มลู นิธิพระพุทธสันตธิ รรม เร่ือง สุดชีวิต โดย ดร.บุญเสริม บุญเจริญผล
มูลนิธพิ ระพุทธสันตธิ รรม พนั ธกิจ มลู นิธิพระพทุ ธสนั ติธรรม สร้างธรรมสถาน เผยแผพ่ ระธรรม อปุ ถมั ภพ์ ระสงฆ์ สงเคราะหผ์ ยู้ ากไร้ ให้ปัญญาแก่ประชาชน
สุดชวี ติ หนังสือสาํ หรบั คนที่ยงั มีชีวิต 1
คาํ นํา หนงั สอื เล่มน้ีเขยี นขน้ึ เพ่อื เป็นคมู่ อื สําหรบั มนุษยท์ ุกคนทุกฐานะทก่ี ําลงั เดนิ ทางไปสเู่ ป้าหมายปลายทางทไ่ี ม่มใี ครอยากไป แต่ตอ้ งไป เพ่อื ท่านจะ ได้จดั การกับชีวติ ของท่านเม่อื ท่านเดินทางถึงปลายทาง ระหว่างทางได้ แนะนําเรอ่ื งทค่ี วรทาํ ในฐานะทเ่ี ป็นมนุษยเ์ กดิ มาดโู ลกน้ีเป็นการชวั่ คราว แลว้ กต็ อ้ งจากไป เน้ือความและเหตุผลต่างๆ ได้จากคําสอนของพุทธศาสนาและการ ทดลองคน้ ควา้ ดว้ ยตวั ผมเอง และประสบการณ์ทผ่ี มไดม้ ากบั ตนเอง อาจตา่ ง กบั ทท่ี า่ นเคยทราบมา หรอื ทเ่ี คยเช่อื ตามๆกนั มา ผมทราบดวี ่า เร่อื งอย่างน้ีไม่มใี ครอยากเขยี น ไมมใี ครอยากอ่าน แต่ ผมก็แขง็ ใจเขยี น เพ่อื เพ่อื นร่วมโลกทุกคน อย่าหวาดกลวั เลย ทนอ่าน หน่อยเถดิ แลว้ ท่านจะบอกวา่ คมุ้ คา่ กบั เวลาทห่ี มดไปกบั การอ่าน บญุ เสรมิ บญุ เจรญิ ผล 18 สงิ หาคม 2557 3
4
วนั สดุ ท้ายของชีวิต สมควรนอนหายใจระรวยอยู่บนเตยี งในหอ้ งไอซยี ู พยายามลมื ตาข้นึ แต่ไมส่ าํ เรจ็ ความรสู้ กึ เหมอื นกําลงั จะหลบั หมดความรูส้ กึ โดยทไ่ี ม่สามารถ ต่อตา้ นทนสไู้ ด้ เขามองไม่เหน็ ว่ามอี ะไรอยู่รอบตวั เหลอื เพยี งเสยี งแว่วๆท่ี ผ่านหอู นั เป็นประตูส่อื สารสดุ ทา้ ยของมนุษย์ แต่กเ็ หมอื นเสยี งทอ่ี ยไู่ กลมาก เหลอื เกนิ “คงไม่พ้นบ่ายนี้ ชีพจรตกลงมากแล้ว” สมควรไดย้ นิ เสยี งแพทย์ท่ี อยขู่ า้ งเตยี งของเขา “ยืดไปอีกหน่อยไม่ไหวหรือคะ” เขาคาดว่าเป็นเสยี งภรรยาท่เี ขา คุน้ หู “คุณรีบเตรียมเสื้อผ้ามาเปลี่ยนเร็วๆดีกว่า นานไปร่างแข็ง เปล่ียนเสื้อผ้ายาก” เสยี งแพทยแ์ นะนํา สมควรไดย้ นิ เสยี งน้ี เขาเกดิ ความ กลวั สุดขดี “เราจะตายหรือ เราต้องตายหรือ ไม่ตาย ไม่ตาย ไม่อยาก ตาย” เขาสง่ เสยี งตะโกน แตไ่ มม่ ใี ครไดย้ นิ เลย เพราะวา่ แทจ้ รงิ เขาไมม่ แี รง ขยบั ปากขยบั ลน้ิ เลย 5
สมควร คาดว่ามีเขาอยู่ในห้องนี้คนเดียว แม้เสียงสองคน พูดกนั เขาก็รู้สึกว่าอยู่ไกลเหลือเกิน แต่เขาก็จาํ เสียงภรรยาได้และ คาดว่าหมอกบั ภรรยาวิจารณ์ถึงเขา ฉะนัน้ เขาแน่ใจว่า เขากาํ ลงั จะ ตายในไม่ช้า ตายจากโลกนี้ไป จากภรรยา บตุ ร หลาน จากทุกสิ่ง ทุกเรื่องเขารกั และติดใจ ความกลวั ตายทําให้เขารู้สึกว่าตัวสัน่ สะท้าน ร้องไห้อย่ใู นใจ หายใจอึดอดั เหมือนถกู บีบจมูกไว้ เขาร้สู ึก เหมือนกําลงั จะหลับท่ีไม่เหมือนก่อน สวิทช์ชีวิตกําลังจะดับวูบ เพียงร้สู ึกว่า รอบตวั มีแต่ความมืด มนั มืดสนิทจริงๆ มืดอย่างท่ีเขา ไม่เคยร้จู กั มาก่อน แล้วเขากร็ ้สู ึกว่า เขาก้าวตกจากสะพาน ตกลง ไปในความมดื อยา่ งรวดเรว็ เกินความเรว็ ใดที่เขาเคยพบมา 6
ข้าพเจา้ ขอถามท่านว่า “ท่านจะว่าอย่างไร ? ถ้าคนท่ีชื่อสมควรนัน้ คือ ท่านเอง” บางคนตอบวา่ “ไมค่ ิด เพราะนัน่ ไม่ใช่ฉัน ฉันยงั ไมต่ าย ฉันยงั สาว (ยงั หนุ่ม)” บางคนตอบวา่ “อยา่ งนี้น่ากลวั จงั เลย คงวา้ เหว่ วา้ ว่นุ เหลือจะทน” คนส่วนมากจะคิดว่า ฉันยงั ไม่ตาย ฉันยงั หนุ่มสาวอยู่ ฉันยงั แขง็ แรง แต่เอาเถิด... ใครจะคดิ อย่างไรก็ตาม กรุณาบอกตัวเองให้ ตระหนักชัดว่า “ฉันต้องตาย ฉันไม่มีทางหลีกเลี่ยง แม้ฉันจะทํา อะไรๆสาํ เรจ็ ย่ิงใหญ่มามากมาย แต่ฉันจะหนีตายไม่สาํ เรจ็ ” หมนั่ พูดกบั ตวั เองบ่อยๆ แลว้ ท่านจะเรม่ิ คุน้ เคยกบั ความตายทลี ะน้อย จนไม่ กลวั ตาย 7
คิดถึงความตายไปทาํ ไมกนั ? “คิดถึงความตายทาํ ไมกนั ไม่เป็ นมงคลเลย” คนจํานวนไม่น้อย พดู อยา่ งน้ี แต่แทจ้ รงิ แลว้ การคดิ ถงึ ความตายเป็นมงคลอยา่ งยงิ่ การคิดถึงความตายมีประโยชน์และได้บุญด้วย ด้วยเหตุผล ดงั ต่อไปนี้ 1. การคิดถึงความตายแล้วได้บุญ เพราะว่าเป็นอนุสตอิ ย่างหน่ึงใน สบิ อย่าง คอื การคดิ ถึงความตายเป็นเร่อื งท่คี วรระลกึ ถึงบ่อยๆอย่างหน่ึง (อนุสติ เรอ่ื งทค่ี วรระลกึ ถงึ บ่อยๆ ไดแ้ ก่ 1. นึกถงึ คณุ ของพระพทุ ธเจา้ 2. นกึ ถงึ คุณของพระธรรมคาํ สอนของพระพทุ ธเจา้ 3. นึกถงึ คุณของพระสงฆ์ 4. นึกถงึ ศลี ทต่ี นรกั ษา สมบรู ณ์ดหี รอื ไม่ 5. นึกถงึ ทานทบ่ี รจิ าคแลว้ 6. นกึ ถงึ ทางปฏบิ ตั ทิ ท่ี าํ ใหเ้ ป็นคนมคี ุณคา่ 7. นกึ ถงึ ความตายทจ่ี ะตอ้ งเกดิ แก่เรา 8. นึกถงึ กายวา่ แทจ้ รงิ แลว้ เป็นสง่ิ ไมง่ าม 9. นกึ ถงึ ลมหายใจเขา้ ออก ทเ่ี รยี กวา่ อานาปานสติ 10. นึกถงึ ธรรมะขอ้ ปฏบิ ตั เิ พอ่ื นพิ พาน ) เม่อื การนึกถงึ ความตายเป็นขอ้ ควรปฏบิ ตั ใิ นพุทธศาสนา จงึ ไม่ต้อง สงสยั วา่ ไดบ้ ุญแน่ 8
2. การคิดถึงความตายทาํ ให้ค้นุ เคยกบั ความตาย ทาํ ใหเ้ ตรยี มตวั ตายอย่างมคี ุณภาพ ตงั้ แต่เตรยี มการจดั การทรพั ยส์ มบตั ทิ เ่ี ราจะตอ้ งทง้ิ ไป แลว้ เร่อื งญาติ เรอ่ื งงาน ไปจนถงึ การเตรยี มใจเผชญิ กบั วนิ าทที จ่ี ะขาดใจ ตาย 3. การคิดถึงความตายทาํ ให้ตายถกู วิธี เม่อื ถงึ เวลาท่จี ะต้องตาย จรงิ จะไดท้ ําใจไดถ้ ูกวธิ ี ไปส่ภู พภูมทิ ด่ี ี และ ไม่ต่นื ตระหนกทุรนทุราย ไปสู่ ภพภมู ทิ ต่ี ่ํา 4. การคิดถึงความตายทาํ ให้เราดาํ เนินชีวิตอย่างถกู ต้องสงบเยน็ เราจะไม่โลภ เราจะไม่อาฆาตพยาบาท เราจะไม่ดูถูกผู้อ่ืน อย่างท่ีคน ทงั้ หลายเขาทาํ กนั เพราะตระหนกั รวู้ า่ ทรพั ยส์ นิ ทส่ี ะสมพอกพนู เป็นพนั ลา้ น หม่นื ล้าน เม่อื ตายก็เอาไปไม่ได้ คนท่ีเรารกั หรอื เกลียดก็ต้องจากเราไป ฉะนัน้ คนท่คี ดิ ถึงความตายบ่อยจะไม่ก่อความเดอื ดรอ้ นใหผ้ ูอ้ ่ืน ไม่คดิ เอา เปรยี บผอู้ น่ื ไมเ่ อาเปรยี บสงั คมประเทศชาติ 10
การคิดถึงความตายทาํ ให้ลด ความเคียดแค้นอาฆาตพยาบาท เพราะแน่ ใจว่าภายหน้ าเราก็ตาย เขาก็ตาย จะต่อสู้ทําลายกันไป ทําไม ต่างคนต่างก็มาโลกนี้ ชวั่ คราว เรามาอย่ชู วั่ คราวจริงๆ การคิดถึงความตายทาํ ให้เรา ลดละการถือตัวว่าเราวิเศษ เรา เก่ง เรารวย เราย่ิงใหญ่ เพราะ ตระหนักร้วู ่า ในท่ีสุดกไ็ ม่มีเราอีก ต่อไป เราตายแล้วกห็ มดท่าเน่า เหมน็ หมามนั ยงั ไม่กลวั เรา แล้ว จะวิเศษไปได้อยา่ งไรกนั ฉ ะ นั ้น ก า ร คิ ด ถึ ง ค ว า ม ต า ย ทําให้เราเปล่ียนพฤติ กรรมไป ในทางที่ดี เหมาะที่จะเป็ นเทวดา พรหม อรหันต์ ไกลจากสภาวะ เป็ นเปรต อสูรกาย เดียรฉาน มี พฤติ กรรมท่ี ดีมีคุณค่า บุคลิ ก เยอื กเยน็ น่าคบ 11
12
การไม่เตรยี มตวั ตายเป็นเร่อื งประมาททส่ี ุด ไม่มคี วามประมาทใดจะยง่ิ กวา่ ในการดําเนินชวี ติ ทวั ่ ไปเราอาจประมาทไดบ้ า้ ง เช่น ไม่ออมเงนิ ไวเ้ พ่อื อนาคต ไม่เตรยี มเคร่ืองดบั เพลิงไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน ก็อาจไม่เสียหาย เพราะเหตุรา้ ยอาจไม่เกดิ ขน้ึ เช่น เราไม่พบกบั ความขาดแคลนในอนาคต เราอาจไมพ่ บกบั เหตุการณ์ไฟไหม้ ทป่ี ระมาทมากไ็ มเ่ ป็นไร แต่เรอ่ื งความ ตายเป็นเร่อื งทเ่ี ราต้องไปพบแน่ๆ เรว็ หรอื ชา้ ก็พบแน่ แล้วทําไมเราไม่ เตรยี มตวั เผชญิ กบั ความตาย โดยเรม่ิ คดิ ถงึ ความตาย การคดิ ถงึ ความตาย ไมใ่ ชก่ ารแช่งตวั เองใหต้ ายเรว็ ชวี ติ เราจะตายเรว็ ตายชา้ ไม่เก่ยี วขอ้ งกบั ความคดิ เร่อื งความตาย มนั เป็นไปของมนั เอง เม่ือถึงเวลาจะต้องตาย มนั กต็ าย ไม่มีปัจจยั ใดหรือ บคุ คลใดจะช่วยไมใ่ ห้ตายได้ ถา้ เราสงั เกตคนรอบๆตวั เราสกั หน่อยจะตอ้ ง ยอมรบั วา่ คนทค่ี ดิ ถงึ ความตายยอมรบั ความตายวา่ เป็นเร่อื งจรงิ มกั เป็นคน อายุยนื บางคนพมิ พห์ นงั สอื ทร่ี ะลกึ งานศพเตรยี มไวก้ อ่ น กไ็ มต่ ายเสยี ที จน หนงั สอื เก่าปลวกกนิ พงั หมดหรอื ตอ้ งนํามาแจกกนั ก่อน ฉะนนั้ การคดิ ถงึ ความตายจงึ ไมใ่ ช่การแช่ง ไมเ่ ป็นอปั มงคล 13
โดยสรปุ แล้ว การคิดถึงความตายเป็ นการปฏิบตั ิจิต ปฏิบตั ิธรรม อย่างย่ิง เอาใจน้อมเข้าบูชาพระ เป็นกศุ ลมาก ทาํ ให้เกิดปัญญาเข้าใจ ชีวิตไม่หลงไปกบั เรื่องไร้สาระท่ีคนทัง้ หลายเข้าใจว่ามีสาระ จึงลด อวิชชาคือความโง่เขลา เกิดปัญญาเพ่ิมพูนพร้อมท่ีจะอยู่ในภพภมู ิท่ี สูงขึ้นทงั้ ปัจจุบนั และอนาคต ภพภมู ิที่ดีขึ้น สูงขึ้น ในปัจจบุ นั ก็ คือ ได้อยใู่ กลช้ ิดแวดล้อมด้วยคนดี ส่ิงต่างๆ รอบตวั กด็ ีขึน้ อยใู่ นท่ีท่ีดี ขนึ้ ชีวิตจงึ มีความสขุ มากขึน้ 14
ทาํ ไมคนจงึ กลวั ตาย ใครๆกก็ ลวั ตาย หรอื ว่าท่านไม่กลวั ตาย การท่คี นทงั้ หลายกลวั ตาย เกดิ จากเหตุผลดงั ตอ่ ไปน้ี 1. กลวั เจบ็ 2. กลวั จาก 3. กลวั หาย 4. กลวั สภาวะทจ่ี ะตอ้ งไปพบ 15
ขออธิบายท่ีละเรอ่ื งดงั นี้ 1. เพราะกลวั เจบ็ จึงกลวั ตาย บางคนบอกว่าไม่กลวั ตายแต่กลวั เจ็บ ฟังแล้วก็เช่ือได้คร่ึงเดียว ท่ีว่าไม่กลวั ตายนัน้ ไม่จริง ถ้าไม่ใช่พระ อรหนั ต์ ทุกคนก่อนทจ่ี ะตายจะผ่านความเจบ็ ปวด หรอื อย่างน้อยกล็ ําบากกาย คนทโ่ี ชคดอี าจตายสบายหน่อยโดยหวั ใจวายไปง่ายๆโดยไม่ปวดรา้ วหวั ใจ ซง่ึ มเี ป็นเพยี งสว่ นน้อย เช่น บางคนกราบพระแลว้ กข็ าดใจตายในอริ ยิ าบท กําลงั กราบก็มี คนท่ีหลบั แล้วหลบั เลยไม่ต่ืนก็มอี ยู่ แล้วเราจะทราบได้ อยา่ งไรวา่ เราจะโชคดไี ดต้ ายสบายสวยๆอยา่ งนนั้ เราอาจตอ้ งเจบ็ ปวดทุรน ทุรายกวา่ จะขาดใจตาย การทม่ี กั จะตอ้ งเผชญิ กบั ความเจบ็ ปวดอย่างน้ี ทํา ใหค้ นกลวั ตาย ผมเองเวลาป่วยตอ้ งเจบ็ ปวดมากๆ กบ็ อกตวั เองว่า “ตาย เลยๆๆ ตายเรว็ ๆ หน่อย เจบ็ เหลือเกิน” คอื ขอตายไปเลยดกี ว่าตอ้ ง เจบ็ ปวดอย่างนัน้ มนั กไ็ ม่ยอมใหต้ าย ถ้าเจบ็ ปวดเกนิ ย่านนัน้ ไป ก็ต้อง ตายเพราะวา่ ทนไมไ่ หว 16
2. กลวั จาก เรามคี วามเคยชนิ ผกู พนั กบั คน สตั ว์ และ สงิ่ ของ อยกู่ บั ภรรยา สามี ลูก พ่อ แม่ เพ่อื นรกั ถา้ เราตายแลว้ กต็ อ้ งจากกนั ยงั ห่วงหา อาลยั กนั จงึ ไม่อยากตายจากไป ตายไปแลว้ กต็ ดิ ต่อกนั ไม่ได้ จะใหห้ มอผี เขา้ ทรงตดิ ตอ่ ให้ เขากโ็ กหกหลอกเอาเงนิ บางคนเล้ยี งสตั วต์ วั โปรด กอ็ าลยั รกั คดิ กงั วลว่า ถ้าฉนั ไม่อย่แู ลว้ ใคร จะดแู ลสตั วเ์ หลา่ น้ี แลว้ จะเลย้ี งดดู เี ทา่ กบั เราหรอื ไม่ บางคนผกู พนั กบั ทรพั ยส์ มบตั ิ บา้ นสวยทเ่ี คยอยู่ ทรพั ยส์ นิ ทห่ี าไวไ้ ด้ จนมากมายลน้ บา้ น จะตอ้ งจากกนั ไป ยงิ่ เป็นคนรวยกย็ ง่ิ มเี รอ่ื งหว่ งมาก 18
3. กลวั หาย คอื กลวั ว่าตนจะหายหมดไปจากโลกน้ี ความกลวั ขอ้ น้ีหนักที่สุด แม้จะมคี ําสอนของศาสนาต่างๆว่าตายแล้วไปสวรรค์ ตายแล้วไปอยู่กบั พระเจ้า ตายแล้วไปเกิดใหม่ ก็ไม่แน่ใจว่าจรงิ หรอื เปล่า ในใจอดสงสยั ไม่ได้ แมเ้ ป็นนักบวชก็ตาม อดสงสยั ไม่ได้ว่าจรงิ หรอื เปล่า ถ้าไม่จรงิ ก็ต้องสูญร่างกายไปอย่างน่าเสยี ดาย ความกลวั เร่อื งต้องสูญหายไปเป็นความกลวั ท่หี นักหนาสาหสั มาก เกดิ มาอยู่เป็นตวั เป็นตน แล้วอยู่ๆตวั ตนนี้ก็หายไปเลย ไม่มอี ีกแล้ว น่ากลวั อย่างยงิ่ 19
4. กลวั สภาวะที่จะไปพบ คอื ไม่ทราบว่าตายแล้วจะไปพบกบั อะไร ถ้าตายแล้วสูญก็น่ากลวั ถ้าตายแล้วต้องไปพบกบั นรกไฟลุกโชน ก็น่าหวาดเสยี ว ถ้าได้ไปอยู่สวรรค์ที่สวยงามมคี วามสุขก็ดี จะได้มี ภรรยาเยอะๆ ถ้าเป็นผูห้ ญิงจะได้มสี ามเี ยอะๆหรอื เปล่า แต่จะเป็นไป ได้หรอื อาจจะไปปฏิสนธิในมดลูกหมา หรอื เกิดเป็นแมว เป็นงู เป็น คางคก เป็นนก เป็นปลา ฯลฯ สารพดั จะวา้ วุ่น น่ากลวั จรงิ ๆ ยง่ิ เคยทาํ บาปไวม้ าก ยง่ิ น่ากลวั มากข้นึ อีก ความกลวั ทงั้ สี่เร่อื งน้ีเอง รวมกนั เขา้ เป็นแรงรวมทําให้คนกลวั ตาย แรงใดจะมากหรอื น้อยก็แล้วแต่อุปนิสยั ของผู้นัน้ 20
วิธีลดความกลวั ตาย ใครๆก็กลวั ตายทัง้ นัน้ แต่ความกลวั ตายไม่มปี ระโยชน์เลย การ กลวั ตายไม่ช่วยใหช้ ีวติ ยนื ยาว การกลวั ตายทําให้ชวี ติ เศรา้ สรอ้ ยหงอย เหงาหดหู่มากข้นึ ชวี ติ คนควรสดใสเบกิ บาน มปี ิติคอื อม่ิ เอิบใจในการทํา ความดี แต่ถงึ อย่างไรเราก็ยงั กลวั ตาย เราจงึ ต้องหาอุบายแก้กลวั ตาย ต้องแก้ท่ใี จ คอื สรา้ งความเขา้ ใจ ขอแนะนําวธิ กี ารลดความกลวั ตายดงั น้ี 1. พิจารณาความจริงในวงกว้าง ความจรงิ หรอื ท่เี รยี กว่าสจั ธรรม ของสงิ่ และเร่อื งทงั้ ปวงมดี งั น้ี • ทุกสง่ิ ทุกเร่อื ง ต้องเปล่ยี นแปลง : อนิ จจงั • ไม่สามารถรกั ษาสภาพเดมิ ได้ : ทุกขงั • ในท่สี ุดก็หมดไปไม่มเี หลอื เป็นรูปเป็นตวั อย่าง ท่เี ป็นอยู่น้ี : อนัตตา 21
โลกท่ีเราอาศยั กนั อย่นู ี้กเ็ ปล่ียนแปลงไปเรอ่ื ยๆ รอ้ นขนึ้ เรอ่ื ยๆ แผ่นดินไหวมากขึน้ พายแุ รงขึน้ จะให้โลกเหมือนเดิม ไมไ่ ด้ ในท่ีสดุ เมอ่ื ดวงอาทิตยร์ ะเบิดออกกลายเป็นลกู ไฟหลาย แสนดวง เข้ามาใกล้โลก กเ็ ผาโลกไหม้หมดกลายเป็นเถา้ ถ่านและ หายไปในท่ีสดุ ไมม่ ีโลกนี้อีกต่อไป คนและสตั วต์ ้องตายหมด โลก ถา้ จะเหลอื ท่านอยคู่ นเดียวกค็ งอยไู่ มร่ อด เม่ือโลกยงั ต้อง หายไป แล้วเราจะอยโู่ ดยไมต่ ายได้อย่างไร มนั เป็นกฎธรรมชาติ จริงๆ อะไรๆ กต็ ้องตายหรือสลายไป เราอย่ากลวั ตายเลย ถึง กลวั ไปกไ็ ม่รอดได้ 22
2. พิจารณาให้เหน็ ความจริงของคนรอบตวั ว่า คนทไ่ี ม่ใช่ญาตกิ พ็ า กนั ตายไปมากแลว้ • คุณชยั ชาญกต็ ายไปแลว้ • คณุ ชาตชิ ายกต็ ายไปแลว้ • คณุ เฉลมิ พลกต็ ายไปแลว้ • คณุ ลดั ดากต็ ายไปแลว้ • คุณแปลกกต็ ายไปแลว้ • คุณบวรกต็ ายไปแลว้ • คณุ สมคั รกต็ ายไปแลว้ • คุณสมรกต็ ายไปแลว้ • คุณวภิ ากต็ ายไปแลว้ • คุณสทิ ธกิ ต็ ายไปแลว้ • ฯลฯ อกี มากมายนบั ไมค่ รบ ใครๆเขากต็ ายกนั ทงั้ นนั้ แลว้ เราจะอยคู่ นเดยี ว คา้ํ ฟ้าไดอ้ ยา่ งไร ไมเ่ รว็ กช็ า้ เรากต็ อ้ งตายเหมอื นคนเหลา่ น้ี 23
3. นึกถงึ ญาติพ่ีน้องที่ตายไปแล้ว • คณุ ทวดกต็ ายไปแลว้ • คุณป่กู ต็ ายไปแลว้ • คุณยา่ กต็ ายไปแลว้ • คณุ พอ่ กต็ ายไปแลว้ • คณุ แมก่ ต็ ายไปแลว้ • คณุ สามกี ต็ ายไปแลว้ • คุณภรรยากต็ ายไปแลว้ • คุณพก่ี ต็ ายไปแลว้ • คุณน้องกต็ ายไปแลว้ • คุณลกู กต็ ายไปแลว้ (ถา้ ใครยงั ไมต่ ายกข็ า้ มไป) ญาตผิ ูใ้ หญ่ผู้น้อยท่เี ราคุน้ เคยพากนั ตายไปเป็นลําดบั แซงควิ ไปก็มี มาก แลว้ เราจะอยคู่ นเดยี วค้าํ ฟ้าไมต่ ายไดอ้ ยา่ งไรกนั อกี ไมเ่ รว็ กช็ า้ เราก็ ถงึ ควิ ตอ้ งตาย 24
หลกั ปฏิบตั ิทงั้ สามข้อนี้ให้ท่านนํามาพิจารณา โดยนัง่ คน เดียวในท่ีเงียบๆ ในบรรยากาศสวยๆ นัง่ พิจารณาไปช้าๆ ทีละขอ้ จนแน่ใจว่าใช่แล้ว กจ็ ะลดความกลวั ตายไปได้มาก เม่ือความคิดตกผลึกยอมรบั ว่า ความตายเป็นเรื่องธรรมดา สาํ หรบั ทุกคน เราไม่มีทางหนีพน้ ยอมรบั ได้กเ็ ป็นอนั สาํ เรจ็ ลด ความกลวั ตายลงได้มาก ข้อสําคญั เม่ือยอมรบั ความตายแล้ว ก็อย่าคิดฆ่าตัวตาย เพราะว่าไม่มีประโยชน์ ไม่ต้องกลวั ว่าจะไม่ตาย อีกหน่อยก็ได้ ตายแน่ๆ ข้อสาํ คญั อยา่ เก่งอวดดีแต่ปากว่า ไม่กลวั ตาย แต่ความจริง กย็ งั กลวั ตายอยู่ อย่างนี้เป็นโมฆะ ไมเ่ กิดประโยชน์ 25
นึกถึงความตายบอ่ ยเพียงไร? บางคนไมเ่ คยนึกถงึ ความตาย “ขีเ้ กียจจะนึกถึงมนั นึกไม่นึกกต็ ้อง ตาย” ความคดิ อย่างนัน้ ไม่ถูกต้อง เพราะว่าการนึกถึงความตายมี ประโยชน์และเป็นบุญดว้ ย ดงั ไดก้ ล่าวมาแลว้ คราวน้ีก็มาถึงคําถามว่า จะให้นึกถึงความตายบ่อยเพียงใด พระพุทธเจ้าท่านนึกถึงความตายตลอดเวลา นึ กถึงความตาย ตลอดเวลาหมายความว่าไม่ต้องนึกถึงเร่ืองอ่ืนเลยหรือ? คดิ แต่เพยี ง ตาย ตาย ตาย ตาย ตาย ..... เร่อื ยไปไม่หยุดหย่อนอย่างนัน้ หรอื ไม่ใช่ เช่นนนั้ ถา้ เป็นเช่นนนั้ กไ็ มต่ อ้ งทาํ งานอะไร มวั แต่นึกถงึ ความตายกไ็ มต่ ้อง คดิ ทําอะไร แต่หมายความว่า ให้ฝังความร้สู ึกไว้ใต้จิตสาํ นึกว่า ‘เรา ต้องตาย’ เราจะทาํ อะไรคดิ เรอ่ื งใด ใหท้ าํ ใหค้ ดิ ภายใตค้ วามสาํ นึกว่า เรา ตอ้ งตาย 26
ฝังความจริงเอาไว้ในใจลึกๆ เราจะทําอะไรคิดอะไรก็อยู่ภายใต้ เง่อื นไขว่า เราต้องตาย คําว่าเราต้องตายมไิ ด้ออกมาเป็นคําพูด แต่เป็น สนามความคดิ ทแ่ี วดล้อมความคดิ แต่ละขณะอยู่ ถ้าเรยี กตามสมยั ใหม่ก็ เรยี กว่า ทําและคดิ อยู่ภายใต้บรบิ ทแห่งความตาย เม่อื ฝังความจรงิ ว่าเรา ต้องตายเขา้ ไปในส่วนลกึ ของจติ คราวใดทค่ี ดิ โลภ คดิ โกรธ มนั กจ็ ะมคี ํา ว่า “เราต้องตายนะ” ออกมาเป็นคํากํากบั ความรูส้ กึ นึกคดิ แลว้ เราจะคดิ จะทาํ ในสงิ่ ทเ่ี หมาะกบั ทเ่ี ราตอ้ งตาย ท่านจะสงั เกตคนทโ่ี ลภมาก โกงชาติ โกงเมอื ง เขาจะคดิ จะทําอย่างตะกละ ไม่รูจ้ กั พอ โดยไม่มคี ําว่า “เราต้อง ตายนะ” ฝังอยใู่ นจติ ใจของเขาเลย เหมอื นอยา่ งเราขบั รถ เราฝังเน้ือความทส่ี าํ คญั เอาไวใ้ ตจ้ ติ สาํ นึกของ เราว่า “ต้องปลอดภยั ๆ ๆ ๆ” น้ีก็เหมือนกับคิดถึงความปลอดภัย ตลอดเวลา จากนัน้ เรากจ็ ะไม่ขบั เรว็ ใจไม่ลอย ไม่สุ่มเสย่ี ง ไม่ละเมดิ กฎ จราจร ฯลฯ เราจะขบั อย่างดี ดีกว่าคนอ่ืนๆท่ีอาศยั เพียงความชํานาญ เทา่ นนั้ แลว้ กต็ ายกนั บ่อยๆ เพราะคดิ ประมาทวา่ จะไมต่ าย 27
ฉะนั้นเราก็ตอบคําถามได้แล้วว่า คิดหรือระลึกถึง ความตายบ่อยเพียงใด กต็ ้องระลึกถึงตลอดเวลา และ การนึกถึงความตายตลอดเวลา ก็คือฝังความจริงเอาไว้ ภายในใต้จิตสาํ นึกว่า เราต้องตาย เราจะคิดจะทาํ อะไร ก็ ให้อยู่ในความร้สู ึกเบือ้ งลึกของจิตว่า ‘เราต้องตาย’ ซึ่งเรา ฝังเอาไว้เตม็ หมดแล้ว จึงเป็นการสาํ นึกถึงความตายตอด เวลาโดยไมต่ ้องคิดซาํ้ ซากอีก ถ้าฝังความร้สู ึกนี้ลงไปในจิตไม่ได้ กไ็ ปอยู่ในที่เปล่ียว สงบ ชายป่ า ชายทะเล หรือ ปิ ดห้องให้สนิ ท แล้วตะโกน ด้วยเสียงอนั ดงั ว่า “กตู ้องตาย ๆๆๆๆ” ไม่ใช่ “กอู ยาก ตาย” อย่าพดู ผิด ทาํ อย่างนี้แล้ว อะไรๆ กด็ ีขึน้ ไมต่ ้อง ไปสะเดาะเคราะหท์ ่ีไหนเลย
6 เวลาเราจะขาดใจตายเป็นอยา่ งไร? และเราควรทาํ ตวั เองอย่างไร? คนที่กาํ ลงั จะตายจะผ่านเหตกุ ารณ์สองระยะ คือ 1. ระยะใกลต้ าย 2. ระยะกาํ ลงั จะขาดใจตาย ระยะใกลต้ าย ระยะใกลต้ ายจะมเี หตุการณ์ท่จี ะต้องพบคอื ทางดา้ น จิตใจจะต่อสู้ฝืนความตาย มีความรู้สึกว่าอยากมีชีวิตอยู่ไม่อยากตาย พรอ้ มกนั นัน้ จะคดิ ถงึ สงิ่ ต่างๆทเ่ี ป็นหว่ งอยู่ หรอื งานทย่ี งั คา้ งอยู่ เช่น คดิ ห่วงลูกหลานสามีภรรยา คิดห่วงงานท่ีทํายังไม่สําเร็จตามท่ีตัง้ ใจไว้ ทางดา้ นรา่ งกายกเ็ จบ็ ปวดหรอื อดึ อดั เป็นทุกขท์ างกาย 29
ครนั้ เมอ่ื เพลยี จดั ตา้ นฝืนไม่ไหว กย็ อมปล่อยใจ ยอมหลบั เหมอื นคน เป็นลมห้ามไม่ได้ ตอนน้ีจะรู้สกึ สบาย ไม่เจบ็ ปวด ความไม่สบายกาย หายไปส้นิ เขา้ สู่สภาวะท่อี ยากหลบั เต็มท่ี หากเกดิ ความคดิ ว่า ยงั ไม่ อยากตาย ต้องไม่ตาย ก็จะเกิดความรู้สกึ รู้ตวั คนื มา ร่างกายก็เจ็บปวด ขน้ึ มาอกี พยายามส่อื สารกบั คนใกลๆ้ กไ็ ม่สามารถทําได้ แขนขาตาปาก ใชส้ ่อื สารตดิ ต่อกบั คนรอบขา้ งไม่ได้ ในทส่ี ุดทนความเหน่ือยเพลยี ไม่ไหว ก็ปล่อยใจท้ิงกายท้งิ เร่อื งกงั วลไปอีก ก็เขา้ สู่สภาวะใกล้หลบั หากเกิด ความคดิ ว่ายงั ไม่ยอมตายอีก ต่อสู้กบั ความตาย ความรู้สกึ ตวั จะแรงข้นึ ความเจ็บปวดไม่สบายกายก็กลับมาอีก ต่อมาเพลียจัดทนไม่ไหว ก็ กลบั ไปยอมแพ้ ความรสู้ กึ ตวั แผ่วลงไม่รบั รอู้ ะไรมากนกั จะเขา้ ถงึ ขนั้ กาํ ลงั จะขาดใจตาย กําลงั จะขาดใจตาย ตอนน้ีเพลยี จดั มาก ใจยอมแพแ้ ลว้ ไม่คดิ สูก้ บั ความตาย คอื ไม่กล้ากลบั มารูส้ กึ ตวั อกี กําลงั จะผลอยหลบั แต่ไม่หลบั เพราะว่าการตายไม่เหมอื นทุกประการกบั การหลบั ธรรมดา ตอนน้ีจะเขา้ สู่ ช่วงการขาดใจตาย ช่วงสนั้ แมเ้ พยี ง 2 วนิ าที แต่ในความรูส้ กึ หรอื โลกจติ วญิ ญาณ จะเผชญิ กบั สภาวะดว้ ยเรอ่ื งราวยาวมากดงั ต่อไปน้ี 30
เหตุการณ์ในอดีตที่ผ่านมาในชีวิตที่เคยพบเคยทาํ จะปรากฏขึ้น เราฝันเข้าไปในเหตุการณ์นัน้ เคยทําอะไรก็กลบั มาสู่สภาพนัน้ เช่น เคยช่วยเหลือคน ก็ปรากฏความรู้สึกว่าเรากาํ ลงั ช่วยเหลือ เคยฆ่า สตั วก์ ร็ สู้ ึกว่าเรากาํ ลงั ฆ่าสตั ว์ เคยทาํ ดีทาํ ชวั่ อย่างไรกก็ ลบั มาฝันเหน็ อีกครงั้ ต่อมาก็จะรู้สึกเห็นสภาวะที่ตนกําลงั จะไปพบเผชิญในอนาคต เช่น ได้เห็นความทุกข์ทรมานน่ากลวั เกิดความรู้สึกกลวั ดิ้นร้อง เหมือนละเมอ ถ้ารนุ แรงมากกเ็ หมือนละเมอออกมาให้คนรอบตวั เหน็ ซึ่งกเ็ ป็นส่วนน้อย เพราะว่าร่างกายเพลียจดั ขยบั ไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าจะ ไปพบกบั สิ่งดีๆน่าร่ืนรมย์ กจ็ ะฝันเห็นส่ิงท่ีงดงามนัน้ ร้สู ึกดีใจช่ืนใจ อาจปรากฏสีหน้าสดใสให้ปรากฏแก่คนรอบขา้ ง 31
เหตุการณ์ต่อจากน้ีไป หากตายไม่จรงิ คอื ในท่ีสุดก็ฟ้ืนข้นึ จะเกิด ความฝันหลอน คนทเ่ี คยเช่อื เรอ่ื งยมบาล กจ็ ะมคี นเสอ้ื แดงมารบั ไปฟังคาํ พพิ ากษา แลว้ บอกว่าไม่ใช่คนน้ี ใหเ้ อาไปคนื กก็ ลบั มา โดยถูกถบี กลบั มา หรอื นัง่ รถปิคอพั กลบั มา คนท่เี ช่อื เร่อื งพระเจ้า ก็จะเหน็ เป็นอุโมงยาว มี แสงขาวท่ีปลายอุโมง เขาจะลอยเข้าไปในอุโมงนัน้ แต่แล้วก็เคล่ือนตัว กลบั มาฟ้ืนขน้ึ เหล่าน้ีไม่ใช่เร่อื งจรงิ เป็นการปรุงแต่งเร่อื ง โดยนําความ เชอ่ื ของคนนนั้ มาปัน้ เรอ่ื งขน้ึ เอง (การทาํ งานของความคดิ ปรงุ แตง่ ) 32
เหตุการณ์ต่อจากน้ีไป หากตายจรงิ ความรู้สกึ จะดบั หมด ไม่รบั รู้ อะไรอกี แลว้ หวั ใจและสมอง เสน้ ประสาทหมดหน้าท่ี ตายแลว้ แต่อวยั วะ อ่นื ๆ เซลสอ์ น่ื ๆจะทยอยตายตาม เหมอื นหางจง้ิ จกทห่ี ลดุ กบั ตวั จง้ิ จกตายไม่ พรอ้ มกนั เช่นผวิ หนังกําพรา้ ยงั ทําใหข้ นยาวขน้ึ ไดน้ ิดหน่อย แลว้ ในทส่ี ุดก็ หยุด ตายตามไป ทนั ทีท่ีจิตดบั เรียกว่า จุติจิต เม่ือความรู้สึกดับไป ก็จะเกิดเป็น ความรสู้ กึ ใหมข่ น้ึ เป็นจติ ใหม่ เรยี กวา่ ปฏิสนธิจิต ทเ่ี กดิ จากการดบั ไปของ จติ เก่า คอื จติ เก่าดบั จติ ใหม่จงึ เกดิ ขน้ึ ซ่งึ จติ ใหม่จะพบกบั ความทุกข์ หรอื ความสขุ กข็ น้ึ อยกู่ บั สาเหตุสองประการ 1. เหตจุ ากความเคยชินของจิตผ้ตู ายในช่วงที่มีชีวิตอยู่ เช่น เคยชนิ กบั การทาํ ความดี จติ กฝ็ ักใฝ่ชาํ นาญกบั ความดี กเ็ กดิ พลงั ใหจ้ ติ ใหม่ พบกับสภาะแห่งความสุข หากเคยชินกับการทําความชวั่ จิตก็ฝักใฝ่ ชํานาญกับความชัว่ ก็เกิดพลงั ให้จิตใหม่พบกับสภาวะแห่งความทุกข์ ทุรนทุราย ซง่ึ ทงั้ หมดคอื การเกดิ ใหมใ่ นสภาพใหม่ 33
2. เหตุจากสภาวะท่สี งบหรอื วุ่นวายของจติ ท่กี ําลงั จะดบั ลงเพ่อื ตาย ถ้าขณะดบั จติ จติ อยู่ในสภาพทส่ี งบเยน็ กเ็ ป็นพลงั ใหจ้ ติ ทเ่ี กดิ ใหม่พบกบั สภาวะทด่ี สี วยงามมคี วามสขุ ไดง้ า่ ย ถา้ ขณะดบั จติ จติ อย่ใู นสภาพรอ้ นรน ห่วงหา สับสน โกรธแค้น ก็เป็นพลังให้จิตท่ีเกิดใหม่พบกับความทุกข์ อยกู่ บั ความทกุ ขท์ รมาน สรุปวา่ จติ ทเ่ี กดิ ใหมจ่ ะมคี วามสขุ หรอื ทุกข์ ขน้ึ อยกู่ บั 1. ทาํ กรรมเก่า ไว้เป็นอาจินตด์ ีหรือไม่ดี 2. ขณะจะขาดใจตาย สภาวะจิตดีหรอื ไม่ดี ทําใหเ้ ราไดแ้ นวทางว่า ถา้ ตายแลว้ จะไปสู่ทด่ี ๆี เกดิ ดมี คี วามสุข ก็ ตอ้ งทาํ ดไี วเ้ สมอๆ ทาํ ดคี อื ช่วยเหลอื สตั วแ์ ละมนุษย์ ไมว่ า่ ช่วยแก่ผรู้ บั เป็น สว่ นตวั หรอื สว่ นรวม เท่านนั้ ยงั ไม่พอ ตอ้ งทาํ ใจใหส้ งบสนั ตสิ ุข อยา่ พลุ่ง พล่าน โกรธ-กลวั -หว่ ง ในขณะกําลงั จะตาย ทงั้ สองประการประกอบกนั จงึ จะไปเกิดในชวี ติ ใหม่ท่ดี ยี งิ่ กว่าชวี ติ ในชาตปิ ัจจุบนั เรยี กว่าเกดิ ในสวรรค์ หรอื โลกมนุษย์ ในสงิ่ แวดลอ้ มทด่ี ๆี ครอบครวั ดๆี ส่วนผูท้ ท่ี ําชวั ่ คอื ทําความเดอื ดรอ้ นใหค้ นและสตั ว์ และ เวลาขาดใจ ตาย จติ ใจกพ็ ลุ่งพล่านโกรธ กลวั หว่ ง กแ็ น่ใจไดว้ า่ จติ ทเ่ี กดิ ใหมต่ อ้ งอยใู่ น สภาพเดอื ดรอ้ นทุรนทุราย ไมม่ คี วามสขุ เรยี กวา่ เกดิ ในแดนนรก หรอื เป็น สตั วเ์ ดยี รฉาน (ซง่ึ จติ ของสตั ว์ ใหญ่หรอื เลก็ กม็ เี กลยี ด-รกั -กลวั -อบอนุ่ -โลภ- โกรธ เหมอื นจติ ของคน แตเ่ ขาสอ่ื สารออกมาไมไ่ ดเ้ ตม็ ท)่ี 34
สําหรับคนพิเศษ ท่ีทําแต่ความดีอย่างเต็มใจ และ รักษาใจให้ เอาชนะความคดิ อนั เป็นกเิ ลสได้ตลอด จนความคดิ ท่ไี ม่ดเี กดิ ข้นึ ไม่ได้ จติ ใจของท่านอยู่กบั ตวั รูต้ วั ตลอด เม่อื มคี วามคดิ แปลกปลอมทท่ี าํ ใหจ้ ติ มวั หมอง (ไดแ้ ก่ ความโกรธ ความอยาก ความเศรา้ ความกงั วล ความ ถอื ตวั วา่ เกง่ ) กร็ ทู้ นั มนั จนเกดิ ขน้ึ ไม่ได้ ทา่ นเหลา่ น้สี ามารถประคองจติ เดิมอนั สดใสเบิกบานไปสู่สภาวะท่ีเป็นสุขอย่างยง่ิ เม่อื ขาดใจตาย จิต สุดท้ายไม่ดบั เพ่อื จะไปเกดิ ใหม่ ไม่มอี ะไรมาเป็นเหตุให้ท่านไปพบกบั สภาวะทด่ี หี รอื ชวั ่ 35
ทา่ นสามารถประคองจติ ใหเ้ ป็นกลาง สงบเยน็ เป็นสขุ ตลอดไป คอื ตาย แล้วไม่ต้องไปเกดิ อย่างคนทงั้ หลาย ความสุขของท่านไม่ต้องอาศยั อะไร เป็นเหตุแบบคนทงั้ หลาย เรยี กว่า เข้าสู่สภาวะนิพพาน มจี ติ เป็นอสิ ระ จากเหตุทงั้ หลาย ไม่มกี รรมใหม่มากําหนดชะตาชวี ติ ซ่งึ สภาวะนิพพาน เช่นน้ี ต้องเกิดข้ึนแล้วตัง้ แต่ยงั มีชีวิตอยู่ ไม่ใช่ตายแล้วจึงเข้าสู่สภาวะ นพิ พาน อยา่ หวงั อยา่ งนนั้ 36
7 ญาติและคนแวดลอ้ มจะทาํ อย่างไรกบั คนท่ีกาํ ลงั ขาดใจตาย ญาตพิ น่ี ้องและผมู้ าเยย่ี มคนทก่ี ําลงั จะขาดใจตายอาจเป็นสาเหตุใหค้ น ตายลงนรกได้ เหตุผลกค็ อื การไปสู่ชวี ติ ใหม่ของผตู้ ายจะดหี รอื ไม่ดขี น้ึ อยู่ กบั 1. ผ้กู าํ ลงั ตายทาํ ความดีหรอื ความชวั่ มามาก 2. ผกู้ าํ ลงั ตายมีสภาพจิตเป็นอยา่ งไร ในขอ้ 1 นัน้ แก้ไขอะไรไม่ได้ เพราะว่าผ่านมาแล้ว ในขอ้ 2 ถ้าจติ สงบดี กไ็ ปดี ถา้ จติ สบั สนวุ่นวายโกรธ-กงั วล-เศรา้ กจ็ ะไปนรก ไปเกดิ ใน ชวี ติ ท่ลี ําบาก แมจ้ ะทําความดมี ามากก็ตาม แล้วภายหลงั ค่อยรบั ผลดี น้ี เป็นหลกั ของพุทธศาสนา ฉะนัน้ จะขอใหแ้ นวปฏบิ ตั แิ ก่ผทู้ ใ่ี กลช้ ดิ คนกําลงั จะขาดใจตาย แม้แต่คนป่ วยหนักยงั ไม่ตายในวนั นัน้ ก็ให้ปฏิบตั ิอย่าง เดยี วกนั 38
ข้อควรปฎิบตั ิ 1. ในทางรา่ งกาย ใหผ้ ปู้ ่วยสบายมากทส่ี ดุ • ใหน้ อนสภาพสบาย ลดความเจบ็ ปวดดว้ ยยา แมจ้ ะเป็นยา เสพตดิ กอ็ ยา่ กงั วล เพราะคนจะตายไมเ่ สพตดิ อะไรไดอ้ กี แลว้ ขออยา่ ใหเ้ จบ็ ปวดดกี วา่ • หากเหน็ วา่ ไมร่ อดแน่ กอ็ ยา่ ยอ้ื ชวี ติ ดว้ ยวธิ กี ารทค่ี นป่วยไม่ สบายกาย เชน่ ไมค่ วรเจาะคอ ผา่ ตดั ชอ่ งทอ้ ง ขยม่ ปัม๊ หวั ใจหลงั จาก หยุดหายใจแล้ว เพราะจะทําให้คนกําลงั จะตายเจ็บปวดไม่สบาย จติ ใจจะโกรธ สบั สน ทําใจใหส้ งบไม่ไหว การยดื อายุเพยี งวนั สอง วันไม่มีประโยชน์แก่คนกําลังตายและแก่ญาติพ่ีน้อง เพียงให้ ออกซเิ จนทถ่ี ูกวธิ กี ด็ ที ส่ี ดุ แลว้ 2. ในทางจติ ใจ ตอ้ งทาํ ใหค้ นกาํ ลงั ตายมคี วามสบายใจทส่ี ดุ ดงั น้ี • อย่าทะเลาะววิ าทกนั ใกลๆ้ กบั คนกําลงั จะตาย หรอื ทะเลาะ กบั คนกําลงั จะตายโดยตรง เร่อื งน้ีเคยพบเหน็ ววิ าทแยง่ ทรพั ยม์ รดก กนั ระหว่างญาติ เมยี หลวงเมยี น้อย เจ้าหน้ี รวมทงั้ การต่อว่าคน กําลงั จะตายโดยสามี ภรรยา ของผกู้ ําลงั ตาย ฯลฯ หากมเี หตกุ ารณ์ให้ กดี กนั คนเหล่าน้ีออกไปไกลๆ อยา่ ใหเ้ ขา้ มาเยย่ี มอกี เหตุการณ์น้ีทํา ใหค้ นกําลงั จะตายมสี ภาพจติ สบั สนห่อเหย่ี ว ทําจติ ให้แจ่มใสไม่ได้ จงึ ไปสชู่ วี ติ ใหม่ทไ่ี ม่ดี คนทท่ี าํ แบบน้ีถอื เป็นคนจญั ไร เพราะทาํ ใหค้ น ตายลงนรกโดยไมจ่ าํ เป็น 39
• อย่าพูดสงั ่ สอนคนกําลงั จะตายดว้ ยคําความหมายทไ่ี ม่เหมาะสม ซ่งึ คนส่วนมากมกั กระทํา เช่น นึกถงึ พระไว้ – สมั มาอาระหงั – ความตาย เป็นเร่อื งธรรมดา – อย่าห่วงนะจะช่วยจดั การธุระให้ ฯลฯ เหตุผลก็คอื คนทุกคนกลวั ตาย ยกเวน้ หากเขาเป็นอรหนั ต์ ถา้ เขาเป็นอรหนั ต์แลว้ ก็ ไมต่ อ้ งสอนเขาแลว้ เมอ่ื ทุกคนกลวั ตาย ครนั้ มผี มู้ าพดู เป็นนยั วา่ เขากาํ ลงั จะตาย เขากก็ ลวั ตาย จติ ใจเขาจะสบั สนวนุ่ วาย ตายไปลงนรกเสยี เปลา่ ๆ การสงั่ สอนกนั การใหฟ้ ังธรรมะ ต้องทําตงั้ แต่เขายงั ไม่ป่วยหนัก และ เขาเตม็ ใจ ใหเ้ ขารูค้ วามจรงิ ตงั้ แต่ยงั แขง็ แรง เขาจะไดท้ ําใจของเขาเอง โดยไม่สะดุ้งสะเทือนต่อความตาย เม่อื ท่านพุทธทาสกําลงั จะตาย ท่าน เรยี กพระท่ดี ูแลท่านใหม้ าดูความตายของท่าน “มาเรว็ มาดูคนกาํ ลงั ตาย ตายข้างล่างมาคร่ึงตวั แล้ว ข้างบนกาํ ลงั ตาย ...” อย่างน้ีไม่ตอ้ ง สอนท่าน การนําวซี ีดเี สยี งสอนธรรมะหรอื สวดมนต์มาใหค้ นป่ วยหนัก ต้องให้คนป่ วยเต็มใจ จงึ ทําได้ มฉิ ะนัน้ เขาจะรําคาญอึดอดั ใจเป็นทุกข์ และเกดิ ความกลวั ตาย 40
• จงพดู ใหก้ ําลงั ใจคนป่วยหนกั อยา่ งมศี ลิ ปะการพดู เช่น ในขณะ ป่วยหนกั ยงั ไมต่ าย กย็ กยอ่ งชมเชยในคณุ ความดที เ่ี ขาไดช้ ว่ ยเหลอื คนและ สตั ว์ (ไม่ใช่ความเก่งความสามารถ จะยงิ่ ยดึ ตดิ ) ชมว่าหน้าตาสดใส จวน หายแล้ว ทําใจสบายได้ แมจ้ ะเหน็ ว่าไม่รอดก็ตาม อย่าพูดว่า “โทรมมาก เลย ลําบากนะ” ฯลฯ กเ็ ขา้ หลกั ทําใหเ้ ขากลวั ตาย จงพดู ว่า “ต้องทาํ ใจ ให้แจ่มใส อยู่กบั ความรู้ตัว สดช่ืนเบิกบาน จะช่วยให้หายเร็วๆ” ประโยคน้ีจงพดู ใหก้ ําลงั ใจ การทําจติ ใหส้ ดช่นื เบกิ บานน้ีหากทําไดต้ ่อไป จนถงึ วาระขาดใจ กจ็ ะเป็นคุณแก่เขาอยา่ งมหาศาล โดยไมต่ อ้ งใหใ้ ครมาพดู กรอกหใู หเ้ ขาราํ คาญ 41
• เม่อื กําลงั จะขาดใจตาย บอกเขาทข่ี า้ งหูว่า “ทาํ ใจให้แจ่มใส สบาย โล่ง ว่าง สบาย” คําอย่างน้ีดกี ว่า “นึกถึงพระ สมั มาอะระหงั ” เพราะว่านึกถึงพระ เขาก็นึกถึงพระพุทธรูปหล่อปั้น เป็ นวัตถุ ไม่ใช่ พระพุทธเจา้ เขาคงไมส่ ามารถนึกถงึ พระพุทธเจา้ ทแ่ี ท้ จงึ มปี ระโยชน์น้อย ส่วนคาํ ว่าสมั มาอะระหงั ยงิ่ ไม่มคี วามหมายแก่คนกําลงั ตาย ทด่ี แี น่นอน คอื ใหเ้ ขาทําใจใหโ้ ล่งว่าง แจ่มใส แลว้ เขาจะระลกึ ถงึ อะไรต่อไปก็แล้วแต่ เขา “เม่อื ทราบทวั่ กนั แล้ว กข็ อให้ปฏิบตั ิต่อคนป่ วยใกล้ตาย หรอื กาํ ลงั จะขาดใจตายให้ถกู ต้อง อยา่ ลากเขาลงนรก” 42
8 สาํ หรบั ผ้ทู ่ีคิดวา่ ตายแลว้ สญู หายไปเลย คนจํานวนไม่น้อย คดิ วา่ เมอ่ื ตายไปแลว้ กห็ ายไป หมดไป การทจ่ี ะ ไปเกดิ ใหม่ หรอื ไปอยกู่ บั พระเจา้ จะเป็นไปไดอ้ ยา่ งไร ไมม่ เี คา้ รอ่ งรอยสกั นิด ศาสนาเป็นเพยี งอบุ ายคาํ สอนใหค้ นทาํ ดเี ท่านนั้ การคดิ เช่นน้ีเป็นสทิ ธขิ อง แต่ละคน ถ้าไปเคย่ี วเขน็ ใหเ้ ขาเช่อื ในเรอ่ื งชวี ติ ใหม่ เขาอาจรบั ปากวา่ เช่อื แต่เขาก็ไม่เช่อื ส่วนคนท่เี ช่อื ว่า ตายแล้วต้องไปเกดิ ใหม่ ก็พูดตามคําท่ี สอนกนั ตอ่ ๆมา ไมเ่ คยประจกั ษด์ ว้ ยตนเอง ไมว่ า่ จะเชอ่ื วา่ ตายแลว้ เกดิ หรอื ตายแลว้ สญู กล็ ว้ นแตต่ อ้ งตาย ฉะนัน้ ตอ้ งเตรยี มรบั มอื กบั ความตายอย่างฉลาด จงึ ขอใหอ้ ่านทําความเขา้ ใจโดย ตลอด ประโยคใดไมน่ ่าเช่อื กอ็ ยา่ เชอ่ื ประโยคใดดี กน็ ําไปใช้ อยากใหข้ อ้ คดิ และขอ้ ปฏบตั สิ าํ หรบั คนทไ่ี มเ่ ช่อื วา่ ตายแลว้ ตอ้ งไปเกดิ ในชวี ติ ใหม่ ดงั น้ี 1. จงอย่าทาํ ความชวั่ เบียดเบียนมนุษยแ์ ละสตั ว์ เพราะถ้าหาก ต้องเกดิ ใหม่ ท่านก็ต้องรบั กรรมชวั ่ ท่ที ําไว้ ฉะนัน้ จงเผ่อื เอาไว้ ถ้าต้อง เกดิ กจ็ ะไดเ้ กดิ ดี ถา้ ไมเ่ กดิ กไ็ มข่ าดทุนเสยี หายอะไร 43
2. จงทาํ ความดี ช่วยเหลือเกื้อกลู มนุษยแ์ ละสตั ว์ เพราะว่าถ้าหาก ต้องเกดิ ใหม่ ท่านกม็ ที ุนแห่งความดี มพี ลงั ทท่ี ําใหช้ วี ติ ใหม่ดขี น้ึ ถา้ หาก ตายแลว้ สญู ไป ท่านกไ็ มเ่ สยี หายอะไร 3. ถึงอย่างไร ศาสนาใด กค็ วรพิจารณาความจริงว่า วนั หน่ึงต้อง เป็นวนั สุดท้ายของท่าน เป็นวนั ทน่ี ่าตกใจทส่ี ุด ท่านตอ้ งทําความคุน้ เคย กบั ความตายเอาไว้ จะไดไ้ มต่ กใจเศรา้ ใจ ทรุ นทุรายกบั ความตาย จะไดต้ าย อยา่ งอาจหาญ 45
4. จากประสบการณ์ค้นคว้าของข้าพเจ้า พบด้วยตวั เองว่า จิตใจ หรือความรู้สึกนึกคิด ออกไปอยู่ข้างนอกร่างกายได้ เราสามารถ มคี วามรูส้ กึ อยู่นอกร่างกายได้ ฉะนัน้ ร่างกายตายไป ไม่ได้ทําใหช้ วี ติ ของ เราหมดไป เป็นเพยี งชวี ติ ทไ่ี ม่มรี ่างกาย ตดิ ต่อกบั ใครไม่ได้ สภาวะแห่ง ชีวิตนัน้ เป็นอย่างไร แล้วแต่บุญและบาปหนด ไม่มีสิทธิท์ ่ีเราจะจัดการ ปรบั ปรุงเหมอื นเมอ่ื มชี วี ติ อยู่ ถา้ ท่านอยากคน้ ควา้ กจ็ งตงั้ จติ อธษิ ฐานวา่ ขอทราบวา่ ความตายเป็น อย่างไร หากจะต้องตายไปก็ยอม ก็ไม่ต้องกลัว ไม่มีทางตายหรอก เพราะวา่ ยงั ไมส่ น้ิ กรรม และไมใ่ ช่อุปัทวเหตุฉบั พลนั แลว้ ทาํ สมาธิ นงั่ หรอื นอนกต็ ามใจ สลบั กนั บา้ งกด็ ี แลว้ ทาํ ใจสมมุตวิ า่ เราน้ีกําลงั ขาดใจตาย ก็ เท่าน้ีเอง หลายๆรอ้ ยครงั้ หรอื หลายๆพนั ครงั้ น่าจะไดพ้ บความจรงิ แลว้ ท่านจะแน่ใจกฎแห่งกรรมอกี ด้วยว่า ชวี ติ เราวนั น้ี เป็นผลจากการกระทํา ของเราในวันก่อนๆหรืออดีต เพียงอย่างเดียว ปัจจัยอ่ืนเป็นเพียงมา ประกอบใหค้ รบจนเกดิ สภาวะอนั ควรแก่กรรมขน้ึ มา 46
Search