51 Annual Report 2017 I Thailand Institute of Justiceคร้งั ที่ 1 การประชุมเวทีสาธารณะวา่ ด้วยหลกั นิติธรรมและการพัฒนาทีย่ งั่ ยืน“การส่งเสริมหลักนิติธรรมอย่างบูรณาการเพอ่ื ขบั เคลอ่ื นวาระการพัฒนาท่ยี ง่ั ยนื ค.ศ. 2030”การจัดเวทีสาธารณะว่าด้วยหลกั นติ ธิ รรมและการพฒั นาทีย่ งั่ ยืน วันที่ 11 มกราคม 2560 มีเปา้ หมายเพ่ือเผยแพรห่ ลกั นติ ธิ รรมไปสู่บริบทการบริหารราชการแผน่ ดินของประเทศ เพื่อไมใ่ ห้หลกั นิติธรรมถูกจ�ำกดั ในการบรหิ ารงานยุติธรรมเพียงฝ่ายเดยี ว โดยในการประชมุ ดังกลา่ ว มกี ารปาฐกถาพเิ ศษว่าด้วยเร่อื งความส�ำคญั ของกฎหมายและหลักนิติธรรมตอ่ การพฒั นา การเสวนาเรอ่ื งการใช้หลกั นติ ธิ รรมเปน็ กลไกขบั เคลอ่ื นแผนงานเพอ่ื บรรลเุ ปา้ หมายการพฒั นาทย่ี งั่ ยนื และการเสวนาเรอื่ ง การปฏริ ปู กระบวนการยตุ ธิ รรมทางอาญาในบรบิ ทของเป้าหมายการพัฒนาทยี่ ั่งยืนในทป่ี ระชุมมกี ารกล่าวถงึ การนยิ ามของหลักนติ ิธรรมวา่ เป็นหลักในสงั คมท่ีมกี ารปกครองโดยกฎหมาย กฎหมายจะต้องเป็นใหญ่เหนือบุคคล มีกระบวนการบังคบั ใช้กฎหมายทมี่ ปี ระสิทธิภาพ โปรง่ ใส ตรวจสอบไดแ้ ละเปิดโอกาสใหค้ นเข้าถงึ และประเดน็ เนื้อหาของกฎหมายควรจะเปน็ ประโยชนต์ อ่ ทกุ คนในสงั คม โดยการเชอ่ื มโยงหลกั นติ ธิ รรมและการพฒั นา จะเปน็ กญุ แจสำ� คญั ทจ่ี ะนำ� ไปสเู่ สรภี าพและความปลอดภยั ในสงั คม เนอ่ื งจากสงั คมทม่ี หี ลกั นติ ธิ รรมจะเออ้ื ใหป้ จั เจกสามารถวางใจไดว้ า่ รฐั จะไมส่ ามารถใชอ้ ำ� นาจเกนิ ขอบเขตและตามอำ� เภอใจได้ ส่วนกลไกท่จี ะช่วยขบั เคลื่อนไทยสเู่ ปา้ หมายการพฒั นาท่ียัง่ ยืนได้ในทางปฏิบตั ิ ไดแ้ กก่ ารส่งเสริมวฒั นธรรมการเคารพกฎหมาย สง่ เสรมิ การมสี ่วนร่วมของทุกภาคสว่ นในการขบั เคลอ่ื น และการพัฒนาเครอ่ื งมือชว้ี ัดหลกั นิติธรรม ในหัวข้อเสวนาการปฏริ ปู กระบวนการยุตธิ รรมทางอาญาในบรบิ ทของเปา้ หมายการพัฒนาทยี่ ั่งยนื ได้มกี ารเสนอแนะแนวทางเพื่อปฏิรูปกระบวนการยุตธิ รรมทางอาญาในประเทศไทยวา่ ต้องมกี ารตั้งโจทย์การปฏิรปู ทีใ่ หค้ วามส�ำคญั กับผู้มสี ่วนได้สว่ นเสยี และพจิ ารณาเรอื่ งการใช้ทรพั ยากรทีถ่ ูกจดั สรรไปในกระบวนการยุตธิ รรมอย่างมีประสิทธภิ าพ ผู้ปฏิบัติงานในกระบวนการยตุ ธิ รรมได้ใช้ศาสตรอ์ ่ืน ๆ ในการประเมินผลการทำ� งาน เชน่ ความคุ้มค่าในเชิงเศรษฐศาสตร์ อันจะช่วยให้มกี ารปรบั ปรุงกระบวนการยตุ ิธรรมและการทำ� งานในภาพรวม ตลอดจนควรสง่ เสริมการมสี ว่ นรว่ มของทกุ ภาคส่วน เป็นตน้ผอู้ ภปิ รายในงาน ประกอบดว้ ย ศาสตราจารย์ เอดวั รโด เอม็ . ปาญาลแวร์ คณบดคี ณะนติ ศิ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั คอรแ์ นล สหรฐั อเมรกิ าดร.เดวดิ เคนเนด้ี ผู้อ�ำนวยการสถาบนั กฎหมายและนโยบายระดบั โลก มหาวิทยาลยั ฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกา ศาสตราจารยพ์ ิเศษดร.กติ ตพิ งษ์ กติ ยารักษ์ ผูอ้ ำ� นวยการ TIJ นายรพี สจุ ริตกลุ เลขาธกิ ารส�ำนักงานคณะกรรมการก�ำกบั หลักทรพั ย์ นายนโิ คลัส บูธทีป่ รกึ ษาดา้ นการปอ้ งกันความขัดแยง้ การเข้าถึงกระบวนการยตุ ิธรรมและสทิ ธิมนษุ ยชน ประจ�ำส�ำนกั งานภมู ภิ าคเอเชยี และแปซิฟกิของโครงการพัฒนาแหง่ สหประชาชาติ ดร.สมเกยี รติ ต้งั กิจวานชิ ย์ ประธานสถาบันวจิ ัยเพอ่ื การพัฒนาประเทศไทย ศาสตราจารย์สิตาล คาลานทรี ศาสตราจารย์คลนิ ิกดา้ นกฎหมาย มหาวทิ ยาลัยคอรแ์ นล และ ดร.พิเศษ สอาดเย็น ผู้อ�ำนวยการสำ� นกั กจิ การต่างประเทศและประสานนโยบาย สถาบันเพอ่ื การยตุ ิธรรมแห่งประเทศไทย โดยมี ดร.แมตตี้ จทุ เซน่ ผ้อู �ำนวยการสถาบนั ยโุ รปเพ่อืการปอ้ งกันและควบคุมอาชญากรรม เปน็ ผู้ด�ำเนนิ รายการ
52รายงานประจ�ำปี 2560 I สถาบนั เพอื่ การยตุ ิธรรมแหง่ ประเทศไทยคร้ังท่ี 2 การประชมุ เวทสี าธารณะว่าดว้ ยหลกั นิติธรรมและการพัฒนาทีย่ ง่ั ยืน“หลกั นิติธรรมกับการพัฒนาระหว่างประเทศ สิทธมิ นุษยชน และการพัฒนาชุมชน”การจดั เวทสี าธารณะว่าดว้ ยหลักนติ ธิ รรมและการพัฒนาที่ยง่ั ยืน วนั ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2560 TIJ ไดจ้ ัดขึ้นในโอกาสการเปิดโครงการอบรมหลักสูตรผู้บรหิ ารดา้ นหลกั นติ ิธรรมและการพฒั นา (TIJ Executive Program on the Rule of Law and Development หรอืRoLD) และเพอื่ สง่ เสรมิ หลกั นติ ธิ รรมและการพฒั นาทย่ี ง่ั ยนื สอดคลอ้ งกบั วาระ 2030 เพอื่ การพฒั นาทยี่ ง่ั ยนื ขององคก์ ารสหประชาชาติในทีป่ ระชุม พระเจา้ หลานเธอ พระองค์เจ้าพชั รกิติยาภา ไดท้ รงร่วมการประชมุ โดยถือเป็นพระภารกิจแรกในฐานะทตู สันถวไมตรีดา้ นหลกั นิติธรรมและกระบวนการยุติธรรมของสำ� นักงาน UNODC ส�ำหรับภูมิภาคเอเชยี ตะวันออกเฉยี งใต้ ไดป้ ระทานพระด�ำรัสปาฐกถาพิเศษ เร่อื งความเชื่อมโยงระหว่างหลกั นติ ธิ รรมและพฒั นาที่เขม้ แข็งและย่ังยืน ทรงยกตวั อย่างจากแนวทางการด�ำเนินโครงการในพระราชดำ� รขิ องพระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภมู พิ ลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และทรงเน้นย้�ำวา่ “หลักนิตธิ รรมน้ันไม่ไดส้ �ำคญั เฉพาะกบั นักกฎหมาย หรือใช้ในการมองบรบิ ทงาน ด้านตลุ าการหรอื กระบวนการยตุ ิธรรมเทา่ นั้น หากแตห่ ลักนติ ธิ รรมเป็นสว่ นสำ� คญั ของชีวติ ประชาชน และสง่ ผลต่อทุกคนแมจ้ ะอยูใ่ นสถานทห่ี า่ งไกล ไม่ว่าผูน้ น้ั จะเขา้ ถึงโอกาสทางเศรษฐกิจ บรกิ ารสาธารณะ หรอื มสี ถานะทางกฎหมายใด ความเชอ่ื มโยงระหวา่ งหลักนิตธิ รรมและการพฒั นามีความซับซอ้ นในหลายแนวทาง ฉะน้ันจึงเป็นเรื่องทดี่ ีทเ่ี ราจะมารว่ มท�ำความเข้าใจความส�ำคัญของความเช่ือมโยงดงั กล่าว”ผูอ้ ภปิ รายในงาน ประกอบด้วย นายลุค สตีเวน่ ส์ ผปู้ ระสานงานสหประชาชาติและผูแ้ ทน UNDP ประจ�ำประเทศไทย นายเจเรมี ดกั ลาสผแู้ ทน UNODC ประจ�ำภมู ิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้และแปซฟิ ิก นายศุภชยั พานชิ ภกั ดิ์ อดตี เลขาธกิ ารการประชมุ สหประชาชาตวิ ่าดว้ ยการค้า ศาสตราจารยก์ ติ ตคิ ุณ วิทติ มนั ตาภรณ์ ผูเ้ ชี่ยวชาญอิสระแหง่ องคก์ ารสหประชาชาติ และนายรอยล จิตรดอน ผอู้ �ำนวยการสถาบนั สารสนเทศทรพั ยากรน้�ำและการเกษตร โดยมี ศาสตราจารยพ์ เิ ศษ ดร.กติ ตพิ งษ์ กติ ยารักษ์ เป็นผ้ดู �ำเนนิ รายการ
53Annual Report 2017 I Thailand Institute of Justice หลักนิติธรรมเป็นส่วน ส�ำคัญของชีวิตประชาชน และส่งผลต่อทุกคนแม้จะ อยใู่ นสถานทห่ี า่ งไกล
54รายงานประจ�ำปี 2560 I สถาบนั เพอ่ื การยุตธิ รรมแห่งประเทศไทยครั้งที่ 3 การประชุมเวทีสาธารณะว่าดว้ ยหลักนิติธรรมและการพฒั นาท่ีย่งั ยนื“หลักนติ ธิ รรมกบั การพฒั นาอย่างยัง่ ยืนโดยศกึ ษาแนวพระราชดำ� ริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรชั กาลที่ 9”TIJ จดั ประชุมเวทีสาธารณะว่าด้วยหลกั นติ ิธรรมและการพฒั นาอยา่ งยงั่ ยืน ครง้ั ที่ 3 เม่ือวันท่ี 17 กรกฎาคม 2560 น�ำเสนอแนวคิด“หลักนติ ิธรรมกับการพฒั นาอย่างย่ังยนื โดยศึกษาแนวพระราชด�ำรขิ องพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อย่หู วั รชั กาลท่ี 9” ผ่านมุมมองของวิทยากรผู้ทรงคณุ วุฒิในสาขาต่าง ๆ และผแู้ ทนจากกลมุ่ ผู้บรหิ ารรนุ่ แรกในหลกั สตู รผูบ้ ริหารดา้ นหลักนติ ธิ รรมและการพฒั นา (TIJExecutive Program on the Rule of Law and Development หรือ RoLD)การประชุมเวทีสาธารณะในคร้งั นี้ ม่งุ สะทอ้ นความสำ� คญั ในการใช้กฎหมายเพ่อื เอ้อื อำ� นวยความยตุ ธิ รรม สร้างความเสมอภาคในสงั คม และให้เกดิ ความตระหนักว่ากฎหมายไม่ใช่เรือ่ งของนกั กฎหมายแต่ฝ่ายเดยี ว แตเ่ ป็นเรอื่ งทีท่ ุกภาคสว่ นของสงั คมตอ้ งให้ความสนใจและมีสว่ นรว่ มใหเ้ สียงสะท้อน เพอ่ื ให้สังคมไทยพัฒนาอยา่ งมน่ั คงและยง่ั ยืนตามแนวพระราชด�ำริ พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพติ รพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร ทรงมีพระปฐมบรมราชโองการในวันขนึ้ ครองราชย์ ว่า “เราจะครองแผน่ ดนิ โดยธรรม เพ่อื ประโยชน์สขุ แห่งมหาชนชาวสยาม” และในพระบรมราโชวาทตอนหนงึ่ ทพ่ี ระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พระราชทานแกผ่ ้สู อบไลไ่ ดว้ ชิ าความรชู้ ้ันเนติบณั ฑติ ในปี 2524 ท่ีวา่ “กฎหมายนน้ั ไม่ใชต่ วั ความยุตธิ รรม เป็นแต่เพียงเครื่องมืออย่างหนงึ่ สำ� หรบั ใช้ในการรกั ษาและอำ� นวยความยุติธรรมเท่าน้ัน การใช้กฎหมายจึงตอ้ งมุง่ หมายใช้เพ่ือรกั ษาความยตุ ิธรรม ไมใ่ ช่เพื่อรกั ษาตวั บทของกฎหมายเอง และการรกั ษาความยตุ ธิ รรมในแผน่ ดินก็มิได้มวี งแคบอยเู่ พยี งแค่ขอบเขตของกฎหมาย หากต้องขยายออกไปใหถ้ งึ ศีลธรรมจรรยาตลอดจนเหตแุ ละผลตามความเป็นจริงด้วย” นบั เปน็ แนวคิดที่แสดงถึงพระมหากรุณาธิคณุ และพระอัจฉริยภาพ และความเขา้ พระทัยอยา่ งลกึ ซ้งึ ในเรอื่ งหลักนติ ิธรรมการปฏิบัติพระราชกรณียกิจตลอดกวา่ 70 ปแี ห่งการครองราชย์ ไดส้ ะทอ้ นให้เหน็ วา่ พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดุลยเดช บรมนาถบพติ ร ไดท้ รงนำ� เอาแนวคิดขา้ งตน้ มาทรงปฏิบัตใิ หเ้ ป็นรปู ธรรมเป็นที่ประจักษ์ต่อปวงชนชาวไทยทกุ คนในการจดั ประชมุ เวทสี าธารณะวา่ ดว้ ยหลกั นติ ธิ รรมและการพฒั นาทย่ี ง่ั ยนื : ศกึ ษาแนวพระราชดำ� รขิ องพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั รชั กาลที่ 9มีผเู้ ชยี่ วชาญจากหน่วยงานและองค์กรชนั้ น�ำ มาร่วมแลกเปล่ียนขอ้ มูล ประกอบดว้ ย Mr. Martin Hart-Hansen, Deputy ResidentRepresentative โครงการพัฒนาแหง่ สหประชาชาติ (UNDP) ประเทศไทย Dr. Sandro Calvani, Senior Advisor on StrategicPlanning มูลนธิ ิแม่ฟา้ หลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ ศาสตราจารยพ์ ิเศษ ดร.สุรเกยี รติ์ เสถยี รไทย อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรวี า่ การกระทรวงการต่างประเทศ ดร.ประสาร ไตรรตั นว์ รกลุ กรรมการมูลนิธิมัน่ พัฒนา ดร.กอบศักดิ์ ภตู ระกลู ผชู้ ว่ ยรัฐมนตรปี ระจำ� ส�ำนกั นายกรฐั มนตรี นายวรี ะศกั ด์ิ โควสุรัตน์ อดีตรฐั มนตรวี ่าการกระทรวงการท่องเท่ยี วและกีฬา และท่ปี รกึ ษาสำ� นกั งานพฒั นาธุรกรรมทางอเิ ลก็ ทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) นพ.ประวิทย์ ลส่ี ถาพรวงศา กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศนแ์ ละกจิ การโทรคมนาคมแหง่ ชาติ (กสทช.) นายชลธศิ สุรสั วดี อธบิ ดกี รมป่าไม้ ดร. พณชติ กติ ตปิ ัญญงาม ผอู้ �ำนวยการฝา่ ยนวัตกรรมสำ� นกั งาน รัฐบาลอเิ ล็กทรอนิกส์ และนางสาวสฤณี อาชวานันทกลุ กรรมการผูจ้ ัดการด้านการพัฒนาความรู้ บริษทัป่าสาละ จำ� กดัสว่ นผูแ้ ทนจากกลุ่มผบู้ รหิ ารรนุ่ แรกในหลกั สตู ร RoLD ไดน้ ำ� ผลจากการศึกษาเจาะลึก การลงพ้นื ท่ีดงู าน และผลการเสวนากบั ผทู้ ีม่ ีสว่ นได้สว่ นเสยี ใน 3 ประเดน็ หลัก ไดแ้ ก่ กรณีการทบั ซอ้ นของปา่ ไมแ้ ละท่ีดินทำ� กิน หน้ีทีเ่ ป็นธรรมท�ำได้หรอื ไม่ และกฎหมายและการบรหิ ารจัดการนวัตกรรมและเทคโนโลยีแบบกา้ วกระโดด พรอ้ มข้อเสนอแนะ มาร่วมแลกเปลย่ี นและเปน็ สว่ นหนึง่ ในการร่วมขับเคล่อื นการพัฒนากระบวนการยุติธรรม
55 Annual Report 2017 I Thailand Institute of Justiceนับเปน็ แนวคิดท่แี สดงถงึพระมหากรณุ าธคิ ณุ และพระอจั ฉรยิ ภาพและความเขา้ พระทยั อย่างลกึ ซึง้ ในเร่ืองหลกั นติ ิธรรม
56รายงานประจ�ำปี 2560 I สถาบนั เพอ่ื การยุติธรรมแห่งประเทศไทยTIJ WorkshopTIJ รว่ มกับ Institute for Global Law and Policy คณะนติ ศิ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ฮาร์วาร์ดจัดหลักสูตร IGLP Asian Regional Workshop และ TIJ Workshop for Emerging Leaders
57 Annual Report 2017 I Thailand Institute of JusticeTIJ ร่วมกับ Institute for Global Law and Policy คณะนติ ศิ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ฮาร์วาร์ดจดัหลกั สูตร IGLP Asian Regional Workshop วนั ท่ี 6-11 มกราคม 2560 เพื่ออบรมให้ความรู้เกยี่ วกับการศึกษาวจิ ัยและสรา้ งนวตั กรรมเกยี่ วกบั ประเดน็ ทางสงั คมและกฎหมาย โดยมีนกัวชิ าการรนุ่ ใหม่ทส่ี นใจสมคั รเขา้ ร่วมจากท่ัวโลก อีกทั้งจดั หลักสูตรคขู่ นาน TIJ Workshop forEmerging Leaders on the Rule of Law and Policy (TIJ Workshop) เชญิ ผนู้ �ำรนุ่ ใหมใ่ นทกุภาคส่วนในประเทศมารว่ ม workshop แลกเปลีย่ นเรียนรูเ้ พ่อื สรา้ งการเปลีย่ นแปลง เปน็ เครอืข่าย change agents ท่ีเขม้ แข็งโดยไดผ้ ูเ้ ชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยฮาร์วารด์ และหลักสูตรIGLP ร่วมพัฒนาเน้ือหาของหลกั สูตร
58รายงานประจ�ำปี 2560 I สถาบันเพื่อการยตุ ิธรรมแหง่ ประเทศไทยRoLD Programmeการอบรมหลักสูตรสำ� หรับผู้บริหารระดับสงู ด้านหลักนิติธรรมและการพัฒนาท่ียงั่ ยนื(TIJ Executive Programme on the Rule of Law and Development : RoLD)
59 Annual Report 2017 I Thailand Institute of JusticeTIJ จัดหลกั สตู รอบรมด้านหลักนติ ธิ รรมและการพัฒนาแก่กลมุ่ ผู้บริหารและผูน้ ำ� ร่นุ ใหมห่ รอื RoLD Program ขึน้ เปน็ ครั้งแรกในประเทศไทย เพือ่ สรา้ งองค์ความร้แู ละเครือขา่ ยกลุม่ ผ้นู �ำท่มี ีศกั ยภาพในการเปลย่ี นแปลงอนาคต และเป็นการเตรียมตวั กอ่ นเข้าอบรมหลกั สตู ร “TIJ Workshop for Emerging Leaders on the Rule of Law and Policy” ท่ีจัดขึน้ ร่วมกบั คณะนิติศาสตร์ มหาวทิ ยาลยัฮาร์วาร์ดหลกั สตู รอบรมดา้ นหลกั นติ ธิ รรมและการพฒั นาทย่ี งั่ ยนื มวี ตั ถปุ ระสงคส์ ำ� คญั เพอ่ื มงุ่ เปน็ เวทสี ำ� หรบั เครอื ขา่ ยผนู้ ำ� รนุ่ ใหมแ่ ละผบู้ รหิ ารท่ปี ระสบความสำ� เร็จในสาขาอาชพี ตา่ ง ๆ ในสงั คม ไม่วา่ จะเปน็ ภาครฐั ภาคเอกชน ภาคประชาสงั คม และภาควิชาการในประเทศไทยร่วมแลกเปลี่ยนเรียนร้อู ย่างตอ่ เน่ืองผ่านกิจกรรมท่หี ลากหลาย เพ่ือหาแนวทางท่จี ะส่งเสริมความเข้มแขง็ ของหลกั นติ ธิ รรมและนำ�หลักนิติธรรมไปใช้จริงในการช่วยยุติความไม่เท่าเทียมและความไม่เป็นธรรมท่ีปรากฏในสังคม โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเครือข่ายนี้จะกลายเป็นผสู้ รา้ งการเปลี่ยนแปลง (Change Makers) และเปน็ ฟันเฟอื งทสี่ ร้างใหเ้ กิดวฒั นธรรมแห่งการเคารพกติกา (Culture ofLawfulness) ขนึ้ ไดจ้ รงิ ในสังคม ซง่ึ จะสง่ เสรมิ ใหเ้ กดิ รปู แบบการพฒั นาทมี่ คี วามยงั่ ยนื อยา่ งแท้จริง โดยมอี งคป์ ระกอบหลกั สูตรแบ่งออกเป็น 4 ส่วน ไดแ้ ก่ การอบรมภาควชิ าการประเภทการบรรยายและเสวนา การศึกษาดูงานนอกสถานท่ีทัง้ ในประเทศไทยและตา่ งประเทศ และโครงการกลมุ่ (RoLD in Action) โดยมผี ูเ้ ข้าร่วมอบรม ประกอบดว้ ย ผ้นู ำ� รุ่นใหมแ่ ละผบู้ รหิ ารจากทุกภาคสว่ นจ�ำนวนรวม ทง้ั หมด 48 คน โดยมีสัดสว่ นผเู้ ขา้ รับการอบรม ไดแ้ ก่ ผแู้ ทนจากหน่วยงานภาครัฐ 29 คน ภาคเอกชน 14 คน และภาคประชาสังคมและวิชาการ 5 คนการบรรยายในหัวขอ้ ทเ่ี กีย่ วขอ้ ง จ�ำนวน 12 ครั้ง เช่น หลักนิตธิ รรมกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยัง่ ยนื แห่งสหประชาชาติ (SDGs) การปฏริ ปู หลกั นติ ิธรรมและประเทศไทย 4.0 หลักนติ ธิ รรมกับบทบาทภาคเอกชน การปฏิรปู กระบวนการยุติธรรมจากมมุ มองของกลุ่มเปราะบางในสังคม หลกั นติ ิธรรมกบั ประชาธปิ ไตย จากผทู้ รงคณุ วฒุ แิ ละวทิ ยากร เช่น ดร.สวุ ทิ ย์ เมษินทรีย์ คณุ ศภุ ชัย เจยี รวนนท์ดร. กอบศักด์ิ ภตู ระกลู คณุ ทชิ า ณ นคร ศ.กติ ตคิ ุณ ดร. บวรศกั ด์ิ อุวรรณโณ ศ.พเิ ศษ ดร.คณติ ณ นครการศกึ ษาดงู านในประเทศไทย เพอื่ แลกเปลี่ยนเรยี นรกู้ บั ผมู้ ปี ระสบการณจ์ ริงในการพฒั นาระดับพื้นท่ี จ�ำนวน 3 ครง้ั ประกอบด้วย(1) การศึกษาดูงานทีเ่ ขาใหญ่ (วันท่ี 3-5 มนี าคม 2560) ไดม้ กี ารศึกษาดงู านและแลกเปลย่ี นมมุ มองและขอ้ คิดเห็นระหวา่ งผู้ที่ประสบความสำ� เรจ็ ในภาคธรุ กจิ เพ่อื สงั คม ในหวั ขอ้ กิจการเพื่อสังคมกับการพัฒนาทีย่ ั่งยืน (Social Enterprise for SustainableDevelopment) (2) การศึกษาดูงานเรอื นจ�ำพิเศษและทณั ฑสถานหญงิ ธนบุรี (วันท่ี 25 พฤษภาคม 2560) เพื่อเรียนรู้โครงการPre-release program การฝึกอาชพี เพื่อเตรยี มตวั ก่อนการปล่อยตัวผ้ตู ้องขงั ที่ก�ำลงั พน้ โทษ รวมท้ังโครงการก�ำลงั ใจทีส่ นับสนนุอาชพี แก่ผู้ต้องขงั หญิง และ (3) การศึกษาดูงานชมุ ชนบ้านหว้ ยปลาหลด อ.แม่สอด จ.ตาก (วนั ที่ 8-10 มิถนุ ายน 2560) เพือ่ ใหผ้ เู้ ขา้รว่ มอบรมได้มีความรแู้ ละความเขา้ ใจในประเด็นการใชห้ ลักนิตธิ รรมในการบรหิ ารจัดการทรัพยากรในชมุ ชนจากพืน้ ทจ่ี ริง รวมถงึ ได้ร่วมเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้น�ำชุมชนซึ่งใช้วิธีการบริหารจัดการทรัพยากรตามแนวพระราชด�ำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพิตรนอกจากน้ี มกี ารศึกษาดงู าน ณ ประเทศญีป่ ุน่ (วันที่ 31 มนี าคม - 4 เมษายน 2560) เพอ่ื เยย่ี มชมและหารือกบั ผู้บรหิ ารของหนว่ ยงานThe United Nations Asia and Far East Institute for the Prevention of Crime and the Treatment of Offenders (UNAFEI)ซึง่ เปน็ UN-PNI ของประเทศญ่ีปนุ่ และรบั ฟังการบรรยายพิเศษ กรณีศกึ ษากระบวนการยตุ ธิ รรมของประเทศญี่ป่นุ และร่วมเสวนาในหัวข้อ “The Japan-Thailand Criminal Justice System Comparison”
60รายงานประจ�ำปี 2560 I สถาบนั เพื่อการยตุ ิธรรมแห่งประเทศไทยRoLD in Actionsการจดั ท�ำโครงการปฏริ ปู หลักนติ ธิ รรมอยา่ งเป็นรปู ธรรม
61 Annual Report 2017 I Thailand Institute of Justiceอีกหนึง่ กิจกรรมในการส่งเสรมิ หลักนิตธิ รรมกบั การพฒั นาท่ีย่งั ยนื ภายใตห้ ลกั สูตร RoLD ได้แก่ การจดั ทำ� โครงการปฏิรปู หลกันิตธิ รรมอย่างเป็นรปู ธรรม หรือ RoLD in Action โดยผูเ้ ข้ารว่ มอบรมรวมกลมุ่ เลือกประเด็นทีส่ นใจ เพอื่ จดั ประชมุ เสวนากลมุ่ ยอ่ ยและรับฟงั ความคิดเหน็ จากผ้มู สี ่วนได้ส่วนเสียในประเดน็ นน้ั ๆ รวมท้งั ส้นิ 6 คร้งั โดยมีประเด็นการศึกษาทสี่ �ำคัญ ดังน้ี(1) คนอย่กู บั ปา่ อย่างย่งั ยนื ด้วยหลักนติ ธิ รรม: กรณศี ึกษาจังหวัดนา่ น (หลักนิตธิ รรมกบั การบรหิ ารจัดการทรพั ยากรธรรมชาต)ิเปน็ การถอดบทเรียนแนวทางการพัฒนาอย่างรอบดา้ นจากพื้นทพี่ ฒั นาโครงการทศี่ กึ ษาและปรบั ใชแ้ นวพระราชด�ำรใิ นรชั กาลที่ 9ไดจ้ นประสบผลส�ำเรจ็ สามารถท�ำให้คนสามารถอยู่กบั ป่าไดอ้ ยา่ งเก้ือกูลและย่งั ยืนผา่ นแนวคดิ ด้านหลักนติ ิธรรม โดยจะนำ� ไปทดลองใช้ในการแกป้ ญั หาคนกบั ปา่ ในพนื้ ทจี่ งั หวดั นา่ นซงึ่ เปน็ พนื้ ทตี่ น้ นำ้� สำ� คญั ของประเทศไทย เพอื่ สรา้ งตน้ แบบการพฒั นาทางเลอื กทสี่ ามารถแกป้ ญั หาได้อยา่ งยงั่ ยนื ในพื้นที่อนื่ ๆ ต่อไป(2) หนที้ ี่เปน็ ธรรมกบั ปญั หาความเหลื่อมล้�ำของสังคมไทย (หลกั นิติธรรมกบั การลดความเหลื่อมล้�ำ) ท�ำอย่างไรจึงจะสามารถสร้างใหเ้ กดิ การแก้ปัญหาหนที้ ยี่ ัง่ ยนื โดยสรา้ งระบบการเข้าถงึ สินเชื่อที่เปน็ ธรรมและการสรา้ งวินัยและความรับผดิ ชอบแก่ลกู หน้ี และไม่เพิ่มความเสย่ี งและต้นทนุ จากการปล่อยสินเชอื่ และการสร้างวัฒนธรรมแหง่ การไม่เอารดั เอาเปรียบของเจ้าหนี้ การสร้างระบบดังกลา่ วจ�ำเป็นต้องมกี ารพฒั นาโครงสร้างองคก์ รท่ีหน่วยงานรฐั ประสานงานมากขนึ้ ทงั้ ในหน่วยงานทางการเงิน การคลังและหน่วยงานยตุ ิธรรม และการปฏิรูปการบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพมากกว่าที่เป็นอยู่ และทส่ี ำ� คัญคอื การพัฒนาศกั ยภาพของชุมชนในการจัดการกองทนุ ชมุ ชนทีย่ ั่งยนื เพ่อื เป็นอีกทางเลือกหนึง่ ทีช่ ว่ ยใหค้ นในสังคมมภี มู ิคมุ้ กัน ไมต่ กเปน็ เหยือ่ หนี้ท่ีไม่เป็นธรรมได้โดยงา่ ย(3) ทางเลอื กสำ� หรบั เทคโนโลยกี า้ วกระโดดด้วยหลกั นติ ิธรรมและ Regulatory Sandbox (หลักนติ ิธรรมกับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม) เปน็ การเสนอแนวทางการพฒั นากระบวนการทางกฎหมายทเี่ รียกวา่ Regulatory Sandbox เพอ่ื สรา้ งสนามทดลองดา้ นกฎหมายและกฎระเบยี บ เพ่อื ให้ได้ค�ำตอบถึงสภาพการแข่งขันในธรุ กจิ ที่ใช้เทคโนโลยีแบบก้าวกระโดดอย่างเปน็ ธรรม อาทิ กรณีUber ในสาขาขนส่ง โดยอยา่ งน้อยให้มีหลกั ประกนั ในการลดความเหลือ่ มล�้ำของท้งั ผู้ใหบ้ ริการ (ทง้ั รายเดิมและรายใหม่) และผู้ใช้บรกิ าร และมคี วามโปรง่ ใสในการบริหารจัดการและควบคมุ ดแู ล
62รายงานประจ�ำปี 2560 I สถาบันเพ่อื การยุติธรรมแหง่ ประเทศไทย TIJ ส่งเสริมสทิ ธิของผู้หญิงและเด็ก หนึ่งในเป้าหมายเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ ค.ศ. 2030 คือ การสร้าง ความเทา่ เท่าเทยี มทางเพศและการยตุ คิ วามรนุ แรงตอ่ เด็กและผูห้ ญิง TIJ จงึ ได้ให้ความ สำ� คญั กบั การดำ� เนนิ งานรว่ มมอื กบั ภาคเี ครอื ขา่ ยทงั้ ในประเทศและตา่ งประเทศ ในการจดั กจิ กรรมและโครงการทห่ี ลากหลายและตอ่ เนอื่ ง เพอ่ื สนบั สนนุ ใหบ้ รรลเุ ปา้ หมายดงั กลา่ ว
63 Annual Report 2017 I Thailand Institute of JusticeTIJจดั ฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการSpeakUpSpeakOutWorkshopโครงการสง่ เสรมิ สทิ ธผิ หู้ ญงิ และเดก็ TIJจดั ฝกึ อบรมเชงิ ปฏบิ ตั กิ ารSpeakUpSpeakOutWorkshop วนั ที่ 26–27 พฤศจกิ ายน 2559 เพอื่ สรา้ งความตระหนักรแู้ ละความเข้าใจในเร่อื ง การยตุ ิความรนุ แรงตอ่ ผหู้ ญงิ การเขา้ ถึงกระบวนการยตุ ธิ รรมของผหู้ ญงิ และกลไกทีส่ ามารถแก้ไขปญั หาใหก้ ับเยาวชนในระดบั อดุ มศึกษา ซงึ่ เป็นหนง่ึ ในกิจกรรมเพื่อรณรงค์ 16 วนั แหง่ การยุตคิ วามรุนแรงตอ่ ผูห้ ญิงและเดก็ หญงิ ของสหประชาชาติการฝกึ อบรมดงั กลา่ ว ไดจ้ ัดฝกึ อบรมวิธีการเล่าเร่ืองผ่านงานเขยี นและภาพประกอบให้กับเยาวชน โดยมีนายเปรมวชิ ช์ สหี ์ชาติวงษ์ ผรู้ ว่ มก่อตง้ั และประธานบริหาร Storylogและ Fictionlog แลกเปลี่ยนความรูแ้ ละประสบการณ์ดา้ นเทคนิคในการเขยี นเล่าเรอื่ งราวและนายนกั รบ มลู มานชั กราฟิกดไี ซเนอรแ์ ละนกั ท�ำภาพประกอบ ผูส้ ือ่ สารความเป็นไทยผา่ นงานศลิ ปะแบบคอลลาจ (Collage) แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ในการทำ� ภาพปฟระกอบผ่านงาน Collageนอกจากน้ี ดร.สติ า สัมฤทธิ์ หัวหนา้ โครงการสง่ เสรมิ สทิ ธผิ หู้ ญิงและเด็ก ได้เขา้ รว่ มบรรยายและให้ความรู้แก่เยาวชนถึงปัญหาและความส�ำคัญของการยุติความรุนแรงต่อผูห้ ญงิ และนางสาวบษุ ยาภา ศรีสมพงษ์ Advocacy Coordinator มูลนิธิสุวรรณนมิ ิตและ Pro Bono Legal consultant ผมู้ ีประสบการณ์ตรงในด้านการถูกกระท�ำความรุนแรง รว่ มแลกเปล่ียนประสบการณ์ให้กับเยาวชน
64รายงานประจ�ำปี 2560 I สถาบันเพอื่ การยตุ ิธรรมแหง่ ประเทศไทยTIJ จัดโครงการ Paralegal Training Workshop: Women for Justice, Justice for WomenTIJ ร่วมกับมูลนิธิผู้หญงิ กฎหมายและการพฒั นาชนบท (FORWARD) และภาควิชาสตรศี ึกษา คณะสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยัเชียงใหม่ (WSC) จัดโครงการ Paralegal Training Workshop: Women for Justice, Justice for Women (ภาคเหนือ) ระหวา่ งวนั ท่ี22-24 มีนาคม 2560 ท่ีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่โครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพ่ือเสริมสร้างความรู้ด้านกฎหมายและการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมให้แก่ผู้หญิงที่เป็นผู้มีบทบาทในการช่วยเหลอื ทางกฎหมายแก่ผู้หญิงหรอื เดก็ ที่ประสบปัญหา โดยได้รบั เกยี รติจากวทิ ยากรผทู้ รงคุณวฒุ ิ อาทิ ผศ.ดร.สุชาดา ทวีสทิ ธิ์ นางสาวนยั นา สุภาพึง่ นายวัชรนิ ทร์ ปจั เจกวิญญูสกุล นางสาวสุเพญ็ ศรี พ่งึ โคกสงู นางสาวอารีวรรณ จตทุ องพันต�ำรวจโทหญิงจรียว์ รรณ พุทธานรุ กั ษ์ เป็นตน้ และมผี ้เู ข้าร่วมโครงการทั้งสนิ้ เกือบ 40 คน ทัง้ ผู้แทนจากกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ หน่วยงานในกระบวนการยุตธิ รรม หนว่ ยงานทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั สาธารณสุข ผูน้ ำ� ชุมชน เครอื ขา่ ยแรงงาน และภาคประชาสงั คมฯลฯ ทั้งน้ี นอกจากโครงการฝกึ อบรมภาคเหนือแลว้ ยงั มกี ารจดั การฝกึ อบรมอกี 2 คร้ัง ในภาคกลาง (ชว่ งเดือนมิถุนายน) และภาคใต้ (ชว่ งเดือนสงิ หาคม)
65 Annual Report 2017 I Thailand Institute of JusticeTIJ ผนกึ กำ� ลงั 6 หน่วยงานด้านสง่ เสริมสิทธิผ้หู ญงิ จัดงานเสวนาเกย่ี วกับความรุนแรงในครอบครัวTIJ รว่ มกับ 6 หน่วยงานที่มบี ทบาทในการผลักดนั ดา้ นการส่งเสริมการเขา้ ถึงกระบวนการยตุ ธิ รรมของผูห้ ญิง เช่น สมาคมบัณฑติสตรีทางกฎหมายแหง่ ประเทศไทย และ สถาบันวจิ ยั บทบาทหญงิ ชายและการพัฒนา เปน็ ต้น จัดงานเสวนาเร่ือง “กระบวนการยตุ ิธรรมทีเ่ ข้าใจผูห้ ญิง: ความรนุ แรงในครอบครัว - เรอื่ งเก่า เราท�ำใหม”่ วนั ท่ี 23 กมุ ภาพนั ธ์ 2560 ทีส่ มาคมบัณฑติ สตรีทางกฎหมายแห่งประเทศไทยวตั ถปุ ระสงคข์ องการเสวนาเปน็ ไปเพอ่ื แลกเปลย่ี นประสบการณแ์ ละองคค์ วามรจู้ ากผผู้ า่ นพน้ ปญั หาความรนุ แรงในครอบครวั และเพอื่ หาแนวทางการแก้ปญั หาความรุนแรงในครอบครวั ซง่ึ เปน็ ปญั หาเรอ้ื รงั ของสังคมไทย พรอ้ มท้งั นำ� เสนอแนวทางใหม่ เช่น การน�ำแนวปฏิบัติท่ีดีของต่างประเทศมาเป็นประเด็นพูดคุยเพ่ือน�ำมาปรับใช้ให้สอดคล้องกับบริบทของไทยโดยได้รับเกียรติจากผู้มีบทบาทสำ� คญั ในการผลกั ดนั และการแก้ปญั หาเร่ืองความรุนแรงในครอบครัว เช่น ดร.อินทิรา ฉิวรมั ย์ ผพู้ พิ ากษาศาลอทุ ธรณค์ ดชี �ำนญัพิเศษ นางวรภทั ร แสงแก้ว หวั หน้ากลมุ่ งานสังคมสงเคราะห์ทางการแพทย์และศูนยพ์ ึ่งได้ รพ. ปทุมธานี พ.ต.อ.หญงิ ปวณี า เอกฉัตรผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน และผเู้ ขา้ รว่ มจากหลากหลายภาคส่วน ทัง้ ผเู้ ชีย่ วชาญ นกั วิชาการ และนักปฏบิ ตั ิ และสื่อมวลชน
66รายงานประจ�ำปี 2560 I สถาบันเพื่อการยุตธิ รรมแหง่ ประเทศไทยTIJ จดั เสวนาตอ่ ต้านการทอ่ งเทยี่ วเพื่อมเี พศสัมพนั ธก์ บั เดก็TIJ ร่วมกบั คณะนกั วิจัยจากโรงเรียนนายรอ้ ยตำ� รวจจัดงานเสวนา หวั ข้อ “การท่องเที่ยวเพอ่ื มีเพศสมั พันธ์กับเด็ก : รูปแบบววิ ฒั นาการ และแนวปฏบิ ตั ิทด่ี ขี องประเทศตวั อย่างในกลุ่มประเทศอาเซยี น (ประเทศลาว กมั พชู า และไทย) (Child Sex Tourism:Patterns, Evolutions and Best Practices in Selected ASEAN Countries-Lao PDR, Cambodia and Thailand) เมอ่ื วันท่ี 6มนี าคม 2560 ที่สถาบันเพ่อื การยตุ ธิ รรมแห่งประเทศไทยการเสวนาครงั้ นมี้ วี ตั ถุประสงค์เพื่อเผยแพร่รายงานศึกษาวิจัยทแี่ ล้วเสรจ็ เรื่อง “การศึกษารปู แบบและววิ ัฒนาการของการทอ่ งเท่ยี วเพอ่ื มเี พศสมั พนั ธก์ บั เดก็ และการปฏบิ ตั งิ านทเ่ี ปน็ เลศิ ในเชงิ ประจกั ษด์ า้ นการตอ่ ตา้ นการทอ่ งเทย่ี วเพอื่ มเี พศสมั พนั ธก์ บั เดก็ ” และเพอ่ืแลกเปลีย่ นความรู้และประสบการณ์ระหวา่ งนกั ปฏบิ ัตแิ ละผ้เู ชย่ี วชาญดา้ นเดก็ และดา้ นการคา้ มนษุ ย์ รวมท้งั เพอ่ื วางแผนแนวทางการด�ำเนนิ งานโครงการฝึกอบรมในประเดน็ ดังกล่าวต่อไปงานเสวนาดังกล่าวมผี ูแ้ ทนเขา้ รว่ มจากหน่วยงานทง้ั ภาครัฐ หนว่ ยงานด้านอาชญากรรมระหว่างประเทศจากสถานทตู หนว่ ยงานขององคก์ ารสหประชาชาติ และภาคประชาสงั คม เชน่ มูลนิธพิ ฒั นาการคุม้ ครองเดก็ (FACE Foundation) UNICEF ThailandECPAT International กรมสอบสวนคดพี ิเศษ (DSI) ส�ำนกั งานต�ำรวจแห่งชาติ เปน็ ต้น
67 Annual Report 2017 I Thailand Institute of JusticeTWIJomรว่eมnจaดั sงJาuนsอtiภcปิeรMายaหkeวั rขsอ้ the Southeast Asian Regional Roundtable Discussion onTIJ ร่วมกับสถานเอกอคั รราชทูตออสเตรเลยี ประจำ� ประเทศไทย จัดงานอภิปรายในหัวข้อ The Southeast Asian RegionalRoundtable Discussion on Women as Justice Makers วนั ท่ี 14 ตุลาคม 2559 ทห่ี ้องประชุมสถาบนั เพือ่ การยุตธิ รรมแหง่ประเทศไทยงานอภิปรายดังกล่าวจัดข้ึนเพ่ือเป็นเวทีส�ำหรับผู้หญิงที่ท�ำงานในกระบวนการยุติธรรมของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไดม้ าแลกเปล่ียนความรู้ ประสบการณ์ รวมถึงปญั หาและอุปสรรคตา่ ง ๆ ทีผ่ ู้หญิงในกระบวนการยตุ ิธรรมตอ้ งเผชิญ รวมถงึให้ความเห็นต่อข้อมลู การศกึ ษาวจิ ยั เรอ่ื ง “Women as Justice Makers in the ASEAN region: roles, trajectories and influenceท่ีไดม้ าจากการลงพื้นทีข่ องคณะนกั วิจัย มีวตั ถุประสงคเ์ พ่ือพัฒนาการทำ� งาน ยกระดบั บทบาทของผู้หญงิ ใหเ้ ปน็ ผูน้ ำ� การสรา้ งการเปลย่ี นแปลงในกระบวนการยตุ ธิ รรม และเปน็ จดุ เรมิ่ ตน้ ทด่ี ใี นการสรา้ งความรว่ มมอื ระหวา่ งผหู้ ญงิ ทท่ี ำ� งานดา้ นกระบวนการยตุ ธิ รรมในภมู ภิ าคผู้เข้ารว่ มการอภปิ รายครงั้ น้ีประกอบดว้ ยผหู้ ญงิ ทีเ่ ป็นผู้พิพากษา อยั การ ทนายความ และเจา้ หนา้ ทจ่ี ากองคก์ รพฒั นาเอกชนจาก 9ประเทศในภูมิภาคเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ ยังไดร้ บั เกยี รตจิ าก H.E. Natasha Stott Despoja AM ทตู ด้านสตรีและเดก็หญงิ แหง่ เครือรฐั ออสเตรเลีย ทม่ี คี วามสนใจงานดา้ นผหู้ ญงิ ในบทบาทผู้อ�ำนวยความยุติธรรม พรอ้ ม H.E. Paul Robilliardเอกอัครราชทูตเครือรฐั ออสเตรเลยี ประจำ� ประเทศไทย และเจา้ หน้าทส่ี ถานเอกอคั รราชทูตฯ เขา้ รว่ มงาน
68รายงานประจ�ำปี 2560 I สถาบนั เพ่อื การยุตธิ รรมแหง่ ประเทศไทยรายงานวจิ ัย
69 Annual Report 2017 I Thailand Institute of Justiceยทุ ธศาสตร์ในการด�ำเนินงานของ TIJ ประการหนึง่ คอื การมงุ่ เนน้งานด้านการศึกษา วิจัย รวบรวม และเผยแพร่องค์ความรู้ท่ีเกยี่ วกบั หลกั นติ ธิ รรม รวมถงึ มาตรฐานและบรรทดั ฐานขององคก์ ารสหประชาชาติ ด้านการป้องกันอาชญากรรมและความยตุ ธิ รรมทางอาญา เพื่อส่งเสริมหลักนิติธรรมและสนับสนุนการพัฒนากระบวนการยุติธรรมทางอาญา ทั้งระดับภายในประเทศและระหวา่ งประเทศ โดยในปงี บประมาณ พ.ศ. 2560 ทาง TIJ ได้ดำ� เนนิ งานด้านการศึกษาวจิ ัย โดยมีผลงานที่โดดเดน่ ทง้ั ในด้านงานวจิ ยั ดา้ นขอ้ กำ� หนดกรงุ เทพ การสง่ เสรมิ และพฒั นาองคค์ วามรู้ดา้ นหลกั นิติธรรม และการสง่ เสรมิ สทิ ธขิ องผ้หู ญิงและเด็ก
70รายงานประจ�ำปี 2560 I สถาบนั เพ่อื การยตุ ธิ รรมแหง่ ประเทศไทย
71 Annual Report 2017 I Thailand Institute of Justiceด้านขอ้ กำ� หนดกรงุ เทพรายงานศกึ ษาวจิ ยั เรอ่ื งเหตปุ จั จยั ในการกระทำ� ผดิ ของผตู้ อ้ งขงั โดยมีคนแปลกหน้าเข้ามาฝากให้พวกเธอน�ำของหรือกระเป๋าเดินหญงิ ไทยในกมั พชู า คดกี ารคา้ ยาเสพตดิ ขา้ มชาติ (Vulnerabilities, ทางกลบั มายังประเทศไทยด้วย แต่เส้นทางกลับจะต้องแวะVictimisation, Romance and Indulgence: Thai Women’s พักหลายประเทศ กระท่ังถูกจับได้ที่สนามบินนานาชาติจังหวัดPathway to Prison in Cambodia for Drug Trafficking) เสียมราฐและกรุงพนมเปญ ประเทศกมั พูชา ผตู้ ้องขงั ทัง้ หมด ตอ้ งโทษจำ� คุกจากคดกี ารลักลอบขนส่งยาเสพติด ได้แก่ ยาไอซ์TIJ ร่วมกบั มหาวทิ ยาลัยกริฟฟิธ ประเทศออสเตรเลยี จดั ทำ� และโคเคนรายงานการศกึ ษาวิจัยเรอื่ ง Vulnerabilities, Victimisation,Romance and Indulgence: Thai Women’s Pathway to ปจั จัยส�ำคญั ท่ที ำ� ใหก้ ระทำ� ผดิ คอื การเปน็ ผู้มีหนา้ ที่รับผิดชอบPrison in Cambodia for Drug Trafficking เพ่อื ศึกษาหาเหตทุ ี่ ดแู ลและหาเลยี้ งครอบครวั จงึ ตอ้ งหารายไดแ้ ละสดุ ทา้ ยถกู ลอ่ ลวงยงั ผลใหผ้ หู้ ญงิ ไทยกระท�ำความผิด และถูกตดั สนิ โทษจ�ำคกุ จาก เขา้ สวู่ งการคา้ ยาเสพตดิ นอกจากนย้ี งั พบดว้ ยวา่ ผตู้ อ้ งขงั หลายคนคดีท่ีเก่ียวข้องกับยาเสพติดในเรือนจ�ำประเทศกัมพูชา โดยใช้ มีประวัติประสบเหตุการณ์เลวร้ายจากความสัมพันธ์กับเพศวิธกี ารสัมภาษณ์ผตู้ ้องขังจำ� นวน 10 คน อายรุ ะหว่าง 24-47 ปี ตรงข้าม ทำ� ให้มคี วามนับถอื ตวั เองต่�ำ จงึ หลงเชอ่ื เรอ่ื งรักลวงและต้องโทษจำ� คกุ ระหว่าง 25 ปีถงึ จำ� คุกตลอดชวี ิต จากชาวตา่ งชาติ และตกเป็นเหยอื่ ในอาชญากรรมได้งา่ ย ผลการ วิจัยยังพบดว้ ยว่า ผ้ตู ้องขังเหลา่ น้ีไมเ่ คยมีความรดู้ า้ นการคา้ ยาจากผลการศึกษาวิจัยพบว่า ผู้ต้องขังท้ังหมดไม่เคยมีประวัติ เสพตดิ หรอื มีความสัมพันธก์ ับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติอาชญากรรมและเป็นผู้ประกอบอาชีพสุจริต โดยผู้ต้องโทษคดียาเสพติดส่วนใหญ่มรี ูปแบบการก่ออาชญากรรมคลา้ ยกนั คอื สรุปผลการศึกษาวิจัยได้เสนอแนะให้รัฐบาลไทยริเริ่มจัดท�ำไดร้ ับการตดิ ต่อจากชายเช้ือชาตแิ อฟริกัน ผ่านการแชทบน นโยบายและแผนปฏบิ ตั ิการเพ่ือ (1) ลดและสรา้ งความตระหนักรู้อินเทอร์เนต็ จากน้นั จงึ ถกู หลอกหรอื โน้มนา้ วใหเ้ ชอ่ื วา่ ความ ถึงความเสี่ยงท่ีไทยจะถูกจ�ำคุกจากการกระท�ำผิดด้านการสมั พนั ธน์ ม้ี าจากความรกั และมกี ารยา้ ยมาอยดู่ ว้ ยกนั ระหวา่ งนนั้ ลกั ลอบขนยาขา้ มชาติ (2) ปกป้องสิทธทิ างกฎหมายเมอ่ื ถูกอาจพบพฤติกรรมข่มขู่ ทุบตี ต่อมาจะถกู หลอกใหเ้ ดนิ ทางไป จบั กมุ และ (3) ให้ความช่วยเหลือใหม้ คี ุณภาพชวี ติ ทดี่ ีในขณะท่ีต่างประเทศ เช่น บราซิล อนิ เดยี และประเทศอ่ืน ๆ ในทวปี แอฟริกา ตอ้ งโทษ
72รายงานประจ�ำปี 2560 I สถาบันเพ่อื การยตุ ิธรรมแห่งประเทศไทยดา้ นการสง่ เสรมิ และพัฒนาองคค์ วามร้ดู ้านหลกั นิติธรรมการพัฒนาด้านสถิติและตัวช้ีวัดกระบวนการยุติธรรมทาง อีกท้ังยังสร้างเสริมความรู้และข้อมูลที่จะเป็นประโยชน์ส�ำหรับผู้ท่ีอาญาและการส�ำรวจความคิดเห็นประชาชนและนักปฏิบัติ เกยี่ วขอ้ งสำ� หรบั น�ำไปต่อยอดในการจดั ทำ� พัฒนา และปรบั ใช้เกย่ี วกับคุณค่าของกระบวนการยุติธรรมทางอาญา ดัชนีหรือตัวชี้วัดกระบวนการยุติธรรมทางอาญาอย่างเหมาะสม และเป็นการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการสร้างTIJ รว่ มกบั สถาบนั วจิ ยั และใหค้ ำ� ปรกึ ษาแหง่ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ พฒั นาเคร่อื งมอื และพัฒนากระบวนการยตุ ิธรรมทางอาญาจัดท�ำโครงการพัฒนาด้านสถิติและตัวชี้วัดกระบวนการยุติธรรมทางอาญาและการส�ำรวจความคิดเห็นประชาชนและ วัตถุประสงค์ในการด�ำเนินการโครงการ เพอ่ื 1) นำ� เอาผลการนักปฏิบัติเกี่ยวกับคุณค่าของกระบวนการยุติธรรมทางอาญา ส�ำรวจความคิดเห็น/ทัศนคติของประชาชนและผู้เชี่ยวชาญ/ภายหลังจากท่ีได้ “แนวทางการจัดท�ำและการใช้ตัวช้ีวัดด้าน นกั ปฏบิ ัติ ทีม่ ีต่อฐานะ บทบาท และคุณค่าของกระบวนการกระบวนการยุติธรรมทางอาญา” อันเปน็ กรณศี ึกษาทว่ั ไปท่ีจัด ยตุ ธิ รรมทางอาญา ทงั้ ในระดบั หนว่ ยงานและทเี่ ปน็ ภาพรวมทง้ั ระบบทำ� ร่วมกบั International Centre for Criminal Law Reform มาเป็นฐานคิดและจุดยึดโยงกับแนวทางการพัฒนาตัวช้ีวัดand Criminal Justice Policy (CCLR) เมื่อ พ.ศ. 2558 ในปีนจ้ี ึง ประสทิ ธภิ าพกระบวนการยตุ ธิ รรม ของไทย 2) สง่ เสรมิ และได้จัดโครงการศึกษาวิจัยนี้ขึ้นเพื่อเตรียมความพร้อมด้าน สนับสนนุ ใหเ้ กิดการยกระดบั คุณภาพของการจดั เกบ็ รวบรวมองค์ความรู้ใหก้ บั สงั คมไทย ให้ก้าวไปส่คู วามมมี าตรฐานในการ วิเคราะห์และใช้ประโยชน์จากข้อมูลและสถิติเก่ียวกับการด�ำเนินพัฒนาปรับปรุงนโยบายเกย่ี วกบั การบรหิ ารงานยตุ ิธรรม งานของหน่วยงานท้ังหลายในกระบวนการยุติธรรมทางอาญา 3) สรา้ งเสรมิ ความรแู้ ละขอ้ มลู ทจี่ ะเปน็ ประโยชนส์ ำ� หรบั ผทู้ เ่ี กย่ี วขอ้ งโครงการศกึ ษาวจิ ยั พฒั นาการดา้ นสถติ แิ ละตวั ชว้ี ดั กระบวนการ โดยเฉพาะอย่างย่งิ ในระดบั นโยบาย ทจี่ ะนำ� ไปต่อยอดในการยตุ ธิ รรมทางอาญา และการสำ� รวจความคดิ เหน็ ประชาชนและ จัดทำ� พัฒนา และปรบั ใชด้ ัชนีหรือตัวชีว้ ดั กระบวนการยตุ ธิ รรมนักปฏิบัติเก่ียวกับคุณค่าของกระบวนการยุติธรรมทางอาญา ทางอาญาอย่างเหมาะสมกับบริบทของไทยและเป็นท่ียอมรับในเป็นโครงการเพื่อการส�ำรวจความคิดเห็น/ทัศนคติของประชาชน ระดับนานาชาติ และ 4) ส่งเสรมิ การมีสว่ นร่วมของประชาชนและผู้เชีย่ วชาญ/นักปฏิบตั ทิ มี่ ตี อ่ ฐานะ บทบาท และคณุ ค่าของ ในการสร้างพัฒนาเคร่ืองมือท่ีสามารถน�ำมาใช้ในการติดตามกระบวนการยุติธรรมทางอาญาเพ่ือมาเป็นฐานคิดและจุดยึดโยง ผลและความคืบหน้าของการปฏิรูปและพัฒนากระบวนการกับแนวทางการพัฒนาตัวช้ีวัดประสิทธิภาพกระบวนการ ยตุ ธิ รรมทางอาญายตุ ธิ รรมของไทย สง่ เสรมิ และสนบั สนนุ ใหเ้ กดิ การยกระดบั คณุ ภาพของการจัดเกบ็ รวบรวม วเิ คราะห์และใชป้ ระโยชนจ์ ากขอ้ มูลและสถิติเก่ียวกับการด�ำเนินงานในกระบวนการยุติธรรมทางอาญา
73 Annual Report 2017 I Thailand Institute of Justiceด้านการส่งเสรมิ สทิ ธขิ องผู้หญิงและเดก็งานวจิ ยั “ผหู้ ญงิ ในฐานะผสู้ รา้ งความยตุ ธิ รรมในภมู ภิ าคอาเซยี น” อาชีพ เช่น การจ�ำกัดความสามารถในการเดินทาง (Mobility) ตลอดจนขอ้ จำ� กัดจากสภาวะเพดานแกว้ (Glass Ceiling) ซงึ่ เกิดTIJ ร่วมกบั the International Centre for Criminal Law จากภาพเหมารวมซึง่ มตี ่อผหู้ ญิง (Gender Stereotype) ว่าReform and Criminal Justice Policy จดั ทำ� งานวิจัยภายใต้ชือ่ ไม่เหมาะกับการท�ำงานในต�ำแหน่งผู้บริหารในระดับสูงเหมือนWomen as Justice makers: Perspectives from South East ผูช้ ายAsia โดยงานวิจัยฉบบั น้เี ป็นการท�ำความเขา้ ใจผู้หญิงซ่งึ ทำ� งานในหน่วยงานซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับกฎหมายในหลายภาคส่วน อยา่ งไรกด็ ี แมว้ า่ จากขอ้ คน้ พบจะทำ� ใหเ้ หน็ ขอ้ จำ� กดั และขอ้ ทา้ ทายท้งั ในสว่ นของนกั วิชาการ และในส่วนของผ้บู งั คับใช้กฎหมาย เชน่ จ�ำนวนมากที่ผู้หญิงในเส้นทางของการประกอบอาชีพผพู้ พิ ากษาและอยั การ ในประเทศในภมู ภิ าคเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ นักกฎหมายต้องเผชิญ งานศึกษาช้ินน้ีได้พยายามชี้ให้เห็นได้แก่ ประเทศไทย ลาว กมั พูชา อินโดนเี ซีย มาเลเซยี ช่องทางและความเป็นไปได้ท่ีจะขจัดและลดข้อท้าทายดังกล่าวเมยี นมา สงิ คโปร์ ฟลิ ิปปนิ ส์ และเวียดนาม เพื่อเปิดพื้นท่ีและโอกาสในความก้าวหน้าทางอาชีพให้กับผู้หญิง และผชู้ ายอยา่ งเทา่ เทยี มกนังานศึกษาฉบับน้ีได้ท้าทายความเข้าใจของสังคมและชี้ให้เห็นว่าแม้วา่ อาชีพในทางกฎหมายจะเปดิ กว้างสำ� หรับผู้หญงิ มากขนึ้ แต่ผู้หญิงซ่ึงเข้าไปท�ำงานในพ้ืนท่ีดังกล่าวต้องเผชิญกับข้อท้าทายข้อจำ� กัด อนั เนอ่ื งมาจากอุดมคตทิ างเพศ (Gender Ideology)ในสังคมชายเปน็ ใหญ่ (Patriarchy) ซง่ึ ทำ� ใหผ้ ู้หญงิ เหล่านถี้ ูกคาดหวงั ให้ท�ำงานสอดคล้องกบั อดุ มคตชิ ดุ ดังกลา่ ว ซ่งึ บ่อยครั้งไมส่ อดคลอ้ งกบั ชวี ติ การทำ� งาน ทำ� ใหผ้ หู้ ญงิ ในอาชพี นกั กฎหมายตกอยูใ่ นทางสองแพร่ง ตอ้ งเลือก (Dilemma) ระหวา่ งความกา้ วหน้าในชีวิตการงานกับชีวติ ส่วนตัวในฐานะแมแ่ ละภรรยา ในหลาย ๆ สถานการณผ์ ู้หญิงในอาชีพนกั กฎหมายอาจตอ้ งเผชิญเหตุการณ์ที่ท�ำให้เกิดสภาวะข้อจ�ำกัดในความก้าวหน้าทาง
74รายงานประจ�ำปี 2560 I สถาบันเพอื่ การยตุ ิธรรมแห่งประเทศไทยรายงานการพัฒนาระเบียบวิธีวิจัยเพ่ือใช้ส�ำรวจสถิติข้อมูลความรนุ แรงตอ่ เด็กท่ถี กู ควบคุมตวั ในสถานพินิจTIJ รว่ มกบั คณะสงั คมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัย ไมไ่ ด้อย่ดู ้วยกัน พักอยู่ในสภาพแวดลอ้ มทเ่ี ป็นแหลง่ มีปัญหา เชน่มหดิ ล จดั ทำ� โครงการสำ� รวจความรนุ แรงในเดก็ ทเ่ี ขา้ สกู่ ระบวนการ มีการจ�ำหนา่ ยยาเสพตดิ เป็นแหลง่ มั่วสมุ เป็นแหล่งทมี่ กี ารยุติธรรมในฐานะผู้กระท�ำความผิดและถูกควบคุมตัวอยู่ในสถาน ทะเลาะววิ าทสง่ เสยี งดัง ฐานความผิดที่มสี ัดส่วนมากทสี่ ุด ไดแ้ ก่พินิจและคมุ้ ครองเด็กและเยาวชน ด้วยตระหนกั วา่ ปัญหาความ ความผิดเกี่ยวกบั ยาเสพติดให้โทษ (การครอบครองและการเสพรุนแรงต่อเดก็ และเยาวชน เช่น ความรุนแรงทางด้านร่างกาย ยาเสพติด) รองลงมาคือ ฐานความผดิ เกี่ยวกับทรพั ย์ (การลกัความรุนแรงทางเพศ ความรุนแรงทางอารมณ์ เปน็ ปญั หาที่ ทรพั ยแ์ ละการทำ� ใหเ้ สยี ทรพั ย)์ ความผดิ เกย่ี วกบั ชวี ติ และรา่ งกายพบเหน็ ได้มากขึ้นในสงั คมปัจจบุ นั โดยมีต้นตอมาจากปัญหา (การทำ� รา้ ยร่างกายผ้อู ื่นและการพยายามฆา่ ผูอ้ นื่ )ดา้ นเศรษฐกิจ ความเจริญทางเทคโนโลยี และการใช้เทคโนโลยใี นทางทผี่ ิด เป็นต้น และหากยังไมม่ กี ารปอ้ งกนั และแก้ไขปัญหาดงั นอกจากน้ี โดยภาพรวมแลว้ เดก็ และเยาวชนส่วนใหญไ่ มเ่ คยถกูกล่าวแลว้ อาจจะนำ� สงั คมไทยไปสูก่ ารเปน็ สงั คมท่ียอมรับการใช้ กระท�ำทารุณทางร่างกาย ส่วนกลุ่มเด็กและเยาวชนท่ีเคยถูกความรนุ แรงได้ กระท�ำทารุณทางร่างกาย ส่วนใหญ่เป็นการถูกกระท�ำทารุณ โดยการใช้วัตถุเฆยี่ นตี เชน่ ไมเ้ รียว ไมแ้ ขวนเส้อื รองลงมาคอื โดนสถาบันเพอื่ การยตุ ธิ รรมแหง่ ประเทศไทย (TIJ) ร่วมกบั คณะ ตบ ตอ่ ย เตะ การละเลยต่อเด็กและเยาวชนด้านกายภาพ การสังคมศาสตรแ์ ละมนุษยศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยมหดิ ล จึงได้จัดท�ำ ศึกษา และอารมณ์ พบว่าเด็กและเยาวชนสว่ นใหญ่ไดร้ บั การดแู ลโครงการส�ำรวจความรุนแรงในเด็กที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม จากบิดามารดาในทกุ ประเด็น มเี พียงสว่ นนอ้ ยเทา่ นน้ั ท่ีไมไ่ ดร้ บัในฐานะผู้กระท�ำความผิดและถูกควบคุมตัวอยู่ในสถานพินิจและ การดแู ลคมุ้ ครองเดก็ และเยาวชน เพอ่ื สง่ เสรมิ มาตรการปฏบิ ตั ใิ นการกำ� จดัความรุนแรงต่อเด็กและเยาวชนในกระบวนการยุติธรรม ตาม การส�ำรวจยงั พบดว้ ยว่า การแสวงหาผลประโยชน์จากเด็กและมาตรฐานขององคก์ ารสหประชาชาติ และไดร้ ว่ มมือกบั กรมพินิจ เยาวชนดา้ นการขายบริการทางเพศ พบว่าเดก็ และเยาวชนส่วนและคุ้มครองเด็กและเยาวชนในการส�ำรวจสถิติข้อมูลความ ใหญไ่ มเ่ คยมเี พศสมั พนั ธก์ บั บคุ ลอนื่ เพราะไดร้ บั สง่ิ ของหรอื ใหก้ ารรนุ แรงต่อเดก็ ในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างย่งิ กลุ่มเดก็ ท่ีเขา้ สู่ ชว่ ยเหลอื แตก่ พ็ บวา่ มเี ดก็ และเยาวชนกลมุ่ หนงึ่ เคยมปี ระสบการณ์กระบวนการยุติธรรมในฐานะผู้กระท�ำความผิดและถูกควบคุม ดงั กลา่ ว และยังพบว่าประมาณคร่ึงหนึง่ ของเด็กและเยาวชนเคยตวั อยูใ่ นสถานพนิ จิ และคุ้มครองเด็กและเยาวชน โดยพนกั งานคมุ ท�ำงานท่ีไดร้ บั เงนิ หรือสง่ิ ของตอบแทน โดยสว่ นใหญ่มอี ายุอยู่ประพฤติในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนเป็นผู้ ในชว่ ง 15 ปี แต่ยงั ไมถ่ ึง 18 ปี และพบด้วยว่าเดก็ และเยาวชนสัมภาษณเ์ ด็กและเยาวชน ในชว่ งวันที่ 15 มนี าคม – 15 เมษายน บางส่วนมีประสบการณ์ในการท�ำงานในลักษณะห้ามจ้างหรือ2560 ห้ามใช้แรงงานเดก็ ที่อายตุ ่�ำกวา่ 18 ปี และบางกล่มุ ท�ำงานเกิน วนั ละ 8 ชั่วโมง หรือท�ำงานในวนั หยุด สว่ นการแสวงหาทง้ั น้ี จากผลการสำ� รวจพบว่า เด็กและเยาวชนในสถานพนิ ิจและ ผลประโยชน์จากเด็กและเยาวชนสูงสุดที่พบคือการถูกบังคับให้ความคมุ้ ครองเดก็ และเยาวชนจากการสำ� รวจคร้ังน้ี สว่ นใหญ่ ซื้อขายยาเสพตดิ รองลงมาคือการถกู ใช้เปน็ สายต�ำรวจ และการเป็นเพศชาย มอี ายุระหว่าง 16-18 ปี สถานภาพโสด เกอื บคร่งึ ถูกใช้ให้ขม่ ขู่หรือทำ� ร้ายผอู้ นื่จบการศกึ ษาระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ สว่ นใหญบ่ ดิ าและมารดา
75 Annual Report 2017 I Thailand Institute of Justiceดา้ นการเผยแพรแ่ ละสร้างองค์ความรู้ในประเดน็ ดา้ นกระบวนการยุตธิ รรมทเ่ี กิดขน้ึ ใหม่การรับมือกับภัยคุกคามและส่ิงท้าทายท่ีเกิดขึ้นใหม่จาก เมือ่ เดนิ ทางถงึ ประเทศไทยแล้ว ผอู้ พยพเขา้ ประเทศจะถกู นำ� ตวั ไปอาชญากรรมข้ามชาติท่ีกระท�ำในลักษณะองค์กรจากมุมมอง ใชแ้ รงงานในหลากหลายรปู แบบ เชน่ อตุ สาหกรรมประมง กอ่ สรา้ งของประเทศไทย ภายใต้บริบทของประชาคมอาเซยี น ส่วนผ้หู ญิงและเด็ก นอกจากการคา้ แรงงานแล้ว ยังตกเปน็ เหยื่อ การค้ามนุษย์เพื่อแสวงหาประโยชน์ทางเพศด้วย โดยผู้ตกTIJ รว่ มกบั สำ� นกั งานปอ้ งกนั ยาเสพตดิ และปราบปรามอาชญากรรม เป็นเหย่ือการค้ามนุษย์จะถูกล่อลวงจากจุดอ่อนที่ต้องการแหง่ สหประชาชาติ (UNODC) จดั ทำ� รายงานทางวชิ าการ “การคา้ คา่ ตอบแทนสูงในการท�ำงาน หรือถกู ขม่ ขหู่ รอื ทำ� ร้ายรา่ งกายมนุษย์จากประเทศกมั พูชา สปป.ลาว และเมยี นมา มายงัประเทศไทย” เพอ่ื พฒั นาองคค์ วามรเู้ กย่ี วกบั สถานการณก์ ารคา้ จากผลการศกึ ษาดงั กลา่ ว คณะผทู้ ำ� การศกึ ษาเสนอแนะใหร้ ฐั บาลมนุษย์ในภมู ิภาค และหนว่ ยงานตา่ งๆ ร่วมกันด�ำเนนิ การส่งเสริมให้มีการโยกยา้ ย ถนิ่ ฐานทปี่ ลอดภยั และป้องปรามมใิ ห้เกิดการค้าแรงงานอยา่ งทั้งน้ี จากการศกึ ษาพบวา่ ใน พ.ศ. 2558 ประมาณการตวั เลข ผดิ กฎหมาย เพือ่ ให้การเคล่อื นย้ายแรงงานโยกยา้ ยถน่ิ ฐานเกิดของผู้โยกยา้ ยถ่ินฐานเข้ามาในประเทศไทยมีจ�ำนวนสูงถึง 4 ล้าน ประโยชนส์ งู สดุ การมกี ลไกคมุ้ ครองสทิ ธขิ องแรงงานโยกยา้ ยถนิ่ ฐานคน ในจ�ำนวนน้ี รอ้ ยละ 90 มาจากประเทศเพื่อนบ้านในแถบ รวมท้ังป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์และการลักลอบขนลุ่มนำ้� โขง ประกอบด้วย ประเทศกัมพชู า สปป. ลาว และเมียนมา แรงงานข้ามชาติ ซึ่งจำ� เปน็ ต้องมนี โยบายระดับชาติท่ีมกี ารน�ำไปโดยผู้อพยพจ�ำนวนมากเข้ามายังประเทศไทยด้วยวิธีการท่ีผิด ปฏิบตั ิ และบงั คบั ใช้กฎอยา่ งจรงิ จงั โดยอาศัยทรัพยากรมนุษย์ปกติ และเม่ือเข้ามาแลว้ ก็ยงั คงสถานะของผู้เขา้ เมอื งโดยมสี ถานะ และงบประมาณ เพื่อท�ำให้เป้าหมายในเชิงนโยบายกลายเป็นผิดปกติในทางใดทางหนง่ึ ดงั นนั้ จึงเปน็ กลมุ่ คนทคี่ วามเสยี่ งทีจ่ ะ มาตรการทีว่ ัดผลได้ในทางปฏิบตั ิ และตอ้ งด�ำเนินไปควบค่กู บัถกู หลอกล่อ ถูกกรรโชก ต้องเผชญิ กบั ความรุนแรง และถูก การส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาอย่างย่ังยืน ส่งเสริมการเติบโตแสวงหาประโยชนต์ ง้ั แตต่ น้ ทาง ระหวา่ งการเดนิ ทาง และปลายทาง ทางเศรษฐกิจ ประชาธปิ ไตย หลกั นิติธรรม และสันตภิ าพและพบว่าความเส่ียงเหล่าน้ีจะเพิ่มมากข้ึนในกลุ่มเด็กท่ีลักลอบเขา้ เมืองอยา่ งผิดกฎหมาย
ประจ�ำปงี บรปารยะงมาานณกา2ร5เง6ิน0
78รายงานประจ�ำปี 2560 I สถาบันเพ่ือการยุติธรรมแห่งประเทศไทย สถาบนั เพื่อการยุติธรรมแหง่ ประเทศไทย (องคก์ ารมหาชน) งบแสดงฐานะการเงิน ณ วนั ท่ี 30 กนั ยายน 2560 หมายเหตุ 2560 2559สนิ ทรัพย์ 5 160,999,415.17 112,673,962.82 สินทรัพย์หมนุ เวยี น 6 2,179,532.42 5,199,438.00 เงนิ สดและรายการเทียบเทา่ เงินสด 644,172.40 542,940.69 ลูกหนี้ระยะส้ัน วัสดคุ งเหลือ 163,823,119.99 118,416,341.51 รวมสนิ ทรัพยห์ มุนเวยี นสินทรพั ย์ไมห่ มนุ เวียน 7 1,575,504.00 1,500,480.00 ลกู หนีร้ ะยะยาว 8 49,132,098.75 61,884,175.65 ทด่ี ิน อาคารและอุปกรณ์ 9 10,274,072.09 1,639,706.72 สินทรพั ย์ไม่มตี ัวตน 60,981,674.84 65,024,362.37รวมสินทรพั ย์ไมห่ มนุ เวียนรวมสนิ ทรพั ย์ 224,804,794.83 183,440,703.88หมายเหตุประกอบงบการเงินเปน็ ส่วนหนึง่ของงบการเงนิ นี้ (หน่วย:บาท)
79 Annual Report 2017 I Thailand Institute of Justiceสถาบันเพ่ือการยตุ ธิ รรมแห่งประเทศไทย (องคก์ ารมหาชน)งบแสดงฐานะการเงิน ณ วนั ท่ี 30 กันยายน 2560 หมายเหตุ 2560 2559หน้สี นิ 11 2,232,917.52 1,892,603.69 หนสี้ นิ หมนุ เวียน 12 2,841,212.15 2,898,703.84 เจ้าหน้รี ะยะสนั้ 5,074,129.67 4,791,307.53 เงินฝากระยะสัน้ 5,074,129.67 4,791,307.53 รวมหนีส้ ินหมนุ เวียน 219,730,665.16 178,649,396.35รวมหน้สี นิสินทรัพย์สทุ ธ/ิ สว่ นทุนสนิ ทรพั ยส์ ุทธ/ิ สว่ นทุน 98,962,500.00 98,962,500.00 ทุน 120,768,165.16 79,686,896.35 รายไดส้ ูง (ตำ่� ) กวา่ คา่ ใช้จา่ ยสะสม 219,730,665.16 178,649,396.35รวมสินทรัพยส์ ทุ ธิ/ ส่วนทนุหมายเหตุประกอบงบการเงนิ เปน็ ส่วนหน่ึงของงบการเงนิ น้ีงบการเงินน้ยี งั ไม่ไดร้ ับการรบั รองจาก สตง. (หนว่ ย:บาท)
80รายงานประจ�ำปี 2560 I สถาบนั เพื่อการยุติธรรมแหง่ ประเทศไทย สถาบันเพอื่ การยตุ ธิ รรมแห่งประเทศไทย (องคก์ ารมหาชน) งบแสดงผลการด�ำเนินงานทางการเงนิ ส�ำหรับปีส้นิ สุดวันที่ 30 กันยายน 2560 หมายเหตุ 2560 2559รายได้ 13 256,242,000.00 156,606,700.00 รายไดจ้ ากงบประมาณ 1,624,261.64 901,293.99 รายได้จากทอี่ ่นื 14 รวมรายได้ 15 257,866,261.64 157,507,993.99 16คา่ ใช้จา่ ย 17 33,130,573.42 27,291,207.96 คา่ ใช้จ่ายบุคลากร 18 6,572,476.32 6,983,000.00 ค่าตอบแทน 19 127,530,120.70 101,131,055.64 คา่ ใชส้ อย 20 2,495,104.14 3,877,539.36 คา่ วสั ดุ 3,138,009.49 2,658,467.61 ค่าสาธารณปู โภค 22,334,138.81 18,240,657.78 คา่ เสือ่ มราคาและค่าตัดจำ� หนา่ ย 22,976,626.49 23,770,831.92 ค่าใช้จ่ายจากการอุดหนุนและบรจิ าค 218,177,049.37 183,952,760.27 รวมค่าใช้จา่ ย 39,689,212.27 (26,444,766.28)รายไดส้ งู (ต่ำ� ) กวา่ ค่าใช้จา่ ยสุทธิหมายเหตปุ ระกอบงบการเงนิ เปน็ สว่ นหนึ่งของงบการเงนิ น้ีงบการเงนิ น้ยี งั ไม่ไดร้ บั การรบั รองจาก สตง. (หน่วย:บาท)
81 Annual Report 2017 I Thailand Institute of Justiceสถาบันเพือ่ การยตุ ธิ รรมแหง่ ประเทศไทย (องค์การมหาชน)งบกระแสเงนิ สด สำ� หรับปีสน้ิ สุดวันที่ 30 กนั ยายน 2560 2560 2559กระแสเงนิ สดจากกจิ กรรมดำ� เนินงานรายได้สูง (ต่�ำ) กว่าคา่ ใช้จา่ ยสทุ ธิ 39,689,212.27 (26,444,766.28)รายการปรบั กระทบรายได้สูง (ต่�ำ) กว่าค่าใชจ้ า่ ยสุทธเิ ปน็ เงนิ สดรับ (จ่าย) จากกิจกรรมดำ� เนินงานบวก รบั เงินคนื เหลือจ่ายปีเกา่ (ปรับปรงุ เข้ารายไดส้ ูง/ (ต�่ำ) ค่าใชจ้ ่ายสะสม) 90,251.70 931,659.83รบั รู้งานระหว่างปี 59 (ปรับปรงุ เข้ารายไดส้ ูง/ (ต�ำ่ ) ค่าใช้จา่ ยสะสม) 1,305,000.00 0.00คา่ เสอ่ื มราคาและค่าตดั จ�ำหน่าย 22,334,138.81 18,240,657.78ลกู หนี้ระยะสั้นลดลง 3,019,905.58 0.00ลูกหน้รี ะยะยาวลดลง 0.00 0.00วัสดุคงเหลือลดลง 0.00 0.00เจา้ หน้รี ะยะสัน้ เพ่ิมข้นึ 340,313.83 855,051.89 เงินรับฝากระยะสนั้ เพ่มิ ขน้ึ 0.00 602,143.74หกั วัสดคุ งเหลอื เพิม่ ขึน้ (101,231.71) (127,806.79)ลกู หน้รี ะยะส้นั เพ่มิ ข้ึน 0.00 (2,285,121.56)ลกู หนรี้ ะยะยาวเพมิ่ ขน้ึ (75,024.00) 0.00เจา้ หนี้ระยะสัน้ ลดลง 0.00 0.00เงนิ รบั ฝากระยะสนั้ ลดลง (57,491.69) 0.00กำ� ไรจากกจิ กรรมดำ� เนนิ งานกอ่ นการเปลยี่ นแปลงในสนิ ทรพั ยแ์ ละหนสี้ นิ ดำ� เนนิ งานลดลงในบัญชีเจา้ หนกี้ ารค้า 0.00 1,201.16 กระแสเงนิ สดจา่ ยสทุ ธจิ ากกจิ กรรมดำ� เนนิ งาน 66,545,074.79 8,226,980.23กระแสเงินสดจากกิจกรรมลงทุนเงนิ สดจ่ายปรับปรุงอาคาร (1,775,624.09) (1,477,664.05)เงินสดจ่ายซ้ืออุปกรณ์ (4,027,325.35) (3,675,979.64)เงนิ สดจา่ ยซ้ือสินทรพั ย์ไมม่ ีตวั ตน (10,956.424.00) (1,706,585.76)เงนิ สดจ่ายงานระหวา่ งท�ำ (1,460,249.00) (14,455,000.00)กระแสเงินสดจ่ายสทุ ธิจากกจิ กรรมลงทนุ (18,219,622.44) (21,315,229.45)เงนิ สดและรายการเทยี บเท่าเงนิ สดลดลงสทุ ธิ 48,325,452.35 (29,542,209.68)เงนิ สดและรายการเทียบเท่าเงนิ สดคงเหลอื ณ วันตน้ งวด 112,673,962.82 142,216,172.50เงนิ สดและรายการเทียบเทา่ เงินสดคงเหลอื ณ วนั ปลายงวด 160,999,415.17 112,673,962.82หมายเหตุประกอบงบการเงินเป็นส่วนหนึง่ ของงบการเงินนี้ (หน่วย:บาท)
82รายงานประจ�ำปี 2560 I สถาบันเพื่อการยุติธรรมแหง่ ประเทศไทย สถาบันเพอ่ื การยุติธรรมแห่งประเทศไทย (องค์การมหาชน) งบแสดงการเปลย่ี นแปลงสินทรัพยส์ ุทธิ/ส่วนทุน ส�ำหรับปสี ิน้ สดุ วันที่ 30 กันยายน 2560 รายได้สูง/(ต�่ำ)กว่า องคป์ ระกอบ ร ว ม สิ น ท รั พ ย ์ ทุน ค่าใช้จา่ ยสะสม อนื่ ของ สุทธิ/สว่ นทุน สนิ ทรพั ย์ สทุ ธ/ิ สว่ นทนุยอดคงเหลอื ณ วันท่ี 30 กันยายน 2558 ตามทีร่ ายงานไว้เดมิ 98,962,500.00 105,123,107.50 - 204,085,607.50ผลสะสมจากการแกไ้ ขข้อผิดพลาดปกี อ่ น - 1,008,555.13 - 1,008,555.13ผลสะสมของการเปลย่ี นแปลงนโยบายการบญั ชี - - --ยอดคงเหลอื ณ วนั ท่ี 30 กันยายน 2558 หลงั ปรบั ปรงุ - 205,094,162.63การเปลยี่ นแปลงในสินทรพั ย์สทุ ธ/ิ สว่ นทุนส�ำหรับปี 2559 98,962,500.00 106,131,662.63 --การเปลยี่ นแปลงทที่ �ำใหท้ ุนเพ่ิม/ลด - - --รายได้สงู / (ตำ่� ) กวา่ ใช้จา่ ยส�ำหรับงวด - - - (26,444,766.28)ก�ำไร/ขาดทุนจากการปรบั มูลค่าเงินลงทนุ - --ยอดคงเหลอื ณ วันที่ 30 กนั ยายน 2559 - (26,444,766.28) - 178,649,396.35 - 98,962,500.00 79,686,896.35หมายเหตุประกอบงบการเงินเป็นส่วนหนึ่งของงบการเงนิ น้ี (หน่วย:บาท)
83 Annual Report 2017 I Thailand Institute of Justiceสถาบนั เพอ่ื การยุตธิ รรมแหง่ ประเทศไทย (องค์การมหาชน)งบแสดงการเปล่ยี นแปลงสนิ ทรพั ยส์ ุทธิ/ส่วนทุนส�ำหรบั ปสี ้นิ สดุ วันที่ 30 กนั ยายน 2560 องคป์ ระกอบ ร ว ม สิ น ท รั พ ย ์ สุทธิ/สว่ นทนุ อน่ื ของ รายได้สูง/(ต�่ำ)กว่า สนิ ทรพั ยส์ ทุ ธ/ิ ทนุ คา่ ใช้จา่ ยสะสม สว่ นทนุยอดคงเหลือ ณ วันที่ 30 กนั ยายน 2559 ตามทีร่ ายงานไวเ้ ดมิ 98,962,500.00 79,686,896.35 - 178,649,396.35ผลสะสมจากการแก้ไขขอ้ ผดิ พลาดปีก่อน - 1,392,056.54 - 1,392.056.54ผลสะสมของการเปล่ยี นแปลงนโยบายการบัญชี - - --ยอดคงเหลอื ณ วนั ท่ี 30 กันยายน 2560 หลังปรับปรุง - 180,041,452.89การเปลยี่ นแปลงในสินทรัพยส์ ทุ ธ/ิ ส่วนทนุ ส�ำหรบั ปี 2560 98,962,500.00 81,078,952.89 --การเปลย่ี นแปลงท่ีท�ำให้ทนุ เพิม่ /ลด - - --รายไดส้ งู / (ต�่ำ) กวา่ ใช้จา่ ยสำ� หรบั งวด - - - 39,689,212.27ก�ำไร/ขาดทนุ จากการปรับมูลคา่ เงนิ ลงทุน - --ยอดคงเหลอื ณ วนั ที่ 30 กันยายน 2560 - 39,689,212.27 - 219,730,665.16 - 98,962,500.00 120,768,165.16หมายเหตุประกอบงบการเงินเป็นส่วนหนึ่งของงบการเงินนี้ (หน่วย:บาท)
84รายงานประจ�ำปี 2560 I สถาบันเพอื่ การยุตธิ รรมแห่งประเทศไทย รายงานการเข้าประชมุ ของคณะกรรมการบรหิ าร สถาบันเพ่อื การยุตธิ รรมแหง่ ประเทศไทย (องค์การมหาชน) การประชุมคณะกรรมการบรหิ ารสถาบนั ฯ ประจ�ำปีงบประมาณ 2560 รายนามคณะกรรมการบริหารสถาบนั ฯ ครง้ั ที่ 1 ครง้ั ท่ี 2 ครั้งท่ี 3 ครงั้ ท่ี 4 ครัง้ ท่ี 5 ครงั้ ท่ี 6 ครงั้ ที่ 7 ครั้งท่ี 8 คร้ังที่ 9 คร้งั ท่ี 10 คร้งั ที่ 11อยั กาสูงสุดเลขาธกิ ารส�ำนักงานศาลยุติธรรมอดตี ปลดั กระทรวงยตุ ธิ รรม ปลัดกระทรวงยตุ ิธรรม อดตี อธิบดกี รมองค์การระหวา่ งประเทศ อ ดี ต ก ร ม อ ง ค ์ ก า ร ร ะ ห ว ่ า ง ป ร ะ เ ท ศ(ผแู้ ทนปลดั กระทรวงการต่างประเทศ) รองปลัดกระทรวงยตุ ธิ รรมกรรมการกลางมูลนธิ ริ ามาธิบดีทป่ี รึกษาสถาบัน สารสนเทศฯอ า จ า ร ย ์ ป ร ะ จ� ำ ค ณ ะ นิ ติ ศ า ส ต ร ์ม.ธรรมศาสตร์ผอ. TIJรวม 7 7 8 7 8 8 6 8 9 6 7ค�ำนวณ% 77.7778 77.7778 88.8889 77.7778 88.8889 88.8889 66.6667 88.8889 100 66.6667 77.7778การประชมุ ทีม่ กี รรมการเข้าประชมุร้อยละ 80 ขึ้นไปของจำ� นวนกรรมการหมายเหตุ : TIJ มกี ารประชมุ ในปงี บประมาณ พ.ศ. 2560 ทง้ั ส้ิน 11 คร้งั มีกรรมการเข้าร่วมการประชมุ รอ้ ยละ 80 ขึ้นไป จำ� นวน 5 ครงั้ ดังน้ี มีกรรมการเข้าร่วมประชุมรอ้ ยละ 80 ขึ้นไป คิดเปน็ รอ้ ยละ 45.4
85 Annual Report 2017 I Thailand Institute of Justiceคณะผู้จดั ท�ำฝา่ ยสื่อสารและดแู ลภาพลกั ษณอ์ งคก์ รสถาบันเพ่อื การยตุ ิธรรมแห่งประเทศไทย (องคก์ ารมหาชน)
Thailand Institute of Justice (Public Organization) GPF Building Tower B, 15 - 16th Floor, Witthayu Road, Lumpinee, Pathumwan, Bangkok 10330, Thailand Tel: +66 (0) 2118 9400, Fax: +66 (0) 2118 9425, 26 E–mail: [email protected] f www.facebook.com/tijthailand.org www.youtube.com/JustRightChannelTIJ
Search