อบรมความปลอดภยั อาชวี อนามยั และ สภาพแวดลอ้ มในการทางานปี 61 G e n e r a l H o s p i t a l P r o d u c t s P u b l i c C o., L t d . ศิรพสั สร ไพบลู ยธ์ นะสิน หนง. อาชีวอนามยั และสิ่งแวดลอ้ ม
ความหมายของงานอาชีวอนามยั และความปลอดภัย ร่างกาย อาชวี อนามยัจิตใจ อยดู่ ี และความปลอดภัยอนามยั (Health) อาชีว ภยั คกุ คาม อนั ตราย โรค (Occupation) Hazard Danger อาชีพ ความปลอดภัย (Safety) ความเส่ยี ง Risk
ความหมายของงานอาชีวอนามยั และความปลอดภัยงานอาชวี อนามัย คือ งานท่ีเกยี่ วขอ้ งกับการควบคมุ ดแู ลสขุ ภาพอนามยั ของผู้ประกอบอาชีพทั้งมวล สขุ ภาพกายสุขภาพจติ งาน วิถชี ีวติ สภาพแวดล้อมในการทางาน เชน่ อาชีวอนามยั ในสังคม • เคร่ืองจักร สภาพแวดล้อมในการทางาน • ความร้อน ความเยน็ แสงสว่าง รงั สี • เสียงดงั ความสัน่ สะเทือน ตอ้ งควบคมุ และจดั ให้ไดม้ าตรฐาน • สารเคมี เชอ้ื โรค และเหมาะสม • ค่าตอบแทน • ชม.การทางาน • การเรง่ งาน ทางานซา้ ซาก • การทางานกะ • ความไม่ชนิ ในระบบงาน
ความสาคญั ของงานอาชวี อนามยั และความปลอดภยั1. ช่วยป้ องกนั และควบคุมให้เกดิ สภาพความปลอดภยั ในการ ทางาน2. ช่ วยลดความสูญเสี ยที่บ่ันทอนกิจการของนายจ้างอัน เน่ืองมาจากการเกดิ อุบตั เิ หตุ3. ช่วยลดผลกระทบทางสังคมที่อาจตามมาหลงั การประสบ อนั ตรายจากการทางาน4. ส่งผลตอ่ การเพม่ิ ผลผลติ และอานวยประโยชนต์ อ่ เศรษฐกจิ เช่น สภาพแวดลอ้ มมอี ทิ ธพิ ลตอ่ การทางานของลกู จ้าง5. ช่ ว ย ใ ห้ ผู้ ป ฏิบัติง า น ใ ห้ ไ ด้ รับ ก า ร ป ฏิบัติที่เ ป็ น ธ ร ร ม ใชน่ วกยาลรดทคางวามนสแูญลเะสยี ยงั ชช่ว่ วยยเพเพม่ิ ภ่ิมาผพลลผกั ลษิตณแใ์ ลหะ้สปินรคะ้าสิ ทธิภาพ
นโยบายความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน นโยบายตา่ งๆ\นโยบายความปลอดภยั ปี 61
คาจากดั ค วามภยั (Hazard) เป็ นสภาพการณ์ซึ่งมีแนวโน้ มที่จะก่อให้เกิดการบาดเจ็บต่อบุคคลหรือความเสี ยหายต่อทรพั ยส์ ิ นหรือวสั ดุหรอื กระทบกระเทอื นตอ่ ขดี ความสามารถในการปฎบิ ตั งิ านปกตขิ องบคุ คลอนั ตราย (Danger) ระดับความรุนแรงที่เป็ นผลเน่ืองมาจากภัย(Hazard)ระดับของภัยอาจมีระดับสูงมากหรือน้ อยก็ได้ขึ้นอยู่กับคมาวตารมกเาสรีใยนหกาายรป(้ Dอaงmกaนั ge) ความรุนแรงของการบาดเจ็บหรือความสูญเสี ยทางกายภาพหรือความเสียหายท่ีเกดิ ขึน้ ต่อการปฏบิ ตั งิ านหรือความเสียหายทางดา้ นการเงนิ ทเี่ กดิ ขนึ้
คาจากดั ความ (ตอ่ )อุบตั เิ หตุ (Accident) เห ตุ ก า ร ณ์ท่ีเ กิด ขึ้น โ ด ย มิไ ด้ว า ง แ ผ นไ ว้ ล่ว ง ห น้ า ซ่ึงกอ่ ให้เกดิ ความบาดเจ็บ พกิ าร หรอื ตาย และทาให้ทรพั ยส์ ินไดร้ บั ความเสียหายความปลอดภยั (Safety) ในทางทฤษฎี หมายถงึ \"การปราศจากภยั \" แตส่ าหรบัในทางปฏบิ ตั อิ าจยอมรบั ได้ในความหมายทว่ี า่ \"การปราศจากอนั ตรายทมี่ โี อกาสจะเกดิ ขนึ้ “
สาเหตขุ องอบุ ตั เิ หตุ1. สภาพการทางานทไี่ มป่ ลอดภยั (Unsafe Conditions) เครอื่ งจกั ร เครอื่ งมอื อุปกรณช์ ารุด ขาดการซ่อมแซมหรอื บารุงรกั ษา การวางผงั โรงงานทไ่ี มถ่ กู ตอ้ ง ความไม่เป็ นระเบียบเรยี บร้อยและสกปรกในการจดั เก็บวสั ดุ ส่ิงของ ส่ิ งแวดล้อมในการทางานไม่ดีเช่ นแสงสว่างไม่เพียงพอ, การระบาย อากาศไมด่ ,ี เสียงดงั , ไมม่ กี ารด์ ครอบป้ องกนั ส่ วนทเี่ ป็ นอนั ตรายของเครอื่ งจกั รหรอื ส่วนทเี่ คลอ่ื นไหวตา่ ง ๆ ระบบไฟฟ้ า หรอื อุปกรณไ์ ฟฟ้ าชารดุ บกพรอ่ ง
2. การกระทาทไ่ี มป่ ลอดภยั (Unsafe Acts) การมที ศั นคตไิ มถ่ กู ตอ้ ง ร้เู ทา่ ไมถ่ งึ การณ์ คาดการณผ์ ดิ ประมาทเลนิ เลอ่ พลง้ั เผลอ เหมอ่ ลอย ขาดความระมดั ระวงั เรง่ รบี ลดั ขน้ั ตอน ถอดเครอ่ื งกาบงั ส่ วนที่เป็ นอนั ตรายของเครอ่ื งจกั รออก แลว้ ไมใ่ ส่คนื หยอกลอ้ เลน่ กนั ระหวา่ งปฏบิ ตั งิ าน สไมภส่าวพมรใา่ สง่กอุปายกไรมณพ่ ป์ รอั อ้ งมกหนั รออื นั ผตดิ รปากยตสิ่วนบุคคล
1 • อุบตั เิ หตุรา้ ยแรง บาดเจ็บ พกิ าร เสียชวี ติ 1030 • (Serious or Major Injury)600 อุบัตเิ หตุปานกลาง (Minor Injury) ทรัพย์สนิ เสียหาย (Property Damage) เกอื บจะเกดิ อุบัตเิ หตุหรือเหตกุ ารณ์ผดิ ปกติ (Near-Miss )การกระทาท่ไี ม่ปลอดภยั / สภาพท่ไี ม่ปลอดภัย ความบกพร่องของการบริหารจดั การ
12
1 ทางอ้อมทางตรง
ทางตรง• ค่ารักษาพยาบาล• ค่าสวัสดกิ ารเม่ือเจบ็ ป่ วย• ค่าเสียหายในการรับคนใหม่• ค่าเสียหายในด้านการขาดผลผลติ เช่น จากการขาดคนงาน / จากการท่ี หยุดเคร่ืองจักร
ทางอ้อม• อาจจะจาเป็ นต้องต้ังกรรมการรับผิดชอบ เก่ยี วกับอุบัตเิ หตุ• เสียเวลาเพ่อื นร่วมงาน /หวั หน้างาน• เสียเวลาการสอบสวน / วเิ คราะห์เพ่อื หา สาเหตแุ ละแนวทางในการแก้ไขป้ องกัน• เสียเวลาในการอบรม / ให้คาแนะนา พนักงานใหม่
2
• ขวัญ กาลังใจของพนักงานต่องานลดลง• ผลผลิตตา่ ขาดคุณภาพ• ชื่อเสียง ความน่าเช่ือถอื ของบริษัท ลดลง• การดาเนินชีวติ ในอนาคตของพนักงาน อาจจะเปลี่ยนแปลงไป เช่น ความก้าว หน้าทางด้านหน้าทกี่ ารงาน อาจจะหยุด ชะงักไป ครอบครัวอาจขาดรายได้ และ เป็ นภาระแก่ครอบครัว
ค่าทรัพย์สิน ความสูญเสียท่ปี รากฎชัดเจนเสียหายค่าชดเชยวันหยุดงาน เหนือผวิ น้าค่าชดเชยการสูญเสียอวัยวะค่าซ่อมแซมเคร่ืองมือเคร่ืองใช้ค่ารักษาพยาบาลผู้ประสบอันตรายความสูญเสียทซ่ี ่อนเร้น ความสูญเสีย ใต้ผวิ น้า ทเี่ กดิ จากอุบัตเิ หตุค่าทนายดาเนินการทางศาลค่าเบยี้ ประกันเพ่มิค่าโทรศัพท์และการส่ือสารเวลาท่ใี ช้ในการดาเนินการโอกาสทางธุรกจิ และสูญเสียลูกค้าถกู ปรับในการดาเนินคดี
มาตรการป้ องกนั อุบตั เิ หตุ1. การป้ องกนั ทเี่ ครอ่ื งจกั รหรอื แหลง่ กาเนิด (Source) การออกแบบเครอื่ งจกั รโดยคานึงถงึ ความปลอดภยั เป็ นพนื้ ฐาน กกาารรสสรรา้ ้างงกสา่ิงรกด์ น้ั คขรวอาบงสไ่วมนใ่ หท้คเี่ ปน็ นเขอนัา้ ใตกรลาส้ย่วนทเี่ ป็ นอนั ตราย การตดิ ตง้ั สวติ ทท์ างานแบบกดป่ ุม 2 มอื การตดิ ตง้ั สวติ ทห์ ยุดเครอื่ งฉุกเฉิน อาจเป็ นแบบป่ ุมกดหรอื เชอื ก ก็ได้ มกี ารตรวจรกั ษาและซ่อมบารุงเครอ่ื งจกั รเป็ นประจาสมา่ เสมอ การตดิ การด์ โดยใช้ระบบลาแสงนริ ภยั
2. การป้ องกนั ทที่ างส่ือหรอื ทางผา่ น (Path) การกาหนดขน้ั ตอนการทางานทปี่ ลอดภยั เป็ นระเบยี บปฏบิ ตั ิ การจดั สถานทท่ี างานให้สะอาดเป็ นระเบยี บเรยี บร้อย จดั เก็บเครอ่ื งมอื วตั ถุดบิ และรถเข็นไว้ในทท่ี ก่ี าหนดตาแหน่ง ไว้ วตั ถุส่ิงของทม่ี คี วามยาวไมค่ วรตง้ั พงิ ผนงั แตค่ วรจดั วางนอน แลนกั วษรณาบะกส่ลวนมแวตลั ะถกุทลมี่ ง้ิ ี ไดค้ วรมลี ม่ิ ล็อกไว้ไมใ่ ห้เลอ่ื นไถล กอยารา่ ตวาดิ งตสง้ั ่ิงปข้ าอยงหกรดี อื ขสวัญาญงทาาณงเเดตนิอื นปอรนะั ตตทู ราายงเข้า ทางออกฉุกเฉิน หรอื เครอื่ งดบั เพลงิ กจาากรพสรนื้ ้าทงี่ ปฉฏาบิกตัเพงิ าื่อนแยกส่ วนพื้นที่เป็ นพืน้ ทอ่ี นั ตรายแยกออก
3. การป้ องกนั ทผ่ี ้ปู ฏบิ ตั งิ าน (Receiver) การสวมเครอื่ งแบบทถี่ กู ต้อง เรยี บรอ้ ย เช่น - ชายเสื้อ แขนเสื้อ ขากางเกง เข็มขดั ไมร่ มุ่ รา่ ม - ตดิ กระดมุ เสื้อทกุ เม็ดให้เรยี บร้อย - รวบผม หรอื สวมหมวกคลมุ ผมให้เรยี บรอ้ ย - ไมถ่ อดเสื้อผ้าขณะทางาน - ไมส่ วมเสื้อผ้าทเี่ ปี ยกน้าหรอื น้ามนั เพราะอาจถกู ไฟดดูหรอื ไฟไหม้ได)้ ไมน่ าเครอ่ื งมอื ทม่ี คี วามแหลมคมหรอื สารไวไฟไว้ในกระเป๋ าชุด ทางาน การปฏบิ ตั ติ ามระเบยี บการปฏบิ ตั งิ านตามคูม่ อื อยา่ งเครง่ ครดั การใช้อุปกรณป์ ้ องกนั อนั ตรายส่วนบคุ คลทถ่ี กู ต้องและเหมาะสม การออกแบบเครอ่ื งมอื กลเพอื่ ใช้ทางานแทนคนในงานทมี่ คี วาม เส่ียงสงู การออกกฎระเบยี บขอ้ บงั คบั ในการทางาน
ใช้ไสยศาสตร์ แก้ปัญหาความปลอดภัย ไม่ต้องส่งคนไปอบรม
สารเคมอี นั ตราย สารเคมอี นั ตรายคอื สารทมี่ คี ุณสมบตั ิ ทางเคมี หรือทางกายภาพทส่ี ามารถทาให้เกดิ อนั ตรายต่อมนุษย์ ทรัพย์สิน หรือต่อสภาพแวดล้อมได้ โดยมนุษย์ ทรัพย์สิน หรือสภาพแวดล้อมจะได้รับอนั ตรายจาก สารเคมี กเ็ ม่ืออยู่ภายใต้เงื่อนไข หรือสภาวะการณ์ ท่เี หมาะสมทส่ี ารเคมนี ้ันๆ จะก่อให้เกดิ อนั ตรายได้อาจเรียกสารเคมอี นั ตรายส้ันๆ ว่า “สารเคม”ี
ประเภทของสารเคมอี นั ตราย สารเคมอี นั ตราย วตั ถอุ นั ตราย สารอนั ตราย สามารถจาแนกได้ 9 ประเภท ดงั นี้ ประเภทท่ี 1 วตั ถรุ ะเบดิ ประเภทท่ี 2 ก๊าซ ประเภทที่ 3 ของเหลวไวไฟ ประเภทท่ี 4 ของแข็งไวไฟ ประเภทท่ี 5 วตั ถอุ อกซไิ ดส์และออรแ์ กนกิ เปอรอ์ อกไซค์ ประเภทท่ี 6 วตั ถุมพี ษิ และวตั ถุตดิ เชอื้ ประเภทที่ 7 วตั ถกุ มั มนั ตรงั สี ประเภทท่ี 8 วตั ถกุ ดั กรอ่ น ประเภทท่ี 9 วตั ถอุ นื่ ๆ ทเี่ ป็ นอนั ตราย
จะรู้จกั สารเคมไี ด้อย่างไร ?• รู้จากฉลากสารเคมี (Label) ทต่ี ดิ บนภาชนะบรรจุสารเคมี• รู้จากข้อมูลความปลอดภยั สารเคมี(MSDS : Material Safety Data Sheet)
ข้อมูลความปลอดภัยสารเคมี หรือ SDS คอื อะไร? Safety Data Sheet (SDS) หรือ Material Safety Data Sheet (MSDS) คอื เอกสารแสดงข้อมูลสารเคมี ซ่ึง SDS จะแสดง คุณสมบตั ขิ องสาร ท้งั ทางเคมี กายภาพ และ ชีวภาพ รวมถึงมาตรการความปลอดภัยต่างๆ เพอ่ื ให้สามารถใช้สารเคมีได้อย่างปลอดภยั
ข้อมูลสารเคมี ใน MSDS1. รายละเอยี ดเกย่ี วกบั สารเคมี2. ชื่อทางเคมหี รือช่ือทางวิทยาศาสตร์3. สารประกอบทเี่ ป็ นอนั ตราย4. คุณสมบัตทิ างกายภาพและเคมี5. ข้อมูลด้านอคั คภี ัยและการระเบดิ6. ข้อมูลเกย่ี วกบั อนั ตรายทางสุขภาพ7. มาตรการด้านความปลอดภัย (ข้อมูลการป้ องกนั โดยเฉพาะทาง,การปฐม พยาบาล)8. ข้อปฏิบัติทสี่ าคญั (การขนย้ายและการจดั เกบ็ ,การป้ องกนั การกดั กร่อนของ สารเคมีการป้ องกนั การหกร่ัวไหล , การใช้สารดบั เพลงิ )
การเข้าสู่ร่างกายของสารเคมี• ทางการหายใจ (Inhalation) สารจะปนกบั อากาศเข้าสู่ปอด เม่อื มีการแลกเปลยี่ นก๊าซทปี่ อด สารจะตกค้างอยู่ทปี่ อด หรือละลายเข้าสู่กระแสเลอื ดแล้วไปสู่สมอง• ทางการกนิ (Ingestion) เกดิ ขนึ้ เม่ือคนงานกนิ หรือสูบบุหร่ีด้วยมอื ทเี่ ปื้ อนสารเคมี หรือทานอาหารในทท่ี างาน• ทางผวิ หนัง (Skin) จะเกดิ ขนึ้ อย่างรวดเร็วเมอ่ื ผวิ หนังมีบาดแผล
อาการแสดงของร่างกาย เมอื่ ได้รับสารเคมี• อาการเฉียบพลนั (Acute Toxicity) แสดงอาการพษิ ภายใน 24 ช่ัวโมงซ่ึงอาการจะมากหรือน้อย ขนึ้ อยู่กบั ปริมาณสารเคมีทไี่ ด้รับ• อาการเรื้อรัง (Chornic Toxicity) แสดงอาการพษิ หลงั จากได้รับสารเคมีติดต่อกนั เป็ นเวลานานกว่า 3 เดอื นขนึ้ ไป• อาการกง่ึ เรื้อรัง (Subchornic Toxicity) แสดงอาการพษิ หลงั จากได้รับสารเคมตี ิดต่อกนั เป็ นเวลานานประมาณ 1-3 เดอื น
เกดิ อาการอยา่ งไร?..เมอื่ ไดร้ บั สารอนั ตรายแบบเฉียบพลนั : เป็ นกาารสัมผสั ทเี่ กดิ ขนึ้ ครง้ั เดยี วในระยะเวลาที่คอ่ นข้างส้ัน เช่น หนึ่งนาทถี งึ สองสามวนั อาการทเ่ี กดิ ขนึ้ ไดแ้ ก่เกดิ ผลผน่ื คนั ระคายเคอื ง ผวิ หนงั ไหม้ อกั เสบ ขาดอากาศ หน้ามดืวงิ เวยี นเกดิ ผดผนื่ ระคายเคอื ง ผวิ หนงั ไหม้ อกั เสบคนัขาด หน้ามดื วงิ เวยี นอากาศ
เกดิ อาการอยา่ งไร...เมอื่ ไดร้ บั สารอนั ตรายแบบเรอื้ รงั : เป็ นการสัมผสั สารทรี่ ะดบั คอ่ นข้างตา่ ในระยะเวลานานตง้ั แตเ่ ป็ นเดอื นถงึ เป็ นปี อาการทเ่ี กดิ ขนึ้ ไดแ้ ก่ การเกดิ ความพกิ ารในทารก (Teratogenic) การเกดิ ความผดิ ปกตทิ างสายพนั ธใ์ นตวั ออ่ น หรอื การผา่ เหลา่ (Uutagenic) การผดิ ปกตทิ างพนั ธุกรรม เช่น การเปลยี่ นแปลงของ DNA การเกดิ มะเร็ง(Carcinogenic)มะเร็ง อมั พาตผลตอ่ ทารกในครรภ์ ตาย
ข้อปฏบิ ัตใิ นการทางานกบั สารเคมี1. ตอ้ งอ่านฉลากที่ติดขา้ งภาชนะ (MSDS) ของสารใหเ้ ขา้ ใจก่อนลงมือปฏิบตั ิ2. ตอ้ งสวมใส่อุปกรณ์ป้ องกนั อนั ตรายทุกคร้ัง3. ตอ้ งแน่ใจวา่ บริเวณท่ีใชส้ ารเคมีน้นั มีระบบระบายอากาศท่ีดีพอ4. ตอ้ งให้เพื่อนร่วมงานของท่าน ทราบวา่ ท่านกาลงั ทางานกบั สารเคมีชนิดไหน ท่ีใดและเวลาใด5. ตอ้ งทราบว่ามีอุปกรณ์ดับเพลิงหรืออุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยอ่ืนๆอยู่ใกลม้ ือพร้อม ใชง้ าน7. อยา่ เปิ ดภาชนะที่มีสารเคมีทิ้งไว้ เมื่อเสร็จแลว้ ควรปิ ดฝาใหเ้ รียบร้อย8. อยา่ ใชป้ ากดดู สารเคมีหรือสัมผสั กบั สารเคมีเป็นอนั ขาด
ข้อปฏิบัตใิ นการทางานกบั สารเคมี 9. อยา่ คิดวา่ สารเคมีอนั ตรายตอ้ งมีกลิ่นเสมอ 10. อยา่ ทาการผสมสารเคมีเขา้ ดว้ ยกนั แต่หากจาเป็นตอ้ งทาการผสม สารเคมีเขา้ กบั น้าจะตอ้ งเติมน้าลงในภาชนะก่อนแลว้ ค่อยๆเติม สารเคมีลงไป 11. อยา่ สูดดมกา๊ ซท่ีเกิดจากปฏิกิริยาเคมี 12. หา้ มสูบบุหร่ี รับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มในบริเวณท่ีมี สารเคมี 13. การจดั เกบ็ สารเคมีควรมีภาชนะบรรจุชดั เจน ปิ ดสนิทปลอดภยั 14. หลงั จากการใชส้ ารเคมี ตอ้ งทาความสะอาดร่างกายทนั ที 15. กากที่เกิดจากสารเคมี ตอ้ งทิ้งลงในภาชนะท่ีเหมาะสม
ข้อควรปฏบิ ัตเิ มอ่ื สัมผสั ถูกสารเคมี • เมือ่ สารเคมีเข้าตา • เม่ือสารเคมีถูกผวิ หนัง • เมอื่ สูดดมสารเคมี • เมอ่ื กลนื -กนิ สารเคมีต้องพจิ ารณาในข้อมูลความปลอดภยั สารเคมี (MSDS) ร่วมด้วย
ความร้ อนความเยน็แสงสว่าง เสียงดังฝ่ ุนละอองไอระเหย
ประสบอบุ ตั ภิ ยั สารเคม.ี .ต้องทาอยา่ งไร? 1. พยายามจาแนกว่าสารเคมีดงั กล่าวเป็ น สารเคมีชนิดไหนโดยพิจารณาจากฉลาก หรอื แผ่นป้ ายท่ีตดิ อยู่ข้างฝาภาชนะเพ่ือจะ ส า ม า ร ถ ร ะ มัด ร ะ วัง ตัว เ อ ง จ า ก ส า ร เ ค มี อนั ตรายไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 2. อย่าพยายามกระทาในส่ิ งท่ีไม่รู้จริง เพราะอาจก่อให้ เกิดผลเสี ยหายอย่าง รุ น แ ร ง โ ด ย มิไ ด้ ค า ด คิด เ ช่ น ก า ร ล้ า ง ภาชนะบรรจุหรอื บรเิ วณทม่ี กี รดหกรดอาจ ทาให้เกดิ ปฏกิ ริ ยิ ารุนแรงได้ 3. โทรศัพทข์ อความช่วยเหลอื จากหน่วยงาน ทร่ี บั ผดิ ชอบ
2. กฎหมายความปลอดภยั
พระราชบัญญตั ิ ความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อ ในการทางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ หมวด ๑ บททว่ั ไป มาตรา ๖นายจ้าง มีหนา้ ที่ จดั และดูแลสถานประกอบกิจการและลกู จา้ งใหม้ ีสภาพการทางานและสภาพแวดลอ้ มในการทางานที่ปลอดภยั และถกู สุขลกั ษณะ รวมท้งั ส่งเสริมสนบั สนุนการปฏิบตั ิงานของลกู จา้ งมิใหล้ ูกจา้ งไดร้ ับอนั ตรายตอ่ ชีวติ ร่างกาย จิตใจ และสุขภาพอนามยั ลูกจ้าง มีหนา้ ที่ ใหค้ วามร่วมมือกบั นายจา้ งในการดาเนินการและส่งเสริมดา้ นความ ปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน มาตรา ๗ในกรณีที่พระราชบญั ญตั ิน้ีกาหนดใหน้ ายจา้ งตอ้ งดาเนินการอยา่ งหน่ึงอยา่ งใดท่ีตอ้ งเสีย คา่ ใชจ้ ่าย ใหน้ ายจา้ งเป็นผอู้ อกคา่ ใชจ้ ่ายเพ่อื การน้นั
หมวด ๒ การบริหาร การจดั การ และการดาเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทางาน มาตรา ๑๔กรณีที่นายจา้ งใหล้ กู จา้ งทางานในสภาพการทางานหรือสภาพแวดลอ้ มในการทางาน ท่ีอาจทาใหล้ ูกจา้ งไดร้ ับอนั ตรายตอ่ ชีวติ ร่างกาย จิตใจ หรือสุขภาพอนามยั ให้นายจา้ งแจง้ ใหล้ กู จา้ งทราบถึงอนั ตรายที่อาจจะเกิดข้ึนจากการทางาน และ แจกค่มู ือปฏิบตั ิงานใหล้ กู จา้ งทุกคนก่อนท่ีลูกจา้ งจะเขา้ ทางาน เปล่ียนงาน หรือเปลี่ยนสถานที่ ทางาน
มาตรา ๑๕ กรณีท่ีนายจา้ งไดร้ ับคาเตือน คาสงั่ หรือคาวนิ ิจฉยั ของอธิบดี คาสง่ั ของพนกั งานตรวจความปลอดภยั หรือ คาวนิ ิจฉยั ของคณะกรรมการใหป้ ฏบิ ตั ิการ ตามพระราชบญั ญตั ิน้ีใหน้ ายจา้ งแจง้ หรือปิ ดประกาศคาเตือน คาสง่ั หรือคา วนิ ิจฉยั ดงั กล่าว ในที่ท่ีเห็นไดง้ ่าย ณ สถานประกอบกิจการเป็นเวลาไม่นอ้ ย กวา่ สิบหา้ วนั นบั แต่วนั ท่ีไดร้ ับแจง้
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136