Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เอกสารแนวทางฯ_วิทยาการคำนวณ_ป.2

เอกสารแนวทางฯ_วิทยาการคำนวณ_ป.2

Published by baifernchaiin2505, 2020-09-09 00:43:48

Description: เอกสารแนวทางฯ_วิทยาการคำนวณ_ป.2

Keywords: เอกสารการสอน เทคโนโลยี วิทยาการคำนวณ

Search

Read the Text Version

แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ คาชี้แจง : ให้ผสู้ อนสังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ลงในช่องทต่ี รงกับระดับคะแนน คณุ ลกั ษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน อนั พงึ ประสงค์ด้าน 321 1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาติและรอ้ งเพลงชาตไิ ด้ 1. รักชาติ ศาสน์ 1.2 เข้ารว่ มกิจกรรมทส่ี ร้างความสามัคคีปรองดองและเป็นประโยชน์ตอ่ โรงเรยี น กษัตรยิ ์ 1.3 เขา้ รว่ มกิจกรรมทางศาสนาท่ีตนนับถอื ปฏิบตั ิตามหลกั ศาสนา 1.4 เข้ารว่ มกิจกรรมที่เกีย่ วกับสถาบันพระมหากษัตรยิ ์ตามทโ่ี รงเรียนจัดขนึ้ 2. ซ่อื สัตย์ สจุ รติ 2.1 ให้ขอ้ มลู ทีถ่ กู ต้องและเป็นจรงิ 3. มีวินยั รับผดิ ชอบ 2.2 ปฏบิ ัติในสงิ่ ทถี่ กู ต้อง 4. ใฝเ่ รยี นรู้ 3.1 ปฏบิ ัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบงั คับของครอบครัว 5. อย่อู ย่างพอเพียง มีความตรงต่อเวลาในการปฏบิ ัติกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวติ ประจาวัน 4.1 รู้จกั ใช้เวลาว่างให้เปน็ ประโยชน์และนาไปปฏิบัติได้ 6. มงุ่ มนั่ ในการทางาน 4.2 รจู้ ักจัดสรรเวลาใหเ้ หมาะสม 7. รกั ความเป็นไทย 4.3 เชือ่ ฟังคาสง่ั สอนของบดิ า-มารดา โดยไม่โตแ้ ยง้ 8. มจี ิตสาธารณะ 4.4 ตั้งใจเรียน 5.1 ใช้ทรพั ยส์ ินและสง่ิ ของของโรงเรียนอย่างประหยดั 5.2 ใช้อปุ กรณ์การเรยี นอย่างประหยดั และรูค้ ณุ ค่า 5.3 ใชจ้ า่ ยอยา่ งประหยัดและมีการเกบ็ ออมเงิน 6.1 มคี วามตั้งใจและพยายามในการทางานที่ได้รับมอบหมาย 6.2 มคี วามอดทนและไมท่ อ้ แทต้ ่ออปุ สรรคเพอ่ื ให้งานสาเร็จ 7.1 มีจติ สานึกในการอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย 7.2 เห็นคุณค่าและปฏิบตั ิตนตามวัฒนธรรมไทย 8.1 รจู้ ักชว่ ยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน 8.2 รจู้ ักการดแู ลรักษาทรัพย์สมบัติและสิ่งแวดล้อมของห้องเรยี นและโรงเรยี น เกณฑ์การให้คะแนน ลงช่อื .................................................. ผู้ประเมนิ พฤติกรรมที่ปฏบิ ตั ชิ ดั เจนและสมา่ เสมอ ............/.................../................ พฤติกรรมท่ปี ฏิบัติชัดเจนและบอ่ ยครง้ั พฤติกรรมทป่ี ฏิบตั ิบางครัง้ ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ให้ 2 คะแนน 51–60 ดีมาก ให้ 1 คะแนน 41–50 ดี 30–40 พอใช้ ตา่ กว่า 30 ปรับปรุง 48

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 1 การแกป้ ญั หาเบอื้ งต้น เวลา 1 ช่วั โมง 1. มาตรฐาน/ตัวชี้วัด 1.1 ตัวชี้วดั ว 4.2 ป. 2/1 แสดงลำดบั ขั้นตอนกำรทำงำน หรอื กำรแกป้ ัญหำอยำ่ งง่ำย โดยใช้ภำพ สัญลักษณ์ หรอื ข้อควำม 2. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธบิ ำยวธิ กี ำรแก้ปัญหำเบ้ืองตน้ แตล่ ะขั้นตอนได้ (K) 2. เขียนขัน้ ตอนกำรแกป้ ัญหำเบ้อื งต้นได้ (P) 3. สนใจใฝ่รูใ้ นกำรศกึ ษำ (A) 3. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรูท้ อ้ งถิน่ กำรแสดงขน้ั ตอนกำรแก้ปัญหำ ทำไดโ้ ดยกำรเขียน พจิ ำรณำตำมหลกั สูตรของสถำนศึกษำ บอกเล่ำ วำดภำพ หรือใชส้ ัญลกั ษณ์ 4. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด ในชีวิตประจำวันต้องพบเจอปัญหำต่ำง ๆ มำกมำย เชน่ กำรไปโรงเรียนสำย กำรลืมจดั กระเป๋ำนักเรยี น ดังนนั้ จึง ต้องมีกำรเรียนรขู้ ้นั ตอนกำรแกป้ ัญหำเบ้ืองตน้ เพ่ือใหส้ ำมำรถแก้ปญั หำได้อย่ำงถูกต้อง ถูกวิธี และรวดเร็ว 5. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี นและคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ควำมสำมำรถในกำรส่อื สำร 2. ควำมสำมำรถในกำรคิด 1. มวี นิ ัย 2. ใฝ่เรยี นรู้ 1) ทักษะกำรแก้ปญั หำ 3. มงุ่ มน่ั ในกำรทำงำน 2) ทกั ษะกำรสื่อสำร 3) ทกั ษะกำรคดิ เชิงคำนวณ 4) ทกั ษะกำรทำงำนร่วมกัน 5) ทกั ษะกำรสงั เกต 3. ควำมสำมำรถในกำรแก้ปัญหำ 4. ควำมสำมำรถในกำรใช้ทักษะชวี ิต 5. ควำมสำมำรถในกำรใช้เทคโนโลยี 6. กจิ กรรมการเรียนรู้  วธิ กี ำรสอนโดยเนน้ กำรจัดกำรเรยี นรู้แบบใชป้ ัญหำเป็นฐำน (problem-based learning) 49

ชั่วโมงที่ 1 ข้ันนำ 1. ครใู หน้ กั เรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี นหนว่ ยกำรเรียนรู้ท่ี 1 เรือ่ ง กำรแกป้ ัญหำอย่ำงเป็นข้นั ตอน เพ่ือวัดควำมรู้เดิมของ นกั เรยี นก่อนเข้ำสกู่ ิจกรรม 2. ครถู ำมกระตุ้นควำมสนใจของนกั เรยี นว่ำ “ถ้านักเรยี นจะไปโรงเรยี นใหท้ นั เวลา ตอ้ งทาอย่างไร” (แนวตอบ : คำตอบขึ้นอยู่กับดลุ ยพนิ จิ ของครูผสู้ อน) ขนั้ สอน ขนั้ ท่ี 1 กาหนดปัญหา 1. ครถู ำมนักเรยี นวำ่ “นักเรยี นคิดวา่ การหาขอ้ มูลมีความสาคญั อยา่ งไรตอ่ การแก้ปัญหา” (แนวตอบ : กำรหำข้อมูล เพ่ือใหส้ ำมำรถแก้ปัญหำทเ่ี กดิ ข้ึนไดอ้ ย่ำงถูกต้อง รวดเร็ว และได้ผลลพั ธ์ตำมที่ตอ้ งกำร) 2. ครูถำมนักเรยี นว่ำ “ในชีวิตประจาวันนักเรยี นพบปัญหาอะไรบา้ ง และนกั เรียนมีวธิ ีการแกไ้ ขปญั หาอยา่ งไร” (แนวตอบ : พิจำรณำคำตอบของนักเรยี น โดยขน้ึ อยู่กับดุลยพินจิ ของครูผ้สู อน) ขน้ั ท่ี 2 ทาความเข้าใจปัญหา ครใู หน้ กั เรยี นแตล่ ะคนวเิ ครำะห์ถึงสภำพปญั หำและแนวทำงกำรแกไ้ ขปญั หำของตนเอง ข้นั ที่ 3 ดาเนินการศึกษาคน้ คว้า 1. ครูให้นักเรยี นศกึ ษำข้ันตอนกำรแก้ปัญหำเบ้อื งต้นทงั้ 4 ขั้นตอน ในหนังสอื เรยี นรำยวิชำพน้ื ฐำน เทคโนโลยี (วทิ ยำกำร คำนวณ) ป.2 ดังนี้ 1. พจิ ำรณำและทำควำมเข้ำใจปญั หำ 2. วำงแผนกำรแก้ปญั หำ 3. ลงมือแกป้ ญั หำ 4. ตรวจสอบผล 2. ครอู ธบิ ำยเพิ่มเติมถงึ รำยละเอียดของขัน้ ตอนกำรแกป้ ัญหำเบอ้ื งต้น ดงั น้ี  พิจำรณำและทำควำมเข้ำใจปัญหำ คอื กำรวเิ ครำะหว์ ่ำปญั หำคืออะไร มีขอ้ มูลและเงอ่ื นไขอะไรบำ้ งท่ีเก่ยี วข้องกบั ปัญหำน้นั ๆ  วำงแผนกำรแกป้ ญั หำ คือ กำรกำหนดและจัดลำดบั ขั้นตอนส่งิ ทีต่ ้องกระทำเพ่ือแก้ปัญหำจำกข้อมูลท่ีไดร้ บั  ลงมือแก้ปัญหำ คือ กำรกระทำตำมข้ันตอนที่ไดว้ ำงแผนไวใ้ หป้ ระสบควำมสำเรจ็ ตำมเป้ำหมำย  ตรวจสอบผลกำรแกป้ ญั หำ คือ กำรตรวจสอบผลลพั ธ์วำ่ ตรงตำมแนวทำงกำรแก้ไขหรอื ไม่ หำกผลลัพธไ์ ม่เปน็ ไปตำม แนวทำงให้ดำเนนิ กำรปรับปรงุ ข้นั ตอนกำรแกป้ ญั หำอกี ครงั้ 3. จำกนน้ั ครใู หน้ กั เรยี นศึกษำสถำนกำรณต์ ัวอย่ำงในหนังสือเรียน 4. ให้นกั เรียนพิจำรณำและทำควำมเข้ำใจปญั หำของสถำนกำรณ์ โดยวิเครำะหว์ ่ำปญั หำคอื อะไร มขี ้อมลู และเง่อื นไขอะไรบ้ำง ทเ่ี กี่ยวขอ้ ง 5. ให้นักเรยี นศกึ ษำข้ันตอนกำรวำงแผนกำรแก้ปัญหำในหนังสือเรยี นว่ำ มีกำรกำหนดหรอื กำรจดั ลำดบั ข้นั ตอนเพื่อแก้ปัญหำ อย่ำงไร และศึกษำวิธีกำรลงมอื แกป้ ญั หำตำมข้นั ตอนทีไ่ ด้ไวใ้ ห้ประสบควำมสำเรจ็ ตำมท่ีกำหนดไว้ 6. ครใู หน้ ักเรยี นศึกษำกำรตรวจสอบผลกำรแกป้ ญั หำว่ำไดต้ รงตำมแนวทำงกำรแก้ไขหรอื ไม่ 7. ครอู ธบิ ำยเกร็ดน่ำรูใ้ นกำรแกป้ ัญหำตำ่ ง ๆ ในชวี ิตประจำวนั ขนั้ ที่ 4 สงั เคราะหค์ วามรู้ 1. ครใู หน้ กั เรียนทำกิจกรรมฝึกทักษะกำรแกป้ ญั หำเบื้องตน้ ในหนงั สือเรียน โดยให้นักเรยี นวิเครำะหส์ ถำนกำรณ์ และอธบิ ำย วธิ กี ำรแกป้ ญั หำเบอ้ื งต้นแต่ละข้ันตอน 2. ครสู ่มุ นักเรยี น 1-2 คน ออกมำอธบิ ำยวิธกี ำรแก้ปัญหำเบ้ืองตน้ แตล่ ะขนั้ ตอนหนำ้ ชัน้ เรียน 50

ขัน้ ท่ี 5 สรปุ และประเมินค่าของคาตอบ 1. ครูเปิดโอกำสใหน้ กั เรยี นซักถำมข้อสงสัย และครใู ห้ควำมร้เู พิม่ เติมในสว่ นน้ัน 2. ครมู อบหมำยใหน้ ักเรยี นทำใบงำนท่ี 1.1 เรอ่ื ง แกป้ ญั หำกนั ดีกว่ำ เปน็ กำรบำ้ นโดยให้นกั เรยี นนำปัญหำทีน่ กั เรียน พบในชวี ติ ประจำวัน แลว้ เขยี นอธบิ ำยวิธกี ำรแก้ปัญหำเบือ้ งต้นแต่ละขัน้ ตอนใหช้ ดั เจน ขน้ั ที่ 6 นาเสนอและประเมินผลงาน 1. ครูประเมินผล โดยกำรสังเกตกำรตอบคำถำม กำรทำผลงำน และสมดุ ประจำตวั 2. ครูตรวจสอบผลกำรทำใบงำนท่ี 1.1 และกจิ กรรมฝึกทักษะ ขั้นสรปุ ครูและนักเรียนร่วมกนั สรุปถึงขั้นตอนกำรแกป้ ัญหำเบ้ืองตน้ 7. การวัดและประเมนิ ผล รายการวดั วิธีวดั เครือ่ งมือ เกณฑ์การประเมนิ 7.1 กำรประเมนิ ก่อนเรียน - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบก่อนเรียน ประเมนิ ตำมสภำพจรงิ - แบบทดสอบก่อนเรียน ก่อนเรียน หนว่ ยกำรเรยี นรู้ที่ 1 เรือ่ ง กำรแก้ปญั หำ อย่ำงเปน็ ข้ันตอน 7.2 กำรประเมนิ ระหวำ่ งกำร - ใบงำนที่ 1.1 ร้อยละ 60 ผำ่ นเกณฑ์ จดั กิจกรรม 1) แก้ปัญหำกนั ดกี ว่ำ - ตรวจใบงำนท่ี 1.1 2) กจิ กรรมฝกึ ทักษะ - ตรวจสมดุ ประจำตวั - กจิ กรรมฝกึ ทักษะ ระดับคุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์ กำรแก้ปัญหำเบ้ืองต้น กำรแกป้ ญั หำเบ้ืองตน้ 3) พฤติกรรมกำรทำงำน - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดับคุณภำพ 2 ผำ่ นเกณฑ์ รำยบคุ คล กำรทำงำนรำยบุคคล กำรทำงำนรำยบุคคล 4) คณุ ลักษณะ - สงั เกตควำมมวี ินัย - แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ ระดบั คุณภำพ 2 ผ่ำนเกณฑ์ อันพึงประสงค์ ใฝเ่ รยี นรู้ และมงุ่ ม่ัน อนั พงึ ประสงค์ ในกำรทำงำน 8. สื่อ/แหลง่ การเรยี นรู้ 8.1 สอ่ื การเรยี นรู้ 1) หนังสือเรยี น รำยวชิ ำพน้ื ฐำน เทคโนโลยี (วทิ ยำกำรคำนวณ) ป.2 หนว่ ยกำรเรยี นรู้ที่ 1 เรื่อง กำรแกป้ ัญหำ อย่ำงเป็นข้ันตอน 2) ใบงำนที่ 1.1 เร่ือง แกป้ ัญหำกันดกี วำ่ 8.2 แหล่งการเรยี นรู้ - 51

ใบงานท่ี 1.1 เรอื่ ง แกป้ ัญหากนั ดีกวา่ คาชแ้ี จง : ให้นักเรียนบอกปัญหาทนี่ ักเรยี นพบในชีวิตประจาวนั และเขยี นข้ันตอนการแกป้ ัญหาเบือ้ งต้นให้ชัดเจน ปัญหาทน่ี ักเรียนพบในชีวิตประจาวัน คือ .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. มขี ้ันตอนการแกป้ ญั หาเบอื้ งตน้ ดงั นี้ 1. พิจารณาและทาความเข้าใจปัญหา 2. วางแผนการแก้ปญั หา ............................................................. ............................................................. ............................................................. ............................................................. ............................................................. ............................................................. ............................................................. ............................................................. ............................................................. ............................................................. ............................................................. ............................................................. 4. ตรวจสอบผลการแกป้ ญั หา 3. ลงมือแกป้ ญั หา ............................................................. ............................................................. ............................................................. ............................................................. ............................................................. ............................................................. ............................................................. ............................................................. ............................................................. ............................................................. ............................................................. ............................................................. 52

ใบงานที่ 1.1 เฉลย เรอ่ื ง แกป้ ญั หากันดกี วา่ คาชแ้ี จง : ใหน้ กั เรียนบอกปัญหาที่นักเรยี นพบในชีวติ ประจาวนั และเขยี นขั้นตอนการแก้ปญั หาเบ้ืองต้นให้ชัดเจน ปญั หาท่นี ักเรยี นพบในชีวติ ประจาวัน คอื .............................................................ม...า.โ..ร.ง..เ.ร..ยี ..น..ส..า..ย............................................................. .............................................................................................................................................. มีขนั้ ตอนการแกป้ ญั หาเบอ้ื งต้น ดังนี้ 1. พจิ ารณาและทาความเข้าใจปัญหา 2. วางแผนการแกป้ ญั หา ...ม..า..โ.ร.ง..เ.ร.ยี..น..ส..า..ย..เ.พ..ร.า..ะ..ไ.ม..่ย..อ..ม..ท..า.ก..า..ร.บ..้า..น......... ...ร..ีบ..ท..า..ก..า.ร..บ..้า.น..ห..ล..งั..จ..า.ก..เ.ล..ิก..เ.ร.ีย..น.................... ...ห..ล..ัง.จ..า..ก..เ.ล..กิ .เ.ร..ีย..น...จ..ึง.ท..า..ใ.ห..้ต..อ้..ง..น..อ..น..ด.กึ............ ...แ..ล..ะ..เ.ข..า้ .น..อ..น..เ.ร..็ว...จ.ะ..ท..า..ใ.ห..ม้..า..โ.ร.ง..เ.ร.ีย..น.............. ...แ..ล..ะ..ท..า.ใ.ห...้ม..า.โ.ร..ง.เ.ร..ีย..น..ส..า.ย............................ ...ไ.ด..ท้...ัน..เ.ว.ล..า.............................................. ............................................................. ............................................................. ............................................................. ............................................................. ............................................................. ............................................................. 4. ตรวจสอบผลการแกป้ ัญหา 3. ลงมือแกป้ ญั หา ...ต..ร.ว..จ..ส..อ..บ..ผ..ล.ว..่า..เ.ม..อ่ื .เ.ข..า้..น..อ..น..เ.ร.็.ว.................... ...ล..ง..ม..ือ..แ.ก..้ป..ัญ...ห..า..ต..า.ม..แ..น..ว..ท..า.ง..ท..ี่ก..า.ห...น..ด............ ............................................................. ...จ..ะ.ท..า..ใ.ห..้ม..า..โ.ร..ง.เ.ร..ยี .น...ไ.ด..ท้ ..นั ..เ.ว..ล.า..ห..ร..ือ..ไ.ม..่ ........... ............................................................. ............................................................. ............................................................. ............................................................. ............................................................. ............................................................. ............................................................. ............................................................. 53

9 ความเห็นของผูบ้ ริหารสถานศกึ ษาหรอื ผทู้ ่ีไดร้ ับมอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงชื่อ ................................. ) ( ................................ ตาแหนง่ ....... 10. บนั ทกึ ผลหลงั การสอน  ดา้ นความรู้  ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น  ดา้ นคุณลักษณะอันพึงประสงค์  ดา้ นความสามารถทางเทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ)  ดา้ นอน่ื ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤตกิ รรมที่มีปัญหาของนักเรียนเปน็ รายบคุ คล (ถ้าม)ี )  ปัญหา/อุปสรรค  แนวทางการแกไ้ ข 54

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 2 การแสดงขัน้ ตอนการแกป้ ญั หา เวลา 2 ชั่วโมง 1. มาตรฐาน/ตวั ชี้วัด 1.1 ตวั ชี้วดั ว 4.2 ป. 2/1 แสดงลำดบั ขนั้ ตอนกำรทำงำน หรอื กำรแก้ปญั หำอย่ำงง่ำยโดยใช้ภำพ สัญลกั ษณ์ หรือข้อควำม 2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. บอกกำรแสดงขน้ั ตอนในกำรแกป้ ัญหำได้ (K) 2. เขยี นบอกเลำ่ แสดงขน้ั ตอนกำรแก้ปัญหำได้ (P) 3. วำดภำพแสดงขนั้ ตอนกำรแก้ปญั หำได้ (P) 4. เขยี นผงั งำนอย่ำงง่ำยแสดงข้ันตอนกำรแกป้ ัญหำได้ (P) 5. เห็นควำมสำคัญของกำรแกป้ ัญหำ (A) 3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง สาระการเรยี นร้ทู อ้ งถ่นิ กำรแสดงข้นั ตอนกำรแก้ปัญหำ ทำได้โดยกำรเขียน พจิ ำรณำตำมหลกั สูตรของสถำนศกึ ษำ บอกเล่ำ วำดภำพ หรือใชส้ ญั ลักษณ์ 4. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด กำรแกป้ ัญหำทีด่ จี ะตอ้ งมกี ำรวำงแผนกำรแกป้ ญั หำ และมีกำรถ่ำยทอดควำมคิดในกำรแก้ปัญหำออกมำเป็นลำดับข้ันตอน เพ่ือให้ง่ำยต่อกำรทำควำมเข้ำใจ และตรวจสอบควำมถูกต้องหรือกลับไปแก้ไขได้ โดยกำรแสดงขั้นตอนกำรแก้ปัญหำ สำมำรถ ทำได้โดยกำรเขยี นบอกเลำ่ กำรวำดภำพ หรือใชส้ ัญลักษณ์ 5. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียนและคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ควำมสำมำรถในกำรสอ่ื สำร 2. ควำมสำมำรถในกำรคิด 1. มวี นิ ัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 1) ทกั ษะกำรแกป้ ัญหำ 3. มงุ่ มัน่ ในกำรทำงำน 2) ทักษะกำรสื่อสำร 3) ทักษะกำรคิดเชงิ คำนวณ 4) ทักษะกำรทำงำนรว่ มกัน 5) ทกั ษะกำรสังเกต 3. ควำมสำมำรถในกำรแกป้ ัญหำ 4. ควำมสำมำรถในกำรใชท้ ักษะชวี ติ 5. ควำมสำมำรถในกำรใชเ้ ทคโนโลยี 6. กจิ กรรมการเรียนรู้  วธิ กี ำรสอนโดยเนน้ กำรจัดกำรเรียนรู้แบบใชป้ ัญหำเป็นฐำน (problem-based learning) 55

ช่ัวโมงท่ี 1 ข้นั นา ครูถามคาถามประจาหัวขอ้ วา่ “การแสดงลาดับขั้นตอนช่วยในการแก้ปญั หาอยา่ งไร” (แนวตอบ : เปน็ การถ่ายทอดความคดิ ออกมาเป็นลาดับขัน้ ตอน เพอ่ื ใหง้ ่ายต่อการทาความเข้าใจและตรวจสอบ) ขน้ั สอน ขน้ั ที่ 1 กำหนดปัญหำ ครใู ชค้ าถามทา้ ทายความคิดนกั เรยี นว่า “นักเรียนรู้จักวธิ กี ารทอดไข่เจียวหรอื ไม่” (แนวตอบ : ขน้ึ อย่กู บั ดลุ ยพินิจของนักเรียน) ขั้นที่ 2 ทำควำมเขำ้ ใจปญั หำ ครูใหน้ ักเรียนจบั คู่แลว้ แลกเปลยี่ นวธิ กี ารทอดไข่เจยี ว ขัน้ ท่ี 3 ดำเนินกำรศึกษำค้นคว้ำ 1. ครูใหน้ กั เรียนศกึ ษาการแสดงขัน้ ตอนการแก้ปัญหาในหนังสือเรยี น รายวิชาพ้นื ฐาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ป.2 2. ครใู ห้นักเรียนศกึ ษาและทาความเข้าใจขัน้ ตอนตา่ ง ๆ เกีย่ วกบั การเขียนบอกเล่าและการวาดภาพ แสดงลาดบั ข้ันตอนการ แก้ปัญหา โดยนาขอ้ ความจากการเขียนบอกเล่ามาทาเป็นรปู ภาพ 3. ครใู หน้ กั เรียนแบง่ กลมุ่ กลมุ่ ละ 4-5 คน เพอ่ื ทาการระดมความคิดเห็นในการแสดงขั้นตอนการแกป้ ัญหาการทอดไข่เจียว โดยใหอ้ อกมาในรปู แบบการเขยี นบอกเลา่ เพอ่ื แสดงลาดับขั้นตอน ขน้ั ที่ 4 สงั เครำะห์ควำมรู้ 1. ครใู หน้ กั เรยี นนาลาดับข้ันตอนการทอดไข่เจยี วแบบการเขยี นบอกเลา่ ทาให้ออกมาในรูปแบบของการวาดภาพแสดงข้ันตอน การแก้ปัญหา โดยการเปลยี่ นจากขอ้ ความใหเ้ ปน็ รูปภาพ เพ่ือใหน้ ักเรยี นเข้าใจมากย่งิ ข้ึน 2. จากนั้นครูให้นักเรยี นนาการแสดงขั้นตอนการแก้ปัญหาการทอดไข่เจียวดว้ ยวิธกี ารเขียนบอกเล่าและการวาดภาพ มาทาลง ในใบงานที่ 1.2 เร่ือง การแสดงขัน้ ตอนการแก้ปญั หา และสุ่มให้นกั เรยี น 2-3 กล่มุ ออกมานาเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน ช่ัวโมงท่ี 2 ขน้ั สอน ขน้ั ที่ 1 ทำควำมเข้ำใจปญั หำ 1. ครูทบทวนเนื้อหาการเรียนเมอื่ ชัว่ โมงที่แล้ว 2. ครูหยิบยกคาถามชั่วโมงที่แล้ววา่ “นักเรยี นร้จู กั วิธีการทอดไขเ่ จียวหรอื ไม่” (แนวตอบ : ขึ้นอยู่กับดุลยพนิ จิ ของครผู ู้สอน) ขน้ั ท่ี 2 ดำเนินกำรศกึ ษำคน้ คว้ำ 1. ครูอธิบายว่า “การแสดงขั้นตอนการแก้ปัญหานอกจากวธิ ีการเขียนบอกเลา่ และการวาดภาพ ยงั มกี ารแสดงขั้นตอนการ แก้ปัญหาโดยการใชส้ ัญลักษณ์” 2. ครูให้นกั เรยี นศึกษาการใชส้ ัญลักษณ์แสดงขน้ั ตอนการแกป้ ัญหาในหนงั สือเรียน 56

3. ครอู ธบิ ายสัญลกั ษณ์ทใี่ ช้ในการเขียนผงั งานอย่างง่ายโดยใช้บัตรภาพ เร่อื ง สัญลกั ษณ์ของผังงานอยา่ งงา่ ย เพ่อื ให้ นักเรยี นได้เขา้ ใจมากยิ่งขึ้น โดยมีสญั ลักษณข์ องผังงานอยา่ งงา่ ยทน่ี กั เรียนควรร้อู ยู่ 4 สัญลักษณ์ ดงั นี้ สัญลกั ษณ์ ควำมหมำย เรม่ิ ตน้ หรือสิ้นสุด การทางาน การตดั สินใจ การทางาน ทศิ ทางข้อมลู 4. ครูใหน้ กั เรยี นศึกษาการเขียนสัญลกั ษณล์ งในผงั งานอย่างง่าย โดยให้นกั เรียนทาความเข้าใจกับผงั แสดงข้ันตอนการ แก้ปญั หาในหนงั สอื เรยี น 5. จากนนั้ ครูใหน้ ักเรียนศึกษาสถานการณ์ตัวอยา่ งจากหนังสอื เรียนโดยวเิ คราะหป์ ญั หาและแนวทางการแก้ไขรว่ มกัน ข้ันที่ 3 สังเครำะหค์ วำมรู้ 1. ครใู หน้ กั เรียนทากิจกรรมฝึกทกั ษะการแสดงขั้นตอนการแกป้ ญั หาในหนังสือเรยี น 2. จากนนั้ ครูใหน้ ักเรยี นจับกล่มุ ตามเดมิ เเละทาใบงานท่ี 1.2 เรอื่ ง การเขยี นแผนงาน โดยให้นักเรียนเขียนแผนงาน การทอดไขเ่ จยี ว 3. จากนน้ั ครสู ่มุ นกั เรยี น 2-3 คน ออกมานาเสนอผลงานหน้าชน้ั เรยี น ข้ันท่ี 4 สรุปและประเมนิ ค่ำของคำตอบ ครเู ปดิ โอกาสใหน้ ักเรยี นซักถามข้อสงสยั และครูใหค้ วามร้เู พิ่มเติมในสว่ นน้นั หรืออาจจะใหน้ ักเรยี นศกึ ษาเพมิ่ เตมิ จาก แหล่งข้อมลู สารสนเทศ ขน้ั ที่ 5 นำเสนอและประเมินผลงำน 1. ครปู ระเมินผลโดยการสงั เกตการตอบคาถาม การทาผลงาน และสมุดประจาตัว 2. ครตู รวจสอบผลการทาใบงานท่ี 1.2 ใบงานท่ี 1.3 และกจิ กรรมฝกึ ทักษะ ขัน้ สรุป ครูและนกั เรียนร่วมกันสรุปถงึ การแสดงขัน้ ตอนการแก้ปัญหาที่สามารถทาไดโ้ ดยการเขยี นบอกเลา่ วาดภาพ หรอื ใช้สญั ลกั ษณ์ 57

7. การวัดและประเมนิ ผล วธิ วี ดั เครือ่ งมอื เกณฑ์การประเมนิ รายการวดั 7.1 การประเมนิ ระหว่างการ - ใบงานท1ี่ .2 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ จดั กจิ กรรม ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 1) การแสดงขัน้ ตอนการ - ตรวจใบงานที่1.2 - ใบงานที่1.3 ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ แก้ปญั หา - กิจกรรมฝึกทักษะ 2) การเขยี นแผนงาน - ตรวจใบงานที่1.3 การแสดงข้นั ตอน ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ การแก้ปญั หา 3) กิจกรรมฝึกทกั ษะ - ตรวจสมุดประจาตวั - ผลงานทน่ี าเสนอ การแสดงขั้นตอน การแกป้ ัญหา 4) การนาเสนอผลงาน - ประเมินการนาเสนอ ผลงาน 5) พฤติกรรมการทางาน - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ รายบคุ คล การทางานรายบุคคล การทางานรายบุคคล ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 6) พฤติกรรมการทางาน - สังเกตพฤติกรรม การทางานกลุ่ม กลมุ่ การทางานกลุ่ม - แบบประเมินคุณลกั ษณะ อันพงึ ประสงค์ 7) คณุ ลกั ษณะ - สังเกตความมีวินัย อันพงึ ประสงค์ ใฝเ่ รียนรู้ และมงุ่ ม่ัน ในการทางาน 8. สือ่ /แหล่งการเรยี นรู้ 8.1 ส่อื การเรยี นรู้ 1) หนังสือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ป.2 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 เร่อื ง การแกป้ ญั หาอยา่ งเป็นขน้ั ตอน 2) ใบงานที่ 1.2 เรื่อง การแสดงข้นั ตอนการแก้ปัญหา 3) ใบงานท่ี 1.3 เรอ่ื ง การเขยี นแผนงาน 4) บตั รภาพ เร่อื ง สัญลักษณ์ของผงั งานอยา่ งง่าย 8.2 แหลง่ การเรยี นรู้ แหล่งข้อมลู สารสนเทศ 58

ใบงานที่ 1.2 เรอื่ ง การแสดงข้ันตอนการแกป้ ญั หา คาชีแ้ จง : ใหน้ กั เรียนแสดงลาดับขั้นตอนการทอดไขเ่ จียวโดยการเขยี นบอกเล่า และการวาดภาพ ขัน้ ตอนการทอดไขเ่ จยี วโดยการเขยี นบอกเล่า ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................ ข้ันตอนการทอดไข่เจยี วโดยการวาดภาพ 59

ใบงานที่ 1.2 เฉลย เรอื่ ง การแสดงขั้นตอนการแก้ปญั หา คาชี้แจง : ใหน้ ักเรยี นแสดงลาดับขนั้ ตอนการทอดไข่เจียวโดยการเขยี นบอกเลา่ และการวาดภาพ ขัน้ ตอนการทอดไข่เจยี วโดยการเขียนบอกเล่า .....1.....ต...อ..ก..ไ.ข..่ใ..ส..ช่ ..า.ม................................................................................................................................ .....2.....ใ..ส..่เ.ค..ร..อ่ื ..ง..ป..ร..งุ .ร..ส..ท...่ีต..้อ..ง.ก..า..ร............................................................................................................... .....3.....ต...ีไ.ข..ผ่ ..ส..ม..ใ..ห..้เ.ข..า้ ..ก..นั .......................................................................................................................... .....4.....ต...ัง้ .ก..ร..ะ..ท..ะ..แ..ล..้ว..เ.ท...น..า้..ม..ัน................................................................................................................... .....5....น...า.ไ..ข..่เ.ท..ล..ง..ใ.น...ก..ร..ะ.ท...ะ...................................................................................................................... .....6.....ก...ล..ับ..ด..า้..น..ไ..ข..่ ................................................................................................................................ .....7.....ต...ัก..ใ.ส..่จ..า..น..เ.ส..ริ..ฟ์.............................................................................................................................. .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... ขนั้ ตอนการทอดไข่เจียวโดยการวาดภาพ 2 3 1 4 7 65 60

ใบงานท่ี 1.3 เรื่อง การเขียนแผนงาน คาช้แี จง : ใหน้ ักเรยี นแสดงลาดบั ข้นั ตอนการทอดไขเ่ จียวโดยการเขียนแผนงาน เร่มิ ต้น 61

ใบงานท่ี 1.3 เฉลย เรือ่ ง การเขยี นแผนงาน คาชี้แจง : ใหน้ ักเรยี นแสดงลาดับข้นั ตอนการทอดไข่เจียวโดยการเขียนแผนงาน เริม่ ต้น 1. ตอกไขใ่ ส่ชาม 2. ใส่เครือ่ งปรงุ รสท่ีต้องการ 3. ตีไข่ผสมใหเ้ ขา้ กัน 4. ตั้งกระทะแลว้ เทน้ามนั 5. นาไข่เทลงในกระทะ 6. กลับด้านไข่ 7. ตักใส่จานเสริ ฟ์ สนิ้ สดุ 62

บตั รภาพ  เรอ่ื ง สญั ลกั ษณ์ของผังงานอย่างงา่ ย เริ่มต้นหรอื สนิ้ สุดการทางาน การตดั สินใจ การทางาน ทิศทางขอ้ มลู 63

9 ความเห็นของผบู้ ริหารสถานศึกษาหรอื ผูท้ ไ่ี ด้รับมอบหมาย ข้อเสนอแนะ ลงช่อื ................................. ( ................................ ) ตาแหนง่ ....... 10. บนั ทกึ ผลหลงั การสอน  ด้านความรู้  ด้านสมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น  ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์  ด้านความสามารถทางเทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ)  ด้านอนื่ ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤตกิ รรมที่มีปัญหาของนกั เรยี นเปน็ รายบคุ คล (ถ้าม)ี )  ปัญหา/อุปสรรค  แนวทางการแก้ไข 64

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 3 การหารปู แบบของปัญหาอย่างงา่ ย เวลา 1 ชั่วโมง 1. มาตรฐาน/ตวั ชว้ี ัด 1.1 ตวั ช้ีวัด ว 4.2 ป.2/1 แสดงลำดบั ข้ันตอนกำรทำงำน หรอื กำรแกป้ ัญหำอยำ่ งง่ำยโดยใชภ้ ำพ สญั ลกั ษณ์ หรือขอ้ ควำม 2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธิบำยกำรหำรปู แบบของปัญหำอย่ำงง่ำยได้ (K) 2. อธบิ ำยขั้นตอนกำรแกป้ ัญหำเกมตัวต่อได้ (K) 3. ปฏิบตั ิตำมขัน้ ตอนกำรแก้ปญั หำเกมตวั ต่อได้ (P) 4. สนใจใฝ่รใู้ นกำรศึกษำ (A) 3. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนรทู้ อ้ งถ่ิน พจิ ำรณำตำมหลักสตู รของสถำนศกึ ษำ สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง - กำรแสดงขัน้ ตอนกำรแก้ปัญหำทำได้โดยกำรเขียน บอกเลำ่ วำดภำพ หรือใชส้ ัญลักษณ์ - ปัญหำอย่ำงงำ่ ย เชน่ เกมตวั ต่อ 6-12 ชน้ิ กำรแต่งตวั มำโรงเรยี น 4. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด เมื่อเกิดปญั หำจงึ ต้องมีกำรหำรูปแบบของปญั หำ เป็นกำรหำควำมสัมพนั ธข์ องปัญหำ โดยกำรเปรียบเทียบ จัดกลุม่ เรยี งลำดับ เพอ่ื ชว่ ยให้สำมำรถแกป้ ัญหำไดง้ ่ำยขึ้น 5. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียนและคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รียน คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ควำมสำมำรถในกำรสอ่ื สำร 2. ควำมสำมำรถในกำรคิด 1. มีวนิ ยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 1) ทักษะกำรแกป้ ัญหำ 3. มงุ่ มั่นในกำรทำงำน 2) ทกั ษะกำรส่ือสำร 3) ทกั ษะกำรคดิ เชิงคำนวณ 4) ทักษะกำรทำงำนรว่ มกัน 5) ทักษะกำรสังเกต 3. ควำมสำมำรถในกำรแกป้ ัญหำ 4. ควำมสำมำรถในกำรใชท้ ักษะชวี ติ 5. ควำมสำมำรถในกำรใช้เทคโนโลยี 6. กิจกรรมการเรียนรู้  วธิ ีกำรสอนโดยเนน้ รปู แบบกำรสอนแบบสบื เสำะหำควำมรู้ (5Es Instructional Model) 65

ขนั้ นา ชว่ั โมงที่ 1 กระตุ้นความสนใจ (Engagement) 1. ครูถามคาถามประจาหวั ข้อวา่ “รปู แบบของปัญหามีผลต่อการแกป้ ัญหาอยา่ งไร” (แนวตอบ : เป็นการหาความสัมพนั ธ์ของปัญหาโดยการเปรยี บเทียบ จัดกลมุ่ เรยี งลาดบั เพ่ือชว่ ยให้สามารถแก้ปัญหาได้งา่ ย) 2. จากนั้นครูนาบตั รภาพเกมตัวต่อ ให้นกั เรียนไดด้ พู ร้อมถามนักเรียนว่า “นักเรยี นรู้จักเกมน้ีหรอื ไม”่ (แนวตอบ : คาตอบขึ้นอยูก่ บั ดลุ ยพนิ จิ ของนกั เรยี น) 3. ครใู ห้นกั เรยี นแบง่ กลุ่ม กลุม่ ละ 4 คน เพื่อเลน่ เกมตัวตอ่ ข้นั สอน สารวจคน้ หา (Exploration) ครมู อบหมายให้นักเรยี นเลน่ เกมตัวตอ่ โดยครแู จกบัตรภาพเกมตัวตอ่ ใหน้ กั เรียนกลมุ่ ละ 4 แผ่น และใหเ้ วลาในการเลน่ เกม ตามความเหมาะสม กลุ่มใดทากิจกรรมสาเรจ็ ก่อนกล่มุ น้ันจะเปน็ ผ้ชู นะ และทกุ กลุม่ จะต้องจดระยะเวลาในการเลน่ เกมตวั ตอ่ อธิบายความรู้ (Explaination) 1. ครใู ห้นักเรียนกลุ่มท่ีชนะออกมาอภิปรายหน้าช้นั เรียนเก่ียวกับวิธีการคดิ ในการเลน่ เกมตัวตอ่ 2. ครูใหน้ ักเรยี นศึกษาการหารูปแบบของปัญหาอย่างง่ายในหนังสือเรียน รายวิชาพนื้ ฐาน (วทิ ยาการคานวณ) ป.2 โดยการหา รปู แบบของปญั หาเป็นการหาความสัมพนั ธป์ ัญหาโดยการเปรยี บเทียบ จัดกลุ่ม เรียงลาดับ เพ่ือช่วยในการแก้ปัญหาได้ง่ายข้ึน 3. ครูให้นกั เรยี นศึกษาวธิ ีการคดิ ในการเล่นเกมตวั ต่อในหนังสือเรียน เพื่อทจ่ี ะเลน่ เกมตัวต่อได้ถกู ต้องและถูกวิธี 4. ครูอธิบายเกรด็ น่ารู้ในการเลน่ เกมตวั ต่อวา่ “การฝึกต่อจกิ ซอวบ์ อ่ ย ๆ จะทาใหน้ ักเรยี นไดฝ้ ึกใชท้ ักษะในการหารปู แบบของ ปญั หาช่วยใหม้ สี มาธิ รจู้ กั สังเกต และมีความอดทน” ขยายความเขา้ ใจ (Elaboration) 1. ครูใหน้ กั เรยี นแต่ละคนทากิจกรรมฝกึ ทกั ษะเกมตัวต่อในหนังสอื เรียนลงในสมุดเพื่อตรวจสอบความเข้าใจ 2. ครูให้นักเรยี นจดั กลุ่มตามเดมิ เพื่อเลน่ เกมตัวตอ่ โดยใช้บัตรภาพเกมตวั ต่อท้ัง 4 แผน่ โดยใช้แนวทางตามหนังสือเรียน และมี กตกิ าตามเดิมว่า กลมุ่ ใดทีท่ ากิจกรรมสาเรจ็ ก่อนกลุ่มนัน้ จะเป็นผ้ชู นะ 3. จากนั้นครูให้นกั เรยี นอภิปรายร่วมกนั เพ่ือทาการเปรียบเทยี บคะแนนการเล่มเกมตัวต่อ 4. ครูให้นักเรียนทาความเข้าใจกับรูปแบบของปัญหาอย่างง่ายอีกแบบ น่นั คือ การเขยี นขั้นตอนแบบเรยี งลาดับ โดยใหน้ กั เรียน ดูขน้ั ตอนการแต่งกายมาโรงเรียนจากหนงั สือเรียน 5. ครถู ามคาถามท้าทายการคดิ ข้นั สูงวา่ “ในการเลอื กเสื้อผ้าเคร่ืองแตง่ กายไปโรงเรียนในแต่ละวนั ให้ถูกต้อง นกั เรียนควร คานึงถงึ ส่งิ ใดบ้าง” (แนวตอบ : ความสะอาด ความเรยี บร้อย ความเหมาะสม และความถูกตอ้ ง) 6. ครูให้นกั เรียนทากจิ กรรมฝกึ ทกั ษะการแต่งกายมาโรงเรียนในหนังสอื เรยี น ตรวจสอบผล (Evaluation) 1. ครปู ระเมนิ ผล โดยการสงั เกตการตอบคาถาม การร่วมกันทาผลงาน และจากการนาเสนอผลงาน 2. ครตู รวจสอบผลการทาแบบฝกึ หดั กจิ กรรมฝึกทกั ษะ และกจิ กรรมเสริมสรา้ งการเรียนรู้ 66

ขน้ั สรุป 1. ครใู หน้ ักเรียนทาแบบทดสอบหลังเรียน หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 เร่ือง การแก้ปญั หาอย่างเปน็ ขน้ั ตอนครแู ละนกั เรียนร่วมกัน สรปุ สาระสาคญั ของหนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 2. ครูมอบหมายใหน้ ักเรียนทากิจกรรมเสรมิ สรา้ งการเรยี นรใู้ นหนงั สอื เรียน 3. ครมู อบหมายใหน้ กั เรียนทาช้นิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง การแกป้ ัญหา โดยใหน้ ักเรยี นเลือกปัญหาที่กาหนดให้ จากนั้น ให้นกั เรียนเลือกแสดงข้นั ตอนการแก้ปญั หาซ่ึงสามารถทาได้ โดยการเขยี นบอกเล่า วาดภาพ หรือใชส้ ญั ลักษณ์ และนามาส่ง ในช่ัวโมงถดั ไป 7. การวัดและประเมินผล วิธวี ดั เคร่อื งมอื เกณฑก์ ารประเมิน รายการวัด 7.1 การประเมนิ ระหว่างการ - ตรวจสมดุ ประจาตวั - กิจกรรมฝึกทักษะเกมตัวต่อ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ จดั กิจกรรม 1) กิจกรรมฝึกทักษะ เกมตวั ตอ่ 2) กจิ กรรมฝึกทักษะ - ตรวจสมุดประจาตวั - กิจกรรมฝกึ ทักษะเกมตวั ตอ่ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ การแตง่ กายมา โรงเรยี น 3) การนาเสนอผลงาน - ประเมนิ การนาเสนอผลงาน - ผลงานทีน่ าเสนอ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ 4) พฤติกรรมการทางาน - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ รายบุคคล การทางานรายบุคคล การทางานรายบุคคล 5) พฤติกรรมการทางาน - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ กลุ่ม การทางานกลุ่ม การทางานกลุ่ม 6) คุณลกั ษณะ - สงั เกตความมีวนิ ยั - แบบประเมินคุณลกั ษณะ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ อนั พึงประสงค์ ใฝ่เรยี นรู้ และมงุ่ มั่น อันพึงประสงค์ ในการทางาน 7.2 การประเมนิ หลังเรียน - ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี น - แบบทดสอบหลังเรียน ประเมินตามสภาพจรงิ - แบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 การแก้ปัญหาอย่างเป็น ข้ันตอน - กจิ กรรมเสรมิ สร้าง - ประเมินการปฏิบตั ิกจิ กรรม - กจิ กรรมเสรมิ สร้างการเรียนรู้ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ การเรียนรู้ เสริมสรา้ งการเรยี นรู้ - การประเมินชน้ิ งาน/ - ตรวจช้นิ งาน/ภาระงาน - แบบประเมินชนิ้ งาน/ภาระงาน ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ภาระงาน (รวบยอด) (รวบยอด) (รวบยอด) เร่อื ง การแก้ปัญหา 67

8. สื่อ/แหลง่ การเรียนรู้ 8.1 สอ่ื การเรยี นรู้ 1) หนังสอื เรียน รายวชิ าพน้ื ฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ป.2 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 เรอื่ ง การแกป้ ญั หาอย่างเปน็ ขัน้ ตอน 2) บตั รภาพ เรอื่ ง เกมตัวตอ่ 8.2 แหลง่ การเรยี นรู้ 1) หอ้ งสมดุ 2) สื่ออินเทอร์เน็ต 68

บตั รภาพ  เร่ือง เกมตัวตอ่ 69

 70

ช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรือ่ ง การแก้ปัญหา คาช้ีแจง : ใหน้ กั เรยี นเลอื กปัญหาท่ีกาหนดให้ 1 ปัญหา จากนัน้ ให้นักเรยี นแสดงข้ันตอนการแก้ปญั หา ซง่ึ สามารถทาได้โดย การเขียนบอกเลา่ วาดภาพ หรอื ใช้สัญลักษณ์ 1. ปญั หาขึ้นรถโรงเรียนไม่ทัน 2. ปญั หาการหาหนังสือทตี่ ้องการไมพ่ บในห้องสมดุ 3. ปญั หามีการปวดท้องท่โี รงเรยี น 1. นักเรียนเลอื กปัญหาใด ……………………………………………………………………………………………………… 2. นกั เรียนเลอื กวธิ กี ารแสดงขนั้ ตอนการแกป้ ญั หาแบบใด ................................................................... 3. จงแสดงขนั้ ตอนการแก้ปัญหา 71

ช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) เฉลย เร่ือง การแก้ปญั หา คาช้ีแจง : ใหน้ กั เรียนเลอื กปัญหาที่กาหนดให้ 1 ปัญหา จากน้นั ให้นักเรยี นแสดงข้นั ตอนการแกป้ ญั หา ซง่ึ สามารถทาไดโ้ ดย การเขียนบอกเลา่ วาดภาพ หรอื ใช้สัญลักษณ์ 1. ปญั หาขนึ้ รถโรงเรียนไม่ทัน 2. ปัญหาการหาหนังสือทต่ี ้องการไมพ่ บในห้องสมดุ 3. ปญั หามีอาการปวดท้องที่โรงเรยี น 1. นักเรียนเลอื กปัญหาใด …………ป…ัญ…หา…ม…ีอ…าก…า…รป…ว…ด…ท้อ…ง…ท…ี่โร…งเ…รีย…น………………………………………………… 2. นักเรยี นเลอื กวิธีการแสดงข้นั ตอนการแก้ปญั หาแบบใด ...........ก..า..ร..เ.ข..ีย..น...บ..อ...ก..เ.ล..่า................................ 3. จงแสดงขนั้ ตอนการแก้ปญั หา ขน้ั ตอนการแก้ปัญหาอาการปวดท้องทโ่ี รงเรียน 1. แจง้ ครทู ี่ปรึกษาทราบ 2. ไปทหี่ ้องพยาบาล 3. แจ้งอาการครปู ระจาห้องพยาบาล 4. รบั ประทานยาแกอ้ าการปวดทอ้ ง 5. นอนพักผ่อน หากอาการไม่ดีขึน้ ใหร้ บี แจง้ ครปู ระจาหอ้ งพยาบาล 72

9 ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศึกษาหรอื ผทู้ ีไ่ ดร้ บั มอบหมาย ข้อเสนอแนะ ลงชอ่ื ................................. ( ................................ ) ตาแหนง่ ....... 10. บนั ทึกผลหลงั การสอน  ดา้ นความรู้  ดา้ นสมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น  ด้านคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์  ด้านความสามารถทางเทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ)  ดา้ นอื่น ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤติกรรมทม่ี ปี ญั หาของนักเรยี นเปน็ รายบคุ คล (ถ้าม)ี )  ปัญหา/อุปสรรค  แนวทางการแกไ้ ข 73

คมู่ ือครู 01 02 06 03 รายวิชาพ้ืนฐาน (เทวทคิ ยโนาโกลายรี คาํ นวณ) ป.2ตามมาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตัวชว้ี ัด 05 กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560) 04 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551 หลักตสวัตู อรยป่ารงบั ปรุง’60 แจกฟรีM;*S LYO_EWD;ETDI-V T@Yh;2T;IV9DTJTL7เฉEพาะครูผูส้ อน ( ʏɿΥ ʊʘɩʘʋɬʚɿʙɬʁʜʁʏʜɻʍʊ)Φ Ë¹§Ñ ÊÍ× àÃÕ¹ à·¤â¹âÅÂÕ (Ç·Ô ÂÒ¡ÒäÒí ¹Ç³) ». 1 M;*S LOY _EDW ;ETDI-V T@;hY 2T; -;hS =ER8CJX$KT=9 Wg 2 $GCZ LTER$TE_EDW ;E[I9V DTJTL77TECC¤T,7<ES<2=T;E$S<T=EE_E*Z DW;@Eª`[JGªR275IS 6-0hWIS6) _9'a;aGDW¤I9V DT$TE'U;I5¥=ª® ʃ˺2 7TCMGS$L7[ E`$;$GT*$TEJX$KT%h;S @;hY 2T;@9Z :J$S ET-®±±­ คมู่ อื ครู อจท. ใช้ประกอบการสอนคกู่ ับหนังสือเรยี น เพ่ิม คำแนะนำการใช้ เพ่ิม คำอธบิ ายรายวิชา เพ่ิม Pedagogy เพมิ่ Teacher Guide Overview เพม่ิ Chapter Overview เพิ่ม Chapter Concept Overview เพ่ิม เพ่มิ ข้อสอบเน้นการคดิ กจิ กรรม 21st Century Skills C*'G OT9E C*'G 9R$O* OT9E ;$`$I ภาพปกนม้ี ขี นาดเทา่ กบั หนงั สอื เรยี นฉบบั จรงิ ของนกั เรยี น ผเู้ รยี บเรียงคู่มอื ครู นกั วิชาการ STEM เพมิ่ คําแนะนําการใช้ ช่วยสร้างความเข้าใจ เพื่อใช้คู่มือครู Chapter Overview ช่วยสร้างความเข้าใจ และ ได้อย่างถกู ต้องและเกดิ ประสทิ ธภิ าพสงู สุด คําอธิบายรายวิชา แสดงขอบข่ายเนื้อหาสาระของ เห็นภาพรวมในการออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชา ซึ่งครอบคลมุ มาตรฐานการเรยี นรู้ และตวั ชีว้ ัดตาม แต่ละหน่วย ที่หลกั สูตรกาํ หนด Pedagogy ช่วยสรา้ งความเขา้ ใจในกระบวนการออกแบบ Chapter Concept Overview ช่วยใหเ้ หน็ ภาพรวม การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ได้อย่าง มปี ระสทิ ธภิ าพ Concept และเนือ้ หาสําคญั ของหน่วยการเรียนรู้ Teacher Guide Overview ช่วยให้เห็นภาพรวมของ การจดั การเรยี นการสอนทง้ั หมดของรายวชิ า กอ่ นทจี่ ะลงมอื ขอ้ สอบเนน้ การคดิ /ขอ้ สอบแนว O-NET เพ่ือเตรียม สอนจริง ความพร้อมของผูเ้ รียนสกู่ ารสอบในระดบั ต่าง ๆ กิจกรรม 21st Century Skills กิจกรรมท่ีจะช่วย พฒั นาผเู้ รยี นใหม้ ที กั ษะทจี่ าํ เปน็ สาํ หรบั การเรยี นรแู้ ละการ ดาํ รงชีวิตในโลกแห่งศตวรรษที่ 21 74











Teacher Guide Overview เทคโนโลยี (วิทยำกำรค�ำนวณ) ป.2 หนว่ ย ตัวช้วี ัด ทักษะทไี่ ด้ เวลำที่ใช้ กำรประเมิน สือ่ ทีใ่ ช้ กำรเรียนรู้ 1 - แ สดงล�าดับข้ันตอนการท�างาน - ทกั ษะการแกป้ ญั หา - ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรียน - หนังสือเรยี น หรือการแก้ปัญหาอย่างง่ายโดย - ทักษะการส่อื สาร - ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น รายวิชาพืน้ ฐาน เทคโนโลยี การแก้ปัญหา ใชภ้ าพ สญั ลกั ษณ ์ หรอื ขอ้ ความ - ทกั ษะการคดิ เชงิ คา� นวณ - ตรวจใบงาน (วิทยาการค�านวณ) ป.2 อย่างเปน็ (ว 4.2 ป.2/1) 4 - สงั เกตพฤติกรรม - PowerPoint ขนั้ ตอน การทา� งานกลุม่ - QR Code ชวั่ โมง - สงั เกตคณุ ลกั ษณะ - แบบทดสอบก่อนเรยี น อันพึงประสงค์ - แบบทดสอบหลงั เรยี น - ใบงาน 2 - เขยี นโปรแกรมอย่างง่าย โดยใช้ - ทกั ษะการแก้ปญั หา - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน - หนงั สือเรยี น ซอฟต์แวร์หรือสอ่ื และตรวจหา - ทักษะการสื่อสาร - ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี น รายวิชาพืน้ ฐาน เทคโนโลยี การตรวจหา ขอ้ ผิดพลาดของโปรแกรม - ทกั ษะการคดิ เชงิ ค�านวณ - ตรวจใบงาน (วทิ ยาการคา� นวณ) ป.2 ขอ้ ผิดพลาด 3 - สังเกตพฤติกรรม - PowerPoint ของโปรแกรม (ว 4.2 ป.2/2) การท�างานกลุ่ม - QR Code ช่ัวโมง - สงั เกตคุณลกั ษณะ - แบบทดสอบกอ่ นเรยี น อนั พึงประสงค์ - แบบทดสอบหลงั เรยี น - ใบงาน 3 - ใ ช้เทคโนโลยีในการสรา้ ง - ทกั ษะการสอ่ื สาร - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน - หนงั สือเรยี น จัดหมวดหม่ ู ค้นหา จดั เกบ็ - ทักษะการวิเคราะห์ - ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน รายวชิ าพนื้ ฐาน เทคโนโลยี การจัดการ เรยี กใช้ขอ้ มูลตามวตั ถปุ ระสงค์ - ทักษะการใช้เทคโนโลยี - ตรวจใบงาน (วทิ ยาการคา� นวณ) ป.2 บนไฟล์ (ว 4.2 ป.2/3) สารสนเทศ 8 - สงั เกตพฤติกรรม - PowerPoint - ทักษะความคดิ สร้างสรรค์ การท�างานกลมุ่ - QR Code อยา่ งมีระบบ ชั่วโมง - สังเกตคณุ ลกั ษณะ - แบบทดสอบกอ่ นเรียน อนั พงึ ประสงค์ - แบบทดสอบหลงั เรยี น - ใบงาน 4 - ใ ช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่าง - ทกั ษะการแกป้ ญั หา - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน - หนงั สือเรยี น ปลอดภัย ปฏิบัติตามข้อตกลง - ทกั ษะการสื่อสาร - ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี น รายวชิ าพ้ืนฐาน เทคโนโลยี การใชเ้ ทคโนโลยี ในการใช้คอมพิวเตอร์ร่วมกัน - ทกั ษะการวิเคราะห์ - ตรวจใบงาน (วิทยาการคา� นวณ) ป.2 สารสนเทศ ดูแลรักษาอุปกรณ์เบ้ืองต้น - ทักษะการใชเ้ ทคโนโลยี 5 - สังเกตพฤตกิ รรม - PowerPoint ใชง้ านอยา่ งเหมาะสม สารสนเทศ การทา� งานกลมุ่ - QR Code อยา่ งปลอดภยั ชว่ั โมง (ว 4.2 ป.2/4) - ทักษะการคิดอย่างมี - สังเกตคุณลกั ษณะ - แบบทดสอบก่อนเรียน วจิ ารณญาณ อันพึงประสงค์ - แบบทดสอบหลงั เรยี น - ใบงาน 80

สำรบัญ Chapter Title Chapter Chapter Teacher Overview Concept Script หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 กำรแกป้ ัญหำอย่ำงเป็นข้ันตอน Overview T2 T4 T3 • การแก้ปัญหาเบ้อื งต้น T26 T5 - T10 • การแสดงข้ันตอนการแกป้ ญั หา T48 T11 - T18 • การหารูปแบบของปญั หาอย่างงา่ ย T94 T19 - T23 ทา้ ยหนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 T24 - T25 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2 กำรตรวจหำขอ้ ผิดพลำดของ T27 T28 โปรแกรม T29 - T33 • การเขียนโปรแกรมแบบวนซ้ํา T34 - T40 • การตรวจสอบข้อผิดพลาดจากการเขยี นโปรแกรม T41 - T45 • ตวั อย่างการเขยี นโปรแกรมด้วย Code.org T46 - T47 ท้ายหนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 2 T49 T50 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 กำรจดั กำรบนไฟลอ์ ยำ่ งมรี ะบบ T51 - T77 • การใช้งานซอฟต์แวรเ์ บ้ืองต้น T78 - T91 • การจดั การกับไฟล์ T92 - T93 ท้ายหน่วยการเรียนรทู้ ่ี 3 T95 T96 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 กำรใช้เทคโนโลยสี ำรสนเทศ อย่ำงปลอดภัย T97 - T105 T106 - T112 • ร้จู กั ข้อมูลสว่ นตวั T113 - T114 • การใชง้ านอปุ กรณ์เทคโนโลยี ท้ายหน่วยการเรียนร้ทู ี่ 4 บรรณำนกุ รม T115 81

Chapter Overview แผนการจดั สอ่ื ท่ีใช้ จด� ประสงค์ วธ� ส� อน ประเมิน ทักษะท่ีได้ คุณลักษณะ การเรย� นรู้ อันพึงประสงค์ แผนฯ ที่ 1 - แบบทดสอบก่อนเรียน 1. อ ธิบายวิธกี ารแก้ปัญหา แบบใช้ปญั หา - การนา� เสนอผลงาน - ทกั ษะการสือ่ สาร 1. มีวนิ ยั การแกป้ ัญหา - หนงั สอื เรียน รายวชิ า เบอื้ งตน้ แต่ละขนั้ ตอนได ้ เปน็ ฐาน - สังเกตพฤติกรรม - ทักษะการท�างาน 2. ใฝเ รียนรู้ อยา่ งเปน ขนั้ ตอน พ้นื ฐาน เทคโนโลย ี (K) (Problem - การทา� งานรายบคุ คล รว่ มกนั 3. มุ่งมั่นใน (วทิ ยาการคา� นวณ) ป.2 2. เขยี นขนั้ ตอนการแกป้ ญั หา based - สังเกตพฤติกรรม - ทักษะการสงั เกต การท�างาน 1 - แบบฝึกหดั รายวชิ า เบ้ืองตน้ ได ้ (P) Learning) การท�างานกลุ่ม - ทกั ษะการนา� ความรู้ ชวั่ โมง พ้นื ฐาน เทคโนโลยี 3. สนใจใฝร ใู้ นการศึกษา (A) - สังเกตคณุ ลักษณะ ไปใช้ (วทิ ยาการคา� นวณ) ป.2 อนั พงึ ประสงค์ - ใ บความรทู้ ่ี 1.1 เรือ่ ง แกป้ ัญหากนั ดีกวา่ แผนฯ ท่ี 2 - หนงั สือเรยี น รายวิชา 1. บอกการแสดงขน้ั ตอน แบบใช้ปญั หา - การน�าเสนอผลงาน - ทกั ษะการสอ่ื สาร 1. มวี ินัย การแสดง พ้นื ฐาน เทคโนโลย ี ในการแกป้ ัญหาได ้ (K) เปน็ ฐาน - สงั เกตพฤติกรรม - ทกั ษะการทา� งาน 2. ใฝเ รยี นรู้ ขัน้ ตอน (วทิ ยาการคา� นวณ) ป.2 2. เ ขยี นบอกเลา่ แสดงขน้ั ตอน (Problem - การทา� งานรายบุคคล รว่ มกัน 3. มุ่งมัน่ ใน การแกป้ ญั หา - แบบฝกึ หดั รายวิชา การแกป้ ญั หาได ้ (P) based - สังเกตพฤตกิ รรม - ทักษะการสังเกต การทา� งาน พื้นฐาน เทคโนโลยี 3. วาดภาพแสดงขั้นตอนการ Learning) การท�างานกลุ่ม - ทกั ษะการน�าความรู้ 2 (วทิ ยาการค�านวณ) ป.2 แกป้ ัญหาได ้ (P) - สังเกตคณุ ลกั ษณะ ไปใช้ - ใบความรูท้ ี่ 1.2 เรือ่ ง 4. เ ขยี นผังงานอย่างง่าย อนั พึงประสงค์ ชว่ั โมง การแสดงข้นั ตอน แสดงขนั้ ตอนการแกป้ ญั หา การแกป้ ัญหา ได ้ (P) - ใ บความรู้ท ่ี 1.3 เรื่อง 5. เหน็ ความส�าคญั ของการ การแก้ปญั หา แก้ปญั หา (A) - บ ตั รภาพ เรอ่ื งสญั ลกั ษณ์ ของผงั งานอย่างง่าย แผนท่ี 3 - หนังสอื เรยี น รายวิชา 1. อธิบายการหารปู แบบของ แบบสืบเสาะ - การนา� เสนอผลงาน - ทกั ษะการสอ่ื สาร 1. มวี นิ ยั พื้นฐาน เทคโนโลยี ปญั หาอยา่ งง่ายได้ (K) หาความรู้ - สงั เกตพฤตกิ รรม - ทักษะการท�างาน 2. ใฝเ รยี นรู้ การหารูปแบบ (วทิ ยาการค�านวณ) ป.2 2. อ ธิบายข้ันตอนการแก้ (5Es การท�างานรายบคุ คล ร่วมกัน 3. มุง่ มั่นใน ของปัญหา - แบบฝกึ หดั รายวชิ า ปญั หาเกมตัวตอ่ ได ้ (K) Instructional - สงั เกตพฤติกรรม - ทกั ษะการสงั เกต การทา� งาน อยา่ งง่าย พื้นฐาน เทคโนโลย ี 3. ปฏบิ ัตติ ามขั้นตอนการแก้ Model) การทา� งานกลมุ่ - ทกั ษะการนา� ความรู้ (วิทยาการคา� นวณ) ป.2 ปัญหาเกมตัวตอ่ ได ้ (P) - สังเกตคณุ ลักษณะ ไปใช้ 1 - บตั รภาพ เรอ่ื ง เกมตวั ตอ่ 4. สนใจใฝร้ใู นการศกึ ษา (A) อันพงึ ประสงค์ ชว่ั โมง - แบบทดสอบหลังเรียน T2 82

Chapter Concept Overview หน่วยกำรเรยี นรูท้ ี่ 1 การแก้ปัญหา การแกไ้ ขปัญหา เป็นส่ิงที่เกิดขน้ึ ในชวี ติ ประจ�าวนั ส�าหรบั นกั เรยี นทกุ คน ดังนนั้ จึงต้องมีการเรียนรู้ขั้นตอนการแกไ้ ขปญั หา เพ่อื ให้ สามารถแกไ้ ขปญั หาทเ่ี กดิ ขึ้นได้อยา่ งถกู ตอ้ งและรวดเรว็ โดยขนั้ ตอนการแก้ปญั หาม ี 4 ข้ันตอน ดงั นี้ ¢Ñ¹é µÍ¹¡ÒÃá¡Œ»˜ÞËÒàºÍé× §µŒ¹ 1 พิจารณาและทํา ปญหาคืออะไร ขอ มูลเขา ความเขา ใจปญหา มอี ะไรบาง 2 วางแผน วธิ ีแกปญ หาควรทําอยา งไร การแกป ญหา ผลลพั ธทต่ี อ งการคืออะไร แกป ญ หาตามแนวทางทก่ี ําหนด 3 ลงมอื เพื่อใหไ ดผ ลลัพธตามที่ตองการ แกป ญหา ตรวจสอบผลลัพธทไ่ี ดวา ตรงตามที่ตอ งการหรือไม 4 ตรวจสอบผล การแกปญ หา การแสดงขัน้ ตอนการแกป้ ญั หา • การเขียนบอกเลา่ แสดงขั้นตอนการแกป้ ญั หา คือ การถ่ายทอดความคิดวธิ กี ารแกป้ ญั หาเปน็ ล�าดับข้อ โดยค�านงึ ถึงการท�างานกอ่ น และหลัง อธิบายออกมาเป็นขอ้ ความจนถึงขั้นตอนท่ไี ดผ้ ลลพั ธ์ที่ต้องการ • ก ารวาดภาพแสดงขั้นตอนการแก้ปัญหา คือ การแสดงล�าดับขั้นตอนการแก้ไขปัญหาด้วยภาพ เป็นอีกรูปแบบหน่ึงท่ีนิยมเขียน คล้ายกับการบอกเล่าโดยการเปลย่ี นจากข้อความเป็นภาพจะช่วยให้เขา้ ใจและจดจ�าได้งา่ ยย่ิงขึน้ • ก ารใช้สัญลักษณ์แสดงขั้นตอนการแก้ปัญหา คือ การใช้สัญลักษณ์ เพื่ออธิบายล�าดับข้ันตอนการแก้ปัญหา โดยเครื่องหมายหรือ สัญลกั ษณ์ทใ่ี ช้แต่ละชนดิ จะต้องมีความหมายทแี่ ตกต่างกนั ซงึ่ สญั ลกั ษณท์ ีน่ ยิ มใชใ้ นการแก้ปัญหา คือ ผังงาน (Flow chart) เร่ิมต้นหรือสน้ิ สดุ การท�างาน การท�างาน การตัดสนิ ใจ ทศิ ทางข้อมลู T3 83

นาํ นํา สอน สรปุ ประเมนิ ขน้ั นาํ (PBL) หนังสือเลมเนนื้อี้อหยาูในอราะจหมวีกาางรสปงรตับรปวรจุงพแิจกาไรขณา1 การแกป้ ญั หาหนÇ่ ยการเรÕยนร้·Ù èÕ อÂา‹ งàปนš ขนั้ ตอน 1. ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบกอนเรียนหนวย การเรียนรูที่ 1 เร่ือง การแกปญหาอยางเปน ตวั ช้ีวดั ขั้นตอน เพ่ือวัดความรูเดิมของนักเรียนกอน เขา สูก ิจกรรม ว 4.2 ป. 2/1 แสดงลา� ดบั ขนั้ ตอนการทา� งาน หรอื การแกป้ ญั หา อย่างง่ายโดยใช้ภาพ สญั ลักษณ ์ หรอื ข้อความ 2. ครูถามกระตุนความสนใจของนักเรียนวา “ถานักเรียนจะไปโรงเรียนใหทันเวลา ตองทํา SCHOOL อยางไร” (แนวตอบ คาํ ตอบขนึ้ อยกู บั ดลุ พนิ จิ ของนกั เรยี น) ¨ÐäปâรงเรยÕ น ãห·้ ันเÇÅา ต้อง·íา ขนั้ สอน อย่างäรนÐ การกาํ หนดปญ หา 2 1. ครถู ามนกั เรยี นวา “นกั เรยี นคดิ วา การหาขอ มลู มีความสาํ คัญอยางไรตอการแกป ญ หา” (แนวตอบ การหาขอมูลเพ่ือใหสามารถแก ปญหาที่เกิดขึ้นไดอยางถูกตอง รวดเร็ว และ ไดผลลัพธตามทีต่ อ งการ) 2. ครถู ามนกั เรยี นวา “ในชวี ิตประจําวนั นกั เรียน พบปญ หาอะไรบา ง และนกั เรยี นมวี ธิ กี ารแกไ ข ปญหาอยา งไร” (แนวตอบ พจิ ารณาคาํ ตอบของนกั เรยี น โดยขนึ้ อยูกับดุลยพินจิ ของครูผูสอน) ทาํ ความเขา ใจปญ หา ครูใหนักเรียนแตละคนวิเคราะหถึงสภาพ ปญ หาและแนวทางการแกไขปญหาของตนเอง แนวตอบ ประจําหนว ยการเรยี นรู นักเรียนจะตองวางแผนเสนทางการเดินทาง โดยหาเสน ทางการเดนิ ทางทใี่ กล และใชเ วลาในการ เดนิ ทางนอ ยทส่ี ดุ เพอ่ื ทจี่ ะไดไ ปโรงเรยี นใหท นั เวลา เกร็ดแนะครู การเรียนการสอนเร่ือง การแกปญหาอยางเปนข้ันตอน ครูควรเนน การสอนโดยอธิบายถึงลําดับขั้นตอน กระบวนการคิด การฝกใชวิธีใน การแกปญหาเบื้องตน การแสดงขั้นตอนการแกปญหา โดยฝกใหนักเรียนคิด แกปญหาจากสถานการณจําลองท่ีครูสรางขึ้นมา ท้ังนี้เพ่ือใหนักเรียน คดิ อยา งเปน ระบบและเปน ข้นั ตอนในการหาวิธีแกป ญหาในชวี ิตประจําวนั T4 84

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ การหาข้อÁลÙ àข้า 1. การแกป้ ญั หาàºอ×้ งตน้ ขน้ั สอน Á¤Õ วาÁสา� ¤ัญ อย่างไรตอ่ การแกป้ ัญหา1 เปน็ สง่ิ ทเ่ี กิดขนึ้ ในชีวิต ดาํ เนนิ การศกึ ษาคน ควา การแกป้ ัญหา ประจา� วนั สา� หรบั นกั เรยี นทกุ คน เชน่ การแก้ 1. ครูใหนักเรียนศึกษาข้ันตอนการแกปญหา ปญั หาการเดนิ ทางไปโรงเรยี น การทา� การบา้ น การเลน่ เกม เบื้องตนท้ัง 4 ข้ันตอนในหนังสือเรียน ดเพังื่นอ้ันให ้สนาักมเราียรนถจแึงกต้ป้อัญงมหีกา2าทร่ีเเกรียิดนขร้ึนู้ขไ้ันดต้ออยน่ากงาถรูกแตก้อ้ปงัญแหลาะ รายวชิ าพน้ื ฐาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคาํ นวณ) รวดเร็ว ป.2 ดงั น้ี • พจิ ารณาและทาํ ความเขาใจปญหา ข้นั ตอนการแกป้ ัญหาเº×อ้ งตน้ • วางแผนการแกป ญหา • ลงมือแกปญหา 1 พจิ ารณาและทา� ปญหาคอื อะไร ขอ้ มูลเข้า • ตรวจสอบผล ความเข้าใจปญั หา มอี ะไรบ้าง 2. ครูอธิบายเพ่ิมเติมถึงรายละเอียดของข้ันตอน 2 วางแผน วิธีแก้ปญ หาควรท�าอย่างไร การแกปญ หาเบือ้ งตน ดงั นี้ การแก้ปัญหา ผลลพั ธท่ีตอ้ งการคอื อะไร 1) พจิ ารณาและทาํ ความเขา ใจปญ หา คอื การ แก้ปญหาตามแนวทางท่ีกา� หนด วิเคราะหวาปญหาคืออะไร มีขอมูลและ 3 ลงมอื เพื่อใหไ้ ดผ้ ลลัพธต ามท่ตี อ้ งการ เงอ่ื นไขอะไรบางที่เกย่ี วของกับปญหานั้น แกป้ ญั หา ตรวจสอบผลลัพธท ่ไี ด้วา่ 2) วางแผนการแกปญหา คอื การกําหนดและ ตรงตามทตี่ อ้ งการหรอื ไม่ จัดลําดับขั้นตอนสิ่งท่ีตองกระทําเพื่อแก 4 ตรวจสอบผล ปญ หาจากขอมูลท่ไี ดร บั การแก้ปญั หา 3) ลงมอื แกป ญ หา คอื การกระทาํ ตามขน้ั ตอน ท่ีไดวางแผนไวใหประสบความสําเร็จตาม เปา หมาย 4) ตรวจสอบผลการแกป ญหา คือ การตรวจ สอบผลลัพธวาตรงตามแนวทางการแกไข หรือไม หากผลลัพธไมเปน ไปตามแนวทาง ใหด าํ เนนิ การปรบั ปรงุ ขน้ั ตอนการแกป ญ หา อีกครั้ง 3หนั เงนื้สืออเหลามอนี้าจอมียูใกนารระปหรัวาบงปสรุงงแตกรไวขจพิจารณา แนวตอบ คําถามสําคญั ประจาํ หวั ขอ การหาขอ มลู เขา จะทําใหส ามารถแกป ญหาที่ เกิดขน้ึ ไดอ ยา งรวดเรว็ และถูกตอง ขอสอบเนน การคดิ นักเรียนควรรู ขั้นตอนการแกปญหาเบื้องตนจะตองเริ่มจากขั้นตอนใดเปน 1 การแกปญหา คือ ความสามารถในการนาํ ความรู ทกั ษะ มาใชใ นการหา อนั ดบั แรก คาํ ตอบเมอ่ื กาํ หนดสถานการณห รอื วธิ กี ารเชงิ ระบบ เพอ่ื ชว ยในการแกไ ขปญ หา เปาหมายของการแกปญหาเบ้ืองตน คือ เพื่อกําหนดสาเหตุท่ีบางสิ่งไมทํางาน 1. ลงมอื แกป ญหา ตามที่ตองการและวธิ กี ารแกป ญหา 2. ตรวจสอบผลการแกปญ หา 2 ปญ หา คอื ประเดน็ ท่เี ปน อปุ สรรค ความยากลาํ บาก ความทา ทาย หรือ 3. วางแผนการแกปญ หา เปน สถานการณใ ดๆ ทตี่ อ งมกี ารแกป ญ หา ซงึ่ การแกป ญ หาจะรบั รไู ดจ ากผลลพั ธ 4. พจิ ารณาและทําความเขาใจ ของการแกป ญหาหรอื ผลงานทีน่ ําไปสวู ัตถุประสงคห รอื เปาหมาย (วิเคราะหคําตอบ ข้ันตอนการแกปญหาเบื้องตนแบงออกเปน T5 4 ข้ันตอน ไดแก 1.พจิ ารณาและทําความเขาใจปญ หาอธิบายวา ปญ หาคอื อะไร 2. วางแผนการแกป ญ หาอธบิ ายวา วธิ กี ารแกป ญ หา ควรทําอยางไร และผลลัพธท่ีตองการคืออะไรบาง 3. ลงมือแก ปญ หาอธบิ ายถึงการแกปญ หาตามแนวทางท่กี าํ หนดให 4. ตรวจ สอบผลการแกปญหาอธิบายถึงการตรวจสอบผลลัพธที่ไดวาตรง กับความตองการหรือไม ดงั น้นั ตอบขอ 4) 85

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขน้ั สอน สถานการณ์ตวั อยา่ ง ดาํ เนนิ การศกึ ษาคน ควา โปต อ้ งการจดั กระเปา เพอื่ ไปโรงเรยี นวนั พรงุ่ นซี้ งึ่ เป็นวนั พุธ และต้องแตง่ กายใหถ้ ูกต้อง คอื 3. ครูใหนักเรียนศึกษาสถานการณตัวอยางใน หนงั สอื เรยี น 4. ครูใหนักเรียนพิจารณาและทําความเขาใจ ปญ หาของสถานการณ โดยวเิ คราะหว า ปญ หา คืออะไร มีขอมูล และเงื่อนไขอะไรบางที่ เกี่ยวขอ ง 1. ว นั ท่ีมเี รียนพลศกึ ษา โปต อ้ งแตง่ กายด้วย ชุดพละ 2. ว นั ทไี่ ม่มเี รียนพลศกึ ษา โปตอ้ งแต่งกายด้วย ชดุ นกั เรียน วนั เวลา 08.30-09.30 น. 09.30-10.30 น. 10.30-11.30 น. หยดุ พกั รบั ประทานอาหารกลางวนั 1 ชั่วโมง 12.30-13.30 น. 13.30-14.30 น. 14.30-15.30 น. จนั ทร์ คณติ ศาสตร์ สขุ ศึกษา วิทยาศาสตร์ ภาษาไทย สงั คมศกึ ษา พลศกึ ษา องั คาร วิทยาศาสตร์ ภาษาองั กฤษ คณติ ศาสตร์ สังคมศกึ ษา ลูกเสือ-เนตรนารี ชุมนุม พุธ ภาษาองั กฤษ วทิ ยาการคา� นวณ ภาษาไทย คณติ ศาสตร์ การงานอาชีพฯ พฤหัสบดี ทัศนศลิ ป คณิตศาสตร์ ประวตั ศิ าสตร์ วิทยน์ า่ รู้ หลักและการใช้ Conversation ภาษาไทย ศุกร์ พระพทุ ธศาสนา ภาษาไทย องั กฤษหรรษา คณิตคดิ สนุก วทิ ย์น่ารู้ ดนตรี ทอะ�าไคร1ว .า มมพีขเจิ ้อขาม้ารใูลณจแ2ปาลแัญะลเหงะื่อทา น�าคโไดขวยาอมวะิเไเคขรบร้าาใ้าจะงปห ัญ์ทว1่า่ีเหก า่ียป วคัญขอื ห้อ งากกคาับือร ปญั หานน้ั ๆ ? ปัญหาของโป คือ จัดกระเปาและ แตง่ กายใหถ้ กู ตอ้ งสา� หรับวนั พรุง่ น้ี ขอ้ มลู เขา้ คือ วิชา หนังสือเลมเนนื้อี้อหยาูในอราะจหมวีกาางรสปงรตับรปวรจุงพแิจกาไรขณา ทเ่ี รียนในวันพรงุ่ นี้ 4 นักเรียนควรรู ขอ สอบเนน การคดิ 1 วเิ คราะห การแยกออกเปน สว นๆ เพอื่ ศกึ ษาใหถ อ งแท เชน วเิ คราะหป ญ หา นํ้าหวานกินอาหารไมตรงเวลา และกินนํ้าอัดลมเปนประจํา วิเคราะหขาวสาร ทาํ ใหม อี าการปวดทอ งจนเปน โรคกระเพาะ นกั เรียนคดิ วาปญ หา 2 ขอมลู คอื ขอ เท็จจริงหรือเรอ่ื งราวที่เกย่ี วของกบั ส่ิงตางๆ เชน คน สตั ว ของนา้ํ หวานในขอ นคี้ อื อะไร ส่ิงของ สถานที่ โดยอยูในรูปแบบท่ีเหมาะสมตอการสื่อสาร ซ่ึงขอมูลอาจ จะไดมาจากการสังเกต การรวบรวม การวัด และเปนไดทั้งขอมูลตัวเลขหรือ 1. นํา้ หวานไมชอบกินขา ว สญั ลกั ษณใดๆ ที่สําคัญ จะตอ งมีความเปนจริงและตอ เน่ือง ตวั อยางของขอ มูล 2. นา้ํ หวานกนิ ผกั และผลไม เชน คะแนนสอบ ชือ่ นกั เรียน เพศ อายุ 3. น้าํ หวานชอบกนิ ลกู อมและขนมหวาน 4. นํา้ หวานกินอาหารไมต รงเวลาและกนิ นํ้าอัดลมเปนประจํา (วเิ คราะหค าํ ตอบ ปญ หาของนา้ํ หวาน คอื การกนิ อาหารไมต รง เวลา และกนิ นาํ้ อดั ลมเปน ประจาํ ทาํ ใหป วดทอ งจนเปน โรคกระเพาะ ดงั นน้ั ตอบขอ 4.) T6 86

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ 2. วางแผน1การแก้ปัญหา คือ การก�าหนดและ ขน้ั สอน จัดล�าดับขั้นตอนของส่ิงที่ต้องกระท�าเพื่อแก้ปัญหา จากเหตกุ ารณห์ รอื ขอ้ มลู ท่ไี ด้รบั ดาํ เนนิ การศกึ ษาคน ควา 5. ครใู หน กั เรยี นศกึ ษาขน้ั ตอนการวางแผนการแก ปญ หาในหนงั สอื เรยี นวา มกี ารกาํ หนด หรอื การ จัดลําดับขั้นตอนเพ่ือแกปญหาอยางไร และ ศึกษาวิธีการลงมือแกปญหาตามข้ันตอนที่ได วางแผนไวใ หป ระสบความสาํ เรจ็ ตามทกี่ าํ หนด ไว 3. ลงมือแก้ปัญหา คอื การกระท�าตามข้ันตอน ทไี่ ดว้ างแผนเพอื่ ใหป้ ระสบความสา� เรจ็ ตามเปา หมาย ทก่ี า� หนดไว้ 5หนั เงนื้สืออเหลามอนี้าจอมียูใกนารระปหรัวาบงปสรุงงแตกรไวขจพิจารณา ขอ สอบเนน การคิด เกร็ดแนะครู บอลชอบดูโทรทัศน และเลนคอมพิวเตอรจนดึก ทําใหมา ครอู าจใชส ถานการณจ าํ ลองเพอ่ื ใหน กั เรยี นเขา ใจเนอื้ หา เรอื่ ง การวางแผน โรงเรยี นสาย บอลควรแกป ญ หานอ้ี ยา งไรเพอ่ื ใหไ ปโรงเรยี นทนั เวลา การแกปญหาและลงมือแกปญหา โดยครูอาจยกตัวอยางวา เมื่อนักเรียนเจอ ปญหาเรื่อง การลืมหนังสือเรียนบางวิชาไวที่บานและไมมีหนังสือเรียนในคาบ 1. บอลตอ งดมื่ นมกอ นนอน เรียน นักเรียนจะมีวิธีแกปญ หานอ้ี ยา งไร โดยครใู หน ักเรียนชว ยกนั วางแผนการ 2. บอลตอ งอานหนงั สือกอนนอน แกปญ หา ซง่ึ จะไดวธิ แี กปญ หานีว้ า นกั เรียนควรจัดตารางเรียนกอนนอนเพ่อื ให 3. บอลตอ งจดั กระเปา ตามตารางเรยี น มหี นงั สือมาเรียนครบทุกวชิ า 4. บอลตองนอนแตห วั คํ่าจะทําใหต น่ื เชา นักเรียนควรรู (วเิ คราะหค าํ ตอบ การวางแผนการปญ หาเปน การกาํ หนดและจดั ลาํ ดบั ขน้ั ตอนของสง่ิ ทต่ี อ งกระทาํ เพอ่ื แกป ญ หาจากเหตกุ ารณห รอื 1 วางแผน เปน กระบวนการของการพจิ ารณาตดั สนิ ใจลว งหนา วา จะทาํ อะไร ขอมูลที่ไดรับ ปญหาจากสถานการณน้ี คือ บอลชอบดูโทรทัศน ทําอยางไร ใครเปน ผรู ับผิดชอบ และมีการเลือกวตั ถปุ ระสงค นโยบาย โครงการ และเลนคอมพิวเตอรจนดึก จนทําใหมาโรงเรียนสาย วิธีแก และวิธีปฏิบัติเพ่ือใหบรรลุวัตถุประสงคน้ันอยางไร การวางแผนจะเกี่ยวของกับ ปญ หาของบอลเพอ่ื ใหไ ปโรงเรยี นทนั เวลา คอื ตอ งนอนตงั้ แตห วั คาํ่ จุดหมายปลายทางและวิธีการ ซ่ึงจุดหมายปลายทาง คือ การระบุวาเราจะ เพอื่ ใหตน่ื เชา ดังนน้ั ตอบขอ 4) ทาํ อะไร สว นวธิ กี าร คอื การระบวุ า เราจะทําอยางไร T7 87

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ สอน 4. ตรวจสอบผลการแก้ปัญหา คือ การตรวจ สอบผลลัพธ์ที่ได้ด�าเนินการ ว่าตรงตามแนวทาง ดาํ เนนิ การศกึ ษาคน ควา แก้ไขหรือไม่ โดยผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นอาจจะไม่เป็นไป ตามแนวทางการแก้ปัญหาท่ีวางไว้ ซึ่งจะต้องมีการ 6. ครูใหนักเรียนศึกษาการตรวจสอบผลการแก ปรับปรุงข้นั ตอนการแกป้ ญั หาอกี ครงั้ ปญ หาวา ไดตรงตามแนวทางการแกไขหรือไม 7. ครูอธิบายเกร็ดนารูเรื่องการแกปญหาตางๆ ในชวี ติ ประจําวัน หนังสือเลมเนนื้อี้อหยาูในอราะจหมวีกาางรสปงรตับรปวรจุงพแิจกาไรขณา ภาพท่ี 1.1 ขัน้ ตอนแก้ปัญหาในการทา� งาน à¡Ã´ç ¹‹ÒÌ٠การแก้ปัญหาต่าง ๆ ในชีวิตประจ�าวัน ต้องใช้ทักษะการคิดเชิง1 คา� นวณมาดา� เนนิ การแกป้ ญั หา เชน่ การแยกปญั หาออกเปน็ สว่ น ๆ แล้วหาแนวทางการแก้ปัญหา จากนั้นเรียงล�าดับข้ันตอนวิธีการ แกป้ ญั หา จะชว่ ยทา� ใหล้ งมอื แกป้ ญั หาไดง้ า่ ยยง่ิ ขน้ึ และไดผ้ ลลพั ธ์ ตามที่ต้องการ 6 นักเรียนควรรู ขอ สอบเนน การคดิ 1 ทักษะการคิดเชิงคํานวณ (computational thinking) คือ กระบวนการ การใชก ระบวนการแกป ญหา มปี ระโยชนอยางไร แกป ญ หาในหลากหลายลกั ษณะ เชน การจดั ลาํ ดบั เชงิ ตรรกศาสตร การวเิ คราะห 1. สามารถแกปญหาไดอ ยางเปนระบบ ขอมูลและการสรางสรรควิธีแกปญหาไปทีละขั้นตอน (หรือเรียกวาอัลกอริทึม) 2. สามารถแกปญหาดว ยตนเองในทุกปญ หา รวมทั้งการยอยปญหาที่ชวยใหรับมือกับปญหาที่ซับซอนหรือมีลักษณะเปน 3. สามารถวางแผนการแกป ญ หาทกุ อยางได คําถามปลายเปดได วิธีคดิ เชิงคาํ นวณมีความจําเปน ในการพฒั นาแอพพลิเคชนั 4. สามารถสรา งเงอ่ื นไขในการแกปญหาของตนเองได ตางๆ สําหรับคอมพิวเตอร แนวคิดนี้จะประกอบดวยแนวคิดยอย 4 แนวคิด ดงั ตอ ไปนี้ (วเิ คราะหค าํ ตอบ การใชก ระบวนการแกป ญ หา สามารถแกป ญ หา ไดอยางเปนระบบตามข้ันตอนท่ีไดกลาวไปขางตน ดังน้ัน ตอบ • การยอ ยปญหา (Decomposition) ขอ 1.) • การจดจํารูปแบบ (Pattern Recognition) • ความคิดเชิงนามธรรม (Abstraction) • การออกแบบอลั กอรทิ ึม (Algorithm Design) T8 88

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ กÔ¨กรรÁ ขน้ั สอน ½กƒ ·กั ÉÐ ใหน้ ักเรียนร่วมกันวิเคราะหส์ ถานการณต์ ่อไปนี ้ แลว้ อธบิ ายวิธีการ สงั เคราะหค วามรู แก้ปัญหาเบ้ืองตน้ แต่ละขน้ั ตอน และบันทึกค�าตอบลงในสมุด สถานการณท์ ่ี 1 1. ครูใหนักเรียนทํากิจกรรมฝกทักษะการแก ปญ หาเบอ้ื งตน ในหนงั สอื เรยี น โดยใหน กั เรยี น วิเคราะหสถานการณ และอธิบายวิธีการแก ปญ หาเบื้องตนแตล ะข้นั ตอน 2. ครูสมุ นกั เรียน 1-2 คน ออกมาอธิบายวิธกี าร แกปญ หาเบือ้ งตน แตล ะขั้นตอนหนา ชนั้ เรยี น ภาพท่ี 1.2 ภาพประกอบกิจกรรมฝกึ ทกั ษะ การแกป้ ัญหาเบ้ืองตน้ 1. พจิ ารณาและทา� ความเขา้ ใจปญั หา ................................................................................................................................................................................................................................................ 2. วางแผนการแก้ปัญหา ................................................................................................................................................................................................................................................ 3. ลงมอื แก้ปัญหา ................................................................................................................................................................................................................................................ 4. ตรวจสอบผลการแก้ปัญหา ................................................................................................................................................................................................................................................ 7 ับน ึทกลงในส ุมด หนั เงนื้สืออเหลามอนี้าจอมียูใกนารระปหรัวาบงปสรุงงแตกรไวขจพิจารณา กจิ กรรม ทา ทาย เกร็ดแนะครู ครูใหนักเรียนจับกลุม กลุมละ 4 คน ใหแตละกลุมเลือก ครูชักชวนนักเรียนรวมกันอภิปรายเกี่ยวกับสถานการณท่ีวาจะมีวิธีในการ สถานการณท่ีครูกําหนดใหมา และเขียนขั้นตอนการแกปญหา แกปญหาน้ีไดอ ยา งไร แลวครูใหน ักเรียนบนั ทึกข้ันตอนการแกป ญ หาลงในสมุด เบอ้ื งตนท้ัง 4 ขนั้ ตอนลงในกระดาษ A4 พรอ มตกแตงใหสวยงาม บนั ทกึ ประจาํ ตวั โดยครอู าจจะสมุ นกั เรยี นออกมานาํ เสนอขนั้ ตอนการแกป ญ หา แลวออกมานําเสนอหนา ชน้ั เรยี น ทีต่ นเองเขยี นได โดยเขยี นไวบนกระดานหนาชนั้ เรยี น สถานการณทคี่ รูกําหนดใหมีดังน้ี ส่ือ Digital • ไมทาํ การบานมาในช่วั โมงเรียน • เรียนหนังสอื ในคาบเรียนไมรูเร่ือง ครูอาจแนะนําใหนักเรียนศึกษา • เลนคอมพวิ เตอรจ นทําใหส ายตาสั้น เร่ือง ข้ันตอนการแกปญหา เพ่ิมเติม • ตนื่ สายทุกวนั จนทําใหไปโรงเรยี นสาย จากแหลงการเรียนรูออนไลนตางๆ • หลบั ในหองเรยี นจนทําใหเ รียนไมร เู ร่อื ง เชน คลิปวิดีโอจาก Youtube เรื่อง อธิบายหลักการเบ้ืองตนของการแก ปญหา โดยคนหาคําวา “ข้ันตอนการ T9 แกป ญหา” 89

นาํ สอน สรปุ ประเมิน ขน้ั สรปุ สถานการณท์ ่ี 2 สรปุ และประเมนิ คา ของคาํ ตอบ ภาพที่ 1.3 ภาพประกอบกจิ กรรมฝกึ ทักษะ 1. ครูเปดโอกาสใหน ักเรยี นซักถามขอสงสัย และ การแก้ปัญหาเบ้ืองต้น ครูใหความรูเ พิม่ เติมในสว นนนั้ 1. พจิ ารณาและท�าความเขา้ ใจปัญหา 2. ครูมอบหมายใหนักเรียนทาํ ใบงานที่ 1.1 เร่อื ง แกป ญ หากนั ดกี วา เปน การบา นโดยใหน กั เรยี น นําปญหาที่นักเรียนพบในชีวิตประจําวัน แลวเขียนอธิบายวิธีการแกปญหาเบื้องตน แตล ะขัน้ ตอนใหชัดเจน ขนั้ ประเมนิ นาํ เสนอและประเมนิ ผลงาน 1. ครปู ระเมนิ ผล โดยการสงั เกตการตอบคําถาม การทาํ ผลงาน และสมดุ ประจาํ ตัว 2. ครูตรวจสอบผลการทําใบงานท่ี 1.1 และ กจิ กรรมฝก ทักษะ ................................................................................................................................................................................................................................................ 2. วางแผนการแกป้ ญั หา ับน ึทกลงในส ุมด ................................................................................................................................................................................................................................................ 3. ลงมอื แกป้ ัญหา ................................................................................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................................................................................ 4. ตรวจสอบผลการแก้ปญั หา ................................................................................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................................................................................ หนังสือเลมเนนื้อี้อหยาูในอราะจหมวีกาางรสปงรตับรปวรจุงพแิจกาไรขณา ทักษะการเรยี นรใู้ นศตวรรษท ี่ 21 2. ทกั ษะการสอื่ สาร 1. ทักษะการแก้ปัญหา 8 3. ทักษะการคิดเชิงค�านวณ แนวทางการวัดและประเมินผล ขอสอบเนน การคิด ครูสามารถสังเกตพฤติกรรมการทํางานรายบุคคลของนักเรียน โดยศึกษา บุคคลในขอ ใดไมไ ดป ฏิบัตติ ามหลักการเบือ้ งตนของ เกณฑการวัดและประเมินผลที่แนบมาทายแผนการจัดการเรยี นรูห นว ยที่ 1 กระบวนการแกป ญ หา แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล 1. น้ําตาลพจิ ารณาถึงสาเหตุทต่ี นเองมาโรงเรียนสาย 2. นาํ้ ใจแกป ญ หาเรอ่ื งนอนตนื่ สาย โดยเขา นอนเรว็ ขนึ้ กวา เดมิ คาชี้แจง : ใหผ้ สู้ อนสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องท่ี 3. นํ้าหวานแตง กายเหมอื นเดมิ แมถูกครเู ตอื นวาแตง กายไม ตรงกับระดับคะแนน เรยี บรอย 4. นาํ้ สมวางแผนแกป ญหาเรอ่ื งการใชจ ายเงินของตนเองโดย ลาดับท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน 1 32 การลดรายจา ยทไี่ มจําเปน 1 การแสดงความคดิ เหน็   (วิเคราะหคําตอบ น้ําหวานแตงกายเหมือนเดิมแมถูกครูเตือน วาแตงกายไมเรียบรอย ซึ่งเห็นไดวาไมมีการแกปญหาใดๆ เลย 2 การยอมรับฟงั ความคิดเห็นของผ้อู ื่น   เพราะยังแตงตัวไมเ รยี บรอ ยเหมอื นเดิม ดงั น้นั ตอบขอ 3.) 3 การทางานตามหน้าที่ท่ีไดร้ ับมอบหมาย   4 ความมนี าใจ   5 การตรงต่อเวลา   รวม เกณฑก์ ารให้คะแนน ลงช่ือ ................................................... ผปู้ ระเมนิ ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ............/.................../................ ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั ให้ 3 คะแนน ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบางครัง ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ 14–15 ดมี าก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ตา่ กวา่ 8 ปรบั ปรุง T10 11 90

นาํ นาํ สอน สรปุ ประเมนิ 2.การแสดงล�าดับ การแสดงขนั้ ตอน ขน้ั นาํ (PBL) การแก้ปญั หา ขน้ั ตอน ช่วยในการ ครูถามคําถามประจําหัวขอวา “การแสดง แกป้ ญั หาอยา่ งไร ลําดับขัน้ ตอนชว ยในการแกปญหาอยา งไร” การวางแผนการแก้ปัญหา ควรมี ขน้ั สอน การถ่ายทอดความคิดในการแก้ปัญหา ออกมาเป็นล�าดับ ข้ันตอน เพื่อให้ง่ายต่อการท�าความเข้าใจ และตรวจสอบ การกาํ หนดปญ หา ความถูกต้องหรือกลับไปแก้ไขได้ โดยการแสดงข้ันตอน การแกป้ ญั หา สามารถทา� ไดโ้ ดยการเขยี นบอกเลา่ วาดภาพ ครูใชคําถามทาทายความคิดนักเรียนวา หรือใชส้ ัญลกั ษณ์ “นักเรยี นรจู ักวิธีการทอดไขเจียวหรือไม” 2.1 ก ารเขียนบอกเลา่ แสดงข้ันตอนการ (แนวตอบ คาํ ตอบขนึ้ อยกู บั ดลุ พนิ จิ ของครผู สู อน) แคือก ป้ กญั ารหถา่ายทอดความคิด1วิธีการแก้ปัญหาเป็น ทาํ ความเขา ใจปญ หา ขอ้ ความตามล�าดับ โดยค�านงึ ถึงการทา� งานกอ่ นและหลงั ครูใหนักเรียนจับคูแลวแลกเปล่ียนวิธีการทอด ตัวอย่าง : ก้อยแสดงล�าดับข้ันตอนการท�าไข่ตุ๋นโดยการ ไขเจยี ว เขยี นบอกเล่า ดาํ เนนิ การศกึ ษาคน ควา การท�าไข่ตนุ๋ 1. ครูใหนักเรียนศึกษาการแสดงขั้นตอนการ 1. ตอกไขใ่ สช่ ามที่สามารถน�าเข้า 5. นา� เขา้ เตาอบไมโครเวฟ แกปญหาในหนังสือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน เตาอบไมโครเวฟได้ 6. ตง้ั เวลาอบ 3 นาที เทคโนโลยี (วทิ ยาการคาํ นวณ) ป.2 2. ตไี ข่ 7. น า� ไขต่ นุ๋ ทพ่ี รอ้ มรบั ประทาน 3. ใสซ่ อสปรุงรส ออกจากเตาอบไมโครเวฟ หนั เงนื้สืออเหลามอนี้าจอมียูใกนารระปหรัวาบงปสรุงงแตกรไวขจพิจารณา 2. ครใู หน กั เรยี นศกึ ษาและทาํ ความเขา ใจขน้ั ตอน 4. ใส่หมสู ับทส่ี ุกแล้วและโรยผกั ตางๆ เกย่ี วกบั การเขยี นบอกเลา และการวาด 9 ภาพแสดงลําดับขั้นตอนการแกปญหา โดย นําขอความจากการเขียนบอกเลามาทําเปน รปู ภาพ 3. ครใู หน ักเรยี นแบงกลุม กลุมละ 4-5 คน เพือ่ ทาํ การระดมความคดิ เหน็ ในการแสดงขน้ั ตอน การแกปญหาการทอดไขเจียว โดยเขียนให ออกมาในรูปแบบการเขียนบอกเลาเพ่ือแสดง ลาํ ดบั ขั้นตอน แนวตอบ คําถามสาํ คญั ประจาํ หัวขอ การแสดงลําดับข้ันตอนชวยใหงายตอการ เขา ใจปญหา และการตรวจสอบความถูกตอ ง กิจกรรม 21st Century Skills เกร็ดแนะครู ใหนกั เรียนจับกลุม กลุมละ 3 คน แลว ใหแ ตละกลุมรว มกนั ครูอาจจัดทําบัตรท่ีเขียนแสดงขั้นตอนการทําไขตุนในแตละข้ัน แลวให ระดมความคิดเขียนบอกเลาการแสดงข้ันตอนการเลือกซื้ออาหาร นักเรียนชวยกันเรียงลําดับข้ันตอนการทําไขตุนใหถูกตอง โดยมีครูเปนผูช้ีแนะ หลังจากนั้นใหแตละกลุมสงตัวแทนกลุมออกมานําเสนอข้ันตอน แนวทางให การเลือกซ้อื อาหารของกลุมตนเองหนา ชัน้ เรียน นักเรียนควรรู 1 ความคดิ คอื การทเ่ี รารสู กึ ไดเ มอื่ มสี งิ่ ตา งๆ มาสมั ผสั ทงั้ กายและใจ นนั้ คอื มีสงิ่ เรามากระตุน เชน ความรูส ึกตา งๆ สุข เศรา เสียใจ และสภาพแวดลอ มที่ อยรู อบๆ ตัวเรา T11 91

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ สอน 2.2 การวาดภาพแสดงข้ันตอนการแกป้ ัญหา สงั เคราะหค วามรู การแสดงล�าดับขั้นตอนการแก้ปัญหาด้วยภาพ จะคล้ายกันกับการแสดงด้วยการบอกเล่า โดยเปล่ียนจาก 1. ครใู หน กั เรยี นนาํ ลาํ ดบั ขนั้ ตอนการทอดไขเ จยี ว ข้อความให้เปน็ ภาพ จะช่วยให้เข้าใจและงา่ ยต่อการจดจ�า แบบการเขยี นบอกเลา ทาํ ใหอ อกมาในรปู แบบ ย่งิ ขน้ึ ของการวาดภาพแสดงขั้นตอนการแกปญหา โดยการเปลย่ี นจากขอ ความใหเ ปน รปู ภาพ เพอ่ื ตัวอย่าง : ก้อยแสดงล�าดับข้ันตอนการท�าไข่ตุ๋นโดยการ ใหน กั เรียนเขา ใจมากยงิ่ ขน้ึ 1 วาดภาพ 7 2. จากนน้ั ครใู หน กั เรยี นนาํ การแสดงขนั้ ตอนการ แกป ญ หาการทอดไขเ จยี วดว ยวธิ กี ารเขยี นบอก เลา และการวาดภาพ มาทาํ ลงในใบงานท่ี 1.2 เรือ่ ง การแสดงขั้นตอนการแกป ญ หา และสุม ใหนักเรียน 2-3 กลุมออกมานําเสนอผลงาน หนาชั้นเรียน 2 6 34 3 นาที 5 หนังสือเลมเนนื้อี้อหยาูในอราะจหมวีกาางรสปงรตับรปวรจุงพแิจกาไรขณาภาพท่ี 1.4 การวาดภาพแสดงขัน้ ตอนการท�าไขต่ ุน๋ 10 เกร็ดแนะครู กจิ กรรม สรา งเสรมิ ครูอาจจัดทําบัตรที่เขียนแสดงขั้นตอนและบัตรภาพที่แสดงข้ันตอนการทํา ใหนักเรียนจับกลุม กลุมละ 4-5 คน วาดภาพแสดง ไขต ุนแตละขน้ั แลวใหน กั เรยี นจับคูบ ตั รภาพ กับบัตรทเี่ ขียนข้ันตอนการทําไข ข้นั ตอนการแกป ญหาตา งๆ ท่คี รกู ําหนดให และคุณครูอาจจะสุม ตุน แลวตรวจสอบลําดับการทําไขตุนอีกครั้งวาถูกตองหรือไม เพ่ือใหนักเรียน ตวั แทนนักเรยี นออกมานาํ เสนอผลงานหนาชัน้ เรยี น โดยปญ หาท่ี เขาใจเนื้อหาในหัวขอการวาดภาพแสดงขั้นตอนการแกปญหา โดยครูอาจจะ ครูกาํ หนดให อาจจะเปน ปญหางา ยๆ ทเ่ี กดิ ขนึ้ ในชีวติ ประจาํ วัน คอยชวยนักเรียนในการแสดงลําดับขั้นตอนในการทําไขต ุน เชน • ปญ หาการเดนิ ทางจากบานไปโรงเรยี น • ปญ หาการจัดตารางสอน • ปญหาการเปดเครือ่ งคอมพวิ เตอร • ปญหาการพบั กระดาษเปนรูปเรอื T12 92

ขอ สอบเนน การคิด ทศิ ทางข้อมลู การทา� งาน การตดั สนิ ใจ นาํ สอน ถา นกั เรยี นตอ งการเขยี นสญั ลกั ษณแ สดงการตดั สนิ ใจเลอื กซอ้ื 11 2.3 การใช้สัญลักษณแ์ สดงข้นั ตอนการ อุปกรณก ารเรียน นักเรียนจะเลือกใชสญั ลกั ษณใด แกป้ ญั หา 1. 2. คือ การใช้รูปแบบของสัญลักษณ์ เพ่ืออธิบาย ลา� ดบั ขนั้ ตอนการแกป้ ญั หา โดยเครอื่ งหมายหรอื สญั ลกั ษณ์ 3. 4. ท่ีใชแ้ ต่ละชนิด จะต้องมคี วามหมายทแ่ี ตกตา่ งกัน ซึง่ นยิ ม ใชผ้ งั งาน (Flow Chart) ในการส่อื ความหมาย (วิเคราะหคําตอบ มกี ารตดั สินใจเลอื ก จึงตองเลือกใชสัญลกั ษณ ตัดสนิ ใจ ดังนั้น ตอบขอ 2.) การเขยี นผงั งาน มสี ญั ลกั ษณท์1 ถ่ี กู กา� หนดไวเ้ ปน็ มาตรฐาน โดยแต่ละขั้นตอนการแก้ปัญหาจะมีลูกศรระบุ 93 เกร็ดแนะครู ลา� ดบั การท�างาน ซงึ่ สญั ลกั ษณข์ องผงั งานอยา่ งงา่ ย มีดงั น้ี ครูอาจจะเตรียมบัตรภาพเกี่ยวกับสัญลักษณของผังงานที่นักเรียนควรรู หนังเนสื้อือหเลามอนาี้อจมยีกูในารระปหรวับางปสรงุงตแกรไวขจพิจารณา เริม่ ตน้ หรือสน้ิ สุด แลว อธิบายใหนักเรยี นฟง วา ในแตละสัญลักษณห มายถึงอะไรบาง แลว อาจถาม การทา� งาน คาํ ถามนักเรยี นเพ่ิมเตมิ เกีย่ วกบั การนําสญั ลักษณไปใช T13 สรปุ ประเมนิ นักเรียนควรรู ขนั้ สอน 1 สัญลักษณ คือ การเปรียบเทียบที่ใชสิ่งอ่ืนใดแทนคําท่ีเรียกใช โดย อาจจะเปนคํา ขอความ หรือรูปภาพก็ได เชน สัญลักษณบนปายจราจร ทาํ ความเขา ใจกบั ปญ หา ซ่ึงสามารถจะสื่อทําความเขา ใจได ดงั ตวั อยางนีเ้ ปนเครอ่ื งหมายหา มกลับรถ 1. ครูทบทวนเนอ้ื หาการเรยี นเม่ือช่ัวโมงที่แลว 2. ครหู ยบิ ยกคาํ ถามชว่ั โมงทแ่ี ลว วา “นกั เรยี นรจู กั วิธีการทอดไขเ จียวหรอื ไม” (แนวตอบ ข้นึ อยกู ับดลุ พนิ จิ ของครูผูสอน) ทาํ ความเขา ใจกบั ปญ หา 1. ครูอธบิ ายวา “การแสดงขัน้ ตอนการแกปญหา นอกจากวธิ กี ารเขยี นบอกเลา และการวาดภาพ ยงั มกี ารแสดงขนั้ ตอนการแกป ญ หาโดยการใช สญั ลักษณ” 2. ครูใหนักเรียนศึกษาการใชสัญลักษณที่แสดง ขัน้ ตอนการแกปญ หาในหนงั สือเรยี น

การใช้ ัสญ ัลกษ ์ณแสดง ้ขันตอนการแก้ปัญหาการ �ทาไข่ตุ๋น ตอกไ ่ขใ ่สชามท่ีสามารถน�าเ ้ขาเตาอบไมโครเวฟ ใ ่สซอสป ุรงรส ใส่หมู ัสบ ่ทีสุกแล้ว และโรย ัผก น�าเ ้ขาเตาอบไมโครเวฟ ั้ตงเวลาอบ 3 นา ีท ตรวจสอบว่า ไม่สุก ุสก ้ิสน ุสด ภาพ ีท่ 1.5 ผังแสดง ้ขันตอนการแ ้ก ัปญหาการ �ทาไ ่ข ุ๋ตน การ ีตความตามข้ันตอนการแ ้ก ัปญหาของ ัผงงาน ขอสอบเ นน การ ิคด สุกหรือไ ่ม เร่ิมต้น ีตไข่ ขอใดไมใ ชประโยชนของการเ ีขยน ัผงงาน 1. ชวยลําดับ ้ัขนตอนการ ํทางาน ประเมิน 2. สามารถเรียนรูและเขาใจผังงานได งาย 3. ชวยใหการแ กไข ํทาไดอ ยางสะดวกรวดเ ็รว 4. ไ มสามารถตรวจสอบ ั้ขนตอนการทํางานไ ด (วิเคราะหคําตอบ ประโยชนของการเขียนผังงาน คือ งายและ สะดวกตอการพิจารณา ึถงลําดับข้ันตอนในการ ํทางาน สามารถ ตรวจสอบ ้ขันตอนการทํางานไ ด ัดงนั้น ตอบขอ 1.) ส ุรป หนังสือเลมเนนื้อี้อหยาูในอราะจหมวีกาางรสปงรตับรปวรจุงพแิจกาไรขณา12 เก ็รดแนะค ูร T14 สอน ้ขันสอน ค ูรอาจจะยกตัวอ ยางสถานการ ณที่ ันกเ ีรยนสามารถพบไ ดในชี ิวตประจํา ัวน 94 แ ลวใ หนักเ ีรยนนํา ัสญลักษ ณแสดง ้ขันตอนการแ ก ปญหาจากหนัง ืสอเรียนมาเ ีขยน ํนา ดําเนินการ ึศกษา คนค วา แสดง ัข้นตอนการแก ปญหาของสถานการณ ้ันน 3. ครูอ ิธบาย ัสญลักษณท่ีใชในการเ ีขยน ัผงงาน สถานการณ : นักเรียนตองการเ ิดนทางไปโรงเรียนโดยใชรถประจําทาง อยางงายโดยใช บัตรภาพ เ ืร่อง ัสญ ัลกษณ นักเรียนจะเ ีขยน ัสญ ัลกษณแสดง ้ขันตอนการแกปญหาการเดินทางไปโรงเรียน ของ ัผงงานอยางงาย เ ื่พอให ันกเ ีรยนไดเขาใจ อ ยางไร มากยิ่ง ้ขึน 4. ค ูรให ันกเรียนศึกษาการเ ีขยนสัญลักษณลงใน ัผงงานอ ยาง งาย โดยใ หนักเรียนทําความเ ขาใจ ักบ ัผงแสดง ้ขันตอนการแ ก ปญหาในห ันง ืสอเ ีรยน

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ สถานการณ1์ตัวอย่าง ขนั้ สอน ทุกครั้งก่อนเข้าห้องเรียน คุณครูจะให้นักเรียน ดาํ เนนิ การศกึ ษาคน ควา ถอดรองเทา้ แลว้ นา� ไปวางไวท้ ชี่ น้ั วางรองเทา้ ดา้ นหนา้ หอ้ งเรยี น ซงึ่ รองเทา้ ของปแู ละเพอื่ น ๆ จะมลี กั ษณะ 5. ครูใหนักเรียนศึกษาสถานการณตัวอยางจาก ทคี่ ลา้ ยกนั หลายคู่ ปคู วรแก้ปัญหาอยา่ งไรเพอ่ื ทา� ให้ หนังสือเรียนโดยวิเคราะหปญหาและแนวทาง ตนเองและเพือ่ น ๆ ไม่หยิบรองเท้าสลับคกู่ นั การแกไ ขรว มกัน ภาพท่ี 1.6 ภาพประกอบสถานการณต วั อย่าง หนั เงนื้สืออเหลามอนี้าจอมียูใกนารระปหรัวาบงปสรุงงแตกรไวขจพิจารณา ปัญหา : หยบิ รองเท้าสลบั คกู่ ับเพ่ือน การแกไ้ ขปญั หา : แบง่ ปัญหาออกเปน็ 2 สว่ น คอื ขนาดรองเท้า และสตกิ เกอรต์ ิด รองเทา้ โดยปจู ะต้องมองหา รองเท้าที่มเี บอร ์ 34 แล้วมี สติกเกอร์รูปหัวใจ 13 ขอ สอบเนน การคิด เกร็ดแนะครู การแสดงขั้นตอนการแกปญหา สามารถทําไดก ่ีวธิ ี อะไรบา ง คุณครูอาจจะใหนักเรียนในช้ันเรียนจับกลุม กลุมละ 4-5 คน ชวยกัน 1. 2 วิธี คอื การเขียนบอกเลา การวาดภาพ วเิ คราะหหาวิธีการแกป ญ หา เรอ่ื ง การหยิบรองเทา สลบั คูก บั เพอื่ น ท่แี ตกตา ง 2. 2 วธิ ี คอื การใชสัญลกั ษณ การวาดภาพ จากในบทเรียน หลังจากนั้นจึงใหแตละกลุมสงตัวแทนออกมานําเสนอวิธีการ 3. 3 วธิ ี คอื การเขยี นบอกเลา การวาดภาพ การใชส ญั ลกั ษณ แกปญหาดังกลา ว 4. 3 วิธี คือ การเขยี นบอกเลา การเขียนบันทึก การวาดภาพ นักเรียนควรรู (วิเคราะหคําตอบ การแสดงข้ันตอนการแกปญ หาสามารถทําได 3 วิธี คือ การเขยี นบอกเลา การวาดภาพ และการใชส ัญลักษณ 1 สถานการณ ประกอบดวยคําวา “สถานะ” กับคําวา “การณ” หมายถึง ดังน้ัน ตอบขอ 3.) เหตุการณท ี่กาํ ลงั เปนไป โดยคาํ วาสถานการณม ักจะมีสว นขยายตามหลงั เชน สถานการณบ านเมือง สถานการณการเลือกซือ้ อาหาร T15 95

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ สอน ก¨Ô กรรÁ ½ƒก·กั ÉÐ สงั เคราะหค วามรู ให้นักเรียนพิจารณา1ค�าถามต่อไปนี้ จากน้ันพูดคุยแลกเปล่ียน ความคิดเห็นภายในหอ้ งเรยี น แลว้ บันทกึ ค�าตอบลงในสมดุ 1. ครูใหนักเรียนทํากิจกรรมฝกทักษะ โดยให 1. โปและปไู ด้เมลด็ พนั ธต์ุ น้ ไม้จากโรงเรียนมาเพื่อปลกู ลงในกระถาง นักเรียนแสดงลําดับข้ันตอนการแกปญหาใน เร่ืองการปลูกตนไมโดยวิธีการเขียนบอกเลา หลังจากน้ันจึงใหนักเรียนพูดคุยแลกเปลี่ยน ความคิดเห็นกันภายในหองเรียนถึงข้ันตอน การแกป ญ หาของนกั เรียนแตละคน ภาพท่ี 1.7 ภาพประกอบกิจกรรมฝกึ ทักษะับน ึทกลงในส ุมด ใหน้ กั เรียนชว่ ยโปแ ละปูแสดงลา� ดบั ขนั้ ตอนในการปลูกตน้ ไม้จากเมลด็ หนังสือเลมเนนื้อี้อหยาูในอราะจหมวีกาางรสปงรตับรปวรจุงพแิจกาไรขณา ทไี่ ดร้ ับมา ดว้ ยวิธีการเขยี นบอกเลา่ ................................................................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................................................................ 14 เกร็ดแนะครู กจิ กรรม สรางเสรมิ ครูใหนักเรียนทํากิจกรรมฝกทักษะ โดยใหนักเรียนเขียนบอกเลา ใหนักเรียนวิเคราะหลําดับข้ันตอนการปลูกตนไมท่ีนักเรียน แสดงข้ันตอนการปลูกตนไมจากเมล็ดท่ีไดรับมา โดยครูอาจใหนักเรียน ไดเขียนในกิจกรรมฝกทักษะ แลวนําขอมูลเหลานั้นมาเขียนเปน พูดคุยแลกเปล่ียนความคิดเห็นกันภายในหองเรียนกอน แลวเขียนบอกเลา ผังงานใหถูกตอง จากนั้นครูจะสุมนักเรียนออกมานําเสนอหนา แสดงขั้นตอนการปลูกตนไม หลังจากน้ันครูอาจจะสุมเลือกตัวแทนนักเรียน ชัน้ เรียน และใหนกั เรยี นจบั กลุม 3-4 คน เขียนผังงานโดยเลอื ก 3-4 คน ใหออกมานําเสนอแนวทางในการปลูกตนไมจากเมล็ดพันธุท่ีนักเรียน เร่ืองทีค่ รูกําหนดให หลังจากน้นั นํามาสง ในชั่วโมงถัดไป ไดร บั • การปลกู ดอกไม นักเรียนควรรู • การลา งจาน • การทอดไขดาว 1 พจิ ารณา คอื การตรวจสอบใหละเอียด แลวตัดสินวนิ จิ ฉยั คณุ คาวา ดหี รือ • การซักผา ไมดี และเพราะเหตุผลใด T16 96

กิจกรรม ทาทาย ภาพท่ี 1.8 ภาพประกอบกิจกรรมฝึกทักษะ บนั ทกึ ลงในสมดุ นาํ สอน ครูใหนักเรียนวาดภาพแสดงขั้นตอนการทําอาหารที่ตนเอง 2. ใ ห้นกั เรยี นใส่หมายเลข 1-6 ลงใน เพ่อื แสดงขั้นตอนการ ชอบมา 1 อยา ง โดยภาพจะตองแสดงข้ันตอนการทําอาหารอยา ง ทอดไข่ จากภาพท่กี �าหนดให้ ชัดเจนและตกแตงอยางสวยงาม โดยครูอาจจะใหนักเรียนคนหา ข้นั ตอนวิธีการทาํ อาหารจากอินเทอรเ น็ต ตัวอยางอาหาร เชน • ไขดาว • มามา ตม • กว ยเต๋ยี วหมู • ผดั ผัก T17 เกร็ดแนะครู ้นำมัน ืพช 97 ครอู าจใหน กั เรยี นนาํ ขน้ั ตอนการทอดไขท เี่ รยี งลาํ ดบั ไวใ นกจิ กรรมฝก ทกั ษะ 15หนังเนสื้อือหเลามอนาี้อจมยีกูในารระปหรวับางปสรงุงตแกรไวขจพิจารณา มาเขียนแสดงข้ันตอนการแกปญหาโดยการเขียนบอกเลา และอาจจะคิดโจทย เพิ่มเติม เพื่อใหนักเรียนไดฝกการแสดงข้ันตอนการแกปญหาเพ่ิมเติมจากใน สรปุ ประเมนิ หนังสือเรยี น ขน้ั สอน สงั เคราะหค วามรู 2. ครูใหนักเรียนทํากิจกกรมฝกทักษะ โดยให นักเรยี นใสหมายเลข 1-6 ลงในชอ งวา ง เพ่ือ แสดงลําดับข้ันตอนการทอดไข โดยให นักเรียนไดมีการพูดคุยแลกเปล่ียนความคิด เหน็ กนั ภายในหองเรยี น 3. ครใู หนกั เรยี นจบั กลมุ ตามเดมิ เเละทาํ ใบงาน ท่ี 1.3 เรื่อง การเขียนแผนงาน โดยใหน ักเรียน เขียนแผนงานการทอดไขเจยี ว 4. จากนนั้ ครใู หน กั เรยี น 2-3 คน ออกมานาํ เสนอ ผลงานหนา ชนั้ เรียน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook