Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ความรู้รอบตัว

ความรู้รอบตัว

Published by ใบหยก กองทอง, 2022-06-16 06:16:24

Description: ความรู้รอบตัว

Search

Read the Text Version

1.เกาะทเ่ี ป็ นทา่ เรอื สำคญั ของไทย เกาะสชี งั สชี งั อำเภอทมี่ ขี นาดเล็กทส่ี ดุ ของประเทศไทย แตม่ คี ำจำกดั ความมากมายมหาศาลเชน่ นี้ เพยี งตำบล เล็กๆ ทชี่ อื่ วา่ ทา่ เทววงษ์ หา่ งจากฝังอำเภอศรรี าชา 12 กโิ ลเมตร ใชเ้ วลาเดนิ ทางประมาณ 30 – 45 นาที ขนาดพนื้ ทข่ี องเกาะมคี วามยาว 7.9 ตารางกโิ ลเมตร ประชากรอาศยั อยปู่ ระมาณ 10000 กวา่ คน / วนั ทงั้ ทเี่ ป็ นประชากรทแี่ ทจ้ รงิ และประชากรแฝง ประชากรสว่ นใหญน่ ับถอื พทุ ธศาสนา เกาะแหง่ นเี้ ป็ นท่ี รจู ้ ักมาตงั้ แตส่ มยั กรงุ ศรอี ยธุ ยาตอนปลาย ดว้ ยอากาศอนั บรสิ ทุ ธทิ์ ดี่ ี ทำใหส้ มยั ของพระจอมเกลา้ เจา้ อยู่ หวั (ร.4) ไดเ้ สด็จพระราชดำเนนิ มาทน่ี ่ี โดยในขณะนัน้ พระบาทสมเด็จพระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั (ร.5) โดยเสด็จพระราชดำเนนิ มาดว้ ย ทำใหช้ อ่ื สชี งั เป็ นทปี่ ระทบั พระราชหฤทยั มาตงั้ แตบ่ ดั นัน้ จวบจนถงึ รัช สมยั ของ พระองค์ พระโอรสเกดิ ประชวรขนึ้ เกาะสชี งั จงึ ไดเ้ ป็ นจดุ หมายปลายทางแรกทพ่ี ระองคท์ รง เลอื กเพอ่ื ใหพ้ ระราชโอรสมาพักผอ่ นและรักษาพระองค์ 2.ทางรถไฟสายแรกของไทย ทางรถไฟสายกรงุ เทพฯ-ปากน้ำ ทางรถไฟสายปากน้ำ ตอ่ มาเรยี ก รถไฟสายกรงุ เทพฯ–สมทุ รปราการ เป็ นทางรถไฟเอกชนทเ่ี ดนิ รถ ระหวา่ งสถานรี ถไฟหวั ลำโพง กรงุ เทพมหานคร กบั สถานรี ถไฟปากน้ำ จังหวดั สมทุ รปราการ[2] เป็ นระยะ ทาง 21.3 กโิ ลเมตร ตงั้ แต่ พ.ศ. 2436 ถงึ พ.ศ. 2503 เป็ นทางรถไฟสายแรกของประเทศไทย[3] ทก่ี อ่ ตงั้ ขน้ึ กอ่ นการเดนิ รถของรถไฟหลวงสายกรงุ เทพ-อยธุ ยาถงึ สามปี

3.อโุ มงคท์ ย่ี าวทส่ี ดุ อโุ มงคข์ นุ ตาล หรอื ถ้ำขนุ ตาล ที่ จ.ลำปาง อโุ มงคข์ นุ ตานคอื อโุ มงคร์ ถไฟทยี่ าวทส่ี ดุ ในประเทศไทย มคี วามยาว 1.3 กโิ ลเมตร ยาวเป็ นอนั ดบั ท่ี 1 จากจำนวน 7 อโุ มงคร์ ถไฟในประเทศไทยทม่ี อี ยใู่ นปัจจบุ นั และเรยี กไดว้ า่ เป็ นพนื้ ทป่ี ราบเซยี นของรถไฟ ทกุ ขบวนทยี่ า่ งกรายมาถงึ เชยี งใหม่ 4.ทางรถไฟสายทย่ี าวทส่ี ดุ ทางรถไฟสายใต ้ ยาวประมาณ 1,114 กม ทางรถไฟสายใต้ เป็ นทางรถไฟทเ่ี รม่ิ ตน้ จากสถานรี ถไฟธนบรุ ี กรงุ เทพมหานคร ผา่ นจังหวดั นครปฐม, ราชบรุ ,ี เพชรบรุ ,ี ประจวบครี ขี นั ธ,์ ชมุ พร, สรุ าษฎรธ์ าน,ี นครศรธี รรมราช, พัทลงุ , สงขลา, ปัตตาน,ี ยะลา และไปสดุ ปลายทางทส่ี ถานรี ถไฟสไุ หงโก-ลก จังหวดั นราธวิ าส และไปบรรจบกบั ทางรถไฟของประเทศ มาเลเซยี ทสี่ ถานรี ถไฟรันเตาปันจาง

5.ภเู ขาทใ่ี หญท่ ส่ี ดุ ทางภาคใต ้ เทอื กเขานครศรธี รรมราช ทวิ เขานครศรธี รรมราช มลี กั ษณะตงั้ เป็ นแกนกลางของคาบสมทุ รไทย (ภาคใตต้ อนกลาง) ทอดตวั ในแนวเหนอื -ใต ้ โดยเรม่ิ จากเกาะตา่ ง ๆ ในจังหวดั สรุ าษฎรธ์ านี คอื เกาะเตา่ เกาะนางยวน เกาะพงัน เกาะสมยุ เกาะกะเต็น และมบี างสว่ น ทจี่ มลงไปในทะเล เรยี กสว่ นนวี้ า่ ชอ่ งแคบสมยุ โดยมาโผลข่ นึ้ ที่ อำเภอดอนสกั เขตจังหวดั สรุ าษฎรธ์ านแี ละอำเภอขนอม เขตจังหวดั นครศรธี รรมราช จังหวดั พัทลงุ จังหวดั ตรัง โดยทวิ เขาทผี่ า่ นเขตจังหวดั พัทลงุ และตรัง ถอื เป็ นทกี่ นั้ เขตแดนระหวา่ ง 2 จังหวดั น้ี มกั เรยี ก อกี ชอื่ วา่ \"ทวิ เขาบรรทดั \" จากนัน้ แนวทวิ เขาทอดยาวลงไปยงั เขตแดนระหวา่ งจังหวดั สตลู กบั ประเทศ มาเลเซยี โดยบรรจบกบั ทวิ เขาสนั กาลาครี ที ภี่ เู ขาซนี า จังหวดั สตลู ซงึ่ เป็ นเขตแดนธรรมชาตริ ะหวา่ งไทย กบั มาเลเซยี มคี วามยาวประมาณ 460 กโิ ลเมตร

6.ยอดเขาทส่ี งู ทส่ี ดุ ยอดดอยอนิ ทนนท์ สงู 2,580 เมตร จากระดบั น้ำ ทะเล ดอยอนิ ทนนท์ เป็ นยอดเขาทส่ี งู ทส่ี ดุ ในประเทศไทย ตงั้ อยทู่ อี่ ำเภอจอมทอง จังหวดั เชยี งใหม่ เดมิ มชี อื่ วา่ \"ดอยหลวง\" หรอื \"ดอยหลวงอา่ งกา\" ชอ่ื ของ ดอยอนิ ทนนท์ เป็ นชอื่ ของกษัตรยิ พ์ ระนามวา่ พระเจา้ อนิ ทวชิ ยานนท์ เจา้ ผคู ้ รองนครเชยี งใหม่ ทรงเป็ นผทู ้ หี่ ว่ งใยในป่ าทางภาคเหนอื และพยายาม รักษาไว ้ ภายหลงั เสด็จพริ าลยั พระอฐั สิ ว่ นหนง่ึ ไดเ้ ชญิ ไปประดษิ ฐาน ณ พระสถปู บนยอดดอยหลวง และ เปลยี่ นชอ่ื เพอ่ื เป็ นเกยี รติ 7.น้ำตกทส่ี งู ทสี่ ดุ น้ำตกสริ ภิ มู ิ อ.จอมทอง จ.เชยี งใหม่ น้ำตกสริ ภิ มู ิ อกี หนง่ึ น้ำตกสวย ของ อทุ ยานแหง่ ชาตดิ อยอนิ ทนนท์ ใน ตำบลบา้ นหลวง อำเภอ จอมทอง จังหวดั เชยี งใหม่ เป็ นน้ำตกคทู่ ไ่ี หลลงมาเป็ นสายยาวจากหนา้ ผาสงู ชนั ไดแ้ บบสวยงามมากๆ ซงึ่ เมอ่ื กอ่ นนัน้ จะเรยี กกนั วา่ เลาลึ ตามชอื่ ของหมบู่ า้ นมง้ ทอี่ ยใู่ กลๆ้ น้ำตก แตภ่ ายหลงั กไ็ ดเ้ ปลย่ี นชอื่ มา เป็ น น้ำตกสริ ภิ มู ิ ตามพระนามาภไิ ธยของในหลวงรัชกาลที่ 9 และพระบรมราชนิ นี าถ

8.วนอทุ ยานแหง่ ชาตทิ อ่ี ยสู่ งู ทสี่ ดุ ภกู ระดงึ จ.เลย สดุ ของประเทศไทย เนอื่ งจากมธี รรมชาตทิ สี่ วยงาม ในแตล่ ะปีจงึ มคี นมาเทยี่ วเฉลยี่ หลายหมนื่ คน โดย เฉพาะในชว่ งวนั หยดุ ยาวมกั มนี ักทอ่ งเทยี่ วขนึ้ ไปพักผอ่ นบนภกู ระดงึ จำนวนมาก ภกู ระดงึ ไดร้ ับการจัดตงั้ เป็ นป่ าสงวนแหง่ ชาตใิ นปี พ.ศ. 2486 และเป็ นอทุ ยานแหง่ ชาตเิ มอ่ื วนั ท่ี 7 ตลุ าคม พ.ศ. 2502 โดยเป็ น อทุ ยานแหง่ ชาตลิ ำดบั ทส่ี องถดั จากอทุ ยานแหง่ ชาตเิ ขาใหญ่ 9.แหลง่ เพาะพันธปุ์ ลาทใ่ี หญท่ สี่ ดุ บงึ บรเพ็ด จังหวดั นครสวรรค์ พน้ื ทข่ี องบงึ บอระเพ็ดในอดตี นัน้ เป็ นทรี่ าบลมุ่ แวดลอ้ มไปดว้ ยป่ าไมเ้ บญจพรรณอนั อดุ มสมบรู ณ์ มลี ำคล องเล็กๆ ไหลผา่ นและประกอบไปดว้ ยหนองน้ำหลายแหง่ เมอ่ื ถงึ ฤดฝู นจะมนี ้ำทางเหนอื ไหลหลากทำให ้ บรเิ วณบงึ บอระเพ็ดมนี ้ำทว่ มเป็ นบรเิ วณกวา้ งจนกลายเป็ นทะเลสาบน้ำจดื ขนาดใหญ่ อดุ มไปดว้ ยสตั วน์ ้ำ นานาชนดิ ทงั้ พันธปุ์ ลาชนดิ ตา่ งๆ จระเข ้ กงุ ้ กา้ มกรามและตะพาบน้ำ โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ในเรอ่ื งจระเข ้ แลว้ เป็ นทเี่ ลอ่ื งลอื กนั วา่ บงึ บอระเพ็ดมจี ระเขช้ กุ ชมุ มาก จนผคู ้ นทนี่ ั่งรถไฟผา่ นบงึ บอระเพ็ดสามารถมอง เห็นจระเขท้ ล่ี อยอยใู่ นบงึ และสว่ นหนง่ึ กข็ นึ้ มานอนผงึ่ แดดตามชายบงึ หรอื บนเกาะ ในปี พ.ศ. 2466 ดร. ฮวิ จ์ เอ็ม สมทิ ชาวอเมรกิ นั ซง่ึ เป็ นทป่ี รกึ ษาดา้ นการประมง กระทรวงเกษตราธกิ ารไดอ้ อกสำรวจบงึ บอระเพ็ดและไดร้ ายงานผลการสำรวจเมอ่ื วนั ที่ 20 กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. 2466 วา่ บงึ บอระเพ็ดเป็ นแหลง่ น้ำ ขนาดใหญแ่ ละมคี วามสำคญั มากเกย่ี วกบั เรอ่ื งการประมง เพราะวา่ เป็ นแหลง่ พันธปุ์ ลา เป็ นทำเลทป่ี ลา อาศยั เลยี้ งตวั วางไข่ และแพรพ่ ันธุ์ ควรจะมกี ารบำรงุ รักษาใหเ้ ป็ นแหลง่ ทอี่ ยอู่ าศยั ของปลา ดงั นัน้ กระทรวงเกษตราธกิ ารจงึ ไดน้ ำเรอ่ื งนก้ี ราบบงั คมทลู ขอพระบรมราชานุญาตสงวนบงึ บอระเพ็ดไวเ้ ป็ นที่ สงวนพันธสุ์ ตั วน์ ้ำ โดยการสรา้ งคนั กนั้ น้ำและประตรู ะบายน้ำ เพอื่ เกบ็ กกั น้ำทร่ี ะดบั 23.80 ร.ท.ก. ตลอดปี และไดร้ ับพระบรมราชานุญาตใหด้ ำเนนิ การเมอื่ วนั ท่ี 8 มนี าคม 2469 การกอ่ สรา้ งทำนบกนั้ น้ำและ ประตรู ะบายน้ำเรมิ่ จากปี พ.ศ. 2470 และเสร็จในปี พ.ศ. 2471 สามารถกกั เกบ็ น้ำไดต้ ลอดปี

10.กษัตรยิ ไ์ ทยพระองคแ์ รก พอ่ ขนุ ศรอี นิ ทราทติ ย์ อขนุ ศรอี นิ ทราทติ ย์ หรอื พระนามเต็ม กมรเตงอญั ศรอี นิ ทรบดนิ ทราทติ ย์ พระนามเดมิ \"พอ่ ขนุ บาง กลางหาว\" เป็ นปฐมกษัตรยิ แ์ หง่ ราชวงศพ์ ระรว่ ง ตามประวตั ศิ าสตรไ์ ทย ทรงครองราชยต์ งั้ แต่ พ.ศ. 1781 ตราบจนเสด็จสวรรคตเมอ่ื พ.ศ. 1811 11.นายกรัฐมนตรคี นแรกของไทย พระยามโนปกรณน์ ติ ธิ าดา พระยามโนปกรณน์ ติ ธิ าดา หรอื มโนปกรณนติ ธิ าดา นามเดมิ กอ้ น หตุ ะสงิ ห์ (15 กรกฎาคม พ.ศ. 2427 – 1 ตลุ าคม พ.ศ. 2491) เป็ นขนุ นางชาวสยาม ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรสี ยามคนแรก หลงั จาก การปฏวิ ตั สิ ยาม พ.ศ. 2475 โดยไดร้ ับเลอื กจากสมาชกิ คณะราษฎร เพอ่ื เป็ นการประนอมอำนาจกบั อำนาจเกา่ เป็ นผมู ้ สี ว่ นสำคญั ในการรา่ งรัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรสยาม (พ.ศ. 2475) ซง่ึ มกี ารเพม่ิ พระราชอำนาจคนื เป็ นอนั มากเมอ่ื เทยี บกบั รัฐธรรมนูญฉบบั ชว่ั คราว กราบบงั คมทลู พระกรณุ าพระบาท สมเด็จพระปกเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ในการสงั่ ปิดสภาผแู ้ ทนราษฎรและงดใชร้ ัฐธรรมนูญบางมาตราในเดอื น เมษายน พ.ศ. 2476 ซง่ึ ถอื เป็ นรัฐประหารครัง้ แรกของไทย และเป็ นจดุ ดา่ งพรอ้ ยของประชาธปิ ไตยไทย มาจวบจนปัจจบุ นั สดุ ทา้ ยพระยามโนปกรณน์ ติ ธิ าดาถกู ขบั ออกจากตำแหน่งจากรัฐประหารในปี พ.ศ. 2476

12.ประธานสภาผแู ้ ทนราษฎรคนแรกของไทย เจา้ พระยาธรรมศกั ด์ิ มนตรี มหาอำมาตยเ์ อก เจา้ พระยาธรรมศกั ดม์ิ นตรี (สนน่ั เทพหสั ดนิ ณ อยธุ ยา) (1 มกราคม พ.ศ. 2419 – 1 กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. 2486) นามปากกา ครเู ทพ เป็ นขนุ นางชาวไทย เคยเป็ นเสนาบดกี ระทรวงธรรมการ และเป็ นประธานสภาผแู ้ ทนราษฎรคนแรก ผวู ้ างรากฐานการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐานและอาชวี ศกึ ษา ทงั้ ไดร้ ว่ ม ดำรใิ หก้ อ่ ตงั้ มหาวทิ ยาลยั แหง่ แรกของประเทศ คอื จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั และเป็ นผแู ้ ปลกตกิ า ฟตุ บอลมาเผยแพรใ่ นประเทศไทย นอกจากน้ี ยงั เป็ นนักประพันธ์ งานประพันธเ์ ลอ่ื งชอ่ื คอื เพลงกราว กฬี า และเพลงชาตไิ ทยฉบบั กอ่ นปัจจบุ นั


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook