Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore kaloung tea

kaloung tea

Published by nongbouw, 2020-09-26 10:27:49

Description: kaloung tea

Search

Read the Text Version

มะกลา่ํ ตาหนู ช่ือสมนุ ไพร มะกล่าํ ตาหนู ตากล่าํ กล่าํ เครือ กล่าํ ตาไก่ มะกล่าํ เครือ (เหนือ, อีสาน) มะแค๊ก (เชียงใหม่) ช่ืออื่นๆ เกรมกรอบ (เขมร) ไมไ้ ฟ (ตรัง) มะกล่าํ ดาํ ตาดาํ ตาแดง ช่ือวทิ ยาศาสตร์Abrus precatorius L. Abrus abrus (L.) Wright, A. cyaneus R.Vig., A. maculatus Noronha, A. ช่ือพ้อง minor Desv., A. pauciflorus Desv., A. squamulosus E.Mey., A. tunguensis Lima, Glycine abrus L. ชื่อวงศ์ Papilionaceae ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ ไม้เถาเลือ้ ยอายหุ ลายปี สูงถึง 5 เมตร เถาเน้ืออ่อน สีเขียว ขนาดเลก็ เถากลมเลก็ เรียว และมีขนสีขาวปกคลุม โคนเถาช่วงล่างจะแขง็ และมีขนาดใหญ่ ใบประกอบแบบขนนก ปลายคู่ เรียงสลบั กา้ นหน่ึงจะมีใบยอ่ ย 8-20 คู่ ใบยอ่ ยรูปรีแกมขอบขนาน ปลายใบมีหนาม ขนาดเลก็ ติดอยู่ ใบยาว 5-20 มิลลิเมตร กวา้ ง 3-8 มิลลิเมตร โคนใบมน ปลายใบมน ขอบใบ เรียบขนาน หนา้ ใบเรียบ หลงั ใบมีขนปกคลุม ทอ้ งใบมีขนเลก็ นอ้ ย มีหูใบ ดอกออกเป็นช่อ แบบช่อกระจะ ออกที่ซอกใบ ยาว 2.5-12 เซนติเมตร กา้ นช่อดอกใหญ่ นิ่ม มีขนปกคลุม ยาว 9 มิลลิเมตร กลีบเล้ียงเป็นสีเขียวหรือสีม่วงอ่อน เช่ือมติดกนั ปลายแยกเป็น 5 แฉก กลีบดอก มีรอยหยกั 4 รอยฟันเป็นสีเขียวอมเหลือง ผวิ นอกมีขนปกคลุม กลีบดอกล่างจะใหญ่กวา่ กลีบดอกช่วงบน และจะอดั แน่นติดกนั อยใู่ นช่อเดียวกนั ดอกรูปดอกถวั่ กลีบดอกสีชมพู

แกมม่วง ดอกขนาดเลก็ ยาว 3 มิลลิเมตร กลีบกลางรูปไข่กลบั กลีบคู่ขา้ งรูปขอบขนาน กลีบ คู่ล่างรูปไข่แกมรูปขอบขนาน มีเกสรตวั ผู้ 9 อนั เกสรเพศเมียมีรังไข่รูปขอบขนาน มีขน ติดกนั เป็นกระจุก ใบประดบั รูปหอก ใบประดบั ยอ่ ยรูปแถบแกมรูปขอบขนาน ปลาย แหลม ผลเป็นฝักรูปทรงกระบอกแกมรูปไข่ ออกเป็นพวง ยาวแบน ยาว 2-4.5 เซนติเมตร กวา้ ง 1.2-1.4 เซนติเมตร มีขนสีน้าํ ตาล ปลายฝักแหลม เปลือกฝักเหนียว ฝักอ่อนมีสีเขียว ฝัก แก่แตกไดต้ ามแนวยาว ภายในฝักมีเมลด็ อยู่ 3-6 เมลด็ รูปกลมรี เสน้ ผา่ นศูนยก์ ลางประมาณ 3-5 มิลลิเมตร สีแดง บริเวณข้วั จะมีแถบสีดาํ ผวิ เรียบ เงามนั พบตามป่ าเตง็ รัง ออกดอกราว เดือนกนั ยายนถึงธนั วาคม ลกั ษณะวสิ ัย

ฝักอ่อน และ ใบ ดอก และ ฝักอ่อน

ดอก ฝัก

ฝัก ฝัก และ เมลด็

ฝักแก่ และ เมลด็ สรรพคุณ ตํารายาไทย ใบ มีรสหวาน ใชแ้ กร้ ้อนในกระหายน้าํ ใชใ้ บชงน้าํ รับประทานแทนน้าํ ชา ใบตม้ น้าํ ดื่มแกเ้ จบ็ คอ แกห้ ลอดลมอกั เสบ แกต้ บั อกั เสบ กระตุน้ น้าํ ลาย ขบั ปัสสาวะ แก้ ปวดบวมตามขอ้ ปวดตามแนวประสาท ตาํ พอก แกป้ วดบวม แกอ้ กั เสบ และแกจ้ ุดด่างดาํ บน ใบหนา้ รากใชแ้ กเ้ จบ็ คอ ไอแหง้ ขบั ปัสสาวะ ราก รสเปร้ียวขื่น ขบั เสมหะ แกเ้ สียงแหง้ กล่องเสียงอกั เสบ แกไ้ อ แกห้ วดั เถาและราก รสจืด ชุ่ม เป็นยาสุขมุ ไม่มีพษิ ใชเ้ ป็นยาแก้ ร้อนในกระหายน้าํ ขบั พษิ ร้อน แกค้ ออกั เสบ คอเจบ็ คอบวม ขบั เสมหะ แกเ้ สียงแหง้ แกไ้ อ หวดั แกห้ ืด แกไ้ อแหง้ แกห้ ลอดลมอกั เสบ แกอ้ าเจียน แกต้ บั อกั เสบ แกด้ ีซ่าน ขบั ปัสสาวะ และขบั เสมหะ เมลด็ เป็ นพษิ ใช้ได้เฉพาะภายนอก รสขมเผด็ เมาเบ่ือ บดผสมน้าํ มนั พชื ทา แกก้ ลากเกล้ือน ฆ่าพยาธิผวิ หนงั ฝี มีหนอง และใชท้ าํ ยาฆ่าแมลง ข้อควรระวงั เมลด็ มีพิษมาก หา้ มรับประทาน หากเค้ียวกินเพียง 1-2 เมลด็ จะทาํ ให้ มีอาการคลื่นไส้อาเจียน ปวดทอ้ งรุนแรง ตบั และไตถูกทาํ ลาย ชกั และเสียชีวิตได้ องค์ประกอบทางเคมี ใบ พบสารหวานช่ือ abrusosides (หวานกว่าน้าํ ตาลทราย 30-100 เท่า), glycyrrhizic acid มีความหวานสูง และไม่มีพษิ เมลด็ พบสารโปรตีนท่ีมีพิษช่ือ abrin ตวั อย่างพรรณไม้แห้ง : www.thaiherbarium.com


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook