ถึงแม้ทุกฝ่ายจะเห็นตรงกันว่าหลักนิติธรรมนั้นมีความส�ำคัญ แต่เรายังคงไม่สามารถจะมีฉันทามติร่วมกันได้ว่าหลักนิติธรรมหมายถึงอะไร เราท่านส่วนใหญ่เห็นว่าการท่ีหลักนิติธรรมจะด�ำรงอยู่ได้น้ันจ�ำต้องมีองค์ประกอบพ้ืนฐานบางประการ เช่น หลักกฎหมายเป็นใหญ่ หรือกระบวนการท่ีชอบดว้ ยครรลอง บางคนเลอื กทจี่ ะขยายขอบเขตนยิ ามออกไปใหค้ รอบคลมุ ถงึ การคุ้มครองสิทธิข้ันพื้นฐานด้วย องค์ประกอบที่อาจเพิ่มเติมเข้ามาได้น้ียังมีอีกมาก ขา้ พเจา้ เชอ่ื วา่ ถงึ แมจ้ ะยงั มคี วามคดิ เหน็ ทแี่ ตกตา่ งกนั อยพู่ อสมควรในการมองหลักนิติธรรมในแง่แนวความคิด แต่เราก็ไม่ควรปล่อยให้ธรรมชาติของหลักนิติธรรมในข้อน้ีท�ำให้ความมุ่งมั่นของเราต้องลดน้อยถอยลงไป อันที่จริงแล้วการถกแถลงในเรื่องนิยามของแนวความคิดที่มีความซับซ้อนอย่างเช่นหลักนติ ธิ รรมนน้ั ยอ่ มเปน็ เรอ่ื งปกตธิ รรมดาแถมยงั มคี ณุ คา่ ในเชงิ ทฤษฎเี สยี ดว้ ยซำ�้แต่ในบางกรณีเราก็อาจใช้ประสบการณ์ตรงของเราเป็นแนวทางในการท�ำความเขา้ ใจกับหลักนิติธรรมนไี้ ด้ สถาบันเพื่อการยตุ ิธรรมแหง่ ประเทศไทย 49
ส�ำหรบั ขา้ พเจา้ ผมู้ หี นา้ ทผี่ ดงุ ไวซ้ ง่ึ กฎหมายในฐานะพนกั งานอยั การนน้ั ขา้ พเจา้ ได้พบเร่ืองราวและชีวิตของคนท่ีต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอยู่เป็นประจ�ำ แทบจะทกุ วนั แตล่ ะคนกม็ เี รอ่ื งราวแตกตา่ งกนั ไปไมซ่ ำ้� กนั แตเ่ รอ่ื งราวเหลา่ นี้ ตา่ งกช็ ว่ ยยนื ยนั ขอ้ เทจ็ จรงิ ประการหนงึ่ ทวี่ า่ ความรคู้ วามเขา้ ใจในกฎหมายนน้ั เป็นสงิ่ ส�ำคัญ แตส่ งิ่ ที่อาจส�ำคญั ย่ิงไปกว่านน้ั คอื ทัศนคตแิ ละความตระหนกั รู้ ของประชาชน กล่าวคือ คนทั่วไปในสังคมควรต้องมีความเห็นร่วมกันว่า กฎหมายเปน็ สงิ่ อนั พงึ ปฏบิ ตั ติ าม สงั คมใดทปี่ ระชาชนมคี วามตระหนกั รว่ มกนั เชน่ วา่ นี้ สงั คมนนั้ ยอ่ มมหี ลกั นติ ธิ รรมด�ำรงอยอู่ ยา่ งแนน่ แฟน้ และสงั คมเชน่ น้ี ยอ่ มเปน็ รากฐานอันมน่ั คงส�ำหรับทีเ่ ราจะไดต้ ่อยอดการพฒั นาให้งอกงาม ข้าพเจ้าเชื่อว่าเราน่าจะเห็นตรงกันแล้วว่าความเช่ือมั่นร่วมกันของประชาชน วา่ กฎหมายคอื สง่ิ ทค่ี วรปฏบิ ตั ติ ามนเี้ ปน็ เงอื่ นไขส�ำคญั ทจี่ ะท�ำใหห้ ลกั นติ ธิ รรม มคี วามเขม้ แขง็ อกี ทงั้ ยงั เปน็ เงอ่ื นไขส�ำคญั ตอ่ การพฒั นาดว้ ยแตท่ ศั นคตริ ว่ มกนั เชน่ วา่ นไี้ มใ่ ชส่ งิ่ ทเี่ กดิ ไดโ้ ดยงา่ ย ในบางกรณเี ราตอ้ งทมุ่ เทความพยายามอยา่ ง ตอ่ เนอื่ งและใชเ้ วลาหลายชว่ั อายคุ น กวา่ ทศั นคตเิ ชน่ วา่ นจี้ ะลงหลกั ปกั ฐานได้ มน่ั คง ถึงแม้จะยากเยน็ แต่กอ็ ยู่ในวิสัยท่ที �ำใหเ้ ปน็ จรงิ ข้นึ ได้ ส�ำหรบั เราทา่ นในทนี่ ี้ เราอาจมองเหน็ ตวั อยา่ งทดี่ ไี ดจ้ ากอทุ าหรณส์ กั เรอื่ งหนงึ่ ซ่ึงชี้ให้เห็นถึงการด�ำเนินความพยายามอย่างไม่ลดละเพื่อช่วยเหลือคนกลุ่ม หน่ึงที่ต้องเผชิญกับอุปสรรคอันท้าทายมากมาย ให้สามารถสร้างวัฒนธรรม แห่งการเคารพกฎกตกิ าข้ึนได้อย่างม่นั คง เรอ่ื งราวทขี่ า้ พเจา้ จะขอกลา่ วถงึ นี้ บอ่ ยครง้ั มผี เู้ รยี กขานวา่ เปน็ เรอ่ื งราวของการ พัฒนาทางเลือก ซึ่งเป็นความพยายามร่วมกันของหลายฝ่ายเพ่ือสนอง พระราชด�ำริในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถ บพิตร ส�ำหรับข้าพเจ้าเรื่องราวนี้ยังเป็นอุทาหรณ์ท่ีช่วยเตือนใจให้ระลึกว่า หลกั นิติธรรมชว่ ยใหเ้ กิดการพฒั นาที่ย่งั ยืน และการพฒั นาทีย่ ั่งยืนมีส่วนชว่ ย จรรโลงหลักนิติธรรมให้ม่ันคงได้อย่างไรอีกด้วย การพัฒนาทางเลือกเป็น แนวทางท่ีเน้นการใช้การพัฒนาน�ำการแก้ไขปัญหาการปลูกพืชเสพติดที่ผิด กฎหมาย แม้จะอยู่ในบริบทอันเฉพาะเจาะจง แต่โดยเนื้อแท้แล้วการพัฒนา ทางเลือกเป็นตัวอย่างท่ีดีที่ช้ีให้เห็นว่าความริเริ่มด้านการพัฒนาต่างๆ นั้น50 TIJ Journal
หลักนติ ธิ รรมท่ที ำ� หนา้ ท่ีได้อยา่ งมีประสทิ ธผิ ลจะช่วยสรา้ งความเช่อื มัน่ ในหลักประกันอยา่ งชดั เจนวา่ การใชอ้ ำ� นาจบงั คบั ของรฐั กด็ ี การใช้ประโยชน์จากทรพั ยากรธรรมชาติกด็ ี รวมไปถงึ การสง่ เสรมิใหเ้ กดิ การพัฒนาทางเศรษฐกจิ กด็ ี จะเป็นไปเพ่ือประโยชน์สุขของสมาชิกทุกคนในสงั คมสถาบันเพื่อการยุตธิ รรมแห่งประเทศไทย 51
จ�ำเป็นต้องอาศัยความเข้าใจที่ถูกต้องในเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการ ค�ำนึงถึงความต้องการของประชาชน และการให้ความช่วยเหลือเพ่ือให้ผู้ท่ี ขาดแคลนโอกาส มีพลงั ท่ีจะค่อยๆ พลิกฟนื้ ให้ชุมชนกลบั มาเข้มแข็งและชว่ ย เสรมิ สรา้ งหลกั นติ ิธรรมใหม้ ่นั คง ทก่ี ลา่ วเชน่ นก้ี เ็ พราะในบรบิ ทเชน่ วา่ นนั้ ค�ำถามส�ำคญั คอื การบงั คบั ใชก้ ฎหมาย เพียงล�ำพังจะเป็นหลักประกันว่าจะสามารถอ�ำนวยความยุติธรรมได้อย่าง แท้จริงหรือไม่ เม่ือค�ำนึงว่าชีวิตของชาวเขาในหมู่บ้านอันห่างไกลเช่นน้ันยัง ขาดแคลนปัจจัยพื้นฐานต่างๆ อยู่อีกมาก ซึ่งท�ำให้จ�ำเป็นต้องไปพึ่งพาการ ปลกู พชื ผิดกฎหมายมาเป็นเวลาชา้ นาน แน่นอนว่าค�ำถามเช่นน้ีไม่อาจหาค�ำตอบได้โดยง่าย แต่ส่ิงส�ำคัญก็คือความ ตระหนักรู้ว่าการเรียกร้องให้คนท่ียังขาดแคลนแม้กระทั่งปจั จัยพื้นฐานในการ ท�ำมาหาเลี้ยงชีวิต ต้องปฏิบัติตามกฎกติกาที่เป็นลายลักษณ์อักษรโดย52 TIJ Journal
เคร่งครดั น้ัน อาจจะไมไ่ ด้เป็นหนทางแกไ้ ขปญั หาทดี่ นี กั เราสามารถหยบิ ยกประเดน็ ว่าดว้ ยกฎหมายและความสงบเรียบรอ้ ยมาพจิ ารณากนั ได้จริงๆ หรือในเมื่อความจ�ำเป็นพื้นฐานในชีวิตของบุคคลในสภาวะเช่นน้ันยังไม่ได้รับการดูแลช่วยเหลือเลยแม้แต่น้อย โครงการในพระราชด�ำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 น้ันมีจุดเน้นที่ชัดเจนที่จะมุ่งช่วยเหลือให้ชาวเขาเหลา่ นนั้ สามารถกลบั มายนื บนล�ำแขง้ ของตวั เองเพอ่ื ประกอบสมั มาชพี ทชี่ อบไดอ้ กี ครง้ั หนง่ึ ดว้ ยเหตนุ โี้ ครงการตา่ งๆ ทไี่ ดท้ รงรเิ รม่ิ จงึ มสี ว่ นชว่ ยท�ำใหเ้ งอ่ื นไขอันเป็นรากฐานของหลักนิติธรรมสามารถหย่ังรากลงไปในส�ำนึกของคนในชมุ ชนดงั กล่าวได้ข้าพเจ้าได้มีโอกาสเดินทางไปเยี่ยมเยียนหมู่บ้านเหล่าน้ีในหลายโอกาส ส่ิงท่ีขา้ พเจา้ ไดพ้ บท�ำใหข้ า้ พเจา้ เชอ่ื มน่ั วา่ การเปลยี่ นแปลงทเี่ กดิ ขน้ึ ในชวี ติ ของคนเหลา่ นีล้ ้วนแล้วแตเ่ ป็นของจริง กระบวนการเปลี่ยนแปลงอาจจะเกดิ ขึ้นไดช้ ้าและใชเ้ วลากวา่ สส่ี บิ ปนี บั ตง้ั แตค่ ราวแรกทร่ี อยพระบาทไดป้ ระทบั ลงบนผนื ดนิสถาบนั เพื่อการยุตธิ รรมแหง่ ประเทศไทย 53
ของหมู่บ้านเหล่าน้ัน แต่ก็เห็นได้ชัดเจนว่าส�ำนึกร่วมในแบบท่ีข้าพเจ้าได้ กลา่ วถงึ แล้วน้ันได้ฝงั รากลึกลงในชุมชนเหลา่ นี้ เมอื่ ขา้ พเจา้ ไดพ้ ดู คยุ กบั ผหู้ ลกั ผใู้ หญแ่ ละคนรนุ่ ใหมใ่ นหมบู่ า้ นชาวเขา ขา้ พเจา้ จงึ ได้ทราบวา่ คนในชมุ ชนได้ร่วมแรงร่วมใจกันสรา้ งวัฒนธรรมแห่งการเคารพ กฎกติกาข้ึนด้วยมือของพวกเขาเอง โดยไม่ต้องรอให้ทางการเข้ามาบังคับใช้ กฎหมายเสียด้วยซ�้ำ คนในหมู่บ้านค้นพบว่าขนบธรรมเนียมต่างๆ รวมไปถึง บรรทดั ฐานในรปู แบบอนื่ สามารถน�ำไปใชก้ �ำกบั พฤตกิ รรมของผคู้ นไดอ้ ยา่ งมี ประสิทธิภาพ เพือ่ ใหม้ หี ลกั ประกนั วา่ คนจะเคารพและปฏบิ ัติตามกฎหมาย ข้าพเจ้าหวงั ว่าตวั อยา่ งอนั เป็นรปู ธรรมทไ่ี ด้ยกมาเล่าใหท้ า่ นท้งั หลายฟงั นี้ จะ ชว่ ยใหท้ า่ นเหน็ คลอ้ ยตามขา้ พเจา้ วา่ ประเดน็ เรอ่ื งหลกั นติ ธิ รรมและการพฒั นา ท่ียงั่ ยืนนนั้ เป็นสิง่ ที่เราสามารถหยบิ ยกมาพจิ ารณาด�ำเนนิ การได้ในทกุ ระดับ และควรอย่างยิง่ ทเี่ ราจะด�ำเนินการเชน่ น้นั ในฐานะทตู สันถวไมตรี ขา้ พเจา้ มี ความยนิ ดที จ่ี ะท�ำงานรว่ มกบั ส�ำนกั งานวา่ ดว้ ยยาเสพตดิ และอาชญากรรมแหง่ สหประชาชาติ เพอ่ื ชว่ ยกนั ปลกู ฝงั ความตระหนกั รเู้ ชน่ วา่ นใี้ หเ้ กดิ ขน้ึ และยนิ ดี ท่ีจะสนับสนุนความพยายามของสหประชาชาติในอันที่จะส่งเสริมให้หลัก นิติธรรมมีความม่ันคงยิ่งขึ้นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ความร่วมมือ ระหว่างประเทศต่างๆ ในภูมิภาคนี้ได้ด�ำเนินไปด้วยดีอยู่แล้วในหลายสาขา เพราะแต่ละประเทศมีความมุ่งมั่นร่วมกันท่ีจะสร้างประชาคมอาเซียนให้มี ความเข้มแข็งและสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ได้ดี ด้วยเหตุนี้ ขา้ พเจา้ จงึ เชอ่ื มน่ั วา่ ยงั มชี อ่ งทางและโอกาสอกี มากทผ่ี มู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี ตา่ งๆ จะไดร้ ว่ มมอื กนั อยา่ งใกลช้ ดิ ในการแกไ้ ขปญั หาตา่ งๆ อนั เปน็ ประโยชนร์ ว่ มกนั ท้ังภายใต้กรอบของอาเซยี นและระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนดว้ ยกนั เอง เพื่อให้พอมองเห็นแนวทางท่ีเราจะด�ำเนินการร่วมกันในอนาคตข้างหน้า ข้าพเจ้าจะขอสรุปประเด็นส�ำคัญที่เราได้เรียนรู้ร่วมกันจากตัวอย่างเร่ืองการ พฒั นาทางเลอื กท่ขี า้ พเจ้าได้กลา่ วถึงแล้ว สักสองสามประเด็นดังน้ี54 TIJ Journal
หลกั นติ ธิ รรมมคี วามสำ� คญัไมเ่ พียงเฉพาะสำ� หรบันกั กฎหมาย อกี ทงั้ ไมค่ วรจำ� กดั อยเู่ พียงแค่แวดวงตุลาการหรือกระบวนการยตุ ธิ รรมเท่าน้นั เราได้เหน็ แลว้ ว่าหลกั นิตธิ รรมเปน็ ส่วนส�ำคญั สว่ นหนึง่ในชวี ิตของคนสถาบันเพื่อการยุตธิ รรมแห่งประเทศไทย 55
แง่คิดประการแรกคือ หลักนิติธรรมมีความส�ำคัญไม่เพียงเฉพาะส�ำหรับนัก กฎหมาย อีกท้ังไม่ควรจ�ำกัดอยู่เพียงแค่แวดวงตุลาการหรือกระบวนการ ยตุ ธิ รรมเทา่ นน้ั เราไดเ้ หน็ แลว้ วา่ หลกั นติ ธิ รรมเปน็ สว่ นส�ำคญั สว่ นหนง่ึ ในชวี ติ ของคน หลักนิติธรรมสามารถสัมผัสได้แม้กระทั่งในกลุ่มคนที่อยู่ในถ่ิน ทุรกนั ดารห่างไกล ไมว่ ่าคนเหล่าน้ันจะอยู่ในสถานะใดในแง่การเข้าถงึ โอกาส ทางเศรษฐกจิ การเขา้ ถงึ บรกิ ารสาธารณะหรอื อตั ลกั ษณใ์ นทางกฎหมาย ความ เช่ือมโยงระหว่างหลักนิติธรรมกับการพัฒนาท่ียั่งยืนอาจจะมีความละเอียด ออ่ น ซบั ซ้อน และสัมพนั ธก์ นั ได้หลายแง่มมุ แตด่ ว้ ยเหตุผลขอ้ น้ีเองท่ีเราควร ตอ้ งพยายามศึกษาเพ่ือให้เขา้ ใจความสัมพนั ธอ์ นั ซบั ซ้อนเชน่ วา่ นัน้ ข้าพเจ้ารู้สึกยินดีย่ิงท่ีในวันนี้เราจะได้มีโอกาสเรียนรู้จากผู้ทรงคุณวุฒิหลาย ท่านเก่ียวกับความเช่ือมโยงระหว่างหลักนิติธรรมกับการพัฒนาที่ยั่งยืนจาก หลากหลายมุมมอง ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาในกรอบระหว่างประเทศ การ คมุ้ ครองสทิ ธมิ นษุ ยชน ไปจนถงึ การพฒั นาชมุ ชน ขา้ พเจา้ หวงั วา่ การอภปิ ราย และแลกเปลย่ี นความคดิ เหน็ ในลกั ษณะสหสาขาเชน่ นจี้ ะด�ำเนนิ ตอ่ ไป พรอ้ มๆ กับที่เราท่านท้ังหลายช่วยกันสร้างองค์ความรู้ในสาขาน้ีให้งอกงามเพิ่มพูน ยงิ่ ขนึ้ โดยอาศัยมุมมองทห่ี ลากหลายเช่นนี้ต่อไป ในกรอบว่าด้วยหลักนิติธรรมและการพัฒนาท่ียั่งยืนนี้ ยังคงมีประเด็นอัน คาบเกี่ยวหลายสาขาอีกมากมายให้เราได้ปรึกษาหารือกัน ไม่ว่าจะเป็นการ ต่อสู้เพื่อเอาชนะการคอร์รัปชัน หรือการช่วยเหลือซึ่งกันและกันเพ่ือรับมือ กับอาชญากรรมขา้ มชาติ การอภิปรายในวงกว้างเช่นนี้ ท้งั ในประเทศไทยเอง และในภูมิภาค จะช่วยให้เราสามารถก�ำหนดกลยุทธ์ท่ีเหมาะสมในการ รบั มือกับความท้าทายตา่ งๆ ในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาทีย่ ง่ั ยืน แง่คิดประการท่ีสองคือ ด้วยเหตุที่หลักนิติธรรมและการพัฒนาท่ีย่ังยืนมี ธรรมชาติเหมือนกันประการหนึ่งคือความเป็นสหวิทยาการ ในการท�ำงานเรา จึงต้องอาศัยการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ด้วยเหตุน้ี ข้าพเจ้าจึงขอแสดง ความยินดีกับเครือข่ายผู้น�ำรุ่นใหม่จากท้ังภาครัฐและภาคเอกชนท่ีได้เข้ามา เป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรอบรมผู้บริหารเพ่ือส่งเสริมหลักนิติธรรมและการ พัฒนา ซง่ึ จัดโดยสถาบันเพ่อื การยุติธรรมแหง่ ประเทศไทย เครอื ข่ายเชน่ น้ีจะ56 TIJ Journal
ช่วยให้เกิดการแลกเปล่ียนมุมมองและความคิดเห็น และจะช่วยให้เราแปลงความคิดไปสู่การปฏิบัติได้จริง ข้าพเจ้าหวังว่าในอนาคตเราจะได้เห็นผู้แทนจากหลากหลายวงการมารวมกลุ่มกันมากขึ้นเพ่ือให้เครือข่ายความร่วมมือเชน่ นข้ี ยายวงออกไปในอนาคต ประการสุดท้ายคือ ในฐานะคนธรรมดาคนหน่ึง ข้าพเจ้าเชื่อว่าไม่มีแบบแผนตายตัวว่าเราควรต้องท�ำอะไรกันบ้างในการส่งเสริมหลักนิติธรรมเพื่อการพฒั นาทย่ี ง่ั ยนื จดุ เนน้ ของเรากด็ ี แนวทางการท�ำงานกด็ ี ยอ่ มตอ้ งสมั พนั ธแ์ ละสอดคลอ้ งกบั บรบิ ทและสถานการณอ์ นั มลี กั ษณะเฉพาะในแวดวงทเี่ ราท�ำงานอยู่ ความสนใจในกรอบงานทแี่ ตกตา่ งกันย่อมน�ำไปสมู่ มุ มองท่แี ตกตา่ งกนั ได้มมุ มองของขา้ พเจา้ อาจจะเนน้ กระบวนการยตุ ธิ รรมทางอาญา แตผ่ อู้ น่ื อาจมีความสนใจและความถนัดทีจ่ ะท�ำงานในสาขาอน่ื ๆ เช่น การสาธารณสุข การจา้ งงาน การปราบปรามคอร์รัปชนั การสงวนรกั ษาสง่ิ แวดลอ้ ม หรือการขจดัความยากจนก็ได้สถาบันเพื่อการยุตธิ รรมแหง่ ประเทศไทย 57
58 TIJ Journal
ขา้ พเจ้าเช่ือว่าไมม่ ีแบบแผนตายตวั วา่ เราควรตอ้ งทำ� อะไรกันบา้ งในการสง่ เสรมิ หลกั นติ ธิ รรมเพ่ือการพัฒนาทย่ี งั่ ยนื จดุ เนน้ของเรากด็ ี แนวทางการทำ� งานกด็ ี ยอ่ มตอ้ งสมั พันธ์และสอดคล้องกบับริบทและสถานการณ์อันมีลักษณะเฉพาะในแวดวงทเ่ี ราทำ� งานอยู่ ความสนใจในกรอบงานทแ่ี ตกตา่ งกนัย่อมนำ� ไปสมู่ ุมมองท่ีแตกตา่ งกันได้ เราอาจมีมุมมองที่แตกต่างกัน แต่ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่าเราสามารถจะมีคุณค่ารว่ มกันได้ เราทกุ คนทราบดีว่าหลกั นติ ิธรรมเปน็ เรอื่ งการเคารพกฎกติกา เป็นเรอ่ื งของความเปน็ ธรรม ความเทา่ เทยี มกนั การไมเ่ ลอื กปฏบิ ตั ิ การไมใ่ ชค้ วามรุนแรง และการเคารพในสทิ ธิมนุษยชน ไมว่ ่าเราจะท�ำอะไรก็ตาม หากเราท�ำไปเพอ่ื จรรโลงคณุ คา่ เหลา่ นแี้ ลว้ ในฐานะบคุ คลธรรมดาคนหนง่ึ กเ็ ทา่ กบั วา่ เราไดม้ ีสว่ นในการชว่ ยเสริมสร้างการพฒั นาที่ย่ังยืนแลว้ ในทางหน่ึงเหมือนกนัสถาบนั เพื่อการยตุ ิธรรมแห่งประเทศไทย 59
01TIJ และภารกจิ ท่ีเกีย่ วกับหลักนิตธิ รรม
มีหลายความหมายที่ถูกผูกติดอยู่กับค�ำว่า ไทยบนความ “ไม่เท่าเทยี ม” “หลักนิติธรรม” ไม่ว่าจะเป็น “สิทธิ” “ความ ใน พ.ศ. 2560 ท่ปี ระชุมสภาเศรษฐกิจโลก ซ่ึงจดัเป็นธรรม” “ความเท่าเทียม” กระน้ัน ค�ำค�ำน้ีก็ยัง ขึ้นที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้ไมม่ คี วามจรงิ เพยี งหนงึ่ เดยี ว แตก่ พ็ อมคี วามหมาย หยิบยกประเด็นน้ีขึ้นมาหารือ จากรายงานของทีเ่ หน็ ร่วม ซ่งึ เป็นความหมายอยา่ งกวา้ งทีส่ ดุ ทวี่ ่า Oxfam พ.ศ. 2559 ทร่ี ะบตุ วั เลขทนี่ า่ ตกใจอยา่ งยงิ่“หลกั นติ ธิ รรม”คอื “ความเปน็ ธรรมตามกฎหมาย” เกี่ยวกับการถือครองทรัพย์สินท่ีมหาเศรษฐีโลก 8ทจี่ ะบงั คบั ใชใ้ หท้ กุ คนอยภู่ ายใตก้ ฎหมายอยา่ ง คน ถอื ครองทรพั ยส์ นิ เทา่ กบั คนจนทส่ี ดุ 3,600 ลา้ นเสมอภาคกนั โดยเฉพาะการบงั คบั ใชก้ ฎหมาย คน หรือเท่ากับจ�ำนวนประชากรกว่าคร่ึงโลก ที่ท่ีต้องปกป้องคุ้มครองสิทธิขั้นพ้ืนฐานโดย ส�ำคญั กวา่ นนั้ พวกเขาสามารถเพมิ่ ความมัง่ คั่งได้ไม่เลือกปฏบิ ัติ อย่างรวดเร็วในการก้าวเป็นมหาเศรษฐีในระดับ ลา้ นลา้ นเหรยี ญสหรฐั เพยี งแคใ่ นชว่ ง 25 ปที ผี่ า่ นมาทว่า การที่จะมีกฎหมายท่ีดีที่จะจัดสรรประโยชน์ได้อย่างท่ัวถึง และสามารถบังคับใช้กฎหมาย ส�ำหรับประเทศไทย เร่ืองน้ีถือเป็นความท้าทายได้อย่างเป็นธรรมและไม่เลือกปฏิบัติได้น้ันเป็น โดยเม่ือเปรียบเทียบกับประเทศท่ัวโลก ไทยถือเร่ืองยากย่ิง ในสถานการณ์ความไม่เท่าเทียมท่ี เป็นประเทศท่ีมีความเหลื่อมล�้ำมากท่ีสุดในโลกก�ำลังเผชิญหน้า โดยเฉพาะประเด็น “ความ โลกเป็นลำ� ดับท่ี 3 รองจากรัสเซียและอินเดยีเหลื่อมล�ำ้ ” ระหวา่ งคนจนและคนรวย และมีคนเพยี งร้อยละ 1 เท่านั้นท่เี ปน็ เจ้าของ ความมง่ั คง่ั ของคนทง้ั ประเทศรวมกนั ในเวลาที่ 3 ลำ� ดบั ประเทศที่ ผ่านมาเพียงไม่ก่ีปี มีมหาเศรษฐีระดับพันล้านใน มคี วามเหลื่อมล้ำ� ประเทศไทยเพ่มิ ข้ึนจาก 5 คนใน พ.ศ. 2551 เป็น มากท่ีสุดในโลก ล�ำดบั 2ท่ี รัสเซีย ลำ� ดับ ลำ� ดับ 1ท่ี 3ท่ี อินเดีย ไทย62 TIJ Journal
ทา่ มกลางสถานการณด์ ังกล่าว หลายครั้งต่อท่ีประชุมสหประชาชาติ จนในที่สุดคำ� ถามคือเราจะท�ำอย่างไรให้กฎหมาย “หลักนิติธรรม” ได้รับการบรรจุเป็นส่วนหนึ่งในเป็นเคร่ืองมอื ในการแกป้ ัญหาและ เป้าหมายท่ี 16 จาก 17 เป้าหมายของเป้าหมายเราจะทำ� อย่างไรท่มี ากกว่านัน้ เพ่ือให้ การพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งองค์การสหประชาชาติเกดิ สงั คมท่เี ป็นธรรมและเท่าเทียม (Sustainable Development Goals : SDGs) จากไดอ้ ยา่ งแท้จรงิ การขบั เคลอื่ นหลกั นติ ธิ รรมและการพฒั นาทย่ี งั่ ยนื โดยประเทศไทยและประเทศภาคีสมาชิก ภายใต้28 คนใน พ.ศ. 2558 โฉนดทด่ี นิ ของทง้ั ประเทศอยู่ การผลักดันของ สถาบันเพื่อความยุติธรรมแห่งในมอื ประชากรเพียงรอ้ ยละ 10 ขณะทีป่ ระชากร 3 ประเทศไทย (Thailand Institute of Justice : TIJ)ใน 4 ไม่ได้เปน็ เจา้ ของท่ีดนิ ใดๆ ปัจจุบันประเด็นหลักนิติธรรมนี้ก�ำลังขยายความท่ามกลางสถานการณ์ดังกล่าว ค�ำถามคือเรา ส�ำคัญออกไปในระดับสากล โดยล่าสุดในงานจะทำ� อยา่ งไรใหก้ ฎหมายเปน็ เครอื่ งมอื ในการ ประชมุ ส�ำคญั ด้านอาชญากรรมระดับโลก “Crimeแก้ปัญหาและเราจะท�ำอย่างไรท่ีมากกว่านั้น Congress 2020” ทกี่ �ำลงั จะจดั ขนึ้ ไดบ้ รรจเุ รอ่ื งน้ีเพ่ือให้เกิดสังคมที่เป็นธรรมและเท่าเทียมได้ เป็นวาระส�ำคัญในการประชมุอยา่ งแท้จริง ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.กิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ทางออกเริม่ ต้นที่ “หลกั นิติธรรม” ผู้อ�ำนวยการสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศกรอบแนวทางในเร่ืองนิติธรรมกับการพัฒนาจึง ไทย (TIJ) กล่าวว่า “เราเป็นผูน้ ำ� ดา้ นนใ้ี นระดบัเปน็ กรอบแนวคิดทีจ่ ะแก้ไขปญั หาดงั กลา่ ว แม้ว่า ภมู ิภาค อาจจะหมายถึงในโลกดว้ ยทพ่ี ยายามในระดบั โลกในชว่ งไมก่ ปี่ ที ผี่ า่ นมาแนวคดิ นย้ี งั เปน็ เช่ือมโยงเป้าหมายที่ 16 ของเป้าหมายการเรือ่ งทใ่ี หม่มาก พัฒนาที่ยั่งยืนแห่งองค์การสหประชาชาติกับ เรื่องการพัฒนาท่ีย่ังยืน ส�ำหรับเราเรามองว่าโดยหากย้อนดูก่อนหน้าท่ีเป้าหมายการพัฒนาที่ เร่ืองหลักนิติธรรม (rule of law) เป็นเรื่องท่ียัง่ ยืนแห่งองคก์ ารสหประชาชาตจิ ะประกาศใชใ้ น ทุกฝ่ายต้องมาคุยกันเพ่ือให้เกิดความชัดพ.ศ. 2558 ประเด็นหลักนิติธรรมและการพัฒนา สามารถเอากฎหมายไปเป็นเคร่ืองมือในการแทบจะไม่ได้รับการพูดถึงมากนัก กระทั่งเม่ือ พัฒนา และนักพัฒนาในสาขาต่างๆ ก็ต้องประเทศไทยน�ำโดยพระเจา้ หลานเธอ พระองคเ์ จา้ เข้าใจวา่ หลกั นติ ิธรรมเปน็ สว่ นส�ำคัญและน�ำพัชรกิติยาภา ได้น�ำเสนอข้อมติเกี่ยวกับประเด็นนี้ มาใชป้ ระโยชน์กับการขับเคล่ือน” ภารกิจของ TIJ ในปัจจุบัน นอกจากจะสนับสนุน องค์การสหประชาชาติ TIJ ยังสนับสนุนการยก ระดับกระบวนการยุติธรรมร่วมกับกระทรวง ยุติธรรมในระดับประเทศ ตลอดจนการขับเคล่ือน ในมิติอื่นๆ ให้การ “ปฏิรูป” เกิดขึ้นได้จริงในการ เชื่อมโยงเป้าหมายท่ี 16 กับการพัฒนาที่ย่ังยืน โดยใชก้ ฎหมายเปน็ เคร่ืองมือในการพัฒนา สถาบันเพื่อการยุตธิ รรมแห่งประเทศไทย 63
เป้าหมายท่ี 16: จากแนวคิดสู่การ ปลูกฝิ่น โดยนอกจากไม่เอาโทษแล้ว ยังได้ปฏิบัติ พระราชทานอาชพี ใหมแ่ ทนโดยมกี ารตง้ั โครงการจากการท�ำงานของสถาบันเพ่ือการยุติธรรมแห่ง หลวงเพ่ือเป็นรายได้ใหม่ท่ีไม่ผิดกฎหมายประเทศไทย (TIJ) ผา่ น เวทสี าธารณะ TIJ Public ส�ำหรบั ชาวเขาForum on the Rule of Law and SustainableDevelopment ท่ีจัดขึ้นโดยตลอดปี 2560 มีข้อ • ตอ้ งสรา้ งหลกั นติ ธิ รรมอยา่ งบรู ณาการ การคน้ พบของความเชื่อมโยงระหวา่ ง “หลักนิติธรรม” ผลกั ดนั ความเปน็ ธรรม ไมเ่ พยี งจ�ำกดั อยใู่ นการและ “การพฒั นาทยี่ ั่งยนื ” หลายประการ เชน่ ท�ำงานของภาครัฐหรือนักกฎหมายเท่าน้ัน แต่การจะสรา้ งหลกั นติ ธิ รรมจะตอ้ งบรู ณาการ• การสรา้ งความเปน็ ธรรมในสังคม และการ อย่างมีส่วนร่วมจากภาคส่วนต่างๆ เช่น การ ลดความเหลอื่ มลำ้� ตอ้ งใชห้ ลกั นติ ธิ รรมมา สร้างวัฒนธรรมเคารพกฎหมายให้เกิดกับ เปน็ ส่วนหนึง่ ในการพฒั นา ภายใต้หลักการ ประชาชน ตลอดจนการพัฒนากฎหมายอยา่ ง กฎหมายเปน็ ใหญ่คอื ใชห้ ลกั การเดยี วกนั กฎหมาย มีส่วนรว่ ม เดียวกันกบั ทกุ คน ไม่ว่าจะเป็นผมู้ ีอ�ำนาจหรือ คนสามญั ดังนั้น ในการขับเคล่ือนหลักนิติธรรมของสถาบัน เพอ่ื การยตุ ธิ รรมแหง่ ประเทศไทย ภายใตก้ รอบการ• กฎหมายต้องเป็นธรรม เพ่ือเป็นหลักใน พฒั นาขององคก์ ารสหประชาชาติ เปา้ หมายที่ 16 การน�ำมาใช้ ดว้ ยกระบวนการและระบบในการ ที่ว่าด้วยการส่งเสริมสังคมท่ีสงบสุขและ ออกกฎหมายทเี่ ปน็ ธรรม และเมอื่ ใดทกี่ ฎหมาย ครอบคลมุ ทเี่ ออ้ื ตอ่ การพฒั นาทยี่ งั่ ยนื ใหท้ กุ คน ล้าสมยั กต็ ้องปรับปรงุ เขา้ ถงึ กระบวนการยตุ ธิ รรม และสรา้ งสถาบนั ทมี่ ปี ระสทิ ธภิ าพ มคี วามรบั ผดิ ชอบ และทกุ คน• ตอ้ งมกี ารบงั คบั ใชก้ ฎหมายทอี่ ำ� นวยความ สามารถเข้าถงึ ไดท้ ุกระดบั นั้น จึงท�ำงานบนฐาน ยุติธรรม อย่างในเร่ืองหนึ่งๆ ที่มีกฎหมาย ของการศึกษาวิจัยและพัฒนาเป็นหลักและให้ หลายฉบับ ซงึ่ บงั คบั ใชโ้ ดยหลายหนว่ ยงาน ท่ี ความส�ำคัญกับการมองไปข้างหน้า ในความ มองเห็นประเด็นที่แตกต่างกันไปจนขัดแย้ง พยายามท่ีจะเชื่อมโยงระหว่างหลักนิติธรรมและ กันเอง ซึ่งอาจจะส่งผลต่อการอ�ำนวยความ ประเด็นที่กว้างข้ึน เช่น การพัฒนาเศรษฐกิจ ยตุ ธิ รรมตอ่ ผอู้ ยภู่ ายใตก้ ฎหมาย ผใู้ ชก้ ฎหมาย ธรรมาภบิ าล เป็นตน้ จงึ จ�ำเปน็ ตอ้ งมองประเดน็ หลกั นติ ธิ รรมใหเ้ ปน็ องคร์ วม สรา้ งการบรู ณาการระหวา่ งหนว่ ยงาน นอกจากนี้ TIJ ยังเชื่อมโยงการมีส่วนร่วมจาก เพื่อให้คนเขา้ ถึงกฎหมายอย่างเสมอภาค สาธารณะและสถาบนั ในระบบยตุ ธิ รรมและเผยแพร่ แนวคิดน้ีกับกลุ่มผู้น�ำทางความคิด นักวิชาการ• ประเทศไทยมีตัวอย่างที่ดีจากการทรงงาน และเยาวชน ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา ภมู พิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ รทไี่ ดท้ รงน�ำ เพราะเช่ือว่าการมองเห็นความหมายของ หลกั นติ ธิ รรมมาเปน็ พน้ื ฐานในการครองแผน่ ดนิ เรอ่ื งนรี้ ว่ มกนั จะทำ� ใหเ้ กดิ การมสี ว่ นรว่ มในการ ตวั อยา่ งเชน่ การน�ำหลกั นติ ธิ รรมมาแกป้ ญั หา ปฏริ ปู ระบบยตุ ธิ รรมและยงั เปน็ รากฐานทสี่ ำ� คญั เม่ือราว พ.ศ. 2508-2509 เม่ือไปพบชาวเขา และการสร้างความเป็นไปได้ใหม่ในการสร้าง64 TIJ Journal
วฒั นธรรมเคารพกฎหมาย ซงึ่ เปน็ การขบั เคลอ่ื น (TIJ Executive Program on the Rule of Lawเพ่ือใหเ้ กดิ ผลจริงในทางปฏบิ ัติในท่สี ดุ and Development : RoLD) หรอื เปน็ ทร่ี ู้จักกนั ใน ชื่อ “RoLD Program” หลักสูตรอบรมผู้บริหารกระบวนทัศน์ใหม่และการพั ฒนา ระดบั สงู เกยี่ วกบั หลกั นติ ธิ รรม เพราะเชอื่ วา่ ความรู้อย่าง “มีส่วนร่วม” เร่ืองหลักนิติธรรมจะช่วยเปล่ียนแนวคิด “การมีจากประสบการณท์ ผ่ี า่ นมาของประเทศไทยในการ สว่ นรว่ ม” ใหเ้ กดิ ขน้ึ จรงิ ในทางปฏบิ ตั ิ ทง้ั ในมติ ขิ อง“ปฏริ ปู ” ระบบยตุ ธิ รรม มปี ญั หาทสี่ �ำคญั 2 ประการ การสรา้ งเครอื ขา่ ยนติ ธิ รรมเพอ่ื การพฒั นาในอนาคตประการแรก ความคุ้นเคยในการปฏิรูประบบการ และในมติ ขิ องการสรา้ งตวั แบบการพฒั นากฎหมายบังคบั ใชก้ ฎหมาย โดยหนว่ ยงานราชการ ประการ บนหลักการ “มีส่วนร่วม” และมากกว่าการอบรมท่สี อง การปฏริ ปู ยังคงเป็นแบบแยกสว่ น โดยขาด ทางทฤษฎี ผบู้ รหิ ารระดบั สงู ทไี่ ดเ้ ขา้ รว่ มจะท�ำกรณีความคิดเชิงบูรณาการ และจากการปฏิรูปหน่วย ศกึ ษาอยา่ งเจาะลกึ ลงพนื้ ที่เพอื่ ใหเ้ ขา้ ใจสภาพปญั หางานราชการโดยหนว่ ยงานนั้นๆ เอง เช่น การปฏริ ปู สาเหตุ และแนวทางแกไ้ ขปญั หาตา่ งๆ ภายใตห้ ลกัต�ำรวจโดยต�ำรวจ การปฏิรูปอัยการโดยอัยการ นิตธิ รรม โดยเรียกกิจกรรมนวี้ า่ “RoLD in Action”หรือแม้แต่การปฏิรูปศาลโดยศาล ซ่ึงหลายต่อหลายครั้งท�ำให้การปฏิรูปไม่ส�ำเร็จ การขาดพลัง “RoLD inของการมีส่วนร่วมและการบูรณาการ จึงเป็นส่ิงท่ี Action”ตอ้ ง “ปลดลอ็ ก”ภายใตก้ ระบวนทศั นใ์ หมข่ องนติ ธิ รรมกบั การพฒั นาที่ยั่งยืน โดยมุ่งเน้นกระบวนการพัฒนาอย่างมีสว่ นรว่ ม ในปี 2560 TIJ จงึ ไดร้ เิ รม่ิ หลกั สตู รอบรมสำ� หรบั ผบู้ รหิ ารดา้ นหลกั นติ ธิ รรมและการพฒั นาเป้าหมายท่ี 16 ท่วี ่าด้วยการส่งเสริม ตัวอย่างเช่น การจัดเวทีเพ่ือพยายามหาค�ำตอบสงั คมท่สี งบสุขและครอบคลมุ ทเ่ี ออ้ื เก่ียวกับกรณีศึกษาของ “การรับมือกับเทคโนโลยีตอ่ การพัฒนาทย่ี งั่ ยนื ใหท้ กุ คนเขา้ ถงึ ก้าวกระโดด (Disruptive Technology)” ซ่ึงเป็นกระบวนการยตุ ิธรรม และสร้าง รปู แบบของการสรา้ งกลไกใหมใ่ นการพฒั นากฎหมายสถาบนั ทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพ มคี วาม โดยจากเดิมมีนักกฎหมายเพียงฝ่ายเดียวเป็นรบั ผดิ ชอบ และทกุ คนสามารถเข้าถึง ผู้พัฒนากฎหมายในแพลตฟอร์มใหม่ มีการน�ำได้ทุกระดับ ผู้เก่ียวข้องจากหลากหลายสาขา ท้ังผู้พิพากษา อยั การ ผเู้ ชยี่ วชาญดา้ นเทคโนโลยี มาพดู คยุ กนั ถงึ ทางออกทวี่ งการกฎหมายจะตอ้ งมคี วามเปน็ ธรรม ในการคุ้มครองอยา่ งเหมาะสม สถาบนั เพื่อการยตุ ธิ รรมแหง่ ประเทศไทย 65
มิติใหม่บนความร่วมมือ HarvardLaw SchoolTIJ ยังได้ร่วมกับคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮารว์ ารด์ (HarvardLawSchool)รเิ รม่ิ หลกั สตู รระยะส้ันดา้ นนิติธรรมเปน็ ครง้ั แรกในภูมภิ าคเอเชีย เพอ่ืยกระดบั ศกั ยภาพของบคุ ลากรในภมู ภิ าคเอเชยี ทงั้ในและนอกแวดวงยุติธรรม โดยแบ่งออกเป็นหลกั สตู รส�ำคญั 2 หลกั สตู ร ไดแ้ ก่ “TIJ Workshopfor Emerging Leaders on the Rule of Lawand Policy” หลักสูตรเขม้ ข้นระยะสัน้ (intensiveprogram) เพ่ือช่วยเปิดมุมมองการวิเคราะห์ข้อกฎหมายในบรบิ ทตา่ งๆ อยา่ งรอบดา้ น มงุ่ เนน้ เรอื่ งหลกั นติ ธิ รรม กระบวนการยตุ ธิ รรม และการพฒั นาทีย่ งั่ ยืน สว่ นอกี หลักสูตร คอื IGLP Workshop forScholars ทเี่ ปดิ อบรมการพฒั นาการเรยี นการสอนเขียนงานวิจัยการขับเคลื่อนนโยบายสู่การปฏิบัติหรือ policy advocacy ให้กับคณาจารย์และนกั วชิ าการจากประเทศไทยและประเทศในอาเซยี นโดยแตล่ ะหลกั สตู รมรี ะยะเวลาการอบรม 1 สปั ดาห์ศาสตราจารย์พเิ ศษ ดร.กติ ติพงษ์ กล่าววา่ “สงิ่ ที่TIJ พยายามทำ� ในการขบั เคลอื่ นหลกั นติ ธิ รรมคือการท�ำให้คนเห็นปัญหา เห็นแนวทางและทศิ ทางทคี่ วรจะไปและประโยชนถ์ า้ มนั จะเกดิ ขน้ึการสร้างโครงการต่างๆ ของเราอย่าง RoLDExecutive Program และหลกั สูตรตา่ งๆ ท่เี ราพยายามออกแบบโดยการเสรมิ พลงั ใหเ้ ขาและให้คนกลมุ่ นีไ้ ปเปน็ คนขับเคล่อื นสงั คม”คำ� ตอบในอนาคตของหลกั นติ ธิ รรม เป้าหมายทต่ี อ้ งส�ำหรับสถานการณ์ของไทยในเร่ืองท่ีเก่ียวข้องกับ ปรับปรุงอยา่ งมีหลักนิติธรรมและการพัฒนาที่ยั่งยืนนั้น จากการ นัยส�ำคญั ของจัดอันดับล่าสุดของ SDG Index 2017 ในการ ไทย 6 เป้าหมายวดั ความกา้ วหนา้ ของเปา้ หมายการพฒั นาทยี่ งั่ ยนืในแต่ละเป้าหมายของประเทศต่างๆ พบว่าประเทศไทยท�ำคะแนนได้ดีท่ีสุดในเป้าหมายท่ี 166 TIJ Journal
การลดความยากจน ขณะที่เป้าหมายท่ี 16 มีสถานการณ์ที่ดีกว่าประเทศในภูมิภาคเอเชียเพียงเลก็ นอ้ ย โดยไทยได้ 58.0 และคะแนนของประเทศในภมู ิภาคอยทู่ ่ี 56.37 อกี ทงั้ ยงั เป็นประเทศที่ตอ้ งปรับปรุงอย่างมีนัยส�ำคัญใน 6 เป้าหมาย ได้แก่เปา้ หมายท่ี 2 การขจัดความหวิ โหย เป้าหมายที่ 3สุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี เป้าหมายท่ี 9อุตสาหกรรม นวัตกรรมและโครงสร้างพื้นฐานเปา้ หมายที่13การรบั มอื กบั การเปลยี่ นแปลงสภาพภูมิอากาศ เป้าหมายท่ี 15 ระบบนิเวศทางบกเปา้ หมายท่ี 16 สันติภาพ ความยุตธิ รรมและการสร้างสถาบนั ท่มี ปี ระสิทธภิ าพ ซึ่งถกู จดั สถานะอยู่ในกลมุ่ ทตี่ อ้ งการจากการแบ่งเป้าหมายของการวัดความก้าวหน้าเปน็ 3 กลุม่ คือกลุม่ ทีบ่ รรลุเป้าหมายแลว้ กล่มุ ท่ีตอ้ งระมัดระวังและกลมุ่ ทีต่ อ้ งปรบั ปรุงผลการวัดความก้าวหน้าของเป้าหมายการพัฒนาทย่ี งั่ ยนื สอดคลอ้ งกับรายงานของ World JusticeProject Rule of Law 2016 ในการจัดอนั ดับด้านนิตธิ รรม ทีร่ ะบุดว้ ยวา่ ประเทศไทย อยใู่ นล�ำดบัที่ 64 เปน็ รองสงิ คโปร์ มาเลเซยี และอนิ โดนเี ซยีประเทศในภมู ภิ าคเดยี วกนั ทอี่ ยใู่ นลำ� ดบั 9, 56และ 61 ตามลำ� ดบั ขณะทปี่ ระเทศทไี่ ดล้ ำ� ดบั ท่ี1 คอื เดนมารก์ โดยรายงานระบสุ ถานะปจั จบุ นัของประเทศไทยในประเดน็ ทจี่ ำ� เปน็ ตอ้ งไดร้ บัการพัฒนาให้ดีข้ึนมากท่ีสุด ได้แก่ ปัญหาคอร์รัปชนั และสทิ ธิขัน้ พืน้ ฐาน อนั ไดแ้ ก่ สิทธิในความเปน็ สว่ นตวั และสทิ ธใิ นชวี ติ และความปลอดภัย ตลอดจนการบังคับใช้กฎหมายเปน็ ตน้ปัจจุบันสถาบันเพ่ือการยุติธรรมแห่งประเทศไทย(TIJ) ได้ร่วมมือกับองค์กรในประเทศแคนาดาInternational Center for Criminal Law Reformand Criminal Justice Policy (ICCLR&CJP)สถาบนั เพื่อการยตุ ธิ รรมแหง่ ประเทศไทย 67
THAILAND SDG SDG SDG SDGEast and South Asia 16 17 100 1 2 TTHHAAIILLAANNDD oEEaanOssttVEtaaRhnnAddeLLSSPgooEluuRoFtthhObRaAAMsslAiiNaaaCgE enda 75 InOOdVVeEExRRAAscLLLLorPPeEERRFFOORRMMAARNNeCCgEEional average score SDG SDG 50SDG SDG 1SD7G 1SDG 15 17 251 3 SDG 100 SDG 100 1SD6G 75 2SDG SDG SDG 16 75 2 IInnddeexx ssccoorree RReeggiioonnaall aavveerraaggee ssccoorree 4 14 SDG 50 SDG 69.5 63.3 1SD5G 50 15 T25hailand 3SDG 3 SDG 25 4 5SDG SDG 1SS1DD43GG 14 SDG 4 6699..55 6633..33 SDG Thailand 5 6SDGSDG SDG 12 Thailand SDG 1SD3G 13 5SDG Global rank AVERAGE PERFORMANCE BY SDG11SDG SDG 7 6SDG SDG SDG 1SD2G SDG SDG 6 12 SDG 10 8 SDG 955SS(ODDFGG15GG7ll)oobbaall rraannkk SDG 1SD1G SDG 11 1SD0G 10 9SDG SDG5555 (OF 157) 9 (OF 157) 7SDG 7SDG 8SDG 8 AAVVEERRAAGGEE PPEERRFFOORRMMAANNCCEE BBYY SSDDGGCOMPARISON WITH OTHER DEVELOPMENT METRICS CCOOMMPPAARRIISSOONN WWIITTHH OOTTHHEERR DDEEVVEELLOOPPMMEENNGLTTOMMBAEELTTRRRANIICCKSS SCORE OR VALUE REGIONAL AVERAGEGDP per capita, PPP (2015) GG6LL4OO/BB15AA3LL RANK SSCCUOOSRREE$OO1RR5VV,AA3LL4UU7EE RREEGGUIIOOSNN$AALL1AA2VV,1EE9RRAA4GGEESubGGjeDDcPPtippveeerr Wccaaepplliibttaae,,inPPgPPPP(2((02200161155))) RANK UU6SS1$$ 1155,,334477 UUSS5$$1 1122,,119944EnvSSiruuobbnjjeemccettiinvvteealWWPeeellllrbbfeeoiirnnmgga((n2200ce1166I))ndex (2016) 66611 9.5 5511 61.1HumEEannnvviirrDooennvmmeeelonnpttaamll ePPneerrtffooInrrdmmeaaxnncc(ee20IInn16dd)eexx ((22001166)) 366544///111553333 667994..55.0 6611..611 7.1GlobHHauulmmCaaonnmDDpeeevvteeitllooivppemmneeennsttsIInnIndddeeexxx((22(002011661))6/17) 833655///111335337 77644..600.3 6677..611 1.6GlobGGallool bbPaaellaCCcooemmInppeedtteiittxiivv(ee2nn0ee1ss6ss) IInnddeexx ((22001166//1177)) 788766///111555777 665663..33.8 6611..5668.2 377277//11553774 5533..88 5588..22 GGlloobbaall PPeeaaccee IInnddeexx ((22001166)) 1331227//111334449 111177//114499 SDGSSDDDGGADDSAAHSSBHHOBBAOORAADRRDD68 TIJ Journal
ล�ำดับความกา้ วหนา้ ในการศึกษาวิจัยการพัฒนาตัวช้ีวัดท่ีมากไปกว่า ของประเทศไทย ที่องค์การสหประชาชาติก�ำหนด และร่วมมือกับ ในเป้าหมาย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในการพัฒนาตัวชี้วัด การพัฒนาทีย่ ่งั ยนื ในบริบทเฉพาะของไทยหรือประเทศก�ำลังพัฒนา (ทมี่ า SDG Index & โดยเนน้ ในแงม่ มุ ของ “คณุ คา่ กระบวนการยตุ ธิ รรม” Dashboards 2017 ให้สอดคล้องกับระดบั การพัฒนาของไทย Report) “ตัวชี้วัดมีพัฒนาการโดยเฉพาะ การเมืองA green rating on the (politic) ของการเปลย่ี นแปลง ไมใ่ ชเ่ ฉพาะเรอ่ื งSDG Dashboard denotes กระบวนการยุติธรรม ท้ังเรื่องเศรษฐกิจ การSDG achievement, and is ลงทุน และความโปรง่ ใส การท่ีมีตวั ชวี้ ดั (indi-assigned to a country on cator) แล้วยอมรับได้ เข้าใจง่าย ผู้ก�ำหนดa given SDG only if all นโยบายจะหยบิ ไปใชไ้ ด้ ถา้ เรารจู้ กั ใชใ้ หด้ กี จ็ ะthe indicators under the โน้มน้าวผู้กำ� หนดนโยบายได้ ซงึ่ สง่ิ เหลา่ นี้ TIJgoal are rated green. ประเทศไทย หรือนักปฏิรูปประเทศไทยก็ต้องYellow, orange and red เรยี นรมู้ ากกวา่ การขบั เคลอ่ื นนโยบาย มากกวา่indicate increasing dis- ก า ร ป ฏิ รู ป ด ้ ว ย ก า ร ต้ั ง ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร แ ก ้tance from SDG achieve- กฎหมายที่ไม่เคยได้ผล” ศาสตราจารย์พิเศษment. ดร.กิตติพงษ์ กลา่ วSource: www.sdgindex.org และนค่ี อื ความพยายามในการทำ� ในสง่ิ ทแี่ ตกตา่ ง กว่าที่เคยในการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม อาจเพราะเมอ่ื ถงึ จดุ หนง่ึ ของการพฒั นา ความ พยายามที่จะท�ำแบบเดิมเพ่ือให้ผลลัพธ์ที่ แตกตา่ งนน้ั อาจจะเปน็ เรอื่ งทเ่ี ปน็ ไปไมไ่ ดเ้ ลย ในท้ายท่สี ุดรายงานระบุสถานะปัจจบุ ันของประเทศไทยในประเด็นท่จี �ำเป็นตอ้ งได้รบั การพัฒนาใหด้ ีข้นึ มากท่สี ดุ ได้แก่ ปัญหาคอร์รปั ชันและสทิ ธขิ น้ั พ้ืนฐาน อนั ได้แก่ สิทธใิ นความเปน็ สว่ นตวั และสทิ ธิในชวี ติ และความปลอดภยั ตลอดจนการบงั คบั ใชก้ ฎหมาย สถาบนั เพื่อการยุตธิ รรมแห่งประเทศไทย 69
→ INTERVIEW Q : หลักนิติธรรมมีความส�ำคัญ อยา่ งไรตอ่ การพัฒนาQ&A A : ในวงการกฎหมาย แนวคิดเรอื่ งหลักนติ ิธรรม เราพูดกันมากแต่ก็เป็นนามธรรมและไม่ค่อยได้กบั ศาสตราจารย์พิเศษ ขับเคล่ือนอย่างเป็นรูปธรรม ในทางกฎหมายเราดร.กิตติพงษ์ กิตยารกั ษ์ บอกวา่ แคต่ วั กฎหมายอยา่ งเดยี วไมพ่ อตอ้ งมี “กฎ ของกฎหมาย” (Rule of Law) ตอ้ งมคี วามชอบธรรมผ้อู ำ� นวยการสถาบนั เพ่ือการยุติธรรม เป็นธรรม และน�ำไปสู่ธรรม แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นแหง่ ประเทศไทย (TIJ) นามธรรม แตเ่ มอื่ SDGs ก�ำหนดใหห้ ลักนิติธรรม เชอ่ื มโยงมาสกู่ ารพฒั นาไดอ้ ยา่ งเปน็ รปู ธรรมขน้ึ วา่ นติ ิธรรมมเี รอื่ งอะไรบา้ ง ตรงน้คี ือจุดเรมิ่ ต้นส�ำคญั ทจ่ี ะพฒั นาวงการกฎหมายเองทจี่ ะท�ำใหช้ ว่ ยเขา้ ใจ ไดว้ า่ กฎหมายจะเปน็ เครอื่ งมอื ในการน�ำพาสงั คม ไปสู่การพัฒนาต่างๆ เพราะกฎหมายอาจจะเป็น ปัจจยั เออื้ หรือเหนยี่ วรั้งการพฒั นากไ็ ด้ Q : SDGs จะช่วยขับเคลื่อนหลัก นิติธรรมอยา่ งไร A : การจะขับเคลอ่ื นหลักนิติธรรม สง่ิ ส�ำคญั ตอ้ ง ท�ำใหน้ กั กฎหมายและคนนอกวงการกฎหมายเหน็70 TIJ Journal
ความส�ำคญั ของหลกั นติ ธิ รรม อนั นเี้ ปน็ หวั ใจส�ำคญั เพราะกฎหมายอาจจะเป็นที่สุด ข้อดีของ SDGs คือจะช่วยเช่ือมโยงมิติของ เคร่ืองมือในการสรา้ งความกฎหมายกับการพัฒนาได้มากขึ้น SDGs มีการ ยุติธรรมหรอื อยตุ ิธรรมก็ได้ก�ำหนดเปา้ หมายและตวั ชวี้ ดั ทจ่ี ะวดั ความกา้ วหนา้ ความอยุติธรรมท่ชี อบด้วยเพราะฉะนั้น ถ้ามีตัวช้ีวัด (indicator) ซึ่งมีหลาย กฎหมายนั้นหนักหนาสาหัสหนว่ ยงานท�ำอยแู่ ลว้ เช่น World Justice Project ยิง่ กว่าความอยุตธิ รรมท่ีมกี ารวดั ผลทเ่ี กดิ ขน้ึ ทม่ี ากกวา่ กฎหมาย อยา่ งเรอื่ ง ไมถ่ กู กฎหมายอกีเสรีภาพ ประสิทธิภาพของกระบวนการยุติธรรมฯลฯ และท�ำให้เรามองกฎหมายในมิติของหลัก เคยอยู่ในที่ดินของตัวเองสมัยปู่ย่าตายาย วันดีนิติธรรมที่กว้างออกไป ไม่ใช่แค่เก่ียวกับระบบ คืนดีก็ถูกไล่ออกมาจากที่ของตัวเอง ซึ่งมันเป็นยตุ ธิ รรมเทา่ นน้ั แตก่ ฎหมายสามารถเออื้ การพฒั นา ความขัดแย้งทก่ี ฎหมายมสี ่วนส�ำคัญทางดา้ นเศรษฐกจิ ความเหลอื่ มลำ�้ การพทิ กั ษโ์ ลกการลดคอร์รปั ชนั เป็นต้น Q : จะผลักดันและขับเคล่ือนหลัก นิติธรรมให้เกิดข้ึนจริงในประเทศQ : ในประเทศไทยอะไรเป็นแนวทาง ไทยได้อย่างไรท่ี TIJ จะขบั เคลอ่ื นเพื่อยกระดบั การ A : ในแง่การผลักดันให้หลักนิติธรรมเกิดขึ้นจริงเผยแพร่และการใชห้ ลกั นติ ธิ รรม กฎหมาย กระบวนการยุติธรรม จ�ำเป็นต้องมีการA : ถา้ กฎหมายไดร้ บั การพัฒนาอยา่ งเหมาะสม พัฒนา ซึ่งกระบวนการที่เก่ียวข้องกับอ�ำนาจหรือมีความเข้าใจว่ามันเป็นเคร่ืองมือในการพัฒนา เจ้าหน้าที่รัฐ เช่น กระบวนการท่ีให้อ�ำนาจ อย่างมนั กจ็ ะน�ำไปสกู่ ารใชป้ ระโยชนห์ รอื การตระหนกั ถงึ เรื่องต�ำรวจ เรื่องของกระบวนการยุติธรรม ผู้ความส�ำคญั ในหลากหลายมติ ิขึ้น ในส่วนของ TIJ พิพากษา อยั การ จ�ำเป็นต้องมีการปรับปรุง ปฏิรปูเราดูหลักนิติธรรม เป็นตัวเช่ือมใหญ่จากทุกเร่ือง ใหส้ อดคลอ้ งกบั ยคุ สมยั เสมอแตจ่ ากประสบการณ์ท่ีเราท�ำ ตั้งแต่เร่ืองของการปฏิบัติต่อผู้กระท�ำ ของหลายประเทศ การปฏิรูปนั้นยากในเรื่องการความผิด เร่ืองผู้ต้องขังหญิง การดูแลในเรือนจ�ำ สรา้ งสมดุลระหวา่ งอ�ำนาจรัฐกบั ปจั เจกชน เพราะการปลอ่ ยออกสสู่ งั คมไดอ้ ยา่ งเหมาะสม รวมไปถงึ คนทีม่ อี �ำนาจกไ็ ม่รู้สึกว่ามนั จ�ำเป็น เราจงึ ต้องการประเด็นการไกลเกลี่ยข้อพิพาท ความเท่าเทียม ให้คนจ�ำนวนมากเห็นความส�ำคัญเร่ืองของหลักความเหลอ่ื มล�ำ้ ฯลฯ นิติธรรมไม่เพียงเฉพาะคนท่ีถืออ�ำนาจหรือนัก กฎหมายเอง ซ่ึงก็จะช่วยให้การขับเคลื่อนการQ : มตี วั อยา่ งทชี่ ดั เจนพอจะอธบิ าย ปฏิรูปเปน็ จริงได้ได้หรือไม่ว่าหากไม่มีหลักนิติธรรมจะส่งผลอย่างไรA : เราบอกว่าหลักนิติธรรม กฎหมายก็ต้องมีความเป็นธรรมโดยตัวมนั เอง เพราะกฎหมายอาจจะเป็นเครื่องมือในการสร้างความยุติธรรมหรืออยตุ ธิ รรมกไ็ ด้ ความอยตุ ธิ รรมทช่ี อบดว้ ยกฎหมายนั้นหนักหนาสาหัสยิ่งกว่าความอยุติธรรมท่ีไม่ถูกกฎหมายอีก หลายกรณีเกิดข้ึนกับชาวบ้าน สถาบันเพื่อการยุติธรรมแหง่ ประเทศไทย 71
02หลักนติ ธิ รรม:กลไกการขบั เคลื่อนเพื่อบรรลเุ ป้าหมายความยั่งยนื
→ QUOTE หลักนิติธรรมเป็นกญุ แจส�ำคญั ท่จี ะนำ� ไปสู่เสรภี าพ (freedom) และความ ปลอดภยั (security) โดยหลกั นิติธรรมจะด�ำรงไวซ้ ง่ึ สงั คมท่มี เี สรภี าพ ซ่งึ เป็นสงั คมท่เี ปดิ กว้างในการมพี ้ืนท่ใี ห้ กับปจั เจกได้ใช้เสรีภาพของตนในการ ตดั สินใจลองผิดลองถูกทัง้ ในแงข่ อง เศรษฐกจิ และการตดั สนิ ใจทางการเมอื ง โดยปัจเจกจะสามารถวางใจได้ว่ารัฐจะ ไม่สามารถใช้อ�ำนาจเกินขอบเขตและ ตามอำ� เภอใจได้ ซ่ึงสังคมท่มี เี สรภี าพ และมคี วามปลอดภัยนั้นกจ็ ะส่งผลดตี ่อ การพัฒนาโดยรวม ศาสตราจารย์ เอดวั รโ์ ด เอ็ม. เปญาลแวร์ คณบดคี ณะนิตศิ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั คอร์เนลล์ สหรฐั อเมรกิ า74 TIJ Journal
→ แนวคิดโดยสรุป หลกั นิติธรรม มคี วามหมายท่คี รอบคลุม ได้มสี ่วนรว่ มในกระบวนการตัดสนิ ใจ หลกั นติ ธิ รรมในทางหลกั การทางกฎหมาย รวมถงึ ความรบั ผดิ ชอบ (accountability) นนั้ หมายถงึ สงั คมทป่ี กครองโดยกฎหมาย ของคนทกุ คนในสงั คมเสมอภาคกนั ในทาง บังคบั ใช้กฎหมายอย่างเสมอภาค และ กฎหมาย ไมว่ ่าจะเป็นภาครฐั ภาคเอกชน การมีกระบวนการยตุ ิธรรมท่ที ุกคน คนรวย หรอื ผทู้ ม่ี รี ายไดน้ อ้ ย หลกั นติ ธิ รรม สามารถเข้าถงึ ได้ นอกจากน้ี ยงั รวมถงึ ไมใ่ ชแ่ ค่เพียงกฎหมายอาญา แต่ย่อมมี การมงุ่ ใชก้ ฎหมายในฐานะเครอ่ื งมอื ในการ นยั ในทางกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และ ลดความเหล่อื มล�ำ้ สร้างสังคมท่เี ป็น กฎหมายอ่นื ๆ ท่มี เี น้อื หาอันสามารถน�ำ ธรรมและสรา้ งรฐั สวสั ดกิ ารเพ่ือรบั ประกนั ความเท่าเทียมกันมาใชไ้ ด้ ในประเทศไทยมี การคมุ้ ครองทางสงั คมกบั ประชาชนทุก ความทา้ ทาย 3 ประการในการสร้างกลไก ระดบั โดยหลักนิตธิ รรมนัน้ ยงั เปน็ มาก การขับเคล่ือนประเทศไปส่เู ป้าหมายการ กวา่ หลกั การทางกฎหมายและการปกครอง พัฒนาทย่ี งั่ ยนื ไดแ้ ก่ การสรา้ งวฒั นธรรม เป็นเคร่ืองมอื ท่รี บั ประกันวา่ กระบวนการ การเคารพกฎหมาย การขบั เคล่อื น ของการพัฒนานน้ั จะมคี วามเป็นธรรมและ นิตธิ รรมเพ่ือการพัฒนาท่ยี ั่งยืน และการ เป็นการพัฒนาท่รี บั ผิดชอบตอ่ สาธารณะ ขับเคล่อื นหลกั นิตธิ รรมอย่างบรู ณาการ ในทุกระดบั รวมท้งั เปดิ โอกาสใหป้ ระชาชน และสร้างการมสี ว่ นร่วม เมอื่ เปรยี บเทยี บกบั เปา้ หมายในวาระการพฒั นา ทยี่ ง่ั ยนื ขององคก์ ารสหประชาชาตเิ ปา้ หมายอนื่ อดตี เลขาธกิ ารสหประชาชาติ บนั คมี นุ เรยี ก “หลกั นิติธรรม” ซึ่งเป็นเป้าหมายท่ี 16.3 ว่าเป็นเสมือน “The Golden Thread” หรอื เสน้ ดา้ ยส�ำ คญั ในการ ถกั ทอทกุ มติ ิทจี่ ะน�ำ มาซงึ่ การบรรลเุ ปา้ หมายความ ยงั่ ยนื ทง้ั หมด โดย “หลกั นติ ธิ รรม” ภายใตเ้ ปา้ หมาย ดังกล่าว “เน้นยำ้�การส่งเสริมหลักนิติธรรมทั้งใน ระดบั ชาตแิ ละระหวา่ งประเทศ และสรา้ งหลกั ประกนั ว่าจะมีการเข้าถึงความยุติธรรมอย่างเท่าเทียม ทุกคน” เพราะหลักนิติธรรมไม่เพียงเป็น “เป้าหมาย” โดย ตัวเองเท่านั้น แต่ยังเป็น “ปัจจัยเอื้อ” ให้ท้ัง 17 เปา้ หมายสามารถบรรลุผลในภาพรวมด้วย สถาบนั เพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย 75
ความส�ำคญั ของกฎหมายและหลกั นติ ิธรรมกับการพัฒนา หากดคู วามหมายทแ่ี ทจ้ รงิ ของ “หลกั นติ ธิ รรม”แลว้ น้ันยังมีขอบเขตและความหมายที่กว้างขวาง ถ้า พิจารณาข้อมูลจากแหล่งท่ีมาส�ำคัญท้ังจากนัก วชิ าการ World Justice Project รวมถงึ แหลง่ ทมี่ า อน่ื ๆ จะพบวา่ แมใ้ นเชงิ วชิ าการตอ่ ความหมายของ เรอ่ื งนีแ้ ม้จะมขี อ้ ถกเถยี งและมคี วามแตกตา่ ง แต่ ความหมายของ “หลกั นติ ธิ รรม” จากหลายทม่ี านนั้ กลับมีประเด็นร่วมทน่ี า่ สนใจ โดยเฉพาะแกนหลัก ของความหมายท่วี า่ “หลักนติ ิธรรม” คอื “หลักใน สังคมที่มีการปกครองโดยกฎหมาย กฎหมาย จะต้องเป็นใหญ่เหนือบุคคล มีกระบวนการ บังคับใช้กฎหมายที่มีประสิทธิภาพ โปร่งใส ตรวจสอบไดแ้ ละเปดิ โอกาสใหค้ นเข้าถงึ และ ประเดน็ เนอ้ื หาของกฎหมายควรจะเปน็ ประโยชน์ ต่อทุกคนในสงั คม”76 TIJ Journal
ศาสตราจารยเ์ อดวั รโ์ ด เอม็ . เปญาลแวร์คณบดี ศาสตราจารย์ ขาดองค์กรที่มีประสิทธิภาพในการบังคับใช้น้ันก็คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ กล่าวถึง เอดัวรโ์ ด เอม็ . ไมส่ ามารถท�ำให้เกดิ หลกั นติ ธิ รรมข้นึ ได้“ความส�ำคัญของกฎหมายและหลักนิติธรรมต่อ เปญาลแวร์ คณบดีการพัฒนา” โดยได้อ้างอิงงานของนักคิดจ�ำนวน คณะนติ ศิ าสตร์ จอห์น รอว์ลส์ มองว่าหลักนิติธรรมนั้นมีความหนง่ึ ท่ไี ดใ้ หค้ วามหมายของหลักนิตธิ รรมไว้ว่า มหาวทิ ยาลยั เก่ียวโยงกับเสรีภาพ หากหลักนิติธรรมไม่มีความลอน ฟลุ เลอร์ มองวา่ หลกั นติ ธิ รรมมอี งคป์ ระกอบ คอรเ์ นลล์ ม่ันคงแน่นอนน้ันก็หมายถึงความไม่ม่ันคงของคอื การมกี ฎหมายที่เป็นสาธารณะ มีความชัดแจง้ สหรัฐอเมริกา เสรีภาพของปัจเจกด้วยเช่นกันและนั่นท�ำให้เขาสามารถเขา้ ใจได้ บงั คบั ใชอ้ ยา่ งเสมอหนา้ ไมม่ ผี ล มองว่า การเช่ือมโยงหลักนิติธรรมและการยอ้ นหลงั กฎเกณฑ์ตอ้ งมีความม่นั คงแนน่ อนตาม พฒั นา จะเปน็ กญุ แจสำ� คญั ทจ่ี ะนำ� ไปสเู่ สรภี าพสมควรแต่ต้องเปิดโอกาสให้แก้ไขให้สอดคล้อง (freedom) และความปลอดภยั (security) โดยกับสภาพของสังคมท่ีเปลี่ยนแปลงไปได้ และต้อง หลกั นติ ธิ รรมจะด�ำรงไวซ้ ง่ึ สงั คมทม่ี เี สรภี าพ ซงึ่ เปน็มคี วามสอดคล้องกับกฎหมายทป่ี ระกาศใช้แล้ว สังคมท่ีเปิดกว้างในการมีพ้ืนที่ให้กับปัจเจกได้ใช้ในขณะท่ี เจเรมี วอลครอน มองในมุมของกลไก เสรีภาพของตนในการตัดสินใจลองผิดลองถูกท้ังเชงิ สถาบนั คอื การท�ำงานของกระบวนการยตุ ธิ รรม ในแงข่ องเศรษฐกจิ และการตดั สนิ ใจทางการเมอื งการมีสถาบันศาลท่ีเป็นอิสระและมีประสิทธิภาพ โดยปัจเจกจะสามารถวางใจได้ว่ารัฐจะไม่เนอื่ งจากแมจ้ ะมรี ะบบกฎหมายทด่ี เี พยี งใด แตถ่ า้ สามารถใชอ้ ำ� นาจเกนิ ขอบเขตและตามอำ� เภอใจ ได้ ซ่ึงสังคมท่ีมีเสรีภาพและมีความปลอดภัย น้นั กจ็ ะส่งผลดีต่อการพัฒนาโดยรวม สถาบนั เพื่อการยตุ ิธรรมแหง่ ประเทศไทย 77
โดยปจั เจกจะสามารถวางใจไดว้ า่ รฐั มากเกนิ นน้ั ไมเ่ ออื้ ตอ่ การเกดิ ความคดิ สรา้ งสรรค์จะไม่สามารถใชอ้ �ำนาจเกนิ ขอบเขต ซึ่งแนวคิดดังกล่าวนอกจากจะเป็นอันตรายและตามอ�ำเภอใจได้ ซง่ึ สังคมท่มี ี ต่อกระบวนการตัดสินใจท่ีเป็นประชาธิปไตยเสรภี าพและมีความปลอดภยั นัน้ ก็ (democratic decision making) แล้ว ยงั จะเปน็จะสง่ ผลดตี ่อการพัฒนาโดยรวม ตัวขัดขวางบทบาทของกฎหมายในการช่วย ส่งเสริมการพฒั นา”นอกจากหลักนิติธรรมจะมีไว้เพื่อจ�ำกัดขอบเขตการใช้อ�ำนาจรัฐแล้ว หลักนิติธรรมยังเป็นกลไก หลกั นติ ธิ รรม : ทางเลอื กในการเพ่ิมส�ำคัญในการก�ำกับภาคเอกชนด้วย เนื่องจาก อำ� นาจประชาชนอันตรายต่อเสรีภาพของปัจเจกนั้นเกิดจากการใช้ ถงึ แมว้ า่ หลกั นติ ธิ รรมจะมคี วามทา้ ทาย อยา่ งไรกด็ ีอ�ำนาจตามอ�ำเภอใจของเอกชน ซ่ึงตามทฤษฎี กฎหมายและหลกั นติ ธิ รรมยอ่ มเปน็ กลไกส�ำคญั ในการเมืองของจอห์น ล็อก นั้นเสนอว่า ปัจจัยที่ การขบั เคลอ่ื นการพฒั นาทย่ี ง่ั ยนื ดร.เดวดิ เคนเนดีผลักดันให้ปัจเจกรวมตัวกันเป็นสังคมการเมือง ผอู้ �ำนวยการสถาบนั กฎหมายและนโยบายระดบั โลกและสร้างหลักนิติธรรมคือความต้องการก�ำจัด มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Institute for Global Lawความรนุ แรงจากเอกชน โดยการใหอ้ �ำนาจกบั รฐั ใน and Policy, Harvard Law School) ไดเ้ น้นยำ�้ ถงึการบญั ญตั แิ ละบงั คบั ใชก้ ฎหมาย หลกั นติ ธิ รรมจะ ความเป็นหุ้นส่วนกันระหว่างกฎหมายและการชว่ ยปกปอ้ งปจั เจกจากความรนุ แรงดงั กลา่ วได้ โดย พัฒนา และหลักนิติธรรมในฐานะการเป็นกุญแจสง่ เสรมิ ใหป้ จั เจกทกุ คนสามารถเขา้ ถงึ กระบวนการ ของการสร้างทางเลือกให้กับประชาชน เพื่อตอบยุตธิ รรม โจทยข์ องแต่ละสงั คมท่ีแตกต่างกันออกไปอย่างไรก็ตาม ศาสตราจารย์เอดัวร์โด เอ็ม. ส�ำหรบั การเสรมิ สรา้ งหลกั นติ ธิ รรม ดร.เดวดิ เคนเนดีเปญาลแวร์ มองว่า หลักนิติธรรมไม่ใช่เร่ืองง่าย เห็นว่า หลักนิติธรรมไม่ได้มีรูปแบบเดียวหรือเป็นส�ำหรับทุกประเทศ การแตกขั้วทางการเมือง การ รูปแบบท่ีตายตัว แต่ละสังคมก็ต้องการสถาบันข้ึนมามอี �ำนาจโดยอาศยั ประชานิยม ลว้ นแต่บ่อน กฎหมายและวัฒนธรรมการบังคับใช้กฎหมายที่ท�ำลายหลกั นติ ธิ รรมทงั้ ในสหรฐั อเมรกิ าและทว่ั โลก แตกตา่ งกนั เพอ่ื ตอบโจทยก์ ารพฒั นาทแ่ี ตกตา่ งกนั“ความเชื่อมโยงระหว่างหลักนิติธรรมและการพฒั นานน้ั ถกู ตง้ั คำ� ถามโดยบางแนวคดิ มองวา่ “ปัญหาหน่ึงที่เราพบทั่วไปในประเทศรายได้กฎหมายกบั การพฒั นาเปน็ ปรปกั ษก์ นั เนอื่ งจาก ปานกลางคือ การใช้หลักกฎหมายที่เด็ดขาดกฎหมายขัดขวางการพัฒนาและการด�ำเนิน เพื่อตอบสนองเป้าหมายทางการเมืองและกจิ กรรมทางเศรษฐกจิ รวมทงั้ กฎเกณฑท์ เ่ี ขม้ งวด เศรษฐกจิ ซงึ่ มกั ไมเ่ ปน็ ประโยชนต์ อ่ การพฒั นา ในระยะยาว เนื่องจากหลักกฎหมายจะเป็น78 TIJ Journal ผลดีต่อการพัฒนาต่อเม่ือมันเอื้อให้สังคม สามารถที่จะยืดหยุ่นเพ่ือตอบสนองต่อความ เปลย่ี นแปลง” นอกจากนี้ เพื่อขับเคล่ือนเป้าหมายดังกล่าวไปสู่ การปฏิบัติ จ�ำเป็นอย่างย่ิงที่ต้องมีสถาบันท่ีมี
ประสทิ ธภิ าพ โปรง่ ใส และรบั ผดิ ชอบตอ่ สาธารณะ ดร.เดวิด เคนเนดี หลกั นติ ธิ รรม : กลไกขบั เคลอื่ นไทยรวมท้งั การมสี ่วนรว่ มจากทุกภาคส่วน ผอู้ ำ� นวยการสถาบนั สู่เป้าหมายทยี่ ั่งยนืในท�ำนองเดยี วกนั ศาสตราจารยเ์ อดวั รโ์ ด เอม็ . กฎหมายและ จากการประชมุ เวทสี าธารณะวา่ ดว้ ยหลกั นติ ธิ รรมเปญาลแวร์ ได้เน้นย�้ำถึงการมีส่วนร่วมจากทุก นโยบายระดบั โลก และการพฒั นาท่ียงั่ ยืน “การส่งเสรมิ หลกั นิติธรรมภาคสว่ นอยา่ งตอ่ เนอื่ งในการผลกั ดนั และเสรมิ สรา้ ง มหาวทิ ยาลัย อย่างบูรณาการเพ่ือขับเคลื่อนวาระการพัฒนาหลักนิติธรรม โดยเฉพาะอย่างย่ิงในสภาวะที่หลัก ฮารว์ าร์ด สหรัฐ ที่ย่ังยืน ค.ศ. 2030” โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯนติ ธิ รรมก�ำลงั ถกู คกุ คาม การมสี ว่ นรว่ มของทกุ คน อเมริกา เมอ่ื วนั พธุ ที่ 11 มกราคม 2560 มขี อ้ เสนอ 4 ประการในสังคมจากวิชาชีพต่างๆ รวมท้ังผู้ประกอบการ ท่ีเชื่อว่าจะท�ำให้หลักนิติธรรมสามารถสร้างกลไกภาคธรุ กจิ เอกชน และโดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ การปฏบิ ตั ิ ขับเคลื่อนแผนงานเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนางานของผมู้ วี ชิ าชพี ทางกฎหมาย ยอ่ มสง่ ผลโดยตรง ที่ย่ังยืนในประเทศไทย ให้สามารถปรากฏผลในตอ่ การสง่ เสรมิ หลกั นติ ธิ รรมในสงั คมและยอ่ มน�ำไป ทางปฏบิ ตั ิ ไดแ้ ก่สคู่ วามเจรญิ ทางเศรษฐกจิ สงั คมทมี่ คี วามเทา่ เทยี มมีการรักษาสิ่งแวดล้อม ตลอดจนบรรลุเป้าหมาย 1. การสรา้ งเสรมิ วฒั นธรรมการเคารพกฎหมายอืน่ ๆ ที่สังคมตง้ั ไว้ (Culture of Lawfulness) เม่ือพูดถึงประเด็นหลักนิติธรรมและการพัฒนา สถาบนั เพื่อการยุติธรรมแหง่ ประเทศไทย 79
อยา่ งยงั่ ยนื นน้ั คนสว่ นใหญม่ กั ฝากความหวงั ไวก้ บั การท่ีคนในสงั คมจะต้องเคารพรัฐท่ีเข้มแข็งและมีการบริหารจัดการอย่างเป็น กฎหมายและตระหนักว่าจิตส�ำนกึระบบ เพอ่ื ทจ่ี ะด�ำเนนิ งานใหบ้ รรลเุ ปา้ หมาย แตใ่ น ในการเคารพกฎหมายนัน้ เปน็ ความมุมมองของ รพี สุจริตกุล เลขาธิการส�ำนักงาน รบั ผดิ ชอบร่วมกนั และจะนำ� ไปสู่คณะกรรมการก�ำกบั หลกั ทรพั ย์ เหน็ วา่ แทจ้ รงิ แลว้ สังคมท่มี ีความเจรญิ ซึ่งถอื เปน็การที่สังคมใดสังคมหนึ่งจะพัฒนาอย่างยั่งยืนนั้น องคป์ ระกอบท่สี �ำคญั ท่ีสุดยอ่ มประกอบไปด้วยองคป์ ระกอบ 3 ประการ• ประการแรก สงั คมนน้ั ๆ จะตอ้ งมกี ลไกพนื้ ฐาน เวทกี ารประชุมทีช่ ้ี ส�ำหรับประเทศไทย ตัวอย่างท่ีเป็นรูปธรรมหลาย ให้เหน็ ประเด็นของ ประเดน็ ทส่ี ามารถแสดงใหเ้ หน็ ถงึ ความส�ำคญั ของ ทางกฎหมายหรอื legal infrastructure ทเี่ อ้อื การเชอ่ื มโยง การทค่ี นในสงั คมมจี ติ ส�ำนกึ ในการเคารพกฎหมาย ต่อการพฒั นาอย่างยัง่ ยืน ระหวา่ ง “หลัก เช่น ประเด็นอุบัติเหตุบนท้องถนน โดยเฉพาะใน• ประการที่สอง จะต้องมีการบริหารจัดการใน นิตธิ รรม” และ ช่วงวันเทศกาล ซ่ึงเห็นได้ว่าถึงแม้ประเทศไทยจะ ภาครฐั ทมี่ ปี ระสทิ ธิภาพและมธี รรมาภิบาล “การพัฒนาทย่ี ง่ั ยนื ” มีกฎหมายจราจรและกฎหมายอ่ืนๆ ที่เก่ียวข้อง• ประการทส่ี าม การทคี่ นในสงั คมจะตอ้ งเคารพ พร้อมกับมีต�ำรวจจราจรผู้รักษากฎหมายอยู่ใน กฎหมายและตระหนักว่าจิตส�ำนึกในการ ทกุ จดุ แตก่ ไ็ มส่ ามารถแกไ้ ขปญั หาอบุ ตั เิ หตไุ ดห้ าก เคารพกฎหมายนน้ั เปน็ ความรบั ผดิ ชอบรว่ มกนั คนในสังคมยังไม่มีจิตส�ำนึก และไม่ตระหนักถึง และจะน�ำไปสู่สงั คมทีม่ คี วามเจริญ ซึง่ ถือเปน็ ความส�ำคัญของการเคารพกฎจราจร องคป์ ระกอบท่ีส�ำคญั ทส่ี ดุ80 TIJ Journal
สถาบันเพื่อการยตุ ธิ รรมแหง่ ประเทศไทย 81
การแก้ปญั หาทจุ ริตคอร์รัปชันก็เชน่ กนั หลายฝา่ ย และมีความส�ำคัญต่อเป้าหมายข้ออ่ืนๆ ไม่ว่าจะมองว่าการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันเป็นหน้าที่ของ เปน็ ความเทา่ เทยี วกนั ทางเพศ การลดความยากจนหนว่ ยงานภาครฐั ทที่ �ำหนา้ ทด่ี แู ลตรวจสอบ แตก่ ลบั การรกั ษาสภาพแวดล้อมลืมนึกไปว่าเราทุกคนต่างก็มีส่วนร่วมในการแก้ไข หลักนิติธรรมน้ันเป็นกุญแจส�ำคัญในการพัฒนาปัญหาการทุจริตได้ โดยเร่ิมจากการไม่ให้สินบน สังคมท่ีย่ังยืนและสร้างสังคมที่ครอบคลุม ดังนั้นเจ้าพนักงานและด�ำเนินการร้องเรียนหากพบเห็น หลกั นติ ธิ รรมจงึ เปน็ ทัง้ เป้าหมายและวธิ กี ารการกระท�ำอนั มลี ักษณะเปน็ การทุจริตอกี ตวั อยา่ งหนงึ่ ทส่ี ามารถยกใหเ้ หน็ ถงึ ความส�ำคญั การมที รพั ยากร “การมที รพั ยากรธรรมชาตนิ นั้ ไมไ่ ดร้ บั ประกนั วา่ จะของจติ ส�ำนกึ ของคนในสงั คมไดแ้ ก่ปญั หาสงิ่ แวดลอ้ ม ธรรมชาตินน้ั ไมไ่ ด้ น�ำไปสู่ความกินดีอยู่ดีหรือการสร้างงานให้กับโดยปัญหาดังกล่าวหลายคนอาจมองว่าเกิดจาก รบั ประกันว่าจะน�ำไป ประชาชนเสมอไป เนอ่ื งจากในหลายคร้งั โครงการการขาดความรบั ผดิ ชอบและหวงั ผลก�ำไรจากภาค สู่การกินดีอย่ดู ี พัฒนานั้นมักจะกดี กนั ประชาชนออกไปจากการมีธุรกิจเพียงอย่างเดียว แต่ลืมนึกไปว่าผู้บรโิ ภคกม็ ี ให้กบั ประชาชน ส่วนร่วม ไม่มีพื้นที่ให้มีการถกเถียงถึงผลกระทบสว่ นส�ำคญั ทท่ี �ำใหเ้ กดิ ปญั หาสงิ่ แวดลอ้ ม เชน่ หลาย หลายครงั้ การพัฒนา จากโครงการพฒั นาทีจ่ ะมีต่อชุมชน หรอื บางกรณีคนยังมีพฤตกิ รรมรกั ความสะดวกสบาย เชน่ ตอ้ ง กดี กนั ประชาชนออก มกี ารขับไลค่ นในพ้นื ท่อี อกไป”อยใู่ นหอ้ งปรบั อากาศตลอดเวลา หรอื หากผบู้ รโิ ภค ไปจากการมสี ว่ นรว่ มยังเลือกท่ีจะบริโภคผลิตภัณฑ์ราคาถูกแต่เกิด หลกั นติ ธิ รรมจงึ จะเปน็ สว่ นส�ำคญั ในการสรา้ งพน้ื ท่ีมาจากกรรมวธิ ีการผลิตทตี่ ัดไมท้ �ำลายป่า ปัญหา การมสี ว่ นรว่ มของประชาชน การเจรจาตอ่ รองจากส่ิงแวดล้อมกไ็ มส่ ามารถหมดไปได้ คนในพื้นท่ีและการประเมินผลกระทบจากการตวั อยา่ งเหล่านีแ้ สดงให้เหน็ ว่า “หลายคร้งั ที่สงั คม พฒั นา ทง้ั หมดนเี้ พอื่ ใหก้ ารใชท้ รพั ยากรนนั้ เปน็ ไปเกิดปัญหา คนในสังคมมักพยายามจะชี้ว่าเป็น เพือ่ การพัฒนาของสังคมโดยรวมอยา่ งแทจ้ รงิหน้าท่ีของฝ่ายต่างๆ ท่ีจะต้องเข้ามาแก้ไข หลายคนคดิ วา่ กลไกภาครฐั เปน็ เครอ่ื งมอื ทจ่ี �ำเปน็ แตค่ น ในมุมของเขา ความท้าทายในการขับเคล่ือนหลักมักไม่ตระหนักว่าจิตส�ำนึกในการเคารพกฎหมาย นิติธรรมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่ทุกคนต้องของคนในสังคมน้ันเองต่างหากเป็นเคร่ืองมือที่ ชว่ ยกนั คดิ ตอ่ ไปนน้ั มอี ยดู่ ว้ ยกนั 3 ประการ ประการส�ำคัญท่ีสุดในการน�ำสังคมให้บรรลุการพัฒนา แรกคอื การสรา้ งวฒั นธรรมของการเคารพกฎหมายอย่างยง่ั ยืน” ประการทสี่ อง คอื การทท่ี �ำใหท้ กุ ภาคสว่ นมสี ว่ นรว่ ม2. การขับเคลอ่ื นหลักนติ ธิ รรมเพ่ือการพัฒนา ในการขับเคล่ือน ประการสุดท้ายคือการชี้วัดทยี่ ั่งยืน ความส�ำเร็จ จะชี้วดั อยา่ งไร อะไรท่จี ะเปน็ เกณฑ์ท่ีนโิ คลสั บธู ทป่ี รกึ ษาดา้ นการปอ้ งกนั ความขดั แยง้ ใช้รว่ มกันในประเทศการเขา้ ถงึ กระบวนการยตุ ธิ รรมและสทิ ธมิ นษุ ยชนประจ�ำส�ำนักงานภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกของ 3. การขบั เคลอ่ื นหลกั นติ ธิ รรมอยา่ งบรู ณาการโครงการพฒั นาแหง่ สหประชาชาติ กลา่ ววา่ ถงึ แม้ และสร้างการมีส่วนร่วมวา่ หลกั นติ ธิ รรมจะถกู บรรจอุ ยใู่ นเพยี งขอ้ 16.3 แต่ ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.กิตติพงษ์ กิตยารักษ์ก็ย่อมมีความส�ำคัญและย่อมมีความเช่ือมโยง ผู้อ�ำนวยการสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศ ไทย กล่าวว่า หลักนิติธรรมมีความเช่ือมโยงกับ การพฒั นาในหลายมติ ิ หลกั นติ ธิ รรมไดถ้ กู หยบิ ยก82 TIJ Journal
นโิ คลัส บูธ ทีป่ รกึ ษาดา้ นการ ป้องกันความขัดแย้ง การเขา้ ถงึ กระบวนการ ยตุ ิธรรมและสิทธิ มนษุ ยชน ประจ�ำ ส�ำนักงานภูมิภาค เอเชยี และแปซิฟกิ ของโครงการ พัฒนาแหง่ สหประชาชาติหลักนิตธิ รรมมคี วามเช่อื มโยงกบั ข้ึนมาพูดมากข้ึนในเวทีระหว่างประเทศในช่วงท่ีการพัฒนาในหลายมิติ หลกั นติ ิธรรม เป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษก�ำลังจะจบลงได้ถูกหยบิ ยกขึ้นมาพูดมากขึ้นในเวที โดยนานาประเทศไดต้ ระหนกั วา่ เหตผุ ลทเ่ี ปา้ หมายระหว่างประเทศในช่วงท่เี ปา้ หมาย การพฒั นาแหง่ สหสั วรรรษจ�ำนวนหนงึ่ ยงั ไมป่ ระสบการพัฒนาแหง่ สหัสวรรษกำ� ลงั จะ ความส�ำเร็จนั้นเพราะหลักนิติธรรมไม่ได้บรรจุจบลง โดยนานาประเทศไดต้ ระหนักว่า อยู่ในเป้าหมายการพัฒนาดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นเหตผุ ลท่ีเป้าหมายการพัฒนาแหง่ ประเด็นการมีกฎหมายท่ีดี หรือการมีสถาบันและสหัสวรรรษจำ� นวนหนงึ่ ยังไมป่ ระสบ การบรหิ ารจดั การในการบงั คบั ใชก้ ฎหมายเพอื่ เออื้ความสำ� เร็จน้นั เพราะหลกั นิติธรรม ประโยชน์ต่อทุกคนในสังคม การมีกระบวนการไมไ่ ด้บรรจอุ ยูใ่ นเป้าหมายการพัฒนา ยุติธรรมท่ีดีท่ีสามารถระงับข้อพิพาทในสังคมและ สามารถป้องกันอาชญากรรมได้ กฎหมายท่ีมี เน้ือหาท่ีส่งเสริมหลักนิติธรรมก็จะท�ำให้สังคมมี รากฐานทมี่ นั่ คง ในขณะเดยี วกนั การทอ่ี งคก์ รหนง่ึ องค์กรใดมีอ�ำนาจมากเกินไปก็ย่อมไม่มีความ สมดุล นอกจากนั้นยังมีเร่ืองของการใช้กฎหมาย เพอ่ื ปอ้ งกนั และปรามปรามการทจุ รติ และประพฤติ มชิ อบ ซง่ึ ทง้ั หมดนแ้ี สดงใหเ้ หน็ ถงึ ความส�ำคญั ของ หลักนติ ิธรรมต่อการพัฒนาท้งั ส้ิน สถาบนั เพื่อการยตุ ธิ รรมแห่งประเทศไทย 83
ท้ังน้ี หลักนิติธรรมสามารถแบ่งออกเป็น 3 กฎหมายท่มี เี น้อื หาท่สี ่งเสรมิประการ หลักนติ ธิ รรมกจ็ ะทำ� ให้สังคมมี• ประการแรก แบบ minimalist หมายถึงการ รากฐานท่มี ัน่ คง ในขณะเดยี วกนั การท่อี งค์กรหน่งึ องคก์ รใด ใช้บังคับกฎหมายโดยเคร่งครัดต่อทุกคน โดย มีอ�ำนาจมากเกินไปก็ย่อมไมม่ ี ไม่ต้องค�ำนึงถึงเนื้อหาของกฎหมาย ในขณะ ความสมดลุ นอกจากนัน้ เดียวกันหลายคนบอกว่านี่คือ rule by law ยงั มีเร่อื งของการใช้กฎหมาย ไมใ่ ช่ rule of law เพ่ือปอ้ งกันและปรามปรามการ• ประการทส่ี อง แบบ mid-range หรอื แบบทาง ทุจรติ และประพฤติมชิ อบ สายกลาง หมายถงึ นอกจากจะมกี ารบงั คับใช้ ซงึ่ ทั้งหมดน้แี สดงให้เห็นถึง กฎหมายอย่างเคร่งครัดแล้ว เนื้อหาของ ความส�ำคัญของหลักนิตธิ รรม กฎหมายยังต้องเป็นประโยชน์ต่อคนในสังคม ต่อการพัฒนาทัง้ สิ้น ทกุ ภาคส่วนดว้ ย• ประการที่สามคือแบบ maximalist ความ ประสิทธิภาพจ�ำเป็นอย่างย่ิงท่ีจะต้องวัดความ หมายของหลักนิติธรรมน้ันอาจรวมถึงการที่ ก้าวหน้าและความส�ำเร็จได้ ในปี 2559 หนว่ ยงาน รัฐต้องให้สวัสดิการต่อคนในสังคมด้วย โดย ระดบั โลก World Justice Project องคก์ ารระหวา่ ง หลักนิติธรรมย่อมมีความเชื่อมโยงกับ social ประเทศในการประเมินและชี้วัดหลักนิติธรรม justice ในนัยนี้ ได้เร่ิมออกแบบเครื่องมือในการชี้วัดหลักนิติธรรม“ทผี่ า่ นมาเราคนุ้ เคยกับการปฏิรูประบบการบังคบั ขึน้ โดยท�ำการประเมนิ ใน 113 ประเทศใช้กฎหมายโดยหน่วยงานราชการ ซึ่งการปฏิรูปดังกล่าวยังคงเป็นแบบแยกส่วนโดยขาดความคิด การขับเคลื่อนหลักนิติธรรมในไทยมีความจ�ำเป็นเชิงบูรณาการ นอกจากน้ัน การปฏิรูปหน่วยงาน ในการออกแบบเคร่ืองมือชี้วัดน้ีให้สามารถน�ำมาราชการโดยหน่วยงานน้ันๆ เอง เช่น การปฏิรูป ใช้ได้เหมาะสมในบริบทของสังคมไทยเช่นกันต�ำรวจโดยต�ำรวจ การปฏิรูปอัยการโดยอัยการ เพราะกรอบคิดของเครื่องมือชี้วัดจะตอบสนองต่อหรือแม้แต่การปฏิรูปศาลโดยศาลเองน้ัน อาจไม่ ความคาดหวังและความต้องการท่ีแตกต่างกันไปประสบความส�ำเรจ็ และไมต่ อบโจทยค์ วามตอ้ งการ ในแต่ละสังคม เพื่อให้หลักนิติธรรมเป็นเรื่องท่ีของสังคม หากขาดความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเราเชื่อว่าหลักนิติธรรมไม่ได้ขับเคล่ือนโดยนักกฎหมายแต่ฝ่ายเดียว หากแต่สังคมทุกภาคส่วนย่อมต้องมีส่วนร่วม” ศาสตราจารย์พิเศษดร.กิตตพิ งษ์ กล่าว4. การพฒั นาเครอ่ื งมอื ชีว้ ดั หลักนติ ธิ รรมศาสตราจารย์พิเศษ ดร.กิตติพงษ์ กล่าวว่าการขับเคล่ือนหลักนิติธรรมเป็นไปได้อย่างมี84 TIJ Journal
จับต้องได้ และสามารถเข้าใจสถานะและความ ศาสตราจารย์พิเศษ ดงั นนั้ ตวั ชว้ี ดั การท�ำงานของกระบวนการยตุ ธิ รรมคืบหน้าของประเทศไทยในการท�ำงานด้านหลัก ดร.กติ ตพิ งษ์ ทางอาญาที่เหมาะสมที่จะเป็นฐานส�ำคัญในการนิตธิ รรม กติ ยารักษ์ ปฏริ ปู จะตอ้ งพฒั นาจากคณุ คา่ และความคาดหวงัในเวลาที่ผ่านมา กระบวนการยุติธรรมในไทยมี ที่ประชาชนและผู้ปฏิบัติงานมีต่อกระบวนการปญั หาในดา้ นตา่ งๆ ทอี่ าจจะมลี กั ษณะเฉพาะ เชน่ ยุติธรรมระบบการรา่ งกฎหมายทอ่ี อกโดยหนว่ ยงานราชการปัญหาการบังคับใช้และการตีความของบุคลากร ในความเหน็ ของศาสตราจารยพ์ เิ ศษ ดร.กติ ตพิ งษ์ทางกฎหมายท่ีไม่ค�ำนึงถึงหลักความเป็นธรรม กิตยารักษ์ “หลักนิติธรรมจะไมส่ ามารถเกิดขนึ้ความเชื่อท่ีว่าการสร้างความเข้มแข็งให้กับ ได้หากคนยังไม่สามารถเข้าถึงกระบวนการกระบวนการยุติธรรมกระท�ำได้ด้วยการเพ่ิมโทษ ยตุ ธิ รรมทไี่ มใ่ ชแ่ คท่ างอาญาแตย่ งั รวมถงึ ทางเป็นหลัก รวมถึงการท่ีหน่วยงานรวมที่เก่ียวข้อง แพ่งและสิทธิข้ันพ้ืนฐานต่างๆ ดังน้ัน การและผู้ปฏิบัติงานในกระบวนการยุติธรรมยังขาด ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมทางอาญาไม่ใช่การมองแบบบูรณาการ เนื่องจากมักจะมองแยก เพียงการปฏิรูปท่ีตัวกฎหมาย แต่หมายความปญั หาเป็นสว่ นๆ โดยไมไ่ ด้ตระหนกั ว่าปญั หาของ รวมถึงกระบวนการพิจารณาและการเข้าถึงแตล่ ะหนว่ ยงานนน้ั มคี วามเชอ่ื มโยงกนั และตอ้ งการ กระบวนการยุติธรรมดว้ ย”การปฏริ ปู แบบครอบคลุม สถาบนั เพื่อการยุติธรรมแหง่ ประเทศไทย 85
→ BRIEFINGGoal 16:The Rule of Lawfor the Goals เป้าหมายท่ี 16 สง่ เสรมิ สงั คมท่ี สงบสขุ และทกุ คนรว่ มเปน็ สว่ นหนงึ่ ของสงั คมเดียวกันเพ่ือการ พัฒนาท่ียง่ั ยนื ใหท้ กุ คนเข้าถงึ กระบวนการยตุ ธิ รรม และสรา้ ง สถาบนั ท่มี ีประสทิ ธิภาพ มีความ รับผิดชอบ และดูแลสมาชกิ กลมุ่ ต่างๆ ในสังคมได้อย่างทว่ั ถึง เป้าประสงค์ท่ี เป้าหมายนี้ท�ำหน้าท่ีเสมือนด้ายทองที่คล้อง เป้าหมายการพัฒนาที่ย่ังยืนท้ัง 17 เป้าหมาย 16.1 เนื่องจากเป้าหมายที่ 16 ผสมผสานระหว่าง หลกั นติ ธิ รรม สทิ ธมิ นษุ ยชน และประชาธปิ ไตย ซง่ึ เป้าประสงคท์ ี่ ถอื เปน็ องคป์ ระกอบพนื้ ฐานในการบรรลเุ ปา้ หมาย การพัฒนาที่ยั่งยืนในภาพรวม โดยมีเป้าประสงค์ 16.2 ย่อยดังน้ี ลดความรนุ แรงทกุ รปู แบบและอตั ราการเสยี ชวี ติ ท่ี เป้าประสงค์ท่ี เกย่ี วข้องในทุกพ้ืนที่ ยุติการกระท�ำทารุณ การแสวงหาประโยชน์อย่าง 16.3 ไมถ่ กู ตอ้ ง การคา้ มนษุ ย์ การใช้ความรนุ แรง และ การทรมานเดก็ ในทุกรูปแบบ ส่งเสริมหลักนิติธรรม ท้ังในระดับชาติระหว่าง ประเทศ รวมถงึ การสรา้ งหลักประกนั ในการเขา้ ถึง ความยตุ ิธรรมอย่างเทา่ เทียมของทุกคน86 TIJ Journal
เป้าประสงค์ที่ ภายใน พ.ศ. 2573 ลดการลกั ลอบเคลอ่ื นยา้ ยอาวธุ และเงิน เสรมิ สรา้ งความเข้มแข็งของกระบวนการ16.4 ติดตามและการส่งคนื สินทรพั ย์ทีถ่ ูกขโมยไป และ ตอ่ ตา้ นการด�ำเนนิ งานของอาชญากรรมทกุ รปู แบบเป้าประสงค์ท่ี ลดการทุจริตและการติดสนิ บนทุกรปู แบบ16.5 พฒั นาสถาบนั ทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพ มคี วามรบั ผดิ ชอบ และโปร่งใสในทกุ ระดบัเป้าประสงคท์ ี่ สร้างหลักประกันว่าจะมีกระบวนการตัดสินใจท่ีมี ความครอบคลุม มีส่วนร่วม ตอบสนองต่อความ16.6 ต้องการและการเป็นตัวแทนของสังคมได้ในทุก ระดบัเป้าประสงคท์ ี่ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประเทศที่ก�ำลังพัฒนา ในกิจกรรมของสถาบันระดับโลกที่ส่งเสริมหลัก16.7 ธรรมาภบิ าล เป้าประสงค์ที่ ภายในปีพ.ศ.2573ใหท้ กุ คนมเี อกสารทางกฎหมาย ส�ำหรับระบุตวั ตน รวมถึงการจดทะเบยี นเกิด16.8 ดแู ลใหป้ ระชาชนเขา้ ถงึ ขอ้ มลู และปกปอ้ งเสรภี าพ ขนั้ พน้ื ฐานตามรฐั ธรรมนญู ของแตล่ ะประเทศและเป้าประสงค์ท่ี ขอ้ ตกลงระหว่างประเทศ สรา้ งขดี ความสามารถในทกุ ระดบั โดยเฉพาะอยา่ ง16.9 ยง่ิ ในประเทศก�ำลงั พฒั นา เพอื่ ปอ้ งกนั ความรนุ แรง และตอ่ ส้กู บั การก่อการร้ายและความรนุ แรง ดว้ ยเป้าประสงค์ที่ การสร้างความเข้มแข็งให้กับสถาบันระดับชาติที่ เกยี่ วขอ้ งรวมทง้ั ผา่ นความรว่ มมอื ระหวา่ งประเทศ16.10 ส่งเสริมและบังคับใช้กฎหมายและนโยบายท่ีไม่ เลือกปฏบิ ตั ิเพ่อื การพัฒนาอยา่ งยั่งยืนเป้าประสงคท์ ่ี16.Aเป้าประสงคท์ ่ี16.B สถาบนั เพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย 87
03การปฏริ ูประบบยตุ ธิ รรมทางอาญาในบริบทการพัฒนาท่ยี ั่งยืน
กระบวนการยุตธิ รรมวัดความ สถานการณ์กระบวนการยุติธรรมเขม้ แขง็ หลักนติ ิธรรม ไทยกับความท้าทายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม เป็นปัจจัย กระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยให้ความส�ำคญั ของหลกั นติ ธิ รรม หากกฎหมายและกระบวน ส�ำคญั กบั กระบวนการยตุ ธิ รรมทางอาญาเปน็ หลกัการยตุ ธิ รรมออ่ นแอ การพฒั นาสงั คมหรอื ประเทศ ดว้ ยมคี วามเชอื่ วา่ ประชาชนจะเกรงกลวั บทลงโทษย่อมไม่ส�ำเร็จ หรือหากคนในสังคมไม่เช่ือม่ันใน และสามารถปอ้ งกนั อาชญากรรมได้ทวา่ กลบั กอ่ ให้กระบวนการยุติธรรม สันติภาพก็จะไม่เกิดขึ้นใน เกดิ ผลกระทบหลายดา้ น กลา่ วคอื ภาครฐั ตอ้ งแบกสังคม รับค่าใช้จ่ายและใช้ทรัพยากรบุคคลในการด�ำเนิน คดีทางอาญาอย่างมหาศาล ในขณะท่กี ารลงโทษกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม จ�ำเป็นต้องมีการ จ�ำคุกยงั ไดน้ �ำไปสู่การเกิดปัญหานกั โทษล้นคกุพัฒนา กระบวนการซึ่งเกี่ยวข้องกับอ�ำนาจหรือเจา้ หนา้ ทข่ี องรฐั เชน่ กระบวนการทใี่ หอ้ �ำนาจมาก ทงั้ นี้ ประเทศไทยตดิ อนั ดบั 2 รองจากสหรฐั อเมรกิ าอย่างต�ำรวจ ตลอดจนกระบวนการยุติธรรม ในฐานะประเทศทใี่ ชง้ บประมาณดา้ นกระบวนการผพู้ พิ ากษา อยั การ จ�ำเปน็ ตอ้ งมกี ารปรบั ปรงุ ปฏริ ปู ยตุ ธิ รรมทางอาญาสงู เมอ่ื วัดจากคา่ ใชจ้ า่ ยทภ่ี าคให้สอดคล้องกับยุคสมัยอยู่เสมอและสร้างความ รัฐใช้งบประมาณไปเพ่ือกระบวนการยุติธรรมทางสมดลุ ให้ไดก้ บั ผทู้ ่มี ีส่วนได้สว่ นเสียในสังคม อาญากับรายได้ประชาชาติ (Gross Domestic Product : GDP) แล้ว และไทยมีแนวโน้มอยู่ใน ไทยตดิ อันดับต้น เมื่อพิจารณาข้อมูลอื่นประกอบ เช่น อันดบั 2 ประเทศท่ี จ�ำนวนบคุ ลากรในกระบวนการทางอาญา จ�ำนวน ใชง้ บประมาณดา้ น ผตู้ ้องขงั ทงั้ หมด กระบวนการ ยุตธิ รรมทางอาญา สูงทีส่ ุดในโลกรอง จากสหรัฐอเมริกา ลำ� ดับ ล�ำดบั 1ที่ สหรฐั 2ท่ี อเมริกา ไทย90 TIJ Journal
→ QUOTE การท่กี ระบวนการยตุ ิธรรมของไทยให้ ความส�ำคัญกับกระบวนการยตุ ิธรรม ทางอาญาเป็นหลัก สง่ ผลใหป้ จั จบุ ัน ไทยประสบกบั ปญั หา ‘นกั โทษล้นคุก’ โดยในปี ค.ศ. 2016 อตั รานักโทษมีสูง ถงึ 145% และแต่ละปจี ำ� นวนนกั โทษใน ประเทศไทยมีแนวโนม้ สงู ขึ้น ขณะท่ี ประสทิ ธภิ าพและทรพั ยากรของรัฐ มีอยู่จำ� กัดและหากยง่ิ นำ� มาใชก้ ับ กระบวนการยตุ ธิ รรมทางอาญามาก ก็จะมีงบประมาณพัฒนาดา้ นอ่นื น้อยลง การแกไ้ ขหรอื บรรเทาปญั หาเหลา่ น้ี จงึ เปน็ เร่อื งเรง่ ด่วน ดร.สมเกียรติ ต้งั กจิ วานิชย์ ประธานสถาบันวิจยั เพ่ือการพัฒนาประเทศไทย (ทดี อี ารไ์ อ)สถาบันเพื่อการยตุ ิธรรมแหง่ ประเทศไทย 91
สิ่งท่ีสังคมไทยควรตระหนักและควรมีการศึกษา การท่ีกระบวนการ ตามสภาวะเงินเฟ้อและสภาวะทางเศรษฐกิจมากขึ้น คือ ปัจจัยท่ีเป็นต้นตอของปัญหานักโทษ ยตุ ิธรรมของไทย คา่ ปรบั ทเ่ี คยสงู ในสมยั กอ่ น กลบั กลายเปน็ จ�ำนวนลน้ คกุ การส้ินเปลืองงบประมาณ ได้แก่ ให้ความส�ำคัญกบั ท่ีไม่สูงเสียแล้วในสมัยนี้ ศาลจึงเน้นตัดสินโดยใช้สาเหตุแรก คือ การมุ่งด�ำเนินคดีอาญาใน กระบวนการ การจ�ำคุกมากกว่าการปรับ ซ่ึงเป็นสาเหตุโดยตรงกระบวนการยุติธรรมท่ียอมรับกันอย่างสากลนั้น ยตุ ธิ รรมทางอาญา ของสถานการณ์ “นกั โทษล้นคกุ ”ได้เปิดช่องให้สังคมสามารถเลือกแนวทางการ เป็นหลัก ส่งผล สาเหตุทส่ี าม คือ การฟ้องคดที างอาญาเพอ่ื ผลกัด�ำเนนิ คดตี า่ งๆ ได้ว่าจะใช้แนวทางการด�ำเนินคดี ใหเ้ กิดปัญหา ภาระค่าใช้จ่ายให้รัฐ โดยการด�ำเนินกระบวนการในทางแพ่ง ทางอาญา หรือทางปกครอง แต่ นักโทษลน้ คุก ในทางแพ่ง คู่ความจ�ำต้องเป็นผู้แบกรบั คา่ ใช้จ่ายประเทศไทยมีความเช่ือมาแต่เดิมว่าการใช้โทษ ไวเ้ อง เชน่ คา่ ธรรมเนียมศาล คา่ ทนายความ คา่ทางอาญาจะสามารถป้องกันแ ล ะ ป ร า บ ป ร า ม ก า ร เ กิ ด ด�ำเนินการโดยเฉล่ีย 6,575อาชญากรรมได้ จึงมุ่งการ บาทต่อคดี ส่วนคดีอาญา แม้ด�ำเนินคดีไปในทางอาญา แม้ ใช้งบประมาณในการด�ำเนินเป็นคดีที่คู่ความท้ังสองฝ่าย งานสูงโดยมีต้นทุนที่เกิดจากตา่ งกเ็ ปน็ ปจั เจกบคุ คล แตก่ ลบั ง บ ป ร ะ ม า ณ สู ง โ ด ย เ ฉ ลี่ ยมโี ทษทางอาญา เชน่ ความผดิ 76,600 บาทต่อคดี และใช้ฐานหม่ินประมาท ความผิด ทรัพยากรทางบุคคลมาก เช่นเกยี่ วกบั เชค็ ทกี่ ฎหมายบญั ญตั ิ เจ้าพนักงานต�ำรวจ พนักงานให้มีท้ังการชดใช้ค่าเสียหาย อัยการ ศาล และในส่วนภาคทางแพง่ และยงั มโี ทษทางอาญา บังคับคดี ได้แก่ บุคลากรในอีกดว้ ย กรมพินิจ กรมราชทัณฑ์ แต่นอกจากโทษในประมวล สามารถฟ้องคดีทางอาญาเพื่อกฎหมายอาญาแล้ว ยังมีโทษ ผลักภาระคา่ ใชจ้ ่ายใหร้ ฐัทางอาญาทบี่ ญั ญตั ไิ วใ้ นพระราชบญั ญตั อิ กี หลาย ตวั อยา่ งทเ่ี หน็ ไดช้ ดั คอื คดหี มน่ิฉบับ ในกระบวนการยุติธรรมของไทยก�ำหนดให้ ประมาท ท่ีโจทก์มักน�ำคดีไปฟ้องศาลอาญา เพื่อโจทกฟ์ อ้ งคดไี ดท้ งั้ ทางแพง่ และทางอาญา แตศ่ าล ผลกั ภาระคา่ ใชจ้ า่ ยใหร้ ฐั รฐั จงึ ตอ้ งรบั ภาระตน้ ทนุจะพิจารณาคดีอาญาเสียกอ่ นแลว้ จึงพจิ ารณาคดี อย่างมากมายมหาศาลทั้งจากการสร้างเรือนจ�ำแพง่ ดงั นนั้ เหน็ ไดว้ า่ กระบวนการยตุ ธิ รรมของไทย เพิม่ หรือการจ้างบคุ ลากรเพิม่ เตมิได้เน้นการด�ำเนินคดอี าญาเป็นหลัก สาเหตุที่ส่ี การบังคับใช้โทษจ�ำคุกที่เกินความสาเหตุท่ีสอง คือ การเลือกใช้โทษทางอาญา จ�ำเปน็ แมใ้ นความผดิ ทไ่ี มร่ า้ ยแรง ซงึ่ กอ่ ใหเ้ กดิ ผลกฎหมายก�ำหนดให้โทษทางอาญามีอยู่ด้วยกัน 5 เสียท้ังการขาดรายได้จากการท�ำงาน และเมื่อชนิด ไดแ้ ก่ ประหารชวี ิต จ�ำคุก กักขัง ปรับ และริบ นักโทษพ้นคุกออกไปกลายเป็นคนที่มีคดีติดตัวทรัพยส์ ิน แต่โทษทไ่ี ดถ้ กู น�ำมาใชบ้ อ่ ยครัง้ คอื โทษ มักจะถูกปฎิเสธไม่รับเข้าท�ำงาน เม่ือไม่สามารถจ�ำคุก ทั้งน้ีเป็นเพราะโทษปรับมิได้มีการปรบั ปรงุ ท�ำงานไดจ้ งึ มโี อกาสสงู ทจี่ ะกอ่ อาชญากรรมอกี ครง้ั และมโี อกาสทีจ่ ะตดิ คกุ ซ�ำ้ อกี ก็เปน็ ได้92 TIJ Journal
นับหนึ่งกระบวนการยุติธรรมทาง ทง้ั น้ี การพัฒนาตวั ชว้ี ดั ประสทิ ธภิ าพอาญา ของกระบวนการยุตธิ รรมทางอาญาการที่ประเทศไทยใช้ทรัพยากรทางอาญาไปอย่าง ควรอย่บู นหลกั การของแนวคิดท่วี ่ามหาศาล จึงมคี วามจ�ำเป็นอยา่ งย่ิงทจ่ี ะต้องเร่งแก้ มมุ มองของประชาชนมบี ทบาทสำ� คญัปญั หาน้ี โดยมแี นวทางดังนี้ ยิง่ ต่อการพัฒนาระบบยุติธรรม1. ปฎริ ปู กระบวนการยตุ ธิ รรม ไดแ้ ก่ การยกเลกิ เปดิ ใหป้ ระชาชนรว่ มพัฒนาตวั ชวี้ ดั ความผดิ บางฐานทมี่ โี ทษทางอาญาโดยเฉพาะ ในการประชุมเวทีสาธารณะว่าด้วยหลักนิติธรรม อย่างย่ิงความผิดท่ีไม่กระทบต่อสังคมและ และการพัฒนาท่ยี งั่ ยืนฯ ไดม้ กี ารหยบิ ยกในหลาย ส่วนรวมอยา่ งรา้ ยแรง เชน่ ความผิดฐานหมิ่น ประเดน็ ทจ่ี ะเปน็ จดุ เรมิ่ ตน้ ในการขบั เคลอื่ นทจี่ ะน�ำ ประมาทความผดิ เกย่ี วกบั เชค็ ความผดิ เกย่ี วกบั ไปสกู่ ารปฏริ ปู กระบวนยตุ ธิ รรมทางอาญา โดยระบุ ทรัพย์สินทางปัญญาที่มีการกระท�ำผิดเพียง ว่า เครื่องมือชี้วัด ประสิทธิภาพกระบวนการ เล็กน้อย การละเมิดซ่ึงทรัพย์สินทางปญั ญาที่ ยุติธรรมของไทยที่เปิดให้ประชาชนมามีส่วนร่วม มไิ ดม้ เี จตนาทจี่ ะท�ำไปเพอื่ การจ�ำหนา่ ย เป็นต้น โดยให้เหตุผลว่าเคร่ืองมือช้ีวัดท่ีมีประสิทธิภาพ จะเปน็ ฐานส�ำคัญในการปฏิรูปฯ2. เปดิ โอกาสใหม้ กี ารประนปี ระนอมยอมความ กนั มากขนึ้ อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ และสามารถ เน่ืองจากท่ีผ่านมาเครืองมือช้ีวัดในกระบวนการ ประนปี ระนอมกนั ไดใ้ นทกุ ขน้ั ตอน ทงั้ กอ่ นทจี่ ะ ยตุ ธิ รรมมขี อ้ จ�ำกดั เปน็ การชว้ี ดั เพอื่ ตอบโจทยข์ อง น�ำคดสี ชู่ นั้ ศาลหรอื แมค้ ดจี ะอยรู่ ะหวา่ งพจิ ารณา องค์กรอาศัยข้อมูลจากบุคคลหรือหน่วยงาน ในช้นั ศาลแลว้ ภายในองค์กรเพียงฝ่ายเดียว โดยไม่ได้ค�ำนึงถึง ผลประโยชน์ของประชาชนซ่ึงเป็นผู้ใช้บริการ3. นำ� โทษการบรกิ ารสงั คมมาบงั คบั ใชก้ บั โทษ ทางอาญาทไี่ มร่ า้ ยแรง ทั้งน้ี การพฒั นาตัวชวี้ ดั ประสทิ ธิภาพของกระบวน การยุติธรรมทางอาญา ควรอยู่บนหลักการของ4. การเพมิ่ โทษปรบั ไดแ้ ก่ น�ำโทษปรบั มาบงั คบั แนวคดิ ทว่ี า่ มมุ มองของประชาชนมบี ทบาทส�ำคญั ใชม้ ากขนึ้ เพม่ิ ความเปน็ ธรรมของโทษปรบั โดย ยิ่งต่อการพัฒนาระบบยุติธรรม เพราะการรับฟัง ใชร้ ะบบ Day Fine หรอื การปรบั ตามระยะเวลา ความคดิ เหน็ ของประชาชนยอ่ มท�ำใหเ้ กดิ การขยาย เทียบกับรายไดท้ ไี่ ด้รบั ต่อวนั ฐานความคิดนอกเหนือไปจากมุมมองที่ได้จาก ภายในองคก์ ร และกระบวนการรบั ฟงั ความเหน็ ของ5. ลดการจำ� คุก จ�ำคุกเฉพาะคดีท่รี ้ายแรง ส่วน ประชาชนยังท�ำให้คนเกิดความรู้สึกมีส่วนร่วมใน คดียาเสพติดก็ควรแยกระหว่างความผิดฐาน การพฒั นาระบบงานยุติธรรมอีกด้วย เปน็ ผู้เสพ และความผดิ ฐานมีไว้เพอ่ื จ�ำหนา่ ย สถาบนั เพื่อการยตุ ิธรรมแหง่ ประเทศไทย 93
แม้ปัจจุบันนานาชาติได้พัฒนาตัวชี้วัดในระดับ โดยในเบ้ืองต้นคณะวิจัยตั้งใจจะส�ำรวจความคิดสากล เพ่ือเป็นมาตรฐานท่ัวไปที่สามารถน�ำไปใช้ เหน็ จากประชาชนใหไ้ ด้ 3,300 รายในทกุ พน้ื ท่ี และเพื่อสะท้อนประสิทธิภาพของการด�ำเนินงานใน จากผเู้ ชยี่ วชาญในกระบวนการยตุ ธิ รรมอกี 550รายหน่วยงานที่เก่ียวข้องว่าเป็นไปตามเป้าหมายการพฒั นานห้ี รอื ไม่ แตต่ วั ชวี้ ดั ในระดบั สากลกไ็ มใ่ ชต่ วั ในทางปฏบิ ตั กิ ารส�ำรวจความเหน็ จากประชาชนที่ช้ีวัดที่ดีท่ีสุดในการวัดผลการด�ำเนินงานในบริบท ผ่านมา ทางคณะวิจัยได้ขอให้บุคคลที่ให้ข้อมูลของประเทศ เน่ืองจากแต่ละประเทศย่อมมีบริบท กลา่ วถึง “สิ่งทีอ่ ยากเหน็ ในกระบวนการยตุ ธิ รรม 3และเงอื่ นไขทแ่ี ตกตา่ งกนั ออกไป มมุ มองและความ ส่ิง” โดยได้รับค�ำตอบท่ีหลากหลาย เช่น ความคาดหวงั ของประชาชนตอ่ กระบวนการยตุ ธิ รรมทาง โปรง่ ใส ความสภุ าพ ความเปน็ ธรรม ท�ำงานรวดเรว็อาญาในแต่ละประเทศนั้นย่อมสามารถสะท้อน ไม่รับสินบน มีเมตตา เสยี สละ ไม่ทุจรติ ฯลฯความตอ้ งการของประชาชนใหส้ อดคลอ้ งกบั บรบิ ทของแตล่ ะพืน้ ทไ่ี ด้ดกี ว่า ดงั น้ัน การรับฟังความคดิ มมุ มองและความคาดหวังของเห็นประชาชนจึงเป็นส่วนส�ำคัญในการพัฒนา ประชาชนต่อกระบวนการยุตธิ รรมเคร่อื งชี้วดั ทจี่ ะเป็นฐานส�ำคญั ของการปฏิรูป ทางอาญาในแต่ละประเทศนั้นยอ่ มส�ำหรับประเทศไทย สถาบันเพ่ือการยุติธรรมแห่ง สามารถสะทอ้ นความต้องการของประเทศไทยและมหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ไดเ้ ปดิ ประชาชนใหส้ อดคลอ้ งกับบริบทของพนื้ ทใี่ นการสรา้ งการมสี ว่ นรว่ มโดยส�ำรวจความคดิ แต่ละพ้ืนท่ไี ดด้ ีกว่า ดังนั้นการรบั ฟงัเหน็ ของประชาชนและผปู้ ฏบิ ตั งิ านในกระบวนการ ความคิดเห็นประชาชนจึงเปน็ยุติธรรมต่อคุณค่าและความคาดหวังท่ีมีต่อ ส่วนส�ำคญักระบวนการยตุ ธิ รรมทางอาญา มีการลงพืน้ ทเ่ี พ่ือส�ำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อการท�ำงาน ข้อมูลเหล่าน้ีจะถูกน�ำมาพัฒนาเป็นกลุ่มตัวช้ีวัดของกระบวนการยุตธิ รรมทางอาญาทง้ั 4 ข้ันตอน เช่น กลุ่มตัวช้ีวัดด้านความโปร่งใส กลุ่มตัวช้ีวัดประกอบไปด้วยข้ันตอนในช้ันเจ้าพนักงานต�ำรวจ เกย่ี วกบั ความเปน็ ธรรม กลมุ่ ตวั ชว้ี ดั ดา้ นการปฏบิ ตั ิชนั้ การฟอ้ งคดหี รอื ชนั้ อยั การชน้ั ศาลและชน้ั บงั คบั คดี หน้าที่ด้วยความรวดเร็ว และกลุ่มตัวชี้วัดด้านศาสตราจารยส์ ติ าล คาลานทรี ศาสตราจารย์ พฤตกิ รรมของบคุ ลากร เปน็ ตน้ เพอื่ น�ำมาวดั ผลการคลินิกด้านกฎหมาย มหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ ด�ำเนนิ งานของต�ำรวจอยั การศาลและการบงั คบั คดีให้ข้อมูลว่า ค�ำถามท่ีน�ำมาใช้ในการส�ำรวจความคิดเห็นของประชาชนส่วนหนึ่งได้มาจากงาน การชวี้ ดั ในลกั ษณะน้ี นอกจากจะไดท้ ราบถงึ คณุ คา่คน้ ควา้ วจิ ยั ในระดบั สากล เชน่ จากงานของ World ท่ีประชาชนคาดหวังกับกระบวนการยุติธรรมแล้วJustice Project ที่ได้ให้นิยามคุณลักษณะของ ยงั สามารถสะทอ้ นใหเ้ หน็ ถงึ ชอ่ งวา่ งระหวา่ งความกระบวนการยุติธรรมที่สอดคล้องกับหลักนิติธรรม เปน็ จริงกับความคาดหวังของประชาชนได้อีกด้วยอกี สว่ นหนง่ึ ไดแ้ ก่ ค�ำถามปลายเปดิ ทเ่ี ปดิ โอกาสให้ประชาชนสามารถแสดงความเห็นถึงลักษณะกระบวนการยุติธรรมที่ดี94 TIJ Journal
การใช้ขอ้ มูลท่ไี ด้มาให้เกดิ ดงั นนั้ การทปี่ ระเทศไทยจะพฒั นาหลกั นติ ธิ รรมให้ ประโยชน์ สูงสุด วิธกี ารเกบ็ ประสบความส�ำเรจ็ นน้ั ควรเปลยี่ นการตง้ั เปา้ หมาย ขอ้ มูลท่ีมีคุณภาพ มคี วาม ของการพัฒนาให้เกิดขึ้นจากมุมมองของผู้มีส่วน เท่ียงตรงและปราศจากอคติ ไดส้ ว่ นเสยี และควรพจิ ารณาเรอ่ื งการใชท้ รพั ยากร สามารถนำ� ไปพัฒนาเพ่ือเปน็ ท่ีถูกจัดสรรไปให้กระบวนการยุติธรรมอย่างมี ตวั ช้ีวัดท่มี ีคณุ ภาพมากย่งิ ข้ึน ประสิทธิภาพ ผู้ปฏิบัติงานในการกระบวนการ ยุติธรรมควรลองใชศ้ าสตรอ์ น่ื ๆ ในการประเมนิ ผลดังน้ัน ส่ิงที่ต้องน�ำไปพิจารณาต่อไปส�ำหรับการ การท�ำงาน เช่น มองจากมุมความคุ้มค่าในเชิงพัฒนาตัวช้ีวัดประสิทธิภาพของกระบวนการ เศรษฐศาสตรห์ รอื ดา้ นสตรนี ยิ ม ฯลฯ และควรสรา้ งยุติธรรม คอื การใช้ขอ้ มลู ทไ่ี ด้มาใหเ้ กิดประโยชน์ ความนา่ เชอ่ื ถอื ใหก้ บั กระบวนการยตุ ธิ รรมทางแพง่สงู สดุ วธิ กี ารเกบ็ ขอ้ มลู ทม่ี คี ณุ ภาพมคี วามเทย่ี งตรง ทางปกครอง และกระบวนการยตุ ธิ รรมทางเลือกและปราศจากอคติ สามารถน�ำไปพัฒนาเพื่อเป็นตัวชวี้ ดั ท่ีมีคุณภาพมากยง่ิ ขน้ึ การปฏริ ปู กระบวนการยตุ ธิ รรมไมใ่ ชก่ ารปฏริ ปู ทตี่ วัการเปดิ พน้ื ทแี่ ละสรา้ งการมสี ว่ นรว่ มจากประชาชน กฎหมายเทา่ นนั้ แตร่ วมถงึ การเขา้ ถงึ กระบวนการจงึ เปน็ กา้ วแรกทสี่ �ำคญั ของโจทยก์ ารปฏริ ปู กระบวน ยุติธรรมและการท�ำงานของกระบวนการยุติธรรมยตุ ิธรรมทางอาญา ในภาพรวม ซ่ึงควรมีการประเมินและติดตามการ ท�ำงานของกระบวนการยุติธรรมด้วยสถิติและโจทย์ปฏิรปู ต้องกว้าง ตัวช้วี ัดในเวลาที่ผ่านมาการปฏิรูปไม่ประสบความส�ำเร็จทั้งท่ีประเทศไทยมีความพยายามในการปฏิรูป นอกจากนี้ ตอ้ งมกี ารสรา้ งเครอื ขา่ ยใหท้ กุ ภาคสว่ นกฎหมายและปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมมาโดย ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการขับเคล่ือนการพัฒนาท่ีตลอด สาเหตหุ ลกั เปน็ เพราะตง้ั โจทยก์ ารปฏริ ปู ใน ยง่ั ยนื และสรา้ งความตระหนกั รถู้ งึ ความส�ำคญั ของขอบเขตที่แคบเกินไปและขาดการมีส่วนร่วมของ การเคารพกฎหมายและการส่งเสริมซึ่งกันและกนัผูม้ สี ว่ นไดเ้ สยี ของหลักนติ ิธรรมกับการพฒั นา ซึ่งความกา้ วหน้า ทางเทคโนโลยีท�ำให้ประชาชนมีเคร่ืองมือในการ ส่ือสารและมีอ�ำนาจต่อรองมากขึ้น อันจะเป็น ชอ่ งทางให้ประชาชนเข้ามามีบทบาทในการร่วม ก�ำกับดูแลสถาบันท่ีเกี่ยวข้องให้มีความโปร่งใส และรับผดิ ชอบตอ่ สงั คม การสร้างหลักนิติธรรมนั้นไม่ใช่เรื่องไกลตัว หรือเป็นความรับผิดชอบของหน่วยงานใด หนว่ ยงานหนงึ่ เทา่ นนั้ แตเ่ ปน็ ความรบั ผดิ ชอบ ของทกุ คนในสงั คมทจี่ ะรว่ มสรา้ งหลกั นติ ธิ รรม ทย่ี ่ังยนื ให้เกดิ ขน้ึ ในสังคม สถาบนั เพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย 95
→ SNAP SHOTสถานการณ์ “ผตู้ ้องขัง”ในประเทศไทย THAILAND THAILAND สหรฐั จนี บราซลิ รสั เซยี อนิ เดยี THAไทILยAND THAILAND อเมรกิ า THAILAND ประเทศไทยมจี ำ� นวนผตู้ อ้ งขงั มาก… เป็นอนั ดับ 6 ของโลก THAILAND อนั ดับ 1 สหรฐั อเมรกิ า 2,121,600 คน 52% อันดบั 2 จนี 1,649,804 คน อันดับ 3 บราซลิ 682,901 คน อันดับ 4 รัสเซยี 595,728 คน อันดบั 5 อนิ เดยี 419,623 คน อนั ดับ 6 ไทย 343,657 คน ประเทศไทยมีจำ� นวน ผู้ต้องขังเป็นอันดับ 1 ของ ภูมภิ าคอาเซยี น 343,657 คน ประเทศไทยมผี ู้ตอ้ งขัง หญิงมากเปน็ อนั ดับ 1 ของ ภูมภิ าคอาเซยี น96 TIJ Journal
ทม่ี า : www.prisonstudies.org, สถาบนั เพ่ือการยตุ ธิ รรมแหง่ ประเทศไทยประเทศไทยมีผู้ตอ้ งขังเฉล่ยี 497 คน ตอ่ ประชากร 100,000 คน เป็นผู้ตอ้ งขงั คดียาเสพตดิ สว่ นใหญเ่ ป็นผูซ้ ้ือและผู้ขาย รายยอ่ ย 52%52%52% การบริหารจดั การดูแลผู้คมุ ขัง52% กรมราชทัณฑ์ใช้งบประมาณ 52% ของกระทรวงยุติธรรม โดยใชง้ บประมาณ 12,141 ล้านบาท (ขอ้ มลู ปี 2559) แตก่ ็ยังไม่เพียงพอ ในการรับมือกบั “นักโทษลน้ คุก” 52% สถาบันเพื่อการยุตธิ รรมแหง่ ประเทศไทย 97
043 มติ ขิ องหลกั นิตธิ รรมเพื่อการพัฒนา
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204