Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือโครงการพัฒนาศักยภาพการจัดการสารเคมีอันตรายเพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพแรงงานอย่างยั่งยืน

คู่มือโครงการพัฒนาศักยภาพการจัดการสารเคมีอันตรายเพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพแรงงานอย่างยั่งยืน

Published by mincyay, 2021-08-19 17:09:58

Description: คู่มือโครงการพัฒนาศักยภาพการจัดการสารเคมีอันตรายเพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพแรงงานอย่างยั่งยืน

Search

Read the Text Version

คู่มอื การปฏิบตั งิ านโครงการพฒั นาศักยภาพ การจัดการสารเคมีอันตรายเพือ่ ลดผลกระทบตอ่ สุขภาพแรงงานอยา่ งยั่งยนื ( สาหรบั ศนู ยค์ วามปลอดภัยในการทางานเขต ๑ – ๑๒ )

-๒- คานา ด้วยกองความปลอดภัยแรงงาน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากดอกผลกองทุนเงินทดแทน สานักงานประกันสังคม ให้ดาเนินงาน โครงการพัฒนาศักยภาพการจัดการสารเคมอี นั ตรายเพือ่ ลดผลกระทบต่อสุขภาพแรงงานอย่างยั่งยืน เพอื่ จัดสรา้ งองค์ความรู้โดยการจัดอบรมให้แก่นายจ้าง ลูกจ้างท่ีปฏิบัติงานเก่ียวกับสารเคมีอันตราย เจ้าหน้าท่ีความปลอดภัยในการทางาน และผู้ที่เกี่ยวข้องในสถานประกอบกิจการกลุ่มเส่ียง ที่มีสารเคมีอันตรายไว้ในครอบครอง เพ่ือให้ผู้ประกอบกิจการ/นายจ้าง มีระบบการจัดการ สารเคมีอันตรายอย่างมีประสิทธิภาพ ทาให้แรงงานและผู้เก่ียวข้องได้รับการคุ้มครองจากอันตราย ของสารเคมี เป็นต้นทุนไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศเป็นไปอย่างย่ังยืน รวมทั้งเพ่ือเฝูาระวัง และปูองกันการเกิดอุบัติเหตุ อุบัติภัย และการเจ็บปุวยจากการทางานสัมผัสสารเคมีอันตราย รองรับการขับเคล่ือนความปลอดภัยและอาชีวอนามัยของประเทศไทย (Safety Thailand) ตามนโยบายของรัฐบาล ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ ๒๐ ปี (๒๕๖๐ – ๒๕๗๙) และนโยบายเร่งด่วน (Agenda Based) การตรวจบังคับใช้กฎหมายเพื่อควบคุมและกากับดูแล การประกอบอาชีพท่ีเป็นอันตรายต่อสาธารณะให้บรรลุเปูาหมายสูงสุด คือ ประเทศไทยปลอดภัย (Safe Work, Safe Health, Safe Life : Safety Thailand) ในการปูองกันและลดการเกิดอุบัติเหตุ ลดความสูญเสียท้ังชีวิตและทรัพย์สินท่ีอาจจะเกิดขึ้นจากอันตรายของสารเคมี อันจะสร้างเสริม ความปลอดภัยและคุณภาพชีวติ ของคนทางานและประชาชนใหเ้ กิดข้นึ อย่างยั่งยืน

-๓- สารบัญ รายการ หนา้ คานา ๒ ๑. แนวทางการดาเนนิ การ โครงการพัฒนาศักยภาพการจัดการสารเคมอี ันตรายเพ่ือลดผลกระทบ ๔ ตอ่ สุขภาพแรงงานอยา่ งยั่งยืน ๒. โครงการพัฒนาศักยภาพการจดั การสารเคมีอันตรายเพอื่ ลดผลกระทบต่อสุขภาพแรงงานอย่างยง่ั ยนื ๑๐ ๓. แนวขอ้ สอบก่อน – หลังการอบรม ๑๔ ๔. แบบประเมินผลการหลังการอบรม ๒๐ ๕. แบบรายงานผลการดาเนินการโครงการพัฒนาศักยภาพการจัดการสารเคมีอันตราย ๒๑ เพื่อลดผลกระทบต่อสขุ ภาพแรงงานอยา่ งย่งั ยืน ๖. ภาคผนวก ๒๒ (๑) กฎกระทรวงกาหนดมาตรฐานในการบรหิ าร จดั การ และดาเนินการด้านความปลอดภัย ๒๓ อาชีวอนามัยและสภาพแวดลอ้ มในการทางานเก่ียวกับสารเคมอี ันตราย พ.ศ. ๒๕๕๖ (๒) ประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่อง แบบบัญชีรายชื่อสารเคมีอนั ตราย ๓๔ และรายละเอยี ดข้อมลู ความปลอดภัยของสารเคมีอนั ตราย (๓) ประกาศกรมสวัสดกิ ารและคุ้มครองแรงงาน เรอ่ื ง หลกั เกณฑ์ วิธกี ารตรวจวดั ๓๙ และการวิเคราะห์ผลการตรวจวัดระดบั ความเข้มขน้ ของสารเคมอี นั ตราย (๔) ประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เร่ือง บัญชีรายช่ือสารเคมอี ันตราย ๔๕ (๕) ประกาศกรมสวสั ดิการและคุ้มครองแรงงาน เร่ือง ขดี จากดั ความเข้มข้นของสารเคมีอันตราย ๘๘ (๖) คาชแี้ จงประกาศกรมสวัสดิการและคุม้ ครองแรงงาน ๑๐๔ เร่อื ง ขดี จากดั ความเข้มข้นของสารเคมีอนั ตราย (๗) ประกาศกรมสวสั ดกิ ารและคุ้มครองแรงงาน เรื่อง กาหนดแบบและวิธีการส่งรายงานผล ๑๐๘ การตรวจวดั ระดบั ความเข้มขน้ ของสารเคมีอันตรายในบรรยากาศการทางานและสถานท่ี เก็บรกั ษาสารเคมอี นั ตรายทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (๘) ประกาศกรมสวสั ดกิ ารและคุ้มครองแรงงาน เร่ือง กาหนดแบบและวธิ ีการแจง้ บญั ชรี ายชื่อ ๑๑๑ สารเคมีอนั ตราย และรายละเอยี ดข้อมูลความปลอดภัยของสารเคมีอันตรายทางอิเล็กทรอนิกส์ (๙) แนวคาบรรยาย ๑๑๙

-๔- แนวทางการดาเนินการ โครงการพฒั นาศกั ยภาพการจดั การสารเคมอี ันตรายเพอื่ ลดผลกระทบตอ่ สขุ ภาพแรงงานอย่างยงั่ ยืน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากดอกผลกองทุนเงินทดแทน ประจาปี ๒๕๖๔ ตามยุทธศาสตร์ของสานักงานประกันสังคม ยุทธศาสตร์ที่ ๑ สร้างความครอบคลุม การดูแลบริการและสิทธิประโยชน์ของวัยแรงงานทุกกลุ่มและทุกคน ยุทธศาสตร์ท่ี ๕ ปฏิรูปองค์กรให้ก้าวทัน ตอ่ การเปลี่ยนแปลง เพอ่ื ให้บรกิ ารได้เตม็ ศกั ยภาพโดยมีเปูาหมายการพัฒนาด้านแรงงานท่ียั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) คอื ส่งเสริมการเจรญิ เตบิ โตทางเศรษฐกิจท่ีย่ังยืนและทั่วถึงมีการจ้างงานเต็มที่ และเป็นงานทม่ี คี ณุ ค่าสาหรบั ทกุ คน (Decent Work and Economic Growth) เพ่ือขับเคล่ือนความปลอดภัย และอาชีวอนามัยของประเทศไทย (Safety Thailand) ตามนโยบายของรัฐบาล ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑ – ๒๕๘๐) และนโยบายเร่งด่วน (Agenda Based) การตรวจบังคับใช้กฎหมาย เพ่ือควบคุมและกากับดูแลการประกอบอาชีพท่ีเป็นอันตรายต่อสาธารณะให้บรรลุเปูาหม ายสูงสุด คือ ประเทศไทยปลอดภัย (Safe Work, Safe Health, Safe Life : Safety Thailand) ในการปูองกัน และลดการเกิดอุบัติเหตุ ลดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินท่ีอาจจะเกิดข้ึนจากอันตรายของสารเคมี อันจะสร้างเสริมความปลอดภัยและคุณภาพชีวิตของคนทางานและประชาชนให้ เกิดข้ึนอย่างยั่งยืน ดังน้ัน หลักสาคัญอย่างหน่ึงในมาตรการเชิงปูองกันและการควบคุมอันตรายเก่ียวกับสารเคมี คือ การสร้าง ความร่วมมือของทุกภาคส่วนท่ีเกี่ยวข้อง เช่น เจ้าหน้าที่ภาครัฐ ผู้ประกอบการหรือนายจ้าง ลูกจ้าง ให้มีศักยภาพรองรับการขับเคลื่อนให้มีระบบการจัดการเก่ียวกับสารเคมีอันตรายเพื่อลดอัตราการเกิดโรค จากการเนอ่ื งจากการทางานเก่ยี วกับสารเคมอี นั ตราย โดยการลงทุนด้านทรัพยากรมนุษย์ (Invest in People) ซ่ึงคนเป็นศูนย์กลางของการพัฒนา จึงต้องมุ่งเน้นการอบรมให้ความรู้ สร้างเสริมจิตสานึกและทัศนคติท่ีถูกต้อง เพ่ือให้ปฏิบัติงานด้วยความปลอดภัยและมีสุขภาพอนามัยที่ดี จึงได้จัดทาโครงการฯ นี้ ข้ึนมา โดยในเบื้องต้น เป็นการนาร่องมอบหมายให้ศูนย์ความปลอดภัยในการทางานเขต เป็นหน่วยงานหลักในการดาเนินงาน ตามรายละเอียดและวัตถปุ ระสงคท์ ่กี าหนดไว้ วตั ถุประสงค์ ๑. เพื่อให้ผู้ประกอบกิจการ นายจ้าง มีระบบการจัดการสารเคมีอันตรายอย่างมีประสิทธิภาพ ทาให้แรงงานและผู้เกี่ยวข้องได้รับการคุ้มครองจากอันตรายของสารเคมี เป็นต้นทุนไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจ ของประเทศเป็นไปอย่างยัง่ ยนื ๒. เพื่อเฝูาระวังและปูองกันการเกิดอุบัติเหตุ อุบัติภัย และการเจ็บปุวยจากการทางานสัมผัส สารเคมีอันตราย

-๕- แนวทางการดาเนินการ ๑. ขออนุมัติโครงการพัฒนาศักยภาพการจัดการสารเคมีอันตรายเพ่ือลดผลกระทบต่อสุขภาพ แรงงานอย่างย่ังยืน (ตามตัวอย่างคูม่ อื หรือปรับใหส้ อดรบั กบั สภาพปัญหาในระดบั พนื้ ที่ตามความเหมาะสม) ๒. การคัดเลือกสถานประกอบกิจการกลุ่มเปูาหมาย : สถานประกอบกิจการที่มีสารเคมีอันตราย ไว้ในครอบครองโดยอาจคัดเลือกจากสถานประเภทกิจการท่ีมีความเสี่ยง เช่น สถานประกอบกิจการ ท่ีมีความเสี่ยงต่อการร่ัวไหลหรือระเบิดของสารเคมีอันตราย สถานประกอบกิจการที่มีความเส่ียงต่อการเกิด อัคคภี ยั มอี ตั ราการประสบอันตรายหรือจานวนการประสบอนั ตรายสูงจากสารเคมี ดังน้ี (๑) โรงงานประกอบกิจการเกี่ยวกับน้ามันจากพืช หรือสัตว์ หรือไขมันสัตว์ เฉพาะท่ีใช้ สารตัวทาละลายในการสกัด เช่น การสกัดน้ามันจากพืช หรือสัตว์ หรือไขมันจากสัตว์ การทาน้าามันจากพืช หรือสัตว์ หรอื ไขมันจากสัตวใ์ ห้บริสุทธิ์ เป็นตน้ (๒) โรงงานประกอบกิจการเก่ียวกับเคมีภัณฑ์ สารเคมี หรือวัสดุเคมี ซึ่งมิใช่ปุ๋ยอย่างใด อย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง เช่น การทาเคมีภัณฑ์ สารเคมี หรือวัสดุเคมี การเก็บรักษา ลาเลียง แยก คัดเลือก หรอื แบ่งบรรจุเฉพาะเคมีภัณฑ์อนั ตราย (๓) โรงงานประกอบกิจการเกี่ยวกับปุ๋ย หรือสารปูองกันกาจัดศัตรูพืชหรือสัตว์ ยกเว้น การผลิตปุ๋ยอินทรีย์ และการผลิตปุ๋ยเคมีที่ไม่มีการใช้แอมโมเนียไนเตรท ( Ammonium Nitrate) หรือโปแตสเซียมคลอเรต (Potassium Chlorate) เช่น การทาปุ๋ย หรือสารปูองกันหรือกาจัดศัตรูพืชหรือสัตว์ การเก็บรักษาหรือแบง่ บรรจุปยุ๋ หรอื สารปูองกนั หรอื กาจดั ศตั รพู ืชหรือสตั ว์ (๔) โรงงานประกอบกิจการเก่ียวกับการผลิตยางเรซินสังเคราะห์ ยางอีลาสโตเมอร์ พลาสติก หรอื เสน้ ใยสังเคราะห์ซึงมิใช่ใยแกว (๕) โรงงานประกอบกิจการเกี่ยวกับสี (Paints) น้ามันชักเงาเชลแล็ก แล็กเกอร์ หรือผลิตภัณฑ์สาหรับใช้ยาหรืออุดอย่างใดอย่างหน่ึง หรือหลายอย่าง เช่น การทาสีสาหรับใช้ทา พ่น หรือเคลือบการทาน้ามันชักเงา น้ามันผสมสี หรือน้ายาล้างสี การทาเชลแล็ก แล็กเกอร์ หรือผลิตภัณฑ์สาหรับ ใชน้ ้ายาหรอื อดุ เปน็ ต้น (๖) โรงงานประกอบกิจการเก่ียวกับผลิตภัณฑ์สารเคมี อย่างใดอย่างหน่ึงหรือหลายอย่าง เช่น การทาไมข้ ีดไฟ วัตถุระเบิด หรอื ดอกไม้เพลิง การทาหมกึ หรอื คาร์บอนดา (๗) โรงกลนั่ นา้ มันปิโตรเลยี ม (๘) โรงงานประกอบกิจการเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์จากปิโตรเลียม ถ่านหิน หรือลิกไนต์ อย่างใดอย่างหน่ึงหรือหลายอย่าง เช่น การผสมผลิตภัณฑ์จากปิโตรเลียมเข้าด้วยกัน หรือการผสมผลิตภัณฑ์ จากปิโตรเลยี มกบั วัสดุอ่ืน (๙) โรงงานผลติ กา๊ ซ ซ่ึงมิใชก่ ๊าซธรรมชาติ สง่ หรอื จาหน่ายก๊าซ (๑๐) โรงงานบรรจุสินค้าในภาชนะ โดยไม่มีการผลิตอย่างใดอย่างหน่ึงหรือหลายอย่าง เช่น การบรรจุกา๊ ซ

-๖- (๑๑) โรงงานหอ้ งเย็น เฉพาะที่ใช้แอมโมเนียเป็นสารทาความเยน็ (๑๒) โรงงานผลิต ซ่อมแซม ดัดแปลง เคร่ืองกระสุนปืน วัตถุระเบิด หรือสิ่งอ่ืนใด ที่มีอานาจในการประหาร ทาลายหรือทาให้หมดสมรรถภาพในทานองเดียวกับอาวุธปืน เคร่ืองกระสุน ปืน หรอื วัตถรุ ะเบิด และรวมถงึ สงิ่ ประกอบของสงิ่ ดงั กล่าว โดยอาจจดั ลาดับความเส่ียงของสถานประกอบกิจการ ดงั นี้ ๑) สถานประกอบกิจการทมี่ อี ัตราการประสบอนั ตรายสงู ๒) สถานประกอบกิจการที่มีจานวนการประสบอันตรายสูง ๓) สถานประกอบกิจการประเภทกลุ่มเส่ียง เช่น สถานประกอบกิจการท่ีมีความเสี่ยงต่อ การร่ัวไหลหรือระเบิดของสารเคมีอันตราย สถานประกอบกิจการท่ีมีความเส่ียงต่อการเกิดอัคคีภัย หรอื งานกอ่ สร้าง ฯลฯ ๔) สถานประกอบกิจการทม่ี สี ภาพแวดลอ้ มในการทางานที่มกี ระบวนการทางานซบั ซ้อน ๕) สถานประกอบกิจการที่มีสภาพแวดล้อมในการทางานที่ไม่ปลอดภัย ซึ่งอาจเป็น อนั ตรายตอ่ ลกู จา้ ง ๖) สถานประกอบกิจการที่มีร้องเรียนว่าสภาพแวดล้อมในการทางานไม่ปลอดภัย หรือ นายจา้ งปฏิบตั ไิ มถ่ กู ต้องตามมาตรฐานกฎหมายความปลอดภัย อาชวี อนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน ๗) สถานประกอบกิจการท่ีเกิดอุบัติเหตุจากการทางาน หรือมีลูกจ้างเจ็บปุวยเนื่องจาก การทางาน ๘) สถานประกอบกิจการกล่มุ เปาู หมายตามสถานการณ์และนโยบายเร่งด่วน ๙) สถานประกอบกิจการที่ต้องตรวจติดตามผลจากการตรวจตามตามข้อ ๑) – ๗) ซ่ึงนายจ้างฝุาฝืนไม่ปฏิบัติตามกฎหมายความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน และพนักงานตรวจความปลอดภัยได้ออกส่ังทางปกครองให้นายจ้างดาเนินการให้ถูกต้อง เช่น คาส่ังให้ปฏิบัติ คาสั่งใหส้ ่งเอกสาร หรือการตรวจติดตามเพื่อเก็บหลกั ฐานดาเนินคดี ๓. การคัดเลือกผู้เข้าร่วมโครงการซ่ึงเป็นนายจ้าง เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทางาน และลกู จ้างท่ีปฏบิ ตั งิ านเก่ียวกับสารเคมอี นั ตราย สถานประกอบกจิ การในพ้ืนทรี่ ับผดิ ชอบ แหง่ ละ ๑ คน ๔. กาหนดหัวข้อการอบรมให้เหมาะสมกับสภาพและลักษณะปัญหาภายใต้บริบทของพ้ืนท่ี รับผิดชอบเพื่อพัฒนาศักยภาพการจัดการสารเคมีอันตรายในการลดผลกระทบต่อสุขภาพของแรงงานอย่าง ยั่งยืนและเสริมสรา้ งขีดความสามารถในการแข่งขันใหแ้ กใ่ หผ้ ูป้ ระกอบกิจการ/นายจ้าง และบุคลากรท่ีทาหน้าที่ ดูแลดา้ นความปลอดภัย โดยประกอบด้วยหัวข้อการอบรม ดังน้ี ๑) กฎหมายความปลอดภัยเก่ียวกบั สารเคมีอนั ตราย ๒) การค้มุ ครองสิทธผิ ้ปู ระกนั ตนกรณีเจบ็ ปวุ ยจากการทางานและเน่ืองจากการทางาน ๓) การจดั การเชิงปอู งกนั อนั ตรายจากการทางานเก่ียวกับสารเคมีอันตราย ๔) เทคนิคการสอบสวนและวิเคราะห์อบุ ตั ิเหตุจากสารเคมีอันตราย

-๗- ๕. ระยะเวลาการฝึกอบรม จานวน ๖ ชั่วโมง ๖. การฝึกอบรมในรูปแบบการบรรยายและบรรยายเชิงปฏิบัตกิ าร ตามความเหมาะสม ๗. การประเมนิ ผลการดาเนินโครงการฯ ประกอบดว้ ย ๑) ประเมินผู้เข้าร่วมโครงการก่อนและหลังการอบรม โดยใช้วิธีการทดสอบความรู้ กอ่ นและหลัง ๒) ประเมนิ ความพงึ พอใจของผู้เขา้ รว่ มโครงการ โดยใช้แบบประเมนิ ผล ๓) ประเมินผลสัมฤทธ์ิเชิงคุณภาพของการนาความรู้จากการอบรมไปประยุกต์ใช้ ในสถานประกอบกิจการ โดยติดตามผลภายใน ๓๐ วัน นับต้ังแต่วันท่ีเสร็จสิ้นการอบรม ผู้เข้าร่วมโครงการฯ ต้องมีการดาเนินการบันทึกข้อมูลรายละเอียดความปลอดภัยเกี่ยงกับสารเคมีอันตรายตามแบบ สอ. ๑ ตามบญั ชีรายชอื่ สารเคมอี นั ตรายที่มไี วใ้ นครอบครองของนายจา้ ง (สถานประกอบกิจการ) อย่างครบถ้วน ๘. สรปุ ผลและประเมินผลการดาเนินโครงการ ๙. ติดตามผลและรายงานผลให้กองความปลอดภัยแรงงาน กลุ่มงานมาตรฐานอาชีวอนามัย และสุขศาสตรอ์ ตุ สาหกรรม ภายในวันที่ ๑๕ เดือนธนั วาคม ๒๕๖๔ ๔. กลมุ่ เปา้ หมาย/เปา้ หมาย นายจ้าง ลูกจ้างที่ปฏิบัติงานเกี่ยวกับสารเคมีอันตราย เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทางาน ของสถานประกอบกิจการ จานวน ๑๒ รุ่น ๆ ละ ๖๐ คน ประกอบดว้ ย หน่วยงานทรี่ ับผิดชอบ เป้าหมาย ศนู ย์ความปลอดภยั ในการทางานเขต ๑ (พระนครศรอี ยุธยา) ๖๐ คน ศนู ยค์ วามปลอดภยั ในการทางานเขต ๒ (ชลบรุ ี) ๖๐ คน ศูนยค์ วามปลอดภยั ในการทางานเขต ๓ (นครราชสมี า) ๖๐ คน ศนู ย์ความปลอดภัยในการทางานเขต ๔ (อดุ รธานี) ๖๐ คน ศนู ยค์ วามปลอดภัยในการทางานเขต ๕ (ลาปาง) ๖๐ คน ศูนยค์ วามปลอดภยั ในการทางานเขต ๖ (นครสวรรค์) ๖๐ คน ศูนยค์ วามปลอดภยั ในการทางานเขต ๗ (ราชบรุ ี) ๖๐ คน ศนู ยค์ วามปลอดภยั ในการทางานเขต ๘ (สรุ าษฎร์ธานี) ๖๐ คน ศนู ย์ความปลอดภัยในการทางานเขต ๙ (สงขลา) ๖๐ คน ศูนยค์ วามปลอดภยั ในการทางานเขต ๑๐ (สมทุ รปราการ) ๖๐ คน ศนู ย์ความปลอดภยั ในการทางานเขต ๑๑ (ตล่งิ ชนั ) ๖๐ คน ศูนยค์ วามปลอดภยั ในการทางานเขต ๑๒ (ลาดกระบัง) ๖๐ คน รวม ๗๒๐ คน

-๘- ๕. ระยะเวลาดาเนินการ ตั้งแต่วันท่ี ๑ สิงหาคม ๑๕๖๔ – ๓๐ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ ๖. หน่วยงานรับผดิ ชอบ ศนู ย์ความปลอดภยั ในการทางานเขต ๑ – ๑๒ ๗. งบประมาณ งบประมาณดาเนินการโครงการฯ ได้รับการสนับสนุนจากเงินดอกผลเงินกองทุนเงินทดแทน สานักงานประกันสังคม งบประมาณประจาปี พ.ศ. ๒๕๖๔ จานวน ๖๐๙,๖๐๐ บาท (หกแสนเก้าพันหกร้อย บาทถว้ น) จดั สรรโดยการตัดโอนเงนิ ให้ศูนย์ความปลอดภัยในการทางานเขต ๑ – ๑๒ เขตๆ ละ ๕๐,๘๐๐ บาท (หา้ หมืน่ แปดรอ้ ยบาทถ้วน) ๘. การนับผลงาน ๖.๑ คน นับจากจานวนนายจ้าง ลูกจ้าง และเจ้าหน้าท่ีความปลอดภัยในการทางาน ที่เข้ารับ การอบรม (นาสง่ ผลผลติ ) ) มผี ูเ้ ข้าอบรม รุ่นละ ๖๐ คน ๖.๒ แห่ง นับจากจานวนสถานประกอบกิจการกลุ่มเปูาหมายตามข้อ ๓.๒ ที่เข้ารับการอบรม รนุ่ ละ ๖๐ แห่ง ๖.๓ การรายงานข้อมูลตามแบบสารวจข้อมูลสถานประกอบกิจการท่ีมีการทางานเกี่ยวกับ สารเคมอี นั ตรายของผูเ้ ขา้ รับการอบรม ๙. หลักฐานอา้ งองิ ๕.๑ โครงการ/หนงั สอื ขออนุมตั ดิ าเนินการ/กาหนดการ ๕.๒ หนังสือเชิญนายจ้าง ลูกจ้าง และบุคลากรที่ทาหน้าท่ีดูแลด้านความปลอดภัยเข้ารับ การอบรม/ทะเบยี นรายช่อื ผเู้ ขา้ รับการอบรม ๕.๓ แบบทดสอบก่อน/หลงั อบรม/แบบประเมินการจดั อบรม ๕.๔ แบบรายงานการดาเนนิ การโครงการฯ ๕.๕ ภาพถา่ ยการจดั อบรม

-๙- ตัวอยา่ ง กาหนดการอบรม โครงการพัฒนาศกั ยภาพการจัดการสารเคมอี ันตรายเพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพแรงงานอยา่ งย่ังยืน สาหรบั หนว่ ยงานศูนยค์ วามปลอดภัยในการทางานเขต จานวน ๑๒ รุ่นๆละ ๖๐ คน หลักสตู ร ๑ วนั (๖ ช่ัวโมง) เวลา ๐๘.๐๐ – ๐๘.๓๐ น. ลงทะเบยี น เวลา ๐๘.๓๐ – ๐๙.๐๐ น. พธิ เี ปดิ การอบรม เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๐.๓๐ น. บรรยายหัวข้อ กฎหมายความปลอดภยั เกีย่ วกับสารเคมี วทิ ยากรภาครัฐ เวลา ๑๐.๓๐ – ๑๐.๔๕ น. พกั รับประทานอาหารวา่ งและเคร่ืองดื่ม เวลา ๑๐.๔๕ – ๑๒.๐๐ น. บรรยายหัวข้อ การคุ้มครองสิทธิผู้ประกันตนกรณีเจ็บปุวยจากการทางาน และเนื่องจากการทางาน วทิ ยากรภาครัฐ เวลา ๑๒.๐๐ – ๑๓.๐๐ น. พกั รบั ประทานอาหารกลางวัน เวลา ๑๓.๐๐ – ๑๔.๓๐ น. บรรยายหัวข้อ การจัดการเชิงปูองกนั อนั ตรายจากการทางานเก่ียวกบั สารเคมี วิทยากรภาคเอกชน เวลา ๑๔.๓๐ – ๑๔.๔๕ น. พกั รบั ประทานอาหารว่างและเครื่องด่ืม เวลา ๑๔.๔๕ – ๑๖.๓๐ น. บรรยายหัวข้อ เทคนิคการสอบสวนและวิเคราะห์อุบตั ิเหตจุ ากสารเคมี วิทยากรภาคเอกชน หมายเหตุ กาหนดการอาจเปลย่ี นแปลงหัวข้อการบรรยายตามความเหมาะสมของปัญหาระดบั พนื้ ที่

-๑๐- ตวั อย่าง โครงการพัฒนาศักยภาพการจัดการสารเคมอี ันตรายเพอ่ื ลดผลกระทบต่อสุขภาพแรงงานอยา่ งยัง่ ยืน ๑. หลกั การและเหตุผล ประเทศไทยได้มีการพัฒนาเศรษฐกิจจากภาคเกษตรกรรมก้าวสู่ประเทศเชิงอุตสาหกรรม และเกษตรเชิงอุตสาหกรรมอย่างรวดเร็ว โดยนาเทคโนโลยีและสารเคมีประเภทต่าง ๆ มาใช้พัฒนาคุณภาพชีวิต ของมนุษย์ให้ดีย่ิงขึ้น เช่น การใช้สารเคมีในการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตท้ังในภาคอุตสาหกรรม เกษตรกรรม และทางการแพทย์ สารเคมีมีบทบาทสาคัญในการใช้ชีวิตประจาวันของมนุษย์ต้ังแต่ตื่นนอนจนกระท่ังเข้านอน สารเคมีนอกจากจะมีคุณประโยชน์อย่างมหาศาลแล้วอาจเป็นโทษอย่างมหันต์ ทาให้เกิดการเจ็บปุวย ด้วยโรคจากการทางานสัมผัสสารเคมี หรืออาจจะก่อให้เกิดอุบัติภัยท่ีรุนแรงได้ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ของแรงงาน ซ่ึงเกิดข้ึนตามลักษณะหรือสภาพของงานหรือเนื่องจากการทางานท่ีมีโอกาสสัมผัสกับสารเคมี อันตราย เช่น โรคมะเร็งจากแอสเบสตอส (แร่ใยหิน) โครเมียมและสารประกอบของโครเมียม ฯลฯ โรคที่เกิด จากสารเบริลเลียมแคดเมียม ฟอสฟอรัส โครเมียม แมงกานีส สารหนู ปรอท ตะกั่ว ฯลฯ จากการดาเนินงาน ที่ผ่านมาพบว่า มีปัญหาด้านความพร้อม ความรู้ ความเข้าใจของผู้ที่เก่ียวข้องทุกระดับในภาคส่วนท่ีเก่ียวข้อง รวมทง้ั ฐานขอ้ มลู ดา้ นสารเคมอี นั ตราย การบันทึกและวเิ คราะหข์ อ้ มลู ทเี่ กดิ ขนึ้ ของหน่วยปฏบิ ัติเพอ่ื นาไปใช้ประโยชน์ ในการเช่ือมโยงสู่การวางแผนเฝูาระวัง มาตรการปูองกันเชิงรุก เพื่อปูองกันอุบัติเหตุ อุบัติภัย และโรคจากการ ทางาน เพื่อขับเคลื่อนความปลอดภัยและอาชีวอนามัยของประเทศไทย (Safety Thailand) ตามนโยบายของรัฐบาล ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑ – ๒๕๘๐) และนโยบายเร่งด่วน (Agenda Based) การตรวจบังคับใช้กฎหมายเพ่ือควบคุมและกากับดูแลการประกอบอาชีพที่เป็นอันตราย ต่อสาธารณะให้บรรลุเปูาหมายสูงสุด คือ ประเทศไทยปลอดภัย (Safe Work, Safe Health, Safe Life : Safety Thailand) ในการปูองกันและลดการเกิดอุบัติเหตุ ลดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ที่อาจจะเกิดขึ้นจากอันตรายของสารเคมี อันจะสร้างเสริมความปลอดภัยและคุณภาพชีวิตของคนทางาน และประชาชนใหเ้ กิดขนึ้ อยา่ งยงั่ ยนื โดยกาหนดยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑ - ๒๕๘๐) จะต้องนาไปสู่ การปฏบิ ตั ิเพอ่ื ให้ประเทศไทยบรรลุวิสัยทัศน์ “ประเทศไทยมีความม่ันคง ม่ังค่ัง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ ตามแผนพฒั นาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับท่ี ๑๒ (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๖๔) ภารกิจของกระทรวงแรงงาน มีส่วนที่เกี่ยวข้องใน ๓ ประเด็นยุทธศาสตร์ ประกอบด้วยยุทธศาสตร์การเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพทุนมนุษย์ ยุทธศาสตร์การสร้างความเป็นธรรมและลดความเหลื่อมล้าในสังคม และยุทธศาสตร์การสร้างความเข้มแข็ง ทางเศรษฐกิจและแข่งขันได้อย่างยั่งยืน ตามยุทธศาสตร์ของสานักงานประกันสังคม ยุทธศาสตร์ท่ี ๑ สร้างความครอบคลุมการดูแลบริการและสิทธิประโยชน์ของวัยแรงงานทุกกลุ่มและทุกคน ยุทธศาสตร์ท่ี ๕ ปฏิรูปองค์กรให้ก้าวทันต่อการเปล่ียนแปลง เพ่ือให้บริการได้เต็มศักยภาพโดยมีเปูาหมายการพัฒนา

-๑๑- ด้านแรงงานท่ีย่ังยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) คือ ส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ ท่ียั่งยืนและทั่วถึงมีการจ้างงานเต็มท่ีและเป็นงานที่มีคุณค่าสาหรับทุกคน (Decent Work and Economic Growth) ดังนั้น หลักสาคัญอย่างหน่ึงในมาตรการเชิงปูองกันและการควบคุมอันตรายเกี่ยวกับสารเคมี คือ การสร้าง ความรว่ มมือของทุกภาคส่วนที่เก่ียวข้อง เช่น เจ้าหน้าท่ีภาครัฐ ผู้ประกอบการหรือนายจ้าง ลูกจ้างให้มีศักยภาพ รองรับการขับเคลื่อนให้มีระบบการจัดการเกี่ยวกับสารเคมีอันตรายเพื่อลดอัตราการเกิดโรคเน่ืองจากการทางาน เกี่ยวกับสารเคมีอันตราย โดยการลงทุนด้านทรัพยากรมนุษย์ (Invest in People) ซ่ึงคนเป็นศูนย์กลาง ของการพัฒนา จึงต้องมุ่งเน้นการอบรมให้ความรู้ สร้างเสริมจิตสานึกและทัศนคติท่ีถูกต้อง เพื่อให้แรงงาน มีความปลอดภยั ในการทางานและมีสุขภาพอนามัยที่ดี ๑. วัตถุประสงค์ ๒.๑ เพือ่ ให้ผู้ประกอบกิจการ นายจา้ ง มีระบบการจัดการสารเคมีอันตรายอย่างมีประสิทธิภาพ ทาให้แรงงานและผู้เก่ียวข้องได้รับการคุ้มครองจากอันตรายของสารเคมี เป็นต้นทุนไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจ ของประเทศเป็นไปอย่างย่ังยนื ๒.๒ เพ่ือเฝูาระวังและปูองกันการเกิดอุบัติเหตุ อุบัติภัย และการเจ็บปุวยจากการทางาน สมั ผสั สารเคมอี ันตราย ๒. กล่มุ เปา้ หมาย นายจ้าง ลูกจ้างท่ีปฏิบัติงานเก่ียวกั บสารเคมีอันตราย บุคลากรที่ทาหน้าที่ดูแล ด้านความปลอดภัยในสถานประกอบกิจการ จานวน ๑๒ รุ่น ๆ ละ ๖๐ คน สถานท่ีเอกชนในส่วนกลาง และสว่ นภูมิภาค ๔. ระยะเวลาดาเนนิ โครงการ ดาเนินการตลอดโครงการระหวา่ งเดือนกรกฎาคม – เดือนธนั วาคม ๒๕๖๔ ๕. สถานที่ดาเนนิ การ ศูนยค์ วามปลอดภัยในการทางานเขต ๑ – ๑๒ หรอื สถานท่ีเอกชนในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ๖. แนวทางการดาเนินการ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ดาเนินการพัฒนาศักยภาพผู้ที่เกี่ยวข้องในสถานประกอบกิจการ ท่ีมีการใช้สารเคมีอนั ตรายตามกฎหมายความปลอดภัยในการทางานเกี่ยวกบั สารเคมีอันตราย ดังนี้ ๖.๑ การพัฒนาศักยภาพนายจ้าง ลูกจ้างที่ปฏิบัติงานเก่ียวกับสารเคมีอันตราย เครือข่าย ความปลอดภัยในการทางาน และผู้เก่ียวข้องท่ีทาหน้าท่ีดูแลงานด้านความปลอดภัยในการทางาน ในสถานประกอบกิจการที่มสี ารเคมอี ันตรายจากสารเคมี โดยมอบหมายให้ศูนย์ความปลอดภัยในการทางานเขต ๑ – ๑๒

-๑๒- ดาเนนิ การหนว่ ยงานละ ๑ ร่นุ ๆ ละ ๖๐ คน รวมจานวน ๑๒ รนุ่ โดยสามารถดาเนินการฝึกอบรมในห้องอบรม หรือผ่านระบบออนไลน์ ๖.๒ ประเมินความรคู้ วามเขา้ ใจของผ้เู ขา้ รบั การอบรม ก่อนและหลงั การอบรม ๖.๓ สรุปผลและประเมนิ ผลการดาเนินโครงการ ๖.๔ รายงานผลการปฏิบัติต่อหน่วยงานท่ีจัดสรรเงินดอกผลกองทุนเงินทดแทน สานกั งานประกนั สังคม ๗. งบประมาณ งบประมาณดาเนินการตลอดโครงการจากดอกผลกองทุนเงินทดแทน ประจาปี ๒๕๖๔ จานวน ๖๐๙,๖๐๐ บาท (หกแสนเกา้ พนั หกรอ้ ยบาทถว้ น) ๘. ผลสัมฤทธิข์ องโครงการ ๘.๑ ผลผลติ ๑) มผี ูเ้ ขา้ อบรม จานวน ๑๒ รุ่น ๆ ละ ๖๐ คน ๒) ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับมาตรฐานความปลอดภัยในการทางาน เกีย่ วกับสารเคมีอันตรายในสถานประกอบกิจการเก่ียวกับข้อมูลความปลอดภัยของสารเคมีอันตราย การจัดทาฉลาก และปูายสัญลักษณ์ การคุ้มครองความปลอดภัยในการทางานให้แก่ลูกจ้างและผู้เก่ียวข้อง มาตรการ ความปลอดภัยในการเก็บรักษา การบรรจุ การถ่ายเท การขนถ่าย การเคลื่อนย้ายหรือขนส่งสารเคมีอันตราย รวมไปถึงการควบคมุ และปฏบิ ตั ิการกรณีมเี หตฉุ ุกเฉนิ ๘.๒ ผลลพั ธ์ ๑) ผู้เข้ารับการอบรมสามารถนาความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการดาเนินงานด้านความ ปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางานเก่ียวกับสารเคมีอันตรายในสถานประกอบกิจการได้ อย่างเปน็ ระบบและมปี ระสิทธิภาพ เพ่ือเฝูาระวังและปอู งกนั การเกิดอุบัติเหตุ อบุ ัติภัย และการเจ็บปุวยจากการ ทางานสัมผัสสารเคมีอนั ตราย ๒) สถานประกอบกิจการที่มีสารเคมีอันตรายในสถานประกอบกิจการมีมาตรการ และมีการดาเนินการเพื่อเฝูาระวังและปูองกันการเกิดอุบัติเหตุ อุบัติภัย และการเจ็บปุวยจากการทางาน สัมผัสสารเคมีอันตราย ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ๙. การประเมนิ ผลโครงการ แบบประเมนิ ผลหลังแล้วเสร็จสนิ้ โครงการ

-๑๓- ๑๐. ผลท่ีคาดวา่ จะได้รับ ๑๐.๑ ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัยในการทางาน เกีย่ วกบั สารเคมอี นั ตรายในสถานประกอบกิจการเกี่ยวกับข้อมูลความปลอดภัยของสารเคมีอันตราย การจัดทาฉลาก และปูายสัญลักษณ์ การคุ้มครองความปลอดภัยในการทางานให้แก่ลูกจ้างและผู้เกี่ยวข้อง มาตรการ ความปลอดภัยในการเก็บรักษา การบรรจุ การถ่ายเท การขนถ่าย การเคลื่อนย้ายหรือขนส่งสารเคมีอันตราย รวมไปถึงการควบคุมและปฏบิ ตั ิการกรณีมีเหตฉุ ุกเฉิน ๑๐.๒ ผูเ้ ขา้ อบรมสามารถนาความร้ไู ปประยุกต์ใชใ้ นการดาเนินงานด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย แล ะส ภ าพ แว ดล้ อม ใน การ ท า งาน เกี่ ย ว กั บส าร เคมี อั น ตร าย ใน ส ถ าน ปร ะก อบกิ จ การ ได้ อย่ าง เป็ น ร ะบ บ และมีประสิทธิภาพ เพ่ือเฝูาระวังและปูองกันการเกิดอุบัติเหตุ อุบัติภัย และการเจ็บปุวยจากการทางาน สัมผัสสารเคมีอันตราย ลดความเสียหายจากการเกิดอุบัติภัยสารเคมีในสถานประกอบกิจการ และลดผลกระทบ ต่อสขุ ภาพอนามัยของลกู จ้างผูป้ ระกนั ตน ๑๐.๓ สถานประกอบกิจการที่มีสารเคมีอันตรายในสถานประกอบกิจการ มีมาตรการ และมีการดาเนินการเพ่ือเฝูาระวังและปูองกันการเกิดอุบัติเหตุ อุบัติภัย และการเจ็บปุวยจากการทางาน สัมผัสสารเคมีอนั ตราย ไดอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพ ๑๑. ผู้เสนอโครงการ ๑๒. ผ้รู บั ผิดชอบโครงการ ๑๓. ผ้อู นุมัติโครงการ

-๑๔- แบบทดสอบกอ่ นการอบรม โครงการพัฒนาศกั ยภาพการจดั การสารเคมีอนั ตรายเพื่อลดผลกระทบต่อสขุ ภาพอย่างยั่งยนื ชื่อ-สกลุ ชือ่ บริษทั การทดสอบก่อนการอบรมมีวัตถุประสงค์เพ่ือประเมินความรู้ของผู้เข้าอบรมสาหรับนาไปปรับปรุง การเสริมสร้างองค์ความรเู้ กีย่ วกบั การดาเนนิ งานดา้ นความปลอดภัยเก่ียวกับสารเคมีอนั ตรายในสถานประกอบกิจการ แบบทดสอบมที ั้งหมด จาวน ๑๐ ขอ้ ใหท้ าเครอ่ื งหมาย X ลงในตวั เลอื กคาตอบท่ถี ูกต้องทสี่ ุด ๑. ข้อใดเป็นการทางานเกย่ี วกบั สารเคมีอันตราย ก. การติดฉลากลงบนภาชนะบรรจุสารเคมอี ันตราย ข. การทาลายสารเคมีอันตรายท่ีไม่ใช้แล้ว ค. การขนสง่ สารเคมีอนั ตรายไปให้ผู้ซื้อ ง. ถูกทุกขอ้ ๒. ในกรณีทม่ี สี ารเคมอี ันตรายอยู่ในครอบครอง นายจ้างต้องดาเนินการตามข้อใด ก. จัดทาบัญชีรายชอื่ สารเคมอี ันตรายทม่ี ีอย่ใู นครอบครอง ข. จดั ทารายละเอยี ดข้อมลู ความปลอดภัยของสารเคมีอนั ตรายตามแบบ สอ.๑ ค. แจง้ การครอบครองให้เจา้ หน้าท่ีทราบภายในเวลาท่ีกาหนด ง. ถูกทกุ ขอ้ ๓. ขอ้ ใดไมถ่ ูกต้องเก่ียวกับฉลากสารเคมีอันตรายตามท่ีกฎหมายกาหนดไว้ ก. มีชอื่ ผลิตภณั ฑ์ รปู สัญลกั ษณ์ และมขี ้อความแสดงอันตราย ข. เป็นภาษาไทย อา่ นงา่ ย คงทน ค. หากติดฉลากทภี่ าชนะบรรจุไม่ได้ ให้เก็บฉลากใส่แฟูมเอาไว้ ง. ใช้รปู แบบของฉลากตามระบบ GHS ๔. ขอ้ ใดเป็นลกั ษณะสภาพของสถานทีท่ ี่เหมาะสมกับการทางานเกีย่ วกับสารเคมอี ันตราย ก. มรี ะบบระบายอากาศแบบท่วั ไปหรือแบบทที่ าใหส้ ารเคมีอันตรายเจือจาง ข. การระบายอากาศเฉพาะที่ ไมจ่ าเป็นตอ้ งมีระบบปูองกนั และกาจัดอากาศเสยี ก่อนปล่อยออก ค. สามารถวางภาชนะบรรจุสารเคมีทีใ่ ดก็ได้ ง. ผดิ ทุกขอ้ ๕. ขอ้ ใดกลา่ วไมถ่ ูกต้องเก่ียวกับการจัดสถานท่ี และอปุ กรณ์คุ้มครองความปลอดภยั ใหก้ ับลูกจ้าง ก. มชี ดุ ทางานเฉพาะให้ลูกจ้างไดส้ วมใส่ และมีทเี่ กบ็ ชุดทางานท่ีใช้แลว้ ใหด้ ้วย ข. มอี ุปกรณ์ดบั เพลงิ ท่เี หมาะสมกับสารเคมีอันตราย และเพียงพอสาหรบั การผจญเพลิงเบื้องต้น ค. มที ่ีล้างตา หรอื ฝักบัวชาระลา้ งร่างกาย สาหรับใชใ้ นกรณีฉุกเฉินติดต้ังไว้ใกล้ๆ กับสถานทที่ างาน ง. มีอุปกรณแ์ ละเวชภัณฑส์ าหรับการปฐมพยาบาลเบ้ืองต้น

-๑๕- ๖. การเกบ็ รักษาสารเคมีอันตราย ควรลักษณะตามขอ้ ใด ก. อาคารทนไฟได้ไม่น้อยกว่าหกสิบนาที ข. อาคารมีทางเข้าออกไม่น้อยกวา่ สองทาง ค. มเี คร่อื งหมายหรือสัญลักษณ์แจ้งความเป็นอนั ตรายของสารเคมี ติดให้เห็นไดช้ ัดเจน ง. ถกู ทกุ ข้อ ๗. ข้อใดกล่าวไม่ถกู ต้องเกย่ี วกับการขนถา่ ย การเคลือ่ นย้าย การขนส่งสารเคมอี นั ตราย ก. ตอ้ งมกี ารฝึกอบรมและฝกึ ซอ้ มวธิ ีการแก้ไขปัญหาเมือ่ เกิดเหตุฉกุ เฉนิ อยา่ งน้อยปลี ะหนึ่งครั้ง ข. การส่งสารเคมีอันตรายท่ีมีความร้อนทาให้ผิวภายนอกท่อมีอุณหภูมิสูงข้ึน เพ่ือเป็นการระบายความร้อน ไมต่ ้องมฉี นวนหุ้มท่อ ค. ก่อนการขนส่ง จะต้องยึดภาชนะบรรจุกับฐานรองรับและยานพานะให้แน่น เพ่ือไม่ให้เคลื่อนที่หรือลอยตัว ไดข้ ณะขนส่ง ง. ยานพาหนะท่ีขนส่งสารเคมี จะตอ้ งมีเคร่ืองดับเพลิงท่ีเหมาะสมกับสารเคมีอนั ตรายดว้ ย ๘. การจัดการต่อหีบห่อ ภาชนะบรรจุ หรือวัสดุห่อหุ้มสารเคมีอันตรายท่ีปนเปื้อนและไม่ต้องการใช้แล้วตามข้อใด เป็นไปอยา่ งถูกต้อง ก. สามารถล้างและนามาบรรจสุ ่งิ ของอ่ืนต่อได้ ข. กาจัดโดยวธิ กี ารที่ปลอดภัยและเหมาะสมกบั ชนิดของสารเคมีอันตราย ค. ใหเ้ กบ็ รวบรวมไวใ้ นบริเวณท่ีทางานก่อนส่งกาจดั ง. ไม่มขี อ้ ใดถูก ๙. ขอ้ ใดเปน็ การควบคุมและปฏบิ ตั ิการกรณมี ีเหตฉุ ุกเฉนิ เก่ียวกับสารเคมีอันตรายในสถานประกอบกิจการ ก. มกี ารประเมินความเสีย่ งการก่ออันตรายของสารเคมีอันตรายท่ีมีในครอบครอง ข. จดั ทาแผนปฏิบตั ิการกรณีมเี หตฉุ ุกเฉนิ ค. ฝกึ อบรมลกู จ้างให้สามารถควบคุมและระงับเหตุอันตรายได้ ง. ถกู ทุกข้อ ๑๐. ข้อใดกลา่ วถูกต้องเกย่ี วกบั การควบคุมระดับความเข้มข้นของสารเคมอี ันตรายในสถานประกอบกิจการ ก. นายจ้างจัดให้มีระบบปูองกัน และควบคุมระดับความเข้มข้นของสารเคมีอันตรายในบรรยากาศไม่ให้ เกินขีดจากัดท่กี าหนด ของสถานทีท่ างานเท่านั้น ข. นายจ้างมีการตรวจวัดและวิเคราะห์ระดับความเข้มข้นของสารเคมีอันตรายในบรรยากาศของสถานที่ ทางาน และสถานทเ่ี ก็บรกั ษาสารเคมอี ันตราย ค. เม่ือพบว่าระดับความเข้มข้นของสารเคมีอันตรายเกินขีดจากัดท่ีกาหนด นายจ้างแจ้งให้เจ้าหน้าท่ี ตรวจความปลอดภัยให้เขา้ มาดาเนนิ การกาจดั หรอื ควบคมุ สารเคมีอันตรายน้ีได้ ง. ให้ส่งผลการตรวจวัดและวิเคราะห์ระดับความเข้มข้นของสารเคมีอันตรายในบรรยากาศของสถานท่ี ทางานและสถานท่เี กบ็ รักษาสารเคมอี ันตรายให้แก่อธิบดีภายใน ๓๐ วนั นับแตท่ ราบผลการตรวจวัด

-๑๖- เฉลยแบบทดสอบกอ่ นการอบรม โครงการพฒั นาศักยภาพการจดั การสารเคมอี ันตรายเพอื่ ลดผลกระทบตอ่ สุขภาพอยา่ งย่งั ยืน ขอ้ ที่ คาตอบ ๑ง ๒ง ๓ค ๔ก ๕ค ๖ง ๗ข ๘ข ๙ง ๑๐ ข

-๑๗- แบบทดสอบหลังการอบรม โครงการพัฒนาศกั ยภาพการจดั การสารเคมอี ันตรายเพ่อื ลดผลกระทบต่อสขุ ภาพอย่างยัง่ ยนื ชอ่ื -สกลุ ชือ่ บริษัท การทดสอบหลังการอบรมมีวัตถุประสงค์เพ่ือประเมินความรู้ของผู้เข้าอบรมสาหรับนาไปปรับปรุง การเสรมิ สรา้ งองค์ความรเู้ กย่ี วกับการดาเนนิ งานด้านความปลอดภัยเกยี่ วกับสารเคมีอนั ตรายในสถานประกอบกิจการ แบบทดสอบมีทั้งหมด จาวน ๑๐ ข้อ ใหท้ าเครือ่ งหมาย X ลงในตวั เลอื กคาตอบทถ่ี ูกต้องทสี่ ุด ๑. ข้อใดเป็นการควบคุมและปฏบิ ัติการกรณมี ีเหตฉุ ุกเฉนิ เกี่ยวกับสารเคมีอันตรายในสถานประกอบกิจการ ก. มีการประเมินความเส่ยี งการก่ออันตรายของสารเคมอี ันตรายที่มีในครอบครอง ข. จัดทาแผนปฏิบัติการกรณีมเี หตุฉุกเฉิน ค. ฝึกอบรมลกู จา้ งให้สามารถควบคุมและระงบั เหตุอันตรายได้ ง. ถกู ทกุ ขอ้ ๒. ข้อใดไมถ่ ูกต้องเกี่ยวกับฉลากสารเคมอี ันตรายตามท่ีกฎหมายกาหนดไว้ ก. มชี อ่ื ผลติ ภณั ฑ์ รูปสัญลกั ษณ์ และมขี ้อความแสดงอันตราย ข. เปน็ ภาษาไทย อ่านง่าย คงทน ค. หากติดฉลากที่ภาชนะบรรจุไม่ได้ ใหเ้ ก็บฉลากใส่แฟูมเอาไว้ ง. ใช้รูปแบบของฉลากตามระบบ GHS ๓. การเกบ็ รักษาสารเคมอี นั ตราย ควรลักษณะตามขอ้ ใด ก. อาคารทนไฟได้ไม่น้อยกว่าหกสบิ นาที ข. อาคารมที างเข้าออกไมน่ ้อยกว่าสองทาง ค. มีเครอื่ งหมายหรือสัญลักษณ์แจ้งความเป็นอนั ตรายของสารเคมี ตดิ ให้เหน็ ไดช้ ดั เจน ง. ถกู ทุกขอ้ ๔. ข้อใดเปน็ ลักษณะสภาพของสถานท่ีท่ีเหมาะสมกับการทางานเกย่ี วกับสารเคมีอันตราย ก. มรี ะบบระบายอากาศแบบท่ัวไปหรือแบบท่ีทาให้สารเคมีอนั ตรายเจือจาง ข. การระบายอากาศเฉพาะที่ ไม่จาเป็นตอ้ งมีระบบปูองกนั และกาจัดอากาศเสยี ก่อนปล่อยออก ค. สามารถวางภาชนะบรรจุสารเคมีท่ใี ดก็ได้ ง. ผดิ ทุกขอ้ ๕. ในกรณที มี่ สี ารเคมอี ันตรายอยู่ในครอบครอง นายจ้างตอ้ งดาเนนิ การตามข้อใด ก. จัดทาบัญชีรายช่อื สารเคมีอันตรายที่มีอยใู่ นครอบครอง ข. จดั ทารายละเอยี ดข้อมลู ความปลอดภัยของสารเคมีอนั ตรายตามแบบ สอ.๑ ค. แจง้ การครอบครองให้เจา้ หน้าที่ทราบภายในเวลาทีก่ าหนด ง. ถูกทุกข้อ

-๑๘- ๖. ข้อใดกล่าวถกู ตอ้ งเกี่ยวกับการควบคุมระดับความเข้มขน้ ของสารเคมีอันตรายในสถานประกอบกจิ การ ก. นายจ้างจัดให้มีระบบปูองกัน และควบคุมระดับความเข้มข้นของสารเคมีอันตรายในบรรยากาศไม่ให้ เกนิ ขดี จากัดทก่ี าหนด ของสถานทที่ างานเทา่ นัน้ ข. นายจ้างมีการตรวจวัดและวิเคราะห์ระดับความเข้มข้นของสารเคมีอันตรายในบรรยากาศของสถานท่ี ทางาน และสถานทเี่ กบ็ รกั ษาสารเคมอี นั ตราย ค. เมื่อพบว่าระดับความเข้มข้นของสารเคมีอันตรายเกินขีดจากัดที่กาหนด นายจ้างแจ้งให้เจ้าหน้าท่ี ตรวจความปลอดภยั ให้เขา้ มาดาเนนิ การกาจัดหรอื ควบคมุ สารเคมีอนั ตรายน้ีได้ ง. ให้ส่งผลการตรวจวัดและวิเคราะห์ระดับความเข้มข้นของสารเคมีอันตรายในบรรยากาศของสถานที่ ทางานและสถานที่เกบ็ รักษาสารเคมอี ันตรายให้แก่อธบิ ดีภายใน ๓๐ วนั นบั แตท่ ราบผลการตรวจวัด ๗. ข้อใดเปน็ การทางานเกยี่ วกบั สารเคมีอันตราย ก. การติดฉลากลงบนภาชนะบรรจสุ ารเคมอี ันตราย ข. การทาลายสารเคมอี ันตรายท่ีไม่ใช้แล้ว ค. การขนส่งสารเคมีอันตรายไปให้ผู้ซื้อ ง. ถกู ทกุ ข้อ ๘. การจัดการต่อหีบห่อ ภาชนะบรรจุ หรือวัสดุห่อหุ้มสารเคมีอันตรายที่ปนเป้ือนและไม่ต้องการใช้แล้วตามข้อใด เป็นไปอยา่ งถูกต้อง ก. สามารถลา้ งและนามาบรรจุส่งิ ของอื่นต่อได้ ข. กาจดั โดยวิธกี ารที่ปลอดภัยและเหมาะสมกบั ชนิดของสารเคมอี ันตราย ค. ให้เกบ็ รวบรวมไว้ในบริเวณที่ทางานก่อนส่งกาจดั ง. ไม่มีขอ้ ใดถูก ๙. ขอ้ ใดกลา่ วไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการจดั สถานที่ และอุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภยั ใหก้ ับลูกจ้าง ก. มีชดุ ทางานเฉพาะใหล้ ูกจ้างไดส้ วมใส่ และมที ี่เก็บชดุ ทางานท่ีใช้แล้วใหด้ ้วย ข. มอี ุปกรณด์ บั เพลิงทเี่ หมาะสมกบั สารเคมีอันตราย และเพยี งพอสาหรับการผจญเพลิงเบื้องต้น ค. มีท่ีล้างตา หรอื ฝักบวั ชาระลา้ งรา่ งกาย สาหรับใช้ในกรณีฉุกเฉนิ ติดต้ังไวใ้ กล้ๆ กับสถานทที่ างาน ง. มอี ุปกรณ์และเวชภัณฑส์ าหรับการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ๑๐. ข้อใดกลา่ วไมถ่ ูกต้องเกี่ยวกับการขนถ่าย การเคลอื่ นย้าย การขนส่งสารเคมีอันตราย ก. ตอ้ งมีการฝึกอบรมและฝกึ ซอ้ มวิธกี ารแก้ไขปัญหาเมื่อเกดิ เหตฉุ กุ เฉนิ อยา่ งนอ้ ยปลี ะหนงึ่ ครง้ั ข. การส่งสารเคมีอันตรายที่มีความร้อนทาให้ผิวภายนอกท่อมีอุณหภูมิสูงขึ้น เพ่ือเป็นการระบายความร้อน ไม่ตอ้ งมฉี นวนหุ้มท่อ ค. ก่อนการขนส่ง จะต้องยึดภาชนะบรรจุกับฐานรองรับและยานพานะให้แน่น เพ่ือไม่ให้เคลื่อนท่ีหรือลอยตัว ได้ขณะขนส่ง ง. ยานพาหนะท่ีขนส่งสารเคมี จะต้องมีเครื่องดับเพลิงที่เหมาะสมกับสารเคมีอนั ตรายดว้ ย

-๑๙- เฉลยแบบทดสอบหลังการอบรม โครงการพฒั นาศักยภาพการจดั การสารเคมอี ันตรายเพอื่ ลดผลกระทบต่อสุขภาพอย่างย่ังยืน ขอ้ ท่ี คาตอบ ๑ง ๒ค ๓ง ๔ก ๕ง ๖ข ๗ง ๘ข ๙ค ๑๐ ข

-๒๐- แบบประเมนิ ผลการฝกึ อบรม โครงการพัฒนาศักยภาพการจดั การสารเคมอี ันตรายเพือ่ ลดผลกระทบตอ่ สุขภาพอย่างยั่งยนื จดั โดย ศูนย์ความปลอดภยั ในการทางานเขต วนั ท่ี สถานท่ี คาช้แี จง แบบประเมินผลน้สี รา้ งขน้ึ เพอ่ื ตอ้ งการทราบความพึงพอใจ ความเข้าใจ ความสนใจ ความคิดเห็น และขอ้ เสนอแนะของผเู้ ข้ารับ การฝกึ อบรม สาหรับเปน็ แนวทางในการปรับปรงุ การจดั ฝึกอบรมใหด้ ีย่ิงขึ้น ตอนท่ี ๑ ใหใ้ สเ่ คร่อื งหมาย  ลงในช่องแสดงความคดิ เห็นของท่านในแตล่ ะคาถาม รายการประเมินความคดิ เห็น ระดบั ความคดิ เหน็ หมายเหตุ มาก มาก ปาน น้อย นอ้ ย ทสี่ ุด ทีส่ ุด กลาง ๑. ความเขา้ ใจในวตั ถปุ ระสงคข์ องการฝกึ อบรม ๒. ความเหมาะสมของหวั ข้อวิชา ๓. ความสามารถในการถา่ ยทอดความรขู้ องวิทยากร ๔. ความเขา้ ใจในแตล่ ะหัวข้อวชิ า ๕. การนาไปใชป้ ระโยชน์ได้ ๖. ความเหมาะสมของวิธกี ารฝกึ อบรม ๗. ความเหมาะสมของสถานท่ฝี กึ อบรม ๘. การอานวยความสะดวก/บรกิ ารจากเจา้ หน้าทผ่ี จู้ ดั ๙. ความพงึ พอใจในการฝึกอบรมโดยภาพรวม ตอนที่ ๒ โปรดเขยี นระบุข้อความแสดงความคดิ เหน็ และข้อเสนอแนะลงในชอ่ งวา่ ง ๑. หวั ขอ้ วชิ าที่ควรเพม่ิ เตมิ ในหลักสตู ร ๒. ระยะเวลาของการฝกึ อบรมของหลักสตู รน้ี ( ) เหมาะสม ( ) ไมเ่ หมาะสม ทีเ่ หมาะสมควรเป็น วัน ๓. หลกั สตู รท่ีท่านจาเปน็ ตอ้ งได้รับการฝกึ อบรม ๓.๑ เนือ่ งจาก ๓.๒ เน่ืองจาก ๔. ข้อเสนอแนะอื่นๆ “แรงงานปลอดภัยและสขุ ภาพอนามยั ดี”

-๒๑- แบบรายงานผลการดาเนนิ งาน โครงการพัฒนาศกั ยภาพการจัดการสารเคมีอันตรายเพ่อื ลดผลกระทบต่อสุขภาพแรงงานอย่างยงั่ ยืน (ส่งรายงานให้กองความปลอดภยั แรงงาน ภายใน ๓๐ วัน นบั ตั้งแต่วนั ทจี่ ัดอบรมแล้วเสร็จ) ๑. หน่วยงาน ศนู ย์ความปลอดภยั ในการทางานเขต ๒. วนั ท่ี เดอื น ปี ท่จี ัดอบรม ๓. สถานที่จัดการอบรม ๔. จานวนผเู้ ขา้ อบรม ท้ังหมด คน ประกอบด้วย ๑) นายจ้าง จานวน คน ๒) เจา้ หน้าท่ีความปลอดภัยในการทางาน จานวน คน ระดับเทคนคิ จานวน คน ระดับเทคนิคข้ันสงู จานวน คน ระดบั วิชาชีพ จานวน คน ระดับหัวหน้างาน จานวน คน ระดบั บรหิ าร จานวน คน ๓) ลูกจา้ งท่ปี ฏบิ ัติงานเก่ียวกับสารเคมอี ันตราย จานวน คน ๕. ผลประเมนิ ความรู้ของผู้เข้ารับการอบรม กอ่ นการอบรม คะแนนต่ากว่า ๘๐ จานวน คน คิดเป็นรอ้ ยละ คะแนนสงู กว่า ๘๐ จานวน คน คิดเป็นรอ้ ยละ หลงั การอบรม คะแนนต่ากว่า ๘๐ จานวน คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ คะแนนสูงกวา่ ๘๐ จานวน คน คดิ เป็นร้อยละ ๖. ผลการประเมินผลการฝึกอบรมในภาพรวม (ให้จัดทาสรุปรายละเอียดข้อมูลตามแนบแบบประเมินผลการ ฝกึ อบรมและส่งเปน็ เอกสารแนบมาด้วย) ๗.

-๒๒- ภาคผนวก (๑) กฎกระทรวงกาหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดาเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางานเก่ียวกบั สารเคมอี ันตราย พ.ศ. ๒๕๕๖ (๒) ประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานเรื่อง แบบบัญชีรายช่ือสารเคมีอันตราย และรายละเอียดข้อมูล ความปลอดภัยของสารเคมีอนั ตราย (๓) ประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เร่ือง หลักเกณฑ์ วิธีการตรวจวัด และการวิเคราะห์ผล การตรวจวดั ระดบั ความเข้มขน้ ของสารเคมีอันตราย (๔) ประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานเร่ือง บัญชรี ายช่อื สารเคมอี นั ตราย (๕) ประกาศกรมสวสั ดกิ ารและคุ้มครองแรงงาน เรื่อง ขีดจากัดความเขม้ ข้นของสารเคมีอนั ตราย (๖) คาชแี้ จงประกาศกรมสวัสดกิ ารและคุ้มครองแรงงาน เรอื่ ง ขีดจากัดความเข้มข้น ของสารเคมีอันตราย (๗) ประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เร่ือง กาหนดแบบและวิธีการส่งรายงานผลการตรวจวัด ระดับ ความเข้มข้นของสารเคมีอันตรายในบรรยากาศการทางานและสถานท่ีเก็บรักษาสารเคมีอันตราย ทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์ (๘) ประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่อง กาหนดแบบและวิธีการแจ้งบัญชีรายช่ือสารเคมีอันตราย และรายละเอยี ดขอ้ มลู ความปลอดภยั ของสารเคมีอนั ตรายทางอิเล็กทรอนิกส์ (๙) เอกสารการบรรยายเกย่ี วกับสารเคมีอนั ตราย

เลม่ ๑๓๐ ตอนท่ี ๑๑๓ ก 23 ๒๙ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๖ หนา้ ๙ ราชกิจจานุเบกษา กฎกระทรวง กําหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดาํ เนินการด้านความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทาํ งานเกย่ี วกับสารเคมีอันตราย พ.ศ. ๒๕๕๖ อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๕ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๘ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติ ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ อันเป็นกฎหมายท่ีมี บทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจํากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซ่ึงมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๓๓ มาตรา ๔๑ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทําได้โดยอาศัย อํานาจตามบทบญั ญตั ิแหง่ กฎหมาย รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงแรงงานออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้ ขอ้ ๑ ในกฎกระทรวงนี้ “สารเคมีอันตราย” หมายความว่า ธาตุ สารประกอบ หรือสารผสม ตามบัญชีรายช่ือ ท่ีอธิบดีประกาศกําหนด ซ่ึงมีสถานะเป็นของแข็ง ของเหลว หรือก๊าซ ไม่ว่าจะอยู่ในรูปของเส้นใย ฝุ่น ละออง ไอ หรือฟมู ทีม่ คี ุณสมบัติอยา่ งหน่ึงอยา่ งใดหรอื หลายอย่างรวมกัน ดงั ต่อไปนี้ (๑) มีพิษ กัดกร่อน ระคายเคือง ซึ่งอาจทําให้เกิดอาการแพ้ การก่อมะเร็ง การเปล่ียนแปลง ทางพันธุกรรม เปน็ อันตรายต่อทารกในครรภห์ รือสขุ ภาพอนามยั หรอื ทําใหถ้ ึงแก่ความตาย (๒) เป็นตัวทําปฏิกิริยาที่รุนแรง เป็นตัวเพิ่มออกซิเจนหรือไวไฟ ซึ่งอาจทําให้เกิดการระเบิด หรอื ไฟไหม้ “ขีดจํากัดความเข้มข้นของสารเคมีอันตราย” หมายความว่า ระดับความเข้มข้นของสารเคมี อันตรายที่กําหนดให้มีอยู่ได้ในบรรยากาศแวดล้อมในการทํางานท่ีลูกจ้างซ่ึงมีสุขภาพปกติสามารถสัมผัส หรอื ได้รับเขา้ สู่ร่างกายไดท้ ุกวันตลอดเวลาท่ีทํางานโดยไม่เป็นอันตรายตอ่ สุขภาพ “การทํางานเก่ียวกับสารเคมีอันตราย” หมายความว่า การกระทําใด ๆ ซ่ึงอาจทําให้ลูกจ้าง ได้รับสารเคมีอันตราย เช่น การผลิต การติดฉลาก การห่อหุ้ม การเคลื่อนย้าย การเก็บรักษา การถา่ ยเท การขนถา่ ย การขนสง่ การกําจดั การทาํ ลาย การเก็บสารเคมีอันตรายที่ไม่ใช้แล้ว รวมทั้ง

24 เล่ม ๑๓๐ ตอนท่ี ๑๑๓ ก หน้า ๑๐ ๒๙ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๖ ราชกจิ จานุเบกษา การบํารุงรักษา การซ่อมแซม และการทําความสะอาดเครื่องมือ เคร่ืองใช้ ตลอดจนภาชนะบรรจุ สารเคมอี ันตราย “ผลติ ” หมายความว่า ทาํ ผสม ปรุง ปรงุ แต่ง เปลี่ยนรูป แปรสภาพ และหมายความรวมถึง การบรรจุ และแบง่ บรรจุ “ครอบครอง” หมายความว่า การมีไว้เพ่ือตนเองหรือผู้อื่นไม่ว่าจะมีไว้เพื่อขาย ขนส่ง ใช้ หรือเพ่อื ประการอ่ืนใด และรวมถงึ การทง้ิ ไว้ หรือปรากฏอย่ใู นบริเวณทค่ี รอบครองด้วย “ก๊าซ” หมายความว่า ของไหลมีปริมาตรหรือรูปทรงไม่แน่นอนท่ีสามารถฟุ้งกระจายและ เปลย่ี นสภาพเป็นของเหลวหรือของแข็งได้ โดยการเพ่ิมความดันหรอื ลดอณุ หภมู ิ “เส้นใย” หมายความว่า สารที่มีลักษณะเรียวยาวคล้ายเส้นด้าย มีต้นกําเนิดจากแร่ พืช สัตว์ หรอื ใยสังเคราะห์ “ฝุ่น” หมายความวา่ อนภุ าคของของแข็งท่ีสามารถฟุง้ กระจาย ปลิวหรือลอยอยู่ในอากาศได้ “ละออง” หมายความวา่ อนุภาคของของเหลวทีส่ ามารถลอยอยู่ในอากาศได้ “ไอ” หมายความวา่ ก๊าซท่เี กิดขึน้ จากของเหลวหรอื ของแขง็ ในสภาวะปกติ “ฟูม” หมายความว่า อนุภาคของของแข็งท่ีเกิดจากการรวมตัวของไอสามารถลอยตัวอยู่ใน อากาศได้ หมวด ๑ ข้อมูลความปลอดภัยของสารเคมีอันตราย ข้อ ๒ ให้นายจ้างที่มีสารเคมีอันตรายอยู่ในครอบครองจัดทําบัญชีรายชื่อสารเคมีอันตราย และรายละเอียดข้อมูลความปลอดภัยของสารเคมีอันตรายตามแบบที่อธิบดีประกาศกําหนด พร้อมทั้ง แจ้งตอ่ อธิบดหี รอื ผู้ซึง่ อธิบดมี อบหมายภายในเจ็ดวันนับแตว่ นั ท่ีมีสารเคมีอันตรายอยูใ่ นครอบครอง ภายในเดือนมกราคมของทุกปี ให้นายจ้างแจ้งบัญชีรายชื่อสารเคมีอันตราย และรายละเอียด ขอ้ มลู ความปลอดภยั ของสารเคมอี ันตรายทตี่ นมีอยูใ่ นครอบครองตอ่ อธิบดี หรอื ผซู้ ่ึงอธิบดมี อบหมายด้วย ข้อ ๓ ให้นายจ้างแจ้งให้ลูกจ้างทราบและอธิบายให้ลูกจ้างเข้าใจข้อมูลความปลอดภัยของ สารเคมีอันตรายท่ีอยู่ในครอบครองของนายจ้าง ข้อความและเคร่ืองหมายต่าง ๆ ที่ปรากฏในเอกสาร ค่มู ือ ฉลาก ปา้ ย หรอื ข่าวสารทเ่ี กี่ยวขอ้ ง รวมทงั้ ข้อมูลตา่ ง ๆ ตามทีไ่ ด้กาํ หนดไว้ในกฎกระทรวงนี้ ข้อ ๔ ให้นายจ้างจัดให้ลูกจ้างที่ทํางานเกี่ยวกับสารเคมีอันตรายทราบและเข้าใจวิธีการใน การทํางานท่ีถูกต้องและปลอดภัย รวมทั้งต้องจัดให้มีมาตรการควบคุมลูกจ้างให้ปฏิบัติตามวิธีการดังกล่าว ในการนี้ให้นายจ้างจัดทําคู่มือเกี่ยวกับแนวปฏิบัติและข้ันตอนในการทํางานเก่ียวกับสารเคมีอันตราย คําแนะนําลูกจ้างเกี่ยวกับการป้องกันอันตราย ความหมายของข้อมูลท่ีมีบนฉลากและเอกสารข้อมูล ความปลอดภยั ของสารเคมีอนั ตราย

25 เล่ม ๑๓๐ ตอนท่ี ๑๑๓ ก หน้า ๑๑ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ ราชกิจจานุเบกษา ขอ้ ๕ ลูกจ้างต้องปฏิบัติตามวิธีการทํางานที่ถูกต้องและปลอดภัยตามคู่มือการปฏิบัติงาน ที่นายจ้างจัดทําข้ึนตามข้อ ๔ และเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินเกี่ยวกับสารเคมีอันตราย ลูกจ้างต้องบรรเทาเหตุ และแจง้ ให้หวั หนา้ งานทราบทันที หมวด ๒ ฉลากและปา้ ย ข้อ ๖ ให้นายจ้างจัดให้มีการปิดฉลากที่เป็นภาษาไทยมีขนาดใหญ่พอสมควร อ่านง่าย คงทน ไว้ที่หีบห่อบรรจุภัณฑ์ ภาชนะบรรจุ หรือวัสดุห่อหุ้มสารเคมีอันตราย และฉลากนั้นอย่างน้อย ต้องมรี ายละเอียดเกี่ยวกบั รายการ ดงั ตอ่ ไปนี้ (๑) ชอ่ื ผลิตภัณฑ์ (product name) (๒) ชอ่ื สารเคมอี นั ตราย (hazardous substances) (๓) รปู สญั ลกั ษณ์ (pictograms) (๔) คําสญั ญาณ (signal words) (๕) ขอ้ ความแสดงอันตราย (hazard statements) (๖) ข้อควรระวงั หรอื ขอ้ ปฏบิ ตั เิ พื่อปอ้ งกันอนั ตราย (precautionary statements) ในกรณที ไ่ี มส่ ามารถปิดฉลากตามวรรคหนง่ึ ได้เน่ืองจากขนาดหรือลักษณะของหีบห่อบรรจุภัณฑ์ ภาชนะบรรจุ หรือวสั ดุหอ่ หุม้ สารเคมีอนั ตราย ให้นายจา้ งกาํ หนดวธิ กี ารทีม่ ีประสทิ ธิภาพเพ่ือแสดงให้ลูกจ้าง ไดร้ ู้ถึงรายละเอยี ดของสารเคมีอนั ตรายตามวรรคหนง่ึ ณ บริเวณที่มกี ารทาํ งานเก่ียวกับสารเคมีอนั ตรายนัน้ ขอ้ ๗ ให้นายจ้างจัดให้มีป้ายห้าม ป้ายให้ปฏิบัติ หรือป้ายเตือน ในการทํางานเก่ียวกับ สารเคมีอนั ตรายไว้ในท่เี ปิดเผยเห็นไดช้ ัดเจน ณ สถานท่ที ํางานของลูกจา้ ง ขอ้ ๘ ในกรณีท่ีอธิบดีประกาศให้สารเคมีอันตรายใดต้องควบคุมเป็นพิเศษ ให้นายจ้าง ปิดประกาศหรือจัดทําป้ายแจ้งข้อความเก่ียวกับอันตรายและมาตรการป้องกันอันตรายท่ีอาจเกิดจาก สารเคมอี นั ตรายดงั กล่าว ขอ้ ๙ ให้นายจ้างปดิ ประกาศหรือจัดทาํ ป้ายแจ้งขอ้ ความ “ห้ามสูบบุหร่ี รับประทานอาหาร หรือเครื่องดื่ม ประกอบอาหาร หรือเก็บอาหาร” ด้วยตัวอักษรขนาดท่ีเห็นได้ชัดเจนไว้ ณ บริเวณ สถานท่ีทํางานเกี่ยวกับสารเคมีอันตราย สถานที่เก็บรักษาสารเคมีอันตราย หรือในยานพาหนะขนส่ง สารเคมีอันตราย และจะตอ้ งควบคุมดแู ลมิใหม้ ีการฝา่ ฝืนขอ้ ห้ามดังกล่าว หมวด ๓ การคุ้มครองความปลอดภยั ขอ้ ๑๐ ในบริเวณที่ลูกจ้างทํางานเก่ียวกับสารเคมีอันตราย ให้นายจ้างจัดให้มีสภาพและคุณลักษณะ ดังตอ่ ไปน้ี

26 เลม่ ๑๓๐ ตอนที่ ๑๑๓ ก หนา้ ๑๒ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ ราชกิจจานุเบกษา (๑) ถูกสุขลักษณะ สะอาด และเป็นระเบียบเรียบร้อย พื้นที่ปฏิบัติงานต้องเรียบ สมํ่าเสมอ ไมล่ น่ื และไมม่ วี สั ดเุ กะกะกีดขวางทางเดิน (๒) มีระบบระบายอากาศแบบท่ัวไป หรือแบบท่ีทําให้สารเคมีอันตรายเจือจาง หรือแบบที่มี เครื่องดูดอากาศเฉพาะที่ ท่ีเหมาะสมกับประเภทของสารเคมีอันตราย โดยให้มีออกซิเจนในบรรยากาศ ไมต่ า่ํ กว่ารอ้ ยละสบิ เกา้ จดุ ห้าโดยปรมิ าตร (๓) มีระบบป้องกันและกําจัดอากาศเสียโดยใช้ระบบระบายอากาศเฉพาะที่ ระบบเปียก การปิดคลุม หรือระบบอื่น เพื่อมิให้มีสารเคมีอันตรายในบรรยากาศเกินปริมาณที่กําหนด และป้องกัน มิใหอ้ ากาศท่รี ะบายออกไปเปน็ อันตรายตอ่ ผอู้ ืน่ ข้อ ๑๑ ในบริเวณที่ลูกจ้างทํางานเก่ียวกับสารเคมีอันตราย ให้นายจ้างจัดให้มีสถานที่และอุปกรณ์ เพอ่ื คุ้มครองความปลอดภัยตามรายการ ดงั ต่อไปนี้ (๑) ท่ีชําระล้างสารเคมีอันตรายท่ีลูกจ้างสามารถใช้ได้ทันทีในกรณีฉุกเฉิน อย่างน้อยต้องมี ท่ลี ้างตาและฝักบวั ชาํ ระล้างรา่ งกายจากสารเคมอี นั ตราย (๒) ทล่ี ้างมอื และล้างหน้า ไม่น้อยกว่าหน่ึงท่ีต่อลูกจ้างสิบห้าคนและให้เพิ่มจํานวนขึ้นตามสัดส่วน ของลูกจา้ ง ส่วนทเี่ กนิ เจด็ คนใหถ้ อื เป็นสบิ ห้าคน (๓) หอ้ งอาบน้ําเพื่อใช้ชาํ ระล้างร่างกายไมน่ อ้ ยกวา่ หนึง่ ห้องตอ่ ลกู จ้างสบิ หา้ คนและให้เพิม่ จํานวนข้ึน ตามสัดส่วนของลูกจ้าง ส่วนท่ีเกินเจ็ดคนให้ถือเป็นสิบห้าคน ทั้งนี้ จะต้องจัดของใช้ที่จําเป็นสําหรับ การชาํ ระล้างสารเคมีอันตรายออกจากรา่ งกายให้เพียงพอและใชไ้ ดต้ ลอดเวลา (๔) อุปกรณ์และเวชภัณฑ์ที่จําเป็นสําหรับการปฐมพยาบาลลูกจ้างที่ได้รับอันตรายจากสารเคมี อันตราย (๕) อุปกรณ์ดับเพลิงที่เหมาะสมกับสารเคมีอันตรายแต่ละชนิด และเพียงพอสําหรับการผจญเพลิง เบอื้ งต้น (๖) ชุดทํางานเฉพาะสําหรับลูกจ้างซ่ึงทํางานเก่ียวกับสารเคมีอันตราย และท่ีเก็บชุดทํางาน ท่ใี ช้แลว้ ดงั กล่าวใหเ้ หมาะสมกับสารเคมอี ันตรายประเภทนั้น ข้อ ๑๒ ให้นายจ้างจัดอุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลตามลักษณะอันตรายและ ความรุนแรงของสารเคมีอันตราย หรือลักษณะของงาน ให้ลูกจ้างใช้หรือสวมใส่เพ่ือป้องกันอันตราย ท่อี าจจะเกดิ แกช่ วี ิต ร่างกาย หรือสขุ ภาพอนามัยของลกู จ้าง ข้อ ๑๓ ใหล้ ูกจ้างซง่ึ ทํางานเกี่ยวกบั สารเคมีอันตรายใช้หรอื สวมใสอ่ ุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัย ส่วนบุคคลตามข้อ ๑๒ ในกรณีท่ีลูกจ้างไม่ใช้หรือไม่สวมใส่อุปกรณ์น้ัน ให้นายจ้างสั่งลูกจ้าง หยดุ การทาํ งานทันที จนกวา่ ลูกจ้างจะไดใ้ ช้หรือสวมใส่อุปกรณ์ดังกลา่ ว ข้อ ๑๔ นายจ้างต้องดูแลสถานที่ทํางานเก่ียวกับสารเคมีอันตรายและตรวจสอบอุปกรณ์ คุ้มครองความปลอดภยั ท่ีจดั ไว้ ใหส้ ามารถใช้งานไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพและปลอดภยั ตลอดเวลา

27 เลม่ ๑๓๐ ตอนที่ ๑๑๓ ก หน้า ๑๓ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ ราชกจิ จานุเบกษา ข้อ ๑๕ ห้ามนายจ้างยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้ลูกจ้างหรือบุคคลใดเข้าพักอาศัย หรือ พักผ่อนในสถานที่ทํางานเก่ียวกับสารเคมีอันตราย สถานที่เก็บรักษาสารเคมีอันตราย หรือในยานพาหนะ ขนสง่ สารเคมอี ันตราย ข้อ ๑๖ ในกรณีท่ีมีการร้องเรียนหรือมีปัญหาด้านความไม่ปลอดภัยในการทํางานเกี่ยวกับ สารเคมีอันตราย ให้นายจ้างที่มีสารเคมีอันตรายอยู่ในครอบครองดําเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงและ หากพบว่ามีผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมในการทํางานหรือสุขภาพอนามัย ให้ดําเนินการแก้ไขให้เกิด ความปลอดภยั โดยไมช่ กั ชา้ หมวด ๔ การเกบ็ รักษา การบรรจุ และการถ่ายเทสารเคมอี ันตราย ขอ้ ๑๗ ให้นายจา้ งจดั สถานท่ีเกบ็ รกั ษาสารเคมอี ันตรายให้มสี ภาพและคณุ ลกั ษณะ ดงั ตอ่ ไปนี้ (๑) ต้องสามารถทนไฟได้ไม่น้อยกว่าหกสิบนาที เว้นแต่ในกรณีที่เป็นสถานท่ีเก็บรักษาสารเคมี อันตรายที่มีคุณสมบัติเป็นตัวทําปฏิกิริยาที่รุนแรง เป็นตัวเพ่ิมออกซิเจน หรือไวไฟซ่ึงอาจทําให้เกิด การระเบิดหรือไฟไหม้ต้องสามารถทนไฟได้ไม่น้อยกว่าหน่ึงร้อยแปดสิบนาที หรือไม่น้อยกว่าเก้าสิบนาที หากสถานทีด่ งั กล่าวมีระบบนา้ํ ดบั เพลิงอตั โนมตั ิ (๒) มีพื้นเรียบ ไม่ขรุขระ ไม่เปียก ไม่ลื่น สามารถรับน้ําหนักได้ และไม่ดูดซับสารเคมีอันตราย รวมทง้ั ต้องดูแลปรับปรงุ สถานท่ีมิให้ชํารุด ผุ กร่อน และรักษาความสะอาดพื้นมิให้มีเศษขยะ เศษวัสดุ หรอื สิ่งทเ่ี ป็นเช้อื เพลิง (๓) มรี ะยะหา่ งจากอาคารทลี่ ูกจ้างทํางานในระยะท่ีปลอดภยั ตามทอี่ ธิบดปี ระกาศกําหนด (๔) มีทางเดินภายในและภายนอกกว้างเพียงพอที่จะนําเครื่องมือและอุปกรณ์ดับเพลิงมาใช้ได้ อย่างสะดวก ไม่มีสิง่ กดี ขวาง และใหม้ มี าตรการเพือ่ ให้เกดิ ความปลอดภัยตลอดทาง (๕) มีทางเข้าออกสถานท่ีเก็บรักษาสารเคมีอันตรายไม่น้อยกว่าสองทาง ใช้ประตูทนไฟและ เปน็ ชนดิ เปดิ ออกสู่ภายนอก และปดิ กญุ แจหอ้ งทกุ ครงั้ เม่อื ไมม่ ีการปฏบิ ตั ิงาน (๖) มีระบบระบายอากาศท่ีเหมาะสม และเกิดความปลอดภัยแก่ลูกจ้างท่ีปฏิบัติงานและ จัดการป้องกนั มใิ หอ้ ากาศที่ระบายออกเปน็ อันตรายแกผ่ ู้อ่ืน (๗) มีการป้องกันสาเหตุที่อาจทําให้เกิดอัคคีภัยในบริเวณสถานท่ีเก็บรักษาสารเคมีอันตราย เชน่ ประกายไฟ เปลวไฟ อปุ กรณไ์ ฟฟา้ การเสียดสี ทอ่ ร้อน การลุกไหมไ้ ดเ้ อง เป็นต้น (๘) จัดทําเข่ือน กําแพง ทํานบ ผนัง หรือสิ่งอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายกัน เพ่ือกักมิให้สารเคมี อันตรายท่ีเป็นของเหลว ไหลออกภายนอกบริเวณสถานท่ีเก็บรักษาสารเคมีอันตราย และมีรางระบาย สารเคมีอันตรายท่ีร่ัวไหลไปยังท่ีท่ีสามารถรวบรวมเพื่อนําไปกําจัดอย่างปลอดภัย เพ่ือไม่ให้มีการสะสมตกค้าง โดยรางระบายตอ้ งแยกจากระบบระบายน้ํา (๙) จดั ทํารวั้ ล้อมรอบสถานทเี่ ก็บรกั ษาสารเคมีอันตรายที่อยูน่ อกอาคาร

28 เล่ม ๑๓๐ ตอนที่ ๑๑๓ ก หน้า ๑๔ ๒๙ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๖ ราชกจิ จานุเบกษา (๑๐) มีป้ายข้อความว่า “สถานท่ีเก็บรักษาสารเคมีอันตราย ห้ามเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาต” ปดิ ประกาศไว้ทท่ี างเข้าสถานทนี่ ้ันใหเ้ หน็ ได้ชดั เจนตลอดเวลา (๑๑) มีเครื่องหมายหรือสัญลักษณ์ท่ีแสดงถึงอันตรายของสารเคมีอันตรายให้เห็นได้ชัดเจน ตลอดเวลา (๑๒) มีแผนผังแสดงท่ีต้ังของอุปกรณ์ดับเพลิง อุปกรณ์ผจญเพลิง อุปกรณ์ที่ใช้ในกรณีฉุกเฉิน ติดไวบ้ ริเวณทางเขา้ ออกให้เห็นได้ชัดเจนตลอดเวลา ขอ้ ๑๘ ให้นายจ้างจัดให้มีมาตรการป้องกันอันตรายท่ีอาจเกิดจากสารเคมีอันตรายในบริเวณ สถานที่เก็บรักษาสารเคมีอันตราย รวมทงั้ มาตรการเบื้องตน้ ในการแก้ไขเยียวยาอันตรายท่ีเกิดขน้ึ ขอ้ ๑๙ การจดั เก็บสารเคมีอันตรายใหน้ ายจ้างปฏิบตั ิ ดงั ต่อไปนี้ (๑) เก็บรักษาสารเคมีอนั ตรายตามมาตรฐานการเกบ็ รักษาทีอ่ ธิบดีประกาศกําหนด (๒) จดั ทําบญั ชรี ายช่ือ ปรมิ าณสารเคมีอันตรายทุกชนิดท่ีจัดเก็บในสถานท่ีเก็บรักษาสารเคมีอันตราย แตล่ ะแหง่ อย่างนอ้ ยปีละหนง่ึ ครงั้ ตามปปี ฏิทิน (๓) ระมดั ระวังมใิ หห้ ีบหอ่ ภาชนะบรรจุ หรอื วัสดหุ อ่ หุม้ สารเคมีอันตรายชาํ รดุ หรือพังทลาย (๔) มีมาตรการป้องกันความเสียหายหรืออันตรายที่เกิดจากการขุดเจาะ หรือมีเครื่องหมาย แสดงตาํ แหน่งจัดเกบ็ ใหเ้ หน็ ชดั เจนในกรณที ่ีเก็บสารเคมีอนั ตรายไว้ใต้ดิน ข้อ ๒๐ ให้นายจ้างดําเนินการเกี่ยวกับหีบห่อ ภาชนะบรรจุ หรือวัสดุห่อหุ้มสารเคมีอันตราย ดังต่อไปน้ี (๑) ใช้วัสดุที่แข็งแรง ไม่ชํารุด ผุ กร่อน และสามารถเคลื่อนย้ายหรือขนส่งได้ด้วยความปลอดภัย สามารถรองรับความดันของสารเคมีอันตรายได้ในสภาพการใช้งานปกติ มีอุปกรณ์นิรภัยเพ่ือระบายความดัน ให้อยใู่ นระดับท่ีปลอดภัยได้ในกรณเี กิดความดันผิดปกติ (๒) ตรวจสอบ และบํารุงรักษาให้อยู่ในสภาพท่ีใช้งานได้อย่างปลอดภัยตลอดเวลา หากพบว่ามี สารเคมีอนั ตรายร่ัวไหล หรือคาดว่าจะรั่วไหลออกมา ต้องทําการแยกเก็บไว้ต่างหากในที่ท่ีปลอดภัยและ ทําความสะอาดสง่ิ รว่ั ไหลโดยเร็ว รวมทง้ั ทาํ การซ่อมแซมหรอื เปลีย่ นใหอ้ ยใู่ นสภาพทป่ี ลอดภยั (๓) บรรจุสารเคมอี ันตรายไมเ่ กนิ พิกดั ทก่ี ําหนดไว้สําหรับภาชนะนน้ั (๔) มีมาตรการป้องกันไม่ให้ยานพาหนะหรือสิ่งอ่ืนใดชน หรือกระแทกหีบห่อ ภาชนะบรรจุ หรอื วสั ดุห่อหมุ้ ทีม่ ีสารเคมอี ันตรายบรรจอุ ยู่ (๕) ควบคุมดูแลหีบห่อ ภาชนะบรรจุ หรือวัสดุห่อหุ้มที่มีสารเคมีอันตรายบรรจุมิให้เปิดทิ้งไว้ เว้นแตเ่ พ่ือการตรวจสอบหรอื ใช้ประโยชน์ ขอ้ ๒๑ การบรรจุสารเคมอี ันตรายที่มคี ณุ สมบตั ไิ วไฟหรอื ระเบดิ ได้ ต้องห่างจากแหล่งความร้อน และแหล่งที่ก่อให้เกิดประกายไฟในระยะท่ีปลอดภัย หากสารเคมีอันตรายท่ีบรรจุอยู่ในภาชนะหรือวัสดุ ห่อหุ้มทําให้ผิวภายนอกของภาชนะบรรจุ หรือวัสดุห่อหุ้มสารเคมีอันตรายน้ันมีความร้อนต้องมีฉนวน หมุ้ โดยรอบ ในกรณีที่ไมส่ ามารถทาํ ฉนวนหุ้มโดยรอบได้ ใหจ้ ดั ทาํ ปา้ ยเตือน

29 เลม่ ๑๓๐ ตอนที่ ๑๑๓ ก หนา้ ๑๕ ๒๙ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๖ ราชกิจจานุเบกษา การต่อท่อหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ เข้ากับภาชนะบรรจุ หากมีลิ้นปิดเปิด ต้องจัดให้อยู่ในตําแหน่ง ทผ่ี ปู้ ฏิบัตงิ านสามารถปดิ เปดิ ได้อย่างรวดเรว็ ในกรณีฉุกเฉนิ ขอ้ ๒๒ การถา่ ยเทสารเคมีอนั ตรายไปยังภาชนะหรือเคร่อื งมอื อื่น นายจา้ งตอ้ งตดิ ชือ่ สารเคมีอันตราย และสัญลกั ษณ์เกยี่ วกับความปลอดภัยบนภาชนะหรอื เครื่องมือทบี่ รรจุใหมด่ ว้ ย ข้อ ๒๓ นายจ้างต้องเก็บหบี ห่อ ภาชนะบรรจุ หรือวัสดหุ อ่ หมุ้ สารเคมีอันตรายที่ใช้แล้วซ่ึงปนเปื้อน และยังมิไดก้ าํ จดั ใหอ้ ย่ใู นท่ีปลอดภยั และเหมาะสมกับชนดิ ของสารเคมีอนั ตราย หมวด ๕ การขนถ่าย การเคลอ่ื นยา้ ย หรอื การขนสง่ ข้อ ๒๔ ให้นายจ้างปฏิบัติเก่ียวกับการขนถ่าย เคล่ือนย้าย หรือขนส่งสารเคมีอันตราย ดังต่อไปนี้ (๑) มีมาตรการป้องกันการฟุ้งกระจายรวมท้ังการกระเด็น หก ล้น ร่ัว ไหล หรือตกหล่น ของสารเคมีอนั ตราย (๒) ตรวจสอบความพร้อมของลูกจ้างท่ีขับยานพาหนะ และยานพาหนะที่ใช้ในการขนถ่าย เคลื่อนย้าย หรือขนส่งสารเคมีอันตรายให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมท่ีจะปฏิบัติงานได้อย่างปลอดภัย และต้องปฏิบตั ติ ามกฎหมายที่เกย่ี วขอ้ งด้วย (๓) จัดให้มีคู่มือหรือข้อปฏิบัติในการแก้ไขปัญหากรณีฉุกเฉินได้อย่างปลอดภัยเป็นภาษาไทย เก็บไว้ในยานพาหนะ พร้อมท่ีจะนําไปใช้ได้ทันที และจัดให้มีการฝึกอบรมและฝึกซ้อมวิธีการแก้ไขปัญหา เม่ือเกิดเหตุฉุกเฉินแก่ลูกจ้างอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง และบันทึกไว้เป็นหนังสือ พร้อมที่จะให้พนักงาน ตรวจความปลอดภยั ตรวจสอบได้ (๔) จัดให้มีเคร่ืองดับเพลิงชนิดเคล่ือนย้ายได้ที่มีคุณสมบัติสามารถดับเพลิงจากสารเคมีอันตราย ตามความเหมาะสม และจัดให้มีหน้ากากป้องกันสารเคมีอันตรายหรือเครื่องช่วยหายใจตามความจําเป็นของ ชนดิ สารเคมีอันตราย ติดไว้ในยานพาหนะท่บี รรทกุ สารเคมอี ันตรายอยา่ งเพียงพอพรอ้ มทจี่ ะใชไ้ ดท้ นั ที (๕) หบี หอ่ ภาชนะบรรจุ หรอื วสั ดหุ อ่ หุ้มสารเคมีอันตรายที่บรรทุกในยานพาหนะต้องยึดแน่นกับ ฐานรองรบั และยานพาหนะเพือ่ มิใหเ้ คลอ่ื นท่หี รือลอยตัวได้ ฐานรองรับและยานพาหนะต้องมีความม่ันคง แข็งแรงเพียงพอท่ีจะรับน้ําหนักของหีบห่อ ภาชนะบรรจุ หรือวัสดุห่อหุ้มรวมกับน้ําหนักของสารเคมีอันตราย ในอตั ราสูงสุดไมเ่ กนิ น้าํ หนกั ท่ีจะบรรทกุ ได้ (๖) ห้ามบรรทุกสารเคมีอันตรายที่อาจเกิดปฏิกิริยาต่อกันไว้รวมกันในยานพาหนะ เว้นแต่ได้จัด ให้มมี าตรการขนส่งที่ปลอดภัยตามกฎหมายอน่ื ที่เกีย่ วขอ้ ง หรอื ตามมาตรฐานทีอ่ ธบิ ดีประกาศกําหนด ขอ้ ๒๕ ในการส่งสารเคมอี นั ตรายโดยใชท้ อ่ ใหน้ ายจา้ งปฏิบตั ิ ดงั ตอ่ ไปนี้ (๑) ใช้ท่อและขอ้ ตอ่ ท่ีแข็งแรง ไม่ชาํ รุด ผุ กรอ่ น หรอื รัว่

30 เลม่ ๑๓๐ ตอนท่ี ๑๑๓ ก หนา้ ๑๖ ๒๙ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๖ ราชกิจจานุเบกษา (๒) ตรวจสอบและบํารุงรักษาท่อและข้อต่อที่ใช้ในการส่งสารเคมีอันตรายให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ พรอ้ มใชง้ านไดอ้ ยา่ งปลอดภัยตลอดเวลา (๓) ติดตั้งหรือวางท่อในลักษณะท่ีมีการป้องกันท่ีจะไม่ทําให้เกิดการชํารุดเสียหายอันเนื่องจาก การชน การทับ หรอื การกระแทก จากยานพาหนะหรอื สิ่งอืน่ ใด (๔) การวางท่อใต้ดินหรือใต้นํ้า ต้องใช้ท่อหรือข้อต่อประเภทที่ทนทานต่อการกัดกร่อนและ ตอ้ งมเี ครอื่ งหมายแสดงตาํ แหน่งของท่อเปน็ ระยะตลอดแนวให้เห็นได้โดยชัดเจน (๕) การส่งสารเคมีอันตรายต่างชนิดกัน ต้องใช้ท่อที่มีสีหรือทาสีต่างกัน และทําเคร่ืองหมาย แสดงความแตกต่างใหเ้ หน็ ได้ชัดเจน (๖) การส่งสารเคมีอันตรายท่ีมีความร้อนทําให้ผิวภายนอกท่อมีอุณหภูมิสูงข้ึน ต้องมีฉนวนกัน ความรอ้ นห้มุ ทอ่ ไว้ดว้ ย (๗) การส่งสารเคมีอันตรายท่ีมีคุณสมบัติไวไฟหรือระเบิดได้ ต้องวางท่อส่งให้มีระยะห่าง ทเ่ี พยี งพอและปลอดภัยจากแหลง่ ความรอ้ นหรอื แหลง่ ทกี่ ่อให้เกิดประกายไฟ และให้ต่อสายดินทท่ี อ่ นัน้ ด้วย หมวด ๖ การจดั การและการกําจัด ข้อ ๒๖ ให้นายจ้างทําความสะอาดหรือกําจัดสารเคมีอันตรายท่ีหก รั่วไหล หรือไม่ใช้แล้ว โดยวธิ ที ีก่ าํ หนดในขอ้ มูลความปลอดภยั ตามชนดิ ของสารเคมีอนั ตรายนนั้ การกําจัดกากสารเคมีอันตรายหรือสารเคมีอันตรายท่ีเส่ือมสภาพ อาจกําจัดโดยการเผา ฝัง หรือใชส้ ารเคมี ด้วยวธิ กี ารทีป่ ลอดภัยตามหลกั วิชาการ และเปน็ ไปตามกฎหมายทเ่ี ก่ียวข้อง ขอ้ ๒๗ ใหน้ ายจา้ งปฏบิ ตั ติ ่อหบี หอ่ ภาชนะบรรจุ หรือวัสดุห่อหุ้มสารเคมีอันตรายที่ปนเปื้อน และไม่ตอ้ งการใช้แล้ว ดังต่อไปน้ี (๑) ไมใ่ ชบ้ รรจุสิง่ ของอืน่ และควบคุมดแู ลลกู จา้ งมิใหน้ าํ ไปใชบ้ รรจุสง่ิ ของอ่นื ดว้ ย (๒) เก็บรวบรวมไว้ในภาชนะหรือในที่ทีป่ ลอดภยั นอกบรเิ วณทลี่ กู จ้างทาํ งาน (๓) กําจัดโดยวิธีการที่ปลอดภัยและเหมาะสมกับชนิดของสารเคมีอันตรายและเป็นไปตาม กฎหมายทเ่ี กย่ี วขอ้ ง หมวด ๗ การควบคุมระดับความเข้มขน้ ของสารเคมอี นั ตราย ขอ้ ๒๘ ใหน้ ายจ้างจัดให้มีระบบป้องกันและควบคุม เพ่ือมิให้มีระดับความเข้มข้นของสารเคมี อนั ตรายในบรรยากาศของสถานท่ีทํางานและสถานที่เก็บรักษาสารเคมีอันตรายเกินขีดจํากัดความเข้มข้น ของสารเคมีอันตรายตามทอี่ ธิบดีประกาศกาํ หนด

31 เลม่ ๑๓๐ ตอนท่ี ๑๑๓ ก หนา้ ๑๗ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ ราชกิจจานุเบกษา ข้อ ๒๙ ให้นายจ้างจัดให้มีการตรวจวัดและวิเคราะห์ระดับความเข้มข้นของสารเคมีอันตราย ในบรรยากาศของสถานท่ีทํางานและสถานที่เก็บรักษาสารเคมีอันตราย และส่งรายงานผลการตรวจวัด ให้แก่อธิบดีหรอื ผ้ซู ึ่งอธบิ ดมี อบหมายภายในสบิ ห้าวนั นบั แต่วันท่ที ราบผลการตรวจวดั หลักเกณฑ์ วิธีการตรวจวัด และการวิเคราะห์ผลการตรวจวัดระดับความเข้มข้นของสารเคมีอันตราย ตามวรรคหนงึ่ ให้เปน็ ไปตามทอี่ ธิบดีประกาศกําหนด ในกรณีท่ีนายจ้างไม่สามารถดําเนินการตามวรรคสองได้เอง จะต้องให้ผู้ขึ้นทะเบียนหรือได้รับ ใบอนญุ าตจากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน แล้วแต่กรณี เป็นผดู้ าํ เนินการให้ ขอ้ ๓๐ ในกรณีที่ระดับความเข้มข้นของสารเคมีอันตรายในบรรยากาศของสถานที่ทํางานหรือ สถานที่เก็บรักษาสารเคมีอันตรายมีระดับเกินขีดจํากัดความเข้มข้นของสารเคมีอันตรายตามที่อธิบดี ประกาศกําหนดตามข้อ ๒๘ ให้นายจ้างใช้มาตรการกําจัดหรือควบคุมสารเคมีอันตรายทางวิศวกรรม และการบริหารจัดการสภาพแวดล้อม เพ่ือลดระดับความเข้มข้นของสารเคมีอันตรายมิให้เกินขีดจํากัด ดงั กล่าว และตอ้ งมมี าตรการป้องกนั อันตรายสว่ นบุคคลด้วยวิธกี ารที่เหมาะสม หมวด ๘ การดแู ลสุขภาพอนามยั ข้อ ๓๑ ให้นายจ้างจัดให้มีการประเมินความเสี่ยงต่อสุขภาพของลูกจ้างในกรณีท่ีมีการใช้ สารเคมีอันตรายตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่อธิบดีประกาศกําหนด และจัดทํารายงานการประเมินนั้น ส่งให้แกอ่ ธบิ ดีหรอื ผู้ซ่งึ อธบิ ดมี อบหมายภายในสิบห้าวนั นบั แต่วันทที่ ราบผลการประเมิน ในกรณีท่ีผลการประเมินความเส่ียงต่อสุขภาพของลูกจ้างอยู่ในระดับท่ีอาจก่อให้เกิดอันตราย ให้นายจ้างดําเนินการแก้ไขปรับปรุงให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัย และให้นายจ้างนําผลการประเมินไปใช้ ประกอบการวางแผนการตรวจสขุ ภาพของลูกจ้างทที่ ํางานเกย่ี วกับปัจจัยเส่ียงและการเฝ้าระวังสุขภาพอนามัย ของลกู จ้าง หมวด ๙ การควบคุมและปฏิบตั กิ ารกรณมี ีเหตฉุ ุกเฉนิ ขอ้ ๓๒ ให้นายจ้างที่มีสารเคมีอันตรายไว้ในครอบครองตามรายชื่อและปริมาณที่อธิบดี ประกาศกําหนด จัดให้มีการประเมินความเสี่ยงในการก่อให้เกิดอันตรายและจัดทํารายงานการประเมิน ความเส่ียงน้ันอย่างนอ้ ยห้าปีตอ่ หนึ่งครงั้ ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างสําคัญเก่ียวกับสถานที่ครอบครอง รายช่ือ ปริมาณ หรือ กระบวนการผลิตสารเคมีอันตราย ให้นายจ้างจัดให้มีการประเมินความเสี่ยงในการก่อให้เกิดอันตราย และจัดทํารายงานการประเมินความเสี่ยงเพมิ่ เตมิ ด้วย

32 เล่ม ๑๓๐ ตอนท่ี ๑๑๓ ก หน้า ๑๘ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ ราชกิจจานุเบกษา การประเมินความเสี่ยงและการจัดทํารายงานการประเมินความเสี่ยงตามวรรคหน่ึงและวรรคสอง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกําหนด ทั้งน้ี ให้ส่งรายงานดังกล่าวต่อ อธบิ ดหี รือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายภายในสิบหา้ วนั นบั แตว่ นั ทท่ี ราบผลการประเมนิ นายจา้ งท่ตี ้องประเมินความเสี่ยงและจัดทํารายงานการประเมินความเส่ียงในการก่อให้เกิดอันตราย ตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน ให้ถือว่าได้ประเมินความเสี่ยงตามข้อน้ีแล้ว ท้ังนี้ ให้แจ้งต่ออธิบดีหรือ ผู้ซ่งึ อธบิ ดีมอบหมายเพ่อื ทราบ ขอ้ ๓๓ ใหน้ ายจ้างตามขอ้ ๓๒ จัดทําแผนปฏบิ ตั กิ ารกรณมี เี หตุฉกุ เฉนิ ของสถานประกอบกิจการ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการท่ีอธิบดีประกาศกําหนด และเก็บแผนดังกล่าวไว้ ณ สถานประกอบกิจการ พร้อมท่ีจะให้พนักงานตรวจความปลอดภัยตรวจสอบได้ ตลอดจนปรับปรุงแผนให้ทันสมัยและฝึกซ้อม ตามแผนอย่างน้อยปลี ะหนึ่งครั้ง ข้อ ๓๔ ให้นายจ้างจัดให้มีการฝึกอบรมลูกจ้างที่มีหน้าที่ควบคุมและระงับเหตุอันตรายตาม หลกั สูตรทอ่ี ธิบดปี ระกาศกําหนด และทาํ การฝึกอบรมทบทวนอย่างน้อยปีละหน่ึงคร้ัง และเก็บหลักฐาน การฝกึ อบรมพรอ้ มทจี่ ะใหพ้ นักงานตรวจความปลอดภยั ตรวจสอบได้ ข้อ ๓๕ ในกรณที ่สี ารเคมีอันตรายรั่วไหล ฟุ้งกระจาย เกิดอัคคีภัย หรือเกิดการระเบิด นายจ้าง ต้องสั่งให้ลูกจ้างทุกคนท่ีทํางานในบริเวณน้ัน หรือบริเวณใกล้เคียงหยุดทํางานทันที และออกไปให้พ้นรัศมี ทีอ่ าจไดร้ บั อนั ตราย พร้อมท้ังให้นายจา้ งดาํ เนนิ การให้ผูท้ ี่เกี่ยวข้องตรวจสอบและระงบั เหตทุ นั ที ในกรณีที่การเกิดเหตุตามวรรคหน่ึงอาจส่งผลกระทบถึงประชาชนท่ีอยู่ในบริเวณใกล้เคียง ใหน้ ายจ้างดําเนนิ การใหม้ กี ารเตอื นอนั ตรายให้ประชาชนทีอ่ าจได้รบั ผลกระทบทราบทันที หมวด ๑๐ บทเฉพาะกาล ขอ้ ๓๖ ให้นายจ้างท่ีมีสารเคมีอันตรายอยู่ในครอบครองอยู่ในวันก่อนวันท่ีกฎกระทรวงน้ีมี ผลใช้บังคับ จัดทําบัญชีรายช่ือสารเคมีอันตรายและรายละเอียดข้อมูลความปลอดภัยของสารเคมีอันตราย ตามท่ีกําหนดในกฎกระทรวงน้ี โดยแจ้งต่ออธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายภายในเจ็ดวันนับแต่วันท่ี กฎกระทรวงน้ีมผี ลใช้บงั คับ ใหไ้ ว้ ณ วนั ท่ี ๒๒ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๕๖ ร้อยตํารวจเอก เฉลิม อยู่บํารุง รัฐมนตรวี า่ การกระทรวงแรงงาน

33 เล่ม ๑๓๐ ตอนท่ี ๑๑๓ ก หนา้ ๑๙ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ ราชกิจจานุเบกษา หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่ปัจจุบันสถานประกอบกิจการได้นํา สารเคมีอันตรายมาใช้ในวิธีการที่หลากหลาย แตกต่างกันไปตามชนิดและปริมาณของสารเคมีอันตราย ซ่ึงสารเคมีอันตรายแต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติและอันตรายแตกต่างกัน ประกอบกับมาตรา ๘ วรรคหนึ่ง แหง่ พระราชบญั ญตั คิ วามปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ บัญญัติให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานมีอํานาจออกกฎกระทรวงกําหนดมาตรฐานให้นายจ้างบริหาร จัดการ และ ดําเนนิ การด้านความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน ดังนั้น เพ่ือให้ลูกจ้างท่ีทํางาน เก่ยี วกับสารเคมอี นั ตรายได้รับความปลอดภยั ในการทาํ งาน จึงจาํ เป็นต้องออกกฎกระทรวงน้ี

34 เลม่ ๑๓๐ ตอนพิเศษ ๑๘๕ ง หนา้ ๔๒ ๒๐ ธนั วาคม ๒๕๕๖ ราชกิจจานุเบกษา ประกาศกรมสวัสดกิ ารและคุ้มครองแรงงาน เรือ่ ง แบบบัญชรี ายชื่อสารเคมอี นั ตรายและรายละเอียดข้อมูลความปลอดภัยของสารเคมีอนั ตราย อาศยั อํานาจตามความในขอ้ ๒ วรรคแรก แหง่ กฎกระทรวงกาํ หนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดาํ เนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางานเก่ียวกับสารเคมีอันตราย พ.ศ. ๒๕๕๖ อธบิ ดกี รมสวสั ดกิ ารและคุม้ ครองแรงงานจงึ ออกประกาศไว้ ดงั ตอ่ ไปน้ี ขอ้ ๑ ประกาศนี้ใหใ้ ชบ้ งั คบั ตง้ั แต่วันถัดจากวนั ประกาศในราชกิจจานเุ บกษาเป็นต้นไป ขอ้ ๒ แบบบญั ชรี ายชือ่ สารเคมีอันตรายและรายละเอียดขอ้ มูลความปลอดภัยของสารเคมอี ันตราย (สอ. ๑) ให้เปน็ ไปตามแบบท้ายประกาศนี้ ประกาศ ณ วนั ที่ ๖ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ พานชิ จติ ร์แจง้ อธิบดีกรมสวสั ดิการและคุม้ ครองแรงงาน

35 แบบ สอ.๑ แบบบัญชีรายช่อื สารเคมอี นั ตรายและรายละเอยี ดขอ้ มูลความปลอดภัยของสารเคมอี นั ตราย วันที่......... เดือน......................... พ.ศ. .......... ๑. ขอ้ มลู เกย่ี วกบั สารเคมีอันตราย (Identification of the Hazardous Substance) ๑.๑ ขอ้ บง่ ช้สี ารเคมี ช่อื ทางการคา้ ...................................... ชือ่ สารเคมี.....................................ชอื่ อ่นื ........................ สูตรเคม.ี ....................................................................................................................................... CAS No. ………………………………………………………………………………………………………...…………… ๑.๒ ผผู้ ลติ /ผนู้ าํ เข้า/............................................................................................................................ ท่ีอย.ู่ ............................................................................................................................................. โทรศพั ท.์ ................................โทรสาร................................ โทรศัพทฉ์ กุ เฉนิ ................................ Email……………………………………………………….…………………………………………………..……………... ๑.๓ ขอ้ แนะนําและขอ้ จํากัดในการใช.้ ................................................................................................. ๑.๔ การใชป้ ระโยชน์........................................................................................................................... ปรมิ าณสงู สุดท่ีมีไว้ในครอบครอง................................................................................................. ๑.๕ อน่ื ๆ.............................................................................................................................................. ๒. การบ่งชคี้ วามเปน็ อนั ตราย (Hazards Identification) ๒.๑ การจําแนกประเภท ความเป็นอนั ตรายทางกายภาพ.................................................................................................... ความเป็นอันตรายต่อสุขภาพ....................................................................................................... ความเปน็ อนั ตรายตอ่ สงิ่ แวดล้อม................................................................................................. ความเป็นอนั ตรายอน่ื ................................................................................................................... ๒.๒ องค์ประกอบตามฉลาก รปู สัญลกั ษณ.์ ............................................................................................................................... คาํ สัญญาณ.................................................................................................................................. ขอ้ ความแสดงอันตราย................................................................................................................. ข้อควรระวังหรือขอ้ ปฏบิ ัตเิ พื่อปอ้ งกนั อนั ตราย............................................................................ ๒.๓ อืน่ ๆ.............................................................................................................................................. ๓. องคป์ ระกอบและขอ้ มลู เก่ยี วกบั ส่วนผสม (Composition / Information on Ingredients) องค์ประกอบ ชอ่ื สารเคมี CAS. No. ปรมิ าณโดยนาํ้ หนกั ค่ามาตรฐานความปลอดภยั (% by weight) TLV LD50 ๑. ๒. ๓. ๔.

36 -๒- ๔. มาตรการปฐมพยาบาล (First Aid Measures) ๔.๑ กรณีไดร้ บั ทางการหายใจ............................................................................................................. ๔.๒ กรณไี ดร้ บั ทางผิวหนังหรอื ดวงตา................................................................................................. ๔.๓ กรณีไดร้ บั ทางการกลนื กิน........................................................................................................... ๔.๔ อืน่ ๆ.............................................................................................................................................. ๕. มาตรการผจญเพลิง (Fire Fighting Measures) ๕.๑ สารดับเพลงิ ทห่ี า้ มใชแ้ ละสารดบั เพลิงทีเ่ หมาะสม....................................................................... ๕.๒ ความเป็นอันตรายเฉพาะทเ่ี กิดข้นึ จากสารเคมี............................................................................. ๕.๓ อปุ กรณ์พิเศษสาํ หรับนักผจญเพลิง............................................................................................... ๕.๔ อื่นๆ.............................................................................................................................................. ๖. มาตรการจดั การเม่อื มีการหก ร่วั ไหล (Accidental Release Measures) ๖.๑ ขอ้ ควรระวงั สว่ นบุคคล อปุ กรณป์ ้องกนั อนั ตราย และขนั้ ตอนการปฏบิ ัติงานฉกุ เฉนิ ................... ๖.๒ วธิ ีการ และวัสดุสาํ หรบั กักเกบ็ และทําความสะอาด..................................................................... ๖.๓ ขอ้ ควรระวังด้านสิ่งแวดลอ้ ม......................................................................................................... ๖.๔ อ่นื ๆ.............................................................................................................................................. ๗. การขนถา่ ย เคล่อื นยา้ ย และการจัดเก็บ (Handling and Storage) ๗.๑ ขอ้ ควรระวังและหลีกเลยี่ ง............................................................................................................ ๗.๒ วิธีการจัดเกบ็ อย่างปลอดภยั ........................................................................................................ ๗.๓ อ่นื ๆ.............................................................................................................................................. ๘. การควบคมุ การรับสมั ผสั และการป้องกันส่วนบุคคล (Exposure Controls and Personal Protection) ๘.๑ ค่าขีดจาํ กดั ความเขม้ ข้นของสารเคมีอนั ตราย (TLV) กฎหมายว่าดว้ ยความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทํางาน......................... OSHA........................................................................................................................................... NIOSH......................................................................................................................................... ACGIH.......................................................................................................................................... อื่นๆ.............................................................................................................................................. ๘.๒ การควบคมุ ทางวิศวกรรมที่เหมาะสม.......................................................................................... ๘.๓ อปุ กรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล ระบบหายใจ................................................................................................................................ ตา................................................................................................................................................. ผิวหนัง.......................................................................................................................................... ๘.๔ อ่ืนๆ.............................................................................................................................................. ๙. คุณสมบตั ทิ างกายภาพและทางเคมี (Physical and Chemical Properties) ๙.๑ ลักษณะทั่วไป............................................................................................................................... ๙.๒ กลิ่น ............................................................................................................................................

37 -๓- ๙.๓ ค่าความเป็นกรดด่าง (pH) .......................................................................................................... ๙.๔ จดุ หลอมเหลวและจดุ เยือกแขง็ .................................................................................................... ๙.๕ จุดเดือด........................................................................................................................................ ๙.๖ จุดวาบไฟ..................................................................................................................................... ๙.๗ อตั ราการระเหย............................................................................................................................ ๙.๘ ความสามารถในการลกุ ติดไฟ....................................................................................................... ๙.๑๐ คา่ ขีดจาํ กดั สูงสดุ และตา่ํ สดุ ของความไวไฟหรอื ของการระเบิด..................................................... ๙.๑๑ ความดนั ไอ................................................................................................................................... ๙.๑๒ ความหนาแน่นไอ......................................................................................................................... ๙.๑๓ ความหนาแนน่ สมั พัทธ.์ ................................................................................................................ ๙.๑๔ ความถว่ งจําเพาะ......................................................................................................................... ๙.๑๕ ความสามารถในการละลายได.้ ..................................................................................................... ๙.๑๖ อุณหภมู ิทล่ี กุ ตดิ ไฟไดเ้ อง.............................................................................................................. ๙.๑๗ มวลโมเลกุล.................................................................................................................................. ๙.๑๘ อนื่ ๆ.............................................................................................................................................. ๑๐. ความเสถยี ร และการไวต่อปฏกิ ิริยา (Stability and Reactivity) ๑๐.๑ ความเสถียรทางเคม.ี ..................................................................................................................... ๑๐.๒ สงิ่ ทีเ่ ข้ากนั ไมไ่ ด้............................................................................................................................ ๑๐.๓ วัตถุอื่นๆ ทค่ี วรหลกี เลยี่ ง............................................................................................................. ๑๐.๔ สภาวะทค่ี วรหลีกเลีย่ ง................................................................................................................. ๑๐.๕ สารเคมอี นั ตรายหากเกดิ การสลายตวั .......................................................................................... ๑๐.๖ อืน่ ๆ.............................................................................................................................................. ๑๑. ขอ้ มลู ด้านพษิ วทิ ยา (Toxicological Information) ๑๑.๑ LD50/ LC50 โดยทางปาก (mg/kg) ................................................................................................................. โดยทางผิวหนัง (mg/kg) ............................................................................................................. โดยทางสดู หายใจ (mg/l) ......................................................................................................... ๑๑.๒ ความเปน็ พษิ การสูดหายใจ............................................................................................................................... สมั ผสั ถูกผวิ หนัง........................................................................................................................... ๑๑.๓ จดั อย่ใู นกลุม่ สารก่อมะเร็ง/กอ่ กลายพนั ธุต์ าม.............................................................................. ๑๑.๔ อ่นื ๆ.............................................................................................................................................. ๑๒. ขอ้ มลู ผลกระทบตอ่ ระบบนเิ วศน์ (Ecological Information) ๑๒.๑ ความเปน็ พิษตอ่ ระบบนิเวศน.์ ...................................................................................................... ๑๒.๒ การตกค้างยาวนาน .....................................................................................................................

38 -๔- ๑๒.๓ ผลกระทบอ่ืนๆ........................................................................................................................... ๑๓. ขอ้ พจิ ารณาในการกําจัด (Disposal Considerations)……………………………………………………………………. ๑๔. ข้อมูลเกยี่ วกบั การขนส่ง (Transport Information) ๑๔.๑ หมายเลขสหประชาชาติ (UN Number) ................................................................................... ๑๔.๒ ช่ือในการขนส่ง : ........................................................................................................................ ๑๔.๓ ประเภทความเป็นอนั ตรายสําหรับการขนส่ง (Transport Hazard Class) ................................ ๑๔.๔ กลุ่มการบรรจุ (Packing Group) ............................................................................................... ๑๔.๕ การขนสง่ ดว้ ยภาชนะขนาดใหญ.่ .................................................................................................. ๑๔.๖ อ่ืนๆ.............................................................................................................................................. ๑๕. ขอ้ มลู เกยี่ วกบั กฎ ระเบยี บ ขอ้ บังคับของหน่วยงานทีเ่ กีย่ วข้อง (Regulatory Information) ๑๕.๑ กระทรวงแรงงาน......................................................................................................................... ๑๕.๒ กระทรวงอตุ สาหกรรม................................................................................................................. ๑๕.๓ กระทรวงสาธารณสขุ ................................................................................................................... ๑๕.๔ กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดล้อม.............................................................................. ๑๕.๕ กระทรวงคมนาคม........................................................................................................................ ๑๕.๖ อนื่ ๆ.............................................................................................................................................. ๑๖. ข้อมลู อน่ื ๆ (Other Information) ๑๖.๑ สญั ลกั ษณ์ NFPA.......................................................................................................................... ๑๖.๒ แหลง่ ขอ้ มลู และเอกสารที่ใชท้ าํ รายละเอียดข้อมลู ความปลอดภยั ของสารเคมอี ันตราย............... ๑๖.๓ อน่ื ๆ.............................................................................................................................................. ลงช่ือ.............................................................. (.............................................................) ตาํ แหนง่ ............................................................... นายจา้ ง/ผแู้ ทน บริษทั .............................................................................................. ทอี่ ย.ู่ ................................................................................................ โทรศัพท์/โทรสาร............................................................................ E-mail: ………………………………………….…….………...…………..……..

39 เลม่ ๑๓๓ ตอนพเิ ศษ ๓๐๘ ง หน้า ๑๔ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๕๙ ราชกจิ จานุเบกษา ประกาศกรมสวสั ดิการและคมุ้ ครองแรงงาน เรอื่ ง หลักเกณฑ์ วธิ กี ารตรวจวดั และการวิเคราะห์ผลการตรวจวัดระดับความเข้มขน้ ของสารเคมีอันตราย โดยที่กฎกระทรวงกําหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดําเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางานเกี่ยวกับสารเคมีอันตราย พ.ศ. ๒๕๕๖ ข้อ ๒๙ กําหนดให้นายจ้างจัดให้มีการตรวจวัดและวิเคราะห์ระดับความเข้มข้นของสารเคมีอันตรายในบรรยากาศ ของสถานที่ทํางานและสถานท่ีเก็บรักษาสารเคมีอันตราย และส่งรายงานผลการตรวจวัดให้แก่อธิบดี หรือผูซ้ ึง่ อธิบดมี อบหมายภายในสบิ ห้าวันนบั แตว่ ันท่ที ราบผลการตรวจวดั อาศัยอํานาจตามความในข้อ ๒๙ วรรคสองแห่งกฎกระทรวงกําหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดําเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางานเก่ียวกับ สารเคมอี ันตราย พ.ศ. ๒๕๕๖ อธิบดกี รมสวัสดกิ ารและค้มุ ครองแรงงานจึงออกประกาศไว้ ดงั ต่อไปน้ี ข้อ ๑ ประกาศน้ีเรียกว่า “ประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่อง หลักเกณฑ์ วธิ ีการตรวจวดั และการวิเคราะห์ผลการตรวจวัดระดับความเข้มข้นของสารเคมีอนั ตราย” ขอ้ ๒ ประกาศน้ีให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกําหนดหน่ึงร้อยแปดสิบวันนับแต่วันประกาศใน ราชกิจจานเุ บกษาเปน็ ตน้ ไป ข้อ ๓ ในประกาศน้ี “การตรวจวัด” หมายความว่า การเก็บตัวอย่างสารเคมีอันตรายในบรรยากาศของสถานท่ีทํางาน และสถานทเี่ กบ็ รกั ษาสารเคมอี ันตรายเพอื่ นํามาวิเคราะหท์ างห้องปฏิบตั ิการ หมวด ๑ บททว่ั ไป ข้อ ๔ นายจ้างต้องจัดให้มีการตรวจวัดและวิเคราะห์ระดับความเข้มข้นของสารเคมีอันตราย ในบรรยากาศของสถานทท่ี ํางานและสถานที่เกบ็ รักษาสารเคมอี ันตรายอย่างนอ้ ยปีละหนึ่งครั้ง กรณีท่ีระดับความเข้มข้นของสารเคมีอันตรายในบรรยากาศของสถานท่ีทํางานหรือสถานที่ เก็บรักษาสารเคมีอันตรายมีระดับเกินขีดจํากัดความเข้มข้นของสารเคมีอันตราย (Threshold Limit Value : TLV) ตามข้อ ๒๘ แห่งกฎกระทรวงกําหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดําเนินการ ด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางานเก่ียวกับสารเคมีอันตราย พ.ศ. ๒๕๕๖ ให้นายจา้ งใชม้ าตรการกําจัดหรือควบคุมสารเคมีอันตรายทางวิศวกรรมและการบริหารจัดการสภาพแวดล้อม เพ่ือลดระดับความเข้มข้นของสารเคมีอันตรายมิให้เกินขีดจํากัดดังกล่าว พร้อมทั้งตรวจวัดและวิเคราะห์ ระดับความเขม้ ขน้ ของสารเคมอี นั ตรายภายในสามสบิ วันนับจากวนั ท่ีมกี ารปรับปรุงแก้ไขแล้วเสรจ็

40 เล่ม ๑๓๓ ตอนพิเศษ ๓๐๘ ง หน้า ๑๕ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๕๙ ราชกิจจานุเบกษา กรณีผลการตรวจสุขภาพของลูกจ้างมีความผิดปกติหรือพบลูกจ้างเจ็บป่วยเนื่องจากการทํางาน เกี่ยวกบั สารเคมีอนั ตราย ใหน้ ายจ้างดาํ เนินการตรวจวดั และวิเคราะห์ระดับความเข้มข้นของสารเคมีอันตราย ภายในสามสิบวันหลังจากท่ีนายจ้างทราบผลความผิดปกติหรือการเจ็บป่วยเน่ืองจากการทํางานเกี่ยวกับ สารเคมีอนั ตราย กรณีท่ีมีการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลง ชนิด หรือปริมาณของสารเคมีอันตราย เครื่องจักร อุปกรณ์ กระบวนการผลิต วิธีการทํางาน หรือวิธีการดําเนินการใด ๆ ที่อาจมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงระดับ ความเข้มข้นของสารเคมีอันตรายในบรรยากาศของสถานท่ีทํางานและสถานท่ีเก็บรักษาสารเคมีอันตราย ให้นายจ้างดําเนินการตรวจวัดและวิเคราะห์ระดับความเข้มข้นของสารเคมีอันตรายภายในสามสิบวัน นบั จากวนั ที่มกี ารปรับปรุงหรอื เปลี่ยนแปลง หมวด ๒ การตรวจวดั และการวิเคราะห์สารเคมอี ันตรายทางห้องปฏบิ ัติการ ขอ้ ๕ การตรวจวัด และการวิเคราะห์สารเคมีอันตรายทางห้องปฏิบัติการ นายจ้างต้องใช้ วิธีการ เคร่ืองมือ และอุปกรณ์ท่ีเป็นมาตรฐานสากลหรือเป็นท่ียอมรับโดยอ้างอิงวิธีการจากหน่วยงานใด หน่วยงานหนึ่ง ดังน้ี (๑) สถาบันความปลอดภัยและอาชีวอนามัยแห่งชาติ ประเทศสหรัฐอเมริกา (The National Institute for Occupational Safety and Health : NIOSH) (๒) สํานักงานบริหารความปลอดภัยและอาชีวอนามัย ประเทศสหรัฐอเมริกา (Occupational Safety and Health Administration : OSHA) (๓) สมาคมนกั สุขศาสตรอ์ ตุ สาหกรรมภาครัฐ ประเทศสหรัฐอเมริกา (American Conference of Governmental Industrial Hygienists : ACGIH) (๔) สมาคมความปลอดภัยและสุขภาพอนามัยในอุตสาหกรรม ประเทศญี่ปุ่น (Japan Industrial Safety and Health Association : JISHA) (๕) องค์การระหว่างประเทศว่าด้วยการมาตรฐาน (International Organization for Standardization : ISO) (๖) สาํ นักงานมาตรฐานผลิตภณั ฑอ์ ตุ สาหกรรม (สมอ.) (๗) สมาคมการทดสอบและวสั ดุอเมริกนั (American Society for Testing and Materials : ASTM) นายจ้างต้องจัดให้มีการสอบเทียบความถูกต้อง (Calibration) การตรวจสอบ การบํารุงรักษา เคร่ืองมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในการตรวจวัด และเคร่ืองมือท่ีใช้วิเคราะห์สารเคมีอันตรายทางห้องปฏิบัติการ ตามวิธีการของหน่วยงานมาตรฐานอ้างอิงตามวรรคหนึ่ง หรือตามมาตรฐานที่ผู้ผลิตกําหนด ท้ังน้ี ให้ใช้ วธิ กี ารภายใตม้ าตรฐานเดยี วกัน และเก็บหลักฐานไว้ใหพ้ นักงานตรวจความปลอดภัยตรวจสอบได้

41 เลม่ ๑๓๓ ตอนพิเศษ ๓๐๘ ง หน้า ๑๖ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๕๙ ราชกจิ จานุเบกษา หมวด ๓ คุณสมบตั ขิ องผดู้ าํ เนินการตรวจวัด และผู้ดําเนินการตรวจวเิ คราะหส์ ารเคมอี ันตรายทางหอ้ งปฏิบตั ิการ ขอ้ ๖ ผู้ดําเนินการตรวจวัดต้องมีวุฒิการศึกษาไม่ต่ํากว่าระดับปริญญาตรีทางวิทยาศาสตร์ สาขาเคมี สาขาเคมีเทคนิค สาขาเคมีวิเคราะห์ สาขาเคมีอินทรีย์ สาขาเคมีอนินทรีย์ สาขาวิทยาศาสตร์ ส่ิงแวดล้อม สาขาอนามัยสิ่งแวดล้อม หรือปริญญาตรีสาขาอาชีวอนามัยหรือเทียบเท่า หรือปริญญาตรี ทางวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวศิ วกรรมสง่ิ แวดล้อม ขอ้ ๗ ผู้ดําเนินการตรวจวิเคราะห์สารเคมีอันตรายทางห้องปฏิบัติการ ต้องมีคุณสมบัติ อย่างหน่ึงอยา่ งใด ดังต่อไปนี้ (๑) มีวุฒิการศึกษาไม่ต่ํากว่าระดับปริญญาตรีทางวิทยาศาสตร์ สาขาเคมี สาขาเคมีเทคนิค สาขาเคมีวิเคราะห์ สาขาเคมีอินทรีย์ สาขาเคมีอนินทรีย์ สาขาวิทยาศาสตร์ส่ิงแวดล้อม สาขาอนามัย สง่ิ แวดลอ้ ม หรือปริญญาตรีสาขาอาชีวอนามยั หรือเทียบเท่า (๒) มีวุฒิการศกึ ษาไมต่ าํ่ กว่าระดบั ปรญิ ญาตรีทางวิทยาศาสตร์สาขาอ่ืนท่ีมีวิชาเรียนทางด้านเคมี ไมน่ อ้ ยกว่า ๑๒ หน่วยกิต และมีประสบการณว์ เิ คราะห์สารเคมอี นั ตรายทางหอ้ งปฏบิ ัติการเป็นระยะเวลา ไมน่ อ้ ยกว่า ๒ ปี (๓) เป็นผู้ท่ีผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรนักวิเคราะห์มืออาชีพสาขาเคมีของกรมวิทยาศาสตร์บริการ หรือเป็นผู้ควบคุมดูแลห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ซ่ึงได้ขึ้นทะเบียนกับกรมโรงงานอุตสาหกรรม หรือเป็น ผู้ได้รับใบประกอบวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควบคุมตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมวิชาชีพ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หมวด ๔ การจัดทํารายงานผลการตรวจวัดและวิเคราะห์ระดับความเข้มข้นของสารเคมีอันตราย ข้อ ๘ ให้นายจ้างจัดให้มีการรายงานผลการตรวจวัดและวิเคราะห์ระดับความเข้มข้นของ สารเคมีอนั ตรายในบรรยากาศของสถานท่ีทํางานและสถานท่ีเก็บรักษาสารเคมีอันตราย ตามเอกสารรายงาน ผลการตรวจวัดและวิเคราะห์ระดับความเข้มข้นของสารเคมีอันตรายในบรรยากาศของสถานที่ทํางาน และสถานที่เก็บรักษาสารเคมีอันตราย (สอ.๓) ท้ายประกาศน้ี และให้ส่งรายงานดังกล่าวต่ออธิบดี หรือผู้ซ่ึงอธิบดีมอบหมายภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ทราบผลการตรวจวัดและวิเคราะห์ระดับความเข้มข้น ของสารเคมอี นั ตราย การดําเนินการตามวรรคหนึ่ง ต้องได้รับการรับรองรายงานผลจากผู้ดําเนินการตรวจวัด และผูด้ ําเนนิ การตรวจวิเคราะหส์ ารเคมอี นั ตรายทางห้องปฏิบตั ิการ

42 เล่ม ๑๓๓ ตอนพเิ ศษ ๓๐๘ ง หน้า ๑๗ ๒๗ ธนั วาคม ๒๕๕๙ ราชกจิ จานุเบกษา การส่งรายงานตามวรรคหนึ่ง ใหน้ ายจ้างส่งดว้ ยตนเอง หรือทางไปรษณยี ์ หรือทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรอื สือ่ เทคโนโลยสี ารสนเทศ ประกาศ ณ วันท่ี ๒๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๙ สเุ มธ มโหสถ อธบิ ดีกรมสวสั ดิการและคุ้มครองแรงงาน

4 รายงานผลการตรวจวดั และวเิ คราะหร์ ในบรรยากาศของสถานทีท่ าํ งานแล ชื่อสถานประกอบกิจการ หมทู่ ่ี ถนน เลขทะเ ตัง้ อย่เู ลขที่ โทรศัพท์ แขวง/ตาํ บล รหัสไปรษณีย์ ได้ตรวจวดั และวเิ คราะห์ระดับค โดย  ดําเนนิ การเอง  นติ ิบคุ คลทีไ่ ด้รับใบอนุญาตตามมาตรา ๑๑ แหง่ พระราชบัญญัตคิ วามปลอดภยั อาช ช่อื นิตบิ คุ คลผใู้ ห้บริการฯ เลขทะเ ตั้งแต่วันที่ ถงึ วนั ที่ ขอแจง้ รายงานผลการตรวจวดั และวิเคราะหร์ ะดับความเข้มข้นของสารเคมีอนั ตราย ซง่ึ มีรายละเอยี ดดงั นี้ จํานวน ชื่อสาร วันทีเ่ ก็บ จดุ ทีเ่ ก็บ ลกู จ้าง ชอ่ื เครอ่ื งมอื อตั รา ตวั อย่าง ตัวอย่าง ท่ีสัมผสั หรือ และวัสดุ อาก เกยี่ วข้องกบั อุปกรณ์ท่ใี ช้ * สารเคมี เก็บตัวอยา่ ง อนั ตราย วธิ กี ารตรวจวัดและการวเิ คราะห์ทางห้องปฏิบัติการใช้มาตรฐานของ ลงชอ่ื ) ลงชอ่ื ( () ผ้ดู ําเนินการตรวจวัดสารเคมอี ันตราย ผดู้ ําเนินการตรวจวิเคราะห์ สารเคมอี ันตรายทางหอ้ งปฏิบตั ิการ

43 สอ. ๓ ระดบั ความเข้มขน้ ของสารเคมอี ันตราย ละสถานที่เก็บรกั ษาสารเคมอี ันตราย เบียนนิตบิ ุคคล ประเภทกิจการ เขต/อําเภอ จงั หวัด ความเข้มข้นของสารเคมอี ันตรายในบรรยากาศของสถานท่ที าํ งานและสถานที่เก็บรกั ษาสารเคมีอันตราย ชวี อนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ เบียนนิติบุคคล ใบอนญุ าตเลขที่ าดูด ระยะเวลาที่ วนั ทีว่ เิ คราะห์ ชอื่ เคร่ืองมือ ระดับความ ขดี จาํ กัด การ กาศ เกบ็ ตัวอยา่ ง วเิ คราะห์ เข้มขน้ ที่ ความเข้มข้น ประเมินผล * ** วิเคราะหไ์ ด้ (TLVS) (เกนิ / *** *** ไม่เกนิ ) Volume/Edition หนา้ ถงึ นายจ้าง/ผกู้ ระทาํ แทน ลงช่อื ) ลงช่อื ) ( ( นิตบิ ุคคลผู้ใหบ้ ริการ ตรวจวดั และวิเคราะหฯ์

4 - หมายเหตุ ๑. กรณีนายจ้างดาํ เนินการตรวจวัดและวเิ คราะห์ระดับความเขม้ ข้นของสารเคม และผูด้ ําเนินการตรวจวิเคราะหส์ ารเคมอี ันตรายทางหอ้ งปฏบิ ตั ิการประจําสถ ๒. กรณีนายจ้างใหน้ ติ ิบุคคลที่ได้รบั ใบอนุญาตตามมาตรา ๑๑ แห่งพระราชบัญญ ตรวจวัดและวิเคราะห์ระดับความเขม้ ขน้ ของสารเคมอี นั ตราย ให้แนบสาํ เนา ๓. เครอื่ งหมาย * หมายถึง หนว่ ย ลิตร/นาที เครอื่ งหมาย ** หมายถึง นาทีหรือชวั่ โมง เคร่อื งหมาย *** หมายถึง mg/m3 หรอื g/m3 หรือ f/cm3 หรือ mppcf mg/m3 = มิลลกิ รัมตอ่ อากาศหนึง่ ลูกบาศก์เมตร g/m3 = ไมโครกรัมต่ออากาศหนงึ่ ลกู บาศก์เมตร f/cm3 = จํานวนเสน้ ใยต่ออากาศหนึ่งลูกบาศก์เซนติเมตร mppcf = จาํ นวนลา้ นอนุภาคตอ่ ปริมาตรของอากาศหน่งึ ลูกบาศกฟ์ ตุ ppm = สว่ นในลา้ นสว่ นโดยปรมิ าตร ppb = ส่วนในพันลา้ นส่วนโดยปรมิ าตร ------------------------

44 -๒- มีอนั ตรายเอง ใหแ้ นบเอกสารหรือหลักฐานแสดงคณุ สมบตั ขิ องผู้ดาํ เนินการตรวจวดั สารเคมอี นั ตราย ถานประกอบกิจการมาพร้อมเอกสาร (สอ.๓) น้ี ญตั ิความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ เป็นผู้ดําเนนิ การ าใบอนญุ าตเป็นผูใ้ ห้บริการตรวจวดั และวเิ คราะหฯ์ มาพรอ้ มเอกสาร (สอ.๓) น้ี หรือ ppm หรือ ppb ---------------------------

45 เล่ม ๑๓๐ ตอนพิเศษ ๑๘๕ ง หน้า ๔๑ ๒๐ ธนั วาคม ๒๕๕๖ ราชกจิ จานุเบกษา ประกาศกรมสวัสดกิ ารและคุม้ ครองแรงงาน เรอื่ ง บัญชีรายชอ่ื สารเคมีอันตราย อาศัยอาํ นาจตามความในขอ้ ๑ แห่งกฎกระทรวงกําหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และ ดาํ เนินการด้านความปลอดภัย อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทาํ งานเก่ียวกับสารเคมีอันตราย พ.ศ. ๒๕๕๖ อธิบดกี รมสวสั ดิการและคุ้มครองแรงงานจึงออกประกาศไว้ ดังตอ่ ไปนี้ ขอ้ ๑ ประกาศนใี้ หใ้ ช้บงั คบั ต้งั แต่วันถัดจากวันประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาเป็นตน้ ไป ขอ้ ๒ บัญชรี ายชอื่ สารเคมีอันตรายใหเ้ ป็นไปตามตารางท้ายประกาศน้ี รวมท้ังสารเคมีที่มีชื่ออื่น แตม่ สี ตู รโครงสร้างทางเคมีอย่างเดียวกนั (Synonym) ประกาศ ณ วนั ท่ี ๖ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ พานิช จิตรแ์ จ้ง อธิบดกี รมสวสั ดิการและค้มุ ครองแรงงาน

46 ตารางบญั ชีรายช�อื สารเคมอี นั ตราย No. ชอ�ื สารเคมีอนั ตราย (ไทย) ชื�อสารเคมอี นั ตราย (องั กฤษ) CAS number 1 อะเซทลิ ีน (เอททีน) ACETYLENE (ETHYNE) 74-86-2 2 อะเซเฟท ACEPHATE 30560-19-1 3 อะเซตัล ACETAL 105-57-7 4 อะเซตัลดีไฮด์ ACETALDEHYDE 75-07-0 5 กรดอะซิตคิ ,กรดน�ําส้ม ACETIC ACID 64-19-7 6 อะซติ คิ แอนไฮไดรด์ ACETIC ANHYDRIDE 108-24-7 7 อะซีโตน ACETONE 67-64-1 8 อะซโี ตน ไซยาโนไฮดรนิ ACETONE CYANOHYDRIN 75-86-5 9 อะซีโตไนไตรล์ ACETONITRILE 75-05-8 10 อะซีตลิ อะซโี ตน ACETYLACETONE 123-54-3 11 อะซีตลิ คลอไรด์ ACETYL CHLORIDE 75-36-5 12 กรดอะซีตลิ ซาลิไซลิค ACETYLSALICYLIC ACID 50 - 78 - 2 13 อะโคนิทนี ACONITINE 302-27-2 14 เกลือของอะโคนทิ ีน ACONITINE (SALTS) 15 อะโครลีน ACROLEIN 107-02-8 16 อะครีลาไมด์ ACRYLAMIDE 79-06-1 17 อะครีเลทส์ ACRYLATES 18 กรดอะครีลิค ACRYLIC ACID 79-10-7 19 2,2-บสิ (อะครีโลอิลออกซเี มทธิล) บิวทลิ อะครเี ลท 2,2-BIS (ACRYLOYLOXYMETHYL) BUTYL ACRYLATE 15625-89-5 20 อะครโี ลไนไตรล์ ACRYLONITRILE 107-13-1 21 กรดอะดิพคิ ADIPIC ACID 124-04-9 22 อัลลัลลามนี ALLYLAMINE 107-11-9 23 อัลดิคารบ์ ALDICARB 116-06-3 24 อลั ดรนิ ALDRIN 309-00-2 25 อลั คาไล เอทธอกไซด์ ALKALI ETHOXIDE 16331-64-9 26 อลั คาไล ฟลอู อโรซิลิเคทส์ ALKALI FLUROSILICATES 27 อัลคาไล เมทธอกไซด์ ALKALI METHOXIDE 3315-60-4 28 เกลอื อัลคาไลของเพนตะคลอโรฟนี อล ALKALI SALTS OF PENTACHLOROPHENOL 29 อัลเลธรนิ ALLETHRIN 584-79-2 30 อัลลิโดคลอร์ ALLIDOCHLOR 93-71-0 31 อัลลิล แอลกอฮอล์ ALLYL ALCOHOL 107-18-6 32 อัลลิล คลอไรด์ ALLYL CHLORIDE 107-05-1 33 อลั ลลิ 2,3-อพี อกซโี พรพิล อีเธอร์ ALLYL 2,3-EPOXYPROPYL ETHER 106-92-3 34 อลั ลิล ไกลซดลิ อีเธอร์ ALLYL GLYCIDYL ETHER 106-92-3 35 อลั ลลิ ไอโอไดด์ ALLYL IODIDE 556-56-9 36 อัลลิล โพรพลิ ไดซัลไฟด์ ALLYL PROPYL DISULFIDE 2179-59-1 37 อะลมู เิ นยี ม อลั คิล ALUMINIUM ALKYLS

47 No. ชือ� สารเคมีอนั ตราย (ไทย) ช�ือสารเคมอี ันตราย (อังกฤษ) CAS number 38 สารประกอบอะลูมเิ นยี มอลั คีลคิ ALUMINIUM ALKYLIS COMPOUNDS 39 อะลูมิเนยี ม คลอไรด์ แอนไฮดรัส ALUMINIUM CHLORIDE ANHYDROUS 7446-70-0 40 อะลมู เิ นยี ม ลเิ ทียม ไฮไดรด์ ALUMINIUM LITHIUM HYDRIDE 16853-85-3 41 อะลูมิเนยี ม ฟอสไฟด์ ALUMINIUM PHOSPHIDE 20859-73-8 42 อะลมู เิ นยี มในรูปของผง, ผงไพโร ALUMINIUM POWDER,PYROPHORIC 7429-90-5 43 ผงอะลมู เิ นยี ม(ลกั ษณะคงตัว) ALUMINIUM POWDER ,STABILIZED 44 ฟมู อะลูมเิ นยี ม ALUMINIUM FUMES, AS AL 7429-90-5 45 โลหะและออกไซดข์ องอะลูมเิ นียม ALUMINIUM METAL & OXIDE, AS AL 1344-28-1 46 อะลมู ิเนยี ม ออกไซด์ ALUMINIUM OXIDE 47 อะลูมเิ นียม, ในรูปของสารละลายเกลอื ALUMINIUM, SOLUBLE SALTS, AS AL 555-31-7 48 อะลมู ิเนยี ม-ไตร-ไอโซโพรพอกไซด์ ALUMINIUM-TRI-ISOPROPOXIDE 78-53-5 49 อะมทิ อน AMITON 7664-41-7 50 แอมโมเนีย AMMONIA 6484-52-2 51 (a) แอมโมเนยี ม ไนเตรท (b) แอมโมเนียม ไนเตรท ในรปู ของปุ๋ย (a) AMMONIUM NITRATES (b) AMMONIUM NITRATES IN THE FORM OF FERTILISERS 834-12-8 52 อะเมทรีน AMETRYN 919-76-6 53 อะมไิ ดไธออน AMIDITHION 121-47-1 54 กรด 3-อะมโิ นเบนซนี ซัลโฟนิค 3-AMINOBENZENE SULPHONIC ACID 121-57-3 55 กรด 4-อะมโิ นเบนซนี ซัลโฟนคิ 4-AMINOBENZENE SULPHONIC ACID 56 2-อะมโิ นเบนซีดีน 2-AMINOBENZIDINE 1031-47-6 57 เกลอื 4-อะมโิ นไบฟนี ิล 4-AMINOBIPHENYL (SALTS) 58 5-อะมโิ น-1-(บสิ ไดเมทธิล อะมโิ นฟอสไฟนิค)-3-ฟีนิล-1,2,4- 5-AMINO-1-(BISDIMETHYL AMINOPHOSPHINYL)-3-PHENYL- 13952-84-6 1,2,4-TRIAZOLE 2032-59-9 ไตรอะโซล 2-AMINOBUTANE 93-05-0 59 2-อะมโิ นบวิ เทน AMINOCARB 96-91-3 60 อะมโิ นคาร์บ 4-AMINO-N,N-DIETHYLANILINE 141-43-5 61 4-อะมโิ น-เอน็ ,เอน็ -ไดเอทธิลอะนิลนี 2-AMINO-4,6-DINITROPHENOL 108-00-9 62 2-อะมโิ น-4,6-ไดไนโตรฟีนอล 2-AMINOETHANOL 124-68-5 63 2-อะมโิ นเอทธานอล 2-AMINOETHYLDIMETHYLAMINE 2855-13-2 64 2-อะมโิ นเอทธลิ ไดเมทธลิ อะมนี 2-AMINO-2-METHYLPROPANOL 95-55-6 65 2-อะมโิ น-2-เมทธลิ โพรพานอล 3-METHYL-3,5,5-TRIMETHYLCYCLOHEXYLAMINE 75-31-0 66 3-อะมิโนเมทธิล-3,5,5-ไตรเมทธลิ ไซโคลเฮกซิลอะมนี 2-AMINOPHENOL 78-96-6 67 อะมโิ นฟนี อล 2-AMINOPROPANE 104-78-9 68 2-อะมโิ นโพรเพน 1-AMINOPROPAN-2-OL 109-55-7 69 1-อะมิโนโพรเพน-2-ออล 3-AMINOPROPYLDIETHYLAMINE 95-53--4 70 3-อะมโิ นโพรพิลไดเอทธลิ อะมีน 3-AMINOPROPYLDIMETHYLAMINE 61-82-5 71 3-อะมโิ นโพรพลิ ไดเมทธลิ อะมีน 2-AMINOPYRIDINE 7664-41-7 72 2-อะมโิ นไพริดีน AMITROLE 73 อะมโิ ทรล AMMONIA, ANHYDROUS 74 แอมโมเนยี ,แอนไฮดรสั

No. ช�ือสารเคมีอนั ตราย (ไทย) 48 CAS number 75 แอมโมเนียม ไบฟลอู อไรด์ 1341-49-7 ชื�อสารเคมีอันตราย (อังกฤษ) 12125-02-9 76 แอมโมเนยี มคลอไรด์ AMMONIUM BIFLUORIDE 7789-09-5 77 แอมโมเนียม ไดโครเมท 12125-01-8 78 แอมโมเนยี ม ฟลอู อไรด์ AMMONIUM CHLORIDE 1341-49-7 79 แอมโมเนยี ม ไฮโดรเจน ไดฟลูออไรด์ AMMONIUM DICHROMATE 7790-98-9 80 แอมโมเนยี ม เพอร์คลอเรท AMMONIUM FLUORIDE 9080-17-5 81 แอมโมเนยี ม โพลซี ลั ไฟด์ AMMONIUM HYDROGEN DIFLUORIDE 82 เกลือแอมโมเนยี ม ดเี อน็ โอซี AMMONIUM PERCHLORATE 7773-06-0 83 แอมโมเนียม ซลั ฟาเมท AMMONIUM POLYSULPHIDES 2844-92-0 84 แอมโมเนียม บิส(2,4,6-ไตรไนโตรฟีนิล)อะไมด์ AMMONIUM SALT OF DNOC 628-63-7 85 เอมลิ อะซเี ตท,ไอโซเมอร์ทกุ ตวั AMMONIUM SULFAMATE 30899-19-5 86 เอมลิ แอลกอฮอล์, ยกเวน้ เทร์ท- บวิ ทานอล AMMONIUM BIS(2,4,6-TRINITROPHENY)AMINE 638-49-3 87 เอมิล ฟอร์เมท AMYL ACETATE, ALL ISOMERS 624-54-4 88 เอมลิ โพรพโิ อเนท AMYL ALCOHOL,except tert-PENTANOL 92-67-1 89 4-อะมโิ นไดฟลี นลิ AMYL FORMATE 101-05-3 90 อะนลิ นี AMYL PROPIONATE 91 เกลอื อะนิลนี 4-AMINODIPHENYL 90-04-0 92 ออโท-อะนิซิดนี ANILINE 104-94-9 93 พารา-อะนิซิดีน ANILINE(SALTS) 94 สารประกอบแอนติโมนี o-ANISIDINE 7647-18-9 95 แอนติโมนี เพนตะคลอไรด์ p-ANISIDINE 10025-91-9 96 แอนติโมนี ไตรคลอไรด์ ANTIMONY COMPOUNDS, AS SB 7783-56-4 97 แอนตโิ มนี ไตรฟลูออไรด์ ANTIMONY PENTACHLORIDE 86-88-4 98 เอเอ็นทียู ANTIMONY TRICHLORIDE 494-52-0 99 อะนาบาซิน ANTIMONY TRIFLUORIDE 7803-52-3 100 แอนตโิ มนี ไฮไดรด์ (สติบนี ) ANTU 7784-42-1 101 อาร์เซนิค ไฮไดรด์ ANABASINE 1303-28-2 102 อาร์เซนิค เพนตอกไซด์ ANTIMONY HYDRIDE (STIBINE) 1327-53-3 103 อาร์เซนคิ ไตรออกไซด์ ARSENIC HYDRIDE 7440-38-2 104 สารหนู ARSENIC PENTOXIDE 105 สารประกอบของสารหนู ARSENIC TRIOXIDE 7784-42-1 106 อาร์ซีน ARSENIC 107 แอสเบสทอส ARSENIC(COMPOUNDS) 8052-42-4 108 แอสพัลท์ ARSINE 1921-24--9 109 อะทราซนี ASBESTOS 51-55-8 110 อะโทรพนี ASPHALT 111 เกลอื อะโทรพนี ATRAZINE 151-56-4 112 อะซิริดนี ATROPINE 2642-71-9 113 อะซนิ ฟอส-เอทธิล ATROPINE(SALTS) AZIRIDINE AZINPHOS-ETHYL