Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การพิมพ์ดีดแบบสัมผัสในคอมพิวเตอร์

การพิมพ์ดีดแบบสัมผัสในคอมพิวเตอร์

Published by panyaponphrandkaew2545, 2019-12-17 09:40:45

Description: การพิมพ์ดีดแบบสัมผัสในคอมพิวเตอร์

Search

Read the Text Version

บทท่ี 1 พมิ พด์ ีดไทยเบือ้ งต้น ประวตั ิและความเป็ นมาเครื่องพมิ พด์ ดี เครื่องพมิ พด์ ดี เครอื่ งแรกเป็นแบบภาษาองั กฤษสรา้ งโดยวิศวกรชือ่ เฮนรี มิล ณ ประเทศองั กฤษ จดทะเบียนสทิ ธิบตั รเมือ่ พ.ศ. 2237 ในตอนแรกนนั้ แปน้ พิมพม์ ีถึง 7 แถว 84 ป่มุ ซ่ึงแปน้ พมิ พน์ ถี้ กู เรียกในปัจจุบนั วา่ แบบ 2 ชน้ั เน่ืองจากมแี ถวและป่มุ มากเป็น 2 เท่าของแป้นพิมพร์ ุน่ ปัจจบุ นั ทแี่ ต่ละป่มุ จะมี 2 ตวั อกั ษร ตอ่ มาไดม้ กี าร สรา้ งป่มุ Shift และรวมอกั ษร 2 ตวั ใหอ้ ย่ใู นป่มุ เดยี ว จงึ ทาใหแ้ ป้นพมิ พแ์ บบ 2 ชนั้ ไม่ไดร้ บั ความนิยมอีกตอ่ ไป ต่อมาไดม้ ีการคดิ คน้ เครอื่ งพิมพด์ ดี ไฟฟา้ โดยแป้นพิมพ์ จะคลา้ ยแป้นคียบ์ อรด์ มี Shift, Shift Lock, Alt มีตวั อกั ษรตวั พิมพใ์ หญ่ ตวั พมิ พเ์ ล็ก (ใชป้ ่มุ Shift ,Shift Lock ในภาษาองั กฤษ) มอี กั ษรสองแถว มปี ่มุ ลบ (CORRECT) ใน กรณีทพ่ี ิมพผ์ ดิ โดยจะใชห้ ลกั การ ใชเ้ ทปติดหมกึ ออกมาจากกระดาษ นายเอดวิน แมคฟารแ์ ลนด์ เลขานกุ ารส่วนพระองคข์ องสมเด็จกรมพระยาดารงราชานภุ าพ ดดั แปลงเคร่ืองพิมพด์ ีดภาษาองั กฤษเป็นเคร่อื งพิมพด์ ีดภาษาไทย แต่เนื่องจาก ภาษาไทยมีสระและวรรณยกุ ตม์ าก จึงตอ้ งใชเ้ ครือ่ งพิมพด์ ดี ทม่ี ีแปน้ มากกว่าชนิดอืน่ คือยหี่ อ้ สมิทพรเี มียร์ เมื่อ พ.ศ. 2438 ต่อมา หมอยอรช์ บี แมคฟารแ์ ลนด์ (พระอาจ วทิ ยาคม) ไดป้ รกึ ษาและคน้ ควา้ กบั พนกั งานบรษิ ัท 2 คนคอื นายสวสั ดิ์ มากประยรู และนายสวุ รรณประเสรฐิ เกษมณี (กิมเฮง) ใชเ้ วลา 7 ปี กส็ ามารถวางแป้นอกั ษรใหม่ สาเร็จ ใน พ.ศ. 2474 สามารถพมิ พไ์ ดถ้ นดั ท่ีสดุ และรวดเรว็ ทีส่ ดุ โดยใหช้ อ่ื วา่ แบบ “เกษมณี” และใชม้ าจนถงึ ปัจจบุ นั นี้ ตอ่ มามกี ารศึกษาพบว่า เครอ่ื งพิมพด์ ีดแบบ เกษมณียงั มีขอ้ บกพรอ่ ง จงึ มกี ารคดิ คน้ วธิ ีการพิมพแ์ บบใหมอกี แบบหนึ่งคือแบบ “ปัตตะโชต”ิ แต่อย่างไรกต็ ามการพิมพแ์ บบ ปัตตะโชติ กเ็ ป็นการทไ่ี มแ่ พรห่ ลายนกั

ถงึ แมว้ า่ สภาวจิ ยั แห่งชาติตรวจสอบแลว้ วา่ สามารถพิมพไ์ ดเ้ ร็วกวา่ แบบเกษมณี ประมาณ 25.8% ก็ตาม และปัจจบุ นั เครื่องพิมพด์ ีดทน่ี ยิ มใชก้ นั อย่เู ป็นแบบเกษมณี ดงั นนั้ การใชเ้ ครอ่ื งพมิ พด์ ีดจงึ เป็นเร่อื งทส่ี าคญั สาหรบั การทางานสานกั งานที่มี บทบาทและจาเป็นต่อการปฏบิ ตั งิ านในองคก์ รต่างๆ แตป่ ัจจบุ นั เมือ่ ความกา้ วหนา้ ทางเทคโนโลยีไดม้ กี ารเปลี่ยนแปลงและพฒั นามากขนึ้ คอมพิวเตอรจ์ งึ กลายมาเป็น เครอ่ื งใชส้ านกั งานท่ีมีบทบาทแทนทีเ่ ครื่องพิมพด์ ีด เพราะเครื่องคอมพวิ เตอรจ์ ะ สามารถนามาประยกุ ตใ์ ชใ้ นงานสานกั งานไดอ้ ย่างหลากหลายแลว้ ยงั มปี ระโยชนใ์ น ดา้ นอนื่ ๆ มากมาย เชน่ ใชใ้ นการคน้ หาขอ้ มลู การเรยี น ความบนั เทิง และงานบริการ ตา่ งๆ ทตี่ อ้ งการความรวดเร็ว รวมทงั้ การบนั ทกึ จดั เก็บขอ้ มลู เป็นจานวนมาก ดว้ ย ความสามารถ คณุ ลกั ษณะและประสทิ ธิภาพการของทางานดงั กลา่ ว เราจงึ ควร ศกึ ษาวธิ ีการใชเ้ พอื่ การติดต่อสื่อสารกบั เครอื่ งคอมพิวเตอรใ์ นการใชค้ าส่งั ใหท้ างาน ตามที่เราตอ้ งการไดส้ ะดวกและมีประโยชนม์ ากทีส่ ดุ (ฝ่ายวชิ าการ, 2546: 9) 1. พนื้ ฐานการพมิ พส์ ัมผัส ปัจจบุ นั ความกา้ วหนา้ ทางเทคโนโลยี ทาใหม้ กี ารพฒั นาคิดคน้ สิง่ อานวยความ สะดวกตอ่ การเนนิ ชวี ติ และคอมพิวเตอรก์ เ็ ป็นเทคโนโลยีประเภทหน่งึ ถกู สรา้ งขนึ้ มา มีความทนั สมยั และเหมาะกบั การนามาใชใ้ นสว่ นงานดา้ นตา่ งๆ มากมาย รวมถึงใน ทกุ วนั นกี้ ารทาหนงั สือราชการ รายงาน หรือเอกสารตา่ งๆ เรามกั นิยมใชค้ อมพิวเตอร์ เขา้ มาช่วยในการพิมพง์ านแทนการเขียนดว้ ยมือเพราะทาใหเ้ อกสารหรืองานทท่ี าอา่ น งา่ ย สะอาด สะดวก เรียบรอ้ ยและสวยงาม การการพมิ พส์ มั ผสั เป็นทกั ษะท่ีสาคญั อย่างยง่ิ ในการทางานบนคอมพวิ เตอร์ เนือ่ งจากปัจจบุ นั คอมพิวเตอรก์ ลายเป็น อปุ กรณท์ ี่สาคญั ของสานกั งาน และสถานศกึ ษาท่วั ไป ดงั นน้ั ทกั ษะการพมิ พส์ มั ผสั บนคอมพวิ เตอร์ จงึ เป็นทกั ษะทท่ี กุ คน ในสมยั นีย้ ากจะปฏเิ สธได้ และเพื่อใหผ้ เู้ รียน

สามารถพฒั นาตนเองดา้ นการพมิ พไ์ ดส้ ะดวกทกุ ท่ี ทกุ เวลา ผเู้ รียนตอ้ งหม่นั ฝึกฝน และฝึกพมิ พอ์ ย่เู สมอ การปฏิบตั งิ านในสานกั งาน หรอื หน่วยงานองคก์ ารต่างๆ จะเก่ยี วขอ้ งกบั งานเอกสาร เป็นส่วนใหญ่ เชน่ จดหมาย วารสาร รายงานการประชมุ รายงานผลการปฏิบตั ิงาน ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานทางธุรกิจ หนว่ ยงานราชการ สถานศกึ ษา และวดั ตา่ ง ๆ ฯลฯ จาเป็นจะตอ้ งมกี ารประชมุ และสรุปผลการทางาน การตดิ ตอ่ สอ่ื สารกบั บคุ คลภายนอกในรูปจดหมายและวารสารอื่น ๆ ในการแจง้ ข่าวสารขอ้ มลู ใหท้ ราบโดย ท่วั กนั การตดิ ต่อสื่อสารเหลา่ นจี้ ะตอ้ งอาศยั เอกสารหลกั ฐานท่มี คี วามถกู ตอ้ ง เป็น ระเบียบเรยี บรอ้ ย อ่านง่าย ชดั เจน เพื่อใหเ้ ขา้ ใจขอ้ ความตรงกนั ทงั้ ผรู้ บั และผสู้ ่ง ขอ้ มลู ขา่ วสารท่ใี ชใ้ นการติดต่อ สอื่ สาร ควรจะตอ้ งพิมพเ์ พ่อื สะดวกในการอา่ น ฉะนนั้ การพมิ พจ์ ึงมีความจาเป็นและสาคญั ต่อการปฏิบตั ิงานสานกั งานทกุ หนว่ ยงาน เพราะ การพมิ พจ์ ะทาใหเ้ อกสาร นา่ อา่ น ชดั เจน เป็นระเบยี บเรียบรอ้ ย โดยไมต่ อ้ งเดา ลายมอื ผเู้ ขียน เนือ่ งจากก่อนที่จะพมิ พจ์ ะตอ้ งมกี ารรา่ งดว้ ยลายมอื และลายมอื ของ แตล่ ะคนจะแตกตา่ งกนั บางคนอา่ นงา่ ย บางคนอา่ นยาก บางครง้ั อาจจะเดาขอ้ ความ ผดิ พลาดจากเนอื้ หาเดิมได้ จงึ จาเป็นตอ้ งพมิ พแ์ ละผทู้ ี่จะปฏิบตั ิงานสานกั งานดว้ ย การพิมพท์ ด่ี นี น้ั จะตอ้ งมีสมาธิในการทางาน เพราะการมีสมาธิจะชว่ ยทาใหเ้ กดิ ความ ถกู ตอ้ งแมน่ ยาในการพมิ พม์ ากขนึ้ การพมิ พด์ ีดที่มีความแม่นยาและรวดเร็วดว้ ย วิธีการพมิ พส์ มั ผสั ซงึ่ การพมิ พส์ มั ผสั จะเป็นพนื้ ฐานการพิมพง์ านดว้ ยเครือ่ ง คอมพวิ เตอร์ ไดด้ มี ปี ระสทิ ธภิ าพมากกวา่ การพิมพอ์ กั ษรทีละตวั ในกรณีท่ผี พู้ ิมพ์ ไม่ไดฝ้ ึกพิมพด์ ว้ ยการพิมพด์ ีดสมั ผสั อย่างแมน่ ยามากอ่ น จะทาใหก้ ารพิมพง์ านดว้ ย เครือ่ งคอมพวิ เตอรข์ าดประสทิ ธิภาพได้ ความหมายการพิมพส์ มั ผสั

การพิมพเ์ อกสารดว้ ยวธิ ีพมิ พส์ มั ผสั เป็นการฝึกใชน้ วิ้ มือเพอื่ พมิ พอ์ ยา่ งมีแบบแผนวา่ ควรใช้ นิว้ ไหนพมิ พแ์ ป้นพิมพอ์ ะไร โดยคานงึ ถึงความสมั พนั ธข์ องการกา้ วนิว้ ไปยงั แป้นต่าง ๆ เป็นสาคญั ทงั้ นี้ เพ่อื ทาใหก้ ลา้ มเนอื้ ทกุ ส่วนใชง้ านไดอ้ ย่างเหมาะสมตาม ลกั ษณะกายภาพของนวิ้ มือ และเมอื่ มกี ารฝึกฝนอย่เู ป็นประจา สมองจะจดจาการ สมั ผสั จนสามารถกา้ วนวิ้ เพือ่ พมิ พแ์ ต่ละแป้นไดเ้ องโดยอตั โนมตั ิ โดย ไมจ่ าเป็นตอ้ ง กม้ มองทแ่ี ป้นพิมพ์ หรอื จมิ้ ดดี แป้นพิมพท์ ีละตวั สง่ ผลใหผ้ ฝู้ ึกฝนเกิดความชานาญ สามารถพิมพง์ านหรอื ขอ้ มลู ไดอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพ ทงั้ ในดา้ นความถกู ตอ้ ง ความ รวดเรว็ และความแม่นยา และในการฝึกทกั ษะการพิมพด์ ว้ ยวิธีสมั ผสั บนแปน้ พมิ พ์ นน้ั ผฝู้ ึกตอ้ งปลกู ฝังตนเองใหเ้ กดิ ทกั ษะทดี่ ีในการพมิ พต์ งั้ แตท่ กั ษะพนื้ ฐาน ตงั้ แตท่ า่ น่งั พมิ พ์ ลกั ษณะการวางนวิ้ การขนึ้ บรรทดั ใหม่ การเคาะวรรค การเคาะแท็บ การกด แป้นอกั ษรบน (Shift) รวมถึงการสลบั ภาษาของแปน้ พมิ พ์ และเม่อื หม่นั ฝึกฝนจนติด เป็นนิสยั จะทาใหส้ ามารถใชแ้ ปน้ พมิ พเ์ พอื่ พิมพง์ านหรือป้อนขอ้ มลู ไดอ้ ย่างมี ประสิทธิภาพ สมบรู ณ์ แซ่เจ็ง (2554: ออนไลน์ เขา้ ถงึ ขอ้ มลู ไดท้ ่ี https://www.gotoknow. org/posts/419253) กลา่ วถึงความหมายของ “การพมิ พส์ มั ผสั ” การพมิ พส์ มั ผสั (touch typing) หมายถึงการพิมพด์ ว้ ยนวิ้ มือทงั้ หมดโดยไม่มองแปน้ อกั ษร ซ่ึงเป็น ทกั ษะทตี่ อ้ งผา่ นการฝึกฝนเพ่อื ใหผ้ พู้ ิมพส์ ามารถอ่านตน้ ฉบบั และพมิ พต์ ามไดไ้ ป พรอ้ มๆกนั โดยไมเ่ หลยี วมองแปน้ อกั ษร การพิมพส์ มั ผสั จึงเป็นการฝึกทกั ษะการใช้ แปน้ พมิ พค์ อมพิวเตอร์ (Keyboarding Skill) หมายถงึ ทกั ษะการปอ้ นขอ้ มลู เขา้ สู่ คอมพิวเตอรโ์ ดยวิธีพิมพส์ มั ผสั (Touch Typing) ผ่านแป้นพิมพท์ ม่ี ีลกั ษณะคลา้ ย แปน้ พมิ พด์ ีด ซง่ึ ทกั ษะนเี้ กดิ จากการส่งั การของสมอง ทาใหเ้ กดิ การตอบสนองของ กลา้ มเนอื้ เล็กอย่างประสานกนั ของตาและมือในการกา้ วนวิ้ ไปเคาะแปน้ อกั ษรท่ี ตอ้ งการไดอ้ ย่างรวดเร็วและแมน่ ยา

ดงั นนั้ การพิมพส์ มั ผสั หมายถงึ การใชน้ วิ้ มือทงั้ 10 นวิ้ พมิ พด์ ดี โดยไมม่ องแปน้ ใช้ นิว้ กอ้ ย นวิ้ นาง นวิ้ กลาง และนวิ้ ชี้ ทงั้ มือซา้ ย และมือขวา วางบนแป้นพิมพ์ สว่ น นวิ้ หวั แม่มอื ใชเ้ คาะคานวรรค และสายตามองทแ่ี บบพมิ พ์ ขอ้ ความท่ีตอ้ งการพมิ พ์ หรือจอภาพ (คอมพวิ เตอร)์ ขนั้ ตอนการพมิ พส์ ัมผัส การฝึกพิมพแ์ ปน้ อกั ษร ในการเคาะแป้นอกั ษรแต่ละแปน้ นนั้ ใหอ้ อกเสยี งไปพรอ้ มกบั การเคาะแปน้ อกั ษรเป็นจงั หวะที่เฉียบคม เด็ดขาดและรวดเร็ว ดว้ ยปลายนวิ้ จกิ งมุ้ ตรง ๆ บนแปน้ อกั ษร อย่าใชห้ นา้ นวิ้ พิมพ์ เมื่อเคาะแปน้ อกั ษรแลว้ ใหด้ ึงนวิ้ กลบั ไปวางไวท้ ี่ แป้นเหยา้ ทกุ นิว้ ดงั เดิม โดยขานนาอกั ษร แป้นเหยา้ ก่อนแลว้ จงึ ขนึ้ แปน้ อกั ษรใหม่ ทงั้ ผสู้ อนและผเู้ รียนจะออกเสยี งพรอ้ มกนั โดยผสู้ อนอาจจะเคาะจงั หวะไปพรอ้ ม ๆ กนั ส่วนผเู้ รียนเคาะแปน้ อกั ษรตามที่ออก เสียง ใหอ้ อกเสียงดงั พรอ้ มกนั ทงั้ หอ้ ง การฝึกพิมพโ์ ดยออกเสียงไปพรอ้ มกนั จะ สามารถทาใหผ้ เู้ รียนพมิ พไ์ ดถ้ กู ตอ้ งและจาแป้นไดแ้ ม่นยา ทงั้ ยงั เป็นการสรา้ ง บรรยากาศ ในการเรียนใหม้ ีความสนกุ สนานและตน่ื ตวั อย่เู สมอในการฝึกพิมพ์ โดยเฉพาะอยา่ งย่งิ ถา้ ผสู้ อนไดเ้ คาะจงั หวะพรอ้ มออกเสียงไปพรอ้ ม ๆ ดว้ ย จะชว่ ยให้ ผเู้ รียนเพิ่มความสนใจและตงั้ ใจพิมพม์ ากขนึ้ การฝึกพมิ พใ์ นระยะเรมิ่ แรก ส่ิงทผ่ี เู้ รยี นจะตอ้ งสนใจและเอาใจใสใ่ นคาตกั เตือนและ คาสอนจากผสู้ อนใหม้ ากเก่ยี วกบั ท่าน่งั พิมพท์ ี่ถกู ตอ้ ง คอื 1. น่งั ตวั ตรง คอตงั้ หลงั ไมง่ อ ไม่ไขว่หา้ ง ปล่อยแขนตามสบายไม่ตอ้ งเกรง็ ขอ้ ศอก การเรียนพิมพด์ ดี ไม่วา่ จะดว้ ยเครอื่ งพิมพด์ ดี ธรรมดาหรือเครือ่ งคอมพิวเตอร์ ไม่ใชเ่ รอ่ื งงา่ ยอยา่ งท่หี ลายคนเขา้ ใจ เพราะผพู้ ิมพอ์ าจใชเ้ วลาอย่หู นา้ เครอื่ งพมิ พด์ ีด เป็นเวลาหลายช่วั โมง ฉะนน้ั ทา่ น่งั ท่ถี กู วธิ ีจงึ มคี วามสาคญั เป็นอยา่ งมาก คอื จะตอ้ ง

น่งั ตวั ตรง หลงั ไม่งอ ขอ้ ศอกไม่กางและหา่ งจากเครอื่ งพอสมควร หากผดิ จากนถี้ ือเป็น การน่งั ที่ผิดวธิ ีและฝืนหลกั การพิมพเ์ ร็ว อาจทาใหม้ ีอาการปวดบรเิ วณหนา้ อก หลงั และลาคอได้ 2. เทา้ วางราบกบั พนื้ ทงั้ 2 ขา้ ง เทา้ ชดิ กนั หรือเทา้ ขา้ งใดขา้ งหนง่ึ วางเยอื้ งไป ขา้ งหนา้ เลก็ นอ้ ย เพื่อชว่ ยในการทรงตวั ทด่ี ใี นการน่งั 3. น่งั ใหเ้ ต็มกน้ หลงั และสะโพกชิดพนกั เกา้ อี้ 4. ขอ้ ศอกแนบลาตวั ขอ้ มอื ขนานกบั ขอบเครื่อง ขอ้ มือไม่ตกติดชิดขอบเครอื่ ง ไมว่ างขอ้ มือทาบกบั เครอ่ื ง 5. การวางเอกสาร หรือ หนงั สือ เอกสารหรอื สงิ่ ทีต่ อ้ งการพมิ พค์ วรวางไวด้ า้ น ขวามอื เสมอ และอยา่ ใหก้ ดี ขวางการเคล่ือนของแครพ่ ิมพ์ หรืออปุ กรณก์ ารพมิ พอ์ ่ืน ๆ 6. การวางนวิ้ ปลายนวิ้ มืองมุ้ เคาะตรง ๆ บนแป้นอกั ษร เมื่อเร่มิ พมิ พใ์ หจ้ ด ปลายนวิ้ กบั แป้นอกั ษร ทงั้ นจี้ ะไมใ่ ชต้ ่มุ เนอื้ แตจ่ ะถา่ ยเทนา้ หนกั หรือกาลงั ไปอยทู่ ี่ บรเิ วณปลายนวิ้ จากนนั้ ใหด้ ีดหรือเคาะลงบนแปน้ อกั ษรเบา ๆ น่มุ นวล เป็นจงั หวะ เหมือนอยา่ งเคาะคอ้ นที่มีสปริง จากนนั้ ยกนวิ้ ท่ีเคาะขนึ้ อยา่ งรวดเรว็ เหมือนแปน้ อกั ษรรอ้ นเป็นไฟ ซึ่งไม่ใชก่ ารกดนวิ้ ลงไปเฉย ๆ หรอื จมิ้ นวิ้ ตามลงไป ตอ้ งระวงั ยกแต่ นวิ้ ท่ีตอ้ งการดีดเทา่ นนั้ สว่ นขอ้ มือใหโ้ หยง่ ๆ อย่าปล่อยใหพ้ าดลงไปท่ขี อบพิมพด์ ีด ซ่ึงเม่ือวางนวิ้ และมือถกู ตอ้ งแลว้ จะเหน็ ไดว้ ่านวิ้ ชซี้ า้ ยกบั นวิ้ ชขี้ วาขนานกนั พอดี 7. การวางมือ การกา้ วนวิ้ การเคาะคานเวน้ วรรค และการวางแบบพิมพอ์ กั ษร เป็นอกี สิ่งหนงึ่ ที่จะตอ้ งปฏิบตั ิใหถ้ กู วธิ ีกล่าวคอื วางตาแหน่งของนวิ้ มอื ทงั้ สองขา้ งลง บนแปน้ อกั ษรแถวทส่ี อง นบั จากล่างขนึ้ ไป โดยนิว้ กอ้ ยซา้ ยอย่บู นแป้นอกั ษร ฟ นวิ้ กอ้ ยขวาอยบู่ นแป้นอกั ษร ว สว่ นนวิ้ อ่ืน ๆ ใหเ้ รียงตามลาดบั ไปและนวิ้ หวั แมม่ อื

ทงั้ สองขา้ งใหว้ างอย่บู นคานเวน้ วรรค สาหรบั การเคาะคานเวน้ วรรคใหใ้ ช้ นวิ้ หวั แมม่ อื ขวาเทา่ นน้ั เมอ่ื อยใู่ นท่าเตรยี มพิมพใ์ หง้ อนวิ้ ทกุ ๆ นวิ้ ไวเ้ สมอ โดย กาหนดใหป้ ลายนวิ้ ส่วนที่ตดิ กบั เล็บนนั้ จดแป้นอกั ษร ดงั นน้ั ผทู้ ต่ี งั้ ใจจะฝึกพิมพ์ สมั ผสั ใหไ้ ดด้ ีจึงไม่ควรไวเ้ ลบ็ ยาว 8. สายตา จงจาไวเ้ สมอว่าในการฝึกพมิ พส์ มั ผสั อยา่ ท่องจาแลว้ พิมพ์ พิมพ์ จบประโยคหนั กลบั มาดบู ทความแลว้ กลบั ไปพมิ พใ์ หม่ หรือตากบั ใจไมส่ มั พนั ธก์ นั หว่ งพะวงกบั คาผิด ซ่ึงจะทาใหก้ ารฝึกพิมพไ์ ม่กา้ วหนา้ ขอ้ แนะนาในสว่ นนคี้ อื ผฝู้ ึก พิมพส์ มั ผสั จะตอ้ งมสี มาธิ ตาจบั อยทู่ ีบ่ ทความที่ตอ้ งการพมิ พเ์ ท่านน้ั กล่าวคือตอ้ ง มคี วามสมั พนั ธก์ นั ใน 3 องคป์ ระกอบ ไดแ้ ก่ จิต ตา และมอื คือผฝู้ ึกพมิ พจ์ ะตอ้ งมี จิตใจจดจ่ออย่กู บั การพิมพ์ สายตาจบั อย่ทู ่ตี วั หนงั สือ และเคลอ่ื นไหวมอื อยา่ ง ตอ่ เน่ืองทีส่ าคญั คือ สายตาของผเู้ รียนจะตอ้ งอย่ทู ่แี บบพมิ พไ์ ม่มองแป้นอกั ษรใน เครือ่ งพิมพใ์ นการพมิ พส์ มั ผสั จะตอ้ งเรม่ิ ตน้ ดว้ ยการวางนวิ้ บนแป้นพิมพใ์ หถ้ กู ตอ้ ง ทักษะพิมพส์ มั ผัส (สมบรู ณ์ แซ่เจ็ง, 2554: ออนไลน์ เขา้ ถงึ ขอ้ มลู ไดท้ ี่ https://www.gotoknow. org/posts/419257) กลา่ วถงึ วธิ ีการพมิ พส์ มั ผสั แบบการสอนตามแนวผสม (Skip around Method) เป็นวิธีสอนแปน้ อกั ษรที่ไดร้ บั ความนิยมมาจนถึงปัจจบุ นั โดยเป็น การสอนจากแป้นเหยา้ กอ่ น เมื่อสอนแป้นเหยา้ หมดแลว้ จึงสอนแปน้ อนื่ ต่อโดยใชแ้ ป้น เหยา้ เป็นหลกั ในการผสมคากบั แปน้ ใหม่โดยถือหลกั การว่า 1. ตอ้ งสอนแปน้ ทพ่ี มิ พง์ ่ายผสมไปกบั แป้นที่พิมพย์ าก 2. แป้นทพ่ี ิมพด์ ว้ ยนวิ้ มอื ซา้ ยผสมกบั แปน้ ทพี่ ิมพด์ ว้ ยนวิ้ มอื ขวา

3. แป้นที่พิมพด์ ว้ ยนวิ้ ทีแ่ ขง็ แรง (นิว้ ชี้ นวิ้ กลาง) ผสมกบั แปน้ ทีพ่ ิมพด์ ว้ ยนวิ้ ท่ี อ่อนแอ (นิว้ นาง นวิ้ กอ้ ย) 4. ตอ้ งสอนแป้นในแถวท่ี 3 (เหนอื แถวแป้นเหยา้ ) ผสมกบั แปน้ ในแถวที่ 1 (ใต้ แถวแปน้ เหยา้ ) การสอนตามวิธีนจี้ ะชว่ ยใหผ้ เู้ รยี นรูส้ กึ ม่นั ใจในการกา้ วนวิ้ ผสู้ อนสามารถสรา้ ง แบบฝึกหดั ทผ่ี สมคาหรือวลที ม่ี ีความหมายไดง้ า่ ยตงั้ แต่ช่วั โมงตน้ ๆ ของการเรียน ชว่ ย ใหเ้ รียนรูไ้ ดเ้ ร็วขนึ้ นอกจากนีย้ งั สามารถสรา้ งคาเพอื่ เนน้ ฝึกเฉพาะทกั ษะทตี่ อ้ งการได้ เช่น การฝึกเฉพาะนวิ้ ที่แข็งแรงหรือนวิ้ ที่ออ่ นแอ การฝึกพมิ พอ์ ย่างสมดลุ กนั ระหวา่ ง มือสองขา้ ง หรือการฝึกเนน้ อกั ษรบน เป็นตน้ แตค่ รูตอ้ งคานงึ ถงึ การพฒั นาทกั ษะให้ ครบทงั้ 3 ดา้ น คอื การพฒั นาเทคนิคการพมิ พท์ ถ่ี กู ตอ้ ง การพฒั นาความเรว็ และการ พฒั นาความแม่นยา ซ่งึ การพฒั นาเทคนคิ การพมิ พท์ ีถ่ ูกตอ้ ง ในการฝึกพมิ พส์ มั ผสั นนั้ พนื้ ฐานสาคญั อนั ดบั แรกกค็ อื เทคนิคการพมิ พท์ ถ่ี กู ตอ้ ง (Correct Technique ) ไดแ้ ก่ ทา่ น่งั การวางนิว้ การเคาะแป้นอกั ษร การใชส้ ายตา โดยการใหผ้ เู้ รียนน่งั ตวั ตรง หลงั พิงพนักเกา้ อี้ เทา้ วางราบกบั พนื้ ปลายเทา้ เยอื้ งกนั เลก็ นอ้ ย สายตามองทตี่ น้ ฉบบั หรอื จอภาพ ปลอ่ ยแขนขา้ งลาตวั ตามสบาย ใหข้ อ้ มือ ตา่ องุ้ มือไมเ่ ทา้ ขอบโต๊ะ ดงั ภาพ ภาพที่ 1 ท่าน่ังที่ถูกวิธีในการฝึ กพิมพส์ มั ผัส

ภาพที่ 2 ผงั การใชน้ วิ้ พิมพแ์ บบสมั ผัสแบบเกษมณี จากภาพท่ี 2 แป้นพิมพท์ ่นี ยิ มใชใ้ นปัจจบุ นั รูปนเี้ ป็นแป้นคียบ์ อรด์ แบบเกษมณี แบ่ง ตาแหนง่ การใชน้ วิ้ ตามสที ่ีกาหนด ดงั ตอ่ ไปนี้ สีแดง - นวิ้ กอ้ ยซา้ ย สีเขยี ว - นวิ้ นางซา้ ย สฟี า้ - นวิ้ กลางซา้ ย สีชมพู - นวิ้ ชซี้ า้ ย สเี หลอื ง - นวิ้ ชีข้ วา

สีสม้ - นวิ้ กลางขวา สีเทา - นวิ้ นางขวา สีนา้ เงนิ – นวิ้ กอ้ ยขวา สาหรบั การวางนวิ้ มอื ใหข้ อ้ มอื ต่าแต่องุ้ มอื ไม่เทา้ ขอบโตะ๊ งอนวิ้ โคง้ ปลายนวิ้ แตะบน แป้นเหยา้ (Home row) เบาๆ แต่ละนวิ้ ใหว้ างอย่ใู นตาแหน่งแปน้ เหยา้ ท่ีถกู ตอ้ ง นวิ้ หวั แมม่ ือทงั้ สองแตะทค่ี านเวน้ วรรค (Spacebar) ใชน้ วิ้ กอ้ ยขวาเคาะป่มุ Enter ดงั ภาพ ภาพท่ี 3 การวางนวิ้ มือในการพิมพส์ ัมผัส การพิมพพ์ มิ พส์ มั ผสั บนอกั ษรแป้นเหยา้ (Home Keys) ฟ ห ก ด่ า ส ว หมายถงึ แป้น อกั ษรซึ่งใชเ้ ป็นทพ่ี กั นิว้ มอื ระหวา่ งพมิ พ์ ไม่วา่ นวิ้ ใดจะกา้ วไปพมิ พต์ วั ไหนก็ตาม เม่ือ เคาะแปน้ อกั ษรที่ตอ้ งการเสรจ็ แลว้ จะตอ้ งชกั นวิ้ นน้ั กลบั มาไวบ้ นตาแหนง่ เหยา้ ของ มนั ทนั ที และการเคาะเวน้ วรรคแต่ละครงั้ ใหใ้ ชน้ วิ้ หวั แม่มือขวาเท่านน้ั

ประโยชนข์ องการพิมพส์ ัมผัส การพมิ พด์ ีดดว้ ยวธิ ีการพิมพส์ มั ผสั เป็นลกั ษณะการพมิ พท์ ถ่ี กู วธิ ี ทาให้ กลา้ มเนอื้ นวิ้ ทกุ นิว้ ไดใ้ ชง้ านอยา่ งเหมาะสม สม่าเสมอ ตามสภาพของลกั ษณะนวิ้ มอื การพมิ พส์ มั ผสั จะสามารถทาใหพ้ ิมพง์ านไดถ้ กู ตอ้ ง รวดเรว็ กว่าการเคาะแป้นอกั ษรที ละตวั เพราะจะเสียพลงั งานมากกวา่ และออกแรงเคาะแปน้ อกั ษรแรงกว่าการพิมพ์ สมั ผสั และทาใหเ้ กดิ การเกร็งตวั ของกลา้ มเนอื้ ไดง้ า่ ย อาจทาใหเ้ มอ่ื ยลา้ และพิมพง์ าน ไดไ้ มน่ าน ดงั นนั้ ทกั ษะการพมิ พส์ มั ผสั บนคอมพวิ เตอรจ์ งึ เป็นทกั ษะท่ที กุ คนในยคุ ปัจจบุ นั นยี้ าก จะปฏเิ สธได้ เพอ่ื ใหเ้ กิดการพฒั นาท่ถี กู ตอ้ งเก่ยี วกบั การพมิ พส์ มั ผสั (Typing Training) ผเู้ รยี นสามารถพฒั นาตนเองดา้ นการพมิ พไ์ ดจ้ นเกดิ ความชานาญ ก็จะถอื ไดว้ า่ เป็นอกี ความสาเร็จขนั้ หนึง่ เลยกว็ ่าได้ การแนะนาการพิมพส์ มั ผสั ไมว่ า่ จะเป็น การพิมพ์ เทคนิคการพิมพส์ มั ผสั พิมพส์ มั ผสั ภาษาไทย ภาษาองั กฤษ วธิ ีการทา อย่างไร เราจะพิมพส์ มั ผสั ไดอ้ ย่างรวดเรว็ และถกู ตอ้ งแมน่ ยา มีดงั นี้ 1. การฝึกตนเองใหจ้ ติ ใจเกดิ ความสงบ คอื ไม่สนใจสิ่งรอบขา้ ง และมสี มาธิและ พิจารณาเฉพาะตวั อกั ษรทอ่ี ยบู่ นแผ่นกระดาษ แลว้ ฟังเสียงของครูทส่ี ่งั ใหพ้ ิมพเ์ ท่านน้ั 2. การฝึกใหจ้ ิตใจปราศจากอคติ มคี วามอดทน คอื มีความเชอื่ ม่นั ในตนเองวา่ การใชน้ วิ้ ทผี่ ดิ จะทาให้ ไม่สามารถพฒั นาทกั ษะการพิมพด์ ดี ได้ จะตอ้ งพยายามใชน้ ิว้ หรือกา้ วนวิ้ ไปสมั ผสั แปน้ อกั ษรของตนเองไม่รบี รอ้ น 3. สามารถรูเ้ ท่าทนั ตนเอง คอื รูว้ า่ ในขณะท่ตี นเองเคาะแป้นพิมพด์ ีดนน้ั กาลงั ใชน้ วิ้ อะไรและเป็นนวิ้ ท่ถี กู ตอ้ งพิมพโ์ ดยไม่ตอ้ งมองแป้นตาดแู ผ่นภาพตวั แบบพมิ พ์ เท่านน้ั

4. รูจ้ กั ระงบั ความโกรธ คอื ไมโ่ มโห หรอื โกรธตนเองเม่อื ใชน้ วิ้ เคาะ แปน้ พมิ พด์ ดี และไมโ่ กรธเมื่อพิมพไ์ มท่ นั หรือชา้ กว่าคนอน่ื สื่อและอปุ กรณ์ ในการเรยี นการสอนนน้ั ส่ิงทสี่ าคญั ทีส่ ดุ เพอื่ ใหก้ ารเรียนการสอนเกดิ ผลสมั ฤทธิ์ตาม วตั ถปุ ระสงคท์ ่ีตงั้ ไว้ คอื การเตรยี มความพรอ้ มของส่อื และอปุ กรณท์ ช่ี ว่ ยในการเรียน การสอน ที่ตอ้ งมคี วามพรอ้ ม เพราะส่ิงเหลา่ นเี้ ป็นปัจจยั สาคญั ของการพฒั นาทกั ษะ การพมิ พส์ มั ผสั อย่างนอ้ ยภายในหอ้ งเรยี นควรมีส่อื และอปุ กรณด์ งั นี้ 1. เครือ่ งไมโครคอมพิวเตอรเ์ ท่าจานวนผเู้ รียน ตอ้ งมีแปน้ พิมพท์ ส่ี มบรู ณไ์ ม่ชารุด 2. โปรแกรมสาหรบั ฝึกพิมพต์ ดิ ตงั้ พรอ้ มอย่ใู นคอมพิวเตอร์ ซ่ึงครูอาจเลอื กใหผ้ เู้ รยี น ฝึกดว้ ยโปรแกรมคอมพิวเตอรช์ ่วยสอน เช่น โปรแกรม พิมพ์ 2000 โปรแกรม BCC Typing tutorโปรแกรมดวงจนั ทร์ โปรแกรม Thai Typing Tutor โปรแกรม Suandusit Typing Tutor โปรแกรม Hudpim Typing Tutor โปรแกรม Pimsi Typing Tutor หรอื โปรแกรมอ่ืน ท่เี หน็ วา่ เหมาะสม นอกจากนีอ้ าจใหฝ้ ึกดว้ ยโปรแกรมประมวลผลคา (word processor) เชน่ โปรแกรม Notepad โปรแกรม WordPad โปรแกรม MS. Word โปรแกรม RW. Word (ราชวิถี) หรอื โปรแกรม CU. Writer (Word จฬุ า) ก็ได้ โดยวิธีฝึกพมิ พต์ ามแบบฝึกหดั ทผ่ี สู้ อนเตรียมไวใ้ ห้ ทงั้ นีก้ ารใชโ้ ปรแกรมฝึกพมิ พอ์ าจใชแ้ บบผสมผสานกนั ได้ เชน่ ใหผ้ เู้ รยี นเรม่ิ ฝึกจาก โปรแกรมคอมพวิ เตอรช์ ว่ ยสอนก่อน เมือ่ เริ่มพิมพไ์ ดแ้ ลว้ จึงใหฝ้ ึกพมิ พท์ บทวนดว้ ย โปรแกรมประมวลผลคาก็ได้ 3. โตะ๊ วางคอมพิวเตอรท์ มี่ ีขนาดเหมาะกบั สรรี ะของผเู้ รียน 4. เกา้ อนี้ ่งั ท่ีมพี นกั พงิ มีความสงู เหมาะกบั สรีระของผเู้ รยี น

สาหรบั ขอ้ 3 และ 4 นน้ั ถือเป็นเร่ืองทสี่ าคญั เพราะการเลือกโตะ๊ หรอื เกา้ อนี้ ่งั ทไี่ ม่ เหมาะสมกบั ผเู้ รียนวยั ประถมศกึ ษา อาจส่งผลตอ่ สขุ ภาพของผเู้ รียนได้ เนอ่ื งจากมี งานวิจยั ในตา่ งประเทศทพี่ บว่า โตะ๊ เกา้ อที้ ใี่ ชน้ ่งั เรยี นคอมพิวเตอรท์ ่ีไม่เหมาะสมกบั เด็กประถมฯ สามารถสง่ ผลใหก้ ระดกู และเสน้ ประสาทของผเู้ รียนเกดิ อนั ตรายได้ โดยเฉพาะในประเทศไทยนนั้ มกั พบว่ามโี รงเรียนไมน่ อ้ ยทีใ่ หผ้ เู้ รยี นน่งั เรียนบนเกา้ อที้ ี่ ไมม่ พี นกั พงิ ซ่ึงอาจสง่ ผลอนั ตรายตอ่ กระดกู สนั หลงั ในระยะยาวได้ ผสู้ อนจงึ ควร ตระหนกั ในประเด็นนใี้ หม้ าก 5. แผนภมู แิ สดงแป้นอกั ษร ทงั้ แผนภมู ิขนาดใหญต่ ิดหนา้ ชน้ั เรยี น และขนาดเล็กตดิ ประจาโตะ๊ ของผเู้ รียน 6. แผนภาพทา่ น่งั พมิ พ์ ทงั้ แผนภาพขนาดใหญ่ติดหนา้ ชนั้ เรยี น และขนาดเลก็ ตดิ ประจาโต๊ะของผเู้ รยี น 7. แบบฝึกพมิ พ์ ท่สี รา้ งขนึ้ อยา่ งถกู ตอ้ งตามหลกั จิตวทิ ยาการพัฒนาทกั ษะการพิมพ์ 8. นาฬกิ าจบั เวลา 9. แบบบนั ทึกความกา้ วหนา้ ในการพมิ พ์ ซง่ึ ครูสามารถสรา้ งขึน้ ไดเ้ อง 10. แบบบนั ทกึ พฤติกรรมการพมิ พ์ ใชบ้ นั ทึกผลการสงั เกตเทคนคิ การพิมพข์ องผเู้ รียน 11. แบบทดสอบ ใชท้ ดสอบพิมพจ์ บั เวลา 2. แป้นเหย้า แป้นเหยา้ คอื แป้นอกั ษรแถวที่ 2 นบั จากแถวลา่ ง แป้นเหยา้ เปรยี บเสมอื น บา้ นหรือที่พกั นิว้ ในระหวา่ งการพมิ พ์ การสบื นิว้ ไปยงั อกั ษรใดกต็ าม ใหร้ ีบสืบนวิ้ กลบั มาไวท้ แี่ ป้นเหยา้ โดยเร็ว ผเู้ รยี นจะตอ้ งพยายามฝึกพิมพอ์ กั ษรแป้นเหยา้ ใหเ้ กดิ ความชานาญ โดยวิธีพิมพส์ มั ผสั พรอ้ มทงั้ ฝึกเคาะคานเวน้ วรรคใหถ้ กู ตอ้ ง ดังภาพ

ภาพท่ี 4 ลักษณะการวางนวิ้ มือ ดงั นนั้ แป้นพิมพเ์ หยา้ คอื แปน้ พมิ พท์ เี่ ป็นพนื้ ฐานหรอื แป้นหลกั ในการพิมพต์ วั อกั ษร แถวอ่ืนๆ ไมว่ า่ จะกา้ วนวิ้ สมั ผัสไปยงั แป้นพิมพใ์ ดๆ นวิ้ จะตอ้ งกลบั มาท่ีแปน้ เหยา้ เสมอและแปน้ พิมพท์ ีใ่ ชส้ าหรบั วางนวิ้ หรือพกั นวิ้ เรยี กวา่ แปน้ เหยา้ คือ แป้นอกั ษร ฟ ห ก ดา่ ส ว การวางนวิ้ บนแป้นเหยา้ จะวางดงั นี้ (กลุ รภสั นารอด, 2554: 1) นวิ้ กอ้ ยซา้ ยวางทแ่ี ป้นพยญั ชนะ ฟ นวิ้ นางซา้ ยวางทแ่ี ปน้ พยญั ชนะ ห นวิ้ กลางซา้ ยวางท่แี ป้นพยญั ชนะ ก นวิ้ ชซี้ า้ ยวางทแี่ ปน้ พยญั ชนะ ด นวิ้ ชขี้ วาวางท่ีแปน้ สระ นวิ้ กลางขวาวางทีแ่ ป้นสระ -า นวิ้ นางขวาวางที่แปน้ พยญั ชนะ ส นวิ้ กอ้ ยขวา วางท่ีแปน้ พยญั ชนะ ว และนวิ้ หวั แม่มอื จะใชส้ าหรบั เคาะคานวรรค (ดงั ภาพ) ภาพที่ 5 การวางนิว้ บนแป้นเหยา้

การพมิ พป์ ระสมคา ฝึกพมิ พต์ ามแบบฝึกหดั สรา้ งทกั ษะ 1 – 2 จบ หรือปฏิบตั ิตามคาส่งั ของครูผสู้ อนเวน้ วรรคระหว่างคา 1 วรรค ดา่ ดา่ ด่า วา่ วา่ วา่ กา่ กา่ ก่า ส่า ส่า ดา่ ด่า ด่า ว่า ว่า ว่า กา่ กา่ กา่ สา่ ส่า ด่า ดา่ ด่า ว่า วา่ ว่า ก่า กา่ กา่ สา่ ส่า ด่า ด่า ดา่ ว่า วา่ วา่ ก่า ก่า ก่า สา่ ส่า กาด กาด ดาว ดาว สาด สาด หาก หาก กาด กาด ดาว ดาว สาด สาด หาก หาก กาด กาด ดาว ดาว สาด สาด หาก หาก กาด กาด ดาว ดาว สาด สาด หาก หาก ฟาก ฟาก หาด หาด สด สด สด สาว สาว ฟาก ฟาก หาด หาด สด สด สด สาว ฟาก ฟาก หาด หาด สด สด สด สาว สาว ฟาก ฟาก หาด หาด สด สด สด สาว หก หก หก ดวด ดวด กว่า กว่า วา่ ว วา่ ว หก หก หก ดวด ดวด กวา่ กว่า ว่าว

หก หก หก ดวด ดวด กว่า กวา่ ว่าว ว่าว หก หก หก ดวด ดวด กว่า กวา่ วา่ ว สาก สาก วาด วาด หาก หาก ฟาด ฟาด สาก สาก วาด วาด หาก หาก ฟาด ฟาด สาก สาก วาด วาด หาก หาก ฟาด ฟาด สาก สาก วาด วาด หาก หาก ฟาด ฟาด กวาด กวาด หกวา หกวา สดกว่า สดกวา่ กวาด กวาด หกวา หกวา สดกว่า สดกวา่ กวาด กวาด หกวา หกวา สดกวา่ สดกวา่ กวาด กวาด หกวา หกวา สดกวา่ สดกวา่ สกาวดาว สกาวดาว สกาวดาว สาวสด สาวสด สาวสด หากว่า หากว่า หากวา่ หาก ว่า สกาวดาว สกาวดาว สกาวดาว สาวสด สาวสด สาวสด หากวา่ หากวา่ หากว่า หาก วา่ สกาวดาว สกาวดาว สกาวดาว สาวสด สาวสด สาวสด หากว่า หากวา่ หากวา่ หาก ว่า กาวหก กาวหก กาวหก สดวกกว่า สดวกกวา่ สดวกกว่า หาดสวาด หาดสวาด หาด สวาด กาวหก กาวหก กาวหก สดวกกว่า สดวกกว่า สดวกกว่า หาดสวาด หาดสวาด หาด สวาด กาวหก กาวหก กาวหก สดวกกว่า สดวกกว่า สดวกกวา่ หาดสวาด หาดสวาด หาด สวาด ภาพที่ 6 การวางนิว้ ในการพิมพส์ ัมผสั บนแป้นเหย้า

การเคาะแปน้ เวน้ วรรค แปน้ เวน้ วรรคเป็นแป้นยาวอยใู่ ตแ้ ปน้ อกั ษรล่างสดุ ใชส้ าหรบั เคาะเมอ่ื จะเวน้ วรรค ใชน้ วิ้ หวั แมม่ อื เพือ่ เคาะเท่านนั้ เคาท่ีป่มุ <Spacebar> มีวธิ ีการปฏบิ ตั ิ คือ 1. นิว้ ทกุ นิว้ ยกเวน้ นวิ้ หวั แมม่ ือตอ้ งวางประจาอย่บู นอกั ษรแปน้ เหยา้ เสมอ 2. การฝึกเคาะเวน้ วรรคควรฝึกใชท้ งั้ 2 นิว้ หวั แม่มือเคาะ เพ่ือความสะดวกใน การผลดั กนั ทางานของทงั้ 2 นิว้ 3. ระวงั อย่าใหข้ อ้ มือหอ้ ยต่าจนสมั ผสั เครื่องพมิ พ์ รกั ษาระดบั ใหอ้ ย่ใู นแนว เดยี วกบั หลงั มือ 4. การพมิ พแ์ ละเวน้ วรรคใหเ้ คาะจงั หวัดสลบั กนั อย่าพมิ พแ์ ละเคาะเวน้ วรรค ไปพรอ้ มกนั 5. ขอ้ ศอกและแขนจะไมเ่ คลื่อนไหวขณะท่นี ่งั ทางาน 6. ขอ้ มือใหอ้ ย่กู บั ทเ่ี คลื่อนไหวนอ้ ยท่สี ดุ

ภาพท่ี 7 การวางนวิ้ ในการเคาะแป้นวรรคบนแป้นเหย้า การยกแคร่ ผฝู้ ึกพมิ พจ์ ะตอ้ งสรา้ งทกั ษะใหก้ ารคลกิ ป่มุ ยกแคร่ ไดแ้ ก่ป่มุ <Shift> เมือ่ ผฝู้ ึกพิมพ์ ใชม้ อื ขวาในการพมิ พ์ ใหใ้ ชน้ วิ้ กอ้ ยซา้ ยกดแป้นยกแคร่ และเมื่อผฝู้ ึกพิมพใ์ ชม้ ือซา้ ย ในการพิมพใ์ หใ้ ชน้ วิ้ กอ้ ยขวากดแปน้ ยกแครแ่ ทน เมือ่ ฝึกพมิ พโ์ ดยการวางนวิ้ บนแปน้ เหยา้ ไดถ้ ูกตอ้ ง การกา้ วนวิ้ ไปพมิ พแ์ ป้นอ่นื ๆ ก็ ไมใ่ ช่เร่อื งยากเพราะแป้นพิมพจ์ ะวางไดส้ ดั ส่วนสาหรบั การกา้ วนวิ้ ไปพิมพแ์ ป้นอ่ืน ๆ ผู้ ฝึกพิมพจ์ ะสามารถพมิ พส์ มั ผสั ได้ จากการวางนวิ้ ใหถ้ กู ตอ้ ง และมีความจา ในการใช้ นวิ้ พิมพพ์ ยญั ชนะต่าง ๆ ผฝู้ ึกตอ้ งจา ใหไ้ ดว้ ่านวิ้ ไหนใชพ้ ิมพแ์ ป้นอกั ษรอะไร แต่ถา้ ได้ พมิ พส์ มั ผสั เป็นประจา ทกุ ๆ วนั จะทา ใหผ้ ฝู้ ึกพิมพส์ ามารถกา้ วไปพมิ พแ์ ปน้ อกั ษร ตา่ ง ๆ ไดโ้ ดยไมผ่ ิด นวิ้ จะกา้ วไปพมิ พแ์ ปน้ อกั ษรไดโ้ ดยอตั โนมตั ิ บางคนพิมพโ์ ดยไม่ ตอ้ งมองแปน้ พิมพเ์ ลย ถา้ มองแป้นพิมพแ์ ลว้ จะทา ใหพ้ มิ พช์ า้ และพิมพผ์ ดิ ได้ ซ่งึ ใน ปัจจบุ นั คอมพิวเตอรก์ ลายอปุ กรณท์ ่ีสาคญั ของสานกั งานและสถานศกึ ษา และเป็น สง่ิ ที่ทกุ คนตอ้ งใช้ จึงควรใชใ้ หถ้ กู ตอ้ ง

ดงั นนั้ ผใู้ ชค้ วรมีทกั ษะพนื้ ฐานบางประการ โดยเฉพาะทกั ษะการป้อนขอ้ มลู ลงใน คอมพิวเตอร์ เช่น การใชเ้ มาสแ์ ละแปน้ พิมพ์ หากผใู้ ชม้ ที กั ษะในการใชอ้ ปุ กรณ์ ดงั กลา่ ว กจ็ ะชว่ ยใหป้ ระสทิ ธิภาพในการใชง้ านคอมพิวเตอรเ์ พ่มิ ขนึ้ อกี มาก โดยเฉพาะทกั ษะการใชแ้ ปน้ พิมพซ์ ง่ึ แต่กอ่ นเป็นทกั ษะเฉพาะอาชีพเลขานกุ ารหรอื พนกั งานพิมพด์ ีดเท่านนั้ แตป่ ัจจบุ นั ไดก้ ลายเป็นทกั ษะสา หรบั ทกุ คนแลว้ เพราะการ มีทกั ษะดงั กล่าวติดตวั จะชว่ ยใหก้ ารใชง้ านคอมพิวเตอรส์ ะดวกมากขนึ้ สามารถป้อน ขอ้ มลู ขา่ วสารไดม้ ากและแมน่ ยา ดว้ ยเวลาท่ีนอ้ ยลง ซึง่ เท่ากบั ชว่ ยลดเวลาในการใช้ งานคอมพิวเตอร์ ลดความเหนื่อยลา้ เบ่อื หน่ายของผใู้ ชซ้ ่ึงจะสง่ ผลใหเ้ กดิ การ ประหยดั ในเชงิ เศรษฐกิจไดอ้ ย่างมาก 3. เคา้ โครงแปน้ พมิ พ์ ในปัจจบุ นั การใชเ้ ครอื่ งพิมพด์ ีดดว้ ยโปรแกรมประมวลผลคาคอมพิวเตอรเ์ ป็นทน่ี ิยม มาก แทนการใชเ้ ครื่องพิมพด์ ีด โดยเแปน้ พิมพ์ หรอื คียบ์ อรด์ เป็นอปุ กรณส์ าหรบั นาเขา้ ขอ้ มลู ขนั้ พนื้ ฐาน ทาหนา้ ทเี่ ช่ือมความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งมนษุ ยก์ บั ระบบ คอมพิวเตอร์ โดยสง่ คาส่งั หรือขอ้ มลู จากผใู้ ชไ้ ปส่หู นว่ ยประมวลผลในระบบ คอมพวิ เตอร์ ภายในแปน้ พิมพจ์ ะมีแผงวงจรหลกั ทีจ่ ะประกอบดว้ ยชนิ้ ส่วน อเิ ล็กทรอนกิ สจ์ านวนมาก ซึ่งมีลกั ษณะเป็นแผ่นบางๆ ทถ่ี กู ฉาบดว้ ยหมกึ ทเี่ ป็นตวั นา ไฟฟา้ เม่ือถกู กดจนตดิ กนั กจ็ ะมีกระแสไฟฟา้ ไหลในตวั วงจร เมื่อผใู้ ชก้ ดแปน้ ใดแป้น หน่ึง ขอ้ มลู ในรูปของสญั ญาณไฟฟา้ จากแป้นกดแต่ละแปน้ จะถกู เปรยี บเทยี บรหสั (Scan Code) กบั รหสั มาตรฐานของแต่ละแป้นทกี่ ด เพ่ือเปล่ียนใหเ้ ป็นตวั อกั ษร ตวั เลข หรือสญั ลกั ษณไ์ ปแสดงบนจอภาพ การจดั วางตาแหน่งของตวั อกั ษรต่างๆ บนแป้นพิมพ์ ในส่วนของภาษาองั กฤษ แปน้ พมิ พโ์ ดยท่วั ไปจะจดั แบบ QWERTY (ตงั้ ช่อื ตามตวั อกั ษรบริเวณแถวบน

ดา้ นซา้ ย) ตามมาตรฐานของสหรฐั อเมรกิ า แต่ก็ยงั มคี นบางกลมุ่ ใชแ้ บบ Dvorak โดย คดิ ว่าสามารถพิมพไ์ ดเ้ ร็วกวา่ เนอื่ งจากแป้นพิมพแ์ บบ QWERTY จงใจออกแบบมา เพ่ือไม่ใหพ้ มิ พไ์ ดเ้ รว็ เกินไป ตงั้ แตส่ มยั ของพมิ พด์ ดี ทไ่ี ม่ใชไ้ ฟฟา้ หรอื คอมพิวเตอร์ ซึง่ กา้ นตวั พิมพม์ กั จะเกิดการขดั กนั เมอื่ ผใู้ ชพ้ ิมพเ์ ร็วเกินไป ในสว่ นของแป้นพมิ พ์ ภาษาไทยกแ็ บ่งออกได้ 2 แบบ เช่นกนั คอื แปน้ พิมพป์ ัตตะโชติ ซึ่งเป็นแป้นพมิ พร์ ุน่ เดิมแต่ไม่นิยมใช้ สว่ นอกี หนง่ึ แบบคอื แป้นพมิ พเ์ กษมณี ซง่ึ เป็นแปน้ พิมพท์ นี่ ิยมใชใ้ น ปัจจบุ นั แปน้ พิมพเ์ กษมณี แปน้ พิมพเ์ กษมณี เป็นผงั แป้นพมิ พภ์ าษาไทย คิดคน้ โดยสวุ รรณประเสรฐิ เกษมณี เพอ่ื ใชก้ บั เครอื่ งพมิ พด์ ดี (ซง่ึ ไม่มี ฃ/ฅ) ไม่ใชก่ ับคอมพวิ เตอรโ์ ดยตรง โดยในตอนแรก ผงั แป้นพมิ พน์ เี้ รียกวา่ “แบบมาตรฐาน” เนื่องจากเป็นผงั แป้นพิมพแ์ บบแรก ๆ ทใี่ ช้ ตอ่ มาผรู้ ว่ มงานเรยี กชื่อว่า แปน้ พิมพเ์ กษมณี ภาพท่ี 8 ผังแป้นพิมพเ์ กษมณี ปัจจบุ นั สานกั งานมาตรฐานผลิตภณั ฑอ์ ตุ สาหกรรม (สมอ.) กระทรวงอตุ สาหกรรม ไดพ้ ฒั นาแป้นพมิ พเ์ กษมณีเป็นแปน้ พิมพค์ อมพิวเตอรแ์ ปน้ พิมพเ์ กษมณี มีแป้นเหยา้

อยทู่ ่ี ซา้ ย ซา้ ย ฟ ห ก ด และขวา –่ า ส ว จดุ แตกต่างระหวา่ งเคร่ืองพิมพด์ ดี กบั คอมพวิ เตอรม์ ีดงั นี้ 1. เมือ่ ยกแคร่ ⇧ Shift แลว้ กดแป้น –ึ เครอื่ งพิมพด์ ีดจะไดไ้ มห้ นั อากาศพรอ้ มกบั ไมโ้ ท (–)้ั เทียบเทา่ กบั การกดทลี ะตวั ส่วนคอมพวิ เตอรจ์ ะไดส้ ญั ลกั ษณส์ กลุ เงินบาท (฿) 2. เคร่อื งพมิ พด์ ีดไม่มแี ป้นสาหรบั ฃ ฅ ๅ + และ _ % สาหรบั คอมพิวเตอรเ์ พ่ิมเขา้ มา ในภายหลงั แป้นพิมพป์ ัตตะโชติ แปน้ พิมพป์ ัตตะโชติ เป็นผงั แปน้ พมิ พภ์ าษาไทย คิดคน้ โดยสฤษดิ์ ปัตตะโชติ เนือ่ งจากการวิจยั ของสฤษดช์ิ ีใ้ หเ้ ห็นวา่ แป้นพิมพเ์ กษมณีจะมีการใชง้ านมอื ขวา มากกวา่ มือซา้ ย และนวิ้ กอ้ ยขวาจะถกู ใชง้ านหนกั จงึ ไดป้ ระดษิ ฐ์แปน้ พมิ พป์ ัตตะโชติ ขนึ้ โดยเฉล่ยี ใหท้ งั้ สองมอื ใชง้ านเท่าๆ กนั และใหล้ าดบั นวิ้ ที่ใชบ้ อ่ ยคือนวิ้ ชี้ แลว้ ไลล่ ง ไปทีน่ วิ้ กลาง นวิ้ นาง และนวิ้ กอ้ ยทใ่ี ชง้ านนอ้ ยที่สดุ จากการวจิ ยั ของสภาวิจยั แห่งชาติพบวา่ แปน้ พมิ พป์ ัตตะโชตสิ ามารถพิมพไ์ ดเ้ ร็วกวา่ แป้นพมิ พเ์ กษมณีถึง 25.8% และยงั ช่วยลดอาการปวดนวิ้ มือจากการพมิ พไ์ ด้ แต่ แปน้ พิมพป์ ัตตะโชติก็ไมเ่ ป็นท่ีนิยมใช้ เนื่องจากความเคยชนิ ในการใชแ้ ปน้ พมิ พ์ เกษมณีที่แพรห่ ลายก่อนหนา้ นน้ั แลว้ แปน้ พิมพป์ ัตตะโชติ มแี ป้นเหยา้ อย่ทู ี่ ซา้ ย –้ ท ง ก และขวา า น เ ไ และถงึ แมจ้ ะมี แปน้ เพ่ิมขนึ้ อีกหนง่ึ แป้น แต่แป้น ฃ ฅ ก็ยงั ไม่มี เช่นเดยี วกบั แปน้ พิมพเ์ กษมณี ภาพที่ 9 แป้นพิมพป์ ัตตะโชติ

ตารางท่ี 1 แสดงความแตกต่างระหว่าง แป้นพิมพ์ เกษมณี – ปัตตะโชติ เกษมณี ปัตตะโชติ พิมพไ์ ดช้ า้ กว่าแป้นพิมพป์ ัตตะ พิมพไ์ ดเ้ รว็ กวา่ แป้นพิมพเ์ กษมณี โชติ ใชง้ านมือขวามากกว่ามอื ซา้ ย ทงั้ สองมือใชง้ านเทา่ ๆ กนั และให้ และนวิ้ กอ้ ยขวาจะถกู ใชง้ านหนกั ลาดบั นวิ้ ท่ีใชบ้ อ่ ยคอื นวิ้ ชี้ แลว้ ไล่ ลงไปที่นวิ้ กลาง นวิ้ นาง และ นวิ้ กอ้ ยทใี่ ชง้ านนอ้ ยทส่ี ดุ ปวดนวิ้ มากกวา่ ชว่ ยลดอาการปวดนวิ้ ได้ นิยมใชม้ ากกว่า ไมค่ อ่ ยนิยมใช้ ปัจจบุ นั ยงั ใชอ้ ยู่ ปัจจบุ นั เลิกใชแ้ ลว้ การใชง้ านแป้นพมิ พค์ อมพวิ เตอร์ (Keyboard)

ในปัจจบุ นั Keyboard หรือเรยี กอกี อย่างวา่ แป้นพิมพง์ านคอมพิวเตอรเ์ ป็น อปุ กรณห์ ลกั ทใี่ ชใ้ นการนาขอ้ มลู ลงในเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ มีลกั ษณะเป็นป่มุ ตวั อกั ษร เหมือนป่มุ เคร่อื งพมิ พด์ ีด เป็นอปุ กรณร์ บั เขา้ พืน้ ฐานทีต่ อ้ งมีในคอมพิวเตอรท์ กุ เคร่ือง จะรบั ขอ้ มลู จากการกดแป้นแลว้ ทาการเปลยี่ น เป็นรหสั เพ่ือส่งต่อไปใหก้ บั คอมพวิ เตอร์ แปน้ พิมพท์ ใี่ ชใ้ นการป้อนขอ้ มลู จะมจี านวนตงั้ แต่ 50 แป้นขนึ้ ไป แผง แปน้ อกั ขระส่วนใหญม่ ีแปน้ ตวั เลขแยกไวต้ า่ งหาก เพอื่ ทาใหก้ ารป้อนขอ้ มลู ตวั เลขทา ไดง้ ่ายและสะดวกขนึ้ การวางตาแหนง่ แปน้ อกั ขระ จะเป็นไปตามมาตรฐานของระบบ พมิ พส์ มั ผสั ของเคร่ืองพิมพด์ ีด ทมี่ ีการใชแ้ ป้นยกแคร่ (shift) เพ่ือทาใหส้ ามารถใช้ พิมพไ์ ดท้ งั้ ตวั อกั ษร ตวั พิมพใ์ หญ่และตวั พมิ พเ์ ล็ก ซึง่ ระบบรบั รหสั ตวั อกั ษรทใี่ ชใ้ นทาง คอมพวิ เตอรส์ ว่ นใหญจ่ ะเป็นรหสั 7 หรือ 8 บิต กล่าวคือ เม่อื มกี ารกดแป้นพิมพ์ แผง แป้นอกั ขระจะส่งรหสั ขนาด 7 หรอื 8 บติ นเี้ ขา้ ไปในระบบคอมพิวเตอร์ แผงแปน้ อกั ขระสาหรบั เคร่อื งไมโครคอมพวิ เตอรต์ ระกลู ไอบเี อม็ ทผี่ ลติ อ อามารุน่ แรก ๆ ตงั้ แต่ พ.ศ. 2524 จะเป็นแป้นรวมทงั้ หมด 83 แป้น ซง่ึ เรียกว่า แผง แปน้ อกั ขระ PCXT ต่อมาในปี พ.ศ. 2527 บริษัทไอบีเอม็ ไดป้ รบั ปรุงแผงแป้นอกั ขระ กาหนดสญั ญาณทางไฟฟา้ ของแป้นขนึ้ ใหม่ จัดตาแหน่งและขนาดแปน้ ใหเ้ หมาะสมดี ยิง่ ขนึ้ โดยมีจานวนแป้นรวม 84 แป้น เรยี กวา่ แผงแปน้ อกั ขระพีซเี อที และในเวลา ต่อมาก็ไดป้ รบั ปรุงแผงแปน้ อกั ขระขนึ้ พรอ้ ม ๆ กบั การออกเครอื่ งรุน่ PS/2 โดยใช้ สญั ญาณทางไฟฟา้ เชน่ เดยี วกบั แผงแป้นอกั ขระรุน่ เอทีเดิม และเพม่ิ จานวนแป้นอีก 17 แปน้ รวมเป็น 101 แปน้ แป้นพิมพเ์ ป็นอปุ กรณท์ ่นี าเขา้ ขอ้ มลู เพือ่ ส่งั ใหห้ นว่ ย ประมวลผลกลาง (CPU) ดาเนนิ การและแสดงผลออกทางจอภาพ (Monitor) แป้นพิมพข์ องเครือ่ งคอมพวิ เตอรม์ ีลกั ษณะคลา้ ย ๆ กบั แป้นพิมพข์ องเครื่องพมิ พด์ ีด กลา่ วคือ มแี ตล่ ะแป้นพมิ พต์ วั อกั ษรแถวบนหรือแถวล่างได้ แตแ่ ป้นพิมพข์ องเครือ่ ง

คอมพวิ เตอรจ์ ะมปี ระมาณ 101-104 แป้น แป้นพมิ พท์ ีเ่ พิม่ ขนึ้ มาทาหนา้ ทีต่ า่ ง ๆ กนั แบ่งกลมุ่ แปน้ พมิ พค์ อมพิวเตอรอ์ อกไดเ้ ป็น 3 กล่มุ คือ 1. กลมุ่ แป้นพิมพท์ ่ีใชพ้ มิ พห์ รอื เครื่องหมาย มีทงั้ ภาษาไทยและภาษาองั กฤษ หรือเรียกว่าแป้นตวั อกั ษร กลา่ วคือ พิมพต์ วั อกั ษร ก - ฮ และพิมพต์ วั อกั ษร A - Z 2. กล่มุ แปน้ พมิ พท์ ใ่ี ชแ้ สดงหนา้ ทีพ่ ิเศษ หรอื อาจเรยี กว่า เป็นกล่มุ Function Key มตี วั อกั ษร F1 - F12 กากบั สาหรบั เขยี นแทนดว้ ยคาส่งั อยา่ งใดอย่างหนึ่งอย่กู บั โปรแกรม 3. กล่มุ แปน้ พิมพท์ ใี ชพ้ ิมพจ์ านวนเลข หรือเรียกวา่ Numeric Key พิมพเ์ ลข 1 - 0 และเครือ่ งหมาย + - นอกจากนีย้ งั ประกอบดว้ ยแป้นพมิ พท์ ม่ี ีไวเ้ พอื่ เป็นแปน้ พิมพค์ าส่งั ใหเ้ คร่ือง คอมพิวเตอรท์ างาน ไดแ้ ก่ 1. ป่มุ Enter เป็นแปน้ ทกี่ ดเพอ่ื ใหค้ อมพิวเตอรร์ บั คาส่งั ไปปฏบิ ตั ิตามท่ีตอ้ งการ แป้นนเี้ ดมิ ชอื่ Carriage Return เปล่ียนมาเป็น Enter ในยคุ ของเครอื่ งพซี ี มที งั้ ในแป้น ตวั อกั ษรและแปน้ ตวั เลข ใชไ้ ดก้ บั กดเพือ่ ขนึ้ บรรทดั ใหม่ 2. ป่มุ Escape กดเพอื่ ยกเลิกการทางานเดมิ หรือจบการเลน่ เกม การกดแป้น จะยกเลิกคาส่งั ที่กาลงั ใชง้ านยอ้ นกลบั ไปที่คาส่งั กอ่ นหนา้ 3. ป่มุ Tiled สาหรบั กดเปล่ยี นไปมาระหวา่ ภาษาไทยกบั กาษาองั กฤษ 4. ป่มุ Caps Lock สาหรบั ยกแครค่ า้ งไวเ้ พื่อพิมพอ์ กั ษรแบบตวั พิมพใ์ หญ่ เมื่อ กดแป้นนี้ ไฟบอกสภาวะ ทางขวามอื จะติด ดงั นนั้ ถา้ การพมิ พอ์ ักษรมีปัญหา ใหด้ วู ่า แป้นนถี้ กู กดคา้ งไวห้ รือไม่

5. ป่มุ Shift แป้นยกแคร่ กดคา้ งไวแ้ ลว้ พิมพ์ ถา้ แปน้ พิมพอ์ กั ษรทีม่ ีสองตวั บน ลา่ งกดแป้นนเี้ พือ่ พมิ พต์ วั อกั ษรบน ถา้ เป็นอกั ษรภาษาองั กฤษที่มีตวั เดยี ว กดเพ่ือ พิมพเ์ ป็นตวั พมิ พใ์ หญ่ 6. ป่มุ Ctrl แปน้ ควบคมุ กดคา้ งไวแ้ ลว้ กดอกั ษรตวั อน่ื เพ่อื ใหเ้ กดิ การทางาน อย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น Ctrl+Alt+Delete เป็นการรีเซท็ เคร่ืองใหม่, Ctrl + B ทา ตวั อกั ษรหนา เป็นตน้ 7. ป่มุ Tab ใชก้ ด เพือ่ เลอ่ื น 1 ย่อหนา้ 8. ป่มุ Space bar ใชก้ ดเพื่อเวน้ วรรค 9. ป่มุ Alternate กดคกู่ บั แปน้ อ่นื ๆ เพอ่ื ทางานอย่างใดอยา่ งหน่ึง เชน่ Alt+X คอื จบเกม Ctrl + Alt + Delete รีเซ็ทเครื่องเหมอื นการกดป่มุ Reset 10. ป่มุ Backspace แปน้ เลอ่ื นถอยหลงั กดเพ่ือยอ้ นกลบั ไปทางซา้ ยสาหรบั พมิ พ์ และลบตวั อกั ษรทางซา้ ยทีเลื่อนไปแปน้ ควบคมุ เป็นแป้นลกู ศรชไี้ ปทางซา้ ย ขวา บน ล่าง สาหรบั ควบคมุ การเล่ือนตาแหน่งไปมาบนจอภาพ 11. ป่มุ Insert แทรกอกั ษร กดเพื่อกาหนดสภาวะพมิ พแ์ ทรก หรอื พิมพท์ บั การ ทางานปกติเป็นการพิมพแ์ ทรก 12. ป่มุ Delete กดเพอ่ื ลบอกั ษรท่ี Cursor ทบั อยู่ หรือลบตวั ท่อี ย่ทู างขวาของ จดุ แทรก (Cursor) เม่อื ลบแลว้ จะดึงอกั ษรทางขวามือมาแทนที่ 13. ป่มุ Home กดเพอื่ เลื่อนการทางานไปยงั ตาแหน่งแรกของบรรทดั ทีก่ าลงั พมิ พง์ านอยู่

14. ป่มุ End กดเพือ่ กระโดดไปยงั อกั ษรตวั สดุ ทา้ ยทางขวาของบรรทดั ท่กี าลงั พิมพง์ านอยู่ 15. ป่มุ Page Up กดเพื่อเล่ือนจอภาพขนึ้ ไปดขู อ้ ความดา้ นบน 16. ป่มุ Page Down กดเพือ่ จอภาพลงไปดา้ นล่าง 17. ป่มุ Num Lock กดเพอ่ื ใชแ้ ป้นตวั เลขทางขวา เมื่อกดแลว้ ไฟบอกสภาวะ จะติด ถา้ ไม่เปิด แป้น Num Lock เป็นการใชแ้ ปน้ อกั ขระตวั ล่างที่อย่ใู นแป้นตวั เลข 18. ป่มุ Print Screen กดเพอ่ื พมิ พข์ อ้ ความทเี่ หน็ บนจอภาพออกทาง เครื่องพมิ พ์ 19. ป่มุ Scroll Lock กดเพื่อล็อกบรรทดั ท่กี าลงั พิมพง์ านไมใ่ หเ้ ล่อื นบรรทดั ถงึ แมจ้ ะกดแปน้ Enter ก็ไม่มีผล เม่ือกดแลว้ ไฟบอกสภาวะจะตดิ 20. ป่มุ Break หรอื Pause กดเพอื่ หยดุ การทางานช่วั คราวยกเลิกโดยกดแปน้ อื่นๆ อกี ครงั้ 4. การฝึ กพมิ พ์ แบบฝึกพิมพจ์ ะแตกต่างจากตาราเรียนท่วั ไป คือเป็นส่ือทท่ี าหนา้ ท่ีเป็นส่ิงเรา้ หรอื ตน้ ฉบบั เพ่ือใหผ้ เู้ รียนฝึกพมิ พต์ าม โดยผเู้ ร่มิ ตน้ เรยี นตอ้ งขานหรืออา่ นทลี ะอกั ษรใน แบบฝึกพิมพไ์ ปพรอ้ มกบั การเคาะแป้น การเตรียมแบบฝึกพมิ พท์ ม่ี ปี ระสิทธิภาพควรมี หลกั เกณฑด์ งั ตอ่ ไปนี้

1. ควรเป็นแบบฝึกพิมพแ์ ปน้ อกั ษร ทเ่ี ริ่มฝึกจากตาแหนง่ นวิ้ ทีแ่ ข็งแรงสามารถ เคาะไดง้ า่ ยกอ่ น เพราะจะชว่ ยใหผ้ เู้ รียนในช่วั โมงแรกไมร่ ูส้ กึ ลาบากในการกา้ วนวิ้ และเป็นการเสริมแรงใหส้ นใจเรียนต่อไป 2. ควรเป็นแบบฝึกท่ีนาแปน้ พยัญชนะท่ีมีการใชม้ ากมาสอนก่อน เพ่อื จะไดน้ า สระและวรรณยกุ ตท์ ่ีไดเ้ รยี นมาผสมเป็นคาที่อา่ นออกและมีความหมายไดเ้ ร็วขนึ้ 3. เพอื่ ป้องกนั ความสบั สน จึงไมค่ วรนาแปน้ อกั ษรที่อยเู่ คียงขา้ งกนั เช่น “ค” กบั “ต” หรอื “ข” กบั “ช” หรอื “ภ” กบั “ถ” มาสอนในช่วั โมงเดยี วกนั หรอื ไม่ควรนา แปน้ อกั ษรที่ใชน้ วิ้ เดียวกนั ของมือคนละขา้ งมาสอนในคาบเดยี วกนั เชน่ แป้น “ะ” (สระอะ) กบั แป้น “ ัั ”(ไมห้ นั อากาศ) หรือแป้น “ ัิ ”(สระอ)ิ กบั แป้น “ ัึ ”(สระ อ)ึ หากหลีกเล่ียงไม่ไดก้ ค็ วรเลอื กแป้นอกั ษรท่ีกา้ วนวิ้ ในทศิ ทางและระยะทตี่ า่ งกนั เช่น แป้น “ภ” กบั “ม” หรอื “ต” กบั “ป” เป็นตน้ 4. เพ่อื ถา่ ยโยงการเรียนรู้ จงึ ควรนาแปน้ อกั ษรใหมม่ าผสมกบั แป้นอักษรท่ีเคย เรยี นแลว้ และควรสรา้ งคาทใี่ ชน้ วิ้ มือขา้ งซา้ ยและขวาเคาะสลบั กนั 5. แบบฝึกพมิ พท์ บทวนควรประกอบดว้ ยแป้นอกั ษรทเี่ รยี นแลว้ ทงั้ หมด โดย สรา้ งเป็นคาทป่ี ระกอบดว้ ยอกั ษรตงั้ แต่ 3 ตวั ขึน้ ไปสาหรบั การฝึกแต่ละบท นอกจากนี้ ควรมแี บบฝึกพมิ พท์ บทวนทีส่ รา้ งเป็นวลหี รอื ประโยคสนั้ ๆ ใหผ้ เู้ รียนไดฝ้ ึกดว้ ย 6. การสรา้ งคาเพ่ือฝึกพิมพอ์ กั ษรใดอกั ษรหนงึ่ ควรใชว้ ธิ ีสรา้ งคาท่ีหลากหลาย เช่น การฝึกพมิ พอ์ กั ษร “น” แทนทจี่ ะใหพ้ ิมพค์ าเดมิ ซา้ ๆ เชน่ “นาง นาง นาง นาง นาง นาง” ซึง่ เป็นวธิ ีฝึกท่ีขดั กบั ธรรมชาตขิ องการพมิ พ์ เพราะขาดการผสมผสานของ นิว้ มอื ทงั้ หมด ซ่งึ นา่ เบ่ือหน่าย จงึ ควรเปลีย่ นมาเป็นการสรา้ งคาท่ผี สมอกั ษร \"น\" อยา่ งหลากหลาย เช่น “นก นาง นาย นาน นกั กิน กนั อ่าน” เพ่ือใหน้ วิ้ ทงั้ หมดมี โอกาสเคลอ่ื นไหว แตก่ ต็ อ้ งเป็นการผสมกบั อกั ษรทีเ่ รยี นมาแลว้ เทา่ นน้ั

7. ควรจดั ลาดบั ความยากง่ายของแบบฝึกพิมพ์ ดว้ ยการฝึกจากแบบฝึกพิมพท์ ่ี งา่ ยไปสแู่ บบฝึกพิมพท์ ี่ยาก 8. การจดั ลาดบั แบบฝึกพิมพใ์ นแตล่ ะคาบเรยี น ควรแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ ส่วน แรกเป็นแบบฝึกพมิ พซ์ อ้ มมือ(Warm up) คือแบบฝึกพิมพท์ บทวนแปน้ อกั ษรทเี่ รยี น แลว้ ในคาบก่อน สว่ นท่ีสองเป็นแบบฝึกพิมพแ์ ป้นอกั ษรใหม่ และส่วนที่สามคอื แบบ ฝึกพิมพท์ บทวนทา้ ยคาบโดยรวมแป้นอกั ษรทีเ่ รียนแลว้ ในคาบกอ่ นๆ จนถึงปัจจบุ นั 4.1 การสบื นิว้ ในการพมิ พบ์ นแป้นเหย้า แป้นเหยา้ (Home Keys) ฟ ห ก ด ıา ส ว แป้นเหย้า (Home Keys) คอื แปน้ อกั ษรหลกั ของการพมิ พด์ ดี เป็นแป้นท่ีใชว้ าง นวิ้ มือในระหว่างการพมิ พ์ โดยการสืบนวิ้ ไปยงั อกั ษรใดก็ตาม เมอ่ื เคาะแป้นอกั ษร แลว้ ใหร้ ีบสืบนวิ้ กลบั มาไวท้ ่ีแปน้ เหยา้ โดยเรว็ การฝึกพมิ พโ์ ดยวธิ ีพมิ พส์ มั ผสั ไดโ้ ดย ไมม่ องแปน้ พิมพข์ ณะที่พิมพน์ น้ั เพ่อื พฒั นาทกั ษะความเรว็ และความแมน่ ยาตอ่ ไป โดยแปน้ เหยา้ เป็นแป้นอกั ษรแถวท่ี 2 นบั จากแถวล่าง แปน้ เหยา้ เปรียบเสมือน บา้ นหรือทีพ่ กั นิว้ ในระหว่างการพิมพ์ การสืบนวิ้ ไปยงั อกั ษรใดกต็ าม ใหร้ บี สืบนวิ้

กลบั มาไวท้ ี่แป้นเหยา้ โดยเรว็ ผเู้ รียนจะตอ้ งพยายามฝึกพมิ พอ์ กั ษรแป้นเหยา้ ใหเ้ กดิ ความชานาญ โดยวธิ ีพมิ พส์ มั ผสั พรอ้ มทงั้ ฝึกเคาะคานเวน้ วรรคใหถ้ กู ตอ้ งการวางนวิ้ บนแปน้ เหยา้ ผเู้ รียนจะตอ้ งวางนวิ้ บนแปน้ เหยา้ ใหถ้ กู ตอ้ ง ดงั นี้ ภาพที่ 10 การวางนิว้ บนแป้นเหย้า นว้ิ กอ้ ย มอื ซา้ ย น้วิ ช้ี มือขวา นิ้วนาง นว้ิ กลาง นิ้วกลาง ฟ นิ้วนาง ı น้ิวช้ี ห า ก น้ิวก้อย ส ด ว 4.1.1 การพิมพส์ ัมผัสแป้นอักษร เ ีี ง

การสบื นิว้ นวิ้ ชซี้ า้ ย สืบนวิ้ จากแป้นอกั ษร ด ไปท่ี เ นวิ้ ชขี้ วา สืบนวิ้ จากแปน้ อกั ษร ั่ ไปที่ ั้ นวิ้ ชขี้ วา สืบนวิ้ จากแป้นอกั ษร ั่ ไปท่ี ัี นวิ้ กอ้ ยขวา สืบนวิ้ จากแป้นอกั ษร ว ไปท่ี ง 4.1.2 การพมิ พส์ ัมผสั แป้นอักษร พ ะ ีั ย การสืบนวิ้ นวิ้ ชซี้ า้ ย สบื นวิ้ จากแป้นอกั ษร ด ไปที่ พ นวิ้ ชซี้ า้ ย สืบนวิ้ จากแปน้ อกั ษร ด ไปที่ ะ นวิ้ ชขี้ วา สืบนวิ้ จากแปน้ อกั ษร ั่ ไปที่ ัั นวิ้ กอ้ ยขวา สบื นวิ้ จากแปน้ อกั ษร ว ไปที่ ย 4.1.3 การพิมพส์ ัมผสั แป้นอักษร อ ีิ ท ีื

การสืบนวิ้ นวิ้ ชซี้ า้ ย สืบนวิ้ จากแปน้ อกั ษร ด ไปที่ อ นวิ้ ชซี้ า้ ย สบื นวิ้ จากแป้นอกั ษร ด ไปที่ ัิ นวิ้ ชขี้ วา สืบนวิ้ จากแปน้ อกั ษร ั่ ไปที่ ัื นวิ้ ชขี้ วา สบื นวิ้ จากแปน้ อกั ษร ั่ ไปที่ ท 4.1.4 การพมิ พส์ ัมผสั แป้นอกั ษร ีา แ ร ม การสืบนวิ้ นวิ้ กลางซา้ ย สบื นวิ้ จากแปน้ อกั ษร ก ไปที่ ัา นวิ้ กลางซา้ ย สืบนวิ้ จากแปน้ อกั ษร ก ไปที่ แ นวิ้ กลางขวา สืบนวิ้ จากแปน้ อกั ษร า ไปที่ ร นวิ้ กลางขวา สืบนวิ้ จากแป้นอกั ษร า ไปที่ ม 4.1.5 การพมิ พส์ ัมผสั แป้นอกั ษร ไ ป น ใ

การสืบนวิ้ นวิ้ นางซา้ ย สบื นวิ้ จากแป้นอกั ษร ห ไปที่ ไ นวิ้ นางซา้ ย สบื นวิ้ จากแป้นอกั ษร ห ไปที่ ป นวิ้ นางขวา สืบนวิ้ จากแปน้ อกั ษร ส ไปท่ี น นวิ้ นางขวา สืบนวิ้ จากแป้นอกั ษร ส ไปที่ ใ 4.1.6 การพิมพส์ มั ผัสแป้นอักษร ผ ฝ บ ล การสืบนวิ้ นวิ้ กอ้ ยซา้ ย สบื นวิ้ จากแปน้ อกั ษร ฟ ไปที่ ผ

นวิ้ กอ้ ยขวา สืบนวิ้ จากแป้นอกั ษร ว ไปท่ี บ นวิ้ กอ้ ยขวา สบื นวิ้ จากแป้นอกั ษร ว ไปที่ ล นวิ้ กอ้ ยขวา สบื นวิ้ จากแป้นอกั ษร ว ไปท่ี ฝ 4.1.7 การพิมพส์ ัมผัสแป้นอกั ษร ถ ัุ ค ีึ การสบื นวิ้ นวิ้ ชซี้ า้ ย สืบนวิ้ จากแป้นอกั ษร ด ไปที่ ถ นวิ้ ชซี้ า้ ย สบื นวิ้ จากแปน้ อกั ษร ด ไปท่ี ัุ นวิ้ ชขี้ วา สบื นวิ้ จากแป้นอกั ษร ı ไปที่ ค นวิ้ ชขี้ วา สบื นวิ้ จากแป้นอกั ษร ı ไปที่ ัึ 4.1.8 การพิมพส์ ัมผสั แป้นอักษร ภ ต จ ข ช

การสืบนวิ้ นวิ้ ชซี้ า้ ย สบื นวิ้ จากแป้นอกั ษร ก ไปที่ ภ นวิ้ ชขี้ วา สบื นิว้ จากแป้นอกั ษร ด ไปที่ ต นวิ้ ชขี้ วา สืบนวิ้ จากแปน้ อกั ษร ส ไปที่ จ นวิ้ กอ้ ยขวา สืบนวิ้ จากแป้นอกั ษร ว ไปท่ี ข นวิ้ กอ้ ยขวา สืบนวิ้ จากแป้นอกั ษร ว ไปที่ ช 4.1.9 การพมิ พส์ ัมผสั แป้นอกั ษร โ ฌ ฑ การสืบนวิ้ นวิ้ ชซี้ า้ ยพมิ พแ์ ปน้ ด นวิ้ กอ้ ยขวากดแปน้ ยกแครพ่ ิมพแ์ ปน้ โ

นวิ้ ชซี้ า้ ยพมิ พแ์ ป้น เ นวิ้ กอ้ ยขวากดแปน้ ยกแครพ่ มิ พแ์ ป้น ฌ นวิ้ ชซี้ า้ ยพิมพแ์ ป้น พ นวิ้ กอ้ ยขวากดแป้นยกแครพ่ ิมพแ์ ปน้ ฑ นวิ้ ชขี้ วาพมิ พแ์ ปน้ –ı นวิ้ กอ้ ยซา้ ยกดแป้นยกแครพ่ มิ พแ์ ปน้ นวิ้ ชขี้ วาพมิ พแ์ ป้น ัึ นวิ้ กอ้ ยซา้ ยกดแปน้ ยกแคร่พิมพแ์ ปน้ ◌ััั้ 4.1.10 การพิมพส์ มั ผัสแป้นอกั ษร ธ ฮ ีู ี์ ี การสบื นวิ้ นวิ้ ชซี้ า้ ยพมิ พแ์ ป้น ะ นวิ้ กอ้ ยขวากดแปน้ ยกแครพ่ มิ พแ์ ป้น ธ นวิ้ ชซี้ า้ ยพมิ พแ์ ปน้ อ นวิ้ กอ้ ยขวากดแป้นยกแครพ่ มิ พแ์ ปน้ ฮ นวิ้ ชีซ้ า้ ยพิมพแ์ ปน้ ัุ นิว้ กอ้ ยขวากดแปน้ ยกแครพ่ ิมพแ์ ป้น ัู นวิ้ ชีข้ วาพมิ พแ์ ปน้ ัื นวิ้ กอ้ ยซา้ ยกดแปน้ ยกแครพ่ ิมพแ์ ปน้ ั์ นวิ้ ชขี้ วาพมิ พแ์ ป้น ัี นวิ้ กอ้ ยซา้ ยกดแปน้ ยกแครพ่ มิ พแ์ ปน้ ั๊ 4.1.11 การพมิ พส์ ัมผัสแป้นอกั ษร ฏ ฎ ี็ษ ณ

การสืบนวิ้ นวิ้ ชซี้ า้ ยพมิ พแ์ ปน้ ก นวิ้ กอ้ ยขวากดแป้นยกแครพ่ มิ พแ์ ป้น ฏ นวิ้ ชซี้ า้ ยพมิ พแ์ ป้น ัา นวิ้ กอ้ ยขวากดแป้นยกแครพ่ ิมพแ์ ปน้ ฎ นวิ้ ชซี้ า้ ยพิมพแ์ ป้น ั้ นวิ้ กอ้ ยขวากดแป้นยกแครพ่ ิมพแ์ ปน้ ั็ นวิ้ ชขี้ วาพมิ พแ์ ป้น ัา้ นวิ้ กอ้ ยซา้ ยกดแป้นยกแครพ่ ิมพแ์ ปน้ ษ นวิ้ ชขี้ วาพิมพแ์ ปน้ ร นวิ้ กอ้ ยซา้ ยกดแป้นยกแครพ่ มิ พแ์ ปน้ ณ 4.1.12 การพมิ พส์ ัมผสั แป้นอกั ษร ฆ ฉ ฒ ศ ฬ การสบื นิว้ นวิ้ นางซา้ ยพมิ พแ์ ปน้ ห นวิ้ กอ้ ยขวากดแปน้ ยกแครพ่ ิมพแ์ ปน้ ฆ

นวิ้ กลางซา้ ยพิมพแ์ ป้น แ นวิ้ กอ้ ยขวากดแป้นยกแครพ่ ิมพแ์ ปน้ ฉ นวิ้ กลางซา้ ยพมิ พแ์ ป้น ม นวิ้ กอ้ ยซา้ ยกดแปน้ ยกแครพ่ ิมพแ์ ป้น ฒ นวิ้ นางขวาพิมพแ์ ปน้ ส นวิ้ กอ้ ยซา้ ยกดแปน้ ยกแครพ่ มิ พแ์ ปน้ ศ นวิ้ นางขวาพมิ พแ์ ป้น ใ นวิ้ กอ้ ยซา้ ยกดแปน้ ยกแครพ่ ิมพแ์ ป้น ฬ 4.1.13 การพิมพส์ ัมผัสแป้นอกั ษร ฤ ซ ญ ฐ ฦ การสบื นวิ้ นวิ้ กอ้ ยซา้ ยพิมพแ์ ปน้ ฟ นวิ้ กอ้ ยขวากดแปน้ ยกแครพ่ มิ พแ์ ป้น ฆ นวิ้ กอ้ ยขวาพิมพแ์ ปน้ ว นวิ้ กอ้ ยซา้ ยกดแป้นยกแครพ่ มิ พแ์ ปน้ ฉ นวิ้ กอ้ ยขวาพิมพแ์ ปน้ ย นวิ้ กอ้ ยซา้ ยกดแป้นยกแครพ่ มิ พแ์ ป้น ฒ นวิ้ กอ้ ยขวาพิมพแ์ ป้น บ นวิ้ กอ้ ยซา้ ยกดแปน้ ยกแครพ่ มิ พแ์ ป้น ศ นวิ้ กอ้ ยขวาพิมพแ์ ปน้ ฝ นวิ้ กอ้ ยซา้ ยกดแป้นยกแครพ่ ิมพแ์ ป้น ฬ 4.1.14 การพมิ พส์ มั ผสั แป้นอักษร ๆ “ ฯ . , การสืบนวิ้ นวิ้ กอ้ ยซา้ ยพิมพแ์ ปน้ ฟ สบื ไปท่ีแป้น ๆ นวิ้ นางซา้ ยพิมพแ์ ป้น ไ นวิ้ กอ้ ยขวากดแปน้ ยกแครพ่ ิมพแ์ ป้น “ นวิ้ นางขวาพิมพแ์ ป้น น นวิ้ กอ้ ยซา้ ยกดแป้นยกแครพ่ ิมพแ์ ปน้ ฯ นวิ้ กอ้ ยขวาพิมพแ์ ป้น ง นวิ้ กอ้ ยซา้ ยกดแปน้ ยกแครพ่ ิมพแ์ ป้น . นวิ้ กอ้ ยขวาพิมพแ์ ป้น ล นวิ้ กอ้ ยซา้ ยกดแป้นยกแครพ่ ิมพแ์ ป้น ,

4.1.15 การพมิ พส์ มั ผสั แป้นอกั ษร / _ % - การสบื นวิ้ นวิ้ กอ้ ยซา้ ยพิมพแ์ ปน้ ฟ สบื ไปทีแ่ ปน้ / นวิ้ นางซา้ ยพิมพแ์ ปน้ ห สืบไปที่แป้น _ นวิ้ นางขวาพิมพแ์ ปน้ ว สบื ไปทแ่ี ป้น - นวิ้ กอ้ ยขวาพิมพแ์ ป้น - นวิ้ กอ้ ยซา้ ยกดแป้นยกแครพ่ มิ พแ์ ปน้ % 4.1.16 การพิมพส์ มั ผัสแป้นเครื่องหมาย ( ) . ? ี การสืบนวิ้ นวิ้ กอ้ ยซา้ ยพิมพแ์ ปน้ ผ นวิ้ กอ้ ยขวากดแป้นยกแครพ่ มิ พแ์ ปน้ ( นวิ้ นางซา้ ยพมิ พแ์ ปน้ ป นวิ้ กอ้ ยขวากดแปน้ ยกแครพ่ มิ พแ์ ป้น ) นวิ้ นางขวาพิมพแ์ ป้น ีิ นวิ้ กอ้ ยขวากดแปน้ ยกแครพ่ ิมพแ์ ป้น ี นวิ้ กอ้ ยขวาพิมพแ์ ปน้ ท นวิ้ กอ้ ยซา้ ยกดแปน้ ยกแครพ่ มิ พแ์ ปน้ ? นวิ้ กอ้ ยขวาพิมพแ์ ปน้ ีั นวิ้ กอ้ ยซา้ ยกดแป้นยกแครพ่ มิ พแ์ ป้น ี 4.1.17 การพมิ พส์ มั ผสั แป้นตวั เลข 0 3 4 5 6 การสบื นวิ้ นวิ้ ชซี้ า้ ยพิมพแ์ ป้น ถ นวิ้ กอ้ ยขวากดแปน้ ยกแครพ่ ิมพแ์ ปน้ 4 นวิ้ กลางซา้ ยพมิ พแ์ ป้น ภ นวิ้ กอ้ ยขวากดแปน้ ยกแครพ่ ิมพแ์ ปน้ 3 นวิ้ กอ้ ยซา้ ยพมิ พแ์ ปน้ ๆ นวิ้ กอ้ ยขวากดแปน้ ยกแครพ่ ิมพแ์ ป้น 0

นวิ้ ชขี้ วาพิมพแ์ ปน้ ค นวิ้ กอ้ ยซา้ ยกดแปน้ ยกแครพ่ มิ พแ์ ป้น 5 นวิ้ กลางขวาพิมพแ์ ปน้ ต นวิ้ กอ้ ยซา้ ยกดแปน้ ยกแครพ่ ิมพแ์ ปน้ 6 4.1.18 การพมิ พส์ ัมผัสแป้นตวั เลข 1 2 7 8 9 การสืบนวิ้ นวิ้ กอ้ ยซา้ ยพิมพแ์ ปน้ / นวิ้ กอ้ ยขวากดแปน้ ยกแครพ่ มิ พแ์ ป้น 1 นวิ้ นางซา้ ยพมิ พแ์ ป้น __ นวิ้ กอ้ ยขวากดแป้นยกแครพ่ ิมพแ์ ปน้ 2 นวิ้ นางขวาพมิ พแ์ ปน้ จ นวิ้ กอ้ ยซา้ ยกดแป้นยกแครพ่ ิมพแ์ ปน้ 7 นวิ้ กอ้ ยขวาพิมพแ์ ป้น ข นวิ้ กอ้ ยซา้ ยกดแป้นยกแครพ่ มิ พแ์ ปน้ 8 การวดั และประเมนิ ผลวชิ าพิมพส์ มั ผสั การวดั และประเมินผลทกั ษะการพิมพส์ มั ผสั มีความม่งุ หมายเพอ่ื พฒั นาทกั ษะของ ผเู้ รยี น ซึ่งตอ้ งวดั และประเมนิ ใหค้ รอบคลมุ ทงั้ 3 ดา้ น คอื เทคนคิ การพมิ พท์ ่ถี กู ตอ้ ง ความเรว็ และความแมน่ ยา โดยมหี ลกั การดงั นี้ 1. ในระยะเร่มิ แรกของการฝึก ใหเ้ นน้ การวดั และประเมนิ ผลเทคนิคการพิมพ์ ทีถ่ ูกต้องเป็นอนั ดบั แรก โดยใชว้ ิธีการสงั เกตพฤติกรรมการพมิ พข์ องผเู้ รียนแลว้ บนั ทกึ ลงในแบบสงั เกตเทคนิคการพมิ พ์ ซึง่ อาจสงั เกตและบนั ทึกทกุ ครงั้ ทเี่ รียนหรือ เวน้ ระยะเวลาเป็นชว่ ง ๆ ก็ไดข้ นึ้ อยกู่ บั สภาพการเรยี นการสอน โดยใหส้ งั เกต พฤติกรรมหลกั ๆ 3 ดา้ น คอื 1.1 การนั่ง ผูเ้ รยี นควรนง่ั ตวั ตรงหลงั พงิ พนกั เกา้ อี้ แขนปล่อยขา้ งลาตวั ตาม สบาย วางเทา้ ราบกบั พนื้ ไมน่ ง่ั ไขว่หา้ งหรอื ขดั สมาธิ

1.2 การใช้สายตา ผเู้ รียนควรใชส้ ายตามองเฉพาะตน้ ฉบบั ในกระดาษหรอื หนา้ จอเทา่ นนั้ ไม่ควรมองแป้นพมิ พใ์ นขณะกาลงั พมิ พ์ 1.3 การวางมือและก้าวน้ิว ผเู้ รียนตอ้ งวางมอื ในลกั ษณะขอ้ มือตา่ นวิ้ โคง้ ปลายนวิ้ ” แตะ” แป้นเหยา้ ในตาแหนง่ ที่ถกู ตอ้ ง องุ้ มอื ไมเ่ ทา้ ขอบโต๊ะ และกา้ วนวิ้ ไป เคาะแปน้ อกั ษรทต่ี อ้ งการแลว้ รีบชกั นิว้ กลบั แป้นเหยา้ ดว้ ยจงั หวะทตี่ ่อเนื่องสม่าเสมอ ทงั้ นผี้ สู้ อนควรแจง้ ใหผ้ เู้ รียนทราบว่าจะมกี ารสงั เกตและบนั ทกึ เทคนิคการพมิ พข์ อง ผเู้ รยี นไว้ โดยตอ้ งไมล่ มื แจง้ ผลการสงั เกตใหผ้ เู้ รียนรบั ทราบและใชผ้ ลการสงั เกตนี้ ชว่ ยแกไ้ ขพฤติกรรมการพิมพข์ องผเู้ รยี นใหด้ ีขึน้ เพอื่ ใหผ้ เู้ รยี นมีทกั ษะวธิ ีพิมพท์ ่ี ถกู ตอ้ งเป็นฐานที่ม่นั คงรองรบั ทกั ษะความเรว็ และความแมน่ ยาทีจ่ ะตามมา ซึง่ ครูตอ้ ง พยายามคงสภาพทกั ษะเทคนคิ การพิมพท์ ่ีถกู ตอ้ งของผเู้ รยี นไวโ้ ดยหม่นั วดั และ ประเมินพฤตกิ รรมการพิมพต์ ลอดระยะเวลาทเ่ี รยี น 2. เมอื่ ครูสงั เกตเห็นวา่ ผเู้ รียนเริ่มมเี ทคนคิ การพมิ พท์ ีถ่ กู ตอ้ งแลว้ คอื มที ่าน่งั ที่ ถกู ตอ้ ง จงั หวะการเคาะแปน้ ทส่ี มา่ เสมอ มีความม่นั ใจในการกา้ วนวิ้ โดยสายตาไม่ เหลยี วมองแป้นพิมพบ์ ่อย มีปรมิ าณการพิมพท์ ่มี ากขนึ้ ไดเ้ รียนรูแ้ ป้นอกั ษรในปริมาณ เพียงพอและสามารถพิมพข์ อ้ ความเป็นประโยคได้ ครูกส็ ามารถเรม่ิ พฒั นาผเู้ รียนโดย การวดั ความเรว็ และความแม่นยาได้ ซึ่งตอ้ งเขา้ ใจก่อนวา่ การวดั และประเมินทกั ษะ ความเร็วและความแมน่ ยานี้ มใิ ช่เพื่อการคดั เลอื กคนสอบไดห้ รือสอบตก หากแตใ่ ช้ เพื่อพฒั นาทกั ษะของผเู้ รียนใหก้ า้ วหนา้ ขนึ้ ซึ่งสามารถวดั และประเมนิ ไดจ้ าก “การ พิมพจ์ ับเวลา” ทงั้ นผี้ เู้ ริม่ เรยี นในระดบั ประถมศึกษาควรจบั เวลาครง้ั ละไมเ่ กิน 1 นาที ในการพมิ พจ์ บั เวลาแตล่ ะคาบ ควรใหพ้ ิมพห์ ลาย ๆ ครงั้ แลว้ วดั ความเรว็ และความ แม่นยาดว้ ยสตู รต่อไปนี้ 2.1 ความเร็วในการพิมพภ์ าษาไทยมสี ตู รคานวณดงั นี้

จานวนเคาะท์ีไ่ี ด  4 อตั ราความเร็ว (GWAM) = เวลาที่พิม์พ์เปนนาที ผลลพั ธท์ ไี่ ดค้ อื จานวนคาท่พี มิ พไ์ ดต้ อ่ 1 นาที (Gross word a Minute : GWAM) แลว้ จึงบนั ทึกครงั้ ที่ดที ีส่ ดุ ลงในแบบบนั ทึกความกา้ วหนา้ ในการพิมพ์ 2.2 ความแม่นยาในการพมิ พ์ วดั ได้ 2 วธิ ี คือ วธิ ีแรกวดั โดยการนบั จานวนเคาะ ท่ีพิมพผ์ ดิ แลว้ บนั ทึกไวใ้ นแบบบนั ทกึ ความกา้ วหนา้ ในการพมิ พ์ หรือวิธีทสี่ องวดั ใน รูปของรอ้ ยละโดยมีสตู รดงั นี้ ระดับความแ์มนยาี= จานวนเคาะที้งั หมด − จานวนเคาะทีีผ่ ิด x100 จานวนเคาะทงี้ั หมด ผลลพั ธท์ ่ไี ดค้ อื ระดบั ความแม่นยา(accuracy rate) เป็นคา่ รอ้ ยละ แลว้ จงึ บนั ทกึ ไวใ้ น แบบบนั ทกึ ความกา้ วหนา้ ในการพมิ พ์ แต่สาหรบั ผเู้ รมิ่ ฝึกพิมพอ์ าจวดั โดยวิธีนบั จานวนเคาะท่พี มิ พผ์ ดิ โดยยงั ไมต่ อ้ งคานวณระดบั ความแม่นยากไ็ ด้ ทงั้ นคี้ วรจดั ใหม้ กี ารพิมพจ์ บั เวลาบอ่ ย ๆ เพอื่ พฒั นาทกั ษะผเู้ รียน และขอ้ มลู ในแบบ บนั ทกึ จะบอกถึงแนวโนม้ ความกา้ วหนา้ ของผเู้ รียน และนามาใชเ้ ป็นสว่ นหน่ึงในการ พจิ ารณาประเมินผลการเรียนตามสภาพจรงิ ได้ บทที่ 2 พมิ พด์ ดี องั กฤษเบือ้ งตน้ ข้อควรปฏิบัติในการฝึ กพิมพด์ ีด ๑. ทา่ น่งั การเรียนพิมพด์ ีดไมว่ ่าจะดว้ ยเครอ่ื งพิมพด์ ดี ธรรมดาหรือเครื่องคอมพวิ เตอร์ ไม่ใช่เรอื่ งงา่ ยอย่างท่หี ลายคนเขา้ ใจ เพราะผพู้ มิ พอ์ าจใชเ้ วลาอยหู่ นา้ เครอ่ื งพิมพด์ ีด เป็นเวลาหลายช่วั โมง ฉะนน้ั ทา่ น่งั ทถี่ กู วธิ ีจึงมคี วามสาคญั เป็นอยา่ งมาก คือจะตอ้ ง น่งั ตวั ตรง หลงั ไมง่ อ ขอ้ ศอกไมก่ างและหา่ งจากเคร่อื งพอสมควร หากผดิ จากนถี้ อื เป็น

การน่งั ทผี่ ดิ วิธีและฝืนหลกั การพิมพเ์ ร็ว อาจทาใหม้ ีอาการปวดบริเวณหนา้ อก หลงั และลาคอได้ ๒. การวางมอื และนวิ้ บนแป้นอกั ษร เป็นอกี สงิ่ หนึ่งทจ่ี ะตอ้ งปฏิบตั ใิ หถ้ กู วธิ ีกลา่ วคือ วางตาแหนง่ ของนวิ้ มือทงั้ สองขา้ งลงบนแปน้ อกั ษรแถวทส่ี อง นบั จากลา่ งขนึ้ ไป โดย นวิ้ กอ้ ยซา้ ยอย่บู นแป้นอกั ษร ฟ นวิ้ กอ้ ยขวาอย่บู นแปน้ อกั ษร ว ส่วนนวิ้ อ่ืน ๆ ใหเ้ รยี ง ตามลาดบั ไปและนวิ้ หวั แม่มอื ทงั้ สองขา้ งใหว้ างอย่บู นคานเวน้ วรรค สาหรบั การเคาะ คานเวน้ วรรคใหใ้ ชน้ วิ้ หวั แมม่ ือขวาเท่านนั้ เมื่ออย่ใู นทา่ เตรียมพมิ พใ์ หง้ อนวิ้ ทกุ ๆ นวิ้ ไวเ้ สมอ โดยกาหนดใหป้ ลายนวิ้ สว่ นทตี่ ดิ กบั เลบ็ นน้ั จดแป้นอักษร ดงั นน้ั ผทู้ ตี่ งั้ ใจจะ ฝึกพมิ พส์ มั ผสั ใหไ้ ดด้ ีจงึ ไม่ควรไวเ้ ลบ็ ยาว ๓. การดีด หรือ เคาะ เม่อื เรมิ่ พมิ พใ์ หจ้ ดปลายนวิ้ กบั แป้นอกั ษร ทงั้ นจี้ ะไม่ใชต้ มุ่ เนอื้ แตจ่ ะถา่ ยเทนา้ หนกั หรือกาลงั ไปอย่ทู ี่บรเิ วณปลายนวิ้ จากนน้ั ใหด้ ีดหรือเคาะลงบน แป้นอกั ษรเบา ๆ น่มุ นวล เป็นจังหวะ เหมอื นอยา่ งเคาะคอ้ นทมี่ ีสปริง จากนนั้ ยกนวิ้ ท่ี เคาะขนึ้ อยา่ งรวดเร็วเหมอื นแปน้ อกั ษรรอ้ นเป็นไฟ ซึ่งไม่ใช่การกดนวิ้ ลงไปเฉย ๆ หรอื จมิ้ นวิ้ ตามลงไป ตอ้ งระวงั ยกแตน่ วิ้ ทีต่ อ้ งการดดี เทา่ นนั้ สว่ นขอ้ มือใหโ้ หย่ง ๆ อยา่ ปล่อยใหพ้ าดลงไปที่ขอบพิมพด์ ดี ซง่ึ เมื่อวางนิว้ และมือถกู ตอ้ งแลว้ จะเห็นไดว้ า่ นวิ้ ชี้ ซา้ ยกบั นวิ้ ชขี้ วาขนานกนั พอดี ๔. สายตา จงจาไวเ้ สมอวา่ ในการฝึกพมิ พส์ มั ผัส อยา่ ทอ่ งจาแลว้ พมิ พ์ พิมพจ์ บ ประโยคหนั กลบั มาดบู ทความแลว้ กลบั ไปพิมพใ์ หม่ หรอื ตากบั ใจไมส่ มั พนั ธก์ นั ห่วง พะวงกบั คาผดิ ซ่ึงจะทาใหก้ ารฝึกพิมพไ์ ม่กา้ วหนา้ ขอ้ แนะนาในส่วนนคี้ อื ผฝู้ ึกพิมพ์ สมั ผสั จะตอ้ งมีสมาธิ ตาจบั อยทู่ ่บี ทความท่ตี อ้ งการพิมพเ์ ท่านนั้ กลา่ วคอื ตอ้ งมี ความสมั พนั ธก์ นั ใน ๓ องคป์ ระกอบ ไดแ้ ก่ จิต ตา และมือ คอื ผฝู้ ึกพิมพจ์ ะตอ้ งมีจติ ใจ จดจอ่ อยกู่ บั การพิมพ์ สายตาจบั อยทู่ ่ตี วั หนงั สอื และเคลือ่ นไหวมอื อย่างต่อเนอ่ื ง

๕. การวางเอกสาร หรือ หนงั สอื เอกสารหรอื สงิ่ ท่ีตอ้ งการพิมพค์ วรวางไวด้ า้ นขวามอื เสมอ และอยา่ ใหก้ ีดขวางการเคลื่อนของแครพ่ มิ พ์ หรืออปุ กรณก์ ารพมิ พอ์ ่ืน ๆ การสรา้ งทกั ษะท่ดี ีในการพิมพ์ 1. เคาะแป้นอกั ษรพยี งเบา ๆ และใหเ้ รว็ ทสี่ ดุ เทา่ ที่จะทาได้ 2. ใหน้ วิ้ ทงั้ 8 อยทู่ แี่ ปน้ เหยา้ เสมอ 3. เมื่อพมิ พจ์ งเคล่อื นไปแตล่ าพงั นวิ้ ไมเ่ คลื่อนขอ้ ศอกหรอื แขน 4. ตาจบั ตอ้ งอย่ทู แี่ บบพมิ พเ์ สมอ 5. ฝึกการปัดแครใ่ หเ้ รว็ ใชเ้ วลาใหน้ อ้ ยท่สี ดุ 6. ฝึกยกแครใ่ หร้ วดเรว็ และสมั พนั ธก์ บั การดดี แปน้ อกั ษร 7. ฝึกพิมพต์ ิดต่อกนั ใหไ้ ดจ้ งั หวะสม่าเสมอ 8. ควบคมุ จิตใจใหอ้ ย่กู บั งานทีก่ าลงั พมิ พ์

9. ไม่เกรง็ รา่ งกาย ปล่อยตามสบายและอย่ใู นท่าพมิ พท์ ีถ่ กู ตอ้ ง 10. ในการพมิ พเ์ พ่อื เพิ่มความเรว็ จงขจดั การเคล่ือนไหวที่เสียเปลา่ ใหห้ มดสนิ้ ท่าน่ังพิมพท์ ี่ถกู วิธี 1. น่งั ตวั ตรงและเอนลาตวั ไปขา้ งหนา้ เลก็ นอ้ ยโดยลาตวั อยหู่ ่างจากขอบโต๊ะประมาณ 1 คบื 2. เทา้ ทงั้ สองขา้ งวางราบกบั พนื้ โดยใหเ้ ทา้ ขา้ งใดขา้ งหน่งึ วางเหล่อื มกนั เล็กนอ้ ย 3. ขอ้ ศอกอย่ขู า้ งลาตวั 4. แขนทอ่ นลา่ งทามมุ ประมาณ 30 องศากบั โต๊ะ 5. คอตงั้ ตรง 6. ศีรษะหนั ไปทางขวาเล็กนอ้ ยเพอ่ื อ่านเอกสาร 7. ส่วนโตะ๊ คอมพวิ เตอรท์ ่ีใชค้ วรจะมคี วามสงู ประมาณ 28 นวิ้ ปัญหาทเ่ี กดิ ขนึ้ ขณะพมิ พด์ ดี และวิธีแกไ้ ข ปัญหาทีเ่ กิดขนึ้ พมิ พอ์ อกมาเป็นหนา้ วา่ ง

สีไมถ่ กู ตอ้ ง ตวั อกั ษรขาดหายไป งานพิมพม์ สี ซี ีดจาง งานพมิ พม์ สี เี ขม้ เสน้ บิดเบีย้ ว มรี อยเลอะ มเี สน้ แตก มตี วั อกั ขระท่ไี ม่ถกู ตอ้ ง มีเสน้ สีขาวในงานพมิ พ์ วิธีแกไ้ ข พมิ พอ์ อกมาเป็นหนา้ วา่ ง มลี กั ษณะเป็นตารางหมากรุก ภาพกราฟิกหรือภาพบดิ เบยี้ ว ตวั อกั ษรขาดหายไป งานพิมพม์ ีสซี ดี จาง งานพิมพม์ สี ีเขม้ เสน้ บดิ เบีย้ ว มีรอยเลอะ มเี สน้ แตก มีตวั อกั ขระท่ไี มถ่ กู ตอ้ ง มเี สน้ สีขาวในงานพิมพ์

การบารุงรกั ษาเครื่องไมโครคอมพวิ เตอร์ เปิดผา้ คลมุ เครอื่ งออก พรอ้ มทาความสะอาดผา้ คลมุ แลว้ พบั เก็บใหเ้ รียบรอ้ ย ตรวจความเรยี บรอ้ ยของเครื่องกอ่ นใช้ หลงั จากเลิกใชแ้ ลว้ ใชแ้ ปรงขนออ่ นปัดฝ่นุ ใหส้ ะอาด เคลียแท๊ปทีต่ งั้ ไวท้ งั้ หมดออกเสีย เล่อื นกนั้ หนา้ กนั้ หลงั มาไวท้ จ่ี ดุ กึ่งกลางของแคร่ เปิดคนั โยกฟรีกระดาษ เปิดคนั โยกฟรีบรรทดั ปรบั ป่มุ พิมพห์ นกั -เบา อยใู่ นตาแหนง่ ทเี่ บาทสี่ ดุ ทาความสะอาดใตเ้ ครือ่ งพมิ พด์ ีด ใชผ้ า้ คลมุ เครอื่ งใหเ้ รียบรอ้ ย การวางนวิ้ บนตัวอักษรแป้นเหย้า a s d f j k l ;

มอื ซา้ ย มือขวา นวิ้ ชี้ กดแปน้ อกั ษร f นวิ้ ชี้ กดแป้นอกั ษร j นวิ้ กลาง กดแป้นอกั ษร d นวิ้ กลาง กดแป้นอกั ษร k นวิ้ นาง กดแป้นอกั ษร s นวิ้ นาง กดแป้นอกั ษร l นวิ้ กอ้ ย กดแปน้ อกั ษร a นวิ้ กอ้ ย กดแปน้ อกั ษร ; แป้นเหยา้ (Home Keys) หมายถงึ แป้นอกั ษรซ่งึ ใชเ้ ป็นท่ีพกั นิว้ มอื ระหวา่ งพมิ พ์ ไมว่ ่า นวิ้ ใดจะกา้ วไปพมิ พต์ วั ไหนกต็ าม เมื่อเคาะแปน้ อกั ษรท่ีตอ้ งการเสรจ็ แลว้ จะตอ้ งชกั นวิ้ นนั้ กลบั มาไวบ้ นตาแหน่งเหยา้ ของมนั ทนั ที การพมิ พ์ ตวั อกษั รตวั พิมพใ์ หญ่

ถา้ พมิ พแ์ ป้นอกั ษรดว้ ยมือขวาใหใ้ ชน้ วิ้ กอ้ ยซา้ ย กด Shift กอ่ น จงึ พมิ พต์ วั อกั ษรแลว้ จึงปลอ่ ยนิว้ กลบั มาแปน้ เหยา้ ตามเดิม ถา้ พิมพแ์ ป้นอกั ษรดว้ ยมอื ซา้ ยใหใ้ ชน้ วิ้ กอ้ ยขวา กด Shift ก่อน จึงพิมพต์ วั อกั ษรแลว้ จงึ ปล่อยนิว้ กลบั มาแป้นเหยา้ ตามเดิม แบบฝึ กพิมพแ์ ป้นอักษร q w e r u i o p แบบฝึ กพิมพแ์ ป้นอกั ษร Z X C V B N M

แบบฝึ กพิมพแ์ ป้นอกั ษร g t h y

การวางนวิ้ มือบนแปน้ อกั ษร g t y h ทถ่ี กู วธิ ีมีดงั นี้ นวิ้ ชี้ กดแป้นอกั ษร g นวิ้ ชี้ กดแป้นอกั ษร t นวิ้ ชี้ กดแปน้ อกั ษร y นวิ้ ชี้ กดแปน้ อกั ษร h แบบฝึ กพิมพแ์ ป้นตัวเลข 123456789 มือซา้ ย นวิ้ ชี้ กดแป้นตวั เลข 6


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook