Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ - ศิรินทร์ทิพย์ ทองวิเศษ

แผนการจัดการเรียนรู้ - ศิรินทร์ทิพย์ ทองวิเศษ

Published by ครรชิต แซ่โฮ่, 2022-02-06 10:21:45

Description: แผนการจัดการเรียนรู้ - ศิรินทร์ทิพย์ ทองวิเศษ

Search

Read the Text Version

ความคิดเห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรูฯ้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………………….. (นางนงเยาว์ วกิ รัยเจริญยงิ่ ) หัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ความคดิ เหน็ ของรองผ้อู ำนวยการฝ่ายบรหิ ารงานวิชาการ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ …………………………………………….. (นางสาวเพริศพิศ คูหามขุ ) รองผู้อำนวยการ โรงเรยี นคณะราษฎรบำรุง จงั หวดั ยะลา ความคิดเห็นของผู้อำนวยการโรงเรยี นคณะราษฎรบำรงุ จังหวัดยะลา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื …………………………………………….. (นายนพปฎล มุณรี ตั น์) ผอู้ ำนวยการ โรงเรียนคณะราษฎรบำรงุ จังหวัดยะลา

ช่อื - สกลุ .....................................................................ชน้ั ม.1/……….. เลขท่ี .......... แบบฝึกทกั ษะ เรอื่ ง สถาบันการเงิน กิจกรรมที่ 1 สถาบันการเงิน 1. ให้นกั เรยี นจำแนกประเภทของสถาบนั การเงินลงในตารางใหถ้ กู ต้อง ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารกรงุ ศรีอยธุ ยา บรษิ ัทประกนั ชวี ติ โรงรับจำนำ สหกรณ์ออมทรัพยค์ รูยะลา บริษทั หลักทรัพย์ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพ่ือการสง่ ออกและนำเขา้ แห่งประเทศไทย สถาบันการเงนิ ธนาคารกลาง ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารท่ีมี สถาบันการเงนิ วัตถปุ ระสงคเ์ ฉพาะด้าน ทไ่ี ม่ใชธ่ นาคาร ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... .......................................

2. ใหน้ กั เรียนอ่าน/วเิ คราะห์สถานการณ์และตอบคำถาม 2.1 ธญั ย์กเู้ งนิ จากธนาคารเพ่ือไปซ้ือบา้ นจัดสรรไว้เปน็ ที่พักอย่อู าศยั 1) ธญั ย์ควรใช้บรกิ ารของสถาบันการเงินใด............................................................................................ 2) เพราะเหตุใด...................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. 2.2 ธนดิ าฝากเงินประเภทประจำระยะเวลา 24 เดือน และไดร้ ับดอกเบย้ี เงินฝาก 1) ธนิดาควรใชบ้ รกิ ารของสถาบนั การเงนิ ใด.......................................................................................... 2) เพราะเหตุใด.................................................................................................................. .................... .............................................................................................................. ................................................................ 2.3 ธรี ดีต้องการซอ้ื กรมธรรมเ์ พื่อคุ้มครองสุขภาพ โดยจา่ ยค่ากรมธรรมป์ ลี ะ 1 คร้งั 1) ธรี ดคี วรใชบ้ ริการของสถาบันการเงนิ ใด.......................................................................................... 2) เพราะเหตุใด...................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. 2.4 ธรี ธรณ์ไม่มเี งนิ ทจ่ี ะจ่ายค่าเทอมของลูกจึงนำสร้อยคอทองคำไปจำนำ 1) ธีรธรณค์ วรใช้บรกิ ารของสถาบันการเงินใด........................................................................................ 2) เพราะเหตุใด...................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. 2.4 ธาดาตอ้ งการขายผลติ ผลทางการเกษตรเพือ่ ให้ได้ราคาดีโดยไมถ่ ูกกดราคาจากพ่อค้าคนกลาง และ ต้องการกยู้ มื เงนิ เพ่ือซื้ออปุ กรณ์ทำการเกษตรและปุ๋ย 1) ธาดาควรใชบ้ รกิ ารของสถาบนั การเงนิ ใด........................................................................................... 2) เพราะเหตใุ ด.................................................................................................................. .................... .............................................................................................................. ................................................................

3. ให้นกั เรียนยกตัวอย่างสถาบนั การเงนิ ประเภทตา่ ง ๆ มา 2 สถาบนั และเปรยี บเทียบบทบาทหน้าท่ี ลงในแผนภาพ 3.1 …………………………………………………… 3.2 …………………………………………………… ความแตกต่าง ความเหมือน ความแตกตา่ ง ………………………………. ………………………………. ………………………………….. …………………………………. ………………………………………….. …………………………………… …………………………………… …………………………………………………. ……………………………………. ……………………………………. ……………………………………………………… …………………………………….. …………………………………… ……………………………………………………….. …………………………………… ……………………………………. ……………………………………………………….. ……………………………………. …………………………………… …………………………………………………… …………………………………… …………………………………… ……………………………………………… ……………………………………. ………………………………….. ……………………………………… …………………………………… …………………………………. ………………………… …………………………………… ใหน้ กั เรียนสรปุ ความเขา้ ใจเก่ยี วกับสถาบันการเงิน ............................................................................................................................. .................................... ................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................

ช่อื - สกลุ ...........................................................ช้นั ม.1 / .......... เลขท่ี .......... แบบทดสอบ เร่ือง สถาบนั การเงนิ คำช้แี จง เลือกคำตอบทีถ่ ูกต้องท่ีสดุ เพยี งคำตอบเดียว 1. ข้อใดกลา่ วถึงความหมายของสถาบันการเงนิ ไดส้ มบูรณ์ท่สี ดุ ก. สถาบนั ทที่ ำหนา้ ท่ีเป็นตัวกลางในการดำเนินธรุ กรรมทางการเงิน เป็นผ้รู บั ฝากเงิน หรือระดมเงนิ ออมและให้สนิ เช่อื ข. สถาบันที่ทำหน้าที่ดำเนนิ ธรุ กจิ เกีย่ วกบั การเงินทุกประเภท ค. ธนาคารและสถาบนั การเงนิ ที่มีหน้าทรี่ บั ฝากเงิน ง. ธนาคารซ่ึงทำหน้าที่รับฝากและให้ก้ยู ืมเงิน 2. สถาบนั การเงนิ ข้อใดตา่ งจากข้ออ่นื ก. ธนาคารกสิกรไทย ข. ธนาคารไทยพาณชิ ย์ ค. ธนาคารกรุงศรีอยธุ ยา ง. ธนาคารแหง่ ประเทศไทย 3. สถาบนั ทางการเงนิ มีลักษณะสำคัญคือ... ก. ทำลายธนบัตร ข. มีหน้าทรี่ บั ความเสี่ยงแทน ค. บรหิ ารจดั การหนี้สาธารณะ ง. เปน็ นายธนาคารของรัฐบาล 4. ธนาคารใดเป็นธนาคารท่มี ีวตั ถุประสงค์โดยเฉพาะ ก. ธนาคารกรงุ ไทย ข. ธนาคารกรงุ เทพ ค. ธนาคารไทยพาณิชย์ ง. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ 5. สถาบันการเงนิ ใดทผี่ ลประโยชนจ์ ากการดำเนนิ ธุรกจิ จะตกอยู่กับสมาชกิ ของสถาบนั การเงนิ น้ัน มากทส่ี ุด ก. โรงรบั จำนำ ข. ธนาคารออมสนิ ค. สหกรณ์ออมทรัพยค์ รู ง. บรษิ ัทเครดติ ฟองซิเอร์

6. ขอ้ ใดเป็นสถาบันการเงินท่ีไม่ใช่ธนาคารท้ังหมด ก. สหกรณ์ ธนาคารทหารไทยธนชาติ ข. บริษทั หลกั ทรพั ย์ บริษทั ประกันชีวิต ค. โรงรบั จำนำ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ง. ธนาคารยโู อบี ธนาคารไทยพาณิชย์ 7. ธนาคารใดมหี นา้ ท่ีใหบ้ ริการสนิ เช่อื ทางการเงินแก่ประชาชนท่ีต้องการมที ่ีอยู่อาศัยเป็นของตนเอง โดยเฉพาะ ก. ธนาคารออมสิน ข. ธนาคารทหารไทยธนชาติ ค. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ง. ธนาคารเพื่อการสง่ ออกและนำเขา้ แหง่ ประเทศไทย 8. อันนานบั ถือศาสนาอิสลามตอ้ งการทำธุรกรรมทางการเงินทไี่ ม่ขัดต่อหลกั ศาสนา อันนาควรไปใช้บริการ ของสถาบนั การเงินใด ก. บริษทั เงนิ ทนุ ข. ธนาคารออมสนิ ค. สหกรณอ์ อมทรัพย์ครู ง ธนาคารอสิ ลามแหง่ ประเทศไทย 9. นายสุชาตติ อ้ งการก้ยู ืมเงินเพ่อื ไปใช้ในการปลกู ทเุ รียน นายสชุ าตคิ วรกยู้ มื เงนิ จากสถาบันการเงนิ ใด ก. บริษัทเครดิตฟองซิเอร์ ข. บรรษัทเงนิ ทุนอุตสาหกรรมขนาดย่อม ค. ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ง. ธนาคารเพือ่ การสง่ ออกและนำเขา้ แหง่ ประเทศไทย 10. พัดชา ต้องการกเู้ งนิ โดยใชท้ ดี่ นิ และบ้านคำ้ ประกันเงินกู้ จะต้องใชบ้ ริการสถาบันการเงนิ ใด ก. โรงรบั จำนำ ข. ธนาคารพาณชิ ย์ ค. บรษิ ทั ประกนั ชวี ิต ง. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 11. ขอ้ ใดเป็นหนา้ ท่ขี องธนาคารแหง่ ประเทศไทย ก. ให้เช่าตนู้ ริ ภยั ข. ให้บริการดา้ นสนิ เชือ่ ค. เก็บรกั ษาทนุ สำรองเงินตรา ง. ซอ้ื ขายเงนิ ตราระหว่างประเทศ

12. ขอ้ ใดเป็นหน้าทขี่ องธนาคารพาณชิ ย์ ท่ี ก. ควบคมุ การพมิ พธ์ นบตั ร ข. รับฝากเงินจากประชาชน ค. เปน็ นายธนาคารของสถาบันการเงนิ ง. เป็นนายธนาคารของธนาคารพาณิชย์ 13. หากนายณภัทร ตอ้ งการลงทนุ เปิดกจิ การรา้ นอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ แตม่ ีทนุ ทรพั ย์ไม่พอ นายณภทั รสามารถไปหาแหล่งก้ยู มื ไดจ้ ากสถาบันการเงินใดจงึ จะเหมาะสมทสี่ ดุ ก. โรงรับจำนำ ข. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ค. ตลาดหลกั ทรัพย์แห่งประเทศไทย ง. ธนาคารพฒั นาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม 14. ขอ้ ใดเกยี่ วขอ้ งกบั ตลาดหลกั ทรัพยแ์ ห่งประเทศไทย ก. พลพล ชอบดูรายการโทรทศั น์ท่ีนำเสนอกิจการแปลกใหม่ท่ีทำรายได้ให้มาก ข. ปนั ปนั ฟังขา่ วการวิเคราะห์หุ้นทุกเชา้ ก่อนไปโรงเรียน ค. ขา้ วฟา่ ง ไดย้ ินข่าวการลม่ สลายของสถาบันการเงินท่ีประเทศอาเจนตนิ า ง. ข้าวป้นุ ฟังขา่ วตอนเช้าว่าราคาทองคำลงจึงให้บิดาใหไ้ ปซอ้ื ทองคำแท่งทเี่ ยาวราช 15. โรงรับจำนำมีบทบาทหน้าท่แี ตกต่างจากธนาคารพาณิชยอ์ ยา่ งไร ก. ไมใ่ หก้ ู้ยืมเงิน ข. ไมร่ บั ฝากเงิน ค. รบั ชำระค่าสาธารณปู โภค ง. ใชอ้ สงั หารมิ ทรพั ยจ์ ำนองเปน็ ประกัน 16. ผู้บรโิ ภคและผูผ้ ลติ นำเงินไปฝากกับสถาบนั การเงิน ผ้บู รโิ ภคและผู้ผลติ จะได้รับค่าตอบแทน เรียกวา่ ......... ก. กำไร ข. เบีย้ ประกัน ค. ดอกเบี้ยเงินกู้ ง. ดอกเบ้ยี เงินฝาก 17. ผบู้ ริโภคขายปัจจัยการผลิตใหก้ บั ผู้ผลติ จะได้รบั คา่ ตอบแทนในข้อใด ก. คา่ เช่าท่ีดิน ข. ค่าจ้างแรงงาน ค. ดอกเบีย้ ท่ไี ด้จากทนุ ง. คา่ เชา่ ค่าจา้ ง และดอกเบย้ี

18. ผูผ้ ลติ นำปจั จัยการผลิตไปแปรรปู เป็นสินคา้ เพือ่ จำหน่ายใหแ้ กผ่ บู้ รโิ ภค จะไดร้ บั ค่าตอบแทนในขอ้ ใด ก. ค่าเชา่ ข. คา่ สนิ คา้ ค. ค่าจา้ งแรงงาน ง. คา่ เชา่ ค่าจา้ ง และดอกเบยี้ 19. สถาบันการเงนิ นำเงนิ ฝากไปให้ผูผ้ ลิตและผู้บรโิ ภคกยู้ ืม จะได้รบั ผลตอบแทนในข้อใด ก. กำไร ข. เงินปันผล ค. ดอกเบีย้ เงนิ กู้ ง. ดอกเบี้ยเงนิ ฝาก 20. สถาบันการเงินมีความสำคญั อยา่ งไร ก. ตอบสนองความต้องการทางการเงนิ ได้หลากหลาย ข. ทำใหเ้ งินทมี่ อี ยขู่ องเรางอกเงยจงึ ดกี ว่าเก็บไวท้ ีบ่ ้านเฉย ๆ ค. กำหนดนโยบายการเงนิ ของประเทศเพื่อใหร้ ฐั บาลใช้ในการบรหิ ารประเทศ ง. ดูแลและจัดการการเงินสว่ นบุคคลและประเทศทำใหเ้ ศรษฐกจิ ต้ังแตร่ ะดบั รากฐานถึง ระดับประเทศมนั่ คง

แบบบันทกึ การสังเกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมรายบคุ คล ครั้งที่ ......... เรอื่ ง ....................................................................... รหสั วิชา .....................................ภาคเรียนที่ ........ ปกี ารศึกษา ................ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 1/ .......... พฤตกิ รรม/ระดับคะแนน ความสนใจ การมีส่วนร่วม การตอบคำถาม การยอมรบั ฟงั ทำงานตามที่ ที่ ชื่อ - สกลุ ในการทำกิจกรรม ในการแสดง ความคิดเหน็ ได้รบั มอบหมาย รวม ของผู้อน่ื ความคิดเห็น 321321321321321 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26

พฤตกิ รรม/ระดับคะแนน ความสนใจ การมสี ่วนรว่ ม การตอบคำถาม การยอมรับฟงั ทำงานตามที่ ที่ ช่ือ - สกลุ ในการทำกิจกรรม ในการแสดง ความคิดเห็น ได้รบั มอบหมาย รวม ของผ้อู ่นื ความคิดเห็น 321321321321321 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 เกณฑก์ ารประเมิน เกณฑก์ ารให้คะแนน ระดบั 3 หมายถึง มพี ฤตกิ รรมในระดับดี คะแนน 13 - 15 หมายถึง ดี ระดับ 2 หมายถึง มพี ฤตกิ รรมในระดบั ปานกลาง คะแนน 9 - 12 หมายถงึ ปานกลาง ระดับ 1 หมายถงึ มพี ฤตกิ รรมในระดบั ปรับปรุง คะแนน 5 - 8 หมายถึง ปรบั ปรุง เกณฑก์ ารผ่าน ร้อยละ 60 (9 คะแนน) ลงชือ่ ....................................................... (.......................................................) ผสู้ อน/ผปู้ ระเมนิ

แบบประเมินพฤติกรรมในการทำงานกลมุ่ กลมุ่ ท่ี ........ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 1/ .........เร่อื ง ....................................................................... คำชีแ้ จง : สงั เกตพฤติกรรมในการทำงานของนักเรยี น โดยเขยี นเครือ่ งหมาย ✓ ลงในชอ่ งรายการพฤติกรรม ท่นี ักเรยี นปฏิบตั ิ รายการประเมนิ ระดับคุณภาพ เลขที่ ช่ือ–สกลุ แ ่บงหน้า ีท่อ ่ยางเหมาะสม 4 3 21 มีการทำงานเป็น ั้ขนตอนทำตามหน้าที่ที่ ไมี ้ดก ัราบรมทำองบาหนเมา็ปยน ัข้นตอน ่รวม ักนแสดงความ ิคดเห็น รับฟังความ ิคดเห็นของสมาชิกกลุ่ม นำม ิต/ ้ขอตกลงของกลุ่มไปปฏิ ับ ิต ร่วม ักนปรับปรุงผลงานด้วยความเต็มใจ ่มุง ่ัมนทำงานให้สำเร็จ พอใจ ักบความสำเร็จของงาน บรรยากาศในการทำงาน รวมคะแนน ลงช่ือ.............................................ผปู้ ระเมิน ....... /................ /......... เกณฑ์การประเมิน 1. การให้คะแนน ✓ ให้ 1 คะแนน 2. การสรุปผลการประเมนิ ให้เป็นระดับคุณภาพ 4, 3, 2, 1 กำหนดเกณฑ์ได้ตามความเหมาะสม หรอื อาจใชเ้ กณฑด์ งั นี้ 9 – 10 คะแนน = 4 (ดีมาก) 7 – 8 คะแนน = 3 (ดี) 5 – 6 คะแนน = 2 (พอใช้) 0 – 4 คะแนน = 1 (ปรบั ปรงุ )

แบบประเมินสมรรถนะผเู้ รยี น 5 ด้าน ชือ่ ..............................................................นามสกลุ .....................................................ชนั้ ........ เลขที่.......... คำชแ้ี จง ใหส้ งั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ที่ตรงกับระดับคะแนน สมรรถนะท่ีประเมนิ ระดบั คะแนน สรปุ 3 2 1 0 ผล 1. ความสามารถในการส่ือสาร 1.1 มีความสามารถในการรับ – สง่ สาร 1.2 มีความสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจของตนเอง โดยใชภ้ าษาอยา่ งเหมาะสม 1.3 ใชว้ ิธีการส่ือสารท่ีเหมาะสม 1.4 วเิ คราะหแ์ สดงความคดิ เหน็ อย่างมีเหตุผล 1.5 เขียนบนั ทกึ เหตุการณป์ ระจำวนั แลว้ เล่าให้เพ่ือนฟังได้ สรุปผลการประเมนิ 2. ความสามารถในการคิด 2.1 มีความสามารถในการคิดวเิ คราะห์ สงั เคราะห์ 2.2 มีทักษะในการคิดนอกกรอบอย่างสร้างสรรค์ 2.3 สามารถคดิ อย่างมวี จิ ารณญาณ 2.4 มคี วามสามารถในการคิดอยา่ งมีระบบ 2.5 ตัดสนิ ใจแก้ปญั หาเก่ียวกับตนเองได้ สรุปผลการประเมนิ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 3.1 สามารถแกป้ ัญหาและอุปสรรคตา่ ง ๆ ที่เผชญิ ได้ 3.2 ใชเ้ หตผุ ลในการแกป้ ญั หา 3.3 เขา้ ใจความสัมพันธ์และการเปลยี่ นแปลงในสังคม 3.4 แสวงหาความรู้ ประยุกตค์ วามรูม้ าใชใ้ นการป้องกัน และแก้ไขปัญหา 3.5 สามารถตดั สนิ ใจได้เหมาะสมตามวยั สรุปผลการประเมิน

สมรรถนะท่ีประเมิน ระดบั คะแนน สรปุ 3210 ผล 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต 4.1 เรยี นรูด้ ้วยตนเองไดเ้ หมาะสมตามวัย 4.2 สามารถทำงานกล่มุ ร่วมกับผู้อืน่ ได้ 4.3 นำความรทู้ ี่ได้ไปใช้ประโยชน์ในชวี ิตประจำวัน 4.4 จดั การปญั หาและความขัดแย้งได้เหมาะสม 4.5 หลีกเล่ยี งพฤติกรรมไมพ่ ึงประสงค์ทส่ี ่งผลกระทบตอ่ ตนเอง สรปุ ผลการประเมิน 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5.1 เลอื กและใชเ้ ทคโนโลยไี ดเ้ หมาะสมตามวยั 5.2 มีทกั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยี 5.3 สามารถนำเทคโนโลยีไปใช้พฒั นาตนเอง 5.4 ใช้เทคโนโลยใี นการแกป้ ัญหาอย่างสร้างสรรค์ 5.5 มคี ุณธรรม จริยธรรมในการใชเ้ ทคโนโลยี สรุปผลการประเมิน สรปุ ผลการประเมนิ สมรรถนะ  ดี  ผ่าน  ไมผ่ า่ น  ดีเย่ยี ม ลงชอื่ ...................................................... (...................................................) ผปู้ ระเมิน เกณฑ์การใหค้ ะแนนระดับคุณภาพ ให้ 3 คะแนน เกณฑ์การสรุปผล ดีเย่ยี ม - พฤติกรรมทปี่ ฏบิ ตั ิชดั เจนและสมำ่ เสมอ ให้ 2 คะแนน ดเี ยี่ยม - 13 - 15 คะแนน ดี - พฤติกรรมที่ปฏิบตั ิชัดเจนและบอ่ ยครง้ั ให้ 1 คะแนน ดี - 9 - 12 คะแนน ผา่ น - พฤตกิ รรมทปี่ ฏิบัติบางครงั้ ให้ 0 คะแนน ผา่ น - 1 - 8 คะแนน ไม่ผา่ น - ไมเ่ คยปฏิบตั พิ ฤตกิ รรม ไม่ผ่าน - 0 คะแนน

เกณฑก์ ารสรุปผลการประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น การประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน กำหนดเป็นผ่านและไม่ผ่าน ในการผ่านกำหนดเกณฑ์การ ตัดสินเปน็ ดีเย่ียม ดี และผา่ น และความหมายของแตล่ ะระดบั ดังนี้ ดเี ยี่ยม หมายถึง ผู้เรียนปฏิบัติตนตามสมรรถนะจนเป็นนิสัย และนำไปใช้ในชีวิตประจำวันเพ่ือ ประโยชนส์ ุขของตนเองและสงั คม โดยพจิ ารณาจากผลการประเมินระดับดเี ย่ียม จำนวน 3-5 สมรรถนะ และ ไมม่ ีสมรรถนะใดได้ผลการประเมินต่ำกวา่ ระดบั ดี ดี หมายถึง ผเู้ รยี นมสี มรรถนะในการปฏบิ ัติตามกฎเกณฑ์ เพื่อให้เปน็ การยอมรบั ของสังคม โดย พิจารณาจากได้ผลการประเมินระดบั ดเี ยีย่ ม จำนวน 1- 2 สมรรถนะ และไม่มสี มรรถนะใดได้ผลการประเมิน ต่ำกว่าระดับดี หรือได้ผลการประเมินระดับดีเยี่ยม จำนวน 2 สมรรถนะ และ ไม่มีสมรรถนะใดได้ผลการ ประเมินต่ำกว่าระดับผ่าน หรือได้ผลการประเมินระดับดี จำนวน 4 - 5 สมรรถนะ และไม่มีสมรรถนะใด ไดผ้ ลการประเมินต่ำกว่าระดับผ่าน ผา่ น หมายถงึ ผู้เรียนรบั ร้แู ละปฏิบัตติ ามกฎเกณฑแ์ ละเง่ือนไขที่สถานศึกษากำหนด โดยพิจารณา จากได้ผลการประเมินระดับผ่าน จำนวน 4 - 5 สมรรถนะ และไม่มีคุณลักษณะใดได้ผลการประเมินต่ำกว่า ระดับผ่าน หรือได้ผลการประเมินระดับดี จำนวน 2 สมรรถนะ และ ไม่มีสมรรถนะใดได้ผลการประเมิน ตำ่ กวา่ ระดับผ่าน ไม่ผา่ น หมายถงึ ผู้เรียนรับรแู้ ละปฏิบตั ิได้ไม่ครบตามกฎเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด โดยพจิ ารณาจาก ผลการประเมนิ ระดับไมผ่ า่ น ตงั้ แต่ 1 สมรรถนะ

แบบประเมินคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ครงั้ ท่ี ......... เรอ่ื ง ....................................................................... รหัสวิชา .....................................ภาคเรยี นที่ ........ ปีการศึกษา ................ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 1/ .......... ............................................................ คำชีแ้ จง ให้ผปู้ ระเมินใส่ระดับคุณภาพคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ผลการประเมนิ รายข้อ ที่ ชอ่ื - สกลุ 1. รักชาติ ศาส ์น กษัตริย์ สรุปผล 2. ซ่ือ ัสตย์ ุสจริต 3. ีม ิวนัย รับ ิผดชอบ 4. ใ ่ฝเรียนรู้ 5. อยู่อย่างพอเพียง 6. ุ่มง ่ัมนในการทำงาน 7. รักความเป็นไทย 8. ีม ิจตสาธารณะ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20

ผลการประเมนิ รายข้อ ท่ี ชื่อ - สกลุ 1. รักชาติ ศาส ์น กษัตริย์ สรุปผล 2. ซ่ือ ัสตย์ ุสจริต 21 3. ีม ิวนัย รับ ิผดชอบ 22 4. ใ ่ฝเรียนรู้ 23 5. อยู่อย่างพอเพียง 24 6. ุ่มง ่ัมนในการทำงาน 25 7. รักความเป็นไทย 26 8. ีม ิจตสาธารณะ 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 ลงชอื่ ....................................................... (.......................................................) ผสู้ อน/ผู้ประเมนิ

คุณภาพ (Rubrice) เพ่ือประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผเู้ รียน ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 รายวชิ าสงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม รหัสวิชา ส 21103 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2564 คุณลกั ษณะ รายการประเมนิ ระดับคะแนน อันพึงประสงค์ 1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเมื่อได้ยินเพล งช าติ ร้องเพลงชาติได้ และ 3 21 0 กษัตริย์ บอกความหมายของเพลงชาตไิ ด้ถูกต้อง ปฏบิ ตั ิชดั เจนและ ไมส่ ามารถ 1.2 ปฏิบัติตนตามสิทธิและหน้าที่ของนักเรียน ให้ความร่วมมือ เขา้ รว่ มกิจกรรม ปฏบิ ตั ิชดั เจนและ ปฏบิ ตั ิชดั เจนและ ปฏิบัติได้ 4. ใฝเ่ รียนรู้ ในการทำงานกับสมาชิกในห้องเรยี น อยา่ งสม่ำเสมอ 1.3 เข้าร่วมกิจกรรมที่สร้างความสามัคคี ปรองดองและเป็น เข้ารว่ มกิจกรรม เข้ารว่ มกิจกรรม ไมเ่ คย 5. อยอู่ ยา่ ง ประโยชนต์ อ่ โรงเรียนและชุมชน ตั้งใจเรียน เข้า ปฏบิ ตั ิ พอเพยี ง 1.4 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนับถือ ปฏิบัติตนตาม เรียนตรงเวลา มี บอ่ ยคร้ัง บางครง้ั หลักศาสนาและเปน็ ตวั อย่างทดี่ ขี องศาสนิกชน ส่วนร่วมและ ไม่เคย 1.5 เข้าร่วมกิจกรรมและมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวกับ แสวงหาความรู้ใน ตั้งใจเรียน เข้า ตั้งใจเรียน เข้า ปฏบิ ัติ สถาบันพระมหากษัตริย์ตามที่โรงเรียนและชุมชนจัดขึ้น ชื่นชม การเรียนรู้ต่าง ๆ เรียนตรงเวลา มี เรียนตรงเวลา มี ในพระราชกรณียกิจพระปรีชาสามารถของพระมหากษัตริย์และ ทั้งภายในและ ส่วนร่วมและ ส่วนร่วมและ พระราชวงศ์ ภายนอกโรงเรียน แสวงหาความรู้ใน แสวงหาความรู้ใน 2.2 ปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้อง ละอายและเกรงกลัวที่จะกระทำ เลือกใช้สื่ออย่าง การเรียนรู้ต่าง ๆ การเรียนรู้ต่าง ๆ ความผิด ทำตาม เหมาะสม สรุป ทั้งภายในและ ทั้งภายในและ 2.3 ปฏิบัติตนต่อผู้อื่นด้วยความซื่อตรง และเป็นแบบอย่างที่ดี องค์ความรู้และ ภายนอกโรงเรียน ภายนอกโรงเรียน แก่เพอ่ื น น ำ ไ ป ใ ช ้ ใ น ช ี วิ ต เลือกใช้สื่ออย่าง เลือกใช้สื่ออย่าง 3.2 ตรงต่อเวลาในการปฏิบตั กิ ิจกรรมตา่ ง ๆ ในชวี ิตประจำวนั และ ช ีวิตป ระจ ำ วั น เหมาะสม สรุป เหมาะสม สรุป รบั ผดิ ชอบในการทำงาน อย่างสม่ำเสมอ องค์ความรู้และ องค์ความรู้และ 4.1 ตัง้ ใจเรยี น น ำ ไ ป ใ ช ้ ใ น ช ี วิ ต น ำ ไ ป ใ ช ้ ใ น ช ี วิ ต 4.2 เอาใจใส่การเรียน และมคี วามเพยี รพยายามในการเรียนรู้ ปฏบิ ตั ชิ ัดเจน ช ีวิตป ระจ ำ วั น ช ีวิตป ระจ ำ วั น 4.3 เข้าร่วมกจิ กรรมการเรียนรู้ตา่ ง ๆ และสมำ่ เสมอ บ่อยครง้ั บางครง้ั 4.4 ศึกษาค้นคว้า หาความรู้จากหนังสือ เอกสารสิ่งพิมพ์ สื่อเทคโนโลยีต่าง ๆ แหล่งเรียนรู้ทั้งภายในและภายนอกโรงเรยี น ปฏบิ ัติชัดเจน ปฏิบตั ชิ ัดเจน และเลือกใชส้ ่ือท่เี หมาะสม และบอ่ ยครง้ั บางคร้งั 4.5 บันทึกความรู้ วิเคราะห์ตรวจสอบสิ่งที่เรียนรู้ สรุปเป็น องค์ความรู้ 4.6 แลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วยวิธีการต่าง ๆ และนำไปใช้ ในชวี ิตประจำวัน 5.1 ใช้ทรัพย์สินของตนเองอย่างประหยัด คุ้มค่าและเก็บรักษา ดูแลอย่างดี รวมทัง้ การใชเ้ วลาอย่างเหมาะสม 5.2 ใช้ทรัพยากรของสว่ นรวมอย่างประหยดั คุ้มค่าและเก็บรักษา ดแู ลอย่างดี 5.3 ปฏิบัติตนและตัดสนิ ใจอยา่ งรอบคอบ มีเหตผุ ล 5.4 ไม่เอาเปรียบและทำความเดือดร้อนให้ผู้อื่น ให้อภัยเมื่อผู้อื่น ทำผดิ พลาด 5.5 วางแผนการเรียน การทำงานและใช้ชีวิตประจำวนั บนพ้ืนฐาน ของความรู้ ข้อมูล ข่าวสาร 5.6 รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของสังคมและสิ่งแวดล้อม ยอมรับ และปรบั ตัวอยู่ร่วมกับผ้อู ่นื อยา่ งมคี วามสุข

คุณลักษณะ รายการประเมนิ 3 ระดบั คะแนน 1 0 อนั พึงประสงค์ ปฏบิ ัตชิ ดั เจน 2 ปฏบิ ัตชิ ดั เจน ไม่เคย 6.1 มีความตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย และสม่ำเสมอ ปฏบิ ัตชิ ัดเจน ปฏิบตั ิ 6. มุ่งมั่นในการ และมีความรับผดิ ชอบในงานที่ทำ และบ่อยคร้งั บางคร้งั ทำงาน 6.2 ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเพียรพยายาม ทุ่มเทกำลังกาย กำลงั ใจในการทำงาน ให้งานสำเร็จลุลว่ งตามเปา้ หมาย 6.3 พยายามแก้ไขปัญหาและอุปสรรคในการทำงานให้ สำเร็จและชน่ื ชมผลงานด้วยความภาคภมู ิใจ 8.2 ไม่หวังผลตอบแทนจากการอาสาหรือช่วยเหลือ ผอู้ ื่นทำงาน 8.3 เตม็ ใจดแู ล รักษาสาธารณะสมบัติและสง่ิ แวดลอ้ ม 8.4 กระตือรือร้นที่จะเข้าร่วมกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อ โรงเรียน ชุมชน และสงั คม

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 3 เร่อื ง การพ่งึ พาและการแข่งขนั ทางเศรษฐกิจในประเทศ รายวิชาสงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รหสั วิชา ส21103 สาระท่ี 3 เศรษฐศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 1 เวลา 5 ชั่วโมง ผู้สอน นางศริ ินทร์ทพิ ย์ ทองวเิ ศษ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..… 1. มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ช้วี ัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ส 3.2 เข้าใจระบบสถาบันทางเศรษฐกจิ ตา่ งๆ ความสัมพนั ธ์ของระบบเศรษฐกิจ และความจำเป็นของการร่วมมือกนั ทางเศรษฐกจิ ในสังคมโลก ตวั ชีว้ ดั ส.3./2 ม. 1/4 ยกตัวอยา่ งท่สี ะทอ้ นให้เห็นการพ่ึงพาอาศัยกัน และการแขง่ ขนั กัน ทางเศรษฐกิจในประเทศ 3. สาระสำคัญ ทุกระบบเศรษฐกิจ จำเป็นต้องมีการพึ่งพาอาศัยกันและการแข่งขันในทางเศรษฐกิจ เพื่อนำไปสู่ การบรรลุเป้าหมายทางเศรษฐกิจของประเทศ ได้แก่ ความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ความมีเสถียรภาพ ทางเศรษฐกิจ ความยุตธิ รรมหรือความเท่าเทียมกนั ทางเศรษฐกจิ และเพื่อเสรภี าพทางเศรษฐกิจ 4. สาระการเรียนรู้ 1. การพึง่ พาอาศัยทางเศรษฐกจิ 2. การแขง่ ขันทางเศรษฐกิจ 3. ปญั หาเศรษฐกจิ ในระดบั ชุมชน ระดบั ประเทศและแนวทางแก้ไข 5. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ (KPA) ด้านความรู้ (K) 1. อธบิ ายและยกตวั อย่างการพึง่ พาและการแข่งขนั ทางเศรษฐกิจในประเทศได้ (K2) ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) 1. นำความรู้เรื่องการพึ่งพาและการแข่งขันทางเศรษฐกิจและปัญหาเศรษฐกิจมาประยุกต์ใช้ใน ชีวิตประจำวนั ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม (P3) ด้านคุณธรรม จริยธรรมและค่านยิ ม (A) 1. เห็นคณุ คา่ และความสำคญั ของการพงึ่ พาและการแข่งขนั ทางเศรษฐกิจในประเทศ (A3)

6. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 7. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มุง่ ม่ันในการทำงาน 8. การวดั และการประเมนิ ผล ส่งิ ที่ต้องการวดั วธิ กี าร เครอื่ งมอื เกณฑ์ ด้านความรู้ (K) ความรูเ้ รือ่ ง การ ตรวจแบบฝึกทกั ษะ แบบฝกึ ทักษะ เร่ือง ประเมินเฉพาะความถูกต้อง พ่งึ พาและการ เร่อื งการพึ่งพาและ การพึ่งพาและการ แขง่ ขันทาง การแข่งขนั ทาง แขง่ ขนั ทางเศรษฐกิจ ร้อยละ 90 ขน้ึ ไป = 5 คะแนน เศรษฐกจิ ใน เศรษฐกิจในประเทศ ในประเทศ ประเทศ รอ้ ยละ 80 = 4 คะแนน รอ้ ยละ 70 = 3 คะแนน ร้อยละ 60 = 2 คะแนน ร้อยละ 50 = 1 คะแนน ตำ่ กว่าร้อยละ 50 = 0 คะแนน ทดสอบ เรื่อง การ แบบทดสอบ เร่ืองการ ประเมนิ เฉพาะความถูกต้อง พึ่งพาและการแข่งขัน พึง่ พาและการแข่งขนั 9 - 10 ขอ้ = 5 คะแนน ท า ง เ ศ ร ษ ฐ ก ิ จ ใ น ทางเศรษฐกิจใน 7 - 8 ขอ้ = 4 คะแนน ประเทศ ประเทศ 5 - 6 ข้อ = 3 คะแนน 3 - 4 ขอ้ = 2 คะแนน 1 - 2 ขอ้ = 1 คะแนน

สง่ิ ทีต่ ้องการวัด วิธกี าร เครอ่ื งมอื เกณฑ์ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) แบบประเมิน ระดบั 3 หมายถึง มีพฤติกรรมใน พฤติกรรมในการ ระดบั ดี พฤติกรรมในการ ประเมนิ พฤติกรรมใน ทำงานของนักเรยี น ระดบั 2 หมายถึง มพี ฤติกรรมใน ทำงานของ การทำงานของ เปน็ รายบคุ คล ระดับปานกลาง นักเรยี นเป็น นกั เรยี นเปน็ รายบุคคล ระดับ 1 หมายถึง มีพฤตกิ รรมใน รายบุคคล ประเมินพฤติกรรม ระดับปรับปรุง (สมรรถนะ) การทำงานเปน็ กลุม่ 9 – 10 คะแนน = 4 (ดีมาก) พฤติกรรมขณะ ประเมนิ พฤติกรรม 7 – 8 คะแนน = 3 (ดี) ทำงานกลุ่มของ การทำงานเปน็ กลุ่ม 5 – 6 คะแนน = 2 (พอใช้) 0 – 4 คะแนน = 1 (ปรบั ปรงุ ) นักเรยี น ดา้ นคุณธรรม จริยธรรมและค่านยิ ม (A) พฤติกรรมขณะ ประเมนิ พฤติกรรม แบบบนั ทึกการสงั เกต ระดับ 3 หมายถึง มพี ฤติกรรมใน ร่วมกิจกรรมของ รายบคุ คล และประเมินผล ระดบั ดี นักเรียน พฤติกรรมรายบุคคล ระดับ 2 หมายถึง มพี ฤตกิ รรมใน ระดบั ปานกลาง ระดับ 1 หมายถึง มพี ฤติกรรมใน ระดับปรับปรุง ประเมินคุณลกั ษณะ แบบประเมิน 3 คะแนน = ดีเยี่ยม 2 คะแนน = ดี อนั พึงประสงค์ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ 1 คะแนน = ผา่ น 0 คะแนน = ปรบั ปรงุ ขอ้ 4 ใฝ่เรียนรู้ ประสงค์ ข้อ 5 รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ข้อ 6 มงุ่ ม่นั ในการทำงาน

9. การกิจกรรมการเรียนรู้ คาบ 1 ข้นั ท่ี 1 สงั เกตรวบรวมขอ้ มลู 1. ครแู จง้ มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตัวช้ีวดั และสาระการเรียนรใู้ ห้นักเรยี นทราบ 2. นักเรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียน 3. นกั เรยี นสงั เกตภาพการผลติ สนิ ค้าของกลมุ่ แมบ่ า้ นในชมุ ชนแห่งหนงึ่ โดยตอบคำถาม ดงั นี้ - ในชุมชนของนกั เรียนมีการรวมกลุ่มของคนในชุมชนเพือ่ ทำกิจกรรมดังภาพหรอื ไม่ เป็น กจิ กรรมใด - การรวมกลมุ่ ของคนในชุมชนกอ่ ใหเ้ กดิ ประโยชนอ์ ยา่ งไร - นกั เรียนคิดวา่ ในชมุ ชนมกี ารพง่ึ พาอาศัยกันทางเศรษฐกจิ หรือไม่ อย่างไร คาบ 2 - 3 4. นักเรียนศึกษาการพึ่งพาอาศัยกันทางเศรษฐกิจ จากนั้นร่วมกันแสดงความคิดเห็น โดย ตอบคำถาม ดงั น้ี - ในฐานะทน่ี ักเรยี นเป็นผบู้ รโิ ภคนกั เรยี นมกี ารพงึ่ พาอาศยั กันภาคการผลติ อย่างไร - ผลตอบแทนทีภ่ าคการผลิตไดร้ บั คอื อะไร - ภาคการผลิตมกี ารพ่ึงพาอาศยั กันเองอยา่ งไร ขั้นท่ี 2 จัดระบบขอ้ มลู 5. นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์ความสำคัญของการพึ่งพาอาศัยกันทางเศรษฐกิจ แล้วสรุปเป็น ความคดิ รวบยอด 6. นักเรยี นศึกษาและรว่ มกนั วเิ คราะห์รปู แบบการแขง่ ขนั ทางเศรษฐกจิ โดยตอบคำถามดงั นี้ - นกั เรยี นใช้หลักเกณฑใ์ ดในการเลอื กซ้อื สินคา้ ชนดิ เดยี วกนั - ถ้าหากนักเรียนเป็นผู้ผลิตสินค้าจะมีวิธีการอย่างไรเพื่อให้สินค้าของตนเองจำหน่ายได้ มากกว่าผ้ผู ลิตรายอืน่ 7. นักเรยี นร่วมกันวิเคราะห์ผลดขี องการแขง่ ขันทางเศรษฐกจิ แลว้ สรปุ เปน็ ความคดิ รวบยอด 8. นักเรยี นคดิ ประเมนิ เพิม่ คุณคา่ โดยตอบคำถามดงั น้ี - การพึ่งพาอาศัยกนั ทางเศรษฐกิจมีประโยชนอ์ ย่างไร - นักเรยี นมีส่วนรว่ มในการแก้ไขปญั หาเศรษฐกิจของประเทศอยา่ งไร ข้นั ท่ี 3 ปฏิบัตแิ ละสรุปความรู้ 9. นกั เรยี นยกตวั อยา่ งการพึ่งพาอาศยั ทางเศรษฐกิจระหว่างภาคการผลติ กับภาคครัวเรือน ภาคการผลิตกับภาคบริการ และภาคบริการกับภาคครัวเรือน ยกตัวอย่างการแข่งขันทางเศรษฐกิจว่ามีผลต่อ ผู้บริโภคและมผี ลตอ่ เศรษฐกิจอยา่ งไร และร่วมกันสรุปเป็นความคิดรวบยอด

คาบ 4 - 5 10. แบ่งกลุ่มนักเรยี นเปน็ 10 กล่มุ เพอื่ ศกึ ษาและวิเคราะห์ปัญหาเศรษฐกิจระดับชุมชนและ ระดับประเทศตามที่ได้รับมอบหมายตามใบงาน เรื่อง ปัญหาเศรษฐกิจในประเทศ แต่ละปัญหาให้วิเคราะห์ถงึ สาเหตุ ผลกระทบและแนวทางการแกไ้ ขปัญหา โดยใช้แผนผงั ความคดิ 11. นักเรียนร่วมกันสรุปหลักการ กล่าวคือ ในระบบเศรษฐกิจจำเป็นต้องมีการพึ่งพาอาศัย กันทางเศรษฐกิจทั้งระหว่างภาคการผลิตและภาคครัวเรือน และระหว่างภาคการผลิตด้วยกันเอง ในทาง เศรษฐกิจย่อมเกิดปัญหาทางเศรษฐกิจและการแข่งขันทางเศรษฐกิจ ซึ่งมีรูปแบบที่หลากหลาย โดยผู้บริโภค สามารถตัดสินใจซอ้ื ไดต้ ามความพงึ พอใจ ขนั้ ท่ี 4 สอ่ื สารและนำเสนอ 13. นักเรยี นนำเสนอผลงานหนา้ ชน้ั เรยี น ข้นั ที่ 5 ประเมินเพ่มิ คณุ คา่ 14. นักเรียนร่วมกันสนอแนวทางการพัฒนาสินค้าและบริการที่ผลิตขึ้นในชุมชนให้สามารถ แข่งขนั ได้กับสนิ คา้ และบริการภายนอกชมุ ชนเพ่ือสง่ เสริมอาชีพและสร้างรายได้แก่สมาชกิ ในชุมชน 10. สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้ 1. หนงั สือเรยี น รายวิชาพื้นฐาน สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 1 ของบริษทั พฒั นาคณุ ภาพวชิ าการ (พว.) จำกัด 2. PowerPoint เร่อื ง การพึ่งพาและการแข่งขันกนั ทางเศรษฐกิจในประเทศ 3. แบบฝกึ ทักษะ เรือ่ ง การพง่ึ พาและการแขง่ ขนั กนั ทางเศรษฐกจิ ในประเทศ 4. แบบทดสอบ เร่อื ง การพึ่งพาและการแข่งขนั กันทางเศรษฐกิจในประเทศ 5. ภาพการผลิตสินค้าของกลุ่มแม่บ้าน 6. ใบมอบหมายงาน เรอื่ ง ปัญหาเศรษฐกจิ ในประเทศ

11. บันทกึ ผลหลงั การจดั การเรียนรู้ (แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 3) 11.1 ผลของการจดั การเรียนรู้ ร้อยละผ่าน ร้อยละไมผ่ า่ น ดา้ นความรู้ 28.21 71.79 ช้ัน ผา่ น ไม่ผา่ น 82.05 17.95 1/1 11 28 64.10 35.90 1/2 32 7 42.11 57.89 1/3 25 14 77.78 22.22 1/5 16 22 57.89 42.11 1/7 28 8 58.52 41.48 1/9 22 16 รวม 134 95 ดา้ นทักษะ/กระบวนการ นักเรียนประสบความสำเร็จในการทำงานกลุ่มจำนวน 45 กลุ่มคิดเป็นร้อยละ 75 และไม่ ประสบความสำเร็จในการทำงานจำนวน 15 กลุ่มคิดเป็นร้อยละ 25 สืบเนื่องจากติดต่อสมาชิกเพื่อ ทำงานไม่ได้ จากการทำงานกลุ่มพบว่านักเรียนมีความสามารถทางเทคโนโลยีและการสื่อสารอยู่ใน ระดบั ดี ด้านคุณธรรม จรยิ ธรรมและคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ความมุ่งมน่ั ในการทำงานของนักเรยี นทำงานของนักเรยี นมีปานกลาง 11.2 ปัญหา/อปุ สรรค จากการนำลิงค์ข้อสอบไปโพสต์ใน facebook (on demand) ให้เวลาทำข้อสอบ 1 สัปดาห์ พบวา่ นักเรียนขาดสอบ 95 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 41.48 11.3 ขอ้ เสนอแนะ นำลิงค์ข้อสอบไปโพสต์ใน facebook (on demand) โดยไม่กำหนดระยะเวลาในการทำ ข้อสอบ ลงชือ่ …………………………………………… (นางศิรินทรท์ พิ ย์ ทองวิเศษ) ผ้สู อน

ความคิดเห็นของหัวหน้ากล่มุ สาระการเรียนรูฯ้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………………….. (นางนงเยาว์ วกิ รัยเจรญิ ยง่ิ ) หวั หน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ความคดิ เหน็ ของรองผอู้ ำนวยการฝ่ายบรหิ ารงานวิชาการ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ …………………………………………….. (นางสาวเพรศิ พศิ คหู ามุข) รองผอู้ ำนวยการ โรงเรยี นคณะราษฎรบำรุง จังหวัดยะลา ความคิดเห็นของผ้อู ำนวยการโรงเรียนคณะราษฎรบำรงุ จงั หวัดยะลา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื …………………………………………….. (นายนพปฎล มุณีรัตน์) ผอู้ ำนวยการ โรงเรียนคณะราษฎรบำรงุ จังหวัดยะลา

ภาพการผลิตสนิ คา้ ของกลุ่มแมบ่ ้าน พช.สากเหลก็ จงั หวดั พิจิตรดำเนินโครงการพัฒนาสังคมและยกระดบั ความเปน็ อยู่ของประชาชน กจิ กรรมสนับสนุนการประกอบอาชพี ทำไม้กวาดดอกหญา้ และไม้กวาดทางมะพร้าว บา้ นท่าชะโงก หมู่ที่ ๓ ตำบลท่าเยย่ี ม อำเภอสากเหล็ก จังหวัดพจิ ติ ร

ใบมอบหมายงาน เรอ่ื ง ปญั หาเศรษฐกจิ ในประเทศ 1. แบ่งกลุ่มนักเรียนเปน็ 10 กลมุ่ ๆ ละ 3 - 4 คน 2. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มรับผดิ ชอบปัญหาเศรษฐกิจในประเทศ ดงั น้ี กลมุ่ ปญั หาเศรษฐกิจระดบั ชุมชน ปญั หาเศรษฐกิจระดับประเทศ 1 และ 6 ทรพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม เศรษฐกิจซบเซา เส่ือมโทรม 2 และ 7 การขาดแคลนเงินทุน การขาดแคลนเงินทนุ 3 และ 8 การขาดแคลนแรงงานท่มี ีทักษะ การขาดการพัฒนาความรู้และ ทักษะทางวิชาชีพ 4 และ 9 การขาดการจดั การที่มีประสทิ ธภิ าพ ชอ่ งวา่ งทางเศรษฐกจิ 5 และ 10 การแขง่ ขนั ในตลาด การขยายตัวของธุรกิจการคา้ ปลกี สมัยใหม่ 3. นกั เรียนแต่ละกลุ่มศึกษาปัญหาเศรษฐกจิ ระดบั ชุมชนและระดับประเทศตามท่ไี ด้รับมอบหมาย และ วิเคราะหป์ ัญหาเศรษฐกจิ ในรูปแบบแผนผงั ความคดิ ดงั หัวขอ้ ต่อไปนี้ - สาเหตขุ องปัญหา - ผลกระทบทีเ่ กดิ ขน้ึ จากปัญหา - แนวทางแก้ไขปัญหา 4. นำเสนอผลการวเิ คราะห์ปัญหาเศรษฐกิจภายในคาบเรียน 5. ส่งผลงานใน Facebook วชิ าสงั คมศึกษาฯ แยกสง่ ดังนี้ - สง่ งานปัญหาเศรษฐกจิ ระดับชมุ ชน - สง่ งานปญั หาเศรษฐกจิ ระดับประเทศ

ชือ่ - สกุล .....................................................................ชน้ั ม.1/……….. เลขที่ .......... แบบฝึกทักษะ เรอ่ื ง การพึง่ พาและการแข่งขนั ทางเศรษฐกจิ ในประเทศ กจิ กรรมที่ 1 การพงึ่ พาทางเศรษฐกจิ ในประเทศ 1. ให้นกั เรียนอ่านข่าวและตอบคำถาม เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร หรือ สศก. รายงานว่าต้นทุนการผลิตสินค้าปศุสัตว์ ปรับตัวสูงขึ้น โดยปัจจัยที่ทำให้สูงขึ้นคือ ค่าแรงในการเลี้ยงสัตว์ซึ่งปรับตัวสูงขึ้นในสินค้าปศุสัตว์ ทกุ ชนิด โดยต้นทุนไข่ไกป่ รับตัวสูงขึ้นมากท่สี ุด รองลงมาคือ นำ้ นมดิบ สกุ ร และไก่เน้ือ นอกจากนี้ ยังพบว่าค่าอาหารสัตว์ได้ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากวัตถุดิบหลัก เช่น รำข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพด เล้ียงสตั ว์ และกากถ่ัวเหลืองมกี ารปรับขนึ้ 1.1 ขา่ วน้เี กดิ ปัญหาอะไร ............................................................................................................................. ..................... .............................................................................................................................................................................. 1.2 ข่าวน้ีมกี ารพึ่งพาทางเศรษฐกจิ อยา่ งไร ....................................................................................... ........................................................... ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................................................................................. ............................ 1.3 นักเรยี นคดิ ว่าขา่ วนี้จะก่อใหเ้ กดิ ผลกระทบอย่างไร .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. .................................................

2. ให้นกั เรยี นดูภาพแลว้ วเิ คราะหก์ ารพง่ึ พาทางเศรษฐกิจ 2.1 การทำไรอ่ ้อย กจิ กรรมในภาพมีการพ่ึงพาทางเศรษฐกิจอย่างไร ...................................... ....................................... ....................................... ...................................... ....................................... พง่ึ พา ....................................... ...................................... พึ่งพา ....................................... ...................................... ....................................... ....................................... ....................................... 2.2 การเลี้ยงสตั ว์ กจิ กรรมในภาพมีการพ่ึงพาทางเศรษฐกจิ อยา่ งไร ...................................... ....................................... ....................................... ...................................... ....................................... พึง่ พา ....................................... ...................................... พง่ึ พา ....................................... ...................................... ....................................... ....................................... .......................................

2.3 การขายอาหาร กิจกรรมในภาพมีการพ่ึงพาทางเศรษฐกิจอย่างไร ...................................... ....................................... ....................................... ...................................... พึง่ พา ....................................... พง่ึ พา ....................................... ...................................... ...................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... 2.4 อตุ สาหกรรมการผลติ รถยนต์ กจิ กรรมในภาพมีการพง่ึ พาทางเศรษฐกจิ อยา่ งไร ...................................... ....................................... ....................................... ...................................... ....................................... พงึ่ พา ....................................... ...................................... พึ่งพา ....................................... ...................................... ....................................... ....................................... .......................................

2.5 อตุ สาหกรรมอาหารแช่แขง็ กิจกรรมในภาพมีการพงึ่ พาทางเศรษฐกิจอยา่ งไร ...................................... ....................................... ....................................... ...................................... ....................................... พงึ่ พา ....................................... ...................................... พึ่งพา ....................................... ...................................... ....................................... ....................................... ....................................... 3. ใหน้ ักเรยี นยกตวั อย่างขา่ วหรือสถานการณเื ก่ยี วกับการพึ่งพาทางเศรษฐกิจและตอบคำถาม ขา่ ว/สถานการณ์ ............................................................................................................................. ............................. .......................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................. .......................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................. ............................................................................................................................. ............................. .................................................................................................... ...................................................... ............................................................................................................................. ............................. .......................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .............................

3.1 ข่าวหรอื สถานการณด์ ังกลา่ วเป็นการพง่ึ พาทางเศรษฐกิจระหว่างกลุม่ ใด ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................ .............................................................................. 3.2 ขา่ วหรอื สถานการณด์ ังกลา่ วเป็นการพ่งึ พาทางเศรษฐกิจอย่างไร .................................................................................................................. .............................................. ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................................................................................................ .............. 3.3 การพึง่ พาทางเศรษฐกิจก่อใหเ้ กดิ ผลอย่างไร ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ให้นักเรียนสรุปความเข้าใจเกยี่ วกับการพงึ่ พาทางเศรษฐกิจ ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................ ...................................

ช่อื - สกลุ .....................................................................ช้นั ม.1/……….. เลขท่ี .......... แบบฝกึ ทักษะ เรือ่ ง การพงึ่ พาและการแขง่ ขันทางเศรษฐกจิ ในประเทศ กิจกรรมท่ี 2 การแขง่ ขนั ทางเศรษฐกิจในประเทศ 1. ใหน้ ักเรียนอ่านขอ้ ความและวเิ คราะห์ความสัมพนั ธ์กับรูปแบบการแข่งขนั โดยการโยงเสน้ จับคู่ 1.1 เสื้อผา้ ยี่หอ้ ดังจัดโพรโมชัน แขง่ ขนั ดา้ นการสร้างความแตกตา่ ง ซือ้ 2 แถม 1 1.2 แข่งขนั ดา้ นการโฆษณา โทรศพั ท์เคล่ือนทีย่ ่หี ้อดัง สร้างความเชอ่ื มนั่ ใหแ้ ก่ผใู้ ช้ โดยรบั ประกันเคร่ืองตลอดอายุ การใช้งาน 1.3 แขง่ ขันดา้ นราคา เคร่อื งซักผ้ารุ่นใหมป่ ระหยัดน้ำ แข่งขนั ดา้ นการสร้างแบรนด์ ซักสะอาดขจัดคราบได้หมดจด ได้รบั การรับรองมาตรฐาน มอก. 1.4 เคร่อื งสำอางยี่ห้อดงั จ้างดารา ท่ีมีชอ่ื เสยี งเปน็ พรีเซนเตอร์ 1.5 แขง่ ขันด้านคุณภาพ ผ้ผู ลติ นำ้ ยาปรับผ้าน่มุ ยห่ี อ้ หนึง่ เปิดตัวนำ้ ยาปรับผ้าน่มุ สำหรับผ้ายีนสอ์ อกสตู่ ลาด

2. อ่านสถานการณท์ ี่กำหนดใหแ้ ละตอบคำถาม ข้าวหอมมะลิไทยถือว่าเป็นสินค้าส่งออกระดับต้น ๆ ในระยะเวลาที่ผ่านมาพบว่าส่วนแบ่งทาง การตลาดของขา้ วหอมมะลิไทยลดลงถึง 50% จาก 80 - 90% เนอ่ื งจากตา่ งประเทศอย่างเวยี ดนาม ได้ตีตลาดข้าวหอมมะลิไทย โดยมีการส่งออกไปยังตลาดฮ่องกงเพียง 2 ปี ส่วนแบ่งทางการตลาด มีสูงถงึ 30% โดยสง่ ออกปแี รก 4,000 ตนั ปีท่สี องเพมิ่ เปน็ 70,000 ตนั และปนี ค้ี าดว่าน่าจะส่งออก มากกว่า 100,000 ตัน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะราคาขายที่แตกต่างกันมาก ซึ่งเวียดนามขายข้าวหอม มะลิอย่ทู ี่ 700 เหรยี ญต่อตัน ส่วนประเทศไทยขายอยูท่ ่ี 1,000 – 1,200 เหรยี ญตอ่ ตนั 1.1 จากสถานการณ์เป็นการแข่งขนั สินค้าชนดิ ใด ............................................................................................................................. ..................... 1.2 การแขง่ ขันดงั กลา่ วเป็นการแขง่ ขันในรปู แบบใด ............................................................................................................................................. ..... 1.3 การแข่งขนั ดงั กล่าวก่อใหเ้ กดิ ผลอยา่ งไร ................................................................................. ................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 1.4 จากสถานการณ์ดงั กลา่ วควรมีแนวทางในการแกไ้ ขปญั หาอย่างไร ............................................................................................................................. ..................... .............................................................................................................................................................................. 1.5 ถ้าไม่มีการแขง่ ขันทางเศรษฐกิจจะก่อใหเ้ กิดผลอย่างไร ........................................................................................ .......................................................... ............................................................................................................................. .................................................

3. ให้นักเรยี นสรปุ ผลดขี องการแขง่ ขันทางเศรษฐกิจท่ีมตี ่อผู้บริโภคลงในแผนภาพ .................................................. .................................................. .................................................. .. .................................................. ผลดีของการ .................................................. .................................................. แข่งขันทาง .................................................. .................................................. เศรษฐกิจ .................................................. .. .. .................................................. .................................................. .................................................. .. ให้นักเรียนสรปุ ความร้เู กยี่ วกบั การแขง่ ขันทางเศรษฐกิจ ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .................................. ............................................................................................................................. .................................. ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .................................. .......................................................................................................................................... ...................

ชอื่ - สกุล .....................................................................ชั้น ม.1/……….. เลขที่ .......... แบบฝกึ ทกั ษะ เร่ือง การพึ่งพาและการแข่งขนั ทางเศรษฐกิจในประเทศ กจิ กรรมที่ 3 ปัญหาเศรษฐกจิ ระดบั ชุมชนและระดบั ประเทศ 1. ให้นักเรียนอ่านสถานการณ์ปญั หาเศรษฐกิจระดับชุมชนและระดับประเทศแล้วตอบคำถาม 1.1 ชาวบ้านในชุมชนเมืองกลาง ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม น้ำจึงเป็นปัจจัยสำคัญต่อวถิ ีชีวติ ของคนในชุมชน ทว่าพื้นที่เกษตรกรรมส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ราบ มีแหล่งน้ำไม่เพียงพอ ผลผลิตจึง ลดลง ชาวบ้านจึงบุกรุกพื้นที่ป่าต้นน้ำเพื่อเพาะปลูกและเก็บของป่าจนลำน้ำเริ่มแห้ง คนในชุมชน เร่ิมขดั แย้งกนั เนือ่ งจากไมม่ ีน้ำใช้ 1) จากสถานการณ์ดังกล่าวเกิดปัญหาอะไร ......................................................................................................................................................... 2) ปญั หาดังกล่าวก่อใหเ้ กิดผลกระทบอยา่ งไร ........................................................................................................................ .................................. 3) ปญั หาดังกล่าวมีแนวทางในการป้องกนั และแก้ไขอยา่ งไร ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 1.2 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งสำรวจพอประมาณขยะในท้องทะเลเพิ่มมากขึ้น ส่วนใหญ่ เป็นขยะพลาสติก ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศเป็นอย่างมาก โดยที่ผ่านมาเต่าทะเลกว่า 100 ตวั ต้องตายลงเพราะกินขยะพลาสติกเข้าไป ทำให้ระบบนิเวศน์ในทะเลเปลี่ยนแปลง เช่น แมงกะพรุน เพิ่มจำนวนมากขึ้น ทำให้นักท่องเที่ยวไม่สามารถลงเล่นน้ำได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเต่า ซึง่ กินแมงกะพรนุ เปน็ อาหารลดจำนวนลง ทำใหแ้ มงกะพรนุ ขยายพันธ์อยา่ งรวดเรว็ 1) จากสถานการณด์ งั กล่าวเกดิ ปัญหาอะไร ......................................................................................................................................................... 2) ปัญหาดงั กลา่ วก่อให้เกิดผลกระทบอยา่ งไร ...................................................................................................... ...................................................

3) ปัญหาดงั กลา่ วมีแนวทางในการป้องกนั และแก้ไขอยา่ งไร ............................................................................................................................. ............................ ............................................................................................................................. ................................................. 2. ใหน้ กั เรยี นสำรวจปญั หาเศรษฐกจิ ระดบั ชมุ ชนหรือระดบั ประเทศแล้วสรปุ ลงในแผนภาพ ปัญหาเศรษฐกจิ ทเ่ี กิดขนึ้ ผลกระทบ ............................................................................. ................................................ ............................................................................. ................................................ ............................................................................. ................................................ ............................................................................. ................................................ ................................................ .... ................................................ สาเหตุ แนวทางการป้องกนั และแก้ไขปญั หา ......................................................................... .............................................................. ......................................................................... .............................................................. ......................................................................... .............................................................. ......................................................................... .............................................................. ......................................................................... .............................................................. ........................................................................ ............................................................. ใหน้ กั เรียนสรุปความร้เู ก่ียวกับปัญหาเศรษฐกจิ ระดับชุมชนและระดบั ประเทศ ............................................................................................................................. ..................................... ...................................................................................................................................................... ............ ....................................................................................................................... ........................................... ............................................................................................................................. .................................

ช่ือ - สกลุ ............................................................ชนั้ ม.1/.......... เลขท่ี .......... แบบทดสอบ เรอ่ื ง การพง่ึ พาอาศัยและการแขง่ ขนั ทางเศรษฐกิจ คำช้แี จง เลอื กคำตอบที่ถูกต้องทส่ี ุดเพยี งคำตอบเดยี ว 1. ข้อใดไม่เกี่ยวข้องกับภาคเกษตรกรรม ก. นายดำเกิงทำเหมอื งแรท่ ี่จงั หวดั ปราจนี บุรี ข. นายดำริเลย้ี งปลาตะเพยี นท่ีแม่น้ำท่าจีน ค. นายดำรงทำฟารม์ เล้ียงโคนมทจ่ี งั หวดั สระบรุ ี ง. นายดำเนนิ ปลูกมันสำปะหลังเพื่อป้อนโรงงานแป้ง 2. ข้อใดไม่เก่ยี วข้องกบั ภาคบริการ ข. โรงงานผลิตปลากระปอ๋ ง ก. ธรุ กิจขนส่งและการส่ือสาร ง. ธุรกิจสปา ค. โรงแรม 3. เป้าหมายของการทำธรุ กิจคอื ข้อใด ข. รางวลั เชิดชูเกียรตยิ ศ ก. ไดร้ ับการยอมรับในสังคม ง. กำไร ค. เป็นคนรำ่ รวย 4. การพง่ึ พาอาศัยทางเศรษฐกิจ ตรงกับข้อใด ข. ร้านสะดวกซ้อื - ร้านขายของเบ็ดเตลด็ ก. การขายโทรศพั ท์เคลื่อนทย่ี ีห่ อ้ ต่าง ๆ ง. บริษัทนำเท่ยี ว – โรงแรม ค. ร้านขายข้าว – ร้านขายก๋วยเต๋ียว 5. ข้อใดไมใ่ ช่การพ่ึงพาอาศัยกันทางเศรษฐกิจ ข. ร้านขายเส้ือผา้ - รา้ นขายรองเทา้ ก. มัคคุเทศก์ - นักท่องเที่ยว ง. เกษตรกรปลกู องนุ่ – โรงงานนำ้ องุ่น ค. แม่คา้ อาหารตามส่ัง - พ่อค้าขายหมู 6. การพึง่ พาอาศัยกนั ทางเศรษฐกจิ ในข้อใดเปน็ ประโยชนต์ อ่ ผบู้ ริโภค ก. รา้ นสะดวกซ้อื รับจ่ายบลิ คา่ บรกิ าร ข. ร้านอาหารตัง้ ตดิ กบั ร้านขายดอกไม้ ค. หา้ งสรรพสนิ คา้ ไม่เก็บค่าเช่าท่ีรา้ นคา้ ตั้งใหม่ ง. เกษตรกรปลูกพชื ได้หลายชนดิ ในชว่ งเวลาเดียวกนั

7. ขอ้ ใดเป็นการแข่งขันทางเศรษฐกิจ ข. บริษทั ทัวร์ - โรงแรม ก. ร้านขา้ วแกง – รา้ นขายนำ้ ง. ร้านตดั ผมบรุ ุษ – รา้ นตัดผมสตรี ค. ร้านสะดวกซอื้ – ร้านขายของชำ 8. การแขง่ ขนั ทางเศรษฐกจิ ใครเปน็ ผ้ไู ดร้ บั ประโยชนม์ ากทส่ี ดุ ก. ผู้ขาย ข. ผูผ้ ลิต ค. ผู้บริโภค ง. พอ่ ค้าคนกลาง 9. “เครือ่ งซักผา้ รุน่ ใหมป่ ระหยัดนำ้ ซักสะอาด ขจัดคราบได้หมดจด ได้รับการรับรองมาตรฐาน มอก.” ข้อความดังกลา่ วเป็นรูปแบบการแขง่ ขนั ดา้ นใด ก. ด้านราคา ข. ดา้ นคุณภาพ ค. ดา้ นโฆษณา ง. ดา้ นสรา้ งความแตกต่าง 10. ขอ้ ใดเปน็ ผลดขี องการแข่งขนั ทางเศรษฐกจิ ข. ผ้บู รโิ ภคไดร้ บั สนิ คา้ ท่ีมคี ุณภาพ ก. ผผู้ ลิตมีอำนาจในการเลือกซ้ือสินคา้ ง. ถูกกดี กนั ทางการคา้ จากประเทศมหาอำนาจ ค. ทรพั ยากรธรรมชาตไิ มถ่ ูกทำลาย ..................................................................

แบบบันทกึ การสังเกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมรายบคุ คล ครั้งที่ ......... เรอื่ ง ....................................................................... รหสั วิชา .....................................ภาคเรียนที่ ........ ปกี ารศึกษา ................ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 1/ .......... พฤตกิ รรม/ระดับคะแนน ความสนใจ การมีส่วนร่วม การตอบคำถาม การยอมรบั ฟงั ทำงานตามที่ ที่ ชื่อ - สกลุ ในการทำกิจกรรม ในการแสดง ความคิดเหน็ ได้รบั มอบหมาย รวม ของผู้อน่ื ความคิดเห็น 321321321321321 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26

ที่ พฤตกิ รรม/ระดับคะแนน ความสนใจ การมสี ่วนรว่ ม การตอบคำถาม การยอมรับฟงั ทำงานตามที่ ช่ือ - สกลุ ในการทำกิจกรรม ในการแสดง ความคิดเห็น ได้รบั มอบหมาย รวม ความคิดเห็น ของผ้อู ่นื 321321321321321 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 เกณฑก์ ารประเมิน เกณฑก์ ารให้คะแนน ระดบั 3 หมายถึง มพี ฤตกิ รรมในระดับดี คะแนน 13 - 15 หมายถึง ดี ระดับ 2 หมายถึง มพี ฤตกิ รรมในระดบั ปานกลาง คะแนน 9 - 12 หมายถงึ ปานกลาง ระดับ 1 หมายถงึ มพี ฤตกิ รรมในระดบั ปรับปรุง คะแนน 5 - 8 หมายถึง ปรบั ปรุง เกณฑก์ ารผ่าน ร้อยละ 60 (9 คะแนน) ลงชือ่ ....................................................... (.......................................................) ผสู้ อน/ผปู้ ระเมนิ

แบบประเมินพฤติกรรมในการทำงานกลมุ่ กลมุ่ ท่ี ........ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 1/ .........เร่อื ง ....................................................................... คำชีแ้ จง : สงั เกตพฤติกรรมในการทำงานของนักเรยี น โดยเขยี นเครือ่ งหมาย ✓ ลงในชอ่ งรายการพฤติกรรม ท่นี ักเรยี นปฏิบตั ิ รายการประเมนิ ระดับคุณภาพ เลขที่ ช่ือ–สกลุ แ ่บงหน้า ีท่อ ่ยางเหมาะสม 4 3 21 มีการทำงานเป็น ั้ขนตอนทำตามหน้าที่ที่ ไมี ้ดก ัราบรมทำองบาหนเมา็ปยน ัข้นตอน ่รวม ักนแสดงความ ิคดเห็น รับฟังความ ิคดเห็นของสมาชิกกลุ่ม นำม ิต/ ้ขอตกลงของกลุ่มไปปฏิ ับ ิต ร่วม ักนปรับปรุงผลงานด้วยความเต็มใจ ่มุง ่ัมนทำงานให้สำเร็จ พอใจ ักบความสำเร็จของงาน บรรยากาศในการทำงาน รวมคะแนน ลงช่ือ.............................................ผปู้ ระเมิน ....... /................ /......... เกณฑ์การประเมิน 1. การให้คะแนน ✓ ให้ 1 คะแนน 2. การสรุปผลการประเมนิ ให้เป็นระดับคุณภาพ 4, 3, 2, 1 กำหนดเกณฑ์ได้ตามความเหมาะสม หรอื อาจใชเ้ กณฑด์ งั นี้ 9 – 10 คะแนน = 4 (ดีมาก) 7 – 8 คะแนน = 3 (ดี) 5 – 6 คะแนน = 2 (พอใช้) 0 – 4 คะแนน = 1 (ปรบั ปรงุ )

แบบประเมินสมรรถนะผเู้ รยี น 5 ด้าน ชือ่ ..............................................................นามสกลุ .....................................................ชนั้ ........ เลขที่.......... คำชแ้ี จง ใหส้ งั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ที่ตรงกับระดับคะแนน สมรรถนะท่ีประเมนิ ระดบั คะแนน สรปุ 3 2 1 0 ผล 1. ความสามารถในการส่ือสาร 1.1 มีความสามารถในการรับ – สง่ สาร 1.2 มีความสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจของตนเอง โดยใชภ้ าษาอยา่ งเหมาะสม 1.3 ใชว้ ิธีการส่ือสารท่ีเหมาะสม 1.4 วเิ คราะหแ์ สดงความคดิ เหน็ อย่างมีเหตุผล 1.5 เขียนบนั ทกึ เหตุการณป์ ระจำวนั แลว้ เล่าให้เพ่ือนฟังได้ สรุปผลการประเมนิ 2. ความสามารถในการคิด 2.1 มีความสามารถในการคิดวเิ คราะห์ สงั เคราะห์ 2.2 มีทักษะในการคิดนอกกรอบอย่างสร้างสรรค์ 2.3 สามารถคดิ อย่างมวี จิ ารณญาณ 2.4 มคี วามสามารถในการคิดอยา่ งมีระบบ 2.5 ตัดสนิ ใจแก้ปญั หาเก่ียวกับตนเองได้ สรุปผลการประเมนิ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 3.1 สามารถแกป้ ัญหาและอุปสรรคตา่ ง ๆ ที่เผชญิ ได้ 3.2 ใชเ้ หตผุ ลในการแกป้ ญั หา 3.3 เขา้ ใจความสัมพันธ์และการเปลยี่ นแปลงในสังคม 3.4 แสวงหาความรู้ ประยุกตค์ วามรูม้ าใชใ้ นการป้องกัน และแก้ไขปัญหา 3.5 สามารถตดั สนิ ใจได้เหมาะสมตามวยั สรุปผลการประเมิน

สมรรถนะท่ีประเมิน ระดบั คะแนน สรปุ 3210 ผล 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต 4.1 เรยี นรูด้ ้วยตนเองไดเ้ หมาะสมตามวัย 4.2 สามารถทำงานกล่มุ ร่วมกับผู้อืน่ ได้ 4.3 นำความรทู้ ี่ได้ไปใช้ประโยชน์ในชวี ิตประจำวัน 4.4 จดั การปญั หาและความขัดแย้งได้เหมาะสม 4.5 หลีกเล่ยี งพฤติกรรมไมพ่ ึงประสงค์ทส่ี ่งผลกระทบตอ่ ตนเอง สรปุ ผลการประเมิน 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5.1 เลอื กและใชเ้ ทคโนโลยไี ดเ้ หมาะสมตามวยั 5.2 มีทกั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยี 5.3 สามารถนำเทคโนโลยีไปใช้พฒั นาตนเอง 5.4 ใช้เทคโนโลยใี นการแกป้ ัญหาอย่างสร้างสรรค์ 5.5 มคี ุณธรรม จริยธรรมในการใชเ้ ทคโนโลยี สรุปผลการประเมิน สรปุ ผลการประเมนิ สมรรถนะ  ดี  ผ่าน  ไมผ่ า่ น  ดีเย่ยี ม ลงชอื่ ...................................................... (...................................................) ผปู้ ระเมิน เกณฑ์การใหค้ ะแนนระดับคุณภาพ ให้ 3 คะแนน เกณฑ์การสรุปผล ดีเย่ยี ม - พฤติกรรมทปี่ ฏบิ ตั ิชดั เจนและสมำ่ เสมอ ให้ 2 คะแนน ดเี ยี่ยม - 13 - 15 คะแนน ดี - พฤติกรรมที่ปฏิบตั ิชัดเจนและบอ่ ยครง้ั ให้ 1 คะแนน ดี - 9 - 12 คะแนน ผา่ น - พฤตกิ รรมทปี่ ฏิบัติบางครงั้ ให้ 0 คะแนน ผา่ น - 1 - 8 คะแนน ไม่ผา่ น - ไมเ่ คยปฏิบตั พิ ฤตกิ รรม ไม่ผ่าน - 0 คะแนน

เกณฑก์ ารสรุปผลการประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น การประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน กำหนดเป็นผ่านและไม่ผ่าน ในการผ่านกำหนดเกณฑ์การ ตัดสินเปน็ ดีเย่ียม ดี และผา่ น และความหมายของแตล่ ะระดบั ดังนี้ ดเี ยี่ยม หมายถึง ผู้เรียนปฏิบัติตนตามสมรรถนะจนเป็นนิสัย และนำไปใช้ในชีวิตประจำวันเพ่ือ ประโยชนส์ ุขของตนเองและสงั คม โดยพจิ ารณาจากผลการประเมินระดับดเี ย่ียม จำนวน 3-5 สมรรถนะ และ ไมม่ ีสมรรถนะใดได้ผลการประเมินต่ำกวา่ ระดบั ดี ดี หมายถึง ผเู้ รยี นมสี มรรถนะในการปฏบิ ัติตามกฎเกณฑ์ เพื่อให้เปน็ การยอมรบั ของสังคม โดย พิจารณาจากได้ผลการประเมินระดบั ดเี ยีย่ ม จำนวน 1- 2 สมรรถนะ และไม่มสี มรรถนะใดได้ผลการประเมิน ต่ำกว่าระดับดี หรือได้ผลการประเมินระดับดีเยี่ยม จำนวน 2 สมรรถนะ และ ไม่มีสมรรถนะใดได้ผลการ ประเมินต่ำกว่าระดับผ่าน หรือได้ผลการประเมินระดับดี จำนวน 4 - 5 สมรรถนะ และไม่มีสมรรถนะใด ไดผ้ ลการประเมินต่ำกว่าระดับผ่าน ผา่ น หมายถงึ ผู้เรียนรบั ร้แู ละปฏิบัตติ ามกฎเกณฑแ์ ละเง่ือนไขที่สถานศึกษากำหนด โดยพิจารณา จากได้ผลการประเมินระดับผ่าน จำนวน 4 - 5 สมรรถนะ และไม่มีคุณลักษณะใดได้ผลการประเมินต่ำกว่า ระดับผ่าน หรือได้ผลการประเมินระดับดี จำนวน 2 สมรรถนะ และ ไม่มีสมรรถนะใดได้ผลการประเมิน ตำ่ กวา่ ระดับผ่าน ไม่ผา่ น หมายถงึ ผู้เรียนรับรแู้ ละปฏิบตั ิได้ไม่ครบตามกฎเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด โดยพจิ ารณาจาก ผลการประเมนิ ระดับไมผ่ า่ น ตงั้ แต่ 1 สมรรถนะ

แบบประเมินคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ครงั้ ท่ี ......... เรอ่ื ง ....................................................................... รหัสวิชา .....................................ภาคเรยี นที่ ........ ปีการศึกษา ................ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 1/ .......... ............................................................ คำชีแ้ จง ให้ผปู้ ระเมินใส่ระดับคุณภาพคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ผลการประเมนิ รายข้อ ที่ ชอ่ื - สกลุ 1. รักชาติ ศาส ์น กษัตริย์ สรุปผล 2. ซ่ือ ัสตย์ ุสจริต 3. ีม ิวนัย รับ ิผดชอบ 4. ใ ่ฝเรียนรู้ 5. อยู่อย่างพอเพียง 6. ุ่มง ่ัมนในการทำงาน 7. รักความเป็นไทย 8. ีม ิจตสาธารณะ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20

ผลการประเมนิ รายข้อ ท่ี ชื่อ - สกลุ 1. รักชาติ ศาส ์น กษัตริย์ สรุปผล 2. ซ่ือ ัสตย์ ุสจริต 21 3. ีม ิวนัย รับ ิผดชอบ 22 4. ใ ่ฝเรียนรู้ 23 5. อยู่อย่างพอเพียง 24 6. ุ่มง ่ัมนในการทำงาน 25 7. รักความเป็นไทย 26 8. ีม ิจตสาธารณะ 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 ลงชอื่ ....................................................... (.......................................................) ผสู้ อน/ผู้ประเมนิ

คุณภาพ (Rubrice) เพ่ือประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผเู้ รียน ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 รายวชิ าสงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม รหัสวิชา ส 21103 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2564 คุณลกั ษณะ รายการประเมนิ ระดับคะแนน อันพึงประสงค์ 1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเมื่อได้ยินเพล งช าติ ร้องเพลงชาติได้ และ 3 21 0 กษัตริย์ บอกความหมายของเพลงชาตไิ ด้ถูกต้อง ปฏบิ ตั ิชดั เจนและ ไมส่ ามารถ 1.2 ปฏิบัติตนตามสิทธิและหน้าที่ของนักเรียน ให้ความร่วมมือ เขา้ รว่ มกิจกรรม ปฏบิ ตั ิชดั เจนและ ปฏบิ ตั ิชดั เจนและ ปฏิบัติได้ 4. ใฝเ่ รียนรู้ ในการทำงานกับสมาชิกในห้องเรยี น อยา่ งสม่ำเสมอ 1.3 เข้าร่วมกิจกรรมที่สร้างความสามัคคี ปรองดองและเป็น เข้ารว่ มกิจกรรม เข้ารว่ มกิจกรรม ไมเ่ คย 5. อยอู่ ยา่ ง ประโยชนต์ อ่ โรงเรียนและชุมชน ตั้งใจเรียน เข้า ปฏบิ ตั ิ พอเพยี ง 1.4 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนับถือ ปฏิบัติตนตาม เรียนตรงเวลา มี บอ่ ยคร้ัง บางครง้ั หลักศาสนาและเปน็ ตวั อย่างทดี่ ขี องศาสนิกชน ส่วนร่วมและ ไม่เคย 1.5 เข้าร่วมกิจกรรมและมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวกับ แสวงหาความรู้ใน ตั้งใจเรียน เข้า ตั้งใจเรียน เข้า ปฏบิ ัติ สถาบันพระมหากษัตริย์ตามที่โรงเรียนและชุมชนจัดขึ้น ชื่นชม การเรียนรู้ต่าง ๆ เรียนตรงเวลา มี เรียนตรงเวลา มี ในพระราชกรณียกิจพระปรีชาสามารถของพระมหากษัตริย์และ ทั้งภายในและ ส่วนร่วมและ ส่วนร่วมและ พระราชวงศ์ ภายนอกโรงเรียน แสวงหาความรู้ใน แสวงหาความรู้ใน 2.2 ปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้อง ละอายและเกรงกลัวที่จะกระทำ เลือกใช้สื่ออย่าง การเรียนรู้ต่าง ๆ การเรียนรู้ต่าง ๆ ความผิด ทำตาม เหมาะสม สรุป ทั้งภายในและ ทั้งภายในและ 2.3 ปฏิบัติตนต่อผู้อื่นด้วยความซื่อตรง และเป็นแบบอย่างที่ดี องค์ความรู้และ ภายนอกโรงเรียน ภายนอกโรงเรียน แก่เพอ่ื น น ำ ไ ป ใ ช ้ ใ น ช ี วิ ต เลือกใช้สื่ออย่าง เลือกใช้สื่ออย่าง 3.2 ตรงต่อเวลาในการปฏิบตั กิ ิจกรรมตา่ ง ๆ ในชวี ิตประจำวนั และ ช ีวิตป ระจ ำ วั น เหมาะสม สรุป เหมาะสม สรุป รบั ผดิ ชอบในการทำงาน อย่างสม่ำเสมอ องค์ความรู้และ องค์ความรู้และ 4.1 ตัง้ ใจเรยี น น ำ ไ ป ใ ช ้ ใ น ช ี วิ ต น ำ ไ ป ใ ช ้ ใ น ช ี วิ ต 4.2 เอาใจใส่การเรียน และมคี วามเพยี รพยายามในการเรียนรู้ ปฏบิ ตั ชิ ัดเจน ช ีวิตป ระจ ำ วั น ช ีวิตป ระจ ำ วั น 4.3 เข้าร่วมกจิ กรรมการเรียนรู้ตา่ ง ๆ และสมำ่ เสมอ บ่อยครง้ั บางครง้ั 4.4 ศึกษาค้นคว้า หาความรู้จากหนังสือ เอกสารสิ่งพิมพ์ สื่อเทคโนโลยีต่าง ๆ แหล่งเรียนรู้ทั้งภายในและภายนอกโรงเรยี น ปฏบิ ัติชัดเจน ปฏิบตั ชิ ัดเจน และเลือกใชส้ ่ือท่เี หมาะสม และบอ่ ยครง้ั บางคร้งั 4.5 บันทึกความรู้ วิเคราะห์ตรวจสอบสิ่งที่เรียนรู้ สรุปเป็น องค์ความรู้ 4.6 แลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วยวิธีการต่าง ๆ และนำไปใช้ ในชวี ิตประจำวัน 5.1 ใช้ทรัพย์สินของตนเองอย่างประหยัด คุ้มค่าและเก็บรักษา ดูแลอย่างดี รวมทัง้ การใชเ้ วลาอย่างเหมาะสม 5.2 ใช้ทรัพยากรของสว่ นรวมอย่างประหยดั คุ้มค่าและเก็บรักษา ดแู ลอย่างดี 5.3 ปฏิบัติตนและตัดสนิ ใจอยา่ งรอบคอบ มีเหตผุ ล 5.4 ไม่เอาเปรียบและทำความเดือดร้อนให้ผู้อื่น ให้อภัยเมื่อผู้อื่น ทำผดิ พลาด 5.5 วางแผนการเรียน การทำงานและใช้ชีวิตประจำวนั บนพ้ืนฐาน ของความรู้ ข้อมูล ข่าวสาร 5.6 รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของสังคมและสิ่งแวดล้อม ยอมรับ และปรบั ตัวอยู่ร่วมกับผ้อู ่นื อยา่ งมคี วามสุข

คุณลักษณะ รายการประเมนิ 3 ระดบั คะแนน 1 0 อนั พึงประสงค์ ปฏบิ ัตชิ ดั เจน 2 ปฏบิ ัตชิ ดั เจน ไม่เคย 6.1 มีความตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย และสม่ำเสมอ ปฏบิ ัตชิ ัดเจน ปฏิบตั ิ 6. มุ่งมั่นในการ และมีความรับผดิ ชอบในงานที่ทำ และบ่อยคร้งั บางคร้งั ทำงาน 6.2 ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเพียรพยายาม ทุ่มเทกำลังกาย กำลงั ใจในการทำงาน ให้งานสำเร็จลุลว่ งตามเปา้ หมาย 6.3 พยายามแก้ไขปัญหาและอุปสรรคในการทำงานให้ สำเร็จและชน่ื ชมผลงานด้วยความภาคภมู ิใจ 8.2 ไม่หวังผลตอบแทนจากการอาสาหรือช่วยเหลือ ผอู้ ื่นทำงาน 8.3 เตม็ ใจดแู ล รักษาสาธารณะสมบัติและสง่ิ แวดลอ้ ม 8.4 กระตือรือร้นที่จะเข้าร่วมกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อ โรงเรียน ชุมชน และสงั คม

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 4 หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 4 เรื่อง บรโิ ภคพอเพยี ง รายวชิ าสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รหัสวิชา ส 21103 สาระท่ี 3 เศรษฐศาสตร์ ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 1 เวลา 5 ชว่ั โมง ผู้สอน นางศิรินทร์ทพิ ย์ ทองวเิ ศษ 1. มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ชี้วัด มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ส 3.1 เขา้ ใจและสามารถบริหารจดั การทรัพยากรในการผลติ และการบริโภค การใชท้ รพั ยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพและคุ้มคา่ รวมทั้ง เศรษฐกิจพอเพยี ง การดำเนินชวี ิตอย่างมดี ุลยภาพ มาตรฐาน ส 3.2 เขา้ ใจระบบสถาบันทางเศรษฐกจิ ต่างๆ ความสมั พันธ์ของระบบเศรษฐกิจ และความจำเป็นของการรว่ มมอื กันทางเศรษฐกิจในสังคมโลก ตัวชวี้ ัด ส.3.1 ม. 1/2 วเิ คราะห์ค่านิยมและพฤตกิ รรมการบรโิ ภคของคนในสังคมซงึ่ สง่ ผลต่อ เศรษฐกิจของชมุ ชนและประเทศ ส.3.2 ม. 1/4 อภปิ รายผลของกฎหมายเกย่ี วกับทรัพย์สินทางปัญญา 3. สาระสำคญั การบรโิ ภคเปน็ กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มีความสำคัญต่อการพฒั นาเศรษฐกจิ ของประเทศ ปจั จุบันการ บริโภคของมนุษย์มีการเปลี่ยนแปลงจากเดิม อันเนื่องมาจากการรับวัฒนธรรมจากภายนอก ค่านิยมที่ เปลี่ยนแปลงไปและความเจริญก้าวหน้าของเทคโนโลยี ส่งผลให้มีการบริโภคสินค้าฟุ่มเฟือยหรือสินค้าท่ี นอกเหนือจากความจำเป็น การเรียนรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมการบริโภคและปฏิบัตติ นอย่างถูกต้องจะช่วยให้เปน็ ผบู้ ริโภคทดี่ ีและกอ่ ใหเ้ กิดผลดีต่อระบบเศรษฐกจิ ทรัพย์สินทางปัญญาเป็นผลงานอันเกิดจากความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ และได้รับการคุ้มครองตาม กฎหมาย อันได้แก่ ลขิ สทิ ธิ์ สทิ ธิบัตร เครื่องหมายการค้า แบบผังภูมขิ องวงจรรวม ความลับทางการค้าส่ิงบ่งช้ี ทางภูมิศาสตรแ์ ละกฎหมายการผลติ ผลติ ภัณฑ์