ข้อบัญญัตทิ าง พทุ ธ ศาสนา - ไมม่ ขี ้อบญั ญตั ิทางศาสนา แนวทางปฏบิ ัติ อิสลาม - ขณะละหมาด ผนู้ าไมส่ ามารถยตุ หิ รือเลิกละหมาดได้จนกวา่ จะปฏิบ คริสต์ - ไมม่ ขี อ้ บัญญตั ทิ างศาสนา พราหมณ์ – ฮนิ ดู - ไมม่ ขี ้อบัญญตั ทิ างศาสนา ซิกข์ - ศาสนสถานวดั ซกิ ข์เปน็ ท่ีประทับของพระมหาคัมภีร์ครุ คุ รันถ์ซาฮิบ พทุ ธ - ไมเ่ ขา้ ตรวจค้นในขณะมีพธิ กี รรมทางศาสนา รอให้พธิ กี รรมทางศาส อสิ ลาม 1. ตดิ ตอ่ อมิ ามหรือผู้นาทอ้ งถิ่นและปิดลอ้ มจนละหมาดเสร็จ 2. หลีกเลี่ยงการใชอ้ าวธุ และสนุ ัขในการตรวจค้น (ยกเวน้ กรณมี ีความ คริสต์ - ไม่เขา้ ตรวจคน้ ในขณะมีพธิ ีกรรมทางศาสนา รอใหพ้ ิธกี รรมทางศาส พราหมณ์ – ฮนิ ดู - ไมเ่ ขา้ ตรวจค้นในขณะมีพธิ ีกรรมทางศาสนา รอให้พธิ กี รรมทางศาส ซิกข์ - การตรวจค้นไม่ว่าจะเป็นเวลาใดก็ตาม ต้องได้รับอนุญาตก่อนเพ ไปสทู่ ่ปี ระทับ และจะนาพาเจ้าหน้าทไี่ ปตรวจคน้ ตามความต้องการต่อ - เจา้ หน้าทสี่ ามารถติดต่อสอบถาม สมาคมศรคี ุรสุ ิงห์สภา (วดั ซิกข)์ ก
43 บัตเิ สรจ็ ไมเ่ กิน 30 นาที ซึง่ ศาสนิกชนชาวซิกขท์ ง้ั หลายนบั ถอื เปน็ พระศาสดาสงู สุด และเปน็ ทปี่ ระทับตลอด 24 ชัว่ โมง สนาเสรจ็ สิ้นกอ่ น และเข้าตรวจคน้ โดยสุภาพอ่อนโยน มจาเป็น) สนาเสร็จสิ้นกอ่ น และเขา้ ตรวจค้นโดยสุภาพออ่ นโยน สนาเสรจ็ สน้ิ กอ่ น และเข้าตรวจค้นโดยสุภาพอ่อนโยน พียงสถานเดียว เมื่อได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ ศาสนาจารย์จะอัญเชิญพร ะมหาคัมภีร์ อไป เพื่อเปน็ การเทิดพระเกยี รติของพระศาสดา และเปน็ การถนอมนา้ ใจของศาสนกิ ชน กรงุ เทพฯ
ขอ้ ควรระวัง 1. กรณีท่ดี าเนนิ การตรวจคน้ โดยไม่มหี มายค้นหรือคาสั่งศาล ตามมา ขอ้ ยกเว้น 2. กรณที ี่ดาเนนิ การตามมาตรา 11 แห่ง พ.ร.ก.บรหิ ารราชการในสถ 3. กรณีทด่ี าเนินการตามมาตรา 9 (1) แหง่ พ.ร.บ.กฎอัยการศกึ พ.ศ กรณีดังกล่าวเมอ่ื ตรวจคน้ เสร็จสนิ้ แลว้ ให้แจง้ และทาความเขา้ ใจกับผ้นู
44 - าตรา 92 แหง่ ประมวลกฎหมายวธิ ีพจิ ารณาความอาญา หรือ ถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 หรือ ศ.2457 หรอื นาศาสนาของศาสนสถานนน้ั ด้วยความสภุ าพ ออ่ นโยน
การตรวจคน้ ศาสนสถาน (ตอ่ ) ข้อคาถามขอ้ ท่ี 9 9.2.3 การใชส้ ุนขั ดมกล่ินเขา้ ร่วมในการปิดล้อมตรวจค้นกับเจา้ หน กฎหมาย/ระเบียบ ประมวลกฎหมายวธิ ีพจิ ารณาความอาญา ทีเ่ ก่ียวขอ้ ง มาตรา 94 ใหพ้ นกั งานฝายปกครองหรอื ตารวจที่ทาการค้นในทีร่ โหฐ อกี ทัง้ ใหค้ วามสะดวกตามสมควรทกุ ประการในอันท่ีจะจัดการตามหม ถาบคุ คลดังกล่าวในวรรคตน้ มยิ อมให้เข้าไป เจาพนกั งาน รวั้ หรือส่งิ กีดขวางอยา่ งอื่นทานองเดียวกนั นั้นกไ็ ด้ มาตรา 95 ในกรณีค้นหาสงิ่ ของทีห่ าย ถา้ พอทาไดจ้ ะใหเ้ จาของหรอื มาตรา 96 การค้นในท่ีรโหฐานต้องกระทาระหว่างพระอาทติ ย์ข้นึ แล (๑) เม่อื ลงมอื ค้นแต่ในเวลากลางวัน ถา้ ยงั ไมเสรจ็ จะคน้ ต (2) ในกรณฉี ุกเฉนิ อย่างยิง่ หรอื ซง่ึ มกี ฎหมายอน่ื บญั ญตั ใิ (๓) การคน้ เพอ่ื จับผูด้ รุ ้ายหรอื ผูร้ายสาคญั จะทาในเวลาก ของประธานศาลฎกี า มาตรา 97 ในกรณีที่คน้ โดยมีหมาย เจาพนกั งานผูมชี ่อื ในหมายคน้ ห ตัง้ แตช่ ั้นรอ้ ยตารวจตรขี ึน้ ไปเทา่ นั้นมีอานาจเป็นหัวหน้าไปจัดการให้เ มาตรา 98 การคน้ ในท่รี โหฐานนน้ั จะคน้ ไดแตเ่ ฉพาะเพอื่ หาตัวคนห (๑) ในกรณที ่ีคน้ หาสง่ิ ของโดยไมจากดั สิ่ง เจาพนักงานผูค หรอื จาเลย (๒) เจาพนกั งานซึง่ ทาการคน้ มอี านาจจับบุคคลหรอื สง่ิ ขอ มาตรา 99 ในการคน้ นนั้ เจาพนักงานตอ้ งพยายามมิให้มกี ารเสียหา มาตรา ๑๐๒ การคน้ ในท่ีรโหฐานน้นั ก่อนลงมอื ค้นใหเ้ จ้าพนักงานผ หรือบคุ คลในครอบครวั ของผูน้ ้ัน หรอื ถา้ หาบุคคลเชน่ กลา่ วน้นั ไมไ่ ด้ ก การค้นที่อยู่หรือสานักงานของผู้ต้องหาหรือจาเลยซ่ึงถูก หรือให้พยานมากากบั ก็ได้ ถา้ ผแู้ ทนหรอื พยานไม่มี ใหค้ น้ ตอ่ หนา้ บุคค
45 น้าท่เี พอื่ พสิ จู นด์ มกล่ิน ส่ิงผิดกฎหมาย จะทาไดห้ รือไม่ ต้องปฏบิ ัตอิ ยา่ งไร ฐาน สัง่ เจาของหรือคนอยใู่ นนั้นหรอื ผูรักษาสถานทีซ่ ่ึงจะค้น ใหย้ อมให้เขา้ ไปโดยมหิ วงหา้ ม มาย ทง้ั น้ใี หพ้ นักงานผูนน้ั แสดงหมายหรือถ้าคน้ ไดโดยไมตองมีหมายกใ็ หแ้ สดงนามและตาแหนง นมีอานาจใช้กาลังเพือ่ เข้าไป ในกรณจี าเป็นจะเปิดหรอื ทาลายประตูบา้ น ประตเู รือน หน้าต่าง อผูครอบครองส่งิ ของน้นั หรอื ผแู ทนของเขาไปกับเจาพนกั งานในการคน้ นั้นดว้ ยกไ็ ด้ ละตก มีข้อยกเวน้ ดงั น้ี ต่อไปในเวลากลางคนื ก็ได้ ให้คน้ ได้เปน็ พิเศษ จะทาการค้นในเวลากลางคนื กไ็ ด กลางคนื กไ็ ด้ แต่ตอ้ งไดรับอนุญาตพิเศษจากศาลตามหลกั เกณฑ์และวธิ กี ารที่กาหนดในข้อบังคับ หรือผูรักษาการแทนซ่งึ ตอ้ งเปน็ พนักงานฝายปกครองตัง้ แตร่ ะดับสามหรอื ตารวจซง่ึ มียศ เป็นไปตามหมายน้นั หรือส่งิ ของท่ตี อ้ งการคน้ เท่านั้น แตม่ ขี ้อยกเว้นดังนี้ คน้ มอี านาจยึดส่งิ ของใดๆ ซง่ึ นา่ จะใช้เป็นพยานหลักฐานเพ่อื เป็นประโยชนหรือยันผตู้ อ้ งหา องอน่ื ในที่ค้นน้ันได เม่อื มหี มายอีกตา่ งหาก หรอื ในกรณีความผิดซึง่ หนา ายและกระจดั กระจายเทา่ ท่ีจะทาได้ ผู้ค้นแสดงความบริสุทธ์ิเสียก่อน และเท่าที่สามารถจะทาได้ให้คน้ ต่อหน้าผู้ครอบครองสถานท่ี ก็ใหค้ ้นต่อหนา้ บคุ คลอื่นอยา่ งน้อยสองคนซ่ึงเจ้าพนกั งานไดข้ อรอ้ งมาเปน็ พยาน กควบคุมหรือขังอยู่ให้ทาต่อหน้าผู้นั้น ถ้าผู้น้ันไม่สามารถหรือไม่ติดใจมากา กับจะต้ังผู้แทน คลในครอบครวั หรือตอ่ หน้าพยานดงั กลา่ วในวรรคกอ่ น
ขอ้ บัญญัตทิ าง สง่ิ ของใดทีย่ ึดได้ต้องใหผ้ ู้ครอบครองสถานที่ บคุ คลในค ศาสนา รบั รองหรือไมย่ อมรับรองกใ็ ห้บันทกึ ไว้ พุทธ แนวทางปฏิบตั ิ - ไม่มีขอ้ บญั ญตั ทิ างศาสนา อสิ ลาม - น้าลายสุนขั ถอื เปน็ ส่งิ สกปรก (นะญสิ ) - ไมอ่ นญุ าตใหน้ าสัตวเ์ ลี้ยงเข้ามสั ยิด คริสต์ - ไมม่ ขี อ้ บญั ญตั ทิ างศาสนา พราหมณ์ – ฮินดู - ไมม่ ีขอ้ บญั ญัตทิ างศาสนา ซกิ ข์ - ศาสนสถานวัดซิกข์ ไมอ่ นุญาตให้นาสตั ว์เขา้ ศาสนสถาน พทุ ธ - ค้นไดโ้ ดยต้องเลอื กใช้วธิ อี ่ืนๆ กอ่ น หากมีความจาเปน็ สามารถนาส อสิ ลาม - ตดิ ต่ออิมามหรอื ผ้นู าท้องถนิ่ - หลีกเลีย่ งการใชส้ นุ ขั นอกจากกรณีมคี วามจาเป็น คริสต์ - ค้นได้โดยตอ้ งเลือกใชว้ ิธีอ่ืนๆ ก่อน หากมีความจาเปน็ สามารถนาส พราหมณ์-ฮินดู - สามารถตรวจบริเวณรอบโบสถไ์ ด้แตไ่ ม่ควรใชส้ ุนัขในบรเิ วณโบสถ์ ใ
46 ครอบครวั ผู้ตอ้ งหา จาเลย ผแู้ ทนหรอื พยานดู เพอ่ื ให้รับรองวา่ ถูกตอ้ ง ถ้าบคุ คลเช่นกลา่ วนัน้ สนุ ขั มาใชไ้ ด้ สุนขั มาใช้ได้ ใหใ้ ชว้ ิธอี ่ืน
ขอ้ ควรระวัง ซิกข์ ข้อยกเว้น - หากเจ้าหน้าทีไ่ มม่ ที างเล่ยี งเปน็ อนื่ ให้ตรวจสอบกับคณะกรรมการศ - นอกจากเปน็ เรือ่ งความมนั่ คงหรือเรือ่ งสาคญั อื่น ตอ้ งแจง้ ให้ศาสนส พุทธ - กรณีดังกล่าวเป็นเร่ืองละเอียดอ่อนมีความเก่ียวข้องกับหลายฝ่าย ดาเนินการขอใหป้ ระสานกับเจ้าอาวาส หรือหากเจ้าอาวาสไม่ให้ควา พจิ ารณาตามความเหมาะสม และประสานกบั เจา้ หนา้ ท่สี านักงานพระ และเปน็ ประจกั ษพ์ ยานได้ อิสลาม - หา้ มสุนัขเขา้ มัสยิดหรอื บรเิ วณทชี่ าวมุสลมิ ใชท้ าละหมาดโดยเด็ดขา ครสิ ต์ - ในกรณที ีไ่ มม่ พี ธิ กี รรม การเข้าตรวจค้นย่อมทาไดต้ ามระเบียบปฏิบัต - ในกรณที ี่มีพิธีกรรม รอให้จบพิธเี สียก่อน และได้รบั ความเห็นชอบจา พราหมณ์-ฮินดู - ให้แจ้งหัวหน้าคณะพราหมณ์หรือเจ้าอาวาส หรือหัวหน้าคณะดูแ ไมอ่ นญุ าตสามารถใช้หมายศาลในการขอเขา้ ค้นได้ ซิกข์ - ตามวินยั แหง่ ศาสนาซกิ ข์ หา้ มนาสัตว์ทกุ ชนดิ เข้าในบริเวณศาสนสถ กรรมการศาสนสถานทราบ เพ่ือดาเนินการอญั เชญิ พระมหาคัมภรี ์ไปส - หากปรากฏว่า ศาสนาจารย์ หรือบุคลากรของทางวัดซิกข์ข้องเกี่ย อานวยความสะดวก หากไมไ่ ด้รับความร่วมมือ ใหใ้ ช้เจา้ หน้าที่นอกเค - กรณีนักข่าวหรอื ส่อื มวลชน ไม่ควรจะให้เขา้ มาทาข่าว เพราะจะนาม เป็นอนั ขาด แม้กระท่งั การสบู บหุ ร่ี ซึ่งเป็นสิ่งต้องห้ามตามหลักศาสนา
47 ศาสนสถานก่อน สถานทราบกอ่ น ย ดังนั้นให้พิจารณาอย่างรอบคอบพร้อมพยานหลักฐานว่าได้มีการกระทาผิดจริง ทั้งน้ีในการ ามร่วมมือ ให้ประสานเจ้าคณะท้องถิ่นผู้ปกครองท่ีอยู่เหนือข้ึนไปตามลาดับชั้นในทางลับ หรือ ะพทุ ธศาสนาแห่งชาติ หรอื สานักงานพระพทุ ธศาสนาจงั หวดั ในพนื้ ที่ เพ่ือให้เกิดความเรียบร้อย าด ติ สาหรับเข้าตรวจค้นโบสถ์ควรได้รับความเห็นชอบจากอธกิ ารโบสถก์ ่อน ากอธกิ ารโบสถ์ หากจาเป็นตอ้ งใชส้ นุ ัขเขา้ ช่วยในการตรวจค้น ให้ขอความเห็นชอบด้วยเชน่ กนั แลศาสนสถานนั้นๆ และตรวจค้นด้วยความสุภาพ ในกรณีเจ้าอาวาสหรือหัวหน้าพราหมณ์ ถาน ฉะนน้ั หากไมม่ ีความจาเป็นให้งดใช้สุนัขดมกลิ่น แต่ในกรณีไม่มีทางเลือกเป็นอื่น ให้แจ้งให้ สู่ทป่ี ระทบั ทง้ั น้ี ใช้เฉพาะกรณีท่เี ก่ียวขอ้ งกบั ความม่ันคงของชาติ และความผดิ ขัน้ อกุ ฤษฏ์ ยวกับยาเสพติด และมีหลักฐานปรากฏชัดแจ้ง ให้ประสานงานกับนายกสมาคมฯ โดยตร งเพื่อ ครอ่ื งแบบมาควบคุมตวั โดยไมใ่ ช้ความรุนแรงในกรณีทีไ่ ม่ขัดขืนใหเ้ ปน็ ไปตามกฎหมาย มาซ่ึงความเสือ่ มเสยี ต่อสถาบันศาสนา โดยปกตแิ ล้วชาวซิกข์ไมย่ ่งุ เกย่ี วกับขบวนคา้ ยาเสพติด า -
การตรวจค้น 9.3 การตรวจค้นบคุ คล และสถานท่ี โดยวธิ ีการตา่ งๆ ข้อคาถามขอ้ ที่ 9 9.3.1 วธิ ีการตรวจคน้ เช่น การใช้สนุ ัข หรอื เคร่อื งมืออ่ืนๆ มีขนั้ ต กฎหมาย/ระเบยี บ ทเี่ ก่ยี วข้อง ประมวลกฎหมายวธิ ีพิจารณาความอาญา มาตรา 94 ให้พนักงานฝ่ายปกครองหรือตารวจทท่ี าการคน้ ในท่รี โหฐ อกี ท้ังใหค้ วามสะดวกตามสมควรทกุ ประการในอันทจี่ ะจัดการตามหม ถา้ บคุ คลดังกล่าวในวรรคตน้ มยิ อมให้เข้าไป เจ้าพนักงาน หรือส่งิ กดี ขวางอย่างอื่นทานองเดยี วกันนน้ั กไ็ ด้ มาตรา 95 ในกรณคี ้นหาสง่ิ ของท่ีหาย ถ้าพอทาไดจ้ ะให้เจ้าของหรอื มาตรา 96 การค้นในท่รี โหฐานตอ้ งกระทาระหว่างพระอาทติ ย์ข้นึ แล (๑) เมอ่ื ลงมอื ค้นแต่ในเวลากลางวนั ถ้ายังไม่เสรจ็ จะคน้ ต (2) ในกรณฉี ุกเฉนิ อยา่ งยิง่ หรอื ซ่ึงมีกฎหมายอืน่ บญั ญตั ิใ (๓) การคน้ เพ่ือจบั ผู้ดุรา้ ยหรอื ผู้รา้ ยสาคญั จะทาในเวลาก ของประธานศาลฎีกา มาตรา 97 ในกรณที ค่ี ้นโดยมีหมาย เจ้าพนกั งานผู้มชี อ่ื ในหมายคน้ ห ต้ังแตช่ ัน้ รอ้ ยตารวจตรีขึ้นไปเทา่ นั้นมอี านาจเป็นหัวหน้าไปจดั การให้เ มาตรา 98 การค้นในท่ีรโหฐานนัน้ จะคน้ ได้แตเ่ ฉพาะเพื่อหาตวั คนห (๑) ในกรณีท่ีคน้ หาสิง่ ของโดยไม่จากัดส่งิ เจ้าพนกั งานผู้ค หรือจาเลย (๒) เจา้ พนกั งานซึ่งทาการค้นมีอานาจจบั บุคคลหรือส่งิ ขอ มาตรา 99 ในการค้นนน้ั เจาพนกั งานต้องพยายามมใิ ห้มกี ารเสียหา มาตรา ๑๐๒ การคน้ ในท่รี โหฐานนั้น ก่อนลงมือคน้ ให้เจา้ พนักงานผคู้ หรือบุคคลในครอบครัวของผูน้ น้ั หรอื ถา้ หาบคุ คลเช่นกลา่ วน้นั ไม่ได้ ก การคน้ ที่อยู่หรือสานักงานของผู้ต้องหาหรือจาเลยซึง่ ถูก
48 ตอนการปฏบิ ตั ิอยา่ งไร ฐาน ส่ังเจ้าของหรอื คนอย่ใู นนนั้ หรอื ผู้รักษาสถานที่ซง่ึ จะค้น ให้ยอมใหเ้ ข้าไปโดยมิหวงห้าม มาย ทงั้ นใ้ี หพ้ นกั งานผู้น้นั แสดงหมายหรือถ้าคน้ ได้โดยไม่ต้องมีหมายก็ใหแ้ สดงนามและตาแหน่ง นมอี านาจใช้กาลงั เพื่อเข้าไปในกรณจี าเปน็ จะเปดิ หรอื ทาลายประตูบา้ น ประตเู รอื น หน้าต่าง รัว้ อผู้ครอบครองส่ิงของนน้ั หรือผู้แทนของเขาไปกบั เจ้าพนักงานในการค้นน้นั ดว้ ยกไ็ ด้ ละตก มขี ้อยกเวน้ ดังนี้ ตอ่ ไปในเวลากลางคืนกไ็ ด้ ใหค้ น้ ไดเ้ ป็นพเิ ศษ จะทาการคน้ ในเวลากลางคนื ก็ได กลางคนื ก็ได้แตต่ อ้ งได้รบั อนญุ าตพิเศษจากศาลตามหลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีการท่ีกาหนดในขอ้ บงั คับ หรือผู้รกั ษาการแทนซ่ึงต้องเป็นพนักงานฝ่ายปกครองตัง้ แต่ระดับสามหรือตารวจซ่ึงมียศ เปน็ ไปตามหมายนน้ั หรอื สิง่ ของที่ตอ้ งการค้นเท่านน้ั แตม่ ขี ้อยกเวน้ ดงั นี้ คน้ มอี านาจยดึ สิ่งของใดๆ ซ่งึ นา่ จะใชเ้ ปน็ พยานหลกั ฐานเพอ่ื เปน็ ประโยชน์หรือยนั ผ้ตู อ้ งหา องอ่ืนในทค่ี ้นนั้นได้ เมอ่ื มีหมายอกี ต่างหาก หรือในกรณคี วามผิดซง่ึ หน้า ายและกระจัดกระจายเท่าท่ีจะทาได้ คน้ แสดงความบรสิ ุทธเิ์ สียก่อน และเทา่ ที่สามารถจะทาได้ให้ค้นตอ่ หนา้ ผู้ครอบครองสถานท่ี ก็ให้ค้นตอ่ หนา้ บคุ คลอ่ืนอยา่ งน้อยสองคนซ่งึ เจ้าพนักงานไดข้ อร้องมาเปน็ พยาน กควบคมุ หรือขงั อยู่ให้ทาต่อหน้าผนู้ น้ั ถ้าผู้น้นั ไม่สามารถหรอื ไม่ติดใจมากากับจะตง้ั ผ้แู ทน หรือ
ข้อบญั ญตั ทิ าง ให้พยานมากากับก็ได้ ถา้ ผู้แทนหรอื พยานไม่มี ให้ค้นต่อหนา้ บุคคลใน ศาสนา สิง่ ของใดทย่ี ึดไดต้ อ้ งให้ผ้คู รอบครองสถานท่ี บุคคลในคร แนวทางปฏิบัติ รับรองหรอื ไมย่ อมรับรองกใ็ หบ้ ันทึกไว้ พทุ ธ - ไมม่ ขี อ้ บัญญัติทางศาสนา อิสลาม - น้าลายสนุ ัขถอื เป็นสิ่งสกปรก (นะญิส) - ไมอ่ นุญาตใหน้ าสตั วเ์ ลีย้ งเข้ามสั ยิด ครสิ ต์ - หากมีความจาเป็น สามารถใช้สุนขั เขา้ ตรวจคน้ ได้ พราหมณ์ – ฮินดู - สามารถตรวจบรเิ วณรอบโบสถไ์ ด้ แตไ่ มค่ วรใชส้ ุนขั ในบรเิ วณโบสถ์ ซกิ ข์ - ในศาสนสถานวดั ซกิ ข์หา้ มโดยเดด็ ขาด นอกจากเป็นเรือ่ งความมั่นค พทุ ธ - ในการตรวจค้นใหใ้ ชบ้ ุคคลตรวจคน้ โดยสามารถใชเ้ ครอ่ื งมอื ทางวทิ ย แลว้ จงึ ดาเนนิ การเทา่ ที่จาเปน็ อิสลาม - ติดต่ออมิ ามหรือผ้นู าท้องถิ่น - หลีกเลย่ี งการใชส้ นุ ขั นอกจากกรณมี ีความจาเป็น คริสต์ - ในการตรวจค้นให้ใชบ้ ุคคลตรวจคน้ โดยสามารถใชเ้ คร่อื งมือทางวิทย แลว้ จงึ ดาเนนิ การเทา่ ท่จี าเปน็
49 นครอบครัวหรอื ต่อหน้าพยานดงั กลา่ วในวรรคกอ่ น รอบครวั ผู้ตอ้ งหา จาเลย ผ้แู ทนหรอื พยานดู เพ่ือใหร้ บั รองวา่ ถกู ต้อง ถ้าบุคคลเช่นกลา่ วนน้ั คงแต่ต้องแจง้ ใหท้ ราบก่อน ยาศาสตรไ์ ด้ หากจาเปน็ ต้องใช้สนุ ัขในการตรวจคน้ ขอใหแ้ จ้งเหตผุ ลและความจาเป็นก่อน ยาศาสตร์ได้ หากจาเปน็ ต้องใช้สนุ ขั ในการตรวจค้นขอให้แจง้ เหตผุ ลและความจาเป็นก่อน
ข้อควรระวัง พราหมณ์ – ฮินดู ข้อยกเว้น - ในการตรวจคน้ ใหใ้ ชบ้ ุคคลตรวจค้นโดยสามารถใช้เครื่องมือทางวิทย แลว้ จงึ ดาเนนิ การเทา่ ท่ีจาเป็น ซกิ ข์ - ในการตรวจคน้ ใหใ้ ชบ้ ุคคลตรวจค้นโดยสามารถใช้เครอ่ื งมอื ทางวทิ ย แล้วจึงดาเนนิ การเทา่ ทจ่ี าเป็น พึงระมดั ระวงั การตรวจคน้ ในสถานท่หี วงห้ามพิเศษ
50 ยาศาสตรไ์ ด้ หากจาเป็นตอ้ งใช้สนุ ัขในการตรวจค้นขอให้แจ้งเหตผุ ลและความจาเปน็ ก่อน ยาศาสตรไ์ ด้ หากจาเป็นต้องใช้สุนัขในการตรวจคน้ ขอใหแ้ จง้ เหตุผลและความจาเป็นกอ่ น -
การตรวจคน้ 9.3.2 การตรวจคน้ ในพืน้ ทีร่ ะมดั ระวังพเิ ศษ เช่น ห้องบรรพบรุ ุษ, ข้อคาถามข้อที่ 9 กฎหมาย/ระเบียบ ประมวลกฎหมายวธิ พี จิ ารณาความอาญา ที่เกี่ยวข้อง มาตรา 94 ใหพ้ นกั งานฝ่ายปกครองหรือตารวจทีท่ าการค้นในทร่ี โหฐ อกี ทั้งใหค้ วามสะดวกตามสมควรทุกประการในอันท่จี ะจดั การตามหม ถ้าบคุ คลดงั กล่าวในวรรคต้นมยิ อมให้เขา้ ไป เจ้าพนักงาน หรือสิง่ กดี ขวางอย่างอื่นทานองเดยี วกันนัน้ กไ็ ด้ มาตรา 95 ในกรณคี ้นหาส่งิ ของท่หี าย ถา้ พอทาไดจ้ ะให้เจ้าของหรอื มาตรา 96 การค้นในทรี่ โหฐานตอ้ งกระทาระหว่างพระอาทติ ยข์ น้ึ แล (๑) เมื่อลงมือค้นแต่ในเวลากลางวนั ถา้ ยงั ไม่เสร็จจะค้นต (2) ในกรณีฉุกเฉนิ อยา่ งย่งิ หรือซึ่งมกี ฎหมายอื่นบญั ญัตใิ (๓) การคน้ เพือ่ จบั ผูด้ รุ ้ายหรอื ผู้รา้ ยสาคัญจะทาในเวลากลางคนื มาตรา 97 ในกรณีทคี่ ้นโดยมหี มาย เจ้าพนักงานผู้มชี ่ือในหมายค้นห ตงั้ แตช่ ั้นร้อยตารวจตรขี ้ึนไปเท่าน้นั มอี านาจเป็นหัวหนา้ ไปจดั การใหเ้ มาตรา 98 การคน้ ในท่ีรโหฐานนน้ั จะค้นได้แต่เฉพาะเพ่ือหาตวั คนห (๑) ในกรณที ีค่ น้ หาสงิ่ ของโดยไม่จากัดสง่ิ เจ้าพนักงานผู้ค้น (๒) เจา้ พนักงานซง่ึ ทาการค้นมีอานาจจับบุคคลหรือสิง่ ขอ มาตรา 99 ในการค้นน้ัน เจาพนกั งานตอ้ งพยายามมใิ ห้มีการเสยี หา มาตรา ๑๐๒ การคน้ ในท่ีรโหฐานนน้ั ก่อนลงมือค้นใหเ้ จ้าพนกั งานผ้คู บคุ คลในครอบครัวของผ้นู ั้น หรอื ถา้ หาบคุ คลเชน่ กล่าวน้ันไมไ่ ด้ กใ็ หค้ การคน้ ท่อี ยหู่ รอื สานักงานของผตู้ อ้ งหาหรือจาเลยซึง่ ถูกค พยานมากากบั กไ็ ด้ ถ้าผู้แทนหรือพยานไมม่ ี ใหค้ ้นตอ่ หน้าบุคคลในคร ส่งิ ของใดทีย่ ดึ ได้ตอ้ งให้ผคู้ รอบครองสถานที่ บุคคลในคร รับรองหรือไมย่ อมรบั รองกใ็ ห้บนั ทกึ ไว้
51 ศาลเจา้ ท,่ี มมิ บรั ทเ่ี ทศนา เปน็ ต้น มีขน้ั ตอนการปฏิบัตอิ ยา่ งไร ฐาน สัง่ เจ้าของหรือคนอยู่ในนัน้ หรอื ผู้รกั ษาสถานที่ซงึ่ จะค้น ใหย้ อมให้เข้าไปโดยมิหวงหา้ ม มาย ทง้ั นี้ให้พนกั งานผู้น้ันแสดงหมายหรอื ถา้ ค้นได้โดยไม่ตอ้ งมีหมายกใ็ หแ้ สดงนามและตาแหน่ง นมอี านาจใช้กาลงั เพอ่ื เข้าไปในกรณจี าเปน็ จะเปดิ หรอื ทาลายประตบู ้าน ประตูเรือน หนา้ ต่าง ร้วั อผู้ครอบครองส่ิงของนน้ั หรือผู้แทนของเขาไปกับเจ้าพนกั งานในการค้นนัน้ ดว้ ยกไ็ ด้ ละตก มขี ้อยกเว้นดงั น้ี ต่อไปในเวลากลางคืนก็ได้ ใหค้ ้นไดเ้ ปน็ พเิ ศษ จะทาการคน้ ในเวลากลางคืนก็ได นก็ไดแ้ ตต่ ้องได้รบั อนญุ าตพิเศษจากศาลตามหลกั เกณฑแ์ ละวิธีการท่ีกาหนดในขอ้ บงั คับของประธานศาลฎีกา หรอื ผู้รักษาการแทนซงึ่ ต้องเป็นพนักงานฝ่ายปกครองต้ังแตร่ ะดบั สามหรือตารวจซ่งึ มียศ เปน็ ไปตามหมายนั้น หรือสงิ่ ของที่ตอ้ งการคน้ เท่านั้น แต่มขี อ้ ยกเว้นดังนี้ นมอี านาจยดึ สง่ิ ของใดๆ ซ่ึงนา่ จะใช้เป็นพยานหลกั ฐานเพอื่ เปน็ ประโยชน์หรือยันผู้ต้องหาหรอื จาเลย องอ่ืนในที่คน้ นน้ั ได้ เม่อื มีหมายอีกตา่ งหาก หรอื ในกรณคี วามผิดซงึ่ หน้า ายและกระจัดกระจายเท่าท่ีจะทาได้ ค้นแสดงความบริสุทธ์เิ สยี ก่อน และเทา่ ที่สามารถจะทาไดใ้ ห้คน้ ต่อหน้าผู้ครอบครองสถานทห่ี รือ ค้นตอ่ หนา้ บุคคลอ่นื อย่างน้อยสองคนซงึ่ เจา้ พนกั งานได้ขอรอ้ งมาเป็นพยาน ควบคุมหรือขังอยู่ใหท้ าตอ่ หนา้ ผนู้ นั้ ถา้ ผนู้ ้นั ไม่สามารถหรือไมต่ ดิ ใจมากากับจะต้งั ผู้แทน หรอื ให้ รอบครัวหรอื ตอ่ หนา้ พยานดงั กลา่ วในวรรคกอ่ น รอบครัว ผตู้ อ้ งหา จาเลย ผู้แทนหรือพยานดู เพอ่ื ใหร้ ับรองวา่ ถูกตอ้ ง ถา้ บุคคลเช่นกล่าวน้ัน
ข้อบัญญัตทิ าง พทุ ธ ศาสนา - ไมม่ ขี ้อบญั ญตั ิทางศาสนา แนวทางปฏบิ ัติ อิสลาม - ไม่มีข้อบัญญัติทางศาสนา ขอ้ ควรระวัง ครสิ ต์ ข้อยกเว้น - ไมม่ ขี ้อบัญญัติทางศาสนา พราหมณ์ – ฮินดู - ไม่มขี อ้ บญั ญตั ิทางศาสนา ซิกข์ - ซิกขไ์ ม่มีการเก็บเถา้ กระดูกของบรรพบรุ ษุ แตท่ ุกบ้านของชาวซิกขม์ พทุ ธ - ปฏบิ ัติตามข้นั ตอนปกติ แตใ่ ห้คานึงถงึ ความเหมาะสมของแต่ละสถา อสิ ลาม - ตดิ ต่ออมิ ามหรือผู้นาท้องถน่ิ - หลกี เลยี่ งการใช้อาวธุ และสุนัข นอกจากกรณีมีความจาเป็น ครสิ ต์ - ปฏิบตั ติ ามขนั้ ตอนปกติ แตใ่ ห้คานงึ ถึงความเหมาะสมของแต่ละสถา พราหมณ์ – ฮินดู - ปฏบิ ัติตามข้ันตอนปกติ แตใ่ ห้คานงึ ถงึ ความเหมาะสมของแต่ละสถา ซกิ ข์ - หากผู้ต้องหาหลบอยู่ในห้องน้ันไม่ควรท่ีเจ้าหน้าท่ีจะบุกเข้าไป ถ้าจาเปน็ ตอ้ งเข้าต้องถอดรองเท้า ถอดหมวก แล้วใช้สวมผ้าคลุมศรี ษะ
52 มีห้องพระซง่ึ เปน็ ทป่ี ระดิษฐานของพระมหาคมั ภีร์อนั ศกั ดสิ์ ิทธ์ิ านท่ี านที่ านท่ี ควรบอกญาติทางบ้านให้เรียกตัวออกมา หากปฏิเสธหรือดื้อดึงให้ล้อมทาง ออกได้สุดท้าย ะกอ่ นเขา้ ไป - -
การตรวจคน้ 9.3.3 การตรวจค้นในขณะมีสตรอี ยคู่ นเดียว เช่น การค้นตวั ผู้หญ ขอ้ คาถามข้อที่ 9 กฎหมาย/ระเบียบ - ประมวลกฎหมายวธิ พี จิ ารณาความอาญา ทเ่ี กี่ยวขอ้ ง มาตรา ๘๕ เจ้าพนักงานผู้จับหรอื รบั ตัวผถู้ ูกจับไว้ มีอานาจคน้ ตัวผ ข้อบญั ญตั ิทาง การคน้ นนั้ จักต้องทาโดยสุภาพ ถา้ ค้นผู้หญงิ ตอ้ งให้หญ ศาสนา ส่ิงของใดทยี่ ึดไว้เจ้าพนกั งานมีอานาจยดึ ไวจ้ นกว่าคดถี เวน้ แต่ศาลจะสง่ั เปน็ อย่างอืน่ แนวทางปฏบิ ตั ิ มาตรา ๙๓ ห้ามมิใหท้ าการคน้ บคุ คลใดในท่สี าธารณสถาน เวน้ แตพ่ ในความครอบครองเพือ่ จะใช้ในการกระทาความผิด หรอื ซง่ึ ได้มาโดย พุทธ - ไม่มีข้อบญั ญัติทางศาสนา อสิ ลาม - ไม่อนุญาตชายอน่ื เข้าบ้านขณะนางอยคู่ นเดียวแมก้ ระทง่ั พ่ีชายของส ครสิ ต์ - ไมม่ ขี ้อบญั ญัติทางศาสนา พราหมณ์ – ฮินดู - ไม่มขี อ้ บัญญตั ิทางศาสนา ซกิ ข์ - ไมม่ ีขอ้ บัญญตั ทิ างศาสนา ปฏบิ ัตติ ามประมวลกฎหมายวิธีพจิ ารณาความอาญา ว่าดว้ ยการตรวจ พุทธ - การตรวจค้นตวั สตรีต้องใชเ้ จ้าหน้าที่สตรีในการตรวจค้น อิสลาม - ควรใหม้ บี ุคคลที่ 3 ท่ีชาวบา้ นให้ความเคารพนบั ถือ เชน่ ประธานชมุ
53 ญิงทนี่ ับถือศาสนาอสิ ลามหรือศาสนาอนื่ ๆ มขี ้ันตอนการปฏบิ ตั ิอย่างไร ผูต้ ้องหา และยดึ สงิ่ ของต่าง ๆ ที่อาจใช้เปน็ พยานหลกั ฐานได้ ญิงอนื่ เปน็ ผูค้ ้น ถงึ ท่ีสุด เมือ่ เสรจ็ คดีแลว้ กใ็ ห้คืนแก่ผตู้ อ้ งหาหรอื แก่ผอู้ ืน่ ซึ่งมสี ิทธิเรียกรอ้ งขอคืนสิ่งของนน้ั พนักงานฝ่ายปกครองหรือตารวจเป็นผู้คน้ ในเม่อื มีเหตอุ นั ควรสงสยั ว่าบุคคลน้นั มสี ่งิ ของ ยการกระทาความผิดหรอื ซง่ึ มีไวเ้ ปน็ ความผิด สามี จค้นและควรหาพยานบคุ คลที่ 3 เขา้ รว่ มสังเกตการณ์ มชน โต๊ะอิหมา่ ม หรอื กรรมการมสั ยดิ เป็นพยาน
ขอ้ ควรระวัง คริสต์ ขอ้ ยกเว้น - การตรวจค้นตวั สตรตี อ้ งใช้เจ้าหน้าท่ีสตรใี นการตรวจคน้ พราหมณ์ – ฮนิ ดู - การตรวจค้นตวั สตรตี อ้ งใช้เจ้าหน้าท่ีสตรใี นการตรวจค้น ซกิ ข์ - การตรวจคน้ ตวั สตรีตอ้ งใชเ้ จ้าหนา้ ที่สตรีในการตรวจค้น - หากเป็นหญงิ ชาวซิกขอ์ ยลู่ าพงั ควรรอให้ญาติเขากลบั มาก่อนถา้ ไมม่ พร้อมกัน เว้นแตเ่ ป็นกรณีไมส่ ามารถจดั หาบุคคลท่ี 3 ได้ ให้พจิ ารณาตามความ
54 มกี ใ็ หส้ ตรชี าวซกิ ข์มาเปน็ พยาน หรือถา้ ไมม่ ีใหผ้ อู้ าวโุ สชาวซกิ ข์พรอ้ มเจ้าหน้าที่หญงิ และเขา้ ไป - มเหมาะสม
การชันสูตรพลกิ ศพ การชนั สตู รพลกิ ศพพระภิกษุ สามเณร นกั พรตหรอื นกั บวชในศาสน ข้อคาถามข้อที่ 10 กฎหมาย/ระเบยี บ - ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ทเี่ กี่ยวข้อง มาตรา ๑๔๘ เมื่อปรากฏแนช่ ัด หรือมเี หตอุ นั ควรสงสยั วา่ บุคคลใดต พลิกศพ เว้นแต่ตายโดยการประหารชวี ติ ตามกฎหมาย ขอ้ บัญญัติทาง ศาสนา การตายโดยผดิ ธรรมชาติน้นั คอื (๑) ฆ่าตวั ตาย (๒) ถกู ผ้อู น่ื ทาใหต้ าย (๓) ถูกสัตว์ทารา้ ยตาย (๔) ตายโดยอุบัตเิ หตุ (๕) ตายโดยยังมิปรากฏเหตุ มาตรา 151 ในเมื่อมีการจาเป็นเพ่อื พบเหตุของการตาย เจ้าพนกั งาน บางสว่ นไปยงั แพทย์หรือพนกั งานแยกธาตขุ องรฐั บาลกไ็ ด้ พุทธ - ไม่มขี ้อบญั ญัติทางศาสนา อิสลาม - ศพมุสลมิ ตอ้ งรีบดาเนินการอาบน้า หอ่ ละหมาด ฝงั ภายใน 24 ชัว่ - ไมอ่ นญุ าตทาการตัดอวัยวะใดๆของศพ ครสิ ต์ - ไม่มขี ้อบัญญตั ิทางศาสนา พราหมณ์ – ฮนิ ดู - ไม่มขี อ้ บัญญตั ิทางศาสนา ซกิ ข์ - ไมม่ ขี ้อบญั ญัติทางศาสนา
55 นาใด เจา้ หน้าที่ตารวจจะตอ้ งดาเนนิ การอยา่ งไร ตายโดยผดิ ธรรมชาติ หรือตายในระหวา่ งอยใู่ นความควบคุมของเจ้าพนักงาน ให้มกี ารชนั สตู ร นผทู้ าการชันสตู รพลิกศพมอี านาจสง่ั ให้ผา่ ศพแล้วแยกธาตุส่วนใด หรือจะให้ส่งทั้งศพหรอื วโมง
แนวทางปฏบิ ัติ พทุ ธ - สามารถปฏบิ ัติไดต้ ามปกติ ขอ้ ควรระวัง ขอ้ ยกเว้น อิสลาม 1. วธิ กี ารจดั การกบั ศพไดม้ ีการตกลง สานักจุฬาราชมนตรีกบั นติ ิเวช (1) การเสียชวี ิตในโรงพยาบาลเนอ่ื งจากการเจ็บปว่ ยตามปกติมกั จ (2) ถา้ เสียชีวติ ในโรงพยาบาลกรณีผเู้ สียชวี ติ อายุไมถ่ งึ 40 ปี หรือ ถ้าเป็นกรณีการตายอย่างชัดเจน เช่น ไฟฟา้ ช็อต ตกนา้ ให้ญาตไิ ปขอ ได้เสียชีวิตในเหตุไม่ต้องสงสัยวา่ เปน็ ฆาตกรรม (ถ้าญาติไมท่ ราบเจ้าห ก็จะไมม่ กี ารผ่าศพ ญาติสามารถนาศพกลับไปได้เลย 2. กรณีจาเปน็ ตอ้ งผ่าพิสจู น์ศพเพอื่ หาสาเหตกุ ารตายและเป็นพยานห วธิ ีพจิ ารณาความอาญา มาตรา 151 คริสต์ - สามารถปฏบิ ตั ไิ ดต้ ามปกติ พราหมณ์ - ฮินดู - สามารถปฏิบัติไดต้ ามปกติ ซกิ ข์ หากผตู้ ายเป็นชาวซิกขแ์ ละไม่ปรากฏว่าเปน็ การตายผดิ ธรรมชาติ นาย ไม่ติดใจ แต่กรณสี งสัยและมัน่ ใจวา่ มพี ิรุธใหแ้ จง้ ให้ญาติทราบและดาเ เพราะชาวซกิ ข์ต้องอาบน้าศพและใหญ้ าติเย่ียมคารวะศพเป็นครั้งสดุ ท
56 แยกเปน็ กรณดี งั นี้ จะไมม่ ีปญั หา อเสียชีวิตท่ีบ้าน หากเจ้าหนา้ ท่ีจะต้องส่งศพไปนติ ิเวช ซงึ่ ไม่ไดม้ ีการผ่าศพทกุ ครง้ั อหนงั สือรับรองจากอิมาม เป็นการเซน็ รบั รองวา่ ชอ่ื นามสกลุ เลขประจาตวั ประชาชน หนา้ ทีส่ ามารถแนะนาญาติได้) หากนิตเิ วชพิจารณาเหน็ ว่าไม่มรี ่องรอยทตี่ ้องใช้เปน็ หลกั ฐาน หลักฐานประกอบการดาเนินคดีให้ชีแ้ จงกับญาตผิ ู้ตายแล้วดาเนนิ การตามประมวลกฎหมาย ยแพทยผ์ ู้ทาการตรวจชันสูตรพลกิ ศพมคี วามเหน็ วา่ ไม่จาเปน็ ตอ้ งผ่าพิสูจน์หากญาติพ่นี อ้ ง เนินการเฉพาะเท่าท่ีจาเปน็ โดยไม่นาเอาอวยั วะออกไปหรอื ทาใหศ้ พอยูใ่ นสภาพท่ีดูไมไ่ ด้ ท้ายกอ่ นจะนาศพไปฌาปนกจิ - -
ขน้ั ตอนการปฏบิ ตั เิ พ่มิ เติม ข้อคาถามขอ้ ท่ี 11 ขน้ั ตอนการลาสกิ ขาบทกรณีเร่งด่วน ในยามวกิ าลควรทาอย่างไร กฎหมาย/ระเบียบ - ประมวลกฎหมายวิธพี จิ ารณาความอาญา ท่ีเกี่ยวขอ้ ง มาตรา 86 ห้ามมิใหใ้ ช้วิธกี ารควบคมุ ผู้ถูกจับเกินกวา่ ทีจ่ าเป็นเพื่อป้อ มาตรา 87 หา้ มมิใหค้ วบคุมผู้ถกู จับไว้เกนิ กว่าจาเป็นตามพฤติการณ์แ ในกรณคี วามผิดลหโุ ทษ จะควบคุมผถู้ ูกจับไว้ได้เทา่ เวลาท - คาพพิ ากษาศาลฎกี าท่ี 984/2529 “การควบคุมผู้ถกู จับ ตามปร มาถึงทีท่ าการของพนกั งานฝา่ ยปกครองหรือตารวจ” - ประมวลระเบยี บการตารวจเกย่ี วกับคดี ลักษณะที่ 3 บทท่ี 5 ขอ้ 40 วรรคสอง นอกจากอาณัติของคณะสงฆแ์ ล้ว ยังมคี วามประพฤ พูดเก้ียวหญงิ ทานองชู้สาว ถกู ต้องเนอ้ื ตวั หญงิ หรอื อยใู่ นที่ลับหูลบั ตาก นุง่ หม่ อยา่ งคฤหสั ถ์ เป็นต้น ในกรณีเช่นน้ีใหต้ ารวจพาพระภิกษสุ ามเณ ประพฤตผิ ดิ ตอ่ อาณตั ิของคณะสงฆด์ งั กลา่ วแลว้ ข้อ 41 เม่อื พระภิกษลุ ะเมิดพระพทุ ธบัญญตั ิประถมปารา สง่ ตวั ใหค้ ณะสงฆพ์ จิ ารณาตอ่ ไป ฉะน้นั ตารวจมีอานาจทาการจับกุมพ มอบยังกรมการศาสนา กระทรวงวฒั นธรรมเพือ่ ดาเนนิ การตอ่ ไป - พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 มาตรา 29 พระภิกษุรูปใดถูกจับโดยต้องหาว่ากระทาความผิดอาญ แห่งวดั ที่พระภิกษรุ ปู นน้ั สังกดั ไม่รบั มอบตัวควบคุม หรอื พนักงานสอบ ใหพ้ นักงานสอบสวนมีอานาจจดั ดาเนินการให้พระภิกษรุ ูปนัน้ สละสม ขอ้ บญั ญตั ทิ าง พุทธ ศาสนา - การขาดจากความเปน็ พระภกิ ษุ ตามพระธรรมวนิ ัยนนั้ ทางหนึง่ ได้แ (๑) เสพเมถุน (๒) เอาของทีเ่ จ้าของไมใ่ ห้ ซึ่งพระราชาจะลงโทษถึงปร ขึ้นไป (๓) ฆ่ามนษุ ย์ และ (๔) อวดอ้างคุณวเิ ศษท่ไี ม่มีในตน (ดู วนิ ัยป
57 องกนั มิใหเ้ ขาหนเี ทา่ นั้น แห่งคดี ท่ีจะถามคาใหก้ าร และที่จะร้ตู วั ว่าเปน็ ใครและทอ่ี ยู่ของเขาอยทู่ ไ่ี หนเทา่ น้ัน ระมวลกฎหมายวธิ พี ิจารณาความอาญา มาตรา 87 ใหเ้ ริ่มนับเวลาควบคุมตั้งแต่เวลาที่ผู้ถกู จบั ฤตบิ างอยา่ งซง่ึ ถือว่าเปน็ ความผิดต่อพระพทุ ธบญั ญัตริ า้ ยแรงย่ิงกวา่ อาณัตสิ งฆ์ข้ึนไปอีก เชน่ กับหญงิ สองตอ่ สอง เสพเครอื่ งดองของเมา เชน่ สุรา ยาฝ่ิน และกัญชา เล่นการพนันต่างๆ และ ณรทปี่ ระพฤติดงั กลา่ วไปมอบให้แกเ่ จา้ คณะท้องถิ่น เช่นเดยี วกบั กรณีที่พระภิกษุ สามเณร าชิก ใหเ้ ปน็ หน้าที่ของเจ้าพนักงานรักษาท้องถิน่ มีอานาจคุมตวั แล้วสง่ ไปกรมธรรมการเพอ่ื จะได้ พระภิกษทุ ่ีละเมิดประถมปาราชิกได้อีกด้วย และเม่ือจับตัวได้แล้ว ในปัจจุบันใหต้ ารวจนาตวั ญา เม่ือพนักงานสอบสวนหรือพนักงานอัยการไม่เห็นสมควรให้ปล่อยช่ัวคราว และเจ้าอาวาส บสวนไม่เหน็ สมควรใหเ้ จ้าอาวาสรับตัวไปควบคุมหรือพระภิกษุรูปน้ันมิได้สังกัดในวัดใดวัดหนึ่ง มณเพศเสียได้ แกก่ รณที ีพ่ ระภิกษุต้องอาบตั ปิ าราชิกซ่งึ พระพทุ ธองคท์ รงบัญญัติไว้ ๔ ประการดว้ ยกนั คอื ระหารชวี ติ จองจาหรือเนรเทศ (สมยั น้ันได้แก่การลกั เอาของท่ีมีคา่ ตัง้ แต่ ๕ มาสก (๑ บาท) ปิฎกเล่มท่ี ๑ ชอื่ มหาวภิ ังค์)
แนวทางปฏิบัติ ภกิ ษุที่ต้องอาบตั ิปาราชกิ เป็นอันขาดจากความเปน็ ภิกษุทนั ท “รู้อยแู่ ก่ใจ” ดวี า่ ตนได้ประพฤตปิ ฏิบัติในสิง่ ที่ต้องอาบตั ถิ งึ ปาราชกิ ห สว่ นการ “ขาดจากความเปน็ พระภกิ ษ”ุ อีกทางหนง่ึ นนั้ ได้แก (ดู สมเดจ็ พระมหาสมณเจา้ พระยาวชิรญาณวโรรส, วินัยมุข เลม่ ๓, ก ภกิ ษุผเู้ บือ่ หนา่ ยแตก่ ารประพฤติพรหมจรรยป์ รารถนาจะกลบั หรอื ตอ่ หน้าบคุ คลอน่ื ท่มี ใิ ชภ่ กิ ษุกไ็ ด้แต่ต้องเป็นผู้ทีม่ สี ติสมบูรณเ์ ข้าใจ วิธีการปฏิญญา (ตามอรรถคถา) กาหนดไว้ให้ ตั้งนโม ๓ จบ ข้าพเจ้าไว้ว่าเป็นคฤหัสถ์แล้ว วา่ อย่างน้ี ๓ จบตอ่ จากนน้ั ถึงเปล้ืองผ้าค กบั คฤหสั ถ์ไม่ตอ้ งรบั ศีล ๕ และรบั พร หรือกล่าวด้วยถอ้ ยคาอยา่ งอ่นื ท อิสลาม - ไม่มขี อ้ บญั ญัติทางศาสนา คริสต์ - นิกายทมี่ นี ักบวช เจา้ หนา้ ที่ตารวจดาเนนิ การตามข้ันตอนของกฎหม พราหมณ์ - ฮินดู - ผมู้ สี ทิ ธิทจี่ ะบวชพราหมณต์ อ้ งเปน็ สายโลหติ พราหมณ์ (สืบตอ่ จากบ - ถ้าผทู้ บี่ วชนัน้ กระทาผิดตอ่ ชาติบา้ นเมือง คือกระทาผดิ และศาลได้ม โดยแจ้งไปท่ี คณะพราหมณต์ ้นสังกัดและสังกัดราชการนนั้ ๆ เพื่อทาก ซิกข์ - ศาสนาซกิ ข์ไม่มีนักบวช อนึ่งศาสนาซกิ ขม์ ีเพยี งแต่ศาสนาจารย์ ซง่ึ เ กระทาความผดิ กฎหมายบา้ นเมือง และมีความจาเปน็ ต้องจับกมุ ก็ขอ - ไมม่ ีการบวชในศาสนาซกิ ข์ จึงไมม่ ีการสึก มแี ต่ปลดออกจากตาแหน พทุ ธ 1. ในเบ้อื งต้นเจ้าหน้าที่ตารวจตอ้ งตรวจสอบประวัติของพระภกิ ษุผู้ถ คาพิพากษาของศาลวา่ ไดม้ กี ารกระทาผิดและศาลไดม้ ีคาพิพากษาส่งั ล
58 ที โดยไม่ต้องมพี ิธใี ดๆ และห้ามอปุ สมบทอกี ดังนี้ ภกิ ษทุ ีป่ ระพฤติพรหมจรรย์อยจู่ งึ ยอ่ มจะ หรือไม่และตนได้พน้ จากความเป็นภกิ ษุแล้วหรือยัง ก่ “การลาสิกขา” หรือการสละ “สมณเพศ” ซงึ่ ได้มกี ารกาหนดไวใ้ นพระธรรมวนิ ยั กัณฑท์ ่ี ๓๓ มหามกฎุ ราชวิทยาลัย ๒๕๓๘ หนา้ ๒๑๐ - ๒๑๕ ) ความโดยสรปุ วา่ บคนื ไปสู่ความเปน็ คฤหัสถ์ย่อมทาได้ดว้ ยการลาสกิ ขา คือปฏิญญาตนเป็นคฤหัสถ์ตอ่ คณะสงฆ์ จถงึ ปฏิญญาด้วย แลว้ กลา่ วคาว่า “สิกขงั ปัจจักชามิ คิหีติ มงั ธาเรถะ” ข้าพเจา้ ขอลาสิกขาทา่ นท้ังหลายจงจา ครอง สวมเส้อื ผา้ และรับศีล ๕ ตอ่ ไป พร้อมรบั พรจากพระเพ่ือความเป็นสิริมงคลหากลาสิกขา ทานองเดียวกัน มาย ส่วนเรอ่ื งการปลด การสึกเป็นเรอ่ื งทางศาสนจกั รจะเป็นผู้ดาเนนิ การ บิดาทเ่ี ป็นพราหมณ์) เทา่ นัน้ มีคาพิพากษา สงั่ ลงโทษจาคกุ หรอื ประหารชวี ติ พราหมณท์ ่านนัน้ จะถูกตัดสายธุรา ตดั ผม (สกึ ) การตัดสายธุรา เป็นเพศคฤหัสถ์ แต่สว่ นใหญม่ าจากประเทศอินเดยี หากเขาเหล่านั้นต้องสงสยั วา่ อใหก้ รุณาประสานงานกบั คณะกรรมการบริหารสมาคมศรคี ุรุสิงหส์ ภา (วดั ซิกข)์ กรงุ เทพฯ นง่ ถกู กลา่ วหาว่ากระทาผดิ หรอื มีคดี มีความผิดติดตัวอยา่ งชัดเจน มีหลกั ฐาน เช่น หมายจบั หรอื ลงโทษก่อนจึงแสดงตัว แลว้ จึงคอ่ ยดาเนนิ การตอ่ ไป
2. กรณีผู้กระทาผดิ น้ันเปน็ พระภกิ ษุในสังกัดวัดใดวัดหนง่ึ ใหแ้ จง้ ประส (ในกรณีตอ้ งใหล้ าสกิ ขา) แล้วจึงควบคุมตวั ไปดาเนนิ การตามกฎหมาย หมายเหตุ การทต่ี ารวจไดพ้ าจาเลยไปที่วัดที่จาเลยสงั กัดเพือ่ ให้จา สมณเพศ” ตามพระราชบัญญัตสิ งฆ์ เมือ่ วธิ ดี ังกลา่ วไม่ไดผ้ ล พนกั วาจาลาสิกขาตอ่ หนา้ พยานทเ่ี ปน็ คฤหัสถซ์ ่ึงกส็ ามารถทาได้ตามกร ยอมรบั เสียแล้ว..... นเี่ ปน็ สว่ นหนง่ึ ของหมายเหตทุ า้ ยคาพิพากษาศาลฎกี าท่ีคัดย่อมาเพอ่ื ใ ในการพิพากษาคดดี ว้ ย ข้อควรระวัง ขอ้ ยกเวน้ หมายเหตุ การลาสกิ ขาบท เฉพาะพระภกิ ษุในศาสนาพุทธเท่านนั้ รวมท่อี ยู่ และหมายเลขโทรศัพท์ ตัวแทนศาสนา พุทธ : สานักงานพระพุทธศาสนาแหง่ ชาติ เลขที่ 25/25 อาคารหลวงพอ่ วดั ปากนา้ ถ โทร 0 2441 7999, 0 2441 0087, ศนู ย์ฮอตไลนแ์ จง้ ภัยทางพระพทุ ธศา อสิ ลาม : อาคารสานกั จุฬาราชมนตรี ชน้ั 3 ศูนย์บรหิ ารกจิ การศาสนาอิสลามแห่งชา 10530 โทร 0 2949 4278, 0 2949 4312 - 3 โทรสาร 0 2949 4 คริสต์ : สภาประมุขบาทหลวงโรมนั คาทอลกิ แหง่ ประเทศไทย เลขท่ี 122/11 ซอยน โทร 0 2681 3900 โทรสาร 0 2681 5369, 0 2681 5370 อเี มล์ cb ประธานสภาครสิ ตจักรในประเทศไทย ศ.ดร.ทวศี ักด์ิ มหชวโรจน์ โทร 06 14 ประธานสหกิจคริสเตยี นแหง่ ประเทศไทย ศ.ดร.มาโนช แจ้งมุข โทร 08 192 ประธานสหครสิ ตจกั รแบ็บตสิ ตใ์ นประเทศไทย ศ.ธงชัย ประดบั ชนานรุ ัตน์ โท ประธานมลู นิธคิ ริสตจกั รเซเวน่ ธเ์ ดย์แอ็ดเวนตีสแห่งประเทศไทย ศ.นริ ตั ศิ ัย อ
59 สานกับเจา้ อาวาสวัดนน้ั ๆ เพือ่ ดาเนนิ การทางวนิ ัยสงฆ์หรอื ทางการปกครองคณะสงฆใ์ ห้ถกู ตอ้ ง ย าเลยสึกแตเ่ จา้ อาวาสไม่ยอมสกึ ใหถ้ ือวา่ เปน็ วธิ กี ารหนงึ่ ในการ “จดั ดาเนนิ การใหส้ ละ กงานสอบสวนจึงตอ้ งดาเนินการอยา่ งอื่นในทางทจ่ี ะให้เกิดผลจึงได้ดาเนนิ การให้จาเลยเปล่ง รอบแห่งพระธรรมวนิ ัย จะว่าเปน็ การกระทาโดยพลการไม่ไดเ้ พราะสงฆท์ ่ีจาเลยสังกัดไม่ ใหพ้ ระสังฆาธกิ ารทราบ ซ่ีงเป็นการอธบิ ายหลกั กฎหมาย เพื่อให้เกิดความเขา้ ใจถงึ เหตุผลทใี่ ช้ - - ถนนพุทธมณฑลสาย 4 ตาบลศาลายา อาเภอพทุ ธมณฑล จังหวัดนครปฐม 73170 าสนา 0 2441 6400 กด 2 ตลอด 24 ช่วั โมง าติ เฉลมิ พระเกียรติ ถนนคลองเกา้ แขวงคลองสบิ เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร 4220 อเี มล์ [email protected] นาคสวุ รรณ ถนนนนทรี เขตยานนาวา กรงุ เทพมหานคร 10120 [email protected], [email protected] 410 2777 23 7855 ทร 08 1835 7327 อ้ายป๋นั โทร 08 1020 7986
พราหมณ์ – ฮินดู : สานักพราหมณ์พระราชครู ในสานักพระราชวงั เลขที่ 268 ถนน โทรศพั ท์ 0 2222 6951 โทรสาร 0 2224 1211 อเี มล์ org วดั เทพมณเฑียร สมาคมฮนิ ดสู มาช 136/1 - 2 ถนนศิริพงษ์ แข 0 2621 1451 - 2, 0 2221 4360 โทรสาร 0 2221 456 ซกิ ข์ : สมาคมศรคี รุ สุ ิงห์สภา(วดั ซกิ ข)์ 571 ถนนจกั รเพชร แขวงวังบูรพา เขตพระนค 0 2221 1011, 0 2224 8097 (เลขานุการ) อเี มล์ [email protected]
60 นบ้านดินสอ แขวงเสาชงิ ช้า เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 [email protected] ขวงเสาชงิ ชา้ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 โทร 0 2223 8494, 60 คร กรงุ เทพมหานคร 10200 โทร 094 3249258, 0 2224 8096, m
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144