Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore E-book คู่คิดพิชิตวอร์ด

E-book คู่คิดพิชิตวอร์ด

Description: E-book คู่คิดพิชิตวอร์ด
หนังสือเกี่ยวกับหลักการและเทคนิคการพยาบาล เปลี่ยนเรื่องยาก...ให้เป็นเรื่องง่าย...ตามสไตล์พยาบาล

Search

Read the Text Version

ช่อื การค้า cef-3 / ceftriaxone Sandoz Ceftriaxoneกลมุ่ ยา caphalosporins (3thgenertion)สรรพคุณและกลไกการออกฤทธิ์ การพยาบาลรักษาทางเดนิ หายใจสว่ นล่าง ผิวหนงั pharyngeal gonorrhea การตดิ เชอื้ 1. สงั เกตและประเมนิ การแพย้ า โดยเฉพาะผทู้ ีม่ ีประวัติแพ้เพนิซลิ นิ หรอืแบคทีเรียในการแสเลือด กระดูกขอ้ ชอ่ งทอ้ ง เยอื่ หุ้มสมอง หูชน้ั กลางในเดก็ ออกฤทธย์ิ บั ย้งั การสร้างผนงั เซลล์ของแบคทเี รียแกรมบวกและแกรมลบ delayed-type เพราะมี cross-allergenicity ระหว่าง cephalosporinsผลข้างเคียง และเพนซิ ิลนิ รวมท้ัง cephalosporins หากมีอาการแพค้ วรหยดุ ยาทนั ทีปวดศรี ษะ มึนงง คลน่ื ไส้อาเจยี น ปวดทอ้ ง ท้องอืด ทาให้ WBC platelet 2. แนะนาผู้ปว่ ยไม่ใหใ้ ชย้ าน้นี าน เพราะจะเกดิ secondary infection ได้และ Hct ตา่ และปวดบริเวณที่ฉดี 3. ระวังในผู้ป่วยโรคไต สูงอายุ ก่อนให้ยาควรทดสอบการทางานของไต 4. ระวงั ในผปู้ ว่ ยที่มปี ระวตั โิ รคทางเดนิ อาหาร โดยเฉพาะลาไสอ้ ักเสบชอ่ื ยา วธิ กี ารให้ยา ตัวทาละลาย การผสม อตั ราการ 5. ระวงั ในผู้ทกี่ ารทางานของตับผดิ ปกติ โดยเฉพาะ cefoperazone ไหล 6. การฉดี ยาเข้าเสน้ เลอื ดดา ให้ละลายยาในสารละลายท่กี าหนดไว้และฉีดใน Ceftriaxon IV bolus SW,NSS,5DW 1-2 g ผสม ชว่ งเวลาทีเ่ หมาะสม การฉดี ยาในขนาดสงู หรือเป็นเวลานานทาใหเ้ กดิ e inj หรอื IV 5-10 ml 2-4 min thrombophlebitis ได้ ควรใชเ้ ข็มขนาดเลก็ และฉีดเขา้ หลอดเลอื ดดาขนาด (1g/vial) push ใหญ่ ไมค่ วรฉีดที่เดียวกัน ควรเปลีย่ นไปเร่อื ย ๆ Intermittent NSS, 5DW ≤ 2 g ผสม อยา่ งนอ้ ย 7. ในรายทีต่ อ้ งใชย้ าปริมาณสูงๆ ตอ้ งติดตามความสมดลุ ของอิเล็กโตรไลต์ในสารบญั ง IV 40-100 ml 30 min ร่างกาย เพราะยาอยู่ในรูปของโซเดียม มปี ริมาณโซเดยี มคอ่ นขา้ งสูง IM SW,1% 250 mg-1g 93 xylocaine,NSS, ผสม1-3.5 ml 5DW

ช่อื การคา้ cef-4 / fortum Ceftazidimeกล่มุ ยา caphalospolins (3thgenertion)สรรพคุณและกลไกการออกฤทธ์ิ การพยาบาลรกั ษาอากาติดเชอ้ื ในระบบทางเดนิ ปัสสาวะ ทางเดินหายใจสว่ นตน้ ติดเชอ้ื ใน สงั เกตและประเมนิ การแพ้ยา โดยเฉพาะผทู้ ี่มีประวตั แิ พเ้ พนิซลิ นิ หรือ delayed-typeการดกู soft tissue ผวิ หนงั และตดิ เชื้อช่องทอ้ งทางสตู ิ-นรเี วช และเยื่อหุ้ม เพราะมี cross-allergenicity ระหวา่ ง cephalosporins และเพนซิ ลิ ิน รวมท้ังสมอง ออกฤทธยิ์ ับยงั้ การสรา้ งผนงั เซลล์แบคทเี รียแกรมบวกและแกรมลบ cephalosporins หากมอี าการแพค้ วรหยดุ ยาทันทีanaerobes และ P.aruginosa แนะนาผ้ปู ว่ ยไม่ใหใ้ ชย้ านีน้ าน เพราะจะเกิด secondary infection ได้ ระวังในผู้ปว่ ยโรคไต สูงอายุ กอ่ นใหย้ าควรทดสอบการทางานของไตผลขา้ งเคยี ง ระวังในผปู้ ่วยท่ีมปี ระวตั โิ รคทางเดนิ อาหาร โดยเฉพาะลาไสอ้ กั เสบแพ้ยาแบบ anaphylaxis คา่ เอนไซมใ์ นตับสูง ติดเชื้อแทรกซ้อน คลื่นไส้อาเจยี น ระวังในผทู้ ่ีการทางานของตับผดิ ปกติ โดยเฉพาะ cefoperazoneทอ้ งเดนิ ไข้ ผ่ืนคนั มีพษิ ตอ่ ไต การฉีดยาเข้าเสน้ เลอื ดดา ให้ละลายยาในสารละลายที่กาหนดไวแ้ ละฉีดในช่วงเวลาที่ เหมาะสม การฉดี ยาในขนาดสงู หรือเปน็ เวลานานทาใหเ้ กดิ thrombophlebitis ได้ช่อื ยา วธิ ีการใ ตวั ทาละลาย การผสม อัตราการให้ยา ควรใช้เข็มขนาดเล็ก และฉีดเขา้ หลอดเลือดดาขนาดใหญ่ ไม่ควรฉีดท่เี ดยี วกนั ควร เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ Ceftazidime IV bolus SW 1-2 g ผสม 3-5 min ในรายท่ีต้องใช้ยาปรมิ าณสงู ๆ ต้องติดตามความสมดุลของอเิ ลก็ โตรไลต์ในรา่ งกาย inj หรือ IV 5-10 ml เพราะยาอยู่ในรูปของโซเดียม มีปรมิ าณโซเดยี มค่อนข้างสงู (1g/vial) push NSS, 5DW Intermittent SW, 1% ผสม 50-100 อย่างนอ้ ย30 94สารบญั ง IV xylocaine ml min IM 500 mg-1g ผสม 2-4 ml

ชอื่ การค้า gensulin M30 (30/70) , gensulin M50 (50/50) , mixtard 30 การพยาบาล MH/mixtard30 penfill / mixtard 30 novolet สรรพคณุ และการออกฤทธ์ขิ องยา การฉีดอนิ ซูลิน 2 ชนิดร่วมกัน ควรดดู อนิ ซูลนิ ชนิดใส (RI) ก่อน อนิ ซลู นิ ออกฤทธิ์ โดยจับกบั อซิ ลู ินรีเซพเตอร์ท่ีเย่ือหุ้มเซลล์ มีฤทธิ์ลดระดับน้าตาลใน แล้วจงึ ดดู อินซูลนิ ชนดิ ข่นุ (NPH) เพอื่ ป้องกนั ไมใ่ ห้ขวดนา้ ยาชนิดใสถูก เลือด โดยเร่งกลโู คสเขา้ เซลล์กล้ามเนอื้ และไขมันดีข้นึ ใหผ้ ลในทางเสรมิ สร้าง คอื จะ ผสมด้วยชนิดขุ่น กระตนุ้ ให้รา่ งกายสรา้ งไกลโคเจน โปรตนี ไขมัน และกรดนวิ คลิอกิ ตา่ ง ๆ โดยชว่ ยใน ควรเปล่ยี นตาแหนง่ ที่ฉีดยา เพอ่ื ใหย้ าดดู ซมึ ไดด้ แี ละปอ้ งกันผิวหนังบ๋มุ การทางานของเอนไซม์ glycogen synthetase ซึง่ ทาหน้าทเี่ ปลย่ี นกลูโคสเป็นไกลโคเจน หรอื นูน ผลขา้ งเคยี ง ไมค่ วรฉดี บรเิ วณกลา้ มเนือ้ ท่ใี ช้ออกกาลงั กาย เพราะจะทาให้การดูดซมึ เกิดภาวะน้าตาลในเลอื ดต่า เกดิ รอยบมุ๋ หรือนนู บรเิ วณฉีดยา ตาพรา่ มวั อนิ ซูลินเร็วกวา่ ปกติ อาจทาใหเ้ กดิ ภาวะน้าตาลตา่ เกบ็ อินซลู ินไวใ้ นตู้เยน็ อณุ หภมู ิ 2-5 องศาเซลเซยี ส หากตอ้ งเดินมา Insulin เกบ็ ไวใ้ นภาชนะทอี่ ณุ หภูมิ 30 องศาเซลเซยี ส และควรใช้ภายในเวลาไม่ เกิน 1 เดอื น สอนใหผ้ ู้ปว่ ยฉีดอินซลู นิ ไดด้ ว้ ยตนเองสารบญั ง 95

ชอ่ื การค้า Humulin R, Regular insulin (RI) สรรพคณุ และการออกฤทธ์ขิ องยา อินซูลินออกฤทธิ์ โดยจับกับอินซูลนิ รีเซพเตอรท์ เี่ ยือ่ หมุ้ เซลล์ มฤี ทธ์ิระดับนา้ ตาลในเลือด โดยเร่งกลโู คสเข้าส่เู ซลล์กล้ามเน้ือและไขมันดี ขน้ึ ใหผ้ ลในทางเสริมสร้าง คือจะกระต้นุ ใหร้ า่ งกายสรา้ งไกลโคเจน โปรตีน ไขมัน และกรดคลอิ กิ ตา่ ง ๆ โดยช่วยในการทางานของ เอมไซม์ glycogen synthetase ซ่ึงทาหน้าท่ีเปลีย่ นกลูโคสเปน็ ไกลโคเจน ผลข้างเคยี ง การพยาบาล เกดิ ภาวะน้าตาลในเลอื ดต่าเกดิ รอยบุ๋มหรอื นูนบรเิ วณฉีดยาตาพรา่ มวั การฉดี อินซลู ิน 2 ชนดิ รว่ มกนั ควรดดู อนิ ซลู นิ ชนดิ ใส (RI) กอ่ น แลว้ จึงดดู อินซูลินชนดิ ขุน่ (NPH) เพอ่ื ปอ้ งกนั ไม่ใหข้ วดน้ายาชนิดใสถกู ผสมด้วยชนดิ ข่นุ ควรเปลย่ี นตาแหน่งท่ฉี ดี ยา เพ่ือใหย้ าดูดซึมไดด้ ีและปอ้ งกันผิวหนงั บุ๋ม หรือนูน ไม่ควรฉดี บรเิ วณกลา้ มเนือ้ ท่ใี ชอ้ อกกาลงั กาย เพราะจะทาใหก้ ารดดู ซึม Rapid acting insulin อนิ ซูลนิ เร็วกว่าปกติ อาจทาใหเ้ กดิ ภาวะน้าตาลตา่ เก็บอินซลู ินไว้ในต้เู ย็น อุณหภมู ิ 2-5 องศาเซลเซยี ส หากตอ้ งเดินมา เกบ็ ไวใ้ นภาชนะท่ีอณุ หภูมิ 30 องศาเซลเซยี ส และควรใชภ้ ายในเวลาไม่ เกิน 1 เดอื นสารบญั ง สอนให้ผู้ปว่ ยฉีดอนิ ซลู นิ ได้ด้วยตนเอง 96

5.3 กำรบรหิ ำรยำทม่ี คี วำมเสยี่ งสงู (high alert drug) Warfarin Calcium gluconate ขนาดสงู สดุสารบญั ง ไม่เกิน 5 mg/day (อาจพบขนาดเกินนี้จากกรณี refer) 97 Monitor INR 2-3.5 หลงั ใหย้ าไปแลว้ 3 วนั และวัดซ้าอกี คร้ัง 2 อาทิตย์ การพยาบาล ติดตามอาการผู้ปว่ ย วา่ มเี ลอื ดกาเดาออก มเี ลอื ดออกบรเิ วณเหงอื ก ปัสสาวะมีเลอื ดปน อจุ จาระเป็นเลอื ด หรอื มเี ลือดสด ๆ ออกมาจากกระเพาะอาหาร หรือบาดแผลมีรอยช้าหอ้ เลอื ด ความดันโลหิตต่า หรือชพี จร เต้นเร็ว ตดิ ตามผล PT ,Bleeding time ,INR, และเกบ็ ยาให้พน้ แสงโดยใสซ่ องสีชา ขนาดสงู สดุ ผูใ้ หญ่ : 0.5-2 gm (5-20 ml) ไม่ต้องเจือจาง direct IV slowly ไมเ่ กนิ 1.5 ml/min เด็ก : 200-500 mg (2-5 ml) direct IV , I.V.infusion ทั้งแบบ continuous or intermittent ไมเ่ กนิ 2 ml/min 1-2 gm/hr Monitor HR < 60 ครง้ั /นาที , >120 ครง้ั /นาที BP < 90/60 , 160/100 , N/V Serum calcium for hypercalcemia > 12 mg/dL การพยาบาล 1.ติดตามระดบั ความดันโลหิตและการลดลงของระดบั ความดนั โลหติ ในผ้ปู ่วยทเี่ ปน็ โรคความดนั โลหิตสงู และผปู้ ว่ ยสูงอายุ อาจจะมีระดบั ความดนั สูงขึ้นในช่วงส้นั 2.ถา้ ผปู้ ว่ ยเกิดอาการไม่สบาย ปวดบริเวณทฉ่ี ดี ควรหยดุ การใช้ยาหรอื ลดอตั ราเรว็ ของการใหย้ า

ขนาดสูงสุด ไมเ่ กนิ วันละ 1 เม็ด ในผปู้ ว่ ยท่ัวไป ไม่เกนิ วนั ละ ½ เมด็ ในผปู้ ่วยอายุ 50 ปีขึน้ ไป หรือ ผู้ป่วยโรคไตที่มี Cr > 2 Monitor HR < 60 คร้งั /นาที , 120 ครั้ง/นาที BP < 90/60 , >160/100 สงสัยเกิดพษิ จาก digoxin , N/V ,เห็นแสงสีเขยี ว-เหลือง , ปวดศรี ษะ ,ท้องเสยี IV เจาะเลอื ดหลงั ใหย้ าแลว้ 4 hrs การพยาบาล Oral เจาะหลงั ใหย้ าแล้ว 6 hrs 1.ใหว้ ดั vital sign ทกุ 15 นาที ตดิ ต่อกัน 2 ครง้ั ตอ่ ไปทุก 30 นาที ติดตอ่ กัน 3 คร้ัง ตอ่ ไปทุก 1 ชวั่ โมง จนครบ 5 ชัว่ โมง ถ้าผดิ ปกติให้แจ้งแพทย์ 2.monitor EKG ขณะฉดี ยาและหลงั ฉีดยา 1 ช่ัวโมง 3. Intake/output ratio และ นา้ หนกั ตัว 4. วดั serum creatinine เริม่ ต้นและระหว่างการใชย้ า โดยเฉพาะใน ผปู้ ว่ ยที่อายุมาก หรือมี renal function ลดลง 5. วัด serum potassium, magnesium และ calcium เปน็ ระยะ. Digoxin 6. ตรวจดูอาการข้างเคียง ได้แก่ หวั ใจเตน้ ช้า หวั ใจเตน้ ผดิ จงั หวะ อาการ บวมตาม อวัยวะต่าง ๆ เสียงปอดมี rales หรอื crackles คลื่นไส้ อาเจยี น มองเห็นแสงสเี ขียว เหลอื งหรือ EKG ผิดปกติ ให้แจง้ แพทย์สารบญั ง 98

ขนาดสงู สดุ Stat : max 5,000 i.u. ตามดว้ ย infusion dose 800-1,200 i.u./hr สามารถปรบั เพิม่ ขนาดยาได้ ถา้ ระดบั PTT ไม่ถึง 50-70 second ความเข้มข้นที่ผสมไมเ่ กนิ 50-100 i.u./ml วธิ ีผสม heparin 5000 unit/ml ใหไ้ ด 100 unit/ml 1. ดูด NSS 100 ml ออก 2 ml 2. ดูดยา heparin 2 ml (10,000unit) เติมลงใน NSS ที่เตรยี มไวพลกิ ไปมาให้ยาเขากัน ผสมแลว้ ควรใช้ใหห้ มดภายใน 12 ชวั่ โมง Monitor Monitor PTT : 50-70 second การพยาบาล ควรวดั วนั ละ 1 ครงั้ 1. บนั ทึกสญั ญาณชพี จานวนเม็ดเลอื ด และความเข้มขน้ ของเลอื ด กอ่ นและระหว่างใหย้ า 2. ในกรณีทไ่ี ดร้ ับยาตอ่ เนอ่ื งตลอดเวลา ตอ้ งตรวจสอบอย่างรอบคอบ เพ่อื ใหแ้ น่ใจว่าได้รบั ยาท่ถี ูกต้องทาขนาดและอัตราหยดตอ่ นาที 3. ตดิ ตามผลการแข็งตวั ของเลอื ด เช่น PT, PTT ก่อนใหย้ า ในระหว่างให้ยาทุก 4 ชัว่ โมง 4.สังเกตอาการของผูป้ ว่ ยอยา่ งใกล้ชิด เพราะอาจมเี ลือดออกหรืออาการแพ้ได้ 5. แนะนาผปู้ ่วยใหร้ ู้จักสังเกตอาการเลือดออกผิดปกติ หรืออาการผดิ ปกติ เช่น เจบ็ หน้าอก Heparin ปวด หรือเจบ็ อวยั วะตา่ ง ๆ เป็นตน้ เพราะอาจเกดิ การอุดตนั ในหลอดเลือด 6.หลีกเลีย่ งการฉีดยาตวั อ่นื เขา้ ในหลอดเลือดดาทกี่ าลังให้ heparin แตถ่ ้าจาเป็นตอ้ งฉีด นา้ เกลือประมาณ 1-2 ML ก่อนและหลังใหย้ า 7. มดั ระวงั การเกดิ อุบตั ิเหตุหรือการบาดเจ็บต่าง ๆสารบญั ง 8.การเจาะเลือดควรรว่ มกนั เจาะคร้ังเดียว และควรหยุดเลอื ดให้นานกว่าปกติ 99

ขนาดสูงสุด ห้ามฉดี IV push ถา้ > 20 mEq/L ควรใช้ infusion pump กรณี infusion pump ไม่พอ หากความเขม้ ข้นไม่เกิน 20 mEq/L ไม่ใช้ pump ได้ ควรเจือจางดว้ ย normol saline ปกตคิ วามเรว็ 2-6 mEq/L max : ไม่เกิน 15 mEq/L Peripheral line :ไมเ่ กิน 40 mEq/L (max : 60 mEq/L ) Central line : ไมเ่ กนิ 100 mEq/L (10 mEq/100 ml ) Monitor การพยาบาล HR < 60 ครงั้ /นาที , 120 ครงั้ /นาที หา้ ม ให้ KCl ที่ไม่ไดเ้ จอื จางและต้องบรหิ ารยาโดย IV infusion pump เท่านั้น BP < 90/60 , 160/100 หา้ ม ให้ KCl โดยวธิ ี IV push, IV bolus เพราะ ทาใหห้ ัวใจหยุดเตน้ ได้ N/V , ท้องเสยี , แขนขาสั่น ใจสน่ั สับสน ตอ้ งเขย่าหรอื พลกิ ถงุ นา้ เกลือทม่ี ี KCL เบาๆ เป็นระยะ ๆ อาการทีต่ ้องติดตาม มีดังนี้ เจาะ K ในเลอื ดหลงั การให้ยาแล้ว 4-8 hrs ƒSerum potassium > 4.5 mg/dl ถา้ baseline K < 2.5 ตรวจวันถัดไป ƒUrine output < 30 ml/hour ƒอาการ Arrhythmia โดยสังเกตลักษณะ EKG ƒความดนั โลหิต BP < 90/60 mmHg หากมอี าการขา้ งต้น ให้ติดตามระดับ Serum potassium ทกุ 4-6 ชั่วโมง หรอื หยดุ การใหย้ า KCL injสารบญั ง 100

ขนาดสงู สดุ ผู้ใหญ่ : 1 mg in 250 ml of D5W/NSS = 4 mcg/ml (บางทา่ นให้ 4 mg in D5W 100 ml) เริ่มท่ี 1 mcg/min max : 20 mcg /min Monitor การพยาบาล HR < 60 ครั้ง/นาที , 120 ครง้ั /นาที BP < 90/60 , >160/100 1.ตรวจ Vital signs (BP, pulse rate) ทุก 3-5 นาที 2. เมอื่ พบอาการ tachycardia, palpitation, BP สงู แจ้งแพทย์ ทันทีเพราะอาจเกดิ ventricular fibrillation, pulmonary edema จากความดันสงู หรอื จาก peripheral constriction และ cardiac stimulation อาจถงึ แกช่ ีวิตได้ 3.บันทึก vital signs, BP ขณะใหย้ า Adrenaline inj. 4. อาจตรวจ EKG ในบางกรณี 5. ตรวจ urine output เพราะยาทาใหเ้ กดิ renal blood vessel constriction ได้ 6. ตรวจดู IV site ทกุ 1 ช่วั โมง เพื่อระวงั การเกิดยารว่ั ออกนอก หลอดเลอื ด (extravasation) ซึ่งจะทาให้เกิดเนอื้ เยอ่ื ตายได้ โดยอาการนา้ คอื ผิวหนังมสี ีขาวซีด (blanching) หรือ มสี ีเทา (graying) ผิวหนงั เยน็สารบญั ง 101

ขนาดสูงสดุ Hypomagnesemia I.V. infusion : 1-2 g 10% solution in D5W/NSS 50- 100 ml infuse > 20-30 min ไม่เกิน 150 mg/min Eclampsia 2-4 g I.V. push > 2-4 min then I.M. or I.V. infusion 1-4 g/hrการตรวจวัด Monitor การพยาบาล HR < 60/min , >120/min 1. ต้องมรี ะดบั magnesium ในเลอื ดเสมอหลงั loading dose และระหวา่ งใหย้ า คา่ ปกติ 1.9-2.9 mg/dL BP < 90/60 , >160/100 แตก่ รณี preeclampsia therapeutic level อยูท่ ่ี 4-8 mg/dL 2. กรณี Pre-eclampsia, eclampsia หรือการใหย้ าขนาดสูงกว่า 1 gm/hr ให้วัด HR และ RR ทุก 15 นาที 2 ครั้ง ต่อไปทุก 1 ช่ัวโมง กรณีอน่ื ๆใหว้ ัดทกุ 4 ชั่วโมง ถา้ พบความผิดปกตใิ หแ้ จง้ แพทย์ 3. Urine output ควรมากกวา่ 100 mL/ 4 hr (หรอื ไม่ตา่ กว่าวนั ละ 600 mL) Magnesium sulfate 4. ตรวจ Deep tendon reflex โดยดู knee jerk reflex ทกุ 4 ชัว่ โมง ถ้า negative ใหท้ า bicep jerk reflex ถา้ negative ใหแ้ พทย์พิจารณาหยดุ ยา 5.หากพบวา่ ผปู้ ่วยมอี าการแสดงท่บี ง่ ว่าระดบั Magnesium สูงเกนิ ไป ไดแ้ ก่ คล่นื ไส้อาเจยี น หน้าแดง เหงือ่ ออก กระหายน้า ทอ้ งเสยี ความดันโลหิตต่า กดการทางานของระบบกล้ามเนือ้ (neuromuscular blockade) กลา้ มเน้ือออ่ นแรง อมั พาต กดระบบประสาทสว่ นกลาง มนึ งง สบั สน ง่วงหลบั กดการหายใจให้รบี แจง้ แพทยท์ ันทีสารบญั ง 6. ตรวจสอบ infusion pump เสมอ อยา่ งน้อยทกุ 1 ชว่ั โมง 102

ขนาดสูงสุด Doutamine 250/500 mg + D5W 250 ml (ไม่เกนิ 5 mg/ml) I.V. infusion : ปกติ 2-20 mcg/kg/min Max : 40 mcg/kg/min การพยาบาล Monitor HR < 60/MIN , >120/min 1. ตรวจสอบอัตราเร็วในการให้ยาของ infusion pump เสมออย่างน้อยทกุ 2 ชวั่ โมง BP < 90/60 , >160/100 N/V 2. ตรวจสอบบรเิ วณท่แี ทงนา้ เกลืออย่างนอ้ ยทุก 2 ชว่ั โมง หรือ เวรละ 1 ครัง้ 3. ควรติดตามใกลช้ ดิ ในชว่ ง 5 นาทแี รก และหลังปรบั ขนาดทกุ ครัง้ จากนัน้ ติดตามทกุ 15 นาที 4 รอบ และทกุ 30 นาที สองรอบ หลังจากนน้ั อาจห่างทกุ ชว่ั โมงตลอดการใหย้ า (บนั ทกึ BP, HR ทกุ 2 ชว่ั โมงขณะใหย้ า) Dobutamine HCL 4. ตดิ ตามค่าelectrolytes (เชน่ potassium ควรอยรู่ ะหวา่ ง 3.5 - 5.5mEq/L) เน่ืองจากการให้ ยา อาจทาให้เกดิ hypokalemia 5. วัดปรมิ าณปสั สาวะในผ้ใู หญค่ วรมากกวา่ 100 mL/4 hr หรือ ไมน่ อ้ ยกว่า30 mL/h ในเดก็ ควร อยู่ ในช่วง 0.5 – 1 mL/kg/hrสารบญั ง 103

ขนาดสูงสดุ Dopamine 100/200 mg + D5W 100 ml เรม่ิ จาก 1-5 mcg/kg/min ถึง 20 mcg/kg/min Max : 40 mcg/kg Monitor การพยาบาล HR < 60/min , >120/min 1.บรหิ ารยาแบบ IV infusion ผา่ นหลอดเลือดดาใหญ่โดยใช้ infusion pump BP < 90/60 , >160/100 N/V 2. อา่ นแผนการรักษาให้เขา้ ใจกอ่ นรับ order และไมร่ บั order กรณที ่ีแพทยเ์ ขยี น order ไม่ถูกต้อง เชน่ 1:1, 1:2 หรือส่ังใช้ยาโดยใช้คาย่อ ระมัดระวงั อาการสบั สนกับยา Dobutamine 3. ปรับขนาดยาข้นึ -ลง ชา้ ๆ อยา่ งสมา่ เสมอ แทนการหยุดฉีดอยา่ งทนั ทที ันใด เพราะอาจเกิดความดัน โลหิตต่ากะทันหัน Dopamine 4. ตรวจวดั ความดันโลหิตและชพี จรอย่างนอ้ ยทุก 15 นาที ในระยะ acute phase และกาลงั ปรบั ขนาดยา อาจตอ้ ง ใช้ intra-arterial monitoring ƒ 5. บันทึก I/O และน้าหนักทุกวัน 6. ติดตามสงเกตระดบั ความรู้สกึ และชพี จรส่วนปลาย ปรมิ าณปัสสาวะอุณหภูมิและสีของผิวหนัง เพอ่ื ประเมิน tissue perfusionสารบญั ง 7. ดูแลการไหลของยาเขาหลอดเลอื ดดาเปน็ ไปอยา่ งดรี ะมัดระวังการรว่ั ซึมออกนอกหลอดเลือดของยา 104

มุมพกั ผอ่ น “เมือ่ มีโอกาสและมีงานทา ควรเต็มใจ ทาโดยไม่ จาเป็นตอ้ งตงั้ ขอ้ แม้ หรอื เงื่อนไขอันใด ไวใ้ ห้เป็น เครื่องกีดขวาง คนทที่ างานได้จรงิ ๆ น้นั ไม่ว่าจะ จับงานสงิ่ ใด ย่อมทาได้เสมอ ถา้ ย่ิงมีความเอาใจ ใส่ มคี วามขยนั และความซ่อื สัตย์สุจรติ ก็ยงิ่ จะ ประสบผลสาเรจ็ ในงานทท่ี าสูงขนึ้ ” พระบรมรำโชวำทในพธิ พี ระรำชทำนปรญิ ญำบตั ร วทิ ยำลยั เทคโนโลยีและอำชวี ะนกั ศกึ ษำ ๘ กรกฎำคม ๒๕๓๐สารบญั ง 105

บรรณานกุ รมขวัญจิต ศศวิ งศาโรจน,นันทิยา ดวงภุมเมศ และขนบพร วงศก์ าฬสนิ ธ ปิมปภา ร่วมสุข. (2558). การสรา้ งสอื่ นิทานเพอ่ื พฒั นาพฤติกรรมคณุ ธรรมด้านความมีน้าใจในเด็กปฐมวยั . เรียกใช้เมื่อ 5 กนั ยายน 2561 จาก https://www.tci-thaijo.org/index.php/Veridian-E-Journal/article/download/32317/30133/จรัสสม ปานบุตร. (2557). การพฒั นาหนังสอื อิเล็กทรอนกิ ส์(E-Book) เพื่อพฒั นาทกั ษะการอา่ นออกเสยี ง ภาษาไทยของนกั เรยี นชนั ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 โรงเรียนบ้านหนองเคด็ *. เรยี กใช้เมอ่ื 5 กันยายน 2561 จาก https://www.tci-thaijo.org/index.php/Veridian-E-Journal/article/download/20052/23444/เทียมจนั ทร์ เรืองเกษม. (2553). การเปรยี บเทยี บความรู้และทักษะปฏิบัตวิ ชิ างานประดิษฐท์ ี่เป็นเอกลกั ษณ์ไทย เร่อื ง การประดิษฐด์ อกไมส้ ด ของนักเรยี นชันประถมศึกษาปที ่ี 6 กลุ่มโรงเรียนปทั มาลัย ที่ได้รบั การ จัดการเรียนรู้ด้วยตนเองจากบทเรียนคอมพิวเตอร์มลั ติมเี ดยี กบั ที่ไดร้ ับการจัดการเรยี นรดู้ ้วยกระบวนการกล่มุ . เรียกใชเ้ มอ่ื 11 สงิ หาคม 2561 จาก http://tdc.thailis.or.thนงลกั ษณ คณติ ทรัพย์. (ม.ป.ป.). บทนาคลินคิ . เรยี กใชเ้ มื่อ 10 กันยายน 2561 จาก http://ocw.tu.ac.th/Dowlond/e-book/MD401.pdf 106

บรรณานุกรมนิภา กิมสงู เนนิ และสวุ รีย์ เพชรแต่ง. (2559). ผลการใชส้ อื่ การสอนอิเลก็ ทรอนิกสต์ อ่ ผลสมั ฤทธิท์ างการเรียน ของนกั ศึกษาพยาบาล มหาวทิ ยาลัยรังสติ . เรยี กใช้เมือ่ 6 กนั ยายน 2561 จาก https://www.tci-thaijo.org/index.php/trcnj/article/view/61410/50606ประสาร เปรมะสกลุ . (2552). คู่มอื แปลผลตรวจเลอื ด เลม่ แรก. กรุงเทพมหาคร: หจก. อรณุ การพิมฑ์.ประสาร เปรมะสกลุ . (2552). คูม่ อื แปลผลตรวจเลือด เลม่ สอง. กรงุ เทพมหานคร: หจก.อรุณการพมิ พ์.ปรางค์ทพิ ย์ อจุ ะรตั น และณฐั สุรางค์ บญุ จันทร์ สิริรตั น์ ฉัตรชยั สชุ า. (2550). ทกั ษะพนื ฐานทางการพยาบาล basic skills in nursing. หา้ งหุ้นส่วนจากัด เอน็ พี เพราช.รตา ศรสี อาด และสริ ินาถ วงศ์ภมรมนตรี ปานทพิ ย์ ผอ่ งอักษร. (2561). ผลของการใช้หนงั สืออิเล็กทรอนิกสเ์ สรมิ การเรยี นรเู้ รอื่ งการดูด เสมหะ ต่อผลสมั ฤทธ์กิ ารเรียน ความมน่ั ใจและความพงึ พอใจของนักศกึ ษา. เรียกใช้เมื่อ 5 กนั ยายน 2561 จาก https://tci- thaijo.org/index.php/JRTAN/article/view/121937/92885วรรณี ศรีวลิ ัย และกาญจนา เลิศถาวรธรรม อรพนิ สวา่ งวตั นเศรษฐ์. (2556). การพฒั นาหนงั สืออเิ ลก็ ทรอนคิ ส์ เรอื่ งหลกั การและเทคนคิ การดูแลผู้ทมี่ ีบาดแผล. เรียกใช้เมอ่ื 5 กันยายา 2556 จาก https://www.tci- thaijo.org/index.php/policenurse/article/view/21090/18281วรรณี ศรวี ิลยั และวิรดา อรรถเมธากลุ . (2554). การพัฒนาหนังสอื อิเล็กทรอนกิ สเ์ ร่อื งกายวิภาคศาสตร์ของระบบหัวใจหลอดเลือดและระบบ ไหลเวยี นน้าเหลือง. เรยี กใชเ้ มื่อ 3 กันยายน 2561 จาก https://www.tci-thaijo.org/index.php/JNAE/article/view/1556/1272 107

บรรณานุกรมอภญิ ญา เพยี รพิจารณ์. (2549). คมู่ อื ปฏิบตั กิ ารพยาบาล เล่ม2. นนทบรุ :ี บริษทั ธนาเพรส จากด.อญั ญน์ ิชตา รุ่งวชิ านวิ ฒั น์ และฤทัยชนนี สิทธชิ ัย. (2556). พฤติกรรมการแสวงหาสารสนเทศของนกั ศกึ ษาระดบั บัณฑติ ศกึ ษา มหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร์. เรียกใช้เม่อื 5 กนั ยายน 2561 จาก https://www.tci- thaijo.org/index.php/eJHUSO/article/view/85725/68185อดุ มรตั น์ เขมาลลี ากุล. (2550). การซักประวัติและการตรวจรา่ งกายท่วั ไป. เรยี กใชเ้ มอ่ื 1 ตลุ าคม 2561 จาก http://web1.dent.cmu.ac.th/mis/dis/UserFiles/File/surg/Plan%20DOS%20482/Sheet482Physicalexam.pdf 108

คนดขี องฉนั รึ ตอ้ งเปน็ คนไมพ่ ูดปด ไม่สอพลอ ไม่อจิ ฉารษิ ยา ไม่คดโคง้ และไมม่ ีความทะเยอทะยานอยา่ งบา้ แตพ่ ยายามทาหน้าที่ของตนเองใหด้ ใี นขอบเขตของศลี ธรรม สมเดจ็ ยำ่


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook