Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทที่ 3 3-2562

บทที่ 3 3-2562

Published by surachat.s, 2020-04-29 22:40:12

Description: บทที่ 3 3-2562

Search

Read the Text Version

บทท่ี 3 การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพและการดแู ล สุขภาพบคุ คล ครอบครวั และชมุ ชน อ.ดร.สรุ ชาติ สทิ ธปิ กรณ์

บทท่ี 3 การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพและการดแู ลสุขภาพบคุ คล ครอบครัวและชุมชน อ.ดร.สุรชาติ สิทธิปกรณ์ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม

1. ความหมายของการสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ เน้ือหา 2. การดาเนินการสรา้ งเสริมสุขภาพ 3. หลกั ในการสร้างเสรมิ สุขภาพ 4. การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพเฉพาะพฤติกรรม 5. กิจกรรมการสรา้ งเสริมสขุ ภาพและการดูแลสขุ ภาพ 5.1 ระดับบคุ คล 5.2 กิจกรรมสรา้ งเสรมิ สุขภาพระดบั ครอบครัว 5.3 กิจกรรมการสรา้ งเสริมสุขภาพระดบั ชุมชน

วตั ถุประสงค์ 1. อธบิ ายความหมายของการสรา้ งเสริมสุขภาพได้ถูกต้อง 2. บอกการดาเนินการและหลักในการสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพได้ถูกตอ้ ง 3. บอกกจิ กรรมในการสรา้ งเสริมสุขภาพระดบั บคุ คล ครอบครัวและ ชุมชนได้ถูกตอ้ ง

1. บทนา การเผชิญกบั การเปลี่ยนแปลง ความเสีย่ ง ภัยคกุ คาม แพร่กระจายของเชือ้ โรคผา่ นการ ระบาดในพ้ืนท่ีทพ่ี รอ่ งภมู คิ มุ้ กัน การสร้างเสรมิ สขุ ภาพ

Middle East respiratory syndrome coronavirus (MERS-CoV)



ความหมายของการสรา้ งเสรมิ สุขภาพ กระบวนการที่เออื้ ให้ประชาชนสามารถเพิม่ ความสามารถในการ ควบคมุ และปรับปรงุ สขุ ภาพของตนเอง การจะเขา้ ถึงสภาวะทส่ี มบูรณ์ท้งั กาย จติ และสงั คมนัน้ บคุ คลหรือกลมุ่ บุคคลตอ้ งสามารถระบถุ งึ สิ่งที่ตอ้ งการบรรลุ และบรรลุในสิ่งท่ตี อ้ งการได้ รวมถึงสามารถปรับเปลี่ยนสิง่ แวดล้อมหรือ สามารถปรับตวั ให้เขา้ กบั ส่งิ แวดลอ้ มท่ีเปล่ียนแปลงไปได้ มุง่ ไปทีร่ ูปแบบการ ดาเนนิ ชวี ิตท่สี ่งผลดีตอ่ สขุ ภาพซ่ึงจะนาไปสูก่ ารมสี ุขภาวะในที่สดุ (World Health Organization, 1986)

ปจั จยั กาหนดสขุ ภาพ (Health Determinants) ปัจเจกบคุ คล / / สภาพแวดลอ้ ม / / / / / ระบบบริการ / / สุขภาพ /

ผสู้ ร้างเสรมิ สุขภาพใหม่ องค์กรของรฐั เป็น \"หนุ้ สว่ น“ - เป็นผู้ประสาน/ ผู้รเิ ริ่มในนโยบายสาธารณะเพอื่ สขุ ภาพ - ประสานงานกับองค์กรของรฐั ในภาคอื่น - เพ่มิ ความสามารถในการควบคมุ ตนให้คน (Empowerment) - ส่งเสริมเก้ือหนนุ ใหอ้ งคก์ รท่ีไมใ่ ชร่ ฐั จดั สรรทรพั ยากร เปิดพนื้ ท่ใี ห้ หนุ้ สว่ นต่างๆ ใหม้ บี ทบาทท่สี งู ข้ึน - เคล่อื นยา้ ยของอานาจในการตัดสนิ ใจ รวมไปถึงทรพั ยากรไปเป็น ภาคเอกชนมากขน้ึ

ผู้สร้างเสรมิ สขุ ภาพใหม่ องค์กรทีไ่ ม่ใช่รฐั (Non-government organization: NGOs) เรยี กรวม ๆ ไดว้ ่าเปน็ เครือขา่ ย ประชาสงั คม (Civil society) - เปน็ ตัวกลางในการชีแ้ นะ ให้กับสาธารณะ รวมไปถึงการ ผลกั ดนั เชิงนโยบาย

ผู้สรา้ งเสรมิ สุขภาพใหม่ - ภาคเอกชน เข้มแข็งมากในแง่ของทรพั ยากร - ชุมชนวชิ าการ แสวงหาความรู้ในหลากหลายวิธเี พอ่ื นามาประยุกตแ์ ละ ปฏิบตั ิการต่างๆของงานสรา้ งเสรมิ สุขภาพ - กลุ่มองคก์ รสว่ นท้องถนิ่ /อปท. ผลผลติ จากการกระจายอานาจของรฐั ใหช้ มุ ชนมีอานาจในการจัดการตนเองได้ ผา่ นคนท้องถน่ิ ที่รู้จักตัวตนของ ตนเองดี

2. การดาเนนิ การสรา้ งเสรมิ สุขภาพ สรา้ งเสริมสุขภาพต้องเป็นการเปล่ยี นแปลงจากภายใน (Inside out) แนวทางในการสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ 1. กาหนดเป็นนโยบายสาธารณะ - นโยบายระดบั กระทรวงฯไม่เพียงพอ จาเปน็ ตอ้ งมนี โยบายสาธารณะ ท่ที กุ หน่วยงานทง้ั ภาครฐั และเอกชน - นโยบายสาธารณะเพื่อสขุ ภาพ ด้านกฎหมาย มาตรการทางเศรษฐกจิ การเงนิ การคลัง การเก็บภาษี รวมทั้งการจัดต้ังองค์กรเพ่อื รับผิดชอบ

แนวทางการสร้างเสรมิ สขุ ภาพ

แนวทางการสร้างเสรมิ สขุ ภาพ 2. การสรา้ งสิง่ แวดลอ้ มทเี่ อือ้ ตอ่ สุขภาพ

แนวทางการสร้างเสรมิ สขุ ภาพ 2. การสรา้ งสิ่งแวดลอ้ มท่ีเอือ้ ตอ่ สขุ ภาพ อนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มท่ีมอี ยู่ในระดบั ชมุ ชน ประเทศ และระดับโลก - สมดลุ ของธรรมชาตมิ ีผลโดยตรงตอ่ การมีสขุ ภาพดีของมวลมนษุ ย์ - การจดั ส่งิ แวดลอ้ มใหส้ อดคลอ้ งกบั การเปลยี่ นแปลงของการดาเนนิ ชวี ิตการทางานและการใช้เวลาวา่ ง โดยการสรา้ งสังคมท่มี ีสขุ ภาพดี การสร้าง เมืองท่ีมีสขุ ภาพดี การจัดที่ทางานทเ่ี ออ้ื ต่อสุขภาพ และการทาใหเ้ ป็นโรงเรียน หรอื มหาวทิ ยาลยั เพ่อื สขุ ภาพ

แนวทางการสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ 3. การเพม่ิ ความสามารถของชมุ ชน หัวใจสาคัญ การสรา้ งพลังอานาจใหก้ ับชุมชน ให้สามารถควบคมุ การ ปฏบิ ตั งิ านและเป้าหมายของชมุ ชนเองได้ - ชมุ ชนต้องไดร้ บั ขอ้ มลู ขา่ วสาร โอกาสในการเรยี นร้เู กย่ี วกบั สุขภาพ และการสนับสนุนทางด้านการเงินอย่างเพียงพอและต่อเน่ือง - ต้องเป็นกิจรรมตอ่ เนือ่ งทีช่ มุ ชนดาเนินการดว้ ยตวั เอง อาจจะอาศัย ความช่วยเหลอื ทางการเงิน ทรัพยากรและทางเทคนคิ จากภายนอก แต่ในระยะ ยาว ชุมชนต้องดาเนินกจิ กรรมด้วยตัวเอง

แนวทางการสรา้ งเสรมิ สุขภาพ 4. การพัฒนาทักษะสว่ นบคุ คล - บคุ คลมีความรแู้ ละทักษะในการดารงชวี ติ (life skills) จะควบคุม สุขภาพของตนเองและควบคุมส่ิงแวดลอ้ ม ซงึ่ สง่ ผลตอ่ สุขภาพ - พัฒนาศกั ยภาพการออกกาลังกายและการเลกิ บุหรี่ ใหบ้ คุ คลเห็น ความสาคัญและตระหนักว่าเป็นเรือ่ งที่ต้องลงมือปฏบิ ัตเิ อง บคุ ลากรทาง การแพทย์ ไมส่ ามารถออกกาลงั กายและเลิกบุหรี่แทนได้ มคี วามเข้าใจทีจ่ ะเลือก ทางเลอื กที่ดตี อ่ สุขภาพคอื การเลกิ บหุ ร่ี

แนวทางการสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ 5. การปรบั ระบบบรกิ ารสาธารณสุข - ปรบั จากเชิงรับเป็นเชงิ รุก / ซอ่ ม สรา้ งสขุ ภาพ กจิ กรรมส่งเสริมสุขภาพ ใหม้ ากขน้ึ สอ่ื สารกบั หนว่ ยงานภายนอกให้กวา้ งขวางยิ่งข้นึ เชน่ หน่วยงานดา้ นสิง่ แวดล้อม ดา้ นสงั คม ดา้ นการเมือง - ทาวิจัยเพื่อปรบั เปลีย่ นระบบ - การฝึกอบรมเจา้ หนา้ ทใี่ หม้ ีแนวคิดเก่ยี วกบั การสง่ เสริมสขุ ภาพ - ปรบั เปลี่ยนวิธคี ดิ วิธีทางานจากการเปน็ ผใู้ ห้บรกิ ารสขุ ภาพ มาเปน็ ผูใ้ หก้ าร สนับสนุนประชาชน - ปรับทัศนคตแิ ละวธิ ีคิดของประชาชน ต้องสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพและไปพึง่ พา ระบบบริการสุขภาพตง้ั แตใ่ นขนั้ ตอนการสร้างเสริมสขุ ภาพ ไมใ่ ชร่ อใหป้ ว่ ยแลว้ จงึ ไป

3. หลักในการสรา้ งเสรมิ สุขภาพ 1) เน้นกิจกรรมหลายลกั ษณะท่ีมงุ่ สรา้ งสมรรถนะของการ สร้างสุขภาพดี ลด/ควบคุมปัจจัยเสีย่ งและพฤตกิ รรมเสย่ี ง และเป็นกระบวนการทมี่ งุ่ ดาเนินการกันท้งั บคุ คลและสังคม 2) เน้นกระบวนการส่งเสรมิ ให้ประชาชนเพ่มิ สมรรถนะ ในการ ควบคุมดแู ลและพฒั นาสุขภาพของตนเอง

4. การสรา้ งเสรมิ สุขภาพเฉพาะพฤตกิ รรม - พฤตกิ รรมการดแู ลสุขภาพ ครอบคลุมการดูแลดา้ นโภชนาการ ออก กาลงั กาย การจัดการความเครยี ดและการปอ้ งกันพฤติกรรมเสีย่ งตา่ งๆ เช่น พฤตกิ รรมเส่ียงทางเพศ บหุ ร่ี และสรุ า กลยทุ ธใ์ นการสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพเฉพาะพฤติกรรม - การช้ีแนะสาธารณะ (การเพ่ิมศกั ยภาพของประชาชน เพอื่ สามารถกาหนด ปัญหาและทางออกแกป้ ัญหาไดโ้ ดยมสี ว่ นรว่ มในด้านสังคมและการกาหนดนโยบาย) - การประสานงาน การพัฒนาศกั ยภาพส่วนบคุ คล สรา้ งนโยบาย สาธารณะ สรา้ งสงิ่ แวดลอ้ มที่เหมาะสม การสรา้ งความเข้มแข็งของชุมชน การ พัฒนาทักษะสว่ นบุคคล และการปรับเปลยี่ นรูปแบบบรกิ ารสุขภาพ

เปรียบเทียบความแตกต่างระหวา่ งนิยามสขุ ภาพในแนวใหม่ และแนวดัง้ เดิม สร้างเสรมิ สุขภาพแนวใหม่ สรา้ งเสรมิ สุขภาพแนวด้งั เดมิ - เนน้ ประเด็นทางสังคมและการเมอื ง - เน้นปัญหาและพฤตกิ รรมส่วนบุคคล - เนน้ บทบาทของเง่อื นไขทางสงั คม - เนน้ บทบาทของความรเู้ ก่ียวกับปัจจยั เสี่ยง - ใหค้ วามสาคญั ตอ่ การพัฒนานโยบาย - ให้ความสาคัญต่อระบบบริการทางการแพทย์ และสาธารณสขุ - สิ่งแวดล้อมทีเ่ ออื้ ต่อสุขภาพ - ตัวกาหนดโรค (determinants of diseases) - การวางแผนแบบสหสาขาวิชาชพี - การวางแผนของภาคสุขภาพเทา่ น้นั - การมสี ่วนร่วมของทกุ ภาคสว่ นของ - จากัดผ้มู สี ่วนรว่ มในการกาหนดปัญหา สงั คม ในการกาหนดปัญหา - สงั คมสามารถตรวจสอบได้ -เป็นความรับผดิ ชอบสว่ นบคุ คล - การช้ีแนะสาธารณะและการออก -การให้การศึกษาและการรักษาพยาบาล กฎหมาย

5. กิจกรรมการสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ 1. ระดับบุคคล 2. ระดับครอบครัว 3. ระดบั ชมุ ชน

5.1 กิจกรรมการสรา้ งเสริมสุขภาพระดับบคุ คล 1) รับประทานอาหารทีม่ ีคณุ คา่ ทางโภชนาการ 2) ออกกาลงั กายสม่าเสมอ 3) การจัดการความเครยี ดหรอื สร้างสุขภาพจติ ใหแ้ ข็งแรง 4) การป้องกนั พฤตกิ รรมเส่ียงตา่ งๆ

วธิ กี ารในการสรา้ งเสริมสขุ ภาพ 1. รับประทานอาหารทม่ี คี ุณคา่ ทางโภชนาการ 1. ครบ 5 หมู่ หลากหลาย หมน่ั ดูแลนา้ หนักตัวอยู่เสมอ 2. ข้าวอาหารหลกั สลับกับอาหารประเภทแปง้ เปน็ บางม้อื 3. รบั ประทานพชื ผกั ให้มากและรับประทานผลไมเ้ ป็นประจา 4. รบั ประทานโปรตนี ทม่ี ีประโยชน์ เนน้ ปลาและอาหารประเภทถัว่ เมล็ด แหง้ เช่น เต้าหู้ชนิดตา่ งๆ เนือ้ สัตวใ์ ห้เลือกทีไ่ มต่ ิดมันหรอื ที่มมี ันนอ้ ย

วิธีการในการสร้างเสรมิ สุขภาพ 1. รบั ประทานอาหารทม่ี คี ุณคา่ ทางโภชนาการ 5. ด่มื นมให้เหมาะสมกับวยั ปรมิ าณที่แนะนาคอื - เดก็ ควรดื่มวันละ 1-2 แก้ว - ผู้ใหญแ่ ละผสู้ งู อายคุ วรดม่ื วันละ 1 แก้ว 6. อาหารมีไขมนั พอเหมาะ ควบคมุ ปริมาณและชนดิ ไขมันใหเ้ หมาะสม 7. หลกี เลยี่ งการรับประทานอาหารรสหวานจัดและเค็มจัด 8. อาหารท่ีสะอาดปราศจากการปนเปือ้ น 9. งดหรอื ลดเคร่อื งดม่ื ทมี่ ีแอลกอฮอล์

1. รับประทานอาหารท่มี ีคุณค่าทางโภชนาการ วธิ กี ารในการสรา้ งเสริมสขุ ภาพ

วธิ ีการในการสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ 2. ออกกาลงั กายสม่าเสมอ ประโยชน์ของการออกกาลังกาย - ระบบการไหลเวียนโลหิตดี กล้ามเนอ้ื หัวใจแขง็ แรงมากขน้ึ ลดแรงตา้ นทาน ส่วนปลายของหลอดโลหติ ฝอย - ระบบการหายใจ ความจุปอดเพมิ่ ขึ้น ทาใหก้ ารแลกเปล่ยี นออกซิเจนมากขน้ึ - ระบบชีวเคมีในเลือด ช่วยเพิ่ม HDL ชว่ ยลด คอเลสเตอรอล (Cholesterol) และไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride) - ระบบประสาทและจติ ใจ ลดความวติ กกงั วลและคลายความเครยี ด ทาให้มี ความสขุ และ Endorphin หล่ัง

2. ออกกาลังกายสมา่ เสมอ ขนั้ ตอนและหลกั ในการปฏิบัติออกกาลงั กาย ถ้ามอี ายุมากกวา่ 35 ปี ควรตรวจสขุ ภาพ ว่ามโี รคหัวใจหรอื ไม่กอ่ น การออกกาลงั กายชนดิ นี้ ควรร้วู ธิ เี หยียดและยืดกล้ามเนอื้ - Warm up - Cool down หลกั ในการปฏิบัติ เป็นการใชก้ ล้ามเน้อื มดั ใหญ่อย่างน้อย 1/6 ส่วน ของรา่ งกาย อยา่ งสมา่ เสมอ เชน่ วิ่งเหยาะ เดินเรว็ ขจี่ ักรยาน ว่ายนา้ แอโรบกิ ฟตุ บอล บาสเกตบอล เทนนิส แบดมินตัน ตระกร้อ วอลเลยบ์ อล

วิธกี ารในการสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ 2. ออกกาลงั กายสมา่ เสมอ 1. การอบอ่นุ ร่างกาย (Warm up) การเหยียดยดื เอน็ กลา้ มเนอ้ื และขอ้ ต่างๆ ตามด้วย การเคลอ่ื นไหวกล้ามมัดใหญ่ๆ โดยใชเ้ วลาประมาณ 5-10 นาที 2. ตรวจสอบชีพจร ใช้ชีพจรเป็นตัวกาหนดในภาวะแรกของการ ออกกาลงั กายแบบเบา 2.1 ให้ชพี จรขณะออกกาลังกายเหนอื่ ยสดุ > ขณะพักไมเ่ กิน 30 ครัง้ /นาที 2.2 หากไม่สามารถจบั ชีพจรได้ ให้ใชค้ วามรสู้ กึ เหนอ่ื ยในขณะออกกาลงั กายเป็น ตวั บอกระดับความหนกั ของร่างกาย เหมาะสม คือใหอ้ อกกาลงั กายจนรูส้ กึ เหน่อื ย พอสมควรยังพอพดู คยุ ได้ อย่าใหเ้ หน่อื ยจนพูดไม่ออก

วธิ กี ารในการสรา้ งเสริมสุขภาพ 2. ออกกาลงั กายสมา่ เสมอ 3. การชะลอการออกกาลังกาย (Cool down) หลังออกกาลัง ตอ่ เนอื่ งกนั นาน 30 นาที คอ่ ย ๆ ลดความแรงลงชา้ ๆ กอ่ นหยดุ ใชเ้ วลา 5–10 นาที ตามดว้ ยการเหยียดเอน็ กลา้ มเน้อื และขอ้ ต่างๆ เหมอื นกับช่วงอบอุ่นรา่ งกาย (Warm up) ประโยชน์ของการชะลอ (Cool down) - ป้องกันอาการหนา้ มืด เป็นลม ความดันโลหิตต่า เลือดไปเล้ยี ง สมองลดลง หรอื กลา้ มเนอื้ หวั ใจขาดเลอื ด จากการคง่ั ของเลือดบริเวณ กลา้ มเนือ้ - ลดปญั หาปวดเม่ือย หรือบาดเจ็บจากการออกกาลังกาย

วธิ กี ารในการสร้างเสรมิ สขุ ภาพ 2. ออกกาลงั กายสมา่ เสมอ ขอ้ ควรระวงั ในการออกกาลังกาย 1. งดการออกกาลงั กาย ในขณะเจบ็ ปว่ ย มีไข้ พักผอ่ นไมพ่ อ 2. ควรออกกาลงั กายกอ่ นอาหาร/หลังอาหารมอื้ หนักผ่านไป 3-4 ชั่วโมง และดืม่ นา้ อย่างเพยี งพอ 3. ควรหลีกเลี่ยงสภาพอากาศทรี่ ้อนจัด หนาวจดั ฝนฟา้ คะนอง มลภาวะมาก สวมเสือ้ ผ้าทีเ่ หมาะสม 4. ควรพักหากมอี าการแน่นหนา้ อก คลื่นไส้ อาเจียน และไปพบแพทย์

วิธกี ารในการสรา้ งเสริมสขุ ภาพ 3) การจัดการความเครียดหรอื สร้างสุขภาพจติ ใหแ้ ข็งแรง - สรา้ งปัจจยั ปอ้ งกันและลดปัจจยั เสี่ยงของสาเหตปุ ญั หาสุขภาพจติ ด้านต่างๆ 1. การส่งเสริมสขุ ภาพรา่ งกาย การรักษาร่างกายให้แข็งแรง 2. การส่งเสริมทางจิตใจ ฝกึ สู้ปญั หาใหเ้ คยชนิ ไม่เลย่ี ง หาทางแกอ้ ย่างทา้ ทาย พิจารณาหาสาเหตขุ องปญั หาและแก้ไขทีส่ าเหตุ - การปรกึ ษาผู้อ่นื ท่สี ามารถพงึ่ พาได้ ได้แก่ พ่อแม่ พ่ีน้อง ครู - มนษุ ยสัมพนั ธ์ดี ทกั ษะการส่ือสารกบั คนอื่น กลา้ พูดกลา้ บอก ชื่นชมผู้อื่น - ทกั ษะในการเผชิญความเครียด มกี ิจกรรมผ่อนคลายสลับ เช่น พักสายตา - เมือ่ มีปญั หาสามารถระบายความไม่สบายใจ กบั คนท่ใี กลช้ ิด ไวใ้ จได้

วธิ กี ารในการสรา้ งเสรมิ สุขภาพ 3) การจัดการความเครียดหรือสร้างสขุ ภาพจิตให้แขง็ แรง - การใชย้ ารกั ษาอาการทางอารมณ์ คลายเครียด ตา้ นโรค ซมึ เศร้า/ รกั ษาอาการทีเ่ กดิ ขน้ึ ทางร่างกาย - เปลยี่ นแปลงสงิ่ แวดล้อมใหเ้ หมาะสมกบั ตนเอง บรรยากาศ สงบ เสียงไมด่ งั ไมร่ อ้ นมากเกินไป สี แสง บรรยากาศผ่อนคลาย การมี ธรรมชาติ ภาพวาด ภาพผนังหอ้ ง หางานที่ชอบและถนดั สามคั คีในทีมงาน ประสานงานกัน บรรยากาศการทางานเออ้ื เฟ้อื ช่วยเหลอื มีนา้ ใจต่อกัน จัดแบ่งเวลาทางาน แบง่ เป็นชว่ ง ๆ มีเวลาพกั ผ่อน ทางาน 8 ชว่ั โมง พักผ่อน และออกกาลงั กาย 8 ชวั่ โมง และนอนหลับ 8 ชัว่ โมง

วิธกี ารในการสร้างเสริมสุขภาพ 4) การป้องกันพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ การละเวน้ สารเสพตดิ จะบน่ั ทอนสขุ ภาพ พิษภัยหรอื โทษของสารเสพ ติด ก่อปญั หาอาชญากรรม ปญั หาสขุ ภาพอันตรายตอ่ รา่ งกายในระบบประสาท และสมอง ความเสอ่ื มโทรมใหแ้ ก่สังคมและบา้ นเมอื ง โทษทางร่างกายและจติ ใจ - ทาลายสขุ ภาพของผ้ตู ิดสารเสพตดิ ให้ทรดุ โทรม - เกิดโรคภยั ไข้เจบ็ ไดง้ า่ ย - อาจประสบอบุ ัตเิ หตุได้งา่ ย - เกดิ โทษทีร่ นุ แรงมาก คอื จะเกิดอาการคลุ้มคลั่ง ถงึ ขัน้ อาละวาด

วธิ ีการในการสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ โทษพิษภัยตอ่ ครอบครวั - ความรับผิดชอบและญาตพิ ่นี อ้ ง ไม่สนใจทจี่ ะดูแลครอบครวั - ทาให้สญู เสยี ทรพั ย์สิน เงินทอง และต้องเสยี เงนิ รกั ษาตวั เอง - ทางานไม่ได้ขาดหลกั ประกันของครอบครัว - สูญเสียสมรรถภาพในการหาเลี้ยงครอบครัว โทษพิษภัยต่อสงั คมและเศรษฐกิจ - กอ่ ให้เกดิ ปัญหาอาชญากรรม และอบุ ัตเิ หตุต่อตนเองและผู้อืน่ - ถ่วงความกา้ วหน้าของชุมชน สงั คม เปน็ ภาระต่อส่วนรวม - สญู เสียแรงงานโดยไรป้ ระโยชน์ รายได้ของชาติ เศรษฐกิจ - เป็นท่ีรังเกยี จของสังคม โอกาสผดิ ศีลธรรม เช่น พดู ปด ขโมย/ กลายเป็นอาชญากร เพือ่ แสวงหาเงนิ ซอ้ื

วธิ ีการในการสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ 5. ละเวน้ สารเสพตดิ ทกุ ชนิดท่ีจะบัน่ ทอนสุขภาพ โทษพิษภยั ต่อสงั คมและเศรษฐกิจ - กอ่ ใหเ้ กดิ ปญั หาอาชญากรรม และอบุ ตั ิเหตุอนั ตรายต่างๆ ต่อตนเองและ ผูอ้ น่ื ได้ง่ายตลอดจนเป็นปญั หาของโรคบางอยา่ ง เชน่ โรคเอดส์ - ถว่ งความกา้ วหนา้ ชมุ ชน สงั คม เปน็ ภาระต่อสว่ นรวม ทปี่ ระชาชนตอ้ งเสีย ภาษีสว่ นหน่งึ มาใชใ้ นการปราบปรามบาบดั ผทู้ ี่ตดิ สารเสพตดิ - สญู เสยี แรงงานโดยไร้ประโยชน์ ทาให้รายไดข้ องชาติในส่วนรวม กระทบกระเทอื นและเปน็ การสญู เสียทางเศรษฐกจิ ของชาติ - เป็นที่รงั เกียจของสังคม โอกาสผดิ ศีลธรรมเพือ่ แลกเปลีย่ นกับสิ่งเสพย์ตดิ เชน่ พดู ปด ขโมย หรือกลายเปน็ อาชญากร เพ่ือแสวงหาเงินซ้ือ

วิธีการในการสร้างเสรมิ สขุ ภาพ การตรวจสุขภาพประจาปี - รับรภู้ าวะสขุ ภาพวา่ สมบูรณ์ ผิดปกติ - การตรวจแก่ผู้ทีย่ งั ไมม่ ีอาการผิดปกตใิ ด ๆ หรอื อาจมอี าการ ผดิ ปกตเิ พียงเล็กน้อยไม่ชัดเจน - โรคที่สามารถตรวจพบได้ ได้แก่ โลหิตจาง ความดันโลหติ สูง เบาหวาน ไขมนั ในเลือดสงู ตดิ ต่อทางเพศสมั พันธ์ พยาธิ ระบบ ทางเดินปัสสาวะ วัณโรค และมะเรง็ ชนิดตา่ งๆ

5. การดแู ลสขุ ภาพบคุ คล การดูสุขภาพ เริ่มต้นตั้งแต่ปฏิสนธิ วางแผนให้ทารกเจริญ เติบโตจากในครรภ์ ต้ังครรภ์คุณภาพ - ทารกเกิดรอดปลอดภัย มีพัฒนาการท่ีดี - ผู้ใหญ่ มีทักษะชีวิต ทักษะอาชีพหาเลี้ยงตนเองและ ครอบครัว สุขภาพดี ป้องกันโรค เจ็บป่วยสามารถหาแนวทางปฏิบัติ เพื่อให้หายจากโรคได้ หากบุคคลทุกช่วงวัยดูแลสุขภาพตนได้ดีทั้งปกติและเจ็บป่วย จะช่วยทาให้ทุกคนดารงชีวิตได้อย่างเป็นสุข

แนวทางการดูแลสขุ ภาพบุคคลตง้ั แตช่ ว่ งวัยรุ่น เยาวชน วยั ผู้ใหญ่ 1. การดูแลสุขภาพเด็กวัยรุ่นอายุ 13–18 ปี ใช้หลัก HE3A2DS2 1) Home: บ้าน คนในบ้าน และในครอบครัวมีบทบาทสาคัญ ในการดูแลด้วยรักความอบอุ่นและห่วงใย 2) Education: ส่งเสริมการศึกษา และพัฒนาทักษะตามความสนใจ 3) Eating: สร้างเสริมนิสัยการบริโภค ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย 4) Exercise: ส่งเสริมออกกาลังกายอย่างเหมาะสม

1. การดูแลสขุ ภาพเด็กวัยรนุ่ อายุ 13 – 18 ปี 5) Ambition: ส่งเสริมความคาดหวังในอนาคต 6) Activities: ส่งเสริมให้ทากิจกรรมทางสังคมและการพักผ่อนท่ีเป็น ประโยชน์ต่อตนเองครอบครัวและสังคม 7) Drug use: ป้องกันพฤติกรรมเส่ียง: สุรา บุหร่ี/ส่ิงเสพติด

1. การดูแลสุขภาพเดก็ วยั รุน่ อายุ 13 – 18 ปี 8) Sexuality: ป้องกันพฤติกรรมเสี่ยงจากกิจกรรมทางเพศ 9) Suicide: ป้องกันพฤติกรรมเส่ียงจากความเครียด ฆ่าตัวตาย

จุดเน้นทส่ี าคัญคือ “วยั รนุ่ ควรรู้จกั รกั และห่วงใยตนเอง”* - รักตนเอง ห่วงใยตนเอง ปอ้ งกนั พฤติกรรมเสีย่ ง รู้จักรัก ห่วงใยตนเอง ใสใ่ จกิจกรรมสรา้ งสรรค์ เตรียมพรอ้ มสาหรบั เป็นผู้นา ให้ความสาคัญกบั หนา้ ท่แี ละการเปน็ พลเมืองดี ป้องกนั ตนเองจาก พฤตกิ รรมเสี่ยง ได้แก่ - ไม่ยุ่งเกี่ยวกับอบายมขุ และส่งิ เสพติด* - ไม่มีพฤติกรรมรนุ แรงตบตที ะเลาะวิวาท

1. การดแู ลสุขภาพเดก็ วยั รุ่นอายุ 13 – 18 ปี - พฒั นาทักษะพื้นฐาน ควรไดร้ ับการพัฒนาทักษะ คอื - อา่ นออกเขียนได้อยา่ งเข้าใจ คดิ เลขได้* - ว่ายนา้ เปน็ * - ใช้คอมพิวเตอร์สมั ผัส ไทย-อังกฤษ - รอ้ งเพลง เลน่ ดนตรี - เล่นกีฬาได้ อย่างนอ้ ย 1 ชนิด - ใชภ้ าษาต่างประเทศได้ ≥ 1 ภาษา* - ไดร้ บั การเตรียมให้สามารถประกอบอาชพี ไดห้ ลังจบการศึกษา - สนใจสิ่งแวดล้อม

1. การดูแลสุขภาพเดก็ วัยรุ่นอายุ 13–18 ปี - เข้าใจเพศศกึ ษา* - ร้กู าร ปป.ทางรา่ งกาย โดยเฉพาะการ ปป.ทางเพศ - เรียนรู้เกย่ี วกับอนามัยเจริญพนั ธ์ุ ได้รับบริการการให้คาปรกึ ษาเรอ่ื ง เพศอย่างเหมาะสม มีการปอ้ งกนั การเข้าถึงขอ้ มูลเรือ่ งเพศท่ไี มเ่ หมาะสม

2. การดูแลสขุ ภาพเยาวชนอายุ 18–25 ปี จุดเนน้ “พัฒนาให้เยาวชนมีจติ สานึกสาธารณะ*เพอื่ พัฒนาสงั คม” - มีจิตสาธารณะ (Public Mind)/จิตสานกึ สาธารณะ (Public Consciousness) การรู้จกั เอาใจใส่ เป็นธรุ ะและเขา้ รว่ มในเรือ่ งส่วนรวมทีเ่ ปน็ ประโยชน์ต่อ ประเทศชาติ มีสานกึ และยึดมั่นในคณุ ธรรม จรยิ ธรรมท่ีดงี าม ละอายตอ่ ส่ิงผดิ เน้น ความเรยี บรอ้ ย ประหยดั และมีความสมดุลระหวา่ งมนุษย์กับธรรมชาติ “จติ สานกึ สาธารณะ” สัมพนั ธ์กับ \"สานกึ ของความเป็นเจ้าของ\" และ “ความสานึกของความเปน็ เจ้าของ” ตอ้ งผูกอยูก่ บั \"สมบัติชมุ ชน\"

2. การดูแลสุขภาพเยาวชนอายุ 18–25 ปี ระดบั ของจติ สานึกสาธารณะ แบ่งไดเ้ ป็น 1. ระดับครอบครัว - ขยัน รู้หน้าทีร่ ับผิดชอบ - ซอื่ สัตยส์ จุ ริต ดาเนินชวี ิตได้อยา่ งปลอดภัย - รักส่งิ แวดล้อม - มีจิตอาสา มคี ณุ ธรรมจริยธรรม - ยดึ มน่ั ในหลักธรรมคาสอนทางศาสนา ผูกพนั กบั ครอบครัว - รเู้ ทา่ ทันและเลือกรบั เทคโนโลยมี าใช้อย่างสร้างสรรค์

2. การดแู ลสุขภาพเยาวชนอายุ 18–25 ปี ระดับของจิตสานึกสาธารณะ 2. ระดบั หมู่บา้ น คือ รจู้ ักการบาเพญ็ ประโยชน์ รักบ้านเกดิ ภมู ใิ จ ในความเปน็ ไทย เป็นพลเมืองดี ช่วยเหลอื เกอ้ื กูลผูอ้ ื่นแบ่งปัน 3. ระดับสงั คม คอื มีวถิ ปี ระชาธปิ ไตย เคารพสิทธขิ องผู้อนื่ มสี ว่ น รว่ มในการพฒั นาชุมชนและประเทศชาติ

2. การดูแลสุขภาพเยาวชนอายุ 18–25 ปี ➢ มีการวางแผนชีวติ * - มคี วามร้ทู ัศนคตทิ ่ถี ูกต้องเก่ยี วกับเร่อื งเพศ ความเปน็ หญงิ ชาย อนามยั เจริญพันธุ์ การเตรียมพร้อมสาหรับการมคี รอบครัวเมอื่ เข้าสวู่ ยั ผใู้ หญ่ - รู้การวางแผนการออม มคี วามพร้อมสเู่ ส้นทางการประกอบ อาชพี ดว้ ยระบบการศึกษาที่หลากหลาย สอดคล้องกบั ความต้องการ ทางสังคม

3. การดูแลสขุ ภาพวัยทางาน อายุ 25–60 ปี จุดเนน้ คอื “ควบคมุ ป้องกันโรคทไ่ี ม่ตดิ ต่อ ลดพฤติกรรมเส่ยี ง”* - กาลังสาคญั พฒั นาเศรษฐกิจ ดูแลใหม้ ีสุขภาพดี ดว้ ยวถิ ีชวี ิตที่ เหมาะสมท้ังในบ้าน/ทีท่ างาน/สถานที่สาธารณะตา่ งๆ - ลดการเจ็บป่วยจากโรคไมต่ ดิ ต่อ เช่น เบาหวาน ความดนั โลหติ สงู มะเรง็ หลอดเลอื ดสมอง ปอดอดุ กั้นเรอื้ รัง - ลดการเกดิ โรคทอี่ าจเกดิ ข้นึ จากการประกอบอาชีพ - ลดอุบัติเหตุทางทอ้ งถนน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook