กฎหมายแพง่ นติ กิ รรมและสญั ญา จัดทาํ โดย น.ส.เกศิณี น่ิมอนงค ม.6/4 เลขที่ 7 น.ส.กญั ญาภัค ตรชี นะกจิ ม.6/4 เลขท่ี 17
นิตบิ ุคคล คือ บุคคลทีก่ ฎหมายสมมติข้นึ ใหม ีสภาพเป็นบุคคล เชนเดยี วกบั บุคคลธรรมดา เพ่อื ใหนิตบิ ุคคลสามารถใชส ิทธิหน าท่ี ภายในขอบเขตวตั ถปุ ระสงคข องนิติบุคคลได จงึ ตอ งแสดงออกถึง สทิ ธิและ หน าที่ผาน ผแู ทนนิตบิ ุคคล ประเภทของนิตบิ ุคล แบงเป็น 2 ประเภท 1. นิตบิ ุคคลตามกฎหมายเอกชน 2. นิตบิ ุคคลตามกฎหมายมหาชน 1. นิตบิ คุ คลตามกฎหมายเอกชน ตามประมวลกฎหมายแพง และ พาณิชย มี 5 ประเภท ไดแ ก 1. บริษทั จาํ กัด (ผูกอการอยาง น อย 3 คน) 2. หา งหุนสวนจาํ กดั (ผกู อ การ อยา ง 3 คน) 3. หางหุน สวนสามัญจดทะเบียน 4. สมาคม 5. มูลนิธ 2. นิติบคุ คลตามกฎหมายมหาชน วดั จังหวัด กระทรวง/ทบวง กรม จังหวัด องคการบรหิ าร สว นทอ งถิ่น (อบต./อบจ./กทม/เทศบาล/พัทยา) องคการ ของรัฐบาล องคการมหาชน
โมฆกรรม กับโมฆยี กรรม 1. โมฆกรรม โมฆกรรม หมายความวา การทาํ นิตกิ รรมใด ๆ ท่ีมี ผลของนิตกิ รรมท่ีได ทําข้ึ นนัน้ เสียเปลา ไมมผี ลผกู พนั ที่จะใช บงั คบั ไดต ามกฎหมาย สาเหตุของนิตกิ รรมโมฆะ 4 ประการ คือ 1 นิตกิ รรมนัน้ มวี ตั ถปุ ระสงคไ มชอบดวยกฎหมาย 2 นิติกรรมนัน้ มวี ตั ถปุ ระสงคเป็ นการพน วิสัย 3 นิตกิ รรมนัน้ ทําผดิ แบบทกี่ ฎหมายกาํ หนดไว 4 มีกฎหมายบญั ญัตวิ าการกระทํานัน้ ๆ เป็ นโมฆะ 2. โมฆยี กรรม โมฆยี กรรม หมายความวา นิติกรรมซ่งึ อาจถกู บอก ลา งหรอื ให สตั ยาบนั ถา มไิ ดบ อกลา งภายในระยะเวลาท่ีกฎหมายกํา หนดกเ็ ป็น อันหมดสิทธทิ จี่ ะบอกลาง สาเหตุของโมฆียกรรมอาจสรปุ ไดว ามาจากกรณีตอไปนี้ 1ผูทํานิติกรรมฝายใดฝายหน่ึงเป็ นผถู กู จาํ กดั ความสามารถ เน่ืองจาก เป็นผเู ยาว 2 เจตนาในการทาํ นิตกิ รรมนัน้ บกพรองเน่ืองจากสําคัญผดิ ใน คุณสมบตั ขิ องบุคคลหรือทรัพยสิน 3 มีกฎหมายบัญญตั ิวา การนัน้ เป็ นโมฆียะ
นิตกิ รรมสญั ญา นิติกรรม คอื การกระทําของบคุ คลโดยชอบดวย กฎหมายและมงุ ตอ ผลใน กฎหมาย ทจ่ี ะเกดิ ข้นึ เพ่อื การกอสทิ ธิ เปล่ยี นแปลงสทิ ธิ โอนสิทธิ สงวน สทิ ธิ สงวนสทิ ธิ และระงับซ่ึงสิทธิ เชน สัญญาซ้ื อขาย สัญญากเู งิน สัญญา จางแรงงาน สัญญาใหและพนิ ัยกรรม ประเภทของนิตกิ รรม จําแนกได 2 ประเภท คือ นิตกิ รรมฝายเดียว ไดแ ก นิติกรรมซ่งึ เกดิ ข้นึ โดยการ แสดงเจตนา ของบุคคลฝายหน่ึงฝายเดยี วและมผี ลตาม กฎหมาย ซ่ึงบางกรณีก็ทาํ ใหผ ู ทาํ นิติกรรมเสียสิทธไิ ด เชน การกอตัง้ มูลนิธิ คาํ มัน่ โฆษณาจะใหรางวลั การรับ สภาพหนี้ การผอ นเวลาชาํ ระหนี้ ใหล กู หนี้ คาํ มนั่ จะซ้อื หรือจะขาย การทําพินัยกรรม การบอกกลา วบังคบั จาํ นอง การทาํ คาํ เสนอ การบอกเลิก สญั ญา นิตกิ รรมสองฝาย (นิตกิ รรมหลายฝาย) ไดแก นิตกิ รรม ซ่ึงเกดิ ข้ึน โดยการแสดงเจตนาของบคุ คลตัง้ แตสองฝายข้ึนไป และทุกฝายตา งตอ ง ตกลงยินยอมระหวา งกนั กลา วคอื ฝายหน่ึงแสดงเจตนาทําเป็นคําเสนอ แลว อกี ฝายหน่ึงแสดง เจตนาเป็ นคาํ สนอง เม่อื คําเสนอและคาํ สนองถกู ตอง ตรงกนั จึงเกดิ มีนิตกิ รรมสองฝายข้ึ น หรอื เรียกกนั วา สัญญา เชน สญั ญาซ้ือขาย สัญญากยู มื สญั ญา แลกเปลย่ี น สัญญาขายฝาก จํานอง จาํ นํา
ความสามารถของบคุ คลในการทาํ นิตกิ รรมสญั ญา นิโดยหลกั ทวั่ ไป บุคคลยอมมคี วามสามารถในการทํานิตกิ รรม สัญญา แตม ขี อยกเวน คอื บุคคล บางประเภทกฎหมายถอื วา หยอน ความสามารถในการทํานิตกิ รรมสัญญา เชน ผเู ยาว คนไรความ สามารถ คนเสมอื นไรค วามสามารถ และบคุ คลลม ละลาย สําหรับผู เยาวจะทาํ นิติกรรมไดตอ งรับ ความยนิ ยอมจาก ผแู ทนโดยชอบ ธรรม ผูม สี ิทธใิ นการทํานิติกรรมสญั ญา ปกติแลว บุคคลทกุ คนตางมสี ทิ ธใิ นการทาํ นิติกรรมสัญญา แตย งั มี บคุ คลบางประเภทท่เี ป็นผหู ยอ นความสามารถ กฎหมายจงึ ตอ งเขา ดูแลคมุ ครองบุคคลเหลานี้ ไมใ หไ ดรบั ความเสยี หายในการกําหนด เง่ือนไขในการเขาทาํ นิตกิ รรม ของผูนัน้ ผูหยอนความสามารถในการทาํ นิตกิ รรมสญั ญา : 1) ผเู ยาว (Minor) 2) บคุ คลวกิ ลจริต (Unsound Mind) 3) คนไรความสามารถ (Incompetent) 4) คนเสมือนไรค วามสามารถ (Quasi-Incompetent) 5) ลกู หนี้ทถ่ี ูกฟ องเป็นบุคคลลมละลาย 6) สามแี ละภริยาเป็นผูจัดการสนิ สมรสรวมกนั
สญั ญา สญั ญา คอื นิตกิ รรมชนิดหน่ึง แตเ ป็ นนิติ กรรมที่มีบุคคล 2 ฝาย หรอื มากกวา นัน้ มาตกลงกัน โดยแสดงเจตนา เสนอ และสนองตรงกนั กอใหเ กิดสัญญาข้นึ สัญญายอ มกอให เกิดหนี้ เกดิ ความผกู พัน ระหวางเจา หนี้ กบั ลกู หนี้ โดยเจา หนี้ มีสทิ ธิ เรียกรองใหลกู หนี้ ชาํ ระหนี้ ไดตามกฎหมาย สญั ญาซือขาย สญั ญาซ้ือขาย คอื สญั ญาทผี่ ูขายโอนกรรมสทิ ธิ์ ใน ทรัพย สนิ ใหแ กผซู ้อื และผซู ้อื ตกลงวา จะใชร าคา ทรพั ยส ินนัน้ ให แกผขู าย การโอนกรรมสทิ ธิห์ มายถึง การโอนความเป็น เจา ของใน ทรัพยสิน ท่ีซ้อื ขายนัน้ ไปใหแ กผ ูซ ้ือ ผูซ ้อื เม่อื ไดเ ป็น เจา ของกส็ ามารถทีจ่ ะใช ไดร บั ประโยชน หรอื จะ ขายตอ ไปอยางไรกไ็ ด ราคาทรพั ยสนิ จะชาํ ระเม่ือไรนัน้ เป็นเร่อื งที่ผซู ้ือผูขาย จะ ตองตกลงกนั ถา ตกลงกนั ใหชาํ ระราคาทันทีก็เป็น การซ้อื ขายเงนิ สด ถา ตกลงกันชาํ ระราคาในภายหลงั ในเวลาใด เวลาหน่ึงเพียงครัง้ เดียวตามท่ตี กลงกันก็เป็น การซ้อื ขายเงิน เช่ือ แตถา ตกลงผอ นชําระใหกันเป็น ครัง้ คราวกเ็ ป็นการซ้อื ขายเงินผอ น
สญั ญาขายฝาก สัญญาขายฝาก เป็นสัญญาซ้ือขายซ่งึ สิทธแิ หงความ เป็นเจาของใน ทรพั ยส ินตกไปยังผูซ้อื โดยผซู ้อื ตกลง ในขณะทาํ สญั ญาวา ผขู ายมี สิทธิไถทรัพยส นิ นัน้ คนื ได ภายในกาํ หนดเวลาเทาใด แตต อ งไมเกิน เวลาท่ี กฎหมายกําหนดไว เชน ขายท่ีดินโดยมีขอตกลงวา ถา ผูขาย ตอ งการซ้ือคืน ผูซ้ือจะยอมขายคืนเชนนี้ ถอื วา เป็น ขอตกลงใหไถ คืนได เชา่ ทรัพย์ การเชาทรพั ย คือสัญญาท่มี บี คุ คลอยสู องฝาย ฝาย แรกคือผูใหเชา ฝายท่ีสองคือผูเ ชา ทัง้ สองฝายตางกม็ ี หนี้ ท่จี ะตองชําระใหแกกัน และกัน โดยฝายผูใหเ ชา มีหนี้ ท่จี ะตอ งใหผ ูเชาไดใ ชหรอื ไดรับ ประโยชนในทรัพยท ีเ่ ชา สวนฝายผูเชา ก็มีหนี้ ที่จะตองชาํ ระคาเชา เป็นการตอบ แทน เชา่ ซือ สญั ญาเชาซ้อื คือ สญั ญาทเี่ จา ของทรัพยส ินเอา ทรัพยสนิ ของตนออก ใหผ อู ่ืนเชา เพ่อื ใชส อยหรอื เพ่อื ให ไดรับประโยชน และใหค ํามนั่ วาจะ ขายทรัพยน ัน้ หรอื จะ ใหทรัพยส นิ ทเ่ี ชาตกเป็นสทิ ธแิ กผูเชาซ้อื เม่อื ไดใชเงนิ จนครบตามท่ตี กลงไวโ ดยการชาํ ระเป็นงวดๆ จนครบ ตาม ขอ ตกลง
กู้ยืมเงิน การกยู ืมเงินเป็ นสญั ญาอยางหน่ึง ซ่ึงเกิดจาก บคุ คลใดบคุ คลหน่ึง ซ่ึงเรียกวา \"ผกู \"ู มีความ ตอ งการจะใชเ งนิ แตตนเองมีเงนิ ไมพอ หรอื ไม มี เงนิ ไปขอกยู มื จากบคุ คลอีกคนหน่ึง เรยี กวา \"ผูใหก ู\" และผกู ูต กลงจะใชคนื ภายใน กาํ หนดเวลาใดเวลาหน่ึง การกยู มื จะ มผี ล สมบูรณกต็ อ เม่ือ มีการสง มอบเงินท่ยี มื ใหแกผู ท่ใี หยืม ใน การกยู ืมนี้ ผใู หก จู ะคิดดอกเบยี้ หรอื ไมก ็ได บงั คับคนจน กฎหมายจงึ ไดกาํ หนดอัตราดอกเบี้ ยขัน้ สูงสุดท่ี ผใู ห กสู ามารถเรียกได วาตอง ไมเกนิ รอยละ 15 ตอ ปี คอื รอ ยละ 1.25 ตอ เดือน (เวนแตเป็ นการกยู ืม เงินจากบริษทั เงินทุนหรอื ธนาคาร ซ่ึง สามารถเรยี กดอกเบี้ ยเกนิ อตั รา ดังกลาว ไดต าม พ.ร.บ. ดอกเบี้ ย เงนิ ใหก ูย ืมของสถาบนั การเงนิ ) ถา เรียกดอกเบยี้ เกนิ อตั ราดังกลา วถอื วาขอ ตกลงเร่อื ง ดอกเบีย้ นัน้ เป็นอนั เสยี ไปทัง้ หมด (เป็นโมฆะ) คอื ไมตองมี การใชดอกเบยี้ กันเลยและผใู หกอู าจมคี วามผดิ ทางอาญาฐาน เรยี ก ดอกเบี ้ ยเกนิ อัตราดว ย คอื อาจตอ งระวางโทษจาํ คุกไม เกนิ 1 ปี หรอื ปรับ ไม เกิน 1,000 บาท หรือทังจาํ ทัง้ ปรับ ตาม พ.ร.บ. หา มเรียกดอกเบยี้ เกินอตั รา พ.ศ. 2475
คาประกัน ค้ําประกัน หมายถึง สญั ญาท่บี ุคคลหน่ึง เรียกวา \"ผูค ้ํา ประกัน\" สัญญาวา จะชําระหนี้ ใหแกเจาหนี้ ถา หากลูกหนี้ ไม ยอมชําระหนี้ สญั ญาค้ําประกนั ตองทําตามหลักเกณฑด งั กลาวตอไปนี้ คือ ตองทําหลกั ฐานเป็นหนังสืออยางใดอยา งหน่ึง และ ตอ งลง ลายมอื ช่ือของผคู ้ําประกัน ชนิดของสญั ญาค้ําประกัน ไดแ ก สญั ญาค้ําประกนั อยา งไม จํา กดั จาํ นวน และสญั ญาค้าํ ประกนั จํากัดความรับผดิ จํานํา จํานํา คอื สัญญาซ่งึ บคุ คลคนหน่ึงเรยี กวา ผจู ํานํา สง มอบ สังหารมิ ทรัพยใ หแ กบ คุ คลอีกคนหน่ึงเป็นผู ครอบครอง เรยี กวา ผูร ับจาํ นํา เพ่ือประกันการชาํ ระหนี้ ทรัพยส ินที่ จํานําไดคอื ทรัพยส นิ ที่สามารถเคล่อื นที่ ได เชน วทิ ยุ โทรทัศน ชาง มา โค กระบอื และเคร่ือง ทองรปู พรรณ สรอย แหวน เพชร
จํานอง จาํ นอง คือการท่ีใครคนหน่ึงเรยี กวา ผูจํานอง อสังหารมิ ทรัพย อนั ไดแก ท่ดี ิน บานเรอื น เป็นตน ไปตรา ไวแ กบ ุคคลอกี คนหน่ึง เรยี กวา ผรู ับจํานอง หรือนัยหน่ึง ผจู ํานองเอาทรัพยส นิ ไปทํา หนังสือจดทะเบียนตอ เจา พนักงาน เพ่ือเป็นประกนั การชาํ ระหนี้ ของลกู หนี้ โดยไม ตองสง มอบทรัพยท ี่จาํ นองใหเ จาหนี้ ผูจ ํานองอาจ เป็นตวั ลูกหนี้ เองหรือจะเป็นบคุ คลภายนอกก็ได
Search
Read the Text Version
- 1 - 12
Pages: