คู่ มื อ ทั ก ษ ะ ค ว า ม ฉ ล า ด ท า ง ดิ จิ ทั ล สำ ห รับ ค รู หลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิต วิชาชีพครู มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง
คำนำ คู่มือทักษะความฉลาดทางดิจิทัล สำหรับครู เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา GD58201 การพัฒนาความเป็นครู โดยยึดประเด็น DQ ความฉลาดทางดิจิทัล ทั้ง 8 ทักษะ มีจุดประสงค์เพื่อสร้างความเป็นครูสู่ยุคดิจิทัล และสื่อสังคมออนไลน์ที่ เข้าใจบรรทัดฐานของการปฏิบัติตัวให้เหมาะสม และมีความรับผิดชอบในการใช้ เทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การสื่อสารในยุคดิจิทัลเป็นการสื่อสารที่ไร้พรมแดน และสามารถเลือกใช้ และสร้างสื่อเทคโนโลยีดิจิทัลได้เหมาะสมกับองค์ความรู้ที่ ต้องการจะถ่ายทอดและเหมาะสมต่อพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนแต่ละช่วงวัย ในบริบทที่แตกต่างกันร่วมทั้งมีแนวทางการพัฒนาและวิธีการป้องกันปัญหาการ สื่อสารในยุค ดิจิทัลและสื่อสังคมออนไลน์ ผู้จัดทำ นางสาวกาญจนา ม่วงฉะคร่ำ รหัสนักศึกษา 647190115 หมู่ที่ 1
สารบัญ 4 การเป็นครูยุคดิจิทัล 7 ความฉลาดทางดิจิทัลคืออะไร 8 ทำไมต้องเพิ่มทักษะความฉลาดทาง ดิจิทัล 9 ความเป็นพลเมืองดิจิทัล(Digital Citizenship) คืออะไร 10 8 ทักษะในการเป็นพลเมืองดิจิทัล 19 สรุปความรู้ที่ได้รับ 20 อ้างอิงเเหล่งที่มา 21 เสนออาจารย์ผู้สอน 21 ประวัติผู้จัดทำ
หน้า I 4 ทักษะความฉลาดทางดิจิทัล สำหรับครู การเป็นครูในยุคดิจิทัล ในยุคดิจิตอล เนื้อหา ข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ มีมากล้น และได้รับการแทนด้วยดิจิตอล มีอยู่รอบ ๆ ตัว เป็น Cloud Knowledge ผู้เรียนมีขีดความสามารถเข้าถึงเนื้อหา Accesible ได้ง่ายและเร็ว ทำให้มีขีด ความสามารถในการมองเห็นเนื้อหา Visibility ได้ประหนึ่งเสมือน จดจำไว้ในสมอง ครูยุคดิจิตอล จึงไม่เน้นการสอนตามเนื้อหาในหลักสูตร แต่จะเน้นการนำ เนื้อหามาประยุกต์ใช้ หรือต่อ ยอดทางความคิด และต้องจัดการเรียนรู้ทักษะและความรู้ที่จํา เป็นให้นักเรียน ต้องเน้นให้นักเรียนแสวงหาความรู้ ได้เอง ครูจะไม่ใช้วิธี Transfer knowledge แต่จะให้นักเรียน สามารถ Infer Knowledge หรือสังเคราะห์ ความรู้จากข้อมูล ข่าวสารที่แสวงหามาได้ ต้องเป็นนักจัดการที่ดี จัดการให้นักเรียนได้เรียนรู้โดยลงมือปฏิบัติ (Action Learning) และต้องเปลี่ยนการสอบเป็นการประเมินเพื่อการพัฒนาปรับปรุง ต้องมี เทคนิคในการทำให้ นักเรียนเรียนรู้อย่างสนุก Gamification in learning รู้วิธีการใช้และ ประยุกต์เทคโนโลยีอุบัติใหม่ เน้นให้ผู้เรียน มีความสุขกับการทำกิจกรรม เพื่อการเรียนรู้ มีแรง จูงใจให้คิด สร้างสรรค์ นำเสนอ ความรู้อย่างสนุกสนาน ในขณะที่เทคโนโลยีดิจิทัลมีการ พัฒนาและก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว มีการใช้งานง่ายขึ้น (Userfriendly) ขนาดเล็กลงแต่ความ สามารถมหาศาล หลอมรวมกับการดำรงชีวิตมากขึ้น ส่งผลให้เกิดการ เปลี่ยนแปลงอย่างฉับ พลันทั้งในระดับบุคคลและระดับสังคมทั้งในเชิงบ5วก0แ%ละลบ ซึ่งหากสังคมและคนในสังคม ขาด ความรู้ ทักษะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งขาดความเท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่เกิดจาก เทคโนโลยีดิจิทัล นอกจากจะไม่ได้ประโยชน์จากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีแล้ว ยังตกเป็น เหยื่อทางเทคโนโลยีที่ก่อให้เกิดผลเชิง ลบมหาศาลอีกด้วย
หน้า I 5 “ครู” จึงเป็นฟันเฟืองสำคัญของการพัฒนาคนและขับเคลื่อนการศึกษาและจัดการเรียนรู้ที่ เหมาะสม และมีคุณภาพแก่นักเรียน การจัดการศึกษาจึงให้ความสำคัญอย่างมากต่อบทบาท ของครูทำให้มีการทบทวน บทบาทของครูที่เหมาะสมกับพฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียน ตลอดจนโครงสร้างทางสังคมและเศรษฐกิจที่ เปลี่ยนไปที่ทั้งครูและนักเรียนจะต้องเผชิญใน ชีวิตประจำวัน อย่างไรก็ดีแม้ยุคสมัยจะเปลี่ยนไปอย่างไรก็ตาม บทบาทและหน้าที่หลักของครู ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง นั่นคือ ครูจะต้องเป็นผู้ถ่ายทอดองค์ความรู้และทักษะให้กับนักเรียนเพื่อ ให้นักเรียนสามารถนำองค์ความรู้และ ทักษะไปใช้ประโยชน์ต่อการทำงานและการดำรงชีวิต สิ่ง ที่เพิ่มขึ้นสำหรับบทบาทของครูยุคดิจิทัล คือ ครูต้องเป็นเสมือนสะพานเชื่อมโยงองค์ความรู้สาระวิชาต่างๆ ประกอบกับพัฒนา ทักษะที่ ส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับนักเรียน โดยเฉพาะทักษะดิจิทัลที่มี ความสำคัญยิ่ง ต่อการเรียนรู้ในยุคดิจิทัล ปัจจุบันมีรูปแบบการเรียนรู้ที่ผสมผสาน เทคโนโลยีมากมายและหลากหลาย เช่น TPACK และ SAMR เป็นต้น แต่การจะจัดการ เรียนรู้ในรูปแบบใดก็ตาม ครูจำเป็นต้องรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล รู้จักรูปแบบการเรียนรู้ (Learning Style) และเข้าใจความเร็วในการเรียนรู้ของนักเรียน (Learning Pace) รู้ ความถนัดและความสนใจของนักเรียน และที่สำคัญคือต้องเข้าใจโลกของนักเรียนใน แต่ละช่วงวัยด้วย ซึ่งในยุคิจิทัลที่มีการเคลื5่อ0นท%ี่ของข้อมูลข่าวสารมหาศาลอย่างรวดเร็ว การเข้าถึงสื่อและการสื่อสารที่ง่ายและสะดวกขึ้น ทุกที่และทุกเวลา ส่งผลให้นักเรียน เข้าไปอยู่อีกโลกหนึ่ง เป็นโลกเสมือนที่สร้างขึ้น และทุกคนบนโลกนั้นสามารถ สร้างตัว ตนของตนเองขึ้นใหม่ โดยอาจเป็นความจริงหรือไม่ก็ดีอาจประสงค์ดีหรือร้ายก็ได้โลกที่มี ความกว้างใหญ่ และไร้พรมแดนที่นักเรียนเข้าถึงได้ง่ายนี้หากมีภัยอันตรายจะเป็นดาบส องคม คือ ภัยนี้จะสามารถเข้าถึงตัวได้ แม้กระทั่งในห้องนอน โดยไม่ต้องเดินทางไปที่ใด เลย ครูจึงต้องทำความเข้าใจโลกแห่งยุคดิจิทัลนี้ด้วย แต่ครูซึ่ง เป็นผู้อพยพทางดิจิทัล (Digital Immigrant) จะมีความเท่าทัน เข้าใจและรู้ทันโลกดิจิทัลช้ากว่าหรือน้อยกว่า นักเรียน และบ่อยครั้งครูมักจะละเลยและไม่สนใจสิ่งที่นักเรียนเผชิญอยู่ในโลกนั้น
หน้า I 6 • ครูต้องเป็นเกราะป้องกันความเสี่ยงและภัยอันตราย ที่อาจเกิดขึ้นได้จากโลกไซเบอร์ และ สังคมดิจิทัล ครูต้องเป็นแบบอย่างที่ดีเท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลง รู้ทันดิจิทัล สามารถเลือกใช้ สื่อและ เทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้สนับสนุนการจัดการเรียนการสอน และบริหารจัดการการเรียน การสอนในห้องเรียนได้ อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะแม้ว่านักเรียนจะมีความชำนาญในเรื่อง ดิจิทัลมากกว่าครูสามารถใช้งานเทคโนโลยี ดิจิทัลและเรียนรู้จากสื่อดิจิทัลต่างๆ ได้มากกว่า และรวดเร็วกว่าครูแต่ความเร็วดังกล่าวจำเป็นอย่างยิ่งต้องมา พร้อมด้วย การรู้เท่าทัน ซึ่ง สามารถบ่มเพาะให้เกิดขึ้นได้จากการถ่ายทอดจากครูหรือ เรียนรู้จากสื่อต่าง ๆ รอบตัว ให้ ตนเองรู้เท่านั้น และสามารถสร้างเกราะป้องกันภัยของตนเองได
หน้า I 7 ความฉลาดทางดิจิทัล (DQ Digital Intelligence) ความฉลาดทางดิจิทัล คืออะไร ความฉลาดทางดิจิทัล (DQ: Digital Intelligence Quotient) คือ กลุ่มความสามารถทางสังคม อารมณ์ และ การรับรู้ ที่จะทำให้คนคนหนึ่งสามารถเผชิญกับความ ท้าทายของชีวิตดิจิทัล และสามารถปรับตัวให้เข้ากับชีวิต ดิจิทัลได้ความฉลาดทางดิจิทัลครอบคลุมทั้งความรู้ ทักษะ ทัศนคติและค่านิยมที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตในฐานะสมาชิก ของโลกออนไลน์ กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ทักษะการใช้สื่อและ การเข้าสังคมในโลกออนไลน์
หน้า I 8 ทำไมต้องเพิ่มทักษะ ความฉลาดทางดิจิทัล เด็กๆ และเยาวชนในยุคไอทีเติบโตมาพร้อมกับอุปกรณ์ดิจิทัลและอินเทอร์เน็ต ด้วยลักษณะการสื่ อสารที่รวดเร็ว อิสระ ไร้พรมแดน และไม่เห็นหน้าของอีกฝ่าย ทำ ใ ห้ ก า ร รับ รู้แ ล ะ ก า ร ใ ช้ ชี วิ ต ข อ ง เ ด็ ก รุ่น ใ ห ม่ มี ลั ก ษ ณ ะ ที่ แ ต ก ต่ า ง จ า ก เ จ น เ น อ เ ร ชั่ นรุ่นก่อนๆ มาก ทักษะชีวิตใหม่ๆ ต้องได้รับการเรียนรู้และฝึกฝน เพื่ อที่เด็กที่ เ ติ บ โ ต ม า ใ น ยุ ค ที่ เ ต็ ม ไ ป ด้ ว ย ข้ อ มู ล ข่ า ว ส า ร แ ล ะ เ ท ค โ น โ ล ยี ส า ม า ร ถ นำ ไ ป ใ ช้ ใ น ชี วิ ต ประจำวันการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ยังผูกติดกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตและสื่ อ ออนไลน์เกือบตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการรับข่าวสาร ความบันเทิง หรือการซื้ อ ขายสินค้าและบริการ และการทำธุรกรรมการเงินในอดีต ตัวชี้วัดอย่าง IQ ได้ถูก นำมาใช้พัฒนาระดับทักษะทางสติปัญญาของมนุษย์ ในขณะที่ EQ ได้นำมาศึกษา เพื่ อพัฒนาระดับทักษะความฉลาดทางอารมณ์ แต่ด้วยบริบททางสังคมที่เปลี่ ยน ไ ป ปั จ จุ บั น ทั ก ษ ะ ค ว า ม ฉ ล า ด ท า ง ปั ญ ญ า แ ล ะ ท า ง อ า ร ม ณ์ ไ ม่ เ พี ย ง พ อ ต่ อ สิ่ ง ที่ เ ย า ว ช น ต้ อ ง เ ผ ชิ ญ ใ น โ ล ก ไ ซ เ บ อ ร์ ยิ่งไปกว่านั้น อินเทอร์เน็ตและอุปกรณ์ดิจิทัล ถึงแม้จะเพิ่มความสะดวก สบาย แต่ก็แฝงด้วยอันตรายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น อันตรายต่อสุขภาพ การเสพติด เทคโนโลยี หากใช้งานสื่ อดิจิทัลมากเกินไป หรืออันตรายจากมิจฉาชีพออนไลน์ การคุกคามทางไซเบอร์ และการกลั่นแกล้งทางไซเบอร์ พลเมืองยุคใหม่จึงต้องรู้ เท่าทันสื่ อ สารสนเทศ และมีทักษะความฉลาดทางดิจิทัล เพื่ อที่จะใช้ชีวิตอยู่ใน สังคมออนไลน์และในชีวิตจริงโดยไม่ทำตัวเองและผู้อื่ นให้เดือดร้อน
หน้า I 9 ความเป็นพลเมืองดิจิทัล (DIGITAL CITIZENSHIP) คืออะไร จอห์น แบร์โลว์ได้ ให้ความหมายของความเป็นพลเมื อง ดิ จิทั ล(Digital Citizenship) ไว้คื อแนวคิ ด และแนวปฏิ บัติ ที่ สำคั ญ ซึ่ งจะช่วยให้พลเมื องเรียนรู้ว่าจะใช้ประโยชน์ จากเทคโนโลยีดิ จิทั ลและ ปกป้อง ตนเองจากความเสี่ ยงต่ าง ๆ อย่างไร รวมทั้ งรู้จักเคารพสิ ทธิ ของตนเองและมี ความรับผิ ดชอบต่ อสั งคม ในโลกสมั ยใหม่ ไปจนถึ ง เข้าใจผลกระทบของเทคโนโลยีดิ จิทั ลที่ มี ต่ อสั งคม และใช้เพื่ อสร้าง การเปลี่ ยนแปลง ทางสั งคมในเชิงบวก ความเป็นพลเมื องดิ จิทั ลคื อผู้ ใช้งานสื่ อดิ จิทั ลและสื่ อสั งคมออนไลน์ ที่ รู้จักการปฏิ บัติ ตั วให้เหมาะสม และมี ความรับผิ ดชอบในการใช้เทคโนโลยีโดยเฉพาะอย่างยิ่งการ สื่ อสารในยุคดิ จิทั ลเป็นการสื่ อสารที่ ไร้ พรมแดน(พิ จิตรา เพชรพา รี,https://bit.ly/2MgdOqH, 2562)
หน้า I 10 8 ทักษะในการเป็นพลเมืองดิจิทัล (8 SKILLS OF DIGITAL INTELLIGENCE QUOTIENT FOR DIGITAL CITIZEN) 1. ทักษะในการรักษาอัตลักษณ์ที่ดีของตนเอง(Digital Citizen Identity) 2. ทักษะการคิดวิเคราะห์มีวิจารณญาณที่ดี(Critical Thinking) 3. ทักษะในการรักษาความปลอดภัยของตนเองในโลกไซเบอร์ (Cybersecurity Management) 4. ทักษะในการรักษาข้อมูลส่วนตัว (Privacy Management) 5. ทักษะในการจัดสรรเวลาหน้าจอ(Screen Time Management) 6. ทักษะในการบริหารจัดการข้อมูลที่ผู้ใช้งานมีการทิ้งไว้บนโลกออนไลน์ (Digital Footprints) 7. ทักษะในการรับมือกับการกลั่นแกล้งบนโลกไซเบอร์ (Cyberbullying Management) 8. ทักษะการใช้เทคโนโลยีอย่างมีจริยธรรม (Digital Empathy)
หน้า I 11 1. ทักษะในการรักษาอัตลักษณ์ที่ดีของตนเอง(DIGITAL CITIZEN IDENTITY) สามารถสร้างและบริหารจัดการอัตลักษณ์ที่ดีของตนเองไว้ได้อย่างดีทั้งในโลกออนไลน์และ โลกความจริงอัตลักษณ์ที่ดีคือ การที่ผู้ใช้สื่อดิจิทัลสร้างภาพลักษณ์ในโลกออนไลน์ของ ตนเองในแง่บวก ทั้งความคิดความรู้สึก และการกระทำ โดยมีวิจารณญานในการรับส่งข่าวสาร และแสดงความคิดเห็น มีความเห็นอกเห็นใจผู้ร่วมใช้งานในสังคมออนไลน์ และรู้จักรับผิด ชอบต่อการกระทำ ไม่กระทำการที่ผิดกฎหมายและจริยธรรมในโลกออนไลน์ เช่น การละเมิด ลิขสิทธิ์ การกลั่นแกล้งหรือการใช้วาจาที่สร้างความเกลียดชังผู้อื่นทางสื่อออนไลน์ 50%
หน้า I 12 2. ทักษะการคิดวิเคราะห์มีวิจารณญาณที่ดี(CRITICAL THINKING) สามารถในการวิเคราะห์แยกแยะระหว่างข้อมูลที่ถูกต้องและข้อมูลที่ผิด ข้อมูลที่มีเนื้อหา เป็นประโยชน์และข้อมูลที่เข้าข่ายอันตราย ข้อมูลติดต่อทางออนไลน์ที่น่าตั้งข้อสงสัยและ น่าเชื่อถือได้ เมื่อใช้อินเทอร์เน็ตจะรู้ว่าเนื้อหาอะไร เป็นสาระ มีประโยชน์ รู้เท่าทันสื่อและ สารสนเทศ สามารถวิเคราะห์และประเมินข้อมูลจากแหล่งข้อมูลที่หลากหลายได้ เข้าใจ รูปแบบการหลอกลวงต่างๆ ในโลกไซเบอร์ เช่น ข่าวปลอมเว็บปลอม ภาพตัดต่อ เป็นต้น การคิดวิเคราะห์มีวิจารณญาณที่ดีมีองค์ประกอบดังนี้ 50%
หน้า I 13 3. ทักษะในการรักษาความปลอดภัยของตนเองในโลก ไซเบอร์ (CYBERSECURITY MANAGEMENT) สามารถป้องกันข้อมูลด้วยการสร้างระบบความปลอดภัยที่เข้มแข็ง และป้องกันการ โจรกรรมข้อมูลหรือการโจมตีออนไลน์ได้ มีทักษะในการรักษาความปลอดภัยของตนเอง ในโลกออนไลน์ การรักษาความปลอดภัยของตนเองในโลกไซเบอร์คือ การปกป้อง อุปกรณ์ดิจิทัลข้อมูลที่จัดเก็บและข้อมูลส่วนตัวไม่ให้เสียหาย สูญหาย หรือถูกโจรกรรม จากผู้ไม่หวังดีในโลกไซเบอร์ การรักษาความปลอดภัยทางดิจิทัลมีความสำคัญดังนี้ 1 . เ พื่ อ รั ก ษ า ค ว า ม เ ป็ น ส่ ว น ตั ว แ ล ะ ค ว า ม ลั บ หากไม่ได้รักษาความปลอดภัยให้กับอุปกรณ์ดิจิทัล ข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลที่เป็น ความลับอาจจะรั่วไหลหรือถูกโจรกรรมได้ 2 . เ พื่ อ ป้ อ ง กั น ก า ร ข โ ม ย อั ต ลั ก ษ ณ์ การขโมยอัตลักษณ์เริ่มมีจำนวนที่มากขึ้นในยุคข้อมูลข่าวสาร เนื่องจากมีการทำธุรกรรม ทางออนไลน์มากยิ่งขึ้น ผู้คนเริ่มทำการชำระค่าสินค้าผ่านสื่ออินเทอร์เน็ต และทำ ธุรกรรมกับธนาคารทางออนไลน์ หากไม่มีการรักษาความปลอดภัยที่่เพียงพอ มิจฉาชีพ อาจจะล้วงข้อมูลเกี่ยวกับบัตรเครดิตและข้อมูล5ส0่ว%นตัวของผู้ใช้งานไปสวมรอยทำ ธุรกรรมได้ เช่น ไปซื้อสินค้า กู้ยืมเงิน หรือสวมรอยรับผลประโยชน์และสวัสดิการ 3 . เ พื่ อ ป้ อ ง กั น ก า ร โ จ ร ก ร ร ม ข้ อ มู ล เนื่องจากข้อมูลต่างๆ มักเก็บรักษาในรูปของดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นเอกสารภาพถ่าย หรือ คลิปวีดิโอ ข้อมูลเหล่านี้อาจจะถูกโจรกรรมเพื่อนำไปขายต่อ แบล็คเมล์ หรือเรียกค่าไถ่ 4 . เ พื่ อ ป้ อ ง กั น ค ว า ม เ สี ย ห า ย ข อ ง ข้ อ มู ล แ ล ะ อุ ป ก ร ณ์ ภัยคุกคามทางไซเบอร์อาจส่งผลเสียต่อข้อมูลและอุปกรณ์ดิจิทัลได้ ผู้ไม่หวังดีบางราย อาจมุ่งหวังให้เกิดอันตรายต่อข้อมูลและอุปกรณ์ที่เก็บรักษามากกว่าที่จะโจรกรรมข้อมูล นั้นภัยคุกคามอย่างไวรัสคอมพิวเตอร์ โทรจัน และมัลแวร์สร้างความเสียหายร้ายแรงให้ กับคอมพิวเตอร์หรือระบบปฏิบัติการได้
หน้า I 14 4. ทักษะในการรักษาข้อมูลส่วนตัว (PRIVACY MANAGEMENT) มีดุลพินิจในการบริหารจัดการข้อมูลส่วนตัว รู้จักปกป้องข้อมูลความส่วนตัวในโลก ออนไลน์โดยเฉพาะการแชร์ข้อมูลออนไลน์เพื่ อป้องกันความเป็นส่วนตัวทั้งของตนเอง และผู้อื่น รู้เท่าทันภัยคุกคามทางอินเทอร์เน็ต เช่น มัลแวร์ ไวรัสคอมพิวเตอร์ และกล ลวงทางไซเบอร์ 1. ไม่ควรตั้งรหัสผ่านของบัญชีใช้งานที่ง่าย เกินไป 2. ตั้งรหัสผ่านหน้าจอสมาร์ทโฟนอยู่เสมอ 50% 3. ใส่ใจกับการตั้งค่าความเป็นส่วนตัว ระมัดระวังในการเปิดเผยชื่อและ ที่ตั้งของเรา และปฏิเสธแอปที่พยายามจะเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของเรา 4. แชร์ข้อมูลส่วนตัวในสื่อโซเชียลมีเดีย อย่างระมัดระวัง 5. รู้เท่าทันภัยคุกคามทางอินเทอร์เน็ต
หน้า I 15 5. ทักษะในการจัดสรรเวลาหน้าจอ (SCREEN TIME MANAGEMENT) สามารถในการบริหารเวลาที่ใช้อุปกรณ์ยุคดิจิทัล รวมไปถึงการควบคุมเพื่อให้เกิดสมดุล ระหว่างโลกออนไลน์ และโลกภายนอก ตระหนักถึงอันตรายจากการใช้เวลาหน้าจอนาน เกินไป การทำงานหลายอย่างในเวลาเดียวกัน และผลเสียของการเสพติดสื่อดิจิทัล สำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ระบุว่า วัยรุ่นไทยเกือบ 40 % อยากใช้ เวลาหน้าจอมากกว่าออกกำลังกาย และผลการสำรวจจาก We are social พบว่า ใน แต่ละวัน คนไทยใช้เวลาหน้าจอ ดังนี้
หน้า I 16 6. ทักษะในการบริหารจัดการข้อมูลที่ผู้ใช้งานมีการทิ้งไว้บนโลก ออนไลน์ (DIGITAL FOOTPRINTS) สามารถเข้าใจธรรมชาติของการใช้ชีวิตในโลกดิจิทัลว่าจะหลงเหลือร่อยรอยข้อมูลทิ้งไว้ เสมอรวมไปถึงเข้าใจผลลัพธ์ที่อาจเกิดขึ้น เพื่อการดูแลสิ่งเหล่านี้อย่างมีความรับผิด ชอบ รอยเท้าดิจิทัล คือ คำที่ใช้เรียกร่องรอยการกระทำต่าง ๆ ที่ผู้ใช้งานทิ้งรอยเอาไว้ใน โลกออนไลน์ โซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ หรือโปรแกรมสนทนา เช่นเดียวกับรอยเท้าของคน เดินทาง ข้อมูลดิจิทัล เช่น การลงทะเบียน อีเมล การโพสต์ข้อความหรือรูปภาพ เมื่อถูก ส่งเข้าโลกไซเบอร์แล้วจะทิ้งร่อยรอยข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานไว้ให้ผู้อื่ นติดตามได้เสมอ แม้ผู้ใช้งานจะลบไปแล้ว ดังนั้น หากเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายหรือศีลธรรมก็อาจมี ผลกระทบต่อชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของผู้กระทำ กล่าวง่าย ๆ รอยเท้าดิจิทัล คือ ทุกสิ่ง ทุกอย่างในโลกอินเทอร์เน็ตที่บอกเรื่องของเรา ความเป็นพลเมืองดิจิทัลจึงต้องมีทักษะ ความสามารถที่จะเข้าใจธรรมชาติของการใช้ชีวิตในโลกดิจิทัล ว่าจะหลงเหลือร่องรอย ข้อมูลทิ้งไว้เสมอ รวมไปถึงต้องเข้าใจผลลัพธ์ที่อาจเกิดขึ้นเพื่อการดูแลสิ่งเหล่านี้อย่างมี ความรับผิดชอบ
หน้า I 17 7. ทักษะในการรับมือกับการกลั่นแกล้งบนโลกไซเบอร์ (CYBERBULLYING MANAGEMENT) การกลั่นแกล้งบนโลกไซเบอร์คือ การใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือหรือช่องทางเพื่อก่อให้ เกิดการคุกคามล่อลวงและการกลั่นแกล้งบนโลกอินเทอร์เน็ตและสื่ อสังคมออนไลน์ โดยกลุ่มเป้าหมายมักจะเป็นกลุ่มเด็กจนถึงเด็กวัยรุ่น การกลั่นแกล้งบนโลกไซเบอร์ คล้ายกันกับการกลั่นแกล้งในรูปแบบอื่น หากแต่การกลั่นแกล้งประเภทนี้จะกระท������ำ ผ่านสื่อออนไลน์หรือสื่อดิจิทัล เช่น การส่งข้อความทางโทรศัพท์ ผู้กลั่นแกล้งอาจจะเป็น เพื่อนร่วมชั้น คนรู้จักในสื่อสังคมออนไลน์ หรืออาจจะเป็นคนแปลกหน้าก็ได้ แต่ส่วน ใหญ่ผู้ที่กระทำจะรู้จักผู้ที่ถูกกลั่นแกล้ง รูปแบบของการกลั่นแกล้ง
หน้า I 18 8. ทักษะการใช้เทคโนโลยีอย่างมีจริยธรรม (DIGITAL EMPATHY) คือ มีความเห็นอกเห็นใจ และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่นบนโลกออนไลน์ มีปฎิ สัมพันธ์อันดีกับคนรอบข้าง ทั้งในโลกออนไลน์และโลกชีวิตจริง รวมถึงเป็นกระบอกเสียง ให้ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือได้ สังคมบนโลกออนไลน์เป็นสังคมแห่งการสื่อสารไร้ พรหมแดน ทำให้เราสามารถติดต่อกับคนได้ทั้งโลกสามารถรับรู้เรื่องราวต่างๆของคน อื่นๆได้ตลอดเวลา ดังนั้นเราก็ควรจะพัฒนาในเรื่องของการมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีกับคนบน โลกออนไลน์ รู้จักเห็นอกเห็นใจผู้อื่นถึงแม้จะไม่รู้จักกัน คอมเมนท์ให้กันและกันในเชิง สร้างสรรค์ ให้กำลังใจกัน และเมื่อเห็นผู้ที่เดือดร้อนต้องการความช่วยเหลือเราก็ สามารถใช้เทคโนโลยีการสื่ อสารในสื่ อสังคมออนไลน์ต่างๆเป็นกระบอกเสียงเพื่ อให้เกิด ความช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้ อย่างเช่น เมื่อเกิดเหตุการไฟป่าที่ออสเตรเลีย สื่อสังคม ออนไลน์ก็เป็นหนึ่งช่องทางที่สำคัญในการระดมความช่วยเหลือจากคนทั้งโลก ทั้งใน เรื่องของเงินบริจาค สิ่งของ วิทยาการ หรือแม้แต่กำลังคนจากทั่วทุกมุมโลกเพื่อช่วยให้ สามารถผ่านพ้นอุปสรรคปัญหาต่างๆไปได้ด้วยดี คิดก่อนจะโพสต์ลงสังคมออนไลน์ (Think Before You Post) ใคร่ครวญก่อนที่จะโพสต์รูปหรือข้อความลงในสื่อออนไลน์ ไม่โพสต์ขณะกำลังอยู่ในอารมณ์ โกรธ สื่อสารกับผู้อื่นด้วยเจตนาดี ไม่ใช้วาจาที่สร้างความเกลียดชังทางออนไลน์ ไม่นำล้วงข้อมูล ส่วนตัวของผู้อื่น ไม่กลั่นแกล้งผู้อื่นผ่านสื่อดิจิทัล โดยอาจตั้งความถามกับตัวเองก่อนโพสต์ว่า
หน้า I 19 ส รุ ป เทคโนโลยีที่เกิดขึ้นทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ทำให้คนในยุค ดิจิทัลสะดวกสบายในการติดต่อสื่อสารมากขึ้น จึงทำให้เกิดทักษะชีวิตใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมายดังที่ กล่าวมาข้างต้น เช่น ทักษะความฉลาดทางดิจิทัลที่ประกอบด้วยทักษะการแสดงตัวตนบนโลก ดิจิทัล ทักษะการใช้เครื่องมือและสื่อดิจิทัล ทักษะความปลอดภัยทางดิจิทัล ทักษะความมั่นคง ปลอดภัยทางดิจิทัล ทักษะความฉลาดทางอารมณ์บนโลกดิจิทัล ทักษะการสื่อสารดิจิทัล ทักษะการ รู้ดิจิทัล ทักษะสิทธิทางดิจิทัลเป็นต้น ซึ่งเป็นทักษะ ที่นักศึกษาครูในยุคดิจิทัลจำเป็นจะต้องมี นอกจากนี้ทักษะดังกล่าวจะเป็นทักษะที่เชื่อมโยง ไปสู่การเป็นพลเมือง 4.0 หรือพลเมืองดิจิทัล ซึ่งการเป็นพลเมืองดิจิทัล คือ ทักษะในการรักษาอัต ลักษณ์ที่ดีของตนเอง ทักษะการคิดวิเคราะห์มีวิจารณญาณที่ดี ทักษะในการรักษาความปลอดภัย ของตนเองในโลกไซเบอร์ ทักษะในการรักษาข้อมูลส่วนตัว ทักษะในการจัดสรรเวลาหน้าจอ ทักษะ ในการบริหารจัดการข้อมูลที่ผู้ใช้งานมีการทิ้งไว้บนโลกออนไลน์ ทักษะในการรับมือกับการกลั่น แกล้งบนโลกไซเบอร์ ทักษะการใช้เทคโนโลยีอย่างมีจริยธรรม ซึ่งนักศึกษาวิชาชีพครูจะต้องเรียนรู้ พัฒนา และฝึกฝน ให้มีความพร้อมกับการรับมือในการที่จะเป็นพลเมือง 4.0 และใช้ชีวิตสังคม ดิจิทัลและนำไปใช้ทำงานในการเป็นครูผู้สอนในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง
อ้างอิง 9 ข้อควรปฏิบัติของพลเมืองดิจิทัลยุคใหม่ [Online]. แหล่งที่มา http://www.okmd.or.th/ okmd-opportunity/digital-age/258/ [2 มกราคม 2561] ผลวิจัยชี้วัยรุ่นอยู่ ‘หน้าจอ’ นาน ยิ่งผูกพันกับพ่อแม่-เพื่อนลดลง [Online]. แหล่งที่มา http://www. manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9530000030132 [24 มกราคม ว2ิท5ย6า1]ดำรงเกียรติศักดิ์. พลเมืองดิจิทัล [Online]. แหล่งที่มา http://www.infocommmju.com/ icarticle/images/stories/icarticles/ajwittaya/digital/Digital_Citizenship.pdf [1 กุมภาพันธ์ 2561] วิวรรณ ธาราหิรัญโชติ. ทักษะทางดิจิตอลที่จำเป็นสำหรับเด็กในอนาคต [Online]. แหล่งที่มา http://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/642553 [3 มกราคม 2561]
หน้า I 21 เสนออาจารย์ผู้สอน อาจารย์ ดร.สุธิดา ปรีชานนท์ อาจารย์ ดร.สุจิตตรา จันทร์ลอย รายวิชา GD58201 การพัฒนาความเป็นครู หลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิต วิชาชีพครู มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง ประวัตผู้จัดทำ ชื่อ – นามสกลุ : นางสาวกาญจนา ม่วงฉะคร่ำ นักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิต วิชาชีพครู รุ่นที่ 23 มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง รหัสนักศึกษา : 647190115 หมู่เรียนที่ 1 วุฒิการศึกษา : สำเร็จการศึกษาปริญญาตรี คณะวิทยาศาสตร์เเละเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ
Search
Read the Text Version
- 1 - 22
Pages: