Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการสอนสาระเศรษฐศษสตร์ - มณฑิรา จินดารัตน์

แผนการสอนสาระเศรษฐศษสตร์ - มณฑิรา จินดารัตน์

Published by ครรชิต แซ่โฮ่, 2021-11-06 12:05:57

Description: แผนการสอนสาระเศรษฐศษสตร์ - มณฑิรา จินดารัตน์

Search

Read the Text Version

คาอธิบายรายวชิ า ส 23102 สังคมศึกษา รายวชิ าพ้นื ฐาน ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 3 ภาคเรียนที่ 2 จานวน 60 ชวั่ โมง/ 1.5 หน่วยกิต ศึกษา วเิ คราะห์ กลไกราคาและการกาหนดราคาในระบอบเศรษฐกิจ การมีส่วนร่วมในการแกป้ ัญหา และพฒั นาทอ้ งถิ่นตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง วเิ คราะห์ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งแนวคิดเศรษฐกิจพอเพยี งกบั ระบบสหกรณ์ ศึกษาบทบาทหนา้ ที่ของรัฐบาลในระบบเศรษฐกิจ บทบาทของการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจระหวา่ ง ประเทศ ผลกระทบท่ีเกิดจากภาวะเงินเฟ้ อ เงินฝืด วิเคราะห์ผลเสียจากการวา่ งงานและแนวทางการแกป้ ัญหา สาเหตุและวธิ ีการกีดกนั ทางการคา้ ในการคา้ ระหวา่ งประเทศ เพอ่ื ให้ รู้ เขา้ ใจและสามารถบริหารจดั การทรัพยากรในการผลิตและบริโภค การใชท้ รัพยากรท่ีมีอยอู่ ยา่ ง จากดั ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพและคุม้ ค่ารวมท้งั เขา้ ใจหลกั การของเศรษฐกิจพอเพยี งเพื่อดารงชีวติ อยา่ งมีดุลยภาพ เขา้ ใจระบบและสถาบนั ทางเศรษฐกิจตา่ งๆ ความสมั พนั ธ์ทาง ศึกษาเคร่ืองมือทางภูมิศาสตร์การรวบรวม วเิ คราะห์และนาเสนอขอ้ มลู เกี่ยวกบั ลกั ษณะทางกายภาพและ สงั คมของทวปี อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ วเิ คราะห์ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งลกั ษณะทางกายภาพและสังคมของทวปี อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ ใชแ้ ผนท่ีและเครื่องมือทางภมู ิศาสตร์ในการคน้ ควา้ วเิ คราะห์สรุป และใชข้ อ้ มูลภูมิสารสนเทศอยา่ งมี ประสิทธิภาพ วเิ คราะห์การเกิดส่ิงแวดลอ้ มใหม่ทางสังคมอนั เป็ นผลมาจากการเปล่ียนแปลงทางธรรมชาติละ สังคมของทวปี อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ ศึกษาแนวทางการอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มในทวปี อเมริกาเหนือและอเมริกาใต้ สาเหตุและผลกระทบตอ่ เนื่องจากการเปล่ียนแปลงของสิ่งแวดลอ้ มในทวปี อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ ที่ส่งผล กระทบต่อประเทศไทย เพ่อื ให้ รู้ เขา้ ใจลกั ษณะทางกายภาพ ปฏิสมั พนั ธ์ระหวา่ งมนุษยก์ บั สภาพแวดลอ้ มทางกายภาพที่ ก่อใหเ้ กิดการสร้างสรรค์ วฒั นธรรม มีจิตสานึกและมีส่วนร่วมในการอนุรักษท์ รัพยากรและส่ิงแวดลอ้ ม เพอื่ การ พฒั นาที่ยงั่ ยนื ตวั ช้ีวดั ที่ ส 3.1 ม.3/1, ส 3.1 ม.3/2, ส 3.1 ม.3/3,ส 3.2 ม. 3/1 , ส 3.2 ม. 3/2 ,ส 3.2 ม. 3/3 ,ส 3.2 ม. 3/4 ,ส 3.2 ม. 3/4, ส 3.2 ม. 3/6, ส 5.1 ม. 3/1 ,ส 5.1 ม. 3/2 ,ส 5.2 ม. 3/1 ,ส 5.2 ม. 3/2,ส 5.2 ม. 3/3 ,ส 5.2 ม. 3/4 รวม 14 ตวั ช้ีวดั

หลกั สูตรสถานศึกษาตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 โครงสร้างรายวชิ า รายวชิ า ส ๒๓๑๐๑ สังคมศึกษา ช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี ๓ จานวน ๖๐ ชั่วโมง ๑.๕ หน่วยกติ ท่ี ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ตวั ช้ีวดั จานวน น้าหนกั ชว่ั โมง คะแนน 1 กลไกราคา ส.3.1ม.3/1 6 10 2 เศรษฐกิจพอเพียง ส.3.2ม.3/4 3 รัฐบาลกบั ระบบเศรษฐกิจ ส.3.1ม.3/2,ม.3/3 6 15 4 การร่วมกลุ่มทางเศรษฐกิจ ส.3.2ม.3/1,ม.3/2 4 10 5 ปัญหาการวา่ งงาน ส.3.2ม.3/3,ม.3/6 6 15 6 เครื่องมือทางภมู ิศาสตร์ ส.3.2ม.3/5 4 10 7 อเมริกาเหนือ ส.5.1ม.3/1 6 10 ส.5.1ม.3/1,ม.3/2 14 15 8 อเมริกาใต้ ส.5.2ม.3/1,ม.3/2 ม.3/3,ม.3/4 14 15 รวม ส.5.1ม.3/1,ม.3/2 ส.5.2ม.3/1,ม.3/2 60 100 ม.3/3,ม.3/4

โครงสร้างรายวชิ า โรงเรียนคณะราษฎรบารุง จังหวดั ยะลา กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม รหสั วชิ า 23103 รายวชิ า สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม เวลา 60 คาบ/สัปดาห์ จานวน 1.5 หน่วยกติ ระดับช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ 3 ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการ สาระสาคัญ เวลา นา้ หนัก ภาระงานที่ คะแนน มอบหมาย ที่ เรียนรู้/ตัวชี้วดั เรียน 1 กลไกราคา ส3.1 ม.3/1ส3.2 1. ความหมายและความสาคญั 6 10 1.แบบทดสอบ ม.3/4 ของกลไกราคาและการกาหนด 6 2.การตอบ 2 เศรษฐกิจพอเพยี ง คาถาม และระบบสหกรณ์ ราคาในระบบเศรษฐกิจ 3.ทาใบงาน 1. 2. หลกั การปรับและปล่ียนแปลง 15 1.แบบทดสอบ ราคาสินคา้ และบริการ 2.การสืบคน้ 2. 3. ความหมายและตวั อยา่ งของ ขอ้ มลู 3. การตอบ อุปสงคแ์ ละอุปทาน คาถาม ส3.1 ม.3/2, 1. สารวจและวเิ คราะห์ปัญหาของ 4.การทาใบงาน ม3/3 ทอ้ งถ่ินโดยใชป้ รัชญาเศรษฐกิจ พอเพียงเพื่อหาแนวทางแกไ้ ขและ พฒั นา 2. แนวคิดของเศรษฐกิจพอเพียง กบั การพฒั นาในระดบั ต่าง ๆ 3. หลกั การสาคญั ของระบบ สหกรณ์ 4. ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งแนวคิด เศรษฐกิจพอเพียงกบั หลกั การ และระบบของ สหกรณ์เพ่ือประยกุ ตใ์ ชใ้ นการ พฒั นาเศรษฐกิจชุมชน

ท่ี ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการ สาระสาคัญ เวลา นา้ หนัก ภาระงานที่ เรียนรู้/ตวั ชี้วดั เรียน คะแนน มอบหมาย 3 รัฐบาลกบั ระบบ ส3.2 ม3/1 , ม 1. บทบาทหนา้ ท่ีและกิจกรรมทาง 4 10 1. แบบทดสอบ เศรษฐกิจ 3/2 เศรษฐกิจของรัฐบาลเพ่ือพฒั นา 2.การระดม ประเทศในดา้ นต่าง ๆเช่น การ สมองอภิปราย ผลิตสินคา้ และบริการสาธารณะท่ี 3.การทาใบงาน เอกชนไม่ดาเนินการเช่น ไฟฟ้ า 4.สืบคน้ ขอ้ มลู ถนน โรงเรียน และแสดงความ - บทบาทการเกบ็ ภาษีเพ่ือพฒั นา คิดเห็น ประเทศของรัฐในระดบั ต่างๆ 5.การศึกษาและ - บทบาทการแทรกแซงราคาและ อภิปราย การควบคุมราคาเพื่อการแจกจา่ ย และการจดั สรรในทางเศรษฐกิจ 2. นโยบายและกิจกรรมทาง เศรษฐกิจของรัฐบาล 4 การรวมกลุ่มทาง ส3.2 ม3/3 , ม 1. การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจใน 6 15 1. แบบทดสอบ เศรษฐกิจ 3/6 ภูมิภาคต่าง ๆ 2.การระดม 2. บทบาทความสาคญั ของการ สมองอภิปราย รวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในภูมิภาค 3.การทาใบงาน ตา่ ง ๆ 4.สืบคน้ ขอ้ มลู 3. การคา้ และการลงทุนระหวา่ ง และแสดงความ ประเทศ คิดเห็น 4. สาเหตุและวธิ ีการกีดกนั ทาง 5.การศึกษาและ การคา้ ในการคา้ ระหวา่ งประเทศ อภิปราย

ที่ ช่ือหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการ สาระสาคญั เวลา นา้ หนัก ภาระงานท่ี เรียนรู้/ตวั ชี้วดั เรียน คะแนน มอบหมาย 5 ภาวการณ์เงินและ ส3.2 ม3/4,ม3/5 1. วเิ คราะห์ผลกระทบท่ีเกิดจาก 4 10 1.แบบทดสอบ การวา่ งงานของ ภาวะเงินเฟ้ อ เงินฝืด ความหมาย 6 2.การระดม ประเทศ สาเหตุ และแนวทางแกไ้ ขภาวะ สมองอภิปราย เงินเฟ้ อ เงินฝื ด 3.การทาใบงาน 6 เคร่ืองมือทาง 2. สภาพและปัญหาการวา่ งงาน 4.สืบคน้ ขอ้ มลู ภูมิศาสตร์ 3. ผลกระทบจากปัญหาการ และแสดงความ วา่ งงาน คิดเห็น 4. แนวทางการแกไ้ ขปัญหาการ 5.การศึกษาและ วา่ งงาน อภิปราย ส5.1 ม3/1 1. เคร่ืองมือทางภมู ิศาสตร์ท่ีแสดง 10 1.แบบทดสอบ ลกั ษณะทางกายภาพและสงั คม 2.การทาใบงาน ของทวปี อเมริกาเหนือและ 3.สืบคน้ ขอ้ มูล อเมริกาใต้ และแสดงความ คิดเห็น 7 ทวปี อเมริกาเหนือ ส5.1 ม3/1 , ม 1. ลกั ษณะทางกายภาพและสงั คม 14 3/2 ของทวปี อเมริกาเหนือ 15 1.แบบทดสอบ ส5.2 ม3/1 ม3/2 2. การเปล่ียนแปลงประชากร 2.การทาใบงาน ม3/3ม3/4 เศรษฐกิจ สงั คม และวฒั นธรรม 3.การนาเสนอ ผลงาน ของทวปี อเมริกาเหนือ 4.การบนั ทึก 3. ทรัพยากรธรรมชาติและ ความรู้ สิ่งแวดลอ้ มในทวปี อเมริกาเหนือ 5.สร้างแผนที่ 4. ปัญหาเกี่ยวกบั สิ่งแวดลอ้ มท่ี ความคิด เกิดข้ึนในทวปี อเมริกาเหนือ 6.วาดภาพ ระบายสี

ท่ี ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการ สาระสาคัญ เวลา นา้ หนัก ภาระงานท่ี เรียนรู้/ตัวชี้วดั เรียน คะแนน มอบหมาย 5. ผลกระทบต่อเนื่องของ ส่ิงแวดลอ้ มในทวปี อเมริกา เหนือท่ีส่งผลต่อประเทศไทย 8 ทวปี อเมริกาใต้ ส5.1 ม3/1 1, .ม3/2 1. ลกั ษณะทางกายภาพและ 14 15 1.แบบทดสอบ 2.การทาใบงาน ส5.2 ม3/1 ม3/ ม สงั คมของทวปี อเมริกาใต้ 3 3.การนาเสนอ 60 ผลงาน 3/3 ม3/4 2. 2. การเปลี่ยนแปลงประชากร 4.การบนั ทึก ความรู้ เศรษฐกิจ สังคม และ 5.สร้างแผนท่ี ความคิด วฒั นธรรมของทวปี อเมริกา 6.วาดภาพ ระบายสี ใต้ 30 3. 3. ทรัพยากรธรรมชาติและ 100 สิ่งแวดลอ้ มในทวปี อเมริกาใต้ 4. 4. ปัญหาเก่ียวกบั ส่ิงแวดลอ้ ม ที่เกิดข้ึนในทวปี อเมริกาใต้ 5. 5. ผลกระทบต่อเน่ืองของ ส่ิงแวดลอ้ มในทวปี อเมริกาใต้ ท่ีส่งผลตอ่ ประเทศไทย 6. สอบปลายภาค 7. รวมตลอดภาคเรียน อตั ราส่วนคะแนน คะแนนเกบ็ ระหวา่ งภาค : คะแนนปลายภาค = 70 : 30 K : P : = 60 : 30 : 10 คะแนน 1. คะแนนเก็บก่อนสอบกลางภาค 30 คะแนน 2. คะแนนสอบกลางภาค 20 คะแนน 3. คะแนนเก็บหลงั สอบกลางภาค 20 คะแนน 4. คะแนนปลายภาค 30 คะแนน รวม 100 คะแนน

การวเิ คราะห์ตัวชี้วดั / ผลการเรียนรู้รายวชิ า (เพอ่ื กาหนดนา้ หนักคะแนน) ลาดับ ตวั ชี้วดั / ผลการเรียนรู้ คะแนนเกบ็ ระหว่างภาค ปลาย ที่ ภาค ลาดับ ั่ชวโมงที่สอน จานวน ั่ชวโมงท่ีสอน น้าห ันกตัว ี้ชวัด คะแนนตัว ี้ชวัด ้ดานความ ู้ร(K) ้ดานทักษะ(P) ุคณลักษณะ(A) กลางภาค 1 อธิบายกลไกราคาในระบบ 1-6 6 3 9 4 3 3 เศรษฐกิจ 2 มีส่วนร่วมในการแกไ้ ขปัญหา 7-9 3 5 15 22 และพฒั นาทอ้ งถ่ินตามปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียง 3 วเิ คราะห์ความสมั พนั ธ์ระหวา่ ง 10-12 3 5 15 4 3 4 แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงกบั ระบบสหกรณ์ 4 อธิบายบทบาทหนา้ ท่ีของรัฐบาล 13-14 2 3 9 3 2 ในระบบเศรษฐกิจ 5 แสดงความคิดเห็นต่อนโยบาย 15-16 2 3 9 2 2 1 และกิจกรรมทางเศรษฐกิจของ รัฐท่ีมีต่อบุคคลกลุ่มคนและ ประเทศชาติ 6 อภิปรายบทบาทความสาคญั ของ 17-19 3 3 9 2 1 5 การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ ระหวา่ งประเทศ 7 วเิ คราะห์สาเหตุและวธิ ีการกีด 20-22 3 2 6 25 กนั ทางการคา้ ในการคา้ ระหวา่ ง ประเทศ

การวเิ คราะห์ตัวชี้วดั / ผลการเรียนรู้รายวชิ า (เพอื่ กาหนดนา้ หนักคะแนน) ลาดับ ตวั ชี้วดั / ผลการเรียนรู้ คะแนนเกบ็ ระหว่างภาค ปลาย ท่ี ภาค ลาดับ ั่ชวโมงที่สอน จานวน ั่ชวโมงท่ีสอน น้าห ันกตัว ี้ชวัด คะแนนตัว ี้ชวัด ้ดานความ ู้ร(K) ้ดานทักษะ(P) ุคณลักษณะ(A) กลางภาค 8 วเิ คราะห์ผลเสียจากการวา่ งงาน 23-24 2 3 9 5 5 และแนวทางแกป้ ัญหา 6 9 อภิปรายผลกระทบที่เกิดจาก 25-26 2 2 6 6 ภาวะเงินเฟ้ อเงินฝืด 6 10 ใชเ้ คร่ืองมือทางภมู ิศาสตร์ใน 27-32 6 3 9 2 2 การรวบรวมวิเคราะห์ และ นาเสนอขอ้ มลู เก่ียวกบั ลกั ษณะ ทางกายภาพและสงั คมของทวปี อเมริกาเหนือและอเมริกาใต้ 11 รู้และเขา้ ใจลกั ษณะทาง 33-39 7 4 12 3 กายภาพและสังคมของทวปี อเมริกาเหนือ และเขา้ ใจการ เปล่ียนแปลงประชากร เศรษฐกิจสังคม และวฒั นธรรม ของทวปี อเมริกาเหนือ 12 วเิ คราะห์เหตุและผลกระทบ 40-46 7 4 12 ต่อเน่ืองจากการเปล่ียนแปลง ของสิ่งแวดลอ้ มในในทวปี อเมริกาเหนือ ท่ีส่งผลต่อ ประเทศไทย

การวเิ คราะห์ตัวชี้วดั / ผลการเรียนรู้รายวชิ า (เพอ่ื กาหนดนา้ หนักคะแนน) ลาดบั ตัวชี้วดั / ผลการเรียนรู้ คะแนนเกบ็ ระหว่างภาค ปลาย ท่ี ภาค ลาดับ ่ัชวโมงท่ีสอน จานวน ่ัชวโมงที่สอน น้าห ันกตัว ี้ชวัด คะแนนตัว ี้ชวัด ้ดานความ ู้ร(K) ้ดานทักษะ(P) ุคณลักษณะ(A) กลางภาค 13 รู้และเขา้ ใจลกั ษณะทาง 47-53 7 4 12 3 6 กายภาพและสังคมของทวปี อเมริกาเหนือ และเขา้ ใจการ เปล่ียนแปลงประชากร เศรษฐกิจสงั คม และวฒั นธรรม ของทวปี อเมริกาใต้ 14 วเิ คราะห์เหตุและผลกระทบ 54-60 7 4 12 6 ตอ่ เน่ืองจากการเปล่ียนแปลง ของสิ่งแวดลอ้ มในในทวปี อเมริกาใต้ ท่ีส่งผลต่อประเทศ ไทย รวม 60 48 144 23 15 12 20 30 หมายเหตุ 1. กาหนดน้าหนกั ตวั ช้ีวดั ใหค้ ะแนน 1-5 2. คิดคะแนนตวั ช้ีวดั = น้าหนกั ตวั ช้ีวดั X ผลรวมคะแนนตวั ช้ีวดั ท้งั หมด ผลรวมคะแนนน้าหนกั ตวั ช้ีวดั ท้งั หมด 3. คะแนนเก็บท้งั หมด = K + P + A + คะแนนกลางภาค + คะแนนปลายภาค ตวั อยา่ ง คะแนนตวั ช้ีวดั ท่ี 1 = 2 X 90 = 6 30

กาหนดคะแนนการวดั ผลประเมนิ ผลการเรียนวชิ าสังคมศึกษา รหสั ส 23103 รายวชิ าสังคมศึกษา จานวน 1.5 หน่วยกติ ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ 3 ภาคเรียนท่ี 2 เวลาเรียน 30 ชั่วโมง 3 / ภาคเรียน .......................................................................................................................................................................... หน่วยการเรียนรู้ พฤติกรรมด้านท่ี คะแนนการวดั ผล/ ประเมนิ ผล หมาย จานวน ั่ชวโมง ประเมนิ ระหว่างภาค กลางภาค ปลายภาค เหตุ K P A รวม K P A รวม K P A รวม K P A รวม กลไกราคา 6 6 2 2 10 6 2 2 10 1. ความหมายและ 3 2 1 1 4 2 1 1 4 ความสาคญั ของกลไก ราคาและการกาหนด ราคาในระบบศรษฐ กิจ 3. 2. หลกั การปรับและ 12 1 32 13 เปล่ียนแปลงราคา สินคา้ และบริการ 3. ความหมายและ 22 1 3 21 3 ตวั อยา่ งของอุปสงค์ 6 7 5 3 15 7 5 3 15 และอุปทาน เศรษฐกิจพอเพยี ง 1. สารวจและวเิ คราะห์ 2 1 2 1 4 1 2 1 4 ปัญหาของทอ้ งถิ่นโดย ใชป้ รัชญาของ เศรษฐกิจพอเพยี งเพื่อ หาแนวทางการแกไ้ ข และพฒั นา

หน่วยการเรียนรู้ พฤตกิ รรมด้านที่ คะแนนการวดั ผล/ ประเมนิ ผล หมาย ประเมนิ เหตุ จานวน ั่ชวโมง ระหว่างภาค กลางภาค ปลายภาค K P A รวม K P A รวม K P A รวม K P A รวม 2. แนวคิดของ 12 1 1 4 2 11 4 เศรษฐกิจพอเพียงกบั การพฒั นาในระดบั ต่าง ๆ 3. หลกั การสาคญั ของ 1 2 1 3 21 3 ระบบสหกรณ์ 4. 4. ความสมั พนั ธ์ 22 1 1 4 2 11 4 ระหวา่ งแนวคิด เศรษฐกิจพอเพยี งกบั หลกั การและระบบ ของสหกรณ์เพอ่ื ประยกุ ตใ์ ชใ้ นการ พฒั นาเศรษฐกิจชุมชน 5. รัฐบาลกบั ระบบ 4 5 3 2 10 4 4 2 10 เศรษฐกิจ 1. บทบาทหนา้ ท่ีและ 2 3 1 1 5 2 2 1 5 กิจกรรมทางเศรษฐกิจ ของรัฐบาลเพือ่ พฒั นา ประเทศ ในดา้ นตา่ ง ๆ เช่น การผลิตสินคา้ และบริการสาธารณะ ท่ีเอกชนไมด่ าเนินการ

หน่วยการเรียนรู้ พฤตกิ รรมด้านท่ี คะแนนการวดั ผล/ ประเมนิ ผล หมาย ประเมิน เหตุ จานวน ั่ชวโมง ระหว่างภาค กลางภาค ปลายภาค K P A รวม K P A รวม K P A รวม K P A รวม 2. นโยบายและ 22 2 1 5 2 21 5 กิจกรรมทางเศรษฐกิจ ของรัฐบาล การร่วมกลุ่มทาง 6 7 4 4 15 4 1 5 10 เศรษฐกิจ 3 2 1. การรวมกลุ่มทาง 22 1 1 4 21 เศรษฐกิจในภมู ิภาค 2 ต่าง ๆ 3 2.บทบาทความสาคญั 2 2 1 1 4 2 1 3 11 ของการรวมกลุ่มทาง เศรษฐกิจในภมู ิภาค ต่าง ๆ 3. การคา้ และการ 1 1 1 1 3 11 ลงทุนระหวา่ ประเทศ 4. สาเหตุและวธิ ีการ 12 1 1 4 2 2 21 กีดกนั ทางการคา้ ใน การคา้ ระหวา่ ง ประเทศ

ปัญหาการวา่ งงาน 4 4 3 3 10 4 3 3 10 2 11 4 1. สภาพและสาเหตุ 2 2 1 1 4 ปัญหาการวา่ งงาน 1 11 3 2. ผลกระทบจาก 11 1 1 3 1 11 3 ปัญหาการวา่ งงาน 3. แนวทางการแกไ้ ข 1 1 1 1 3 ปัญหาการวา่ งงาน

หน่วยการเรียนรู้ พฤตกิ รรมด้านที่ คะแนนการวดั ผล/ ประเมินผล หมาย ประเมนิ เหตุ จานวน ั่ชวโมง ระหว่างภาค กลางภาค ปลายภาค K P A รวม K P A รวม K P A รวม K P A รวม เคร่ืองมือทาง 6 4 3 3 10 4 3 3 10 ภูมิศาสตร์ 4 3 3 10 1. เคร่ืองมือทาง 6 4 3 3 10 6 5 4 15 1 11 3 ภมู ิศาสตร์ท่ีแสดง 1 11 3 1 11 3 ลกั ษณะทางกายภาพ และสังคมของทวปี อเมริกาเหนือและ อเมริกาใต้ ทวปี อเมริกาเหนือ 14 8 5 2 15 1. ลกั ษณะทาง 32 11 4 กายภาพและสังคม ของทวปี อเมริกา เหนือ 2. การเปล่ียนแปลง 3 2 1 3 ประชากร เศรษฐกิจ สงั คม และวฒั นธรรม ของทวปี อเมริกา เหนือ 3.ทรัพยากรธรรมชาติ 3 1 1 3 และส่ิงแวดลอ้ มใน ทวปี อเมริกาเหนือ 4. ปัญหาเก่ียวกบั 3 1 1 1 3 สิ่งแวดลอ้ มท่ีเกิดข้ึน ในทวปี อเมริกาเหนือ

หน่วยการเรียนรู้ พฤติกรรมด้านที่ คะแนนการวดั ผล/ ประเมนิ ผล หมาย ประเมนิ เหตุ จานวน ั่ชวโมง ระหว่างภาค กลางภาค ปลายภาค K P A รว K P A รวม K P A รวม K P A รวม ม 5. ผลกระทบต่อเนื่อง 2 2 1 2 11 2 ของสิ่งแวดลอ้ มใน 6 5 4 15 ทวปี อเมริกาเหนือ ที่ 1 11 3 ส่งผลตอ่ ประเทศไทย 1 11 3 1 11 3 ทวปี อเมริกาใต้ 14 8 5 2 15 11 2 20 30 1. ลกั ษณะทาง 32 1 1 4 กายภาพและสังคม ของทวปี อเมริกาใต้ 2. การเปล่ียนแปลง 3 2 1 3 ประชากร เศรษฐกิจ สังคมและวฒั นธรรม ของทวปี อเมริกาใต้ 3.ทรัพยากรธรรมชาติ 3 1 1 3 และส่ิงแวดลอ้ มใน อเมริกาใต้ 4. ปัญหาเกี่ยวกบั 3 1 1 1 3 ส่ิงแวดลอ้ มท่ีเกิดข้ึน ในอเมริกาใต้ 5. ผลกระทบตอ่ เน่ือง 2 2 1 2 ของสิ่งแวดลอ้ มใน อเมริกาใต้ ท่ีส่งผลต่อ ประเทศไทย รวม 20 50 30 20 100 50

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 1 กลุ่มสาระการเรยี นรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 3 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 1 กลไกราคาในระบบเศรษฐกิจ จานวน 6 คาบ เรอ่ื ง กลไกราคาในระบบเศรษฐกจิ ครูผูส้ อน นางมณฑิรา จนิ ดารตั น์ --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวชว้ี ดั ส 3.1 ม.3/1 อธิบายกลไกราคาในระบบเศรษฐกิจ 2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด กลไกราคาเปน็ เคร่ืองมอื ในระบบเศรษฐกิจแบบเสรีนิยม ซงึ่ การเปลีย่ นแปลงในระดบั ราคาสินคา้ เกดิ จาก แรงผลกั ดันของอุปสงค์และอุปทาน 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 n สาระการเรยี นรู้แกนกลาง 1) ความหมายและประเภทของตลาด 2) ความหมายและตวั อยา่ งของอุปสงค์และอปุ ทาน 3) ความหมายและความสาคัญของกลไกราคาและการกาหนดราคาในระบบเศรษฐกจิ 4) หลักการปรบั และเปลี่ยนแปลงราคาสินคา้ และบรกิ าร 4. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธบิ ายความหมายและประเภทของตลาดในระบบเศรษฐกิจได้ (K2) 2. วิเคราะหข์ อ้ ดีและข้อเสยี ของตลาดแต่ละประเภทได้ (k4,P1) 3. ผเู้ รยี นมคี วามสนใจ กระตือรือร้นในเรยี นรู้ และมีความรับผดิ ชอบงานที่ไดร้ ับมอบหมาย (A3) 5. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น 1.ความรู้ความเข้าใจ 2. ความสามารถในการสอ่ื สาร 3. ความสามารถในการคดิ 1) ทกั ษะการสรุปความรู้ 2) ทักษะการเปรียบเทยี บ 3) ทักษะการประยุกต์ใชค้ วามรู้ 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ 6. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ัย 2. ใฝเุ รยี นรู้ 3. มงุ่ มน่ั ในการทางาน

7. กจิ กรรมการเรยี นรู้ วธิ ีการจดั การเรียนการสอนแบบ การเรียนรู้แบบร่วมมือรูปแบบจ.ี ไอ (G.I) กจิ กรรมการเรียนการสอน (คาบท่ี 1-2) ขนั้ ท่ี 1 ขน้ั เตรยี มการ 1. นกั เรียนดภู าพตลาดสนิ ค้าตา่ งๆ มาให้นักเรียนดู แลว้ ตอบคาถามเกีย่ วกับลักษณะสาคญั ของตลาด ดังนี้ 1) จากภาพท่ี 1-3 นักเรียนพอใจในการจบั จ่าย ซอื้ สินค้าในตลาดใดมากทสี่ ุด อธิบายพรอ้ มบอกเหตผุ ล ประกอบ 2) จากภาพท่ี 4-6 เปน็ ลักษณะตลาดที่ใช้เกณฑใ์ นการจัดประเภทอยา่ งไร ขั้นท่ี 2 ขัน้ จดั การเรยี นรู้ 2. นักเรียนแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 5 คน คละกนั ตามความสามารถ คือ เก่ง ปานกลางค่อนข้างเก่ง ปานกลาง คอ่ นข้างอ่อน และอ่อน แลว้ ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่มเลอื กหวั หนา้ และเลขานุการกลุ่ม จากน้ันช่วยกนั แบง่ หนา้ ทีค่ วามรบั ผดิ ชอบในการศึกษาข้อมลู ความรู้เรื่อง ตลาดในระบบเศรษฐกิจ จาก หนงั สือเรยี น หรือหนังสอื คน้ ควา้ เพ่ิมเติม หรอื ห้องสมุด หรอื แหลง่ ข้อมูลสารสนเทศ ในหวั ขอ้ ต่อไปน้ี 1) ลกั ษณะโดยทัว่ ไปของตลาด 2) ตลาดตามลกั ษณะการแขง่ ขัน ใหน้ กั เรยี นนาความรู้ท่ีไดจ้ ากการศึกษามาบนั ทกึ ลงในแบบบันทกึ การอ่าน 3. นักเรียนตอบคาถามกระตนุ้ ความคิด  ตลาดแขง่ ขนั สมบูรณ์ มีความสาคญั อย่างไร (ทาให้ไมม่ ีปจั จัยทม่ี ีอิทธพิ ลต่อการกาหนดราคาสนิ คา้ ของผู้ซื้อและผู้ขาย) ขน้ั ท่ี 3 ขนั้ ทากจิ กรรม 4. สมาชิกทุกคนในกลุ่มรว่ มกนั อธิบายความรทู้ ่ีได้จากการศึกษาค้นควา้ 5. สมาชกิ แตล่ ะคนนาความรูท้ ไี่ ด้ศกึ ษาคน้ คว้ามาทาใบงาน เรือ่ ง ตลาดในระบบเศรษฐกจิ 6. นกั เรียนช่วยกันตรวจสอบความถูกต้องของคาตอบในใบงาน ข้ันที่ 4 ขน้ั ตรวจสอบผลงานและทดสอบ นักเรยี นแต่ละกลุ่มเลือกขา่ วที่ครูแจกให้ กลุ่มละ 1 ขา่ ว แล้วนาไปวเิ คราะห์และตอบคาถาม ตาม หัวข้อทีก่ าหนดในใบงานท่ี 1.2 เรือ่ ง การวเิ คราะห์ตลาด เสรจ็ แล้วนาส่งครู ขั้นที่ 5 ขน้ั สรุปบทเรียนและประเมนิ ผล 7. นกั เรียนตรวจสอบผลงานการวิเคราะห์ข่าวในใบงาน และเลือกผลงานที่มีคุณภาพตามเกณฑท์ ่ีกาหนดติด ปาู ยนเิ ทศหน้าชนั้ เรียน 8. นกั เรยี นตอบคาถามกระตุ้นความคดิ  ตลาดผกู ขาด มผี ลเสยี ต่อผซู้ อ้ื อยา่ งไร (ผขู้ ายมีอทิ ธพิ ลในการกาหนดราคาสนิ คา้ และบรกิ าร) 10. นกั เรยี นทากิจกรรมตามตวั ช้วี ดั กจิ กรรมท่ี 1.1-1.3 จากแบบวัดฯ เป็นการบ้าน เสรจ็ แลว้ นาสง่ ครตู รวจ

กจิ กรรมการเรยี นการสอน (คาบที่ 3-4) ขนั้ ท่ี 1 ข้ันเตรยี มการ นกั เรียนดูภาพชาวสวนท่ีนาผลไม้มาวางขายหลายๆ ชนดิ หรือภาพตลาดเส้ือผ้าจานวนมาก มาให้ นักเรียน ดู และแสดงความคดิ เหน็ ว่า สินคา้ ในตลาดจะมรี าคาถกู หรือแพง เพราะเหตใุ ด 2. นักเรยี นอธิบายเช่ือมโยงใหน้ ักเรยี นเขา้ ใจว่า ราคาสินค้าน้ันจะเป็นไปตามกลไกราคา 3. นกั เรียนตอบคาถามกระตุ้นความคดิ - ถ้าปริมาณสนิ ค้าและบริการมีจานวนเพ่มิ ขึน้ เปน็ จานวนมาก จะมผี ลต่อระดบั ราคาสนิ คา้ อย่างไร (ราคาสินค้าชนดิ น้ันจะลดลง) 4. นกั เรยี นทาความเข้าใจเกี่ยวกับกลไกราคา ในหัวข้อ 1) อุปสงค์ 2) อปุ ทาน ขั้นที่ 2 ขั้นจดั การเรียนรู้ 5. นกั เรียนกลุ่มเดมิ (จากแผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 1) ร่วมกันศกึ ษาความรู้เร่ือง กลไกราคา จากหนังสอื เรยี น หรอื ใบความรู้ หรือหนังสือค้นควา้ เพิม่ เติม ขนั้ ท่ี 3 ขนั้ ทากิจกรรม 6. สมาชกิ แตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั อภปิ รายความรเู้ ร่ือง กลไกราคา จนมคี วามเขา้ ใจกระจ่างชัด ขนั้ ท่ี 4 ขน้ั ตรวจสอบผลงานและทดสอบ 7. สมาชิกแตล่ ะกลมุ่ รว่ มกันทาใบงาน เร่ือง กลไกราคา โดยแบ่งหนา้ ทใ่ี ห้สมาชิกแต่ละคน ดังน้ี - สมาชิกคนท่ี 1 เขียนคาตอบจากคาถาม ข้อ 1 แลว้ ส่งไปยงั สมาชกิ คนท่ี 2 - สมาชิกคนท่ี 2 อ่านคาตอบของสมาชิกคนท่ี 1 ตรวจสอบความถูกตอ้ งแลว้ เขียนเพ่ิมเติมให้ สมบรู ณ์ จากนนั้ ตอบคาถาม ข้อ 2 - สมาชิกทกุ คนในกลมุ่ จะได้มีโอกาสอ่านและเขียนคาตอบหมุนเวยี นกนั ไปเรื่อยๆ จนครบ ขน้ั ที่ 5 ขน้ั สรปุ บทเรยี นและประเมินผล 8. นักเรยี นช่วยกนั เฉลยคาตอบในใบงาน 9. นักเรียนตอบคาถามกระตุ้นความคดิ ข้อ 1-2 1) เพราะเหตใุ ด ในฤดูหนาวราคาผ้าห่มจงึ แพง (เพราะฤดูกาลเป็นปัจจยั สาคัญในการกาหนดอุปสงค์ หรือเพราะคนจานวนมากต้องการซ้ือผ้า หม่ ในขณะทผี่ ้าห่มมจี านวนไม่เพียงพอตอ่ ความต้องการ) 2) “ในอดตี คนไทยไม่นิยมดื่มนม แต่เมื่อมีการให้ข้อมูลเก่ียวกบั ประโยชนข์ องนมจงึ ทาให้มคี นดื่ม นมมากข้ึนในปจั จบุ นั ” ข้อความนแ้ี สดงถงึ ปัจจัยในการกาหนดอุปสงคใ์ นเรือ่ งใด (การศกึ ษาและการโฆษณา) 10. นักเรยี นช่วยกันสรปุ ความรเู้ ร่อื ง กลไกราคา และความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งอุปสงคแ์ ละอุปทาน 11. นักเรียนตอบคาถามกระต้นุ ความคดิ - ถา้ ราคาสินค้าสูงข้นึ จะมผี ลตอ่ ผู้ผลติ อย่างไร (ผู้ผลติ จะผลติ สนิ ค้ามากขนึ้ ) 12. นักเรียนทากจิ กรรมตามตวั ชวี้ ดั กิจกรรมที่ 1.8-1.9 จากแบบวดั ฯ เป็นการบา้ น เสร็จแล้วนาสง่ ครู ตรวจ

กิจกรรมการเรียนการสอน (คาบที่ 5-6) ขน้ั ท่ี 1 ขั้นเตรียมการ 1. นกั เรยี นออกมาอ่านพาดหัวขา่ วหนงั สือพมิ พ์เกยี่ วกบั ราคาสนิ ค้าในตลาดทีส่ งู ข้นึ และตกตา่ 2. นกั เรยี นชว่ ยกนั แสดงความคดิ เหน็ ว่า เพราะเหตใุ ด ราคาสินค้าจงึ ข้ึนสงู หรอื ตกตา่ พรอ้ มอธิบายเหตุผล 3. ครอู ธิบายเช่อื มโยงใหน้ ักเรียนเข้าใจว่า ในการกาหนดราคาสนิ คา้ นน้ั จะเป็นไปตามกลไกราคาตลาด ซึง่ มี หลกั การในการกาหนดราคา 4. นักเรยี นตอบคาถามกระตุ้นความคิด - นักเรียนเคยซื้อสนิ ค้าทค่ี ดิ ว่ามรี าคาถูกมากทสี่ ุดอะไรบ้าง และคดิ ว่าสาเหตุที่สินค้ามีราคาถูกนัน้ เปน็ ผลมาจากอะไร ข้นั ท่ี 2 ขน้ั จดั การเรยี นรู้ 5. ครอู ธบิ ายให้นักเรยี นเข้าใจเกยี่ วกับเร่อื ง การกาหนดราคาในระบบเศรษฐกิจ ในหัวข้อต่อไปนี้ 1) หลกั การกาหนดราคา 2) การปรบั และเปลี่ยนแปลงราคาสนิ ค้าและบริการ 3) การกาหนดราคาในทางปฏิบตั ิ 6. นักเรียนกลุ่มเดิม (จากแผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1) ช่วยกนั ศกึ ษาความรเู้ ร่ือง การกาหนดราคาในระบบ เศรษฐกจิ จากหนงั สือเรียน หรือหนังสอื คน้ คว้าเพ่ิมเติม หรือห้องสมุด ขัน้ ท่ี 3 ขนั้ ทากิจกรรม 7. สมาชกิ ในแต่ละกลุ่มร่วมกันทาใบงาน เรื่อง การกาหนดราคาในระบบเศรษฐกิจ โดยปฏิบัติ ดังนี้ - สมาชกิ คนที่ 1 อ่านคาส่งั คาถาม แยกแยะประเดน็ ใหช้ ัดเจน - สมาชิกคนท่ี 2 ฟงั ข้ันตอน รวบรวมข้อมูล หาแนวทางเสนอแนะในการตอบคาถาม - สมาชกิ คนที่ 3 ตอบคาถาม - สมาชิกคนที่ 4 ตรวจสอบความถูกต้อง แก้ไขสว่ นทีผ่ ิด และเขยี นเพมิ่ เติม - สมาชกิ คนท่ี 5 อ่านคาตอบทง้ั หมดให้สมาชิกคนอื่นฟังและให้คนท่ีมีความคดิ เห็นแตกต่าง ออกไปไดแ้ สดงความคดิ เห็นเพิม่ เติมและตรวจสอบความสมบรู ณข์ องคาตอบ ขน้ั ท่ี 4 ขั้นตรวจสอบผลงานและทดสอบ 8. สมาชิกแตล่ ะคนในกล่มุ หมนุ เวียนกนั ตอบคาถามจนครบทุกข้อ 9. นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ ผลดั กันตรวจคาตอบในใบงาน โดยมคี รเู ป็นผ้เู ฉลยคาตอบ 10. นกั เรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิด ข้อ 1-3 1) ถา้ ประชาชนมีความตอ้ งการบรโิ ภคมากขน้ึ จะสง่ ผลต่อราคาสินค้าอย่างไร (ราคาสินคา้ สูงขึ้น) 2) ถ้าปีน้ีราคาส้มเพิ่มข้ึน จะสง่ ผลตอ่ ปริมาณการซื้อขายอยา่ งไร (ปริมาณการซื้อขายลดลง) 3) นกั เรียนจะนาความรเู้ ก่ียวกบั การปรับราคาสนิ คา้ และบรกิ ารไปประยกุ ต์ปฏิบัติได้อย่างไรบ้าง ขน้ั ที่ 5 ขั้นสรุปบทเรยี นและประเมนิ ผล 11. นกั เรียนร่วมกันสรุปสาระสาคญั เกย่ี วกบั การกาหนดราคาในระบบเศรษฐกิจ 12. นักเรียนทากจิ กรรมตามตวั ช้ีวัด กจิ กรรม จากแบบวัดฯ เป็นการบ้าน เสรจ็ แลว้ นาส่งครูตรวจ

13. นกั เรยี นทาแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ครูมอบหมายใหน้ ักเรียนแต่ละกล่มุ จัดทารายงาน เรอื่ ง กลไกราคาในระบบเศรษฐกิจ โดยใหค้ รอบคลุมประเดน็ ตามท่ีกาหนด ดงั นี้ 1) การอธบิ ายความหมาย ประเภทของตลาด และข้อดีข้อเสียของตลาดแตล่ ะประเภท 2) การอธิบายความหมาย ตวั กาหนด และการเปลย่ี นแปลงอุปสงค์และอุปทาน 3) การอธบิ ายกลไกราคาและการกาหนดราคาในระบบเศรษฐกจิ 8. การวัดและการประเมินผล 8.1 การประเมินกอ่ นเรียน - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 1 เร่อื ง กลไกราคาในระบบเศรษฐกจิ 8.2 การประเมนิ ระหว่างการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1) ตรวจใบงานที่ 1 เร่อื ง ตลาดในระบบเศรษฐกิจ 2) ตรวจใบงานที่ 2 เร่ือง กลไกราคา 3) ตรวจแบบบนั ทกึ การอา่ น 6) ประเมนิ การนาเสนอผลงาน 7) สงั เกตพฤติกรรมการทางานกล่มุ 8) สงั เกตคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 8.3 การประเมนิ หลังเรียน - ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรอื่ ง กลไกราคาในระบบเศรษฐกิจ 8.4 การประเมนิ ช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ตรวจรายงาน เรือ่ ง กลไกราคาในระบบเศรษฐกจิ 9. ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้ 9.1 สือ่ การเรียนรู้ 1) หนังสือเรียน เศรษฐศาสตร์ ม.3 2) แบบวดั และบนั ทึกผลการเรียนรู้ เศรษฐศาสตร์ ม.3 3) หนงั สือค้นควา้ เพิม่ เตมิ (1) ขจิต จติ ตเสวี. (2531). หลกั เศรษฐศาสตร์เบ้ืองตน้ . กรุงเทพมหานคร : โอเดียนสโตร.์ (2) นราทพิ ย์ ชตุ วิ งศ์ และชลลดา จามรกุล. (2541). พ้ืนฐานเศรษฐศาสตร์จุลภาค. กรงุ เทพมหานคร : คณะเศรษฐศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย. (3) บญุ ยืน ชัยสโุ รจน.์ (2533). ระบบเศรษฐกจิ ไทย. กรงุ เทพมหานคร : ตน้ อ้อ. 4) ใบความรู้ 5) ตัวอย่างข่าว 6) เอกสารประกอบการสอน 7) บัตรภาพ 8) ใบงานที่ 1.1 เรื่อง ตลาดในระบบเศรษฐกจิ 9) ใบงานที่ 1.2 เร่ือง การวิเคราะห์ตลาด

10) ใบงานที่ 1.3 เรอื่ ง กลไกราคา 11) ใบงานท่ี 1.4 เร่ือง การกาหนดราคาในระบบเศรษฐกิจ 9.2 แหลง่ การเรยี นรู้ 1) หอ้ งสมดุ 2) แหล่งข้อมูลสารสนเทศ - http://www.thaigoodview.com/node/98519

แบบประเมินรายงาน เรือ่ ง กลไกราคาในระบบเศรษฐกจิ รายการประเมิน ดีมาก (4) คาอธิบายระดับคณุ ภาพ / ระดับคะแนน ปรับปรุง (1) ดี (3) พอใช้ (2) 1. การอธบิ าย อธิบายความหมาย อธิบายความหมาย อธบิ ายความหมาย อธบิ ายความหมาย ความหมาย ประเภทของตลาด ประเภทของตลาด ประเภทของตลาด ประเภทของตลาด ประเภทของตลาด และข้อดีข้อเสียของ และข้อดขี ้อเสยี ของ และข้อดขี ้อเสียของ และข้อดขี ้อเสยี ของ และข้อดีข้อเสยี ตลาด แตล่ ะประเภท ตลาด แตล่ ะประเภท ตลาด แต่ละประเภท ตลาด แตล่ ะประเภท ของตลาดแต่ละ ไดถ้ ูกตอ้ ง ครบถ้วน ไดถ้ ูกตอ้ ง เป็นส่วน ไดถ้ ูกต้อง เป็น ได้ถูกต้อง เปน็ ประเภท สมบูรณ์ ใหญ่ บางส่วน บางส่วน แต่สานวน ค่อนข้างวกวน 2. การอธิบาย อธิบายความหมาย อธบิ ายความหมาย อธบิ ายความหมาย อธิบายความหมาย ความหมาย ตวั กาหนด และการ ตวั กาหนด และการ ตวั กาหนด และการ ตัวกาหนด และการ ตวั กาหนด และ เปลยี่ นแปลงอปุ สงค์ เปล่ียนแปลงอปุ สงค์ เปล่ยี นแปลงอปุ สงค์ เปล่ยี นแปลงอุปสงค์ การเปล่ยี นแปลง และอปุ ทานได้ถกู ต้อง และอปุ ทานได้ถูกต้อง และอปุ ทานได้ถูกต้อง และอุปทานได้ถกู ตอ้ ง อุปสงค์และ ครบถ้วน สมบูรณ์ เปน็ ส่วนใหญ่ เปน็ บางสว่ น เปน็ บางสว่ น แต่ อปุ ทาน สานวนค่อนขา้ งวกวน 3. การอธบิ ายกลไก อธบิ ายกลไกราคาและ อธบิ ายกลไกราคาและ อธบิ ายกลไกราคาและ อธิบายกลไกราคาและ ราคาและการ การกาหนดราคาใน การกาหนดราคาใน การกาหนดราคาใน การกาหนดราคาใน กาหนดราคาใน ระบบเศรษฐกจิ ได้ ระบบเศรษฐกจิ ได้ ระบบเศรษฐกจิ ได้ ระบบเศรษฐกิจ ระบบเศรษฐกิจ ถกู ต้อง ครบถ้วน ถูกต้องเป็นสว่ นใหญ่ ถกู ต้องเปน็ บางส่วน ไมถ่ ูกตอ้ ง สมบูรณ์ เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ ชว่ งคะแนน 11 - 12 9 - 10 6-8 ตา่ กว่า 6 ระดับคุณภาพ ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรุง การประเ/ภาระงาน (รวบยอด)

การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน แบบประเมินรายงาน เรื่อง กลไกราคาในระบบเศรษฐกิจ ดบั ที่ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 4321 1 การอธิบายความหมาย ประเภทของตลาด และข้อดขี ้อเสยี ของตลาดแต่ละประเภท 2 การอธิบายความหมาย ตวั กาหนด และการ เปลีย่ นแปลงอปุ สงค์และอุปทาน 3 การอธิบายกลไกราคาและการกาหนดราคาในระบบ เศรษฐกจิ รวม ลงช่ือ...................................................ผู้ประเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ ดีมาก = 4 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ดี = 3 คะแนน พอใช้ = 2 คะแนน 11 - 12 ดมี าก ปรบั ปรุง = 1 คะแนน 9 - 10 ดี 6 - 8 พอใช้ ต่ากว่า 6 ปรบั ปรงุ

แบบประเมินการนาเสนอผลงาน คาช้แี จง : ให้ ผู้สอน ประเมินการนาเสนอผลงานของนกั เรยี นตามรายการที่กาหนด แลว้ ขีด  ลงในช่อง ท่ีตรงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ท่ี รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 4321 1 นาเสนอเน้ือหาในผลงานได้ถูกต้อง 2 การลาดับขั้นตอนของเน้ือเรื่อง 3 การนาเสนอมีความนา่ สนใจ 4 การมีส่วนรว่ มของสมาชกิ ในกลมุ่ 5 การตรงต่อเวลา รวม ลงช่อื .................................................... ผปู้ ระเมนิ ................ /................ /................ เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสมบรู ณ์ชัดเจน ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ ผลงานหรือพฤติกรรมมขี ้อบกพรอ่ งบางส่วน ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมีข้อบกพรอ่ งเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี ้อบกพร่องมาก ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ตา่ กว่า 10 ปรบั ปรงุ

แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม คาชแ้ี จง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี  ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน การมี ลาดบั ช่ือ-สกลุ การแสดง การยอมรับ การทางาน ความมี ส่วนร่วมใน รวม ท่ี ของผรู้ ับการประเมิน ความ ฟงั คนอ่ืน ตามทีไ่ ดร้ ับ นา้ ใจ การ 20 คิดเหน็ มอบหมาย ปรับปรงุ คะแนน ผลงานกลุ่ม 4321 4321 432 14321 4321 ลงชือ่ .................................................... ผูป้ ระเมนิ ................ /................ /................ เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยคร้ัง ให้ 3 คะแนน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมบางครง้ั ให้ 2 คะแนน 18 - 20 ดีมาก ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมนอ้ ยครง้ั ให้ 1 คะแนน 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ตา่ กว่า 10 ปรบั ปรุง

แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คาชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี  ลงในชอ่ ง ท่ีตรงกับระดบั คะแนน คุณลักษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน อนั พงึ ประสงคด์ ้าน 4321 1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเมือ่ ได้ยนิ เพลงชาติ ร้องเพลงชาตไิ ด้ และอธิบายความหมายของ กษัตรยิ ์ เพลงชาติ 1.2 ปฏิบตั ติ นตามสิทธิและหนา้ ที่ของพลเมืองดี 1.3 ให้ความร่วมมือ รว่ มใจ ในการทากจิ กรรมกับสมาชกิ ในโรงเรยี นและ ชุมชน 1.4 เขา้ ร่วมกิจกรรมและมสี ว่ นร่วมในการจดั กิจกรรมทสี่ ร้างความสามคั คี ปรองดอง และเปน็ ประโยชนต์ อ่ โรงเรยี น ชมุ ชน และสังคม ชื่นชมความเป็น ชาตไิ ทย 1.5 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางศาสนาท่ีตนนบั ถอื ปฏบิ ัตติ นตามหลักของศาสนา อย่างสมา่ เสมอ เปน็ แบบอย่างที่ดขี องศาสนิกชน 1.6 เข้ารว่ มกิจกรรมและมีสว่ นร่วมในการจดั กิจกรรมที่เก่ียวข้องกับสถาบัน พระมหากษัตริย์ตามท่ีโรงเรียนและชุมชนจัดขึ้น ชืน่ ชมในพระราชกรณียกิจ พระ ปรชี าสามารถของพระมหากษัตรยิ แ์ ละพระราชวงศ์ 2. ซอื่ สัตย์ สจุ รติ 2.1 ใหข้ ้อมูลท่ถี ูกต้อง และเปน็ จริง 2.2 ปฏิบัตใิ นสิ่งท่ถี กู ตอ้ ง ละอาย และเกรงกลัวทจี่ ะกระทาความผดิ ทาตาม สญั ญาท่ีตนให้ไวก้ ับเพื่อน พ่อแม่ หรือผู้ปกครอง และครู เป็นแบบอยา่ งท่ี ดดี ้านความซื่อสัตย์ 2.3 ปฏบิ ัตติ นต่อผ้อู ืน่ ด้วยความซื่อตรง ไม่หาประโยชนใ์ นทางที่ไม่ถูกต้อง และเป็นแบบอยา่ งที่ดีแกเ่ พื่อนดา้ นความซื่อสัตย์ 3. มีวนิ ัย 3.1 ปฏบิ ัตติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคบั ของครอบครัวและ รับผดิ ชอบ โรงเรียน ไม่ละเมดิ สิทธิของผู้อื่น ตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ตั ิกิจกรรมต่างๆ ใน ชีวติ ประจาวัน และรบั ผดิ ชอบในการทางาน 4. ใฝเ่ รยี นรู้ 4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหล่งการเรียนร้ตู ่างๆ 4.2 มกี ารจดบันทึกความรู้อย่างเป็นระบบ 4.3 สรปุ ความรไู้ ด้อย่างมีเหตผุ ล 5. อยู่อย่างพอเพียง 5.1 ใชท้ รพั ย์สินของตนเอง เชน่ สิ่งของ เครื่องใช้ ฯลฯ อย่างประหยดั คมุ้ คา่ และเก็บรักษาดูแลอยา่ งดี และใชเ้ วลาอยา่ งเหมาะสม

คุณลกั ษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน อนั พึงประสงคด์ า้ น 4321 5.2 ใชท้ รัพยากรของส่วนรวมอย่างประหยัด คมุ้ คา่ และเกบ็ รกั ษา ดแู ลอย่างดี 6. มุ่งม่ันในการ 5.3 ปฏิบตั ติ นและตดั สินใจด้วยความรอบคอบ มีเหตผุ ล ทางาน 5.4 ไม่เอาเปรยี บผูอ้ น่ื และไม่ทาให้ผอู้ ื่นเดอื ดร้อน พร้อมให้อภัยเม่อื ผู้อื่น กระทาผดิ พลาด 5.5 วางแผนการเรยี น การทางานและการใชช้ วี ติ ประจาวันบนพืน้ ฐาน ของความรู้ ข้อมูล ขา่ วสาร 5.6 รูเ้ ท่าทนั การเปล่ยี นแปลง ทางสงั คม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรับ และปรับตวั อยรู่ ว่ มกบั ผู้อื่นได้อยา่ งมีความสุข 6.1 มคี วามตั้งใจและพยายามในการทางานท่ีได้รบั มอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไมท่ ้อแทต้ ่ออุปสรรคเพื่อใหง้ านสาเร็จ 7. รักความเปน็ ไทย 7.1 มจี ติ สานึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภมู ิปญั ญาไทย 7.2 เห็นคุณคา่ และปฏิบัติตนตามวฒั นธรรมไทย 8. มีจติ สาธารณะ 8.1 ร้จู ักชว่ ยพอ่ แม่ ผูป้ กครอง และครูทางาน 8.2 อาสาทางาน ชว่ ยคดิ ช่วยทา และแบ่งปันส่งิ ของ และช่วย แกป้ ัญหาให้ผู้อื่น 8.3 ดแู ล รกั ษาทรัพยส์ นิ ของหอ้ งเรียน โรงเรียน ชุมชน 8.4 เข้ารว่ มกิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรียนและ ชุมชน ลงช่ือ .................................................... ผ้ปู ระเมิน ................ /................ /................ เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่าเสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครง้ั ให้ 3 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบางครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมนอ้ ยคร้ัง ให้ 1 คะแนน 91 - 108 ดีมาก 73 - 90 ดี 54 - 72 พอใช้ ต่ากว่า 54 ปรบั ปรุง

บนั ทึกหลังสอนหน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 เรือ่ ง กลไกราคา ชั้น นักเรยี นผ่านตัวชว้ี ัด นกั เรยี นไม่ผา่ นตวั ช้ีวดั นักเรยี นทย่ี งั ไมส่ อบ จานวน คดิ เปน็ รอ้ ย ม.3/3 จานวน คดิ เปน็ รอ้ ย จานวน คดิ เป็นร้อย นักเรยี นจานวน 40 คน ละ ละ ละ ม.3/4 32 80.00 1 2.5 7 17.5 นักเรียนจานวน 36 คน 17 47.22 4 11.11 15 41.66 ม.3/8 นักเรียนจานวน 34 คน 22 64.70 3 8.82 9 26.47 ม.3/9 16 42.10 9 23.68 16 42.10 นักเรียนจานวน 40 คน 2 5.55 14 38.88 20 55.55 ม.3/10 นักเรียนจานวน 34 คน 5 50.00 5 50.00 -- ม.3/11 นักเรยี นจานวน 10 คน ผู้เรยี นทีไ่ ด้รบั ความรู้ความสามารถ (K) กลไกราคาในระบบเศรษฐกจิ ความหมายและประเภทของตลาดตลาดในระบบเศรษฐกิจแตล่ ะประเภทมีลกั ษณะแตกตา่ งกัน ซง่ึ มที ้ังข้อดแี ละข้อเสยี อุปสงค์ หรือความต้องการของผซู้ ้อื ท่ีจะซอ้ื สนิ ค้าหรอื บริการของผู้บริโภค มักจะ เปล่ยี นแปลง ไปในทางตรงกันข้ามกบั ราคา ส่วนอปุ ทานหรือการตอบสนองต่อราคาของผู้ขายมักจะเปลย่ี นไปในทางเดยี วกับ ราคา และการเปล่ยี นแปลงของอุปสงค์และอปุ ทาน กฎของอุปสงค์ และกฎของอปุ ทาน ดุลยภาพของตลาด ความ ยืดหยนุ่ ของอปุ สงค์และอุปทาน ผเู้ รียนทีเ่ กิดทกั ษะกระบวนการ (P) การส่ือสาร การคดิ วเิ คราะห์ การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ ผูเ้ รยี นมคี ณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ (A) แสวงหารแหลง่ เรียนรู้ต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียนดว้ ยการเลอื กใชส้ อ่ื อย่างเหมาะสม บนั ทึกความรู้ วิเคราะห์ สรปุ เป็นองคค์ วามรู้ สามารถนาไปใช้ในชีวติ ประจาวนั ลงช่อื ................................................................. ( นางมณฑริ า จินดารัตน์ )

ความคดิ เหน็ และขอ้ เสนอแนะของหัวหนา้ กลมุ่ สาระสังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ลงชอ่ื ................................................................. ( นางนงเยาว์ วกิ รยั เจรญิ ย่ิง ) หวั หนา้ กล่มุ สาระสงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ความคดิ เห็นและข้อเสนอแนะของรองผู้อานวยการกลุ่มบรหิ ารวิชาการ ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ลงชอ่ื ................................................................. ( นางสาวเพรศิ พิศ คูหามขุ ) รองผู้อานวยการกลมุ่ บริหารวิชาการ

แบบทดสอบกอ่ นเรยี น หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 คาชี้แจง ให้นักเรียนเลือกคาตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. ขอ้ ใดคอื สินค้าในตลาดผูกขาด 5. ขอ้ ความเกี่ยวกบั ปัจจยั กาหนดอปุ ทานขอ้ ใดถูกต้อง ก. ไฟฟูา ประปา ข. ขา้ วโพด ยางพารา ก.ถา้ ราคาสนิ ค้าสงู ขึน้ ผ้ผู ลิตจะลดจานวนการผลิตลง ค. นา้ อัดลม ปูนซเี มนต์ ง. เคร่อื งปรับอากาศ โทรทศั น์ ข. ถา้ หากสนิ ค้ามีราคาถกู ลง ผผู้ ลติ จะได้กาไร 2. ขอ้ ความใดสอดคล้องกับลกั ษณะของตลาดแขง่ ขนั น้อยลง ทาให้ลดการผลิตลง สมบรู ณ์ ก. กอ้ ยซึ่งเปน็ แมบ่ า้ นมักจะซื้อผงซักฟอกหลายยห่ี อ้ ค. จานวนผูผ้ ลติ ถา้ มีมากขึ้น ทาใหอ้ ปุ ทานเพ่ิมขึ้น เปลย่ี นกนั ไป เพราะคณุ ภาพและราคาใกลเ้ คียง ถา้ ผู้ผลติ ลดนอ้ ยลง จะทาใหอ้ ุปทานลดลง กนั ข. ตลาดนัดกลางของจังหวดั จะมีคนนิยมไปซื้อของ ง. ช่วงภาวะน้ามันราคาแพง ผผู้ ลิตรถยนตจ์ ะผลติ จานวนมาก แต่มสี ินค้าจานวนน้อย ค. บรษิ ัท สหรงุ่ เรอื ง ผลติ เตารดี ไฟฟูารนุ่ ใหม่ออกมา รถยนตข์ นาดใหญท่ ปี่ ระหยดั นา้ มัน ซงึ่ มรี าคาแพงกวา่ เตารีดของบรษิ ัทอ่นื ง. ในวันขน้ึ ปใี หม่รา้ นค้าที่เก่งเป็นเจ้าของ ประกาศลด 6. การปรบั ตวั ที่ทาให้ปริมาณซ้อื และปริมาณขายเทา่ กัน ราคาสินค้าถูกกวา่ เดิม 50 เปอรเ์ ซ็นต์ 3. ขอ้ ดขี องตลาดแขง่ ขันสมบรู ณ์ คอื อะไร พอดี ณ ระดบั ราคาใดราคาหน่งึ น้ัน สอดคล้องกบั ก. ผผู้ ลติ สามารถกาหนดราคาสินค้าได้สงู ข. ผบู้ รโิ ภคและผูผ้ ลติ ร่วมมือกนั กาหนดราคาสินค้า ขอ้ ความใด ค. ผู้บริโภคมีโอกาสในการเลือกซ้อื สินคา้ ราคาท่ีตา่ สุด ง. ผู้ผลติ สนิ คา้ มกี ารแข่งขันกันอย่างเสรเี พอ่ื ขายสินค้า ก. อปุ ทาน ข. อปุ สงค์ ใหไ้ ดม้ ากทส่ี ดุ 4.“ถา้ ราคาสินค้าและบริการใดๆ เพมิ่ ข้ึน ความ ค. กลไกราคา ง. ราคาดลุ ยภาพ ตอ้ งการซ้อื สินค้าและบริการน้นั จะลดนอ้ ยลง ถ้าราคา สินค้าหรอื บริการใดๆ ลดลง ความต้องการซ้ือสนิ คา้ 7. ขอ้ ใดเป็นไปตามกฎของอปุ ทาน และบริการนัน้ จะเพิ่มขน้ึ ” ข้อความดังกลา่ วสอดคลอ้ ง ก.สงกรานต์อยากได้กระเปา๋ ใหม่แต่ไม่มีเงิน กบั ข้อใด ข.สมชายเหน็ วา่ มงั คดุ มีราคาถกู จึงนามงั คุดมาขาย ก. กฎของอุปสงค์ ค.สชุ าตินาเสอื้ ยดื ออกขายเพม่ิ เพราะราคาสินค้าสูงขึ้น ข. กฎของอุปทาน ง.สราวธุ ขายพวงมาลยั มากขึ้นเพราะดอกมะลมิ รี าคา ค. ตัวกาหนดอปุ สงค์ ง.ตัวกาหนดอปุ ทาน แพง 8. ขอ้ ใดเปน็ ไปตามกฎของอปุ สงค์ (Law of Demand) ก. ราคาผันแปรทางเดียวกันกับปรมิ าณเสนอซ้ือ ข. ราคาผันแปรตรงขา้ มกับปรมิ าณเสนอซอื้ ค. รายไดผ้ นั แปรทางเดยี วกันกบั ปริมาณเสนอซ้ือ ง. รายได้ผันแปรตรงข้ามกับปรมิ าณเสนอซื้อ 9. ขอ้ ใดเปน็ ไปตามกฎของอุปสงค์ ก. ลองกองปีน้ีราคาไม่แพง คนจึงนยิ มซอ้ื บริโภคกันมาก ข. แกว้ มงั กรเปน็ ผลไม้สขุ ภาพท่ีคนนิยมรบั ประทาน เกษตรกรจึงปลูกกันมาก ค. พอ่ คา้ สง่ ทเุ รยี นไปขายตา่ งประเทศมาก แต่ไม่ทา ใหท้ เุ รยี นภายในประเทศราคาเพม่ิ ข้ึน ง. นา้ มันแพง รฐั บาลจึงรณรงคใ์ หป้ ระชาชนชว่ ยกัน ลดการใช้พลงั งาน

10. ข้อใดคือความหมายของกลไกราคา ก. การผลติ ท่ีมีความสมดลุ กบั การบรโิ ภค ข. ราคาสินคา้ และการผลติ ถูกกาหนดโดยความ ต้องการของผู้บริโภค ค. ปรมิ าณสนิ คา้ ทีผ่ ู้บรโิ ภคและผู้ผลิตมคี วามตอ้ งการ เทา่ กนั ง. การเปลี่ยนแปลงในระดับราคาสนิ คา้ ซึ่งเกิดจาก แรงผลกั ของอปุ สงค์และอุปทาน เฉลย 1. ก 2. ก 3. ค 4. ก 5. ค 6. ง 7. ค 8. ก 9. ข 10. ง

แบบทดสอบหลังเรยี น หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 คาชแี้ จง ให้นกั เรียนเลือกคาตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. ขอ้ ใดคือความหมายของกลไกราคา 6. ข้อความเกี่ยวกับปจั จยั กาหนดอปุ ทานข้อใดถูกตอ้ ง ก. การเปลีย่ นแปลงในระดับราคาสนิ คา้ ซ่งึ เกดิ ก. ชว่ งภาวะน้ามันราคาแพง ผู้ผลิตรถยนต์จะผลิต จาก แรงผลกั ของอปุ สงค์และอปุ ทาน รถยนต์ขนาดใหญ่ทปี่ ระหยดั น้ามนั ข. ปรมิ าณสินค้าท่ผี บู้ รโิ ภคและผู้ผลิตมีความ ข. จานวนผู้ผลิตถา้ มมี ากขนึ้ ทาให้อปุ ทานเพมิ่ ข้ึน ตอ้ งการเทา่ กนั ถ้าผู้ผลติ ลดน้อยลง จะทาใหอ้ ุปทานลดลง ค. ราคาสินค้าและการผลติ ถูกกาหนดโดยความ ค. ถ้าหากสินค้ามีราคาถกู ลง ผู้ผลติ จะได้กาไร ต้องการของผบู้ รโิ ภค น้อยลง ทาใหล้ ดการผลิตลง ง. การผลิตทม่ี ีความสมดุลกับการบริโภค ง. ถ้าราคาสนิ ค้าสูงขนึ้ ผ้ผู ลิตจะลดจานวนการ ผลิตลง 2. ขอ้ เสียของตลาดแข่งขนั สมบรู ณ์ คอื อะไร ก. ผผู้ ลิตสนิ คา้ พยายามลดตน้ ทุนทาใหค้ ณุ ภาพ 7. “ถ้าราคาสนิ ค้าและบรกิ ารใดๆ เพ่มิ ขึน้ ความ สินค้าต่า ต้องการซ้อื สินค้าและบริการน้นั จะลดน้อยลง ถา้ ข. ผูผ้ ลติ ได้กาไรเป็นอตั ราสว่ นท่ีค่อนข้างมาก ราคาสินคา้ หรอื บรกิ ารใดๆ ลดลง ความตอ้ งการซ้ือ ค. ผผู้ ลิตไม่มกี ารแข่งขันกันอยา่ งแท้จริง สนิ ค้าและบริการนั้น จะเพิม่ ขึ้น” ขอ้ ความดงั กล่าว ง. ผ้บู ริโภคเปน็ ผกู้ าหนดราคาสินคา้ สอดคล้องกบั ข้อใด ก. ตัวกาหนดอุปทาน 3. การกาหนดราคาในทางปฏิบัตมิ วี ตั ถปุ ระสงค์หลาย ข. ตัวกาหนดอุปสงค์ ประการ ยกเว้นข้อใด ค. กฎของอปุ ทาน ก. เพ่อื สรา้ งกาไร ง. กฎของอุปสงค์ ข. เพอ่ื สรา้ งยอดขาย ค. เพือ่ ขยายตลาดให้กว้างขวาง 8. ข้อดีของตลาดแขง่ ขนั สมบูรณ์ คอื อะไร ง. เพ่ือให้ราคาสินค้าเทา่ เทียมกัน ก. ผูผ้ ลิตสนิ คา้ มกี ารแข่งขนั กนั อย่างเสรีเพ่ือขาย สินคา้ ให้ได้มากทสี่ ุด 4. “ถา้ ในตลาดมผี ู้ขายเพยี งรายเดยี ว อาจกาหนด ข. ผูบ้ รโิ ภคมีโอกาสในการเลือกซ้ือสนิ ค้าราคาท่ี ราคาสินค้าใหส้ งู ได้” ข้อความดงั กลา่ วสอดคล้องกับ ต่าสุด ปัจจยั การกาหนดราคาในข้อใด ค. ผู้บรโิ ภคและผู้ผลติ รว่ มมือกันกาหนดราคาสนิ ค้า ก. ตน้ ทนุ การผลิตและจาหนา่ ย ง. ผูผ้ ลิตสามารถกาหนดราคาสินคา้ ไดส้ งู ข. การแข่งขนั ของตลาด ค. สภาวะทางเศรษฐกจิ ง. กลมุ่ เปูาหมาย 5. การปรบั ตัวทท่ี าให้ปริมาณซอ้ื และปรมิ าณขาย เท่ากันพอดี ณ ระดบั ราคาใดราคาหน่ึงน้นั สอดคล้องกบั ข้อความใด ก. ราคาดุลยภาพ ข. กลไกราคา ค. อปุ สงค์ ง. อุปทาน

9. ขอ้ ความใดสอดคลอ้ งกับลกั ษณะของตลาดแขง่ ขัน 10. “ตลาดส่ีมุมเมืองจะมสี นิ คา้ จากเกษตรกรนามาขาย สมบูรณ์ จานวนมาก สว่ นตลาดรถยนตจ์ ะมีอยูใ่ นตัวเมืองของ ก. ในวันขึ้นปใี หมร่ า้ นค้าทเ่ี ก่งเป็นเจ้าของ ประกาศ ทุกจงั หวดั ” ขอ้ ความดังกลา่ วเปน็ การแบง่ ลักษณะ ลดราคาสนิ คา้ ถูกกวา่ เดิม 50 เปอร์เซน็ ต์ ของตลาดตามข้อใด ข. บรษิ ทั สหร่งุ เรอื ง ผลิตเตารีดไฟฟูารนุ่ ใหม่ ก. แบ่งตามลกั ษณะการแขง่ ขนั ท่ีมอี ยู่ในตลาด ออกมา ซง่ึ มีราคาแพงกวา่ เตารดี ของบริษัทอนื่ ข. แบ่งตามวัตถปุ ระสงค์ของการใช้สินค้า ค. ตลาดนัดกลางของจงั หวดั จะมีคนนิยมไปซือ้ ของ ค. แบง่ ตามลักษณะการขายสนิ ค้า จานวนมาก แตม่ สี ินค้าจานวนน้อย ง. แบ่งตามชนิดของสินค้า ง. ก้อยซ่งึ เป็นแม่บา้ นมกั จะซื้อผงซกั ฟอกหลาย ยี่หอ้ เปล่ยี นกนั ไป เพราะคุณภาพและราคา ใกลเ้ คียงกนั เฉลย 1. ก 2. ค 3. ง 4. ข 5. ก 6. ข 7. ง 8. ข 9. ง

เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า ส.23102 สงั คมศกึ ษา ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๓ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๑ กลไกราคา (ตลาด) ตวั ชวี้ ดั ที่ ส.๓.๑ ม.๓/๑ อธบิ ายกลไกราคาในระบบเศรษฐกจิ กลไกราคา ตลาดในระบบเศรษฐกจิ ตลาดทางเศรษฐศาสตร์ หมายถึงกจิ กรรมการแลกเปลี่ยนสินค้าและบรกิ ารระหวา่ งผ้ซู ื้อและผู้ขายโดยไมส่ นใจ วา่ มสี ถานทีห่ รือไม่ หากมกี ารซื้อขายสินคา้ และบริการในสถานทีแ่ หง่ ใดกถ็ ือวา่ สถานท่นี นั้ เป็นตลาดโดยตลาดเปน็ ตวั กลางในการตดิ ต่อซอ้ื ขายแลกเปลย่ี นสนิ คา้ และบริการ เป็นการอานวยความสะดวกใหก้ ับผูซ้ ้ือและผขู้ าย ประเภทของตลาด 1.ตลาดทแ่ี บง่ ตามลกั ษณะการดาเนนิ การขายของผขู้ าย ตลาดขายสง่ ตลาดขายปลกี ตลาดทไ่ี มไ่ ดข้ ายสนิ คา้ ใหแ้ กผ่ บู้ รโิ ภคโดยตรงแต่ ตลาดทข่ี ายสนิ คา้ ใหแ้ ก่ผบู้ รโิ ภคโดยตรงซง่ึ จะขายใหก้ บั บคุ ลทจ่ี ะนาไปขายตอ่ อกี ทอดหนงึ่ อาจจะเรมิ่ ตงั้ แตต่ ลาดเลก็ เชน่ ตลาดสด อาจเปน็ พอ่ คา้ ขายสง่ หรอื ขายปลกี นาไปขายให้ ชมุ ชน ตลาดนดั ตลาดนา้ ไปจนถงึ รา้ น พอ่ คา้ ขายปลกี หรอื ผบู้ รโิ ภคอกี ตอ่ หนง่ึ สะดวกซอื้ หา้ งสรรพสนิ คา้ ศนู ยก์ ารคา้

2.ตลาดทแี่ บง่ ตามประเภทของสนิ คา้ และบริการที่จาหนา่ ย ตลาดสินคา้ ตลาดบรกิ าร 1.ตลาดสินคา้ ผูบ้ ริโภค เป็นตลาดท่ีจาหนา่ ยสินคา้ ตลาดทเ่ี นน้ การบรกิ ารเป็นหลัก เชน่ ร้านตัดผม ใหผ้ ู้บรโิ ภคโดยตรง ให้บรกิ ารตัดแตง่ ทรงผม 2.ตลาดสนิ ค้าผู้ผลิต เปน็ ตลาดที่จาหนา่ ยสนิ ค้าให้ แกผ่ นู้ าไปผลติ สนิ ค้าหรือบรกิ ารอกี ทอดหน่งึ ตลาดการเงนิ ตลาดที่มกี ารซ้อื ขายแลกเปลี่ยนเงิน แบ่งเปน็ 3.ตลาดท่แี บ่งตามลกั ษณะของการแข่งขนั (1) ตลาดแขง่ ขันสมบูรณ์ 1) ตลาดเงิน คือ ตลาดทใ่ี ห้เงินกยู้ มื ในระยะ สัน้ 2) ตลาดทนุ คือ ตลาดที่ให้เงินกยู้ มื ในระบบ ผซู้ ือ้ และผู้ขายมจี านวนมากจนไมม่ ี ใครมีอทิ ธิพลกาหนดราคาในตลาดได้ การเคลือ่ นย้ายสนิ ค้าและ ราคาสนิ ค้าเกิดจากความ ปัจจยั การผลติ จะต้องกระทา ต้องการซือ้ และขายอยา่ งแท้จริง ไดอ้ ยา่ งสมบรู ณ์ ตลาดแข่งขันสมบูรณ์ ผซู้ อ้ื และผู้ขายมคี วามรูเ้ กย่ี วกับ สภาพการณ์ของตลาดเปน็ อย่างดี สินคา้ ที่ซ้ือขายมลี กั ษณะ ใกล้เคียงกนั มาก (2) ตลาดแข่งขันไม่สมบูรณ์

ตลาดแขง่ ขนั ไม่สมบูรณ์ ลกั ษณะ 1.ตลาดผูกขาดแท้จริง  มีผ้ขู ายเพียงรายเดียว 2.ตลาดผขู้ ายน้อยราย  มีอานาจควบคมุ จานวนและราคาสนิ คา้ โดยสมบรู ณ์ 3.ตลาดกึง่ แขง่ ขนั กึ่งผูกขาด  อาจมกี ฎหมายรองรบั ให้ทาได้ เชน่ กิจการไฟฟา้ ประปา  ผขู้ ายสนิ เพยี ง 3-4 ราย  เป็นกจิ การขนาดใหญ่ เชน่ โรงกล่ันนา้ มัน รถยนต์  มีผ้ขู ายจานวนมาก สนิ คา้ คลา้ ยคลึงกัน  สร้างความแตกต่างผ่านกลยุทธท์ างการตลาดหรอื คณุ ภาพของ สนิ ค้าเพือ่ ดึงดูดลูกคา้  เปน็ ตลาดสนิ ค้าอปุ โภคบรโิ ภคทว่ั ไป เช่นร้านสะดวกซื้อ ตลาดนดั ซปู เปอร์มารเ์ กต็

ใบงานท่ี 1 รายวิชา ส.23103 สังคมศึกษาฯ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เรอ่ื ง กลไกราคา (ตลาด) ช่ือ..........................................................................................................ช้นั ม.3/................เลขท.ี่ ............ ใหน้ ักเรียนเปรียบเทียบตลาดแข่งขันสมบรู ณ์และตลาดแข่งขันไม่สมบูรณ์ แลว้ เขียนลงในชอ่ งวา่ งให้ถูกตอ้ ง ด้าน ตลาดแขง่ ขันสมบูรณ์ ตลาดแขง่ ขันไมส่ มบูรณ์ จานวนผูข้ าย .......................................................................... ............................................................................. .......................................................................... ............................................................................. ลกั ษณะสินค้าท่ขี าย ............................................................................. .............................................................................. ............................................................................ ............................................................................ ความยากง่ายในการเขา้ สตู่ ลาด ............................................................................. ............................................................................. ............................................................................ ............................................................................. ราคาสินคา้ ............................................................................. .............................................................................. ............................................................................ ............................................................................ คุณภาพสนิ คา้ ............................................................................. ............................................................................... ............................................................................ ............................................................................

ให้นกั เรยี นจาแนกประเภทของตลาดลงในตารางให้ถกู ต้อง และตอบคาถาม ตลาดบรกิ าร ตลาดแขง่ ขนั สมบรู ณ์ ตลาดขายส่ง ตลาดสนิ ค้า ตลาดขายปลกี ตลาดแขง่ ขันไมส่ มบรู ณ์ ตลาดการเงิน ตลาดแบ่งตามลักษณะการดาเนินการ ตลาดที่แบง่ ตามประเภทของสินค้า ตลาดท่ีแบ่งตามลักษณะของการ แข่งขนั ขายของผู้ขาย และบรกิ ารทจี่ าหน่าย ............................................................................. ............................................................................. ............................................................................. ............................................................................. ............................................................................. ............................................................................. ............................................................................. ............................................................................. ............................................................................. ............................................................................. ............................................................................. ............................................................................. ............................................................................. .............................................................................. .............................................................................. ตลาดทแ่ี บ่งตามลักษณะการดาเนนิ การขายของผ้ขู ายมีลกั ษณะอยา่ งไร ............................................................................................................................. ....................................................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................................................................................... ตลาดที่แบ่งตามประเภทของสินคา้ และบริการทจี่ าหน่ายมลี ักษณะอย่างไร ............................................................................................................................. ................................................................... .................................................... ............................................................................................................................. .............................................................................. ......................................... ตลาดทแ่ี บง่ ตามลกั ษณะของการแข่งขันมลี ักษณะอย่างไร ............................................................................................................................. .................................................................................. .....................................

เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า ส.23102 สงั คมศกึ ษา ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๓ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๑ กลไกราคา (อปุ สงค-์ อปุ ทาน) ตวั ชวี้ ดั ท่ี ส.๓.๑ ม.๓/๑ อธบิ ายกลไกราคาในระบบเศรษฐกจิ กลไกราคา การกาหนดราคาในระบบเศรษฐกจิ การกาหนดราคา ระบบเศรษฐกิจ มีตลาดเป็นตวั กาหนดราคาสินค้าและบริการ ซึ่งขน้ึ อยกู่ ับระบบเศรษฐกจิ ของแต่ละประเทศ สาหรบั ประเทศไทยใช้ระบบเศรษฐกิจแบบผสม ดังน้นั เอกชนจึงเป็นผกู้ าหนดราคาสนิ ค้าเปน็ หลกั โดยใช้รปู แบบของ กลไกราคา แตร่ ัฐบาลก็มีสทิ ธิในการแทรกแซงกลไกราคา เมอ่ื กลไกราคาที่เปน็ อยู่สง่ ผลกระทบแกค่ นในประเทศ ความหมายและความสาคัญของกลไกราคา กลไกราคา คอื กระบวนการปรบั ตวั ของราคาสินคา้ และบรกิ าร หรอื ปัจจัยการผลิตท่ีเกิดข้นึ ตามแรงผลกั ดนั ของ อปุ สงค์และอปุ ทานในตลาด ความสาคัญของกลไกราคา เพอื่ ใหต้ ลาดทางานได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพตามระบบโดยไมม่ กี ารแทรกแซงจากฝา่ ย อน่ื ๆ

ความหมายและตัวอย่างของอุปสงค์และอปุ ทาน อปุ สงค์ (Demand) เมอ่ื ราคาสนิ คา้ และบริการชนิดหนงึ่ เพมิ่ ขนึ้ ความต้องการซอ้ื สนิ คา้ และบรกิ ารชนดิ น้นั จะ ลดลง เม่อื ราคาสินค้าและบรกิ ารชนดิ หน่ึง ลดลง ความตอ้ งการซอ้ื สินค้าและบริการชนดิ น้ันจะ เพ่มิ ขึ้น แปรผกผันกนั ตวั อยา่ งของอปุ สงค์ กฎอุปสงค์ เป็นปรมิ าณความตอ้ งการซื้อสินคา้ และบรกิ ารชนิดหน่งึ ตามระดบั ราคาทีอ่ ยู่ในช่วงเวลานนั้ เชน่ หากเรา ต้องการซ้อื เคร่ืองดมื่ น้าผลไมก้ ล่องหนึ่ง ตามกฎอปุ สงค์จะพิจารณาแตร่ ะดบั ราคาของเครอ่ื งดื่มน้าผลไม้กล่องนน้ั ในเวลา นัน้ โดยยงั ไมไ่ ดไ้ ปพจิ ารณาถึงปัจจยั อนื่ ๆ เช่น รายได้ ความชอบ ฤดูกาล โดยสมมตุ ิใหป้ จั จัยเหล่าน้ันคงที่ ดงั ตวั อยา่ ง ราคาเครื่องดมื่ น้าผลไมต้ ่อกล่อง (บาท) ปริมาณซือ้ (กล่อง 24 1 20 2 16 3 12 4 8 5 4 6

หากเคร่อื งดืม่ น้าผลไม้ราคากล่องละ 24 บาท ผ้ซู อ้ื จะมีความต้องการซ้ือเพียง 1กลอ่ ง แตห่ ากเครอื่ งดม่ื น้า ผลไมร้ าคากลอ่ งละ 4 บาท จะมคี วามต้องการซื้อถึง 6 กล่อง จากตารางดงั กลา่ วสามารถนามาแสดงเป็น “เส้นอุปสงค”์ ได้ ดังนี้ เสน้ อปุ สงค์ อปุ ทาน (Supply) เพ่ิมขน้ึ ความต้องการซ้ือสนิ คา้ และบรกิ ารชนดิ นนั้ จะ เพิม่ ขนึ้ เมื่อราคาสินคา้ และบรกิ ารชนิดหน่ึง ลดลง ความตอ้ งการซอ้ื สินคา้ และบรกิ ารชนิดนน้ั จะ ลดลง เมอ่ื ราคาสินคา้ และบรกิ ารชนิดหนึง่ แปรผันตาม

ตวั อยา่ งของอปุ ทาน กฎอุปทาน เป็นปรมิ าณความตอ้ งการขายสินค้าและบริการชนดิ หน่งึ โดยจะพจิ ารณาไปทร่ี ะดบั ราคาสนิ ค้าทอี่ ยู่ ในช่วงเวลาน้นั โดยกาหนดให้ปัจจัยอื่นๆ อยู่คงท่ี ดงั นน้ั หากเราต้องการขายเคร่อื งดม่ื น้าผลไม้ตามกฎอุปทาน จะ พจิ ารณาระดบั ราคาของเครือ่ งด่ืมน้าผลไม้ ดงั น้ี ราคาเคร่ืองดื่มนา้ ผลไมต้ อ่ กล่อง (บาท) ปรมิ าณขาย (กล่อง) 24 6 20 5 16 4 12 3 82 41 จะเห็นได้วา่ หากน้าผลไม้ราคากล่องละ 24 บาท จะมีความตอ้ งการขายถงึ 6 กล่อง แต่หากราคากลอ่ งละ 4 บาท ซ่ึง ต่าท่ีสุด ก็จะมปี รมิ าณขายท่ีตา่ สดุ คอื 1 กล่อง จากตารางสามารถแสดงเปน็ เสน้ อปุ ทานได้ดังน้ี

หลกั การปรบั และเปลยี่ นแปลงราคาสนิ คา้ และบรกิ าร อุปสงคแ์ ละอุปทานมีตวั แปรรว่ มกัน คอื ราคาสินคา้ ดงั นั้น ปรมิ าณสนิ ค้าทีผ่ ู้ซอ้ื และผู้ขายต้องการจงึ ตอ้ ง ปรับตวั ไปตามราคาสินค้าทีเ่ ปลย่ี นแปลงไป โดยการปรับตัวนี้สุดท้ายจะเป็นเหตใุ ห้จานวนปรมิ าณการซื้อและการขาย เทา่ กันพอดี ณ ระดบั ราคาใดราคาหน่งึ ซึง่ เรียกวา่ ราคาดุลยภาพ ราคาเคร่ืองดม่ื นา้ ปรมิ าณซ้ือ ปริมาณขาย ผลต่อปรมิ าณ ภาวะที่เกิด ผลตอ่ ราคา ผลไม้ (บาท) (กลอ่ ง) (กลอ่ ง) สนิ ค้า 28 1 7 เหลอื 6 กลอ่ ง 24 2 20 3 6 อุปทานสว่ นเกนิ เหลือ 4 กล่อง เตรียมปรบั ลดลง 16 4 12 5 5 เหลือ 2 กลอ่ ง 8 6 4 7 4 ดลุ ยภาพ หมดพอดี _ 3 ขาด 2 กลอ่ ง 2 อปุ สงค์สว่ นเกนิ ขาด 4 กลอ่ ง เตรยี มปรบั เพม่ิ ขึ้น 1 ขาด 6 กล่อง จากตารางจะเหน็ ไดว้ า่ หากนา้ ผลไมร้ าคากลอ่ งละ 16 บาท ปริมาณซอื้ (อุปสงค)์ กบั ปริมาณขาย (อุปทาน) จะเท่ากันพอดที ่ี 4 กล่อง ทาให้สนิ คา้ หมดพอดี เกดิ เป็นราคาดลุ ยภาพ ภาวะดลุ ยภาพ ราคาดลุ ยภาพ = ราคาทเ่ี กดิ จากปรมิ าณซอ้ื และปรมิ าณขายเทา่ กนั ปรมิ าณดลุ ยภาพ = ปรมิ าณซอ้ื ขายทเี่ ทา่ กนั พอดี (สนิ คา้ หมด)

หากราคาน้าผลไมอ้ ยู่สงู กวา่ ดลุ ยภาพ (กล่องละ 20,24,28 บาท) ก็จะทาใหอ้ ปุ ทานมากกวา่ อุปสงค์ซ่ึงเรียกวา่ อปุ ทานสว่ นเกนิ ซ่งึ ทาใหป้ ริมาณสนิ ค้าเหลอื หากผ้ขู ายตอ้ งการขายให้หมด ก็ตอ้ งปรบั ราคาสินคา้ ใหล้ ดลงมาสรู่ าคา ดลุ ยภาพ ในทางตรงกันข้าม หากราคาน้าผลไมอ้ ยู่ต่ากว่าดลุ ยภาพ (ขวดละ 12 ,8,4บาท) กจ็ ะทาให้อปุ สงค์มากว่า อุปทาน ซ่งึ เรยี กว่า อปุ สงคส์ ว่ นเกนิ ทาให้ปรมิ าณสนิ ค้าขาดตลาดผซู้ ื้อจะแย่งกนั ซอ้ื ผขู้ ายจงึ เสนอราคาใหส้ ูง โดยอุป สงค์สว่ นเกนิ จะลดลงเรือ่ ยๆ จนถึงจดุ ดลุ ยภาพในทสี่ ดุ ท้งั หมดนส้ี ามารถแสดงได้ ดงั น้ี ดงั น้นั การศึกษาเรือ่ งกลไกราคาในระบบเศรษฐกิจจึงทาใหเ้ ข้าใจการทางานของราคา จานวนราคา เข้าใจวา่ เพราะเหตใุ ดช่วงนรี้ าคาสนิ ค้าจงึ แพงขึ้น เพราะเหตใุ ดชว่ งนีร้ าคาสินคา้ จึงถกู ลง ซง่ึ จะทาให้ผบู้ รโิ ภคสามารถปรับตัว เตรียมพร้อมทางการเงนิ ให้เหมาะสมกับสภาวะกลไกราคาในแตล่ ะช่วงขณะนัน้ ๆได้

ุอปสงค์ ใบงานที่ 2 อุปทาน รายวชิ าสงั คมศึกษา ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 3 ราคา ุดลยหนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 1 เร่อื ง กลไกราคา (อุปสงค์ อปุ ทาน) ภาพ ชอ่ื ..........................................................................................................ช้นั ม.3/................เลขท่.ี ............ ใหน้ กั เรยี นอา่ นประเดน็ ศึกษาทก่ี าหนดให้แล้วทาเครื่องหมาย ̸ ลงในชอ่ งว่างใหถ้ กู ตอ้ งสอดคลอ้ งกับขอ้ ความที่ กาหนดให้ ข้อท่ี ประเด็นศกึ ษา 1 ปนี ้ีเงาะราคาถูกมาก ชาวสวนจงึ ลดปรมิ าณการขายพื้นทปี่ ลูกเงาะลง 2 ปกตนิ า้ องุ่นขวดละ 25 บาท สมใจจะซ้ือวันละ 1 ขวด แตว่ นั นล้ี ดราคาพเิ ศษ จาหน่าย 2 ขวด ราคา 35 บาท สมใจจึงได้ซ้อื เพ่ิม 3 ปีนีฝ้ นตกชุกกวา่ ทกุ ปี โรงงานผลิตร่มและเสอื้ กันฝนจึงเพมิ่ ปรมิ าณการผลิตถึง 10 เทา่ เนื่องจากรม่ และเสอื้ กนั ฝนมรี าคาสูงข้ึน 4 แมบ่ ้านนิยมซอื้ ปลาไปทาอาหารแทนเน้อื หมู เน่อื งจากปนี ้ีเนอื้ หมมู รี าคาสูง 5 ในชว่ งใกล้ฤดูฝน สดใสไดเ้ พ่ิมกาลงั การผลิตร่มและเส้อื กันฝนเพอื่ ใหท้ นั ขาย ในช่วงฤดฝู นท่ีจะถงึ 6 ระดับสนิ คา้ ท่ีปรมิ าณของอปุ สงค์เท่ากบั ปริมาณอุปทาน 7 ป้าสมศรีผลติ มะมว่ งนอกฤดูจาหนา่ ยได้ราคาดี เนอ่ื งจากเปน็ ทนี่ ยิ มของลกู ค้า 8 มะพร้าวนา้ หอมของดวงใจขายดีทกุ วัน เพราะลดราคาลงจากลกู ละ 20 บาท เปน็ ลูก 15 บาท 9 ปริมาณสนิ ค้าและบริการทผี่ ู้ผลติ หรอื ผขู้ ายพร้อมท่จี ะผลิตออกขาย ณ ระดับ ราคาต่างๆ ภายในระยะเวลาท่กี าหนด 10 ปรมิ าณสินคา้ และบริการท่ีผู้บรโิ ภคต้องการซอื้ สนิ คา้ ในระยะเวลาหน่งึ ณ ระดบั ราคาตา่ งๆ ของสนิ คา้ และบริการชนดิ น้ัน

ให้นักเรียนตอบคาถามโดยวเิ คราะหอ์ ปุ สงค์และอุปทานจากตารางทกี่ าหนดให้และเขยี นกราฟแสดงความเปลีย่ นแปลง ระดับอปุ สงคแ์ ละอปุ ทาน นักเรยี นแสดงเสน้ กราฟความต้องการซ้ือ-ขายสม้ เขียวหวาน ราคา ปรมิ าณความ ปริมาณความ สม้ เขียวหวาน ตอ้ งการซอื้ ต้องการขาย (กโิ ลกรัม/วนั ) (บาท/กิโลกรัม) (กโิ ลกรัม/วัน) 30 600 0 40 450 150 50 300 300 60 150 450 70 0 600 ความสัมพนั ธ์ระหว่างราคาสม้ เขยี วหวาน ความสมั พันธ์ระหวา่ งราคาสม้ เขยี วหวาน กบั ปรมิ าณความตอ้ งการเสนอซอื้ กับปรมิ าณความต้องการเสนอขาย ................................................................................................ ................................................................................................ ................................................................................................ ................................................................................................ ................................................................................................ ................................................................................................ ................................................................................................ ................................................................................................ ................................................................................................ ................................................................................................

บัตรภาพ  ภาพตลาดสนิ ค้าผู้บริโภค ภาพตลาดสินค้าอตุ สาหกรรม ภาพตลาดขายปลกี ภาพตลาดสินค้าอตุ สาหกรรม ภาพตลาดสนิ ค้าอุตสาหกรรม ภาพตลาดสนิ ค้าเกษตร

บตั รภาพ  ภาพตลาดผลไม้ ภาพตลาดผลไม้ ภาพตลาดเส้ือผา้ ภาพตลาดเส้อื ผ้า

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนร้สู ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 3 หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 2 เศรษฐกจิ พอเพยี งกบั การพัฒนาประเทศ จานวน 6 คาบ เรอ่ื ง เศรษฐกิจพอเพียงกับการพัฒนาประเทศ ครผู ู้สอน นางมณฑริ า จินดารตั น์ --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวช้ีวัด ส 3.1 ม.3/2 มสี ว่ นร่วมในการแก้ไขปัญหาและพฒั นาท้องถิน่ ตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ม.3/3 วิเคราะห์ความสัมพันธร์ ะหว่างแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงกบั ระบบสหกรณ์ 2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด ปัจจบุ นั มีปัญหาท้องถิ่นทัง้ ทางดา้ นสงั คม เศรษฐกจิ และสง่ิ แวดล้อม ซงึ่ ทุกคนควรมีสว่ นร่วมในการแก้ไข ปัญหาและพฒั นาท้องถ่ินตามปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ซึ่งระบบสหกรณ์มีแนวคิดที่สมั พันธก์ ับปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพยี ง 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรยี นรู้แกนกลาง 1) สารวจสภาพปจั จบุ นั ปญั หาท้องถน่ิ ทัง้ ทางดา้ นสังคม เศรษฐกิจ และสงิ่ แวดลอ้ ม 2) วเิ คราะหป์ ัญหาของท้องถ่ินโดยใช้ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 3) แนวทางการแก้ไขและพฒั นาทอ้ งถน่ิ ตามปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 4) แนวคดิ ของเศรษฐกิจพอเพียงกบั การพฒั นาในระดบั ตา่ งๆ 5) หลักการสาคัญของระบบสหกรณ์ 6) ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งแนวคดิ เศรษฐกจิ พอเพยี งกบั หลักการและระบบของสหกรณเ์ พ่ือ ประยกุ ต์ใชใ้ นการพฒั นาเศรษฐกจิ ชุมชน 4. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ (K,P,A) 1. วเิ คราะห์ปญั หาการพัฒนาทางเศรษฐกจิ และสังคมไทยได้ (K4) 2. นาความรู้ เรือ่ ง ปญั หาการพฒั นาทางเศรษฐกิจและสงั คมไทยไประยุกต์ใช้ (P4) 3. เห็นประโยชนข์ องการศกึ ษาปัญหาการพฒั นาทางเศรษฐกิจและสงั คมไทย (A3) 5. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น 1.ความรคู้ วามเข้าใจ 2. ความสามารถในการสอื่ สาร 3. ความสามารถในการคดิ 1) ทกั ษะการวเิ คราะห์ 2) ทักษะการแก้ปัญหา