แนวทางการเป็นโค้ชที่มคี ุณภาพ ในโครงการพัฒนาครูและโรงเรยี นเพอ่ื ยกระดับคุณภาพการศกึ ษาอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ผ้เู ขยี น ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.พิณสดุ า สริ ิธรงั ศรี ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.พชั ราภา ตันติชเู วช อาจารย์ ดร.วาสนา วิสฤตาภา กองทนุ เพือ่ ความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.)
แนวทางการเปน็ โค้ชทมี่ ีคณุ ภาพ ในโครงการพัฒนาครแู ละโรงเรียนเพือ่ ยกระดับคุณภาพการศกึ ษาอย่างตอ่ เนอ่ื ง ผ้เู ขยี นรายงาน ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.พิณสุดา สิริธรังศรี ผูช้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.พัชราภา ตันติชูเวช อาจารย์ ดร.วาสนา วสิ ฤตาภา ฝ่ายผลิต วทิ ยาลัยครุศาสตร์ มหาวิทยาลยั ธุรกิจบัณฑิตย์ พิสูจน์อักษร ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.พิณสดุ า สิรธิ รังศรี ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.พัชราภา ตนั ติชูเวช จัดพมิ พ์ต้นฉบับ อาจารย์ ดร.วาสนา วิสฤตาภา ออกแบบและจัดรปู เล่ม นางนนั ทกา สิทธิพฤกษ์ พมิ พ์ครั้งที่ 1 ตุลาคม 2562 จานวน 300 เลม่ 1. ชอื่ เรื่อง แนวทางการเป็นโค้ชทีม่ คี ุณภาพ ในโครงการพัฒนาครแู ละโรงเรยี นเพอ่ื ยกระดบั คุณภาพ ISBN การศึกษาอยา่ งต่อเนอ่ื ง, 81 หนา้ 978-974-671-665-9 จัดทาโดย วิทยาลยั ครุศาสตร์ มหาวิทยาลยั ธรุ กิจบัณฑติ ย์ 110/1-4 ถนนประชาช่นื หลักสี่ กรุงเทพฯ 10210 โทร. 02-954-7300 ต่อ 427,648 พมิ พท์ ี่ DPU Coolprint มหาวิทยาลัยธรุ กจิ บณั ฑติ ย์ 110/1-4 ถนนประชาช่นื หลกั ส่ี กรุงเทพฯ 10210 โทร. 02-954-7300 ต่อ 277, http://www.dpu.ac.th/coolprint.html ก แนวทางการเปน็ โค้ชท่มี คี ณุ ภาพ ในโครงการพฒั นาครแู ละโรงเรยี นเพอื่ ยกระดบั คุณภาพการศึกษาอยา่ งต่อเนอื่ ง
ข คานาผู้เขยี น แนวทางการเป็นโค้ชท่ีมีคุณภาพเล่มน้ี จัดทาข้ึนเพื่อเป็นแนวทางการดาเนินงานของโค้ชในโครงการ พัฒนาครแู ละโรงเรียนเพ่ือยกระดบั คณุ ภาพการศกึ ษาอย่างตอ่ เนอ่ื งของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ที่ดาเนินการในปี ๒๕๖๒ – ๒๕๖๓ ให้สามารถสนับสนุนการทางานของครูและผู้บริหารในโครงการฯ ไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธภิ าพและบังเกิดประสทิ ธผิ ลตามวตั ถุประสงคแ์ ละเปา้ หมายของโครงการพัฒนาครูและโรงเรียน เพ่ือยกระดับคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเน่ืองดังกล่าว มีมาตรการสนับสนุนการพัฒนาทั้งโรงเรียนในด้านการ กาหนดเป้าหมายของโรงเรียน (School Goal) การจัดระบบสารสนเทศเพ่ือการพัฒนาท่ีมีคุณภาพ (Info) การพัฒนาครูและผู้บริหารด้วยกระบวนการชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพ (PLC) การพัฒนาการเรียนการสอน ในระดับช้ันเรียน (Classroom) แบบ active learning หรือการเรียนรู้เชิงรุก และการสร้างเครือข่ายการทางาน ร่วมกัน (Network) ด้วยกระบวนการ ๔ กระบวนการ คือ ๑) การจัดการเรียนรู้ที่ยืดหยุ่น ๒) การดูแลผู้เรียน อย่างทัว่ ถงึ และเท่าเทียม ๓) การพฒั นาครูให้ใฝร่ ูใ้ ฝเ่ รียน และ ๔) การสร้างศรัทธาต่อชุมชนให้เกิดการมีส่วนร่วม ด้วยการสนับสนุนของทีมโคช้ ทม่ี คี ุณภาพ สาระของแนวทางการเป็นโค้ชท่ีมีคุณภาพเล่มนี้ จึงประกอบด้วยเร่ือง การเป็นโค้ชท่ีมคี ุณภาพ และสาระของมาตรการสนบั สนนุ ของโค้ช ดงั กล่าว ในการจดั ทาแนวทางการเป็นโค้ชที่มคี ณุ ภาพครั้งนี้ ใชว้ ธิ ีการวิจัยและพฒั นาคู่แนวทางการเป็นโค้ชที่มี คุณภาพ ตามข้นั ตอนดังนี้ การศกึ ษาเอกสารและวรรณกรรมทเี่ กีย่ วข้อง การประชุมหารอื ผมู้ สี ่วนเกี่ยวข้องของ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) เพื่อกาหนดกรอบและสาระของแนวทางการเป็นโค้ชท่ีมี คุณภาพ การสมั ภาษณ์และสนทนากล่มุ ย่อยผู้มสี ว่ นเกย่ี วข้องกบั โครงการ การสนทนากลุ่มทีมโค้ชในโครงการ โรงเรียนพัฒนาคุณภาพต่อเน่ือง ในปีท่ีผ่านมา (๒๕๖๐ – ๒๕๖๑) การสังเกตและรับฟังการสัมมนาผลการ ดาเนินโครงการแนวทางการเป็นโค้ชทม่ี คี ณุ ภาพ โครงการโรงเรียนพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง การจัดทาร่าง แนวทางฯ การตรวจสอบแนวทางฯ โดยผทู้ รงคุณวุฒิท่ีเปน็ ตัวแทนทมี โคช้ เพอื่ ศกึ ษาความเหมาะสมและความ เป็นไปได้ของผู้ใช้แนวทางฯ การสนทนากลุ่มผู้ทรงคุณวุฒิของกองทุนเพ่ือความเสมอภาคทางการศึกษา เพ่ือตรวจสอบความตรงและความเหมาะสมของเน้ือหา จากน้นั จึงปรับปรุงและนาเสนอแนวทางฯฉบบั สมบรู ณ์ คณะผเู้ ขียนจึงขอขอบคุณกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) โค้ช และผู้ทรงคุณวุฒิที่ เกี่ยวข้องในการให้ข้อมูลและตรวจสอบแนวทางการเป็นโค้ชที่มีคุณภาพเล่มน้ี มา ณ โอกาสนี้ และหวังเป็น อย่างย่ิงว่า จะเกิดประโยชน์โดยรวมในการดาเนินโครงการโรงเรียนพัฒนาครูและโรงเรียนเพื่อยกระดับ คุณภาพการศกึ ษาอยา่ งตอ่ เนื่องตอ่ ไป พณิ สุดา สริ ิธรังศรี หวั หนา้ โครงการวจิ ัย ขแนวทางการเป็นโคช้ ทม่ี คี ุณภาพ ในโครงการพฒั นาครูและโรงเรยี นเพอื่ ยกระดับคณุ ภาพการศกึ ษาอย่างต่อเน่ือง
สารบญั ค คานา หน้า ข สารบญั ค ง สารบญั ภาพ ๑ ๕ ๑ คาช้แี จง ๒๑ ๒ การเปน็ โค้ชทม่ี ีคุณภาพ (Coach) ๒๘ ๓ การกาหนดเป้าหมายของโรงเรยี น (Goal) ๓๖ ๔ การพัฒนาครูและผ้บู ริหารดว้ ยกระบวนการชุมชนการเรยี นรวู้ ชิ าชพี (PLC) ๔๗ ๕ การจัดระบบสารสนเทศเพือ่ การพฒั นาทีม่ คี ณุ ภาพ (Info) ๕๙ ๖ การพฒั นาการเรยี นการสอนในระดบั ชน้ั เรียน (Classroom) ๖๘ ๗ การสร้างเครอื ขา่ ยการทางานร่วมกัน (Network) ๗๒ รายการอ้างอิง ๗๓ ภาคผนวก ๗๓ ก รายชือ่ ผู้เข้าประชมุ กาหนดแนวทางการจดั ทาแนวทางการเป็นโคช้ ทมี่ คี ุณภาพ ข รายชอ่ื ผู้เข้าประชมุ กาหนดประเด็นและผู้ใหข้ ้อมูลสาคัญเพ่ือการจดั ทา ๗๔ ๗๕ แนวทางการเปน็ โค้ชท่มี ีคณุ ภาพ ค รายชื่อผู้เข้าประชมุ สนทนากลุ่มเพ่ือใหข้ อ้ มูลการจัดทาแนวทางการเป็นโคช้ ทม่ี ีคุณภาพ ๗๖ ง รายชอ่ื ผู้ทรงคณุ วุฒเิ ขา้ ประชุมสนทนากลุ่มเพ่ือการศกึ ษาความเปน็ ไปได้ ของแนวทางการเปน็ โคช้ ทมี่ ีคณุ ภาพ จ รายชื่อผู้ทรงคณุ วุฒิเข้าประชมุ สนทนากลมุ่ เพื่อการตรวจสอบความเหมาะสมของคมู่ ือ ของแนวทางการเปน็ โค้ชทมี่ ีคุณภาพ ค แนวทางการเปน็ โคช้ ที่มคี ณุ ภาพ ในโครงการพฒั นาครแู ละโรงเรยี นเพ่ือยกระดับคณุ ภาพการศึกษาอยา่ งตอ่ เน่ือง
ง สารบญั ภาพ ภาพท่ี หน้า ๑ การสนบั สนนุ ผบู้ ริหารและครขู องโคช้ ทมี่ ีคณุ ภาพ ๖ ๒ การจัดการศึกษาแบบมีสว่ นร่วมของชมุ ชน ๙ ๓ กรอบแนวคิดการพัฒนาครแู ละโรงเรยี นเพอื่ ยกระดับคณุ ภาพการศกึ ษาอยา่ งต่อเน่ือง ๑๐ ๔ องค์ประกอบเพอื่ การพฒั นาครูและโรงเรียนคุณภาพ ๑๒ ๕ ตวั อย่างขอ้ มลู ในระบบสารสนเทศเพื่อการพัฒนาท่มี ีคุณภาพ (Q-Info) ๔๒ ๖ ตัวชี้วัดขอ้ มลู ในระบบสารสนเทศเพือ่ การพฒั นาที่มคี ุณภาพ (Q-Info) ๔๓ ๗ เครือขา่ ยโรงเรยี นในโครงการพัฒนาครูและโรงเรียนเพื่อยกระดับคณุ ภาพการศึกษาอย่าง ๖๐ ต่อเนอ่ื ง ๖๐ ๘ เครือขา่ ยเครอื ข่ายสนับสนนุ โครงการพฒั นาครแู ละโรงเรียนเพื่อยกระดับคณุ ภาพการศกึ ษา อย่างต่อเน่อื ง งแนวทางการเป็นโคช้ ทม่ี ีคุณภาพ ในโครงการพัฒนาครูและโรงเรียนเพือ่ ยกระดบั คุณภาพการศึกษาอยา่ งต่อเน่อื ง
๑๑ คาช๑แี้ จง ค�ำ ชี้แจงแนวทางการเป็นโค้ช (Coach) ที่มีคุณคภาาพชเ้แี ลจ่มนง้ี จัดทาข้ึนเพ่ือเป็นแนวทางการทางานของโค้ช ใทเ๒จทเใจ๒กจกพพนนงึาาาาาา๕๕ื่ื่โขโออกกรรงงคค๖๖อเเรรกกผผปปรรัับบ๒๒ใาาูู้้ททงงห็็นนรรฟฟ))กกรรโ้โโศศแงงััาางงกกคคคึึกกคคขขรรนาาช้้้ชชษษพพุุณณ้้ออรรวไททดฒััฒาามมศศทววี่่ีมม้ศููึึลลกกุุฒฒานน((ีีคคกึกกจจษษงาาิิุุทณทณษกสสาาคคาาี่ี่เเกกาศศาภภคครรกกแรหห..แูแูววาา่ีี่ยย))เลััพพววลลาาปววททะหหมมะะเเขข็นท่ีี่ลลผผโโเเนน้้ออโรรปป่่่ม่มาาา้้าาคงงงงคนน็็นนนนขขททเเ้ชวรรกกี้้ีไไออีีมมายีียปปรร(งงจจโโมCนนะะไไกกคคะะเดดoเเบบขออ้้ชชสสพพ้้จจaวว้างงใใาาอ่ือ่ืcาานนนนใททมมยยhจกกกกโโุุนนาากกอ)ผผคคาารรเเรรยูู้้ใใรรพพรรถถะะชชา่งงววนทน่ื่ืออดดง้้คคกกิิจจคค่ีาาลมบับัูู่่าามมััยยไไววะีครรคคืืออปปแแาาเโโุณุณุณอลลใใรรมมแแชชียงงภะะภภเเบบ้้หหสสเเดพพาาารรบบมมรรพพพััีีฒฒยยืืออออเเกกนนเจจนนปปลภภาาพพาาาา่มรราารระะััฒฒจจะะคคศศนจจาายยททึึกกนนี้งงกกุุกกษษาาาากกแแตตงงคคจาาาากกลล์์ใใออัุุณณดรชรชาาะะยยทศศ้้ไไภภรรกก่่าาดดาึึกกศศาาาางง้้ตตขษษึึพพกกตตรร้ึนาาษษาาตต่่ออกกมมเเเรรเเาาาาพออววนนววรรััตตกกื่อ((ื่ื่ออศศจจกกถถสสเงงสสึึกกสสปุุปปาาขขออษษศศ็นรรออรรบบาา..ททแะะงง))ออคค่ีี่เเกกสสนททกกยยววอองงว่ี่ียย่่่ีี่าาคคาาคคงงทงงววมมาาทท์์ขขตตาขขดดเเออุุนนงหห่่ออ้้ออหหงงกเเเเมมงงพพโโววนนาคคาาัังงื่่ืออรกก่ื่ืออะะรรววทคคาางงงง่่าาสสรรววากกมม((สสาาผผงปปาาขขมมานนูู้้ใใรรีี ชชนออเเไไทท๒๒สสดด้้แแงงขนน๕๕มม้้นนออเเอนนาาออ๖๖ยยววงกก้ื้ืออภภ่่ททาาโ๑๑ลลคหหงงาาาาุุ่่มมดด้คคช––าางงีี จคงึวขาอมใคหาโ้ ดคห้ชไวดัง้ศึกษาและทาความเข้าใจอย่างละเอยี ด ทโโทททคททCCวไจไวจเสแเสแสกสคครรดดตััตดััดลลาาาวooถถ่ีต่ตีาาัักกงงรร้้รรรถมถมคคกกะะาmmาา้ออ้เเษษืออืัับบศรรปุุปกกมววาาาานนงงขขะะียียmmกกกึรราารรกกาาครรปปา่า่ททนนแแมมาาษถถรระะาาายยuuรรี่ี่รรจจววลลแแ๑๑๒๓๓๒เเรรดดสสาโโ๔๔ดกกขขnnะะพพพิิพคคคคาาะะลลงงาา......ห..าาา้้าทiiกกเเคคช้ช้ััออฒฒือือาาttะรระคคผผรรใในนปปวโโyyออสี่กกใใงง์์แาาแกกจจททรรรรูู้้บนบนังัันน::็็กกโโนนชชนนาษษบบลลาาแแูใใูรรงงาาาารรมโโเเีีนนววรรใใววะะ์์นนกกเเงงงงรรคคิิคคหหPPนนออจจิิารรตตยยเเโโเเาาวีีวาายยรรรรุุLLปปณณรคคีีาายยยยัดดักกคคไไนนททรรงงนนยีียCCถรรดดรร้าา้่าา่นนกกาาววภภกกรราานนโโสหหงงไไ))งง้้ออสสรราาาามม่่ววงงรราาาาดดกกมมนไไมมรรมมยยเเถถกกมมรรพพีีงงกกดด้้าารรรรวีวีสสเเบั่่าาสสาาเเพพาาาากกรรรราาร้้รีีััยยกกบบจิิจรราายยงงะะสรรบบยียีพพับบัััันนัรรฒฒีียยาาาานนมมมมกกขขเเดดนนนบบัันนรรรรกกฒัฒัททปปนนกกาาีีนนคคาาออววนุณณบบกกาารรสสรรั้ั้็็งงนนรรใใาางงววกกนนาากรราาิิหหนนเเรรถถััโพโพงงญญรรคคโโาากกคคาารพรพคคาิิหหคคคคจจโโาาสสมมััรรคคฒฒาาสสรราารคครรฒัฒัรร้้าชาชััดดมมููแแออรรสสรรืืณณออจอองงรรนนรรจจททกกจจลลแููแนนุุนนขขกกขขดันนงงจจััหหดดาาดััดาา่ีี่มมละละาาาา่่าททากกกแแขขััดดเเมมรรกกนนกกโโททีีะะคครรยยาาาตตลลักกัออกกรรเเีีททาาาาโโ่่ววุุณณทท้งังั้รรรรร็็ษษมมงงะะงงาารรรรรรโโศัักยกยีีพพยยคค่ี่ีเเเเรรงงกกรรภภะะตตเเททปปรรึกษษงงนนรรเเััรรฒฒแแงงกกรราาาาีียยรรัั้้งงาา็็ยีียนนษูใูใเเะะกกลละะาาพพมมียยีรรนนนนโโนนนนนนโโากกาารระะรรบบียยีนนศศนนรราาเเโโขขขกกรรคคาากกงงพพคคนนววงงััคคเเกกี้ี้แแอสสออาารรเเิดดิพพรรเเรร่ืื่นนออรรรรยยลลรรรรงเเอองงไไะสะสงงื่ออื่รรููีียยแแยยกกโสสีียยดดภภ้้ววรรนนกกบบรรรยยีียยกกลลนนออาานนัั้แ้แฐฐาา้า้าาางเเววกกโโนนรระะรรนนชชกกงงพพรรแแเคคนนรระะมมรเเชชโโรรสสฯฯิิ่่งงขขลล้้ชชอดดอะะรรกกียดดูู้้ใใีีุุมมรรรรรรออะะจจงงดดนน้้กวกวาานไไัับบุุรรกกะะชชงงเเเเดดะะับบัรรยยศศชชคคไคครรบบคคคคนนสสชชอ้อ้ด((กกคคีีตตนยนย์์รรุุณณรรaaบบกกททาาุุยยมมอ้รรุณุณืืนนออววููไไccมมสสา่่าาาภภยชชักกัดดะะแแรรขขttเเภภงงรราาาาiiพพ่าษษนนบบ้้ออาารรลล่่าาvvมมรรเเาารรงพพษษยยื่่ืยยออะะกกeeะะววรรถถพพีีปปมสส่าา่กกกกททีีททยยาานนยยออสสปีนนรกกรงงรราาาากกนนี่่ีเเ่ี่ีงงกกนนะะllมมาารปปเเเเรรรร๒๒eeคครราารรรรททสสรระัับบปีีปแแศศ็็นนะะaa์์กกูู้้ีีรรยย๑๑ววศศิสิททศศกกสสรรึึกกrrดดบบเเิิชชนนรรึกกึิทnnะะธธเ้ปเ้ปรรนนษษัับบโโุุคคปปาาพพรรษษิิภภสสiiีีธยยดดัญัญุุนนnnาาชชคคคคูู้้ววกก่ืื่ภิออาาทิิทาานนยยออggกกิิชชีีหหุุพพลลณณออคคพพกกาธธ))เเรรยยาาาาาายยฉฉพรรภิิภาาภภูู้้แแเเ่่ภภาารรชช((่่ชชาาพพออรรPPาาไไลลงงททบบาาููมมีีพพงงดดิิพพงงตตพพงงาาrrพพะะักกัรรตติิปปooรร้้สสออะะ่่ออััฒฒปปแแิิหหษษกก((่่ออุุกกััญญff่P่PยยททววเเลลeeรราาาาะะเเนนนนLL่่นนาาญญัันนกกะะะะรรssรร((ชชื่่ืออาางงCCaassจจปปสสททศศษษื่่ืออวีีวาามมททงงiicc))ััดดิิทooทึึกกรรงง้้ออิิะะตตีีคคtt่ีี่มมคคะะกกnnษษธธเเกกiiแแงงไไvvุุณณมมีีรรคคสสาาสสิิผผaaถถดดาาลลาาeeออ่ื่ืออุุรริิททณณllภภาารรลล่ิ่ิออนน้้รระะบบขขไไมมคคธธัับบยยททาาททภภดดเเออคคผิิผาาิิดดพพ่่าากกกกกััก้้ี่่ีศศสสาางงรรllรรลLลLงงววาาิิดดษษeeพพึึกกผผนนถถััววตตeeตติิเเรรผผaaะะษษูู้้บบคคบบัับบaa่่ออรรพพชชrrแแลลออรราารรrrงงรรnnเเสสััฒฒุุมมnnลลลลาานนาาิิแแหหตติิหหiiนนชชnnชชiiััพพะะะะนน่ื่ืลลออาาnnาาาาุุพีีพggนนนนหหมมมมธธรระะงงาารรgg))์์์์ีี การศกึ ษา ท่สี ามารถสนับสนนุ การจดั การศึกษาของโรงเรียนไดอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพ สาระของแนวทางการเป็นโค้ชท่ีมคี ณุ ภาพ สาระของสส๔๒๑๑๒๓๓แาานรรกกกกกกกะะวาาาาาาาขขทรรรรรรรออกพจกเเพาปปงงงดัาาฒฒััแแน็็นกหหรนนนนโโาะนนคคววราาบดดททชช้้คคเบปเเททาารรปปส็นงงููแแ่ีี่มมา้า้ ากกลลโหหีคีครคาาะะุณณุสมมรร้ชผผนาาเเภภทบบูู้้ปปยยเาาที่มรรน็น็โโพพรรหิิหคีศโโงงคคาาณุเ((เเพ้้ชชรรCCรรภดดือ่ยียีททoo้ว้วานนกีี่ม่มaaยยพาccีคีค((กกรhhSSณุณุ พรร))ccภภะะัฒhhบบาาooนพพววooานนllทปปกกGGมี่รราาะะooีครรกกaaชชุณออllมุมุ ))ภบบชชาดดนนพ้วว้กกยยาา(Iรรnเเfรรoีียย)นนรรู้ววู้ ชชิิ าาชชีีพพ ๔ การจดั ระบบสารสนเทศเพื่อการพฒั นาท่ีมีคุณภาพ (Info) (PLC) (PLC) แนวทางการเป็นโค้ชท่มี ีคุณภาพ 1 ในโครงการพัฒนาครแู ละโรงเรียนเพื่อยกระดับคุณภาพการศกึ ษาอยา่ งต่อเนื่อง
๒ ๕ การพัฒนาการเรยี นการสอนในระดับช้ันเรยี น (Classroom) ๖ การสร้างเครือข่ายการทางานรว่ มกัน (Network) คานยิ ามศพั ท์ แนวทางการเป็นโค้ชท่ีมีคุณภาพ (Coach) หมายถึง เอกสารองค์ความรู้และวิธีการกว้างๆเพ่ือการ เป็นโค้ชในการสนับสนุนครูและผู้บริหารในโครงการพัฒนาครูและโรงเรียนเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา อย่างต่อเนื่อง เก่ียวกับการเป็นโค้ชที่มีคุณภาพ การกาหนดเป้าหมาย การพัฒนาครูและผู้บริหารด้วย กระบวนการชุมชนการเรยี นร้วู ชิ าชพี การจัดระบบสารสนเทศเพื่อการพัฒนาที่มีคุณภาพ การพัฒนาการเรียน การสอนในระดับชั้นเรียน และการสร้างเครือข่ายการทางานร่วมกัน ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและ ประสิทธิผล โค้ช (Coach) หมายถึง บุคคลและกลุ่มบุคคลภายนอกโรงเรียนที่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ มีความรู้ ความสามารถทกี่ องทนุ เพอื่ ความเสมอภาคทางการศกึ ษา (กสศ.) มอบหมายให้เข้าไปสนับสนุนครูและผู้บริหาร ในโครงการพัฒนาครูและโรงเรียนเพอ่ื ยกระดับคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ให้สามารถดาเนินงานเกี่ยวกับ การกาหนดเป้าหมาย การพัฒนาครูและผู้บริหารด้วยกระบวนการชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพ การจัดระบบ สารสนเทศเพื่อการพัฒนาที่มีคุณภาพ การพัฒนาการเรียนการสอนในระดับช้ันเรียน และการสร้างเครือข่าย การทางานรว่ มกนั ใหเ้ ปน็ ไปอย่างมปี ระสทิ ธิภาพและประสทิ ธิผล โครงการพัฒนาครูและโรงเรียนเพ่ือยกระดับคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง หมายถึง โครงการที่ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) กาหนดขึ้นเพ่ือดาเนินการในปี พ.ศ. ๒๕๖๒ – ๒๕๖๓ โดยมเี ป้าหมายโรงเรียนจานวน ๒๙๐ โรงเรียน ในพื้นที่ ๓๕ จังหวัด มุ่งให้ผู้เรียนมีทักษะการเรียนรู้สอดคล้อง กับศตวรรษท่ี ๒๑ โรงเรียนมีการพัฒนาและขับเคล่ือนด้วยตัวเองท้ังโรงเรียน (whole school approach) โดยการสนบั สนุนจากทมี โคช้ (coach) มรี ูปแบบการบรหิ ารจัดการตนเองท้ังโรงเรียนด้วยการกาหนดเป้าหมาย (school goal) ชัดเจน เพ่ือยกระดับการเรียนรู้ของผู้เรียน สอดคล้องกับทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี ๒๑ มรี ะบบสารสนเทศ (Info) ทีม่ ีคุณภาพสาหรบั ครูและผูบ้ รหิ าร เพื่อใช้ในการบริหารจัดการและการจัดการเรียน การสอน มีกระบวนการชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพ (PLC) เป็นชุมชนแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของผู้บริหารและครูมือ อาชีพ รวมถึงการพัฒนาการเรียนการสอนของครูในระดับชั้นเรียน (classroom) ท่ีเป็นการเรียนรู้เชิงรุก (active learning) ในรูปแบบต่างๆท่ีส่งผลต่อการพัฒนาผู้เรียนตามเป้าหมายท่ีกาหนด ใน ๔ กระบวนการ ไดแ้ ก่ การจัดการเรียนรู้ที่ยืดหยุ่น ๒) การดูแลผู้เรียนอย่างท่ัวถึงและเท่าเทียม ๓) การพัฒนาครูให้ใฝ่รู้ใฝ่เรียน และ ๔) การสร้างศรัทธาตอ่ ชุมชนใหเ้ กิดการมสี ่วนร่วม การบรหิ ารจดั การท้งั โรงเรียน (Whole School Approach) หมายถึง การร่วมมือกันของผู้บริหาร ครู ชุมชน และสถาบันที่เก่ียวข้องดาเนินงานนาไปสู่การพัฒนาโรงเรียนในโครงการพัฒนาครูและโรงเรียนเพ่ือ ยกระดับคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเน่ืองอย่างเป็นระบบ ด้วยมาตรการการกาหนดเป้าหมายท่ีมีคุณภาพ การ พัฒนาครูและผู้บริหารด้วยกระบวนชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพ การจัดระบบสารสนเทศที่มีประสิทธิภาพ การ พัฒนาการเรียนการสอนในช้ันเรียน การสร้างเครือข่ายการทางานร่วมกันและกระบวนการจัดการเรียนรู้ท่ี ยืดหยุ่น การดูแลผู้เรียนอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม การพัฒนาครูให้ใฝ่เรียนใฝ่รู้เป็นครูมืออาชีพและการมีส่วน รว่ มสรา้ งศรทั ธาตอ่ ชมุ ชน ดว้ ยหลักความเป็นอิสระ หลักการมีส่วนร่วมและหลักการแก้ไขปัญหา การปรับปรุง และพฒั นาของโรงเรียน ทส่ี ่งผลให้ผเู้ รยี น ๑) มีความเสมอภาคในด้านโอกาสทางการศึกษาที่มีคุณภาพ ได้รับ 2 แนวทางการเป็นโค้ชที่มีคณุ ภาพ ในโครงการพัฒนาครแู ละโรงเรียนเพ่อื ยกระดบั คุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนอ่ื ง
๓ การดแู ลอยา่ งทั่วถงึ และเท่าเทยี ม ๒) เกิดทกั ษะการคิดวิเคราะห์และวิพากษ์อย่างมีวิจารณญาณ ทักษะการคิด สร้างสรรค์ ทักษะการแก้ปัญหา ทักษะชีวิตและทักษะอาชีพ และ ๓) มีคุณธรรมจริยธรรมในด้านความมีวินัย ความซ่ือสตั ย์ และมีจิตสาธารณะ การกาหนดเป้าหมายโรงเรียน (Goal) หมายถึง การกาหนดความคาดหวังสูงสุดท่ีต้องการให้เกิด ข้ึนกับนักเรียนและโรงเรียน จากการร่วมกันวิเคราะห์ปัญหาและความต้องการของผู้บริหาร ครู ผู้ปกครอง ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และชุมชน เพื่อการแก้ไขและพัฒนาการเรียนรู้ของนักเรียนในโรงเรียน ท่ีเชื่อมโยงกับการ พัฒนาครูและผู้บริหารด้วยกระบวนการชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพ การจัดระบบสารสนเทศเพื่อการพัฒนาที่มี คุณภาพ การพฒั นาการเรยี นการสอนในระดับช้ันเรยี น และการสร้างเครอื ขา่ ยการทางานร่วมกัน กระบวนการชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพ ( Professional Learning Community: PLC) หมายถึง กจิ กรรมการรวมตัวของครแู ละ/หรือผู้บรหิ ารโรงเรียนเพ่ือการพัฒนาและการเรียนรู้ทางวิชาชีพของตนเองและ กลมุ่ อย่างต่อเนอื่ งสม่าเสมอ ในศาสตร์ สาขาวิชาและนวตั กรรมการเรียนรู้ ท่ีมีวิสัยทัศน์ เป้าหมาย คุณค่า และ พันธกจิ รว่ มกัน เพ่ือการพัฒนาและยกระดับคุณภาพการเรียนรู้ของนักเรียน โดยการสนับสนุนของทีมโค้ช นัก การศึกษา และผู้เชี่ยวชาญท่ีเก่ียวข้อง ท่ีเช่ือมโยงกับการกาหนดเป้าหมายของโรงเรียน การจัดระบบ สารสนเทศเพ่ือการพัฒนาท่ีมีคุณภาพ การพัฒนาการเรียนการสอนในช้ันเรียน และการสร้างเครือข่ายการ ทางานรว่ มกันระดับชน้ั เรียน การจัดระบบสารสนเทศเพื่อการพัฒนาท่ีมีคุณภาพ (Info) หมายถึง การจัดระบบสารสนเทศ ทางการจัดการเรียนรู้เพื่อความเสมอภาคและคุณภาพของผู้เรียน โดยเฉพาะการติดตามดูแลนักเรียน และ อานวยความสะดวกแก่ครูในการประมวลผลการเรียนรู้ของนักเรียนเป็นรายบุคคล ทั้งในเร่ืองของการมาเรียน นักเรยี นที่มีความเสยี่ งในการเรยี นรู้ ผลการเรยี นรู้ ระดับการพัฒนาเป็นตน้ ทเี่ ช่ือมโยงกับการกาหนดเป้าหมาย ของโรงเรียน การพัฒนาครูและผู้บริหารด้วยกระบวนการชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพ การพัฒนาการเรียนการ สอนในระดบั ช้ันเรียน และการสร้างเครอื ข่ายการทางานร่วมกัน การพัฒนาการเรยี นการสอนในระดับช้ันเรยี น (Classroom) หมายถึง กระบวนการพัฒนาศักยภาพ ของนักเรียนด้วยการบริหารจัดการและการอานวยความสะดวกของผู้บริหาร โรงเรียนให้ครูสามารถการจัด การเรียนการสอนท่ีมีคุณภาพด้วยวิธีการเรียนรู้เชิงรุกท่ีเช่ือมโยงกับการกาหนดเป้าหมายของโรงเรียน การ พัฒนาครูและผู้บริหารด้วยกระบวนการชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพ การจัดระบบสารสนเทศเพ่ือการพัฒนาท่ีมี คุณภาพ และการสร้างเครือข่ายการทางานร่วมกันส่งผลให้นักเรียนมีคุณภาพ กล่าวคือ มีทักษะด้านความคิด สร้างสรรค์ การคิดวิเคราะห์และวิพากษ์อย่างมีวิจารณญาณ ซึ่งเป็นทักษะสาคัญในศตวรรษท่ี ๒๑ มีคุณลกั ษณะทีพ่ งึ ประสงค์ เป็นพลเมอื งและพลโลกท่ีดี ดารงตนอย่ใู นสังคมไดอ้ ยา่ งมคี วามสุข การสร้างเครือขา่ ยการทางานร่วมกัน (Network) หมายถึง การดาเนินการให้เกิดการรวมตัวกันของ บุคคล กลุ่มบุคคล หรือหน่วยงานภายในและนอกโรงเรียน ท้ังเครือข่ายท่ีเป็นโรงเรียน และเครือข่ายท่ีเป็น บุคคล ภูมิปัญญา ครอบครัว ชุมชน สถานประกอบการ สถาบันสังคม หน่วยงานของรัฐ เอกชน และองค์กร ปกครองสว่ นท้องถน่ิ ทีส่ นับสนุนการศึกษา ท่ีสามารถติดต่อส่ือสารและการคมนาคมสะดวก โดยความสมัครใจ ทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ประสบการณ์ และทากิจกรรมการเรียนรู้ ร่วมกันอย่างต่อเน่ือง ท่ีเชื่อมโยงกับการกาหนดเป้าหมายของโรงเรียน การพัฒนาครูและผู้บริหารด้วย กระบวนการชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพ การจัดระบบสารสนเทศเพ่ือการพัฒนาท่ีมีคุณภาพ การพัฒนาการเรียน การสอนในระดับชั้นเรียน ส่งผลต่อความสาเร็จของโครงการพัฒนาครูและโรงเรียนเพื่อยกระดับคุณภาพ การศกึ ษาอย่างตอ่ เน่อื ง 3แนวทางการเปน็ โคช้ ท่ีมคี ุณภาพ ในโครงการพัฒนาครแู ละโรงเรียนเพ่ือยกระดับคุณภาพการศกึ ษาอยา่ งต่อเนือ่ ง
๔ ขอ้ จากดั เนื่องจากแนวทางการเป็นโค้ชที่มีคุณภาพเล่มนี้ เป็นแนวทางท่ีจัดทาข้ึนจากการวิจัยและพัฒนาการ ดาเนินงานของโค้ชในโครงการพัฒนาคุณภาพต่อเนื่อง ของ กสศ. ในปี ๒๕๖๐ – ๒๕๖๑ และผสมผสานกับ องค์ความรู้จากวรรณกรรมที่เก่ียวข้องเพิ่มเติม ที่อาจมีสาระแตกต่างไปบ้างจากการดาเนินโครงการพัฒนาครู และโรงเรียนเพือ่ ยกระดับคุณภาพการศึกษาตอ่ เน่อื ง ทีจ่ ะดาเนินการในปี ๒๕๖๒ – ๒๕๖๓ ท่ีโค้ชควรทาความ เขา้ ใจและเลือกใช้ให้เหมาะสมกับบรบิ ทและสถานการณข์ องโครงการท่ีทีมโค้ชแตล่ ะทีมรบั ผิดชอบ 4 แนวทางการเปน็ โคช้ ทมี่ คี ณุ ภาพ ในโครงการพฒั นาครแู ละโรงเรียนเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาอย่างตอ่ เน่ือง
๒ การเกปาน็รเโปค็นโช้ คท้ชทีม่ ีม่ ีคีค๒ุณุณภภาพาพ(Co(aCcoh)ach) โค้ช (coach) หมายถึง บุคคลและกลุ่มบุคคลภายนอกโรงเรียนท่ีเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ มีความรู้ ความสามารถที่สานักงานกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) มอบหมายให้เข้าไปสนับสนุนครู และผู้บริหารในโครงการพัฒนาครูและโรงเรียนเพ่ือยกระดับคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเน่ือง ให้สามารถ ดาเนนิ งานเก่ียวกับการกาหนดเปา้ หมายโรงเรยี น การพฒั นาครูและผบู้ ริหารดว้ ยกระบวนการชมุ ชนการเรียนรู้ วชิ าชพี การจดั ระบบสารสนเทศเพอื่ การพฒั นาทม่ี ีคณุ ภาพ การพฒั นาการเรียนการสอนในระดับชั้นเรียน และ การสร้างเครอื ข่ายการทางานร่วมกัน ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสทิ ธผิ ล การดาเนินโครงการพฒั นาครแู ละโรงเรยี นเพอ่ื ยกระดบั คุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง จาเป็นท่ีต้อง มีโค้ชที่มีคุณภาพเพ่ือให้การดาเนินโครงการบรรลุผลสาเร็จตามวัตถุประสงค์และเป้าหมาย ดังน้ัน โค้ชที่มี คุณภาพ จึงต้องเป็นผ้มู คี ณุ สมบัติ ภารกิจหน้าที่ ภายใต้แนวคิด หลักการ วัตถุประสงค์เป้าหมาย ขั้นตอนและ วธิ ีการการดาเนนิ งาน กลยทุ ธ์ เงอ่ื นไขความสาเรจ็ ดังนี้ แนวคดิ การเป็นโค้ชใน โครงการพัฒนาครูและโรงเรียนเพ่ือยกระดับคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง อยู่บน พนื้ ฐานของผู้มีความรคู้ วามสามารถ ทักษะ เจตคติ ความจริงใจ เป็นผู้นาทางวิชาการ มีความเป็นกัลยาณมิตร ยอมรบั และคานงึ ถงึ ความแตกตา่ งระหว่างบคุ คลของผบู้ ริหารและครูภายใตพ้ ืน้ ฐาน บรบิ ทและสังคมท่ีแตกต่าง ที่สามารถสนับสนุนและพฒั นาได้เต็มตามศกั ยภาพ ดว้ ยการสนับสนุนให้เกดิ การกาหนดเป้าหมายโรงเรียนที่มี คุณภาพ (Goal) การพัฒนาครูและผู้บริหารด้วยกระบวนการชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพ (PLC) การจัดระบบ สารสนเทศเพ่ือการพัฒนาที่มีคุณภาพ (Info) การพัฒนาการเรียนการสอนในระดับชั้นเรียน (Classroom) และการสร้างเครอื ขา่ ยการทางานร่วมกนั (Network) ทงั้ โรงเรยี นอย่างเปน็ องค์รวม ใน ๔ กระบวนการ ได้แก่ การจดั การเรยี นรทู้ ่ียืดหย่นุ ๒) การดูแลผู้เรียนอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ๓) การพัฒนาครูให้ใฝ่รู้ใฝ่เรียน และ ๔) การสร้างศรัทธาต่อชุมชนให้เกิดการมีส่วนร่วม ส่งผลถึงนักเรียนท่ีมีคุณภาพ คุณธรรมจริยธรรม มี คุณลกั ษณะทีพ่ งึ ประสงค์ เป็นพลเมือง พลโลกทด่ี ีและมีความสขุ อย่างยั่งยืน การสนบั สนนุ ผ้บู รหิ ารและครูของโคช้ ปรากฏตามภาพ ดงั นี้ 5แนวทางการเปน็ โค้ชท่ีมคี ุณภาพ ในโครงการพัฒนาครูและโรงเรียนเพือ่ ยกระดับคุณภาพการศกึ ษาอย่างตอ่ เนอ่ื ง
๖ ภาพที่ ๑ แสดงการสนบั สนนุ ผบู้ รหิ ารและครูของโคช้ ทม่ี า : พัฒนาโดย พิณสดุ า สิริธรงั ศร,ี พชั ราภา ตนั ตชิ เู วช และวาสนา วิสฤตาภา (๒๕๖๒). หลกั การ การเปน็ โคช้ ในโครงการพฒั นาครแู ละโรงเรยี นเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง โค้ชและ ทมี โคช้ จาเป็นต้องยึดหลกั การเป็นโค้ชทีม่ คี ณุ ภาพ ดังต่อไปนี้ ๑. หลักความรู้ความสามารถ โค้ชจาเป็นต้องมีและใช้ความรู้ความสามารถในการเป็นโค้ชแก่ ผู้บริหารและครู ทั้งท่ีโค้ชเป็นผู้ให้ความรู้เองและหรือสนับสนุนให้ผู้บริหารและครูมีความรู้ กล่าวคือ ๑) การ เป็นโคช้ แกผ่ บู้ รหิ าร เชน่ ความรคู้ วามสามารถในการกาหนดเป้าหมาย การวางแผน การจัดองค์กร การนิเทศ แนะนา ใหค้ าปรึกษา การแก้ปญั หา การพฒั นาบคุ ลากร การตดิ ตามและประเมินผล การประสานส่งเสริมและ อานวยความสะดวกการจดั การเรียนร้ขู องครู ฯลฯ โดยเฉพาะ ความรตู้ ามมาตรการที่โครงการกาหนด คือ การ กาหนดเปา้ หมายโรงเรียน การพัฒนาครูและผู้บริหารด้วยกระบวนการชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพ การจัดระบบ สารสนเทศเพื่อการพัฒนาที่มีคุณภาพ การพัฒนาการเรียนการสอนในระดับช้ันเรียน และการสร้างเครือข่าย การทางานร่วมกัน และ ๒) การเปน็ โค้ชแกค่ รู ในการจัดและพัฒนาหลักสูตร การเลือกส่ือการเรียนรู้ การวิจัย ช้ันเรยี น การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ฯลฯ ทสี่ ามารถแนะนา ให้คาปรึกษา และหรือแสวงหาผู้รู้เพ่ือให้ความรู้ใน เรอ่ื งน้ันๆ แกผ่ บู้ รหิ ารและครไู ดแ้ ล้วแต่กรณี 6 แนวทางการเปน็ โคช้ ทีม่ ีคณุ ภาพ ในโครงการพฒั นาครแู ละโรงเรียนเพ่อื ยกระดบั คุณภาพการศึกษาอยา่ งต่อเนอื่ ง
๗ ๒. หลักการยดึ เป้าหมายผเู้ รยี นมีคณุ ภาพ พเ่ี ลี้ยงต้องยึดเป้าหมายวา่ ผเู้ รยี นสาคญั ทสี่ ุดในการดาเนิน โครงการที่ต้องได้รับการศึกษาและการเรียนรู้ท่ีมีคุณภาพจากโรงเรียนในโครงการฯ ด้วยความสามารถของ ผู้บรหิ ารและครทู ผี่ า่ นการสนบั สนนุ ทางการบรหิ ารและวิชาการของโคช้ ดงั น้ัน โค้ชต้องทาการศึกษาเป้าหมาย การเรียนรู้ของผู้เรียนในแต่ละระดับ และเป้าหมายของโรงเรียนท่ีกาหนดไว้ร่วมกันในโครงการฯ เพื่อการ กาหนดเป้าหมายและตัวช้ีวัดความสาเร็จ ตลอดจนสนับสนุนการขับเคล่ือนโครงการของโรงเรียนให้บรรลุ เปา้ หมายที่วางไว้ ๓. หลักการอานวยความสะดวกและประสานการจัดการเรียนรู้ การอานวยความสะดวกและการ ประสานการจัดการเรียนรู้ เป็นบทบาทสาคัญของท้ังโค้ช ผู้บริหารและครู ท่ีมีต่อเป้าหมายในแต่ละระดับให้ การปฏบิ ตั ิงานตามภารกิจบรรลุผลสาเรจ็ ในการน้ี ระดับผบู้ รหิ าร โค้ชอานวยความสะดวกและประสานให้เกิด การเรียนรู้ในการบริหารจัดการของผู้บริหาร ให้สามารถอานวยความสะดวกและประสานการจัดการเรียนรู้ แก่ครูในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในช้ันเรียนทั้งด้านการกาหนดหลักสูตร ส่ือ วัสดุอุปกรณ์ เทคนิควิธีสอน งบประมาณ อาคารสถานท่ี การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ฯลฯ ขณะท่ี ระดับครู โค้ชช้ีแนะ แนะนา ให้คาปรึกษา ส่งเสริมและประสานใหค้ รสู ามารถอานวยความสะดวกในการเรยี นรูข้ องผู้เรียน ท้ังการแสวงหาความรู้ การจัด กิจกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน การจัดทาโครงงาน การติดตามดูแลนักเรียน การเยี่ยมบ้าน การประเมินผล ทางการเรยี น เหล่านี้เปน็ ต้น ทีโ่ คช้ ต้องเข้าใจบทบาทและสามารถสนับสนุนใหเ้ กดิ การอานวยความสะดวกและ การประสานการจดั การเรียนรูใ้ นแต่ละระดบั ให้เป็นไปตามเป้าหมายอย่างมปี ระสิทธภิ าพและประสิทธิผล ๔. หลักการบูรณาการและประสานประโยชน์ร่วมกัน ในการเป็นโค้ช หลักการบูรณาการและ ประสานประโยชน์ มีความสาคัญที่โค้ชต้องยึดเป็นสาคัญ ทั้งการบูรณาการด้านความคิด เนื้อหาสาระ และ วิธีการ โค้ชจึงต้องส่งเสริมให้ครูและผู้บริหารเกิดการกาหนดเป้าหมายของโรงเรียนที่มีคุณภาพโดยการมี ส่วนร่วมของทุกภาคส่วน การบูรณาการการจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพ การ จดั ระบบสารสนเทศเพ่ือการพัฒนาที่มีคุณภาพ การพัฒนาการเรียนการสอนในระดับชั้นเรียน และการสร้าง เครือข่ายการเรียนรู้เข้าด้วยกัน ในแต่ละกิจกรรมแล้วแต่กรณี รวมทั้งการประสานประโยชน์ให้ผู้บริหาร ครู พ่อแม่ ผู้ปกครอง และชุมชนเกิดความรู้ความเข้าใจที่ตรงกันในเป้าหมายและกระบวนการดาเนินงานของ โครงการ โดยเฉพาะผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับผู้เรียน ท่ีเป็นผลประโยชน์ร่วมกันของทั้งโรงเรียน พ่อแม่ ผ้ปู กครองและชมุ ชนทจี่ าเป็นต้องทางานอยา่ งบูรณาการและประสานประโยชนร์ ว่ มกันอย่างเป็นรปู ธรรม ๕. หลักความยดื หยุ่นและเปน็ กัลยาณมติ ร การดาเนินโครงการพฒั นาครแู ละโรงเรียนเพ่อื ยกระดับ คุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่องของโรงเรียน เกิดขึ้นจากความสมัครใจในการเข้าร่วมโครงการ มิได้เกิดจาก การส่ังการหรือบังคับใดๆ จากต้นสังกัด หรือบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ดังน้ัน การดาเนินงานด้วยความยืดหยุ่นท่ี สามารถปรบั เปลี่ยนกระบวนการ วิธกี ารหรือระยะเวลา เพ่ือให้บรรลุเป้าหมาย เป็นหลักการท่ีจะทาให้ผู้ปฏิบัติ 7แนวทางการเปน็ โค้ชท่ีมีคณุ ภาพ ในโครงการพฒั นาครูและโรงเรยี นเพือ่ ยกระดับคุณภาพการศึกษาอยา่ งตอ่ เนือ่ ง
๘ ทงั้ ผู้บรหิ ารและครู ไมเ่ กดิ ความอดึ อัด เครยี ด กังวล หรือเกรงกลัวใดๆ ที่อาจส่งผลต่อความเจริญงอกงามทาง ปัญญา ความคดิ และการปฏบิ ัติของกลมุ่ บคุ คลทงั้ ผ้บู ริหาร ครู พอ่ แม่ ผู้ปกครองหรือชุมชนดังกล่าว ในทานอง เดียวกันความเป็นกัลยาณมิตรของโค้ช ท้ังบุคลิก ท่วงทานอง ท่าที และวาจา ความมีน้าใจ ความช่วยเหลือ เก้ือกลู เม่อื มปี ัญหาและรว่ มแกไ้ ขอย่างเปน็ มิตร เหลา่ น้ี จะสร้างการยอมรับ ศรัทธาและไว้วางใจของผู้บริหาร และครู ได้อย่างดี และเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทาให้เป้าหมายของงาน/โครงการโดยท่ัวไป บรรลุผลสาเร็จและมี ประสทิ ธิภาพ ๖. หลักการทางานเป็นทีม การทางานเป็นทีมของทีมโค้ชเป็นหลักสาคัญหลักหน่ึงที่ต้องคานึงถึง เชน่ เดียวกนั ในการดาเนินพัฒนาครูและโรงเรียนเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นท้ัง เป้าหมายและวิธกี ารท่ีโครงการกาหนดใหท้ ีมโค้ชต้องดาเนินการร่วมกัน และทั้งการทางานระหว่างทีมโค้ชกับ ผบู้ รหิ ารและครูในโรงเรยี น ทต่ี อ้ งรว่ มกนั ดาเนนิ การให้เกิดการกาหนดเปา้ หมายทมี่ ีคุณภาพ การพัฒนาครูและ ผู้บริหารด้วยกระบวนการชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพ การจัดระบบสารสนเทศเพ่ือการพัฒนาท่ีมีคุณภาพ การ พัฒนาการเรียนการสอนในระดับช้ันเรียน และการสร้างเครือข่ายการทางานร่วมกัน ให้เกิดคุณภาพและ ประโยชนส์ งู สดุ ของทง้ั ผเู้ รยี น โรงเรยี น พอ่ แม่ ผู้ปกครองและชมุ ชน ๗. หลกั การมสี ว่ นรว่ ม การมีสว่ นร่วมของชมุ ชนและผูม้ สี ว่ นได้สว่ นเสียทกุ ภาคส่วน เป็นหลักสาคัญท่ี ต้องใชใ้ นโครงการ เพราะโรงเรยี นไมอ่ าจอยอู่ ย่างโดดเด่ยี วไดด้ ้วยบุคลากรของโรงเรยี นฝา่ ยเดียว ในการพัฒนา คณุ ภาพผ้เู รยี น จาเป็นตอ้ งการการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน โดยเฉพาะ พ่อแม่ ผู้ปกครอง ชุมชน และภาครัฐ เอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีภารกิจดูแลและสนับสนุนการ เรียนรู้ของผู้เรียนซึ่งเป็นทรัพยากรบุคคลในความรับผิดชอบ การมีส่วนร่วมในที่น้ี เป็นทั้งการมีส่วนร่วมด้าน กายภาพ เช่น เงนิ ทนุ วสั ดุ สอ่ื แรงงาน อาคารสถานท่ี ฯลฯ และการมีส่วนร่วมในการจัดการการเรียนรู้ เช่น การเสนอความต้องการในการเรยี นรู้ การจัดและพัฒนาหลักสูตร การเป็นวิทยากรการเรียนรู้เฉพาะด้าน การ ติดตามผลการเรียนรู้ของผู้เรียนและสะท้อนมายังโรงเรียน รวมท้ังการมีส่วนร่วมในการเป็นกรรมการ สถานศึกษา หรอื คณะทางานทเี่ กย่ี วขอ้ ง (พิณสุดา สิริธรังศรี, ๒๕๕๗; ๒๕๕๙; Pinsuda Siridhrungsri, 2018) เหล่าน้เี ป็นต้น ท่ีโค้ชตอ้ งตระหนกั และใหค้ วามสาคญั และสนับสนนุ โรงเรยี นใหเ้ กิดการมีส่วนร่วมทางการศึกษา ให้มาก อันจะก่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล กล่าวคือ ด้านความประหยัด ประโยชน์ คุ้มค่า และ ความพึงพอใจของท้งั โรงเรยี น พ่อแม่ ผู้ปกครองและชุมชน การมีสว่ นรว่ มดังกล่าว สามารถดาเนินการใน ๘ ข้ันตอน คือ การร่วมคิด ร่วมวางแผน ร่วมตัดสินใจ รว่ มดาเนินการ รว่ มรับผดิ ชอบ ร่วมแก้ปัญหา รว่ มติดตามประเมินผล และร่วมช่ืนชมความสาเร็จ ท้ังนี้ เป็นไป ตามบริบทของโรงเรียนทจ่ี ะพิจารณาให้เกิดการมีส่วนร่วมในขั้นตอนใด เมื่อใด ดังภาพท่ี ๒ การจัดการศึกษา แบบมสี ่วนรว่ มของชุมชน ดงั น้ี 8 แนวทางการเปน็ โค้ชที่มีคณุ ภาพ ในโครงการพฒั นาครูและโรงเรียนเพ่ือยกระดบั คุณภาพการศึกษาอยา่ งต่อเน่ือง
๙ ภาพท่ี ๒ การจดั การศกึ ษาแบบมีส่วนร่วมของชมุ ชน ท่ีมา: พณิ สุดา สริ ธิ รงั ศรี. (๒๕๕๗). รูปแบบการบริหารจัดการสถานศึกษาข้นั พืน้ ฐาน. กรงุ เทพฯ: สานกั งาน เลขาธิการสภาการศกึ ษา, น. ๑๓๐. ๘. หลักการพัฒนาอย่างเป็นระบบและปรับปรุงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง การพัฒนาใดๆ หาก ดาเนินการเป็นช้ินส่วน จะไม่สามารถบรรลผุ ลสาเร็จได้ โดยเฉพาะการพัฒนาการศึกษาและการเรียนรู้ ดังนั้น ในการดาเนินโครงการพัฒนาครูและโรงเรียนเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเน่ือง ทีมโค้ชจึงต้อง สนบั สนุนให้มีการดาเนนิ การและพัฒนาอย่างเป็นระบบและครบวงจร ทั้งด้านปัจจัย กระบวนการ ท่ีส่งผลต่อ ผลผลติ ผลลัพธ์ และผลกระทบทางการเรียนรู้ของนักเรียน ภายใต้บริบทและสภาพแวดล้อมท่ีแตกต่าง และ สามารถบรรลุผลสาเร็จได้ในทศิ ทางเดยี วกนั ซึ่งต้องมีการให้ข้อมูลย้อนกลับ (feedback) และ การสะท้อนคิด หลังการปฏิบัติ (After Action Review: AAR) ที่เป็นไปอย่างมีระบบ และเมื่อมีจุดใดต้องแก้ไขจาเป็นต้องมี การปรับปรงุ และพัฒนางานอยา่ งตอ่ เนือ่ ง ให้บรรลุผลสาเรจ็ 9แนวทางการเปน็ โคช้ ท่มี คี ณุ ภาพ ในโครงการพัฒนาครแู ละโรงเรยี นเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาอยา่ งต่อเน่อื ง
๑๐ วัตถปุ ระสงค์ เพ่ือให้โค้ชมีความสามารถในการพัฒนาศักยภาพและสนับสนุนการบริหารจัดการของผู้บริหารและ การจดั การเรยี นการสอนหรอื การจดั กิจกรรมการเรียนรขู้ องครใู นโครงการพัฒนาครูและโรงเรียนเพ่ือยกระดับ คุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ให้บรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมาย ผู้เรียนมีคุณภาพสูงสุด คือ มีความคิด วิเคราะห์ คดิ สร้างสรรค์อย่างมีวิจารณญาณ มีทักษะของผู้เรียนในศตวรรษท่ี ๒๑ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ เป็นพลเมือง พลโลกท่ีดี มีความสุขอยา่ งยงั่ ยนื และตอ่ เนื่อง กรอบการดาเนนิ งาน กรอบการดาเนนิ งานของโค้ช เปน็ ไปตามกรอบแนวคดิ ของการดาเนินโครงการพัฒนาครูและโรงเรียน เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาอยา่ งตอ่ เนื่อง (สานักงาน กสศ., ๒๕๖๒) ดังนี้ ภาพท่ี ๓ กรอบแนวคดิ การพฒั นาครแู ละโรงเรียนเพ่ือยกระดับคณุ ภาพการศึกษาอย่างตอ่ เน่อื ง ทีม่ า: สานักงานกองทนุ เพ่ือความเสมอภาคทางการศึกษา. (๒๕๖๒). โครงการพัฒนาครูและโรงเรยี นเพอ่ื ยกระดับคณุ ภาพการศึกษาอย่างต่อเน่ือง. น. ๗. (เอกสารอดั สาเนา) คุณสมบัติ ดว้ ยแนวคิด หลักการ วัตถุประสงค์ และกรอบการดาเนินงานข้างต้น คุณสมบัติของโค้ชจึงเป็นเร่ือง จาเป็นที่ฝ่ายบริหารจัดการโครงการต้องสรรหาและพัฒนาโค้ชให้มีคุณสมบัติท้ังด้านความรู้ ทักษะ เจตคติ บุคลิกภาพ พฤตกิ รรม และประสบการณ์ ของการเป็นโคช้ คุณภาพ ดงั ต่อไปนี้ 10 แนวทางการเปน็ โคช้ ทม่ี คี ณุ ภาพ ในโครงการพฒั นาครูและโรงเรยี นเพอ่ื ยกระดบั คณุ ภาพการศกึ ษาอย่างต่อเนื่อง
๑๑ ๑. ดา้ นความรู้ กล่าวคือ เป็นผู้มีความรู้พืน้ ฐาน และบารมีทางวิชาการ มีความเข้าใจในเนื้อหาสาระ ของโครงการ ความเคล่ือนไหวทางวิชาการและการเรียนรู้ที่ทันสมัย รวมท้ังเทคนิคในการชี้แนะ แนะนา ให้ คาปรึกษาในเรื่องเก่ียวกับการกาหนดเป้าหมายโรงเรียน การสร้างชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพ การจัดระบบ สารสนเทศ การสรา้ งเครือข่ายการจดั การเรยี นรู้และวชิ าการ การจดั การเรยี นรู้ในชนั้ เรียน และองค์ความรู้และ นวัตกรรมการเรียนรู้ที่จาเป็น ที่เป็นมาตรการระดับช้ันเรียน เช่น ทักษะการคิดวิเคราะห์ การคิดสร้างสรรค์ เทคนิคการจัดการเรียนการสอนเชิงรุก (active Learning) การพัฒนาความคิดแบบก้าวหน้า (growth mindset) การพัฒนาการเรยี นการสอนโดยใชบ้ ทเรียน (Lesson study: LS) การพฒั นาอยา่ งต่อเนอ่ื งในวงจร DALI กล่าวคือ การออกแบบ (Design: D) การลงมือปฏิบัติ (Action: A) การเรียนรู้ (Learning: L) และการ ปรบั ปรงุ พฒั นา (Improve: I) การให้ข้อมูลย้อนกลับ (feedback) การพัฒนาโปรแกรม info จิตปัญญาศึกษา และการวดั และประเมินผล เหล่านี้เป็นต้น ความรู้เหล่าน้ี เป็นท้ังองค์ความรู้ที่ผ่านการพัฒนาโดยฝ่ายบริหาร จัดการโครงการ สานักงานกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ความรู้และนวัตกรรมที่ทีมโค้ช แสวงหาและเรยี นรู้ดว้ ยตนเองอย่างต่อเนอื่ ง ในการน้ี ทีมโค้ชควรต้องทาความเข้าใจกับบริบท และองค์ประกอบการพัฒนาครูและโรงเรียน คุณภาพต่อเนื่อง กล่าวคือ การท่ีโรงเรียนพัฒนาตนเองได้และเกิดผลสาเร็จในการจัดกระบวนการเรียนการ สอนอย่างมีคณุ ภาพ โดยมีมาตรการระดับโรงเรียน ได้แก่ การกาหนดเป้าหมายของโรงเรียนที่มีคุณภาพ การ พัฒนาครแู ละผูบ้ รหิ ารด้วยกระบวนการชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพ การจัดระบบสารสนเทศเพื่อการที่มีคุณภาพ การพัฒนาการเรยี นการสอนในระดับชน้ั เรียน และการสร้างเครือข่ายการทางานร่วมกัน เป็นเคร่อื งมือช่วยเพ่ิม ขีดความสามารถ ส่ิงแวดล้อมและส่งเสริมสนับสนุนให้เกิดการเปลี่ยนและพัฒนาคุณภาพของโรงเรียนที่ดีขึ้น และ มาตรการระดบั ช้ันเรยี น ได้แก่ ทักษะการคิดและทักษะการเรียนรู้ต่างๆ และเคร่ืองมือสนับสนุน ภายใต้ การสนับสนุนเทคนิคทางวิชาการหรือร่วมแลกเปล่ียนเรียนรู้ของสถาบันอุดมศึกษา และท่ีเก่ียวข้อง ดังภาพ องคป์ ระกอบเพอ่ื การพฒั นาครแู ละโรงเรยี นที่มคี ุณภาพ ดงั นี้ 11แนวทางการเป็นโคช้ ที่มีคณุ ภาพ ในโครงการพัฒนาครูและโรงเรียนเพอื่ ยกระดบั คณุ ภาพการศกึ ษาอย่างตอ่ เน่ือง
๑๒ ภาพที่ ๔ องค์ประกอบเพือ่ การพัฒนาครแู ละโรงเรียนคณุ ภาพ ทมี่ า: สานกั งานกองทนุ เพ่ือความเสมอภาคทางการศกึ ษา. (๒๕๖๒). โครงการพฒั นาครแู ละโรงเรียน เพอื่ ยกระดับคณุ ภาพการศกึ ษาอย่างต่อเนอ่ื ง., น. ๗. (เอกสารอดั สาเนา) ๒. ดา้ นทกั ษะ กลา่ วคอื เปน็ ผู้มีทักษะในการชีแ้ นะ แนะนา ให้คาปรึกษา การสร้างความไว้เน้ือเช่ือใจ การมีทักษะการฟัง เป็นผู้ฟังท่ีดี การตั้งคาถามอย่างสร้างสรรค์ การกระตุ้นและการเสริมแรงให้เกิดการ กระตือรือร้นในการปฏิบัติงานให้สาเร็จ การให้ข้อมูลย้อนกลับ การวิพากษ์อย่างสร้างสรรค์ให้แก่ครูและ ผู้บรหิ าร นอกจากนั้น ยงั ตอ้ งมีทกั ษะในศตวรรษท่ี ๒๑ ได้แก่ ทักษะการใช้เทคโนโลยี ทักษะภาษา ทักษะการ แก้ปัญหา ทักษะการส่ือสารและการสรุปความ ทักษะการอยู่ร่วมกันในสังคม และทักษะอ่ืนที่จาเป็นตาม สถานการณ์ เพ่ือสนับสนุนและเช่ือมโยงการจัดการเรียนการสอน หรือการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แก่นักเรียน ของครู ๓. ด้านเจตคติ กล่าวคือ เป็นผู้มองโลกในแง่ดี มีวิธีคิดแบบก้าวหน้า (growth mindset) มีความรัก ความเมตตา ความจรงิ ใจ และจติ วิญญาณของความเป็นครู (โค้ช) มีทัศนคติที่ดีต่อเพื่อนร่วมงานและผู้รับการ โค้ช รวมท้ัง ให้ความเช่ือถือและไว้วางใจว่าครูและผู้บริหารสามารถดาเนินงานตามโครงการได้ตามหลักและ กระบวนการของโครงการ เปน็ บุคคลสาคัญที่จะทาให้นักเรียนมีคุณภาพ และขับเคลื่อนให้โครงการพัฒนาครู และโรงเรยี นเพือ่ ยกระดับคุณภาพการศึกษาอยา่ งต่อเนอื่ งประสบผลสาเร็จ ๔. ด้านบุคลกิ ภาพ กล่าวคือ เป็นผู้มีบุคลิกภาพที่ดี ได้แก่ การวางตัวดี สุภาพ แต่งกายเหมาะสมกับ กาลเทศะและสถานการณ์ เปน็ ท่ีเชอื่ ถอื ศรัทธา มีมนุษยสัมพันธ์ การใช้ภาษาและการส่ือสารอย่างเหมาะสม 12 แนวทางการเป็นโคช้ ทม่ี ีคณุ ภาพ ในโครงการพัฒนาครแู ละโรงเรียนเพ่ือยกระดบั คุณภาพการศกึ ษาอย่างตอ่ เนื่อง
๑๓ รวมทั้ง มีสขุ ภาพและความแขง็ แรงของรา่ งกาย เหล่านี้เป็นต้น ท่ีสามารถลงพ้ืนท่ีแนะนา ให้คาปรึกษา และ สนบั สนุนการบริหารจดั การของครูและผู้บรหิ ารไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ ๕. ด้านพฤติกรรม กล่าวคือ เป็นผู้มีพฤติกรรมการแสดงออกที่ดี ได้แก่ การมีภาวะผู้นา เสียสละ อดทนอดกล้ัน ประพฤติปฏิบัติเป็นแบบอย่างท่ีดี เป็นที่ยอมรับและศรัทธา สร้างความไว้เนื้ อเชื่อใจ มีการ ตัดสินใจท่ดี ี มกี ารแนะนาและประสานงานวิชาการทีด่ ี การเป็นผู้ฟงั ทดี่ ี ตัง้ คาถามอย่างสร้างสรรค์ กระตุ้นและ การเสรมิ แรงให้เกดิ การกระตือรอื ร้นในการปฏิบัตงิ านใหส้ าเรจ็ และให้ข้อมูลย้อนกลบั อยา่ งมีศลิ ปะ เปน็ ตน้ ๖. ด้านประสบการณ์ กล่าวคือ มีประสบการณ์เกี่ยวกับการเป็นโค้ชหรือที่เก่ียวข้อง ได้แก่ มี ประสบการณ์ในการเป็นคณาจารยใ์ นสถาบนั อุดมศกึ ษา ศกึ ษานิเทศก์ หรือเป็นโค้ชในโครงการโรงเรียนพัฒนา อยา่ งต่อเนอื่ ง มาก่อน และหรือทเ่ี กี่ยวข้องที่แสดงถึงความรู้ความเช่ียวชาญในการโค้ช เช่น เป็นผู้จัดกิจกรรม การพัฒนาครูและผ้บู รหิ าร ฯลฯ ภารกจิ หน้าทขี่ องโคช้ โคช้ ในโครงการพฒั นาครูและโรงเรียนเพื่อยกระดับคณุ ภาพการศกึ ษาอย่างต่อเนือ่ ง มีภารภิจหน้าที่ใน การเปน็ โคช้ ดังน้ี ๑. สนับสนุนการบริหารจัดการของผู้บริหารและการจัดการเรียนการสอนของครูให้เป็นไปตาม เป้าหมายของโครงการ ในการกาหนดเปา้ หมายท่ีมีคณุ ภาพ การพฒั นาครูและผู้บริหารด้วยกระบวนการชุมชน การเรียนรู้วิชาชีพ การจัดระบบสารสนเทศเพื่อการพัฒนาท่ีมีคุณภาพ การพัฒนาการเรียนการสอนใน ระดับชนั้ เรียน และการสรา้ งเครือข่ายการทางานร่วมกัน ที่ส่งผลต่อการพัฒนาผู้เรียนตามเป้าหมายท่ีกาหนด ใน ๔ กระบวนการ ได้แก่ ๑) การจดั การเรยี นรทู้ ี่ยืดหยุ่น ๒) การดูแลผู้เรียนอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ๓) การ พัฒนาครูให้ใฝ่รู้ใฝ่เรียน และ ๔) การสร้างศรัทธาต่อชุมชนให้เกิดการมีส่วนร่วม รวมท้ัง การแนะนา ให้ คาปรึกษา ช่วยหาทางออกเพื่อผ่อนคลายปัญหาอันเกิดจากการดาเนินโครงการ ให้บรรลุผลสาเร็จตาม เปา้ หมายของโครงการ ๒. นิเทศ ช้ีแนะ แนะนา ให้คาปรึกษา กระตุ้น และพัฒนาผู้บริหารและครู ตลอดจนการส่งเสริมครู แกนนาใหส้ ามารถนาการจดั การเรยี นการสอนและประสานงานตามภารกิจในโครงการพัฒนาครูและโรงเรียน เพอ่ื ยกระดับคุณภาพการศกึ ษาอยา่ งตอ่ เน่อื งให้เปน็ ไปอย่างมีประสทิ ธภิ าพ ๓. ประสานและส่งเสริมการจัดกิจกรรมกระบวนการชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพของครู และผู้บริหาร การสรรหาผู้รู้หรือผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเพื่อการพัฒนาการเรียนการสอนของครู ตามความต้องการเฉพาะ เร่ือง เฉพาะกจิ ทีเ่ กยี่ วขอ้ ง ๔. สง่ เสรมิ การจดั ประชุมปฏิบัตกิ าร การแลกเปล่ียนเรียนรู้ การถอดบทเรียนในกจิ กรรมของโรงเรยี น และเครอื ขา่ ยให้เปน็ ไปตามเป้าหมายและมีประสทิ ธิภาพ 13แนวทางการเปน็ โค้ชท่มี ีคณุ ภาพ ในโครงการพัฒนาครูและโรงเรยี นเพ่อื ยกระดบั คณุ ภาพการศกึ ษาอยา่ งต่อเนือ่ ง
๑๔ ขั้นตอนการดาเนินงาน ขน้ั เตรยี มการ หรอื กอ่ นการดาเนินงาน ๑. ศึกษาและทาความเข้าใจโครงการพัฒนาครูและโรงเรียนเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาอย่าง ต่อเนื่อง อย่างละเอียด รวมท้ัง บริบทสภาพแวดล้อมและข้อมูลพ้ืนฐานทางการศึกษาของโรงเรียนในความ รับผิดชอบ เช่น สังคมและวัฒนธรรม ฐานะทางเศรษฐกิจของประชาชน องค์กรท่ีสนับสนุนและเกี่ยวข้อง ทางการศึกษา จานวนผู้เรียน จานวนห้องเรียน จานวนครู การมาเรียน การหยุดเรียน การออกกลางคันของ นักเรยี น งบประมาณอดุ หนนุ และพัฒนา การระดมทรัพยากรเพื่อการศึกษา ครูภูมิปัญญา กิจกรรมการเรียนรู้ ที่โดดเด่น ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน ผลการสอบทางการศึกษาระดับชาติ การสนับสนุนของพ่อแม่ ผู้ปกครอง ศิษย์เกา่ มลู นธิ ิและสมาคม วัด และองค์กรปกครองส่วนทอ้ งถนิ่ เป็นตน้ ๒. วางแผนและจัดทาปฏิทินการลงพ้ืนท่ี เพื่อการพัฒนาศักยภาพและสนับสนุนการบริหารจัดการ ของผู้บริหาร และการจัดการกเรียนการสอนของครู ด้วยการแนะนา ให้คาปรึกษา และการจัดกิจกรรมตาม ข้อกาหนดและแนวทางของโครงการโรงเรยี นพัฒนาคณุ ภาพต่อเนอ่ื ง ในด้าน ๑) การกาหนดเป้าหมายโรงเรียน ๒) การสร้างชุมชนการเรียนร้วู ชิ าชีพ ๓) การจดั ระบบสารสนเทศที่มีคุณภาพ ๕) การจัดการเรียนรู้ในช้ันเรียน และ ๕) การสร้างเครอื ขา่ ยการทางานรวมกนั ขน้ั ดาเนนิ งาน ๓. ดาเนนิ การพฒั นาศักยภาพและสนับสนุนการบริหารจัดการของผู้บริหารและการจัดการเรียนการ สอนของครู แนะนา ใหค้ าปรึกษา สนับสนุนและขับเคลื่อนการดาเนินงานกิจกรรมของโรงเรียน ร่วมกัน ตาม แผนและปฏิทินที่วางไว้ ในด้าน ๑) การกาหนดเป้าหมายโรงเรียน ๒) การพัฒนาครูและผู้บริหารด้วย กระบวนการชมุ ชนการเรียนรู้วิชาชีพ ๓) การจัดระบบสารสนเทศท่ีมีคณุ ภาพ ๔) การพัฒนาการเรียนการสอน ในระดบั ชนั้ เรียน และ ๕) การสรา้ งเครอื ขา่ ยการทางานร่วมกัน (ตามสาระท่ีกาหนดในเร่ืองต่อดังกล่าวต่อไป) ทั้งโดยทางการ และไมเ่ ป็นทางการ ด้วยส่ือและเทคโนโลยีสารสนเทศ และการส่ือสารในช่องทางตา่ งๆ ในการนี้ อาจมีการดาเนินงานเฉพาะหน้า เช่น การขอรับความช่วยเหลือ แก้ปัญหา และความ ต้องการการไดร้ บั การพฒั นา แนะนา ให้คาปรึกษาจากโค้ช ของ ผูบ้ รหิ ารและครู แล้วแตก่ รณี ขั้นหลงั ดาเนนิ งาน ๔. ประเมิน สรุปและรายงาน หลังการแนะนา ให้คาปรึกษาฯ ทีมโค้ชมีการจัดทารายงานตามท่ีฝ่าย บริหารจดั การโครงการกาหนด ทงั้ นี้ ควรได้มกี ารจดบนั ทกึ และสรุปประเด็นทกุ ครั้งที่ให้การชี้แนะ แนะนา ให้ คาปรกึ ษาและหรือทากจิ กรรมร่วมกบั โรงเรียน เพ่อื การประมวลรายงานไดอ้ ย่างชดั เจน ในการจัดทารายงานทุกครั้ง ควรได้มีการเสนอข้อเท็จจริงที่ปรากฏ การพัฒนาและความก้าวหน้า รายด้าน รวมทั้งการสรุปและเสนอแนะ ท้ังในระดับโรงเรียน ได้แก่ครู ผู้บริหารและครู ระดับบริหา รจัดการ 14 แนวทางการเป็นโค้ชทม่ี ีคุณภาพ ในโครงการพฒั นาครแู ละโรงเรียนเพ่ือยกระดับคุณภาพการศกึ ษาอย่างต่อเนอ่ื ง
