E-book นำชมนิทรรศการพิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศและการบินแห่งชาติ

E-BOOK นำชม นิทรรศกำรพิพิธภณั ฑก์ องทพั อำกำศและกำรบินแห่งชำติ THE NATIONAL AVIATION MUSEUM OF THE ROYAL THAI AIR FORCE EXHIBITION

ก คำนำ หนังสืออิเล็กทรอนิกสน์ ำชมนิทรรศกำรพิพิธภณั ฑก์ องทพั อำกำศและกำรบินแหง่ ชำติ จดั ทำข้ึนเพ่ือ ถำ่ ยทอดและแบง่ ปันขอ้ มูลควำมรูใ้ หแ้ กป่ ระชำชนทุกคนท่ีสนใจเน่ื องจำกเป็ นเทคโนโลยีท่ีทนั สมยั จึงเหมำะสม กบั ยุคสมยั ในปจั จุบนั น้ี เน้ือหำในหนงั สือเลม่ น้ีแบง่ ออกเป็น โซนกำรเรียนรูใ้ นพิพิธภณั ฑท์ งั้ หมด ๘ โซน ดงั น้ี โซนกำ้ วแรก, โซนสรำ้ งคน, โซนไทยสรำ้ ง, โซนรกั ษำอธิปไตย, โซนน่ำนฟ้ำไทยจะมิใหใ้ ครมำย่ำยี, โซนพิทกั ษเ์ สรีภำพ, โซน พฒั นำชำติ และ โซนควำมทำ้ ทำยในอนำคต หวังว่ำ หนังสื ออิเล็กทรอนิ กส์นำชมพิพิธภัณฑ์กองทพั อำกำศและกำรบินแห่งชำติ เล่มน้ี จะเป็ นประโยชน์แกป่ ระชำชนผูท้ ่ีสนใจไดใ้ ชเ้ ป็ นแนวทำงในกำรศึกษำหำควำมรูห้ ำกมีขอ้ เสนอแนะป ระกำรใด ผูจ้ ดั ทำยินดีนอ้ มรบั ไวด้ ว้ ยควำมขอบคุณย่ิง คณะผูจ้ ดั ทำ

สำรบญั หนำ้ คำนำ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………......ก โซน ๑ กำ้ วแรก……………………………………………………………………………………………………………………………………………๑ โซน ๒ สรำ้ งคน…………………………………………………………………………………………………………………………………………..๒๗ โซน ๓ ไทยสรำ้ ง………………………………………………………………………………………………………………………………………….๓๓ โซน ๔ รักษำอธิปไตย……………………………………………………………………………………………………………………………......๓๘ โซน ๕ น่ำนฟ้ำไทยจะมิใหใ้ ครมำย่ำยี…………………………………………………………………………………………………………….๔๒ โซน ๖ พิทกั ษเ์ สรีภำพ………………………………………………………………………………………………………………………………….๔๕ โซน ๗ พฒั นำชำติ……………………………………………………………………………………………………………………………………….๖๐ โซน ๘ ควำมทำ้ ทำยในอนำคต………………………………………………………………………………………………………………………๗๒

โซน ๑ กำ้ วแรก

๒

๓ “…กำลงั ในอำกำศเป็ นโล่อนั แทจ้ ริงอย่ำงเดียว ท่ีจะกนั มิใหก้ ำรสงครำมมำถึงทำ่ มกลำงประเทศของเรำได้ ทง้ั เป็ นประโยชนใ์ หญ่ย่ิงในกำรคมนำคมเวลำปกติ…” พระรำชดำรสั จอมพล สมเด็จพระเจำ้ บรมวงศเ์ ธอ เจำ้ ฟ้ำจกั รพงษภ์ ูวนำรถ กรมหลวงพิศณุโลกประชำนรถ พระบิดำแหง่ กองทพั อำกำศ

ยคุ ริเริม่ ๔ - พ.ศ. ๒๔๔๖ เครอื่ งบนิ ฟลายเออร์ เม่ือวันท่ี ๑๗ ธันวาคม ๒๔๔๖ สองพี่น้อง ตระกูลไรท์ นาเคร่ืองบนิ ชือ่ ฟลายเออร์ ข้ ึนบินเป็ นผลสาเร็จ ที่เมืองคิตต้ ีฮอวค์ รฐั นอร์ธคาโรไลนา สหรฐั อเมริกาอยู่ใน อากาศยานนาน ๑๒ วินาที ไดร้ ะยะทาง ๑๒๐ ฟุต ท่ีระยะสูง ประมาณ ๒๐-๓๐ ฟุต - พ.ศ. ๒๔๕๒ กองทพั บกฝรงั่ เศสจดั ต้งั กองกาลงั ทางอากาศข้ ึน และแยกตวั ออกมาเป็ นกองทพั อากาศฝรงั่ เศสภายหลงั

- พ.ศ. ๒๔๕๓ ๕ นายชาร์ล ว็อง แด็ง บอร์น นักบินชาวเบลเยี่ยม นายชารล์ วอ็ ง แดง็ บอรน์ นกั บนิ ชาวเบลเยี่ยม นาเครื่องบินแบบอ็องรีฟารม์ ็อง ๔ มาแสดงการบินใหช้ าวไทย ชมเป็ นคร้งั แรก ณ สนามมา้ สระปทุม ราชกรีฑาสโมสร ในการ แสดงการบินคร้ังน้ันไดม้ ีคนไทยข้ ึนนัง่ เป็ นผูโ้ ดยสารดว้ ยคือ จอมพล สมเด็จพระเจา้ บรมวงศ์เธอ เจา้ ฟ้าจกั รพงษ์ภูวนารถ กรมหลวงพิษณุ โลกประชานารถ และต่อมาทรงเป็ น ผู้วางรากฐานกิจการดา้ นการบินกองทัพอากาศจึงยกย่อง พระองคเ์ ป็ น พระบดิ าแห่งกองทพั อากาศ หลุ ยส์ เบลอริ โอต์ ชาวฝรั่งเศ ส ประดิ ษฐ์ เครื่องบินปี กเดียวช่ือว่า เบลอริโอต์ ๑๑ บินข้ามช่องแคบ องั กฤษจากเมืองกาแลของฝรงั่ เศสไปใกลก้ บั เมืองโดเวอร์ของ องั กฤษไดส้ าเร็จใชเ้ วลา ๓๖ นาที

ยุคพฒั นา ๖ - พ.ศ. ๒๔๕๓ เคานต์แฟร์ดีนันต์ ฟอน เซพเพลิง สรา้ งเรือ เรอื เหาะ เหาะแบบบงั คบั ไดแ้ ละถูกใชอ้ ยา่ งแพร่หลายในเกือบ ๓๐ ปี - พ.ศ. ๒๔๕๔ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกลา้ เจา้ อยู่หวั ทรงมีพระราชดาริให้ จอมพล สมเด็จพระเจา้ บรมวงศ์เธอ เจา้ ฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ กรมหลวงพิศณุโลกประชานารถ เสนาธิการทหารบก คัดเลือกนายทหาร ๓ นาย เพ่ือไปศึกษาวิชาการบินท่ีประเทศฝรงั่ เศสไดแ้ ก่ นายพนั ตรี หลวงศกั ด์ิศลั ยาวุธ (สุนี สุวรรณประทีป) ไปเรียน ณ โรงเรียนการบินท่ี วิลลาคูเบลย์ ส่วนนายรอ้ ยเอก หลวงอาวุธสิขิกร (หลง สิน สุข )และนายรอ้ ยโท ทิพย์ เกตุทัต ไปเรียน ณ โรงเรียนการบินท่ี มูรเ์ มอลอง เลอ กรองด์

๗ พระบดิ าแหง่ กองทพั อากาศ จอมพล สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ เจา้ ฟ้าจกั รพงษภ์ ูวนารถ กรมหลวงพิศณุโลกประชานารถ

บุพการีแหง่ กองทพั อากาศ ๘ นายรอ้ ยโท ทิพย์ เกตทุ ตั นายรอ้ ยเอก หลวงอาวุธสิขิกร (หลง สิน สุข ) นายพนั ตรี หลวงศกั ด์ิศลั ยาวุธ (สุนี สุวรรณประทีป)

- พ.ศ. ๒๔๕๕ ๙ • สงครามบอลข่านระหว่างเซอร์เบีย ออสเตรีย ฮังการี อิตารี กรีซ และ บัลกาเรีย ผลของสงครามคื อ บลั กาเรียพ่ายแพแ้ ละตอ้ งเสียดินแดนบางส่วนและวกิ ฤตน้ ีนามาซ่ึงเหตุแห่งสงครามโลกคร้ังที่ ๑ • นายพันตรี หลวงศักด์ิศัลยาวุธ นาเคร่ืองบินแบบเบรเกต์ และ นายร้อยเอก หลวงอาวุธสิขิกร นาเครื่องบินแบบนิเออปอรต์ ทะยานข้ นึ เหนือแผ่นดินฝรงั่ ดินฝรงั่ เศสไดส้ าเร็จนับเป็ นการบินคร้งั แรกโดย คนไทย - พ.ศ. ๒๔๕๖ • กระทรวงกลาโหม สงั่ ซ้ ือเคร่ืองบินและเจา้ พระยาอภยั ภูเบศร์ (ชุ่ม อภัยวงศ์)บริจาคเงินซ้ ือเคร่ืองบินจาก ประเทศฝรัง่ เศสจานวน ๘ เคร่ือง ได้แก่ เครื่องบินเบรเกต์ ปี ก ๒ ช้ัน ๔ เครื่อง แบบนิเออปอรต์ ปี กชน้ั เดียว ๔ เคร่ือง ถือเป็ นการเร่ิมตน้ กาลงั ทางอากาศของไทย • วันที่ ๑๓ มกราคม ๒๔๕๖ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกลา้ เจา้ อยู่หัว เสด็จทอดพระเนตรการบินที่ สนามมา้ สระปทุม ( ราชกรีฑาสโมสร) โดยนักบนิ ท้งั ๓ ท่าน และถือเอาวนั น้ ีเป็ น วนั การบินแหง่ ชาติ

- พ.ศ. ๒๔๕๗ ๑๐ • วันท่ี ๘ มีนาคม ๒๔๕๗ นายทหารนักบินท้ัง ๓ ท่าน ได้นาเคร่ืองบินจากสนามม้าสระปทุม (ราชกรีฑาสโมสร)ไปลงยงั สนามบินดอนเมืองเป็ นคร้งั แรก วนั ที่ ๒๗ มีนาคม ๒๔๕๗ กระทรวงกลาโหมให้ ต้งั กองบนิ ทหารบก กองทพั อากาศจึงถือเอาวนั น้ ีเป็ น วนั ที่ระลึกกองทพั อากาศ • วันที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๔๕๗ กัฟรีโล ปรินชิป นักศึกษาชาวบอสเนียเซิร์บ และสมาชิกบอสเนียหนุ่ม ลอบปลงพระชนมร์ ชั ทายาทแห่งออสเตรีย ฮงั การี อารช์ ดยุกฟรนั ซ์ แฟร์ดีนันด์ แห่งออสเตรีย ในบอสเนีย อนั เป็ นฉนวนของสงครามโลกคร้งั ที่ ๑ - พ.ศ. ๒๔๕๘ เกิดสงครามโลกคร้ังท่ี ๑ มีการนาเคร่ืองบินไม่ใชใ้ นทางการทหาร ประเทศฝรงั่ เศสเป็ นชาติแรก ท่ีเร่ิมติดต้งั ปี กกลอากาศใหก้ บั เคร่ืองบนิ

- พ.ศ. ๒๔๕๙ ๑๑ เครอ่ื งบิน เอฟ ๔๐ เฮนรี ฟาร์แมน กับน้องชาย มัวริซ ร่วมกันสร้าง เคร่ืองบิน เอฟ ๔๐ใใหก้ บั กองทพั องั กฤษใชใ้ นสงครามโลกคร้ังท่ี ๑ ทหารไทยเขา้ รว่ มในสงครามโลกครง้ั ท่ี ๑ เพื่อลาดตระเวน ต่อมาพฒั นาเป็ นเครื่องบินท้ ิงระเบิดเครื่องแรก ของโลก - พ.ศ. ๒๔๖๐ รัฐ บาลไทยเข้าร่ วมใ นสงครามโลกคร้ังท่ี ๑ โดยประกาศสงครามกับฝ่ ายมหาอานาจกลาง และส่งทหาร ไปร่วมรบในยุโรปทาใหบ้ ุคลากรของกองบินทหารบกมีโอกาส เขา้ รบั การฝึกและศึกษาดา้ นการบนิ เมือ่ เดินทางกลบั ประเทศไทย จึงเป็ นกาลงั สาคญั ในการพฒั นาการบินของไทยในเวลาต่อมา

- พ.ศ. ๒๔๖๑ ๑๒ • กองทพั สหรฐั เขา้ ร่วมสงครามกบั กองทพั ฝ่ าย วนั สงบศึก สมั พนั ธมิตร ในที่สุดเยอรมนีไดต้ กลงหยุด ยิงเมื่อวนั ที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๔๖๑ ซึ่งเป็ น ที่รูจ้ ักกันในช่ือ วันสงบศึก และชัยชนะตก เป็ นของฝ่ ายสันพันธมิตร เป็ นการส้ ินสุด สงครามโลกคร้งั ท่ี ๑ • วนั ที่ ๑๙ มีนาคม ๒๔๖๑ ยกฐานะ กองบิน ทหารบก เป็ น กรมอากาศยานทหารบก

- พ.ศ. ๒๔๖๒ ๑๓ วนั ท่ี ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๔๖๒ มีการนา เคร่ืองบินมาทดลองการคมนาคมทางอากาศเป็ น คร้งั แรก สนามบินดอนเมอื งไปสนามบนิ พลอยแหวน จงั หวดั จนั ทบุรี การนาเครอ่ื งบนิ มาทดลองการคมนาคมคร้งั แรก - พ.ศ. ๒๔๖๓ กองทัพอากาศอังกฤษเปิ ดวิทยาลัย สอนการบิน ท่ีเมืองแคนเวลล์ รวมท้งั มีการบินโชว์ คร้งั แรกท่ีกรุงลอนดอน

เครอ่ื งบินพยาบาล (เบรเกต์ ) ๑๔ - พ.ศ. ๒๔๖๔ • วันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๔๖๔ กรมอากาศยาน ทหารบกจดั เคร่ืองบิน เบรเกต์ บินนาส่งแพทย์ และเวชภัณฑ์ จากสนามบินหนองบัว จังหวัด นครราชสีมา ไปยงั อาเภอวารินชาราบ จงั หวดั อุ บ ล ร า ช ธ า นี เ พ่ื อ รัก ษ า ไ ข้ท ร พิ ษ แ ล ะ อหวิ าตกโรค • วนั ที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๖๔ เปล่ียนเรียกจากช่ือ กรมอากาศยานทหารบก เป็ น กรมอากาศยาน

- พ.ศ. ๒๔๖๗ ๑๕ เครือ่ งบนิ ปี กสองช้นั แบบ ดกั ลาส ครยุ เซอร์ ความสาเร็จคร้ังแรกในการบินรอบโลก เคร่ืองบิน เครอ่ื งบนิ ท้ ิงระเบดิ ๒ ทนี่ งั ่ (บรพิ ตั ร) ปี กสองช้นั แบบ ดักลาส ครุยเซอร์ ของกองทัพบกสหรัฐ จานวน ๔ เครื่อง บินข้ ึนจาก แซนด์ พอยท์ รัฐวอชิงตัน เม่ือวันที่ ๖ เมษายน ๒๔๖๗ ใชเ้ วลาท้งั ส้ ิน ๑๗๔ วนั เป็ นระยะทาง ๔๔,๓๕๒ กโิ ลเมตร กลบั มาลงท่ีซีแอตเต้ ิลในวนั ท่ี ๒๘ กนั ยายน ๒๔๖๗ - พ.ศ. ๒๔๗๐ นายพันโท หลวงเวชยันต์รังสกฤษฎ์ ออกแบบ เคร่ืองบินท้ ิงระเบิด ๒ ที่นั่ง โดยกองโรงงานทาการสร้างและ ทดลองบินสาเร็จคร้งั แรกเมื่อ ๒๓ มิถุนายน ๒๔๗๐ ต่อมาไดร้ ับ พระราชทานช่ือว่า บริพตั ร เป็ นเครื่องบินแบบแรกที่ออกแบบ และสรา้ งโดยคนไทย

๑๖ นายพนั โท หลวงเวชยนั ต์ รงั สกฤษฎ์ ออกแบบเคร่ืองบินท้ ิงระเบิด ๒ ท่ีนงั ่ (บริพตั ร)

๑๗ - พ.ศ. ๒๔๗๘ เม่ือวันท่ี ๑๒ เมษายน ๒๔๗๘ กรมอากาศยานไดร้ ับการ ยกฐานะเป็ น กรมทหาร ข้ นึ ตรงต่อรฐั มาตรีวา่ การกระทรวงกลาโหม - พ.ศ. ๒๔๘๐ วันที่ ๙ เมษายน ๒๔๘๐ กระทรวงกลาโหมยกฐานะ กรมทหาร อากาศเป็ น กองทัพอากาศ โดยมีนายนาวาอากาศเอก พระเวชยันต์ รัง สฤษฎ์ เป็ นผูบ้ ญั ชาการทหารอากาศคนแรกและถือเอาวนั น้ ีเป็ น วนั กองทพั อากาศ - พ.ศ. ๒๔๘๒ เกิดสงครามโลกคร้ังที่ ๒ เครื่องบินกลายเป็ นอาวุธสาคัญของ สงครามและมีการพฒั นาเคร่ืองบินรบไอพ่นแบบแรก

- พ.ศ. ๒๔๘๓ ๑๘ กองทพั อากาศมีบทบาทเป็ นอย่างมากในกรณีพิพาทอินโดจีนฝรงั่ เศส โดยปฏิบตั ิภารกิจการครอง อากาศและการการโจมตีเป้าหมายลึกเขา้ ไปในดินแดนขา้ ศึกรวมท้ังการรบร่วมกับกองทัพบกและกองทัพ เรือ ในการรบทางอากาศไทยยงั สามารถยิงเครื่องบินขา้ ศึกตกไดอ้ ีกจานวนหน่ึง - พ.ศ. ๒๔๘๔ • ญี่ ป่ ุ นโ จม ตี ท าง อา กา ศฐ าน ทัพ เรื อส หรัฐ ท่ี เ พิร์ล ฮา ร์เ บอ ร์ ทาใหส้ หรฐั อเมริกาตดั สินใจประกาศสงครามกบั ญ่ีป่ นุ • วนั ท่ี ๘ ธนั วาคม ๒๔๘๔ กองทพั ญี่ป่ นุ บุกประเทศไทย เพ่ือเป็ นทางผ่าน ไปโจมตีกองทัพอังกฤษในพม่าและมลายู มีการสูร้ บระหว่างไทยและ ทหารญ่ีป่ ุนตลอดแนวชายแดนฝั่งทะเลดา้ นอ่าวไทย ทหารอากาศท่ี กองบินน้อยที่ ๕ ประจวบคีรีขันธ์ ต่อสูอ้ ย่างดุเดือดเป็ นเวลานานถึง ๓๒ ชวั่ โมง ก่อนไดร้ บั คาสงั่ ใหห้ ยุดยิงใน สงครามมหาเอเชยี บูรพา ญป่ี ่ ุนโจมตที างอากาศฐานทพั เรอื สหรฐั

๑๙ - พ.ศ. ๒๔๙๐ วันท่ี ๑๘ กันยายน ๒๔๙๐ กองทัพอากาศ สหรฐั ไดก้ อ่ ต้งั ข้ นึ ตามรัฐบญั ญตั ิว่าดว้ ยความมนั่ คงแห่งชาติ ปัจจุบันกองทัพอากาศสหรัฐมีเทคโนโลยีท่ีทันสมัยท่ีสุดใน โลก สงครามเกาหลี - พ.ศ. ๒๔๙๓ กองทัพอากาศส่งทหารเขา้ ร่วมปฏิบัติการบิน ลาเลียง สนับสนุนกองกาลงั สหประชาชาติในการช่วยเหลือ ทางการแพทยแ์ ละการลาเลียงพลใน สงครามเกาหลี

สู่อนาคต ๒๐ - พ.ศ. ๒๔๙๓ เครอ่ื งบนิ ขบั ไล่แบบ เอฟ-๘๐ซี เครอื่ งบนิ ขบั ไลแ่ บบ มิก-๑๕ กา ร สู้ร บ ใ น อา ก า ศ ร ะ ห ว่า ง เ รื่ อ ง บิ นขับ ไ ล่ ไ อ พ่ น เกิดข้ ึนคร้ังแรกเม่ือวันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๔๙๓ ในสงคราม เ ก า ห ลี ร ะ ห ว่ า ง เ ค รื่ อ ง บิ น ขั บ ไ ล่ แ บ บ เ อ ฟ -๘ ๐ ซี ของกองทัพอากาศสหรัฐกับเครื่องบินขับไล่แบบ มิก-๑๕ ของ กองทพั เกาหลีเหนือ ทาการบินโดยนักบินชาวรสั เซีย - พ.ศ. ๒๔๙๘ กา้ วเขา้ ส่ยู ุคเคร่ืองบินไอพน่ เม่ือสหรัฐอเมริกาฝึกไอ พ่นแบบ ที-๓๓ เอ ใหก้ องทพั อากาศ ถือเป็ นเครื่องบินฝึ กไอพ่น แบบแรกของกองทพั อากาศ

- พ.ศ. ๒๔๙๙ ๒๑ กองทัพอากาศรับมอบเครื่องบินขับไล่แบบ เอฟ-๘๔ จี จากสหรัฐอเมริกา ถือเป็ นเคร่ืองบินขบั ไล่ไอพ่น แบบแรกของกองทพั อากาศ เครอื่ งบนิ ขบั ไล่แบบ เอฟ-๘๔ จี - พ.ศ. ๒๕๐๗ วนั ท่ี ๒๒ ธนั วาคม ๒๕๐๗ เคร่ืองบิน เอสอาร์-๗๑ แบลคเบิรด์ ทาการบินทดสอบเที่ยวแรกซ่ึงสามารถทาการบิน ไดเ้ ร็วกวา่ ๓ เท่าของความเร็วเสียงและไดร้ ับการยอมรบั ว่าเป็ น เคร่ืองบนิ ที่เร็วที่สุดในโลก เครอ่ื งบิน เอสอาร-์ ๗๑ แบลคเบิรด์

- พ.ศ. ๒๕๐๙ ๒๒ กองทัพอากาศรับมอบ เคร่ืองบินขบั ไลแ่ บบ เอฟ ๕ บี เคร่ืองบินขับไล่แบบ เอฟ ๕ บี จาก สหรัฐอเมริกาถือเป็ นเคร่ืองบินขับไล่ ความเร็วเหนื อเสียงแบบแรกของ กองทพั อากาศ

๒๓ - พ.ศ. ๒๕๑๕ กองทัพอากาศจัดเครื่องบินเขา้ ร่วมปฏิบัติภารกิจในโครงการฝนหลวง โดยได้ดาเนินการมาอ ย่าง ต่อเน่ืองจนถึงปัจจุบนั กองทัพอากาศปฏิบตั ิภารกิจในการบรรเทาภยั พิบัติและช่วยเหลือพี่น้องประชาชน รวมท้ัง ประสานการปฏิบตั ิกบั หน่วยท่ีเก่ยี วขอ้ งดว้ ยการระดมกาลงั พลยุทโธปกรณ์และอากาศยานเขา้ ช่วยเหลือผูป้ ระสบภัย อย่างต่อเนื่อง

- พ.ศ. ๒๕๒๖ ๒๔ เคร่ืองบินโจมตี เอฟ- ๑๑๗ เอ ซ่ึงมี เครอ่ื งบนิ โจมตี เอฟ-๑๑๗ เอ ลัก ษ ณ ะ ที่ เ ร ดา ร์ต ร วจ จับไ ด้ย า กม า กโ ด ย เครอ่ื งบินโซลารอ์ ิมพลั ส์ ๒ ถู ก อ อ ก แ บ บ เ พ่ื อ โ จ ม ตี เ ป้ า ห ม า ย ภ า ค พ้ ื น โดยเฉพาะ - พ.ศ. ๒๕๕๙ เ ค ร่ื อ ง บิ น โ ซ ล า ร์ อิ ม พั ล ส์ ๒ สร้างประวัติศาสตร์เป็ นเคร่ืองบินพลังงาน แสงอาทิตยแ์ บบแรกท่ีบนิ รอบโลกไดส้ าเร็จ

๒๕ การพฒั นากาลงั ทางอากาศสกู่ ารเป็ น “กองทพั อากาศช้นั นาในภมู ิภาค” ทพ่ี รอ้ มจะรบั ผิดชอบตอ่ ความมนั ่ คงของชาติ เน่ืองในโอกาสวนั ครบรอบ ๑๐๐ปี การบนิ ของบุพการที หารอากาศ ในปี พ ศ ๒๕๕๕

ศูนยไ์ ซเบอรก์ องทพั อากาศ ๒๖ ศนู ยป์ ฏิบตั กิ ารทางอวกาศ ในปั จจุบันนานาชาติมีการใช้งาน เทคโนโลยีดา้ นไซเบอร์และอวกาศในกิจการทาง ทหาร กองทพั อากาศตระนักถึงความสาคญั และภัย คุกคามที่เกิดจากเทคโนโลยีดังกล่าว จึงได้จัดต้ัง ศนู ยไ์ ซเบอรก์ องทพั อากาศและศนู ยป์ ฏิบตั ิการทาง อวกาศข้ ึนเพื่อป้องกนั และเฝ้าระวงั จากภัยคุกคาม รวมถึงการทาขอ้ ตกลงการใชง้ านของดาวเทียมใน พ้ ืนที่ของประเทศไทยและการใชง้ านเทคโนโลยี ดา้ นไซเบอร์ท้ังน้ ีเพ่ือความมัน่ คงในการปกป้อง อธิปไตยและรกั ษาผลประโยชน์ของชาติเป็ นสาคญั

โซน ๒ สรำ้ งคน

- พ.ศ. ๒๔๕๔ ๒๘ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกลา้ เจา้ อยู่หวั รัชกาลท่ี ๖ ทรงเล็งเห็นถึงความสาคัญของการพฒั นา ประเทศใหเ้ จริญกา้ วหนา้ และการป้องกนั ภยั คุกคามท่ีเกิดข้ ึนจึงมพี ระบรมราชโยบายใหก้ ระทรวงกลาโหมคดั เลือก นายทหารเพอ่ื ไปศึกษาวิชาการบินที่ประเทศฝรงั่ เศสโดยนายทหาร ๓ ท่าน ที่ผ่านการคัดเลือกออกเดินทางจาก ประเทศไทยเมอื่ วนั ท่ี ๒๘ กุมภาพนั ธ์ ๒๔๕๔ และเดินทาง ถึงฝรงั่ เศสเม่อื วนั ท่ี ๒๗ มีนาคม ๒๔๕๔ ประกอบดว้ ย ๑. นายพนั ตรี หลวงศกั ด์ิศลั ยาวธุ (สุนี สุวรรณประทีป) ๒. นายรอ้ ยเอก หลวงอาวธุ หลวงอาวธุ สิขกิ ร (หลง สิน-สุข) ๓. นายรอ้ ยโท ทิพย์ เกตุทตั ในขณะที่นายทหารท้ังสามท่านศึกษาวิชาการบินที่ประเทศฝรัง่ เศส กระทรวงกลาโหมได้สั่งซ้ ือ เคร่ืองบินจานวน ๗ เครื่อง ไดแ้ ก่ เคร่ืองบินเบรเกต์ปี กสองช้นั และเคร่ืองบินนิเออปอร์ปี กช้นั เดียว และเจา้ พระยา อภยั ภูเบศไดบ้ ริจาคเงินซ้ ือเคร่ืองบนิ เบรเกตใ์ หก้ บั ทางราชการอีก ๑ เครื่อง รวม ๘ เครื่อง นับเป็ นเครื่องบิน ๒ แบบ แรกของไทย

๒๙ พระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรมหาวชิราวุธฯ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั (รชั กาลท่ี ๖)

เครอ่ื งบินเบรเกตป์ ี กสองช้นั ๓๐ เครอ่ื งบนิ นิเออปอรต์ ปี กช้นั เดยี ว นกั บนิ รุน่ แรกแห่งสยามประเทศ เม่ือเดินทางถึงฝรัง่ เศสนายทหารท้ังสามท่าน เขา้ เรียนภาษาฝรัง่ เศสเป็ นเวลาหลายเดือนเพ่ือใหส้ ามารถ ติดต่อส่ือสารได้ หลังจากน้ันจึงเร่ิมทาการศึกษาวิชาการบิน เม่ือวันท่ี ๒๒ มิถุนายน ๒๔๕๕ การบินคร้ังแรกของคนไทย อย่างแท้จริง เกิดข้ ึนเมื่อวันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๔๕๕ เมื่อ นายพนั ตรี หลวงศกั ด์ิศลั ยาวธุ เริ่มฝึกบินกบั เคร่ืองบินเบรเกต์ ปี กสองช้นั ท่ีสนามบิน วิลลาคูเบลย์ ในขณะท่ี นายรอ้ ยเอก หลวงอาวุธสิขิกร เร่ิมฝึ กบินกับเครื่องบินนิ เออปอ ร์ต ปี กชน้ั เดียว ท่ีสนามบินมูร์เมอลอง เลอ กรองด์ ส่วนนายรอ้ ย โท ทิพย์..เกตุทัต เริ่มฝึ กบินเคร่ืองบินนิเออร์ปอร์ตเช่นกัน เมอื่ วนั ที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๔๕๕

๓๑ สาเรจ็ วิชาการบิน • วนั ที่ ๘ ตุลาคม ๒๔๕๕ นายพันตรี หลวงศกั ด์ิศัลยาวุธ สาเร็จวิชาการบิน ตามหลักสูตรของสโมสรการบินฝรัง่ เศสจากน้ันจึงเขา้ รับการศึกษา ใน หลักสูตรของกองทัพบกฝรัง่ เศส และสาเร็จวิชาการบินตามหลักสูตรของ กองทพั บกฝรงั่ เศสเมอื่ วนั ท่ี ๕ มถิ ุนายน ๒๔๕๖ • วนั ที่ ๒๔ เมษายน ๒๔๕๖ นายรอ้ ยโท ทิพย์ เกตุทัต สาเร็จวิชาการบินตาม หลกั สตู รของสโมสรการบนิ ฝรงั่ เศส • วนั ที่ ๙ มิถุนายน ๒๔๕๖ นายรอ้ ยเอก หลวงอาวุธสิขิกร สาเร็จวิชาการบิน ตามหลกั สตู รของสโมสรการบินฝรงั่ เศส

๓๒

โซน ๓ ไทยสรำ้ ง

่ซอมและสร้าง ๓๔ ด้วยเคร่ืองบินเพียง ๘ เคร่ือง จาก ประเทศฝรัง่ เศส กองบินทหารบกจึงต้องมีการซ่อม และบารุงรักษาเคร่ืองบินใหใ้ ชง้ านไดย้ าวนานและมี ประสิทธิภาพมากท่ีสุด ท้งั ยงั ชว่ ยประหยดั งบประมาณ ของทางราชการ ต่อมาได้เร่ิมค้นหาวัสดุที่มี อยู่ ภายในประเทศเพ่ือนามาประกอบข้ ึนเป็ น ลาตัว ปี ก หาง และ ใบพัด รวมท้ังสัง่ ซ้ ืออุปกรณ์โรงงานและ เคร่ืองยนตจ์ ากต่างประเทศจนสามารถสรา้ งเคร่ืองบิน เบรเกต์ ปี ก ๒ ช้ัน ได้สาเร็จ โดยมี นายพนั โท พระ เฉลิมอากาศ เป็ นผู้ทดลองบินดว้ ยตนเอง เม่ือวันที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๔๕๘ สมดงั ปณิธานของท่านท่ีวา่ “ เราตอ้ งสรา้ งเครอื่ งบินของเราข้ึนใชเ้ องใหไ้ ด้ ” นายพนั โท พระเฉลิมอากาศ (สุนี สุวรรณประทีป)

๓๕ “บรพิ ตั ร” ออกแบบและสรา้ งเองดว้ ยความภูมิใจ นายพนั โท หลวงเวชยนั ตร์ งั สฤษฎ์ ออกแบบเครื่องบนิ ท้ ิงระเบดิ ๒ ที่นัง่ ซ่ึงกองโรงงานกรมอากาศยานเริ่ม ลงมือสรา้ งในวันที่ ๕ เมษายน ๒๔๗๐ และข้ ึนบินลองเครื่องคร้ังแรกเม่ือวันที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๔๗๐ ต่อมาได้รับ พระราชทานนามว่า “บริพตั ร” จากพระบาทสมเด็จพระปกเกลา้ เจา้ อยหู่ วั รชั กาลท่ี ๗ ตามพระนามของ จอมพลสมเด็จ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ เจา้ ฟ้าบริพตั รสุขุมพนั ธุ์ กรมพระนครสวรรค์ วรพนิ ิต เสนาบดีกระทรวงกลาโหม เคร่ืองบินบริพตั ร ปัจจุบนั เรียกว่าเครื่องบินท้ ิงระเบิดแบบที่ ๒ (บ.ทอ.๒)นับเป็ นเคร่ืองบินแบบแรกที่ออกแบบและสร้างโดยคนไทยดว้ ย วสั ดุท่ีหาไดใ้ นประเทศและออกแบบใหต้ ิดต้งั เคร่ืองยนตไ์ ดห้ ลายแบบ เชน่ บริสตอล จปู ิ เตอร์ และ บีเอม็ ดบั เบลิ ยู

๓๖ พ.ศ. ๒๔๗๒ กรมอากาศ เ ค ร่ื อง บิ น บริ พัต ร มี โ อ ก า ส ยานส่งเคร่ืองบินบริพัตร ๓ เครื่อง ไป เผยแพร่ชื่อเสียงของประเทศไทยอีกคร้ัง เยือนอินเดีย กรุงนิวเดลี ตามคาเชิญของ หนึ่งโดยในวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๔๗๓ รัฐบาลอังกฤษ โดยออกเดินทางจาก รัฐบาลส่งเคร่ืองบินบริพัตร ๓ เคร่ือง สนามบินดอนเมอื งเมอ่ื วนั ที่ ๒๒ ธันวาคม ไปเยือนรัฐบาลฝรัง่ เศส ณ กรุงฮานอย ๒๔๗๒ แต่มีเพียงเคร่ืองเดียวท่ีไปถึง เพื่อเจริญสัมพนั ไมตรี และเดินทางกลับ กรุงนิวเดลี หลังจากปฏิบัติภารกิจเสร็จ วนั ท่ี ๖ มกราคม ๒๔๗๓ ข้ ึนปี ใหม่เดือน แลว้ จึงเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ เมษายน ๒๓ มกราคม ๒๔๗๒ ข้ ึนปี ใหม่เดือน เมษายน

เคร่อื งบินบรพิ ตั ร ๓๗

โซน ๔ รกั ษำอธิปไตย

๓๙ ความขดั แยง้ แผนท่ีการเสยี ดนิ แดนของไทย ในยุคล่าอาณานิคม (พ ศ ๒๔๓๐-๒๔๕๐) ประเทศไทยสูญเสีย ดินแดนใหแ้ ก่ฝรัง่ เศสถึง ๕ คร้ัง ทาใหร้ ฐั บาลไทยเสนอขอปรบั ปรุงเสน้ เขตแดน ระหว่างไทยกบั ฝรงั่ เศสหลายคร้งั รวมถึงเคร่ืองบนิ รบของฝรงั่ เศสไดบ้ ินล้าเสน้ เขต แดนไทย รฐั บาลไทยจงึ ประทว้ งไปยงั ฝรงั่ เศสแต่ฝรงั่ เศสไดส้ ่งเคร่ืองบิน มาตรวจ การณล์ ้าเขตแดนไทยอย่างต่อเน่ืองจนนาไปส่กู รณีพพิ าทอินโดจีนฝรงั่ เศส

เครอื่ งบินโจมตี วี ๙๓ คอรแ์ ซร์ ๔๐ เครอื่ งบนิ ขบั ไล่ ฮอวค์ ๓ ยุทธเวหาครง้ั แรกในกรณีพพิ าทอินโดจีนฝรงั ่ เศส เม่ือวันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๔๘๓ นายเรืออากาศตรี ศานิต นวลมณี ผู้บังคับบญั ชาหมวดบินท่ี ๑ ฝูงบินตรวจการณ์ กองบินน้อยผสม อุดรธานี พรอ้ มดว้ ย จ่าอากาศโท ประยูร สุกุมลจนั ทร์ (นักบิน)ทาหน้าที่ พลปื นหลังนาเคร่ืองบิน วี ๙๓ คอร์แซร์ เขา้ สกดั เครื่องบินโปเตส ๑ เคร่ือง และเครื่องบินโมราน ๕ เคร่ือง ของฝรงั่ เศสท่ีบินล้าเขตแดนไทยเขา้ มาทาง ทิศใตข้ องจงั หวดั นครพนม การต่อสูด้ าเนินไปอย่างดุเดือดและสามารถยิง เครื่องบินโมรานตก ๑ เครื่อง กระทงั่ กระสุนหมดจึงพยายามนาเคร่ืองบิน กลับโดยมีเครื่องบินขา้ ศึกไล่ตามอย่างกระช้นั ชิด พนั จ่าอากาศเอก ทองใบ พนั ธุ์สบาย และจ่าอากาศเอก นาม พุ่มรุ่งเรือง นาเครื่องบินขับไล่ ฮอวค์ ๓ เขา้ ชว่ ยเหลือกอ่ นที่การรบจะยุติลงโดยท่ีฝ่ ายไทยไม่ไดร้ บั อันตราย การสูร้ บ กลางอากาศคร้งั น้ ีถือเป็ นยุทธเวหาคร้งั แรกในประวตั ิศาสตรช์ าติไทย

๔๑ การยตุ กิ รณีพิพาทอินโดจนี ฝรงั ่ เศส ญ่ีป่ ุนได้เสนอตนต่อรัฐบาลไทย และรัฐบาล ฝรัง่ เศสขอเป็ นคนกลางเพื่อไกล่เกลี่ยกรณีพิพาทอินโดจีน เมื่อวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๔๘๔ ท้ังสองฝ่ ายจึงไดต้ ้ังคณะ ผูแ้ ทนข้ นึ สองคณะ คณะที่หนึ่งไปเจรจาทาความตกลงพกั รบ ท่ีอา่ วไซง่อน อีกคณะหนึ่งไปเจรจาสันติภาพ ณ กรุงโตเกียว การเจรจาตกลงกันได้ในสาระสาคัญเมื่อวันที่ ๖ มีนาคม ๒๔๘๔ โดยฝรัง่ เศสยอมยกดินแดนแขวงหลวงพระบาง ฝั่งขวาแม่น้าโขง แควน้ จาปาศกั ด์ิ และแควน้ เขมรใหแ้ ก่ไทย ความตกลงขอ้ น้ ีเป็ นท่ีพอใจของทุกฝ่ ายไทยทุกประการ

โซน ๕ น่ำนฟ้ำไทย จะมิใหใ้ ครยำ่ ยี

๔๓ “…ผใู้ ดสละชีวิตเป็ นชาติพลี เป็ นวีรชนผรู้ กั ชาตบิ า้ นเกิดเมืองนอนอยา่ งแทจ้ ริง และไดท้ าหนา้ ทข่ี องคนไทยอยา่ งสมบูรณค์ วรคา่ แก่การยกยอ่ งสรรเสริญเป็ นอยา่ งย่งิ ทุกคนจกั ตอ้ งรกั ษาเกียรติประวตั ิของผกู้ ลา้ หาญเหลา่ น้ ีไว้ และถอื เป็ นแบบฉบบั ในการปฏิบตั ิงานเพื่อประเทศชาตสิ ืบไป…” พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภมู ิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร รชั กาลท่ี ๙ พระบรมราโชวาทในพธิ ีพระราชทานปรญิ ญาบตั รมหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์ ณ หอประชุมวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ เม่ือวนั ที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๑๗

วีรชนในกรณีพิพาทอินโดจนี ฝรงั ่ เศส ๔๔ เหรียญกลา้ หาญ ดว้ ยในการที่กองทพั ไทยไดอ้ อกไปปฏิบตั ิหน้าท่ี เน่ืองในกรณีพิพาทระหว่างประเทศไทยกบั อินโดจีนฝรัง่ เศส บรรดาทหารและตารวจสนามบางนายไดท้ าการต่อสูก้ บั ราช ศตั รูอย่างสามารถ และดว้ ยกาลังในอนั เด็ดเด่ียวกล้าหาญ มิได้สยด สยอ งต่ อภยันตร ายใ ด ยอม สละ ชีวิต เพื่ อ ประเทศชาตินับเป็ นการกระทาอนั มีเกียรติและกลา้ หาญยงิ่ ราชกจิ จานุเบกษา วนั ท่ี ๒๙ กรกฎาคม ๒๔๘๔ วรี ชนในกรณีพพิ าทอินโดจนี ฝรงั ่ เศส

โซน ๖ พิทกั ษเ์ สรีภำพ

๔๖ เครอื่ งบินขบั ไล่ เอฟ๘เอฟ แบรเ์ คท เครื่องบินขบั ไลใ่ บพดั แบบสุดทา้ ยของกองทพั อากาศ ปี พ.ศ. ๒๔๙๔ กองทพั อากาศไดร้ บั มอบเครื่องบินขบั ไล่แบบ เอฟ ๘ เอฟ แบรเ์ คท จากรฐั บาลสหรฐั อเมริกาจานวน ๕๐ เครื่อง กาหนดแบบเป็ น “เครื่องบินขบั ไล่แบบ ๑๕ (บ.ข.๑๕)”ในเวลาต่อมาไดร้ บั เพ่ิมเติมเป็ นจานวนมากกว่า ๑๘๐ เคร่ือง เพ่ือปฏิบตั ิภารกิจในบทบาทป้องกนั ทางอากาศและโจมตีภาคพ้ ืนดิน กองทัพอากาศ เป็ นกองสุดทา้ ยในโลกที่ประจาการดว้ ยเครื่องบินขบั ไล่ แบรเ์ คท และเป็ นเครื่องบินขบั ไล่ใบพัดสุดท้ายของกองทัพอากาศโดยในปี พ.ศ. ๒๔๙๙ กองทัพอากาศเข้าสู่ ยุคเครื่องบินขบั ไล่ไอพน่ เมอื่ ไดร้ บั ความชว่ ยเหลือเคร่ืองบินขบั ไล่ไอพ่นแบบ เอฟ ๘๔จี ธนั เดอรเ์ จต็ มาปฏิบตั ิภารกจิ ทดแทน

๔๗ เคร่ืองบินขบั ไล่ เอฟ๘เอฟ แบรเ์ คท