร์ มาตรฐาน ส ๔.๒ เขา้ ใจพฒั นาการของมนุษยชาตจิ ากอดีตจนถงึ ปัจจุบนั ในดา้ นความสัมพันธ์และการ เปลี่ยนแปลงของเหตุการณอ์ ยา่ งต่อเน่ือง ตระหนักถงึ ความสำคัญและสามารถวเิ คราะห์ผลกระทบทเ่ี กิดขนึ้ ส ๔.๒ ม.๑/๑ อธบิ ายพฒั นาการทางสงั คม เศรษฐกจิ และการเมืองของประเทศต่าง ๆ ในภมู ิภาคเอเชีย ตะวนั ออกเฉียงใต้ ส ๔.๒ ม.๑/๒ ระบุความสำคัญของแหล่งอารยธรรมในภูมิภาคเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้ มาตรฐาน ส ๔.๓ เขา้ ใจความเปน็ มาของชาติไทย วัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทย มีความรัก ความภมู ิใจ และธำรงความเปน็ ไทย ส ๔.๓ ม.๑/๑ อธิบายเรอ่ื งราวทางประวัติศาสตร์สมัยกอ่ นสุโขทัยในดนิ แดนไทยโดยสังเขป ส ๔.๓ ม.๑/๒ วเิ คราะห์พัฒนาการของอาณาจักรสโุ ขทัยในดา้ นต่าง ๆ ส ๔.๓ ม.๑/๓ วิเคราะหอ์ ทิ ธิพลของวฒั นธรรม และภูมปิ ัญญาไทยสมยั สโุ ขทยั และสังคมไทยในปจั จุบัน มาตรฐาน ส ๕.๑ เข้าใจลักษณะของโลกทางกายภาพ และความสัมพนั ธข์ องสรรพสง่ิ ซ่ึงมผี ลตอ่ กนั และกนั ในระบบของธรรมชาติ ใช้แผนทแ่ี ละเครื่องมือทางภมู ศิ าสตรใ์ นการค้นหา วิเคราะห์ สรุป และใช้ขอ้ มลู ภมู สิ ารสนเทศอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ ส ๕.๑ ม.๑/๑ เลอื กใชเ้ คร่ืองมือทางภูมิศาสตร์ (ลกู โลก แผนท่ี กราฟ แผนภมู )ิ ในการสืบค้นขอ้ มูล เพอื่ วิเคราะห์ลกั ษณะทางกายภาพและสังคมของประเทศไทยและทวปี เอเชยี ออสเตรเลียและโอเชียเนยี ส ๕.๑ ม.๑/๒ อธบิ ายเส้นแบง่ เวลา และเปรยี บเทยี บวัน เวลาของประเทศไทยกบั ทวีปต่าง ๆ ส ๕.๑ ม.๑/๓ วิเคราะห์เชอื่ มโยงสาเหตุและแนวทางป้องกันภยั ธรรมชาติและการระวังภัยที่เกดิ ขนึ้ ใน ประเทศไทยและทวปี เอเชยี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี มาตรฐาน ส ๕.๒ เข้าใจปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กบั สภาพแวดลอ้ มทางกายภาพทก่ี ่อให้เกิดการ สรา้ งสรรค์วัฒนธรรม มจี ติ สำนกึ และมีส่วนร่วมในการอนรุ ักษท์ รัพยากรและส่ิงแวดล้อม เพือ่ การพฒั นาทีย่ ง่ั ยืน ส ๕.๒ ม.๑/๑ วิเคราะหผ์ ลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติของทวปี เอเชีย ออสเตรเลยี และ โอเชียเนยี

๖ ส ๕.๒ ม.๑/๒ วิเคราะหค์ วามรว่ มมือของประเทศต่าง ๆ ท่ีมผี ลตอ่ สง่ิ แวดลอ้ มทางธรรมชาติของทวปี เอเชีย ออสเตรเลีย และโอเชียเนยี ส ๕.๒ ม.๑/๓ สำรวจ และอธบิ ายทำเลทีต่ ง้ั กจิ กรรมทางเศรษฐกจิ และสังคมในทวปี เอเชีย ออสเตรเลีย และโอเชยี เนยี โดยใชแ้ หล่งข้อมลู ทหี่ ลากหลาย ส ๕.๒ ม.๑/๔ วเิ คราะห์ปจั จัยทางกายภาพและสงั คมที่มีผลต่อการเล่ือนไหลของความคิด เทคโนโลยี สินค้า และประชากรในทวปี เอเชยี ออสเตรเลยี และโอเชียเนีย ๒. จุดประสงค์การเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) - นกั เรยี นสามารถอธบิ ายการเผยแผพ่ ระพุทธศาสนา หรอื ศาสนาทต่ี นนบั ถือสปู่ ระเทศไทยได้ - นกั เรยี นสามารถวเิ คราะห์ความสำคัญของพระพุทธศาสนา หรือศาสนาทต่ี นนับถือ ทีม่ ีตอ่ สภาพแวดล้อมในสงั คมไทย รวมทั้งการพฒั นาตนและครอบครัวได้ - นกั เรียนสามารถวิเคราะห์พุทธประวัตติ ้งั แต่ประสูติจนถึงบำเพญ็ ทุกรกริ ยิ า หรอื ประวัติศาสดาท่ตี น นบั ถือตามท่ีกำหนดได้ - นกั เรยี นสามารถวิเคราะห์การประพฤติตนตามแบบอย่างการดำเนินชวี ติ และศาสนิกชนตัวอย่างตามท่ี กำหนดได้ - นักเรียนสามารถวิเคราะห์ข้อคดิ จากประวัติสาวก ชาดก/เรอ่ื งเล่าและศาสนิกชนตัวอยา่ งตามท่ีกำหนด ได้ - นักเรียนสามารถเขยี นสรุปใจความสำคญั ของเร่ืองอมั พชาดกได้ - นกั เรียนสามารถอธบิ ายความหมายของพุทธคณุ ได้ - นกั เรยี นสามารถบอกความหมายของการพฒั นาจิต แบบโยนโิ สมนสิการได้ - นักเรียนสามารถบอกวิธกี ารบริหารจิตและเจรญิ ปญั ญาดว้ ยอานาปานสติหรือตามแนวทางของศาสนา ที่ตนนบั ถือได้ - นกั เรียนสามารถวิเคราะห์หลกั ธรรมทางศาสนาท่ีตนนับถือ ในการดำรงชวี ิตแบบพอเพียงได้ - นกั เรียนสามารถอธิบายการดูแลรกั ษาส่งิ แวดล้อมเพอ่ื การอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุขได้

๗ - นกั เรยี นสามารถวิเคราะหเ์ หตผุ ลความจำเป็นทที่ ุกคนต้องศกึ ษาเรียนรู้ศาสนาอ่ืน ๆ นอกเหนอื จาก ศาสนาท่ตี นนบั ถือได้ - นักเรยี นสามารถวิเคราะห์การกระทำของบุคคลทีเ่ ปน็ แบบอย่างด้านศาสนสัมพนั ธ์ได้ - นักเรยี นสามารถอธบิ ายวธิ กี ารบำเพญ็ ประโยชน์ตอ่ ศาสนสถานของศาสนาที่ตนนับถือได้ - นักเรียนสามารถอธิบายจริยวตั รของสาวกเพอื่ เปน็ แบบอย่างในการประพฤตปิ ฏิบัตแิ ละปฏบิ ตั ติ น อยา่ งเหมาะสมต่อสาวกของศาสนาท่ีตนนบั ถือได้ - นักเรยี นสามารถบอกวิธกี ารปฏบิ ตั ติ นอยา่ งเหมาะสมต่อบุคคลตา่ ง ๆ ตามหลักศาสนาที่ตนนับถอื ได้ - นักเรยี นสามารถอธิบายวิธีการจัดพิธกี รรมในพระพทุ ธศาสนาไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง - นักเรยี นสามารถอธิบายวิธกี ารปฏบิ ตั ิตนในศาสนพิธี พธิ ีกรรมไดถ้ ูกต้อง - นักเรยี นสามารถอธิบายประวตั โิ ดยยอ่ ของวันสำคัญทางพระพทุ ธศาสนาท่ีตนนบั ถอื ได้ - นักเรียนสามารถอธิบายความหมายของการปฏิบตั ติ ามกฎหมายในการค้มุ ครองสทิ ธิของบคุ คลได้ - นกั เรียนสามารถระบุความสามารถของตนเอง ในการทำประโยชนต์ อ่ สงั คมและประเทศชาติได้ - นักเรียนสามารถอภปิ รายเก่ียวกับคุณค่าทางวัฒนธรรมทเ่ี ป็นปัจจัยในการสรา้ งความสัมพนั ธ์ทีด่ หี รอื อาจนำไปสู่ความเขา้ ใจผดิ ต่อกันได้ - นกั เรยี นสามารถยกตวั อยา่ งการแสดงออกถงึ การเคารพในสทิ ธขิ องตนเองและผ้อู ่ืนได้ - นกั รยี นสามารถเขียนสรปุ หลกั การ เจตนารมณแ์ ละโครงสร้างได่อยา่ งเขา้ ใจงา่ ย - นักเรยี นสามารถอธบิ ายสาระสำคัญของรฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย ฉบับปัจจุบันได้ - นักเรยี นสามารถวิเคราะห์บทบาทการถว่ งดลุ ของอำนาจอธิปไตยในรัฐธรรมนูญ ฉบบั ปัจจุบันได้ - นกั เรียนสามารถเขียนสรปุ บทบาทการถ่วงดลุ ของอำนาจอธปิ ไตยในรัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักร ไทย ฉบบั ปัจจบุ ันได้ - นักเรียนสามารถอธบิ ายการปฏบิ ตั ิตนตามบทบัญญตั ิของรฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบบั ปจั จบุ ันที่เกี่ยวข้องกับตนเองได้ - นกั เรยี นสามารถอธิบายความหมายและความสำคัญของเศรษฐศาสตร์ได้

๘ - นกั เรยี นสามารถยกตัวอย่างความสำคญั ของเศรษฐศาสตร์ได้อยา่ งหลากหลาย - นกั เรยี นสามารถวเิ คราะหค์ ่านยิ มและพฤติกรรมการบรโิ ภคของคนในสงั คมซ่ึงส่งผลต่อเศรษฐกิจของ ชมุ ชนและประเทศได้ - นกั เรียนสามารถอธบิ ายความเป็นมาและความหมายของปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงตอ่ สงั คมไทยได้ - นักเรียนสามารถอธบิ ายหลักการและความสำคญั ของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงต่อสังคมไทยได้ - นกั เรียนสามารถเขยี นสรุปความเป็นมาหลักการและความสำคัญของปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งตอ่ สงั คมไทยได้ - นกั เรยี นสามารถวเิ คราะหบ์ ทบาทหน้าท่ีของสถาบันการเงินแตล่ ะประเภทและธนาคารกลางได้ - นักเรยี นสามารถวเิ คราะห์ความแตกต่างของสถาบันการเงนิ แต่ละประเภทและธนาคารกลางได้ - นกั เรยี นสามารถยกตวั อยา่ งท่ีสะท้อนให้เห็นการพ่งึ พาอาศยั กนั และการแข่งขันกนั ทางเศรษฐกจิ ใน ประเทศได้ - นักเรียนสามารถระบุปัจจยั ที่มอี ิทธพิ ลตอ่ การกำหนด อุปสงคแ์ ละอปุ ทานได้ - นกั เรียนสามารถเขยี นสรปุ ความหมายและกฎอุปสงค์ อุปทานได้ - นกั เรยี นสามารถอภิปรายผลของการมีกฎหมายเกยี่ วกับทรพั ย์สนิ ทางปัญญาได้ - นักเรียนสามารถวเิ คราะหค์ วามสำคญั ของเวลาในการศึกษาประวตั ิศาสตร์ได้ - นกั เรยี นสามารถอธิบายการเทียบศักราชตามระบบตา่ ง ๆ ที่ใช้ศกึ ษาประวตั ิศาสตร์ได้ - นกั เรียนสามารถอธบิ ายวิธีการทางประวตั ิศาสตร์ท่ีนำมาใช้ศกึ ษาเหตุการณ์ทางประวตั ิศาสตร์ได้ - นักเรยี นสามารถอธิบายพฒั นาการทางสังคมของประเทศตา่ ง ๆ ในภมู ภิ าคเอเชียตะวนั ออกเฉยี งใต้ได้ - นักเรียนสามารถอธิบายพัฒนาการทางเศรษฐกิจและการเมืองของประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชีย ตะวนั ออกเฉยี งใต้ได้ -นักเรียนสามารถอธิบายพัฒนาการทางการเมืองของประเทศต่าง ๆ ในภมู ิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้ - นกั เรยี นสามารถระบคุ วามสำคญั ของแหลง่ อารยธรรมในภูมภิ าคเอเชียตะวันออกเฉยี งใต้ได้

๙ - นกั เรยี นสามารถอธิบายเรอื่ งราวทางประวัติศาสตร์สมัยกอ่ นสุโขทยั ในดินแดนไทยโดยสังเขปได้ - นกั เรยี นสามารถนำเสนอและยกตัวอยา่ งรฐั โบราณในดนิ แดนไทยได้ - นักเรียนสามารถวิเคราะห์พัฒนาการของอาณาจักรสุโขทัยในดา้ นต่าง ๆ ได้ - นกั เรยี นสามารถวเิ คราะห์อิทธิพลของวฒั นธรรมสมัยสโุ ขทัยและสงั คมไทยในปัจจบุ ันได้ - นักเรยี นสามารถวเิ คราะห์อิทธพิ ลของภมู ิปญั ญาไทยสมัยสโุ ขทัยและสังคมไทยในปจั จุบนั ได้ - นักเรียนสามารถบอกความแตกต่างของการเลือกใชเ้ ครื่องมอื ทางภมู ิศาสตร์ในการสบื ค้นขอ้ มูลได้ - นกั เรยี นสามารถอธบิ ายเสน้ แบ่งเวลาของประเทศไทยกับทวปี ต่าง ๆ ได้ - นกั เรียนสามารถเปรยี บเทยี บวนั เวลาของประเทศไทยกับทวปี ตา่ ง ๆ ได้ - นกั เรยี นสามารถวเิ คราะห์เชื่อมโยงสาเหตุของภยั ธรรมชาตทิ เ่ี กิดขนึ้ ในประเทศไทยและทวปี เอเชีย ออสเตรเลีย และโอเชียเนยี ได้ - นกั เรียนสามารถวิเคราะห์เชื่อมโยงแนวทางป้องกันภยั ธรรมชาติท่ีเกิดขึน้ ในประเทศไทยและทวปี เอเชีย ออสเตรเลยี และโอเชียเนียได้ - นักเรียนสามารถวิเคราะห์ผลกระทบจากการเปลย่ี นแปลงทางธรรมชาตขิ องทวปี เอเชยี ออสเตรเลีย และโอเชียเนยี ได้ - นกั เรยี นสามารถวิเคราะห์ความรว่ มมือของประเทศต่าง ๆ ทม่ี ีผลตอ่ สิง่ แวดล้อมทางธรรมชาตขิ องทวีป เอเชยี ออสเตรเลยี และโอเชียเนยี - นักเรียนสามารถอธบิ ายทำเลทต่ี งั้ กจิ กรรมทางเศรษฐกิจและสงั คมในทวปี เอเชีย ออสเตรเลีย และโอ เชียเนยี โดยใชแ้ หล่งขอ้ มูลท่ีหลากหลายได้ - นกั เรยี นสามารถสำรวจทำเลทต่ี ั้งกจิ กรรมทางเศรษฐกิจและสงั คมในทวปี เอเชีย ออสเตรเลยี และโอ เชียเนีย โดยใช้แหลง่ ข้อมลู ท่ีหลากหลายได้ - นักเรยี นสามารถวิเคราะห์ปัจจยั ทางกายภาพที่มผี ลต่อการเลื่อนไหลของความคิดเทคโนโลยี สนิ ค้า และประชากรในทวปี เอเชีย ออสเตรเลยี และโอเชยี เนียได้ - นกั เรียนสามารถวเิ คราะหป์ ัจจยั ทางสังคมทมี่ ีผลต่อการเล่ือนไหลของความคิดเทคโนโลยี สนิ คา้ และ ประชากรในทวีปเอเชีย ออสเตรเลีย และโอเชียเนียได้

๑๐ ดา้ นทกั ษะ (P) - นักเรยี นสามารถนำเสนอการเผยแผ่พระพุทธศาสนาสปู่ ระเทศไทยได้ - นกั เรยี นสามารถเขยี นผงั มโนทศั นค์ วามสำคญั ของศาสนาทีต่ นนบั ถือท่มี ตี ่อสภาพแวดล้อมใน สังคมไทย รวมทงั้ การพัฒนาตนและครอบครวั จากเรื่องทเี่ รียนได้ - นกั เรยี นสามารถนำเสนอพทุ ธประวตั ิ เรื่องการบำเพญ็ ทุกรกริ ยิ าได้ - นกั เรยี นสามารถเขยี นสรปุ ใจความสำคญั ของเรื่องอัมพชาดกได้ - นกั เรยี นสามารถนำเสนอขอ้ ธรรมสำคญั ในกรอบอรยิ สจั ๔ หรือหลกั ธรรมของศาสนาที่ตนนับถอื ได้ - นกั เรียนสามารถนำหลกั อริยสจั ๔ ไปแกป้ ญั หาของตนเองและครอบครัวได้ - นักเรียนสามารถนำวิธีคิดแบบโยนโิ สมนสกิ ารหรอื การพฒั นาจิตตามแนวทางของศาสนาทต่ี นนับถือไป ใช้ในชีวิตได้ - นกั เรยี นสามารสาธิตวิธีการสวดมนต์ แผ่เมตตาในชัน้ เรยี นได้ - นกั เรยี นสามารถนำหลักการดำรงชีวติ แบบพอเพยี งไปใช้ในชวี ติ ประจำวนั ได้ - นกั เรียนสามารถปฏิบัติตนต่อศาสนิกชนอ่ืนในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม - นักเรยี นสามารถนำเสนอผลงานในการปฏบิ ัตติ นเปน็ แบบอยา่ งดา้ นศาสนสัมพันธ์ขุ องตนเองได้ - นักเรยี นสามารถนำเสนอวธิ ีการบำรุงรักษาวัดได้ - นักเรยี นสามารถนำแบบอย่างในการประพฤติปฏิบัตติ นอย่างเหมาะสมตอ่ สาวกของศาสนาที่ตนนบั ถือ ไปใชใ้ นชีวิตประจำวันได้ - นักเรียนเห็นความสำคัญและสามารถปฏบิ ตั ิตนอย่างเหมาะสมตอ่ เพ่ือน ตามหลกั ศาสนาท่ีตนนบั ถือ ตามทก่ี ำหนดได้ - นกั เรยี นสามารถนำเสนอการจดั พธิ กี รรมและปฏบิ ัตติ นในศาสนพิธี พิธกี รรมไดถ้ ูกต้อง - นักเรยี นสามารถนำเสนอความรู้ในเรอื่ งระเบียบพธิ ีและการปฏบิ ตั ติ นต่าง ๆ ในวนั สำคัญทาง พระพุทธศาสนาได้อยา่ งถูกต้อง

๑๑ - นักเรียนสามารถนำเสนอการปฏบิ ัตติ ามกฎหมายในการคุ้มครองสิทธขิ องบุคคลได้ - นักเรยี นสามารถนำการปฏิบตั ติ ามกฎหมายในการคุ้มครองสทิ ธิของบคุ คลไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวันได้ - นกั เรียนสามารถนำเสนอความสามารถของตนเองในการทำประโยชนต์ อ่ สังคมและประเทศชาติได้ - นกั เรยี นสามารถนำเสนอเก่ียวกบั คุณค่าทางวัฒนธรรมที่เป็นปัจจัยในการสร้างความสัมพันธท์ ีด่ หี รอื อาจนำไปสู่ความเขา้ ใจผดิ ตอ่ กันได้ - นกั เรียนสามารถอภปิ รายวิธีการเคารพในสิทธขิ องตนเองและผู้อ่นื ได้ - นกั รยี นสามารถเขียนสรปุ หลกั การ เจตนารมณแ์ ละโครงสร้างได่อยา่ งเข้าใจงา่ ย - นักเรยี นสามารถเขียนสรปุ บทบาทการถว่ งดลุ ของอำนาจอธปิ ไตยในรฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร ไทย ฉบับปัจจุบนั ได้ - นกั เรียนสามารถปฏบิ ัติตนตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทย ฉบบั ปัจจุบันที่ เกี่ยวขอ้ งกับตนเองได้ - นกั เรียนสามารถนำเสนอความหมายและความสำคัญของเศรษฐศาสตร์ได้ - นักเรยี นสามารถนำเสนอการวิเคราะห์คา่ นิยมและพฤติกรรมการบรโิ ภคของคนในสังคมซึ่งส่งผลตอ่ เศรษฐกิจของชุมชนและประเทศได้ - นกั เรยี นสามารถเขียนสรุปความเป็นมาหลกั การและความสำคัญของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งตอ่ สงั คมไทยได้ - นกั เรียนสามารถนำเสนอการวเิ คราะหบ์ ทบาทหน้าท่ีและความแตกตา่ งของสถาบันการเงนิ แต่ละ ประเภทและธนาคารกลางได้ - นกั เรียนเหน็ ความสำคญั ของปญั หาเศรษฐกจิ ในชุมชน ประเทศและนำเสนอแนวทางแก้ไขได้ - นักเรียนสามารถเขยี นสรปุ ความหมายและกฎอุปสงค์ อุปทานได้ - นักเรยี นสามารถนำเสนอการวิเคราะห์ความสำคัญของเวลาในการศึกษาประวตั ศิ าสตร์ได้ - นักเรยี นสามารถนำการเทียบศักราชตามระบบตา่ ง ๆ ไปใช้ในชวี ติ ประจำวนั ได้

๑๒ - นกั เรยี นสามารถนำวิธีการทางประวตั ิศาสตร์มาใชศ้ กึ ษาเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ได้ - นักเรยี นสามารถนำเสนอและยกตัวอย่างรัฐโบราณในดนิ แดนไทยได้ - นักเรียนสามารถนำเสนอพัฒนาการของอาณาจักรสุโขทัยในด้านต่าง ๆ ได้ - นกั เรียนสามารถนำเสนอการวเิ คราะห์อิทธิพลของวฒั นธรรม และภมู ปิ ัญญาไทยสมัยสุโขทัยและ สงั คมไทยในปจั จบุ นั ได้ - นกั เรยี นสามารถเลอื กใชเ้ ครื่องมือทางภมู ิศาสตร์ในการสืบค้นข้อมลู เพื่อวิเคราะหล์ ักษณะทาง กายภาพและสังคมของประเทศไทยและทวปี ต่าง ๆ ได้ - นกั เรียนสามารถนำเสนอภยั ธรรมชาติและการระวงั ภัยทเี่ กิดข้นึ ในประเทศไทยและทวีปเอเชยี ออสเตรเลยี โอเชยี เนียได้ - นักเรียนสามารถนำเสนอการวิเคราะหผ์ ลกระทบจากการเปลย่ี นแปลงทางธรรมชาตขิ องทวปี เอเชยี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี ได้ - นกั เรยี นสามารถนำเสนอการวิเคราะห์ความรว่ มมอื ของประเทศต่าง ๆ ทม่ี ผี ลต่อสง่ิ แวดล้อมทาง ธรรมชาตขิ องทวีปเอเชยี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี - นักเรยี นสามารถนำเสนอทำเลทต่ี ้ังกจิ กรรมทางเศรษฐกิจและสังคมในทวีปเอเชยี ออสเตรเลยี และ โอเชียเนยี โดยใชแ้ หลง่ ขอ้ มลู ท่ีหลากหลายได้ - นักเรยี นสามารถนำเสนอการวิเคราะห์ปัจจยั ทางกายภาพและสงั คมท่ีมผี ลตอ่ การเล่อื นไหลของ ความคดิ เทคโนโลยี สนิ ค้า และประชากรในทวีปเอเชยี ออสเตรเลีย และโอเชียเนียได้ ดา้ นจิตพสิ ัย (A) - นกั เรยี นเหน็ ความสำคญั ของการเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาสู่ประเทศไทย - นกั เรียนเหน็ ความสำคัญของพระพทุ ธศาสนาท่มี ตี ่อสงั คมไทย - นักเรียนมีความตง้ั ใจในการนำเสนอพุทธประวตั ิ เรอื่ งการบำเพญ็ ทุกรกิริยา - นักเรียนใหค้ วามรว่ มมือในการเขียนสรุปใจความสำคัญของเร่อื งอัมพชาดก - นักเรียนเห็นคณุ ค่าของพุทธศาสนสุภาษิต

๑๓ - นกั เรยี นเหน็ คณุ ค่าของการพฒั นาจิต เพ่ือการเรยี นรู้และการดำเนินชีวิต ดว้ ยวธิ คี ดิ แบบโยนโิ ส มนสกิ ารหรือการพฒั นาจิตตามแนวทางของศาสนาท่ตี นนบั ถอื ได้ - นกั เรียนเห็นประโยชน์ของการบริหารจติ และเจรญิ ปญั ญาดว้ ยอานาปานสติ - นักเรียนใหค้ วามร่วมมือในการดแู ลรกั ษาส่งิ แวดล้อมเพื่อการอยูร่ ว่ มกันได้อย่างสันติสขุ - นกั เรยี นเหน็ ความสำคัญของการที่ทุกคนต้องศึกษาเรยี นรู้ศาสนาอื่น ๆ - นักเรียนเหน็ ความสำคัญของการปฏิบัตติ นอย่างเหมาะสมตอ่ ศาสนิกชนอ่นื ในสถานการณต์ ่าง ๆ ได้ - นักเรียนใหค้ วามรว่ มมือในการนำเสนอผลงานในการปฏิบตั ิตนเป็นแบบอย่างด้านศาสนสมั พนั ธุข์ อง ตนเอง - นกั เรยี นเหน็ ประโยชน์ของการบำรุงรักษาวัด - นักเรยี นเหน็ ความสำคัญของการปฏบิ ัติตนอย่างเหมาะสมต่อสาวกของศาสนาท่ตี นนบั ถือ - นกั เรียนเหน็ ความสำคัญและสามารถปฏิบัติตนอยา่ งเหมาะสมตอ่ เพ่ือน ตามหลกั ศาสนาท่ีตนนับถือ ตามที่กำหนดได้ - นกั เรียนเหน็ ความสำคัญของการจดั พิธีกรรมและปฏบิ ัตติ นในศาสนพธิ ี พิธีกรรม - นักเรียนให้ความรว่ มมือร่วมกจิ กรรมในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาที่โรงเรียนได้จัดขึ้น - นกั เรยี นเหน็ ความสำคัญของพระพทุ ธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนบั ถือ - นักเรยี นเห็นประโยชน์ของการปฏบิ ัติตามกฎหมายในการคมุ้ ครองสทิ ธิของบคุ คล - นักเรียนให้ความร่วมมือในการทำประโยชนต์ ่อสงั คมและประเทศชาติ - นักเรียนเห็นคณุ ค่าของวัฒนธรรมท่ีเปน็ ปจั จัยในการสรา้ งความสมั พนั ธ์ทดี่ ีหรืออาจนำไปสคู่ วามเขา้ ใจ ผิดต่อกนั - นกั เรียนใหค้ วามร่วมมือในการเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อ่ืน - นกั เรียนแสดงความสนใจสาระสำคัญของรัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทยในฉบับปัจจบุ ัน - นักเรียนเห็นความสำคญั ของสทิ ธิ เสรีภาพและหน้าท่ี ท่ีทุกคนพึงมี

๑๔ - นักเรียนเห็นความสำคญั ของการประหยัดทรพั ยากรจำกัดท่มี ีให้คงอยู่ - นกั เรยี นให้ความร่วมมือในการนำเสนอการวิเคราะหค์ ่านิยมและพฤติกรรมการบรโิ ภคของคนในสังคม ซง่ึ ส่งผลต่อเศรษฐกิจของชมุ ชนและประเทศ - นักเรียนเหน็ ความสำคัญของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งทม่ี ตี ่อสังคมไทย - นกั เรียนให้ความรว่ มมือในการนำเสนอการวเิ คราะหบ์ ทบาทหน้าทแ่ี ละความแตกตา่ งของสถาบัน การเงนิ แต่ละประเภทและธนาคารกลางได้ - นักเรยี นเห็นความสำคัญของปัญหาเศรษฐกจิ ในชุมชน ประเทศและนำเสนอแนวทางแก้ไขได้ - นักเรียนเหน็ ประโยชน์ของการมีกฎหมายเกี่ยวกับทรัพย์สนิ ทางปญั ญา - นักเรียนเหน็ ความสำคัญของการมีกฎหมายเกีย่ วกบั ทรัพย์สินทางปัญญา - นกั เรยี นเหน็ ความสำคัญของเวลาในการศึกษาประวัติศาสตร์ - นักเรยี นเห็นประโยชน์ของการเทยี บศักราชตามระบบต่าง ๆ ทใ่ี ช้ศกึ ษาประวัติศาสตร์ - นกั เรียนเหน็ ความสำคญั ของการนำวิธกี ารทางประวัตศิ าสตรม์ าใช้ศึกษาเหตกุ ารณท์ างประวตั ิศาสตร์ - นกั เรยี นสามารถนำเสนอความสำคญั ของแหลง่ อารยธรรมในภูมภิ าคเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้ - นักเรียนเห็นความสำคญั ของแหล่งอารยธรรมในภมู ิภาคเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ - นักเรยี นแสดงความสนใจเรื่องราวทางประวตั ิศาสตรส์ มยั กอ่ นสโุ ขทัยในดินแดนไทย - นักเรยี นให้ความรว่ มมือในการนำเสนอพัฒนาการของอาณาจกั รสุโขทัยในด้านต่าง ๆ - นักเรียนเหน็ ประโยชน์ของภูมิปญั ญาไทย ต่าง ๆ ในสมัยสุโขทัย - นักเรียนใหค้ วามร่วมมือในการนำเสนอการวิเคราะห์อิทธิพลของวฒั นธรรม และภูมิปญั ญาไทยสมยั สุโขทัยและสงั คมไทยในปจั จุบันได้ - นักเรียนสามารถรว่ มกิจกรรมในการเลือกใช้เครื่องมือทางภมู ศิ าสตรใ์ นการสบื ค้นข้อมลู เพ่ือวเิ คราะห์ ลักษณะทางกายภาพและสังคมของประเทศไทยและทวีปต่าง ๆ ได้ - นกั เรยี นสามารถเห็นประโยชน์ของการเปรยี บเทียบวนั เวลาของประเทศไทยกับทวีปต่าง ๆ ได้

๑๕ - นกั เรียนเหน็ ความสำคญั ต่อการระวงั ภัยธรรมชาติท่ีเกดิ ขึ้นในประเทศไทยและทวีปเอเชีย ออสเตรเลยี โอเชียเนีย - นกั เรียนให้ความรว่ มมือในการนำเสนอการวิเคราะหผ์ ลกระทบจากการเปลย่ี นแปลงทางธรรมชาตขิ อง ทวีปเอเชีย ออสเตรเลีย และโอเชยี เนียได้ - นกั เรียนสามารถเหน็ ความสำคญั ของผลกระทบจากการเปลยี่ นแปลงทางธรรมชาตขิ องทวีปเอเชียและ ทวีปอนื่ ๆ ได้ - นักเรียนเหน็ ความสำคัญของการให้ความร่วมมือของประเทศตา่ ง ๆ ท่ีมผี ลต่อส่ิงแวดล้อมทาง ธรรมชาติของทวปี เอเชีย ออสเตรเลยี และโอเชียเนีย - นกั เรียนให้ความร่วมมือในการนำเสนอทำเลท่ีตง้ั กิจกรรมทางเศรษฐกจิ และสังคมในทวีปเอเชีย ออสเตรเลยี และโอเชียเนียโดยใช้แหล่งขอ้ มูลท่ีหลากหลาย - นักเรียนให้ความรว่ มมือในการนำเสนอปจั จัยทางกายภาพและสังคมทม่ี ผี ลตอ่ การเลอ่ื นไหลของ ความคิดเทคโนโลยี สินคา้ และประชากรในทวปี เอเชีย ออสเตรเลีย และโอเชียเนยี ได้ ๓. คำอธบิ ายรายวิชา ศึกษาการเผยแผ่พระพทุ ธศาสนาหรอื ศาสนาทตี่ นนับถอื สู่ประเทศไทย วิเคราะห์ความสำคญั ของ พระพุทธศาสนาหรือศาสนาท่ีตนนับถือทมี่ ตี ่อสภาพแวดลอ้ มในสงั คมไทย รวมทั้งการพฒั นาตนและครอบครวั วิเคราะหพ์ ุทธประวัตติ ง้ั แตป่ ระสูติจนถงึ บำเพญ็ ทกุ รกริ ิยาและประพฤติตนตามแบบอยา่ งการดำเนินชวี ติ และข้อคิด จากประวตั ิสาวก เห็นคุณค่าของการพฒั นาจติ เพื่อการเรียนรู้ สวดมนต์แผเ่ มตตา บรหิ ารจติ และเจริญปัญญาดว้ ย อานาปานสติ ปฏิบัตติ นตามหลกั ธรรมทางศาสนาทต่ี นนับถือในการดำรงชีวิตแบบพอเพียงและดูแลรกั ษ์ สงิ่ แวดล้อม เพ่ือ การอยู่ร่วมกันไดอ้ ย่างสนั ติสุข และเรยี นรู้กฎหมายในการคุม้ ครองสิทธิของบุคคล บอกคุณคา่ และ วฒั นธรรมท่ีเป็นปัจจัยในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดหี รอื อาจนำไปสูค่ วามเข้าใจผดิ ต่อกัน แสดงออกถงึ การเคารพใน สิทธิ เสรภี าพของตนเองและผูอ้ ืน่ และสามารถอธบิ ายความหมายความสำคญั ของเศรษฐศาสตร์ วิเคราะหค์ ่านิยม และพฤตกิ รรมการบรโิ ภคของคนในสังคมซึง่ ส่งผลต่อเศรษฐกิจของชุมชนและประเทศ อกี ท้งั ยังมีการวิเคราะห์ ความสำคัญของเวลาในการศึกษาประวตั ศิ าสตร์ เทยี บศกั ราชตามระบบตา่ งๆท่ีใช้ ศึกษาประวัตศิ าสตรน์ ำวธิ ีการ ทางประวตั ิศาสตร์มาใช้ศึกษาเหตกุ ารณ์ทางประวตั ิศาสตร์ อธิบายพัฒนาการทางสังคม เศรษฐกจิ และการเมอื ง ของประเทศต่าง ๆ ในภูมภิ าคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ ระบุความสำคญั ของแหล่งอารยธรรมในภูมิภาคเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ อธบิ ายเรื่องราวทาง ประวัติศาสตร์ สมยั กอ่ นสโุ ขทยั ในดินแดนไทย วเิ คราะห์พฒั นาการของ

๑๖ อาณาจักรสโุ ขทัยในดา้ นต่าง ๆ วเิ คราะห์อิทธิพลของวฒั นธรรมและภูมปิ ญั ญาไทย สมัยสุโขทยั สงั คมไทยใน ปัจจบุ ันและเลอื กใช้เคร่ืองมือทางภูมศิ าสตร์ในการสืบค้นข้อมลู เพ่ือวิเคราะห์ลกั ษณะทางกายภาพและสงั คม อธบิ ายเสน้ แบง่ เวลาและเปรยี บเทยี บ วนั เวลา วิเคราะหเ์ ช่ือมโยงสาเหตแุ ละแนวทางป้องกนั ภัยธรรมชาตแิ ละการ ระวังภัย วิเคราะห์ผลกระทบจากการเปล่ยี นแปลงทางธรรมชาติ วเิ คราะห์ความร่วมมอื ของประเทศต่าง ๆ ท่ีมผี ล ต่อสิ่งแวดลอ้ มทางธรรมชาติ สำรวจและอธบิ ายทำเลที่ตั้งกิจกรรมทางเศรษฐกจิ และสงั คม วิเคราะหป์ จั จัยทาง กายภาพและสงั คมทม่ี ีผลต่อการเลอ่ื นไหลของความคดิ เทคโนโลยี สนิ คา้ และประชากรในทวีปเอเชีย ออสเตรเลีย และโอเชยี เนยี โดยใชก้ ิจกรรมการเรียนรู้ท่ีเน้นไปทางด้านการคน้ ควา้ หาข้อมลู จากสื่อการเรยี นการสอนต่าง ๆ เน้นใหเ้ กดิ ประสบการณ์จากการชมวิดทิ ัศน์และรูปภาพประกอบ การจัดกจิ กรรมกลุม่ เพ่ือใหผ้ ู้เรยี นมีทักษะในดา้ นการ วางแผน ความเปน็ ผู้นำและการทำงานรว่ มกบั ผู้อ่ืนอย่างมปี ระสิทธภิ าพท่ีสามารถนำไปใช้ประโยชนไ์ ด้ใน ชีวิตประจำวัน ใช้แบบฝกึ หัดใบงานเน้นความจำ ความคิดสร้างสรรค์ ในระดับทไี่ ม่ยากและไม่ง่ายจนเกินไป เพอ่ื ให้ผเู้ รียนนั้นได้แสดงความรู้และความคดิ ได้อยา่ งอสิ ระ สามารถวเิ คราะห์และอธบิ ายในสงิ่ ทค่ี รูผสู้ อน ต้องการให้ผู้เรยี นนัน้ มที ักษะในการคิดวเิ คราะห์และความคิดทส่ี ามารถเชื่องโยงเนอ้ื หาในแตล่ ะหน่วยเขา้ ด้วยกนั ให้ผ้เู รยี นได้แสดงออกทางความคิดอย่างเปน็ อสิ ระและมีความเป็นผนู้ ำและการทำงานร่วมกบั ผูอ้ ่นื อย่างเป็นระบบ แบบแผน รหสั ตัวช้ีวดั ส ๑.๑ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ม.๑/๔ ม.๑/๕ ม.๑/๖ ม.๑/๗ ม.๑/๘ ม.๑/๙ ม.๑/๑๐ ม.๑/๑๑ ส ๑.๒ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ม.๑/๔ ม.๑/๕ ส ๒.๑ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ม.๑/๔ ส ๒.๒ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ส ๓.๑ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ส ๓.๒ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ม.๑/๔ ส ๔.๑ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ส ๔.๒ ม.๑/๑ ม.๑/๒

ส ๔.๓ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ๑๗ ส ๕.๑ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ส ๕.๒ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ม.๑/๔ รวม ๔๕ ตัวช้วี ัด

๑๘ โครงสรา้ งรายวชิ า รายวิชาสงั คมศกึ ษา รหัสวิชา ส ๒๑๑๐๑ กลุม่ สาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๙ จำนวน ๘๐ ชวั่ โมง/ ๒ หน่วยกิต หน่วยที่ ชื่อหน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐาน เวลา การเรียนรู้/ตวั ชี้วัด (ช่วั โมง) ๑ พุทธประวัติ ๖ ๑.๑ พทุ ธประวัติ ส ๑.๑ ม. ๑/๓ ๔ - ประสตู ิ - เทวทตู ๔ - การแสวงหาความรู้ - การบำเพญ็ ทกุ รกริ ิยา ๑.๒ การสังคายนาและการเผยแผ่พระพทุ ธศาสนา ส ๑.๑ ม. ๑/๑ ๒ ๒ หลกั ธรรมในพระพุทธศาสนา ๗ ๒.๑ พุทธคณุ และข้อธรรมสำคัญท่ีสามารถนำไปใชแ้ ก้ปญั หาในชวี ติ ส ๑.๑ ม. ๑/๕ ๔ - พระรัตนตรัย ๑ ๒ - อรยิ สจั ๔ ๕ - พุทธศาสนสุภาษติ ๒.๒ การพฒั นาจิตและวธิ ีคิดแบบโยนิโสมนสกิ าร ส ๑.๑ ม. ๑/๖ ๒.๓ การสวดมนต์ แผเ่ มตตา บริหารจติ และการเจริญปัญญาด้วยอา ส ๑.๑ ม. ๑/๗ นาปานสติ ๓ ความสำคัญของพระพทุ ธศาสนาและแบบอยา่ งในการดำเนิน ชีวิต ๓.๑ ความสำคญั ของพระพทุ ธศาสนาทีมีต่อสภาพแวดล้อม ส ๑.๑ ม. ๑/๒ ๑ สงั คมไทย ๓.๒ แบบอยา่ งการดำเนนิ ชวี ิตจากประวัติสาวก ชาดก/เรอ่ื งเล่า ส ๑.๑ ม. ๑/๔ ๒ และศาสนิกชนตวั อย่าง ๓.๓ เหตผุ ลความจำเป็นท่ที ุกคนต้องศึกษาเรียนรู้ศาสนาอน่ื ๆ ส ๑.๑ ม. ๑/๙ ๒ - การประพฤตปิ ฏบิ ัตติ น - วถิ ีการดำเนินชวี ติ

๑๙ หน่วยที่ ชือ่ หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐาน เวลา ๔ (ชัว่ โมง) ๔.๑ การเรยี นรู้/ตวั ชี้วัด ๔.๒ ๑๔ ๔.๓ วนั สำคญั ทางศาสนาและการปฏบิ ัติตนอย่างเหมาะสม ๒ ๔.๔ ๒ ๔.๕ ประวตั ิ ความสำคญั และการปฏิบตั ิตนในวันสำคญั ทางศาสนา ส ๑.๒ ม. ๑/๕ ๓ ๔.๖ ๒ การจดั พิธีกรรมและปฏิบัตติ นในศาสนพธิ ี พิธีกรรม ส ๑.๒ ม. ๑/๔ ๑ ๔.๗ ๓ ๕ การปฏิบตั ิตนตามหลักธรรมและดแู ลรกั ษาสิ่งแวดลอ้ มเพ่ือการ ส ๑.๑ ม. ๑/๘ ๑ อยู่ร่วมกนั ได้อย่างสันติสุข ๑๑ ๔ การปฏิบัตติ นอยา่ งเหมาะสมตอ่ ศาสนิกชนอนื่ และบคุ คลต่าง ๆ ส ๑.๑ ม. ๑/๑๐ ๕ ตามหลกั ศาสนา ส ๑.๒ ม. ๑/๓ ๑ การกระทำของบุคคลทเี่ ปน็ แบบอย่างดา้ นศาสนสมั พนั ธ์ ส ๑.๑ ม. ๑/๑๑ จริยวตั รของสาวกและปฏิบัติตนอย่างเหมาะสมต่อสาวกของ ส ๑.๒ ม. ๑/๒ ศาสนา - วิถีชวี ติ ของพระภกิ ษุ - บทบาทของพระภิกษุในการเผยแผพ่ ระพุทธศาสนา - ขั้นตอนการเข้าพบพระภิกษุ เห็นคุณค่าการแสดงความ เคารพ การบำเพ็ญประโยชน์และการบำรุงรกั ษาต่อศาสนสถาน ส ๑.๒ ม. ๑/๑ กฎหมายและการปกครองในประเทศไทย ๕.๑ กฎหมายในการคมุ้ ครองสิทธิของบุคคล ส ๒.๑ ม. ๑/๑ - กฎหมายการคุ้มครองเดก็ - กฎหมายการศึกษา - กฎหมายการคุม้ ครองผูบ้ รโิ ภค - กฎหมายลขิ สทิ ธิ์ ๕.๒ บทบาทและหนา้ ทขี่ องเยาวชนท่ีมีตอ่ สังคมและประเทศชาติ ส ๒.๑ ม. ๑/๒ - เคารพกติกาสงั คม - ปฏิบัติตนตามกฎหมาย - มสี ว่ นร่วมและรับผิดชอบในกิจกรรมทางสังคม - อนรุ กั ษท์ รัพยากรธรรมชาติ - รกั ษาสาธารณประโยชน์ ๕.๓ การเคารพในสิทธขิ องตนเองและผู้อื่น ส ๒.๑ ม. ๑/๔

๒๐ หน่วยท่ี ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐาน เวลา ๕.๔ (ช่วั โมง) การเรยี นรู/้ ตวั ช้วี ดั ๖ ๑ ๖.๑ การเห็นความสำคัญของผลท่ีได้จากการเคารพในสทิ ธขิ อง ๗ ๖.๒ ตนเองและผูอ้ ื่น ๔ ๖.๓ รัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทย ๒ หลกั การ เจตนารมณ์ โครงสร้าง และสาระสำคญั ของ ส ๒.๒ ม. ๑/๑ ๑ รฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบบั ปัจจบุ นั บทบาทการถ่วงดุลของอำนาจอธิปไตยในรัฐธรรมนูญแหง่ ส ๒.๒ ม. ๑/๒ ราชอาณาจกั รไทย ฉบับปจั จุบัน การปฏบิ ตั ิตนตามบทบัญญตั ิของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร ส ๒.๒ ม. ๑/๓ ไทยฉบบั ปจั จุบัน เกยี่ วกับสิทธิ เสรภี าพและหน้าที่ ๗ ความแตกตา่ งของวฒั นธรรมท่ีพึงรู้ ๓ ๗.๑ ความคลา้ ยคลึงและความแตกตา่ งระหวา่ งวฒั นธรรมไทยกับ ส ๒.๑ ม. ๑/๓ ๒ วฒั นธรรมของประเทศในภมู ิภาคเอเชยี ตะวันออก เฉียงใต้ ๑ ๗.๒ วฒั นธรรมท่ีเปน็ ปัจจยั ในการสรา้ งความสัมพันธ์ที่ดี หรืออาจ ๑๖ นำไปสู่ความเข้าใจผดิ ต่อกนั ๒ ๘ เศรษฐศาสตร์เบ้ืองต้น ๔ ๒ ๘.๑ ความหมายและความสำคัญของเศรษฐศาสตร์เบ้ืองตน้ ส ๓.๑ ม. ๑/๑ ๑ ๘.๒ ความหมายของคำวา่ ทรพั ยากรมีจำกดั กบั ความต้องการมีไม่ ๒ จำกัด ความขาดแคลน การเลอื กและคา่ เสยี โอกาส ๑ ๑ ๘.๓ คา่ นิยมและพฤตกิ รรมการบริโภคของคนในสงั คมซึ่งส่งผลตอ่ ส ๓.๑ ม. ๑/๒ ๒ เศรษฐกจิ ของชมุ ชนและประเทศ ๘.๔ ความหมายและความสำคัญของการบริโภคอย่างมี ประสทิ ธิภาพ ๘.๕ ความหมายและกฎอปุ สงค์ อุปทาน ส ๓.๒ ม. ๑/๓ ๘.๖ ปัจจัยทมี่ อี ิทธิพลตอ่ การกำหนดอุปสงค์และอุปทาน ๘.๗ ผลของการมีกฎหมายเกีย่ วกับทรพั ยส์ ินทางปัญญา ส ๓.๒ ม. ๑/๔ ๘.๘ ความหมาย ความสำคญั และกฎหมายที่เกย่ี วกับทรัพย์สินทาง ปัญญา

๒๑ หนว่ ยท่ี ช่อื หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐาน เวลา การเรยี นร/ู้ ตวั ชว้ี ัด (ชั่วโมง) ๘.๙ การละเมดิ แห่งทรัพยส์ ินทางปญั ญาแต่ละประเภท ๙ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ส ๓.๑ ม. ๑/๓ ๑ ๙.๑ ความหมายของปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ๔ ๙.๒ ความเปน็ มาของปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ๑ ๙.๓ ความสำคญั คุณคา่ และประโยชน์ของปรชั ญาของเศรษฐกิจ ๑ ๒ พอเพยี งต่อสังคมไทย ๑๐ สถาบนั การเงินและเระบบศรษฐกจิ ๕ ๒ ๑๐.๑ ความหมาย ประเภทและความสำคญั ของสถาบันการเงินท่ีมตี อ่ ส ๓.๒ ม. ๑/๑ ระบบเศรษฐกิจ ๒ ๑๐.๒ ตวั อย่างทสี่ ะทอ้ นให้เห็นการพง่ึ พาอาศยั กนั และกนั การแขง่ ขนั ส ๓.๒ ม. ๑/๒ ๑ กันทางเศรษฐกจิ ในประเทศ ๑ ๑ ๑๐.๓ ปัญหาเศรษฐกจิ ในชุมชน ประเทศ ๘๐ สอบกลางภาค สอบปลายภาค รวม

๒๒ รายวิชาสังคมศกึ ษ รหัสวิชา ส ๒๑๑๐๒ กลุม่ สาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๙ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง/ ๑ หน่วยกิต หนว่ ยที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐาน เวลา การเรียนร้/ู ตวั ช้ีวัด (ชวั่ โมง) ๑ วิธีการและหลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตร์ ๙ ๑.๑ ความหมายและความสำคญั ของประวตั ิศาสตร์ ส ๔.๑ ม. ๑/๓ ๑ ๑.๒ วธิ ีการทางประวตั ศิ าสตร์ทน่ี ำมาใชศ้ กึ ษาเหตกุ ารณท์ าง ๒ ประวัตศิ าสตร์ ๑.๓ หลักฐานในการศึกษาประวตั ิศาสตรไ์ ทยสมัยสโุ ขทยั ๑ ๑.๔ ความสำคัญและทต่ี ้งั ของแหล่งอารยธรรมในภูมิภาคเอเชยี ส ๔.๒ ม. ๑/๒ ๒ ตะวนั ออกเฉยี งใต้ ๑.๕ เรอื่ งราวทางประวัตศิ าสตร์สมัยกอ่ นสุโขทัยในดนิ แดนไทย ส ๔.๓ ม. ๑/๑ ๑ ๑.๖ อทิ ธิพลของวฒั นธรรมและภูมิปญั ญาไทยสมยั สโุ ขทัยและ ส ๔.๓ ม. ๑/๓ ๒ สังคมไทยในปจั จุบัน ๒ พฒั นาการทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง ๘ ๒.๑ พฒั นาการทางสงั คม เศรษฐกิจ และการเมืองของประเทศต่าง ส ๔.๒ ม. ๑/๑ ๔ ๆ ในภูมิภาคเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ ๒.๒ พัฒนาการของอาณาจักรสโุ ขทัย ในด้านการเมอื งการปกครอง ส ๔.๓ ม. ๑/๒ ๔ เศรษฐกจิ สังคม และความสัมพนั ธ์ระหว่างประเทศ ๓ ช่วงเวลาทางประวตั ศิ าสตร์ ๖ ๓.๑ ชว่ งเวลาและยคุ สมัยท่ีปรากฏในเอกสารประวัตศิ าสตร์ไทย ส ๔.๑ ม. ๑/๑ ๑ ๓.๒ ความสำคัญของเวลาสำหรับการศึกษาประวตั ิศาสตร์และ ๓ ความสัมพันธค์ วามสำคัญของอดตี ท่ีมตี ่อปัจจุบันและอนาคต ๓.๓ ท่มี าของศักราชที่ปรากฏในเอกสารประวัตศิ าสตร์ไทย ส ๔.๑ ม. ๑/๒ ๑ ๓.๔ การเทียบศักราชตา่ ง ๆ และตัวอยา่ ง การเทียบ ๑ ๔ เคร่ืองมอื ทางภูมิศาสตร์ ๕ ๔.๑ เคร่ืองมอื ทางภูมิศาสตร์ท่ีแสดงลักษณะทางกายภาพและสงั คม ส ๕.๑ ม. ๑/๑ ๒ ๔.๒ เสน้ แบ่งเวลาของประเทศไทยกับทวีปตา่ ง ๆ และความแตกต่าง ส ๕.๑ ม. ๑/๒ ๓ ของเวลามาตรฐานกบั เวลาท้องถ่นิ

๕ การอนรุ กั ษ์และภัยทางธรรมชาติ ส ๕.๑ ม. ๑/๓ ๒๓ ๕.๑ สาเหตุ แนวทางป้องกันภยั ธรรมชาติและการระวังภัย ส ๕.๒ ม. ๑/๑ ๖ ปญั หาทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม ๓ ๖.๑ ผลกระทบต่าง ๆ จากการเปล่ียนแปลงทางธรรมชาติ ส ๕.๒ ม. ๑/๒ ๓ ๖.๒ แนวทางการอนรุ ักษ์ทรัพยากรของคนในชมุ ชน ๓ ๖.๓ การก่อเกดิ สงิ่ แวดลอ้ มใหม่ทางสังคม ส ๕.๒ ม. ๑/๓ ๑ ๖.๔ ความรว่ มมือระหว่างประเทศทีม่ ีผลตอ่ ส่งิ แวดล้อมทาง ส ๕.๒ ม. ๑/๔ ๑ ๑ ธรรมชาติ ๗ ลักษณะเศรษฐกิจของทวปี ออสเตรเลยี และโอเชียเนยี ๔ ๖.๕ ทำเลท่ตี ง้ั กิจกรรมทางเศรษฐกจิ และสังคม ๒ ๖.๖ ปจั จยั ทางกายภาพและสังคมที่มีผลต่อการเล่อื นไหลของ ๒ ความคดิ เทคโนโลยี สนิ คา้ และประชากร ๑ สอบกลางภาค ๑ ๔๐ สอบปลายภาค รวม รวม

๒๔

๒๕ แผนการจัดการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวิชา ภมู ิศาสตร์ ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี ๑ ภาคเรยี นที่ ๒ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๕๙ หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๔ เรอ่ื ง เครอ่ื งมือทางภูมิศาสตร์ เวลา ๕ ชั่วโมง ๑. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชี้วดั มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ส ๕.๑ เขา้ ใจลกั ษณะของโลกทางกายภาพ และความสัมพันธข์ องสรรพสงิ่ ซึง่ มีผลตอ่ กนั และกัน ในระบบของธรรมชาติ ใชแ้ ผนทีแ่ ละเคร่ืองมือทางภมู ศิ าสตร์ในการคน้ หา วิเคราะห์ สรปุ และใช้ ข้อมลู ภมู สิ ารสนเทศอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ ตวั ชวี้ ดั ส ๕.๑ ม.๑/๑ เลอื กใช้เคร่ืองมือทางภมู ศิ าสตร์ (ลกู โลก แผนที่ กราฟ แผนภมู )ิ ในการสืบคน้ ขอ้ มลู เพ่ือวิเคราะหล์ ักษณะทางกายภาพและสังคมของประเทศไทยและทวีปเอเชยี ออสเตรเลียและโอเชียเนีย ส ๕.๑ ม.๑/๒ อธิบายเสน้ แบง่ เวลา และเปรยี บเทยี บวนั เวลาของประเทศไทยกับ ทวีปตา่ ง ๆ ๒. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ดา้ นความรู้ (K) - นักเรยี นสามารถบอกความแตกต่างของการเลือกใชเ้ คร่ืองมือทางภมู ิศาสตร์ในการสบื ค้นข้อมลู ได้ - นักเรยี นสามารถอธบิ ายเส้นแบง่ เวลาของประเทศไทยกับทวปี ตา่ ง ๆ ได้ - นักเรยี นสามารถเปรยี บเทยี บวนั เวลาของประเทศไทยกับทวปี ตา่ ง ๆ ได้ ดา้ นทกั ษะ (P) - นกั เรียนสามารถเลอื กใช้เครื่องมือทางภูมิศาสตรใ์ นการสืบค้นข้อมลู เพ่ือวิเคราะห์ลักษณะทาง กายภาพและสงั คมของประเทศไทยและทวีปตา่ ง ๆ ได้

๒๖ ดา้ นจิตพสิ ยั (A) - นกั เรยี นสามารถรว่ มกิจกรรมในการเลือกใชเ้ ครื่องมือทางภูมศิ าสตรใ์ นการสืบคน้ ข้อมูล เพ่อื วิเคราะหล์ กั ษณะทางกายภาพและสงั คมของประเทศไทยและทวปี ต่าง ๆ ได้ - นักเรียนสามารถเห็นประโยชนข์ องการเปรียบเทยี บวนั เวลาของประเทศไทยกบั ทวีปต่าง ๆ ได้ ๓. สาระสำคัญ ภูมศิ าสตร์ เปน็ วิชาที่เก่ียวกับการจดั การพนื้ ทแี่ ละสิง่ แวดล้อมที่มนษุ ย์อาศัยอยู่ ตลอดจนองคป์ ระกอบ ๔ ดา้ นสงั คมมนุษย์ โดยใช้วิธกี ารและเทคนคิ ตลอดจนเครื่องมือตา่ ง ๆ ในการศึกษาค้นควา้ ซ่ึงในยคุ ปัจจบุ ัน ข้อมูลและขา่ วสามารถรับรไู้ ด้รวดเรว็ แมน่ ยำ ทนั สมัยด้วยเครอื่ งมือและเทคโนโลยีทางภมู ศิ าสตรท์ ีเ่ ข้ามามี ความสำคัญซึ่งเครื่องมือพ้ืนฐานทางภูมศิ าสตร์ท่นี ักเรียนควรศึกษา ไดแ้ ก่ แผนที่ ลกู โลกจำลอง รูปถ่ายทาง อากาศ ภาพจากดาวเทยี มโลกและการแบ่งเวลาของโลก ๔. สาระการเรยี นรู้ - การอธิบายเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ (ลูกโลก แผนที่ กราฟ แผนภูมิ ฯลฯ) ทีแ่ สดงลักษณะทาง กายภาพ และสังคมของประเทศไทยและทวปี เอเชีย ออสเตรเลีย และโอเชียเนยี - การอธิบายเสน้ แบง่ เวลาของประเทศไทยกบั ทวปี ตา่ ง ๆ - การอธบิ ายความแตกต่างของเวลามาตรฐานกบั เวลาทอ้ งถิ่น ๕. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน  ความสามารถในการสอ่ื สาร  ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแก้ปัญหา  ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ๖. ทักษะของผเู้ รยี นในศตวรรษที่ ๒๑ (๓R ๘C + ๒L)  ทักษะการอ่าน (Reading)  ทักษะการเขียน (Writing)

๒๗ ทักษะการคดิ คำนวณ (Arithmetic) ทักษะดา้ นการคดิ อย่างมวี ิจารณญาณและทักษะในการแกป้ ัญหา (Critical thinking and problem solving) ทักษะด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม (Creativity and innovation)  ทักษะด้านความร่วมมือ การทำงานเป็นทมี และภาวะผู้นำ (Collaboration , teamwork and leadership) ทกั ษะด้านความเข้าใจตา่ งวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทศั น์ (Cross-cultural understanding) ทกั ษะดา้ นการสื่อสาร สารสนเทศ และรเู้ ท่าทนั สื่อ (Communication information and media literacy)  ทักษะดา้ นคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร (Computing) ทักษะอาชีพและทกั ษะการเรยี นรู้ (Career and learning self-reliance, change) ทกั ษะการเปลย่ี นแปลง (Change)  ทกั ษะการเรียนรู้ (Learning Skills) ภาวะผู้นำ (Leadership) ๗. ชิน้ งานหรือภาระงาน - ใบงานที่ ๑ เรอื่ ง เครื่องมือทางภูมิศาสตร์ - ใบงานท่ี ๒ เร่ือง เคร่ืองมือทางภมู ิศาสตร์ - ใบงานท่ี ๓ เรอ่ื ง เส้นแบ่งเวลาของแตล่ ะทวีป - ใบงานที่ ๔ เรอ่ื ง เสน้ แบ่งเวลาของแตล่ ะทวีป ๘. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ ๑-๒ (ใช้รูปแบบการเรยี นรู้ : แบบสืบเสาะหาความร้)ู ขนั้ ที่ ๑ ขัน้ สรา้ งความสนใจ ๑. ครูกระตุน้ นักเรยี นให้เกิดความสนใจด้วยการใหน้ กั เรยี นดูวดิ ีทัศน์ ๑ เรื่อง ๒. ครนู ำนักเรยี นเข้าสบู่ ทเรียนดว้ ยการตง้ั คำถามใหน้ ักเรยี นเกิดความสงสัยและอยากทจ่ี ะค้นควา้ ข้อมูล ๓. ครูและนกั เรียนรว่ มกนั พดู คยุ เกี่ยวกบั หวั ข้อทส่ี งสยั จากการดูวิดีทัศน์

๒๘ ๔. ครใู ห้นกั เรียนแบ่งกลุ่มกลุ่มละ ๔ คน เพ่ือใหน้ กั เรียนร่วมกนั เลือกหวั ขอ้ เกยี่ วกับความหมาย และประโยชนข์ องเคร่ืองมือทางภมู ิศาสตร์ทส่ี งสัยมากลุ่มละ ๑ ชนิด ข้ันท่ี ๒ ขั้นสำรวจและคน้ หา ๕. ครแู ละนกั เรียนร่วมกันหารอื เพ่ือกำหนดประเภทของสื่อและเวลาท่จี ะนำมาใช้ศกึ ษาหาขอ้ มลู ๖. ครใู หน้ ักเรยี นศึกษาค้นคว้าหาข้อมลู จากส่ือและแหล่งเรียนรู้ภายในเวลาทีก่ ำหนด ขัน้ ที่ ๓ ข้นั อธิบายและลงขอ้ สรปุ ๗. ครใู หน้ กั เรยี นรว่ มกันสรุปข้อมูลจากการศกึ ษาคน้ ควา้ ๘. ครูใหน้ ักเรียนนำผลสรปุ ของข้อมูลที่ได้มานำเสนอหน้าชน้ั เรยี น ขน้ั ท่ี ๔ ข้นั ขยายความรู้ ๙. ครพู ูดสรปุ เน้อื หาโดยรวมของขอ้ มลู ท่ีนกั เรยี นได้นำเสนอ ๑๐. ครูและนกั เรียนร่วมกนั อภิปรายและแสดงความคดิ เห็นเกยี่ วกบั หวั ขอ้ ที่นกั เรยี นสงสัย ๑๑. ครูอธบิ ายเนอ้ื หาและแสดงขอ้ เสนอแนะเพิ่มเตมิ ข้นั ที่ ๕ ขั้นประเมิน ๑๒ ครใู หน้ ักเรียนทำใบงานท่ี ๑ และ ใบงานที่ ๒ ชวั่ โมงที่ ๓-๕ (ใชร้ ูปแบบการเรียนรู้ : แบบสืบเสาะหาความร)ู้ ขั้นที่ ๑ ขน้ั สรา้ งความสนใจ ๑. ครกู ระต้นุ นักเรียนให้เกิดความสนใจดว้ ยการดวู ิดีทศั น์ ๑ เรอื่ ง แล้วถามคำถามว่านักเรียนน้ัน ไดพ้ บเจออะไรในวิดที ัศน์ แล้วถามคำถามท่ีกอ่ ให้เกดิ การอยากเรยี นรู้ พร้อมพูดชักชวนเขา้ สู่เนอ้ื หาในบทเรยี น ๒. ครูให้นักเรียนคน้ หาคำตอบจากสิง่ ท่ีพบเจอในวิดที ัศน์ ขน้ั ท่ี ๒ ขั้นสำรวจและคน้ หา ๓. ครใู ห้นกั เรยี นจบั คู่ แลว้ กำหนดเวลาและสงิ่ ท่นี ักเรยี นต้องศึกษาคน้ ควา้ ๔. ครูให้นกั เรยี นศึกษาคน้ คว้าหาข้อมลู จากส่อื และแหล่งเรียนรู้ภายในเวลาท่ีกำหนด ขน้ั ที่ ๓ ขัน้ อธิบายและลงขอ้ สรุป ๕. ครใู ห้นกั เรียนสรุปข้อมลู ที่ไดจ้ ากการศึกษาค้นควา้ แลว้ นำมาอภปิ รายร่วมกนั ในช้นั เรยี น ข้นั ที่ ๔ ขน้ั ขยายความรู้ ๖. ครอู ธบิ ายเนื้อหาและข้อมูลเพม่ิ เติมในบทเรียน

๒๙ ข้ันที่ ๕ ขั้นประเมิน ๗. ครูให้นักเรียนทำใบงานท่ี ๓ และ ใบงานที่ ๔ ๙. สอื่ การสอน - วดิ ีทัศน์ประกอบการเรียนการสอน - สอื่ การเรยี นการสอนประกอบการนำเสนอ PowerPoint ๑๐. แหลง่ เรียนรู้ในหรือนอกสถานที่ - ห้องสมดุ ๑๑. การวดั และประเมนิ ผล วธิ ีวดั ผล เครื่องมือ เกณฑ์การให้ เกณฑ์การประเมนิ ตรวจใบงาน วัดผล คะแนน ช้นิ งาน/ภาระงาน ใบงาน คะแนน ๙ - ๑๐ = ดมี าก ตอบคำถาม คะแนน ๖ - ๘ = ดี ๑. ใบงานท่ี ๑ เรื่อง ถกู ต้องตามใบ คะแนน ๓ - ๕ = พอใช้ เคร่ืองมือทางภูมิศาสตร์ งานท่ใี หท้ ำ คะแนน ๐ - ๒ = ปรบั ปรุง ผา่ นเกณฑ์ในระดับดขี ้นึ ไป ๒. ใบงานท่ี ๒ เรือ่ ง ตรวจใบงาน ใบงาน ตอบคำถาม คะแนน ๙ - ๑๐ = ดมี าก ถูกต้องตามใบ คะแนน ๖ - ๘ = ดี เครอื่ งมอื ทางภูมศิ าสตร์ งานที่ให้ทำ คะแนน ๓ - ๕ = พอใช้ คะแนน ๐ - ๒ = ปรบั ปรงุ ผ่านเกณฑ์ในระดับดีข้ึนไป ๓. ใบงานที่ ๓ เร่ืองเส้นแบง่ ตรวจใบงาน ใบงาน ตอบคำถาม คะแนน ๙ - ๑๐ = ดมี าก เวลาของแต่ละทวีป ถูกต้องตามใบ คะแนน ๖ - ๘ = ดี งานท่ใี หท้ ำ คะแนน ๓ - ๕ = พอใช้ คะแนน ๐ - ๒ = ปรบั ปรงุ

๓๐ ผ่านเกณฑ์ในระดับดขี ึ้นไป ๔. ใบงานท่ี ๔ เรือ่ งเสน้ แบ่ง ตรวจใบงาน ใบงาน ตอบคำถาม คะแนน ๙ - ๑๐ = ดีมาก เวลาของแตล่ ะทวีป ถูกต้องตามใบ คะแนน ๖ - ๘ = ดี งานที่ใหท้ ำ คะแนน ๓ - ๕ = พอใช้ คะแนน ๐ - ๒ = ปรบั ปรุง ผา่ นเกณฑ์ในระดับดขี ึ้นไป จดุ ประสงค์การเรียนรหู้ รอื วธิ วี ดั ผล เครือ่ งมือวดั ผล เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑ์การ สง่ิ ทีต่ ้องการจะประเมินผล ประเมนิ ๑. นกั เรียนสามารถบอกความ สงั เกต แบบสงั เกต ตารางเกณฑ์ การให้ ผ่านเกณฑ์ แตกตา่ งของการเลือกใช้ พฤติกรรมในช้นั พฤติกรรมการ คะแนน พฤตกิ รรมการ ตั้งแต่ ระดบั เคร่ืองมอื ทางภมู ิศาสตร์ในการ เรียนและ ปฏิบัตงิ าน เรียนรู้ ปานกลาง สบื คน้ ข้อมลู ได้ ใหค้ วามรว่ มมือ รายบุคคล ขึ้นไป ของนักเรยี น คะแนน ๙ - ๑๐ = ดีมาก ๒. นักเรียนสามารถอธิบายเส้น ตรวจใบงาน ใบงาน คะแนน ๖ - ๘ = ดี ระดับดขี ึ้น แบง่ เวลาของประเทศไทยกับ คะแนน ๓ - ๕ = พอใช้ ไปถือว่าผา่ น ทวปี ตา่ ง ๆ ได้ คะแนน ๐ - ๒ = ปรับปรุง ผ่านเกณฑ์ในระดบั ดีข้ึน ไป ๓. นักเรียนสามารถ ตรวจใบงาน ใบงาน คะแนน ๙ - ๑๐ = ดมี าก ระดบั ดขี น้ึ คะแนน ๖ - ๘ = ดี ไปถือวา่ ผ่าน เปรยี บเทยี บวนั เวลาของ คะแนน ๓ - ๕ = พอใช้ คะแนน ๐ - ๒ = ประเทศไทยกบั ทวปี ตา่ ง ๆ ได้ ปรบั ปรุง

๓๑ ผ่านเกณฑ์ในระดบั ดขี น้ึ ไป ๔. นกั เรียนสามารถเลือกใช้ สังเกต แบบสังเกต ตารางเกณฑ์ การให้ ผา่ นเกณฑ์ เครอ่ื งมือทางภมู ิศาสตร์ในการ พฤติกรรมในชัน้ พฤติกรรมการ คะแนน พฤติกรรมการ ตัง้ แต่ ระดับ สบื คน้ ขอ้ มูล เพ่ือวเิ คราะห์ เรียนและ ปฏบิ ัตงิ าน เรียนรู้ ปานกลาง ลักษณะทางกายภาพและสังคม ใหค้ วามร่วมมือ รายบคุ คล ขึน้ ไป ของประเทศไทยและทวปี ตา่ ง ของนักเรยี น ตารางเกณฑ์ การให้ ๆ ได้ แบบสังเกต คะแนน พฤตกิ รรมการ ผา่ นเกณฑ์ ๕. นักเรียนสามารถร่วม สงั เกต พฤติกรรมการ เรยี นรู้ ต้งั แต่ ระดบั กิจกรรมในการเลอื กใช้ พฤติกรรมในชั้น ปฏบิ ัตงิ าน ปานกลาง เครื่องมือทางภมู ิศาสตร์ในการ เรียนและ รายบุคคล ตารางเกณฑ์ การให้ ข้นึ ไป สบื คน้ ขอ้ มลู เพื่อวิเคราะห์ ใหค้ วามร่วมมือ คะแนน พฤติกรรมการ ลกั ษณะทางกายภาพและสังคม ของนักเรียน แบบสงั เกต เรยี นรู้ ผ่านเกณฑ์ ของประเทศไทยและทวปี พฤติกรรมการ ตง้ั แต่ ระดบั ตา่ ง ๆ ได้ สงั เกต ปฏบิ ัตงิ าน ปานกลาง ๖. นักเรียนสามารถเห็น พฤติกรรมในช้นั รายบคุ คล ขน้ึ ไป ประโยชนข์ องการเปรียบเทยี บ เรียนและ วัน เวลาของประเทศไทยกับ ให้ความร่วมมือ ทวีปต่าง ๆ ได้ ของนักเรยี น

๓๒ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน วิธวี ัดผล เครื่องมือวดั ผล เกณฑ์การให้ เกณฑ์การประเมนิ คะแนน ๑. ความสามารถในการสื่อสาร สังเกต แบบสงั เกต ผา่ นเกณฑ์ตั้งแต่ ๒. ความสามารถในการคดิ สังเกต พฤติกรรมการ ตารางเกณฑ์ ระดบั ปานกลางขึ้น ปฏิบตั ิงาน การใหค้ ะแนน ไป รายบุคคล สมรรถนะสำคัญ แบบประเมนิ ของผเู้ รียน ผา่ นเกณฑ์ตั้งแต่ ใบงาน ตารางเกณฑ์ ระดบั ปานกลางขึ้น การใหค้ ะแนน ไป ๓. ความสามารถในการใช้ สังเกต แบบสงั เกต สมรรถนะสำคัญ ทกั ษะชวี ติ พฤติกรรมการ ของผเู้ รยี น ผา่ นเกณฑต์ ้ังแต่ ปฏบิ ัติงาน ตารางเกณฑ์ ระดับปานกลางขน้ึ รายบคุ คล การให้คะแนน ไป สมรรถนะสำคัญ ของผูเ้ รียน

๓๓ ทักษะของผูเ้ รยี นใน วธิ วี ดั ผล เคร่อื งมอื วัดผล เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑ์การ ศตวรรษที่ ๒๑ สังเกต ประเมนิ ๑. ทักษะการอา่ น ตารางเกณฑ์การให้ คะแนน ๕ = ดีมาก ผา่ นเกณฑ์ต้ังแต่ (Reading) คะแนนทักษะของ คะแนน ๔ = ดี ระดบั ปานกลาง ผู้เรยี นในศตวรรษ คะแนน ๓ = ปานกลาง ขน้ึ ไป ท่ี ๒๑ คะแนน ๒ = พอใช้ คะแนน ๑ = ปรบั ปรุง ๒. ทกั ษะการเขยี น (Writing) สังเกต ตารางเกณฑ์การให้ คะแนน ๕ = ดีมาก ผา่ นเกณฑ์ต้ังแต่ คะแนนทกั ษะของ คะแนน ๔ = ดี ระดับปานกลาง ผู้เรยี นในศตวรรษ คะแนน ๓ = ปานกลาง ขึ้นไป ที่ ๒๑ คะแนน ๒ = พอใช้ คะแนน ๑ = ปรับปรงุ ๓.ทักษะด้านความร่วมมือ สังเกต ตารางเกณฑก์ ารให้ คะแนน ๕ = ดมี าก ผ่านเกณฑต์ ั้งแต่ การทำงานเปน็ ทีม และภาวะ ผูน้ ำ (Collaboration , คะแนนทักษะของ คะแนน ๔ = ดี ระดับปานกลาง teamwork and leadership) ผ้เู รยี นในศตวรรษ คะแนน ๓ = ปานกลาง ขน้ึ ไป ๔. ทักษะดา้ นคอมพวิ เตอร์ สงั เกต และเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่ ๒๑ คะแนน ๒ = พอใช้ และการสื่อสาร (Computing) คะแนน ๑ = ปรับปรุง ตารางเกณฑก์ ารให้ คะแนน ๕ = ดมี าก ผ่านเกณฑต์ ้ังแต่ คะแนนทกั ษะของ คะแนน ๔ = ดี ระดบั ปานกลาง ผ้เู รยี นในศตวรรษ คะแนน ๓ = ปานกลาง ขน้ึ ไป ท่ี ๒๑ คะแนน ๒ = พอใช้ คะแนน ๑ = ปรบั ปรงุ ๕. ทกั ษะการเรียนรู้ สังเกต ตารางเกณฑก์ ารให้ คะแนน ๕ = ดมี าก ผา่ นเกณฑ์ต้ังแต่ (Learning Skills) คะแนนทักษะของ คะแนน ๔ = ดี ระดบั ปานกลาง ผเู้ รียนในศตวรรษ คะแนน ๓ = ปานกลาง ขน้ึ ไป ท่ี ๒๑ คะแนน ๒ = พอใช้ คะแนน ๑ = ปรบั ปรงุ ๑๒. กจิ กรรมเสนอแนะ ............................................................................................................................. ....................................................... ...................................................................................................................................................................................

๓๔ ๑๓. บนั ทกึ ผลหลังการสอน สรปุ ผลการเรยี นการสอน นักเรยี นทั้งหมดจำนวน.....................คน จดุ ประสงค์การ จำนวนนกั เรยี นที่ผ่าน จำนวนนักเรยี นท่ีไมผ่ ่าน จำนวนคน ร้อยละ เรียนรู้ข้อที่ จำนวนคน รอ้ ยละ ๑ ๒ ๓ ๑๔. ปัญหา/อปุ สรรค/แนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. ....................................................... .................................................................................................................................................................................... ๑๕. ข้อเสนอแนะ ............................................................................................................................. ....................................................... .................................................................................................................................................................................... ลงชอ่ื ........................................................................ () ตำแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ....................................... ลงชอื่ ................................................................ หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้ () ลงชื่อ................................................................ รองผอู้ ำนวยการกลุม่ บริหารวิชาการ ()

๓๕ ความเหน็ ของหัวหนา้ สถานศกึ ษา ไดท้ ำการตรวจแผนการเรียนรู้ของ....................................................แล้วมคี วามคิดเหน็ ดงั นี้ ๑. เปน็ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง ๒. การจัดกจิ กรรมได้นำเอากระบวนการเรยี นรู้ เนน้ ผู้เรยี นเปน็ สำคญั มาใช้ในการสอนไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ยังไม่เนน้ ผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรงุ พัฒนาต่อไป ๓. ข้อเสนอแนะอน่ื ๆ ............................................................................................................................. ........................... ....................................................................................................... ................................................. ............................................................................................................................. ........................... ........................................................................................................................................................ ลงช่อื ............................................................................................... ( ………………………………………………… ) ผู้อำนวยการโรงเรียน…………………………………………………………..

๓๖

๓๗

๓๘

๓๙

๔๐

๔๑ เกณฑ์การประเมนิ พฤตกิ รรมการเรยี นรู้รายบุคคล พฤติกรรมการเรยี นรู้ ลำดบั ช่ือ - นามสกลุ ความเข้าใจ คิด คำนวน นำความรู้ไปใช้ ปฏิบัติงาน ๕๔๓๒๑๕๔๓๒๑๕๔๓๒๑๕๔๓๒๑ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ ๑๖ ๑๗ ๑๘ ๑๙ ๒๐ ระดับคุณภาพ : ดีมาก (๕) ดี (๔) ปานกลาง (๓) พอใช้ (๒) ปรบั ปรงุ (๑) เกณฑ์การประเมนิ : มผี ลการประเมินในระดบั ปานกลางขึ้นไป จงึ จะผ่านเกณฑ์การประเมิน ลงช่ือ....................................................................................ผู้ประเมนิ วนั ท่ี ................./............................/................

๔๒ แบบสงั เกตพฤติกรรมการปฏบิ ัตงิ านรว่ มกบั ผอู้ ืน่ ชือ่ - สกุล.............................................................................................................ช้ัน.............เลขท่ี.............. คำช้ีแจง ให้ครูผูส้ อนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในการปฏิบัติงานรว่ มกบั ผูอ้ ืน่ แล้ว  ลงในชอ่ งตรง กับระดบั คะแนน ท่ี ประเดน็ การประเมิน ระดับคุณภาพ ๕๔๓๒๑ ๑ การแบง่ หน้าท่ีความรับผดิ ชอบภายในกล่มุ ๒ ความร่วมมือในการทำงานรว่ มกนั ภายในกลมุ่ ๓ ความสามคั คีภายในกลุ่ม ๔ การรบั ฟงั ความคดิ เหน็ ซงึ่ กันและกันภายในกลุ่ม ๕ การมนี ้ำใจ ชว่ ยเหลือซึง่ กนั และกันภายในกลุ่ม ระดับคุณภาพ : ดมี าก (๕) ดี (๔) ปานกลาง (๓) พอใช้ (๒) ปรับปรงุ (๑) เกณฑ์การประเมิน : มผี ลการประเมนิ ในระดบั ปานกลางข้ึนไป จงึ จะผ่านเกณฑ์การประเมนิ ลงชือ่ .......................................................................ผ้ปู ระเมิน วันท.ี่ ................/............................/................

๔๓ แบบสงั เกตพฤติกรรมการปฏบิ ตั ิงานรายบุคคล ชอ่ื - สกลุ .........................................................................................................ชัน้ ...........เลขที่.............. คำชีแ้ จง ใหค้ รผู สู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในการปฏบิ ัติงานรายบคุ คล แล้ว  ลงในชอ่ งตรง กบั ระดบั คะแนน ท่ี ประเด็นการประเมนิ ระดบั คุณภาพ ๕๔๓๒๑ ๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๒ ความสามารถในการคิด ๓ ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต ระดับคุณภาพ : ดีมาก (๕) ดี (๔) ปานกลาง (๓) พอใช้ (๒) ปรับปรงุ (๑) เกณฑ์การประเมิน : มีผลการประเมนิ ในระดับปานกลางขึ้นไป จึงจะผา่ นเกณฑ์การประเมิน ลงชอ่ื .........................................................................ผปู้ ระเมิน วนั ท่ี................./............................/................

๔๔ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น พฤติกรรมบ่งชี้ คะแนน ๑. ความสามารถ ดีมาก (๕) ดี (๔) ปานกลาง (๓) พอใช้ (๒) ปรบั ปรุง (๑) ในการส่อื สาร มีความสามารถ ไม่มี มีความสามารถ มคี วามสามารถ มีความสามารถ ในการสอ่ื สารได้ ความสามารถ ๒. ความสามารถ ค่อนข้างไมด่ ี ในการสื่อสาร ในการคิด ในการส่ือสารได้ ในการสื่อสารไดด้ ี ในการสื่อสารได้ มคี วามสามารถ ไม่มี ในการคดิ และ ความสามารถ ๓. ความสามารถ ดเี ย่ยี ม ชัดเจน ค่อนข้างดี ตดั สนิ ใจได้ไม่ดี ในการคดิ และ ในการใช้ทักษะ เท่าที่ควร ตดั สนิ ใจ ชีวิต มคี วามสามารถ มคี วามสามารถ มีความสามารถ ในการคิดอย่าง มี ในการคดิ อยา่ งมี ในการคิดอย่างมี วิจารณญาณ วจิ ารณญาณ และ วิจารณญาณ สร้างสรรค์และ ตัดสนิ ใจได้ดี และตดั สนิ ใจได้ ตัดสินใจได้ดเี ยีย่ ม มคี วามสามารถ มีความสามารถใน มคี วามสามารถ มีความสามารถ ไมม่ ี ในการใชท้ ักษะ ความสามารถใน ในการใช้ทักษะ การใชท้ กั ษะชวี ิต ในการใช้ทักษะ ชวี ติ ทำงาน การใช้ทกั ษะ ร่วมกับผู้อน่ื ไดไ้ ม่ ชีวติ ทำงาน ชวี ติ ทำงาน ทำงานร่วมกบั ชีวติ ทำงาน ดีเท่าท่คี วร รว่ มกับผอู้ ่ืน รว่ มกบั ผู้อ่นื ได้ ผอู้ ่ืนไดด้ ี รว่ มกบั ผู้อน่ื ได้ อยา่ งดีเยี่ยม

๔๕ แบบประเมินทักษะและกระบวนการ ช่ือ - สกุล.........................................................................................................ช้นั ...........เลขท่ี.............. คำชแี้ จง ให้ครผู สู้ อนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในการปฏบิ ตั ิงานรายบคุ คล แล้ว  ลงในช่องตรง กบั ระดับคะแนน ท่ี ประเด็นการประเมิน ระดับคุณภาพ ๕๔๓๒๑ ๑ ทกั ษะการอา่ น (Reading) ๒ ทักษะการเขยี น (Writing) ๓ ทักษะด้านความรว่ มมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ (Collaboration , teamwork and leadership) ๔ ทกั ษะด้านคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร (Computing) ๕ ทกั ษะการเรียนรู้ (Learning Skills) ระดับคุณภาพ : ดีมาก (๕) ดี (๔) ปานกลาง (๓) พอใช้ (๒) ปรับปรุง (๑) เกณฑ์การประเมนิ : มีผลการประเมนิ ในระดับปานกลางขึ้นไป จงึ จะผ่านเกณฑ์การประเมิน ลงชื่อ.........................................................................ผู้ประเมิน วันท่ี................./............................/................

๔๖ เกณฑ์การใหค้ ะแนนทกั ษะของผเู้ รยี นในศตวรรษที่ ๒๑ ทกั ษะของผเู้ รียน คะแนน ดมี าก (๕) ดี (๔) ปานกลาง (๓) พอใช้ (๒) ปรับปรุง (๑) ๑. ทกั ษะการอา่ น มีความสามารถ ใน มคี วามสามารถ มคี วามสามารถ มคี วามสามารถ ไมม่ ี (Reading) การอา่ นได้อย่างดี ในการอ่านได้ ในการอ่านได้ ในการอ่านได้ไม่ ความสามารถ เยย่ี ม เข้าใจไดด้ ี อย่างดี และ คอ่ นข้างดี และ ดีเทา่ ทีค่ วร ในการอ่าน มาก เข้าใจได้ดี เขา้ ใจได้ ๒. ทักษะการ มคี วามสามารถ ใน มคี วามสามารถ มีความสามารถ มคี วามสามารถ ไม่มี เขยี น (Writing) การเขียนไดอ้ ยา่ งดี ในการเขียนได้ ในการเขียนได้ ในการเขียนไดไ้ ม่ ความสามารถ เยย่ี ม ใชค้ ำได้อยา่ ง อยา่ งดี ใช้คำได้ ค่อนข้างดี และ ดเี ทา่ ทค่ี วร และ ในการเขยี นและ เหมาะสม เหมาะสม ใชค้ ำได้ ยังใช้คำไม่ค่อย การใชค้ ำ พอสมควร เหมาะสม เหมาะสม เล็กนอ้ ย ๓.ทักษะด้าน มีทกั ษะด้านความ มีทักษะด้าน มที กั ษะดา้ น มีทกั ษะด้าน ไม่มีทกั ษะดา้ น ความร่วมมือของ ความร่วมมือ ความร่วมมอื ของ ความรว่ มมือ ความรว่ มมือ การ รว่ มมอื ของการ การทำงานเปน็ ของการทำงาน การทำงานเปน็ ของการทำงาน ทีมและ ภาวะ เปน็ ทีมและ ทีมและ ภาวะ เปน็ ทมี และ ทำงานเปน็ ทีม ทำงาน เป็นทมี ทดี่ ี ผู้นำได้อย่างดี ภาวะผนู้ ำ ผนู้ ำได้ไม่ดี ภาวะผู้นำ เทา่ ทค่ี วร และภาวะผู้นำ เย่ียม และมีภาวะ ค่อนข้างดี (Collaboration , ผู้นำ อย่างชัดเจน มที ักษะดา้ น มที ักษะด้าน คอมพวิ เตอร์ คอมพวิ เตอร์ teamwork และเทคโนโลยี และเทคโนโลยี สารสนเทศและ สารสนเทศและ and leadership) การส่อื สารอย่าง การสือ่ สาร ดี คอ่ นข้างดี ๔. ทกั ษะดา้ น มที ักษะดา้ น มที กั ษะดา้ น ไมม่ ีทกั ษะดา้ น คอมพวิ เตอร์ คอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ และ คอมพิวเตอร์ และ และเทคโนโลยี และเทคโนโลยี สารสนเทศและ สารสนเทศและ เทคโนโลยี เทคโนโลยี การส่อื สารได้ไม่ การส่อื สาร ดเี ทา่ ท่คี วร สารสนเทศและ สารสนเทศและ การสอ่ื สาร การสื่อสารอย่างดี (Computing) เยีย่ ม