๑๕ โครงการ และสานักงานกองทุนสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา ว่าควรต้องทาอะไร อย่างไร เพื่อเป็นการ แกป้ ัญหา สนบั สนนุ และพัฒนาการดาเนนิ งาน ๕. ปรับปรุงและพัฒนาการดาเนินงาน เป็นการสังเคราะห์ปัญหาหรืออุปสรรคท่ีเกิดขึ้น และ ขอ้ เสนอแนะมาดาเนินการปรบั ปรแุ ละพัฒนาการเป็นโค้ช ทั้งน้ี ปัญหาหรอื อุปสรรค อาจมีสาเหตุมาจากตัวทีม โค้ช หรอื โรงเรยี น ท่ีทีมโคช้ จาต้องวิเคราะหแ์ ละดาเนินการทงั้ โดยตนเอง หรือรว่ มกนั แลว้ แต่กรณี การกาหนดทมี โคช้ ในการบรหิ ารจดั การโครงการ กาหนดให้มีทมี โค้ช อาจเป็นในรูปของสถาบันอุดมศึกษา และโค้ชกลุ่ม พื้นที่ (Node) แล้วแต่กรณี เพื่อรับผิดชอบโรงเรียนในแต่ละพื้นท่ี ซึ่งจะได้มีการพิจารณากาหนดตามความ เหมาะสมตามความสมัครใจ ถนัดและความพร้อมของแต่ละทีม เพื่อแบ่งความรับผิดชอบ โดยคานึงถึง คุณสมบัติข้างต้น ทั้งน้ี จะกาหนดให้มีหัวหน้าทีม เพ่ือประสานการดาเนินงานของทีมกับฝ่ายบริหารจัดการ โครงการและโรงเรยี นกไ็ ด้ แล้วแต่กรณี รูปแบบการโคช้ (coaching) ในการเป็นโค้ชในโครงการพัฒนาครูและโรงเรียนเพ่ือยกระดับคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง มี รปู แบบทีห่ ลากหลายที่ทมี โคช้ สามารถดาเนินการใหบ้ รรลุผลสาเรจ็ ทัง้ ท่เี ป็นทางการ และไมเ่ ปน็ ทางการ ดังนี้ ๑. การโคช้ แบบทางการ (formal coaching) เปน็ การดาเนนิ งานที่โรงเรียนอย่างเป็นทางการตาม แผนงานที่กาหนดไว้ร่วมกันระหว่างทีมโค้ชและโรงเรียน ด้วยการแนะนา ให้คาปรึกษา พาทา และร่วม กิจกรรมกับโรงเรียนตามแผนงานทที่ มี โคช้ กาหนดรว่ มกบั โรงเรียน ในพื้นท่ีโรงเรยี นหรือพื้นท่ีท่ีกาหนดเพื่อการ จัดกิจกรรมของโครงการอย่างเป็นทางการ เช่น การนิเทศ การประชุมปฏิบัติการ (workshop) การสัมมนา การจดั แลกเปล่ียนเรียนรู้ การจัดกจิ กรรมรว่ มกับเครอื ข่าย เป็นต้น ในการโคช้ แบบทางการ ซึ่งเป็นการดาเนินการที่โรงเรียน แต่เนื่องจากบริบท สภาพแวดล้อม และ สถานการณ์ของแตล่ ะโรงเรียนแตกต่างกัน การลงพื้นท่ีของทีมโค้ช อาจทาในรูปของการลงพ้ืนที่รายโรงเรียน หรอื การรวมกบั โรงเรยี น เพอ่ื จัดกิจกรรมตามสถานการณ์ กไ็ ด้ กลา่ วคือ ๑.๑ การลงพ้ืนท่ีเป็นรายโรง กรณีลงพื้นที่รายโรง เป็นไปตามข้อตกลงร่วมกันในแผนงาน ระหว่างทีมโค้ชและโรงเรียน ว่าจะดาเนินการเรื่องอะไร เมื่อไร ใครจะร่วมในการรับการสอนงาน แนะนา ปรึกษา หรือจัดกิจกรรมร่วมกันบ้าง ซึ่งจานวนครั้ง จะผันแปรตามงบประมาณการลงพ้ืนท่ี ท่ีฝ่ายบริหาร จดั การกาหนดตามข้อตกลงระหวา่ งฝา่ ยบริหารจดั การและทีมโค้ช 15แนวทางการเป็นโค้ชทมี่ คี ณุ ภาพ ในโครงการพฒั นาครูและโรงเรียนเพื่อยกระดบั คุณภาพการศกึ ษาอยา่ งตอ่ เน่อื ง
๑๖ ๑.๒ การลงพ้ืนท่ีเป็นรายกลุ่ม หรือเครือข่าย เป็นไปตามข้อตกลงร่วมกัน หรือตาม สถานการณ์แลว้ แตก่ รณี ในสาระเช่นเดยี วกบั การลงพนื้ ทเี่ ป็นรายโรง ส่วนใหญ่การลงพื้นที่ของทีมโค้ชเป็นราย กลุ่มหรือรายเครือข่าย ตามสถานการณ์เช่น ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในบางพ้ืนที่ ของโรงเรียนไม่ ปลอดภัยในการเดินทาง หรือเป็นไปตามกิจกรรมท่ีดาเนินการ เช่น การจัดประชุมปฏิบัติการจัดทาหลักสูตร และส่ือการเรียนรู้ หรอื การจัดประชมุ แลกเปลยี่ นเรยี นรู้ หรือการจัดชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพ เร่ืองใดเร่ืองหนึ่ง ฯลฯ ทีมโค้ชก็สามารถจัดให้โรงเรียนมารวมกัน ณ โรงเรียนใดโรงเรียนหนึ่ง หรือโรงเรียนในเครือข่ายใด เครอื ข่ายหน่ึง ๒. การโค้ชแบบไม่เป็นทางการ (informal coaching) เป็นการชี้แนะ แนะนา ให้คาปรึกษา ภายในหรือนอกสถานท่ี/โรงเรียน โดยใช้เทคโนโลยีการส่ือสารเป็นเคร่ืองมือ เป็นส่วนใหญ่ เช่น โทรศัพท์ แอพพลเิ คชนั่ ไลน์ อินเทอรเ์ น็ต เป็นตน้ ขอ้ ดีของการเป็นโค้ชแบบไม่เป็นทางการดังกล่าว ส่งผลให้ทราบความ เคล่ือนไหวของงานตลอดเวลา เมื่อมีปัญหาสามารถแนะนา แก้ไขได้ทันท่วงที อีกท้ังเป็นการขับเคลื่อนการ ดาเนินงานของโรงเรยี นในโครงการร่วมกนั ไดใ้ นระดบั ทใี่ กล้เคียงกัน โดยเฉพาะจากการแลกเปล่ียนเรียนรู้อย่าง ไม่เป็นทางการจากกลมุ่ แอพพลิเคชนั่ ไลน์ เป็นต้น นอกจากนน้ั อาจมรี ูปแบบอ่ืนๆ ทที่ มี พเี่ ลี้ยงจะพัฒนาข้ึน เป้าหมายก็คือการพัฒนาศักยภาพและการ สนับสนนุ การบริหารจดั การของผูบ้ รหิ ารและการจัดการเรยี นการสอนหรือการจดั กิจกรรมการเรียนรูข้ องครู ให้ บรรลุผลสาเรจ็ ตามเปา้ หมาย ผลผลิตและผลลัพธ์ ท่กี าหนดน่นั เอง วิธีการโค้ช (coaching) การเป็นโค้ช เป้าหมายตามภารกิจก็คือ การพัฒนาศักยภาพและสนับสนุนการบริหารจัดการของ ผบู้ รหิ ารและการจดั การเรียนการสอนหรอื กจิ กรรมการจัดการเรียนรู้ของครูเพื่อให้บรรลุเป้าหมายผลผลิตและ ผลลพั ธท์ ่วี างไว้ ดังน้ัน ทมี โค้ชควรมวี ธิ ีการบนพืน้ ฐานของทกั ษะเฉพาะตน ดงั น้ี ๑. การวเิ คราะหส์ ภาพปัญหาและความตอ้ งการการโคช้ โค้ชต้องทาความเข้าใจและวิเคราะห์สภาพ ปญั หาและความต้องการการโคช้ ของครแู ละผู้บรหิ าร ในเรื่องท่ีจาเป็นต้องโค้ช เช่น การกาหนดเป้าหมายของ โรงเรียน การสร้างชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพ การจัดระบบเทคโนโลยีท่ีมีคุณภาพ การพัฒนาการเรียนรู้ใน ชัน้ เรียน โดยศกึ ษาข้อมูลพื้นฐานว่า ครูและผู้บริหารมีความรู้หรือต้นทุนเดิมในเร่ืองน้ันๆอย่างไร และมีความ ต้องการรับการโคช้ ในเร่อื งเหลา่ นัน้ มากนอ้ ยเพยี งไร ซงึ่ โคช้ ควรเตรียมการการโค้ชในเรื่องเหลา่ นั้น ตามน้าหนัก ของเรื่อง เช่น ๑) หากเป็นเรื่องท่ีครูและผู้บริหารมีความรู้อยู่แล้ว การโค้ช ก็ควรเป็นการทบทวน ทาความ เข้าใจ หรือการสนับสนุนเรื่องดังกล่าว หรือ ๒) หากเรื่องน้ันๆ ครูและผู้บริหารยังมีความรู้น้อยหรือไม่รู้ รปู แบบการโค้ช ควรเป็นการแนะนา ทาความเขา้ ใจ หรือสอนให้เขา้ ใจ ซึ่งโค้ชต้องเตรียมข้อมูลเป็นอย่างดีเพ่ือ การโค้ช แล้วแต่กรณี 16 แนวทางการเป็นโคช้ ทมี่ ีคุณภาพ ในโครงการพัฒนาครูและโรงเรียนเพือ่ ยกระดับคุณภาพการศกึ ษาอยา่ งต่อเน่ือง
๑๗ ๒. สรา้ งความเช่ือถือและไว้วางใจ การสร้างความเช่ือถือและไว้วางใจแก่ครูและผู้บริหาร ผู้รับการ โค้ช ไม่ใหเ้ กดิ ความหวาดระแวง ไม่ไว้วางใจ ขาดความศรัทธาและเช่ือมั่น ด้วยการสร้างความเข้าใจ การรับรู้ เข้าถึงปัญหาและความต้องการ และการสร้างศรัทธา ความรัก ความผูกพัน ให้เกิดข้ึนระหว่างโค้ช ผู้บริหาร และครู ดังน้นั การเปน็ ผ้ใู ห้ จงึ เปน็ เร่ืองสาคัญต้นๆในการเขา้ ถึงครูและผู้บรหิ าร ทงั้ การให้ความรัก ความเข้าใจ ให้ข้อมลู ท่ีตอ้ งการ และให้อภยั เมือ่ เกดิ ผดิ พลาดในงาน ๓. เป็นผู้ฟังที่ดี การเป็นผู้ฟังท่ีดีเป็นวิธีการที่สาคัญของโค้ชที่จะทาให้เข้าถึงข้อมูลและส่ิงที่ต้องการ ของผ้รู ับการโค้ชไดอ้ ย่างดี โคช้ จึงควรฟังมากกว่าการพูด ฟังให้เข้าใจถึงวิธีคิด ความเช่ือ ความรู้สึกให้สามารถ จับประเด็นในส่ิงท่ีผู้พูดต้องการส่ือสาร เพ่ือให้เกิดการรับรู้ข้อมูลที่แท้จริง อันจะนาไปสู่การแก้ปัญหาและ พฒั นาไดอ้ ยา่ งตรงประเด็น ๔. ทาให้ดูเป็นตัวอย่าง บางครั้ง ผู้รับการโค้ชอาจต้องการการชี้แนะจากการปฏิบัติจริง การทาให้ดู เปน็ ตัวอยา่ งเพื่อสรา้ งความเขา้ ใจ เชน่ วธิ ีการสอน (กรณโี ค้ชเป็นศึกษานเิ ทศก์ คณาจารย์ดา้ นการสอนมาก่อน) การสาธิตวิธีการทาสื่อการสอน ซึ่งข้ึนอยู่กับกลุ่มผู้รับการโค้ชตามที่โค้ชได้ทาการวิเคราะห์สภาพปัญหาและ ความต้องการ ไว้ก่อนแล้ว การทาให้ดูเป็นตัวอย่างเหมาะสาหรับผู้รับการโค้ชที่มีพ้ืนฐานพร้อมจะรับรู้และ ปฏบิ ตั ิได้ทันที แต่หากผู้รับการโค้ชเปน็ ผทู้ ี่ต้องทาความเข้าใจพอสมควร ควรต้องใชว้ ธิ ีการสอน คือ การแนะนา ผสมผสานกบั การทาให้ดูอยา่ งใกล้ชิด เหล่านีเ้ ปน็ ต้น ๕. ตั้งคาถามอย่างสร้างสรรค์แบบกัลยาณมิตร ในการโค้ช การต้ังคาถามอย่างสร้างสรรค์เป็น ความจาเป็นเพื่อให้ผู้รับการโค้ชเกิดกระบวนการคิด สังเคราะห์ ตรึกตรองและการหาคาตอบอย่างมี วจิ ารณญาณ และเกิดการแตกยอดความคิดเพื่อการประยุกต์ปฏิบัติต่อไป ดังน้ัน คาถามที่โค้ชเลือกใช้จึงควร เปน็ คาถามเชิงบวก แม้เรอื่ งทถ่ี ามจะเปน็ เร่อื งทไ่ี ดค้ าตอบทางลบก็ตาม เช่น จากการเขา้ ร่วมโครงการพัฒนาครู และผ้บู รหิ าร ๖. อธิบายความอยา่ งละเอยี ด โดยการสรา้ งความเข้าใจ ช้แี จงรายละเอยี ดทช่ี ัดเจน เมื่อผู้บริหารและ ครู ผ้รู บั การชแี้ นะฯ ใหก้ ารซกั ถามย้อนกลบั ในเรื่องท่ไี ม่ชัดเจนหรอื ต้องการทราบรายละเอียดที่เก่ียวข้อง โดย ไมป่ ล่อยใหค้ าถามนั้นอยู่ภายในใจหรอื ติดค้างแกผ่ ถู้ ามอีกตอ่ ไป (พรเทพ รแู้ ผน, ๒๕๖๒) เพราะหากเกิดความ ไม่ชัดเจนของผู้ปฏิบัติอาจเป็นอุปสรรคในการดาเนินโครงการให้บรรลุผลสาเร็จ หากเร่ื องใดท่ีทีมโค้ชไม่ สามารถอธบิ ายไดเ้ ฉพาะหนา้ ทมี โค้ชควรตอ้ งศึกษาและแจ้งกลับแก่ผู้ซกั ถามในโอกาสต่อไป ๗. ให้ข้อมูลย้อนกลับ (feedback) และการสะท้อนคิดหลังการปฏิบัติงาน (After Action Review: AAR) อย่างสรา้ งสรรค์ การให้ข้อมูลย้อนกลับ (feedback) และการสะท้อนคิดหลังการปฏิบัติงาน (After Action Review: AAR) อย่างสรา้ งสรรค์ เปน็ กจิ กรรมสาคัญของการโคช้ กลา่ วคือ การให้ข้อมูลย้อนกลับ (feedback) เป็นการทบทวนกระบวนการทางานและผลที่เกิดขึ้น หากมี ปัญหาและอุปสรรค ควรให้ข้อมูลว่า เกิดจากสาเหตุใด จากปัจจัย กระบวนการ ผลผลิตและผลลัพธ์ท่ีเกิดขึ้น หรืออิทธิพลใด และต้องแก้ไขตรงจดุ ไหน อย่างไร เพ่อื ใหก้ ารดาเนนิ งานบรรลุผลสาเร็จ ในการนี้ กระบวนการ 17แนวทางการเปน็ โค้ชที่มีคณุ ภาพ ในโครงการพฒั นาครูและโรงเรียนเพ่ือยกระดับคุณภาพการศกึ ษาอยา่ งต่อเน่ือง
๑๘ วเิ คราะห์ข้อมลู ร่วมกันควรนามาใช้ให้เกดิ ประโยชน์ ในการนี้ ควรใช้ภาษาท่ีสุภาพในการให้ข้อมูลย้อนกลับ ในเชงิ ลบ โดยไม่ใชก้ ารตาหนิหรือว่ากล่าวแต่อย่างใด และกระตุ้นและเปิดโอกาสให้รับการสอนแนะอภิปราย หรือซักถามข้อสงสัยภายหลังจากการให้ข้อมูลย้อนกลับ ให้เกิดความกระจ่างในประเด็นท่ีสงสัย หรือเกิด แนวคิดใหม่ของผู้ถามต่อไป การสะท้อนคิดหลังการปฏิบัติงาน (After Action Review: AAR) เป็นการทบทวนหรือเป็น กระบวนการเพ่ือวิเคราะห์ว่าเกิดเหตุอะไร สาเหตุของการเกิด และจะสามารถดาเนินการให้ดีกว่าเดิมได้ อย่างไร โดยเอาบทเรียนจากความสาเร็จและความล้มเหลวของการทางานท่ีผ่านมา เพื่อนามาซึ่งการพัฒนา หรือการปรบั ปรุงการทางาน การทา AAR เป็นรูปแบบของกลุ่มทางานท่ีสะท้อนการมีส่วนร่วมในการทบทวน ส่ิงทเี่ กดิ ขน้ึ อะไรคอื สง่ิ ท่เี กดิ ขนึ้ จริง สาเหตุของการเกิดและส่ิงทไี่ ดเ้ รยี นรูค้ อื อะไร ในการทา AAR ควรทาทันที หลังจากจบงานน้ันๆ หรือเร็วที่สุดที่จัดหาเวลาได้ เพราะยังจาได้ดี การเรียนรู้จะได้ถูกนามาปรับใช้ได้อย่าง เหมาะสม (สวทช, ๒๕๖๒, ออนไลน์ ) ท้งั นี้ การทา AAR มีขน้ั ตอน (สวทช, ๒๕๖๒, ออนไลน)์ ดงั นี้ ๑) สร้างบรรยากาศทเี่ ปน็ กันเองในการทา AAR ต้องมีการเปิดใจและยอมรับท่ีจะเรียนรู้ ทุกคนควรมีส่วนร่วมใน บรรยากาศทีอ่ สิ ระไมม่ คี วามเปน็ เจ้านาย หรือลูกนอ้ ง AAR เปน็ การเรียนรู้จากเหตกุ ารณ์มากกว่าการวจิ ารณ์ ๒) มี \"คณุ อานวย\" เป็นผู้คอยกระตนุ้ ต้งั คาถามใหท้ ุกคนไดแ้ สดงความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ ๒) ถามตัวเองวา่ สง่ิ ทคี่ วรจะได้รบั คืออะไร ๓) ถามตวั เองวา่ ส่งิ ทีเ่ กิดขึ้นจรงิ คืออะไร หมายถงึ ทมี งานตอ้ งเข้าใจและเห็นด้วยความจริงทีเ่ กดิ ข้ึน พึงระลกึ ไว้ว่า จุดประสงคก์ ค็ อื การแยกแยะปัญหาไมใ่ ช่การกลา่ วหา หรือกลา่ วโทษ ๔) เปรยี บเทยี บความแตกต่างระหว่างแผนงานกับความจรงิ การเรียนรคู้ วามจริงเริ่มตน้ ด้วยทีมเปรียบเทียบแผนงาน กับสิ่งท่เี กิดข้ึนจรงิ และตัดสนิ วา่ ทาไมจงึ เกดิ ความแตกต่าง และไดเ้ รียนรู้อะไร จาแนกให้เห็นและอภิปรายถึงความสาเร็จ และสิ่งท่ขี าดหายไป ใสใ่ นแผนงานเพ่อื ดาเนินการให้ถึงความสาเร็จและพฒั นาปรบั ปรุงใน่สง่ิ ที่ขาดหายไป ๕) บันทกึ ประเดน็ สาคัญ การบนั ทึกประเด็นสาคญั หลงั จากทไี่ ด้มกี ารช้ใี หเ้ ห็นอย่างชดั เจนในการทา AAR แล้ว ถึงสิ่ง ที่เกดิ ขึน้ เปรียบเทียบกบั สิ่งท่คี าดวา่ จะเกดิ ขนึ้ เป็นการแลกเปล่ียนการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ภายในทีมงานด้วยกันและ เพ่อื เป็นพน้ื ฐานสาหรบั การเรยี นรทู้ กี่ ว้างมากขน้ึ กว่าเดมิ ในองคก์ ร ๘. สรา้ งแรงบันดาลใจสู่เป้าหมายร่วมกัน โดยหลังการโค้ช หรือการแนะนา ให้คาปรึกษาแล้ว โค้ช อาจมีการใชเ้ ทคนิคการเล่าเร่ืองหรอื ยกตวั อย่างท่ีเคยประสบผลสาเร็จเพ่ือสร้างแรงบันดาลใจแก่ผู้บริหารและ ครู ผรู้ บั การโค้ชใหม้ ีความมงุ่ มั่นในการปฏิบตั งิ านให้มีประสทิ ธิภาพและประสทิ ธผิ ลท่สี ูงข้นึ และร่วมกนั กาหนด เป้าหมายความสาเร็จร่วมกันในกิจกรรมต่อไป ในอันที่จะทาให้วัตถุประสงค์และเป้าหมายของโครงการ บรรลุผลสาเรจ็ ได้อย่างรวดเรว็ ๙. ช่วยผ่อนคลายปัญหา บางครง้ั ผู้บรหิ ารและครู มปี ญั หาทงั้ เป็นเร่ืองในงาน และหรืออาจเป็นเรื่อง ส่วนตัวหรอื กลมุ่ ทีเ่ ช่อื มโยงสู่งาน ทีมโคช้ ควรหาทางออกและข้อเสนอแนะในส่วนที่เป็นในงานโดยไม่ปล่อยให้ 18 แนวทางการเป็นโค้ชที่มคี ุณภาพ ในโครงการพฒั นาครูและโรงเรียนเพอื่ ยกระดับคณุ ภาพการศึกษาอยา่ งต่อเน่อื ง
๑๙ ผ่านเลยไป และหากเปน็ เรือ่ งส่วนตวั ทเี่ ชื่อมโยงกบั งาน ที่ผู้บริหารและครู มักมีการซักถาม เช่น การสอบ การ เลื่อนระดับ การไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือปัญหาจากระบบงาน ทีมพี่เลี้ยงควรต้องหาโอกาสให้คาปรึกษา เปน็ การสว่ นตวั ที่ไม่กระทบการบรหิ ารจัดการหรอื การกา้ วกา่ ยงานของผู้ใด เพือ่ ลดภาวะความกดดนั ของปัญหา เหล่านเ้ี ป็นตน้ ๑๐. สนับสนุนการทางาน (support) การสนับสนุนการทางาน เหมาะสาหรับครูและผู้บริหารท่ีมี ความรคู้ วามเขา้ ใจในเรื่องทโ่ี ค้ชนั้นๆ มปี ระสบการณ์มาแลว้ เปน็ อย่างดี และมีการดาเนินงานมาแล้วระดับหน่ึง การสนบั สนุนจงึ เป็นการทาใหค้ รแู ละผบู้ ริหารเกิดความม่นั ใจมากขึน้ และนาไปสู่ความสาเร็จยิ่งขึ้น เช่น การช่ืน ชมผลงานและให้กาลังใจในการทาต่อ การนาผลงานไปเผยแพร่และขยายผลในกลุ่มทางานที่เกี่ยวข้อง การ ถอดเรยี น การส่งเสรมิ การแลกเปลี่ยนเรียนรกู้ ับเครือขา่ ย เหลา่ น้ีเปน็ ต้น ปัญหาหรอื ขอ้ จากดั ที่อาจเกิดขึ้นและแนวทางการแก้ไข แม้ว่า ทีมโค้ชจะได้มีการเตรียมการเป็นอย่างดีในการโค้ชทั้งท่ีเป็นทางการและไม่เป็นทางการแล้ว ก็ตาม แต่บางครั้งอาจมปี ญั หาและข้อจากดั ท่เี กดิ ขน้ึ ทัง้ ท่ีเกิดจากภายในและภายนอก ดังไดแ้ ก่ ๑. วัยวฒุ ิของทีมโค้ช ดว้ ยคณุ สมบตั ิของทมี โคช้ ทีม่ ที ้งั ความรูแ้ ละประสบการณ์ จึงได้รับการพิจารณา เปน็ โค้ช แตด่ ว้ ยขอ้ จากดั ด้านสุขภาพที่เกิดขึ้นภายหลังอันส่งผลต่อการเดินทาง และการลงพ้ืนที่ในโรงเรียนท่ี ห่างไกล และปริมาณรับผิดชอบหลายโรงเรียน ดังนั้น ทีมโค้ชควรได้มีการรักษาสุขภาพ ออกกาลังกาย และ ระมัดระวงั การเดนิ ทาง หรือเตรียมการป้องกันปญั หาอันอาจเกิดจากสขุ ภาพดังกล่าว ๒. การโยกย้ายของผู้บริหารและครูผู้รับผิดชอบโครงการ การโยกย้ายของผู้บริหารและครู ผู้รบั ผดิ ชอบโครงการ ส่งผลใหเ้ กดิ ความลา่ ชา้ ในการดาเนินงานโครงการตามแผนงานและกิจกรรมที่กาหนดไว้ ที่สมควรต้องสร้างทีมงานผู้บริหารและครูแกนนาท่ีเข้มแข็งที่สามารถรับรู้งานในทุกข้ันตอนร่วมกัน ดังนั้น หลักการทางานเป็นทีม และการมสี ่วนร่วมจึงควรนามาใชใ้ นการแนะนาโรงเรยี นของทีมโคช้ ๓. ภาระงานประจาของโรงเรียน ภาระงานประจาของโรงเรยี นของผู้บรหิ ารและครูที่ต้องปฏิบัติปกติ อาจสร้างความเขา้ ใจคลาดเคลอื่ นตอ่ ครูวา่ เป็นภาระ ดงั นัน้ ทมี โค้ชควรต้องสร้างความรู้ความเข้าใจและเจตคติ ที่ดีในกระบวนการดาเนินโครงการพัฒนาครแู ละโรงเรยี นเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่องว่า เป็น การเสรมิ สรา้ งและสนับสนุนการทางานปกติให้มีความเข้มข้นและมีประสิทธิภาพอันส่งผลต่อประสิทธิผลของ โรงเรียน และส่งเสริมให้เกิดการบูรณาการการทางานและการบูรณาการการจัดการเรียนรู้ของครูเข้ากับการ เรยี นรปู้ กติ หรอื โครงการตา่ งๆที่ต้นสังกัดกาหนดใหโ้ รงเรยี นปฏบิ ตั ิ ด้วยหลักการบูรณาการตามที่กล่าวมาแล้ว ข้างตน้ 19แนวทางการเป็นโค้ชทม่ี คี ณุ ภาพ ในโครงการพฒั นาครแู ละโรงเรียนเพอ่ื ยกระดบั คณุ ภาพการศกึ ษาอย่างตอ่ เนือ่ ง
๒๐ ๔. ความห่างไกลของโรงเรยี น ความหา่ งไกลของโรงเรียน หรือความไม่ปลอดภัยในสถานการณ์ของ โรงเรยี นในบางพ้ืนท่ี อันเปน็ อุปสรรคต่อการลงพืน้ ท่เี พอ่ื การโค้ช (coaching) ดังน้ัน ทีมโค้ชควรใช้วิธีการโค้ช รายเครือข่าย หรือรายกลุ่มตามสถานการณ์ โดยเฉพาะการนาเทคโนโลยีมาใช้ในการแนะนา เช่น โทรศัพท์ แอพพลิเคช่ันไลน์ อีเมล์ เป็นต้น เง่อื นไขความสาเรจ็ ๑. ทีมโคช้ ต้องไดร้ บั ข้อมลู การดาเนนิ งานอยา่ งต่อเนอื่ งจากสานักงานกองทนุ สนบั สนุนเพอ่ื ความเสมอ ภาคทางการศึกษา (กสศ.) และฝ่ายบริหารจัดการโครงการครบถ้วน และมีการดาเนินงานตามหลักการ ขัน้ ตอนและวธิ กี ารอย่างเป็นรปู ธรรม ๒. โรงเรียนท่เี ขา้ ร่วมโครงการไดร้ บั การรับรจู้ ากต้นสังกดั อานวยความสะดวกและการสนับสนนุ ให้ การดาเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายของโครงการพัฒนาครูและโรงเรียนเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาอย่าง ต่อเนือ่ ง ทีว่ างไว้ ๓. โรงเรียนทุกโรงท่ีเขา้ ร่วมโครงการมีการจดั ทาขอ้ ตกลงการดาเนินโครงการพัฒนาครแู ละโรงเรียน เพื่อยกระดบั คุณภาพการศึกษาอยา่ งต่อเน่อื งกับสานักงานกองทนุ เพือ่ ความเสมอภาคทางการศึกษา หรือได้รับ การสนบั สนุนงบประมาณเพือ่ การจดั กิจกรรมการดาเนินงานทชี่ ัดเจน ทั้งโดยทางตรงและหรือทางอ้อมแล้วแต่ กรณี ๔. ผูบ้ รหิ ารและครูรว่ มปฏิบตั ิกิจกรรมท้ังโรงเรยี น โดยการมีสว่ นรว่ มของพอ่ แม่ ผปู้ กครอง ชุมชน และผมู้ สี ่วนได้ส่วนเสยี ท่ีเก่ยี วข้อง ๕. กิจกรรมสนับสนุนองค์ความรู้แก่โรงเรียนระหว่างโครงการจากสานักงานกองทุนเพ่ือความ เสมอภาคทางการศึกษา และฝา่ ยบริหารจัดการโครงการครบตามท่ีกาหนด 20 แนวทางการเป็นโค้ชที่มีคุณภาพ ในโครงการพัฒนาครูและโรงเรียนเพอ่ื ยกระดบั คุณภาพการศึกษาอยา่ งตอ่ เนือ่ ง
๓ ๓ การก�ำ กหานรกดาหเปนด้าเหปา้มหามยายโโรรงงเเรรยี ียนน(S(cShocohloGooall)Goal) การกาหนดเปา้ หมายของโรงเรียน เปน็ กจิ กรรมรว่ มกนั ของผู้บรหิ าร ครู ผปู้ กครอง ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และชุมชน ร่วมกันวิเคราะห์ปัญหาและความต้องการเพ่ือการแก้ไขและพัฒนาการเรียนรู้ของนักเรียนใน โรงเรยี น และกาหนดเป็นความคาดหวงั สูงสดุ ทตี่ ้องการให้เกดิ ขึ้นกบั นักเรียนและโรงเรยี นทมี่ ีประสทิ ธิภาพและ เกิดประสิทธิผลสูงสุด เป็นการต้ังเป้าหมายของโรงเรียนที่ทีมโค้ชจะต้องแนะนา ให้คาปรึกษาและสนับสนุน ผู้บริหารและครู ร่วมกับพ่อแม่ ผู้ปกครองและชุมชน ให้ร่วมกันกาหนดเป้าหมายของโรงเรียนในการพัฒนา คุณภาพอย่างต่อเน่ือง การกาหนดเป้าหมายมีหลายระดับ ทั้งระดับชาติ ระดับเขตพื้นที่การศึกษา ระดับ สถานศึกษาหรือโรงเรียน ระดบั ห้องเรยี น และระดับตวั บุคคล ในทีน่ ี้ พจิ ารณาเฉพาะการกาหนดเป้าหมายของ โรงเรยี น แนวคดิ การกาหนดเปา้ หมาย เปน็ การกาหนดความคาดหวังเรื่องใดเรอ่ื งหน่ึงที่ตอ้ งการให้เกิดข้ึนในระยะเวลา ที่กาหนด การกาหนดเป้าหมายมีความสาคัญต่อโรงเรียนในโครงการพัฒนาครูและโรงเรียนเพื่อยกระดับ คุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ท่ีต้องมีการกาหนดให้เกิดความท้าทายการทางานให้ประสบผลสาเร็จ เป็น โรงเรียนทมี่ คี ณุ ภาพ ดว้ ยการมีส่วนร่วมของผู้บริหาร ครู พ่อแม่ ผู้ปกครอง และตัวแทนชุมชนร่วมกันกาหนด และร่วมกันดาเนินงานให้ไปสู่เป้าหมายนั้น โดยการสนับสนุนของโค้ช การกาหนดเป้าหมายท่ีดีต้องเป็น เป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง มีมาตรการวัดความสาเร็จ ท้าทาย สามารถปฏิบัติได้จริง มีความสอดคล้องกับ เป้าหมายหลกั ทางการศึกษาและภารกิจของโรงเรยี น และมขี อบเขตเวลาทช่ี ัดเจน คุณลักษณะของเป้าหมาย เปา้ หมายทดี่ ี มีความท้าทายส่คู วามสาเรจ็ คือเป้าหมายที่มีคุณลักษณะ SMART Goal หรือกฎทอง ๕ ประการ (Mind Tools Content Team, 2019) ดังนี้คือ ๑) มีความเฉพาะเจาะจง ๒) มีมาตรการที่วัดได้ ๓) สามารถปฏิบัติให้บรรลุผลสาเร็จ ๔) มีความสอดคล้องกับเป้าหมายหลัก และ ๕) มีขอบเขตของเวลา เป็น เครือ่ งกาหนด กล่าวคือ ๑. มคี วามเฉพาะเจาะจง (Specific) เปน็ เปา้ หมายท่ีมคี วามชัดเจน เฉพาะเรือ่ ง และใชภ้ าษาเข้าใจ ง่าย เชน่ เป้าหมายนักเรยี นชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๕ อ่านออกเขียนได้ทุกคน เป้าหมายนกั เรยี นชนั้ ประถมศึกษา ปที ี่ ๖ มที ักษะอาชพี ทุกคน เปา้ หมายโรงเรียนผา่ นเกณฑ์ด้านคุณธรรม เป็นต้น เพราะหากกาหนดเป้าหมายไม่ ชัดเจน ไม่มีความเจาะจงเฉพาะเร่ืองแล้ว ก็อาจมีการตีความคลาดเคลื่อน หรือมีการดาเนินงานกว้างเกินไป และยากที่จะดาเนินงานใหบ้ รรลผุ ลสาเร็จ 21แนวทางการเปน็ โค้ชที่มีคุณภาพ ในโครงการพัฒนาครแู ละโรงเรียนเพื่อยกระดบั คณุ ภาพการศึกษาอย่างต่อเนอ่ื ง
๒๒ ๒. มีมาตรการทีว่ ัดได้ (Measurable) เปน็ การกาหนดมาตรการดาเนนิ งาน และเป้าหมายตัวช้ีวดั ความสาเร็จ มีความท้าทายการดาเนินงานทสี่ ามารถวัดได้ ๓. สามารถบรรลผุ ลสาเรจ็ (Attainable) หรือทาไดจ้ ริง เป้าหมายมกี จิ กรรมการดาเนินงานท่ีม่ันใจ ไดว้ า่ จะบรรลเุ ป้าหมายที่วางไว้ จึงต้องเป็นกิจกรรมท่ีผ่านการพิจารณาและเรียงลาดับความสาคัญ และมุ่งสู่ เป้าหมาย มีผู้รับผิดชอบชัดเจน มีการจัดทาแผนปฏิบัติการ (action plan) ให้เห็นเส้นทางการปฏิบัติ สู่เป้าหมาย และต้องสอดคล้องกับบริบทท่ีดารงอยู่ ดังน้ันเป้าหมายจึงไม่ควรเป็นเป้าหมายที่เพ้อฝัน ทไ่ี มส่ ามารถปฏบิ ัติได้ แตม่ คี วามทา้ ทายสูค่ วามสาเร็จ ๔. มีความสอดคล้องกับเป้าหมายหลัก (Relevance) เป้าหมายท่ีกาหนดขึ้น เป็นเป้าหมาย ทสี่ อดคลอ้ งกับเปา้ หมายหลักหรอื เป้าหมายใหญ่ โรงเรยี นมีภารกจิ ทางการศึกษา และจัดการเรียนการสอนแก่ นักเรียน ดงั นัน้ เป้าหมายของโรงเรียนจึงต้องเป็นเป้าหมายที่สอดคล้องกับเป้าหมายทางการศึกษา กฎหมาย นโยบาย แผน หรือเปา้ หมายทางการศกึ ษาของต้นสังกดั เหลา่ น้ีเป็นตน้ ๕. มีขอบเขตเวลา (Time Bound) เป้าหมายต้องมีการกาหนดขอบเขตเวลา หรือการแสดง ขอบเขตเวลา เพอื่ ใหส้ ามารถปฏบิ ตั ไิ ดภ้ ายในขอบเขตเวลาทีก่ าหนดไว้ มิฉะนั้น เป้าหมายจะไม่สามารถวัดผล การดาเนินงานไดใ้ นห้วงเวลาของการดาเนินงาน ดงั น้ัน ทมี โคช้ ควรตอ้ งทาความเขา้ ใจกับคุณลักษณะของเป้าหมายดังกล่าวน้ี เพื่อการแนะนา ให้ คาปรึกษา และสนับสนุนให้โรงเรียนร่วมกับพ่อแม่ ผู้ปกครองและชุมชน ท่ีเกี่ยวข้องกาหนดเป้าหมายเป็นไป ตามที่ต้องการ ขณะเดียวกัน การกาหนดเป้าหมายควรต้องเชื่อมโยงและบูรณาการกับการพัฒนาครูและ ผู้บริหารด้วยกระบวนการชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพ การจัดระบบสารสนเทศท่ีมีคุณภาพ การพัฒนาการเรียน การสอนในระดบั ชนั้ เรยี น และการสร้างเครือข่ายการทางานร่วมกัน ที่นาไปสู่ ๑) การจัดการเรียนรู้ที่ยืดหยุ่น ๒) การดูแลผู้เรียนอย่างท่ัวถึง ๓) การพัฒนาครูให้ใฝ่รู้ใฝ่เรียน และ ๔) การมีส่วนร่วมสร้างศรัทธาต่อชุมชน แล้วแต่กรณี หลักการ ทมี โคช้ สนบั สนุนการกาหนดเปา้ หมายระดับโรงเรียนในโครงการพัฒนาครูและโรงเรียนเพ่ือยกระดับ คณุ ภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง โดยยดึ หลกั การและชแ้ี นะใหโ้ รงเรยี นยดึ หลักการ ดงั ตอ่ ไปนี้ ๑. หลกั การมสี ่วนรว่ ม การมีสว่ นรว่ มเป็นหลกั สาคัญในการกาหนดเป้าหมายหรือการตง้ั เปา้ หมายที่ มีคุณภาพ ทจี่ าเป็นตอ้ งคานึงถงึ ผู้มสี ่วนได้ส่วนเสียท้ังภายในและภายนอกโรงเรียน ได้แก่ ผู้บริหาร ครู พ่อแม่ ผู้ปกครองและชุมชน รวมถึงศษิ ยเ์ กา่ สมาคม ชมรมทางการศึกษาทสี่ นับสนุนโรงเรยี น ๒. หลกั มุ่งผลสมั ฤทธ์ิ การมุง่ ผลสัมฤทธิห์ รอื การมุ่งความสาเรจ็ ตามเปา้ หมายที่มคี ุณภาพ เป็นผลท่ี ต้องการให้เกิดข้ึนในโครงการโรงเรียนพัฒนาครูและโรงเรียนเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ท่ี ตอ้ งคานึงถึง ๓. หลกั ความท้าทายส่คู วามสาเร็จ ความทา้ ทายเป็นการแสดงถึงความมุง่ มนั่ ความพยายาม ฟันฝ่า 22 แนวทางการเปน็ โค้ชทีม่ คี ุณภาพ ในโครงการพฒั นาครูและโรงเรียนเพ่อื ยกระดบั คุณภาพการศกึ ษาอยา่ งต่อเนอ่ื ง
๒๓ อุปสรรคหรือปัญหาท่ีอาจเกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ สะท้อนถึงการแข่งขันกับความสามารถของตนเองที่ สูงขน้ึ กว่าระดับปกติ และเมื่อสาเร็จย่อมแสดงถึงความภาคภูมิใจและมุ่งม่ันท่ีจะทาในระดับท่ีสูงข้ึนต่อไป ซ่ึง หมายถงึ การพฒั นาอยา่ งต่อเนื่อง ๔. หลักความยืดหยุ่น การกาหนดเป้าหมายในสถานการณ์หน่ึง เมื่อดาเนินการตามเป้าหมายไป ระยะหน่ึง อาจมีการเปล่ียนแปลงสถานการณ์ที่มีผลกระทบต่อปัจจัย หรือกระบวนการดาเนินงานตาม เป้าหมาย หรือเปา้ หมายทกี่ าหนดไว้นั้น อาจไม่ทันกาล จึงอาจมีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาเป้าหมายได้ตาม สถานการณ์ท่ีเปลี่ยนแปลงไป โดยไม่ติดยึด เพราะถึงอย่างไรเป้าหมายนั้น ก็ไม่สามารถจะดาเนินการให้ถึง เป้าหมายได้ หลกั ความยืดหยนุ่ ของเป้าหมายจึงเป็นความจาเป็นในการนามาใช้ในการกาหนดและปฏิบัติตาม เป้าหมาย วตั ถุประสงค์ ๑. เพอ่ื สนับสนุนใหโ้ รงเรยี นในโครงการพฒั นาคุณภาพตอ่ เน่อื งสามารถกาหนดเป้าหมายของโรงเรียน ที่ทา้ ทายการดาเนินงานสู่ความสาเร็จได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพและเกดิ ประสิทธผิ ล ๒. เพอ่ื สนับสนนุ การดาเนินงานตามโครงการพฒั นาครแู ละโรงเรยี นเพ่ือยกระดบั คณุ ภาพการศึกษา อยา่ งต่อเนอื่ ง ให้บรรลผุ ลสาเรจ็ ตามวตั ถุประสงคท์ วี่ างไว้ ข้นั ตอนและวธิ กี ารดาเนนิ งาน ขัน้ ก่อนดาเนนิ งาน ๑. ศกึ ษาขอ้ มลู ของโรงเรยี น แนวคดิ และสาระสาคญั เกีย่ วกบั การกาหนดเปา้ หมายโรงเรียน และ เอกสารวรรณกรรมท่ีเก่ยี วขอ้ ง ๒. วางแผนและเตรยี มการสนับสนนุ ไดแ้ ก่ ข้อมูลทางการศกึ ษาท่เี ก่ยี วข้อง องค์ความรู้เกีย่ วกบั การ กาหนดเปา้ หมายของโรงเรียน การกาหนดตัวบคุ คลและวทิ ยากรหรือผู้เช่ียวชาญเฉพาะท่ีจะให้ความรู้และร่วม การกาหนดเป้าหมาย ในการน้ี โค้ชอาจเป็นผู้ดาเนินการเอง หรือผู้เชี่ยวชาญภายนอกท่ีฝ่ายบริหารจัดการ โครงการกาหนดไว้ แล้วแตก่ รณี ให้โรงเรียนกาหนดครูแกนนาและบุคลากรผู้รับผิดชอบของโรงเรียน และผู้มี สว่ นได้สว่ นเสียนอกโรงเรยี น เช่น พอ่ แม่ ผ้ปู กครอง ศิษย์เก่าและชุมชน ท่ีต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการกาหนด เป้าหมายโรงเรียน เป็นต้น ๓. ประสานการดาเนินงานกับหน่วยงานและบุคคลท่ีเกี่ยวข้อง เช่น ผู้บริหารโรงเรียนและครู ผู้รบั ผิดชอบ ครแู กนนา วิทยากรหรอื ผ้เู ช่ยี วชาญเฉพาะ ข้นั ดาเนินงาน ข้ันตอนนี้ ตอ้ งเข้าใจและรับร้รู ว่ มกนั วา่ เป็นขน้ั ตอนทีโ่ รงเรยี นเปน็ ผรู้ ับผิดชอบหลกั ในการกาหนด เปา้ หมาย ภายใตก้ ารสนับสนนุ ของโคช้ โดยการ 23แนวทางการเป็นโคช้ ทม่ี คี ณุ ภาพ ในโครงการพัฒนาครูและโรงเรยี นเพ่ือยกระดับคณุ ภาพการศกึ ษาอยา่ งต่อเนอ่ื ง
๒๔ ๔. แจ้งใหโ้ รงเรยี นช้ีแจงว่า จะดาเนินการกาหนดเป้าหมายอย่างไร จากน้นั จึงแนะนา ทาความเข้าใจ ใหค้ าปรกึ ษาและให้ความร้เู ก่ียวกับการกาหนดเป้าหมายโรงเรยี น ทงั้ นี้ อาจเปน็ ในรูปแบบทางการหรือไม่เป็น ทางการ แล้วแต่กรณี โดยพิจารณาจากพื้นฐานความรู้ความเข้าใจของผู้บริหารและครูผู้รับผิดชอบเป็นสาคัญ หากมพี ้ืนฐานไมเ่ พียงพอ จาเปน็ ท่ีตอ้ งทาความเข้าใจพร้อมเพรยี งกนั กอ็ าจจดั ในรปู แบบเป็นทางการ แต่หากมี พ้นื ฐานทส่ี ามารถจะดาเนินการได้ กอ็ าจเป็นการชี้แจง แนะนา ทาความเขา้ ใจเปน็ การภายใน ด้วยวิธีการต่างๆ ทีท่ มี โค้ชเลอื กใช้ ๕. ส่งเสริมและติดตามการจัดต้ังทีมงานของโรงเรียนเพ่ือรับผิดชอบการกาหนดเป้าหมาย ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม เข้าใจงาน มีความรู้ มีความสามารถในการประสานงาน มีภาวะผู้นา รับผิดชอบ มคี วามกระตือรอื รน้ และมีวสิ ยั ทศั นม์ ุง่ ความสาเร็จ ๖. กาหนดขัน้ ตอนการมีสว่ นรว่ มของทุกฝา่ ยตามทีไ่ ดก้ าหนดและเตรยี มการไวร้ ่วมกบั โรงเรยี น ในการนี้ ทมี โคช้ สังเกตและสนับสนุนกระบวนการกาหนดเป้าหมาย และเม่ือมีขั้นตอนใดท่ีติดขัด ทีมโค้ชต้อง เข้าชว่ ยเหลอื โดยแนะนาให้โรงเรียนใชเ้ ทคนคิ และวธิ ีการต่างๆ ดงั น้ี - การระดมสมอง โดยผู้ร่วมกาหนดเป้าหมาย ร่วมกันวิเคราะห์และเสนอความต้องการให้ โรงเรยี นประสบผลสาเร็จในเรอ่ื งใด มวี ธิ ีการใดบา้ งทจี่ ะนาไปส่คู วามสาเรจ็ ใครบา้ งที่ต้องรับผดิ ชอบและช่วยให้ ประสบผลสาเร็จตามเป้าหมาย และภายในระยะเวลาเทา่ ใด โดยการเรยี งลาดบั ความสาคญั - การกระตนุ้ และเสริมแรง เพื่อให้เกิดความท้าทาย และการมีส่วนร่วมในการเสนอความเห็น เน่ืองจากผู้เข้าร่วมกาหนดเป้าหมาย เป็นตัวแทนของทุกฝ่าย เพื่อให้เกิดเอกภาพของเป้าหมายและมีความ ครอบคลมุ - การลงมือเขียน ประเด็นสาคัญ และการจัดเรียงลาดับความสาคัญของเป้าหมายท่ีร่วมกัน กาหนด ท่ีสามารถเห็นไดช้ ัดเจนรว่ มกัน ดว้ ยภาษาเชิงบวก - การตัดสินใจเลือกเป้าหมายท่ีดีท่ีสุด ที่มีความเฉพาะเจาะจงของเรื่องท่ีต้องการให้เกิด สามารถปฏิบัติไดจ้ รงิ และมองเหน็ ถงึ ความสาเรจ็ วดั ได้ สอดคลอ้ งกับนโยบายและแผนท่ีเก่ียวข้อง เป้าหมาย ทางการศึกษา และภารกิจหลักของโรงเรียน ภายในระยะเวลาท่ีเหมาะสม ท่ีเกิดจากการยอมรับร่วมกันของ ทุกฝ่ายท่ตี อ้ งดาเนินการให้สาเร็จตามเปา้ หมายนน้ั - ประกาศเป้าหมายให้เป็นที่รับรู้ร่วมกัน ท้ังภายในโรงเรียนและนอกโรงเรียนหรือชุมชน เพ่อื ใหเ้ กดิ พนั ธกิจรว่ มกนั ทตี่ ้องนาพาโรงเรียนไปสูเ่ ป้าหมายนน้ั โดยมใิ ชเ่ ป็นภาระของผู้ใดผูห้ นง่ึ ข้นั หลงั ดาเนินงาน เม่ือมีการประกาศเป้าหมายชัดเจนแลว้ ทีมโค้ชดาเนนิ การต่อดงั น้ี ๕. กระตุ้นและเสนอแนะให้โรงเรยี น จัดทาแผนปฏบิ ัติการ (action plan) เพ่อื การบรรลุเปา้ หมาย ที่ประกอบไปด้วย การเรียงลาดับความสาคัญ (priority) และกิจกรรมการดาเนินงานท่ีคัดสรร (selected activities) สอดคล้องกับเป้าหมาย การกาหนดงบประมาณ ผู้รับผิดชอบ เวลา และเง่ือนไขความสาเร็จ และ 24 แนวทางการเป็นโค้ชท่ีมคี ุณภาพ ในโครงการพัฒนาครแู ละโรงเรยี นเพอื่ ยกระดบั คุณภาพการศกึ ษาอยา่ งตอ่ เนือ่ ง
๒๕ อื่นๆท่ีเก่ียวข้อง เพื่อให้เห็นเส้นทางการทางานตลอดแนวท่ีจะนาไปสู่เป้าหมาย ขั้นตอนนี้ ควรทาตารางการ ปฏบิ ัตงิ านไวใ้ หช้ ดั เจน ๖. ให้โรงเรยี นกาหนดตัวช้ีวัดความสาเร็จตามเป้าหมาย แต่ละเปา้ หมายที่กาหนด เพือ่ วดั ความสาเร็จ หรอื หากไมส่ าเรจ็ ก็จะเป็นเคร่ืองมือเพ่ือการวิเคราะหว์ า่ ท่ีไม่สาเรจ็ นน้ั ด้วยเหตใุ ด ควรตอ้ งมีการแก้ไข และเพ่ิม ความพยายามด้านใด อย่างไร ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องน้ันๆ เพ่ือพัฒนาไปสู่ความสาเร็จตามเป้าหมาย เหล่านี้ เป็นตน้ ๗. ติดตาม และประเมนิ ผลการดาเนนิ งานตามเป้าหมายอย่างตอ่ เน่ือง ทัง้ ในส่วนของทีมโคช้ และ ผบู้ ริหารโรงเรียน โดยใชต้ ัวชว้ี ดั ความสาเรจ็ เป็นกรอบในการติดตาม ประเมินผล ในการนี้ ในสว่ นของโรงเรียน ทมี โค้ชรว่ มกบั โรงเรียนควรไดม้ กี ารจดั ทาเคร่ืองมอื เพ่อื การตดิ ตาม ประเมินผลตามเป้าหมาย หรือใช้เครื่องมือ ท่ีโรงเรียนมอี ย่แู ลว้ ประยกุ ตใ์ ช้แลว้ แต่กรณี ซ่ึงเป็นไปตามบริบทและเป้าหมายที่กาหนดขึน้ ของโรงเรยี น ๘. ปรบั ปรงุ และพัฒนาเป้าหมาย เมื่อพบวา่ เป้าหมายน้ันจาเป็นตอ้ งไดร้ ับการปรับปรงุ พฒั นาให้ เหมาะสมกบั สถานการณ์และความจาเป็นท่ีไม่อาจหลีกเล่ียงได้ หรือกล่าวได้ว่า เป้าหมายมีความยืดหยุ่นและ สามารถปรับปรุงพัฒนาได้ โดยไมแ่ ข็งตวั กลยุทธ์ ในการสนบั สนุนการกาหนดเป้าหมายของโรงเรียน ไม่ใช่เรื่องง่ายท่ีจะทาให้กลุ่มบุคคลที่หลากหลาย ทงั้ ภายในและนอกโรงเรยี น ทมี่ ีพื้นฐานต่างกันทั้งด้านวัยวุฒิ คุณวุฒิ ความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ จะมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน ดังนั้น ทีมโค้ชควรต้องมีและสนับสนุนโรงเรียนใช้กลยุทธ์การดาเนินงาน ดังนี้ ๑. สร้างจุดร่วม เป็นการกระต้นุ และปลกุ เรา้ ให้ผรู้ ่วมกาหนดเป้าหมายทกุ คน มีความเหน็ ร่วมกันได้ โดยการอภิปรายแสดงความเห็น หรือเสนอความเห็นอย่างหลากหลาย แล้วช้ีให้เห็นจุดแข็ง จุดอ่อนของ ข้อเสนอ จากน้ันจึงให้ร่วมกันสรุปประเด็นต่างๆ ท่ีนาไปสู่เป้าหมายที่ทุกฝ่ายยอมรับร่วมกันอย่างมีเอกภาพ ดังน้ัน คาว่า “ข้อเสนอน้ียอมรับได้หรือไม่” “เป็นเพราะอะไร” “ทาอย่างไร” “ดีอย่างไร” “ไม่ดีอย่างไร” “เห็นด้วยหรือไม่” “หากไม่เห็นด้วย มีวิธีอื่นหรือไม่” แล้วนาไปสู่ข้อสรุป เช่น “สรุปแล้วจะเลือกเป้าหมาย ใด” “ตกลงเลือกเปา้ หมายนี้” เหลา่ นเี้ ป็นตน้ ๒. สงวนความต่าง ในการกาหนดเป้าหมายของโรงเรยี นร่วมกนั เปา้ หมายหลักก็คอื ตอ้ งสร้าง ความเห็นร่วมกันดังกล่าวข้างต้นให้ได้ แต่อาจมีความเห็นบางประการ ท่ีผู้ร่วมกาหนดเป้าหมายยังเห็นว่ามี ความสาคญั ท่ีควรจะกาหนดไว้ แต่สว่ นใหญย่ งั ไมเ่ ห็นความสาคัญ ซงึ่ ถือวา่ เป็นความเห็นต่างท่ีเป็นประโยชน์ใน ภาพรวม ในฐานะโค้ชท่ีมีคุณวุฒิ ความรู้และประสบการณ์ในเร่ืองดังกล่าว ทีมโค้ชจะต้องแสดงความเห็นว่า เร่ืองดงั กล่าวสาคัญและเป็นประโยชน์ และต้องช่วย “ฟันธง” การฟันธง มิได้เป็นความเห็นเผด็จการ แต่เป็น การเลอื กที่จะ “รับความเห็น” นน้ั ผ่านกระบวนการสังเคราะห์ทางความคดิ ของโคช้ มาแล้วเปน็ อยา่ งดี 25แนวทางการเปน็ โค้ชทม่ี คี ณุ ภาพ ในโครงการพฒั นาครแู ละโรงเรียนเพอื่ ยกระดบั คุณภาพการศกึ ษาอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง
๒๖ ๓. ช่ืนชมผลงาน เป็นกลยุทธ์เสรมิ แรงให้ผูร้ ว่ มกาหนดเปา้ หมายทเ่ี สนอความเห็นได้ภาคภมู ิใจใน ขอ้ เสนอของตน โดยไม่เกรงกลัว ขาดความมั่นใจ หรือละอายว่าความเห็นนั้นบุคคลอ่ืนอาจคิดว่า “ไม่เข้าท่า” “ไมไ่ ดเ้ ร่ือง” “จะทาได้หรอื ไม่” แต่เป็นความเห็นท่ีเกิดจากประสบการณ์จริงท่ีอาจไม่สามารถเรียบเรียงวาจา ทางวิชาการได้ เป็นต้น ดังน้ัน คากล่าวว่า “เยี่ยมมาก” “ข้อเสนอน้ีดี” “คนอ่ืนๆคิดอย่างไร” “จะเพ่ิมเติม ความเห็นสว่ นนอ้ี ยา่ งไรใหส้ มบูรณข์ น้ึ ” เหล่านีเ้ ป็นต้น ๔. สานสูค่ วามสาเร็จ เป็นกระบวนการทางานให้บรรลเุ ป้าหมาย ดังนั้น ทมี โค้ชต้องแสดงบทบาท การส่งเสริมและสนับสนุนให้โรงเรียนจัดทาแผนปฏิบัติการ (action plan) อย่างเป็นรูปธรรม และดาเนิน กิจกรรมตามแผนดังกล่าว ให้บรรลุผลสาเร็จ ท้ังการนิเทศ ติดตาม ถามไถ่ แนะนา ให้คาปรึกษา และการ ประเมินผลเป็นระยะ ท้ังที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ ท้ังน้ี โค้ชต้องแสดงให้โรงเรียนและผู้มีส่วนได้ ส่วนเสีย ทราบว่ากิจกรรมที่ดาเนินการให้บรรลุเป้าหมายน้ัน มิใช่ภาระของผู้ใดผู้หนึ่งเพียงฝ่ายเดียว แต่ต้อง เปน็ ภาระของทกุ ภาคส่วนทตี่ ้องรว่ มมอื กนั รวมท้ัง ความเชื่อมโยงของเป้าหมายกับมาตรการสนับสนุนอ่ืน ดัง ไดแ้ ก่ กระบวนการชมุ ชนเรียนรู้วิชาชีพ การจัดระบบสารสนเทศท่ีมีคุณภาพ การพัฒนาการเรียนการสอนใน ระดบั ชน้ั เรยี น และการสรา้ งเครือขา่ ยการทางานรว่ มกนั ปญั หาและข้อจากัดทีอ่ าจเกิดขึน้ และแนวทางแกไ้ ข อย่างไรก็ตาม แมว้ า่ การกาหนดเป้าหมาย จะมีการเตรียมการอย่างดีในทุกขั้นตอน แต่กอ็ าจมีปญั หา และข้อจากดั ทเี่ กดิ ขน้ึ ทสี่ มควรหาแนวทางแก้ไข หรอื ป้องกนั กล่าวคอื ๑. ความหลากหลายของผรู้ ว่ มกาหนดเป้าหมาย เน่ืองจากผู้รว่ มกาหนดเป้าหมายคือ ผูม้ สี ่วนได้ สว่ นเสยี ของโรงเรยี น ทมี่ ีสว่ นรบั ผดิ ชอบนักเรยี นทีเ่ ปน็ บุตรหลานและรับผดิ ชอบดูแลตามภารกิจของตน ท่ีอาจ มีความเหน็ ท่ีแตกตา่ ง หรือคล้อยตามโดยขาดดุลพนิ จิ ดงั นน้ั กลยุทธ์การสรา้ งจดุ ร่วมจึงเป็นสิ่งจาเป็นท่ีโค้ชต้อง นามาใช้ ๒. ภาระงานและการไม่ให้ความสาคัญ เน่ืองจากกิจกรรมการกาหนดเป้าหมายในโครงการพัฒนา ครแู ละโรงเรยี นเพื่อยกระดับคุณภาพการศกึ ษาอยา่ งตอ่ เน่อื ง เป็นกิจกรรมที่กาหนดข้ึนใหม่ แม้ว่าเป็นขั้นตอน หน่ึงของโรงเรียนที่มีการดาเนินงานอยู่แล้วในแผน แต่ความเข้มข้นต่างกัน บุคลากรภายในโรงเรียนบางส่วน อาจเห็นเป็นภาระ และบุคลากรภายนอกโรงเรยี นบางกลุม่ อาจขาดความสนใจเข้าร่วม จึงต้องมีการโน้มน้าวให้ เห็นความสาคญั ชีใ้ ห้เหน็ ประโยชน์ แนะนาให้คัดสรรผู้นาหรือแกนนาแต่ละกลุ่มให้เข้ามามีส่วนร่วมอย่างเต็ม ใจมิใช่ ในลกั ษณะ “ขอไปทีให้เสรจ็ ๆ” หรือ “ด้วยความเกรงใจ” ๓. องคค์ วามรู้ในการดาเนินงานไม่เพียงพอ องค์ความร้ใู นการกาหนดเปา้ หมายและกระบวนการ กาหนดเป้าหมายเป็นเรื่องสาคัญ ท่ีโค้ชต้องแสวงหา ทาความเข้าใจและสามารถถ่ายทอดสู่ผู้บริหารและครู และผู้เข้าร่วมกาหนดเป้าหมายเข้าใจ อยา่ งไรกต็ าม ระดับความเข้าใจของผู้ร่วมกาหนดเป้าหมายย่อมแตกต่าง กันตามความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ ดังนนั้ โค้ชควรไดศ้ กึ ษากลุ่มบุคคลต่างๆดังกล่าว แนะนา และ 26 แนวทางการเป็นโคช้ ทมี่ ีคณุ ภาพ ในโครงการพฒั นาครแู ละโรงเรียนเพอื่ ยกระดบั คุณภาพการศกึ ษาอยา่ งตอ่ เน่อื ง
๒๗ ถา่ ยทอดหรอื ประสานผรู้ ้ถู า่ ยทอดใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจรว่ มกนั จนกระท่ังสามารถร่วมกาหนดเป้าหมายได้อย่างมี ประสทิ ธิภาพ ๔. ขาดความมุ่งมนั่ บอ่ ยครั้งทเ่ี ป้าหมายถกู กาหนดไว้แลว้ แต่ขาดการนาไปสกู่ ารปฏบิ ัติอย่างเป็น รูปธรรม หรือปฏิบัติไม่ครบถ้วน หรือเมื่อมีอุปสรรค ด้วยขาดความมุ่งมั่นของผู้บริหารและครูผู้รับผิดชอบ ดงั นั้น ทีมโค้ชจึงควรตอ้ งใชก้ ลยุทธส์ านสูค่ วามสาเรจ็ ให้เข้มขน้ สร้างแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ให้เกิดข้ึน กระตุ้นและ ปลุกเรา้ ใหเ้ กดิ ความฮกึ เหิมในการทางานทีม่ งุ่ ผลสมั ฤทธ์ิ เงอื่ นไขความสาเรจ็ ๑. ผ้บู ริหารและครทู ั้งโรงเรยี น ตวั แทนพ่อแม่ ผปู้ กครอง ชมุ ชน และผู้มีส่วนได้สว่ นเสียรว่ มกัน กาหนดครบถว้ น และมกี ารประกาศเป้าหมายให้รับร้โู ดยทัว่ กัน ๒. มกี ารจดั ทาแผนและกจิ กรรม การมอบหมายความรบั ผิดชอบเพอ่ื ให้เกิดการนาไปส่กู ารปฏิบตั ิ และปฏิบตั ิตามแผนและกจิ กรรมครบถว้ น สู่เปา้ หมายชัดเจน ๓. มีการตดิ ตาม สนับสนนุ จากทมี โค้ชอย่างตอ่ เนื่องทง้ั ท่เี ปน็ ทางการและไม่เปน็ ทางการ และการตดิ ตาม อานวยความสะดวกของผบู้ รหิ ารแกค่ รใู หป้ ฏิบัติตามแผนและกจิ กรรมเพื่อนาไปสู่เป้าหมายอย่างต่อเนื่อง และ เม่ือมีปัญหา ก็ร่วมกันแก้ไขระหว่างทีมโค้ช ผู้บริหารและครู โดยไม่ปล่อยให้ปัญหาเลยไปจนกระท่ังบรรลุ เปา้ หมาย 27แนวทางการเป็นโค้ชท่ีมีคณุ ภาพ ในโครงการพัฒนาครแู ละโรงเรยี นเพอ่ื ยกระดับคุณภาพการศกึ ษาอยา่ งตอ่ เนอื่ ง
๔๔ กกาารรพพัฒฒั นนาคาครูแรลูแะลผะู้บผรบู้ ิหราหิ ราดร้วดย้วกยรกะรบะวบนวกนากราชรุมชชมุ นชกนากรเารรียเนรยีรนวู้ ชิรู้วาชิ พีาชพี (P(LPCL)C) การพัฒนาครูและผู้บริหารด้วยกระบวนการชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพ (Professional Learning Community: PLC) เป็นมาตรการหน่ึงที่นามาใช้ในการดาเนินโครงการพัฒนาครูและโรงเรียนเพื่อยกระดับ คุณภาพการศึกษาอย่างต่อเน่ือง ท่ีทีมโค้ชต้องดาเนินการสนับสนุนให้ครูและผู้บริหารเกิดการพัฒนาด้วย กระบวนการชุมชนการเรียนรู้วชิ าชพี เพอื่ การปรับปรงุ และพฒั นาการเรียนการสอนของครูและพฤติกรรมการ เรยี นรขู้ องนักเรียนแบบการเรยี นรู้เชิงรุก (active learning) ใหม้ คี ณุ ภาพ แนวคิด ชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพ เป็นการรวมตัว ร่วมมือร่วมใจ และเรียนรู้ร่วมกันของครู ผู้บริหาร นักการศึกษา และผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อการพัฒนาและการเรียนรู้ทางวิชาชีพของตนเองและกลุ่มอย่างต่อเนื่อง สม่าเสมอ ในศาสตร์ สาขาวิชาและนวัตกรรมการเรียนรู้ที่มีวิสัยทัศน์ เป้าหมาย คุณค่า และพันธกิจร่วมกัน เพอื่ การปรับปรุงและพฒั นาทกั ษะการสอนของครแู ละพฤติกรรมการเรยี นรขู้ องนักเรียน ในโครงการพัฒนาครู และโรงเรยี นเพอื่ ยกระดบั คณุ ภาพการศึกษาอย่างตอ่ เนอ่ื ง บนพนื้ ฐานความสัมพันธ์แบบกัลยาณมิตร วิสัยทัศน์ คุณค่า และภารกิจร่วมกันให้บรรลุผลสาเร็จตามเป้าหมายท่ีวางไว้ ท้ังภายในโรงเรียนเดียวกัน และระหว่าง โรงเรียนกับโรงเรียน ท้ังที่เป็น ๑) การรวมตัวกันของครูกับครู ประมาณ ๔ – ๘ คน ในสาระวิชาเดียวกัน ระดับชั้นเดียวกัน หรือการรวมตัวของครูระหว่างโรงเรียนที่เป็นเครือข่ายเดียวกัน โดยมีผู้บริหารสนับสนุน ช่วยเหลือ อานวยความสะดวก ประสานงานและติดตามประเมินผลให้เกิดความราบรื่น และหรือ ๒) การ รวมตัวกันของผู้บริหารกบั ผบู้ ริหารระหวา่ งโรงเรยี นในเครือข่ายเดยี วกัน เพ่ือการพัฒนาการบริหารนาไปสู่การ จัดการเรยี นการสอนทม่ี ีคุณภาพของครู ภายใตก้ ารสนับสนุนของโคช้ ใหเ้ ป็นไปอยา่ งมปี ระสิทธิภาพและบังเกิด ประสทิ ธผิ ล หลกั การ การพัฒนาครูและผบู้ ริหารด้วยกระบวนการชุมชนการเรียนร้วู ิชาชีพ ดาเนินการภายใต้หลกั การที่โค้ช สนับสนนุ สง่ เสริมใหเ้ กิดขึน้ ดงั ต่อไปนี้ ๑. หลกั การรวมพลัง รว่ มมือร่วมใจ (collaborative working) เปน็ การสนับสนนุ ส่งเสริมครแู ละ ผบู้ ริหารใหเ้ กิดการรวมพลงั รว่ มมอื รว่ มใจกันปฏิบัตแิ ละเรยี นร้อู ยา่ งมีเอกภาพ เพอ่ื การพัฒนานกั เรยี นท่ีมี คณุ ภาพ ๒. หลักการพฒั นาโดยใช้พื้นทโี่ รงเรียนเปน็ ฐาน (school-based management) กระบวนการ เรียนรู้ชุมชนวิชาชีพจะเกิดขึ้นได้ภายในสถานที่ทางานหรือโรงเรียน หรือพ้ืนท่ีท่ีกลุ่มวิชาชีพหรือครูและ ผู้บริหารปฏิบัติงานจริง เพ่ือให้เกิดการเรียนรู้ แก้ปัญหาและพัฒนาร่วมกันจากต้นแบบหรือตัวอย่างจริง 28 แนวทางการเปน็ โคช้ ทมี่ คี ณุ ภาพ ในโครงการพฒั นาครูและโรงเรียนเพ่อื ยกระดบั คุณภาพการศึกษาอยา่ งตอ่ เน่อื ง
๒๙ สถานการณ์จริง ที่ก่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ เกิดทักษะและเจตคติที่ดี ต่อการบริหารจัดการและ อานวยความสะดวกของผู้บริหาร และการพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนของครูที่มาร่วมมอื ร่วมใจกัน ๓. หลักการพัฒนาการเรียนรอู้ ยา่ งต่อเนื่อง (learning continuous development) การพฒั นา การเรียนรู้อย่างต่อเนื่องในกระบวนการชุมชนการเรียนรู้ เป็นการเรียนรู้ร่วมกัน ท่ีคานึงถึงองค์ความรู้ท่ี เกี่ยวขอ้ ง นวัตกรรมการเรยี นรู้ การแลกเปลีย่ นเรยี นรปู้ ระสบการณ์ท่ีผ่านการปฏิบัติจริงและเน้นกระบวนการ เรียนรู้ร่วมกัน ทั้งในรูปของการปฏิบัติการเรียนการสอนของกลุ่มครู การเรียนรู้วิธีการดาเนินงานร่วมกันใน เร่ืองใดเรื่องหนึ่งของผู้บริหารและครู หรือการเรียนรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของครู หรือผู้บริหาร ระหว่างโรงเรยี นภายในเครอื ข่าย ๔. หลกั การสร้างการเปล่ียนแปลงส่วู ฒั นธรรมใหม่ (building a new cultural changing) กระบวนการชมุ ชนการเรยี นรู้วชิ าชีพเปน็ กระบวนการทนี่ าไปสวู่ ัฒนธรรมใหม่ทเ่ี ปลีย่ นจากแนวด่ิงเป็นแนวราบ เปลี่ยนจากวัฒนธรรมอานาจเป็นวัฒนธรรมยอมตาม เปลี่ยนจากการส่ังการเป็นการรับฟังความเห็น เปลี่ยนจากการเป็นผู้รับเป็นผู้ให้ เปลี่ยนจากการแข่งขัน ชิงดีชิงเด่น ตัวใครตัวมัน เป็นการเรียนรู้ร่วมกัน รวมพลัง ร่วมมือกัน ช่วยเหลือเก้ือกูลกันอย่างกัลยาณมิตร โดยไม่ปิดบัง บนพื้นฐานของสัมพันธภาพที่ดี การแลกเปล่ียนความคิดเห็นด้วยกระบวนการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ จนกลายเป็นวัฒนธรรมที่นาไปสู่ การปรบั ปรงุ พฒั นาท้ังโรงเรยี นและคณุ ภาพผูเ้ รียนในท่ีสดุ วัตถปุ ระสงค์ ๑. เพื่อสนับสนุนใหผ้ ู้บริหารและครสู รา้ งกระบวนการเรียนรชู้ มุ ชนวชิ าชีพ เปน็ เครือ่ งมอื ในการ พัฒนาคณุ ภาพอย่างต่อเนอื่ ง จนเกิดเป็นวฒั นธรรม ๒. เพือ่ สนบั สนุนใหผ้ บู้ รหิ ารและครสู ร้างการเปลย่ี นแปลงโดยเรียนรูจ้ ากการปฏบิ ตั ิจริงของครู พัฒนาวิชาชีพ และทบทวนการปฏบิ ตั ิงานทีม่ ผี ลตอ่ การเรียนรขู้ องนกั เรยี น ๓. เพอ่ื สนับสนนุ ให้เกิดการทางานรว่ มกนั ของผู้บรหิ าร และครู แบบกัลยาณมิตร รว่ มมือรวมพลงั ของทุกฝ่ายในการพัฒนานักเรียน แลกเปล่ียนเรียนรู้ท่ีเน้นกระบวนการเรียนรู้ร่วมกัน และร่วมมือกันพัฒนา วธิ ีการทางานของผ้บู ริหารและครู ท้ังภายในโรงเรยี น และหรือภายในเครือขา่ ย ขนั้ ตอนและวธิ กี ารดาเนนิ งาน ขนั้ ก่อนดาเนนิ งาน ๑. ศึกษา ทาความเขา้ ใจในแนวคดิ หลักการ และองคค์ วามร้เู กีย่ วกบั การสร้างชมุ ชนการเรยี นรู้ วชิ าชพี ค่มู อื ครแู กนนาในโครงการฯ คมู่ อื ประกอบการอบรม การขับเคล่ือนกระบวนการ PLC (Professional Learning Community) “ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ” สู่สถานศึกษา ทั้งที่ฝ่ายบริหารจัดการโครงการ 29แนวทางการเปน็ โคช้ ท่ีมีคุณภาพ ในโครงการพฒั นาครูและโรงเรียนเพอ่ื ยกระดับคณุ ภาพการศกึ ษาอยา่ งตอ่ เนอื่ ง
๓๐ สานักงานกองทุนเพ่ือความเสมอภาคทางการศึกษาจัดให้ และการแสวงหาความรู้ของทีม โค้ชด้วยตนเอง เปา้ หมายของโรงเรยี น ตลอดจนแผนและกจิ กรรมท่ีโรงเรียนกาหนดขึ้นในโครงการฯ ๒. ศกึ ษาตน้ ทนุ เดมิ ในการเรยี นรูข้ องโรงเรียน อาทิ กระบวนการชุมชนการเรียนรู้วชิ าชพี ทีม่ อี ยเู่ ดมิ กระบวนการ LS กระบวนการสรา้ ง mindset ฯลฯ จากน้นั ศกึ ษาความต้องการการพัฒนาครูและผู้บริหารใน การสรา้ งชมุ ชนการเรียนร้วู ิชาชีพ เก่ียวกับพื้นฐานความรู้ พ้ืนฐานของโรงเรียน และเครือข่ายของโรงเรียนใน โครงการพัฒนาครูและโรงเรียนเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ท่ีมีภารกิจร่วมกัน เช่น บริบท สังคมและวัฒนธรรม คณุ วุฒิครู จานวนครู จานวนนักเรียน ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กิจกรรมการพัฒนาของ โรงเรียน เป็นต้น ทั้งนี้ อาจใชว้ ิธที ี่เป็นทางการหรือไม่เป็นทางการ ท้ังโดยแบบสารวจความคิดเห็น การศึกษา เอกสาร การปรกึ ษาหารอื ร่วมกนั หรือการระดมความเห็น แลว้ แต่กรณี ๓. บางกิจกรรมอาจเป็นการดาเนนิ งานร่วมกันระหวา่ งโรงเรียนในเครอื ข่าย ทีค่ วรเตรียมการเพ่ือการ ดาเนินงานไปพร้อมกัน เช่น การประชุมช้ีแจง ทาความเข้าใจ เพื่อการรับรู้ร่วมกันท้ังภายในโรงเรียนและ เครอื ข่าย ที่เชอื่ มโยงกับระบบสารสนเทศที่มีคุณภาพ การพัฒนาการเรียนการสอนในระดับช้ันเรียน และการ สรา้ งเครือขา่ ยการทางานร่วมกัน ๔. วางแผนการพฒั นาฯ รว่ มกนั ระหว่างทีมโคช้ และผู้บรหิ ารและครแู กนนา ที่โรงเรียนคัดสรรครทู ่ีมี วิสัยทัศน์ ความรู้ความสามารถ ทักษะการเรียนการสอน การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ การถ่ายทอดและการ ประสานงาน ท่ีสามารถนาการพฒั นาเพอื่ นครใู หเ้ รยี นรู้ไปดว้ ยกนั ได้ ข้ันดาเนินงาน ดาเนินการพัฒนาครูและผู้บริหาร ด้วยกระบวนการเรียนรู้ร่วมกัน เพื่อการสร้างชุมชนการเรียนรู้ วชิ าชีพ ตามสามารถและกระบวนการท่กี าหนด ในการนี้ สาหรับขั้นตอนน้ีในการพัฒนาครู อาจใช้วิธีการตามคู่มือครูแกนนาของกองทุนเพื่อความ เสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) และสานักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) (๒๕๖๒, น. ๕๓) ที่จัดทาขึ้น โดยใชก้ ระบวนการชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพ (PLC) เพื่อการพัฒนาการเรียนรู้ของครูและผู้บริหารแล้วแต่กรณี เพ่ือการช่วยเหลือกนั และกันอันจะนาไปสูก่ ารพัฒนาการเรียนการสอนในท่ีสุด ดงั นี้ ข้ันตอนท่ี ๑ ระบุปัญหา ระบุปัญหาเก่ียวกับการจัดการเรียนการสอน การทางานของครูท่ี เกิดข้นึ ในโรงเรียน ข้ันตอนท่ี ๒ วิเคราะห์สาเหตุของปัญหา วิเคราะห์สาเหตุของปัญหาท่ีเกิดข้ึนว่าเกิดขึ้นจาก สาเหตุใด มีปัจจัยใดเข้ามาเกีย่ วข้อง มแี นวโน้มปญั หาต่อไปอย่างไร และมีผลกระทบใดท่ีอาจจะเกิดข้ึนต่อการ เรียนการสอน 30 แนวทางการเป็นโค้ชทม่ี คี ุณภาพ ในโครงการพัฒนาครแู ละโรงเรียนเพื่อยกระดับคณุ ภาพการศึกษาอยา่ งตอ่ เน่อื ง
๓๑ ขั้นตอนท่ี ๓ ระดมความคิด เพ่ือนาเสนอวิธีแก้ปัญหา ระดมความคิดเพื่อหาวิธีแก้ปัญหาจาก ประสบการณ์และผลการวิจัยที่สามารถอ้างอิงได้ แล้วนาเสนอผลการระดมความคิด เมื่อนาเสนอเสร็จสิ้น ดาเนนิ การอภปิ รายสรุป และเลือกวธิ กี ารแก้ปัญหาท่เี หมาะสม ขั้นตอนท่ี ๔ ทดลองใช้วิธีแกป้ ัญหา นาวธิ แี ก้ปัญหาท่ีได้จากการระดมความคิดไปทดลองใช้ใน การเรียนการสอนในช้ันเรียน และหรือการทางาน โดยร่วมกันสังเกต การสอนและเก็บข้อมูล หรือเก็บข้อมูล จากการทดลองใช้ในการทางาน ขั้นตอนท่ี ๕ สรปุ ผลวิธีการแก้ปัญหา อภิปรายผลท่ีเกิดขึ้นจากการทดลองใช้ นาเสนอผลการ สังเกตการสอนและเสนอแนะวิธีการปรับปรุงแก้ไข แล้วจึงสรุปผลวิธีการแก้ปัญหาท่ีให้ผลดีต่อการเรียนรู้ของ ผเู้ รยี น และหรอื การทางาน แลว้ ทาการแบ่งปนั ประสบการณก์ ับชมุ ชนแห่งการเรยี นร้วู ิชาชพี อ่นื ในการนี้ หากเป็นโรงเรียนในโครงการโรงเรยี นพัฒนาคณุ ภาพอย่างต่อเนื่อง (โครงการเดิม) ทผี่ า่ นมาและโรงเรียนท่ีเข้าร่วมโครงการพัฒนาครูและโรงเรียนเพ่ือยกระดับคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง (โครงการใหม่) หากไดม้ กี ารพัฒนาการวิเคราะห์เก่ียวกับบทเรียน (lesson study) และกระบวนการสร้างวิธี คิดแบบกา้ วหน้า (growth mindset) หรือเทคนิคอื่นๆ ก็สามารถเช่ือมโยงวิธีการเข้าด้วยกัน ในกระบวนการ ชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพคร้ังนี้ ท่ีจะหยิบยกขึ้นมาพัฒนาการเรียนการสอนตามประเด็นปัญหาแต่ละเรื่อง แล้วแตก่ รณี ซ่งึ มไิ ดใ้ ชร้ ูปแบบใดรูปแบบหน่ึงตายตัว สาหรับวิธีการพัฒนาผู้บริหาร โดยการพัฒนาจากการเรียนรู้ร่วมกันในการพัฒนาครูและ ผบู้ ริหาร การใหศ้ กึ ษาจากเอกสาร การแลกเปล่ียนประสบการณ์ หรือการแก้ปัญหาร่วมกันและสรุปบทเรียน ในการนี้ ยึดกระบวนการทั้งระบบของการดาเนินโครงการพัฒนาครูและโรงเรียนเพื่อยกระดับคุณภาพ การศกึ ษาอย่างตอ่ เน่ือง ในบทบาทหนา้ ท่ีของทมี โคช้ ตามที่นาเสนอไวใ้ นหัวขอ้ ๒ การเปน็ โค้ชทม่ี คี ณุ ภาพ สาหรับวิธีการพัฒนาผู้บริหารเพ่ือสร้างชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพ เป็นเครือข่ายผู้บริหารใน ระดับเครือข่าย (ระหว่างโรงเรียนในเครือขา่ ย) ดาเนินการในทานองเดียวกัน ในกิจกรรมที่ทาร่วมกัน ส่วนใหญ่ เป็นรปู แบบไมเ่ ปน็ ทางการ เพ่อื พฒั นาและแลกเปลี่ยนเรยี นร้แู ละประสบการณ์ทางการบริหารในกิจกรรมของ โครงการพัฒนาครูและโรงเรียนเพ่ือยกระดับคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง เช่น การประชุมชี้แจงทาความ เข้าใจ การจัดกิจกรรมร่วมกันของโรงเรียนในเครือข่าย ทั้งนี้เป็นไปตามที่ฝ่ายบริหารจัดการโครงการ หรือ สานักงานกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษากาหนดแล้วแต่กรณี การแลกเปลี่ยนเรียนรู้และ ประสบการณ์ในโอกาสต่างๆของเครือข่ายที่ทากิจกรรมร่วมกัน การวิเคราะห์และแก้ปัญหาร่วมกัน และการ สรุปผล สาหรับวิธีการพัฒนาครูเพื่อการสร้างชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพ ระหว่างโรงเรียน กลุ่มครู ส่วนใหญ่ควรเป็นกลุ่มครูด้านสาระวิชา เช่น ครูภาษาไทย ครูภาษาอังกฤษ ครูวิทยาศาสตร์ และครู 31แนวทางการเป็นโค้ชทมี่ ีคุณภาพ ในโครงการพฒั นาครูและโรงเรยี นเพื่อยกระดบั คุณภาพการศึกษาอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง
๓๒ คณิตศาสตร์ เป็นต้น หรืออาจเป็นกลุ่มครูตามความต้องการเฉพาะภายในโครงการ (ถ้ามี) แล้วแต่กรณี เช่น กลุ่มครูท่ีเป็นคณะทางานด้านการจดั ทาหลกั สูตร หรอื ด้านการจดั ทาส่อื การเรยี นการสอนภายในกลมุ่ ในการนี้ เพ่ือเป็นการเสริมสร้างศักยภาพของชุมชนวิชาชีพ โค้ชอาจสนับสนุนให้ครูและ ผู้บรหิ ารบูรณาการการเรียนรู้ชุมชนวิชาชีพของกลุ่มได้ ด้วยวิธีการหลากหลายให้เกิดเรียนรู้ การคิดวิเคราะห์ และแก้ปัญหาร่วมกัน อย่างเป็นอิสระภายใต้เป้าหมายการพัฒนาการเรียนการสอนของครูเพ่ือการพัฒนา ผ้เู รยี น เพ่ือไมใ่ ห้เกิดความเครียดท่ตี ้องดาเนนิ การภายใตก้ รอบวิธีการทก่ี าหนดมากเกินไป ข้ันหลังดาเนนิ งาน ๕. ให้ขอ้ มลู ยอ้ นกลับ สะท้อนคดิ แนะนา และใหค้ าปรึกษาแก่ผบู้ รหิ ารและครอู ย่างต่อเนอื่ ง ๖. ติดตาม ประเมิน สรปุ ผลและร่วมกันปรบั ปรงุ พัฒนาเม่อื มสี าระสาคัญทจี่ าเปน็ ตอ้ งปรับปรงุ ที่เปน็ ไปตามข้อมลู และสถานการณ์ ประโยชนข์ องชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพ ๑. ประโยชน์ตอ่ ผูเ้ รยี น ผ้เู รียนได้รับการพัฒนาเต็มตามศกั ยภาพจากการเรียนรแู้ ละหาทาง แก้ปัญหาและพัฒนารว่ มกันของครู เกดิ แรงจูงใจในการเรียนรู้ และการรวมกลุ่มเพ่ือแก้ปัญหาและพัฒนาการ เรียนรู้ของตนตามไปด้วย ด้วยกระบวนการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ที่เกิดจากการปฏิบัติจริง นาไปสู่การเป็น นักเรียนท่มี คี ุณภาพ ๒. ประโยชน์ต่อครู ครเู กิดการรวมตัวกันพฒั นาการเรยี นรูข้ องตน การเรียนร้ขู องกลมุ่ เพื่อน ครูทั้งภายในสาขาวิชา ระดับช้ัน ระดับโรงเรียน และระหว่างโรงเรยี นตามลาดับ ก่อให้เกิดการแลกเปล่ียนองค์ ความรู้และประสบการณ์อยา่ งหลากหลาย จนเกดิ การ ต่อยอดเป็นการสร้างนวัตกรรมการเรียนรู้ของครูแต่ ละคนและกลุ่ม ลดอตั ตาความเปน็ ตวั ตน ตวั ใครตวั มนั กลายเปน็ การช่วยเหลือเกื้อกูลกันและกัน เกิดพันธมิตร การจดั การเรยี นการสอนทีถ่ าวรและยั่งยนื ในทส่ี ุด ๓. ประโยชนต์ ่อผ้บู ริหาร ผ้บู รหิ ารเกดิ ทกั ษะทางการบริหารจัดการ และการอานวยความ สะดวกแก่ครูที่ส่งผลถึงนักเรียนอย่างมีเป้าหมายและเป็นองค์รวม ลดข้ันตอนการบริหารและการส่ังการเป็น การเห็นรว่ มแลว้ ลงมือทาของครู เกดิ พนั ธมิตรทางการบริหารและความรว่ มมอื ๔. ประโยชนต์ ่อโรงเรยี น โรงเรียนไดร้ ับการยอมรับจากสาธารณชน ปญั หาทางการศึกษาและ คุณภาพของนกั เรยี นหมดไป ประหยัดทรพั ยากรและเวลาในการจัดการศึกษา ท้ังด้านครู งบประมาณ การจัด และพัฒนาหลักสูตร ส่ือ อันเกิดจากการเรียนรู้ร่วมกันและนาไปพัฒนานักเรียน เกิดนวัตกรรมการบริหาร จัดการและจัดการเรยี นการสอนของโรงเรียน เปน็ ตน้ แบบการขยายผลในโอกาสต่อไป 32 แนวทางการเป็นโค้ชทม่ี ีคณุ ภาพ ในโครงการพัฒนาครแู ละโรงเรียนเพือ่ ยกระดบั คุณภาพการศึกษาอย่างต่อเน่ือง
๓๓ กลยทุ ธ์ ๑. จรงิ จังและจรงิ ใจ ทาให้ครูและผูบ้ ริหารเหน็ และตระหนักถงึ ความจรงิ จังและจรงิ ใจของ ทมี โคช้ ในการพัฒนาครแู ละผูบ้ ริหารดว้ ยกระบวนชมุ ชนการเรยี นรู้วิชาชีพ ไม่ย่อท้อหากเกิดอุปสรรค คานึงถึง เปา้ หมายเปน็ สาคญั และพรอ้ มท่ีจะรว่ มมอื กันดาเนนิ งานให้สาเรจ็ ๒. ใหค้ าชืน่ ชม เมอ่ื พบผบู้ ริหารและครปู ระสบผลสาเร็จ มผี ลงาน หรอื รเิ ริม่ สง่ิ ใหม่ การ ยกย่องชื่นชมอย่างจริงใจเป็นสิ่งสาคัญที่ทีมโค้ชควรนามาใช้ แม้ว่า จะเป็นเร่ืองเล็กน้อยแต่ก็เป็นสิ่งท่ีทาให้ผู้ ได้รับคาชมเกิดความภาคภูมิใจ และเกิดการแรงจูงใจที่จะร่วมดาเนินการให้สาเร็จอย่างต่อเนื่อง คาช่ืนชม ดงั กลา่ วควรแสดงต่อสาธารณะ และหากมสี ิ่งใดท่พี บว่า ผูบ้ รหิ ารหรือครูมีบางส่ิงบางอย่างต้องปรับปรุง ควรใช้ วธิ ีการเสนอแนะทางบวก โดยไม่ควรตาหนิใดๆท้ังส้ิน ที่ถือเป็นกฎเหล็ก อย่างไรก็ตาม “คาช่ืนชม” ต่างจาก “คาเยินยอ” แตม่ คี วามใกล้เคยี งกันในพฤติกรรมการแสดงออก ดังน้ัน ทมี โค้ชควรทาความเข้าใจในคาชื่นชมที่ ควรให้แต่พองามและเหมาะสมกับเรื่องที่สมควรช่ืนชม โดยไม่ทาให้ผู้รับคาชมหรือบุคคลอื่น มองว่าเป็น การ เยินยอ อนั จะทาให้ลดหยอ่ นหรือด้อยคุณค่าและความสาคญั ลง ๓. ระดมความเหน็ ในการสร้างชมุ ชนการเรยี นรู้ เรอ่ื งของการระดมความเหน็ และการแลกเปลย่ี น เรียนรู้ประสบการณ์เป็นเรื่องสาคัญ ที่ก่อให้เกิดการต่อยอด ขยายผลและเกิดความเจริญงอกงามทางปัญญา ของชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพน้ันๆ ทั้งการเกิดองค์ความรู้ แนวทางแก้ปัญหาและการพัฒนาการเรียนรู้ใหม่ๆ โค้ชจึงควรสนับสนุนและนามาใช้จนเกิดเป็นความเคยชินของชุมชนการเรียนร้วู ชิ าชพี ๔. เน้นการพดู คยุ (dialogue) การพูดคยุ หรอื การสนทนาระหวา่ งเพ่ือนครู การร้จู กั ฟงั ผอู้ น่ื อย่าง ต้งั ใจ เหน็ คณุ คา่ ของผพู้ ดู กา้ วข้ามความหวาดระแวง ทงิ้ อตั ตาความเป็นตวั ตน เป็นส่ิงสาคัญที่จะทาให้เกิดการ แลกเปลีย่ นเรียนรู้ การแก้ปัญหา การทาความเข้าใจในเรือ่ งใดเรอ่ื งหนึ่ง ที่มิอาจหาทางออกได้ และเกิดการต่อ ยอดการเรยี นรู้ทางอ้อมท่ีจะสง่ ผลต่อความสาเร็จของตน คู่สนทนาและกล่มุ เป็นเร่อื งที่ทีมโค้ชควรสนับสนุนให้ เกิดข้นึ ใหม้ าก อนั จะเป็นฐานของการพัฒนาชุมชนการเรยี นรวู้ ิชาชีพ และเรอื่ งอ่ืนๆต่อไป ข้อสังเกต ในการสนับสนุนให้เกิดชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพ เน่ืองจากเป็นนโยบายของสานักงานคณะกรรมการ การศึกษาข้ันพื้นฐานที่เป็นต้นสังกัดของโรงเรียนในโครงการพัฒนา ครูและโรงเรียนเพ่ือยกระดับคุณภาพ การศึกษาอย่างต่อเน่ือง ซ่ึงมีแนวทางการสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้วิชาชีพอยู่แล้ว และโรงเรียนผ่าน กระบวนการดังกล่าวมาแล้ว เป็นส่วนใหญ่ รวมทั้งมีหลากหลายแนวคิด แม้ว่าจะมีเป้าหมายท่ีการพัฒนา ผู้บริหารและครเู พ่ือการพัฒนาคุณภาพนักเรียนก็ตาม หากทีมโค้ชขาดความชัดเจนในการศึกษาและทาความ เข้าใจในกระบวนการชมุ ชนการเรยี นรวู้ ิชาชพี การโคช้ หรอื แนะนาในสาระที่แตกต่างไปจากท่ีต้นสังกัดกาหนด 33แนวทางการเป็นโค้ชท่ีมคี ณุ ภาพ ในโครงการพฒั นาครูและโรงเรียนเพ่ือยกระดบั คณุ ภาพการศึกษาอย่างต่อเนอ่ื ง
๓๔ อาจเกิดความสบั สนในการดาเนินงานของผู้บริหารและครไู ด้ ดังนน้ั ทีมโคช้ ควรเสนอแนะแนวทางกว้างๆ ส่วน รายละเอียดและวิธีการเชิงลึก ควรให้เป็นเร่ืองของผู้บริหารและครูจะเป็นผู้ดาเนินการ เพียงแต่โค้ชคอยให้ คาปรึกษา ให้กาลังใจ สร้างแรงจูงใจ ชื่นชมในโอกาสสาเร็จ และช่วยแก้ปัญหาเม่ือเกิดขึ้นที่ผู้บริหารและครู ต้องการความช่วยเหลือ ก็จะทาให้ผู้บริหารและครูผ่อนคลายวิธีการทางาน หรือการพัฒนาการเรียนรู้ตามท่ี ตอ้ งการ ปัญหาและข้อจากัดทีอ่ าจเกิดขนึ้ และแนวทางแก้ไข ๑. การไมใ่ หค้ วามสาคัญของผบู้ ริหารและครู หากผู้บริหารไม่ให้ความสาคัญกับกระบวนการชุมชน การเรยี นรู้วิชาชีพอย่างจริงจัง ส่งผลให้ครูละเลยกระบวนการชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพตามไปด้วย ดังนั้น ทีม โค้ชต้องทาความเข้าใจ ติดตาม กระตุ้นและปลุกเร้าผู้บริหารให้เกิดแรงจูงใจในกระบวนการชุมชนการเรียนรู้ วิชาชีพอยา่ งต่อเนื่อง กากบั ดูแล อานวยความสะดวก และสามารถเปน็ โคช้ สอนแนะ ใหค้ าปรกึ ษาแกค่ รไู ด้ ๒. วัฒนธรรมดง้ั เดมิ เนือ่ งจากวฒั นธรรมด้งั เดิมของครูไทยสว่ นใหญ่ มีความเปน็ ตัวตนสูง ให้ความ สาคญั กับการรวมกลุม่ ในการพฒั นาตนเองค่อนข้างน้อย และไมช่ อบให้บคุ คลอื่นมาดูการเรียนการสอนของตน กรณกี ารแลกเปลี่ยนประสบการณต์ รงหรือการใหผ้ มู้ าดูหน้างาน หากไมใ่ ชข่ ้อกาหนด หรอื การปลูกฝังมาอย่าง ยาวนานจนกลายเป็นวฒั นธรรมการเรยี นรู้แบบเปิด อาจเปน็ อุปสรรคและไม่ใหค้ วามรว่ มมือกบั กจิ กรรมรวมตัว กันเพอื่ การพฒั นาการเรยี นร้ขู องตน โคช้ จงึ ควรร่วมกบั ผบู้ ริหารกาหนดไวใ้ นแผนปฏบิ ัติการและกิจกรรมท่ีต้อง ดาเนินการ ให้คาปรึกษา แนะนา และติดตามอย่างต่อเน่ือง โดยผู้บริหารหรือทีมงานของผู้บริหาร หรือครู แกนนาทไ่ี ดร้ บั มอบหมายคอยสนับสนนุ ส่งเสรมิ และประสานงานใหเ้ กิดการรวมตัว ๓. ภาระงานประจา ภาระงานประจาของครูมีปริมาณมาก ท้งั ภาระการสอนและภาระอืน่ ท่ไี ด้รบั มอบหมาย ท่ีอาจส่งผลให้ครูบางส่วนไม่เข้าร่วมกิจกรรมหรือละเลยกระบวนการชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพท่ี กาหนดไว้ดังกล่าวอันส่งผลต่อการพัฒนานักเรียนตามโครงการพัฒนาครูและโรงเรียนเพื่อยกระดับคุณภาพ การศกึ ษาอยา่ งตอ่ เนอ่ื งในท่ีสดุ ดังน้ัน โค้ชควรได้ทาความเข้าใจกับครู โดยให้ครูบูรณาการงานประจากับงาน ในโครงการฯเขา้ ด้วยกนั ติดตาม ให้กาลังใจ และสร้างแรงจูงใจผ่านผบู้ ริหาร และดาเนินการกับครูโดยตรง ทั้ง ท่ีเป็นทางการและไม่เป็นทางการ รวมท้ังสร้างความตระหนักแก่ครูว่า เป็นกิจกรรมปกติที่ต้นสังกัดกาหนด และประโยชนท์ เี่ กดิ ข้นึ ทัง้ ตอ่ ตัวครู เพ่ือนครูและนักเรียน เงอื่ นไขความสาเร็จ ๑. ผบู้ รหิ ารโรงเรยี นและครู ตระหนกั และใหค้ วามสาคัญเขา้ ร่วมกจิ กรรมครบทุกข้ันตอนตามทก่ี าหนด และมคี รแู กนนารบั ผิดชอบการดาเนินงานชดั เจนในกระบวนการของชมุ ชนการเรียนรวู้ ิชาชพี สามารถประสาน ให้เกดิ การพฒั นาการเรียนการสอนทั้งภายในโรงเรยี น และเครอื ข่ายโรงเรียน 34 แนวทางการเปน็ โค้ชท่มี คี ณุ ภาพ ในโครงการพฒั นาครแู ละโรงเรยี นเพ่ือยกระดบั คุณภาพการศึกษาอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง
๓๕ ๒. ทีมโค้ชสนบั สนุนสง่ เสริมการจดั กิจกรรม แนะนา ใหค้ าปรึกษา ประสานงานทางวชิ าการ และอานวยความสะดวกทเี่ กย่ี วขอ้ งแก่ครแู ละผู้บรหิ ารอยา่ งใกลช้ ิด ๓. สานกั งานกองทนุ เพ่อื ความเสมอภาคทางการศึกษา และฝา่ ยบริหารจัดการโครงการ สนบั สนุนองค์ความรแู้ ละการพฒั นาทเี่ ก่ยี วข้องอยา่ งต่อเนื่อง 35แนวทางการเปน็ โคช้ ท่มี คี ณุ ภาพ ในโครงการพฒั นาครแู ละโรงเรยี นเพื่อยกระดบั คุณภาพการศกึ ษาอยา่ งต่อเนือ่ ง
๕๕ ระบบระสบาบสราสรนสนเทเทศศเเพพ่อื อ่ืกากราพรัฒพนาัฒทีม่นีคาณุ ทภี่มาพีค(ุณInภfoา)พ (info) ระบบสารสนเทศเพื่อการพัฒนาที่มีคุณภาพ (info) เป็นเครื่องมือสาคัญในการสนับสนุนครูและ ผู้บริหารสถานศึกษาเก่ียวกับข้อมูลและสารสนเทศของผู้เรียน ทาให้เกิดความเสมอภาคทางการศึกษา เกิดขึน้ ได้ทุกโรงเรียนและเป็นระบบทอ่ี อกแบบข้นึ เพ่ือชว่ ยให้ผบู้ รหิ ารและครูสามารถใช้ข้อมูลประกอบการ วางแผนและแก้ปัญหาการศึกษาได้อย่างเป็นระบบ ใช้ในการกาหนดทิศทางการบริหารโรงเรียนและการ จัดการชั้นเรียน การใช้กระบวนการเรียนรู้ชุมชนวิชาชีพ (PLC) รวมท้ัง เป็นเครื่องมือในการสร้างการมี ส่วนร่วมและพัฒนากระบวนการเรียนการสอนในชั้นเรียน ตลอดจนการสร้างเครือข่ายการเรียนรู้ทั้งด้าน การบรหิ ารและการจัดการเรยี นการสอน แนวคิด ระบบสารสนเทศเพื่อพัฒนาที่มีคณุ ภาพ เป็นฐานข้อมูลพ้ืนฐานในการพัฒนาคุณภาพโรงเรียนและ สร้างความเสมอภาคของผู้เรียน ลดความเหล่ือมล้า ที่อยู่ในรูปของระบบสารสนเทศอิเล็กทรอนิกส์ พัฒนาขนึ้ ในรูปแบบของการสร้างฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ที่ประกอบด้วย ข้อมูลโรงเรียน ข้อมูล ขอ้ มลู ผูเ้ รียน ขอ้ มูลเกี่ยวกับหลักสูตรการเรียนการสอน การประเมินผลผู้เรียน เพื่อการพัฒนาและติดตาม ผู้เรียนเป็นรายบุคคล ท้ังด้านการมาเรียน ขาดเรียน และผลการเรียน สามารถประมวลผลในระดับชั้น เรยี นจนถงึ ภาพรวมของโรงเรยี น สามารถแจ้งเตือนกรณผี เู้ รียนท่ีมคี วามเสยี่ งสงู ท่ีจาเปน็ ตอ้ งได้รับการดูแล ใกล้ชดิ เพื่อแกไ้ ขปญั หาใหเ้ ปน็ ไปอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ หลกั การ การสนับสนุนครูและผู้บริหารในการใช้ระบบสารสนเทศเพื่อการพัฒนาท่ีมีคุณภาพ (info) มีหลักการดงั น้ี ๑. หลกั ความทนั สมัยและเชอ่ื ถอื ไดข้ องข้อมูล เปน็ การจดั กระทาข้อมูลที่ทันสมยั เชื่อถอื ได้ โปร่งใส ตรงตามความตอ้ งการของบุคคลทั้งด้านเน้ือหาสาระและกระบวนการทางเทคโนโลยี ให้บริการครู บุคลากรและผบู้ รหิ ารสถานศึกษาเกดิ ความสะดวก รวดเร็ว เสมอภาค ๒. หลกั เข้าถงึ ได้ง่ายและเรียกใช้ไดท้ นั ที เปน็ สารสนเทศที่พัฒนาขึ้นโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อ การเกบ็ ข้อมูล ประมวลและแสดงผลได้ทนั ที เม่ือมีการเรียกใช้ตามความตอ้ งการของครูและผบู้ รหิ าร 36 แนวทางการเปน็ โคช้ ทม่ี ีคุณภาพ ในโครงการพัฒนาครแู ละโรงเรียนเพ่อื ยกระดบั คุณภาพการศกึ ษาอย่างต่อเนอื่ ง
๓๗ ๓. หลักการตรวจสอบหาเหตุผล เป็นสารสนเทศท่ีสามารถตรวจสอบ วิเคราะห์ และตัดสินใจ ด้วยฐานข้อมลู บนพ้นื ทป่ี ฏิบตั ิจริงทุกเวลาและสถานที่ เพ่ือการบริหารจัดการและติดตามผู้เรียนทั้งการมา เรียน ขาดเรียน และผลการเรยี นด้วยระบบดิจทิ ลั อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ๔.หลกั ความรับผิดชอบ สารสนเทศท่ีดีและมีคุณภาพอยู่บนพื้นฐานความรับผิดชอบของผู้ปฏิบัติ ที่ตอ้ งกระทาอย่างต่อเนือ่ ง ให้ขอ้ มูลทีถ่ กู ตอ้ ง เป็นจรงิ ไม่ละเลยการปฏบิ ัติ วตั ถุประสงค์ ๑. เพ่ือสนบั สนนุ ใหผ้ ู้บริหารและครูจดั กระทาข้อมูลทเี่ ป็นปัจจุบันและทันต่อการนาไปใช้ ประโยชน์ทั้งในดา้ นการบรหิ ารจดั การและการพัฒนาคุณภาพการเรยี นรขู้ องผ้เู รียน ๒. เพื่อสนบั สนุนใหผ้ ู้บรหิ ารและครสู ามารถบูรณาการระบบสารสนเทศเพ่ือการพฒั นาคุณภาพ การศึกษา เชือ่ มโยงเครือข่ายความรว่ มมอื ไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธิภาพและประสทิ ธิผล ๓. เพ่อื สนบั สนนุ ให้ผ้บู รหิ ารและครใู ชร้ ะบบสารสนเทศเพอ่ื การพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษาเป็น เคร่ืองมอื ในการบริหารให้เกดิ คุณภาพและความโปรง่ ใส สาระองค์ความรขู้ องสารสนเทศ องค์ความรู้เก่ียวกับสารสนเทศท่ีจาเป็นสาหรับโค้ช ควรทราบเพ่ือการสนับสนุน แนะนา ให้คาปรึกษาแก่โรงเรียน ดังน้ี (กระทรวงศึกษาธิการ, ๒๕๕๗; ทรูปลูกปัญญา, ๒๕๖๑; โรงเรียน เซนต์ฟรังซสี ซาเวียร์คอนแวนต,์ ๒๕๖๐; สานักงานบริหารและพฒั นาองค์ความรู้, ๒๕๖๐) ๑. สารสนเทศทางการศึกษา เป็นการจัดเก็บ ประมวลผลข้อมูลบนระบบส่ือสารโทรคมนาคม และอุปกรณ์สนับสนุนการทางาน โดยการนาระบบสารสนเทศมาช่วยในการจัดเก็บข้อมูลอันจะเป็น ประโยชน์กับการเรียนการสอน การต้ังเป้าหมาย วางแผนของโรงเรียนและการบริหารการศึกษา นอกจากน้นั ยงั ใช้ประโยชน์ในการวางแผนหลักสูตร การให้คาปรึกษาแนะแนว ได้แก่ สารสนเทศช่วยใน การจัดเก็บฐานข้อมูลทางการศึกษา การเรียนการสอน การจัดการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV) การประชุมทางไกลระบบจอภาพ ระบบการพัฒนาคุณภาพการศึกษาทางไกล ผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศ (DLIT) ระบบการพัฒนาครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา โดยยึดภารกิจและพื้นท่ีปฏิบัติงานเป็นฐาน (ระบบ TEPE Online) ๒. สารสนเทศท่เี ปน็ platform ทางการศกึ ษา เป็นระบบปฏบิ ัตกิ ารทเี่ ป็นแอปพลเิ คชนั่ หรอื โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ช่วยเพ่ิมประสิทธิภาพการดาเนินงานด้านการจัดการ การเรียนการสอน เป็นการ ตอบสนองความกา้ วหน้าของเทคโนโลยีโดยการให้ครูและผู้ที่เกี่ยวข้องได้เข้าถึงเทคโนโลยีจากอินเทอร์เน็ต มากขึน้ และเขามาช่วยใหผ้ ู้เรียนสามารถสืบเสาะคน้ คว้าหาข้อมลู ที่รวดเรว็ ไดแ้ ก่ ๒.๑ ระบบสารสนเทศกลางของกระทรวงศึกษาธิการ ท่ีใช้งานในปัจจุบัน ประกอบด้วย ระบบตรวจสอบข้อมูลรายบุคคล ระบบสารสนเทศพื้นฐานด้านการศึกษา ระบบบริการสารสนเทศด้าน 37แนวทางการเปน็ โค้ชท่ีมคี ุณภาพ ในโครงการพัฒนาครูและโรงเรียนเพอ่ื ยกระดบั คุณภาพการศึกษาอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง
๓๘ การศกึ ษา (intranet) ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ด้านการศึกษา ระบบสารสนเทศเพ่ือการบริหารจัดการ ด้านการศึกษา (EIS) ระบบฐานข้อมูลประชากรในวัยเรียนระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน ระบบมาตรฐาน ข้อมูลเพอื่ บรู ณาการระบบสารสนเทศทางการศึกษา ระบบฐานข้อมูลสถานศึกษาท่ีได้รับผลกระทบจากภัย พิบัติ ๒.๒ อเิ ลก็ ทรอนกิ สบ์ ๊คุ เป็นเครอ่ื งมอื ที่ใชป้ ระโยชนใ์ นการเกบ็ ข้อมลู เกย่ี วกบั คู่มือการใช้งาน ของระบบต่างๆ สามารถเรยี กดูได้บนมือถือ เพ่ืออานวยความสะดวกไม่ต้องพกพาเอกสาร จัดเก็บข้อมูลใน รูปแบบมัลติมีเดีย โปรแกรมประยุกต์ท่ีใช้อ่านข้อมูลท่ีจัดเก็บ ได้แก่ acrobat reader, nescape navigator, internet explorer เปน็ ต้น ๒.๓ ระบบการเรียนการสอนทางไกล ใช้ประโยชน์สาหรับโค้ชในการให้ความรู้เก่ียวกับการ ใชง้ าน info และแพลตฟอร์มหรือโปรแกรมการต่างๆ ท่ีเอื้อประโยชน์ให้เกิดความสาเร็จในการทางานของ ผู้บริหารและครู ดังน้ันการใช้ระบบโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมจึงเป็นวิธีการหน่ึงท่ีใช้ในการจัดการเรียนการ สอนทางไกลเพื่อกระจายโอกาสทางการศึกษา การเรียนการสอนทางไกลโดยใช้ระบบโทรทัศน์ที่มีอยู่ใน ปจั จบุ ันมขี อ้ จากัดคอื เป็นการสื่อสารทางเดยี ว (one-way) ทาให้ผู้เรียนได้รับข่าวสารข้อมูลเสียงด้านเดียว ไม่สามารถซักถามปัญหาต่างๆ ได้จึงมีระบบกระจายสัญญาณในรูปของสาย (cable) โดยใช้เส้นใยแก้วนา แสง (fiber optic) ในการส่ือสารเหมือนสายโทรศัพท์ แต่มีความเร็วในการสื่อสารข้อมูลได้มากกว่า สายโทรศัพท์ธรรมดา และส่งกระจายสัญญาณไปตามบ้านเรือนต่างๆ ก่อให้เกิดระบบ videotele conference ขึ้น ระบบดังกล่าวนี้เป็นระบบโต้ตอบสองทาง (two-way) กล่าวคือทางฝ่ายผู้เรียนสามารถ เห็นผู้สอนและผู้สอนก็เห็นผู้เรียนถึงแม้จะอยู่ห่างไกลกัน ทั้งสองฝ่ายสามารถเจรจาตอบโต้กันเห็นภาพกัน เสมือนนัง่ อยู่ในห้องเดยี วกัน ๒.๔ สือ่ โสตทศั น์ (audio Media) เป็นเนื้อหาประเภทเสียง โดยการบูรณาการสอื่ โสตทัศน์ กับส่ือข้อความ รวมท้ังการใช้เสียงท่ีสร้างข้ึนเพ่ือการฟังแบบเร่งด่วน ใช้ประโยขน์ในการฟังข้อมูลจานวน มากในระยะเวลาช่วงสน้ั ๆ ๒.๕ สื่อสังคมออนไลน์ (social Media) ใช้ประโยชน์ในการสร้างองค์ความรู้ไปในเครือข่าย ออนไลน์ท่ีเกิดจากการสร้างเน้ือหาร่วมกัน แบ่งปันความรู้ ปรับปรุงและขยายเน้ือหา รวมถึงแลกเปลี่ยน ความคิดเห็นต่างๆ โดยในปัจจุบันสามารถสร้างเป็นกลุ่มปิดเฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้องกันงานสาหรับการสนทนา และแลกเปลย่ี นข้อมูลเกีย่ วกับงานเป็นการเฉพาะ เชน่ close Group ของ facebook เป็นต้น ๒.๖ หลักสูตรออนไลน์แบบเปิด (MOOCs) รูปแบบการเรียนรู้นอกระบบผ่านหลักสูตร ออนไลน์แบบเปดิ ใช้สาหรับการเพมิ่ พูนความรขู้ องโค้ช เพื่อเพิม่ ประสิทธิภาพในการปฏิบัติหนา้ ที่ ๒.๗ ส่ือวีดิทัศน์ (video media) เป็นการใช้สื่อวีดีทัศน์เพ่ือการเรียนรู้ในที่น้ีรวมถึงการ ถ่ายทอดสดบน YouTube, Facebook ใชป้ ระโยชน์ในการเผยแพร่ข้อมูล ความรู้เรื่องต่างๆ ถึงแม้ผู้รับชม จะอย่คู นละสถานที่ 38 แนวทางการเป็นโคช้ ท่ีมคี ณุ ภาพ ในโครงการพฒั นาครูและโรงเรียนเพ่อื ยกระดบั คณุ ภาพการศกึ ษาอย่างต่อเนือ่ ง
๓๙ ๒.๘ อินเทอร์เน็ตเพ่ือทุกสิ่ง (internet of Things : IoT ) เป็นเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต ในการเช่ือมต่ออุปกรณ์และเคร่ืองมือต่างๆ ท่ีจะถูกเชื่อมโยงเข้าด้วยกันหรือสื่อสารระหว่างกันผ่าน เซนเซอร์ ซอฟแวร์ หรือระบบเชื่อมต่อเครือข่ายเพื่อให้สามารถจัดเก็บรวบรวม แลกเปลี่ยนข้อมูลโดยไม่ ต้องผ่านมนุษย์ โดยมนุษย์สามารถสั่งการและควบคุมการใช้งานอุปกรณ์ เคร่ืองมือหรือยานพาหนะต่างๆ ผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ เช่น การส่ังเปิด-ปิดอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์มือถือ เคร่ืองใช้ สานกั งาน รวมไปถงึ เครื่องใช้ในชีวติ ประจาวันต่างๆ ๒.๙ Padlet เป็นแอปพลิเคช่ันหรือเว็ปไซต์ที่อยู่ในแพลตฟอร์มของบอร์ดสาหรับการ ระดมความคิด การแสดงความคิดเห็นหรือแลกเปล่ียนความรู้ร่วมกันระหว่างสมาชิกในกลุ่ม โดยการแสดง ความคิดเห็นหรือการเปล่ียนแปลงข้อมูลทั้งหมดของผู้เข้าใช้จะอยู่ในรูปแบบของ post it ที่ติดบนบอร์ด และระบบจะแสดงผลทุกอย่างเป็นปัจจุบัน (real time) Padlet สามารถโพสต์ข้อความทั้งในรูปแบบของ ตัวอักษรหรือข้อความ รูปภาพ และลิงค์ของเว็บไซต์ได้ ข้อความท่ีโพสต์สามารถถูกแก้ไขและจัดกลุ่มของ ข้อความได้ และสามารถ Export ข้อมูลในบอร์ดออกมาในรูปของไฟล์รูปภาพ pdf csv เป็นต้น และ สามารถแชร์ผ่านไปยงั ชอ่ งทางตา่ งๆ ๒.๑๐ Google Classroom เป็นเครื่องมือท่ีช่วยอานวยความสะดวกด้านการศึกษา ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้สอนมีเวลาติดต่อสื่อสารกับผู้เรียนมากข้ึนในขณะเดียวกันนักเรียนก็มีเวลาค้นหา ขอ้ มลู เพือ่ การเรียนรูม้ ากขึ้นด้วยเชน่ กัน การใช้งานของ Google Classroom ช่วยสร้างและเก็บข้อมูลการ เรียนโดยใช้ Google Docs,Drive และ Gmail โดยผูส้ อนสามารถตรวจข้อมูลการเรียนได้ตลอดเวลาพร้อม ให้คาแนะนาแกผ่ ูเ้ รียนได้ตลอดเวลา ๒.๑๑ Schoology เป็นเว็บไซต์ท่ีให้บริการฟรีใน รูปแบบ Social Learning Management System หรือ ระบบระบบบริหารจัดการการ เรียนรู้แบบสังคมออนไลน์ ซึ่งเป็นการ ผสมผสานกนั ระหวา่ งระบบจดั การเรียนการสอน แบบ e-learning และการใช้งานเครือข่ายสังคมออนไลน์ การใช้งานมีดว้ ยกันสองกลมุ่ หลกั ๆ คือกลมุ่ ผู้ใชง้ านในฐานะ Instructor และกลมุ่ ผู้ใชง้ านท่ีเปน็ Student ๒.๑๒ Engrade เป็นโปรแกรมท่ีถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้สอนวางแผนการสอน ทา การสอน ปรับปรุงการสอนและประเมินผู้เรียน สาหรับการจัดการเรียนนั้นช่วยให้ผู้เรียนติดตามการ เขา้ เรยี น งานในรายวชิ า gradebook ปฏทิ นิ การเรยี น สามารถสนทนากับผสู้ อน ฯลฯ ขนั้ ตอนและวธิ ีการดาเนนิ งาน ขัน้ ก่อนดาเนินงาน ๑. ตรวจสอบ พิจารณาการสนบั สนนุ และสง่ เสรมิ ระบบสารสนเทศทโ่ี รงเรียนใช้งานอย่ใู นปจั จุบัน ๒. ศึกษาทาความเข้าใจในแนวคดิ หลักการและองค์ความร้เู ก่ียวกับ ระบบสารสนเทศเพอ่ื การ 39แนวทางการเปน็ โคช้ ที่มคี ณุ ภาพ ในโครงการพัฒนาครูและโรงเรยี นเพื่อยกระดับคณุ ภาพการศึกษาอย่างต่อเน่ือง
๔๐ พัฒนาท่ีมีคุณภาพ (info) รวมถึงการเปรียบเทียบให้เห็นถึงคุณค่าของการใช้ระบบสารสนเทศ (Info) กับ ระบบสารสนเทศอ่ืนท่ีโรงเรียนใช้งานในปัจจุบัน และการใช้ประโยชน์จากสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศอื่นท่ี สามารถเชอื่ มต่อกบั ระบบสารสนเทศ (info) ในการเพม่ิ ประสทิ ธภิ าพในการทางาน ๓. ศกึ ษาความตอ้ งการในการพัฒนาความสามารถในการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศของครแู ละ ผู้บรหิ าร รวมถึงการรวมกลมุ่ ผู้มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศของครูและผู้บริหาร เพื่อการ พฒั นาความร้แู ละทกั ษะในระดบั ใกลเ้ คียงกัน ๔. วางแผนการพัฒนาการใช้จดั ระบบสารสนเทศเพ่ือการพฒั นาทม่ี ีคุณภาพ (info) ร่วมกนั ระหว่างทีมโค้ชและผู้บริหารและครู โดยคัดสรรครูที่มีวิสัยทัศน์ ความรู้ความสามารถ ทักษะในการใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศ สามารถถ่ายทอดความรู้สู่เพ่ือนครูได้เพ่ือเป็นครูแกนนา เพื่อช่วยเหลือเบ้ืองต้น เกี่ยวกับการใช้งานระบบสารสนเทศ info และสามารถพัฒนาความสามารถในการใช้ระบบสารสนเทศ info ของเพือ่ นครใู หเ้ กดิ การเรียนร้ตู ่อไป ๕. จดั เตรยี มข้อมลู ที่เกยี่ วข้องกบั ผ้เู รยี นของโรงเรยี น เชน่ การมาเรียน ผลการเรยี น ขอ้ มลู ส่วนตัวของผู้เรียนคะแนนรายวิชา คะแนนผลสัมฤทธิ์รายบุคคล รวมถึงพฤติกรรมอื่นๆ และข้อมูลที่ เก่ียวข้องกับโรงเรียนและการบริหารจัดการ เช่น ปฏิทินโรงเรียน ห้องเรียน ข้อมูลหลักสูตร โครงสร้าง รายวิชา ข้อมูลรายวิชาเพ่ิมเติม ข้อมูลตารางสอน ข้อมูลครูประจาช้ัน ข้อมูลผู้เรียน ข้อมูลผู้ปกครอง การเรียนเสริม กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ข้อมูลคุณลักษณะพึงประสงค์ ข้อมูลตัวชี้วัด ข้อมูลการประเมิน อ่าน คิด วิเคราะห์และเขียน เป็นต้น สาหรับการบันทึกในระบบสารสนเทศเพื่อการพัฒนาท่ีมีคุณภาพ (info) เพ่ือใช้ประโยชน์ในการวางแผนพัฒนาโรงเรียน ติดตามผู้เรียน โดยครูและผู้ใช้ระบบของโรงเรียน สามารถเรยี กใชข้ อ้ มูลได้แบบทันท่วงที ขั้นดาเนนิ การ ๖. ดาเนนิ การพฒั นาครแู ละผูบ้ ริหาร ประชมุ ปรึกษาหารืออบรมให้ความรู้เก่ียวกับระบบ สารสนเทศinfo ๖.๑ ส่วนท่ี ๑ การใหค้ วามรงู้ านระบบสารสนเทศเพอ่ื การพฒั นาทมี่ ีคุณภาพ (info) โดยผู้พฒั นาระบบและทีมโค้ชระดับภูมภิ าค ๖.๒ ส่วนท่ี ๒ การลงมือปฏิบตั ิและทดลองใช้งานระบบสารสนเทศเพ่อื การพัฒนาท่ีมี คณุ ภาพ (info) ๖.๓ สว่ นท่ี ๓ การบูรณาการการใชง้ านระบบสารสนเทศเพอ่ื การพัฒนาท่ีมีคุณภาพ (info) กับระบบท่สี ถานศึกษาใช้อยใู่ นปจั จุบนั ๖.๔ สว่ นท่ี ๔ พัฒนาแนวทางในการใช้งานระบบสารสนเทศเพอื่ การพัฒนาที่มคี ุณภาพ (info) ระดับโรงเรียน ๖.๕ ส่วนที่ ๕ พฒั นาแนวทางในการใชง้ านระบบสารสนเทศเพือ่ การพฒั นาทม่ี คี ุณภาพ 40 แนวทางการเป็นโค้ชท่ีมคี ณุ ภาพ ในโครงการพฒั นาครูและโรงเรียนเพื่อยกระดับคุณภาพการศกึ ษาอยา่ งต่อเนอื่ ง
๔๑ (info) เช่ือมต่อกับระบบการใช้งานของเขตพน้ื ทห่ี รือระดับภมู ภิ าค รูปแบบในการพัฒนาความรู้และการปฏิบัติท้ังรูปแบบท่ีเป็นทางการและไม่เป็นทางการ เพือ่ พัฒนาและแลกเปลยี่ นเรยี นรู้และประสบการณ์ของครูและผู้บริหารในการใช้งานระบบสารสนเทศเพ่ือ การพัฒนาที่มีคุณภาพ (Info) เป็นไปตามที่ฝ่ายบริหารจัดการโครงการ หรือ กองทุนเพ่ือความเสมอภาค ทางการศึกษา (กสศ.) กาหนด แล้วแต่กรณี การแลกเปลี่ยนเรียนรู้และประสบการณ์ในโอกาสต่างๆของ เครอื ขา่ ยที่ทากจิ กรรมร่วมกันการวเิ คราะหแ์ ละแก้ปัญหารว่ มกัน และการสรุปผล ๗. การพัฒนาความรู้และความสามารถในการใช้งานระบบสารสนเทศเพ่ือการพัฒนาท่มี ีคณุ ภาพ (info) นั้นให้อยู่ภายใต้การทางานในลักษณะของชุมชนการเรียนรู้ แลกเปลี่ยน ช่วยเหลือเกื้อกูล เพ่ือให้ เกิดการทางานในระบบสารสนเทศเพ่ือการพัฒนาท่ีมีคุณภาพ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การดาเนินการ พัฒนาครูและผู้บริหารด้วยกระบวนการเรียนรู้ร่วมกันเก่ียวกับระบบสารสนเทศ เพื่อสร้างชุมชนแห่งการ เรยี นร้เู กี่ยวกับระบบสารสนเทศเพอ่ื การพัฒนาทมี่ คี ุณภาพ ดังภาพตวั อย่างข้อมูลในระบบสารสนเทศเพื่อการพัฒนาที่มคี ณุ ภาพ (info) และตัวช้วี ดั ขอ้ มลู ใน ระบบสารสนเทศเพอื่ การพฒั นาท่ีมคี ุณภาพ ต่อไปนี้ 41แนวทางการเป็นโค้ชที่มีคณุ ภาพ ในโครงการพฒั นาครูและโรงเรยี นเพอื่ ยกระดับคณุ ภาพการศึกษาอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง
๔๒ ภาพที่ ๕ ตวั อย่างขอ้ มลู ในระบบสารสนเทศเพอ่ื การพัฒนาท่มี คี ุณภาพ (Info) ที่มา: วรลกั ษณ์ คงเดน่ ฟ้า. Q Info Quality Learning information System. ในการประชุมวิชาการ . วันท่ี ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๖๒. 42 แนวทางการเปน็ โค้ชที่มีคุณภาพ ในโครงการพฒั นาครแู ละโรงเรียนเพ่อื ยกระดบั คุณภาพการศึกษาอยา่ งต่อเน่ือง
๔๓ ภาพที่ ๖ ตวั ช้วี ัดขอ้ มูลในระบบสารสนเทศเพ่ือการพฒั นาทีม่ คี ุณภาพ (Info) ทม่ี า : สมหมาย ปารจิ ฉัตต์, (๒๕๖๑, มิถนุ ายน) Q-Info-รอยย้มิ กอ่ นเริ่มบทเรียน. มติชนสดุ สัปดาห์ ฉบับ วนั ที่ ๑-๗ อย่างไรก็ตาม ตวั อย่างตามภาพทน่ี าเสนอ อาจมีการพัฒนาข้นึ ใหม่ตามการพัฒนาระบบสรสนเทศ ในโครงการ ทีจ่ ะมกี ารช้ีแจงทาความเขา้ ใจตอ่ ไป ขนั้ หลังดาเนินงาน ๘. ใหข้ ้อมูลยอ้ นกลับ สะท้อนคิด สอนแนะ และใหค้ าปรึกษาแกผ่ บู้ ริหารและครูอยา่ งต่อเน่ือง ๙. ตดิ ตาม ประเมนิ สรุปผลและร่วมกันปรับปรงุ พฒั นาเมอ่ื มีสาระสาคญั ทจี่ าเป็นตอ้ งปรับปรุง ทเี่ ปน็ ไปตามข้อมลู และสถานการณ์ ประโยชน์ของระบบสารสนเทศ ๑. ประโยชนต์ อ่ ผู้เรยี น ด้านโอกาสทางการศกึ ษาของผ้เู รียน เชน่ ฐานะความเป็นอยู่ของผ้เู รียน 43แนวทางการเปน็ โค้ชท่ีมคี ุณภาพ ในโครงการพัฒนาครแู ละโรงเรียนเพ่ือยกระดบั คุณภาพการศึกษาอยา่ งต่อเน่อื ง
๔๔ ความยากจน ทาให้ครูสามารถช่วยเหลือผู้เรียนได้อย่างท่ัวถึง ผู้เรียนได้รับการพัฒนาเต็มตามศักยภาพ ลดความเหลื่อมลา้ และสร้างโอกาสในการเรยี นรู้ ๒. ประโยชนต์ ่อครู สาหรบั ครูผู้สอน ชว่ ยในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา การติดตามดูแลผู้เรียน เช่น การมาเรียน การขาดเรียน ผลการเรียนของผู้เรียน ผลคะแนนสอบกลางภาคและปลายภาค ช่วยลดภาระของครูในการประมวลข้อมูล และระบบสารสนเทศ Info ช่วยลดภาระด้านงานเอกสารของ ครผู ู้สอนในการจัดทาเอกสาร อาทิ ปพ.๕, ปพ. ๕.๑ โดยครสู ามารถสัง่ พิมพ์ออกจากระบบสารสนเทศ Info ได้ ภายหลังจากที่ครูผู้สอนได้บันทึกข้อมูลการเข้าเรียนและผลสัมฤทธิ์ผ่านทางระบบสารสนเทศ ทาให้ สามารถดาเนินการได้สะดวกรวดเร็วมากข้ึน สาหรับ ครูฝ่ายทะเบียนและวัดผล : ระบบสารสนเทศ ชว่ ยลดภาระในการรวบรวมขอ้ มูลจากเอกสารกระดาษจานวนมาก เพอ่ื จดั ทารายงานสรุปผลการเรียนการ สอนของครทู กุ คนภายในโรงเรียน อาทิ ปพ.๑ ปพ.๒ ปพ.๓ ปพ.๖ และ ปพ.๗ ๓. ประโยชนต์ อ่ ผู้บรหิ าร ผู้บรหิ ารใช้เปน็ ขอ้ มลู ในกระบวนการวางแผนพฒั นาโรงเรียน (Evidence-based Planning) สามารถเรียกดูรายงานที่จาเป็นต่างๆ ในการวางแผนนโยบาย เพ่ือการพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนของโรงเรียนได้ อาทิ สัดส่วนของผู้เรียนที่มีผลสัมฤทธิ์ ต่ากว่าเกณฑ์ ผลสัมฤทธิ์ในกลุ่มสาระต่างๆ เปรียบเทียบกับผลสอบภายนอก อัตราการขาดเรียนของ ผเู้ รียนในแตล่ ะระดับชน้ั เป็นตน้ ๔. ประโยชน์ต่อโรงเรียน เป็นการเสริมสร้างประสิทธิภาพการจัดการศึกษาของโรงเรียน เช่น การวางแผน การจัดหลักสูตร การจัดทาหลักฐานทางการเรียนของผู้เรียน โดยโปรแกรมดังกล่าวจะ ดาเนินการตดั เกรดหรอื ผลการเรยี นให้ครแู ละออกเอกสารหลักฐานทางการเรียนโดยไม่ต้องใช้กระดาษเกิด ความถูกตอ้ ง และรวดเรว็ มากขึ้น กล่าวโดยสรุปคือ ในระดับพ้ืนท่ีจะสามารถกาหนดนโยบายได้อย่างถูกทิศทาง ในระดับ สถานศึกษาจะสามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด ในระดับห้องเรียนหรือช้ันเรียนจะสามารถแจ้งเตือนได้ ทันเวลา ในระดับบคุ คล (ผู้เรียน) สามารถเหน็ ประวัติผลการเรียนรเู้ ปน็ รายบุคคล ในส่วนของครูผู้สอน จะสามารถมองเห็นโครงสร้างรายวิชาของผู้เรียน ข้อมูลรายวิชาที่สอน ใน ส่วนของครูวิชาการจะสามารถส่งต่อข้อมูลทั้งโรงเรียน ทั้งในส่วนของผลการเรียน การอ่าน การคิด วเิ คราะห์ คุณลักษณะอนั พึงประสงคแ์ ละกจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น เหลา่ นเี้ ป็นตน้ ขอ้ พจิ ารณา การสนับสนุนการใช้งานระบบสารสนเทศเพ่ือการพัฒนาท่ีมีคุณภาพของทีมโค้ช ควรอธิบายใน ภาพรวมของระบบการทางานทั้งหมดก่อน ซ่ึงประกอบด้วยการทางานของ ครูผู้สอน ฝ่ายทะเบียนและ วัดผล และผู้ดูแลระบบ ข้อมูลที่นาเสนอในระบบดังกล่าว ประกอบด้วย สาหรับครูผู้สอน แบบบันทึก การเข้าเรียนรายวัน แบบบันทึกการลงทะเบียนวิชาเพ่ิมเติม/กิจกรรมสาหรับลงทะเบียนเรียนที่ผู้เรียน เรียนรายวิชาเพ่ิมเติม แบบบันทึก ปพ. ๕ และแบบบันทึก ปพ. ๕.๑ สาหรับ ฝ่ายทะเบียนวัดผล ปฏิทินโรงเรียน การเปิดชั้นเรียน การนาข้อมูลผู้เรียนเข้า การลงทะเบียนผู้เรียน การเล่ือนชั้นผู้เรียน 44 แนวทางการเป็นโคช้ ทีม่ คี ณุ ภาพ ในโครงการพัฒนาครแู ละโรงเรยี นเพื่อยกระดบั คณุ ภาพการศึกษาอยา่ งต่อเน่อื ง
Search