บรรลจุ ดุ ประสงค์ที่ตงั้ ไว้ ซงึ่ จดุ ประสงค์ทกุ ข้อท่ีตงั้ ขนึ ้ จะต้องสอดคล้องกบั ปัญหาและแนวทางในการแก้ปัญหานนั้ ๆ 3. การเตรียมการวเิ คราะห์ ในชนั้ นีเ้ป็นการเตรียมการวิเคราะห์วา่ จะทาในรูปใดเพื่อไมใ่ ห้เกิดความสบั สนหรือยงุ่ ยาก ในการวิเคราะห์ผ้เู รียนควรจะแบง่ ขอบเขตในการพิจารณาออกเป็นเรื่อง ๆ ไป เชน่ การดาเนนิ งานด้านการจดั การ บคุ คล การผลิตและวตั ถดุ บิ การตลาดการเงิน ซง่ึ แตล่ ะเรื่องสามารถแยกเป็นหวั ข้อยอ่ ยตามลกั ษณะของกรณีศกึ ษานนั้ ๆ 4. การรวบรวมข้อมูลและการตีความหมายของข้อมูล ผ้เู รียนจะต้องรวบรวมและตคี วามหมายตา่ ง ๆ ของข้อมลู ที่ได้มาจากกรณีศกึ ษา ทาการวเิ คราะห์ให้ละเอียดโดยการพิจารณาวา่ ถ้าปัญหาแตล่ ะเร่ือง สง่ ผลกระทบตอ่ กิจการอยา่ งไร หรือปัญหานนั้ ๆ เป็นต้นเหตใุ ห้เกิดการก่อตวั ของปัญหาสาคญั และ / หรือปัญหาสาคญั ท่ีตงั้ ไว้ในข้อ 1 อยา่ งไร ในสว่ นของการวเิ คราะห์นีจ้ ะต้องไมม่ ีการแสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกบั การแก้ปัญหาหรือการตดั สนิ ใจอยา่ งใดทงั้ สนิ ้ 5. แนวทางการแก้ไข หรือการตดั สินใจ ในขนั้ ตอนนีผ้ ้เู รียนจะต้องมีความเข้าใจในปัญหาท่ีเกิดขนึ ้ ด้านตา่ งๆ ขององค์กรอยา่ งถ่องแท้ จากการวิเคราะห์ในข้อ 3 กล่าวคือ ปัญหาการดาเนนิ งานด้านใดขององคก์ ารท่ีเป็นต้นเหตใุ ห้เกิดปัญหาท่ีเหน็ วา่ สาคญั และ / หรือเร่งดว่ น 6. การเสนอแนะข้อคิดเห็น เมื่อผ้เู รียนได้ทาการเสนอแนะทางแก้ไขปัญหาหรือได้ทาการตดั สินใจเลือกทางเลือกแล้ว ถึงขนั้ ตอนนี ้ เพื่อสง่ เสริมในการดาเนินงานในเป็ นไปตามแผนที่วางไว้ผู้เรียนอาจจะมีการเสนอแนะข้อคิดเห็นเพ่ิมเติมความเห็นของตนหรือเป็ นการเสนอแนะข้อคิดเห็นซึ่งเป็ นการปรับปรุงการดาเนินงานด้านอื่น ๆ ที่มิได้เก่ียวข้องกบั ปัญหาท่ีผ้เู รียนได้ตงั้ ไว้ในสว่ นนีจ้ ะเปิดโอกาสให้ผ้เู รียนได้ใช้ความรู้ ตลอดจนความคดิ ริเริ่มสร้างสรรค์ของตนอยา่ งเตม็ ท่ีการนาเสนอผลการวิเคราะห์กรณีศกึ ษา นอกจากการนาเสนอกรณีศึกษาเป็ นรูปแบบรายงาน ท่ีเป็ นลายลักษณ์อักษรแล้ วการศึกษาในวิชานีอ้ าจารย์ผู้สอนมกั มอบหมายให้นกั ศึกษาได้ทาการศึกษากรณีศึกษาเป็ นรายกล่มุ แล้วนาเสนอในรูปของการเป็ นกล่มุ นาสมั มนาเป็ นการนาเสนอด้วยวาจาต่อท่ีประชุม การนาเสนอรูปแบบการนาสมั มนาท่ีดีจะต้องมีองค์ประกอบ 2 สว่ นคือ สว่ นท่ีเป็ นเนือ้ หา (Content)และการสง่ ผ่านความรู้ ( Delivery ) โดยสว่ นท่ีเป็ นเนือ้ หามีลกั ษณะเชน่ เดียวกบั การนาเสนอด้วยลายลกั ษณ์อกั ษรโดยทวั่ ไป กลา่ วคือควรมีการนาเสนอโดยยึดหลกั เชิงคณุ ภาพและเชิงปริมาณที่ถกู ต้องแสดงถึงกรอบในการวิเคราะห์ ระบปุ ระเดน็ ปัญหาให้ครบถ้วนโดยระบเุ ป็ นข้อ ๆ โดยใช้STRATEGIC MANAGEMENT 95
รูปแบบการเขียนรายงานที่เหมาะสม โปรดระลึกเสมอว่ารายงานกรณีศกึ ษาที่ดีม่งุ ท่ีคณุ ภาพไม่ได้มงุ่ ท่ีปริมาณองค์ประกอบของรายงานกรณีศกึ ษา องค์ประกอบของรายงานกรณีศกึ ษา ควรประกอบด้วย 1. บทสรุปสาหรับผู้บริหาร ได้แก่ จดุ มงุ่ หมายของการรายงาน ขอบเขตและข้อจากดัข้อสรุปการวิเคราะห์และข้อพิจารณาท่ีสาคญั 2. บทนาอย่างย่อ กลา่ วถึง ความเป็ นมาของบริษทั อยา่ งสนั้ ๆ 3. การวเิ คราะห์ประเดน็ หลัก ได้แก่ การระบปุ ัญหา การวเิ คราะห์สภาพแวดล้อมภายนอกและภายใน การประเมินทางเลือกในการแก้ปัญหา และแนวทางแก้ปัญหา 4. ภาคผนวก ประกอบด้วย ตารางหรือแผนภาพ ท่ีแสดงเทคนิคการวิเคราะห์หรือผลการวเิ คราะห์โดยสรุปในด้านของการสง่ ผา่ นความรู้ด้วยการนาเสนอด้วยวาจา เป็นการนาเสนอของกลมุ่ นกั ศกึ ษาที่ได้รับมอบหมายจากอาจารย์ผ้สู อนทาให้หน้าที่เสนอผลการวเิ คราะห์กรณีศกึ ษาตอ่ ชนั้ เรียน ซง่ึ นกั ศกึ ษาที่ไม่ได้รับมอบหมายจากอาจารย์ผ้สู อนให้ทาหน้าท่ีเสนอผลการวเิ คราะห์กรณีศกึ ษานนั้ มาแล้วด้วย เพ่ือจะได้อภิปรายซกั ถาม แลกเปล่ียนความคดิ เห็นกบั กลมุ่ นกั ศกึ ษาท่ีทาหน้าที่นาเสนอได้ กลมุ่ นกั ศกึ ษาที่นาเสนอมีขนั้ ตอนดงั นี ้ 1. เตรียมการนาเสนอด้วยการเตรียมข้อมลู และกาหนดผ้นู าเสนออยา่ งเหมาะสมโดยควรจะแสดงถงึ การทางานเป็นทีม นาเสนอโดยผ้นู าเสนอหลายคน และมีการฝึกซ้อมการนาเสนออยา่ งพอเพียง 2. จดั เตรียมส่ือท่ีใช้ประกอบการรายงาน เชน่ แผน่ ใส สไลด์ วีดทิ ศั น์และโสตทศั นปู กรณ์ที่ต้องใช้ 3. ดาเนินการนาเสนอจริงภายในห้องเรียน โดยวิธีการพดู ตอ่ ท่ีประชมุ อยา่ งเหมาะสมทงั้ ในด้านเนือ้ หาและเวลาที่ใช้ เร่ิมต้นแนะนาสมาชกิ แจ้งวตั ถปุ ระสงค์และหวั ข้อท่ีจะนาเสนอตามลาดบั 4. การควบคมุ จงั หวะและนา้ หนกั ในการใช้เสียงที่สามารถรักษาระดบั ความสนใจของผ้ฟู ังได้ตลอดเวลาของการนาเสนอ การระมดั ระวงั ท่วงทา่ ในการนาเสนอด้วยภาษาทางกายให้เหมาะสม 5. การเตรียมเนือ้ หาอยา่ งยอ่ ท่ีใช้เป็นแนวในการนาเสนอSTRATEGIC MANAGEMENT 96
6. จดั ตงั้ อปุ กรณ์โสตทศั นปู กรณ์ท่ีจาเป็นอยา่ งเหมาะสม อปุ กรณ์ที่จาเป็ นในการนาเสนอ 7. การตอบประเดน็ คาถาม เมื่อมีคาถามควรมีการจดบนั ทกึ ประเดน็ ท่ีถาม แล้วพจิ ารณามอบหมายผ้ตู อบหรือมีการตอบเสริมกนั ไมค่ วรมอบหมายให้ใครเพียงคนหน่ึงคนใดเป็นผ้ตู อบการวเิ คราะห์กรณีศกึ ษา (Case Analysis) โดยทวั่ ไปกรณีศกึ ษา (Case Study) และบทความ จะมีสาระสาคญั หรือประเดน็ ตา่ งๆมากมาย เขียนบอกให้ เราได้รับทราบ ซง่ึ มีรายละเอียดสามารถสรุปเป็นข้อ ๆ ได้ดงั นี ้ 1. ปรัชญา นโยบาย ภารกิจ และวสิ ยั ทศั น์ของผ้บู ริหารในการดาเนินธุรกิจขององค์กร 2. ศกั ยภาพและความสามารถการแขง่ ขนั ทางธรุ กิจในตลาดโลก 3. ความอยรู่ อดของธุรกิจ และการบริหารงานในภาวะวิกฤต แนวคิดการบริหารงานแนวใหม่ 4. การวิเคราะห์การประกอบการ การปรับแผนกลยทุ ธ์การตลาด และการขาย 5. การวางแผนกลยทุ ธ์ระดบั องคก์ ารและระดบั สายงาน คอื กลยทุ ธ์ด้านการประกอบการด้านการตลาด ด้านเทคโนโลยี ด้านพนกั งานด้านการเงิน เป็นต้น 6. การบริหารสนิ ค้า การบริการลกู ค้า ระบบการบริหารสนิ ค้าคงคลงั Logistics 7. ข้อมลู ทางเทคโนโลยีสารสนเทศ และการวิจยั และการพฒั นา (R&D) 8. ปัญหาสภาพแวดล้อมทงั้ ภายนอกและภายในองค์กร เชน่ เศรษฐกิจ สงั คมและการเมือง จากท่ีกลา่ วมาข้างต้น เราอาจกลา่ วได้ว่ากรณีศกึ ษาหรือประเดน็ ที่เราศกึ ษานี ้จะชว่ ยให้เกิดแนวความคิดในการนาทฤษฎีตา่ ง ๆ มาประยกุ ต์ใช้ เป็นกลยทุ ธ์ในการแก้ไขปัญหานนั้ ๆ โดยเรียกวา่ “การเรียนรู้โดยการปฏิบตั ิ (Learning by doing) “สรุป กรณีศกึ ษา (Case study) มีลกั ษณะเป็นเร่ืองสนั้ ที่เขียนขนึ ้ เพื่อบรรยายสภาพการณ์ทางธรุ กิจ บทบาทผ้ทู ี่เกี่ยวข้อง และสถานการณ์คบั ขนั ท่ีสมควรได้รับการแก้ไข หรือประเดน็ ปัญหาท่ีต้องตดั สินใจภายในชว่ งเวลาท่ีกาหนดSTRATEGIC MANAGEMENT 97
ขนั้ ตอนการวิเคราะห์กรณีศกึ ษา มีดงั นี ้1) ลกั ษณะโดยทวั่ ไปขององค์การ 2) วิเคราะห์สภาพการณ์ขององคก์ าร 3) วเิ คราะห์ปัญหาขององคก์ าร 4) สร้างทางเลือกโดยใช้เทคนิคตา่ ง ๆประกอบการพจิ ารณา 4) ตดั สนิ ใจเลือกกลยทุ ธ์ 5) บทสรุปผ้บู ริหารSTRATEGIC MANAGEMENT 98
บรรณานุกรมเกริกยศ ชลายนเดชะ. แนวคดิ การบริหารเชิงกลยทุ ธ์ในการวางแผนกลยุทธ์และการพฒั นา คุณภาพบริการของโรงพยาบาล. นนทบรุ ี : มหาวทิ ยาลยั สโุ ขทยั ธรรมาธิราช. 2546.จินตนา บญุ บงการ และณฎั ฐนนั ท์ เขจรนนั ท์. การจัดการเชงิ กลยุทธ์ (Strategic Management). กรุงเทพฯ : ซีเอด็ ยเู คชนั่ . 2548.ณฐั พนั ธ์ เขจรนนั ทน์. การจัดการเชงิ กลยทุ ธ์ (Strategic Management). กรุงเทพมหานคร : ซีเอดย็ เู คชน่ั . 2552.ทศพร ศริ ิสมั พนั ธ์. การบริหารรัฐกิจเชิงกลยุทธ์. กรุงเทพฯ : จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั . 2539.ปกรณ์ ปรียากร. การวางแผนกลยุทธ์ แนวคดิ และแนวทางเชงิ ประยกุ ต์. กรุงเทพมหานคร :สมาธรรม. 2544.พิบลู ทีปะปาน. การจัดการเชิงกลยุทธ์ (Strategic Management). กรุงเทพฯ : อมรการพิมพ์. 2546.พกั ตร์ผจง วฒั นสนิ ธ์ุ และพสุ เดชะรินทร์. การจัดการเชิงกลยทุ ธ์และนโยบายธุรกจิ . กรุงเทพมหานคร : จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั . 2542.เรวตั ร์ ชาตรีวิศิษฎ์ และคนคณะ. การจัดการเชิงกลยุทธ์. พิมพค์รั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : อินเฮาส์ โนว์เลจ. 2553.วชิ ติ ออู่ ้น. การจัดการเชิงกลยทุ ธ์ ขัน้ ตอนและวิธีวเิ คราะห์กรณีศึกษาเชิงกลยุทธ์ และแผนธุรกจิ . พิมพ์คร้ังท่ี 2. กรุงเทพมหานคร : เซน็ ทรัลเอก็ ซ์เพรส. 2548.วเิ ชียร วทิ ยอดุ ม. (2553). การบริหารเชิงกลยทุ ธ์. กรุงเทพฯ : ธนธชั การพิมพ์.ศริ ิวรรณ เสรีรัตน์ และคณะ. การจัดการเชิงกลยุทธ์และกรณีศึกษา. กรุงเทพฯ : ธรณสาร. 2546.เสนาะ ตเิ ยาว์. การบริหารกลยทุ ธ์. พิมพค์ร้ังท่ี 2. กรุงเทพมหานคร : มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ 2550อนิวชั แกว้จานง. การจัดการเชงิ กลยุทธ์ สงขลา : นาสินโฆษณา. 2551.เอกชยั อภิศกั ดิ์กลุ และทรรศนะ บญุ ขวญั . การจัดการเชิงกลยุทธ์ (Strategic management). กรุงเทพฯ : จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั . 2529.
บรรณานุกรม (ต่อ)Abbass, F. Alkhafaji. Strategic Management Formulation, Implementation, and Control in a Dynamic Environment. New York: Haworth Press, 2003..Charles W.L. Hill, Gareth R. Jones Strategic Management An Integrated Approach, 2009 Ed. Dreamtech Press, 2008.Perce, A. John and Robinson, Richard, B, Jr. Formulation, Implementation, and Control of Competitive Strategy. 11th ed. New York: McGraw-Hill, 2009.Pitts, Robert A. and Lei, David. Strategic Management: Building and Sustaining Competitive Advantage. 2nd U.S.A.: South-Western Publishing, 2000.Robins, S.P. and Coulter, M. Management. New Jersey: Prentice Hall, 2002.Scherhorn, John R. Management. 7th ed. U.S.A.: John Wiley&Sons. 2002.Wheelen, T.L. and Hunger, J.D. Strategic Management and Business Policy. NewJersey: Prentice Hall, 2006.Le Masson, Pascal, Hatchuel, Armand and Weil, Benoit. Strategic management of innovation and design. Cambridge, New York : Cambridge University Press, 2010.Werther, W. B. & Keith, D. (1996). Human Resources and Personnel Management. (5th ed.). New York: McGrow – Hill Book Company.
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107