Chem Online IV http://www.pec9.com บทท่ี 9 ไฟฟาเคมี เคมี บทท่ี 9 ไฟฟาเคมี ทบทวนเรอ่ื งเลขออกซเิ ดชน่ั เลขออกซิเดชัน คือ ตัวเลขที่แสดงถึงประจุไฟฟาจริง หรอื ประจเุ สมอื นของอะตอม เชน NaCl เมอ่ื แตกตวั จะได Na+ และ Cl– จะมเี ลขออกซเิ ดชนั เปน +1 และ –1 ตามลาํ ดบั 1. จงบอกเลขออกซเิ ดชน่ั ของไอออนตอ ไปน้ี Na+ = ….. Cl– = ….. Ca2+ = ….. Fe2+ =…... Fe3+ =…... Al3+ = …… หลักเกณฑในการกําหนดเลขออกซิเดชัน 1. ธาตอุ สิ ระทกุ ตวั ไมวาในหนึ่งโมเลกุลจะมีกี่อะตอมก็ตาม จะมเี ลขออกซิเดชนั เทา กบั 0 เชน Ca , H2 , P4 , S8 , Na ทกุ ตวั มเี ลขออกซิเดชนั เปน 0 2. ธาตไุ ฮโดรเจนสวนมากมเี ลขออกซเิ ดชนั เปน +1 3. ธาตอุ อกซิเจนสว นมากมเี ลขออกซิเดชนั เปน –2 4. ธาตุหมู IA , IIA และหมู IIIA จะมเี ลขออกซเิ ดชนั = +1 , +2 , +3 ตามลําดับ 5. เลขออกซเิ ดชนั ของออิ อนใด ๆ ปกตจิ ะมคี า เทา กบั ประจขุ องออิ อนนน้ั ๆ เชน Al3+ มเี ลขออกซิเดชนั เปน +3 6. สารประกอบใด ๆ ผลรวมของเลขออกซเิ ดชนั จะตอ งเปน ศนู ยเ สมอ เชน H2O มเี ลขออกซิเดชนั = [(+1x2) + (–2)] = 0 7. ธาตุทรานสิชันสวนใหญมีเลขออกซิเดชันไดมากกวา 1 คา เชน FeO ในน้ี Fe มเี ลขออกซิเดชนั เทากับ +2 Fe2O3 ในน้ี Fe มเี ลขออกซิเดชนั เทากับ +3 8. ธาตุอโลหะในสารประกอบตางๆ สวนมากมักมีเลขออกซิเดชันหลายคา เชน พิจารณาจากธาตุ Cl สารประกอบตอ ไปน้ี HCl ในน้ี Cl มเี ลขออกซิเดชนั เทากับ –1 HClO ในน้ี Cl มเี ลขออกซเิ ดชนั เทากับ +1 HClO2 ในน้ี Cl มเี ลขออกซเิ ดชนั เทากับ +3 HClO3 ในน้ี Cl มเี ลขออกซเิ ดชนั เทากับ +5 HClO4 ในน้ี Cl มเี ลขออกซเิ ดชนั เทากับ +7 1
Chem Online IV http://www.pec9.com บทท่ี 9 ไฟฟาเคมี 2. สรุปเกี่ยวกับหลักการนับเลขออกซิเดชั่นเบื้องตน จะไดวา IIIA = ……….. 1. ออกซเิ ดชน่ั ของธาตอุ สิ ระ = ……….. 2. ออกซเิ ดชน่ั ของ H = ……….. 3. ออกซเิ ดชน่ั ของ O = ……….. 4. ออกซเิ ดชน่ั ของธาตหุ มู IA = ……….. IIA = ……….. 5. ออกซเิ ดชน่ั ของไอออน = ……….. 6. ออกซิเดชน่ั รวมของทกุ ธาตใุ นสารประกอบ = ……….. 7. ออกซเิ ดชน่ั ของธาตทุ รานซชิ น่ั = ……….. 8. ออกซเิ ดชน่ั ของธาตอุ ะโลหะ = ……….. 3. จงหาคา เลขออกซเิ ดชน่ั ของธาตอุ ะโลหะ ในสารตอ ไปน้ี H2 C O3 , H2 S O4 , Na2 S O4 , O2 , S8 ตอบ C = +4 , S = +6 , S = +6 , O = 0 , S = 0 4. จงหาคา เลขออกซเิ ดชน่ั ของโลหะทรานสิชั่น ในสารตอ ไปน้ี MnO2 , CaO , K2CrO4 , PbO2 , NiO2 , KMnO4 , K2Cr2O7 , Mn2O3 , Cu ตอบ Mn = +4 , Ca = +2 , Cr = +6 , Pb = +4 , Ni = +4 , Mn = +7 , Cr = +6 , Mn =+3 , Cu = 0 5. จงหาคาเลขออกซเิ ดชน่ั ของโลหะทรานสชิ ั่น หรอื อะโลหะ ในสารตอ ไปน้ี Mn O4Λ , Cr O42Λ , S O32Λ , S O42Λ , HC O3Λ , Cr O2Λ , Cr2O72Λ ตอบ Mn = +7 , Cr = +6 , S = +4 , S = +6 , C = +4 , Cr = +3 , Cr = +6 ประจุของอิออนตอไปนี้มีประโยชนในการหาเลขออกซิเดชั่น S O32Λ , S O42Λ , P O 3Λ , PO 3Λ , ClO Λ , Cl O Λ , Cl O Λ , Cl O Λ , N O Λ , N O Λ , CNΛ 3 4 2 3 2 3 4 SCN– , CO32Λ , OH– 2
Chem Online IV http://www.pec9.com บทท่ี 9 ไฟฟาเคมี 6. จงหาคา เลขออกซเิ ดชน่ั ของโลหะทรานสชิ น่ั ในสารตอ ไปน้ี Cu(OH)2 , Fe(OH)2 , Ni(OH)2 , Cd(OH)2 , PbSO4 , Cr2(SO4)3 ตอบ Cu = +2 , Fe= +2 , Ni= +2 , Cd= +2 , Pb = +2 , Cr = +3 7. จงหาคา เลขออกซเิ ดชน่ั ของโลหะทรานสชิ น่ั ในสารตอ ไปน้ี Cu(NO3)2 , K3[Fe(CN)6] , ζFe(CN)6|3– , ζFe(CN)6|4– , Cr (OH ) Λ , FeSCN2+ 4 ตอบ Cu = +2 , Fe = +3 , Fe = +3 , Fe = +2 , Cr = +3 , Fe = +3 ΦΦΦΦΦΦΦΦΦΦΦΦΦΦΦΦΦΦΦΦΦΦΦΦΦΦΦΦΦΦΦΦΦΦΦ ตอนท่ี 1 ปฎกิ ริ ยิ ารดี อกซ (Redox reaction) 1.1 ความหมาย ถาเราจุมแทงสังกะสี (Zn) ลงในสารละลาย CuSO4 จะเกิดการเปลี่ยนแปลงตามลําดับดังนี้ 1. CuSO4 จะเกดิ การแตกตวั เปน Cu2+ และ S O42Κ 2. อะตอมของ Zn ในแทงสังกะสี กจ็ ะแตกตวั เปน Zn2+ ละลายน้ําลงมา และ ให อเิ ลก็ ตรอน 2 ตวั 3. อเิ ลก็ ตรอน 2 ตวั นน้ั จะถูกแยงชิงโดยอิออนบวก 2 ชนดิ คือ Cu2+ และ Zn2+ แต Cu2+ แยง ชงิ อเิ ลก็ ตรอนไดด กี วา จงึ รวมตวั กบั อเิ ลก็ ตรอนแลว กลายเปน เมด็ ทองแดง(Cu) ซึ่งมีลักษณะเปนเม็ดของแข็งเกาะอยูที่แทงสังกะสี จะไดว า ปฏิกิริยาที่เกิดกับ Zn คือ Zn ⇓ Zn2+ + 2 e ปฎกิ รยิ านม้ี กี ารจา ยอเิ ลคตรอน เรยี ก ปฏิกิริยาออกซิเดชัน และปฏิกิริยาที่เกิดกับ Cu คือ Cu2+ + 2 e ⇓ Cu ปฏกิ รยิ านม้ี กี ารรบั อเิ ลคตรอน เรยี ก ปฏิกิริยารีดักชัน เม่อื รวมทงั้ สองปฏกิ รยิ าเขาดวยกัน จะได เรยี ก ปฏิกิริยารีดอกซ ปฏกิ ริ ยิ ารดี กั ชนั Zn(s) + Cu2+(aq) ⊇ Zn2+(aq) + Cu(s) ปฏกิ ริ ยิ าออกซเิ ดชนั 3
Chem Online IV http://www.pec9.com บทท่ี 9 ไฟฟาเคมี 8. จงเตมิ ขอ ความลงในชอ งวา ง Zn ในรปู ภาพตอ ไปน้ี ใหไดใจ … ความทถ่ี กู ตอ ง … ….. Cu2+ 9. จงเตมิ ขอ ความลงในชอ งวา งใหไ ดใ จความทถ่ี กู ตอ ง ถาเราจุมแทงสังกะสี ( Zn ) ลงในสารละลาย CuSO4 จะไดวา ปฏิกิริยาที่เกิดกับ Zn คือ ………………………………….. ปฎกิ รยิ านม้ี กี ารจา ยอเิ ลคตรอน เรยี ก ....................................... และปฏิกิริยาที่เกิดกับ Cu คือ ………………………………….. ปฏกิ รยิ านม้ี กี ารรบั อเิ ลคตรอน เรยี ก .............................................. 10. จากขอ ทผ่ี า นมา ถา รวมปฏิกรยิ าออกซิเดช่นั กบั รดี กั ชัน่ เขาดวยกัน จะได ........................... ........................... ........................... ........ เรยี ก ปฏกิ ริ ยิ า................. 1.2 ตัวออกซิไดซ และ ตัวรีดิวซ ตัวรีดิวซ คือ สารทท่ี าํ หนา ทใ่ี หอ เิ ลก็ ตรอนแกส ารอน่ื ตัวออกซิไดซ คือ สารทท่ี าํ หนา ทร่ี บั อเิ ลก็ ตรอนจากสารอน่ื ตัวอยาง เลขออกซิเดชั่นเพิ่ม (เสีย e ) เกดิ ปฏกิ รยิ าออกซเิ ดชน่ั ถกู ออกซไิ ดซ เปนตัวรีดิวซ Zn + Cu2+ ⊂ Zn2+ + Cu เลขออกซิเดชั่นลด(รบั e ) เกดิ ปฏกิ รยิ ารดี กั ชน่ั ถกู รดี วิ ซ เปนตวั ออกซไิ ดซ 4
Chem Online IV http://www.pec9.com บทท่ี 9 ไฟฟาเคมี 11. จงเตมิ คําลงในชอ งวางตอไปน้ีใหถูกตองและสมบูรณ เลขออกซเิ ดชั่น..........(.......... e ) เกิดปฏิกริยา ..................... ถกู .......................... เปนตัว...................... Zn + Cu2+ ⊂ Zn2+ + Cu เลขออกซิเดชั่น….... (......... e ) เกิดปฏิกริยา...................... ถกู ..................... เปนตัว........................ 12. จงเติมคําลงในชองวางตอ ไปนี้ใหถูกตองและสมบรู ณ เลขออกซเิ ดชั่น..........(.......... e ) เกิดปฏิกริยา ..................... ถกู .......................... เปนตัว...................... Cu + 2Ag+ ⊂ Cu2+ + 2Ag เลขออกซเิ ดชั่น….... (......... e ) เกิดปฏิกริยา...................... ถกู ..................... เปนตัว........................ 13. จากปฏิกิรยิ าตอไปนี้ จงระบวุ า สารใดเปน ตวั รดี วิ ซ และ สารใดเปนตัวออกซิไดซ 1. 2Al(s) + 3Fe2+(aq) ⊆ 2Al3+(aq) + 3Fe(s) 2. Fe(s) + Pb2+(aq) ⊆ Fe2+(aq) + Pb(s) 3. Fe(s) + Cu2+(aq) ⊆ Fe2+(aq) + Cu(s) 5
Chem Online IV http://www.pec9.com บทท่ี 9 ไฟฟาเคมี 4. Ag+(aq) + Fe2+(aq) ⊆ Ag(s) + Fe3+(aq) 5. Cd(s) + I2(g) ⊆ Cd2+(aq) + 2 I Λ(aq) ตอบ 1) Al เปนตัวรีดิวซ Fe2+ เปนตวั ออกซไิ ดซ 2) Fe เปนตัวรีดิวซ Pb2+ เปน ตวั ออกซไิ ดซ 3) Fe เปนตัวรีดิวซ Cu2+ เปนตวั ออกซไิ ดซ 4) Fe2+ เปนตัวรีดิวซ Ag+ เปน ตวั ออกซไิ ดซ 5) Cd เปนตัวรีดิวซ I2 เปนตวั ออกซไิ ดซ 14. ปฏกิ ริ ิยาตอ ไปน้ี สารใดเปนตัวออกซิไดซ และ สารใดเปน ตวั รดี วิ ซ 1. 2KMnO4 + 10FeSO4 + 8H2SO4 ⊆ K2SO4 + 2MnSO4 + 5 Fe2(SO4)3 + 8H2O 2. Zn + 2MnO2 + 2N H4γ ⊆ Zn2+ + Mn2O3 + 2NH3 + H2O 3. NaNO3 + 4Zn + 7NaOH ⊆ NH3 + 4Na2ZnO2 + 2H2O ตอบ ตวั รดี วิ ซ และ ตวั ออกซไิ ดซ แตละขอ เรยี งตามลาํ ดบั คือ 1. FeSO4 , KMnO4 2. Zn , MnO2 3. Zn , NaNO3 15. ปฏกิ ริ ิยาตอ ไปนี้ สารใดเปนตัวออกซิไดซ และ สารใดเปน ตวั รดี วิ ซ 1. Cl2 + H2S ⊆ S + 2HCl 2. 2KOH + Cl2 ⊆ KCl + KClO + H2O 3. I2 + KOH ⊆ KI + KI O3 + H2O ตอบ ตวั รดี วิ ซ และ ตวั ออกซิไดซ แตละขอ เรยี งตามลาํ ดบั คือ 1. H2S , Cl2 2. Cl2 , Cl2 3. I2 , I2 6
Chem Online IV http://www.pec9.com บทท่ี 9 ไฟฟาเคมี 1.3 หลกั ในการพจิ ารณาวา เปน ปฏิกริ ยิ ารดี อกซห รอื ไม ปฏกิ รยิ ารดี อกซ คือ ปฏกิ รยิ าทม่ี กี ารรบั และจา ยอเิ ลคตรอน ดังนัน้ จึงเปน ปฏิกริยาซง่ึ ธาตทุ ร่ี บั หรอื จา ยอเิ ลคตรอนจะมกี ารเปลย่ี นแปลงเลขออกซเิ ดชน่ั การจะพิจารณาวาปฏิกริยาหนึง่ ๆ เปน ปฏกิ รยิ ารดี อกซห รอื ไมน น้ั ใหถือหลักการดังนี้ 1. ปฏกิ ริ ยิ าทม่ี ธี าตอุ สิ ระเปน สารตง้ั ตน หรอื ผลติ ภณั ฑ จะเปนปฏิกิริยารีดอกซ เชน Cl2 + H2S ⊆ S + 2HCl 2. ปฏิกิริยาสันดาบ และสังเคราะหแสง จะเปนปฏิกิริยารีดอกซเพราะมีกาซ O2 เปน สารตง้ั ตน เชน CH4 +3O2 ⊆ CO2 + 2H2O 3. ปฏิกิริยาที่เกิดในเซลไฟฟาเคมีทุกชนิดเปนปฏิกิริยารีดอกซ 4. ปฏิกิริยาเมตาบอลิซึม ในรางกายเปนปฏิกิริยารีดอกซ 5. ปฏิกิรยิ าทีม่ ีธาตุทรานสิชัน่ รวมอยดู ว ย มักเปนปฏิกิริยารีดอกซ 6. นอกเหนอื จากน้ี ใหต รวจสอบดวู า ธาตตุ า งๆ ท่อี ยูในปฏกิ รยิ านน้ั มเี ลขออกซิเดชน่ั เปลี่ยนแปลงหรือไม โดยเรม่ิ พิจารณาจาก ธาตุทรานสิชั่น , อะโลหะหมู 4 , 5 , 6 , 7 ตามลําดับ หากมีการเปลี่ยนแปลงเลขออกซิเดชั่น จะเปนปฏิกริยารีดอกซ 16. ปฏิกิริยาใดตอไปนี้ เปนปฏิกิริยารีดอกซ 1. 2Cr O2Λ + 3ClO– + 2OH– ⊆ 2Cr O42Λ + 3Cl– + H2O (เปน ) 2. 2K2CrO4 + 2HCl ⊆ K2Cr2O7 + 2KCl + H2O (ไมเ ปน ) 3. 2Mn O4Λ + 5N O2Λ + 6H+ ⊆ 2Mn2+ + 5N O3Λ + 3H2O (เปน ) 17. ปฏิกิริยาใดตอไปนี้ เปนปฏิกิริยารีดอกซ 1. MnO2 + 4HCl ⊆ MnCl2 + H2O + Cl2 (เปน ) 2. Na2S + Cl2 ⊆ 2NaCl + S (เปน ) 3. Cu2+ + 2H2O ⊆ Cu(s) + H2 +2OH– (เปน ) 4. NiO2 + Cd + 2H2O ⊆ Ni(OH)2 + Cd(OH)2 (เปน ) 5. 2KClO3 ⊆ 2KCl + 3O2 (เปน ) 7
Chem Online IV http://www.pec9.com บทท่ี 9 ไฟฟาเคมี 18. ปฏิกิริยาใดตอไปนี้ เปนปฏิกิริยารีดอกซ (เปน ) (เปน ) 1. H2S + Cl2 ⊆ 2HCl + S (เปน ) 2. Zn(s) + 2Ag+(aq) ⊆ 2Ag(s) + Zn2+(aq) (เปน ) (เปน ) 3. 2Au+ ⊆ Au + Au2+ 4. 3CuO + 2NH3 ⊆ Cu + 3H2O + N2 5. NaNO3 + 4Zn + 7NaOH ⊆ NH3 + 4Na2ZnO2 + 2H2O 19(มช 33) สมการตอ ไปนท้ี ่ี ไมใช ปฏิกริ ยิ าออกซเิ ดช่ันและรีดักชั่น คือ (ขอ ค.) ก. Zn + H2SO4 ⊆ ZnSO4 + H2 ข. K2Cr2O4 + 4H2SO4 + H2S ⊆ K2SO4 + Cr2(SO4)3 + 3S + 7H2O ค. 2K2CrO4 + 2HCl ⊆ K2Cr2O7 + 2KCl +H2O ง. PCl5 ⊆ PCl3 + Cl2 ตอบ 20(En 36) พิจารณาปฏิกริ ยิ าตอ ไปน้ี (ก) 4 NH3(g) + 5O2(g) ⊆ 4NO(g) + 6H2O(g) (ข) N2(g) + 3H2(g) ⊆ 2NH3(g) (ค) Cd(s) + NiO2(s) + 2H2O(l) ⊆ Cd(OH)2(s) + Ni(OH)2(s) (ง) FeS(s) + HCl(aq) ⊆ FeCl2(aq) + H2S(g) ปฏิกิริยาใดจัดเปนปฏิกิริยารีดอกซ 1. (ก) และ (ข) เทา นน้ั 2. (ก) และ (ค) เทา นน้ั 3. (ก) , (ข) และ (ค) 4. (ก) , (ค) และ (ง) (ขอ 3.) ตอบ εεεεεεεεεεεεεεεεεεεεεεεεεεεεεεεεεεε 8
Chem Online IV http://www.pec9.com บทท่ี 9 ไฟฟาเคมี ตอนท่ี 2 การดลุ สมการรดี อกซ 2.1 การดลุ สมการ รดี อกซโ ดยใชเ ลขออกซเิ ดชนั ขน้ั ตอน มดี งั น้ี 1. หาเลขออกซเิ ดชนั เพม่ิ ขน้ึ ของตวั รดี วิ ซ และเลขออกซเิ ดชนั ทล่ี ดลงของตวั ออกซไิ ดซ ระวงั !! หากอะตอมในสารตง้ั ตน ทเ่ี ปลย่ี นเลขออกซเิ ดชน่ั มหี ลายตวั ใหเ อาจาํ นวนอะตอมคณู เลขออกซิเดชน่ั เฉพาะตัวที่เปลี่ยนนน้ั ดว ย และ หากอะตอมในผลติ ภณั ฑท ่ีเปลี่ยนเลขออกซเิ ดช่นั มีหลายตัว ใหเ อาจาํ นวนอะตอมนน้ั คณู ทง้ั เลขออกซเิ ดชน่ั ทง้ั ทเ่ี พม่ิ และลด ดว ย 2. ทาํ เลขออกซเิ ดชนั ทเ่ี พม่ิ ขน้ึ และลดลงใหเทากัน โดยเขยี นเลขออกซเิ ดชนั ทเ่ี พม่ิ ขน้ึ ไว ขางหนาตัวออกซิไดซ และเลขออกซเิ ดชนั ที่ลดลงไวหนา ตวั รดี ิวซ 3. ดลุ จาํ นวนอะตอมของธาตทุ เ่ี ปลย่ี นเลขออกซเิ ดชน่ั นน้ั 4. ดลุ จํานวนอะตอมของธาตุตางๆ ทย่ี ังไมไดดุล 21. จงดลุ สมการตอ ไปนด้ี ว ยเลขออกซเิ ดชนั 1. H2S + HNO3 ⊆ NO2 + H2O + S 2. As(s) + N O3Λ (aq) + H2O(l) ⊆ As O43Λ (aq) + N O(g) + H+(aq) 3. Cu + H+ + N O3Λ ⊆ Cu2+ + NO + H2O 4 Mn O4Λ + H+ + S2Λ ⊆ Mn2+ + H2O + S 9
Chem Online IV http://www.pec9.com บทท่ี 9 ไฟฟาเคมี ตอบ 1 H2S + 2HNO3 ⊆ 2NO2 + 2H2O + S 2 3As(s) + 5N O3Λ (aq) + 2H2O(l) ⊆ 3As O43Λ (aq) + 5NO(g) + 4H+(aq) 3 4 3Cu + 8H+ + 2N O3Λ ⊆ 3Cu2+ + 2NO+4H2O 2Mn O4Λ + 16H+ + 5S2– ⊆ 2Mn2++8H2O+5S 22(En 32) เมอ่ื ตอ งการดลุ สมการของปฏกิ ริ ยิ าระหวา ง Cu กับ HNO3 Cu(s) + H+(aq) + N O3Λ (aq) ⊆ Cu2+(aq) + NO(g) + H2O( ) ถาสัมประสิทธิ์ของ Cu เปน 1 สัมประสิทธิ์ของ H2O เปน เทา ใด 1. 3. 2 4. 4 4 2. 8 (ขอ 1.) 3 3 วธิ ที าํ 23. จงดลุ สมการตอ ไปนด้ี ว ยเลขออกซเิ ดชนั 2. H2S + Cl2 ⊆ HCl + S 1. NH3 + O2 ⊆ NO + H2O วธิ ที าํ ตอบ 1. 4NH3 + 5O2 ⊆ 4NO + 6H2O 2. H2S + Cl2 ⊆ 2HCl + S 24 (มช 31) ในปฏิกิริยา a H2S + b H+ + c Cr2O72– ⊆ d S + e Cr3+ + f H2O เมื่อดุลสมการน้แี ลว เลขสัมประสิทธิ์ a และ b มีคาเทาใด (a=3 , b=8) วธิ ที าํ 10
Chem Online IV http://www.pec9.com บทท่ี 9 ไฟฟาเคมี 25. จงดลุ สมการตอ ไปนด้ี ว ยเลขออกซเิ ดชนั 1. Al + NaOH ⊆ Na3AlO3 + H2 2. KMnO4 + FeSO4 + H2SO4 ⊆ K2SO4 + MnSO4 + Fe2(SO4)3 + H2O วธิ ที าํ ตอบ 1. 2 Al + 6 NaOH ⊆ 2 Na3 Al O3 + 3 H2 3. 2 KMnO4 + 10FeSO4 + 8H2SO4 ⊆ K2SO4 + 2MnSO4 + 5Fe2(SO4)3 + 8H2O การดุลปฏิกริยา Autoredox ใหแ ยกสารทเ่ี ปน ทง้ั ตวั ออกซไิ ดซแ ละตวั รดี วิ ซอ อกเปน 2 พวก กอน แลว จงึ ทาํ การดลุ 26. จงดลุ สมการตอ ไปนด้ี ว ยเลขออกซเิ ดชนั 1. Cl2 + NaOH ⊆ NaCl + NaClO3 + H2O 2. I2 + KOH ⊆ KI + KI O3 + H2O วธิ ที าํ ตอบ 1. 3 Cl2 + 6 NaOH ⊆ 5 Na Cl + Na Cl O3 + 3 H2O 2. 3 I2 + 6 KOH ⊆ 5 KI + KI O3 + 3 H2O 11
Chem Online IV http://www.pec9.com บทท่ี 9 ไฟฟาเคมี 2.2 การดลุ สมการรดี อกซโ ดยใชค รง่ึ ปฏกิ ริ ยิ า 27. จงดุลสมการตอไปนี้โดยใชครึ่งปฏิกริยา Zn(s) + H+(aq) ⊆Zn2+(aq) + H2(g) วธิ ที าํ 28. จงดุลสมการตอไปนี้โดยใชครึ่งปฏิกริยา Cl2(g) + I–(aq) ⊆ I2(g) + Cl–(aq) วธิ ที าํ สําหรับปฏิกิริยารีดอกซซึ่งเกิดขึ้นในสารละลายกรด หรอื เบส ใหท าํ ตามขน้ั ตอนดงั น้ี 1. หากการเปลี่ยนแปลงเลขออกซิเดชั่น แลว แยกสมการออกซเิ ดชน่ั กับรดี ักช่ันออกจากกัน 2. ดลุ จาํ นวนอะตอมของธาตอุ น่ื ๆ ที่ไมใช O และ H 3. ใหด ลุ จาํ นวนอะตอมของ O โดยเตมิ H2O และ ดลุ จาํ นวนอะตอมของ H โดยเตมิ H+ 4. ดุลประจุไฟฟาทั้งปฏิกริยารีดักชั่นและออกซิเดชั่น 5. ทาํ ใหจ าํ นวนอเิ ลคตรอนทจ่ี า ยและรบั ของทง้ั ปฏกิ รยิ าออกซเิ ดชน่ั และรดี กั ชน่ั เทากัน 6. รวมสมการรดี กั ชน่ั และออกซเิ ดชน่ั เขา ดว ยกัน 7. ถาเปนสารละลายเบส ใหบ วก OHΛ เขา ทง้ั สองขา งของสมการรวม 12
Chem Online IV http://www.pec9.com บทท่ี 9 ไฟฟาเคมี 29. จงดลุ ปฏกิ ริ ยิ ารดี อกซต อ ไปน้ี โดยใชครึ่งปฏิกิริยา Cr2O72–(aq) + I–(aq) + H+(aq) ⊆ Cr3+(aq) + I2(s) + H2O(l) วธิ ที าํ ตอบ Cr2O72–(aq) + 6 I–(aq) + 14 H+(aq) ⊆ 2 Cr3+(aq) + 3 I2(s) + 7 H2O(l) 30. จงดลุ สมการรดี อกซต อ ไปนโ้ี ดยใชค รง่ึ ปฏกิ ริ ยิ า MnO4–(aq) + H2S(aq) + H+(aq) ⊆ Mn2+(aq) + H2O(l) + S(s) วธิ ที าํ ตอบ 2MnO4–(aq) + 5H2S(aq) + 6 H+(aq) ⊆ 2 Mn2+(aq) + 8H2O(l) + 5 S(s) 13
Chem Online IV http://www.pec9.com บทท่ี 9 ไฟฟาเคมี 31. จงดลุ สมการรดี อกซต อ ไปนโ้ี ดยใชค รง่ึ ปฏกิ ริ ยิ า MnO4–(aq) + C2O42–(aq) ⊆ MnO2 (s) + CO32–(aq) วธิ ที าํ ตอบ 2MnO4–(aq) + 3C2O42–(aq) + 4OH–(aq) ⊆ 2 MnO2(s) + 6CO32–(aq) + 2H2O(l) 32. จงดลุ สมการรดี อกซต อ ไปนโ้ี ดยใชค รง่ึ ปฏกิ ริ ยิ า MnO4–(aq) + I–(aq) ⊆ MnO2 (s) + I2(aq) + OH–(aq) วธิ ที าํ ตอบ 2 MnO4–(aq) + 6 I–(aq) + 4H2O(aq) ⊆ 2MnO2 (s) + 3I2(aq) + 8OH–(aq) 14
Chem Online IV http://www.pec9.com บทท่ี 9 ไฟฟาเคมี การตรวจสอบวา สมการรดี อกซใ ดดลุ ถูกตอ งหรอื ไมน น้ั ใหหาคา เลขออกซเิ ดชน่ั ทเ่ี พม่ิ รวม และ เลขออกซเิ ดชน่ั ทล่ี ดรวม หาก เลขออกซเิ ดชน่ั รวมทเ่ี พม่ิ = เลขออกซเิ ดชน่ั รวมทล่ี ด แสดงวาสมการดุลถูกตอง หาก ไมเทา แสดงวาดุลไมถูก 33. จงตรวจสอบวา ปฏกิ รยิ าตอ ไปน้ี สมการดุลถูกตองหรือไม 1. 2K2CrO4 + S ⊆ Cr2O3+ K2SO4+ K2O (ดุลถูก) 2. 4 NH3 + 5 O2 ⊆ 4 NO + 6 H2O (ดุลถูก) 34. จงตรวจสอบวา ปฏกิ รยิ าตอ ไปน้ี สมการดุลถูกตองหรือไม 1. 2FeCl3 + H2S ⊆ 2FeCl2 + 2HCl + S 2. 4Cu + 8H+ + 2N O3Λ ⊆ 4Cu2+ + 2NO+4H2O ตอบ 1. ถูก 2. ผิด εεεεεεεεεεεεεεεεεεεεεεεεεεεεεεεεεεε ตอนที่ 3 เซลลก ลั วานกิ 35. เซลลไฟฟาเคมี คือ ........................................... ....... ....... ....... ....... ....... ....... ....... ....... ... เซลลกัลวานิก คือ ........................................... ....... ....... ....... ....... ....... ....... ....... ....... ..... เซลลอเิ ลคโทรลติ กิ คือ ........................................... ....... ....... ....... ....... ....... ....... ....... .... 15
Chem Online IV http://www.pec9.com บทท่ี 9 ไฟฟาเคมี 3.1 ความหมาย เซลกลั วานกิ (วอลเตอกิ ) คอื เซลไฟฟาเคมี ที่ทําหนาที่เปลี่ยนพลังงานเคมีเปนพลังงานไฟฟา ตัวอยางเชน หากเราตอ วงจรไฟฟา ดงั รปู e K+ สะพานออิ อน ClΛ ClΛ K+ Cu Zn ขั้วคาโทด ขว้ั อาโนด (Λ) Zn2+ (+) Cu2+ S O42Λ S O42Λ เนอ่ื งจาก Cu2+ (aq) แยง ชงิ อเิ ลคตรอนไดเ กง กวา Zn2+ (aq) ดงั นน้ั ที่ขั้ว Zn จะเกิดปฏิกิริยา Zn(s) ⇐ Zn2+ (aq) + 2 e ขว้ั นเ้ี กดิ ออกซเิ ดชน่ั มกี ารจา ย e เรยี กเปน ขว้ั อาโนด ซึ่ง ถือเปนขั้วไฟฟาลบ และ ที่ขั้ว Cu จะเกิดปฏิกิริยา Cu2+(aq) + 2 e ⇐ Cu(s) ขว้ั นเ้ี กดิ รดี กั ชน่ั มกี ารรบั e เรยี กเปน ขว้ั คาโทด ซึ่ง ถือเปนขั้วไฟฟาบวก เหตนุ จ้ี ะทาํ ใหอ เิ ลก็ ตรอนวง่ิ จากแทง Zn ไปหาแทง Cu และมีกระแสไฟฟาวิ่งสวนทาง กลับจากแทง Cu ไปแทง Zn เซลลไฟฟาเคมีแบบนี้ เรยี ก เซลลกัลวานิก บิกเกอร แตล ะอนั เรยี กวา ครึ่งเซลล ครึ่งเซลล Zn เรยี ก ครงึ่ เซลลอาโนด ครึ่งเซลล Cu เรยี ก ครึ่งเซลลคาโทด 36. จงเตมิ คําลงในชองวา งตอไปน้ใี หถ กู ตอ งและไดใ จความ e เกดิ กระแส..................ไหลยอ น ….. ….. …….. Cu2+ Cu Zn 16
Chem Online IV http://www.pec9.com บทท่ี 9 ไฟฟาเคมี 37. จงเตมิ คาํ ลงในชองวางตอ ไปนใ้ี หถ กู ตองและไดใ จความ หากเราตอ วงจรไฟฟาดงั รปู e K+ สะพานออิ อน ClΛ Zn ClΛ K+ Cu Zn2+ Cu2+ S O42Λ S O42Λ เนอ่ื งจาก Cu2+ (aq) แยง ชงิ อเิ ลคตรอนไดเ กง กวา Zn2+ (aq) ดงั นน้ั ที่ขั้ว Zn จะเกิดปฏิกิริยา …………………………………………….. ขว้ั นเ้ี กดิ ออกซเิ ดชน่ั มกี ารจา ย e เรยี กเปน ขว้ั (อาโนด / คาโทด) ซงึ่ ถอื เปน ขว้ั (บวก / ลบ) และ ที่ขั้ว Cu จะเกิดปฏิกิริยา ………….. ………….. ………….. ………….. ขว้ั นเ้ี กดิ รดี กั ชน่ั มีการรับ e เรยี กเปน ขว้ั (อาโนด / คาโทด) ซึ่ง ถอื เปน ขว้ั (บวก / ลบ) เนอ่ื งจากจะมอี เิ ลก็ ตรอนวง่ิ จากแทง Zn ไปหาแทง Cu จึงมีกระแสไฟฟาวิ่งสวนทาง กลับจากแทง Cu ไปแทง Zn เซลลไฟฟาเคมีแบบนี้ เรยี ก เซลลกัลวานิก บิกเกอร แตล ะอนั เรยี กวา ………….. ครึ่งเซลล Zn เรยี ก ครึ่งเซลล… ……….. ครึ่งเซลล Cu เรยี ก ครึ่งเซลล… ……….. 38. จงเตมิ คําลงในชอ งวา งตอไปนี้ใหถูกตองและไดใ จความ หากเราตอ วงจรไฟฟาดงั รปู ( กาํ หนดวา Ag+ แยง ชงิ อเิ ลคตรอนไดเ กง กวา Cu2+ ) e K+ สะพานออิ อน ClΛ Cu ClΛ K+ Ag Cu2+ Ag+ S O42Λ ClΛ เนอ่ื งจาก Ag+ (aq) แยง ชงิ อเิ ลคตรอนไดเ กง กวา Cu2+ (aq) ดงั นน้ั ที่ขั้ว Cu จะเกิดปฏิกิริยา …………………………………… ขว้ั นเ้ี กดิ ออกซเิ ดชน่ั มกี ารจา ย e เรยี กเปน ขว้ั (อาโนด / คาโทด) ซ่งึ ถอื เปน ขว้ั (บวก / ลบ) และ ที่ขั้ว Ag จะเกิดปฏิกิริยา …………………………………… 17
Chem Online IV http://www.pec9.com บทท่ี 9 ไฟฟาเคมี ขว้ั นเ้ี กดิ รดี กั ชน่ั มีการรับ e เรยี กเปน ขว้ั (อาโนด / คาโทด) ซ่ึง ถอื เปน ขว้ั (บวก / ลบ) เหตนุ จ้ี ะทาํ ใหอ เิ ลก็ ตรอนวง่ิ จากแทง ........ไปหาแทง ........และมีกระแสไฟฟาวิ่งสวนทาง กลับจากแทง Ag ไปแทง Cu เซลลไฟฟาเคมีแบบนี้ เรยี ก........ ........ ........ บิกเกอร แตล ะอนั เรยี กวา ........ ........ ครึ่งเซลล Ag เรยี ก ครึ่งเซลล. ....... ........ ครึ่งเซลล Cu เรยี ก ครึ่งเซลล. ....... ........ คําชี้แจง ขอ มลู ตอ ไปนใ้ี ชต อบคาํ ถาม 2 ขอถัดไป e โลหะ Y เมื่อนําครึ่งเซลล X / X2+ มาตอกับครึ่งเซลล Y / Y2+ ตามรปู ปรากฎวา เขม็ ของโวลตม –ิ โลหะ X Y2+ เตอรเ บนไปตามรปู X2+ 39(มช 40) ขอ สรปุ ของเซลลน ท้ี ถ่ี กู ตอ ง คือ 1. X เปน ขว้ั ลบเรยี กวา อาโนด 2. Y เปน ขว้ั ลบเรยี กวา อาโนด 3. X เปน ขว้ั ลบเรยี กวา คาโธด 4. Y เปน ขว้ั บวกเรยี กวา อาโนด (ขอ 1) ตอบ 40(มช 40) ขอสรุปทไ่ี มถ กู ตอ งคือ 1. ตัวรีดวิ ซในปฏกิ ริ ยิ าคอื โลหะ X 2. คาศักยไฟฟาครึ่งเซลล X / X2+ มีคามากกวา Y /Y2+ 3. ขั้ว Y เกิดปฏิกิริยา Y2+ + 2 e ⇓ Y (ขอ 2) 4. ขั้ว X เกิดปฏิกิริยา X ⇓ X2+ + 2 e ตอบ 41. วธิ หี นง่ึ ทอ่ี าจใชเ ปรยี บเทยี บความสามารถในการเปน ตวั รดี วิ ซข องโลหะ A , B , C , D คือ ตอครึ่งเซลลของโลหะ / โลหะไอออนเขา คกู นั แลวสังเกตวามีการเคลือบโลหะบนขั้วใด เชน โลหะและโลหะไอออนคทู ต่ี อ กนั ขั้ว A ขั้ว B ขั้ว C ขั้ว D A/A2+ (aq) กับ B/B2+ (aq) B/B2+ (aq) กับ C/C2+ (aq) + C/C2+ (aq) กับ D/D2+ (aq) + + การเคลอื บโลหะเกดิ ขน้ึ บนขว้ั ทม่ี เี ครอ่ื งหมาย + จงเรียงลาํ ดับความสามารถในการเปนตวั รดี วิ ซจากดที ีส่ ดุ ไปหาแยท่ีสุด 18
Chem Online IV http://www.pec9.com บทท่ี 9 ไฟฟาเคมี 42. เมอ่ื จมุ โลหะ A , B , C และ D แตล ะชนดิ ลงในสารละลายของโลหะไอออน ได ผลการทดลองดงั แสดงในตาราง โลหะ A2+ สารละลายของ D2+ B2+ C2+ A– + + – B– – – – C– + – – D+ – + – เมอ่ื + แสดงวามีการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น – แสดงวาไมมีการเปลี่ยนแปลง การเรยี งลาํ ดบั ความแรงของตวั รดี วิ ซข อ ใดถกู ตอ ง 1. B > C > A > D 2. C > A > D > B 3. D > A > C > B 4. A > C > B > D (ขอ 3) ตอบ คําชี้แจง ขอความตอไปนี้ใชประกอบการตอบคําถาม 2 ขอถัดไป (1) โซเดียมทําปฏิกริ ยิ ารนุ แรงกบั น้ําในขณะท่ี Zn ไมทําปฏิกิริยากับน้ํา (2) แผน Zn ทําปฏิกิรยิ ากับสารละลาย HCI เจอื จางเรว็ กวา แผน Fe (3) แทง Cu จมุ ในสารละลายซิลเวอรไ นเตรตเกดิ สีเงนิ ตดิ แทง ทองแดงและสารละลาย เปน สฟี า ออ น (4) ใสผงเหล็กในสารละลายคอปเปอร (II) ซัลเฟตเกิดสีสมหุมผลเหล็ก 43. การเรยี งลาํ ดบั ธาตตุ ามความสามารถเปน ตวั รดี วิ ซจ ากมากไปนอ ยเปน ไปตามขอ ใด 1. Zn , Na , Fe , Cu , Ag 2. Ag , Cu , Fe , Zn , Na 3. Na , Fe , Zn , Ag , Cu 4. Na , Zn , Fe , Cu , Ag (ขอ 4) ตอบ 19
Chem Online IV http://www.pec9.com บทท่ี 9 ไฟฟาเคมี 44. ถาสรางเซลลไฟฟาเคมีเหล็ก–ทองแดง 1. อเิ ลก็ ตรอนไหลจากเหลก็ ไปยงั ทองแดง 2. เหลก็ เปน แคโทด 3. ตวั รดี วิ ซค อื ทองแดง (ขอ 1) 4. คา ศักยไ ฟฟา ครง่ึ เซลลมาตรฐานของ Cu/Cu2+ นอ ยกวา ของ Fe/Fe2+ ตอบ 3.2 การเขียนแผนภาพแสดงเซลกัลวานิก e K+ สะพานออิ อน ClΛ ClΛ K+ Cu Zn ขั้วคาโทด ขว้ั อาโนด (Λ) Zn2+ (+) Cu2+ S O42Λ S O42Λ จากเซลล Zn กับ Cu ทีผ่ านมา กระบวนการเปลี่ยนแปลงที่เกิด อาจเขยี นเปน แผนภาพ แสดงไดด งั น้ี Zn(s) / Zn2+(aq) // Cu2+(aq) / Cu(s) หลักการเขยี นแผนภาพแสดงเซลกัลวานกิ 1. เขียนครึ่งเซลออกซิเดชันไวทางซาย และครึ่งเซลรีดักชันไวทางขวา 2. ใชเ ครอ่ื งหมาย / / แทนสะพานอิออน กั้นระหวางครึ่งเซลทั้งสอง 3. ครึ่งเซลออกซิเดชันใหเขียนขั้วอาโนดไวทางซายสุดแลว ตามดวยอิออน ในสาร ละลายโดยมเี คร่ืองหมาย / คน่ั ระหวา งขว้ั ไฟฟา กับอิออน เชน Zn(s) / Zn2+(aq) 4. คร่ึงเซลรีดักชันซง่ึ อยทู างขวาของสะพานอิออนใหเขียนอิออนในสารละลายกอ นคนั่ ดวยเครื่องหมาย / แลวตามดวยขั้วคาโทดซึ่งอยูขวาสุด เชน Cu2+(aq) / Cu(s) 20
Chem Online IV http://www.pec9.com บทท่ี 9 ไฟฟาเคมี 5. สาํ หรบั ขัว้ ไฟฟาที่ประกอบดว ยโลหะกับกา ซ (ควรระบคุ วามดันของกา ซ) ใหเ ขยี น เครื่องหมาย / คน่ั ระหวา งโลหะกบั กา ซ และ ระหวางกาซกับอิออนก็ใชเครื่องหมาย / คน่ั เชน เดยี วกนั เชน Pt(s) / H2(g) / H+(aq) H2 (ถาเกิดออกซิเดชัน) 1 atm หรอื H+(aq) / H2(g) / Pt(s) 25oC (ถาเกิดรีดักชัน) Pt Λ H2 หรอื Pt(s) / H2(1 atm) / H+(1 mol/l) H+ ClΛ (1 mol/l) เมอ่ื ตอ งการระบคุ วามดนั ของกา ซ และ ความเขมขนของสารละลาย 6. ถา จะระบคุ วามเขม ขน ของออิ อนในสารละลายหรอื ระบุ สถานะของสารใหเขียนไว ในวงเล็บ ถาเปนกาซใหระบุความดันของกาซในวงเล็บดวย 7. ถาครึ่งเซลใดมีสารซึ่งอยูในสถานะเดียวกันมากกวา 1 ชนดิ ใหใ ชเ ครอ่ื งหมาย “ , ” คั่นระหวางสารสถานะเดียวกัน เชน Pt(s) / Fe2+(aq), Fe3+(aq) 45. จงเขียนแผนภาพเซลลกัลวานิกแสดงการเปลี่ยนแปลงในรูป e K+ สะพานออิ อน ClΛ ClΛ K+ Ag Cu ขั้วคาโทด ขว้ั อาโนด (Λ) Cu2+ (+) Ag+ S O42Λ ClΛ ตอบ Cu(s) / Cu2+(aq) / / Ag+(aq) / Ag(s) 46. จงเขียนแผนภาพเซลล จากปฏิกิรยิ าที่เกิดในเซลกัลวานิกตอไปนี้ 1] Ni(s) + Sn2+(aq) ⇓ Ni2+(aq) + Sn(s) 2] Fe2+(aq) + Ag+(aq) ⇓Fe3+(aq) + Ag(s) ตอบ 1. Ni(s) / Ni2+(aq) / / Sn2+(aq) / Sn(s) 2. Fe2+(aq) ,Fe3+(aq) / / Ag+(aq) / Ag(s) 21
Chem Online IV http://www.pec9.com บทท่ี 9 ไฟฟาเคมี 47. จงเขียนแผนภาพเซลล จากปฏิกิรยิ าที่เกิดในเซลกัลวานิกตอไปนี้ 1] Mg + Sn2+ ⇓ Mg2+ + Sn 2] 2Cr + 3Pb2+ ⇓ 2Cr3+ + 3Pb 3] 3Zn + 2Cr3+ ⇓ 3Zn2+ + 2Cr 4] Zn + 2H+ ⇓ Zn2+ + H2 5] Zn + Cd2+ ⇓ Zn2+ + Cd 6] 2Al + 3Ni2+ ⇓ 3Ni + 2Al3+ ตอบ 1] Mg(s) / Mg2+(aq) / / Sn2+(aq) / Sn(s) 2] Cr(s) / Cr3+(aq) / / Pb2+(aq) / Pb(s) 3] Zn(s) / Zn2+(aq) / / Cr3+(aq) / Cr(s) 4] Zn(s) / Zn2+(aq) / / H+(aq) / H2(g) / Pt 5] Zn(s) / Zn2+(aq) / / Cd2+(aq) / Cd(s) 6] Al(s) / Al3+(aq) / / Ni2+(aq) / Ni(s) 48. ครึ่งเซลลไฮโดรเจนซึ่งใชแทงแพททินัมแบลคจุมลงในสารละลายกรด เมอ่ื เกดิ ปฏกิ รยิ าออกซเิ ดชน่ั จะเขยี นแผนภาพเปน ......................................................... และเมอ่ื เกดิ ปฏกิ รยิ ารดี กั ชน่ั จะเขยี นแผนภาพเปน ......................................................... 3.3 สะพานออิ อน หรอื สะพานเกลอื สวนประกอบของสะพานออิ อนคอื เปน หลอดแกว รปู ตวั ยู ภายในบรรจุสารละลายของ เกลอื ทอ่ี ม่ิ ตวั ผสมวนุ ปลายทั้งสองขางปดดวยสําลีหรือใยแกว เกลือทจ่ี ะใชท าํ สะพานออิ อนจะตอ งมสี มบตั ดิ งั น้ี 1. ละลายน้ําไดดี และแตกตวั ได 100% (อเิ ลก็ โตรไลทแ ก) 2. ตองไมทําปฏิกิริยากับสารใด ๆ ที่อยูภายในครึ่งเซลลทั้งสอง 3. ไอออนบวกและไอออนลบทไ่ี ดจ ากการแตกตวั จะตอ งเคลอ่ื นทด่ี ว ยความเรว็ เทา ๆ กนั ตัวอยางเกลือที่นิยมใช คือ KNO3 , NH4NO3 , KCl , NH4Cl , K2SO4 22
Chem Online IV http://www.pec9.com บทท่ี 9 ไฟฟาเคมี หนาท่ขี องสะพานออิ อน K+ NO3 NKO+3⊥ 1. ปองกันการสะสมประจุในครึ่งเซลทั้งสอง Cu K+ Zn Cu2+ Zn2+ คือ ทาํ หนา ทร่ี กั ษาสมดลุ ระหวา งออิ อน S O42Λ N O3⊥ บวก กับ ออิ อนลบ ในครึ่งเซลทั้งสอง SO 2Κ เชน ในครง่ึ เซล Zn / Zn2+ จะมี Zn2+ 4 จึงมีประจุบวกมากเกินไป N O3⊥ ในสะพานอิออนจะเคล่อื นท่ีลงมาเพอ่ื รกั ษาสมดุล ระหวา งออิ อนบวกกับออิ อนลบ ใหม ปี รมิ าณเทา ๆ กันสวนในคร่งึ เซล Cu / Cu2+ ตวั Cu2+ จะมีปริมาณลดลง จะเหลือ S O42Λ มากกวาตัว K+ ในสะพานอิออนก็จะ เคลื่อนที่ลงมา เพอ่ื รักษาสมดลุ ระหวา งออิ อนบวกกบั ออิ อนลบ ถาไมม ีสะพานอิออน ประจุในครึ่งเซลทั้งสองจะไมสมดุล คือจะมีการสะสมประจุ ในครึ่งเซลทั้งสอง เมื่อผานไประยะหนึ่งก็จะไมมีกระแสไฟฟาไหลในวงจร 2. ทาํ ใหค รบวงจร แตหนา ทนี่ ้ไี มสาํ คญั เพราะสามารถใชลวดตวั นําตาง ๆ แทนได แต การเปลีย่ นแปลงที่เกิดข้นึ ไมเหมอื นกนั **หมายเหตุ** 1. เซลกัลวานิกใด ๆ ทป่ี ระกอบดว ยครง่ึ เซล Zn/Zn2+ ตอ กบั ครง่ึ เซล Cu/Cu2+ อาจเรยี กชอ่ื เฉพาะวา เซลแคเนยี ล 2. ลาํ ดบั ความสามารถในการชงิ อเิ ลก็ ตรอนของตวั ออกซไิ ดซบ างตวั มดี งั น้ี Cl2 ∴ Ag+ ∴ Cu2+ ∴ Sn2+ ∴ Zn2+ ∴ Mg2+ 3.4 ศักยไฟฟาของครึ่งเซล ( คา Eo ) วิธีการหาคาศักยไฟฟามาตรฐานของครึ่งเซล (Eo) 1. กาํ หนดใหค รง่ึ เซลไฮโดรเจน [ Pt / H2 (1 atm) / H+ (1 mol/l) ] เปน มาตรฐานมคี า Eo = 0.00 โวลต 2. ครง่ึ เซลใดทช่ี งิ อเิ ลก็ ตรอนไดด กี วา ไฮโดรเจนใหม คี า Eo เปน + 3. ครง่ึ เซลใดทช่ี งิ อเิ ลก็ ตรอนไดแ ยก วา ไฮโดรเจนใหม คี า Eo เปน – 49. จากแผนภาพตอ ไปน้ี จงบอกคา Eo ของ Li+ และ Ag+ (–3.05 V , +0.80 V ) ee ความตา งศักย 3.05 V ความตา งศกั ย 0.80 V Li H H Ag Li+ H+ H+ Ag+ 23
Chem Online IV http://www.pec9.com บทท่ี 9 ไฟฟาเคมี ตารางแสดงคา Eo ซึ่งไดจากการทดลอง Eo (V) –3.05 (รับอิเลคตรอนยาก) ปฏกิ ิรยิ าครึ่งเซล –2.93 Li+(aq) + e ⊂ Li(s) –2.93 (รับอิเลคตรอนยาก) K+(aq) + e ⊂ K(s) –2.92 (รับอิเลคตรอนไดด)ี Rb+(aq) + e ⊂ Rb(s) –2.90 Cs+(aq) + e ⊂ Cs(s) –2.89 Ba2+(aq) + 2 e ⊂ Ba(s) –2.87 Sr2+(aq) + 2 e ⊂ Sr(s) –2.71 Ca2+(aq) + 2 e ⊂ Ca(s) –2.37 Na+(aq) + e ⊂ Na(s) –1.66 Mg2+(aq) + 2 e ⊂ Mg(s) –0.83 Al3+(aq) + 3 e ⊂ Al(s) –0.76 2H2O(l)(aq)+2 e ⊂ H2(g)+2OH–(aq) –0.74 Zn2+(aq) + 2 e ⊂ Zn(s) –0.44 Cr3+(aq) + 3 e ⊂ Cr(s) –0.40 Fe2+(aq) + 2 e ⊂ Fe(s) –0.25 Cd2+(aq) + 2 e ⊂ Cd(s) –0.14 Ni2+(aq) + 2 e ⊂ Ni(s) –0.13 Sn2+(aq) + 2 e ⊂ Sn(s) 0.00 Pb2+(aq) + 2 e ⊂ Pb(s) +0.34 2H+(aq) + 2 e ⊂ H2(s) +0.54 Cu2+(aq) + 2 e ⊂ Cu(s) +0.77 +0.80 I2(s) + 2 e ⊂ 2IΚ(aq) +0.85 Fe3+(aq) + e ⊂ Fe2+(aq) +1.07 Ag+(aq) + e ⊂ Ag(s) +1.23 Hg2+(aq) + 2 e ⊂ Hg(l) +1.36 +1.77 Br2(l) + 2 e ⊂ 2BrΚ(s) +2.01 1 O2(g)+2H+(aq)+2 H2O(s) +2.87 (รับอิเลคตรอนไดด)ี 2 e ⊂ Cl2(g) + 2 e ⊂ 2ClΚ(aq) H2O2(aq)+2H+(aq)+2 e ⊂ 2H2O(l) S2 O82Λ (aq) + S O42Λ 1 e ⊂ 2 F2(g) + 2 e ⊂ 2FΚ(aq) 24
Chem Online IV http://www.pec9.com บทท่ี 9 ไฟฟาเคมี *หมายเหตุ* 1. Eo ครึ่งเซลลที่มีคา Eo มากกวา จะสามารถแยงชิงอิเล็กตรอนไดดีกวาครึ่งเซลลที่มีคา Eo นอยกวาเสมอ ดงั นน้ั หากตอ ครง่ึ เซลล 2 ตวั เขา ดว ยกนั ตวั ทม่ี คี า Eo มากกวา จะเกิดปฏิกริยารีดักชั่น และตัวที่ Eo นอ ยกวา จะเกดิ ออกซเิ ดชน่ั เสมอ 2. Eo ในตารางนเ้ี ราพจิ ารณาตามความสามารถในการแยง รบั อเิ ลก็ ตรอน จงึ ถอื เปน Eo ของ ปฏิกิริยารีดักชัน ( E 0 ) แตถากลับสมการ Eo จะมีกลับคาจาก + เปน – หรอื กลบั r จาก – เปน + เชน Cu2+(aq) + 2 e o Cu(s) ; Eo = +0.34 ถากลับสมการจะได Cu o Cu2+ + 2 e ; Eo = –0.34 แตค า Eo ท่ไี ดใหมน ีจ้ ะเปน Eo ของครง่ึ เซลลออกซเิ ดชนั (E00 ) 3. คา Eo จะเปล่ยี นไปตามอุณหภมู ิ ความเขมขนของสารละลายและความดัน 50(En 40) จากคา Eo( v ) การเรยี งลาํ ดบั ไอออนทม่ี คี วามสามารถในการรบั อเิ ล็กตรอน จากมากไปนอ ยขอ ใดถกู ตอ ง 1. Al3+ Fe2+ Cr3+ 2. Fe2+ Al3+ Ni2+ (ขอ 3) 3. Ni2+ Fe2+ Cr3+ 4. Cr3+ Al3+ Ni2+ ตอบ การคํานวณหาคา Eo ของเซลไฟฟาเคมีใด ๆ หากนําครึ่งเซลล 2 ตวั ใดๆ มาตอ กนั เปน เซลลไ ฟฟา เคมี เราสามารถหาคา Eo ของเซลลไฟฟาเคมีที่ตอนั้นไดเสมอ จาก Eoเซล = Eoตวั เกดิ รดี กั ชนั – Eoตวั เกดิ ออกซเิ ดชนั Eoเซล = Eoคาโทด – Eoอาโนด 51. จงหาคา Eo ของเซลลไฟฟาเคมีตอไปนี้ วธิ ที าํ 25
Chem Online IV http://www.pec9.com บทท่ี 9 ไฟฟาเคมี 52. กาํ หนด Cd2+ + 2 e o Cd ; Eo = –0.40 V ( +0.36 V) Zn2+ + 2 e o Zn ; Eo = –0.76 V จงหาคา Eo ของเซลลไฟฟาเคมี Zn + Cd2+ o Zn2+ + Cd วธิ ที าํ 53. กาํ หนด Ag+ + e o Ag ; Eo = +0.80 V ( +1.56 V) Zn2+ + 2 e o Zn ; Eo = –0.76 V จงหาคา Eo ของเซลลไฟฟาเคมี Zn + 2Ag+ o Zn2+ + 2Ag วธิ ที าํ 54 จงหาคา Eoเซลล ของเซลไฟฟาเคมีตอ ไปน้ี โดยใชค า Eo จากตาราง 1] Mg(s) / Mg2+(aq) / / Sn2+(aq) / Sn(s) 2] Cr(s) / Cr3+(aq) / / Pb2+(aq) / Pb(s) 3] Zn(s) / Zn2+(aq) / / Cr3+(aq) / Cr(s) 4] Zn(s) / Zn2+(aq) / / H+(aq) / H2(g) 5] Zn(s) / Zn2+(aq) / / Cd2+(aq) / Cd(s) 6] Al(s) / Al3+(aq) / / Ni2+(aq) / Ni(s) วธิ ที าํ ตอบ 1] +2.23 โวลต 2] 0.61 โวลต 3] 0.02 โวลต 4] 0.76 โวลต 5] 0.36 โวลต 6] 1.41 โวลต 26
Chem Online IV http://www.pec9.com บทท่ี 9 ไฟฟาเคมี 55(En 42/2) กาํ หนดให ศักยไฟฟามาตรฐานของครึ่งเซลล (ขอ 2.) Al3+ + 3 e o Al ; E0 = –1.66 V Ag+ + e o Ag ; E0 = 0.80 V Li+ + e o Li ; E0 = –3.04 V Fe2+ + 2 e o Fe ; E0 = –0.44 V จงคาํ นวณคา E0 ของเซลลเปนโวลตของเซลลตอ ไปนี้ตามลําดับ Al / Al3+ // Ag+ / Ag และ Li / Li+ // Fe2+ / Fe 1. 4.06 และ 3.92 2. 2.46 และ 2.60 3. 4.06 และ 2.60 4. 2.46 และ 5.64 วธิ ที าํ 56(En 37) กาํ หนดคา Eo ของครง่ึ เซลตอ ไปน้ี A(s) / A+(aq) ; Eo = –0.14 V B(s) / A+(aq) ; Eo = –0.40 V C(s) / C+(aq) ; Eo = –0.74 V D(s) / D+(aq) ; Eo = –1.18 V เซลในขอใดมีความตางศักยสูงที่สุด 2. B(s) / B+(aq) / / A+(aq) / A(s) (ขอ 4.) 1. D(s) / D+(aq) / / C+(aq) / C(s) 4. D(s) / D+(aq) / / A+(aq) / A(s) 3. C(s) / C+(aq) / / B+(aq) / B(s) วธิ ที าํ 57. เมอ่ื นาํ ครง่ึ เซล Cu / Cu2+ ตอ กบั ครง่ึ เซล Ag /Ag+ จะไดเซลกัลวานิกที่มีคา Eo เซลเทา ใด กาํ หนด Cu2+ + 2 e o Cu ; Eo = +0.34 V Ag+ + e o Ag ; Eo = +0.80 V (0.46 โวลต) วธิ ที าํ 27
Chem Online IV http://www.pec9.com บทท่ี 9 ไฟฟาเคมี 58(มช 31) กาํ หนดให Pt2+(1 M) + 2 e ⇓ Pt(s) , E0 = +1.02 V Au+(1 M) + e ⇓ Au(s) , E0 = +1.69 V ถา นําคร่ึงเซล Pt(s) / Pt2+ (1 M) กับครึ่งเซล Au(s) / Au+(1 M) มาตอ กนั เปน เซลไฟฟา เคมี จะไดเซลที่มีศักยไฟฟาเทาใด (0.67 โวลต) วธิ ที าํ 59(En 41/2) กาํ หนดให Eo(V) Cr3+ + 3 e o Cr –0.74 Ni2+ + 2 e o Ni –0.25 ถานําครึ่งเซลล Ni(s) … Ni (1 mol/dm3) กับครึ่งเซลล Cr(s)…Cr3+ (1 mol/dm3) ตอเปนเซลล กัลวานิกจะไดศักยไฟฟาของเซลลคูนี้มีคากี่โวลต 1. –0.99 2. 0.49 3. 0.73 4. 0.99 (ขอ 2) วธิ ที าํ 60. กาํ หนดตารางคา Eo ของโลหะ A และ B ดงั น้ี A3+(aq) + 3e– o A(s) Eo = –1.66 V B2+(aq) A B2+(aq) + 2e– o B(s) Eo = –0.13 V (ขอ 1) เมอ่ื จมุ โลหะ A ในสารละลาย B(II) ไนเตรตดงั รปู แลวปลอยทิ้งไว ก. เกดิ โลหะ B เกาะทแ่ี ผน โลหะ A ข. สมการไอออนกิ คือ 2A(s) + 3B2+(aq) o 2A3+(aq) + 3B(s) ค. คาความตางศักยของเซลล = +1.79 โวลต ขอ ความใดถกู ตอ ง 1. ขอ ก. และ ข. 2. ขอ ก. และ ค. 3. ขอ ค. และ ข. 4. ขอ ก. , ข. และ ค. วธิ ที าํ 28
Chem Online IV http://www.pec9.com บทท่ี 9 ไฟฟาเคมี สมบัติบางประการของคา Eo 1. ตัวเลขที่นํามาคูณสมการเพื่อดุลสมการ ไมทําใหคา Eo เปลี่ยนแปลง เชน Cu2+(aq) + 2 e o Cu(s) ; Eo = +0.34 2Cu2+(aq) + 4 e o 2Cu(s) ; Eo = +0.34 2. การนํา 2 สมการใดๆ มาบวกกัน คา Eo ของสมการรวม จะเทากับ Eo ของแตล ะ สมการบวกกัน เชน ; Eo = +0.77 o Fe3+(aq) + e o Fe2+(aq) ; Eo = –0.44 o Fe2+(aq) + 2 e o Fe(s) ; Eo = +0.77+(Κ0.44) = 0.33 V + Fe3+(aq) + 3eΚ o Fe(s) หรอื 2Al + 3X2+ o 2Al3+ + 3X ; Eo = 0.95 โวลต o X + Y2+ o X2+ + Y ; Eo = 0.64 โวลต o เอา 3x 3X(s) + 3Y2+(aq) o 3X2+(aq) + 3Y(s) ; Eเoซลล = 0.64 o เอา + 2Al + 3Y2+ o 2Al3+ + 3Y ; Eเoซลล = 0.95 + 0.64 Eเoซลล = 1.59 3. หากกลับสมการ คา Eo ของสมการนั้นจะเปลี่ยนคา จาก + เปน Κ หรอื Κ เปน + เชน Cu2+(aq) + 2e o Cu(s) ; Eo = +0.34 จะได Cu(s) o Cu2+(aq) + 2e ; Eo = ⊥0.34 61. กาํ หนด เซล 1 คือ Sn / Sn2+ / / Cu2+ / Cu ; Eเ0ซล = 0.48 V เซล 2 คือ Mg / Mg2+ / / Sn2+ / Sn ; Eเ0ซล = 2.23 V ศักยไฟฟาของเซลล Mg / Mg2+ / / Cu / Cu2+ มีคาเทาใด 1. Eเ0ซล = 2.71 V และ ขั้ว Cu เปน แคโทด (ขอ 1) 2. Eเ0ซล = 1.75 V และ ขั้ว Cu เปน แคโทด 3. Eเ0ซล = 2.71 V และ ขั้ว Mg เปน แคโทด 4. Eเ0ซล = 1.75 V และ ขั้ว Mg เปน แคโทด วธิ ที าํ 29
Chem Online IV http://www.pec9.com บทท่ี 9 ไฟฟาเคมี 62(En 38) กาํ หนด Mg(s)/Mg2+(aq) / / Zn2+(aq)/Zn(s) Ecoell = +1.62 V Ecoell = +0.76 V Zn(s) / Zn2+(aq) / / H+(1 mol/dm3), H2(1atm) / Pt(s) ศักยไฟฟาครึ่งเซลลของ Mg(s) / Mg2+(aq) มีคาเทาใด 1. 2.38 V 2. 0.86 V 3. –0.86 V 4. –2.38 V (ขอ 4) วธิ ที าํ 63(มช 38) กําหนดศักยไฟฟามาตรฐานของเซลลสมมติ ดงั น้ี 1. 2A(s) + 3X2+(aq) o 2A3+(aq) + 3X(s) E 0 = 1.25 V cell 2. X(s) + Y2+(aq) o X2+(aq) + Y(s) E 0 = 0.75 V cell จงหาศักยไ ฟฟา มาตรฐานของเซลลตามแผนภาพ A / A3+ / / Y2+ / Y 1. 0.50 V 2. –0.50 V 3. 2.00 V 4. –2.00 V (ขอ 3) วธิ ที าํ การตรวจสอบวา ปฏกิ รยิ าไฟฟา เคมใี ดเกิดข้ึนเอง ไดห รอื ไมน น้ั ใหหาคา Eo ของเซลลนั้น หาก คา Eo มคี า เปน บวก แสดงวา ปฏกิ รยิ านน้ั เกดิ ขน้ึ เองได หาก คา Eo มีคาเปนลบ แสดงวา ปฏกิ รยิ านน้ั เกดิ ขน้ึ เองไมไ ด ตัวอยาง กาํ หนดให Ga3+ + 3 e o Ga Eo = –0.560 V Mg2+ + 2 e o Mg Eo = –2.38 V Ag+ + e o Ag Eo = +0.80 V ปฏกิ รยิ าตามแผนภาพเซลลตอ ไปน้ี จะเกดิ ขน้ึ เองไดห รอื ไม 1. Ag(s) / Ag+(aq) / / Ga3+(aq) / Ga(s) 2. Mg(s) / Mg2+(aq) / / Ga3+(aq) / Ga(s) 3. Pt / H2(1 atm) / H+(1 M) / / Ga3+(aq)/ Ga(s) 4. Ag(s) / Ag+(aq) / / Mg2+(aq) / Mg(s) 30
Chem Online IV http://www.pec9.com บทท่ี 9 ไฟฟาเคมี วธิ ที าํ จาก Eoเซลล = Eoคาโทด – Eoอาโนด ขอ 1. Eเoซล = EGo a Κ E o = (–0.56) – ( 0.8 ) = –1.36 โวลต Ag ขอ 2. Eเoซล = EGo a Λ E o = (–0.56) – (–2.38) = +1.82 โวลต Mg ขอ 3. Eเoซล = EGo a Λ E o = (–0.56) – 0 = –0.56 โวลต H2 ขอ 4. Eเoซล = =Eo Λ E o (–2.38) – (0.80) = –3.18 โวลต Mg Ag จะเหน็ วา ขอ 2. เทา นน้ั ที่มีคา Eเoซล เปน บวก ปฏกิ รยิ าสามารถเกดิ ไดเ อง สว นขอ อน่ื Eเoซล เปน ลบ มอิ าจเกดิ ขน้ึ เองได 64(มช 42) กําหนดสมการและคา Eo ดงั ตอ ไปน้ี Ag+ + e o Ag Eo = 0.80 V Pb2+ + 2 e o Pb Eo = –0.12 V Zn2+ + 2 e o Zn Eo = –0.76 V Mg2+ + 2 e o Mg Eo = –2.38 V ปฏกิ ริ ยิ าตอ ไปนข้ี อ ใดทเ่ี กดิ ขน้ึ เอง ไมได 2. Mg + Pb2+ o Mg2+ + Pb (ขอ 3) 1. 2Ag+ + Zn o 2Ag + Zn2+ 4. 2Ag+ + Pb o Pb2+ + 2Ag 3. Zn + Mg2+ o Zn2+ + Mg วธิ ที าํ 65(มช 41) ถาปฏิกิริยา A2+ + 2B o A + 2B+ เกดิ ขน้ึ ไดเ อง คา ศกั ยไ ฟฟามาตรฐานของ ปฏิกิริยา A2+ + 2 e o A และ B+ + e o B เรยี งตามลาํ ดบั ในขอ ใดทเ่ี ปน ไปได 1. –0.72 V และ –0.52 V 2. +0.37 V และ +0.68 V 3. 0.15 V และ +0.34 V 4. +0.00 V และ –0.83 V (ขอ 4) วธิ ที าํ 31
Chem Online IV http://www.pec9.com บทท่ี 9 ไฟฟาเคมี 3.5 การผกุ รอ นของโลหะ และ การปอ งกนั วธิ กี ารตรวจสอบการผกุ รอ นของโลหะ เมื่อนําไปจุมลงในสารละลาย ใหด คู า Eo ดงั น้ี 1) หากออิ อนของโลหะ มคี า Eo นอยกวาอิออนบวกในสารละลาย โลหะจะผกุ รอ น 2) หากออิ อนของโลหะ มคี า Eo มากกวาอิออนบวกในสารละลาย โลหะจะไมผ กุ รอ น ตัวอยาง กําหนดคาศักย ไฟฟา มาตรฐานของครง่ึ เซลลด งั น้ี A2+ + 2 e o A Eo = –0.3 V B2+ + 2 e o B Eo = +0.2 V C2+ + 2 e o C Eo = +0.5 V D2+ + 2 e o D Eo = –0.4 V หากจมุ โลหะ A , B , C และ D ลงในสารละลายตอไปนี้ โลหะจะเกดิ การผกุ รอ นหรอื ไม 1. จมุ โลหะ D ในสารละลาย A+ 2. จมุ โลหะ C ในสารละลาย D2+ 3. จมุ โลหะ B ในสารละลาย C2+ 4. จมุ โลหะ A ในสารละลาย B2+ ตอบ 1) Eo โลหะ D นอ ยกวา Eo ออิ อน A+ สารละลาย ขอ นโ้ี ลหะ D ผกุ รอ น 2) Eo โลหะ C มากกวา Eo ออิ อน D2+ สารละลาย ขอ นโ้ี ลหะ C ไมผุกรอน 3) Eo โลหะ B นอ ยกวา Eo ออิ อน C2+สารละลาย ขอ นโ้ี ลหะ B ผกุ รอ น 4) Eo โลหะ A นอ ยกวา Eo ออิ อน B2+สารละลาย ขอ นโ้ี ลหะ A ผกุ รอ น 66. ทดลองจมุ โลหะตา ง ๆ ลงในสารละลายหลายชนิดที่ภาวะมาตรฐานดังนี้ ก. จมุ Cu ลงในสารละลาย Ag+ ข. จมุ Ag ลงในสารละลาย Fe3+ ค. จมุ Fe ลงในสารละลาย Zn2+ ง. จมุ Zn ลงในสารละลาย Na+ การทดสอบในขอใดที่โลหะสึกกรอน ( ใหใชคา Eo จากตารางคา Eo มาตรฐาน ) 1. ก 2. ก ข 3. ก ค ง 4. ข ค ง (ขอ 1) วธิ ที าํ 32
Chem Online IV http://www.pec9.com บทท่ี 9 ไฟฟาเคมี 67(มช 40) กาํ หนดคา Eo ดงั น้ี Eo(V) Co2+(aq) + 2 e o Co(s) –0.28 Ni2+(aq) + 2 e o Ni(s) –0.25 Cu2+(aq) + 2 e o Cu(s) +0.34 Ag+(aq) + e o Ag(s) +0.80 2H+(aq) + 2 e o H2(g) 0.00 ภาชนะทีใ่ สส ารในขอ ใดจะเกดิ การสึกกรอ นเนอ่ื งจากสาร ละลายที่บรรจุอยู 1. โลหะ Cu 2. โลหะ Ni H+(aq) H+(aq) 3. โลหะ Ag 4. โลหะ Cu H+(aq) Co2+(aq) (ขอ 2) วธิ ที าํ 68(En 37) จากรูปและคา Eo ของครึง่ ปฏกิ ริ ยิ าทกี่ ําหนดให ชนิดของสารละลาย B และ โลหะ A ควรเปน ไปตามขอ ใด จงึ จะทาํ ใหโลหะ A มนี ้ําหนกั ลดลงเมื่อเวลาผานไป Mg2+(aq) + 2 e ⊃ Mg(s) ; Eo = –2.38 V Fe2+(aq) + 2 e ⊃ Fe(s) ; Eo = –0.44 V Pb2+(aq) + 2 e ⊃ Pb(s) ; Eo = –0.13 V Cu2+(aq) + 2 e ⊃ Cu(s) ; Eo = +0.34 V 1. Mg(NO3)2(aq), Cu 2. FeSO4(aq), Pb 3. Pb(NO3)2(aq), Mg 4. Pb(NO3)2(aq), Cu (ขอ 3) วธิ ที าํ 33
Chem Online IV http://www.pec9.com บทท่ี 9 ไฟฟาเคมี คําชี้แจง คาศกั ยไฟฟามาตรฐานของครงึ่ เซลลต อ ไปนี้ ใชในการตอบคําถาม 2 ขอถัดไป Eo (V) A+(aq) + e– o A(s) –0.14 B+(aq) + e– o B(s) –0.40 C+(aq) + e– o C(s) –0.74 D+(aq) + e– o D(s) –1.18 69. ปฏกิ ริ ยิ าใดเกดิ ขน้ึ ไดเ องในธรรมชาติ 2. C(s) + A+(aq) o A(s) + C+(aq) (ขอ 2) 1. A(s) + B+(aq) o B(s) + A+(aq) 4. B(s) + C+(aq) o C(s) + B+(aq) 3. B(s) + D+(aq) o D(s) + B+(aq) วธิ ที าํ 70. การนาํ ของแขง็ ชนดิ ใดมาทาํ ทอ ระบายนาํ้ ในโรงงานอตุ สาหกรรม จะทําใหเกิดการสะสม ในสิ่งแวดลอมมากที่สุด 1. A 2. B 3. C 4. D (ขอ 4) ตอบ การปอ งกนั โลหะผกุ รอ น ในธรรมชาตนิ น้ั การผกุ รอ นของโลหะอาจมสี าเหตหุ ลายประการ ตวั อยา งเชน เกดิ จากการ สัมผัสกับน้ําและอากาศ เชนการเกิดการผุกรอนเปนสนิมของเหล็กนั้น เหลก็ จะเปน ตวั จา ย อเิ ลคตรอนใหแ กน าํ้ และแกส ออกซเิ จน แลวกลายเปน Fe2+ ดังสมการ ตอ จากนน้ั 2 Fe(s) + O2(g) + 2 H2O(l) o 2 Fe2+ (aq) + 4 OH–(aq) 2 Fe2+ (aq) + 4 OH–(aq) o 2 Fe(OH)2 (s) ตอ จากนน้ั 4 Fe(OH)2 (s) + O2(g) + 2 H2O(l) o 4 Fe(OH)3 (s) ไอออน (III) ไฮดรอกไซดท เ่ี กดิ ขน้ึ น้ี โดยทว่ั ไปจะเขยี นอยใู นรปู ไอออน(III) ออกไซดที่มี น้ําผลึกเกาะอยู ซง่ึ กค็ อื สนมิ เหลก็ นน้ั เอง สตู รทว้ั ไปจะเปน Fe2O3 . nH2O 34
Chem Online IV http://www.pec9.com บทท่ี 9 ไฟฟาเคมี โดยทว่ั ไปแลว การปอ งกนั การผกุ รอ นของโลหะ จะทาํ โดยปอ งกนั มใิ หโ ลหะนน้ั จา ยอเิ ลค– ตรอนออกไป ซึ่งสามารถทําไดหลายวิธี ไดแก 1. ทาผวิ หนา ของโลหะดว ยสหี รอื นาํ้ มนั หรอื เคลอื บดว ยพลาสตกิ หรอื ทาดวยสารปองกัน การสึกกรอนชนิดตางๆ ท่ีมีจําหนา ยอยูในทอ งตลาดขณะน้ี 2. เคลือบ หรอื เชอ่ื มหรอื พนั ดว ยโลหะทเ่ี สยี อเิ ลก็ ตรอนไดง า ยกวา (Eo นอ ยกวา ) เชน แมกนเี ซียมเสยี อเิ ล็กตรอนไดง า ยกวา เหล็ก ดงั นน้ั การปอ งกนั การผกุ รอ นของเหลก็ สามารถ ใชแมกนีเซียมเคลือบ หรอื เชอ่ื มหรอื พนั รอบๆ แทง เหลก็ การปอ งกนั โดยวิธีนีแ้ มกนเี ซียม จะทาํ หนา ทเ่ี สยี อเิ ลก็ ตรอนแทนเหลก็ โดยทเ่ี หลก็ เปน แตเ พยี งตวั กลางในการรบั สง อเิ ลก็ ตรอน จากแมกนเี ซยี มไปยงั สารทร่ี บั อเิ ลก็ ตรอน (นาํ้ และออกซเิ จน) ทําใหแมกนีเซียมผุกรอน แต เหลก็ ไมผ กุ รอ นหรอื ผกุ รอ นนอ ยมาก 3. ชบุ หรอื เคลอื บผวิ หนา ของโลหะทต่ี อ งการปอ งกนั การผกุ รอ นดว ยโลหะอน่ื โลหะท่ี นิยมใชเคลือบ คือ โลหะท่ีเกิดสารประกอบออกไซดแ ลวสารประกอบออกไซดนีส้ ามารถ เคลือบผวิ หนา ของโลหะไวไ มใ หผ กุ รอ นลกุ ลามตอ ไป (สารประกอบออกไซดท ่ีความชื้น และ กาซออกซิเจนซึมผานไมได) โลหะเหลา นีไ้ ดแก ดบี กุ โครเมยี ม สังกะสี เปน ตน เชน การปอ งกนั การผกุ รอ นของเหลก็ อาจใชวิธีชุบโลหะดีบุกทั้งๆ ทโ่ี ลหะดบี กุ เสยี อเิ ลก็ ตรอน ไดยากกวาเหล็ก แตท น่ี ิยมใชเพราะดีบุกบรเิ วณผวิ หนาจะทาํ ปฏกิ ริ ิยากับออกซิเจนกลายเปน สารประกอบออกไซด (SnO2) ที่ไมละลายน้ําเคลือบอยูที่ผิวหนาของดีบุก จงึ ทาํ หนา ทป่ี อ ง กันไมใหน้ําและออกซิเจนผานเขาไปทําปฏิกิริยากับเหล็กได เหลก็ จงึ ไมผ กุ รอ นหรอื ถา ชบุ โลหะดว ยโครเมยี มจะเกดิ สารประกอบออกไซด (Cr2O3) ทม่ี สี มบตั เิ หมอื น SnO 4. ทาํ เปน โลหะผสมโดยการนาํ โลหะตง้ั แต 2 ชนดิ ขน้ึ ไปมาหลอมรวมกนั ตวั อยา งเชน เหล็กกลาไรสนิม เปนเหล็กกลาที่ประกอบดวยเหล็ก 73% Cr 18% Ni 8% และ C 0.4% เปน เหลก็ กลา ทท่ี นตอ การผกุ รอ นเปน ตน 5. วิธีอะโนไดซ คือ การใชกระแสไฟฟาทําใหผิวหนาของโลหะกลายเปนโลหะออกไซด ซึ่งใชกับโลหะที่มีสมบัติพิเศษกลาวคือ เมื่อทําปฏิกิรยิ ากับออกซิเจน เกดิ เปน ออกไซดข อง โลหะ แลว ออกไซดข องโลหะนน้ั จะเคลอื บผวิ ของโลหะไมเ กดิ การผกุ รอ นตอ ไป โลหะที่มี สมบัติดังกลาวไดแก อะลูมิเนียม ดบี กุ (ถา ใหโ ลหะดงั กลา วเกดิ ออกไซดต ามธรรมชาตจิ ะ เปนไปอยางไมสม่ําเสมอ) ปจจุบันนิยมทําใหอะโนไดซกับโลหะอะลูมิเนียมซึ่งทําไดโดย ผา นไฟฟา กระแสตรงไปบนแผน อะลูมเิ นียม ซงึ่ จมุ อยูใ นสารละลายอเิ ล็กโทรไลตท่เี ปนกรด 35
Chem Online IV http://www.pec9.com บทท่ี 9 ไฟฟาเคมี ทแ่ี อโนดจะเกดิ กา ซ O2 ซง่ึ จะไปออกซไิ ดซอ ะลมู เิ นยี มใหเ ปน อะลมู เิ นยี มออกไซด สวน โลหะอะลูมิเนียมที่แคโทดจะมีกาซ H2 เกดิ ขน้ึ และขั้วโลหะอะลูมิเนียมไมเปลี่ยนแปลง แผน อะลมู เิ นยี มทอ่ี ะโนไดซแ ลว เมอ่ื ผา นกระบวนการตา งๆ เพอ่ื ปรบั ปรงุ คณุ ภาพใหเ ปน ไป ตามตองการก็สามารถนําไปใชงานได เชน นําไปเคลือบสีเพื่อใหสวยงามและทนทาน 6. วธิ แี คโทดกิ เชน ถาตอ งการไมใหต ะปเู หล็กผุกรอ นกใ็ หตอ ตะปเู หลก็ เขา กับขั้วลบ ของถานไฟฉาย หรอื ตอ กบั โลหะทเ่ี สยี อเิ ลก็ ตรอนไดง า ยกวา เชน สังกะสี แมกนีเซียม 7. วธิ กี ารรมดาํ การรมดาํ เปน การปอ งกนั การผกุ รอ นและเพม่ิ ความสวยงามใหแ กช น้ิ งาน โลหะ วธิ นี ใ้ี ชก นั มากกบั เครอ่ื งมอื เครอ่ื งใชท ท่ี าํ ดว ยเหลก็ เชน ตวั ปน กลอนประตู กลอน หนา ตา ง เปน ตน วิธีการรมดํานอกจากจะใชกับเหล็กแลวยังใชกับอะลูมิเนียม เงนิ ทองแดง และ ทองเหลอื ง เปน ตน การรมดาํ เปน การทาํ ใหผ วิ ของโลหะเปลย่ี นเปน ออกไซดข อง โลหะนน้ั ซึ่งมีลักษณะเปนฟลมสีดําเกาะติดแนนบนผิวของชิ้นงานโลหะ วิธีทําใหเกิด ออกไซดใ ชส ารเคมที เ่ี ปน ตัวออกซไิ ดซ เชน โซเดยี มไดโครเมต(Na2Cr2O7) โพแทสเซียม ไนเตรต (KNO3) และโซเดียมไทโอซัลเฟต (Na2S2O3) เปน ตน สวนวิธีทําก็แตกตางกัน ไป ซ่งึ แลว แตช นดิ ของโลหะและชนิดของสารเคมีท่ใี ช ตวั อยา งเชน การรมดาํ เหลก็ หนง่ึ ใน หลายวิธีคือ ตม ชิ้นงานท่ีเปน เหล็กในสารละลายท่ปี ระกอบดว ยโซเดียมไฮดรอกไซด(NaOH) และโซเดยี มไนเตรต (NaNO3) ทอ่ี ณุ หภมู ิ 135–145oC จะสังเกตเหน็ ผวิ ของโลหะเปน สดี าํ จากนั้นลางน้ําใหสะอาด เชด็ ใหแ หง แลวชะโลมดวยน้ํามันเพื่อเพิ่มความสวยงามและทน ทานตอ การผกุ รอ น 71. การทาผิวหนา โลหะดวยสนี ํา้ มนั สามารถปอ งกนั โลหะมใิ หผ กุ รอ นไดเ พราะ..................... .......... .......... .......... .......... .......... .......... .......... .......... .......... .......... .......... .......... .............. 72. เหตใุ ดการพนั ลวดแมกนเี ซยี มรอบแทง เหลก็ จงึ สามารถปอ งกนั มใิ หเ หลก็ ผกุ รอ นได. ......... .......... .......... .......... .......... .......... .......... .......... .......... .......... .......... .......... .......... .............. 73(มช 34) การปอ งกนั การผกุ รอ นทอ เหลก็ ทใ่ี ชใ ตพ น้ื ดนิ เชน ทอ นาํ้ ทอ นาํ้ มนั เปน ตน นิยมวิธีใด ก. ชบุ ทอ เหลก็ ดว ยโครเมยี ม ข. ตอ ทอ เหลก็ เขา กบั ทอ ดบี กุ ค. ชบุ ทอ เหลก็ ดว ยโครเมยี ม ง. ตอ ทอ เหล็กเขา กับแทง แมกนีเซยี ม (ขอ ง) 74. เหลก็ จา ยอเิ ลคตรอนไดง า ยกวา ดบี กุ แตการเคลือบหล็กดวยดีบุกสามารถปองกันเหล็กผุ กรอ นไดเ พราะ ......................................................................................................................... 36
Chem Online IV http://www.pec9.com บทท่ี 9 ไฟฟาเคมี 75. การทาํ อะโนไดซน ยิ มทาํ กบั โลหะใด ก. ดบี กุ , ตะกั่ว, โครเมยี ม ข. อะลูมิเนียม , ดบี กุ ค. โครเมยี ม , สังกะสี ง. โลหะทกุ ชนดิ (ขอ ข) 76. การทําอะโนไดซอ ลูมิเนียม จะทําโดยปลอยไฟฟากระแสตรงเขาไปยังอลูมิเนียมที่จุมอยู ในสารละลายที่มีสมบัติเปน ............ แลวจะเกิดกาซ ........... ขึ้นทผี่ วิ อลมู เิ นยี ม แลวทําใหเกิด ..................................... เคลือบผวิ อลูมิเนยี มไว 77. ขอ ใดเปน การปอ งกนั การผกุ รอ นดว ยวธิ อี ะโนไดซ (ขอ ข) ก. ผานกระแสไฟฟาเขาไปในแผนอะลูมิเนียมในสารละลายเบส ข. ผานกระแสไฟฟาเขาไปในแผนอะลูมิเนียมในสารละลายกรด ค. ผานกระแสไฟฟาเขาไปในแผนอะลูมิเนียมในสารละลายเกลือ ง. ผานกระแสไฟฟาเขาไปในแผนอะลูมิเนียมในน้ํา 78. การทาํ อะโนไดซ จะเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ขั้วใด (ขอ ข) ก. คาโทด ข. อาโนด ค. ทั้งสองขั้ว ง. ไมเปลี่ยนแปลง 79. จงยกตวั อยา งวธิ กี ารรมดาํ เหลก็ มา 1 ตวั อยา ง .......... .......... .......... .......... .......... .......... .......... .......... .......... .......... .......... .......... .............. .......... .......... .......... .......... .......... .......... .......... .......... .......... .......... .......... .......... .............. .......... .......... .......... .......... .......... .......... .......... .......... .......... .......... .......... .......... .............. 80. หากตอ งการปอ งกนั เหลก็ มใิ หผ กุ รอ นโดยวธิ แี คโทดกิ สามารถทาํ ไดโ ดย ........................... .......... .......... .......... .......... .......... .......... .......... .......... .......... .......... .......... .......... .............. 81(En 41) ขอ ใดเกดิ การผกุ รอ นของตะปเู หลก็ นอ ยทส่ี ดุ 1. ตะปูที่วางไวในอากาศ 2. ตะปูที่ตอกับขั้วลบของถานไฟฉาย 3. ตะปทู ต่ี อ กบั ขว้ั ดบี กุ 4. ตะปทู น่ี าํ ไปผา นการอะโนไดซ (ขอ 2) 82(En 39) การปอ งกนั การผกุ รอ นของตะปเู หลก็ วธิ ใี ดไมถ กู ตอ ง 1. นําตะปูตอ เขา กับข้ัวบวกของถานไฟฉาย 2. นําตะปูไปทําอะโนไดซ 3. นาํ ตะปไู ปทาํ แคโทดกิ 4. นาํ ตะปไู ปทาํ รมดาํ (ขอ 1) 37
Chem Online IV http://www.pec9.com บทท่ี 9 ไฟฟาเคมี 83(En 32) กําหนดคาศักยไฟฟามาตรฐาน Eo(V) A2+ + 2 e ⊃ A –2.38 B3+ + 3 e ⊃ B –1.66 C3+ + 3 e ⊃ C –0.74 D2+ + 2 e ⊃ D –0.44 E2+ + 2 e ⊃ E –0.14 ขอ ใดแสดงขว้ั ทผ่ี ดิ สาํ หรบั ภาวะปอ งกนั การผกุ รอ นของโลหะ D เมื่อถกู ฉาบดว ยโลหะอืน่ โลหะปอ งกนั ขว้ั แอโนด ขว้ั แคโทด 1. C C D 2. E D E 3. A A D 4. B B D (ขอ 3) ตอบ 3.6 ประเภทของเซลลก ลั วานกิ เซลลกัลวานิกโดยทั่วไปจะมี 2 ประเภท คือ 1. เซลลปฐมภูมิ คือ เซลลที่สามารถนํามาประจุไฟฟากลับมาใชใหมไมได 2. เซลลทตุ ยิ ภมู ิ คือ เซลลที่สามารถนํามาประจุไฟฟากลับมาใชใหมได 84. ขอ ใดเปน ความแตกตา งของเซลลป ฐมภมู แิ ละเซลลท ตุ ยิ ภมู ิ ก. ชนิดของปฏิกิริยาที่ขั้วทั้งสอง ข. ความตางศักยของเซลล ค. ระยะเวลาในการใช ง. ขนาดของเซลล (ค) ตอบ 38
Chem Online IV http://www.pec9.com บทท่ี 9 ไฟฟาเคมี 3.6.1 เซลลแ หง หรอื เซลลเลอคลังเซ เซลลแ หง (Dry cell) หรอื เซลลเลอคลังเช (Leclanche’ cell) ไดแก ถานไฟฉายธรรมดา ทั่วไป เซลลไฟฟาชนิดนี้ มอี งคป ระกอบดงั รปู เมื่อมีการใชถานไฟฉาย จะเกิดปฏิกิริยา ภายในเซลลดังนี้ ที่ขั้วสังกะสี (อาโนด) Zn(s) o Zn2+(aq) + 2 e ทข่ี ว้ั คารบ อน (คาโทด) อเิ ลก็ ตรอนจากขว้ั อาโนด (สังกะส)ี มาสูขั้วคาโทด โดยผานวงจรภายนอกแลวเกิดปฏิกิริยาดังนี้ 2 N ϑ (aq) + 2MnO2(s) + 2 e o Mn2O3(s) + 2NH3(g) + H2O(l) Zn2+ H4 ซง่ึ เกดิ ขน้ึ ทข่ี ว้ั คารบ อน จะทําปฏิกิริยากันได ซึ่งเกิดขึ้นที่ขั้วสังกะสีและ NH3 เตตระอมั มนี ซงิ ค (II) ออิ อน 2Ι ซง่ึ เปน ออิ อนเชงิ ซอ นทาํ ใหร กั ษาความเขม ขน (Zn(NH3 ) 4 ) ของ Zn2+ ออิ อนไมใ หส งู ขน้ึ จึงทําใหศักยไฟฟาของเซลลเกือบคงที่เปนเวลานานพอสมควร เมื่อใชถานไฟฉายนานๆ ปฏิกิริยาเขาสูสมดุล ศักยไฟฟาของทั้ง 2 ขว้ั เทากัน กระแสไฟ ฟาจะหยุดไหล และ ไมมีวิธีสะดวกในการประจุไฟเขาไปอีก จงึ ถอื วา เปน เซลลปฐมภูมิ 85. จงระบุสวนประกอบของเซลลเ ลอคลงั เซตอไปน้ใี หถ ูกตอง 86. เซลลแหง ( เลอคลงั เซ ) มขี ว้ั แอโนดคอื ........................ ขว้ั แคโทด คือ ..................... อเิ ลคโทรไลต คือ ............................................ ความตางศักยประมาณ ................ โวลต 39
Chem Online IV http://www.pec9.com บทท่ี 9 ไฟฟาเคมี 87. ขว้ั ทเ่ี กดิ ออกซเิ ดชน่ั ( อาโนด , ลบ ) ในถานไฟฉายธรรมดา คือ ....................................... ปฏิกริยาที่เกิด คือ ....................................................................................... 88. ขว้ั ทเ่ี กดิ รดี กั ชน่ั ( คาโทด , บวก ) ในถานไฟฉายธรรมดา คือ ............................................ ปฏิกริยาที่เกิด คือ ....................................................................................... 89(En 40) เซลลถานไฟฉายมีอิเล็กโทรไลตเปน NH4Cl ชื้น +ZnCl2 + MnO2 มแี ทง แกรไฟต เปน แคโทด แตปฏิกิริยาที่ขั้วลบเปนดังขอใด 1. Zn2+(aq) + 2 e o Zn(s) 2. 2MnO2(s) + H2O( ) + 2 e o Mn2O3(s)+2OH–(aq) 3. Zn(s) o Zn2+(aq) + 2 e 4. Mn2+(aq) o Mn3+(aq) + e (ขอ 3) 90. ถานไฟฉายที่ใชกันอยูในปจจุบันจะมีปฏิกิริยาเกิดขึ้นที่ คาโทด ตามขอใด ก. Zn o Zn2+ + 2 e ข. 2MnO2 + 2N ϑ +2 e o Mn2O3+H2O+2NH3 H4 ค. MnO2 + 2H2O + 2 e o Mn2+ + 2O2 + 2H2 ง. N H4ϑ + H2O o NH3 + H3O+ (ขอ ข) ตอบ 91. Zn2+ และ NH3 ทเ่ี กดิ จะถกู ควบคมุ ปรมิ าณ โดย ................................................................ 92. ขอ ความใดตอ ไปนไ้ี มถ กู ตอ งเกย่ี วกบั เซลถา นไฟฉาย ก. แทง คารบ อนเปน คาโทด และแผน สงั กะสเี ปน อาโนด ข. ปฏกิ ริ ยิ าทข่ี ว้ั บวก คอื 2N H4ϑ + 2MnO2 + 2 e o Mn2O3 + 2NH3+ H2O ค. ปฏกิ ริ ยิ าทอ่ี าโนดคอื Zn+ + 4NH3 o Zn(NH3 )24ϑ + 2 e ง. NH4Cl เปน อเิ ลก็ โทรไลต (ขอ ค) ตอบ 40
Chem Online IV http://www.pec9.com บทท่ี 9 ไฟฟาเคมี 3.6.2 เซลลแอลคาไลน เปน เซลลท พ่ี ฒั นาขน้ึ จากเซลลแ หง หรอื เซลล เลอคลงั เชและมสี ว นประกอบหลกั เชน เดยี วกนั แตใชสารละลาย NaOH เปน อเิ ลก็ - โทรไลต ดงั รปู จงึ มชี อ่ื วา เซลลแอลคาไลน ( แอลคาไลนห มายความ วา มสี มบตั เิ ปน เบส ) เมอ่ื ตอ ขว้ั ไฟฟา ใหค รบวงจร ปฏกิ ริ ยิ าทเ่ี กดิ ขน้ึ ภายในเซลลเ ปน ดงั น้ี แอโนด : Zn(s) + OH–(aq) o ZnO(s) + H2O( l) + 2 e แคโทด : 2MnO2 (s) + H2O(l) + 2 e o Mn2O3(s) + 2OH– (aq) ปฏกิ ริ ยิ ารวม : Zn(s) + 2MnO2 (s) o ZnO(s) + Mn2O3(s) เซลลแอลคาไลนมีศักยไฟฟาประมาณ 1.5 โวลต และ ใหก ระแสไฟฟา ไดน านกวา เซลล แหง เพราวา อเิ ลก็ โทรไลตม คี วามเขม ขน คงท่ี เนอ่ื งจากนาํ้ และไฮดรอกไซดไ อออนทเ่ี กิดขน้ึ ใน ปฏกิ ริ ยิ าหมนุ เวยี นกลบั ไปเปน สารตง้ั ตน ของปฏกิ ริ ยิ าไดอ กี 93. จงระบสุ ว นประกอบของเซลลอ ลั คาไลนต อ ไปนใ้ี หถ กู ตอ ง 94. เซลลอลั คาไลน มขี ว้ั แอโนดคอื ........................ ขว้ั แคโทด คอื ......................... อเิ ลคโทรไลต คอื ............................................ ความตา งศกั ยป ระมาณ ................ โวลต 41
Chem Online IV http://www.pec9.com บทท่ี 9 ไฟฟาเคมี 95. ขอ แตกตา งของเซลลแ หง “เลอคลงั เช” กับเซลลแอลคาไลน คอื ขอ ใด ก. ขว้ั อาโนด ข. ขว้ั คาโทด ค. สารละลายอเิ ลก็ โทรไลต ง. ความตา งศกั ย (ขอ ค) 96. เหตุใดเซลลอัลคาไลน จงึ ใชไ ดน านกวา เซลลเ ลอคงั เซ ......................................................... .................... .................... .................... .................... .................... .................................... 3.6.3 เซลลปรอท เปน เซลลท ม่ี สี ว นประกอบคลา ยกบั เซลลแ อลคาไลนแ ตใ ชเ มอรค วิ ร่ี (II) ออกไซดแ ทน แมงกานสี (IV) ออกไซดแ ละใชแ ผน เหลก็ เปน ขว้ั แคโทด สว นอเิ ลก็ โทรไลตค อื KOH หรอื NaOH ผสมกับ Zn(OH)2 ปฏกิ ริ ยิ าทเ่ี กดิ ขน้ึ ภายในเซลลเ ปน ดงั น้ี แอโนด : Zn(s) + 2OH–(aq) o ZnO(s) + H2O( l) + 2 e แคโทด : HgO(s) + H2O(l) + 2 e o Hg( l) + 2OH– (aq) ปฏกิ ริ ยิ ารวม : Zn(s) + HgO(s) o ZnO(s) + Hg( l) เซลลปรอทเปนเซลลที่มีขนาดเล็ก ใหศักยไฟฟาประมาณ 1.3 โวลต แตม ขี อ ดคี อื สามารถ ใหศ กั ยไ ฟฟา เกอื บคงทต่ี ลอดอายกุ ารใชง าน นยิ มใชก บั เครอ่ื งคดิ เลข นาฬิกา กลองถายรปู เครอ่ื งตรวจการเตน ของหวั ใจ 97. จงระบสุ ว นประกอบของเซลลอ ลั คาไลนต อ ไปนใ้ี หถ กู ตอ ง 42
Chem Online IV http://www.pec9.com บทท่ี 9 ไฟฟาเคมี 98. เซลลอลั คาไลน มขี ว้ั แอโนดคอื ........................ ขว้ั แคโทด คอื ......................... อเิ ลคโทรไลต คอื ............................................ ความตา งศกั ยป ระมาณ ................ โวลต 99. ขอ ใดเปน ความตา งของเซลลป รอท และ เซลลแอลคาไลน (ขอ ข) ก. ขว้ั อาโนด และ ขว้ั คาโทด ข. ความตา งศกั ย และ ขว้ั คาโทด ค. สารละลายอเิ ลก็ โทรไลต และ ขว้ั คาโทด ง. ความตา งศกั ย , ขว้ั คาโทด และ อเิ ลก็ โทรไลต ตอบ 100. เซลลปรอท และ เซลลแอลคาไลน เหมอื นกนั ในขอ ใด ก. สารทข่ี ว้ั ทง้ั สอง ข. อเิ ลก็ โทรไลต ค. ความตา งศกั ย ง. สารทข่ี ว้ั คาโทด (ขอ ข) ตอบ 101. เซลลถานไฟฉาย เซลลปรอท และ เซลลแอลคาไลน เหมอื นกนั ในขอ ใด ก. โลหะทข่ี ว้ั อาโนด ข. สารทข่ี ว้ั คาโทด ค. อเิ ลก็ โทรไลต ง. ความตา งศกั ย (ขอ ก) ตอบ 3.6.4 เซลลเงิน เปน เซลลท ม่ี สี ว นประกอบและ หลักการเกิดปฏิกิรยิ าคลายเซลลแอล- คาไลน คอื ใชส งั กะสเี ปน แอโนดและ แผน เหลก็ ทส่ี มั ผสั กบั ซลิ เวอรอ อกไซดเ ปน แคโทด ปฏกิ ริ ยิ าทเ่ี กดิ ขน้ึ ใน เซลลเปน ดงั น้ี แอโนด : Zn(s) + 2OH–(aq) o ZnO(s) + H2O( l) + 2 e แคโทด : Ag2O(s) + H2O(l) + 2 e o 2Ag( s) + 2OH– (aq) ปฏกิ ริ ยิ ารวม : Zn(s) + Ag2O(s) o ZnO(s) + 2Ag(s) เซลลเงินมีศักยไฟฟาประมาณ 5 โวลต มขี นาดเลก็ และมอี ายกุ ารใชง านไดน านแตม รี าคา แพง ใชกับกลองถายรูป เครอ่ื งตรวจการเตน ของหวั ใจ เครอ่ื งชว ยฟง 43
Chem Online IV http://www.pec9.com บทท่ี 9 ไฟฟาเคมี 102. จงระบสุ ว นประกอบของเซลลเ งนิ ตอ ไปนใ้ี หถ กู ตอ ง 103. เซลลเงนิ มขี ว้ั แอโนดคอื ........................ ขว้ั แคโทด คอื ......................... อเิ ลคโทรไลต คอื ............................................ ความตา งศกั ยป ระมาณ ................ โวลต 104. ขว้ั อาโนด – คาโทด ของเซลลเงิน คอื สารใดตามลาํ ดบั ก. Ag – Zn ข. Ag – ZnO ค. Zn – Ag ง. Zn – Ag2O (ขอ ง) ตอบ 105. ขอ แตกตา งของเซลลปรอท กับเซลลเงิน คอื (ขอ ข) ก. ขั้วแอโนด และขั้วแคโทด ข. ความตา งศักย และขั้วแคโทด ค. สารละลายอเิ ลคโทรไลตแ ละขว้ั แคโทด ง. ความตา งศักย ขั้วแคโทด และอิเลคโทรไลต 106(En 39) จากตาราง สวนประกอบ แอโนด แคโทด อเิ ลก็ โทรไลต ชนิดของเซลล A Zn C และ MnO2 สารละลาย KOH B Zn C , NH4ϑ และ MnO2 นาํ้ NH4Cl ZnCl2 C Zn HgO สารละลาย KOH D Zn Ag2O สารละลาย KOH เซลล A , B , C , D นา จะเปน เซลลใ ดตามลาํ ดบั 1. ถานไฟฉาย เซลลแอลคาไลน เซลลปรอท เซลลเ งนิ 2. เซลลแอลคาไลน ถานไฟฉาย เซลลปรอท เซลลเงนิ 3. ถานไฟฉาย เซลลแอลคาไลน เซลลเงนิ เซลลปรอท 4. เซลลแอลคาไลน ถานไฟฉาย เซลลเ งนิ เซลลปรอท (ขอ 2) 44
Chem Online IV http://www.pec9.com บทท่ี 9 ไฟฟาเคมี 3.6.5 เซลลเชื้อเพลิงไฮโดรเจน – ออกซิเจน เปน เซลลท ใ่ี ชแ กส ไฮโดรเจนและแกส ออกซเิ จนผา นเขา ไปในชอ งแอโนด และ แคโทด ตามลาํ ดบั และใชโ ซเดยี มคารบ อเนตหลอมเหลวเปน อเิ ลก็ โทรไลต ขว้ั แอโนดใชแ กรไฟตผ สม นกิ เกลิ สว นขว้ั แคโทดใชแ กรไฟตผ สมนกิ เกลิ และนกิ เกลิ (II) ออกไซด เพอ่ื ชว ยเรง ปฏกิ ริ ยิ าท่ี ขั้วไฟฟา ปฏกิ ริ ยิ าทเ่ี กดิ ขน้ึ เปน ดงั น้ี H2(g) + CO32Λ ( l) o H2O(g) + CO2( g) + 2 e แอโนด : แคโทด : 12 O2(g) + CO2(g) + 2 e o CO32Λ ( l) ปฏกิ ริ ยิ ารวม : H2(g) + 12 O2(g) o H2O(g) หรอื 2H2 (g) + O2(g) o 2H2O(g) ในกรณที ใ่ี ชส ารละลายโซเดยี มไฮดรอกไซดห รอื โพแทสเซยี มไฮดรอกไซดเ ขม ขน เปน อเิ ลก็ โทรไลต ปฏกิ ริ ยิ าทเ่ี กดิ ขน้ึ เปน ดงั น้ี แอโนด : H2(g) + 2OH– ( aq) o 2H2O(g) + 2 e แคโทด : 12 O2(g) + H2O(l) + 2 e o 2OH– ( aq) ปฏกิ ริ ยิ ารวม : H2(g) + 12 O2(g) o H2O(g) หรอื 2H2 (g) + O2(g) o 2H2O(g) เซลลชนิดน้ีใหศักยไ ฟฟา ประมาณ 1.2 โวลต เปน เซลลท ม่ี รี าคาแพงมากจงึ ไมใ ชก บั อปุ กรณห รอื เครอ่ื งมอื ตา ง ๆ ในชวี ติ ประจาํ วนั สว นมากจะใชก บั เรอื ดาํ นาํ้ ยานพาหนะทใ่ี ชท าง การทหารและในกระสวยอวกาศ เพราะวา นอกจากจะไดพ ลงั งานไฟฟา แลว ยังไดนาํ้ บริสุทธ์ิ เปน นาํ้ ดม่ื สาํ หรบั นกั บนิ อวกาศอกี ดว ย 45
Chem Online IV http://www.pec9.com บทท่ี 9 ไฟฟาเคมี 107. เซลลเ ชอ้ื เพลงิ H2-O2 มขี ว้ั แอโนดคอื ........................ ขว้ั แคโทด คอื ......................... อเิ ลคโทรไลต คอื ............................................ ความตา งศกั ยป ระมาณ ................ โวลต 108. พจิ ารณาขอ ความทเ่ี กย่ี วขอ งกบั เซลเชอ้ื เพลงิ H2–O2 ตอ ไปน้ี 1. ประกอบดว ยขว้ั ไฟฟา ทท่ี าํ ดว ยแทง คารบ อนทเ่ี ปน รพู รนุ 2 แทง 2. เงนิ ผสมกบั ผงคารบ อน หรอื ผงพลาตนิ มั เปน ตวั เรง ปฏกิ ริ ยิ า 3. ปฏกิ ริ ยิ าทเ่ี กดิ ในเซลคอื (ขอ ง) ออกซเิ ดชนั H2 + 2OH– o 2H2O + 2 e รดี กั ชนั 2H2O + O2 + 4 e o 4OH– ขอ ใดถกู บา ง ก. 1 และ 2 ข. 2 และ 3 ค. 1 และ 3 ง. ทงั้ 1 , 2 และ 3 ตอบ 109. ผลทไ่ี ดร บั จากเซลเชอ้ื เพลงิ H2 – O2 (ขอ ค) ก. พลงั งานไฟฟา และความรอ น ข. พลังงานไฟฟา นาํ้ บรสิ ทุ ธ์ิ และอากาศไมเ ปน พษิ ค. พลังงานไฟฟา ความรอ น และน้ําบริสุทธิ์ ง. พลังงานไฟฟาเพยี งอยา งเดียว ตอบ 110. ขอ ความทเ่ี กย่ี วกบั เซลเชอ้ื เพลงิ ไฮโดรเจน – ออกซิเจน ตอ ไปนข้ี อ ใดผดิ ก. พลงั งานเคมขี องเชอ้ื เพลงิ ถกู เปลย่ี นเปน พลงั งานไฟฟา ข. ตอ งบรรจเุ ชอ้ื เพลงิ เขา ไปในเซลตอ เนอ่ื งกนั อยตู ลอดเวลา ค. ทอ่ี าโนดเปน ปฏกิ ริ ยิ าออกซเิ ดชนั ของไฮโดรเจนโดยมี ไฮดรอกไซดไ อออนเขา รว มใน ปฏกิ ริ ยิ าดว ย ง. นาํ้ ซง่ึ เปน ผลติ ผลของปฏกิ ริ ยิ า จะแยกสลายเปนไฮโดรเจน และออกซเิ จนซง่ึ นาํ กลบั มาใชเ ปน เชอ้ื เพลงิ ไดอ กี (ขอ ง) ตอบ 46
Chem Online IV http://www.pec9.com บทท่ี 9 ไฟฟาเคมี 111. ขอ ความใดทไ่ี มเ กย่ี วขอ งกบั ความรเู รอ่ื งเซลลเ ชอ้ื เพลงิ ไฮโดรเจน–ออกซิเจน ก. เกดิ ปฏกิ ริ ยารดี อกซใ นสารละลายเบส ข. เปลย่ี นพลงั งานเคมเี ปน พลงั งานไฟฟา ค. มกี ารผา นสารตง้ั ตน เขา ไปทอ่ี าโนดและคาโทดอยา งสมาํ่ เสมอ ง. ทอ่ี าโนดและคาโทดไดไ ฮโดรเจนและออกซเิ จน ตามลาํ ดบั จ. มสี ารเรง ปฏกิ ริ ยิ าดว ยเชน ผงพลาตนิ มั หรือแพลเลเดียม (ขอ ง) ตอบ 112(มช 32,มช 38) จากคา ศกั ยไ ฟฟา มาตรฐานของครง่ึ เซลล (E0) ที่ 25oC ขางลา งน้ี จงคาํ นวณ E0(เซลล) ในเซลลเ ชอ้ื เพลงิ ไฮโดรเจนออกซเิ จน (1.23 โวลต) ปฏกิ ริ ยิ าครงึ่ เซลล E0 O2(g) + 4H+(aq) + 4 e o 2H2O(l) 1.23 O2(g) + 2H2O(l) + 4 e o 4OH– 0.40 2H+(aq) + 2 e o H2(g) 0.00 2H2O + 2 e o H2(g) + 2OH–(aq) –0.83 ตอบ 3.6.6 เซลลเชื้อเพลิงโพรเพน – ออกซิเจน เซลลเ ชอ้ื เพลงิ ชนดิ นใ้ี ชแ กส โพรเพนผา นไปในชอ งแอโนด แกส ออกซเิ จนผา นไปในชอ ง แคโนดและใชสารละลายกรดซัลฟวริกเปนอิเล็กโทรไลต ปฏกิ ริ ยิ าเกดิ ขน้ึ ภายในเซลลเ ปน ดงั น้ี แอโนด : C3H8(g) + 6H2O(l) o 3CO2(g) + 20H+(aq) + 20 e แคโทด : 5O2(g) + 20H+ (aq) + 20 e o 10H2O (g) ปฏกิ ริ ยิ ารวม : C3H8(g) + 5O2(g) o 3CO2(g) + 4H2O(g) 47
Chem Online IV http://www.pec9.com บทท่ี 9 ไฟฟาเคมี ปฏกิ ริ ยิ าในเซลลเ ชอ้ื เพลงิ โพรเพน – ออกซเิ จนเหมอื นกบั ปฏกิ ริ ยิ าการสนั ดาปของแกส โพรเพนในเครอ่ื งยนต แตใ หป ระ– สทิ ธิภาพในการทาํ งานสูงกวา ประมาณ 2 เทา ของเครอ่ื งยนตช นดิ สันดาปภายใน นอกจากนอ้ี าจพบวา ในเซลลเ ชอ้ื เพลงิ บางชนดิ ใชแ กส แอม โมเนยี หรอื แกส มเี ทนหรอื แกส ไฮดราซนี ทาํ ปฏกิ ริ ยิ ากบั แกส ออก– ซิเจน อกี ดว ย 113. เซลลเ ชอ้ื เพลงิ C3H8-O2 มขี ว้ั แอโนดคอื ........................ ขว้ั แคโทด คอื ........................ อเิ ลคโทรไลต คอื ............................................ 114. เซลเชอ้ื เพลงิ ชนดิ โพรเพนΚออกซเิ จน ใชส ารอเิ ลก็ โทรไลตใ ด (ขอ ก) ก. สารละลายกรด ข. สารละลายเกลือ ค. สารละลายเบส ง. นาํ้ บรสิ ทุ ธ์ิ 115. ในเซลชนดิ โพรเพน Κ ออกซิเจน ปฏกิ ริ ยิ าทค่ี าโทดเปน อยา งไร ก. C3H8(g) + 6H2O(l) o 3CO2(g) + 20H+(aq) + 20 e ข. 5O2(g) + 20H+(aq) + 20 e o 10H2O(l) ค. O2(g) + 2H2O(l) + 4 e o 4OHΚ(aq) ง. C3H8(g) + 5O2(g) o 3CO2(g) + 4H2O(l) (ขอ ข) ตอบ 116(มช 41) เซลลเ ชอ้ื เพลงิ ชนดิ โพรเพนΚออกซิเจนมปี ฏกิ ริ ยิ ารวมเปน ดงั น้ี C3H8(g) + 5O2(g) o 3CO2(g) + 4H2O(l) ขอ ความตอ ไปน้ี ขอ ความใดเปน จรงิ สาํ หรบั เชอ้ื เพลงิ น้ี 1. เซลลน ใ้ี หพ ลงั งานความรอ นไดส งู ประมาณ 2 เทา ของเครอ่ื งยนตส นั ดาปภายใน 2. เซลลน เ้ี มอ่ื นาํ ไปใชง านในเครอ่ื งยนตจ ะไมก อ ใหเ กดิ เสยี งหรอื การสน่ั สะเทอื นเนอ่ื ง จากเครอ่ื งยนต 3. เซลลนี้เปนเซลลไฟฟาเคมีชนิดเซลลอเิ ล็กโทรไลต 4. เซลลน จ้ี ะมนี าํ้ เกดิ ขน้ึ ทแ่ี อโนด (ขอ 1) ตอบ 48
Chem Online IV http://www.pec9.com บทท่ี 9 ไฟฟาเคมี 3.6.7 เซลลสะสมไฟฟาแบบตะกั่ว เซลลสะสมไฟฟาแบบตะกั่วจัดเปนเซลลทุติยภูมิ (Secondery cell) เพราะเมอ่ื จา ยไฟหมด แลว สามารถประจไุ ฟใหมไ ดอ กี รายละเอยี ดเกย่ี วกบั การประจไุ ฟและจา ยไฟ เปน ดงั น้ี 1. ประจุไฟครงั้ แรก เนอ่ื งจากกอ นประจไุ ฟ เซลลสะสมไฟ ฟา แบบตะกว่ั ประกอบดว ยขว้ั ตะกว่ั ซง่ึ เหมอื น Pb H+ Pb กัน 2 ขว้ั จุมในสารละลาย H2SO4 เหมอื น (อาโนด) A S O42Λ B (คาโทด) กัน จึงทําใหมีคาศักยไฟฟาเทากัน หรอื ความ H2O ตา งศกั ยเ ทา กบั ศนู ย จงึ ตอ งไปประจไุ ฟกอ น การประจไุ ฟเซลลส ะสมไฟฟา แบบตะกว่ั ทาํ หนา ทเ่ี ปน เซลลอ เิ ลก็ โตรลติ กิ มกี ารเปลย่ี น แปลงดงั น้ี ทอ่ี าโนด 2H2O(l) o O2(g) + 4H+(aq) + 4 e Pb(s) + O2(g) o PbO2(s) รวม Pb(s) + 2H2O(l) o PbO2(s) + 4H+(aq) + 4 e ทค่ี าโทด 2H+(aq) + 2 e o H2(g) ดงั นน้ั ในการประจไุ ฟครง้ั แรกขว้ั ตะกว่ั A ทํา ปฏิกิริยากับ O2 แลวข้วั ตะกั่วกลายเปน PbO2 สว นท่ี H+ S O42Λ B ขว้ั ตะกว่ั B เกดิ กา ซ H2 สว นขว้ั ไมเ ปลย่ี นแปลง Pb2O A Pb 2. การเปลย่ี นแปลงเม่อื จายไฟ H2O ทอ่ี าโนด(Pb) Pb(s) + S O42Λ (aq) o PbSO4(s) + 2 e Eo = +0.36 V ทค่ี าโทด (PbO2) Eo = +1.68 V PbO2(s) + 4H+(aq) + S O42Λ (aq) + 2 e o PbSO4(s) + 2H2O ปฏกิ ริ ยิ ารวม คือ Pb(s) + PbO2(s) + 4H+(aq) + 2S O42Λ (aq) ⊆ 2PbSO4(s) + 2H2O(l) Eเoซล = +2.04V 49
Chem Online IV http://www.pec9.com บทท่ี 9 ไฟฟาเคมี ee Pb2O H+ Pb (คาโทด) A S O42Λ B (อาโนด) H2O ในการจา ยไฟกรด H2SO4 ถูกใชไปและมีน้ําเกิดขึ้น ขว้ั อาโนด และ ขว้ั คาโทดกลายเปน PbSO4 เหมอื นกนั เมอ่ื จา ยไฟหมดขว้ั ทง้ั สองจะเหมอื นกนั จมุ อยใู นสารละลาย H2SO4 เดยี ว กัน จงึ ทาํ ใหศ กั ยไ ฟฟา ทข่ี องขว้ั ทง้ั สองเทา กนั (ความตา งศกั ยเ ทา กบั ศนู ย) 3. เมื่อประจุไฟหรืออัดไฟครั้งที่ 2, 3, … จนเสอ่ื มทข่ี ว้ั คาโทด (B) ทข่ี ว้ั คาโทด (B) PbSO4(s) + 2 e o Pb(s) + S O42Λ (aq) ทข่ี ว้ั อาโนด (A) PbSO4(s) + 2H2O(l) o PbO2(s) + 4H+(aq) + S O42Λ (aq) + 2 e ปฏกิ ริ ยิ ารวม PbSO4(s) + 2H2O(l) o Pb(s) + PbO2(s)+4H+(aq) + 2S O42Λ (aq) (อาโนด) A H+ (คาโทด) S O42Λ B H2O จะเหน็ ไดว า การประจไุ ฟครง้ั ท่ี 2 , 3 ,… ปฏกิ ริ ยิ าทเ่ี กดิ ขน้ึ ทข่ี ว้ั A และขั้ว B ตรงกนั ขา ม กับการจา ยไฟ (การจายไฟเปนเซลลกัลวานิก การประจไุ ฟเปน เซลลอ เิ ลก็ โตรลติ กิ ) หลงั จาก การประจไุ ฟขว้ั A กลายเปน PbO2 ขว้ั B กลายเปน Pb และมกี รด H2SO4 เกดิ ขน้ึ ใหมอ กี จงึ ทาํ ใหเ ซลลส ะสมไฟฟา แบบตะกว่ั มลี กั ษณะเหมอื นกอ นหมดไฟ จงึ สามารถจา ยไฟได 50
Search