Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore อจท.ประวัติศาสตร์ ม.2 หน่วยที่ 6

อจท.ประวัติศาสตร์ ม.2 หน่วยที่ 6

Published by kukunarak, 2021-09-06 14:06:51

Description: อจท.ประวัติศาสตร์ ม.2 หน่วยที่ 6

Search

Read the Text Version

หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 แหล่งอารยธรรมในทวปี เอเชีย

แหล่งอารยธรรมในทวปี เอเชีย • ที่ต้งั และความสาคญั ของแหล่งอารยธรรมตะวนั ออกในทวปี เอเชีย • อิทธิพลของอารยธรรมโบราณท่ีมีต่อทวปี เอเชียในปัจจุบนั • แหล่งมรดกโลกในทวปี เอเชีย



อารยธรรมจนี สมยั ก่อนประวตั ศิ าสตร์ พฒั นาการของอารยธรรมจนี สมยั ก่อนประวตั ิศาสตร์ ยคุ หินเก่า มนุษยใ์ ชช้ ีวิตเร่ร่อน ยคุ หินใหม่ ต้งั หลกั แหล่งเป็น เกบ็ ของป่ า ล่าสตั ว์ ใชข้ วานหิน ชุมชน รู้จกั เพาะปลูก เล้ียงสตั ว์ ทอผา้ ทาเครื่องป้ันดินเผา กะเทาะหนา้ เดียว ปี ก่อน ค.ศ. 10,000 8,000 6,000 4,000 2,000 ยุคหินกลาง ใชช้ ีวติ ยุคโลหะ มีการนาทองแดง ก่ึงเร่ร่อน ต้งั หลกั แหล่ง และสาริดมาทาภาชนะตา่ งๆ ถาวร ใชเ้ ครื่องมือหิน

อารยธรรมจนี สมยั ประวตั ศิ าสตร์ พฒั นาการของอารยธรรมจีนสมยั ประวัตศิ าสตร์ สมยั ราชวงศ์ชาง (1,766-1,122 ปี ก่อน ค.ศ.) มีการ ประดิษฐต์ วั อกั ษรรูปภาพ เครื่องมือเคร่ืองใชท้ าจากสาริด มีการทาปฏิทิน สมยั ราชวงศ์โจว (1,122-221 ปี ก่อน ค.ศ.) เป็นราชวงศท์ ี่ปกครองจีนยาวนานท่ีสุด มีแนวคิดสาคญั คือ อาณตั ิแห่งสวรรค์ ปรัชญาท่ีสาคญั ไดแ้ ก่ ลทั ธิขงจื๊อ ลทั ธิเตา

สมยั ราชวงศ์ฉินหรือจนิ๋ (221-206 ปี ก่อน ค.ศ.) มีจกั รพรรดิเป็นผปู้ กครอง เร่ิมมีการสร้าง เช่ือมกาแพงเมืองจีน มีระบบ ชง่ั ตวง วดั และการใช้ ตวั อกั ษรจีนที่เป็นมาตรฐานเดียวกนั สมัยราชวงศ์ฮ่ัน (206 ปี ก่อน ค.ศ.- ค.ศ. 221) มีการสารวจ เสน้ ทางไปทางตะวนั ตก หรือ เส้นทางสายแพรไหม ซ่ึงมี ความสาคญั ทางการคา้ การแลกเปล่ียนวฒั นธรรม การเผยแผ่ ศาสนา

สมัยราชวงถัง (ค.ศ. 618-907) นบั เป็นยคุ ทองของจีน พระพทุ ธศาสนามีความเจริญรุ่งเรือง มีการสอบความรู้ ท่ีเรียกวา่ “สอบจอหงวน” สมัยราชวงศ์ซ่งหรือซ้อง (ค.ศ. 960-1279) ถูกชนเผา่ ทางเหนือรุกราน เร่ิมมีการประดิษฐด์ ินปื น เพ่อื ใชท้ าดอกไมไ้ ฟ มีความโดดเด่นทางดา้ น ภาพวาดและเคร่ืองกระเบ้ือง

สมัยราชวงศ์หยวนหรือหงวน (ค.ศ. 1279- 1368) ปกครองโดยชนเผา่ มองโกล โดยมีเมืองหลวง อยทู่ ่ีเมืองตา้ ตู (เป่ ยจ์ ิงหรือปักก่ิงในปัจจุบนั ) สมัยราชวงศ์หมิง (ค.ศ. 1368-1644) มีการส่งกองเรือขนาดใหญ่ ออกสารวจทางทะเล ชาวตะวนั ตกเร่ิมเขา้ มาติดต่อกบั จีนโดยตรง สินคา้ จีนที่เป็นท่ีตอ้ งการ เช่น ใบชา เคร่ืองกระเบ้ืองสีน้าเงิน-ขาว

สมัยราชวงศ์ชิง (ค.ศ. 1644-1912) ปกครองโดยชาวแมนจู มีการสืบทอดอารยธรรม ด้งั เดิมของชาวจีน ภายหลงั เส่ือมอานาจลงจาก ความอ่อนแอภายในและการุกกรานของตะวนั ตก สมยั สาธารณรัฐประชาธิปไตยและสาธารณรัฐ ประชาชน (คอมมวิ นิสต์) (ค.ศ. 1912-ปัจจุบนั ) จีนปกครอง ในระบอบสาธารณรัฐประชาธิปไตยระหวา่ ง ค.ศ. 1912-1949 ต่อมาพรรคคอมมิวนิสตจ์ ีนเปล่ียนแปลงการปกครอง สู่ระบอบคอมมิวนิสตจ์ นถึงปัจจุบนั



อารยธรรมอนิ เดียสมยั ก่อนประวตั ศิ าสตร์ พฒั นาการของอารยธรรมอนิ เดยี สมยั ก่อนประวตั ศิ าสตร์ ยคุ หินเก่า พบเครื่องมือหิน ยคุ หินใหม่ ปลูกขา้ ว เล้ียงสตั ว์ มนุษยด์ ารงชีพดว้ ยการเกบ็ สร้างบา้ นดว้ ยดินเหนียว อาศยั ของป่ า ล่าสตั ว์ อาศยั อยใู่ นถ้า รวมกนั เป็นชุมชน ปี ก่อน ค.ศ. 10,000 8,000 6,000 4,000 2,000 ยคุ หินกลาง ใช้ ยคุ โลหะ เป็นยคุ แห่งความ เคร่ืองมือหินที่เลก็ รุ่งเรืองของอินเดียโบราณ และเบา รู้จกั เขียนภาพ ท่ีเรียกวา่ อารยธรรมลุ่ม บนผนงั ถ้า แม่น้าสินธุ

อารยธรรมอนิ เดียสมัยประวตั ิศาสตร์ พฒั นาการของอารยธรรมอนิ เดยี สมยั ประวัติศาสตร์ สมัยราชวงศ์เมารยะ (321-185 ปี ก่อน ค.ศ.) มีจกั รพรรดิท่ีสาคญั คือ พระเจา้ จนั ทรคุปต์ พระเจา้ อโศกมหาราช ทรงส่งสมณทูตไปเผยแผ่ พระพทุ ธศาสนายงั ประเทศต่างๆ สมัยราชวงศ์คุปตะ (320-550 ปี ก่อน ค.ศ.) มีศูนยอ์ านาจอยทู่ ี่แควน้ มคธ และแมศ้ าสนาพราหมณ์ ไดพ้ ฒั นาเป็นศาสนาฮินดู แต่พระพทุ ธศาสนายงั คง เจริญรุ่งเรือง วทิ ยาศาสตร์และคณิตศาสตร์เจริญกา้ วหนา้

สมัยแตกแยกและอ่อนแอ (ค.ศ. ที่ 6-10) ทางเหนือ ถูกต่างชาติรุกรานและต้งั อาณาจกั ร ศาสนาอิสลามเริ่มเผยแผ่ เขา้ สู่อินเดียทางเหนือ ในช่วงกลาง ค.ศ. ท่ี 9 -กลาง ค.ศ. ที่ 13 อาณาจกั รโจฬะทางใตข้ องอินเดียนบั ถือศาสนาพราหมณ์-ฮินดู สมัยสุลต่านแห่งเดลหี รือราชวงศ์มมั ลูก (ค.ศ. 1206-1526) ต้งั โดยผนู้ ามุสลิมเช้ือสายเติร์ก มีการรับ วธิ ีการทากระดาษ ดินปื น เคร่ืองกระเบ้ืองจากจีน และใน ค.ศ. 1498 โปรตุเกสเดินทางถึงอินเดียทางเรือ

สมัยจกั รวรรดโิ มกลุ หรือมุคลั (ค.ศ. 1526-1858) ต้งั โดยบาบูร์ เช้ือสายมองโกล สุลต่านท่ียงิ่ ใหญ่ คือ อกั บาร์ มหาราช และชาห์ จะฮาน เม่ือราชวงศโ์ มกลุ เสื่อมอานาจ ชาติตะวนั ตกไดข้ ยายอานาจเขา้ มา สมยั องั กฤษปกครองอนิ เดยี (ค.ศ. 1858-1947) โดยมีสมเดจ็ พระราชินีนาถวกิ ตอเรียเป็นจกั รพรรดินีของ อินเดีย รัฐบาลองั กฤษต้งั ขา้ หลวงใหญห่ รืออุปราชเป็น ผปู้ กครอง ในปลาย ค.ศ. ท่ี 19 ชาวอินเดียเริ่มเรียกร้อง เอกราช ผนู้ าคนสาคญั เช่น มหาตมาคานธี

สมยั อนิ เดยี ได้เอกราช (ค.ศ. 1947) แมอ้ ินเดียไดร้ ับเอกราชแต่ประเทศแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ อินเดีย ซ่ึงประชาชนส่วนใหญเ่ ป็นฮินดู กบั ปากีสถาน ซ่ึงประชาชนส่วนใหญเ่ ป็นมุสลิม สมัยแบ่งออกเป็ นบังกลาเทศ (ค.ศ. 1971) จากปัญหาการขาดเอกภาพของปากีสถานอนั เน่ือง มาจากที่ต้งั ท่ีแยกกนั เช้ือชาติและภาษาที่ต่างกนั รวมถึงความเหล่ือมล้าดา้ นการเมืองการปกครอง และเศรษฐกิจ ทาใหป้ ากีสถานตะวนั ออกแยกมา ต้งั เป็นประเทศบงั กลาเทศ



อารยธรรมเมโสโปเตเมยี สมยั ประวตั ิศาสตร์ พฒั นาการของอารยธรรมเมโสโปเตเมยี สมยั ประวัติศาสตร์ สมยั อาณาจกั รซูเมเรีย (3,200-2,300 ปี ก่อน ค.ศ.) มีการจดั ต้งั นครรัฐ แต่ละรัฐมีผปู้ กครองของตนเอง มีการประดิษฐต์ วั อกั ษรเป็นคร้ังแรกของโลก เรียกวา่ อกั ษร คูนิฟอร์มหรืออกั ษรลิ่ม รู้จกั การคิดคน้ ระบบชลประทาน มีความสามารถเชิงคณิตศาสตร์ เป็นตน้ สมยั อาณาจักรบาบิโลเนียเก่า (2,000-1,600 ปี ก่อน ค.ศ.) ปกครองโดยชนเผา่ อะมอไรต์ มีศูนยอ์ านาจท่ีกรุงบาบิโลน กษตั ริยท์ ่ียง่ิ ใหญ่ คือ พระเจา้ ฮมั มูราบี ทรงสร้างประมวลกฎหมาย ที่เรียกวา่ ประมวลกฎหมายฮมั มูราบี

สมยั จกั รวรรดอิ สั ซีเรีย (1,300-612 ปี ก่อน ค.ศ.) มีศนู ยก์ ารปกครองที่เมืองนิเนเวห์ มีความเชื่อวา่ กษตั ริยเ์ ป็นสมมติเทพ จึงนิยมสร้างวงั แทนวดั เพ่อื เป็น ท่ีประทบั และศนู ยก์ ลางปกครอง กษตั ริยท์ ่ีสาคญั คือ พระเจา้ อสั ซูร์บานิปาล สมยั อาณาจกั รคาลเดยี นหรือมาบิโลเนียใหม่ (612-539 ปี ก่อน ค.ศ.) กษตั ริยท์ ่ีสาคญั คือ พระเจา้ เนบูคดั เนซซาร์ สามารถพชิ ิตกรุงเยรูซาเลม็ ได้ มีการสร้างสวนลอยแห่งบาบิโลน หอคอยแห่งบาเบล สุดทา้ ยถูกกองทพั เปอร์เซียยดึ ครองและรวมเขา้ เป็ น ส่วนหน่ึงของจกั รวรรดิเปอร์เซีย



จักรวรรดอิ สิ ลาม พฒั นาการของจักรวรรดอิ สิ ลาม แบ่งออกเป็น 3 สมยั สมยั กาหลิบ 4 พระองค์แรก (ค.ศ. 632-661) หลงั จากท่านนบีมุฮมั มดั สิ้นพระชนม์ เมื่อ ค.ศ. 632 โดยไม่ไดก้ าหนดใหใ้ ครเป็นผนู้ า ท้งั ดา้ นการเมืองและศาสนา ในที่สุดตาแหน่ง กาหลิบหรือเคาะลีฟะฮไ์ ดป้ กครองจกั รวรรดิ ซ่ึงกาหลิบ 4 พระองคแ์ รกลว้ นเป็นญาติ และคนสนิทของท่านนบีมุฮมั มดั ไดแ้ ก่ อบูบกั ร์, อุมรั , อุษมาน และอลีย์ สมยั น้ีจกั รวรรดิอิสลาม ไดข้ ยายดินแดนและเผยแผศ่ าสนาอิสลาม อยา่ งกวา้ งขวาง

สมยั ราชวงศ์อมุ ัยยะฮ์ (ค.ศ. 661- 750) มีศูนยก์ ลางปกครองอยทู่ ี่เมืองดามสั กสั (ในประเทศซีเรียปัจจุบนั ) ไดเ้ ปล่ียนแปลง ระบอบการปกครองจากสาธารณรัฐเป็ น ราชอาณาจกั ร มีการกาหนดการสืบทอด ตาแหน่งเคาะลีฟะฮด์ ว้ ยการสืบสนั ตติวงค์ และเป็นสมยั ที่มีการขยายดินแดนอยา่ ง กวา้ งขวางครอบคลมุ ถึง 3 ทวปี ไดแ้ ก่ ทวปี เอเชีย ยโุ รป และแอฟริกา

สมัยราชวงศ์อบั บาซียะฮ์ (ค.ศ. 750-1258) มีศนู ยก์ ลาง ปกครองอยทู่ ่ีเมืองแบกแดด (ในประเทศอิรักปัจจุบนั ) เป็นสมยั ของการสร้างความเป็นเอกภาพและความรุ่งเรืองสูงสุด มีการขยาย อาณาเขตการปกครองมากข้ึน คือ ทางทิศตะวนั ตก อิสลามเผยแพร่ ถึงแอฟริกาเหนือ สเปน ส่วนทางดา้ นทิศตะวนั ออก อิสลาม เผยแพร่ถึงเปอร์เซียและอินเดีย นอกจากน้ียงั มีความเจริญรุ่งเรือง ทางศิลปวทิ ยาการสาขาต่างๆ เช่น การแพทย์ คณิตศาสตร์ รวมถึง มีการแปลตาราจากภาษาอื่นๆใหเ้ ป็นภาษาอาหรับ สุดทา้ ยเสื่อม อานาจจากการรุกรานของพวกเติร์ก



ด้านศาสนาและลทั ธิความเชื่อ อทิ ธิพล อทิ ธิพลของ อทิ ธิพล อทิ ธิพลของ ของอารยธรรมจีน อารยธรรมอนิ เดยี อารยธรรมอสิ ลาม ของอารยธรรม • ลทั ธิขงจ๊ือ • ศาสนา • ศาสนาอิสลาม • ลทั ธิเตา พราหมณ์-ฮินดู เมโสโปเตเมยี อิทธิพลดา้ น • พระพทุ ธศาสนา ศาสนาและความ เชื่อของอารย- ธรรมเมโสโป- เตเมียไม่มีผลมาถึง ชาวเอเชีย ในปัจจุบนั

ด้านอกั ษรศาสตร์ อทิ ธิพลของอารยธรรมจนี • หนงั สือส่ือจ้ี หรือบนั ทึกของ นกั ประวตั ิศาสตร์ ของซือหม่า เชียน • การจดบนั ทึกทางประวตั ิศาสตร์ลงบน วสั ดุต่างๆ เช่น กระดูกสตั ว์ กระดองเต่า • บนั ทึกประวตั ิศาสตร์ของราชวงศต์ ่างๆ ไมไ้ ผ่ กระดาษ เป็นตน้ • ตาราคาสอนของขงจ๊ือ ตาราแพทย์ • สารานุกรมหยง่ เล่อ • วรรณกรรมจีน เช่น สามก๊ก ซอ้ งกงั๋ ไซอ๋ิว ไซ่ฮน่ั บนั ทึกกระดองเต่า

• คมั ภีร์พระเวทในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู • พระไตรปิ ฎก ชาดกในพระพทุ ธศาสนา • วรรณกรรม เช่น มหากาพยม์ หาภารตะ มหากาพยร์ ามายณะ (รามเกียรต์ิ) เรื่องศกนุ ตลา คมั ภีร์พระเวท การแสดงโขนเรื่ องรามเกียรต์ ิของไทย

อทิ ธิพลของอารยธรรมเมโสโปเตเมยี • อิทธิพลดา้ นอกั ษรศาสตร์ของชาว เมโสโปเตเมียไม่มีผลมาถึงชาว เอเชีย ในปัจจุบนั อทิ ธิพลของอารยธรรมอสิ ลาม ตน้ ฉบบั วรรณกรรมเรื่องอาหรับราตรี เขียน ดว้ ยภาษาอาหรับ • คมั ภีร์อลั กรุ อาน ซ่ึงเป็นคมั ภีร์สาคญั ทางศาสนา และเป็นวรรณกรรม อนั ทรงคุณค่าของอารยธรรมอิสลาม • วรรณกรรมประเภทนิทานท่ีเป็นท่ี นิยมหลายเร่ือง เช่น อาหรับราตรี รุไบยาด

ด้านศิลปวทิ ยาการและภูมปิ ัญญา อทิ ธิพลของอารยธรรมจนี • เขม็ ทิศ • กระดาษ • ดินปื น • การพมิ พ์ • การแพทย์ เช่น การฝังเขม็ การจบั ชีพจร เขม็ ทิศจีน ระยะแรกใชใ้ นพิธีกรรม ต่อมาไดพ้ ฒั นา คมั ภีร์วชั รสูตร พมิ พด์ ว้ ยแม่พิมพแ์ กะไม้ ปัจจุบนั จนนามาใชบ้ อกทิศทาง เกบ็ รักษาไวท้ ี่หอสมุดองั กฤษ

อทิ ธิพลของอารยธรรมอนิ เดยี • งานศิลปะประเภทสถาปัตยกรรม และประติมากรรม เช่น สถูป เจดีย์ พระพทุ ธรูป เทวรูปในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู • ความรู้ทางคณิตศาสตร์ เช่น ระบบตวั เลข 1-9 แทนเลขโรมนั (ที่เรียกวา่ เลขอารบิก) และเลข 0 ระบบทศนิยม กาลงั ท่ีสอง (������2) รากท่ีสอง ( √) เคร่ืองหมายพาย ( ������) • ความรู้ทางแพทยศาสตร์ โดยเฉพาะการผา่ ตดั การใชย้ าประเภทต่างๆ รวมท้งั ความรู้สาขา อ่ืนๆ อีกมากมาย ประติมากรรมพระพทุ ธรูปประทบั นง่ั ปางปฐมเทศนาจากสารนาถ สมยั คุปตะ

อทิ ธิพลของอารยธรรมเมโสโปเตเมยี • ความรู้ทางคณิตศาสตร์ โดยใชค้ วามรู้ เรขาคณิตในการคานวณท่ีดินและการ ก่อสร้างอาคาร • ความรู้ทางดาราศาสตร์ เช่น การแบ่งวนั ออกเป็น 24 ชว่ั โมง แบ่งชว่ั โมงออกเป็น 60 นาที การทาตารางกลมุ่ ดาว การทา ปฏิทินแบบจนั ทรคติที่กาหนดให้ 1 ปี มี 12 เดือน การใชฐ้ านเลข 12 (1 โหล) แผน่ จารึกรายช่ือเดือนท้งั 12 เดือนตาม ปฏิทินบาบิโลเนียดว้ ยอกั ษรคูนิฟอร์ม มีอายรุ ะหวา่ ง 1,100-800 ปี ก่อน ค.ศ.

อทิ ธิพลของอารยธรรมอิสลาม • การทอผา้ ของมุสลิม ท่ีมีช่ือเสียงมาก ไดแ้ ก่ ผา้ ไหมผา้ ลินิน ผา้ ขนสตั ว์ รวมท้งั พรม • ความรู้ทางการแพทย์ เช่น การผา่ ตดั ความรู้ทางวทิ ยาศาสตร์ เช่น การทดลอง ผสมสารเคมีจนไดส้ ารเคมีใหม่ๆ หรือที่เรียกวา่ การเล่นแร่แปรธาตุ • ความรู้ทางคณิตศาสตร์ ซ่ึงมุสลิมรับ ความรู้จากอินเดีย กรีก โรมนั เช่น การนาตวั เลขอารบิกจากอินเดียมาใช้ พรมเปอร์เซียท่ีมีลวดลายสวยงาม



ตวั อย่างแหล่งมรดกโลกในจีน พระราชวงั หลวงสมยั ราชวงศ์หมงิ และราชวงศ์ชิงท่ีนครปักกง่ิ

สุสานทหารดนิ เผาทเ่ี มืองซีอาน มณฑลฉ่านซี

กาแพงเมืองจนี

ถา้ ผาม่อเกา

พระราชวงั ฤดูร้อนและอทุ ยานในกรุงปักกง่ิ

หอสักการะฟ้าเทยี นถนั

ตวั อย่างแหล่งมรดกโลกในญป่ี ่ ุน อนุสรณ์สถานเมืองโบราณเกยี วโต

อนุสรณ์สถานเมืองโบราณนาระ

อนุสรณ์สถานสันตภิ าพทเ่ี มืองฮิโระชิมะ

ปราสาทฮิเมจิหรือฮิเมจโิ จ

ศาลเจ้าและวดั แห่งนิกโก

ส่ิงก่อสร้างทางพระพุทธศาสนาบริเวณโฮริวจิ

ตวั อย่างแหล่งมรดกโลกในเกาหลใี ต้ วหิ ารยองเมยี ว

เขตประวตั ศิ าสตร์จยองจู

สุสานหลวงราชวงศ์โชซอน



ตวั อย่างแหล่งมรดกโลกในอนิ เดีย ถา้ อชันตา รัฐมหาราษฏระ

ศาสนสถานทเ่ี มืองสาญจี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook