Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สรุปองค์ความรู้รายวิชาสัมมนาวิทยาศาสตร์ (นางสาวอภิญญา แซ่หลี 004)

สรุปองค์ความรู้รายวิชาสัมมนาวิทยาศาสตร์ (นางสาวอภิญญา แซ่หลี 004)

Published by Apinya Saehlee, 2021-09-22 06:20:06

Description: สรุปองค์ความรู้รายวิชาสัมมนาวิทยาศาสตร์ (นางสาวอภิญญา แซ่หลี 004)

Search

Read the Text Version

สรปุ องค์ความรู้รายวิชา สัมมนาวิทยาศาสตร์

จัดทาโดย นางสาวอภิญญา แซห่ ลี รหสั นกั ศกึ ษา 61003161004 กลุ่มเรียน 6100316101 สาขาการสอนวทิ ยาศาสตร์ทว่ั ไป คณะครศุ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏราชนครนิ ทร์

กิจกรรมที่ 1 การอภปิ ราย และสรปุ ประเดน็ ความหมายและ สาคญั ของ “วิจัย” และ “วิทยาศาสตร์”

“วิจัย” ความหมาย กระบวนการแสวงหาความรู้ ความจรงิ ท่ีมีระบบ และวิธีการ ท่ีหนา้ เชอื่ ถือ เพอ่ื นาความรู้ความจรงิ ที่ไดน้ ั้นไปใชใ้ นการตดั สินใจ แกไ้ ขปัญหาหรือก่อใหเ้ กดิ ความรใู้ หม่ ความสาคัญ การวิจัยเพอื่ เพมิ่ พูนความรใู้ หม่ทางวิชาการเป็นการแสวง ความรู้ความจริงเพือ่ สร้างกฎ สตู ร ทฤษฎี ในแตล่ ะสาขา

“วทิ ยาศาสตร์” ความหมาย กระบวนการหรอื วธิ ีการแสวงหาความรู้ ความจรงิ จากธรรมชาติ ความสาคัญ ทาใหเ้ กิดการพฒั นาวิธคี ิด อย่างเป็นเหตุเป็นผล คดิ สรา้ งสรรค์ วิเคราะห์ มีทกั ษะในการคน้ คว้าหาความรู้ และแกป้ ัญหาอยา่ งเป็นระบบ การวจิ ยั เพื่อเพมิ่ พูนความร้ใู หม่ทางวิชาการเป็นการแสวงความรู้ความจริง เพอ่ื สร้างกฎ สตู ร ทฤษฎี ในแต่ละสาขา

กิจกรรมที่ 2 วเิ คราะห์บทความวจิ ยั

เรือ่ ง เจาะทางเลอื กใหม่ เลอื ดตวั เงนิ ตวั ทอง โดยการ วิเคราะห์ตามหัวขอ้ ต่อไปนี้ 1.คณุ ลักษณะของนักวิจยั ทีห่ มอจิตกมลมีอยู่ในตัวเอง 2.ความรูใ้ นหลักวชิ าทเ่ี กี่ยวขอ้ ง 3.การดาเนินงานของคณุ หมอ 4.ระเบียบวธิ กี ารทางวิทยาศาสตร์ ใชว้ ิธีวิเคราะห์ สังเคราะห์ และสรุปบทความ

ระเบียบวธิ กี ารทางวทิ ยาศาสตร์ • ขน้ั กาหนดปญั หา เกดิ จากการสงั เกตโดยการใช้ประสาทสมั ผัสท้ัง 5 ได้แก่ ตา หู จมูก ลิ้น และผวิ กาย ซึง่ การกาหนดปัญหาต้องมคี วามชดั เจนและสัมพันธ์ กบั ความรูซ้ ึง่ ต้องอาศัยความคดิ สรา้ งสรรค์ • ขน้ั ต้ังสมสตฐิ าน เป็นการคดิ หาคาตอบลว่ งหน้า ก่อนจะทาการทดลองโดย อาศัยการสังเกต ความรู้และประสบการณ์เดิม • ขน้ั ทดลอง การตรวจสอบสมมตฐิ าน • ขั้นวเิ คราะหข์ อ้ มลู นาข้อมูลทไี่ ดจ้ ากการสงั เกต ค้นควา้ ทดลอง มาทาการ วิเคราะหผ์ ล • ขน้ั สรปุ ผล เกดิ จากการนาขอ้ มูลหรอื ขอ้ เทจ็ จรงิ ทไ่ี ด้จากการทดลองมา วเิ คราะห์ผลและหาความสมั พันธ์ระหวา่ งขอ้ มูลหรือขอ้ เทจ็ จรงิ เพื่อนามาอธบิ าย และตรวจดูสมมติฐานว่าถกู ต้องหรอื ไม่

กจิ กรรมท่ี 3 การทดลองเพ่ือแกป้ ญั หาอย่างเปน็ ระบบ

เนอ้ื เรอ่ื ง ชาวนาผู้หนึง่ เลีย้ งสุนัขไวห้ ลายตวั และเลี้ยงรวมกัน ไว้ภายในบรเิ วณเดียวกัน ชาวนาสงั เกตวา่ ไขไ่ กท่ อี่ อกไข่ไว้ หายไป เขาจึงเกิดความสงสัยวา่ ตอ้ งมสี ุนขั อยา่ งนอ้ ย 1 ตัว ที่ขโมยกินไข่ไก่ไป เพ่ือพิสจู นข์ ้อเทจ็ จริงดังกล่าว โดยใช้ ระเบยี บวธิ กี ารทางวิทยาศาสตร์

ขัน้ กาหนดปญั หา = ชาวนาสงั เกตว่าไขไ่ กท่ ี่ไก่ออกไว้หายไป ขน้ั ตงั้ สมมตฐิ าน = ตง้ั มสี นุ ขั อยา่ งน้อย 1 ตัว ทีข่ โมยกนิ ไขไ่ กไ่ ป ขน้ั ทดลอง = นาสุนัขท้งั หมดไปขงั ไว้ โดยให้อดอาหาร 24 ช่วั โมง จากน้นั ปล่อยสนุ ัขทลี ะตวั ไป ในหอ้ งทม่ี ีไข่ไก่เตรียมไว้ สังเกตพฤตกิ รรม และบนั ทึกผล = จาแนกสุนัขท่กี ินไขไ่ กไ่ ว้ โดยให้อาหารตามปกตจิ ากน้ัน ปลอ่ ยสนุ ัขทลี ะตวั ไปใน หอ้ งทมี่ ีไขไ่ ก่ จากนั้นสังเกตพฤตกิ รรม และจดบันทึก ขนั้ วเิ คราะห์ขอ้ มลู = นาขอ้ มูลทไ่ี ด้จากการทดลองมาวิเคราะห์ โดยในขั้นตอนแรก จะแยก สุนขั ทก่ี นิ ไข่ และไมก่ นิ ไขอ่ อกจากกันในช่วงเวลาทหี่ วิ จากน้ัน นาสนุ ัขท่ีกนิ ไขไ่ ปทดลองต่อ โดยให้กนิ อาหารอมิ่ แลว้ ปลอ่ ยไปในห้องทีม่ ไี ข่ไก่ แลว้ สงั เกตสุนัขท่ีกนิ ไข่ ขั้นสรปุ ผล = สนุ ัขตัวไหนทก่ี ินไขไ่ กใ่ นขณะที่หิว และไม่หวิ คอื สุนัขที่กินไขไ่ ก่ไป

กิจกรรมที่ 4 ถกปัญหาสร้างสรรค์ปญั ญา

ทีม่ าของปัญหาและการตง้ั คาถามวจิ ยั ทมี่ าของปญั หา - จากการอา่ นเอกสาร - จากการอา่ นงานวิจยั - จากประสบการณ์ผูว้ จิ ยั - จากข้อโตแ้ ย้ง - การวิเคราะหแ์ นวโน้ม การตง้ั คาถามวจิ ยั ก่อนที่จะได้คาถามต้องทบทวนวจิ ัยในอดตี เพื่อพสิ ูจน์ว่าคาถามนน้ั มี คาตอบโดนใจแล้วหรือไม่ การตงั้ คาถามประกอบด้วย ใคร ทาอะไร สิ่งเปรียบเทียบ ตวั วดั ผล

การตง้ั สมมตฐิ าน - ต้ังสมมติฐานจากการศกึ ษาคน้ ควา้ - ใช้ขอ้ ความท่ีชดั เจน เขา้ ใจงา่ ย สอดคลอ้ งกับจุดมุ่งหมายของงานวิจยั - สามารถอธบิ ายเหตผุ ลสนับสนุนสมมตฐิ านของตนได้ - ตง้ั สมมตฐิ านในลกั ษณะทเี่ ปน็ การยอมรับ/ปฏเิ สธ สมมตฐิ านกบั ความจรงิ สมมตฐิ านกับความจริง แตกต่างกนั ตรงทีส่ มมตฐิ านเป็นการคาดการณ์ซึ่ง อาจจะเป็นไปตามที่คาดการณ์ไวห้ รอื ไมก่ ไ็ ด้ แตค่ วามจริงจะเป็นสภาพทีอ่ ย่างนั้น โดยแน่แทไ้ ม่เปลี่ยนแปลง ตวั แปรในการวจิ ยั - ตวั แปรอิสระ หมายถงึ ตัวแปรทเ่ี กดิ ขึน้ กอ่ นเป็นเหตุให้เกดิ ผลตามมา - ตัวแปรตาม หมายถึง ตวั แปรทีเ่ กดิ ขน้ึ เน่ืองจากตัวแปรอสิ ระ

กิจกรรมท่ี 5 การใช้สมมตฐิ านในการวจิ ยั

ปัญหาการวจิ ยั ปลาแซลมอนสเี งินฟักออกเปน็ ตวั ลกู ปลาในลา ธารนา้ จดื ทางฝง่ั ตะวันตกเฉียงเหนือของมหาสมุทรแปซิฟกิ ตวั ออ่ นทีโ่ ตเพยี งพอจะไหวต้ ามลาธารสู่มหาสมุทรแปซฟิ กิ และจะเจรญิ เตบิ โตอยูท่ ่นี ่ีเป็นเวลา 5 ปีจนถงึ วัยเจรญิ พันธจ์ุ ึงอพยพกบั ลาธารน้าจดื ถน่ิ เดมิ เพื่อวางไข่ เพ่ือตดิ ตามเรือ่ งนน้ี กั วิทยาศาสตร์ใชเ้ ทคนิคตดิ เครอื่ งหมายให้ตัวปลาและทดลองค้นหาคาอธบิ ายพบ ปรากฏการณ์ที่น่าทึ่งคอื ปลาแซลมอนสเี งนิ จะอพยพ กลับมาทล่ี าธารเดนิ หนา้ ถกู ตอ้ งแม่นยาทุกครงั้ จึงเป็นเหตุ กระตุ้นความอยากร้ขู องมนุษยแ์ ละเปน็ ที่มาของปญั หาเพอ่ื การศกึ ษาสมมติฐาน

ปลาแซลมอนสีเงนิ จาลาธารทเี่ ปน็ ถน่ิ กาเนิดถกู ตอ้ ง ไดอ้ ยา่ งไร - ปลาแซลมอนจากลิ่นของถน่ิ ตวั เองได้ และเกิดพฤติกรรมฝังใจจึงกลับไปไขใ่ นถิ่นเดิมได้

กจิ กรรมท่ี 6 การทดลอง / ทดสอบ สมมติฐานทางวทิ ยาศาสตร์

ความหมาย เปน็ การจัดกิจกรรมให้ไดเ้ รียนรู้ความคิดรวบ ยอด ในเรือ่ งทเี่ รียนรู้ดว้ ยการใหไ้ ดค้ ้นหาคาตอบจาก การปฏบิ ัติดว้ ยตนเองผ่านประสบการณต์ รง ในขนั้ ตอน การคดิ การค้นคว้า การทดลอง และสรปุ ผล จากการ เรียนรูก้ ารใชป้ ระสาทสัมผัสทั้ง 5 (ตา หู จมูก ลิน้ และกาย) ความสาคัญ การออกแบบการทดลองเพ่ือศกึ ษาหลกั การ ความรูห้ าขอ้ เท็จจรงิ ทางวิทยาศาสตร์

ขัน้ ตอนทด่ี ี - ต้ังวตั ถปุ ระสงค์ - เลอื กวธิ ีการ - เลือกหนว่ ยทดลองและกาหนดขนาดการทดลอง - เลอื กแผนการทดลองท่ีมปี ระสิทธภิ าพ - ดาเนินการทดลอง - วเิ คราะห์ผลทางสถิติและตีความหมาย เหตใุ ดการทดลองวทิ ยาศาสตร์มกั จะไมใ่ ชว้ ธิ กี ารกาหนด ประชากร เพราะ ไมส่ ามารถกาหนดจานวนไดช้ ดั เจน และ ต้องกาหนดประชากรตวั อย่าง

กิจกรรมท่ี 7 การสบื ค้นขอ้ มลู

ไดเ้ รียนรู้วธิ ีการสืบค้นงานวิจัย จากแหลง่ ขอ้ มูลที่ สาคัญจากการสืบค้นงานวิจยั วิทยาศาสตร์ 2 แหลง่ คอื 1) ThaiLIS Digital 2) ศูนย์ขอ้ มูลวิจยั Digital วช. และได้เรียนรู้การสมัครสมาชกิ เพ่ือได้ นาไปดาเนินการในกจิ กรรมถัดไป

กิจกรรมที่ 8 การวิเคราะหร์ ายงานการวจิ ยั

ศึกษาโครงสร้าง/ ศกึ ษาและวเิ คราะห์ใน ศกึ ษาและวเิ คราะห์คน้ หา องค์ประกอบงานวจิ ัย ประเดน็ งานวจิ ยั นี้ทาอะไร คาตอบวา่ รายงานวิจัย และเหตุผลสาคญั ที่ต้องทา ฉบบั นี้ตอ้ งการคาตอบ ท้งั ฉบับ อะไร (ทาเพื่ออะไร) วจิ ัยน้ี (ทาไมตอ้ งทา)

ศกึ ษาและวิเคราะหค์ ้นหา ศกึ ษาวเิ คราะหเ์ กี่ยวกบั การ ศกึ ษาวเิ คราะหค์ น้ หา คาตอบวา่ รายงานวิจัยฉบบั นี้ รวบรวมเอกสาร ทฤษฎี คาตอบวา่ รายงานฉบับนี้ และงานวิจยั ท่เี กี่ยวขอ้ ง มีขนั้ ตอนการดาเนนิ งาน มเี ป้าหมายอยา่ งไร มี ผูว้ ิจัยมหี ลักในการรวบรวม อย่างไร มสี ถติ ใิ ดบา้ งท่ี ขอบเขตกว้างเท่าใด และมีตวั เกี่ยวข้อง (ทาอย่างไร) เอกสารอย่างไร แปรใดบ้าง (ทากบั ใคร)

ศึกษาและวิเคราะห์ถงึ ผลการวิจัยได้คาตอบ อย่างไรและมคี วาม เชอ่ื มโยงกับประเดน็ ใดบา้ ง

กิจกรรมท่ี 9 สงั เคราะห์ผลการศึกษา รายงานวิจัย

ได้เรียนรู้เกี่ยวกบั การสรปุ การดาเนนิ งานในแตล่ ะข้อในกิจกรรมท่ี8 เพือ่ นาแตล่ ะข้อมาทา Power point เพอ่ื นาเสนองาน และทาการเลอื ก ประธาน และเลขานกุ ารกลมุ่ และลกั ษณะการทางานต้องทาเปน็ กลมุ่ ช่วยกนั ทา ไมใ่ ช่แบ่งงานกนั ทา แบง่ งานนาเสนอตามลาดบั ท่ีจดั เตรียมไว้

สรปุ

จากท่ไี ดเ้ รียนวชิ าสมั มาวทิ ยาศาสตร์นนั้ ได้ฝึกความอดทนในหลายๆ เร่อื ง ทัง้ ในด้านการ เปน็ ผ้นู า การเป็นเลขานุการ และการทางานกลุ่ม ทาใหไ้ ด้ประสบการณ์ในหลายๆด้าน

THANK YOU