Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แหล่งเรียนรู้ พฤษภาคม อำเภอเมืองหนองบัวลำภู

แหล่งเรียนรู้ พฤษภาคม อำเภอเมืองหนองบัวลำภู

Published by muangnongbua, 2020-05-28 02:09:19

Description: แหล่งเรียนรู้ พฤษภาคม อำเภอเมืองหนองบัวลำภู

Search

Read the Text Version

ทาเนียบแหลง่ เรยี นรู้ อาเภอเมืองหนองบัวลาภู จังหวดั หนองบวั ลาภู ประจาเดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2563 ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอเมืองหนองบัวลาภู สานักงานสง่ เสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดหนองบัวลาภู สานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั จังหวัดหนองบวั ลาภู

คานา ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอเมืองหนองบัวลาภู ไดจ้ ดั ทาทาเนียบแหล่ง เรียนรู้ อาเภอเมืองหนองบัวลาภู จังหวัดหนองบัวลาภู ประจาเดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2563 ซึ่งเป็น แหลง่ ข้อมลู ท่รี วบรวมภูมปิ ญ๎ ญาทอ้ งถิ่นทัง้ 9 ดา้ น ซ่ึงประกอบไปดว้ ย ดา้ นเกษตรกรรม ด้านอุตสาหกรรมละ หตั ถกรรม ด้านการแพทย์แผนไทย ด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด้านกองทุนและธุรกิจ ชุมชน ด้านศิลปกรรม ด้านภาษาและวรรณกรรม ด้านปรัชญาศาสนาและประเพณี และด้านโภชนาการ ขอบเขตของการจัดทาทาเนียบแหล่งเรียนรู้ ท้ัง 9 ด้านน้ี พร้อมที่จะให้ผู้ที่มีความสนใจเข้าไปศึกษาค้นคว้า ด้วยกระบวนการจัดการเรยี นรทู้ แี่ ตกต่างกนั ของแต่ละบุคคล ปลูกฝ๎งใหผ้ ูเ้ รยี นได้รู้และรักในท้องถิ่นของตนเอง มองเหน็ คุณค่าในชมุ ชนของตนเอง และเป็นการสง่ เสริมการเรยี นรู้ตลอดชีวิตเป็นแหล่งเชื่อมโยงให้สถานศึกษา และชมุ ชนมคี วามสมั พนั ธ์ใกล้ชดิ กัน การจดั ทาขอ้ มูลทาเนยี บแหล่งเรียนรู้ อาเภอเมืองหนองบัวลาภู ครั้งน้ีได้รับความร่วมมืออย่างยิ่งจาก แหล่งสารสนเทศที่ได้จากการจัดทาแหล่งเรียนรู้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง เพื่อใช้เป็น แนวทางในการขยายผลและพัฒนาการดาเนินงานที่ถูกต้องเพ่ือให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการ ดาเนนิ งานยิง่ ขน้ึ ไป กลุม่ งานอัธยาศัยอาเภอเมอื งหนองบัวลาภู กศน. อาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู ผูจ้ ัดทา ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู สานกั งานสง่ เสริมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยจังหวดั หนองบวั ลาภู

สารบญั หน้า ทาเนยี บแหลง่ เรียนรู้ 1 5 ทาเนียบแหล่งเรยี นรู้ อาเภอเมืองหนองบัวลาภู 9 ตาบลโนนทัน 14 ตาบลหวั นา 17 ตาบลนาคาไฮ 20 ตาบลหนองบวั 24 ตาบลลาภู 28 ตาบลบ้านขาม 34 ตาบลกุดจกิ 39 ตาบลหนองสวรรค์ 44 ตาบลโพธิ์ชยั 48 ตาบลหนองภยั ศูนย์ 52 ตาบลปาุ ไม้งาม 56 ตาบลโนนขมิน้ 61 ตาบลหนองหวา้ ตาบลนามะเฟือง ตาบลบ้านพรา้ ว คณะผู้จัดทา ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู สานักงานสง่ เสริมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั จงั หวดั หนองบัวลาภู

ประวัตแิ ละผลงานครภู ูมปิ ัญญาทอ้ งถ่ิน ตาบลโนนทนั อาเภอเมืองหนองบัวลาภู จังหวดั หนองบวั ลาภู ดา้ น การจดั การทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม สาขา ภูหนิ ลาดชอ่ ฟา้ ภหู นิ ลาดชอ่ ฟา้ ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู สานกั งานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยจังหวดั หนองบวั ลาภู

ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองหนองบัวลาภู สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั จงั หวัดหนองบัวลาภู

ภูหนิ ลาดชอ่ ฟา้ ประวตั แิ ละผลงานครภู ูมปิ ญั ญาท้องถนิ่ จังหวัดหนองบัวลาภู ดา้ นการจดั การทรัพยากรธรรมชาติ และสง่ิ แวดลอ้ ม สาขา สถานทที่ ่องเท่ยี ว ประวัติชวี ติ และผลงาน ภูหินลาดช่อฟูา ต้ังอยู่ที่เทือกเขาภูพานคา บ้านภูพานคา ตาบลโนนทัน อาเภอเมืองหนองบัวลาภู เป็นอาณาบริเวณของปุาดิบและลานหินกว้างใหญ่ ผืนปุายังอุดมสมบูรณ์ มีความงดงามของพันธ์ุไม้ปุาชนิด ต่างๆ มีก้อนหินขนาดน้อย ใหญ่รูปร่างลักษณะแปลกตาเป็นร่องคล้ายถูกน้าเซาะกัดกร่อนมาเป็นเวลานาน จนก่อให้เกิดโขดหินรูปร่างคล้ายช่อฟูาและโพรงถ้า สามารถเดินชมดอกไม้ปุาท่ีเกาะเกี่ยวกับผนังของหิน และสามารถมองเห็นทัศนียภาพของตัวจังหวัดหนองบัวลาภู และเข่ือนห้วยหลวง จังหวัดอุดรธานีได้อย่าง ชัดเจน และเคยเป็นสถานท่ีพานักและศนู ย์บญั ชาการของนสิ ิต นักศกึ ษา และผู้ร่วมพฒั นาชาติไทย ในการต่อสู้ ทางการเมอื ง เมือ่ ปี พ.ศ.๒๕๑๙ ในอดีตที่ผ่านมา และมีประวัติเกย่ี วกับสถานทตี่ ่างๆ ในการต่อสู้และดารงชีวิต ของผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ท่ีน่าสนใจและมีประวัติเก่ียวกับทับต่างๆ ประกอบด้วย ทับบันเทิง ทับสามสิบสอง อ่าง ทบั ถา้ ใหญ่ ทบั กกบก ทบั สูง ทับโรงแรม ทับววิ ัฒน์ ทับพยาบาล ทับซาบก ฯลฯ และยังมีสถานท่ีน่าสนใจ อีกหลายแห่ง คือ ลานตาหมากฮ็อต ซานกยูง ลานกลางภูหินลาดช่อฟูา ถ้าเวที และถ้าวิทยุ เอกสาร จึงเป็น สถานท่ีทางประวัติศาสตร์ที่น่าศึกษาและพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดอีกแห่งหนึ่ง และมีสถูปภูซาง (อนสุ รณส์ ถานผู้รว่ มพัฒนาชาติไทย) ทบี่ า้ นหว้ ยเด่อื ตาบลโนนทัน เปน็ สถานทีเ่ ก็บอัฐิของผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ท่เี สียชวี ิตในการตอ่ สูแ้ ละจากการเจบ็ ปวุ ย ประมาณสองรอ้ ยกว่าคน ในเขตเทือกเขาภพู านคา การเดนิ ทาง : เทือกเขาภพู านคา บา้ นภพู านคา ตาบลโนนทัน อาเภอเมืองหนองบัวลาภู ภูหนิ ลาดชอ่ ฟาู เป็นปาุ ดิบเขาและลานหินกว้างใหญ่ ผืนปุายังคงความอุดมสมบูรณ์ และยังมีความงดงามของ พันธุ์ไม้ปุาชนิดต่าง ๆ ก้อนหินรูปลักษณะแปลกตา เป็นร่องคล้ายถูกน้าเซาะกัดกร่อนมาเป็นเวลานาน จนก่อใหเ้ กดิ โขดหินรปู รา่ งคล้ายช่อฟูา และโพรงถ้า มีทางเดินชมดอกไม้ปุาท่ีเกาะบนผนังของหินได้ สามารถ มองเทือกเขาภูพานคาสถานท่ีพานักและศูนย์บัญชาการของนิสิต นักศึกษา และประชาชนในการต่อสู้ทาง การเมอื งเมอื่ ปี พ.ศ.2519 ซ่งึ ยงั คงเหลอื รอ่ งรอยของอดีต เช่น สถูปภูซาง และในบรเิ วณถา้ ตา่ ง ๆ องคค์ วามรูแ้ ละความเช่ียวชาญ 1. เปน็ แหลง่ เรยี นรูด้ ้านทรัพยากรทรัพยากรธรรมชาติ -ผาหิน -ธรรมชาติ –ปาุ ไม้ 2. ภูหินลาดชอ่ ฟาู (พื้นท่ที างประวตั ศิ าสตร์ ของพรรคคอมมวิ นิสต์แห่งประเทศไทย) ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองหนองบวั ลาภู สานักงานส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยจงั หวดั หนองบัวลาภู

การถ่ายทอดความรูแ้ ละความเช่ยี วชาญ 1. ประวตั ิศาสตร์ 2. การจดั การทรัพยากรธรรมชาติ และส่งิ แวดลอ้ ม ลักษณะของเครือขา่ ยและการสรา้ งเครือข่าย 1. องค์การบรหิ ารส่วนตาบลโนนทนั 2. สานักงานพัฒนาชมุ ชนจังหวัดหนองบวั ลาภู 3. สานักงานทอ่ งเท่ียวหนองบวั ลาภู ผลงานท่เี ปน็ ประโยชน์ตอ่ ชมุ ชนและสงั คม ภูหินลาดชอ่ ฟูา (พื้นทที่ างประวตั ศิ าสตร์ ของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย) เป็นปุาดิบเขาและ ลานหินกว้างใหญ่ ผืนปุายังคงความอุดมสมบูรณ์ และยังมีความงดงามของพันธุ์ไม้ปุาชนิดต่าง ๆ ก้อนหิน รูปลักษณะแปลกตา เป็นร่องคล้ายถูกน้าเซาะกดั กรอ่ นมาเปน็ เวลานาน จนกอ่ ให้เกิดโขดหินรูปร่างคล้ายช่อฟูา และโพรงถา้ มที างเดินชมดอกไมป้ าุ ที่เกาะบนผนงั ของหินได้ สามารถมองเทือกเขาภูพานคา สถานที่พานักและ ศูนย์บัญชาการของนิสิต นักศึกษา และประชาชนในการต่อสู้ทางการเมืองเมื่อปี พ.ศ.2519 ซ่ึงยังคงเหลือ ร่องรอยของอดตี เช่น สถปู ภซู าง และในบริเวณถ้าตา่ ง ๆ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอเมืองหนองบัวลาภู สานกั งานสง่ เสริมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวดั หนองบวั ลาภู

ประวัตแิ ละผลงานครูภูมิปัญญาท้องถ่ิน ตาบลหัวนา อาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู จังหวัดหนองบวั ลาภู ดา้ น อตุ สาหกรรมและหตั ถกรรม สาขา การทอผ้าและแปรรูปผ้า นางมะลวิ ลั ย์ จารองเพ็ง ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอเมืองหนองบัวลาภู สานกั งานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวดั หนองบัวลาภู

ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองหนองบัวลาภู สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั จงั หวัดหนองบัวลาภู

นางมะลิวัลย์ จารองเพ็ง ประวัตปิ ระวตั แิ ละผลงานครภู มู ปิ ญั ญาทอ้ งถิน่ จงั หวดั หนองบวั ลาภู ด้าน อตุ สาหกรรมและหตั ถกรรม สาขา การทอผา้ และแปรรปู ผ้า ประวัตชวี ติ และผลงาน นางมะลิวัลย์ จารองเพ็ง เกดิ เมอ่ื วนั ท่ี 11 สงิ หาคม 2522 เกิดท่ีบ้านเลขที่ 33 หมู่ท่ี 3 ตาบลหัว นา อาเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลาภู ป๎จจุบันนางมะลิวัลย์ จารองเพ็ง ประกอบอาชีพเกษตรกรรม โดยได้ใช้ เวลาวา่ งศึกษาเกี่ยวกบั การทอผ้าและการแปรรูปผา้ และเร่ิมลงมอื ทาจนได้ชนิ้ งานทมี่ คี วามสวยงามหลากหลาย จากนั้นจึงได้มีการรวมกลุ่มเพ่ือจัดทาเริ่มต้นจากสมาชิก10 คน จนป๎จจุบันมีสมาชิก 20 คน มีการจัดแสดง สินค้าตามท่หี นว่ ยงานราชการจดั ขน้ึ มอี อเดอร์จากคนในพ้นื ท่ี มกี ารคา้ ผา่ นโซเชียล องคค์ วามรูแ้ ละความเชี่ยวชาญ นางมะลิวลั ย์ จารองเพง็ มีองคค์ วามรู้และความเชี่ยวชาญ ด้านการทอผ้าเป็นอย่างดี มีการไปอบรม และศึกษาดูงาน พัฒนาตนเองและกลุ่มอยู่เสมอจึงทาให้เป็นที่ต้องการของตลาด และความรู้ที่ได้รับยังนาไป ถ่ายทอดให้แก่ผู้เรียนและผู้คนท่ีสนใจ โดยใช้กระบวนการถ่ายทอดความรู้ท่ีหลากหลาย เช่น การอธิบาย การสาธิต และให้ผ้เู รียนฝกึ ปฏบิ ตั ิจรงิ การถา่ ยทอดความรู้และความเชย่ี วชาญ นางมะลิวัลย์ จารองเพ็ง ได้รับความไว้วางใจให้เป็นวิทยากรสอนกลุ่มอาชีพให้กับประชาชนในพ้ืนท่ี ต่างๆ มกี ารบรรยาย ถงึ ความสาคญั มกี ารสาธิตและนาสกู่ ารปฏิบัตจิ รงิ ลักษณะของเครือขา่ ยและการสร้างเครอื ข่าย นางมะลิวัลย์ จารองเพ็ง มีตาแหน่งเป็น อสม. จึงมีผู้รู้จักและทางานร่วมกันอยู่หลายหน่วยงาน ในบางครั้งการเกิดงานช้ินใหม่ๆ ก็เกิดข้ึนจากประสบการณ์ การแลกเปลี่ยนกันรู้จักกันมากหน้าหลายตา ก็ทาให้เกดิ จากประสบการณ์ นางมะลวิ ัลย์ จารองเพง็ มเี ครอื ข่ายภาครัฐและเอกชน ประกอบด้วย 1. สานักงานเกษตรอาเภอ 2. สานกั งานพัฒนาชมุ ชนอาเภอ 3. องค์การบรหิ ารส่วนตาบลหัวนา 4. เทศบาลตาบลหัวนา 5. ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอเมืองหนองบวั ลาภู สานกั งานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยจงั หวัดหนองบวั ลาภู

ผลงานทเี่ ปน็ ประโยชนต์ ่อชมุ ชนและสงั คม นางมะลิวัลย์ จารองเพ็ง เป็นคนที่ใฝุหาความรู้ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มีความอดทน เสียสละ มีลักษณะพเิ ศษอีกอย่าง คือใจเยน็ พรอ้ มรบั มือกบั ทุกสงิ่ ทกุ อยา่ งดว้ ยความสุขุมรอบคอบ รางวัลหรือเกียรตคิ ุณทไ่ี ดร้ ับ 1. เกยี รตบิ ัตร จากพัฒนาชุมชน เปน็ วทิ ยากรการอบรมเชิงปฏบิ ตั ิการ 2. เกียรตบิ ตั ร จาก สานกั งาน กศน.จงั หวัดหนองบัวลาภู เป็นวิทยากร ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอเมอื งหนองบัวลาภู สานกั งานส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยจงั หวดั หนองบวั ลาภู

ประวตั แิ ละผลงานครูภูมปิ ัญญาทอ้ งถิ่น ตาบลนาคาไฮ อาเภอเมืองหนองบวั ลาภู จังหวดั หนองบัวลาภู ด้าน อตุ สาหกรรมและหัตถกรรม สาขา การทาไมก้ วาดดอกหญ้า นายทองคา ประเสริฐสม ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองหนองบัวลาภู สานกั งานสง่ เสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั จงั หวัดหนองบัวลาภู

ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองหนองบัวลาภู สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั จงั หวัดหนองบัวลาภู

นายทองคา ประเสริฐสม ประวัตแิ ละผลงานครภู ูมปิ ญั ญาทอ้ งถนิ่ จังหวดั หนองบวั ลาภู ด้าน อุตสาหกรรมและหตั ถกรรม สาขา การทาไม้กวาดดอกหญา้ ประวตั ิชีวติ และผลงาน นายทองคา ประเสรฐิ สม เกดิ เมอื่ วนั ท่ี 12 สิงหาคม 249 เกิดท่ีบ้านฮองข่า หมู่ท่ี 8 ตาบลนาคาไฮ อาเภอเมอื ง จังหวัดหนองบัวลาภู นายทองคา ประเสริฐ ไดเ้ รียนรูก้ ารทาไม้กวาดดอกหญ้าดว้ ยการดูและจดจาการทาจากการฝึกอบรม แลว้ นาไปฝกึ ลองทาและยดึ เปน็ รายไดเ้ สริมมาจนถึงปจ๎ จุบนั องคค์ วามรู้ และความเชยี่ วชาญ นายทองคา ประเสรฐิ สม มอี งค์ความรู้เช่ียวชาญ ที่นาไปถ่ายทอดแก่ผู้เรียน และผู้คนที่สนใจ โดยใช้ กระบวนการถ่ายทอดความรทู้ ี่หลากหลาย เช่น การอธิบาย การสาธิต และให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติจริง ตามหัวข้อ ดงั ตอ่ ไปน้ี การแนะนาวัสดุอุปกรณท์ าไมก้ วาดดอกหญ้า ขนั้ ตอนทาไม้กวาดดอกหญ้าและการจาหน่ายผลผลิต รายละเอยี ดองคค์ วามรู้ที่ นายทองคา ประเสรฐิ สม ถา่ ยทอดองค์ความรู้แกผ่ ู้เรียนตามขน้ั ตอนดังน้ี อปุ กรณก์ ารทาไม้กวาดดอกหญา้ 1. เขม็ เยบ็ กระสอบ 2. เชือกฟาง 3. ไมไ้ ผ่ ความยาวประมาณ80 ซม. 4. ดอกหญ้า 5. ตะปูขนาด1 นิ้ว จานวน2ตวั ข้นั ตอนการทาไมก้ วาด 6. ลวด 7. เต้าพลาสติก 8. คีมตดั ลวด 9. คอ้ น วธิ ที าไมก้ วาดดอกหญ้า 1. นาดอกหญ้ามาทาความสะอาดและตากแดดให้แหง้ คดั เลอื กดอกหญ้าท่มี ีคุณภาพ 2. นาดอกหญา้ ปรมิ าณ1 กามอื มดั ให้เปน็ วงกลมโดยมดั ดว้ ยลวด 3. นาเข็มเย็บกระสอบ ซึง่ รอ้ ยเชอื กฟางไวแ้ ล้ว แทงเข้าตรงกลางมัดดอกหญ้าแล้วถักขึ้น 3 ชั้นพร้อม จดั ดอกหญา้ ให้มลี ักษณะแบน 4. ตดั โคนดอกหญา้ ใหเ้ สมอกัน 5. นาด้ามไม้ไผ่เจาะรูที่หัวไว้สาหรับร้อยเชือกและเจาะรูตรงปลายนา มาขัดด้วยก้อน กลางมัดดอก หญ้า ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอเมืองหนองบวั ลาภู สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดหนองบัวลาภู

6. นาเชอื กฟางมัดดอกหญา้ ไวด้ ้วยกนั โดยนาเชือกฟางมาสอดตรงรูที่เจาะเพื่อปูองกันดอกหญ้าออก จากกนั 7. ตอกตะปทู ่เี ตรียมไวเ้ พื่อให้ดอกหญ้าติดกับดา้ มไมไ้ ผ่และและมีความแข็งแรงข้ึน ประโยชนไ์ ม้กวาดดอกหญา้ 1. ชอ่ ดอกนยิ มใช้ทาไมก้ วาดหรอื ทเี่ รยี กไม้กวาดดอกหญ้า ซ่ึงมีความจาเป็นสาหรับผลิตจาหน่ายเพ่ือ สร้างรายได้ท้ังในรูปของเกษตรในครัวเรือน หรือรวมกลุ่มกันในชุมชน อุตสาหกรรมสาหรับ ส่งจาหน่าย ตา่ งประเทศ 2. ยอดอ่อน และหน่อออ่ นนามารบั ประทานสดคกู่ ับนา้ พริกหรอื นา ไปประกอบอาหารต่างๆ 3. ลาต้น ใบ และยอดออ่ นใชส้ าหรบั เปน็ อาหารหยาบใหแ้ ก่โค กระบือ วิธีเกบ็ รกั ษาไมก้ วาดดอกหญ้า 1. สาหรับด้ามไมก้ วาดท่ีมีเชือกแขวน หลงั จากใช้แลว้ ใหแ้ ขวนไว้ โดยมคี วามสูงที่ผืนดอกหญา้ จากพืน้ 2. หากดา้ มไม้กวาดไมม่ ีเชอื กหอ้ ย ให้วางด้ามไม้กวาด โดยให้ผืนแผ่นหญ้าตั้งขึ้นอยู ผืนดอกหญ้าพับ บนพืน้ จะทาใหก้ ้าน ดอกหญา้ งอพับได้ 3. ไม่ควรเก็บไม้กวาดด้านนอกที่เสี่ยงต่อน้าฝน และหากก้านดอกหญ้าถูกน้าจนเปียก ให้แห้งก่อน นามาใช้ ปจั จัยทีน่ าสู่ความสาเรจ็ 1. สร้างรายได้ให้กับตนเอง 2. รักษาภมู ปิ ๎ญญาท้องถน่ิ 3. ไดเ้ ห็นจากคนขา้ งบา้ นแลว้ เกิดแรงบนั ดาลใจ คิดท่ีจะทา การถ่ายทอดความรู้และความเชย่ี วชาญ นายทองคา ประเสริฐสม ถ่ายทอดความรู้การทาไม้กวาดดอกหญ้า ผ่านการศึกษาท้ัง 2 รูปแบบ ดังน้ี 1. การศกึ ษาในระบบ เปน็ วทิ ยากรถา่ ยทอดความรูก้ ารทาไมก้ วาดดอกหญ้า ใหแ้ กน่ ักเรยี นในโรงเรยี น 2. การศึกษานอกระบบ เป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้การทาไม้กวาดดอกหญ้า ให้แก่ กศน.อาเภอ เมอื งหนองบวั ลาภู ลักษะของเครือขา่ ยและการสรา้ งเครอื ขา่ ย นายทองคา ประเสรฐิ สม มีเครอื ขา่ ยและมวี ธิ ีการสรา้ งเครือข่ายดังนี้ เครอื ข่ายภาครฐั และเอกชน ประกอบดว้ ย 1. สานักงานเกษตรอาเภอเมืองหนองบัวลาภู ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองหนองบัวลาภู สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั จงั หวดั หนองบวั ลาภู

2. สานักงานพฒั นาชมุ ชนอาเภอเมอื งหนองบัวลาภู 3. ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู 4. อบต.นาคาไฮ 5. กลุ่มเกษตรอาเภอเมืองหนองบัวลาภู วิธกี ารสรา้ งเครอื ขา่ ย นายทองคา ประเสริฐสม มีวิธีการสร้างเครือข่ายโดยการไปเป็นวิทยากรการทาไม้กวาดดอกหญ้า ตามหน่วยงานทง้ั ภาครัฐและเอกชนตลอดจนได้รับเชิญชวนให้ผู้สนใจการทาไม้กวาดดอกหญ้า ไปศึกษาดูงาน ใน การทาไม้กวาดดอกหญ้า และได้จัดทาแผ่นพับ เอกสารการทาไม้กวาดดอกหญ้า แจกจ่ายให้กับเครือข่าย และประชาชนผสู้ นใจในอาชีพการทาไมก้ วาดดอกหญ้าอยา่ งต่อเนอื่ ง ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู สานกั งานสง่ เสริมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั จังหวัดหนองบัวลาภู

ประวตั แิ ละผลงานครูภูมิปัญญาทอ้ งถ่ิน ตาบลหนองบัว อาเภอเมืองจงั หวดั หนองบวั ลาภู ด้าน เกษตรกรรม สาขา ปลกู ผกั อินทรยี ์ นางสมพงษ์ พวงพนั ธ์ ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภอเมืองหนองบวั ลาภู สานกั งานสง่ เสริมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั จงั หวดั หนองบวั ลาภู

ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองหนองบัวลาภู สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั จงั หวัดหนองบัวลาภู

นางสมพงษ์ พวงพนั ธ์ ประวตั แิ ละผลงานครภู ูมปิ ญั ญาท้องถน่ิ จังหวัดหนองบัวลาภู ด้าน เกษตรกรรม สาขา ปลกู ผกั อนิ ทรีย์ ประวัติชีวติ และผลงาน นางสมพงษ์ พวงพันธ์ อยู่บ้านเลขท่ี 221 หมู่ 5 ตาบลหนองบัว อาเภอเมืองหนองบัวลาภู จังหวดั หนองบวั ลาภู อาชีพเกษตร คุณแม่ตัวอย่าง เป็นสมาชกิ กลุม่ สหกรณใ์ นหม่บู า้ น องค์ความรู้และความเชยี่ วชาญ 1. ดา้ นเกษตร หมู่ 5 2. ภูมิป๎ญญาทอ้ งถิน่ ดา้ นเกษตรกรรมสาขาปลกู ผักอินทรีย์ ลักษณะของเครอื ข่ายและการสรา้ งเครือข่าย 1. องค์การบรหิ ารสว่ นตาบลหนองบัว 2. ศนู ย์การศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองจังหวดั หนองบวั ลาภู 3. อาสาสมัครสาธารณสุขประจาหมู่บ้าน ผลงานท่ีเปน็ ประโยชนต์ ่อชมุ ชนและสงั คม 1. องคค์ วามรดู้ ้านเกษตรกรรมในชุมชน รางวลั หรอื เกยี รตคิ ณุ ทไ่ี ด้รบั - ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอเมืองหนองบวั ลาภู สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั จังหวัดหนองบวั ลาภู

ประวัติและผลงานภมู ปิ ญั ญาท้องถนิ่ ตาบลลาภู อาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู จงั หวัดหนองบัวลาภู ด้าน ศลิ ปกรรม สาขา โบราณสถาน วดั ปา่ อุทยาน (บ้านลาภู) ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอเมืองหนองบัวลาภู สานกั งานสง่ เสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั จังหวัดหนองบวั ลาภู

ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองหนองบัวลาภู สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั จงั หวัดหนองบัวลาภู

วดั ปา่ อุทยาน (บ้านลาภ)ู ประวัตแิ ละผลงานภูมปิ ัญญาท้องถ่นิ จังหวดั หนองบัวลาภู ด้าน ศลิ ปกรรม สาขา โบราณสถาน ประวตั ิชวี ติ และผลงาน วัดปุาอุทยาน (บ้านลาภู ) ตัง้ อยู่ หมูท่ ่ี 11 ชมุ ชนบ้านลาภูเหนอื ตาบลลาภู อาเภอเมืองหนองบัวลาภู จังหวดั หนองบวั ลาภู องคค์ วามรู้และความเชี่ยวชาญ เป็นแหล่งเรียนรู้โบราณสถาน / ศาสนสถาน แหล่งเรียนรู้ด้านศิลปะและวัฒนธรรมโบสถ์วัด แหล่งเรยี นรู้ในท้องถ่นิ ชุมชน แหล่งท่องเทย่ี วทางวฒั นธรรมประเพณี การถ่ายทอดความรแู้ ละความเชีย่ วชาญ 1. ประวัติศาสตร์ 2. ศิลปะสถาปต๎ ยกรรม ศนู ยศ์ ิลปะวัฒนธรรมเก่ียวกบั ศาสนา 3. ประเพณวี ัฒนธรรมท้องถน่ิ 4. สถานทก่ี ราบไหว้ และแหลง่ สถานปฏบิ ัตธิ รรม แหล่งโบราณสถาน ลักษณะของเครือข่ายและการสร้างเครือข่าย 1. แหลง่ ทอ่ งเที่ยวทางวัฒนธรรม 2. แหล่งเรยี นรู้ศิลปะ แหลง่ เรียนรู้ในทอ้ งถน่ิ 3. สถานท่ีกราบไหว้ และแหล่งสถานปฏิบัติธรรม แหล่งโบราณสถาน ผลงานที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชนและสังคม 1. เป็นโบราณสถาน ศาสนสถาน และเป็นแหล่งเรียนรู้ศิลปะ แหล่งเรียนรู้ในท้องถ่ิน สถานท่ีกราบ ไหวแ้ ละแหล่งสถานปฏิบัติธรรม แหล่งโบราณสถาน รางวลั หรือเกียรตคิ ุณทีไ่ ดร้ บั - ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู สานกั งานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยจงั หวัดหนองบวั ลาภู

ประวัติและผลงานครูภมู ปิ ัญญาท้องถิ่น ตาบลบา้ นขาม อาเภอเมืองหนองบัวลาภู จังหวัดหนองบัวลาภู ดา้ น การเกษตรกรรม สาขา เศรษฐกจิ พอเพยี งและเกษตรทฤษฎใี หม่ นายสมจิตร อรณุ โน ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู สานกั งานสง่ เสริมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั จังหวดั หนองบวั ลาภู

ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองหนองบัวลาภู สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั จงั หวัดหนองบัวลาภู

นายสมจติ ร อรณุ โน ประวตั แิ ละผลงานครภู มู ปิ ญั ญาทอ้ งถนิ่ จังหวดั หนองบัวลาภู ดา้ น เกษตรกรรม สาขา เศรษฐกิจพอเพยี ง และเกษตรทฤษฎีใหม่ ประวตั ิชวี ติ และผลงาน นายสมจิตร อรุณโน เกิดเม่ือวันท่ี 5 เดือนมีนาคม 2496 อายุ 67 ปี เกิดที่บ้านธาตุหาญเทาว์ หมู่ที่ 13 ตาบลบ้านขาม อาเภอเมืองหนองบัวลาภู จังหวัดหนองบัวลาภู เป็นบุตรของนายแก้ว อรุณโน และนางออ่ น อรณุ โน ป๎จจบุ ันสมรสและมีบตุ ร 2 คน เปน็ บตุ รหญงิ ทง้ั 2 คน เป็นภูมิป๎ญญาท้องถ่ิน ด้านการเกษตรทฤษฎีใหม่ บ้านธาตุหาญเทาว์ หมู่ท่ี 12 ตาบลบ้านขาม อาเภอเมืองหนองบัวลาภู จงั หวัดหนองบัวลาภู องคค์ วามรู้ และความเชี่ยวชาญ นายสมจิตร อรุณโน มีองค์ความรู้เช่ียวชาญที่นาไปถ่ายทอดแก่ผู้เรียน และผู้คนที่สนใจ โดยใช้ กระบวนการถ่ายทอดความร้ทู ีห่ ลากหลาย เช่น การอธิบาย การสาธิต และให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติจริง ตามหัวข้อ ดังตอ่ ไปน้ี การทาปยุ๋ หมกั ชวี ภาพ การทาฮอรโ์ มนไข่ และการเกษตรทฤษฎีใหม่ การทาไรน่ าสวนผสม และการ จาหนา่ ยผลผลิต รายละเอยี ดองค์ความรู้ท่ี นายสมจิตร อรุณโน ถ่ายทอดองค์ความรู้แก่ผู้เรียนตามข้ันตอน ดงั น้ี นายสมจิตร อรุณโน มีความเชี่ยวชาญทางด้านการทาปุ๋ยหมักชีวภาพ การทาฮอร์โมนไข่ และ การเกษตรทฤษฎใี หม่ การทาไร่นาสวนผสม มีการพัฒนาตนเองและกลุ่มอย่างสม่าเสมอได้ร่วมการอบรมและ ศึกษาดงู านอยู่เป็นชว่ งเวลาเสมอๆจึงทาใหม้ คี วามรู้ด้านการเกษตรทฤษฎีใหม่ ด้านเศรษฐกิจพอพียง และการ ทาไรน่ าสวนผสม ออกมาเปน็ สินค้าทม่ี ีความตอ้ งการของตลาดเสมอ โดยมพี ่อค้าคนกลางมาติดต่อรับไปขาย ท่ตี ลาด และเป็นสินค้า OTOP ชุมชน ในหมู่บ้านนวัตวิถี เช่นมีมะนาว ส้มจีน ส้มโอ เห็ด จาหน่ายในชุมชน สม่าเสมอ ในตลาดชุมชนตาบลบา้ นขาม นายสมจติ ร อรุณโน เปน็ ผู้ทใ่ี ฝุเรียนศึกษาหาความรู้อยู่เป็นนิสัยได้ ฝึกอบรมตามหลักสูตรต่างๆเกี่ยวกับการทอผ้าเพ่ิมเติมความรู้อยู่ตลอดเวลา มีความ ใจเย็น สุขุม จึงสามารถ เรียนรูไ้ ดอ้ ยา่ งรวดเรว็ และเดมิ มีความรจู้ ากการมารดาทถ่ี า่ ยทอดใหค้ รัง้ ยงั มชี วี ิตอยู่ การถา่ ยทอดความรู้และความเชี่ยวชาญ นายสมจิตร อรุณโน ได้รับความไว้วางใจให้ไปสอนประชาชนในเขตพื้นท่ีตาบลบ้านขามและตาบล ใกลเ้ คยี งรวมท้งั ไดร้ บั เชิญให้มาเป็นวิทยากรสอนกลุ่มอาชีพ ของศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศัยอาเภอเมืองหนองบัวลาภู โยการจัดกิจกรรมของ กศน.ตาบลบ้านขาม หลักสูตร กลุ่มเศรษฐกิจ พอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ จานวน 3 ชั่วโมง ในภาคเรียนท่ี 2/2562 โดยจัดการเรียนการสอน ต้ังแต่ วันท่ี 27-30 มกราคม 2563 ได้จัดการเรียนการสอน เรื่องความสาคัญและขั้นตอนของการเลือกวัสดุ ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยจังหวัดหนองบวั ลาภู

ตลอดจนขน้ั ตอน การทอ ใหก้ บั กลุ่มท่สี นใจเรียน โดยถ่ายทอดความรู้ได้เป็นอย่างดี เข้าใจง่ายนาไปปรับใช้ได้ เหมาะสมในการสรา้ งอาชพี ต่อยอดอาชีพเดิม ลกั ษณะของการสร้างเครือข่ายและสร้างเครือข่าย นายสมจิตร อรุณโน มีตาแหน่งเป็น ปราชญ์ชาวบ้าน ภูมิป๎ญญาท้องถ่ิน หมู่ที่ 13 บ้านธาตุหาญ เทาว์ ตาบลบา้ นขาม อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู จังหวัดหนองบัวลาภู และ ยังเป็นประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ตาบลบา้ นขาม มคี วามรคู้ วามสามารถหลากหลายด้าน เช่น การทาเกษตรทฤษฎีใหม่ การทาไร่นาสวนผสม การทาปุ๋ยหมักชีวภาพ การทาฮอร์โมนไข่ เป็นต้น ในการเป็นผู้ที่ชอบศึกษาเรียนรู้ส่ิงใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา รกั การเผยแพร่ มนี า้ ใจ จงึ เปน็ ทรี่ ักของคนในชมุ ชนจนได้รบั การยกย่อง วา่ ปราชญ์ชาวบ้าน เชน่ ป๎จจบุ นั ผลงานที่เป็นประโยชน์ตอ่ ชุมชนและสังคม นายสมจิตร อรุณโน เป็นคนที่ชอบใฝุหาความรู้ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มีความอดทน เสียสละ มีลักษณะพิเศษอีกอย่างคือ ใจเย็น สุขุม จึงทาให้มีผลงานท่ีละเอียดประณีตเป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาผู้คนอยู่ เสมอ มนี ้าใจ ถา่ ยทอดความรอู้ ย่างเตม็ ทท่ี ้งั มีคา่ ตอบแทน และไม่มีค่าตอบแทน รางวลั /ใบประกาศเกยี รตคิ ณุ ท่ไี ดร้ บั 1. ไดร้ ับใบประกาศนียบตั ร จากการเป็นวิทยากรสอนวชิ าชพี กล่มุ สนใจในโครงการ เศรษฐกิจพอเพียง และเกษตรทฤษฎีใหม่ หลกั สูตรการทาเกษตรทฤษฎใี หม่ การทาไร่นาสวนผสม การทาปุ๋ยหมักชีวภาพ การทา ฮอรโ์ มนไข่ ได้รบั ใบประกาศนยี บัตร จากสานักงานพัฒนาชุมชนอาเภอเมืองหนองบัวลาภู ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู สานักงานสง่ เสริมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั จังหวัดหนองบวั ลาภู

ประวตั ิและผลงานครภู มู ิปัญญาทอ้ งถิ่น ตาบลกดุ จกิ อาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู จังหวัดหนองบวั ลาภู ด้าน อตุ สาหกรรมและหัตถกรรม สาขา การทาเหรยี ญโปรยทาน นางทองมว้ น ภตู าพสั ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู สานักงานสง่ เสริมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั จงั หวัดหนองบัวลาภู

ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองหนองบัวลาภู สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั จงั หวัดหนองบัวลาภู

นางทองม้วน ภตู าพสั ประวัตปิ ระวัตแิ ละผลงานครภู มู ปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ จงั หวดั หนองบวั ลาภู ดา้ น อตุ สาหกรรมและหตั ถกรรม สาขา การทาเหรียญโปรยทาน ประวตั ิชีวติ และผลงาน นางทองม้วน ภูตาพัส เกิดเม่ือวันที่ 18 เดือน มกราคม พ.ศ. 2500 เกิดท่ีบ้านทุ่งโปร่ง หมู่ที่ 3 ตาบลกุดจิก อาเภอเมืองหนองบัวลาภู จังหวัดหนองบัวลาภู อาชีพทานา ป๎จจุบัน นางทองม้วน ภูตาพัส ประกอบอาชีพ ทานา ที่อยู่สามารถติดต่อนางทองม้วน ภูตาพัส คือ บ้านเลขท่ี 227 หมู่ที่ 3 ตาบลกุดจิก อาเภอเมืองหนองบัวลาภู จังหวัดหนองบัวลาภู นางทองม้วน ภูตาพัส เกิดในตระกูลชาวนา เรียนจบช้ัน ประถมศึกษาปีที่ 6 มีผลงานในการทาเหรียญโปรยทาน 10 ปี และได้อุทิศตนเพ่ือชุ มชนและสังคม มาโดยตลอดได้รับเชิญไปเป็นวิทยากรการทาเหรียญโปรยทาน เช่น องค์การบริหารส่วนตาบลกุดจิก รพ.สต.ทงุ่ โปร่ง ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอเมืองหนองบัวลาภู องค์ความรแู้ ละความเชยี่ วชาญ นางทองม้วน ภูตาพัส มีองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญ ที่นาไปถ่ายทอดให้แก่ผู้เรียน และผู้ท่ีสนใจ โดยใช้กระบวนการถ่ายทอดความรู้ที่หลากหลาย เช่น การอธิบาย การสาธิต และให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติจริง ตามหัวข้อดังต่อไปนี้ การแนะนาวัสดุอุปกรณ์การทาเหรียญโปรยทาน ข้ันตอนการเลือกริบบ้ิน การดอก การสานเข้าดอก ก ารปร ะมาณร าคาและการจาหน่ายผลิตภัณฑ์ รายละเอียดองค์ความรู้ ที่ นางทองม้วน ภตู าพัส ถา่ ยทอดองคค์ วามรแู้ กผู้เรียนตามข้ันตอนดงั น้ี การถา่ ยทอดความรแู้ ละความเช่ียวชาญ ข้ันตอนที่ 1 การคัดเลือกริบบิ้นเลือกสี นาวัสดุข้างต้นมาทาการวัดแล้วตัดเพื่อจะได้ทาดอกหรือ รูปแบบตา่ งๆ ขน้ั ตอนท่ี 2 นาเงินเหรียญมาวางแลว้ ทาการสอดหรือการร้อยริบบน้ิ ของรูปต่างๆเพ่อื ทาเป็นฐาน ขน้ั ตอนท่ี 3 สอดรบิ บิน้ จนเป็นรปู รา่ งที่ต้องการ ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู สานกั งานส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั จงั หวดั หนองบวั ลาภู

ลกั ษณะของเครอื ข่ายและการสรา้ งเครือขา่ ย นางทองมว้ น ภูตาพสั มีเครอื ขา่ ยและวิธีสร้างเครือข่ายดงั นี้ 1. รา้ นค้ามารบั ถงึ ที่ 2. ขายทางออนไลน์ เฟสบคุ 3. ในพน้ื ทช่ี ุมชน ผลงานทเ่ี ป็นประโยชน์ต่อชมุ ชนและสังคม 1. สามารถสรา้ งรายได้ใหก้ ับครอบครวั เพื่อเพิม่ รายไดแ้ ละลดรายจ่ายในครัวเรือน ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู สานกั งานสง่ เสริมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยจังหวดั หนองบัวลาภู

ประวตั แิ ละผลงานครูภมู ปิ ัญญาทอ้ งถ่ิน ตาบลหนองสวรรค์ อาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู จังหวดั หนองบวั ลาภู ดา้ น ศลิ ปกรรม สาขา โบราณสถาน วัดศลิ าวุฒาราม ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู สานักงานส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั จังหวัดหนองบัวลาภู

ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองหนองบัวลาภู สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั จงั หวัดหนองบัวลาภู

วดั ศิลาวฒุ าราม ประวตั แิ ละผลงานภูมปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ จังหวัดหนองบัวลาภู ดา้ น ศลิ ปกรรม สาขา โบราณสถาน ประวตั ิชวี ิตและผลงาน สถานที่ตั้งวัดศิลาวุฒาราม ตั้งอยู่ท่ีบ้านหินลับ หมู่ 4 ตาบลหนองสวรรค์ อาเภอเมืองหนองบัวลาภู จงั หวดั หนองบวั ลาภู ซึ่งห่างจากตวั จงั หวดั ประมาณ 18 กโิ ลเมตร ชาวหนองบัวลาภูทึ่ง “สังขารหลวงปุูใหญ่” เจ้าอาวาสวัดศิลาวุฒาราม มรณภาพมานานกว่า 5 ปี แต่ร่างกายไม่เน่าเป่ือย ทั้งมีเส้นผมงอก ทั้งศีรษะเป็นสี ดา” ทีว่ ัดศลิ าวุฒาราม บ้านหินลบั ตาบลหนองสวรรค์ อาเภอเมือง จังหวดั หนองบัวลาภู พุทธศาสนิกชนทั่วไป ท่ไี ปทาบุญ ต่างแปลกใจในความมหัศจรรย์ของสังขารพระครูประสาทสมณกิจ หรือ “หลวงปูุใหญ่” อดีตเจ้า อาวาสวดั และเกจิอาจารยช์ อ่ื ดงั ซ่ึงมรณภาพมานานกว่า 5 ปีแล้ว แต่ร่างกายกลับไม่เน่าเป่ือย และมีเส้นผม งอกท้ังศีรษะเปน็ สีดา ยงั ความประหลาดใจแกผ่ ้พู บเห็น ขณะนีช้ าวบ้านพากนั บรรจุสงั ขารของหลวงปูุ ไว้ในโรง แกว้ บนศาลาวัด เพอ่ื ให้ลูกศษิ ยแ์ ละผศู้ รทั ธาไดก้ ราบไว้ พระสมุหเ์ ดช เตชปุญโญ เจ้าอาวาสวัดองค์ป๎จจุบัน กล่าวว่า หลวงปุูใหญ่ นอกจากจะเป็นเจ้าอาวาส วดั แลว้ ยงั เปน็ รองเจา้ คณะอาเภอหนองบัวลาภู ด้วย ซึ่งลกู ศิษย์ต่างพากันเลื่อมใสศรัทธา เนื่องจากเป็นพระท่ี สอนธรรมะได้อย่างฉะฉาน เข้าใจง่าย นอกจากน้ัน ยังมีวิชาอาคมแก่กล้า หากผู้ท่ีกาลังเดินทางระลึกถึงก็จะ เดินทางแคล้วคลาดปลอดภยั ซงึ่ ก็มีปาฏิหาริย์ให้เห็นบ่อยครั้ง โดยหลวงปูุใหญ่ได้มรณภาพอย่างสงบเม่ือวันที่ 24 เมษายน 2550 สิรอิ ายรุ วม 80 ปี 59 พรรษา หลวงพ่อพระครูประสาท สมณกิจ (ลพ.ประมวล ญาณวโร) อดีตเจ้าอาวาสวัดศิลาวุฒาราม บา้ นหินลบั ตาบลหนองสวรรค์ อาเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลาภู ช่ือเดิม “นายประมวล มะลิโรจน์” เกิดเม่ือ วันอังคารท่ี 3 มกราคม พุทธศัก ราช 2470 ท่ีบ้าน เหล่า ตาบลเม็กดา อาเภอพยัคภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม บิดาชื่อ พ่อบุญมี มะลิโรจน์ เสียชีวิตต้ังแต่หลวงปุูอายุ 14 ปี พ.ศ. 2484 มารดาช่ือ แมแ่ ก้ว มะลิโรจน์ เสยี ชีวติ ตั้งแต่ หลวงปูุอายุ 9 ปี พ.ศ. 2479 มพี ีน่ ้องร่วมบิดา-มารดา เดียวกัน 9 คนหลวง ปเุู ป็นคนท่ี 8 ด้านการศึกษา เรยี นจบชั้นประถมปีที่ 4 ทโี่ รงเรียนวดั บ้านเหล่า ชีวิตก่อนออกบวช หลังจากพ่อ แม่เสียชีวิตแล้วต้องไปอาศัยอยู่กับพี่สาวบ้าง พ่ีชายบ้าง ช่วยพ่ีๆทาไร่ ทานา เล้ียงควายจนอายุได้ 17 ปี ออกบวชเม่ือวันท่ี 22 มกราคม พ.ศ. 2486 ได้บรรพชาเป็นสามเณรอยู่ท่ีวัดบ้านเหล่า โดยมีพระอธิการสา สุขธัมโม เปน็ พระอุป๎ชฌาย์ และอยู่กับหลวงปุูสา 4 พรรษา พ.ศ. 2486-2489 เม่ือ พ.ศ. 2487 ก็สอบได้ นกั ธรรมช้นั ตรี วันท่ี 20 เมษายน 2490 สกึ ออกมาเป็นฆราวาสจนถึงวันท่ี 7 พฤษภาคม 2490 ได้ 17 วัน ก็อุปสมบทเป็นพระภิกษุโดยมีพระอธิการจันทา วัดท่าชัยศรี เป็นพระอุป๎ชฌาย์ พระอธิการสา สุขธัมโม วัดบ้านเหล่าเป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการสิงห์ ขันติโก วัดบ้านตาลอกเป็นพระอนุสาวนาจารย์ หลงั จากอปุ สมบทเปน็ พระภกิ ษแุ ล้ว ปพี ุทธศกั ราช 2490 ไปจาพรรษาอยู่วัดทองนพคุณ เทศบาลอาเภอพยัค ภูมพิ สิ ัย จังหวดั มหาสารคาม อยุ่ 1 พรรษา ปีพุทธศักราช 2491 กลับมาจาพรรษาอยู่วัดบ้านเหล่ารับภาระ สวดภิกขุปาฏิโมกข์ในวันลงอุโบสถ และสอบได้นักธรรมชั้นโทในปีเดียวกัน ปีพุทธศักราช 2492 ย้ายไป จาพรรษาท่ีวัดโพธิทอง บ้านชาด ตาบลดงพลอง อาเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ ปีพุทธศักราช 2493 ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอเมอื งหนองบัวลาภู สานักงานสง่ เสริมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยจังหวัดหนองบวั ลาภู

กลับมาจาพรรษาที่วัดบ้านเหล่าจังหวัดมหาสารคามเป็นครูสอนนักธรรมช้ันตรี ปีพุทธศักราช 2494 ย้ายไปจาพรรษาทว่ี ดั ศริ ิจันทาราม บ้านบากเรอื ตาบลบากเรือ อาเภอมหาชนะชยั จังหวัดอบุ ลราชธานี เป็นครู สอนนกั ธรรมชนั้ ตรแี ละนักธรรมช้ันโท และควบคุมการก่อสร้างศาลาการเปรยี ญ จาพรรษาอยทู่ ่ีวัดน้ี 3 พรรษา ปพี ทุ ธศกั ราช 2497 ยา้ ยไปอย่วู ดั ชยั มงคล บา้ นหนองยอ ตาบลจิกดู่ อาเภอม่วงสามริม จังหวัดอุบลราชธานี และสอบได้นักธรรมเอกจาพรรษาอยู่วัดนี้ 2 พรรษา ปีพุทธศักราช 2499 กลับมาอยู่วัดบ้านเหล่า จงั หวัดมหาสารคามเช่นเดิม ก่อนเขา้ พรรษาอยู่ 1 วนั ในปพี ุทธศักราช 2499 หลวงพ่อได้เดินทางมาหนองบัว ลาภู ตงั้ ใจจะมาจาพรรษาท่วี ัดบ้านหินลบั ได้มาพกั แรมอยูว่ ดั โพธิชยั 1 คืนเพราะรู้จักกับชาวบ้านหินลับที่ย้าย มาจากบา้ นบากเรอื พอดีชาวบา้ นหนองสวรรคเ์ ข้าไปขอพระจากเจา้ คณะอาเภอ เพอ่ื นิมนต์มาจาพรรษาท่ีวัดบุ ปผาราม บ้านหนองสวรรค์ พอดีพบหลวงพ่อประมวลเข้าก็นิมนต์ให้มาจาพรรษาที่บ้านหนองสวรรค์ “เถิดขอรับ” เพราะบ้านหินลับอยู่ไกลไปไม่ถึงหรอกขอรับจะมืดก่อน “ซึ่งบ้านหินลับเองก็อยู่ห่างจากบ้าน หนองสวรรค์ได้ 5 กิโลเมตร” หลวงพ่อประมวลก็ตัดสินใจจาพรรษาอยู่ท่ีวัดบุปผาราม บ้านหนองสวรรค์ ต.หนองสวรรค์ อ.หนองบัวลาภู จ.อุดรธานี ในปีพุทธศักราช 2499 ก็จาพรรษาอยู่วัดนี้ 2 พรรษา ปีพทุ ธศักราช 2500-2501 ช่วงฤดูออกพรรษาแล้วทั้ง 2 ปีหลังจากชาวบ้านเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จ หลวงพ่อก็ กลับไปบ้านเหล่า เพ่ือนาชาวบ้าน-พระภิกษุ-สามเณร จากบ้านเหล่าโดยใช้ล้อเกวียน จานวน 74 เล่ม ไปนอนแรมคนื เล่ือยไมต้ ะเคยี น จากดงสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ มาสร้างศาลาการเปรียญในปีพุทธศักราช 2501 ใช้ล้อเกวียน 63 เล่มไปนอนแรมคืนเล่ือยไม้ที่ดงสตึกเป็นปีที่ 2 มาสร้างศาลาการเปรียญจนแล้วเสร็จ ในปี 2501 เช่นเดียวกันในช่วงเดือน 5-6-7 ก่อนเข้าพรรษาก็นาญาติโยม-พระเณร ชาวบ้านหนองสวรรค์ ย้ายวดั จาก “วัดบปุ ผาราม” บ้านหนองสวรรค์ไปตั้งวัดในท่ีแห่งใหม่ซ่ึงมีผู้บริจาคท่ีดินให้ 9 คน จานวน 9 ไร่ 2 งานชื่อว่า “วดั ประชาอทุ ิศ” บา้ นหนองสวรรค์จนถึงป๎จจุบันนี้ ในปี 2501 หลวงพ่อกลับไปจาพรรษาที่วัด บ้านเหลา่ และให้พระมานิต จากบา้ นเหลา่ ไปรกั ษาการเจ้าอาวาสแทน ปพี ุทธศักราช 2502 ชาวบ้านหินลับไป นิมนต์หลวงพ่อใหม้ าจาพรรษาทีว่ ดั ศิลาวุฒาราม บา้ นหินลับ 1 พรรษาปีพทุ ธศกั ราช 2503 กลับไปจาพรรษา ทวี่ ัดประชาอทุ ศิ บ้านหนองสวรรค์ เพ่ือดาเนินการกอ่ สร้างกุฏิ ศาลาการเปรียญให้วัดประชาอุทิศจนเสร็จและ จัดงานฉลองในวันท่ี 15-16-17 มีนาคม 2504 งานเสร็จเรียบร้อย ในวันท่ี 25 มีนาคม 2504 หลวงพ่อได้ย้ายมาอยู่วัดศิลาวุฒาราม บ้านหินลับจนถึง 16 เมษายน 2550 “จนวาระสุดท้าย” หลวงพ่อได้กลับไปบ้านเหล่า ซ่ึงเป็นบ้านเกิดของหลวงพ่อในวันท่ี 17 เมษายน 2550 ได้ทาพิธีรดน้ามนต์ เจิมรถ ปลุกเสก แจกจ่ายเหรียญ เคร่ืองรางของขลังและแหวนแก่ญาติโยม ลูกหลานบ้านเหล่าและ หมู่บ้านใกล้เคียงอยู่ 7 วันหลวงปุูก็ได้ละ “สังขาร” ในช่วงเวลาประมาณบ่าย 2 โมง (ช่วงพักผ่อน) ในวันท่ี 24 เมษายน 2550 (ดว้ ยหัวใจวายเฉยี บพลนั ) ลกู หลานมาเหน็ หลวงปูุหวั ตกหมอนผิดปกติรีบปลุกและบีบคั้น รีบนาส่งโรงพยาบาล อาเภอพยคั ภูมิพิสัยก็ไม่สามารถเยียวยาได้ เพราะหลวงปุูหมดลมหายใจแล้วรวมศิริอายุ ได้ 80 พรรษา ยังความเศรา้ โศกเสียใจของชาวบา้ นเหล่าและหมู่บ้านใกล้เคียง โดยเฉพาะชาวบ้านหินลับศิลา มงคลและบ้านใหมศ่ ิลามงคล พอได้ทราบข่าวตา่ งก็รอ้ งไหร้ ะงมกันไปทัว่ หมบู่ า้ น และกพ็ ากนั นารถหลายสิบคัน ลงไปเฝูาศพหลวงปุู ลูกหลานญาตโิ ยมจากบ้านเหล่าและใกลเ้ คียงขอเปน็ เจ้าภาพสวดอภธิ รรมให้ การปฏบิ ตั อิ ุป๎ฏฐากทส่ี าคัญตอ่ ครูบาอาจารย์หลวงพอ่ ประมวล ญาณวโร เป็นผูม้ คี วามกตัญํู รู้คุณต่อ ครบู าอาจารยเ์ ป็นอยา่ งสงู รับใช้ครบู าอาจารยด์ ้วยความเตม็ ใจและพอใจอยูเ่ ปน็ ประจาทกุ วัน ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอเมอื งหนองบัวลาภู สานักงานสง่ เสริมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยจังหวัดหนองบัวลาภู

สมยั เปน็ สามเณร 1. ต้มนา้ ร้อน นา้ ชา ถวายหลวงปสุู า เปน็ ประจาทกุ วนั 2. รอรบั สิ่งของทชี่ าวบ้านถวายหลวงปุสู า ล้างเทา้ เช็ดเทา้ ใหห้ ลวงปูุสา เวลากลับมาจากกิจนิมนต์ 3. ต้องฉันอาหารเชา้ – เพล หลังพระฉนั เสร็จ 4. ตอ้ งเข้าโบสถเ์ พ่ือทาวัตร เช้า-เย็น ทุกวันก่อนพระอาจารย์ หลวงปมูุ สี หธรรมิกทีส่ นิทกันมากคอื หลวงพอ่ วัดบา้ นหนองปลาขาว(วัดสระพังทอง) ที่มีช่ือเสียงหลวง พ่อพระครูนิมติ รนวการ และลูกศิษย์ท่เี จริญกา้ วหนา้ อย่มู าก เชน่ 1. เจา้ คณุ เมธวี ชิรธาดา รองเจา้ คณะจังหวดั หนองบัวลาภู 2. พระครูภทั ร กจิ วมิ ล ไปอยู่อาเภอบุณทรกิ จงั หวัดอุบลราชธานี 3. พระมหาวเิ ชียร ปธ.9 อยู่วัดพระปฐมเจดยี ์ จังหวัดนครปฐม หลวงพอ่ พระครปู ระสาท สมณกิจ ชอบนาชาวบ้าน ขุดบ่อน้า (ขุดหาบ่อน้าดื่ม น้าใช้เพราะสมัยก่อน ยังไม่มีน้าบาดาล ก่อศาลาสร้างศาลาการเปรียญ สร้างโบสถ์ ทาถนนหนทางเพื่อให้การไปมาหาสู่กันสะดวก เกือบทุกวันประมาณ ตีส่ีกว่าๆ หลวงปุูจะเปิดไมล์ หอกระจายข่าว และเทศนาให้ลูกหลานท้ังหมู่บ้านฟ๎ง และให้ป๎ญหาธรรม ให้ญาติโยมอบุ าสก อบุ าสิกา ตอบป๎ญหาธรรมทั้งเดก็ และผใู้ หญ่ เขียนใส่กระดาษและไปให้ หลวงปุทู วี่ ดั ผู้ใดตอบไดห้ ลวงปูกุ จ็ ะให้รางวลั เป็นเงนิ ส่วนตัว เล็กน้อยๆ บ้างเป็นอย่างอ่ืนบ้าง ในตอนเช้าและ ประกาศออกไมลใ์ นวนั ถดั มา เด็กๆแถวนน้ั กย็ ง่ิ ชอบใจ ต่างก็ไปถามปุยู ่า ตายาย ในข้อธรรมะ เพ่ือจะนามาตอบ หลวงปูุขอรับรางวัล นถ่ี ือว่าเปน็ การเชือ่ มโยงจิตใจชาวพทุ ธ และบม่ เพาะศีลธรรมให้กับเด็กและฆราวาสได้เป็น อยา่ งดี ความเป็นเกจอิ าจารย์ เพราะหลวงปบุู วชตัง้ แต่เล็กปฏิบัติดีปฏิบตั ิชอบมาดี นาลูกพระลูกเณร ทาวัตรเช้า-เย็นทุกวันมิได้ขาด เดินจงกรมนั่งสมาธิอยู่เป็นประจา เรียนคาถาเวทมนต์จากหลวงปูุสาร์ สุขธัมโม ตั้งแต่สมัยบวชเป็นเณร จากทผี่ ู้เขยี นสมยั เปน็ สามเณรอุป๎ฏฐากหลวงปูุ ท้งั โกณผม ตัดเลบ็ ให้ อยู่ใกล้ชิดกับหลวงปูุเคยมีหลายหนหลาย คร้ังทลี่ ูกศษิ ย์ สามเณร ทง้ั ฆราวาส บงั เอญิ เห็นในอภินิหาร หลวงปุูเมื่อครั้งหน่ึงน่ังอยู่ มองเห็นหลวงปูุท่านอยู่ ใกลประมาณ 200 เมตรคงไดแ้ ตพ่ อคลาดสายตาไปกม้ มองพ้ืน เงยหน้าขนึ้ เพียงไม่กี่วินาที ก็ปรากฏเห็นหลวง ปูุยืนอยู่ตรงหน้า และมีอีกคนหน่ึงท่ีเป็นฆราวาส ไปนิมนต์หลวงปุูในกุฏิ เพื่อจะข้ึนมาเทศสั่งสอนญาติโยม ท่ศี าลา พอตาฆราวาสแกกราบลาและออกจากกุฏิ ข้ึนไปศาลาก็เห็นหลวงปูุท่านยืนอยู่บนศาลาก่อนแล้วท้ังๆ ที่เดินออกจากกฏุ กิ อ่ นด้วยชา้ ไป จงึ รู้กนั ว่าท่านจะต้องเป็นพระทรงอภิญญา ประวตั ิความขลังศักดิสิทธห์ ลวงปู่ ครงั้ แรกสนุ ัขทีห่ ลวงปุเู ลี้ยงไวท้ วี่ ดั ออกไปกินไข่ไก่ของพ่อมาลี อ่อนน้อม เจ้าของไก่ตามมาถึงวัดและ ขอจัดการกบั สนุ ขั ท่ีมันไปขโมยกนิ ไข่ หลวงปูุบอกวา่ ใหห้ ลวงปุูเอาขา้ วใหม้ นั กินกอ่ น เสร็จแล้วเจ้าของไก่ก็ไปนา ปืนแก๊ปมาเตรียมพร้อมที่จะลั่นไกยิง กินข้าวเสร็จสุนัขตัวนั้นก็ว่ิงออกไปนอกวัดนอนรออยู่ข้างถนนไปเล้าไก่ ได้โอกาสเจ้าของไก่กล็ ั่นไกป๎ง ปรากฏวา่ ลูกตะกั่วไม่ระคายผวิ ของสุนัขตวั นนั้ เลย ไมแ่ น่ใจเจ้าของไก่ยังไม่ลดละ ก็ใหล้ ูกนอ้ งไปบรรจุดินประสิวและลูกตะกั่วเยอะๆ มาใหม่อีกคร้ัง สุนัขตัวน้ันก็ไปนอนรออยู่ข้างๆ จอมปลวก ถนนไปเลา้ ไก่ พอสุนขั ตัวนัน้ เห็นคนถือปืนมากเ็ งยคอขน้ึ มือสังหารคนใหม่ก็ ลั่นไกป๎ง ใส่ต้นคอของสุนัขตัวนั้น ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอเมอื งหนองบัวลาภู สานักงานสง่ เสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั จงั หวดั หนองบัวลาภู

ปรากฏว่ามีแต่รอยบุบที่คอ สุนัขตัวนั้นก็ไม่เป็นอะไร ทาให้เจ้าของไก่ ยอมรับและหายข้องใจต้ังแต่น้ันมา เพราะขลังของหลวงปทูุ เ่ี อาข้างให้สนุ ขั กนิ ความขลังและเวทมนตค์ ุม้ ครองรถทกุ ชนิดทห่ี ลวงพอ่ เจมิ ให้ ครั้งแรก พ่อแปลง ธุระแพง นารถที่ชื้อใหม่มาให้หลวงพ่อเจิมให้ และนารถมาดัดแปลงให้เป็นรถโดยสารและจะย้าย ครอบครัวไปอยู่อุดร บรรจุข้าวของและญาติพ่ีน้องจากบ้านหินลับ จะไปอุดร มาเต็มคันรถ พอถึงบ้านโค้ง สวรรค์ ต.โนนทนั รถเกดิ อุบตั เิ หตุ ขา้ วของทบั คนและมีคนบาดเจ็บหลายคนแตก่ ็ไม่มใี ครเสยี ชีวิตแม้แต่คนเดียว ครั้งท่ีสอง รถยนต์พ่อแปลง รับจ้างขนย้ายครอบครัวจากบ้านกุดจิกไปตามถนนมิตรภาพ -อุดร-ขอนแก่น รถหนักเสียหลักตะแครงลงคลองไม้กระดานทับคนท่ีนั่งมารับรถ บาดเจ็บระเนระนาด แต่ก็ไม่มีใ ครเสียชีวิต จนทาให้ลกู ศษิ ย์ของหลวงปุขู อใหห้ ลวงปุทู าเหรียญรูปหลวงปูุรนุ่ คมุ้ ครองรุ่นแรก องคค์ วามรู้และความเช่ียวชาญ เป็นแหลง่ เรียนรู้โบราณสถาน/ศาสนสถาน แหล่งเรียนร้ดู ้านศลิ ปะและวัฒนธรรม วัฒนธรรมประเพณี ของคนในทอ้ งถิ่น ชมุ ชน โดยวัดศลิ าวุฒารามเป็นศูนยร์ วมจิตใจของประชาชนบา้ นหินลับและหมู่บ้านใกล้เคียง เปน็ สถานท่ฝี กึ อบรมธรรมะใหป้ ระชาชนในตาบล และเป็นสถานท่ีปฏิบัติธรรมท่ีมีความสงบ ร่มเย็นเหมาะแก่ การปฏบิ ัติธรรมอย่างยงิ่ การถา่ ยทอดความร้แู ละความเชยี่ วชาญ 1. ประวัติศาสตร์ 2. ศิลปะสถาป๎ตยกรรม ศนู ยศ์ ลิ ปะวฒั นธรรมเกย่ี วกบั ศาสนา 3. ประเพณีวัฒนธรรมท้องถน่ิ 4. สถานท่กี ราบไหว้ และแหลง่ สถานปฏิบตั ธิ รรม แหล่งโบราณสถาน ลักษณะของเครือข่ายและการสรา้ งเครือข่าย 1. แหล่งทอ่ งเทย่ี วทางวัฒนธรรม 2. แหลง่ เรียนรศู้ ิลปะ แหลง่ เรยี นรู้ในทอ้ งถ่นิ 3. สถานท่ีกราบไหว้ และแหล่งสถานปฏิบัติธรรม แหล่งโบราณสถาน และยังเป็นสถานท่ีศักดิ์สิทธ์ิ ประกอบพธิ ที าบญุ ตามเทศกาลและงานประเพณตี า่ งๆ ผลงานทเี่ ปน็ ประโยชนต์ อ่ ชุมชนและสงั คม เป็นโบราณสถาน ศาสนสถาน และเป็นแหล่งเรียนรู้ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณีในท้องถ่ิน สถานท่ี กราบไหว้และแหล่งสถานปฏิบัติธรรมประจาตาบล ที่คนในชุมชนให้ความเคารพนับถือสักการะและปฏิบัติ ธรรมในวันสาคัญตา่ งๆ ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองหนองบัวลาภู สานกั งานส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยจังหวัดหนองบัวลาภู

ประวตั ิและผลงานครูภูมิปัญญาทอ้ งถ่ิน ตาบลโพธ์ิชยั อาเภอเมืองหนองบวั ลาภู จงั หวัดหนองบวั ลาภู ด้าน เกษตรกรรม สาขา การทาปุย๋ น้าหมักชวี ภาพ นายไพศาล หนนั ตะ ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอเมืองหนองบวั ลาภู สานักงานสง่ เสริมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยจงั หวดั หนองบวั ลาภู

ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองหนองบัวลาภู สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั จงั หวัดหนองบัวลาภู

นายไพศาล หนนั ตะ ประวัตแิ ละผลงานครภู ูมปิ ญั ญาท้องถน่ิ จังหวัดหนองบัวลาภู ดา้ นเกษตรกรรม สาขา การทาปุ๋ยน้าหมักชีวภาพ ประวัติชีวิตและผลงาน นายไพศาล หนันตะ เกิดเม่ือวันที่ 10 มีนาคม 2505 ที่อยู่บ้านโนนสงเปลือย หมู่ท่ี 2 ตาบลโพธ์ิชัย อาเภอเมืองหนองบัวลาภู จังหวัดหนองบัวลาภู เป็นวิทยากรกลุ่มเกษตรอินทรีย์ ในเขตตาบลโพธิ์ชัย และเป็นหมอดินประจาหมู่บ้าน และให้บริการใน ตาบลโพธิ์ชัย องค์ความรู้ และความเช่ียวชาญ นายไพศาล หนันตะ มีองค์ความรู้เชี่ยวชาญ ที่นาไปถ่ายทอดแก่ผู้เรียน และผู้คนที่สนใจ โดยใช้ กระบวนการถ่ายทอดความรู้ที่หลากหลาย เช่น การอธิบาย การสาธิต และให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติจริง ตามหัวข้อ ดังต่อไปน้ี การแนะนาการใช้ พด.สูตรต่างๆ ในการทาปุ๋ยหมักชีวภาพ ขั้นตอนการทาปุ๋ยหมักชีวภาพสูตรต่างๆ การถ่ายทอดองค์ความรู้แก่ผู้เรียน การบรรยายพร้อมการสาธิต การแจกใบความรู้ให้กับผู้เรียน 1. การทาปุ๋ยหมักชีวภาพ วิธีทา นา้ หมักชีวภาพ เพื่อการเกษตร สามารถเลือกส่วนผสมจาก พืช ผลไม้สุก หรือสัตว์ อย่างหอยเชอร่ี ในการทาน้าหมักชีวภาพ ได้ ส่วนผสม : เราสามารถเลือกส่วนผสมจาก พืช ผลไม้สุก หรือสัตว์ อย่างหอยเชอรี่ อย่างใดอย่างหนึ่ง ในการทาน้าหมักชีวภาพ โดยสับเป็นชิ้นเล็ก 3 ส่วน, กากน้าตาล 1 ส่วน (อาจใช้น้าตาลทรายแดง หรือน้าตาล ทรายขาว ผสมน้ามะพร้าว 1 ส่วนแทนได้) น้าเปล่า 10 ส่วน วิธีทา : นาส่วนผสมทั้งหมดมาคลุกเคล้ากัน แล้วบรรจุลงในถังหมักพลาสติก หรือขวดปิดฝาเก็บไว้ใน ที่ร่ม นานประมาณ 3 เดือน แล้วจึงสามารถนาไปใส่เป็นปุ๋ยให้พืชผักผลไม้ได้ โดย 1. ใช้น้าหมักชีวภาพ อัตราส่วน 10 ซซี ี ต่อน้า 20 ลิตร เพื่อบารุงใบพืชผักผลไม้ 2. ใช้น้าหมักชีวภาพอัตราส่วน 15-20 ซซี ี ต่อน้า 20 ลิตร เพื่อปรับปรุงบารุงดิน ให้ดินร่วนซุย 3. ใช้น้าหมักชีวภาพ อัตราส่วน 1 ส่วน น้า 1 ส่วน เพ่ือกาจัดวัชพืช ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองหนองบวั ลาภู สานกั งานสง่ เสริมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั จังหวดั หนองบัวลาภู

ท้ังนี้ มีเทคนิคแนะนาว่า หากต้องการบารุงส่วนใบพืช ก็ให้ใช้ส่วนใบยอดพืชมาหมัก หากต้องการ บารุงผล ให้ใช้ส่วนผล เช่น กล้วยน้าว้าสุก มะละกอสุก เปลือกสับปะรด ฟ๎กทองมาหมัก หรือหากต้องการใช้ กาจัดศัตรูพืข ควรหมักสะเดา ตะไคร้หอม ข่า แยกต่างหากด้วย เมื่อจะใช้ก็นามาผสมฉีดพ่นพืชผักผลไม้ นอกจากน้ี หากใช้สายยางดูดเฉพาะน้าใส ๆ จากน้าหมักชีวภาพท่ีหมักได้ 3 เดือนแล้วออกมา จะเรียกส่วนนี้ว่า \"หัวเชื้อน้าหมักชีวภาพ\" เม่ือนาไปผสมอีกคร้ัง แล้วหมักไว้ 2 เดือน จะได้หัวเชื้อน้าหมัก ชีวภาพอายุ 5 เดือน ซึ่งหากขยายต่ออายุทุก ๆ 2 เดือน จะได้หัวเช้ือที่อายุมากข้ึนเร่ือย ๆ และประสิทธิภาพ สูงมากข้ึน 2. วิธีทา น้าหมักชีวภาพ เพ่ือการซักล้าง น้าหมักชีวภาพ สามารถนามาใช้ประโยชน์ในการซักล้างได้ โดยมีสูตรให้นาผลไม้ เปลือกผลไม้ (ฝ๎กส้มปุอย , มะคาดีควาย , มะนาว ฯลฯ) 3 ส่วน น้าตาลทรายแดงหรือน้าตาลอ้อย 1 ส่วน และน้า 10 ส่วน ใส่รวมกันในภาชนะที่มีฝาปิดสนิท โดยให้เหลือช่องว่างไว้ประมาณ 1 ใน 5 ของขวด/ถัง แล้วหม่ันเปิดฝาคลาย แก๊สออก โดยต้องวางไว้ในที่ร่ม อย่าให้ถูกแสงแดด หมักไว้นาน 3 เดือน ก็จะได้น้าหมักชีวภาพ สาหรับซักผ้า หรือล้างจานได้ ซึ่งสูตรนี้แม้ว่าผ้าจะมีราข้ึน หากนาผ้าไปแช่ท้ิงไว้ในน้าหมักชีวภาพก็จะสามารถซักออกได้ 3. วิธีทา น้าหมักชีวภาพ เพ่ือดับกล่ิน สูตรหนึ่งของการทาน้าหมักชีวภาพมาดับกล่ิน คือ ใช้เศษอาหาร พืชผัก ผลไม้ที่เหลือท้ิง 3 ส่วน กากน้าตาลหรือโมลาส 1 ส่วน และน้า 10 ส่วน ใส่รวมกันในภาชนะท่ีมีฝาปิดสนิท โดยให้เหลือช่องว่างไว้ ประมาณ 1 ใน 5 ของขวด/ถัง หมักไว้นาน 3 เดือน ก็จะได้น้าหมักชีวภาพใช้ดับกลิ่นในห้องน้า โถส้วม ท่อระบายน้า กลิ่นป๎สสาวะสุนัข ฯลฯ ได้อย่างดี ข้อควรระวังในการใช้ น้าหมักชีวภาพ 1. หากใช้น้าหมักชีวภาพกับพืช ต้องใช้ปริมาณเจือจาง เพราะหากความเข้มข้นสูงเกินไป อาจทาให้ พืชชะงักการเจริญเติบโต และตายได้ 2. ระหว่างหมัก จะเกิดก๊าซต่าง ๆ ในภาชนะ ดังน้ันต้องหมั่นเปิดฝาออก เพื่อระบายแก๊ส แล้วปิดฝา กลับให้สนิททันที 3. หากใช้น้าประปาในการหมัก ต้องต้มให้สุก เพ่ือไล่คลอรีนออกไปก่อน เพราะคลอรีนอาจเป็น อันตรายต่อจุลินทรีย์ท่ีใช้ในการหมัก 4. พืชบางชนิด เช่น เปลือกส้ม ไม่เหมาะในการทาน้าหมักชีวภาพ เพราะน้ามันที่เคลือบผิวเปลือกส้ม เป็นพิษต่อจุลินทรีย์ ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู สานกั งานส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั จงั หวดั หนองบัวลาภู

4. น้าหมักชีวภาพเพ่ือการบริโภค เราอาจเคยได้ยินข่าวว่า มีคนนาน้าหมักชีวภาพมาใช้บริโภคกันด้วย ซึ่งน้าหมักชีวภาพท่ีใช้ในการ บริโภค หรือ เอนไซม์ เป็นสารโปรตีน วิตามินเอ บี ซี ดี อี เค อะมิโนแอซิค(Amino acid) และ อะเซทิลโคเอ (Acetyl Coa) ท่ีได้จาก หมักผลไม้นานาชนิด เม่ือหมักระยะเร่ิมแรกจะเป็นแอลกอฮอล์ ระยะต่อมา เป็น นา้ ส้มสายชู ซึ่งมีรสเปร้ียว อีกระยะหนึ่งเป็นยาธาตุ มีรสขม ก่อนจะได้เป็นน้าหมักชีวภาพ (เอ็นไซม์) ซึ่งใช้เวลา หมักขยายประมาณ 2 ปี แต่หากจะนาไปดื่มกินควรผ่านการหมักขยายเป็นเวลา 6 ปีขึ้นไป โดยประโยชน์จากน้าหมักชีวภาพน้ัน หากมีการนวัตกรรมการผลิตท่ีดีจะส่งผลดีต่อสุขภาพของระบบ ย่อยอาหาร ระบบขับถ่าย ทาให้ภูมิต้านทานโรคดีขึ้น และช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือดได้ แต่น้าหมักชีวภาพ ท่ีขายอยู่ตามท้องตลาด มักเป็นน้าหมักชีวภาพที่อยู่ในสภาพเป็นแอลกอฮอล์ ดังนั้นเม่ือด่ืมกินแล้วอาจมีอาการ ร้อนวูบวาบ มึนงง และอาจทาให้ฟ๎นผุกร่อนได้ เพราะน้าหมักชีวภาพ (เอนไซม์) มีสภาพเป็นกรดสูง ดังน้ันจึง ไม่ควรด่ืมน้าหมักชีวภาพแบบเข้มข้น ลักษะของเครือข่ายและการสร้างเครือข่าย นายไพศาล หนันตะ มีเครือข่ายและมีวิธีการสร้างเครือข่ายดังนี้ เครือข่ายภาครัฐและเอกชน ประกอบด้วย 1. สานักงานเกษตรอาเภอเมืองหนองบัวลาภู 2. สานักงานพัฒนาชุมชน 3. ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอเมืองหนองบัวลาภู 4. กลุ่มเกษตรอาเภอเมืองหนองบัวลาภู 5. กลุ่มเกษตรอินทรีย์ ผลงานท่ีเป็นประโยชน์ต่อสังคม ชุมชน เป็นวิทยากรให้ความรู้กับกลุ่มเกษตรอินทรีย์ เรื่องหารทาน้าหมักชีวภาพ ม.2 โนนสงเปลือย ม.4 สว่างพัฒนา และการปลูกผักอินทรีย์ ม.5 หนองกุงพัฒนา ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอเมืองหนองบวั ลาภู สานักงานสง่ เสริมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั จงั หวัดหนองบัวลาภู

ประวัติและผลงานครภู มู ิปัญญาทอ้ งถิ่น ตาบลหนองภยั ศนู ย์ อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู จังหวดั หนองบัวลาภู ดา้ น อตุ สาหกรรมและหตั ถกรรม สาขา จกั สานกระตบิ ข้าว นางแดง เดชขา ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู สานกั งานสง่ เสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั จังหวดั หนองบัวลาภู

ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองหนองบัวลาภู สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั จงั หวัดหนองบัวลาภู

นางแดง เดชขา ประวัตแิ ละผลงานครภู ูมปิ ญั ญาทอ้ งถนิ่ จงั หวัดหนองบัวลาภู ดา้ น อตุ สาหกรรมและหตั ถกรรม สาขา จักสานกระตบิ ขา้ ว ประวติ ชิ ีวติ และผลงาน นางแดง เดชขา เกดิ เมื่อวันท่ี 3 เมษายน 2497 อายุ 66 ปี เกิดท่ีบ้านโนนดู๋ หมู่ท่ี 6 ตาบล หนอง ภัยศูนย์ อาเมืองหนองบัวลาภู จังหวัดหนองบัวลาภู บิดาช่ือ นายลี เหงาพรม มารดาช่ือนางทา เหงาพรม อาชีพ ทานา ป๎จจุบันนางแดง เดชขา ประกอบอาชีพจักสานกระติบข้าว ท่ีอยู่สามารถติดต่อนางแดง เดชขา คือ บ้านเลขทื่ 45 หมู่ท่ี 6 ตาบลหนองภัยศูนย์ อาเภอเมืองหนองบัวลาภู จังหวัดหนองบัวลาภู นางแดง เดชขา เกิดในตระกูลชาวนา เรียนจบมัธยมศึกษาตอนต้น จาก การศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศัยอาเภอเมืองหนองบัวลาภู มีผลงานในการทาจักสารกระติบข้าวตั้งแต่ พ.ศ. 2542 จนมาถึง ปจ๎ จบุ ันเป็นเวลา 21 ปี และอุทิศตนเพ่ือชมุ ชนและสังคมมาโดยตลอดได้รับเชิญไปเป็นวิทยากรการทาจักสาร กระติบข้าวตามหนว่ ยงานของภาครัฐ เชน่ กศน.ตาบลหนองภยั ศูนย์ องค์การบริหารสว่ นตาบล พัฒนาชุมชน องคค์ วามรูแ้ ละความเชี่ยวชาญ นางแดง เดชขา มีความรู้และความเชี่ยวชาญ ที่นาไปถ่ายทอดให้แก่ผู้เรียน และผู้คนท่ีสนใจ โดยใช้ กระบวนการถา่ ยทอดความร้ทู ี่หลากหลาย เช่น การอธบิ าย การสาธิต และให้ผู้เรียนได้ฝึกเรียนปฏิบัติติทาจริง ตามหัวข้อดังต่อไปน้ี การแนะนาวัสดุอุปกรณ์การทาจักสารกระติบข้าว ราย ละเอียดองค์ความรู้ที่ นางแดง เดชขา ถา่ ยทอดความรู้ให้แกผ่ ้ทู ีเ่ รียนตามข้นั ตอนน้ี วิธกี ารขน้ั ตอนการทาจักสารกระติบขา้ ว ขัน้ ตอนที่ 1 การทาจกั สารกระติบขา้ ว ซง่ึ ประกอบดว้ ย 1. ไม้ไผบ่ า้ น 2. ดา้ ยไนล่อน 3. เข็มเย็บผ้าขนาดใหญ่ 4. กรรไกร 5. มีดโต้ 6. เลื่อย 7. เหลก็ หมาด (เหล็กแหลม) 8. ก้านตาล 9. เครอื่ งขดู ตอก 10. เครอื่ งกรอดา้ ย ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู สานักงานส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยจงั หวดั หนองบวั ลาภู

ขน้ั ตอน 2 การสานกระตบิ ขา้ ว 1.นาปล้องไม้ไผ่มาตัดหัวท้าย ตัดเอาข้อออก ผ่าเป็นซีกทาเส้นตอกกว้างประมาณ2 -3 ม.ม. ขดู ใหเ้ รยี บและบาง 2.นาเสน้ ตอกท่ีได้มาสานเปน็ รูปรา่ งกระตบิ ขา้ ว หน่ึงลกู มี 2 ฝา มาประกอบกัน 3.นากระติบข้าวทไี่ ดจ้ ากข้อ (2.) มาพับครงึ่ ใหเ้ ท่า ๆ กนั พอดี เรียกวา่ 1 ฝา 4.ข้ันตอนการทาฝาปิด โดยจักเสน้ ตอกท่มี คี วามกว้าง 1 นิว้ สานเป็นลายตามะกอก และลายขดั 5.นาฝาปิดหวั ท้ายมาตดั เป็นวงกลม มาใสเ่ ข้าท่ีปลายทง้ั สองขา้ ง 6.ใช้ดา้ ยไนลอ่ น และเข็มเย็บเข้าด้วยกนั รอบฝาปดิ หัวทา้ ย 7.นาก้านตาลที่ม้วนไวม้ าเยบ็ ตดิ กับฝาล่าง ทเี่ ป็นตวั กระติบข้าว 8.นากระติบข้าวท่ีได้ไปรมควันจากฟางข้าว เพ่ือกันแมลงเจาะ และเพ่ือความสวยงาม ทนทาน ไม่เกดิ ราดา 9.นาไม้มาเหลาเป็นเส้นตอก กลมยาวเส้นผ่าศูนย์กลาง 2-3 ม.ม. ความยาวรอบ บางเท่ากับฝา กระติบพันด้วยด้ายไนล่อน แล้วเย็บตดิ ฝาขอบบน เพ่อื ความสวยงาม 10.เจาะรทู ี่เชิงกระตบิ ขา้ ว ดว้ ยเหล็กแหลม 2 รู ใหต้ รงข้ามกัน แลว้ ทาหูที่ฝาด้านบน ตรงกับรูที่เจาะ เชิงไว้ 11.ใช้ด้ายไนล่อนสอดเข้าเป็นสายไว้สะพายไปมาได้สะดวก จะได้กระติบข้าวท่ีสาเร็จเรียบร้อย สามารถนามาใชแ้ ละจาหนา่ ยได้ การถ่ายทอดความรู้ ความเช่ยี วชาญ นางแดง เดชขา ถา่ ยทอดความร้กู ารสานกระตบิ ข้าวในการเป็นวิทยากร ดง้ั นี้ 1. การศึกษานอกระบบ : เป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้การสานกระติบข้าวให้แก่นักศึกษานอก โรงเรียน ตาบลหนองภยั ศูนย์ อาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู 2. เป็นวิทยากรการฝึกอบรมการสานกระติบข้าวให้ความรู้แก่ประชาชน ของหน่วยงานกรมการ เกษตร 3. เป็นวิทยากรการฝึกอบรมการสานกระติบข้าวให้ความรู้แก่ชุมชน ของหน่วยงานกรมการพัฒนา ชมุ ชน 4. เป็นวิทยากรการฝึกอบรมการสานกระติบข้าวให้ความรู้แก่ชุมชนและบุคลากรของหน่วยงาน องคก์ ารบริหารสว่ นตาบล 5. เป็นวิทยากรการฝึกอบรมการสานกระติบข้าวให้ความรู้แก่ชุมชนและบุคลากรของหน่วยงาน สานักงานอุตสาหกรรมจงั หวัด ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองหนองบวั ลาภู สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจงั หวดั หนองบัวลาภู

ลักษณะเครอื ข่ายและการสรา้ งเครือข่าย นางแดง เดชขา มเี ครอื ขา่ ยและการสรา้ งเครอื ขา่ ยดังน้ี 1. ศนู ย์การศึกษานอโรงเรยี นอาเภอเมืองหนองบวั ลาภู 2. กศน. ตาบลหนองภัยศนู ย์ 3. คนในชมุ ชนบ้านหนองภัยศูนย์ 4. คนในตาบลหนองภยั ศนู ย์ 5. องคก์ ารบริหารส่วนตาบล 6. กรมการพัฒนาชุมชน 7. หน่วยงานสานักงานอตุ สาหกรรมจังหวดั 8. สานกั งานเกษตรและสหกรณ์ จังหวัดหนองบัวลาภู วิธกี ารสร้างเครอื ขา่ ย นางแดง เดชขา มีวิธีการสรา้ งเครือขา่ ยโดยการจดั อบรม หรอื ไปเป็นวิทยากรการสานกระติบข้าวตาม หนว่ ยงานหรอื สถานทีต่าง ๆ ก็จะเชิญชวนให้ผู้ที่เข้าอบรมหรือสนใจในการสานกระติบข้าว ไปดูร้านค้าชุมชน และในกลุ่มอาชีพ และเชิญคนที่จะสนใจเข้ากลุม่ ในการสานกระตบิ ข้าว ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู สานกั งานส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั จงั หวดั หนองบวั ลาภู

ประวตั แิ ละผลงานครภู ูมปิ ัญญาท้องถ่ิน ตาบลป่าไมง้ าม อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู จังหวดั หนองบัวลาภู ดา้ น อุตสาหกรรมและหัตถกรรม สาขา การทอเส่ือกก นางหนจู นั สายชมพู ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู สานกั งานส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยจงั หวัดหนองบวั ลาภู

ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองหนองบัวลาภู สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั จงั หวัดหนองบัวลาภู

นางหนจู นั สายชมภู ประวัตแิ ละผลงานครภู ูมปิ ญั ญาท้องถน่ิ จังหวัดหนองบัวลาภู ด้าน เกษตรกรรม สาขา การทอเสอ่ื กก ประวัตชิ ีวติ และผลงาน นางหนูจัน สายชมภู เกดิ เม่ือวนั ท่ี 25 ธันวาคม 2505 เกิดท่ีบ้านโนนนาดี หมู่ที่5 ตาบลปุาไม้งาม อาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู จังหวดั หนองบวั ลาภู กลุ่มวิสาหกิจชุมชน การทอเสื่อกก บ้านโนนนาดี ต.ปุาไม้งาม อาเภอเมืองหนองบัวลาภู จังหวดั หนองบัวลาภู นางหนูจัน สายชมภู กลุ่มวิสาหกิจชุมชนการทอเส่ือกก มีความต้องการพัฒนาปรับปรุง เส่อื กกให้มรี ูปแบบทีส่ วยงามย่ิงขึ้น องค์ความรู้ และความเชย่ี วชาญ นางหนูจัน สายชมภู มีองค์ความรู้เช่ียวชาญ ท่ีนาไปถ่ายทอดแก่ผู้เรียน และผู้คนท่ีสนใจ โดยใช้ กระบวนการถ่ายทอดความรู้ที่หลากหลาย เช่น การอธิบาย การสาธิต และให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติจริง ตามหัวข้อ ดังต่อไปนี้ การแนะนาวัสดุอุปกรณ์การทอเสื่อกก ข้ันตอนการทอเส่ือกกและการจาหน่ายผลผลิต รายละเอยี ดองคค์ วามรู้ที่ นางหนจู ัน สายชมภู ถา่ ยทอดองค์ความรแู้ ก่ผเู้ รียนตามข้นั ตอนดังน้ี การเตรียมวัสดุอปุ กรณ์ 1. ตวั ก่ี (เครื่องทอผ้า) 2. ดา้ ย 3. กรรไกร ข้ันตอนการทอ 1. รอ้ ยเชือกฟาง ท่ีก่ีและฟ่มื 2. เอาเสน้ กกใส่ไม้ แล้วสอดเขายังชอ่ งเชอื กฟาง แล้วก็ทอ 3. ทอเรียบรอ้ ยแลว้ นาเส่อื กกมาตากให้แหง้ ขน้ั ตอนการย้อมสี 1. การต้มนา้ ใหร้ ้อนและผสมสลี งไป 2. นาต้นกกท่เี ตรียมไวเ้ อาลงต้มใหส้ ีเข้ากบั เนื้อกก 3. กลับดา้ นเพ่อื ให้สีเข้ากัน 4. เอาข้ึนมาตากให้แหง้ 5. ตากให้แห้ง ( สามารถนามาทอได้ ) ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอเมืองหนองบวั ลาภู สานักงานส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั จงั หวัดหนองบัวลาภู

การถา่ ยทอดความรู้ ความเช่ียวชาญ 1. นางหนูจนั สายชมภู ถา่ ยทอดความร้กู ารทอเส่ือกก ผ่านการศึกษาใหก้ ับสมาชกิ ในกลุ่ม 2. การศกึ ษาในระบบ เป็นวิทยากรถา่ ยทอดความรูก้ ารทอเสอ่ื กกให้แกน่ ักเรียนในโรงเรยี น 3. การศึกษานอกระบบ เป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้การทอเส่ือกกให้แก่ กศน.อาเภอเมือง หนองบัวลาภู ลกั ษะของเครอื ข่ายและการสรา้ งเครือข่าย นางหนูจนั สายชมภู มีเครือข่ายและมีวิธีการสร้างเครือข่ายดงั นี้ เครือขา่ ยภาครฐั และเอกชน ประกอบดว้ ย 1. สานกั งานเกษตรอาเภอเมืองหนองบวั ลาภู 2. สานักงานพฒั นาชมุ ชนอาเภอเมอื งหนองบัวลาภู 3. ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู 4. องคก์ ารบริหารส่วนตาบลปาุ ไมง้ าม 5. กลมุ่ เกษตรอาเภอเมอื งหนองบัวลาภู วธิ ีการสรา้ งเครือขา่ ย นางหนจู นั สายชมภู มวี ิธีการสร้างเครอื ข่ายโดยการไปเปน็ วิทยากรการทอเสือ่ กก ตามหนว่ ยงานท้งั ภาครัฐและเอกชนตลอดจนไดร้ บั เชิญชวนให้ผสู้ นใจการทอเส่อื กกไปศึกษาดูงานใน กลมุ่ วิสาหกิจชุมชนทอเสื่อ กก และไดจ้ ดั ทาแผ่นพบั เอกสารการทอเสือ่ กก แจกจ่ายใหก้ ับเครอื ข่าย และประชาชนผูส้ นใจในอาชพี การทอ เสอ่ื กกอย่างต่อเนอ่ื ง ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอเมืองหนองบัวลาภู สานักงานส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยจงั หวดั หนองบวั ลาภู


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook