แผนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ วิชา ภาษาอังกฤษในชวี ิตประจาวัน ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2564 หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาข้นั พ้นื ฐานพุทธศกั ราช 2551 กศน.ตาบล................................... ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอโนนนารายณ์ สานกั งานสง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั จังหวดั สุรินทร์
แผนการเรยี น ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2564 ระดบั ประถมศกึ ษา ที่ รหัสวิชา รายวชิ าบังคบั หน่วย ชว่ั โมง เรียนรู้ รหสั วชิ า รายวชิ าเลอื ก หน่วย ชว่ั โมง เรยี นรู้ กติ กติ 1 ทร31001 ทักษะการเรียนรู้ 5 200 4 ครัง้ สค32029 การเงนิ เพื่อชวี ติ 3 3 120 3 คร้ัง 2 พท31001 คณติ ศาสตร์ 5 200 4 ครัง้ พว33078 อนรุ กั ษธ์ รรมชาติ 3 120 3 ครงั้ และสิง่ แวดล้อม 3 พค31001 วิทยาศาสตร์ 5 200 4 ครั้ง รวม 15 12 ครงั้ รวม 6 6 คร้ัง
คาอธิบายรายวิชา พต 21001 ภาษาอังกฤษในชีวติ ประจาวนั จานวน 4 หน่วยกิต ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนต้น มาตรฐานการเรยี นรู้ระดบั มีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะและเจตคติเกี่ยวกับ ภาษาท่าทาง การฟัง พูด อ่าน เขียน ภาษาต่างประเทศ ด้วยประโยคที่ซับซ้อนในชีวิตประจาวัน และงานอาชีพของตนได้ ถูกต้องตามหลักภาษา วัฒนธรรม และกาลเทศะของเจ้าของภาษา ศกึ ษาและฝึกทักษะเกยี่ วกบั เรอื่ งดังต่อไปน้ี 1. การใช้ภาษาท่าทางในการสื่อความหมาย วิธีการรับ-ตอบโทรศัพท์อย่างง่าย ๆ การแสดง ความรู้สึก ดใี จ เสียใจ เขา้ ใจ พอใจ ไมพ่ อใจ ใหก้ าลังใจ สนใจ และไม่สนใจ วิธีการพูดแทรก พูดขอบคุณและการตอบ รับ วิธีการพูดแสดงความคิดเห็น ความต้องการ และการเสนอให้ความช่วยเหลือผู้อื่นพร้อมกับการตอบรับ รวมทั้งลกั ษณะของประโยคบอกเลา่ ประโยคคาถาม ประโยคปฏิเสธ ประโยคคาสั่งและประโยคอุทาน ซ่ึงใช้ ในชีวิตประจาวันในสถานการณ์ตา่ ง ๆ 2. ลักษณะและการใช้ ประโยคความรวม (Compound Sentence) Past Tense ในรูปต่าง คากริยา คากริยาวิเศษณ์ คาสนั ธาน และคาอุทาน โดยสามารถนาไปใช้ในการเลา่ เรอ่ื งราวเกย่ี วกับชีวติ ประจาวนั และ การประกอบอาชีพ การอ่านข่าวสารข้อมูลจากส่ือประเภทต่างๆ การอ่านสลากสินค้าและการตีความหมาย ของสัญลักษณ์ต่างๆ ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมกับสถานการณ์ รวมทั้งเข้าใจการใช้ Internet เพ่ือสืบค้น ขอ้ มลู การจัดประสบการณก์ ารเรยี นรู้ 1.ฝึกฟงั พูด อ่าน เขยี น ภาษาอังกฤษในสถานการณต์ ่าง ๆ โดยใชส้ ถานการณจ์ าลอง และ/หรือสอื่ ท่ีเหมาะสม 2. ฝึกฟัง พูด อ่าน เขียน จากสถานการณ์จาลองโดยใช้ส่ือต่าง ๆ ที่เหมาะสม และสอดคล้องกับ สถานการณ์ การวดั และประเมินผล 1. ตรวจสอบจากการนาไปใชไ้ ดถ้ กู ต้องและเหมาะสมตามสถานการณ์ 2. สามารถใช้ภาษาในการสื่อสารไดถ้ กู ตอ้ งและเหมาะสมกบั สถานการณ์
รายละเอยี ดคาอธิบายรายวิชา พต 21001 ภาษาอังกฤษในชวี ิตประจาวัน จานวน 4 หนว่ ยกติ ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนตน้ มาตรฐานทกี่ ารเรยี นรู้ระดับ มีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะและเจตคติเก่ียวกับ ภาษาท่าทาง การฟัง พูด อ่าน เขียน ภาษาต่างประเทศ ด้วยประโยคที่ซับซ้อนในชีวิตประจาวัน และงานอาชีพของตนได้ ถูกต้องตามหลักภาษา วฒั นธรรม และกาลเทศะของเจ้าของภาษา ท่ี หัวเรื่อง ตัวชีว้ ัด จานวน เนอ้ื หา (ชั่วโมง) 1 ภาษาท่าทางในการ เขา้ ใจและใช้ภาษาในการ 1. ภาษาตามมารยาทสังคมเพ่ือสร้าง ๑๙ ส่อื สารใน สอื่ สารในชวี ติ ประจาวนั ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งบุคคลใน ชีวิตประจาวัน สถานการณต์ ่างๆ ดังนี้ (Language in daily 1.1 การทักทาย การกลา่ วลา เชน่ life) - Good morning. - Good afternoon. - Good evening. - Hi / Hello. - How are you? - How are you today? - I’ m fine, thank you and you? - Nice to see you. - Nice to see you too. - Glad to see you. - Glad to see you too. - Good bye. Bye. - See you soon. - See you on…(Day)… 1.2 การแนะนาตนเองและผู้อ่นื Pat : Hello, I’m Pat. Suda: Hi,my name is Suda. How do you do?
หรือ A : Bob,this is John,my friend from New Zealand. B : How do you do? Nice to meet you. John : How do you do? Nice to meet you,too. etc. 2. ภาษาท่าทางทใี่ ช้ในโอกาสต่างๆ ดงั น้ี 2.1 ทา่ ทางท่สี อ่ื ความหมายทางภาษา เชน่ กวักมือ = Come here. โบกมอื = Bye-bye. ชู 2 นว้ิ = Victory ผายมอื = This way, please. etc. 2.2 ทา่ ทางการปฏบิ ัติตามวัฒนธรรม ของ เจา้ ของภาษา เช่น - Hand Shaking. - Waving good-bye. - Good-bye hug/kiss - Good night hug/kiss - 2.3คาศัพท์ จานวน ประโยคและ ท่าทาง ทใี่ ช้ส่อื สารในโอกาสต่าง ๆ เช่น - Merry Christmas. - Happy New Year. - Happy Valentine’s. - Happy Birthday.
- Congratulations on your graduation. - Thanks. - Thank you very much. - The same to you. - Many happy returns. etc. 2. การโตต้ อบ รบั -ตอบ โทรศพั ท์อย่าง 1.คาศัพท์ สานวน ประโยคต่างๆ ท่ีใชใ้ นการ ๘ โทรศพั ท์ งา่ ย ๆ สอื่ สารในการรับโทรศพั ท์อยา่ งง่ายรวมกัน 8 (Telephone การรับฝากขอ้ ความทางโทรศพั ท์ Conversation) - Is Miss/Mrs./Mr. Robert home? 3 การแสดง ความรูส้ ึกตา่ ง ๆ - I’m speaking. (Expression of feelings) - He / She is out. - He / She will be back soon. Would you like to wait? - etc. 2. การรับฝากขอ้ ความทางโทรศัพท์ A : Hello, may I speak to Mrs. Wanida? B : Sorry, she’s not here now. Would you like to leave her a massage? A : My name is Somsri. Please tell her to call me to 02-728-8888. etc. ใช้ภาษาองั กฤษในการ 1. คา วลี ประโยค บทสนทนาที่แสดง แสดงความร้สู ึก อารมณ์ความร้สู ึกตา่ งๆ (ดใี จ/เสยี ใจ/เขา้ ใจ/พอใจ/ 1.1 พอใจ/ไม่พอใจ ไม่พอใจ/ - That’s great./ That’s bad. ใหก้ าลงั ใจ/สนใจ/ไมส่ นใจ) - How wonderful! - How awful! - I am so pleased to hear that.
4 การพูดแสดง พูดแสดงความคดิ เหน็ และ - I am afraid I don’t like it. 20 ความคิดรูปแบบ แสดงความต้องการ ใน - I love/ like/enjoy it. ตา่ ง ๆ สถานการณต์ ่างๆ - I am disappointed to see (Expression of opinion, ideas / that. wishes / offering etc. helps, etc.) 1.2สนใจ/ไม่สนใจ - I’m interested in....................... - I’m not interested in....................... - I don’t care - (about that)................. - I have no idea. etc. 1.3 ใหก้ าลังใจ/เหน็ ใจ/ปลอบใจ - Don’t worry. - Cheer up. - Take it easy. - Relaxed. - You will be fine. - Well done. - You did a good job. 1.4ดีใจ/เสียใจ - I’m glad that you can come. - I’m so pleased to see you. - I’m glad to hear from you. - I’m so sorry to hear that…….. - I’m so sorry for being late. - I’m terrible sorry for................ - It’s my sympathy to hear that…. - I’m deeply regret about…………… - Please pass my sympathy to…….
ภาษาเพ่อื แสดงความคดิ เหน็ ความตอ้ งการ 1. การแสดงความคิดเห็น (เหน็ ด้วย/ไม่เห็น ดว้ ย/ ยอมรับ/ ไม่ยอมรับ) A : The weather in Bangkok is hotter than Singapore. B : I think so./ I don’t think so./ I agree with you. A : Living in Bangkok is not so pleasant, don’t you think that? B : Yes, but living in rural areas is less convenient. etc. 2. การแสดงความต้องการและตอบรบั เชน่ - I’d like some more coffee. - I want to go to........................ - I wish you should go with me. - I need........................ - Yes, .................please do. / Sure. 3. การแสดงความช่วยเหลอื และบริการผู้อน่ื รวมท้งั ตอบรับ เช่น - What can I do for you? - Can I help you? - Need some help? - If you need anything, please tell me./ let me know. - Certainly. - Yes, of course. - I’m afraid..........................
- Sorry, but............................. 4. การกล่าวขอบคุณและตอบรบั เชน่ -Thank you for your help” - Thank you very mnch for your Kindness. - Thank you for your invitation. 5. การพูดขออนญุ าตและตอบรบั -May I interrupt you for a moment? -May I come in? -Can I borrow your pen? -(It’s) my pleasure. -Don’t mention it. -Yes, you can. 6. การพูดขอโทษและตอบรับ เชน่ -I’m very sorry to be late. -I’m lost your box, I’m so sorry. -I’m terrible sorry for……….. -Sorry, it’s my fault. -Please forgive me for being late. -Forget it. -Don’t worry. -It doesn’t matter. 5 ประโยคต่างๆ ใน รจู้ กั ลกั ษณะของประโยค 7. การพูดแทรกอย่างสุภาพ เชน่ ๒๖ ภาษาอังกฤษ (Different Types ในภาษาอังกฤษ (ประโยค -Excuse me, sir. Could you speak of English Sentences) บอกเล่า/ประโยคคาถาม/ louder? ประโยคปฏิเสธ/ประโยค -Excuse me,madam. คาสัง่ /ประโยคอทุ าน) และ -Could you show me that book? สามารถนาไปใช้ใน etc. 1. ประโยคคาถาม คาท่ใี ช้ในการต้ังคาถาม ไดแ้ ก่ Who, When, Where, Why, What, Whom, How เชน่ - What is your name? - Where do you teach?
- When did he leave school? 18 - How do you like it? etc. 2. ประโยคปฏิเสธ รปู แบบประโยคปฏิเสธและคากรยิ าทใ่ี ช้ เชน่ - They are not farmer. - He doesn’t like Bobby. - I don’t want to go with him. 3. ประโยคคาถาม คาท่ีใช้ในการตงั้ คาถาม ไดแ้ ก่ Who, When, Where, Why, What, Whom, How เช่น - What is your name? - Where do you teach? - When did he leave school? - How do you like it? 4. ประโยคปฏิเสธ รปู แบบประโยคปฏเิ สธและคากริยาท่ีใช้ เช่น - They are not farmer. - He doesn’t like Bobby. - I don’t want to go with him. etc. 5. ประโยคคาสงั่ รูปแบบประโยคคาสง่ั /กลุ่มคาที่ใช้และ ตัวอยา่ งประโยค เชน่ - Come here. - Let’s go now. - Open the door, please. - Please sit down. - Come hear right now. etc.
6 ประโยคความรวม รู้จกั ลกั ษณะของ 6.ประโยคอทุ าน ๓๒ (Compound Compound Sentence รูปแบบประโยคอุทานและตัวอยา่ ง Sentence) และสามารถนาไปใชใ้ น ประโยค เชน่ ชีวิต - Oh! My god. ประจาวนั - Oh, my god! - How marvelous! -What a wonderful party! 1. สว่ นประกอบของ Compound Sentence (Independent Clause) 2. ประโยค 2 ประโยคมารวมกันด้วย คาเชอื่ มท่เี หมาะสม คือ and, but, or เชน่ -We tried our best but we lost the game. -Both they and we tried hard. -I’ll go to the cinema or visit my parent. 3. การเชื่อมประโยคให้เป็น Compound Sentence โดยใช้เครอื่ งหมาย/คาเช่ือม ต่อไปนี้ 3.1 , (Comma) + คาสันธาน เชน่ - They tried their best, yet they didn’t succeed. 3.2 ; (Semicolon) ใช้ในกรณที ีม่ ี เครอื่ งหมายอนื่ ๆ อยู่ดว้ ยหลายแหง่ เชน่ - I also bought her a new car ; I have not yet, nowhere, given it to her. Correlative Conjunction ได้แก่คา ตอ่ ไปน้ี both……..and……… either…….or………. neither…..nor……… not only...........but also......... - Neither did he listen, nor did he
7 Past Tense ใช้ Past Tense ใน improve. 3๖ รปู แบบ - Not only the English teacher get ต่าง ๆ him a bad grade, but also the social teacher did so. Past Tense ในรปู แบบตา่ งๆ 1. Past Simple Tense Subject + V2 Subject +wwearse +V3 1.1เหตกุ ารณ์ทีเ่ กิดข้ึนในอดีต และจบลง ไปแลว้ ก่อนพูดประโยคน้นั เชน่ - He spoke. - She came here yesterday. 1.2แสดงการกระทาทกี่ ระทาเป็นประจา ในอดีตโดยมีคาทีแ่ สดงความบ่อย ความเป็นประจา อยู่ด้วย เช่น - He always got up late when he was young. 2. Past continuous tense was Subject+ were+Ving+conj.+Subject+V2 กลา่ วถงึ เหตุการณ์ 2 อย่าง ในอดตี โดย ขณะที่เหตุการณ์หนึ่งดาเนินอยมู่ ีอีก เหตุการณ์แทรกเข้ามา - เหตกุ ารณ์ทด่ี าเนินอยู่ ใช้ Past continuous tense -เหตกุ ารณ์ทเี่ กดิ ใหม่แทรกเขา้ มาใช้ Past simple tense -คาทีเ่ ชื่อมเหตกุ ารณ์ทีส่ องเข้าดว้ ยกัน คือ when หรือ while เช่น
8 ภาษาองั กฤษ ใช้ภาษาองั กฤษ - การพูดภาษาอังกฤษตามมารยาทสงั คม 5 สาหรับอาชพี 5 พนักงานขับรถ ตามมารยาท สังคมและ และเหมาะสมกบั สถานการณ์ รบั จ้าง เหมาะสมกับสถานการณ์ พูด - การพูดแสดงความรสู้ กึ และแสดงความ 9 ภาษาองั กฤษ สาหรับพนกั งาน แสดงความรู้สึก แสดงความ คิดเหน็ บริการในสถานที่ ตา่ งๆ คิดเห็น แสดงความช่วยเหลอื - การพดู แสดงความช่วยเหลอื ขออนุญาต พูดแทรกอย่าง - การขออนญุ าต สภุ าพ - การพูดแทรกอย่างสภุ าพ ในอาชพี พนักงานขบั รถรับจา้ ง 1. ใช้ประโยคตอ้ นรับ - การกลา่ วต้อนรบั ทักทายลูกคา้ ของ ลูกคา้ ในสถานบริการต่างๆ พนักงานบริการ 2. ใช้ประโยค/สานวน - ประโยคการให้บริการความช่วยเหลือ สนอความช่วยเหลอื / และบริการในสถานบริการตา่ งๆ เช่น ใหข้ ้อมลู แกล่ ูกคา้ ใน ท่ีทาการไปรษณยี ์ สถานรี ถไฟ โรงแรม สถานบริการต่างๆ เป็นต้น เช่น What can I do for you? May I help you? etc.
ตารางวเิ คราะห์สาระหลกั สูตร รายวิชา ภาษาอังกฤษในชีวติ ประจาวัน รหสั วิชา พต ๒1001 ระดบั มัธยมศึกษาตอนตน้ ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2564 จานวน 4 หนว่ ยกติ เวลาเรียน ๑๖๐ ช่วั โมง จดั การเรยี นรู้จานวน ๒๐ สัปดาห์ วเิ คราะหส์ าระการเรยี นรู้ วิธีการจดั การเรียนรู้ รวมเวลา เนื้อหา ง่าย ปานกลาง ยาก พบกลุ่ม ตนเอง ช่วั โมง 1. ภาษาตามมารยาทสังคมเพอื่ สร้าง (๖) 6 ความสมั พันธ์ (๖) 6 1.ระหวา่ งบคุ คลในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ดงั นี้ (๒) 2 1.1 การทักทาย การกลา่ วลา เช่น - Good morning. - Good afternoon. - Good evening. - Hi / Hello. - How are you? - How are you today? - I’m fine, thank you and you? - Nice to see you. - Nice to see you too. - Glad to see you. - Glad to see you too. - Good bye. Bye. - See you soon. - See you on…(Day)… 1.2 การแนะนาตนเองและผู้อื่น เช่น Pat : Hello, I’m Pat. Suda : Hi, my name is Suda. How do you do? A : Bob, this is John, my friend from New Zealand. B : How do you do? Nice to meet you. John : How do you do? Nice to meet you, too. 2. ภาษาทา่ ทางท่ใี ช้ในโอกาสตา่ ง ๆ ดังนี้ 2.1 ทา่ ทางทส่ี ือ่ ความหมายทางภาษา เช่น กวกั มือ = Come here. โบกมือ = Bye-bye. ชู 2 นว้ิ = Victory ผายมอื = This way, please. etc.
เนื้อหา วเิ คราะห์สาระการเรียนรู้ วิธกี ารจดั การเรียนรู้ รวม เวลา 2.2 ทา่ ทางการปฏบิ ัตติ ามวัฒนธรรมของเจ้าของ งา่ ย ปานกลาง ยาก พบกลุ่ม ตนเอง ชั่วโมง ภาษา เชน่ - Hand Shaking. (๒) 2 - Waving good-bye. - Good-bye hug/kiss - Good night hug/kiss (๓) 3 etc. (๖) (๒) 8 2.3 คาศัพท์ สานวน ประโยคและทา่ ทางทใ่ี ช้ สอื่ สารในโอกาสต่าง ๆ เชน่ - Merry Christmas. - Happy New Year. - Happy Valentine’s. - Happy Birthday. - Congratulations on your graduation. - Thanks. - Thank you very much. - The same to you. - Many happy returns. etc. 2.การโต้ตอบโทรศพั ท์ (Telephone Conversation) 1. คาศัพท์ สานวน ประโยคตา่ ง ๆ ท่ใี ชใ้ นการ สอ่ื สาร ในการรบั โทรศัพท์อย่างง่ายรวมกัน การรับ ฝาก ขอ้ ความทางโทรศพั ท์ - Is Miss/Mrs./Mr. Robert home? - I’m speaking. - He / She is out. - He / She will be back soon. Would you like to wait? etc.
เน้ือหา วเิ คราะหส์ าระการเรียนรู้ วิธกี ารจัดการเรียนรู้ รวม งา่ ย ปานกลาง ยาก พบกลุ่ม ตนเอง เวลา 2. การรับฝากข้อความทางโทรศพั ท์ A : Hello, may I speak to Mrs. Wanida? ชั่วโมง B : Sorry, she’s not here now. Would you like to leave her a massage? (๖) (๒) 8 A : My name is Somsri. Please tell her to call me to 02-281- 3732. etc. 3. การแสดงความร้สู ึกต่าง ๆ (Expression of feelings) 1. คา วลี ประโยค บทสนทนาทแ่ี สดงอารมณ์ ความรูส้ ึกต่างๆ 1.1 พอใจ/ไมพ่ อใจ - That’s great./ That’s bad. - How wonderful! - How awful! - I am so pleased to hear that. - I am afraid I don’t like it.- I love/like/enjoy it. - I am disappointed to see that. etc. 1.2 สนใจ/ไมส่ นใจ - I’m interested in....................... - I’m not interested in....................... - I don’t care (about that).................... - I have no idea. etc. - I’m interested in....................... - I’m not interested in....................... - I don’t care (about that).................... - I have no idea. etc.
เนือ้ หา วิเคราะหส์ าระการเรียนรู้ วธิ กี ารจดั การเรียนรู้ รวม งา่ ย ปานกลาง ยาก พบกลุ่ม ตนเอง เวลา 4. การพดู แสดง ความคดิ รูปแบบ ตา่ ง ๆ ช่ัวโมง (Expression of opinion, ideas /wishes / (๖) 6 offering helps, etc.) ภาษาเพือ่ แสดงความคิดเหน็ ความต้องการ (๖) 6 1. การแสดงความคดิ เหน็ (เหน็ ด้วย/ไมเ่ หน็ ด้วย/ ยอมรบั / ไม่ยอมรับ) A : The weather in Bangkok is hotter than Singapore. B : I think so./ I don’t think so./ I agree with you. A : Living in Bangkok is not so pleasant, don’t you think that? B : Yes, but living in rural areas is less convenient. etc. 2. การแสดงความต้องการและตอบรบั เช่น - I’d like some more coffee. - I want to go to........................ - I wish you should go with me. - I need........- Yes, ..........please do. / Sure. etc. 3. การแสดงความช่วยเหลือและบริการผอู้ ื่น รวมทัง้ ตอบรบั เชน่ - What can I do for you? - Can I help you? - Need some help? - If you need anything, please tell me./ let me know. - Certainly. - Yes, of course. - I’m afraid.......................... - Sorry, but............................. etc.
วเิ คราะห์สาระการเรียนรู้ วธิ กี ารจัดการเรยี นรู้ รวม เนื้อหา ง่าย ปานกลาง ยาก พบกลุ่ม ตนเอง เวลา ชั่วโมง 4. การกล่าวขอบคุณและตอบรบั เชน่ (๘) 8 - Thank you for your help. (๖) - Thank you very much for your kindness. 6 - Thank you for your invitation. etc. 5. การพูดขออนุญาตและตอบรับ - May I interrupt you for a moment? - May I come in? - Can I borrow your pen? - (It’s) my pleasure. - Don’t mention it. - Yes, you can. etc. 6. การพูดขอโทษและตอบรับ - I’m very sorry to be late. - I’m lost your box, I’m so sorry. - I’m terrible sorry for............... - Sorry, it’s my fault. - Please forgive me for being late. - Forget it. - Don’t worry. - It doesn’t matter. 7. การพูดแทรกอยา่ งสุภาพ เช่น - Excuse me, sir. Could you speak louder? - Excuse me, madam. - Could you show me that book? etc. 5. ประโยคตา่ ง ๆ ใน ภาษาองั กฤษ (Different Types of English Sentences) 1. ประโยคคาถาม คาทใี่ ชใ้ นการตงั้ คาถาม ได้แก่ Who, When, Where, Why, What, Whom, How เช่น - What is your name? - Where do you teach? etc.
เนอื้ หา วิเคราะหส์ าระการเรียนรู้ วธิ ีการจัดการเรียนรู้ รวม งา่ ย ปานกลาง ยาก พบกลุ่ม ตนเอง เวลา 2. ประโยคปฏเิ สธ รูปแบบประโยคปฏเิ สธและ ช่ัวโมง คากริยาทใี่ ช้ เช่น - They are not farmer. - (๖) 6 He doesn’t like Bobby. - I don’t want to go with him. etc. (๖) 6 3. ประโยคคาสั่ง รูปแบบประโยคคาส่งั /กลุ่มคา ทใี่ ช้และตัวอย่างประโยค เชน่ - Come here. (๘) ๘ - Let’s go now. - Open the door, please. - Please sit down. - Come hear right now. etc. 4. ประโยคอุทาน รปู แบบประโยคอทุ านและ ตวั อยา่ งประโยค เช่น - Oh! My god. - Oh, my god!- How marvelous! - What a wonderful party! 6. ประโยคความรวม (Compound 8 Sentence) 8 1. ส่วนประกอบของ Compound Sentence 2. ประโยค 2 ประโยคมารวมกันดว้ ยคาเชื่อมที่ 8 เหมาะสม คือ and, but, or เชน่ - We tried 8 our best but we lost the game. - Both they and we tried hard. . 3. การเชอื่ มประโยคใหเ้ ป็น Compound Sentence โดย ใช้เครอื่ งหมาย/คาเชื่อม ตอ่ ไปนี้ 3.1 , (Comma) + คาสนั ธาน เชน่ - They tried their best, yet they didn’t succeed. ; (Semicolon) ใช้ในกรณีท่ีมีเครอ่ื งหมายอน่ื ๆ อยู่ดว้ ยหลายแห่ง เช่น - I also bought her a new car ; I have not yet, Correlative Conjunction ได้แก่ คาต่อไปนี้ other..and…either….or….
เนอื้ หา วเิ คราะหส์ าระการเรยี นรู้ วธิ ีการจดั การเรียนรู้ รวม ง่าย ปานกลาง ยาก พบกลุ่ม ตนเอง เวลา 7. Past Tense Past Tense ในรปู แบบต่างๆ ชว่ั โมง (12) 12 1. Past Simple Tense (๒๔) ๒๔ Past Simple Tense Subject + V2 Subject + +V3 1.1 เหตุการณ์ท่เี กดิ ขน้ึ ในอดีต และจบลงไปแล้ว ก่อนพูดประโยคนน้ั เช่น - He spoke. - She came here yesterday. 1.2 แสดงการกระทาทีก่ ระทาเป็นประจาในอดตี โดยมคี าทีแ่ สดงความบ่อย ความเป็นประจา อยูด่ ว้ ย เช่น - He always got up late when he was young. 2. Past continuous tense Subject + Ving + conj. + Subject + V2 กลา่ วถึงเหตกุ ารณ์ 2 อยา่ ง ในอดีต โดยขณะท่ี เหตกุ ารณ์หนึง่ ดาเนนิ อยู่มีอีกเหตกุ ารณแ์ ทรกเข้ามา - เหตุการณท์ ่ีดาเนินอยู่ ใช้ Past continuous tense - เหตกุ ารณท์ เ่ี กิดใหม่แทรกเข้ามาใช้ Past simple tense - คาที่เช่ือมเหตุการณ์ท่ีสองเข้าด้วยกัน คอื when หรอื while เช่น- I was reading a book when she came in. - While I was reading a book, she came in.
วิเคราะหส์ าระการเรียนรู้ วิธีการจดั การเรียนรู้ รวม เนือ้ หา ง่าย ปานกลาง ยาก พบกลุ่ม ตนเอง เวลา ชั่วโมง 8.ภาษาอังกฤษสาหรับ อาชีพพนักงานขบั (๕) 5 รถรับจ้าง (๕) 5 - การพูดภาษาอังกฤษตามมารยาทสงั คมและ เหมาะสมกบั สถานการณ์ - การพูดแสดงความรู้สึกและแสดงความคดิ เหน็ - การพูดแสดงความชว่ ยเหลือ - การขออนญุ าต - การพูดแทรกอย่างสภุ าพ 9.ภาษาอังกฤษสาหรับ พนกั งานบรกิ ารใน สถานท่ตี ่าง ๆ - การกล่าวต้อนรับทักทายลูกคา้ ของพนักงาน บรกิ าร - ประโยคการให้บรกิ ารความชว่ ยเหลอื และ บรกิ าร ในสถานบริการตา่ ง ๆ เช่น ท่ีทาการไปรษณยี ์ สถานีรถไฟ โรงแรม เป็นต้น เชน่ What can I do for you? May I help you? etc.
แผนการจดั การเรียนรู้ คร้ังที่ ……1…… สาระความรู้พนื้ ฐาน ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น วิชาภาษาอังกฤษในชวี ิตประจาวนั รหสั วิชา พต๒1001 จานวน ๔ หนว่ ยกติ (จานวน 1๖0 ชั่วโมง) แบบ พบกลุ่ม จานวน 6 ชัว่ โมง เร่ือง การพูดแสดงความคิดรปู แบบต่างๆ (Expression of opinion, ideas/wishes/offering helps, etc.) ตวั ช้ีวัด พดู แสดงความคดิ เห็นและแสดงความตอ้ งการในสถานการณ์ต่าง ๆ เน้ือหา ภาษาเพอ่ื แสดงความคดิ เห็นความต้องการ ข้ันจัดกระบวนการเรียนรู้ ขัน้ ท่ี 1 ขน้ั กาหนดสภาพปัญหาความต้องการในการเรยี นรู(้ O:orientation) - ครทู กั ทายผ้เู รียน พูดคุยสนทนาเก่ยี วกับการดาเนินชวี ิตในสงั คมปจั จบุ ันนี้ ซ่ึงเป็นสิ่งที่สาคัญ ของการดาเนินชีวิตประจาวันจะต้องอาศัยหลักปัจจัยพื้นฐานท่านมีความคิดเห็นอย่างไรบ้างเก่ียวกับการพูด แสดงความคดิ เหน็ และความต้องการในสถานการณ์ตา่ งๆ มีความสาคัญสาหรับบุคคลแต่ละบุคคล เป็นอย่าง มากจะต้องมกี ารพดู แสดงความคิดเห็นและความต้องการเพ่ือเป็นการแลกเปล่ียนเรียนรู้ ดังนั้น ถ้าหากท่าน ได้รับมอบหมายให้พดู แสดงความคิดเหน็ และแสดงความต้องการ กับบคุ คลต่างชาติในสถานการณ์ต่างๆท่าน คิดว่าจะต้องใช้ภาษาในการพูดแสดงความคิดเห็น เห็นด้วย /ไม่เห็นด้วย /ยอมรับ/ และการแสดงความ ต้องการ และตอบรบั อย่างไรบา้ ง ข้ันที่ 2 ขั้นแสวงหาข้อมูลและการจัดการเรียนการสอน(N:New ways of learning) - ผเู้ รยี นศกึ ษาค้นคว้าจากใบความรู้ และสบื คน้ ขอ้ มลู เพม่ิ เตมิ จากอนิ เตอร์เน็ต / แหล่งเรียนรู้ เก่ียวกบั การแสดงความคดิ เห็น ความต้องการและตอบรบั ดังน้ี - การแสดงความเหน็ ด้วย /การแสดงความไมเ่ ห็นดว้ ย - การแสดงความตอ้ งการ และตอบรบั - การแสดงความชว่ ยเหลอื และบริการผู้อ่ืน รวมท้งั การตอบรับ
- ผู้เรยี นคน้ คว้าตวั อย่างการพดู สนทนาเกีย่ วกับการแสดงความคดิ เหน็ ความต้องการและตอบรับ การแสดงความช่วยเหลอื และบรกิ ารผ้อู ่นื รวมท้ังการตอบรับ ขน้ั ที่ 3 ข้นั ปฏิบัตแิ ละนาไปประยกุ ตใ์ ช้(I:Implementation) - ครูผู้สอนและผู้เรยี นแลกเปลีย่ นเรยี นรู้กนั ถึงการทกั ทายและการตอบรบั การทกั ทาย (Greeting) การแนะนาตนเองและการแนะนาผอู้ ื่น (Introducing) ,การกลา่ วลา และ การตอบรับ การกลา่ วลา (Leave Taking) - ครูผู้สอนใหผ้ ู้เรียนจับคู่ฝกึ การสนทนาแสดงบทบาทสมมติตามใบความรู้ท่ี 1 - ครผู ู้สอนให้ผู้เรยี นออกมาสอบสนทนาหนา้ ชนั้ เรียนทลี ะกล่มุ - มอบหมายใบงานให้ผู้เรียนทาแล้วส่งท้ายช่ัวโมงเรยี นและใหผ้ ู้เรยี นทาแบบทดสอบหลงั เรียนครูเฉลยพร้อมอธบิ ายให้ความรเู้ พ่ิมเติม ข้ันท่ี 4 ขน้ั ประเมนิ ผลการเรียนร(ู้ E:Evaiuation) 1) สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล 2) การสังเกตจากการนาเสนอ 3) การซกั ถามผเู้ รียน 4) ใบงาน สอื่ การเรยี นรู้ 1. หนังสือเรียนรายวิชาภาษาอังกฤษในชวี ิตประจาวนั รหสั วชิ า พต๒1001 2. กระดาษสองหนา้ 3. ใบความรู้ 4. ใบงาน 5. อนิ เทอรเ์ น็ต การวัดและประเมินผล 1. สังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล 2. การนาเสนอ 3. ใบงาน 4. แบบทดสอบก่อนเรยี น – หลงั เรยี น
บันทึกหลงั การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ครัง้ ท่ี ……………. กิจกรรมการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ................................ ............................................................................................................................. ................................ .................................................................................................. ........................................................... ............................................................................................................................. ................................ สภาพปัญหาทีพ่ บ .................................................................................................................................................... ......... ......................................................................................................................... ...................................... ................................................................................................................................. .............................. ............................................................................................................................................................. วิธีแก้ปัญหา ............................................................................................................................. ................................ ............................................................................................................................. ................................ .................................................................................. ........................................................................... ............................................................................................................................. ................................ ลงชือ่ ..................................................ผบู้ ันทึก (..................................................) วันท.่ี ........................................... ข้อเสนอแนะของผู้บรหิ าร ............................................................................................................................. ................................ .................................................................................................. ........................................................... ............................................................................................................................. ................................ ............................................................................................................................................................. ลงช่ือ....................................................... (นางสาวกลุ ธิดา ต้นโสภา) ผอู้ านวยการ กศน.อาเภอโนนนารายณ์
แบบทดสอบกอ่ นเรียน วชิ า ภาษาอังกฤษพนื้ ฐาน รหสั วิชา พต11001 ระดบั ประถมศกึ ษา ชอ่ื -สกุล......................................................รหัสประจาตวั นกั ศึกษา....................................... คำชีแ้ จง : จงเลือกคำตอบท่ีถูกต้อง Choose the correct answer. 1. If you want to ask about your friend's health. You say “_____________” a. Where do you live? b. How do you do? c. What do you do? d. How about you? 2. You accidentally step on someone's foot. You blame yourself “____________” a. How clumsy of me! b. It's not my fault. c. I'm sorry. d. Thank you. 3. Suda would like to buy a computer notebook. The shopkeeper say “________” a. May I help you? b. Where are you going? c. What are you doing here? d. What would you like to do? 4. Suda : Could you show me how to get to the post office? Malee : “_____________” a. Yes, I can. b. Yes, I do. c. Yes, I should. d. Yes, I would.
5. A tourist is visiting Bangkok for the first time and she wants to go to the Grand Palace. She asks a policeman, “_____________” a. I want to go to the Grand Palace. Please take me there. b. Could you tell me where I go to the Grand Palace? c. Could you tell me how to get to the Grand Palace? d. Give me the map of the Grand Palace.
ใบความรูท้ ี่ ๑ วชิ า ภาษาองั กฤษในชวี ิตประจาวนั รหัสวชิ า พต ๒1001 ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนตน้ เรอ่ื ง การพดู แสดงความคิดเห็นและแสดงความตอ้ งการในสถานการณต์ ่าง ๆ เรื่องท่ี 1. ฉันควรใส่ชุดไหนดีสาหรับงานเลี้ยงต้อนรับ (Which dress should I wear to the welcome party?) เสื้อผา้ เครอื่ งแตง่ กายเป็นปัจจัยหน่ึงที่จาเป็นสาหรับมนุษย์ โดยเฉพาะการแต่งกายไปในงานเลี้ยงต่าง ๆ ให้ เหมาะสมกบั โอกาสและสถานท่ีสานวนทีใ่ ชส้ อบถามเกย่ี วกับความคิดเหน็ ไดแ้ ก่ What do you think about...................? (คณุ คิดอยา่ งไรเก่ียวกบั ................... ) Do you have any idea about………………..? (คุณมคี วามคิดเหน็ เก่ยี วกับ.....................หรอื ไม)่ Do you agree that…………………..? (คณุ เห็นดว้ ยกับ........................หรือไม)่ สานวนท่ีใช้ตอบ ไดแ้ ก่ In my opinion,……………. ในความคดิ เหน็ ของฉัน In my point of view,………. I think so. ฉนั เห็นดว้ ย I agree with you. I don't think so. ฉันไมเ่ ห็นด้วย I disagree. I have no idea. ฉันไม่มีความเห็น
สุดาได้รบั เชิญไปงานเลี้ยงตอ้ นรับของบริษทั ในบทสนทนาสุดาไดป้ รึกษากับมาลีเพื่อนรัก เพื่อ ขอความเห็นวา่ ควรจะสวมใส่ชุดไหนไปงานดังกล่าวดี Situation 1 Suda : I have nothing to wear to the welcome party. Malee : Oh Dear, that's not true. You have a lot of dresses. How about your black dress? Suda : That long black dress? It's too elegant. I want to wear something casual. What do you think about the pretty yellow dress? Malee : That's a good idea. It's nice. Suda : So, you think I should wear the yellow dress? Malee : I think so. You will look very attractive. อีกตวั อย่างหนง่ึ คอื สดุ าสนทนากับมาลเี กี่ยวกบั การพกั อาศยั สดุ าสอบถามมาลวี ่าเธอชอบอยู่ใน เมืองหรืออยู่ชานเมือง มาลีได้แสดงความคิดเหน็ ว่าเธอชอบอยู่ชานเมืองมากกวา่ อยู่ในเมือง ต่อไปน้ี คอื บท สนทนาระหว่างสุดาและมาลี Situation 2
Suda : Where do you like to live in the city or in the rural? Malee : In my opinion, I like to live in the rural because there is no traffic jams and the weather is good for our health. Suda : I think so. เรื่องท่ี 2 เดนิ ซื้อของ (Shopping) การใช้ชีวิตประจาวันของคนเราต้องเกี่ยวข้องกับการจับจ่ายใช้สอยไม่ว่าจะเป็นอาหาร เครื่องดื่ม เสอ้ื ผ้า และของใช้ ตลอดจนยารกั ษาโรค สถานที่ที่คนนิยมไปจับจ่ายซื้อของ ได้แก่ ร้านค้าสะดวกซ้ือ (a convenience store) และห้างสรรพสินค้า (a department store) เม่ือมีลูกค้าเข้าไปในร้าน พนักงานจะ สอบถามความตอ้ งการของลูกค้าเพื่ออานวยความสะดวกในการจบั จ่ายซ้ือของได้เรว็ ขนึ้
สานวนท่ใี ช้ถาม เมอ่ื ให้บรกิ าร เชน่ What can I do for you? ฉนั จะช่วยอะไรคุณไดบ้ ้าง What are you looking for? คุณกาลงั มองหาอะไรอยู่ Can I help you? ฉันจะช่วยคณุ ได้ไหม May I help you? Do you need some help? คุณตอ้ งการความช่วยเหลือรเึ ปล่า If you need anything, please tell me. ถา้ ตอ้ งการอะไรโปรดบอก If you need anything, please let me know. นะครับ/คะ่ ในกรณที ีพ่ ดู ให้สุภาพจะใช้กริยารูป would หรอื could สานวนทใ่ี ชต้ อบ เชน่ I'm looking for ..................... ฉันกาลงั หา............................อยู่ I want.................. ฉนั ตอ้ งการ................................ Certainly. I want............... แนน่ อน ฉนั ต้องการ.................. Yes, of course. I'm looking for ................ แน่นอน ฉนั กาลงั มองหา........... Situation 1 At the Department Store Salesgirl : Hello. What can I do for you? Malee : Hello. I'm looking for a jacket. Salesgirl : How about this one? Malee : What size is it? Salesgirl : It's a large size. Malee : Can I try? Salesgirl : Sure. Malee : It's a little bit large. Salesgirl : This is a medium size. Malee : Medium size will do. I will take the black one. How much is it? Salesgirl : Twenty-five dollars
Malee : Here's the money. Salesgirl : Please wait for a moment. ……….. Here's your jacket and change. Malee : Thank you. Salesgirl : You're welcome.
ใบงาน 1 วชิ า ภาษาองั กฤษในชวี ิตประจาวัน รหสั วิชา พต๒1001 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนต้น ชอ่ื -สกุล......................................................รหัสประจาตวั นักศึกษา....................................... Exercise 1 Read the conversation, then answer the questions. Interviewer : Excuse me. I'm doing a survey about mobile phones. Can I ask you a few questions? Preecha : Yes, of course. Interviewer : How often do you use your mobile phone? Preecha : All the time, I enjoy talking with my friend. Interviewer : And do you use any other options on your phone? Like SMS or ….. Preecha : Oh! I often sent SMS. It's cheaper. And sometimes I take photos and send them to my friends. Interviewer : Anything else? Preecha : Oh yes! My parents often call me on mobile phone when I'm out at night. They like to know if I'm safe. Interviewer : Do you have any problems with your phone? Preecha : Yes. The large bill at the end of the month. 1. Who is the interviewer? ____________________________________________________ 2. What is the interview about? ____________________________________________________ 3. How often does Preecha use his mobile phone? ____________________________________________________ 4. What options does he use? ____________________________________________________ 5. What are problems of Preecha for using the mobile phone? ____________________________________________________
แบบทดสอบหลังเรียน วชิ า ภาษาอังกฤษพน้ื ฐาน รหัสวิชา พต11001 ระดับประถมศกึ ษา ชอ่ื -สกุล......................................................รหสั ประจาตัวนกั ศกึ ษา....................................... คำชีแ้ จง : จงเลือกคำตอบท่ีถกู ต้อง Choose the correct answer. 1. If you want to ask about your friend's health. You say “_____________” a. Where do you live? b. How do you do? c. What do you do? d. How about you? 2. You accidentally step on someone's foot. You blame yourself “____________” a. How clumsy of me! b. It's not my fault. c. I'm sorry. d. Thank you. 3. Suda would like to buy a computer notebook. The shopkeeper say “________” a. May I help you? b. Where are you going? c. What are you doing here? d. What would you like to do? 4. Suda : Could you show me how to get to the post office? Malee : “_____________” a. Yes, I can. b. Yes, I do. c. Yes, I should. d. Yes, I would.
5. A tourist is visiting Bangkok for the first time and she wants to go to the Grand Palace. She asks a policeman, “_____________” a. I want to go to the Grand Palace. Please take me there. b. Could you tell me where I go to the Grand Palace? c. Could you tell me how to get to the Grand Palace? d. Give me the map of the Grand Palace. เฉลย 4. a 5. c แบบทดสอบก่อน-หลงั เรยี น 1. d 2. c 3. a แบบเฉลยใบงาน Exercise 1 1. He is a surveyor about mobile phone. 2. It is about mobile phone. 3. Preecha uses his mobile phone all the time. 4. He uses options to call, take photos and send SMS and photos. 5. His problem is the large bill at the end of the month.
แผนการจัดการเรยี นรู้ คร้ังที่ ……๒…… สาระความรู้พ้ืนฐาน ระดับมัธยมศึกษาตอนตน้ วชิ าภาษาองั กฤษในชีวิตประจาวัน รหสั วชิ า พต๒1001 จานวน ๔ หน่วยกิต (จานวน 1๖0 ช่ัวโมง) แบบ พบกลมุ่ จานวน 6 ชวั่ โมง เร่อื ง ประโยคตา่ งๆ ในภาษาอังกฤษ ( Different Types of English Sentences) ตัวชี้วัด รู้จกั ลักษณะของประโยคในภาษาอังกฤษ (ประโยคบอกเล่า/ประโยคคาถาม/ประโยคปฏเิ สธ/ ประโยคคาสง่ั / ประโยคอทุ าน) และสามารถนาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั เนอ้ื หา ประโยคคาถามการใช้ Who, When, Where, Why, What, Whom, How ขน้ั จัดกระบวนการ เรียนรู้ ข้นั ท่ี 1 ขั้นกาหนดสภาพปัญหาความต้องการในการเรียนรู(้ O:orientation) - ครูทักทายผู้เรียน พูดคุยสนทนาเก่ียวกับการสอบถามข้อมูลส่วนตัวของผู้เรียน ท่านมี ความคิดเห็นอย่างไรบ้าง เกี่ยวกับประโยคคาถามในสถานการณ์ต่างๆ มีความสาคัญสาหรับบุคคลแต่ละ บุคคลเป็นอยา่ งมาก เพือ่ เป็นสร้างความรู้จักกับเพ่ือนชาวต่างชาติ ดังนั้น ถ้าหากท่านได้รับมอบหมายให้พูด สนทนา กับบุคคลต่างชาติ ท่านคิดว่าจะต้องใช้ประโยคคาถาม การพูดสนทนาโต้ตอบอย่างไรบ้าง โดยใช้ ประโยคคาถาม ขั้นที่ 2 ข้ันแสวงหาข้อมูลและการจดั การเรยี นการสอน(N:New ways of learning) - ผเู้ รียนศกึ ษาคน้ คว้าจากใบความรู้ และสืบค้นข้อมูลเพ่มิ เติมจากอินเตอรเ์ น็ต / แหลง่ เรียนรู้ เกี่ยวกบั ประโยคคาถาม คาท่ีใช้ในการต้ังคาถาม ได้แก่ Who, When, Where, Why, What, Whom, How - ผเู้ รียนคน้ ควา้ ตวั อย่างประโยคคาถามการใช้ Who, When, Where, Why, What, Whom, How ข้ันท่ี 3 ข้ันปฏบิ ตั ิและนาไปประยุกต์ใช(้ I:Implementation) - ผู้เรยี นและครูรว่ มกันพูดสนทนาโตต้ อบประโยคคาถามการใช้ Who, When, Where, Why, What, Whom, How - ผเู้ รยี นจับคแู่ สดงบทบาทสมมตใิ นการพูดสนทนาประโยคคาถามการใช้ Who, When, Where, Why, What, Whom, How
- ผูเ้ รยี นทาใบงานเรื่องการพดู สนทนาประโยคคาถามการใช้ Who, When, Where, Why, What, Whom, How - ผู้เรยี นและครูร่วมกันสรุปเน้ือหาเรอ่ื ง การพดู สนทนาประโยคคาถามการใช้ Who, When, Where, Why, What, Whom, How - ครูเฉลยใบงานการพูดสนทนาประโยคคาถามการใช้ Who, When, Where, Why, What, Whom, How ขน้ั ที่ 4 ขน้ั ประเมินผลการเรียนรู(้ E:Evaiuation) 1. สังเกตพฤติกรรมการทางานรายบุคคล 2. การสงั เกตจากการนาเสนอ 3. การซักถามผเู้ รียน 4. ใบงาน ส่อื การเรียนรู้ 6. หนงั สือเรียนรายวิชาภาษาอังกฤษในชีวติ ประจาวัน รหสั วชิ า พต ๒1001 7. กระดาษสองหนา้ 8. ใบความรู้ 9. ใบงาน 10.อินเทอร์เนต็ การวัดและประเมนิ ผล 5. สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล 6. การนาเสนอ 7. ใบงาน 8. แบบทดสอบกอ่ นเรยี น – หลงั เรยี น
บนั ทกึ หลงั การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ครั้งท่ี ……………. กิจกรรมการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ................................ ............................................................................................................................. ................................ .................................................................................................. ........................................................... ............................................................................................................................. ................................ สภาพปัญหาท่ีพบ .................................................................................................................................................... ......... ............................................................................................................................. .................................. ................................................................................................ ............................................................... ............................................................................................................................. ................................ วิธีแก้ปัญหา .................................................................................................................................................. ........... ....................................................................................................................... ...................................... ............................................................................................................................. ................................ ............................................................................................................................................................. ลงชอ่ื ..................................................ผู้บันทกึ (..................................................) วนั ท.่ี ........................................... ข้อเสนอแนะของผู้บรหิ าร ............................................................................................................................. ................................ ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................ .................................................................................................. ........................................................... ลงชอ่ื ....................................................... (นางสาวกุลธดิ า ต้นโสภา) ผอู้ านวยการ กศน.อาเภอโนนนารายณ์
แบบทดสอบกอ่ นเรยี น วชิ า ภาษาอังกฤษในชวี ิตประจาวัน รหสั วชิ า พต๒1001 ระดับมัธยมศกึ ษาตอนต้น ชอ่ื -สกลุ ......................................................รหสั ประจาตวั นกั ศกึ ษา....................................... คาช้แี จง : จงเลือกคาตอบท่ีถูกต้อง Choose the correct answer. 1. Suda would like to buy a computer notebook. The shopkeeper say “________” a. May I help you? b. Where are you going? c. What are you doing here? d. What would you like to do? 2. You accidentally step on someone's foot. You blame yourself “____________” a. How clumsy of me! b. It's not my fault. c. I'm sorry. d. Thank you. 3. If you want to ask about your friend's health. You say “_____________” a. Where do you live? b. How do you do? c. What do you do? d. How about you? Suda would like to buy a computer notebook. The shopkeeper say “________” a. May I help you? b. Where are you going? c. What are you doing here? d. What would you like to do? 4. Suda : Could you show me how to get to the post office? Malee : “_____________” a. Yes, I can. b. Yes, I do. c. Yes, I should. d. Yes, I would.
5. A tourist is visiting Bangkok for the first time and she wants to go to the Grand Palace. She asks a policeman, “_____________” a. I want to go to the Grand Palace. Please take me there. b. Could you tell me where I go to the Grand Palace? c. Could you tell me how to get to the Grand Palace? d. Give me the map of the Grand Palace.
ใบความรู้ท่ี ๒ วิชา ภาษาอังกฤษในชวี ติ ประจาวนั รหัสวิชา พต ๒1001 ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนต้น เรอื่ ง ประโยคคาถามการใช้ Who, When, Where, Why, What, Whom, How ประโยคคาถาม (Question sentence) เป็นประโยคท่ีใช้ถามเพื่อต้องการคาตอบจาก ผู้ท่ีเรา สนทนาดว้ ย ประโยคคาถามมี 4 ชนิด คอื (1) ประโยคคาถามที่ข้ึนต้นด้วยกริยาช่วย (Yes-no question) เป็นประโยคท่ีต้องการคาตอบ ว่า yes (ใช่) หรือ no (ไม่ใช่) เท่าน้ัน ประโยคคาถามประเภทนี้ต้องข้ึนต้นประโยคด้วยกริยาช่วย (Yes-no question) เป็นประโยคที่ต้องการคาตอบว่า yes (ใช่) หรือ no (ไม่ใช่) เท่าน้ัน ประโยคคาถามประเภทนี้ ตอ้ งขนึ้ ตน้ ประโยคดว้ ยกริยาช่วยการทาประโยคคาถามแบบ Yes-no question นี้ ทาจากประโยคบอกเล่า ธรรมดา (Affirmative sentence) โดยเอากริยาช่วย (Helping Verb) มาไว้ข้างหน้า ได้แก่ Verb to be, will, have ถ้าประโยคใดไม่มีกริยาช่วยให้ใช้ Verb to do โดยกระจายรูปกริยาช่วยให้ถูกต้องตามประธาน และทากริยาแท้ให้อยู่ในรูปเดิมท่ีไม่ต้องเติม s หรือ es แล้วลงท้ายประโยคด้วยเคร่ืองหมายคาถาม (question mark) ดังตวั อยา่ งตอ่ ไปน้ี ประโยคบอกเลา่ ประโยคคาถาม She is your teacher. Is she your teacher? (เธอเปน็ ครขู องคุณ) He likes you. (เธอเป็นครขู องคุณใชไ่ หม) (เขาชอบคณุ ) Does he like you? They buy air ticket. (เขาซือ้ ตว๋ั เครื่องบิน) (เขาชอบคุณหรอื เปลา่ ) Do they buy air ticket? (เขาซอ้ื ตวั๋ เคร่อื งบินใช้ไหม) (2) ประโยคที่ข้ึนต้นด้วยคาที่เป็นคาถาม (Question word question) คือ ประโยคที่ข้ึนต้น ด้วยคาที่เป็นคาถาม ได้แก่ what (อะไร), when (เม่ือไหร่), where (ที่ไหน), who (ใคร), whom (ถึง, แก่ ใคร), whose (ของใคร), which (อันไหน/ส่ิงไหน), why (ทาไม), how (อยา่ งไร) ในการตั้งคาถามด้วยคาเหล่าน้ี ส่วนใหญ่จะต้องตามด้วยกริยาช่วย ยกเว้น who ตามด้วยกริยาแท้ และ whose ตามด้วยคานาม ส่วน which ตามด้วยคานามที่เป็นกรรมหรือกริยาช่วย ขอให้ศึกษารายละเอียด การใชค้ าที่เป็นคาถาม (Question word question) แต่ละตัว ดังต่อไปนี้
1. What อ่านวา่ วอท แปลว่า อะไร ใชถ้ ามเก่ยี วกับคน สัตว์ สง่ิ ของ เช่น ประโยค ตอบแบบสั้น (Short form) ตอบแบบยาว (Long form) What is in the cage? A bird. A bird is in the cage. (อะไรอยูใ่ นกรง) (นกตวั หนึ่ง) I am reading a newspaper. What are you reading? A newspaper. He is a doctor. (คณุ กาลังอา่ นอะไรอยู่) (หนงั สอื พิมพ์ฉบบั หนึ่ง) What is your father? A doctor. (พอ่ ของคณุ เปน็ อาชพี อะไร) (หมอคนหน่งึ ) 2. Where อา่ นว่า แวรฺ แปลวา่ ทไี่ หน ใช้ถามสถานที่ เช่น ประโยค ตอบแบบสั้น ตอบแบบยาว (Long form) (Short form) I live in Phuket. Where do you live? In Phuket. I will go to the market. (คณุ อาศัยอยู่ทใ่ี ด) (ในจงั หวดั ภเู ก็ต) The dog is under the tree. Where will you go? To the market. (คณุ จะไปไหน) (ไปตลาด) Where is the dog? Under the tree. (สุนัขอย่ทู ่ีไหน) (ใตต้ น้ ไม)้ 3. When อา่ นว่า เวน แปลวา่ เม่อื ไร ใชถ้ ามเกยี่ วกับเวลา เชน่ ประโยค ตอบแบบส้นั ตอบแบบยาว (Long form) (Short form) I will go home at four o’clock. When will you go home? At four o’clock. My uncle will visits to next (คณุ จะกลับบ้านเมื่อไร) (สีโ่ มง) year. When will your uncle Next year next year. Visit to you ? (ปหี น้า) (ลุงของคณุ มาเยย่ี มคุณเมื่อไร) 4. Who อ่านวา่ ฮู แปลวา่ ใคร ใช้ถามบคุ คล เชน่ ประโยค ตอบแบบสั้น ตอบแบบยาว (Long form) (Short form) That man is George Smith. Who is that man? George Smith. Boonchu and Chalerm want to go home. (ผชู้ ายคนนัน้ เป็นใคร) (จอร์จ สมธิ ) Who wants to go home now? Boonchu and Chalerm. (ใครอยากจะกลบั บา้ นตอนน้ีบ้าง) (บญุ ชูและเฉลิม)
5. Why อ่านว่า วาย แปลว่า ทาไม ใชถ้ ามเมือ่ ต้องการถามถงึ เหตุผล เช่น ประโยค ตอบแบบสน้ั ตอบแบบยาว (Short form) (Long form) Why do you go to the book To buy a book. I go to the book store to buy store? (ซื้อหนังสอื ) a book. (คณุ ไปร้านหนงั สือทาไม) Because the traffic is Why are you late? heavy. I am late Because the traffic (ทาไมคุณมาสาย) (เพราะรถตดิ ) is heavy. 6. Which อ่านว่า วิซ แปลว่า ตวั ไหน อนั ไหน หรอื เป็นการไถถ่ ามใหเ้ ลือกอย่างใดอย่างหน่งึ เช่น ประโยค ตอบแบบส้นั ตอบแบบยาว (Short form) (Long form) Which work do you prefer a A teacher. (ครู) I prefer a teacher. teacher or a soldier? (คุณชอบทางานอะไร ครูหรอื ทหาร) Satri Phuket School. I go to Satri Phuket School. Which school do you go? (โรงเรยี นสตรภี เู ก็ต) (คณุ จะไปโรงเรยี นไหน) 7. How อา่ นวา่ ฮาว แปลว่า อยา่ งไร ใชใ้ นความหมายทต่ี ่างกัน ดังนี้ How ใชถ้ ามลักษณะอาการ วธิ กี ารคมนาคม การใชเ้ คร่ืองมือตา่ ง ๆ เชน่ ประโยค ตอบแบบสนั้ ตอบแบบยาว (Short form) (Long form) How do you go to Suan By bus. I go to Suan by bus. Chatuchak? (นั่งรถโดยสารประจาทางไป) (คุณจะไปสวนจตจุ กั รอย่างไร) Very nice. She is very nice. How is Wasana? (ดีมาก) (วาสนาเป็นอย่างไรบ้าง) Fine, thank you. And you? How are you? (สบายดี ขอบคณุ แล้วคุณหละ) I am fine, thank you. (คุณเป็นอยา่ งไรบา้ ง)
How long ใชถ้ ามเกยี่ วกับระยะเวลาว่านานเท่าใด เชน่ ประโยค ตอบแบบส้นั ตอบแบบยาว (Short form) (Long form) How long does it take from About half an hour by taxi. It’s half an hour by taxi. Sanamloang to Victory (ประมาณคร่ึงชั่วโมงโดยรถ Monument? รบั จา้ ง) (จ า ก ส น า ม ห ล ว ง ไ ป อ นุ ส า ว รี ย์ ชั ย สมรภมู ิใชเ้ วลานานเท่าไร) How often ใช้ถามเกีย่ วกบั ความถ่ี เชน่ ตอบแบบสัน้ ตอบแบบยาว ประโยค (Short form) (Long form) He sees her once a week. How often does he see her? Once a week. (เขามาหาเธอบอ่ ยเพียงไร) (สปั ดาห์ละครั้ง) ตอบแบบยาว (Long form) How many ใช้ถามจานวนมากน้อยเทา่ ใด (คานามนบั ได้) เชน่ I read two books. ประโยค ตอบแบบสน้ั ตอบแบบยาว (Long form) (Short form) It is about 850 Kilometers. How many books do you read? Two books. ตอบแบบยาว (Long form) (คุณอา่ นหนงั สอื มากเทา่ ไร) (สองเลม่ ) I am twenty years old. How far ใช้ถามระยะทางว่าไกลเท่าไร เชน่ ประโยค ตอบแบบสั้น (Short form) How far is it from here to About 850 Kilometers. Bangkok? (ประมาณ 850 กโิ ลเมตร) จากท่ีนไ่ี ปกรงุ เทพฯ ไกลแค่ไหน) How old ใชถ้ ามอายุ เช่น ประโยค ตอบแบบสนั้ (Short form) How old are you ? Twenty years old. (คุณอายเุ ท่าไหร่ อะไร) (ยสี่ ิบปี)
How about ใชถ้ ามความคิดเห็นเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ เช่น ประโยค ตอบแบบสัน้ ตอบแบบยาว (Long form) (Short form) It is very good. How about the cinema ? Very good (ภาพยนตรเ์ ป็นอยา่ งไรบา้ ง) (ดมี าก) How high ใช้ถามความสูงของส่งิ ของทีม่ ีความสงู มากๆ เชน่ อาคาร ภูเขา เชน่ ประโยค ตอบแบบส้นั ตอบแบบยาว (Short form) (Long form) How high is that building? Fifty feet. It is fifty feet high. (อาคารหลังน้ันสงู เทา่ ไร) (สูง 50 ฟตุ ) I am six feet tall. How tall are you? Six feet. (คุณสูงเท่าไร) (สงู 6 ฟตุ ) การตง้ั คาถาม ขอให้นักศึกษาสังเกตว่าการใช้ Question words มาตั้งเป็นประโยคคาถามนั้น Question words จะอยู่ข้างหน้าประโยค ตามด้วยกริยาช่วย ประธาน กริยาแท้ กรรมและส่วนขยาย ตามโครงสร้างประโยค ดงั น้ี Example (ตวั อย่าง) How do you go to Suan Chatuchak? Where do you live? When will you go home? Who is that man? What are you reading? Why do you go to the book store? Question words บางคาสามารถตามด้วยกริยาแท้ (Verb) ได้เลย หากคาถามนั้นถามถึง ประธาน (Subject) ของประโยค ซึ่งมโี ครงสร้างดงั น้ี Example (ตวั อย่าง) What is - in the case? Who wants to go home now? What ในคาถามแรกถามถึงประธานของประโยคซ่ึงเป็นสัตว์ จึงใช้คาว่า What ส่วน Who ใช้ถาม สาหรับคนเทา่ นั้น สาหรบั คาว่า Which เป็นคาถามเกีย่ วกบั ลักษณะให้เลือกตอบ แปลว่าอันไหน ตัวไหน จึง ต้องตามด้วยคานามหรือสรรพนามเสมอ แล้วตามด้วยกริยาช่วย ประธาน กริยาแท้ กรรมและส่วนขยาย มี โครงสร้างดงั น้ี
Example (ตัวอยา่ ง) Which work do you prefer, a teacher or a soldier? Which school do you go? Which one do you like? Which one does he want? ส่วนคาว่า How สามารถตามตัวด้วยคาคุณศัพท์ (Adjective) เพ่ือถามลักษณะต่างๆ ได้ มี โครงสร้างดังนี้ Example (ตัวอย่าง) How long does it take from Sanamluang to Victory Monument? How often does he see her? How far is it from here to Bangkok? How old are you? How high is that building? ถ้าถามถึงจานวนหรือปริมาณจะใช้ How many สาหรับส่ิงที่นับได้ และ How much สาหรับส่ิงที่ นบั ไม่ได้ เช่น How many boys are there in this village? (ในหมูบ่ า้ นนี้มีเดก็ ผู้ชายกค่ี น) How much sugar do you want? (คุณต้องการนา้ ตาลเท่าไร) How much coffee does he drink everyday? (เขาดืม่ กาแฟมากเท่าใดใน 1 วัน) How many birds are there in that case? (ในกรงนั้นมีนกก่ีตวั ) สาหรบั การถามราคาจะใชค้ าถามวา่ How much does it cost? เสมอ
ใบงาน ๒ วชิ า ภาษาอังกฤษในชวี ิตประจาวัน รหัสวชิ า พต๒1001 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนต้น ชอ่ื -สกลุ ......................................................รหสั ประจาตัวนักศึกษา....................................... Exercise 1 Read the conversation, then answer the questions. Interviewer : Excuse me. I'm doing a survey about mobile phones. Can I ask you a few questions? Preecha : Yes, of course. Interviewer : How often do you use your mobile phone? Preecha : All the time, I enjoy talking with my friend. Interviewer : And do you use any other options on your phone? Like SMS or ….. Preecha : Oh! I often sent SMS. It's cheaper. And sometimes I take photos and send them to my friends. Interviewer : Anything else? Preecha : Oh yes! My parents often call me on mobile phone when I'm out at night. They like to know if I'm safe. Interviewer : Do you have any problems with your phone? Preecha : Yes. The large bill at the end of the month. 1. Who is the interviewer? ____________________________________________________ 2. What is the interview about? ____________________________________________________ 3. How often does Preecha use his mobile phone? ____________________________________________________ 4. What options does he use? ____________________________________________________ 5. What are problems of Preecha for using the mobile phone? ____________________________________________________
แบบทดสอบหลงั เรยี น วิชา ภาษาองั กฤษในชีวติ ประจาวนั รหสั วชิ า พต๒1001 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนต้น ชื่อ-สกุล......................................................รหัสประจาตัวนกั ศึกษา....................................... คาชแี้ จง : จงเลอื กคาตอบที่ถกู ต้อง Choose the correct answer. 1. Suda would like to buy a computer notebook. The shopkeeper say “________” a. May I help you? b. Where are you going? c. What are you doing here? d. What would you like to do? 2. You accidentally step on someone's foot. You blame yourself “____________” a. How clumsy of me! b. It's not my fault. c. I'm sorry. d. Thank you. 3. If you want to ask about your friend's health. You say “_____________” a. Where do you live? b. How do you do? c. What do you do? d. How about you? Suda would like to buy a computer notebook. The shopkeeper say “________” a. May I help you? b. Where are you going? c. What are you doing here? d. What would you like to do? 4. Suda : Could you show me how to get to the post office? Malee : “_____________” a. Yes, I can. b. Yes, I do. c. Yes, I should. d. Yes, I would.
5. A tourist is visiting Bangkok for the first time and she wants to go to the Grand Palace. She asks a policeman, “_____________” a. I want to go to the Grand Palace. Please take me there. b. Could you tell me where I go to the Grand Palace? c. Could you tell me how to get to the Grand Palace? d. Give me the map of the Grand Palace. เฉลย แบบทดสอบก่อน-หลงั เรียน 1. a 2. c 3. d 4. a 5. c แบบเฉลยใบงาน Exercise 1 1. He is a surveyor about mobile phone. 2. It is about mobile phone. 3. Preecha uses his mobile phone all the time. 4. He uses options to call, take photos and send SMS and photos. 5. His problem is the large bill at the end of the month.
แผนการจดั การเรียนรู้ ครั้งท่ี ……๓…… สาระความรู้พนื้ ฐาน ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนตน้ วิชาภาษาองั กฤษในชีวติ ประจาวัน รหสั วชิ า พต๒1001 จานวน ๔ หน่วยกิต (จานวน 1๖0 ช่ัวโมง) แบบ พบกล่มุ จานวน 6 ชว่ั โมง เรอ่ื ง ประโยคต่างๆ ในภาษาองั กฤษ ( Different Types of English Sentences) ตวั ชวี้ ดั รู้จกั ลักษณะของประโยคในภาษาอังกฤษ (ประโยคบอกเลา่ /ประโยคคาถาม/ประโยคปฏเิ สธ/ ประโยคคาสัง่ / ประโยคอทุ าน) และสามารถนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวัน เนื้อหา ประโยคปฏเิ สธและคากริยา ประโยคคาส่ัง และประโยคอทุ าน ขนั้ จดั กระบวนการเรียนรู้ ขั้นท่ี 1 ขน้ั กาหนดสภาพปัญหาความต้องการในการเรียนรู้(O:orientation) - ครูทกั ทายผู้เรียน พดู คุยสนทนาเก่ยี วกับการโตต้ อบและการปฏเิ สธ คาสง่ั และคาอุทาน ท่าน มีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง เก่ียวกับประโยคปฏิเสธและคากริยา ประโยคคาสั่ง และประโยคอุทาน ที่ใช้ใน สถานการณ์ต่างๆ มีความสาคัญสาหรับบุคคลแต่ละบุคคลเป็นอย่างมาก เพ่ือเป็นสร้างความรู้จักกับเพื่อน ชาวต่างชาติ ดังนั้น ถ้าหากท่านได้รับมอบหมายให้พูดสนทนา กับบุคคลต่างชาติ ท่านคิดว่าจะต้องใช้ ประโยคปฏิเสธและคากริยา ประโยคคาสั่ง และประโยคอุทานอย่างไรบ้าง โดยใช้ประโยคปฏิเสธและ คากริยา ประโยคคาสั่ง และประโยคอุทานดังต่อไปนี้ประโยคปฏิเสธและคากริยา ท่านจะใช้ประโยคในการ ปฏเิ สธและคากรยิ า ประโยคคาส่งั และประโยคอทุ าน อยา่ งไร ขนั้ ที่ 2 ข้ันแสวงหาข้อมูลและการจดั การเรียนการสอน(N:New ways of learning) 1. ผู้เรียนศึกษาค้นควา้ จากใบความรู้ และสืบค้นข้อมลู เพ่ิมเตมิ จากอินเตอรเ์ น็ต / แหล่งเรยี นรู้ เกย่ี วกบั ประโยคปฏิเสธและคากรยิ า ประโยคคาสัง่ และประโยคอุทาน 2. ผู้เรยี นคน้ คว้าตัวอยา่ งประโยคปฏิเสธและคากริยา ประโยคคาส่งั และประโยคอุทาน ขั้นที่ 3 ขน้ั ปฏบิ ัติและนาไปประยกุ ตใ์ ช้(I:Implementation) 1. ผเู้ รียนอ่านประโยคปฏิเสธและคากริยา ประโยคคาส่งั และประโยคอทุ าน 2. ผ้เู รยี นและครูร่วมกนั พดู สนทนาโตต้ อบประโยคปฏเิ สธและคากรยิ า ประโยคคาสงั่ และประโยคอุทาน 3. ผู้เรียนจบั คู่แสดงบทบาทสมมตใิ นการพูดสนทนาประโยคปฏเิ สธและคากรยิ า ประโยคคาสัง่ และประโยคอทุ าน
4. ผูเ้ รยี นทาใบงานเรื่องการพูดสนทนาประโยคปฏิเสธและคากรยิ า ประโยคคาส่ัง และประโยค อุทาน 5. ผู้เรียนและครูรว่ มกนั สรุปเนื้อหาเรอ่ื ง การพูดสนทนาประโยคปฏเิ สธและคากริยา ประโยคคาสง่ั และประโยคอทุ าน 6. ครูเฉลยใบงานการพดู สนทนาประโยคปฏิเสธและคากรยิ า ประโยคคาสั่ง และประโยคอทุ าน ขั้นที่ 4 ขน้ั ประเมินผลการเรยี นรู(้ E:Evaiuation) 1. สังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล 2. การสังเกตจากการนาเสนอ 3. การซกั ถามผูเ้ รียน 4. ใบงาน สื่อการเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรียนรายวิชาภาษาอังกฤษในชีวติ ประจาวัน รหัสวชิ า พต ๒1001 2. กระดาษสองหนา้ 3. ใบความรู้ 4. ใบงาน 5. อนิ เทอรเ์ นต็ การวัดและประเมินผล 1. สงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คล 2. การนาเสนอ 3. ใบงาน 4. แบบทดสอบก่อนเรยี น – หลงั เรียน
Search