Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทที่ 5 3-2562

บทที่ 5 3-2562

Published by surachat.s, 2020-05-20 09:10:05

Description: บทที่ 5 3-2562

Search

Read the Text Version

ลิงก์ Meet https://meet.google.com/lookup/apra7jnese บทที่ 5 การดูแลสขุ ภาพทางเพศ การวางแผน ครอบครวั และการคุมกาเนิด โดย อ.ดร.สุรชาติ สทิ ธิปกรณ์

วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพ่ือใหน้ สิ ติ มคี วามรู้และความเขา้ ใจเกี่ยวกบั การดแู ลสขุ ภาพทางเพศ โรคตดิ ต่อทางเพศสัมพันธ์ การวางแผนครอบครัวและการคมุ กาเนดิ 2. เพื่อให้นสิ ติ สามารถนาความรูไ้ ปประยกุ ตใ์ ช้ในการดแู ลสขุ ภาพทาง เพศ ปอ้ งกันโรคติดต่อทางเพศสมั พนั ธ์ วางแผนครอบครัวและการคุมกาเนิด ไดอ้ ย่างถกู ต้องและเหมาะสม

เน้ือหา 1. การดแู ลสขุ ภาพทางเพศและโรคติดตอ่ ทางเพศสมั พนั ธ์ 2. การวางแผนครอบครวั และการคมุ กาเนดิ

1. การดแู ลสขุ ภาพทางเพศและโรคตดิ ตอ่ ทางเพศสมั พนั ธ์ 1.1 การดแู ลสขุ ภาพทางเพศ แผนงานสรา้ งเสรมิ สขุ ภาวะทางเพศ สสส.(2551) อธบิ ายกรอบแนวคดิ และความหมายของสขุ ภาวะทางเพศ โดยนาแนวคดิ ท่เี กย่ี วขอ้ งประเด็นเรอ่ื งเพศมาใชเ้ ป็นกรอบแนวคิดทฤษฎี ดงั แผนภูมิ

1.1 การดแู ลสขุ ภาพทางเพศ การลดปจั จยั เส่ียงเรือ่ งเพศสมั พนั ธท์ ี่ไม่ปลอดภัย/การสร้างเสรมิ สขุ ภาวะทางเพศ - คานึงความแตกตา่ งหลากหลายของวิถีทางเพศของคนในสังคม - ชวี ติ ทางเพศของคนในสงั คมได้รบั อิทธิพลจากความเช่ือและคุณค่าหลายระบบ - ระบบความเชือ่ และคณุ คา่ ที่เกี่ยวข้องกบั วัฒนธรรมความเป็นหญงิ /เป็นชาย *คานึงว่าความแตกต่างหลากหลายเหล่านีไ้ มใ่ ชส่ งิ่ ผิดปกติและสามารถ แปรเปลย่ี นตามกาลเวลาและประสบการณใ์ นชวี ิต

ระดบั ของสขุ ภาวะทางเพศระดับบคุ คลและระดบั สงั คม แบ่งเปน็ 2 ระดับ 1. สขุ ภาวะทางเพศระดับบคุ คล - บุคคลมคี วามคิดเชงิ บวกตอ่ เร่อื งเพศและสมั พันธภาพทางเพศ - แสดงออกทางเพศและตดั สนิ ใจดว้ ยตนเองโดยอสิ ระไมเ่ บียดเบียนผอู้ ืน่ - เคารพตอ่ วถิ ที างเพศทแี่ ตกต่างจากตน - มสี มั พันธภาพทางเพศท่ีปลอดภัยและมีความพึงพอใจปราศจากการบังคับ การเลือกปฏิบัติ และความรนุ แรง

ระดับของสขุ ภาวะทางเพศระดบั บุคคลและระดบั สงั คม 2. สขุ ภาวะทางเพศระดบั สงั คม - สงั คมมอี งคป์ ระกอบที่สร้างเสรมิ สขุ ภาวะทางเพศของคนในสังคม รฐั บาล ตระหนัก สุขภาวะทางเพศเปน็ สิทธิพ้ืนฐานของบคุ คลและให้การสนับสนุน โดย - กาหนดนโยบายและกฎหมายทีค่ ้มุ ครองสิทธิทางเพศของพลเมอื ง - การให้การศกึ ษาเร่อื งเพศทีเ่ หมาะสมกบั วยั และเพศตลอดช่วงอายุ - การมีโครงสร้างพ้ืนฐานทีเ่ พียงพอตอ่ การให้บริการทางสงั คมและสขุ ภาพ - การศกึ ษาวิจัยและระบบเฝา้ ระวงั ท่ีรอบด้านและเพยี งพอใหเ้ กดิ การ ปอ้ งกนั ปัญหาสขุ ภาพอย่างเหมาะสม

1.2 สถานการณโ์ รคตดิ ต่อทางเพศสัมพันธ์ สานักโรคเอดส์ วณั โรค และโรคติดต่อทางเพศสมั พันธ์ กรมควบคุมโรค กระทรวง สรปุ สถานการณ์โรคตดิ ตอ่ ทางเพศสัมพันธท์ ั่วโลก ปี พ.ศ. 2551 พบว่า - ผูป้ ว่ ยโรคติดตอ่ ทางเพศสัมพันธ์ 498.9 ล้านราย - อนั ดบั 1 พยาธิชอ่ งคลอด มีจานวนผปู้ ่วยสูงสุด สอดคลอ้ งกบั รายงาน สถานการณแ์ นวโนม้ โรคตดิ ตอ่ ทางเพศสัมพันธ์ของศนู ยค์ วบคุมโรคสหรัฐอเมริกา พบวา่ ในปี 2556 พบว่า มีผูป้ ว่ ยหนองในเทยี ม คดิ เปน็ 446.6 ตอ่ ประชากรแสนคน หนองใน 106.1 ตอ่ ประชากรแสนคน และซฟิ ิลสิ 5.5 ตอ่ ประชากรแสนคน

1.2 สถานการณโ์ รคติดตอ่ ทางเพศสมั พนั ธ์ - สานักระบาดวิทยา อตั ราป่วยมีแนวโนม้ ลดลงจาก 19.49:ประชากรแสนคน ในปี 2552 เป็น 18.63:ประชากรแสนคนในปี 2556 - จาแนกรายโรค หนองใน พบบอ่ ยท่สี ุด 10.42: ประชากรแสนคน รองลงมา ซิฟิลสิ 3.67 หนองในเทยี ม 3.07 แผลรมิ อ่อน 0.94 และกามโรคของต่อมน้าเหลือง และทอ่ น้าเหลอื ง 0.54 ตามลาดับ - ผูป้ ว่ ยโรคตดิ ต่อทางเพศสัมพนั ธจ์ ะมีโอกาสติดเช้อื HIV จากเพศสัมพันธ์ทไี่ ม่ ปลอดภยั > ผูท้ ไ่ี ม่ป่วยด้วยโรคทางเพศสัมพันธ์ 3-5 เทา่ และที่สาคญั พบผู้ปว่ ยสงู ทส่ี ุด อยู่ในกลุ่มอายุ 15-24 ปี - ดังนั้น การดแู ลรกั ษาและการป้องกนั ควบคมุ โรคติดตอ่ ทางเพศสัมพนั ธ์จึงเป็น เรอื่ งสาคัญที่จะชว่ ยลดการแพร่กระจายเชอ้ื HIV ได้อกี ทางหนงึ่

1.3 โรคตดิ ต่อทางเพศสัมพนั ธ์ - เกิดจากการติดตอ่ ผา่ นทางเพศสัมพนั ธ์ ไมว่ า่ จะเปน็ การร่วมเพศทางชอ่ งคลอด/ ปาก/ทวารหนกั กบั ผ้ทู เี่ ป็นโรค/ผ้ตู ิดเชือ้ - โรคติดตอ่ ทางเพศสมั พนั ธ์ 5 โรคหลกั ได้แก่ ซิฟิลสิ หนองใน กามโรค ของตอ่ มและทอ่ นา้ เหลอื ง หนองในเทยี มและแผลรมิ ออ่ น สว่ นโรคอน่ื ๆ ไดแ้ ก่ เริมทอี่ วยั วะเพศและทวารหนกั หูดอวยั วะเพศและทวาร หนัก พยาธชิ ่องคลอด (สานกั โรคเอดส์ วัณโรค และโรคตดิ ต่อทางเพศสมั พันธ์ กรมควบคมุ โรค กระทรวงสาธารณสุข, 2558) ซ่ึง STIs ตดิ ต่อจากบคุ คลหน่ึงไปสบู่ คุ คลอนื่ ๆ โดยมเี พศสัมพันธ์ท่มี ภี าวะเสย่ี ง หรอื ไมใ่ ชถ้ งุ ยางอนามยั และมกั พบวา่ มอี าการผดิ ปกตริ ว่ มดว้ ย ซึง่ สงสยั ไดว้ า่ อาจตดิ โรคตดิ ต่อ ทางเพศสัมพันธ์แล้ว

1. โรคซฟิ ิลสิ (Syphilis) - เกดิ จากเชือ้ แบคทีเรีย ทรพิ โพนิมา พอลลิดัม (Treponema pallidum) - เข้าสรู่ า่ งกายได้ทางแผลถลอก หรอื ไชเขา้ ทางเยื่อเมอื กหรือรขู ุมขน ติดต่อทางเพศสัมพนั ธ์ นา้ กาม ทางเลอื ด และทางรก จากมารดาสเู่ ดก็

อาการและอาการแสดง โรคหนองในเทยี ม (Non-gonococcal urethritis; NGU) 1. ซฟิ ลิ สิ ระยะแรก (Early syphilis) ซฟิ ิลิสระยะที่ 1 - สังเกตไดจ้ ากการมแี ผล อาจเป็นแผลเดีย่ วหรือหลายแผลได้ ระยะเวลาต้ังแต่ตดิ โรคจนเกดิ อาการ 10-90 วัน แผลไม่นิ่ม กลม ขนาดเล็ก ไมเ่ จ็บ ขอบยกนนู แข็ง เรียก แผลรมิ แขง็ โดย แผลทีเ่ กิดนน้ั จะมีเชอ้ื ท่ีเขา้ สูร่ า่ งกาย และแผลจะอยูน่ าน 3-6 สัปดาห์ หลงั จากนนั้ จะหายไปเองโดยไมร่ กั ษา แม้ได้รับการรักษา แต่รักษาไม่ถกู ตอ้ ง รักษาไมค่ รบกจ็ ะเข้าส่ซู ิฟิลิสระยะที่ 2

อาการและอาการแสดง ซิฟลิ ิสระยะท่ี 2 มผี ่ืนตามผิวหนังและเยื่อบุ ผ่นื เกดิ ตามร่างกาย1/ 2 แห่ง ไม่คนั อาจเกิดขณะท่แี ผลท่รี มิ แขง็ กาลงั จะหาย/หลังจาก หายไปแลว้ 2-3 สัปดาห์ ผนื่ มลี กั ษณะสแี ดง หรือจุด น้าตาลแดง อาจเกิดที่ฝา่ มือ และฝ่าเท้า แตผ่ ่นื อาจเกดิ บรเิ วณอ่ืนและมลี กั ษณะคล้ายโรคอน่ื บางครั้งผ่นื เปน็ จางๆ ทาให้ไมไ่ ดส้ ังเกต อาการอ่ืน ไดแ้ ก่ มไี ข้ ตอ่ มน้าเหลอื งโต เจ็บคอ ผม ร่วงเปน็ หยอ่ มๆ ปวดศรี ษะ นา้ หนกั ลด ปวดกล้ามเนอื้ ไม่มี แรง อาการของระยะนีจ้ ะหายได้เอง

อาการและอาการแสดง โรคหนองในเทยี ม (Non-gonococcal urethritis; NGU) 2. ซิฟลิ สิ ระยะหลงั (Late syphilis หรอื Tertiary syphilis) ระยะแฝง และระยะสดุ ทา้ ย: ระยะแฝง เรม่ิ ต้นหลงั จากอาการระยะ 1 และระยะที 2 ผา่ นไปแล้ว หากไมไ่ ดร้ บั การ รกั ษาเชอ้ื จะยังคงอย่ใู นรา่ งกายแม้จะไมแ่ สดงอาการ ระยะแฝงของซิฟลิ สิ จะอยูน่ านหลายปี สว่ นหน่ึงจะเข้าระยะสุดทา้ ยของโรคซฟิ ิลสิ และแสดงอาการโดยเชื้อจะคอ่ ยๆ ทาลายอวยั วะภายใน ได้แก่ สมอง เสน้ ประสาทตา หัวใจ เส้นเลือด ตับ กระดกู ข้อ อาการและอาการแสดงของโรคระยะท้ายอาจมตี ้ังแต่การ เคลื่อนไหวของกลา้ มเนือ้ ไมส่ ัมพันธ์กนั อมั พาต ชา ตาบอด สมองเสอื่ ม และอาจรุนแรง จนถึงขนึ้ เสยี ชีวติ

2. โรคหนองใน (Gonorrhoea) - เชื้อแบคทเี รยี ท่ีทาให้เกดิ โรคนี้ แบคทีเรีย Neisseria gonorrhea - “gonos” แปลวา่ เมด็ (seed) และ “rhoea” แปลวา่ ไหล (flow) - อัลเบริ ต์ นสิ เซอร์ (Albert Neisser) ได้ค้นพบเชอื้ แบคทเี รยี ทท่ี าใหเ้ กดิ โรคนี้ https://www.youtube.com/watch?v=ujOO_BQjs1g

อาการและอาการแสดง โรคหนองใน (Gonorrhoea) ผชู้ าย ผู้หญงิ - ปสั สาวะขดั แสบ - ตกขาวมีกล่นิ เหม็น ไมค่ ัน มีอาการ - พบมหี นองไหลจากทอ่ ปสั สาวะ อกั เสบทที่ อ่ ปัสสาวะ ปากมดลกู และทวาร - เป็นฝที อี่ วัยวะเพศ หรืออัณฑะ หนัก - หากไมร่ ักษาเชอ้ื อาจจะลามไปท่ที อ่ รงั ไข่ อกั เสบ เกดิ ช่องเชิงกรานอกั เสบซึ่งจะมอี าการปวด ทอ้ งนอ้ ย มไี ข้ เจ็บทอ้ งเม่อื มเี พศสมั พนั ธ์

3. กามโรคของตอ่ มและนา้ เหลอื ง (Lymphogranuloma Venereum; LGV) เกดิ จาก:เชอ้ื แบคทเี รยี คลามยั เดยี แทรคโคโมตสิ (Chlamydia trachomotis) - ฝมี ะม่วง - พบบอ่ ยในประเทศเขตรอ้ น เกิดจากเชอื้ แบคทีเรยี คลามัยเดีย แทรคโคโมตสิ (Chlamydia trachomotis) - เข้าส่รู า่ งกายทางแผลถลอก และทางเย่อื เมอื กของอวัยวะเพศ แลว้ แพร่เขา้ สตู่ อ่ ม น้าเหลืองทางทอ่ น้าเหลอื ง แลว้ จะเกิดฝีรอบๆ ตอ่ มน้าเหลืองและแตกเปน็ หนอง มรี ะยะฟกั ตวั ประมาณ 5-21 วัน

อาการและอาการแสดง กามโรคของตอ่ มและนา้ เหลอื ง (Lymphogranuloma Venereum; LGV) อาการ - จะมีตุ่มหรอื แผลตนื้ ๆเป็นแผลเจบ็ เกดิ ข้นึ ทอ่ี วยั วะเพศ ตอ่ มนา้ เหลืองทข่ี า หนบี จะบวม

4. โรคหนองในเทยี ม (Non-gonococcal urethritis; NGU) - ส่วนใหญเ่ กิดจาก เชือ้ แบคทีเรยี คลามัยเดยี ทราโคโมตสิ (Chlamydia trachomatis) ถงึ รอ้ ยละ 50 ของจานวนทเี่ ปน็ โรคหนองในเทียมท้งั หมด - การอักเสบของท่อปัสสาวะทีเ่ กิดเชื้อโรคท่ีไมใ่ ชห่ นองในแท้ (Gonococcal Urethritis) - อาการคลา้ ยกบั โรคหนองใน ทอ่ ปสั สาวะอกั เสบ ถา่ ยปสั สาวะขดั มนี า้ ใสหรอื หนองไหลออกจาก ทอ่ ปสั สาวะในบางคร้งั แต่ตรวจทาง Lab ไมพ่ บเชื้อ N. gonorrhea - สว่ นใหญเ่ กดิ จากเช้ือ คลามยั เดยี แทรกโคโมตสิ และเช้อื ยรู พี ลาสมา ยรู ไี ลตคิ มั แคนดิดา อลั บแิ คน - ระยะฟักตัวประมาณ 2-3 สัปดาห์ อาจนานถงึ 5 สัปดาห์

อาการและอาการแสดง โรคหนองในเทยี ม (Non-gonococcal urethritis; NGU) ผู้ชาย ผู้หญิง แสบที่ปลายทอ่ ปัสสาวะ ปัสสาวะขดั มี ระยะแรก สว่ นมากไม่มีอาการ สว่ นนอ้ ยมี หนองไหล หนองมกั เป็นมุกใส ๆ หรือมกู อาการตกขาว ขนุ่ คนั ทอ่ ปัสสาวะ

การวนิ ิจฉยั โรคหนองในเทยี ม (Non-gonococcal urethritis; NGU) - การวนิ จิ ฉยั จะต้องพยายามแยกโรคจากโรคหนองใน ซง่ึ ยากถ้าดูจากอาการและอาการ แสดง เพราะมีอาการคล้ายกนั - การตรวจทางห้องปฏบิ ตั ิการ ถา้ ตรวจไม่พบเชือ้ N. gonorrhoeae กจ็ ะเปน็ โรค หนองในเทยี ม การรกั ษา - ตรวจหาเชือ้ ท่เี ปน็ สาเหตขุ องหนองในเทียม - ยาปฏิชวี นะทกี่ าจัดเช้อื ที่เปน็ สาเหตุ - เชอื้ คลามยั เดยี มักจะใชย้ าเตตราซยั คลิน ด็ อกซีซัยคลิน มโิ นซัยคลิน เอริโธรมัยซิน คลินดามยั ซนิ เซฟโฟซิตนิ

โรคหนองในเทยี ม (Non-gonococcal urethritis; NGU) จำกดั คนู่ อน ยดึ ถือกำรมีเพศสมั พนั ธแ์ บบปลอดภยั

5. โรคแผลรมิ อ่อน (Chancroid) - เป็นกามโรคทพี่ บบอ่ ย พบไดท้ ั้งหญิงและชาย เกิดจากเชอื้ แบคทเี รยี ชอ่ื ฮีโมฟิลัส ดู เครอยั (Haemophilus ducreyi) เช้อื จะเข้าสรู่ อยถลอกหรอื เยือ่ เมอื กของอวัยวะเพศ จะ มีอาการเป็นตุ่มและแตกภายใน 2-3 วัน กลายเป็นแผลทม่ี ีขอบแดง ไม่เรยี บ ไม่แขง็ มี หนองสเี หลอื งปนเทา เลอื ดออกงา่ ย เจบ็ มาก อาจมไี ขต้ ่าๆ ออ่ นเพลยี อาจมีอาการต่อม นา้ เหลอื งโตทข่ี าหนีบ

อาการ: - ในผู้ชาย จะมตี ่มุ หนองเกิดขึ้นที่อวัยวะเพศ มตี อ่ มน้าเหลืองทข่ี าหนบี บวมเปน็ ฝี - ในผู้หญิง ตกขาว มกี ลิน่ เหมน็ ปัสสาวะขัด หรอื เจบ็ เวลาร่วมเพศ

6. การตดิ เชอื้ เอชไอวแี ละเอดส์ - กลมุ่ อาการภาวะภมู คิ ุ้มกนั บกพร่อง - AIDS: Acquired Immunodeficiency Syndrome ถ่ายทอดจากบุคคล หนง่ึ ไปสู่บคุ คลหนึ่ง โดยเพศสมั พนั ธ์ ถงึ รอ้ ยละ 80 - “กลุ่มอาการของภาวะภูมิคุ้มกนั บกพรอ่ ง จากการเสาะหา เกดิ จากการติดเชื้อ HIV (Human Immunodeficiency Virus)” - กลุม่ อาการ ไดแ้ ก่ การมภี าวะติดเช้อื ฉวยโอกาส มะเรง็ หลอดเลือด น้าหนักลด และมักจะเสยี ชวี ิตดว้ ยโรคฉวยโอกาส

อาการและอาการแสดง การตดิ เชอ้ื เอชไอวแี ละเอดส์ (HIV Infection and AIDS) 1. ระยะติดเชอ้ื ทไ่ี มป่ รากฏอาการ ระยะแรก ของการตดิ เชอื้ HIV ระยะท่ี 2 ระยะตดิ เชอ้ื ท่ี ไม่ปรากฏอาการ - ประมาณ 2-6 สปั ดาห์ ในระยะนี้อาจจะพบอาการ มีไข้ ผลการตรวจเลือด ซีรัม่ ปวดเมือ่ ยกล้ามเนื้อ และออ่ นเพลยี อาจมีตอ่ มนา้ เหลอื งโตบรเิ วณ (serum) และน้าลายให้ คอ รักแร้ เจบ็ คอแต่ไมม่ ีเสมหะ มผี ่นื ขึน้ ผิวหนงั ตามลาตวั เบอื่ ผลบวกต่อ anti-HIV อาหาร อุจจาระร่วง อาการจะหายไปเมื่อระดบั ของแอนตบิ อดตี อ่ เชื้อ HIV เร่ิมสงู ข้นึ ในระยะน้ีจะตรวจไม่พบ anti-HIV ใน เลือด เรยี ก window period จะใช้เวลาประมาณ 2-3 เดอื น

การตดิ เชอ้ื เอชไอวแี ละเอดส์ (HIV Infection and AIDS) 2. ระยะมีอาการของโรคเอดส์ อาการและอาการแสดง - เรม่ิ มอี าการติดเชือ้ ราในชอ่ งปากและ ลาคอ ตอ่ มน้าเหลืองโตบริเวณรักแร้ คอ ขา หนีบ เกดิ อาการงูสวัด หรอื แผลลกุ ลาม - มอี าการเรอ้ื รังตา่ งๆ เชน่ อจุ จาระรว่ ง เรื้อรัง มีไข้ไมท่ ราบสาเหตุ นา้ หนกั ลด - มักเรอ้ื รงั เกิน 1 เดือน และมกี ารตดิ เชื้อฉวยโอกาส และในท่สี ดุ มอี าการเอดส์

การตดิ เชอ้ื เอชไอวแี ละเอดส์ (HIV Infection and AIDS) 2. ระยะมอี าการของโรคเอดส์ โรคแทรกซอ้ นทพ่ี บ - ในไทย รอ้ ยละ 40-50 ตดิ วณั โรค ซึ่ง ส่วนใหญจ่ ะเปน็ เช้ือวัณโรคท่ดี ื้อตอ่ ยา - ประมาณรอ้ ยละ 20-30 โรคเยอ่ื ห้มุ สมองอักเสบคริปโตคอกคัส นโี อฟอรม์ ันส์ - โรคมะเรง็ หลอดเลือดและนา้ เหลือง ใน ภาคเหนอื ยังมีการพบการตดิ เช้ือรา เพนนิซเิ ลียม มาร์นัฟฟี

อาการและอาการแสดง การตดิ เชอ้ื เอชไอวแี ละเอดส์ (HIV Infection and AIDS) เอดส์ระยะสดุ ทา้ ย - นา้ หนกั ลด ซบู ผอมอยา่ งรวดเร็ว (wasting) (ลดลงประมาณ 60-70% นา้ หนกั เดิม) - ออ่ นเพลยี และมีการติดเช้ือฉวยโอกาส นอกจากนั้นมี คาโปไซ ซาร์โคมา (kaposi’s sarcoma) และ พยาธสิ ภาพท่สี มอง HIV encephalopathy

อาการและอาการแสดง การติดเชอื้ เอชไอวแี ละเอดส์ (HIV Infection and AIDS) การตดิ ต่อและการแพรก่ ระจาย มีเพศสมั พนั ธก์ บั ผูต้ ดิ เชอื้ ตดิ ต่อทางเลอื ด/เข็ม มารดาทตี่ ิดเชอื้ ส่ทู ารกแรกเกดิ - ชอ่ งคลอด ทวารหนกั - แพรไ่ ด้จากผลติ ภณั ฑ์ของ - กรณีท่แี มต่ ิดเชอื้ ทารกทอ่ี ยู่ใน ส่วนปากมนี ้อย และพบวา่ เลอื ด โอกาส 1 ใน ครรภ์มโี อกาสท่ีจะติดเช้ือ 20-40% ชายแพรเ่ ชื้อไปหญิง > หญิง 50,000 ยูนติ นอกจากน้ัน ซึ่งมีโอกาสทจ่ี ะตดิ เชอื้ ตงั้ แตส่ ภาพอยู่ แพรไ่ ปชาย ปัจจัยเสรมิ - ยังแพร่ได้โดยการฉีดยาเสพติด ในครรภ์ ขณะคลอด และหลังคลอด กามโรค แผล/รอยถลอกทา และจากการถกู เข็มทป่ี นเป้อื น เมือ่ หลังคลอดเช้ือเอชไอวี สามารถ ให้ติดเช้ือไดง้ ่ายขึน้ ร้อยละ ตา ซง่ึ พบว่ามีถึง 1% ผา่ นนา้ นมแมไ่ ด้อนั เปน็ สาเหตหุ นง่ึ 70-75 ของผตู้ ดิ เชื้อที่พบ ของการติดเชอื้ ในทารก ซ่งึ มีโอกาส ทง้ั หมด มากถึง รอ้ ยละ 7-22

การรักษาเบอ้ื งตน้ : ผู้ทมี่ เี พศสมั พันธ์ท่เี ส่ียง ควรตระหนักและใสใ่ จตนเอง สงั เกตอาการผดิ ปกตไิ ด้ ใหร้ ีบไปพบแพทย์ เน้นตรวจเรว็ รักษาเร็ว โดยการรกั ษามแี นวทางดงั นี้ 1. การใช้ยา ต้องระวังมาก ไม่ควรซื้อยากนิ เอง อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ 2. ควรไปพบแพทย์ เพือ่ ตรวจวนิ จิ ฉัยเพ่มิ และได้รบั การดแู ลรักษาอยา่ งถูกตอ้ ง ทง้ั ผตู้ ดิ เช้อื และคเู่ พศสมั พันธ์และตอ้ งรบั ยา (ปฏิชีวนะ ฆา่ เชอ้ื รา ต้านไวรสั ) และมารับ การรกั ษาอย่างตอ่ เนือ่ ง 3. ขอรบั การใหค้ าปรึกษาเรื่องโรค เพ่อื จะได้ปฏิบตั ติ ัวในการดูแลตนเอง การ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และมีเพศสัมพนั ธท์ ่ปี ลอดภัย

แนวทางการปอ้ งกนั 1. ไม่ควรมีเพศสมั พันธก์ บั หญิง/ชายขายบริการ เปล่ียนคู่นอน/พฤตกิ รรมส่า สอ่ นทางเพศ หากเลี่ยงไม่ได้ ควรปอ้ งกนั โดยใช้ถุงยางอนามยั หรอื วิธีการท่ีปลอดภัยทกุ ครงั้ ในการมเี พศสัมพันธท์ ุกชอ่ งทาง หากไมแ่ น่ใจในคเู่ พศสัมพันธข์ องตนเอง 2. หลังมเี พศสมั พนั ธท์ เี่ สย่ี ง หากมอี าการสงสยั ควรรบี ไปพบแพทย์เพอ่ื รับการ ตรวจวนิ ิจฉยั โดยเรว็ 3. พาค่เู พศสมั พนั ธ์ไปรบั การตรวจรักษาโดยเร็ว 4. พบแพทยต์ ามนดั ทกุ คร้งั และปฏบิ ตั ิตามคาแนะนาของแพทย์

แนวทางการปอ้ งกนั 5. งดการมีพฤตกิ รรมเสีย่ งทางเพศ/หลกี เล่ยี งการไปอย่ใู นสถานการณ์ท่อี าจ นามาสูโ่ อกาสการมเี พศสมั พนั ธ์ เชน่ ด่มื หนัก เสพยา ถูกล่อลวง เทีย่ วเตร่ อยู่สองตอ่ สองในสถานทเ่ี สยี่ งถกู ลว่ งละเมดิ และอ่นื ๆ 6. งดร่วมเพศ หากหลกี เลีย่ งไม่ได้ให้ใช้ถงุ ยางอนามัยทุกครงั้ 7. ไมค่ วรซอ้ื ยามารบั ประทานเอง ยารักษาควรอยภู่ ายใตก้ ารควบคมุ ของแพทย์ 8. มีทักษะการปฏเิ สธ และรู้เท่าทัน สามารถเอาตวั รอดจากสถานการณเ์ สยี่ ง 9. รักษาความสะอาดร่างกาย สุขวทิ ยาส่วนบุคคลและอวัยวะเพศอยา่ งสม่าเสมอ

แนวทางการปอ้ งกนั - มาตรการปอ้ งกนั /ประชาสัมพันธใ์ หป้ ระชาชนตระหนักถึงความอนั ตรายของการติดเชอ้ื เอชไอวี เน้นให้ประชาชนท่ีมพี ฤติกรรมเส่ียงตรวจเลือด และหากพบวา่ ตดิ เช้อื ใหร้ บี เขา้ สูก่ ระบวนการ รักษา โดยเนน้ หลกั “ตรวจเรว็ รักษาเรว็ ยุติเอดส์” - หนว่ ยบริการสขุ ภาพและ รพ.ทัว่ ประเทศ จัดบรกิ ารตรวจหาการติดเชือ้ แบบทราบผลการ ตรวจในวันเดยี ว (Same day result) ใน 1-2 ชวั่ โมง ผทู้ มี่ ีบัตรประชาชนเลข 13 หลกั ทุกคน รับการตรวจหาการตดิ เชอื้ ฟรี ปลี ะ 2 ครั้ง และรบั การรกั ษาด้วยยาตา้ นไวรัสได้ โดยไมเ่ สยี คา่ ใช้จา่ ย และส่งเสริมให้มกี ารใชย้ าเพร็พ (PrEP) เป็นทางเลอื กหน่งึ ทมี่ ีประสทิ ธภิ าพในการปอ้ งกนั การติด เช้อื เอชไอวี - ให้โอกาสผทู้ ่มี ีอายุต่ากว่า 18 ปี รบั บรกิ ารปรึกษาและตรวจหาการติดเชอื้ เอชไอวฟี รีได้ ดว้ ยตนเอง โดยไม่ต้องขอรบั การยนิ ยอมจากผปู้ กครอง

ลิงก์ Meet https://meet.google.com/lookup/apra7jnese บทที่ 5 การดูแลสขุ ภาพทางเพศ การวางแผน ครอบครวั และการคุมกาเนิด โดย อ.ดร.สุรชาติ สทิ ธิปกรณ์

2. การวางแผนครอบครัวและการคมุ กาเนดิ ความหมายของการวางแผนครอบครวั และการคมุ กาเนิด การวางแผนครอบครวั (Family planning) “การท่บี คุ คล/คสู่ มรส วางแผนไวล้ ว่ งหนา้ เพอ่ื มารดาและบุตรท่เี กดิ มามีสขุ ภาพดี - หลีกเล่ียงการตั้งครรภ์ไมพ่ ึงปรารถนา หรือต้งั ครรภ์ในขณะที่ยงั ไมพ่ รอ้ ม ทัง้ ด้านร่างกายจติ ใจ และสังคม - ควบคมุ ระยะเวลาท่ีจะต้ังครรภ์ ใหเ้ หมาะสมกบั อายแุ ละสขุ ภาพของร่างกาย - ให้มีการต้งั ครรภเ์ มอ่ื ต้องการ - เว้นระยะการมีบตุ รอยา่ งเหมาะสม

2. การวางแผนครอบครัวและการคุมกาเนิด สาคัญมากในการเตรยี มความพรอ้ มทีจ่ ะมกี ารสรา้ งครอบครัวท่ีดี/การใช้ชวี ติ คู่ ตลอดจนมสี ขุ ภาวะท่ีสมบูรณ์ในทกุ ดา้ น การวางแผนครอบครัว เป้าหมายเพือ่ ใหค้ รอบครวั มีความพร้อมในดา้ นต่าง ๆ ตงั้ แตเ่ ลือกคคู่ รอง ทีอ่ ยอู่ าศยั อาชพี การงาน ความพร้อมในการแตง่ งาน วางแผนมีบตุ ร การคุมกาเนดิ การเว้นชว่ ง ระยะห่างของการมีบตุ ร เตรียมกาหนดเพศของบตุ ร และการแก้ไขปัญหาการมบี ตุ รยากหรือการไมม่ ีบตุ ร สง่ ผลต่อความสขุ ความเหมาะสมทางสังคม เศรษฐกิจ ดงั นน้ั การวางแผนครอบครวั เปน็ เคร่อื งมอื สาคญั ในการ นาพาครอบครัวให้มคี วามสุขและเปน็ แหล่งสร้างคนที่มีคุณภาพของสังคม

การวางแผนครอบครวั (Family planning) ต้องเตรยี มตัวก่อนสมรส การหาข้อมลู ความรู้ทจี่ าเปน็ การตรวจร่างกายกอ่ นแตง่ งานเปน็ สิง่ จาเป็นทั้งชายและหญิง เพอ่ื ไมใ่ ห้เกิดผลกระทบต่อความสมั พนั ธ์ ชวี ติ ทางเพศ และการมบี ุตร ทั้งนี้หากพบโรคหรอื ความพิการบางชนดิ เปน็ อปุ สรรคต่อการร่วมเพศ การตั้งครรภห์ รือการคลอด นอกจากนย้ี งั มีโรคที่อาจติดต่อหรอื ถา่ ยทอดไปถงึ ทารกในครรภอ์ กี ดว้ ย (สุวทั นา อารพี รรค, 2550)

ความหมายของการคุมกาเนดิ (Contraception) “การปอ้ งกนั การปฏสิ นธิ หรือการปอ้ งกนั การตงั้ ครรภ์”

การคมุ กาเนดิ (Contraception) เทคนคิ หรือวธิ กี ารทใี่ ช้ในการปอ้ งกันการตงั้ ครรภห์ รือขดั ขวางการตัง้ ครรภ์ โดย อาศยั กลไกในการปอ้ งกนั เช่น การป้องกันไม่ใหอ้ สุจกิ บั ไข่เกิดการปฏิสนธิ ป้องกันไมใ่ ห้ มีการตกไข่ การปอ้ งกนั ไม่ใหม้ กี ารฝงั ตวั อ่อนในโพรงมดลกู ของสตรี รวมไปถงึ การทาแท้ง เพื่อนาตัวอ่อนออกจากมดลกู การคมุ กาเนดิ จงึ เป็นการวางแผนครอบครวั อย่างหนึง่

3. การวางแผนครอบครวั และการคุมกาเนดิ ความหมายของการคมุ กาเนดิ (Contraception) เทคนคิ /วธิ กี ารที่ใช้ในการป้องกนั การตงั้ ครรภ์/ขดั ขวางการตง้ั ครรภ์ อาศัยกลไกในการปอ้ งกนั เช่น - ปอ้ งกันไมใ่ ห้อสุจิกับไข่เกิดการปฏสิ นธิ - ป้องกันไม่ให้มีการตกไข่ - ปอ้ งกนั ไมใ่ หม้ ีการฝังตวั อ่อนในโพรงมดลกู ของสตรี - รวมไปถึงการทาแทง้ เพ่อื นาตัวอ่อนออกจากมดลูก

3. การวางแผนครอบครวั และการคมุ กาเนดิ ความสาคญั ของการวางแผนครอบครวั และการคุมกาเนดิ การมีจานวนบุตรทเ่ี หมาะสมจะทาใหค้ รอบครัวมคี ณุ ภาพ บุตร-ธดิ าจะไดร้ ับการ เลย้ี งดอู ยา่ งดี ไดร้ ับการศกึ ษาอยา่ งเตม็ ท่ี การเลยี้ งดบู ตุ ร 1 คนตัง้ แตเ่ ลก็ จนเลยี้ งชพี ตวั เองไดม้ ีค่าใชจ้ า่ ยมาก การศกึ ษา ปจั จยั 4 การมบี ตุ รมาก/ไมม่ กี ารวางแผนทด่ี จี ะมผี ลกระทบต่อสขุ ภาพมารดาและทารกดว้ ย

ชนิดและประเภทของการวางแผนครอบครวั และการคุมกาเนดิ ชนิดของการคุมกาเนดิ 1. การคมุ กาเนดิ แบบชว่ั คราว (Temporary contraception) เป็นการคมุ กาเนิดเพอ่ื เวน้ ระยะการมบี ตุ ร และสามารถมีบุตรไดเ้ มอ่ื เลกิ ใชแ้ ล้ว 2. การคมุ กาเนดิ แบบถาวร (Permanent contraception) เป็นการคุมกาเนิดเพื่อไม่ประสงคจ์ ะมบี ตุ รอกี

1. การคมุ กาเนดิ แบบถาวรหรอื การทาหมนั (Permanent contraception or sterilization) 1.1 การทาหมันหญงิ (Female sterilization/tubal ligation) - การคุมกาเนิดถาวรทที่ าโดยการผ่าตัดเพอ่ื ผกู และตัดท่อนาไขท่ ง้ั สองขา้ ง เพอื่ ปอ้ งกนั ไมใ่ หต้ วั อสุจิเดนิ ทางไปปฏิสนธิกบั ไข่ในทอ่ นาไข่ได้ - ชว่ งเวลาการทาหมันหญงิ แบ่งได้เปน็ 2 ระยะ คอื ระยะหลงั คลอด ทาหมนั ภายหลังคลอดบุตร 24-48 ชวั่ โมง เรยี ก “หมนั เปยี ก” และระยะปกติ “หมันแหง้ ” ไมค่ ่อยนยิ มทา

การคมุ กาเนดิ แบบถาวรหรอื การทาหมนั (Permanent contraception or sterilization) - การผ่าตดั ทาหมันหญงิ มีหลายวธิ ี นยิ ม 2 วธิ ี คือ การผ่าตดั เข้าทางผิวหนงั หน้าทอ้ ง และการใช้กล้อง laparoscope

การคมุ กาเนดิ แบบถาวรหรอื การทาหมนั 1.2 การทาหมนั ชาย (Male sterilization or vasectomy) - การคมุ กาเนดิ ด้วยการทาให้ท่อน้าอสจุ ทิ ง้ั 2 ข้างเกิดการอดุ ตนั /ตัด ไมใ่ หเ้ ช่อื มต่อกัน ตวั อสุจิผา่ นไปไมไ่ ด้ ทางา่ ย ปลอดภัยสูง อาการแทรกซอ้ นน้อย - ไม่ใช่การตอนและไม่มีผลต่อลกู อัณฑะและต่อความสามารถทางเพศ - ชนดิ การทาหมันชายมี > 20 วธิ ี วิธีการแยกได้ 2 วธิ ี คือ การทา หมนั ชายวธิ ีดั้งเดิม และการทาหมนั เจาะ/หมันไรใ้ บมดี

การคมุ กาเนดิ แบบถาวรหรอื การทาหมนั 2. การทาหมนั ชาย 1. การทาหมนั ชายวธิ ดี งั้ เดมิ เป็นการผา่ ตัดด้วยการกรดี ผวิ หนงั ที่ median raphe ยาวไมเ่ กนิ 1 เซนตเิ มตร แล้วแหวกเน้อื เยื่อรอบๆท่ออสจุ ิ แลว้ ผกู และตัดท่อนาอสจุ เิ พ่อื ป้องกันไม่ให้อสจุ ผิ ่านได้ 2. การทาหมันเจาะ ตดั ท่อนาอสุจิ แทรกทะลุผวิ หนงั ของถุงอัณฑะ เพ่ือเข้าไปตัดทอ่ นาอสจุ ิ แทนการผา่ ตัดดว้ ยการใชใ้ บมดี ทาให้เปน็ แผลเพยี ง เล็กน้อย มภี าวะแทรกซ้อน (การติดเชอื้ และการคง่ั ของเลือด) น้อย นยิ มมาก ใน ไทยและหลายประเทศทั่วโลก

การคมุ กาเนดิ แบบถาวรหรอื การทาหมนั 2. การทาหมันชาย

2. การคมุ กาเนดิ แบบชว่ั คราว (Temporary contraception) 2.1 การคมุ กาเนดิ แบบดง้ั เดมิ ประกอบดว้ ย 2.1 การหลง่ั นา้ อสจุ นิ อกชอ่ งคลอด/“หลงั่ ภายนอก” (withdrawal) คุมกาเนดิ ฝ่ายชาย ถอนอวยั วะเพศออกก่อนทจ่ี ะมีการหลัง่ น้าอสจุ ิ และให้หลั่งนา้ อสจุ ิห่างจากบริเวณอวยั วะสืบพนั ธุ์ ภายนอกของฝา่ ยหญงิ เพ่ือมใิ ห้ตวั อสุจิเขา้ ไปในช่องคลอดได้ ประสทิ ธิภาพจะตา่ เนื่องจากนา้ เมอื กท่ี ช่วยหลอ่ ล่ืนมตี ัวอสุจิปนอยพู่ อสมควร นอกจากนัน้ อาจมผี ลกระทบต่อคู่สมรส สภาพจติ ใจเปลยี่ นไป เนื่องจากไมถ่ ึงจุดสดุ ยอด 2.2 การกลน้ั ไม่หลงั่ นาอสจุ ิ “การทีฝ่ ่ายชายควบคมุ ตนเองมใิ หห้ ล่งั น้าอสุจิ เมื่อใกล้จะถึงจดุ สดุ ยอดจะตอ้ งค่อย ๆ บงั คบั ตนเอง ให้ความตื่นเต้นทางเพศค่อย ๆ ผ่อนคลายลงจนหมดไป” ทาได้ ยากและมีโอกาสพลาดสงู

การคมุ กาเนดิ แบบชว่ั คราว (Temporary contraception) 1. การคมุ กาเนดิ แบบดง้ั เดมิ (ตอ่ ) 2.3 การใหน้ มลกู ในระยะนานๆ ทาให้ช่วงเวลาขาดประจาเดือนหลังคลอดบุตร ยาวนานกวา่ มารดาท่เี ลย้ี งลูกด้วยนมระยะส้นั - หลังคลอด ฮอรโ์ มนลดลงอย่างรวดเร็วและเริ่มหลงั่ น้านม เมอ่ื ลกู ดดู นมทาให้การกระตนุ้ สง่ กระแสประสาท ให้หลั่ง H.โปรแลคตินเพมิ่ ขนึ้ เมอื่ มีกระต้นุ โดยดดู นม ระดบั ของโปรแลคตินก็จะ สงู ขน้ึ และสงู อยตู่ ลอดเวลา จะไปยบั ยั้งการหล่ังของฮอร์โมนกระตุ้นการสร้างไข่ Folicular Stimulating Hormone (FSH) และฮอรโ์ มนกระตนุ้ การตกไข่ Lutinizing Hormone (LH) - เมอ่ื ระดบั FSH และ LH ลดลง ทาใหไ้ ม่มไี ขต่ กและไม่มีประจาเดือน แม้จะไมม่ ี ประจาเดอื น แต่ก็อาจมีไขต่ กได้ ฉะนนั้ การร่วมเพศในระยะนอ้ี าจทาใหต้ ้ังครรภ์ได้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook