โครงสร้างรายวิชา กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหสั วชิ า ว 22102 รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ 4 เวลา 3 คาบ/สัปดาห์ จำนวน 1.5 หน่วยกิต ระดับชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2564 ครูผสู้ อน นางซไู บด๊ะ แซะเดง็ หนว่ ย ช่อื หน่วยการเรียนรู้ เร่ือง ตัวชว้ี ดั สาระสำคญั เวลา นำ้ หนัก ภาระงาน ที่ คะแนน 1 งานและพลังงาน - งาน กำลัง และ ว 2.3 - เม่ือออกแรงกระทำต่อวัตถุ แล้วทำ 15 10 - รายงาน เครอ่ื งกลอยา่ งงา่ ย ม.2/1 ให้วัตถุเคลื่อนที่ โดยแรงอยู่ในแนว ผลการ - พลังงานกลและกฏ เดยี วกับการเคลื่อนที่จะเกดิ งาน งาน ทดลอง การอนรุ กั ษ์พลังงาน จะมีค่ามากหรือน้อยขึ้นกับขนาด - สงิ่ ของแรงและระยะทางในแนว ประดิษฐ์ เดยี วกับแรง - ใบงาน ม.2/2 - งานที่ทำในหนึ่งหน่วยเวลาเรียกว่า ม.2/3 กำลงั หลักการของงาน นำไปอธิบาย การทำงานของเครื่องกลอย่างง่าย ได้แก่ คาน พื้นเอียง รอกเดี่ยว ลิ่ม สกรู ล้อและเพลา ซึ่งนำไปใช้ ประโยชน์ด้านต่าง ๆ ใน ชีวติ ประจำวนั ม.2/4 - พลังงานจลน์เป็นพลังงานของวัตถุ ม.2/5 เคลื่อนที่ พลังงานจลน์จะมี ค่ามาก ม.2/6 หรือน้อยขึ้นกับมวลและอัตราเร็ว ส่วนพลังงานศักย์โน้มถ่วงเกี่ยวข้อง กับตำแหน่งของวัตถุ จะมีค่ามาก หรือน้อยขึ้นกับมวลและตำแหน่ง ของวัตถุเมื่อวัตถุอยูใ่ นสนามโน้มถว่ ง วัตถุจะมีพลังงานศักย์โน้มถ่วง พลังงานจลน์ และพลังงานศักย์โน้ม ถว่ งเปน็ พลงั งานกล
2 การแยกสาร - การแยกสารและ ว 2.1 การแยกสารผสมให้เป็นสารบริสุทธ์ิ 15 10 - รายงาน การนำไปใช้ ม.2/1 ทำได้หลายวิธีขึ้นอยู่กับสมบัติของ ผลการ ม.2/2 สารนั้น ๆ เช่น การระเหยแห้ง การ ทดลอง ม.2/3 ตกผลึก การกลั่นอย่างง่าย โคร - สงิ่ มาโทกราฟีแบบกระดาษ และการ ประดิษฐ์ สกดั ด้วยตัวทำละลาย - ใบงาน - ผังมโน ทัศน์ 3 โลกและการ - โครงสร้างภายใน ว 3.2 - โครงสร้างภายในโลกแบ่งออกเป็น 23 20 - รายงาน เปลย่ี นแปลง โลกและการ ม.2/4 ชั้นตามองค์ประกอบทาง เคมี ได้แก่ ผลการ เปลยี่ นแปลงบนผวิ เ ป ล ื อ ก โ ล ก ซ ึ ่ ง อ ย ู ่ น อ ก สุ ด ทดลอง โลก ประกอบด้วยสารประกอบซิลิกอน - ส่งิ - ดนิ และนำ้ และอะลมู ิเนียมเป็นหลัก เน้ือโลกคือ ประดิษฐ์ - ภัยธรรมชาตบิ นผิว ส่วนที่อยู่ใต้เปลือกโลกลงไปจนถึง - ใบงาน โลก แก่นโลก มีองค์ประกอบหลักเป็น - ผงั มโน สารประกอบของซิลิกอน ทัศน์ แมกนีเซียมและเหล็ก และแก่นโลก คือส่วนที่อยู่ใจกลางของโลก มี องค์ประกอบ หลักเป็นเหล็กและ นิกเกิล ซึ่งแต่ละชั้นมีลักษณะ แตกตา่ งกนั ม.2/5 - การผุพังอยู่กับที่ การกร่อน และ การสะสมตัวของตะกอน เป็น กระบวนการเปลี่ยนแปลงทาง ธรณีวิทยาที่ทำให้ผิวโลกเกิดการ เปลี่ยนแปลงเป็นภูมิลักษณ์แบบต่าง ๆ โดยมปี จั จัย สำคัญ คือ น้ำ ลม ธาร น้ำแข็ง แรงโน้มถ่วงของโลก สิ่งมชี ีวิต สภาพอากาศ และปฏิกิริยา เคมี
4 ทรพั ยากรพลงั งาน แหลง่ พลังงาน ม.2/6 - ดินเกิดจากหินท่ีผุพังตามธรรมชาติ 7 10 - รายงาน ม.2/7 ผสมคลุกเคล้ากับอินทรียวัตถุที่ได้ ผลการ ม.2/8 จากการเน่าเปื่อยของซากพืชซาก ทดลอง - ใบงาน สัตว์ ทับถมเป็นชั้นๆบนผิวโลก ช้ัน - ผงั มโน ดนิ แบ่งออกเป็นหลายชั้น ขนานหรือ ทัศน์ เกือบขนานไปกับผิวหน้าดิน แต่ละ ชั้นมีลักษณะแตกต่างกัน เนื่องจาก สมบัติทางกายภาพ เคมี ชีวภาพ และ ลักษณะอน่ื ๆ เชน่ สี โครงสร้าง เนื้อดิน การยึดตัว ความ เป็นกรด- เบส - แหล่งน้ำผิวดินและแหล่งน้ำใต้ดิน ม.2/9 ถูกนำมาใช้ในกิจกรรมต่างๆของ ม.2/10 มนุษย์ส่งผลต่อการจัดการใช้ ประโยชน์น้ำและคุณภาพของแหล่ง น้ำ เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของจำนวน ประชากร การใช้ประโยชน์พื้นที่ใน ด้านต่าง ๆ เช่น ภาคเกษตรกรรม ภาคอุตสาหกรรม และการ เปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ว 3.2 - เชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์ เกิดจาก ม.2/1 การเปลี่ยนแปลงสภาพของซาก ม.2/2 สิ่งมีชีวิตในอดีต โดยกระบวนการ ทางเคมแี ละธรณีวิทยา เชอื้ เพลงิ ซาก ดกึ ดำบรรพ์ ได้แก่ ถา่ นหนิ หนิ น้ำมัน ปโิ ตรเลียม ม.2/3 - เช้อื เพลงิ ซากดกึ ดำบรรพเ์ ป็นแหล่ง พลังงานที่สำคัญในกิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์ เนื่องจากเชื้อเพลิงซาก ดึกดำบรรพ์ มีปริมาณจำกัดและมัก
เพิ่มมลภาวะในบรรยากาศมากขึ้น จึงมกี ารใช้พลงั งา นทดแทนมากขึ้น เช่น พลังงาน แสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานน้ำ พลังงานชีวมวล พลงั งานคลื่น เกณฑก์ ารให้คะแนน คะแนนเกบ็ 50 คะแนน สอบกลางภาค 20 คะแนน สอบปลายภาค 30 คะแนน รวม 100 คะแนน
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชา วทิ ยาศาสตรพ์ น้ื ฐาน 4 รหัสวิชา ว22102 เรื่อง การแยกสาร ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 เวลาเรยี น 1 คาบ ครูผู้สอน นางซูไบด๊ะ แซะเด็ง โรงเรยี นคณะราษฎรบำรุง จงั หวัดยะลา สพม.ยะลา มาตรฐานการเรยี นรู้ ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของสสารกับ โครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปล่ียนแปลงสถานะของสสาร การเกดิ สารละลาย และการเกิดปฏิกริ ิยาเคมี ตัวช้ีวัด ม.2/1 อธิบายการแยกสารผสมโดยการระเหยแห้ง การตกผลึก การกลั่นอย่างง่าย โครมาโทกราฟี แบบกระดาษ การสกัดดว้ ยตัวทำละลาย โดยใชห้ ลกั ฐานเชิงประจักษ์ สาระสำคญั การแยกสาร หมายถึง การทำให้สารบริสทุ ธิ์ หรือการแยกสารท่ีผสมกันให้ออกจากกัน การแยกสารมี หลายวิธีข้ึนอยู่กับสมบัติของสารแต่ละชนิด เช่น การแยกสารเนื้อผสมจะใช้วิธีการกรอง การสกัดด้วยตัวทำ ละลาย การใช้กรวยแยก การหยิบออก ร่อนออก หรือการใช้แม่เหล็กดูด ส่วนการแยกสารเนื้อเดียวจะใช้ วิธีการระเหยแห้ง การตกผลึก การกลนั่ หรอื วิธโี ครมาโทกราฟี จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ดา้ นความรูค้ วามสามารถ K 2 ความเข้าใจ : อธิบายการแยกสารผสมโดยการระเหยแห้ง การตกผลึก การกล่ันอย่างง่าย โครมาโทกราฟแี บบกระดาษ การสกดั ด้วยตัวทำละลาย โดยใช้หลักฐานเชงิ ประจกั ษ์ ด้านทักษะกระบวนการ P 1 การรับรู้ : - สังเกตภาพการแยกสารดว้ ยวธิ ีต่างๆ - ศกึ ษา สบื คน้ และอภิปรายการแยกสารดว้ ยวิธตี า่ งๆ ดา้ นคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ มีวนิ ยั ใฝ่เรียนรู้ มุง่ มนั่ ในการทางาน
กระบวนการจัดการเรียนรู้ 1. ขั้นสรา้ งความสนใจ (Engagement) เวลา 10 นาที (การจำแนกประเภท) 1.1 ครูนำภาพการแยกสารด้วยวิธีต่างๆ ให้นักเรียนพิจารณาวา่ เป็นการแยกสารด้วยวิธใี ด และใช้ แยกสารประเภทใด ก. ข. ค. แนวตอบ ภาพ ก. คือ การกรอง ใช้แยกสารเน้ือผสมท่ีเป็นของเหลวปนกับของแข็งท่ีมีอนุภาค ใหญ่ เช่น ทรายกับน้ำ ภาพ ข. คือ การระเหยแห้ง ใช้แยกสารเนื้อเดียวท่ีเป็นสารละลายท่ีมีองค์ประกอบที่ เป็นของแข็งละลายอย่ใู นของเหลว เชน่ น้ำเกลือ ภาพ ค. คือ การกล่ัน ใช้แยกสารเนื้อเดียวที่เป็นสารละลาย ซึ่งประกอบด้วยสารท่ีเป็น ของเหลวท่มี จี ดุ เดือดต่างกนั เชน่ การกลั่นน้ำมนั ดบิ 2. ข้นั สำรวจและคน้ หา (Exploration) เวลา 20 นาที (การสำรวจคน้ หา) 2.1 ให้นักเรียนศึกษา สืบค้น และอภิปรายการแยกสารด้วยวิธีต่างๆ ในใบความรู้ท่ี 1 เร่ืองการแยกสารดว้ ยวธิ กี ารต่างๆ 3. ขน้ั อธบิ ายและลงข้อสรุป (Explanation) เวลา 10 นาที (การสรุปลงความเหน็ ) 3.1 ครแู ละนกั เรียนนำผลการศกึ ษาและการสืบค้นมาอภิปรายร่วมกนั โดยสรุปไดว้ ่า การแยกสารเนื้อผสม ต้องวิเคราะห์สมบัติทางกายภาพของสารเนื้อผสม ได้แก่ ความสามารถในการละลายน้ำ การเป็นสารแม่เหล็ก การระเหิด ขนาดความหนาแน่น และสี นำมาเป็น เกณฑ์กำหนดวธิ ีแยกสารออกจากกนั - การกรอง (filtration) เป็นวิธีการแยกสารเนอ้ื ผสมด้วยกระบวนการแยกของแข็งท่ีไม่ ละลายในของเหลวออกจากของเหลว โดยใช้วัสดุกรองสารที่มีรูเล็ก ๆ เช่น กระดาษกรอง ผ้าขาวบาง
ตะแกรงลวด ซ่ึงจะต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมกับขนาดอนุภาคของสารที่ต้องการกรองแยกออกมาจาก ของเหลว - การสกัดด้วยตัวทำละลาย (solvent extraction) เปน็ วธิ ีการแยกสารที่ต้องการ ออก จากสารเนอ้ื ผสมโดยอาศยั สมบัตใิ นการละลายของสารที่แตกตา่ งกัน การแยกสารเนื้อเดียว สารเน้ือเดียวท่ีพบเห็นโดยท่ัวไปอาจประกอบด้วยสารเพียงชนิด เดียวหรือหลายชนิดก็ได้ การแยกสารเนอื้ เดยี วทม่ี ีองคป์ ระกอบของสารตัง้ แต่ 2 ชนิดขนึ้ ไปออกจากกนั โดย การใช้สมบัติทางกายภาพของสารแต่ละชนิดได้โดยวิธีการต่างๆ เช่น การระเหย การตกผลึก การกลั่น และโครมาโทกราฟี - การตกผลึก (Crystallization) เป็นวิธีการแยกตัวละลายท่ีเป็นของแข็งออกจาก สารละลายโดยอาศยั ความสามารถในการละลายของสารต่างชนดิ กันในตัวทำละลายชนดิ เดยี วกันจะแตกตา่ ง กัน ด้วยการทำให้สาระลายอิ่มตัวท่ีอุณหภูมิสูง แล้วปล่อยให้สารละลายมีอุณหภูมิลดลง สารที่มี ความสามารถในการละลายได้ต่ำกว่า จะตกผลึกก่อน ผลึกของสารแต่ละชนิดจะมีรูปทรงเรขาคณิต มี เหล่ยี มมมี ุมเป็นลักษณะเฉพาะตัว - โครมาโทกราฟี (Chromatography) เป็นวิธีแยกองค์ประกอบของสารเนื้อเดียวท่ีมี องค์ประกอบของสารตง้ั แต่ 2 ชนิดขึน้ ไปละลายในของเหลวเดียวกัน โดยอาศัยหลักการว่า “สารแตล่ ะชนิด มีความสามารถในการละลายในตัวทำละลายได้ต่างกัน และมีความสามารถในการถูกดูดซับโดยตัวดูดซับ ตา่ งกนั ” - การกล่ัน (Distillation) เป็นวิธีการแยกสารที่มีสถานะเป็นของเหลวออกจาก สารละลาย โดยอาศัยจุดเดือดท่ีแตกตา่ งกนั โดยให้ความร้อนแก่สารละลาย ของเหลวท่ีมีจุดเดือดต่ำจะ กลายเป็นไอก่อน เมื่อผ่านไอไปกระทบกบั ความเยน็ ก็จะควบแน่นกลบั มาเป็นของเหลวได้อกี 4. ข้นั ขยายความรู้ (Elaboration) เวลา 10 นาที (การนำไปใช้) 4.1 ครูยกตวั อย่างสารผสม เช่น น้ำกบั ทราย, จุนสีกับสารสม้ , ใบกะเพรากบั น้ำ, หมึกสีดำ, น้ำเกลือ เป็นต้น แล้วให้นักเรียนช่วยกันคิดวา่ ควรใช้การแยกสารดว้ ยวธิ ใี ด แนวตอบ - น้ำกับทราย ใช้การกรอง - จุนสกี ับสารสม้ ใช้การตกผลกึ - ใบกะเพรากับน้ำ ใช้การสกัดดว้ ยตวั ทำละลาย - หมกึ สดี ำ ใช้การโครมาโทกราฟี - นำ้ เกลอื ใช้การกลัน่ 5. ขนั้ ประเมนิ (Evaluation) เวลา 10 นาที 5.1 ใหน้ ักเรียนทำใบงานที่ 1 เร่ืองวธิ ีแยกสาร การวัดและประเมนิ ผล 1) วิธีการวัดและประเมนิ ผล
1. ประเมินจากการทำใบงานที่ 1 เร่ืองวธิ ีแยกสาร 2. สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ 3. สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานของนักเรยี นรายบุคคล 2) เครื่องมอื วัดและประเมนิ 1. ใบงานที่ 1 เรอ่ื งวธิ แี ยกสาร 2. แบบประเมนิ กระบวนการกลุ่ม 3. แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานของนักเรยี นรายบคุ คล 3) เกณฑ์การวดั และประเมนิ 1. ใบงานที่ 1 เรอ่ื งวิธแี ยกสาร ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 50 2. แบบประเมินการทำงานกลุ่ม พฤติกรรมทปี่ ฏบิ ัตชิ ดั เจนและสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมท่ปี ฏบิ ัติชดั เจนและบอ่ ยครง้ั ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมท่ีปฏิบัติบางคร้งั ให้ 1 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 24-30 3 = ดี 17-23 2 = พอใช้ 10-16 1 = ปรบั ปรุง 3. แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานของนักเรยี นรายบคุ คล พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ัตสิ มำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมท่ปี ฏบิ ตั ิบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมทีป่ ฏิบัตบิ างครง้ั ให้ 1 คะแนน พฤติกรรมท่ีไม่ปฏิบตั ิ ให้ 0 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 15-20 3 = ดี 10-14 2 = พอใช้ 5-9 1 = ปรบั ปรุง สอ่ื และแหล่งการเรียนรู้ 1. ใบความร้ทู ี่ 1 เรือ่ งการแยกสารด้วยวธิ ีการต่างๆ
2. หอ้ งสมดุ โรงเรียน 3. เวบ็ ไซตต์ า่ งๆ ได้แก่ https://www.myfirstbrain.com/student_view.aspx?ID=73760 https://www.myfirstbrain.com/student_view.aspx?ID=73760 http://edltv.thai.net/index.php?mod=Courses&file=showcontent&cid=17& sid=104&lid=210802&lid_parent=210827
บันทกึ หลังการจัดการเรยี นรู้ 1. ดา้ นความรู้ นักเรยี นสามารถอธบิ ายการแยกสารผสมโดยการระเหยแห้ง การตกผลกึ การกลั่นอย่างง่าย โคร มาโทกราฟีแบบกระดาษ การสกดั ด้วยตัวทำละลาย โดยใชห้ ลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์จากกิจกรรมท่ีให้นักเรยี นได้ ลงมือทำ ซึ่งสว่ นใหญม่ ีความสนใจทจ่ี ะหาสมบัตทิ แี่ ตกตา่ งของสารผสมเพื่อเลือกวิธีการแยกสารท่ีเหมาะสม 2. ด้านทกั ษะกระบวนการ นักเรียนสว่ นใหญม่ ีความสามารถในการสังเกตสารผสมและอภิปรายผลการแยกสารแตล่ ะวธิ ไี ด้ ศึกษาและวิเคราะห์ปญั หาได้ดี 3. ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ นักเรียนมีวินัย ใฝเ่ รยี นรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน ตั้งใจทำกิจกรรมท่ไี ดร้ ับมอบหมายเพ่ือให้ได้ข้อสรุป และมกี ารทำงานกลมุ่ อยา่ งเป็นระบบ 4. ปัญหาอปุ สรรค นักเรียนบางคนยังขาดทักษะการคดิ วเิ คราะห์ ไมส่ ามารถเขา้ ใจปัญหาจากกจิ กรรม จึงทำใหใ้ ชเ้ วลา ในการทำกจิ กรรมค่อนข้างนาน 5. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข ครแู ละนกั เรยี นช่วยกันวิเคราะหป์ ัญหาจากกจิ กรรม เพ่ือเสรมิ แรงให้นักเรียนมคี วามสนใจและ วเิ คราะห์ปัญหาไดอ้ ย่างครบถ้วน ลงชือ่ ……………………………………………….. ( นางซูไบดะ๊ แซะเดง็ ) ครผู ู้สอน วนั ท่ี 3 เดือน มกราคม พ.ศ. 2565 ความเหน็ ของผูบ้ ริหารสถานศกึ ษาหรือผู้ท่ไี ด้รับมอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ.……………………………………………….. (………………………………………………..) ตำแหน่ง ................................................ ................../............................./...................
แบบประเมนิ การทางานกลุ่ม กลุม่ ที่ .................................... ช้นั ....................... สมาชกิ ภายในกลุ่ม 1. ...........................................................2............................................................ 3..............................................................4............................................................ 5..............................................................6............................................................ คำชี้แจง ให้ทำเคร่ืองหมาย ✓ ในชอ่ งทต่ี รงกบั ความเปน็ จริง ลำดับท่ี รายการพฤตกิ รรม คณุ ภาพการปฏิบัติ 321 1 มกี ารปรึกษาและวางแผนรว่ มกนั ก่อนทำงาน 2 มีการแบง่ หนา้ ทอ่ี ย่างเหมาะสมและทำตามหนา้ ทท่ี ุกคน 3 มกี ารปฏบิ ตั งิ านตามข้นั ตอน 4 มีการใหค้ วามช่วยเหลือกัน 5 สามารถทำงานไดส้ ำเร็จตามวัตถปุ ระสงคท์ กี่ ำหนด 6 ทำงานเสร็จทนั ตามกำหนดเวลา 7 มีความคิดรเิ ร่มิ สรา้ งสรรค์ 8 สามารถนำความรู้ท่ีได้มาประยกุ ตใ์ ช้ 9 สามารถใหค้ ำแนะนำกลุ่มอนื่ ได้ 10 เก็บวสั ดุ อุปกรณ์เรียบร้อย หลังเลิกปฏบิ ัติงาน ลงชื่อ ............................................ ผ้ปู ระเมิน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ............/................/.............. พฤติกรรมทปี่ ฏบิ ัติชดั เจนและสมำ่ เสมอ พฤติกรรมที่ปฏบิ ตั ชิ ัดเจนและบ่อยคร้ัง ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมทป่ี ฏิบตั บิ างคร้งั ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ ระดับคุณภาพ ช่วงคะแนน 3 = ดี 24-30 2 = พอใช้ 17-23 1 = ปรบั ปรงุ 10-16
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานของนักเรียน (รายบุคคล) ชื่อ .......................................................................................... เลขที่ ....................... ชน้ั ....................... คำช้ีแจง ใหท้ ำเครื่องหมาย ✓ ในชอ่ งทตี่ รงกบั ความเป็นจรงิ ลำดบั ท่ี รายการพฤตกิ รรม ระดับพฤติกรรม สมำ่ เสมอ บ่อยครงั้ บางครัง้ ไม่ปฏิบัติ 3 21 0 1 มีสว่ นร่วมในการแสดงความคดิ เหน็ 2 รบั ฟงั ความคิดเหน็ ของเพื่อนในกลุ่ม 3 ให้ความร่วมมอื และช่วยเหลอื ซ่งึ กนั และกนั กับเพ่อื นในกลุม่ 4 ตั้งใจทำงาน/กระตอื รอื รน้ ในการทำงาน 5 มคี วามรับผดิ ชอบในงานทไี่ ด้รับมอบหมาย เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ลงช่อื ............................................ ผ้ปู ระเมิน ช่วงคะแนน ............/................/.............. 15-20 10-14 ระดบั คุณภาพ 5-9 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ปรับปรงุ
ใบงานที่ 1 เรื่อง การแยกสาร จงเตมิ คำหรอื ข้อความลงในชอ่ งวา่ งใหถ้ ูกต้อง 1. การแยกสเี ขียวของใบเตยออกจากใบเตย ต้องใช้วธิ ี ........................................................................ 2. ถ้าตอ้ งการแยกน้ำนมถว่ั เหลืองออกจากกากถ่ัวเหลอื ง ต้องใช้วธิ ี .................................................... 3. ถา้ ตอ้ งการแยกเอทานอลออกจากนำ้ ต้องใช้วธิ ี .............................................................................. 4. ถ้ามีการบรู กบั เกลือแกงผสมอยู่ นกั เรยี นควรจะแยกการบรู ออกจากเกลือโดยวธิ ี............................ 5. ถา้ ผงตะไบเหล็กหกลงในภาชนะท่ใี สผ่ งถ่านไว้ จะแยกผงตะไบเหล็กออกจากผงถา่ นได้โดยการ ........................................................................................................ ..................................................... 6. การทำนำ้ จืดจากน้ำทะเล …............................................................................................................. 7. การผลติ น้ำมันถ่วั เหลืองทำไดโ้ ดยการ ….......................................................................................... 8. น้ำปลาทำมาจาก .......................................................มวี ธิ ีการทำโดย.............................................. .............................................................................................................................................................. 9. การตรวจสอบสีชนดิ หนง่ึ ว่าเป็นสีเพยี งชนิดเดยี วหรอื สีหลายสมี าผสมกัน........................................ 10. จงนำตัวเลขหนา้ ขอ้ ความของวธิ ีการแยกสารด้านขวามอื มาใสห่ นา้ ข้อความดา้ นซา้ ยมือให้ เหมาะสม สารทแี่ ยกไดน้ ำมาใช้ประโยชน์ วิธกี ารแยกสาร ........................ น้ำมนั พืช 1. การสกดั ด้วยตวั ทำละลาย ........................ เมลด็ ถ่ัวลสิ งขนาดเท่ากัน 2. การสกัดด้วยตัวทำละลายและกรอง ........................ ยาฆา่ แมลงจากสะเดา 3. การสกดั ดว้ ยตวั ทำละลายและการกลน่ั อย่างงา่ ย ........................ นำ้ เตา้ หู้ 4. การกลั่นด้วยไอน้ำและการใช้กรวยแยก ........................ เอทานอล 5. การกรอง ........................ น้ำส้มสายชู 6. การตกผลึก ........................ น้ำปลา 7. การกรองและการตกผลกึ ........................ น้ำตาลทราย 8. การระเหยแหง้ ........................ เกลือแกง 9. การทำโครมาโทกราฟีแบบกระดาษ ........................ วิเคราะห์สีผสมอาหาร 10. การระเหิด 11. การใช้ตะแกรงร่อน 12. การใช้แม่เหลก็ ดูด ครูซูไบด๊ะ แซะเดง็ วทิ ยาศาสตร์พ้นื ฐาน 4 เร่ือง การแยกสาร
เฉลย ใบงานที่ 1 เรื่อง การแยกสาร จงเติมคำหรือข้อความลงในชอ่ งว่างให้ถูกตอ้ ง 1. การแยกสีเขยี วของใบเตยออกจากใบเตย ต้องใชว้ ธิ ี ..........................ก..า..ร..ส..ก..ัด.................................... 2. ถา้ ต้องการแยกน้ำนมถั่วเหลอื งออกจากกากถั่วเหลอื ง ต้องใชว้ ธิ ี ..........ก..า..ร.ก..ร..อ..ง............................... 3. ถ้าตอ้ งการแยกเอทานอลออกจากน้ำ ต้องใช้วิธี ..........ก..า..ร..ก..ล..นั่.......................................................... 4. ถา้ มีการบรู กบั เกลือแกงผสมอยู่ นกั เรียนควรจะแยกการบรู ออกจากเกลือโดยวธิ .ี ...ล..ะ..ล..า..ย..น..ำ้...ก..ร..อ..ง...ระเหยแห้ง 5. ถา้ ผงตะไบเหลก็ หกลงในภาชนะทใ่ี สผ่ งถา่ นไว้ จะแยกผงตะไบเหล็กออกจากผงถา่ นได้โดยการ ........แ..ม..่เ.ห...ล..็ก..ด..ดู ....................................................................................................................................... 6. การทำนำ้ จดื จากน้ำทะเล ….......................ก...า.ร..ก..ล..น่ั......................... 7. การผลิตน้ำมันถ่ัวเหลอื งทำได้โดยการ …......บ...ด..ใ.ห..้ล...ะ.เ..อ..ีย..ด....ล..ะ..ล..า..ย..น..ำ้....ก..ร..อ..ง....ก..ล..่ัน.............................. 8. นำ้ ปลาทำมาจาก ....ป..ล...า....น..้ำ....เ.ก..ล..ือ...............................มีวธิ ีการทำโดย...........ห..ม..กั.....ก..ร.อ..ง....ก...ล..่ัน............ .......................................................................................... ................................................................... 9.การตรวจสอบสชี นดิ หนึง่ วา่ เปน็ สเี พียงชนิดเดยี วหรือสีหลายสมี าผสมกนั ..................ก..ล..่ัน................ 10. จงนำตวั เลขหน้าข้อความของวิธกี ารแยกสารด้านขวามอื มาใสห่ นา้ ข้อความด้านซ้ายมือให้ เหมาะสม สารทแ่ี ยกได้นำมาใช้ประโยชน์ วิธกี ารแยกสาร ...........3............. นำ้ มันพชื 1. สกัดดว้ ยตัวทำละลาย ..........1..1............ เมลด็ ถว่ั ลิสงขนาดเทา่ กัน 2. สกดั ด้วยตัวทำละลายและกรอง ...........2............. ยาฆา่ แมลงจากสะเดา 3. สกดั ดว้ ยตวั ทำละลายและกลัน่ ...........5............. น้ำเต้าหู้ 4. กลน่ั ...........4............. เอทานอล 5. กรอง ...........4............. น้ำส้มสายชู 6. ตกผลึก ..........5..,.3........... นำ้ ปลา 7. กรองและตกผลึก ...........7............. น้ำตาลทราย 8. ระเหยแหง้ ...........8............. เกลือแกง 9. โครมาโทกราฟี ...........9............. วเิ คราะห์สผี สมอาหาร 10. ระเหิด 11. ตะแกรงร่อน 12. แมเ่ หล็กดดู ครูซูไบด๊ะ แซะเดง็ วทิ ยาศาสตร์พ้ืนฐาน 4 เร่ือง การแยกสาร
แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 2 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชา วิทยาศาสตรพ์ ื้นฐาน 4 รหัสวิชา ว22102 เรือ่ ง การระเหยแห้งและตกผลึก ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 2 เวลาเรียน 2 คาบ ครูผ้สู อน นางซูไบดะ๊ แซะเด็ง โรงเรียนคณะราษฎรบำรงุ จงั หวดั ยะลา สพม.ยะลา มาตรฐานการเรียนรู้ ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของสสารกับ โครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปล่ียนแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย และการเกิดปฏิกิริยาเคมี ตัวชี้วัด ม.2/1 อธิบายการแยกสารผสมโดยการระเหยแห้ง การตกผลึก การกล่ันอย่างง่าย โครมาโทกราฟี แบบกระดาษ การสกัดดว้ ยตวั ทำละลาย โดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ ม.2/2 แยกสารโดยการระเหยแห้ง การตกผลกึ การกลน่ั อยา่ งง่าย โครมาโทกราฟีแบบกระดาษ การ สกดั ดว้ ยตวั ทำละลาย สาระสำคัญ การระเหยแห้ง (Evaporation) เป็นวิธีการท่ีใช้สำหรับแยกองค์ประกอบของสารที่เป็นสารผสมเนื้อ เดียวท่ีเป็นของแข็งกบั ของเหลว ซึ่งของแข็งน้ันอาจจะละลายหรือไม่ละลายในของเหลวน้ันก็ได้ โดยการใช้ ความร้อนเปลี่ยนสถานะของสารที่เป็นของเหลวให้ระเหยกลายเป็นไอจนหมดจนเหลือเฉพาะสารที่เป็น ของแข็งเท่าน้ัน เชน่ การใชค้ วามรอ้ นต้มน้ำเกลือจนนำ้ ระเหยหมดเหลอื แต่เกลือแกง การตกผลึก (Crystallization) เป็นวิธีการแยกสารเนื้อเดียวโดยการแยกตัวละลายท่ีเป็นของแข็ง ออกจากสารละลายโดยอาศัยความสามารถในการละลายของสารต่างชนิดกันในตัวทำละลายชนิดเดียวกัน จะแตกต่างกัน ด้วยการทำให้สาระลายอิ่มตัวท่ีอุณหภูมิสูง แล้วปล่อยให้สารละลายมีอุณหภูมิลดลง สารท่ีมี ความสามารถในการละลายได้ต่ำกว่า จะตกผลึกก่อน ผลึกของสารแต่ละชนิดจะมีรูปทรงเรขาคณิต มี เหลยี่ มมีมุมเป็นลักษณะเฉพาะตัว จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ดา้ นความร้คู วามสามารถ K 2 ความเข้าใจ : อธิบายการแยกสารผสมโดยการระเหยแหง้ และการตกผลกึ ได้
K 3 การนำไปใช้ : นำหลักการแยกสารโดยการระเหยแห้งและการตกผลึกไปประยุกต์กับการ แยกสารตา่ งๆในชีวติ ประจำวัน ดา้ นทักษะกระบวนการ P 1 การรับรู้ : สังเกตการแยกสารดว้ ยวิธีการระเหยแหง้ และการตกผลกึ ได้ P 2 การปฏิบัติงาน : ปฏิบัติกิจกรรมการแยกสารผสมโดยการระเหยแห้งและการตกผลึกด้วย ความมุง่ ม่ันและตั้งใจได้ ดา้ นคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ มวี ินัย ใฝเ่ รียนรู้ มุ่งมัน่ ในการทำงาน กระบวนการจัดการเรยี นรู้ 1. ขน้ั สรา้ งความสนใจ (Engagement) เวลา 10 นาที (การจำแนกประเภท) 1.1 ครูทบทวนความรู้เดิมของนักเรียนเรื่องการแยกสารที่เป็นสารเนื้อเดียวและสารเน้ือผสม โดย สรปุ ได้ดงั นี้ - การแยกสารเนื้อเดียว สารเนื้อเดียวที่พบเห็นโดยท่ัวไปอาจประกอบด้วยสารเพียงชนิด เดยี วหรือหลายชนดิ ก็ได้ การแยกสารเน้อื เดยี วท่ีมีองคป์ ระกอบของสารตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไปออกจากกัน โดย การใช้สมบัติทางกายภาพของสารแต่ละชนิดได้โดยวิธีการต่างๆ เช่น การระเหย การตกผลึก การกล่ัน และโครมาโทกราฟี - การแยกสารเนื้อผสม ต้องวิเคราะห์สมบัติทางกายภาพของสารเนื้อผสม ได้แก่ ความสามารถในการละลายน้ำ การเป็นสารแม่เหล็ก การระเหิด ขนาดความหนาแน่น และสี นำมาเป็น เกณฑก์ ำหนดวิธแี ยกสารออกจากกนั 2. ข้ันสำรวจและคน้ หา (Exploration) เวลา 40 นาที (การสำรวจคน้ หา) 2.1 นักเรียนช่วยกันวิเคราะห์กิจกรรมการทดลองท่ี 6.1 พร้อมท้ังให้นักเรียนศึกษา ขั้นตอนการทำกจิ กรรม เรื่องแยกสารโดยการระเหยแห้งและตกผลกึ ได้อย่างไร และครใู ห้คำแนะนำในการ ทดลองให้นักเรียนเข้าใจอีกคร้ัง พร้อมเน้นวิธีทำการทดลองให้เกิดผล และข้อควรระวังในการทำการ ทดลอง ตลอดจนแนะนำนกั เรียนในเร่อื งของความรับผดิ ชอบและความมีระเบียบวนิ ยั ในการทำงาน 2.2 ให้สมาชิกภายในกลุ่มร่วมกันวางแผนการทดลอง โดยออกแบบวิธีการทดลอง ลงมือ ปฏิบัติ บันทึกผล และสรุปผลการทดลองลงในแบบรายงานผลการทดลองที่ 6.1 เร่ืองแยกสารโดยการ ระเหยแหง้ และตกผลกึ ได้อยา่ งไร พรอ้ มตอบคำถามหลงั การทำกิจกรรม 3. ขัน้ อธบิ ายและลงข้อสรุป (Explanation) เวลา 20 นาที (การสรปุ ลงความเห็น) 3.1 ครแู ละนกั เรยี นนำผลการศึกษาและการสบื คน้ มาอภปิ รายร่วมกัน โดยสรุปไดว้ า่ - การระเหยแห้งเป็นการแยกองค์ประกอบของสารท่ีเป็นสารผสมเนื้อเดียวท่ีเป็น ของแข็งกับของเหลว
- ใช้ความรอ้ นเปลย่ี นสถานะของสารทีเ่ ป็นของเหลวใหร้ ะเหยกลายเปน็ ไอจนหมดจน เหลือเฉพาะสารทเ่ี ป็นของแขง็ เท่านัน้ - การตกผลึกเป็นการแยกตัวถกู ละลายทีเ่ ป็นของแขง็ ออกจากสารละลาย - การทำให้สารละลายอิม่ ตัวทีอ่ ณุ หภมู ิสูงแลว้ ลดอุณหภูมลิ งจะเกิดการ ตกผลึก - ตวั ละลายท่ลี ะลายในตวั ทำละลายได้ไมด่ จี ะตกผลึกแยกตัวออกมากอ่ น - ลกั ษณะรปู ผลกึ เปน็ สมบัติเฉพาะตวั ของสารแตล่ ะชนดิ 4. ข้ันขยายความรู้ (Elaboration) เวลา 10 นาที (การนำไปใช้) 4.1 ครูอธิบายเพ่ิมเติมเกี่ยวกับการแยกสารด้วยวิธีการระเหยแห้งและการตกผลึก โดยใช้ส่ือ Power point เรือ่ งการแยกสารด้วยวิธีวธิ ีการระเหยแห้งและการตกผลึก 4.2 ครูยกตัวอย่างสารในชีวิตประจำวันท่ีแยกด้วยวิธีวิธีการระเหยแห้งและการตกผลึก และ การใช้ประโยชน์ เช่น การแยกเกลือโซเดียมคลอไรด์ออกจากน้ำทะเล, การแยกสารส้มกับจนุ สี 5. ขน้ั ประเมิน(Evaluation) เวลา 20 นาที 5.1 ประเมินจากการทำแบบรายงานผลการทดลองท่ี 6.1 เร่ืองแยกสารโดยการระเหย แหง้ และตกผลกึ ได้อย่างไร การวดั และประเมนิ ผล 1) วธิ กี ารวัดและประเมินผล 1. ประเมินจากการทำแบบรายงานผลการทดลองที่ 6.1 เรื่องแยกสารโดยการระเหยแห้ง และตกผลึกไดอ้ ย่างไร 2. สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุม่ 3. สงั เกตพฤติกรรมการทำงานของนกั เรียนรายบุคคล 2) เครอ่ื งมอื วัดและประเมิน 1. แบบรายงานผลการทดลองที่ 6.1 เรอื่ งแยกสารโดยการระเหยแห้งและตกผลึกไดอ้ ย่างไร 2. แบบประเมินกระบวนการกลุ่ม 3. แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานของนักเรียนรายบคุ คล 3) เกณฑก์ ารวดั และประเมิน 1. แบบรายงานผลการทดลองที่ 6.1 เรือ่ งแยกสารโดยการระเหยแหง้ และตกผลึกได้อย่างไร ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 50 2. แบบประเมินการทำงานกลมุ่ พฤติกรรมท่ปี ฏบิ ัติชดั เจนและสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ตั ชิ ดั เจนและบ่อยคร้ัง ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมท่ปี ฏบิ ัติบางคร้ัง ให้ 1 คะแนน
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 24-30 3 = ดี 17-23 2 = พอใช้ 10-16 1 = ปรบั ปรงุ 3. แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานของนักเรียนรายบคุ คล พฤติกรรมที่ปฏิบตั สิ ม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมท่ปี ฏบิ ตั ิบ่อยครงั้ ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมท่ปี ฏิบตั ิบางครัง้ ให้ 1 คะแนน พฤติกรรมท่ีไมป่ ฏิบัติ ให้ 0 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 15-20 3 = ดี 10-14 2 = พอใช้ 5-9 1 = ปรบั ปรงุ อปุ กรณแ์ ละสารเคมี 1. จนุ สีหรอื คอปเปอร์(II)ซลั เฟต 9. กรวยกรอง 2. สารละลายจุนสีหรือสารละลายคอปเปอร(์ II)ซลั เฟต 10. ช้อนตักสารเบอรส์ อง 3. น้ำ 11.ตะเกยี งแอลกอฮอลพ์ ร้อมท่ีก้นั ลม 4. บีกเกอรข์ นาด 100 cm3 12. ไม้ขดี ไฟ 5. กระบอกตวงขนาด 10 cm3 13. กระปอ๋ งทราย 6. แทง่ แก้วคน 14. คมี คบี 7. ถว้ ยกระเบื้อง 15. แว่นตานิรภยั 8. กระดาษกรอง ส่อื และแหล่งการเรียนรู้ 1. ใบความรทู้ ่ี 1 เรือ่ งการแยกสารด้วยวิธกี ารต่างๆ 2. ส่อื Power point เรอื่ งการแยกสารด้วยวธิ ีการระเหยแหง้ และการตกผลึก 3. ห้องสมุดโรงเรยี นและห้องสมุดหมวดวชิ า 4. เวบ็ ไซตต์ ่างๆ ไดแ้ ก่ https://www.myfirstbrain.com/student_view.aspx?ID=73760
https://www.myfirstbrain.com/student_view.aspx?ID=73760 http://edltv.thai.net/index.php?mod=Courses&file=showcontent&cid=17& sid=104&lid=210802&lid_parent=210827
บันทกึ หลังการจดั การเรยี นรู้ 1. ด้านความรู้ นกั เรยี นสามารถอธบิ ายการแยกสารผสมโดยการระเหยแห้ง การตกผลึกจากกจิ กรรมที่ได้ลงมือทำ สามารถเขา้ ใจสมบตั ิสารผสมทีม่ คี วามแตกตา่ งกนั และเลอื กใชว้ ธิ กี ารแยกสารไดถ้ ูกตอ้ ง และนำวิธกี ารแยก สารน้ไี ปใช้ในชีวิตประจำวนั ได้ จากการตอบคำถามตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรียน 2. ด้านทักษะกระบวนการ นักเรียนส่วนใหญ่มีความสามารถในการสงั เกตสารผสมและอภปิ รายผลการแยกสารแต่ละวธิ ไี ด้ ศกึ ษาและวเิ คราะหป์ ญั หาได้ดี 3. ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ นักเรยี นมวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ มงุ่ มั่นในการทำงาน ตั้งใจทำกจิ กรรมทีไ่ ดร้ ับมอบหมายเพ่ือให้ได้ขอ้ สรุป และมีการทำงานกลุ่มอยา่ งเป็นระบบ 4. ปญั หาอุปสรรค นักเรยี นบางคนยังขาดทักษะการคดิ วเิ คราะห์ ไม่สามารถเข้าใจปญั หาจากกิจกรรม จึงทำใหใ้ ชเ้ วลา ในการทำกิจกรรมคอ่ นข้างนาน 5. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข ครูและนกั เรียนช่วยกันวเิ คราะห์ปญั หาจากกจิ กรรม เพ่ือเสรมิ แรงใหน้ กั เรียนมคี วามสนใจและ วเิ คราะหป์ ญั หาไดอ้ ย่างครบถ้วน ลงชื่อ……………………………………………….. ( นางซไู บด๊ะ แซะเด็ง ) ครูผู้สอน วนั ท่ี 8 เดือน มกราคม พ.ศ. 2565 ความเห็นของผบู้ ริหารสถานศกึ ษาหรือผู้ทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย ข้อเสนอแนะ………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ.……………………………………………….. (………………………………………………..) ตำแหนง่ .................................................. ................../............................./...................
แบบประเมนิ การทางานกล่มุ กลุม่ ที่ .................................... ชนั้ ....................... สมาชกิ ภายในกล่มุ 1. ...........................................................2............................................................ 3..............................................................4............................................................ 5..............................................................6............................................................ คำชี้แจง ให้ทำเครอ่ื งหมาย ✓ ในชอ่ งทตี่ รงกบั ความเป็นจริง ลำดับท่ี รายการพฤติกรรม คณุ ภาพการปฏบิ ัติ 321 1 มกี ารปรึกษาและวางแผนร่วมกันก่อนทำงาน 2 มีการแบ่งหนา้ ท่ีอย่างเหมาะสมและทำตามหน้าทที่ ุกคน 3 มกี ารปฏิบตั งิ านตามข้นั ตอน 4 มีการใหค้ วามชว่ ยเหลือกนั 5 สามารถทำงานได้สำเร็จตามวตั ถุประสงค์ทก่ี ำหนด 6 ทำงานเสร็จทนั ตามกำหนดเวลา 7 มีความคิดรเิ ร่ิมสรา้ งสรรค์ 8 สามารถนำความรู้ทไ่ี ด้มาประยุกตใ์ ช้ 9 สามารถใหค้ ำแนะนำกลุ่มอื่นได้ 10 เก็บวสั ดุ อุปกรณเ์ รียบร้อย หลังเลกิ ปฏบิ ัติงาน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ลงช่ือ ............................................ ผูป้ ระเมนิ พฤติกรรมทป่ี ฏิบตั ชิ ดั เจนและสมำ่ เสมอ ............/................/.............. พฤติกรรมที่ปฏิบตั ิชดั เจนและบ่อยคร้ัง พฤติกรรมที่ปฏิบตั ิบางครัง้ ให้ 3 คะแนน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ ระดับคุณภาพ 3 = ดี ช่วงคะแนน 2 = พอใช้ 24-30 1 = ปรับปรุง 17-23 10-16
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานของนกั เรียน (รายบุคคล) ชื่อ .......................................................................................... เลขท่ี ....................... ชนั้ ....................... คำช้ีแจง ใหท้ ำเครื่องหมาย ✓ ในช่องท่ีตรงกบั ความเปน็ จริง ลำดบั ท่ี รายการพฤติกรรม ระดบั พฤติกรรม สม่ำเสมอ บอ่ ยครง้ั บางครง้ั ไม่ปฏบิ ัติ 3 21 0 1 มีสว่ นร่วมในการแสดงความคิดเห็น 2 รบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของเพ่อื นในกล่มุ 3 ให้ความร่วมมือและช่วยเหลือซ่ึงกนั และกัน กับเพ่อื นในกลมุ่ 4 ตั้งใจทำงาน/กระตอื รือรน้ ในการทำงาน 5 มคี วามรับผิดชอบในงานท่ไี ด้รบั มอบหมาย เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ลงชอื่ ............................................ ผู้ประเมิน ............/................/.............. ช่วงคะแนน 15-20 ระดับคุณภาพ 10-14 3 = ดี 5-9 2 = พอใช้ 1 = ปรับปรงุ
1 ใบงานท่ี 2 เรอื่ ง การแยกสารดว้ ยวธิ ีการระเหยแห้งและการตกผลกึ ชอ่ื ...................................................นามสกุล...........................................เลขท่.ี ...........ชนั้ ............ จดุ ประสงคก์ ารทดลอง สังเกตและอธบิ ายการแยกสารโดยการระเหยแห้งและการตกผลึกของสารละลายจนุ สี วัสดุและอุปกรณ์ 1. จุนสหี รอื คอปเปอร(์ II)ซลั เฟต 9. กรวยกรอง 2. สารละลายจนุ สหี รือสารละลายคอปเปอร์(II)ซลั เฟต 10. ชอ้ นตักสารเบอร์สอง 3. นำ้ 11.ตะเกียงแอลกอฮอลพ์ รอ้ มทก่ี ัน้ ลม 4. บกี เกอรข์ นาด 100 cm3 12. ไม้ขีดไฟ 5. กระบอกตวงขนาด 10 cm3 13. กระป๋องทราย 6. แท่งแกว้ คน 14. คีมคีบ 7. ถ้วยกระเบ้อื ง 15. แว่นตานิรภยั 8. กระดาษกรอง วิธกี ารทดลอง ตอนท่ี 1 การระเหยแห้ง น้ำ ตอนที่ 2 การตกผลึก
2 ตารางบันทึกผลการทดลอง ผลท่สี ังเกตได้ ตอนที่ 1 การระเหยแหง้ ............................................................................... การทดลอง ............................................................................... 1. สารละลายจุนสีก่อนใหค้ วามร้อน 2. สารละลายจนุ สีหลงั ให้ความรอ้ น ............................................................................... ............................................................................... สรปุ ผลการทดลอง ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ตอนที่ 2 การตกผลกึ การทดลอง ผลทสี่ ังเกตได้ 1. จนุ สีทอ่ี ุณหภูมหิ ้อง ............................................................................... ............................................................................... 2. การละลายของจนุ สีทีอ่ ณุ หภมู หิ ้อง ............................................................................... ............................................................................... 3. การละลายของจนุ สีที่อุณหภูมิสงู ............................................................................... ............................................................................... 4. ผลึกของจุนสี ............................................................................... ............................................................................... สรุปผลการทดลอง ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3 เฉลย ใบงานท่ี 2 เรือ่ ง การแยกสารด้วยวิธีการระเหยแหง้ และวิธีการตกผลึก จดุ ประสงคก์ ารทดลอง 1. ทดลองแยกสารโดยวิธกี ารตกผลกึ ได้ 2. บอกหลกั การแยกสารโดยการตกผลึกได้ วสั ดุ อุปกรณ์ และสารเคมี 1. บกี เกอร์ขนาด 100 cm3 2 ใบ 2. ชอ้ นเบอร์ 2 1 อัน 4. น้ำ 25 cm3 3. แทง่ แก้วคน 1 อนั 6. จุนสี 10 ช้อนเบอร์ 2 5. ชดุ ตะเกียงพร้อมท่ีกั้นลม 1 ชดุ 7. เกลอื แกง 1 ชอ้ นเบอร์ 2 วธิ กี ารทดลอง 1. เทสารส้ม 3 ช้อน และจุนสี 4 ช้อน เบอร์ 2 ในบีกเกอร์ขนาด 100 cm3 รินน้ำลง ใน บกี เกอร์ 10 cm3 คนด้วยแท่งแกว้ ใหเ้ ปน็ สารละลาย 2. นำไปตม้ ใหเ้ ดอื ดประมาณ 2-3 นาที 3. ยกลงต้งั ไว้ให้เย็น สงั เกตลกั ษณะผลึกทไ่ี ด้ บันทกึ ผล ตารางบันทกึ ผลการทดลอง การทดลอง ผลทสี่ ังเกตได้ 1. สารละลายจุนสีกับสารส้มอิ่มตัวที่อุณหภูมิ .......ม..ผี..ล..ึก...ข..อ..ง..ส..า..ร.ส..้.ม...แ..ล..ะ..ผ..ล..ึก..ข...อ..ง.จ..นุ...ส..ีป...น..ก..นั...อ..ย..ู่ ....... สงู แล้วลดอณุ หภมู ิลง .......โ..ด..ย..ผ..ล..ึก..ข..อ...ง.ส...า.ร..ส..้ ม...เ.ป..็ น..ร..ูป...พ..ีร..า..ม..ดิ ...ผ..ล..ึก..ข...อ..ง........... .......จ..นุ ..ส...ีเ.ป..็น...ร.ูป...ท..ร..ง..ส..ี่เ.ห...ล..ีย่ ..ม..ผ..ืน..ผ..้.า.............................. ............................................................................... ............................................................................... ............................................................................... สรุปผลการทดลอง การแยกสารโดยวิธีการตกผลึก ใช้สาหรับแยกสารเนือ้ เดียวที่ละลายนา้ ได้ โดยทาให้สารละลาย อ่ิมตวั แล้วให้ความร้อน ตงั้ ทิง้ ไว้ให้เยน็ จะได้สารในรูปของผลึก
4 คำถามเพอื่ วเิ คราะห์และสรุปผลการทดลอง 1. การละลายนำ้ ได้ของสารสม้ กับจุนสมี ากน้อยเหมือนหรือตา่ งกัน..........ต..่.า.ง..ก..ัน.................................. 2. การละลายนำ้ ของสารส้มกับจนุ สี พบวา่ .........ส..า..ร..ส..้ม.................,....ละลายได้น้อยและอ่มิ ตวั เรว็ กวา่ 3. เมื่อนำสารละลายอ่ิมตัวที่อุณหภมู ิสงู ของสารสม้ กบั จนุ สีมาลดอณุ หภูมิลง สารที่ตกผลึกก่อนคือ ..........ส...า.ร..ส..้ม...........................แสดงว่าในตัวทำละลายชนิดเดียวกัน สารท่ีแยกตวั ตกผลึกก่อนเปน็ สาร ..........ท...ี่ล..ะ..ล..า.ย..น...า้.ไ..ด..้น...้อ..ย..ท..ี่อ...ณุ ..ห...ภ..ูม..ิห..้.อ..ง.....................................................................................................
แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 3 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ า วิทยาศาสตร์พื้นฐาน 4 รหัสวิชา ว22102 เร่ือง การกลน่ั อยา่ งงา่ ย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เวลาเรยี น 2 คาบ ครูผ้สู อน นางซูไบด๊ะ แซะเด็ง โรงเรยี นคณะราษฎรบำรงุ จังหวัดยะลา สพม.ยะลา มาตรฐานการเรียนรู้ ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของสสารกับ โครงสร้างและแรงยึดเหน่ียวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย และการเกิดปฏกิ ิริยาเคมี ตวั ชีว้ ัด ม.2/1 อธิบายการแยกสารผสมโดยการระเหยแห้ง การตกผลึก การกล่ันอย่างง่าย โครมาโทกราฟี แบบกระดาษ การสกดั ดว้ ยตัวทำละลาย โดยใช้หลักฐานเชงิ ประจักษ์ ม.2/2 แยกสารโดยการระเหยแห้ง การตกผลึก การกล่ันอย่างง่าย โครมาโทกราฟีแบบกระดาษ การสกดั ดว้ ยตัวทำละลาย สาระสำคัญ การกล่ัน (Distillation) เป็นวิธีการแยกสารที่มีสถานะเป็นของเหลวออกจากสารละลาย โดย อาศัยจุดเดือดที่แตกต่างกัน โดยให้ความร้อนแก่สารละลาย ของเหลวท่ีมีจุดเดือดต่ำจะ กลายเป็นไอก่อน เมอ่ื ผ่านไอไปกระทบกับความเยน็ กจ็ ะควบแน่นกลับมาเป็นของเหลวไดอ้ ีก โดยวิธีการกลน่ั แบ่งออกเป็นการ กลน่ั ธรรมดาและการกลน่ั ลำดบั ส่วน จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ดา้ นความรู้ความสามารถ K 2 ความเข้าใจ : อธิบายการแยกสารผสมเนือ้ เดียวโดยวธิ ีการกล่ันอย่างง่ายได้ K 2 ความเขา้ ใจ : สรุปเกี่ยวกบั สมบัตบิ างประการขององค์ประกอบของสารผสมเนื้อเดียว ท่เี หมาะสมในการนำมาแยกสารโดยวธิ ีการกล่นั อยา่ งง่ายได้ K 3 การนำไปใช้ : นำหลักการแยกสารผสมเนื้อเดียวโดยวิธีการกล่ันอย่างง่ายไปประยุกต์ กบั การแยกสารตา่ งๆในชีวิตประจำวนั ได้ ดา้ นทกั ษะกระบวนการ P 1 การรับรู้ : สงั เกตการแยกสารโดยวิธีการกลนั่ อย่างงา่ ยได้
P 2 การปฏิบัติงาน : ปฏิบัติกิจกรรมการกลั่นอย่างง่าย อย่างรวมพลัง ด้วยความมุ่งม่ัน และตัง้ ใจได้ ดา้ นคุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีวนิ ัย ใฝ่เรียนรู้ มุง่ มนั่ ในการทำงาน กระบวนการจดั การเรยี นรู้ 1. ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement) เวลา 10 นาที (การจำแนกประเภท) 1.1 ครูทบทวนความรเู้ ดิมของนกั เรียนเรื่องการแยกสารด้วยวธิ ีการตกผลึก โดยสรปุ ได้ดังนี้ - การระเหยแห้งเป็นการแยกองค์ประกอบของสารที่เป็นสารผสมเน้ือเดียวท่ีเป็น ของแข็งกับของเหลว - ใชค้ วามร้อนเปลยี่ นสถานะของสารท่เี ป็นของเหลวให้ระเหยกลายเป็นไอจนหมดจน เหลือเฉพาะสารที่เป็นของแขง็ เท่านน้ั - การตกผลึกเป็นการแยกตัวละลายทเ่ี ป็นของแขง็ ออกจากสารละลาย - การทำให้สารละลายอมิ่ ตัวทอี่ ณุ หภูมิสูงแลว้ ลดอณุ หภูมิลงจะเกดิ การ ตกผลกึ - ตวั ละลายที่ละลายในตวั ทำละลายไดไ้ มด่ ีจะตกผลึกแยกตัวออกมากอ่ น - ลกั ษณะรูปผลกึ เป็นสมบัติเฉพาะตัวของสารแต่ละชนิด 2. ขั้นสำรวจและค้นหา (Exploration) เวลา 50 นาที (การสำรวจค้นหา) 2.1 นักเรียนช่วยกันวิเคราะห์กิจกรรมการทดลอง พร้อมทั้งใหน้ ักเรียนศึกษาขัน้ ตอนการ ทำกิจกรรมในหนังสือ กิจกรรมที่ 6.2 แยกสารโดยการกล่ันอย่างงา่ ยไดอ้ ย่างไร และครใู ห้คำแนะนำในการ ทำกจิ กรรมให้นักเรยี นเข้าใจอีกคร้ัง พร้อมเนน้ วธิ ีทำกิจกรรมให้เกิดผล และข้อควรระวังในการทำกิจกรรม ตลอดจนแนะนำนักเรียนในเรื่องของความรับผดิ ชอบและความมีระเบียบวนิ ยั ในการทำงาน 2.2 ให้สมาชิกภายในกลุ่มร่วมกันวางแผนการทำกิจกรรม โดยออกแบบวิธีการทำ กิจกรรม ลงมือปฏิบัติ บันทึกผล และสรุปผลการทำกิจกรรมลงใบงานที่ 3 เรื่อง การแยกสารด้วยวิธีการ กลั่นอย่างง่าย พร้อมตอบคำถามหลังการทดลอง 3. ขน้ั อธบิ ายและลงขอ้ สรุป (Explanation) เวลา 20 นาที (การสรุปลงความเหน็ ) 3.1 ครแู ละนกั เรียนนำผลการศกึ ษาและการสืบคน้ มาอภิปรายรว่ มกนั โดยสรปุ ไดว้ ่า - การกลั่นเป็นการแยกของเหลวออกจากสารละลายที่มสี ถานะเป็นของเหลว - ใชห้ ลกั ความแตกต่างระหว่างจุดเดอื ดของสารเป็นเกณฑ์ - สารที่มจี ดุ เดอื ดตำ่ กว่าจะแยกออกมาก่อน - ในการกล่ันมีการเปล่ียนสถานะจากของเหลวไม่บริสุทธิ์เป็นไอ และไอควบแน่น กลบั เปน็ ของเหลวที่บรสิ ทุ ธข์ิ ึ้นกว่าเดิม - ของแข็งทีม่ จี ดุ เดือดสูงไม่สามารถแยกออกมาได้ 4. ขน้ั ขยายความรู้ (Elaboration) เวลา 20 นาที (การนำไปใช)้
4.1 ครูอธิบายเพิ่มเติมเกย่ี วกบั การแยกสารด้วยวธิ ีการกลั่นอย่างง่าย โดยใชส้ ื่อ Power point เร่ืองการแยกสารด้วยวิธีการกล่นั 4.2 ครูยกตัวอย่างสารในชีวิตประจำวันที่แยกด้วยวิธีการกลั่นอย่างง่าย และการใช้ประโยชน์ เชน่ การแยกนำ้ ออกจากสารละลายนำ้ เกลือหรือแยกน้ำออกจากน้ำทะเล 5. ขั้นประเมิน(Evaluation) เวลา 20 นาที 5.1 ประเมินจากการทำใบงานท่ี 3 เร่อื ง การแยกสารดว้ ยวิธีการกล่ันอย่างง่าย การวัดและประเมินผล 1) วิธีการวดั และประเมนิ ผล 1. ประเมนิ จากการทำใบงานที่ 3 เรอื่ ง การแยกสารดว้ ยวิธีการกล่ันอยา่ งงา่ ย 2. สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม 3. สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานของนักเรียนรายบุคคล 2) เครื่องมือวัดและประเมนิ 1. ใบงานที่ 3 เรื่อง การแยกสารดว้ ยวิธีการกลนั่ อย่างง่าย 2. แบบประเมนิ กระบวนการกลุ่ม 3. แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานของนักเรียนรายบุคคล 3) เกณฑ์การวดั และประเมนิ 1. ใบงานที่ 3 เรือ่ ง การแยกสารด้วยวธิ ีการกล่นั อยา่ งง่าย ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 50 2. แบบประเมนิ การทำงานกลมุ่ พฤติกรรมทปี่ ฏบิ ัตชิ ัดเจนและสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมทปี่ ฏบิ ัตชิ ัดเจนและบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏบิ ัตบิ างคร้งั ให้ 1 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 24-30 3 = ดี 17-23 2 = พอใช้ 10-16 1 = ปรับปรุง 3. แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานของนักเรยี นรายบุคคล พฤติกรรมทป่ี ฏิบตั สิ มำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมทป่ี ฏิบตั ิบ่อยครัง้ ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมท่ปี ฏิบตั ิบางครง้ั ให้ 1 คะแนน พฤติกรรมท่ีไมป่ ฏบิ ตั ิ ให้ 0 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 15-20 3 = ดี
10-14 2 = พอใช้ 5-9 1 = ปรบั ปรงุ วัสดุ อุปกรณ์ และสารเคมี 1. สารละลายจุนสีหรอื สารละลายคอปเปอร์(II)ซลั เฟต 9. ขาต้ังพร้อมทจี่ ับ 2. หลอดทดลองขนาดใหญ่ 10. ตะเกยี งแอลกอฮอลพ์ รอ้ มท่ีกน้ั ลม 3. หลอดทดลองขนาดเลก็ 11. ไม้ขีดไฟ 4. กระบอกตวงขนาด 10 cm3 12. เทอรม์ อมเิ ตอร์ 5. บกี เกอร์ขนาด 100 cm3 13. ทจ่ี ับหลอดทดลอง 6. จกุ ยาง 2 รู 14. เศษกระเบื้อง 7. หลอดแก้วนำแกส๊ รปู ตัววี 15. กระปอ๋ งทราย 8. สายยาง 16. ผ้าหรือกระดาษเย่ือ 17. แวน่ ตานิรภยั สอ่ื และแหลง่ การเรียนรู้ 1. ใบความรู้ที่ 1 เรื่องการแยกสารดว้ ยวธิ ีการต่างๆ 2. ส่อื Power point เร่ือง การแยกสารดว้ ยวิธีการกลั่นอย่างง่าย 3. ห้องสมดุ โรงเรยี นและหอ้ งสมุดหมวดวชิ า 4. เว็บไซตต์ า่ งๆ ไดแ้ ก่ https://www.myfirstbrain.com/student_view.aspx?ID=73760 https://www.myfirstbrain.com/student_view.aspx?ID=73760 http://edltv.thai.net/index.php?mod=Courses&file=showcontent&cid=17& sid=104&lid=210802&lid_parent=210827
บันทึกหลังการจัดการเรยี นรู้ 1. ด้านความรู้ นักเรียนสามารถอธิบายการแยกสารผสมโดยการกลั่นอย่างงา่ ยจากกจิ กรรมท่ีไดล้ งมือทำ สามารถ เข้าใจสมบัติสารผสมที่มคี วามแตกต่างกันและเลือกใชว้ ธิ กี ารแยกสารได้ถกู ต้อง และนำวิธกี ารแยกสารนี้ไป ใช้ในชวี ติ ประจำวันได้ จากการตอบคำถามตรวจสอบความเข้าใจของนกั เรยี น 2. ด้านทักษะกระบวนการ นักเรียนส่วนใหญ่มคี วามสามารถในการสังเกตสารผสมและอภิปรายผลการแยกสารแต่ละวิธีได้ ศึกษาและวเิ คราะห์ปญั หาได้ดี จากกิจกรรมนี้ฝกึ ให้นักเรียนมีทักษะการคิดวิเคราะห์ รวบรวมขอ้ มูลและลง ขอ้ สรุปได้ 3. ดา้ นคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ นักเรียนมวี นิ ัย ใฝเ่ รยี นรู้ มงุ่ ม่ันในการทำงาน ต้งั ใจทำกจิ กรรมทีไ่ ดร้ ับมอบหมายเพื่อให้ได้ขอ้ สรปุ และมีการทำงานกลุ่มอย่างเป็นระบบ 4. ปญั หาอปุ สรรค นกั เรยี นบางคนยังขาดทกั ษะการคิดวเิ คราะห์ ไม่สามารถเข้าใจปัญหาจากกจิ กรรม จงึ ทำใหใ้ ชเ้ วลา ในการทำกจิ กรรมคอ่ นข้างนาน 5. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข ครแู ละนกั เรยี นชว่ ยกันวิเคราะหป์ ัญหาจากกิจกรรม เพ่ือเสริมแรงใหน้ กั เรยี นมคี วามสนใจและ วเิ คราะห์ปัญหาไดอ้ ย่างครบถ้วน นักเรยี นจะมคี วามสนใจในกิจกรรมเม่ือได้ลงมือทดลองและเลอื กใช้ อปุ กรณ์ทางวิทยาศาสตร์ ลงชื่อ……………………………………………….. ( นางซูไบดะ๊ แซะเด็ง ) ครูผูส้ อน วนั ท่ี 15 เดอื น มกราคม พ.ศ. 2565 ความเหน็ ของผู้บริหารสถานศึกษาหรือผู้ท่ีได้รับมอบหมาย ข้อเสนอแนะ………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ.……………………………………………….. (………………………………………………..) ตำแหนง่ .................................................. ................../............................./...................
1 ใบงานที่ 3 เร่ือง การแยกสารดว้ ยวิธีการกลนั่ อยา่ งง่าย ชอ่ื ...................................................นามสกุล...........................................เลขท.ี่ ...........ช้ัน............ จดุ ประสงค์การทดลอง สังเกตและอธบิ ายการแยกสารโดยการกลน่ั อย่างงา่ ยของสารละลายจนุ สี วัสดุและอุปกรณ์ 1. สารละลายจุนสหี รือสารละลายคอปเปอร(์ II)ซลั เฟต 9. ขาต้งั พร้อมท่ีจับ 2. หลอดทดลองขนาดใหญ่ 10. ตะเกียงแอลกอฮอลพ์ ร้อมทกี่ ัน้ ลม 3. หลอดทดลองขนาดเล็ก 11. ไมข้ ดี ไฟ 4. กระบอกตวงขนาด 10 cm3 12. เทอร์มอมเิ ตอร์ 5. บกี เกอรข์ นาด 100 cm3 13. ท่ีจับหลอดทดลอง 6. จกุ ยาง 2 รู 14. เศษกระเบ้ือง 7. หลอดแกว้ นำแก๊สรูปตัววี 15. กระปอ๋ งทราย 8. สายยาง 16. ผ้าหรอื กระดาษเย่ือ 17. แว่นตานิรภยั วธิ ีการทดลอง ตารางบันทกึ ผลการทดลอง สารทส่ี ังเกต ลักษณะของสารหลงั ให้ความรอ้ น หลอดทดลองขนาดใหญ่ หลอดทดลองขนาดเล็ก สารละลายจนุ สี ............................................................................... ................................................................................. ............................................................................... .................................................................................
2 สรปุ ผลการทดลอง ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 4 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชา วทิ ยาศาสตร์พ้นื ฐาน 4 รหัสวิชา ว22102 เร่ือง โครมาโทกราฟีแบบกระดาษ ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 2 เวลาเรยี น 1 คาบ ครูผสู้ อน นางซูไบดะ๊ แซะเดง็ โรงเรยี นคณะราษฎรบำรงุ จงั หวดั ยะลา สพม.ยะลา มาตรฐานการเรยี นรู้ ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของสสารกับ โครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย และการเกิดปฏกิ ริ ยิ าเคมี ตวั ช้วี ัด ม.2/1 อธิบายการแยกสารผสมโดยการระเหยแห้ง การตกผลึก การกลั่นอย่างง่าย โครมาโทกราฟี แบบกระดาษ การสกัดด้วยตัวทำละลาย โดยใช้หลกั ฐานเชิงประจกั ษ์ ม.2/2 แยกสารโดยการระเหยแห้ง การตกผลึก การกลั่นอย่างง่าย โครมาโทกราฟีแบบกระดาษ การสกดั ด้วยตัวทำละลาย สาระสำคัญ โครมาโทกราฟี (Chromatography) เป็นวิธีแยกองค์ประกอบของสารเนื้อเดียวที่มี องค์ประกอบของสารตั้งแต่ 2 ชนิดข้ึนไปละลายในของเหลวเดยี วกัน โดยอาศยั หลกั การวา่ “สารแตล่ ะชนิด มีความสามารถในการละลายในตัวทำละลายได้ต่างกัน และมีความสามารถในการถูกดูดซับโดยตัวดูดซับ ตา่ งกัน” จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ดา้ นความรคู้ วามสามารถ K 2 ความเขา้ ใจ : อธบิ ายหลกั การของการแยกสารผสมเนอ้ื เดยี วโดยวธิ ีโครมาโทกราฟแี บบ กระดาษได้ K 3 การนำไปใช้ : นำหลกั การแยกสารผสมเน้อื เดยี วโดยวิธโี ครมาโทกราฟีแบบกระดาษไป ประยกุ ตก์ บั การแยกสารต่างๆในชีวิตประจำวันได้ ดา้ นทกั ษะกระบวนการ P 1 การรับรู้ : สังเกตการแยกสารโดยวธิ โี ครมาโทกราฟแี บบกระดาษได้
P 2 การปฏิบัติงาน : ปฏิบัติกิจกรรม การแยกสารผสมเนื้อเดียวโดยวิธีโครมาโทกราฟี แบบกระดาษอย่างรวมพลงั ด้วยความมุง่ มัน่ และตั้งใจได้ ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ มีวนิ ัย ใฝเ่ รียนรู้ มุง่ มัน่ ในการทำงาน กระบวนการจัดการเรียนรู้ 1. ขัน้ สร้างความสนใจ (Engagement) เวลา 5 นาที (การจำแนกประเภท) 1.1 ครูทบทวนความรเู้ ดิมของนกั เรยี นเร่ืองการแยกสารด้วยวธิ กี ารกลั่นอย่างง่าย โดยสรุปไดด้ งั นี้ - การกล่นั เป็นการแยกของเหลวออกจากสารละลายที่มสี ถานะเปน็ ของเหลว - ใชห้ ลกั ความแตกต่างระหวา่ งจุดเดอื ดของสารเป็นเกณฑ์ - สารทมี่ ีจุดเดอื ดต่ำกว่าจะแยกออกมาก่อน - ในการกลั่นมีการเปลี่ยนสถานะจากของเหลวไม่บริสุทธิ์เป็นไอ และไอควบแน่น กลับเปน็ ของเหลวที่บริสุทธข์ิ ึ้นกวา่ เดิม - ของแข็งที่มจี ุดเดอื ดสงู ไมส่ ามารถแยกออกมาได้ 2. ขน้ั สำรวจและคน้ หา (Exploration) เวลา 25 นาที (การสำรวจค้นหา) 2.1 นกั เรียนช่วยกนั วิเคราะห์กจิ กรรมการทดลอง พร้อมทัง้ ให้นักเรยี นศึกษาขั้นตอนการ ทำในหนังสือเรียน กิจกรรมที่ 6.3 การแยกสารทีม่ ีสีโดยวิธีโครมาโทกราฟีแบบกระดาษได้อย่างไร และครู ให้คำแนะนำในการกิจกรรมให้นักเรียนเข้าใจอีกครั้ง พร้อมเน้นวิธีการทำกิจกรรมให้เกิดผล และข้อควร ระวังในการทำกิจกรรม ตลอดจนแนะนำนักเรียนในเรื่องของความรับผิดชอบและความมีระเบียบวินัยใน การทำงาน 2.2 ให้สมาชิกภายในกลุ่มร่วมกันวางแผนการทำกิจกรรม โดยออกแบบวิธีการทำ กิจกรรม ลงมือปฏิบัติ บันทึกผล และสรุปผลการทำกิจกรรมลงในใบงานที่ 4 เรื่องการแยกสารด้วยวิธี โครมาโทกราฟีแบบกระดาษ พรอ้ มตอบคำถามหลงั การทำกิจกรรม 3. ขนั้ อธบิ ายและลงขอ้ สรุป (Explanation) เวลา 10 นาที (การสรุปลงความเห็น) 3.1 ครแู ละนกั เรยี นนำผลการศกึ ษาและการสบื ค้นมาอภปิ รายร่วมกนั โดยสรุปได้วา่ - วิธโี ครมาโทกราฟใี ชแ้ ยกองค์ประกอบของสารเนอื้ เดยี วออกจากกัน - เปน็ วธิ ีทน่ี ิยมใช้แยกสารทม่ี ีสี สังเกตการแยกได้ง่าย - หลักการโครมาโทกราฟีใช้หลักของความแตกต่างของความสามารถในการละลาย ของตัวละลายในตัวทำละลายชนิดเดียวกนั ต่างกันและความสามารถในการดดู ซับโดยตัวดดู ซับต่างกนั - การที่ละลายในตัวทำละลายได้ดีส่วนใหญ่จะถูกดูดซับโดยตัวดูดซับได้ไม่ดี จึง เคลือ่ นทไี่ ปได้ไกล 4. ขน้ั ขยายความรู้ (Elaboration) เวลา 10 นาที (การนำไปใช้)
4.1 ครูอธิบายเพ่ิมเติมเกี่ยวกับการแยกสารด้วยวิธีการโครมาโทกราฟีแบบกระดาษ โดยใช้ส่ือ Power point เรือ่ งการแยกสารด้วยวธิ ีโครมาโทกราฟีแบบกระดาษ 4.2 ครูยกตัวอย่างสารในชีวิตประจำวันที่แยกด้วยวิธีการโครมาโทกราฟี และการใช้ประโยชน์ เชน่ การแยกสารท่ีเป็นสี 5. ข้นั ประเมิน(Evaluation) เวลา 10 นาที 5.1 ประเมนิ จากการทำใบงานที่ 4 เรื่องการแยกสารดว้ ยวิธโี ครมาโทกราฟีแบบกระดาษ การวดั และประเมนิ ผล 1) วิธกี ารวัดและประเมินผล 1. ประเมินจากการทำใบงานที่ 4 เรื่องการแยกสารดว้ ยวธิ โี ครมาโทกราฟีแบบกระดาษ 2. สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม 3. สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานของนกั เรยี นรายบุคคล 2) เครื่องมือวัดและประเมนิ 1. ใบงานที่ 4 เรือ่ งการแยกสารด้วยวธิ โี ครมาโทกราฟีแบบกระดาษ 2. แบบประเมินกระบวนการกลุ่ม 3. แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานของนักเรยี นรายบคุ คล 3) เกณฑ์การวดั และประเมิน 1. ใบงานที่ 4 เรอื่ งการแยกสารดว้ ยวธิ โี ครมาโทกราฟีแบบกระดาษ ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 50 2. แบบประเมินการทำงานกลุ่ม พฤติกรรมที่ปฏิบตั ิชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัตชิ ดั เจนและบ่อยครงั้ ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมทป่ี ฏิบัตบิ างครัง้ ให้ 1 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 24-30 3 = ดี 17-23 2 = พอใช้ 10-16 1 = ปรับปรงุ 3. แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานของนักเรียนรายบคุ คล พฤติกรรมทป่ี ฏิบตั ิสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมทีป่ ฏิบัติบ่อยครง้ั ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ตั บิ างคร้งั ให้ 1 คะแนน พฤติกรรมท่ีไม่ปฏิบตั ิ ให้ 0 คะแนน
ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 15-20 3 = ดี 10-14 2 = พอใช้ 5-9 1 = ปรับปรุง วสั ดุ อุปกรณ์ และสารเคมี 7. ไมบ้ รรทัด 1. ปากกาเมจกิ สีตา่ งๆ 8. ดนิ สอ 2. นำ้ 9. ฝากล่องพลาสติกหรือกระดาษแขง็ 3. สารละลายเอทานอล 10. เทปใส 4. บีกเกอรข์ นาด 250 cm3 11. จานกระดาษหรือภาชนะอื่นๆ 5. กระดาษกรองหรอื กระดาษโครมาโทกราฟี ส่อื และแหลง่ การเรียนรู้ 1. ใบความร้ทู ่ี 1 เร่ืองการแยกสารดว้ ยวธิ ีการตา่ งๆ 2. ส่ือ Power point เรื่องการแยกสารด้วยวิธีโครมาโทกราฟีแบบกระดาษ 3. หอ้ งสมดุ โรงเรยี นและห้องสมดุ หมวดวิชา 4. เว็บไซต์ต่างๆ ได้แก่ https://www.myfirstbrain.com/student_view.aspx?ID=73760 https://www.myfirstbrain.com/student_view.aspx?ID=73760 http://edltv.thai.net/index.php?mod=Courses&file=showcontent&cid=17& sid=104&lid=210802&lid_parent=210827
บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ 1. ด้านความรู้ นกั เรยี นสามารถอธบิ ายการแยกสารผสมโดยการทำโครมาโทกราฟีแบบกระดาษจากกิจกรรมทไ่ี ด้ ลงมอื ทำ สามารถเข้าใจสมบัติสารผสมที่มีความแตกต่างกันและเลือกใช้วธิ ีการแยกสารได้ถูกต้อง และนำ วธิ กี ารแยกสารนี้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ จากการตอบคำถามตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรียน 2. ดา้ นทกั ษะกระบวนการ นกั เรยี นสว่ นใหญม่ คี วามสามารถในการสงั เกตสารผสมและอภิปรายผลการแยกสารแต่ละวธิ ไี ด้ ศึกษาและวเิ คราะห์ปญั หาได้ดี จากกจิ กรรมนี้ฝกึ ใหน้ ักเรียนมที ักษะการคดิ วเิ คราะห์ รวบรวมข้อมูลและลง ขอ้ สรุปได้ 3. ด้านคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ นกั เรียนมวี ินยั ใฝเ่ รยี นรู้ ม่งุ มั่นในการทำงาน ตงั้ ใจทำกจิ กรรมท่ีไดร้ ับมอบหมายเพ่ือให้ได้ข้อสรุป และมกี ารทำงานกลมุ่ อย่างเป็นระบบ 4. ปัญหาอุปสรรค นักเรียนบางคนยังขาดทักษะการคดิ วิเคราะห์ ไมส่ ามารถเขา้ ใจปัญหาจากกจิ กรรม จงึ ทำให้ใช้เวลา ในการทำกิจกรรมคอ่ นขา้ งนาน 5. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข ครูและนักเรยี นชว่ ยกนั วเิ คราะหป์ ญั หาจากกิจกรรม เพื่อเสริมแรงให้นักเรียนมีความสนใจและ วเิ คราะหป์ ญั หาไดอ้ ย่างครบถ้วน นกั เรียนจะมคี วามสนใจในกิจกรรมเมื่อไดล้ งมือทดลองและเลอื กใช้ อุปกรณ์ทางวทิ ยาศาสตร์ ลงชื่อ……………………………………………….. ( นางซูไบดะ๊ แซะเด็ง ) ครผู สู้ อน วันที่ 18 เดอื น มกราคม พ.ศ. 2565 ความเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาหรือผู้ทไ่ี ด้รับมอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื .……………………………………………….. (………………………………………………..) ตำแหนง่ .................................................. ................../............................./...................
แบบประเมินการทำงานกลุ่ม กลุ่มที่ .................................... ชัน้ ....................... สมาชกิ ภายในกล่มุ 1. ...........................................................2............................................................ 3..............................................................4............................................................ 5..............................................................6............................................................ คำชี้แจง ให้ทำเคร่อื งหมาย ✓ ในชอ่ งทต่ี รงกับความเป็นจรงิ ลำดับท่ี รายการพฤติกรรม คุณภาพการปฏิบัติ 321 1 มกี ารปรกึ ษาและวางแผนร่วมกนั ก่อนทำงาน 2 มีการแบ่งหนา้ ท่อี ย่างเหมาะสมและทำตามหนา้ ที่ทุกคน 3 มกี ารปฏิบตั งิ านตามขั้นตอน 4 มีการใหค้ วามช่วยเหลอื กนั 5 สามารถทำงานได้สำเร็จตามวตั ถปุ ระสงค์ที่กำหนด 6 ทำงานเสร็จทันตามกำหนดเวลา 7 มคี วามคิดรเิ รม่ิ สรา้ งสรรค์ 8 สามารถนำความรูท้ ไี่ ดม้ าประยกุ ต์ใช้ 9 สามารถใหค้ ำแนะนำกลมุ่ อนื่ ได้ 10 เก็บวสั ดุ อุปกรณเ์ รยี บร้อย หลงั เลกิ ปฏบิ ัติงาน ลงชอ่ื ............................................ ผ้ปู ระเมิน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ............/................/.............. พฤติกรรมท่ปี ฏิบัตชิ ดั เจนและสม่ำเสมอ พฤติกรรมทปี่ ฏบิ ตั ชิ ัดเจนและบอ่ ยครั้ง ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมทปี่ ฏิบตั บิ างครัง้ ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ ระดับคุณภาพ ชว่ งคะแนน 3 = ดี 24-30 2 = พอใช้ 17-23 1 = ปรับปรุง 10-16
แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานของนกั เรียน (รายบุคคล) ชอ่ื .......................................................................................... เลขที่ ....................... ชั้น....................... คำชี้แจง ให้ทำเคร่ืองหมาย ✓ ในช่องท่ตี รงกบั ความเป็นจริง ลำดบั ท่ี รายการพฤตกิ รรม ระดับพฤติกรรม สมำ่ เสมอ บ่อยครง้ั บางครง้ั ไม่ปฏบิ ตั ิ 3 21 0 1 มสี ว่ นร่วมในการแสดงความคดิ เห็น 2 รับฟงั ความคดิ เหน็ ของเพื่อนในกลุ่ม 3 ให้ความร่วมมือและช่วยเหลอื ซึ่งกนั และกัน กับเพ่อื นในกลมุ่ 4 ตัง้ ใจทำงาน/กระตอื รือร้นในการทำงาน 5 มคี วามรับผิดชอบในงานทไี่ ด้รับมอบหมาย เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ ลงช่ือ ............................................ ผูป้ ระเมิน ชว่ งคะแนน ............/................/.............. 15-20 10-14 ระดบั คุณภาพ 5-9 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ปรับปรงุ
1 ใบงานที่ 4 เรือ่ ง การแยกสารดว้ ยวธิ ีโครมาโทกราฟีแบบกระดาษ ช่ือ...................................................นามสกลุ ...........................................เลขที.่ ...........ชน้ั ............ จุดประสงค์การทดลอง สงั เกตและอธบิ ายการแยกสารทมี่ สี โี ดยวิธีโครมาโทกราฟแี บบกระดาษ วสั ดุและอุปกรณ์ 1. ปากกาเมจกิ สตี ่างๆ 7. ไม้บรรทัด 2. นำ้ 8. ดนิ สอ 3. สารละลายเอทานอล 9. ฝากลอ่ งพลาสตกิ หรอื กระดาษแข็ง 4. บกี เกอร์ขนาด 250 cm3 10. เทปใส 5. กระดาษกรองหรอื กระดาษโครมาโทกราฟี 11. จานกระดาษหรือภาชนะอ่ืนๆ 6. กรรไกร วธิ ีการทดลอง ตารางบันทกึ ผลการทดลอง ส่งิ ทส่ี ังเกต ลกั ษณะการเปล่ียนแปลงบนกระดาษกรอง กระดาษกรองที่จุ่มในน้ำ ...............................................................................………………………………………. ............................................................................................................................ กระดาษกรองท่จี ุ่มใน ...............................................................................………………………………………. สารละลายเอทานอล ............................................................................................................................ สรุปผลการทดลอง ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 5 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชา วทิ ยาศาสตร์พื้นฐาน 4 รหสั วิชา ว22102 เร่อื ง การสกดั ด้วยตวั ทำละลาย ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 2 เวลาเรยี น 1 คาบ ครผู ู้สอน นางซูไบดะ๊ แซะเดง็ โรงเรยี นคณะราษฎรบำรงุ จงั หวดั ยะลา สพม.ยะลา มาตรฐานการเรียนรู้ ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของสสารกับ โครงสร้างและแรงยึดเหน่ียวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย และการเกิดปฏกิ ริ ิยาเคมี ตัวชวี้ ัด ม.2/1 อธิบายการแยกสารผสมโดยการระเหยแห้ง การตกผลึก การกลั่นอย่างง่าย โครมาโทกราฟี แบบกระดาษ การสกัดดว้ ยตวั ทำละลาย โดยใชห้ ลักฐานเชิงประจักษ์ ม.2/2 แยกสารโดยการระเหยแห้ง การตกผลึก การกล่ันอย่างง่าย โครมาโทกราฟีแบบกระดาษ การสกดั ด้วยตัวทำละลาย สาระสำคญั การสกัดด้วยตัวทำละลาย (Solvent extraction) เป็นวิธีแยกสารที่เป็นของเหลวปนกับ ของเหลว หรือของแข็งปนของแข็ง โดยอาศัยสมบัติการละลายของสาร และเป็นการแยกสารที่ต้องการออก จากสว่ นต่างๆของพืชหรือของผสม หลักการสำคัญของการสกัดด้วยตวั ทำละลาย คอื การเลอื กตวั ทำละลาย ท่ีเหมาะสมในการสกัดสารท่ีต้องการออกมาให้มากท่ีสุด เพราะสารแต่ละชนิดจะละลายในตัวทำละลาย ต่างกัน จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ดา้ นความรคู้ วามสามารถ K 2 ความเขา้ ใจ : อธบิ ายหลกั การของการแยกสารโดยวิธีการสกดั ดว้ ยตัวทำละลายได้ K 3 การนำไปใช้ : นำหลักการแยกสารโดยวิธกี ารสกัดด้วยตัวทำละลายไปประยุกตก์ ับการ แยกสารตา่ งๆในชวี ติ ประจำวนั ได้ ดา้ นทักษะกระบวนการ P 1 การรบั รู้ : สังเกตการแยกสารโดยวธิ ีการสกดั ด้วยตัวทำละลายได้
P 2 การปฏิบัติงาน : ปฏิบัติกิจกรรม การแยกสารโดยวิธีการสกัดด้วยตัวทำละลายอย่าง รวมพลัง ด้วยความม่งุ มน่ั และต้งั ใจได้ ดา้ นคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ มวี นิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ มุ่งมัน่ ในการทำงาน กระบวนการจัดการเรียนรู้ 1. ข้นั สรา้ งความสนใจ (Engagement) เวลา 5 นาที (การจำแนกประเภท) 1.1 ครูทบทวนความรู้เดิมของนักเรียนเรื่องการแยกสารด้วยวิธีโครมาโทกราฟีแบบกระดาษโดย สรุปได้ดังนี้ - วธิ โี ครมาโทกราฟใี ชแ้ ยกองค์ประกอบของสารเน้อื เดียวออกจากกนั - เป็นวิธที น่ี ิยมใช้แยกสารทมี่ ีสี สงั เกตการแยกได้ง่าย - หลักการโครมาโทกราฟีใช้หลักของความแตกต่างของความสามารถในการละลาย ของตัวละลายในตัวทำละลายชนิดเดียวกันต่างกนั และความสามารถในการดดู ซับโดยตวั ดูดซับตา่ งกนั - การท่ีละลายในตัวทำละลายได้ดีส่วนใหญ่จะถูกดูดซับโดยตัวดูดซับได้ไม่ดี จึง เคล่อื นทีไ่ ปได้ไกล 2. ขั้นสำรวจและคน้ หา (Exploration) เวลา 25 นาที (การสำรวจค้นหา) 2.1 นักเรียนช่วยกันวิเคราะห์กิจกรรมการทดลอง พร้อมท้ังให้นักเรียนศึกษาข้นั ตอนการ ทำในหนังสือเรียน กิจกรรมที่ 6.4 การแยกสารโดยวิธีการสกัดด้วยตัวทำละลายได้อย่างไร และครูให้ คำแนะนำในการทำกิจกรรมให้นักเรียนเข้าใจอีกคร้ัง พร้อมเน้นวิธีการทำกิจกรรมให้เกิดผล และข้อควร ระวังในการทำกิจกรรม ตลอดจนแนะนำนักเรียนในเรื่องของความรับผิดชอบและความมีระเบียบวินัยใน การทำงาน 2.2 ให้สมาชิกภายในกลุ่มร่วมกันวางแผนการทำกิจกรรม โดยออกแบบวิธีการทำ กิจกรรม ลงมือปฏิบัติ บันทึกผล และสรุปผลการทำกิจกรรมลงในใบงานท่ี 5 เรื่องการแยกสารด้วยวิธีการ สกัดด้วยตวั ทำละลาย พรอ้ มตอบคำถามหลังการทำกจิ กรรม 3. ขน้ั อธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) เวลา 10 นาที (การสรปุ ลงความเห็น) 3.1 ครแู ละนักเรยี นนำผลการศกึ ษาและการสืบคน้ มาอภปิ รายร่วมกนั โดยสรุปได้ว่า - เปน็ วิธแี ยกสารท่เี ป็นของเหลวปนกับของเหลว หรอื ของแขง็ ปนของแขง็ - โดยอาศยั สมบตั กิ ารละลายของสาร - เปน็ การแยกสารทตี่ ้องการออกจากสว่ นต่างๆของพืชหรือของผสม - หลักการสำคัญของการสกัดด้วยตัวทำละลาย คือ การเลือกตัวทำละลายที่ เหมาะสมในการสกัดสารท่ีต้องการออกมาให้มากที่สุด เพราะสารแต่ละชนิดจะละลายในตัวทำละลาย ตา่ งกัน 4. ข้นั ขยายความรู้ (Elaboration) เวลา 10 นาที (การนำไปใช้)
4.1 ครูอธิบายเพ่ิมเติมเกี่ยวกับการแยกสารด้วยวิธีการสกัดด้วยตัวทำละลาย โดยใช้ส่ือ Power point เร่ืองการแยกสารด้วยวิธกี ารสกัดด้วยตวั ทำละลาย 4.2 ครูยกตัวอย่างสารในชีวิตประจำวันท่ีแยกด้วยวิธีการสกัดด้วยตัวทำละลาย และการใช้ ประโยชน์ เชน่ การสกดั สจี ากดอกอัญชัน การสกัดกล่ินจากขงิ เป็นต้น 5. ข้นั ประเมิน(Evaluation) เวลา 10 นาที 5.1 ประเมนิ จากการทำใบงานท่ี 5 เรอ่ื งการแยกสารดว้ ยวิธกี ารสกดั ดว้ ยตัวทำละลาย การวดั และประเมนิ ผล 1) วิธกี ารวัดและประเมนิ ผล 1. ประเมินจากการทำใบงานท่ี 5 เรอ่ื งการแยกสารดว้ ยวิธกี ารสกัดด้วยตัวทำละลาย 2. สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ 3. สงั เกตพฤติกรรมการทำงานของนักเรียนรายบุคคล 2) เครือ่ งมอื วัดและประเมิน 1. ใบงานที่ 5 เร่อื งการแยกสารดว้ ยวธิ ีการสกดั ดว้ ยตวั ทำละลาย 2. แบบประเมินกระบวนการกลุ่ม 3. แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานของนักเรยี นรายบคุ คล 3) เกณฑก์ ารวัดและประเมนิ 1. ใบงานท่ี 5 เร่อื งการแยกสารดว้ ยวิธีการสกัดด้วยตวั ทำละลาย ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 50 2. แบบประเมินการทำงานกลุ่ม พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ัติชดั เจนและสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ตั ชิ ัดเจนและบอ่ ยคร้ัง ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมทป่ี ฏิบตั บิ างคร้ัง ให้ 1 คะแนน ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ 24-30 3 = ดี 17-23 2 = พอใช้ 10-16 1 = ปรับปรุง 3. แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานของนักเรยี นรายบคุ คล พฤติกรรมที่ปฏบิ ัติสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ัตบิ ่อยครง้ั ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติบางคร้ัง ให้ 1 คะแนน พฤติกรรมท่ีไม่ปฏิบัติ ให้ 0 คะแนน
ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 15-20 3 = ดี 10-14 2 = พอใช้ 5-9 1 = ปรับปรงุ วัสดุ อุปกรณ์ และสารเคมี 1. ใบไม้จากพืช 7. บกี เกอรข์ นาด 100 cm3 2. สารละลายเอทานอล 8. กระบอกตวงขนาด 10 cm3 3. นำ้ 9. หลอดหยด 4. หลอดทดลองขนาดใหญ่ 10. กรรไกร 5. หลอดทดลองขนาดเล็ก 11. โกร่งบด 6. จุกยางเบอร์ 10 12. ทวี่ างหลอดทดลอง 13. แว่นตานิรภยั สอ่ื และแหลง่ การเรยี นรู้ 1. ใบความรทู้ ่ี 1 เร่อื งการแยกสารดว้ ยวธิ กี ารต่างๆ 2. สื่อ Power point เรอ่ื งการแยกสารดว้ ยวธิ กี ารสกัดด้วยตวั ทำละลาย 3. หอ้ งสมุดโรงเรียนและห้องสมุดหมวดวชิ า 4. เว็บไซตต์ า่ งๆ ได้แก่ https://www.myfirstbrain.com/student_view.aspx?ID=73760 https://www.myfirstbrain.com/student_view.aspx?ID=73760 http://edltv.thai.net/index.php?mod=Courses&file=showcontent&cid=17& sid=104&lid=210802&lid_parent=210827
บนั ทึกหลังการจดั การเรียนรู้ 1. ด้านความรู้ นักเรียนสามารถอธิบายการแยกสารผสมโดยการสกดั ด้วยตัวทำละลายจากกจิ กรรมที่ไดล้ งมอื ทำ สามารถเข้าใจสมบตั ิสารผสมท่ีมคี วามแตกต่างกนั และเลอื กใช้วิธกี ารแยกสารได้ถูกต้อง และนำวธิ กี ารแยก สารนไ้ี ปใชใ้ นชีวิตประจำวันได้ จากการตอบคำถามตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรียน 2. ดา้ นทักษะกระบวนการ นักเรยี นสว่ นใหญม่ คี วามสามารถในการสงั เกตสารผสมและอภปิ รายผลการแยกสารแต่ละวธิ ีได้ ศกึ ษาและวเิ คราะห์ปัญหาได้ดี จากกจิ กรรมนี้ฝึกให้นักเรียนมีทกั ษะการคิดวเิ คราะห์ รวบรวมข้อมูลและลง ข้อสรุปได้ 3. ด้านคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ นกั เรียนมวี นิ ัย ใฝเ่ รยี นรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน ตง้ั ใจทำกจิ กรรมทไ่ี ด้รับมอบหมายเพ่ือให้ได้ขอ้ สรุป และมกี ารทำงานกลมุ่ อย่างเป็นระบบ 4. ปญั หาอปุ สรรค นกั เรยี นบางคนยังขาดทักษะการคดิ วเิ คราะห์ ไมส่ ามารถเข้าใจปัญหาจากกิจกรรม จงึ ทำใหใ้ ชเ้ วลา ในการทำกจิ กรรมคอ่ นขา้ งนาน 5. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข ครแู ละนกั เรียนชว่ ยกนั วิเคราะหป์ ญั หาจากกิจกรรม เพื่อเสริมแรงให้นักเรียนมคี วามสนใจและ วเิ คราะหป์ ัญหาได้อย่างครบถ้วน นกั เรียนจะมคี วามสนใจในกจิ กรรมเม่ือได้ลงมือทดลองและเลือกใช้ อปุ กรณ์ทางวทิ ยาศาสตร์ ลงชอ่ื ……………………………………………….. ( นางซไู บด๊ะ แซะเดง็ ) ครผู ้สู อน วนั ที่ 22 เดือน มกราคม พ.ศ. 2565 ความเห็นของผูบ้ ริหารสถานศึกษาหรอื ผู้ท่ไี ดร้ บั มอบหมาย ข้อเสนอแนะ………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ.……………………………………………….. (………………………………………………..) ตำแหนง่ .................................................. ................../............................./....................
แบบประเมนิ การทางานกล่มุ กลุม่ ที่ .................................... ช้ัน ....................... สมาชกิ ภายในกลุม่ 1. ...........................................................2............................................................ 3..............................................................4............................................................ 5..............................................................6............................................................ คำชี้แจง ให้ทำเครื่องหมาย ✓ ในช่องที่ตรงกับความเปน็ จรงิ ลำดับท่ี รายการพฤติกรรม คุณภาพการปฏิบัติ 321 1 มกี ารปรึกษาและวางแผนรว่ มกันก่อนทำงาน 2 มีการแบง่ หนา้ ที่อย่างเหมาะสมและทำตามหน้าทีท่ ุกคน 3 มกี ารปฏิบตั งิ านตามขั้นตอน 4 มีการใหค้ วามชว่ ยเหลือกนั 5 สามารถทำงานได้สำเร็จตามวตั ถปุ ระสงค์ท่กี ำหนด 6 ทำงานเสร็จทนั ตามกำหนดเวลา 7 มีความคดิ รเิ รม่ิ สร้างสรรค์ 8 สามารถนำความร้ทู ไ่ี ดม้ าประยุกตใ์ ช้ 9 สามารถให้คำแนะนำกลุ่มอ่ืนได้ 10 เก็บวสั ดุ อปุ กรณเ์ รยี บรอ้ ย หลงั เลกิ ปฏบิ ัติงาน ลงชอ่ื ............................................ ผู้ประเมนิ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ............/................/.............. พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ัตชิ ดั เจนและสมำ่ เสมอ พฤติกรรมท่ีปฏบิ ัติชัดเจนและบอ่ ยคร้ัง ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมทป่ี ฏิบตั ิบางครัง้ ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ ระดบั คุณภาพ ชว่ งคะแนน 3 = ดี 24-30 2 = พอใช้ 17-23 1 = ปรับปรงุ 10-16
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานของนกั เรียน (รายบุคคล) ชื่อ .......................................................................................... เลขที่ ....................... ชั้น....................... คำช้ีแจง ใหท้ ำเครื่องหมาย ✓ ในช่องท่ีตรงกบั ความเปน็ จรงิ ลำดบั ท่ี รายการพฤติกรรม ระดบั พฤติกรรม สม่ำเสมอ บอ่ ยครงั้ บางคร้งั ไมป่ ฏบิ ัติ 3 21 0 1 มีสว่ นร่วมในการแสดงความคิดเห็น 2 รบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของเพื่อนในกล่มุ 3 ให้ความร่วมมือและชว่ ยเหลอื ซ่ึงกนั และกัน กับเพ่อื นในกลมุ่ 4 ตั้งใจทำงาน/กระตอื รอื รน้ ในการทำงาน 5 มคี วามรับผิดชอบในงานท่ไี ด้รบั มอบหมาย เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ลงช่ือ ............................................ ผู้ประเมนิ ช่วงคะแนน ............/................/.............. 15-20 10-14 ระดบั คุณภาพ 5-9 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ปรบั ปรุง
1 ใบงานที่ 5 เร่ือง การแยกสารดว้ ยวิธีการสกดั ดว้ ยตัวทำละลาย ชื่อ...................................................นามสกลุ ...........................................เลขที่............ช้ัน............ จุดประสงค์การทดลอง สังเกตและอธบิ ายการแยกสารจากใบไม้ โดยวิธีการสกดั ดว้ ยตวั ทำละลาย วสั ดุและอุปกรณ์ 1. ใบไมจ้ ากพชื 7. บกี เกอร์ขนาด 100 cm3 2. สารละลายเอทานอล 8. กระบอกตวงขนาด 10 cm3 3. นำ้ 9. หลอดหยด 4. หลอดทดลองขนาดใหญ่ 10. กรรไกร 5. หลอดทดลองขนาดเล็ก 11. โกร่งบด 6. จุกยางเบอร์ 10 12. ท่วี างหลอดทดลอง 13. แว่นตานริ ภัย วิธีการทดลอง ( ตั้งใจวาดรปู นะคะ) ตารางบันทึกผลการทดลอง ตวั อยา่ งพชื สีและกลน่ิ ของ....................................ในตัวทำละลาย น้ำ สารละลายเอทานอล .......................... ............................................................................... ................................................................................. .......................... ............................................................................... .................................................................................
2 สรปุ ผลการทดลอง ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………
Search