Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนวอลเลย์บอลม.3 1-2563

แผนวอลเลย์บอลม.3 1-2563

Published by dreamlove.30, 2021-03-13 06:14:23

Description: แผนวอลเลย์บอลม.3 1-2563

Search

Read the Text Version

ทา ที่ ๒๙ กระโดดตบใตข า สลบั ซา ยขวา ทา ที่ ๓๐ กมแตะสลบั ปลายเทา

แผนการจดั การเรยี นรแู บบองิ มาตรฐาน หนวยการเรียนรทู ่ี ๓ เรอื่ ง การสรางความคุนเคยกับลูกวอลเลยบอล แผนการเรยี นรทู ี่ ๓ เร่อื ง การสรา งความคุนเคยกบั ลกู วอลเลยบอล รายวชิ า วอลเลยบอล รหัสวิชา พ 23102 ระดับชนั้ มัธยมศึกษาปที่ ๓ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปการศกึ ษา ๒๕63 น้ําหนักเวลาเรียน ๒๐ ชัว่ โมง ๐.๕ หนว ยกิต (นน.นก.) เวลาเรียน ๑ ชั่วโมง / สัปดาห เวลาที่ใชในการจัดกิจกรรมการเรียนรู ๒ ช่ัวโมง ……………………………………………………………………………………………………………………………..………………………..…………………………………………… ๑. สาระสําคัญ การสรางความคนุ เคยกับลกู วอลเลยบ อล จะกอใหเ กิดการประสานสมั พันธร ะหวางประสาทตากบั สว นตาง ๆ ของรา งกาย ทาํ ใหทราบถึงลกั ษณะการยดื หยนุ นํ้าหนักของลูกบอล เพอ่ื เปน พืน้ ฐานในการฝก ทกั ษะตา ง ๆ ใหง ายขนึ้ ตลอดจนสามารถใชม อื และแขน บังคบั ลูกวอลเลยบอลไปในทิศทางทตี่ องการและ สามารถนาํ ไปใชในการออกกําลังกายในชวี ติ ประจําวนั ได ๒. . มาตรฐานการเรียนรู / ตวั ช้ีวัดช้ันป / ผลการเรียนรู / (เปาหมายการเรยี นรู) ๒.๑ ตัวชวี้ ัด มาตรฐาน พ ๓.๑ เขาใจ มีทกั ษะในการเคลื่อนไหว กจิ กรรมทางกาย การเลน เกม และกีฬา ๒.๒ จุดประสงคการเรียนรู ๒.๑.๑ สามารถแสดงการถายนํ้าหนักตวั ของรางกายจากการโยน การรับ และการสง ลูกบอลได ๕ – ๑๐ ครัง้ ๒.๒.๒ สามารถปฏิบตั กิ ารสรางความคุนเคยกบั ลูกวอลเลยบอลไดอ ยา งสมั พนั ธก นั และปลอดภัย ๓. สาระการเรียนรู ๓.๑ การสรางความคุน เคยกับลกู วอลเลยบ อลดวยการโยน ขวาง ทุม กลง้ิ ตี และเลีย้ ง ๓.๒ การสรา งความคนุ เคยกบั ลกู วอลเลยบ อลดว ยการสง และการรบั ๓.๓ รายละเอยี ดขอ ๔.๑– ๔.๒ อยใู นเอกสารเน้ือหาความรทู ี่ ๓.๑ เรอื่ ง การสรา งความคนุ เคยกบั ลูก วอลเลยบ อล และแบบฝก ปฏบิ ตั ิที่ ๓.๑ เรื่อง เกมแขง ขันสรา งความคุน เคยกับลกู วอลเลยบอล ดัง แนบอยทู า ยแผนการจัดการเรยี นรทู ี่ ๓ ๔. สมรรถนะสาํ คัญ ๔.๑ ความสามารถในการคิด ๔.๒ ทกั ษะการสรา งความรู ๔.๓ ความสามารถในการใชท ักษะชวี ติ ๔.๔ ความสามารถในการใชเ ทคโนโลยี ๕. คณุ ลกั ษณะของวิชา วธิ ีสอนโดยการจัดการเรียนรูแ บบรว มมือ : เทคนิคคูตรวจสอบ ๖. คุณลักษณะอนั พึงประสงค 1.มีวินยั 2.ใฝเรยี นรู 3.มคี วามรบั ผิดชอบ 4. ตรงตอ เวลา ๗. ภาระงาน / ช้ินงาน ตามตัวชี้วัด ใบงานท่ี ๓.๑ เรื่องทาการสรางความคุนเคยกบั ลูกวอลเลยบอล

๘. ภาระงาน / ชน้ิ งานรวบยอด การทดสอบสมรรถภาพประจาํ ปก ารศกึ ษา ๒๕63 ๙. กิจกรรมการเรยี นรู ๙.๑ ข้นั นาํ / ข้นั เตรยี ม (๕ – ๑๐ นาที) ๙.๑.๑ นกั เรียนเขาแถวตอน แบงออกเปน ๕ กลุม หัวหนากลุมสํารวจรายชื่อนกั เรยี น ความ สะอาด การแตง กาย และสุขภาพของนกั เรียนทกุ คน เพอื่ เตรยี มความพรอมและควา ปลอดภยั ๙.๑.๒ นักเรยี นทุกกลมุ บริหารรา งกาย โดยแตล ะกลุม ผลัดเปลี่ยนกันเปนผูนาํ และผูตามใน การบริหารรางกายตามลําดับดงั น้ี (ชอ 3-4-6 ใชทดสอบสมรรถภาพทางกาย) ๑) ว่ิงยกเขาสูงอยูก บั ที่ ๓๐ วนิ าที ๒) กระโดดตาม ๒๐ ครั้ง ๓) ลุก-น่งั 60 วนิ าที ๔) นัง่ งอตวั มือแตะปลายเทา ๒๐ คร้งั (ความออ นตัว) ๕) บริหารขอมอื ขอ เทา เขา ๒๐ คร้ัง 6) วิ่งระยะไกล 600 1,200 ๙.๑.๓ ครสู นทนากับนกั เรยี นเกี่ยวกบั ขนาด น้ําหนัก และความยืดหยนุ ของลกู วอลเลยบอล พรอมสาธติ และช้ีใหเห็นถึงความสําคญั ในการสรางความคนุ เคยกับลกู วอลเลยบ อล ท่ีเปน ทกั ษะพน้ื ฐาน ในการฝก ทักษะอื่นๆ ตอ ไป ๙.๒ ข้ันสอน (๕ – ๑๐ นาท)ี ๙.๒.๑ นกั เรยี นปฏิบัตกิ ิจกรรมตามเนือ้ หาความรูท่ี ๓.๑ เรือ่ ง การสรางความคุน เคยกับลูก วอลเลยบอล จากน้ันตัวแทนแตละกลุม ออกมานาํ เสนอ อธบิ าย พรอ ม สาธิตการฝก ปฏบิ ัติ ทา การสรางความคนุ เคยกบั ลูกวอลเลยบอล ตามหวั ขอท่กี ลุมจับฉลากได โดยครูผสู อนคอย ใหก ารดแู ล ชว ยเหลอื รวมสาธิต และเสริมในสวนท่ียังไมสมบรู ณจ นครบทุกกลมุ ๙.๓ ขั้นฝก (๑๕ – ๒๐ นาท)ี ๙.๓.๑ นักเรียนแตละกลุมแยกฝก ปฏิบัติ โดยเลือกทาการสรางความคุนเคย กบั ลกู วอลเลยบ อล กลุม ละ ๕ ทา ๙.๓.๒ ครูนาํ ภาพแบบฝก ปฏิบัติที่ ๓.๑ แบบฝกท่ี ๑ , ๒ , ๓ ท่ีแนบอยูท ายแผนการจดั การ เรยี นรูที่ ๓ ใหนักเรยี นชม และตวั แทนนกั เรียนสาธิตตวั อยางแบบฝกทั้ง ๓ แบบ ใหน ักเรียน ทุกคนชม จากนั้นนกั เรยี นทุกกลุมแยกฝก ปฏิบตั ิ ๙.๔ ข้ันสรุปและสุขปฏบิ ัติ (๕ – ๑๐ นาที) ๙.๕.๑ นกั เรยี นทุกกลุมรวมแถวตอน และรว มกนั อภปิ ราย ซักถาม ตอบปญ หาแสดงความ คดิ เห็น สรปุ การสรางความคุนเคยกบั ลูกวอลเลยบอล โดยครคู อยใหคาํ แนะนาํ และ สอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม ปรชั ญา เศรษฐกิจ-พอเพยี ง ใหนักเรียนมคี วามตระหนัก และ บงั เกดิ กบั นักเรยี นทุกคน ๙.๕.๒ นักเรยี นปฏบิ ตั ิกิจกรรมสุขปฏิบัติ ( ทําความสะอาดรา งกาย เชน มือ แขน และ ใบหนา )

๑๐. วัสดุอปุ กรณ สื่อและแหลงเรยี นรู ๖.๑ ใบงานที่ ๓.๑ เรือ่ งทาการสรางความคุนเคยกบั ลูกวอลเลยบอล ๖.๒ แบบฝกปฏบิ ตั ิที่ ๓.๑ เรอื่ ง เกมแขงขนั สรางความคนุ เคยกับลกู วอลเลยบอล ๖.๓ ลกู วอลเลยบ อล ๒๕ - ๓๐ ลูก ๑๑. การวดั ผลและประเมนิ ผล ๗.๑ วธิ ีการวัด / สงิ่ ทว่ี ัด ๗.๑.๑ สงั เกตพฤติกรรม การเขารว มกิจกรรมการสรา งความคนุ เคยกับลูกวอลเลยบอล ๗.๒ เครอื่ งมอื วดั ๗.๒.๑ แบบสงั เกตพฤตกิ รรม การเขา รวมกจิ กรรมการสรา งความคุนเคยกบั ลกู วอลเลยบอล ๗.๓ เกณฑก ารวัด ๗.๓.๑ นกั เรยี นไดคะแนนจากแบบสงั เกตพฤติกรรมการเขารวมกิจกรรม ไมตา่ํ กวา รอยละ ๕๐ จงึ จะถือวาผา นเกณฑก ารประเมิน ๑๒. กจิ กรรมเสนอแนะ ๘.๑ ครแู นะนําใหน กั เรียนศึกษาหาความรเู พ่ิมเติม จากหอ งสมดุ หอง e-learning จากเว็บไซต วอลเลยบ อล http://school.obec.go.th/volley

บนั ทกึ หลังการสอน เรอ่ื ง...การสรางความคนุ เคยกับลูกวอลเลยบอล ๑. ผลการสอน ( ผูเ รียนชั้น มธั ยมศึกษาปที่ ๓ (จํานวนทงั้ สิน้ …………….. คน ) การประเมินดานความรู : Knowledge ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… การประเมินดานทกั ษะกระบวนการ : Process ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… การประเมินดานคุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงค : Attitude ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ๒. ปญหาอปุ สรรค ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ๓. แนวทางแกไ ข จดั กจิ กรรมเสรมิ ทักษะหรือซอมเสริม ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ลงชื่อ …..........………….......................…….. ผูจัดกจิ กรรมการเรยี นรู ( นางสาวเชาวนี บญุ รงั ) ตําแหนง ครูคศ.1 …… / ………… /……………

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเขารว มกจิ กรรม วชิ า พลศกึ ษา (วอลเลยบ อล) เร่อื ง……………………………..…….………............ชัน้ ….…...........………กลมุ ท.ี่ …………. วันท…ี่ ………………….….....เดือน……………………….…….....พ.ศ………………………… คําชี้แจง พิจารณาใสค ะแนน ( ๓,๒,๑ ) ลงในชองวางใหต รงกับการปฏบิ ตั ิกิจกรรมตามเกณฑ การประเมนิ พฤติกรรมการประเมนิ ชอื่ - สกุล เลขท่ี การตรง ตอเวลา หมายเหตุ ความมีระเ ีบยบวินัย ความสนใจ /ความ ั้ตงใจ ความรวมมือ กับหมูคณะ ความรับผิดชอบ ความเ ปนผูนําผูตาม ความซื่อสัต ย ความมีนํ้าใจ ความสุข/ความสนุกสนาน สุขนิสัย คะแนนรวม ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓๐ เกณฑค ะแนน ๑. การประเมิน ๓ =ดี ๒. ๒ =ปานกลาง ๓. ๑ =ปรับปรุง ๔. -------------- ๕. เกณฑการผาน ๖. ๗. ไดค ะแนน ๘. ไมนอยกวา ๙. รอ ยละ ๕๐ ๑๐. ( ไมนอยกวา ๑๕ ๑๑. คะแนน ) ๑๒. ลงชื่อ……………………………………ผูป ระเมนิ

เน้ือหาความรูท่ี ๓.๑ เรือ่ งทา การสรางความคุน เคยกบั ลกู วอลเลยบ อล ๑. เล้ียงลูกบอลลงพน้ื ติดตอ กนั ๒. กลง้ิ บอลบนพน้ื เปน วงกลมรอบขาทงั้ สองของตนเอง ๓. ฝก การรับ-สงลกู บอลเปน วงกลมรอบ เอวตนเอง ๔. นงั่ โยนและรบั ลูกบอลขา มศรี ษะทาง ดานขา งจากซา ยไปขวา สลับกัน

๕. การกลิ้งลูกบอลลอดใตขาเปนเลขแปด รอบตนเอง ๖. ถือลกู บอลไวข างหลัง กมตวั ไปขาง หนาพรอ มกับเหว่ียงแขนขนึ้ ใหลกู บอล ลอยพุงไปขา งหนา แลว วงิ่ ตามไปเก็บ ลูกบอล ๗. ยืน ใชขอเทา หนบี ลกู บอลแลว กระโดด ไปขางหนา ๘. โยนลกู บอลขนึ้ เหนือศีรษะ เตะเทาขาง หนง่ึ ไปขางหนา พรอ มกับตบมือ ระหวา งขาท้ังสอง แลว รับลูกบอลไว

๙. ยืน ใชเ ขาหนีบลกู บอลแลว กระโดด ไปขางหนา ๑๐ น่งั สง ลูกบอลใหก ระดอนกับกําแพง เมอ่ื ลกู บอลกระดอนกลับมาก็รบั ไว ทาํ ติดตอกันโดยไมใหล ูกตกพน้ื ๑๑. เดาะลูกบอลดวยแขนเพยี งขางเดียว ติดตอ กันสลบั ซา ยขวา ๑๒. ฝกการรับ-สง ลูกบอลเปน วงกลมรอบ เขา ตนเอง

๑๓. นั่งโยน – รับลกู บอลขนึ้ เหนือศีรษะ ตนเอง ทําตดิ ตอกนั ๑๔. ผเู ลน สองคนยืนหา งกันพอประมาณ หนั หนา เขาหากันแตละคนถือลกู บอล ไวข า งหลัง กมตัวไปขางหนาพรอมกับ เหวีย่ งแขนขึ้นใหล ูกบอลลอยพุงไปยงั คขู องตนท่ีเตรียมคอยรบั ลกู บอลอยู ๑๕. หันหลงั รับ-สง บอลแบบลอดใตข า สลบั สงขา มศีรษะตนเอง ใหค ู ๑๖ ทมุ บอลกระดอนพ้นื ๑ คร้งั ใหค ทู ํา สลบั กันไปมา

๑๗. หนั หลงั สงลูกบอลดา นขา งลาํ ตัวใหค ู สลับซา ยและขวา ๑๘. หันหนา เขาหากนั ขาเหยยี ดตรง รับ-สง ลกู บอลใหค ูสลบั ไปมา ๑๙. ใชขาหนบี ลกู บอลสงใหคู ๒๐. กลงิ้ ลกู บอลบนพ้ืนลอดใตข าไปดาน หลงั ใหคู คไู ดบอลแลวว่ิงไปขางหนา และทําในลักษณะเดียวกัน

แบบฝกปฏบิ ัตทิ ่ี ๓.๑ เรือ่ งเกมแขงขันสรา งความคนุ เคยกบั ลูกวอลเลยบ อล ๑) เกมสง บอลลอดใตข าไปดา นหลัง คนที่ ๑ หวั แถว สง ลูกบอลใตข าไปดานหลงั ใหผูเลนคนที่ ๒ คนท่ี ๒ สง ลกู บอลใตข าไปดานหลังใหผู เลน คนท่ี ๓ ทําเชนนีจ้ นถงึ ผเู ลนคนสุดทายใหวง่ิ ข้ึนมาหัวแถว การสง ใหส ง แบบมือตอ มือ และไมใ หลูกบอลถูก พื้น ดงั รูปที่ ๑.๑ – ๑.๓ รปู ท่ี ๑.๑ รปู ท่ี ๑.๒ รปู ท่ี ๑.๓ ๒) เกมสง บอลลอดใตขาสลับเหนือศีรษะ คนท่ี ๑ สง ลกู บอลลอดใตขาไปดา นหลงั ใหคนที่ ๒ คนท่ี ๒ รบั ลกู บอลแลว สง ขามศีรษะ ตนเองไปดานหลงั ใหค นตอ ไป คนตอไปกส็ งลอดใตข าอกี สลับกันอยางนี้จนครบทกุ คน ดงั รปู ท่ี ๒.๑ – ๒.๓ รปู ที่ ๒.๑ รปู ท่ี ๒.๒ รปู ที่ ๒.๓ ๓) เกมสงบอลดานขางลําตวั ผูเลน ยนื เปน วงกลม คนท่ี ๑ สง ลกู บอลดา นขา งลําตัวไปใหผเู ลน คนท่ี ๒ คนที่ ๒ สง ลูกบอลดา นขา ง ลาํ ตวั ใหผูเลนคนที่ ๓ ทําเชนนจ้ี นถึงผูเลนคนสดุ ทาย การสงใหส ง แบบมอื ตอ มือ หามโยนใหก ัน ดังรูปท่ี ๓.๑ – ๓.๓ รูปที่ ๓.๑ รูปที่ ๓.๒ รูปที่ ๓.๓

แผนการจดั การเรียนรูแบบอิงมาตรฐาน หนว ยการเรียนรูท ี่ ๓ เร่ือง การสรางความคนุ เคยกับลูกวอลเลยบ อล แผนการเรยี นรทู ่ี ๔ เรื่อง การยืนเตรียมพรอมและการเคลอื่ นท่ี รายวชิ า วอลเลยบอล รหัสวิชา พ 23102 ระดับช้ัน มัธยมศกึ ษาปท่ี ๓ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปการศกึ ษา ๒๕๕๘ น้ําหนักเวลาเรยี น ๒๐ ชั่วโมง ๐.๕ หนว ยกติ (นน.นก.) เวลาเรยี น ๑ ชว่ั โมง / สัปดาห เวลาท่ีใชในการจดั กิจกรรมการเรียนรู ๒ ชวั่ โมง ………………………………………………………………………………………………………………..………………………………………… ๑. สาระสาํ คัญ การสรางความคนุ เคยกับลูกวอลเลยบ อล จะกอใหเ กิดการประสานสมั พนั ธร ะหวา งประสาทตากบั สว นตาง ๆ ของรางกาย ทําใหทราบถึงลักษณะการยดื หยนุ นาํ้ หนกั ของลกู บอล เพื่อเปน พืน้ ฐานในการฝก ทกั ษะตาง ๆ ใหงา ยขน้ึ ตลอดจนสามารถใชม อื และแขน บังคับลกู วอลเลยบอลไปในทิศทางท่ตี อ งการและ สามารถนาํ ไปใชในการออกกําลังกายในชวี ติ ประจําวนั ได ๒. . มาตรฐานการเรียนรู / ตวั ชี้วัดช้นั ป / ผลการเรียนรู / (เปา หมายการเรยี นร)ู ๒.๑ ตัวช้ีวัด มาตรฐาน พ ๓.๑ เขา ใจ มีทกั ษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเลน เกม และกีฬา ๒.๒ จดุ ประสงคก ารเรยี นรู ๒.๑.๑ อธิบายและแสดงทา การยนื เตรยี มพรอ มในการเลนวอลเลยบอลไดถกู ตอง ๓ – ๕ ครง้ั ๒.๒.๒ อธิบายและแสดงทาการเคลอื่ นทแี่ บบสไลดดา นขาง ดานหลัง แบบวิ่งได ๓ – ๕ ครงั้ ๓. สาระการเรียนรู ๓.๑ การยนื เตรียมพรอ มในการเลนวอลเลยบอล ๓.๒ การเคลอ่ื นที่แบบสไลดไ ปดา นนหา ดา นซา ย และดา นหลัง ๓.๓ รายละเอยี ดขอ ๔.๑ – ๔.๒ อยใู นเนอ้ื หาความรทู ี่ ๔.๑ เรื่อง การยนื เตรยี มพรอ ม และการเคลือ่ นท่ีในลกั ษณะตาง ๆ และแบบฝกปฏบิ ัติท่ี ๔.๑ เรือ่ ง การฝกการ เคล่อื นที่แบบตาง ๆ ดังแนบอยูทายแผนการจดั การเรยี นรูท่ี ๔ และส่ือวีดิโอซดี ี เรื่อง การเคล่ือนที่เลน วอลเลยบอล ๔. สมรรถนะสําคัญ ๔.๑ ความสามารถในการคิด ๔.๒ ทกั ษะการสรางความรู ๔.๓ ความสามารถในการใชทักษะชีวิต ๔.๔ ความสามารถในการใชเทคโนโลยี ๕. คณุ ลกั ษณะของวิชา วิธสี อนโดยการจดั การเรียนรแู บบรว มมือ : เทคนิคคูตรวจสอบ ๖. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค 1.มวี นิ ัย 2.ใฝเรียนรู 3.มคี วามรบั ผดิ ชอบ 4. ตรงตอ เวลา

๗. ภาระงาน / ช้นิ งาน ตามตวั ชี้วดั ใบงานท่ี ๓.๑ เรื่องทาการสรา งความคนุ เคยกบั ลกู วอลเลยบอล ๘. ภาระงาน / ช้ินงานรวบยอด การทดสอบสมรรถภาพประจาํ ปก ารศึกษา ๒๕๕๘ ๙. กิจกรรมการเรยี นรู ๙.๑ ขนั้ นํา / ข้ันเตรยี ม (๕ – ๑๐ นาที) ๙.๑.๑ นักเรยี นเขา แถวตอน แบง เปน ๕ กลมุ หัวหนา กลุม สํารวจรายชอ่ื นักเรยี นทกุ คน ความสะอาด การแตง กายและสุขภาพของนักเรยี น เพอ่ื เตรียมความพรอ มและความ ปลอดภัย ๙.๑.๒ นกั เรยี นทกุ กลุม บริหารรางกาย โดยการว่งิ รอบสนามวอลเลยบอล จํานวน ๒ รอบ พรอ มทง้ั บริหารหวั ไหล แขน ขอ มอื และลําตัว ทาละ ๒๐ ครง้ั เพื่อเตรยี มความพรอมในการ เรยี นการสอน และเพอ่ื ปอ งกันการบาดเจ็บขณะเลน หรือฝก ปฏิบตั ิทอ่ี าจเกดิ ขึ้นได ๙.๑.๓ ครสู นทนากับนกั เรียนถึงประสบการณใ นการชม การแขง ขัน การเลน ทีมเก่ยี วกบั การเคลอ่ื นทใ่ี นลักษณะตา งๆ และชี้ใหเหน็ ถึงความสําคัญ ของทกั ษะที่ทุกคนควรทราบและ เปน พ้นื ฐานตอ ไป ๙.๒ ขน้ั สอน (๑๐ – ๑๕ นาท)ี ๙.๒.๑ นกั เรียนศึกษาสอื่ วดี โี อซีดี เร่อื ง การเคล่อื นท่ีเลนวอลเลยบอล (เวลา ๘ นาที) และ ศึกษาภาพประกอบที่ ๔.๑ เรื่อง ทาเตรียมพรอม และการเคลื่อนที่ในลกั ษณะตางๆ โดย ครูผูส อนคอย ใหการชว ยเหลอื อธิบายพรอ มสาธิตเสรมิ ความรปู ระกอบภาพจาก วีดโี อซดี ี เพื่อใหนักเรียน เกิดความเขาใจยิง่ ขน้ึ และปฏิบัตไิ ดถกู ตอ ง พรอมทัง้ เปดโอกาสใหน ักเรียนได ซักถาม และแสดงความคิดเห็น ๙.๓ ข้ันฝกหัด (๑๐ – ๑๕ นาท)ี ๙.๓.๑ หลงั จากนักเรียนชมวีดิโอซีดี และดภู าพประกอบท่ี ๔.๑ เรื่อง ทาเตรียมพรอ มและ การเคล่ือนทใ่ี นลักษณะตาง ๆ แลว นักเรียนแบง กลุมกลมุ ละ ๔ คน ฝกปฏบิ ัตแิ บบฝก ท่ี ๔.๑ เร่ือง การเคลอ่ื นที่ในลกั ษณะตา งๆ ที่ครนู ําภาพมาใหด ู โดยเลอื กฝกปฏิบัตกิ ลุมละ ๒ แบบ ๙.๔ ข้ันใช (๑๐ -๑๕ นาที) ๙.๔.๑ นักเรยี นรวมกนั คิดแบบฝก การเคล่ือนทีเ่ ลนบอล กลมุ ละ ๑ แบบ ฝก ปฏิบตั โิ ดยนํา ทกั ษะตางๆจากสอื่ วดี ีโอซดี ี มาประยกุ ตใช ครผู ูสอนคอยใหคาํ แนะนํา ชวยเหลอื และ ปรับปรงุ แกไ ข ๙.๕ ขัน้ สรปุ และสุขปฏบิ ัติ (๕ – ๑๐ นาท)ี ๙.๕.๑ นกั เรียนและครูผูสอนรวมกันอภิปราย สรุปความรู ความเขาใจและทักษะการยนื การเตรยี มพรอ ม และการเคล่อื นทแ่ี บบตา งๆ ๙.๕.๒ นกั เรียนปฏิบัตกิ จิ กรรมสุขปฏบิ ตั ิ (ทาํ ความสะอาดรางกาย เชน มอื แขนและใบหนา ) ๑๐. วสั ดุอปุ กรณ สื่อแหลง การเรียนรู ๑๐.๑ ชุดเคร่อื งเลนซีดี จอทวี ี (นําเสนอบนเวทโี รงยมิ สถานทีเ่ รยี นวอลเลยบอลชมแลวสาธิตและฝก ไดท นั ที)

๑๐.๒ ภาพประกอบเนื้อหาความรทู ่ี ๔.๑ เร่ือง การยืนเตรียมพรอ มและการเคลอื่ นท่ีเลน ลกู บอลแบบ ตางๆ ๑๐.๓ แบบฝกปฏิบัตทิ ี่ ๔.๑ เรื่อง แบบฝกการเคลอื่ นท่ีแบบบตางๆ ๑๐.๔ ลกู วอลเลยบอล ๒๐ – ๒๕ ลูก ๑๐.๕ สื่อวดี โี อซีดี เร่ือง การยืนเตรียมพรอมและการเคลอ่ื นท่ี เลนลกู บอลแบบตางๆ ๑๑. การวดั ผลและประเมินผล ๑๑.๑ วิธีวัด / สิง่ ทวี่ ัด ๗.๑.๑ สังเกตพฤติกรรม การเขารว มกิจกรรม การยนื เตรียมพรอม และการเคล่อื นท่ีเลน ลูกบอลแบบตางๆ ๑๑.๒ เครอ่ื งมือวัด ๗.๒.๑ แบบสังเกตพฤตกิ รรม การเขา รว มกจิ กรรม การยืนเตรยี มพรอ ม และการเคล่อื นท่ี เลนลกู บอลแบบตางๆ ๑๑.๓ เกณฑก ารวัด ๗.๓.๑ นักเรยี นไดค ะแนนจากแบบสังเกตพฤตกิ รรมการเขารวมกจิ กรรมไมตํา่ กวา รอ ยละ ๕๐ จึงจะถอื วาผานเกณฑก ารประเมิน ๑๒. กิจกรรมเสนอแนะ ๑๒.๑ นักเรียนสามารถเขาไปชมการยืนเตรียมพรอมและการเคล่ือนที่แบบตาง ๆ ท่ีเปน ภาพเคลือ่ นไหว ไดจาก Website ช่ือ http://school.obec.go.th/volleyเร่ืองการยืนเตรียมพรอม และการเคลือ่ นที่ ๑๒.๒ หนงั สือความรเู พิ่มเติม และตําราการเลน วอลเลยบอลจากแหลง เรียนรูทัว่ ๆไป

บันทึกหลังการสอน เรอื่ ง…การยืนเตรียมพรอมและการเคลื่อนท่ี ๑. ผลการสอน ( ผูเรียนชนั้ มธั ยมศึกษาปท่ี ๓ (จํานวนทง้ั ส้นิ …………….. คน ) การประเมนิ ดานความรู : Knowledge ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… การประเมินดา นทกั ษะกระบวนการ : Process ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… การประเมนิ ดานคุณลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค : Attitude ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ๒. ปญ หาอุปสรรค ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ๓. แนวทางแกไ ข จัดกจิ กรรมเสริมทกั ษะหรอื ซอ มเสรมิ ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ลงชื่อ …..........………….......................…….. ผูจ ดั กจิ กรรมการเรยี นรู ( นางสาวเชาวนี บญุ รัง ) ตําแหนง ครคู ศ.1 …… / ………… /……………

บนั ทึกการนเิ ทศ ที่ รายการผนู เิ ทศ รายละเอยี ดความเหน็ ของผูนิเทศ ลายมอื ชอ่ื ๑ หวั หนากลุมสาระการ ………………………………………………..................................... ………………………………………………..................................... เรียนรู/ผูท่ีไดร ับ ………………………………………………..................................... มอบหมาย ……………………………………………….................................... ๒ รองผูอ ํานวยการ ………………………………………………..................................... กลุม บรหิ ารวิชาการ ………………………………………………..................................... ………………………………………………..................................... ๓ ผอู าํ นวยการโรงเรยี น ………………………………………………..................................... ………………………………………………..................................... ………………………………………………..................................... ………………………………………………..................................... ……………………………………………….....................................

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเขา รว มกิจกรรม วิชาพลศกึ ษา (วอลเลยบ อล) เรอ่ื ง……………………………..…….………............ชน้ั ….…...........………กลุมที.่ …………. วันท…ี่ ………………….….....เดอื น……………………….…….....พ.ศ………………………… คาํ ช้ีแจง พจิ ารณาใสค ะแนน ( ๓,๒,๑ ) ลงในชอ งวา งใหตรงกบั การปฏิบตั กิ ิจกรรมตามเกณฑ การประเมนิ พฤติกรรมการประเมนิ ชื่อ - สกลุ เลข ่ีท หมายเหตุ การตรง ตอเวลา ความมีระเ ีบยบวินัย ความสนใจ /ความ ้ัตงใจ ความรวมมือ กับห มูคณะ ความรับผิดชอบ ความเ ปนผูนําผูตาม ความซื่อสัตย ความมีนํ้าใจ ความสุข / สนุกสนาน/ สุขนิสัย คะแนนรวม ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓๐ เกณฑค ะแนน ๑. การประเมิน ๓ =ดี ๒. ๒ =ปานกลาง ๓. ๑ =ปรับปรงุ ๔. -------------- ๕. เกณฑการผาน ๖. ๗. ไดค ะแนน ๘. ไมน อยกวา ๙. รอยละ ๕๐ ๑๐. ( ไมน อยกวา ๑๕ ๑๑. คะแนน ) ๑๒. ลงชอ่ื ……………………………………ผปู ระเมิน ลงชอื่ ……………………………………ผสู อน

เนอ้ื ความรทู ี่ ๔.๑ เร่ืองการยืนเตรยี มพรอมและการเคลอื่ นทเี่ ลน ลูกบอล ๑. ทาการยีนเตรียมพรอม ๑.๑ ยนื เทาทง้ั สองขนานกัน หรอื เทา ใดเทาหน่งึ อยขู างหนาหา งกัน ประมาณ ๑ ชว งไหล ๑.๒ ยอเขาลงใหหวั เขาเลยปลายเทาเลก็ นอย กม ลาํ ตัวใหห วั ไหลอยใู นแนวระดับของเขา รปู ท่ี ๑ ก ๑.๓ ยกสนเทาขึน้ เลก็ นอ ย นํา้ หนักตัวอยูท ปี่ ลายเทา ทง้ั สองขาง ตรงบรเิ วณโคนหัวแมเทา ใตฝาเทา ๑.๔ งอขอ ศอก ยกมอื ท้ังสองขึน้ เหนอื หวั เขา ตามองท่ีลกู บอล ดังรปู ที่ ๑ ก – ๑ ข รปู ที่ ๑ ข ๒. การเคลือ่ นที่เลน วอลเลยบอล ๒.๑ การเคลอ่ื นทีโ่ ดยการวง่ิ ๑) กาวเทาทั้งสองขาง อยางรวดเร็ว สลับกันบนพน้ื ไปในทิศทางท่ีตองการ ๒) การเคลอ่ื นไหวแบบวงิ่ เหมาะสาํ หรบั การเคล่ือนที่ไปเลน ลกู บอลที่ลอยมาตกหา งตัว ของผูเลนทางดานหนา และดา นหลัง ดงั รปู ท่ี ๒.๑ ก – ๒.๑ ค รปู ที่ ๒.๑ ก รูปที่ ๒.๑ ข รูปที่ ๒.๑ ค

มวี ธิ ีการ และขน้ั ตอนดงั น้ี ๒.๒ การเคลื่อนท่ีแบบสไลด ดา นขางซา ย - ขวา ดานหนา - หลัง รูปที่ ๒.๒ ก ๑) กา วเทาขางใดขางหนง่ึ เปนเทา นํา ๒) ลากเทาอีกขางหนึ่งทีเ่ ปน เทา ตามเขามาชิดเทาขางแรก ๓) จังหวะทีเ่ ทาตามเขาชดิ เทา นํา ใหดีดเทานาํ ออกไปดานขาง ดงั รปู ท่ี ๒.๒ ก หรอื ดานหนา ดังรูปที่ ๒.๒ ข อกี ใหทาํ ใน ลักษณะตอ เน่ือง ๔) การเคล่ือนไหวแบบสไลด อาจ เรียกส้ันๆ วา “ กา วชิด กาวชิด “ ๕) การเคลอื่ นไหวแบบสไลดนี้ เหมาะสําหรับการเคลื่อนที่ ไปเลน ลกู บอลที่ลอยมาตก ใกลตัวของผูเลนท้ังทางซา ย - ขวา - หนา - หลัง รูปท่ี ๒.๒ ข

แบบฝกปฏบิ ัตทิ ี่ ๔.๑ เร่อื งแบบฝกการเคล่อื นที่เลน ลกู วอลเลยบ อลในลักษณะตางๆ แบบฝก ท่ี ๑ การเคล่อื นท่ี แบบสไลดทามือเปลา อยูใ นทาเตรียมพรอมแลวเคล่ือนทีแ่ บบสไลดตามคําสั่งผูนาํ กลมุ ไปขางซา ย ขา งขวา ขางหนา และขางหลัง โดยเคลอ่ื นท่ี – หยดุ เชน ซาย-หยุด,ขวา-หยุด,หนา-หยุด และหลงั -หยุด ดังรปู ท่ี ๑.๑ – ๑.๓ รูปท่ี ๑.๑ รปู ท่ี ๑.๒ รูปที่ ๑.๓ แบบฝกท่ี ๒ การเคลอ่ื นท่ี แบบสไลดป ระกอบลกู วอลเลยบ อล อยใู นทา เตรียมพรอ มเลี้ยงลูกวอลเลยบอลในลกั ษณะคลายการเล้ยี งลูกบาสเกตบอลแลวเคลื่อนท่ี แบบสไลด ไปขางซา ย ขางขวา ขา งหนา และขางหลงั โดยเคล่อื นท่ี – หยดุ พรอ มจับ ลกู บอล ๒ มอื ยอ ตัวลง เชน ไปทางซาย-หยดุ , ขวา-หยุด ,หนา-หยดุ และหลัง-หยดุ ดังรปู ท่ี ๒.๑ – ๒.๓ รูปที่ ๒.๑ รปู ท่ี ๒.๒ รปู ที่ ๒.๓

แบบฝก ที่ ๓ เคลอ่ื นทแี่ บบสไลดร บั ลกู บอลจากคู ๒ ผโู ยน มวี ิธฝี กดังน้ี ใชผูฝก ๒ คน คอื ๑ ผูเลน ผูฝ กอยใู นทาเตรียมพรอ ม ผโู ยนจบั ลกู บอล โยนไปทางซาย หรอื ทางขวาของผูฝกหา ง จากผฝู กประมาณ ๒ กาว ผูฝกเคลื่อนทีแ่ บบสไลด ไปตามทิศทางท่ีผูโยนโยนลกู บอลมาให โดย เคลอื่ นที่ – หยดุ พรอมจบั ลูกบอล ๒ มือยอตวั ลง เชน ไปทางซา ย-หยุด , ขวา-หยุด , หนา -หยดุ และหลงั - หยุด แลว สับเปล่ียนกนั ดังรปู ที่ ๓.๑ – ๓.๓ รปู ท่ี ๓.๑ รปู ที่ ๓.๒ รูปที่ ๓.๓ แบบฝกที่ ๔ เคลอ่ื นท่แี บบวง่ิ รบั ลูกบอลจากคู ๒ ผูโยน มีวธิ ฝี ก ดงั นี้ ใชผูฝก ๒ คน คอื ๑ ผูเลน ผฝู กอยูในทา เตรยี มพรอม ผโู ยนจับลกู บอล โยนไปดานหนาของผฝู กหา งจากผฝู กประมาณ ๒ กา ว ผฝู ก เคล่อื นท่แี บบว่ิง ไปตามทิศทางที่ผูโ ยน โยนลูกบอลมาให โดย เคลือ่ นที่ – หยดุ พรอมจบั ลูกบอล ๒ มือยอ ตวั ลง แลว สบั เปลีย่ นกนั ดงั รปู ที่ ๔.๑ – ๔.๓ รปู ท่ี ๔.๑ รปู ที่ ๔.๒ รปู ท่ี ๔.๓

แผนการจดั การเรยี นรูแ บบองิ มาตรฐาน หนว ยการเรยี นรูท ี่ ๔ เรอื่ ง ทักษะการเลน ลกู บอล แผนการเรยี นรทู ี่ ๕ เรื่อง การเลนลูกบอลดว ยมอื ลาง รายวิชา วอลเลยบอล รหัสวิชา พ 23201 ระดับชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที่ ๓ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปก ารศกึ ษา ๒๕63 นา้ํ หนกั เวลาเรยี น ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หนวยกติ (นน.นก.) เวลาเรยี น ๑ ช่ัวโมง / สัปดาห เวลาที่ใชในการจดั กจิ กรรมการเรียนรู 1 ชั่วโมง ...………………………………………………………………………………………………………………..……………………………………… ๑. สาระสาํ คญั การเลนวอลเลยบอลไมวาจะเปนการรบั หรอื การรุกโดยสวนใหญจะเปนการเลน โดยใชแขน ไมวา จะ เปน การรบั ลกู เสริ ฟ รับลูกตบของฝายตรงขาม จะใชการเลนดวยมอื ลาง เพราะมีโอกาสถกู ลกู บอลไดง าย แนน อน แมน ยํา การเลน ลูกดวยมือลาง แขนทอนลางทง้ั สองตองเสมอกนั ในขณะทสี่ มั ผสั หรือตีลกู บอล ๒. . มาตรฐานการเรียนรู / ตวั ชี้วัดชัน้ ป / ผลการเรียนรู / (เปาหมายการเรยี นรู) ๒.๑ ตัวชว้ี ดั มาตรฐาน พ ๓.๑ เขา ใจ มีทกั ษะในการเคล่ือนไหว กิจกรรมทางกาย การเลนเกม และกีฬา ๒.๒ จดุ ประสงคการเรยี นรู ๒.๒.๑ อธบิ ายและแสดงวธิ ีการจับมือแบบตา งๆในการเลน ลูกบอลดวยมอื ลางได อยา งนอ ย ๑ แบบ ๒.๒.๓. อธิบายและแสดงจดุ ทบ่ี อลสัมผสั แขนได ๒ ใน ๕ ครงั้ ๒.๒.๔ อธิบายและแสดงวธิ กี ารออกแรงในการเลน ลกู บอลดวยมือลา งได ๕ ใน ๑๐ ครง้ั ๒.๒.๕ ปฏิบตั ติ นเปนผูมีความรับผิดชอบ มนี ้ําใจ มรี ะเบียบวินัย มคี ุณธรรมและยดึ หลกั เศรษฐกจิ พอเพยี ง ๓. สาระการเรียนรู ๓.๑ การจับมือแบบตา งๆในการเลนลูกบอลดว ยมือลา ง ๓.๒ จุดสมั ผัสบอลที่แขน ๓.๓ การออกแรงในการเลน ลูกบอลดว ยมอื ลาง ๓.๔ รายละเอียดขอ ๔.๑ – ๔.๓ อยใู นเนือ้ หาความรทู ี่ ๕.๑ เรอ่ื งวิธีการเลนลูกบอลดวยมือลา ง และ แบบฝก ปฏบิ ัติท่ี ๕.๑ เร่อื งแบบฝก การเลน ลูกบอลดว ยมือลางดังแนบอยูทายแผนการจัดการเรยี นรูท่ี ๕ ๔. สมรรถนะสาํ คัญ ๔.๑ ความสามารถในการคิด ๔.๒ ทักษะการสรางความรู ๔.๓ ความสามารถในการใชท กั ษะชีวติ ๔.๔ ความสามารถในการใชเทคโนโลยี ๕. คณุ ลกั ษณะของวิชา วิธีสอนโดยการจัดการเรียนรแู บบรวมมอื : เทคนิคคตู รวจสอบ ๖. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค 1.มีวนิ ัย 2.ใฝเ รียนรู 3.มคี วามรับผิดชอบ 4. ตรงตอ เวลา

๗. ภาระงาน / ชนิ้ งาน ตามตัวช้ีวดั ใบงานที่ ๕.๑ เร่ืองการเลนลกู บอลดวยมอื ลา ง ๘. ภาระงาน / ช้นิ งานรวบยอด การทดสอบการเลน ลกู บอลดวยมอื ลา ง ๙. กจิ กรรมการเรียนรู ๙.๑ ข้ันนํา / ข้นั เตรียม ( ๕ – ๑๐ นาที ) ๙.๑.๑ นกั เรยี นเขา แถวตอน แบง ออกเปน ๕ กลุม หวั หนา กลมุ แตละกลมุ สํารวจรายชอ่ื ความสะอาด เครอ่ื งแตงกาย และสุขภาพของนักเรียนทกุ คนในกลุมเพื่อเตรยี มความพรอ ม และความปลอดภยั ๙.๑.๒ นกั เรยี นบรหิ ารรา งกาย โดยแบง เปน ๒ กลุม ชาย ๑ กลมุ หญงิ ๑ กลมุ แตละกลุม บรหิ ารรา งกายกลมุ ละ ๖ ทา ทา บริหารรางกายเกิดจากความคดิ ของกลุม หรือศกึ ษาจาก เน้อื หาความรูท ี่ ๒.๒ เรอ่ื งทา บริหารรางกายในคาบเรียนทีผ่ านมา ๙.๒ ข้นั สอน ( ๑๐ – ๑๕ นาที ) ๙.๒.๑ ครผู สู อนสนทนากบั นักเรยี นถงึ ประสบการณใ นการชม หรอื เลน เกี่ยวกับการจับมือ จุดสัมผสั ลูกบอลทแ่ี ขน การออกแรงเลนลกู บอล พรอมสาธติ และชใ้ี หเหน็ ถงึ ความสาํ คัญของ ทกั ษะท่ที ุกคนควรทราบ และเปนพน้ื ฐานตอ ไป ๙.๒.๒ นกั เรยี นชมแผน ภาพการจับมอื แบบตางๆ เนื้อหาความรูที่ ๕.๑ เรือ่ งวธิ กี ารเลนลูก บอลดวยมือลาง และครูผูสอนเปด โอกาสใหน ักเรียนไดแ สดงความสามารถเปนผนู าํ ใน การ สาธิตการจบั มอื และวธิ ีปฏบิ ตั ิ ๙.๒.๓ ครูผูส อนและนักเรยี นรว มกนั อธิบายและสาธิตแบบฝก ที่ ๕.๑ เรือ่ งแบบฝกการเลน ลกู บอลดว ยมือลาง ประกอบลกู บอลใหน กั เรยี นทกุ คนไดชมเปนตวั อยา งจนเกิดความรู ความ เขา ใจ และสามารถนาํ ไปฝกปฏบิ ัติไดอยา งถกู ตอ ง ๙.๓ ขัน้ ฝก ( ๑๐ – ๑๕ นาที ) ๙.๓.๑ นกั เรยี นจับคกู ันฝก ปฏิบัตติ ามแบบฝกท่ี ๕.๑ เร่อื งแบบฝก การเลน ลูกบอลดว ยมือ ลา งทไ่ี ดอธบิ าย และสาธติ ไปแลว ฝกปฏิบัตกิ ลมุ ละ ๒ แบบครผู ูสอนคอยใหก ารดแู ล ชว ยเหลอื แนะนํา และปรับปรงุ แกไ ข ในกรณที น่ี ักเรียนไมสามารถปฏิบัตไิ ดถ ูกตอง จน นักเรียนสามารถปฏบิ ตั ไิ ดถ กู ตอง ๙.๔ ขนั้ ใช ( ๑๐ – ๑๕ นาที ) ๙.๔.๑ นกั เรียนแบงกลุมเปน ๔ กลมุ เทา ๆกัน แขงขนั เกม “อนั เดอรบ อลใหเพ่ือน”การ แขงขันเนน ความสนกุ สนาน ความปลอดภยั ความมีน้าํ ใจนกั กฬี า ความสามัคคี และความ ซื่อสัตย - วิธเี ลนและกตกิ า ๑) กลุม ท่ี ๑เลน กับกลมุ ท่ี ๒ โดยกลุม ท่ี ๑ นงั่ เปน แถวหนา กระดานแตละคนหางกนั ๑ ชวงแขน เตรยี มพรอ มทีจ่ ะอันเดอรล ูกบอล กลุมท่ี ๒ ทุกคนถอื ลูกบอลยนื ใหต รงคูทนี่ งั่ อยู หา งจากคนนัง่ ๑ กาว เม่ือไดยนิ สญั ญาณนกหวดี คนทยี่ ืนโยนลกู บอลใหคนนง่ั และคนนั่ง อนั เดอรก ลบั มา ถา คนยืนรบั ลูกบอลไวไ ดใหน ับ ๑ จากนนั้ คนยนื โยนใหคนนง่ั คนท่ี ๒ แลว

ปฏิบตั ิเชน เดยี วกนั เมอ่ื ถึงคนสุดทายใหวิ่งออมหลงั คนนง่ั ไปเริม่ ตน จากคนนงั่ คนท่ี ๑ ใหม ภายในเวลา ๑ นาที ๒. กลมุ ๓ เลนกบั กลมุ ๔ ปฏิบัติเชนเดียวกบั ขอ ๑ ๓. นําจํานวนคร้ังทท่ี กุ คนทําไดม ารวมกนั คูใดทําไดมากท่สี ุดเปน ผูชนะ ๙.๕ ขนั้ สรุป และสขุ ปฏบิ ัติ ( ๕ – ๑๐ นาที ) ๙.๕.๑ นกั เรียนรว มกนั อภิปราย แสดงความคิดเห็นและสรุปความรู ความเขา ใจ เกี่ยวกบั การ เลนลูกบอลดวยมอื ลาง โดยครูผูสอนรว มใหค ําชีแ้ นะเพิ่มเตมิ พรอ มสอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม ตามปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง ๙.๕.๒ นักเรียนปฏิบัตกิ จิ กรรมสขุ ปฏบิ ัติ (ทาํ ความสะอาดรางกาย เชน มอื แขน และใบหนา ) ๑๐. วัสดอุ ุปกรณ ส่ือและแหลงการเรยี นรู ๑๐.๑ แผนภาพการจับมอื แบบตางๆ ในการเลน ลกู บอลดวยมอื ลา ง ๑๐.๒ เนอ้ื หาความรูท ่ี ๕.๑ เรือ่ งวธิ กี ารเลน ลูกบอลดวยมอื ลา ง ๑๐.๓ แบบฝก ปฏบิ ตั ทิ ี่ ๕.๑ เรอ่ื งแบบฝกการเลน ลูกบอลดว ยมอื ลา ง ๑๐.๔ ลกู วอลเลยบอล ๒๐ - ๒๕ ลกู ๑๑. การวดั ผลและการประเมินผล ๑๑.๑ วธิ กี ารวัด/ สง่ิ ทว่ี ดั ๗.๑.๑ สงั เกตการปฏิบัติ การเลนลูกบอลดว ยมือลา ง ๑๑.๒ เครือ่ งมือทีใ่ ชในการวดั ผลประเมนิ ผล ๗.๒.๑ แบบสังเกตการปฏิบัติ การเลน ลกู บอลดว ยมอื ลาง ๑๑.๓ เกณฑการวัดผลประเมินผล ๗.๓.๑ นักเรียนไดค ะแนนจากแบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา รว มกิจกรรม การเลน ลูกบอลดวยมือลา ง ไมตํ่ากวารอยละ ๕๐ จึงจะถือวา ผานเกณฑก ารประเมนิ ๑๒. กิจกรรมเสนอแนะ ๑๒.๑ นักเรียนใชเ วลาวางหลงั เลิกเรยี นทบทวนทาปฏิบัตติ างๆใหเกดิ ความชํานาญและ ปฏิบัตไิ ดอยางถกู ตอ งตอ ไป

บันทกึ หลังการสอน เรือ่ ง...การเลนลกู บอลดว ยมอื ลา ง ๑. ผลการสอน ( ผูเรยี นชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที่ ๓ (จํานวนทง้ั สิน้ …………….. คน ) การประเมินดา นความรู : Knowledge ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… การประเมินดา นทกั ษะกระบวนการ : Process ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… การประเมินดานคณุ ลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค : Attitude ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ๒. ปญ หาอปุ สรรค ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ๓. แนวทางแกไ ข จัดกิจกรรมเสริมทกั ษะหรือซอมเสริม ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ลงชอ่ื …..........………….......................…….. ผูจ ดั กจิ กรรมการเรียนรู ( นางสาวเชาวนี บุญรงั ) ตาํ แหนง ครคู ศ.1 …… / ………… /……………

บนั ทึกการนเิ ทศ ที่ รายการผนู เิ ทศ รายละเอียดความเหน็ ของผนู ิเทศ ลายมือช่ือ ๑ หวั หนา กลุมสาระการ ………………………………………………..................................... ………………………………………………..................................... เรียนรู/ผทู ่ไี ดรบั ………………………………………………..................................... มอบหมาย ……………………………………………….................................... ๒ รองผอู าํ นวยการ ………………………………………………..................................... กลุม บริหารวชิ าการ ………………………………………………..................................... ………………………………………………..................................... ๓ ผอู ํานวยการโรงเรียน ………………………………………………..................................... ………………………………………………..................................... ………………………………………………..................................... ………………………………………………..................................... ……………………………………………….....................................

แบบสังเกตการปฏบิ ัตกิ ิจกรรม วิชาพลศึกษา (วอลเลยบอล) เรือ่ ง……………………………..…….………............ชัน้ ….…...........………กลมุ ท่.ี …………. วนั ท่…ี ………………….….....เดือน……………………….…….....พ.ศ………………………… คําชแี้ จง พิจารณาใสค ะแนน ( ๕,๔,๓,๒,๑ ) ลงในชอ งวางใหตรงกบั การปฏิบัตกิ ิจกรรมตาม เกณฑก ารประเมนิ คะแนน ช่ือ เลขท่ี ทกั ษะถกู ตอง ความพรอม / รวม ความตงั้ ใจ ๑. ๒. ๓. ๔. ๕. ๖. ๗. ๘. ๙. ๑๐. ๑๑. ๑๒. หมายเหตุ ผปู ระเมิน คือ ครูผูส อน นักเรียน เพ่อื น ตามความเหมาะสม เกณฑก ารประเมิน มากทส่ี ดุ = ๕ มาก =๔ ปานกลาง = ๓ นอ ย = ๒ นอ ยทส่ี ุด = ๑ ลงชื่อ………………………………………ผูป ระเมิน ลงชอื่ ………………………………………ผูสอน

เน้ือหาความรูท่ี ๕.๑ วธิ ีการเลน ลกู บอลดว ยมอื ลาง ๑. การจับมือเลน ลกู บอลดว ยมือลา ง การเลน ลูกบอลดว ยมือลางตองคาํ นงึ ถึงการจบั มือ หรือการใหน ิ้วหัวแมมอื ชดิ กันมอื ท้ังสองตอ งสัมผัส กันแนบแนน เพอื่ ใหแ ขนทง้ั สองเสมอกนั ทําใหก ารควบคมุ ลกู บอลเปนไปตามทิศทางท่ตี องการไดงา ยวิธีที่จะ ทาํ ใหม ือทั้งสองขางแนบชดิ กนั มี ๓ ลกั ษณะ ดงั น้ี ๑.๑ โดยวธิ ีซอ นมือ เปนวธิ ที ่นี ยิ มเลน กันมาก มีวธิ ีการจับมอื ดงั รูปท่ี ๑.๑ ก – ๑.๑ ค ๑. หงายมอื ท้ังสองขา ง ๒. เอามือหน่ึงไปวางซอน ๓. รวบมือใหนว้ิ หวั แมมอื ทับอีกมอื หนึง่ ชิดตดิ กัน รูปที่ ๑.๑ ก รปู ที่ ๑.๑ ข รูปท่ี ๑.๑ ค ๑.๒ โดยวธิ โี อบหมัด มวี ิธกี ารจับมอื ดังรูปท่ี ๑.๒ ก – ๑.๒ ข ๑. ใชม ือใดมือหนึ่งกําหมดั ๒. ใชอีกมอื หนง่ึ โอบหมดั นิ้วหวั แมม ือท้งั สองชดิ ติดกัน รปู ท่ี ๑.๒ ก รปู ที่ ๑.๒ ข

๑.๓ โดยวิธีกาํ มอื ทง้ั สองขางชิดกนั ๒.นํามือทงั้ สองขางมาชิดกันให มวี ธิ ีการจบั มือดังรูปท่ี ๑.๓ ก – ๑.๓ ข น้ิวหัวแมม ือทั้งสองขา งเสมอกนั ๑.กํามอื ทง้ั สองขาง รูปท่ี ๑.๓ ก รปู ที่ ๑.๓ ข

๒. จุดที่สัมผัสลกู บอล บรเิ วณที่ถกู ลูกบอลคือ บริเวณทอ นแขนดา นหนา ทง้ั สองแขนพรอม ๆ กัน ตัง้ แตเ หนือขอมือขนึ้ มาประมาณ ๑๐ ซม. ดังรปู ท่ี ๒.๑ รูปที่ ๒.๑ ๓. การออกแรงเลน ลกู ดวยมือลา ง ในกรณีท่ีลกู บอลทีพ่ ุงมาไมแ รง การอนั เดอรล ูกตอ งเพิม่ แรงยกของแขนขน้ึ เพอื่ ใหเ กดิ แรงกระทบลูก และเมอ่ื ลูกบอลพุงมาแรงมากใหออกแรงสงเพียงเล็กนอยโดยอาศยั แรงกระดอนจากลูกชวยในการสงลกู บอล การที่จะใชแรงมากนอ ยเพยี งใดขน้ึ อยกู บั ระยะทางความเรว็ ความแรงของลกู บอลดว ย ดังรูปท่ี ๓.๑ – ๓.๓ รปู ที่ ๓.๑ รูปท่ี ๓.๒ รูปที่ ๓.๓

แบบฝก ปฏิบัติที่ ๕.๑ เรอ่ื งแบบฝก การเลน ลูกบอลดวยมอื ลาง แบบฝกท่ี ๑ นง่ั แยกขาเลนลกู สองมือลาง ใชผ ูฝก ๒ คน ๑ ผูฝก ๒ ผูโ ยน ผูฝกน่งั แยกขา ขาเหยียดตงึ จับมอื อยูในทาทีถ่ ูกตองแขนเหยียดตึง ผูโยนยนื จบั ลกู บอลหา งจากผูฝก ที่ นง่ั อยู ๑ กา ว ผโู ยน โยนลูกบอลใหผ ฝู ก ผูฝกเลน ลูกบอลดว ยมือลางกลับมาใหผ ูโยนจบั บอลไว ทําเชนนี้ ตดิ ตอ กัน ๕ - ๑๐ ครงั้ แลวเปลย่ี นกัน เมื่อชํานาญแลว ใหเ พมิ่ ระยะหางเปน ๒ และ ๓ กาวตามลําดับ ดังรปู ที่ ๑.๑ รูปท่ี ๑.๑ แบบฝก ท่ี ๒ น่ังชันเขาเลนลูกบอลดวยมือลา ง ใชผูฝก ๒ คน ๑ ผูฝก ๒ ผโู ยน ผฝู กนัง่ ชันเขา จับมอื อยใู นทาที่ถกู ตอ งแขนเหยียดตงึ ผโู ยนยนื จับลูกบอลหา งจากผูฝก ทน่ี ่งั อยู ๑ กาว ผูโยน โยนลูกบอลใหผูฝ ก ผูฝกเลนลูกบอลดว ยมอื ลางกลบั มาใหผโู ยนจบั บอลไว ทําเชนนี้ตดิ ตอ กัน ๕ - ๑๐ ครง้ั แลวเปลย่ี นกนั เมอ่ื ชํานาญแลวใหเ พิม่ ระยะหา งเปน ๒ และ ๓ กา วตามลาํ ดับ ดังรูปท่ี ๒.๑ รปู ที่ ๒.๑

แผนการจัดการเรยี นรแู บบองิ มาตรฐาน หนวยการเรยี นรูที่ ๔ เรื่อง ทกั ษะการเลน ลกู บอล แผนการเรยี นรูท่ี ๖ เรือ่ ง การเลนลูกบอลดว ยมือลาง รายวิชา วอลเลยบ อล รหสั วชิ า พ23102 ระดบั ช้ัน มธั ยมศึกษาปท่ี ๓ ภาคเรยี นที่ ๑ ปก ารศึกษา ๒๕63 นํา้ หนกั เวลาเรยี น ๒๐ ช่วั โมง ๐.๕ หนวยกิต (นน.นก.) เวลาเรียน ๑ ชั่วโมง / สัปดาห เวลาที่ใชในการจดั กิจกรรมการเรียนรู ๑ ชวั่ โมง ...………………………………………………………………………………………………………………..……………………………………… ๑. สาระสําคญั การเลนลูกบอลดว ยมอื ลา งดานหนา โตค ู และลูกตงั้ สงู เปน ทกั ษะพื้นฐานทีส่ าํ คญั ในการเลน วอลเลยบอลทน่ี ยิ มเลน กนั มาก และเหมาะสําหรบั ผทู ่หี ัดเลน ใหม อกี ทงั้ ยงั สามารถนําไปใชใ นการออกกําลงั กายในชวี ติ ประจาํ วัน เพือ่ สง เสรมิ สมรรถภาพทางรา งกายและทางจิตใจได ๒. . มาตรฐานการเรียนรู / ตัวช้ีวัดช้ันป / ผลการเรียนรู / (เปาหมายการเรียนร)ู ๒.๑ ตวั ชี้วดั มาตรฐาน พ ๓.๑ เขา ใจ มีทักษะในการเคลื่อนไหว กจิ กรรมทางกาย การเลนเกม และกีฬา ๒.๒ จดุ ประสงคการเรยี นรู ๒.๑ อธิบายและแสดงวิธกี ารเลนลูกบอลดวยมอื ลา งดานหนาไดอ ยางนอย ๕ ครงั้ ๒.๒ อธบิ ายและแสดงวธิ กี ารเลน ลกู บอลดวยมือลา งโตคูไดอยางนอย ๕ ครง้ั ๒.๓ อธิบายและแสดงวธิ ีการเลนลกู บอลดว ยมอื ลา งลกู ต้ังสูงไดอ ยา งนอย ๘ คร้ัง ๓. สาระการเรียนรู ๓.๑ การเลน ลกู บอลดว ยมือลาง ลกู ต้งั สงู ๓.๒ การเลน ลูกบอลดว ยมอื ลาง ดา นหนา ๓.๓ การเลนลูกบอลดว ยมือลา ง โตคู ๓.๔ รายละเอยี ดขอ ๔.๑ – ๔.๓ อยูในแบบฝก ปฏิบัตทิ ่ี ๖.๑ เร่ือง แบบฝก การเลนลูกบอล ดวยมอื ลางดานหนา โตคู และลกู ตง้ั สูง ดงั แนบอยทู า ยแผนการจดั การเรียนรทู ี่ ๖ ๔. สมรรถนะสําคญั ๔.๑ ความสามารถในการคิด ๔.๒ ทกั ษะการสรางความรู ๔.๓ ความสามารถในการใชท ักษะชวี ติ ๔.๔ ความสามารถในการใชเทคโนโลยี ๕. คณุ ลักษณะของวิชา วธิ ีสอนโดยการจัดการเรยี นรแู บบรว มมอื : เทคนิคคูตรวจสอบ ๖. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค 1.มีวนิ ัย 2.ใฝเรียนรู 3.มีความรับผิดชอบ 4. ตรงตอ เวลา ๗. ภาระงาน / ชนิ้ งาน ตามตัวชี้วดั ใบงานที่ ๕.๑ เร่อื งการเลนลกู บอลดวยมือลาง ๘. ภาระงาน / ชิน้ งานรวบยอด การทดสอบการเลน ลูกบอลดว ยมือลา ง

๙. กิจกรรมการเรยี นรู ๙.๑ ขน้ั นาํ / ขน้ั เตรยี ม (๕ – ๑๐ นาที) ๙.๑.๑ นกั เรียนเขาแถวตอน แบงออกเปน ๕ กลุม หวั หนากลุมแตละกลมุ สํารวจรายช่อื นกั เรียน ความสะอาด เครือ่ งแตงกาย และสุขภาพของนักเรยี นในกลุม เพื่อเตรยี มความ พรอมและความปลอดภัย ๙.๑.๒ นักเรยี นทกุ กลุมบริหารรางกาย โดยแตละกลุม สง ตัวแทน กลมุ ละ ๑ คน ผลัดเปล่ียนกันเปน ผนู าํ การบรหิ ารรางกายกลุมละ ๑ ทา ทาละ ๑๐ – ๒๐ครั้ง ทา บริหาร รา งกายเปนทา ทเ่ี กิดจากความคิดของกลมุ หรือศึกษาจากเน้ือหาความรูท่ี ๒.๒ เรือ่ ง ทา บริหารรา งกายในคาบที่ผานมา ๙.๑.๓ ครผู ูสอนสนทนากับนกั เรยี นถงึ ประสบการณใ นการชมการแขงขนั หรือเลน ลกู บอล ดวยมือลา งดา นหนา โตคู ลกู ต้งั สงู และชี้ใหเ ห็นถึงประโยชน และความสาํ คญั ของทกั ษะท่ี ทกุ คนควรทราบ และเปนพน้ื ฐานตอ ไป ๙.๒ ขน้ั สอน (๑๐ – ๑๕ นาที) ๙.๒.๑ ครูทําแผนภาพแบบฝกปฏิบัติใหน กั เรียนศกึ ษา พรอมเปดโอกาสใหตัวแทนนกั เรยี น รว มอธบิ ายและสาธิต ทา และวิธกี ารฝก แบบฝกปฏบิ ัติที่ ๖.๑ ท้ัง ๔ แบบ ๙.๓ ขน้ั ฝก (๑๕- ๒๐ นาท)ี ๙.๓.๑ นกั เรียนแบงกลมุ ๆ ละ ๔ คน ตัวแทนแตล ะกลุมจับฉลากแบบฝก ปฏิบตั ิท่ี ๖.๑ เรอ่ื ง การเลนลูกบอลดวยมือลางดา นหนา โตคู และลูกต้ังสงู กลมุ ละ ๑ แบบ ๙.๓.๒ นกั เรยี นแตล ะกลมุ ไปศกึ ษาแบบฝกจากกลุมอ่ืนอกี ๒ แบบ และฝกปฏิบัติ ๙.๓.๓ ครผู ูสอนคอยใหการดูแลชว ยเหลือ แนะนํา สง เสริมและปรับปรุงแกไ ข ในกรณที ี่ นักเรียนไมสามารถปฏบิ ตั ไิ ดถ ูกตอ ง จนปฏิบัติไดถูกตอง ๙.๔ ขนั้ ใช (๕ – ๑๐ นาที) ๙.๔.๑ แขงขนั เลนเกม “ เลน ลูกสองมอื ลางลูกตั้งสงู ” เนน ความสนกุ สนาน ความซ่ือสัตย กตกิ าและวิธีเลน ๑) ลูกบอลท่ีอันเดอร (เลนลกู สองมอื ลาง) จะตอ งสูงจากศรี ษะอยา งนอย ๑ เมตร ๒) แขงขันทลี ะกลุม (กลุมตามขอ ๕.๑.๑) โดยใหทุกคนในกลุมถอื ลูกบอลคนละ ๑ ลกู เม่ือไดย ินสัญญาณนกหวีดใหอนั เดอรบอล และนับจาํ นวนครงั้ ท่ีตนทําไวไ ด ๓) นกั เรียนท่เี ลนแลวลกู บอลตกพ้ืนถอื วา เสีย ใหกลับมานัง่ ทีข่ องกลุมตนเองจน เหลอื คนสุดทา ยของกลุม ๔) คนสดุ ทา ยของกลมุ ใดทําไดจ าํ นวนครั้งมากทส่ี ุดเปน ผูชนะ ๙.๕ ขน้ั สรปุ และสขุ ปฏิบัติ (๕ – ๑๐ นาที) ๙.๕.๑ นักเรียนรวมกันอภิปราย ซักถาม แสดงความคิดเห็นและสรุปความรูความเขาใจ เกย่ี วกบั การเลน ลูกสองมือลางดานหนา โตคู และลูกตั้งสูงโดยครูผูสอนรวมช้ีแนะเพิ่มเติม พรอมสอดแทรกคุณธรรมจรยิ ธรรม เชนความซอ่ื สตั ย ความมีนาํ้ ใจนักกฬี า เปน ตน ๙.๕.๒ นกั เรยี นปฏบิ ัติกจิ กรรมสขุ ปฏบิ ตั ิ (ทําความสะอาดรา งกายเชน มือ แขน และใบหนา) ๑๐. วัสดุ อปุ กรณ ส่ือและแหลงเรียนรู ๑๐.๑ ภาพแบบฝก ปฏิบตั ทิ ่ี ๖.๑ เรอ่ื ง แบบฝก การเลนลกู ดว ยมือลางดานหนา โตค ู และลกู ตั้งสูง ๑๐.๒ ลกู วอลเลยบ อล ๒๐ - ๒๕ ลูก

๑๑. การวัดผลและการประเมินผล ๑๑.๑ วิธกี ารวัด / ส่งิ ทีว่ ดั ๗.๑.๑ สังเกตพฤตกิ รรมและการปฏบิ ตั ิ การเลนลกู สองมอื ลา งดา นหนา โตคู และลูกตั้งสูง ๑๑.๒ เครอ่ื งมอื วัด ๗.๒.๑ แบบสังเกตพฤตกิ รรมและการปฏิบัติ การเลน ลกู สองมือลางดา นหนา โตค ู และลูก ตง้ั สงู ๑๑.๓ เกณฑก ารวัด ๗.๓.๑ นกั เรียนไดคะแนนจากแบบสงั เกตพฤตกิ รรมและปฏิบตั ิกจิ กรรมไมนอ ยกวา รอ ยละ ๕๐ จึงจะถอื วาผา นเกณฑการประเมนิ ๑๒. กิจกรรมเสนอแนะ ๑๒.๑ นกั เรียนศึกษา คน ควาเพิม่ เตมิ จากแผน CD บทเรยี นคอมพวิ เตอรช ว ยสอน (CAI) เร่อื ง การเลนลูกบอลดว ยมอื ลา ง เพื่อเพ่มิ ความรูและสามารถนาํ ไปเปนแบบอยางในการฝก ปฏิบตั ิใหเกดิ ทกั ษะ สามารถปฏบิ ัตไิ ด และเกดิ ความชํานาญตอ ไป ๑๒.๒ ในกรณที ีม่ ีนักเรียนไมส ามารถปฏิบัติไดถกู ตอ งตามกาํ หนดเวลา ครผู ูสอนมอบหมาย ใหน กั เรยี นไปศกึ ษาสือ่ บทเรยี นคอมพิวเตอรช ว ยสอน (CAI) เรือ่ ง การเลน ลูกบอลดว ยมอื ลาง และกาํ หนดวันเวลานัดหมาย ในการทดสอบ ในการปฏิบตั ิ เพ่ือติดตามผลการพฒั นาในการ เลน ลกู บอลดว ยมอื ลา งตอ ไป

บนั ทึกหลังการสอน เร่ือง...การเลน ลูกบอลดว ยมอื ลา ง (ตอ) ๑. ผลการสอน ( ผูเรยี นชน้ั มธั ยมศึกษาปที่ ๓ (จาํ นวนท้ังส้นิ …………….. คน ) การประเมินดา นความรู : Knowledge ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… การประเมินดา นทกั ษะกระบวนการ : Process ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… การประเมินดานคุณลกั ษณะที่พึงประสงค : Attitude ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ๒. ปญ หาอปุ สรรค ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ๓. แนวทางแกไข จดั กิจกรรมเสรมิ ทกั ษะหรือซอมเสรมิ ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ลงช่อื …..........………….......................…….. ผจู ัดกจิ กรรมการเรียนรู ( นางสาวเชาวนี บุญรงั ) ตําแหนง ครคู ศ.1 …… / ………… /……………

บนั ทึกการนเิ ทศ ที่ รายการผนู เิ ทศ รายละเอยี ดความเหน็ ของผูนิเทศ ลายมอื ชอ่ื ๑ หวั หนากลุมสาระการ ………………………………………………..................................... ………………………………………………..................................... เรียนรู/ผูท่ีไดร ับ ………………………………………………..................................... มอบหมาย ……………………………………………….................................... ๒ รองผูอ ํานวยการ ………………………………………………..................................... กลุม บรหิ ารวิชาการ ………………………………………………..................................... ………………………………………………..................................... ๓ ผอู าํ นวยการโรงเรยี น ………………………………………………..................................... ………………………………………………..................................... ………………………………………………..................................... ………………………………………………..................................... ……………………………………………….....................................

แบบสังเกตการปฏบิ ัติกิจกรรมการเลน ลกู บอลดวยมอื ลาง ๒ วิชาพลศึกษา (วอลเลยบ อล) วันท่ี…………..….เดือน………………......……..พ.ศ.……….…….ชน้ั …...…..…กลมุ ที่…….......…. คําชแี้ จง ใหพจิ ารณาใสน ้ําหนักคะแนน ( ๕ , ๔ , ๓ , ๒ , ๑ ) ลงในชองวางใหตรงกบั การปฏิบตั ิ กิจกรรม ตามเกณฑการประเมนิ ชอ่ื เลขที่ ทกั ษะถูกตอง ความคิดสรางสรรค คะแนน ๑. ความพรอ ม / ตง้ั ใจ รวม ๒. ๓. ๔. ๕. ๖. ๗. ๘. ๙. ๑๐. หมายเหตุ ผูประเมิน คอื ครูผสู อน นักรยี น เพอื่ น ตามความเหมาะสม เกณฑการประเมนิ มากทส่ี ุด = ๕ มาก =๔ ปานกลาง = ๓ นอ ย = ๒ นอยท่สี ดุ = ๑ ลงช่อื ………………………………………ผูประเมิน ลงชอ่ื ………………………………………ผูสอน

แบบฝกปฏบิ ัติที่ ๖.๑ เรือ่ งการเลน ลกู บอลดวยมอื ลางดานหนา โตค ู และลูกตง้ั สงู แบบฝกที่ ๑ อนั เดอรล ูกบอลกับผนงั ลูกบอลกระดอนพ้นื ๑ ครัง้ นกั เรยี นแตละกลุมจดั ผเู ลนเปน คูๆ โดยเรม่ิ จากคนหนึง่ ยนื หนั หนาเขา หาผนัง หา งจาก ผนงั ประมาณ ๓ - ๕ เมตร โยนลูกบอลไปที่ผนังสูงจากพนื้ ประมาณ ๒ - ๓ เมตร เมอ่ื ลูกบอลกระดอน กลบั มาปลอ ยใหลูกบอลกระดอนพนื้ ๑ ครงั้ แลวยอ เขาลง แขนเหยียดตงึ หกั ขอมอื ลง แลว อนั เดอรล กู บอล กลับเขาหาผนงั อกี คนหนึ่งทํา ๕ - ๑๐ ครั้ง แลว เปลย่ี นกัน และฝกปฏบิ ัติ ดงั รูปที่ ๑.๑ – ๑.๓ รูปท่ี ๑.๑ รูปท่ี ๑.๒ รูปที่ ๑.๓ แบบฝก ท่ี ๒ อนั เดอรลกู บอลกับผนัง ลูกบอลไมตกพ้ืน นักเรยี นแตล ะกลุมจดั ผเู ลนเปนคูๆ โดยเร่มิ จากคนหน่ึงยนื หนั หนาเขาหาผนงั หา งจาก ผนงั ประมาณ ๑ -๒ เมตร โยนลกู บอลไปที่ผนงั สูงจากพ้นื ประมาณ ๑ - ๒ เมตร เม่ือลกู บอลกระดอนกลบั มา ใหย อเขาลง แขนเหยยี ดตงึ หักขอ มอื ลง แลว อันเดอรล กู บอลกลับเขา หาผนงั อกี คร้ัง โดยลูกบอลไมต กลงพ้นื คนหนงึ่ ทาํ ๕ - ๑๐ ครงั้ แลวเปล่ียนกนั ฝกปฏบิ ัติ ดงั รูปที่ ๒.๑ – ๒.๒ รูปที่ ๒.๑ รูปที่ ๒.๒

แบบฝกท่ี ๓ การอันเดอรลกู บอลโตคู ผูเ ลน จบั คูกัน ยืนหา งกนั ๕ - ๗ เมตร โตลกู บอลกันไปมา พยายามอยา ใหลูกบอลตกพ้ืน ดังรปู ท่ี ๓.๑ รูปท่ี ๓.๑ แบบฝกที่ ๔ การเลนลกู บอลดว ยมือลางลูกตั้งสงู นักเรยี นแตละกลมุ จัดผเู ลน เปน คูๆ โดยเริม่ จากคนหน่ึงโยนลูกบอลข้ึนสงู กวา ระดบั ศีรษะ ประมาณ ๑ เมตร เม่อื ลูกบอลยอ ยลงมา ใหยอ เขา ลงแขนเหยียดตึง หกั ขอมอื ลง แลวอนั เดอรล ูกบอลกลบั ขนึ้ ไป ขณะอันเดอรลกู บอลใหเหยยี ดขาขึ้นเลก็ นอ ย แขนทาํ มมุ กบั ลําตวั ประมาณ ๙๐ องศา คอื ยกแขนเสมอ ไหล เรมิ่ ทําจากต่าํ ๆเบา ๆ กอน แลว คอ ยสูงขนึ้ แรงขนึ้ คนหนึ่งทํา ๑๐ คร้งั แลว เปลย่ี นกันฝกปฏบิ ัติ ดงั รปู ที่ ๔.๑ – ๔.๒ รปู ท่ี ๔.๑ รูปท่ี ๔.๒

แผนการจดั การเรียนรแู บบอิงมาตรฐาน หนวยการเรียนรูที่ ๔ เรอ่ื ง ทักษะการเลน ลูกบอล แผนการเรียนรูที่ ๗ เรอื่ ง การเลนลกู บอลดวยมอื บน รายวชิ า วอลเลยบ อล รหัสวิชา พ 23102 ระดบั ช้นั มัธยมศึกษาปท่ี ๓ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปการศึกษา ๒๕63 น้ําหนกั เวลาเรยี น ๒๐ ชั่วโมง ๐.๕ หนว ยกิต (นน.นก.) เวลาเรียน ๑ ชวั่ โมง / สัปดาห เวลาท่ีใชในการจัดกิจกรรมการเรยี นรู ๑ ชวั่ โมง ...………………………………………………………………………………………………………………..……………………………………… ๑. สาระสาํ คัญ การเลนลกู บอลดว ยมือบน หรือเรียกวา การเซต เปน การเลนลูกบอลดว ยนว้ิ มอื และเปนทกั ษะพื้นฐาน ที่สําคัญในการเลนวอลเลยบอลเพราะการเซตเปนหัวใจของทีมในการสรา งเกมรกุ อีกทงั้ สามารถนาํ ไปใชในการ ออกกําลังกายในชีวิตประจาํ วันเพื่อสงเสรมิ สมรรถภาพทางรา งกาย ทางจติ ได ๒. . มาตรฐานการเรียนรู / ตัวช้วี ัดชัน้ ป / ผลการเรียนรู / (เปา หมายการเรียนรู) ๒.๑ ตวั ชี้วัด มาตรฐาน พ ๓.๑ เขาใจ มีทกั ษะในการเคลือ่ นไหว กจิ กรรมทางกาย การเลน เกม และกฬี า ๒.๒ จดุ ประสงคก ารเรยี นรู ๒.๑ อธบิ ายและแสดงวธิ ีการยกมอื ทง้ั สองขา งในการเซตลกู บอลได ๒.๒ อธบิ ายและแสดงลักษณะของนวิ้ ที่ใชสมั ผัสลกู บอลได ๒.๓ อธิบายและแสดงวธิ กี ารออกแรงเซตลูกบอลได ๓. สาระการเรยี นรู ๓.๑ วธิ กี ารยกมอื ท้ังสองขา งในการเซตลูกบอล ๓.๒ ลกั ษณะของนวิ้ ทีใ่ ชสมั ผสั ลูกบอล ๓.๓ วธิ ีการออกแรงเซตลูกบอล ๓.๔ รายละเอียดขอ ๔.๑ – ๔.๓ อยูในเน้อื หาความรทู ่ี ๗.๑ เร่ืองหลักและวิธีการเซตลกู บอล และแบบฝก ปฏิบัตทิ ่ี ๗.๑ เรอ่ื งแบบฝกการเซตลูกบอล ดงั แนบอยูทายแผนการสอนท่ี ๗ ๔. สมรรถนะสาํ คัญ ๔.๑ ความสามารถในการคิด ๔.๒ ทกั ษะการสรางความรู ๔.๓ ความสามารถในการใชท ักษะชวี ิต ๔.๔ ความสามารถในการใชเทคโนโลยี ๕. คุณลกั ษณะของวิชา วิธสี อนโดยการจดั การเรยี นรูแบบรว มมือ : เทคนิคคตู รวจสอบ ๖. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค 1.มีวินัย 2.ใฝเ รยี นรู 3.มีความรับผดิ ชอบ 4. ตรงตอเวลา ๗. ภาระงาน / ช้นิ งาน ตามตัวชี้วัด การเลน ลกู บอลดวยการเซท ๘. ภาระงาน / ชิ้นงานรวบยอด แบบฝกปฏิบัติท่ี ๗.๑ การเซตลกู บอล

๙. กจิ กรรมการเรียนรู ๙.๑ ขัน้ นํา / ขน้ั เตรียม (๕ – ๑๐ นาที) ๙.๑.๑ นักเรยี นเขาแถวตอนแบงออกเปน ๕ กลุม หัวหนากลุม แตละกลมุ สาํ รวจรายชือ่ ความสะอาด เครือ่ งแตง กาย และสุขภาพของนกั เรยี นทกุ คนในกลมุ เพ่อื เตรียมความพรอ ม และความปลอดภยั ในการเรียนการสอน ๙.๑.๒ นกั เรียนบรหิ ารรา งกาย โดยแบงเปน ๒ กลุม ชาย ๑ กลมุ หญงิ ๑ กลุม แตละกลุม บริหารรา งกายกลุมละ ๖ ทา ทาบริหารรางกายเกิดจากความคดิ ของกลมุ หรือศกึ ษาจากเน้ือ ความรทู ี่ ๒.๒ เรอ่ื งทา บรหิ ารรา งกายในคาบเรยี นท่ีผานมา ๙.๒ ขั้นสอน (๑๐ – ๑๕ นาที) ๙.๒.๑ ครูผสู อนสนทนากับนกั เรยี นถงึ ประสบการณใ นการชมการแขงขนั หรือเลน ลกู บอล ดว ยการเซต พรอมสาธิต และชใี้ หเหน็ ถึงประโยชนแ ละความสาํ คัญของทกั ษะการเซตท่จี ะ เรยี นในคาบเรียนน้ี ๙.๒.๒ นกั เรียนชมการสาธติ วิธีการยกมอื ทงั้ สองขางในการเซตลกู บอล ลักษณะน้ิวจุดสมั ผสั ลกู บอล การยืนเตรยี มพรอ ม และการออกแรงเซตลกู บอลจากเนื้อหาความรทู ่ี ๗.๑ เร่ืองหลัก และวธิ ีการเซต โดยครผู ูสอนเปด โอกาสใหนกั เรยี นท่ีมีความสามารถ เปน ผูนําในการสาธิต โดยครูผสู อนคอยใหก ารดแู ล ชว ยเหลือ แนะนํา และรวมสาธติ เสรมิ ในสวนที่ยังไมสมบรู ณ เพ่ือใหนักเรยี นสามารถปฏิบัตไิ ดอ ยางถกู ตอ ง ๙.๓ ข้นั ฝก (๑๕- ๒๐ นาที) ๙.๓.๑ นักเรยี นแบง ออกเปน กลุม ๆละ ๘ - ๑๐ คน จบั ฉลากศกึ ษาแบบฝก ปฏบิ ัติท๗่ี .๑ เรอ่ื ง แบบฝกการเลน ลกู บอลดวยมอื บน ท่ีแนบอยทู า ยแผนการสอนท่ี ๗ กลุมละ ๑ แบบ จากน้นั นกั เรียนแตล ะกลุมแยกฝกปฏิบัติตามแบบฝก ทจ่ี ับฉลากได โดยครผู ูสอนคอยใหก ารดูแล ชว ยเหลอื และแนะนําในกรณที ี่นกั เรยี นไมส ามารถปฏบิ ตั ิไดถกู ตอ งจนนกั เรยี นสามารถ ปฏบิ ตั ไิ ดถูกตอ ง ๙.๓.๒ จาก ขอ ๕.๓.๑ นกั เรยี นไปศึกษาแบบฝก การเลน ลูกบอลดว ยมือบนจากกลุมอืน่ อกี ๒ แบบ และนําไปฝก ปฏบิ ัติ โดยครผู ูสอนคอยใหการดแู ลชว ยเหลือ แนะนาํ และปรบั ปรงุ แกไ ข ๙.๔ ข้ันใช (๕ – ๑๐ นาที) ๙.๔.๑ นักเรียนแตล ะกลุม แขง ขันเกม “เซตลูกบอล”โดยใชแบบฝกปฏิบัตทิ ี่ ๗.๑ แบบฝก ที่ ๓ นงั่ ชันเขาเซตลกู บอล การแขง ขนั เนน ความสนุกสนาน ความสามัคคี ความปลอดภัย ความ มนี ํา้ ใจนักกีฬา และความซ่อื สตั ย ดงั นี้ ๑) เวลาแขง ขัน คูล ะ ๒ นาที ๒) แตละคูในกลุมผลัดกนั เปนผูโ ยนลกู บอล และเปนผเู ซตลกู บอล (คนละ ๑ นาที) ๓) ถาผูเซตสามารถเซตลกู บอลกลับไปใหผ โู ยนรับไดใ หน บั ๑ คะแนน 4) หลังจากหมดเวลา ๒ นาทีแลว นาํ จาํ นวนคะแนนที่เซตไดของทุกคนภายในกลมุ มารวมกัน เปนคะแนนของกลมุ กลุม ใดเซตลูกบอลไดค ะแนนมากกวา เปน ผูชนะ

๙.๕ ขน้ั สรุปและสุขปฏิบัติ (๕ – ๑๐ นาที) ๙.๕.๑ นักเรยี นรวมแถว ระดมสมองรว มกันอภิปราย แสดงความคิดเหน็ พรอ มสรุปความรู ความเขา ใจ เกี่ยวกับการเลนลูกบอลดวยมือบน โดยครผู ูสอนรวมชแี้ นะเพมิ่ เติมพรอ ม สอดแทรกคุณธรรม จรยิ ธรรม เชนความซื่อสัตย ความมนี าํ้ ใจนักกฬี า ตามหลกั ปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง ๑๐. วัสดอุ ปุ กรณ ส่อื และแหลงการเรยี นรู ๑๐.๑ เนอื้ หาความรทู ี่ ๗.๑ เรอ่ื งหลกั และวิธกี ารเซตลกู บอล ๑๐.๒ แบบฝก ปฏบิ ัตทิ ี่ ๗.๑ เรอื่ งแบบฝกการเซตลูกบอล ๑๐.๓ ลูกวอลเลยบ อล ๒๐ - ๒๕ ลูก ๑๐.๔ สอ่ื Internet ….Website ชอ่ื http://school.obec.go.th/volley ๑๑. การวัดผลและการประเมนิ ผล ๑๑.๑ วธิ ีการวัด / สง่ิ ทวี่ ดั ๗.๑.๑ สงั เกตการปฏิบัติกิจกรรม การเลนลูกบอลดวยมอื บน ๑ ๑๑.๒ เครอื่ งมือทีใ่ ชในการวัดผลประเมนิ ผล ๗.๒.๑ แบบสงั เกตการปฏิบัติกิจกรรม การเลน ลูกบอลดว ยมือบน ๑ ๑๑.๓ เกณฑก ารวัดผลประเมินผล ๑๑.๓.๑ เมอื่ นกั เรยี น เรียนจบจุดประสงคต ามแผนการสอนท่ี ๗ เรื่องการเลน ลกู บอลดว ย มือบน ๑ แลวนักเรียนไดค ะแนนจากแบบสังเกตการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมการเลน ลูกบอลดว ยมือ บน ๑ ไมตํา่ กวา รอ ยละ ๕๐ จึงจะถือวาผานเกณฑการประเมนิ ๑๒. กจิ กรรมเสนอแนะ แหลง ขอมลู นักเรียนสามารถศกึ ษาคนควาเพ่ิมเติมไดจ าก ๑๒.๑ Internet ….Website ชอ่ื http://school.obec.go.th/volleyเร่ืองการเซตลูกบอล ๑๒.๒ หองสมุดโรงเรยี นบางแกวประชาสรรค , หองศูนยเทคโนโลยีและสารสนเทศ , รา น Internet , Internet ท่บี านหรือแหลงเรยี นรอู ่ืนๆที่สามารถคน ควา ไดสะดวก ๑๒.๓ หนังสอื การศึกษา และตําราการเลน วอลเลยบอลจากแหลง เรยี นรทู ว่ั ๆไป ๑๒.๔ ชมการแขงขนั กีฬาวอลเลยบ อลตามโอกาสตางๆ

บนั ทึกหลังการสอน เรื่อง...การเลนลกู บอลดว ยมอื บน ๑. ผลการสอน ( ผูเรยี นชั้น มธั ยมศกึ ษาปที่ ๓ (จํานวนท้ังส้ิน …………….. คน ) การประเมินดา นความรู : Knowledge ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… การประเมนิ ดานทกั ษะกระบวนการ : Process ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… การประเมินดานคณุ ลกั ษณะท่พี งึ ประสงค : Attitude ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ๒. ปญหาอุปสรรค ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ๓. แนวทางแกไข จดั กิจกรรมเสริมทักษะหรือซอ มเสรมิ ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..………………… ลงชอื่ …..........………….......................…….. ผจู ัดกิจกรรมการเรียนรู ( นางสาวเชาวนี บญุ รัง ) ตาํ แหนง ครคู ศ.1 …… / ………… /……………

บนั ทึกการนเิ ทศ ที่ รายการผนู ิเทศ รายละเอียดความเหน็ ของผูนิเทศ ลายมอื ชอ่ื ๑ หวั หนา กลุม สาระการ ………………………………………………..................................... ………………………………………………..................................... เรียนรู/ผทู ี่ไดรบั ………………………………………………..................................... มอบหมาย ……………………………………………….................................... ๒ รองผอู าํ นวยการ ………………………………………………..................................... กลุม บริหารวชิ าการ ………………………………………………..................................... ………………………………………………..................................... ๓ ผอู าํ นวยการโรงเรยี น ………………………………………………..................................... ………………………………………………..................................... ………………………………………………..................................... ………………………………………………..................................... ……………………………………………….....................................

แบบสงั เกตการปฏบิ ัตกิ ิจกรรมการเลน ลูกบอลดวยมอื บน ๑ วชิ าพลศกึ ษา (วอลเลยบ อล) วันท่…ี ………..….เดอื น………………......……..พ.ศ.……….…….ชน้ั …...…..…กลุมที่…….......…. คําชแ้ี จง ใหพ จิ ารณาใสน าํ้ หนกั คะแนน ( ๕ , ๔ , ๓ , ๒ , ๑ ) ลงในชองวางใหตรงกบั การปฏบิ ัติ กิจกรรม ตามเกณฑก ารประเมิน ชอื่ เลขท่ี ทักษะถูกตอง ความพรอม / คะแนน ๑. ความตั้งใจ รวม ๒. ๓. ๔. ๕. ๖. ๗. ๘. ๙. ๑๐. ๑๑. ๑๒. หมายเหตุ ผปู ระเมนิ คอื ครูผสู อน นักรียน เพอ่ื น ตามความเหมาะสม เกณฑก ารประเมนิ มากทส่ี ดุ = ๕ มาก =๔ ปานกลาง = ๓ นอย = ๒ นอ ยที่สดุ = ๑ ลงช่อื ………………………………………ผูประเมิน ลงชื่อ………………………………………ผูสอน

เนื้อหาความรทู ่ี ๗.๑ เรอ่ื งหลักและวิธกี ารเซตลกู บอล ๑) การยกมอื ทัง้ สองในการเซต ยกมอื ท้ังสองขนึ้ ประมาณหนาผาก มอื ท้งั สองหา งจากใบหนาประมาณ ๑ กาํ มือ ( ๑๐ เซนติเมตร ) กางน้วิ ออก กางขอ ศอกออกเล็กนอย ขอศอกอยรู ะดบั เสมอไหลหรือสูงกวาเล็กนอ ย กาง นิว้ ออกน้ิวงอเปนครงึ่ วงกลม ปลายน้ิวกอ ยอยูขา งหนา ดังรปู ที่ ๑.๑ – ๑.๒ รูปที่ ๑.๑ รูปที่ ๑.๒ ๒) ลักษณะนิว้ และจดุ สมั ผสั ลกู บอล จุดท่นี ิ้วมอื สมั ผัสลกู บอลจะอยูหา งจากหนาผากประมาณ ๒๐ เซนตเิ มตร ( คอื กอนท่ี ลูกบอลจะมาถึงมอื ใหเหยยี ดแขนข้ึนไปอกี ๑๐ เซนตเิ มตร ) น้วิ หัวแมมอื เปน นว้ิ ทรี่ องรับลกู บอล น้ิวนาง และ น้วิ กอยเปนน้วิ ที่ใชค วบคมุ ทิศทางของลูกบอล สว นนิว้ ชแ้ี ละนิ้วกลางเปน นวิ้ ทใ่ี ช ออกแรงดีดลกู บอล โดยทํางานสมั พันธก นั กับขอมอื ดวย ดงั รปู ที่ ๒.๑ – ๒.๒ รปู ที่ ๒.๑ รปู ท่ี ๒.๒

๓) การยนื เตรยี มพรอ มในการเซตลกู บอล ยนื ใหเทาท้งั สองแยกหา งกันประมาณ ๑ ชวงไหลหรอื กวา งกวา เลก็ นอย จะยนื ให ปลายเทาทงั้ สองเสมอกันหรือเทา ใดเทา หนึ่งเปนเทา นาํ ก็ได ยกสน เทาเล็กนอ ย ยอ เขาแขมว ทอง โนม ตัวไปขา งหนา เลก็ นอ ย ปลอ ยไหลตามสบายไมเกร็ง ดังรูปท่ี ๓.๑ – ๓.๒ รูปที่ ๓.๑ รูปท่ี ๓.๒ ๔) การออกแรงเซตลูกบอล การเคลื่อนทเ่ี ขา หาลกู บอลนั้น จะตองพยายามเคล่อื นที่ไปยังจุดท่ลี กู บอลจะตก และให ลูกบอลอยูเ หนือศีรษะบรเิ วณหนาผากพรอมยอ เขา ยกมือขึน้ ขณะทลี่ ูกบอลสัมผสั กับนิว้ มอื แรงทจ่ี ะมาเซตลูกบอล จะมาจากแรงสปรงิ ของนว้ิ พรอมกับแรงสงจากขอ ศอก รวมทัง้ การเหยยี ดแขนและเขา ออกไป ดังรูปท่ี ๔.๑ – ๔.๓ รูปที่ ๔.๑ รปู ที่ ๔.๒ รปู ท่ี ๔.๓

แบบฝกปฏิบัติที่ ๗.๑ เรื่องแบบฝกในการเซตลูกบอล แบบฝกที่ ๑ นั่งกดบอล ๑. ผเู ลนคนหนึง่ นงั่ เหยยี ดขาพรอ มยกมือในทา เซตทถี่ กู ตอง ผูเลน อกี คนหนง่ึ ยืนถอื ลกู บอล โดยยนื คลอ มขาทง้ั สองของผูนง่ั ๒. ผูยืนกดลกู บอลลงไปที่มือของผูนัง่ เบาๆ กอ นที่ลกู บอลจะสมั ผสั มือใหผนู ่ังเหยียดมือ ขน้ึ ไปเซตลูกบอล ทําเชน น้ี ๕ - ๑๐ ครงั้ แลว เปลยี่ นกนั ดงั รปู ที่ ๑.๑ – ๑.๒ รูปที่ ๑.๑ รูปที่ ๑.๒ แบบฝกที่ ๒ นั่งเหยียดขาเซตลูกบอล ๑. ผเู ลน คนหน่งึ นง่ั เหยยี ดขาพรอมยกมือในทาเซตท่ีถูกตอ ง ผูเลนอีกคนหนงึ่ ยนื ถอื ลูกบอลโดยยืนที่ปลายเทา ของผูน่งั ๒. ผยู นื โยนลกู บอลไปทีม่ ือผนู ั่ง กอ นที่ลูกบอลจะสัมผัสมอื ใหผูนัง่ เหยียดมอื ขนึ้ ไปเซต ลูกบอลกลับไปใหผ ูโ ยนทําเชนนี้ ๕ - ๑๐ ครัง้ แลว เปลีย่ นกนั ดงั รูปที่ ๒.๑ – ๒.๒ รปู ที่ ๒.๑ รูปท่ี ๒.๒

แบบฝก ท่ี ๓ น่ังชันเขาเซตลูกบอล ๑. ผูเ ลนคนหนง่ึ น่งั ชันเขา พรอมยกมอื ทาเซตทถ่ี ูกตอง ผเู ลนอีกคนหนึ่งยนื ถือลกู บอล โดยยืนหางจากผนู ั่งประมาณ ๑ - ๓ เมตร ๒. ผูยนื โยนลกู บอลไปทีม่ อื ผนู ง่ั กอ นท่ลี ูกบอลจะสมั ผสั มอื ใหผนู ่ังเหยียดมอื ขน้ึ ไปเซต ลกู บอลกลับไปใหผโู ยนทําเชนน้ี ๕ - ๑๐ ครั้งแลวเปลี่ยนกัน ดงั รูปที่ ๓.๑ – ๓.๒ รูปที่ ๓.๑ รปู ท่ี ๓.๒ แบบฝกที่ ๔ ยืนเซตลกู บอล ๑. ผเู ลน คนหน่ึงยนื อยใู นทาเตรยี มพรอมท่จี ะเซต ผเู ลน อีกคนหน่ึงยืนถือบอล โดยยนื หางกันประมาณ ๓ - ๕ เมตร ๒. ผูถือลกู บอลโยนลกู บอลไปใหผเู ซตระดบั เหนอื ศรี ษะ กอ นที่ลกู บอลจะสัมผสั มือให ผเู ซตเหยยี ดมอื ขึ้นไปเซตลูกบอลกลบั ไปใหผโู ยนรับใหไดท าํ เชนน้ี ๕ - ๑๐ ครงั้ แลว เปลย่ี นกัน ดังรูปที่ ๔.๑ – ๔.๒ รปู ที่ ๔.๑ รูปท่ี ๔.๒


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook