Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรโรงเรียนบ้านสามขา

หลักสูตรโรงเรียนบ้านสามขา

Published by Witsarut.aun, 2022-01-04 00:54:57

Description: หลักสูตรโรงเรียนบ้านสามขา

Search

Read the Text Version

๑๐๑ คำอธบิ ายรายวชิ าพนื้ ฐาน อ๑๔๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๔ กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ เวลา ๘๐ ชว่ั โมง คำอธบิ ายรายวชิ า ปฏิบัตติ ามคำส่ัง คำขอร้อง และคำแนะนำ (instructions)ง่าย ๆท่ีฟังหรืออ่าน อ่านออกเสยี งคำ สะกด คำ อ่านกลุ่มคำ ประโยค ข้อความง่ายๆ และบทพูดเข้าจังหวะ ถูกต้องตามหลักการอ่าน เลือก/ระบุภาพหรือ สัญลักษณ์ หรอื เครื่องหมายตรงตามความหมายของประโยคและข้อความสั้นๆทีฟ่ งั หรอื อ่าน ตอบคำถามจากการ ฟังหรืออ่านประโยค บทสนทนา หรือนิทานง่ายๆ พูด/เขียนโต้ตอบในการสื่อสารระหว่างบุคคล ใช้คำส่ัง คำ ขอร้อง และคำขออนุญาตง่าย ๆ พูด/เขียนแสดงความต้องการของตนเองตามและขอความช่วยเหลือใน สถานการณ์ง่ายๆ พูด/เขียนเพ่ือขอและให้ข้อมูล เก่ียวกับตนเองเพื่อน และครอบครัว พูดแสดงความรู้สึกของ ตนเองเกย่ี วกับเร่ืองตา่ งๆ ใกล้ตัว หรอื กิจกรรมตา่ งๆ ตามแบบที่ฟัง พูด/เขียนให้ข้อมูลงา่ ยๆ เกี่ยวกับตนเองและ เรื่องใกล้ตัว พูด/วาดภาพแสดงความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆใกล้ตัวท่ีฟังหรืออ่าน พูดแสดงความคิดเห็นง่ายๆ เก่ียวกับตนเองและเรื่องใกล้ตัว พูดและทำท่าประกอบอย่างสุภาพตามมารยาทสังคม/วัฒนธรรมของเจ้าของ ภาษา ตอบคำถามเก่ียวกับเทศกาล/วันสำคัญ/งานฉลองและชีวิตความเป็นอยู่ง่ายๆของเจา้ ของภาษา การเข้า ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมท่ีเหมาะสมกับวัย บอกความแตกต่างของเสียงตัว อักษร คำ กลุ่มคำ ประโยค และข้อความ ของภาษาต่างประเทศ(ภาษาอังกฤษ)และภาษาไทย บอกความเหมือน/ความแตกต่าง ระหว่างเทศกาลและงานฉลองตามวัฒนธรรม ของเจ้าของภาษากับของไทย คน้ ควา้ รวบรวม คำศพั ท์ทเ่ี ก่ยี วข้อง กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น และนำเสนอดว้ ยการพูด/การเขียน ฟัง/พูดในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในหอ้ งเรียนและ สถานศกึ ษา ใชภ้ าษาตา่ งประเทศ(ภาษาองั กฤษ)ในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มลู ตา่ งๆ โดยการฟงั พูด อ่าน เขยี น ระบุ อ่านออกเสียง เลือก ตอบคำถาม พดู โต้ตอบ ใช้ บอก ทำท่าทาง เข้า ร่วม เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจและนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เกิดสมรรถนะตามความต้องการ ของหลักสูตร มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ขึ้นในตัวของผู้เรียน และสามารถอยู่ร่วมกับผู้อ่ืนในสังคมได้อย่างมี ความสุข สามารถนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและสามารถนำไป ประยกุ ต์ใช้กบั ชีวติ ประจำวนั ไดอ้ ย่างถูกต้องเหมาะสม มาตรฐาน/ตัวชว้ี ัด ต ๑.๑ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓ , ป๔/๔ ต ๑.๒ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓ , ป๔/๔ , ป๔/๕ ต ๑.๓ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓ ต ๒.๑ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓ ต ๒.๒ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ ต ๓.๑ ป.๔/๑ ต ๔.๑ ป.๔/๑ ต ๔.๒ ป.๔/๑ รวม ๘ มาตรฐาน ๒๐ ตัวช้วี ดั หลกั สูตรโรงเรียนบ้านสามขา (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

อ๑๕๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๕ ๑๐๒ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ คำอธบิ ายรายวชิ าพน้ื ฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ เวลา ๘๐ ชวั่ โมง คำอธบิ ายรายวชิ า ปฏิบัติตามคำสั่ง คำขอร้อง และคำแนะนำ ท่ีฟังหรืออ่าน อ่านออกเสียง ประโยค ข้อความ และบท กลอนสั้นๆ ถูกต้องตามหลกั การอ่าน ระบุ/วาดภาพสญั ลักษณ์ หรือเครือ่ งหมายตรงตามความหมายของประโยค และข้อความสั้นๆที่ฟังหรืออ่าน บอกใจความสำคัญและตอบคำถามจากการฟังหรืออ่านบทสนทนา และนิทาน ง่ายๆหรือเรื่องส้ันๆ พูด/เขียนโต้ตอบในการส่ือสารระหว่างบุคคล ใช้คำสั่ง คำขอร้อง คำขออนุญาตและให้ คำแนะนำง่าย ๆ พูด/เขียนแสดงความต้องการของตนเองตาม ขอความชว่ ยเหลือ ตอบรับและปฏเิ สธการใหค้ วาม ช่วยเหลือในสถานการณ์งา่ ยๆ พูด/เขียนเพ่ือขอและให้ขอ้ มูล เก่ียวกับตนเองเพ่ือน ครอบครัว และเรื่องใกล้ตัว พูดแสดงความร้สู ึกของตนเองเกีย่ วกบั เรื่องต่างๆ ใกลต้ วั หรือกิจกรรมตา่ งๆพร้อมท้งั ให้เหตผุ ลสน้ั ๆประกอบ พูด/ เขียนให้ข้อมูลง่ายๆ เกี่ยวกับตนเองและเรื่องใกล้ตัว เขียนภาพ แผนผัง และแผนภูมิแสดงข้อมูลต่างๆตามที่ฟัง หรืออ่าน พูดแสดงความคิดเห็น เก่ียวกับเร่ืองต่างๆใกล้ตัว ใช้ถ้อยคำ น้ำเสียง และกิริยาท่าทางอย่างสุภาพตาม มารยาทสังคม/วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา ตอบคำถาม/บอกความสำคัญของเทศกาล/วันสำคัญ/งานฉลองและ ชีวิตความเปน็ อยู่งา่ ยๆของเจา้ ของภาษา การเขา้ ร่วมกจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ บอกความ เหมือน/ความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่างๆ การใช้เคร่ืองหมายวรรคตอน และการลำดับคำ (order)ตามโครงสร้างของประโยคของภาษาต่างประเทศ(ภาษาองั กฤษ)และภาษาไทย บอกความเหมือน/ความ แตกต่างระหว่างเทศกาลและงานฉลองตามวัฒนธรรม ของเจ้าของภาษากับของไทย ค้นคว้ารวบรวม คำศัพท์ท่ี เก่ียวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น และนำเสนอด้วยการพูด/การเขียน ฟัง พูด และอ่าน/เขียนในสถานการณ์ ต่างๆท่ีเกิดข้ึนในห้องเรียนและสถานศึกษา ใช้ภาษาต่างประเทศ(ภาษาอังกฤษ)ในการสืบค้นและรวบรวมข้อมูล ตา่ งๆ โดยการฟัง พูด อ่าน เขียน ระบุ อ่านออกเสยี ง เลอื ก ตอบคำถาม พูดโต้ตอบ ใช้ บอก ทำท่าทาง เข้า รว่ ม เพ่อื ให้ผู้เรยี นมีความร้คู วามเข้าใจและนำไปประยุกตใ์ ช้ในชวี ติ ประจำวัน เกดิ สมรรถนะตามความต้องการของ หลักสูตร มีคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ข้นึ ในตัวของผู้เรยี น และสามารถอยูร่ ่วมกับผู้อนื่ ในสังคมไดอ้ ยา่ งมีความสุข สามารถนำความรู้ไปใช้ใหเ้ กิดประโยชนโ์ ดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงและสามารถนำไปประยกุ ต์ใชก้ ับ ชีวิตประจำวนั ไดอ้ ย่างถกู ต้องเหมาะสม หลักสูตรโรงเรยี นบ้านสามขา (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๑๐๓ มาตรฐาน/ตวั ชวี้ ัด ต ๑.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔ ต ๑.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕ ต ๑.๓ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓ ต ๒.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓ ต ๒.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒ ต ๓.๑ ป.๕/๑ ต ๔.๑ ป.๕/๑ ต ๔.๒ ป.๕/๑ รวม ๘ มาตรฐาน ๒๐ ตัวชว้ี ดั หลักสูตรโรงเรียนบ้านสามขา (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๑๐๔ คำอธบิ ายรายวชิ าพนื้ ฐาน อ๑๖๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๖ กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ เวลา ๘๐ ชวั่ โมง คำอธบิ ายรายวชิ า ปฏิบัตติ ามคำสง่ั คำขอร้อง และคำแนะนำ ที่ฟังและอ่าน อ่านออกเสียง ข้อความ นิทาน และบทกลอน สั้นๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน เลอื ก/ระบปุ ระโยค หรือ ข้อความส้ันๆ ตรงตามภาพ สญั ลกั ษณ์ หรอื เครอื่ งหมาย ท่อี ่าน บอกใจความสำคัญ และตอบคำถามจากการฟังหรืออ่าน บทสนทนา หรอื นิทานง่ายๆและเรอ่ื งเล่า พูด/ เขียนโต้ตอบในการสื่อสารระหว่างบุคคล ใช้คำสั่ง คำขอร้อง และคำขออนุญาตและให้คำแนะนำ พูด/เขียน แสดงความต้องการ ขอความชว่ ยเหลือ ตอบรับและปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือในสถานการณง์ ่ายๆ พูด/เขียน เพื่อขอและให้ข้อมูล เก่ียวกับตนเอง เพ่ือน ครอบครัว และเร่ืองใกล้ตัว พูด/เขียนแสดงความรู้สึกของตนเอง เกยี่ วกับเร่ืองต่างๆ ใกลต้ วั หรอื กจิ กรรมต่างๆ พร้อมทงั้ ใหเ้ หตุผลสั้นๆประกอบ พดู /เขียนใหข้ ้อมูล เกี่ยวกับตนเอง เพื่อน และสิ่งแวดลอ้ มใกล้ตัว เขียนภาพ แผนผงั และแผนภูมิแสดงขอ้ มลู ต่างๆตามที่ฟังหรอื อา่ น พูดเขียนแสดง ความคิดเห็น เก่ยี วกับเรอื่ งต่างๆ ใกลต้ ัว ใช้ถ้อยคำ น้ำเสยี ง และกิรยิ าท่าทางอย่างสุภาพ เหมาะสมตามมารยาท สังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา ให้ข้อมูลเก่ียวกับเทศกาล/วันสำคัญ/งานฉลอง/ชีวิตความเป็นอยู่ของ เจ้าของภาษา การเข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ บอกความเหมือน/ความแตกต่าง ระหวา่ งการออกเสยี งประโยคชนดิ ต่างๆ การใช้เครือ่ งหมายวรรคตอน และการลำดับคำ ตามโครงสร้าง ประโยค ของภาษาตา่ งประเทศ(ภาษาองั กฤษ)และภาษาไทย เปรียบเทยี บความเหมือน/ความแตกตา่ งระหวา่ งเทศกาลงาน ฉลอง และประเพณีของเจ้าของภาษากับของไทย ค้นคว้ารวบรวม คำศัพท์ที่เก่ียวข้องกับกล่มุ สาระการเรียนรู้อ่ืน จากแหลง่ การเรยี นรู้ และนำเสนอด้วยการพูด/การเขยี น ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์ต่างๆที่เกิดข้ึนในหอ้ งเรียน และสถานศกึ ษา ใชภ้ าษาต่างประเทศ(ภาษาองั กฤษ)ในการสบื ค้นและรวบรวมข้อมูลตา่ งๆ โดยการฟัง พูด อา่ น เขยี น ระบุ อ่านออกเสียง เลือก ตอบคำถาม พูดโต้ตอบ เขา้ ร่วม เปรียบเทยี บ ค้นคว้า ใช้ บอก เพ่ือใหผ้ ู้เรียนมีความรคู้ วามเขา้ ใจและนำไปประยกุ ต์ใช้ในชีวติ ประจำวนั เกิดสมรรถนะตามความ ต้องการของหลักสูตร มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ข้ึนในตัวของผู้เรียน และสามารถอยู่ร่วมกับผู้อ่ืนในสังคมได้ อย่างมีความสุข สามารถนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและสามารถ นำไปประยกุ ตใ์ ชก้ บั ชีวิตประจำวนั ไดอ้ ยา่ งถกู ต้องเหมาะสม หลกั สตู รโรงเรยี นบา้ นสามขา (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

๑๐๕ มาตรฐาน/ตวั ชีว้ ดั ต ๑.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔ ต ๑.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕ ต ๑.๓ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓ ต ๒.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓ ต ๒.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒ ต ๓.๑ ป.๖/๑ ต ๔.๑ ป.๖/๑ ต ๔.๒ ป.๖/๑ รวม ๘ มาตรฐาน ๒๐ ตวั ชวี้ ดั หลกั สูตรโรงเรียนบ้านสามขา (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

อ๑๑๒๐๑ ภาษาองั กฤษเพมิ่ เตมิ ๑ ๑๐๖ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ คำอธบิ ายรายวชิ าเพมิ่ เตมิ กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ เวลา ๘๐ ชว่ั โมง คำอธบิ ายรายวชิ า เข้าใจคำสัง่ และใช้คำสัง่ ในหอ้ งเรียน คำขอร้อง ตัวอกั ษร เสยี งตวั อกั ษร สระ การสะกดคำ การอ่าน ออกเสียง คำ กลมุ่ คำ ประโยคทีม่ คี วามหมายสมั พันธก์ ับสง่ิ ตา่ งๆใกล้ตวั อาหาร เครื่องดื่ม บทอ่าน บท สนทนาด้วยภาษางา่ ยๆ ประโยค นิทานงา่ ยๆ ท่ีมีภาพประกอบ การเล่านิทานประกอบทา่ ทาง ใหข้ ้อมูล และความตอ้ งการเกีย่ วกบั ตนเองสั้นๆ เชน่ การพูดแนะนำตนเอง ขอบคณุ ขอโทษ เรียน รคู้ ำศัพทเ์ กย่ี วกับ เทศกาล ขนบธรรมเนยี ม ประเพณี เทศกาล งานฉลอง เหน็ ประโยชน์ในการเรยี นรู้ภาษาอังกฤษ โดยสนใจ เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรม และแสวงหาความรู้ ความเพลิดเพลนิ จากภาษาองั กฤษ การ รอ้ งเพลง เพ่ือใหเ้ กิดความรู้ ความเขา้ ใจ สามารถสือ่ สารส่ิงท่ีเรยี นรู้ และนำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ ในชวี ติ ประจำวนั ผลการเรยี นรู้ 1. ปฎบิ ตั ติ ามคำสง่ั คำขอร้องทฟ่ี ัง 2. อ่านออกเสยี งตัวอักษร คำ กลุ่มคำ ประโยคงา่ ยๆ และบทพดู เข้าจังหวะง่ายๆ ตามหลกั การอ่าน 3. บอกความหมายของคำและกล่มุ คำท่ฟี ังตรงตามความหมาย ตอบคำถามการฟังที่มี ภาพประกอบ หรอื อ่านประโยคบทสนทนาหรอื นิทานง่ายๆ 4. พูดโตต้ อบด้วยคำสั้นๆ ง่ายๆ ในการสื่อสารระหวา่ งบคุ คลตามแบบทฟ่ี งั ใช้คำสั่งและ คำขอรอ้ งง่ายๆ บอกความตอ้ งการและความร้สู กึ ของตนเอง พดู ขอและใหข้ ้อมลู เก่ยี วกบั ตนเอง และเพื่อน 5. พูดและทำท่าประกอบตามมารยาทสงั คม วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา เข้ารว่ มกจิ กรรม ทางภาษาและวฒั นธรรมทีเ่ หมาะสมกบั วัย รวมทงั้ หมด 5 ผลการเรยี นรู้ หลักสตู รโรงเรยี นบ้านสามขา (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

อ๑๒๒๐๑ ภาษาองั กฤษเพม่ิ เตมิ ๒ ๑๐๗ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๒ คำอธบิ ายรายวชิ าเพม่ิ เตมิ กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ เวลา ๘๐ ชวั่ โมง คำอธบิ ายรายวชิ า ใช้คำสงั่ ที่ใช้ในห้องเรียน ตัวอักษร เสียงตัวอกั ษร สระ การสะกดคำ การอ่านออกเสยี งคำ กล่มุ คำ บทอา่ น บทสนทนา ประโยค ให้ขอ้ มูลเกย่ี วกับตนเอง ขอ้ ความที่ใช้ในการพดู ให้ขอ้ มูลเกยี่ วกบั ตนเอง และเร่ือง ใกลต้ วั คำ ทม่ี ีความหมายสมั พนั ธก์ บั สิง่ ต่างๆ ใกล้ตวั อาหาร เคร่อื งดื่ม วัฒนธรรมเจา้ ของภาษาแสดงกิรยิ า การ ขอบคณุ ขอโทษ การพดู แนะนำ ตนเอง กจิ กรรมทางภาษา การร้องเพลง การใช้ภาษาในการฟัง พูด อ่านใน สถานการณ์ท่ีเกิดข้นึ ในห้องเรียน โดยใชก้ ระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสืบคน้ ข้อมลู และมีทกั ษะทางสงั คม มวี ิถีของระบอบ ประชาธปิ ไตย ซ่ือสัตย์ ใฝ่เรียนรู้ แสดงออกถึงความเป็นไทย เพ่อื ใหเ้ กดิ ความรู้ ความเข้าใจ สามารถสอ่ื สารสงิ่ ทีเ่ รยี นรู้ และนำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ใน ชวี ติ ประจำวนั ผลการเรยี นรู้ 1. อา่ นและเขียนตวั อักษร คำศัพทแ์ ละประโยคทเ่ี ก่ยี วขอ้ งใกล้ตัวได้ 2. พดู สอ่ื สารภาษาอังกฤษในการขอและใหข้ ้อมูลเรื่องใกลต้ ัวไดอ้ ย่างเหมาะสมกับวัย 3. นกั เรียนบอกความหมายของคำและกลุ่มคำทฟ่ี ังตรงตามความหมาย ตอบคำถามการฟงั ท่มี ี ภาพประกอบหรอื อ่านประโยคบทสนทนาหรือนิทานงา่ ยๆ 4. ใชภ้ าษาสือ่ สารไดต้ ามวัยอย่างม่ันใจ และกลา้ แสดงออก 5. ใช้ภาษาไดต้ ามมารยาททางสังคมและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา รวมทงั้ หมด 5 ผลการเรยี นรู้ หลักสตู รโรงเรียนบา้ นสามขา (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

อ๑๓๒๐๑ ภาษาองั กฤษเพม่ิ เตมิ ๓ ๑๐๘ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ คำอธบิ ายรายวชิ าเพมิ่ เตมิ กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ เวลา ๘๐ ชว่ั โมง คำอธบิ ายรายวชิ า ใชบ้ ทสนทนาการทกั ทายไดถ้ กู ตอ้ งตามเวลา และถกู กาลเทศะ แนะนำตนเองไดต้ ามบทสนทนา และ ประโยคให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง บอกลกั ษณะของบุคคลรอบตวั พดู ประโยคบอกความชอบ ไม่ชอบ บอกความ ตอ้ งการของตนเองเก่ยี วกับเรือ่ งกฬี า งานอดิเรก บอกสถานที่ต่างๆ รอบตวั และตำแหนง่ ของสถานท่ีตา่ งๆ การใช้ ภาษาในการฟัง พดู อา่ น เขยี น ในสถานการณท์ เ่ี กดิ ขึ้นในห้องเรยี น เหน็ ประโยชน์ในการเรยี นรู้ภาษาองั กฤษ โดย สนใจเข้ารว่ มกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม และแสวงหาความรู้ ความเพลดิ เพลนิ จากภาษาอังกฤษ การร้อง เพลง เพือ่ ใหเ้ กดิ ความรู้ ความเขา้ ใจ สามารถสอ่ื สารส่ิงทเี่ รียนรู้ และ นำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ ในชีวิตประจำวัน ผลการเรยี นรู้ 1. นักเรียนใช้คำทกั ทายเป็นภาษาอังกฤษไดถ้ กู ต้องเหมาะสม 2. นักเรยี นเรียนรู้ตัวอกั ษร คำศัพท์ท่ีเกย่ี วขอ้ งใกล้ตวั 3. นักเรียนสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษและให้ขอ้ มูลเรอื่ งใกลต้ ัวเหมาะสมกับวยั 4. นักเรยี นมน่ั ใจ กล้าแสดงออกในการใชภ้ าษาองั กฤษส่ือสารไดต้ ามวัย 5. นกั เรยี นใชภ้ าษาองั กฤษไดต้ ามมารยาททางสังคมและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา รวมทงั้ หมด 5 ผลการเรยี นรู้ หลกั สูตรโรงเรียนบา้ นสามขา (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

อ๑๔๒๐๑ ภาษาองั กฤษเพม่ิ เตมิ ๔ ๑๐๙ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ คำอธบิ ายรายวชิ าเพมิ่ เติม กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ เวลา ๘๐ ชวั่ โมง คำอธบิ ายรายวชิ า เขา้ ใจคำสั่ง คำขอรอ้ ง รูปประโยคและโครงสรา้ งประโยค คำ กลุ่มคำ และประโยค การถ่ายโอนเปน็ ภาพ สัญลักษณ์ เรื่องราว บทอ่าน บทสนทนา เรื่องสั้น เร่ืองเล่า นิทาน บทกลอนส้ันๆ การใช้ถ้อยคำ สำนวนที่ใช้ใน เทศกาลในเรอ่ื งเสยี ง สระ พยญั ชนะ คำ วลี ประโยค และข้อความทซ่ี ับซ้อน ประโยคเดย่ี ว และประโยคผสม อา่ นออกเสียงคำ กล่มุ คำ ประโยค ข้อความ บทอ่านได้ถูกต้องตามหลักการออกเสียง และการใช้ถอ้ ยคำ น้ำเสียง การพูด เขียน โต้ตอบในการส่ือสารระหว่างบุคคล ใช้คำส่ัง คำขอร้อง และให้คำแนะนำ แสดงความ ต้องการแสดงความรู้สึก ขอความช่วยเหลือ ตอบรับ และปฏิเสธ ในสถานการณ์ง่ายๆ พูด เขียน เพื่อขอ และให้ ข้อมูลเกยี่ วกับตนเอง เพ่ือน ครอบครัว และเรือ่ งใกลต้ ัวซ่งึ อยู่ในท้องถนิ่ ของตน มีทักษะการใช้ภาษาต่างประเทศ (เน้นการฟงั พูด อ่าน เขยี น) สนกุ สนาน และเพลิดเพลินจากกิจกรรมทางภาษาตา่ งประเทศ เหน็ ประโยชน์ของการเรยี นรู้ ภาษาตา่ งประเทศในการแสวงหาความรู้ ความบันเทงิ และสนใจเข้ารว่ มกจิ กรรมทางภาษา และวฒั นธรรม มี ความขยัน ซ่ือสัตย์ อดทนเสยี สละ และมสี มั มาคารวะ ผลการเรยี นรู้ 1. ฟงั พดู อา่ น เขยี น และบอกความหมายของคำ ประโยค ข้อความ บทสนทนา 2. อธิบายประเภทของคำ และนำไปใช้ในประโยคตา่ งๆ 3. เขา้ ใจโครงสรา้ งประโยคตามหลกั ไวยากรณ์ (Tense) 4. เขยี นประโยคคำสัง่ คำขอร้อง การขออนญุ าต ประโยคบอกเลา่ ประโยคคำถาม ประโยคปฏิเสธ ตามโครงสร้างประโยค 5. อ่าน ตอบคำถามจากเรื่อง รวมทง้ั หมด 5 ผลการเรยี นรู้ หลกั สตู รโรงเรียนบ้านสามขา (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

อ๑๕๒๐๑ ภาษาองั กฤษเพม่ิ เตมิ ๕ ๑๑๐ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ คำอธบิ ายรายวชิ าเพม่ิ เตมิ กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ เวลา ๘๐ ชว่ั โมง คำอธบิ ายรายวชิ า เขา้ ใจคำสัง่ คำขอร้อง รปู ประโยคและโครงสรา้ งประโยค คำ กลุ่มคำ และประโยค การถา่ ยโอนเป็นภาพ สัญลกั ษณ์ เรอ่ื งราว บทอ่าน บทสนทนา เรื่องส้นั เร่ืองเล่า นทิ าน บทกลอนสัน้ ๆ การใช้ละประโยคเดี่ยว และ ประโยคผสม อ่านออกเสยี งคำ กลุ่มคำ ประโยค ข้อความ บทอ่านได้ถูกตอ้ งตามหลักการออกเสยี ง และการใช้ถ้อยคำ น้ำเสียง การพูด เขยี น โต้ตอบในการส่อื สารระหวา่ งบคุ คล ใช้คำส่ัง คำขอร้อง และใหค้ ำแนะนำ แสดงความ ต้องการ แสดงความรสู้ ึก ขอความชว่ ยเหลอื ตอบรับ และปฏิเสธ ในสถานการณง์ า่ ยๆ พูด เขียน เพ่ือขอ และให้ ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเองเพอ่ื น ครอบครัว และเรือ่ งใกลต้ วั ซึ่งอยใู่ นท้องถิ่นของตน มีทกั ษะการใชภ้ าษาต่างประเทศ (เนน้ การฟงั พูด อา่ น เขียน) สนุกสนาน และเพลดิ เพลินจากกิจกรรมทางภาษาตา่ งประเทศ เหน็ ประโยชน์ของการเรยี นรู้ ภาษาต่างประเทศในการแสวงหาความรู้ ความบนั เทงิ และสนใจเข้าร่วมกิจกรรมทางภาษา และวฒั นธรรม มี ความขยนั ซ่ือสัตย์ อดทน เสียสละ และมีสมั มาคารวะ ผลการเรยี นรู้ 1. เขา้ ใจและปฏบิ ัตติ ามคำสัง่ คำขอร้อง และคำแนะนำงา่ ยๆ ตามท่ีฟังและอา่ นได้ถกู ต้อง 2. รูจ้ กั ชนดิ ของคำศัพท์ รปู ประโยค และการลำดับคำ (order) ตามโครงสรา้ งประโยค สามารถนำไปใช้ พดู หรอื เขยี นในสถานการณ์ตา่ งๆ ไดถ้ กู ต้องตามหลักไวยากรณท์ างภาษา 3. พดู /อา่ นออกเสียงคำ วลี ประโยค ข้อความสัน้ ๆ บทสนทนา ได้ถกู ต้องตามหลกั การออกเสียง 4. พดู /เขียนคำ วลี ประโยคถาม - ตอบ แลกเปล่ียนข้อมลู สื่อสารสร้างสัมพนั ธร์ ะหว่างบคุ คลใน สถานการณ์ต่างๆ ได้ถูกตอ้ งตามหลักโครงสร้างไวยากรณ์ และโครงสร้างของกาลเวลา (Tense) 5. ฟัง/อ่านคำ วลี ข้อความส้นั ๆ บทสนทนา แลว้ สามารถบอกความหมาย สรุปความหมาย และตอบ คำถามจากการฟงั หรอื อา่ นไดถ้ ูกต้อง รวมทงั้ หมด 5 ผลการเรยี นรู้ หลกั สูตรโรงเรยี นบา้ นสามขา (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

อ๑๖๒๐๑ ภาษาองั กฤษเพม่ิ เตมิ ๖ ๑๑๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ คำอธบิ ายรายวชิ าเพมิ่ เติม กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ เวลา ๘๐ ชว่ั โมง คำอธบิ ายรายวชิ า เข้าใจคำสัง่ คำขอร้อง รปู ประโยคและโครงสร้างประโยค คำ กลมุ่ คำ และประโยค การถ่ายโอนเปน็ ภาพ สัญลักษณ์ เร่ืองราว บทอ่าน บทสนทนา เร่ืองสั้น เร่ืองเล่า นิทาน บทกลอนสั้นๆ การใช้ถ้อยคำ สำนวนที่ใช้ใน เทศกาลในเร่อื งเสียง สระ พยัญชนะ คำ วลี ประโยค และขอ้ ความท่ีซบั ซ้อน ประโยคเดี่ยว และประโยคผสม อ่านออกเสียงคำ กล่มุ คำ ประโยค ข้อความ บทอ่านได้ถกู ต้องตามหลักการออกเสียง และการใช้ถ้อยคำ น้ำเสียง การพูด เขียน โต้ตอบในการส่ือสารระหว่างบุคคล ใช้คำส่ัง คำขอร้อง และให้คำแนะนำ แสดงความ ตอ้ งการ แสดงความรู้สึก ขอความชว่ ยเหลือ ตอบรับ และปฏิเสธ ในสถานการณ์ง่ายๆ พูด เขียน เพื่อขอ และให้ ข้อมูลเกย่ี วกบั ตนเอง เพื่อน ครอบครัว และเรอื่ งใกลต้ ัวซง่ึ อย่ใู นท้องถนิ่ ของตน มีทกั ษะการใช้ภาษาต่างประเทศ (เน้นการฟัง พดู อ่าน เขยี น) ส นุ ก ส น าน แ ล ะ เพ ลิ ด เพ ลิ น จ าก กิ จ ก ร ร ม ท า ง ภ า ษ า ต่ า ง ป ร ะ เท ศ เห็ น ป ร ะ โย ช น์ ข อ ง ก า ร เรี ย น รู้ ภาษาต่างประเทศในการแสวงหาความรู้ ความบันเทิง และสนใจเข้าร่วมกิจกรรมทางภาษา และวัฒนธรรม มีความขยนั ซ่อื สัตย์ อดทนเสียสละ และมีสมั มาคารวะ ผลการเรยี นรู้ 1. ฟัง ตีความ วเิ คราะห์เร่ืองทีฟ่ ัง และสรุปความ โดยการพดู และเขียนได้ 2. พดู นำเสนอในที่ชุมชน ในหวั ข้อต่างๆ ไดอ้ ยา่ งสรา้ งสรรค์ 3. สนทนา แลกเปลีย่ นข้อมูล โดยใช้ คำศัพท์ สำนวน โครงสรา้ งภาษาไดอ้ ย่างเหมาะสมกับสถานการณ์ และมารยาทสังคม 4. ใชภ้ าษาองั กฤษในการส่อื สารตามสถานการณ์ต่างๆ ได้ 5. มีความเช่อื มัน่ ในการใช้ภาษาองั กฤษกับชาวตา่ งชาติ รวมทงั้ หมด 5 ผลการเรยี นรู้ หลกั สตู รโรงเรียนบา้ นสามขา (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๑๑๒ กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น หลักสตู รโรงเรียนบ้านสามขา (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๑๑๓ กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น โรงเรยี นบา้ นสามขา ได้จัดกิจกรรมพฒั นาผู้เรียนโดยมุ่งให้ผู้เรยี นเกิดการเรยี นรู้จากประสบการณต์ รง ได้ ฝกึ ปฏิบัติจริงและค้นพบความถนดั ของตนเอง สามารถค้นคว้าหาความร้เู พิม่ เติมตามความสนใจจากแหล่งเรียนรู้ ที่หลากหลาย บำเพ็ญประโยชน์เพื่อสังคม มีทักษะในการดำเนินงาน ส่งเสริมให้มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ สังคม ศีลธรรม จรยิ ธรรม ให้ผเู้ รียนรูจ้ ักและเขา้ ใจตนเอง สามารถวางแผนชวี ติ และอาชีพได้อยา่ งเหมาะสม กิจกรรมพัฒนาผู้เรยี นเป็นกิจกรรมท่ีมุ่งให้ผูเ้ รียนพัฒนาตนเองตามศกั ยภาพ พัฒนาการเรียนรู้อยา่ งรอบ ด้านเพ่ือความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ท้ังร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ และสังคม เสริมสร้างให้เป็นผู้มีศีลธรรม จริยธรรม มีระเบียบวินัย ปลูกฝงั ให้สร้างจิตสำนึกของการทำประโยชนเ์ พื่อสังคม สามรถจกั การตนเองได้และอยู่ ร่วมกบั ผูอ้ น่ื อย่างมีความสุข โรงเรียนบา้ นสามขา ได้จดั กจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น โดยแบ่งออกเป็น ๓ ลกั ษณะ ดงั นี้ ๑. กิจกรรมแนะแนว เป็นกจิ กรรมท่ีส่งเสรมิ และพฒั นาผู้เรยี นใหร้ ู้จกั ตนเอง รรู้ กั ษ์สิ่งแวดล้อม สามารถ ตัดสินใจ คิดแก้ปัญหา กำหนดเป้าหมาย วางแผนชีวิตทั้งด้านการเรียน และอาชีพ สามารถปรับตนได้อย่าง เหมาะสม นอกจากน้ียังช่วยให้ครูรู้จักและเข้าใจผู้เรียน ท้ังยังเป็นกิจกรรมที่ช่วยเหลือและให้คำปรึกษาแก่ ผู้ปกครองในการมีส่วนร่วมพัฒนาผู้เรียน โดยนักเรียนทุกคนต้องเข้าร่วมกิจกรรมแนะแนว ๔๐ ช่ัวโมงต่อปี การศึกษา ๒. กิจกรรมนักเรียน เป็นกิจกรรมท่ีมุ่งพัฒนาระเบียบวนิ ัย ความเป็นผู้นำ ผู้ตามท่ีดี ความรับผิดชอบ การทำงานรว่ มกัน รจู้ ักแก้ปญั หา การตัดสินใจท่ีเหมาะสม ความมีเหตุผล การช่วยเหลอื แบง่ ปันเอ้ืออาทรและ สมานฉันท์ โดยจัดให้สอดคล้องกบั ความสามารถ ความถนัด และความสนใจของผเู้ รียน ให้ได้ปฏิบัตดิ ้วยตนเอง ในทุกขั้นตอน ได้แก่ การศึกษาวิเคราะห์ วางแผน ปฏิบัติตามแผนประเมินและปรับปรุงการทำงานเน้นการ ทำงานรวมกันเป็นกลุ่มตามความเหมาะสมและสอดคล้องกับวุฒิภาวะของผู้เรยี นและบริบทของสถานศึกษาและ ท้องถิ่น กิจกรรมนักเรียน ประกอบด้วย กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี นักเรียนทุกคนต้องเข้าร่วม กิจกรรม ลูกเสือ เนตรนารี ๓๐ ชั่งโมงต่อปีการศึกษา กิจกรรมชุมนุม นักเรียนทุกคนต้องเข้ารว่ มกิจกรรม ชมรม ๔๐ ช่งั โมงตอ่ ปีการศึกษา ๓. กจิ กรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชน์ เป็นกิจกรรมท่ีส่งเสรมิ ให้ผเู้ รียนบำเพ็ญตนใหเ้ ป็นประโยชน์ ต่อสังคม ชุมชนและท้องถิ่นตามความสนใจในลักษณะอาสาสมัคร เพื่อแสดงถึงความรับผิดชอบ ความดีงาม ความเสียสละการมีจติ สาธารณะ เช่น กิจกรรมอาสาพฒั นาต่างๆ กจิ กรรมสร้างสรรค์สงั คม นักเรียนทุกคนตอ้ ง เข้าร่วมกจิ กรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชน์ ๑๐ ช่วั โมงตอ่ ปกี ารศกึ ษา หลกั สูตรโรงเรียนบ้านสามขา (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๑๑๔ โครงสรา้ งและอตั ราเวลาการจดั กจิ กรรม กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น ป.๑ ระดบั ประถมศกึ ษา ป.๖ ป.๒ ป.๓ ป.๔ ป.๕ ๑. กิจกรรมแนะแนว ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๒. กิจกรรมนกั เรยี น ๒.๑ ลกู เสอื -เนตรนารี ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๒.๒ กจิ กรรมชุมนมุ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๓. กจิ กรรมเพ่อื สงั คม ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ และสาธารณประโยชน์ เวลาเรยี นรวม ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑. กิจกรรมแนะแนว วตั ถุประสงค์ ๑. เพื่อผู้เรยี นคน้ พบความถนดั ความสามารถ ความสนใจของตนเอง รกั ละเห็นคณุ ค่าในตนเองและผอู้ ื่น ๒. เพ่ือใหผ้ ู้เรียนแสวงหาความรจู้ ากข้อมูล ข่าวสาร แหลง่ เรียนรู้ ท้งั ดา้ นการศึกษา อาชพี สว่ นตัว สังคม เพื่อนำไปใช้ในการวางแผน เลือกแนวทางการศึกษาอาชีพได้อย่างเหมาะสมสอดคล้องกับศักยภาพ ของตนเอง ๓. เพ่ือให้ผู้เรยี นได้พฒั นาบคุ ลิกภาพ และรับตัวอยใู่ นสังคมไดอ้ ย่างมคี วามสขุ ๔. เพอื่ ใหผ้ ู้เรียนมคี วามรู้ มที ักษะ มีความคดิ สรา้ งสรรค์ ในงานอาชีพและมเี จตคติที่ดตี อ่ อาชีพสุจริต ๕. เพอ่ื ใหผ้ ู้เรียนมีค่านยิ มท่ดี ีงามในการดำเนินชวี ิต สรา้ งเสริมวนิ ยั คณุ ธรรมและจริยธรรมแก่นักเรียน ๖. เพ่อื ใหผ้ ูเ้ รียนมีจิตสำนกึ ในการรับผิดชอบตอ่ ตนเอง ครอบครวั สังคม และประเทศชาติ แนวการจดั กิจกรรม โรงเรียนบ้านสามขา ได้จดั กจิ กรรมแนะแนวเพ่ือชว่ ยเหลือและพฒั นาผ้เู รียน ดงั น้ี ๑. จัดกิจกรรมเพื่อให้ครูได้รู้จักและช่วยเหลือผู้เรียนมากข้ึน โดยใช้กระบวนการทางจิตวิทยา การ จัดบริการสนเทศ โดยให้มีเอกสารเพ่ือใช้ในการสำรวจข้อมูลเก่ียวกับตัวผู้เรียน ด้วยการสังเกต สัมภาษณ์ การใช้แบบสอบถาม การเขียนประวัติ การพบผู้ปกครองก่อนและระหว่างเรียน การ เย่ียมบ้านนักเรียน การให้ความช่วยเหลือผู้เรียนเร่ืองสุขภาพจิต เศรษฐกิจ การจัดทำระเบียน สะสม สมุดรายงานประจำตัวนักเรียน และบตั รสขุ ภาพ ๒. การจัดกิจกรรมพัฒนาวุฒิภาวะทางอารมณ์ โดยทำแบบทดสอบเพ่ือรู้จักและเข้าใจตนเอง มีทกั ษะ ในการตัดสนิ ใจ การปรบั ตัว การวางแผนเพอ่ื เลอื กศกึ ษาตอ่ เลือกอาชพี ๓. การจัดบริการให้คำปรึกษาแก่ผู้เรียนรายบุคคล และรายกลุ่ม ในด้านการศึกษา อาชีพ และ ส่วนตวั โดยมีผูใ้ ห้คำปรึกษาท่ีมคี ุณวุฒิ และมีความเช่ียวชาญในเรื่องการให้คำปรกึ ษา ตลอดจนมี ห้องให้คำปรกึ ษาที่เหมาะสม ๓.๑ ช่วยเหลือผู้เรียนที่ประสบปัญหาดา้ นการเงนิ โดยการให้ทุนการศกึ ษาแก่ผ้เู รยี น ๓.๒ ติดตามเก็บข้อมลู ของนกั เรียนที่สำเร็จการศกึ ษา หลักสตู รโรงเรียนบ้านสามขา (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๑๑๕ ๒. กจิ กรรมนักเรยี น ๑. กิจกรรมลกู เสอื กจิ กรรมลกู เสอื - เนตรนารี ผู้เรียนในระดับช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๑-๖ ทุกคน ได้ฝึกอบรมวิชาลูกเสือ - เนตรนารี เพ่ือส่งเสริม หลักการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ส่งเสริมความสามัคคี มีวินัย และ บำเพญ็ ประโยชนต์ ่อสงั คม โดยดำเนนิ การจัดกจิ กรรมตามข้อกำหนดของคณะกรรมการลูกเสือแหง่ ชาติ วตั ถปุ ระสงค์ พระราชบัญญัติลูกเสือ พ.ศ.๒๕๕๑ มาตรา ๘ ได้กำหนดวัตถุประสงค์ของการฝึกอบรม เพื่อพัฒนา ลูกเสือทั้งทางกาย สติปัญญา จิตใจ และศีลธรรมให้เป็นพลเมืองดี มีความรับผิดชอบ และช่วยสร้างสรรค์ สงั คม เพือ่ ใหเ้ กดิ ความสามัคคี และความเจริญก้าวหน้า ท้งั นเี้ พือ่ ความสงบสุข และความม่งั คงของประเทศชาติ ตามแนวทางดังตอ่ ไปน้ี ๑. ใหม้ ีนสิ ัยในการสงั เกต จดจำ เชอื่ ฟัง และพง่ึ ตนเอง ๒. ให้มีความซ่อื สตั ยส์ จุ รติ มีระเบยี บวนิ ัย และเห็นอกเห็นใจผ้อู ื่น ๓. ใหร้ จู้ กั บำเพญ็ ตนเพ่อื สาธารณประโยชน์ ๔. ใหร้ จู้ ักทำการฝมี ือและฝึกฝนการทำกจิ กรรมตา่ งๆตามความเหมาะสม ๕. ให้รู้จักรักษาและสง่ เสรมิ จารตี ประเพณี วฒั นธรรม และความมั่งคงชองชาติ แนวการจดั กจิ กรรม กจิ กรรมลกู เสือ เนตรนารี ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี ๑-๓ เปิดประชุมกอง ดำเนินการตามกระบานการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมให้ศึกษาวิเคราะห์ วางแผน ปฏบิ ัติกจิ กรรมตามมาตรฐาน โดยเน้นระบบหมู่ สรปุ ผลการปฏิบัติกจิ กรรม ปิดประชมุ กอง โดยให้ผู้เรียนศึกษา และฝึกปฏบิ ัติดงั น้ี ๑. เตรียมลกู เสือสำรอง นิยายเรอ่ื เมาคลี ประวัตกิ ารเริม่ กิจกรรมลกู เสือสำรอง การทำความ เคารพเป็นหมู่ (แกรนด์ฮาวล์) การทำความเคารพเป็นรายบุคคล การจับมือซ้าย ระเบียบ แถวเบื้องตน้ คำปฏิญาณ กฎ และคติพจนข์ องลูกเสอื สำรอง ๒. ลูกเสือสำรองดาวดวงที่ ๑ , ๒ และ ๓ อนามัย ความสามารถเชิงทักษะ การสำรวจ การคน้ หาธรรมชาติ ความปลอดภัย บริการ ธง และประเทศต่างๆ การฝีมือ กิจกรรม กลางแจ้ง การบันเทงิ การผกู เง่ือน คำปฏิญาณ และกฎของลูกเสอื สำรองโดยใชก้ ระบาน การทำงาน กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการกลมุ่ กระบวนการจัดการ กระบวนการ คิดริเริ่ม สร้างสรรค์ กระบวนการฝึกปฏิบัติ ทางลูกเสือ กระบวนการทางเทคโนโลยี และภมู ปิ ัญญาทอ้ งถ่ินได้อยา่ งเหมาะสม หลกั สตู รโรงเรยี นบา้ นสามขา (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๑๑๖ เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือ สามารถปฏิบัติตามคำปฏิญาณ กฎ และคติพจน์ของ ลกู เสือสำรอง มีนิสัยในการสังเกต จดจำ เช่ือฟัง และพ่ึงตนเอง ซื่อสัตย์ สุจริต มีระเบียบวินัย และเห็นอก เห็นใจผู้อื่น บำเพ็ญตนเพื่อสาธารณประโยชน์ รู้จักทำการฝีมือ พัฒนากาย จิตใจ และศีลธรรม ทั้งนี้โดยไม่ เกย่ี วข้องกบั ลทั ธทิ างการเมืองใดๆ สนใจและอนรุ ักษ์ธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม นำไปใช้ในชวี ิตประจำวนั ได้อย่าง มปี ระสทิ ธิภาพ กิจกรรมลกู เสอื - เนตรนารี ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔-๖ เปิดประชุมกอง ดำเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมให้ศึกษา วิเคราะห์ วางแผน ปฏิบัติกิจกรรมตามมาตรฐาน โดยเน้นระบบหมู่ สรุปการปฏิบัติกิจกรรม ปิดประชุมกอง โดยให้ผู้เรยี นศึกษา และปฏบิ ตั ใิ นเร่ือง ๑. ลูกเสือตรี ความรู้เกี่ยวกับขบวนการลูกเสือ คำปฏิญาณและกฎของลูกเสือสามัญ กิจกรรม กลางแจ้ง ระเบียบแถว ๒. ลูกเสอื โท การรู้จักดูแลตนเอง การช่วยเหลือผูอ้ ่ืน การเดินทางไปยังสถานท่ีตา่ งๆ ทักษะทางวชิ า ลูกเสือ งานอดิเรกและเรื่อท่นี า่ สนใจ คำปฏญิ าณ และกฎของลกู เสอื ระเบยี บแถว ๓. ลกู เสือเอก การพง่ึ พาตนเอง การบริการ การผจญภัย วชิ าการของลูกเสอื ระเบียบแถว โดยใช้ กระบวนการทำงาน กระบวนการแก้ปัญหา ระบวนการกลมุ่ กระบวนการจัดการ กระบวนการ คิดริเริ่ม สร้างสรรค์ กระบวนการฝึกปฏิบัติทางลูกเสือ กระบวนการทางเทคโนโลยี และภูมิ ปัญญาท้องถิ่นได้อยา่ งเหมาะสม เพ่ือให้มีความรู้ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือ สามารถปฏิบัติตามคำปฏิญาณ กฎ และคติพจน์ของ ลกู เสือสามัญ มีนิสัยในการสงั เกต จดจำ เชื่อฟัง และพ่ึงตนเอง ซื่อสัตย์ สุจริต มีระเบียบวินัย และเห็นอก เห็นใจผูอ้ ื่น บำเพ็ญตนเพ่ือสารธารณประโยชน์ ร้จู ักทำการฝีมือ พัฒนากาย จิตใจ และศีลธรรม ทั้งนี้โดยไม่ เกีย่ วข้องกบั ลทั ธิทางการเมืองใดๆ สนใจและอนุรักษ์ธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดล้อม และนำไปใช้ในชวี ิตประจำวันได้ อยา่ งมีประสิทธิภาพ หมายเหตุ ผเู้ รียนได้ปฏิบัติกิจกรรม และผ่านการทดสอบแล้ว จะได้รับเคร่ืองหมายลูกเสือตรี ลูกเสือโท และลกู เสอื เอก ๒. กจิ กรรมชุมนุม วตั ถปุ ระสงค์ ๑. เพื่อใหผ้ ้เู รียนได้ปฏิบตั ิกจิ กรรมตามความสนใจ ความถนัด และความต้องการของตน ๒. เพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาความรู้ ความสามารถด้านการคิดวิเคราะ ห์ สังเคราะห์ ให้เกิด ประสบการณ์ท้ังทางวชิ าการและวิชาชีพตามศกั ยภาพ ๓. เพื่อส่งเสรมิ ให้ผเู้ รียนใชเ้ วลาใหเ้ กดิ ประโยชน์ต่อตนเองและส่วนรวม ๔. เพือ่ ใหผ้ เู้ รยี นทำงานร่วมกบั ผอู้ นื่ ไดต้ ามวถิ ปี ระชาธปิ ไตย หลักสตู รโรงเรียนบ้านสามขา (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

๑๑๗ แนวการจัดกจิ กรรม การจดั กิจกรรมตามความสนใจ (ชุมนุม) ผู้เรยี นสามารถเลอื กเขา้ เป็นสมาชกิ ชมรม วางแผนการดำเนิน กจิ กรรมร่วมกัน โดยมชี มรมท่ีหลากหลาย เหมาะสมกับเพศ วยั และความสนใจของผู้เรยี น ประกอบด้วยกิจกรรม ด้านคุณธรรม จริยธรรม วัฒนธรรม อนุรักษ์ส่ิงแวดล้อม ส่งเสริมประชาธิปไตย ส่งเสริมการเรียนรู้ และค่าย วชิ าการ การศึกษาดงู าน การฝึกปฏบิ ัติ การบรรยายพิเศษดงั ตวั อยา่ งพอสงั เขปตอ่ ไปนี้ ๑. กิจกรรมพฒั นาวฒุ ิภาวะทางอารมณ์ ศลี ธรรมและจรยิ ธรรม จัดสอนจรยิ ธรรมในหอ้ งเรียน จัดให้ มีการปฏิบตั กิ ิจกรรมเน่ืองในวันสำคญั ทั้งทางชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์ โดยผู้เรียนมีสว่ นรว่ ม ในการจัดกจิ กรรมท้ังในดา้ นวัฒนธรรม ประเพณี กีฬา และศลี ปะ ๒. กิจกรรมพัฒนาทักษะชีวติ จัดกิจกรรมแข่งขนั กฬี าสีทุกช่วงชน้ั โดยผู้เรียนได้ฝึกทักษะการทำงาน และการแกป้ ัญหาทุกขนั้ ตอน ๓. กิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการทำงาน จัดกิจกรรมวนั วิชาการโดยผู้เรียนมีโอกาสปฏิบตั ิจรงิ และฝึก ทกั ษะการจัดการ ๔. กิจกรรมเพื่ออนุรักษ์ส่ิงแวดล้อมและวัฒนธรรม โดยจัดกิจกรรมสืบสานวัฒนธรรมไทย เช่น ประเพณีไหวค้ รู ประเพณลี อยกระทง ๕. กจิ กรรมส่งเสรมิ การปกครองระบอบประชาธิปไตย จดั ให้มีการเลือกคณะกรรมการนักเรียน โดย ให้นำกระบวนการประชาธปิ ไตยไปใชใ้ นการร่วมวางแผนดำเนนิ งานพัฒนาโรงเรียน ๖. กิจกรรมคนดีของสังคม จัดให้มีการบรรยายให้ความรู้ เพ่ือป้องกันปัญหาโรคติดต่อร้ายแรง ปัญหายาเสพตดิ ปัญหาวัยรนุ่ ให้ความรู้เพื่อปลกู ฝังใหเ้ ปน็ สภุ าพบุรุษ สุภาพสตรี ๗. กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ โดยจัดแหล่งเรียนรู้ ได้แก่ ห้องสมุด ห้องปฏิบัติการทางภาษา หอ้ งปฏิบัติการทางวทิ ยาศาสตร์ หอ้ งเทคโนโลยสี ารสนเทศ ๘. กิจกรรมส่งเสริมสุขภาพและอนามัย ให้บริการห้องพยาบาล มีบริการให้ความรู้แก่ผู้เรียน เพื่อ ปอ้ งกันโรคระบาดอยา่ งทนั เหตกุ ารณ์ ๓. กิจกรรมเพือ่ สังคมและสาธารณประโยชน์ วัตถปุ ระสงค์ ๑. เพื่อใหผ้ ู้เรียนบำเพ็ญตนใหเ้ ปน็ ประโยชน์ต่อครอบครวั โรงเรียน ชมุ ชน และประเทศชาติ ๒. เพื่อให้ผู้เรียนออกแบบกิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารประโยชน์อย่างสร้างสรรค์ตามความถนัด และความสนใจในลักษณะอาสาสมคั ร ๓. เพื่อให้ผู้เรียนพัฒนาศักยภาพในการจัดกิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ได้อย่างมี ประสทิ ธภิ าพ ๔. เพ่ือให้ผู้เรียนปฏิบัติกิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์จนเกิดคุณธรรม จริยธรรมตาม คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ๕. เพอ่ื ให้ผู้เรียนมจี ิตสาธารณะและใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ กดิ ประโยชน์ หลกั สตู รโรงเรียนบ้านสามขา (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๑๑๘ แนวการจัดกิจกรรม การจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ทำประโยชน์ ตามความสามารถ ความถนัดและความสนใจในลักษณะอาสาสมัคร เพ่ือแสดงถึงความรับผิดชอบ ความดีงาม ความเสียสละต่อสังคม มีจิตใจมุ่งทำประโยชน์ต่อครอบครัว ชุมชนและสังคมกิจกรรมสำคัญ ได้แก่ กิจกรรม บำเพ็ญประโยชน์ กิจกรรมสร้างสรรค์สังคม กิจกรรมดำรงรักษา สบื สาน ศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม กจิ กรรม พฒั นานวัตกรรมและเทคโนโลยี เวลาเรี ย น สำหรั บ กิ จก ร รม เพ่ื อ สั งคม และ สาธ ารณ ป ระ โย ชน์ ใน ส่ ว น กิ จ ก รร ม เพื่ อ สั ง คม แล ะ สาธารณประโยชน์ จดั สรรเวลาใหผ้ ้เู รยี นระดบั ประถมศกึ ษาปีที่ ๑-๖ รวม ๖ ปี จำนวน ๖๐ ชว่ั โมง(เฉล่ยี ปลี ะ ๑๐ ช่ัวโมง) การจัดกิจกรรมเพื่อสงั คมและสาธารณประโยชน์ ในระดบั ประถมศึกษาปีที่ ๑-๖ เป็นการจดั กิจกรรม ภายในเวลาเรียน โดยให้ผู้เรียนรายงานแสดงกรเข้าร่วมกิจกรรมลงในสมุดบันทึก และมีผู้รับรองผลการเข้าร่วม กจิ กรรมทกุ ครง้ั แนวทางการประเมินกิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น โรงเรยี นบา้ นสามขา กำหนดแนวทางในการประเมนิ กจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี นดังนี้ ๑. การประเมินกิจกรรมพัฒนาผเู้ รียนรายกจิ กรรม มแี นวทางปฏิบัติดังนี้ ๑.๑ การตรวจสอบเวลาเขา้ ร่วมกิจกรรมของผเู้ รียน ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรียนตลอด ปีการศกึ ษา ๑.๒ ประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนจากการปฏิบัติกิจกรรมและผลงาน/ชิ้นงานของผู้เรียน ผู้เรียน ตอ้ งได้รบั การประเมนิ ทุกผลการเรียนรู้ และผา่ นทกุ ผลการเรยี นรู้ โดยแต่ละผลการเรียนรู้ผ่านไม่นอ้ ยกลา่ รอ้ ยละ ๕๐ หรอื มคี ุณภาพในระดับ ๑ ข้นึ ไป ๑.๓ ผู้เรียนมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรม การปฏิบัติกิจกรรมและผลงาน/ชิ้นงานของผู้เรียนตามเกณฑ์ ข้อ ๑.๑ และข้อ ๑.๒ ถือว่าผู้เรียนมีผลการเรียน “ผ” ผ่านการประเมินกิจกรรมและนำผลการประเมินไป บนั ทกึ ในระเบยี นแสดงผลการเรียน ๑.๔ ผู้เรียนมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน การปฏิบัติกิจกรรมและผลงานไม่เป็นไปตาม เกณฑ์ ข้อ ๑.๑ และข้อ ๑.๒ ถือว่าผู้เรียนมีผลการเรียน “มผ” โรงเรียนต้องจัดซ่อมเสริมให้ผู้เรียนทำ กิจกรรมในสว่ นท่ีผ้เู รียนไม่ไดเ้ ข้าร่วมหรือไมไ่ ด้ทำจนครบถว้ น แล้วจึงเปลย่ี นผลการเรยี นจาก “มผ” เป็น “ผ” และนำผลการประเมินไปบนั ทึกในระเบยี นแสดงผลการเรียน ๒. การประเมนิ กิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี นเพือ่ การตดั สิน มแี นวปฏิบัติดงั น้ี ๒.๑ กำหนดให้ผู้รับผิดชอบในการรวบรวมขอ้ มูลเกี่ยวกบั การร่วมกจิ กรรมพัฒนาผู้เรียนของผู้เรียน ทุกคนตลอดระดับการศกึ ษา ๒.๒ ผู้รบั ผดิ ชอบสรุปและตัดสินการร่วมกิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี นของผู้เรยี นเป็นรายบุคคลตามเกณฑ์ ที่โรงเรยี นกำหนด ผู้เรียนจะต้องผ่านกิจกรรม ๓ กิจกรรมสำคญั ดังนี้ ๒.๒.๑ กจิ กรรมแนะแนว หลกั สูตรโรงเรียนบ้านสามขา (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

๑๑๙ ๒.๒.๒ กจิ กรรมนักเรยี น ได้แก่ ๑. กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี ๒. กิจกรรมชมุ นุม ๒.๒.๓ กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ๒.๓ การนำเสนอผลการประเมนิ ตอ่ คณะกรรมการกลมุ่ สาระการเรยี นรู้และกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน ๒.๔ เสนอผบู้ ริหารโรงเรียนพิจารณาอนุมัตผิ ลการประเมินกจิ กรรมพัฒนาผู้เรียนผ่านเกณฑ์การจบ แตล่ ะระดับการศึกษา หลักสตู รโรงเรยี นบา้ นสามขา (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

๑๒๐ คำอธบิ ายรายวชิ า กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น หลกั สูตรโรงเรียนบ้านสามขา (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

คำอธบิ ายรายวชิ ากจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น ๑๒๑ กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น กจิ กรรมแนะแนว ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี ๑ - ๖ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง/ปี รู้จกั และเขา้ ใจตนเอง รกั และเห็นคณุ คา่ ในตนเองและผอู้ ่ืน มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ มีเจตคติท่ดี ตี ่อการมี ชีวิตท่ีดีมีคุณภาพ มีทักษะในการดำเนินชีวิต สามารถปรับตัวให้ดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข รู้จัก ตนเองในทุกด้าน รู้ความถนัด ความสนใจ และบุคลิกภาพของตนเอง รู้และเข้าใจโลกของงานอาชีพอย่าง หลากหลาย มีเจตคติท่ีดีต่ออาชีพสุจรติ รู้ข้อมูลอาชีพ สามารถเลือกตนแนวทางในการประกอบอาชีพได้อย่าง เหมาะสม มีการเตรียมตัวสู่อาชีพ สามารถวางแผนเพ่ือประกอบอาชีพตามท่ีตนเองมีความถนัดและสนใจ มี คุณลักษณะพ้ืนฐานท่ีจำเป็นในการประกอบอาชีพและพัฒนางานให้ประสบความสำเร็จเพ่ือสร้างฐานะทาง เศรษฐกิจให้กบั ตนเอง ครอบครวั ชุมชนและประเทศชาติ พัฒนาตนเองในดา้ นการเรียนอย่างเต็มศกั ยภาพ รจู้ ักแสวงหาความรู้ใฝ่รู้ใฝ่เรยี นให้เปน็ คนดีมีความรู้และ ทักษะทางวิชาการ รู้จักแสวงหาและใช้ข้อมูลประกอบการวางแผนการเรียนหรือการศึกษาต่อได้อย่างมี ประสิทธิภาพ มีวิธีการเรียนรู้ มีทักษะการคิด แก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ คิดเป็น ทำเป็น มีคุณธรรม จริยธรรม เอือ้ อาทรและสมานฉนั ท์ เพือ่ ดำรงชวี ติ อยู่รวมกันอย่างสงบสุขตามวถิ ชี ีวิตเศรษฐกจิ พอเพยี ง เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ รู้จัก เข้าใจ รักและเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อ่ืน เกิดการเรียนรู้ สามารถวางแผนการเรยี นรู้ อาชีพ รวมท้ังการดำเนินชีวิตและมีทักษะทางสังคม เกิดการเรียนรู้สามารถปรับตัว ได้อย่างเหมาะสม อยู่ร่วมกับผู้อ่ืนได้อย่างมีความสุข พึ่งตนเองได้มีทักษะในการเลือกแนวทางการศึกษา การ งานและอาชีพ ชีวิตและสังคม มีสุขภาพจิตท่ีดีและจิตสำนึกในการทำประโยชน์ต่อครอบครัว สังคมและ ประเทศชาตติ ามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ผลการเรยี นรู้ ๑. เพอื่ ใหผ้ ู้เรียนเกดิ การเรียนรู้ รูจ้ ัก เขา้ ใจ รกั และเหน็ คุณค่าในตนเองและผอู้ ืน่ ๒. เพอื่ ใหผ้ ู้เรียนเกิดการเรยี นรู้ สามารถวางแผนการเรียน การศกึ ษาตอ่ อาชพี รวมทัง้ การดำเนิน ชีวติ และมีทักษะทางสังคม ๓. เพอื่ ให้ผเู้ รยี นเกิดการเรยี นรู้ สามารถปรบั ตวั ได้อย่างเหมาะสม และอยู่ร่วมกับผู้อ่ืนไดอ้ ย่าง เหมาะสม ๔. สามารถประยุกตใ์ ชห้ ลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงได้ รวม ๔ ผลการเรยี นรู้ หลักสตู รโรงเรียนบ้านสามขา (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

กิจกรรมพัฒนาผูเ้ รยี น ๑๒๒ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี ๑ คำอธบิ ายรายวชิ ากจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น กิจกรรมนักเรียน (เตรยี มลกู เสอื สำรองและลกู เสอื สำรองดาวดวงท่ี ๑) เวลา ๓๐ ชวั่ โมง/ปี เปิดประชุมกอง ดำเนินการตามกระบวนการของลูกเสือและจัดกิจกรรมโดยให้ศึกษา วิเคราะห์ วางแผน ปฏิบัติกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ โดยเน้นระบบหมู่และปฏิบัติกิจกรรมตามคำปฏิญาณและกฎของ ลกู เสือสำรอง เรยี นรจู้ ากการคิดและปฏิบตั ิจริงใช้สัญลักษณ์สมาชิกลูกเสือสำรองที่มีความเปน็ เอกลักษณ์ร่วมกัน ศึกษาธรรมชาตใิ นชุมชนด้วยความสนใจ ใฝ่รู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สรปุ ผลการปฏิบัติกิจกรรม ปิดประชมุ กอง ในเรอื่ งต่อไปนี้ ๑. เตรียมลูกเสือสำรอง นิยายเมาคลี ประวัติการเริ่มกิจการลูกเสือ การทำความเคารพหมู่ (แกรนด์ฮาวล์) การทำความเคารพเป็นรายบุคคล การจับมือซ้าย ระเบียบแถว เบื้องต้น คำ ปฏญิ าณ กฎและคติพจน์ของลกู เสอื สำรอง ๒. ลูกเสือสำรองดาวดวงท่ี ๑ อนามัย ความสามารถเชิงทักษะ การสำรวจ การค้นหาธรรมชาติ ความปลอดภยั บริการ ธงและประเทศตา่ ง ๆ การฝีมอื กิจกรรมกลางแจ้ง การบนั เทงิ การผูก เงอื่ น คำปฏิญาณและกฎของลูกเสอื สำรอง เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสำรองดาวดวงท่ี ๑ สามารถปฏิบัติตามคำปฏิญาณ กฎ และคติ พจน์ของลูกเสือสำรอง มีนิสัยในการสงั เกต จดจำ เช่ือฟงั และพึ่งตนเอง มคี วามซื่อสตั ย์ สจุ รติ มรี ะเบยี บวินัย และเห็นอกเห็นใจผู้อ่ืน รูจ้ ักบำเพ็ญตนเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ รู้จักทำการฝีมือและฝึกฝนทำกิจกรรม ตา่ ง ๆ ตามความเหมาะสม รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรมและความม่ันคงของชาติ และสามารถ ประยกุ ต์ใชห้ ลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ผลการเรยี นรู้ ๑. มนี ิสยั ในการสังเกต จดจำ เชอ่ื ฟังและพ่งึ พาตนเองได้ ๒. มีความซื่อสตั ย์ สจุ ริต มรี ะเบียบวนิ ัยและเห็นอกเหน็ ใจผูอ้ ่ืน ๓. บำเพญ็ ตนเพอ่ื สังคมและสาธารณะประโยชน์ ๔. ทำการฝีมอื และฝกึ ฝนการทำกิจกรรมตา่ ง ๆ ตามความเหมาะสม ๕. รกั ษาและส่งเสริมจารตี ประเพณี วัฒนธรรมประเพณี ภูมิปัญญาทอ้ งถิน่ และ ความม่นั คง ๖. อนรุ กั ษ์ทรพั ยากรธรรมชาติ สง่ิ แวดลอ้ มและลดภาวะโลกร้อน ๗. สามารถประยุกตใ์ ชห้ ลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งได้ รวม ๗ ผลการเรยี นรู้ หลกั สูตรโรงเรยี นบ้านสามขา (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น ๑๒๓ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี ๒ คำอธบิ ายรายวชิ ากจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น กจิ กรรมนกั เรยี น (ลกู เสอื สำรองดาวดวงท่ี ๒) เวลา ๓๐ ชวั่ โมง/ปี เปดิ ประชมุ กอง ดำเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมให้ศึกษา วิเคราะห์ วางแผน ปฏิบัติกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ โดยเน้นระบบหมู่ และปฏิบัติตามคำปฏิญาณ คติพจน์และกฎของลูกเสือ สำรอง ศึกษาเรยี นรู้จากการคิดและปฏิบัติจรงิ ใชส้ ัญลักษณ์สมาชิกลูกเสือสำรองท่ีมีความเป็นเอกลกั ษณ์ร่วมกัน ศกึ ษาธรรมชาตใิ นชมุ ชนด้วยความสนใจใฝ่รู้ตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง สรปุ ผลและปฏิบตั ิกจิ กรรม ปิดประชุมกอง ในเรอ่ื งต่อไปนี้ ลูกเสือสำรองดาวดวงที่ ๒ นิยายเมาคลี ประวัติการเริ่มกิจการลูกเสือ การทำความเคารพหมู่ (แกรนฮาวล์) การทำความเคารพเป็นรายบุคคล การจับมอื ซา้ ย ระเบียบแถว คำปฏญิ าณ กฎ และคติพจน์ของ ลูกเสือสำรอง อนามัย ความสามารถเชิงทักษะ การสำรวจ การค้นหาธรรมชาติการอนุรักษ์ทรัพยากรในชุมชน ท้องถ่ิน ความปลอดภัย บริการ การผูกเง่ือน ธง และประเทศต่าง ๆ การฝีมือท่ีใช้วัสดุเหลือใช้ในท้องถ่ิน กิจกรรมกลางแจ้ง การบันเทิงที่ส่งเสริมสุขภาพกายสุขภาพจิตและอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถ่ิน อนุรักษ์ ทรพั ยากรธรรมชาตสิ ิง่ แวดลอ้ มลดภาวะโลกรอ้ น เพื่อให้มคี วามรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสำรองดาวดวงที่ ๒ สามารถปฏิบัติตามคำปฏิญาณ กฎ และคติพจน์ของลูกเสือสำรอง มีนิสัยในการสังเกต จดจำ เช่ือฟังและพ่ึงตนเอง มีความซ่ือสัตย์สุจริต มรี ะเบียบวินัย และเห็นอกเห็นใจ รู้จักบำเพ็ญเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ รู้จักทำการฝีมือและฝึกฝนทำ กจิ กรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม รักษาและสง่ เสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถ่ิน อนุรักษ์ ทรพั ยากรธรรมชาตสิ งิ่ แวดล้อม ความมน่ั คงของชาติ และสามารถประยกุ ต์ใชห้ ลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ผลการเรยี นรู้ 1. มีนิสัยในการสังเกต จดจำ เช่อื ฟงั และพง่ึ ตนเองได้ 2. มคี วามซ่ือสัตย์ สจุ รติ มรี ะเบยี บวนิ ยั และเห็นอกเหน็ ใจผ้อู ืน่ 3. บำเพ็ญตนเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชน์ 4. ทำการฝมี อื และฝึกฝนทำกิจกรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม 5. รักษาและสง่ เสริมจารตี ประเพณี วฒั นธรรม ภมู ิปัญญาทอ้ งถ่ินและความมน่ั คงของชาติ 6. อนุรกั ษ์ทรพั ยากรธรรมชาติ และสงิ่ แวดล้อม ลดภาวะโลกร้อน สามารถประยกุ ต์ใช้หลกั ปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงได้ รวม ๖ ผลการเรยี นรู้ หลักสตู รโรงเรยี นบา้ นสามขา (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น ๑๒๔ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี ๓ คำอธบิ ายรายวชิ ากจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น กจิ กรรมนกั เรยี น (ลกู เสอื สำรองดาวดวงท่ี ๓) เวลา ๓๐ ชว่ั โมง/ปี เปิดประชมุ กอง ดำเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกจิ กรรมให้ศึกษา วิเคราะห์ วางแผน ปฏิบัติกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ โดยเน้นระบบหมู่ และปฏิบัติตามคำปฏิญาณ คติพจน์และกฎของลูกเสือ สำรอง ศึกษาเรียนรู้จากการคิดและปฏิบัติจริงใชส้ ัญลักษณ์สมาชิกลูกเสือสำรองท่ีมีความเป็นเอกลักษณ์ร่วมกัน ศกึ ษาธรรมชาตใิ นชุมชนด้วยความสนใจใฝ่รตู้ ามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง สรุปผลและปฏบิ ตั ิกิจกรรม ปิดประชมุ กอง ในเรอื่ งต่อไปน้ี ลูกเสือสำรองดาวดวงท่ี ๓ นิยายเมาคลี ประวัติการเร่ิมกิจการลูกเสื อ การทำความเคารพหมู่ (แกรนฮาวล์) การทำความเคารพเปน็ รายบคุ คล การจับมือซ้าย ระเบียบแถว คำปฏิญาณ กฎ และคติพจน์ของ ลกู เสือสำรอง อนามัย ความสามารถเชิงทักษะ การสำรวจ การค้นหาธรรมชาติการอนุรักษ์ทรัพยากรในชุมชน ท้องถ่ิน ความปลอดภัย บริการ การผูกเง่ือน ธง และประเทศต่าง ๆ การฝีมือท่ีใช้วัสดุเหลือใช้ในท้องถ่ิน กิจกรรมกลางแจ้ง การบันเทิงที่ส่งเสริมสุขภาพกายสุขภาพจิตและอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น อนุรักษ์ ทรพั ยากรธรรมชาตสิ ิ่งแวดล้อมลดภาวะโลกรอ้ น เพ่อื ใหม้ คี วามรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสอื สำรองดาวดวงที่ ๓ สามารถปฏิบตั ติ ามคำปฏิญาณ กฎและ คติพจน์ของลูกเสือสำรอง มีนิสัยในการสังเกต จดจำ เช่ือฟังและพ่ึงตนเอง มีความซ่ือสัตย์สุจริต มีระเบียบวินัย และเห็นอกเห็นใจ รู้จักบำเพ็ญเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ รู้จักทำการฝีมือและฝึกฝนทำกิจกรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ สง่ิ แวดล้อม ความมน่ั คงของชาติ และสามารถประยุกตใ์ ช้หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ผลการเรยี นรู้ ๑. มีนิสยั ในการสงั เกต จดจำ เช่ือฟังและพ่ึงตนเองได้ ๒. มคี วามซือ่ สตั ย์ สจุ ริต มรี ะเบียบวนิ ัย และเห็นอกเหน็ ใจผู้อ่ืน ๓. บำเพญ็ ตนเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชน์ ๔. ทำการฝีมอื และฝกึ ฝนทำกิจกรรมตา่ ง ๆ ตามความเหมาะสม ๕. รกั ษาและส่งเสรมิ จารตี ประเพณี วฒั นธรรม ภูมิปญั ญาท้องถนิ่ และความมน่ั คงของชาติ ๖. อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสงิ่ แวดล้อม ลดภาวะโลกร้อน สามารถประยกุ ตใ์ ช้หลกั ปรชั ญาของ เศรษฐกจิ พอเพียงได้ รวม ๖ ผลการเรยี นรู้ หลกั สตู รโรงเรียนบา้ นสามขา (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น ๑๒๕ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี ๔ คำอธบิ ายรายวชิ ากจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น กจิ กรรมนกั เรยี น (ลกู เสอื สามญั (ลกู เสอื ตร)ี ) เวลา ๓๐ ชวั่ โมง/ปี เปิดประชุมกอง ดำเนินการตามกระบวนการของลกู เสือ และจัดกิจกรรมโดยให้ศกึ ษา วิเคราะห์ วางแผน ปฏิบัติกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ โดยเน้นระบบหมู่ และปฏิบัติกจิ กรรมตามคำปฏิญาณ คติพจน์ และกฎของ ลกู เสือสามัญ เรียนรู้จากการคิดและปฏิบัตจิ ริง ใช้สญั ลักษณ์สมาชกิ ลูกเสือสามัญที่มคี วามเป็นเอกลักษณร์ ่วมกัน ศึกษาธรรมชาติในชุมชนด้วยความสนใจ ใฝ่รู้และมีจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ วัฒนธรรม ประเพณี ภูมิปัญญาท้องถ่ิน ลดภาวะโลกร้อนและประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ความรู้เก่ียวกับ กระบวนการลูกเสือ ประวัตขิ อง Load Baden Powell พระราชประวัติสังเขปของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎ เกล้าเจา้ อย่หู ัว ววิ ฒั นาการของกระบวนการ ลกู เสือไทยและลกู เสอื โลก การทำความเคารพ การแสดงรหสั การ จบั มอื ซ้าย กิจกรรมกลางแจ้ง ระเบียบแถวท่ามือเปลา่ ทา่ มอื ไมพ้ ลวง การใช้สัญญามือและนกหวีด การตง้ั แถว และการเรียนแถว เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสามัญ สามารถปฏิบัติตามคำปฏิญาณ กฎ และคติพจน์ ของลูกเสือสามญั มีนิสยั ในการสังเกต จดจำ เชอื่ ฟัง และพ่ึงตนเอง มคี วามซ่อื สตั ย์ สุจริต มีระเบียบวนิ ยั และ เหน็ อกเห็นใจผูอ้ ื่น บำเพญ็ ตนเพื่อสงั คมและสาธารณประโยชน์ ทำการฝีมือและฝึกฝนการทำกิจกรรมตา่ ง ๆ ตาม ความเหมาะสม ความถนัด และความสนใจ รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรมและความมั่นคง ประโยชนแ์ ละสามารถประยกุ ต์ใชห้ ลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ผลการเรยี นรู้ 1. มีนสิ ัยในการสงั เกต จดจำ เช่อื ฟังและพึ่งตนเองได้ 2. มีความซอ่ื สตั ย์สุจริต มรี ะเบยี บ วินัยและเหน็ อกเหน็ ใจผู้อน่ื 3. บำเพญ็ ตนเพื่อสง่ เสริมและสาธารณะประโยชน์ 4. ทำการฝีมือและฝึกฝนทำกิจกรรมตา่ ง ๆ ตามความถนัดและความสนใจ 5. รกั ษาและส่งเสริมจารตี ประเพณี วัฒนธรรม ภมู ิปญั ญาทอ้ งถ่นิ และความม่นั คงของชาติ 6. อนรุ กั ษ์ทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม ลดภาวะโลกรอ้ น 7. สามารถประยุกตใ์ ชห้ ลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง รวม ๗ ผลการเรยี นรู้ หลักสูตรโรงเรยี นบา้ นสามขา (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น ๑๒๖ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี ๕ คำอธบิ ายรายวชิ ากจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น กจิ กรรมนกั เรยี น ( กิจกรรมลกู เสอื สามญั (ลกู เสอื โท) ) เวลา ๓๐ ชวั่ โมง/ปี เปิดประชุมกองดำเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมโดยให้ศึกษา วิเคราะห์ วางแผน ปฏิบัติกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ โดยเน้นระบบหมู่ และปฏิบัติกิจกรรมตามคำปฏิญาณ คติพจน์ และกฎของลกู เสือสามญั เรียนรูจ้ ากคิดและปฏิบัติจริง ใช้สัญลกั ษณส์ มาชกิ ลูกเสือสามัญทม่ี ีความเป็นเอกลักษณ์ รว่ มกัน ศึกษาธรรมชาติในชมุ ชนด้วยความสนใจ ใฝ่รู้ มีจติ สำนึกในการอนรุ กั ษ์ ทรัพยากรธรรมชาติ วัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถ่ิน ลดภาวะโลกร้อนและการประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยใช้ทักษะในทางวิชา ลูกเสือ การรู้จักดูแลตนเอง การช่วยเหลือผู้อื่น การเดินทางไปยังสถานท่ีต่าง ๆ ทำงานอดิเรก และเร่ืองที่ สนใจ เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสามัญ สามารถปฏิบัติตามคำปฏิญาณ กฎ และคติพจน์ ของลูกเสือสามัญ มีนิสัยในการสังเกต จดจำ เช่ือฟัง และพึ่งตนเอง มีความซื่อสัตย์ สุจริต มีระเบียบวินัย และเห็นอกเหน็ ใจผอู้ ืน่ บำเพญ็ ตนเพือ่ สังคมและสาธารณประโยชน์ ทำการฝมี ือและฝึกฝนการทำกจิ กรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม ความถนัด และความสนใจ รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรมและความม่ันคง ประโยชนแ์ ละสามารถประยกุ ตใ์ ช้หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ผลการเรยี นรู้ 1. มนี สิ ยั ในการสงั เกต จดจำ เชื่อฟังและพ่ึงตนเองได้ 2. มีความซื่อสตั ยส์ ุจริต มีระเบียบ วินัยและเห็นอกเหน็ ใจผู้อืน่ 3. บำเพ็ญตนเพ่อื ส่งเสริมและสาธารณะประโยชน์ 4. ทำการฝีมอื และฝกึ ฝนทำกิจกรรมต่าง ๆ ตามความถนดั และความสนใจ 5. รกั ษาและสง่ เสริมจารตี ประเพณี วัฒนธรรม ภมู ิปัญญาทอ้ งถิน่ และความมัน่ คงของชาติ 6. อนรุ กั ษท์ รัพยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม ลดภาวะโลกรอ้ น 7. สามารถประยุกต์ใชห้ ลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง รวม ๗ ผลการเรยี นรู้ หลักสูตรโรงเรยี นบา้ นสามขา (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น ๑๒๗ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี ๖ คำอธบิ ายรายวชิ ากจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น กิจกรรมนกั เรยี น ( กจิ กรรมลกู เสอื สามญั (ลกู เสอื เอก) ) เวลา ๓๐ ชวั่ โมง/ปี เปิดประชุมกองดำเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมโดยให้ศึกษา วิเคราะห์ วางแผน ปฏิบัติกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ โดยเน้นระบบหมู่ และปฏิบัติตามคำปฏิญาณ คติพจน์ และกฎของลูกเสือ สามัญ วชิ าการของลูกเสอื ระเบียบแถว การพึ่งตนเอง การผจญภัย การใช้สัญลักษณ์ สมาชิกลูกเสือสามัญ ที่ มีความเป็นเอกลักษณ์ร่วมกัน เรียนรู้จากการคิดและปฏิบัติจริง ศึกษาธรรมชาติ วัฒนธรรมประเพณี ภูมิปัญญา ท้องถ่ินด้วยความสนใจ ใฝ่รู้ และประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในการปฏิบัติกิจกรรมเพื่อการ อนุรักษท์ รพั ยากรธรรมชาตแิ ละลดภาวะโลกรอ้ น เพ่ือให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสามัญ สามารถปฏิบัติตามคำปฏิญาณ กฎ และคติพจน์ของ ลูกเสือสามัญ มีนิสัยในการสังเกต จดจำ เช่ือฟัง และพึ่งตนเอง มีความซ่ือสัตย์ สุจริต มีระเบียบวินัย และ เห็นอกเห็นใจผู้อื่น บำเพ็ญตนเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ทำการฝีมือและฝึกฝนการทำกิจกรรม ตา่ ง ๆ ตามความเหมาะสม ความถนัด และความสนใจ รักษาและส่งเสริมจารตี ประเพณี วัฒนธรรมและความ มัน่ คง ประโยชนแ์ ละสามารถประยกุ ตใ์ ช้หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ผลการเรยี นรู้ 1. มีนสิ ยั ในการสงั เกต จดจำ เชื่อฟงั และพงึ่ ตนเองได้ 2. มคี วามซอื่ สัตย์สุจรติ มีระเบยี บ วนิ ัยและเหน็ อกเหน็ ใจผูอ้ นื่ 3. บำเพญ็ ตนเพ่อื สง่ เสริมและสาธารณะประโยชน์ 4. ทำการฝมี อื และฝกึ ฝนทำกิจกรรมต่าง ๆ ตามความถนดั และความสนใจ 5. รักษาและส่งเสรมิ จารีตประเพณี วัฒนธรรม ภูมปิ ญั ญาทอ้ งถิ่น และความมั่นคงของชาติ 6. อนุรกั ษท์ รพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดล้อม ลดภาวะโลกร้อน 7. สามารถประยกุ ตใ์ ชป้ รัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง รวม ๗ ผลการเรยี นรู้ หลกั สูตรโรงเรยี นบา้ นสามขา (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น ๑๒๘ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี ๑ - ๖ คำอธบิ ายรายวชิ ากจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น กิจกรรมเพอื่ สงั คมและสาธารณประโยชน์ เวลา ๑๐ ชวั่ โมง/ปี ฝึกปฏิบัติกิจกรรมด้วยความสมัครใจผ่านกิจกรรมทีห่ ลากหลาย ฝึกการทำงานท่ีสอดคล้องกับชีวิตจริง ตลอดจนสะท้อนความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ สำรวจและใช้ข้อมูลประกอบการวางแผนอย่างเป็นระบบ เน้นทักษะการคิดวิเคราะห์ และใช้ความคิดสร้างสรรค์ การบริการด้านต่าง ๆ ท่ีเป็นประโยชน์ต่อตนเองและ ส่วนรวม เสริมสร้างความมีน้ำใจ เอือ้ อาทร ความเป็นพลเมืองดแี ละความรับผดิ ชอบต่อตนเอง ครอบครัวและ สังคม คิดออกแบบกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ในลักษณะอาสาสมัคร จิตอาสา เพ่ือแสดงความรับผิดชอบต่อ สงั คมตามแนวทางวิถีชวี ติ เศรษฐกจิ พอเพียง เพื่อให้ผู้เรียนบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อครอบครัว โรงเรียน ชุมชน สังคมและประเทศชาติ สามารถออกแบบการจัดกิจกรรมเพอ่ื สังคมและสาธารณประโยชน์อย่างสรา้ งสรรคต์ ามความถนดั และความสนใจ ในลักษณะอาสาสมัคร พัฒนาศักยภาพตนเองในการจัดกิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ได้อย่างมี ประสิทธิภาพเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์จนเกิดคุณธรรม จริยธรรม ตามคุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีจิตสาธารณะและใช้เวลาว่างให้เกดิ ประโยชน์ และสามารถประยุกตใ์ ชห้ ลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งได้ ผลการเรยี นรู้ 1. บำเพญ็ ตนให้เปน็ ประโยชนต์ ่อครอบครวั โรงเรยี น ชมุ ชน สังคมและประเทศชาติ 2. ออกแบบการจดั กิจกรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชนอ์ ย่างสร้างสรรค์ ตามความถนัดและ ความสนใจในลักษณะอาสาสมัคร 3. สามารถพัฒนาศกั ยภาพในการจดั กจิ กรรมเพอ่ื สังคมและสาธารณประโยชน์ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ 4. ปฏบิ ตั กิ ิจการเพอื่ สังคมและสาธารณประโยชน์จนเกดิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรมตามคุณลักษณะอนั พึง ประสงค์ 5. สามารถประยกุ ตใ์ ชห้ ลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งได้ รวม ๕ ผลการเรยี นรู้ หลักสตู รโรงเรยี นบ้านสามขา (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น ๑๒๙ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี ๑ - ๖ คำอธบิ ายรายวชิ ากจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น กจิ กรรมนกั เรยี น (กจิ กรรมชมุ นมุ ) เวลา ๔๐ ชว่ั โมง/ปี ปฏิบัตกิ จิ กรรมตามความสนใจ ความถนัด และความตอ้ งการ เพ่อื พัฒนาความรู้ ความสามารถดา้ นการ คิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ให้เกิดประสบการณ์ท้ังด้านวิชาการ และพื้นฐานอาชีพ ทักษะชีวิตและสังคมตาม ศักยภาพอยา่ งรอบด้าน เพื่อความเป็นมนุษยท์ สี่ มบูรณ์ มีความสามารถในการสอ่ื สาร มที ักษะการคดิ แกป้ ัญหา ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี พัฒนาทักษะในการทำงานและการอยู่ร่วมกับผู้อ่ืนในสังคมไดอ้ ย่างมีความสุข รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ซือ่ สัตย์สจุ ริต มวี ินัย ใฝ่เรียนรู้ อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง มุ่งมั่นในการทำงานรักความเป็นไทย มีจติ สาธารณะ เพ่ือให้ผู้เรียนได้ปฏิบัตกิ ิจกรรมตามความสนใจ ความถนัด และความตอ้ งการของตน ได้พัฒนาความรู้ ความสามารถด้านการคิดวเิ คราะห์ สงั เคราะห์ ให้เกดิ ประสบการณ์ท้ังทักษะทางวชิ าการ ทักษะอาชีพ ทักษะ ชีวิตและสังคมตามศักยภาพ ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ตอ่ ตนเองและส่วนรวม คิดเป็น ทำได้ ทำงานร่วมกับ ผู้อนื่ ไดต้ ามวถิ ปี ระชาธิปไตย และประยกุ ตห์ ลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งได้อยา่ งเหมาะสม ผลการเรยี นรู้ 1. ปฏิบัติกจิ กรรมตามความสนใจ ความถนดั และความต้องการของตน 2. มีความรู้ ความสามารถดา้ นการคดิ วิเคราะห์ สงั เคราะหใ์ หเ้ กดิ ประสบการณ์ ท้งั ทางวิชาการและ วิชาชีพตามศักยภาพ 3. ใช้เวลาว่างให้เกดประโยชน์ต่อตนเองและสว่ นรวม 4. ม่งุ ม่ันในการทำงานและทำงานรว่ มกับผู้อนื่ ได้ตามวถิ ปี ระชาธปิ ไตย 5. ประยกุ ต์ใชห้ ลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไดอ้ ย่างเหมาะสม รวม ๕ ผลการเรยี นรู้ หลกั สตู รโรงเรียนบ้านสามขา (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

๑๓๐ คำอธบิ ายรายวชิ า กิจกรรมชมุ นมุ หลักสตู รโรงเรียนบ้านสามขา (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

คำอธบิ ายรายวชิ ากจิ กรรมชมุ นมุ ๑๓๑ ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑-๖ กิจกรรมชุมนุมสวดมนต์ไหว้พระ หลกั การและเหตผุ ล สวดมนต์ แผ่เมตตา บริหารจิตและเจริญปัญญาด้วยอานาปานสติหรือตามแนวทางศาสนาที่ตนนับถือ วิเคราะห์และปฏิบัติตนตามหลักธรรมทางศาสนาที่ตนนับถือในการดำรงชีวิตอย่างพอเพียง เรียนรู้ศาสนาอื่นๆ ปฏิบัติตนต่อศาสนิกชนศาสนาอ่ืนในสถานการณ์ต่างๆได้อย่างเหมาะสม วิเคราะห์การกระทำของบุคคลท่ีเป็น แบบอย่างด้านศาสนสัมพันธ์และนำเสนอแนวทางการปฏิบัติของตนเอง บำเพ็ญประโยชน์ต่อศาสนสถานของ ศาสนาท่ีตนนับถือ อธิบายจริยวัตรของสาวกเพ่ือเป็นแบบอย่างในการประพฤติปฏิบัติ และปฏิบัติตนอย่าง เหมาะสมต่อสาวกและบุคคลต่างๆของศาสนาท่ีตนนับถือ ปฏิบัติตนในศาสนพิธี พิธีกรรมได้อย่างถูกต้อง อธิบายประวัติ ความสำคัญและปฏบิ ตั ติ นในวนั สำคัญทางศาสนาท่ีตนนบั ถอื ผลการเรยี นรทู้ คี่ าดหวงั ๑. ฝึกสวดมนต์ไหว้พระ สรรเสรญิ คณุ พระรัตนตรยั และแผเ่ มตตา ๒. รู้ความหมายและประโยชนข์ องสตแิ ละสมาธิ ๓. ฝกึ ใหม้ ีสมาธใิ นการฟงั การอา่ น การคิด การถาม และการเขียน รวมทงั้ หมด ๓ ผลการเรยี นรู้ หลักสตู รโรงเรียนบ้านสามขา (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

คำอธบิ ายรายวชิ ากจิ กรรมชมุ นมุ ๑๓๒ ระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑-๖ กจิ กรรมชมุ นมุ ภาษาไทย หลกั การและเหตผุ ล ประเทศไทยมีภาษาไทยเป็นภาษาประจำชาติ อันเป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญอย่างหน่ึงของชาติ สมควรจะ ได้รับการทำนบุ ำรงุ สง่ เสรมิ และอนุรักษ์ไวใ้ ห้ย่ังยืนตลอดไป ท้ังน้ีในยุคปัจจุบันวิชาการและเทคโนโลยีต่าง ๆ ได้ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วเกิดเทคนิคใหม่ ๆ ในการ ติดต่อส่ือสาร ท่ีมุ่งเนน้ ความสะดวกรวดเร็ว ส่งผลใหภ้ าษาไทยซึ่งเปน็ สอ่ื กลางสำคัญในการตดิ ต่อและผกู พนั ตอ่ การ ดำรงชีวติ ประจำวันของคนไทยได้รบั ผลกระทบ ท้ังภาษาพดู และภาษาเขยี น ทำให้ภาษาไทยเกิดการเปลี่ยนแปลง ไปจากเดิมอย่างน่าวิตกเป็นอย่างยงิ่ สภาพการณ์เช่นนี้หากไม่เรง่ รีบหาทางแก้ไขและป้องกนั เสียแต่เน่ินๆ การใช้ ภาษาไทยของเราก็จะยิ่งเส่ือมลง จะส่งผลเสียหายต่อเอกลักษณ์และคุณค่าของภาษาไทยเป็นทวีคูณ อ่านและ เข้าใจความหมายของคำ ประโยค ข้อความและจัดทำแบบฝึกเป็นรูปเล่ม จัดทำพจนานุกรมฉบับจ๋ิว ศึกษา ค้นควา้ เกี่ยวกบั ข่าว บทความจากส่ิงตพี ิมพป์ ระเภทต่างๆ และประดิษฐท์ ่คี นั่ หนงั สือประเภทตา่ งๆ เพ่ือให้สมาชิกมีความคิดริเรมิ่ สร้างสรรค์ รจู้ ักค้นคว้า และแก้ปัญหาในการทำงานอย่างมีระบบ เพื่อให้ สมาชิกเป็นผู้มีระเบียบวินัยเพ่ือให้สมาชิกมีความเข้าใจและเล่ือมใสการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตริย์เป็นประมุขเพื่อให้สมาชิกมีความรับผิดชอบต่อการปฏิบัติหน้าท่ีและสิทธิภายในขอบเขตของ กฎหมายเพ่ือให้สมาชิกมีความสงบซาบซ้ึงในคุณค่า ดำรงไว้และส่งเสริมเอกลักษณ์วัฒนธรรมอันดีงามของชาติ ไทยเพ่อื ให้สมาชิกเกิดความรกั และสามัคคีในหมคู่ ณะเพือ่ ให้สมาชิกได้รบั การสง่ เสรมิ การพัฒนาทางร่างกาย จิตใจ และรจู้ ักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์เพอ่ื ให้สมาชิกรู้จักบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม และสร้างเสริมความมัน่ คงของ ชาติเพ่ือให้สมาชิกมีคุณธรรมและจริยธรรม เพื่อให้สมาชิกพัฒนาตนเองตามวัตถุประสงค์ของการจัดการศึกษา สามารถนำความรู้ไปใช้ใหเ้ กิดประโยชน์โดยใช้หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงและสามารถนำไปประยกุ ต์ใชก้ ับ ชวี ิตประจำวนั ไดอ้ ยา่ งถูกต้องเหมาะสม ผลการเรยี นรู้ ๑. ปฏิบตั กิ จิ กรรมตามความสนใจ ความถนดั และความต้องการของตน ๒. อา่ นออกเสียงบทร้อยแก้ว ร้อยกรองได้อย่างถูกตอ้ งตามอกั ขระวธิ ี ๓. เขียน ได้ถูกตอ้ งตามหลกั ภาษาไทย ๔. ใช้เวลาว่างใหเ้ กิดประโยชนต์ อ่ ตนเองและสว่ นรวม ๕. นักเรียนมคี วามตระหนกั และเหน็ คณุ ค่าของภาษาไทย ในฐานะภาษาประจำชาติ ๖.นักเรยี นสามารถเปน็ ตัวแทนเขา้ ร่วมแข่งขันกจิ กรรมทางคณิตศาสตร์ รวม ๕ ผลการเรยี นรู้ หลักสตู รโรงเรยี นบ้านสามขา (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

คำอธบิ ายรายวชิ ากจิ กรรมชมุ นมุ ๑๓๓ ระดับชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๑-๖ กจิ กรรมชุมนมุ คณติ ศาสตร์ หลกั การและเหตผุ ล คณิตศาสตรเ์ ป็นวิชาท่ีมคี วามเก่ยี วข้องกับส่ิงท่ีอยู่รอบตัวและชีวิตของเรา คณิตศาสตรส์ ามารถอธิบายส่ิง ต่างๆ นานาที่อยู่รอบตัวเราได้ ถึงแม้ว่าคนส่วนใหญ่จะมองคณิตศาสตร์นั้น ยาก ซับซ้อน น่าเวียนหัว ทำใหเ้ กิดความเครียด และความวติ กกงั วลในการเรยี น ชุมนมุ นีจ้ งึ จดั ขึ้นมาเพือ่ ให้นักเรียนในชุมนุมไดม้ องเหน็ มุมมองอีกด้านหนงึ่ ของคณติ ศาสตร์ โดยการ รวบรวมด้านสนุกสนานของคณิตศาสตร์ ตลอดจนเกรด็ น่ารู้ต่างๆ มากมาย รวมถึงเกร็ดแปลกๆ เก่ยี วกบั ตัวเลขท่ี อาจจะทำให้นักเรียนเกิดหลงรักตัวเลขข้ึนมาก็ได้ และนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยในหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงไปประยกุ ตใ์ นกบั ชวี ติ ประจำวนั ไดอ้ ยา่ งถูกต้องเหมาะสม ผลการเรยี นรทู้ คี่ าดหวงั ๑. เพือ่ ให้นักเรยี นมองเหน็ ความสำคัญของคณติ ศาสตร์ในชวี ิตประจำวัน ๒. เพอ่ื ให้นกั เรยี นมคี วามรคู้ วามเข้าใจ มีความสุขและความสนกุ สนานในการเข้าร่วม กิจกรรม ในวชิ า คณิตศาสตร์ ๓. เพอื่ ใหน้ กั เรียนได้ปฏบิ ัติกิจกรรมตามทีต่ นเองถนัดและสนใจ ๔. เพอ่ื สง่ เสรมิ นักเรยี นให้มที ศั นคติทด่ี ตี อ่ วิชาคณิตศาสตร์ ๕. เพ่อื ใหน้ ักเรยี นสามารถนำความรไู้ ปปรบั ใชใ้ นชีวิตประจำวันได้เป็น และไดใ้ ช้เวลาวา่ งให้เป็นประโยชน์ ๖. นกั เรยี นสามารถเป็นตวั แทนเข้าร่วมแข่งขันกจิ กรรมทางคณติ ศาสตร์ รวมทงั้ หมด ๖ ผลการเรยี นรู้ หลักสตู รโรงเรยี นบ้านสามขา (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

คำอธบิ ายรายวชิ ากจิ กรรมชมุ นมุ ๑๓๔ กจิ กรรมชมุ นมุ สรา้ งสรรคด์ ว้ ยลีลามอื ระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๑-๖ หลกั การและเหตผุ ล รู้จักชื่อ และบอกลกั ษณะของเสน้ ต่าง ๆ ซ่ึงมาประกอบเป็นพยัญชนะ ตัวเลขและเป็นภาพต่างๆ ท่ีใช้ใน ชวี ิตประจำวันได้ เพ่ือส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการทางด้าน รา่ งกาย อารมณ์ จิตใจ สงั คม และสติปัญญา สามารถ นำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ได้ เพื่อให้สมาชิกมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ รู้จักค้นคว้า และแก้ปัญหาในการทำงานอย่างมีระบบ เพ่ือให้ สมาชิกเป็นผู้มีระเบียบวินัยเพ่ือให้สมาชิกมีความเข้าใจและเล่ือมใสการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตริย์เป็นประมุขเพ่ือให้สมาชิกมีความรับผิดชอบต่อการปฏิบัติหน้าที่และสิทธิภายในขอบเขตของ กฎหมายเพื่อให้สมาชิกมีความสงบซาบซึ้งในคุณค่า ดำรงไว้และส่งเสริมเอกลักษณ์วัฒนธรรมอันดีงามของชาติ ไทยเพ่อื ใหส้ มาชกิ เกดิ ความรักและสามัคคีในหมู่คณะเพ่ือให้สมาชิกได้รับการสง่ เสรมิ การพัฒนาทางร่างกาย จิตใจ และรจู้ ักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์เพ่ือให้สมาชิกรูจ้ ักบำเพ็ญประโยชนต์ ่อสังคม และสร้างเสริมความมน่ั คงของ ชาติเพื่อให้สมาชิกมีคุณธรรมและจริยธรรม เพ่ือให้สมาชิกพัฒนาตนเองตามวัตถุประสงค์ของการจัดการศึกษา สามารถนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงและสามารถนำไปประยุกต์ใชก้ ับ ชีวติ ประจำวันได้อย่างถูกตอ้ งเหมาะสม ผลการเรยี นรู้ ๑. ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมตามความสนใจ ความถนัดและความตอ้ งการของตน ๒. มีความรู้ ความสามารถดา้ นการคดิ วิเคราะห์ สงั เคราะหใ์ หเ้ กดิ ประสบการณ์ ทงั้ ทางวชิ าการและ วชิ าชีพตามศกั ยภาพ ๓. ใช้เวลาวา่ งให้เกดิ ประโยชนต์ ่อตนเองและส่วนรวม ๔. มงุ่ มนั่ ในการทำงานและทำงานร่วมกับผ้อู ่นื ไดต้ ามวถิ ปี ระชาธปิ ไตย ๕. ประยกุ ต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งไดอ้ ย่างเหมาะสม รวม ๕ ผลการเรยี นรู้ หลกั สูตรโรงเรยี นบ้านสามขา (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

คำอธบิ ายรายวชิ ากจิ กรรมชมุ นมุ ๑๓๕ ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๑-๖ กจิ กรรมชมุ นุมคอมพิวเตอร์ หลกั การและเหตผุ ล ในปัจจุบัน เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ได้พัฒนาไปอย่างรวดเร็วในหลากหลายสาขาวิชาโดยเฉพาะอย่างย่ิง การพัฒนาด้านการส่ือสารและด้านขอ้ มูล ดังนั้นจึงจำเป็นอยา่ งยง่ิ ท่สี ถานศึกษาใหค้ วามสำคญั ตอ่ การเปลีย่ นแปลง ของเทคโนโลยีเพือ่ ให้ผู้เรียนมีความรู้ เกิดความตระหนักและเท่าทันเทคโนโลยีในปัจจุบนั เพ่อื สนับสนุนให้ผู้เรยี นมี คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนในยุคศตวรรษที่ 21 ได้แก่ เป็นนักคิดวิเคราะห์ เป็นนักแก้ปัญหา เป็นนัก สรา้ งสรรค์ เป็นนักประสานความร่วมมือ รู้จักใช้ข้อมูลและข่าวสาร เป็นผู้เรียนรู้ด้วยตนเอง เป็นนักส่ือสาร และ ตระหนักรับรู้สภาวการณข์ องโลกปัจจบุ นั และอนาคตกิจกรรมชมุ นุมคอมพิวเตอร์ จึงเป็นกิจกรรมกล่มุ เสริมทักษะ ด้านวิชาการ ในกลุ่มสาระการงานอาชีพและเทคโนโลยีเพ่ือพัฒนานักเรียนให้เต็มศักยภาพ เพื่อตอบสนอง ศกั ยภาพของนักเรียนได้หลากหลายวชิ าสามารถตอบสนองความต้องการของสังคมสร้างองค์ความรู้และเพิ่มพูน ทักษะคอมพิวเตอร์ให้แก่นักเรียนเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ตรงกับสภาพแวดล้อม และ เทคโนโลยีใหม่ๆ และนำมาปรับใชใ้ นชีวิตประจำวันไดอ้ ย่างเหมาะสม ผลการเรยี นรทู้ ค่ี าดหวงั ๑. นกั เรยี นเกดิ ทกั ษะในการใช้เทคโนโลยีในชีวิตประจำวนั ๒. นักเรยี นมคี วามรทู้ างด้านคอมพวิ เตอร์ นำมาใช้ในงานตา่ งๆ ๓. นักเรียนพฒั นาความรู้ความสามารถด้านการคิด วิเคราะห์ สังเคราะห์ ๔. นักเรียนมคี ณุ ธรรม จริยธรรมและค่านยิ มที่พึงประสงค์ ๕. นักเรียนมมี นษุ ยสัมพันธใ์ นการทำกิจกรรมรว่ มกันกบั ผอู้ ่นื รวมทงั้ หมด ๕ ผลการเรยี นรู้ หลักสูตรโรงเรยี นบา้ นสามขา (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

คำอธบิ ายรายวชิ ากจิ กรรมชมุ นมุ ๑๓๖ กจิ กรรมชุมนมุ เศรษฐกิจพอเพียง ระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๑-๖ หลกั การและเหตผุ ล ฝกึ ทกั ษะนักเรยี นเรยี นรู้หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งใน 3 หลักการ คอื ความพอประมาณ ความมี เหตุผล และการสร้างภมู ิคมุ้ กันในตวั ท่ีดี และ 2 เงื่อนไข คือ คุณธรรมและความรู้ โดยนกั เรียนฝกึ เรยี นเกษตร พอเพยี ง ไดแ้ ก่ การเพาะเหด็ นางฟา้ การเลยี้ งไก้พน้ื เมอื ง การเลีย้ งปลาดกุ ในบอ่ ซีเมนต์ และการปลกู พืชผัก สวนครัว เพอ่ื สามารถนำความรไู้ ปประยกุ ต์ใช้ในชวี ติ ประจำวนั และสง่ เสริมอาชพี ในอนาคต ผลการเรยี นรทู้ คี่ าดหวงั ๑. เพอื่ ฝกึ ทกั ษะการเรียนรู้เศรษฐกจิ พอเพียง ไดแ้ ก่ การเพาะเห็ดนางฟา้ การเล้ยี งไกพ้ ้นื เมือง การ เลยี้ งปลาดกุ ในบ่อซเี มนต์ และการปลกู พชื ผักสวนครัว ๒. เพอ่ื ฝกึ นิสยั รักการทำงาน อยู่อย่างพอเพียง ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ๓. เพ่อื สง่ เสรมิ และปลูกฝงั วธิ ีการคดิ ในการปฏิบตั ิตนตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง รวมทงั้ หมด ๓ ผลการเรยี นรู้ หลักสูตรโรงเรียนบา้ นสามขา (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

คำอธบิ ายรายวชิ ากจิ กรรมชมุ นมุ ๑๓๗ ระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑-๖ กจิ กรรมชมุ นมุ รกั การอา่ น หลกั การและเหตุผล อา่ นและเข้าใจความหมายของคำ ประโยค ข้อความและจัดทำแบบฝกึ เป็นรูปเล่ม จัดทำพจนานกุ รมฉบับ จิ๋ว ศึกษา คน้ คว้าเก่ยี วกบั ขา่ ว บทความจากสิง่ ตพี มิ พ์ประเภทตา่ งๆ และประดษิ ฐท์ คี่ น่ั หนงั สอื ประเภทต่างๆ เพ่ือให้มีความร้คู วามเขา้ ใจและเหน็ คุณคา่ เกี่ยวกับการจัดทำแบบฝกึ เปน็ รูปเลม่ จัดทำพจนานุกรมฉบบั จิ๋ว และประดษิ ฐ์ที่ค่นั หนังสอื ประเภทต่างๆ สามารถนำไปใชใ้ นชีวติ ประจำวนั ได้ เพื่อให้สมาชิกมีความคิดริเริ่มสรา้ งสรรค์ รู้จกั ค้นคว้า และแก้ปัญหาในการทำงานอย่างมีระบบ เพื่อให้ สมาชิกเป็นผู้มีระเบียบวินัยเพื่อให้สมาชิกมีความเข้าใจและเล่ือมใสการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตริย์เป็นประมุขเพ่ือให้สมาชิกมีความรับผิดชอบต่อการปฏิบัติหน้าที่และสิทธิภายในขอบเขตของ กฎหมายเพื่อให้สมาชิกมีความสงบซาบซ้ึงในคุณค่า ดำรงไวแ้ ละส่งเสริมเอกลักษณ์วัฒนธรรมอันดีงามของชาติ ไทยเพือ่ ให้สมาชกิ เกิดความรกั และสามัคคีในหม่คู ณะเพอื่ ให้สมาชิกได้รบั การส่งเสรมิ การพฒั นาทางร่างกาย จติ ใจ และรจู้ ักใช้เวลาว่างใหเ้ ป็นประโยชน์เพื่อให้สมาชิกรู้จักบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม และสร้างเสริมความมน่ั คงของ ชาติเพ่ือให้สมาชิกมีคุณธรรมและจริยธรรม เพื่อให้สมาชิกพัฒนาตนเองตามวัตถุประสงค์ของการจัดการศึกษา สามารถนำความรู้ไปใช้ใหเ้ กิดประโยชน์โดยใช้หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งและสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับ ชีวิตประจำวันได้อยา่ งถกู ต้องเหมาะสม ผลการเรยี นรู้ ๑ ปฏิบัตกิ จิ กรรมตามความสนใจ ความถนัดและความต้องการของตน ๒ มีความรู้ ความสามารถด้านการคดิ วิเคราะห์ สังเคราะหใ์ หเ้ กิดประสบการณ์ ท้งั ทางวิชาการและ วชิ าชพี ตามศกั ยภาพ ๒ ใชเ้ วลาวา่ งให้เกิดประโยชนต์ ่อตนเองและส่วนรวม ๔ มุ่งมัน่ ในการทำงานและทำงานร่วมกับผู้อนื่ ไดต้ ามวิถีประชาธปิ ไตย ๕ ประยกุ ต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไดอ้ ย่างเหมาะสม รวม ๕ ผลการเรยี นรู้ หลักสตู รโรงเรยี นบา้ นสามขา (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๑๓๘ เกณฑก์ ารจบการศกึ ษา หลักสูตรโรงเรียนบ้านสามขา พุทธศักราช ๒๕๖๑ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ กำหนดเกณฑส์ ำหรบั การจบการศึกษา ดังน้ี เกณฑก์ ารจบระดบั ประถมศกึ ษา ๑. ผเู้ รียนเรียนรายวชิ าพ้ืนฐาน จำนวน ๘๔๐ ชัว่ โมง และรายวิชาเพิ่มเติมจำนวน ๘๐ ชั่วโมง และมี ผลการประเมินรายวิชาพืน้ ฐานผา่ นทกุ รายวิชา ๒. ผเู้ รยี นตอ้ งมีผลการประเมินการอ่าน คิดวเิ คราะห์ และเขยี น ระดับ “ผ่าน” ขนึ้ ไป ๓. ผู้เรยี นมีผลการประเมินคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ระดบั “ผ่าน” ขึ้นไป ๔. ผเู้ รียนตอ้ งเขา้ รว่ มกิจกรรมพฒั นาผู้เรยี นและได้รับการตัดสินผลการเรยี น “ผา่ น” ทุกกจิ กรรม การจดั การเรียนรู้ การจัดการเรียนรู้เปน็ กระบวนการสำคัญในการนำหลกั สูตรสู่การปฏิบัติ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ัน พื้นฐาน เป็นหลักสูตรท่ีมีมาตรฐานการเรียนรู้ สมรรถนะสำคัญและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน เป็น เปา้ หมายสำหรับพฒั นาเดก็ และเยาวชน ในการพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณสมบัติตามเป้าหมายหลักสูตร ผู้สอนพยายามคัดสรร กระบวนการเรียนรู้ จัดการเรียนรู้โดยช่วยให้ผู้เรียนเรียนรู้ผ่านสาระที่กำหนดไว้ในหลักสูตร ๘ กลุ่มสาระการเรียนรู้ รวมทั้งปลูกฝัง เสรมิ สร้างคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ พฒั นาทกั ษะตา่ งๆ อันเป็นสมรรถนะสำคัญให้ผู้เรยี นบรรลตุ ามเปา้ หมาย ๑. หลกั การจัดการเรยี นรู้ การจัดการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ความสามารถตามมาตรฐานการเรียนรู้ สมรรถนะสำคัญ และ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามท่ีกำหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน โดยยึดหลักว่า ผู้เรียนมี ความสำคัญท่ีสุด เช่ือว่าทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ ยึดประโยชน์ที่เกิดกับผู้เรียน กระบวนการจัดการเรยี นร้ตู ้องส่งเสริมใหผ้ เู้ รยี น สามารถพัฒนาตามธรรมชาตแิ ละเต็มตามศกั ยภาพ คำนงึ ถึงความ แตกต่างระหว่างบคุ คลและพัฒนาการทางสมองเนน้ ให้ความสำคัญทง้ั ความรู้ และคุณธรรม ๒. กระบวนการเรยี นรู้ การจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ผู้เรียนจะต้องอาศัยกระบวนการเรียนรู้ท่ีหลากหลาย เป็น เคร่ืองมือที่จะนำพาตนเองไปสู่เป้าหมายของหลักสูตร กระบวนการเรียนรู้ที่จำเป็นสำหรับผู้เรียน อาทิ กระบวนการเรียนร้แู บบบูรณาการ กระบวนการสรา้ งความรู้ กระบวนการคดิ กระบวนการทางสงั คม กระบวนการ เผชิญสถานการณ์และแก้ปัญหา กระบวนการเรียนรู้จากประสบการณ์จริง กระบวนการปฏิบัติ ลงมือทำจริง กระบวนการจดั การ กระบวนการวิจยั กระบวนการเรียนรกู้ ารเรยี นรู้ของตนเอง กระบวนการพฒั นาลักษณะนสิ ยั กระบวนการเหล่านี้เป็นแนวทางในการจัดการเรียนรู้ที่ผู้เรียนควรได้รับการฝึกฝน พัฒนา เพราะจะ สามารถช่วยให้ผู้เรียนเกดิ การเรียนรู้ได้ดี บรรลุเป้าหมายของหลกั สูตร ดังนั้น ผูส้ อน จึงจำเป็นต้องศกึ ษาทำความ เข้าใจในกระบวนการเรียนรู้ต่าง ๆ เพอ่ื ใหส้ ามารถเลอื กใชใ้ นการจดั กระบวนการเรียนรไู้ ด้อย่างมีประสิทธภิ าพ หลกั สูตรโรงเรยี นบ้านสามขา (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๑๓๙ ๓. การออกแบบการจดั การเรยี นรู้ ผู้สอนต้องศึกษาหลักสูตรสถานศึกษาให้เข้าใจถึงมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวช้ีวัด สมรรถนะสำคัญของ ผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และสาระการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับผู้เรียน แล้วจึงพิจารณาออกแบบการ จัดการเรยี นรู้โดยเลือกใช้วิธีสอนและเทคนิคการสอน สื่อ/แหล่งเรียนรู้ การวัดและประเมินผล เพื่อให้ผเู้ รียนได้ พัฒนาเตม็ ตามศักยภาพและบรรลุตามเปา้ หมายทก่ี ำหนด ๔. บทบาทของผู้สอนและผูเ้ รียน การจัดการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนมีคุณภาพตามเป้าหมายของหลักสูตร ท้ังผู้สอนและผู้เรียนควรมีบทบาท ดงั นี้ ๔.๑ บทบาทของผู้สอน ๑) ศึกษาวิเคราะห์ผู้เรียนเป็นรายบุคคล แล้วนำข้อมูลมาใช้ในการวางแผนการจัดการเรียนรู้ ทที่ ้าทายความสามารถของผูเ้ รยี น ๒) กำหนดเป้าหมายที่ต้องการให้เกิดข้ึนกับผู้เรียน ด้านความรู้และทักษะกระบวนการ ที่เป็น ความคิดรวบยอด หลักการ และความสัมพันธ์ รวมทั้งคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ๓) ออกแบบการเรียนรู้และจัดการเรียนรู้ที่ตอบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคลและ พัฒนาการทางสมอง เพอ่ื นำผเู้ รียนไปสู่เปา้ หมาย ๔) จัดบรรยากาศทเี่ ออ้ื ตอ่ การเรยี นรู้ และดแู ลช่วยเหลือผูเ้ รยี นใหเ้ กดิ การเรยี นรู้ ๕) จัดเตรียมและเลือกใช้สื่อให้เหมาะสมกับกิจกรรม นำภูมิปัญญาท้องถิ่น เทคโนโลยีที่ เหมาะสมมาประยกุ ตใ์ ชใ้ นการจัดการเรียนการสอน ๖) ประเมินความก้าวหน้าของผู้เรียนด้วยวิธกี ารที่หลากหลาย เหมาะสมกับธรรมชาตขิ องวิชา และระดับพัฒนาการของผูเ้ รียน ๗) วเิ คราะห์ผลการประเมินมาใช้ในการซ่อมเสรมิ และพฒั นาผู้เรียน รวมท้ังปรับปรงุ การจัดการ เรยี นการสอนของตนเอง ๔.๒ บทบาทของผเู้ รียน ๑) กำหนดเปา้ หมาย วางแผน และรบั ผดิ ชอบการเรียนรู้ของตนเอง ๒) เสาะแสวงหาความรู้ เข้าถึงแหล่งการเรียนรู้ วิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อความรู้ ตั้งคำถาม คิดหา คำตอบหรอื หาแนวทางแก้ปัญหาด้วยวิธีการตา่ งๆ ๓) ลงมอื ปฏิบตั ิจริง สรุปส่งิ ท่ีได้เรยี นรู้ดว้ ยตนเอง และนำความรู้ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นสถานการณต์ า่ งๆ ๔) มปี ฏิสมั พนั ธ์ ทำงาน ทำกิจกรรมร่วมกับกลมุ่ และครู ๕) ประเมินและพัฒนากระบวนการเรยี นรขู้ องตนเองอยา่ งตอ่ เน่อื ง สอื่ การเรยี นรู้ สื่อการเรียนรู้เป็นเครื่องมือส่งเสริมสนับสนุนการจัดการกระบวนการเรียนรู้ ให้ผู้เรียนเข้าถึงความรู้ ทักษะกระบวนการ และคุณลักษณะตามมาตรฐานของหลักสูตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่ือการเรียนรู้มี หลากหลายประเภท ทั้งสือ่ ธรรมชาติ สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อเทคโนโลยี และเครือข่าย การเรยี นรูต้ ่างๆ ทม่ี ีในท้องถ่นิ การ เลือกใชส้ ื่อควรเลือกใหม้ คี วามเหมาะสมกับระดับพฒั นาการ และลีลาการเรยี นรทู้ ห่ี ลากหลายของผู้เรยี น หลกั สตู รโรงเรยี นบา้ นสามขา (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

๑๔๐ การจัดหาส่ือการเรียนรู้ ผู้เรียนและผู้สอนสามารถจัดทำและพัฒนาข้ึนเอง หรือปรับปรงุ เลือกใช้อย่างมี คุณภาพจากสื่อต่างๆ ที่มีอยู่รอบตัวเพ่ือนำมาใช้ประกอบในการจัดการเรียนรู้ที่สามารถส่งเสริมและส่ือสารให้ ผู้เรยี นเกิดการเรียนรู้ โดยสถานศึกษาควรจัดให้มีอย่างพอเพียง เพ่ือพัฒนาให้ผู้เรียน เกิดการเรียนรู้อย่างแท้จริง สถานศกึ ษา เขตพืน้ ท่ีการศกึ ษา หนว่ ยงานทีเ่ กีย่ วข้องและผมู้ ีหน้าทจ่ี ัดการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน ควรดำเนนิ การดังนี้ ๑. จัดให้มีแหล่งการเรียนรู้ ศูนย์สื่อการเรียนรู้ ระบบสารสนเทศการเรียนรู้ และเครือข่าย การเรยี นรู้ท่มี ีประสิทธิภาพทั้งในสถานศึกษาและในชมุ ชน เพ่ือการศึกษาค้นควา้ และการแลกเปลย่ี นประสบการณ์ การเรยี นรู้ ระหว่างสถานศึกษา ท้องถิน่ ชมุ ชน สงั คมโลก ๒. จัดทำและจัดหาสอ่ื การเรียนรู้สำหรบั การศึกษาค้นคว้าของผู้เรยี น เสริมความรู้ให้ผู้สอน รวมทง้ั จัดหา สิ่งทมี่ ีอยู่ในท้องถนิ่ มาประยกุ ตใ์ ชเ้ ปน็ สอื่ การเรยี นรู้ ๓. เลือกและใช้สื่อการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ มีความเหมาะสม มีความหลากหลาย สอดคล้อง กับวิธีการ เรยี นรู้ ธรรมชาติของสาระการเรียนรู้ และความแตกตา่ งระหว่างบคุ คลของผูเ้ รยี น ๔. ประเมินคุณภาพของส่อื การเรยี นรู้ท่เี ลือกใช้อย่างเปน็ ระบบ ๕. ศึกษาค้นคว้า วจิ ัย เพื่อพัฒนาสื่อการเรียนรใู้ หส้ อดคลอ้ งกบั กระบวนการเรียนรูข้ องผูเ้ รยี น ๖. จัดให้มีการกำกับ ติดตาม ประเมินคุณภาพและประสิทธิภาพเกี่ยวกับส่ือและการใช้ส่ือ การเรยี นรูเ้ ปน็ ระยะๆ และสม่ำเสมอ ในการจัดทำ การเลอื กใช้ และการประเมินคุณภาพส่ือการเรียนรู้ที่ใชใ้ นสถานศึกษา ควรคำนงึ ถึงหลักการ สำคัญของสื่อการเรียนรู้ เช่น ความสอดคล้องกับหลักสูตร วัตถุประสงค์การเรียนรู้ การออกแบบกิจกรรมการ เรียนรู้ การจัดประสบการณ์ใหผ้ ู้เรยี น เนอ้ื หามีความถูกต้องและทันสมัย ไม่กระทบความม่ันคงของชาติ ไมข่ ัดต่อ ศีลธรรม มกี ารใช้ภาษาท่ถี กู ต้อง รปู แบบการนำเสนอที่เขา้ ใจงา่ ย และนา่ สนใจ การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ การวัดและประเมินผลการเรยี นรขู้ องผู้เรยี นต้องอยูบ่ นหลกั การพืน้ ฐานสองประการ คือ การประเมินเพ่ือ พัฒนาผู้เรียนและเพื่อตัดสินผลการเรียน ในการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้ประสบผลสำเร็จนั้น ผู้เรียนจะต้องได้รับการพัฒนาและประเมินตามตัวชี้วัดเพ่ือให้บรรลุตามมาตรฐานการเรียนรู้ สะท้อนสมรรถนะ สำคัญ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรยี นซ่ึงเป็นเป้าหมายหลักในการวัดและประเมนิ ผลการเรียนร้ใู นทุก ระดับไม่ว่าจะเป็นระดับช้ันเรียน ระดับสถานศึกษา ระดับเขตพ้ืนท่ีการศึกษา และระดับชาติ การวัดและ ประเมินผลการเรียนรู้ เป็นกระบวนการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนโดยใช้ผลการประเมินเป็นข้อมูลและสารสนเทศที่ แสดงพัฒนาการ ความก้าวหน้า และความสำเร็จทางการเรยี นของผเู้ รียน ตลอดจนข้อมูลที่เป็นประโยชนต์ ่อการ ส่งเสริมใหผ้ ูเ้ รยี นเกดิ การพฒั นาและเรียนรอู้ ย่างเต็มตามศักยภาพ การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ แบ่งออกเป็น ๔ ระดับ ได้แก่ ระดับชั้นเรียน ระดับสถานศึกษา ระดับ เขตพ้ืนที่การศกึ ษา และระดบั ชาติ มีรายละเอียด ดังนี้ ๑. การประเมินระดับชั้นเรียน เป็นการวัดและประเมินผลท่ีอยู่ในกระบวนการจัดการเรียนรู้ ผู้สอน ดำเนินการเป็นปกติและสม่ำเสมอ ในการจัดการเรียนการสอน ใชเ้ ทคนิคการประเมินอย่างหลากหลาย เช่น การ ซกั ถาม การสงั เกต การตรวจการบ้าน การประเมนิ โครงงาน การประเมนิ ชิ้นงาน/ ภาระงาน แฟ้มสะสมงาน การ หลักสูตรโรงเรยี นบ้านสามขา (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

๑๔๑ ใช้แบบทดสอบ ฯลฯ โดยผู้สอนเป็นผู้ประเมินเองหรือเปิดโอกาสให้ผู้เรียนประเมินตนเอง เพ่ือนประเมินเพ่ือน ผปู้ กครองร่วมประเมิน ในกรณีทไ่ี มผ่ า่ นตัวช้วี ัดใหม้ กี ารสอนซ่อมเสริม การประเมินระดับชนั้ เรียนเป็นการตรวจสอบว่า ผู้เรียนมีพัฒนาการความก้าวหน้าในการเรียนรู้ อัน เป็นผลมาจากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนหรือไม่ และมากน้อยเพียงใด มีส่ิงที่จะต้องได้รับการพัฒนา ปรับปรุงและสง่ เสริมในด้านใด นอกจากนี้ยงั เปน็ ขอ้ มลู ให้ผู้สอนใชป้ รับปรุงการเรียนการสอนของตนด้วย ท้ังน้โี ดย สอดคล้องกบั มาตรฐานการเรียนร้แู ละตวั ชีว้ ดั ๒. การประเมนิ ระดับสถานศึกษา เปน็ การประเมินท่ีสถานศกึ ษาดำเนินการเพื่อตัดสินผล การเรยี นของ ผู้เรียนเป็นรายปี/รายภาค ผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ และ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน นอกจากน้ีเพ่ือให้ได้ข้อมูลเก่ียวกับการจัดการศึกษา ของสถานศึกษา ว่าส่งผลต่อการ เรียนรขู้ องผู้เรียนตามเป้าหมายหรอื ไม่ ผู้เรยี นมจี ุดพฒั นาในดา้ นใด รวมท้ังสามารถนำผลการเรียนของผู้เรียนใน สถานศึกษาเปรียบเทียบกับเกณฑ์ระดับชาติ ผลการประเมินระดับสถานศึกษาจะเป็นข้อมูลและสารสนเทศเพ่ือ การปรับปรุงนโยบาย หลักสูตร โครงการ หรือวิธีการจัดการเรียนการสอน ตลอดจนเพื่อการจัดทำแผนพัฒนา คุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ตามแนวทางการประกันคุณภาพการศึกษาและการรายงานผลการจัด การศึกษาต่อคณะกรรมการสถานศึกษา สำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ัน พ้นื ฐาน ผูป้ กครองและชมุ ชน ๓. การประเมินระดับเขตพ้ืนท่ีการศึกษา เป็นการประเมินคุณภาพผู้เรียนในระดับเขตพื้นท่ีการศึกษา ตามมาตรฐานการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน เพื่อใช้เป็นข้อมูลพ้ืนฐานในการพัฒนา คุณภาพการศึกษาของเขตพื้นที่การศึกษา ตามภาระความรับผิดชอบ สามารถดำเนินการโดยประเมินคุณภาพ ผลสัมฤทธ์ขิ องผู้เรียนด้วยข้อสอบมาตรฐานท่ีจัดทำและดำเนินการโดยเขตพ้ืนท่ีการศึกษา หรือดว้ ยความร่วมมือ กบั หนว่ ยงานตน้ สังกัด ในการดำเนนิ การจดั สอบ นอกจากนยี้ ังไดจ้ ากการตรวจสอบทบทวนขอ้ มลู จากการประเมิน ระดบั สถานศกึ ษาในเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษา ๔. การประเมนิ ระดบั ชาติ เป็นการประเมนิ คณุ ภาพผ้เู รยี นในระดบั ชาตติ ามมาตรฐานการเรียนรูต้ าม หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน สถานศกึ ษาตอ้ งจัดให้ผูเ้ รยี นทุกคนทีเ่ รียน ในช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๓ ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๖ เขา้ รับการประเมนิ ผลจากการประเมนิ ใช้เป็นข้อมลู ในการเทียบเคยี งคุณภาพการศกึ ษาใน ระดบั ต่าง ๆ เพือ่ นำไปใชใ้ นการวางแผนยกระดบั คุณภาพการจัดการศกึ ษา ตลอดจนเป็นขอ้ มูลสนับสนุนการ ตดั สนิ ใจในระดับนโยบายของประเทศ ข้อมูลการประเมินในระดับต่างๆ ข้างต้น เป็นประโยชน์ต่อสถานศึกษาในการตรวจสอบทบทวนพัฒนา คุณภาพผู้เรียน ถือเป็นภาระความรับผิดชอบของสถานศึกษาท่ีจะต้องจัดระบบดูแลช่วยเหลือ ปรับปรุงแก้ไข ส่งเสรมิ สนับสนุนเพ่ือให้ผู้เรียนได้พัฒนาเต็มตามศักยภาพบนพ้ืนฐานความแตกต่างระหว่างบุคคลท่ีจำแนกตาม สภาพปัญหาและความต้องการ ได้แก่ กลุ่มผู้เรียนท่ัวไป กลุ่มผู้เรียนที่มีความสามารถพิเศษ กลุ่มผู้เรียนท่ีมี ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนต่ำ กลุ่มผู้เรียนที่มีปัญหาด้านวินัยและพฤติกรรม กลุ่มผู้เรียนที่ปฏิเสธโรงเรียน กลุ่ม ผเู้ รียนที่มีปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคม กลมุ่ พิการทางร่างกายและสตปิ ญั ญา เป็นต้น ข้อมลู จากการประเมินจึง เปน็ หวั ใจของสถานศึกษาในการดำเนินการช่วยเหลือผู้เรยี นได้ทันท่วงที ปดิ โอกาสให้ผู้เรยี นได้รับการพัฒนาและ ประสบความสำเร็จในการเรยี น หลกั สตู รโรงเรียนบ้านสามขา (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

๑๔๒ สถานศึกษาในฐานะผู้รับผิดชอบจัดการศึกษา จะต้องจัดทำระเบียบว่าด้วยการวัดและประเมินผลการ เรียนของสถานศึกษาให้สอดคล้องและเป็นไปตามหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติท่ีเป็นข้อกำหนดของหลักสูตร แกนกลางการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน เพื่อให้บคุ ลากรท่เี ก่ยี วขอ้ งทุกฝ่ายถือปฏบิ ตั ิร่วมกนั เกณฑก์ ารวดั และประเมนิ ผลการเรยี น ๑. การตดั สนิ การใหร้ ะดบั และการรายงานผลการเรยี น ๑.๑ การตดั สนิ ผลการเรยี น ในการตดั สนิ ผลการเรยี นของกลุม่ สาระการเรียนรู้ การอา่ น คดิ วิเคราะห์และเขยี น คณุ ลักษณะ อนั พงึ ประสงค์ และกจิ กรรมพัฒนาผูเ้ รยี นนน้ั ผูส้ อนต้องคำนงึ ถงึ การพฒั นาผ้เู รียนแต่ละคนเปน็ หลัก และต้องเก็บ ข้อมลู ของผู้เรียนทุกด้านอยา่ งสมำ่ เสมอและตอ่ เนื่องในแตล่ ะภาคเรยี น รวมทงั้ สอนซ่อมเสรมิ ผู้เรยี นให้พฒั นาจนเต็ม ตามศกั ยภาพ ระดบั ประถมศกึ ษา (๑) ผเู้ รยี นต้องมเี วลาเรยี นไม่นอ้ ยกว่าร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรยี นท้ังหมด (๒) ผู้เรียนตอ้ งได้รับการประเมินทกุ ตวั ช้ีวดั และผ่านตามเกณฑท์ ่ีสถานศึกษากำหนด (๓) ผเู้ รียนตอ้ งไดร้ บั การตัดสินผลการเรยี นทุกรายวิชา (๔) ผเู้ รยี นตอ้ งไดร้ ับการประเมนิ และมีผลการประเมนิ ผ่านตามเกณฑท์ ี่สถานศึกษากำหนด ใน การอ่าน คดิ วิเคราะห์ และเขียน คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ และกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น การพิจารณาเลื่อนช้ัน ถ้าผู้เรียนมีข้อบกพร่องเพียงเล็กน้อย และสถานศึกษาพิจารณาเห็นว่า สามารถพฒั นาและสอนซอ่ มเสรมิ ได้ ใหอ้ ยใู่ นดลุ พินิจของสถานศกึ ษาที่จะผ่อนผันใหเ้ ล่ือนชนั้ ได้ แต่หากผู้เรียนไม่ ผ่านรายวิชาจำนวนมาก และมีแนวโน้มว่าจะเป็นปัญหาต่อการเรียนในระดับชั้นท่ีสูงข้ึน สถานศึกษาอาจตั้ง คณะกรรมการพจิ ารณาให้เรยี นซ้ำชั้นได้ ทง้ั น้ีให้คำนงึ ถงึ วุฒิภาวะและความร้คู วามสามารถของผเู้ รยี นเปน็ สำคญั ๑.๒ การใหร้ ะดบั ผลการเรยี น ระดับประถมศึกษา ในการตัดสนิ เพ่ือให้ระดบั ผลการเรียนรายวชิ า สถานศึกษาสามารถใหร้ ะดับผล การเรยี นหรอื ระดับคณุ ภาพการปฏิบตั ิของผู้เรียน เป็นระบบตัวเลข ระบบตวั อักษร ระบบร้อยละ และระบบที่ใช้ คำสำคัญสะท้อนมาตรฐาน การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน และคุณลักษณะอันพึงประสงค์น้ัน ให้ระดับผล การ ประเมนิ เป็น ดเี ยยี่ ม ดี และผ่าน การประเมนิ กจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน จะต้องพิจารณาท้ังเวลาการเข้าร่วมกจิ กรรม การปฏิบตั ิกิจกรรม และผลงานของผู้เรยี น ตามเกณฑ์ทส่ี ถานศึกษากำหนด และให้ผลการเขา้ ร่วมกจิ กรรมเปน็ ผ่าน และไมผ่ า่ น ๑.๓ การรายงานผลการเรยี น การรายงานผลการเรียนเป็นการส่ือสารให้ผู้ปกครองและผู้เรียนทราบความก้าวหน้าในการเรียนรู้ ของผเู้ รยี น ซึง่ สถานศึกษาต้องสรุปผลการประเมินและจัดทำเอกสารรายงานใหผ้ ู้ปกครองทราบเป็นระยะๆ หรือ อยา่ งน้อยภาคเรยี นละ ๑ คร้ัง หลักสตู รโรงเรยี นบา้ นสามขา (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๑๔๓ การรายงานผลการเรียนสามารถรายงานเปน็ ระดับคณุ ภาพการปฏิบัตขิ องผเู้ รียนที่สะทอ้ นมาตรฐาน การเรยี นรกู้ ลุม่ สาระการเรยี นรู้ ๒. เกณฑก์ ารจบการศกึ ษา หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน กำหนดเกณฑ์กลางสำหรับการจบการศึกษาเป็น ๑ ระดับ คือ ระดบั ประถมศกึ ษา ๒.๑ เกณฑก์ ารจบระดบั ประถมศกึ ษา (๑) ผู้เรียนเรียนรายวิชาพื้นฐาน และรายวิชา/กิจกรรมเพ่ิมเติมตามโครงสร้างเวลาเรียนท่ี หลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐานกำหนด (๒) ผู้เรียนต้องมีผลการประเมินรายวิชาพ้ืนฐาน ผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่สถานศึกษา กำหนด (๓) ผูเ้ รียนมผี ลการประเมินการอา่ น คิดวเิ คราะห์ และเขียนในระดับผ่านเกณฑ์การประเมนิ ตามทสี่ ถานศึกษากำหนด (๔) ผู้เรียนมีผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในระดับผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่ สถานศึกษากำหนด (๕) ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและมีผลการประเมินผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่ สถานศึกษากำหนด สำหรับการจบการศึกษาสำหรับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ เช่น การศึกษาเฉพาะทาง การศึกษาสำหรับผู้มี ความสามารถพิเศษ การศกึ ษาทางเลือก การศึกษาสำหรับผู้ดอ้ ยโอกาส การศึกษาตามอัธยาศัย ใหค้ ณะกรรมการ ของสถานศึกษา เขตพ้ืนทกี่ ารศกึ ษา และผูท้ ่เี ก่ียวขอ้ ง ดำเนินการวดั และประเมินผล การเรยี นรตู้ ามหลักเกณฑ์ใน แนวปฏิบตั ิการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานสำหรับกลุ่มเป้าหมาย เฉพาะ เอกสารหลกั ฐานการศกึ ษา เอกสารหลักฐานการศึกษา เป็นเอกสารสำคัญท่ีบันทึกผลการเรียน ข้อมูลและสารสนเทศที่เก่ียวข้องกับ พัฒนาการของผเู้ รียนในด้านต่าง ๆ แบง่ ออกเปน็ ๒ ประเภท ดงั น้ี ๑. เอกสารหลกั ฐานการศกึ ษาทก่ี ระทรวงศกึ ษาธกิ ารกำหนด ๑.๑ ระเบยี นแสดงผลการเรยี น เป็นเอกสารแสดงผลการเรียนและรับรองผลการเรียนของผเู้ รียน ตามรายวิชา ผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน ผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของ สถานศึกษา และผลการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน สถานศึกษาจะต้องบันทึกข้อมูลและออกเอกสารน้ีให้ ผเู้ รียนเปน็ รายบคุ คล เมอ่ื ผู้เรยี นจบการศกึ ษาระดบั ประถมศึกษา (ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๖) ๑.๓ แบบรายงานผู้สำเร็จการศึกษา เป็นเอกสารอนุมัติการจบหลักสตู รโดยบันทึกรายชื่อและ ข้อมลู ของผู้จบการศึกษาระดับประถมศึกษา (ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖) ๒. เอกสารหลกั ฐานการศกึ ษาทสี่ ถานศึกษากำหนด หลักสตู รโรงเรียนบา้ นสามขา (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

๑๔๔ เปน็ เอกสารท่ีสถานศึกษาจัดทำขึ้นเพ่ือบันทึกพฒั นาการ ผลการเรียนรู้ และข้อมูลสำคัญ เก่ียวกับผู้เรียน เช่น แบบรายงานประจำตวั นักเรยี น แบบบันทึกผลการเรียนประจำรายวชิ า ระเบยี นสะสม ใบรบั รองผลการเรยี น และ เอกสารอนื่ ๆ ตามวัตถปุ ระสงคข์ องการนำเอกสารไปใช้ การเทียบโอนผลการเรยี น สถานศึกษาสามารถเทยี บโอนผลการเรียนของผูเ้ รียนในกรณีต่างๆได้แก่ การยา้ ยสถานศึกษา การเปลย่ี น รปู แบบการศึกษา การยา้ ยหลักสูตร การออกกลางคันและขอกลับเข้ารับการศกึ ษาต่อ การศึกษาจากต่างประเทศ และขอเข้าศึกษาต่อในประเทศ นอกจากนี้ ยงั สามารถเทียบโอนความรู้ ทกั ษะ ประสบการณ์จากแหล่งการเรยี นรู้ อน่ื ๆ เชน่ สถานประกอบการ สถาบันศาสนา สถาบนั การฝกึ อบรมอาชีพ การจดั การศึกษาโดยครอบครัว การเทยี บโอนผลการเรียนควรดำเนินการในช่วงกอ่ นเปดิ ภาคเรียนแรก หรอื ตน้ ภาคเรยี นแรก ท่ี สถานศึกษารบั ผขู้ อเทยี บโอนเปน็ ผเู้ รียน ท้ังน้ี ผูเ้ รียนท่ไี ดร้ ับการเทียบโอนผลการเรยี นตอ้ งศึกษาตอ่ เนอ่ื งใน สถานศกึ ษาท่ีรับเทยี บโอนอย่างน้อย ๑ ภาคเรียน โดยสถานศกึ ษาที่รบั ผู้เรียนจาก การเทียบโอนควรกำหนดรายวิชา/จำนวนหน่วยกิตท่ีจะรับเทียบโอนตามความเหมาะสม การพิจารณาการเทยี บโอน สามารถดำเนินการได้ ดงั น้ี ๑. พิจารณาจากหลกั ฐานการศึกษา และเอกสารอนื่ ๆ ทีใ่ ห้ข้อมลู แสดงความรู้ ความสามารถของผู้เรียน ๒. พจิ ารณาจากความรู้ ความสามารถของผู้เรยี นโดยการทดสอบด้วยวธิ กี ารตา่ งๆ ท้ังภาคความรแู้ ละ ภาคปฏบิ ตั ิ ๓. พิจารณาจากความสามารถและการปฏบิ ตั ใิ นสภาพจริง การเทยี บโอนผลการเรียนให้เปน็ ไปตาม ประกาศ หรือ แนวปฏบิ ตั ิ ของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร การบรหิ ารจดั การหลักสูตร ในระบบการศึกษาที่มีการกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นและสถานศึกษามบี ทบาทในการพัฒนาหลักสูตรน้ัน หน่วยงานต่างๆ ทีเ่ กยี่ วข้องในแต่ละระดับ ตงั้ แต่ระดบั ชาติ ระดบั ทอ้ งถ่นิ จนถึงระดบั สถานศึกษา มีบทบาทหนา้ ที่ และความรับผิดชอบในการพัฒนา สนับสนุน ส่งเสริม การใช้และพัฒนาหลักสูตรให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพ่ือให้การดำเนินการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาและการจัดการเรียนการสอนของสถานศึกษามี ประสิทธิภาพ สูงสุด อันจะส่งผลใหก้ ารพัฒนาคณุ ภาพผู้เรียนบรรลุตามมาตรฐานการเรยี นรู้ท่ีกำหนดไว้ในระดับชาติ ระดับท้องถ่นิ ได้แก่ สำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา หนว่ ยงานต้นสังกัดอ่ืน ๆ เป็นหน่วยงานท่มี ีบทบาทใน การขับเคลื่อนคุณภาพการจัดการศึกษา เป็นตัวกลางที่จะเช่ือมโยงหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐานท่ี กำหนดในระดับชาติให้สอดคล้องกับสภาพและความต้องการของท้องถ่ิน เพื่อนำไปสู่การจัดทำหลักสูตรของ สถานศึกษา ส่งเสริมการใช้และพัฒนาหลักสูตรในระดับสถานศึกษา ให้ประสบความสำเร็จ โดยมีภารกิจสำคัญ คือ กำหนดเป้าหมายและจุดเน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ในระดับท้องถ่ินโดยพิจารณาให้สอดคล้องกับส่ิงท่ี เป็นความต้องการในระดับชาติ พัฒนาสาระ การเรียนรู้ท้องถ่ิน ประเมินคุณภาพการศึกษาในระดับท้องถ่ิน รวมท้งั เพ่ิมพูนคุณภาพการใชห้ ลกั สูตรด้วยการวิจัยและพัฒนา การพัฒนาบุคลากร สนับสนุน ส่งเสริม ติดตามผล ประเมนิ ผล วิเคราะห์ และรายงานผลคุณภาพของผเู้ รียน หลักสูตรโรงเรียนบา้ นสามขา (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๑๔๕ สถานศึกษามีหน้าที่สำคัญในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา การวางแผนและดำเนินการใช้หลักสูตร การเพมิ่ พูนคณุ ภาพการใช้หลกั สตู รด้วยการวจิ ัยและพฒั นา การปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรจดั ทำระเบียบการวัด และประเมินผล ในการพัฒนาหลักสตู รสถานศึกษาต้องพิจารณาให้สอดคลอ้ ง กับหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ัน พ้ืนฐาน และรายละเอียดที่เขตพ้ืนที่การศึกษา หรือหน่วยงาน สังกัดอ่ืนๆ ในระดับท้องถิ่นได้จัดทำเพ่ิมเติม รวมท้ัง สถานศึกษาสามารถเพิ่มเติมในส่วนที่เก่ียวกับสภาพปัญหาในชุมชนและสังคม ภูมิปัญญาท้องถ่ิน และ ความตอ้ งการของผเู้ รียน โดยทุกภาคสว่ นเข้ามามสี ว่ นร่วมในการพฒั นาหลกั สตู รสถานศกึ ษา หลักสตู รโรงเรยี นบ้านสามขา (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

๑๔๖ คำสงั่ โรงเรยี นบา้ นสามขา ที่ ......... / ๒๕๖๑ เรอ่ื ง แตง่ ตงั้ คณะกรรมการบรหิ ารหลกั สตู รและงานวชิ าการสถานศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน ********************************* เพื่อให้การบริหารหลักสูตรและงานวิชาการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคลอ้ งกบั พระราชบญั ญัตกิ ารศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ หมวด ๔ มาตรา ๒๗ ที่กำหนดใหส้ ถานศกึ ษาขั้น พ้ืนฐานมหี นา้ ที่จดั ทำสาระของหลกั สตู รเพ่ือความเป็นไทย ความเป็นพลเมืองท่ดี ีของชาติ การดำรงชวี ติ และการ ประกอบอาชีพ ตลอดจนเพื่อการศึกษาต่อ ในส่วนที่เกี่ยวกับสภาพของปัญหาในชุมชน และสังคม ภูมิปัญญา ท้องถิ่น คุณลักษณะอันพึงประสงค์เพ่ือเป็นสมาชิกท่ีดีของครอบครัว ชุมชน สังคมและประเทศชาติ และ สอดคล้องกับระเบียบกระทรวงศึกษาธิการวา่ ด้วยคณะกรรมการบริหารหลกั สูตรและงานวชิ าการสถานศึกษาขั้น พืน้ ฐาน พ.ศ.๒๕๔๔ อาศัยอำนาจตามมาตรา ๓๗ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. ๒๕๔๖ และที่แก้ไขเพ่ิมเติม จึงแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารหลักสูตร และงานวิชาการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนบา้ นฝาผนัง ปีการศกึ ษา ๒๕๖๐ ดังน้ี ๑. นายกรไกร ภูมไิ สว ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นบา้ นสามขา ประธานกรรมการ ๒. นายพเิ ชษฐ ศรรี ะวัตร ครู โรงเรยี นบ้านสามขา กรรมการ ๓. นางนิศานาถ มว่ งเกตุ ครู โรงเรียนบา้ นสามขา กรรมการ ๔. นายขจรเดช บญุ ทองเถิง พนักงานราชการ โรงเรยี นบา้ นสามขา กรรมการ ๕. นางอัญชษิ ฐา ช่างหลก พเ่ี ลยี้ งเด็กพิการ โรงเรียนบ้านสามขา กรรมการ ๖. นางพรทิพย์ แสนทวสี ุข ครู โรงเรยี นบ้านสามขา กรรมการและเลขานุการ คณะกรรมการดำเนนิ การ มหี นา้ ที่และดำเนนิ การจัดการตามขนั้ ตอนทกี่ ำหนด ดงั น้ี ๑. วางแผนการดำเนินงานวิชาการ กำหนดสาระรายละเอียดของหลักสูตรระดับสถานศึกษาและแนว ทางการจัดสัดส่วนสาระการเรียนรู้ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนของสถานศึกษา ให้สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลาง การศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ และสภาพเศรษฐกิจ สงั คม ศลิ ปวัฒนธรรม ภมู ิปัญญาทอ้ งถ่นิ หลักสูตรโรงเรียนบ้านสามขา (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

๑๔๗ ๒. จัดทำคู่มือการบริหารหลกั สูตร และงานวิชาการของสถานศึกษา นิเทศ กำกับ ติดตาม ให้คำปรึกษา เกี่ยวกับการพัฒนาหลักสตู ร การจดั กระบวนการเรยี นรู้ การวดั และประเมนิ ผลและการแนะแนวให้สอดคล้องและ เปน็ ไปตามหลักสตู รการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน ๓. ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรเกี่ยวกับการพัฒนาหลักสูตร การจัดกระบวน การเรียนรู้ การวัด และประเมนิ ผลและการแนะแนวให้เปน็ ไปตามจุดหมายและแนวทางการดำเนินการของหลักสูตร ๔. ประสานความร่วมมือจากบุคคล หน่วยงาน องค์กรต่าง ๆ และชุมชน เพ่ือให้การใช้หลักสูตรเป็นไป อย่างมีประสิทธภิ าพและมีคณุ ภาพ ๕. ประชาสัมพันธ์หลักสูตรและการใช้หลักสูตรแก่นักเรียน ผู้ปกครอง ชุมชนและผู้เก่ียวข้องและนำ ข้อมลู ป้อนกลบั จากฝ่ายตา่ ง ๆ มาพจิ ารณาเพอ่ื ปรบั ปรงุ และพัฒนาหลักสูตรของสถานศกึ ษา ๖. สง่ เสริมสนบั สนุนการวิจัยเกยี่ วกบั การพัฒนาหลักสูตร และกระบวนการเรยี นรู้ ๗. ตดิ ตามผลการเรียนของนักเรยี นเป็นรายบคุ คล ระดบั ชนั้ และช่วงชัน้ ระดับวิชา กลมุ่ วชิ า ในแตล่ ะปี การศึกษา เพอ่ื ปรับปรุงแกไ้ ข และพฒั นาการดำเนินงานดา้ นตา่ ง ๆ ของสถานศกึ ษา ๘. ตรวจสอบทบทวน ประเมินมาตรฐาน การปฏิบัติงานของครู และการบริหารหลักสูตรระดับ สถานศึกษาในรอบปีที่ผ่านมา แล้ว ใช้ผลการประเมนิ เพ่ือวางแผนพัฒนาการปฏิบัติงานของครูและการบริหาร หลักสูตรปกี ารศึกษาต่อไป ๙. รายงานผลการปฏบิ ัตงิ านและผลการบริหารหลกั สตู รของสถานศึกษา โดยเนน้ ผลการพฒั นาคุณภาพ นักเรียนต่อคณะกรรมการสถานศึกษาข้ันพื้นฐาน คณะกรรมการบริหารหลักสูตรระดับเหนือสถานศึกษา สาธารณชน และผ้เู ก่ียวขอ้ ง ๑๐. ใหด้ ำเนนิ การประชมุ คณะกรรมการอย่างน้อยภาคเรียนละ ๒ คร้งั ทัง้ น้ีใหผ้ ู้ได้รับการแตง่ ต้ังปฏิบัตหิ น้าท่ีที่ได้รับมอบหมายอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ และบรรลุตามวตั ถปุ ระสงค์ ทีต่ ัง้ ไว้ ตัง้ แตบ่ ัดน้เี ป็นตน้ ไป สง่ั ณ วันที่ ๓๐ เดอื น มนี าคม พ.ศ. ๒๕๖๑ (ลงชื่อ) ( นายกรไกร ภมู ไิ สว ) ผู้อำนวยการโรงเรยี นบ้านสามขา หลกั สตู รโรงเรียนบ้านสามขา (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๑) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook