กฎหมายกบั เวชระเบยี น จักรกฤษณ์ ศรี สุ วรรณ เ น ติ บั ณ ฑิ ต ไ ท ย นิติกรชานาญการ สสจ.นครราชสี มา
เวชระเบียน “การรวบรวมข้อเทจ็ จริงเกย่ี วกบั สุขภาพของผู้ป่ วย ท้งั ในอดตี และปัจจุบนั ซ่ึงได้รับการบนั ทกึ จดั เกบ็ อย่างเป็ นระบบ”
เอกสารในทางกฎหมาย เอกสาร กระดาษหรอื วัตถอุ ่นื ใดซึ่งไดท้ าให้ปรากฏความหมายด้วย ตวั อักษร ตัวเลข ผงั หรือ แผนแบบอยา่ งอนื่ จะเปน็ โดยวิธพี ิมพ์ ถา่ ยภาพ หรอื วิธอี ืน่ อนั เป็นหลกั ฐานแหง่ ความหมายนนั้ เอกสารราชการ เอกสารซึง่ เจา้ พนักงานได้ ทาขนึ้ หรอื รบั รองในหนา้ ที่ และ ให้หมายความรวมถงึ สาเนาเอกสารนั้นๆ ทเ่ี จา้ พนักงานได้รับรองในหนา้ ทดี่ ้วย เอกสารสิทธิ เอกสารทเี่ ป็ นหลกั ฐานแห่งการก่อ เปลย่ี นแปลง โอน สงวนหรือระงับซ่ึงสิทธิ
เวชระเบียน เป็นเอกสาร เวชระเบยี นในโรงพยาบาลของรฐั เปน็ เอกสารราชการ เวชระเบียน เป็นเอกสารสทิ ธิ
บัตรอเิ ลก็ ทรอนิกส์ (อนาคต) (ก) เอกสาร หรือวัตถุอ่ืนใดไม่ว่าจะมีรูปลักษณะใดท่ีผู้ออกได้ ออกให้แก่ผู้มสี ทิ ธใิ ช้ซง่ึ จะระบุชื่อหรือไม่ก็ตาม โดยบันทึกข้อมูล หรือ รหัสไว้ด้วยการประยุกต์ใช้ วิธีการทางอิเล็กตรอน ไฟฟ้า คลื่น แม่เหล็กไฟฟ้า หรือวิธีอ่ืนใดในลักษณะคล้ายกัน ซึ่งรวมถึงการ ประยุกต์ใช้วิธีการทางแสงหรือวิธีการทางแม่เหล็กให้ปรากฏ ความหมายด้วยตัวอกั ษร ตัวเลข รหัส หมายเลขบัตร หรือสัญลักษณ์ อ่นื ใด ท้ังท่สี ามารถมองเห็นและมองไมเ่ หน็ ด้วยตาเปล่า
บตั รอเิ ลก็ ทรอนิกส์ (ข) ข้อมูล รหัส หมายเลขบัญชี หมายเลขชุดทาง อเิ ล็กทรอนิกส์ หรือ เครื่องมือทางตัวเลขใดๆ ทผ่ี ู้ออกได้ออกใหแ้ ก่ผู้มี สิทธใิ ช้ โดยมิได้มีการออกเอกสาร หรือวัตถุอื่นใดให้ แต่มวี ิธีการใช้ใน ทานองเดยี วกับ (ก) (ค) สิ่งอ่ืนใด ท่ีใช้ประกอบกับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เพ่ือ แสดงความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลกับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ โดยมี วัตถุประสงค์เพ่อื ระบุตวั บุคคลผเู้ ปน็ เจา้ ของ
ความสาคญั ของเวชระเบียน 1. การรกั ษาพยาบาล 2. การสือ่ สาร เชน่ การส่งต่อผปู้ ่วย 3. การบรหิ ารจดั การ ในการเบกิ จา่ ยเงินจากกองทนุ ตา่ งๆ 4. กฎหมายและการฟ้องรอ้ ง 5. การศึกษาวิจยั 6. การสถติ ิ
สิทธิ & หน้าที่ สิทธิ : ประโยชน์ทกี่ ฎหมายรับรอง และคุ้มครองให้ หากมผี ู้มา ละเมดิ หน้าที่ : ภาระทบี่ ุคคลต้องทา หากหลกี เลยี่ งหรือไม่ทา จะต้องถูก บงั คบั ให้รับผดิ และถูกลงโทษ
บ่อเกดิ แห่งหน้าท่ี ๑. กฎหมายบญั ญตั ิ ๒.นิตกิ รรมสัญญา ๓.วชิ าชีพ ๔.ความสัมพนั ธ์ ๕.สิ่งทีป่ ฏบิ ตั มิ าก่อนหน้า ต้องทาให้แล้วเสร็จ
ความรับผดิ ของบุคลากรเวชระเบียนผู้ไม่สุจริต ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗ , ๒๖๕ , ๓๒๓ ประมวลแพง่ และพาณิชย์ มาตรา ๔๒๐ ดา้ นวิชาชีพ : พ.ร.บ.ผปู้ ระกอบวชิ าชีพ……เวชระเบียน วินยั : พ.ร.บ.ระเบียบขา้ ราชการพลเรือน (รพ.ของรัฐ) หรือ กฎหมาย แรงงาน (รพ.เอกชน)
กฎหมายหลกั ทเี่ กย่ี วข้องกบั เวชระเบยี น 1.ประมวลกฎหมายอาญา 2. ประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชย์ 3.พ.ร.บ.ขอ้ มูลขา่ วสารของทางราชการ 4.พ.ร.บ.สุขภาพแหง่ ชาติ 5.พ.ร.บ.วธิ ปี ฏบิ ัตริ าชการทางปกครอง 6.พ.ร.บ.การทะเบยี นราษฎร์ 7.คาประกาศสิทธิของผู้ป่วย
เวชระเบียนเป็นพยานหลักฐานท่ีสาคัญเพ่ือลงโทษ คนร้ายและปกป้องผู้บริสุทธิ์ กับพิสูจน์ว่าผิดหรือ บริสุทธิ์ในคดีทางการแพทย์ ระหว่างผู้ป่วยกับ แพทย์และบุคลากร โดยท่ีแพทย์และบุคลากรเป็นผู้ บันทึกจัดทาแต่ฝ่ายเดียว และควบคุมดูแลเวช ระเบียนนัน้
ความผดิ ทางอาญาที่เวชระเบยี นมกั เขา้ ไป เก่ยี วข้อง : พยานเอกสาร
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๖ ผู้ใด ข่มขืนกระทาชาเรา ผู้อ่ืนโดยขู่เข็ญ ด้วยประการใดๆ โดยใช้กาลังประทุษร้าย โดยผู้นั้นอยู่ในภาวะ ที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทาให้ผู้อ่ืนน้ันเข้าใจผิดว่าตน เป็นบุคคลอื่น จาคกุ สปี่ ีถึงยี่สบิ ปี,ปรับ ๘,๐๐๐ – ๔๐,๐๐๐ กระทาชาเรา หมายความว่าการกระทาเพ่ือสนองความ ใคร่ของผู้กระทาโดยการใช้ อวัยวะเพศของผู้กระทา กระทา กับ อวัยวะเพศ ทวารหนัก หรือช่องปากของผู้อ่ืน หรือการใช้ สงิ่ อน่ื ใดกระทากบั อวัยวะเพศ ทวารหนกั ของผอู้ ่นื
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ ผู้ใด ฆ่า ผูอ้ ่นื ตอ้ งระวางโทษ... มาตรา ๒๘๙ ผู้ใดฆา่ ผอู้ นื่ (บทฉกรรจ์) มาตรา ๒๙๐ ฆา่ ผอู้ นื่ โดยไม่เจตนา เช่น อบุ ตั เิ หตจุ ราจร
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๑ กระทาโดยประมาทเปน็ เหตใุ หผ้ ูอ้ ืน่ ถึงแก่ความตาย มาตรา ๓๐๐ กระทาโดยประมาทเป็นเหตใุ หผ้ อู้ ื่นรบั อนั ตรายสาหัส
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๕ ผู้ใดทาร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตราย แก่กาย หรือจิตใจ ...ผิด ฐานทาร้ายร่างกาย ...จาคุกสองปี ,ปรบั ๔,๐๐๐
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๗ ผใู้ ดกระทาความผิดฐานทาร้ายรา่ งกายจนเป็น เหตุให้ผู้ถูกกระทาร้ายรับอันตรายสาหัส...จาคุกต้ังแต่หกเดือนถึง สิบปี อนั ตรายสาหสั นน้ั คือ (๑) ตาบอด หูหนวก ลน้ิ ขาด หรือเสียฆานประสาท (๒) เสียอวยั วะสืบพันธ์ หรือความสามารถสืบพนั ธ์ (๓) เสยี แขน ขา มือ เท้า นวิ้ หรืออวัยวะอืน่ ใด (๔) หน้าเสียโฉมอย่างติดตัว
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๗ อันตรายสาหัส (ต่อ) (๕) แท้งลูก (๖) จติ พกิ ารอยา่ งตดิ ตัว (๗) ทุพพลภาพ หรอื ปว่ ยเจ็บเรอื้ รงั ซ่งึ อาจถึงตลอดชวี ิต (๘) ทุพพลภาพ หรือป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาเกิน กว่ายี่สิบวัน หรือจนประกอบกรณียกิจตามปกติไม่ได้เกิน กว่ายี่สิบวนั
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๐๑ หญิงใด ทาให้ตนเองแท้งลูก หรือยอมให้ผู้อื่นทา ให้ตนแท้งลูก (๓ ปี, ๖,๐๐๐) มาตรา ๓๐๒ ผู้ใดทาใหห้ ญงิ แทง้ ลกู โดยหญิงน้นั ยนิ ยอม (๕ ปี, ๑๐,๐๐๐) ถ้าเปน็ เหตุใหห้ ญงิ รับอันตรายสาหสั (๗ ปี,๑๔,๐๐๐) ถ้าเป็นเหตใุ ห้หญิงตาย (๑๐ ปี, ๒๐,๐๐๐)
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๐๓ ผู้ใดทาใหห้ ญงิ แทง้ ลูกโดยหญงิ น้นั ไมย่ นิ ยอม (๗ปี, ๑๔,๐๐๐) ถ้าเป็นเหตุให้หญิงรับอันตรายสาหัส (๑ – ๑๐ ปี, ๒,๐๐๐ – ๒๐,๐๐๐) ถา้ เป็นเหตใุ ห้หญิงตาย (๕ - ๒๐ ปี, ๑๐,๐๐๐ – ๔๐,๐๐๐) มาตรา ๓๐๔ พยายาม กระทาความผิดตาม ม.๓๐๑ หรือ ม.๓๐๒ ว.แรก ไม่ต้องรับโทษ
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๐๕ ถ้าการกระทาความผิดใน ม.๓๐๑ หรือ ม.๓๐๒ นั้น เปน็ การกระทาของนายแพทย์และ (๑) จาเปน็ ตอ้ งกระทาเน่ืองจากสขุ ภาพของหญิงน้นั หรอื (๒) หญิงมีครรภ์เนื่องจากการกระทาความผิดอาญาตาม ม.๒๗๖, ๒๗๗, ๒๘๓ หรอื ๒๘๔ (ถกู ข่มขนื ) ผู้กระทาไมม่ คี วามผดิ
ความรบั ผิดของเจา้ หนา้ ที่ ดา้ นเวชระเบยี น
โทษอาญา (ปอ.มาตรา ๑๘) ๑. ประหารชีวติ ๒. จาคกุ ๓. กกั ขงั ๔. ปรับ ๕. ริบทรพั ยส์ ิน
โทษทางแพง่ - ใช้หนี้ - ส่งมอบทรัพย์สินหรือใช้ราคา - ใช้ค่าเสียหาย
โทษวินยั ๑.ภาคทณั ฑ์ ๒.ตดั เงินเดอื น ๓.ลดเงินเดอื น ๔.ปลดออก ๕.ไลอ่ อก
โทษวิชาชพี ๑.วา่ กลา่ วตักเตอื น ๒.ภาคทณั ฑ์ ๓.พกั ใชใ้ บอนญุ าต(ไม่เกนิ ๒ ปี) ๔.เพกิ ถอนใบอนญุ าต
ฐานความผดิ ทางกฏหมายอาญา
*มาตรา ๑๕๗ ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติ หน้าท่ีโดยมิชอบเพ่ือให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้อง ระวางโทษจาคุกต้ังแต่หนึ่งปี ถึงสิบปี หรือ ปรับตั้งแต่ สองพันบาทถึงสองหม่นื บาท หรอื ท้งั จาท้ังปรบั
มาตรา ๑๕๘ ผู้ใดเป็ นเจ้าพนักงาน ทาให้เสียหาย ทาลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทาให้สูญหายหรือทาให้ไร้ประโยชน์ ซึ่ง ทรัพย์หรือเอกสารใด อันเป็ นหน้าท่ีของตนท่ีจะปกครอง หรือรักษาไว้ หรือยินยอมให้ผู้อื่นกระทาเช่ นน้ัน ต้อง ระวางโทษจาคุกไม่เกินเจ็ดปี และ ปรับไม่เกิน หน่ึงหม่ืน ส่ีพนั บาท
มาตรา ๑๖๒ ผูใ้ ดเป็นเจ้าพนักงาน มหี น้าท่ีทาเอกสาร รบั เอกสารหรือ กรอกข้อความลงในเอกสาร กระทาการดังต่อไปน้ีในการปฏิบัติการ ตามหนา้ ที่ (๑)... (๒)... (๓)... (๔) รับรองเป็นหลักฐานซ่งึ ข้อเท็จจริงอันเอกสารนั้นมุ่งพิสูจน์ ความจริงอนั เป็นความเท็จต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินเจ็ดปี และปรับ ไมเ่ กนิ หน่งึ หมื่นส่ีพันบาท
มาตรา ๒๖๔ ผู้ใดทาเอกสารปลอมขึน้ ท้ังฉบับหรือแต่ส่วนหนึ่งส่วนใด เติม หรือตัดทอนข้อความหรือแก้ไขด้วยประการใด ๆ ในเอกสารท่ีแท้จริง หรือประทับตราปลอม หรือลงลายมือช่ือปลอมในเอกสารโดยประการ ที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อ่ืน หรือประชาชน ถ้าได้กระทาเพื่อให้ผู้ หนึ่งผู้ใดหลงเช่ือว่าเป็ นเอกสารที่แท้จริง ผู้น้ันกระทาความผิดฐาน ปลอมแปลงเอกสาร ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกนิ สามปี หรือปรับไม่เกนิ หกพนั บาท หรือท้งั จาท้งั ปรับ
*มาตรา ๒๖๕ ผู้ใดปลอมเอกสารสิทธิ หรือเอกสารราชการ ต้องระวางโทษจาคุกต้ังแต่หกเดือนถึงห้าปี และปรับต้ังแต่หนึ่งพัน บาทถึงหนึ่งหม่นื บาท มาตรา ๒๖๘ ผู้ใดใช้หรืออ้างองิ เอกสารอันเกิดจากการกระทา ความผดิ ตามมาตรา ๒๖๔ มาตรา ๒๖๕ มาตรา ๒๖๖ มาตรา ๒๖๗ ใน ประการท่ีน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อ่ืนหรือประชาชน ต้องระวาง โทษดงั ทบ่ี ญั ญตั ิไว้ในมาตราน้นั ๆ ถ้าผู้กระทาความผดิ ตามวรรคแรกเป็ นผู้ปลอมเอกสารน้ัน หรือ เป็ นผู้แจ้งให้พนักงานจดข้อความน้ันเองให้ลงโทษตามมาตรานี้แต่ กระทงเดยี ว
มาตรา ๒๖๙ ทาใบรับรองเป็ นเท็จ ผู้ใดในการประกอบการงานในวิชาแพทย์ กฎหมาย บัญชีหรือวิชาชีพอ่ืนใด ทาคารับรองเป็ นเอกสารอันเป็ นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อ่ืนหรือประชาชน ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือท้งั จาท้งั ปรับ ผู้ใดโดยทุจริตใช้ หรืออ้างคารับรองอันเกิดจากการ กระทาความผดิ ตามวรรคแรก ต้องระวางโทษเช่นเดยี วกนั
*มาตรา ๓๒๓ (เปิดเผยความลับของผู้ป่วย) ผู้ใดล่วงรู้หรือ ได้มาซ่ึงความลับของผู้อ่ืนโดยเหตุที่เป็นเจ้าพนักงานผู้มีหน้าท่ี โดย เหตุที่ประกอบอาชีพเป็นแพทย์ เภสัชกร คนจาหน่ายยา นางผดุง ครรภ์ ผู้พยาบาล นักบวช หมอความ ทนายความ หรือผู้สอบบัญชี หรื อ โ ด ย เหตุ ท่ีเ ป็ น ผู้ ช่ ว ย ใ น กา ร ป ร ะ กอ บ อ า ชี พ น้ั น แ ล้ ว เปิ ด เผ ย ความลับน้ัน ในประการท่ีน่าจะเกิดความเสียหายแกผ่ ู้หนึ่งผใู้ ด ต้อง ระวางโทษจาคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหน่ึงพันบาท หรือ ทั้งจาทง้ั ปรบั ผู้รับการศึกษาอบรมในอาชีพดังกล่าวในวรรคแรก เปิดเผย ความลบั ของผู้อนื่ อนั ตนไดล้ ว่ งรู้หรือได้มาในการศึกษาอบรมนั้น ใน ประการท่ีน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้หน่ึงผู้ใด ต้องระวางโทษ เช่นเดียวกนั
ป . พ . พ. มาตรา 420 ละเมดิ “ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทาต่อบุคคลอ่ืนโดยผิด กฎหมายให้เขาเสียหายถึงแก่ชีวิต ร่างกาย อนามัย เสรีภาพ ทรัพย์สิน หรือสิทธิ ผู้น้ันทาละเมิด ต้องใช้ค่า สนิ ไหมทดแทน”
วธิ กี ารถกู บงั คับให้รับผดิ ทางแพง่ - ใช้หนี้ - ส่งมอบทรัพย์สินหรือใช้ราคา - ใช้ค่าเสียหาย
พรบ.ข้อมลู ข่าวสารของราชการ พ.ศ.๒๕๔๐ มาตรา ๔ “ข้อมูลข่าวสาร” หมายความว่า ส่ิงที่สื่อความหมายให้รู้ เรื่องราวข้อเทจ็ จริง ข้อมูล หรือส่ิงใด ๆ ไม่ว่าการสื่อความหมายน้ันจะ ทาได้โดยสภาพของส่ิงน้ันเองหรือโดยผ่านวธิ ีการใด ๆ และไม่ว่าจะได้ จัดทาไว้ในรูปของเอกสาร แฟ้ ม รายงาน หนังสือ แผนผัง ภาพวาด ภาพถ่าย ฟิ ล์ม การบันทึกภาพ หรือเสียงการบันทึกโดยเครื่อง คอมพวิ เตอร์ หรือวธิ ีอน่ื ใดทท่ี าให้ส่ิงทบ่ี ันทกึ ไว้ปรากฏได้
พรบ.ข้อมลู ขา่ วสารของราชการ พ.ศ.๒๕๔๐ (ต่อ) มาตรา ๔ “ข้อมูลข่าวสารของราชการ” หมายความว่า ข้อมูล ข่าวสารที่อยู่ในความครอบครองหรือควบคุมดูแลของ หน่วยงานของรัฐ ไม่ว่าจะเป็ นข้อมูลข่าวสารเก่ียวกับ การดาเนินงานของรัฐหรือข้อมูลข่าวสารเกยี่ วกบั เอกชน
พรบ.ข้อมูลข่าวสารของทางราชการ พ.ศ.๒๕๔๐ (ต่อ) มาตรา ๔ “หน่วยงานของรัฐ” หมายความว่า ราชการ ส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาค ราชการส่วนท้องถ่ิน รัฐวิสาหกิจ ส่วนราชการสังกัดรัฐสภา หน่วยงานอิสระ ของรัฐและหน่วยงานอืน่ ตามทก่ี าหนดในกฎกระทรวง “เจ้าหน้าที่ของรัฐ” หมายความว่า ผู้ซ่ึงปฏิบัติงาน ใหแ้ ก่หน่วยงานของรัฐ
พรบ.ขอ้ มูลขา่ วสารของทางราชการ พ.ศ.๒๕๔๐ (ตอ่ ) มาตรา ๔“ข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคล” หมายความว่า ข้อมูล ขา่ วสารเกี่ยวกบั ส่ิงเฉพาะตัวของบุคคล เช่น การศึกษา ฐานะการเงิน ประวัติสุขภาพ ประวัติอาชญากรรม หรือประวัติการทางาน บรรดาท่ี มีช่ือของผู้นั้นหรือมีเลขหมาย รหัสหรือ สิ่งบอกลักษณะอ่ืนที่ทาให้ รู้ตัวผู้น้ันได้ เช่น ลายพิมพ์น้ิวมือ แผ่นบันทึกลักษณะเสียงของคน หรือรูปถ่าย และให้หมายความรวมถึงข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับส่ิง เฉพาะตัวของผูท้ ถี่ ึงแก่กรรมแล้วดว้ ย
หมวดที่ ๑ การเปิ ดเผยข้อมูลข่าวสาร มาตรา ๙ ภายใต้บังคับมาตรา ๑๔ และมาตรา ๑๕ หน่วยงานของรัฐต้อง จัดให้ มีข้อมูลข่าวสารของราชการ...ไว้ ให้ประชาชนเข้าตรวจดูได้ ท้ังนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ คณะกรรมการกาหนด ถ้ามีส่วนท่ีต้องห้ามมิให้เปิดเผยตาม ม.๑๔ หรือ ม.๑๕ ให้ลบหรอื ตัดทอน...
หมวดที่ ๒ ข้อมูลข่าวสารทไ่ี ม่ต้องเปิ ดเผย มาตรา ๑๕ ข้อมูลข่าวสารของราชการที่มีลักษณะอย่างหน่ึง อย่างใดต่อไปนี้ หน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าทข่ี องรัฐอาจมี คาสั่ง มิให้เปิดเผยก็ได้ โดยคานึงถึงการปฏิบัติหน้าท่ีตามกฎหมายของ หน่วยงานของรัฐประโยชน์สาธารณะ และประโยชน์ของเอกชนที่ เกีย่ วขอ้ งประกอบกนั (๑) ...ความม่ันคงของประเทศ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เศรษฐกิจหรือการคลังของประเทศ (๒) ...การบงั คบั ใช้กฎหมายเสือ่ มประสิทธภิ าพ...
หมวดที่ ๒ ข้อมูลข่าวสารทไ่ี ม่ต้องเปิ ดเผย มาตรา ๑๕ (ตอ่ ) คาสัง่ มิใหเ้ ปิดเผย (๓) ความเห็นหรอื คาแนะนาภายในหน่วยงานของรัฐ ... (๔) การเปิดเผยจะก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตหรือความปลอดภัยของ บุคคลหนึ่งบคุ คลใด (๕) รายงานการแพทย์ หรอื ขอ้ มลู ขา่ วสารสว่ นบุคคล ซ่ึงการเปิดเผย จะเป็นการรุกล้าสิทธิส่วนบุคคลโดยไม่สมควร (๖) ข้อมูลข่าวสารของราชการที่มีกฎหมายคมุ้ ครองมิใหเ้ ปดิ เผย... (๗) กรณอี ่ืนตามทก่ี าหนดในพระราชกฤษฎีกา
หมวดท่ี ๒ ข้อมูลข่าวสารทไ่ี ม่ต้องเปิ ดเผย มาตรา ๒๐ การเปิดเผยขอ้ มูลขา่ วสารใดแมจ้ ะเข้าข่ายตอ้ งมคี วามรับผิด ตามกฎหมายใด ให้ถือว่าเจ้าหน้าทข่ี องรฐั ไม่ตอ้ งรับผิดหากเป็นการกระทาโดย สจุ ริตในกรณดี ังต่อไปนี้ (๑) ขอ้ มลู ขา่ วสารตามมาตรา ๑๕ ถ้าเจ้าหน้าท่ีของรัฐได้ดาเนินการโดย ถกู ตอ้ งตามระเบยี บตามมาตรา ๑๖ (๒) ข้อมูลข่าวสารตามมาตรา ๑๕ ถ้าเจ้าหน้าท่ีของรัฐในระดับตามท่ี กาหนดในกฎกระทรวง มีคาสั่งให้เปิดเผยเป็นการทั่วไป หรือเฉพาะแก่บุคคล ใดเพื่อประโยชน์อันสาคัญยิ่งกว่าที่เก่ียวกับประโยชน์สาธารณะ หรือชีวิต ร่างกาย สุขภาพ หรือประโยชน์อ่ืนของบุคคล และคาส่ังนั้นได้กระทาโดย สมควรแก่เหตุในการนี้จะมีการกาหนดข้อจากัดหรือเง่ือนไขในการใช้ข้อมูล ขา่ วสารนนั้ ตามความเหมาะสมกไ็ ด้
หมวดท่ี ๓ ข้อมูลข่าวสารส่ วนบุคคล มาตรา ๒๑ เพื่อประโยชน์แห่งหมวดนี้ “บุคคล” หมายความว่า บุคคลธรรมดาท่ีมีสัญชาติไทยและบุคคล ธรรมดาท่ีไม่มีสัญชาติไทยแต่มีถ่ินที่อยู่ในประเทศไทย (ไม่รวมนิตบิ ุคคล)
มาตรา ๒๔ หน่วยงานของรัฐจะเปิดเผยข้อมูลข่าวสารส่วน บุคคลท่ีอยู่ในความควบคุมดูแลของตนต่อหน่วยงานของรัฐแห่งอื่นหรือ ผู้อ่ืน โดยปราศจากความยินยอมเป็นหนังสือของเจ้าของข้อมูลท่ีให้ไว้ ล่วงหน้าหรือในขณะน้ันมิได้ เว้นแต่เป็นการเปิดเผย ดังต่อไปน้ี (= เปดิ เผยไดโ้ ดยไมจ่ าตอ้ งได้รบั ความยินยอม) (๑) ต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐในหน่วยงานของตนเพื่อการนาไปใช้ตาม อานาจหนา้ ท่ีของหนว่ ยงานของรัฐแห่งน้นั (เช่น รายงานประจาป)ี (๒) เปน็ การใช้ข้อมูลตามปกติภายในวัตถุประสงค์ของการจัดให้มี ระบบข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลนน้ั (เช่น การเบิกเงนิ ) (๓).... (๔) เป็นการให้เพ่ือประโยชน์ในการศึกษาวิจัยโดยไม่ระบุชื่อหรือ ส่วนทีท่ าให้รวู้ ่าเป็นขอ้ มลู ข่าวสารส่วนบคุ คลท่เี กย่ี วกบั บคุ คลใด
มาตรา ๒๔(ต่อ) (๗) เป็นการให้ซ่ึงจาเป็นเพ่ือเป็นการป้องกันหรือ ระงบั อันตรายต่อชีวติ หรอื สุขภาพของบคุ คล (๘) ต่อศาล และเจ้าหน้าท่ีของรัฐหรือหน่วยงาน ข อ ง รั ฐ ห รื อ บุ ค ค ล ที่ มี อ า น า จ ต า ม ก ฎ ห ม า ย ท่ี จ ะ ข อ ข้อเทจ็ จรงิ ดงั กล่าว (๙)...
หมวดที่ ๓ ข้อมูลข่ าวสารส่ วนบุคคล มาตรา ๒๕ ภายใต้บังคับมาตรา ๑๔ และมาตรา ๑๕ บคุ คลย่อม มีสิทธิท่ีจะได้รู้ถึง ข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตน และเมื่อบุคคลน้ัน มคี าขอเปน็ หนงั สอื หนว่ ยงานของรัฐที่ควบคุมดูแลขอ้ มูลข่าวสารน้ันจะต้อง ให้บุคคลนั้น หรือผู้กระทาการแทนบุคคลน้ันได้ตรวจดูหรือได้รับสาเนา ข้อมูลขา่ วสารสว่ นบุคคลส่วนที่เก่ียวกบั บุคคลนน้ั ... ว.๕ : ใหบ้ ุคคลตามกฎกระทรวง (ฉ.๒) มีสิทธิดาเนินการตามมาตรา น้ีแทนผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ คนเสมือนไร้ ความสามารถ หรือเจ้าของ ข้อมูลทถี่ งึ แกก่ รรมแล้วได้
พ.ร.บ.สุขภาพแหง่ ชาติ พ.ศ.๒๕๕๐ มาตรา ๗ ข้อมูลด้านสุขภาพของบุคคลเป็นความลับส่วน บุคคล ผู้ใดจะนาไปเปิดเผยในประการท่ีน่าจะทาให้บุคคลน้ันเสียหาย มิได้ เว้นแต่การเปิดเผยน้ันเป็นไปตามความประสงค์ของบุคคลน้ัน โดยตรง หรือมกี ฎหมายเฉพาะบัญญัติให้ต้องเปิดเผย แต่ไม่ว่าในกรณี ใดๆ ผู้ใดจะอาศัยอานาจหรือสิทธติ ามกฎหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวสาร ของราชการหรือกฎหมายอ่ืน เพื่อขอเอกสารเก่ียวกับข้อมูลด้าน สขุ ภาพของบุคคลทไ่ี ม่ใชข่ องตนไม่ได้ มาตรา ๔๙ ฝา่ ฝืนม.๗ ...จาคกุ ๖ เดอื น ปรับ ๑๐,๐๐๐ บาท ความผดิ ตามมาตรานเ้ี ป็นความผิดอันยอมความได้
Search