โคมไฟจากกระดาษเหลือใช้

การศกึ ษาคน้ ควา้ องคค์ วามรูเ้ ร่ือง โครงงาน การประดิษฐ์โคมไฟจากกระดาษเหลือใช้ (The invention of lanterns from waste paper) คณะผู้จดั ทำ นางสาว ณฐั ณิชา วังสาร ม.5/6 เลขที่ 2 นางสาว ปัทมาภรณ์ คณุ กานต์ ม.5/6 เลขท่ี 3 นางสาว พรพนติ เเซเ่ ลา้ ม.5/6 เลขท่ี 10 นางสาว ปวนั รตั น์ ตระกลู พทิ กั ษก์ ิจ ม.5/6 เลขที่ 13 นางสาว ธีรมนสั ภรณ์ นวลศรี ม.5/6 เลขที่ 32 ครูท่ปี รึกษำ ครดู ำรง คนั ธะเรศย์ ……………………………………………….. เอกสำรฉบบั น้เี ป็นส่วนหน่งึ ของกำรศกึ ษำค้นคว้ำและสร้ำงองคค์ วำมรู้ (IS1) โรงเรยี นปัว อำเภอปัว จังหวดั น่ำน สำนกั งำนเขตพ้ืนท่กี ำรศกึ ษำมธั ยมศึกษำ เขต 37 ภำคเรียนท่ี 1 ปี กำรศึกษำ 2563



กำรศึกษำค้นคว้ำองค์ควำมรู้เร่ือง โครงงำน กำรประดิษฐ์โคมไฟจำกกระดำษเหลือใช้ (The invention of lanterns from waste paper) คณะผู้จัดทำ นำงสำว ณัฐณชิ ำ วงั สำร ม.5/6 เลขท่ี 2 นำงสำว ปัทมำภรณ์ คุณกำนต์ ม.5/6 เลขท่ี 3 นำงสำว พรพนติ เเซ่เล้ำ ม.5/6 เลขท่ี 10 นำงสำว ปวนั รัตน์ ตระกลู พิทกั ษ์กจิ ม.5/6 เลขท่ี 13 นำงสำว ธรี มนสั ภรณ์ นวลศรี ม.5/6 เลขท่ี 32 ครูท่ปี รึกษำ ครดู ำรง คันธะเรศย์ ……………………………………………….. เอกสำรฉบับน้เี ป็นสว่ นหน่งึ ของกำรศกึ ษำค้นคว้ำและสร้ำงองค์ควำมรู้ (IS1) โรงเรียนปัว อำเภอปัว จังหวดั น่ำน สำนกั งำนเขตพ้ืนท่กี ำรศกึ ษำมธั ยมศกึ ษำ เขต 37 ภำคเรียนท่ี 1 ปี กำรศึกษำ 2563

ชอื่ เรื่อง: กำรประดิษฐ์โคมไฟจำกกระดำษเหลือใช้(The invention of lanterns from waste paper) ผจู้ ดั ทา: นางสาว ณฐั ณิชา วังสาร ม.5/6 เลขท่ี 2 นางสาว ปัทมาภรณ์ คณุ กานต์ ม.5/6 เลขท่ี 3 นางสาว พรพนติ เเซเ่ ลา้ ม.5/6 เลขที่ 10 นางสาว ปวนั รตั น์ ตระกลู พทิ กั ษก์ จิ ม.5/6 เลขท่ี 13 นางสาว ธีรมนสั ภรณ์ นวลศรี ม.5/6 เลขที่ 32 ทีป่ รกึ ษา :ครดู ารง คนั ธะเรศย์ ปี การศึกษา: 2563 บทคดั ย่อ เร่ือง การประดษิ ฐโ์ คมไฟจากกระดาษเหลือใช้ มจี ดุ มงุ่ หมายเพือ่ 1.เพือ่ นาส่ิงของเหลือใชม้ าใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชนส์ งู สดุ ซง่ึ เป็ นการปฏิบตั ติ น ตามเเนวทางเศรษฐกิจพอเพยี ง ตามพระราชดารัชของพระบาทสมเด็ตจ พระปรมนิ ทรม์ หาภมู พิ ลอดลุ ยเดช 2.เพ่อื ปลกู ฝังใหร้ จู้ กั คณุ ค่าเเละความสาคญั ของกระดาษเหลือใชเ้ หลือใช้ 3.เพือ่ ลดปริมาณของกระดาษเหลือใชใ้ นบา้ น โรงเรียน เเละชมุ ชน 4.เพื่อสง่ เสริมจติ นาการเเละความคดิ สรา้ งสรรคข์ องนกั เรียน 5.รจู้ กั ใชเ้ วลาว่างใหเ้ กิดประโยชน์

สารบญั หนา้ ก. เรื่อง ข. บทคดั ยอ่ 1. สารบญั 2. บทที่ 1 บทนา 2. 1.1 ความเป็นมา 3. 1.2 วตั ถปุ ระสงค์ 4. 1.3 ขอบเขต 5. บทท่ี 2 วธิ ดี าเนินการ 5. 2.1 วสั ดอุ ปุ กรณ์ 6. 2.2 วธิ จี ดั ทาโครงงาน 7. บทท่ี 3 ผลทค่ี าดวา่ จะไดร้ บั บทท่ี 4 แผนการกาหนดเวลาปฏิบตั งิ าน

บทท่ี 1 บทนา

ทมี่ าและความสาคญั ของโครงงาน ในปัจจุบันน้ผี ู้คนทุกเพศทุกวยั ท้งั เดก็ วยั เยำว์ ผู้ใหญ่เเละผู้สงู อำยุ ต่ำงมภี ำระหน้ำท่ที ่ตี ้อง รับผิดชอบ อำทเิ ช่น กำรรับหน้ำท่ตี ำมบทบำทหน้ำท่ขี องตน ไม่ว่ำจะเป็นนกั เรียนท่ตี ้องทำ กำรบ้ำน พนักงำนบริษัท ผ้บู ริหำรท่ตี ้องทำงำน ส่วนผู้สงู อำยุน้นั ต่ำงอยำกใช้เวลำว่ำงในกำร อำ่ นหนงั สอื เพ่ือคลำยควำมเครียดหรือศึกษำท่ตี นสนใจเพ่ิมเติมทกุ คนต่ำงต้องกำรเเสงไฟท่ี เพียงพอต่อกำรทำกิจกรรมเหล่ำน้นั เพ่ือท่จี ะถนอมสำยตำเเละยงั ทำงำนสดวกข้ึนอกี ด้วย ซ่งึ ในปัจจุบนั ในโลกน้ีมีเทคโนโลยมี ำกมำยท่มี นุษยป์ ระดิษฐ์ิคิดค้นข้ึนมำเพ่ือสนองควำม ต้องกำรของตนเอง มนุษยป์ ระดิษฐ์ิของหลำยท่สี ำมำรถให้เเสงสว่ำงได้ ซ่ึงส่งิ ประดิษฐ์ิเเต่ล่ะ ช้ินมวี ัตถปุ ระสงคใ์ นกำรใช้งำนท่เี หมอื นกันคอื ให้เเสงสว่ำง เเต่วิธใี ช้เเตกต่ำงกนั เช่น หลอดไฟลอู อเรสเซนตเ์ เละหลอดตะเกยี บซ่ึงใช้ตดิ บริเวณบ้ำนเพ่ือให้เเสงสว่ำง หรือไฟฉำยท่ี ใช้พกพำไปยงั สถำนท่ตี ่ำงๆ หน่ึงในสง่ิ ของท่ถี กู ใช้อย่ำงเเพร่หลำย คือ โคมไฟ ซ่ึงเป็นส่งิ ท่ี ใช้ในชวี ติ ประจำวนั อย่ำงย่งิ โดยเฉพำะนักเรียน ท่ตี ้องมโี คมไฟไว้ใช้อ่ำนหนงั สอื หรือทำ กำรบ้ำนยำมค่ำคนื เรำจงึ เลง็ เหน็ ควำมสำคญั ในถำนะท่เี รำเป็นนกั เรียน เรำกส็ ำมำรถ ประดิษฐ์ิโคมไฟได้ด้วยตัวเอง เพ่ือประหยดั ทรัพยำกรท่ตี ้องใช้ในชีวิตประจำวัน วตั ถปุ ระสงค์ 1.เพ่ือนาสง่ิ ของเหลอื ใชม้ าใชใ้ หเ้ กิดประโยชนส์ งู สดุ ซึ่งเป็ นการปฏบิ ตั ติ นตามเเนวทาง เศรษฐกจิ พอเพยี ง ตามพระราชดารัชของพระบาทสมเด็ตจพระปรมนิ ทรม์ หาภมู พิ ลอ ดลุ ยเดช 2.เพ่อื ปลกู ฝังใหร้ จู้ ักคณุ ค่าเเละความสาคญั ของกระดาษเหลอื ใชเ้ หลือใช้ 3.เพ่ือลดปริมาณของกระดาษเหลอื ใชใ้ นบา้ น โรงเรียน เเละชมุ ชน 4.เพือ่ สง่ เสริมจติ นาการเเละความคิดสรา้ งสรรคข์ องนกั เรียน 5.รจู้ กั ใชเ้ วลาว่างใหเ้ กดิ ประโยชน์

ขอบเขต ระยะเวลาศึกษาคน้ ควา้ 21ตลุ าคม ถึง 23 ตลุ คม 2563โดยเป็ นโครงการเกี่ยวกบั สง่ิ ประดษิ ฐจ์ิ ากปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง ตวั เเปรตน้ การประดษิ ฐโ์ คมไฟจากกระดาษเหลือใช้ ตวั แปรตาม ประสิทธิภาพของโคมไฟ

บทท่ี 2 วิธดี าเนนิ การ

วสั ดอุ ปุ กรณ์ 1.กระดาษเหลอื ใช้ 2.ปื นกาว 3.หลอดไฟ 4.เทบใส 5.กรรไกร 6.ใสป้ ื นกาว วธิ จี ดั ทาโครงงาน 1.เตรียมวสั ดใุ หพ้ รอ้ ม 2.นากระดาษท่ีตดั แลว้ มามว้ นใหเ้ ป็ นรปู ทรงหลอดในมว้ นในแนว เฉียงเร่ิมจากมมุ ใดมมุ หนง่ึ ของกระดาษ 3.เมอ่ื มว้ นจดปลายกระดาษแลว้ นากาวมาทา 4.ทาซา้ ตามขนั้ ตอนทห่ี นง่ึ ถึงสามจนไดป้ ระมาณ150อนั 5.เมอื่ กาวเเหง้ แลว้ นาโคมมาตดิ รอบหลอดไฟ 6.นากระดาษท่ีมว้ นแลว้ มาเรียงทลี ะชน้ั เเลว้ เชอื่ มดว้ ยปื นกาว 7.เสียบปลกั๊ หลอดไฟ

บทที่ 3 ผลทคี่ าดว่าจะ ไดร้ บั

ผลที่คาดวา่ จะไดร้ บั โคมไฟทป่ี ระดิษฐส์ ามารถใชไ้ ดจ้ ริงในชวี ิตประจาวนั

บทท่ี 4 แผนการกาหนดเวลา ปฏิบตั งิ าน

แผนการกาหนดเวลาปฏิบตั งิ าน ลาดบั รายการที่ปฏบิ ตั ิ กาหนดเวลา ผลการปฏิบตั ิ 1 เตรียมวัสดใุ หพ้ รอ้ ม 21สิงหาคม2563 ไดอ้ ปุ กรใ์ นการทางานครบ 2 นากระดาษท่ีตดั แลว้ มา 21สงิ หาคม2563 ไดร้ ปู ทรงทต่ี อ้ งการ มว้ นใหเ้ ป็ นรปู ทรงหลอดใน มว้ นในแนวเฉียงเริ่มจากมมุ ใดมมุ หนง่ึ ของกระดาษ 3 เม่อื มว้ นจดปลายกระดาษ 21สงิ หาคม2563 ไดร้ ปู ทรงท่ตี อ้ งการ แลว้ ไดร้ ปู ทรงที่ตอ้ งการนา กาวมาทา 4 เมอื่ กาวเเหง้ แลว้ นาโคมมาตดิ 22สิงหาคม2563 ไดร้ ปู ทรงทตี่ อ้ งการ ไดร้ ปู ทรงทต่ี อ้ งการรอบ หลอดไฟ 5 นาหนงั สือพิมพท์ มี่ ว้ นแลว้ มา 23สิงหาคม2563 ไดร้ ปู ทรงของโคมไฟ เรียงไดร้ ปู ทรงของโคมไฟที ละชน้ั เเลว้ เชอ่ื มดว้ ยปื นกาว 6 เสียบปลกั๊ หลอดไฟ 23สงิ หาคม2563 ไดโ้ คมไฟจากสิ่งของเหลือ ใช้