Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ฐิติยาฉัตร ภัทรสิทธิเดชา(ผ่าน)

ฐิติยาฉัตร ภัทรสิทธิเดชา(ผ่าน)

Description: ฐิติยาฉัตร ภัทรสิทธิเดชา(ผ่าน)

Search

Read the Text Version

ก ปจั จยั ทม่ี อี ทิ ธิพลตอ่ เหตผุ ลในการตดั สินใจซื้ออัญมณเี หล่ยี มเจยี ระไน รูปแบบใหม่ของกลุ่มนกั ทอ่ งเท่ยี วชาวไทย จงั หวดั จนั ทบุรี ฐติ ยิ าฉตั ร ภัทรสิทธิเดชา วทิ ยานพิ นธน์ ี้เป็นสว่ นหนึ่งของการศึกษาตามหลกั สูตรบริหารธรุ กิจบณั ฑติ สาขาวชิ าธรุ กิจอญั มณแี ละเครอื่ งประดบั คณะอัญมณี มหาวิทยาลยั บูรพา เมษายน 2563

ข ปจั จัยท่ีมีอิทธิพลตอ่ เหตุผลในการตดั สนิ ใจซ้อื อญั มณเี หลย่ี มเจียระไน รปู แบบใหมข่ องกลุ่มนกั ท่องเทยี่ วชาวไทย จงั หวดั จนั ทบุรี ฐิตยิ าฉัตร ภทั รสทิ ธิเดชา วิทยานพิ นธ์น้เี ปน็ สว่ นหนง่ึ ของการศกึ ษาตามหลกั สตู รบรหิ ารธุรกจิ บัณฑติ สาขาวชิ าธรุ กิจอญั มณแี ละเครอื่ งประดับ คณะอญั มณี มหาวิทยาลัยบรู พา เมษายน 2563 ลขิ สทิ ธ์เิ ปน็ ของมหาวทิ ยาลยั บรู พา

ค คณะกรรมการควบคุมวิทยานิพนธแ์ ละคณะกรรมการสอบวิทยานิพนธ์ได้พจิ ารณา วทิ ยานพิ นธ์ ของ ฐิติยาฉัตร ภัทรสทิ ธิเดชา ฉบบั นี้แล้ว เห็นสมควรรบั เป็นสว่ นหนง่ึ ของการศึกษาตาม หลักสูตร บรหิ ารธุรกจิ บณั ฑติ สาขาวชิ าธรุ กจิ อัญมณีและเครอ่ื งประดบั ของมหาวทิ ยาลยั บรู พาได้ คณะกรรมการควบคุมวทิ ยานิพนธ์ ..............................................................................อาจารยท์ ป่ี รกึ ษาหลกั (อาจารย์อัครเดช ฐศิ ภุ กร) ..............................................................................อาจารยท์ ่ปี รึกษารว่ ม (อาจารย์ ดร.สุรเดช สเุ มธาภิวฒั น์) คณะกรรมการสอบวิทยานิพนธ์ ..............................................................................ประธาน (อาจารย์อคั รเดช ฐิศภุ กร) ..............................................................................กรรมการ (อาจารย์ ดร.สุรเดช สุเมธาภวิ ฒั น)์ คณะอญั มณีอนมุ ตั ิให้รับวิทยานพิ นธ์ฉบับน้เี ป็นส่วนหนง่ึ ของการศกึ ษา ตามหลักสตู ร บริหารธุรกจิ บณั ฑิต สาขาวิชาธุรกจิ อัญมณแี ละเครือ่ งประดบั ของมหาวิทยาลยั บูรพา ..............................................................................คณบดีคณะอัญมณี (รองศาสตราจารย์ ดร.พิมพ์ทอง ทองนพคณุ ) วันที่.......เดือน....................พ.ศ. 2563

ง กิตติกรรมประกาศ งานวจิ ยั เรือ่ ง “ปจั จัยท่ีมอี ทิ ธิพลต่อเหตุผลในการตัดสนิ ใจซื้ออญั มณีเหลย่ี มเจียระไนรูปแบบ ใหม่ของกลมุ่ นักท่องเทยี่ วชาวไทย จังหวัดจนั ทบุร”ี ประสบความสำเร็จไปไดด้ ว้ ยความกรุณาและความ ช่วยเหลอื เปน็ อยา่ งดเี นื่องจากไดร้ ับความอนุเคราะหจ์ ากอาจารย์ทีป่ รึกษา อาจารย์อคั รเดช ฐิศุภกร ทไ่ี ด้ กรณุ าสละเวลาใหค้ ำปรึกษาปัญหาของงาน และขอ้ แนะนำตา่ งๆ มาโดยตลอด ซึ่งเปน็ ประโยชนใ์ นการ ทำงานวิจยั นี้ใหส้ ำเรจ็ ลุล่วงไปไดด้ ้วยดสี ่งผลให้งานวจิ ยั ฉบบั นม้ี ีความสมบูรณ์มากยิ่งข้ึน นอกจากนี้ ขอขอบคุณคณาจารยข์ องมหาวทิ ยาลยั บรู พา วิทยาเขตจนั ทบุรี ทุกทา่ นทไี่ ด้ให้ ความร้ตู ่างๆ ที่เป็น ประโยชน์ตอ่ งานวิจัยอยา่ งมาก ซ่งึ ผู้จัดทำได้นำมาใช้ในงานวจิ ยั ฉบบั นี้ ขอขอบพระคุณ ผ้ตู อบแบบสอบถามทุกทา่ นท่ีไดส้ ละเวลาในการตอบแบบสอบถาม จนเกดิ การพัฒนาองค์ความรูท้ างความคิด นำไปตอ่ ยอดในการดำเนินชีวติ ในภายภาคหน้า ให้เกิดผลสมั ฤทธใ์ิ นตวั บุคคลอย่างดที ่ีสุด สุดท้ายนข้ี อกราบขอบพระคุณ คณุ แม่ และครอบครวั ท่ีให้ความรัก ความหว่ งใย เป็นกำลงั ใจท่ี ดีเสมอมา และขอขอบคุณกำลงั ใจจากเพื่อนๆ ตลอดจนบุคคลต่าง ๆ ทใ่ี ห้ความชว่ ยเหลือเป็นอย่างดี ผู้วิจัยไม่สามารถกล่าวนามได้หมด ณ ทนี่ ้ี ผวู้ ิจยั รู้สกึ ซาบซึง้ ในความกรุณา และความปรารถนาดขี องทุก ทา่ นเปน็ อยา่ งย่ิง จนสามารถสำเร็จการศกึ ษาได้ตามท่ีตัง้ ใจ ฐิตยิ าฉัตร ภทั รสทิ ธเิ ดชา ผู้วจิ ยั

จ 59320210: สาขาวิชา: ธรุ กจิ อัญมณแี ละเครอ่ื งประดบั ; บธ.บ. (ธุรกิจอัญมณแี ละเครื่องประดับ) คำสำคัญ: การตดั สนิ ใจซื้อ/เหลีย่ มเจยี ระไนแบบใหม่/ตลาดพลอย/จนั ทบุรี ฐติ ยิ าฉตั ร ภทั รสทิ ธเิ ดชา: ปัจจยั ท่มี อี ิทธพิ ลตอ่ เหตุผลในการตดั สนิ ใจซือ้ อัญมณเี หลี่ยม เจยี ระไนรูปแบบใหมข่ องกลุ่มนกั ทอ่ งเที่ยวชาวไทยจงั หวดั จันทบุรี คณะกรรมการควบคุมวิทยานิพนธ:์ อาจารยอ์ ัครเดช ฐิศุภกร, กจ.ม., ดร.สรุ เดช สุเมธาภิวัฒน์, บธ.ด., ปี พ.ศ. 2563 การวิจยั คร้ังนม้ี งุ่ เนน้ ที่จะศึกษาปจั จัยทม่ี อี ิทธพิ ลต่อเหตุผลในการตัดสนิ ใจซ้ืออญั มณเี หลีย่ ม เจยี ระไนรปู แบบใหม่ของกลุม่ นักท่องเท่ยี วชาวไทยจงั หวดั จันทบุรี เพื่อนำมาเป็นแนวทางในการปรับกล ยุทธ์ทางการตลาดให้แกผ่ ู้ประกอบการ และเพ่ือขยายตลาดให้กบั กลุ่มลูกค้าที่เขา้ มาในจังหวัดจนั ทบุรี ซ่ึง กล่มุ ตวั อยา่ งที่ใชใ้ นงานวิจัยครงั้ นี้ คือ กลมุ่ นักท่องเท่ยี วชาวไทยในบริเวณตลาดพลอยจังหวัดจันทบุรี จำนวน 400 คน โดยสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ ไดแ้ ก่ ร้อยละ ค่าเฉลีย่ คา่ เบ่ียงเบนมาตรฐาน T-test สถติ ิ One-way ANOVA (F-test) และสถิติ Pearson Correlation ทรี่ ะดบั นยั สำคัญทางสถติ ิ 0.05 ผลการวจิ ยั พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามสว่ นใหญเ่ ป็นเพศหญิง จำนวน 222 คน คิดเปน็ ร้อยละ 55.5 มอี ายุ 30-39 ปี จำนวน 169 คน คิดเปน็ ร้อยละ 42.3 สถานภาพ สมรส จำนวน 190 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 47.5 มรี ะดบั การศกึ ษา ปริญญาตรี จำนวน 286 คน คิดเปน็ ร้อยละ 71.5 มีรายได้ต่อเดือน 20,001-30,000 บาท จำนวน 133 คน คิดเป็นร้อยละ 33.3 โดยพฤตกิ รรมการซื้อเครื่องประดบั ของ ผูต้ อบแบบสอบถามส่วนใหญ่ชื่นชอบรปู รา่ งเหล่ยี มเจยี ระไนแบบกลม ชื่นชอบ อญั มณีโทนสีแดง สนใจเคร่ืองประดับประเภทแหวน สว่ นใหญ่ซือ้ อัญมณีทีม่ ีน้ำหนัก 1-2 กะรัต ไม่ สามารถกำหนดความถ่ีในการซอ้ื อัญมณี มลู คา่ เฉลย่ี ต่อครงั้ ท่ซี ้อื คือ นอ้ ยกว่า 5,000 บาท สิง่ ทคี่ ำนงึ ใน การเลอื กซ้ือ คือ คุณภาพของสนิ คา้ และเคยได้รบั ข่าวสารข้อมูลเกี่ยวกับอัญมณีจากอนิ เตอรเ์ นต็ ปัจจัยทางการตลาด ด้านสินค้า ขอ้ ที่มขี ้อเฉลย่ี มากทีส่ ุด คือ ความประณีตและความสวยงาม ดา้ นการเจียระไนของอัญมณี มคี า่ เฉล่ยี 4.24 อยู่ในระดบั มากที่สดุ ดา้ นราคา ขอ้ ท่มี ขี ้อเฉล่ยี มากทส่ี ุด คอื ราคาเหมาะสมกับคณุ ภาพสินค้า มคี ่าเฉล่ีย 4.29 อยู่ในระดับมากที่สุด ด้านชอ่ งทางการจดั จำหนา่ ย ข้อท่ีมขี ้อเฉลี่ยมากทส่ี ดุ คือ มีการจำหน่ายสินคา้ หลายช่องทาง มคี ่าเฉลี่ย 4.06 อยใู่ นระดับมาก ดา้ นการ สง่ เสริมการตลาด ข้อที่มีข้อเฉลยี่ มากที่สดุ คือ คณุ ลักษณะของพนักงานขาย มีคา่ เฉล่ีย 4.24 อยใู่ นระดับ มากท่ีสุด และการตัดสินใจซอ้ื อัญมณีเหล่ียมเจียระไนรูปแบบใหม่ส่วนใหญ่ ข้อท่ีมีค่าเฉลี่ยมากท่สี ุดคอื นำไปทำเครอื่ งประดับ มีค่าเฉลย่ี 3.98 อยู่ในระดับมาก

ฉ 59320210: MAJOR: GEMS AND JEWELRY BUSINESS (B.BA.) KEYWORDS: DECISION/LAPIDARY/GEMS MARKET/CHANTHABURI TITIYACHAT PATTARASITTIDEACHA: Identification of influencing factors on decision-making about novel facet jewelry purchase of Thai tourist in Chanthaburi THESIS ADVISORS: Akadath Thisupakorn (M.M.), Suradat Sumatapiwat (D.B.A.), 2020 This research focuses on the study of factors which affect decision-making on novel facet jewelry purchase of Thai tourist in Chanthaburi. The output of this study is not only beneficial for entrepreneur who plan to develop marketing strategies but also applicable to attract more customers to Chanthaburi. The representative samples are 400 Thai tourists at jewelry market in Chanthaburi. The statistical methods, including mean value, standard deviation, T-test, One-way ANOVA (F-Test) and Pearson correlation, were analyzed at the statistical significance level 0.05. The research results have shown that most are 222 female or 55.5%, aged 31-40 years, 169 people, 42.3%, marital 190 persons, representing 47.5%, with monthly income 20,001-40,000 baht, 133 persons, representing 33.3%, and most of them 71.5%, 286 persons received bachelor degree. The dominant behavior prefers round facet, red natural tone. The most popular accessory is ring, with 1-2 carats jewelry. The frequency of purchasing jewelry, especially onsite at Chanthaburi, is indeterminate. The average purchase value per time is below 5,000 baht. The quality of product is the first priority. People get information related to jewelry from internet. The most significant marketing factor, in term of product, is exquisite craftsmanship of facet, on average 4.2 which is by far the highest level. Regarding to the price, the reasonable cost with proper quality is the most satisfying, on average 4.29. Marketing through various channels is the preferable strategy, on average 4.06. For supporting marketing, the personality of salesperson is the most important on average 4.24. The decision on novel facet jewelry purchase was extensively made for fabrication accessory, on average 3.5

ช สารบญั หน้า บทคัดย่อ (ภาษาไทย).............................................................................................................. จ บทคดั ย่อ (ภาษาอังกฤษ)......................................................................................................... ฉ สารบัญ.................................................................................................................................. .. ช สารบญั ตาราง.......................................................................................................................... ฌ สารบญั ภาพ............................................................................................................................. ฎ บทที่ 1 บทนำ………………………………………………………………………………………………………….. 1 1.1 ความเป็นมาและความสำคญั ของปัญหา…………………………………………………….. 1 1.2 วัตถุประสงค์ของงานวจิ ยั .................................................................................... 3 1.3 กรอบแนวความคิดของงานวจิ ยั .......................................................................... 4 1.4 สมมติฐาน……………………................................................................................... 4 1.5 ประโยชน์ท่คี าดวา่ จะไดร้ ับ………………………………………………………..…………….. 5 1.6 ขอบเขตงานวจิ ยั …………………………………………………………………………………….. 5 1.7 นิยามศพั ทเ์ ฉพาะ……………………………………………………………………………………. 5 2 ทบทวนวรรณกรรม……………………………………………………………………………………….. 4 2.1 ทฤษฎแี ละเอกสารทเ่ี กย่ี วขอ้ ง............................................................................. 4 2.2 กรอบแนวคิด (Conceptual Framework)....................................................... 5 2.3 เอกสารและงานวิจยั ท่เี กี่ยวขอ้ ง………………………………………………………………… 15 3 วธิ ีการดำเนนิ งาน....................................................................................................... 19 3.1 ประชากรและกลมุ่ ตัวอย่าง………………………………………………………………………. 19 3.2 เครอื่ งมือท่ีใช้ในการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ………………………………………………………. 20 3.3 ขนั้ ตอนการสร้างและการหาคุณภาพของเครื่องมือ……………………………………… 21 3.4 วิธกี ารเก็บรวบรวมข้อมลู …………………………………………………………………………. 21 3.5 วธิ กี ารวเิ คราะหข์ ้อมลู ……………………………………………………………………………… 22 3.6 สถิติทใี่ ชใ้ นการวิเคราะห์ข้อมูล…………………………………………………………………. 22

ซ สารบัญ (ต่อ) บทที่ หน้า 4 ผลการวเิ คราะห์ข้อมูล……………………………………………………………………………………. 27 4.1 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล……………………………………………………………………………… 27 5 อภิปรายและสรุปผล……………………………………………………………………………………… 51 5.1 สรุปผลการวิจยั ………………………………………………………………………………………. 51 5.2 อภปิ รายผลการวจิ ยั ………………………………………………………………………………… 55 5.3 ขอ้ เสนอแนะ………………………………………………………………………………………….. 56 5.4 ข้อเสนอแนะในการศึกษาค้นคว้าคร้งั ต่อไป………………………………………………… 57 บรรณานกุ รม........................................................................................................................... 58 ภาคผนวก ก............................................................................................................................ 61 ภาคผนวก ข............................................................................................................................ 69 ประวตั ิยอ่ ของผู้วิจัย................................................................................................................ 74

ฌ สารบัญตาราง ตารางที่ หน้า 4-1 จำนวนและรอ้ ยละของขอ้ มลู สว่ นบคุ คล...................................................................... 28 4-2 จำนวนและรอ้ ยละของรูปร่างเหลี่ยมเจยี ระไนท่ีนักท่องเทย่ี วชื่นชอบมากท่สี ุด............ 31 4-3 จำนวนและร้อยละของโทนสีอัญมณีทนี่ กั ท่องเทยี่ วช่ืนชอบมากท่สี ดุ ……….................. 32 4-4 จำนวนและร้อยละของเครือ่ งประดบั อัญมณีประเภทใดท่นี กั ท่องเท่ียวสนใจซ้ือมาก 32 ทีส่ ุด............................................................................................................................. 33 4-5 จำนวนและรอ้ ยละของส่วนใหญ่นกั ท่องเท่ียวซ้อื อญั มณีทน่ี ำ้ หนกั เท่าใด...................... 34 4-6 จำนวนและร้อยละของความถี่ในการซื้ออญั มณีของนักทอ่ งเท่ยี ว................................ 4-7 จำนวนและร้อยละของความถใ่ี นการซ้ืออญั มณีของนักท่องเท่ียวเมื่อนักท่องเที่ยวเดิน 35 มายัง จนั ทบรุ ี.............................................................................................................. 35 4-8 จำนวนและร้อยละของนักทอ่ งเทีย่ งซื้ออญั มณแี ต่ละครัง้ มมี ูลค่าเฉลย่ี ประมาณครั้งละ 36 เท่าใด.......................................................................................................................... 37 4-9 จำนวนและรอ้ ยละของสิง่ ท่นี ักท่องเท่ยี วคำนึงถงึ ในการเลือกซ้ืออัญมณีมากท่ีสดุ ........ 4-10 จำนวนและร้อยละของนกั ท่องเที่ยวทีเ่ คยได้รบั ข่าวสารขอ้ มลู เก่ยี วกับอญั มณจี าก 37 แหล่งต่างๆ.................................................................................................................... 40 4-11 คา่ เฉล่ยี และสว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐานของปัจจัยการตลาดทมี่ ผี ลตอ่ การตดั สินใจซ้ือ 41 อญั มณีเหล่ยี ม เจยี ระไนรปู แบบใหม่........................................................................... 4-12 ค่าเฉลี่ยและสว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐานของเหตุผลในการตดั สนิ ใจซื้ออัญมณีเหลี่ยม 41 เจียระไนรูปแบบใหม่..................................................................................................... 42 4-13 ผลการวิเคราะห์เพศและเหตุผลในการตัดสนิ ใจซอื้ อัญมณีเหลีย่ มเจียระไนรูปแบบ ใหม.่ .............................................................................................................................. 4-14 ผลการวิเคราะห์อายแุ ละเหตุผลในการตดั สินใจซ้ืออัญมณีเหลย่ี มเจยี ระไนรูปแบบ ใหม.่ ...............................................................................................................…………… 4-15 ผลการวเิ คราะหส์ ถานภาพและเหตผุ ลในการตัดสนิ ใจซอ้ื อัญมณเี หล่ียมเจยี ระไน รปู แบบใหม่...................................................................................................................

ญ สารบัญตาราง (ตอ่ ) ตารางท่ี หน้า 4-16 ผลการวเิ คราะหร์ ะดบั การศึกษาและเหตผุ ลในการตดั สินใจซื้ออัญมณีเหล่ียมเจยี ระไน 42 43 รปู แบบใหม่…………………………………………………………………………………………………….. 43 4-17 ผลการวิเคราะห์อาชพี และเหตุผลในการตัดสนิ ใจซ้ืออัญมณีเหลี่ยมเจยี ระไนรปู แบบ 45 46 ใหม…่ ……………………………………………………………………………………………………………… 47 4-18 ผลการวเิ คราะหร์ ายไดเ้ ฉลี่ยต่อเดือนและเหตุผลในการตดั สนิ ใจซอื้ อัญมณีเหล่ยี ม 49 50 เจียระไน รปู แบบใหม่..................................................................................................... 4-19 การวเิ คราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยทางการตลาดดา้ ยสนิ คา้ มคี วามสมั พนั ธ์กับ เหตุผลในการตัดสินใจซ้ืออัญมณีเหลีย่ มเจียระไนรปู แบบใหม่...................................... 4-20 การวเิ คราะห์ความสมั พันธ์ระหว่างปัจจัยทางการตลาดด้ายราคามีความสมั พนั ธ์กบั เหตผุ ลในการตัดสินใจซื้ออัญมณเี หลยี่ มเจียระไนรูปแบบใหม่...................................... 4-21 การวเิ คราะห์ความสัมพันธ์ระหวา่ งปัจจยั ทางการตลาดด้านช่อทางการจดั จำหน่ายมี ความสมั พนั ธก์ ับเหตผุ ลในการตัดสินใจซ้ืออัญมณีเหลย่ี มเจยี ระไนรูปแบบใหม่............ 4-22 การวิเคราะห์ความสมั พันธร์ ะหว่างปัจจยั ทางการตลาดดา้ นการส่งเสรมิ การตลาดมี ความสมั พนั ธก์ ับเหตผุ ลในการตัดสนิ ใจซ้ืออัญมณเี หลีย่ มเจียระไนรปู แบบใหม่........... 4-23 สรปุ การทดสอบสมมตฐิ าน...........................................................................................

ฎ สารบัญภาพ ภาพที่ หน้า 1-1 ตวั อยา่ งแบบต่างๆ ท่นี ิยมเจียระไน................................................................................. 2 1-2 ตวั อยา่ งการเจยี ระไนรูปแบบใหม่................................................................................... 2 1-3 กรอบแนวความคิดการวจิ ัย............................................................................................. 4

1 บทที่ 1 บทนำ 1.1 ความเป็นมาและความสำคัญของปญั หา การซอ้ื ขายอัญมณีเรม่ิ ตน้ ณ “ถนนอัญมณี” ซง่ึ เปน็ ศูนย์กลางการซอ้ื ขาย และการเจยี ระไน ตกแต่งมาเปน็ เวลายาวนาน โดยถนนอัญมณตี ัง้ อยู่บริเวณถนนศรจี ันทร์ แต่เน่ืองจากบรเิ วณเหลา่ นม้ี กี าร ดำเนนิ กจิ กรรมซื้อขายพลอย จงึ ทำใหผ้ คู้ นขนานนามว่า ถนนอัญมณี โดยตลาดพลอยแห่งนี้มีทั้งพลอย กอ้ นทเี่ จียระไนแล้วและพลอยกอ้ นที่ยังไม่ไดเ้ จยี ระไน เพราะเป็นสถานที่ตั้งของร้านเจยี ระไนพลอย โรงงานเผาพลอย และร้านคา้ อญั มณตี ่างๆ สถานทแ่ี ห่งน้ีจึงกลายเปน็ ทนี่ ิยมของนักท่องเทีย่ ว (วิทยากร บุญเรอื ง, 2555) ปจั จบุ ันตลาดพลอย หรือ ถนนอญั มณี เป็นตลาดการซื้อขายพลอยท่ีมีความสำคัญและมี ชอ่ื เสียงในจงั หวัดจนั ทบุรี และเป็นตลาดพลอยท่ีใหญท่ ี่สดุ ในประเทศไทย เพราะเปน็ ศนู ย์รวมการค้า พลอยแบบครบวงจร และยงั เป็นการจำหนา่ ยพลอยจากทุกมุมโลก อีกทง้ั จังหวัดจันทบรุ ีมีจำนวน นกั ท่องเทยี่ วเข้ามาจำนวนมากและขยายตวั อย่างต่อเนื่อง โดยมีจำนวนตัวเลขนกั ท่องเที่ยวทีเ่ ดินทางมา เท่ยี วจนั ทบรุ ี โดยไดร้ ับการยืนยนั จากรฐั มนตรวี า่ การกระทรวงการทอ่ งเท่ียวและกีฬา (รมว.กก.) วา่ มี จำนวนมากถึง 1.9 ลา้ นคน และมีแนวโนม้ เพ่ิมมากขึน้ เร่ือยๆ ทกุ ปี โดยตลอดเวลาท่ีผา่ นมาการท่องเที่ยว ในจังหวัดจนั ทบรุ ไี ด้สรา้ งรายได้ให้แกช่ ุมชนท่เี กิดจากการบริโภคสินค้าและการใชบ้ ริการของนักทอ่ งเท่ียว ภาษที ไี่ ดจ้ ากอตุ สาหกรรมการท่องเทย่ี ว เนือ่ งจากความอุดมสมบูรณภ์ ายในจงั หวัดจนั ทบุรี ทง้ั ด้านการ เพาะปลูกผลไม้ท่มี ีชื่อเสียง และเป็นทีน่ ิยมบรโิ ภค อาทิ เชน่ ทเุ รียน เงาะ มังคดุ ลองกอง ลำงสาด สละ ลิ้นจี่ ลำไย เป็นตน้ ทางดา้ นงานหัตถกรรมท่มี ีความ โดดเดน่ ได้แก่ การทอเสื่อกก กำรจักสาน และ เครอ่ื งป้นั ดินเผา สดุ ทา้ ยด้านแหล่งทอ่ งเทีย่ ว อาทิ เช่น นำ้ ตก ทะเล ภูเขา โบราณสถานต่างๆ และอกี หน่งึ ความน่าภมู ใิ จของชาวจันทบุรีก็คอื เป็นแหล่ง ศนู ยก์ ลางทางดา้ นอญั มณรี ะดับโลก จนถกู ขนานนามวา่ เป็นเมืองแห่งอัญมณี (การท่องเทย่ี วแห่งประเทศไทย, 2560) นอกจากน้ีจังหวดั จันทบุรียังมีช่อื เสียงสำหรบั การผลิตและเจียระไนพลอยเปน็ อย่างมาก ใน อดีตได้ประยุกต์ใชเ้ ทคนคิ การเจยี ระไนเพชรนำมาใชใ้ นการเจยี ระไนพลอยสี โดยรปู รา่ งที่นิยมสำหรบั การ เจยี ระไนพลอยนน้ั มหี ลายรปู แบบ ไดแ้ ก่ รูปกลม รปู หยดนำ้ รปู สเ่ี หลยี่ มผนื ผ้าตดั มมุ รปู ไข่หรอื รูปวงรี รูปมาคีย์ รูปสี่เหล่ียมจัตุรสั และรปู หวั ใจ โดยรูปแบบการเจียระไนพลอยเหลา่ น้ีได้ถูกพัฒนาและยงั คงนยิ ม จนถึงปัจจบุ ัน ดังรปู (สุรินทร์ อนิ ทะยศ, 2562)

2 ภาพที่ 1-1 ตวั อย่างแบบตา่ งๆ ท่ีนยิ มเจยี ระไน (Pemba Gems พ.ศ. 2562) ปัจจุบันความเจริญกา้ วหนา้ ทางเทคโนโลยีคอมพวิ เตอร์สร้างความเปลยี่ นแปลงใหห้ ลาย ประเทศขบั เคล่ือนเศษฐกิจไปสู่สงั คมแห่งภมู ิปญั ญา การพัฒนาเทคโนโลยอี ยา่ งต่อเน่อื งและรวดเร็วนน้ั สง่ ผลใหเ้ กดิ การนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการดำเนนิ การต่างๆ (วิไลวรรณ เรืองอุไร, 2556) สำหรบั วงการอุสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดบั ในปัจจุบนั นัน้ การออกแบบเหลย่ี มเจียระไนดว้ ย คอมพวิ เตอร์ โดยใช้โปรแกรม GemCad จะช่วยสรา้ งสรรค์งานแบบใหมๆ่ ในลักษณะของการเจียระไน แบบแฟนซีให้มากข้ึนทำให้อัญมณีจากเมืองไทยมคี วามแปลกใหม่ มีเอกลักษณเ์ ฉพาะตัว และสามารถ แขง่ ขันในตลาดโลกได้อย่างไม่ยากนัก (สรุ นิ ทร์ อนิ ทะยศ, 2562) ภาพที่ 1-2 ตัวอยา่ งการเจียระไนรปู แบบใหม่ โดยมีการนำเทคโนโลยมี าชว่ ยในการออกแบบเหลีย่ มเจียระไนเพ่ิมมากขน้ึ โดยมีการเจียระไน ออกมาหลากหลายรูปแบบ แตย่ ังขาดในด้านการส่งเสริมการขายและการขายยงั ไม่แพร่หลายมากนกั ถึงแม้ว่าจนั ทบุรีมีชอ่ื เสียงดา้ นการเจยี ระไนพลอยและเปน็ ผู้นำในด้านการเผาพลอย แต่มูลคา่ การคา้ และ การสง่ ออกเกอื บทงั้ หมดอยู่ท่ีจงั หวัดกรุงเทพมหานคร ประกอบกบั ธุรกิจอญั มณีในจังหวดั จนั ทบุรมี กี าร พฒั นาค่อนขา้ งช้าเมอ่ื เทียบกับค่แู ข่งของไทย เน่ืองจากยงั ขาดการทำการตลาด (วไลภรณ์ สูตภมู ิ, 2557)

3 ดงั นัน้ การเจยี ระไนรูปแบบใหมม่ าในรปู แบบของเหลยี่ มเจียระไนแบบแฟนซี เป็นผลติ ภณั ฑ์ แบบใหมเ่ พ่อื ขยายตลาดให้กับกลุม่ ลกู คา้ ทเ่ี ขา้ มาในจงั หวัดจนั ทบุรี แต่เน่ืองจากผู้ประกอบการยังไม่ทราบ ถงึ ความต้องการของผู้บริโภคทแี่ นน่ อน ผ้วู จิ ยั จงึ มีความสนใจทจี่ ะศึกษาปจั จยั ทม่ี ีอทิ ธิพลตอ่ เหตผุ ลในการ ตัดสนิ ใจซือ้ อัญมณเี หล่ยี มเจียระไนรปู แบบใหม่ของกล่มุ นกั ท่องเทย่ี วชาวไทยจงั หวดั จนั ทบรุ ี 1.2 วตั ถปุ ระสงคก์ ารวิจยั 1.2.1 เพื่อศึกษาปจั จยั สว่ นบคุ คลของนกั ท่องเท่ียวทเ่ี ขา้ มาเลือกซื้ออัญมณีและเครื่องประดับ บริเวณตลาดพลอยจังหวัดจนั ทบุรี 1.2.2 เพอ่ื ศึกษาปัจจัยทางการตลาดของนักท่องเทย่ี วที่เขา้ มาเลือกซือ้ อัญมณีและ เครอื่ งประดบั บรเิ วณตลาดพลอยจงั หวดั จนั ทบรุ ี 1.2.3 เพือ่ ศึกษาเหตผุ ลในการตัดสนิ ใจซอื้ อัญมณีเหลีย่ มเจยี ระไนรปู แบบใหม่ของนักท่องเทย่ี ว ทเ่ี ข้ามาเลือกซื้ออัญมณีและเครื่องประดับบริเวณตลาดพลอยจงั หวัดจันทบรุ ี 1.2.4 เพื่อศึกษาปัจจยั สว่ นบคุ คลท่ีสง่ ผลต่อเหตุผลในการตัดสินใจซือ้ อัญมณเี หล่ียมเจยี ระไน รปู แบบใหมข่ องนักท่องเท่ยี วท่เี ขา้ มาเลือกซอ้ื อญั มณีและเครือ่ งประดับบรเิ วณตลาดพลอยจังหวดั จันทบุรี 1.2.5 เพอ่ื ศึกษาความสมั พนั ธร์ ะหว่างปจั จัยทางการตลาดและเหตผุ ลในการตดั สินใจซ้ืออัญมณี เหลย่ี มเจียระไนรปู แบบใหม่ของนักทอ่ งเท่ยี วที่เข้ามาเลอื กซ้ืออัญมณีและเครือ่ งประดับบริเวณตลาด พลอยจังหวัดจนั ทบุรี 1.2.6 เพอ่ื ศึกษาพฤตกิ รรมผบู้ ริโภคของนักทอ่ งเท่ียวทเ่ี ข้ามาเลือกซ้ืออัญมณีและเครือ่ งประดับ บรเิ วณตลาดพลอยจังหวดั จันทบุรี 1.3 สมมุติฐานในการวิจยั 1.3.1 ปัจจัยส่วนบคุ คลที่ตา่ งกัน สง่ ผลตอ่ เหตผุ ลในการตัดสนิ ใจซ้อื อัญมณเี หล่ียมเจียระไน รปู แบบใหม่แตกต่างกนั 1.3.2 ปจั จยั ทางการตลาดมีความสัมพนั ธ์ต่อเหตผุ ลในการตัดสนิ ใจซอ้ื อญั มณีเหลย่ี มเจียระไน รปู แบบใหม่

4 1.4 กรอบแนวความคิดในการวิจัย ผู้วิจัยได้แบ่งตัวแปรที่เกี่ยวข้องออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ตัวแปรต้นและตัวแปรตาม โดยในส่วน ของตัวแปรต้นแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่เป็นปัจจัยส่วนบุคคล และ ปัจจัยทางการตลาด ตัวแปร ตาม คือ เหตุผลในการตัดสินใจซื้ออัญมณีเหลี่ยมเจียระไนรูปแบบใหม่ ทั้งนี้ ได้เขียนในรูปของกรอบ แนวความคดิ การวจิ ยั เก่ียวกบั ตวั แปรได้ดงั น้ี ตวั แปรตน้ ตวั แปรตาม ปัจจยั ส่วนบคุ คล เหตุผลในการตัดสินใจ - เพศ ซอ้ื อญั มณเี หลย่ี มเจยี ระไน - อายุ รปู แบบใหม่ - สถานภาพ - ระดบั การศึกษา - นำไปทำเคร่อื งประดบั - อาชีพ - นำไปขายต่อ - รายไดเ้ ฉลีย่ ต่อเดือน - เพ่ือสะสม - เพือ่ เปน็ ของขวัญหรอื ปจั จัยทางการตลาด - ผลติ ภัณฑ์ ของฝาก - ราคา - ชอ่ งทางจดั จำหน่าย - การส่งเสรมิ การขาย ภาพท่ี 1-3 กรอบแนวความคิดการวจิ ัย

5 1.5 ประโยชน์ท่คี าดว่าจะได้รับ 1.5.1 สามารถนำไปใช้ในการกำหนดกลยทุ ธข์ องสว่ นประสมทางการตลาดใหส้ อดคล้องกับ ความต้องการของผูบ้ ริโภคมากย่งิ ข้นึ 1.5.2 สามารถนำไปเป็นแนวทางให้แก่ผู้ประกอบการด้านธุรกจิ อญั มณใี นการขยายตลาดให้กบั กลมุ่ ผบู้ รโิ ภค และสอดคลอ้ งกบั ความต้องการของผบู้ ริโภคไดม้ ากย่ิงข้นึ 1.6 ขอบเขตของงานวิจัย การศึกษาครั้งนี้ ผู้ศึกษาจะมุ่งเน้นศึกษาปัจจัยในการตัดสินใจซื้ออัญมณีเหลี่ยมเจียระไน รูปแบบใหม่ของกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยจังหวัดจันทบุรี โดยเกบ็ ตัวอย่างข้อมูลจากนักท่องเที่ยวที่เข้ามา เลือกซื้ออัญมณีและเครือ่ งประดบั บริเวณถนนอัญมณี หรือ ตลาดพลอย โดยเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถามปลายปิด (Close-ended Questionnaires) และเกบ็ จำนวนท้งั หมด 400 ฉบบั 1.7 นิยามศัพท์เฉพาะ 1.7.1 ปัจจัยที่เกิดจากตัวผู้ซื้อ หมายถึง ผู้ซื้อมีความแตกต่างกันในเรื่องของ เพศ อายุ รายได้ สถานภาพ และการศึกษา เป็นต้น ซึ่งการศึกษาครั้งนี้มุ่งเน้นถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยบริเวณตลาด พลอยจังหวดั จนั ทบุรี 1.7.2 พลอย หมายถงึ แรร่ ัตนชาตโิ ดยทว่ั ไปที่ไม่ใช่เพชรและยงั ไม่ได้ผ่านกระบวนการเจียระไน อาทิ ไพลิน ทับทมิ มรกต และโกเมน เป็นตน้ 1.7.3 อัญมณี หมายถึง พลอยที่ซึ่งผ่านการตกแต่ง เจียระไนมาเรียบร้อยแล้ว อาทิ ไพลิน ทบั ทมิ และโกเมน เป็นตน้ 1.7.4 การเจียระไนพลอย หมายถึง การตัดแต่งพลอยให้เป็นรูปร่างเป็นเหลี่ยม เช่น รูปหัวใจ รูปหยดนำ้ และรปู หกเหลยี่ ม เปน็ ต้น 1.7.5 การตัดสินใจซื้อ หมายถึง กระบวนการในการเลือกที่จะกระทาสิ่งใดสิ่งหนึ่งจาก ทางเลือกต่างๆ ที่มีอยู่ โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวจะตัดสินใจในทางเลือกต่างๆ ของสินค้า โดยที่เขาจะเลือก สินค้าตามข้อมูลและข้อจำกัดของสถานการณ์ การตัดสินใจจึงเป็น กระบวนการที่สำคัญและอยู่ภายใน จิตใจของผู้บริโภค

6 บทท่ี 2 เอกสารและงานวิจยั ท่เี กี่ยวขอ้ ง ในการศึกษาเรื่องปัจจัยท่ีมีอิทธิพลตอ่ การตัดสนิ ใจซอ้ื อัญมณเี หลี่ยมเจยี ระไนรูปแบบใหม่ของกลุ่ม นักท่องเที่ยวจงั หวดั จันทบุรี ประกอบดว้ ยแนวคิดและทฤษฎีดงั นี้ 2.1 ประวัติความเปน็ มาของพลอยและอัญมณใี นจังหวดั จันทบุรี 2.2 แนวคิดและทฤษฎที ี่เก่ียวขอ้ ง 2.2.1 แนวคดิ และทฤษฎเี กี่ยวกับปัจจยั ส่วนบุคคล 2.2.2 แนวคิดและทฤษฎีเกยี่ วกบั ปัจจัยทางการตลาด 2.2.3 แนวคิดและทฤษฎเี กี่ยวกับโปรแกรม GemCad 2.3 เอกสารและงานวิจยั ท่เี กี่ยวขอ้ ง 2.1 ประวัตคิ วามเปน็ มาของพลอยและอญั มณีในจงั หวัดจันทบุรี ในประวตั ศิ าสตรน์ ั้นเมอื งจันทบรุ ไี ม่ได้มพี ลอยแต่อยา่ งใด แตเ่ หตเุ กดิ ข้ึนในเดือนมืดคืนหน่งึ ชาวบ้านไดส้ งั เกตเหน็ ลำแสงอรา่ มบนทอ้ งฟา้ และหลังจากไดห้ ายไปในบริเวณเขาพลอยแหวนประชาชน ตา่ งวิง่ เขา้ ไปดูหลังจากทแ่ี สงสีทองได้หายไป และได้เห็นรงั สีสเี ขียวออกจากหลมุ ท่อี ยใู่ ตพ้ ื้นดนิ ประชาชน ได้พบกับแม่พลอย (หินขนาดใหญ่ทม่ี ีเน้ือสีสดใสแตกตา่ งกัน) และหลงั จากนัน้ ก็เรมิ่ มีการบูชาหนิ ดงั กลา่ ว เมือ่ พยายามทจ่ี ะจบั น้ัน แม่พลอยก็ไดห้ นีหายไป และเหลอื ท้งิ ไวแ้ ตล่ กู พลอย หรือ พลอยทม่ี ขี นาดเล็กลง ซึ่งมีจำนวนมากกว่าหนงึ่ แสนลกู พลอยที่หลบอยู่ใต้พื้นดินของจงั หวัดจันทบรุ ี (กฤษณา ช้างกลม, จันทบุรี, 1988) ในปี ค.ศ. 1617-1640 ตามค่มู ือของ เดอ ฟาเรีย (De Faria) อา้ งวา่ สยามมเี หมืองพลอย ไพลนิ และทบั ทิม (ball, 1931) ซ่ึงนิโคลสั เกอเวส (Nicolas Gervaise) ได้เขยี นกลา่ วไว้ในปี 1688 เพ่อื สนับสนนุ บทความของ เดอ ฟาเรยี ใจความว่า พบหนิ สฟี า้ บางส่วนของปา่ ในพ้นื ทสี่ ูง ซึ่งหินกอ้ นสฟี ้านม้ี ี ลกั ษณะคล้ายกับไพฑรู ย์ หรือเพชรตาแมว ซ่งึ มักพบในเหมืองทอง ในปีค.ศ. 1880 นักการเงินอจั ฉรยิ ะช่ือวา่ มองเกง (Mong Keng) ได้เข้ามารวบรวมกจิ การ เหมืองทั้งหมดไวใ้ นมือ ควบคุมผูกขาดฝิน่ และการพนันต่างๆ ซ่งึ เขาทำกำไรใหก้ ับเหมืองพลอยและอัญ มณีอยู่หลายปีจนกลายเป็นท่ีรู้จกั ในฐานะ “ ราชาแห่งหินล้ำค่า ” ด้วยเหตุนี้ช่อื เสยี งของเขาในเรอื่ งของ พลอยไพลนิ สนี ้ำเงนิ แพร่กระจายออกไป ซึ่งไม่ใชแ่ ต่ในสยามประเทศเท่านนั้ แตไ่ ปไกลถึงอนิ เดีย และแถบ ยุโรป

7 ในปี ค.ศ. 1898 สมิธได้กล่าวถึงรายละเอยี ดกระบวนการและวิธที ำเหมอื ง เช่นเดยี วกบั การซ้ือ พลอย และอัญมณที ี่น่าต่ืนเต้น และท้งั ยังกล่าวถงึ การเขา้ ไปทำการค้า และเจรจาการซือ้ พลอยและอญั มณี ในการซ้ือพลอยและอัญมณี ก็เช่นเดยี วกบั การเข้าไปประลองความรูก้ บั คนอ่นื ซง่ึ เปรยี บ เหมอื นการแข่งขันกีฬา ดงั น้ันหากไม่เขา้ ใจ หรอื ไม่มีความรู้เรอ่ื งน้อี ยู่แลว้ ก็อาจจะถูกหลอกเอาโดยงา่ ย การต่อรองราคาพลอย และอัญมณกี เ็ ช่นเดยี วกัน ดังนั้นควรจะทราบข้อมลู ท่สี ำคัญทเี่ ก่ยี วกับการดูพลอย และหลังจากนน้ั สิง่ เหล่าน้ีจะเปน็ การเรียนรู้โดยอตั โนมตั ิ ทำให้ร้เู ทคนิค และสามารถต่อราคาได้ดี เพราะฉะนน้ั จงึ ตอ้ งฝึกสายตา เพ่ือสังเกต และศึกษาอยู่เป็นประจำ เพราะถ้าหากละเลยแม้เพยี ง 6 เดือน พลอยที่ซ้ือไปอาจเป็นเพยี งแค่ก้อนหนิ ธรรมดาดีๆ นเี่ อง (H.Warington Smyth, 1898, Five Years in Siam) ในปี ค.ศ. 1962 เข้าสยู่ ุคใหม่ของการคา้ พลอยและอัญมณีของประเทศไทย โดยมี ผ้ปู ระกอบการค้า และผตู้ ัดแต่งเจยี ระไนมากมายชาวพมา่ ท่ียงั หลงเหลอื ในประเทศไทย ซึ่งหลังจากน้นั เปน็ ตน้ มาธรุ กจิ พลอย และอัญมณีของประเทศไทยได้กลับมารงุ่ เรืองอกี ครั้งหนงึ่ และไม่ใชเ่ พยี งแต่ทับทิม ทีม่ ีช่อื เสยี งในจันทบุรี แตพ่ ่อคา้ ผ้ปู ระกอบการจนั ทบุรยี ังได้นำช่ือเสยี งดา้ นพลอยไพลินสีน้ำเงินไปยัง ประเทศออสเตรเลียดว้ ยเช่นกัน ในชว่ งกลางปี ค.ศ. 1970 ได้คน้ พบกระบวนการเผาพลอย Geuda (พลอยคอรนั ดมั มีสีนำ้ เงิน เข้ม สดใสหลังจากเผาแล้ว) จากประเทศศรีลงั กา และทำให้จนั ทบุรีกลายเป็นศูนย์กลางการค้าโลกสำหรบั ทับทิม และแซฟไฟร์ (พลอยตระกูลคอรันดัม มีหลายสี แต่โดยทัว่ ไปหมายถงึ สนี ำ้ เงิน) ปลายปี ค.ศ. 1990 การทำเหมอื งส่วนใหญ่ของไทยค่อยๆ หมดไป ดงั นัน้ นักลา่ พลอยและอัญมณจี ึงพลกิ วกิ ฤตใหเ้ ป็นโอกาส โดยการต้ังศนู ยก์ ลางธุรกิจผแู้ ทนจำหน่ายอัญมณีทวั่ โลก ดงั นัน้ จะเห็นได้ว่ามพี ่อค้า ผปู้ ระกอบการจากอนิ เดยี ศรีลงั กา แอฟริกา ต่างไดเ้ ดนิ ทางมายังจังหวดั จันทบรุ ี นอกจากนไ้ี มเ่ พยี งแต่ การซื้อขายทบั ทมิ และไพลนิ เท่านน้ั แต่ ณ ตลาดพลอย และอญั มณใี นจังหวดั จนั ทบรุ ี ได้กลายเปน็ สถานที่ที่สามารถค้นหาพลอย และอัญมณีหลากสี หลากชนิด เทา่ ที่บนโลกจะมีได้ โดยจันทบุรนี ั้นมพี ืน้ ที่ การทำเหมืองพลอยดังต่อไปน้ี 1. ตำบลเขาพลอยแหวนบางกะจะ เปน็ แหลง่ ที่ถูกคน้ พบพลอยไพลิน (สีนำ้ เงนิ ) เขียวมรกต(สี เขยี ว) บษุ ราคัม (สเี หลือง) และพลอยสตาร์ หรอื พลอยสาแหรก (สดี ำ) แต่ไม่มีการขุดพบทับทมิ (สแี ดง) ถอื ไดว้ ่าเปน็ การค้นพบแห่งแรกในจันทบรุ ี และในปัจจุบันนี้กย็ งั คงมเี หมืองแรค่ ้นหาพลอย และเปน็ แหลง่ สดุ ท้ายทย่ี ังหลงเหลืออยู่ 2. ตำบลตกพรม เปน็ แหล่งค้นพบแหล่งทสี่ อง ซง่ึ พบพลอยคอรนั ดัมบรเิ วณดา้ นหลงั ของเขา สระบาป โดยมเี หมืองอยู่มากมายดังต่อไปนี้

8 2.1 บา้ นบอ่ เวฬ ทำเหมืองทับทิม 2.2 บ้านนาวง ทำเหมอื งทับทิม 2.3 บ้านตกพรม ทำเหมืองไพลนิ 2.4 บ้านบ่ออเิ ลม ทำเหมืองไพลิน 2.2 แนวคดิ และทฤษฎที ่ีเกีย่ วข้อง 2.2.1 แนวคดิ และทฤษฎที ่ีเก่ียวกับปจั จยั ส่วนบุคคล ศิริวรรณ เสรีรัตน์และคณะ (2538, หน้า 41-42) ลักษณะด้านประชากรศาสตร์ (Demographic) ประกอบด้วยเพศอายุสถานภาพครอบครัว ระดับการศึกษา อาชพี รายไดเ้ ปน็ เกณฑ์ท่ี นยิ มใช้ในการแบ่งสว่ นตลาด ลกั ษณะด้านประชากรศาสตร์ เป็นลักษณะทส่ี าํ คัญท่ีชว่ ยกำหนดตลาด เป้าหมายตวั แปรด้านประชากรศาสตร์ทีส่ ำคัญดังต่อไปนี้ 1. เพศ เพศสามารถแบง่ แยกความต้องการของผูบ้ รโิ ภคได้ โดยดเู พศของผบู้ รโิ ภคเป็นหลัก ในการตอบสนองความตองการ ซ่ึงเป็นตวั แปรในการแบ่งส่วนตลาดท่สี ําคญั เพราะปัจจุบันนต้ี วั แปรดา้ น เพศมีการเปล่ียนแปลงพฤติกรรมการบรโิ ภคมาก เพศทแ่ี ตกตา่ งกนมกั จะมที ัศนคติการรับรูแ้ ละการ ตดั สินใจในเรอ่ื งการซ้ือสนิ คา้ บริโภคต่างๆ กัน 2. อายุ กลมุ่ ผู้บริโภคท่มี ีอายแุ ตกต่างกนั ยอ่ มจะมีความตองการในสนิ คา้ และบริการที่ แตก ต่างกนั เชน่ กลุม่ วัยรุ่นนชอบทดลองสง่ิ แปลกใหม่และชอบสนิ คาแฟชั่น กลุ่มผสูงอายจุ ะสนใจสนิ ค้า เก่ยี วกบั สุขภาพและความปลอดภัย นกั การตลาดจึงใช้ประโยชนจ์ ากอายุเป็นตัวแปรด้านประชากรศาสตร์ ทีแ่ ตกตา่ งกนั และได้คน้ หาความตอ้ งการของสว่ นตลาดสว่ นเล็ก (Niche Market) โดยมุ่งความสำคญั ท่ี ตลาดอายสุ ว่ นน้ัน 3. สถานภาพครอบครัวลักษณะสำคัญ 3 ประการ คอื การเขาสชู่ วี ิตสมรส (อายุแรกสมรส) การแตกแยกของชีวิตสมรส (อนั เนอื่ งมาจากการตาย, การแยกกันอยู่,การหยา่ ร้าง) และการสมรส ใหม่ (ศิ ริวรรณ เสรีรัตนแ์ ละคณะ, 2541) สถานภาพสมรสเปน็ คณุ ลักษณะทางประชากรทส่ี ำคัญทีเ่ ก่ยี วกับเร่ือง ทางเศรษฐกิจ สังคม กฎหมาย ประเด็นสำคัญทส่ี ดุ ในการศกึ ษาเก่ยี วกบั องค์ประกอบ เกย่ี วกบั สถานภาพ สมรสของประชากร คือ ประเภทของสถานภาพสมรส องคการสหประชาชาตไิ ดร้ วบรวมและแบง่ แยก ประเภทของสถานภาพสมรส ดังน้ี

9 3.1 โสด 3.2 สมรส 3.3 หม้ายและไม่ไดส้ มรสใหม่ 3.4 หยาร้างและไมส่ มรสใหม่ 3.5 สมรสแตแ่ ยกกนอยโู่ ดยไมถ่ ูกตองตามกฎหมาย สถานภาพสมรส มีส่วนสำคัญตอ่ การตัดสินใจของบุคคล คนโสดจะมีอิสระทางความคดิ มากกว่าคนทแ่ี ต่งงานแลว้ การตัดสินใจในเรื่องต่างๆ จะใชเ้ วลาน้อยกวา่ คนท่ีแตง่ งานแล้ว เนอื่ งจากไมม่ ี ภาระผูกพัน หรอื คนท่ีต้องอยู่ในความรว่ มรับผดชอบมากเท่ากบั คนที่แตง่ งานแล้ว 4. รายได้ ระดบั การศึกษาและอาชีพ (Income Education and Occupation) เปน็ ตวั แปรท่ี สําคัญในการกำหนดส่วนตลาด มีแนวโน้มความสมั พนั ธ์ใกล้ชิดกันในเชิงเหตแุ ละผล สว่ น ใหญ่เป็นกลมุ่ ท่ีมี ระดบั การศกึ ษาสงู บุคคลท่มี ีการศึกษาตำ่ โอกาสที่จะหางานระดับสูงยาก จงึ ทำให้มีรายได้ตำ่ ใน ขณะเดยี วกนั การเลือกกซื้อสินคาที่แทจ้ ริงอาจเปน็ เกณฑ์รูปแบบการดารงชีวติ คา่ นิยม อาชพี ระดับ การศึกษา ฯลฯ นกั การตลาดจะโยงเกณฑ์รายได้รวมกับตวั แปรทางด้าน ประชากรศาสตร์ดา้ นอืน่ ๆ เพอ่ื ใหก้ ารกำหนดตลาดเป้าหมายได้ชดั เจนยิง่ ขน้ึ เช่น กลุม่ รายได้ อาจจะเกย่ี วข้องกบั เกณฑ์อายุและ อาชีพร่วมกัน อดลุ ย์จาตุรงคกลุ (2543, หนา้ 38-39) กล่าววา่ ลักษณะทางประชากรศาสตร์รวมถึงอายุ เพศ วงจรชวี ติ ของครอบครวั การศึกษา รายได้ เป็นต้น ลักษณะดังกล่าวมีความสําคัญตอ่ นักการตลาดเพราะ มันเกยี่ วพันธุ์กับอุปสงค์ (Demand) ในตวั สินคา้ ท้ังหลาย การเปล่ียนแปลงทางประชากรศาสตร์ช้ีให้เห็น ถึงการเกิดข้ึนของตลาดใหม่ และตลาดอ่นื ก็จะหมดไป หรือลดความสำคญั ลง ลักษณะทาง ประชากรศาสตร์ทส่ี ำคญั มีดงั นี้ 1. อายุ นกั การตลาดต้องคำนึงถงึ ความสำคญั ของการเปลนี่ แปลงของประชากรในเร่ืองของอายุ 2. เพศ จำนวนสตรี (สมรสหรอื โสด) ท่ที ำงานนอกบา้ นเพ่ิมมากขึ้นเร่ือยๆ นักการตลาดต้อง คำนึงวา่ ปัจจบุ ันสตรีเปน็ ผซอื้ อรายใหญ่ ซ่ึงท่แี ลว้ มาผูข้ ายเป็นผตู้ ดั สินใจซือ้ นอกจากนน้ั บทบาทของสตรี และบุรุษบางส่วนท่ีซ้ำกนั 3. วงจรชวี ิตครอบครัว ขนั้ ตอนแต่ละข้นั ของวงจรชีวติ ของครอบครัวเปน็ ตวั กำหนดทสี ำคัญ ของพฤติกรรมขั้นตอนของวงจรชวี ติ ของครอบครัวแบง่ ออกเปน็ 9 ข้นั นตอน ซึง่ แตล่ ะข้ันตอนัน้ จะมี พฤติกรรมการซ้ือที่แตกต่างกัน

10 การศึกษาและรายได้ นักการตลาดต้องสนใจในแนวโน้มของรายไดส้ ่วนบุคคลเน่ืองจากรายได้ จะมีผลตอ่ อำนาจการซ้ือ ส่วนผู้ทมี่ กี ารศึกษาสูงมีแนวโน้มบรโิ ภคผลิตภัณฑ์มีคณุ ภาพดี มากกว่าผู้ทม่ี ี การศึกษาตำ่ เน่ืองจากผู้มกี ารศึกษาสูงจะมีอาชพี ทส่ี ามารถสรา้ งรายได้สงู กว่าผู้ท่ีมกี ารศึกษาต่ำ เพราะจะทำใหน้ ักการตลาดน้ันสามารถประเมนิ ขนาดของตลาดเปา้ หมายได้ตามสัดส่วนที่ ต้องการได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ จากแนวคิดเก่ยี วกบั ตวั แปรของลกั ษณะประชากรศาสตร์ สรปุ ได้ว่าปัจจยั ดา้ น ประชากรศาสตรเ์ ป็นปจั จยั ท่ีนยิ มนำมาใช้ศึกษากนมากทีส่ ุดในการแบ่งส่วนการตลาดตามกลุ่มผ้บู รโิ ภค โดยอาศยั ตวั แปรศึกษาไดแ้ ก่ เพศ อายุสถานภาพ การศึกษาอาชีพ รายได้ ขนาดครอบครวั มาวางแผน กำหนดกลยทุ ธ์สร้างความต้องการ หรือจูงใจใหผู้ บริโภคตดั สนิ ใจซอ้ื ผลิตภัณฑ์ หรือ บริการเพื่อใหเ้ ข้าถึงและตรงกบั กลุ่มเป้าหมายโดยตรงมากท่สี ดุ 2.2.2 แนวคดิ และทฤษฎเี กี่ยวกบั ปัจจัยทางการตลาด 2.2.2.1 ความหมายของการตลาด คอตเลอร์. (ศริ วิ รรณ เสรรี ตั น์; และคนอนื่ ๆ . 2546: 18; อ้างองิ จาก Kotler. 2003: 9) การตลาด(Marketing) หมายถงึ กระบวนการทางสังคมและการบริหาร (Social and managerial process) ซง่ึ บุคคลและกลุ่มบุคคลไดร้ ับส่งิ ท่ีสนองความจำเป็นและความต้องการจากการสร้าง (Creating) การเสนอ (Offering) และแลกเปลยี่ น (Exchange) ผลิตภณั ฑ์ที่มีมลู คา่ กับบุคคลอน่ื เอสเซล, วอคเกอร์ และสแตตัน. (Etzel, Walker; & Stanton. 2001: G-7) การตลาดเป็น ระบบกิจกรรมธรุ กจิ ทง้ั หมดท่ีเกิดขึน้ เพื่อทจี่ ะทำการวางแผน (Plan) กำหนดราคา (Price) สง่ เสรมิ (Promote) และการจัดจำหน่าย (Distribute) ผลิตภัณฑ์ท่ีสามรถตอบสนองความต้องการของตลาด เป้าหมายเพ่ือให้บรรลุวัตถปุ ระสงคข์ ององค์การ สแตนตัน และ ฟวิ เทรล. (Stanton; & Futrell. 1997: 6) การตลาด คือ กจิ กรรมของธรุ กจิ ที่ กำ หนดข้นึ เพ่อื ทีจ่ ะวางแผนราคา สง่ เสริมการตลาด การจัดจำหนา่ ย คุณค่าผลติ ภณั ฑ์ การบริการ และ ความคดิไปยงั ตลาดเป้าหมาย เพอ่ ืบรรลุวตั ถปุ ระสงค์ขององค์กร แมคคาที และเพอเราท์. (McCarthy; & Perreault. 1990 : 1) การตลาด คอื การดำเนิน กิจกรรมเพือ่ บรรลวุ ตั ถปุ ระสงค์ขององคก์ ร กล่าวคอื สนองความต้องการของลูกคา้ และดำเนนิ การ เคล่อื นยา้ ยคุณค่าของสินคา้ และบริการไปยงั ลกู ค้า วรี วธุ มาฆะศิรานนท.์ (2542: 9-11) กล่าววา่ การตลาดเป็นกระบวนการทางธรุ กจิ ทีน่ ำเสนอ สินค้าและบรกิ ารไปสู่ผบู้ รโิ ภค เพอื่ ตัดสนิ ใจซ้ือสนิ ค้าและบริการนัน้ ในการทำการตลาด ปัจจัย ทีส่ ำคญั ท่ี ตอ้ งวิเคราะหแ์ ละกำหนดให้ชัดเจนคอื 4P’s น่ันก็คอื ผลิตภัณฑ์ ราคา ชอ่ งทางการจัด

11 จำหน่ายและการสง่ เสริมการตลาด ดังน้ันความหมายของการตลาดทางผู้วิจยั สรุปได้วา่ เป็นกระบวนการวางแผนและการบริหาร ส่วนประสมทางการตลาด เพ่ือสร้างการแลกเปลี่ยนระหวา่ งบุคคลและก ลุม่ บคุ คลใหเ้ กิดการ ตอบสนอง ความต้องการของตลาดเปา้ หมาย และทำใหเ้ กดิ ความพึงพอใจของบคุ คล และองค์การ 2.2.2.2 ทฤษฎีเกีย่ วกับปจั จยั ทางการตลาด หมายถงึ ตัวแปรทางการตลาดท่คี วบคมุ ได้ ซึ่งบริษัทใช้ร่วมกันเพื่อสนองความพงึ พอใจแก่ กล่มุ เป้าหมาย ศริ วิ รรณ เสรรี ัตนแ์ ละคนอืน่ ๆ (2546: 53-55) สรปุ ไวด้ ังน้ี 1. ผลติ ภณั ฑ์ ผลติ ภณั ฑ์ (Product) หมายถึง สงิ่ ที่เสนอขายโดยธุรกิจเพื่อตอบสนองความต้องการของ ลกู คา้ ให้พึงพอใจ ผลติ ภัณฑท์ เ่ี สนอขายอาจจะมีตัวตนหรือไม่มีตัวตนก็ได้ ผลิตภัณฑจ์ ึง ประกอบดว้ ย สินคา้ บริการ ความคดิ สถาน ที่ องคก์ รหรอื บุคคล ผลิตภัณฑต์ ้องมีอรรถประโยชน์ มคี ณุ ค่าในสายตาของลูกค้า จงึ จะมีผลทำให้ผลติ ภณั ฑส์ ามารถขายได้ การกำหนดกลยุทธ์ดา้ น ผลติภณั ฑ์ตอ้ งพยายามคำนงึ ถงึ ปัจจัย ตอ่ ไปนี้ 1.1 ความแตกต่างของผลติ ภัณฑ์ (Product Differentiation) หรอื ความแตกต่างทางการ แขง่ ขัน (Competitive Differentiation) 1.2 พิจารณาจากองคป์ ระกอบ (คุณสมบัติ) ของผลิตภณั ฑ์ (Product Component) เชน่ ประโยชน์พื้นฐาน รปู รา่ งลักษณะ คุณภาพ บรรจภุ ัณฑ์ ตราสินค้า เป็นตน้ 1.3 การกำหนดตำแหนง่ ผลิตภณั ฑ์ (Product Positioning) เป็นการออกแบบ ผลติ ภณั ฑ์ ของบริษทั เพอ่ื แสดงตำแหน่งทแ่ี ตกตา่ งและมีคุณคา่ ทางจติใจของลกู คา้ เป้าหมาย 1.4 การพฒั นาผลติ ภณั ฑ์ (Product Development) เพ่ือใหผ้ ลิตภณั ฑ์มลี ักษณะใหม่ และ ปรบั ปรงุ ให้ดีขึน้ (New and Improved) ซึง่ ต้องคำนึงถึงความสามารถในการตอบสนองความ ตอ้ งการ ของลูกค้าได้ดยี ิ่งขน้ึ Product 1.5 กลยทุ ธ์เก่ียวกับสว่ นผสมผลติ ภณั ฑ์ (Product Mix) และสายผลิตภัณฑ์ (Product Line) 2. ราคา ราคา (Price) หมายถงึ คณุ ค่าผลิตภัณฑใ์ นรปู ตวั เงิน ราคาเป็นต้นทุนของลกู ค้าผ้บู รโิ ภคจะ เปรียบเทยี บระหวา่ งคุณค่า (Value) ผลิตภณั ฑ์กับราคา (Price) ผลติ ภัณฑน์ น้ั ถา้ คุณคา่ สูงกวา่ ราคาเขาก็ จะตดั สินใจชอื้ ดงั นนั้ ผ้กู ำหนดกลยุทธด์ า้ นราคาต้องคำนึงถึง

12 2.1 คณุ ค่าทร่ี บั ร้ใู นสายตาของลูกคา้ ซ่ึงต้องพจิ ารณาว่าการยอมรับของลกู ค้าใน คุณค่าของ ผลติ ภณั ฑว์ า่ สูงกว่าราคาผลติ ภณั ฑ์น้นั 2.2 ผลิตภณั ฑต์ น้ ทุนและค่าใชจ้ ่ายทีเ่ ก่ียวข้อง 2.3 การแขง่ ขนั 2.4 ปัจจยั อนื่ ๆ ราคา (Price) เป็นจำนวนเงินทบี่ ุคคลใดๆ จา่ ยเพ่ือซื้อสนิ ค้าและบริการ ซ่ึงแสดงเปน็ มลู ค่า (Value) ท่ผี บู้ รโิ ภคจา่ ยเพือ่ แลกเปลี่ยนกับผลประโยชน์ได้รับจากสินคา้ และบริการ 3. การจดั จำหนา่ ย การจดั จำหน่าย (Place หรือ Distribution) หมายถงึ โครงสร้างของช่องทางประกอบดว้ ย สถาบันและกจิ กรรม ใชเ้ พอ่ื เคลือ่ นย้ายผลิตภณั ฑ์และบริการจากองคก์ รไปยังตลาด สถาบันที่นำผลตภิ ัณฑ์ ออกสูเ่ ป้าหมายกคือสถาบันการตลาดส่วนกจกิ รรมท่ีช่วยในการกระจายตวั สนิ ค้า ประกอบดว้ ย การขนส่ง การคลงั สนิ คา้ และการเก็บรักษาสนิ คา้ คงคลงั การจัดจำหนา่ ย ประกอบ ดว้ ย 2 สว่ นดงั น้ี 3.1 ช่องทางการจดั จำหน่าย (Channel Distribution) หมายถงึ เส้นทางที่ ผลิตภณั ฑ์และ (หรือ)กรรมสิทธ์ิทผ่ี ลิตภณั ฑ์ถูกเปลี่ยนมอื ไปยงั ตลาดในระบบช่องทางการจัดจำหนา่ ย ประกอบดว้ ยผผู้ ลติ คนกลาง ผบู้ ริโภคหรอื ผูใ้ ช้ทางอตุ สาหกรรม 3.2 การสนบั สนุนการกระจายตวั สนิ คา้ สตู่ ลาด (Market Logistic) หมายถงึ กิจกรรม ท่ี เกย่ี วข้องกบั การเคลือ่ นย้ายตัวผลติ ภัณฑ์จากผผู้ ลิตไปยงั ผู้บรโิ ภคหรอื ผใู้ ช้ทางอตุ สาหกรรมการกระจายตัว สินค้าจึงประกอบด้วยงานท่สี ำคญั ดงั ต่อไปน้ี 3.2.1 การขนสง่ (Transportation) 3.2.2 การเก็บรกั ษาสนิ คา้ (Storage) และการคลังสนิ ค้า (Warehousing) 3.2.3 การบริหารสินคา้ คงเหลือ (Inventory Management) อดลุ ย์ จาตุรงคกุล (2545: 130) กลา่ ววา่ การจัดจำหนา่ ย (Place) เป็นกลยทุ ธข์ องนักการ ตลาดในการทำใหม้ ผี ลิตภณั ฑ์ไว้พร้อมจำหนา่ ย สามารถก่ออิทธพิ ลต่อการ “พบ” ผลิตภัณฑ์แนน่ อน วา่ สินค้าทมี่ จี ำหนา่ ยแพรห่ ลายและง่ายท่จี ะซื้อ กจ็ ะทำใหผ้ ู้บริโภคนำไปประเมนิ ประเภทของช่องทางท่ี นำเสนอ ซ่ึงอาจจะกอ่ อิทธพิ ลตอ่ การรับรภู้ าพพจน์ของผลิตภัณฑ์ 4. การสง่ เสริมการตลาด การสง่ เสรมิ การตลาด (Integrated Marketing Communication) เป็นการติดต่อส่ือสาร เกย่ี วกับข้อมูลระหวา่ งผู้ขายกับผซู้ อ้ื เพื่อสร้างทัศนคติและพฤติกรรมการซื้อการตดิ ต่อสื่อสารอาจใช้ พนกั งานขายทำการขาย (Personal Selling) และการติดต่อสือ่ สารโดยไม่ใช้คน (Nonpersonal Selling)

13 เครือ่ งมือในการตดิ ต่อสอื่ สารมีหลายประการซึ่งอาจเลือกใชห้ นง่ึ หรือหลายเคร่อื งมือส่ือสารแบบประสม ประสานกนั โดยพจิ ารณาถงึ ความเหมาะสมกบั ลกู คา้ ผลิตภัณฑ์ คู่แข่งขนั โดยบรรลุจดุ มุ่งหมายรว่ มกนั ได้ เครื่องมอื ส่งเสริมการตลาดที่สำคัญมดี งั น้ี 4.1 การโฆษณา (Advertising) เปน็ กจิ กรรมในการเสนอข่าวสารเกยี่ วกบั องค์การและ (หรือ) ผลิตภณั ฑ์ บริการหรอื ความคดิ ที่ต้องมีการจา่ ยเงนิ โดยผอู้ ุปถัมภ์รายการกำกลยุทธใ์ นการโฆษณาจะ เก่ียวขอ้ งกบั 4.1.1 กลยุทธ์การสรา้ งสรรค์งานโฆษณา (Creative Strategy) และวธิ ีการโฆษณา (Advertising Tactics) 4.1.2 กลยุทธ์สอ่ื (Media Strategy) 4.2 การขายโดยใช้พนักงานขาย (Personal Selling) เป็นกิจกรรมการแจ้งข่าวสาร และจูง ใจตลาดโดยใช้บุคคลงานในข้อนจี้ ะเกยี่ วข้องกบั 4.2.1 กลยุทธ์การขายโดยใช้พนกั งานขาย (Personal Selling) 4.2.2 การจัดการหน่วยงานขาย (Sales Force Management) 4.3 การสง่ เสริมการขาย (Sales Promotion) เป็นกจิ กรรมการสง่ เสรมิ การตลาดที่ นอกเหนือจากการโฆษณา การขายโดยใช้พนกั งานขาย และการให้ข่าวและประชาสมั พนั ธ์ ซึง่ สามารถ กระตุ้นความสนใจ ทดลองใช้หรอื การซื้อ โดยลกู ค้าข้นั สุดท้ายหรือบุคคลอื่นในชอ่ งทางการ ส่งเสรมิ การ ขาย มี 3 รูปแบบ 4.3.1 การกระตุ้นผบู้ รโิ ภค หรือ การส่งเสริมการขายที่มุ่งสู่ผูบ้ ริโภค (Consumer Promotion) 4.3.2 การกระตุ้นคนกลาง หรอื การสง่ เสริมการขายที่มุง่ สู่คนกลาง (Trade Promotion) 4.3.3 การกระตนุ้ พนักงานขาย หรอื การส่งเสรมิ การขายที่มงุ่ สพู่ นักงานขาย (Sales Force Promotion) 4.4 การใหข้ ่าวและการประชาสมั พนั ธ์ (Publicity and Public Relations) การให้ข่าว เปน็ การเสนอความคดิ เก่ียวกับสินค้าหรอื บริการที่ไม่ตอ้ งมีการจ่ายเงิน สว่ นการประชาสัมพันธ์ หมายถงึ ความพยายามท่มี ีการวางแผนโดยองค์กรหนึ่ง เพื่อสร้างทัศนคติท่ดี ีต่อองคก์ รใหเ้ กดิ กับกลมุ่ ใดกล่มุ หน่ึง การใหข้ ่าวเป็นกจิ กรรมหนึง่ ของการประชาสัมพนั ธ์ 4.5 การตลาดทางตรง (Direct Marketing , Direct Response marketing) และ การตลาดเช่ือตรง (Online Marketing) เปน็ การติดต่อสื่อสารกบั กลุ่มเป้าหมายเพ่ือให้เกิดการตอบสนอง

14 (Response) โดยตรง หรอื หมายถึง วิธีการต่างๆ ทนี่ ักการตลาดใช้ส่งเสรมิ ผลิตภณั ฑโ์ ดยตรงกับผู้ซือ้ และ ทำใหเ้ กดิ การตอบสนองทันที ประกอบด้วย 4.5.1 การขายทางโทรศพั ท์ 4.5.2 การขายโดยใชจ้ ดหมายตรง 4.5.3 การขายโดยใชแ้ คตตาล็อค 4.5.4 การขายทางโทรทัศน์ วิทยุ หรือ หนังสอื พิมพ์ จากทก่ี ล่าวขา้ งต้นสรปุ ไดว้ ่า สว่ นประสมการตลาดเปน็ เคร่ืองมือของหารสนองตอบแก่ ความ ต้องการแก่กลุ่มเปา้ หมายในด้านผลตภิ ัณฑ์ (Product) ราคา (Price) การจัดจำหน่าย (Place หรอื Distribution) การส่งเสรมิ การตลาด (Promotion) ซ่ึงทง้ั 4P’s จำเปน็ ต้องมีความสมั พันธ์กัน เพอ่ื สรา้ ง ความพึงพอใจแกล่ ูกคา้ ในการซือ้ หรอื เลือกใช้บริการ สรุปโดยรวม สว่ นประสมทางการตลาดเป็นตวั แปรที่สำคัญในการกำหนดพฤตกิ รรมการซื้อของ ผู้บริโภค กลา่ วคอื ถ้าสามารถควบคมุ ส่วนประสมทางการตลาดใหส้ ามารถตอบสนองความตอ้ งการและ สรา้ งความพงึ พอใจแก่ผบู้ รโิ ภคได้ก็จะสรา้ งความได้เปรยี บตอ่ คแู่ ข่งได้ 2.2.3 แนวคิดและทฤษฎเี ก่ยี วกับโปรแกรม GemCad สุรนิ ทร์ อินทะยศ (2562, หน้า 12-13) เปน็ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ชว่ ยออกแบบ (CAD) สำหรบั ออกแบบเหลย่ี มเจียระไนอญั มณี ทำงานภายใต้ Windows 95 หรอื สูงกว่า พีซที ่ีใช้งานร่วมกันได้ ต้องมีความละเอยี ดหนา้ จออยา่ งนอ้ ย 800 x 600 โปรแกรมสามารถจำลองการทำงานเครือ่ งเจยี ระไนและ แสดงมมุ มองของอญั มณที ่ีแม่นยำในแบบสามมิติ โปรแกรมเขา้ ใจในเรื่องความสมมาตร ดังนน้ั ถา้ ออกแบบ เพยี งบางสว่ นกจ็ ะปรับการออกแบบอย่างเตม็ รูปแบบ โปรแกรมสามารถติดตามเส้นทางของแสงที่ส่อง ผา่ นอัญมณีทำให้สามารถปรับการออกแบบให้เหมาะสม เพื่อลดการสูญเสยี แสง ผลลัพธส์ ุดทา้ ยคือ แผนภาพการออกแบบเหลย่ี มเจียระไนท่ีแมน่ ยำ ซงึ่ แสดงมุมมองหลายๆ มมุ มอง ตำแหน่งของมมุ ดชั นี รปู รา่ งของอญั มณี โดยการใช้โปรแกรมมีจุดประสงค์ด้งั นี้ 1. พสิ จู น์ตรวจสอบไดอะแกรมการออกแบบเหลย่ี มเจยี ระไน ตรวจสอบการออกแบบบนคอมพวิ เตอร์ช่วยใหต้ รวจสอบความถูกต้องของแผนภาพและ ค้นหาขอ้ ผิดพลาดก่อนทีจ่ ะทำให้เกดิ ความเสียหายตอ่ พลอยกอ้ น 2. การแก้ไขไดอะแกรม สามารถนำไดอะแกรมทมี่ ีอยู่แล้วมาปรบั เปลยี่ นคา่ เพ่ือเพิ่มประสิทธิภาพคุณสมบตั ทิ างแสง เพ่ือนำไปใช้ในการทำงานกบั อญั มณีประเภทอื่นๆ ที่แตกต่างกนั สามารถขยายไดอะแกรมเพื่อทำให้ใหญ่ ข้นึ หรอื เล็กลง ให้พอดีกบั อัญมณที ่ีมอี ยู่

15 3. การออกแบบจากพลอยก้อน ผใู้ ชท้ ่มี คี วามชำนาญสามารถใช้โปรแกรม เพอ่ื สร้างรปู แบบใหม่ๆ โดยโปรแกรมจะให้ความ อิสระแกผ่ ้ใู ช้ โดยไม่ต้องใชค้ ่าจากการคำนวณทีน่ ่าเบ่ือในการกำหนดตำแหน่งมุม 2.3 เอกสารและงานวิจยั ทีเ่ กีย่ วขอ้ ง กฤษณะ แซลี (2559) ในการศึกษาวจิ ัยเรื่อง “ ปจั จยั ท่มี ีผลต่อการตัดสินใจซือ้ สินค้า เครอ่ื งประดบั เงนิ สปป.ลาว ของนักท่องเทย่ี วชาวไทย ” การวิจัยนี มีวัตถปุ ระสงค์ 1. เพื่อศึกษา ลักษณะ ประชากรศาสตร์ทแ่ี ตกต่างกัน กับพฤติกรรมในการซื้อเครื่องประดับเงนิ สปป.ลาว ของ นกั ทอ่ งเทยี่ วชาว ไทย 2. เพ่ือศึกษาปจั จยั ทางการตลาดของการซ้ือผลิตภัณฑ์เครอื่ งเงนิ ทีม่ ผี ลต่อ พฤติกรรมในการซื้อ เครื่องประดับเงนิ สปป.ลาว ของนักท่องเทีย่ วชาวไทย จำนวนกลุ่มตัวอยา่ ง ท้งั หมด 400 คน เคร่ืองมือท่ี ใช้ในการวิจัยคือ แบบสอบถาม วเิ คราะห์ข้อมลู ด้วยโปรแกรม SPSS for Windows ถวลั รตั น์ กัลชาญกิจ (2558) ในการศึกษาวิจยั เร่อื ง “ บุคลิกภาพผูบ้ รโิ ภค ความเชอ่ื โชคลาง และพฤตกิ รรมการซ้ือเครื่องประดับหินสี ” การวจิ ยั น้ี เป็นการวิจยั เชิงปริมาณ (Quantitative Research) โดยใช้วิธวี จิ ัยเชิงสำรวจ (Survey Research Method) แบบวดั ผลเพียงครั้งเดยี ว (OneShot Descriptive Study) ดว้ ยเครื่องมือการเก็บข้อมลู จากแบบสอบถาม (Questionnaire) กับกลุ่ม ตวั อยา่ งท่ี ซ้ือและสวมใส่หรอื เคยสวมใส่เครื่องประดับหินสีมงคลอายตุ ้ังแต่ 18 ปี ที่อาศยั อยใู่ นจังหวัด กรงุ เทพมหานคร จำนวน 400 คน ผลการวจิ ัยพบว่า กล่มุ ตัวอยา่ งทส่ี วมใสเ่ ครือ่ งประดับหนิ สีมงคลส่วนใหญ่มีบุคลกิ ภาพการ แสดงตวั และรองลงมา ได้แก่ บุคลิกภาพการม่งุ มน่ั สู่ความสำเรจ็ ส่วนความเช่อื โชคลางในเครอ่ื งประดับ หินสี พบวา่ ดา้ นการทำงานหรอื การศึกษาเป็นความเช่ือท่กี ลุ่มใหค้ วามสำคญั มากท่สี ุด รองลงมา คือ ด้าน ความรัก ดา้ นครอบครัวและด้านสุขภาพ ตามลำดับ ท้ังน้ี กลุม่ ตวั อย่างสว่ นใหญ่สวม ใสส่ ร้อยข้อมือและ กำไลหิน โดนใหค้ วามสำคัญกับรปู แบบและความสวยงาม (ลักษณะรูปทรงหรือส)ี และราคาสินค้าทซ่ี ื้อ มักจะไมเ่ กิน 1,000 บาท ส่วนสถานทีท่ ่ีซื้อสว่ นใหญม่ ักซ้อื จากรา้ นคา้ ในห้างสรรพสินค้า ในการศึกษาน้ี พบวา่ บคุ ลิกภาพของผ้บู รโิ ภคมคี วามสมั พันธ์กับพฤติกรรมการซื้อ สนิ คา้ อีกท้ังความเช่ือโชคลางทกุ ดา้ น มีความสัมพันธก์ ับพฤติกรรมการซ้ือสินค้าเชน่ กนั ยกเว้น ประเดน็ ราคาสนิ ค้าที่ไม่มีความสัมพนั ธก์ บั ความ เชอ่ื โชคลางในดา้ นใดเลย นอกจากนี้ ยังพบว่ากลุ่ม ตวั อย่างท่สี วมใสเ่ คร่ืองประดบั หินสมี งคลทีเ่ ปดิ รับส่ือ แตกต่างกัน มคี วามเชื่อโชคลางดา้ นสขุ ภาพ และดา้ นครอบครัวแตกตา่ งกันอย่างมีระดบั นัยสำคญั รวมถงึ มีการเปิดรับสื่อแตกตา่ งกันมีพฤติกรรมการ ซ้ือสินคา้ แตกต่างกันอยา่ งมรี ะดับนยั สำคัญ ในประเด็น ได้แก่

16 ราคาของสนิ คา้ ช่องทางการจัด จำหน่ายสนิ ค้า คำบอกเลา่ ของนักโหราศาสตร์ และความเหมาะสมกับ ดวงชะตา นิพันธ์ รัตโนภาพ (2555) ในการศกึ ษาวิจัยเรอ่ื ง “ พฤติกรรมการซ้ือเครื่องประดับอญั มณีของ ผู้บรโิ ภคในจงั หวดั กาญจนบรุ ี ” ผลการวิจัยพบว่า พฤติกรรมการซ้ือเคร่ืองประดับอัญมณีของผูบ้ รโิ ภค ส่วนใหญน่ ิยมซอื้ เพชรมากทส่ี ดุ โดยซ้อื เป็นชนิ้ งานสำเร็จ ตัวเรอื นของเครื่องประดับนยิ มทำมาจากทอง คำมากท่สี ดุ และนิยมซ้ือในร้านจำหนา่ ยอญั มณีทว่ั ไป ปฏิภาณ สุวรรณพฒั นา (2557) ในการศกึ ษาวิจัยเรือ่ ง “ ส่วนประสมการตลาดที่มผี ลตอ่ นกั ท่องเที่ยวชาวตา่ งประเทศในการซอื้ เคร่ืองประดับเงนิ ในอำเภอเมือง จังหวดั เชียงใหม่ ” เปน็ การ คน้ ควา้ แบบอิสระ มีวตั ถุประสงคเ์ พ่ือศึกษาสว่ นประสมการตลาดท่มี ผี ลตอ่ นักท่องเที่ยวชาวตา่ งประเทศใน การซ้อื เครือ่ งประดบั เงนิ ในอำเภอเมืองจงั หวดั เชียงใหม่ โดยประชากรในการศึกษาคร้ังนี้ คือ นกั ท่องเที่ยว ชาวตา่ งประเทศทีเ่ ดนิ ทางมายังจังหวดั เชยี งใหม่ โดยแบง่ เป็น 3 กลมุ่ ประเทศ ได้แก่ กลุ่มประเทศอเมริกา จำนวน 70 ตวั อย่าง กลุ่มประเทศยโุ รป จำนวน 70 ตัวอยา่ ง และกลุม่ ประเทศเอเชยี จำนวน 70 ตัวอย่าง พร้อมทัง้ นำขอ้ มูลมาวเิ คราะห์ดว้ ยสถิตเิ ชงิ พรรณนา ได้แก่ ความถ่ี ร้อยละ และค่าเฉล่ีย ผลการศกึ ษาพบวา่ สว่ นใหญ่ผู้ตอบแบบสอบถามเปน็ เพศหญงิ อายุ 31-40 ปี อาชีพ พนักงาน บริษทั รายได้เฉล่ียตอ่ ปีโดยประมาณ $US20,001-40,000 เคยมาเทีย่ วจงั หวดั เชยี งใหม่เปน็ คร้งั แรก การ มาเยอื นเชยี งใหม่ เพื่อมาพักผ่อนเป็นเวลามากกว่า 5 วัน โดยเดนิ ทางมาเองและ มีวัตถุประสงค์ คือ การ มาท่องเทย่ี ว ทราบวา่ มีการขายเครอ่ื งประดบั เงนิ จากรู้ด้วยตัวเอง (พบเหน็ ) หมวดเคร่ืองประดับท่เี ลือก ซ้ือมากที่สุด คือ จี ประดับ ผู้มอี ทิ ธิพลตอ่ การซ้ือเครื่องประดบั เงนิ คอื ตวั เอง โดยซ้ือเพ่ือใชเ้ อง เหตผุ ลท่ี ซอ้ื เคร่ืองประดบั เพราะชอบงานฝีมือ ซอื้ เครื่องประดับเงินโดยไม่มีรา้ นประจำ โดยไมไ่ ด้เปรยี บเทยี บ คณุ ภาพและราคาเคร่ืองประดับเงนิ ในแต่ละรา้ นก่อนตดั สินใจเลือก ซื้อส่วนใหญ่ชำระเงินด้วยเงนิ สด คา่ ใชจ้ ่ายในการซื้อเครือ่ งประดบั เงนิ เฉลี่ยต่อครั้งโดยประมาณ 5,001-6,000 บาท โดยปจั จยั ย่อยส่วน ประสมการตลาด 10 อนั ดับแรกทม่ี ีผลต่อการตดั สินใจซื้อ เครอ่ื งประดับเงินของนักท่องเทีย่ วชาว ต่างประเทศในอำเภอเมอื ง จังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ สนิ ค้ามแี บบ ให้เลอื กหลากหลาย รองลงมาคือมีการ โฆษณาผ่านสอ่ื ต่างๆ เช่น เวบ็ ไซต์ นติ ยสาร มสี ินค้าวางแสดงจำนวนมาก และพนักงานมีความร้แู ละ ทักษะการสื่อสารเป็นอย่างดี (มคี า่ เฉล่ียเท่ากัน) สถานท่ี กว้างขวางสะอาดเยน็ สบาย ราคาถกู เม่ือ เปรียบเทยี บกบั ราคาในประเทศของผู้ตอบแบบสอบถามและ การจัดทำอเิ ล็กทรอนิกส์แคตตาล็อกให้แก่ ลกู ค้า (มีคา่ เฉล่ียเท่ากัน) มชี ่องทางหลากหลายให้สามารถ ติดต่อได้สะดวก เช่น เว็บไซต์ จดหมาย อเิ ลก็ ทรอนิกส์และโทรสาร เป็นตน้ รา้ นค้าตงั้ อยู่ในแหล่งชมุ ชนเปน็ ลกั ษณะร้านเด่ียวๆ (Stand Alone) และพนักงานมีอัธยาศัยดเี ป็นมิตร (มคี ่าเฉล่ียเท่ากนั ) มเี ปอรเ์ ซน็ ต์ของเน้ือเงินสงู (92.5%) และมีการจัด

17 วางสินค้าเป็นหมวดหมู่ตามรูปแบบและประเภทของสินคา้ ทำใหส้ ะดวกแก่การเลือกซื้อสินคา้ (มคี ่าเฉล่ีย เทา่ กัน) สนิ คา้ เช่ือมโยงเรื่องราวกับวฒั นธรรมตา่ งๆ และราคาสมเหตสุ มผล (ไมแ่ พง) (มีค่าเฉล่ียเท่ากนั ) และสินค้ามีคุณภาพดีไม่มีตำหนิ ตามลำดบั ไพรตั น์ มณีวรรณ์ (2550) พฤตกิ รรมผบู้ รโิ ภคสนิ คา้ เครื่องประดบั อัญมณีในอำเภอแมส่ าย จังหวัดเชียงรายปจั จยั ที่มีผลต่อการเลือกซื้อสินคา้ เคร่อื งประดับอัญมณีในอำเภอแม่สายจังหวดั เชยี งราย โดยภาพรวมมคี วามสำคัญอยู่ระดบั มากเม่ือพจิ ารณาตามส่วนประสมทางการตลาด พบว่า ด้านทม่ี คี า่ เฉล่ีย สูงท่สี ุด ไดแ้ ก่ ด้านบุคลากร รองลงมาได้แก่ ด้านผลิตภัณฑ์ส่วนด้านท่มี คี ่าเฉล่ียต่ำทสี่ ดุ ได้แก่ ดา้ นการจัด จำหนา่ ย ปัญหาในการเลือกซ้ือสนิ คา้ เคร่ืองประดับอัญมณี คอื สินคา้ ปลอมหรือสินคา้ เลียนแบบเปน็ จํานวนมากผู้ขายบอกราคาสงู เกนิ ไปและสินค้าไม่มีคุณภาพรปู แบบไม่ทันสมยั ผู้บริโภคใหขอ้ เสนอแนะว่าผู้ ซ้ือควรเลอื กซื้อสินคา้ ท่ีมีคุณภาพและราคาซ้ือกบั ร้านที่มชี ื่อเสยี งไว้ใจไดม้ ีการรับประกันคุณภาพของสนิ ค้า และสามารต่อรองราคาได้ ยทุ ธศิลป์ เตยะราชกุล (2556) การศึกษาพฤติกรรมการตดั สินใจซอื้ เคร่ืองประดบั อัญมณีของ ผบู้ รโิ ภคที่เข้าชมงานแสดงสินคา้ อญั มณีและเคร่ืองประดบั วนั ท่ี 10-14 กันยายน 2546 ที่เมือง ทองพบว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่นิยมเครอื่ งประดบั แทโ้ ดยมีความนิยมในเครือ่ งประดบั ทองคาํ ขาวท่ีมีอัญมณีประดบั มาก ทีส่ ุดสว่ นความนยิ มในชนิดของอัญมณีของผู้บริโภคส่วนใหญ่นิยมเพชรเปน็ อนั ดับแรกทับทิม ไพลนิ และ มรกตเป็นอันดบั รองลงมาตามลาํ ดบั ประเภทของเคร่ืองประดับผู้บรโิ ภคนิยมแหวนเปน็ อันดบั แรก รองลงมา คือ สรอ้ ยคอและสร้อยข้อมือความนิยมในลักษณะและรูปแบบของเครื่องประดับผ้บู ริโภคสว่ น ใหญน่ ิยมซื้อเคร่ืองประดบั เพชรลว้ นมากท่สี ดุ ชว่ งระดับราคาทซี่ ื้อของผบู้ ริโภคสว่ นใหญ่จะซือ้ ในระดบั ราคา 5,000 -50,000 บาท ส่วนปจั จัยจงู ใจที่มีความสำคัญมากต่อการตัดสินใจซ้ือเครื่องประดบั ของ ผบู้ รโิ ภคคอื การออกแบบทีส่ วยงามและประณีต อาภรณ์ จงฤทธิพร (2558 : บทคัดย่อ) ได้ศึกษาปัจจัยท่ีมีผลต่อการตดั สนิ ใจซ้ืออญั มณแี ละ เครื่องประดบั ของนักท่องเทย่ี วไทยในอําเภอเมืองจงั หวดั กาญจนบรุ ผี ลการศกึ ษา พบวา่ ผู้ตอบ แบบสอบถาม ส่วนใหญเ่ ปน็ เพศหญิง มีอายรุ ะหว่าง 31-40 ปีสถานภาพสมรสแลว้ จบการศกึ ษา ระดับ ปริญญาตรีประกอบอาชีพคา้ ขายหรอื เจา้ ของกิจการ มีรายได้เฉล่ยี ต่อเดือนอยูร่ ะหว่าง 10,001-20,000 บาท ปจั จยั ทีม่ ผี ลตอ่ การตดั สินใจซอื้ อัญมณแี ละเครอื่ งประอนั ดบั แรก คือ ราคา รองลงมาคือคุณภาพด้าน พฤติกรรมการซ้อื ส่วนใหญเ่ ลือกซ้ือเคร่ืองประดบั ประเภทแหวน ตวั เรือนใชท้ องคาํ และมีเพชรเป็นอญั มณี ของเครื่องประดับ มูลคา่ เฉล่ียทีน่ ักท่องเที่ยวซื้ออัญมณีและเครอ่ื งประดบั ในการท่องเทีย่ วแตล่ ะคร้งั มี มูลค่าน้อยกว่า 5,000 บาท เหตผุ ลที่ซ้ืออัญมณีและเครอ่ื งประดับคือซื้อใชเ้ องความถ่ีของการซื้อ คือ ไม่ แนน่ อนหรอื กำหนดไมไ่ ดบ้ คุ คลทม่ี อี ิทธิพลในการตัดสนิ ใจซ้ือคือเพื่อนแหลง่ ข่าวสาร สว่ นใหญ่คอื การบอก

18 ตอ่ จากบุคคลอื่นและเลือกซ้ืออญั มณแี ละเครอื่ งประดบั จากรา้ นค้าอัญมณแี ละเคร่ืองประดับท่วั ไป ปจั จัยท่ี มีผลต่อการตดั สินใจซื้ออญั มณีและเครอ่ื งประดบั ดา้ นผลิตภณั ฑ์ในภาพรวม พบว่ามีความสำคญั ต่อการ ตัดสนิ ใจในระดบั มาก โดยมีปัจจยั ย่อยไดแ้ กค่ ุณภาพของผลิตภัณฑแ์ ละความน่าเชอื่ ถือของร้าน ดา้ นราคา ในภาพรวม พบวา่ มคี วามสำคญั ต่อการตัดสินใจในระดบั มากโดยมีปจั จัยยอ่ ยได้แกร่ าคาเหมาะสมกับ ผลติ ภณั ฑ์และต่อรองกบั ผ้ขู ายได้ดา้ นช่องทางการจัดจำหน่ายในภาพรวม พบวา่ มีความสำคญั ตอ่ การ ตัดสนิ ใจในระดบั มาก โดยมีปัจจัยย่อยได้แกส่ ถานท่ีจาํ หน่ายสะดวกต่อการซ้ือและการจัดแสดงผลติ ภณั ฑ์ น่าสนใจ ด้านการส่งเสริมการตลาดในภาพรวม พบว่ามีความสำคัญต่อการตดั สนิ ใจในระดับมาก โดยมี ปจั จัยยอ่ ย ไดแ้ ก่ ผู้ขายมีความรู้ด้านอญั มณแี ละเครื่องประดบั และผู้ขายให้ความสนใจในขณะเลือกซือ้ ส่วนปัญหาที่มีผลตอ่ การตดั สนิ ใจซ้ืออญั มณีและเครอ่ื งประดบั ด้านผลติ ภณั ฑใ์ นภาพรวมพบวา่ มอี ิทธพิ ลใน ระดบั มากโดยมีปจั จัยยอ่ ย ได้แก่ ปัญหาคุณภาพของ ผลติ ภัณฑ์และผลิตภณั ฑ์ไมป่ ระณตี ปญั หา ดา้ นราคา ในภาพรวม พบวา่ มีอทิ ธพิ ลในระดบั มาก โดยมปี ัจจัยยอ่ ยได้แก่ ราคาไมเ่ หมาะสมกบั ตัวผลิตภณั ฑแ์ ละไม่ มีป้ายแสดงราคาปัญหา ด้านช่องทางการจัดจำหน่ายในภาพรวม พบว่ามีอทิ ธพิ ลในระดับมากโดยมีปัจจยั ยอ่ ย ได้แก่ ไม่มสี ถานทจ่ี อดรถและสถานท่จี ำหนา่ ยไมส่ ะดวกปญั หา ดา้ นการส่งเสรมิ การตลาดในภาพรวม พบว่า มีอิทธิพลในระดบั มาก โดยมปี จั จยั ยอ่ ยได้แก่ผขู้ ายไม่มีความรดู้ า้ นอัญมณีและเครื่องประดับผ้ขู าย ไมใ่ หค้ วามสนใจขณะเลือกซ้ือ

19 บทที่ 3 วธิ ีดำเนินการวิจัย การศึกษาปัจจัยที่มอี ิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้ออญั มณเี หล่ียมเจียระไนรปู แบบใหม่ของกลุ่ม นกั ท่องเทีย่ วชาวไทย จงั หวดั จันทบรุ ี ผศู้ ึกษาได้ดำเนนิ การศึกษาตามขัน้ ตอนดังต่อไปน้ี 3.1 ประชากรและกลมุ่ ตัวอย่าง 3.2 เครือ่ งมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมลู 3.3 วธิ ีการเก็บรวบรวมขอ้ มูล 3.4 การจดั ทำกับข้อมูลและวิเคราะหข์ ้อมลู 3.5 สถิติทีใ่ ช้ในการวิเคราะห์ข้อมลู 3.1 ประชากรและกลมุ่ ตวั อย่าง 3.1.1 ประชากร ประชากรท่ีใช้ในการศึกษาคร้ังน้ี ไดแ้ ก่ กล่มุ นกั ทอ่ งเท่ียวชาวไทยท่เี ข้ามาท่องเทย่ี วและเลือก ซ้อื อัญมณีและเคร่อื งประดบั บรเิ วณตลาดพลอย จังหวัดจันทบุรี 3.1.2 กลุ่มตัวอย่าง กล่มุ ตวั อย่างทีใ่ ช้ในการศึกษาครงั้ น้ี ไดแ้ ก่ กลุ่มนักท่องเทย่ี วทต่ี ัดสินใจซ้อื อญั มณี ในจงั หวัด จันทบรุ ี โดยศกึ ษาจากกลุ่มประชากรที่อยู่ ณ ถนนอัญมณีเทา่ น้นั เนือ่ งจากประชากรมขี นาดใหญ่ และไม่ ทราบจำนวนประชากรที่แน่นอน ดงั น้ัน ผูศ้ ึกษาจึงกำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างโดยวิธีของ W.G. Cochran โดยกำหนดระดับค่าความเช่ือมั่นร้อยละ 95 และระดบั ความคลาดเคล่ือนรอ้ ยละ 5 (กลั ยา วา นิชย์บัญชา, 2549, หนา้ 74) ซึ่งสตู รในการคำนวณท่ีใชใ้ นการศกึ ษาครั้งนี้ คือ สตู ร n = P(1−P)Z2 E2 เมอ่ื n แทน ขนาดตัวอย่าง P แทน สัดส่วนของประชากรที่ผู้วจิ ัยกำลังสมุ่ .50 Z แทน ระดับความเชอื่ มนั่ ทีผ่ ู้วิจัยกำหนดไว้ Z มีคา่ เทา่ กับ 1.96 ที่ระดับความเช่ือม่ัน ร้อยละ 95 (ระดับ .05)

20 E แทน ค่าความผิดพลาดสงู สดุ ที่เกดิ ขึ้น = .05 แทนคา่ n= (.05)(1−.5)(1.96)2 (.05)2 = 384.16 ใช้ขนาดตัวอยา่ งอย่างน้อย 384 คน จงึ จะสามารถประมาณคา่ ร้อยละ โดยมคี วามผิดพลาดไม่ เกินร้อยละ 5 ทร่ี ะดับความเชื่อม่ันร้อยละ 95 เพ่ือความสะดวกในการประเมินผล และการวเิ คราะห์ข้อมูล ผวู้ จิ ยั จึงใช้ขนาดกลุ่มตวั อย่างทัง้ หมด 400 ตัวอย่าง ซ่ึงถือไดว้ า่ ผ่านเกณฑ์ตามท่เี ง่อื นไขกำหนด คอื ไม่ น้อยกวา่ 384 ตัวอยา่ ง 3.2 เคร่ืองมอื ทใี่ ช้ในการรวบรวมเกบ็ ขอ้ มูล เคร่อื งมอื ที่ใชใ้ นวิจัย คอื แบบสอบถาม (Questionnaire) ซึ่งจัดทำแบบสอบถามใหส้ อดคล้อง กบั กรอบแนวความคิดการวจิ ัยและผ้สู ำรวจเป็นผนู้ ำแบบสอบถามไปให้ผสู้ อบถามดว้ ยตนเอง มลี ักษณะ เปน็ คำถามปลายปดิ (Close End Question) ทีก่ ำหนดคำตอบไวใ้ หผ้ ตู้ อบเลอื กตอบ และคำถามแบบ ปลายเปิด (Opened End Question) ให้ผตู้ อบแสดงความคิดเหน็ ไดอ้ ย่างอสิ ระ โดยแบบสอบถามชุดน้ี ไดแ้ บง่ ออก 5 ตอน คอื ตอนที่ 1 ข้อมลู ทั่วไปดา้ นปัจจยั สว่ นบคุ คลของผ้ตู อบแบบสอบถาม ไดแ้ ก่ เพศ อายุ สถานภาพ ระดบั การศึกษา อาชีพ และรายได้เฉล่ียต่อเดือน แบบสอบถามจะเปน็ ลักษณะตวั เลือกท่ี กำหนดให้ ตอนท่ี 2 พฤติกรรมการซือ้ อัญมณี ณ ถนนอญั มณี จังหวดั จันทบรุ ี คำถามจะประกอบด้วย การสอบถามข้อมลู การเลอื กซ้ืออญั มณีของผตู้ อบแบบสอบถามจะเปน็ ลักษณะตัวเลือกท่ีกำหนดให้ โดยลักษณะของแบบสอบถามใหเ้ ลือก 1 ตวั เลือก วดั ไดโ้ ดยใชม้ าตราวดั ของ Likert’s Scale ซง่ึ แตล่ ะคำถามมีคำตอบให้เลอื กตามลำดบั ความสำคัญ 5 ระดับ (ศริ วิ รรณ เสรรี ตั นแ์ ละคณะ, 2549, น.129) ตอนที่ 3 ปัจจัยทางการตลาดมผี ลต่อการตัดสินใจซื้ออญั มณีเหลี่ยมเจียระไนรปู แบบใหม่ ประกอบด้วย ผลติ ภณั ฑ์ (Product) ราคา (Price) ช่องทางการจัดจำหนา่ ย (Place) และการส่งเสรมิ การตลาด (Promotion) แบบสอบถามจะเปน็ ลักษณะให้เลอื ก 1 ตัวเลือก

21 ตอนที่ 4 เหตผุ ลในการตดั สินใจซ้ืออัญมณเี หลยี่ มเจยี ระไนรูปแบบใหม่ คำถามจะ ประกอบดว้ ยการสอบถามขอ้ มลู เหตุผลในการตัดสนิ ใจซ้ืออัญมณีเหล่ียมเจยี ระไนรูปแบบใหม่ของผู้ตอบ แบบสอบถามจะเปน็ ลักษณะตัวเลอื กที่กำหนดให้ โดยลักษณะของแบบสอบถามให้เลือก 1 ตวั เลือก วดั ได้โดยใช้มาตราวัดของ Likert’s Scale ซง่ึ แตล่ ะคำถามมีคำตอบให้เลือกตามลำดบั ความสำคัญ 5 ระดบั (ศริ ิวรรณ เสรีรัตน์และคณะ, 2549, น.129) ตอนท่ี 5 ข้อเสนอแนะ เป็นคำถามแบบปลายเปดิ ให้ผตู้ อบแสดงความคิดเหน็ ได้อย่างอิสระ 3.3 ขน้ั ตอนการสรา้ งและการหาคณุ ภาพของเคร่ืองมอื ผูศ้ กึ ษาทำการสร้างเคร่อื งมอื โดยมขี นั้ ตอน ดงั น้ี 1. ศกึ ษาเอกสาร ตำรา บทความ และงานวิจยั ทเี่ กีย่ วข้อง 2. สรา้ งแบบสอบถาม 3. นำแบบสอบถามไปให้อาจารย์ท่ีปรกึ ษา 4. นำแบบสอบถามไปปรบั ปรุงตามคำแนะนำของอาจารย์ท่ีปรึกษา 5. นำแบบสอบถามทปี่ รบั ปรุงแก้ไขแลว้ เสนออาจารย์ท่ีปรึกษาตรวจสอบอีกครัง้ 6. นำแบบสอบถามที่สมบรู ณ์ไปทำการเก็บรวบรวมข้อมลู 3.4 วิธกี ารเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล การวจิ ยั คร้ังนี้ เปน็ การวจิ ยั เชิงสำรวจใช้แบบสอบถามในการเก็บข้อมูล โดยประกอบดว้ ย แหล่งข้อมลู 2 แหล่ง ดังตอ่ ไปน้ี 1. ขอ้ มูลปฐมภมู ิ (Primary Data) เปน็ แหล่งขอ้ มลู ท่ีได้จากการเกบ็ รวบรวมข้อมลู จากกลุ่ม ตวั อยา่ งผู้เลอื กซ้อื อญั มณี ผศู้ ึกษาดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมลู จากกลุ่มตวั อยา่ ง จำนวน 400 คน ณ ถนนอัญมณี เป็นแบบสอบถามชนิดทใ่ี หก้ ล่มุ เป้าหมายกรอกคำตอบดว้ ยตนเอง (Self Administered Questionnaire) 2. ข้อมลู ทุตยิ ภมู ิ (Secondary Data) เป็นแหล่งขอ้ มูลจากการคน้ คว้าท่ีเกบ็ รวบรวมจาก ทั้ง หน่วยงานรัฐและเอกชน ได้แก่ หนังสือทางวิชาการ วิทยานพิ นธ์ งานวิจัยต่างๆ รวมท้ังขอ้ มูลทาง อนิ เทอรเ์ นต็ เพื่อให้ครอบคลุมงานวจิ ยั คร้ังนี้

22 3.5 วิธกี ารวเิ คราะหข์ อ้ มูล ผ้ศู ึกษานำข้อมูลทไี่ ดจ้ ากการตอบแบบสอบถามของลกู ค้า บริเวณตลาดพลอย จงั หวัดจันทบุรี โดยข้อมลู ท่ีได้จากการตอบแบบสอบถามกลมุ่ ตวั อย่าง 400 คน นำมาวิเคราะหป์ ระมวลผลดว้ ยโปรแกรม สำเร็จรปู ทางสถติ ิ SPSS (Statistical Package for Social Science) สำหรับคา่ นยั สำคัญทางสถิติทใี่ ช้ใน การวิเคราะห์ข้อมูลในคร้ังนี้กำหนดไวท้ ่รี ะดับ 0.05 เม่ือวเิ คราะหแ์ ล้ว ผู้วจิ ยั นำมาเสนอผลการศึกษาโดย เสนอข้อมลู เชงิ พรรณนาแสดงค่าของข้อมลู ดงั นี้ 3.5.1 สถติ ิเชงิ พรรณนำ (Descriptive Statics) เพ่อื ต้องการอธบิ ายข้อมูลท่เี ก็บ รวบรวม มาแล้วแปลผลออกมาเปน็ ผลทสี่ ามารถเข้าใจได้ง่าย มีรายละเอียดดังนี 3.5.1.1 แบบสอบถามส่วนที่ 1 เปน็ ข้อมูลปัจจยั ทางด้านปจั จยั ทางด้าน ประชากรศาสตร์ของผู้ตอบแบบสอบถาม ได้แก่ เพศ อายุ สถานภาพ ระดบั การศึกษา อาชพี และรายได้ เฉล่ียต่อเดือน โดยการคำนวณหาค่าสถติ ิ คือ ค่าความถ่ี (Frequency) และค่ารอ้ ยละ (Percentage ; %) 3.5.1.2 แบบสอบถามส่วนที่ 2 เปน็ ขอ้ มูลเก่ยี วกบั พฤติกรรมการซ้ืออญั มณี เชน่ รูปรา่ ง เหล่ยี มเจียระไนทีท่ ่านชืน่ ชอบมากที่สุด โทนสอี ัญมณีทที่ า่ นชื่นชอบ เครื่องประดบั อัญมณีประเภทใดที่ ทา่ นสนใจซื้อมากท่ีสดุ ส่วนใหญ่ท่านซอื้ อัญมณีที่มีนำ้ หนกั เท่าใด เปน็ ตน้ โดยการคำนวณหาคา่ สถติ ิ คือ ค่าความถี่ (Frequency) และค่าร้อยละ (Percentage ; %) 3.5.1.3 แบบสอบถามส่วนท่ี 3 เปน็ ขอ้ มูลเกยี่ วกับปัจจยั ทางการตลาดในการตัดสนิ ใจซื้อ อัญมณีเหลี่ยมเจียระไนรปู แบบใหม่ โดยผูต้ อบแบบสอบถามพิจารณาความสำคัญกับรายละเอียดของ ปจั จัยแต่ละดา้ น ใช้การวเิ คราะห์โดยการหาคา่ เฉลยี่ (Mean) และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) 3.5.1.4 แบบสอบถามสว่ นที่ 4 เปน็ ขอ้ มูลเกยี่ วกับเหตุผลในการตัดสนิ ใจซ้ืออัญมณี เหลีย่ มเจียระไนรูปแบบใหม่ โดยผตู้ อบแบบสอบถามพจิ ารณาความสำคัญกับรายละเอยี ดของปัจจยั แตล่ ะ ดา้ น ใชก้ ารวเิ คราะห์โดยการหาคา่ เฉล่ยี (Mean) และคา่ ส่วนเบีย่ งเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) 3.6 สถติ ิทใ่ี ชใ้ นการวิเคราะห์ข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูลผวู้ ิจัยไดร้ วบรวมขอ้ มลู ที่ไดจ้ ากแบบสอบถามไปวเิ คราะหแ์ บบสอบถามการ ตัดสนิ ใจซื้ออญั มณีเหลยี่ มเจียระไนรูปแบบใหมข่ องนักท่องเทยี่ วชาวไทยจงั หวัดจันทบรุ ี บริเวณถนน อัญมณี โดยใช้สถติ ใิ นการวิเคราะหข์ ้อมลู ดังนี้

23 3.6.1 สถิติพน้ื ฐาน 3.6.1.1 คา่ ความถี่ (Frequency) เปน็ การนำข้อมลู ดบิ ทร่ี วบรวมได้จากจำนวนความถี่ของตวั แปรอิสระ วจิ ัยครงั้ นเ้ี ปน็ การ แจกแจงความถี่ของปัจจัยสว่ นบคุ คล ดา้ นเพศ อายุ สถานภาพ ระดบั การศึกษา อาชีพ และรายได้เฉล่ยี ต่อเดือน มาจดั ใหเ้ ปน็ ระเบียบ เป็นหมวดหมู่โดยเรยี งจากค่ามากไปหาค่านอ้ ย เปน็ การบรรยายขอ้ มลู ตาม ความถ่ีเปน็ จำนวนและร้อยละ 3.6.1.2 ค่าร้อยละ (Percentage) เป็นการเปรียบเทียบความถ่ีของตัวแปรอิสระ โดยการนำความถี่ของปจั จัยสว่ นบคุ คล ด้านเพศ อายุ สถานภาพ ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้เฉลยี่ ตอ่ เดือน ทั้งหมดหารกับจำนวนความถี่ ทัง้ หมด สูตร x(100) P= n เม่ือ P แทน คา่ ร้อยละหรือเปอร์เซน็ ต์ X แทน ค่าความถ่ขี องตวั แปรอสิ ระในแตล่ ะด้านของปจั จัยส่วนบุคคล N แทน จำนวนของขอ้ มูลทั้งหมด 3.6.1.3 ค่าเฉลี่ยเลขคณิต (Arithmetic Mean) เปน็ การนำผลรวมของข้อมูลทั้งหมดหารด้วยจำนวนขอ้ มูลทั้งหมด สูตร ∑x x̅ = n เม่ือ x̅ แทน คา่ เฉลย่ี เลขคณิต ∑ x แทน ผลรวมของข้อมลู n แทน จำนวนของข้อมลู ท้งั หมด 3.6.1.4 คา่ สว่ นเบยี่ งเบนมาตรฐาน (Standard Deviation: S.D.) เป็นการวดั การ กระจายตวั เลขในกลุ่มของการตัดสินใจซื้อเหลีย่ มเจียระไนรูปแบบใหม่

24 สตู ร SD = √������������������(������������+������)2 ������−1 เมอ่ื SD แทน ค่าเบ่ียงเบนมาตรฐาน ������������������ แทน ความถข่ี องแตล่ ะชน้ั คะแนน xi แทน ขอ้ มูลคะแนน x̅ แทน ค่าเฉลยี่ ของคะแนน n แทน ขนาดของกลุ่มตวั อยา่ ง แล้วนำเสนอในรูปแบบตารางประกอบการบรรยาย โดยมีเกณฑ์การให้คะแนน และ เกณฑ์การแปลความหมายของข้อมลู จากค่าเฉล่ยี ดงั น้ี เกณฑ์การให้คะแนน มากท่สี ดุ ได้ 5 คะแนน มาก ได้ 4 คะแนน ปานกลาง ได้ 3 คะแนน น้อย ได้ 2 คะแนน นอ้ ยท่สี ุด ได้ 1 คะแนน โดยการหาขอ้ มลู แบบอนั ตรภาคชั้น (Interval Scale) นำผลคะแนนมาวิเคราะหห์ า คา่ เลขคณติ ดงั นี้ สูตรการหาอันตรภาคชน้ั = ค่าสูงสดุ – คา่ ตำ่ สุด จำนวนชนั้ ทต่ี ้องการ 5−1 =5 = 0.8

25 ระดับคะแนนเฉล่ียกบั ระดบั ความต้องการในการตดั สินใจซื้อเหลี่ยมเจยี ระไนรปู แบบใหม่ 4.21-5.00 มีความสำคัญระดับมากทสี่ ุด 3.41-4.20 มคี วามสำคญั ระดับมาก 2.61-3.40 มีความสำคญั ระดับปานกลาง 1.81-2.60 มีความสำคญั ระดับน้อย 1.00-1.80 มีความสำคญั ระดับนอ้ ยท่ีสดุ 3.6.2 สถติ ิทีใ่ ชใ้ นการทดสอบสมมติฐาน 3.6.2.1 สถติ ทิ ดสอบใชส้ ถติ ิทดสอบ T-test T-test ใช้ทดสอบนยั สำคัญของค่าเฉลย่ี ความแตกตา่ ง หรือเปรยี บเทียบค่าเฉลย่ี ของกลุม่ ตวั อย่าง 2 กลุม่ โดยตัวแปรทจี่ ะเปรยี บเทียบค่าเฉล่ยี เปน็ ตัวแปรเชงิ ปริมาณท่ีสามารถ วัดค่า ได้ สว่ นตวั แปรจำแนกเปน็ ตวั แปรเชิงคุณภาพ ในการวิจัยคร้ังน้เี ป็นการเปรยี บเทียบปจั จยั สว่ นบุคคลใน ด้านเพศทตี่ ่างกนั ส่งผลตอ่ การตดั สินใจซอื้ เหล่ยี มเจียระไนรูปแบบใหม่แตกต่างกนั 3.6.2.2 สถติ ิทดสอบใชส้ ถิติทดสอบ F-test F-test ใช้ทดสอบนยั สำคญั ของคา่ เฉลี่ย ใชเ้ ปรยี บเทยี บข้อมูลท่จี ำแนกมากกวา่ 2 กลุ่ม โดยใชก้ ารวเิ คราะห์ความแปรปรวนทางเดียว หรือ One-way ANOVA เปน็ วธิ ีการทดสอบเพ่อื วิเคราะห์หาความสัมพนั ธ์ ระหว่างตัวแปรอิสระตวั เดยี วกับตัวแปรตามตวั เดียว ในการวิจัยครั้งน้ี เปรียบเทียบปจั จัยสว่ นบุคคล ส่วนตัวแปรตาม เป็นตวั แปรเชิงปรมิ าณ ตามสมมตฐิ าน การวิจัย ปัจจยั ส่วนบคุ คลในดา้ นอายุ ดา้ นสถานภาพ ดา้ นระดบั การศึกษา ด้านอาชพี และด้านรายได้ เฉลยี่ ต่อเดือน ท่ตี า่ งกันส่งผลตอ่ การตัดสนิ ใจซอื้ เหล่ียมเจียระไนรูปแบบใหม่แตกตา่ งกัน 3.6.2.3 สถิติทดสอบใชส้ ถติ ิทดสอบ Pearson Correlation การทดสอบความสมั พนั ธ์ระหวา่ งทางการตลาดที่เป็นข้อมลู ประเภทอนั ตรภาคช้ัน (Interval Scale) กับการตดั สนิ ใจซ้ืออญั มณเี หล่ียมเจียระไนรูปแบบใหมข่ องนักท่องเทย่ี วบริเวณตลาด พลอย จงั หวดั จนั ทบรุ ี ประเภทอันตรภาคชั้น (Interval Scale) โดยใชส้ ถิตใิ นการวิเคราะห์ คือ คา่ สมั ประ สิทธสิ หสมั พันธแ์ บบเพยี ร์สนั (Pearson Product Moment Correlation Coefficient) เพอ่ื หาค่า ความสัมพันธ์ ของตัวแปรสองตวั ท่ีอิสระต่อกัน หรือ หาค่าความสมั พันธ์ระหว่างข้อมูล ชูศรี วงศร์ ัตนะ (2544 : 314)

26 โดยท่ีคา่ สัมประสิทธสิ หสมั พันธ์ จะมีค่าระหว่าง –1 ≤ r ≤ 1ความหมายของคา่ r คือ 1. คา่ r เปน็ ลบ แสดงว่า ตวั แปรอิสระ (x) และตัวแปรตาม (y) มคี วามสัมพันธ์ในทิศทาง ตรงกนั ข้าม 2. คา่ r เป็นบวก แสดงว่า ตัวแปรอสิ ระ (x) และตัวแปรตาม (y) มีความสัมพันธใ์ นทิศทาง เดยี วกนั 3. ถ้า r มคี ่าเขา้ ใกล้ หมายถึง ตวั แปรอิสระ (x) และตัวแปรตาม (y) มีความสมั พนั ธใ์ นทิศทาง เดยี วกนั และมีความสัมพนั ธ์กันมาก 4. ถา้ r มีค่าเขา้ ใกล้ –1 หมายถงึ ตวั แปรอิสระ (x) และตัวแปรตาม (y) มีความสัมพนั ธ์ในทิศ ทางตรงกนขา้ มกนั และมีความสมั พันธก์ ันมาก 5. ถ้า r = แสดงว่า ตัวแปรอิสระ (x) และตัวแปรตาม (y) ไมม่ ีความสมั พนั ธ์กัน 6. ถ้า r เขา้ ใกล้ แสดงวา ตัวแปรอสิ ระ ่ (x)และตัวแปรตาม (y) มีความสมั พนั ธก์ ันน้อย สําหรับเกณฑ์การแปลความหมายคา่ สัมประสิทธสิ หสมั พันธ์กำหนด ด้งั น้ี ถ้าค่า r มคี ่ามากกว่า 0.91 แสดงว่า มคี วามสมั พนั ธ์ในระดบั สูงมาก ถ้าคา่ r มีค่ามากกว่า 0.71-0.90 แสดงวา่ มคี วามสมั พันธ์ในระดับสงู ถา้ ค่า r มีคา่ มากกว่า 0.31-0.70 แสดงว่า มีความสัมพนั ธ์ในระดับปานกลาง ถ้าค่า r มีคา่ มากกว่า 0.01-0.30 แสดงว่า มคี วามสมั พันธใ์ นระดับต่ำ ถา้ ค่า r มีค่าเท่ากับ 0 แสดงว่า ไมม่ ีความสมั พนั ธ์กัน

27 บทท่ี 4 ผลการวิเคราะหข์ อ้ มูล การศึกษาในครั้งน้ี เปน็ การศึกษาเร่ือง ปจั จยั ท่ีมีอทิ ธิพลต่อการตดั สนิ ใจซอื้ อัญมณีเหลีย่ ม เจยี ระไนรูปแบบใหมข่ องกลุ่มนกั ทอ่ งเทยี่ วจังหวดั จันทบุรีแจกแบบสอบถาม บริเวณตลาดพลอย จำนวน ทง้ั ส้ิน 400 ชุด สัญลักษณแ์ ละอักษรย่อ ผูว้ ิจัยได้กำหนดสัญลักษณ์และอักษรยอ่ ที่ใช้ในการวเิ คราะห์ขอ้ มูลทางสถติ ิ ดังตอ่ ไปน้ี ���̅��� แทน คา่ เฉลย่ี ������. ������. แทน คา่ เบย่ี งเบนมาตรฐาน n แทน จำนวนกลมุ่ ตัวอยา่ ง t แทน ค่าสถติ ทิ ใ่ี ชใ้ นการแจกแจงแบบ T (T-distribution) F แทน คา่ สถติ ทิ ่ีใชใ้ นการแจกแจงแบบ F (F-distribution) df แทน ค่าองศาความเปน็ อสิ ระ (Degree of Freedom) SS แทน ผลโดยรวมกำลงั สอง (Sum of Square) MS แทน ค่าเฉลยี่ ผลรวมกำลงั สอง (Mean Square) Sig. แทน ระดบั นยั สำคัญทางสถติ ิ (Significances) * แทน นยั สำคัญทางสถิติทร่ี ะดบั 0.05 4.1 ผลการวเิ คราะห์ขอ้ มลู ตอนท่ี 1 ข้อมลู ทั่วไปดา้ นปัจจยั สว่ นบุคคลของผูต้ อบแบบสอบถาม ตอนที่ 2 พฤติกรรมการซื้ออัญมณี ณ ถนนอัญมณี จังหวัดจันทบรุ ี ตอนท่ี 3 ปัจจัยการตลาดท่ีมีผลต่อการตัดสนิ ใจซื้ออัญมณเี หลยี่ มเจยี ระไนรูปแบบใหม่ ตอนที่ 4 เหตุผลในการตัดสนิ ใจซื้ออัญมณเี หลี่ยมเจียระไนรูปแบบใหม่

28 ตอนท่ี 1 ขอ้ มูลทั่วไปดา้ นปัจจยั ส่วนบุคคลของผ้ตู อบแบบสอบถาม ตารางท่ี 4-1 จำนวนและร้อยละของข้อมูลส่วนบคุ คล ขอ้ มูลสว่ นบุคคล จำนวน (คน) รอ้ ยละ 1. เพศ ชาย 178 44.5 หญงิ 222 55.5 400 100.0 รวม 2. อายุ 6 1.5 15-19 ปี 69 17.3 20-29 ปี 169 42.3 30-39 ปี 123 30.8 40-49 ปี 30 7.5 50-59 ปี 3 0.8 ต้ังแต่ 60 ปีขึน้ ไป 400 100.0 รวม 177 44.3 3. สถานภาพ 190 47.5 โสด 26 6.5 สมรส 7 1.8 หย่า/แยกกันอยู่ 400 100.0 หมา้ ย 8 2.0 รวม 7 1.8 4. ระดบั การศกึ ษา 18 4.5 ประถมการศึกษา 286 71.5 มัธยมศกึ ษาตอนต้น 41 10.3 มธั ยมศึกษาตอนปลาย/ปวช. ปรญิ ญาตรี สงู กวา่ ปรญิ ญาตรี

29 ตารางที่ 4-1 (ต่อ) รวม 400 100.0 ขอ้ มูลส่วนบุคคล จำนวน (คน) รอ้ ยละ 5. อาชพี ขา้ ราชการ/พนักงานรฐั วสิ าหกจิ 67 16.8 ธุรกจิ สว่ นตวั 109 27.3 พนักงานเอกชน 155 38.8 พอ่ บา้ น/แมบ่ า้ น 5 1.3 นกั เรยี น/นกั ศึกษา 39 9.8 รบั จ้างท่ัวไป 24 6.0 อืน่ ๆ 1 0.3 400 100.0 รวม 6. รายได้เฉล่ียต่อเดอื น 44 11.0 ตำ่ กว่า 10,000 บาท 81 20.3 10,000 - 20,000 บาท 133 33.3 20,001 - 30,000 บาท 76 19.0 30,001 – 40,000 บาท 42 10.5 40,001 – 50,000 บาท 24 6.0 50,000 บาทขน้ึ ไป 400 100.0 รวม จากตารางที่ 4-1 ผลจากการวเิ คราะห์ข้อมลู ส่วนบคุ คลของผู้ตอบแบบสอบถามงานวิจัยเร่ือง ปัจจยั ในการตัดสินใจซ้ืออัญมณีเหลย่ี มเจยี ระไนรปู แบบใหม่ของกลุ่มนักทอ่ งเที่ยวชาวไทยจังหวดั จนั ทบรุ ี โดยเลอื กสุ่มตัวอยา่ งในครั้งน้ีจำนวน 400 คน บรเิ วณตลาดพลอย โดยแบง่ เปน็ ขอ้ มูลได้ ดังนี้ ผ้ตู อบ แบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญงิ จำนวน 222 คน คิดเป็นร้อยละ 55.5 รองลงมาคอื เพศชาย จำนวน 178 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 45.5 ตามลำดบั

30 ผลการวิเคราะห์ข้อมลู ด้านอายุ พบวา่ ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญม่ อี ายุ 30 - 39 ปี จำนวน 162 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 40.5 รองลงมา คือ 40 - 49 ปี จำนวน 116 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 29.0 อันดบั ท่ี 3 คือ 20 - 29 ปี จำนวน 69 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 17.3 อนั ดับท่ี 4 คือ 50 - 59 ปี จำนวน 30 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 7.5 อนั ดับที่ 5 คือ 15 - 19 ปี จำนวน 20 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 5.0 และอนั ดบั ที่ 6 คอื ต้งั แต่ 60 ปี ขึ้นไป จำนวน 3 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 0.8 ตามลำดับ ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านสถานภาพ พบวา่ ผ้ตู อบแบบสอบถามสว่ นใหญ่มีสถานภาพ คือ สมรส จำนวน 190 คน คดิ เป็นร้อยละ 47.5 รองลงมา คือ โสด จำนวน 177 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 44.3 อันดบั ที่ 3 คือ หย่า/แยกกันอยู่ จำนวน 26 คน คดิ เป็นร้อยละ 6.5 และอนั ดับที่ 4 คือ หมา้ ย จำนวน 7 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 1.8 ตามลำดบั ผลการวเิ คราะห์ข้อมูลดา้ นระดบั การศึกษา พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามส่วนใหญ่มรี ะดบั การศกึ ษา คือ ปรญิ ญาตรี จำนวน 290 คน คดิ เป็นร้อยละ 75.5 รองลงมา คอื สงู กวา่ ปริญญาตรี จำนวน 50 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 12.5 อนั ดบั ที่ 3 คือ อนุปรญิ ญา/ปวส. จำนวน 40 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 10.0 อนั ดับ ที่ 4 คอื มัธยมศกึ ษาตอนปลาย/ปวช. จำนวน 18 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 4.5 และอนั ดับ 5 คือ มธั ยมศึกษา ตอนตน้ จำนวนว 2 คน คดิ เป็นร้อยละ 0.5 ตามลำดับ ผลการวิเคราะห์ข้อมลู ดา้ นจำแนกตามอาชพี พบวา่ ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีอาชีพ คอื พนักงานเอกชน จำนวน 155 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 38.8 รองลงมา คือ ธุรกิจสว่ นตัว จำนวน 109 คน คิด เป็นร้อยละ 27.3 อันดับที่ 3 คอื ขา้ ราชการ/พนักงานรัฐวสิ าหกิจ จำนวน 67 คน คิดเป็นร้อยละ 16.8 อนั ดบั ท่ี 4 คือ นักเรยี น/นักศึกษา จำนวน 39 คน คิดเป็นร้อยละ 9.8 อนั ดับท่ี 5 คือ รบั จ้างทว่ั ไป จำนวน 25 คน คดิ เป็นร้อยละ 6.3 และอันดับที่ 6 คือ พอ่ บา้ น/แม่บา้ น จำนวน 5 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 1.3 ตามลำดับ ผลการวเิ คราะห์ข้อมลู ด้านรายไดเ้ ฉลี่ยต่อเดอื น พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีรายได้ เฉลีย่ ตอ่ เดือน คือ 20,001 - 30,000 บาท จำนวน 133 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 33.3 รองลงมา คือ 10,000 -20,000 บาท จำนวน 81 คน คดิ เป็นร้อยละ 20.3 อนั ดับท่ี 3 คือ 30,001 - 40,000 บาท จำนวน 76 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 19.0 อนั ดบั ที่ 4 คือ ต่ำกวา่ 10,000 บาท จำนวน 44 คน คิดเป็นร้อยละ 11.0 อนั ดับที่ 5 คือ 40,001 - 50,000 บาท จำนวน 42 คน คิดเป็นร้อยละ 10.5 และอันดับที่ 6 คือ 50,000 บาทขึ้นไป จำนวน 24 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 6.0 ตามลำดบั

31 ตอนท่ี 2 พฤติกรรมการซอ้ื อัญมณี ณ ถนนอญั มณี จงั หวัดจนั ทบรุ ี ตารางที่ 4-2 จำนวนและรอ้ ยละของรปู รา่ งเหล่ียมเจยี ระไนท่ีนกั ท่องเที่ยวช่ืนชอบมากท่ีสุด 1. รปู รา่ งเหลย่ี มเจยี ระไนทที่ า่ นชน่ื ชอบมาก จำนวน (คน) รอ้ ยละ ท่ีสดุ 313 78.3 กลม 15 3.8 หยดนำ้ 33 8.3 วงรี 9 2.3 มาคยี ์ 17 4.3 หัวใจ 5 1.3 ส่ีเหล่ียมจัตุรสั 1 0.3 ส่เี หล่ยี มผนื ผา้ 4 1.0 ส่ีเหล่ยี มรูปหมอน 3 0.8 ส่เี หลยี่ มตดั มุม 400 100.0 รวม จากตารางท่ี 4-2 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านพฤติกรรมการซือ้ อัญมณี ณ ถนนอญั มณี จังหวัด จันทบรุ ี พบว่า รูปร่างเหล่ยี มเจยี ระไนท่ีนักท่องเท่ยี วชื่นชอบมากที่สุด มากที่สดุ คอื กลม จำนวน 313 คน คิดเปน็ ร้อยละ 78.3 รองลงมา คือ วงรี จำนวน 33 คน คดิ เป็นร้อยละ 8.3 หัวใจ จำนวน 17 คน คดิ เป็น ร้อยละ 4.3 หยดน้ำ จำนวน 15 คน คิดเปน็ ร้อยละ 3.8 มาคีย์ จำนวน 9 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 2.3 ส่ีเหลี่ยม จัตุรัส จำนวน 5 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 1.3 ส่เี หลีย่ มรปู หมอน จำนวน 4 คน คิดเปน็ ร้อยละ 1.0 สีเ่ หล่ยี มมุม ตัดมุม จำนวน 3 คน คิดเปน็ ร้อยละ 0.8 และสีเ่ หลย่ี มผนื ผา้ จำนวน 1 คดิ เปน็ ร้อยละ 0.3 ตามลำดับ

32 ตารางที่ 4-3 จำนวนและร้อยละของโทนสอี ญั มณีทนี่ ักท่องเท่ยี วช่นื ชอบมากทีส่ ดุ 2. โทนสีอัญมณีทที่ า่ นช่นื ชอบมากทสี่ ุด จำนวน (คน) รอ้ ยละ สีแดง 236 59.0 สีเหลอื ง 52 13.0 สเี ขยี ว 18 4.5 สฟี า้ 6 1.5 สชี มพู 7 1.8 สีม่วง 1 0.3 สีสม้ 1 0.3 สีดำ 11 2.8 สนี ำ้ เงิน 59 14.8 อ่นื ๆ 9 2.3 400 100.0 รวม จากตารางที่ 4-3 ผลการวเิ คราะห์ข้อมลู ด้านพฤติกรรมการซือ้ อัญมณี ณ ถนนอญั มณี จงั หวดั จันทบุรี พบวา่ โทนสอี ญั มณีท่ีนักทอ่ งเทย่ี วช่ืนชอบ มากทส่ี ุด คือ สีแดง จำนวน 236 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 59.0 รองลงมา คือ น้ำเงนิ จำนวน 59 คน คดิ เป็นร้อยละ 14.8 สีเหลอื ง จำนวน 52 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 13.0 สเี ขียว จำนวน 18 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 4.5 สีดำ จำนวน 11 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 2.8 อน่ื ๆ จำนวน 9 คน คิดเปน็ ร้อยละ 2.3 สชี มพู จำนวน 7 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 1.8 สีฟ้า จำนวน 6 คน คดิ เป็นร้อยละ 1.5 และสมี ่วงกบั สีสม้ จำนวน 1 คิดเป็นร้อยละ 0.3 ตามลำดบั ตารางท่ี 4-4 จำนวนและรอ้ ยละของเครื่องประดับอญั มณีประเภทใดทน่ี ักท่องเท่ียวสนใจซ้ือมากทสี่ ุด 3. เคร่ืองประดบั อัญมณปี ระเภทใดที่ท่าน จำนวน (คน) รอ้ ยละ สนใจซื้อมากทส่ี ดุ 309 77.3 แหวน 21 5.3 ตา่ งหู

33 ตารางที่ 4-4 (ต่อ) 3. เครอื่ งประดบั อัญมณีประเภทใดท่ที า่ น จำนวน (คน) รอ้ ยละ สนใจซอ้ื มากทีส่ ุด 42 10.5 สร้อยคอ 20 5.0 สร้อยข้อมือ 7 1.8 กำไล 1 0.3 อน่ื ๆ 400 100.0 รวม จากตารางท่ี 4-4 ผลการวเิ คราะหข์ ้อมลู ดา้ นพฤติกรรมการซื้ออัญมณี ณ ถนนอญั มณี จังหวดั จนั ทบุรี พบวา่ เครื่องประดบั อัญมณปี ระเภทใดท่นี ักท่องเท่ียวสนใจซอื้ มากที่สุด คอื แหวน จำนวน 309 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 77.3 รองลงมา คือ สรอ้ ยคอ จำนวน 42 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 10.5 ตา่ งหู จำนวน 21 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 5.3 สรอ้ ยขอ้ มือ จำนวน 20 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 5.0 กำไล จำนวน 7 คน คิดเป็น ร้อยละ 1.8 และอน่ื ๆ จำนวน 1 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 0.3 ตามลำดบั ตารางที่ 4-5 จำนวนและรอ้ ยละของส่วนใหญ่นักท่องเทยี่ วซ้ืออัญมณีที่นำ้ หนกั เทา่ ใด 4. สว่ นใหญ่ท่านซื้ออญั มณีที่มีน้ำหนัก จำนวน (คน) ร้อยละ เทา่ ใด 177 44.3 ต่ำกว่า 1 กะรัต 208 52.0 1-2 กะรัต 14 3.5 3-5 กะรัต 1 0.3 6-10 กะรัต 400 100.0 รวม

34 จากตารางท่ี 4-5 ผลการวเิ คราะห์ข้อมลู ดา้ นพฤติกรรมการซ้ืออัญมณี ณ ถนนอัญมณี จงั หวัด จนั ทบรุ ี พบวา่ ส่วนใหญ่นกั ท่องเทีย่ วซื้ออัญมณีท่ีมีนำ้ หนกั มากท่สี ดุ คือ 1-2 กะรัต จำนวน 208 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 52.0 รองลงมา คือ ตำ่ กว่า 1 กะรตั จำนวน 177 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 44.3 3-5 กะรตั จำนวน 14 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 3.5 และ6-10 กะรตั จำนวน 1 คดิ เป็นร้อยละ 0.3 ตามลำดับ ตารางที่ 4-6 จำนวนและร้อยละของความถีใ่ นการซื้ออัญมณขี องนักท่องเที่ยว 5. ความถ่ีในการซื้ออญั มณีของท่าน จำนวน (คน) ร้อยละ เดือนต่อคร้งั 19 4.8 3-4 เดอื นต่อครั้ง 24 6.0 5-6 เดือนต่อคร้ัง 51 12.8 ปลี ะ 1 ครั้ง 39 9.8 ไมแ่ น่นอน/กำหนดไม่ได้ 266 66.5 อน่ื ๆ 1 0.3 400 100.0 รวม จากตารางที่ 4-6 ผลการวเิ คราะห์ข้อมูลด้านพฤติกรรมการซื้ออัญมณี ณ ถนนอญั มณี จังหวัด จนั ทบรุ ี พบวา่ ความถ่ีในการซอื้ อัญมณีของนักท่องเที่ยว มากที่สดุ คือ ไม่แนน่ อน/กำหนดไม่ได้ จำนวน 266 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 66.5 รองลงมา คือ 5-6 เดือนต่อคร้ัง จำนวน 51 คน คิดเป็นร้อยละ 12.8 ปลี ะ 1 ครงั้ จำนวน 39 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 9.8 3-4 เดือนต่อครัง้ จำนวน 24 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 6.0 1-2 เดอื น ตอ่ คร้ัง จำนวน 19 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 4.8 และอน่ื ๆ จำนวน 1 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 0.3 ตามลำดับ

35 ตารางที่ 4-7 จำนวนและรอ้ ยละของความถี่ในการซื้ออญั มณีของนกั ท่องเที่ยวเม่ือนักท่องเทย่ี วเดินมายงั จนั ทบุรี 6. ความถใ่ี นการซอ้ื อัญมณขี องทา่ นเมอ่ื จำนวน (คน) ร้อยละ ท่านเดินทางมายังจนั ทบรุ ี 121 30.3 นานๆ ครงั้ 33 8.3 บ่อยครงั้ 224 56.0 ไม่แนน่ อนกำหนดไม่ได้ 400 100.0 รวม จากตารางที่ 4-7 ผลการวิเคราะห์ข้อมลู ด้านพฤติกรรมการซ้ืออัญมณี ณ ถนนอญั มณี จงั หวัด จนั ทบรุ ี พบวา่ ความถี่ในการซอ้ื อัญมณีของนักท่องเทีย่ วเม่ือนักท่องเที่ยวเดนิ มายงั จันทบรุ ี มากท่ีสดุ คือ ไม่แน่นอนกำหนดไม่ได้ จำนวน 224 คน คดิ เป็นร้อยละ 56.0 รองลงมา คือ นานๆ ครั้ง จำนวน 121 คน คิดเปน็ ร้อยละ 30.3 บ่อยครง้ั จำนวน 33 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 8.3 และทุกครั้งท่ีมา จำนวน 22 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 5.5 ตามลำดับ ตารางท่ี 4-8 จำนวนและร้อยละของนักท่องเทีย่ งซื้ออญั มณีแตล่ ะครั้งมีมลู คา่ เฉลย่ี ประมาณคร้ังละเทา่ ใด 7. ทา่ นซื้ออัญมณแี ต่ละคร้ังมีมูลค่าเฉลย่ี จำนวน (คน) รอ้ ยละ ประมาณคร้ังละเทา่ ใด 106 26.5 นอ้ ยกว่า 5,000 บาท 98 24.5 5,001-10,000 บาท 98 24.5 10,001-15,000 บาท 51 12.8 15,001-20,000 บาท 32 8.0 20,001-25,000 บาท 9 2.3 25,001-30,000 บาท 6 1.5 มากกว่า 30,000 บาทขนึ้ ไป 400 100.0 รวม

36 จากตารางที่ 4-8 ผลการวเิ คราะห์ข้อมลู ด้านพฤติกรรมการซอื้ อัญมณี ณ ถนนอญั มณี จังหวัด จันทบรุ ี พบวา่ นักท่องเท่ียงซ้ืออัญมณีแตล่ ะครั้งมมี ลู ค่าเฉลี่ย มากทส่ี ุด คือ น้อยกวา่ 5,000 บาท จำนวน 106 คน คดิ เป็นร้อยละ 26.5 รองลงมา คือ 5,001-10,000 บาทกับ10,001-15,000 บาท จำนวน 98 คน คิดเปน็ ร้อยละ 24.5 15,001-20,000 บาท จำนวน 51 คน คิดเป็นร้อยละ 12.8 20,001-25,000 บาท จำนวน 32 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 8.0 25,001-30,000 บาท จำนวน 9 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 2.3 และมากกวา่ 30,000 มากข้นึ ไป จำนวน 6 คน คิดแป็นร้อยละ 1.5 ตามลำดับ ตารางที่ 4-9 จำนวนและรอ้ ยละของสิ่งที่นกั ทอ่ งเทยี่ วคำนึงถึงในการเลือกซ้อื อญั มณีมากทีส่ ดุ 8. ส่ิงท่ที ่านคำนึงถงึ ในการเลอื กซือ้ อญั มณี จำนวน (คน) รอ้ ยละ มากท่ีสดุ 58 14.5 ราคา 21 5.3 การสง่ เสริมการขาย 208 52.0 คณุ ภาพของสนิ ค้า 113 28.2 รูปแบบของสินค้า 400 100.0 รวม จากตารางที่ 4-9 ผลการวิเคราะหข์ ้อมลู ดา้ นพฤติกรรมการซือ้ อัญมณี ณ ถนนอญั มณี จังหวดั จันทบุรี พบว่า สงิ่ ทีน่ กั ท่องเท่ียวคำนงึ ถึงในการเลือกซ้ืออัญมณี มากท่ีสดุ คือ คุณภาพของสินคา้ จำนวน 208 คน คดิ เป็นร้อยละ 52.0 รองลงมา คือ รปู แบบของสินค้า จำนวน 113 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 28.2 ราคา จำนวน 58 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 14.5 และการส่งเสริมการขาย จำนวน 21 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 5.3 ตามลำดับ

37 ตารางที่ 4-10 จำนวนและร้อยละของนกั ท่องเท่ยี วที่เคยได้รบั ขา่ วสารขอ้ มลู เก่ยี วกบั อญั มณีจากแหล่ง ตา่ งๆ (ตอบได้มากกวา่ 1 ข้อ) 9. ทา่ นเคยได้รับข่าวสารขอ้ มูล จำนวน (คน) ร้อยละ เกยี่ วกับอัญมณจี ากแหลง่ ใดบ้าง 2 0.4 วิทยุ 6 1.1 หนังสอื พมิ พ์ 254 46.7 ไดร้ ับคำแนะนำจากบุคคลที่รู้จัก 17 3.1 โทรทศั น์ 255 46.9 อนิ เตอรเ์ น็ต 13 2.4 ไมเ่ คยไดร้ ับ 544 100.6 รวม จากตารางท่ี 4-10 ผลการวเิ คราะห์ข้อมูลด้านพฤติกรรมการซอ้ื อัญมณี ณ ถนนอญั มณี จังหวดั จันทบรุ ี พบวา่ นักท่องเทย่ี วที่เคยไดร้ ับข่าวสารข้อมูลเกีย่ วกบั อัญมณจี ากแหล่งตา่ งๆ มากทสี่ ุด คอื อินเตอรเ์ น็ต จำนวน 255 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 46.9 รองลงมา คือ ได้รบั คำแนะนำจากบุคคลที่รูจ้ ัก จำนวน 254 คน คดิ เป็นร้อยละ 46.7 โทรทัศน์ จำนวน 17 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 3.1 ไม่เคยได้รับ จำนวน 13 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 2.4 หนังสอื พิมพ์ จำนวน 6 คน คิดเปน็ ร้อยละ 1.1 และวทิ ยุ จำนวน 2 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 0.4 ตามลำดบั ตอนท่ี 3 ปัจจยั การตลาดที่มีผลตอ่ การตดั สินใจซ้ืออญั มณเี หล่ียมเจียระไนรปู แบบใหม่ ตารางท่ี 4-11 คา่ เฉล่ยี และส่วนเบยี่ งเบนมาตรฐานของปจั จัยการตลาดทม่ี ผี ลต่อการตัดสนิ ใจซื้ออัญมณี เหลีย่ มเจยี ระไนรูปแบบใหม่ ปจั จยั การตลาดที่มผี ลต่อการตัดสนิ ใจซื้ออัญ ���̅��� ������. ������. ระดับ ลำดบั มณเี หลย่ี มเจียระไนรปู แบบใหม่ ความสำคัญ 1. ด้านสนิ คา้ 1.1 ประกายและความระยบิ ระยับของอัญมณี 4.40 0.735 มากทส่ี ุด 1

38 ตารางท่ี 4-11 (ตอ่ ) ปัจจัยการตลาดท่ีมผี ลต่อการตดั สินใจซื้ออัญ ���̅��� ������. ������. ระดับ ลำดบั มณีเหล่ยี มเจยี ระไนรปู แบบใหม่ ความสำคัญ 1.2 ความประณีตและความสวยงามดา้ นการ 4.24 เจยี ระไนของอญั มณี 0.739 มากที่สุด 2 1.3 ขนาด สดั ส่วน และรปู ร่างในการเจยี ระไน 4.06 สมมาตร 0.786 มาก 4 1.4 สีของอญั มณีมีให้เลือกหลากหลาย 4.11 1.5 รปู แบบการเจียระไนมีความแปลกใหมแ่ ละ 4.00 0.912 มาก 3 ทันสมัย 0.963 มาก 5 4.16 รวม 0.769 มากทสี่ ดุ 1 2. ด้านราคา 4.29 1.033 มาก 4 2.1 ราคาเหมาะสมกับคณุ ภาพสนิ คา้ 3.47 0.958 มาก 3 2.2 สามารถตอ่ รองราคา กับผู้ขายได้ 3.52 2.3 มีการตดิ ป้ายราคาของสินค้าใหท้ ราบอย่าง 0.861 มาก 2 ชดั เจน 3.98 2.4 สามารถชำระได้หลายชอ่ งทาง เช่น บตั ร 0.920 ปานกลาง 4 เครดติ เงนิ สด เช็คเงนิ สด 3.82 0.960 ปานกลาง 3 รวม 3.27 0.891 มาก 1 3. ดา้ นช่องทางการจดั จำหน่าย 3.1 ชว่ งเวลาเปิด – ปดิ ของร้านคา้ มีความ 3.34 0.897 มาก 2 ชดั เจน 4.06 3.2 มที จ่ี อดรถสะดวกและเพียงพอ 3.3 มีการจำหนา่ ยสนิ ค้าหลายช่องทาง เชน่ 3.56 ผ่านระบบอินเทอรเ์ นต็ โทรศัพท์ 3.56 3.4 ความสะดวกของสถานท่ีต้งั ของร้านคา้ รวม

39 ตารางท่ี 4-11 (ตอ่ ) ปจั จยั การตลาดท่ีมีผลต่อการตัดสนิ ใจซ้ืออัญ ���̅��� ������. ������. ระดบั ลำดับ มณีเหลี่ยมเจยี ระไนรปู แบบใหม่ ความสำคญั 4. ดา้ นการส่งเสริมการตลาด 4.1 แจกของแถม เชน่ บตั รกำนัล 3.01 1.058 ปานกลาง 4 4.2 จัดแสดงสินค้าภายในรา้ นมคี วามสวยงาม 3.68 0.897 มาก 3 4.3 มผี ูเ้ ช่ยี วชาญด้านอัญมณีใหค้ ำแนะนำ 4.20 0.845 มาก 2 ปรกึ ษาความรเู้ ก่ยี วกับอัญมณี 4.4 คณุ ลักษณะของพนักงานขาย เช่น มี 4.24 0.817 มากท่ีสดุ 1 ความรู้ ความชำนาญสุภาพอ่อนน้อม รวม 3.78 จากตารางท่ี 4-11 ผลการวิเคราะห์ดา้ นสินค้าของปจั จยั ทางการตลาดที่มีผลตอ่ การตดั สินใจ ซื้ออัญมณีเหล่ยี มเจียระไนรูปแบบใหม่ พบวา่ ข้อที่มีคา่ มากที่สดุ คอื ประกายและความระยิบระยับ ของอัญมณี โดยมีคา่ เฉลีย่ เทา่ กับ 4.40 รองลงมา คือ ความประณตี และความสวยยงามด้านการเจียระไน ของอญั มณี โดยมคี า่ เฉลยี่ เท่ากบั 4.24 สขี องอัญมณีมีใหเ้ ลือกหลากหลาย โดยมีค่าเฉล่ียเท่ากับ 4.11 ขนาด สดั สว่ น และรูปร่างในการเจียระไนสมมาตร โดยมีค่าเฉล่ยี เทา่ กับ 4.06 และรูปแบบการเจียระไนมี ความแปลกใหม่และทันสมยั โดยมคี า่ เฉล่ยี เท่ากับ 4.00 ตามลำดับ ผลการวเิ คราะหด์ า้ นราคาของปจั จัยทางการตลาดทมี่ ีผลตอ่ การตัดสินใจซ้ืออัญมณเี หล่ียม เจียระไนรปู แบบใหม่ พบวา่ ขอ้ ท่ีมคี ่ามากท่ีสุด คอื ราคาเหมาะสมกับคุณภาพสินคา้ โดยมีคา่ เฉล่ียเท่ากบั 4.29 รองลงมา คอื สามารถชำระเงนิ ได้หลายช่องทาง โดยมคี า่ เฉลย่ี เท่ากับ 3.98 มีการตดิ ปา้ ยราคาของ สนิ คา้ ใหท้ ราบอย่างชดั ดเจน โดยมีค่าเฉล่ยี เท่ากบั 3.52 และสามารถต่อราคากบั ผขู้ ายได้ โดยมีค่าเฉลย่ี เท่ากบั 3.47 ตามลำดบั ผลการวิเคราะห์ด้านชอ่ งทางการจดั จำหน่ายของปจั จยั ทางการตลาดทม่ี ีผลต่อการตัดสนิ ใจ ซื้ออัญมณีเหล่ยี มเจยี ระไนรูปแบบใหม่ พบวา่ ข้อท่ีมีค่ามากท่ีสดุ คือ มีการจำหนา่ ยสินค้าหลายชอ่ งทาง เชน่ ผ่านอนิ เตอร์เน็ต โดยมคี ่าเฉลย่ี เทา่ กับ 4.06 รองลงมา คอื ความสะดวกของสถานท่ีตงั้ ร้าน โดยมี