42 10) ทดสอบหลังเรียน มาใช้สอนจนครบทุกแผนและทำการประเมินผู้เรียนโดยใช้ชิ้นงานที่ให้ทำใน กิจกรรมการเรยี นการสอน และให้ทำแบบทดสอบหลังเรียน จำนวน 30 ขอ้ จากนั้นผวู้ จิ ัยไดน้ ำผลการ ทดสอบของนักเรยี นรายบุคคลมาวเิ คราะห์ข้อมลู หาประสทิ ธิภาพ ดงั แสดงในตารางท่ี 3 - 4 สูตร 1 การคำนวณหาประสิทธภิ าพของกระบวนการ (E1 ) E1 = ∑x × 100 N A เม่อื E1 แทน ประสิทธภิ าพของกระบวนการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ โดย ใช้วธิ ีการสอนแบบกระบวนการทางภมู ิศาสตร์ คิดเป็นรอ้ ยละของคะแนนเฉลยี่ ที่ได้จากการ ทำชิ้นงานและกจิ กรรมระหวา่ งเรยี นของนักเรียน X แทน ผลรวมของคะแนนที่ได้จากการวดั ผลระหวา่ งเรยี น N แทน จำนวนผ้เู รยี น A แทน คะแนนเต็มจากการวัดผลระหว่างเรียน สตู ร 2 การคำนวณหาประสิทธิภาพของผลลัพธ์ (E 2 ) E2 = ∑y × 100 N B เม่ือ E 2 แทน ประสิทธิภาพของผลลัพธ์ คดิ เปน็ ร้อยละของคะแนนเฉล่ีย ทไ่ี ด้จากการทำแบบทดสอบหลังเรียน y แทน ผลรวมของคะแนนจากการทดสอบหลังเรียน B แทน คะแนนเต็มของผลการสอบหลังเรียน N แทน จำนวนผเู้ รยี น
ก่อนเ ีรยน (30) 43 แผนที่ 1 (5) แผนท่ี 2 (5)ตารางที่ 3 ผลรวมของคะแนนระหว่างเรียนและคะแนนหลังเรียนด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ โดยใช้ แผนที่ 3 (5)วิธีการสอนแบบกระบวนการทางภูมิศาสตร์ เรื่อง ลักษณะทั่วไปของทวีปเอเชีย ของนักเรียน แผนที่ 4 (5)ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 1 แผนท่ี 5 (5)เลข ผลการวดั ระหว่างเรียน แผนท่ี 6 (5) แผนที่ 7 (5)ท่ี แผนท่ี 8 (5) แผนท่ี 9 (5)1 19 5 5 4 4 4 5 4 5 4 4 44 22 แผนท่ี 10 (5)2 16 4 4 5 4 5 4 5 5 4 5 45 24 3 18 4 4 5 5 5 4 5 4 4 5 45 24 รวม (50)4 14 5 4 5 4 5 4 4 4 5 4 44 25 หลังเ ีรยน (30)5 16 5 5 4 4 4 5 5 4 5 4 45 27 6 14 4 4 4 5 4 5 4 5 4 5 44 28 7 15 5 5 5 4 4 4 4 5 4 4 44 29 8 14 4 4 5 4 5 5 4 4 4 5 44 22 9 17 4 5 4 5 4 4 4 5 5 5 45 24 10 15 4 4 4 5 5 4 4 4 5 4 43 25 11 15 4 5 4 5 4 5 5 4 5 4 45 25 12 14 4 5 4 5 4 4 4 5 5 4 44 26 13 18 4 4 5 4 5 4 5 5 4 5 45 27 14 12 4 4 5 4 4 4 5 4 5 5 44 27 15 12 5 4 5 4 5 5 4 4 5 4 45 28 16 17 4 5 4 5 4 5 4 4 5 4 44 26 17 13 4 4 4 5 5 4 4 5 4 5 44 26 18 12 5 5 4 4 4 5 4 5 4 4 44 27 19 14 5 5 4 4 4 5 5 4 4 4 44 27 20 14 4 4 5 4 5 5 4 5 4 4 44 28 21 16 5 4 4 4 5 4 4 5 4 4 43 25 22 14 4 5 4 4 4 5 5 4 5 4 44 25 23 18 5 5 4 5 4 4 4 4 5 4 44 24 24 19 5 4 5 4 4 4 5 4 4 5 44 26
ก่อนเ ีรยน (30) 44 แผนที่ 1 (5) แผนท่ี 2 (5)ตารางที่ 3 ผลรวมของคะแนนระหว่างเรียนและคะแนนหลังเรียนด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ โดยใช้ แผนที่ 3 (5)วิธีการสอนแบบกระบวนการทางภูมิศาสตร์ เรื่อง ลักษณะทั่วไปของทวีปเอเชีย ของนักเรียน แผนที่ 4 (5)ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 1 (ตอ่ ) แผนท่ี 5 (5)เลข ผลการวัดระหวา่ งเรียน แผนท่ี 6 (5) แผนที่ 7 (5)ที่ แผนท่ี 8 (5) แผนท่ี 9 (5)25 20 4 4 5 4 5 5 5 4 4 4 44 26 แผนท่ี 10 (5)26 17 4 5 4 5 4 4 5 4 4 5 44 27 27 16 5 4 4 5 5 4 4 5 4 4 44 28 รวม (50)28 18 4 5 4 4 4 5 4 5 5 4 44 29 หลังเ ีรยน (30)29 19 4 4 4 4 5 4 5 5 4 5 44 22 30 15 4 4 5 5 4 4 5 4 5 5 45 23 31 17 5 4 5 4 4 5 4 5 5 4 45 24 32 14 5 4 5 5 5 4 4 4 4 4 44 25 33 14 5 5 4 4 4 5 5 4 5 4 45 26 34 15 5 5 4 5 4 4 4 5 5 4 45 27 35 20 4 4 5 4 5 4 5 4 4 5 44 27 36 17 4 4 5 5 4 4 5 4 5 5 45 28 37 13 4 5 4 4 5 5 4 5 4 5 45 25 38 14 4 5 4 5 4 5 4 5 5 4 45 29 39 15 5 4 5 5 4 4 5 4 4 5 45 29 40 12 5 5 4 4 4 5 5 4 4 5 45 25 41 16 4 4 5 4 5 4 4 5 5 5 45 24 42 18 5 4 4 5 5 4 5 4 4 5 45 27 ∑ 656 186 186 186 186 186 186 187 187 187 187 1864 1088 ̅������ 15.61 4.4 4.4 4.4 4.4 4.2 4.4 4.4 4.4 4.4 4.4 44.30 25.90 S.D. 2.24 0.50 0.50 0.50 0.50 0.50 0.50 0.50 0.50 0.50 0.50 0.58 1.93 % 52.06 88.5 88.5 88.5 88.5 88.5 88.5 89.0 89.0 89.0 89.0 88.86 86.34 ประสิทธภิ าพกระบวนการ (E1 )= 88.76 ประสิทธิภาพกระบวนการ (E 2 ) = 86.35
45 จากตารางท่ี 3 พบว่านกั เรยี นชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 ไดค้ ะแนนเฉลย่ี จากการนำเสนอผลงานและ พฤตกิ รรมการเรยี นรู้ เท่ากบั 44.30 คดิ เป็นร้อยละ 88.86 และทำคะแนนเฉลี่ยจากการวัดผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรยี นหลงั เรียนเทา่ กับ 25.90 คิดเป็นรอ้ ยละ 86.34 ดงั นน้ั แผนการจดั การเรียนรโู้ ดยใช้วิธีการ สอนแบบกระบวนการทางภูมิศาสตร์ เรอ่ื ง ลกั ษณะท่ัวไปของทวีปเอเชีย สาระวิชาภมู ศิ าสตร์ สำหรับ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเทศบาล 1 หนองใส อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ที่ผู้วิจัย พฒั นาข้นึ มปี ระสิทธภิ าพสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 และการพฒั นาของแผนการจัดการเรยี นรู้โดยใช้วิธีการ สอนแบบกระบวนการทางภูมิศาสตร์ มีประสิทธิภาพเพิม่ สูงข้ึน สังเกตได้จากคะแนนสอบก่อนการใช้ แผนการจัดการเรียนรู้มีประสิทธิภาพ ร้อยละ 52.06 และคะแนนสอบหลังการใช้แผนการจัดการ เรียนรู้มีประสิทธิภาพ ร้อยละ 86.34 แสดงว่าแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนแบบ กระบวนการทางภมู ิศาสตร์ มีประสิทธภิ าพเพ่ิมสูงข้นึ ตารางที่ 4 ประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนแบบกระบวนการทาง ภูมิศาสตร์ เรื่อง ลักษณะทั่วไปของทวีปเอเชีย สาระวิชาภูมิศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปที ี่ 1 ใหม้ ปี ระสิทธภิ าพตามเกณฑ์ 80/80 จำนวน คะแนนวดั ผลสมั ฤทธิ์ระหว่างเรยี น (E1 ) คะแนนวัดผลสมั ฤทธ์ิหลงั เรียน (E 2 ) นักเรียน คะแนน X S.D. % คะแนน X S.D. % เต็ม เตม็ (N) 42 50 44.30 0.58 88.86 30 25.90 1.93 86.35 จากตารางที่ 4 พบว่า แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนแบบกระบวนทางภูมิศาสตร์ เรื่อง ลักษณะทั่วไปของทวีปเอเชีย สาระวิชาภูมิศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 88.76/86.35 แสดงว่า แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนแบบกระบวน ทางภูมิศาสตร์ เรื่อง ลักษณะทั่วไปของทวีปเอเชีย สาระวิชาภูมิศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีท่ี 1 ทผ่ี วู้ ิจยั พัฒนาข้นึ มปี ระสิทธภิ าพสูงกวา่ เกณฑ์ 80/80 ท่ีตัง้ ไว้
46 ตอนที่ 2 ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้วิธีการสอนแบบกระบวนการทาง ภูมิศาสตร์ สาระวิชาภูมิศาสตร์ เรื่อง ลักษณะทั่วไปของทวีปเอเชีย ของนักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 1 ระหวา่ งกอ่ นเรียนและหลงั เรยี น ผู้วิจัยได้นำคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้วิธีการสอนแบบกระบวนการทางภูมิศาสตร์ สาระวิชาภูมิศาสตร์ เรื่อง ลักษณะทั่วไปของทวีปเอเชีย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ระหว่าง ก่อนเรียนและหลังเรียน ของนักเรียนจำนวน 42 คน มาวิเคราะห์หาค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน ดงั แสดงในตารางท่ี 5 ตารางที่ 5 คะแนนเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้วิธีการสอนแบบ กระบวนการทางภูมิศาสตร์ เร่อื ง ลกั ษณะทัว่ ไปของทวีปเอเชีย ของนกั เรียนชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 นักเรียนคนท่ี คะแนนก่อนเรียน คะแนนหลังเรยี น D D2 Pre – test Post – test 1 19 22 39 2 24 3 16 8 64 4 24 6 36 18 11 121 14 25 5 16 27 11 121 6 14 28 14 196 29 14 196 7 15 22 8 64 8 14 24 7 49 9 17 25 10 100 10 15 25 10 100 11 15 26 12 144 27 9 81 12 14 27 15 225 28 16 256 13 18 26 9 81 14 12 26 13 169 15 12 27 15 225 16 17 27 13 169 17 13 18 12 19 14
47 ตารางที่ 5 คะแนนเฉลี่ย ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้วิธีการสอนแบบ กระบวนการทางภูมิศาสตร์ เรือ่ ง ลักษณะท่วั ไปของทวปี เอเชยี ของนักเรียนชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 1 (ต่อ) นกั เรยี นคนที่ คะแนนกอ่ นเรียน คะแนนหลังเรียน D D2 Pre – test Post – test 20 14 28 14 196 21 16 25 9 81 22 14 25 11 121 23 18 24 6 36 24 19 26 7 49 25 20 26 6 36 26 17 27 10 100 27 16 28 12 144 28 18 29 11 121 29 19 22 3 9 30 15 23 8 64 31 17 24 7 49 32 14 25 11 121 33 14 26 12 144 34 15 27 12 144 35 20 27 7 49 36 17 28 11 121 37 13 25 12 144 38 14 29 15 225 39 15 29 14 196 40 12 25 13 169 41 16 24 8 64 42 18 27 9 81 656 1088 432 4870 ∑ 15.61 25.90 - - X - - 2.24 1.93 ∑D= 432 ∑D2=4870 S.D
48 จากตารางท่ี 5 พบว่า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ลักษณะ ทั่วไปของทวีปเอเชีย มีคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียน เท่ากับ 15.61 และคะแนนเฉลี่ยหลังเรียน เท่ากับ 25.90 คะแนน เฉลยี่ หลงั เรยี นสงู กว่ากอ่ นเรียน ตารางที่ 6 คะแนนเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและทดสอบทีแบบไม่อิสระของผลสัมฤทธิ์ทางการ เรยี น เรอื่ ง ลักษณะทว่ั ไปของทวปี เอเชีย ของนกั เรียนช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 การทดสอบ N X S.D. df t Sig.(2-tailed) ก่อนเรียน 42 15.61 2.24 41 20.66 .000* หลงั เรยี น 25.90 1.93 *p ≤ .05 จากตารางที่ 6 พบว่า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ลักษณะ ทั่วไปของทวีปเอเชีย มีคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียน เท่ากับ 15.61 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 2.24 และคะแนนเฉล่ียหลงั เรยี น เทา่ กบั 25.90 สว่ นเบ่ียงเบนมาตรฐาน (S.D.) เทา่ กบั 1.93 นักเรียน ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีสอนแบบกระบวนการทางภูมิศาสตร์ มีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูง กว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติท่ีระดับ .05 (t = 20.66, df = 41, p = .000) ซึ่งสอดคล้อง กับสมมติฐานในการวิจัยที่กำหนดไว้ว่า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้วิธีการสอนแบบกระบวนการทางภมู ิศาสตร์มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสาระวิชาภูมิศาสตร์ หลัง เรียนสงู กว่าก่อนเรียน
49 บทที่ 5 สรปุ อภปิ รายผล และขอ้ เสนอแนะ การวิจัยเรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สาระวิชาภูมิศาสตร์ เรื่อง ลักษณะทั่วไปของ ทวีปเอเชีย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้วิธีการสอนแบบกระบวนการทางภูมิศาสตร์ มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนแบบกระบวนการทาง ภูมิศาสตร์ เรื่อง ลักษณะทั่วไปของทวปี เอเชีย สาระวิชาภูมศิ าสตร์ ของนักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสาระวิชาภมู ิศาสตร์ เรื่อง ลักษณะทั่วไปของทวีปเอเชีย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้วิธีการสอนแบบกระบวนการทางภมู ศิ าสตร์ระหวา่ งก่อนเรียนและหลังเรยี น กลุ่มตวั อยา่ ง ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/1 โดยใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกระบวนการทาง ภมู ิศาสตร์ กลมุ่ สาระสังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม เร่อื ง ลกั ษณะทัว่ ไปของทวีปเอเชยี เครือ่ งมือ ที่ใช้ในการวิจัย คือ แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกระบวนการ ทางภูมิศาสตร์ หน่วยการเรียนรู้ที่ 11 เรื่อง ลักษณะทั่วไปของทวีปเอเชีย และแบบทดสอบวัดผล สัมฤทธิ์ทางการเรียน สาระวิชาภูมิศาสตร์ เรื่อง ลักษณะทั่วไปของทวีปเอเชีย สำหรับนักเรียนช้ัน มัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่จัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกระบวนการทาง ภูมิศาสตร์ เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.87 ซงึ่ มคี วามเชือ่ ม่นั สงู วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่า E1 / E 2 ค่าเฉลีย่ สว่ นเบยี่ งเบนมาตรฐาน และค่า t-dependent 5.1 สรปุ ผลการวิจยั 1) การพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนแบบกระบวนการทางภูมิศาสตร์ เรื่อง ลักษณะทั่วไปของทวีปเอเชีย สาระวิชาภูมิศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพ เทา่ กับ 88.76/86.35 ซงึ่ สูงกวา่ เกณฑท์ ีก่ ำหนดไว้ 2) ผลการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนแบบกระบวนการทางภูมิศาสตร์ เรื่อง ลักษณะทั่วไปของ ทวีปเอเชีย สาระวิชาภูมิศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีค่าเฉลี่ยคะแนนผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนหลังเรยี นสงู กว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิตทิ รี่ ะดับ .05
50 5.2 อภิปรายผล จากการพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนแบบกระบวนการทางภูมิศาสตร์ เรื่อง ลกั ษณะทว่ั ไปของทวีปเอเชยี ของนักเรยี นชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 มีข้อควรนำมาอภปิ รายผล ดังน้ี 1) การพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนแบบกระบวนการทางภูมิศาสตร์ เรื่อง ลักษณะทั่วไปของทวีปเอเชีย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่า มีประสิทธิภาพเท่ากับ 88.76/86.35 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80 ทั้งนี้อาจเป็นเพราะแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้ วิธีการสอนแบบกระบวนการทางภูมิศาสตร์ เรื่อง ลักษณะทั่วไปของทวีปเอเชีย ของนักเรียนช้ัน มัธยมศึกษาปีที่ 1 ซึ่งผู้วิจัยได้สร้างแผนการจัดการเรียนรู้ขึ้นตามขั้นตอนของการทำแผนอย่างจริงจัง และมีระบบ นำไปให้ผู้เชี่ยวชาญจำนวน 3 ท่าน ตรวจสอบและประเมินก่อนที่จะนำไปทดลองจริง แล้วนำไปปรับปรุงแก้ไขตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ ก่อนนำไปทดลองกับกลุ่มเป้าหมายใน การศึกษา ซึ่งจากเหตุผลที่กล่าวมา ทำให้แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนแบบกระบวนการ ทางภูมิศาสตร์ เรื่อง ลักษณะทั่วไปของทวีปเอเชีย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพ สูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ซึ่งสอดคล้องกับผลงานวิจัยของ กิตติกวินท์ ปินไชย (2564 : บทคัดย่อ) ได้ทำ การวิจัย ผลการพัฒนากจิ กรรมการเรียนรูส้ ง่ เสริมการรู้เร่ืองภูมิศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 3 ผลการวิจัยพบว่า กิจกรรมการเรียนรู้ ประกอบด้วย 5 ขั้นตอน 1) การตั้งคำถามเชิงภูมศิ าสตร์ 2) การรวบรวมข้อมูล 3) การจัดการข้อมูล 4) การวิเคราะห์และแปลผลข้อมูล และ 5) การสรุปผล เพ่ือตอบคำถาม มปี ระสทิ ธภิ าพ เท่ากบั 86.96/86.33 สูงกวา่ เกณฑท์ ่กี ำหนดไว้ 2) ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนสาระวชิ าภมู ศิ าสตร์ เรอ่ื ง ลักษณะทว่ั ไปของทวีปเอเชีย ของนักเรยี น ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 1 ท่เี รียนด้วยกจิ กรรมการเรียนรู้โดยใชว้ ิธีการสอนแบบกระบวนการทางภูมิศาสตร์ ระหวา่ งก่อนเรียนและหลังเรยี น นักเรียนมีคะแนนเฉลีย่ ก่อนเรียนเทา่ กับ 15.61 คะแนน และคะแนน เฉลย่ี หลังเรียน เท่ากบั 25.9 คะแนน เมือ่ เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างคา่ เฉลี่ย พบว่านักเรียนมี คะแนนเฉล่ียหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรยี น อย่างมนี ัยสำคัญทางสถิติทรี่ ะดับ .05 ซึง่ อาจเน่ืองมาจากการ ใช้แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนแบบกระบวนการภูมิศาสตร์ ขั้นที่ 1 การตั้งคำถามเชิง ภูมิศาสตร์เป็นการระบุประเด็นต่าง ๆ ที่ผู้ศึกษานำมาพิจารณาประกอบการหาคำตอบ เพื่อให้บรรลุ จดุ มงุ่ หมายของการศึกษา โดยจะต้องอยู่ในรูปแบบประโยคคำถาม ท่กี ระชบั ชัดเจน และตรงประเด็น ขั้นที่ 2 การรวบรวมข้อมูล เป็นขั้นตอนสำคัญขั้นตอนหนึ่งของกระบวนการทางภูมิศาสตร์ที่รวบรวม ข้อเท็จจริง และข้อมูลที่เป็นประโยชน์และคาดว่าจะนำไปใช้ประกอบการศึกษา การรวบรวมข้อมูล จะต้องอาศัยความรู้และเทคนคิ ต่าง ๆ ด้วยตนเอง มีประสบการณ์ตรงในการเรียนรูเ้ นื้อหา อาศัยการ แลกเปลี่ยนรู้ระหว่างกัน โดยครูผู้สอนจะทำหน้าท่ีในการเปน็ ผู้อำนวยความสะดวกและจัดการเตรียม สภาพแวดล้อมในการเรียนรู้ ข้ันท่ี 3 การจดั การขอ้ มลู เป็นการจดั ระเบยี บข้อมลู ทีไ่ ดจ้ ากการรวบรวม ข้อมูลเพื่อประกอบการศึกษา นอกจากนี้ ยังเป็นการตรวจสอบความถูกต้องและความครบถ้วน เพื่อความสะดวกในการวิเคราะห์ข้อมูล ขั้นที่ 4 การวิเคราะห์และแปลผลข้อมูล เป็นหัวใจสำคัญของ
51 กระบวนการทางภูมิศาสตร์ เมื่อข้อมูลผ่านกระบวนการจัดการแล้ว ก็จะง่ายต่อการอธิบาย วิเคราะห์ และแปลผลข้อมูล จะเป็นข้นั ท่ีช่วยให้นกั เรียนเกิดการแลกเปล่ียนความรู้ระหว่างกัน และข้ันที่ 5 การ สรุปเพื่อตอบคำถาม เป็นการสรุปเนื้อหาให้ตรงคำถามของการศึกษาตามที่ระบุไว้ในขั้นที่ 1 รวมท้ัง การที่นักเรียนได้มีความสนใจกับกิจกรรมการเรียนรู้แบบกระบวนการทางภูมิศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็น กิจกรรมการเรยี นการสอน ขอ้ คำถามของครผู ้สู อน และการท่คี รผู ู้สอนได้เปิดโอกาสในการวางแผนใน การปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ส่งผลให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนท่ีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับ แนวคิด Backler, A. and Stoltman, J. (1986) กล่าวว่า การรู้เรื่องภูมิศาสตร์ต้องอาศัยทักษะทาง ภูมิศาสตร์ซึ่งประกอบด้วยกระบวนการ 5 ขั้นตอน คือ 1) การตั้งคำถามทางภูมิศาสตร์ เป็นการต้ัง คำถามเกี่ยวกับ “ที่ตั้ง” ว่าสิ่งนั้นอยู่ที่ไหน ทำไมถึงอยู่ที่นั้น 2) การเก็บรวบรวมสารสนเทศทาง ภูมิศาสตร์เป็นการรวบรวมและระบุที่ตัง้ ของสิ่งต่าง ๆ 3) การนำเสนอสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ เป็น การแสดงข้อมูลด้วยแผนที่ ตาราง กราฟ โดยการเขียนหรือการนำเสนอปากแปล่า 4) การแปล ความหมายสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ จากข้อมูลที่เก่ียวข้อง และ 5) การพัฒนาและทดสอบ สารสนเทศทางภูมิศาสตร์ เป็นการสรุปอ้างอิงจากข้อมูลทางภูมิศาสตร์ที่ศึกษา และสอดคล้องกับ งานวิจัย เฌอณรินทร์ วรรณรัตนางกรู (2562) ได้ทำการวิจัยเรอ่ื งการพฒั นาการเรียนรู้เร่ืองภูมิศาสตร์ ในการเรียนภูมิศาสตร์ทวีปเอเชียของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ด้วยกระบวนการทางภูมิศาสตร์ ร่วมกบั เทคโนโลยีสารสนเทศภูมศิ าสตร์ ผลการเปรยี บเทียบผลการเรียนรู้ หลงั เรยี น สงู กว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 สอดคล้องกับงานวิจัย อภิรดี มณีนิล (2564 : 101) ได้ทำการ วิจัย เรื่อง ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการสืบสอบทางภูมิศาสตร์ แบบออนไลน์ที่มี ต่อความสามารถคิดวิเคราะห์และความสามารถทางภูมิศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ผลการวิจัยพบว่า ความสามารถคิดวิเคราะห์และแบบความสามารถทางภูมิศาสตร์ ของนักเรียนหลัง การจดั กิจกรรมการเรียนรูโ้ ดยใชก้ ระบวนการการสบื สอบทางภูมศิ าสตร์แบบออนไลนส์ งู กวา่ ก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 สอดคล้องกับงานวิจัย คณัฏพัส บุตรแสน (2561) ได้วิจัยเรื่อง การศึกษาผลการเรียนรู้และความสามารถทางภูมิศาสตร์ เรื่อง เรียนรู้ ร่วมคิด แก้วิกฤตสิ่งแวดล้อม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยการจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการทางภูมิศาสตร์ ผลการ เปรยี บเทียบผลการเรยี นรู้ หลังเรียน สูงกว่าก่อนเรียนอยา่ งมนี ัยสำคญั ทางสถติ ทิ ่ีระดบั .05 จากเหตุผลดังกล่าวข้างต้นเป็นการสนับสนุนว่าการจัดการเรียนรู้แบบ กระบวนการทาง ภูมิศาสตร์ เป็นวิธีสอนที่เหมาะสมกับ เรื่อง ลักษณะทั่วไปของทวีปเอเชีย ทำให้นักเรียนมีผลการ เรียนรหู้ ลงั เรียนสงู กวา่ กอ่ นเรยี น รวมทัง้ การจัดการเรยี นรดู้ ว้ ยรูปแบบกระบวนการทางภูมศิ าสตร์ ยัง ทำให้นักเรียนมีความกระตือรือร้นในการเรียนรู้ เช่น ในการตั้งคำถามทางภูมิศาสตร์ การค้นคว้า รวบรวมข้อมูล การทำงานร่วมกันเป็นกลุ่ม การหาความรู้ดว้ ยตนเอง การนำเสนอผลงานที่สร้างสรรค์ ซึ่งต่างกับการเรียนการสอนแบบปกติ โดยจะเป็นการเรียนที่เน้นเนื้อหาที่ได้มาจากการบรรยาย อธิบาย ซักถามเนื้อหาในบทเรียนของครู โดยมิได้มุ่งเน้นให้นักเรียนได้ฝึกกระบวนการการค้นคว้า กระบวนการคิด กระบวนการทำงานเป็นกลุ่ม กระบวนการสร้างความรู้ด้วยตนเอง ซึ่งนอกจาก
52 นักเรียนจะได้เสริมสร้างกระบวนการอย่างเป็นระบบ เป็นขั้นตอน ยังได้เสริมสร้างกระบวนการคิด ตา่ ง ๆ แลว้ ยังเปน็ การฝึกฝนจำลองสถานการณ์ในชวี ิตจรงิ ทนี่ ักเรยี นจะตอ้ งเผชญิ เช่น การอยุ่ร่วมกัน กับผู้อื่น การทำงานร่วมกับผู้อื่นที่ไม่คุ้นเคย การรับมือวิธีการแก้ไขกับปัญหาแบบต่าง ๆ เมื่อมีการ ทำงานร่วมกันเป็นทีม วิธีการสอนนี้จึงไม่เป็นเพียงแค่สิ่งที่ให้นักเรียนได้รับความรู้ตามเนื้อหาเท่านั้น แต่ยงั ทำใหน้ ักเรียนได้นำทกั ษะชีวติ ไปใช้ไดจ้ รงิ 5.3 ข้อเสนอแนะ 1) ขอ้ เสนอแนะในการนำผลการวจิ ัยไปใช้ 1.1) จากการวิจัยพบว่าพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนในรูปแบบการเรียนรู้แบบ กระบวนการทางภูมิศาสตร์ ในขั้นการตั้งคำถามเชิงภูมิศาสตร์เกิดได้ค่อนข้างยาก เนื่องจาก นักเรียนไม่กล้าตั้งคำถาม ดังนั้น ผู้สอนจึงควรตั้งคำถามเป็นแนวทาง และเปิดโอกาสให้ผู้เรียน ได้ตัง้ คำถามทุกคน ซ่งึ จะช่วยให้ผู้เรียนได้ฝึกกระบวนการคิด สว่ นข้ันการรวบรวมข้อมูล ผู้สอน จะควรจัดหาแหล่งข้อมูลที่เหมาะสมจัดเตรียมไว้ให้ผู้เรียนก่อนในเบื้องต้น เพื่อเป็นตัวอย่าง ข้อมูลและแหลง่ ขอ้ มูลทนี่ า่ เชอื่ ถือ 1.2) จากการจดั การเรียนรู้แบบกระบวนการทางภมู ิศาสตร์ ในข้ันการวิเคราะห์ ครูควรให้ นักเรยี นไดร้ ับการฝึกประสบการณใ์ นการวิเคราะห์ข้อมลู ขา่ วสารอย่างมีเหตเุ หล และนำเน้ือหา มาอภิปรายร่วมกัน เพื่อให้ได้คำตอบที่สมบูรณ์สอดคล้องกับประเด็นปัญหา และให้นักเรียนมี โอกาสทำงานร่วมกันในบรรยากาศแบบประชาธิปไตยเพื่อให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ และเป็น การพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ซึ่งเปน็ ประโยชน์ต่อการทำงานและการดำเนินชีวิต ของผ้เู รียนตอ่ ไป 1.3) การเลือกเนื้อหาที่จะนำมาใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบกระบวนการทาง ภูมิศาสตร์ ครูควรคำนึงถึงความเหมาะสมของวัย และระดับความสามารถ สภาพแวดล้อมของ โรงเรียน ความสนใจของนักเรียน ฉะนั้นครูต้องเลือกเรื่องทีใ่ กล้ตวั นักเรยี น มเี น้ือหาทน่ี ่าสนใจท่ี สามารถพบเห็นได้ในชีวิตประจำวันของนักเรียน ซึ่งจะส่งผลให้นักเรียนมีความอยากที่จะเรยี น มากย่ิงขึน้ 2) ขอ้ เสนอแนะในการทำวิจัยครั้งตอ่ ไป 2.1) ควรนำการจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการทางภูมิศาสตร์มาประยุกต์ใช้ร่วมกับ รปู แบบการสอน วิธกี ารสอน และเทคนคิ การสอนต่างๆ เช่น การศึกษาองิ สถานท่ี การใช้ปัญหา เปน็ ฐาน การใชโ้ ครงงานเป็นฐาน เปน็ ต้น
53 2.2) ควรมีการศึกษาเกี่ยวกับแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนแบบกระบวนการ ทางภูมิศาสตร์ กับระดับชั้นอื่นๆ เพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างและผลการจัดกิจกรรม การเรียนรู้ และเพื่อเป็นการฝึกฝนให้นักเรียนมีกระบวนการเรียนรู้ที่เป็นขั้นตอน เปน็ นักแก้ปญั หาทด่ี ี 2.3) ควรศึกษาเปรียบเทียบผลการเรยี นรู้ของนักเรียนท่ีสอนโดยวิธีสอนกระบวนการทาง ภูมิศาสตร์กับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบอื่น เช่น STAD, CIPPA MODEL, PBL และ สืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) เปน็ ตน้
54 เอกสารอ้างอิง กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551. กรงุ เทพฯ: โรงพมิ พ์ชุมนุมสหกรณก์ ารเกษตรแหง่ ประเทศไทย . (2545). พระราชบญั ญตั กิ ารศกึ ษาแหงชาติ พุทธศกั ราช 2542 และ แกไขเพ่ิมเติม (ฉบบั ท่ี 2) พุทธศกั ราช 2545. สาํ นกั งานปลดั กระทรวงศึกษาธกิ าร. กติ ตกิ วินท์ ปินไชย และรตั ตกิ าล สารกอง. (2564). การพัฒนากจิ กรรมการเรียนรู้ทส่ี ่งเสริมการรู้เรื่อง ภูมศิ าสตร์ สำหรับนักเรยี นชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3. วารสารมหาวิทยาลัยราชภฏั มหาสารคาม, 15 (1), 29-42. เกยี รตศิ ักดิ์ ชยั ยาณะ. (2563). การพฒั นารปู แบบการเรียนการสอนโดยใช้กระบวนการทางภมู ศิ าสตร์ เพอ่ื พัฒนาการรเู้ ร่ืองภมู ิศาสตร์และความคงทนในการเรียนรวู้ ิชาภูมิศาสตร์ของนักเรียน มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย: กรณีศึกษาโรงเรียนวฒั โนทัยพายพั . วารสารวิจัยทางการศกึ ษา, 15 (1), 129-145. คณัฏพสั บุตรแสน และเพญ็ พนอ พว่ งแพ. (2562). “การศกึ ษาผลสัมฤทธิ์และความสามารถทาง ภูมิศาสตร์ เรือ่ ง เรยี นรู้ ร่วมคิด แก้วกิ ฤตสิง่ แวดล้อม ของนกั เรียนชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 5 โดย การจดั การเรยี นรดู้ ้วยกระบวนการทางภูมศิ าสตร”์ การประชุมวิชาการเสนอผลงานวิจยั ระดับ บณั ฑิตศกึ ษาแห่งชาติ ครัง้ ท่ี 48 (The National Graduate Research Conference) รว่ มกบั การประชมุ วชิ าการบัณฑิตศกึ ษาระดับชาติและนานาชาติ คร้ังท่ี 9 “นวัตกรรมและการ สรา้ งสรรค์เพอื่ การพฒั นาทยี่ ง่ั ยืน” (Innovation and Creativity for Sustainable Development) โดยบณั ฑติ วทิ ยาลัย มหาวิทยาลยั ศิลปากร ณ ศูนย์ศิลปวฒั นธรรมเฉลิมพระ เกยี รติ 6 รอบพระชนมพรรษา วทิ ยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ นครปฐม, 14 มิถุนายน. จำกัดวจิ ารณ์ พานชิ . (2555). วิถีสร้างการเรยี นรเู้ พอ่ื ศิษย์ในศตวรรษที่21. กรุงเทพฯ: มลู นิธิสดศรี- สฤษดิ์วงศ์. ชนาธิป พรกุล. (2552). การออกแบบการสอน การบูรณาการการอ่าน การคดิ วิเคราะห์และการ เขียน. พมิ พค์ รัง้ ท่ี 2. กรงุ เทพฯ : สำนกั พิมพ์แห่งจฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั . ชวลติ ชกู ำแพง. (2553). การวจิ ัยหลักสตู รและการสอน. พมิ พ์คร้งั ที่ 2 มหาสารคาม : มหาวทิ ยาลัย มหาสารคาม. ชนนิ ทร์ชัย อินทิราภรณ์ และคณะ. (2540). พจนานกุ รมศพั ทก์ ารศึกษา. กรงุ เทพฯ :ไอคิวบุ๊ค เซน็ เตอร์.
55 เฌอณรินทร์ วรรณรัตนางกรู และกลั ยา เทยี นวงศ.์ (2563). “การพฒั นาการรเู้ รือ่ งภูมศิ าสตร์ ในการ เรียนภมู ิศาสตร์ทวีปเอเชยี ของนักเรยี นช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 1 ด้วยกระบวนการทางภมู ิศาสตร์ รว่ มกบั เทคโนโลยสี ารสนเทศภมู ศิ าสตร”์ การประชมุ วิชาการเสนอผลงานวจิ ยั ระดับชาติ ครง้ั ที่ 8 และระดับนานาชาติ ครง้ั ท่ี 4 มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบรุ ี “งานวจิ ัยและนวัตกรรมเพ่ือการ พฒั นาสังคมใหย้ ง่ั ยนื ” The EighthNational Symposium and the Fourth International Symposium Bangkokthonburi University “Research and Innovation for the Development of Society toward Sustainability” โดย มหาวิทยาลัยกรงุ เทพธนบรุ ี, 26 เมษายน. ณฐั รณิ ีย์ ประจิตร. (2565). การพัฒนาผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียน ในรายวชิ าสังคมศกึ ษา สาระ ภูมิศาสตร์ เรอื่ ง ทวีปอเมริกาเหนือ โดยใช้การจดั การเรียนรู้แบบกระบวนการทางภูมศิ าสตรข์ อง นักเรยี นระดับชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 3. วารสารวชิ าการ ครศุ าสตร์สวนสุนันทา, 6 (1), 33-45. ธรี วฒุ ิ เช้ือพระชอง. (2562). การจดั การเรยี นรู้กระบวนการภูมิศาสตร์ เพอื่ พัฒนาทักษะการคิดแบบ องคร์ วมของนกั เรียนชั้นมธั ยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนสารภีพทิ ยาคม. วารสารสังคมศาสตร์ และมานษุ ยวทิ ยาเชงิ พุทธ, 6 (1), 412-424. นาตยา ปิลนั ธนานนท์. (2545). จากมาตรฐานสชู่ ้นั เรยี น. กรุงเทพฯ : ไทยวฒั นาพานิช. บุญชม ศรสี ะอาด. (2547). การพัฒนาการสอน. กรุงเทพฯ: สวุ รี ยิ าสนาสน จํากดั . . (2554). หลักการวจิ ัยเบื้องตน้ . พิมพ์ครั้งท่ี9. กรงุ เทพฯ : สวุ ิรยิ าสาสน์ . ปรีชาพล กำแพงทิพย์. (2562). การพฒั นาหนว่ ยการเรยี นร้บู ูรณาการเรอื่ ง ป่าเขา ลำน้ำ วิถีชวี ติ ชุมชน ลุ่มน้ำเจียง เพ่ือสร้างจติ สำนึกการอนุรักษส์ ่ิงแวดล้อมในท้องถิน่ จากการจัด กจิ กรรม การเรียนรดู้ ้วยกระบวนการทางภูมศิ าสตร์บนฐานการเรียนรูข้ องชุมชน ของนักเรยี นชน้ั ประถมศกึ ษาปี ที่ 5. วทิ ยานพิ นธป์ รญิ ญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวชิ าหลกั สตู รและ การสอน บณั ฑติ วิทยาลยั มหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น. ไพศาล หวังพานชิ . (2536). การวดั ผลการศึกษา. กรุงเทพฯ: ไทยวัฒนาพานิช. ภพ เลาหไพบูลย.์ (2540). แนวการสอนวิทยาศาสตร.์ กรุงเทพฯ : ไทยวฒั นาพานชิ . ภากร อปุ การแกว้ และแก้วใจ สวุ รรณเวช. (2561). “การจัดการเรียนรดู้ ว้ ยรปู แบบกระบวนการทาง ภูมิศาสตร์ และแอพพลิเคชัน่ QR CODE เพื่อพัฒนาผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี นวิชาภมู ศิ าสตร์ และทกั ษะการทำงานกลุ่มของนกั เรยี นชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 5” การประชมุ วชิ าการครศุ าสตร์ วชิ าการ ครง้ั ที่ 10 และการนำเสนอผลงานวิชาการระดบั ชาติ “การผลติ และพฒั นาครูโดยใช้ โรงเรียนเป็นฐาน (School Integrated Learning) ” โดย มหาวทิ ยาลัยราชภัฏ นครศรีธรรมราช, 28 สงิ หาคม.
56 รักษณาลี นาครักษา. (2563). การพฒั นารปู แบบการจัดการศกึ ษานอกสถานที่เสมือนร่วมกบั กระบวนการสบื สอบและแผนทีแ่ บบ 3 มิติทางภมู ิศาสตร์ สำหรับนักเรยี นระดับช้นั มัธยมศกึ ษา ตอนปลาย. วารสารเทคโนโลยีและสอื่ สารการศกึ ษา, 15 (19), 44-59. วมิ ลรัตน์ สนุ ทรวิโรจน์. (2553). การออกแบบการเรยี นรตู้ ามแนวคดิ Backward Design. มหาสารคาม : มหาวิทยาลยั มหาสารคาม. ศศธิ ร เวยี งวะลยั . (2556). การจดั การเรียนรู้. กรุงเทพฯ : โอเดยี นสโตร์. ศิริวรรณ วณิชวัฒนวรชัย. (2558). วิธีสอนทั่วไป. นครปฐม. คณะศึกษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลัย ศิลปากร. สำนักวชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา. (2560). ตวั ชวี้ ัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระ ภมู ศิ าสตร์ ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560 กลุ่มสาระการเรยี นร้สู ังคมศึกษา ศาสนาและ วัฒนธรรม ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 และแนวการจดั กิจกรรมการเรยี นรู.้ กรุงเทพฯ: สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พื้นฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ. เอกรนิ ทร์ สม่ี หาศาล และคณะ. (2552). กระบวนการจดั ทำหลักสูตรสถานศึกษา แนวคดิ สปู่ ฏิบตั ิ. กรุงเทพฯ : บุค๊ พอยท.์ อาภรณ์ ใจเที่ยง. (2553). หลักการสอน. พมิ พค์ ร้ังท่ี 5 กรุงเทพฯ : โอเดยี นสโตร์. อภริ ดี มณนี ิล. (2564). ผลการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้โดยใช้กระบวนการสืบสอบทางภมู ิศาสตร์ แบบออนไลน์ที่มตี ่อความสามารถคิดวิเคราะห์และความสามารถทางภูมศิ าสตร์ของนักเรยี น ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 1. วารสารวชิ าการ มจร บรุ ีรัมย,์ 7 (1), 101-114. Australian Government Department of Education Employment and Workplace Relations. (2011). Annual Report 2011–2012. Canberra: BlueStar IQ. Australian Curriculum, Assessment and Reporting Authority. (2015). The Australian Curriculum F–10: Geography. Accessed April 10. Available from https://www.australiancurriculum.edu.au/f-10-curriculum/humanities-and-social sciences/geography/structure/ Backler, Stoltman. 1986. The nature of Geography literacy. Eric digest 35: November 1986.
57 ภาคผนวก
58 ภาคผนวก ก รายช่อื ผู้เช่ียวชาญในการตรวจสอบคุณภาพเครอื่ งมอื
59 รายชอ่ื ผเู้ ช่ียวชาญในการตรวจสอบคุณภาพของเครอ่ื งมือท่ีใช้ในการวจิ ัย 1. นางนวลศริ ิ ศลิ ธรรม ครูพี่ เลี้ยงและหั วหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒ นธรรม โรงเรียนเทศบาล 1 หนองใส อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี สำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา ประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต 1 2. นางประภาพรรณ พลิ าจันทร์ ครู วิทยฐานะ ครูเช่ียวชาญ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี น เทศบาล 1 หนองใส สำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต 1 3. นางอมรรัตน์ ลาภโคกสูง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรยี นเทศบาล 1 หนองใส สำนกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศกึ ษาอุดรธานี เขต 1
60 ภาคผนวก ข เครอื่ งมอื ที่ใช้ในการวิจัย - แผนการจัดการเรยี นรูโ้ ดยใช้วธิ กี ารสอนแบบกระบวนการทางภมู ศิ าสตร์ - แบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี น
61 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 สาระการเรียนรู้ที่ 5 ภูมิศาสตร์ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศกึ ษา 2565 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 11 ลักษณะทว่ั ไปของทวีปเอเชีย เวลา 10 ชั่วโมง เรอื่ ง ลักษณะทางกายภาพของทวปี เอเชีย (ทำเลทตี่ ัง้ และอาณาเขต) เวลา 1 ชั่วโมง วนั ท่ี เดือน พ.ศ. ผสู้ อน นางสาวรัตติยา วาดเขียน _____________________________________________________________________ 1. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวช้ีวดั ช้ันปี 1.1 มาตรฐานการเรยี นรู้ ส 5.1 เข้าใจลักษณะทางกายภาพของโลกและความสัมพันธ์ของสรรพสิ่งซ่ึงมีผลต่อ กัน ใช้แผนท่ีและเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ในการค้นหา วิเคราะห์ และสรุปข้อมูลตาม กระบวนการทางภมู ิศาสตร์ ตลอดจนใชภ้ มู ิสารสนเทศอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ 1.2 ตวั ชวี้ ัด ม. 1/1 วเิ คราะหล์ กั ษณะทางกายภาพของทวปี เอเชยี ทวปี ออสเตรเลีย และโอเชีย เนยี โดยใชเ้ ครอ่ื งมือทางภูมิศาสตรส์ บื ค้น 2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 นักเรยี นสามารถระบุตำแหน่งที่ตั้ง ขนาด และอาณาเขตของทวปี เอเชียได้ (K) 2.2 นกั เรยี นสามารถประยกุ ต์ใช้เครือ่ งมือทางภมู ิศาสตร์ในการสบื คน้ ลกั ษณะทางกายภาพ ของทวปี เอเชียได้ (P) 2.3 นกั เรียนตระหนักถึงความสำคญั ของลักษณะทางกายภาพของทวปี เอเชีย ทมี่ ีอิทธิผลตอ่ วถิ ีการดำเนนิ ชวี ิตของประชากร (A) 3. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น 3.1 ความสามารถในการคิด 3.2 ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต
62 4. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 4.1 มวี นิ ัย 4.2 ใฝเ่ รยี นรู้ 4.3 ม่งุ ม่ันในการทำงาน 5. สาระสำคญั ทำเลทีต่ ัง้ ของประเทศในทวีปเอเชยี และลักษณะทางกายภาพทหี่ ลากหลายและแตกต่างกนั ในภูมภิ าคเอเชียมีอิทธิพลสำคัญต่อการดำเนินชวี ิตของประชากรในทวปี เอเชีย 6. สาระการเรียนรู้ ลักษณะทางกายภาพของทวปี เอเชีย - ท่ตี ัง้ ขนาด และอาณาเขตของทวีปเอเชีย - การใช้เคร่ืองมือทางภูมิศาสตร์ เช่น แผนท่ี รูปถ่ายทางอากาศ ภาพจากดาวเทียม ในการสืบคน้ ลักษณะทางกายภาพของทวปี เอเชีย 7. การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (วธิ สี อนแบบกระบวนการทางภมู ิศาสตร์ (Geographic Inquiry Process)) 7.1 ขั้นนำเข้าสูบ่ ทเรียน 1) ครูให้นักเรียนดูแผนท่ีแสดงที่ต้ังและอาณาเขตติดต่อของทวีปเอเชีย จากหนังสือ เรียนสังคมศึกษาฯ ม.1 (หนา้ ท่ี 182) แล้วรว่ มกนั อภิปรายเกยี่ วกับอาณาเขตดังกลา่ ว 2) ครถู ามคำถามกระตนุ้ ความคดิ โดยใหน้ ักเรยี นรว่ มกนั ตอบคำถาม เช่น - การท่ีนักเรียนจะศึกษาเกี่ยวกับลักษณะทางกายภาพของทวีปเอเชียนักเรียนจะ สบื ค้นขอ้ มูลได้จากแหลง่ ใดบา้ ง (แนวตอบ เช่น แผนที่ เพราะนำเสนอข้อมูลลักษณะของสิ่งที่ปรากฏบนผิวโลก หรอื รปู ถา่ ยทางอากาศก็ใชศ้ กึ ษาได้เช่นเดยี วกนั ) 7.2 ขั้นสอน ขน้ั ท่ี 1 การตัง้ คำถามเชิงภมู ิศาสตร์
63 3) นักเรียนทุกคนช่วยกันแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับความรเู้ ดิมของทวีปเอเชีย แล้ว ให้เขียนข้อมูลของตนเองบนกระดาน เช่น ทำเลที่ต้ัง อาณาเขต แหล่งท่องเที่ยว ส่ิงท่ีเป็น ท่สี ดุ ในโลก ช่อื ประเทศ ภยั พิบตั ิทางธรรมชาติ เปน็ ตน้ 4) ครูให้นักเรียนศึกษาแผนที่แสดงที่ตั้งและอาณาเขตของทวีปเอเชีย และแผนท่ี แสดงภูมิภาคทางภูมิศาสตร์ของทวีปเอเชีย จากหนังสือเรยี นสงั คมศึกษาฯ ม.1 (หน้าท่ี 182- 183) และให้นกั เรียนช่วยกนั อธิบายวา่ เหน็ อะไรในแผนทีบ่ า้ ง (แนวตอบ เช่น ช่ือประเทศ ชื่อมหาสมุทร ชื่อภูมิภาค ชื่อแม่น้ำ ลักษณะ ภูมิศาสตร์ เสน้ เมริเดียน และ เส้นขนาน เป็นตน้ ) - ในการศึกษาทำเลท่ีตั้งและอาณาเขตของทวีปเอเชีย สามารถใช้เคร่ืองมือ ทางภมู ิศาสตร์ใดได้บา้ ง (แนวตอบ เน่ืองจากข้อมูลทางภูมิศาสตร์มีหลากหลายมิติ จึงต้องใช้ เคร่ืองมือที่มีลักษณะตรงตามประเภทของข้อมูล เช่น การศึกษาสภาพภูมิประเทศ ควรใช้แผนท่ีภาพถ่ายดาวเทียมหรือภาพถ่ายทางอากาศ เน่ืองจากสามารถทำให้ ทราบข้อมูลลกั ษณะของสง่ิ ที่ปรากฏบนผวิ โลกได้อยา่ งชดั เจน) 5) จากนน้ั ครูใหน้ กั เรียนชว่ ยกันตัง้ ประเด็นคำถามทางภมู ิศาสตรเ์ กีย่ วกบั ทำเลท่ตี ั้ง และอาณาเขตของทวปี เอเชีย เพือ่ คน้ หาคำตอบ เชน่ 1) ทวีปเอเชยี แบง่ ออกเปน็ ภูมิภาคท่ีใดบา้ ง 2) ทวปี เอเชียเปน็ ภูมิภาคทีม่ ีทำเลท่ีตั้งอยใู่ นบรเิ วณใด 3) ทวปี เอเชียเปน็ ภูมิภาคทม่ี ีอาณาเขตตดิ บรเิ วณใดบ้าง 4) ทวีปเอเชียเปน็ ภมู ภิ าคทม่ี ีความสำคญั ในด้านใดบ้าง 5) นักเรียนคดิ ว่าลักษณะภูมิประเทศของทวีปเอเชยี จะเหมอื นกนั ท้ังทวีปหรือไม่ เพราะอะไร ข้ันท่ี 2 การรวบรวมขอ้ มลู 6) ครใู ห้นักเรียนศกึ ษาค้นคว้าข้อมูล จากหนังสือเรียนสังคมศึกษาฯ ม.1 เรื่อง ทำเล ที่ต้ังและอาณาเขตของทวีปเอเชีย หรือจากแหล่งการเรียนรู้อ่ืน ๆ เช่น หนังสือในห้องสมุด เว็บไซต์ในอินเทอร์เน็ต และจดบันทึกลงในสมุดบันทึกของนักเรียน เพ่ือนำมาอภิปรายในช้ัน เรยี น ขน้ั ที่ 3 การจัดการข้อมูล 7) นกั เรียนชว่ ยกนั ตรวจสอบความถกู ต้องของข้อมลู ทีไ่ ด้ศกึ ษามา
64 ข้นั ท่ี 4 การวิเคราะห์และแปลผลขอ้ มูล 8) นกั เรยี นนำข้อมูลที่รวบรวมมาไดท้ ำการวิเคราะห์เพ่อื อธบิ ายคำตอบ ข้ันท่ี 5 การสรปุ เพอื่ ตอบคำถาม 9) นักเรยี นในชนั้ เรียนร่วมกันตอบคำถาม โดยครชู ว่ ยชแี้ นะเพิม่ เตมิ (แนวตอบ 1) แบ่งภูมิภาคออกเป็นเอเชียกลาง เอเชียตะวันตกเฉียงใต้ เอเชียใต้ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียตะวันออก 2) ทวีปเอเชียเป็นภูมิภาคที่มีทำเลที่ตั้งท่ี ตอ่ เน่อื งกับทวปี ยุโรป บางส่วนตดิ กับทวีปแอฟริกา พ้ืนทสี่ ่วนใหญต่ ัง้ อย่เู หนือเส้นศูนยส์ ูตร 3) มีอาณาเขตในทิศเหนือจดมหาสมุทรอาร์กติก ทิศใต้จดมหาสมุทรอินเดีย ทิศตะวันออกจด มหาสมุทรแปซิฟิก และทิศตะวันตกจดทะเลเมดิเตอร์เรเนียน 4) ทวีปเอเชียเป็นภูมิภาคท่ีมี ความสำคัญในการเป็นแหล่งทรัพยากรที่สำคัญด้านต่าง ๆ ของโลก มีความหลากหลายใน ด้านต่าง ๆ 5) ไม่ เพราะลักษณะภูมิประเทศมีความแตกต่างกันมีท้ังพื้นที่ท่ีเป็นที่ราบสูง ท่ี ราบลุ่มแม่น้ำ หมู่เกาะ มหาสมุทร ฯลฯ รวมถึงเป็นทวีปที่มีประชากรหนาแน่นมากที่สุดใน โลกอีกด้วย) 7.3 ขนั้ สรุป 10) ครูและนักเรียนช่วยกันสรุปองค์ความรู้เกี่ยวกับท่ีตั้ง ขนาด และอาณาเขตของ ทวปี เอเชยี จากนั้นครูเปิดโอกาสใหน้ กั เรียนซักถามขอ้ สงสยั 8. สอ่ื /แหลง่ เรียนรู้ 8.1 สือ่ การเรียนรู้ - หนังสอื เรียนรายวชิ าสังคมศึกษาฯ ม.1 (อจท) 8.2 แหล่งการเรียนรู้ - หอ้ งสมุด
65 9. กระบวนการวดั ผลและประเมนิ ผล ใบงาน/ เครื่องมอื วัด วธิ กี ารวดั เกณฑ์การ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ภาระงาน วดั และ 1. นักเรียนสามารถระบตุ ำแหนง่ ท่ตี งั้ ขนาด และอาณาเขตของทวีปเอเชยี ได้ ประเมนิ ผล (K) สมุดบันทึก สมุด ตรวจสมดุ ระดบั ของนักเรยี น บันทึก บนั ทกึ คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ 2. นักเรียนสามารถประยุกต์ใชเ้ คร่ืองมือ การตอบ แบบ ประเมิน ระดบั ทางภมู ศิ าสตรใ์ นการสบื ค้นลักษณะทาง คำถาม ประเมนิ การ การตอบ คณุ ภาพ กายภาพของทวปี เอเชยี ได้ (P) ตอบคำถาม คำถาม 2 ผา่ นเกณฑ์ 3. นกั เรยี นตระหนกั ถงึ ความสำคญั ของ การแสดง แบบสงั เกต สังเกต ระดบั ลกั ษณะทางกายภาพของทวปี เอเชยี ทม่ี ี ความคดิ เห็น พฤติกรรม พฤติกรรม คณุ ภาพ อิทธผิ ลตอ่ วถิ กี ารดำเนนิ ชีวติ ของ ในชน้ั เรยี น รายบุคคล รายบคุ คล 2 ผา่ นเกณฑ์ ประชากร (A) 10. บันทกึ ผลหลงั สอน 1. ผลการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ดา้ นความรู้ (K) ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ...................................
66 ด้านคณุ ลักษณะ (A) ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... 2. ปัญหาท่เี กดิ ............................................................................................................................. ................................... .................................................................................... ............................................................................ ............................................................................................................................. ................................... 3. ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ไขปญั หา ............................................................................................................................. ................................... .................................................................................. .............................................................................. ............................................................................................................................. ................................... ลงชอ่ื ................................................................... (นางสาวรตั ติยา วาดเขยี น) ครูผู้สอน ............../............................../.............. 11. ความคิดเห็นของครูพี่เล้ียง ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................ ................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ลงชือ่ ................................................................... (นางนวลศริ ิ ศลิ ธรรม) ครพู ี่เล้ียง ............../............................../...............
67 12. ความคิดเห็นของหัวหน้ากลมุ่ สาระสังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ลงช่ือ................................................................... (นางนวลศิริ ศลิ ธรรม) หวั หน้ากลมุ่ สาระสังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ............../............................./............... 13. ความคดิ เห็นของผบู้ รหิ าร ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................ ................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ลงช่ือ................................................................... (นายอาทร เคหาสยั ) ผู้อำนวยการโรงเรยี นเทศบาล 1 หนองใส ............../............................../..............
68 แบบประเมนิ การตอบคำถาม พฤติกรรม/ สนใจ ตอบคำถามได้ ตอบคำถามอยา่ ง การ ระดบั คะแนน และ ตรงประเดน็ สม่ำเสมอ รวม ประเมินผล ลำดับ ตัง้ ใจฟัง คะแนน ที่ ชื่อ-สกุล 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ผา่ น ไม่ ผ่าน 1 2 3 4 5 6 7 8 ระดบั คะแนนพฤติกรรมทนี่ กั เรยี นปฏิบัตดิ งั น้ี ระดบั 3 หมายถึง แสดงพฤติกรรมใหเ้ หน็ มาก ระดบั 2 หมายถึง แสดงพฤติกรรมใหเ้ ห็นปานกลาง ระดบั 1 หมายถงึ แสดงพฤติกรรมใหเ้ ห็นน้อย เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 4-9 ผา่ น 8-9 ดี 6-7 ปานกลาง 4-5 พอใช้ ต่ำกว่า 4 ไม่ผา่ น (ลงช่ือ) ................................ผ้ปู ระเมิน (............................................) ............/................../............
69 แบบสังเกตพฤตกิ รรม / การทำงานรายบคุ คล ชอ่ื -สกลุ ....................................................................................................... ชัน้ ............เลขท่.ี ............ คำชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ งทต่ี รงกับระดับคะแนน ลำดับท่ี รายการประเมนิ ระดับคะแนน 4321 1 การแสดงความคิดเห็น 2 การยอมรบั ฟงั ความคดิ เห็นของผู้อนื่ 3 การทำงานตามหน้าที่ท่ไี ดร้ บั มอบหมาย 4 ความมีน้ำใจ 5 การตรงต่อเวลา รวม ลงชอื่ .............................................ผู้ประเมิน ................ /................ /................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่ำเสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครง้ั ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน 18 - 20 ดีมาก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ต่ำกว่า 10 ปรับปรุง
70 แบบประเมนิ / คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ชื่อ-สกุล ...................................................................................................... ช้นั ...........เลขที.่ ............... คำชแ้ี จง : ให้ ผสู้ อน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด ✓ ลงในช่องท่ตี รงกบั ระดับคะแนน คณุ ลักษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน อนั พงึ ประสงค์ด้าน 4321 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเมือ่ ได้ยนิ เพลงชาติ รอ้ งเพลงชาติได้ และอธบิ ายความหมายของ กษตั ริย์ เพลงชาติ 1.2 ปฏบิ ัติตนตามสทิ ธแิ ละหน้าทข่ี องนักเรยี น 1.3 ใหค้ วามรว่ มมอื รว่ มใจ ในการทำงานกับสมาชกิ ในชั้นเรยี น 1.4 เข้ารว่ มกิจกรรมทสี่ รา้ งความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ตอ่ โรงเรียนและชมุ ชน 1.5 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาทตี่ นนบั ถือ ปฏิบตั ติ นตามหลกั ของศาสนา 1.6 เขา้ ร่วมกิจกรรมทเ่ี กย่ี วกับสถาบันพระมหากษตั รยิ ต์ ามทโี่ รงเรยี น และ ชุมชนจดั ขึ้น 2. ซือ่ สตั ย์ สจุ ริต 2.1 ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และเปน็ จรงิ 2.2 ปฏิบตั ิในสง่ิ ท่ถี กู ต้อง ละอาย และเกรงกลัวที่จะทำความผดิ ทำตามสัญญา ทต่ี นให้ไว้กับเพอ่ื น พ่อแม่หรอื ผปู้ กครอง และครู 2.3 ปฏบิ ัตติ อ่ ผู้อืน่ ดว้ ยความซอื่ ตรง 3. มวี นิ ยั 3.1 ปฏบิ ตั ิตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บังคับของครอบครัว และ รบั ผิดชอบ โรงเรียน มีความตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมตา่ งๆ ในชวี ิตประจำวัน 4. ใฝ่เรียนรู้ 4.1 แสวงหาขอ้ มูลจากแหลง่ การเรียนรูต้ ่างๆ 4.2 มกี ารจดบนั ทึกความรอู้ ยา่ งเปน็ ระบบ 4.3 สรุปความรไู้ ด้อยา่ งมเี หตผุ ล 5. อย่อู ยา่ งพอเพยี ง 5.1 ใช้ทรัพยส์ นิ ของตนเอง เช่น สิง่ ของ เครอ่ื งใช้ ฯลฯ อย่างประหยดั คมุ้ คา่ และเก็บรกั ษาดูแลอย่างดี และใชเ้ วลาอยา่ งเหมาะสม 5.2 ใช้ทรัพยากรของสว่ นรวมอย่างประหยดั คมุ้ ค่า และเก็บรักษาดูแลอย่างดี 5.3 ปฏบิ ตั ติ นและตัดสนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มีเหตผุ ล 5.4 ไม่เอาเปรียบผอู้ ่นื และไม่ทำใหผ้ อู้ นื่ เดือดร้อน พรอ้ มให้อภยั เม่อื ผูอ้ ื่น กระทำผดิ พลาด
71 คุณลักษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน อันพึงประสงค์ 4321 5.5 วางแผนการเรยี น การทำงานและการใชช้ วี ติ ประจำวันบนพ้นื ฐาน ดา้ น ของความรู้ ขอ้ มลู ข่าวสาร 6. มุ่งมัน่ ในการ 5.6 รูเ้ ท่าทันการเปลยี่ นแปลงทางสงั คม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรับ ทำงาน และปรบั ตวั อยูร่ ว่ มกบั ผู้อน่ื ได้อย่างมคี วามสขุ 7. รักความเป็น 6.1 มีความต้งั ใจและพยายามในการทำงานท่ไี ด้รับมอบหมาย ไทย 6.2 มคี วามอดทนและไม่ท้อแทต้ อ่ อปุ สรรคเพือ่ ใหง้ านสำเรจ็ 8. มีจิตสาธารณะ 7.1 มีจิตสำนึกในการอนุรกั ษว์ ัฒนธรรมและภูมปิ ัญญาไทย 7.2 เห็นคณุ คา่ และปฏิบัตติ นตามวฒั นธรรมไทย 8.1 รู้จักชว่ ยพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครทู ำงาน 8.2 อาสาทำงาน ชว่ ยคิด ช่วยทำ และแบง่ ปันสง่ิ ของใหผ้ ู้อน่ื 8.3 รจู้ ักดูแล รักษาทรัพยส์ มบัตแิ ละสง่ิ แวดล้อมของหอ้ งเรียน โรงเรียน ชุมชน 8.4 เข้าร่วมกจิ กรรมเพ่อื สังคมและสาธารณประโยชนข์ องโรงเรยี น ลงชือ่ .............................................ผ้ปู ระเมนิ ................ /................ /................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมอยา่ งสมำ่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครง้ั ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบางคร้ัง ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมน้อยคร้งั ให้ 1 คะแนน 82 - 108 ดีมาก 54 - 81 ดี 28 - 53 พอใช้ ตำ่ กวา่ 27 ปรับปรุง
72 แบบประเมินสมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น 5 ด้าน ชื่อ ................................................................................................ช้ัน......…../.......... เลขท.่ี .................. สมรรถนะที่ประเมนิ ระดับคะแนน 321 1. ความสามารถในการส่ือสาร 1.1 มีความสามารถในการรับ – ส่งสาร 1.2 มีความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ ความคดิ ความเข้าใจของตนเอง โดยใช้ภาษาอย่างเหมาะสม 1.3 ใช้วิธีการส่อื สารทเ่ี หมาะสม 1.4 วเิ คราะห์แสดงความคิดเห็นอยา่ งมเี หตผุ ล 1.5 เขยี นบันทึกเหตกุ ารณป์ ระจำวนั แลว้ เล่าให้เพ่อื นฟงั ได้ สรุปความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคดิ 2.1 มีความสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ 2.2 มีทกั ษะในการคิดนอกกรอบอย่างสรา้ งสรรค์ 2.3 สามารถคิดอยา่ งมวี ิจารณญาณ 2.4 มีความสามารถในการคิดอย่างมีระบบ 2.5 ตดั สนิ ใจแก้ปัญหาเกย่ี วกับตนเองได้ สรุปความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 3.1 สามารถแก้ปัญหาและอปุ สรรคต่าง ๆ ที่เผชญิ ได้ 3.2 ใชเ้ หตุผลในการแก้ปญั หา 3.3 เข้าใจความสัมพันธแ์ ละการเปล่ยี นแปลงในสงั คม 3.4 แสวงหาความรู้ ประยกุ ตค์ วามรูม้ าใช้ในการปอ้ งกันและแก้ไขปญั หา 3.5 สามารถตดั สินใจได้เหมาะสมตามวยั สรปุ ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต
73 4.1 เรียนรู้ดว้ ยตนเองไดเ้ หมาะสมตามวัย 4.2 สามารถทำงานกลมุ่ รว่ มกับผอู้ น่ื ได้ 4.3 นำความรทู้ ไ่ี ด้ไปใช้ประโยชนใ์ นชีวติ ประจำวัน 4.4 จัดการปัญหาและความขดั แยง้ ได้เหมาะสม 4.5 หลกี เลย่ี งพฤตกิ รรมไมพ่ งึ ประสงค์ท่ีสง่ ผลกระทบต่อตนเอง สรุปความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5.1 เลือกและใชเ้ ทคโนโลยีไดเ้ หมาะสมตามวัย 5.2 มีทกั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยี 5.3 สามารถนำเทคโนโลยไี ปใช้พฒั นาตนเอง 5.4 ใชเ้ ทคโนโลยใี นการแก้ปัญหาอยา่ งสรา้ งสรรค์ 5.5 มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรมในการใชเ้ ทคโนโลยี สรุปความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี เกณฑ์การใหค้ ะแนน : ลงชอื่ ........................................... ผูป้ ระเมิน พฤตกิ รรมที่ปฏบิ ัตชิ ัดเจนและสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน (……………………………………………………………..) พฤติกรรมที่ปฏิบัติชดั เจนและบ่อยคร้งั ให้ 2 คะแนน พฤตกิ รรมท่ปี ฏิบัตชิ ัดเจนบางครงั้ ให้ 1 คะแนน
74 โรงเรียนเทศบาล 1 หนองใส อำเภอเมือง จังหวดั อุดรธานี แบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธทิ์ างการเรียน เร่อื ง ลกั ษณะท่ัวไปของทวีปเอเชีย รายวิชาสังคมศึกษา รหัสวชิ า ส21102 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 คำชแี้ จง 1. แบบทดสอบฉบับน้ีเป็นแบบปรนยั จำนวนทั้งหมด 30 ข้อ รวม 30 คะแนน ใช้เวลา 30 นาที 2. ใหท้ ำเครือ่ งหมาย X ลงในกระดาษคำตอบให้ถกู ต้องทส่ี ุดเพียงข้อเดียว 1.ถา้ กลา่ วถึงทวปี เอเชยี นกั เรียนจะคิดถึงเรื่องใด 6. ขอ้ ใดไม่ใชล่ กั ษณะภูมปิ ระเทศของทวีป เปน็ อันดบั แรก เอเชยี ก. ดินแดนแห่งอารยธรรม ก. ทร่ี าบ ข. ทวปี ทีม่ ีศาสนามากท่สี ุดในโลก ข. เนินเขาและทร่ี าบสงู ระดับตำ่ ค. ดนิ แดนแห่งความหลากหลาย ค. เทือกเขาสงู ง. เป็นทวปี ทมี่ ขี นาดใหญ่ที่สดุ ในโลก ง. แมน่ ้ำ 2. ถา้ นกั เรียนต้องใชเ้ ครื่องมือทางภูมิศาสตร์เพือ่ 7. ที่ราบสงู ใดได้รบั การขนานนามวา่ \"หลังคา ศกึ ษาลักษณะทางกายภาพของทวปี เอเชยี ควร โลก\" เลอื กใช้เครื่องมือใดทีเ่ หมาะสมมากทส่ี ุด ก. ทรี่ าบสงู อิหรา่ น ก. ลกู โลก ข. Remote Sensing ข. ทรี่ าบสงู มองโกเลยี ค. แผนท่ี ง. ภาพถา่ ยทางอากาศ ค. ทร่ี าบเดกกนั 3. ภูมภิ าคทางภูมิศาสตร์ของทวปี เอเชียมที ัง้ หมดก่ี ง. ท่ีราบสูงทเิ บต ภมู ิภาค 8. ขอ้ ใดไม่ใช่ปจั จยั ในการควบคุมอากาศ ก. 4 ข. 5 ก. ตำแหน่งตามทต่ี ั้งละตจิ ูด ค. 6 ง. 7 ข. ตำแหน่งใกล้ไกลทะเล 4. การแบ่งภมู ิภาคของทวปี เอเชียยดึ หลักการใด ค. แอ่งแผ่นดนิ ก. ทำเลท่ีตงั้ ใกล้เคยี งกัน ง. ความสูงตำ่ ของพ้นื ท่ี ข. ความเหมอื นกันของเชื้อชาติ 9. ลักษณะภมู ิอากาศแบบใด ที่มักจะได้รับ ค. ความคล้ายคลงึ ในวัฒนธรรมเดยี วกนั ผลกระทบจากพายหุ มนุ เขตร้อน ง. ลกั ษณะภูมปิ ระเทศ ภมู ิอากาศคลา้ ยคลึงกัน ก. ภมู ิอากาศแบบป่าดิบชื้น 5. เพราะเหตุใดเขตเกาะและหมู่เกาะในทวีปเอเชีย ข. ภมู อิ ากาศแบบมรสมุ เขตรอ้ น จึงมกั จะเกดิ แผน่ ดนิ ไหวบ่อยคร้งั ค. ภมู ิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนยี น ก. เปลอื กโลกมอี ายุน้อย ง. ภูมอิ ากาศแบบทะเลทรายเขตรอ้ น ข. อทิ ธิพลจากกระแสนำ้ ค. ปรมิ าณน้ำใตด้ ินมีน้อย ง. มเี กาะและหมูเ่ กาะจำนวนมาก
75 10. ก่ิงกนกเดนิ ทางไปท่องเท่ียวในบริเวณที่มี ค. ดนิ เขตภเู ขาไฟ อุณหภูมสิ งู มคี วามช่มุ ชืน้ และมีความแหง้ แลง้ ง. ดนิ เขตท่รี าบลมุ่ แมน่ ำ้ ชดั เจนกนั สลบั กนั ปลี ะ 6 เดือน กิ่งกนกเดนิ ทางไป 16. ถา้ นักเรียนไปเที่ยวป่าในเขตท่รี าบไซบีเรีย ในภมู ิอากาศเขตใด นกั เรยี นจะพบป่าไม้ และสัตว์ชนิดใด ก. เขตอากาศมรสมุ ก. ป่าดงดิบ และแรด ข. เขตอากาศแบบทุง่ หญ้าเมอื งร้อน ข. ป่าผลัดใบ และหมแี พนดา้ ค. เขตอากาศแบบทุ่งหญ้ากง่ึ ทะเลทราย ค. ป่าสนไทกา้ และกวางมสู ง. เขตอากาศแบบทะเลทรายเขตอบอนุ่ ง. ปา่ ไมผ่ ลดั ใบ และสนุ ัขจิ้งจอก 11. พชื พรรณธรรมชาติจำพวก ตะไครน่ ำ้ ไลเคน จะ 17. สมเจดิ เดินทางไปดูการพัฒนาเศรษฐกจิ พบในเขตภูมิอากาศแบบใด ของภูมภิ าคเอเชียตะวนั ออก สมเจิดต้องเลือกดู ก. เขตอบอนุ่ ข. เขตไทกา กิจกรรมเศรษฐกิจใด ค. เขตรอ้ นชื้น ง. เขตทุนดรา ก. ธรุ กจิ การค้าและบริการ 12. ขอ้ บง่ บอกใดที่แสดงให้เห็นวา่ ดนิ ในเอเชยี ข. อตุ สาหกรรมการเกษตร ตะวนั ออกเฉียงใต้และเอเชียกลางเหมาะแกก่ ารปลูก ค. อุตสาหกรรมการต่อเรือ ขา้ ว ง. อุตสาหกรรมขุดเจาะน้ำมนั ก. เป็นพ้นื ที่ราบขนาดใหญ่ 18. ปัจจัยใดท่ีส่งผลให้ทวีปเอเชียเป็นแหลง่ การ ข. มฝี นตกชกุ ปริมาณนำ้ มาก ผลติ ดา้ นการเกษตรท่สี ำคญั ของโลก ค. เป็นพื้นทีล่ าดเทปอ้ งกันน้ำท่วมขัง ก. ความอดุ มสมบรู ณข์ องทรัพยากร ง. เป็นแหล่งอดุ มสมบรู ณ์อนิ ทรียวัตถุ ข. ความหลากหลายทางพน้ื ท่ี 13. ลักษณะภมู ิประเทศเขตใดของทวีปเอเชยี ที่ควร ค. ภมู ิอากาศท่ีเหมาะสม ได้รับสมญานามว่า “อู่ข้าวอ่นู ้ำของทวีป” ง. การคมนาคม ก. เขตที่ราบสงู เก่า 19.ลกั ษณะเศรษฐกจิ ของทวีปเอเชียมีการ ข. เขตที่ราบลมุ่ น้ำ เปลี่ยนแปลงอยา่ งไร ค. เขตท่ลี ุ่มภาคเหนอื ก. ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเพมิ่ ข้ึน ง. เขตเกาะและหมูเ่ กาะ ข. ประเทศตา่ งๆผลิตสนิ ค้าได้มากข้นึ 14. ทรัพยากรน้ำในทวปี เอเชยี มีความสำคญั ค. การขยายตัวทางเศรษฐกจิ เกิดขึน้ บาง อยา่ งไร ประเทศ ก. ด้านการเขา้ ถึงแหลง่ น้ำ ง. เกิดศูนยก์ ลางทางเศรษฐกจิ ตามเมือง ข. ด้านการแปรรูป สำคัญเพ่ิมขน้ึ ค. ด้านการเกษตร 20. เพราะเหตุใดทวปี เอเชียจงึ ประสบปญั หาใน ง. ดา้ นน้ำผวิ ดิน ด้านการเพาะปลูกมาก 15. ทรพั ยากรดินเขตใดในทวีปเอเชยี มีสารอาหาร ก. พนื้ ทส่ี ว่ นใหญเ่ ป็นท่ลี ุม่ ตำ่ สมบูรณ์ของพชื สมบูรณ์ เหมาะแก่การเพาะปลูก ข. พนื้ ท่ีส่วนใหญเ่ ป็นดินปนทราย ก. ดินเขตทะเลทราย ค. พนื้ ทส่ี ่วนใหญเ่ ป็นทะเลทรายแห้งแล้ง ข. ดินเขตกง่ึ อาร์กติกและทุนดรา ง. พ้ืนทสี่ ว่ นใหญข่ าดการบรหิ ารจัดการ อยา่ งถูกต้อง
76 21. อุตสาหกรรมประเภทใดของทวีปเอเชยี ท่ีควร 26. ประชากรสว่ นใหญข่ องทวปี เอเชยี เปน็ กลุม่ สง่ เสรมิ ให้มกี ารพัฒนาการมากขึน้ ชาตพิ นั ธ์ใุ ด ก. อัญมณีและเครื่องประดบั ข. เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบ ก. นกิ รอยด์ ค. การแปรรปู ผลผลติ ทางการเกษตร ง. เครื่องคอมพิวเตอร์และสว่ นประกอบ ข. คอเคซอยด์ 22. ในภูมภิ าคเอเชียตะวนั ออกเฉยี งใต้ ธุรกิจบริการ ใด ทำรายไดส้ งู ทสี่ ุด ค. มองโกลอยด์ ก. การท่องเทย่ี ว ข. ส่งิ ทอ ง. เมลานเี ซยี น ค. หัตถกรรม ง. การเงินการธนาคาร 27. สบุ รรณ เปน็ หนุม่ รา่ งเล็ก รปู รา่ งสนั ทัด ตา 23. การเปล่ยี นแปลงทางเศรษฐกิจของทวีปเอเชยี ส่งผลอยา่ งไร สีดำ ผิวสีเหลือง ตาเรยี ว ลกั ษณะของสุบรรณมี ก. พื้นท่ปี า่ ไมเ้ พ่มิ มากขึน้ ข. ประชาชนเพิ่มขึ้นทกุ พ้ืนที่ เชอ้ื ชาตใิ ด ค. ประชากรทำเกษตรกรรมมากขนึ้ ง. มีการหล่ังไหลและกระจายสินค้าเพิ่มมากขน้ึ ก. นิกรอยด์ ข. แฮเมตกิ 24. บรเิ วณใดของทวปี เอเชยี ทมี่ ปี ระชากรอาศัยอยู่ อยา่ งหนาแนน่ ค. มองโกลอยด์ ง. คอเคซอยด์ ก. ทร่ี าบสูงเก่า ข. ทรี่ าบลุ่มแมน่ ้ำ 28. ข้อใดกล่าวได้ถกู ต้อง ค. ท่ีราบระหว่างหบุ เขา ง. ชายฝ่งั ทะเลและหมู่เกาะต่างๆ ก. ประเทศในทวีปเอเชียไม่มีภาษาประจำ 25. การทท่ี วีปเอเชยี มพี ฒั นาการดา้ นเทคโนโลยี อย่างรวดเร็ว จะส่งผลต่อการเปลยี่ นแปลงวิถชี วี ติ ชาติ ประชากรอย่างไร ก. ประชากรจะย้ายถน่ิ ไปอยูน่ อกเมืองเพ่ิมขนึ้ ข. ทกุ ภาษาในทวีปเอเชยี มีรากฐานมาจาก ข. เทคโนโลยีจะค่อยๆหมดความสำคัญลง ค. ประชากรจะสร้างสง่ิ อำนวยความสะดวกมาก ภาษาจีน ข้ึน ค. ครสิ ต์ศาสนาและศาสนาอิสลามถือกำเนิด ง. จะเกิดกิจกรรมการซอื้ ขายสนิ ค้าผา่ นระบบ ในภมู ิภาคเดียวกัน ออนไลนม์ ากข้นึ ง. ประชากรในทวีปเอเชียนับถือศาสนา พราหมณ-์ ฮินดมู ากทสี่ ุด 29. สาเหตใุ ดทที่ ำให้จำนวนประชากรในทวปี เอเชีย เพิ่มขน้ึ ก. มอี ตั ราการเกดิ เพิ่มขึ้น ข. รฐั บาลสง่ เสริมการมบี ุตร ค. มีอตั ราการตายน้อยลงทุกปี ง. ประชากรจากทอี่ ่ืนย้ายเข้ามาเพ่มิ ขึ้น 30. ข้อใดแสดงใหเ้ ห็นถึงการเปล่ยี นแปลงทาง สังคมและวัฒนธรรมของทวีปเอเชีย ก. การคมนาคมขนสง่ ทสี่ ะดวกรวดเร็ว ข. การตง้ั ถิ่นฐานบริเวณที่ราบล่มุ แม่น้ำ ค. การสรา้ งอาคารบา้ นเรือนตามแบบ ตะวนั ตก ง. การแตง่ กายตามเอกลักษณข์ องตนท่ีมีมา ยาวนาน
77 ภาคผนวก ค คุณภาพของเคร่ืองมือที่ใช้ในการวดั - ตาราง IOC ของแผนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ - ตาราง IOC ของข้อสอบวัดผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นรู้ - คา่ ความยากง่าย (p) และค่าอำนาจจำแนก (r) - ค่าความเชือ่ ม่นั ของแบบทดสอบผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียนรู้ - หลกั ฐานการตรวจคุณภาพเครือ่ งมอื ของผู้เช่ยี วชาญ
78 ตารางวเิ คราะหค์ า่ IOC ของแผนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ตารางที่ 7 แสดงการคำนวณค่า IOC เร่อื ง ลกั ษณะท่วั ไปของทวีปเอเชีย โดยใช้วธิ ีการสอนแบบ กระบวนการทางภมู ศิ าสตร์ จากผเู้ ช่ยี วชาญท้งั หมดของแผนการจัดการเรยี นรู้ แผนท่ี ขน้ั ตอนของแผน ความคดิ เหน็ ของผ้เู ชย่ี วชาญ IOC แปล คนที่ 1 คนที่ 2 คนที่ 3 ∑������ คา่ 1. 1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ +1 +1 +1 3 1.00 ใชไ้ ด้ ปฐมนเิ ทศ ตวั ชวี้ ัด และ 2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ ทดสอบ 3. คณุ ลักษณะที่พง่ึ +1 +1 +1 3 1.00 ใชไ้ ด้ ก่อนเรยี น ประสงค์ 4. สมรรถนะสำคัญของ +1 +1 +1 3 1.00 ใชไ้ ด้ ผเู้ รียน 5. สาระสำคัญ +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 6. สาระการเรยี นรู้ +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 7. การจดั กจิ กรรมการ +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ เรยี นรู้ 8. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้ +1 +1 0 2 0.67 ใช้ได้ 9. กระบวนการวัดผล +1 +1 +1 3 1.00 ใชไ้ ด้ และประเมินผล 2. ลกั ษณะ 1. มาตรฐานการเรียนร้/ู 0 +1 +1 2 0.67 ใช้ได้ ทาง ตัวชี้วดั กายภาพ 2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ ของทวีป 3. คุณลักษณะท่ีพึ่ง +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ เอเชีย ประสงค์ (ทำเลทตี่ ้งั 4. สมรรถนะสำคัญของ +1 +1 +1 3 1.00 ใชไ้ ด้ และอาณา ผู้เรียน เขต) 5. สาระสำคญั +1 +1 +1 3 1.00 ใชไ้ ด้ 6. สาระการเรียนรู้ +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 7. การจดั กจิ กรรมการ +1 +1 +1 3 1.00 ใชไ้ ด้ เรียนรู้ 8. ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้ +1 +1 +1 3 1.00 ใชไ้ ด้ 9. กระบวนการวัดผล +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ และประเมินผล
79 ตารางท่ี 7 แสดงการคำนวณคา่ IOC จากผู้เชีย่ วชาญทงั้ หมดของแผนการจัดการเรยี นรู้ (ต่อ) แผนท่ี ขน้ั ตอนของแผน ความคิดเหน็ ของผ้เู ช่ียวชาญ IOC แปล คนท่ี 1 คนท่ี 2 คนท่ี 3 ∑ ������ ค่า 3. ลกั ษณะ 1. มาตรฐานการเรยี นร้/ู +1 +1 +1 3 1.00 ใชไ้ ด้ ทาง ตวั ชีว้ ดั กายภาพ 2. จุดประสงค์การเรยี นรู้ +1 +1 +1 3 1.00 ใชไ้ ด้ ของทวีป 3. คุณลักษณะทีพ่ ึ่ง +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ เอเชีย ประสงค์ (ลักษณะ 4. สมรรถนะสำคญั ของ +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ ภมู ิ ผู้เรียน ประเทศ) 5. สาระสำคญั +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 6. สาระการเรยี นรู้ +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 7. การจัดกิจกรรมการ +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ เรยี นรู้ 8. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้ +1 +1 0 2 0.67 ใช้ได้ 9. กระบวนการวัดผล +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ และประเมนิ ผล 4. ลกั ษณะ 1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ 0 +1 +1 2 0.67 ใช้ได้ ทาง ตัวชี้วัด กายภาพ 2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ ของทวีป 3. คุณลกั ษณะทพ่ี ึง่ +1 +1 +1 3 1.00 ใชไ้ ด้ เอเชยี ประสงค์ (ลักษณะ 4. สมรรถนะสำคัญของ +1 +1 +1 3 1.00 ใชไ้ ด้ ภูมิอากาศ ผเู้ รียน และพืช 5. สาระสำคัญ +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ พรรณ 6. สาระการเรยี นรู้ +1 +1 +1 3 1.00 ใชไ้ ด้ ธรรมชาต)ิ 7. การจัดกิจกรรมการ +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ เรยี นรู้ 8. สื่อ/แหลง่ การเรยี นรู้ +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 9. กระบวนการวัดผล +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ และประเมนิ ผล
80 ตารางท่ี 7 แสดงการคำนวณคา่ IOC จากผู้เช่ยี วชาญท้ังหมดของแผนการจดั การเรียนรู้ (ตอ่ ) แผนที่ ขน้ั ตอนของแผน ความคิดเห็นของผูเ้ ชย่ี วชาญ IOC แปล คนท่ี 1 คนท่ี 2 คนท่ี 3 ∑ ������ คา่ 5. ลกั ษณะ 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ +1 +1 +1 3 1.00 ใชไ้ ด้ ทาง ตวั ชว้ี ัด กายภาพ 2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ +1 +1 +1 3 1.00 ใชไ้ ด้ ของทวีป 3. คณุ ลักษณะทพี่ ง่ึ +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ เอเชยี ประสงค์ (ลักษณะ 4. สมรรถนะสำคญั ของ +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ ทรัพยากรธ ผู้เรียน รรมชาต)ิ 5. สาระสำคญั +1 +1 +1 3 1.00 ใชไ้ ด้ 6. สาระการเรยี นรู้ +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 7. การจดั กจิ กรรมการ +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ เรยี นรู้ 8. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้ +1 +1 0 2 0.67 ใช้ได้ 9. กระบวนการวดั ผล +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ และประเมนิ ผล 6. ลกั ษณะ 1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ ประชากร ตวั ชว้ี ดั สงั คมและ 2. จุดประสงค์การเรยี นรู้ +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ วัฒนธรรม 3. คุณลักษณะที่พ่งึ +1 +1 +1 3 1.00 ใชไ้ ด้ ของทวีป ประสงค์ เอเชยี 4. สมรรถนะสำคัญของ +1 +1 +1 3 1.00 ใชไ้ ด้ ผเู้ รียน 5. สาระสำคญั 0 +1 +1 2 0.67 ใช้ได้ 6. สาระการเรยี นรู้ +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 7. การจัดกจิ กรรมการ +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ เรียนรู้ 8. สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ +1 +1 +1 3 1.00 ใชไ้ ด้ 9. กระบวนการวัดผล +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ และประเมินผล
81 ตารางที่ 7 แสดงการคำนวณค่า IOC จากผเู้ ช่ียวชาญท้งั หมดของแผนการจดั การเรยี นรู้ (ต่อ) แผนที่ ขัน้ ตอนของแผน ความคดิ เหน็ ของผ้เู ชีย่ วชาญ IOC แปล คนที่ 1 คนท่ี 2 คนที่ 3 ∑ ������ คา่ 7. ลกั ษณะ 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ +1 +1 +1 3 1.00 ใชไ้ ด้ ประชากร ตัวชวี้ ดั สงั คมและ 2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 0 +1 +1 2 0.67 ใชไ้ ด้ วัฒนธรรม 3. คณุ ลกั ษณะท่พี ง่ึ +1 +1 +1 3 1.00 ใชไ้ ด้ ของทวีป ประสงค์ เอเชีย (ต่อ) 4. สมรรถนะสำคญั ของ +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ ผู้เรยี น 5. สาระสำคัญ +1 +1 +1 3 1.00 ใชไ้ ด้ 6. สาระการเรยี นรู้ +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 7. การจัดกจิ กรรมการ +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ เรียนรู้ 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 9. กระบวนการวดั ผล +1 +1 +1 3 1.00 ใชไ้ ด้ และประเมนิ ผล 8. ลักษณะ 1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ ทาง ตัวชีว้ ดั เศรษฐกิจ 2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ ของทวีป 3. คณุ ลักษณะทพ่ี ่ึง +1 +1 +1 3 1.00 ใชไ้ ด้ เอเชยี ประสงค์ 4. สมรรถนะสำคัญของ +1 +1 +1 3 1.00 ใชไ้ ด้ ผ้เู รยี น 5. สาระสำคญั +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 6. สาระการเรียนรู้ +1 +1 +1 3 1.00 ใชไ้ ด้ 7. การจดั กจิ กรรมการ +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ เรียนรู้ 8. สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้ +1 +1 0 2 0.67 ใชไ้ ด้ 9. กระบวนการวัดผล +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ และประเมินผล
82 ตารางท่ี 7 แสดงการคำนวณคา่ IOC จากผเู้ ช่ยี วชาญท้งั หมดของแผนการจัดการเรียนรู้ (ตอ่ ) แผนท่ี ขน้ั ตอนของแผน ความคิดเห็นของผเู้ ช่ยี วชาญ IOC แปล คนที่ 1 คนที่ 2 คนท่ี 3 ∑ ������ คา่ 9. ลักษณะ 1. มาตรฐานการเรียนร้/ู +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ ทาง ตวั ชว้ี ดั เศรษฐกจิ 2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 0 +1 +1 2 0.67 ใชไ้ ด้ ของทวีป 3. คุณลกั ษณะท่พี ึ่ง +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ เอเชยี (ต่อ) ประสงค์ 4. สมรรถนะสำคญั ของ +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ ผเู้ รียน 5. สาระสำคัญ +1 +1 +1 3 1.00 ใชไ้ ด้ 6. สาระการเรียนรู้ +1 +1 +1 3 1.00 ใชไ้ ด้ 7. การจดั กจิ กรรมการ +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ เรียนรู้ 8. สอื่ /แหลง่ การเรยี นรู้ +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 9. กระบวนการวัดผล +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ และประเมนิ ผล 10. 1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ +1 +1 +1 3 1.00 ใชไ้ ด้ ทดสอบ ตัวช้ีวดั หลังเรียน 2. จุดประสงค์การเรยี นรู้ +1 +1 +1 3 1.00 ใชไ้ ด้ 3. คณุ ลกั ษณะท่ีพงึ่ +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ ประสงค์ 4. สมรรถนะสำคญั ของ +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ ผู้เรยี น 5. สาระสำคญั +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 6. สาระการเรียนรู้ +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 7. การจัดกิจกรรมการ +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ เรียนรู้ 8. ส่ือ/แหลง่ การเรียนรู้ +1 0 +1 2 0.67 ใชไ้ ด้ 9. กระบวนการวัดผล +1 +1 +1 3 1.00 ใชไ้ ด้ และประเมนิ ผล ค่า IOC ความสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง ลักษณะท่ัวไปของทวีปเอเชีย โดยใช้วิธีการสอนแบบกระบวนการทางภูมิศาสตร์ จากผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดของแผนการจัดการเรยี นรู้ มีค่าความสอดคล้อง (IOC) อยรู่ ะหวา่ ง 0.67-1.00 หมายความว่า ใชไ้ ด้
83 ผลการประเมนิ ดชั นีความสอดคลอ้ งของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี น เรื่อง ลกั ษณะทั่วไปของทวีปเอเชีย ของนักเรยี นช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 1 โดยใช้วธิ ีการสอน แบบกระบวนการทางภูมศิ าสตร์ ตารางที่ 8 ผลการประเมนิ ดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ของแบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี น ขอ้ ท่ี ความคิดเหน็ ของผูเ้ ชยี่ วชาญ R IOC แปลค่า คนที่ 1 คนท่ี 2 คนที่ 3 3 1.00 ใชไ้ ด้ 3 1.00 ใชไ้ ด้ 1 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 3 1.00 ใชไ้ ด้ 2 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 3 1.00 ใช้ได้ 3 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 3 1.00 ใช้ได้ 4 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 2 0.67 ใช้ได้ 5 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 3 1.00 ใช้ได้ 6 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 2 0.67 ใช้ได้ 7 +1 +1 +1 3 1.00 ใชไ้ ด้ 3 1.00 ใชไ้ ด้ 8 +1 +1 +1 3 1.00 ใชไ้ ด้ 2 0.67 ใชไ้ ด้ 9 +1 +1 +1 3 1.00 ใชไ้ ด้ 3 1.00 ใชไ้ ด้ 10 +1 +1 0 2 0.67 ใช้ได้ 3 1.00 ใช้ได้ 11 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 3 1.00 ใช้ได้ 12 +1 +1 +1 3 1.00 ใชไ้ ด้ 3 1.00 ใช้ได้ 13 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 3 1.00 ใชไ้ ด้ 14 +1 0 +1 15 +1 +1 +1 16 +1 +1 +1 17 +1 +1 +1 18 0 +1 +1 19 +1 +1 +1 20 +1 +1 +1 21 +1 +1 0 22 +1 +1 +1 23 +1 +1 +1 24 +1 +1 +1 25 +1 +1 +1 26 +1 +1 +1 27 +1 +1 +1 28 +1 +1 +1
84 ตารางท่ี 8 ผลการประเมินดัชนคี วามสอดคล้อง (IOC) ของแบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียน (ตอ่ ) ข้อที่ ความคิดเหน็ ของผ้เู ชยี่ วชาญ R IOC แปลค่า คนท่ี 1 คนท่ี 2 คนที่ 3 29 +1 +1 +1 3 1.00 ใชไ้ ด้ 30 +1 +1 +1 3 1.00 ใชไ้ ด้ 31 +1 +1 +1 3 1.00 ใชไ้ ด้ 32 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 33 0 +1 +1 2 0.67 ใชไ้ ด้ 34 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 35 +1 0 +1 2 0.67 ใชไ้ ด้ 36 +1 +1 +1 3 1.00 ใชไ้ ด้ 37 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 38 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 39 +1 +1 +1 3 1.00 ใชไ้ ด้ 40 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ จากตารางท่ี 8 พบว่า คา่ IOC ความสอดคล้องของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี น เรือ่ ง ลกั ษณะทั่วไปของทวีปเอเชยี โดยใชว้ ธิ ีการสอนแบบกระบวนการทางภูมิศาสตร์ จากผเู้ ช่ียวชาญ ทงั้ หมด มีค่าความสอดคล้อง (IOC) อยู่ระหว่าง 0.67-1.00 หมายความว่า ใช้ได้
85 ค่าความยากงา่ ย (P) และค่าอำนาจจำแนก (r) และคา่ ความเชือ่ มั่น ตารางที่ 9 วเิ คราะห์ค่าความยาก (p) คา่ อำนาจจำแนก (r) ของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ เร่อื ง ลกั ษณะทว่ั ไปของทวปี เอเชีย โดยใชว้ ธิ ีการสอนแบบกระบวนการทางภมู ศิ าสตร์ ขอ้ ที่ ค่าความยาก แปลผล อำนาจจำแนก แปลผล แปลผลคุณภาพของ ง่าย (p) (r) ข้อสอบ 1 0.73 ใชไ้ ด้ 0.33 ใชไ้ ด้ ใชไ้ ด้ 2 0.70 ใช้ได้ 0.28 ใช้ได้ ใชไ้ ด้ 3 0.61 ใชไ้ ด้ 0.44 ใชไ้ ด้ ใช้ได้ 4 0.64 ใช้ได้ 0.20 ตัดทง้ิ ปรับปรุงหรอื ตดั ท้ิง 5 0.42 ใชไ้ ด้ 0.32 ใช้ได้ ใช้ได้ 6 0.18 ทิง้ 0.12 ตดั ทง้ิ ปรับปรุงหรอื ตดั ท้ิง 7 0.61 ใช้ได้ 0.01 ตัดทิ้ง ปรับปรุงหรือตัดท้ิง 8 0.27 ใชไ้ ด้ 0.10 ตดั ทง้ิ ปรับปรุงหรอื ตดั ท้ิง 9 0.42 ใชไ้ ด้ 0.32 ใชไ้ ด้ ใช้ได้ 10 0.73 ใช้ได้ 0.47 ใชไ้ ด้ ใช้ได้ 11 0.42 ใชไ้ ด้ 0.03 ตดั ทง้ิ ปรบั ปรุงหรอื ตัดท้ิง 12 0.48 ใชไ้ ด้ 0.27 ใช้ได้ ใช้ได้ 13 0.64 ใชไ้ ด้ 0.05 ตดั ทง้ิ ปรบั ปรุงหรือตดั ทิ้ง 14 0.76 ใช้ได้ 0.23 ใช้ได้ ใชไ้ ด้ 15 0.64 ใชไ้ ด้ 0.48 ใช้ได้ ใชไ้ ด้ 16 0.48 ใชไ้ ด้ 0.12 ตดั ทิ้ง ปรับปรงุ หรอื ตดั ทิ้ง 17 0.24 ใชไ้ ด้ 0.06 ตัดทงิ้ ปรับปรงุ หรอื ตัดทิ้ง 18 0.61 ใช้ได้ 0.30 ใช้ได้ ใช้ได้ 19 0.55 ใช้ได้ 0.21 ใช้ได้ ใช้ได้ 20 0.61 ใช้ได้ 0.30 ใชไ้ ด้ ใช้ได้ 21 0.73 ใช้ได้ 0.04 ตดั ท้ิง ปรบั ปรงุ หรือตัดท้ิง 22 0.52 ใชไ้ ด้ 0.02 ตัดทง้ิ ปรบั ปรุงหรือตัดทิ้ง
86 ตารางท่ี 9 วเิ คราะหค์ ่าความยาก (p) ค่าอำนาจจำแนก (r) ของแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธิ์ เรือ่ ง ลักษณะทวั่ ไปของทวปี เอเชีย โดยใช้วธิ ีการสอนแบบกระบวนการทางภูมิศาสตร์ (ตอ่ ) ขอ้ ท่ี ค่าความยาก แปลผล อำนาจจำแนก แปลผล แปลผลคณุ ภาพของ งา่ ย (P) ข้อสอบ 23 0.39 ใช้ได้ 0.28 ใชไ้ ด้ ใช้ได้ 24 0.39 ใชไ้ ด้ 0.28 ใชไ้ ด้ ใชไ้ ด้ 25 0.58 ใช้ได้ 0.25 ใชไ้ ด้ ใช้ได้ 26 0.67 ใชไ้ ด้ 0.53 ใชไ้ ด้ ใช้ได้ 27 0.42 ใชไ้ ด้ 0.32 ใช้ได้ ใช้ได้ 28 0.73 ใชไ้ ด้ 0.33 ใช้ได้ ใชไ้ ด้ 29 0.55 ใชไ้ ด้ 0.21 ใช้ได้ ใชไ้ ด้ 30 0.73 ใช้ได้ 0.47 ใชไ้ ด้ ใชไ้ ด้ 31 0.61 ใช้ได้ 0.58 ใช้ได้ ใช้ได้ 32 0.42 ใช้ได้ 0.32 ใชไ้ ด้ ใช้ได้ 33 0.70 ใช้ได้ 0.28 ใชไ้ ด้ ใชไ้ ด้ 34 0.76 ใช้ได้ 0.37 ใช้ได้ ใชไ้ ด้ 35 0.70 ใชไ้ ด้ 0.28 ใชไ้ ด้ ใช้ได้ 36 0.61 ใชไ้ ด้ 0.58 ใช้ได้ ใชไ้ ด้ 37 0.61 ใชไ้ ด้ 0.58 ใชไ้ ด้ ใช้ได้ 38 0.61 ใชไ้ ด้ 0.58 ใช้ได้ ใช้ได้ 39 0.55 ใชไ้ ด้ 0.35 ใชไ้ ด้ ใชไ้ ด้ 40 0.61 ใชไ้ ด้ 0.58 ใช้ได้ ใช้ได้ ขอ้ ท่ี คา่ ความยาก แปลผล อานาจจาแนก แปลผล แปลผลคณุ ภาพของขอ้ สอบ งา่ ย 1 0.73 ใชไ้ ด้ 0.33 ใชไ้ ด้ ใชไ้ ด้
87 2 0.70 ใชไ้ ด้ 0.28 ใชไ้ ด้ ใชไ้ ด้ 3 0.61 4 0.64 ใชไ้ ด้ 0.44 ใชไ้ ด้ ใชไ้ ด้ 5 0.42 6 0.18 ใชไ้ ด้ 0.20 ตดั ทิง้ ปรับปรุงหรือตดั ทิง้ 7 0.61 8 0.27 ใชไ้ ด้ 0.32 ใชไ้ ด้ ใชไ้ ด้ 9 0.42 10 0.73 ทิง้ 0.12 ตดั ทิ้ง ปรับปรุงหรือตดั ทิง้ 11 0.42 12 0.48 ใชไ้ ด้ 0.01 ตดั ทิง้ ปรับปรุงหรือตดั ทิ้ง 13 0.64 14 0.76 ใชไ้ ด้ 0.10 ตดั ทิง้ ปรับปรุงหรือตดั ทิ้ง 15 0.64 16 0.48 ใชไ้ ด้ 0.32 ใชไ้ ด้ ใชไ้ ด้ 17 0.24 18 0.61 ใชไ้ ด้ 0.47 ใชไ้ ด้ ใชไ้ ด้ 19 0.55 20 0.61 ใชไ้ ด้ 0.03 ตดั ทิ้ง ปรับปรุงหรือตดั ทิ้ง 21 0.73 22 0.52 ใชไ้ ด้ 0.27 ใชไ้ ด้ ใชไ้ ด้ 23 0.39 24 0.39 ใชไ้ ด้ 0.05 ตดั ทิง้ ปรับปรุงหรือตดั ทิง้ 25 0.58 26 0.67 ใชไ้ ด้ 0.23 ใชไ้ ด้ ใชไ้ ด้ 27 0.42 28 0.73 ใชไ้ ด้ 0.48 ใชไ้ ด้ ใชไ้ ด้ ใชไ้ ด้ 0.12 ตดั ทิง้ ปรับปรุงหรือตดั ทิง้ ใชไ้ ด้ 0.06 ตดั ทิง้ ปรับปรุงหรือตดั ทิ้ง ใชไ้ ด้ 0.30 ใชไ้ ด้ ใชไ้ ด้ ใชไ้ ด้ 0.21 ใชไ้ ด้ ใชไ้ ด้ ใชไ้ ด้ 0.30 ใชไ้ ด้ ใชไ้ ด้ ใชไ้ ด้ 0.04 ตดั ทิง้ ปรับปรุงหรือตดั ทิ้ง ใชไ้ ด้ 0.02 ตดั ทิง้ ปรับปรุงหรือตดั ทิ้ง ใชไ้ ด้ 0.28 ใชไ้ ด้ ใชไ้ ด้ ใชไ้ ด้ 0.28 ใชไ้ ด้ ใชไ้ ด้ ใชไ้ ด้ 0.25 ใชไ้ ด้ ใชไ้ ด้ ใชไ้ ด้ 0.53 ใชไ้ ด้ ใชไ้ ด้ ใชไ้ ด้ 0.32 ใชไ้ ด้ ใชไ้ ด้ ใชไ้ ด้ 0.33 ใชไ้ ด้ ใชไ้ ด้
88 29 0.55 ใชไ้ ด้ 0.21 ใชไ้ ด้ ใชไ้ ด้ 30 0.73 ใชไ้ ด้ 0.47 ใชไ้ ด้ ใชไ้ ด้ 31 0.61 ใชไ้ ด้ 0.58 ใชไ้ ด้ ใชไ้ ด้ 32 0.42 ใชไ้ ด้ 0.32 ใชไ้ ด้ ใชไ้ ด้ 33 0.70 ใชไ้ ด้ 0.28 ใชไ้ ด้ ใชไ้ ด้ 34 0.76 ใชไ้ ด้ 0.37 ใชไ้ ด้ ใชไ้ ด้ 35 0.70 ใชไ้ ด้ 0.28 ใชไ้ ด้ ใชไ้ ด้ 36 0.61 ใชไ้ ด้ 0.58 ใชไ้ ด้ ใชไ้ ด้ 37 0.61 ใชไ้ ด้ 0.58 ใชไ้ ด้ ใชไ้ ด้ 38 0.61 ใชไ้ ด้ 0.58 ใชไ้ ด้ ใชไ้ ด้ 39 0.55 ใชไ้ ด้ 0.35 ใชไ้ ด้ ใชไ้ ด้ 40 0.61 ใชไ้ ด้ 0.58 ใชไ้ ด้ ใชไ้ ด้ จากตาราง 9 พบว่าแบบทดสอบท่ีถูกคดั เลอื กไว้และสามารถนำไปใช้ได้จริง คือข้อสอบ ข้อที่ 1 , 2 , 3 , 5 , 9 , 10 , 12 , 14 , 15 , 18 , 19 , 20 , 23 , 24 , 25 , 26 , 27 , 28 , 29 , 30 , 31 , 32 , 33 , 34 , 35 , 36 , 37 , 38 , 39 และ 40 ส่วนข้อสอบที่ต้องตัดท้ิงคือข้อสอบข้อท่ี 4, 6, 7, 8, 11, 13, 16, 17, 21 และ 22 ซง่ึ เป็นขอ้ สอบที่ยากเกินไปและมีคา่ อำนาจจำแนกตำ่ มาก โดยพิจารณาจากเกณฑ์ ดังนี้ ค่าความยากง่าย คา่ ความยากง่ายอยูร่ ะหว่าง 0.81-1.00 ง่ายมาก (ควรปรับปรงุ หรือตัดทิ้ง) ค่าความยากง่ายอยรู่ ะหวา่ ง 0.60-0.80 ค่อนข้างดี (ดี) คา่ ความยากง่ายอยู่ระหว่าง 0.40-0.59 ยากพอเหมาะ (ดีมาก) ค่าความยากง่ายอยรู่ ะหวา่ ง 0.20-0.39 ค่อนข้างยาก (ดี) คา่ ความยากง่ายอยูร่ ะหวา่ ง 0-0.19 ยากมาก (ควรปรับปรุงหรอื ตัดท้งิ ) ค่าอำนาจจำแนก 0.60 – 1.00 อำนาจจำแนกดมี าก 0.40 - 0.59 อำนาจจำแนกดี
89 0.20 - 0.39 อำนาจจำแนกพอใช้ 0.10 – 0.19 อำนาจจำแนกต่ำ (ควรปรับปรงุ หรือตดั ทงิ้ ) -1.00 – 0.09 อำนาจจำแนกตำ่ มาก ( ควรปรับปรุงหรอื ตัดทงิ้ ) ค่าความเชือ่ ม่ันของแบบทดสอบผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนรู้ ตารางที่ 10 คะแนนท่ีกลุ่มตัวอย่าง ( Try out ) ที่ทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ การหาค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบ จากการนำ แบบทดสอบ เรื่อง ลักษณะทั่วไปของทวีปเอเชีย จำนวน 40 ขอ้ ไปทดสอบกับนกั เรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 2 ทเี่ คยเรยี นวิชานี้มาแล้ว 33 คน คนที่ ������ ������������ 1 25 625 2 27 729 3 13 169 4 31 961 5 18 324 6 20 400 7 37 1369 8 27 729
90 9 20 400 10 21 441 11 33 1089 12 9 81 13 22 484 14 31 961 15 15 225 16 27 729 17 16 256 18 11 121 19 24 576 20 22 484 21 23 529 22 12 144 23 22 484 24 21 441 25 15 225 26 30 900 27 28 784 28 15 225 ตารางท่ี 10 คะแนนท่ีกลุ่มตัวอย่าง ( Try out ) ท่ีทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนรู้ การหาค่าความเชื่อม่ันของแบบทดสอบ จากการนำ แบบทดสอบ เรื่อง ลักษณะทั่วไปของทวีปเอเชีย จำนวน 40 ขอ้ ไปทดสอบกับนกั เรียนช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 ท่เี คยเรยี นวชิ านมี้ าแลว้ 33 คน (ต่อ) คนที่ ������ ������������ 29 29 841 30 16 256 31 26 676 32 27 729 33 28 784 x = 741 x 2 = 18,171 สรปุ จากตารางท่ี 10 แสดงใหเ้ ห็นว่า คะแนนของนกั เรยี นที่ไมใ่ ช่กลุ่มตวั อย่างตอบถูกในการทำ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ เรื่อง ลักษณะท่ัวไปของทวีปเอเชีย จำนวน 40 ข้อ ไป ทดสอบกับนกั เรยี นชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 2 ทีเ่ คยเรยี นวิชานีม้ าแล้ว 33 คน พบว่า ผลรวมของคะแนนทั้ง
91 33 คน มีค่าเท่ากับ 741 คะแนน และ ผลรวมของคะแนนท้ัง 33 คนยกกำลังสองมีค่าเท่ากับ 18,171 คะแนน จากสูตร st2 = N ∑ x2−(∑ x)2 N(N−1) S2t = 33×18171-(741)2 332 S2t = 599643-549081 1089 S2t = 50562 1089 S2t = 46.43 หาความแปรปรวนของคะแนนสอบท้งั ฉบบั ได้เท่ากับ 46.43 การหาความเชอื่ มน่ั โดยใช้วิธกี ารของคเู ดอร์ รชิ าร์ดสนั (Kuder – Richardson Method) การให้คะแนนเป็นระบบ 0 -1 คือ ตอบถูกได้ 1 คะแนน ตอบผดิ ได้ 0 คะแนน สตู รของ คูเดอร์ - รชิ ารด์ สนั คอื KR-20 ตารางท่ี 11 วิเคราะหค์ ่าความเช่อื มนั่ ของแบบวดั ความสามารถในการคดิ วิเคราะห์จากการเรยี น โดยใชว้ ิธกี ารสอนแบบกระบวนการทางภมู ศิ าสตร์สตู รคำนวณ KR – 20 ข้อท่ี p q pq 1 0.73 0.27 0.20 2 0.70 0.30 0.21 3 0.61 0.39 0.24 4 0.42 0.57 0.24 5 0.42 0.57 0.24 6 0.73 0.27 0.20 7 0.48 0.51 0.24 8 0.76 0.24 0.18