ห้อง ผลการจดั การเรียนรู้ ความรูค้ วามสามารถ (K) ทักษะกระบวนการ (P) speech และอา่ นออกเสียงคำได้ ระ อยา่ งถูกต้อง คว ลงชื่อ .......................................... ครูผ้สู อน (นายรุสลาน สาแม) .....7..... /.....ม.ค....... /...2565.......
คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A) ปญั หา/อุปสรรค 87 ะดับ ดี อยู่อยา่ งพอเพยี งและรัก วามเป็นไทย เน่อื งจากไม่ทำ ข้อเสนอแนะ แบบทดสอบหลังเรียน ลงช่อื .......................................... (นางสาวเพริศพศิ คหู ามขุ ) .......... /........... /..........
88 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 7 กลุม่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาต่างประเทศ รายวชิ า ภาษาอังกฤษ 6 รหสั วิชา อ33101 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3 Learning เรอื่ ง Are you good at maths? ช้นั มธั ยม ก าที่ 6 เวลาเรยี น 1 คาบ ครูผ้สู อน ครรู สุ ลาน สาแม โรงเรยี นคณะราษฎรบำรุงจงั หวดั ยะลา สพม.ยะลา 1. มาตรฐานการเรียนรู้ สาระท่ี 1 : ภาษาเพือ่ การสอ่ื สาร มฐ. ต 1.1 ม.4-6/2, ต 1.1 ม.4-6/4, ต 1.2 ม.4-6/1, ต.1.2 ม.4-6/5, ต 1.3 ม.4-6/3 สาระที่ 2 : ภาษาและวัฒนธรรม มฐ. ต 2.1 ม.4-6/1 สาระที่ 3 : ภา ากบั ความสมั พันธก์ ับกลุ่มสาระการเรยี นรอู้ น่ื มฐ. ต 3.1 ม.4-6/1 2. ตัวช้ีวดั ต 1.1 ม.4-6/2 อ่านออกเสยี งขอ้ ความ ข่าว ประกาศ โฆษณา บทร้อยกรอง และบทละครสัน้ (skit) ถกู ตอ้ งตามหลักการอ่าน ต 1.1 ม.4-6/4 จบั ใจความสำคัญ วิเคราะหค์ วามสรปุ ความ ตคี วาม และแสดงความคิดเห็นจากการ ฟงั และอา่ นเร่ืองท่เี ปน็ สารคดแี ละบันเทงิ คดี พรอ้ มทัง้ ให้เหตผุ ลและยกตวั อย่าง ประกอบ ต 1.2 ม.4-6/1 สนทนาและเขียนโตต้ อบข้อมลู เกี่ยวกบั ตนเองและเรอ่ื งต่างๆใกลต้ วั ประสบการณ์ สถานการณ์ ขา่ ว/เหตุการณ์ประเด็นท่ีอยูใ่ นความสนใจของสงั คม และสื่อสารอย่าง ตอ่ เน่อื งและเหมาะสม ต.1.2 ม.4-6/5 พดู และเขียนบรรยายความรูส้ กึ และแสดงความคดเหน็ ของตนเองเก่ยี วกับเรือ่ งต่าง ๆ กจิ กรรม ประสบการณ์ และข่าว/เหตุการณ์ อยา่ งมีเหตุผล ต 1.3 ม.4-6/3 พูดและเขียนแสดงความคดิ เห็นเกยี่ วกบั กจิ กรรม ประสบการณ์ และเหตุการณ์ ทงั้ ในทอ้ งถิ่น สงั คม และโลก พรอ้ มทง้ั ให้เหตผุ ลและยกตัวอย่างประกอบ ต 2.1 ม.4-6/1 เลือกใชภ้ าษา น้ำเสียง และกิรยิ าทา่ ทางเหมาะกับระดบั ของบุคคล โอกาส และ สถานที่ ตามมารยาท สงั คมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา ต 3.1 ม.4-6/1 ค้นคว้า/สบื ค้น บันทกึ บันทึก สรุป และแสดงความคดิ เหน็ เกีย่ วกับข้อมลู ทเ่ี กยี่ วข้อง กับกลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ ่ืน จากแหล่งเรยี นร้ตู ่าง ๆ และนำเสนอดว้ ยการพดู และการ เขยี น
89 3. จุดเนน้ การพฒั นาการเรยี นรู้ 1. ใช้ทักษะการสื่อสารอย่างสรา้ งสรรค์ 2. ใชเ้ ทคโนโลยีเพ่อื การเรียนรู้ 3. ทักษะการคดิ ชนั้ สูง 4. ใชท้ กั ษะชีวิตอย่างมีความสขุ สามารถใชภ้ าษาองั กฤษเป็นภาษาในการส่ือสาร 4. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การเรียนรู้ข่าวสาร เหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เรียนรู้วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา สามารถถาม- ตอบคำถาม และพูดคยุ โต้ตอบเก่ียวกบั เนื้อหาเรื่อง Are you good at math? ได้ นกั เรยี นสามารถใชค้ วามคิด ของตัวเองเข้ามาแสดงความคิดเหน็ ได้อยา่ งเต็มท่ี 5. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. ฟงั และอ่านบทความเรือ่ งความสามารถทางด้านภาษา (literacy) และความสามารถด้านคณติ ศาสตร์ (numeracy) ในประเทศอังกฤษได้ 2. พดู ถาม-ตอบเกี่ยวกบั วชิ าคณติ ศาสตร์ได้ 6. สาระการเรยี นรู้ ความรู้ (Knowledge) คำ ัพท์ (Vocabulary) (Are you good at math?) คำ ัพท์ คำแปลภา าอังก คำแปลภา า ทย ถกู ต้องแมน่ ยำ accurate (adj.) careful and exact ประสบความสำเรจ็ ซ่ึงเหน็ ไดช้ ดั เจน achieve (v.) to complete, accomplish ประพฤตติ ัว หนอี อก apparent (adj.) clearly visible or understood การไปเท่ยี วตามสถานบนั เทิง ยามคำ่ คนื behave (v.) to act, perform ผลสืบเน่อื ง bunk off (v.) to run away การตรงกันขา้ ม clubbing (n.) the activity of going to nightclubs consequence (n.) that which follows from an action or condition contrary (n.) opposite
90 คำ ัพท์ คำแปลภา าอังก คำแปลภา า ทย correspondent (n.) a person who writes letters on a นกั ข่าว ผูส้ ่ือข่าว regular basis curriculum (n.) the subjects comprising a course of หลักสูตร study in a school or college decline (v.) to decrease; weaken, to fail to แยล่ ง ปฏเิ สธ accept; refuse dedicate (v.) to devote, give อทุ ิศทุ่มเทให้ examine (v.) to look at carefully in order to ตรวจสอบ exception (n.) learn about or from ขอ้ ยกเว้น get into (v.) something that does not follow a เข้าศึกษา rule to come in คำ พั ท์ คำแปลภา าองั ก คำแปลภา า ทย get on with (v.) to work or live in a sociable way เข้ากันได้กบั ผู้อน่ื get over (v.) to overcome a problem and start รู้สกึ ดีขนึ้ ค่อยยังชวั่ feeling well immature (adj.) not fully developed ยงั ไม่ถึงวฒุ ภิ าวะ incentive (n.) that which incites, arouse or สง่ิ เร้า encourages a person incompetent not having the necessary skills to ซง่ึ ไร้ความสามารถ (adj.) do successfully keen on (adj.) interested in or attracted by สนใจ/กระตือรือร้น somebody or launch (v.) something เร่มิ ดำเนินการ literacy (n.) to get started, set going การอ่านและเขยี นได้ make fun of (v.) the ability to read and write หัวเราะเยาะ numeracy (n.) to laugh at, ridicule ความสามารถด้านการคำนวณ the ability to understand and work with numbers
91 คำ ัพท์ คำแปลภา าองั ก คำแปลภา า ทย persuade (v.) to induce (someone) to do เชิญชวนโนม้ นา้ ว something through reasoning revise (v.) to reconsider and alter (something) ทบทวน แกไ้ ข in the light of further evidence sail though (v.) to easily pass ผ่านไดอ้ ยา่ งงา่ ยดาย sit for an take an exam เข้าสอบ examination (idiom) unimportantly, insignificantly เลก็ นอ้ ย เบาะๆ slightly (adv.) to refuse something ปฏิเสธ turn down (v.) to make something worse or ทำใหเ้ ลวลง worsen (v.) become worse ทกั ะกระบวนการ (P) การพูด พดู ถามและตอบเก่ยี วกบั การศกึ ษา การอ่าน อ่านบทความเกีย่ วกบั Literacy and Numeracy และอา่ นบทสัมภาษณ์ นกั ศกึ ษามหาวิทยาลยั มีชอ่ื เสียง คณุ ลกั ณะอันพงประสงค์ (A) 1. ใฝเ่ รียนรู้ 2. มงุ่ มนั ในการทำงาน 3. มวี นิ ยั 4. มีจิตสาธารณะ 7. สมรรถนะสำคญั ความสามารถในการส่ือสาร การคดิ การแกป้ ญั หา และการใช้เทคโนโลยี 8. บูรณาการ อาเซยี น ท้องถิน่ ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
92 9. สอ่ื /แหล่งเรยี นรู้ 1. หนงั สือ FLASH M.6 STUDENT’S BOOK 2. แอพลเิ คชัน canva เรอ่ื ง Are you good at maths? 3. แอพลิเคชัน wordwall เรือ่ ง Are you good at maths? 4. Padlet ชั้นเรยี น 10. การวัดและประเมินผล 1. ประเมนิ การทำกจิ กรรมในหนังสือเรียน 2. สังเกตพฤติกรรมการเรียนรใู้ นชว่ งการทำกิจกรรม 3. สงั เกต/ประเมินจากการทำกิจกรรมเด่ียว เคร่อื งมอื วัดผล 1. แบบฝึกหดั ในหนังสือเรียนและเอกสารประกอบการเรยี น 2. แบบประเมนิ ทักษะทางภาษา 3. แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ เกณฑก์ ารวัด สิง่ ทต่ี ้องการวดั เครอื่ งมอื วัด เกณฑก์ ารวดั 1. ความรู้ความสามารถ (K) 1.1 คำศพั ท์ - แอพลิเคชัน Wordwall เรือ่ ง ระดับ 3 ดมี าก ระดบั 2 พอใช้ คำศัพทท์ ่ีเกี่ยวข้องในเน้ือเร่ือง ระดบั 1 ปรบั ปรงุ 5-6 คะแนน ดี - แบบฝกึ หัดในหนงั สอื FLASH 3-4 คะแนน พอใช้ M.6 STUDENT’S BOOK 0-2 คะแนน ปรบั ปรงุ 2. ทกั ะกระบวนการ (P) - แบบประเมนิ ทักษะทางภาษา ระดับ 3 ดมี าก 2.1 กระบวนการทำงาน (ทกั ษะการฟงั -อา่ น) ระดับ 2 พอใช้ ระดบั 1 ปรับปรงุ 3. คุณลกั ณะอันพงประสงค์ - แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ระดบั 3 ดมี าก (A) ประสงค์ ระดบั 2 พอใช้ 3.1 ใฝเ่ รียนรู้ ระดบั 1 ต้องปรบั ปรงุ 3.2 มุ่งมนั ในการทำงาน 3.3 มวี นิ ัย 3.4 มจี ิตสาธารณะ
93 11. กิจกรมการจดั การเรียนรู้ ขนั้ กระต้นุ ใหท้ ำ (Stimulation) 1. ครถู ามนักเรียนเกีย่ วกับทัศนคตขิ องนักเรยี นในการเรยี นวิชาคณิตศาสตร์ ดังน้ี Teacher: Do you like mathematics? Student: (Yes. /No.) Teacher: Why don’t you like it? Student: (Possible answer: It’s too difficult for me to understand. /I often get bad grades from maths. /No teachers can make me understand it. Teacher: What is your attitude towards maths? Student: (Possible answer: It’s a subject for a genius. Not for slow students.) Teacher: Is it the same idea as in your first years at school? Student: (Possible answer : No. At first I liked it but I don’t like it now.) Teacher: Do you know what numeracy means? It means the ability to understand and work with numbers. Students should have the ability of numeracy. Student: (Possible answer : It’s very important in my life and work.) Teacher: What do you think the importance of numeracy is in your everyday life? 2. ครูแจง้ จุดประสงค์การเรียนรูใ้ หน้ กั เรยี นทราบ ขนั้ นำเสนอใหค้ ิด (Presentation) 3. ครูเปดิ แอพลเิ คชนั canva เรอ่ื ง Are you good at math? 4. ครูใหน้ ักเรยี นแบง่ กลมุ่ เป็น 4 กล่มุ และให้นักเรียนอา่ นเรื่องราว Are you good at math? ใน หนงั สอื FLASH M.6 STUDENT’S BOOK หนา้ 62 และร่วมกันทำความเข้าใจเรื่องราวในหนังสือ โดยมีครู คอยดูแลและเสริมขอ้ ที่ผิดพลาดหรอื ตกหล่น 5. ให้นักเรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความรู้สกึ ของบุคคลในเรือ่ งทีอ่ ่าน และความรูส้ ึก ของตวั เองหลังจากที่ทำความเขา้ ใจเรื่องทัง้ หมดแลว้
94 ขน้ั สาธิตให้ดู (Demonstration) 6. นักเรียนอ่านเรื่อง Are you good at maths? อีกครั้งหนึ่งจากนั้นให้นักเรียนร่วมกันตอบ คำถามจากเนื้อหาท่ีได้อ่านไป โดยใชค้ ำถามดงั น้ี 1. Mr Baker… A. agreed that literacy was getting worse. B. did not think literacy was getting worse. C. believed education was getting worse. 2. According to Mr Baker… A. There has not been enough interest in improving maths skills. B. too much money has been spent on improving literacy. C. there has been a lot of interest in improving numeracy. 3. According to the survey… A. 50% of English people have problems with maths. B. 50% of English children have problems with maths. C. 50% of English people with jobs have problems with maths. 4. People who have problems with maths… A. feel ashamed of themselves. B. can have problems after school. C. drop out of school early. 5. In other European countries… A. maths teachers are paid better. B. pupils spend more time on maths. C. maths is a popular school subject. 6. The new charity aims to… A. help children learn to read and write. B. help children learn maths skills. C. raise money for numeracy project. 7. ครูให้ตัวแทนของแต่ละกลุ่มที่แบ่งไว้ในตอนแรก เฉลยคำตอบของแบบฝึกหัดแต่ละข้อ และให้ นกั เรียนคนท่ีเหลอื ตรวจสอบคำตอบของตวั เอง 8. ครทู บทวนนักเรยี นเกย่ี วกับคำศัพท์สำคัญในบทเรยี นโดยใช้ wordwall.com ในการทบทวน
95 9. ครูให้นักเรียนจับคู่คำศัพท์กับความหมายภาษาอังกฤษให้ถูกต้อง ครูและนักเรียนอธิบาย ความหมายเป็นภาษาไทยอีกคร้ัง เพอื่ ความเขา้ ใจมากย่ิงข้ึน ขน้ั เรียนรู้จาการประเมนิ (Self-Assessment) 10. นักเรียนทำแบบฝึกหัดข้อ 6 ในหนังสือ FLASH M.6 STUDENT’S BOOK หน้า 63 นักเรียน เลือกคำศพั ทจ์ ากแบบฝึกหดั ข้อ 5 มาเตมิ ในชอ่ งวา่ งเพ่อื แต่งประโยคให้สมบูรณ์ 11. ครแู ละนักเรยี นร่วมกันเฉลยแบบฝกึ หดั โดยเลอื กนกั เรยี นมาเฉลยข้อละ 1 คน ขัน้ เพลดิ เพลนิ กับการนำ ปใช้ (Production) 12. ครูและนกั เรียนสรุปเรอ่ื งราวของ Are you good at maths? ด้วยกนั อกี คร้ัง
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 7 เรื่อง Are you good ห้อง ผลการจัดการเรียนรู้ ความรู้ความสามารถ (K) ทักษะกระบวนการ (P) นกั เรยี นทำแบบฝึกหัด เรอ่ื ง นกั เรยี นร้อยละ 90 สามารถอ่าน และ นัก 6/2 Mood Food ผา่ นเกณฑร์ ะดับดี เขา้ ใจจากเร่ืองที่เรียนได้ ผ่า 22 คน ระดับพอใช้ 6 คน ระ คว นักเรยี นทำแบบฝึกหัด เร่อื ง นักเรียนร้อยละ 90 สามารถอ่าน และ นัก 6/4 Mood Food ผ่านเกณฑร์ ะดับดี เขา้ ใจจากเร่ืองท่ีเรยี นได้ ผ่า 29 คน ระดบั พอใช้ 6 คน ระ คว นกั เรียนทำแบบฝึกหัด เร่ือง นกั เรยี นรอ้ ยละ 90 สามารถอ่าน และ นัก 6/6 Oliver Twist ผ่านเกณฑร์ ะดับดี เขา้ ใจจากเร่ืองท่ีเรยี นได้ ผา่ 28 คน ระดับพอใช้ 4 คน ระ คว นักเรียนทำแบบฝึกหัด เรอ่ื ง นกั เรยี นรอ้ ยละ 90 สามารถอ่าน และ นกั Mood Food ผ่านเกณฑ์ระดับดี 6/1 20 คน ระดบั พอใช้ 6 คน เข้าใจจากเรื่องที่เรยี นได้ ผา่ ระ คว
96 บนั ทึกหลังสอน จำนวน 1 คาบ d at maths? คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ (A) ปัญหา/อปุ สรรค ขอ้ เสนอแนะ กเรยี นมีคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ านเกณฑ์ ไดร้ บั คะแนนเฉลีย่ อยใู่ น มนี ักเรียน 3 คน ท่ีไม่ - ะดับ ดี อยู่อย่างพอเพียงและรกั สามารถประเมินได้ - วามเปน็ ไทย เนอ่ื งจากไม่ทำ กเรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ แบบทดสอบหลงั เรยี น านเกณฑ์ ได้รับคะแนนเฉลี่ยอยู่ใน มีนักเรยี น 2 คน ท่ีไม่ ะดับ ดี อยู่อยา่ งพอเพียงและรัก สามารถประเมนิ ได้ วามเปน็ ไทย เนื่องจากไม่ทำ กเรยี นมคี ุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ แบบทดสอบหลงั เรยี น านเกณฑ์ ไดร้ ับคะแนนเฉล่ยี อยู่ใน มีนักเรียน 4 คน ท่ีไม่ ะดบั ดี อยู่อยา่ งพอเพียงและรัก สามารถประเมนิ ได้ วามเปน็ ไทย เนอ่ื งจากไม่ทำ กเรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ แบบทดสอบหลังเรยี น านเกณฑ์ ได้รับคะแนนเฉลีย่ อยใู่ น มนี กั เรียน 3 คน ที่ไม่ ะดับ ดี อยู่อยา่ งพอเพียงและรัก สามารถประเมินได้ วามเป็นไทย เนอื่ งจากไม่ทำ แบบทดสอบหลังเรียน
หอ้ ง ผลการจดั การเรียนรู้ ความรคู้ วามสามารถ (K) ทักษะกระบวนการ (P) นักเรียนทำแบบฝึกหดั เรอ่ื ง นักเรยี นรอ้ ยละ 90 สามารถอ่าน และ นัก 6/8 Mood Food ผา่ นเกณฑ์ระดับดี เขา้ ใจจากเรื่องท่ีเรยี นได้ ผา่ 22 คน ระดับพอใช้ 6 คน ระ คว ลงชอื่ .......................................... ครผู สู้ อน (นายรุสลาน สาแม) ......14.... /....ม.ค........ /.../2565.......
คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ (A) ปญั หา/อปุ สรรค 97 ข้อเสนอแนะ กเรียนมีคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ มนี ักเรียน 3 คน ที่ไม่ านเกณฑ์ ไดร้ ับคะแนนเฉลีย่ อยใู่ น สามารถประเมินได้ ะดบั ดี อยู่อย่างพอเพียงและรัก เนอ่ื งจากไม่ทำ วามเป็นไทย แบบทดสอบหลังเรียน ลงช่อื .......................................... (นางสาวเพรศิ พศิ คูหามุข) .......... /........... /..........
98 แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 8 กลุม่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาต่างประเทศ รายวชิ า ภาษาองั กฤษ 6 รหสั วชิ า อ33102 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 Health and the Environment เรอื่ ง Mood Food ช้นั มัธยม ก าท่ี 6 เวลาเรยี น 1 คาบ ครูผูส้ อน ครรู ุสลาน สาแม โรงเรียนคณะราษฎรบำรุงจังหวัดยะลา สพม.ยะลา 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระท่ี 1 : ภาษาเพ่อื การสอื่ สาร มฐ. ต 1.1 ม.4-6/2, ต 1.1 ม.4-6/4, ต 1.2 ม.4-6/1, ต.1.2 ม.4-6/5, ต 1.3 ม.4-6/3 สาระที่ 2 : ภาษาและวฒั นธรรม มฐ. ต 2.1 ม.4-6/1 สาระท่ี 3 : ภา ากับความสัมพนั ธก์ ับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน มฐ. ต 3.1 ม.4-6/1 2. ตัวชี้วดั ต 1.1 ม.4-6/2 อ่านออกเสยี งขอ้ ความ ข่าว ประกาศ โฆษณา บทร้อยกรอง และบทละครสัน้ (skit) ถกู ตอ้ งตามหลักการอ่าน ต 1.1 ม.4-6/4 จบั ใจความสำคัญ วิเคราะห์ความสรุปความ ตีความ และแสดงความคิดเหน็ จากการ ฟงั และอ่านเร่ืองทีเ่ ปน็ สารคดแี ละบนั เทิงคดี พร้อมท้ังให้เหตผุ ลและยกตัวอย่าง ประกอบ ต 1.2 ม.4-6/1 สนทนาและเขียนโต้ตอบข้อมลู เกี่ยวกับตนเองและเรอ่ื งต่างๆใกลต้ ัว ประสบการณ์ สถานการณ์ ข่าว/เหตุการณป์ ระเดน็ ที่อยู่ในความสนใจของสังคม และสื่อสารอย่าง ต่อเนื่องและเหมาะสม ต.1.2 ม.4-6/5 พดู และเขยี นบรรยายความรสู้ กึ และแสดงความคดเห็นของตนเองเก่ียวกับเร่อื งต่าง ๆ กจิ กรรม ประสบการณ์ และข่าว/เหตุการณ์ อย่างมีเหตผุ ล ต 1.3 ม.4-6/3 พูดและเขียนแสดงความคิดเหน็ เกยี่ วกับกิจกรรม ประสบการณ์ และเหตุการณ์ ท้งั ในท้องถิน่ สังคม และโลก พร้อมทั้งใหเ้ หตผุ ลและยกตัวอย่างประกอบ ต 2.1 ม.4-6/1 เลอื กใชภ้ าษา น้ำเสยี ง และกิรยิ าทา่ ทางเหมาะกับระดับของบุคคล โอกาส และ สถานท่ี ตามมารยาท สังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา ต 3.1 ม.4-6/1 คน้ คว้า/สบื ค้น บนั ทกึ บันทกึ สรุป และแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกับขอ้ มลู ท่ีเกย่ี วข้อง กับกลมุ่ สาระการเรียนรูอ้ ่นื จากแหล่งเรียนรู้ตา่ ง ๆ และนำเสนอด้วยการพูดและการ เขยี น
99 3. จุดเน้นการพัฒนาการเรยี นรู้ 1. ใช้ทกั ษะการสื่อสารอย่างสรา้ งสรรค์ 2. ใชเ้ ทคโนโลยเี พ่ือการเรยี นรู้ 3. ทกั ษะการคิดช้นั สูง 4. ใชท้ กั ษะชีวติ อย่างมคี วามสุข สามารถใช้ภาษาอังกฤษเปน็ ภาษาในการสื่อสาร 4. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด นักเรียนสามารถแยกแยะประเภทและหมวดหมู่ของอาหารได้ เข้าใจความสัมพันธ์ของการกินกับ อารมณ์ สรุปใจความสำคัญของเรื่องที่อ่านได้ สามารถนำความรู้ที่เรียนไปบูรณาการกับวิชาอื่น ๆ ได้ และ สามารถใชค้ วามคิดของตัวเองเขา้ มาแสดงความคิดเหน็ ได้อย่างเต็มที่ 5. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. เขียนแยกหมวดหมู่ของอาหารได้ถูกต้อง 2. อา่ นบทความเกย่ี วกับอาหารและอารมณ์แลว้ สรุปใจความสำคัญและบอกรายละเอยี ดได้ 6. สาระการเรียนรู้ ความรู้ (Knowledge) คำ ัพท์ (Vocabulary) (Are you good at maths?) คำ พั ท์ คำแปลภา าองั ก คำแปลภา า ทย appetite (n.) a natural desire to satisfy a bodily การเจรญิ อาหาร need, especially for food boost (n.) a source of help or การสง่ เสริม encouragement leading to increase or improvement carb (n.) short for carbohydrate คารโ์ บไฮเดรต circumstance (n.) a fact or condition connected สภาพแวดล้อม with or relevant to an event or action crisp (n.) a wafer-thin slice of potato fried มันฝรง่ั กรอบ or baked until crisp and eaten as a snack
100 คำ พั ท์ คำแปลภา าอังก คำแปลภา า ทย depressed (adj.) เศร้า in a state of unhappiness or dietary (adj.) despondency เกี่ยวกับอาหาร fatigue (n.) ความเหน่ือย ความอ่อนล้า relating to or provided by diet greasy (adj.) ซง่ึ มีน้ำมัน extreme tiredness resulting from inattention (n.) mental or physical exertion or การปล่อยปละละเลย instantly (adv.) illness ทันที irritable (adj.) ขี้โมโห covered with, resembling, or maintain (vt.) produced by grease or oil รักษาไว้ lack of attention; distraction at once; immediately having or showing a tendency to be easily annoyed to cause or enable (a condition or situation) to continue คำ ัพท์ คำแปลภา าองั ก คำแปลภา า ทย mood food (n.) food that can affect our mood อาหารทีม่ ผี ลต่ออารมณ์ nutrient (n.) สารอาหาร a substance that provides particularly (adv.) nourishment essential for the โดยเฉพาะอยา่ งย่ิง maintenance of life and for provoke (v.) growth กระตนุ้ ทำให้โกรธ serotonin (n.) so as to give special emphasis to เปน็ สารชีวเคมีชนิดหนง่ึ ที a point; specifically; To a higher ร่างกายสร้างขึน้ มีบทบาทสำคัญ degree than is usual or average ต่อการทำงานในหลายๆ ส่วน to stimulate or give rise to a reaction or emotion, typically a strong or unwelcome one in someone a chemical in the brain that affects how messages are sent from the brain to the body, and also affects how a person feels
101 คำ พั ท์ คำแปลภา าองั ก คำแปลภา า ทย ของรา่ งกาย ทั้งด้านการควบคุม sluggish (adj.) slow-moving or inactive อารมณ์ staple (n.) a main or important element of ขเี้ กยี จเฉ่ือย stress (n.) something อาหารหลักส่วนสำคัญ stroke (n.) pressure or tension exerted on a ความตงึ เครียด material object typically (adv.) a sudden disabling attack or loss อาการอดุ ตันของเสน้ โลหิต waistline (n.) of consciousness caused by ไปเลย้ี งสมอง aninterruption in the flow of blood to the brain, especially อย่างเปน็ แบบฉบับ through thrombosis having the distinctive qualities of เสน้ รอบเอว a particular type of person or thing the measurement around a person’s body at the waist ทกั ะกระบวนการ (P) การพูด พดู แสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั Food habits พดู ความรู้สกึ เกี่ยวกบั หนังสือท่ี ชอบอ่านและพูดแสดงความคิดเหน็ และใหข้ ้อเสนอแนะในการแกป้ ัญหา สงิ่ แวดลอ้ ม คุณลกั ณะอันพงประสงค์ (A) 1. ใฝเ่ รียนรู้ 2. มุ่งมนั ในการทำงาน 3. มีวินัย 4. มจี ติ สาธารณะ 7. สมรรถนะสำคัญ ความสามารถในการส่ือสาร การคดิ การแกป้ ญั หา และการใช้เทคโนโลยี
102 8. บรู ณาการ อาเซยี น ท้องถ่ิน ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 9. สอ่ื /แหล่งเรียนรู้ 1. หนังสือ FLASH M.6 STUDENT’S BOOK 2. แอพลิเคชัน canva เร่อื ง Mood Food 3. แอพลิเคชนั wordwall เร่อื ง Mood Food 4. Pedled ชั้นเรยี น 10. การวัดและประเมินผล 1. ประเมินการทำกิจกรรมในหนังสอื เรียน 2. สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ในชว่ งการทำกิจกรรม 3. สงั เกต/ประเมินจากการทำกจิ กรรมเดี่ยว เคร่ืองมอื วัดผล 1. แบบฝึกหดั ในหนงั สอื เรยี นและเอกสารประกอบการเรียน 2. แบบประเมนิ ทักษะทางภาษา 3. แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ เกณฑก์ ารวดั ส่ิงทตี่ ้องการวัด เครือ่ งมอื วัด เกณฑ์การวดั 1. ความรู้ความสามารถ (K) 1.1 คำศพั ท์ - แอพลเิ คชนั Wordwall เร่ือง ระดบั 3 ดมี าก ระดบั 2 พอใช้ คำศัพทท์ ีเ่ กี่ยวขอ้ งในเนื้อเร่ือง ระดับ 1 ปรับปรุง 7-10 คะแนน ดี - แบบฝึกหดั ในหนงั สือ FLASH 4-6 คะแนน พอใช้ M.6 STUDENT’S BOOK 0-3 คะแนน ปรับปรงุ 2. ทัก ะกระบวนการ (P) - แบบประเมินทักษะทางภาษา ระดับ 3 ดีมาก 2.1 กระบวนการทำงาน ( ทกั ษะการอา่ น – พูด ) ระดับ 2 พอใช้ ระดับ 1 ปรบั ปรงุ 3. คุณลัก ณะอนั พงประสงค์ ระดับ 3 ดีมาก (A)
103 สงิ่ ที่ต้องการวดั เคร่ืองมือวัด เกณฑก์ ารวัด 3.1 ใฝเ่ รียนรู้ 3.2 มุ่งมนั ในการทำงาน - แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พึง ระดับ 2 พอใช้ 3.3 มวี นิ ัย 3.4 มีจติ สาธารณะ ประสงค์ ระดบั 1 ตอ้ งปรับปรุง 11. กจิ กรมการจัดการเรยี นรู้ ขนั้ กระตนุ้ ใหท้ ำ (Stimulation) 1. ครพู ดู คุยกับนกั เรียนเกย่ี วกับอาหารทน่ี ักเรยี นรบั ประทานทัง้ ทีบ่ ้านและทโี่ รงเรยี น เม่ือ 2 วนั ทผี่ ่าน มาแล้วให้นักเรยี นชว่ ยกนั บอกวา่ อาหารเหล่านั้นสง่ิ ใดเป็นประโยชน์ และสิง่ ใดไมเ่ ปน็ ประโยชน์ต่อร่างกาย Teacher: What have you eaten in the past two days? Student: (Possible answer: I have eaten a hamburger, brown rice, ect.) Teacher: Was it healthy or unhealthy? Student: (Possible answer: Hamburger was unhealthy. /Brown rice was heathy. /etc.) 2. ครูใหน้ ักเรยี นเปิดหนงั สือ FLASH M.6 STUDENT’S BOOK หนา้ 80 ให้นักเรยี นอา่ นช่ือบทเรยี น ‘Health and the Environment’ แลว้ ตอบว่าบทเรียนที่จะเรียนตอ่ ไปนเ้ี ปน็ เร่ืองเกยี่ วกับอะไร (คำตอบคือ สขุ ภาพและสง่ิ แวดล้อม) 3. ครถู ามนักเรียนเกี่ยวกับชื่อหัวข้อในบทเรียนย่อย คือ Mood food ใหน้ ักเรียนเดาความหมาย (คำตอบ คอื อาหารทีม่ ีผลต่ออารมณ)์ ขน้ั นำเสนอใหค้ ิด (Presentation) 4. ครูเปิดแอพลเิ คชัน canva เร่อื ง Mood Food 5. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มเป็น 4 กลุ่ม และให้นักเรียนอ่านเรื่องราว Mood Food ในหนังสือ FLASH M.6 STUDENT’S BOOK หนา้ 80 และร่วมกนั ทำความเข้าใจเรื่องราวในหนังสือ โดยมคี รคู อยดูแล และเสริมขอ้ ทผ่ี ดิ พลาดหรือตกหล่น 6. ครูสุ่มเรียกตัวแทนนักเรียนของแต่ละกลุ่ม กลุ่มละ 2 คน คนหนึ่งออกมาเขียนชื่ออาหารที่ดีตอ่ สุขภาพอีกคนหนึง่ ออกมาเขยี นชอ่ื อาหารที่ไม่ดีต่อสขุ ภาพบนกระดาน 7. ครูให้นักเรียนทำกิจกรรม FLASH FORWARD โดยอ่านบทความเดิมอีกครั้งแล้วค้นหาคำที่ บรรยายอารมณแ์ ละความรูส้ กึ เชน่ tired, hungry, etc.
104 ขั้นสาธิตใหด้ ู (Demonstration) 8. ครูให้นักเรียนจับกลุ่มอ่านบทความครั้งสุดท้าย ใจความสำคัญของเรื่อง แล้วบอกว่ารายช่ือ อาหารทก่ี ำหนดใหใ้ นกล่องนนั้ มีผลอยา่ งไรตอ่ อารมณ์ของนกั เรยี นและดตี ่อสุขภาพหรือไม่ coffee cereal milk cake biscuits pasta sardines bacon cheese butter 9. ครูให้ตัวแทนของแต่ละกลุ่มที่แบ่งไว้ในตอนแรก เฉลยคำตอบของแบบฝึกหัดแต่ละข้อ และให้ นกั เรียนคนทเี่ หลอื ตรวจสอบคำตอบของตวั เอง 10. ครทู บทวนนักเรยี นเกีย่ วกับคำศพั ทส์ ำคัญในบทเรียนโดยใช้ wordwall.com ในการทบทวน 11. ครูให้นักเรียนจับคู่คำศัพท์กับความหมายภาษาอังกฤษให้ถูกต้อง ครูและนักเรียนอธิบาย ความหมายเป็นภาษาไทยอีกครงั้ เพ่ือความเขา้ ใจมากย่งิ ขึ้น ขนั้ เรยี นรจู้ าการประเมนิ (Self-Assessment) 12. นักเรียนทำแบบฝึกหัดข้อ 5 ในหนังสือ FLASH M.6 STUDENT’S BOOK หน้า 81 ให้แยก ประเภทของคำศัพท์ที่กำหนดให้ในกลอ่ ง นำมาแยกประเภทของคำศัพท์ให้ถกู ต้อง 13. ครูและนักเรียนร่วมกนั เฉลยแบบฝึกหัด โดยเลอื กนกั เรยี นมาเฉลยข้อละ 1 คน 14. ครแู ละนักเรยี นร่วมกันอภิปรายเก่ยี วกบั หัวขอ้ ดัง ตอ่ ไปนี้ 1) เปรียบเทียบอาหารและนสิ ัยในการรับประทานอาหารในอดีตกบั ปัจจบุ นั 2) บอกเหตผุ ลว่าทำไมคนในอดตี และคนปัจจุบนั จึงมีนิสัยในการรับประทาน อาหารที่ต่างกัน 3) อาหารในปัจจุบันมีผลอยา่ งไรต่อสขุ ภาพของนักเรียน 15. ครูสุ่มนักเรียนออกมานำเสนอการพูดแสดงความคดิ เหน็ ในเร่ืองดังกล่าว ครชู ว่ ยแก้ไข ในส่วนท่ีผิด ข้นั เพลิดเพลินกบั การนำ ปใช้ (Production) 16. ครูและนักเรียนสรุปเรื่องของอาหารแต่ละชนิด อาหารประเภทใดที่ควรรับประทาน และ อาหารประเภทใดควรเล่ียง หรอื รบั ประทานใหน้ ้อยลง
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 8 เรอ่ื ง Mood F หอ้ ง ผลการจัดการเรียนรู้ ความรูค้ วามสามารถ (K) ทักษะกระบวนการ (P) นกั เรยี นทำแบบฝึกหัด เรื่อง นักเรยี นรอ้ ยละ 90 สามารถอ่าน และ นกั 6/2 Mood Food ผา่ นเกณฑร์ ะดับดี เขา้ ใจจากเรื่องที่เรยี นได้ ผา่ 22 คน ระดบั พอใช้ 6 คน ระ คว นกั เรียนทำแบบฝึกหัด เรอื่ ง นกั เรียนรอ้ ยละ 90 สามารถอ่าน และ นัก 6/4 Mood Food ผ่านเกณฑร์ ะดับดี เขา้ ใจจากเรื่องที่เรยี นได้ ผ่า 29 คน ระดบั พอใช้ 6 คน ระ คว นกั เรยี นทำแบบฝึกหัด เร่อื ง นกั เรยี นร้อยละ 90 สามารถอ่าน และ นัก 6/6 Oliver Twist ผ่านเกณฑ์ระดับดี เขา้ ใจจากเร่ืองท่ีเรยี นได้ ผ่า 28 คน ระดบั พอใช้ 4 คน ระ คว ลงชื่อ .......................................... ครผู ูส้ อน (นายรสุ ลาน สาแม) .....21..... /.....ม.ค....... /....2565......
บนั ทกึ หลังสอน จำนวน 1 คาบ 105 Food ข้อเสนอแนะ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) ปญั หา/อุปสรรค - กเรยี นมคี ุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ มีนักเรยี น 3 คน ที่ไม่ - านเกณฑ์ ไดร้ ับคะแนนเฉลย่ี อยใู่ น สามารถประเมินได้ ะดับ ดี อยู่อย่างพอเพียงและรัก เนอื่ งจากไม่ทำ วามเป็นไทย แบบทดสอบหลงั เรียน กเรียนมีคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ มีนักเรียน 2 คน ท่ีไม่ านเกณฑ์ ไดร้ บั คะแนนเฉลย่ี อยู่ใน สามารถประเมนิ ได้ ะดบั ดี อยู่อย่างพอเพยี งและรกั เน่ืองจากไม่ทำ วามเป็นไทย แบบทดสอบหลังเรียน กเรียนมคี ุณลักษณะอนั พึงประสงค์ มนี ักเรียน 4 คน ท่ีไม่ านเกณฑ์ ได้รับคะแนนเฉล่ยี อย่ใู น สามารถประเมินได้ ะดบั ดี อยู่อย่างพอเพยี งและรกั เนื่องจากไม่ทำ วามเปน็ ไทย แบบทดสอบหลังเรยี น ลงชอ่ื .......................................... (นางสาวเพริศพศิ คหู ามุข) .......... /........... /..........
106 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 9 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ รายวชิ า ภาษาอังกฤษ 6 รหสั วิชา อ33102 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 Health and the Environment เรอื่ ง inversion and Adverb of degree ช้ันมัธยม ก าท่ี 6 เวลาเรียน 1 คาบ ครผู สู้ อน ครรู สุ ลาน สาแม โรงเรียนคณะราษฎรบำรุงจังหวัดยะลา สพม.ยะลา 1. มาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ 1 : ภาษาเพือ่ การส่ือสาร มฐ. ต 1.1 ม.4-6/4, ต 1.2 ม.4-6/4 สาระที่ 2 : ภาษาและวัฒนธรรม มฐ. ต 2.2 ม.4-6/1 สาระท่ี 4 : ภาษากับความสมั พันธก์ ับชมุ ชนและโลก มฐ. ต 4.1 ม.4-6/1, ต 4.2 ม.4-6/1 2. ตวั ชี้วัด ต 1.1 ม.4-6/4 จับใจความสำคัญ วเิ คราะห์ความ สรุปความ ตีความ และแสดงความคิดเหน็ จากการ ฟังและอา่ นเรือ่ งทีเ่ ปน็ สารคดีและบนั เทิงคดี พร้อมท้งั ใหเ้ หตผุ ลและยกตวั อย่าง ประกอบ ต 1.2 ม.4-6/4 พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูลบรรยาย อธิบาย เปรียบเทียบ และแสดงความ คิดเหน็ เก่ยี วกับเร่ือง/ประเด็น/ขา่ ว/เหตุการณท์ ีฟ่ งั และอ่านอยา่ งเหมาะสม ต 2.2 ม.4-6/1 อธิบาย/เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างโครงสร้างประโยค ข้อความ สำนวน คำ พงั เพย สภุ าษติ และบทกลอนของภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย ต 4.1 ม.4-6/1 ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองทีเ่ กิดข้ึนในหอ้ งเรียน สถานศกึ ษา ชมุ ชน และสังคม ต 4.2 ม.4-6/1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการสืบคน้ /ค้นคว้า รวบรวม วเิ คราะห์ และสรุปความรู้/ ข้อมูลตา่ ง ๆ จากส่ือและแหล่งการเรยี นร้ตู า่ ง ๆ ในการศึกษาตอ่ และประกอบอาชพี 3. จดุ เนน้ การพฒั นาการเรยี นรู้ 1. แสวงหาความรู้เพ่ือการแก้ไขปญั หา 2. การใช้เทคโนโลยเี พอื่ การเรียนรู้ 3. ทักษะการคิดขน้ั สงู 4. การสือ่ สารอย่างอยา่ งสร้างสรรคต์ ามชว่ งวัย
107 4. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด เขียนประโยคโดยใช้ inversion และ Adverb of degree ใช้คำศัพท์ สำนวน โครงสร้างทางภาษาที่ กำหนด เป็นการส่งเสริมทักษะในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารและเป็นพื้นฐานที่ดีในการศึกษาระดับท่ี สงู ขึน้ 5. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. พดู และเขียนประโยค Inversions ไดถ้ กู ตอ้ งตามหลกั ไวยากรณไ์ ด้ 2. พูดเขยี นประโยค Adverb of degree ไดถ้ ูกต้องตามหลกั ไวยากรณไ์ ด้ 6. สาระการเรยี นรู้ (KPA) ความรคู้ วามรู้ความสามารถ (K) Grammar: Inversion 1. Inversions: e.g. - Rarely do we think about the link between food and mood. - Not only will you feel more cheerful, but you will have less appetite. - Only after you eat a good breakfast will you be able to keep going all day long at school. - Not until I got home did I notice my mobile was missing. 2. Adverbs of degree: Such…that / so…that / too / very / quite / enough e.g. - Noise has become such a normal part of our everyday life that we hardly notice it. - If noise is too loud, we might become aggressive. ทกั ะกระบวนการ (P) 1. ทักษะการพูด 2. ทกั ษะการคิด คุณลัก ณะอันพงประสงค์ (A) 1. ใฝเ่ รยี นรู้ 2. มุ่งมนั ในการทำงาน 3. มวี ินัย 4. มจี ิตสาธารณะ
108 7. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน - ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ - การสื่อสาร - การคิด - การแกป้ ญั หา - การใช้เทคโนโลยี 8. บรู ณาการ ������ อาเซยี น ทอ้ งถ่นิ ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง 9. สอ่ื /แหล่งเรยี นรู้ 1. สอ่ื นำเสนอ (Presentation) เร่ือง Inversion และ adverb of degree 2. หนงั สอื FLASH M.6 STUDENT’S BOOK 3. Padlet ของชัน้ เรยี น 10. การวัดและประเมนิ ผล 1. ประเมนิ การทำกิจกรรมในหนังสอื เรียน 2. สังเกตพฤติกรรมการเรยี นรใู้ นช่วงการทำกิจกรรม 3. สังเกต/ประเมนิ จากการทำงานเดยี่ ว เครือ่ งมอื วดั ผล 1. แบบฝกึ หัดในหนังสอื เรียนและเอกสารประกอบการเรียน 2. แบบประเมนิ ทักษะทางภาษา 3. แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เกณฑ์การวดั สง่ิ ที่ต้องการวดั เครือ่ งมอื วัด เกณฑก์ ารวัด 1. ความร้คู วามสามารถ (K) 8-10 คะแนน ดี 5-7 คะแนน พอใช้ 1.1 คำศพั ท์ - แบบทดสอบเร่ือง Inversion 1-4 คะแนน ปรบั ปรุง และ adverb of degree ระดบั 3 ดมี าก ระดับ 2 ดี 2. ทกั ะกระบวนการ (P) - การออกเสยี งคำศัพท์ 2.1 กระบวนการทำงาน - การพูด แสดงความคดิ เห็น
109 สิ่งทต่ี ้องการวดั เครอื่ งมอื วดั เกณฑ์การวัด - การเขยี นประโยค ระดบั 1 ตอ้ งปรบั ปรุง 3. คณุ ลัก ณะอันพงประสงค์ (A) - แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพงึ ระดับ 3 ดีมาก 3.1 ใฝ่เรียนรู้ ระดับ 2 ดี 3.2 มงุ่ มันในการทำงาน ประสงค์ ต้องปรับปรุง 3.3 มีวินัย ระดับ 1 3.4 มจี ติ สาธารณะ 11. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นกระตนุ้ ใหท้ ำ (Stimulation) 1. ครูให้นกั เรยี นเรียงคำท่ีกำหนดใหใ้ หเ้ ป็นประโยคท่ีมคี วามหมายที่ครูกำหนดให้ ดงั นี้ - ฝนแทบจะไม่ตกในตอนเช้าเลย (It hardly rains in the morning.) หลงั จากนนั้ ครูและนักเรียนตรวจคำตอบพรอ้ มกนั 2. ครูกำหนดคำใหม่ให้นักเรียน หลังจากนั้นให้นักเรียนเรียงให้เป็นประโยคที่มีความหมายว่า “แทบ จะไม่เลยทฝี่ นจะตกในตอนเชา้ ” (Hardly does it rain in the morning.) 3. ครูแจ้งว่าประโยคภาษาอังกฤษอาจจะมีการสลับตำแหน่งคำในประโยคเพื่อจุดประสงค์ต่างๆ ซ่ึง วธิ ีการนี้เรียกว่า “Inversion” ขั้นนำเสนอให้คิด (Presentation) 4. ครูเปิด Presentation เรื่อง Inversion และ Adverb of degree 5. ครอู ธิบายเร่ือง Inversion และ Adverb of degree ดตู ัวอยา่ งประโยค แลว้ ชว่ ยกนั สรปุ หลักการ ดงั นี้ 1) วิธีการเปลี่ยนตำแหน่ง adverb และกริยาช่วยมาไว้ต้นประโยคเรียกว่า inversion ซึ่ง นักเรียนต้องทราบว่าประโยคที่จะเปลี่ยนตำแหน่ง adverb ได้ต้องเป็น adverb with a negative meaning เ ช ่ น rarely, not only…but…, hardly, hardly ever, little, scarcely, never, neither…nor, only after/when, under no circumstances, not once, seldom, no sooner …than, etc. และต้องหากรยิ า ชว่ ย 1 ตัว วางไว้หน้า subject เสมอ เช่น - Little do low-carb dieters know that because of their diets, they are more likely to feel tired. - Only after a good breakfast will you be able to keep going all day long at school.
110 - so และ such มีความหมายว่า ‘มาก’ หลักการใช:้ so + adjective/adverb e.g. I like Nick and Tom. They are so good. such + (a/an) + adjective + noun (singular) such + adjective + noun (plural) e.g. I like Nick. He is such a good boy. หรอื อาจใช้ He is so good a boy. กไ็ ด้ I like Nick and Tom. They are such good boys. such…that และ so…that มีความหมายเหมอื นกัน คอื ‘....มากจนกระทัง่ ....’ คำทอ่ี ยูต่ รงกลางระหว่าง such…that คือคำนามโดยมี adjective ขยายอยขู่ ้างหนา้ หลกั การใช:้ such + a/an + adjective + noun (singular) + that … e.g. It was such a hot day that Susan stayed indoors. such + adjective + noun (plural) / uncountable noun + that… e.g. It was such delicious food that we ate all of it. คำที่อยูต่ รงกลาง so…that คือ adjective/adverb so + adjective / adverb e.g. Music is so loud that I feel stressed about work. Charles spoke so quickly that nobody understood what he spoke. too ใชเ้ นน้ ประโยควา่ ‘มากเกินความต้องการ’ หลักการใช:้ too + adjective/adverb e.g. There’s too much oil on this salad.
111 too + adjective + for + noun e.g. This soup is too hot for me. too + adjective + to-infinitive e.g. It’s too hot to wear a jacket. very หมายความว่า ‘มาก อย่างยิ่ง’ ใชใ้ นความหมายไดท้ ัง้ เชงิ บวก และเชงิ ลบ หลกั การใช:้ very + adjective/adverb e.g. This cake is very sweet. (I like it that way.) This cake isn’t very sweet. (I don’t like it.) * หมายเหตุ ความแตกต่างระหวา่ ง too และ very : - This cake is very sweet. (I like it that way.) - This cake is too sweet. (I don’t like it.) quite ใช้เพื่อต้องการชี้ให้เห็นว่าเหตุการณ์หรือการกระทำนั้นๆ ใกล้จะถึงเป้าหมายซึ่งมักจะ แปลว่า ‘ค่อนข้างจะ’ หลกั การใช:้ quite + adjective/adverb e.g. He is quite angry because of her words. enough มีความหมายว่า ‘เพยี งพอ’ ใชข้ ยาย adjective หรอื adverb ท่ีอยูด่ ้านหนา้ หลักการใช:้ adjective/adverb + enough e.g. The film is not long enough.(It was too short.) enough + noun e.g. We don’t have enough sugar.(The sugar is not sufficient.)
112 adjective + enough + to-infinitive e.g. The laptop was cheap enough to buy. adjective + enough + for + noun (object pronoun) + to-infinitive e.g. The laptop was cheap enough for me to buy. ขั้นสาธติ ใหด้ ู (Demonstration) 6. นักเรียนทำแบบฝึกหัด เรื่อง Inversion ในหนังสือ FLASH M.6 STUDENT’S BOOK หน้า 81 แบบฝกึ หดั ขอ้ 4 7. นักเรียนทำแบบฝึกหัด เรื่อง Adverb of degree ในหนังสือ FLASH M.6 STUDENT’S BOOK หน้า 83 แบบฝึกหดั ข้อ 6 8. ครูให้ตวั แทนนกั เรียนมาเฉลยคำตอบทถ่ี กู ต้อง โดยใหเ้ ฉลย 1 ขอ้ ต่อ 1 คน 9. หลังจากทำการเฉลยเรียบร้อยแล้วครูอธิบายเพิ่มเติมเพื่อให้นักเรียนเข้าใจคำตอบมากขึ้น พร้อม แก้ไขคำตอบใหน้ กั เรียนในขอ้ ท่ีผิด ขน้ั เรียนรู้จาการประเมนิ (Self-Assessment) 10. ครูให้นักเรียนสรุปวิธีการใช้ไวยากรณ์ so…that, such….that, too, very, quite, enough และ inversion โดยการสุ่มเรียกนักเรยี นเป็นรายบุคคล 11. ใหน้ ักเรยี นทำแบบฝึกหดั เป็นการบา้ นดงั น้ี - หนงั สือ FLASH M.6 STUDENT’S BOOK หน้า 96 แบบฝึกหัดขอ้ 1 2 และ 3 ขน้ั เพลดิ เพลนิ กับการนำ ปใช้ (Production) 12. ครูสรปุ บทเรยี นโดยการเลอื กถามตวั แทนนักเรยี นในแต่ละข้อ และใหน้ ักเรยี นตอบให้เร็วที่สดุ
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 9 เรอื่ ง Inve ห้อง ผลการจัดการเรยี นรู้ นัก ผ่า ความรคู้ วามสามารถ (K) ทักษะกระบวนการ (P) ระ คว นกั เรยี นทำแบบฝึกหัด เรอ่ื ง นักเรยี นรอ้ ยละ 90 สามารถเขยี น นัก ผ่า 6/1 Reported ผ่านเกณฑร์ ะดบั ดี 20 ประโยคในรปู ของ Reported ระ คน speech และอ่านออกเสียงคำได้ คว นัก อยา่ งถูกต้อง ผา่ ระ นักเรียนทำแบบฝึกหัด เรอ่ื ง นักเรียนรอ้ ยละ 90 สามารถเขียน คว 6/2 Reported ผ่านเกณฑร์ ะดบั ดี 26 ประโยคในรปู ของ Reported คน speech และอ่านออกเสยี งคำได้ อย่างถูกต้อง นักเรยี นทำแบบฝึกหดั เรอื่ ง นกั เรยี นร้อยละ 90 สามารถเขียน 6/6 Reported ผา่ นเกณฑร์ ะดับดี 18 ประโยคในรปู ของ Reported คน speech และอา่ นออกเสยี งคำได้ อยา่ งถูกต้อง ลงชอื่ .......................................... ครูผ้สู อน (นายรสุ ลาน สาแม) ....24...... /....ม.ค........ /...2565.......
บนั ทึกหลังสอน จำนวน 1 คาบ 113 ersion ขอ้ เสนอแนะ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ (A) ปญั หา/อุปสรรค - กเรยี นมคี ุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ มนี ักเรียน 2 คน ท่ีไม่ านเกณฑ์ ไดร้ ับคะแนนเฉลี่ยอยใู่ น สามารถประเมินได้ ะดบั ดี อยู่อย่างพอเพียงและรัก เนือ่ งจากไม่ทำ วามเป็นไทย แบบทดสอบหลงั เรยี น กเรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ - านเกณฑ์ ได้รบั คะแนนเฉลย่ี อย่ใู น ะดับ ดี อยู่อย่างพอเพยี งและรัก วามเป็นไทย กเรยี นมีคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ มีนักเรียน 9 คน ที่ไม่ านเกณฑ์ ได้รับคะแนนเฉลีย่ อยู่ใน สามารถประเมินได้ ะดบั ดี อยู่อยา่ งพอเพียงและรกั เนือ่ งจากไม่ทำ วามเป็นไทย แบบทดสอบหลงั เรยี น ลงช่ือ .......................................... (นางสาวเพรศิ พศิ คหู ามขุ ) .......... /........... /..........
114 แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 10 กล่มุ สาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ รายวชิ า ภาษาองั กฤษ 6 รหสั วิชา อ33102 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 4 Health and the Environment เรอื่ ง prefix and suffix ชนั้ มธั ยม ก าท่ี 6 เวลาเรียน 1 คาบ ครูผสู้ อน ครรู สุ ลาน สาแม โรงเรยี นคณะราษฎรบำรุงจังหวดั ยะลา สพม.ยะลา 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระท่ี 1 : ภาษาเพ่ือการส่ือสาร มฐ. ต 1.1 ม.4-6/4, ต 1.2 ม.4-6/4 สาระที่ 2 : ภาษาและวัฒนธรรม มฐ. ต 2.2 ม.4-6/1 สาระท่ี 4 : ภาษากบั ความสมั พนั ธก์ บั ชุมชนและโลก มฐ. ต 4.1 ม.4-6/1, ต 4.2 ม.4-6/1 2. ตัวชีว้ ดั ต 1.1 ม.4-6/4 จบั ใจความสำคัญ วเิ คราะห์ความ สรุปความ ตีความ และแสดงความคิดเห็นจากการ ฟังและอ่านเรอ่ื งทเ่ี ป็นสารคดีและบนั เทิงคดี พร้อมทั้งใหเ้ หตผุ ลและยกตวั อย่าง ประกอบ ต 1.2 ม.4-6/4 พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูลบรรยาย อธิบาย เปรียบเทียบ และแสดงความ คดิ เห็นเกย่ี วกับเร่อื ง/ประเดน็ /ข่าว/เหตุการณ์ทฟี่ งั และอ่านอย่างเหมาะสม ต 2.2 ม.4-6/1 อธิบาย/เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างโครงสร้างประโยค ข้อความ สำนวน คำ พังเพย สุภาษติ และบทกลอนของภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย ต 4.1 ม.4-6/1 ใชภ้ าษาสอ่ื สารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณจ์ ำลองทเ่ี กดิ ข้ึนในห้องเรยี น สถานศกึ ษา ชมุ ชน และสังคม ต 4.2 ม.4-6/1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการสืบคน้ /คน้ คว้า รวบรวม วเิ คราะห์ และสรปุ ความร้/ู ขอ้ มลู ตา่ ง ๆ จากส่อื และแหล่งการเรยี นรู้ตา่ ง ๆ ในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ 3. จุดเน้นการพัฒนาการเรยี นรู้ 1. แสวงหาความรเู้ พื่อการแก้ไขปัญหา 2. การใชเ้ ทคโนโลยีเพอ่ื การเรยี นรู้ 3. ทกั ษะการคิดขนั้ สงู 4. การสอ่ื สารอยา่ งอย่างสรา้ งสรรค์ตามชว่ งวยั 4. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด เขียนประโยคโดยใช้ Reported speech ใช้คำศัพท์ สำนวน โครงสร้างทางภาษาที่กำหนด เป็นการ สง่ เสริมทักษะในการใชภ้ าษาอังกฤษเพ่อื การส่ือสารและเป็นพื้นฐานทดี่ ใี นการศกึ ษาระดบั ที่สงู ขึ้น
115 5. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. เขยี นคำศัพทใ์ หม่ท่เี กดิ จากการเตมิ prefix และ suffix ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง 2. สามารถเปรียบเทียบความแตกตา่ งของคำศัพท์ใหม่ทเ่ี กดิ จากการเตมิ prefix และ suffix ได้ 6. สาระการเรียนรู้ (KPA) ความรู้ความรคู้ วามสามารถ (K) Grammar: prefix and suffix 1. prefix : - Negative prefixes - ir-, il-, im-, in-, dis-, mis-, un-, non-, mal- - Prefixes of attitude – anti-, pro-, co- - Prefixes of degree – super-, mini-, over-, sur-, ultra-, sub- 2. suffix : - Word building - nouns and adjectives ending with -ful / -less e.g. - She ate a handful of nuts all day. - I am grateful for the good things in life. ทกั ะกระบวนการ (P) 1. ทกั ษะการพดู 2. ทกั ษะการคิด คณุ ลัก ณะอันพงประสงค์ (A) 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. มงุ่ มนั ในการทำงาน 3. มวี ินัย 4. มจี ติ สาธารณะ 7. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น - ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ - การสอ่ื สาร - การคิด - การแกป้ ญั หา - การใชเ้ ทคโนโลยี
8. บูรณาการ ������ อาเซียน 116 ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ท้องถนิ่ 9. สอ่ื /แหล่งเรียนรู้ 1. ส่อื นำเสนอ (Presentation) เร่อื ง prefix and suffix 2. หนงั สือ FLASH M.6 STUDENT’S BOOK 3. Padlet ของชั้นเรยี น 10. การวดั และประเมนิ ผล 1. ประเมินการทำกจิ กรรมในหนังสอื เรยี น 2. สังเกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ในช่วงการทำกิจกรรม 3. สงั เกต/ประเมินจากการทำงานเด่ียว เครือ่ งมือวัดผล 1. แบบฝกึ หดั ในหนงั สือเรยี นและเอกสารประกอบการเรียน 2. แบบประเมินทักษะทางภาษา 3. แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ เกณฑ์การวดั ส่ิงท่ตี ้องการวัด เครอ่ื งมือวดั เกณฑ์การวัด 1. ความรูค้ วามสามารถ (K) 1.1 คำศัพท์ - แบบทดสอบเร่ือง prefix และ 8-10 คะแนน ดี 5-7 คะแนน พอใช้ suffix 1-4 คะแนน ปรบั ปรงุ 2. ทัก ะกระบวนการ (P) - การออกเสียงคำศพั ท์ ระดบั 3 ดีมาก 2.1 กระบวนการทำงาน - การพูด แสดงความคิดเหน็ ระดับ 2 ดี - การเขียนประโยค ระดบั 1 ตอ้ งปรับปรงุ 3. คุณลัก ณะอนั พงประสงค์ (A) - แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พึง ระดบั 3 ดมี าก 3.1 ใฝเ่ รียนรู้ ประสงค์ ระดบั 2 ดี 3.2 ม่งุ มันในการทำงาน ระดับ 1 ต้องปรับปรุง 3.3 มีวนิ ัย 3.4 มีจิตสาธารณะ
117 11. กจิ กรรมการเรียนรู้ ขนั้ กระต้นุ ให้ทำ (Stimulation) 1. ครนู ำเสนอคำศพั ท์บนกระดานแล้วใหน้ ักเรียนสังเกตความแตกต่างของคำศพั ท์ เชน่ Respect : disrespect 2. ครทู บทวนความรู้เร่อื ง prefixes และ suffix ทเ่ี คยเรยี นร้มู าแลว้ โดยให้นักเรยี นยกตวั อยา่ ง คำทน่ี กั เรยี นรคู้ นละ 1 คำ ข้นั นำเสนอใหค้ ิด (Presentation) 3. ครูเปดิ presentation เร่ือง prefix and suffix 4. ครูอธิบายเนอื้ หา prefix and suffix ดงั ตอ่ ไปน้ี Prefix ท่ีมีความหมายว่า ไม่ (in-, im-, un-, non-, dis-) เช่น incorrect = ไมถ่ ูกตอ้ ง inattention =ไมส่ นใจ impossible = เป็นไปไม่ได้ immature = ไม่มวี ฒุ ภิ าวะ unbelievable = ไม่นา่ เชื่อ disconnect =ไม่เชื่อมตอ่ dissimilar = ไมเ่ หมอื น Prefix ท่มี ีความหมายในเชิงลบ คือ เลว ผดิ ไม่ดี (mis-, mal-, pseudo-) เช่น misconception = ความเขา้ ใจผดิ misfortune = โชคไม่ดี malfunction = การทำหนา้ ทีผ่ ิดปกติ Prefix ที่มีความหมายเกี่ยวกับขนาดหรือระดับ uper- (เหนือกว่า), sur- (เหนือกว่า), sub (ต่ำกว่า), over (เกินไป) เชน่ supersonic = เรว็ เหนอื เสียง subconscious = จติ ใตส้ ำนกึ surreal = เหนอื ความจริง/เหมอื นฝนั over-exaggerate = พูดเกินจรงิ Prefix ที่มีความหมายเกย่ี วกับลำดบั pre- (ก่อน), fore (ก่อน), post (หลงั ), re (ทำซ้ำ) เช่น preorder = สงั่ ของลว่ งหนา้ forecast = ทำนาย pre-test = การทดสอบก่อนเรยี น
118 post-test = การทดสอบหลงั เรียน recycle = นำมาใชซ้ ำ้ Prefix ทม่ี คี วามหมายเกีย่ วกบั จำนวน uni- (หนงึ่ ), bi-(สอง), tri-(สาม), multi-(หลากหลาย) เชน่ unicorn = มา้ เขาเดียว bi-lingual = สองภาษา trilingual = สามภาษา multi-color = หลากสี การเตมิ prefix หน้าคำศพั ทน์ ั้น อาจทำให้ความหมายเปล่ียนแตไ่ ม่อาจทำให้หนา้ ท่ีของคำน้ัน เปลย่ี นไปคะ่ Suffix หรือท่ีเราเรยี กกันวา่ ปจั จยั ทำหนา้ ทเ่ี ติมท้ายคำให้ความหมายของคำสมบูรณ์ขึ้นและ บง่ บอกหนา้ ทข่ี องคำคำนั้น มาดกู ารแบ่งประเภทการใช้ Suffix กันคะ่ Noun Suffix คอื suffix ทเี่ ติมแล้วทำใหค้ ำนั้นเปน็ คำนาม (-ship, -ee, -ness, -dom, - hood, -al, -er/-or, -tion) เช่น friendship = ความเป็นเพอ่ื น employee = ลูกจ้าง happiness = ความสขุ kingdom = ราชอาณาจกั ร childhood = วยั เดก็ arrival = การมาถงึ writer = นักเขยี น population = ประชากร Verb Suffix คือ suffix ทเี่ ติมแล้วทำให้คำนนั้ เปน็ คำกรยิ า (-ate, -en,-ise/ize, -ify) เชน่ activate = กระต้นุ quicken = ทำให้เร็วขึ้น realize = ตระหนกั identify = แสดงตัว Adjective Suffix คือ suffix ที่เติมแล้วทำให้คำนั้นเป็นคำคุณศัพท์ (-able/ible, -al, -en, - ful, -ish, -less, -ly, -ous) เช่น flexible = ทยี่ ดื หย่นุ ได้ formal = อยา่ งเป็นทางการ golden = ทำดว้ ยทอง useful = มีประโยชน์ British = เก่ยี วกบั องั กฤษ
119 useless =ไรป้ ระโยชน์ daily = รายวัน famous = ที่มชี ื่อเสยี ง Adverb Suffix คอื suffix ที่เติมแลว้ ทำใหค้ ำนั้นเป็นกรยิ าวิเศษณ์ (-ly, -ward, -wise) เชน่ easily = อยา่ งง่ายดาย upwards = ขึ้นไปทางเหนอื clockwise = ตามเขม็ นาฬกิ า ขน้ั สาธติ ให้ดู (Demonstration) 5. นักเรียนทำแบบฝึกหัดเรอื่ ง Prefix เขยี นเติมคำทงั้ 8 ขอ้ ให้เป็นคำศัพท์ Prefix ที่สมบูรณ์ (สามารถ ตรวจสอบความถกู ต้องผา่ นดิกชนั นาร)ี ดงั น้ี 1. _______behave 2. _______polite 3. _______understand 4. _______agree 5. _______legal 6. _______moral 7. _______dependent 8. _______organised 6. นักเรียนทำแบบฝึกหดั เรื่อง suffix เปลี่ยนคำนามให้เปน็ คำคุณศัพท์ โดยเติมคำศัพทท์ ัง้ 10 ข้อ ให้ เปน็ suffix ท่สี มบูรณ์ ดงั น้ี Noun Adjective (1) _____________ painful illness (2) _____________ sugar (3) _____________ blood (4) _____________ fat (5) _____________ (6) _____________ allergic (7) _____________ warn (8) _____________ tired stress (9) _____________ harm (10) ____________
120 7. ครอู ธิบายเพิ่มเตมิ ถึงทีม่ าของคำตอบหลงั จากเฉลยแตล่ ะขอ้ เมื่อเฉลยทุกข้อแลว้ ครูประเมินการทำ แบบฝึกหัดของนักเรียนจากคำตอบที่ถูกต้อง โดยใช้เกณฑ์ผ่านร้อยละ 70 ครูชมเชยและให้กำลังใจนักเรยี น ทกุ คน ขน้ั เรยี นรูจ้ าการประเมิน (Self-Assessment) 8. ครูให้นักเรียนฝึกสร้างคำโดยใช้ prefix และ suffix โดยดูรูปแบบจากหนังสือ FLASH M.6 STUDENT’S BOOK หนา้ 106 เร่ือง prefixes to form opposite adjectives 9. ให้นักเรียนช่วยกันคิดคำทีเ่ ติม prefix และ suffix แล้วบอกความหมายได้ ขั้นเพลิดเพลนิ กับการนำ ปใช้ (Production) 10. ครูและนกั เรยี นช่วยกันสรุปเรอ่ื ง prefix และ suffix อกี ครง้ั ในแต่ละประเภทจะใช้ prefix และ suffix อย่างไร พรอ้ มใหน้ ักเรียนยกตัวอยา่ งคนละ 5 ลงใน padlet ของห้อง
121 ภาคผนวกแผนการจัดการเรยี นรเู้ รอ่ื ง Prefix and Suffix
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 10 เร่อื ง pref หอ้ ง ผลการจัดการเรยี นรู้ ความรู้ความสามารถ (K) ทกั ษะกระบวนการ (P) นกั เรยี นทำแบบฝึกหดั เรื่อง นกั เรยี นรอ้ ยละ 80 สามารถเขยี น 6/1 Reported ผ่านเกณฑ์ระดับดี 11 ประโยคในรปู ของ Reported คน ระดบั พอใช้ 8 คน speech และอา่ นออกเสยี งคำได้ อย่างถูกต้อง นักเรียนทำแบบฝึกหดั เร่อื ง นกั เรียนรอ้ ยละ 90 สามารถเขยี น Reported ผ่านเกณฑร์ ะดับดี 22 ประโยคในรปู ของ Reported 6/2 คน ระดบั พอใช้ 6 คน speech และอา่ นออกเสยี งคำได้ อยา่ งถูกต้อง นกั เรยี นทำแบบฝึกหัด เรอ่ื ง นักเรยี นรอ้ ยละ 90 สามารถเขยี น 6/3 Reported ผา่ นเกณฑร์ ะดบั ดี 19 ประโยคในรูปของ Reported คน ระดับพอใช้ 4 คน speech และอา่ นออกเสียงคำได้ อย่างถูกต้อง นักเรียนทำแบบฝึกหดั เรื่อง นกั เรยี นรอ้ ยละ 80 สามารถเขยี น 6/4 Reported ผ่านเกณฑร์ ะดับดี 11 ประโยคในรูปของ Reported คน ระดบั พอใช้ 8 คน
122 บนั ทกึ หลังสอน จำนวน 1 คาบ fix and suffix คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) ปญั หา/อปุ สรรค ข้อเสนอแนะ นกั เรยี นมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีนกั เรียน 8 คน ท่ีไม่ - ผ่านเกณฑ์ ได้รับคะแนนเฉลี่ยอย่ใู น สามารถประเมินได้ ระดบั ดี อยู่อยา่ งพอเพียงและรกั เนอ่ื งจากไม่เขา้ ชัน้ เรียน ความเป็นไทย นักเรียนมีคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ - ผ่านเกณฑ์ ได้รบั คะแนนเฉล่ยี อยใู่ น ระดบั ดี อยู่อยา่ งพอเพียงและรกั ความเปน็ ไทย นกั เรยี นมคี ุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ มีนกั เรยี น 3 คน ท่ีไม่ ผ่านเกณฑ์ ได้รับคะแนนเฉล่ียอยู่ใน สามารถประเมินได้ ระดับ ดี อยู่อยา่ งพอเพียงและรัก เน่ืองจากไมเ่ ข้าชั้นเรยี น ความเป็นไทย นักเรียนมคี ุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีนกั เรียน 8 คน ที่ไม่ ผ่านเกณฑ์ ไดร้ ับคะแนนเฉลี่ยอยใู่ น สามารถประเมินได้ เนอ่ื งจากไม่เข้าชน้ั เรียน
ห้อง ผลการจัดการเรียนรู้ ความรู้ความสามารถ (K) ทักษะกระบวนการ (P) speech และอ่านออกเสียงคำได้ อย่างถูกต้อง นกั เรียนทำแบบฝึกหัด เร่อื ง นกั เรียนร้อยละ 80 สามารถเขียน 6/8 Reported ผา่ นเกณฑ์ระดบั ดี 10 ประโยคในรปู ของ Reported คน ระดบั พอใช้ 10 คน speech และอา่ นออกเสียงคำได้ อยา่ งถูกต้อง ลงชือ่ .......................................... ครูผสู้ อน (นายรสุ ลาน สาแม) ...28.... /...ม.ค...... /...2565.....
123 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A) ปญั หา/อุปสรรค ข้อเสนอแนะ ระดบั ดี อยู่อยา่ งพอเพียงและรัก ความเป็นไทย นักเรียนมีคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ มนี กั เรยี น 10 คน ทไ่ี ม่ ผา่ นเกณฑ์ ไดร้ ับคะแนนเฉลยี่ อยู่ใน สามารถประเมนิ ได้ ระดับ ดี อยู่อยา่ งพอเพียงและรัก เนอ่ื งจากไมเ่ ข้าช้ันเรยี น ความเปน็ ไทย ลงชอ่ื .......................................... (นางสาวเพรศิ พศิ คูหามขุ ) .......... /........... /..........
124
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145