Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทที่ 8

บทที่ 8

Published by wanvisaaa2538, 2020-06-13 05:12:42

Description: บทที่ 8

Search

Read the Text Version

1

ศิลปนิยม 20300-1002 บทท่ี 8 หัวขอ้ : ศลิ ปะกับชวี ิตประจำวนั 2

บทท่ี 8 ศลิ ปะกับชวี ติ ประจำวัน ศิลปะเป็นผลงานสรา้ งสรรค์ของมนุษยเ์ พ่อื มนุษยม์ ีคุณลกั ษณะในดา้ นความงามท่สี ่นั สะเทือน อารมณ์ มีเนื้อหาสาระ โนม้ นา้ วจติ ใจให้หว่นั ไหวตามเจตนาที่ผู้สร้างสรรค์วางไว้ ศิลปะเปน็ เคร่อื งปรงุ แต่ง อารมณ์ ความร้สู ึกความคดิ ใหแ้ สดงออกในทางที่งดงาม ควรค่าแกก่ ารรบั ร้แู ละการยอมรับของเพื่อนมนษุ ย์ มนุษยส์ รา้ งสรรค์สิ่งต่างมากมาย เพือ่ ใช้สอยตามความจำเป็นกบั ชีวติ ประจำวนั เช่น การ ประดับประดา ตกแต่งอาคาร วตั ถุ สิ่งของเคร่อื งใช้ รา่ งกายมนษุ ยแ์ ละสิ่งแวดลอ้ ม เมอ่ื สรา้ งสรรค์ประดษิ ฐ์ ตกแตง่ วัตถุ ตลอดจนส่ิงของสวยงาม สิง่ นั้นอาจถกู เรยี กวา่ ศลิ ปะ หรอื ประยกุ ตศ์ ลิ ป์ ทั้งจะเป็นไปตาม เงือ่ นไขหน้าทข่ี องการสร้างสรรค์ส่ิงน้ันว่า จะเกิดประโยชน์ในทางจติ ใจ การใช้สอย หรือเศรษฐกจิ จดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม 1. บอกความหมายและลกั ษณะของศลิ ปะกับชีวติ ประจำวันของมนุษย์ได้และได้ 2. สรุปหน้าทขี่ องศิลปะกบั ชีวติ ประจำวันของมนุษย์ได้ 1. ศิลปะทำหน้าท่ีปรงุ แต่งอารมณค์ วามรู้สกึ ทม่ี นษุ ย์แสดงออกให้งดงาม ศลิ ปะทศ่ี ลิ ปินสรา้ งสรรคอ์ าจเกดิ จากอารมณืทีเ่ ครยี ด ความแคน้ ความเกลยี ดชัง ความเกบ็ กด ความรัก ความใคร่ หรือใด ๆก็ได้ แตค่ ุณลักษณะทางศิลปะท่ศี ิลปินสร้างข้ึนดว้ ย อารมณต์ ่าง ๆเหลา่ นี้จะถูกถา่ ยทอดออกมาให้ความรู้สกึ ตรงกันขา้ มกบั ผลงาน ศิลปะกบั ชวี ิตประจำวนั จะสร้างแนวคิดให้พิจารณาถึงการควรไมค่ วรไปกับผลงานในทางท่ีงดงามแกผ่ ู้ดู เปน็ การชว่ ยขัดเกลากล่ันกรองอารมณ์ใหไ้ ด้คิด จนกลายเป็นสง่ั ใหเ้ กิดความปติ ยิ นิ ดไี ด้ ความ รุนแรงทางศลิ ปะจึงเป็นเหมือนคำสอนหรือสิ่งเตอื นใจให้ฉุกคดิ ว่าควรทำหรือไม่ควรทำ ซึ่งตา่ งไป จากการปะทะอารมณ์ทีร่ ุนแรงของบคุ คลอื่นๆถ้าอารมณด์ ีก็ดไี ป หากอารมณร์ ้ายก็อาจเกิดความ รุนแรงได้ 3

กองทัพฝร่งั เศสของนโปเลยี นเข้ามารกุ รานสเปนในปี 1808 นำไปสูส่ งครามคาบสมุทร (Peninsular War) ท่ี ยดื เยอ้ื ยาวนานจนถงึ ปี 1814 ระหว่างสงครามโกยาเขยี นภาพ The Colossus ทีแ่ สดงยักษอ์ สุรกายกำลังเดินผา่ นไป ขณะทผี่ ู้คนแผน่ หนกี ระเจดิ กระเจิง หลังสงครามเขาเขียนภาพจากความทรงจำในความโหดร้ายของสงคราม 2 ภาพ ภาพแรกช่ือ The Second of May 1808 แสดงการลกุ ฮอื ขนึ้ ต่อต้านกองทัพฝร่งั เศสท่เี ข้ามายดึ ครองสเปน อีกภาพ หนงึ่ ชอ่ื ภาพ The Third of May 1808 แสดงปฏบิ ัตกิ ารอนั โหดเหี้ยมของทหารฝรัง่ เศสตอ่ ชาวสเปน โกยาเขยี นภาพนี้ ด้วยสไตล์ใหม่ฉีกแนวจากขนบประเพณีด้งั เดมิ แต่กลบั แสดงบรรยากาศ อารมณ์ความรู้สกึ และความนา่ กลวั ของสงคราม ไดอ้ ยา่ งยอดเย่ียม ภาพน้ีเปน็ ท่ียอมรบั ว่าเปน็ ภาพสำคัญภาพแรกของยุคศิลปะสมยั ใหม่ที่เรียกไดว้ ่าปฏวิ ตั ใิ นทกุ แงม่ ุมท้งั การนำเสนอเร่ืองราวและสไตลก์ ารเขียนภาพ และกลายเปน็ หนึ่งในภาพทม่ี ชี ื่อเสียงมากที่สดุ ของเขา 2. ศลิ ปะทำหนา้ ท่ีปรงุ แตง่ ความคดิ ท่ีมนุษย์แสดงออกใหค้ วรคา่ แกก่ ารยอมรับจากเพอ่ื น มนุษย์ ศลิ ปะก่อใหเ้ กดิ พลังอำนาจทางความคดิ นั้น ๆ และทำให้ง่ายแก่การจดจำ สามารถ นำไปใช้ไดท้ นั ทเี ช่น ภาพ จิตรกรรมฝาผนงั ในโบสถท์ ีแ่ สดงเรื่องราวเกี่ยวกับบาปบญุ คณุ โทษ ช่วยกระตนุ้ ให้ ผูค้ นเกิดความรู้สกึ นึกคิดท่ลี ะเว้นการประพฤติทไ่ี ม่ดงี าม ความรู้สึกเหลา่ น้ี คอื พลงั อำนาจของศลิ ปะโดยแท้ ท่ชี ่วยนำเน้ือหาแห่งความรู้สึกนึกคิดของมนุษย์ไปสูเ่ พอ่ื นมนุษย์ เพ่ือการยอมรับซง่ึ กันและกนั 4

3.ศลิ ปะทำหน้าทีป่ รงุ แตง่ วัตถเุ ครอื่ งใช้ เครื่องบริโภค ใหน้ ่าช่ืนชม นา่ ใช้ นา่ บรโิ ภค เพราะมนุษยร์ ู้จกั การเลือกสรรวัตถุ เคร่ืองใช้ เคร่อื งบรโิ ภคต่าง ๆให้เกดิ ความเหมาะสมตาม โอกาสมากน้อยสุดแต่ความสำคญั เพ่ือหลกี เลี่ยงความจำเจท่นี ่าเบ่อื หน่าย เราจึงพบเหน็ อยเู่ สมอท่วี ัตถุ สิง่ ของเคร่ืองมือ เครอื่ งใช้ หรอื แม้อาหาร เครือ่ งดื่ม ได้ถกู ออกแบบท้งั ตวั มันเองและหบี หอ่ ให้มีความงาม ท่ี เปน็ ท่ตี อ้ งตา ตอ้ งใจแก่ผู้พบเห็นเป็นอันดับแรก 4.ศิลปะทำหนา้ ทีป่ รุงแตง่ รา่ งกายมนษุ ย์ มนุษย์มคี วามพอใจท่ไี ด้ประดับตกแตง่ ร่างกายของตนทุกรปู นานมาต้งั แต่สมยั หนิ ในอดตี กาล จนถงึ ปจั จบุ นั นน้ี เพราะธรรมชาติของรา่ งกายมนุษยเ์ ราย่อมมีทัง้ สว่ นทสี่ วยงามเป็นจุดเด่นและสว่ นทเ่ี ป็นจดุ ด้อย ไมว่ ่าสวยงามหรอื คอ่ นข้างไปในทางไม่สวย จนกระท่ังไมส่ วยเลยก็ตาม พน้ื ฐานตามฑรรมชาติอันเปน็ ติด เปน็ นสิ ัย มนษุ ยท์ ุกรูปนามต่างกเ็ พียรพยายามปรุงแตง่ รา่ งกายของตนเปน็ นิจ เพอื่ สร้างความพอใจและม่นั ใจ ให้แก่ตนเอง อีกท้ังใหผ้ อู้ ื่นท่ีพบเหน็ ชนื่ ชม เราจึงได้พบเห็นอยู่เปน็ ประจำท่ีเครือ่ งสำอาง เครื่องประดับ เครอื่ งนงุ่ ห่มทีค่ ่อนขา้ งจะเกิน ความจำเป็นได้กลายเป็นสนิ คา้ ท่ีขน้ึ หนา้ ข้นึ ตา มีราคาอนั แพง แต่มนาย์ก็ไมล่ ะเว้นการเสาะหา เพ่อื การปรงุ แตง่ ร่างกายให้เกิดความงดงามตามทีต่ นคิด แมบ้ างครัง้ ปรงุ แต่งไปแลว้ ก็ไม่ทำใหอ้ ะไรดีข้ึน บางคร้งั อาจถงึ ขัน้ เลวรา้ ยลง นับแตก่ ารแต่งผม ใบหน้า ดวงตา ปาก ผิวหนัง เล็บมอื เลบ็ เท้า หรอื เคร่ืองประดับ หู คอ นว้ิ ข้อมอื ขอ้ เทา้ และบนเสื้อผ้า การปรงุ แต่งเช่นนี้ ต้องใช้ความรู้หรือความรสู้ ึกของความงามทางศิลปะเป็น เครือ่ งชว่ ย 5. ศลิ ปะทำหน้าท่ีปรุงแต่งสภาพแวดล้อม เพราะสภาพแวดลอมทางกายภาพตามธรรมชาติ กเ็ หมอื นกบั มนษุ ย์ที่มีสวยงามมาก สวยงามน้อย จนถงึ ข้ันไมส่ วยงามเลย ประกอบกบั ศิลปะน้เี กดิ ขึน้ มาพรอ้ ม ๆกับมนษุ ยผ์ มู้ ีศลิ ปะในจิตใจ มี ความรกั และชอบที่จะได้พบเห็นสิ่งสวยงาม สบายตาสบายใจของตน พร้อมกับผอู้ ่ืนจะได้ร่วมแสดงความพึง พอใจในสิง่ ที่พบเหน็ ดว้ ยเชน่ ตน มนษุ ยจ์ ึงพยายามปรงุ แตง่ หรอื จดั พงึ พอใจสิ่งท่ีพบเหน็ ดว้ ยเช่นตน มนษุ ยจ์ งึ พยายามปรงุ แตง่ หรอื จดั สงิ่ แวดลอ้ มท่ีมอี ยู่ ใหด้ ดู ีกวา่ ท่ธี รรมชาติท่ีได้ใหไ้ ว้ เชน่ การตกแต่งภายในทอี่ ยูอ่ าศยั สำนักงาน ร้านค้า ส่วนบริเวณภายนอกอาคารกจ็ ดั ให้เรยี บร้อยสวยงาม ตกแต่งดว้ ยไมป้ ระดับ หรือผลงาน ประตมิ ากรรมบา้ ง โดยสมั พนั ธ์กับประโยชน์ใชส้ อย 5

6


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook