Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore งาน-is

งาน-is

Published by 21158, 2020-11-07 06:05:01

Description: งาน-is

Search

Read the Text Version

โครงงาน IS เร่ือง สเปรยห์ อมไล่ยงุ จากตะไคร้ จดั ทาโดย นายกฤษกร คนั ทะลือ เลขที่ 2 นางสาวภทั ธิรา จิณเสน เลขที่ 4 นางสาวกุศริน อินทร์งาม เลขที่ 18 นางสาวอญั รินทร์ รังษภี วู เจริญโชติ เลขท่ี 19 นางสาวเมธาวี ผาทอง เลขท่ี 37 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 5/5 เสนอ นายดารง คนั ธะเรศย์ โรงเรียนปัว อาเภอปัว จงั หวดั น่าน สานกั งานเขตพ้นื ที่การศึกษามธั ยมศึกษา เขต 37 โครงงานฉบบั น้ีเป็นส่วนหน่ึงของวิชา IS1 รหสั วชิ า I30201 ภาคเรียนท่ี 1 ปี การศึกษา 2563

กติ ติประกาศ โครงงาน เร่ืองสเปรยห์ อมไล่ยงุ จากตะไคร้ สาเร็จไดด้ ว้ ยความร่วมมือของสมาชิกในกลมุ่ และขอขอบคณุ ครูดารง คนั ธะเรศย์ ท่ีเป็นที่ปรึกษาโครงงาน และ ใหม้ ีความรู้ในการในการทาโครงงานฉบบั บน้ี และทาใหเ้ กิดโครงงานน้ี จึงขอบคุณทกุ ท่านท่ีสนบั สนุนการทางาน จจนโครงงานฉบบั น้ีสาเร็จลุล่วงดว้ ยดี สมาชิกในกลุ่มขอ กราบขอบพระคุณมา ณ โอกาสน้ี คณะผจู้ ดั ทา 21/10/2563

บทคัดย่อ ตะไคร้เป็นสมุนไพรท่ีหาไดง้ ่ายในประเทสไทย และใชเ้ วลาเพาะไมน่ าน ซ่ึงคนไทยนิยมนาตะไคร้มาใช้ ประโยชนม์ ากมาย ในปัจจุบนั คนส่วนใหญส่ กดั น้ามนั หองละเหยเป็นส่วนผสมของสเปรยไ์ ลย่ งุ ซ่ึงเป็นสารพษิ ท่ีอนั ตรายต่อร่างกายสูง และอาจอนั ตรายทาใหเ้ สียชีวติ ได้ คณะผจู้ ดั ทาจึงไดค้ ิดการทาสเปรยห์ อมไลย่ งุ ที่มาจากวสั ดุธรรมชาติ คือ สเปรยห์ อมไลย่ งุ จากตะไคร้ เป็นการนาวสั ดุใกลต้ วั มาใชใ้ หเ้ กิดประโยชนห์ าไดง้ า่ ยในทกุ พ้นื ที่และไม่มีผลกระทบต่อส่ิงแวดลอ้ มใน ธรรมชาติ มีข้นั ตอนในการทาไมย่ ากจนเกินไป

สารบัญ เร่ือง หนา้ กิตติประกาศ ก บทคดั ยอ่ ข บทที่1 บทนา 1 1 -ท่ีมาและความสาคญั ของโครงงาน 1 -วตั ถุประสงค์ 1 -สมมุติฐาน 1 -ขอบเขตของการทาโครงงาน 2 -ผลที่คาดวา่ จะไดร้ ับ 3 บทที่2 เอกสารที่เกี่ยวขอ้ ง 4 บทที่3 ข้นั ตอนการดาเนินงาน 4 -วสั ดุอุปกรณ์ 4 -ข้นั ตองการทา 5 บทที่4 ผลการศึกษาคน้ ควา้ 6 บทที่5 สรุปอภิปรายผลและขอ้ เสนอแนะ 7 บรรณานุกรม

บทที่ 1 บทนา ที่มาและความสาคญั ของโครงงาน เนื่องจากในช่วงฤดูฝนในปี ที่ผา่ นมีโรคระบาดคือโรคไขเ้ ลือดออก มีท้งั เดก็ และผใู้ หญ่ที่เป็นโรค ไขเ้ ลือดออกบางคนถึงกบั ตอ้ งเสียชีวติ ซ่ึงมีพาหะนาโรคในกค็ อื ยงุ จึงคดิ สเปรยห์ อมไล่ยงุ น้ีมาเพ่ือกาจดั ยงุ ท่ี เป็นพาหะในการนาโรค การใชส้ เปรยส์ ารเคมีบางคร้ังอาจมีอนั ตรายกบั ตวั เราได้ เราจึงไดค้ ดิ การทาสเปรย์ หอมไลย่ งุ ที่มาจากวสั ดุธรรมชาติ คือ สเปรยห์ อมไลย่ งุ จากตะไคร้ เป็นการนาวสั ดุใกลต้ วั มาใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์ หาไดง้ ่ายในทุกพ้ืนที่และไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดลอ้ มในธรรมชาติ มีข้นั ตอนในการทาไมย่ ากจนเกินไป วตั ถปุ ระสงค์ -เพอื่ ป้องกนั ยงุ ใหน้ อ้ ยลงเพ่ือลดไขเ้ ลือดออก -เพื่อศึกษาการทางานของสมุนไพรไลย่ งุ -ตอ้ งการทาสมุนไพรไลย่ งุ โดยใชว้ ตั ถดุ ิบทางธรรมชาติ -ไดร้ ู้จกั นาสมุนไพรไทยมาใชใ้ หเ้ กิดประโยชนส์ ูงสุด -ประหยดั และปลอดภยั จากสารพิษ สมมตุ ิฐาน สเปรยห์ อมไล่ยงุ จากตะไคร้สามารถไลย่ งุ ได้ ขอบเขตของการทาโครงงาน 1.ข้นั ตอนการทาสเปรยต์ ะไคร้ 2. การออกแบบบรรณจุภณั ฑ์ 3. ข้นั ตอนการใชผ้ ลิตภณั ฑ์ 4.สรุปรายงานผล

ผลท่ีคาดวา่ จะไดร้ ับ 1. สามารถป้องกนั ยงุ ได้ 2. สามารถออกฤทธ์ิไดน้ าน 3. ไม่มีกลิ่นเหมน็ หรือกลิ่นฉุนของส่วนผสม 4.ไดร้ ู้จกั ใชเ้ วลาวา่ งให้เกิดประโยชน์ 5.สามารถนาความรู้น้ีไปประกอบรายไดเ้ สริม

บทที่ 2 เอกสารทีเ่ กย่ี วข้อง ตะไคร้ ตะไคร้ (ชื่อวิทยาศาสตร์: Cymbopogon citratus) เป็นพชื ลม้ ลกุ ในวงศห์ ญา้ (Poaceae) ความสูง ประมาณ 4-6 ฟุต ใบยาวเรียว ปลายใบมีขนหนาม ลาตน้ รวมกนั เป็นกอ มีกลิ่นหอม เป็นช่อยาวมีดอกเลก็ ฝอย เป็นจานวนมาก ตะไคร้เป็นพืชที่สามารถนาส่วนตน้ หวั ไปประกอบอาหาร และจดั เป็นพืชสมนุ ไพรดว้ ย ประโยชน์ของตะไคร้ ประโยชน์ของตะไคร้มีมากมายเช่นใชเ้ ป็นยารักษาโรคหืด แกป้ วดทอ้ ง ขบั ปัสสาวะและแก้ อหิวาตกโรค หรือทาเป็นยาทานวดกไ็ ด้ และยงั ใชร้ วมกบั สมุนไพรชนิดอ่ืนรักษาโรคได้ เช่น บารุงธาตุ เจริญ อาหาร และขบั เหง่ือ และมีกลิ่นฉุนสามารถไล่แมลงได้ การป้องกนั ยงุ ยงุ เป็นแมลงที่พบไดท้ วั่ โลกแต่พบมากในเขตร้อนและเขตอบอ่นุ โดยปกติ ลกู น้ามกั จะกินจาพวก แบคทีเรีย โปรโตซวั ยสี ต์ สาหร่าย และพืชน้าท่ีมีขนาดเลก็ ยงุ ตวั เมียกินน้าหวานและเลือดเป็นอาหาร วิธีจดั การ ยงุ ตอ้ งรู้วา่ มนั อยใู่ นแหล่งไหนเราสามารถทาลายแหล่งที่ยงุ จะสามารถวางไขไ่ ด้ การใชย้ ากนั ยงุ อาการที่เกิดจากผลิตภณั ฑไ์ ล่แมลงส่วนใหญม่ กั เป็นเพยี งการระคายเคืองจากการสมั ผสั สารบริเวณน้นั โดยถา้ ไดร้ ับทางปากอาจทาใหเ้ กิดการระคายเคืองในปากและลาคอ และอาจทาใหเ้ น้ือเยอื่ ในระบบทางเดิน อาหารบวมแดง หรือไหมไ้ ดถ้ า้ ไดร้ ับในปริมาณมากและความเขม้ ขน้ สูง นอกจากน้ีอาจทาใหเ้ กิดอาการคล่ืนไส้ อาเจียน และปวดทอ้ งได้ ตวั อยา่ งของผลขา้ งเคียงจาก DEET ไดแ้ ก่ ลมพิษ ผ่ืนแดง ระคายเคือง ปากชา มึนงง ไม่ มีสมาธิ ปวดหวั คล่ืนไส้

บทท่3ี ข้นั ตอนการดาเนินงาน วสั ดุอุปกรณ์ 1.ตะไคร้ 2.ผลิตภณั ฑท์ ี่ใชบ้ รรจุ ข้นั ตอนการทา 1.ตม้ น้าและตะไคร้ แลว้ รอจนเดือด 2.กรองใหไ้ ดน้ ้า 3.พกั ไวใ้ หเ้ ยน็ 4.บรรจุลงในภาชนะ 5.ทดลองฉีด

บทท4่ี ผลการศึกษาค้นคว้า ในการศึกษาคน้ ควา้ เร่ือง ตะไคร้หอมไลย่ งุ ผศู้ ึกษาคน้ ควา้ ไดก้ าหนดวตั ถปุ ระสงค์และสมมติฐานไวด้ งั น้ี วตั ถปุ ระสงค์ -เพ่อื ป้องกนั ยงุ ใหน้ อ้ ยลงเพ่ือลดไขเ้ ลือดออก -เพอ่ื ศึกษาการทางานของสมุนไพรไลย่ งุ -ตอ้ งการทาสมนุ ไพรไล่ยงุ โดยใชว้ ตั ถดุ ิบทางธรรมชาติ -ไดร้ ู้จกั นาสมุนไพรไทยมาใชใ้ หเ้ กิดประโยชนส์ ูงสุด -ประหยดั และปลอดภยั จากสารพิษ สมมตุ ิฐาน สเปรยห์ อมไลย่ งุ จากตะไคร้สามารถไลย่ งุ ได้ 1.สเปรยห์ อมจากตะไคร้สามารถยงุ ได้ สเปรยห์ อมจากตะไคร้สามารถป้องกนั การวางไข่ของยงุ และยงุ ราคาญได้ มีฤทธ์ิป้องกนั การวางไข่ของ แมลงได้ และสามารถป้องกนั แมลงได้ เพราะตะไคร้น้นั มีกล่ินฉุน 2.ลกั ษณะของตะไคร้ พืชลม้ ลุก มีอายหุ ลายปี มีเหงา้ ใตด้ ิน ลาตน้ ต้งั ตรง ออกเป็นกอ มีกล่ินหอม ใบเดี่ยว เรียงสลบั รูปยาว แคบ โคนใบแผอ่ อกเป็นกาบ มีลิน้ ใบรูปไข่ มีขน อยตู่ รงรอยต่อระหวา่ งใบกบั กาบมีแผ่น ดอกช่อขนาดใหญ่ สี น้าตาลแดง แทงออกจากกลางตน้ ใบประดบั ลกั ษณะคลา้ ยกาบ ดอกช่อเชิงลด แยกเป็นหลายแขนง ออกเป็นคู่ ช่อยอ่ ยมีใบประดบั ที่โคน 2 ใบ ใบนอกมีหยกั และขอบดา้ นบนสาก ปลายแหลมมีเส้นตามยาว 1-3 เสน้ ขอบมี ขน แต่ละดอกยอ่ ยมีใบประดบั 2 แผน่ เรียกกาบบนและกาบล่าง กาบบนรูปขอบขนาน เน้ือบาง ขอบมีขน กาบ ลา่ งรูปยาว แคบ มีขนแขง็ และปลายแหลม ผลเป็นผลแหง้ เมลด็ เดียว ไมแ่ ตก

บทท5ี่ สรุปอภิปรายผลและข้อเสนอแนะ 1.สรุปผลการทดลอง ตะไคร้มีกล่ินตรงรอยตอ่ ระหวา่ งใบกบั กาบ ตะไคร้หอมมีลกั ษณะส่วนใหญค่ ลา้ ยกบั ตะไคร้กอ ตา่ งกนั ที่กลิ่น ตน้ และใบยาวกวา่ ตะไคร้กอมาก นาสเปรยห์ อมไล่ยงุ จากตะไคร้มาฉีดไวใ้ นหอ้ งทิ้งไว้ ในตะไคร้หอมจะ มีกลิ่นน้ามนั ที่ระเหยออกมาจะช่วยไล่ยงุ และแมลง ไมใ่ หม้ ารบกวนได้ 2.อภิปรายผล 1. ตะไคร้น้นั ถือไดว้ า่ เป็นพืชสมุนไพรชนิดหน่ึงที่หาไดง้ ่ายตามธรรมชาติ หรือในทอ้ งถ่ิน ชุมชน ซ่ึง สรรพคณุ ของตะไคร้น้นั ถือว่าใชป้ ระโยชนไ์ ดจ้ ากทุกส่วยของตะไคร้เลย และหน่ึงในสรรพคุณเหล่าน้นั คือกลิ่น ของตะไคร้เป็นกลิ่นที่ไมพ่ ึงประสงคข์ องยงุ ทาใหย้ งุ จะไมม่ าเขา้ ใกลใ้ นบริเวณท่ีมีกลิ่นตะไคร้ 2.การทาโครงงานคร้ังน้ีทาใหร้ ู้จกั การนาพืชสมุนไพรที่หาไดง้ ่ายตามธรรมชาติ ทอ้ งถิ่น มาใชใ้ หเ้ กิด ประโยชน์โดยสร้างสรรคผ์ ลิตภณั ฑท์ ่ีสามารถสร้างรายได้ และอีกท้งั มีข้นั ตอนการทาท่ีไม่ยงุ่ ยากซบั ซอ้ นอีกดว้ ย 3.ขอ้ เสนอแนะ 1.ควรจะมีการทดลองหรือประยกุ ตก์ ารทดลองโดยการนาเอาวสั ดุต่างๆ เช่น เทียนไข เป็นวสั ดุหลกั ใน การทดลอง เช่น เทียนหอมตะไคร้ไล่ยงุ 2.น่าจะมีการทาเป็นผลิตภณั ฑเ์ พ่อื ที่จะสามารถนาไปต่อยอดความคิด หรือ นามาทดลองใชใ้ นชุมชนได้ การจดั ตกแตง่ ควรมีสิ่งตกแต่งมากกวา่ น้ี

บรรณานุกรม http://girlyhealthy.blogspot.com/2011/09/blog-post_16.html http://home.kapook.com/view81704.html http://www.pharmacy.cmu.ac.th/web2553/n11.php https://sites.google.com/site/smunphirtakhir21/prayochn-khxng-ta-khiru https://sites.google.com/site/takhirtakhirtakhirtakhir/laksna-khxng-takhir


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook