นิยามโรคติดเชื้อ_นพ โรม

Diphtheria – Clinical features Clinical manifestations: 85-90% Sore throat 50-85% low grade fever 50% membrane 26-40% dysphagia Toxin mediated myocarditis, polyneuritis, renal tubular necrosis and other systemic toxic effects Fatality rate: general 5–10%, but in <5 or >40 year olds, could be 20%

แยกการตดิ เชอ้ื ตามตา่ แหนง่ ท่พี บ สามารถ infect mucous membrane ไดท้ ุกส่วนของรา่ งกาย 1. Anterior nasal diphtheria  ลักษณะ น้่ามกู มีหนองปน อาจพบเลือดออก  พบแผ่นฝ้าในจมกู  อาการไม่รุนแรง ไม่ค่อยพบ toxin ถกู ดูดซมึ เขา้ กระแสเลือด  การให้ anti-biotic และ anti-toxin ไดผ้ ลดี  เก็บ nasal swab สง่ ห้อง Lab โรคคอตีบทางห้องปฏิบตั ิการ

2. Pharyngeal and Tonsillar diphtheria  พบการตดิ เช้ือที่ pharynx, tonsils  อาการ: เจ็บคอ, เบอื่ อาหาร, ไข้ตา่  พบแผน่ ฝ้าสีเทาท่ี ทอนซิล อาจลามไปถงึ เพดาน ออ่ น  แผน่ ฝา้ ขยายและโตขน้ึ เร่อื ยๆ จะ อดุ ตันทางเดิน หายใจได้  อาการรนุ แรงถา้ Toxin ถูกดดู ซึมเข้าสู่กระแสเลอื ด ประมาณร้อยละ 10 ของผู้ป่วยกล่มุ น้จี ะมีอาการรุนแรง รวดเรว็ มีไข้สงู มาก และมีอาการ systemic toxicity โดย exudative membrane ลามรวดเรว็ มาก มบี วมของหน้าและคอ ซึม เรยี กว่า bull neck diphtheria อตั ราตายสูงมาก

3. Laryngeal diphtheria อาจเกิดจากการตดิ เชื้อท่ี pharynx, tonsils แลว้ ลามไปที่ กลอ่ งเสยี ง หรอื ตดิ เช้ือทีก่ ลอ่ งเสียงโดยตรง อาการ: ไข้ , เสียงแหบ , ไอ แผ่นฝา้ อาจอดุ ตนั ทางเดนิ หายใจ โคมา ตาย โรคคอตีบทางหอ้ งปฏิบตั ิการ

4. Cutaneouคsอdตiีบph(ตth่อe) ria and other การตดิ เชอ้ื ทีผ่ ิวหนงั เปน็ เพยี งแผลต้นื ๆ ไมม่ ีลกั ษณะเฉพาะ และมักไมม่ ี systemic toxicity แผลหายเองได้ ส่วนใหญ่พบ non-toxigenic C. diphtheriae strain . ตา่ แหนง่ อื่นๆ vagina conjunctiva Lungs โรคคอตีบทางห้องปฏิบตั ิการ

Complications เกดิ จาก ภาวะท่ี exotoxin ไปทา่ ลายอวยั วะตา่ งๆ ทสี่ ่าคญั คอื หัวใจ ไต และระบบ ประสาท การถูกท่าลายมากหรอื น้อยขึน้ กบั ต่าแหนง่ ทีม่ ีการติดเช้ือ และ ปรมื าณของ toxin ท่ีถกู สรา้ งและกระจายเขา้ สกู่ ระแสโลหิต หัวใจ พบวา่ อาจมี myocarditis เกดิ ขึ้นบ่อยถงึ 2 ใน 3 แตพ่ บมีอาการเพียง ประมาณร้อยละ 10 พบการเปลยี่ นแปลงคลีน่ ไฟฟ้าหวั ใจ (EKG) มักพบในสัปดาห์ แรก ถงึ 1 เดอื น Dysrhythmias พบไดบ้ ่อย และถ้ารนแรง อาจทาให้เสยี ชีวติ ได้ ไต พบเพียงโปรตนี หรอื cast ในปสั สาวะ สาหรับไตวายพบไดน้ ้อย แต่ถา้ พบอาการ มักจะรุนแรงถงึ ชวี ิต ระบบประสาท พบได้ร้อยละ 5-10 ของผูป้ ่วยคอตบี มักพบในระบบ motor nerves ในสปั ดาห์ที่ 2 ถงึ 6 และหายเปน็ ปกตไิ ด้ภายใน 2-3 สปั ดาห์ต่อมา สงเกต งา่ ยๆ ถา้ ผู้ปว่ ยมีเสยี งขนึ้ จมกู (nasal voice) มกั เป็นอาการเริม่ แรกทีเ่ กดิ ระบบ ประสาทอักเสบ

นยิ ามโรคใหม่ (1) ผ้ปู ว่ ยสงสัย ได้แก่ ผ้ทู ม่ี ไี ข้ เจ็บคอ คอแดง หรอื ได้รับการวนิ จิ ฉยั เป็น คออักเสบ หรอื กลอ่ งเสียงอักเสบ หรือต่อมทอนซลิ อักเสบ รว่ มกบั มี แผน่ ฝ้าขาวเทาในล่าคอ หรือจมูก ผปู้ ่วยน่าจะเปน็ ได้แก่ ผู้ป่วยสงสยั ท่ีมีปจั จัยเส่ียงอย่างนอ้ ย ๑ ข้อ ดังน้ี  มปี ระวัติสมั ผสั ใกลช้ ิดกับผปู้ ่วยยืนยนั โรคคอตบี ภายใน ๑๔ วันกอ่ นปว่ ย  มปี ระวัติเดินทางมาจากอา่ เภอท่ีพบผู้ปว่ ยยนื ยนั โรคคอตีบ ภายใน ๑๔ วัน ก่อนปว่ ย  มอี าการคอบวม (Bull neck)  มภี าวะกลา้ มเนอ้ื หวั ใจอกั เสบ หรอื พบ Motor paralysis ภายใน ๖ สปั ดาห์หลงั เร่มิ ป่วย

นยิ ามโรคใหม่ (2) ผ้ปู ่วยยืนยัน ไดแ้ ก่ ผปู้ ่วยสงสยั /น่าจะเปน็ ทตี่ รวจพบเชอ้ื Toxigenic strain C. diphtheriae จากตวั อย่างในลา่ คอ จมูก ช่องหู เย่ือบุตา ช่อง คลอด หรอื จากบาดแผลทีผ่ ิวหนงั ทั้งนใ้ี หร้ วมผู้ปว่ ยน่าจะเป็นที่ตรวจพบ เชื้อ C. diphtheriae และอาศัยในอา่ เภอทีพ่ บการระบาดของโรคคอตีบ เพอ่ื ใหก้ ารควบคมุ และป้องกันโรคดา่ เนนิ การได้อยา่ งรวดเรว็ ส่าหรับกรณผี ปู้ ว่ ยสงสัย/นา่ จะเปน็ ทต่ี รวจพบเช้อื C. ulcerans หรือ Non-toxigenic C. diphtheria ใหแ้ ยกออกจากนยิ ามผ้ปู ่วยโรคคอตีบ รายงานผปู้ ว่ ย ตง้ั แต่พบ ผปู้ ว่ ยสงสยั

กลมุ่ โรคติดเชือ้ ทีป่ อ้ งกนั ได้ด้วยวคั ซนี Vaccine Preventable Disease  คางทูม (Mumps)

กลุ่มโรคติดเชือ้ ท่ปี อ้ งกันไดด้ ้วยวคั ซนี Vaccine Preventable Disease คางทมู (Mumps)Suspected: ปวดและบวม ของต่อมนา่้ ลายใตก้ กหู (ขา้ งเดียว หรอื สองขา้ ง) นาน 2 วันข้นึ ไปProbable: ผู้ปว่ ยสงสยั และมีข้อมลู ทางระบาดวิทยาเชื่อมโยงกบั ผปู้ ว่ ยยืนยัน (Epidemiological linkage)Confirmed: ผปู้ ว่ ยสงสยั และมผี ลบวกตามเกณฑท์ าง หอ้ งปฏบิ ตั ิการจ่าเพาะ

กล่มุ โรคติดเช้ือทปี่ ้องกันไดด้ ว้ ยวคั ซนี Vaccine Preventable Disease คางทูม (Mumps)เกณฑ์ทางห้องปฏบิ ตั ิการทจ่ี าเพาะ  Mumps IgM ให้ผลบวก โดยวิธี ELISA  4-fold rising โดยวิธี HI  Viral isolation โดย buccal swab, blood, urine, CSF รายงานผ้ปู ว่ ย ต้งั แต่พบ ผ้ปู ว่ ยสงสัย

กลมุ่ โรคติดเชอ้ื ทป่ี อ้ งกนั ได้ด้วยวคั ซนี Vaccine Preventable Disease  บาดทะยัก (Tetanus)  บาดทะยักในเดก็ แรกเกิด (Neonatal Tetanus)

กลุม่ โรคติดเชอื้ ทีป่ อ้ งกันไดด้ ้วยวัคซีน Vaccine Preventable Disease บาดทะยกั (Tetanus)Suspected: ในเดก็ : ไม่ดูดนม คอแข็ง หลังแขง็ ชกั เกร็งเมื่อมีสิง่ กระตุ้น และ อาการปกตใิ น 2 วนั แรก โดยเร่ิมปว่ ยตั้งแตว่ นั ที่ 3-28 วันหลัง คลอด ทว่ั ไป : muscular contractions โดยเจ็บบรเิ วณกล้ามเนอื้ และ muscular spasmsProbable: ไมม่ ีConfirmed: ผ้ปู ว่ ยสงสยั และเพาะเชือ้ จากบาดแผล พบเชอ้ื C. tetani รายงานผู้ปว่ ย ตั้งแต่พบ ผปู้ ว่ ยสงสัย

กลมุ่ โรคติดเชื้อท่ปี อ้ งกันไดด้ ว้ ยวัคซนี Vaccine Preventable Disease  โปลิโอ (Poliomyelitis)

กลุม่ โรคติดเชื้อทปี่ ้องกันได้ดว้ ยวคั ซนี Vaccine Preventable Disease โปลิโอ (Poliomyelitis)Suspected: เดก็ อายนุ อ้ ยกวา่ 15 ปี ทม่ี อี าการ Acute Flaccid Paralysis ที่ ไมไ่ ดม้ สี าเหตุจากการบาดเจ็บProbable: ไม่มีConfirmed: ผู้ปว่ ยสงสัย และมผี ลบวกตามเกณฑท์ าง ห้องปฏบิ ตั ิการจ่าเพาะ โดยเพาะเชือ้ และแยกเชือ้ ไดเ้ ปน็ เชอ้ื ไวรัสโปลิโอชนดิ ธรรมชาติ (Wild Polio) จากอุจจาระของผ้ปู ่วย รายงานผู้ป่วย ตั้งแต่พบ ผู้ปว่ ยสงสยั

กลมุ่ โรคติดเชื้อทป่ี ้องกนั ไดด้ ้วยวคั ซีน Vaccine Preventable Disease  หัด (Measles)

กล่มุ โรคติดเชือ้ ที่ปอ้ งกันไดด้ ว้ ยวัคซนี Vaccine Preventable Disease หัด (Measles)Suspected: 1) ไขส้ ูง (BT > 38 C) AND 2) มผี น่ื หลังจากมไี ข้ ≥ 3 วัน AND 3) ขณะมผี น่ื ต้องมไี ข้ด้วย AND 4) มอี าการไอ AND 5) มีอาการอีก 1 อาการดังนี้ Koplik’s spot, Coryza, Conjunctivitis, ผื่นคล้า่ เวลาหายProbable: ผู้ปว่ ยสงสัย และมีขอ้ มูลทางระบาดวิทยาเช่ือมโยงกบั ผปู้ ่วย ยนื ยนั (Epidemiological linkage)Confirmed: ผู้ปว่ ยสงสัย และมผี ลบวกตามเกณฑ์ทางหอ้ งปฏิบตั กิ าร จา่ เพาะ

กลุ่มโรคติดเชอ้ื ท่ีปอ้ งกนั ไดด้ ้วยวคั ซีน Vaccine Preventable Diseaseหดั (Measles)เกณฑท์ างห้องปฏบิ ัตกิ ารท่ีจาเพาะ  Measles IgM ใหผ้ ลบวก โดยวธิ ี ELISA (ตอ้ งเจาะหลังผืน่ ขึน้ 4 วนั เป็นต้นไป)  Viral isolation โดย NP swab, blood (heparin เก็บ -20 C) รายงานผ้ปู ว่ ย ต้ังแต่พบ ผ้ปู ว่ ยสงสยั

กลมุ่ โรคติดเชื้อท่ปี ้องกนั ได้ด้วยวคั ซนี Vaccine Preventable Disease  หัดเยอมนั (Rubella)

กลุ่มโรคติดเชอ้ื ทีป่ ้องกนั ได้ดว้ ยวัคซนี Vaccine Preventable Disease หดั เยอมัน (Rubella)Suspected: 1) ไขต้ ่า (BT ≤ 38.3 C) AND 2) มีผื่นพรอ้ มๆกบั ไข้ AND 3) มี อาการอีก 1 อาการดงั น้ี ตอ่ มน้า่ เหลืองโต, ปวดข้อ/ขอ้ อกั เสบ หรอื ตาแดงProbable: ผปู้ ว่ ยสงสยั และมีข้อมลู ทางระบาดวิทยาเชอ่ื มโยงกับ ผ้ปู ว่ ยยืนยนั (Epidemiological linkage)Confirmed: ผู้ป่วยสงสัย และมผี ลบวกตามเกณฑท์ าง หอ้ งปฏิบตั ิการจ่าเพาะ

กลมุ่ โรคตดิ เชือ้ ทีป่ อ้ งกันไดด้ ว้ ยวคั ซนี Vaccine Preventable Diseaseหัดเยอมนั (Rubella)เกณฑ์ทางหอ้ งปฏบิ ัตกิ ารท่จี าเพาะ  Rubella IgM ให้ผลบวก โดยวธิ ี ELISA  4-fold rising โดยวธิ ี HI  Viral isolation โดย Throat swab รายงานผู้ปว่ ย ตง้ั แต่พบ ผู้ปว่ ยสงสัย

กลมุ่ โรคติดเชื้อท่ปี ้องกนั ไดด้ ้วยวัคซนี Vaccine Preventable Disease  สุกใส (Chicken pox)

กลุม่ โรคติดเช้อื ท่ีปอ้ งกันได้ด้วยวัคซนี Vaccine Preventable Disease สุกใส (Chicken pox)Suspected: ไข้ และมีตุม่ /ผน่ื หลายระยะ ในเวลาเดยี วกนั (multistage)Probable: ผปู้ ่วยสงสัย และมีขอ้ มูลทางระบาดวิทยาเช่ือมโยงกับ ผปู้ ว่ ยยนื ยนั (Epidemiological linkage)Confirmed: ผู้ป่วยสงสัย และมีผลบวกตามเกณฑท์ าง ห้องปฏิบัตกิ ารจา่ เพาะ

กลมุ่ โรคติดเช้อื ท่ีป้องกันไดด้ ว้ ยวัคซนี Vaccine Preventable Disease สกุ ใส (Chicken pox)เกณฑท์ างหอ้ งปฏบิ ัติการทจ่ี าเพาะ  Varicella Zoster Virus (VZV) IgM ให้ผลบวก โดยวธิ ี ELISA  4-fold rising โดยวธิ ี NT  Tzank smear ทข่ี อบตุ่ม พบ multinucleated giant cell (epithelial cell)  Viral isolation โดย vesicle swab รายงานผปู้ ว่ ย ตัง้ แต่พบ ผู้ปว่ ยสงสัย

กลมุ่ โรคติดเช้ือทปี่ อ้ งกนั ไดด้ ้วยวคั ซนี Vaccine Preventable Disease  ไอกรน (Pertussis)

กลมุ่ โรคติดเชอ้ื ทีป่ อ้ งกันไดด้ ว้ ยวัคซนี Vaccine Preventable Disease ไอกรน (Pertussis)Suspected: ไอ > 2 สปั ดาห์ และมอี าการขอ้ ใดขอ้ หน่งึ ดงั นี้ 1) ไอเป็นชุด (Paroxysmal of coughs) 2) มีเสยี งว้ปู หลัง/ระหวา่ งการไอ (Whooping cough) 3) มอี าเจียน หลังไอ (Post-tussis emesis)(CBC จะพบ WBC สูง แต่ Lymphocyte จะสงู มาก ตรวจ ESR จะปกติ)Probable: ผูป้ ว่ ยสงสยั และมีขอ้ มูลทางระบาดวิทยาเช่ือมโยงกบั ผู้ปว่ ย ยนื ยัน (Epidemiological linkage)Confirmed: ผ้ปู ว่ ยสงสยั และมผี ลบวกตามเกณฑ์ทางหอ้ งปฏบิ ัตกิ าร จา่ เพาะ

กลุ่มโรคติดเชอ้ื ที่ปอ้ งกนั ได้ด้วยวัคซนี Vaccine Preventable Disease ไอกรน (Pertussis)เกณฑ์ทางห้องปฏบิ ัตกิ ารที่จาเพาะ  เพาะเช้อื ใหผ้ ลบวกต่อ B. pertussis จากตวั อย่าง NP swab, NP aspiration, Bronchial aspiration (ใสใ่ น Amies charcoal transport media)  PCR ใหผ้ ลบวกตอ่ B. pertussis จากตัวอยา่ ง NP swab, NP aspiration, Bronchial aspiration (ห้ามใส่ Transport Media ใดๆ ทัง้ ส้นิ ใหใ้ ส่ Sterile container เท่านน้ั ) รายงานผ้ปู ่วย ต้ังแต่พบ ผู้ปว่ ยสงสยั

กลมุ่ โรคติดเช้ือระหวา่ งสัตวแ์ ละคน Zoonotic Disease โรคทรคิ ิโนซสิ (Trichinosis)Suspected: รายงานผู้ปว่ ย ตงั้ แต่พบ ผู้ปว่ ยสงสัย1) ไข้ AND 2) ปวดกลา้ มเนอื้ AND 3) เปลืกตา หรือหนา้ บวมรว่ มกบั มีประวัติรับประทานเนอื้ สตั วส์ กุ ๆ ดิบๆ (18 ชม. – 1 เดอื น)Probable: ผูป้ ว่ ยสงสยั และ มีผลการตรวจเลอื ด พบ Eosinophilia > 10% หรือ CPK > 30 U/LConfirmed: ผู้ปว่ ยสงสยั และมีผลการตรวจกล้ามเนื้อน่อง พบ T. spiralis หรือ ตรวจพบภมู ิคุ้มกนั ตอ่ เชือ้ T. spiralis ในเลอื ด

กลมุ่ โรคติดเช้อื ระหว่างสตั ว์และคน Zoonotic Disease พษิ สนุ ขั บ้า (Rabies) รายงานผ้ปู ่วย ตง้ั แตพ่ บ ผ้ปู ว่ ยสงสยัSuspected:1) ไข้ AND 2) ชา เจบ็ เสยี ว แผล AND 3) คันบรเิ วณแผล AND 4)กลนื ล่าบาก/ถ่มน้่าลายบ่อย AND ประวัติเสยี่ ง AND มีอาการอย่างนอ้ ย 1 อาการ1) กลวั น่า้ กลัวลม กลัวแสง 2) Myoedema 3) ParalysisProbable: ไมม่ ีConfirmed: ผู้ป่วยสงสัย และมผี ลการตรวจพบเชอื้ Rabies โดยวิธี PCR ในนา่้ ลาย CSF ปัสสาวะ ปมรากผม เน้อื สมอง

กลุ่มโรคติดเชอื้ ระหวา่ งสตั วแ์ ละคน Zoonotic Disease Melioidosis (จอมเลยี นแบบ)Suspected: ไมม่ ี รายงานผู้ป่วย ต้ังแตพ่ บ ผู้ปว่ ยเขา้ ขา่ ยProbable:1) ไข้สูง AND 2) ฝี ในทุกอวัยวะ เช่น ปอดอักเสบ LN Skin LiverSpleen Arthritis AND โดยไม่พบเชอ้ื ก่อโรคชนิดอืน่ โดยตรวจพบแบคทเี รยี แกรมลบ หรอื IHA ≥ 1:160 หรือ IFA ≥ 1:400Confirmed: ผปู้ ว่ ยสงสัย และมีผลการตรวจพบเชอื้ Burkhoderia pseudomallei โดยวธิ เี พาะเชอ้ื หรือ 4-fold rising titer โดยวิธี IHA หรอื IFA

กล่มุ โรคติดเช้อื ระหว่างสัตว์และคน Zoonotic Disease Leptospirosis (เลปโตสไปโรซิส)Suspected: 1) ไข้สงู หนาวส่ัน ปวดศีรษะ AND มอี าการอืน่ ๆ อยา่ งนอ้ ย 1 อาการ 1) ปวดกล้ามเน้อื อยา่ งรนุ แรง กดเจบ็ ตามกล้ามเนอ้ื 2) ตาแดง อาจมเี ลอื ดออก 3) CNS involvement ระดบั ความรู้สกึ เปลย่ี นไป ชกั คอแขง็ 4) ไอแห้ง หรอื ไอมเี สมหะปนเลือด AND มปี ระวตั เิ สี่ยงProbable: ผปู้ ่วยสงสยั และมีข้อมลู ทางระบาดวทิ ยาเชอื่ มโยงกับผู้ป่วยยนื ยนั (Epidemiological linkage)Confirmed: ผปู้ ่วยสงสัย และมผี ลบวกตามเกณฑท์ างหอ้ งปฏิบตั กิ ารจา่ เพาะ

กลมุ่ โรคติดเชอ้ื ระหวา่ งสัตว์และคน Zoonotic Disease Leptospirosis (เลปโตสไปโรซิส)เกณฑท์ างหอ้ งปฏิบตั กิ ารท่จี าเพาะ  IFA (Immunofluorescent Assay) Serum เดีย่ ว : IgM ≥ 1:100 หรือ IgG titer ≥ 1:400 = Acute infection Serum คู่ : 4-fold rising = Acute infection  MAT (Microscopic agglutination test) Serum เดย่ี ว : IgM ≥ 1:100 หรอื IgG titer ≥ 1:400 = Acute infection Serum คู่ : 4-fold rising = Acute infection  ELISA  Culture & PCR รายงานผูป้ ว่ ย ตงั้ แตพ่ บ ผู้ปว่ ยสงสัย

กลมุ่ โรคติดเชือ้ ระหว่างสัตวแ์ ละคน Zoonotic Disease แอนแทรกซ์ (Anthrax)Suspected: Cutaneous OR Intestinal OR Pulmonary Anthrax AND มปี ระวตั เิ ส่ยี ง อยา่ งนอ้ ย 1 ข้อ ดังนี้1) สัมผัสดว้ ยโรคแอนแทรกซ์ 7 วันก่อนป่วย2) กนิ เนอื้ สัตว์สกุ ๆ ดบิ ๆ สตั วป์ ่วย/ตายดว้ ยโรคแอนแทรกซ์ 7 วันก่อนปว่ ย3) หายใจเอาสปอรข์ องเช้อื เขา้ ไป เชน่ โรงงานผลิตขนสตั ว์ จากอาวธุ ชวี ภาพProbable: ไมม่ ีConfirmed: ผ้ปู ่วยสงสยั และพบเช้อื Bacilus anthracis โดยการเพาะเชอ้ื จากอจุ จาระ และแผล รายงานผ้ปู ่วย ตง้ั แตพ่ บ ผปู้ ว่ ยสงสยั

Anthrax

กลมุ่ โรคติดเช้อื จากการสมั ผสัSexually Transmitted Disease and other contacts คดุ ทะราด (Yaws) เย่อื บตุ าอกั เสบจากไวรสั (Viral conjunctivitis) ซฟิ ลิ ิส (Syphilis) แผลริมอ่อน (Chancroid) ฝีมะมว่ ง (LGV; Lymphogranuloma Venereum) หนองในแท้ (Gonorrhea, GU; Gonococcal urethritis) หนองในแท้ในทวารหนกั (Gonococcal infection of anus and rectum) หนองในเทยี ม (NGU; Non-Gonococcal urethritis)

กล่มุ โรคติดเชอ้ื จากการสัมผสัSexually Transmitted Disease and other contacts คดุ ทะราด (Yaws)Suspected: แผลนูนย่ืน (Papilloma) ตามรูปProbable: ผปู้ ่วยสงสัย และมีขอ้ มูลทางระบาดวิทยาเชื่อมโยงกบั ผ้ปู ว่ ยยืนยนั (Epidemiological linkage)Confirmed: ผปู้ ่วยสงสยั และผลพบเชอื้ Treponema pertenue จาก exudates โดยวธิ ี Darkfield หรือ direct FA microscopic exam รายงานผปู้ ่วย ตั้งแต่พบ ผปู้ ว่ ยสงสัย

กลมุ่ โรคติดเช้ือจากการสัมผสัSexually Transmitted Disease and other contacts  คดุ ทะราด (Yaws) Treponema pertenue

กลุ่มโรคติดเชือ้ จากการสมั ผสัSexually Transmitted Disease and other contacts ซิฟลิ สิ (Syphilis)Suspected: Primary Syphilis แผลรมิ แขง็ ไม่เจบ็ คล้ายกระดมุ Secondary Syphilis ออกผนื่ ทวั่ ตัว มักมที ฝี่ า่ มอื ฝา่เทา้ ผืน่ แดง นนู มสี ะเก็ด ไมค่ นั ผมรว่ ง ค้วิ รว่ ง ต่อมโตทว่ั ตัวProbable: ไม่มี รายงานผู้ป่วย ต้งั แตพ่ บ ผปู้ ว่ ยยนื ยนัConfirmed: ผปู้ ่วยสงสัย และผลพบเชอื้ Treponema pallidum จาก exudates กน้ แผล โดยวิธี Darkfield microscopic exam หรอื ตรวจเลอื ดพบ VDRL หรอื RPR > 1:8 หรอื TPHA หรอื FTA-ABS reactive

กลุ่มโรคติดเชอื้ จากการสัมผัสSexually Transmitted Disease and other contacts ซฟิ ิลสิ (Syphilis)

กลมุ่ โรคติดเชือ้ จากการสัมผสัSexually Transmitted Disease and other contacts แผลรมิ อ่อน (Chancroid)Suspected: แผล บรเิ วณอวยั วะเพศ ทม่ี ลี กั ษณะ 1) ขอบนิม่ 2) ก้นแผลมเี นอื้ ยุ่ยสีเหลือง 3) เจบ็ เวลาสัมผสั และ มีประวตั ิเสย่ี ง ทางเพศสมั พนั ธ์ ภายใน 3 เดอื นกอ่ นปว่ ยProbable: ไมม่ ีConfirmed: ผ้ปู ว่ ยสงสัย และย้อม gram stain หรอื Unna Papenheim จากแผล พบ gram negative coccobacilli ซึ่ง เรียงตัวเป็นแนวยาว คลา้ ยฝูงปลา (school of fish) รายงานผู้ป่วย ต้งั แต่พบ ผปู้ ว่ ยสงสัย

กลุ่มโรคติดเชอ้ื จากการสมั ผัสSexually Transmitted Disease and other contacts ฝมี ะมว่ ง (LGV; Lymphogranuloma Venereum)Suspected: ต่อมน้่าเหลืองบรเิ วณขาหนีบ บวม โต หรือ เป็นฝี หนอง โดยไมม่ บี าดแผลที่บริเวณเทา้ หรอื ทวารหนัก และ มี ประวัตเิ สยี่ งทางเพศสัมพนั ธ์ ภายใน 3 เดอื นกอ่ นปว่ ยProbable: ไมม่ ีConfirmed: ไม่มี รายงานผู้ป่วย ต้งั แตพ่ บ ผู้ปว่ ยสงสยั

กลุ่มโรคติดเชื้อจากการสัมผสัSexually Transmitted Disease and other contacts หนองในแท้ (Gonorrhea, GU; Gonococcal urethritis)Suspected: มปี ระวตั ิเสย่ี งทางเพศสมั พันธ์ ภายใน 3 เดอื น และมอี าการขอ้ ใดขอ้ หนงึ่ ดังตอ่ ไปน้ี1) มีหนอง หรอื มกู ปนหนอง จากทอ่ ปสั สาวะ สว่ นผ้หู ญิงมตี กขาวเป็นหนองหรอืมกู ปนหนอง รายงานผู้ป่วย ตัง้ แต่พบ ผู้ปว่ ยสงสัย2) ปสั สาวะแสบขัดProbable: ผู้ปว่ ยสงสัย และ ผลการตรวจ gram stain จากหนอง หรอื ขดู ท่อ ปสั สาวะ หรือปากมดลกู พบ intracellular gram negative diplococci และ มเี พศสัมพนั ธก์ ับผู้ป่วยยืนยนั ผลConfirmed: ผ้ปู ว่ ยสงสยั และผลพบเชือ้ Neisseria gonorrheae จากส่ิงส่งตรวจ

กล่มุ โรคติดเชอ้ื จากการสมั ผสั Sexually Transmitted Disease and other contacts หนองในแท้ในทวารหนัก (Gonococcal infection of anus and rectum)Suspected: มีประวัติเส่ยี งทางเพศสัมพนั ธ์ ภายใน 3 เดือน และมีอาการข้อใดขอ้ หน่ึงดงั ตอ่ ไปนี้ 1) มีอาการคนั เปยี กแฉะ หรอื ปวดเบง่ บริเวณทวารหนัก 2) มฝี หี นอง บรเิ วณทวารหนักProbable: ผ้ปู ว่ ยสงสัย และ ผลการตรวจ gram stain จากหนองจากล่าไส้ตรง พบ intracellular gram negative diplococci และมเี พศสัมพันธ์กบั ผู้ป่วย ยนื ยนั ผลConfirmed: ผ้ปู ่วยสงสัย และผลพบเชือ้ Neisseria gonorrheae จากส่งิ สง่ ตรวจ รายงานผู้ปว่ ย ตง้ั แต่พบ ผู้ปว่ ยสงสัย

กลุ่มโรคติดเช้ือจากการสัมผสัSexually Transmitted Disease and other contacts หนองในเทียม (NGU; Non-Gonococcal urethritis)Suspected: ชาย - มีประวตั เิ สยี่ งทางเพศสัมพันธ์ ภายใน 3 เดือน และมีอาการขอ้ ใดขอ้ หน่ึงดังต่อไปนี้ 1) มมี ูกใส หรอื มกู ขนุ่ จากทอ่ ปสั สาวะ 2) มปี ัสสาวะแสบขัด หรอื คนั ในทอ่ ปสั สาวะ หญงิ - มปี ระวตั เิ สีย่ งทางเพศสัมพันธ์ ภายใน 3 เดือน และมีมกู หรือมูกหนองจากปากมดลูก หรือ มเี พศสัมพนั ธ์กบั ผปู้ ่วย โรคหนองในเทยี ม โดยไมไ่ ด้ปอ้ งกัน

กลุ่มโรคติดเชือ้ จากการสมั ผัสSexually Transmitted Disease and other contacts หนองในเทียม (NGU; Non-Gonococcal urethritis)Probable: ผู้ป่วยสงสัยทีเ่ ป็นชาย ย้อม gram stain จากมกู หรือทอ่ ปัสสาวะ ไม่พบ intracellular gram negative diplococci แตพ่ บเม็ดเลอื ดขาว PMN ≥ 5 cells/oil field ผปู้ ว่ ยสงสัยท่ีเป็นหญิง ย้อม gram stain จากมกู หรอื ปากมดลกู ไมพ่ บ intracellular gram negative diplococci (ไมม่ ีเกณฑ์ PMN)Confirmed: ผ้ปู ว่ ยสงสัย และเพาะเชือ้ จากมกู ทอ่ ปัสสาวะ หรอื ปากมดลกู พบเชอื้ Chlamydia trachomatis โดยไม่พบเชอื้ N. gonorrheae รายงานผปู้ ่วย ตง้ั แตพ่ บ ผ้ปู ว่ ยเข้าขา่ ย

กลุ่มโรคติดเชื้อจากการสมั ผสัSexually Transmitted Disease and other contacts เยื่อบตุ าอกั เสบจากไวรัส (Viral conjunctivitis)Suspected: มีอาการเย่ือบุตาแดง อกั เสบ ปวดตา มีขี้ตา อาจมจี ดุ เลอื ดออกใตเ้ ยอ่ื บุตาขาว และมักเป็นสองขา้ งProbable: ผูป้ ่วยสงสยั และ มีข้อมูลทางระบาดวิทยาเชอื่ มโยงกับผูป้ ่วยยนื ยนั (Epidemiological linkage)Confirmed: ผู้ปว่ ยสงสัย และ มีผลตรวจทางหอ้ งปฏิบัติการข้อใดขอ้ หน่ึงดงั ตอ่ ไปน้ี รายงานผ้ปู ่วย ตั้งแต่พบ ผ้ปู ว่ ยสงสัย1) เพาะเชอ้ื พบ Adenovirus หรอื Enterovirus 70 หรอื CoxsackiesA24 จาก conjunctival swab 2) ตรวจพบ ภมู คิ มุ้ กันชนิด IgG ตอ่ เชื้อ Adenovirus หรอื Enterovirus70 หรอื Coxsackies A24 เพ่ิมขึน้ อยา่ งน้อย 4 เทา่

กลมุ่ โรคตดิ เชื้อทางเดนิ หายใจ Respiratory tract infection ไขห้ วัดใหญ่ รวมไข้หวดั นก (Influenza included Avian influenza) โรคปอดอักเสบ (Pneumonia)  โรคลีเจยี นแนร์ (Legionnaires disease) โรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (SARS) วัณโรคปอด (Pulmonary Tuberculosis) โรคเร้อื น (Leprosy)

กลมุ่ โรคติดเชือ้ ทางเดินหายใจ Respiratory tract infection ไขห้ วัดใหญ่ รวมไข้หวดั นก (Influenza included Avian influenza)Suspected: มีไข้ (> 38 องศาฯ) และปวดเมอ่ื ยกล้ามเน้อื รว่ มกับ อาการอน่ื อย่างนอ้ ย อีก 1 อาการ ดงั ต่อไปนี้ 1) ปวดศีรษะ 2) ไอรนุ แรง 3) เจ็บคอ 4) ออ่ นเพลยี 5) คัด จมูก 6) เยื่อบุตาอกั เสบProbable: ผปู้ ่วยสงสยั และ มขี อ้ มลู ทางระบาดวทิ ยาเช่ือมโยงกบั ผปู้ ่วยยืนยนั (Epidemiological linkage)Confirmed: ผ้ปู ่วยสงสยั และ มผี ลตรวจทางห้องปฏิบัติการขอ้ ใดขอ้ หนง่ึ ดงั ต่อไปน้ี 1) พบเชื้อ Influenza virus จากสารคดั หลั่งทางเดินหายใจ โดยวิธี PCR หรอื viral culture 2) ตรวจพบ ภูมคิ ุ้มกนั ชนิด IgM ตอ่ เชอ้ื Influenza virus โดยวิธี ELISA หรอื มี ภมู คิ มุ้ กนั ตอ่ เช้อื Influenza virus เพม่ิ ขน้ึ อย่างนอ้ ย 4 เทา่ โดยวิธี HI รายงานผ้ปู ่วย ต้งั แตพ่ บ ผู้ปว่ ยสงสยั

กลุม่ โรคตดิ เชอ้ื ทางเดนิ หายใจ Respiratory tract infection โรคปอดอกั เสบ (Pneumonia)Suspected:Adult : มไี ข้ ไอ หอบ และตรวจร่างกายพบเสียง crepitation หรอื bronchial breath sound ในปอดYounger child and infant (2 เดือน – 5 ปี) พบอาการขอ้ ใดขอ้ หน่งึ ดงั ตอ่ ไปน้ี 1) ไอ และ หายใจเร็ว (> 50 ครงั้ /นาที ในเดก็ 2 เดอื น – 1 ปี และ > 40 ครง้ั /นาที ในเดก็ อายุ 1 – 5 ปี ) 2) ไอ และมีชายโครงบุ๋ม เวลาหายใจเขา้ 3) ไอ และมีอาการตวั เขยี วVery young Infant (< 2 เดือน) : หายใจเรว็ > 60 คร้ัง/นาที หรือ ชายโครงบ๋มุ มาก หรือ ตวั เขียว หรอื หยดุ หายใจ

กล่มุ โรคติดเชอ้ื ทางเดินหายใจ Respiratory tract infection โรคปอดอกั เสบ (Pneumonia)Probable: ไม่มีConfirmed: ผูป้ ่วยสงสยั และ มีผลตรวจทางห้องปฏบิ ตั กิ ารข้อใดข้อหน่ึงดงั ตอ่ ไปน้ี1) ย้อม gram stain ในเสมหะ หรอื สารคัดหลงั่ ทางเดินหายใจ พบเชือ้ ทีเ่ ปน็สาเหตุ2) พบเช้ือที่เป็นสาเหตุ จากสารคัดหล่ังทางเดนิ หายใจ โดยวิธี PCR หรอื culture3) พบเช้ือที่เป็นสาเหตุ จากการเพาะเชอ้ื ในกระแสเลอื ด4) ตรวจพบ ภูมคิ มุ้ กนั ชนดิ IgM ต่อเช้ือทเ่ี ป็นสาเหตุ โดยวิธี ELISA หรือ มีภูมคิ ้มุ กนั ต่อเชอ้ื ท่เี ป็นสาเหตุ เพมิ่ ข้นึ อย่างน้อย 4 เท่า5) Urinary Antigen Test ให้ผลบวก ตอ่ เชื้อ Legionella pneumophilaserogroup 1 รายงานผูป้ ่วย ตงั้ แต่พบ ผปู้ ว่ ยสงสยั