การเพาะเห็ดชนดิ ต่างๆ ภาคเหนือ ศนู ยเ์ รยี นร้เู ศรษฐกจิ พอเพียงชุมชนบา้ นหนองกลุ า บา้ นเลขที่ 163 หมู่ 14 ตาบลหนองกุลา อาเภอบางระกา จังหวดั พษิ ณุโลก การเพาะเห็ดในขอนไม้ เหด็ ขอนขาว เหด็ บด เห็ดหูหนู วัสดอุ ุปกรณ์ (1) เช้ือเห็ดเป็นก้อนใช้เชื้อเห็ดขอนขาว เห็ดบด เห็ดหูหนู (ก้อนเช้ือข้ีเล่ือย) หรือหัว เชอื้ ในขวด (2) ขอนไม้ตดั สดๆ เช่น ไม้มะมว่ ง ไมร้ งั ตัดไว้ไม่เกนิ 5 วนั (ไม้มะมว่ งดีท่สี ุด) (3) สว่าน สิ่ว อุปกรณ์ทใี่ ชเ้ จาะรูได้ หรอื ใชเ้ หลก็ ปะเก็น 4 หุน เจาะกไ็ ด้ วิธที า/ขน้ั ตอน (1) เอาเชอื้ เห็ดทเี่ ป็นเชื้อมา (เช้ือเห็ดขอนขาว เห็ดบด เหด็ หหู น)ู (2) ตัดไม้สด ๆ ขนาดพอประมาณ ใหพ้ อเคล่ือนย้ายงา่ ย (1.20 เมตร) (3) เจาะรู 4 - 5 หนุ่ เจาะลึก 5 ซม. หา่ งกนั 1 คบื เจาะเป็นแถวสลบั ฟนั ปลา (4) ใสเ่ ชื้อเหด็ ทีเ่ ป็นเชือ้ เมล็ด ขา้ วฟา่ ง แลว้ ยดั ด้วยเชอื้ ข้ีเล่อื ย (5) ปดิ รดู ้วยก่ิงไมเ้ ลก็ ท่ีพอดกี บั รทู ่ีเจาะ ตอกลงให้แนน่ ๆ เพราะเชอ้ื เหด็ เดนิ ดมี าก (6) นาขอนไมไ้ ปเกบ็ ไว้ในรว่ มหรือใตต้ น้ ไม้ รดอาทติ ย์ละครง้ั เก็บไว้ 2 เดอื น (7) ครบ 2 เดือน แลว้ นาขอนไม้ไปตากแดด 7 วัน แลว้ แช่ไว้ 1 วัน 1 คนื จงึ เอาขึน้ ไว้ใตร้ ม่ ไม้ (8) นาเอาเข้าเปิดดอก โดยวางพิงราว ให้ท่อนไม้เอียงประมาณ 70 องศา (ไม่มี โรงเรือนใหใ้ ชผ้ า้ พลาสติกคลมุ ไว้) (9) เหด็ จะทยอยออกดอกมาเรอ่ื ยๆ จนกวา่ ขอนไม้จะผุพัง (10) ถ้าให้ดี ควรมีโรงเรือนท่ีมุงด้วยพลาสติกใส (ถ้าโรงเรือนวางเห็ดขอนอากาศอบ อ้าวจะออกดอกดีมาก) และมีซาแลนคลมุ ดา้ นบน แลว้ ลดน้าให้มคี วามชน้ื วนั ละ 3 คร้งั
(11) หากไม่มีเวลา (ข้ีเกียจ) ใส่เชื้อในขอนไม้เสร็จก็ทิ้งขอนไม้อยู่ในร่มไว้เลย เม่ือฝน ตกหรือฤดกู าลทีเ่ ห็ดออกดอก เห็ดก็ออกตามธรรมชาติ เห็ดในขอนจะออกดอกดมี าก วธิ ีใช/้ ประโยชน์ เห็ดเป็นอาหารท่ีให้คุณค่าทางโภชนาการสูง สามารถเพาะไว้รับประทานเองใน ครัวเรอื น หรอื หมู่บา้ น ชมุ ชน และเป็นอาชีพได้ การเพาะเห็ดนางรม นางฟ้า หรอื เห็ดถุง วสั ดุอปุ กรณ์ 100 กิโลกรัม (1) ขเี้ ลอื่ ยยางพารา 5 กิโลกรมั (2) ราหยาบ 5 กิโลกรัม (3) ราละเอียด 2 กิโลกรมั (4) แปง้ ข้าวโพด 3 กิโลกรมั (5) ปูนขาว หรอื โรโดไมท์ วธิ ีทา/ขน้ั ตอน นาส่วนประกอบทุกอย่างผสมกันรดด้วยน้ามีความช้ืน 60 - 80 เปอร์เซ็นต์ หมักไว้ 1 คนื อดั ใส่ถงุ เอาไปน่ึงฆ่าเชื้อท้ิงไว้ให้เย็น แล้วหยอดหัวเชื้อเห็ดที่ต้องการเก็บไว้ท่ีโรงพักเช้ือ 1 เดือน เอาไปเปิดดอกได้ถ้าให้น้ามากเกินไป เห็ดจะไม่ค่อยเกิด เพราะหน้าเห็ดฉ่าน้าเกินไป ระวังไม่ให้เห็ด โดนลมพัดแรง เพราะเห็ดทเี่ กดิ ใหม่จะแหง้ แลว้ ไม่เจริญเติบโต วิธใี ช/้ ประโยชน์ เห็ดเป็นอาหารที่ให้คุณค่าทางโภชนาการสูง สามารถเพาะไว้รับประทานเองใน ครัวเรือน หรอื หมูบ่ ้าน ชุมชน และเปน็ อาชีพได้
ศูนย์เรียนรเู้ ศรษฐกิจพอเพียงบ้านทาปา่ เปา ต้ังอยเู่ ลขที่ 48 หม่ทู ่ี 6 บ้านทาปา่ เปา ตาบลทาปลาดุก อาเภอแมท่ า จงั หวดั ลาพูน เหด็ นางรม เหด็ นางรม เป็นเห็ดที่นยิ มบรโิ ภคกนั ลักษณะคล้ายเห็ดมะม่วงหรือเห็ดขอนขาวท่ีเกิด ในธรรมชาติตามต้นไม้ท่ีเน่าเป่ือยผุพัง ซ่ึงมักเก็บอ่อนๆ มาบริโภคในช่วงฤดูฝน แต่เห็ดนางรม สามารถเพาะเพื่อทาใหเ้ กดิ ดอกได้ตลอดปี ขน้ั ตอนการเพาะเห็ดนางรม 1. การแยกเนื้อเย่ือให้บริสทุ ธิ์ 2. การทาหวั เชื้อ 3. การเพาะ 4. การทาให้เกิดดอก วสั ดุท่ีใช้ วัสดุท่ีใช้พบว่าวัสดุแทบทุกชนิดนามาใช้ได้ เช่น ฟางข้าว ผักตบชวา ต้นข้าวโพด ซัง ขา้ วโพด ข้เี ลื่อย ขุยมะพร้าว ชานออ้ ย การหมักวัสดุทจี่ ะใชเ้ พาะเหด็ นางรม การหมักวสั ดทุ ยี่ ่อยงา่ ยสลายเร็ว เชน่ ข้าวฟ่าง ผกั ตบชวา ใบกลว้ ย ซึ่งมีสตู ร ดังน้ี วสั ดุแหง้ สับ 100 กโิ ลกรมั ปุ๋ยแอมโมเนียซลั เฟต หรือป๋ยุ ยเู รยี 1-2 กิโลกรมั ปูนขาว 1-2 กิโลกรมั ดีเกลือ 0.1 กิโลกรัม ราอ่อน 3 กิโลกรมั ยปิ ซมั 2 กโิ ลกรมั
วธิ ีการหมัก 1. นาวัสดุแห้งมาสับให้ละเอียด ชุบน้าหว่านปุ๋ยให้ทั่วแล้วเหยียบอัดให้แน่น คลุมด้วย พลาสติกไว้ 3 วัน 2. ทาการกลบั กองใส่ปูนขาวใหท้ ว่ั แลว้ ทาเปน็ กองรูปสามเหลย่ี ม คลมุ ด้วยพลาสติกท้ิง ไว้ 3 วนั 3. ทาการกลับกองใส่ดีเกลือคลุกเคล้าให้ท่ัว เปิดฝาพลาสติก เพ่ือให้กล่ินของ แอมโมเนียระเหย ทิง้ ไว้ 1 วัน 4. วัสดุหมักนาไปใช้ได้โดยผสมกับยิปซัมและราอ่อน วัสดุหมักต้องไม่เปียกหรือแห้ง เกนิ ไป ลกั ษณะของปยุ๋ ท่ดี ี 1. ไม่มีกล่ินแอมโมเนียหรอื กล่นิ เหมน็ 2. มกี ล่นิ หอมคลา้ ยกล่ินเหด็ 3. รว่ มซยุ ไม่จับเป็นกลุ่มก้อน 4. ความช้ืนประมาณ 60-70% หรือถา้ นามาบบี ดจู ะไมม่ ีนา้ เลด็ ออกมาจากงา่ มมือ 5. สคี ่อนข้างคลา้ แต่ไม่ควรออกดา วัสดุที่ย่อยสลายตัวยาก เช่น ขี้เล่ือย ขุยมะพร้าว ซังข้าวโพด อาจทาการหมัก เชน่ เดียวกันได้ แตโ่ ดยท่ัวไปถ้าเปน็ ขเ้ี ล่ือยจะนยิ มใช้ข้ีเลื่อยไม้เนื้ออ่อน เช่น ไม้ยางพารา อาจไม่ต้อง หมกั กไ็ ด้ สามารถนามาใช้ได้เลยโดยมสี ูตร ดงั น้ี ขี้เลอื่ ยไมย้ างพารา 100 กิโลกรัม ราอ่อน 5 กโิ ลกรมั ดีเกลือ 0.1 กโิ ลกรมั ยปิ ซมั 2 กโิ ลกรมั ปนู ขาว 1 กิโลกรัม น้า 60 - 70 กิโลกรมั นาวัสดุท้งั หมดมาผสมคลุกเคล้ากนั ปัจจุบันบางแหล่งวัสดุบางชนิด เช่น ข้ีเล่ือยหาได้ยาก จึงได้มีการใช้ฟางหมัก ผสมขี้ เลื่อยไมย้ างพาราในอัตราส่วน 1 : 2 พบวา่ สามารถใหผ้ ลผลิตทีด่ ีกวา่ ฟางหมกั อย่างเดยี วหรอื ข้เี ลอ่ื ย อยา่ งเดียว
ขั้นตอนการเพาะ 1. การคลุกเคลา้ ปุ๋ย 2. การบรรจุวัสดุลงในถุง ซึ่งมีอุปกรณ์ดังนี้ คือ ถุงพลาสติกทนร้อนขนาด 7x11 น้ิว หรอื 8x12 น้ิว คอขวดพลาสตกิ สาลีเพาะเห็ด กระดาษ และยางรดั วิธีการบรรจุ 1. นาวัสดุมาบรรจุในถุงพลาสติกประมาณ 8 ขีด - 1 กิโลกรัม ขณะบรรจุควรกดให้ แนน่ พอสมควร 2. รวบปากถุงใส่คอขวดดึงถุงให้ตึง โดยใช้มือดึงปากถุงพลาสติกตามแนวตั้งแล้วพาด คลุมคอขวดอกี คร้ังหนึง่ รดั ด้วยยาง 3. ใช้ไมป้ ลายแหลมเจาะรใู ห้ลกึ เกอื บถึงกน้ ถุง 4. อดุ จุกสาลีหุ้มกระดาษรดั ดว้ ยยาง 5. การน่ึงฆ่าเช้ือ โดยใช้ความร้อนที่ได้น้าเดือดนาน 1-2 ชั่วโมง ซึ่งอาจจะใช้ถังน้ามัน 200 ลติ ร ที่เรียกวา่ หม้อน่งึ ลกู ทง่ั กไ็ ด้ โดยมีวิธีใช้ คือ ก่อนใช้ต้องบุรอบๆ ถังด้านในด้วย กระดาษถุง ปุ๋ย เสร็จแล้วใส่น้าสูงประมาณ 1 ฝ่ามือ แล้วจึงบรรจุก้อนเช้ือลงไปใช้เวลา 1 - 2 ช่ัวโมง นับจากไอ นา้ เดือด 6. การเขยี่ เชือ้ ควรใช้หัวเชื้อท่ีเพ่ิงเจริญเต็มขวด และสถานท่ีเขี่ยเชื้ออาจจะเป็นตู้เข่ีย เชื้อหรือเป็นสถานที่ท่ีลมสงบก็ได้ แต่ควรทาความสะอาดพ้ืนก่อน เช่น ใช้คร๊อกซ์ หรือแอลกอฮอล์ เช็ดถู การเปดิ ดอก เพยี งเอาสาลแี ละคอขวดออกเทา่ นน้ั (ทาปากถงุ ใหเ้ หมือนเดิม) หรือตัดพลาสติกสว่ นที่ เป็นคอขวดทิ้ง หรอื อาจจะใชว้ ิธีกรีดข้างถุงกไ็ ด้ การวางกอ้ นเชื้อ อาจจะวางแบบนอนหรือตัง้ กไ็ ด้ แต่นิยมวางแบบนอน เนอื่ งจากสามารถวางซ้อนกันได้ เป็นการประหยัดพน้ื ที่ การดูแลรกั ษา การรดน้า ควรใช้เคร่ืองฉีดชนิดพ่นฝอยฉีด จานวนครั้งในการฉีดขึ้นอยู่กับความช้ืนใน บรรยากาศรอบข้าง โดยถือหลัก “รดน้าให้น้อยแต่บ่อยครั้ง” ควรรดน้าในขนาดท่ีทาให้ผิวหน้าของ ก้อนเชอ้ื ชื้นก็พอ อย่าให้มีน้าขังในกอ้ นเช้อื เพราะกอ้ นเช้อื จะเนา่
การเก็บผลผลิต หลังจากเปิดถุงรดน้าแล้วประมาณ 1 อาทิตย์ ดอกเห็ดจะเร่ิมเกิดข้ึน ดอกเห็ดนางรม เป็นเหด็ ทีเ่ จริญเรว็ ประมาณ 3 - 4 วัน กส็ ามารถเก็บผลผลิตได้ โดยดอกเห็ดที่จะเก็บได้ขอบดอกจะ คลี่ออกและบานเต็มที่ วธิ ีการเก็บ ใช้มือรวบก้านดอกเห็ด แล้วดึงออกมาเบาๆ ไม่ควรให้มีเศษเห็ดติดอยู่ท่ีก้อนเชื้อ เพราะจะทาให้ก้อนเช้ือเน่าได้ หลังจากน้ันควรเก็บดอกเห็ดในท่ีมีอากาศเย็น ถ้าเก็บไว้ในตู้เย็นควร ใสใ่ นถุงพลาสติก เป่าอากาศเข้าถงึ แล้วจงึ เกบ็ ไว้ จานวนครัง้ ของผลผลิตทเี่ กบ็ ได้ หลังจากเก็บดอกเห็ดชุดแรกแล้ว ดูแลรักษาต่อไปอีกประมาณ 10 วัน ก็จะเกิดดอก เห็ดชดุ ท่ี 2 เราสามารถเกบ็ ผลผลติ ได้ประมาณ 4 - 6 ครงั้ โดยไดน้ ้าหนกั ประมาณ 3 ขดี /ถุง ลักษณะกอ้ นเช้อื ทใี่ ห้ผลผลิตจนหมด มีลักษณะเน่า เมื่อใช้มือบีบดูจะเละ เมื่อถึงระยะน้ีทาให้นาก้อนเช้ือท้ังหมดออกจาก โรงเรือน ทาความสะอาดโรงเรือนด้วยปูนขาวผสมจุนสี ส่วนก้อนเชื้อที่หมดอายุให้แกะออกจาก ถงุ พลาสตกิ แล้วขยที้ ุบใหล้ ะเอียดนาไปใชเ้ ป็นป๋ยุ หมักต่อไป ไม่ควรทิ้งก้อนเชื้อให้หมักหมมเพราะจะ ทาให้เกดิ ไรระบาด ปัญหาทอี่ าจเกิดขน้ึ ในการเพาะเห็ดนางรม 1. เสน้ ใยไม่เจริญเติบโตอาจมีสาเหตุจากหัวเชื้อเห็ดไม่บริสุทธิ์เชื้อจุลินทรีย์อ่ืนปน ปุ๋ย หมักมสี ารพษิ ทเี่ ปน็ อันตรายต่อเหด็ เช่น มีกลิน่ แอมโมเนยี ป๋ยุ หมักแฉะเกนิ ไป หรือแหง้ เกินไป 2. เส้นใยเดินบางมาก อาจเกิดจากวัสดุเพาะมีอาหารน้อยเกินไป ใช้วัสดุที่เห็ดนางรม เจริญไม่ได้ เชน่ ขเี้ ล่ือยไมส้ กั เป็นตน้ 3. เส้นไยเห็ดเดนิ แล้วหยุดเดินมีสาเหตุมาจากปุ๋ยหมักก้อนถุงเปียกแฉะ มีไรกัดกินเส้น ใยเหด็ 4. เปดิ ถงุ ออกดอกชา้ มีสาเหตุมาจาก ดอกเหด็ เกิดขึน้ มาดอกเล็ก ๆ 5. ดอกเห็ดเฉา มสี าเหตมุ าจากมีหนอนเจริญภายในก้อนเชื้อ มีสาเหตุมาจากดอกเห็ด มีอาการผิดปกติ เช่น ดอกเห็ดเป็นกรวยรูดขึ้นคล้ายปากแตร ก้านดอกยาวมีสาเหตุมาจาก อากาศ ถ่ายเทไม่ดี มคี าร์บอนไดออกไซดส์ ะสมอยู่ในโรงเรอื นมาก
6. เก็บผลผลิตได้ไม่ก่ีคร้ังก็หมด มีสาเหตุมาจากอาหารที่ใช้เพาะมีน้อย การเสริม อาหารรา ถกู ทาลายดว้ ยเชอื้ โรค ถกู ทาลายดว้ ยแมลงหรอื ไร วิธเี ขยี่ - เขย่าหวั เชอ้ื ให้เมลด็ พชื แตกกระจาย - ถอดจุกสาลีออก ลนไฟปากขวดเล็กน้อย - ใชม้ อื อีกขา้ งหน่งึ เปดิ จกุ สาลอี อกจากปากถึงก้อนเช้ือ แล้วเทหัวเชอ้ื ลงไปประมาณ 10 - 20 เมล็ด รีบปิดจกุ สาลีทนั ที (หัวเชอ้ื 1 ขวด เขีย่ ไดป้ ระมาณ 50 - 60 ถงุ ) การบม่ เชื้อ นาถุงก้อนเชอ้ื ไปเกบ็ ไว้ในหอ้ งมดื หรือห้องปกติกไ็ ด้ เก็บไว้ประมาณ 21 - 30 วัน เส้น ไยก็จะเจรญิ เตม็ ถงุ พร้อมทจ่ี ะนาไปเปิดออกได้ การทาใหเ้ กิดดอก 1. โรงเรือน ควรเป็นโรงเรือนท่ีสามารถเก็บรักษาความช้ืนได้ มีอากาศถ่ายเทได้บ้าง โดยมีช่องระบายอากาศ ภายในอาจบุด้วยผ้าพลาสติก สาหรับขนาดของโรงเรือนข้ึนอยู่กับความ ต้องการ 2. ช้ันวางก้อนเชื้อ อาจจะทาให้เหมือนกับชั้นวางของ วางเป็นช้ัน ๆ แต่ละชั้นห่างกัน 40 - 50 เซนติเมตร 3. อุปกรณก์ ารให้น้า
ศนู ยเ์ ครอื ข่ายปราชญ์ชาวบ้านเครอื ข่ายกล่มุ เกษตรอินทรยี ์ตาบลปา่ ไผ่ ทีอ่ ยู่ 41/2 หมู่ 9 หมู่บ้านหว้ ยแหนพัฒนา ตาบลปา่ ไผ่ อาเภอลี้ จังหวัดลาพูน การเพาะเหด็ นางฟ้า วัสดอุ ปุ กรณ์ (1) ขเ้ี ล่อื ยยางพาราหรือขี้เลื่อยไม้เน้อื ออ่ น เช่น ไมม้ ะม่วง ไม้งิว้ นอกจากนั้นยังใช้ฟาง ข้าวก็ได้ (2) ถุงพลาสตกิ ชนิดร้อน ขนาด 7*3 นิ้วหรือ 6.5 * 2.5 (3) คอพลาสติกหรือจะใชไ้ ม้ไผ่ ทอ่ พีวซี ีขนาดน้ิวตดั แทนก็ได้ (4) ยางรัด สาลี กระดาษ (5) เชอ้ื เหด็ 1 ขวด (6) หมอ้ น่งึ ลูกทุ่ง ส่วนผสมของก้อนเชอ้ื เหด็ โดยท่ัวไป - ข้ีเลื่อยไมย่ างพารา 100 กโิ ลกรมั - ราละเอียด 5 กิโลกรัม - ดเี กลือ 0.2 กโิ ลกรมั - ปนู ขาว 1 กโิ ลกรมั - น้าตาลทรายแดง 1 กโิ ลกรมั - น้า 50 ลิตร การบรรจกุ ้อนเชอ้ื ในถุงพลาสติก (1) คลกุ ส่วนผสมให้เขา้ กันให้ความชนื้ ประมาณ 50 - 60 % (2) นาสว่ นผสมไปบรรจุถงุ พลาสตกิ ประมาณถงุ ละ 1 กโิ ลกรมั อัดใหแ้ นน่ ด้วยขวด (3) จากน้ันใส่คอขวดและอุดปากขวดด้วยสาลีใช้กระดาษหุ้มอีกชั้นหน่ึงใช้ยางรัดให้ แนน่ (4) นาไปนง่ึ ดว้ ยหม้อนึง่ ลกู ทุง่ นาน 2 ชม. (5) พักก้อนเช้อื ให้เยน็ ลงในพืน้ ท่สี ะอาด
ภาคกลาง ศนู ยก์ สิกรรมธรรมชาตสิ องสลงึ เลขท่ี 322/1 หมู่ 8 ตาบลสองสลงึ อาเภอแกลง จังหวัดระยอง เหด็ นางฟา้ เห็ดนางรม เหด็ นางฟา้ ภูฐาน เห็ดนางรมฮงั การี เหด็ ขอนขาว และเหด็ หอม การเพาะเห็ดกาลังเป็นท่ีนิยม เนื่องจากการเพาะเห็ดสามารถที่จะทาให้ภายใน ครอบครัวมีอาหารท่ีมีคุณค่า มีความปลอดภัยจากสารเคมี การเพาะเห็ดสามารถเพาะสาหรับการ บริโภคในครัวเรือน หรือสามารถพัฒนาการเพาะเห็ดให้เป็นอาชีพหลัก มีรายได้เลี้ยงครอบครัวได้ เป็นอย่างดี ในภาวะเศรษฐกิจท่ีเป็นอยู่นี้ การเพาะเห็ดน้ันเป็นการนาวัสดุท่ีเหลือใช้ทางการเกษตร หลายชนิด เช่น ฟางข้าว เปลือกมันสาปะหลัง ทะลายปาล์ม ขี้เลื่อย เปลือกถั่ว หรือกระท่ังวัสดุท่ีมี ในธรรมชาติ ได้แก่ หญ้าชนิดต่าง ๆ ใช้เป็นวัสดุเพาะให้เหมาะสมกับท้องถ่ิน เพื่อเป็นการลดต้นทุน ช่วยอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และทาให้คนมีงานทาอย่างต่อเน่ือง ทั้งนี้ศูนย์เครือข่ายปราชญ์ ชาวบา้ นมีองค์ความร้ใู นการเพาะเหด็ โดยมรี ายละเอียด ดังน้ี วสั ดุอปุ กรณ์ สาหรับเพาะเห็ดนางฟ้า เหด็ นางรม เห็ดนางฟ้าภูฐาน เห็ดนางรมฮังการี เห็ดขอนขาว และเห็ดหอม 1) ถงุ พลาสตกิ 7 x 2 นิ้ว 2) คอขวดพลาสตกิ ทนความรอ้ น 3) สาลอี ตุ สาหกรรม 4) กระดาษหนังสือพิมพ์ (ตดั เป็นรปู สีเ่ หลี่ยมชิน้ เล็ก ๆ) 5) ยางรดั 6) เชอื้ เหด็ 7) ขี้เลื่อย 100 กโิ ลกรมั 8) ราละเอยี ด 4 - 5 กิโลกรมั 9) ปนู ขาว 2 กโิ ลกรมั 10) ดีเกลือ 2 ขดี 11) ยเู รีย 2 ขดี 12) ยิปซัม 1 กิโลกรัม
ขั้นตอนการทากอ้ นเห็ด 1) นาขี้เล่ือย 100กิโลกรัม มาคัดหรือร่อนเอาเศษไม้ออก(ขี้เลื่อยไม่เนื้ออ่อน เช่น ไม้ ยางพารา เป็นต้น) 2) เอาราละเอยี ด ปูนขาว ยิปซมั โรยในกองข้ีเล่ือยแลว้ คลกุ ใหเ้ ขา้ กนั จนทัว่ 3) เอาดีเกลือกับยูเรียละลายในน้า 1 บัว แล้วรดลงในกองข้ีเลื่อยคลุกเคล้าให้เข้ากัน จนทว่ั 4) เอาน้ารดในกองข้ีเล่ือยคลุกให้เข้ากัน จากน้ันเอามือกาข้ีเลื่อยดูให้แน่น แล้วแบมือ ออก หากข้ีเลื่อยเป็นก้อนค่อยๆแตกออกทีหลังก็ใช้ได้ แต่ถ้าก้อนแตกทันทีแสดงว่าความชื้นน้อยไป ให้รดนา้ เพิ่มอีก 5) เอาขี้เล่ือยทผ่ี สมแล้วกรอกใสถ่ ุง เอามอื ตอกก้อนขี้เลื่อยให้แน่นพอประมาณอย่าให้ แน่นเกนิ ไป เส้นใยเห็ดจะเจริญยาก หากหลวมเกินไปเสน้ ใยเห็ดจะไม่แขง็ แรง 6) เอาก้อนเห็ดใส่คอขวด เอาสาลีอุด จากน้ันใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ที่เตรียมไว้ หุ้ม จุกสาลีให้มิด เอายางรัดให้แนน่ 7) เอากอ้ นเหด็ ไปนงึ่ โดยใช้ถงั ขนาด 200 ลติ ร นง่ึ ประมาณ 2 ช่วั โมง 8) เม่อื น่งึ เสรจ็ แลว้ นาก้อนเห็ดมาวางไว้ให้เย็น 9) นาเชื้อเห็ดท่ีเตรียมไว้ มากรอกใส่ถุงก้อนเห็ดประมาณ 20 - 30 เมล็ดข้าวฟ่าง (ต้องเคาะให้ร่อนก่อนกรอกลงใส่ถุง) หากต้องการเพาะเห็ดชนิดใดก็ใส่เช้ือเห็ดชนิดนั้น ๆ ลงในถุง ซึ่งสามารถหาซอ้ื ไดต้ ามร้านทข่ี ายเชื้อเหด็ 10) นาก้อนท่ีใส่เช้ือเห็ดแล้วไปบ่ม หรือวางในที่ลมโกรกสะอาด ไม่โดนน้า บ่มไว้ ประมาณ 1 เดือน เชื้อจะเดนิ เตม็ กอ้ น บางชนดิ 2 เดือน กม็ ี 11) นาก้อนท่ีเชื้อเดินเต็มท่ีแล้วไปเปิดดอกในที่ ๆ อากาศปลอดโปร่ง ไม่โดนแสงแดด หรือทาเป็นโรงเรือนก็ได้ โดยวางเป็นแผงให้ซ้อน ๆ กัน แล้วรดน้าเช้า เที่ยง เย็น เห็ดจะออกดอก ภายใน 7 - 10 วนั หากชว่ งอากาศร้อนมากใหร้ ดนา้ 4 - 5 ครงั้ ฤดฝู นให้รดน้าเช้าและเย็น ฤดูหนาว ใหร้ ดเชา้ และเที่ยง ข้อสาคญั ไม่ไห้น้าเขา้ ในคอขวดของถงุ
การเกบ็ ดอก ควรเก็บดิกท่ีมีขนาดโตเต็มท่ี โดยการสังเกตหมวกของดอกเห็ดมีลักษณะบาน เวลา เก็บดอกเห็ดควรเปน็ เวลาบา่ ยใกล้เย็น เพราะอุณหภมู ภิ ายนอกกับภายในโรงเรือนใกล้เคียงกันทาให้ ไมก่ ระทบต่อการเกิดดอกของรุ่นต่อไป ส่วนของโรงเรือน ต้องทาความสะอาดโรงเรือน กวาดใยแมงมุม และฉีดน้าส้มควันไม้ เดือนละ 1 คร้ัง จะทาใหโ้ รงเรือนสะอาด ไมเ่ กดิ โรคและแมลงทาลายก้อนเห็ด สาหรบั กอ้ นเห็ดเกา่ กส็ ามารถนาไปเพาะเหด็ ฟางไดอ้ ีก หรอื นาไปเปน็ ปุ๋ยกบั ต้นไม้ก็ได้
ศูนยเ์ รยี นรพู้ ัฒนาท่ดี นิ ตามแนวเศรษฐกจิ พอเพียง เลขท่ี 16/1 หมู่ท่ี 2 ตาบลบางนางล่ี อาเภออมั พวา จังหวัดสมทุ รสงคราม เหด็ ภฐู าน ความเปน็ มา เห็ดนามาปรุงอาหารสามารถบาบัดรักษาโรคได้ใช้ช่ือต่างกันในแต่ละประเทศ เห็ดภู ฐาน แหล่งผลิตอยู่ในประเทศจีน เห็ดยานากิ แหล่งผลิตอยู่ในประเทศญี่ปุ่น ส่วนเห็ดฟาง เห็ดโคน มีแหล่งผลิตอยู่ในประเทศไทย ชาวบ้านนิยมมาปรุงอาหารท่ีให้คุณค่าทางอาหาร และบาบัดรักษา โรคได้ วัสดุอุปกรณ์ 1 ขเี้ ลอ่ื ย 2 ราขา้ ว 3 ปูนขาว 4 ดเี กลือ 5 แป้ง (ขา้ วเจา้ ขา้ วเหนยี ว) 6 ข้าวโพดปน่ 7 ถงุ ขนาด 6 x ½ น้ิว 8 ปลอก วธิ ีทา/ขั้นตอน 1. นาส่วนผสม ถุงพลาสติก ก้อนมาผ่ึง 3 ชม. ไฟ 90 องศา ปล่อยให้เย็นแล้วออกมา พักแลว้ เตมิ หวั เชื้อตามต้องการว่าจะทาเห็ดอะไร 2. การเพาะควรวางไว้ในโรงเรือนท่ีอากาศถ่ายเทได้ดี ห้ามนาน้ามาลด ประมาณ 1 เดอื น เห็ดจะเรม่ิ ออกดอก ประโยชน์ 1. ใชป้ ระกอบอาหาร 2. ใชเ้ ป็นสมุนไพรรักษาโรคได้ 3. สร้างรายได้
ศนู ยศ์ รยี วง ตงั้ อยู่เลขที่ 91/1 หมูท่ ี่ 7 ตาบลราษฎรน์ ิยม อาเภอไทรนอ้ ย จงั หวดั นนทบุรี การเพาะเหด็ ฟางในตะกร้า ความเปน็ มา “ เห็ดฟาง” พืชอาหารโปรตีนที่ทุกคนนิยมบริโภคนี้ เป็นพืชชนิดหนึ่งท่ีให้ผลผลิตเร็ว คอื ภายใน 2 สัปดาห์เท่าน้ัน มีวิธีการเพาะหลายวิธี เช่น เพาะแบบกองเตี้ย เพาะแบบกองสูง เพาะ ในโรงเรอื นและการเพาะเหด็ ฟางในตะกลา้ วสั ดุ อุปกรณ์ - ตะกล้าพลาสตกิ สงู ประมาณ 1 ฟตุ ตาห่างประมาณ 1 ตารางนิ้ว - เชอ้ื เห็ดฟาง - ข้เี ลอ่ื ย - อาหารเสริม (มูลสัตว์ผสมรา อตั รา 1:1) - แป้งข้าวสาลี ขัน้ ตอนการเพาะ เร่ิมจากนาขี้เล่ือยมาใส่ในตะกล้าพลาสติกสูงประมาณ 2 - 3 นิ้ว ใช้มือหรือไม้กดให้ แนน่ จากนน้ั นาเอาอาหารเสริมโรยชิดด้านในของตะกล้าเป็นวงกลม กว้างประมาณ 1 ฝ่ามือ ซึ่งใช้ ประมาณ 1 ลิตรต่อชั้น แล้วนาเช้ือเห็ดฟางออกจากถุง นาไปคลุกกับแป้งข้าวสาลี พอติดผิวนอก เพื่อเป็นอาหารเสริมระยะแรกท่ีช่วยกระตุ้นให้เช้ือเห็ดเจริญได้ดี แล้วโรยทับอาหารเสริมอีกช้ันหน่ึง ทาเปน็ ชนั้ ๆ ลักษณะน้ีจนเต็มตะกรา้ พลาสตกิ รดนา้ ให้ชุ่ม (หากก้อนเช้ือเห็ดท่ีนามาเพาะยังชุ่มอยู่ก็ ไม่ตอ้ งรดนา้ แต่หากแห้งกร็ ดนา้ ให้ชุ่ม) จากน้ันควบคุมอุณหภูมิให้เหมาะสมสาหรับการเกิดดอกเห็ด โดยการปิดโรงเรือนให้มดิ ชิด เชน่ ด้านล่างควรใช้อิฐทับผ้าพลาสติกไว้ เพ่ือป้องกันพลาสติกเปิดออก ภายในโรงเรือนควรตดิ เทอรโ์ มมเิ ตอร์ สาหรบั วัดอุณหภูมิในช่วงวันท่ี 1 ถึง 4 วันแรกต้องควบคุมอุณหภูมิในกระโจมหรือใน โรงเรือน ให้อยู่ในระดับ 37 - 40 องศาเซลเซียส หากอุณหภูมิสูงเกินไปให้เปิดช่องระบายอากาศ ด้านบนของโรงเรือนออกโดยใช้วัสดุพรางแสงคลุมหรือรดน้ารอบ ๆ โรงเรือนเม่ือครบกาหนด 4 วัน แล้วให้เปิดผ้าพลาสติกหรือประตูโรงเรือนอย่างน้อย 2-3 ช่ัวโมง เพื่อให้มีการถ่ายเทอากาศ (ออกซิเจน) เพื่อให้เส้นใยเห็ดฟางสร้างจุดกาหนดออก ถ้าวัสดุแห้งเกินไป รดน้าหรือที่เรียกว่าการ ตัดใยเห็ดในระหว่าง วันท่ี 5 - 8 ต้องควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนให้อยู่ระหว่าง 28 - 32 องศา เซลเซียส ซง่ึ ในช่วงน้ีจะมกี ารรวมตัวของเสน้ ใยเปน็ ดอกเลก็ ๆ จานวนมาก เม่อื อายุได้ 9 - 12 วัน ก็ เกบ็ ดอกเหด็ ได้
ประโยชน์ เหด็ เปน็ อาหารที่มโี ปรตนี สูงชนิดหน่ึง ไว้รับประทานในครวั เรอื นท้ังสดและปลอดภัย ลด ความยงุ่ ยากในการสร้างโรงเรอื น โดยการใชต้ ะกรา้ แทน ตน้ ทนุ การเพาะเหด็ ฟางในตะกร้า / ตะกรา้ วสั ดุ ราคา (บาท) - ตะกรา้ 35 - เชอ้ื เห็ด 6 - ขี้เล่ือย 3 - อาหารเสริม / แปง้ ข้าวสาลี 3 ผลผลติ การเพาะเห็ดในตะกร้า 0.5 - 1 กิโลกรัม / ตะกรา้ ราคากิโลกรมั ละ 50 บาท
ศนู ยเ์ รียนรู้กสกิ รรมธรรมชาติสระยายโสมสุพรรณบุรี ต้ังอยูเ่ ลขท่ี 9 หมู่ 8 ตาบลสระยายโสม อาเภออ่ทู อง จงั หวัดสุพรรณบรุ ี การเพาะเห็ดในถุงพลาสติก การเพาะเหด็ ในถุงพลาสติก วิธีนี้สามารถเพาะไดห้ ลายชนิด เช่น เห็ดหอม เห็ดนางฟ้า เหด็ หูหนู เห็ดเป๋าฮื้อ เห็ดนางรม เห็ดยานางิ เห็ดขอนขาว เห็ดกระด้าง ฯลฯ การเพาะเห็ดด้วยวิธีน้ี พอสรุปข้นั ตอนไดด้ ังต่อไปน้ี 1. การผลิตแม่เช้ือ (Mothernycelime) ไดจ้ ากการแยกเนื้อเยือ่ บริสุทธ์ิ 2. การผลิตหัวเชอ้ื (Motherspawer) เป็นการเพ่ิมเส้นใยบริสุทธ์ิในเมล็ดข้าวฟ่าง (หัว เช้ือขา้ วฟ่าง) 3. การผลิตถุงเชื้อเห็ด (Bag Calture) เป็นการเลี้ยงเส้นใยเห็ดบนวัสดุเพาะใน ถงุ พลาสตกิ (กอ้ นเชื้อ) โดยข้ันตอนท่ี 1 และ 2 ค่อนข้างยุ่งยากสลับซับซ้อน การลงทุนสูง และต้องใช้ ผู้ชานาญการจรงิ ๆ ใน 2 ข้นั นจ้ี ะไมก่ ล่าวถึง ขอขา้ มมาขน้ั ตอนท่ี 3 และการทาใหเ้ กดิ ดอกเลย การผลติ กอ้ นเชือ้ การทาให้เกดิ ดอกและเกบ็ ผลผลิต โดยทวั่ ไปจะใชว้ สั ดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่นขี้เลอ่ื ยไมย้ างพารา ขี้เลื่อยเบญจพรรณ ฟางขา้ ว ชานอ้อย ฯลฯ มาใชเ้ ปน็ วัสดเุ พาะเหด็ ในถุงพลาสติก ซ่ึงต้องใช้วัสดุอุปกรณ์ดังต่อไปนี้ วัสดุ เพาะถุงพลาสติกทนร้อน ขนาด 6 ½” X 12 ½ “ คอขวดพลาสติก สาลี ยางรัด กระดาษ หนังสอื พิมพ์ หม้อนง่ึ เชอื้ เห็ด หวั เชอ้ื เหด็ โรงบม่ เส้นใย และโรงเรอื นเปิดดอก” การเตรยี มวัสดเุ พาะจากข้ีเล่อื ยไม้ยางพารา ซงึ่ เป็นสูตรมาตรฐานกับ การเพาะเหด็ 100 กิโลกรมั 1 ข้เี ล่อื ยไม้ยางพาราแหง้ 5 กโิ ลกรัม 2 ราละเอยี ด 1 กโิ ลกรัม 3 ปนู ขาว 1 กโิ ลกรมั 4 ยบิ ซมั่ 0.2 กโิ ลกรมั 5 ดเี กลือ
ปรบั ความช้ืนในวัสดเุ พาะประมาณ 60 - 65 เปอร์เซ็นต์ นาสว่ นผสมดังกลา่ วขา้ งตน้ ผสมกนั ให้เข้ากันดว้ ยมือหรอื เครื่องผสม แล้วปรับความชื้นประมาณ 60- 65 % โดยการเติมนา้ เข้าไปพอประมาณ ใชม้ ือกาขเี้ ลื่อยขึ้นมาบีบให้แน่น สังเกตถ้ามีน้าซึมท่ีง่ามมือ แสดงว่าเปียกไป(ให้เติมข้ีเล่ือยแห้ง) ถ้าไม่มีน้าซึมให้แบมืออกข้ีเล่ือยจะรวมตัวกันเป็นก้อนแล้วแตก ออก 2-3 ส่วน ถือว่าใช้ได้(ความชื้น 60-65 %) แต่ถ้าแบมือแล้วขี้เลื่อยไม่รวมตัวกันเป็นก้อนแสดง วา่ แห้งไปให้เติมนา้ เมื่อผสมคลุกเคล้ากันดีแล้ว ให้บรรจุข้ีเลื่อยลงถุงพลาสติกทนร้อน น้าหนักบรรจุ 8 - 10 ขีด กดและทุบให้แน่นพอประมาณ 2 ใน 3 ของถุง ใส่คอขวด รัดด้วยหนังยาง จุกสาลี นาไปน่ึง ฆา่ เชือ้ ที่ 100 Cใช้เวลา 2 ช่วั โมง นาถงุ มาพักให้เยน็ ฯในทีส่ ะอาดต่อเช้ือตามที่ต้องการ โดยเขย่าเช้ือ ท่ีเติมขวดใหม่ๆ ให้เมล็ดข้างฟ่างร่วม แล้วเปิดสาลี ต่อเช้ือเห็ดลงตรงคอขวด ประมาณ 10 - 20 เมล็ด ปิดสาลี (เช้ือ 1 ขวดต่อใส่ถุงได้ประมาณ 40 ถุง) นาถุงเช้ือเห็ดไปบ่มไว้ในที่สะอาดมีการ ถ่ายเทอากาศสะดวกในอุณหภูมิห้อง จนกว่าเส้นใยจะเต็มถุง ซึ่งแตกต่างกันไปขึ้นกับชนิดของเห็ด (ดูตาราง) เมื่อเสน้ ใยเห็ดเจริญเตม็ ถงุ แลว้ กค็ ดั เฉพาะที่ไม่มกี ารปนเป้ือน มาเปดิ ในโรงเรือนเปิดดอกเห็ด เพื่อเกดิ ดอกตอ่ ไปภายในโรงเรือนทีส่ ะอาด มกี ารถ่ายเทอากาศดี มแี สงสว่างพอสมควร และสามารถเกบ็ ความชนื้ ไดด้ ี พอสมควร(ความช้ืนสัมพทั ธ์ภายในโรงเรอื นประมาณ 70% ข้นึ ไป) สาหรับเห็ดนางรม นางฟ้า เป๋าฮื้อ ยานางิ จะเปิดถุงเหด็ โดยเอาหนังยาง + สาลีออก แลว้ ถอดคอขวดออก นากอ้ นไปเรียงซอ้ นกนั จะใชไ้ ม้ไผต่ ัว A ช้ันพลาสติก หรือวิธีอ่ืนๆที่จะสามารถ วางถุงในแนวนอนซ้อนกันไปเอาปากถุงหันออกมาด้านนอกเพ่ือให้ออกดอกได้ก็ใช้ได้ ทาการรดน้า โดยสเปรย์น้าเป็นฝอยพ่นในโรงเรือนให้ได้ความช้ืน 70% วันละ 2 - 6 ครั้ง ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ระวังอย่างใหน้ า้ เข้าปากถุง ถา้ นา้ ขังในถงุ ก้อนเชอื้ ถงุ จะเน่าและเสียเร็ว (อาจมรี าแทรกได้) ทาให้เก็บ ผลผลิตได้น้อย หลังจากเริ่มให้น้าประมาณ 1 - 14 วัน ดอกเห็ดเล็กๆ จะเกิดและเก็บผลผลิตได้ จะ ชา้ หรอื เรว็ ขึน้ อยูก่ ับชนิดของเหด็ (ดตู าราง) สาหรับเหด็ หหู นู เม่ือเส้นใยเดินเต็มถุงแล้ว ก็ให้ดึงสาลีรูดถุงพลาสติกข้ึน ถอดคอขวด ออกพับถุงพลาสติกทาเป็นจุก รัดหนังยาง แล้วเอามีดคมๆ กรีด 3 - 4 แนวๆ ละ 3 บั้ง จากน้ันก็ นาไปแขวนตั้งกับพ้ืน หรือผูกเชือกห้อยภายในโรงเปิดดอก ประมาณ 5 - 7 วัน ก็เริ่มทาการรดน้า รักษาความช้ืน 80 - 90% จากนั้นประมาณ 5 - 7 วัน ก็จะเห็นดอกเล็กๆ และจากนั้นอีก 5 - 10 วัน กจ็ ะเก็บดอกเหด็ ได้ (ดตู าราง)
สาหรับเหด็ ขอนขาว ขอนดา เห็ดกระดา้ ง เมือ่ เสน้ ใยเดินเติมถุงแล้ว ก็ให้เอามีดคมๆ กรีดพลาสติก ตรงบ่าถุงออกให้หมดนาไปวางซ้อนตั้งแบบเดียวกับเห็ดกลุ่มนางฟ้า รดน้ารักษา ความช้ืนได้ 70% การดูแลเหมือนเห็ดนางรม นางฟ้า หลังจากเปิดถุงก้อนจะค่อยๆเปลี่ยนเป็นสี นา้ ตาลมากขน้ึ การเกิดดอกใกลเ้ คียงกบั เห็ดนางรม (ดตู าราง) สาหรับเห็ดหอม หลังจากเส้นใยเดินเต็มถุงแล้ว ต้องทิ้งไว้ 1 - 2 เดือน เพื่อรอให้เส้น ใยรัดตัวเปล่ียนเปน็ สนี า้ ตาลประมาณ 50% ของกอ้ น ก็จะนาไปกรีดพลาสตกิ ออกให้เหลอื ส่วนก้นถุง ประมาณ 1 - 2 น้ิว เมื่อก้อนสัมผัสอากาศจะค่อยๆเปล่ียนเป็นสีน้าตาลมากขึ้น และถ้าอุณหภูมิ 25 C ความช้ืนเหมาะสม 70 - 80% ดอกเห็ดหอมจะเกิดขึ้น ประมาณ 7 - 10 วัน ก็จะเก็บผลผลิต ได้ หลังจากเก็บรุ่นแรกไปแล้ว ก้อนจะพักตัวประมาณ 15 - 20 วัน ก็ให้ทาการกระตุ้น โดยแช่น้าเย็น หรือน้าแข็งโป๊ะ หลังจากนั้นประมาณ 7 - 10 วันก็จะให้ผลผลิต หลังจากให้ผลผลิต แลว้ ก็ทาการพักก้อนและกระตุ้นเหมือนเดิม ผลผลิตรุ่นท่ี 1 - 2 ดอกจะไม่ค่อยสมบูรณ์ แต่หลังจาก รนุ่ ที่ 3 แล้วดอกจะสมบรู ณ์
มหาวิชชาลยั ภมู ิปัญญาท้องถ่นิ สมุทรสงคราม เลขท่ี 9/3 หมู่ท่ี 4 ตาบลบางพรม อาเภอบางคนที จังหวัดสมทุ รสงคราม การเพาะเหด็ โอง่ /การเพาะเห็ดจากวัสดุเหลอื ทง้ิ ในชุมชน ความเปน็ มา เร่ิมมาจากโครงการคลนิ กิ เกษตรเคล่ือนท่ี หมทู่ ่ี 4 วัดแก่นจันทร์ ตาบลบางพรม อาเภอ บางคนที จงั หวัดสมุทรสงคราม มีกจิ กรรมหลายอย่างทเี่ กษตรกรเข้ารับบรกิ ารจากหนว่ ยงานสังกดั กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีการจาหน่ายสนิ คา้ การเกษตร กลมุ่ แมบ่ า้ นเกษตรกร มโี รงเพาะเหด็ แบบประหยดั ตน้ ทนุ ตา่ ต้นแบบ โดยขอซอ้ื ก้อนเช้อื เห็ด จานวน 10 กอ้ น เพือ่ ท่ีจะเพาะไว้กนิ ใน ครัวเรอื น จงึ ไดเ้ กดิ แนวคิดทีจ่ ะทาการเพาะเห็ดในราคาถูกและประหยดั มากกวา่ น้ี โดยท่ไี ม่ต้องสร้าง โรงเรอื น ทาใหส้ ้ินเปลอื ง ขา้ พเจ้าเดินหาวัสดุที่จะนามาทาโรงเห็ดอยูน่ านนึกไมอ่ อกว่าจะใช้อะไร สาหรับใสเ่ พาะเหด็ เลยเหน็ โอ่งใสน่ ้าท่ใี ชเ้ ก็บนา้ ไมไ่ ด้ จึงนามาใชเ้ พาะเหด็ และให้ชื่อใหมว่ ่า “เหด็ โอ่ง” วธิ ีคิด 1. ลดตน้ ทุนไมต่ อ้ งสรา้ งโรงเรอื น 2. ประหยดั พ้ืนท่ี 3. ใชว้ สั ดอุ ุปกรณเ์ หลอื ใช้ในครัวเรอื น 4. สะดวกต่อการดูแลรกั ษา 5. เศรษฐกจิ แบบพอเพยี ง 6. ขายจาหนา่ ยได้/นามาแปรรปู น้าพริกเหด็ ขน้ั ตอนการทา 1. นาโอง่ น้าทร่ี า้ ว/เป็นตามด เกบ็ น้าไม่ได้ ร่ัวซมึ มาวางนอน 2. นาไม้มาวางเรยี งขวางในโอ่ง 3. นากอ้ นเช้ือเห็ดวางเรยี งซ้อนบนตะแกรงไม้ 4. นากระสอบป่านมาเย็บทาฝาเปดิ - ปิด 5. รดน้า เชา้ - เย็น เงอ่ื นไข การนากอ้ นเหด็ วางเรียง ชน้ั แรกควรมชี อ่ งวา่ งสาหรับเวลาทเ่ี ห็ดออกดอกจะไม่แช่น้า แนวทาง ตเู้ ย็นทเี่ สยี ทิ้งแล้ว สมุ่ เลยี้ งไก่ บอ่ ปูนเลย้ี งปลา โอง่ ปากตัด สามารถนามาทาภาชนะเพาะ เห็ดได้
ศนู ย์กสิกรรมธรรมชาติสองสลึง ตั้งอยู่เลขท่ี 322/1 หมู่ 8 ตาบลสองสลึง อาเภอแกลง จงั หวัดระยอง การเพาะเหด็ การเพาะเหด็ การเพาะเห็ดกาลงั เป็นที่นิยม เน่ืองจากการเพาะเห็ดสามารถที่จะทาให้ ภายในครอบครวั มีอาหารที่มคี ณุ คา่ มีความปลอดภัยจากสารเคมี การเพาะเหด็ สามารถเพาะสาหรบั การบริโภคในครัวเรือน หรือสามารถพัฒนาการเพาะเห็ดให้เป็นอาชีพหลัก มีรายได้เลี้ยงครอบครัว ไดเ้ ปน็ อยา่ งดี ในภาวะเศรษฐกจิ ที่เปน็ อยู่นี้ การเพาะเห็ดนัน้ เป็นการนาวสั ดทุ เ่ี หลอื ใชท้ างการเกษตร หลายชนิด เช่น ฟางข้าว เปลือกมันสาปะหลัง ทะลายปาล์ม ข้ีเล่ือย เปลือกถั่ว หรือกระท่ังวัสดุท่ีมี ในธรรมชาติ ได้แก่ หญ้าชนิดต่าง ๆ ใช้เป็นวัสดุเพาะให้เหมาะสมกับท้องถ่ิน เพ่ือเป็นการลดต้นทุน ช่วยอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และทาให้คนมีงานทาอย่างต่อเน่ือง ท้ังนี้ศูนย์เครือข่ายปราชญ์ ชาวบา้ นมีองค์ความรู้ในการเพาะเห็ด โดยมรี ายละเอียด ดังนี้ วัสดุอุปกรณ์ สาหรบั เพาะเหด็ นางฟา้ เห็ดนางรม เห็ดนางฟ้าภูฐาน เห็ดนางรมฮังการี เห็ดขอนขาว และเห็ดหอม 1) ถงุ พลาสติก 7 x 2 น้วิ 2) คอขวดพลาสตกิ ทนความร้อน 3) สาลีอตุ สาหกรรม 4) กระดาษหนงั สอื พิมพ์ (ตดั เปน็ รปู ส่ีเหลย่ี มช้นิ เล็ก ๆ) 5) ยางรดั 6) เชอื้ เห็ด 7) ขี้เลอื่ ย 100 กิโลกรัม 8) ราละเอยี ด 4 - 5 กโิ ลกรมั 9) ปูนขาว 2 กโิ ลกรมั 10) ดเี กลือ 2 ขีด 11) ยูเรีย 2 ขีด 12) ยปิ ซมั 1 กิโลกรัม
ขั้นตอนการทากอ้ นเห็ด 1) นาขี้เล่ือย 100กิโลกรัม มาคัดหรือร่อนเอาเศษไม้ออก(ขี้เลื่อยไม่เนื้ออ่อน เช่น ไม้ ยางพารา เป็นต้น) 2) เอาราละเอยี ด ปูนขาว ยิปซมั โรยในกองข้ีเล่ือยแลว้ คลกุ ใหเ้ ขา้ กนั จนทัว่ 3) เอาดีเกลือกับยูเรียละลายในน้า 1 บัว แล้วรดลงในกองข้ีเลื่อยคลุกเคล้าให้เข้ากัน จนทว่ั 4) เอาน้ารดในกองข้ีเล่ือยคลุกให้เข้ากัน จากน้ันเอามือกาข้ีเลื่อยดูให้แน่น แล้วแบมือ ออก หากข้ีเลื่อยเป็นก้อนค่อยๆแตกออกทีหลังก็ใช้ได้ แต่ถ้าก้อนแตกทันทีแสดงว่าความชื้นน้อยไป ให้รดนา้ เพิ่มอีก 5) เอาขี้เล่ือยทผ่ี สมแล้วกรอกใสถ่ ุง เอามอื ตอกก้อนขี้เลื่อยให้แน่นพอประมาณอย่าให้ แน่นเกนิ ไป เส้นใยเห็ดจะเจริญยาก หากหลวมเกินไปเสน้ ใยเห็ดจะไม่แขง็ แรง 6) เอาก้อนเห็ดใส่คอขวด เอาสาลีอุด จากน้ันใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ที่เตรียมไว้ หุ้ม จุกสาลีให้มิด เอายางรัดให้แนน่ 7) เอากอ้ นเหด็ ไปนงึ่ โดยใช้ถงั ขนาด 200 ลติ ร นง่ึ ประมาณ 2 ช่วั โมง 8) เม่อื น่งึ เสรจ็ แลว้ นาก้อนเห็ดมาวางไว้ให้เย็น 9) นาเชื้อเห็ดท่ีเตรียมไว้ มากรอกใส่ถุงก้อนเห็ดประมาณ 20 - 30 เมล็ดข้าวฟ่าง (ต้องเคาะให้ร่อนก่อนกรอกลงใส่ถุง) หากต้องการเพาะเห็ดชนิดใดก็ใส่เช้ือเห็ดชนิดนั้น ๆ ลงในถุง ซึ่งสามารถหาซอ้ื ไดต้ ามร้านทข่ี ายเชื้อเหด็ 10) นาก้อนท่ีใส่เช้ือเห็ดแล้วไปบ่ม หรือวางในที่ลมโกรกสะอาด ไม่โดนน้า บ่มไว้ ประมาณ 1 เดือน เชื้อจะเดนิ เตม็ กอ้ น บางชนดิ 2 เดือน กม็ ี 11) นาก้อนท่ีเชื้อเดินเต็มท่ีแล้วไปเปิดดอกในที่ ๆ อากาศปลอดโปร่ง ไม่โดนแสงแดด หรือทาเป็นโรงเรือนก็ได้ โดยวางเป็นแผงให้ซ้อน ๆ กัน แล้วรดน้าเช้า เที่ยง เย็น เห็ดจะออกดอก ภายใน 7 - 10 วนั หากชว่ งอากาศร้อนมากใหร้ ดนา้ 4 - 5 ครงั้ ฤดฝู นให้รดน้าเช้าและเย็น ฤดูหนาว ใหร้ ดเชา้ และเที่ยง ข้อสาคญั ไม่ไห้น้าเขา้ ในคอขวดของถงุ
การเกบ็ ดอก ควรเก็บดิกที่มีขนาดโตเต็มที่ โดยการสังเกตหมวกของดอกเห็ดมีลักษณะบาน เวลา เกบ็ ดอกเห็ดควรเป็นเวลาบ่ายใกลเ้ ยน็ เพราะอุณหภูมิภายนอกกับภายในโรงเรือนใกล้เคียงกันทาให้ ไม่กระทบต่อการเกดิ ดอกของรุ่นต่อไป สว่ นของโรงเรอื น ต้องทาความสะอาดโรงเรือน กวาดใยแมงมุม และฉีดน้าส้มควันไม้ เดือนละ 1 ครั้ง จะทาใหโ้ รงเรอื นสะอาด ไม่เกดิ โรคและแมลงทาลายกอ้ นเหด็ สาหรบั กอ้ นเหด็ เก่า กส็ ามารถนาไปเพาะเหด็ ฟางได้อีก หรือนาไปเป็นปุ๋ยกบั ต้นไม้ก็ได้ การปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง เป็นการพึ่งพาอาศัย การรักษาสมดุลทาง ธรรมชาติ การผสมผสานพืชพันธ์เุ พอื่ การเกอื้ หนนุ ซง่ึ กันและกัน ได้แก่ 1) ปา่ สาหรับใช้สอย (ใชส้ ร้างบ้าน) เช่น ตะเคียน สกั ประดู่ ชงิ ชนั ตะแบก ฯลฯ 2) ปา่ สาหรับเป็นไม้ผล (ใชก้ นิ ) เช่น มะม่วง มะขาม มังคุด ลองกอง ทุเรียน ผักหวาน ผกั แวน่ กลว้ ย แค ขีเ้ หลก็ ฯลฯ 3) ป่าสาหรับเป็นเชอื้ เพลงิ (ใชง้ าน) ไผ่ ขอ่ ย สะเดา ไม้ทาฟนื ไม้ทาถ่าน ฯลฯ นอกจากประโยชน์ 3 อย่างนี้แล้ว การปลูกป่านี้เป็นการเก้ือกูลและอานวยประโยชน์ ในการอนุรกั ษ์ดนิ และนา้ และคงความชุ่มชืน้ ไว้ เปน็ ผลพลอยได้
ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือ ศูนยก์ สิกรรมธรรมชาติกาฬสินธุ์ จงั หวัดกาฬสนิ ธุ์ เลขที่109 หมทู่ ี่ 10 ตาบลธัญญา อาเภอ กมลาไสย จงั หวดั กาฬสนิ ธ์ุ การเพาะเหด็ ขอนมะม่วง อปุ กรณ์ 1 เลื่อย 2 สว่านขนาด 4 - 6 หุน 3 มดี 4 กะละมัง 5 ฝาเบยี ร์หรือวตั ถอุ นื่ ทสี่ ามารถปดิ ได้ วสั ดุ 1 ขอนมะมว่ งขนาดเสน้ ผ่าศูนยก์ ลาง 4 น้วิ ขึ้นไป ยาว 1.20 เมตร 2 เชอื้ เหด็ ขอนขาวพรอ้ มท่ีจะเปดิ ดอก ( 1 ก้อนใชไ้ ดป้ ระมาณ 15 - 20 ขอน) วิธที า 1 ตัดขอนมะมว่ งขนาดความยาว 1.20 เมตร 2 เอาท่อนมะม่วงมาเจาะรูดว้ ยสว่าน หา่ งกันประมาณ 1 คืบ ใหร้ อบขอนมะมว่ ง 3 เอาเช้อื เหด็ ขอนขาวมาขย้ใี นกะละมังให้ละเอยี ด 4 เอาเชอ้ื เหด็ หยอดลงไปในรูทเี่ จาะไว้ใหเ้ ต็ม 5 ปิดรูด้วยฝาเบียร์หรือวัสดุอ่ืน ทิ้งไว้ในที่ร่มประมาณ 45 - 60 วัน (ให้สังเกตว่าไม้ ขอนมะมว่ งแหง้ ดแี ลว้ หรอื ยงั ) 6 ให้สังเกตท่อนมะม่วงที่ตัดหัวท้ายว่ามีสีขาวเต็มแผลท่ีตัดหรือยัง ถ้าเห็นเต็มหน้าที่ ตัด แสดงวา่ เชื้อเห็ดเดนิ เตม็ ขอนมะม่วงแล้ว 7 นาขอนมะม่วงลงแชน่ า้ 1 - 2 คืน (ใหจ้ มน้า) เอาขึ้นมาแลว้ เกบ็ ในท่ีร่ม เอาพลาสติก คลุม รดน้าเช้าเย็นประมาณ 1 เดือน ออกดอกเก็บไดป้ ระมาณ 6 - 8 เดอื น หมายเหตุ ระยะเวลาท่เี หมาะสมหยอดเชอ้ื เหด็ เดอื นมกราคม พกั 2 เดอื น เรมิ่ เก็บ เมษายน
ศนู ย์ปราชญช์ าวบา้ นพัฒนาคณุ ธรรม จงั หวัดกาฬสนิ ธุ์ 240 หมู่ 6 บ้านโคกกลาง ตาบลจุมจัง อาเภอกฉุ ินารายณ์ จงั หวัดกาฬสนิ ธุ์ เหด็ ตะกรา้ วัสดุอุปกรณ์ เชอื้ เห็ดฟาง ตะกร้าพลาสติก ฟาง วธิ ที า/ข้ันตอน นาฟางมาแช่น้าให้ชุ่มแล้วอัดลงในตะกร้า เหยียบให้แน่น จากนั้นนาเช้ือเห็ดมาโรย รอบๆบางๆ ทาอยา่ งนี้ 3 ชน้ั ครอบแลว้ เอาฟางอัดข้างบนอีกที จากนัน้ คว่าตะกร้าไว้ หาผา้ พลาสติก มาคลุม ท้ิงไว้ 2 - 3 วันแล้วแต่อากาศ เปิดดูวันละ 1 ครั้ง ถ้าแห้งเกินไป เอาน้าพรมเบาๆ เก็บเห็ด ได้ต้งั แตว่ ันที่ 4 ถึงวนั ท่ี 8 วธิ ีใช้ นามาแกง ผัด ตม้ ต้มยา ปรงุ อาหารได้ทุกชนดิ ประโยชน์ เป็นเห็ดปลอดสารพิษ ทานได้อย่างสนิทใจ ประหยัดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน และ ประโยชน์อน่ื ๆ
ศูนยเ์ รียนรกู้ ลมุ่ พัฒนาชีวติ และอนรุ ักษส์ ่ิงแวดลอ้ ม ต้งั อยูเ่ ลขที่ 17 หมู่ 5 บ้านสาราญ ตาบลหนองแคน อาเภอปทุมรัตต์ จงั หวดั ร้อยเอด็ การเพาะเหด็ นางฟา้ นางรม ส่วนผสมและวสั ดอุ ุปกรณ์ 1. ขีเ่ ลื่อย 500 กิโลกรมั 2. หวั เช้ือเหด็ นางฟ้า,นางรม 50 ขวด 3. สาลี 10 กิโลกรัม 4. ไฮโดเยน่ ฆ่าเชือ้ 3 ขวด 5. ตะเกียง 5 อัน 6. ถุงพลาสติก 500 ถงุ 7. คอขวดพลาสตกิ 500 คอ 8. ถงั น่ึง 5 ถัง 9. โรงพกั เชื้อ/โรงเกบ็ 1 โรง 10. ราอ่อน 100 กิโลกรมั วิธีทา 1. นาข้เี ลอื่ ย 3 สว่ น ราออ่ น 1 สว่ น น้าบริสทุ ธ์ิ 1 ส่วน ผสมให้เข้ากันพอประมาณ ความชน้ื 40% 2. นาถุงพลาสตกิ มาบรรจุ ถงุ ละ 1 กโิ ลกรัม ตาหรอื ตอกใหแ้ น่น 3. นาไปนง่ึ ในอุณหภูมิ 100 องศา เพือ่ ฆ่าเช้อื 4. แลว้ ไปพักในโรงใหเ้ ยน็ และทาการเขยี่ เช้อื เหด็ ในอณุ หภมู ิท่เี หมาะ ประมาณ 25 องศา 5. ประมาณ 20 - 30 วัน เชื้อเหด็ จะเดินเต็มกอ้ น ประโยชน์ ไดบ้ รโิ ภคอาหารจากเหด็ อยา่ งปลอดภัยและไดโ้ ปรตนี สูง ลดรายจา่ ยในครัวเรอื น ดา้ น อาหาร และสามารถนาสว่ นทเี่ หลือหลังจากเหด็ หยดุ ออกดอกไปทาเปน็ ปยุ๋ หมกั ชวี ภาพ
ศนู ย์เรยี นรู้เศรษฐกจิ พอเพียงชุมชน นายบญุ มี ทอนมาตย์ ตั้งอยู่เลขที่ 98/1 หมู่ 3 บา้ นคุ้มเหนือ ตาบลหัวช้าง อาเภอจตุรพกั ตรพมิ าน จงั หวัดรอ้ ยเอด็ การเพาะเห็ดนางฟ้า – นางรม เห็ดนางฟ้า - นางรม เป็นเห็ดที่สามารถเพาะข้ึนได้ในทุกพ้ืนที่ของประเทศไทย เป็น เห็ด ท่ีเหมาะสมกับเกษตรกรมือใหม่ ผู้ที่สนใจในการเพาะเห็ดทดลองปลูก เพ่ือหาประสบการณ์ ขนั้ ตอนในการดูแลรกั ษาไม่ยุง่ ยากมากมายนกั ผู้บริโภคนยิ มนามาประกอบอาหาร เพราะเห็ดนางรม เห็ดนางฟ้าราคาถูก เมื่อเทียบกับเห็ดชนิดอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น เห็ดขอนขาว เห็ดขอนดา เห็ดบด หรือ เห็ดทขี่ ึ้นได้เองตามธรรมชาติ อกี ทง้ั ไมต่ อ้ งเสย่ี งตอ่ การทจ่ี ะต้องกินเหด็ มพี ิษ ซงึ่ จะทาให้เกิดอันตราย ถึงชวี ิตดว้ ย ฤดูท่ีเหมาะสมในการปลกู เห็ดนางฟา้ - นางรม ฤดูท่ีเหมาะสาหรับเห็ดนางฟ้า - นางรมคือ ฤดูฝน - ฤดูหนาว อุณหภูมิในการออก เพียง 28 องศาเซลเซยี ส กส็ ามารถออกดอกไดด้ ี แตถ่ า้ ปลกู ในฤดรู ้อน เหด็ นางฟา้ จะใหผ้ ลผลิตลดลง เพราะอากาศรอ้ นความชน้ื มนี ้อย จะทาใหเ้ ห็ดนางฟ้าฟักตัว แต่จะออกดอกเมื่ออากาศเปลี่ยนแปลง เช่น ฝนตก หรือมลี มหนาวพัดผา่ นเขา้ มา ดังน้นั เราควรหลกี เลี่ยงทจ่ี ะปลูกเห็ดนางฟ้าในฤดรู อ้ น สตู รอาหารเหด็ นางฟ้า - นางรม 100 กโิ ลกรัม 1. ขเี้ ล่ือย 6-10 กิโลกรัม 2. ราออ่ น 3. ปนู ขาว 2 กโิ ลกรัม 4. ดเี กลือ 3 กิโลกรมั 5. ภไู มท์ 1 กโิ ลกรัม 6. นา้ สะอาด 70% การผสมอาหารเหด็ นางฟ้า - นางรม นาข้ีเล่ือย 100 กิโลกรัมมากองกับพ้ืน เกลี่ยให้หนาประมาณ 15-20 เซนติเมตร นา ส่วนผสมท่ีช่ังแล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน ใส่น้าลงไปให้พอเหมาะ ประมาณ 70% ระวังอย่าให้แฉะ เกินไป โดยใชม้ ือกาข้ีเลือ่ ยดู ให้ขเ้ี ลื่อยจับกันเปน็ ก้อนได้ แตจ่ ะต้องไมม่ นี ้าไหลออกมาตามง่ามนิ้วมือ และสามารถท่ีจะเกล่ียให้ข้ีเลื่อยแตกกระจายได้โดยไม่จับกันเป็นก้อน เพราะการผสมสูตรอาหาร เปียกเกินไปจะทาใหเ้ ชอื้ เห็ดไม่สามารถเดินได้และถา้ แห้งเกนิ ไปก็เดินไม่ได้เชน่ กัน
การอดั กอ้ นเหด็ นางฟ้า - นางรม บรรจขุ ้ีเล่อื ยลงในถงุ พลาสติกขนาด อัดให้แน่นให้มีน้าหนัก 7 ขีดถึง 1 กิโลกรัม ใส่คอ ขวดพลาสตกิ ดงึ ปากถงุ ใหแ้ นน่ รัดด้วยสายยางสองรอบ ใสส่ าลีปิดทับดว้ ยพลาสติกรดั ด้วยยาง การนง่ึ กอ้ นเช้อื การนึ่งก้อนเช้ือด้วยเตานึ่ง ลูกทุ่งจะต้องบุรองข้างในถังด้วยกระสอบเพื่อกัน ถุงพลาสติกไหม้เม่ือมีไฟลามหม้อนึ่ง กันถังรองด้วยตะแกรงสูงประมาณ 25 เซนติเมตร ใส่น้า ประมาณ 20 เซนติเมตร เรียงก้อนเชื้อตามแนวต้ังจะได้ชั้นละ 25 ก้อน ต่อการน่ึง 4 ชั้น จะได้ก้อน เช้ือทั้งหมด 100 ก้อนต่อการนึ่ง 1 ครั้ง น่ึงด้วยอุณหภูมิ 100 องศา ใช้เวลานาน 3 - 4 ช่ัวโมง การ จับเวลาควรเร่ิมจับเวลาเมื่อหม้อน่ึงเดือดเต็มท่ี โดยสังเกตจากไอน้าท่ีพุ่งขึ้นมาเป็นเส้นตรงจากรูท่ี เจาะกับผา้ พลาสติกท่ีคลุมปากหม้อน่ึง หลังจากนึ่งเสร็จแล้วปล่อยไว้ให้เย็น แล้วจึงนาออกจากหม้อ นง่ึ นาเข้าหอ้ งเขย่ี เช้ือเพ่ือรอหยดเช้อื ห้องหยดเชื้อ ห้องหยดเชื้อทเ่ี หมาะสม จะตอ้ งเปน็ หอ้ งท่ปี ดิ มิดชิดไมม่ ีลมพดั ผ่านเพราะลมจะเปน็ ตัว ท่ีนาเอาเชื้อรามาตามอากาศและตกลงในก้อนเชื้อ ซึ่งจะทาให้เกิดการปนเป้ือน มีเชื้อราและ แบคทีเรียซ่งึ จะทาให้ก้อนเชือ้ เสยี หายได้ การเข่ยี เช้อื เหด็ ลงถุงพลาสติก วสั ดใุ นการเขี่ยเชือ้ 1. ขวดหัวเชอื้ เห็ดท่ีดินเต็มแลว้ 2. ตะเกียงแอลกอฮอล์ 3. แอลกอฮอล์จุดไฟ 4. แอลกอฮอลฆ์ า่ เชือ้ 5. สาลี 6. ไม้ขีดไฟ 7. กระดาษหนงั สอื พิมพ์ตดั เป็นช้ินขนาด 4 x 4 8. ยางรัด 9. เขม็ เขยี่ เชื้อ
ข้ันตอนการเขย่ี เช้อื 1. ล้างมอื ใหส้ ะอาดดว้ ยสบู่ 2. เชด็ มอื ใหส้ ะอาดดว้ ยแอลกอฮอลฆ์ ่าเชอ้ื 3. จดุ ตะเกียงแอลกอฮอลด์ ว้ ยตะเกยี งแอลกอฮอลจ์ ุดไฟ 4. นาขวดเช้อื มาลนไฟทตี่ ะเกยี งแอลกอฮอล์ใหท้ ่ัวทัง้ ขวด 5. นาขวดเชอ้ื ที่ลนไฟแลว้ มาเคาะหรอื ยอ่ ยให้หวั เชอ้ื กระจายออกจากกนั 6. เปิดปาดถุงหยอดเมล็ดข้าวฟ่าง ลงในถุงพลาสติกประมาณ 25 - 30 เมล็ด ปิดปาก ขวดด้วยสาลีทนั ทีปดิ ทับด้วยกระดาษหนังสือพมิ พ์ 7. ในขณะที่หยอดเชือ้ ให้ขวดอยใู่ นแนวนอน ห้ามกันปากขวดขึ้นข้างบน เพราะจะทา ใหเ้ ชอ้ื ราตกลงไปในขวดเชอ้ื ได้ 8. ขวดหัวเช้ือ 1 ขวด สามารถหยอดลงในถุงเห็ดได้ 35 - 40 ถุง การบ่มกอ้ นเช้อื เห็ด นากอ้ นเช้อื เห็ดที่หยอดเช้อื แลว้ ไปวางเรียงกนั ไว้เพอ่ื บ่มก้อน อุณหภูมใิ นโรงบ่มก้อนไม่ ควรจะร้อนมากจนเกินไป จะทาให้เห็ดนางฟ้าชงักได้ ในขณะที่บ่มก้อน ควรฉีดพ่นสารไล่แมลงเพื่อ ป้องกันไรหรือแมลงมาเจาะเพื่อวางไข่ท่ีปากถุงเห็ด โดยใช้สารสกัดจากน้าส้มควันไม้ ใช้เวลาในการ บ่มก้อนเช้อื ประมาณ 30-35 วัน ก็สามารถนาไปเปดิ ออกในโรงเรือนสาหรบั เปิดดอกได้ ลักษณะโรงเรือนเห็ดนางฟ้า ลักษณะโรงเรือนเห็ดนางฟ้า ขนาดกว้าง 4 x 10 เมตร ส่วนหลังคาสูงประมาณ 3 เมตร ด้านข้างสูงประมาณ 1.50 เมตร หลังคามุงด้วยหญ้าคา ด้านข้างกั้นด้วยแสลน 60% โครงสรา้ งภายในทาแผงเอยี งทามุม 75 องศา การสร้างโรงเรอื นตามแนวตะวันไม่ให้ขวางตะวัน เพ่ือ การถ่ายเทอากาศในโรงเรอื นไดด้ ี ขนาดของโรงเรอื นปรบั ลดได้ตามความเหมาะสม ถ้าเป็นเกษตรกร มอื ใหม่ ก็อาจจะใช้โรงเรอื นขนาด 4 x 6 หรือเลก็ ลงมาอีก เช่น 2 x 4 เมตร ก็ได้ การดแู ลรักษาและการเปิดดอก หลังจากบ่มก้อนได้ 30 - 35 วัน แล้วนาก้อนเชื้อเข้าสู่โรงเรือนเปิดดอก แกะกระดาษ ที่ปิดปากเอาสาลีออก เข่ียเมล็ดข้าวฟ่างออกให้หมดด้วยหางช้อน ซ่ึงเช็ดด้วยแอลกอฮอล์แล้วทา ความสะอาดพื้นโรงเรือน รดน้าให้ชุ่มวันละ 3 เวลา เกิดน้าขังในถุงก้อนเห็ด ทาให้เกิดเชื้อราได้ หลงั จากรดน้าได้ 2-3 วนั ถา้ อุณหภมู พิ อเหมาะเหด็ กจ็ ะออกดอกรุ่นแรกได้
การเกบ็ ดอกเหด็ ใช้มือกดปากถุงไว้ อีกมือหนึ่งค่อยๆ ดึงดอกเห็ดออกจากถุง อย่าให้หน้าก้อนเห็ดแตก และพยายามอยา่ ใหม้ เี ศษของขาเห็ดปิดปากถุงเห็ด เพราะจะทาให้เกิดราปิดปากถุงเห็ดกันดอกเห็ด รุ่นต่อไปไม่ให้ออกดอกมาได้ จะสง่ ผลใหผ้ ลผลิตตกต่า การฟักตัวสร้างเส้นใยของเหด็ หลังจากออกดอดไปแล้ว 1 รุ่น เห็ดนางฟ้าจะฟักตัวประมาณ 7-10 วัน เพื่อสร้างเส้น ใยใหมใ่ นการออกดอกรุ่นต่อไป หรืออาจจะออกดอกได้เร็วหรือช้าข้ึนอยู่กับสภาพอากาศ ถ้าอากาศ พอเหมาะก็จะสามารถออกดอกเห็ดรุ่นที่สองต่อไปได้ แต่ถ้าอุณหภูมิมากกว่า 30 องศาเซลเซียส เห็ดนางฟา้ จะฟกั ตัวไม่ออกดอก จนกว่าอากาศจะเปลีย่ นแปลง
ศูนย์ชุมชนศรโี คตรบูรณ์อโศก ต้ังอยูเ่ ลขที่ 1 หมูท่ ี่ 7 บ้านปากอนู ตาบลศรสี งคราม อาเภอศรสี งคราม จงั หวดั นครพนม การเพาะเห็ดขอนดา ส่วนประกอบ ได้แก่ - ขเี้ ลอ่ื ยไม้ยางพารา 100 กโิ ลกรัม - ราอ่อน 8 กโิ ลกรัม - ปนู ขาว 2 กโิ ลกรัม - ภไู มท์ 1 กิโลกรมั - ยบิ ตซ์ มั 5 ขีด - ดีเกลือ 3 ขีด - น้าให้อตั ราส่วนให้ความชนื้ ประมาณ 60 % - อปุ กรณ์เสริม เช่นถุงบรรจุก้อน (มีถุงเฉพาะ) 110 ใบฝาปิด 110 อัน ปลอกรัดปาก ถงุ 110 อนั วธิ ที า นาส่วนประกอบทุกอย่างมาผสมให้เข้ากัน รดน้าให้ท่ัวแล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน ให้มี ความช้ืนพอเหมาะ ประมาณ 60 % นาไปกรอกใส่ถุงที่เตรียมไว้ อัดให้แน่น แล้วปิดฝาถุงให้แน่น สนิท แล้วนาไปนึ่งในความร้อน 100 องศา ประมาณ 4 - 5 ชั่วโมง ปล่อยให้เย็น ก็ทาการเขี่ยเชื้อ เห็ดลงในถุง พักใหเ้ ชอ้ื เดนิ ประมาณ 30 วัน แล้วนาไปเปดิ ดอก เหด็ จะออกดอกเปน็ ระยะ ประมาณ 5 - 6 เดือน
สูตรการเพาะเหด็ ภูฐานดา สว่ นประกอบ ไดแ้ ก่ - ข้ีเลอื่ ยไมย้ างพารา 100 กโิ ลกรมั - ราอ่อน 6 กิโลกรมั - ปนู ขาว 2 กโิ ลกรัม - พูไมท์ 1 กโิ ลกรมั - ยบิ ตซ์ ัม 5 ขีด - ดีเกลอื 3 ขีด - น้าให้อตั ราสว่ นให้ความชืน้ ประมาณ 60 เปอรเ์ ซ็นต์ - อุปกรณ์เสริม เช่นถุงบรรจุก้อน (มีถุงเฉพาะ) 110 ใบฝาปิด 110 อัน ปลอกรัดปาก ถุง 110 อนั วธิ ีทา นาสว่ นประกอบทกุ อยา่ งมาผสมให้เข้ากัน แล้วใช้รดน้าให้ท่ัว ผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน ใหค้ วามชื้นพอเหมาะประมาณ 60 % นาไปกรอกใส่ถุงที่เตรียมไว้ อัดให้แน่น แล้วใช้อุปกรณ์เข้าคอ ปิดฝาให้แน่นสนิท แล้วนาไปบรรจุใสถ่ งั น่งึ ในความรอ้ น 100 องศา ประมาณ 4-5 ช่ัวโมง นาออกมา ปล่อยทง้ิ ไว้ใหเ้ ยน็ ก็ทาการเขีย่ เชอ้ื เหด็ ลงในปากถุง ปิดปากด้วยกระดาษใช้หนังยางรัด แล้วนาไปพัก ไว้ประมาณ 30 วัน เพอ่ื ใหเ้ ช้อื เห็ดเดินจนทั่วในถุง จะสังเกตเห็นว่ามีเช้ือราเห็ดขึ้นขาวเต็มถุงแล้ว ก็ นาไปเปิดออกในโรงเรือนท่ีเตรียมเอาไว้ เห็ดนี้จะให้ผลผลิตดี และจะเก็บได้นานประมาณ 5 - 7 เดอื นถา้ ดแู ลทาความสะอาดไดด้ ี
ศนู ยเ์ รยี นร้ปู ราชญ์ชาวบ้านชมุ ชนศรี ษะอโศก ตั้งอย่เู ลขท่ี 335 หมู่ที่ 15 ตาบลกระแซง อาเภอกันทรลกั ษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ สูตรผสมขเี้ ลอ่ื ยทาก้อนเช้อื เหด็ เห็ดบด 100 กโิ ลกรัม 1. ขเ้ี ล่อื ย 3 ขดี 2. ดีเกลอ 5 ขีด 3. ยปิ ซั่ม 1 กิโลกรัม 4. ปนู ขาว 3 - 4 กโิ ลกรมั 5. ภูไบท์ 8 กิโลกรัม 6. ราอ่อน 350 กโิ ลกรมั เห็ดขอนขาว 30 กโิ ลกรมั 1. ข้เี ลื่อย 7 ขีด 2. รา 4 กโิ ลกรมั 3. ดเี กลอื 4 กิโลกรมั 4. ยปิ ซม่ั 2.5 กิโลกรัม 5. ปนู ขาว 3 กิโลกรัม 6. ภไู บท์ 2 กิโลกรัม 7. ปลายข้าว 8. อาหารเสรมิ 350 กโิ ลกรมั 30 กิโลกรมั เหด็ นางฟ้า 3 กโิ ลกรมั 1. ข้ีเลอ่ื ย 0.5 ขดี 2. รา 3 กิโลกรัม 3. ปนู ขาว 1 กิโลกรมั 4. ดเี กลอื 3 กโิ ลกรัม 5. ยปิ ซมั่ 6. ยเู รีย 7. ภูไบท์
เหด็ หหู นู 8. น้าตาล 2 กิโลกรมั 9. ปลายขา้ ว 2 กิโลกรมั 10. อาหารเสริม 2 กิโลกรัม 1. ขี้เลอ่ื ย 350 กโิ ลกรัม 2. รา 30 กิโลกรัม 3. ดีเกลือ 7 ขีด 4. ยิปซั่ม 4 กิโลกรัม 5. ปูนขาว 4 กโิ ลกรมั 6. ภไู บท์ 2 กโิ ลกรมั 7. ปลายข้าว 3 กโิ ลกรัม 8. อาหารเสรมิ 2 กิโลกรัม
ศนู ย์เรยี นรเู้ กษตรทฤษฎใี หม่มหาวิชชาลยั ภูมปิ ญั ญาไทอสี านคนื ถน่ิ ต้งั อยู่เลขที่ 142 หมูท่ ี่ 10 บา้ นกดุ ซวย ตาบลคา พระ อาเภอหัวตะพาน จังหวัดอานาจเจริญ การเพาะเห็ดในท่อนไม้ จากแนวทางการพัฒนาอาชีพการเพาะเห็ดในท่อนไม้ที่ผ่านมา พบว่าเห็ดแต่ละชนิดก็ จะเกิดดอกในท่อนไม้ท่ีแตกต่างชนิดกันออกไป เช่น เห็ดบด จะเกิดดอกได้ดีในไม้พะยอม บาก พลวง แคน เป็นตน้ เหด็ ขอนขาว จะเกดิ ดอกได้ดีในไม้มะม่วง บาก เหล่อื ม เปน็ ต้น และสาหรับเห็ด หหู นู เกิดดอกไดด้ ีในไม้แค ขนนุ น้อยหนา่ และไม้ตระกูลไทร เปน็ ต้น การเตรยี มทอ่ นไม้และอุปกรณ์ สามารถใช้ได้ท้ังไม้สดและไม้แห้ง จากการศึกษาพบว่า ไม้สดสามารถทาได้ง่ายและ สะดวกกวา่ สามารถใส่เชือ้ เห็ดได้เลย แต่ถ้าเป็นไม้แห้งต้องนาไปแช่น้าก่อน 1-2 คืน จึงนามาใส่เช้ือ เห็ด ฤดูกาลท่ีเหมาะสมในการตดั กิ่งไม้สดมาเพาะเห็ดคือ ฤดูใบไม้ร่วง ต้นไม้จะมีการสะสมอาหารท่ี มากกวา่ วสั ดุอุปกรณ์ที่ใช้ ประกอบด้วย อุปกรณ์เจาะรูท่อนไม้ ค้อน จุกปิด และเช้ือเห็ดท่ีดีมีความ แข็งแรง ขนาดและความยาวของไม้ สามารถใช้ได้ทุกขนาด แต่ให้คานึงถึงความสะดวกในการปฏิบัติงาน โดยปกตินิยมใช้ ไม้ขนาดเสน้ ผา่ ศูนย์กลาง 10-20 เซนติเมตร ยาว 1 เมตร เจาะรลู กึ 1 นิว้ หา่ งกันประมาณ 1 ฝ่ามือ หรือ 10 เซนติเมตร ใช้เหล็กเจาะรู หรือสว่านขนาด 4-5 หุน หลังจากน้ัน ใช้เชื้อเห็ดท่ีเล้ียงบนข้ี เล่ือยหรือในเมล็ดข้าวฟ่างก็ได้ ใส่ลงไปในรูจนเต็ม ใช้ไม้ท่ีสะอาดกดลงไปให้แน่นพอประมาณ ปิดรู ด้วยจุกไม้ที่ได้จากเหล็กเจาะเปลือกออกมา หรือฝาพลาสติกสาหรับเพาะเห็ด ในขอนไม้ท่ีมีขาย โดยเฉพาะ หรือใชฝ้ าจีบขวดน้าอดั ลมหรือเบียรป์ ดิ แทนก็ได้ การพักและบม่ ท่อนเชื้อเห็ด หลังจากใส่เช้ือเห็ดเรียบร้อยแล้วให้พักท่อนเชื้อเพื่อรอให้ เชื้อเห็ดเจริญ เติบโตเข้าไป ในเน้ือไม้มากที่สุด โดยวางพักในพื้นที่สะอาด มีการถ่ายเทอากาศสะดวก ลมไม่โกรก และควรมี ความชื้นพอสมควร อาจเป็นใต้ร่มไม้ หรือในโรงเรือนท่ีมีหลังคากันแสงแดด ท่อนเชื้อไม่ควรสัมผัส กบั ดนิ โดยตรง ควรหาวสั ดรุ องรบั
การวาง ให้วางแบบหมอนรถไฟ โดยเอาท่อนไม้ขนาดใหญ่กว่าไว้ด้านนอก ท่อนเล็กไว้ ด้านใน เน่ืองจาก ท่อนไม้เล็กจะแห้งเร็ว ในระหว่างการพักท่อนเชื้อมีข้อควรระวัง คือ อย่าให้เช้ือจุลินทรีย์อื่นขึ้นบน ท่อนเช้ือ เช่น ราเขียว วัชเห็ด หรือเห็ดที่เพาะเกิดดอกก่อนในช่วงพักท่อนเชื้อ โดยใช้มีดหรือเหล็ก แหลมขูดออกให้หมด นอกจากน้ีข้อควรระวังอีกข้อคือ ความช้ืนในท่อนไม้หลังจากวางท่อนเช้ือไว้ ประมาณ 10-15 วัน ให้สังเกตดูความชื้นของท่อนไม้ เพราะเม่ือเห็ดเจริญเข้าไปในเนื้อไม้ ความชื้น ของท่อนไม้จะลดลงมีผลต่อการเจริญของเห็ด ดังน้ันให้รดน้าช่วยแต่ไม่มากเกินไปประมาณสัปดาห์ ละ 1-2 คร้ัง จนกว่าเชือ้ จะเดินเต็มท่อนไม้ และควรกลบั กองทุกคร้ังท่ีรดน้า โดยเอาท่อนเช้ือ ท่ีอยู่ ด้านล่างขึ้นด้านบน และท่อนเชื้อท่ีอยู่ด้านบนลงด้านล่าง ที่อยู่ข้างนอกเข้าด้านใน ท่ีอยู่ด้านในออก ด้านนอก เป็นการกระตุ้นให้เสน้ ใยเหด็ เดนิ ท่วั ทอ่ นไมไ้ ดเ้ รว็ ย่งิ ขึน้ 40-60 วัน เชอื้ จะเดนิ เต็มทอ่ นไม้ การทากอ้ นเชอื้ เหด็ ในถุงพลาสตกิ การเพาะเหด็ ในถงุ พลาสตกิ กาลังเป็นท่ีนิยมอย่างแพร่หลาย เน่ืองจากมีวัสดุท่ีเหลือใช้ จากการเกษตรมากมาย เช่น ข้ีเลื่อย ฟางข้าว ซังข้าวโพด ผักตบชวาและ เปลือกถ่ัวต่างๆ เป็นต้น และการเพาะเห็ดในถุงพลาสติกเป็นอีกอาชีพหนึ่งท่ีสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ เกษตรกรให้ดีขึ้น สามารถนาวัสดุเหลือใช้จากการเกษตรและอุตสาหกรรมมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ โดยนามาเพาะเห็ดได้หลายชนิด เช่น เห็ดลม เป๋าฮ้ือ นางฟ้า นางรม หูหนู ขอนขาว และชนิดอ่ืนๆ อกี มากมาย นอกจากนีก้ ารเพาะเห็ดไม่มวี ิธที สี่ ลบั ซบั ซอ้ น และมีความตอ้ งการ ใชน้ ้านอ้ ยกว่าพืชผัก ผลตอบแทนคอ่ นข้างสูงคมุ้ ค่าการลงทุน นามาเป็นอาชีพหลกั และอาชีพเสริมได้ ในการเพาะเห็ดและทาให้เห็ดออกดอก ส่วนมากจะใช้ถุงพลาสติกที่ทนร้อน วัสดุท่ีใช้ ในการเพาะขึ้นอยู่กับท้องที่ว่ามีวัสดุประเภทใด ไม่ว่าจะเป็นฟางข้าว ผักตบชวา ซังข้าวโพด แต่ท่ี นิยมมากที่สุดคือ ขี้เล่ือยไม้ยางพารา เนื่องจากหาได้ในปริมาณมากง่ายกว่าหลาย ๆ ชนิด และมี คุณสมบัติในการย่อยสลายตัวเร็ว เห็ดสามารถนาไปใช้ในการเจริญเติบโตได้ดี นอกจากนี้การเพาะ เห็ดในเชิงเศรษฐกจิ ยงั ตอ้ งเสริมด้วยอาหารเสรมิ อกี หลายชนิด เช่น รา ขา้ วโพดป่น กากถว่ั ป่น ฯลฯ วัสดุอปุ กรณ์ (1) ถงุ พลาสติกทนร้อนขนาด 7x11 น้วิ หรอื 7x13 นิว้ หรือ 9x12 นิ้ว (2) ข้ีเล่ือยไมย้ างพาราหรอื ฟางสับ (3) อาหารเสริม ไดแ้ ก่ ราละเอียด ข้าวโพดป่น กากถั่วเหลือง น้าตาล แป้งข้าวเหนียว หรอื แปง้ ขา้ วเจา้
(4) คอขวดพลาสติก (5) ดีเกลอื (6) ยิปซมั ปูนขาว (7) หม้อนงึ่ ฆ่าเชอื้ สูตรการทาก้อนเช้ือเห็ด มีความแตกต่างกันแต่ละท้องถิ่น ท่ีสามารถจัดหาวัสดุได้ง่ายแล้วนามา ผสมคลุกเคล้ากับอาหารเสริมชนิดต่างๆ สูตรท่ีแนะนาได้ผ่านการทดลองแล้วได้ผลระดับที่น่า พอใจ ดงั น้ี สตู รที่ 1 ใช้ได้กับเหด็ ถุงทัว่ ไป 100 กโิ ลกรัม - ข้เี ลอื่ ยไมย้ างพาราแหง้ 5-7 กโิ ลกรัม - ราละเอียด 0.2 กิโลกรัม - ดเี กลอื 1 กิโลกรัม - ปนู ขาว 1-2 กโิ ลกรัม - น้าตาลทราย 60 - 70 เปอร์เซ็นต์ - น้า สูตรท่ี 2 ใช้ไดก้ บั เห็ดถงุ ทั่วไป - ขี้เลื่อยไมย้ างพาราแห้ง 100 กิโลกรมั กโิ ลกรมั - ราละเอยี ด 5-7 กิโลกรมั กโิ ลกรัม - ปูนขาว 1 กิโลกรัม เปอร์เซน็ ต์ - ยปิ ซัม 2 - ดเี กลอื 0.2 - ความชนื้ 60 - 65 การทาใหเ้ กดิ ดอก หลังจากเช้ือเดินเต็มท่อนไม้ให้นาท่อนเช้ือไปแช่น้าท้ิงไว้ 24-48 ช่ัวโมง ถ้าแช่ใน น้า เย็นอณุ หภมู ิ 15-18oC จะกระตุ้นให้เกดิ ดอกเร็วข้ึน โดยหาวัสดุทีห่ นัก ๆ มาทับน้าให้จมน้าไว้เพื่อให้ ท่อนไม้ดูดซึมน้าได้เต็มท่ี จากน้ันใช้ค้อนตีแรง ๆ ที่ปลายท้ังสองด้านของท่อนไม้เพ่ือกระตุ้นให้ เนื้อเยื่อของไม้ขยายตัว และอากาศเข้าไปในเน้ือไม้ได้ จากนั้นจึงนาไปวางในโรงเรือนแบบเผาข้าว หลาม หากเป็นเหด็ บด เห็ดขอนขาว ให้เปิดดอกในโรงเรือนทรี่ อ้ นชน้ื สาหรบั เห็ดหหู นู ให้เปิดดอก
ในโรงเรอื นท่เี ยน็ ชนื้ คลมุ ด้วยผ้าพลาสติกหรือกระสอบปยุ๋ รดนา้ ทุกวนั ๆ ละ 2-3 ครั้ง ตอนเช้า บ่าย และเย็น ประมาณ 7-14 วัน จะเกิดตุ่มเห็ดเล็กๆ ข้ึน หลังจากนั้นประมาณ 2-5 วัน สามารถเก็บ ดอกเหด็ และเก็บผลผลิตไปได้เรื่อยๆ หากสังเกตเห็นว่าดอกเห็ดเล็กลงและมีจานวนน้อย ให้ทาการ บม่ เชอ้ื ใหม่ โดยเอาไปผึ่งลมด้านนอกโรงเรือนไม่ต้องรดน้า 10-15 วัน จากน้ันนาไปแช่น้า ตีกระตุ้น ดว้ ยค้อน แลว้ จึงนากลับเข้าโรงเรอื นเปดิ ดอกใหม่ ทาเช่นนี้เรื่อยๆ จนกว่าทอ่ นไม้จะผุหมด สูตรท่ี 3 ใชไ้ ดก้ ับเห็ดถงุ ทั่วไป 100 กโิ ลกรัม - ฟางข้าว 7 กโิ ลกรมั - ราละเอยี ด 1 กโิ ลกรัม - ปนู ขาว 0.2 กิโลกรัม - ดเี กลือ 0.5 กิโลกรัม - ยูเรีย 60 - 70 เปอรเ์ ซ็นต์ - นา้ สะอาด (ความชนื้ ) สูตรท่ี 4 - ข้ีเล่อื ยไมเ้ บญจพรรณ 100 กิโลกรมั - แอมโมเนียมซลั เฟต 1 กโิ ลกรัม - ปูนขาว 1 กิโลกรัม - ราละเอยี ด 3-5 กิโลกรัม - นา้ ตาลทราย 2 กิโลกรัม - น้า 60 - 70 เปอร์เซ็นต์ ขัน้ ตอนและวิธีการทากอ้ นเชื้อปุย๋ หมกั จากข้ีเลอ่ื ย (1) นาข้ีเลอ่ื ยมากองบนพืน้ ซีเมนต์ ตามจานวนที่คานวณไวต้ ามสูตร หากเป็นขเ้ี ลอื่ ยไม้ เบญจพรรณ ตอ้ งทาการหมกั ไว้กอ่ น 1-2 เดอื น ถ้าเปน็ ข้ีเลื่อยไม้ยางพารา สามารถนามาเพาะได้เลย (2) ผสมวัสดุปรับระดับค่าความเป็นกรด-ด่าง และอาหารเสริมตามสูตร คลุกเคล้าให้ เขา้ กนั (3) เติมน้าลงในกองขี้เลื่อย และคลุกเคล้าให้ความชื้นกระจายได้ท่ัวทุกส่วนของวัสดุ ผสม ปรบั ความชืน้ ใหไ้ ด้ 60-70 เปอรเ์ ซน็ ต์ สามารถทดสอบได้โดยใชม้ ือกาขเ้ี ลือ่ ยใหแ้ นน่ ไม่มนี า้ ไหล ออกตามง่ามมือ แบมอื ออกก้อนขี้เล่ือยยงั จบั ตัวเป็นก้อนอย่างหลวมๆ แสดงว่าเป็นระดับความชื้นท่ี พอดี
(4) นาสว่ นผสมปุ๋ยหมกั ข้ีเลือ่ ยบรรจุในถุงพลาสตกิ ทนร้อนขนาด 7x13 นวิ้ หรือ 9x12 น้ิว ให้มีน้าหนักประมาณ 0.8 - 1 กิโลกรัมต่อถุง แล้วอัดให้แน่นพอสมควร รวบปากถุงสวมคอขวด พลาสติก พับปากถุงลงมารัดหนังยางให้แน่น อุดด้วยจุกสาลีปิดทับด้วยกระดาษหรือฝาครอบ พลาสติกอกี ครง้ั (5) นาถุงปุ๋ยหมักไปนึ่งฆ่าเชื้อ โดยหม้อนึ่งลูกทุ่งอุณหภูมิประมาณ 80-100 oC นาน ประมาณ 2 - 6 ชว่ั โมง นับจากอณุ หภูมินา้ เดือดแลว้ ปล่อยทง้ิ ไว้ให้เยน็ (6) นาถุงปุ๋ยหมกั ข้เี ลือ่ ยมาใส่เชอ้ื ที่ทาจากเมลด็ ข้าวฟ่างถุงละ 15 - 20 เมล็ด ระหว่าง ใส่หัวเช้ือต้องระมัดระวัง ควรทาในห้องท่ีสะอาด ลมไม่โกรก เพ่ือป้องกันการปนเปื้อนจาก เชอื้ จลุ ินทรีย์อ่ืนๆ (7) นากอ้ นเช้อื ปุ๋ยหมักไปเขา้ ห้องบ่มเชอื้ บม่ ในหอ้ งท่ีอุณหภูมิหอ้ งปกติ อากาศถ่ายเท ไดส้ ะดวก ลมไมโ่ กรก รอจนกระท่ังเส้นใยเดินเต็มถุงก้อนเชื้อ โดยท่ัวไปเห็ดนางฟ้า เห็ดนางรม เห็ด หูหนู เห็ดขอนขาว และเห็ดบด ใช้เวลาบ่มประมาณ 25-35 วัน จึงนาก้อนเช้ือปุ๋ยหมักไปเปิดดอก ต่อไป
ศูนย์เรียนรู้เกษตรทฤษฎใี หม่มหาวชิ ชาลยั ภูมปิ ัญญาไทอสี านคืนถิ่น ต้งั อย่เู ลขที่ 142 หมู่ที่ 10 บ้านกุดซวย ตาบลคาพระ อาเภอหวั ตะพาน จังหวดั อานาจเจริญ การเพาะเห็ดฟาง ในตะกร้า การเพาะเหด็ ฟางในตะกรา้ สูตรนพี้ ัฒนาขึ้นมาเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการเพาะเห็ด ฟาง ในตะกรา้ ใหไ้ ดด้ อกเห็ดที่มีน้าหนักมากขึ้น คุณภาพและรสชาติดีขึ้น วัสดุเพาะและอาหารเสริม นามาจากวสั ดุเหลือใช้ทางการเกษตรในท้องถนิ่ วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการเพาะเห็ดฟางในตะกร้า การเพาะเห็ดฟางในตะกร้าต้องใช้วัสดุอุปกรณ์ ดงั นี้ (1) ตะกร้าพลาสติก ตะกร้าทรงกลม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 18 น้ิว สูง ประมาณ 11 น้ิว มตี าหา่ ง 1 นิ้ว มจี านวนชอ่ งเป็นแถวจากล่างขึน้ บน 7 ช่อง ก้นตะกรา้ ไม่ทบึ ช่วยให้ ระบายน้าได้ดแี ละเห็ดสามารถออกดอกมาได้ตามตาของตะกรา้ ทุกดา้ นรวมท้งั ทางด้านลา่ ง (2) วัสดุเพาะ ท่ีนิยมได้แก่ ฟางข้าว เปลือกถั่วเหลือง ชานอ้อย กากเปลือกมัน สาปะหลัง กอ้ นวัสดุทีผ่ า่ นการเพาะเห็ดถุงมาแลว้ ไมม่ เี ชอื้ ราอน่ื ปนเปือ้ น และศัตรูเห็ดทาลาย (3) อาหารเสริม เป็นวัสดุที่ช่วยให้เช้ือเห็ดฟางช่วงแรกที่ใส่ลงวัสดุเพาะเจริญได้ดี ก่อนท่ีเช้ือเห็ดฟางจะเจริญลงในวัสดุเพาะ อาหารเสริมต้องเป็นวัสดุท่ีย่อยได้ง่าย เก็บความช้ืนได้ดี เป็นแหลง่ อาหารและพลังงานของเชอ้ื เหด็ ฟาง อาหารเสริมทห่ี าได้ง่ายและใหผ้ ลผลติ สงู เชน่ - ผกั ตบชวาสดห่ันเปน็ ชน้ิ เลก็ ๆ หัน่ เฉียงแบบปากฉลาม ขนาด 1-2 เซนติเมตร ใช้ได้ท้ังต้น ใบ และ ราก จะใชผ้ ักตบชวาแห้งก็ได้ - ไสน้ นุ่ ก่อนนามาใชใ้ หช้ ุบน้าพอหมาด ๆ - ต้นกลว้ ย ห่ันเป็นชน้ิ เล็ก ๆ นอกจากนี้อาจใช้แป้งสาลี ราละเอียด หรืออาหารเสริมสาเร็จรูปท่ีมีขายในท้องตลาด อย่างใดอย่าง หนึง่ นามาคลกุ เชื้อเหด็ ฟางกอ่ นเพาะก็ได้ (4) เช้ือเห็ดฟางท่ีดี ถ้าเป็นแบบหัวเชื้อถุง (Spawn) 1 ถุง ใช้เพาะได้ 3 ตะกร้า หรือ เชือ้ ถงุ (อีแบะ) 1 ถุง ใชเ้ พาะได้ 1 ตะกร้า
(5) พลาสตกิ คลุมวัสดุเพาะขณะเพาะเห็ดฟางในตะกร้า ใช้พลาสติกชนิดใสหรือสีก็ได้ ใช้พลาสติกแผ่นขนาดกว้าง 4x4 เมตร หรือใช้ถุงปุ๋ยเย็บติดต่อกันเป็นผืนใหญ่ก็ได้ หรือใช้พลาสติก ใสผนื ใหญ่ขนาดยาว 4 เมตร ซง่ึ มขี ายในท้องตลาด (6) วัสดุอุปกรณ์อานวยความสะดวกในการปฏิบัติการเพาะ เช่น บัวรดน้าชนิดฝอย ละเอียด เกรียงไม้ (สาหรับอัดวัสดุเพาะเห็ด) ไม้ทุบก้อนเชื้อเห็ด มีด ไม้ไผ่ แผงจาก แผงแฝก หรือ แผงหญา้ คา หรอื กระสอบป่าน ใช้พรางแสงแดด และปอ้ งกันลมได้ (7) โครงไม้ไผ่ทรงสุ่มไก่ (กระโจมไมไ้ ผ่) จัดทาเพอื่ ใชค้ รอบตะกรา้ กอ่ นใชพ้ ลาสตกิ คลุม ปกติใช้ไม้ไผ่สด ถ้าไม้ไผ่เก่าจะมีปัญหาเช้ือราเข้าไปเจริญบนวัสดุเพาะเห็ดฟางเสียหายได้ หากใช้ไม้ เก่าต้องทาด้วยน้ามันเครื่องใช้แล้วให้ชุ่ม เมื่อใช้โครงไม้ไผ่จนเก่าต้องนาไปตากแดด 2 วัน แล้วทา ด้วยน้ามันเคร่ืองท่ีใช้แล้วให้ทั่วจะช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวได้ โครงไม้ไผ่น้ีใช้ไม้ไผ่สดขนาดหนา 1 ซม. กว้าง 2 - 3 ซม. ยาว 3 เมตร จานวน 3 อัน ดัดไม้ให้โค้งทรงสุ่มให้ฐานกว้าง 1 เมตร นาไม้โค้งท้ัง สามอนั มาวางซ้อนกันและมัดส่วนโค้งส่วนท่สี งู ด้วยลวด จดั ปลายไม้ท่ีฐานทรงสุ่มให้มีระยะห่างเท่าๆ กัน จะได้โครงสุ่ม 6 ขา หรือใช้ไม้ไผ่ กว้าง 2 ซม. หนา 1 ซม. ยาว 4 เมตร โค้งเป็นวงกลม มัดด้วย ลวด จนแน่น จะได้ไม้คร่าววงกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 เมตร นาไปสวมจากขา ด้านล่างของโครงไม้ทั้ง 6 ขา สูงจากพื้นประมาณ 15 ซม. มัดด้วยลวดท่ีจุดสัมผัสของโครงไม้กับ คร่าวใหแ้ น่น การใช้โครงไมไ้ ผท่ รงสุ่มไก่ครอบตะกร้าเพาะเหด็ ฟางทว่ี างบนพืน้ 4 ใบ และอีกใบหนึง่ วางกง่ึ กลางตะกรา้ ชน้ั ล่างทัง้ 4 ใบนน้ั มหี ยวก กลว้ ยวางรองพื้นของตะกร้าทุกใบ ข้นั ตอนการเพาะเห็ดฟางในตะกร้า (1) ตะกร้าพลาสติก (2) เตรียมวสั ดุเพาะจากกอ้ นเช้ือเห็ดเก่า
(3) เตรียมอาหารเสรมิ จากผักตบชวา (4) ใส่ขเ้ี ลอ่ื ยสงู จากก้นตะกรา้ (5) โรยผกั ตบชวาเป็นอาหารเสริมรอบ ๆ ตะกรา้ (6) ใส่เช้ือเหด็ ฟางท่เี คลา้ แป้งสาลบี นอาหารเสรมิ (7) ใส่ขีเ้ ล่ือยทับเช้ือและกดให้แนน่ ทาอยา่ งน้ที ั้ง 2 ชั้น (8) ช้นั สดุ ท้าย ใส่อาหารเสรมิ และเชอ้ื เหด็ เต็มผิวหนา้
(9) ใสข่ ้ีเลอื่ ยหนา 1 นิ้วปดิ หน้า (10) รดน้าก่อนบม่ เสน้ ใย (11) ยกตะกรา้ ซอ้ นกันเป็นชั้น ปกั ไมไ้ ผเ่ ปน็ รูปโค้งรอบตะกรา้ หรือใช้สมุ่ (12) เทา่ น้ีกไ็ ด้เหด็ ฟางในตะกรา้ ไก่ครอบ แล้วคลมุ พลาสตกิ ให้มดิ กระโจมแบบตา่ ง ๆ สาหรบั เพาะเหด็ ฟางในตะกร้า กระโจมแบบถุงดาแขวน กระโจมแบบสุ่มไก่
ตารางการดแู ลรักษาการเพาะเหด็ ฟางในตะกรา้ ลาดับที่ ระยะเวลา วธิ ีการปฏิบัติ ข้อควรระวัง 1 วันท่ี 1 - 4 1. ดแู ลรักษาความชน้ื ในกระโจม 1. ระวงั พลาสตกิ ท่ีคลุมกระโจมหรอื คลมุ หรือโรงเรอื นให้อยู่ในระดบั โรงเรอื นฉกี ขาดหรอื มีเหตุให้พลาสติก มากกว่า 80 เปอร์เซน็ ต์ เปิดออกจะทาให้ความชืน้ สัมพัทธ์ 2. รักษาอุณหภมู ภิ ายในกระโจมหรอื ภายในนน้ั ลดลง โรงเรอื นใหอ้ ยูใ่ นระดบั 37-40 2. ต้องไมเ่ ปิดกระโจมหรือโรงเรือน องศาเซลเซยี ส บ่อยครั้ง 3. ป้องกันมด ปลวก และสัตวเ์ ล้ียง 3. ระวังศัตรูเห็ดฟาง เช่น มด ปลวก เช่น สนุ ขั แมว หนู 4. ระวังสตั วเ์ ล้ยี ง เชน่ แมว สุนขั หนู 1.ไม่ควรให้เสน้ ใยเหด็ ฟางถูกแสงแดดมาก 2 วันท่ี 4 1. เปดิ พลาสติกออกทัง้ หมด ท้ิงไว้ 2. หา้ มใชน้ ้าท่ีมีสารคลอรีน สารสม้ และ (ตอนเย็น) ประมาณ 2 ชัว่ โมง เพ่อื ใหเ้ สน้ ใย เกลอื โดยเด็ดขาด รวมทงั้ น้าเสียจาก เห็ดได้รบั ออกซเิ จนอย่างเพียงพอ โรงงานอตุ สาหกรรมดว้ ย 2. รดนา้ ดว้ ยบัวชนดิ ฝอยเพื่อตัดเส้น 3. ต้องพรางแสงหรือใช้พลาสติกทบึ แสง ใยและในกรณที ่ีวัสดุเพาะแห้ง คลุม 3. คลมุ ดว้ ยพลาสตกิ ไว้อย่างเดมิ 3 วนั ที่ 5 - 8 1. รดน้ารอบ ๆ กระโจมหรอื 1. ต้องรกั ษาความชน้ื อยา่ งสม่าเสมอ โรงเรือนให้ชุม่ ช้นื อยู่เสมอ 2. ตอ้ งตรวจสอบอุณหภูมอิ ยู่สม่าเสมอ 2.รกั ษาอุณหภูมิให้อยู่ระหว่าง 28-32 โดยเฉพาะตอนบ่าย องศาเซลเซียส หากอุณหภมู ิสูง 3. ถ้าอากาศภายในกระโจมหรือโรงเรอื น กวา่ นี้ต้องแก้ปญั หาโดยการเปดิ รอ้ นจดั ต้องระบายอากาศ ชอ่ งลมระบายอากาศ 4. อยา่ เปิดพลาสตกิ บ่อยครัง้ จะทาใหด้ อก 4 วันท่ี 9 - 15 1. เหด็ ฟางจะเรมิ่ ออกดอก ควรเกบ็ เหด็ ฝ่อ ในเวลาเช้า 1. เก็บดอกเหด็ ฟางดว้ ยความระมัดระวัง 2. เลอื กเก็บเฉพาะดอกทไี่ ด้ขนาด อยา่ ใหก้ ระทบกระเทอื นมากนัก 3. เก็บประมาณ 2-6 คร้ัง ผลผลติ 2. เกบ็ ด้วยความรวดเรว็ เฉลี่ยประมาณ (ข้ึนอยกู่ ับ 3. เกบ็ เฉพาะดอกเหด็ ที่ได้ขนาด วสั ดุเพาะ) 4. เก็บเสรจ็ แล้วคลมุ พลาสตกิ ไว้ตามเดิม
ศูนย์กสกิ รรมไรส้ ารพิษ แห่งประเทศไทย (สวน “สา่ งฝนั ”) บา้ นเลขที่ 216 หม่ทู ่ี 11 ตาบลบุ่ง อาเภอเมือง จังหวัดอานาจเจรญิ การเพาะเห็ดในขอนไม้ อุปกรณ์ 1) เชื้อเหด็ (ขอนขาว หูหนู เหด็ บด) 2) ไม้ทน่ี ยิ มใชเ้ พาะเหด็ ได้แก่ ไม้จกิ ไมร้ ัง ไมม้ ะมว่ ง เห็ดจะออกดอกได้ดี วิธที า 1) ตดั ไมจ้ ากตน้ ไมส้ ด ๆ หากตัดทงิ้ ไวไ้ ม่ควรเกนิ 5 วนั 2) ตัดเป็นทอ่ น ความยาวท่อนละ 1 เมตร 3) เจาะรูด้วยซ่ิว (ทาด้วยเหล็กแป๊บ ตัดปากเฉียง แล้วลับให้คม) หรือใช้สว่าน 4 หุน เจาะลกึ 2 - 3 เซนติเมตร แต่ละรูห่างกนั 15 เซนติเมตร 4) ใสเ่ ชือ้ เห็ดลงไปประมาณครง่ึ ของรทู ่เี จาะ 5) ปดิ รูดว้ ยล่ิมไม้ จุกไม้ที่เปน็ ไม้ชนดิ เดยี วกนั กบั ขอน 6) นาท่อนไมพ้ กั เกบ็ ไวใ้ นที่ร่ม ปล่อยทิง้ ไว้ 2 เดอื น 7) ครบ 2 เดอื น นาท่อนไมต้ ากแดด 7 วันครบ 7 วนั นามาแช่นา้ 1 คนื 8) นาเข้าโรงเปดิ ดอก โดยวางพงิ ราว ให้ท่อนไมเ้ อียงประมาณ 70 องศา 9) เห็ดจะทยอยออกดอกมาเรอื่ ย ๆ และเกบ็ ได้นานจนขอนผุ 10) ในฤดทู ีม่ ีเหด็ ออกดอกตามธรรมชาติ เห็ดในขอนจะออกดอกดมี าก
ศูนย์เรยี นรเู้ ศรษฐกิจพอเพยี งชุมชนสวนอา่ งแก้ว ต้ังอย่เู ลขท่ี 72 หม่ทู ี่ 10 บา้ นคาม่วงไข่ ตาบลโนนเปอื ย อาเภอกุดชมุ จงั หวดั ยโสธร การเพาะเห็ดขอนขาว เหด็ บด (เพาะใส่ทอ่ นไม้) วัสดอุ ปุ กรณ์ 1. ท่อนไมส้ ดตัดมาใหมๆ่ (ความยาวพอทีจ่ ะยกได้) 2. ฆอ้ นไม้ ฆอ้ นเหล็ก เหลก็ เจาะประมาณ 6 หนุ ยาว 20 เซนตเิ มตร สวา่ น 6 หนุ มีด 3. เชอ้ื เหด็ ทีก่ าลังเดินเต็มถงุ ขั้นตอนการเพาะ 1. นาสว่านมาเจาะรูท่อนไม้ (สว่านขนาด 6 หุน) ลึกประมาณ 1 ข้อมือ เป็นแถวห่าง กัน ประมาณ 1 คืบ ต่อ 1 รู ไม้แต่ละท่อนอาจจะไม่เท่ากันบางท่อนเจาะ 3 - 4 แถว แล้วแต่ขนาด ของไม้ ควรเป็นแถวสลับฟันปลา 2. แกะเห็ดออกจากถุง แล้วหยิบใส่รูท่ีเจาะไว้ให้เต็มรู แล้วกดให้แน่น ปิดด้วยฝาไม้ที่ เจาะออกแลว้ หรือกิง่ ไม้อดุ แทนก็ได้ การบม่ เห็ด เมื่อใส่เช้ือเห็ดท่ีท่อนไม้เรียบร้อยแล้ว ควรเก็บบ่มไว้ในที่ร่มถ้ามีผ้ายางคลุมก็จะดี ไม่ ควรตากแดดหรือตากลม บ่มไว้ประมาณ 20 วัน ถ้าอากาศแห้งควรรดน้าบ้างประมาณสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ถ้าจะให้ดีควรทาโรงเพาะเห็ดไว้เฉพาะ และเม่ือบ่มเห็ดครบกาหนดแล้วควรกระตุ้นให้เกิดเห็ด เร็วขึ้นโดยนาท่อนไม้มาตากแดดให้แห้งประมาณ 10 - 20 วัน แล้วนาไปแช่น้าประมาณ 2 - 3 วัน หาวสั ดทุ ห่ี นกั ทบั ใหจ้ มน้าเพอ่ื กาจดั แมลง ปลวก ดว้ ง และแมลงจาพวกอน่ื ๆ อกี การดแู ล หลังจากนาท่อนไม้ที่เพาะเห็ดเก็บเข้าโรงเรือนแล้วให้รดน้าให้ชุ่มแล้วปิดโรงเรือนให้ มิดชิด เพ่ือใหอ้ ากาศร้อนอบอ้าวประมาณ 3 - 4 วัน จากน้ันจะเห็นดอกเห็ดข้ึนตามท่อนไม้ ชุดแรก จะออกดอกใหญ่ (ดอกอาจจะไมม่ ีมากนกั ในช่วงแรกๆ) หมายเหตุ : ถ้าเห็ดออกดอกในชุดแรกแล้ว ท้ิงท่อนไม้ไว้ให้แห้งก่อน 10 - 20 วัน จึงนาไปแช่น้า ประมาณ 1 วัน จากนั้นก็เก็บเข้าโรงเรือน 3 - 4 วัน แล้วจะเห็นออกดอกและชุดต่อๆ ไป ก็ทา เช่นเดยี วกนั (นาทอ่ นไมเ้ กา่ มารดนา้ แทนกไ็ ด้)
ศูนย์เรยี นร้เู ศรษฐกจิ พอเพียงเพือ่ นาไปสกู่ ารพ่ึงตนเองอย่างยั่งยนื ตั้งอย่แู ปลงเกษตร นายเร่มิ ชรู ตั น์ เลขท่ี 105 หม่ทู ่ี 17 บา้ นโนนยาง ตาบลกาแมด อาเภอกดุ ชมุ จังหวดั ยโสธร การเพาะเหด็ ในขอนไม้ เห็ดหูหนู เห็ดบด เห็ดขอนขาว จัดเป็นเห็ดท่ีมีคุณสมบัติพิเศษ คือสามารถย่อยสลาย พวกเซลลูโลสในท่อนไม้ ดังนั้นจึงได้มีการศึกษาทดลองการเพาะเรื่อยมา การเพาะเห็ดในขอนไม้ นับว่าเป็นการเพาะท่ีมีข้ันตอนท่ีง่ายกว่าการเพาะเห็ดในถุงพลาสติก เพราะไม่ต้องมีการบ่มฆ่าเชื้อ ทอ่ นไม้ ผลผลิตทไี่ ดส้ งู พอสมควร (1) การเลอื กไม้ท่จี ะนาไปเพาะ เห็ดหูหนู เห็ดบด เห็ดขอนขาว สามารถท่ีจะเจริญเติบโตได้ในไม้หลายชนิด ไม่ว่าจะ เป็นไม่เนือ้ อ่อนหรือไม้เนื้อแข็ง ในไม้เนือ้ แข็งจะต้องใช้ระยะเวลาบ่มทีย่ าวนานกว่า แตโ่ ดยทัว่ ไปนยิ ม เพาะในไมเ้ นอ้ื ออ่ น เพราะไมเ้ น้ือออ่ นจะเจาะรูงา่ ย และเชื้อสามรถที่จะเจริญเตบิ โตเข้าไปได้ง่ายกว่า ตัวอยา่ งเช่น ไมน้ นทรี ไม้ขนุน ไมแ้ ค ไม้มะม่วง ไม้ยางพารา ไม้จามจุรี ไมน้ นุ่ ไม้สะเดา ไม้ทองหลาง ไมท้ องกวาว ไมไ้ ทรใบใหญ่ และไมม้ ะกอกปา่ เป็นต้น การท่ีเห็ดในท่อนไม้จะให้ผลผลิตสูงหรือต่าข้ึนอยู่กับไม้ท่ีจะนามาเพาะ ลักษณะของไม้มีผลต่อการ เจรญิ เติบโตของเห็ด ดงั น้นั ก่อนทีจ่ ะลงมอื เพาะเหด็ ควรศึกษาข้อมลู ดังตอ่ ไปน้ี 1. อายุของไม้ที่ใช้เพาะ การเพาะเห็ดในไม้ที่อายุน้อยจะให้ผลผลิตเร็วกว่าไม้ท่ีอายุ มาก แตไ่ มท้ ม่ี อี ายุมากระยะเวลาที่ใช้ในการเก็บผลผลติ จะได้ยาวนานกว่าไมท้ ี่มอี ายนุ ้อย อายุของไม้ ทีน่ ามาเพาะเห็ดควรอยรู่ ะหว่าง 3-5 ปี 2. ในการนาไม้มาเพาะเห็ดควรเป็นไม้ท่ีตัดมาใหม่ๆ ยังมีความสดอยู่ ควรมีเปลือกท่ี หนา ไม่มียางที่เป็นอันตรายต่อเห็ด แต่ถ้าเป็นไม้ท่ีมียางมาก เช่นไม้ขนุน ไม้ยางพารา ไม้ไทร ฯลฯ ควรตัดท้ิงไว้ประมาณ 1 สัปดาห์ เพ่ือให้ยางแห้ง หรือเหลืออยู่น้อยจนไม่เป็นอันตรายต่อการ เจริญเติบโตของเส้นใยเห็ด และการตัดไม้ไม่ควรให้เปลือกช้าหากเปลือกช้าควรใช้ปูนกินหมากทา เพ่อื ฆา่ เชื้อโรค 3. หากเลือกไดไ้ ม้ที่ตัดมาเพาะเห็ดหูหนูควรตัดในฤดูใบไม้ผลิ เพราะเป็นช่วงท่ีต้นไม้มี การสะสมอาหารมากซ่ึงหากนามาเพาะเห็ดแล้วจะทาให้เช้ือเห็ดเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็วและให้ ผลผลิตสูง
(2) การเตรยี มท่อนไม้สาหรับการเพาะเหด็ ควรปฏบิ ัติดงั น้ี 1. ขนาดของไม้ ควรเปน็ ไมท้ ีม่ ีเสน้ ผ่าศนู ย์กลางประมาณ 10 - 20 ซม. 2. ความยาวของทอ่ นไม้โดยทั่ว ๆไปนิยมตดั เปน็ ท่อนยาวประมาณ 1 เมตร (3) การเจาะรเู พาะเห็ดบนทอ่ นไม้ โดยทั่วไปในการเจาะรูท่อนไม้สาหรับใส่เช้ือเห็ดนิยมปฏิบัติกัน 2 วิธี การใช้เหล็กตอกประเก็นหรือ ค้อนเจาะสาหรับเพาะเห็ดหูหนูโดยเฉพาะ และวิธีการใช้สว่านไฟฟ้าขนาดดอกสว่านท่ีใช้ประมาณ 4-5 หุน ลกึ ประมาณ 3-5 ซ.ม. จากการสังเกต พบว่า การใชเ้ หลก็ ตอกประเก็นหรือคอ้ นเจาะต้นไม้ เพาะเหด็ โดยเฉพาะเชื้อเห็ดจะเจริญ ในท่อนไม้ได้รวดเร็วกว่าการใช้สว่านไฟฟ้าเจาะ การเจาะควร เจาะเป็นแถวให้รอยเจาะแต่ละแถวแต่ละรูห่างกันประมาณ 5-10 ซ.ม. ในการเจาะควรทาเป็นแถว สลบั ฟันปลาเพอ่ื ให้มีการกระจายของหวั เชอื้ มากที่สดุ (4) การใส่หัวเช้อื ในทอ่ นไม้ สาหรับหัวเช้ือที่นามาใส่ในท่อนไม้เพาะเห็ดควรเป็นหัวเชื้อท่ีนามาจาก ข้ีเล่ือย ควร เป็นหัวเชื้อที่แข็งแรง ที่เจริญเติบโตเต็มขวดๆ โดยการใช้ลวดแข็งๆ และสะอาดผ่านการฆ่าเชื้อ มาแล้วตีหัวเชื้อเห็ดท่ีเจริญเติบโตบนข้ีเล่ือยในขวดให้แตกกระจายตัว ไม่จับกันเป็นก้อนพร้อมกับ ค่อยๆ เทหัวเชื้อข้ีเลื่อยใส่ในรูบนท่อนไม้ที่เจาะไว้ใหม่ๆ จากน้ันใช้ไม้ตะเกียบหรือด้ามแท่งแก้วกวน สรลนไฟฆา่ เช้อื กระทุง้ หัวเชือ้ เห็ดทีใ่ สใ่ นรูบนทอ่ นไม้ให้แน่นพอสมควร แล้วอุดด้วยจุกไม้แล้วใช้ค้อน ทุบจุกให้แน่น เพ่ือป้องกันการปนเปื้อนหรือแมลงเข้าไปทาลายหัวเช้ือ หรืออาจจะใช้ขี้ผ้ึงอัดทับอีก คร้ังหนงึ่ เพอ่ื ปอ้ งกนั น้าเข้าไปถกู หัวเชอ้ื เห็ด (5) การพักหรอื การบม่ ทอ่ นเชอื้ หลังจากใส่หัวเช้ือเห็ดลงในท่อนไม้เรียบร้อยแล้ว จาเป็นต้องบ่มเช้ือในท่อนไม้ให้เช้ือ เห็ดเจริญเติบโตให้เต็มในท่อนไม้เสียก่อน การบ่มหรือการพักท่อนเช้ือ ให้บ่มในโรงเรือน ที่ร่มไม่มี แสงแดดที่เป็นหองที่สะอาดสามารถป้องกันลมและฝนได้ การวางท่อนเช้ือควรใช้ไม้หรืออิฐบล๊อก วางรองพื้นไม่ให้ท่อนเช้ือสัมผัสกับพื้นโดยตรงและนาท่อนไม้ท่ีใส่เช้ือมาวางนอนเหมือน การวาง หมอนรถไฟ ให้แต่ละท่อนห่างกันประมาณ 1 - 2 ซม. เพื่อช่วยให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก และ บรเิ วณท่อนเช้อื ไม่ควรมลี มโกรก เพราะจะทาให้ท่อนเชอ้ื สญู เสียความชน้ื ซ่งึ จะทาให้การเจริญเตบิ โต
ของเช้ือไม่ดีเท่าที่ควร ในสัปดาห์แรกพยายามรักษาความช้ืนในท่อนไม้ไว้ให้มากที่สุด เพ่ือเส้นใยจะ สามารถเจริญเติบโตได้ดี แต่ไม่ใช่เป็นการให้ความชื้นเพ่ิมโดยการรดน้า เพียงแต่เป็นการรักษา ความชื้นภายในท่อนไม้ไม่ให้สูญเสียไปโดยเร็ว หลังจากบ่มเชื้อแล้วประมาณ 5 - 7 วัน ควรมีการ กลับท่อนเชื้อเพอ่ื เป็นการเปล่ียนตาแหน่งของท่อนเช้ือ เพราะท่อนเชอื้ ท่อี ยู่ด้านล่างจะถูกทับและรับ น้าหนักมากเกินไป ซ่ึงจะทาให้เส้นใยถูกบีบตัว และการพลิกท่อนเช้ือจะทาให้เส้นใยของเห็ด เจริญเติบโตเต็มท่อนไม้ได้เร็วขึ้น โดยปกติการบ่มท่อนเชื้อจะใช้เวลาประมาณ 30 - 45 วัน เส้นใย เห็ดจะเจริญเตบิ โตเตม็ ทอ่ นไม้ (6) การทาให้เกดิ ดอก ในการทาใหเ้ ห็ดออกดอกนน้ั ตอ้ งนาท่อนเชอ้ื เข้าในโรงเรอื นเปิดดอกเห็ด โดยมขี นั้ ตอนดังน้ี 1. โรงเรอื นเปิดดอกเหด็ จะมีลักษณะเหมือนโรงเรือนเปิดก้อนเชื้อเห็ดโดยทั่วไปข้ึนกับ ชนิดของเหด็ ภายในโรงเรอื นเปิดดอกจะมีเฉพาะราวไม้สาหรับพาดท่อนเช้ือเห็ดให้ ราวไม้แต่ละแถว หา่ งกันประมาณ 1.5 เมตร 2. การกระตุ้นการออกดอกของเห็ดในท่อนไม้ โดยการนาท่อนเช้ือท่ีมีเส้นใยเดิมเต็ม แล้วไปแช่น้าท่ีมีอุณหภูมิ 15 - 18 องศาเซลเซียส นาน 12 - 20 ช.ม. เพ่ือกระตุ้นให้เส้นใยเห็ดท่ี หยดุ พักการเจรญิ เติบโต และสะสมอาหารอยตู่ น่ื ตัวขึ้นแลว้ รวมตัวกันเกิดเป็นดอกเห็ดได้เร็ว ท่อนไม้ ได้รับความชื้นจะทาให้เน้ือเยื่อไม้อ่อนตัวลง เส้นใยเห็ดสามารถย่อยเป็นอาหารได้เร็วย่ิงข้ึน และยัง เป็นการทาลายแมลงศตั รเู หด็ เชน่ แมลง ไร มด มอด เป็นต้น ซึ่งอาศัยอยู่บนกาบไม้ การแช่ท่อนไม้ ศัตรูเห็ดเหล่านี้ก็จะตายหมด หลังจากแช่น้าท่อนเช้ือแล้วให้ใช้ไม้ค้อนทุบแรง ๆ บริเวณหัวและท้าย ของท่อนเชอื้ 2 - 3 คร้งั เพือ่ เปน็ การกระตุน้ ใหเ้ นอ้ื เยื่อของไมข้ ยายตัว อากาศจะเขา้ ไปในเนื้อเย่ือไม้ ได้ดีข้ึน หลังจากน้ันนาท่อนเช้ือเข้าเพาะในโรงเรือน โดยวางท่อนเช้ือพาดราวไม้คล้ายการเผาข้าม หลาม ดอกเห็ดจะเร่ิมเจริญออกมา หลังจากนาท่อนเช้ือเข้าโรงเรือนแล้วประมาณ 4 - 5 วัน เมื่อ ดอกเห็ดเจรญิ เตบิ โตเต็มท่กี ็สามารถเกบ็ ผลผลิตได้ และสามารถเกบ็ ผลผลิตได้เรื่อยๆ จนกว่าท่อนไม้ จะผุหมด (7) การให้นา้ ควรรดน้าใหแ้ กท่ อ่ นเชอ้ื อยา่ งนอ้ ย วันละ 2 ครั้ง สาหรับในเวลากลางคืนควรปล่อยให้ มีการถ่ายเทอากาศที่ดี โดยการเปิดประตูโรงเรือนเพาะท่อนเชื้อเห็ดไว้ เพื่อต้องการออกซิเจนมา ชว่ ยในการสรา้ งดอกเห็ด
(8) การเกบ็ ผลผลิต หลังจากนาท่อนเชื้อที่มีเส้นใยเจริญเติบโตเต็มท่ีแล้วมาแช่น้าและนาเข้โรงเรือนเปิด ดอก ประมาณ 1 - 2 สัปดาห์ ก็สามารถเก็บผลผลิตได้ การเก็บโดยใช้มือดึงเอาออกท่ีโตเต็มที่แต่ยัง ไม่มีสปอร์ออกให้หมด และสามารถเก็บได้เรื่อยๆ จนกว่าขอนไม้จะผุหมด ซึ่งถ้าหากปฏิบัติตาม ขน้ั ตอนอยา่ งถกู ต้องแลว้ ไมข้ นาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 10 - 15 ซ.ม. ยาว 1 เมตร สามารถเก็บผลผลิต ได้ 6 - 10 กโิ ลกรัม
ศูนยเ์ กษตรทฤษฎใี หมเ่ ราสรา้ งกอ่ สถานท่ตี ง้ั บา้ นเลขที่ 63 หมู่ 6 ตาบลเหลา่ สรา้ งถ่อ อาเภอคาชะอี จังหวดั มุกดาหาร การเพาะเหด็ ฟางโดยการใช้ฟางขา้ ว วัสดุ/อุปกรณ์ 1) เชอื้ เห็ด 2) วสั ดเุ พาะ (ย่อยง่าย) 3) นา้ 4) อณุ หภูมิ (ประมาณ 35 องศาเซลเซยี ส) 5) อาหารเสริม 6) กลอ่ งไมส้ าหรับเพาะเห็ด 7) แผน่ พลาสติกขนาดใหญ่ วธิ ที า 1) นาฟางข้าวแช่นา้ 1 คนื 2) นาฟางใสก่ ล่องเพาะ 3) นาอาหารเสริมวางลงบนฟางให้ทั่ว 4) นาเชอ้ื เหด็ วางลงบนอาหารเสรมิ ใหท้ ่วั แล้วทาต้งั แตข่ ้อ 1 - 4 ซ้าอกี 2 รอบ 5) เมอ่ื เสรจ็ ชนั้ ที่ 3 แลว้ 6) นาอาหารเสรมิ มาวางทับชัน้ ที่ 3 7) นาเชือ้ เหด็ มาวางแลว้ เอาฟางมาวางทบั อีกที 8) เอากล่องไม้ไปวางควา่ ลงกบั พื้น 9) เอาพลาสติกคลมุ ทบั 10) นาฟางมาวางทับให้อย่บู นรอบแผน่ พลาสตกิ วิธที ดสอบความช้นื ของฟาง โดยการหยิบฟางออกมาจากกอง 1 เสน้ บดิ ดูแลว้ สังเกตดังนี้ 1) ถ้าพอมนี า้ ซมึ แสดงว่าความชืน้ กาลงั พอเหมาะ 2) ถา้ มีน้าหยดลงมา แสดงว่าฟางแฉะเกินไป ต้องเปิดพลาสติกท่ีคลมุ อยบู่ นเห็ดออก แลว้ ตากลมให้แหง้ ลงเลก็ นอ้ ย 3) ถ้าไม่มหี ยดน้า แสดงวา่ ฟางแหง้ เกินไป ตอ้ งเอาน้ามาพรมลงไปเลก็ นอ้ ย
การเพาะเห็ดฟางโดยการใชเ้ ศษขเ้ี ลื่อยและผักตบชวา วัสดุ/อปุ กรณ์ 1) เศษฟางแหง้ หญา้ คา นามารวมกนั แล้วทาเปน็ ขเ้ี ล่อื ย 2) น้า 3) อุณหภมู ิ 4) อาหารเสรมิ 5) ผักตบชวา ตน้ กล้วยสบั 6) ตะกรา้ พลาสติก 7) ถงุ พลาสติกสีดา 8) เชือ้ เหด็ 9) กอ้ นเห็ดเกา่ วิธที า 1) นาก้อนเห็ดเก่าใสต่ ะกร้าพลาสตกิ ประมาณ 3 นิว้ 2) นาผกั ตบชวาวางไว้รอบ ๆ ตะกร้า ยกเว้นตรงกลาง 3) ใสเ่ ชือ้ เหด็ รอบ ๆ ตะกร้า ยกเวน้ ตรงกลาง เช่นเดียวกนั กับผักตบชวา 4) นากอ้ นเหด็ เกา่ วางทับลงไปอีกคร้ัง 5) ทาซ้า ต้ังแต่ข้อ 1 - 4 จนครบ 3 คร้ัง 6) พรมน้าให้ทว่ั 7) นาใสถงุ พลาสตกิ สดี า รัดปากถุงให้แนน่ 8) นาไปไวใ้ นทม่ี ดื
Search