Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ฟิสิกส์6-ม.6-2564 - อานีซา แวอูมา

ฟิสิกส์6-ม.6-2564 - อานีซา แวอูมา

Published by ครรชิต แซ่โฮ่, 2021-11-07 08:38:15

Description: ฟิสิกส์6-ม.6-2564 - อานีซา แวอูมา

Search

Read the Text Version

คำอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเติม รหสั วชิ า ว33202 รายวชิ าฟิสกิ ส์ 6 ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 2 เวลาเรียน 4 คาบ:สปั ดาห์:ภาคเรยี น จำนวน 2.0 หน่วยกติ ศึกษาหลักการของสสารและฟสิ กิ สแ์ ผนใหม่ในเรือ่ งการค้นพบอเิ ล็กตรอน แนวคิด เกย่ี วกับแบบจำลองอะตอม สมมตฐิ านของพลังค์ ปรากฏการณโ์ ฟโตอิเลก็ ทริก ทวิภาวะของคลนื่ และ อนุภาค กมั มันตภาพรงั สี การสลายกมั มันตรังสี ปฏกิ ริ ิยานวิ เคลียร์ พลงั งานนวิ เคลียร์ รงั สใี นธรรมชาติ การ ปอ้ งกันอนั ตรายและการใชป้ ระโยชนจ์ ากกมั มันตภาพรังสี และพลังงานนวิ เคลียร์ โดยใช้กระบวนการทาง วทิ ยาศาสตร์ การสบื ค้นข้อมูล การสำรวจตรวจสอบ เพื่อให้เกดิ ความรู้ ความเขา้ ใจ ความคิด มคี วามสามารถ ในการส่อื สารสิง่ ท่ีเรยี นรู้ การตัดสนิ ใจ การนำความรู้ไปใชใ้ นชวี ิตประจำวัน มจี ิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรมและค่านิยมท่ีเหมาะสม ผลการเรยี นรู้ 1. อธบิ ายการค้นพบอิเล็กตรอน และโครงสร้างอะตอมตามแบบจำลองอะตอมของทอมสนั และ รัทเทอร์ฟอร์ด 2. อธบิ ายสมมตฐิ านของพลงั ค์ 3. อธบิ ายทฤษฎีอะตอมของไฮโดรเจนของโบรแ์ ละระดับพลังงานของอะตอม 4. อธิบายปรากฏการณโ์ ฟโตอิเล็กทริกและปรากฏการณค์ อมป์ตันซึ่งเปน็ ปรากฏการณ์ท่ี สนับสนนุ ว่าแสงแสดงสมบัติของอนภุ าคได้ 5. อธิบายสมมติฐานของเดอบรอยล์ และทวิภาวะของคล่ืนและอนุภาค 6. อธบิ ายโครงสรา้ งอะตอมตามทฤษฎกี ลศาสตรค์ วอนตมั 7. อธิบายกัมมันตภาพรังสี และการเปลย่ี นสภาพนิวเคลยี สของธาตุกมั มนั ตรังสี 8. อธิบายหลกั การที่เกย่ี วขอ้ งการสลายของธาตุกัมมนั ตรังสี 9. อธิบายไอโซโทปและการแยกไอโซโทป 10. อธบิ ายแรงนวิ เคลยี ร์ พลังงานยึดเหน่ียว และ เสถยี รภาพของนิวเคลยี ส 11. อธิบายปฏกิ ิรยิ านวิ เคลยี ร์และพลังงานนวิ เคลยี ร์ทเ่ี กิดขึ้นรวมท้งั การใช้ประโยชน์ 12. อธิบายประโยชนแ์ ละโทษของรงั สีและการปอ้ งกัน รวมท้ังหมด 12 ผลการเรยี นรู้

โครงสร้างรายวิชา โรงเรยี นคณะราษฎรบำรุง จงั หวดั ยะลา กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ รหัสวชิ า ว33202 รายวชิ า ฟสิ กิ ส์ 6 เวลาเรยี น 4 คาบ/สปั ดาห์ จำนวน 2.0 หนว่ ยกิต ระดับช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 6 ห้อง 6/1,6 ,6/4 และ 6/6 ภาคเรยี นที่ 2 ครผู ู้สอน นางอานีซา แวอูมา หนว่ ย ชอ่ื หน่วย ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา นำ้ หนัก ภาระงานที่ คะแนน มอบหมาย ที่ การเรียนรู้ (ชัว่ โมง) 1.แบบฝกึ หัด 50 2.สอบยอ่ ย 1 ฟิสิกส์ 1. อธบิ ายการค้นพบ ฟสิ ิกสอ์ ะตอมเป็นการศึกษา 40 ครั้งที่ 1 3.สอบยอ่ ย อะตอม อิเล็กตรอน และ แนวความคดิ เก่ียวกบั อะตอม คร้ังที่ 2 4.สอบกลาง โครงสรา้ งอะตอมตาม และพฒั นาการทางความคิด ภาค แบบจำลองอะตอม เกย่ี วกบั อะตอม แบบจำลอง ของทอมสนั และ อะตอมต่างๆ จนสามารถ รทั เทอร์ฟอร์ด สรุปได้วา่ คลื่นสามารถแสดง 2. อธิบายสมมตฐิ าน สมบตั ิของอนภุ าคได้ และนำ ของพลงั ค์ ความคดิ ทวี่ ่าอิเล็กตรอนมี 3. อธิบายทฤษฎี สมบตั ทิ ง้ั คลืน่ และอนภุ าคไป อะตอมของไฮโดรเจน ประยกุ ต์ใชท้ ำกล้องจุลทรรศน์ ของโบร์และระดับ อเิ ลก็ ตรอนแตก่ ารศกึ ษา พลังงานของอะตอม แบบจำลองอะตอมในปจั จบุ นั 4. อธบิ าย เปน็ การศึกษาที่เกี่ยวกบั ปรากฏการณ์โฟโตอิ พื้นฐานของกลศาสตร์ เล็กทริกและ ควอนตัม หลักความไม่ ปรากฏการณ์คอมปต์ นั แน่นอนของไฮเซนเบริ ก์ ซ่งึ เป็นปรากฏการณ์ท่ี สนับสนุนวา่ แสงแสดง สมบัติของอนภุ าคได้ 5. อธบิ ายสมมตฐิ าน ของ

หนว่ ย ชอ่ื หนว่ ย ผลการเรียนรู้ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนัก ภาระงานที่ คะแนน มอบหมาย ท่ี การเรยี นรู้ (ชวั่ โมง) 50 1.แบบฝึกหดั เดอบรอยล์ และทวิ 2.สอบยอ่ ย ครัง้ ท่ี 1 ภาวะของคล่ืนและ 3.สอบย่อย ครั้งที่ 2 อนุภาค 4.สอบปลาย ภาค 6. อธิบายโครงสรา้ ง 100 อะตอมตามทฤษฎี กลศาสตรค์ วอนตมั 2 ฟสิ ิกส์ 7. อธิบาย ฟิสิกส์นิวเคลยี รเ์ ป็นการศึกษา 40 นิวเคลยี ร์ กัมมนั ตภาพรังสี และ เกี่ยวกับการค้นพบ การเปลี่ยนสภาพ กมั มันตรังสี สมบัติของรังสี นิวเคลียสของธาตุ โครงสร้างของนวิ เคลยี ส เพอ่ื กัมมันตรังสี นำมาใชอ้ ธบิ ายการสลายของ 8. อธบิ ายหลกั การท่ี ธาตกุ ัมมนั ตรงั สี ศึกษาแรง เกี่ยวขอ้ งการสลายของ นวิ เคลียรแ์ ละพลังงานยดึ ธาตกุ ัมมันตรงั สี เหนี่ยว ซ่ึงนำไปสู่การหา 9. อธิบายไอโซโทป พลังงานนิวเคลยี ร์จาก และการแยกไอโซโทป ปฏกิ ิริยานวิ เคลียรท์ ั่วๆไป 10. อธบิ ายแรง ศึกษาประโยชน์ โทษ และ นิวเคลยี ร์ พลงั งานยดึ การป้องกันอนั ตรายจาก เหนย่ี ว และ กมั มนั ตรงั สี ทงั้ นเี้ พื่อใหก้ าร เสถยี รภาพของ ใช้รงั สเี ปน็ ไปในทางที่เปน็ นวิ เคลยี ส ประโยชนแ์ ละมีความ 11. อธบิ ายปฏิกริ ยิ า ปลอดภัยแกท่ ุกฝ่ายท่ี นวิ เคลียร์และพลังงาน เก่ยี วข้อง นวิ เคลยี ร์ทีเ่ กิดข้ึน รวมทงั้ การใช้ ประโยชน์12. อธบิ าย ประโยชนแ์ ละโทษของ รงั สีและการป้องกัน รวม 80

วธิ กี ารวัดและประเมินผล 20 คะแนน 1. สอบตามผลการเรียนรู้กอ่ นสอบระวา่ งภาค 10 คะแนน 2. แบบฝกึ หัด 20 คะแนน 3. สอบระหว่างภาค 20 คะแนน 4. สอบตามผลการเรียนร้หู ลงั สอบระวา่ งภาค 30 คะแนน 5. สอบปลายภาค 100 คะแนน รวม

แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 1 กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ าฟิสกิ สเ์ พมิ่ เตมิ 6 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 6 รหัสวิชา ว33202 หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 1 ฟิสิกส์อะตอม เวลาเรยี น 32 คาบ เร่อื ง การแผ่คล่ืนแม่เหลก็ ไฟฟา้ ของวัตถุดำ เวลาเรียน 2 คาบ ครูผูส้ อน นางอานีซา แวอมู า โรงเรยี นคณะราษฎรบำรุง จงั หวัดยะลา สพม.15 1. สาระวิทยาศาสตร์เพ่ิมเตมิ สาระฟสิ กิ สข์ ้อท่ี 4 เข้าใจความสมั พันธข์ องความรอ้ นกับการเปล่ียนอณุ หภมู แิ ละสถานะของสสารสภาพ ยดื หยุ่นของวัสดุและมอดลุ ัสของยงั ความดนั ในของไหล แรงพยงุ และหลักของอาร์คิมีดิส ความตึงผิวและแรงหนดื ของของเหลว ของไหลอุดมคติ และสมการแบรน์ ูลลี กฎของแกส๊ ทฤษฎจี ลน์ของแก๊สอุดมคติและพลงั งานในระบบ ทฤษฎีอะตอมของโบร์ ปรากฏการณโ์ ฟโตอิเล็กทรกิ ทวภิ าวะของคลน่ื และอนภุ าค กัมมันตภาพรังสี แรงนวิ เคลยี ร์ ปฏกิ ิรยิ านิวเคลยี ร์ พลงั งานนิวเคลียร์ ฟิสกิ สอ์ นภุ าค รวมท้ังนําความรู้ไปใช้ประโยชน์ 2. ผลการเรยี นรู้ อธิบายสมมตฐิ านของพลังค์ ทฤษฎอี ะตอมของโบร์ และการเกดิ เส้นสเปกตรัมของอะตอมไฮโดรเจน รวมทัง้ คำนวณปรมิ าณตา่ ง ๆ ท่ีเก่ยี วข้อง 3. สาระสำคัญ วตั ถุดำ(blackbody) เป็นวัตถุที่แผ่คล่ืนแม่เหล็กไฟฟา้ และดดู กลืนคลน่ื แม่เหล็กไฟฟ้าได้อย่าง สมบรู ณ์ พลังค์ไดต้ ัง้ สมมตฐิ านเพอื่ อธบิ ายการแผ่คลน่ื แมเ่ หล็กไฟฟา้ ของวัตถดุ ำ เรียกวา่ สมมตฐิ านของพลงั ค์ (Planck’s hypothesis) ซึ่งมีใจความว่า พลงั งานของคล่ืนแมเ่ หลก็ ไฟฟ้าทวี่ ตั ถุดำดดู กลืนหรือแผ่ออกมามี ค่าได้ เฉพาะบางค่าเทา่ นัน้ และคา่ นี้เป็นจำนวนเตม็ เท่าของ hf เรยี กวา่ ควอนตมั ของพลังงาน (quantum of energy) ตามสมการ E = nhf 4. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ - อธิบายการแผ่คลืน่ แม่เหลก็ ไฟฟา้ ของวัตถดุ ำ (K2) - สบื คน้ และนำเสนอข้อมูลการแผร่ งั สีควารอ้ นและความสัมพันธ์ระหวา่ งความเขม้ สงู สุด กับความยาวคลืน่ (P3) - มคี วามกระตือรือรน้ ในการเรียนรู้ และมีความมุ่งมนั่ ในการทำงาน มีความซ่ือสัตย์ มีวินัยต่อตนเองและ ผอู้ นื่ (A1A2) 1

5. สาระการเรียนรู้ - การแผค่ ล่ืนแม่เหล็กไฟฟา้ ของวัตถุดำ 6. สมรรถนะสำคัญ  4.1 ความสามารถในการส่ือสาร  4.4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ  4.2 ความสามารถในการคิด  4.5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี  4.3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 7. คุณลักษณะอันพึงประสงค์  5.1 รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์  5.5 อยู่อยา่ งพอเพยี ง  5.2 ซ่ือสตั ยส์ ตุ จริต  5.6 มุ่งมน่ั ในการทำงาน  5.3 มวี นิ ยั  5.7 รกั ความเป็นไทย  5.4 ใฝเ่ รียนรู้  5.8 มีจิตสาธารณะ 8. หลกั ฐานการจดั การเรยี นรู้ (ช้นิ งาน/ภาระงาน) - การนำเสนอ 9. กจิ กรรมการจดั การเรียนการสอน(วธิ ีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5E รว่ มกับการเรยี นรู้แบบร่วมมือ) คาบที่ 1 1 ข้ันสรา้ งความสนใจ 1.1 นำเข้าสูบ่ ทเรยี นโดยใช้รูปทม่ี ีการทำวัตถุใหร้ ้อนท่ีอณุ หภูมิ สูง เชน่ การทำดาบหรือมีดด้วย ความร้อน แลว้ ตัง้ คำถามว่า 1.1.1 เมอ่ื เผาวัตถใุ ห้ร้อน นกั เรียนสังเกตเหน็ สีของวัตถทุ ี่เปลีย่ นไปอยา่ งไร 1.1.2 แต่ละบรเิ วณของวตั ถุร้อนมสี ีอะไรบ้าง 1.1.3 นกั เรยี นคิดวา่ ทบ่ี รเิ วณใดวตั ถุมอี ณุ หภูมิสงู กว่ากนั 1.1.4 และวตั ถอุ ืน่ ๆ ที่ร้อนจะมีพฤตกิ รรมเชน่ เดยี วกนั หรอื ไม่ 1.2 เปดิ โอกาสใหน้ ักเรยี นแสดงความคิดเห็น อยา่ งอิสระ ไม่คาดหวังคำตอบทีถ่ กู ตอ้ ง 2 ข้ันสำรวจและค้นหา 2.1 นักเรยี นอา่ นเอกสารประกอบการเรยี นและร่วมกันอภิปรายในหัวขอ้ การแผ่คล่ืนแม่เหลก็ ไฟฟา้ ของ วตั ถุดำ 2.2 นกั เรยี นสืบคน้ ขอ้ มลู การแผ่รังสีควาร้อนและความสมั พนั ธ์ระหว่างความเขม้ สงู สดุ กับความยาวคลน่ื คาบท่ี 2 3 ข้ันอธิบายและลงข้อสรปุ 3.1 นักเรยี นแต่ละกล่มุ นำเสนอผลการสืบค้น และร่วมกนั อภริ าย 3.2 ครูอธบิ ายเพิ่มเตมิ ผา่ น Powerpoint 2

4 ขั้นขยายความรู้ 4.1 นกั เรยี นและครูร่วมกนั อภิปรายสรปุ การแผร่ งั สขี องวัตถุดำ และสรุปสาระสำคัญ ได้ดงั น้ี 4.1.1. วตั ถุทุกชนิดทมี่ ีอณุ หภูมิสูงกวา่ 0 เคลวนิ มีการแผ่คลนื่ แมเ่ หล็กไฟฟ้าเสมอ เรียกวา่ การแผ่รงั สีความร้อน โดยคลนื่ แม่เหลก็ ไฟฟ้าที่แผ่ออกมามีความถ่ตี ่อเน่ือง เรยี กวา่ สเปกตรัมตอ่ เนอ่ื ง และความยาวคลื่นท่ีมคี วามเข้มสูงสุดขน้ึ กับอณุ หภูมิของวัตถุน้นั และมีสเี ปล่ียน แปลงไปตามอุณหภูมิของวตั ถุ 4.1.2. วตั ถุทีอ่ ุณหภมู หิ นึง่ ๆ จะแผ่รังสีความร้อน โดยมคี วามสมั พันธร์ ะหวา่ งความเข้ม สงู สุดกับความยาวคลน่ื เชน่ วตั ถทุ ม่ี อี ุณหภูมิ 3000 เคลวินจะแผค่ ลนื่ แมเ่ หล็กไฟฟ้าที่มคี วามเข้มสูงสุดในชว่ ง อินฟราเรด เม่ืออณุ หภูมิสงู ขนึ้ อีกความเขม้ ของคลน่ื แม่เหล็กไฟฟ้า ท่แี ผ่ออกมามากสดุ จะมีความยาวคลืน่ ลดลง 5 ขนั้ ประเมนิ 5.1 นักเรียนแต่ละคนพิจารณาเร่อื งที่เรียนในคาบว่ามีเร่ืองใดทยี่ งั ไมเ่ ขา้ ใจหรือยงั มีข้อสงสยั และ ให้นักเรยี นศึกษาเพิม่ เติมย้อนหลงั ไดจ้ าก Facebook group ของแตล่ ะห้อง 10. สอื่ /แหล่งการเรยี นรู้ - เอกสารประกอบการเรยี น เร่ือง ฟิสิกส์อะตอม - Powerpoint เรอ่ื ง สมมติฐานของพลงั ค์ - หนังสือเรยี นรายวิชาเพ่มิ เติม ฟิสกิ ส์ เลม่ 6 ของ สสวท. - Facebook group ของแต่ละห้อง 11. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ • ด้านความรคู้ วามสามารถ วธิ กี ารวดั เกณฑก์ ารประเมิน เครอ่ื งมือ คำถามในแผนการเรยี นรู้ การตอบคำถาม เกณฑผ์ า่ น 50 % • ดา้ นทกั ษะกระบวนการ เครือ่ งมือ วิธีการวดั เกณฑก์ ารประเมนิ แบบประเมินการนำเสนอ สงั เกตพฤติกรรม ตอ้ งไดร้ ะดบั คุณภาพ ดี ข้ึนไป • ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ เครอื่ งมือ วิธกี ารวดั เกณฑก์ ารประเมนิ แบบสงั เกตพฤติกรรม สังเกตพฤตกิ รรม ต้องได้ระดับคุณภาพ ดี ขนึ้ ไป 3

บนั ทึกหลังสอน รายวิชา ฟสิ กิ ส์ 6 (ว 33202) ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 6/1 หนว่ ยที่ 1 เร่อื ง ฟิสิกส์อะตอม จำนวน 32 ชัว่ โมง แผนท่ี ...1...เรอ่ื ง ....แผค่ ลืน่ แม่เหล็กไฟฟ้าของวตั ถดุ ำ.... จำนวน …2...ช่วั โมง 1. ผลการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ 1.1 ดา้ นพุทธิพิสยั (K) ...นกั เรียนสามารถอธิบายการแผ่คล่ืนแมเ่ หล็กไฟฟ้าของวัตถดุ ำ และตอบคำถามได.้ ... 1.2 ด้านทกั ษะพสิ ัย (P) ...นกั เรยี นสามารถสบื ค้น และนำเสนอข้อมลู การแผ่รงั สีควารอ้ นและความสัมพันธ์ ระหวา่ งความเข้มสงู สุดกับความยาวคล่นื ได้… 1.3 ดา้ นจติ พิสัย (A) ....นกั เรยี นมีความกระตือรอื ร้นในการเรยี นรู้ และมีความมุ่งม่นั ในการเรยี นรู้..... 2. ผลการเรยี นของนักเรยี น 2.1 จำนวนทง้ั หมด ...23.... คน เข้าเรียน ....21...... คน ขาดเรยี น....2..... คน 2.2 ผลการประเมนิ จุดประสงค์ ผ่านเกณฑ์ จำนวนนักเรียน (คน) 21 ไม่ผา่ นเกณฑ์ ไมเ่ ขา้ รับการประเมนิ ดา้ นพทุ ธิพสิ ยั 21 -2 ด้านทกั ษะพสิ ยั 21 -2 ดา้ นจิตพสิ ยั -2 3. ปญั หาและอุปสรรค ....นกั เรียนทไ่ี มเ่ ข้าเรียนในคาบจะไม่ไดร้ บั การประเมิน.... 4. ข้อเสนอแนะแนวทางการแกป้ ญั หา ....เปดิ โอกาสใหน้ กั เรยี นส่งงานเพ่ิมเติมและตรวจสอบได้ใน Facebook group ................... ลงชอื่ (นางอานีซา แวอูมา) ครผู สู้ อน 4

บันทึกหลังสอน รายวชิ า ฟิสิกส์ 6 (ว 33202) ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 6/4 หนว่ ยที่ 1 เรือ่ ง ฟสิ กิ ส์อะตอม จำนวน 32 ชวั่ โมง แผนที่ ...1...เรือ่ ง ....แผค่ ลน่ื แม่เหลก็ ไฟฟา้ ของวัตถดุ ำ.... จำนวน …2...ชว่ั โมง 1. ผลการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 1.1 ด้านพทุ ธิพสิ ยั (K) ...นกั เรยี นสามารถอธบิ ายการแผค่ ล่ืนแมเ่ หลก็ ไฟฟา้ ของวัตถดุ ำ และตอบคำถามได.้ ... 1.2 ดา้ นทักษะพิสัย (P) ...นกั เรียนสามารถสืบคน้ และนำเสนอข้อมูลการแผ่รงั สีควาร้อนและความสัมพันธ์ ระหวา่ งความเข้มสงู สดุ กับความยาวคลน่ื ได.้ ... 1.3 ดา้ นจิตพสิ ัย (A) ....นักเรยี นมีความกระตือรอื รน้ ในการเรียนรู้ และมคี วามม่งุ ม่ันในการเรียนรู้..... 2. ผลการเรียนของนักเรยี น 2.1 จำนวนทัง้ หมด ...37.... คน เขา้ เรียน ....35...... คน ขาดเรยี น....2..... คน 2.2 ผลการประเมิน จุดประสงค์ ผ่านเกณฑ์ จำนวนนกั เรียน (คน) 35 ไม่ผา่ นเกณฑ์ ไมเ่ ข้ารับการประเมนิ ด้านพุทธพิ สิ ยั 35 -2 ด้านทักษะพสิ ยั 35 -2 ดา้ นจิตพสิ ยั -2 3. ปญั หาและอปุ สรรค ....นักเรยี นท่ไี ม่เข้าเรียนในคาบจะไม่ไดร้ บั การประเมิน.... 4. ข้อเสนอแนะแนวทางการแก้ปัญหา ....เปิดโอกาสใหน้ ักเรียนส่งงานเพิ่มเติมและตรวจสอบไดใ้ น Facebook group ................... ลงช่อื (นางอานีซา แวอมู า) ครผู ู้สอน 5

บันทกึ หลังสอน รายวชิ า ฟิสิกส์ 6 (ว 33202) ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 6/6 หนว่ ยท่ี 1 เร่ือง ฟิสิกส์อะตอม จำนวน 32 ชั่วโมง แผนท่ี ...1...เร่อื ง ....แผ่คลนื่ แมเ่ หลก็ ไฟฟา้ ของวัตถุดำ.... จำนวน …2...ชัว่ โมง 1. ผลการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ 1.1 ดา้ นพทุ ธิพสิ ยั (K) ...นกั เรียนสามารถอธบิ ายการแผ่คลื่นแม่เหล็กไฟฟา้ ของวตั ถดุ ำ และตอบคำถามได.้ ... 1.2 ด้านทกั ษะพิสัย (P) ...นักเรยี นสามารถสบื ค้น และนำเสนอข้อมลู การแผ่รังสีควาร้อนและความสัมพนั ธ์ ระหว่างความเข้มสูงสุดกับความยาวคล่ืนได.้ ... 1.3 ด้านจติ พสิ ัย (A) ....นกั เรยี นมีความกระตือรอื รน้ ในการเรยี นรู้ และมีความม่งุ มั่นในการเรียนรู้..... 2. ผลการเรยี นของนกั เรียน 2.1 จำนวนทัง้ หมด ...36.... คน เขา้ เรยี น ....31...... คน ขาดเรียน....5..... คน 2.2 ผลการประเมนิ จุดประสงค์ ผา่ นเกณฑ์ จำนวนนักเรยี น (คน) 31 ไมผ่ ่านเกณฑ์ ไมเ่ ข้ารบั การประเมิน ดา้ นพทุ ธิพิสยั 31 ด้านทกั ษะพิสยั 31 -5 ด้านจิตพสิ ัย -5 -5 3. ปัญหาและอุปสรรค ....นกั เรียนท่ไี มเ่ ข้าเรียนในคาบจะไม่ไดร้ ับการประเมิน.... 4. ข้อเสนอแนะแนวทางการแก้ปัญหา ....เปิดโอกาสใหน้ กั เรียนส่งงานเพ่มิ เติมและตรวจสอบได้ใน Facebook group ................... ลงช่อื (นางอานซี า แวอมู า) ครผู สู้ อน 6

ความคดิ เห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้ ไดท้ ำการตรวจแผนการจดั การเรยี นรขู้ อง นางอานซี า แวอูมา แล้วมคี วามคดิ เหน็ ดังน้ี (ใสเ่ คร่ืองหมาย  ในช่อง  ทต่ี รงตามข้อความท่ีกำหนด)  การกำหนดจดุ ประสงค์การเรียนร้สู อดคลอ้ งกับตวั ชีว้ ัด / ผลการเรยี นรู้  การเขียนองคป์ ระกอบของแผนการจดั การเรยี นรู้ถกู ต้องครบถว้ นทุกหัวข้อ  การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ และบรรลจุ ุดประสงคก์ ารเรยี นรู้  การวดั ผลและประเมนิ ผลสอดคลอ้ งกับจดุ ประสงค์การเรียนรแู้ ละกิจกรรมการเรียนรู้ ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม ............................................................................................................................. ....................................................... .................................................................................................................................. ลงชื่อ............................................... (นางภรู ิชญา ชูมณ)ี ตำแหนง่ ครู หวั หน้ากล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ ความคดิ เห็นของรองผ้อู ำนวยการกลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ ............................................................................................................................. ....................................................... .................................................................................................................................. ลงชือ่ ............................................... (นางสาวเพริศพิศ คูหามุข) ตำแหนง่ รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารกลุม่ งานวิชาการ ความคิดเหน็ ของผู้อำนวยการโรงเรียน  อนุมัติ  ไม่อนุมตั ิ เน่ืองจาก................................................................................ ............................................................................................................................. .............................. .................................................................................................... ....................................................... ลงชือ่ ............................................... (นายนพปฎล มณุ รี ตั น์) ตำแหน่งผ้อู ำนวยการโรงเรียนคณะราษฎรบำรงุ จงั หวดั ยะลา 7

แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 2 กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวชิ าฟิสิกส์เพมิ่ เติม 6 ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 6 รหัสวชิ า ว33202 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 ฟสิ กิ สอ์ ะตอม เวลาเรยี น 32 คาบ เร่อื ง การแผ่คลืน่ แม่เหล็กไฟฟา้ ของวัตถดุ ำ เวลาเรียน 4 คาบ ครูผสู้ อน นางอานีซา แวอมู า โรงเรยี นคณะราษฎรบำรงุ จังหวัดยะลา สพม.15 1. สาระวทิ ยาศาสตรเ์ พม่ิ เติม สาระฟสิ ิกส์ข้อท่ี 4 เข้าใจความสมั พนั ธ์ของความรอ้ นกับการเปลีย่ นอณุ หภูมแิ ละสถานะของสสารสภาพ ยดื หย่นุ ของวัสดแุ ละมอดุลสั ของยงั ความดนั ในของไหล แรงพยุง และหลักของอาร์คิมดี ิส ความตงึ ผวิ และแรงหนดื ของของเหลว ของไหลอดุ มคติ และสมการแบร์นลู ลี กฎของแกส๊ ทฤษฎจี ลน์ของแกส๊ อุดมคติและพลังงานในระบบ ทฤษฎีอะตอมของโบร์ ปรากฏการณโ์ ฟโตอิเล็กทรกิ ทวิภาวะของคล่นื และอนุภาค กัมมันตภาพรงั สี แรงนวิ เคลียร์ ปฏิกริ ยิ านวิ เคลียร์ พลงั งานนิวเคลียร์ ฟสิ ิกส์อนภุ าค รวมท้ังนําความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ 2. ผลการเรียนรู้ อธิบายสมมติฐานของพลงั ค์ ทฤษฎีอะตอมของโบร์ และการเกดิ เส้นสเปกตรัมของอะตอมไฮโดรเจน รวมท้งั คำนวณปริมาณต่าง ๆ ทีเ่ ก่ียวข้อง 3. สาระสำคัญ วัตถดุ ำ(blackbody) เปน็ วตั ถุที่แผค่ ล่ืนแมเ่ หลก็ ไฟฟา้ และดูดกลนื คลนื่ แม่เหล็กไฟฟ้าได้อยา่ ง สมบรู ณ์ พลังค์ไดต้ งั้ สมมติฐานเพอื่ อธบิ ายการแผค่ ลื่นแมเ่ หล็กไฟฟ้าของวตั ถดุ ำ เรยี กว่า สมมตฐิ านของพลงั ค์ (Planck’s hypothesis) ซ่งึ มใี จความว่า พลงั งานของคลน่ื แมเ่ หล็กไฟฟ้าทว่ี ตั ถุดำดูดกลืนหรอื แผ่ออกมามี คา่ ได้ เฉพาะบางค่าเทา่ นน้ั และค่านเี้ ป็นจำนวนเต็มเทา่ ของ hf เรยี กวา่ ควอนตัมของพลงั งาน (quantum of energy) ตามสมการ E = nhf 4. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ - อธบิ ายสมมติฐานของพลังค์ (K2) - สืบคน้ และนำเสนอขอ้ มูลการแผร่ ังสีของวัตถุดำ (P3) - คำนวณหาควอนตมั ของพลงั งานได้(P2) - มีความกระตือรือร้นในการเรียนรู้ และมีความมุ่งมน่ั ในการทำงาน มคี วามซื่อสัตย์ มีวินัยต่อตนเองและ ผอู้ นื่ (A1A2) 5. สาระการเรียนรู้ - สมมติฐานของพลงั ค์ 8

6. สมรรถนะสำคญั  4.1 ความสามารถในการสื่อสาร  4.4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ  4.2 ความสามารถในการคดิ  4.5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี  4.3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 7. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์  5.1 รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์  5.5 อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง  5.2 ซอ่ื สตั ยส์ ตุ จรติ  5.6 ม่งุ ม่นั ในการทำงาน  5.3 มวี นิ ัย  5.7 รกั ความเปน็ ไทย  5.4 ใฝ่เรียนรู้  5.8 มีจติ สาธารณะ 8. หลกั ฐานการจดั การเรยี นรู้ (ชนิ้ งาน/ภาระงาน) - แบบฝกึ หดั 9. กิจกรรมการจัดการเรยี นการสอน(วธิ ีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5E และใช้รูปแบบ SAR MODEL ในการ แกป้ ัญหาโจทย์ฟิสิกสร์ ่วมกบั การเรียนรู้แบบรว่ มมือ) คาบท่ี 1 และ2 1 ขนั้ สรา้ งความสนใจ 1.1 ทบทวนความรเู้ ดิม โดยการต้ังคำถามการแผ่รังสีความรอ้ น 1.1.1 การแผร่ งั สีความร้อน เปน็ อย่างไร 1.1.2 ความสัมพันธร์ ะหวา่ งความเข้มสงู สุดกบั ความยาวคล่นื เปน็ อยา่ งไร 1.2 เปิดโอกาสให้นักเรยี นแสดงความคดิ เหน็ อยา่ งอสิ ระ ไม่คาดหวงั คำตอบทถี่ กู ตอ้ ง 2 ข้ันสำรวจและค้นหา (การเรยี นรู้แบบร่วมมอื ) 2.1 นักเรยี นแต่ละกลมุ่ สืบคน้ แนวคดิ ของพลงั ค์เกี่ยวกับการแผร่ งั สขี องวัตถุดำ และนำเสนอผลการสบื คน้ 3 ขน้ั อธิบายและลงข้อสรุป 3.1 ครูอธบิ ายเพิ่มเตมิ ผ่าน Powerpoint 3.2 นักเรยี นและครรู ว่ มกันอภปิ รายสรปุ สมมติฐานของพลังค์ และสรุปสาระสำคัญ ได้ดังน้ี 3.2.1 วตั ถุใดทแ่ี ผ่รังสไี ด้ดีจะดดู กลนื รังสีได้ดดี ว้ ยวตั ถุท่แี ผ่รงั สไี ดด้ แี ละดูดกลนื รังสที ่ตี ก กระทบได้อย่างสมบูรณ์ เรยี กว่า วัตถุดำ 3.2.4. สมมติฐานของ Max Planck นกั ฟสิ กิ สช์ าวเยอรมันได้กล่าววา่ พลังงานทีว่ ัตถดุ ํา รับเข้าไป หรือปลอ่ ยออกมามีได้เฉพาะบางคา่ เทา่ นนั้ โดยค่านจี้ ะเปน็ จํานวนเตม็ เท่าของ hf 3.3 ครูอธบิ ายการคำนวณหาค่าปรมิ าณต่างๆ (SAR MODEL) ตัวอย่างที่ 1 จงหาควอนตัมของพลังงานของคลน่ื แมเ่ หลก็ ไฟฟา้ ทมี่ ีความถ่ี 1  1015 เฮิรตซ์ วิธีทำ S: E =? , f = 1  1015 Hz ,E=hf 9

A: E = 6.6251  10-341  1015 = 6.6251  10-19 J ตอบ R: นกั เรยี นตรวจสอบความถูกตอ้ งของวิธีการและคำตอบ หากมีความผดิ พลาดให้แสดงความคดิ เหน็ และ หาขอ้ สรปุ ตัวอย่างท่ี 2 แสงมีควอนตมั ของพลังงาน 6.626  10-19 จูล จะมีความถี่เท่าใด วิธที ำ S: E =6.626  10-19 J , f = ? Hz ,E=hf A: f = h/E = 6.6251  10-34/6.626  10-19 = 1  1015 J ตอบ R: นกั เรยี นตรวจสอบความถูกต้องของวธิ ีการและคำตอบ หากมีความผิดพลาดให้แสดงความคดิ เห็นและ หาขอ้ สรปุ ตัวอยา่ งท่ี 3 แสงมีควอนตัมของพลงั งาน 2 อิเล็กตรอนโวลต์ จะมคี วามถเ่ี ทา่ ใด วธิ ีทำ S: E = 2 eV , f = ? Hz ,E=hf แต่ตอ้ งแปลงจากหนว่ ย eV เป็นหน่วย J A: f = h/E = 6.6251  10-34/21.6 10-19 = 0.48  1015 J ตอบ R: นักเรียนตรวจสอบความถูกตอ้ งของวิธกี ารและคำตอบ หากมีความผดิ พลาดให้แสดงความคดิ เห็นและ หาขอ้ สรปุ คาบท่ี 3 และ 4 4 ขน้ั ขยายความรู้ 4.1 นกั เรยี นออกมาแกโ้ จทย์ปญั หาที่ครูกำหนด โดยใช้ SAR MODEL รว่ มกับเทคนิค Think- Pair-Share 4.2 นกั เรียนศกึ ษาค้นคว้าหาความรเู้ พ่ิมเตมิ จากหนังสอื เรียนสาระการเรียนรู้พน้ื ฐานและเพิ่มเตมิ ฟสิ กิ ส์ เลม่ 6 หนังสือค่มู ือในหอ้ งสมดุ โรงเรยี น สบื ค้นจากอนิ เทอร์เน็ต เพื่อความเข้าใจย่งิ ข้นึ 5 ขั้นประเมนิ 5.1 นักเรยี นทกุ คนทำแบบฝกึ หดั ในเอกสารประกอบการเรียน แบบฝึกหัดท่ี 19.1.1 5.2 ครูเฉลยคำตอบในแบบฝึกหดั พร้อมให้นกั เรียนแก้ไขใหถ้ ูกตอ้ ง 10

10. ส่ือ/แหลง่ การเรียนรู้ - เอกสารประกอบการเรียน เร่ือง ฟิสิกส์อะตอม - Powerpoint เร่อื ง สมมติฐานของพลังค์ - หนังสือเรยี นรายวชิ าเพิ่มเติม ฟิสกิ ส์ เลม่ 6 ของ สสวท. - Facebook group ของแต่ละหอ้ ง 11. การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ • ด้านความรคู้ วามสามารถ เครอ่ื งมอื วธิ ีการวัด เกณฑ์การประเมนิ -คำถามในแผนการเรยี นรู้ -การตอบคำถาม เกณฑผ์ ่าน 50 % • ดา้ นทักษะกระบวนการ เครอ่ื งมอื วิธกี ารวัด เกณฑก์ ารประเมนิ แบบฝึกหัด การแกโ้ จทยป์ ญั หา เกณฑผ์ า่ น 50 % • ด้านคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ เคร่อื งมือ วธิ กี ารวัด เกณฑก์ ารประเมนิ แบบสังเกตพฤติกรรม สงั เกตพฤตกิ รรม ตอ้ งได้ระดับคณุ ภาพ ดี ข้นึ ไป 11

บนั ทกึ หลังสอน รายวิชา ฟสิ กิ ส์ 6 (ว 33202) ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 6/1 หน่วยท่ี 1 เรอื่ ง ฟสิ ิกส์อะตอม จำนวน 32 ชัว่ โมง แผนที่ ...2...เรื่อง ...........สมมติฐานของพลงั ค์................... จำนวน …4...ชั่วโมง 1. ผลการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ 1.1 ดา้ นพทุ ธิพิสยั (K) ...นักเรียนสามารถอธบิ ายสมมติฐานของพลงั ค์ และตอบคำถามได้.... 1.2 ดา้ นทกั ษะพิสัย (P) ...นักเรยี นสามารถสืบค้น และนำเสนอขอ้ มลู การแผร่ งั สีของวัตถดุ ำสามารคำนวณหา ปริมาณตา่ งทเ่ี กีย่ วข้องกับควอนตัมของพลังงานได้.... 1.3 ด้านจิตพสิ ัย (A) ....นักเรยี นมีความกระตือรือรน้ ในการเรียนรู้ และมคี วามมุ่งมั่นในการเรียนรู้..... 2. ผลการเรียนของนกั เรยี น 2.1 จำนวนทั้งหมด ...23.... คน เข้าเรยี น ....21...... คน ขาดเรียน....2..... คน 2.2 ผลการประเมนิ จุดประสงค์ ผ่านเกณฑ์ จำนวนนกั เรยี น (คน) 21 ไม่ผา่ นเกณฑ์ ไม่เข้ารบั การประเมนิ ด้านพทุ ธพิ สิ ัย 21 -2 ด้านทักษะพิสยั 21 2- ด้านจติ พสิ ัย 2- 3. ปญั หาและอปุ สรรค ....นักเรียนท่ไี ม่ผา่ นเกณฑ์ เนื่องจากไม่ส่งงาน และนักเรยี นท่ีไมเ่ ข้าเรียนในคาบจะไม่ได้รับการประเมนิ .... 4. ขอ้ เสนอแนะแนวทางการแก้ปัญหา ......เปดิ โอกาสใหน้ กั เรียนสง่ งานเพิ่มเติมและตรวจสอบไดใ้ น Facebook group ................... ลงชือ่ (นางอานซี า แวอมู า) ครูผสู้ อน 12

บนั ทกึ หลังสอน รายวิชา ฟิสิกส์ 6 (ว 33202) ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 6/4 หนว่ ยที่ 1 เรือ่ ง ฟสิ ิกส์อะตอม จำนวน 32 ชัว่ โมง แผนท่ี ...2...เร่ือง ...........สมมตฐิ านของพลังค์................... จำนวน …4...ชั่วโมง 1. ผลการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1.1 ดา้ นพุทธิพสิ ยั (K) ...นกั เรยี นสามารถอธิบายสมมตฐิ านของพลังค์ และตอบคำถามได้.... 1.2 ดา้ นทกั ษะพิสยั (P) ...นักเรียนสามารถสืบคน้ และนำเสนอขอ้ มลู การแผร่ งั สีของวัตถดุ ำสามารคำนวณหา ปรมิ าณตา่ งที่เกี่ยวข้องกับควอนตัมของพลงั งานได้.... 1.3 ด้านจิตพสิ ัย (A) ....นักเรยี นมีความกระตือรือรน้ ในการเรยี นรู้ และมีความมุ่งมั่นในการเรียนรู้..... 2. ผลการเรียนของนกั เรียน 2.1 จำนวนทงั้ หมด ...37.... คน เข้าเรียน ....35...... คน ขาดเรียน....2..... คน 2.2 ผลการประเมนิ จดุ ประสงค์ ผ่านเกณฑ์ จำนวนนกั เรียน (คน) 29 ไมผ่ า่ นเกณฑ์ ไม่เข้ารบั การประเมนิ ด้านพทุ ธิพสิ ัย 36 42 ด้านทักษะพิสยั 34 1- ดา้ นจิตพิสยั 2- 3. ปัญหาและอปุ สรรค ....นกั เรียนทีไ่ ม่ผา่ นเกณฑ์ เนื่องจากไม่สง่ งาน และนักเรยี นท่ไี ม่เขา้ เรยี นในคาบจะไม่ได้รับการประเมนิ .... 4. ข้อเสนอแนะแนวทางการแกป้ ัญหา ......เปดิ โอกาสให้นกั เรยี นสง่ งานเพ่มิ เติมและตรวจสอบไดใ้ น Facebook group ................... ลงชอ่ื (นางอานีซา แวอมู า) ครูผู้สอน 13

บนั ทึกหลังสอน รายวิชา ฟสิ ิกส์ 6 (ว 33202) ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6/6 หนว่ ยที่ 1 เรื่อง ฟสิ ิกส์อะตอม จำนวน 32 ชัว่ โมง แผนท่ี ...2...เรอ่ื ง ...........สมมตฐิ านของพลังค.์ .................. จำนวน …4...ช่ัวโมง 1. ผลการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ 1.1 ด้านพุทธิพสิ ัย (K) ...นกั เรียนสามารถอธบิ ายสมมตฐิ านของพลังค์ และตอบคำถามได้.... 1.2 ด้านทักษะพสิ ัย (P) ...นักเรยี นสามารถสบื ค้น และนำเสนอขอ้ มลู การแผ่รงั สีของวตั ถุดำสามารคำนวณหา ปริมาณต่างที่เกย่ี วข้องกับควอนตมั ของพลังงานได้.... 1.3 ด้านจิตพิสยั (A) ....นกั เรยี นมีความกระตือรอื ร้นในการเรียนรู้ และมีความมุ่งม่นั ในการเรียนรู้..... 2. ผลการเรยี นของนักเรียน 2.1 จำนวนท้ังหมด ...36.... คน เขา้ เรยี น ....33...... คน ขาดเรียน....3..... คน 2.2 ผลการประเมิน จดุ ประสงค์ ผ่านเกณฑ์ จำนวนนักเรยี น (คน) 23 ไมผ่ า่ นเกณฑ์ ไมเ่ ขา้ รับการประเมิน ดา้ นพุทธพิ สิ ยั 28 10 3 ด้านทกั ษะพสิ ัย 28 8- ด้านจติ พสิ ยั 8- 3. ปัญหาและอปุ สรรค ....นักเรยี นท่ีไม่ผา่ นเกณฑ์ เน่ืองจากไม่ส่งงาน และนักเรยี นท่ไี มเ่ ข้าเรียนในคาบจะไม่ไดร้ ับการประเมนิ .... 4. ข้อเสนอแนะแนวทางการแก้ปญั หา ......เปดิ โอกาสใหน้ กั เรียนส่งงานเพิ่มเติมและตรวจสอบได้ใน Facebook group ................... ลงชือ่ (นางอานีซา แวอูมา) ครผู ู้สอน 28

ความคดิ เห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้ ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรยี นรู้ของ นางอานีซา แวอูมา แลว้ มีความคิดเห็นดงั นี้ (ใสเ่ ครอ่ื งหมาย  ในช่อง  ที่ตรงตามขอ้ ความท่ีกำหนด)  การกำหนดจดุ ประสงค์การเรียนรู้สอดคลอ้ งกับตัวชีว้ ดั / ผลการเรยี นรู้  การเขยี นองค์ประกอบของแผนการจดั การเรยี นรู้ถูกต้องครบถว้ นทกุ หวั ข้อ  การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้เน้นผ้เู รียนเปน็ สำคัญ และบรรลุจดุ ประสงค์การเรียนรู้  การวัดผลและประเมนิ ผลสอดคล้องกบั จดุ ประสงค์การเรียนรแู้ ละกจิ กรรมการเรยี นรู้ ขอ้ เสนอแนะเพ่ิมเติม ............................................................................................................................. .................................................... ............................................................................................................................. ........ ลงชื่อ............................................... (นางภูรชิ ญา ชมู ณ)ี ตำแหนง่ ครู หวั หนา้ กลุม่ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์ ความคิดเห็นของรองผูอ้ ำนวยการกลุ่มบริหารงานวชิ าการ ............................................................................................................................. .................................................... ..................................................................................................................................... ลงช่ือ............................................... (นางสาวเพรศิ พิศ คูหามุข) ตำแหน่งรองผู้อำนวยการฝา่ ยบรหิ ารกล่มุ งานวิชาการ ความคิดเหน็ ของผ้อู ำนวยการโรงเรยี น  อนมุ ตั ิ  ไมอ่ นุมัติ เน่ืองจาก................................................................................ ........................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .............................. ลงชือ่ ............................................... (นายนพปฎล มุณีรตั น์) ตำแหนง่ ผู้อำนวยการโรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวัดยะลา 29

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 3 กลุม่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวชิ าฟิสิกสเ์ พม่ิ เติม 6 ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 6 รหสั วชิ า ว33202 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 ฟสิ ิกสอ์ ะตอม เวลาเรยี น 32 คาบ เรื่อง ทฤษฎีอะตอมของโบร์ เวลาเรยี น 2 คาบ ครผู ูส้ อน นางอานซี า แวอูมา โรงเรยี นคณะราษฎรบำรงุ จงั หวัดยะลา สพม.15 1. สาระวิทยาศาสตร์เพม่ิ เติม สาระฟิสิกส์ข้อท่ี 4 เข้าใจความสมั พันธ์ของความร้อนกบั การเปลย่ี นอุณหภูมแิ ละสถานะของสสาร สภาพยดื หยุ่นของวสั ดแุ ละมอดุลสั ของยงั ความดนั ในของไหล แรงพยงุ และหลักของอารค์ ิมดี ิส ความตึงผวิ และ แรงหนืดของของเหลว ของไหลอดุ มคติ และสมการแบร์นลู ลี กฎของแกส๊ ทฤษฎจี ลน์ของแกส๊ อุดมคติและ พลงั งานในระบบทฤษฎีอะตอมของโบร์ ปรากฏการณ์โฟโตอเิ ลก็ ทริก ทวิภาวะของคลื่นและอนภุ าค กัมมันตภาพรังสี แรงนิวเคลียร์ ปฏกิ ิริยานวิ เคลยี ร์ พลงั งานนิวเคลยี ร์ ฟสิ ิกสอ์ นุภาค รวมทงั้ นําความรู้ไปใช้ ประโยชน์ 2. ผลการเรยี นรู้ อธบิ ายสมมติฐานของพลงั ค์ ทฤษฎีอะตอมของโบร์ และการเกดิ เสน้ สเปกตรมั ของอะตอมไฮโดรเจน รวมทง้ั คำนวณปริมาณต่าง ๆ ท่เี กี่ยวข้อง 3. สาระสำคญั แบบจำลองอะตอมของทอมสัน มลี ักษณะอะตอมเปน็ ทรงกลม ประกอบอนภุ าคบวกและ อเิ ลก็ ตรอน กระจายอย่ทู ั่วไปอยา่ งสม่ำเสมอ สว่ นแบบจำลองอะตอมของรัทเทอรฟ์ อร์ด มลี กั ษณะ มีแกนกลางทมี่ ีขนาดเลก็ แต่มีประจุไฟฟ้าเปน็ จำนวนมาก และมีอเิ ล็กตรอนเคลื่อนท่รี อบแกนกลาง 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ - อธบิ ายโครงสร้างอะตอมตามแบบจำลองอะตอมของทอมสันและรทั เทอร์ฟอรด์ (K2) - สบื ค้น และนำเสนอข้อมลู แบบจำลองอะตอม(P3) - วาดแบบจำลองอะตอมอะตอมของทอมสันและรทั เทอร์ฟอร์ด(P2) - มีความกระตือรือร้นในการเรียนรู้ และมีความมุ่งมั่นในการทำงาน มีความซื่อสัตย์ มีวินัยต่อตนเอง และผอู้ ืน่ (A1A2) 5. สาระการเรยี นรู้ - แบบจำลองอะตอมของทอมสัน - แบบจำลองอะตอมของรัทเทอร์ฟอร์ด 30

6. สมรรถนะสำคญั  4.1 ความสามารถในการส่ือสาร  4.4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ  4.2 ความสามารถในการคดิ  4.5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี  4.3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 7. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์  5.1 รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์  5.5 อยู่อย่างพอเพยี ง  5.2 ซ่อื สตั ยส์ ตุ จริต  5.6 มุ่งมัน่ ในการทำงาน  5.3 มวี ินยั  5.7 รกั ความเป็นไทย  5.4 ใฝ่เรยี นรู้  5.8 มจี ิตสาธารณะ 8. หลกั ฐานการจดั การเรยี นรู้ (ช้ินงาน/ภาระงาน) - ภาพวาดแบบจำลองอะตอม 9. กจิ กรรมการจดั การเรยี นการสอน(วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5E รว่ มกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ) คาบที่ 1 1 ขั้นสรา้ งความสนใจ 1.1 นำอภปิ รายเก่ยี วกับอะตอมในวชิ าเคมี การทดลองของทอมสนั เพ่อื หาคา่ ประจตุ ่อมวลของ อิเลก็ ตรอน การทดลองมิลิแกนเพือ่ หาคา่ ประจุไฟฟ้าของอเิ ลก็ ตรอน 1.2 เปิดโอกาสให้นกั เรียนแสดงความคิดเหน็ อย่างอิสระ ไมค่ าดหวังคำตอบท่ถี กู ตอ้ ง 2 ข้นั สำรวจและคน้ หา 2.1 นักเรยี นแต่ละกล่มุ สบื ค้นการพฒั นาแบบจำลองอะตอมเพ่ือใช้อธิบายโครงสร้างอะตอม ต้งั แต่ แบบจำลองอะตอมของ ทอมสนั จนถึงแบบจำลองอะตอมของรัทเทอร์ฟอรด์ 2.2 ให้นกั เรยี นดวู ิดิโอสาธิตการทดลองของรทั เทอร์ฟอร์ด สังเกตการกระเจิงของอนุภาคและสรุปผล การสังเกต คาบท่ี 2 3 ขัน้ อธิบายและลงข้อสรปุ 3.1 นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ นำเสนอผลการสบื ค้น และร่วมกันอภิราย 3.2 ครอู ธิบายเพ่ิมเติม ผ่าน Powerpoint 4 ขน้ั ขยายความรู้ 4.1 นกั เรยี นและครรู ว่ มกนั อภิปรายสรุปแบบจำลองอะตอมของทอมสันและรัทเทอร์ฟอร์ด และ สรปุ สาระสำคญั ไดด้ งั นี้ 4.1.1. โครงสรา้ งอะตอมตามแบบจำลองอะตอมของทอมสันเป็นอย่างไร (อะตอมเป็น ทรงกลม ประกอบอนุภาคบวกและอิเล็กตรอน กระจายอยู่ท่ัวไปอย่างสมำ่ เสมอ) 4.1.2. โครงสรา้ งอะตอมตามแบบของทอมสนั พบวา่ เน้ือที่อะตอมส่วนใหญ่ 31

ประกอบดว้ ยอะไร (ทวี่ ่างเปล่า) 4.1.3. จากการทดลองของรทั เทอร์ฟอร์ดท่ียงิ อนุภาคแอลฟาไปยังแผ่นไมกาบางๆ ทำ ให้ไดแ้ นวคดิ ว่าอย่างไร (อะตอมอาจมแี กนกลางท่มี ีขนาดเลก็ แตม่ ปี ระจุไฟฟา้ เป็นจำนวนมาก และมอี เิ ล็กตรอน เคล่ือนทีร่ อบแกนกลาง) 4.1.4. ปญั หาบางประการทแ่ี บบจำลองอะตอมของรัทเทอรฟ์ อร์ดไมส่ ามารถอธบิ ายได้ คอื อะไร (ถ้าอิเล็กตรอนว่ิงวนรอบนิวเคลียส ต้องมีความเรง่ ในทิศเข้าหานวิ เคลียส ผลทตี่ ามมาคือ จะมีการแผ่ คล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้าออกมา ในการน้ีอิเล็กตรอนจะสญู เสยี พลังงาน ความเร็วของอเิ ล็กตรอนจะลดลงเปน็ ผลให้ รัศมีของวงโคจรเลก็ ลงและเข้าไปรวมกบั นิวเคลยี สในที่สุด) 5 ข้นั ประเมิน 5.1 นกั เรียนวาดภาพแบบจำลองของทอมสันและรัทเทอรฟ์ อรด์ 5.2 นักเรยี นแตล่ ะคนพจิ ารณาเร่ืองท่ีเรยี นในคาบวา่ มีเร่ืองใดที่ยังไม่เขา้ ใจหรือยังมีขอ้ สงสัย และให้ นักเรยี นศกึ ษาเพิม่ เตมิ ย้อนหลงั ไดจ้ าก Facebook group ของแตล่ ะห้อง 10. สือ่ /แหลง่ การเรยี นรู้ - เอกสารประกอบการเรยี น เรื่อง ฟิสิกส์อะตอม - Powerpoint เรอ่ื ง ทฤษฎอี ะตอมของโบร์ - หนังสอื เรยี นรายวชิ าเพมิ่ เติม ฟสิ กิ ส์ เล่ม 6 ของ สสวท. - Facebook group ของแต่ละห้อง 11. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ • ดา้ นความรคู้ วามสามารถ วธิ กี ารวดั เกณฑ์การประเมนิ เคร่ืองมือ คำถามในแผนการเรียนรู้ การตอบคำถาม เกณฑ์ผ่าน 50 % • ด้านทกั ษะกระบวนการ เครอ่ื งมอื วิธกี ารวัด เกณฑ์การประเมิน แบบประเมนิ การนำเสนอ สงั เกตพฤติกรรม ต้องได้ระดับคณุ ภาพ ดี ข้ึนไป แบบประเมินชน้ิ งาน ประเมนิ ชน้ิ งาน (ภาพวาด เกณฑผ์ ่าน 50 % แบบจำลองอะตอม) • ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ เครื่องมอื วิธกี ารวดั เกณฑ์การประเมนิ แบบสงั เกตพฤติกรรม สังเกตพฤติกรรม ตอ้ งได้ระดับคณุ ภาพ ดี ข้นึ ไป 32

บันทึกหลังสอน รายวชิ า ฟสิ กิ ส์ 6 (ว 33202) ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 6/1 หน่วยท่ี 1 เรื่อง ฟสิ ิกส์อะตอม จำนวน 32 ชวั่ โมง แผนท่ี ...3...เร่ือง ....ทฤษฎีอะตอมของโบร์.... จำนวน …2...ชั่วโมง 1. ผลการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1.1 ดา้ นพทุ ธิพสิ ัย (K) ...นกั เรียนสามารถอธิบายโครงสร้างอะตอมตามแบบจำลองอะตอมของทอมสันและ รทั เทอร์ฟอรด์ และตอบคำถามได้.... 1.2 ด้านทักษะพสิ ยั (P) ...นักเรยี นสามารถสืบคน้ และนำเสนอข้อมลู แบบจำลองอะตอมและวาดแบบจำลอง อะตอมอะตอมของทอมสันและรทั เทอร์ฟอรด์ ได.้ ... 1.3 ดา้ นจติ พิสยั (A) ....นักเรยี นมคี วามกระตือรอื รน้ ในการเรยี นรู้ และมีความมงุ่ ม่นั ในการเรยี นร.ู้ .... 2. ผลการเรยี นของนักเรยี น 2.1 จำนวนท้ังหมด ...23.... คน เขา้ เรียน ....21...... คน ขาดเรยี น....2..... คน 2.2 ผลการประเมิน จุดประสงค์ ผา่ นเกณฑ์ จำนวนนักเรียน (คน) 21 ไมผ่ ่านเกณฑ์ ไม่เข้ารบั การประเมิน ดา้ นพทุ ธพิ สิ ยั 21 -2 ดา้ นทกั ษะพิสยั 21 -2 ดา้ นจิตพิสยั -2 3. ปัญหาและอปุ สรรค ....นกั เรียนทไ่ี มเ่ ข้าเรยี นในคาบจะไม่ได้รบั การประเมนิ .... 4. ขอ้ เสนอแนะแนวทางการแก้ปัญหา ....เปดิ โอกาสให้นกั เรียนส่งงานเพม่ิ เติมและตรวจสอบได้ใน Facebook group ................... ลงชือ่ (นางอานีซา แวอูมา) ครผู ู้สอน 33

บนั ทึกหลังสอน รายวิชา ฟิสิกส์ 6 (ว 33202) ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 6/4 หนว่ ยที่ 1 เรือ่ ง ฟสิ ิกส์อะตอม จำนวน 32 ชวั่ โมง แผนที่ ...3...เรอ่ื ง ....ทฤษฎีอะตอมของโบร์.... จำนวน …2...ชั่วโมง 1. ผลการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ 1.1 ดา้ นพทุ ธิพิสัย (K) ...นักเรยี นสามารถอธบิ ายโครงสร้างอะตอมตามแบบจำลองอะตอมของทอมสันและ รัทเทอร์ฟอร์ดและตอบคำถามได.้ ... 1.2 ดา้ นทกั ษะพสิ ัย (P) ...นกั เรียนสามารถสบื คน้ และนำเสนอข้อมลู แบบจำลองอะตอมและวาดแบบจำลอง อะตอมอะตอมของทอมสนั และรัทเทอร์ฟอรด์ ได้.... 1.3 ดา้ นจติ พสิ ัย (A) ....นักเรยี นมคี วามกระตือรือร้นในการเรียนรู้ และมคี วามมงุ่ ม่นั ในการเรยี นร.ู้ .... 2. ผลการเรยี นของนักเรียน 2.1 จำนวนท้ังหมด ...37.... คน เขา้ เรยี น ....33...... คน ขาดเรียน....6..... คน 2.2 ผลการประเมิน จดุ ประสงค์ ผ่านเกณฑ์ จำนวนนกั เรียน (คน) 33 ไมผ่ ่านเกณฑ์ ไม่เขา้ รับการประเมนิ ดา้ นพุทธิพิสัย 33 -6 ดา้ นทักษะพสิ ยั 33 -6 ด้านจติ พสิ ัย -6 3. ปัญหาและอุปสรรค ....นกั เรยี นทไี่ ม่เข้าเรยี นในคาบจะไม่ไดร้ ับการประเมิน.... 4. ขอ้ เสนอแนะแนวทางการแกป้ ัญหา ....เปดิ โอกาสใหน้ กั เรียนส่งงานเพ่มิ เติมและตรวจสอบได้ใน Facebook group ................... ลงชอื่ (นางอานีซา แวอูมา) ครผู ูส้ อน 34

บันทกึ หลังสอน รายวิชา ฟิสิกส์ 6 (ว 33202) ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 6/6 หนว่ ยที่ 1 เรือ่ ง ฟสิ ิกส์อะตอม จำนวน 32 ชวั่ โมง แผนที่ ...3...เรอ่ื ง ....ทฤษฎีอะตอมของโบร์.... จำนวน …2...ชั่วโมง 1. ผลการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ 1.1 ดา้ นพทุ ธิพิสัย (K) ...นักเรยี นสามารถอธิบายโครงสร้างอะตอมตามแบบจำลองอะตอมของทอมสันและ รัทเทอร์ฟอร์ดและตอบคำถามได.้ ... 1.2 ดา้ นทกั ษะพสิ ัย (P) ...นกั เรียนสามารถสบื คน้ และนำเสนอข้อมลู แบบจำลองอะตอมและวาดแบบจำลอง อะตอมอะตอมของทอมสนั และรัทเทอร์ฟอร์ดได้.... 1.3 ดา้ นจติ พสิ ัย (A) ....นักเรยี นมคี วามกระตือรอื รน้ ในการเรียนรู้ และมคี วามมงุ่ ม่นั ในการเรยี นร.ู้ .... 2. ผลการเรยี นของนักเรียน 2.1 จำนวนท้ังหมด ...36.... คน เขา้ เรยี น ....30...... คน ขาดเรียน....6..... คน 2.2 ผลการประเมิน จดุ ประสงค์ ผ่านเกณฑ์ จำนวนนกั เรียน (คน) 30 ไมผ่ ่านเกณฑ์ ไม่เขา้ รับการประเมนิ ดา้ นพุทธิพิสัย 30 -6 ดา้ นทักษะพสิ ยั 30 -6 ด้านจติ พสิ ัย -6 3. ปัญหาและอุปสรรค ....นกั เรียนทไี่ ม่เข้าเรยี นในคาบจะไม่ไดร้ ับการประเมนิ .... 4. ขอ้ เสนอแนะแนวทางการแกป้ ัญหา ....เปดิ โอกาสใหน้ กั เรียนส่งงานเพ่มิ เติมและตรวจสอบได้ใน Facebook group ................... ลงชื่อ (นางอานีซา แวอูมา) ครผู ูส้ อน 35

ความคิดเห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้ ได้ทำการตรวจแผนการจดั การเรยี นรูข้ อง นางอานซี า แวอูมา แลว้ มีความคิดเห็นดงั น้ี (ใส่เคร่อื งหมาย  ในช่อง  ที่ตรงตามข้อความท่ีกำหนด)  การกำหนดจดุ ประสงค์การเรียนรสู้ อดคลอ้ งกบั ตัวชว้ี ดั / ผลการเรยี นรู้  การเขียนองคป์ ระกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ถูกต้องครบถ้วนทกุ หวั ข้อ  การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้เน้นผเู้ รยี นเป็นสำคญั และบรรลจุ ดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้  การวดั ผลและประเมนิ ผลสอดคลอ้ งกับจดุ ประสงค์การเรยี นรแู้ ละกิจกรรมการเรยี นรู้ ข้อเสนอแนะเพ่ิมเติม ............................................................................................................................. .................................................... ..................................................................................................................................... ลงชื่อ............................................... (นางภูรชิ ญา ชมู ณี) ตำแหนง่ ครู หวั หนา้ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ ความคดิ เหน็ ของรองผอู้ ำนวยการกลมุ่ บริหารงานวชิ าการ ............................................................................................................................. .................................................... ..................................................................................................................................... ลงช่อื ............................................... (นางสาวเพรศิ พิศ คหู ามุข) ตำแหนง่ รองผู้อำนวยการฝ่ายบรหิ ารกลุม่ งานวชิ าการ ความคิดเหน็ ของผู้อำนวยการโรงเรยี น  อนุมตั ิ  ไม่อนุมตั ิ เนื่องจาก................................................................................ ............................................................................................................... ............................................ ............................................................................................................................. .............................. ลงช่อื ............................................... (นายนพปฎล มณุ ีรตั น์) ตำแหน่งผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นคณะราษฎรบำรุง จงั หวัดยะลา 36

แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 4 กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวิชาฟิสกิ สเ์ พม่ิ เติม 6 ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 6 รหสั วิชา ว33202 หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 1 ฟสิ กิ ส์อะตอม เวลาเรียน 32 คาบ เร่อื ง ทฤษฎีอะตอมของโบร์ เวลาเรยี น 2 คาบ ครูผูส้ อน นางอานีซา แวอมู า โรงเรยี นคณะราษฎรบำรงุ จงั หวัดยะลา สพม.15 1. สาระวทิ ยาศาสตร์เพิม่ เติม สาระฟิสิกสข์ ้อท่ี 4 เข้าใจความสมั พันธ์ของความร้อนกบั การเปลย่ี นอุณหภูมแิ ละสถานะของสสาร สภาพยืดหยุน่ ของวัสดแุ ละมอดุลัสของยัง ความดันในของไหล แรงพยงุ และหลักของอารค์ ิมีดิส ความตึงผิวและ แรงหนืดของของเหลว ของไหลอุดมคติ และสมการแบรน์ ลู ลี กฎของแก๊ส ทฤษฎจี ลนข์ องแก๊สอุดมคติและ พลงั งานในระบบทฤษฎีอะตอมของโบร์ ปรากฏการณโ์ ฟโตอิเล็กทริก ทวิภาวะของคลื่นและอนภุ าค กมั มันตภาพรังสี แรงนวิ เคลียร์ ปฏิกริ ิยานวิ เคลียร์ พลงั งานนวิ เคลียร์ ฟิสกิ สอ์ นภุ าค รวมทงั้ นาํ ความรู้ไปใช้ ประโยชน์ 2. ผลการเรยี นรู้ อธิบายสมมตฐิ านของพลงั ค์ ทฤษฎอี ะตอมของโบร์ และการเกดิ เสน้ สเปกตรัมของอะตอมไฮโดรเจน รวมท้งั คำนวณปริมาณต่าง ๆ ทเ่ี กย่ี วข้อง 3. สาระสำคญั สเปกตรัมของแก๊สรอ้ นมีลักษณะเปน็ เสน้ ๆ แยกจากกันมไิ ดเ้ รียงกันอย่างต่อเน่ือง ขณะเดยี วกันจะเหน็ สเปกตรัมเสน้ สว่างของแก๊สแตล่ ะชนิดวา่ มีชดุ สเปกตรมั เส้นสว่างแตกตา่ งกนั ด้วย ซึง่ สเปกตรัมเหลา่ นีแ้ สดง สมบัติเฉพาะตวั ของธาตแุ ต่ละชนดิ 4. จุดประสงค์การเรยี นรู้ - อธบิ ายลักษณะสเปกตรัมของแกส๊ ร้อน(K2) - ทำการทดลองศึกษาลกั ษณะสเปกตรมั ของแกส๊ ร้อน(P2) - มีความกระตือรือร้นในการเรียนรู้ และมีความมุ่งมั่นในการทำงาน มีความซื่อสัตย์ มีวินัยต่อตนเอง และผู้อ่ืน (A1A2) 5. สาระการเรียนรู้ - สเปกตรัมของแก๊สร้อน 37

6. สมรรถนะสำคญั  4.1 ความสามารถในการส่อื สาร  4.4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ  4.2 ความสามารถในการคดิ  4.5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี  4.3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 7. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์  5.1 รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์  5.5 อยอู่ ยา่ งพอเพียง  5.2 ซ่ือสัตย์สตุ จริต  5.6 มงุ่ มนั่ ในการทำงาน  5.3 มีวินัย  5.7 รกั ความเปน็ ไทย  5.4 ใฝ่เรยี นรู้  5.8 มีจติ สาธารณะ 8. หลักฐานการจัดการเรยี นรู้ (ชิน้ งาน/ภาระงาน) - แบบทดสอบ 9. กิจกรรมการจดั การเรียนการสอน(วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5E ร่วมกบั การเรียนรู้แบบรว่ มมอื ) คาบท่ี 1 1 ขน้ั สร้างความสนใจ 1.1 ใหน้ ักเรียนดูวดี ทิ ัศน์ การเผาสารต่าง ๆ แลว้ ใหเ้ ปลวไฟที่มีสตี า่ งกนั เช่น ลิเทียมคลอไรด์ให้ เปลวไฟสีแดง โซเดียมคลอไรดใ์ ห้เปลวไฟสเี หลือง หรอื โพแทสเซยี มคลอไรด์ให้เปลวไฟ สีม่วง และตงั้ คำถามวา่ เหตุใดเมื่อเผาสารตา่ ง ๆ จึงได้เปลวไฟที่มสี ตี า่ งกัน 1.2 เปิดโอกาสใหน้ กั เรยี นแสดงความคิดเหน็ อย่างอสิ ระ ไม่คาดหวงั คำตอบทถ่ี ูกตอ้ ง 2 ขนั้ สำรวจและคน้ หา 2.1 นักเรียนแต่ละกลมุ่ สืบค้นหรอื ศกึ ษาจากกจิ กรรม การศึกษาสเปกตรัมของแก๊สร้อน 2.2 ใหน้ ักเรยี นดวู ิดิโอสาธิตการทดลองหาสเปกตรมั ของแก๊สไฮโดรเจน คาบที่ 2 3 ข้ันอธิบายและลงข้อสรุป 3.1 นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ นำเสนอผลการสบื คน้ และรว่ มกันอภริ าย 3.2 ครอู ธิบายเพิ่มเตมิ ผ่าน Powerpoint 4 ขั้นขยายความรู้ 4.1 นกั เรียนและครรู ่วมกันอภิปรายสรุปการทดลองสเปกตรมั และสรุปสาระสำคัญ ได้ดังนี้ 4.1.1. สเปกตรัมมกี ช่ี นดิ อะไรบา้ ง (3 ชนดิ คอื สเปกตรมั แบบตอ่ เน่ือง สเปกตรมั เส้น สว่าง และสเปกตรมั เสน้ มดื ) 4.1.2. สเปกตรมั ที่นกั เรียนทำการทดลองเปน็ สเปกตรัมชนดิ ใด (สเปกตรัมเส้นสว่าง) 4.1.3. สเปกตรมั ของแกส๊ ร้อนมลี กั ษณะอย่างไร (มลี กั ษณะเปน็ เสน้ ๆ แยกจากกนั มไิ ด้ เรียงกันอยา่ งต่อเนื่อง แกส๊ แต่ละชนิดมีลักษณะเสน้ สเปกตรมั เฉพาะตัว) 38

4.2 นักเรียนคำถามท้ายกิจกรรม 19.1 ในหนงั สอื เรยี นรายวชิ าเพมิ่ เตมิ ฟิสิกส์ เล่ม 6 ของ สสวท. 5 ขัน้ ประเมนิ 5.1 นักเรยี นทำแบบทดสอบ ใน Quizizz 5.2 นกั เรียนแต่ละคนพิจารณาเรื่องท่เี รยี นในคาบวา่ มเี ร่ืองใดทยี่ ังไมเ่ ข้าใจหรือยังมีข้อสงสยั และให้ นกั เรียนศกึ ษาเพมิ่ เตมิ ย้อนหลงั ได้จาก Facebook group ของแตล่ ะห้อง 10. ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้ - เอกสารประกอบการเรยี น เร่ือง ฟสิ กิ ส์อะตอม - Powerpoint เรือ่ ง ทฤษฎีอะตอมของโบร์ - หนงั สอื เรยี นรายวิชาเพ่ิมเติม ฟิสิกส์ เล่ม 6 ของ สสวท. - Facebook group ของแต่ละหอ้ ง 11. การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ • ด้านความรูค้ วามสามารถ เครือ่ งมอื วิธีการวดั เกณฑก์ ารประเมนิ คำถามในแผนการเรยี นรู้ การตอบคำถาม เกณฑ์ผ่าน 50 % • ดา้ นทักษะกระบวนการ เครอ่ื งมือ วิธกี ารวัด เกณฑ์การประเมิน แบบทดสอบ การตอบแบบทดสอบ เกณฑผ์ า่ น 50 % • ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ เครื่องมือ วิธีการวัด เกณฑก์ ารประเมนิ แบบสังเกตพฤติกรรม สังเกตพฤติกรรม ต้องไดร้ ะดบั คุณภาพ ดี ข้นึ ไป 39

บันทกึ หลังสอน รายวิชา ฟสิ กิ ส์ 6 (ว 33202) ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 6/1 หน่วยที่ 1 เร่ือง ฟิสกิ ส์อะตอม จำนวน 32 ชว่ั โมง แผนท่ี ...4...เรอ่ื ง ....ทฤษฎีอะตอมของโบร์.... จำนวน …2...ชัว่ โมง 1. ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1.1 ดา้ นพุทธพิ สิ ัย (K) ...นักเรียนสามารถอธิบายลักษณะสเปกตรัมของแกส๊ รอ้ นและตอบคำถามได้.... 1.2 ดา้ นทกั ษะพิสัย (P) ...นักเรยี นสามารถวิเคราะห์การทดลองศึกษาลักษณะสเปกตรัมของแก๊สร้อนได.้ ... 1.3 ด้านจิตพสิ ยั (A) ....นกั เรยี นมีความกระตือรอื ร้นในการเรียนรู้ และมคี วามมุ่งม่ันในการเรียนรู้..... 2. ผลการเรยี นของนกั เรียน 2.1 จำนวนท้ังหมด ...23.... คน เขา้ เรยี น ....20...... คน ขาดเรยี น....3..... คน 2.2 ผลการประเมนิ จุดประสงค์ ผา่ นเกณฑ์ จำนวนนักเรียน (คน) 20 ไม่ผา่ นเกณฑ์ ไมเ่ ข้ารบั การประเมิน ดา้ นพทุ ธิพสิ ยั 21 -3 ดา้ นทกั ษะพิสยั 21 -3 ด้านจติ พสิ ัย -3 3. ปญั หาและอปุ สรรค ....นกั เรียนทีไ่ ม่เขา้ เรยี นในคาบจะไม่ไดร้ บั การประเมิน.... 4. ขอ้ เสนอแนะแนวทางการแก้ปญั หา ....เปดิ โอกาสใหน้ กั เรยี นส่งงานเพ่มิ เติมและตรวจสอบได้ใน Facebook group ................... ลงชือ่ (นางอานซี า แวอมู า) ครูผสู้ อน 40

บันทกึ หลังสอน รายวิชา ฟสิ กิ ส์ 6 (ว 33202) ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 6/4 หน่วยที่ 1 เร่ือง ฟิสกิ ส์อะตอม จำนวน 32 ช่วั โมง แผนท่ี ...4...เรอ่ื ง ....ทฤษฎีอะตอมของโบร์.... จำนวน …2...ชั่วโมง 1. ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1.1 ดา้ นพุทธพิ สิ ัย (K) ...นักเรียนสามารถอธิบายลักษณะสเปกตรัมของแกส๊ รอ้ นและตอบคำถามได้.... 1.2 ดา้ นทกั ษะพิสัย (P) ...นักเรยี นสามารถวิเคราะห์การทดลองศึกษาลักษณะสเปกตรัมของแก๊สร้อนได.้ ... 1.3 ด้านจิตพสิ ยั (A) ....นกั เรยี นมีความกระตือรอื ร้นในการเรียนรู้ และมคี วามมุ่งมนั่ ในการเรยี นรู้..... 2. ผลการเรยี นของนกั เรียน 2.1 จำนวนท้ังหมด ...37.... คน เขา้ เรยี น ....34...... คน ขาดเรยี น....3..... คน 2.2 ผลการประเมนิ จุดประสงค์ ผา่ นเกณฑ์ จำนวนนักเรียน (คน) 34 ไม่ผา่ นเกณฑ์ ไมเ่ ข้ารบั การประเมิน ดา้ นพทุ ธิพสิ ยั 34 -3 ดา้ นทกั ษะพิสยั 34 -3 ด้านจติ พสิ ัย -3 3. ปญั หาและอปุ สรรค ....นกั เรียนทีไ่ ม่เขา้ เรยี นในคาบจะไม่ไดร้ บั การประเมิน.... 4. ขอ้ เสนอแนะแนวทางการแก้ปญั หา ....เปดิ โอกาสใหน้ กั เรยี นส่งงานเพ่มิ เติมและตรวจสอบได้ใน Facebook group ................... ลงชือ่ (นางอานซี า แวอมู า) ครูผสู้ อน 41

บันทกึ หลังสอน รายวชิ า ฟิสกิ ส์ 6 (ว 33202) ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 6/6 หน่วยท่ี 1 เรอื่ ง ฟิสิกส์อะตอม จำนวน 32 ช่ัวโมง แผนที่ ...4...เรือ่ ง ....ทฤษฎีอะตอมของโบร์.... จำนวน …2...ชั่วโมง 1. ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1.1 ด้านพทุ ธพิ สิ ัย (K) ...นักเรียนสามารถอธิบายลักษณะสเปกตรัมของแกส๊ รอ้ นและตอบคำถามได.้ ... 1.2 ดา้ นทกั ษะพสิ ัย (P) ...นกั เรยี นสามารถวิเคราะห์การทดลองศึกษาลักษณะสเปกตรัมของแก๊สร้อนได.้ ... 1.3 ด้านจิตพสิ ัย (A) ....นกั เรยี นมีความกระตือรอื ร้นในการเรียนรู้ และมีความมงุ่ ม่ันในการเรยี นร้.ู .... 2. ผลการเรียนของนกั เรยี น 2.1 จำนวนทั้งหมด ...36.... คน เขา้ เรียน ....34...... คน ขาดเรียน....2.... คน 2.2 ผลการประเมนิ จุดประสงค์ ผ่านเกณฑ์ จำนวนนักเรียน (คน) 34 ไมผ่ า่ นเกณฑ์ ไม่เข้ารบั การประเมนิ ดา้ นพุทธพิ ิสัย 34 -2 ดา้ นทักษะพิสัย 34 -2 ดา้ นจติ พสิ ัย -2 3. ปญั หาและอุปสรรค ....นกั เรยี นที่ไม่เขา้ เรยี นในคาบจะไม่ไดร้ บั การประเมิน.... 4. ข้อเสนอแนะแนวทางการแก้ปัญหา ....เปิดโอกาสให้นักเรยี นส่งงานเพ่มิ เติมและตรวจสอบได้ใน Facebook group ................... ลงชอ่ื (นางอานซี า แวอูมา) ครูผ้สู อน 42

ความคิดเหน็ ของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้ ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ของ นางอานีซา แวอูมา แล้วมคี วามคิดเหน็ ดงั น้ี (ใสเ่ ครอื่ งหมาย  ในชอ่ ง  ท่ตี รงตามข้อความที่กำหนด)  การกำหนดจดุ ประสงค์การเรยี นร้สู อดคล้องกบั ตัวช้ีวดั / ผลการเรยี นรู้  การเขียนองคป์ ระกอบของแผนการจดั การเรยี นรู้ถูกต้องครบถ้วนทุกหัวข้อ  การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้เน้นผเู้ รียนเปน็ สำคญั และบรรลจุ ุดประสงคก์ ารเรยี นรู้  การวดั ผลและประเมนิ ผลสอดคล้องกับจดุ ประสงค์การเรียนร้แู ละกิจกรรมการเรียนรู้ ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม ................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ........ ลงชื่อ............................................... (นางภูรชิ ญา ชมู ณ)ี ตำแหน่ง ครู หวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์ ความคดิ เหน็ ของรองผอู้ ำนวยการกลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ ................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ........ ลงชื่อ............................................... (นางสาวเพริศพิศ คหู ามุข) ตำแหนง่ รองผู้อำนวยการฝา่ ยบรหิ ารกล่มุ งานวิชาการ ความคิดเห็นของผู้อำนวยการโรงเรยี น  อนุมตั ิ  ไม่อนุมัติ เน่ืองจาก................................................................................ ............................................................................................................................. .............................. ............................................................................................................................. .............................. ลงชอื่ ............................................... (นายนพปฎล มณุ รี ัตน์) ตำแหน่งผอู้ ำนวยการโรงเรยี นคณะราษฎรบำรงุ จังหวดั ยะลา 43

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 5 กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาฟสิ กิ สเ์ พ่ิมเตมิ 6 ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 6 รหัสวชิ า ว33202 หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 1 ฟสิ ิกส์อะตอม เวลาเรียน 32 คาบ เร่ือง ทฤษฎอี ะตอมของโบร์ เวลาเรยี น 6 คาบ ครูผ้สู อน นางอานีซา แวอมู า โรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวดั ยะลา สพม.15 1. สาระวทิ ยาศาสตรเ์ พิ่มเติม สาระฟสิ กิ ส์ข้อท่ี 4 เข้าใจความสัมพันธ์ของความร้อนกับการเปลีย่ นอุณหภูมแิ ละสถานะของสสาร สภาพยืดหยุ่นของวัสดแุ ละมอดลุ ัสของยงั ความดนั ในของไหล แรงพยงุ และหลักของอาร์คิมีดิส ความตึงผิวและ แรงหนืดของของเหลว ของไหลอดุ มคติ และสมการแบรน์ ูลลี กฎของแกส๊ ทฤษฎจี ลนข์ องแกส๊ อุดมคติและ พลงั งานในระบบทฤษฎอี ะตอมของโบร์ ปรากฏการณ์โฟโตอิเลก็ ทริก ทวภิ าวะของคลนื่ และอนภุ าค กัมมันตภาพรังสี แรงนวิ เคลียร์ ปฏกิ ิริยานวิ เคลยี ร์ พลังงานนวิ เคลียร์ ฟสิ ิกส์อนุภาค รวมทัง้ นําความรู้ไปใช้ ประโยชน์ 2. ผลการเรียนรู้ อธบิ ายสมมตฐิ านของพลังค์ ทฤษฎีอะตอมของโบร์ และการเกดิ เสน้ สเปกตรัมของอะตอมไฮโดรเจน รวมทง้ั คำนวณปรมิ าณต่าง ๆ ที่เกยี่ วข้อง 3. สาระสำคญั สเปกตรัมของแกส๊ เชน่ ไฮโดรเจนและนอี อน ในช่วงที่ตามองเห็น มลี ักษณะเป็นเสน้ แยกออกจาก กนั เรียกว่าสเปกตรมั แบบเส้น (line spectrum) โบร์อธบิ ายสเปกตรมั แบบเส้นของแกส๊ ไฮโดรเจน โดยเสนอ ทฤษฎีอะตอมของไฮโดรเจนมีใจความวา่ อเิ ล็กตรอนทีโ่ คจรรอบนวิ เคลียสโดยไม่แผ่คลนื่ แมเ่ หลก็ ไฟฟา้ นนั้ จะอยู่ ในวงโคจรเฉพาะบางคา่ ที่มีโมเมนตัมเชงิ มุมตามสมการ mvr = nħ ทำใหม้ ีรศั มีวงโคจรตามสมการ และมีพลงั งานรวมของอเิ ลก็ ตรอนในวงโคจรตามสมการ เมอ่ื อิเลก็ ตรอนเปลี่ยนวงโคจร จะมกี ารรับหรือปลอ่ ยพลังงานบางค่าออกมาในรปู ของคลื่นแม่เหลก็ ไฟฟา้ ตาม สมมตฐิ านของพลังค์ตามสมการ hf = Ei − Ef ทฤษฎอี ะตอมของโบร์สามารถใช้คำนวณหาพลงั งานของอะตอม ไฮโดรเจนท่สี ถานะพื้นมคี ่า E1 = -21.76 × 10-19 J หรอื -13.6 eV พลงั งานทส่ี ถานะถกู กระตนุ้ ตามสมการ เม่อื n = 2,3,4... และนำไปใช้คำนวณหาความยาวคลืน่ ของสเปกตรัมชุดตา่ ง ๆ ของไฮโดรเจน ตามสมการ 44

4. จุดประสงค์การเรียนรู้ - อธิบายทฤษฎีอะตอมของโบร์และการเกิดเส้นสเปกตรมั ของอะตอมไฮโดรเจน (K2) - สืบคน้ และนำเสนอขอ้ มูลทฤษฎีอะตอมของโบร์ (P3) - คำนวณรัศมวี งโคจรของอิเลก็ ตรอน พลังงานอะตอมของไฮโดรเจน และความยาวคลืน่ ของ แสงในสเปกตรมั แบบเส้นตามทฤษฎอี ะตอมของโบร์ (P2) - มีความกระตือรือร้นในการเรียนรู้ และมีความมุ่งมั่นในการทำงาน มีความซื่อสัตย์ มีวินัยต่อตนเอง และผู้อน่ื (A1A2) 5. สาระการเรยี นรู้ - ทฤษฎีอะตอมของโบร์ 6. สมรรถนะสำคญั  4.1 ความสามารถในการสอื่ สาร  4.4. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต  4.2 ความสามารถในการคิด  4.5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี  4.3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 7. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์  5.1 รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์  5.5 อยู่อยา่ งพอเพียง  5.2 ซอ่ื สัตยส์ ตุ จรติ  5.6 ม่งุ ม่ันในการทำงาน  5.3 มีวนิ ยั  5.7 รักความเป็นไทย  5.4 ใฝเ่ รยี นรู้  5.8 มจี ติ สาธารณะ 8. หลักฐานการจัดการเรียนรู้ (ชนิ้ งาน/ภาระงาน) - แบบฝึกหดั 9. กิจกรรมการจัดการเรียนการสอน(วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5E โดยใช้ SAR MODEL ร่วมกบั การ เรียนรู้แบบร่วมมือ) คาบท่ี 1 และ 2 1 ข้ันสร้างความสนใจ 1.2 นำอภิปรายโดยตงั้ คำถามว่า เหตุใดอะตอมของไฮโดรเจนจงึ ปลอ่ ยพลงั งานคลน่ื แมเ่ หล็กไฟฟ้า เฉพาะบางความยาวคลนื่ หรือสเปกตรมั แบบเส้น 1.3 เปิดโอกาสให้นักเรียนแสดงความคิดเหน็ อยา่ งอสิ ระ ไม่คาดหวงั คำตอบท่ีถูกต้อง 2 ขน้ั สำรวจและคน้ หา 2.1 นกั เรียนสืบคน้ เพ่ือหาคำตอบ จากประเด็นคำถามดังนี้ 2.1.1 จากทฤษฎีอะตอมของโบร์ อเิ ลก็ ตรอนโคจรอย่รู อบนิวเคลยี สไดอ้ ยา่ งไร 2.1.2 ขณะอิเล็กตรอนเคลื่อนที่รอบนวิ เคลยี ส อิเลก็ ตรอนมีพลังงานอะไรบา้ ง 2.1.3 ความรเู้ รอื่ งระดบั พลังงานของอิเล็กตรอนในอะตอมไฮโดรเจน สามารถอธบิ ายการ เกดิ 45

สเปกตรมั แบบเสน้ ของอะตอมไฮโดรเจนได้อย่างไร คาบที่ 3 และ 4 3 ขนั้ อธบิ ายและลงข้อสรปุ 3.1 นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ นำเสนอผลการสบื ค้น และรว่ มกันอภริ าย 3.2 ครอู ธิบายเพิ่มเตมิ ผา่ น Powerpoint 3.3 นักเรยี นและครรู ว่ มกันอภิปรายสรุปการทดลองสเปกตรมั และสรปุ สาระสำคัญ ไดด้ งั น้ี 3.1.1. ทฤษฎีอะตอมของไฮโดรเจนมีใจความวา่ อิเล็กตรอนทโ่ี คจรรอบนวิ เคลียสโดยไม่แผ่คลน่ื แมเ่ หลก็ ไฟฟ้านั้น จะอยู่ในวงโคจรเฉพาะบางค่า ท่มี ีโมเมนตัมเชิงมมุ ตามสมการ mvr = nħ เมือ่ อิเล็กตรอน เปลี่ยนวงโคจร จะมีการรับหรือปล่อยพลังงานบางค่าออกมาในรูปของคล่นื แม่เหลก็ ไฟฟ้า ตามสมมตฐิ านของ พลงั ค์ตามสมการ hf = Ei − Ef 3.1.2 ทฤษฎอี ะตอมของโบร์สามารถใชค้ ำนวณหารัศมวี งโคจรตามสมการ 3.1.3 ทฤษฎอี ะตอมของโบรส์ ามารถใช้คำนวณหาพลงั งานของอะตอมไฮโดรเจนท่สี ถานะพนื้ มี คา่ E1 = -21.76 × 10-19 J หรอื -13.6 eV พลงั งานท่ีสถานะถกู กระตุ้น ตามสมการ เมอ่ื n = 2,3,4... และนำไปใช้คำนวณหาความยาวคลื่นของสเปกตรมั ชดุ ตา่ ง ๆ ของไฮโดรเจน ตามสมการ 3.4 ครูอธบิ ายการคำนวณหาคา่ ปริมาณตา่ งๆ (SAR MODEL) ตวั อย่างที่ 1 จากสมมติฐานของโบร์เก่ียวกับอะตอมไฮโดรเจน จงหา - อัตราส่วนของรัศมีของวงโคจรท่ี 4 ต่อวงโคจรท่ี 2 - อัตราส่วนของอตั ราเรว็ เชิงเส้นในวงโคจรท่ี 4 ตอ่ วงโคจรท่ี 2 - อตั ราสว่ นของพลังงานในวงโคจรท่ี 4 ตอ่ วงโคจรที่ 2 วิธีทำ S: r4/r2=? , v4/v2=?, E4/E2=? ,rn=r0n2 ,vn=v1/n ,En=E1/n2 A: rn = r0n2 vn = v1/n En=E1/n2 ������4 = ������042 =������4 ������1 =������4 ������1 ������022 4 42 ������2 ������1 ������2 2 ������2 ������1 22 =4 = 1/2 = 1/4 R: นกั เรยี นตรวจสอบความถูกตอ้ งของวธิ กี ารและคำตอบ หากมีความผิดพลาดให้แสดงความคิดเหน็ และหาข้อสรปุ 46

ตัวอยา่ งที่ 2 จากรูป แสดงระดับพลังงาน 3 ระดับของอะตอมไฮโดรเจน ถ้าอิเลก็ ตรอนถูกกระตนุ้ ให้อยู่ ทร่ี ะดับพลงั งาน n=3 กลบั ส่สู ถานะพน้ื ที่มีระดับพลงั งาน n=1 จะเกดิ เส้นสเปกตรมั ทง้ั หมดกีเ่ ส้น แต่ละเสน้ มี ความถี่เท่าใด วธิ ที ำ S: E1 =-21.76  10-19 J , E2 =-5.44  10-19 J , E3 =-2.42  10-19 J ,ni=3 ,nf=1 ,f =? , E=hf, ∆E= Ei -Ef  A: hf = Ei -Ef  f1 = E3 -E1 / h = -2.42  10-19 - -21.76  10-19  /6.626  10-34 = 2.918  1015 Hz ตอบ f2 = E3 -E2 / h = -2.42  10-19 - -5.44  10-19  /6.626  10-34 = 0.455  1015 Hz ตอบ f3 = E2 -E1 / h = -5.44  10-19 - -21.76  10-19  /6.626  10-34 = 2.4  1015 Hz ตอบ R: นักเรยี นตรวจสอบความถูกต้องของวิธีการและคำตอบ หากมคี วามผิดพลาดให้แสดงความคดิ เหน็ และหาข้อสรปุ ตวั อยา่ งท่ี 3 สเปกตรมั แบบเส้นทีเ่ กดิ จากการเปล่ยี นระดบั พลังงานจาก n = 7 ไปยัง n = 2 ของ อะตอมไฮโดรเจน เปน็ แสงท่ีตามองเห็นได้หรือไม่ เพราะเหตใุ ด วธิ ีทำ S: ni=7 ,nf=2 , 1 = ������������ (���1������2��� − ���1������2��� ) ������ A: λ = 396.90 × 10-9 m = 396.90 nm ซึ่งอยูใ่ นชว่ งรงั สีเหนอื มว่ ง จึงไม่สามารถมองเห็นได้ R: นกั เรียนตรวจสอบความถูกตอ้ งของวธิ กี ารและคำตอบ หากมีความผิดพลาดให้แสดงความคดิ เห็น และหาข้อสรปุ 47

4 ขนั้ ขยายความรู้ 4.1 นักเรียนออกมาแก้โจทย์ปญั หาทีค่ รกู ำหนด โดยใช้ SAR MODEL รว่ มกับเทคนคิ Think-Pair- Share 4.2 นักเรียนศึกษาค้นควา้ หาความรู้เพ่ิมเติม จากหนังสือเรียนสาระการเรยี นรู้พนื้ ฐานและเพิ่มเติม ฟสิ กิ ส์ เลม่ 6 หนงั สือคมู่ ือในหอ้ งสมุดโรงเรยี น สบื คน้ จากอนิ เทอรเ์ น็ต เพ่อื ความเข้าใจยิง่ ขึน้ คาบที่ 5 และ 6 (ONDEMAND) 5 ขั้นประเมิน 5.1 นักเรยี นทุกคนทำแบบฝึกหดั ในเอกสารประกอบการเรียน แบบฝึกหดั ท่ี 19.1.2 5.2 ครเู ฉลยคำตอบในแบบฝึกหัด พรอ้ มใหน้ ักเรยี นแก้ไขใหถ้ กู ต้อง 10. ส่อื /แหลง่ การเรียนรู้ - เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง ฟสิ ิกส์อะตอม - Powerpoint เรอื่ ง ทฤษฎอี ะตอมของโบร์ - หนงั สอื เรยี นรายวิชาเพม่ิ เติม ฟสิ กิ ส์ เลม่ 6 ของ สสวท. - Facebook group ของแต่ละห้อง 11. การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ • ดา้ นความรูค้ วามสามารถ เครอ่ื งมอื วธิ กี ารวัด เกณฑก์ ารประเมนิ คำถามในแผนการเรียนรู้ การตอบคำถาม เกณฑผ์ ่าน 50 % • ด้านทักษะกระบวนการ เครอื่ งมือ วิธีการวัด เกณฑก์ ารประเมิน แบบฝึกหดั การแกโ้ จทย์ปัญหา เกณฑ์ผ่าน 50 % • ด้านคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ เครอื่ งมือ วิธกี ารวัด เกณฑก์ ารประเมิน แบบสงั เกตพฤติกรรม สังเกตพฤตกิ รรม ตอ้ งไดร้ ะดบั คณุ ภาพ ดี ข้ึนไป 48

บันทึกหลังสอน รายวชิ า ฟสิ ิกส์ 6 (ว 33202) ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6/1 หน่วยที่ 1 เรอ่ื ง ฟสิ กิ ส์อะตอม จำนวน 32 ชั่วโมง แผนท่ี ...5...เร่ือง ....ทฤษฎอี ะตอมของโบร์.... จำนวน …6...ชัว่ โมง 1. ผลการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ 1.1 ดา้ นพุทธพิ สิ ัย (K) ...นกั เรยี นสามารถอธิบายทฤษฎีอะตอมของโบรแ์ ละการเกิดเส้นสเปกตรัมของอะตอม ไฮโดรเจน และตอบคำถามได้.... 1.2 ด้านทักษะพสิ ยั (P) ...นกั เรยี นสามารถสืบค้น และนำเสนอขอ้ มูลทฤษฎีอะตอมของโบร์ คำนวณรัศมีวง โคจรของอิเลก็ ตรอน พลังงานอะตอมของไฮโดรเจน และความยาวคลื่นของแสงในสเปกตรมั แบบเสน้ ตามทฤษฎี อะตอมของโบร์ได้.... 1.3 ดา้ นจิตพิสยั (A) ....นักเรยี นมีความกระตือรอื รน้ ในการเรยี นรู้ และมีความมงุ่ มั่นในการเรยี นรู.้ .... 2. ผลการเรยี นของนักเรียน 2.1 จำนวนทงั้ หมด ...23.... คน เขา้ เรียน ....20...... คน ขาดเรยี น....3..... คน 2.2 ผลการประเมิน จดุ ประสงค์ ผา่ นเกณฑ์ จำนวนนกั เรียน (คน) 20 ไม่ผ่านเกณฑ์ ไมเ่ ขา้ รับการประเมนิ ดา้ นพทุ ธิพิสยั 21 -3 ดา้ นทกั ษะพิสัย 21 -2 ดา้ นจิตพิสัย -2 3. ปัญหาและอปุ สรรค ....นักเรยี นทไี่ ม่เขา้ เรียนในคาบจะไม่ไดร้ บั การประเมนิ .... 4. ขอ้ เสนอแนะแนวทางการแก้ปญั หา ....เปดิ อากสใหน้ กั เรียนสง่ งานเพิ่มเติมและตรวจสอบไดใ้ น Facebook group ................... ลงช่ือ (นางอานีซา แวอูมา) ครผู สู้ อน 49

บนั ทกึ หลังสอน รายวิชา ฟสิ กิ ส์ 6 (ว 33202) ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 6/4 หน่วยท่ี 1 เรอื่ ง ฟิสกิ ส์อะตอม จำนวน 32 ช่วั โมง แผนท่ี ...5...เร่อื ง ....ทฤษฎอี ะตอมของโบร์.... จำนวน …6...ช่วั โมง 1. ผลการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ 1.1 ด้านพุทธพิ สิ ัย (K) ...นกั เรยี นสามารถอธิบายทฤษฎีอะตอมของโบร์และการเกิดเสน้ สเปกตรัมของ อะตอมไฮโดรเจน และตอบคำถามได.้ ... 1.2 ด้านทักษะพสิ ยั (P) ...นักเรียนสามารถสบื คน้ และนำเสนอข้อมลู ทฤษฎีอะตอมของโบร์ คำนวณรัศมวี ง โคจรของอเิ ล็กตรอน พลงั งานอะตอมของไฮโดรเจน และความยาวคลืน่ ของแสงในสเปกตรมั แบบเส้นตามทฤษฎี อะตอมของโบร์ได.้ ... 1.3 ด้านจิตพิสัย (A) ....นกั เรยี นมคี วามกระตือรือร้นในการเรียนรู้ และมคี วามมุง่ ม่นั ในการเรยี นร.ู้ .... 2. ผลการเรียนของนกั เรยี น 2.1 จำนวนทั้งหมด ...37.... คน เข้าเรียน ....34...... คน ขาดเรียน....3..... คน 2.2 ผลการประเมนิ จดุ ประสงค์ ผา่ นเกณฑ์ จำนวนนกั เรียน (คน) 34 ไมผ่ ่านเกณฑ์ ไมเ่ ข้ารบั การประเมิน ดา้ นพุทธพิ สิ ยั 34 -3 ดา้ นทักษะพสิ ัย 34 -3 ดา้ นจิตพิสยั -3 3. ปญั หาและอปุ สรรค ....นกั เรยี นท่ไี ม่เขา้ เรยี นในคาบจะไม่ไดร้ บั การประเมิน.... 4. ขอ้ เสนอแนะแนวทางการแกป้ ัญหา ....เปิดอากสใหน้ ักเรียนสง่ งานเพม่ิ เติมและตรวจสอบไดใ้ น Facebook group ................... ลงชอื่ (นางอานซี า แวอูมา) ครผู ้สู อน 50

บนั ทกึ หลังสอน รายวิชา ฟสิ กิ ส์ 6 (ว 33202) ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 6/6 หน่วยท่ี 1 เรอื่ ง ฟิสกิ ส์อะตอม จำนวน 32 ช่ัวโมง แผนท่ี ...5...เร่อื ง ....ทฤษฎอี ะตอมของโบร์.... จำนวน …6...ชวั่ โมง 1. ผลการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ 1.1 ด้านพุทธพิ สิ ัย (K) ...นกั เรยี นสามารถอธิบายทฤษฎีอะตอมของโบรแ์ ละการเกิดเส้นสเปกตรัมของ อะตอมไฮโดรเจน และตอบคำถามได.้ ... 1.2 ด้านทักษะพสิ ยั (P) ...นักเรียนสามารถสบื คน้ และนำเสนอขอ้ มูลทฤษฎีอะตอมของโบร์ คำนวณรัศมีวง โคจรของอเิ ล็กตรอน พลงั งานอะตอมของไฮโดรเจน และความยาวคลน่ื ของแสงในสเปกตรมั แบบเส้นตามทฤษฎี อะตอมของโบร์ได.้ ... 1.3 ด้านจิตพิสัย (A) ....นกั เรยี นมคี วามกระตือรือร้นในการเรียนรู้ และมีความม่งุ มั่นในการเรยี นร้.ู .... 2. ผลการเรียนของนกั เรยี น 2.1 จำนวนทั้งหมด ...36.... คน เข้าเรียน ....34...... คน ขาดเรียน....2.... คน 2.2 ผลการประเมนิ จดุ ประสงค์ ผา่ นเกณฑ์ จำนวนนกั เรยี น (คน) 34 ไมผ่ ่านเกณฑ์ ไมเ่ ข้ารับการประเมนิ ดา้ นพุทธพิ สิ ยั 34 -2 ดา้ นทักษะพสิ ัย 34 -2 ดา้ นจิตพิสยั -2 3. ปญั หาและอปุ สรรค ....นกั เรยี นท่ไี ม่เขา้ เรยี นในคาบจะไม่ไดร้ บั การประเมิน.... 4. ขอ้ เสนอแนะแนวทางการแกป้ ัญหา ....เปิดอากสใหน้ ักเรียนสง่ งานเพม่ิ เติมและตรวจสอบไดใ้ น Facebook group ................... ลงชือ่ (นางอานซี า แวอูมา) ครผู ู้สอน 51

ความคดิ เห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้ ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรยี นรู้ของ นางอานีซา แวอูมา แลว้ มีความคิดเห็นดงั นี้ (ใสเ่ ครอ่ื งหมาย  ในช่อง  ที่ตรงตามขอ้ ความท่ีกำหนด)  การกำหนดจดุ ประสงค์การเรียนรู้สอดคลอ้ งกับตัวชีว้ ดั / ผลการเรยี นรู้  การเขยี นองค์ประกอบของแผนการจดั การเรยี นรู้ถูกต้องครบถว้ นทกุ หวั ข้อ  การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้เน้นผ้เู รียนเปน็ สำคัญ และบรรลุจดุ ประสงค์การเรียนรู้  การวัดผลและประเมนิ ผลสอดคล้องกบั จดุ ประสงค์การเรียนรแู้ ละกจิ กรรมการเรียนรู้ ขอ้ เสนอแนะเพ่ิมเติม ............................................................................................................................. .................................................... ............................................................................................................................. ........ ลงชื่อ............................................... (นางภูรชิ ญา ชมู ณ)ี ตำแหนง่ ครู หวั หนา้ กลุม่ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์ ความคิดเห็นของรองผูอ้ ำนวยการกลุ่มบริหารงานวชิ าการ ............................................................................................................................. .................................................... ..................................................................................................................................... ลงช่ือ............................................... (นางสาวเพรศิ พิศ คูหามุข) ตำแหน่งรองผู้อำนวยการฝา่ ยบรหิ ารกล่มุ งานวชิ าการ ความคิดเหน็ ของผ้อู ำนวยการโรงเรยี น  อนมุ ตั ิ  ไมอ่ นุมัติ เน่ืองจาก................................................................................ ........................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .............................. ลงชือ่ ............................................... (นายนพปฎล มุณีรตั น์) ตำแหนง่ ผู้อำนวยการโรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จงั หวัดยะลา 52

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 6 กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาฟสิ ิกส์เพิ่มเติม 6 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 6 รหัสวชิ า ว33202 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 ฟสิ ิกสอ์ ะตอม เวลาเรยี น 32 คาบ เร่อื ง ทฤษฎีอะตอมของโบร์ เวลาเรียน 2 คาบ ครูผสู้ อน นางอานีซา แวอูมา โรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จงั หวัดยะลา สพม.15 1. สาระวิทยาศาสตร์เพม่ิ เติม สาระฟิสิกสข์ ้อท่ี 4 เข้าใจความสัมพนั ธ์ของความร้อนกบั การเปล่ียนอณุ หภูมิและสถานะของสสาร สภาพยดื หยนุ่ ของวัสดุและมอดุลสั ของยัง ความดันในของไหล แรงพยงุ และหลักของอาร์คมิ ีดสิ ความตึงผวิ และ แรงหนืดของของเหลว ของไหลอุดมคติ และสมการแบร์นลู ลี กฎของแกส๊ ทฤษฎีจลนข์ องแก๊สอุดมคติและ พลงั งานในระบบทฤษฎีอะตอมของโบร์ ปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริก ทวภิ าวะของคลื่นและอนุภาค กมั มันตภาพรงั สี แรงนวิ เคลยี ร์ ปฏิกิริยานวิ เคลยี ร์ พลงั งานนิวเคลียร์ ฟิสิกส์อนุภาค รวมทงั้ นําความรู้ไปใช้ ประโยชน์ 2. ผลการเรียนรู้ อธบิ ายสมมตฐิ านของพลังค์ ทฤษฎอี ะตอมของโบร์ และการเกิดเสน้ สเปกตรมั ของอะตอมไฮโดรเจน รวมทัง้ คำนวณปริมาณตา่ ง ๆ ที่เกย่ี วข้อง 3. สาระสำคัญ ทฤษฎอี ะตอมของโบร์เป็นแบบจำลองอะตอมท่ีอาศัยความคดิ ทีเ่ ก่ยี วกับควอนตัมของพลังงานทม่ี ีคา่ ไม่ ตอ่ เน่ืองซ่ึงสามารถอธิบายสเปกตรัมเป็นเสน้ ของอะตอมไฮโดรเจนได้ และการผลติ รังสีเอกซ์ โดยมกี ารทดลอง ของฟรงั ก์และเฮริ ตซ์สนับสนุทฤษฎอี ะตอมของโบร์ 4. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ - อธบิ ายการทดลองของฟรังกแ์ ละเฮริ ตซ์ และการเกิดรังสีเอกซ์(K2) - อธิบายความไม่สมบรู ณข์ องทฤษฎีอะตอมของโบร์ได้(K2) - สบื คน้ และนำเสนอขอ้ มลู การทดลองของฟรังก์และเฮริ ตซ์ การเกิดรงั สเี อกซ์ และความไม่สมบูรณ์ ของทฤษฎีอะตอมของโบร์(P2) - มคี วามกระตือรอื ร้นในการเรียนรู้ และมคี วามมุ่งม่ันในการทำงาน มคี วามซอื่ สัตย์ มวี ินยั ตอ่ ตนเอง และผูอ้ ืน่ (A1A2) 53

5. สาระการเรยี นรู้ - การทดลองของฟรังกแ์ ละเฮิรตซ์ - การเกดิ รังสีเอกซ์ - ความไมส่ มบรู ณ์ของทฤษฎีอะตอมของโบร์ 6. สมรรถนะสำคญั  4.1 ความสามารถในการส่อื สาร  4.4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ  4.2 ความสามารถในการคดิ  4.5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี  4.3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 7. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์  5.1 รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์  5.5 อยู่อย่างพอเพยี ง  5.2 ซอื่ สตั ยส์ ตุ จริต  5.6 มงุ่ ม่นั ในการทำงาน  5.3 มีวินยั  5.7 รักความเปน็ ไทย  5.4 ใฝเ่ รียนรู้  5.8 มจี ติ สาธารณะ 8. หลักฐานการจดั การเรยี นรู้ (ชิ้นงาน/ภาระงาน) - แบบทดสอบ 9. กิจกรรมการจดั การเรยี นการสอน(วธิ ีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5E รว่ มกับการเรยี นรู้แบบรว่ มมือ) คาบท่ี 1 1 ขน้ั สร้างความสนใจ 1.1 นำเข้าสู่บทเรียนโดยการทบทวนทฤษฎอี ะตอมของโบร์ 1.2 เปดิ โอกาสให้นกั เรยี นแสดงความคิดเห็น อย่างอิสระ ไมค่ าดหวงั คำตอบท่ถี ูกตอ้ ง 2 ขัน้ สำรวจและค้นหา 2.1 นกั เรยี นแตล่ ะกลุม่ สบื ค้น ประเดน็ 2.1.1 การทดลองของฟรงั กแ์ ละเฮิรตซ์ 2.1.2 การเกิดรงั สีเอกซ์ 2.1.3 ความไมส่ มบูรณข์ องทฤษฎีอะตอมของโบร์ 3 ขนั้ อธิบายและลงขอ้ สรปุ 3.1 นักเรียนแต่ละกลมุ่ นำเสนอผลการสืบค้น และร่วมกนั อภิราย 3.2 ครอู ธิบายเพ่ิมเตมิ ผา่ น Powerpoint คาบท่ี 2 4 ข้ันขยายความรู้ 4.1 นักเรยี นและครรู ่วมกันอภิปราย และสรปุ สาระสำคญั ได้ดงั นี้ 4.1.1. การทดลองของฟรังก์และเฮิรตซ์สนับสนทุ ฤษฎีอะตอมของโบร์อยา่ งไร(ระดบั พลงั งานมี 54

ค่าเป็นขนั้ ๆไม่ต่อเนื่อง) 4.1.2. การเกิดรงั สีเอกซ์แบบใดทีเ่ ป็นการยนื ยันความถูกตอ้ งของแนวคิดของโบร์ทว่ี า่ อะตอมมี ระดบั พลงั งานเป็นชั้น ๆ (ความยาวคลื่นเฉพาะค่า) 4.1.3. ทฤษฎอี ะตอมของโบรใ์ ชอ้ ธิบายพฤติกรรมของอิเล็กตรอนในอะตอมอ่นื ๆ นอกจาก อะตอมของไฮโดรเจนไดห้ รือไม่ อยา่ งไร (ถงึ แมท้ ฤษฎขี องอะตอมของโบร์สามารถ อธบิ ายเสถยี รภาพของ อะตอมและการเกิดสเปกตรมั แบบเสน้ ของอะตอมไฮโดรเจนได้ แต่ก็ยงั ไม่สามารถ อธิบายพฤตกิ รรมของ อเิ ลก็ ตรอนในอะตอมอนื่ ๆ ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง) 4.1.4. มีแบบจาลองอะตอมแบบใดซง่ึ เป็นท่ียอมรบั มากท่สี ดุ ในปัจจบุ นั ท่สี ามารถอธิบาย พฤติกรรมของอเิ ลก็ ตรอนในอะตอมไดส้ มบรู ณก์ ว่าทฤษฎอี ะตอมของโบร์ (อเิ ลก็ ตรอนในอะตอมไม่ไดโ้ คจร รอบนวิ เคลยี สโดยมวี งโคจรทีแ่ นน่ อนตามทฤษฎอี ะตอมของโบร์ แตจ่ ะทราบไดเ้ พยี งความนา่ จะเป็นทจี่ ะ พบ อเิ ลก็ ตรอนทมี่ ีระดบั พลงั งานหนง่ึ ๆ ว่า อย่ใู นบรเิ วณใด เปรียบเทยี บไดก้ บั ลกั ษณะของกล่มุ หมอก) 5 ขัน้ ประเมิน 5.1 นกั เรยี นทำแบบทดสอบ ใน Quizizz 5.2 นกั เรยี นแตล่ ะคนพิจารณาเรื่องทเ่ี รยี นในคาบว่ามีเร่ืองใดทีย่ งั ไมเ่ ข้าใจหรอื ยังมีข้อสงสัย และให้ นักเรียนศกึ ษาเพิม่ เตมิ ย้อนหลังได้จาก Facebook group ของแตล่ ะห้อง 10. ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้ - เอกสารประกอบการเรียน เร่ือง ฟิสกิ ส์อะตอม - Powerpoint เร่ือง ทฤษฎีอะตอมของโบร์ - หนังสอื เรยี นรายวชิ าเพิม่ เติม ฟสิ ิกส์ เลม่ 6 ของ สสวท. - Facebook group ของแตล่ ะหอ้ ง 11. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ • ด้านความรู้ความสามารถ เครื่องมือ วิธกี ารวัด เกณฑ์การประเมนิ คำถามในแผนการเรียนรู้ การตอบคำถาม เกณฑผ์ า่ น 50 % • ดา้ นทกั ษะกระบวนการ เครื่องมอื วิธกี ารวดั เกณฑก์ ารประเมนิ แบบทดสอบ การตอบแบบทดสอบ เกณฑ์ผ่าน 50 % • ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ เครอ่ื งมอื วิธีการวดั เกณฑก์ ารประเมนิ แบบสังเกตพฤติกรรม สงั เกตพฤตกิ รรม ต้องได้ระดับคณุ ภาพ ดี ขนึ้ ไป 55

บนั ทึกหลังสอน รายวชิ า ฟิสิกส์ 6 (ว 33202) ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6/1 หนว่ ยท่ี 1 เรื่อง ฟสิ กิ ส์อะตอม จำนวน 32 ช่ัวโมง แผนที่ ...6...เรือ่ ง ....ทฤษฎีอะตอมของโบร์.... จำนวน …2...ช่วั โมง 1. ผลการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 1.1 ด้านพุทธพิ ิสยั (K) ...นกั เรยี นสามารถอธบิ ายการทดลองของฟรังก์และเฮริ ตซ์ การเกิดรงั สีเอกซ์ ความไม่ สมบรู ณข์ องทฤษฎีอะตอมของโบร์ และตอบคำถามได.้ ... 1.2 ด้านทักษะพิสัย (P) ...นักเรียนสามารถสืบค้นและนำเสนอข้อมูลการทดลองของฟรังก์และเฮิรตซ์ การ เกดิ รงั สีเอกซ์ และความไมส่ มบรู ณ์ของทฤษฎอี ะตอมของโบร์ได้.... 1.3 ดา้ นจติ พิสัย (A) ....นกั เรยี นมคี วามกระตือรือร้นในการเรยี นรู้ และมคี วามมุ่งมน่ั ในการเรียนรู้..... 2. ผลการเรยี นของนกั เรียน 2.1 จำนวนทงั้ หมด ...23.... คน เขา้ เรียน ....22...... คน ขาดเรยี น....1..... คน 2.2 ผลการประเมิน จุดประสงค์ ผา่ นเกณฑ์ จำนวนนักเรียน (คน) 22 ไมผ่ า่ นเกณฑ์ ไมเ่ ขา้ รับการประเมิน ด้านพุทธพิ สิ ยั 21 -1 ด้านทกั ษะพสิ ยั 22 11 ดา้ นจิตพสิ ัย -1 3. ปัญหาและอปุ สรรค ....นกั เรยี นท่ีไม่ผ่านเกณฑ์ เน่ืองจากสอบไมผ่ ่าน นักเรียนท่ีไม่เข้าเรียนในคาบจะไม่ได้รับการประเมนิ .... 4. ขอ้ เสนอแนะแนวทางการแกป้ ัญหา ....เปดิ โอกาสใหน้ ักเรยี นส่งงานเพิม่ เติม สอบแก้ และตรวจสอบคะแนนได้ใน Data Studio ................... ลงชือ่ (นางอานีซา แวอมู า) ครูผ้สู อน 56

บันทกึ หลังสอน รายวิชา ฟิสกิ ส์ 6 (ว 33202) ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6/4 หนว่ ยท่ี 1 เรื่อง ฟิสิกส์อะตอม จำนวน 32 ชว่ั โมง แผนท่ี ...6...เรื่อง ....ทฤษฎีอะตอมของโบร์.... จำนวน …2...ช่วั โมง 1. ผลการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ 1.1 ดา้ นพทุ ธพิ สิ ยั (K) ...นักเรยี นสามารถอธบิ ายการทดลองของฟรงั ก์และเฮริ ตซ์ การเกิดรงั สีเอกซ์ ความไม่ สมบูรณข์ องทฤษฎอี ะตอมของโบร์ และตอบคำถามได้.... 1.2 ด้านทักษะพิสัย (P) ...นักเรียนสามารถสืบค้นและนำเสนอข้อมูลการทดลองของฟรังก์และเฮิรตซ์ การ เกิดรังสเี อกซ์ และความไม่สมบรู ณข์ องทฤษฎอี ะตอมของโบร์ได.้ ... 1.3 ด้านจิตพิสัย (A) ....นักเรยี นมีความกระตือรอื ร้นในการเรยี นรู้ และมีความมุ่งม่นั ในการเรียนรู้..... 2. ผลการเรียนของนักเรียน 2.1 จำนวนท้งั หมด ...37.... คน เข้าเรียน ....37...... คน ขาดเรยี น....0..... คน 2.2 ผลการประเมิน จดุ ประสงค์ ผา่ นเกณฑ์ จำนวนนักเรียน (คน) 37 ไมผ่ า่ นเกณฑ์ ไมเ่ ข้ารับการประเมิน ดา้ นพุทธพิ สิ ัย 35 -- ด้านทกั ษะพิสัย 37 2- ดา้ นจิตพิสัย -- 3. ปัญหาและอปุ สรรค ....นักเรียนท่ีไมผ่ ่านเกณฑ์ เน่ืองจากสอบไม่ผา่ น นกั เรยี นท่ีไม่เขา้ เรียนในคาบจะไมไ่ ด้รับการประเมนิ .... 4. ขอ้ เสนอแนะแนวทางการแกป้ ญั หา ....เปดิ โอกาสให้นกั เรยี นส่งงานเพิม่ เติม สอบแก้ และตรวจสอบคะแนนได้ใน Data Studio ................... ลงช่ือ (นางอานซี า แวอมู า) ครผู ้สู อน 57

บนั ทึกหลังสอน รายวชิ า ฟสิ กิ ส์ 6 (ว 33202) ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 6/6 หนว่ ยที่ 1 เรื่อง ฟิสิกส์อะตอม จำนวน 32 ชั่วโมง แผนท่ี ...6...เร่อื ง ....ทฤษฎีอะตอมของโบร์.... จำนวน …2...ช่วั โมง 1. ผลการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ 1.1 ดา้ นพทุ ธิพสิ ยั (K) ...นักเรยี นสามารถอธิบายการทดลองของฟรังก์และเฮิรตซ์ การเกิดรงั สีเอกซ์ ความไม่ สมบูรณข์ องทฤษฎีอะตอมของโบร์ และตอบคำถามได.้ ... 1.2 ด้านทักษะพิสัย (P) ...นักเรียนสามารถสืบค้นและนำเสนอข้อมูลการทดลองของฟรังก์และเฮิรตซ์ การ เกดิ รงั สเี อกซ์ และความไมส่ มบรู ณ์ของทฤษฎีอะตอมของโบร์ได.้ ... 1.3 ด้านจิตพิสยั (A) ....นกั เรยี นมีความกระตือรือรน้ ในการเรยี นรู้ และมีความมุ่งมัน่ ในการเรียนรู้..... 2. ผลการเรียนของนกั เรียน 2.1 จำนวนท้ังหมด ...36.... คน เข้าเรยี น ....36...... คน ขาดเรยี น....0.... คน 2.2 ผลการประเมิน จดุ ประสงค์ ผ่านเกณฑ์ จำนวนนักเรียน (คน) 36 ไม่ผ่านเกณฑ์ ไม่เข้ารับการประเมิน ด้านพทุ ธพิ สิ ัย 31 -- ด้านทักษะพิสยั 36 5- ด้านจติ พสิ ยั -- 3. ปญั หาและอุปสรรค ....นกั เรยี นท่ไี ม่ผา่ นเกณฑ์ เน่ืองจากสอบไม่ผ่าน นกั เรยี นที่ไมเ่ ข้าเรียนในคาบจะไม่ไดร้ ับการประเมนิ .... 4. ขอ้ เสนอแนะแนวทางการแกป้ ัญหา ....เปดิ โอกาสใหน้ ักเรยี นส่งงานเพ่มิ เติม สอบแก้ และตรวจสอบคะแนนได้ใน Data Studio ................... ลงชื่อ (นางอานีซา แวอมู า) ครูผู้สอน 58

ความคดิ เห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้ ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรยี นรู้ของ นางอานีซา แวอูมา แลว้ มีความคิดเห็นดงั นี้ (ใสเ่ ครอ่ื งหมาย  ในช่อง  ที่ตรงตามขอ้ ความท่ีกำหนด)  การกำหนดจดุ ประสงค์การเรียนรู้สอดคลอ้ งกับตัวชีว้ ดั / ผลการเรยี นรู้  การเขยี นองค์ประกอบของแผนการจดั การเรยี นรู้ถูกต้องครบถว้ นทกุ หวั ข้อ  การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้เน้นผ้เู รียนเปน็ สำคัญ และบรรลุจดุ ประสงค์การเรียนรู้  การวัดผลและประเมนิ ผลสอดคล้องกบั จดุ ประสงค์การเรียนรแู้ ละกจิ กรรมการเรยี นรู้ ขอ้ เสนอแนะเพ่ิมเติม ............................................................................................................................. .................................................... ............................................................................................................................. ........ ลงชื่อ............................................... (นางภูรชิ ญา ชมู ณ)ี ตำแหนง่ ครู หวั หนา้ กลุม่ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์ ความคิดเห็นของรองผูอ้ ำนวยการกลุ่มบริหารงานวชิ าการ ............................................................................................................................. .................................................... ..................................................................................................................................... ลงช่ือ............................................... (นางสาวเพรศิ พิศ คูหามุข) ตำแหน่งรองผู้อำนวยการฝา่ ยบรหิ ารกล่มุ งานวิชาการ ความคิดเหน็ ของผ้อู ำนวยการโรงเรยี น  อนมุ ตั ิ  ไมอ่ นุมัติ เน่ืองจาก................................................................................ ........................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .............................. ลงชือ่ ............................................... (นายนพปฎล มุณีรตั น์) ตำแหนง่ ผู้อำนวยการโรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวัดยะลา 59


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook