บทท่ี 4 ผลการศกึ ษา การศึกษาคร้ังนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพการดาเนินงาน ของกลุ่มแปรรูปปลาบ้านคลองสอง ตาบลบ้านสร้าง อาเภอบ้านสร้าง จังหวัดปราจีนบุรี และเพ่ือวิเคราะห์แนวทางการพัฒนากลุ่มแปรรูปปลาบ้านคลองสองสู่การเป็นผู้ประกอบการ OTOP ให้มีประสทิ ธภิ าพและประสทิ ธิผลมากยง่ิ ขน้ึ โดยใช้การสัมภาษณ์เชงิ ลกึ ซ่ึงมีแนวคาถามเป็นเคร่ืองมือ ในการสัมภาษณ์ และใช้การสังเกตการณ์อย่างไม่มีส่วนร่วม ผู้วิจัยได้แยกกลุ่มผู้ให้ข้อมูลออกเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย คณะกรรมการบริหารกลุ่ม สมาชิกกลุ่มแปรรูปปลาบ้านคลองสอง และเจ้าหนา้ ท่ีพฒั นาชมุ ชนอาเภอบา้ นสร้าง ทาให้ผวู้ จิ ัยไดผ้ ลการวิจัย แบ่งออกเปน็ 5 สว่ น ดังนี้ 1) บรบิ ทของกลมุ่ แปรรปู ปลาบ้านคลองสอง 2) สภาพการดาเนินงานของกลุม่ แปรรูปปลาบ้านคลองสอง 3) การไดร้ ับสนับสนุนจากหนว่ ยงานภาครัฐและภาคเอกชน 4) แนวทางการพัฒนากลุ่มแปรรูปปลาบ้านคลองสองสู่การเป็นผู้ประกอบการ OTOP ให้มี ประสิทธิภาพและประสทิ ธผิ ลมากยิ่งขึน้ 5) อภิปรายผลการศึกษา 4.1 บริบทของกล่มุ แปรรปู ปลาบ้านคลองสอง 4.1.1 ประวตั คิ วามเปน็ มาของกลุ่มแปรรปู ปลาบ้านคลองสอง จากการศึกษาประวตั ิความเป็นมาของกลุ่มแปรรูปปลาบ้านคลองสอง ผวู้ ิจยั ได้ใช้แนวทางการ สัมภาษณ์ท่ีประกอบด้วยประเด็นคาถามในการสัมภาษณ์ ได้แก่ กลุ่มอาชีพมีความเป็นมาอย่างไร มวี ตั ถุประสงคใ์ นการจดั ตั้งกลุม่ อยา่ งไร มีหนว่ ยงานใดบา้ งสนบั สนุนการจดั ต้ังกลุม่ อาชพี จากการสัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูลหลัก (Key informant) พบว่า บริบทหมู่บ้านบ้านคลองสอง ตาบลบ้านสร้าง อาเภอบ้านสร้าง มีการประกอบอาชีพทาการประมงเล้ียงปลาเป็นจานวนมาก เชน่ ปลานลิ ปลาดกุ เป็นต้น ทาให้ผลผลติ ปลาสดมีจานวนมากเกนิ ความตอ้ งการของตลาดจึงประสบ ปัญหาราคารับซื้อปลาสดตกต่า อีกท้ังโดนกดราคาจากพ่อค้าคนกลางที่เข้ามารับซื้อ ซ่ึงเกษตรกร ได้มีการแก้ปัญหาโดยการเดินทางไปส่งแหล่งตลาดใหญ่โดยตรง แต่ได้รับผลกระทบในส่วนค่าใช้จ่าย ท่ีต้องเพิม่ ขนึ้ ในการขนส่ง ในปี 2559 การขายปลาดุกหน้าฟาร์มขายได้ราคาต่ากว่าปกติ จากกิโลกรัม ละ 30 บาท เปน็ กโิ ลกรมั ละ 20 บาท อกี ทงั้ อาหารปลาดกุ มรี าคาเพิ่มสูงขน้ึ ส่งผลใหต้ ้นทุนในการผลิต
44 เพ่ิมข้ึน ในขณะที่ราคาที่เกษตรกรขายได้มีราคาลดลง จึงได้หาขอความช่วยเหลือจากพัฒนาชุมชน อาเภอบ้านสร้าง เพ่ือหาทางออกให้เกษตรกรผู้เลยี้ งปลา ดงั ท่ี คณุ ต้อย อายุ 59 ปี กลา่ ววา่ …“เมื่อก่อนทำประมงเลี้ยงปลำกันอยู่แล้ว แล้วปลำมันถูกไม่ได้รำคำ แล้วพัฒนำชุมชนเขำมำประชุม เลี้ยงปลำรำคำมันถูกจะทำไงกันดี อยำกแปรรูปจะทำยังไง พัฒนำชุมชนเลยบอกพ่ีไม่เป็นไรเดี๋ยวหนูจะเข้ำมำ สอน แล้วก็จะสนับสนุนกลุ่มพ่ีให้เป็นกลุ่มแปรรูปปลำ อยำกให้ชุมชนเรำมี รำยไดเ้ พ่ิมขนึ้ ”… (คุณตอ้ ย อำยุ 59 ปี สมั ภำษณเ์ มอ่ื วันที่ 23 มีนำคม 2562) พัฒนากรอาเภอบ้านสร้าง คือ นางสาวชมชสร ก่องนอก นักวิชาการพัฒนาชุมชนชานาญการ ซ่ึงเป็น พัฒนากรที่รับผิดชอบตาบลบ้านสร้างในขณะน้ัน หรือชาวบ้านคลองสองเรียกว่า “พ่ีนวย” ได้ แนะนาให้เข้าร่วมโครงการสร้างสัมมาชีพชุมชนตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง เข้าอบรมพัฒนาอาชีพ เกษตรการเล้ียงปลาโดยมีนายทองแย้ม ต่อแต้ม เป็นปราชญ์ชุมชนท่ีผ่านการอบรมหลักสูตรวิทยากร ผู้นาสัมมาชีพฯ และได้จัดตั้งทีมวิทยากรสัมมาชีพ เพ่ือมาถ่ายทอดทักษะการเลี้ยงปลาให้แก่กลุ่ม ครัวเรือนสมั มาชีพ และมกี ารรวมกลุ่มอาชพี เกษตรเลีย้ งปลาขน้ึ หลังจากเข้ารับการอบรมอาชีพการเลี้ยงปลาสมาชิกกลุ่มเห็นถึงความสาคัญในการแปรรูป ผลิตภัณฑ์โดยการนาปลาดุกสดมาแปรรูปเป็นปลาแดดเดียว เพ่ือเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ และเกิดรายได้ จากการขายปลาสดมาเป็นขายผลิตภัณฑ์แปรรูปด้วย จึงเป็นวัตถุประสงค์ในการก่อตั้งกลุ่ม ดังที่ คุณบญุ อายุ 62 ปี กล่าววา่ …“ถ้ำไปขำยแบบปลำเป็น ๆ รำคำมันตก พอเรำแปรรูปรำคำมนั กเ็ พม่ิ ขึ้นมำ ได้อีก ปลำดุกโลละ 20-30 พอเรำมำแปรรูปก็ได้โล 100 กว่ำบำท เพียงเรำ ต้องทำงำนเพ่ิมนิดหน่อย”… (คุณบุญ อำยุ 62 ปี สัมภำษณ์เม่ือวันที่ 23 มีนำคม 2562) นอกจากน้ี ผู้ร่วมก่อต้ังกลุ่มแปรรูปปลาได้เห็นถึงความสาคัญในการรวมกลุ่มกันเป็นกลุ่ม อาชีพ เนื่องจากจะได้รับการสนับสนุนในด้านต่าง ๆ เช่น การให้ความรู้ และเงินทุน เป็นต้น จากหน่วยงานต่าง ๆ ภายนอกชุมชน หากไม่รวมกลุ่มกันก็ต้องพึ่งตนเอง ดังท่ี คุณบุญ อายุ 62 ปี กลา่ วว่า …“ถ้ำไม่รวมกลุ่มกันทำงกำรไหนเขำก็ไม่ช่วย มันตัวใครตัวมัน จะต้องมีกำร รวมกลุ่ม หน่วยงำนท่ีจะเข้ำมำสนับสนุนหรือให้ควำมรู้ให้เงินทุนในกำรทำ
45 อำชีพ ถ้ำไม่รวมกลุ่มเขำก็จะไม่ช่วยเรำหรอก ถ้ำรำยบุคคลมีอย่ำงเดียวคือ หอบโฉนดไปธนำคำร”… (คุณบุญ อำยุ 62 ปี สมั ภำษณ์เมื่อวนั ที่ 23 มีนำคม 2562) บวกกับหนึ่งในผู้ร่วมก่อตัง้ มีความคิดสรา้ งสรรค์มองเห็นโอกาสและช่องทางในการสร้างธุรกิจ เพื่อเพ่ิมรายได้ให้คนในชุมชน โดยกล่าวว่าพื้นท่ีอาเภอบ้านสร้างเป็นแหล่งท่ีมีการเล้ียงปลามากท่ีสุด แห่งหนึ่งในจังหวัดปราจีนบุรี แต่ผลผลิตไม่ได้เป็นที่รู้จักในการตลาดมากนัก จึงเกิดความคิดที่อยาก แปรรูปผลิตภัณฑ์ เพื่อให้มีผลิตภัณฑ์ในอาเภอบ้านสร้างเป็นที่รู้จักในตลาดมากขึ้น ประกอบกับเป็น ชว่ งท่ีประสบปัญหาราคาขายปลาสดตกต่า จึงเกิดการรวมกลุ่มระหว่างเครือญาติกันและคนในชุมชน เพือ่ สร้างผลติ ภัณฑแ์ ปรรูปปลาข้ึนมา ดังที่ คณุ ออ๊ ด อายุ 25 ปี กล่าวว่า …“บ้ำนสร้ำงเน่ียเป็นแหล่งอันดับต้น ๆ ของประเทศในกำรผลิตปลำ คือ ได้แต่ผลิตแต่วัตถุดิบหรือว่ำสินค้ำไม่มีออกไปสู่ตลำดเป็นของดีบ้ำนสร้ำงเลย อย่ำงท่ีอื่นเขำมำรับปลำจำกเรำแท้ ๆ แล้วเอำไปสร้ำงแบนด์เขำยังทำได้เลย ก็เลยเป็นจุดกำเนิด ประจวบเหมำะกับรำคำมันตกต่ำ ก็เลยหันมำแปรรูป กเ็ ลยรวมกลุ่มกันในพี่นอ้ ง แล้วกค็ นท่ีอยำกเข้ำรว่ ม เอำคนท่ีจรงิ ๆ เวลำมีไร กต็ อ้ งมำจรงิ ”… (คุณออ๊ ด อำยุ 25 ปี สัมภำษณ์เมือ่ วันที่ 23 มีนำคม 2562) หลังจากจัดต้ังกล่มุ แปรรูปปลาบ้านคลองสองข้ึน ทางกลุ่มแปรรูปปลาบา้ นคลองสองได้มีการ จดทะเบียนผลิตภัณฑ์ OTOP ตามคาแนะนาของพัฒนาชุมชนอาเภอบ้านสร้าง และเห็นความสาคัญ ในการจดทะเบียนผลิตภัณฑ์ OTOP ก่อให้เกิดประโยชน์กับกลุ่มในการได้รับการสนับสนุน จากหน่วยงานต่าง ๆ ดงั ท่ี คณุ บญุ อายุ 62 ปี กล่าวว่า …“ผลประโยชน์กค็ ือ เขำจะชว่ ยเหลือกลมุ่ หน่วยงำนอะไรตำ่ ง ๆ ไมว่ ่ำจะให้ ควำมรู้หรือจะให้เงินทุนสนับสนุนอ่ะมันจะต้องเป็นกลุ่ม เป็นรูปร่ำง เขำดู กำรบริหำรว่ำมันเข้ำท่ำเข้ำทำงเขำถึงจะสนับสนุนเรำ แล้วกำรเป็น OTOP ก็เหมือนกัน เมื่อเรำเข้ำไปปั๊ป หน่วยงำนพัฒนำชุมชน เขำมีกำรจัดอบรมท่ี ไหน มีกำรให้ควำมรู้ที่ไหน เขำก็จะเชิญเรำไป เช่น กำรบรรจุภัณฑ์”… (คุณ บุญ อำยุ 62 ปี สมั ภำษณเ์ มอื่ วันที่ 23 มีนำคม 2562)
46 ปัจจุบันกลุ่มแปรรูปปลาบ้านคลองสองได้ถูกจัดกลุ่ม OTOP กลุ่ม Quadrant D เป็นกลุ่ม ที่ปรับตัวเข้าสู่ห่วงโซ่อุปทานการผลิต สินค้ามีคุณภาพและราคาต่า และผลิตได้ปริมาณน้อย ท้ังนีจ้ ะต้องมีการพัฒนาในด้านต่าง ๆ เช่น การเสริมสร้างความเข้มแข็งของเครือข่าย โดยส่งเสริมการ เข้าร่วมเป็นกล่มุ เครือข่ายและการเชื่อมโยงเครือข่ายในรูปแบบเครือข่าย ต่าง ๆ เช่น เครือข่ายชุมชน เพ่อื การผลติ สินคา้ 1 ชนดิ เครอื ขา่ ยชุมชน เพ่ือการผลิตสินค้าหลายชนดิ เครือข่ายชุมชนเพอื่ การผลิต แบบห่วงโซ่อุปทาน เป็นต้น ท้ังนี้ เพื่อการมีรายได้จาการรับจ้างผลิตหรือการผลิตเพ่ือแลกเปลี่ยน สินค้าในชุมชน อีกท้ังเสริมสร้างองค์ความรู้ ทักษะฝีมือแรงงานและเพิ่มทางเลือกด้วยการส่งเสริม อาชีพเสริม ส่งเสริมให้มีระบบพ่ีเลี้ยง เพื่อวินิจฉัย วิเคราะห์ศักยภาพการดาเนินธุรกิจ และให้ คาปรึกษาแนะนา ให้การพัฒนาและเสริมสร้างความรู้การดาเนินธุรกิจตามศักยภาพ ส่งเสริมและ พฒั นาคุณภาพผลิตภัณฑใ์ ห้เขา้ สู่กระบวนการรบั รองมาตรฐาน และรกั ษาคุณภาพให้ได้ตามมาตรฐาน พฒั นากระบวนการผลติ อย่างเป็นระบบและเพิม่ ประสิทธิภาพ ลดตน้ ทุน ลดความสูญเสยี จากการผลิต โดยคานึงถึงชมุ ชนและส่งิ แวดล้อม ตลอดจนเพิม่ ช่องทาง การจาหน่ายและ โอกาสทางตลาด โดยการ สง่ เสรมิ ให้มีการจับครู่ ะหว่างผู้รับจ้างผลิตและผู้จาหน่ายสินคา้ และส่งเสรมิ การเข้าร่วมงานแสดงและ จาหน่ายสนิ คา้ ในระดับทอ้ งถนิ่ (กรมการพัฒนาชมุ ชน, 2558) 4.2 สภาพการดาเนนิ งานของกลมุ่ แปรรปู ปลาบา้ นคลองสอง 4.2.1 การบรหิ ารจัดการกล่มุ อาชีพ การศึกษาการบริหารจดั การกล่มุ อาชีพ ผ้วู ิจยั ได้จาแนกการบริหารจัดการออกเป็นด้านต่าง ๆ โดยมรี ายละเอียดดงั นี้ 1) ด้านโครงสรา้ งของกลมุ่ อาชีพ จากการสัมภาษณ์ ผู้วิจัยได้ใช้แนวทางการสัมภาษณ์ท่ีประกอบด้วยประเด็นคาถาม ในการสัมภาษณ์ ได้แก่ วัตถุประสงค์การก่อต้ังกลุ่มเป็นอย่างไร การจัดโครงสร้างกลุ่มเป็นอย่างไร การแบ่งหนา้ ที่ความรับผิดชอบเป็นอย่างไร จากการสัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูลหลัก (Key informant) พบว่า วัตถุประสงค์การก่อตั้งกลุ่ม แปรรูปปลาบ้านคลองสอง คือ เพิ่มมูลค่าผลผลิตทางการเกษตรโดยการนามาแปรรูปและเพ่ือเพ่ิม รายได้ให้แกสมาชิกกลุ่ม ในส่วนโครงสร้างการบริหารของกลุ่มมีขั้นตอนการเลือกตั้งคณะกรรมการ บริหารกลุ่ม โดยใช้การลงคะแนนในรูปแบบยกมือเลือกจากสมาชิกทุกคน ปัจจุบันกลุ่มมีสมาชิก ทั้งหมด 38 คน ประกอบด้วย ประธาน 1 คน กรรมการ 11 คน และสมาชิก 26 คน การรับสมาชิก มีการเปิดรับสมาชิกเพิ่มเร่ือย ๆ ภายในกลุ่มมีตาแหน่งผู้ท่ีเป็นประธานกลุ่ม ซ่ึงมีหน้าท่ีดูแล
47 และควบคุมการดาเนินงานของกรรมการและสมาชิกในกลุ่ม และมีหน้าท่ีรับข้อมูลข่าวสาร การจัดอบรมหรือมีการประชุมที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มอาชีพ รวมทั้งประสานกับหน่วยงานภายนอก ดังท่ี คณุ ต้อย อายุ 59 ปี กล่าวว่า …“ประธำนมีหน้ำที่เป็นหัวหน้ำกำรประชุม คอยรับข่ำวสำรต่ำง ๆ จำก ภำยนอก เช่น มีกำรจัดอบรมที่ไหน มีกำรประชุมเก่ียวกับกลุ่มอำชีพ ที่เป็น ประโยชน์กับกลุ่มเรำก็จะมำประสำนงำนให้พ่ีอ้อม (เหรัญญิก) และกำร ประสำนงำนตอ่ ใหก้ รรมกำรคนอน่ื สว่ นพพี่ ีอ่ อ้ ม (เหรัญญิก) กจ็ ะเป็นตัวแทน แมไ่ ปเข้ำร่วมกำรอบรมหรอื กำรประชุมต่ำง ๆ ทเี่ ขำจัด”… (คุณต้อย อำยุ 59 ปี สัมภำษณเ์ มือ่ วันที่ 20 เมษำยน 2562) ในส่วนตาแหน่งรองประธานมีหน้าท่ีช่วยเหลือประธานในการดูแลและควบคุมการทางาน ของคณะกรรมการ และทาหน้าท่ีเป็นฝ่ายผลิตร่วมกับสมาชิกในช่วงมีการแปรรูปปลา เลขานุการ มีหน้าที่ดูแลเร่ืองเอกสารต่าง ๆ ที่เก่ียวข้องกับกลุ่มและจดวาระการประชุมในทุก ๆ ครั้งท่ีมีการ ประชุม เหรัญญิก มีหน้าที่ดูแลเรื่องเงินทั้งหมดในกลุ่ม ทาหน้าที่จัดทาบัญชีรายรับรายจ่ายของกลุ่ม และมีหน้าที่เป็นฝ่ายขาย ในส่วนฝ่ายการตลาด มีหน้าท่ีหาแหล่งขายสินค้า รวมท้ังมีหน้าท่ี ประชาสัมพันธ์สินค้า และฝ่ายประชาสัมพันธ์ มีหน้าท่ีกระจายข่าวสารภายในกลุ่มให้สมาชิกกลุ่ม ทราบ เช่น การจัดการประชุมของกลมุ่ เป็นต้น และกรรมการกลุ่มและสมาชิกกลุ่ม มีหน้าท่ีเป็นผู้ผลิต สนิ ค้า อย่างไรก็ตามการแบ่งหน้าท่ีความรับผิดชอบสมาชิกภายในกลุ่มยังพบว่า สมาชิกกลุ่มยังขาด ความรู้ ความเข้าใจในบทบาทหนา้ ที่ของตน ตาแหน่งกรรมการมีบทบาทหน้าที่ไมแ่ ตกต่างจากสมาชิก กลุ่มท่ัวไป โดยให้ข้อมูลวา่ ในช่วงการจดทะเบียนจัดตั้งกลุ่มเงื่อนไขต้องมีกรรมการ แต่ทราบถึงหน้าที่ ของตาแหน่งกรรมการ ดงั ท่ี คณุ อ้อย อายุ 30 ปี กลา่ วว่า …“พี่ก็ไม่รู้ว่ำกรรมกำรทำหน้ำท่ีอะไร ตอนไปจดทะเบียนกลุ่มเขำให้มี กรรมกำรด้วย จึงเลือกกันขึ้นมำตำมท่ีเขำบอก”… (คุณอ้อย อำยุ 30 ปี สมั ภำษณเ์ ม่อื วันที่ 20 เมษำยน 2562)
48 และจากการสมั ภาษณ์สมาชกิ กลมุ่ พบว่า สมาชกิ กลุ่มบางคนยังไม่ทราบหน้าที่ของตนชดั เจน ให้สัมภาษณ์ว่าสมาชิกกลุ่มทุกคนชว่ ยกนั ดังท่ี คุณกวาง อายุ 50 ปี กล่าวว่า …“ยังไม่ได้แบ่งเปน็ สัดส่วนท่ีชดั เจน มีแตช่ ว่ ยกนั ทำ”… (คุณกวำง อำยุ 50 ปี สัมภำษณเ์ ม่อื วันที่ 23 มีนำคม 2562) จากข้อมูลข้างต้นทาให้เห็นว่าสมาชิกกลุ่มมีการจัดตั้งกลุ่มอาชีพขึ้นตามข้ันตอน และวิธีการ จัดต้ังกลุ่มอาชีพท่ีกรมการพัฒนาชุมชนกาหนดไว้ แต่ยังไม่เข้าใจถึงข้ันตอนการดาเนินการจัดต้ังกลุ่ม อาชีพ และองค์ประกอบพ้ืนฐานของกลุ่มอย่างลึกซ้ึง เป็นการทาตามคาแนะนาของเจ้าหน้าท่ี สานักงานพัฒนาชุมชนอาเภอ เช่น การเลือกคณะกรรมการที่เป็นตัวแทนกลุ่มในการบริหารงาน การติดต่อประสาน การดาเนินงานต่าง ๆ กับหน่วยงาน และผู้เก่ียวข้อง จะต้องมีหน้าท่ีทาอะไรบ้าง และจัดทาแผนปฏิบัติการของกลุ่มเป็นส่ิงที่จาเป็น เพื่อใช้เป็นแนวทางในการดาเนินกิจกรรมร่วมกัน ด้ังน้ันหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องควรมีการส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจในขั้นตอนการดาเนินงานการจัดตั้ง กลุ่มอาชีพให้แก่ครัวเรือนสมาชิกกลุ่มอาชีพ เพ่ือให้การดาเนินกิจกรรมของกลุ่มอาชีพให้ประสบ ความสาเร็จตามวัตถุประสงค์ร่วมกันของสมาชิก รวมถึงทาให้กลุ่มมีความเข้มแข็งสามารถดาเนินการ ไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธิภาพอย่างท่องแท้ 2) ดา้ นความร่วมมอื และการประสานงานภายในกลมุ่ อาชีพ จากการสัมภาษณ์ ผู้วิจัยได้ใช้แนวทางการสัมภาษณ์ที่ประกอบด้วยประเด็นคาถาม ในการสัมภาษณ์ ได้แก่ ความรว่ มมือของสมาชิกในกล่มุ เปน็ อย่างไร จากการสัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูลหลัก (Key informant) พบว่า สมาชิกกลุ่มทุกคนให้ความ ร่วมมือเป็นอย่างดี เมื่อถึงช่วงมีการสั่งซ้ือจากลูกค้า (Order) หรือการออกบูทในงานแสดงสินค้า โอทอป (OTOP) สมาชิกผู้ที่มีหน้าท่ีในการผลิตแปรรูปปลาก็จะมาร่วมกันผลิต และในช่วงไม่มีการ สั่งซื้อจากลูกค้า (Order) หรือไม่ได้ทากิจกรรมการแปรรูปปลา ซ่ึงเป็นเวลาวา่ งสมาชิกมกี ารมาพบปะ พูดคยุ กนั เปน็ ประจา ดงั ท่ี คณุ นอ้ ม อายุ 60 ปี กลา่ วว่า …“ถ้ำไม่ได้ทำปลำก็มำนั่งคุยกัน เวลำเขำไปขำยของอย่ำงง้ี ก็มำช่วยกัน ช่วยทำ”… (คณุ น้อม อำยุ 60 ปี สมั ภำษณเ์ มอ่ื วันที่ 23 มีนำคม 2562) ทาให้การประสานงานระหว่างสมาชิกในกลุ่มเป็นไปได้ง่าย เน่ืองจากสมาชิกในกลุ่มเป็นคน ในชมุ ชนเดยี วกันและเปน็ เครอื ญาติกนั จึงมีความสนิทสนมกนั อีกท้ังเทคโนโลยีในการส่ือสารก็ง่ายขึ้น และรวดเรว็ ต่อการประสานงาน ดงั ท่ี คณุ บุญ อายุ 62 ปี กล่าววา่
49 …“กำรประสำนงำนของคนในกลุ่มดีนะ เพรำะเรำอยู่ในหมู่บ้ำนเดียวกัน กำรประสำนงำนก็ไม่ยำก นัดแนะกันก็ไม่ยำก ก็สมัยนี้มีโทรศัพท์กันทุก คน”… (คณุ บุญ อำยุ 62 ปี สมั ภำษณ์เมื่อวนั ที่ 23 มนี ำคม 2562) นอกจากน้ีสมาชิกกลุ่มสามารถแสดงความคิดเห็นและมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการกลุ่ม เช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ ๆ นอกจากจะทาปลาแดดเดียวแล้วยังสามารถทาผลิตภัณฑ์ อน่ื ๆ ไดด้ ้วย ดงั ท่ี คณุ กวาง อายุ 50 ปี กล่าวว่า …“มกี ำรปรึกษำกัน คุยกันว่ำจะทำอะไรกันยงั ไง ทำแบบไหน ต่อยอดใหเ้ ป็น กลุ่มใหญ่ขึ้นมำ แล้วก็จะทำอะไรเพิ่ม ก็เนี่ยชวนกันทำพวกน้ำพริกน่ีแหละ อันน้ีก็เตรียมผลิตแล้ว”… (คุณกวำง อำยุ 50 ปี สัมภำษณ์เมื่อวันท่ี 23 มีนำคม 2562) และเปิดโอกาสให้สมาชิกสามารถนาผลติ ภัณฑท์ ี่ทาที่บ้านมาขายหน้าร้านหรือหน้าบูทในงาน แสดงสินค้าโอทอป (OTOP) ได้ เป็นการสร้างรายได้เพิ่มให้แก่สมาชิกกลุ่มท่ีต้องการนาสินค้าของตน มาขาย ดังท่ี คณุ ออ๊ ด อายุ 25 ปี กล่าววา่ …“บอกว่ำทุกคนถ้ำมีสินค้ำหรืออะไรเน่ีย เวลำเรำเอำไปขำย คือสำมำรถทำ มำได้ อย่ำงอำหรือว่ำป้ำเน่ยี อยู่บำ้ นแล้วทำน้ำพริกก็ได้ แล้วเวลำเรำออกบูท เรำก็เอำไปขำย มันก็เท่ำกับเป็นกำรกระจำยรำยได้”… (คุณอ๊อด อำยุ 25 ปี สมั ภำษณ์เมอ่ื วนั ที่ 23 มีนำคม 2562) 3) ด้านกฎระเบยี บและข้อบังคบั ของกลมุ่ อาชพี จากการสัมภาษณ์ ผู้วิจัยได้ใช้แนวทางการสัมภาษณ์ที่ประกอบด้วยประเด็นคาถามในการ สมั ภาษณ์ ไดแ้ ก่ กฎระเบยี บ ข้อบงั คบั ของกลุ่มเปน็ อย่างไร การแบง่ ปันผลประโยชนใ์ ห้แก่สมาชิกเป็น อยา่ งไร จากการสัมภาษณ์ผู้ใหข้ ้อมูลหลกั (Key informant) พบวา่ มกี ารร่างกฎระเบียบ ข้อบงั คับใน เร่ืองต่าง ๆ ท่ีสมาชิกทุกคนต้องรับทราบและเพื่อใช้เป็นแนวทางปฏิบัติร่วมกัน ไดแก่ กฎระเบียบ ข้อบังคับการประชุมที่จะต้องมีการประชุมกันอย่างน้อยเดือนละ 1 คร้ัง และช่วงเวลามีการผลิตก็ถือ ว่าเปน็ การพบปะพูดคุยกันระหว่างสมาชิกอย่แู ล้ว ดงั ที่ คณุ ออ๊ ด อายุ 25 ปี กลา่ ววา่
50 …“ตอนนี้ก็ตกเดือนละครั้ง เพรำะเวลำมีหน่วยงำนอะไรง้ี ถ้ำเกิดไม่มีเรื่อง อะไรสำคัญเรำจะเจอกันปกติอยู่แล้ว เวลำมำทำปลำ”… (คุณอ๊อด อำยุ 25 ปี สัมภำษณเ์ ม่อื วนั ที่ 23 มีนำคม 2562) การระดมหนุ้ มที ้ังการระดมหนุ้ จากสมาชกิ ที่เข้ามาใหม่ และการระดมห้นุ กับสมาชิกทุกคนใน แต่ละปี เพื่อใช้เป็นเงินทุนและเงินหมุนเวียนภายในกลุ่ม โดยต้องจ่ายหุ้นละไม่ต่ากว่า 100 บาท ดังท่ี คุณบญุ อายุ 62 ปี กล่าวว่า …“กำรระดมหุ้นเป็นเงินทุนในกำรบริหำรในกลุ่ม หุ้นละไม่ต่ำกว่ำ 100 บำท อำจจะมำกกว่ำน้ันก็ได้ ระเบียบที่กลุ่มร่ำงเอง เช่น จะเป็นสมำชิกจะต้องมี เงินหุ้นอย่ำงน้อยปีละ 100 บำท ถึงสิ้นปีก็จะมีกำรงบดุลบัญชี จัดสรรผล กำไร จะต้องได้กำไรแล้วเอำกำไรต้องนั่นมำปันผลให้กับสมำชิก”… (คุณบุญ อำยุ 62 ปี สัมภำษณเ์ ม่อื วันที่ 23 มีนำคม 2562) การเปิดรับสมาชิกกลุ่ม พบว่า มีการเปิดรับตลอด และไม่ได้มีการกาหนดคุณสมบัติของคนท่ี จะมาเป็นสมาชิก เพียงแค่เป็นคนที่พร้อมจะให้ความร่วมมือ เม่ือกลุ่มมีการทากิจกรรมร่วมกัน ดังท่ี คณุ ต้อย อายุ 59 ปี กล่าว่า …“มีแต่ตัวก็มำได้ เพรำะเรำไม่ได้กะเกณฑ์ไรตรงนั้น แต่ว่ำขอให้ซ่ือสัตย์ต่อ กนั จริงใจต่อกัน ช่วย ๆ กัน”… (คุณต้อย อำยุ 59 ปี สัมภำษณ์เมื่อวันท่ี 23 มีนำคม 2562) และคนท่ีมาเป็นสมาชิกจะต้องจ่ายค่าหุ้น ขั้นต่า 100 บาท สามารถลงหุ้นเท่าไหร่ก็ได้ ไม่ได้ มีเกณฑจ์ ากัด ดังที่ คณุ อ๊อด อายุ 25 ปี กลา่ ววา่ …“ขอแคเ่ วลำมีอะไรก็ให้มำร่วมมือกัน อย่ำงมีประชุมอย่ำงง้กี ็อยำกใหม้ ำนะ ขอควำมร่วมมือมำ ถ้ำเกิดใครไม่ติดธุระสำคัญ คนท่ีมำเป็นสมำชิกจะต้อง จ่ำยหุ้น ข้ันต่ำ 100 บำทยังไม่มีเกณฑ์กำหนดว่ำห้ำมเกินเท่ำไหร่”… (คุณออ๊ ด อำยุ 25 ปี สัมภำษณ์เมอื่ วันที่ 23 มนี ำคม 2562)
51 ในส่วนของการแบ่งปันผลประโยชน์ให้แก่สมาชิก พบว่า กลุ่มมีกฎระเบียบในการแบ่งปัน ผลประโยชน์ให้แก่สมาชิก แต่ในปัจจุบันยังไม่มีการปันผลอย่างชัดเจน เน่ืองจากกลุ่มเพ่ิงเริ่มก่อตั้งจึง ยงั ไมไ่ ดผ้ ลกาไรมากพอทจ่ี ะแบง่ ปันให้แก่สมาชกิ ทกุ คนได้ ดงั ท่ี คุณต้อย อายุ 59 ปี กลา่ วว่า …“ตำมระเบียบในกลุ่มก็ปีนึงถึงมีกำรปันผล ตอนนี้ยังไม่มีกำรปันผลกัน”… (คุณต้อย อำยุ 59 ปี สัมภำษณเ์ มือ่ วันที่ 23 มนี ำคม 2562) อย่างไรก็ตามกลุ่มมีการแบ่งปันผลจากการขายในแต่ละคร้ัง โดยรายได้จากการขาย 80 เปอรเ์ ซน็ จะนามาแบ่งให้เป็นค่าแรงงานแกส่ มาชิกท่ีมาชว่ ยในการผลติ สินค้า ในส่วนอกี 20 เปอร์เซ็น จะเกบ็ ไวเ้ ปน็ เงนิ ทุนของกลุ่ม ดงั ท่ี คุณอ๊อด อายุ 25 ปี กลา่ วว่า …“เรำมีกำรจัดสรรปันส่วน อย่ำงกำไร 80 เปอร์เซ็นท่ีขำยได้จ่ำยเป็นค่ำแรง ส่วน 20 เปอร์เซ็น ก็เอำไว้บริหำรจัดกำรภำยในกลุ่ม อย่ำงอำเขำมำทำ เรำได้มำก็เอำมำแบ่งสรรปันส่วน ส่วนคนท่ีมำบ้ำงไม่มำบ้ำงก็ได้ตำมสัดส่วน ที่ควรจะได้รับไป”… (คุณอ๊อด อำยุ 25 ปี สัมภำษณ์เม่ือวันที่ 23 มีนำคม 2562) 4) ดา้ นการวางแผนการผลิตและการจาหนา่ ย จากการสัมภาษณ์ ผู้วิจัยได้ใช้แนวทางการสัมภาษณ์ที่ประกอบด้วย ประเด็นคาถามในการ สมั ภาษณ์ ได้แก่ การวางแผนการผลติ และการจาหนา่ ยเป็นอยา่ งไร จากการสัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูลหลัก (Key informant) พบว่า กลุ่มยังไม่มีการวางแผนการผลิต และการจาหน่ายที่ชัดเจน ซ่ึงการแปรรูปผลิตภัณฑ์ แต่ละคร้ังจะทาตามการส่ังซื้อจากลูกค้า (Order) ออกบูทงานแสดงสินค้าโอทอป (OTOP) และมีตลาด รวมทั้งขึ้นอยู่กับจานวนปลาของสมาชิกในกลุ่ม ท่โี ตเตม็ พอพร้อมนามาแปรรปู ดังท่ี คุณนอ้ ม อายุ 60 ปี กลา่ วว่า …“ข้ึนอยู่กับวัตถุดิบด้วยบำงคร้ังก็ไม่มี ถ้ำมีปลำเยอะเรำก็จะทำกันเยอะ”… (คณุ นอ้ ม อำยุ 60 ปี สมั ภำษณเ์ มอ่ื วันที่ 23 มีนำคม 2562) โดยมีคณะกรรมการบริหารกลุ่มและสมาชิกผู้ที่ว่างจากงานประจาจะเป็นผู้ผลิตสินค้า ในแต่ละครั้ง โดยที่ผ่านมากลุ่มแปรรูปบ้านบ้านคลองสองเคยเข้าร่วมอบรมการทาแผนธุรกิจ แต่กลุ่มยังไม่มีการจัดทาแผนธุรกิจ โดยให้ขอมูลว่าไม่เข้าใจถึงกระบวนการการจัดทาแผนธุรกิจ เปน็ เรอื่ งทีย่ ุ่งยาก ดงั ท่ี คณุ ออ้ ย อายุ 30 ปี กล่าวว่า
52 …“เคยไปอบรมกับพัฒนำชุมชน แต่เรำไม่เข้ำใจ”… (คุณอ้อย อำยุ 30 ปี สมั ภำษณ์เมื่อวันท่ี 23 มีนำคม 2562) อย่างไรก็ตามมีการวางแผนไว้หากผลิตภัณฑ์ของกลุ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น และมีตลาดมากข้ึน จะกระจายการผลิตไปแตล่ ะครวั เรอื นสมาชกิ ดงั ที่ คุณออ๊ ด อายุ 25 ปี กลา่ ว่า …“ข้ึนอยู่ท่ีออเดอร์แล้วก็กำลังปลำ แต่มวี ำงแผนไว้ถ้ำเกิดกำรตลำดมันโอเค อย่ำงกลุ่มมีบ่อเรำก็จะกระจำยในกำรเล้ียงปลำไปแต่ละกลุ่มสมำชิก”… (คุณอ๊อด อำยุ 25 ปี สัมภำษณ์เม่อื วันที่ 23 มีนำคม 2562) 5) ด้านเงนิ ทนุ ของกลมุ่ อาชพี จากการสัมภาษณ์ ผู้วิจัยได้ใช้แนวทางการสัมภาษณ์ท่ีประกอบด้วย ประเด็นคาถามในการ สัมภาษณ์ ได้แก่ เงินทุนภายในกลุ่มมาจากไหน กลุ่มมีการทาบัญชีและการตรวจสอบบัญชีหรือไม่ อย่างไร แหล่งเงินทุนสนับสนุนของกลุ่มมีแหล่งใดบ้าง การดาเนินการขอสนับสนุนจากหน่วยงานต่าง ๆ เปน็ อยา่ งไร กลุ่มมปี ัญหาและอปุ สรรคดา้ นเงนิ ทนุ หรอื ไม่ อย่างไร จากการสัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูลหลัก (Key informant) พบว่า ด้านเงินทุนของกลุ่มแปรรูปปลา บ้านคลองสอง เบ้ืองต้นทางกลุ่มมีการเรียกเก็บค่าสมาชิกหรือระดมหุ้นจากสมาชิกกลุ่ม หุ้นละ ไม่ต่ากว่า 100 บาท หรือจะมากกว่า 100 บาทก็ได้ ไม่ได้มีเกณฑ์การจากัดหุ้น โดยเงินที่ได้จากการ ระดมหุ้นเปน็ ทุนเพ่อื ใช้จา่ ยบริหารในกล่มุ นอกจากน้ีกลุ่มมีการทาบัญชีรายรบั รายจ่ายโดยมีเหรญั ญิก เปน็ ผ้รู บั ผดิ ชอบในสว่ นการทาบญั ชี เปน็ การทาบัญชเี บ้อื งตน้ ไมไ่ ด้มีข้อมูลท่ีละเอียดมาก และ กลุ่มไม่ได้มีรายรับ รายจ่ายเป็นประจาจึงมีการขาดช่วงไม่ได้ทาแบบต่อเนื่อง อีกทั้งกลุ่มยังไม่มีการ ตรวจสอบบัญชี กลุ่มแปรรูปปลาบ้านคลองสองเพิ่งก่อต้ังได้ไม่นาน จึงยังไม่เข้าที่เข้าทางมากนัก แตใ่ นกฎระเบียบจะต้องมกี ารตรวจสอบบญั ชอี ยูแ่ ล้ว ดังท่ี คณุ ต้อย อายุ 59 ปี กล่าววา่ …“ต่อไปต้องมี ตอนนี้ยัง เพรำะกลุ่มเพิ่งก่อตั้ง”… (คุณต้อย อำยุ 59 ปี สัมภำษณเ์ ม่ือวันท่ี 23 มนี ำคม 2562) สมาชิกในกลุ่มไม่ได้ให้ความสนใจในการตรวจสอบบัญชี เน่ืองจากสมาชิกกลุ่มเห็นว่าไม่ได้ เปน็ สง่ิ ทีต่ อ้ งกงั วล เปน็ ญาตกิ ันจงึ ไวใ้ จกนั ดงั ท่ี คณุ นอ้ ม อายุ 60 ปี กล่าวว่า …“ไม่เคยไปตรวจสอบ เขำกล็ ูกหลำน เรำก็ไวใ้ จเขำ”… (คณุ น้อม อำยุ 60 ปี สัมภำษณ์เมือ่ วนั ที่ 23 มนี ำคม 2562)
53 ในส่วนแหล่งเงินทุนสนับสนุน จากการสัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูลหลัก (Key informant) พบว่า กล่มุ ไม่มหี น่วยงานใดสนับสนุนดา้ นเงนิ ทุน ซึ่งการใชจ้ ่ายในการแปรรปู ผลิตภณั ฑ์ทกุ ครัง้ กลุ่มใช้เงนิ ทุน ของกลุ่มเพ่ือใช้จ่ายค่าวัตถุดิบในการแปรูป ค่าขนส่งสินค้า รวมถึงค่าใช้จ่ายในการซ้ือเทคโนโลยี ให้ข้อมูลว่า ไม่อยากไปกู้ยืมจากธนาคาร เพราะมองว่าจะเป็นการสร้างภาระหนี้สินและกลุ่มยังไม่มี ความพร้อมทจี่ ะรบั ผิดชอบหน้ีสนิ จานวนมาก ดงั ที่ คณุ ออ๊ ด อายุ 25 ปี กลา่ วว่า …“ตอนน้ียังไม่มีอะไรมำสนับสนุนเรำ เรำยังไม่ทำเป็นรูปธรรม สมมติถ้ำเรำ ไปกู้ ธกส. มำ 100,000 มำบริหำรจัดกำรงี้ น่ันคือจะทำเป็นรูปธรรมแล้ว เพรำะว่ำเรำรแู้ ลว้ วำ่ เรำกู้เงนิ เขำมำนะ ถำ้ เรำมสี มำชิก 10 คน กู้มำ 100,000 ก็เทำ่ กับมีภำระคนละ 10,000 แล้ว กำรบริหำรจัดกำรมันก็ต้องเป็นรูปธรรม มำกข้ึน เพรำะว่ำเป็นหน้ีและต้องใช้คืน อันนั้นก็งบส่วนตัวนะ”… (คุณอ๊อด อำยุ 25 ปี สมั ภำษณเ์ มื่อวันท่ี 23 มนี ำคม 2562) ท้ังน้ี กลุ่มได้มีการดาเนินการขอสนับสนุนจากหน่วยงานต่าง ๆ แต่ไม่ได้การตอบรับกลับมา กลุ่มจึงประสบปัญหาด้านการเงิน คือ เงินทนุ ไม่มีเพียงพอ จึงเป็นอุปสรรคทาให้กลุ่มไม่สามารถลงทุน ในด้านการพัฒนาคุณภาพผลติ ภัณฑ์ได้ ดงั ท่ี คุณอ้อย อายุ 30 ปี กล่าววา่ …“เรำเคยขอสนับสนุนไป แต่ไม่ได้รับกำรตอบรับมำเลย พ่ีกำลังดำเนินเรื่อง ขอ อย. อยู่ เพรำะว่ำเรำจะต้องทำโรงเรือน ตอนนเี้ รำก็ค่อย ๆ เพรำะเงินเรำ ยังไม่ถึง”… (คณุ ออ้ ย อำยุ 30 ปี สัมภำษณ์เมอื่ วนั ท่ี 23 มีนำคม 2562) จากข้อมูลข้างต้นทาให้เห็นถึงอุปสรรคด้านการเข้าถึงแหล่งทุนของกลุ่ม เน่ืองจากรอการ สนับสนุนจากหน่วยงานภายนอกเพียงอย่างเดียว ไม่ได้ให้ความสนใจกับการกู้ยืมจากแหล่งทุนต่าง ๆ เนื่องจากกลุม่ ยังไมพ่ ร้อมท่ีจะมภี าระหนี้สินจานวนมาก 4.2.2 ด้านการผลติ และผลผลิตของกลมุ่ อาชพี จากการสัมภาษณ์ ผู้วิจัยได้ใช้แนวทางการสัมภาษณ์ที่ประกอบด้วย ประเด็นคาถามในการ สัมภาษณ์ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ของกลุ่มมีอะไรบ้าง สถานที่ที่ใช้ในการผลิตคือที่ใด วิธีการจัดหาวัตถุดิบ แหล่งวัตถุดิบท่ีใช้ในการแปรรูป ขั้นตอนการผลิตเป็นอย่างไร เทคโนโลยีท่ีใช้ในการผลิตมีอะไรบ้าง ผลิตภัณฑ์ บรรจภุ ัณฑ์ และการเพ่มิ มูลคา่ ผลิตภณั ฑเ์ ป็นอยา่ งไร
54 จากการสัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูลหลัก (Key informant) พบว่า ผลิตภัณฑ์ของกลุ่มมีการแปรรูป ผลิตภัณฑ์หลายอย่าง เช่น ปลาแดดเดียว ปลาดุกฟู ปลาร้า ปลาส้ม และน้าปลาหวาน แต่เดิมมีการ ขายปลาดุกแดดเดียวเพียงอย่างเดียว หลังจากการออกบูทงานแสดงสินค้าโอทอป (OTOP) กลุ่ม เครือข่ายที่ไปงานแสดงสินค้าโอทอป (OTOP) ด้วยกันได้แนะนาให้กลุ่มแปรรูปปลาบ้านคลองสองทา ผลิตภณั ฑอ์ ื่น ๆ ให้มีความหลากหลายมากขึ้น ดังท่ี คณุ ออ้ ย อายุ 30 ปี กล่าวว่า …“ปลำแดดเดียว ปลำรำ้ แลว้ กม็ ีน้ำปลำหวำน เอำปลำทำ คือไปอบรมเขำก็ แนะนำมำ ตำมเครือข่ำยเรำ เขำก็บอกสูตร เรำก็จะมำลองทำ แล้วขำยมันก็ โอเค”… (คณุ ออ้ ย อำยุ 30 ปี สัมภำษณเ์ มือ่ วนั ที่ 23 มนี ำคม 2562) โดยผลิตภัณฑ์หลักของกลุ่ม คือ ปลาดุกแดดเดียวซึ่งผลผลิตต่อเดือนประมาณ 500 กิโลกรัม ตอ่ เดอื น ซ่ึงสถานที่ที่ใช้ในการผลิต คอื บ้านเลขที่ 64 หมู่ท่ี 8 บา้ นคลองสอง ตาบลบ้านสรา้ ง จังหวัด ปราจีนบรุ ี ซ่งึ เป็นบา้ นของประธานกลมุ่ การจดั หาวตั ถุดิบ ซึ่งส่วนใหญ่ใช้วัตถุดิบในชุมชน คอื สมาชิก ในกลุ่มเล้ียงปลาเป็นอาชีพ ซ่ึงรวมบ่อปลาของสมาชิกเฉพาะบ่อท่ีเลี้ยงปลาดุกมีประมาณ 30 ไร่ ปรมิ าณปลามมี ากพอสาหรับการแปรรปู ผลติ ภณั ฑ์ จงึ ไมจ่ าเป็นต้องซือ้ จากตลาด ช่วงวันและเวลาในการผลิตการแปรรูปผลิตภัณฑ์ แต่ละคร้ังจะทาตามการส่ังซ้ือจากลูกค้า (Order) และการจัดจาหน่ายตามงานแสดงสินค้าโอทอป (OTOP) และที่ตลาดประชารัฐ ไมไ่ ดแ้ ปรรูป ทุกวัน และเม่ือมีการส่ังซื้อจากลูกค้าหรือมีตลาดขาย สมาชิกกลุ่มจะมาร่วมกันแปรรูปปลาล่วงหน้า ก่อน 1 วนั ดงั ที่ คณุ นอ้ ม อายุ 60 ปี กล่าวว่า …“ไม่ทุกวัน แล้วแต่ว่ำเขำจะส่ังมำ ทำตั้งแต่ตอนเช้ำเลย มีบูธท่ีไหนเรำก็จะ มำทำกัน แล้วก็เอำออกไปขำย สมมติว่ำทำวันน้ี พรุ่งน้ีก็เอำไปขำย”… (คุณน้อม อำยุ 60 ปี สัมภำษณ์เม่ือวนั ที่ 23 มนี ำคม 2562)
55 ภาพที่ 4.2 สมาชิกร่วมกันผลิตแปรรปู ปลา ทม่ี า : กลุ่มแปรรปู ปลาบ้านคลองสอง ในส่วนข้ันตอนการผลิต จากการสัมภาษณ์สมาชิกกลุ่ม พบว่า การแปรรูปปลาดุกแดดเดียว มีข้ันตอนแรกคือ นาปลาดุกท่ีเลี้ยงไว้อายุ 3-4 เดือนมาน็อคน้าแข็ง เพื่อให้ปลาตาย โดยสมาชิกให้ เคล็ดลับว่าการนาปลาสดมาน็อคน้าแข็งจะทาให้แร่ง่าย และเม่ือปลาตายแล้วจากนั้นนามาแร่เอาไส้ และขป้ี ลาออกจากทอ้ ง จากน้ันนาไปล้างนา้ สะอาด และนามาหมักด้วยเกลือ และขมนิ้ 1 คืน โดยเผย ว่าการใส่ขมิ้นลงไปเพ่ือดับกล่ินคาวปลา และทาให้ดูมีสีสันท่ีน่ารับประทาน และเมื่อหมักไว้ครบ กาหนด 1 คืนจะนามาตากแดด 1 วัน โดยนาเข้าตากในตู้สาหรับตากปลา ดังที่ คุณน้อม อายุ 60 ปี กล่าววา่ …“ก็เอำปลำอำยุ 3-4 เดือนมำน็อคน้ำแข็ง เพ่ือท่ีจะแร่ มันจะได้แร่ง่ำย เอำมำหมักคืนนึง หมักด้วยขม้ิน เกลือ เหลือง ๆ คือใส่ขมิ้นนะไม่ใส่สี แล้วเอำมำตำกวนั เดียว ถ้ำตำกหลำยวันมันจะแหง้ ไป กนิ ไม่อรอ่ ย ไม่นุม่ แข็ง ไป สมัยยังไม่มีตู้ก็ตำกแดด ที่เรำขอตู้ก็เพรำะฝน แมลงวัน ฝุ่นผง ”… (คณุ นอ้ ม อำยุ 60 ปี สมั ภำษณเ์ มือ่ วันท่ี 23 มนี ำคม 2562) หลงั จากนาปลาดกุ ท่ผี ่านการหมักไปตากครบกาหนด 1 วันหรือ 1 แดดเรยี บร้อยแล้ว จะเก็บ มาพักให้ปลาหายร้อน เพ่ือให้ปลาคลายความร้อนเมื่อนาไปใส่ถุงซีลถุงสูญญากาศจะไม่ทาให้เกิด ความชืน้ ในถุง จากน้ันนามาบรรจุภัณฑ์ใส่ถงุ ผา่ นการซีลถุงสญุ ญากาศ
56 นอกจากนี้กลุ่มแปรรูปปลาบ้านคลองสองได้มีการจัดการเศษวัตถุดิบที่เหลือใช้ในการแปรรูป ซึ่งศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาค 9 จังหวัดชลบุรี ได้เข้ามาให้ความรู้ในด้านการผลิตท่ีเป็นมิตร ต่อส่ิงแวดล้อม โดยการนาเศษปลาที่เป็นส่วนเหลือท้ิงมาหมักเป็นปุ๋ยชีวภาพ ซ่ึงสมาชิกกลุ่มสามารถ นาปยุ๋ หมกั ทไี่ ดไ้ ปใชใ้ นการปลกู พืชอกี ด้วย ดังที่ คุณบญุ อายุ 62 ปี กลา่ ววา่ …“อตุ สำหกรรมใหค้ วำมรู้เก่ียวกบั กำรเป็นมิตรต่อสิ่งแวดลอ้ ม กำรกำจัดเศษ ปลำเขำก็มำแนะนำ”… (คุณบุญ อำยุ 62 ปี สัมภำษณ์เม่ือวันที่ 23 มีนำคม 2562) ภาพท่ี 4.3 ภาพปลาดกุ ทถ่ี กู แรเ่ อาไส้ออกแล้วและล้างด้วยน้าสะอาด ทมี่ า : กลุ่มแปรรูปปลาบา้ นคลองสอง
57 ภาพท่ี 4.4 สมาชกิ รว่ มกนั หมักปลาดกุ ทม่ี า : กลุ่มแปรรปู ปลาบ้านคลองสอง ในส่วนของเทคโนโลยีท่ีใช้ในการผลิต กลุ่มมีตสู้ าหรับตากปลาจากพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด กลางและขนาดใหญ่ และเครื่องซีลถุงสูญญากาศขนาดกลาง ในสว่ นตสู้ าหรบั ตากน้นั ทางกลมุ่ ได้มกี าร ไปขอสนับสนุนจากสานักงานพลังงานจังหวัดปราจีนบุรี และได้รับการสนับสนุนในเร่ืองค่าใช้จ่าย ในการซ้ือตู้ตากจากพลังงานแสงอาทิตย์ โดยการลดราคาให้ 30 เปอร์เซ็น ซ่ึงกลุ่มแปรรูปบ้านคลอง สองจะตอ้ งรับผดิ ชอบค่าใชจ้ า่ ยในส่วน 70 เปอร์เซน็ นัน้ ดงั ท่ี คณุ ออ๊ ด 25 ปี กล่าววา่ …“ในส่วนตรงน้ีคือเรำไม่ได้ฟรี 100 เปอร์เซ็น มันจะมีค่ำใช้จ่ำยในส่วนนึง ท่เี รำจะต้องออก คอื 70 เปอรเ์ ซ็น กลุ่มเรำยอมเสียส่วนนงึ เพอื่ จะได้มำ มัน เป็นประโยชน์กบั เรำ เพอ่ื เป็นมำตรฐำน คนกนิ เขำก็ยอมรบั ว่ำของเรำสะอำด นะ”… (คณุ อ๊อด อำยุ 25 ปี สัมภำษณเ์ มอื่ วันท่ี 23 มนี ำคม 2562) ในส่วนเครื่องซีลสูญญากาศเป็นเคร่ืองขนาดกลาง ทางกลุ่มได้ทาการซ้ือเอง โดยใช้เงินทุน ของกลุ่มซ้ือ เพ่ือบรรจุภัณฑ์และยังเป็นการเพ่ิมมูลค่าผลิตภัณฑ์ ปัจจุบันทางกลุ่มได้ดาเนินการ ขอสนับสนุนไปที่สานักงานประมงจังหวัดปราจีนบุรี หลังจากน้ันหน่วยงานก็ได้ติดต่อมาและเข้ามา สอบถามถึงความตอ้ งการท่อี ยากได้รบั การสนบั สนนุ
58 โดยล่าสดุ ทางกลมุ่ ได้เสนอขอเครอ่ื งซีลสูญญากาศขนาดใหญ่ กบั เครื่องอบลมร้อน แตย่ งั ไมไ่ ด้ รบั การตอบรบั กลับมา ดงั ท่ี คณุ ออ้ ย อายุ 30 ปี กล่าววา่ …“ประมง คือเรำติดต่อเสนอไปก่อน แล้วเขำก็เข้ำมำให้กำรสนับสนุน ประมงเพ่ิงเข้ำมำ เขำมำถำมว่ำเรำต้องกำรอะไรให้ประมงช่วย เรำก็เลย เสนอเคร่ืองซีลสูญญำกำศขนำดใหญ่ กับเครื่องอบลมร้อนที่สำมำรถใส่ปลำ สดเข้ำไปแล้วให้มันแห้งไปเลย เหมือนผลไม้อบแห้ง ตอนน้ีก็กำลังขอไป”… (คุณออ้ ย อำยุ 30 ปี สมั ภำษณเ์ มื่อวันท่ี 23 มีนำคม 2562) ภาพท่ี 4.5 สมาชกิ กลุ่มขณะตากปลาในตู้ตากพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดกลาง ที่มา : กลมุ่ แปรรูปปลาบา้ นคลองสอง ภาพที่ 4.6 ตู้ตากพลงั งานแสงอาทติ ย์ขนาด 300 X 400 เมตร
59 การพัฒนาผลิตภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์ และการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ พบว่า การพัฒนาผลิตภัณฑ์ มีหน่วยงานเข้ามาให้การสนับสนุน คือ มหาวิทยาลัยบูรพา เป็นหน่วยงานที่เป็นสถานศึกษาได้เข้ามา ให้ความรู้ในด้านการพัฒนาปรับปรุงรสชาติและตัวผลิตภัณฑ์ปลาดุกแดดเดียวให้มีรสชาติ ท่นี า่ รบั ประทาน ดงั ท่ี คณุ อ๊อด อายุ 25 ปี กลา่ วว่า …“มอบูรพำก็มำ เรื่องกำรตลำด เค้ำมำวิจัยเหมือนกัน ปลำรสชำติแบบนี้น่ำ กินมั้ย มีหนังแบบนีน้ ่ำกินม้ัย”… (คุณอ๊อด อำยุ 25 ปี สมั ภำษณ์เมื่อวันท่ี 23 มีนำคม 2562) ในส่วนการบรรจุภัณฑ์ของกลุ่มแปรรูบ้านคลองสองเป็นถุงสูญญากาศ มีสต๊ิกเกอร์ที่มีรูป การ์ตูนปลา ตัวอักษรเขียนว่า “แม่ตุ๊กตาปลาดุกทอง” มีเบอร์โทรศัพท์ และไอดีไลน์สาหรับการติดต่อ สั่งซื้อ ซ่ึงทางกลุ่มเป็นผู้ออกแบบเอง สมาชิกกลุ่มมีการไปอบรมเรื่องการบรรจุภัณฑ์กับสานักงาน พฒั นาชุมชนจัดข้นึ โดยการส่งตัวแทนกลุ่มไป คอื เหรญั ญิกกับฝ่ายการตลาด โดยให้เหตผุ ลว่าสมาชิก กล่มุ คนร่นุ ใหม่ควรให้ความสาคัญกบั การพัฒนาด้านบรรจภุ ณั ฑ์ ดงั ท่ี คุณออ๊ ด อายุ 25 ปี กลา่ วว่า …“มนั ก็เป็นคนรุ่นเรำอ่ะ อย่ำงปำ้ เขำกม็ วี ชิ ำ แต่ถ้ำพวกแพค็ เกจจิงกต็ ้องเป็น รุ่นเรำ เวลำไปอบรมเจอแต่คนรุ่นแม่ เขำเดินมำเป็น 10 ปี แต่ไม่ได้แบบนี้ ผมคิดว่ำด้วยวัยอำจจะต่ำงกัน คือมันต้องมีคนรุ่นใหม่อ่ะเข้ำมำในกำร สนับสนุนเร่ืองน้ี”… (คุณอ๊อด อำยุ 25 ปี สัมภำษณ์เม่ือวันท่ี 23 มีนำคม 2562) และสมาชิกกลุ่มเห็นความสาคัญการเพิ่มมูลค่าให้ผลิตภัณฑ์ด้วยการทาบรรจุภัณฑ์ ให้ดูแตกตา่ ง เม่ือมีต้นทุนท่ีนอ้ ยกว่าและไม่ต้องผ่านพ่อคา้ คนกลาง จงึ เอาส่วนต่างไปพฒั นาด้านบรรจุ ภณั ฑ์เพ่ือให้ผลิตภัณฑ์มคี ณุ ภาพ และถูกสุขลกั ษณะ ดังท่ี คุณอ๊อด อายุ 25 ปี กลา่ วว่า …“เรำไม่ต้องผ่ำนพ่อค้ำคนกลำง แบบเรำไม่ต้องไปซื้อปลำโลละ 40 เรำมี ต้นทนุ ปลำเรำโลละ 30 เรำมสี ว่ นตำ่ งจำกเขำ 10 บำท เรำเอำสว่ นตำ่ งน้นั มำ พัฒนำในด้ำนบรรจุภัณฑ์ ในระบบให้ถูกสุขลักษณะดีกว่ำ เพื่อจะสรำ้ งควำม แตกต่ำง แต่ว่ำรำคำก็คือรำคำมำตรฐำน โลละ 150”… (คุณอ๊อด อำยุ 25 ปี สัมภำษณเ์ มื่อวันที่ 23 มีนำคม 2562)
60 นอกจากน้ีกลุ่มยังต้องการพัฒนาผลผลิตภัณฑ์ให้มีรูปแบบที่หลากหลาย หลากหลายรสชาติ และมีความต้องการยืดอายุการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ เนื่องจากผลิตภัณฑ์ของกลุ่มเป็นปลาที่ตากแดด เดียว ซ่ึงตัวผลิตภัณฑ์ยังมีความช้ืนอยู่ ส่งผลให้มีอายุการใช้งานสั้น เก็บไว้ได้ 1 สัปดาห์เท่าน้ัน และ เม่ือขายไม่หมด ส่งผลให้จะต้องทิ้งผลิตภัณฑ์ ซ่ึงสมาชิกกลุ่มแปรรูปปลาบ้านคลองสองยังไม่มีความรู้ ทางดา้ นเหล่านี้ ดงั ท่ี คุณอ้อย อายุ 30 ปี กลา่ วว่า …“อยำกถนอมปลำให้อยู่ได้นำน ๆ มันเป็นปัญหำท่ีวัตถุดิบ แล้วเรำไม่มี ควำมรู้เร่ืองน้ีด้วย อยำกได้ควำมรู้เร่ืองกำรทำอย่ำงไรให้มันอยู่ได้นำน แล้วอยำกทำหลำยรูปแบบ หลำยรสชำติ อำจจะเป็นปลำแผ่น ปลำเส้น เรำยังไม่ควำมรู้ด้ำนนี้ ยังไม่มีวิทยำกรมำสอนเรื่องนี้”… (คุณอ้อย อำยุ 30 ปี สมั ภำษณเ์ ม่ือวนั ที่ 23 มีนำคม 2562) ภาพที่ 4.7 ผลติ ภณั ฑ์ของกลมุ่ แปรรูปปลาบ้านคลองสอง 4.2.3 ดา้ นการตลาด จากการสัมภาษณ์ ผู้วิจัยได้ใช้แนวทางการสัมภาษณ์ที่ประกอบด้วย ประเด็นคาถามในการ สัมภาษณ์ ได้แก่ แหล่งขายสินค้ามีที่ใดบ้าง การกาหนดราคาเป็นอย่างไร กลุ่มลูกค้ามีกลุ่มวัยใดบ้าง วิธีการขายและการหาตลาดเป็นอย่างไร วิธีการและช่องทางการประชาสัมพันธ์สินค้าเป็นอย่างไร กลมุ่ มีปัญหาและอุปสรรคด้านการตลาดหรอื ไม่ อย่างไร จากการสัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูลหลัก (Key informant) พบว่า แหล่งขายผลิตภัณฑ์ของกลุ่ม แปรรูปปลาบ้านคลองสอง คือ สถานที่ต้ังกลุ่มแต่ไม่ได้มีหน้าร้าน ซ่ึงผลิตตามการส่ังซื้อจากลูกค้า (Order) และมีบริการจัดส่งถึงที่ผ่านไปรษณีย์ นอกจากน้ีมีงานแสดงสินค้าโอทอป (OTOP)
61 จังหวัดปราจีนบุรี และตลาดประชารัฐ ซ่ึงขายได้ประมาณ 2,000 - 3,000 บาทต่อคร้ัง ดังท่ี คุณอ้อย อายุ 30 ปี กล่าววา่ …“มีออกตำมบูธ แล้วก็ OTOP ที่พี่เคยไป เดือนหนึ่งจะออกแบบน้ี 1-2 หน ท่ีจังหวัดหน้ำร.5 สำนักงำนเครือข่ำย OTOP จะเรียก ขำยได้ 2-3 พัน บำงครั้งก็ไม่ถึง”… (คุณอ้อย อำยุ 30 ปี สัมภำษณ์เม่ือวันที่ 23 มีนำคม 2562) ในส่วนของการกาหนดราคา มหาวิทยาลัยบูรพา ได้เข้ามาให้ความรู้ในด้านการกาหนดราคา โดยสอนการคานวณราคาผลติ ภณั ฑจ์ ากต้นทุนในการผลติ ปจั จุบันมกี ารคานวณจากต้นทุนในการผลิต ได้แก่ ค่าใช้จ่ายท่ีใช้ในการผลิต เช่น ปลาดุก เครื่องปรุง และค่าจ้างแรงงาน ตลอดจนค่าบรรจุภัณฑ์ ดังท่ี คุณอ้อย อายุ 30 ปี กล่าวว่า …“ปัจจุบันขำยขีดละ 35 บำท แต่ก่อนไม่ได้มีกำรคำนวณอะไร ขำยขีดละ 25 บำท พอมอบูเข้ำมำเขำมำช่วยสอนกำรกำหนดรำคำที่ต้องคำนวณจำก วัตถุดิบ ตั้งแต่กระบวนกำรนำปลำสดมำแปรรูปจนไปถึงตอนบรรจุภัณฑ์ และต้องบวกค่ำแรงเรำเข้ำไปด้วย พอเขำพำทำแล้วก็รู้ว่ำเรำติดลบไปตั้ง เยอะ ปัจจุบันขำยขีดละ 35 ที่ทอดแล้ว”… (คุณอ้อย อำยุ 30 ปี สัมภำษณ์ เมือ่ วนั ที่ 23 มนี ำคม 2562) นอกจากนี้ยังมีการสร้างแรงดึงดูดลูกค้า โดยการให้ส่วนลดจากราคาปลาดุแดดเดียว คร่ึงกิโลกรัม ราคา 90 บาทเม่ือส่ังซ้ือ 1 กิโลกรัมจะได้ส่วนลด 20 บาท ดังที่ คุณอ้อย อายุ 30 ปี กลา่ วว่า …“ถ้ำเป็นกิโลจะขำยกิโลละ 160 คร่ึงกิโลขำย 90 บำท ทำไมถึงขำย 90 บำท เพรำะจะทำให้เขำคิดว่ำคร่ึงกิโลมันแพงนะ ซ้ือเป็นกิโลไปเลย”… (คุณอ้อย อำยุ 30 ปี สัมภำษณเ์ มื่อวันที่ 23 มีนำคม 2562) โดยกลุ่มลกู ค้าส่วนใหญ่เป็นวัยทางานและวยั ผู้สูงอายุ ซงึ่ เป็นลูกคา้ กล่มุ เดิม และมกี ลุ่มลูกค้า ใหม่ ๆ เปน็ ลูกคา้ มาจากการบอกต่อปากต่อปากกนั ดังที่ คุณอ้อย อายุ 30 ปี กลา่ ววา่ …“ส่วนใหญ่เป็นลูกค้ำกลุ่มเดิม มีใหม่บ้ำงท่ีเขำบอกต่อ ๆ กัน ”… (คณุ ออ้ ย อำยุ 30 ปี สมั ภำษณ์เมอ่ื วนั ท่ี 23 มนี ำคม 2562)
62 ในส่วนวิธีการหาตลาดจาก การสัมภาษณ์ พบว่า กลุ่มมีเครือข่ายกลุ่มอาชีพด้วยกัน ซึ่งเป็นกลุ่มอาชีพในงานแสดงสินค้าโอทอป (OTOP) ด้วยกันได้แนะนา และเครือข่ายท่ีได้จากการไป อบรมต่าง ๆ ท้ังในจังหวัดปราจีนและจังหวัดอ่ืน ๆ และช่องทางประชาสัมพันธ์ใช้วิธีการบอกปากต่อ ปาก และการประชาสัมพันธผ์ ่านช่องทางออนไลน์ เชน่ ไลน์ ดังท่ี คณุ อ๊อด อายุ 25 ปี กล่าวว่า …“พอไปอบรมก็ได้เครือข่ำย เจอกันได้รู้จักกัน เขำก็แนะนำ เป็นเครือข่ำย ในจังหวัดก็มี ต่ำงจังหวัดก็มี เพรำะบำงที่เขำจัดเป็นภำค”… (คุณอ๊อด อำยุ 25 ปี สมั ภำษณเ์ มื่อวนั ที่ 23 มนี ำคม 2562) 4.3 การไดร้ บั การสนับสนนุ จากหน่วยงานภาครฐั และภาคเอกชน การได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน พบว่า หน่วยงานท่ีเข้ามาให้ การสนับสนุนกลุ่มแปรรูปปลาบ้านคลองสองส่วนใหญ่เป็นหน่วยงานภาครัฐ ซ่ึงแบ่งการสนับสนุน ออกเป็น 2 ด้าน ได้แก่ การสนับสนุนด้านความรู้ เช่น ความรู้การจัดตั้งกลุ่มอาชีพ การบรรจุภัณฑ์ การทาแผนธรุ กิจ การทาปุ๋ยหมักจากเศษวัตถดุ ิบ และการตลาดการกาหนดราคา และด้านเทคโนโลยี เช่น เครื่องตากจากพลังงานแสงอาทิตย์ นอกจากน้ี การสนับสนุนด้านงบประมาณ พบว่า ยังไม่มี หนว่ ยงานใดให้การสนับสนุน ทั้งน้ี ชไมพร สืบสุโท (2554) กล่าวว่า นโยบายรฐั บาล เช่น งบประมาณ สนบั สนนุ อุปกรณ์ เครื่องมอื การฝีกอบรม และสนบั สนุนวิทยากรมาถ่ายทอดความรผู้ ่านกระบวนการ ทากิจกรรมในการพัฒนากลุ่มอาชีพ จะเอ้ืออานวยให้กลุ่มอาชีพมีโอกาสในการเจริญเติบโต และส่งผลให้กลุ่มอาชีพมีศักยภาพมากข้ึน สอดคล้องกับ กรรณิการ์ ทามา (2557) ได้สรุปแนวทาง ในการพัฒนาของกลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์ จักสานจากต้นกกบ้านหว้า ที่จะทาให้กลุ่มประสบผลสาเร็จ และยั่งยืน คือ หน่วยงานภาครัฐให้การหนุนเสริมด้านงบประมาณ และองค์ความรู้อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องควรมีการสนับสนุนด้านเงินทุนให้แก่กลุ่ม เพ่ือใช้ในการพัฒนาด้านต่าง ๆ เช่น เทคโนโลยีการผลิต การบรรจุภัณฑ์ เป็นต้น ซึ่งการพัฒนาด้านต่าง ๆ เหล่านี้ จะส่งผลให้กลุ่ม มศี ักยภาพมากข้นึ
63 4.4 แนวทางการพัฒนากลุ่มแปรรูปปลาบ้านคลองสองสู่การเป็นผู้ประกอบการ OTOP ให้มี ประสิทธภิ าพและประสิทธิผลมากยิ่งขน้ึ จากการศึกษาสภาพการดาเนินงานของกลุ่มแปรรูปปลาบ้านคลองสอง ทาให้เห็นประเด็น ที่ ส า คั ญ ซ่ึ ง ส า ม า ร ถ น า ข้ อ มู ล ม า ใ ช้ ใ น ก า ร วิ เ ค ร า ะ ห์ แ น ว ท า ง ก า ร พั ฒ น า ก ลุ่ ม อ า ชี พ สู่ ก า ร เ ป็ น ผู้ประกอบการ OTOP ตลอดจนการพัฒนาศักยภาพการดาเนินงานของกลุ่มแปรรูปปลา บ้านคลองสองให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากข้ึน จากการศึกษาพบว่า สภาพการดาเนินงาน ด้านการบริหารจัดการโครงสร้างของกลุ่มอาชีพเป็นไปตามกระบวนการ หลัก 5 ก ประกอบด้วย กลุ่ม/สมาชิก กรรมการ กฎระเบียบ กองทุน และกิจกรรม ที่ชัดเจน สมาชิกกลุ่มมีส่วนร่วม ในการแสดงความคิดเห็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ กลุ่มมีการพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ให้มีความ หลากหลาย และมีตลาดรองรับผลิตภัณฑ์ของกลุ่ม แต่ยังไม่หลากหลายและกว้างขวางมากนัก อยา่ งไรก็ตามยังพบวา่ การแบ่งหน้าทส่ี มาชิกยังไม่ชัดเจน สมาชกิ กลุ่มขาดความรูค้ วามเข้าใจในหน้าที่ ของตน ไมม่ กี ารแผนงานผลติ และการจาหน่าย ผลิตภณั ฑม์ อี ายุการเกบ็ รักษาไดไ้ มน่ าน และ ชอ่ งทางการจาหน่ายน้อย จากขอ้ มูลดงั กล่าว ผูว้ ิจัยได้นามาวเิ คราะห์แนวทางการพัฒนากลมุ่ แปรรูปปลาบ้านคลองสอง สู่การเป็นผู้ประกอบการ OTOP ให้กลุ่มอาชีพสามารถพัฒนาศักยภาพการดาเนินงานของกลุ่ม ให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากข้ึน ท้ังน้ีจะต้องอาศัยแนวทางด้านการบริหารจัดการ แนวทางการพฒั นาผลติ ภัณฑ์ และแนวทางการพัฒนาดา้ นการตลาด ซ่ึงมรี ายละเอยี ดดังน้ี 4.4.1 แนวทางการพัฒนาดา้ นการบริหารจดั การ การพัฒนาด้านการบริหารจัดการ โดยการเสริมสร้างความรู้ด้านการบริหารจัดการ จากการศึกษา พบว่า กลุ่มแปรรูปปลาบ้านคลองสองขาดการองค์ความรู้บริหารจัดการกลุ่ม สมาชิกกลุ่มยังขาดการแบ่งหน้าที่กันรับผิดชอบกันอย่างชัดเจน และไม่มีการวางแผนการผลิต การจาหน่าย จากทฤษฎีของ Hanry Fayor (1964 อ้างถึงใน สุภัสรา บุญเรือง, 2559) กล่าวว่า กระบวนการจัดการประกอบดว้ ยหน้าท่ีทางการจดั การ 5 ประการ เม่ือนามาประยุกตใ์ ชใ้ นการพฒั นา แนวทางการพัฒนากลุ่มอาชีพสู่การเป็นผู้ประกอบการ OTOP ให้มีการดาเนินงานอย่าง มปี ระสทิ ธิภาพและประสิทธผิ ล จะพบว่า กลุ่มแปรรปู ปลาบา้ นคลองสองจะต้องมกี ารกาหนดแผนการ ปฏิบัติงาน ซ่ึงเป็นการกาหนดเป้าหมาย เพ่ือให้เกิดผลตามที่กาหนดไว้ และควรมีการจัดโครงสร้าง องค์กรที่ประกอบด้วย การกาหนดตาแหน่งงาน การจัดกลุ่มงานเป็นหน่วย เป็นแผนก และการสร้าง ความเข้าใจในบทบาทหน้าท่ีของตน เพื่อให้งานต่าง ๆ สามารถดาเนินไปโดยมีการประสานงานกัน
64 โครงสร้างหน้าที่จะต้องสามารถชี้ให้ชัดได้ว่าต้องทาอะไร ซ่ึงจะช่วยให้เกิดความเป็นระเบียบ ปฏบิ ตั ิงานเปน็ กลุม่ ไดด้ ี อย่างไรก็ตาม การทาความเข้าใจในเรื่องการบริหารจัดการ ถือว่าเป็นเรื่องสาคัญ ในการดาเนินงานของกลุ่มอาชีพ ชุตินธร บารุงภักดี (2559) ได้ศึกษาศึกษาสภาพปัญหา การดาเนินงาน วิเคราะห์หาสาเหตุของปัญหาในการดาเนินงาน กรณีศึกษาบ้านหนองลาด หมู่ท่ี 4 ตาบลถ่อนนาลับ อาเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี พบว่า กลุ่มอาชีพขาดการมีหลักการบริหารจัดการ ท่ีดี มีสาเหตุมาจากสมาชิกกลุ่มส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจในการรวมเป็นกลุ่ม ทาให้ไม่สนใจหรือไม่ตั้งใจ ในการรับฟงั ในการรบั ร้หู รือทาความเขา้ ใจเกย่ี วกับกล่มุ ไม่มีการเขียนแผนการใช้เงิน และการวางแผน การตลาดก่อนการดาเนินการ จะเห็นได้ว่าสมาชิกกลุ่มอาชีพทุกคนจะต้องมีความเข้าใจและให้ ความสาคัญในการรวมกลุ่ม และต้องมีส่วนร่วมในการวางแผงการดาเนินงานร่วมกัน เพื่อให้กลุ่ม มคี วามเข้มแข็งสามารถดาเนินงานได้อย่างมีประสิทธภิ าพ กอ่ ใหก้ ลมุ่ ประสบความสาเร็จได้ 4.4.2 แนวทางการพัฒนาดา้ นผลติ ภณั ฑ์ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยการให้ความรู้ด้านการผลิต การแปรรูปให้ได้คุณภาพมีมาตรฐาน รองรับ จากการศึกษา พบวา่ กลุ่มแปรรูปปลาบ้านคลองสองมกี ารพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ใหม้ ีความ หลากหลาย และมคี วามต้องการใหผ้ ลิตภณั ฑ์สามารถขายได้กบั ทุกชว่ งอายุ นอกจากนี้กลุ่มยงั ต้องการ เงินทุน ในการพัฒนาเทคโนโลยีในการแปรรูป เพ่ือยืดอายุการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ และมีมาตรฐาน เปน็ ท่ียอมรับ ดงั ที่ พฒั นากรอาเภอบ้านสรา้ ง กล่าววา่ …“กลุ่มยังมีอุปสรรค ในควรผลักดันผลิตภัณฑ์เข้ำสู่มำตรฐำนต่ำง ๆ โดยเฉพำะมำตรฐำนของสำนักงำนคณะกรรมกำรอำหำรและยำ (อย.) ท่ีมี ควำมต้องกำรผลักดนั ผลิตภัณฑ์ให้ผ่ำนมำตรฐำน เพ่ือสร้ำงควำมม่ันใจให้กับ ผ้บู ริโภค และต่อยอดช่องทำงกำรจดั จำหนำ่ ย”… (พัฒนำกรอำเภอบ้ำนสรำ้ ง สมั ภำษณ์วนั ท่ี 30 มนี ำคม 2562) จ า ก ก า ร ศึ ก ษ า ก า ร ด า เ นิ น ง า น ข อ ง ก ลุ่ ม ด้ า น ก า ร ผ ลิ ต แ ล ะ ผ ล ผ ลิ ต ข อ ง ก ลุ่ ม อ า ชี พ กลุ่มยังประสบปัญหาผลิตภัณฑ์มีอายุสั้น ดังน้ันกลุ่มแปรรูปปลาบ้านคลองสองควรมีการพัฒนา ผลิตภัณฑ์ให้ได้คุณภาพ และมีมาตรฐานรองรับ โดยการส่งเสริมการบรรจุภัณฑ์ท่ีถูกสุขลักษณะ และการพัฒนาสนิ ค้าดว้ ยการผลิตหรือจัดทรพั ยากรท่ีมอี ยู่ในทอ้ งถ่นิ ให้เป็นสนิ คา้ ท่ีมคี ุณภาพ มีจุดเด่น เป็นเอกลักษณ์ของชุมชน อีกทั้งสามารถจาหน่ายสนิ คา้ ชุมชน สู่ตลาดท้งั ในและตา่ งประเทศดว้ ยระบบ รา้ นคา้ เครือข่าย และอินเตอรเ์ นต็ อีกดว้ ย
65 4.4.3 แนวทางการพฒั นาด้านการตลาด การพฒั นาดา้ นการตลาด โดยการสง่ เสริมความรเู้ รื่องการตลาดแสวงหาตลาดใหม่และสารวจ ตลาด เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ตรงกับความต้องการของตลาด จากการศึกษา พบว่า กลุ่มแปรรูปปลา บา้ นคลองสองไม่มีการทาแผนธุรกิจ ดังน้ันควรมสี ่งเสรมิ การจดั ทาแผนธุรกิจ เพอ่ื ใหส้ มาชิกกล่มุ ทราบ เป้าหมาย และทิศทางการทางาน นอกจากน้ีช่องทางการตลาดของกลุ่มแปรรูปปลาบ้านคลองสอง ยังมีปัญหายังขาดช่องทางการจาหน่าย ในกลุ่มผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ ควรส่งเสริมการเพ่ิม ช่องทางการจาหน่าย และโอกาสทางตลาด โดยส่งเสริมให้มีการจับคู่ระหว่างผู้รับจ้างผลิต และผจู้ าหน่ายสินค้า และสง่ เสริมการเข้ารว่ มงานแสดงและจาหนา่ ยสนิ คา้ ในระดับท้องถน่ิ 4.5 อภิปรายผลการศกึ ษา 4.5.1 สภาพการดาเนนิ งานของกลมุ่ แปรรูปปลาบา้ นคลองสอง 1) การบรหิ ารจดั การกล่มุ อาชีพ โครงสร้างของกลุ่มอาชพี เป็นไปตามกระบวนการ หลัก 5 ก ประกอบด้วย กลุ่มคน กรรมการ กฎระเบียบ กองทุน และกิจกรรม ในส่วนบริหารจัดการกลุ่มด้านโครงสร้างของกลุ่ม พบว่า สมาชิก ขาดความรู้ ความเข้าใจในบทบาทหน้าท่ีของตน มีการแบ่งหน้าทีก่ ันรับผิดชอบกันไม่ชัดเจน และไม่มี การวางแผนการผลิตการตลาด ท้งั นี้ ความสามารถในการบริหารจัดการ และการมสี ่วนรว่ มของคนใน กลุ่มก็เป็นส่ิงท่ีสาคัญในการสร้างความย่ังยืนของกลุ่มและความสาเร็จของกลุ่ม ท้ังนี้ กังสดาล กนก หงส์ (2557) กล่าวว่า ความรู้ความสามารถของคณะกรรมการ การสร้างกระบวนการเรียนรู้ให้กับ สมาชิก การส่ือสารกันภายในกลุ่ม และการมีส่วนร่วมของสมาชิกกลุ่ม ถือได้ว่าเป็นเง่ือนไขและปัจจัย ท่ีทาให้กลุ่มประสบความสาเร็จได้ ในส่วนของความร่วมมือสมาชิกกลุ่มมีส่วนร่วมในการทางานเป็น อย่างดี เมื่อถึงช่วงมีการส่ังซื้อจากลูกค้า (Order) หรือการไปออกบูทในงานจัดแสดงสินค้าโอทอป (OTOP) สมาชกิ ผทู้ ี่มหี น้าท่ใี นการผลิตแปรรปู ปลาก็จะมาร่วมกันผลิต และในช่วงไม่มกี ารผลิตสมาชิก มีการมาพบปะพูดคุยกันเป็นประจา ทาให้การประสานงานระหว่างกันง่าย สมาชิกกลุ่มมีส่วนร่วม แสดงความคิดเห็นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ ๆ ได้ตลอดเวลา สอดคล้องกับ สุภาพร สาธร พันธ์ (2551) กลา่ วว่า การพัฒนากลุ่มควรพฒั นาคุณภาพผลติ ภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์ และการตลาด โดยให้ สมาชกิ ได้มีการประชมุ แลกเปล่ยี นความคดิ และการบริหารอยา่ งสมา่ เสมอ
66 2) ดา้ นการผลติ และผลผลติ ของกลุม่ อาชีพ ผลิตภัณฑ์ของกลุ่มมีการแปรรูปปลาหลายรูปแบบ เช่น ปลาดุกแดดเดียว ปลาร้า ปลาส้ม ปลาดุกฟู และนา้ ปลาหวาน ซ่งึ วัตถุดิบส่วนใหญ่เป็นวัตถดุ ิบในชุมชน คอื สมาชิกในกลุ่มเล้ยี งปลาเป็น อาชีพ มีการนาเทคโนโลยีมาใช้ในการผลิตท้ังกระบวนการตากจนถึงการบรรจุภัณฑ์ ซึ่งกลุ่มแปรรูป ปลาบ้านคลองสองเห็นความสาคญั การเพมิ่ มลู ค่าให้ผลติ ภัณฑ์ด้วยการทาบรรจุภัณฑใ์ ห้ดูแตกตา่ ง เมื่อ มีต้นทุนท่ีน้อยกว่าและไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง จึงเอาส่วนต่างไปพัฒนาด้านบรรจุภัณฑ์เพ่ือให้ ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพ และถูกสุขลักษณะท่ีดี สอดคล้องกับ กรมการพัฒนาชุมชน (2560) ได้กล่าวถึง การพัฒนากลุ่มอาชีพจาเป็นต้องมีการพัฒนาด้านต่าง ๆ การเพ่ิมมูลค่าผลิตภัณฑ์ ได้แก่ การคัด วัตถุดิบท่ีมีคุณภาพ คานึงถึงความปลอดภัย และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การใช้วัตถุดิบจาก ธรรมชาติ การใช้ภูมิปัญญาท้องถ่ินหรือวัฒนธรรม เป็นฐานในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การออกแบบ บรรจภุ ณั ฑ์ และรูปแบบผลิตภณั ฑ์ที่สอดคล้องกับความตอ้ งการของตลาด มีการนาเทคโนโลยีและองค์ ความรใู้ หม่มาใช้ในการดาเนินงาน 3) ด้านการตลาด แหล่งขายผลติ ภณั ฑข์ องกลุ่มแปรรูปปลาบ้านคลองสอง คือ สถานท่ีตัง้ กลุม่ แตไ่ ม่ได้มีหน้าร้าน ซึ่งผลิตตามการสั่งซื้อจากลูกค้า (Order) และมีบริการจัดส่งถึงท่ีผ่านไปรษณีย์ นอกจากนี้มีงานแสดง สินค้าโอทอป OTOP จังหวัดปราจีนบุรีหรือจังหวัดใกล้เคียง และตลาดประชารัฐ ซึ่งขายได้ประมาณ 2,000 - 3,000 บาทต่อครั้ง การกาหนดราคา ปจั จบุ นั มกี ารคานวณจากต้นทุนในการผลิต คา่ ใช้จ่ายที่ ใช้ในการผลิต ตั้งแต่ค่าปลาดุก ค่าเครื่องปรุง และค่าจ้างแรงงาน ตลอดจนค่าบรรจุภัณฑ์ โดยกลุ่ม ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นวัยทางานและวัยผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นลูกค้ากลุ่มเดิม ส่วนช่องทางประชาสัมพันธ์ใช้ วิธีการบอกปากต่อปาก และการประชาสัมพนั ธผ์ ่านช่องทางออนไลน์ เช่น ไลน์ จะเห็นได้ว่ากลุ่มแปรรูปปลาบ้านคลองสองสามารถนาหลักปัจจัยส่วนประสมการตลาด (Marketing mix หรือ 4 Ps) มาใช้ในการดาเนินงาน ท่ีประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์ (Product) ตอ้ งคานึงถึงความสามารถในการตอบสนองความต้องการของลูกค้า ราคา (Price) ที่จะต้องไม่สูงมาก เกินไป การจัดจาหน่าย (Place) ช่องทางการจาหน่ายที่หลากหลาย และการส่งเสริมการตลาด (Promotion) เช่น การประชาสัมพันธผ์ า่ นชอ่ งทางส่ือออนไลน์ เปน็ ต้น
67 4.5.2 แนวทางการพัฒนากลุ่มแปรรปู ปลาบ้านคลองสองสู่การเปน็ ผปู้ ระกอบการ OTOP ให้มีประสทิ ธภิ าพและประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น 1) แนวทางการพฒั นาด้านการบริหารจัดการ การพัฒนาด้านการบริหารจัดการ โดยการเสริมสร้างความรู้ด้านการบริหาร จัดการ กลุ่มแปรรูปปลาบ้านคลองสองจะต้องมีการกาหนดแผนการปฏิบัติงาน ซึ่งเป็นการกาหนดเป้าหมาย เพอ่ื ให้เกิดผลตามที่กาหนดไว้ ควรมีการกาหนดตาแหนง่ งาน การจัดกล่มุ งานเป็นหน่วย เพอื่ ให้สมาชิก เข้าใจหน้าที่ของตน อีกท้ังการดาเนินงานต่าง ๆ สามารถดาเนินไปโดยมีการประสานงานกัน เป็นระเบียบ ผู้นาหรือคณะกรรมการกลุ่มจะต้องมีหน้าที่ในการจัดการทรัพยากรมนุษย์ เพื่อให้กลุ่ม มีกาลังคนท่ีมีประสิทธิภาพพร้อมในการทางาน และเพื่อให้ได้คนท่ีเหมาะสมกับลักษะงาน ตลอดจน ผู้นาหรือคณะกรรมการกลุ่มควรดูแลให้การทางานต่าง ๆ ภายในโครงสร้างองค์การดาเนินไป โดยราบรื่น มีการประสานร่วมกันทางานของตนเองเป็นอย่างดี โดยอาศัยวิธีการเสริมความสัมพันธ์ ระหว่างบุคคลที่ดี ตลอดจนการควบคุมกิจกรรมต่าง ๆ ที่สร้างขึ้นเพ่ือให้เกิดความแน่ใจว่าการทางาน ต่าง ๆ จะสาเร็จตามแผนที่กาหนดไว้ นอกจากนี้ กรรณิการ์ ทามา (2557) ได้สรุปแนวทางในการ พัฒนาของกลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์ จักสานจากต้นกกบ้านหว้า ท่ีจะทาให้กลุ่มประสบผลสาเร็จ และย่ังยืน คอื พัฒนาการมสี ่วนร่วมของสมาชกิ ภายในในกลมุ่ รว่ มคดิ รว่ มตดั สินใจ รว่ มวางแผน 2) แนวทางการพัฒนาดา้ นผลติ ภณั ฑ์ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยการให้ความรู้ด้านการผลิต การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ได้คุณภาพ และมีมาตรฐานรองรับ โดยการส่งเสรมิ การบรรจุภัณฑ์ท่ีถูกสุขลักษณะ และการพัฒนาสินค้าด้วยการ ผลิตหรือจัดทรัพยากรท่ีมีอยู่ในท้องถ่ินให้เป็นสินค้าท่ีมีคุณภาพ มีจุดเด่น เป็นเอกลักษณ์ของชุมชน อีกท้ังสามารถจาหน่ายสินค้าชุมชน สู่ตลาดท้ังในและต่างประเทศด้วยระบบร้านค้าเครือข่าย และอินเตอร์เน็ต สอดคล้องกับ โพยมพร รักษาชล (2561) ได้ศึกษาแนวทางในการพัฒนาความเป็น ผู้ประกอบการของวิสาหกิจชมุ ชนในจงั หวดั นครศรธี รรมราช ในด้านการพัฒนาผลติ ภณั ฑ์ให้สอดคลอ้ ง กับความต้องการของตลาด การพัฒนาขีดความสามารถในด้านการจัดหาตลาดต่างประเทศ การออกแบบผลิตภัณฑ์ และการพัฒนาทักษะในด้านการบริหารเงินทุน รวมทั้งการพัฒนาบุคลากร ให้มีความรู้ความสามารถ เพิ่มทักษะให้ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา ซึ่งการเปิดเสรีการค้าประชาคม เศรษฐกิจอาเซียน จึงเป็นโอกาสทางธุรกิจของผู้ผลิตสินค้าหนึ่งตาบล หน่ึงผลิตภัณฑ์ (OTOP) ท่ีต้อง เร่งพัฒนาสินค้า ทั้งด้านคุณภาพและมาตรฐานระดับสากล เพื่อสร้างความเชื่อถือต่อผู้บริโภค โดยผสมผสานวัฒนธรรม ภมู ิปญั ญากับเทคโนโลยี นวัตกรรม
68 และพัฒนารูปแบบการนาเสนอความโดดเด่น เรื่องราวของสินค้าให้เกิดการรับรู้ต่อผู้บริโภค เพ่ือให้เกิดการสร้างคุณค่าในตัวสินค้า สามารถเพ่ิมมูลค่าและลดอุปสรรคการแข่งขันทางด้านราคา ให้ความสาคัญและตระหนักถึงการสร้างยี่ห้อสินค้าให้เป็นท่ียอมรั บ (The Office of SMEs Promotion (OWMEP), 2012 อ้างถึงใน โพยมพร รักษาชล, 2561) 3) แนวทางการพัฒนาด้านการตลาด การพัฒนาด้านการตลาด ควรส่งเสริมการเพ่ิมช่องทางการจาหน่าย และโอกาสทางตลาด โดยส่งเสริมให้มีการจับคู่ระหว่างผู้รับจ้างผลิตและผู้จาหน่ายสินคา้ และส่งเสริมการเขา้ ร่วมงานแสดง และจาหน่ายสินค้าในระดับท้องถ่ิน สอดคล้องกับ ภาควัต ศรีสุรพล (2560) ได้ศึกษาแนวทาง การส่งเสริมกลุ่มอาชีพ ขององค์การบริหารส่วนตาบลนาชุมแสง อาเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น ควรส่งเสริมกลุ่มอาชีพสนับสนุนการจัดกิจกรรม การแสดงหรือจาหน่ายสินค้าโอทอป (OTOP) ในงานประจาปีและงานอน่ื ๆ ตามความเหมาะสม
บทท่ี 5 สรปุ และข้อเสนอแนะ การวิจัยเร่ือง “แนวทางการพัฒนากลุ่มอาชีพสู่การเป็นผู้ประกอบการ OTOP กรณีศึกษา กลุม่ แปรรูปปลาบ้านคลองสอง ตาบลบ้านสรา้ ง อาเภอบา้ นสรา้ ง จงั หวดั ปราจนี บรุ ี” คร้งั น้ีใช้ระเบียบ วิธีวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research Methodology) เป็นระเบียบวิธีวิจัยทางสังคมศาสตร์ โดยศึกษาสภาพการดาเนินงานของกลุ่มอาชีพบ้านคลองสอง และวิเคราะห์แนวทางการพัฒนา กลุ่มแปรรูปปลาบ้านคลองสองสู่การเป็นผู้ประกอบการ OTOP ให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล มากยงิ่ ขนึ้ ซึง่ สามารถสรปุ ผลการวจิ ัยดงั น้ี 1. บทสรุป 1.1 วัตถปุ ระสงคก์ ารวจิ ยั 1.2 ระเบียบวิธวี ิจยั 1.3 สรปุ ผลการวิจัย 2. ข้อเสนอแนะจากการวจิ ยั 2.1 ขอ้ เสนอแนะเชิงพัฒนา 2.2 ข้อเสนอแนะในการวจิ ัยคร้ังต่อไป 5.1 บทสรปุ 5.1.1 วตั ถุประสงคก์ ารวจิ ัย 1) เพ่ือศึกษาสภาพการดาเนินการของกลุ่มแปรรูปปลาบ้านคลองสอง ตาบลบ้านสร้าง อาเภอบา้ นสร้าง จงั หวดั ปราจีนบุรี 2) เพื่อวิเคราะห์แนวทางการพัฒนากลุ่มแปรรูปปลาบ้านคลองสองสู่การเป็นผู้ประกอบการ OTOP ใหม้ ปี ระสิทธภิ าพและประสิทธผิ ลมากยง่ิ ขน้ึ 5.1.2 ระเบยี บวธิ ีวจิ ัย การวิจัยครั้งนี้ใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) เพื่อศึกษาสภาพ การดาเนินงานของกลุ่มแปรรูปปลาบ้านคลองสอง และเพ่ือวิเคราะห์แนวทางการพัฒนากลุ่มแปรรูป ปลาบ้านคลองสองสู่การเป็นผู้ประกอบการ OTOP ให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากย่ิงขึ้น โดยหน่วยในการวิเคราะห์ คือ หน่วยระดับกลุ่ม (Group Unit) คือ กลุ่มแปรรูปปลาบ้านคลองสอง
70 ตาบลบ้านสร้าง อาเภอบ้านสร้าง จังหวัดปราจีนบุรี ซ่ึงผู้ให้ข้อมูลและกลุ่มเป้าหมายการวิจัยคร้ังนี้ ได้แก่ คณะกรรมการบริหารกลุ่ม สมาชิกกลุ่มแปรรูปปลาบ้านคลองสอง และเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน อาเภอบ้านสร้าง จานวน 7 คน ใช้การเลือกผู้ให้ข้อมูลแบบเฉพาะเจาะจง (Purposive Sampling) ซ่ึงเทคนิคท่ีใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ การสังเกตการณ์อย่างไม่มีส่วนร่วม และการสัมภาษณ์ เชิงลึกแบบก่ึงโครงสร้าง โดยมีแนวคาถามในการสัมภาษณ์เป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล ซึ่งการวิเคราะห์ข้อมูลมีผู้วิจัยได้มีการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลดิบ เพื่อดูการตกหล่นของ ข้อมูลและตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข้อมูล จากนั้นทา Fine Note เพ่ือดูความสอดคล้องของ ข้อมูลจากผู้ให้ข้อมูลทั้งหมด และการจัดกลุ่มข้อมูล เป็นจัดหมวดหมู่ของข้อมูลโดยการให้รหัสข้อมูล ด้วยการจัดกลุ่มข้อมูล โดยมีข้ันตอนการจัดหมวดหมู่ข้อมูลคือ การใส่รหัสแบบเปิด (Open Coding) โดยการอ่านข้อมูลท่ีได้มาจากสนามแล้วจับประเด็น และแปลงข้อมูลดิบให้เป็นแนวคิดเบื้องต้น และ เชื่อมโยงข้อมูลหรือกลุ่มข้อมูล (Axial Coding) เชื่อมโยงแนวคิดเบื้องต้นท่ีจัดหมวดหมู่ในการใส่รหัส แบบเปิด ให้อยู่ในกลมุ่ แนวคิดใหญห่ รือเรียกกวา่ การจัดกลุม่ ข้อมลู จากนั้นการเลือกรหัส (Selective Coding) เป็นการวิเคราะห์เชื่อมโยงข้อมูลผ่านการ วิเคราะห์เปรียบเทียบ และโยงความสัมพันธ์เพ่ือหาสาระของเน้ือหาทั้งหมดในแต่กรณีศึกษา โดยนา ข้อมูลทีไ่ ด้จากการจัดกลุ่มข้อมูลมาลงในตารางเปรียบเทียบ เพื่อใชเ้ ปน็ แนวทางในการวิเคราะห์ข้อมูล และการหาแบบแผน (Pattern) โดยหาแบบแผนของข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เปรียบเทียบเชื่อมโยง โดยการนาข้อมูลแต่ละชุดมาดูความเหมือนและความแตกต่าง จากน้ันทาการสรุปเพื่อให้เห็นถึงแบบ แผนของปรากฏการณ์ เพื่อให้เห็นภาพรวมของปรากฏการณ์ที่ศึกษา โดยเช่ือมโยงความสัมพันธ์ของ แบบแผนต่าง ๆ เพื่อให้เห็นถึงแนวโน้มของปรากฏการณ์ที่ศึกษา และสอดคล้องกับคาถามการวิจัย และวัตถุประสงค์การวิจัย จากน้ันนาข้อมูลมาวิเคราะห์อภิปรายตามหลังแนวคิดทฤษฎีท่ีได้จากการ ทบทวนวรรณกรรม และทาการวิเคราะห์ซ้า (Iterative) ซ่ึงผู้วิจัยจะพิจารณาจากข้อเท็จจริงท่ีได้จาก สนาม และนาขอ้ มูลที่ได้มาสรุปผลโดยอ้างองิ ตามหลังแนวคิดและทฤษฎี และมีการสนับสนุนข้อมูลให้ เกิดความน่าเช่ือถือจากการอ้างอิงคาบอกเล่าของผู้ให้ข้อมูล และมีการตีความหมายและหา ความหมายหรืออธิบายแบบแผนความสัมพันธ์ เร่ิมจากการหาแบบแผน (Patterns Matching) โดย การทาตารางการวเิ คราะหก์ ารตีความในแนวนอน เพ่ือดูปรากฏการณ์ท่ีเกิดขึน้ ซ้า ๆ และจัดลาดบั ของ เหตุการณ์ จากน้ันหาคาอธบิ าย (Explanation Building) แบบแผนท่ศี กึ ษา โดยระดบั แรกดูคาอธิบาย ท่ีได้จากผู้ให้ข้อมูลทัศนะคนใน (Emic View) เป็นการใช้แนวคิดและทฤษฎีต่าง ๆ มาอธิบาย ปรากฏการณ์และการวิเคราะห์โดยแบ่งเวลาเป็นช่วง (Time Series Analysis) และหาข้อสรุปเป็น สาระหลักของผลการวเิ คราะหต์ ีความและหาความหมาย เพอื่ นาเสนอผลการวจิ ยั ต่อไป
71 การนาเสนอผลการวิชัยเชิงคุณภาพใช้การพรรณนาแบบวิเคราะห์ (Description Analysis) เพื่อให้เกิดความเข้าใจในรายละเอียด ผู้วิจัยใช้การเช่ือมโยงและวิเคราะห์ข้อมูลภาคสนามร่วมกับ ข้อมูลจากเอกสารท่ีได้จากการทบทวนวรรณกรรมและงานวิจัยท่ีเก่ียวข้อง และใช้ตารางข้อมูล ประกอบการอธิบาย ซ่ึงการนาเสนอผลการวิจัยได้เป็นไปตามกรอบแนวคิด และทฤษฎีท่ีได้ทาการ ทบทวนและนาข้อมูลมาสรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ ทั้งยังมีการอ้างอิงคาสนับสนุนจากผู้ให้ สัมภาษณ์ 5.1.3 สรุปผลการวจิ ยั 1) สภาพการดาเนินงานของกลมุ่ แปรรูปปลาบา้ นคลองสอง 1. ดา้ นการบริหารจดั การกลุ่มอาชพี ปัจจุบันกลุ่มแปรรูปปลาบ้านคลองสองมีสมาชิกท้ังหมดจานวน 38 คน โดยมีโครงสร้างการ บริหารกลุ่ม ประกอบด้วย ประธาน จานวน 1 คน กรรมการกลุ่ม จานวน 11 คน และสมาชิกกลุ่ม จานวน 26 คน และการได้มาซึ่งคณะกรรมการบริหารกลมุ่ มีข้ันตอนการเลือกตงั้ คณะกรรมการบรหิ าร กลุ่ม โดยที่สมาชิกกลุ่มทาการยกมือเพื่อลงคะแนนเสียงเลือกผู้ที่เหมาะสมกับตาแหน่งน้ัน ๆ ในส่วน บริหารจัดการกลุ่ม สมาชิกยังขาดการองค์ความรู้บริหารจัดการกลุ่ม คือ ขาดความรู้ ความเข้าใจใน บทบาทหน้าที่ของตน มีการแบ่งหน้าท่ีกันรับผิดชอบกันไม่ชัดเจน และไม่มีการวางแผนการผลิต การตลาด ความร่วมมอื สมาชกิ กลุ่มมีส่วนรว่ มในการทางานเป็นอย่างดี เมื่อถึงช่วงมีการสัง่ ซอ้ื จากลูกค้า (Order) หรอื การไปออกบูทในงานจัดแสดงสินค้าโอทอป (OTOP) เพ่อื ขายผลติ ภัณฑ์ในงาน สมาชิกผู้ ท่ีมีหน้าที่ในการผลิตแปรรูปปลาก็จะมาร่วมกันผลิต และในช่วงไม่มีการผลิตสมาชิกมีการมาพบปะ พูดคุยกันเป็นประจา ทาให้การประสานงานระหว่างกันง่าย ซ่ึงสมาชิกกลุ่มสามารถมีส่วนร่วมแสดง ความคดิ เห็นในการพฒั นาผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ ๆ ได้ นอกจากนก้ี ลุ่มเปดิ โอกาสใหส้ มาชิกสามารถนา ผลิตภัณฑ์ที่ทาที่บ้าน นอกจากผลิตภัณฑ์ของกลุ่มมาขายหน้าบูทในงานแสดงสินค้าโอทอป (OTOP) และวางแผงในตลาดได้ เพือ่ ใหส้ มาชกิ กลุ่มมีรายไดเ้ สรมิ กฎระเบียบ ข้อบังคับของกลุ่มอาชีพ พบว่า มีการร่างกฎระเบียบ ข้อบังคับของกลุ่มเป็นลาย ลกั ษณ์อักษร ซ่ึงกฎระเบียบ ข้อบังคับต่าง ๆ สมาชิกทุกคนต้องรับทราบ ได้แก่ กฎระเบียบ ข้อบังคับ การประชุมท่ีจะต้องมีการประชุมกันอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง การระดมหุ้นจากสมาชิกท่ีเข้ามาใหม่ และการระดมหุ้นกับสมาชิกทุกคนในแต่ละปี เพื่อใช้เป็นเงินทุนและเงินหมุนเวียนภายในกลุ่ม โดย
72 กาหนดค่าหุ้นข้ันต่า 100 บาท สามารถลงหุ้นเท่าไหร่ก็ได้ ไม่ได้มีเกณฑ์จากัด และการแบ่งปัน ผลประโยชน์ใหแ้ ก่สมาชิก กลุ่มมกี ฎระเบียบในการแบ่งปนั ผลประโยชน์ใหแ้ ก่สมาชิก แต่ในปัจจบุ ันยัง ไม่มีการปันผลอย่างชัดเจน เนื่องจากกลุ่มเพิ่งเริ่มก่อต้ังจึงยังไม่ได้ผลกาไรมากพอท่ีจะแบ่งปันให้แก่ สมาชิกทุกคน มีเพียงมีการแบ่งปันผลจากการขายในแต่ละคร้ัง โดยรายได้จากการขาย 80 เปอร์เซ็น เปน็ คา่ แรงงานแกส่ มาชิก และอกี 20 เปอรเ์ ซ็นเกบ็ เปน็ เงินทุนหมนุ เวยี นในกล่มุ การวางแผนการผลิตและการจาหน่ายของกลุ่ม พบว่า กลุ่มยังไม่มีการวางแผนการผลิตและ การจาหน่ายท่ีชัดเจน โดยให้ขอมูลว่าไม่เข้าใจถึงวิธีการจัดทาแผน มองว่าเป็นเรื่องท่ียุ่งยาก ซ่ึงการ แปรรูปผลิตภัณฑ์ แต่ละคร้ังจะทาตามการสั่งซื้อจากลูกค้า (Order) มีออกบูทงานแสดงสินค้าโอทอป (OTOP) และมีตลาด รวมทั้งขึ้นอยู่กับจานวนปลาของสมาชิกในกลุ่มท่ีโตเต็มพอพร้อมนามาแปรรูป โดยมีคณะกรรมการบริหารกลุ่มและสมาชิกผู้ท่วี ่างจากงานประจาจะเป็นผู้ผลิตสินค้าในแต่ละครง้ั ซ่ึง การไม่มีการทาแผนธุรกิจ จึงทาให้สมาชิกกลุ่มไม่ทราบเป้าหมาย และทิศทางการทางาน รวมถึงไม่ เขา้ ใจในหนา้ ที่ของตนเองอย่างชดั เจน กลุ่มแปรรูปปลาบ้านคลองสองยังไม่มีหน่วยงานใดสนับสนุนด้านเงินทุน เบื้องต้นทางกลุ่มมี การเรียกเก็บค่าสมาชิกหรือระดมหุ้นจากสมาชิกกลุ่ม เพ่ือใช้จ่ายบริหารในกลุ่ม และใช้จ่ายเป็นค่า วัตถุดิบในการผลิต นอกจากนี้กลุ่มมีการทาบัญชีรายรับ รายจ่ายโดยมีเหรัญญิกเป็นผู้รับผิดชอบใน สว่ นการทาบัญชี เป็นการทาบญั ชีเบื้องตน้ ไมไ่ ด้มีข้อมลู ทีล่ ะเอียดมาก และกลุ่มไม่ไดม้ ีรายรบั รายจ่าย เป็นประจาจึงมีการขาดช่วงไม่ได้ทาแบบต่อเน่ือง อีกท้ังกลุ่มยังไม่มีการตรวจสอบบัญชี กลุ่มแปรรูป ปลาบา้ นคลองสองเพิ่งก่อตัง้ ได้ไม่นาน จงึ ยังไม่เข้าที่เขา้ ทางมากนัก 2. ดา้ นการผลิตและผลผลติ ของกล่มุ อาชพี สถานที่ในการผลิตของกลุ่ม คือ บ้านของประธานกลุ่ม ผลิตภัณฑ์ของกลุ่มมีการแปรรูปปลา หลายรปู แบบ เชน่ ปลาดุกแดดเดียว ปลารา้ ปลาสม้ ปลาดุกฟู และนา้ ปลาหวาน ซง่ึ ปลาดุกแดดเดียว สามารถผลิตสินค้าได้ประมาณ 500 กิโลกรัมต่อเดือน วัตถุดิบส่วนใหญ่เป็นวัตถุดิบในชุมชน คือ สมาชิกในกลุ่มเลี้ยงปลาเป็นอาชีพ กลุ่มมีการผลิตการแปรรูปผลิตภัณฑ์ เป็นบางคร้ังคราว จะทาการ ผลิตเมื่อมีการสั่งซ้ือจากลูกค้า (Order) และมีออกบูทในงานแสดงสินค้าโอทอป (OTOP) หรือมีตลาด ประชารฐั ในส่วนของเทคโนโลยีท่ีใช้ในการผลิต กลุ่มมีตู้สาหรับตากปลาขนาดกลางและขนาดใหญ่ ซง่ึ ทางกลุ่มได้มีการไปขอสนับสนุนจากสานักงานพลังงานจังหวัดปราจีน และไดช้ ่วยเหลือในค่าใช้จา่ ย ในการซ้ือตู้ตาก ในส่วนเคร่ืองซีลสูญญากาศขนาดกลาง ทางกลุ่มได้ทาการซื้อเอง โดยใช้เงินทุนของ กลุ่มซื้อ เพื่อบรรจภุ ัณฑ์ผลิตภัณฑ์ของกลุ่ม ซ่ึงการบรรจุภัณฑ์ของกลุ่มแปรรูปปลาบ้านคลองสองเป็น
73 ถุงซีลสูญญากาศ มีสต๊ิกเกอร์ท่ีมีรูปการ์ตูนปลา ตัวอักษรเขียนว่าแม่ตุ๊กตาปลาดุกทอง อีกทั้งมีเบอร์ โทรศัพท์ ไอดีไลน์สาหรับการติดต่อส่ังซ้ือ ซ่ึงทางกลุ่มเป็นผู้ออกแบบเองและส่งให้ทางร้านที่รับทา สต๊กิ เกอร์จัดทาตามแบบที่กาหนด และการพฒั นาผลิตภณั ฑ์ บรรจภุ ัณฑ์ และการเพิ่มมลู ค่าผลติ ภณั ฑ์ สมาชิกกลุ่มมีการไปอบรมเรื่องการบรรจุภัณฑ์กับสานักงานพัฒนาชุมชนจัดข้ึน โดยการส่งตัวแทน กลุ่มไป และสมาชิกกลุ่มให้ความสาคัญกับการพัฒนาด้านบรรจุภัณฑ์ และเห็นความสาคัญการเพิ่ม มูลคา่ ใหผ้ ลิตภณั ฑ์ด้วยการทาบรรจุภณั ฑ์ใหด้ ูแตกต่าง เมื่อมีต้นทุนทน่ี อ้ ยกว่าและไมต่ ้องผ่านพ่อค้าคน กลาง จึงเอาส่วนต่างไปพฒั นาด้านบรรจภุ ัณฑ์เพ่อื ให้ผลิตภณั ฑ์มีคณุ ภาพ และถูกสขุ ลกั ษณะทีด่ กี วา่ อย่างไรก็ตาม ยังพบว่ากลุ่มมีปัญหาด้านการผลิตและผลิตภัณฑ์ คือ กลุ่มยังขาดองค์ความรู้ ในการเก็บรักษาผลิตภณั ฑย์ ืดอายุการใชง้ าน และมมี าตรฐานสอดคล้องกับความต้องการของผ้บู รโิ ภค นอกจากน้ีกลุ่มยังต้องการเงินทุน ในการพัฒนาเทคโนโลยีในการแปรรูปท่ีสามารถผลิตได้ครั้งละ จานวนมาก ยืดอายกุ ารเก็บรกั ษาผลิตภณั ฑ์ และมมี าตรฐานเปน็ ท่ยี อมรบั 3. ด้านการตลาด แหลง่ ขายผลติ ภัณฑข์ องกลุ่มแปรรูปปลาบ้านคลองสอง คือ สถานท่ีตง้ั กลุ่มแตไ่ ม่ไดม้ ีหนา้ ร้าน ซึ่งผลิตตามการสั่งซื้อจากลูกค้า (Order) และมีบริการจัดส่งถึงท่ีผ่านไปรษณีย์ นอกจากนี้มีงานแสดง สินค้าโอทอป OTOP จังหวัดปราจีนบุรีหรือจังหวัดใกล้เคียง และตลาด ซึ่งรายได้จากการขายแต่ละ คร้ังไดป้ ระมาณ 2,000 - 3,000 บาทตอ่ คร้ัง การกาหนดราคา ปจั จุบันมีการคานวณจากตน้ ทุนในการ ผลิต ค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการผลิต ตั้งแต่ค่าปลาดุก ค่าเครื่องปรุง ค่าจ้างแรงงาน รวมถึงค่าบรรจุภัณฑ์ โดยกลุ่มลูกคา้ สว่ นใหญเ่ ป็นวยั ทางานและวัยผู้สูงอายุ ซ่ึงเป็นลูกค้ากลมุ่ เดมิ ส่วนช่องทางประชาสัมพันธ์ใช้วิธีการบอกปากต่อปาก และการประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทาง ออนไลน์ เช่น ไลน์ จะเห็นได้ว่าด้านการตลาดของกลุ่มแปรรูปลาบ้านคลองสอง ยังพบว่า ช่องทาง การตลาดของกลุม่ แปรรปู ปลาบา้ นคลองสอง ยงั มีปัญหายงั ขาดช่องทางการจาหนา่ ย ในกลุม่ ผ้บู ริโภค กลุม่ เปา้ หมายใหม่ ๆ 2) แนวทางการพัฒนากลุ่มแปรรูปปลาบ้านคลองสองสู่การเป็นผู้ประกอบการ OTOP ให้มปี ระสิทธภิ าพและประสิทธผิ ลมากยิ่งขึน้ จากการศึกษาสภาพการดาเนินงานของกลุ่มแปรรูปปลาบ้านคลองสอง ทาให้เห็นประเด็น ท่ีสาคัญซ่ึงสามารถนาข้อมูลมาใช้ในการวิเคราะห์แนวทางการพัฒนากลุ่ม แปรรูปปลาบ้านคลองสอง สู่การเป็นผู้ประกอบการ OTOP ตลอดจนการพัฒนาศักยภาพการดาเนินงานของกลุ่มแปรรูปปลา บ้านคลองสองให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากขึ้น ผู้วิจัยได้นามาวิเคราะห์แนวทางการพัฒนา
74 กลุ่มแปรรูปปลาบ้านคลองสองสกู่ ารเป็นผู้ประกอบการ OTOP ให้กลมุ่ อาชีพสามารถพฒั นาศักยภาพ การดาเนินงานของกลุ่มให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากข้ึน ทั้งนี้จะต้องอาศัยแนวทางด้านการ บริหารจัดการ แนวทางการพัฒนาผลติ ภัณฑ์ และแนวทางการพัฒนาด้านการตลาด ซึ่งมีรายละเอียด ดงั นี้ 1. แนวทางการพัฒนาด้านการบรหิ ารจดั การ การพัฒนาด้านการบริหารจัดการ โดยการเสรมิ สร้างความรู้ด้านการบรหิ ารจดั การ กลุ่มแปร รูปปลาบ้านคลองสองจะต้องมีการกาหนดแผนการปฏิบัติงานของกลุ่ม เพื่อใช้เป็นแนวทางในการ ดาเนินกิจกรรมร่วมกัน ซ่งึ เป็นการกาหนดเป้าหมาย เพื่อให้เกิดผลตามท่ีกาหนดไว้ ควรมีการกาหนด ตาแหน่งงาน การจัดกลุ่มงานเป็นหน่วย เป็นแผนก เพ่ือให้งานต่าง ๆ สามารถดาเนินไปโดยมีการ ประสานงานกัน ซึ่งจะช่วยให้เกิดความเป็นระเบียบ ปฏิบัติงานเป็นกลุ่มได้ดี ผู้นาหรือคณะกรรมการ กลุม่ จะตอ้ งมหี น้าที่ในการจดั การทรัพยากรมนุษย์ เพื่อให้กลุ่มมกี าลังคนท่มี ีประสิทธิภาพพรอ้ มในการ ทางาน และเพื่อให้ได้คนที่เหมาะสมกับลักษะงาน ตลอดจนผู้นาหรือคณะกรรมการกลุ่มควรดูแลให้ การทางานต่าง ๆ ภายในโครงสร้างองค์การดาเนินไปโดยราบรื่น มีการประสานร่วมกันทางานของ ตนเองเปน็ อย่างดี โดยอาศัยวิธีการเสรมิ ความสัมพันธ์ระหว่างบคุ คลท่ดี ี ตลอดจนการควบคมุ กิจกรรม ตา่ ง ๆ ทีส่ ร้างขึ้นเพ่ือให้เกิดความแน่ใจวา่ การทางานต่าง ๆ จะสาเร็จตามแผนที่กาหนดไว้ 2. แนวทางการพฒั นาดา้ นผลติ ภณั ฑ์ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยการให้ความรู้ด้านการผลิต การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ได้คุณภาพมี มาตรฐานรองรับ โดยส่งเสริมการบรรจุภัณฑ์ที่ถูกสุขลักษณะ ให้เป็นสินค้าที่มีคุณภาพ มีจุดเด่น เป็น เอกลักษณ์ของชุมชน อีกท้ังสามารถจาหน่ายสินค้าชุมชน สู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศด้วยระบบ ร้านค้าเครอื ขา่ ย และอนิ เตอร์เน็ตอีกด้วย 3. แนวทางการพฒั นาด้านการตลาด การพัฒนาด้านการตลาด โดยการสง่ เสริมความรเู้ รื่องการตลาดแสวงหาตลาดใหม่และสารวจ ตลาด เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ตรงกับความต้องการของตลาด การเพิ่มช่องทางการจาหน่าย และโอกาสทาง ตลาด โดยสง่ เสริมใหม้ ีการจับคู่ระหว่างผรู้ บั จา้ งผลติ และผู้จาหนา่ ยสินค้า และสง่ เสริมการเข้าร่วมงาน แสดงและจาหน่ายสินค้าในระดับท้องถิ่น อีกทั้งกลุ่มแปรรูปปลาบ้านคลองสองสามารถนาหลักปัจจัย ส่วนประสมการตลาด (Marketing mix หรือ 4 Ps) มาใช้ในการดาเนินงานของกล่มุ ได้
75 2. ข้อเสนอแนะจากการวิจยั 2.1 ข้อเสนอแนะเชงิ พัฒนา 1) จากผลการศึกษา พบว่า กลุ่มแปรรูปปลาบ้านคลองสองยังขาดความรู้ความเข้าใจในการ บริหารจัดการกลุ่มทั้งการแบ่งหน้าท่ีสมาชิก การวางแผนการผลิตและการจาหน่าย และการจัดการ เงินทุน ดังน้ัน กรมการพัฒนาชุมชนจึงควรส่งเสริมให้กลุ่มมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการบริหาร จัดการกลุ่มอาชีพ ในด้านการแบ่งหน้าท่ีสมาชิก การวางแผนการผลิตและการจาหน่าย และการ จัดการเงินทุน เพ่ือให้การดาเนินกิจกรรมของกลุ่มอาชีพให้ประสบความสาเร็จตามวัตถุประสงค์ ร่วมกนั ของสมาชกิ รวมถึงทาใหก้ ลมุ่ มีความเข้มแขง็ สามารถดาเนินการได้อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ 2) กรมการพัฒนาชุมชน ควรส่งเสริมให้มีการพัฒนาเทคโนโลยีการแปรรูป เพ่ือให้เป็นสินค้า ทมี่ คี ุณภาพเปน็ ท่ียอมรบั และสนับสนนุ กลุม่ ให้เข้าสกู่ ระบวนการคดั สรรผลติ ภณั ฑ์ OTOP ตอ่ ไป 3) หน่วยงานที่เก่ียวข้องกับเทคโนโลยีอาหาร ควรเข้ามาส่งเสริมองค์ความรู้ในการเก็บรักษา ผลิตภัณฑ์และยืดอายุการใช้งานปลาแดดเดียว เพื่อลดการสูญเสียของผลิตภัณฑ์ และให้ผลิตภัณฑ์มี อายุการใชง้ านท่ยี าวนานขึ้น 2.2 ขอ้ เสนอแนะในการวจิ ัยครั้งต่อไป 1) ควรศึกษาจุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และภัยคุกคาม (SWOT Analysis) ของกลุ่มอาชีพ เพ่ือให้สมาชิกกลุ่มอาชีพสามารถรบั รูถ้ ึงจดุ แข็งและจุดอ่อนจากสภาพแวดลอ้ มภายใน มองเห็นโอกาส และอุปสรรคจากสภาพแวดลอ้ มภายนอก ทมี่ ีผลกระทบต่อการดาเนินงานของกลุ่มและคิดหาแนวทาง รว่ มกัน 2) ควรใช้การวิจัยปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (Participatory Action Research) โดยผู้วิจัย ผู้นาชุมชน และสมาชิกกลุ่มอาชีพ ควรมีส่วนร่วมในการวิจัยทุกกระบวน ตั้งแต่ร่วมคิด ร่วมตัดสินใจ รว่ มทา ร่วมตรวจสอบ และร่วมรบั ประโยชน์ ควบค่ไู ปกบั กระบวนการเรียนรู้ของกลุ่มอาชีพกอ่ ใหเ้ กิด ความเข้าใจกลมุ่ อาชพี ได้ดีขึ้น เพื่อให้ได้องค์ความรูใ้ หม่ในการแก้ไขปัญหาท่ีเกิดข้ึน และเกดิ แนวคิดใน การพัฒนาตนเองอยา่ งแท้จรงิ มากข้นึ
76 เอกสารอา้ งองิ กรรณกิ าร์ ทามา. (2557). แนวทางการพัฒนากลุม่ อาชพี : กรณีศึกษากลมุ่ แปรรูปผลติ ภัณฑ์จกั สาน จากตน้ กกบา้ นหว้า ตาบลบา้ นหว้า อาเภอเมืองขอนแก่น จงั หวัดขอนแกน่ , Rethink : Social Development for Sustainability in ASEAN Community. การประชมุ วชิ าการ การพัฒนาชนบททยี่ ั่งยืน ครั้งท่ี 4 ประจาปี 2557. (164). ขอนแก่น: สาขาวชิ า การปกครองทอ้ งถน่ิ วิทยาลยั การปกครองท้องถิ่น มหาวิทยาลยั ขอนแกน่ . กรมการพัฒนาชมุ ชน. (2558). คมู่ อื การดาเนินงานผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP รายใหม่ ประจาปี 2558. (พิมพค์ รัง้ ที่ 1): กรงุ เทพฯ. บริษัท บีทเี อส เพรส จากดั . กรมการพัฒนาชุมชน. (2560). แนวทางการสรา้ งสัมมาชพี ชมุ ชน ปี 2561. (พิมพ์ครงั้ ที่ 1): กรงุ เทพฯ. บริษัท บที ีเอส เพรส จากดั . กรมการพัฒนาชุมชน. (2560). แนวทางการพัฒนากลมุ่ สัมมาชีพชุมชนสกู่ ารเปน็ ผปู้ ระกอบการ ชมุ ชน(Community Entrepreneur: CE). (พมิ พ์ครงั้ ท่ี 1): กรุงเทพฯ. บริษทั บีทเี อส เพรส จากดั . กรมพฒั นาธุรกิจการค้า. (2560). ลักษณะผู้ผลติ ผู้ประกอบการ OTOP. สืบคน้ เมอื่ วนั ที่ 21 มีนาคม 2562, จาก http://dbd.go.th/dbdweb56/faq_detail.php?fa_id=320 กังสดาล กนกหงส์. (2557). การศกึ ษาและพัฒนากระบวนการเรียนรเู้ พอ่ื เพ่ิมศกั ยภาพการบรหิ าร จัดการ ศูนยร์ า้ นคา้ สาธิตชุมชนอย่างย่งั ยืน ตาบลปงยางคก อาเภอห้างฉตั ร จงั หวัดลาปาง. วารสารศิลปศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยสงขลานครินทร,์ 6(1), 106-108 จรรยา ศฤงคารวัฒนา. (2554). ปจั จยั ส่วนประสมการตลาดท่ีมผี ลต่อผู้บริโภคในอาเภอเมอื ง เชียงใหมใ่ นการซ้ือกาแฟสาเร็จรูปทรีอนิ วัน. การคน้ คว้าแบบอิสระปรญิ ญามหาบณั ฑิต สาขาวิชาบรหิ ารธุรกิจ บัณฑติ วิทยาลยั มหาวิทยาลยั เชียงใหม่.
77 ชไมพร สบื สโุ ท. (2554). กลยุทธก์ ารพัฒนากลุ่มอาชีพเพื่อเพม่ิ ศกั ยภาพด้านการแขง่ ขัน กรณศี กึ ษากลุม่ อาชพี ทอผ้าลายสายฝน ตาบลบา้ นกวิ่ อาเภอแม่ทะ จังหวัดลาปาง. รายงานสืบเน่ืองจากการประชุมทางวชิ าการและนาเสนอผลงานวจิ ัย มหาวิทยาลัยสโุ ขทยั ธรรมาธริ าชวิจยั ประจาปี 2554. (392-404). ชตุ ินธร บารุงภกั ดี. (2559). แนวทางการพฒั นากลุ่มอาชพี งานหัตถกรรมมุกประดับ: กรณศี ึกษา บา้ นหนองลาด หมู่ 4 ตาบลถ่อนนาลับ อาเภอบ้านดงุ จงั หวดั อดุ รธานี. วารสารวจิ ยั และพฒั นา มหาวิทยาลยั ราชภฏั เลย, 11(36), 80. ฐิติพร วรฤทธิ์ และคณะ. (2561). กลยุทธก์ ารพฒั นาผลิตภัณฑ์ OTOP ของกลมุ่ วิสาหกิจชมุ ชน ผ้าไหม 5 ดาว ในจังหวัดบุรรี ัมย์ เพ่ือยกระดับสูค่ วามสามารถในการแข่งขันเชิงพาณิชย์. สาขาวิชาการเงนิ และการธนาคาร คณะวิทยาการจัดการ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั บุรรี ัมย์ ถนัด เดชทรพั ย์. (2550). การบรหิ ารจัดการขององค์การบริหารส่วนตาบลไทยชนะศึก อาเภอทุง่ เสลี่ยมจังหวัดสโุ ขทัย ตามหลกั ธรรมาธบิ าล. ภาคนพิ นธ์รฐั ประศาสนศาตร มหาบัณฑิต, สาขาวิชาการบรหิ ารและพัฒนาประชาคมเมอื งและชนบท มหาวิทยาลยั ราชภฏั อตุ รดติ ถ์. ทวี วชั ระเกียรตศิ ักดิ์ (2559). การสรา้ งความเข้มแขง็ ทางเศรษฐกจิ ใหก้ ับชมุ ชนโดยการพัฒนา กลุ่มอาชีพ ในพ้ืนท่ี องค์การบรหิ ารสว่ นตาบลพลสงคราม อาเภอโนนสูง จังหวดั นครราชสมี า. [ฉบบั ออนไลน]. วารสารวชิ าการบริหารธรุ กิจ สมาคมสถาบัน อุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย ในพระราชปู ถัมภ์ สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมาร, (5)1, 43 ธัญชนก ชัยสขุ , เดวิด ภริ ะบรรณ, แจม่ จติ ร ภิระบรรณ และสุลมี าศ คามงุ (2559). การจัดการ วิสาหกจิ ชมุ ชนกลมุ่ อาชีพไม้กวาดลายดอกแกว้ ตาบลดงสวุ รรณอาเภอดอกคาใต้ จังหวดั พะเยา. วารสารวชิ าการสถาบันวิทยาการจดั การแห่งแปซิฟคิ , 2(2), 80.
78 นงคล์ ักษณ์ ตงั้ ปรชั ญากูล. (2557). แนวทางการพฒั นากลุ่มอาชพี ชมุ ชนขององค์การบริหารส่วนตาบล โพนงาม อาเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์. วารสารบัณฑิตศึกษา, 11(53), 125 นฤมล พึง่ กิจ. (2559). การพัฒนากลุม่ อาชพี ส่กู ารเป็นวิสาหกจิ ชมุ ชน ในเขตเทศบาลตาบลพุเตย จงั หวัดเพชรบูรณ์. วทิ ยานพิ นธป์ รัชญาดุษฎบี ัณฑติ สาขาวิชายุทธศาสตร์การพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภฏั พระนคร. นพวรรณ วเิ ศษสินธุ์. (2561). การเสริมสร้างศักยภาพการผลติ สนิ ค้าหนง่ึ ตาบลหนง่ึ ผลติ ภณั ฑ์ ดว้ ยตัวแบบการประเมินความเสีย่ งตามปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง อาเภอบางบ่อ จังหวดั สมทุ รปราการ. Veridian E-Journal, Silpakorn University ฉบับภาษาไทย, 11(1), 2829-2830 นันทน์ ภัส ธงฤทธิ์ และคณะ. 2560. กระแสความนิยมเคป๊อปของนักศกึ ษามหาวทิ ยาลัยขอนแกน่ . รายงานการวจิ ัย สาขาสงั คมวิทยาและมานษุ ยวิทยา มหาวิทยาลัยขอนแก่น. นิตยร์ ดี ใจอาษา. (2555). ความคดิ เหน็ ของบคุ ลากรท่ีมตี ่อกระบวนการบรหิ ารจัดการในองค์การ บริหารสว่ นจงั หวัดจันทบุรี. ปัญหาพิเศษรฐั ประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชา การจดั การภาครัฐและภาคเอกชน, วทิ ยาลยั การบรหิ ารรัฐกจิ , มหาวิทยาลัยบรู พา. ประเวศ วะสี. (2552). แนวทางใหม่ในการพัฒนาประเทศ สร้างสัมมาชีพเต็มพืน้ ที่ การมีสัมมาชีพ เต็มพ้ืนท่ี คอื รากฐานของความรม่ เย็นเปน็ สุข ชดุ ปฏิรปู ประเทศไทย. (พมิ พ์ครั้งท่ี 1): กรุงเทพฯ. บริษัท ที ควิ พี จากัด ปาณวฒั น์ อทุ ยั เลิศ (2551). การจัดการธรุ กจิ ชมุ ชนของตลาดริมน้าดอนหวาย ตาบลบางระทกึ อาเภอสามพราน จงั หวัดนครปฐม. วทิ ยาลยั การบริหารรัฐกจิ มหาวิทยาลยั บูรพา: ชลบุรี. พระครูสังฆรักษทรงพรรณ ชยทตโต. (2560). สัมมาชีพบนทางสายกลางยุคไทยแลนด์ 4.0. วารสารครศุ าสตรป์ ริทรรศน์, 4(3), 9 โพยมพร รกั ษาชล. (2561). การพัฒนาความเป็นผปู้ ระกอบการของวสิ าหกิจชุมชน ในจงั หวัด
79 นครศรธี รรมราชเพื่อรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซยี น [ฉบบั ออนไลน]. วารสารเทคโนโลยี ภาคใต้ วิทยาลัยเทคโนโลยภี าคใต้, (11)1, 166-168. ภาควตั ศรีสุรพล, (2560). แนวทางการส่งเสรมิ กลมุ่ อาชีพใหม้ ีความเขม้ แข็งในตาบลนาชุมแสง อาเภอภูเวียง จังหวัดขอนแกน [ฉบบั ออนไลน]. วารสารสถาบันวจิ ัยพิมลธรรม มหาวิทยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลัย, (4),1, 85-87 ลกั ษมี เสือแป้น. (2555). ความสาเร็จของการพฒั นากลมุ่ อาชพี และความเชื่อมโยงกับการสง่ เสริม เศรษฐกจิ ชมุ ชน กรณศี ึกษา: กลมุ่ อาชพี สตรีแปรรปู ผลติ ภัณฑก์ ลว้ ย บา้ นเขาสะพายแรง้ ตาบลสนามแย้ อาเภอท่ามะกา จังหวดั กาญจนบุรี. วทิ ยานิพนธ์ปรญิ ญาบัณฑติ สาขาวิชาพัฒนศกึ ษา บัณฑิตวทิ ยาลยั มหาวิทยาลัยศลิ ปากร. วิรชั วริ ชั นภิ าวรรณ. (2555). แนวคิดและความหมายของการบริหารและการบริหารจดั การ. สืบค้นเมอ่ื วนั ท่ี 21 มนี าคม 2562, จาก http://www.wiruch.com/articles%20for% 20article/article%20concept%20and%20meaning%20of%20admin%20 and%20mgt%20admin.htm สมบรู ณ์ ขันธโิ ชติ และชัชสรญั รอดย้ิม. (2558). การพฒั นาศักยภาพด้านการตลาดกล่มุ OTOP จังหวดั นนทบุรี: กรณีศกึ ษากล่มุ สมนุ ไพรที่ไมใ่ ชอ่ าหาร. วารสารวิจยั ราชภัฏพระนคร สาขามนษุ ยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 10(1), 120-121 สุภาพร สาธรพนั ธ์. (2551). ปัจจยั ที่ส่งผลต่อความสาเร็จแบบยั่งยืนของกลุ่มอาชีพสตรี กรณีศกึ ษา กลุ่มสตรี อาเภอนาจะหลวย จงั หวดั อบุ ลราชธานี. วิทยาพนธ์รฐั ประศาสนศาสตร มหาบณั ฑิต สาขารฐั ประศาสนศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยอุบลราชธานี. สมทุ ร ฤกษาภริ มย์ (2552). การพฒั นากลุ่มอาชพี ชมุ ชนในเขตเทศบาลนครอดุ รธานี อาเภอเมือง จังหวดั อดุ รธานี. วทิ ยานิพนธ์ศลิ ปศาสตรมหาบณั ฑติ สาขาสงั คมศาสตร์เพอื่ การพัฒนา บัณฑติ วทิ ยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏอดุ รธานี.
80 สชุ านาถ พฒั นวงศ์งาม. (2554). รปู แบบการจัดการความรเู้ พอ่ื เสรมิ ความเข้มแข็งของชมุ ชน: กรณศี ึกษากลุ่มทองเหลืองสาน อาเภอเมือง จังหวดั ฉะเชิงเทรา. วทิ ยานิพนธป์ รชั ญาดษุ ฎี บณั ฑิต สาขาวชิ าการศกึ ษาเพ่ือการพฒั นาท้องถนิ่ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏราชนครินทร์. สุภัสรา บญุ เรือง. (2559). แนวทางการพัฒนาตลาดผ้าทอไทล้ือ ในเขตอาเภอเชยี งคา จงั หวดั พะเยา. วารสารวชิ าการสถาบนั วิทยาการจดั การแห่งแปซฟิ คิ . 2(2), 109-120 สวุ รรณี โพธื์เศษ. (2558). แนวทางการพฒั นากลุ่มอาชพี ทอผา้ ไหมของบา้ นหัวฝาย ตาบลปอแดง อาเภอชนบท จงั หวดั ขอนแกน่ . วารสารวจิ ัยและพฒั นามหาวทิ ยาลยั ราชภัฏเลย, 10(34), 77 สานกั งานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ. (2560). แผนพฒั นา เศรษฐกิจและสงั คมแหง่ ชาติ ฉบบั ท่ี 12 (พ.ศ.2560-2564). กรงุ เทพฯ: สานักงาน คณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกจิ และสงั คมแห่งชาต.ิ สานักงานพฒั นาชมุ ชนจังหวดั ปราจีนบุรี. (2561). แบบรายงานความก้าวหน้าการดาเนนิ งาน โครงการพฒั นาศักยภาพสมั มาชีพชุมชนสคู่ วามยั่งยืน จังหวดั ปราจีนบรุ ี. ปราจนี บุรี: สานกั งานพฒั นาชมุ ชนจังหวดั ปราจีนบุรี อัสลีน่า สมาคม. (2554). ปัญหา อุปสรรค ในการดาเนนิ งานโครงการหน่งึ ตาบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ ของผปู้ ระกอบการ OTOP ในพืน้ ท่ีจังหวดั นราธิวาส. รฐั ประศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยสงขลานครรนิ ทร์.
ภาคผนวก
ภาคผนวก ก ขอ้ มูลกรมการพฒั นาชุมชน กระทรวงมหาดไทย
ขอ้ มลู กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย 1. ขอ้ มลู เกยี่ วกับกรมการพัฒนาชมุ ชน 1.1 ประวัตกิ รมการพัฒนาชมุ ชน กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ปัจจุบันต้ังอยู่ท่ีศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคาร B) ชั้น 5 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร แนวคิดการพฒั นาชุมชนทเ่ี กดิ ขึ้นในปี พ.ศ. 2483 ได้ทาให้เกิดการเปลย่ี นแปลงการพฒั นาใน กลุ่มประเทศเครือจักรภพจากเดิมมาเป็นการพัฒนาท่ีเห็นว่าประชาชนเป็นแกนกลางของพลัง ขับเคลื่อนทางสังคม เมื่อแนวคิดการพัฒนาชุมชนน้ีเผยแพร่ออกไปจนก่อเกิดเป็นปรัชญาเกี่ยวกับ การทางานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างประชาชนกับรัฐบาลใน การปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ ซึ่งเรียกว่าขบวนการพัฒนาชุมชน ขบวนการดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาในประเทศไทยด้วย เชน่ กนั ในปี พ.ศ. 2483 กระทรวงมหาดไทย ได้ประกาศใช้แผนการบูรณะชนบทพัฒนา โดยมีวัตถุประสงค์ 2 ประการ คือ สร้างสรรค์ชีวิตจิตใจของประชาชนในชนบทให้เหมาะสมท่ีจะเป็น พลเมืองดี และส่งเสริมให้ประชาชนมีการครองชีพที่ดีขึ้น และได้จัดต้ังสานักงานพัฒนาการท้องถ่ิน ข้ึนในปี พ.ศ. 2499 เพ่ือส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาท้องถิ่น และมีการริเริ่ม โครงการพฒั นาท้องถ่นิ ในปีถัดมาโดยมีปลัดพัฒนากรเป็นผปู้ ฏิบัติงานซ่ึงเรียกกันในภายหลังว่าพัฒนา กร ในปี พ.ศ. 2505 รัฐบาลได้ออกพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวงทบวงกรม ฉบับท่ี 10 และจัดต้ังกรมการพัฒนาชุมชนขึ้นเป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2505 ภารกิจในระยะแรกของกรมการพัฒนาชุมชน คือ ปรับปรุงคุณภาพชีวิตของประชาชนใน ชนบทโดยการมีส่วนร่วมของประชาชนและการพัฒนาตนเอง ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าพัฒนากรต้องทางาน กับประชาชน มใิ ชท่ าให้ประชาชน
1.2 ภารกจิ ความรบั ผดิ ชอบของกรมการพฒั นาชมุ ชน กรมการพัฒนาชุมชนมีบทบาทและหน้าท่ี 7 ประการ ตามกฎกระทรวงมหาดไทย ลงวนั ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2552 ดงั นี้ 1) กาหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์ มาตรการ และแนวทางในการพัฒนาชุมชนระดับชาติ เพ่ือให้หนว่ ยงานของรัฐ เอกชน และผู้มีส่วนเก่ยี วข้องด้านการพัฒนาชุมชนได้ใช้เป็นกรอบแนวทางใน การดาเนนิ งานเพอื่ เสรมิ สรา้ งความสามารถและความเขม้ แข็งของชุมชน 2) จัดทาและพัฒนาระบบมาตรฐานการพัฒนาชุมชน เพื่อใช้เป็นเครื่องมือสาหรับประเมิน ความกา้ วหนา้ และมาตรฐานการพัฒนาของชมุ ชน 3) พัฒนาระบบและกลไกในการส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้การจัดการความรู้การอาชีพ การออม และการบริหารจัดการเงินทุนของชุมชน เพ่ือเสริมสร้างขีดความสามารถของประชาชน ชมุ ชน ผู้นาชมุ ชน องค์การชุมชน และเครือขา่ ยองค์การชมุ ชนวิเคราะห์ 4) สนับสนุนและพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศชุมชน ส่งเสริมการใช้ประโยชน์ และการให้บริการข้อมูลสารสนเทศชุมชน เพื่อใช้ในก ารวางแผนบริหารการพัฒนาได้ อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ 5) ศึกษาวิเคราะห์ วิจัย พฒั นาและสรา้ งองคค์ วามรู้เพื่อใชใ้ นงานพฒั นาชุมชน และการจัดทา ยทุ ธศาสตร์ชมุ ชน 6) ฝึกอบรมและพัฒนาข้าราชการ เจ้าหน้าท่ีท่ีเกี่ยวข้อง ผู้นาชุมชน องค์การชุมชน และเครือข่ายองค์การชุมชนให้มีความรู้ ทักษะ ทัศนคติ และสมรรถนะในการทางาน รวมท้ังให้ ความรว่ มมือทางวิชาการดา้ นการพัฒนาชุมชนแกห่ น่วยงานท้ังในประเทศ และต่างประเทศ 7) ปฏิบัติการอ่ืนใดตามที่กฎหมายกาหนดให้เป็นอานาจหน้าท่ีของกรม หรือตามที่กระทรวง หรือคณะรฐั มนตรีมอบหมาย 1.3 วิสัยทศั น์ ยทุ ธศาสตร์ พนั ธกจิ วิสยั ทัศนก์ รมการพฒั นาชมุ ชน พ.ศ. 2560-2564 “เศรษฐกิจฐานรากม่ันคงและชุมชนพ่งึ ตนเองได้ ภายในปี 2564” กรมการพัฒนาชุมชนได้มุ่งขับเคลื่อน ไปสู่การปฏิบัติให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนอย่าง แท้จริง ซ่ึงได้ผ่านกระบวนการวิเคราะห์ ทาให้มีความง่าย ท้าทาย และเป็นไปได้ในการปฏิบัติให้ สอดคล้องกับทิศทางแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับท่ี 12 (พ.ศ. 2560 – 2564) ยุทธศาสตร์ของประเทศไทย นโยบายของรัฐบาล สถานการณ์สภาพแวดล้อมในปัจจุบัน เพื่อให้ บุคลากรทุกคน ใช้เป็นกรอบทิศทางการปฏิบัติงาน โดยสามารถกาหนดรูปแบบนาไปประยุกต์สู่การ
ปฏิบัติงานได้ตามความเหมาะสม และกรมการพัฒนาชุมชนได้กาหนดให้ปี 2560 ขับเคลื่อนวาระ กรมการพัฒนาชุมชน (Agenda) เพื่อมุ่งมั่นว่ากรมการพัฒนาชุมชนพร้อมขับเคล่ือนสัมมาชีพชุมชน เข้มแข็งภายใต้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อก้าวไปสู่ “เศรษฐกิจครัวเรือนมีความมั่นคง ประชาชนใช้ชีวิตอยู่ในชุมชนอย่างมีความสขุ ” 1.4 ค่านยิ มองคก์ ร A = Appreciation: ชื่นชม หมายถึง การตระหนัก เข้าใจ ช่ืนชมยินดี ยอมรับนับถือ ยกย่อง ให้เกยี รตใิ นคุณคา่ และความสาคญั ของผู้อ่นื B = Bravery: กล้าหาญ หมายถึง ความกล้าหาญไม่กลัวต่ออันตรายหรือความยากลาบาก หรือสถานการณ์ยุ่งยากไมส่ บายใจ C = Creativity: สร้างสรรค์ หมายถึง ความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ ประดิษฐ์ คิดค้นส่ิงใหม่ ดว้ ยความคิดของตัวเองทไ่ี มธ่ รรมดา D = Discovery: ใฝ่รู้ หมายถึง การใฝ่รู้ การค้นหา การค้นพบข่าวสาร ความรู้ สถานที่ และวตั ถตุ า่ ง ๆ เปน็ คร้ังแรก E = Empathy: เข้าใจ หมายถึง ความสามารถในการเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกนึกคิด หรือประสบการณ์ของผู้อื่น โดยการเอาใจเราไปใส่ใจเขา จินตนาการว่า หากอยู่ในสถานการณ์นั้น จะเปน็ เช่นไร F = Facilitation: เอ้ืออานวย หมายถึง การทาให้ง่ายการทาให้งานน้ันเป็นไปได้ การเออ้ื อานวยความสะดวกให้ผูอ้ ืน่ ทางานในวถิ ีทางทเี่ หมาะสมกบั ตวั เขาเอง S = Simplify: ทาใหง้ ่ายขน้ึ ทาให้เขา้ ใจงา่ ย ทาใหช้ ดั เจน P = Practical: ความเป็นจริงเกี่ยวกับการกระทา การปฏิบัติ สามารถปฏิบัติได้ เหมาะสม มีประโยชน์ ตามความเปน็ จริง 1.5 โครงสรา้ งองค์กรและบคุ ลากร กรมการพัฒนาชุมชนแบ่งโครงสร้างของหน่วยงานออกเป็น 2 ส่วน คือ ราชการบริหาร ส่วนกลาง และราชการบริหารส่วนภูมิภาค ราชการบริหารส่วนกลางทาหน้าที่กาหนดนโยบาย สนับสนุน และกากับดูแลการดาเนินงาน ประกอบด้วย เป็นหน่วยงานหลัก 12 หน่วยงาน และหนว่ ยงานภายใน 5 หนว่ ยงาน คือ 1. ราชการบรหิ ารส่วนกลาง 12 หน่วยงาน คอื 1) สานักงานเลขานกุ ารกรม
2) สานักตรวจราชการ 3) กองการเจา้ หนา้ ท่ี 4) กองคลัง 5) กองแผนงาน 6) ศนู ย์สารสนเทศเพอื่ การพฒั นาชมุ ชน 7) สถาบนั การพัฒนาชุมชน 8) สานักพัฒนาทุนและองค์กรการเงินชุมชน 9) สานกั สง่ เสริมภูมิปัญญาท้องถนิ่ และวิสาหกิจชุมชน 10) สานกั เสริมสรา้ งความเข้มแขง็ ชมุ ชน 11) กลมุ่ พฒั นาระบบบรหิ าร 12) กองทนุ พัฒนาบทบาทสตรี หน่วยงานภายใน 5 หน่วยงาน คอื 1) กลุ่มตรวจสอบภายใน 2) กองประชาสมั พันธ์ 3) ศูนย์ประสานราชการจงั หวดั ชายแดนใต้ กรมการพฒั นาชมุ ชน (ศปก.จชต.พช.) 4) กลุม่ งานคมุ้ ครองจริยธรรมขา้ ราชการกรมการพัฒนาชมุ ชน 5) สหกรณ์ออมทรพั ย์ 2. ราชการบริหารส่วนภูมิภาค ประกอบด้วย ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชน 11 ศูนย์ฯ สานักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด จานวน 76 แห่ง และสานักงานพัฒนาชุมชนอาเภอ 878 แห่ง ทาหน้าท่ดี าเนินงานพฒั นาชุมชน ประสานการดาเนินงานพฒั นาชมุ ชนกบั หนว่ ยงานตา่ ง ๆ ท่ีเก่ียวขอ้ ง กรมการพัฒนาชุมชนมีบุคลากร ณ เดือนตุลาคม 2559 จานวนท้ังสิ้น 6,534 คน แบ่งเป็น ข้าราชการ จานวน 6,347 คน ลูกจ้างประจา จานวน 130 คน และพนักงานราชการ จานวน 57 คน โดยเป็นเจ้าหน้าท่ีที่ปฏิบัติงานในส่วนกลาง จานวน 543 คน และปฏิบัติงาน ในสว่ นภูมิภาค จานวน 5,991 คน
โครงสรา้ งหน่วยงานตา่ ง อธิบดีกรมการ สานักตรวจราชการ กลุม่ ตรวจสอบภาย รอง กองแผนงาน สานกั เลขานกุ ารกรม กลมุ่ งานคุ้มครองจรยิ ธรรมฯ สถาบนั การพัฒนาชุมชน ศูนยส์ ารสนเทศเพ่อื การ สานักงานพัฒนาทนุ และองคก์ ร การเงินชมุ ชน พฒั นาชุมชน สานกั งานพัฒน สานกั งานพฒั น
ๆ กรมการพัฒนาชุมชน รพฒั นาชุมชน กลมุ่ พัฒนาระบบบริหาร ศูนยป์ ระสานราชการจงั หวดั งอธบิ ดี ชายแดนภาคใต้ กองคลัง สานักส่งเสรมิ ภูมปิ ัญญา กองประชาสัมพันธ์ ท้องถิ่นและวสิ าหกจิ ชมุ ชน กองการเจ้าหน้าท่ี กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี สานักเสรมิ สรา้ งความเขม้ แขง็ ชมุ ชน นาชมุ ชนจังหวดั ราชการบรหิ าร นาชมุ ชนอาเภอ รสาว่ ชนกกาลราบงริหารสว่ น ภมู ิภาค
2. ข้อมลู เกย่ี วกับหน่วยงานท่ีฝกึ ปฏบิ ัติ 2.1 ประวตั สิ ถาบนั การพัฒนาชุมชน สถาบันการพัฒนาชุมชน ก่อต้ังข้ึนตามกฎกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการแบ่งส่วนราชการ กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย พ.ศ. ๒๕๕๒ มีบทบาทภารกิจหลัก คือ มีบทบาทหน้าที่ ดาเนินการเกี่ยวกับการฝึกอบรมและพัฒนาข้าราชการ เจ้าหน้าที่ที่เก่ียวข้องกับกรมการพัฒนาชุมชน รวมทั้ง การให้บริการทางวิชาการด้านการพัฒนาชุมชนแก่หน่วยงานท้ังในและต่างประเทศ อีกท้ัง ศึกษา วิเคราะห์ และวิจัยงานพัฒนาชุมชนในภาพรวมและงานพัฒนาชุมชนเฉพาะพื้นที่ เพ่ือเผยแพร่และใช้ประโยชน์ในการพัฒนางานพัฒนาชุมชนรวมทั้งดาเนินการพัฒนาศูนย์ศึกษา และพัฒนาชุมชนเพ่ือให้บริการความรู้ด้านการพัฒนาชุมชนที่เหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพพื้นที่ แก่ข้าราชการ ในส่วนภูมิภาค ผู้นาชุมชน ผู้บริหารและข้าราชการท้องถ่ินท้ังหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน และนอกจากนั้นยังดาเนินเกี่ยวกับการจัดการความรู้ในการพัฒนาชุมชนและเร่ือง ที่ เกยี่ วข้อง อกี ท้ังออกแบบและพฒั นาระบบมาตรฐานการพฒั นาทรพั ยากรบุคคลในงานพฒั นาชุมชน 2.2 วสิ ยั ทัศน์ และพันธกิจ วิสัยทัศน์ “เป็นสถาบนั ช้ันนาระดบั ประเทศดา้ นการพฒั นาชุมชน” พันธกิจ 1. พฒั นาสมรรถนะบคุ ลากรของกรมฯให้สามารถปฏบิ ตั งิ านได้อย่างมืออาชพี 2. ศกึ ษาวจิ ัยและพฒั นางานพฒั นาชมุ ชน 3. ให้บริการประชาชนผู้นาชุมชนและหน่วยงานท้ังในและต่างประเทศด้านการพัฒนาชุมชน และการพฒั นาทรพั ยากรบคุ คล 4. ส่งเสริมและพฒั นาการจดั การความรใู้ นการพฒั นาชุมชน 5. พัฒนาศูนย์การเรียนรู้ในการพัฒนาชุมชนและการพัฒนาทรัพยากรบุคคลในงานพัฒนา ชมุ ชนในระดับพ้นื ที่ 6. พัฒนาการบริหารจดั การสถาบนั ฯตามหลกั ธรรมาภบิ าล เป้าประสงค์ (Goal) 1. บุคลากรของกรมการพัฒนาชุมชนสามารถส่งเสริมการบริหารจัดการชุมชนได้ อย่างมืออาชพี 2. ผนู้ าชุมชนสามารถบริหารจัดการชมุ ชนได้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ
3. ผลงานวิจัยสามารถนาไปใช้ในการพัฒนาชุมชนได้อย่างสอดคล้องกับสถานการณ์ และภูมสิ งั คม 4. ภาคีและเครือข่ายการพัฒนาชุมชนสามารถนาองค์ความรู้ด้านการพัฒนาชุมชน ไปปรบั ใชไ้ ด้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ 2.3 ภารกิจสถาบันการพฒั นาชุมชน ภารกจิ หน้าที่ความรบั ผดิ ชอบ สถาบนั การพฒั นาชุมชน แบ่งโครงสร้างการทางานออกเปน็ 6 กลุ่ม 1 ฝา่ ย และ 11 ศนู ยศ์ กึ ษาและพัฒนาชมุ ชน และมคี วามรับผิดชอบ ดังนี้ 1. ฝ่ายอานวยการ มีหน้าที่ความรับผิดชอบเก่ียวกับการบริหารจัดการงานท่ัวไป งานสารบรรณ งานการเงิน และบัญชี งานการเจ้าหน้าที่ งานการพัสดุ งานอาคารสถานท่ีและยานพาหนะ จัดทาและประสาน แผนบริหารงบประมาณ วางแผนและบริหารจัดการใช้จ่ายงบประมาณ งานประชาสัมพันธ์ และปฏบิ ัติงานอน่ื ๆ ทเี่ กย่ี วข้องตามที่ไดร้ บั มอบหมาย 2. กลุ่มงานยุทธศาสตร์การพัฒนาทรัพยากรบคุ คล มีหน้าที่ความรับผิดชอบเกี่ยวกับงานระบบข้อมูลสารสนเทศการพัฒนาทรัพยากรบุคคล งานยุทธศาสตรก์ ารพัฒนาทรพั ยากรบุคคล และงบประมาณ งานการเรียนรตู้ ามแผนพฒั นารายบุคคล (Individual Development Plan: IDP) งานการลาศึกษาต่อและทุนการศึกษา งานประสานศูนย์ ศกึ ษาและพัฒนาชมุ ชน งานลูกค้าสัมพนั ธ์ และปฏบิ ัติงานอืน่ ๆ ท่ีเกย่ี วขอ้ งตามทีไ่ ด้รบั มอบหมาย 3. กลุ่มงานสง่ เสรมิ มาตรฐานการพัฒนาทรัพยากรบคุ คล มีหน้าท่ีความรับผิดชอบ เก่ียวกับ งานพัฒนาและส่งเสริมมาตรฐานการพัฒนาทรัพยากร บุคคล งานวัดผลการฝึกอบรม งานรับรองหลักสูตร งานพัฒนาผู้ปฏิบัติงานพัฒนาบุคลากร และปฏิบัตงิ านอ่นื ๆ ที่เกย่ี วขอ้ งตามท่ีไดร้ บั มอบหมาย 4. วทิ ยาลยั การพฒั นาชุมชน มีหน้าท่ีความรับผิดชอบเก่ียวกับ การดาเนินงานของโรงเรียนนักบริหารงานพัฒนาชุมชน โรงเรียนนักพัฒนาชุมชน ศูนย์ส่งเสริมความเป็นเลิศ (หลักสูตรเสริมสมรรถนะและหลักสูตรพิเศษ) และปฏบิ ัตงิ านอนื่ ๆทีเ่ ก่ยี วขอ้ งตามท่ไี ด้รับมอบหมาย 5. ศูนย์วทิ ยบรกิ าร มีหน้าท่ีความรับผิดชอบเก่ียวกับ งานฝึกอบรมผู้นา อาสาสมัครและบุคลากรภายนอก งานฝกึ อบรมหลักสูตรต่างประเทศ งานประชาสัมพันธ์หลักสูตรเพื่อส่งเสริมการตลาด และปฏิบัติงาน อื่น ๆ ที่เกี่ยวขอ้ งตามที่ไดร้ บั มอบหมาย
6. กลุ่มงานจัดการความรู้ มหี น้าท่ีความรับผิดชอบเก่ียวกับ งานบรกิ ารวิชาการ งานจัดการความรู้ งานผลิตและบริการ ส่ือ งานห้องสมุด งานเรียนรทู้ างไกลผา่ นส่อื เอกสารอิเลค็ ทรอนิกส์ (E-Learning) และปฏบิ ัติงานอน่ื ๆ ทเ่ี ก่ียวข้องตามที่ไดร้ ับมอบหมาย 7. กลุ่มงานวจิ ัยและพฒั นา มีหน้าท่ีความรับผิดชอบเกี่ยวกับงานวิจัยและพัฒนา งานวิจัยหลักสูตร งานให้คาปรึกษา และปฏิบัติงานอ่นื ๆ ทเ่ี ก่ยี วขอ้ งตามที่ไดร้ บั มอบหมาย 8. ศูนย์ศกึ ษาและพัฒนาชมุ ชน (11 ศนู ย)์ มีหน้าที่รับผิดชอบงานวิจัยและพัฒนาเฉพาะพ้ืนท่ีและบริการให้คาปรึกษาด้านการพัฒนา ชมุ ชน งานฝึกอบรมและบริหารงานฝึกอบรมท่ีเหมาะสมเฉพาะพื้นท่ี งานสนับสนุนการจัดการความรู้ งานพฒั นาความเป็นเลิศทางวิชาการ เฉพาะด้านการพฒั นาชมุ ชน ได้แก่ 1) ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนสระบุรี ตั้งอยู่เลขท่ี 194-195 หมู่ท่ี 9 ถนนมิตรภาพ ตาบลทับกวาง อาเภอแกง่ คอย จังหวดั สระบุรี พน้ื ที่ให้บรกิ าร 6 จงั หวดั ไดแ้ ก่ ชัยนาท ลพบุรี สระบรุ ี สิงห์บุรี อ่างทอง และสุพรรณบุรี 2) ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนชลบุรี ตั้งอยู่เลขที่ ซอยสุขุมวิท - บ้านสวน 13 อาเภอเมือง จงั หวัดชลบรุ ี พ้ืนท่ใี หบ้ รกิ าร 7 จงั หวดั ไดแ้ ก่ จันทบรุ ี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ตราด ระยอง สมุทรปราการ และสระแกว้ 3) ศูนยศ์ กึ ษาและพัฒนาชุมชนอุบลราชธานี ตงั้ อย่เู ลขที่ ถนนแจง้ สนิท ตาบลแจระแม อาเภอ เมือง พื้นที่ให้บริการ 7 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี พ้ืนท่ีให้บริการ 7 จังหวัด ได้แก่ นครพนม มกุ ดาหาร ยโสธร รอ้ ยเอ็ด ศรสี ะเกษ อานาจเจริญ และอบุ ลราชธานี 4) ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนอุดรธานี ตั้งอยู่เลขที่ อาเภอเพ็ญ จังหวัดอุดรธานี พื้นท่ีให้บริการ 7 จังหวัด ได้แก่ กาฬสินธ์ุ ขอนแก่น บึงกาฬ เลย สกลนคร หนองคาย และหนองบัวลาภู 5) ศนู ยศ์ ึกษาและพัฒนาชุมชนลาปาง ต้ังอยู่เลขท่ี ถนนลาปาง - เชยี งใหม่ ตาบลปงแสนทอง อาเภอเมือง จังหวัดลาปาง พื้นท่ีให้บริการ 8 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ น่าน พะเยา แพร่ แมฮ่ ่องสอน ลาปาง และลาพูน 6) ศนู ย์ศกึ ษาและพัฒนาชมุ ชนพิษณุโลก ตัง้ อยเู่ ลขที่ ถนนพิษณุโลก - หล่มสัก อาเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก พื้นท่ีให้บริการ 9 จังหวัด ได้แก่ กาแพงเพชร ตาก นครสวรรค์ พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทยั อตุ รดติ ถ์ และอทุ ัยธานี
7) ศูนยศ์ ึกษาและพัฒนาชุมชนเพชรบุรี ต้งั อยู่ที่ อาเภอชะอา จังหวัดเพชรบุรี พ้ืนที่ใหบ้ รกิ าร 7 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี นครปฐม ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ราชบุรี สมุทรสงคราม และสมทุ รสาคร 8) ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนนครศรีธรรมราช ต้ังอยู่ท่ี ตาบลหนองหงส์ อาเภอทุ่งสง จงั หวดั นครศรีธรรมราช พื้นท่ีให้บริการ 6 จังหวัด ได้แก่ กระบ่ี ชมุ พร นครศรีธรรมราช พังงา ระนอง และสุราษฎรธ์ านี 9) ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนยะลา ต้ังอยู่ที่ ถนนสุขยางค์ ตาบลสะเตง อาเภอเมือง จงั หวัดยะลา พน้ื ทีใ่ หบ้ รกิ าร 7 จังหวัด ได้แก่ ตรัง นราธวิ าส ปัตตานี พัทลงุ ยะลา สงขลา และสตูล 10) ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนนครนายก ตั้งอยู่ท่ี ตาบลสาลิกา อาเภอเมือง จังหวัดนครนายก พื้นท่ีให้บริการ 5 จังหวัด ได้แก่ นครนายก นนทบุรี ปทุมธานี ปราจีนบุรี และพระนครศรอี ยุธยา 11) ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนนครราชสีมา ตั้งอยู่ท่ี ตาบลแหลมทอง อาเภอหนองบุญมาก จังหวดั นครราชสมี า 5 จังหวดั ได้แก่ ชัยภมู ิ นครราชสมี า บุรรี ัมย์ มหาสารคาม และสุรินทร์
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201