Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนลิลิตตะเลงพ่าย - ปรียานุช เอียดปราบ

แผนลิลิตตะเลงพ่าย - ปรียานุช เอียดปราบ

Published by ครรชิต แซ่โฮ่, 2021-11-10 09:20:59

Description: แผนลิลิตตะเลงพ่าย - ปรียานุช เอียดปราบ

Search

Read the Text Version

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ลลิ ติ ตะเลงพา่ ย เรอื่ งที่ 4 รสในวรรณคดี และโวหาร (นางสาวปรยี านุช เอยี ดปราบ)

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ลลิ ติ ตะเลงพา่ ย เรอื่ งที่ 4 รสในวรรณคดี และโวหาร (นางสาวปรยี านุช เอยี ดปราบ)

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ลลิ ติ ตะเลงพา่ ย เรอื่ งที่ 4 รสในวรรณคดี และโวหาร (นางสาวปรยี านุช เอยี ดปราบ)

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ลลิ ติ ตะเลงพา่ ย เรอื่ งที่ 4 รสในวรรณคดี และโวหาร (นางสาวปรยี านุช เอยี ดปราบ)

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ลลิ ติ ตะเลงพา่ ย เรอื่ งที่ 4 รสในวรรณคดี และโวหาร (นางสาวปรยี านุช เอยี ดปราบ)

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ลลิ ติ ตะเลงพา่ ย เรอื่ งที่ 4 รสในวรรณคดี และโวหาร (นางสาวปรยี านุช เอยี ดปราบ)

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ลลิ ติ ตะเลงพา่ ย เรอื่ งที่ 4 รสในวรรณคดี และโวหาร (นางสาวปรยี านุช เอยี ดปราบ)

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 ลลิ ติ ตะเลงพา่ ย เรือ่ งที่ 4 รสในวรรณคดี และโวหาร (นางสาวปรยี านชุ เอยี ดปราบ) ใบงาน เรอ่ื ง การใช้ภาพพจน์ คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรียนอ่านเรอ่ื งลิลติ ตะเลงพา่ ย แล้วยกตวั อย่าง บทประพันธ์ทม่ี ีคุณค่าด้านวรรณศิลป์ ตาม ประเดน็ ต่อไปนี้ และบท ร้อยกรอง

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 ลลิ ติ ตะเลงพา่ ย เรอ่ื งท่ี 4 รสในวรรณคดี และโวหาร (นางสาวปรียานชุ เอยี ดปราบ) ใบความรู้เรื่อง การใช้โวหาร และบท ร้อยกรอง

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ลลิ ติ ตะเลงพา่ ย เรอื่ งที่ 4 รสในวรรณคดี และโวหาร (นางสาวปรยี านุช เอยี ดปราบ)

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ลลิ ติ ตะเลงพา่ ย เรอื่ งที่ 4 รสในวรรณคดี และโวหาร (นางสาวปรยี านุช เอยี ดปราบ)

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ลลิ ติ ตะเลงพา่ ย เรอื่ งที่ 4 รสในวรรณคดี และโวหาร (นางสาวปรยี านุช เอยี ดปราบ)

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ลลิ ติ ตะเลงพา่ ย เรอื่ งที่ 4 รสในวรรณคดี และโวหาร (นางสาวปรยี านุช เอยี ดปราบ)

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 ลลิ ติ ตะเลงพา่ ย เรือ่ งที่ 4 รสในวรรณคดี และโวหาร (นางสาวปรียานชุ เอยี ดปราบ) ใบงาน เร่ือง การใช้โวหาร คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรียนอ่านเรอ่ื งลิลิตตะเลงพา่ ย แลว้ ยกตัวอย่าง บทประพนั ธ์ทม่ี ีคุณค่าด้านวรรณศิลป์ ตาม ประเดน็ ต่อไปนี้ และบท ร้อยกรอง

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ลลิ ติ ตะเลงพา่ ย เรือ่ งที่ 4 รสในวรรณคดี และโวหาร (นางสาวปรยี านชุ เอยี ดปราบ) ใบความรู้เรื่อง ลลี าการประพนั ธ์ และบท ร้อยกรอง

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ลลิ ติ ตะเลงพา่ ย เรอื่ งที่ 4 รสในวรรณคดี และโวหาร (นางสาวปรยี านุช เอยี ดปราบ)

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ลลิ ติ ตะเลงพา่ ย เรอื่ งที่ 4 รสในวรรณคดี และโวหาร (นางสาวปรยี านุช เอยี ดปราบ)

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ลลิ ติ ตะเลงพา่ ย เรอื่ งที่ 4 รสในวรรณคดี และโวหาร (นางสาวปรยี านุช เอยี ดปราบ)

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 ลลิ ติ ตะเลงพา่ ย เรือ่ งที่ 4 รสในวรรณคดี และโวหาร (นางสาวปรยี านุช เอยี ดปราบ) ใบงาน เรอ่ื ง ลลี าการประพันธ์ คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรยี นอ่านเรื่องลลิ ิตตะเลงพา่ ย แลว้ ยกตัวอยา่ ง บทประพันธ์ทีม่ ีคุณค่าด้านวรรณศิลป์ ตาม ประเดน็ ต่อไปนี้ และบท ร้อยกรอง

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ลลิ ติ ตะเลงพา่ ย เรอ่ื งที่ 4 รสในวรรณคดี และโวหาร (นางสาวปรียานุช เอยี ดปราบ) แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน คาชี้แจง : ให้ ผู้สอน ประเมินการนาเสนอผลงานของนักเรยี นตามรายการที่กาหนด แล้วขดี ✓ ลงในช่อง ทีต่ รงกบั ระดบั คะแนน ลาดับท่ี รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 1 ความถูกต้องของเนอื้ หา 43 2 1 2 การใช้ภาษา 3 วธิ กี ารนาเสนอ 4 ความคิดสร้างสรรค์ 5 การมสี ่วนรว่ มในการทางาน รวม ลงชอื่ .................................................... ผู้ประเมนิ ................ /................ /................ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 4 คะแนน ผลงานหรือพฤตกิ รรมสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมีขอ้ บกพรอ่ งบางสว่ น ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤตกิ รรมมขี ้อบกพร่องเปน็ ส่วนใหญ่ ให้ 1 คะแนน ผลงานหรอื พฤติกรรมมีข้อบกพร่องมาก เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ ระดบั คุระดบั ณภาพ ช่วงคะแนน ดีมาก 18 - 20 ดี 14 - 17 พอใช้ 10 - 13 ปรับปรุง ตา่ กวา่ 10

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 ลลิ ติ ตะเลงพา่ ย เรื่องท่ี 4 รสในวรรณคดี และโวหาร (นางสาวปรยี านุช เอยี ดปราบ) แบบสังเกตพฤติกรรม การทางานรายบุคคล คาชแี้ จง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง ท่ตี รงกับระดับคะแนน ชือ่ -สกุล ความมีวินยั ความมนี า้ ใจ การรับฟัง การแสดง การตรงต่อเวลา รวม ท่ี ของผ้รู ับการ เอือ้ เฟอ้ื เสียสละ ความคิดเห็น ความคดิ เหน็ 20 คะแนน ประเมนิ 432 1 4 3 2 1 4 3214 321432 1 ลงชอ่ื .................................................... ผ้ปู ระเมนิ ................ /................ /................ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบางคร้งั ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมนอ้ ยครงั้ ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุระดับณภาพ 18 - 20 ดมี าก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ตา่ กว่า 10 ปรับปรุง

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 ลลิ ติ ตะเลงพา่ ย เร่อื งท่ี 4 รสในวรรณคดี และโวหาร (นางสาวปรียานชุ เอยี ดปราบ) แบบสงั เกตพฤตกิ รรม การทางานกลุ่ม คาชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ที่ตรงกบั ระดบั คะแนน ช่อื -สกลุ ความ การแสดงความ การรบั ฟังความ ความตัง้ ใจ การแก้ไข ปญั หา/ รวม 20 ร่วมมือกนั คดิ เห็น คิดเหน็ ทางาน หรือ ปรบั ปรุง คะแนน ท่ี ทากจิ กรรม ผลงานกล่มุ ของผรู้ ับการประเมิน 432 1 4 3 2 1 4 3214 321432 1 ลงช่ือ...................................................ผู้ประเมิน ................ /................ /................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบอ่ ยคร้งั ให้ 3 คะแนน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมนอ้ ยครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุระดบั ณภาพ 18 - 20 ดีมาก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ต่ากว่า 10 ปรับปรงุ

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 ลลิ ติ ตะเลงพา่ ย เร่ืองที่ 4 รสในวรรณคดี และโวหาร (นางสาวปรียานุช เอยี ดปราบ) บันทึกหลงั สอน 1. ผลการเรยี นรู้ คดิ เปน็ ร้อยละ 100 . 1.1 ผเู้ รยี นผา่ นตวั ชีว้ ัด คดิ เปน็ ร้อยละ 92.30 . ช้ัน ม.5/2 มจี านวน 27 คน คิดเปน็ ร้อยละ 94.87 . ชั้น ม.5/4 มีจานวน 36 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 98.36 . ชน้ั ม.5/6 มจี านวน 37 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 88.57 . ชน้ั ม.5/8 มจี านวน 37 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 100 . ชั้น ม.5/10 มีจานวน 31 คน ชน้ั ม.5/12 มีจานวน 21 คน 1.2 ผูเ้ รียนไม่ผา่ นตวั ช้วี ัด คดิ เป็นร้อยละ - . ชั้น ม.5/2 มจี านวน - คน คิดเปน็ ร้อยละ 5.26 . ชั้น ม.5/4 มีจานวน 2 คน คดิ เป็นร้อยละ 7.69 . ชน้ั ม.5/6 มจี านวน 3 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 2.63 . ชน้ั ม.5/8 มีจานวน 1 คน คดิ เป็นร้อยละ 3.12 . ชั้น ม.5/10 มีจานวน 1 คน คิดเป็นรอ้ ยละ . ชั้น ม.5/12 มีจานวน - คน - 1.3 ผเู้ รยี นท่ีมีปัญหา แผนการจัดการเรียนรู้ เร่ือง รสวรรณคดี และโวหารภาพพจน์ พบว่าผู้เรียนร้อย ละ 95.68 ซ่ึงถือว่าบรรลุเป้าหมาย และผู้เรียนผ่านตัวช้ีวัดตามท่ีกาหนด ส่วนนักเรียนที่ไม่ผ่านตัวช้ีวัด ครูผู้สอนนัด สอนเสรมิ นอกเหนอื คาบเรียน 1.4 ผู้เรียนท่ีได้รับความรู้ความสามารถ (K) ผู้เรียนมคี วามรู้ความสามารถ อธิบายคุณค่าด้านวรรณศิลป์ ได้ ตามกระบวนการเรยี นรู้ 1.5 ผู้เรียนท่ีเกิดทักษะกระบวนการ (P) ผู้เรียนเกิดทักษะการวิเคราะห์คุณค่าด้านวรรณศิลป์ตามที่ กาหนดไดอ้ ย่างถูกต้อง 1.6 ผู้เรยี นมีคุณลกั ษณะ (A) ผเู้ รียนตระหนกั ถึงคุณค่าของวรรณคดี

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 ลลิ ติ ตะเลงพา่ ย เรอื่ งท่ี 4 รสในวรรณคดี และโวหาร (นางสาวปรยี านุช เอยี ดปราบ) 2. ปญั หา/อุปสรรค . เน่ืองดว้ ยสถานการณโ์ ควิด - 19 ทาให้นักเรียนบางคนไม่ได้เขา้ เรยี น แล้วไมต่ ดิ ตามช้นิ งาน จงึ เปน็ เหตุ ให้ผู้เรยี นไมผ่ า่ นตวั ช้ีวัดตามที่กาหนด . . 3. แนวทางการแก้ไข . ดาเนนิ การแจง้ ครูทปี่ รึกษาเบ้ืองตน้ และร่วม PLC ครูท่สี อนในระดับช้นั เดยี วกนั . .. ลงช่อื ……………………………………………………. (นางสาวปรียานชุ เอยี ดปราบ) ครูผสู้ อน 4. ความเหน็ ของหัวหนา้ กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาไทย ............................................................................................................................................................................. ............... ............................................................................................................................................................................................ ....................................................................................................................... ..................................................................... ............................................................................................................................. ............................................................... ลงชือ่ .……………………………………………………. (นายไพโรจน์ ขวัญคง) หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 ลลิ ติ ตะเลงพา่ ย เร่อื งท่ี 5 การใช้ภาษาในบทรอ้ ยกรอง (นางสาวปรยี านุช เอียดปราบ) M แผนการจดั การเรียนรู้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย วชิ า ภาษาไทย ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 5 หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 1 เรอ่ื ง ลิลิตตะเลงพ่าย เวลา 18 ชัว่ โมง แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 5 เรอ่ื ง การใชภ้ าษาในบทร้อยกรอง เวลา 2 ช่ัวโมง ใช้สอนวนั ที่ เดือน พ.ศ. โรงเรียนคณะราษฎรบารุง จังหวดั ยะลา สังกัดสานกั งานเขตพ้ืนทีก่ ารศกึ ษามัธยมศึกษายะลา สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การใช้ภาษามีความสาคัญต่องานประพันธ์และงานเขียนหลายประเภท เป็นกลวิธีของการประพันธ์ที่ทาให้เนื้อหา ของงานนัน้ มีความสละลสวย ทรงคุณค่ะและชวนอา่ นมากย่ิงขน้ึ ตัวชวี้ ัด/จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ตัวช้ีวัด ท 5.1 ม.4-6/1 วเิ คราะห์และวจิ ารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมตามหลักการวจิ ารณเ์ บอื้ งตน้ ม.4-6/2 วิเคราะหล์ ักษณะเด่นของวรรณคดเี ช่อื มโยงกับการเรยี นร้ทู างประวัติศาสตรแ์ ละวิถีชวี ิต ของสงั คมในอดีต ม.4-6/3 วเิ คราะหแ์ ละประเมนิ คณุ ค่าด้านวรรณศิลป์ของวรรณคดแี ละวรรณกรรมในฐานะทเ่ี ป็น มรดกทางวัฒนธรรมของชาติ ม.4-6/4 สงั เคราะหข์ ้อคิดจากวรรณคดีและวรรณกรรมเพ่ือนาไปประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ จริง ม.4-6/6 ท่องจาและบอกคุณคา่ บทอาขยานตามที่กาหนดและบทร้อยกรองท่มี ีคุณคา่ ตามความ สนใจและนาไปใช้อา้ งอิง จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. บอกคาและความหมายของคาได้ (K3) 2. สามารถนาคาไปใช้ประโยชน์ในด้านตา่ ง ๆ ได้ (P5) 3. มวี ินัยในการทางาน (A3) สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรแู้ กนกลาง • คาและสานวน ประกอบด้วย - คาพ้องรปู - พ้องเสยี ง - คาไวพจน์

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 ลลิ ติ ตะเลงพา่ ย เรื่องที่ 5 การใชภ้ าษาในบทรอ้ ยกรอง (นางสาวปรยี านุช เอยี ดปราบ) สาระการเรยี นรทู้ ้องถ่นิ - สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น 2) ทักษะการคิดสร้างสรรค์ ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด 1) ทักษะการคิดวิเคราะห์ ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต 1) กระบวนการปฏิบัติ 2) กระบวนการทางานกล่มุ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 2. ใฝ่เรียนรู้ 4. รักความเป็นไทย 1. มีวินัย 3. มงุ่ มนั่ ในการทางาน กจิ กรรมการเรยี นรู้ วิธสี อนแบบเทคนิคการสอนแบบร่วมมือ รว่ มกับแบบฝึก ชั่วโมงท่ี 1 - 2 ขน้ั ที่ 1 นาเขา้ สู่บทเรยี น ครคู ิดแผ่นบตั รคาบนกระดาน แลว้ ถามถงึ ความแตกตา่ ง ทง้ั รูปและความหมาย ขั้นที่ 2 สอน 1. นักเรียนศึกษาความรู้เร่ือง การไวพจน์ และหนังสือเรียน แล้วนักเรียนหาคาพ้องในลักษณะต่าง ๆ จากบท ประพันธเ์ รือ่ ง ลิลติ ตะเลงพ่าย 2. นักเรียนแบ่งกลุ่ม 8 กลุ่ม และหาคาไวพจน์ในลักษณะต่าง ๆ จากบทประพันธ์เรื่อง ลิลิตตะเลงพ่าย พร้อม นาเสนอ ดงั นี้ 2.1 หมวดเทพ 2.2 หมวดศาสนา 2.3 หมวดมนุษย์ 2.4 หมวดดวงดาว 2.5 หมวดธรรมชาติ 2.6 หมวดสัตว์ 2.7 หมวดกรยิ า 2.8 หมวดอืน่ ๆ 3. นกั เรียนทาแบบฝึกทักษะ คาไวพจน์

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ลลิ ติ ตะเลงพา่ ย เร่อื งท่ี 5 การใช้ภาษาในบทร้อยกรอง (นางสาวปรยี านชุ เอยี ดปราบ) ข้นั ท่ี 3 สรปุ ครูและนกั เรียนร่วมกันสรุปความรเู้ รอ่ื ง คาไวพจน์ และครูสงั เกตการปฏบิ ัติกจิ กรรมรว่ มกนั ของนักเรยี นแต่ละ กลุม่ หากนักเรยี นมีปญั หาหรอื อุปสรรค ในการปฏิบตั กิ จิ กรรมให้สอบถามครูเปน็ รายกลุ่ม ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้ ส่ือการเรียนรู้ 1. หนังสอื เรียน ภาษาไทย : วรรณคดแี ละวรรณกรรม ม.5 2. ใบความรู้ เรื่อง คาไวพจน์ แหล่งการเรียนรู้ 1. ห้องสมดุ 2. แหล่งการเรียนรู้สารสนเทศ http://www.trueplookpanya.com>...>คลงั ความรู้>วชิ าภาษาไทย การวัดและประเมนิ ผล วิธกี าร เครอ่ื งมอื เกณฑ์ ตรวจแบบฝกึ ทกั ษะคาไวพจน์ แบบฝึกทกั ษะคาไวพจน์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการทางานกล่มุ แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ลลิ ติ ตะเลงพา่ ย เร่อื งที่ 5 การใชภ้ าษาในบทรอ้ ยกรอง (นางสาวปรยี านุช เอียดปราบ) ใบความรู้เรื่อง คาไวพจน์ ไวพจน์ น. คาท่เี ขยี นต่างกันแตม่ ีความหมายเหมือนกนั หรือใกลเ้ คียงกันมาก เช่น มนษุ ย์กับคน บ้านกับเรอื น รอ กับคอย ป่ากับดง คาพ้องความก็ว่า (ป. เววจน) (โบ) ในหนังสือแบบเรียนภาษาไทย ของพระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร) หมายถึง คาที่ออกเสียงเหมือนกันแต่เขียนต่างกันและมีความหมายต่างกัน เช่น ใสกับไสโจทก์กับโจทย์ พานกบั พาล ปัจจุบันเรยี กว่า คาพ้องเสยี ง หมวดหมู่ที่ ๑ : เทพ และบท ร้อยกรอง (พจนานกุ รมแปล ไทย-ไทย ราชบัณฑติ ยสถาน) คาไวพจน์ : เทวดา เทพ, เทวินทร์, อมร, สรุ ารักษ์, แมน, เทว, เทวัญ, นิร, ชรา, เทวา, ไตรทศ, ปรวาณ, สรุ คาไวพจน์ : พระอศิ วร ตรีโลกนาถ, บดิ ามห, ศวิ ะ, ศุล,ี มหาเทพ, ปศบุ ด,ี มเหศวร, จนั ทรเศขร, ภูเตศวร, ศังกร, ภูเตศ, ทรงอินทรชฎา คาไวพจน์ : พระพรหม จัตพุ กั ตร์, นิรทรุหณิ , พระทรงหงส์, วิธาดา, ธาดา, กมลาสน์, สรษดา, สรษดา, ปรชาบดี คาไวพจน์ : พระวิษณุ กฤษณะ, ไวกณุ ฐ์, ไกษพ, มาธพ, สวภู, พระจกั รี, ศางด,ี ไตรวิกรม, จักรปาณ,ี พระกฤษ, พระนารายณ์ คาไวพจน์ : พระอนิ ทร์ โกสีย์, โกษี, อนิ ทรา, มรตุ วาน, เทพาธิบดี, อมรินทร์, มฆั วาน, วชริ าวธุ , อมเรศร, วชั รินทร,์ ตรเี นตร, สหสั โยนี, วชริ ปาณี, สหสั นยั น์, เพชรปราณี ทา้ วพันตา, สักกะ, โกสินทร์, พันเนตร คาไวพจน์ : นางอุมา กาตยายนี , เคาร,ี ไหมวดี, ภวาณี, รทุ ธานี, จณั ฑ,ี นางกาลี หมวดหม่ทู ี่ ๒ : ศาสนา พระสัมมาสมั พุทธเจ้า, พระสัพพญั ญู, พระโลกนาถ, พระสคุ ต, คาไวพจน์ : พระพุทธเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้า, ชนิ ศรี, พระสมณโคดม, พระศากยมุนี, พระธรรมราช, พระชนิ สหี ์, พระทศญาณ, มารชติ , โลกชิต, พระทศพลญาณ, พระตถาคต, พระชินวร คาไวพจน์ : สวรรค์ ไตรทิพย์, สรวง, ไตรทศาลัย, สรุ าลัย, สุริยโลก, ศวิ โลก, สุขาวดี, สคุ ติ, เทวโลก คาไวพจน์ : นรก นริ ย, ทุคติ, นารก, นรก,

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 ลลิ ติ ตะเลงพา่ ย เรื่องท่ี 5 การใช้ภาษาในบทรอ้ ยกรอง (นางสาวปรยี านชุ เอียดปราบ) หมวดหมู่ที่ ๓ : มนษุ ย์ บดินทร์, นโรดม, นฤเบศน,์ เจ้าหลา้ , ภูมนิ ทร์, ภบู าล, คาไวพจน์ : พระเจา้ แผ่นดิน ภบู ดินทร์, ธรารักษ,์ นรนิ ทร์, นฤบด,ี จอมราช, ทา่ นไทธ้ รณ,ี ขัตติยวงศ์, ธรณีศวร, ราเชนทร์, คาไวพจน์ : คน ท้าวธรณศิ , ไท้ธาษตรี, ปิ่นเกล้าธาษตรี คาไวพจน์ : ลูกชาย คาไวพจน์ : ลกู หญงิ มนษุ ย,์ มรรตย, นร, นคร, มานพ, ชน, บุรษุ คาไวพจน์ : นักปราชญ์ คาไวพจน์ ศัตรู บุตร, ปรตั ยา, ตนุช, โอรส, เอารส, กนู คาไวพจน์ : ผู้หญิง บุตรี, ธิดา, ธิตา, สดุ า, ทหุ ิตา หมวดหมู่ท่ี ๔ : ดวงดาว คาไวพจน์ : พระอาทิตย ธีร์, ธีระ, ปราชญ,์ เธียร, บณั ฑิต, เมธ, เมธ,ี เมธา คาไวพจน์ : พระจันทร์ ปรปกั ษ,์ เวรี, ไพรี, ปจั จามิตร, ริปู, อริ, ดสั กร, หมวดหมทู่ ี่ ๕ : ธรรมชาติ อรไท, แก้วตา, ดวงสมร, นงคราญ, นงพะงา, บงั อร, คาไวพจน์ : ฟา้ ร้อยชงั่ , สตรี, สายสมร, อนงค,์ อสิ ตรีกัญญา, คาไวพจน์ : น้า กนั ยา, กลั ยาณ,ี กานดา, ดรุณ,ี นงเยาว์, นงลกั ษณ,์ นารี, มารศรี, ยุพเยาว์, ยพุเรศ, ยพุ ด,ี ยพุ า, ยพุ ิน, เยาวเรศ, เยาวลกั ษณ์, วนดิ า, สมร, สดุ า, อติ ถ,ี เพาโพท, พธู, สตั รี, พนิดา, นงราม, ยุวดี ทิพากร, ทวิ ากร, ทนิ กร, ภาสกร, รวิ, รว,ี รพ,ิ ระพี, ไถง, ตะวนั , อาภากร, องั ศมุ าลี, สรุ ยิ ะ, สรุ ยิ า, สรุ ยิ นั , สรุ ยิ น, สรุ ยิ ง, ภาณ,ุ ภาณุมาศ, อุษณรศมัย, ทยุมณี, อหัสกร, พรมัน, ประภากร เดือน, ศศิ, ศศธิ ร, บหุ ลนั , โสม, นิศากร, แข, กษั ษากร, นิศาบด,ี รัชนีกร, ศิวเศขร อมั พร, หาว, เวหา, โพยม, นภ, ทฆิ ัมพร, คคนางค,์ คคนานต์, นภดล, นภา, นภาลัย, เวหาศ, อากาศ คงคา, นที, สินธ,์ุ สาคร, สมุทร, ชลาลยั , อทุ ก, ชโลทรพ, อาโป, หรรณพ, ชลธาร, ชลาศยั , ชลธ,ี ธาร,

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 ลลิ ติ ตะเลงพา่ ย เรื่องที่ 5 การใชภ้ าษาในบทรอ้ ยกรอง (นางสาวปรยี านุช เอียดปราบ) ธารา, สลลิ , อรรณพ, สนิ ธุ, รตั นากร, สาคเรศ, ธารา, อทุ ก, อมั พุ คาไวพจน์ : ลม วาโย, มารุต, พระพาย คาไวพจน์ : ไฟ อัคคี, อคั นี, เดช, เพลงิ , ปราพก, เตโช คาไวพจน์ : ตน้ ไม้ พฤกษ์, รกุ ข,์ ตรุ, เฌอ, ทมุ คาไวพจน์ : ป่า ชัฏ, เถือ่ น, พนสั , พนา, อรัญญกิ , พงพนา, ไพรวนั , พงพ,ี พงไพร, ไพรสัณฑ,์ พนาดร, พนาลี, พนาวัน คาไวพจน์ : ภเู ขา บรรพต, สงิ ขร, พนม, ไศล, ภ,ู ศงิ ขร, ภผู า, ศขิ ริน, คีรี คาไวพจน์ : แผน่ ดนิ หลา้ , เมธนิ ,ี ภมู ,ิ ภพ, พสธุ า, ธาษตรี, ดา้ ว, โลกธาตุ, ภวู ดล, พภิ พ, พสธุ าดล, ปัถพี, ปฐว,ี ปฐพี, ธราดล, ธรณี, ภูตลา, พสนุ ทรา, มหิ, พสุมดี คาไวพจน์ : ดอกไม้ บษุ บา, บปุ ผา, บุปผชาติ, บหุ งา, บุษบง, บษุ บนั , ผกา มาลา, ผกามาศ, มาลี, สุมาลี, สุคันธชาติ คาไวพจน์ : ดอกบัว อุบล, บงกช, นลิ บุ ล, นิโลตบล, ปทมุ , สัตตบรรณ ปทั มา บษุ กร, สตั ตบงกช, จงกล, บณุ ฑรกิ , ปทุมา อุทมุ พร, สาโรช หมวดหมู่ท่ี ๖ : สัตว์ นาคราช, อุรค, ภชุ งค,์ อสรพิษ, อหิ, เงี้ยว คาไวพจน์ งู คาไวพจน์ ครุฑ กาศยป, ไวนเตยะ, สวุ รรณกาย, นาคานตกะ, ปันนคนาสน์ เวนไตย, ขเดศวร, สุบรรณ, วษิ ณุรถ, นาคานดก, ขนบคาศน์ คาไวพจน์ นก ทวชิ , บหุ รง, สกณุ , สกุณ,ี วิหค, สกณุ า, ปักษ,ี คาไวพจน์ ชา้ ง ทิชากร, ปกั ษิณ, ทวชิ าชาติ, ปกั ษา หัสดี, กญุ ชร, คช , กร,ี ดาร,ิ คชนิ ทร์, คชาธาร, หตั ถ,ี คเชนทร์, หสั ดินทร์, กรนิ ทร,์ ไอยรา, สาร, วารณ, คชา คาไวพจน์ ม้า พาช,ี สนิ ธพ, อาชาไนย, ไหย, อัศว, แสะ, ดรุ งค,์ มโนมัย, อาชา, อศั วะ

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 ลลิ ติ ตะเลงพา่ ย เรือ่ งท่ี 5 การใช้ภาษาในบทร้อยกรอง (นางสาวปรยี านุช เอยี ดปราบ) คาไวพจน์ ราชสหี ์ ไกรสหี ์, ไกรสร, นฤเคนทร์, สีหราช, สีห์ คาไวพจน์ เสือ พยคั ฆา, ศารทูล, พาฬ, พยคั ฆ์, ขาล, สมิง คาไวพจน์ วัว คาวี, พฤษภ, อสภุ , ฉลู, ควาย, มหิงสา, มหิงส์, กาสร กระบือ คาไวพจน์ ควาย กาสร, กระบอื , มหิงสา คาไวพจน์ ลิง วอก, วานร, กระบ่ี, พานร, กบลิ , กบินทร,์ วานรินทร์, พานรินทร์ คาไวพจน์ ปลา มจั ฉา, มสั ยา, มจั ฉาชาต,ิ มติ , ชลจร, วารชี าติ, อัมพชุ า, มนี , มนี า, ปุถุโลม หมวดหมทู่ ่ี ๗ : กริยา อาการ คาไวพจน์ คากริยาแสดงความเคลื่อนไหว ลลี า, ยุรยาตร, เย้อื งยา่ ง, ไคลคลา, ประพาส คาไวพจน์ : คาพดู วาจา, วจี, วจั นะ, พจนา, พากย,์ ถ้อย, วจั นา คาไวพจน์ : กนิ รับประทาน, เขมือบ, หม่า, ฉนั , เสวย, แดก หมวดหมู่ท่ี ๘ : อน่ื ๆ โสภณ, เสาวภาคย,์ รจุ เิ รข, บวร, พะงา, วิศษิ ฏ์, อะเค้ือ, คาไวพจน์ : งาม อนั แถ้ง, สงิ คลิ้ง คาไวพจน์ : ใหญ,่ กว้าง มหนั ต์, มหา, มหึมา, พิบลู ย์, ไพศาล, มโหฬาร คาไวพจน์ : ขาว ปัณฑูร, ศกุ ร, ศภุ ร, เศวตร, ธวัล คาไวพจน์ : ตาย ปรลยั , บรรลัย, มรณะ, วายชนม์, วายชพี , ดบั จติ คาไวพจน์ : ทองคา สุพรรณ, สวุ รรณ, กนก, กาณจน์, กาญจนา, มาศ, เหม, ชมพนู ทุ คาไวพจน์ : เงิน รัชตะ, รัชฎา, ปรกั , หริ ญั คาไวพจน์ : เมือง บุรี, ธานินทร์, ราชธานี, ธานี, นคร, นครนิ ทร์, นคเรศ, สถานิย, ประเทศ, บรุ ินทร์, พารา, กรุง, นครา

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ลลิ ติ ตะเลงพา่ ย เรอื่ งท่ี 5 การใช้ภาษาในบทรอ้ ยกรอง (นางสาวปรยี านุช เอยี ดปราบ) การนาไปใช้ ตัวอยา่ งการใชค้ าไวพจน์ในบทกลอนบทกวี มืดส้นิ แสงเทียนประทีปส่อง กผ็ ่องแสงจนั ทรก์ ระจา่ งสวา่ งสง่ บปุ ผชาตสิ าดเกสรขจรลง บุษบงเบิกแบง่ ระบัดบาน เรณูนวลหวนหอมมารวยริน พระพายพัดประท่ินกล่ินหวาน เฉื่อยฉิวปลวิ รสสมุ ามาลย์ ประสานสอดกอดหลบั ระงับไป กลอนบทนจี้ ะพบคาไวพจนด์ ังน้ี ๑. บุปผชาติ, บษุ บง, สมุ ามาลย์ = ดอกไม้ ๒. ขจร = ฟุง้ , กระจาย ๓. พระพาย = ลม ถงึ ม้วยดินส้นิ ฟ้ามหาสมุทร ไมส่ ิน้ สุดความรักสมคั รสมาน แม้อยใู่ นใต้หลา้ สธุ าธาร ขอพบพานพิศวาสไมค่ ลาดคลา แมเ้ น้อื เยน็ เปน็ ห้วงมหรรณพ พ่ขี อพบศรสี วัสดเิ์ ป็นมัจฉา แม้เปน็ บัวตัวพีเ่ ปน็ ภุมรา เชยผกาโกสุมปทมุ ทอง กลอนบทนจ้ี ะพบคาไวพจน์ดังน้ี ๑. หล้า = แผ่นดนิ ๒. สุธาธาร = น้า ๓. มจั ฉา = ปลา ๔. ภมุ รา = แมลงผง้ึ , แมลงภู่ ๕. ผกา, โกสุม = ดอกไม้ ๖. ปทมุ = บัวหลวง ใต้รม่ พฤกษามาลีสวย เชิญมาชว่ ยชมเพลินเจรญิ นิสยั ฟังดนตรีขบั กล่อมย้อมหทยั ยามปกั ษาพสิ มัยดงดอย ฉนั ชอบเท่ยี วชมไพรพนา เออื้ งป่า แลสงู สุดสอย น้าไหลเซาะล่องชอ่ งซอย ซอกเล็กซอกน้อยโตรกธาร กลอนบทนีจ้ ะพบคาไวพจนด์ ังน้ี ๑. พฤกษา, ไพร, พนา = ปา่ ๒. มาลี = ดอกไม้ ๓. หทัย = ใจ ๔. ปกั ษา = นก ๕. ธาร = นา้ ตวั อยา่ งการใชค้ าไวพจนใ์ นบทเพลง ฟากฟ้ายามเย็น เหน็ แสงราไร อาทติ ยจ์ ะลับโลกไป พระจนั ทร์จะโผลข่ ึ้นมา หมมู่ วลวิหค เหนิ ลมอยกู่ ลางเวหา จะหลบั คนื สูช่ ายคา ชายป่าคือแหลง่ พักพิง แต่น้องนางไยไม่เหน็ กลับมา จากไปตง้ั หลายปกี ว่า ท้องนาบ้านเราเหงาจัง

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ลลิ ติ ตะเลงพา่ ย เรอื่ งที่ 5 การใช้ภาษาในบทรอ้ ยกรอง (นางสาวปรยี านุช เอียดปราบ) กลอนบทน้จี ะพบคาไวพจนด์ ังนี้ ๑. วิหค = นก ๒. เวหา = ฟ้า ๓. เหิน = บิน, เหาะ

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 ลลิ ติ ตะเลงพา่ ย เรอื่ งที่ 5 การใช้ภาษาในบทร้อยกรอง (นางสาวปรยี านชุ เอยี ดปราบ) ช่ือ.....................................................................................................ชนั้ ................ .........เลขท.ี่ .................. แบบฝึกทกั ษะ : คาไวพจน์ คาชีแ้ จง ใหน้ ักเรยี นเขยี นตอบคาถามต่อไปนี้ 1. คาไวพจน์ หมายถึง ............................................................................................................................. ................................................. ........................................................................................................................................... ................................... .............................................................................................................................................................................. ................................................................. ........................................................................................ ..................... 2. คาไวพจนท์ ีห่ มายถึง พระเจ้าแผ่นดิน ได้แก่คาว่า ............................................................................................................................. .................................................... .............................................................................................................................................................. ................... ................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 3.คาไวพจน์ทีห่ มายถึง พระจันทร์ ไดแ้ ก่คาว่า ............................................................................................................................. .................................................... ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 4.คาไวพจน์ท่ีหมายถึง ป่า ไดแ้ กค่ าว่า ............................................................................................................................. .................................................... ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 5.นกั เรยี นสามารถนาคาไวพจน์ไปใช้ประโยชน์ดา้ นใดได้บ้าง .................................................................................................................................... ............................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 ลลิ ติ ตะเลงพา่ ย เรอื่ งที่ 5 การใชภ้ าษาในบทรอ้ ยกรอง (นางสาวปรยี านุช เอยี ดปราบ) แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานรายบคุ คล คาช้ีแจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ ลงในช่อง ที่ตรงกับระดับคะแนน ช่ือ-สกุล ความมีวนิ ัย ความมนี ้าใจ การรับฟงั การแสดง การตรงต่อเวลา รวม ที่ ของผรู้ ับการ เอือ้ เฟอ้ื เสียสละ ความคิดเห็น ความคดิ เห็น 20 คะแนน ประเมิน 432 1 4 3 2 1 4 3214 321432 1 ลงชือ่ .................................................... ผู้ประเมิน ................ /................ /................ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบางครง้ั ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมน้อยคร้ัง ให้ 1 คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุระดับณภาพ 18 - 20 ดมี าก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ตา่ กว่า 10 ปรับปรุง

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 ลลิ ติ ตะเลงพา่ ย เรือ่ งที่ 5 การใชภ้ าษาในบทร้อยกรอง (นางสาวปรยี านชุ เอียดปราบ) แบบสังเกตพฤตกิ รรม การทางานกลุ่ม คาชี้แจง : ให้ ผูส้ อน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่อง ท่ีตรงกับระดับคะแนน ช่ือ-สกลุ ความ การแสดงความ การรับฟงั ความ ความตงั้ ใจ การแก้ไข ปัญหา/ รวม 20 ร่วมมือกนั คิดเห็น คิดเหน็ ทางาน หรอื ปรบั ปรุง คะแนน ท่ี ทากิจกรรม ผลงานกลุม่ ของผรู้ ับการประเมนิ 432 1 4 3 2 1 4 3214 321432 1 ลงชื่อ...................................................ผูป้ ระเมนิ ................ /................ /................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่าเสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมนอ้ ยครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคุระดบั ณภาพ 18 - 20 ดมี าก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ตา่ กวา่ 10 ปรับปรงุ

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ลลิ ติ ตะเลงพา่ ย เรือ่ งที่ 5 การใช้ภาษาในบทร้อยกรอง (นางสาวปรยี านุช เอียดปราบ) บนั ทึกหลงั สอน 1. ผลการเรียนรู้ คดิ เป็นรอ้ ยละ 100 . 1.1 ผู้เรยี นผ่านตัวชี้วดั คิดเป็นรอ้ ยละ 92.30 . ชน้ั ม.5/2 มจี านวน 27 คน คิดเปน็ ร้อยละ 94.87 . ชั้น ม.5/4 มจี านวน 36 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 98.36 . ชั้น ม.5/6 มีจานวน 37 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 88.57 . ชั้น ม.5/8 มีจานวน 37 คน คดิ เป็นร้อยละ 100 . ชน้ั ม.5/10 มีจานวน 31 คน ช้นั ม.5/12 มีจานวน 21 คน 1.2 ผูเ้ รยี นไม่ผา่ นตัวชว้ี ดั คดิ เปน็ ร้อยละ - . ชน้ั ม.5/2 มีจานวน - คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 5.26 . ชั้น ม.5/4 มีจานวน 2 คน คดิ เป็นร้อยละ 7.69 . ช้ัน ม.5/6 มีจานวน 3 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 2.63 . ชั้น ม.5/8 มจี านวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 3.12 . ชน้ั ม.5/10 มีจานวน 1 คน คดิ เปน็ ร้อยละ . ชน้ั ม.5/12 มจี านวน - คน - 1.3 ผู้เรียนที่มีปัญหา แผนการจัดการเรียนรู้ เร่ือง การใช้ภาษาในบทร้อยกรอง พบว่าผู้เรียนร้อยละ 95.68 ซ่ึงถือว่าบรรลุเป้าหมาย และผู้เรียนผ่านตัวช้ีวัดตามที่กาหนด ส่วนนักเรียนที่ไม่ผ่านตัวชี้วัด ครูผู้สอนนัดสอน เสรมิ นอกเหนือคาบเรียน 1.4 ผู้เรียนท่ีได้รับความรู้ความสามารถ (K) ผู้เรียนสามารถบอกคา และความหมายของคาได้ถูกต้อง ตามทีก่ าหนดได้ 1.5 ผู้เรียนท่ีเกิดทักษะกระบวนการ (P) ผู้เรียนสามารถนาคาไวพจน์ไปใช้ประโยชน์ในการแต่งคา ประพันธ์ประเภทตา่ ง ๆ ได้ 1.6 ผูเ้ รยี นมีคณุ ลักษณะ (A) ผ้เู รยี นตระหนักถงึ คุณค่าของการใชค้ าในวรรณคดี และการปฏบิ ตั งิ านกล่มุ ได้

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 ลลิ ติ ตะเลงพา่ ย เรื่องที่ 5 การใช้ภาษาในบทร้อยกรอง (นางสาวปรยี านชุ เอียดปราบ) 2. ปญั หา/อุปสรรค . เน่ืองด้วยสถานการณโ์ ควดิ - 19 ทาใหน้ กั เรยี นบางคนไมไ่ ด้เข้าเรยี น แล้วไมต่ ดิ ตามชิน้ งาน จงึ เป็นเหตุ ใหผ้ เู้ รยี นไมผ่ ่านตัวชีว้ ดั ตามที่กาหนด . . 3. แนวทางการแก้ไข . ดาเนินการแจ้งครูทป่ี รกึ ษาเบื้องต้น และร่วม PLC ครูทสี่ อนในระดบั ชน้ั เดยี วกัน . .. ลงช่ือ……………………………………………………. (นางสาวปรยี านุช เอยี ดปราบ) ครผู ้สู อน 4. ความเห็นของหัวหนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ............................................................................................................................................................................. ............... ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................. ............................................................... ลงชอ่ื .……………………………………………………. (นายไพโรจน์ ขวญั คง) หวั หนา้ กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 ลลิ ติ ตะเลงพา่ ย เรอ่ื งท่ี 6 การประเมินคุณคา่ ด้านวรรณศลิ ป์(นางสาวปรยี านุช เอยี ดปราบ ปรMาบ) แผนการจดั การเรียนรู้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย วิชา ภาษาไทย ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 5 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เรือ่ ง ลลิ ิตตะเลงพ่าย เวลา 18 ชั่วโมง แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 6 เร่อื ง การประเมนิ คุณค่าด้านวรรณศลิ ป์และการนาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั เวลา 3ชัว่ โมง ใช้สอนวันท่ี เดือน พ.ศ. โรงเรียนคณะราษฎรบารงุ จงั หวัดยะลา สังกัดสานักงานเขตพนื้ ท่ีการศกึ ษามัธยมศกึ ษายะลา สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด การอ่านอย่างพินิจคุณค่าทาให้ผู้อ่านตระหนักถึงความสาคัญและเห็นคุณค่าของวรรณคดีไทย และสามารถนาไป ประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวิตประจาวนั ได้ ตัวชว้ี ัด/จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ตวั ช้วี ดั ท 5.1 ม.4-6/1 วิเคราะห์และวจิ ารณว์ รรณคดีและวรรณกรรมตามหลักการวิจารณเ์ บอ้ื งต้น ม.4-6/2 วิเคราะหล์ ักษณะเด่นของวรรณคดเี ชือ่ มโยงกบั การเรยี นร้ทู างประวตั ศิ าสตร์และวิถชี วี ติ ของสงั คมในอดีต ม.4-6/3 วเิ คราะหแ์ ละประเมนิ คณุ ค่าด้านวรรณศลิ ป์ของวรรณคดีและวรรณกรรมในฐานะทเี่ ปน็ มรดกทางวัฒนธรรมของชาติ ม.4-6/4 สังเคราะห์ข้อคิดจากวรรณคดีและวรรณกรรมเพ่ือนาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ม.4-6/6 ทอ่ งจาและบอกคุณคา่ บทอาขยานตามท่ีกาหนดและบทร้อยกรองทม่ี ีคุณค่าตามความ สนใจและนาไปใชอ้ ้างอิง จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. อธบิ ายคณุ ค่าของลลิ ิตตะเลงพ่ายได้ (K2) 2. วิเคราะหค์ ุณคา่ ของลิลิตตะเลงพา่ ยได้ (P4) 3. เหน็ คุณคา่ ของวรรณคดีไทย และสามารถนาไปประยุกต์ใชใ้ นชีวติ ประจาวันได้ (A4) สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนร้แู กนกลาง • คุณคา่ ด้านวรรณศลิ ป์ สาระการเรยี นรทู้ ้องถ่นิ - สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น ความสามารถในการส่อื สาร

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 ลลิ ติ ตะเลงพา่ ย เร่ืองท่ี 6 การประเมินคุณคา่ ดา้ นวรรณศลิ ป์(นางสาวปรียานชุ เอยี ดปราบ ปราบ) ความสามารถในการคิด 1) ทักษะการคดิ วเิ คราะห์ 2) ทกั ษะการคดิ สร้างสรรค์ ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 1) กระบวนการปฏิบัติ 2) กระบวนการทางานกลุ่ม คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 2. ใฝ่เรียนรู้ 4. รักความเป็นไทย 1. มวี ินยั 3. มงุ่ มนั่ ในการทางาน กิจกรรมการเรยี นรู้ วธิ สี อนแบบระดมสมอง (Brainstorming) แบบเทคนคิ การสอนแบบรว่ มมือ ร่วมกับแบบฝกึ ชวั่ โมงที่ 1 – 2 ขน้ั ท่ี 1 นาเข้าสู่บทเรียน 1. ครรู ่วมสนทนากับนกั เรยี นเร่ืองลิลติ ตะเลงพา่ ย ข้นั ที่ 2 สอน 1. นักเรียนสืบค้นข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตแล้วนามาร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับผลของการสู้รบระหว่างสมเด็จพระ นเรศวรมหาราชและสมเด็จพระเอกาทศรถกับฝ่ายพม่า สะท้อนให้เห็นคุณค่าในด้านวรรณศิลป์ที่เป็นประโยชน์ต่อ นักเรียน และศกึ ษาจากใบความรู้ เรอื่ ง คุณค่าด้านวรรณศลิ ป์ ๒. ใหน้ กั เรียนแบ่งกลมุ่ ๕ กลุ่ม ชว่ ยกนั วเิ คราะหค์ ุณค่าของเรอื่ ง ลิลิตตะเลงพ่าย ในประเดน็ ตอ่ ไปนี้ คณุ คา่ ด้านวรรณศิลป์ และนาเสนอ ๓. ให้นักเรียนช่วยกันสรปุ ความรูท้ ี่ไดจ้ ากการวเิ คราะห์ ครูช่วยแนะนาและอธิบายเพมิ่ เตมิ ๔. ให้นักเรียนทาใบงานท่ี เร่อื ง การวิเคราะห์คณุ ค่าของลิลิตตะเลงพา่ ย แล้วแลกเปล่ียนความรู้ และความคิดซงึ่ กนั และกัน ขน้ั ที่ 3 สรปุ ครูและนักเรยี นรว่ มกันสรุปความร้เู รื่อง คณุ คา่ ของเรอ่ื ง ลิลติ ตะเลงพ่าย ช่ัวโมงท่ี 3 ขน้ั ที่ 1 นาเข้าสู่บทเรยี น ครถู ามคาถามเพือ่ ทบทวนความรเู้ ดิมเรื่อง คุณคา่ ของเรื่อง ลลิ ติ ตะเลงพ่าย ขน้ั ที่ 2 สอนและฝึกทักษะ 1. นักเรียนและครรู ่วมกันสรุปความรู้ ดังน้ี - ลิลิตตะเลงพ่ายเป็นวรรณคดียอพระเกียรติของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ท่ีทาให้คนไทยรู้สึกภาคภูมิใจ ในบรรพบุรุษไทยท่ีเสียสละเลือดเน้ือและชีวิตเพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทยและช่วยปลูกจิตสานึกของความรักชาติ การ อา่ นอย่างพินิจคณุ คา่ ทาใหผ้ ู้อา่ นตระหนักถงึ ความสาคญั และเหน็ คุณคา่ ของวรรณคดี 2. นกั เรียนรว่ มกันแสดงความคดิ เห็น โดยครูใช้คาถามทา้ ทาย ดงั น้ี - การอา่ นลลิ ิตตะเลงพา่ ยทาให้นกั เรียนเกิดความร้สู กึ แตกต่างจากการอา่ นวรรณคดเี ร่ืองอนื่ หรอื ไม่ อยา่ งไร

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ลลิ ติ ตะเลงพา่ ย เร่ืองที่ 6 การประเมนิ คณุ คา่ ดา้ นวรรณศิลป์(นางสาวปรยี านชุ เอยี ดปราบ ปราบ) 3. ให้นกั เรียนทาใบงาน เรอ่ื ง การเขียนบันทกึ การเรยี นรู้ ครปู ระเมินผลงานของนกั เรียนเปน็ รายบคุ คล ขน้ั ที่ 4 สรปุ ครูสังเกตการปฏิบัติกิจกรรมร่วมกันของนักเรียนแต่ละกลุ่ม หากนักเรียนมีปัญหาหรืออุปสรรค ในการปฏิบัติ กิจกรรมใหส้ อบถามครูเปน็ รายกลุ่ม สอื่ /แหลง่ การเรยี นรู้ สอ่ื การเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรียน ภาษาไทย : วรรณคดแี ละวรรณกรรม ม.5 2. ใบความรู้ เร่ือง คณุ ค่าดา้ นวรรณศิลป์ 3. ใบงาน เรื่อง การเขยี นบนั ทึกการเรียนรู้ แหล่งการเรียนรู้ 1. หอ้ งสมุด 2. แหล่งการเรียนรู้สารสนเทศ http://www.trueplookpanya.com>...>คลงั ความรู้>วชิ าภาษาไทย การวัดและประเมนิ ผล วิธกี าร เครือ่ งมอื เกณฑ์ แบบตรวจใบงาน ใบงาน เรื่อง การเขียนบันทึกการเรยี นรู้ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ เร่ือง การเขยี นบนั ทึกการเรียนรู้ แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤติกรรมการทางานกล่มุ

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ลลิ ติ ตะเลงพา่ ย เร่ืองที่ 6 การประเมินคุณคา่ ดา้ นวรรณศิลป์(นางสาวปรียานุช เอยี ดปราบ ปราบ) เรื่อง บทวเิ คราะห์ด้านวรรณศิลป์ เรื่องลลิ ติ ตะเลงพ่าย บทวเิ คราะหด์ ้านวรรณศิลป์ ๑) การสรรคา ลิลิตตะเลงพ่าย เป็นวรรณคดีมรดกล้าค่าท่ีคนไทยควรศึกษาเพื่อให้เกิดความภาคภูมิใจใน วีรกรรมของนักรบไทยและภูมิใจในภาษาไทยท่ีกวีใช้ถ่ายทอดเรื่องราวได้อย่างมีคุณค่าทางด้านวรรณศิลป์ ด้วยการ เลอื กใช้ถ้อยคาไดอ้ ยา่ งไพเราะ ดังนี้ ๑.๑) การใช้คาทเี่ หมาะแกเ่ นื้อเรอ่ื งและฐานะของบคุ คล กวีเลือกใชค้ าท่ีแสดงฐานะของบคุ คล ดงั นี้ เบอ้ื งน้ันนแฤนลาะถบผทู้ ร้อยกรอง สยามนิ ทร์ เบีย่ งพระมาลาผนิ ห่อนพ้อง ศสั ตราวุธอรนิ ทร์ ฤาถกู องคเ์ อย เพราะพระหัตถ์หากปอ้ ง ปดั ด้วยขอทรง จากโคลงบทนี้ กวีเลือกใชค้ าทม่ี ศี ักดิค์ าสูง แสดงให้เห็นภาพเด่นชัดและไพเราะ เชน่ นฤนาถ หมายถงึ กษัตรยิ ์ สยามนิ ทร์ หมายถึง กษัตริยส์ ยาม (กษตั รยิ ์อยุธยา) พระมาลา หมายถงึ หมวก ศตั ราวธุ อรินทร์ หมายถึง อาวุธของขา้ ศึก องค์ หมายถึง สมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระหตั ถ์ หมายถงึ มอื ขอทรง หมายถงึ ขอสบั สาหรบั บังคับชา้ ง อยู่ใต้คอของช้าง ๑.๒) การใชค้ าโดยคานงึ ถึงเสียง ความไพเราะของถ้อยคาหรอื ความงามของถ้อยคานน้ั พิจารณาทกี่ ารใช้ สมั ผสั การเล่นคา เลน่ ความ การเลียนเสยี งธรรมชาติ เปน็ ตน้ ลิลติ ตะเลงพ่ายมีการใช้คาท่ีมีเสยี งเสนาะ ดังนี้ (๑) มกี ารใช้สัมผสั สระและสมั ผสั พยัญชนะในคาประพันธ์ทุกบท ทาให้เกดิ ความไพเราะ เชน่ “.....ถับถึงโคกเผาเข้า พอยามเช้ายังสาย หมายประมาณโมงครบ ประทบทัพรามัญ ประทันทัพพม่า ขับทวยกล้า เข้าแทง ขับทวยแขงเข้าฟัน สองฝ่ายยันยืนยุทธ์ อุดอึงโห่เอาฤกษ์ เอิกอึงเห่เอาชัย สาดปืนไฟยะแย้ง แผลงปืนพิษยะยุ่ง พ่งุ หอกใหญ่คะควา้ ง ขวา้ งหอกซัดคะไขว่ ไล่คะคลุกบกุ บนั เงื้อดาบฟันฉะฉาด งาง้าวฟาดฉะฉับ.....” สัมผัสสระ ได้แก่ เข้า – เช้า สาย - หมาย ครบ – ทบ รามัญ – ทัน พม่า – กล้า แทง – แข็ง ฟัน – ยัน ยทุ ธ์ – อดุ ฤกษ์ – เอกิ ชัย – ไฟ แย้ง – แผลง ย่งุ – พุ่ง คว้าง – ขว้าง ไขว่ – ไล่ บัน – ฟัน ฉาด – ฟาด

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 ลลิ ติ ตะเลงพา่ ย เร่อื งที่ 6 การประเมนิ คณุ คา่ ดา้ นวรรณศลิ ป์(นางสาวปรียานชุ เอยี ดปราบ ปราบ)สัมผัสพยัญชนะ ไดแ้ ก่ ถับ – ถงึ โคก – เข้า ยาม – ยงั หมาย – ประมาณ –โมง ประทบ – ทบั ประทนั – ทัพ ขับ – เข้า ทวย – แทง ขบั – แขง – เขา้ ยนั – ยืน – ยุทธ์ อดุ – อึง – เอา เอกิ – องึ – เอา ยะ – แย้ง ยะ – ยงุ่ คะ – ควา้ ง บกุ – บัน ฉะ – ฉาด งา่ – งา้ ว ฉะ – ฉบั (๒) มีการใชส้ ัมผัสพยัญชนะเดียวกันเกอื บท้งั วรรค เชน่ กรตระกองกอดแก้ว เรยี มจักร้างรสแคลว้ คลาดเคล้าคลาสมร อยู่แม่อย่าละห้อย จาใจจรจาจากสรอ้ ย แม่แล ห่อนชา้ คืนสม วรรคท่ี ๑ ไดแ้ ก่ กร – กอง – กอด – แกว้ วรรคท่ี ๒ ได้แก่ เรยี ม – รา้ ง – รส วรรคที่ ๓ ไดแ้ ก่ คลาด – เคลา้ – คลา วรรคที่ ๔ ไดแ้ ก่ อยู่ – อยาก (๓) มสี มั ผสั สระในแต่ละวรรคของโคลงแตล่ ะบาทคล้ายกลบท เชน่ ชาวสยามคร้ามเศิกสิ้น ทัง้ ผอง นายและไพร่ไป่ปอง รบรา้ อพยพหลบหลกี มอง เอาเหตุ ซุกซ่อนห่อนให้ข้า ศกึ ได้ไปเปน็ บาทท่ี ๑ ไดแ้ ก่ สยาม – ครา้ ม บาทท่ี ๒ ไดแ้ ก่ ไพร่ – ไป่ บาทท่ี ๓ ได้แก่ อพยพ – หลบ บาทท่ี ๔ ได้แก่ ซอ่ น – หอ่ น ได้ – ไป (๔) การเล่นคา เพ่ือให้มีความลึกซ้ึงและเกิดอารมณ์กระทบใจผู้อ่านโดยเน้นนัยของคาว่า สายหยุด วา่ ดอกสายหยุดจะหยุดส่งกล่ินหอมเมื่อล่วงเข้าเวลาสาย แต่ยามสายน้ันก็มิอาจหยุดความรัก ความเสน่หา ท่ีมีต่อนาง อนั เปน็ ทรี่ กั ได้ เช่น สายหยุดหยุดกลนิ่ ฟ้งุ ยามสาย สายบ่หยดุ เสน่หห์ าย หา่ งเศรา้ กค่ี นื ก่ีวันวาย วางเทวษ ราแม่ ถวิลทุกขวบคา่ เช้า หยุดได้ฉนั ใด

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 ลลิ ติ ตะเลงพา่ ย เรือ่ งท่ี 6 การประเมินคณุ คา่ ดา้ นวรรณศลิ ป์(นางสาวปรียานชุ เอยี ดปราบ ปราบ) (๕) การเลน่ เสียงวรรณยกุ ต์ เชน่ สลัดไดใดสลดั นอ้ ง แหนงนอน ไพรฤา เพราะเพ่ือมาราญรอน เศิกไสร้ สละสละสมร เสมอชือ่ ไมน้ า นึกระกานามไม้ แม่นแมน้ ทรวงเรียม (๖) การเลยี นเสยี งธรรมชาติ เชน่ “....เจ้าพระยาไชยานุภาพ เจ้าพระยาปราบไตรจักร ตรับตระหนักสาเนยี ง เสยี งฆ้องกลองปืนศึก อกี เอิก กอ้ งกาหล เรง่ คารนเรยี กมนั ชันหู ชหู างเลน่ แปรน้ แปร๋แลคะไขว.่ ” (๗) การใช้คาอพั ภาส คอื การซา้ อักษรลงหนา้ คาศัพท์ ทาใหเ้ กิดความไพเราะ เชน่ “...สาดปืนไฟยะแย้ง แผลงปืนพิษยะยุ่ง พุ่งหอกใหญ่คะควา้ ง ขว้างหอกซัดคะไขว่ไล่คะคลุกบุกบัน เงื้อ ดาบฟนั ฉะฉาด งา่ ง้าวฝาดฉะฉับ...” ๒) การใช้โวหาร กวีเลอื กใช้ถอ้ ยคาในการบรรยาย พรรณนาและเปรยี บเทียบได้อยา่ งเหมาะสมกบั เนอื้ เรื่อง ทา ให้ผอู้ ่านมองเหน็ ภาพชัดเจน ดงั นี้ ๒.๑) การใชค้ าให้เกิดจนิ ตภาพ เช่น การใช้คาที่แสดงใหเ้ ห็นภาพการต่อสู้อย่างห้าวหาญของพลทหารทั้งสอง ฝ่ายทีผ่ ลดั กันรกุ รับขับเคี่ยวกันดว้ ยอาวธุ หลากหลายทงั้ ขอ งา้ ว ทวน หอก ธนู จนต่างฝา่ ยลม้ ตายไปเป็นจานวนมาก ดัง ตวั อย่าง ...คนต่อคนต่อรบ ของ้าวทบทะกัน ต่างฟันต่างป้องปัด วางสนัดหลังสาร ขานเสียงคึกกึกก้อง ว่องต่อว่องชิงชัย ไวตอ่ ไวชิงชนะ ม้าไทยพะม้ามอญ ต่างเขา้ รอนเขา้ โรม ทวนแทงโถมทวนทบ หอกเข้ารบรอหอก หลอกลอ่ ไล่ไขว่แคว้ง แย้งธนูเหน่ียวแรง ห้าวต่อห้าวหักหาญ ชาญต่อชาญหักเชี่ยว เรี่ยวต่อเรี่ยวหักแรง แขงต่อแขงหักฤทธ์ิ ต่างประชิด ฟอนฟัน ต่างประชันฟอนฟาด ล้วนสามารถมือทัด ล้วนสามรรถมือทาน ผลาญกันลงเต็มหล้า ผร้ากันลงเต็มแหล่ง แบง่ กนั ตายลงครนั ปนั กันตายลงมาก ตากเต็มท่งเตม็ เถ่ือน ตากเต็มเผือ่ นเต็มพง นอกจากน้ีผแู้ ตง่ ใช้คาพรรณนา การสรู้ บ ทาให้ผ้อู ่านเห็นภาพชา้ งทรงของทง้ั สองพระองค์ต่างสะบัดเหว่ยี งกนั ไป มา ผลัดเปล่ียนกันได้ทีแต่ก็ไม่มีผู้ใดยอมแพ้ ช้างทรงของสมเด็จพระนเรศวรได้ล่าง พระมหาอุปราชาก็เพลี่ยงพล้า สมเด็จพระนเรศวรฟันพระมหาอุปราชาด้วยพระแสงของ้าวขาดสะพายแล่งส้ินพระชนม์ทันที พระวรกายของพระมหา อุปราชาค่อยๆแอนลงซบกับคอช้างและสิ้นพระชนม์บนคอช้างน่ันเอง ตอนน้ีนอกจากจะเห็นภาพการรบอย่างสง่างาม แคล่วคล่องว่องไวสมเป็นกษัตริย์ของทั้งสองพระองค์ช่วงสุดท้ายยังเห็นภาพการ สิ้นพระชนม์ของพระมหาอุปราชาที่ คอ่ ยๆเอนพระองคล์ งซบกับคอชา้ ง เป็นภาพทีห่ ดหูแ่ ละสะเทอื นใจ ดังตวั อย่าง

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ลลิ ติ ตะเลงพา่ ย ในรณ เรื่องที่ 6 การประเมินคุณคา่ ดา้ นวรรณศิลป์(นางสาวปรยี านชุ เอยี ดปราบ พา่ ยฟ้อน เผด็จคู่ เขญ็ แฮ ปราบ) พลอยพล้าเพลยี กถ้าท่าน ขาดดา้ วโดยขวา บัดราชฟาดแสงพล พระเดชพระแสดงดล ถนดั พระอังสาขอ้ น ๒.๒) การใช้โวหารโดยการเปรียบเทยี บ ว่าสมเด็จพระนเรศวรมีฤทธเ์ิ หมือนพระรามยามตอ่ ส้กู บั ทศกัณฐ์ ขา้ ศึก ศตั รูทพี่ า่ ยแพไ้ ปเหมือนพลยักษ์ สมเด็จพระนเรศวรกเ็ หมือนองคพ์ ระนารายณ์อวตารลงมา ดังตัวอย่าง บุญเจ้าจอมภพข้นึ แผ่นสยาม แสยงพระยศยนิ ขาม ขาดแกล้ว พระฤทธิด์ งั่ ฤทธิ์ราม รอนราพณ์ แลฤา ราญอริราชแผ้ว แผกแพ้ทกุ ภาย พลมาร ไพรินทรนาศเพี้ยง แตก่ ้ี พระดง่ั องคอ์ วตาร รอฤทธิ์ พระฤา แสนเศกิ ห่อนหาญราญ ประลาตหลา้ แหล่งสถาน ดาลตระดกเดชลี้ ๒.๓) การใช้ถ้อยคาสรา้ งอารมณแ์ ละความร้สู กึ แม้ลลิ ติ ตะเลงพา่ ยเป็นเรื่องเก่ยี วกับประวตั ศิ าสตร์และยอพระ เกียรตพิ ระมหากษัตรยิ ์ แต่ด้วยความปรีชาในด้านภาษาอยา่ งลึกซึง้ ของกวี กวสี ามารถใช้ถ้อยคา ทาให้ผูอ้ า่ นเกดิ ความ สะเทือนอารมณ์ เกิดความรสู้ ึกเห็นใจ เศรา้ ใจ ดีใจ ภูมใิ จ ไดต้ ามจุดมงุ่ หมายของกวี ดงั น้ี (๑) การใช้ถอ้ ยคาให้เกิดความรสู้ ึกเห็นใจ เช่น ตอนท่ีพระมหาอุปราชาเคลื่อนกระบวนทัพ ขณะเดินทาง มกี ารชมธรรมชาติ ชมพนั ธ์ไุ ม้ต่าง ๆ โดยการนาช่ือต้นไม้และดอกไม้มาเล่นคาให้สอดคล้องกบั อารมณแ์ ละความรู้สึกของ พระมหาอปุ ราชาได้อย่างไพเราะ สลดั ไดใดสลดั นอ้ ง แหนงนอน ไพรฤา เพราะเพื่อมาราญรอน เศิกไสร้ สละสละสมร เสมอช่ือ ไมน้ า นึกระกานามไม้ แมน่ แม้นทรวงเรยี ม รุมกาม ไม้โรกเหมือนโรคเรา้ ลวกรอ้ น ไฟวา่ ไฟราคลาม เยาว์ยว่ั แยม้ ฤา นางแยม้ หน่ึงแย้มยาม อกอั้นกนั แสง ตูมดง่ั ตูมตีข้อน ยามสาย ห่างเศร้า สายหยดุ หยุดกล่ินฟงุ้ วางเทวษ ราแม่ สายบ่หยดุ เสน่หห์ าย หยดุ ไดฉ้ ันใด กีค่ ืนกวี่ ันวาย ถวลิ ทกุ ขวบคา่ เชา้

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 ลลิ ติ ตะเลงพา่ ย เรอื่ งที่ 6 การประเมินคุณคา่ ดา้ นวรรณศลิ ป์(นางสาวปรยี านชุ เอยี ดปราบ ปราบ) (๒) การใชถ้ ้อยคาเกดิ อารมณ์สะเทือนใจ ดังปรากฏตอนท่ีพระมหาอปุ ราชาลาพระสนม พระผาดผายสูห่ ้อง หาอนุชนวลนอ้ ง หนมุ่ เหน้าพระสนม งามเสง่ียมเฟี้ยมเฝ้า เรียมจกั รา้ งรสแคล้ว ปวงประนมนบเกล้า อยแู่ ม่อยา่ ละห้อย อยถู่ า้ ทูลสนอง กรตระกองกอดแก้ว คลาดเคล้าคลาสมร จาใจจรจากสร้อย หอ่ นชา้ คืนสม แม่แล (๓) การใช้ถ้อยคาให้เกิดความรู้สึกเจ็บปวด เช่น ตอนพระมหาอุปราชาทูลพระเจ้าหงสาวดีว่าจะมี เคราะห์ไม่ต้องการออกรบ จึงถูกพระเจ้าหงสาวดีกล่าวประชดด้วยถ้อยคาให้เกิดความรู้สึกเจ็บปวดอับอายว่าให้เอา เครือ่ งแตง่ กายหญงิ มาสวมใส่ “...ฟังสารราชเอารส ธก็ผะชดบัญชา เจ้าอยุธยามีบุตร ล้วนยงยุทธ์เช่ียวชาญ หาญหักศึกบมิย่อ ต่อสู้ศึกบมิ หยอน ไป่พักวอนว่าใช้ ให้ธหวงธห้าม แมน้ เจ้าคร้ามเคราะหก์ าจ จงอย่ายาตรยุทธนา เอาพัสตราสตรี สวมอินทรยี ์สร่าง เคราะห์ ธตรัสเยาะเยี่ยงขลาด องค์อุปราชยินสาร แสนอัประมาณมาตย์มวล นวลพระพักตร์ผ่องเผือด เลือดสลดหมด คลา้ ช้ากมลหมองมวั ..” (๔) การใช้ถอ้ ยคาแสดงความโศกเศร้า เช่นตอนท่ีพระมหาอุปราชาต้องจากพระสนมและเดินทัพ เม่ือเห็นสิง่ ใด ก็คิดถึงนางอันเป็นท่ีรัก การคล่าครวญของพระมหาอุปราชา ทาให้ผู้อ่านเห็นใจในความรักของพระมหาอุปราชา ดัง ปรากฏในตอนที่พระมหาอปุ ราชาเหน็ ต้นไม้ ดอกไม้ แล้วราพันถงึ พระสนม มาเดียวเปลีย่ วอกอา้ อายสู สถติ อยเู่ ออ้ งค์ดู ละหอ้ ย พศิ โพน้ พฤกษ์พบู บานเบิก ใจนา พลางคะนึงนุชนอ้ ย แนง่ เน้ือนวลสงวน โหยหา พระครวญพระคร่าไห้ ก่ิงเก้ียว พลางพระพิศพฤกษา รรี ัตน์ เรยี มฤา กลกรกนิษฐนา- โอบออ้ มองค์เรียม ยามตระกองเอวเอยี้ ว

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 ลลิ ติ ตะเลงพา่ ย เร่ืองที่ 6 การประเมนิ คณุ คา่ ดา้ นวรรณศลิ ป์(นางสาวปรยี านชุ เอยี ดปราบ ปราบ) แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานรายบคุ คล คาชแ้ี จง : ให้ ผสู้ อน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ✓ ลงในชอ่ ง ที่ตรงกบั ระดบั คะแนน ชือ่ -สกุล ความมีวนิ ัย ความมีน้าใจ การรับฟงั การแสดง การตรงตอ่ เวลา รวม ที่ ของผรู้ ับการ เอ้อื เฟือ้ เสียสละ ความคิดเห็น ความคดิ เห็น 20 คะแนน ประเมนิ 432 1 4 3 2 1 4 3214 321432 1 ลงชือ่ .................................................... ผ้ปู ระเมิน ................ /................ /................ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมอยา่ งสม่าเสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบ่อยคร้ัง ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคุระดับณภาพ 18 - 20 ดีมาก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ต่ากว่า 10 ปรบั ปรงุ

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ลลิ ติ ตะเลงพา่ ย เรอ่ื งที่ 6 การประเมนิ คุณคา่ ดา้ นวรรณศิลป์(นางสาวปรียานชุ เอยี ดปราบ ปราบ) แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานกล่มุ คาช้ีแจง : ให้ ผ้สู อน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ ลงในชอ่ ง ทต่ี รงกบั ระดับคะแนน ช่ือ-สกลุ ความ การแสดงความ การรบั ฟังความ ความตงั้ ใจ การแก้ไข ปญั หา/ รวม 20 ร่วมมือกนั คิดเห็น คดิ เห็น ทางาน หรอื ปรบั ปรุง คะแนน ท่ี ทากิจกรรม ผลงานกลุ่ม ของผรู้ ับการประเมิน 432 1 4 3 2 1 4 3214 321432 1 ลงช่ือ...................................................ผู้ประเมิน ................ /................ /................ เกณฑก์ ารให้คะแนน ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยคร้ัง ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมน้อยคร้ัง ให้ 1 คะแนน เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุระดับณภาพ 18 - 20 ดมี าก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ตา่ กว่า 10 ปรับปรงุ

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ลลิ ติ ตะเลงพา่ ย เรือ่ งท่ี 6 การประเมินคุณคา่ ด้านวรรณศิลป์(นางสาวปรียานชุ เอยี ดปราบ ปราบ) ใบงาน คุณค่าด้านวรรณศิลป์ เรื่องลลิ ติ ะเลงพ่าย ใหน้ กั เรยี นอา่ นลลิ ิตตะเลงพา่ ย แล้ววเิ คราะห์ในประเด็นต่อไปนี้ ๑. ผูแ้ ต่ง __________________________________________________________________________ ๒. ลกั ษณะคาประพันธ์ __________________________________________________________________________ ๓. จดุ มุ่งหมายในการแตง่ __________________________________________________________________________ ๔. ความเปน็ มาของเรือ่ ง _________________________________________________________________________ ๕. เนอื้ เร่อื งย่อ ________________________________________________________________________________ _____________________________________________________________________________________ _____________________________________________________________________________________ _____________________________________________________________________________________ ๖. คุณคา่ / คตธิ รรมท่ีไดร้ ับจากการอ่าน ______________________________________________________________________________________ _____________________________________________________________________________________ _____________________________________________________________________________________ _____________________________________________________________________________________ ๗. ความประทบั ใจท่ีเกิดขึ้นจากการอ่าน ______________________________________________________________________________________ _____________________________________________________________________________________ _____________________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________________

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 ลลิ ติ ตะเลงพา่ ย เรือ่ งที่ 6 การประเมินคุณคา่ ดา้ นวรรณศิลป์(นางสาวปรียานุช เอยี ดปราบ ปราบ) บันทึกหลงั สอน 1. ผลการเรียนรู้ คิดเป็นรอ้ ยละ 100 . 1.1 ผูเ้ รยี นผา่ นตวั ชวี้ ัด คดิ เป็นรอ้ ยละ 92.30 . ชน้ั ม.5/2 มจี านวน 27 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 94.87 . ช้ัน ม.5/4 มจี านวน 36 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 98.36 . ชั้น ม.5/6 มจี านวน 37 คน คดิ เป็นร้อยละ 88.57 . ชั้น ม.5/8 มีจานวน 37 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 100 . ชั้น ม.5/10 มจี านวน 31 คน ชั้น ม.5/12 มจี านวน 21 คน 1.2 ผ้เู รียนไม่ผ่านตัวชีว้ ดั คดิ เป็นรอ้ ยละ - . ชั้น ม.5/2 มจี านวน - คน คิดเป็นรอ้ ยละ 5.26 . ชั้น ม.5/4 มีจานวน 2 คน คิดเปน็ ร้อยละ 7.69 . ชน้ั ม.5/6 มจี านวน 3 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 2.63 . ช้ัน ม.5/8 มจี านวน 1 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 3.12 . ชัน้ ม.5/10 มีจานวน 1 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ . ชั้น ม.5/12 มจี านวน - คน - 1.3 ผู้เรียนที่มีปัญหา แผนการจัดการเรียนรู้ เร่ือง การประเมินคุณค่าด้านวรรณศิลป์ และการนาไปใช้ ในชีวิตประจาวัน พบว่าผู้เรียนร้อยละ 95.68 ซ่ึงถือว่าบรรลุเป้าหมาย และผู้เรียนผ่านตัวชี้วัดตามท่ีกาหนด ส่วน นกั เรียนทีไ่ มผ่ า่ นตวั ชว้ี ัด ครผู สู้ อนนัดสอนเสรมิ นอกเหนือคาบเรยี น 1.4 ผู้เรียนที่ได้รับความรู้ความสามารถ (K) ผู้เรียนสามารถอธิบานคุณค่าด้านวรรณศิลป์และการ นาไปใช้ในชวี ติ ประจาวันไดอ้ ย่างเข้าใจและถูกต้อง 1.5 ผู้เรียนท่ีเกิดทักษะกระบวนการ (P) ผู้เรียนสามารถวิเคราะห์คุณค่าด้านวรรณศิลป์ เพื่อนาไป ประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ิตประจาวนั ได้อยา่ งถกู ตอ้ ง 1.6 ผ้เู รียนมคี ณุ ลักษณะ (A) ผู้เรียนตระหนักถงึ คุณค่าของการใช้คาในวรรณคดี และสามารถนาคุณค่า ดา้ นวรรณศลิ ป์ไปประยกุ ต์ใชใ้ นชีวิตประจาวันได้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook