Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เอกสารประกอบการเรียนวิชาอาหารว่าง

เอกสารประกอบการเรียนวิชาอาหารว่าง

Published by Saowakhon Hongklay, 2022-03-20 05:44:27

Description: เอกสารประกอบการเรียนวิชาอาหารว่าง

Search

Read the Text Version

คำอธิบายรายวิชา รหสั วิชา ง30212 อาหารว่าง กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วชิ าการงานอาชพี ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 4-6 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 40 ชัว่ โมง จำนวน 1 หน่วยกิต คำอธิบายราชวชิ า ศึกษาความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับอาหารว่าง การชั่ง การตวงวัตถุดิบในการประกอบอาหารว่าง การเก็บ รักษาและการเตรียมวตั ถุดบิ การเลอื กใชอ้ ุปกรณเ์ ครอื่ งใชใ้ นการประกอบอาหารว่าง การประกอบอาหารวา่ ง ปฏิบตั ิการเลือกใชว้ ตั ถุดบิ ในการประกอบอาหารวา่ ง การเกบ็ รกั ษาและการเตรยี มวตั ถุดิบ การช่งั การ ตวงวัตถุดิบ การเลือกใช้อุปกรณ์เครื่องใช้ในการประกอบอาหารว่าง การประกอบอาหารว่าง การคำนวณ ค่าใช้จ่าย กำหนดราคาหรือค่าบริการ จัดจำหน่าย จดบันทึกการปฏิบัติงาน ทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย และ ประเมินผล เพอื่ ใหม้ ีความรูค้ วามเข้าใจและมที กั ษะเกีย่ วกบั การประกอบอาหารว่างและจำหนา่ ยได้ ผลการเรียนรู้ท่คี าดหวัง 1. อธิบายความรู้ทว่ั ไปเกีย่ วกับอาหารวา่ งได้ 2. อธิบายการเลอื กซอ้ื วตั ถุดิบในการประกอบาหารว่างได้ 3. อธิบายและปฏบิ ัติการเกบ็ รักษาและการเตรยี มวตั ถดุ บิ ได้ 4. อธิบายและปฏิบัตกิ ารชัง่ ตวงวตั ถดุ ิบถูกต้องตามหลกั การได้ 5. สามารถจดั เตรยี มและเลือกใช้อปุ กรณ์เครื่องใชใ้ นการประกอบอาหารวา่ งได้ 6. ปฏบิ ตั กิ ารประกอบอาหารว่างได้ 7. จดบันทกึ การปฏบิ ัตงิ าน ทำบญั ชีรายรบั -รายจ่าย กำหนดราคาขายได้ รวมทั้งหมด 7 ผลการเรียนรู้

ตารางวเิ คราะห์ผลการเรียนรู้ สาระเพิ่มเติม เพื่อจดั ทำคำอธบิ ายรายวิชาเพม่ิ เติม ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 4-6 รหสั วชิ า ง30212 สาระสำคัญ กระบวนการ คณุ ลกั ษณะอนั สมรรถนะสำคัญ K P ผลการเรียนรู้ พงึ ประสงค์ ผู้เรียน AC 1. อธิบายความรู้ท่วั ไป ศกึ ษาความรู้ ปฏบิ ัติการ 1. รกั ชาติ 1. ความสามารถ เก่ยี วกับอาหารว่างได้ ทวั่ ไปเก่ียวกับ เลอื กใชว้ ตั ถดุ บิ ใน ศาสน์ กษตั ริย์ ในการสอ่ื สาร 2. อธบิ ายการเลือกซ้อื อาหารว่าง การชั่ง การประกอบ 2. ซอ่ื สัตย์สุจริต 2. ความสามารถ วัตถุดบิ ในการประกอบา การตวงวัตถุดิบใน อาหารวา่ ง การเกบ็ 3. มวี ินัย ในการคดิ หารวา่ งได้ การประกอบ รกั ษาและการ 4. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. ความสามารถ 3. ปฏิบัติการเลือก อาหารว่าง การ เตรยี มวตั ถุดิบ การ 5. มงุ่ มั่นในการ ในการแกป้ ัญหา วตั ถุดิบในการประกอบ เก็บรกั ษาและการ ช่งั การตวงวตั ถดุ บิ ทำงาน 4. ความสามารถ อาหารว่างได้ เตรยี มวตั ถุดบิ การเลอื กใชอ้ ปุ กรณ์ 6. อย่อู ย่าง ในการใชท้ ักษะ 4. ปฏิบตั ิการเก็บรักษา การเลอื กใช้ เคร่อื งใชใ้ นการ พอเพยี ง ชีวติ และการเตรียมวตั ถดุ ิบได้ อุปกรณ์เครือ่ งใช้ ประกอบอาหารวา่ ง 7. รักความเปน็ 5. ความสามารถ 5. ปฏิบัตกิ ารชัง่ ตวง ในการประกอบ การประกอบ ไทย ในการใช้ วัตถุดิบถูกต้องตาม อาหารว่าง การ อาหารวา่ ง การ 8. มจี ติ เทคโนโลยี หลกั การได้ ประกอบอาหาร คำนวณคา่ ใชจ้ ่าย สาธารณะ 6. สามารถจัดเตรียม วา่ ง กำหนดราคาหรือ และเลอื กใชอ้ ปุ กรณ์ ค่าบรกิ าร จดั เคร่อื งใช้ในการประกอบ จำหนา่ ย จดบนั ทกึ อาหารว่างได้ การปฏบิ ตั ิงาน ทำ 7. ปฏิบัติการประกอบ บัญชีรายรบั - อาหารวา่ งได้ รายจ่าย และ 8. จดบนั ทกึ การ ประเมินผล ปฏิบตั ิงาน ทำบัญชี เพ่อื ใหม้ ีความรู้ รายรบั -รายจา่ ย กำหนด ความเขา้ ใจและมี ราคาขายได้ ทกั ษะเกี่ยวกับการ ประกอบอาหารว่าง และจำหนา่ ยได้

โครงการสอน รายวิชาอาหารว่าง ช่วั โมงท่ี หนว่ ยที่ หนว่ ยการเรยี นรู้ ผลการเรียนร้ทู ี่คาดหวัง 1-2 1 ปฐมนเิ ทศการเรยี นการสอน 1. อธบิ ายควาหมายของอาหารวา่ งได้ 1. ความรู้ทว่ั ไปเก่ียวกับอาหารว่าง 2. อธิบายความเป็นมาของอาหารวา่ งได้ 3-4 2 3. อธิบายรูปแบบการจดั เล้ยี งอาหารวา่ ง - ความหมายของอาหารวา่ ง ได้ 5-6 3 - ความเป็นมาของอาหารว่าง 4. อธิบายและยกตวั อย่างประเภทของ 7-8 4 - รปู แบบการจดั เลย้ี งอาหารวา่ ง อาหารว่างได้ 9-10 5 - ประเภทของอาหารว่าง 5. อธบิ ายและกำหนดระยะเวลาของการ - ระยะเวลาของการรบั ประทานอาหาร รบั ประทานอาหารวา่ งได้ วา่ ง 6. อธบิ ายประโยชนข์ องอาหารว่างได้ - ประโยชน์ของอาหารว่าง 7. อธิบายลกั ษณะท่ีดีของอาหารว่างได้ - ลกั ษณะทีด่ ีของอาหารว่าง 1. อธบิ ายการเลอื กซอ้ื วตั ถุดิบในการ 2. การเลอื กซื้อวตั ถดุ บิ ในการประกอบ ประกอบอาหารว่าง อาหารวา่ ง - การเลอื กซือ้ เนื้อสตั ว์ 1. อธบิ ายและปฏบิ ัติในการก็บรักษา - การเลอื กซื้อผักและผลไม้ อาหารสด อาหารแห้ง เครอ่ื งปรุงรส ผกั - การเลอื กซื้ออาหารแห้ง และผลไม้ได้ - การเลอื กซอ้ื เครือ่ งปรงุ รส 2. อธบิ ายและปฏบิ ตั ิการเตรยี มอาหาร - การเลือกซ้อื อาหารกระป๋อง สด อาหารแหง้ เครื่องปรงุ รส ผกั และ - การเลือกซือ้ ผักและผลไม้ ผลไม้ 3. การเกบ็ รกั ษาและการเตรยี มวตั ถดุ บิ 1. อธิบายและปฏบิ ัติในการช่ังวัตถดุ ิบได้ - การกบ็ รักษาอาหารสด แห้ง 2. อธบิ ายและปฏบิ ัตใิ นการตวงวตั ถดุ ิบ เครื่องปรงุ รส ผักและผลไม้ ได้ - การเตรียมอาหารสด อาหารแหง้ 1. อธิบายและปฏบิ ัติการเลือกใช้ เคร่ืองปรุงรส ผกั และผลไม้ อปุ กรณ์เคร่อื งใช้ในการประกอบอาหาร วา่ ง 4. การช่งั การตวง วตั ถุดบิ - การชั่งวตั ถดุ ิบ - การตวงวตั ถุดบิ 5. การเลือกใช้อุปกรณ์เคร่ืองใช้ในการ ประกอบอาหารว่าง

ครงั้ ท่ี หนว่ ยท่ี หนว่ ยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ทคี่ าดหวัง 11-12 6 6. การคิดตน้ ทุน กำไร และการกำหนดราคา 1. สามารถคดิ ต้นทนุ กำไร และการ ขาย กำหนดราคาขายได้ 13-16 7 7. ปฏบิ ตั กิ ารประกอบอาหารวา่ ง และการจด 1. ปฏบิ ัตกิ ารประกอบอาหารจาน บันทึกการปฏิบตั ิงาน เดยี วได้อยา่ งถูกต้องตามขั้นตอนได้ 2. สามารถแก้ไขปญั หาระหว่าง ปฏบิ ตั กิ ารประกอบอาหารวา่ งได้ 3. สามารถคดิ ต้นทุน กำไร และการ กำหนดราคาขายได้ 4. การจดบนั ทกึ การปฏิบัติงานและ ประเมินผลได้ 17-18 ประเมนิ ผล

กำหนดการสอน รายวิชาอาหารว่าง รหัสวชิ า ง30212 จำนวน 1 หนว่ ยกิต เวลา 2 ชว่ั โมง/สัปดาห์ วันเดอื นปี ช่ัวโมงท่ี หน่วย หนว่ ยการเรยี นรู้ หมายเหตุ ท่ี 1-2 1 ปฐมนเิ ทศการเรียนการสอน 1. ความรู้ท่ัวไปเกี่ยวกับอาหารว่าง - ความหมายของอาหารว่าง - ความเปน็ มาของอาหารว่าง - รปู แบบการจัดเลย้ี งอาหารว่าง - ประเภทของอาหารวา่ ง - ระยะเวลาของการรบั ประทานอาหารว่าง - ประโยชน์ของอาหารวา่ ง - ลกั ษณะท่ดี ีของอาหารว่าง 3-4 2 2. การเลอื กซื้อวัตถุดิบในการประกอบอาหารวา่ ง - การเลือกซื้อเนื้อสัตว์ - การเลอื กซอ้ื ผักและผลไม้ - การเลือกซื้ออาหารแหง้ - การเลือกซ้ือเครอ่ื งปรงุ รส - การเลือกซอ้ื อาหารกระป๋อง - การเลือกซอื้ ผักและผลไม้ 5-6 3 3. การเก็บรกั ษาและการเตรยี มวตั ถุดิบ - การก็บรักษาอาหารสด แหง้ เครอ่ื งปรุงรส ผักและ ผลไม้ - การเตรียมอาหารสด อาหารแห้ง เครอ่ื งปรุงรส ผัก และผลไม้ 7-8 4 4. การช่งั การตวง วัตถุดบิ - การชง่ั วตั ถุดบิ - การตวงวตั ถุดบิ 9-10 5 5. การเลอื กใช้อปุ กรณ์เคร่ืองใชใ้ นการประกอบอาหาร ว่าง 11-12 6 6. การคดิ ต้นทุน กำไร และการกำหนดราคาขาย 13-14 7. ปฏิบตั ิการประกอบอาหารวา่ ง 15-16 7. ปฏิบัตกิ ารประกอบอาหารว่าง 17-18 7. ปฏิบตั กิ ารประกอบอาหารวา่ ง 19-20 ประเมนิ ผล

การวัดและประเมินผลการเรยี น รายวชิ าอาหารวา่ ง รหัสวชิ า ง30212 จำนวน 1 หนว่ ยกติ เวลา 2 ชวั่ โมง/สปั ดาห์ 1. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 1.1 คะแนนวดั ผลระหว่างภาคเรียน (80 คะแนน) ประกอบดว้ ย - คะแนนการปฏิบตั ิกจิ กรรม(ประเมนิ ตามสภาพจริง ชิ้นงาน) - คะแนนก่อนการวัดผลกลางภาคเรยี น 30 คะแนน - คะแนนหลงั วดั ผลกลางภาคเรียน 30 คะแนน - คะแนนวดั ผลการเรยี น คะแนนวัดผลกลางภาคเรยี น 20 คะแนน 1.2 คะแนนวัดผลปลายภาคเรยี น 20 คะแนน 2. การตัดสินผลการเรียน ระดบั ผลการเรยี น ชว่ งคะแนนเปน็ ร้อยละ ความหมายของระดับบผลการเรยี น 4 80 -100 ดีเยีย่ ม 3.5 75 - 79 ดมี าก 3 70 - 74 ดี 2.5 65 - 69 คอ่ นข้างดี 2 60 - 64 นา่ พอใจ 1.5 55 – 59 พอใช้ 1 50 – 54 0 0 - 49 ผา่ นเกณฑ์ขน้ั ตำ่ ต่ำกวา่ เกณฑ์ข้นั ต่ำ การตัดสินผลการเรยี นโดยใชต้ วั อักษร “มส” หมายถึงผู้เรียนไม่มีสิทธิเข้ารับการวัดผลปลายภาคเรียน เนื่องจากผู้เรียนมีเวลาเรียนไม่ถึง ร้อยละ 80 ของเวลาเรยี นในแตล่ ะรายวชิ าและไมไ่ ดร้ ับการผ่อนผันใหเ้ ข้ารบั การวดั ผลปลายภาคเรยี น “ร” หมายถึงรอการตัดสินและยังตัดสินผลการเรียนไม่ได้ เนื่องจากผู้เรียนไม่มีข้อมูลผลการเรียน รายวิชานั้นครบถ้วน ได้แก่ ไม่ได้วัดผลระหว่างภาคเรียน/ปลายภาคเรียน ไม่ได้ส่งงานที่มอบหมายให้ทำซ่ึง งานนนั้ เปน็ สว่ นหนงึ่ ของการตดั สนิ ผลการเรยี น หรอื มเี หตุสุดวสิ ัยท่ีทำให้ประเมนิ ผลการเรียนไม่ได้

โรงเรยี นเขานอ้ ยวิทยาคม จงั หวดั ตราด รหัสวชิ า ง30212 ระดับช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 วชิ า อาหารว่าง จำนวน 1 หน่วยกติ ภาคเรียนที่ 2 เวลา 2 ชวั่ โมง/ สัปดาห์ คำอธิบายราชวิชา ศึกษาความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับอาหารว่าง การชั่ง การตวงวัตถุดิบในการประกอบอาหารว่าง การเก็บ รกั ษาและการเตรยี มวัตถุดิบ การเลือกใช้อปุ กรณเ์ ครอ่ื งใช้ในการประกอบอาหารวา่ ง การประกอบอาหารว่าง ปฏิบตั กิ ารเลอื กใช้วัตถุดบิ ในการประกอบอาหารว่าง การเกบ็ รกั ษาและการเตรียมวัตถดุ ิบ การชง่ั การ ตวงวัตถุดิบ การเลือกใช้อุปกรณ์เครื่องใช้ในการประกอบอาหารว่าง การประกอบอาหารว่าง การคำนวณ ค่าใช้จ่าย กำหนดราคาหรือค่าบริการ จัดจำหน่าย จดบันทึกการปฏิบัติงาน ทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย และ ประเมินผล เพื่อให้มีความรคู้ วามเขา้ ใจและมที ักษะเก่ยี วกบั การประกอบอาหารวา่ งและจำหน่ายได้ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ 2. ซือ่ สัตย์สจุ ริต 3. มวี นิ ยั 4. ใฝ่เรียนรู้ 5. มุ่งมนั่ ในการทำงาน 6. อย่อู ยา่ งพอเพียง 7. รักความเป็นไทย 8. มจี ิตสาธารณะ

การอ่าน คดิ วิเคราะหแ์ ละเขียน 1. สามารถอ่านเพ่อื การศึกษา ค้นคว้า เพมิ่ พนู ความรู้ ประสบการณ์และการประยุกต์ใช้ ใน ชวี ิตประจำวนั 2. สามารถจับประเด็นสำคญั ลำดบั เหตกุ ารณ์จากการอ่านส่ือทีม่ ีความซับซ้อน 3. สามารถวิเคราะห์สิง่ ท่ีผู้เขียนต้องการสื่อสารกับผู้อ่าน และสามารถวิพากษ์ ให้ข้อเสนอแนะใน แง่มมุ ต่าง ๆ 4. สามารถประเมนิ ความนา่ เช่ือถือ คุณคา่ แนวคดิ ท่ีไดจ้ ากสิ่งทีอ่ ่านอยา่ งหลากหลาย 5. สามารถเขยี นแสดงความคิดเหน็ โตแ้ ยง้ สรปุ โดยมีข้อมูลอธบิ ายสนบั สนนุ อย่างเพียงพอและ สมเหตสุ มผล สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระท่ี 1 การดำรงชวี ติ และครอบครวั มาตรฐานการเรยี นร้ทู ี่ ง 1.1 เข้าใจการทำงาน มีความคิดสร้างสรรค์ มีทักษะกระบวนการทำงาน ทักษะ การจัดการ ทกั ษะกระบวนการแก้ปัญหา ทักษะการทำงานร่วมกัน และทักษะ การแสวงหาความรู้ มี คุณธรรม และลักษณะนิสัยในการทำงาน มีจิตสำนกึ ในการใชพ้ ลังงาน ทรัพยากร และส่ิงแวดลอ้ มเพ่ือการ ดำรงชวี ติ และครอบครัว สาระที่ 2 การอาชพี มาตรฐานการเรียนรู้ที่ ง 2.1 เขา้ ใจ มีทักษะท่ีจำเปน็ มีประสบการณ์ เห็นแนวทางในงานอาชีพ ใช้ เทคโนโลยีเพ่อื พัฒนาอาชพี มีคุณธรรม และมีเจตคติท่ดี ตี อ่ อาชพี ผลการเรยี นรทู้ คี่ าดหวงั 1. อธบิ ายความรู้ทั่วไปเกยี่ วกับอาหารว่างได้ 2. อธบิ ายการเลอื กซ้อื วัตถดุ ิบในการประกอบาหารวา่ งได้ 3. อธบิ ายและปฏบิ ตั กิ ารเกบ็ รักษาและการเตรียมวัตถดุ ิบได้ 4. อธิบายและปฏิบตั กิ ารช่ัง ตวงวตั ถุดบิ ถูกต้องตามหลกั การได้ 5. สามารถจัดเตรียมและเลอื กใช้อุปกรณเ์ คร่ืองใชใ้ นการประกอบอาหารวา่ งได้ 6. ปฏบิ ตั ิการประกอบอาหารวา่ งได้ 7. จดบันทกึ การปฏิบัติงาน ทำบญั ชีรายรับ-รายจา่ ย กำหนดราคาขายได้

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เร่ืองความรู้ทวั่ ไปเกย่ี วกบั อาหารวา่ ง อาหารวา่ งเป็นอาหารระหว่างมอื้ นิยมรับประทานกันมาต้ังแต่สมัยโบราณ มีทัง้ ประเภทคาวและหวาน อาหารวา่ งชว่ ยบรรเทาความหวิ ผ่อนคลายความเครียด ได้คณุ คา่ อาหารตามหลกั โภชนาการ รบั ประทานได้กบั เครือ่ งด่ืมท่ีไม่มแี อลกอฮอล์ และเครือ่ งดื่มท่ีมีแอลกอฮอล์ผสม ความหมายของอาหารว่าง พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 อธิบายว่า “อาหารว่าง หมายถึง ของกินนอกเวลา กนิ ตามอาหารตามปกติ มักกนิ ในเวลาบา่ ย ราชาศัพทใ์ ช้คำวา่ เคร่ืองว่าง” อมราภรณ์ วงษ์ฟัก (ม.ป.ป.) อธิบายว่า “อาหารว่าง หมายถึง อาหารระหว่างมื้อเป็นเวลาอาหาร ประเภทเบาๆ มีปริมาณน้อยกว่าอาหารประจำมื้อหรืออาหารมื้อหลัก อาจเป็นอาหารน้ำหรืออาหารแห้งก็ได้ ทั้งอาหารคาวหรืออาหารหวาน มีชิ้นเล็ก ขนาดพอคำ ปริมาณไม่มาก รับประทานง่าย เสิร์ฟคู่กับเครื่องดื่มได้ ทัง้ รอ้ นและเยน็ เชน่ กาแฟ หรือน้ำผลไม้ เปน็ ตน้ ” อาหารว่างจึงเป็นอาหารที่จัดแทรกระหว่างมื้ออาหารหลัก เป็นอาหารที่ไม่ต้องการให้รับประทานอ่ิม เพียงแต่ต้องการให้รองท้องพอแก้หิวก่อนเวลาอาหาร หรือเพื่อผ่อนคลายความเครียดในระหว่างการสัมมนา หรือการนั่งในที่ประชุมนานๆ จึงจัดให้มีการเลี้ยงอาหารว่างขึ้น อาหารว่างหรืออาหารระหว่างมื้อควรเป็น อาหารอาหารท่ีย่อยง่าย ทำง่าย กินแล้วไม่อิ่มจนเกินไปและสะดวกทีจ่ ะรับประทาน ไม่ยุ่งยากในเร่ืองของ ภาชนะและการจดั เสริ ์ฟ ควรเปน็ อาหารท่ีเปน็ ชน้ิ คำหรอื ถ้วยเล็ก ๆ ซึง่ รับประทานได้สะดวก แตต่ ้องคำนงึ ดว้ ย ว่าอาหารระหว่างมื้อควรจะประกอบด้วยอาหารหลายอย่าง ๆ เช่น แป้ง ไข่ น้ำตาล นม ผัก ผลไม้ เพื่อให้ คณุ คา่ ทางอาหารครบเคร่ืองดื่มจะเป็นร้อนหรอื เย็นก็ไดแ้ ลว้ แตโ่ อกาสและสถานท่ี ความเปน็ มาของอาหารว่าง การรับประทานอาหารของมนุษย์แตกต่างกันไปตามเชื้อชาติ ภาษาขนบธรรมเนียมประเพณีในการ รับประทาน การแบ่งมื้ออาหารของคนเอเชียกับคนยุโรปกแ็ ตกต่างกัน ชาวเอเชียจะรับประทานอาหารหลัก 3 มื้อ ได้แก่ อาหารเช้า อาหารกลางวัน อาหารเย็น ซึ่งแตกต่างจากชาวตะวันตกที่แบ่งมื้ออาหารออกเป็น 6 มื้อ ได้แก่ อาหารเช้า อาหารก่อนอาหารกลางวัน อาหารกลางวัน อาหารก่อนอาหารเย็น อาหารเย็น และอาหาร ก่อนนอน การที่ชาวตะวันตกแบ่งอาหารเป็นหลายมื้อ เนื่องจากสภาพภูมิอากาศของพื้นที่ที่อยู่อาศัยมีอากาศ หนาวจัด หมิ ะตก ทำให้ตอ้ งการความอบอุ่นแก่รา่ งกายซงึ่ ไดจ้ ากอาหาร

ส่วนคนไทยโดยปกติจะรับประทานอาหาร 3 มื้อ เช่นเดียวกันชาวเอเชยี ทั่วไป ถึงแม้เราจะไม่มีอาหารมื้อก่อน อาหารกลางวัน อาหารก่อนอาหารเยน็ และอาหารนอน แต่อาหารว่างของไทยมีมานานแล้วตัง้ แต่สมัยโบราณ แม่บ้านสมัยก่อนจะใช่เวลาว่างในการทำงอาหารว่างเก็บไว้ โดยใช้วัสดุที่เหลือจากมื้ออาหารหลักให้เป็น ประโยชน์ และใช้วัสดุที่มีมากในฤดูกาลมาประกอบอาหารว่าง เช่น ข้าวตังหน้าตั้ง ข้าวตังเมี่ยงลาว เมี่ยงส้ม ข้าวตู ข้าวตอกตั้ง ข้าวเม่าหมี่ กล้วยฉาบ เป็นต้น ไว้ให้ลูกหลานรับประทานเล่นในเวลายามว่าง หรือเมื่อรู้สึก หวิ กอ่ นอาหารมอ้ื หลัก หรือเม่อื มีการตอ้ นรบั ผู้มาเยือน กจ็ ะนำอาหารพวกน้ีออกมาเล้ียงแขกพร้อมกับเสิร์ฟน้ำ ผลไมห้ รอื น้ำเยน็ ลอยดอกมะลิ แต่ในสมัยก่อนยงั ไม่เรียกอาหารพวกนี้ว่า อาหารว่าง คงเรยี กว่าของกินเล่นยาม ว่าง เม่อื นานเข้าคงเหลือเพยี ง “ของว่าง” ต่อมามีการพบปะติดต่อกับคนต่างชาติ ได้รับเอาวัฒนธรรมต่างๆ เข้ามา ทำใหมีของว่างและเครื่องดื่มเพิ่มข้ึน มาก เช่น - จากจีน จีนเป็นชนชาตทิ ใี่ กลช้ ดิ กับไทยมาก วัฒนธรรมของจนี นิยมด่ืมชา ชงด่ืมร้อนๆ ตลอดวัน ใช้ ทงั้ ด่ืมเองและเลีย้ งแขกด้วย ถ้าเป็นแขกพิเศษจะมีการรับรองด้วยน้ำชาชงแก่ๆ กับขนมหวาน อาหารว่างท่ีเป็น ขนมของจีน ได้แก่ ขนมงาตัด ถั่วตัด ขนมเปี๊ยะ ขนมโก๋ ฟักเชื่อม อาหารว่างที่เป็นของคาว ได้แก่ ซาลาเปา ขนมกยุ ช่าย ขนมจบี ฯลฯ - จากชาวยุโรป โดยเฉพาะจากประเทศอังกฤษซึ่งนิยมจัดเลี้ยงอาหารว่างในตอนบ่าย ที่เรี ยกว่า “อาฟเตอร์นูนที (Afternoon Tea)” หรือ “ไฮที (High Tea”อาหารว่างมักเป็นอาหารหรอื ขนมที่ไม่หนักท้อง ไดแ้ ก่ คกุ้ ก้ี เคก้ แซนด์วิช พาย มัฟฟ่ิน ผลไม้ตา่ งๆ ซึ่งมกั จะรบั ประทานกบั ชา กาแฟ และโกโก้ เปน็ ตน้

ในปัจจุบันอาหารว่างหรืออาหารระหว่างมื้อมีความสำคัญ โดยเฉพาะคนที่ต้องเดินทางไกลระหว่าง บ้านกับที่ทำงาน รวมทัง้ เด็กๆ ท่ตี ้องไปโรงเรียน เนอ่ื งจากชว่ งเวลาของการรับประทานอาหารม้ือหลักแต่ละม้ือ ห่างกัน บางคนรับประทานอาหารเชา้ ตั้งแต่ 06.00 น. เพ่อื ใหท้ นั กบั การเดินทางไปทำงานหรือโรงเรียน กว่าจะ ถึงมื้อกลางวันก็หิวเสียก่อน จึงควรต้องรับบประทานอาหารระหว่างมื้อเพื่อประทังความหิว และระยะเวลา ระหว่างมื้อกลางวันและมื้ออาหารเย็นก็แตกต่างกันมาก จึงจำเป็นต้องรับประทานอาหารระหว่างมื้อก่อน อาหารเยน็ อีกคร้งั สำหรับผู้ทีน่ อนดึกหรือผู้ท่ีไมร่ ับประทานอาหารเย็น ก็มกั จะต้องรับประทานอาหารระหว่าง ก่อนเข้านอน สภาพสังคมปจั จบุ ันน้มี นุษย์เราใชเ้ วลาในวันหน่ึงๆ อยู่นอกบ้านเพ่อื ทำกจิ กรรมต่างๆ มากข้นึ กิจกรรม การกินอันเป็นกิจกรรมหลักอันหนึ่งของมนุษย์ซึ่งเคยเป็นกิจกรรมที่ทำภายในบ้าน ก็ได้ย้ายสถานที่ออกไปอยู่ นอกบ้านด้วย เวลาที่ใช้ในการประกอบอาหารด้วยตนเองในครัวเรือนก็มีแนวโนม้ ที่ลดลง ในขณะเดียวกันการ จัดเลี้ยงอาหารว่างได้รับความนิยมใช้ในงานต่างๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นการสัมมนา การอบรม การเลี้ยงฉลอง ฯลฯ ดังนั้นนอกเหนือจากการจัดอาหารว่างในครอบครัว อาหารว่างจึงสามารถนำไปจัดบริการแบบธุรกิจ เพอ่ื ตอบสนองความต้องการของผบู้ รโิ ภคได้ รปู แบบการจัดเลยี้ งอาหารวา่ ง การรบั ประทานอาหารวา่ งมี 2 ชนดิ คือรบั ประทานประจำวนั เพื่อสุขอนามยั ในครอบครวั และเลย้ี งใน วงการสังคมคนจำนวนมาก เมื่อมีการพบปะสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดกันเพื่อมิตรภาพทั้งทางด้านส่วนตัว และการงาน ดังน้นั จึงมีการจดั เลีย้ งข้ึนในแบบและเอกลักษณ์ตา่ งๆ กนั ได้แก่ 1. การเลี้ยงแบบไทย อาหารและอุปกรณ์ทุกชนิดไว้บนโต๊ะเสร็จทุกคนรับประทานพร้อมกัน ผู้ รับประทานเลือกรับประทานตามใจชอบ ไม่มีคนเดินเสิร์ฟ ผู้รับประทานตักหรือหยิบอาหารบนโต๊ะเอง หาก ตักหรือหยับไม่ถึงคนอื่นอาจตักให้หรือส่งจานอาหารมาให้หยิบหรือตักนอกจากจะมีคนเสิร์ฟ และเมือ่ รับประทานอาหารเสรจ็ กจ็ ะเสิร์ฟนำ้ ให้ จนกวา่ ผู้รับประทานอาหารจะลุกขึ้นเกบ็ โต๊ะ

2. การเลี้ยงแบบจีน การเลี้ยงอาหารว่างแบบจีนง่ายๆ สะดวกและไม่มีพิธีอะไรมาก จะมีน้ำชาแก่ๆ เพื่อดื่มแก้เลี่ยน อาหารคาวจะเป็นพวกขนมจีบต่างๆ เสิร์ฟร้อนๆ ส่วนของหวานจะเป็นขนมเปี๊ยะ ขนมโก๋ และจันอับ 3. การเลี้ยงแบบฝรั่ง การเลี้ยงแบบฝรั่งแบบนี้เป็นแบบสากลนิยมทั่วไป มีระเบียบและกฎเกณฑ์ มากกว่าเรียกว่า High Tea ซึ่งได้รับอิทธิพลจากประเทศอังกฤษ ซึ่งนิยมจัดเลี้ยงแบบอาหารว่างในช่วงบ่าย สำหรับบริการแบบนี้ปัจจุบันไม่ค่อยนิยมนัก เพราะสิ้นเปลืองแรงงานและเงินมาก นอกจากจะเป็นงานที่ใหญ่ จริงๆ ซึ่งจัดเป็นพิเศษ ปัจจุบันแบบไม่มีพิธีเป็นที่นิยมกันมาก การจัดโต๊ะจัดได้แปลกและสวยงามได้ การ รับประทานก็ไม่ต้องมีกฎเกณฑ์มาก อาจจะไม่ต้องใช้คนเสิร์ฟหรือใช้น้อยกว่าแบบมีพิธีการ รายการอาหารก็ เปลี่ยนแปลงได้ตามใจชอบ ที่นั่งรับประทานจัดไว้มีโต๊ะและเก้าอี้ต่างหาก อาจจัดเป็นกลุ่มเล็กๆ ประมาณ 4 คน พร้อมทัง้ แกว้ น้ำ ถ้ามแี จกันตัง้ โต๊ะกจ็ ะนา่ ดูยง่ิ ขนึ้ ประเภทของอาหารว่าง อาหารว่างเป็นทั้งอาหารคาวและอาหารหวานซึ่งมีทั้งอาหารแบบไทยและนานาชาติ การจัดแยก ประเภทของอาหารว่าง สามารถจัดได้หลายรูปแบบ ดงั นี้ 1. การแบง่ ตามรสชาติ 1.1. อาหารว่างคาว เชน่ ขนมจีบ ซาลาเปา กระเพาะปลา แซนดว์ ิช ปัน้ สบิ ทอด สาคูไส้หมู เปน็ ต้น 1.2 อาหารว่างหวาน เชน่ คุก้ กี้ เคก้ พายไสต้ ่างๆ ปยุ ฝา้ ย ดอกลำดวน ขนมสอดไส้ เปน็ ต้น

2. แบง่ ตามลกั ษณะ ได้แก่ 2.1 อาหารว่างประเภทนำ้ เช่น โจ๊ก ขา้ วต้มเคร่ือง เกี๊ยวน้ำ มักกะโรนีน้ำ เครอ่ื งดมื่ รอ้ น-เย็น เปน็ ตน้ 2.2. อาหารว่างประเภทแหง้ เช่น ขนมจบี ซาลาเปา ขา้ งตังหนา้ ต้งั สาคูไสห้ มู บสิ กติ ขนมปัง เป็นต้น 3. การแบ่งตามวิธีการประกอบอาหาร ได้แก่ 3.1 อาหารว่างประเภทปิ้งหรือย่าง เป็นการทำให้อาหารสุกโดยใช้ความร้อนแห้ง เช่น หมู สะเตะ๊ ข้าวตงั เสวย บาร์บคี ิว ข้าวเหนยี วปงิ้ ขา้ วโพดป้งิ เปน็ ต้น 3.2 อาหารว่างประเภทอบ เป็นการทำให้อาหารสุกโดยใช้ความร้อนแห้งหรือมีอากาศเป็น ตัวกลางนำความรอ้ น เชน่ ดอกลำดวน ขนมผงิ คุก้ ก้ี พายตา่ งๆ ขนมปังต่างๆ เปน็ ตน้ 3.3. อาหารว่างประเภทน่ึง เปน็ การทำให้อาหารสุกโดยใช้ความร้อนขน้ึ คือไอน้ำหรือน้ำเดือด เช่น ขนมจีบ ซาลาเปา กว๋ ยเตย๋ี วหลอด ขนมกยุ ชา่ ย ขา้ วเกรียบปากหมอ้ เปน็ ตน้

3.4 อาหารวา่ งประเภททอด เปน็ การทำให้อาหารสุกโดยใช้ความร้อนจากน้ำมัน เช่น กระทง ทอง ปน้ั สิบทอด กะหรี่ป๊ับ ขนมปังหนา้ หมู เปน็ ต้น 3.5 อาหารว่างประเภทต้ม เป็นการทำ ใ ห ้ อ า ห า ร ส ุ ก โ ด ย ใ ช้ ความรอ้ นชืน้ จากนำ้ หรือของเหลวเปน็ ตวั กลางนำความร้อน เชน่ กระเพาะปลา หูฉลาม บวั ลอย ครองแครงน้ำ เป็นตน้ 4. แบ่ง ต า ม ช น ช า ติ ได้แก่ อาหารวา่ งแบบไทยและนานาชาติ ดงั นี้ 1. อาหารว่างไทย (คาวหวาน) อาหารว่างที่คนไทยรับประทานมีมากมายหลายชนิด ทั้งชนิด น้ำและชนิดแหง้ ของว่างชนิดนำ้ ไม่นยิ มเล้ียงในตอนบ่าย นยิ มอาหารว่างชนิดแห้งเปน็ สว่ นใหญ่ เช่น ป้ันสิบนึ่ง ไส้ต่างๆ กระทงทอง ขนมเบื้องกรอบ สาคูไส้หมู เมี่ยงลาว ของหวาน เช่น ขนมสอดไส้ ขนมลืมกลืน ตะโก้ เปน็ ต้น

2. อาหารว่างจีน (คาวหวาน) ก็มีมากเช่นเดียวกัน มีทั้งของว่างชนิดน้ำ เช่น โจ๊ก ก๋วยเตี๋ยว เกี๊ยวน้ำ เปน็ ตน้ ส่วนอาหารว่างชนิดแห้งมักจะเป็นของทอดหรือนึ่ง เช่น ขนมจีบ ปั้นสิบนึ่ง ขนมเปี๊ยะ เปาะเปี๊ยะสด ซาลาเปา เป็นตน้ 3. อาหารว่างสากล นิยมกันมากในการจัดเลี้ยงงานใหญ่ๆ เพื่อรับรองแขก เพราะจัดได้สวยและน่า รบั ประทาน อาหารทรี่ ับประทานอาจเปล่ียนแปลงได้ตามความตอ้ งการ ซง่ึ แล้วแตจ่ ะจัดขน้ึ อาหารวา่ งสากลทนี่ ยิ มจดั รบั ประทานมดี งั น้ี ชา กาแฟ แซนดว์ ชิ เค้กตา่ งๆ เยลลี ผลไม้ ไอศกรมี 4. อาหารว่างแบบประยุกต์ ในการประกอบอาหารว่างนั้นเราไม่จำเป็นจะต้องทำอยู่แต่อย่างเดียว เสมอไป ผู้ประกอบการอาหารจำเป็นต้องดัดแปลงให้เหมาะสมกบั สมยั และความนยิ มการนำอาหารแบบตา่ ง ๆ มาประยุกต์ก็คือ การนำอาหารว่างไทย จีน ฝรั่ง มาจัดผสมรวมกันในการเลี้ยงรับรองแขก เพื่อให้อาหารมี รสชาติแตกต่างกันออกไป และมคี วามสวยงามอกี ดว้ ย ระยะเวลาในการรบั ประทานอาหารว่าง กำหนดเวลาของการจัดอาหารวา่ งนน้ั จะจัดบรกิ ารให้อยู่ระหวา่ งอาหารมื้อหลักโดยมี การกำหนดเวลา ออกเปน็ 1. อาหารว่างเช้า นิยมจัดระหว่างอาหารเช้ากับอาหารกลางวันเวลาประมาณ 10.00 -11.30 น. (Coffee Brake) ถือว่าเป็นระยะเวลาที่อาหารเช้าได้ถูกย่อยเกือบหมดแล้วหรืออาจมีบางคนไม่ได้รับประทาน อาหารเช้า จะทำให้เกิดความรู้สึกหิว ฉะนั้นอาหารว่างมื้อนี้จะช่วยประทังความหิว คลายความเครียด ช่วยให้ ไม่กระวนกระวายก่อนจะถงึ อาหารมอ้ื กลางวัน ตวั อย่าง เชน่ - อาหารว่างคาว เชน่ เปาะเป๊ียะเสวย ขา้ วเกรยี บปากหมอ้ ขา้ วเหนียวหน้าตา่ ง ๆ ฯลฯ - อาหารวา่ งหวาน เช่น ตะโก้ คุกกี้ วนุ้ กะทิ ฯลฯ - ผลไม้ เชน่ มะละกอ เงาะ สม้ ฯลฯ - เครอ่ื งดมื่ เช่น โอวัลตนิ กาแฟรอ้ น นม ฯลฯ 2. อาหารว่างบ่าย นิยมจัดระหว่างอาหารกลางวันกับอาหารเย็นเวลาประมาณ 15.30 – 17.00 น. (Afternoon Tea)จัดขึ้นเพื่อช่วยในการเปลี่ยนอิริยาบถและช่วยผ่อนคลายความเครียดในการทำงาน ลักษณะ อาหารควรมีความสวยงาม นา่ รบั ประทาน ตวั อยา่ ง เช่น - อาหารว่างคาว เช่น กะหร่ปี ๊ับ กระทงทอง ฯลฯ - อาหารวา่ งหวาน เชน่ ขนมชัน้ เค้ก ฯลฯ

3. อาหารว่างก่อนนอน นิยมจัดหลังอาหารมื้อเย็นประมาณ 22.00 – 24.00 น. (Supper) เนื่องจาก บางคนรบั ประทานอาหารเย็นนอ้ ย ทำงานดกึ ทำใหเ้ กิดความหวิ จึงควรไดร้ ับประทานอาหารท่ยี ่อยงา่ ย เพอ่ื ให้ หลับสบาย อาจจะเป็นอาหารว่างประเภทน้ำ หรือเครื่องดื่มร้อน ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นอาหารว่างคาว เช่น เกี้ยมอ๋ีนำ้ นมถั่วเหลอื ง ฯลฯ ประโยชน์ของอาหารวา่ ง 1. เปน็ อาหารที่ค่นั ระหว่างม้ือ เพ่ือประทังความหิว 2. ช่วยผอ่ นคลายความเครียด เกดิ ความสบายใจ ทำให้การทำงานมีประสทิ ธิภาพย่ิงขน้ึ 3. ช่วยเพมิ่ บรรยากาศในการทำงานใหม้ ีสสี ัน สดชืน่ มีชีวติ ชีวา เชน่ พิธีเปิดสำนกั งาน งานเลย้ี งฉลอง การสมั มนา เป็นต้น 4. รา่ งกายได้รับสารอาหารเพ่ิมมากข้นึ นอกเหนือจากอาหารมอื้ หลัก ลกั ษณะทด่ี ีของอาหารวา่ ง อาหารว่างทดี่ ีควรมีลักษณะ ดงั น้ี 1. เป็นอาหารท่ีทุกคนรับประทานได้ 2. เป็นอาหารทีร่ บั ประทานสะดวก ง่าย 3. เป็นอาหารที่มรี สชาติอรอ่ ย ปรุงไว้นาน ๆ ไม่เปล่ียนรส 4. เปน็ อาหารทีเ่ ข้ากบั อาหารชนดิ อ่ืนๆ ได้ดี 5. เปน็ อาหารทีท่ ำง่ายไม่ยุ่งยาก ประเภทเครอ่ื งดม่ื ทรี่ บั ประทานรว่ มกบั อาหารว่าง ประเภทของเคร่ืองด่ืมเราสามารถแบ่งเครื่องดื่มออกไดเ้ ปน็ 2 ประเภทใหญ่ๆดงั น้ี 1. เครอื่ งด่มื ทไ่ี ม่มแี อลกอฮอล์(Non-Alcohol Beverage) หรอื เรยี กได้อีกอยา่ งว่า (Soft Drink) 2. เครอ่ื งดม่ื ท่มี แี อลกอฮอล์ (Alcohol Beverage) หรือเรียกได้อกี อย่างว่า (Hard Drink) เครอื่ งดื่มท้งั 2 ประเภทเรายังสามารถแบ่งออกเปน็ ชนดิ ไดอ้ ีกหลายชนิดดงั ตอ่ ไปน้ี 1. เคร่ืองดม่ื ที่ไม่มแี อลกอฮอล์ (Non- Alcohol Beverage) (Soft drink) เครอื่ งดื่มประเภทนี้มี หลายชนิดไดแ้ ก่ 1. นำ้ เปล่า(Water) คือน้ำท่ีบรสิ ทุ ธไ์ิ ม่มสี ิง่ อนื่ ๆ เจอปนเหมาะสำหรับการดมื่ ในทกุ ๆม้ือ อาหารดืม่ ไดท้ ั้งเย็นๆ และตามอุณหภูมิห้อง 2. นำ้ แร่ธรรมชาต(ิ Natural Mineral Water) เป็นเครอ่ื งดื่มที่ไดจ้ ากธรรมชาตมิ ีสารพวก เกลอื แร่ท่ีมปี ระโยชนต์ ่อร่างกายซึ่งทางวทิ ยาศาสตรก์ ารแพทย์ยอมรับว่าจะชว่ ยในการยอ่ ยอาหารและลดกรด ในกระเพาะอาหารได้ เหมาะกับการด่ืมในทุก ๆ มือ้ ของอาหารด่ืมได้ทั้งเยน็ และตามอุณหภูมิห้อง 3. น้ำผลไม้ - นำ้ ผลไมส้ ด (Fresh Fruit Juice) เปน็ เคร่อื งดมื่ ที่ไดร้ ับความนยิ มเป็นอยา่ งมาก ได้มาจากการนำผลไมท้ ตี่ ้องการทำมาค้ันเอาแตน่ ำ้ ซง่ึ กเ็ ป็นประโยชน์ต่อรา่ งกายดว้ ยเช่นกนั ดมื่ ได้ท้งั เยน็ และ ตามอุณหภูมิห้องและสามารถด่ืมได้ทุกมื้ออาหาร

- นำ้ ผลไมก้ ระป๋อง (Canned Fruit Juice) เปน็ นำ้ ผลไม้สำเรจ็ รปู ที่บรรจุกระป๋อง ขาย มกั จะแชเ่ ย็นแลว้ เสริ ฟ์ ท้ังกระป๋อง ประดับดว้ ยกล้วยไม้และหลอดดดู หรอื เทใสแ่ ก้วชนดิ ต่างๆ - น้ำผลไม้ปั่น (Blended Juice) เป็นน้ำผลไม้ที่ทำมาจากผลไม้สดหรือน้ำผลไม้ป่ัน รวมกบั น้ำแขง็ ผสมนำ้ เชอ่ื มและเกลือ 4. นำ้ สมุนไพร (Herbal Juice) นอกจากน้ำผลไม้สดแล้วเรายังสามารถนำสมุนไพรมาทำเป็น เครื่องดื่มได้อีกด้วยในปัจจุบันเป็นที่นยิ มมากและยังเป็นที่ยอมรับว่ามีประโยชน์แก่ร่างกายเป็นอย่างมากดื่มได้ ทัง้ แบบรอ้ นๆ เยน็ ๆ และบางชนดิ สามารถด่ืมได้ทกุ ม้อื อาหารมที ั้งเปน็ กระป๋องด้วย 5. น้ำเช่ือม (syrup) และน้ำเชื่อมผลไม้ (Cordial ) - นำ้ เช่ือมหมายถึงน้ำกบั นำ้ ตาลเคี่ยวรวมกันหรือมาละลายกับน้ำเปล่าซง่ึ สามารถนำมาปรุง เครื่องดื่มและอาหารได้ - นำ้ เชอ่ื มผลไมห้ มายถงึ การเติม สี กล่นิ รสของผลไม้ทีไ่ ด้จากการสงั เคราะหล์ งไปในน้ำเช่ือม เชน่ น้ำเช่ือมทมี่ ีรสมะนาว (Lime Cordial ) น้ำเชือ่ มรสทับทมิ (Grenadine Syrub ) เปน็ ตน้

6. น้ำผลไม้เข้มข้น ( Fruit Squash ) หมายถงึ เครือ่ งดม่ื ชนิดท่ีทำจากน้ำผลไม้ชนิดต่าง ๆ และมกี ารเตมิ นำ้ ตาลหรือนำ้ เชอ่ื มเพ่ือให้มีความเข้มข้นมากขึน้ นอกจากน้อี าจจะมีการปรุงแต่งสี กลนิ่ และรส ลงไปดว้ ย 7. น้ำโซดา ( Soda water ) เป็นเคร่ืองดื่มทีผ่ สมระหวา่ งเกลือโซเดยี มไบคาร์บอเนต กับ น้ำ มีรสซ่า 8. อาร์ทฟิ เิ ชียล วอเตอร์ (Artificial Water ) หมายถงึ เคร่ืองดืม่ ที่ไดจ้ ากการนำเอาน้ำมาปรุง แต่ง สี กล่ินและรสชาตลิ งไปตามตอ้ งการเชน่ Coca Cola Seven up เปน็ ตน้ 9. น้ำนม (Milk) สามารถแบ่งออกได้เป็นน้ำนมที่ผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อตามวิธีการต่าง ๆ และ นำ้ นมสด 10. โยเกริ ์ตแบบนำ้ (Drinking Yogurt) เปน็ โยเกริ ์ตทป่ี รุงแตง่ รสและกลน่ิ เช่น รสผลไม้รวม รสสม้ ฯลฯ 2. เครอื่ งดื่มท่มี แี อลกอฮอล์ ( Alcoholic Beverage ) เครื่องดืม่ แอลกอฮอล์ เครื่องดืม่ แอลกอฮล์สามารถแบ่งได้เปน็ 3 กล่มุ หลกั ๆคือ 1. เคร่ืองดืม่ ทไ่ี ดจ้ ากการหมกั วัตถดุ บิ ทีน่ ำมาหมักเพ่ือใหเ้ กิดเครือ่ งด่ืมแอลกอฮอล์น้นั จะตอ้ งมีนำ้ ตาล อยใู่ นตวั เองทัง้ นนั้ ผหู้ มกั จะใส่ยีสตล์ งไป ซึ่งยีสตเ์ ป็นส่ิงมชี ีวิตเลก็ ๆ ท่ีกินน้ำตาลเป็นอาหารและขับถ่ายออกมา เปน็ แอลกอฮอล์ ปรมิ าณแอลกอฮอล์จะมากหรือน้อยน้นั ขึ้นอยกู่ บั ปรมิ าณน้ำตาลในวตั ถุดิบทีใ่ ช้หมักเป็นหลัก แต่ไม่เกิน 16% เพราะถา้ เกนิ 16% แอลกอฮอลจ์ ะฆ่ายสี ต์ตายหมด กระบวนการหมักก็จะหยุดลง เคร่อื งด่ืมท่ี

ได้จากการหมกั ได้แก่ เบยี ร์และไวน์ มกั จะมีปริมาณแอลกอฮอล์อยทู่ ี่ 6-15 % ไม่นิยมมากกว่าน้เี พราะจะทำให้ รสชาตไิ ม่ดีและบาดคอ 2. เครื่องดื่มที่ได้จากการกลั่น เมื่อหมักวัตถุดิบจนได้ตามสูตรแล้ว นำมาแยกน้ำและแอลกอฮอล์ออก จากกันโดยการกลั่นด้วยคุณสมบัติของของเหลวทั้ง 2 ชนิดนี้แตกต่างกันที่จุดเดือด แอลกอฮอล์มีจุดเดือดที่ 78.5 องศาเซลเซียส สว่ นนำ้ มีจุดเดือดที่ 100 องศาเซลเซียส ดว้ ยคุณสมบัตินีเ้ มอ่ื นำของเหลวท่ีไดจ้ ากการหมัก มาต้มที่อุณหภูมิคงที่ 78.5 องศาเซลเซียส แอลกอฮอล์จะระเหยขึ้นไปโดยไม่มีน้ำเจือปน เมื่อเจอความเย็นจะ ควบแน่นเป็นแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ เครื่องดื่มที่ได้จากการกลั่นที่เป็นที่นิยม ได้แก่ ว็อดก้า จิน รัม วิสกี้ บรั่นดี 3. เครอื่ งด่ืมท่ไี ด้จากการกลั่นและปรงุ แต่งเพิ่มเตมิ เม่ือกลัน่ เสร็จแลว้ นำไปแต่งสแี ละกลิน่ เพม่ิ เติม เรา เรียกเหล้ากลุ่มน้ีวา่ ลิเคยี วร์(Liqueur) หรือเหลา้ หวาน ได้แก่ บลคู รุ าโซ่ กลิ่นสม้ มีสีฟ้า คาร์ลัว กล่ินกาแฟมี สดี ำ เป็นตน้

หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 2 เรื่อง การเลอื กซอื้ วัตถุดบิ ในการประกอบอาหารว่าง ในการทำอาหารว่างถึงแม้ว่าจะมีตำรับอาหารดี แต่ถ้าสิ่งที่นำมาใช้ประกอบอาหารหรือวัตถุดิบนั้นมี คุณภาพต่ำก็อาจจะทำให้คณุ ภาพของอาหารผิดไป ดงั นนั้ การเลือกซ้ือวัตถุดิบเพื่อนำไปประกอบอาหารอาหาร ว่างแต่ละชนดิ จงึ จำเป็นต้องเลอื กใชข้ องดมี ีคุรภาพท้ังอาหารสดและอาหารแห้ง และจะต้องรู้จักการเก็บรักษา อยา่ งถกู ต้องดว้ ย การเลอื กซอ้ื เน้อื สัตว์ สัตว์บก การเลือกซอื้ สัตว์บกมีวิธกี ารเลอื กซ้ือ ดงั นี้ 1. เนอ้ื หมู ควรเลือกซ้ือเนอื้ หมทู ่ีมชี มพูอ่อนตามธรรมชาติ มนั สขี าว ไม่มกี ลน่ิ คาว หรือเหมน็ เน่า ไม่มี เมือกท่ีผวิ (หากมเี มือกแสดงว่าเนอ้ื สัตว์เร่มิ เนา่ เสียมีการก่อตวั ของแบคทเี รีย) มลี กั ษณะสีเขียวชำ้ (เริ่มเนา่ ) เนอ้ื หมูสว่ นตา่ งๆ - สันคอ จะมมี ันแทรกอยู่ตามเนื้อ เนือ้ จะนมิ่ ไม่เหนียว นิยมนำมาย่าง ทอด ผดั - เนอื้ สนั นอก จะเป็นช้ินเนอื้ ส่วนท่ตี ิดกบั สนั คอ แตม่ ันน้อยกวา่ นิยมนำไปทำเสตก็ สุกี้ หรอื หมมู ะนาว - เน้อื สันใน จะเป็นชนิ้ สว่ นทน่ี ุ่ม ไขมันน้อยทีส่ ุด ทำอาหารไดท้ ุกเมนู - เน้อื สว่ นสะโพก เนือ้ คอ่ นขา้ งแข็งและมเี อ็นแทรก นยิ มทำอาหารประเภทตุ๋น หรือนำมาทำพวกหมู แผ่น หมูหยอง หมสู วรรค์ - เนื้อไหล่ เนอื้ จะค่อนข้างแข็ง เหมาะสำหรับนำไปทำเมนู ต้ม ตุ๋น เชน่ พะโล้ หรอื ตม้ เค็ม ต้มหวาน 2. เนอ้ื วัว ควรเลอื กซื้อเนื้อวัวท่ีมสี ีแดงสด มันสขี าว เนื้อแน่น ไมเ่ ป็นรอยบุ๋มยาวเม่ือกดลงไป ไม่มีกล่ินเหม็นคาว หรือกลิ่นเน่า ไม่มีรอยเขียวคล้ำ หากพบว่ามันเป็นสีเหลืองแสดงว่าไม่สด และควรมีความชุ่มชืน้ พอสมควร ไม่ แห้งจนเกนิ ไป ลกั ษณะของเนื้อววั แตล่ ะส่วน - เนอ้ื สว่ นที่นิยมใชท้ ำเสตก็ หรือเนื้อยา่ ง ได้แก่ เนื้อสันนอก ลกั ษณะจะมีมนั แทรกในเน้ือทเ่ี รยี กวา่ ลายหนิ อ่อน

- เนอ้ื สันในจะมรี าคาสูงทสี่ ดุ ของเนื้อววั ลักษณะจะไม่มีมัน และรสชาตินุ่มลิ้นที่สดุ - เนอื้ สว่ นน่องสะโพก ขาหนา้ จะมลี ักษณะเหนียว กวา่ สองประเภทแรก นยิ มนำมาตุ๋น ทำสตวู ์ นำ้ ชปุ - เนื้อสว่ นทอ้ ง จะมีไขมันมากท่สี ุด นิยมทำน้ำซุป 3. หมูสามช้นั เปน็ เน้ือหมูท่ีมีชนั้ เน้ือสลับกับในส่วนของมนั หมู มหี นังตดิ ซึ่งเปน็ เนื้อส่วนที่มีความนมุ่ มาก เหมาะสมกับการนำไปทำอาหารประเภทตม้ แกง ทอดกรอบ และอบ เป็นตน้ 4. มันหมู ควรมีสีขาวออ่ นนุ่ม ไม่มีพังผดื ไม่มีกลน่ิ แรงและมมี ันหนาพอสมควร สตั วป์ ีก เนอ่ื งจากสตั ว์ปีกมักมขี นาดเล็ก จึงมกั นิยมเลือกซ้ือทัง้ ตวั คล้ายกัน ดังน้ี 1. ไก่สด เน้อื ไกท่ ดี่ ี หนงั ควรสดใส ไม่ซีด เนือ้ ยงั แน่น ไม่มีกลิ่น หรอื เมอื ก สีไมเ่ ขยี วคล้ำ ถา้ ซ้ือท้งั ตัวใหด้ ทู ส่ี ว่ น หนา้ อกไก่ กดดเู นอ้ื ต้องแนน่ อ้วน ตาใสไม่ลกึ และไม่มรี อยเขียวซ้ำ ตรงทอ้ ง ไม่มีกลิน่ เหม็น หรือ เหมือก สว่ น ปลายสุดของปีกจะดัดงอไมง่ ่าย หนังมีสีขาวและไมม่ รี อยฉดี ขาด เน้อื ไก่ ไมว่ า่ จะส่วนใด กส็ ามารถนำไปประกอบอาหารได้แทบทุกชนิด ไมว่ ่าจะ ต้ม ผดั แกง ทอด ฯลฯ แตส่ ำหรบั ผูท้ ร่ี ักสุขภาพ แนะนำ เน้นบรโิ ภคในสว่ นของอกไก่ ซึง่ เปน็ ส่วนมีไขมนั น้อยที่สดุ

วิธีเลือกซื้อไก่ส่วนต่างๆของไก่ 1. น่องไก่ เหมาะสำหรับการย่างหรือต๋นุ ไมค่ วรเลอื กซ้ือน่องท่มี ีสซี ีด หนงั ขาด หลดุ ลุย่ และมนี ำ้ สี แดงไหลซมึ ออกมา เพราะนั่นแสดงวา่ น่องไก่ไมส่ ด 2. ปีกไก่ เหมาะกับการย่าง ต้มตุ๋น ควรเลอื กซื้อปีกไก่ทีม่ ลี ักษณะบางใส เมื่อลองจบั ดูมนั จะไม่มีเมือก 3. อกไก่ หรอื สันในไกเ่ น้ือสว่ นนจี้ ะค่อนขา้ งนุ่ม เนอ้ื ติดมนั น้อย เหมาะกบั การผัดหรือทอด ควรเลอื ก ซอ้ื เนอื้ ท่ีมีสชี มพูอ่อนๆและใส 2. เป็ด เนอ้ื เป็ดมรี าคาสงู เนอื้ เป็ดนำมาทำอาหารยาก เน่ืองจากกล่ินของเนื้อเปด็ แรง การเลอื กซื้อเน้ือเป็ด จงึ เปน็ ขน้ั ตอนแรกของเมนูเป็ดท่ีอร่อย วธิ ีเลอื กซื้อเน้ือเปด็ มเี ทคนคิ และวิธกี ารตา่ งๆ ดังนี้ - เป็ด ตอ้ งเป็นเปด็ ท่สี ดๆ ใหม่ - เป็ด ตอ้ งมีหนงั สีขาว ไม่คลำ้ - เนอ้ื ต้องแน่น ผวิ ตงึ ไม่เห่ียวยน่ - สขี องเนอื้ เป็ดต้องมีสีสด ไม่ซีด ไม่มรี อยชำ้ หรือ จำ้ สเี ขียว - กลน่ิ ของเป็ด ต้องไมม่ ีกล่ินเน่าบูด - ปากและตีนของเป็ด จะต้องมสี เี หลืองสด แต่ถ้าหากตีนเป็ดเปน็ สีดำ แสดงวา่ เปด็ แก่ เน้ือ เหนียว และกลน่ิ สาบแรง 3. ห่าน ใหด้ ปู ากถา้ ปากเหลืองจะเปน็ ห่านออ่ น ถ้าปากแดงจะเปน็ ห่านแก่ สตั ว์น้ำ การเลอื กซือ้ สัตวน์ ้ำ มีวธิ ีท่ีแตกต่างกัน ดังน้ี 1. ปลา อดุ มไปดว้ ยโปรตีนท่ีมปี ระโยชนต์ ่อร่างกาย มีไขมันต่ำ โปรตนี ในปลาย่อยง่าย สามารถนำมา สร้างสรรคเ์ มนอู ร่อยๆ ได้มากมาย ไมว่ า่ จะนำมาทำแบบต้ม ผดั แกง หรือทอด กด็ ีทั้งนั้น แต่กอ่ นจะนำมา ปรุงอาหาร มีวิธกี ารเลือก - ตาปลา เปิดโตเตม็ ท่ี ใส ไม่ลึกโบ๋หรือขนุ่ เปน็ สเี ทา แหง้ ตาไม่โบ๋ - เกลด็ สสี ดใสเป็นมนั เงา ไม่ขนุ่ มัว เกลด็ แบนราบเสมอกนั ไม่แหง้ หลดุ ลอก - หนงั ควรจะมเี มอื กปลาคลมุ อยทู่ ั่วท้งั ตัว เรยี บ และชมุ่ ชน้ื อยูต่ ลอดเวลา - เหงือก ต้องสแี ดงสด ไม่เขยี วคล้ำครีบปิดสนิท ถา้ มีเมอื กกต็ อ้ งเปน็ เมือกใส - เนื้อปลาไมแ่ ขง็ ท่ือ เม่ือกดจะยดื หยุ่นมสี ปริงเดง้ กลบั ไม่ยุย่ ไม่บมุ๋ ตามรอยนว้ิ มือ

- บรเิ วณใตท้ ้องปลาจะต้องสะอาด ท้องแนน่ ไม่หลุดออกจากกันได้ง่าย - ไมม่ ี กลิ่น เหมน็ เน่าหรือมีกลน่ิ ฉนุ ของฟอร์มาลิน ไม่มีแมลงวันตอม - ถ้านำปลาไปแชน่ ้ำ ปลาที่ดี จะจมน้ำ - ควร ซื้อปลาตามฤดูกาล จะไดป้ ลาสดใหม่ ราคาถกู และรสชาตดิ ี - ปลาเค็ม ให้เลอื กท่เี นือ้ ไม่เละ ไม่มหี นอน ไมม่ เี กล็ดเกลือ เน้ือปลาไม่แขง็ แห้งเกนิ ไป เพราะ เป็นปลาทเ่ี ก่าเก็บไว้นาน 2. กงุ้ วิธีเลือกซื้อกุ้งที่สดใหม่น้ัน เราต้องเลือกที่หัวติดแน่นกับลำตัว กุ้งที่สดหัวจะไม่เป็นสีดำ สีของ เปลือกกุ้งมีลักษณะธรรมชาติเป็นเงางาม และลำตัวจะต้องใส เนื้อแข็งแน่น ตากุ้งจะใส เม่ือใช้น้ิวกดที่ตัวกุ้ง จะไม่นุ่มเละ ส่วนหัวลำตัวและหางจะต้องติดกัน และท่ีสำคัญเลยคือกุ้งท่ีสดใหม่จะต้องมีกลิ่นคาวของกุ้ง 3. ปู วิธีเลอื กซ้ือปูม้า ปทู ะเล ใหส้ ดใหม่ - ถ้าเป็นไปได้ ควรซื้อปเู ปน็ ที่กำลงั วา่ ยน้ำอยเู่ ท่านัน้ เพราะปูเปน็ เนอ้ื จะหวาน อรอ่ ย แน่นอน - ปูทีต่ ายมานานใหห้ ยิบมาดู จะมนี ้ำหนักเบา ถ้าเบาอยา่ ซ้ือ - ปจู ะต้องไม่มีกล่ินแอมโมเนียแรง ถ้าปูใกล้เนา่ จะมีกลนิ่ แรง

วธิ ดี ูว่าปตู ัวไหนคือปตู ัวผู้ หรือ ปูตวั เมยี - ปตู วั ผู้ (ปูเนื้อ) : ตะปิง้ ท่ที ้องจะเรยี ว และเป็นทรงสามเหลย่ี ม แหลมกว่า สำหรบั ปมู า้ ตวั ผจู้ ะมสี อี อกน้ำเงินกว่าปมู ้าตวั เมยี - ปูตวั เมยี (ปูไข)่ : ตะป้ิงทีท่ ้องจะปา้ น และกลม วิธเี ลือกปูเน้อื ให้ได้ปเู น้อื แน่น หวานอรอ่ ย สำหรบั ใครทช่ี อบทานปเู นือ้ ก็ต้องเลือกซ้ือ ปตู วั ผู้ เทา่ นัน้ นะจะ๊ เพราะเนื้อของมันจะเยอะ และหวาน กว่าปูตัวเมีย เนอ่ื งจากปูตัวเมียต้องเอาพลังงานไปเล้ียงไข่ เลยทำให้เนือ้ ไม่หวานแน่นเหมือนปตู วั ผคู้ ะ่ เอาละ่ เราไปดูวธิ ีเลอื กซื้อปูตัวผ้กู ันเลยดกี ว่า - จบั ดูจะรสู้ ึกวา่ ปมู นี ้ำหนกั ไม่กลวง ไมเ่ บาเกินไป - พลิกดูทต่ี ะป้งิ ปู ตะปิ้งท่ีทอ้ งปูจะต้องเป็นเรยี ว และเป็นทรงสามเหล่ยี มแหลม - ลองกดเบาๆ ที่ตะปง้ิ ใหเ้ ลือกปูตัวทกี่ ดแล้วแน่น ไม่หลวม กดแล้วไมย่ บุ - ให้ลองหยบิ ปูข้ึนมาแลว้ เลอื กปูตัวทม่ี กี ระดองแขง็ และมีนำ้ หนักหน่อย อย่าเลือกตวั ท่ีเบา เพราะมี ความเปน็ ไปไดส้ งู วา่ ปตู ัวนีอ้ าจจะเน้อื ไม่แนน่ ไม่ค่อยมีเน้ือ ซึง่ กเ็ กิดจากปูกำลังเตรยี มลอกคราบ - อย่าเลือกปูท่ีกระดองนมิ่ หรือไม่แข็ง 100% เพราะนน่ั อาจจะเปน็ ปทู เี่ พง่ิ ลอกคราบ ทำใหเ้ น้อื หลวม เวลานึ่งจะคายน้ำออกมาเยอะ วธิ เี ลือกปูไข่ ให้ไดไ้ ข่เต็มกระดอง - จับดูจะรสู้ กึ วา่ ปมู นี ้ำหนัก ไม่กลวง ไมเ่ บาเกนิ ไป เพราะปูไข่จะมีเนื้อที่ลีบกวา่ ปูเน้ืออยู่แลว้ และย่งิ ถา้ ไม่มีไข่ปูดว้ ย ก็ไม่ต่างอะไรจากการซื้อกระดองปูมากิน - พลกิ ดทู ต่ี ะป้งิ ปู ตะปิง้ ของปูที่มีไข่ จะมสี ีเขม้ และนูนออกมากวา่ ปกติ กดลงไปแลว้ แน่น กดแล้วไม่ ยบุ - เคากระดองปู จะรู้สกึ วา่ กระดองแนน่ ๆ ตนั ๆ ไม่กลวง เพราะถา้ กระดองกลวง ก็มคี วามเป็นไปไดส้ งู ว่าในตวั ปูนั้นไมม่ ีไข่ - ปูตวั เมยี ตวั จะมสี จี ะออกเทาอมนำ้ ตาล แต่ถา้ ตวั ไหนมปี ลายขาสฟี ้า อย่าซ้ือ เพราะจะเป็นปกู ระเทย ในกระดองจะมีแตม่ นั ปไู ม่มีไข่ - อย่าเลือกซ้ือปูที่มีไขส่ นี ้ำตาลเข้มๆ เกาะอยู่ทบี่ รเิ วณนอกกระดอง เรยี กว่า ปไู ข่นอกกระดอง เพราะ ไข่พวกน้นั คือไข่ท่ีได้รบั การผสมพร้อมเป็นตัวแล้ว ทั้งทำลายธรรมชาติ ทำลายลกู ปเู ปน็ แสนๆ ตัว และเนือ้ ปูก็ ไม่อร่อยอกี ดว้ ย

4. หอย หอยมีหลากหลายชนิด ตั้งแต่หอยขนาดใหญ่ เช่น หอยนางรม และ หอยแมลงภู่ ไปจนถึง หอยขนากเล็ก เช่น หอยตลับ หอยลาย หอยแครง หอยหวาน หอยหลอด ซึ่งแต่ละชนิดจะมีเปลือกที่แตกต่าง กนั ไป ดงั นั้นการเลือกหอยจะต้องสงั เกตทเ่ี ปลือก ถึงจะร้วู ่าสดหรอื ไม่ - หอยท่สี ดจะต้องเปลอื กปดิ แนน่ หากทง้ิ ไวป้ ากของหอยจะอ้าออก แตถ่ ้าเอามือไปสัมผัสเปลอื กจะ ปิดทันที - เปลือกไม่มีมเี มอื กมากจนเกินไป - เม่ือแกะเปลือกหอยออกมาจะไม่มสี ง่ิ สกปรก หรือ โคลนออกมา - หากแกะหอยออกจากเปลือก เน้อื ของหอยจะมีสีสด และ มีเย่ือบาง ๆ อยทู่ ต่ี ัวหอย - หากนำไปลอยน้ำ หอทีส่ ดจะจมน้ำ หากไมส่ ดหอยจะลอยน้ำ การเลอื กซอ้ื ไข่ การเลอื กซ้ือไขไ่ ก่ ใหไ้ ด้ไข่สดนั้น จะตอ้ งสังเกตจากภายนอกของ ไข่เป็นอันดับแรก และนำ้หนักของไข่ รวมถึงขนาดด้วย การดูไข่แดง หลงั จากตอกไขต่ อนทำอาหาร ไขแ่ ดงจะมีลกั ษณะนนู ข้นึ มาไม่เรียบ และ มีสีเหลืองสดธรรมชาติ การรับประทานไข่ไก่ที่มีคุณภาพ สดใหม่ มี ประโยชน์มากมาย นอกจากจะได้รับคุณค่าทางอาหารที่สูงแล้วนั้น ยังลด ปริมาณการได้รบั สารปนเปือ้ นของเชอ้ื จลุ ินทรีย์ท่ีติดมากบั ไข่อีกดว้ ย การเลือกไข่สด ตอ้ งสังเกตจากอะไรบ้าง 1. เลือกไข่ดูที่เปลือก ควรเลือกเปลือกไข่ที่มีนวลคล้ายฝุ่นแป้ง หุ้มอยู่โดยรอบ จับแล้วสากมือ ไม่ลื่น เพราะเปน็ สภาพคล้ายกบั ไขท่ ี่เพ่งิ ออกมาจากแม่ไก่ใหมๆ่ ถ้าเปลือกไขม่ นั เป็นเงาแสดงว่าไขไ่ ม่สด 2. นำไข่ส่องกับแสงสว่างจะเป็นแสงสว่างทั่วทั้งฟอง เมื่อหมุนไปมาไข่แดงจะต้องหมุนตามไปมา โดย สังเกต ถ้าเห็นจุดเห็นจุดสีเหลืองหรือสีเทาในฟองไข่ แสดงว่าไข่ฟองนั้นมีการปนเปื้อนของเชื้อจลุ ินทรีย์ไม่ควร นำมากนิ เดด็ ขาด 3. ควรเลือกไข่ท่เี ปลือกผวิ สะอาดดีกว่าผิวสกปรก เพราะเปื้อนดิน เปือ้ นมูลไก่ และเลอื กไข่ท่ีเปลือกไม่ มรี อยแตกร้าว เพราะแสดงว่าเปน็ ไขท่ ี่ออกมาจากไก่ โดยที่สารอาหารภายในยงั ไม่ซมึ ออกมา 4. เลือกไข่ดูที่น้ำหนัก ดีกวา่ ดูทข่ี นาดของฟองเพราะไข่ไกท่ ี่ขนาดฟองใหญ่ จะมีไขแ่ ดงใหญ่กว่าไข่ที่มี ขนาดเล็ก เพยี งเลก็ นอ้ ย 5. นำไข่ทีซ่ ื้อมา เอาไขไ่ ก่มาแช่น้ำ ไข่สดจะจมน้ำ ไข่เกา่ จะลอยอยูใ่ ต้ผิวนำ้ กรณที ่ีคัดไขใ่ นการทำขนม ปรมิ าณมาก ๆ เช่นทำขนม ทองหยบิ ทองหยอด ซึง่ ใช้ไข่ไกจ่ ำนวนมาก 6. ไข่ไก่ทต่ี อกออกแลว้ เพ่ือทำอาหารสงั เกตดูไขแ่ ดงควรจะมีลักษณะกลม นนู สว่ นไข่ขาวทีด่ ีเกาะตวั กัน สีใส ไม่มีกลิ่นเหมน็ สว่ นไข่เก่า เม่ือตอกไข่แล้ว ไข่จะราบเรยี บ ทรงแบบ ไข่ขาวเหลว ซ่งึ หมายถึงไข่เก่า นานแล้ว

การเลือกซอ้ื ผัก ผลไม้ การเลอื กซ้ือผัก แบง่ ออกเปน็ 3 สว่ นใหญ่ ๆ ไดแ้ ก่ 1. การเลือกซื้อผกั ตามชนิดของผัก - ผักที่เปน็ ใบ ควรเลอื กใบทีม่ ีสเี ขยี วสด ไมม่ ีรอยด่าง ชำ้ หรือเหี่ยว ไม่มหี นอน - ผกั ทเ่ี ป็นผล ควรเลือกผสที่ไมเ่ หยี่ ว แตใ่ ห้ดสู ดี ี ๆ ไม่ควรมีสที ่ีสดเกินจรงิ - ผกั ทเ่ี ป็นหัว ควรดูท่นี ำ้ หนักเปน็ หลกั เน้ือควรแน่น มีน้ำหนักดี - ผักที่เปน็ ฝัก ควรคำนึงอายุของผกั ควรเลอื กฝักออ่ น ๆ ไม่แก่จนเกินไป ไม่พองหรอื แน่นจนเกนิ ไป 2. การเลือกซ้ือผักตามขนาด และ สี - ผักจะตอ้ งมีนำ้ หนกั ไม่เบาจนเกนิ ไป ผกั ทีม่ นี ำ้ หนักก็คือผักทีส่ ด - ผักจะตอ้ งไม่เหี่ยว แตจ่ ะตอ้ งมเี นอ้ื แน่น บ่งบอกถงึ ความสด - ผักจะตอ้ งมีสสี ด ไมช่ ำ้ 3. การเลือกซื้อผักตามฤดูกาล - การเลอื กซ้ือผักตามฤดูกาล จะทำให้ได้ผกั ที่สดใหม่เสมอ - ผกั ทปี่ ลกู ตามฤดูกาลจะไม่มีสารแมลงปนเปอ้ื น - ผักท่ีซื้อตามฤดูกาลจะมรี าคาถูก แถมมีคุณภาพ ผักสเี ขียว การเลอื กผักคะนา้ ผักคะน้าที่ดี ควรเป็นผักคะน้าที่ไม่แก่จนเกินไป เพราะก้านคะน้าจะ เหนยี ว และ ไม่กรอบ จะต้องเลือกต้นที่อวบอว้ น ใหส้ งั เกตทีร่ อยตดั โคนต้น หาก เส้นสีขาวละเอียดถอื ว่ากำลังดี ไม่ควรเลือกต้นที่มีเส้นขาวขนาดใหญ่ เพราะจะมี เสี้ยนเยอะ เป็นต้นคะน้าที่แก่และเหนียว ที่ สำคัญให้ดูใบของคะน้า ไม่ควรมีสี เหลอื ง กา้ นและ ลำตน้ ไม่เหย่ี ว การเลือกกะหลำ่ ปลี กะหล่ำปลีสดทานคู่กับยำ หรือ นำมาผัดน้ำปลาก็อร่อยเด็ด ต้องเลือก หัวที่มีน้ำหนัก ไม่เบาจนเกินไป ที่สำคัญต้องเป็นหัวที่กรอบ มีสีเขียวใส ไม่เหี่ยว หรือ มีรอยช้ำ หากมีรอยหนอนอยู่บนใบด้านนอก ให้เด็ดใบนั้นออก กะหล่ำปลี แบ่งออกเป็น 2 พนั ธ์ดุ ว้ ยกัน ได้แก่ พันธุห์ วั กลม และ พนั ธุร์ ปู หวั ใจ ซ่ึงจะมีความหวานกวา่ และราคาแพงกว่า

การเลอื กผักกาดคอส ผกั กาดคอสนิยมทานกนั แบบสด ๆ หรอื ทานเป็นสลดั เพราะผกั กาด ชนดิ นี้มีความหวานในตวั เอง ทานสด ๆ กอ็ ร่อยแล้ว ผักกาดคอสทเ่ี ราเลือก จะตอ้ งมสี ีเขยี วสด รอยตัดท่ีต้นโคนนั้นยงั ดูสดอยู่ บนใบไม่มรี อยช้ำ ใบยังติดกบั ตน้ โคนอยู่ การเลือกผักบ้งุ การเลือกผักยบุ้งใหด้ ูทล่ี ำตน้ จะต้องอวบอ้วน แข็งเลก็ น้อย แต่ก็ไมแ่ ขง็ จนเกินไปไม่ออ่ นยวบและมตี ้นออ่ นติดอยู่ ใบจะต้องมสี เี ขยี วสด ไม่ช้ำ ไม่ดูแหง้ เห่ียว การเลอื กแตงกวา หากพูดถึงแตงกวา ก็จะนึกถึงความกรอบ ทั้งนำมาทานคู่กับยำ จิ้มกับ น้ำพริก การเลือกแตงกวาจะต้องเลือกผลค่อนข้างเรียว สีเขียวสด เมล็ดและเนื้อ แตงกวากรอบ หากแตงกว่ามสี ขี าว อวบอว้ น เม็ดเยอะ แสดงวา่ เนอ้ื จะเหนียวไมก่ รอบ การเลอื กบร็อกโคลี บร็อกโคลีเป็นผักที่มีลักษณะเป็นพุ่มแน่น อยู่รวมกันเป็นช่อ ๆ และมีสี เขียวสด นิยมทานตรงดอกของมัน มีรสชาติหวานกรอบ ดังนั้นการเลอื กบร็อกโคลี จะต้องดูที่ดอกเป็นหลักจะต้องมีดอกแน่น และจะต้องมีสีเขียวสดก้านจะต้องดู แข็งแรง ไม่ดเู ห่ียว หวั จะตอ้ งมีนำ้ หนักและมใี บเล็ก ๆ แซม ไม่ควรซื้อบร็อกโคลีท่มี สี ีเหลอื ง ดอกน้อย และก้านดูเห่ียวเฉา ผกั อื่น ๆ การเลือกมะเขอื เทศ มะเขือเทศน้ันมหี ลายสายพนั ธุ์ ทั้งลูกเล็ก ลกู ใหญ่ ทรงกลม หรอื ทรงวงรกี ็มี ท้ังนที้ ้งั น้นั การเลือกมะเขือเทศให้สดไม่แตกต่างกนั โดยเลอื กมะเขอื เทศผลทีผ่ วิ เต่งตงึ มนั วาว ไม่เหยี่ ว ทสี่ ำคัญไม่ชำ้ มสี แี ดงเหมือนกนั ทัว่ ท้ังลูก ขวั้ ของมะเขือ เทศจะต้องอย่ตู ิดกบั ตัวผล มสี ีเขยี วสด หากเป็นมะเขือเทศรสชาติออกหวาน จะต้องเลือกมะเขือเทศลกู ท่ีมรี อย แฉกใตล้ ูกเปน็ สีอ่อนที่เหน็ ชดั เจน

การเลือกแครอท แครอทเป็นพืชที่มีราก มีหลายสีด้วยกัน ได้แก่ สีส้ม สีม่วง และสี เหลือง แต่แครอทที่เรานิยมทานและนำไปประกอบอาหารมากที่สุดก็คือสีส้ม และมีหลายขนาดตั้งแต่ใหญ่ยันเลก็ จิ๋ว อย่างเบบี้แครอทนั่นเอง การเลือกแค รอทที่ดีนั้นอย่างแรกที่ควรสังเกตเลยก็คือสี แครอทควรมีสีที่สม่ำเสมอ เน้ือ แขง็ ผิวเรยี บ ดเู ปน็ เงา เปน็ แทง่ ตรง ไมง่ อ ไมม่ แี ขนเลก็ ๆ ออกมา การเลือกขา้ วโพดอ่อน ให้เลอื กข้าวโพดอ่อนท่ีมสี เี หลอื งอ่อน แสดงว่าข้าวโพดอยูใ่ นชว่ งทด่ี ี ไม่ แกจ่ นเกินไป สำหรับข้าวโพดออ่ นทีน่ ำไปประกอบอาหารควรยาวไมเ่ กิน 10 เซนตเิ มตร หากขา้ วโพดอ่อนแก่ มักจะแขง็ สีเข้ม ไม่หวาน หวั ฝกั จะต้องมีสี เขยี วอ่อน ไมห่ ลดุ ออกจากตัวข้าวโพดอ่อน ไม่ควรเกบ็ ไว้ การเลอื กพรกิ ขีห้ นู เล็กพริกขี้หนู พริกที่จิ๋วแต่แจ๋ว เพราะเผ็ดได้ใจจริง ๆ ยิ่งถ้าทานแบบ สด ๆ หาน้ำดื่มตาม แทบไม่ทัน แต่หากเราเลือกพริกไม่เป็น ไม่สด อาจทำให้ รสชาติของพริกแปลกแตกต่างออกไปได้ จะต้องเลือกพริกขี้หนูที่มีขั้วสีเขียวสด และต้องติดแนน่ อยู่กบั ตัวพรกิ หากหลดุ ออกมาแสดงวา่ ไมส่ ด ตวั พรกิ จะตอ้ งไม่ เห่ียว มผี วิ ทแ่ี น่น สเี ขยี วสดและแดงสด การเลือกหอมใหญ่ และ หอมแดง พืชตระกูลหอม ทั้งหอมใหญ่ และ หอมแดง ควรดูที่เปลือกของมัน เปลือกแห้งและบาง แต่ไม่ฝ่อ ไม่มีรอยยุบหรือรอยเนา่ ที่สำคัญไม่มจี ุดดา่ งดำ เป็นเชื้อราสีดำ การเก็บหอมใหญ่และหอมแดง ควรเก็บไว้ในที่แห้ง ไม่ชื้น และ ในตู้เย็น การเลอื กกระเทียม การเลอื กกระเทียมให้ดูท่เี ปลือกของมัน เปลอื กจะต้องบาง กลีบแน่น แกะเปลือกออกมา เนื้อกระเทียมจะต้องมีเสียงเหลืองอ่อน ไม่ฝ่อ ไม่มีเชื้อรา นนั่ หมายความว่ากระเทยี มนัน้ สด

การเลือกซอื้ อาหารแหง้ อาหารแหง้ คอื อาหารทผี่ ่านกระบวนการอบหรือตากแหง้ เพอื่ ให้สว่ นทีเ่ ปน็ นำ้ ถกู กำจดั ออกไป เชน่ ผัก ผลไมแ้ ห้ง เหด็ หอมแหง้ กุ้งแห้ง ถั่วลิสง หอม กระเทยี ม และอ่นื ๆ อกี มากมาย อาหารแหง้ ที่เราซื้อมาปรุงเป็น อาหารนั้นเป็นอีกหนึ่งประเภทของอาหารที่สามารถเก็บไว้ ได้นาน ไม่เสีย หรือบูดง่ายๆ แต่การเลือกซ้ือ อาหารแหง้ ให้ได้คุณภาพ ความปลอดภยั อย่างดี การเลอื กซ้ืออาหารแห้งควรเลอื ก ดงั น้ี - ต้องเลอื กซ้อื อาหารแห้งทีส่ ะอาดไมอ่ ับช้นื ไม่มีกลนิ่ เหม็นหนื เปลือกแห้งสนทิ เมลด็ สมบรู ณ์ เน้อื แนน่ ไม่ลบี ไมฝ่ ่อ ไม่แตกหัก และเก็บในภาชนะทสี่ ะอาด มีฝาปิดมดิ ชดิ และท่ีสำคญั ต้องไม่มเี ช้ือรา สไี ม่เข้ม ผดิ ปกตหิ รือเปน็ สีดำ เพราะอาจมีเชือ้ รา ท่ีเรียกว่า “อะฟลาทอ็ กซลิ ” การเตรียมอาหารก่อนปรุง ควรลา้ งด้วยนำ้ ใหส้ ะอาดก่อน โดยเฉพาะหัวหอม หวั กระเทียม พริกแห้ง หากเน่าหรอื ขนึ้ ราควรท้งิ ทนั ที เพราะความร้อนไม่สามารถทำลายเชื้อราได้ - ไม่ซ้ืออาหารแหง้ ในปริมาณมากเพราะหากใชไ้ ม่หมดอาจเกิดเชอ้ื ราได้ - เลอื กซ้อื อาหารแห้งท่มี ีสใี กล้เคยี งกับสธี รรมชาตขิ องอาหารชนิดนน้ั ๆ - ไมซ่ อื้ อาหารแหง้ ทม่ี ีกล่ินหนื โดยควรเลือกอาหารแห้งท่ีมีลักษณะสที ่ีสดใหมไ่ ม่แตกหัก - ตรวจดูฉลากโภชนาการและวนั หมดอายุ 1. การเลอื กซือ้ เครื่องเทศ เครื่องเทศ คนส่วนใหญ่มากมักนิยมนำมาเป็นส่วนประกอบของการ ทำอาหาร ไม่ว่าจะเป็น พริกไทย พริกป่น อบเชย ผงกะหรี่ เป็นต้น ควรเลือกซื้อ เครื่องเทศที่ไม่มีสีคล้ำ ดำ ผิดปกติจนเกินไป เลือกเครื่องเทศที่ผลิตใหม่ๆ จะดี ทีส่ ดุ เปน็ การหลกี เลีย่ งการสะสมของความชื้นทำใหเ้ กิดเชือ้ ราได้ 2. การเลอื กซื้ออาหารประเภทแปง้ แป้งมีด้วยกันหลายชนิด เช่น แป้งสาลี แป้งข้าวเหนียว แป้งมันสำปะหลัง แป้งข้าวโพด การเลือกแป้งที่ดีต้องเลือกที่มีเนื้อละเอียด สีไม่ผิดเพี้ยนจากที่ควร เป็น เพราะแป้งบางชนิดอาจจะไม่มีสีขาว แต่เป็นสีขาวนวล ซึ่งคุณสามารถนำ แป้งชนิดเดียวกันมาเปรียบเทียบตอนคุณเลือกซื้อ แป้งส่วนมากจะบรรจุอยู่ใน ถุงพลาสติกต้องสังเกตไม่ให้ถุงฉีกขาด ไม่มีสิ่งปนเปื้อนภายในถุง ไม่มีมอด และ แป้งจะต้องไมม่ ีกลิน่ เหม็นอับ

3. การเลือกซ้ือผลไม้แห้ง ผลไม้แห้ง ควรเลือกผลไม้แห้งที่มีสีสันปกติ ไม่ผิดเพี้ยนมาก ซึ่งสีอาจจะ คล้ำหรอื ซดี กวา่ ตอนเป็นผลไมส้ ด หากสสี ดจนเกนิ ไปอาจเกิดจากผู้ผลิตใส่สีผสม ลงไป และควรเลือกผลไม้แห้งที่ไม่มีจุดด่างดำ ไม่มีเหม็น และควรบรรจุอยู่ใน บรรจภุ ณั ฑ์ท่ีปิดสนทิ จะยิง่ ดี 4. การเลือกซอื้ เนอ้ื สัตว์ตากแหง้ เนื้อสัตว์แห้ง ที่เราคุ้นเคยกัน เช่น อาหารทะเลตากแห้ง เนื้อหมูเนื้อวัว แดดเดยี ว ควรเลือกใหส้ ีใกล้เคียงธรรมชาติ เรามักพบว่าผ้ผู ลติ มักใส่สีผสมลงใน กุ้งแห้ง จึงควรเลี่ยงที่จะซื้อมารับประทาน สักเกตว่าไม่มีจุดดำ หรือเชื้อราบน ผลติ ภัณฑ์ 5. การเลือกซื้อเมล็ดธัญพชื เมล็ดธัญพืชและถั่วเมล็ดต่างๆ คุณควรเลือกถวั่ ควรมเี มล็ดท่ีสมบรู ณไ์ ม่ แตกหัก เน้ือแน่น ไม่ลบี ฟอ่ สีของเมล็ดถัว่ และธัญพืชต้องมสี ใี กลเ้ คียงกับ ธรรมชาติ ไมม่ สี ีเข้มผดิ ปกติหรือสดี ำ ตอ้ งไม่มีกลิน่ เหมน็ หนื แห้งสนิท และที่ สำคญั ต้องดวู ันท่ีผลิต ไม่ควรเลอื กเมลด็ ธญั พืช ถัว่ ต่างๆท่ีผลิตออกมานานแลว้ เพราะถ่ัวเปน็ แหลง่ ของเชอ้ื รา อย่าง เชอ้ื ราอะฟลาท็อกซนิ เช้ือราอะฟลาท็อก ซิน เกดิ ข้ึนในอาหารที่มคี วามชืน้ สงู โดยเฉพาะถ่ัวลิสง หากรบั ประทานเขา้ ไปบ่อยๆ จะทำให้ไขมนั คัง่ ในตบั และเกดิ การเปล่ยี นแปลงข้ึนกับเซลลข์ องตับ อาจก่อให้เกิดโรคตบั หรือมะเร็งตับได้ จงึ ไม่ควรเลือกถว่ั ลสิ งที่มีสี เหลืองคล้ำ สีดำ มกี ล่นิ หม็นอับ และเกบ็ ไวน้ านๆ 6. การเลือกซื้อข้าวสาร ข้าวสาร ขา้ วเป็นอาหารประจำชาติ คนไทยรับประทานขา้ วทกุ ม้ือ ทุกๆบา้ นจึงมีขา้ วสารเกบ็ ไว้ไม่ใหข้ าด การเลือกซ้ือขา้ วสารท่ดี ีน้ันนอกจากจะ เลือกข้าวตามสายพนั ธท์ุ ี่คณุ ชอบ ไมว่ ่าจะเปน็ ขา้ วหอมมะล ข้าวเสาไห้ ข้าว กล้อง ขา้ วไรซเ์ บอร่ี เป็นต้น คณุ ต้องดขู ้าวสารที่ไม่มีมอดหรอื มดขึ้น ไม่มกี ลิ่น เหม็นอับ หากบรรจุอยู่ในถุงกต็ ้องไม่มีการฉีดขาดหรอื ชำรุดถงึ แมว้ ่าข้าวจะ เปน็ อาหารหลักของคนไทย แต่หากคุณรับประทานข้าวน้อย มสี มาชกิ ใน ครอบครวั ไมม่ าก ก็ไม่ควรซื้อขา้ วสารในปรมิ าณมากๆ มาเก็บไว้ ควรเกบ็ ในปริมาณที่พอเหมาะกบั การบริโภค จะดีท่สี ดุ ปจั จุบันอาหารแหง้ มักถูกบรรจุลงบรรจภุ ณั ฑ์ คณุ จึงสามารถดูวนั เดือนปีทผี่ ลติ ได้ เลอื กอาหารท่ีผลิต ใหมๆ่ อยใู่ นบรรจุภัณฑ์ทส่ี มบรู ณ์ ไม่ฉีกขาดหรือชำรุด หรอื หากต้องซ้ืออาหารท่ีตลาดควรเลือกผูข้ ายทีค่ นุ้ เคย สถานท่จี ัดจำหน่ายต้องสะอาด ไม่มีแมลงวันบินไป-มา การเลอื กซอ้ื เครอื่ งปรุงรส เครื่องปรุงรสอาหาร ได้แก่ สิ่งที่ใช้ในขบวนการปรุงรสอาหาร ให้มีรูปแบบรสชาติ กลิ่นที่ชวน รับประทาน เครื่องปรุงรสอาหารที่ใชป้ ระจำวัน ได้แก่ น้ำปลา น้ำส้มสายชู ซอส ผงชูรส ปัญหาของเครื่องปรุง

รสอาหาร คือ ผู้ปรุง -ประกอบอาหาร ขาดความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับสารเคมีที่ใช้กับอาหารทำให้ มีการนำ สารเคมีที่ห้ามใช้กับอาหารมาใส่อาหารให้กรุบ กรอบ การใช้ ฟอร์มาลีนในอาหารทะเล ผักบางชนิดให้ดูสด สีสนั ดูใหม่คงเดิม เป็นตน้ ฉะนั้น เพื่อให้การใช้เครื่องปรุงรสอาหารเป็นไปอย่างถูกต้องตามวัตถุประสงค์ จึงควรใช้ให้ถูกขนาด ตามชนิดเครื่องปรุงรสอาหาร และใช้เมื่อจำเป็นเท่านั้น หลักการเลือกซื้อเครื่องปรุงรสอาหาร คือ สะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐาน โดยสังเกตจากลักษณะทวั่ ไปของเครื่องปรงุ รสอาหาร - ภาชนะบรรจุต้องสะอาด ควรปดิ สนทิ ในกรณีเป็นภาชนะกระป๋อง ตอ้ งอยู่ในสภาพดี เรียบทัง้ ฝา และกน้ - ฉลาก จะต้องแสดงชอื่ เครอื่ งปรุงรสอาหาร น้ำหนกั สทุ ธ/ิ ปริมาณสุทธิเป็นระบบเมตรกิ - ส่วนประกอบ เครื่องหมายมาตรฐาน ( อย./หรอื มอก.)ชื่อ และทตี่ งั้ สถานท่ผี ลิต วนั เวลาที่ผลติ / หมดอายุ - สภาพของอาหาร ต้องสะอาด ไมม่ ตี ะกอน มีลักษณะเปน็ เนอ้ื เดียวกนั หรือลักษณะตามธรรมชาติ ของเครื่องปรุงรสอาหาร เชน่ น้ำปลา ซีอวิ้ ตอ้ งใส ไม่มีตะกอน *ข้อควรจำทส่ี ำคัญ คือ หา้ มซื้อเคร่ืองปรงุ รสอาหารทแี่ บ่งขาย ไมม่ ีฉลาก และเคร่อื งหมายเลขทะเบียนตำรับ อาหาร เพราะอาจจะเปน็ อนั ตรายจากสารเคมีทีใ่ ชใ้ นการปน ปลอมได้ 1. กะปิ การเลอื กซ้ือกะปิ มีวิธีการสงั เกตงา่ ยๆ ใหด้ จู ากสีของกะปิ ควร เปน็ สีแดงออกมว่ ง แต่ไม่คล้ำมาก เนื้อเหนยี วละเอยี ด สมำ่ เสมอ ถา้ มองดใู กลๆ้ จะ เหน็ ว่ามีตาของเคยปะปนอยู่ในเนอื้ กะปดิ ว้ ย และไม่ควรซอ้ื กะปทิ ี่เนือ้ หยาบเปน็ เมด็ เพราะวา่ อาจจะผสมเนื้อปลา หรือกากปลาลงไป ดงั นั้นเราควรเลือกซื้อจากรา้ นที่ ไวใ้ จได้ หรือสังเกตจากรา้ นที่มีลูกค้าประจำมากๆ เพราะมีความเป็นไปไดส้ ูงวา่ จะได้ กะปิคุณภาพดี 2. เกลอื แม้ “เกลอื ” จะเป็นเคร่อื งปรุงส่วนเล็ก ๆ ประจำครวั ท่ดี ูเหมือน จะไม่สำคญั เท่าไหรก่ บั การปรุงอาหาร แตจ่ ริงๆแล้วกลับเป็นส่วนผสมที่มี ความสำคญั ไมน่ อ้ ยไปกวา่ เครอื่ งปรุงอนื่ ๆ เลย ซึ่งส่งิ สำคัญนนั้ อยู่ทกี่ ารเลือกใช้ หรอื เลือกซอื้ เกลือให้เหมาะสมกบั ประเภทอาหารที่เราจะปรงุ ซงึ่ ถ้าหากได้รู้วา่ เกลือแต่ละชนิดน้ันมีความแตกต่างกันอยา่ งไร เพยี งเท่านี้กท็ ำใหร้ สชาตอิ าหารใน จานของคุณเปลี่ยนแปลงได้แลว้ เกลือโครเชอร์ วิธกี ารใช้ : เกลอื โครเชอร์สามารถเขา้ กันได้ดีกบั อาหารทุกเมนู เพราะเกลอื โครเชอรจ์ ะละลายตัว ภายในระยะเวลาสัน้ ๆ และรสสมั ผสั กย็ ังกระจายตัวเข้าไปในอาหารไดร้ วดเร็วดว้ ย ดังนนั้ เชฟส่วนใหญจ่ ึง มกั จะใชเ้ กลอื ชนดิ น้ีโรยลงบนอาหารต่าง ๆ ท้ังคาวและหวาน ตง้ั แต่เนื้อหมูอบ รวมไปถงึ ขนมกนิ เลน่ อย่างเช่น ปอ็ ปคอร์น หัวหอมทอด และอีกมากมาย เกลอื ทะเล เกลือสมทุ ร หรือดอกผลกึ เกลือทะเล วิธีการใช้ : หากอยากให้ไดร้ สสมั ผัสของเกลือทะเลอยา่ งเต็มที่ ควรเตมิ ลงไปในอาหารทีเ่ พ่งิ ทำเสรจ็ ใหม่ ๆ ซ่ึงสามารถนำไปใช้ได้กับอาหารทุกชนดิ ไมว่ า่ จะเป็นสลัดผกั ทเี่ ต็มไปด้วยผักสดมากมาย ไปจนถงึ เมนู สุดหรู อยา่ งเช่น เน้อื ปลาแซลมอนแล่เป็นชิน้ เปน็ ต้น เกลอื หยาบ วธิ กี ารใช้ : เกลือหยาบเหมาะสำหรบั นำไปใช้กบั การนง่ึ ผัก หรอื สตั ว์น้ำที่มเี ปลือก อย่างเช่น หอย ปู

หรือกุ้ง เทคนคิ ในการทำก็คือ เทเกลอื ลงบนฝ่ามอื เล็กน้อยแลว้ ขยีเ้ กลือให้ทว่ั ท้ังฝา่ มือและนิ้ว แลว้ ถูฝ่ามอื กับ ของสดที่คณุ จะนำไปทำอาหาร จากนน้ั ความเค็มของเกลือกจ็ ะค่อย ๆ ซมึ ซับเข้าไปในอาหารทีล่ ะน้อย เกลือเฟลอร์ เดอ เซล วิธีการใช้ : เกลือชนิดพเิ ศษท่ีใช้แค่เพียงหยบิ มือเดียวก็สามารถเปล่ียนรสชาติให้กลมกล่อมได้แลว้ ซง่ึ เหมาะอย่างย่ิงสำหรบั ใช้ในการโรยบนหนา้ อาหารก่อนนำมารับประทาน หรือจะใช้เป็นเครอื่ งจม้ิ สำหรบั รบั ประทานกบั ผักหรอื ผลไม้ อย่างเชน่ มะเขือเทศสไลด์ และเมลอนก็ได้ เกลือเม็ด วธิ กี ารใช้ : เกลือเมด็ เปน็ เกลอื ท่ไี มน่ ยิ มนำไปใช้ในการทำอาหารเทา่ ไหร่นัก แตจ่ ะนำไปใชใ้ นการกกั เก็บรกั ษาอุณหภมู ิของนำ้ แขง็ ท่ีใชแ้ ชเ่ ยน็ ไอศกรีมกันมากกว่า นอกจากน้ีคุณยังสามารถนำเกลอื หนิ ไปใช้ในการ ละลายน้ำแขง็ บนทางเทา้ หรอื บนถนนในช่วงหนา้ หนาวได้ด้วย เกลอื สำหรบั หมักดอง วธิ ีการใช้ : เกลือชนดิ นจี้ ะถูกนำไปใชใ้ นการหมกั ดองเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเกลือดองนี้มีข้อควรระวัง เล็กน้อย คือ ควรใช้ในปริมาณนอ้ ย เนื่องจากเกลือชนิดน้ีมคี วามเข้มขน้ สูงกว่าเกลือท่ัวไป 3. ซีอิ๊ว ซอี วิ๊ เปน็ เคร่ืองปรงุ ท่ีทำจากถั่วเหลือง ในประเทศจีนมกี ารทำซอี ว๊ิ ใชเ้ ปน็ เครือ่ งปรุงรสมานานนับร้อยปี ซีอิว๊ มอี ยู่ 3 ชนิด คือ 1. ซีอวิ๊ ขาว เปน็ ของเหลวใส สีนำ้ ตาลเหลอื งหรือจ้ำตาลเข้ม กลนิ่ หอม รส เคม็ 2. ซีอว๊ิ ดำ เปน็ ของเหลว สนี ้ำตาลเข้มหรอื เกือบดำ ค่อนข้างเข้ม มีกลน่ิ หอ น้อย และมีกล่ินของนำ้ ตาลเคี่ยวไมผ้ สมเล็กนอ้ ย มีรสเคม็ 3. ซอี ว๊ิ ดำหวานเหนยี ว เปน็ ของเหลวทีข่ ้นมากแตย่ ังเทจากขวดได้ มสี ีเกือบ ดำ กล่นิ น้ำตาลไหม้และรสหวานจดั 4. น้ำซอสปรุงรส ซอสปรุงรส คือ ผลิตภัณฑ์ของเหลวที่มีการย่อยโปรตีน ของถั่วเหลืองด้วยการหมักหรือกรรมวิธีอื่นๆที่เหมาะสมโดยจะแต่งรสหรือสี หรือไม่ก็ได้ โดยซอสปรุงรสน้ันจะทำมาจากถ่ัวเหลือง กากถ่ัวเหลือง และมีการใช้ กรดเข้มข้นสกัดเอาโปรตีนจากถั่วเหลืองออกมา สำหรับการผลิตซอสปรุงรส นั้น จะมีการใช้กรดสกัดเอาโปรตีนอออกมา หลังจากนั้นจะปรับลดสภาพ ความเป็นกรดลงด้วยการเติมด่าง นิยมใส่โซเดียมไฮดรอกไซด์(โซดาไฟ)ลงไป และในกระบวนการผลิตนั้นจะได้เกลือ โปรตีนและน้ำตาลออกมา และวันนี้เราจะมาพูดถึงวิธีการเลือกซื้อ ซอสปรุงรสกัน เพื่อให้คุณเลือกซื้อได้อย่างถูกต้อง 5. นำ้ ตาล ประเภทของน้ำตาลท่ีใช้ประกอบอาหารแบง่ ออกเป็น นำ้ ตาลทีเ่ ป็นผลกึ : ทำจากออ้ ย ได้แก่ น้ำตาลทราย แดง ขาว น้ำตาลกอ้ น นำ้ ตาลท่ไี ม่ตกผลึก : ทำจากดอกตาล น้ำมะพรา้ ว ดอกมะพรา้ ว ได้แก่นำ้ ตาลตโนด นำ้ ตาลมะพร้าว

การเลอื กซ้ือ 1. พจิ ารณาความสะอาด ไม่มีเศษผง หรอื แป้งปนมากบั น้ำตาล 2. เลอื กซอ้ื น้ำตาลให้ตรงกับชนิดของอาาหารหรือขนมท่ตี ้องการประกอบ การประกอบอาหาร 1. ใชเ้ ป็นส่วนผสมในขนมอบตา่ งๆ รวมทง้ั ขนมหวานของไทย ได้แก่ ขนมเคก้ คุกกี้ ข้าวเหนยี วแดง กะยาสารท ขนมเทยี น ถ่วั เขียวตม้ นำ้ ตาล สังขยา หมอ้ แกง 2. ใชป้ รงุ รสในอาหารคาวชนิดต่างๆ การเกบ็ รกั ษา นำ้ ตาลโตนด นำ้ ตาลมะพร้าว เก็บไว้ในภาชนะปิดสนิท ป้องกันฝุ่นแมลง นำ้ ตาลทรายดดู ความชื้นได้ง่าย ควรเกบ็ ไว้ในภาชนะทีม่ ฝี าปิดและไมใ่ ห้อากาศเข้า วางไว้ทห่ี า่ งจาก ความร้อน 6. มะขามเปยี ก การเลือกซ้ือ มะขามเปยี กใหมม่ ีสีน้ำตาลอมแดง เมอ่ื นำไปปรงุ อาหารทำให้อาหารมสี สี วย หากมสี ีคล้ำแสดงวา่ เป็นมะขามเปยี กเก่า เมอื่ นำไปปรุงอาหาร ทำใหอ้ าหารมสี คี ล้ำ 7. นำ้ ปลา จดั เปน็ เคร่ืองปรงุ รสยอดนิยมของอาหารไทย ซึ่งนำ้ ปลามีทั้งนำ้ ปลาดี และไม่ดี การเลอื กน้ำปลาแท้หรือไม่แท้ ก็มีหลักในการพจิ ารณาเลือกซ้อื และ ตอ้ งมีความรอู้ ยบู่ ้างพอสมควร นำ้ ปลาราคาถูก ส่วนมากใสย่ ากนั บดู (โซเดียมเบนโซเอต) และสี นอกจากนั้นยงั มสี งิ่ ให้ความหวาน ซง่ึ เปน็ ภยั ตอ่ ผู้บริโภค การเลอื กซอ้ื นำ้ ปลา มี หลักในการสงั เกตดงั นี้ 1. ราคานำ้ ปลาดมี คี ุณภาพมาตรฐาน น้ำปลาที่ดคี วรมรี าคาพอสมควร ไมถ่ ูกเกินไปจนผิด สังเกต 2. น้ำปลาท่ีไม่ไดท้ ำจากการหมกั ปลา จะเสยี งา่ ยและเปน็ ฟอง ดังนน้ั นำ้ ปลาเหลา่ นี้จะไม่ วางขายโดยทัว่ ไป จะเรขายตามรถกระบะ ในราคาทีถ่ ูกมากเปน็ พิเศษ 3. นำ้ ปลาทีแ่ ท้ ต้องมีสี กลิ่น รสของนำ้ ปลาอยา่ งแท้จริง และต้องใสสะอาด ไม่มตี ะกอน และ สง่ิ สกปรกปะปนอยู่ ซึง่ อาจเป็นอันตรายต่อผบู้ รโิ ภค 4. ฉลากนำ้ ปลา ควรเลือกซื้อที่ผลติ และยีห่ ้อนา่ เช่ือถือ นำ้ ปลาชน้ั เลวจะมีแต่ยี่ห้อ ไมบ่ อกช่ือ โรงงานท่ผี ลิต และสถานท่ตี ้ังของโรงงานทีผ่ ลติ หรือฉลากมักอาจฉีกขาด สกปรก ดังเชน่ น้ำปลาเรข่ าย เพราะ พวกคนขายรับขวดเก่าเอาไปลา้ ง แล้วกรอกน้ำปลาใส่ใหม่ โดยใชฉ้ ลากเกา่ 5. นำ้ ปลาแท้ คอื น้ำปลาทีไ่ ด้จากการหมักปลากบั เกลอื หรือกากปลาท่เี หลือจากการหมัก คร้ังแรก กับน้ำเกลือตามกรรมวธิ ที ำน้ำปลาเทา่ น้ัน

ผลไม้ มีวิตามนิ และแรธ่ าตทุ ่ีเปน็ ประโยชน์ต่อร่างกาย ทงั้ ยังมรี สชาตทิ ี่แตกตา่ งกนั ออกไปตามแตล่ ะ ชนิด ซง่ึ ลักษณะของผลไม้ที่ดแี ละควรเลือกซ้ือ คอื ผิวต้องสดใหม่ไมเ่ ห่ียว ข้วั ก้านเขียวและแข็ง และ เปลือกหรือผวิ ไมม่ ีรอยชำ้ หรือแมลงเจาะกิน ผลไมแ้ ตล่ ะชนิดท่คี วรเลือกซ้ือคือ ส้มเขียวหวาน ควรเลือกผวิ บาง ผลกลมแป้น มะละกอ ควรเลอื กท่ีแกจ่ ัด ผิวสีเขียวอมแสด ผิวนวล สีของเน้อื มะละกอขึ้นอยู่กับพนั ธุ์ มงั คดุ ควรเลือกที่แกจ่ ดั ผิวสเี ขม้ เปลอื กไม่แข็ง ข้ัวสด กลีบเลย้ี งเผยอ กลว้ ยนำ้ ว้า ควรเลือกเปลือกบาง ไมม่ ีเหล่ียม สกุ คาเครือ รสชาตดิ ีกวา่ กลว้ ยบ่มให้สกุ วิธีการเลือกซื้อกล้วยนำ้ วา้ 1. เลอื กกลว้ ยท่ีจำนวน 14-16 ลูกต่อหวีเพราะเป็นกลว้ ยที่อยู่กลางเครือ เพราะจะมี วติ ามินและสารอาหารจะสมบรู ณท์ ี่สุด ท้ังเซอโรโตนนี ทีช่ ว่ ยในเร่ืองคลายเครียดกนิ แล้วหลบั สบาย และทปิ โต แฟนที่เปน็ สารตั้งต้นของการหลังสารเอ็นโดฟีนสารเพ่ิมความสขุ สว่ นจำนวนลูกตอ่ หวีมากกวา่ 16 แลว้ สารอาหารจะน้อยลงแลว้ 2. เลือกกล้วยดบิ ทแี่ กแ่ ตย่ ังคงสเี ขียวเอาไว้ ควรเลอื กกลว้ ยทม่ี ีสีเขียวแต่ไมใ่ ช่กลว้ ยอ่อนนะคะ กล้วยทแี่ ก่แล้วประมาณ 70-80% หรอื กลว้ ยท่ปี ลูกมาแลว้ ไมต่ ำ่ กวา่ 100 วนั 3. เลอื กกลว้ ยทผี่ ลมีลกั ษณะกลมเกล้ยี ง มีเหล่ียมน้อยท่ีสุด เพราะกล้วยทเ่ี หลย่ี ม หายแล้วคือกล้วยแก่ ละมุด ควรเลือกแกจ่ ดั ผิวสนี ้ำตาลอมแดง ลางสาด ควรเลอื กผวิ สคี ่อนข้างเหลอื งทองและมีสีแสดแกมขม้ี ด เนื้อภายในมี ลกั ษณะใสจนเหลอื งเล็กน้อย

นอ้ ยหนา่ ผลใหญ่ แกจ่ ดั ๆ ตาหา่ งมาก ๆ ผวิ มีสีเขยี วออ่ น อยากไดล้ ูกที่มขี นาดก่ี เม็ดให้ดูใตล้ ูกจะมีปุ่มเรยี งเป็นวงกลมตามขนาดของเมล็ดภายใน มะม่วง ควรเลือกที่แกจ่ ัด ผวิ นวล การดสู บี างทีไม่แน่นอน เพราะปัจจุบันใช้วิธี บม่ ด้วยแก๊ส ทำให้มีผวิ เหลอื งสวย ทงั้ ๆทบี่ างทียงั ไม่แกจ่ ัด สม้ โอทแี่ ก่ กน้ จะหลบุ เข้าไป เปลือกจะมีสีเขยี วอมเหลือง ส้มโอท่ีอ่อน กน้ จะราบเรยี บเสมอกนั เปลือกเปน็ สีเขียว สม้ โอที่ดมี ีคณุ ภาพควรสังเกตลักษณะ - เปลอื กบาง สีเขียวอ่อน หรือ สีเขยี วนวลจนถงึ สีเหลอื งนวล - มีน้ำหนกั เหมาะสมกับขนาดผล - เมอื่ กดทฐ่ี านส้มโอแล้วนมิ่ หรอื บมุ๋ ลงไป แสดงว่าเปน็ \"ส้มโอลมื ตน้ ” หรือ สม้ โอท่ผี ่านการเก็บเอามาผึ่งไว้นานวนั เพอื่ ใหเ้ ปลอื กเหีย่ วจะได้คลายความ เปรีย้ วจดั จะรบั ประทานได้ทันที รสไมฝ่ าด หวานอร่อย เงาะ เลอื กผวิ สดขนยงั ไม่แหง้ เนือ้ ไม่แห้ง เนอื้ ในหนา แกะลอ่ นจากเมลด็ รสหวาน ผลโตเสมอกัน สับปะรด ควรเลอื กผวิ สีค่อนไปทางเหลอื ง ตาห่างไมถ่ ี่ กลบี เลยี้ งทีป่ ดิ ตาเปดิ แสดงว่าแก่ จดั วิธีการเลือกซ้ือสบั ปะรดใหเ้ น้อื หวานฉำ่ ไมต่ ิดเปรี้ยวจนบาดล้ิน ใหใ้ ชน้ ้วิ ดีดเปลือก นอกของผลทต่ี ้องการเพ่ือฟังเสียงสะทอ้ นภายใน หากดดี แลว้ ได้ยินเสยี งดังแปะๆ แสดงว่าใช้ได้ ผลนีจ้ ะมี รสชาติดีและมกี ล่นิ หอม เน้อื ฉำ่ ชุ่มลิน้ กำลงั ดี แต่ถา้ ใชน้ ว้ิ ดีดแลว้ ได้ยนิ เเปน็ เสยี งโป๊กๆ ก็ไม่ควรเลอื กซ้ือมา บรโิ ภคเพราะอาจเปน็ สับปะรดทสี่ กุ แก่ไมเ่ ตม็ ที่ หรือ อาจติดเปรีย้ วยังยังไม่พรอ้ มทานสด กระท้อน ควรเลอื กผลงาม นุ่ม ผวิ บางสีเหลอื งผมน้ำตาลมีนวลและมีกระเล็กน้อย บรเิ วณรอบขว้ั ภายในมีลักษณะเนอ้ื หนานุ่ม เมลด็ เป็นปุยสีขาว แตงโม ให้ใช้นิว้ ดีดบรเิ วณเปลอื ก ถา้ เสยี งฟังดูหนักแน่นเป็นอนั ใช้ได้ ถ้าเสยี งดูกลวง ๆ แสดงว่าเน้อื นอ้ ย และท่ีสำคญั เปลอื กต้องไม่มีรอยชำ้ มสี สี วย นอกจากน้ีใหส้ งั เกตความ สดใหมไ่ ดจ้ ากขว้ั แตงโม ถา้ ข้ัวยงั ดสู ดแสดงว่าเพิง่ ตดั มาไม่นาน แตถ่ ้าขัว้ แห้งเป็นสีน้ำตาล แสดงว่าตัดมาหลายวนั แล้ว

การเตรยี มผกั ผลไม้ - การลา้ ง ในการลา้ งผัก ผลไม้ นอกจากจะลา้ งเพื่อใหโ้ คลน ดิน ฝุน่ ละอองท่ีติดมากับผักผลไม้หลุดไป แล้ว ยังต้องล้างให้ปลอดภัยจากสารพิษตกค้าง ก่อนลงมือล้างผัก ใช้มีดตัดส่วนที่เน่า ช้ำ หรือส่วนที่กินไม่ได้ ทิ้งไป ผักประเภทใบใหใช้มีดคมๆ ตัดโคลนให้หลุดออกเป็นใบ หรือลอกออกเป็นกาบๆ เช่น กะหล่ำปลี แล้ว ลา้ งให้สะอาดภายใต้น้ำไหล ถา้ จะบรโิ ภคสด ใหล้ ้างแชใ่ นนำ้ ละลายด่างทับทิมหรือน้ำผสมน้ำยาล้างผักหรือน้ำ ผสมน้ำโซดาเพ่ือลดสารเคมีตกค้าง ผักหรอื ผลไม้ที่ตอ้ งปอกเปลือกตอ้ งลา้ งก่อนปอกเปลือก - การปอก วิธีนี้ให้นำผักหรอื ผลไม้มาปอกเปลือกหรือการลอกใบผักชั้นนอกออก เช่น กะหล่ำปลี ฯลฯ โดยให้ลอกเปลือกหรือกาบด้านนอกออกทิ้งสัก 2-3 ใบ เพราะสารพิษส่วนใหญ่จะสะสมตกค้างบริเวณเปลือก ดา้ นนอกหรอื บริเวณกาบ แล้วจงึ นำไปแชใ่ นนำ้ สะอาดอีกประมาณ 5-10 นาที หลงั จากนน้ั กล็ า้ งดว้ ยน้ำสะอาด อีกครั้งหนง่ึ วิธนี ้จี ะชว่ ยลดปริมาณของสารพษิ ตกค้างได้ - การห่ันสบั หรือซอย การเตรยี มเพือ่ หุงต้ม ให้ห่นั ผัก ผลไม้ ให้เปน็ ชิ้นขนาดเดยี วกนั เพอื่ สุกพร้อมกัน และใช้มีดคมเพื่อป้องกันไมใ่ ห้เซลล์ผัก ผลไม้ช้ำ สูญเสียคุณค่าทางอาหาร ผักผลไม้ ที่มีแทนนิน(tan nine) สูง เช่น มะเขือ หัวปลี หยวกกล้วย ควรใช้มีดทำด้วยเหล็กปลอดสนิมและแช่ผัก ผลไม้ ที่ปอกหรือหั่นแล้วในน้ำ ผสมน้ำมะนาวหรอื นำ้ ส้มสายชูเจอื จาง เพ่อื ปอ้ งกนั การเกิดปฏกิ ริ ยิ ากบั อากาศเป็นสดี ำไม่น่าบริโภค การเตรียมอาหารแหง้ ก่อนนำ้ อาหารแหง้ แตล่ ะชนดิ มาใช้ ควรพจิ ารณาสิ่งเหล่านี้ คือ - ภาชนะบรรจุไม่ควรมี รา มด แมลง - อาหารควรมสี ี กล่ิน และลักษณะเปน็ ปกติ - ไม่มีสิ่งแปลกปลอม เช่น ดินทราย หรือสิ่งอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาหารนั้นรวมอยู่ด้วย ควรปฏิบัติตามวิธีที่ อธิบายไว้บนฉลาก ถ้าไมเ่ ป็นไปตามนน้ั ไม่ควรบริโภค - ถ้าฉลากบอกอายกุ ารเก็บและการใช้ไมค่ วรจะใช้ใหเ้ กินกำหนดน้นั การเตรียมอาหารกระปอ๋ ง การนำอาหารมาบรรจุในกระปอ๋ ง ใชเ้ ทคโนโลยกี ารให้ความร้อนเพื่อทำลาย เช้อื จลุ นิ ทรีย์ ทำใหอ้ าหารที่อยใู่ นกระป๋องปลอดเชอื้ จุลนิ ทรยี ์ซึ่งเปน็ สาเหตขุ องการ เนา่ เสีย ชว่ ยให้มอี ายุการเก็บนานเปน็ ปที ่ีอุณหภูมิห้อง โดยสามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุม่ ใหญๆ่ คือ 1.กลมุ่ อาหารที่เป็นกรด (acid foods) คืออาหารทมี่ ีคา่ พีเอชต่ำกวา่ 4.5 ส่วนมากเป็นผลไมก้ ระป๋อง เชน่ สบั ปะรด ส้ม หรือผกั ที่มีรสเปร้ียว เชน่ มะเขอื เทศ กระเจยี๊ บแดง เปน็ ต้น 2.กลุม่ อาหารทเ่ี ปน็ กรดต่ำ (Low acid foods) คืออาหารทมี่ ีค่าพเี อชสูงกว่า 4.5 โดยสว่ นมากจะเปน็ อาหาร กระป๋องจำพวกเน้อื สตั ว์ และผักตา่ งๆ เช่น เน้อื หมู ปลา ข้าวโพดฝกั อ่อน และหน่อไมฝ้ รัง่ เป็นต้น การเลือกซือ้ เลือกบรโิ ภคอาหารกระป๋องใหป้ ลอดภัย 1. ดลู กั ษณะกระป๋อง ไม่บบุ บ้ี หรอื โป่งพอง ตะเข็บหรือรอยต่อต้องเรยี บร้อยและแน่นหนา กระป๋อง ต้องไม่เป็นสนิม 2. เมอ่ื กดนิ้วลงไปบนฝากระป๋องแล้วยบุ ลงไป หรือสว่ นอ่นื ของฝากระปอ๋ งหรอื พองออก ไมค่ วรเลอื ก อาหารกระป๋องน้ัน

3. เม่อื เขย่ากระป๋อง ถ้ามเี สยี งกระฉอกของนำ้ กับอากาศ ไมค่ วรซอื้ หรือบรโิ ภคอาหารในกระป๋องนั้น 4. เมื่อเปดิ กระป๋อง ถ้ามอี ากาศ (ลม) พุ่งออกมาจากภายในกระป๋อง หา้ มบรโิ ภคอาหารซึ่งบรรจุใน กระป๋อง 5. เมื่อเปิดกระป๋องแลว้ ได้กล่ินบูดเนา่ หรือกล่ินผิดปกติ ห้ามบรโิ ภคอาหารในกระป๋องนัน้ เด็ดขาด 6. เมอ่ื เทอาหารออกจากกระป๋องแล้ว ถ้าภายในกระป๋องมีสนิมรอยถลอก หรือรอยด่างของโลหะ ไม่ ควรบริโภคอาหารในกระป๋องนั้นเช่นเดียวกัน 7. ควรดูฉลากและสังเกตวันเดอื นปที ี่ผลิตอาหารกระปอ๋ งน้ัน ไมค่ วรซ้ือหรือบรโิ ภคอาหารกระป๋องทีเ่ ก็บ ไว้นาน เพราะทำให้คุณค่าทางอาหารลดลง การเกบ็ รักษาอาหารกระป๋องทีถ่ ูกต้อง 1. เปดิ แลว้ และเหลอื ควรถ่ายใสภ่ าชนะอื่นๆ เชน่ ภาชนะแกว้ มฝี าปิดแลว้ เก็บไว้ในตูเ้ ย็น 2. ไม่ควรเกบ็ อาหารกระป๋องไว้นาน ควรเลอื กบริโภคอาหารกระป๋องทยี่ ังอยใู่ นสภาพดี สังเกต วัน เดอื น ปี ที่หมดอายดุ ว้ ย 3. ควรเกบ็ อาหารกระป๋องไว้ในท่แี ห้งและเยน็ แต่ไมอ่ ับชื้นและไมถ่ กู แสงแดด ป้องกนั การเสียและ เปน็ สนมิ เรว็ กวา่ ปกติ 4. เก็บอาหารกระป๋องไว้ในที่สงู มากกว่า 60 เซนตเิ มตร เพอ่ื ป้องกันความสกปรกจากพื้นและสัตว์ นำโรค ฉ…ฉลาก ต้องอ่านฉลากก่อนซอื้ ทุกคร้ัง โดยฉลากต้องแสดงประเภทอาหารเลขสารบบอาหารอยใู่ นกรอบ เครอ่ื งหมาย อย. ชื่อและที่ต้งั สถานทผ่ี ลิต ปรมิ าตรหรือน้ำหนักสุทธิ และท่ีสำคัญควรสังเกตวนั เดือนปีที่ผลิต หรือหมดอายุ ฉ…ฉลาด ในการซ้ือ เชน่ สังเกตท่ีฉลากโภชนาการ หรือสูตรส่วนประกอบ ซ่งึ ไม่ควรมนี ำ้ ตาล ไขมัน หรือเกลือ สูงเกินไป ฉ…เฉลียว โดยต้องตรวจสอบสภาพของผลติ ภณั ฑ์ รวมทง้ั ความสะอาดทกุ ครัง้ โดยภาชนะจะตอ้ งไม่ยบุ ไม่เป็น สนมิ และไมม่ ีรอยรั่ว การเตรยี มอาหารแชแ่ ข็ง - ควรเลือกซ้ืออาหารแช่แข็งท่ีอยู่ในบรรจุภัณฑ์สภาพดี ไม่มีรอยเปื้อน ไม่มีรอยรั่ว หรือฉีกขาด - เม่ือซื้ออาหารแช่แข็งมาควรรีบเก็บในช่องฟรีซอย่างรวดเร็ว อย่าปล่อยให้ละลาย เพราะน้ำใน อาหารจะไหลออกมา ทำให้อาหารเสียรสชาติและคุณค่าทางโภชนาการไปพร้อมกับน้ำได้ - ไม่ควรนำอาหารท่ีละลายแล้วมาแช่แข็งซ้ำ เพราะจะทำให้แบคทีเรียเจริญเติบโต เกิดการสูญเสีย น้ำและสารอาหาร - อาหารที่ผ่านการละลายแล้ว เม่ือนำมาปรุงให้สุกจะสามารถนำกลับไปแช่ไว้ในตู้เย็นได้นาน 3 – 4 วัน ยกเว้นอาหารทะเล

วิธีละลายอาหารแช่แข็ง 1. ละลายในตู้เย็น เหมาะกับอาหารทะเลแช่แข็ง วิธีทำ : การนำอาหารแช่แข็งจากช่องฟรีซมาแช่ไว้ในช่องธรรมดา หรือตู้เย็น ช่องปกติประมาณ 1-2 องศาเซลเซียส ประมาณ 1 วัน เพ่ือให้เน้ือสัตว์เเช่ เเข็งค่อย ๆ ละลาย สลายเกล็ดน้ำแข็งท่ีเกาะตัวอยู่ตามเส้นใยของเนื้ออย่าง ช้า ๆ วิธีการนี้อาจทำให้ค่อนข้างเสียเวลามากสักหน่อย แต่ก็ทำให้เนื้อสัตว์ไม่ เสียรสชาติและรสสัมผัสที่ดีไป Tip ควรตรวจเช็คสภาพของเน้ือว่าสมบูรณ์ดีหรือไม่ ก่อนนำไปปรุงอาหารทุกคร้ัง 2 ละลายในน้ำเย็น เหมาะกับอาหารทะเลสดแช่แข็ง อย่าง ปลา กุ้ง ปลาหมึก เเละเน้ือ ปู วิธีทำ : ให้นำเนื้อสัตว์แช่แข็งใส่ในถุงพลาสติกท่ีปิดสนิท แล้วแช่ใน น้ำเย็นให้จมลงไปท้ังช้ิน ประมาณ 2 – 3 ช่ัวโมง หรือจับดูพอน่ิม ซึ่ง น้ำเย็นจะช่วยถ่ายเทความร้อนจากอากาศด้านนอก และรักษา อุณหภูมิของผิวหน้าของอาหารไม่ให้สูงเกินไป จึงสามารถรักษารสชาติ และเนื้อสัมผัสของอาหารทะเลไว้ได้ ดี Tip ควรเปลี่ยนน้ำทุก ๆ 30 นาที จะทำให้ละลายได้เร็วข้ึน แต่ไม่ควรแช่ในน้ำอุ่น เพราะจะทำให้อาหาร ละลายเร็วเกินไป และเสียรสชาติได้ 3.ละลายในไมโครเวฟ เหมาะกับเนื้อสัตว์แช่แข็งพร้อมปรุง วิธีทำ : นำเนื้อสัตว์ออกจากถุงบรรจุภัณฑ์ แล้วใส่ในไมโครเวฟ ตั้งปุ่มดีฟ รอสต์ (Defrost-ละลายน้ำแข็ง) หรือกำลังไฟต่ำปานกลางประมาณ 160 – 200 วัตต์ แล้วคอยเปิดเช็คบ่อย ๆ ทุกประมาณ 45 วินาที จนครบประมาณ 2 – 4 นาที หรือจนกว่าเน้ือสัตว์จะเริ่มคืนตัว เเล้วให้นำไปปรุงอาหารทันที เเต่การทำลายวิธีน้ีจะทำให้เน้ือสัตว์ได้รับความร้อนเป็นจุด ๆ ไม่สม่ำเสมอเท่ากัน ท้ังยังเสียความชุ่มชื้น และอาจเสียรสชาติได้เล็กน้อย 4.ละลายด้วยก้นหม้อสเตนเลส หรือหม้อทองเหลือง เหมาะกับเน้ือสัตว์แช่แข็งพร้อมปรุง วิธีทำ : นำเนื้อแช่แข็งมาห่อด้วยฟิล์มถนอมอาหาร แล้วนำไปวางไว้ ระหว่างก้นหม้อสองใบ จากน้ันทิ้งไว้ประมาณ 10 – 15 นาที หม้อสเตน เลส หรือหม้อทองเหลืองจะค่อย ๆ ดูดความเย็น ทำให้เนื้อสัตว์ละลาย

และนิ่มลง Tip ให้นำหม้อไปอังไฟให้พออุ่น ๆ จะช่วยให้เนื้อสัตว์ละลายได้ง่ายขึ้น 5.ปรุงสุกทันที เหมาะกับอาหารแช่แข็งพร้อมรับประทาน และอาหารทะเลแช่แข็ง วิธีทำ : สำหรับอาหารแช่แข็งพร้อมรับประทาน เช่น ถุงทอง กุ้งห่อปอเปี๊ยะ เฟรนฟรายส์ นัตเก็ต สามารถนำออกจากช่องแช่เเข็ง วางทิ้งไว้สักพัก แล้ว นำไปทอดในน้ำมันได้ทันที ส่วนอาหารทะเลแช่แข็ง สามารถนำไปปรุงสุกได้ ทันที ด้วยกรรมวิธีการน่ึง อบ หรือต้ม

หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 3 เรื่องการเกบ็ รักษาและการเตรียมวตั ถุดิบ วัตถุดิบที่ใช้ในการประกอบอาหารว่าง จะต้องมีคุณสมบัติดี สะอาด ปลอดภัยและได้มาตรฐาน ตลอดเวลา จนกว่าจะถึงเวลาลงมือประกอบและปรุงแต่งเป็นอาหารนานาชนิดที่มีรสชาติอร่อยและถูก สขุ าภบิ าล ดังนั้นหลังจากเลือกซื้อเครื่องปรุงต่างๆ ไดต้ ามความต้องการแล้ว ก็จะตอ้ งรจู้ ักเก็บรักษาเคร่ืองปรุง นั้นอย่างถูกต้อง นัทบตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้รับจากผู้จำหน่ายจนกระทั่งนำมาปรุงและเสิร์ฟ ซึ่งนอกจากจะ นับเป็นส่วนที่สำคัญในการควบคุมคุณภาพของเครื่องปรุงแล้ว ยังมีความสำคัญในด้านควบคุมราคาทุน ทั้งนี้ เพราะเปน็ การปอ้ งกนั เคร่อื งปรงุ ไม่ให้เสีย ในการเก็บรักษาเครื่องปรุงที่ยังไม่ใช้ปรุงอาหารทันทีนั้น มีข้อควรปฏิบัติในการเก็บรักษาเครื่องปรุง แตล่ ะชนิด ดังนี้ การเกบ็ รักษาเน้ือสตั ว์ สตั วบ์ ก เน้ือหมู เนื้อวัว • เนอ้ื สด หากเป็นช้นิ ส่วนห่ันขนาดใหญ่ เชน่ สเต๊ก จะเก็บในชอ่ ง ปกตไิ ด้ไม่เกนิ ห้าวนั แตถ่ ้าเก็บในช่องฟรีซจะเกบ็ ได้ 6-12 เดอื น แต่ถ้าสับจะ เกบ็ ในช่องฟรีซไดไ้ มเ่ กิน 6 เดือน ส่วนกลุม่ เครื่องในต่างๆ จะเกบ็ ได้ไมเ่ กิน สามเดือน • เนื้อแปรรูป เช่น ไส้กรอก เบคอน แฮมหรือเนื้อรมควัน หากเก็บ ในช่องปกติจะได้ประมาณหนึ่งสัปดาห์ แต่หากเก็บในช่องฟรีซจะได้เพียง หนงึ่ เดอื นเท่านนั้ • เนื้อสตั วแ์ บบกระปอ๋ ง หากยงั ไมเ่ ปดิ จะเก็บภายนอกตู้ได้ตามที่ระบุข้างบรรจภุ ณั ฑ์ หากเปิด แล้วจะเกบ็ ในชอ่ งฟรีซไดป้ ระมาณหน่ึงเดอื น • เมนูเนื้อสัตว์ที่รับประทานเหลือแล้วเก็บ ถ้าเก็บในช่องปกติจะเก็บได้ไม่เกินสามวัน แต่ถ้า ฟรีซเอาไว้จะเกบ็ ได้ประมาณสองเดือน เนื้อไก่ • เน้อื ไกส่ ด ทั้งแบบช้นิ สว่ นและท้ังตวั หากเก็บในต้เู ย็นช่องปกติ จะเกบ็ ได้ไม่ เกนิ 2 วนั • เน้อื ไกส่ ด หากเก็บในช่องฟรซี เน้อื ไก่แบบช้ินจะเก็บได้นานถึง 9 เดอื น แต่ ถา้ เปน็ แบบท้ังตวั จะเก็บไดน้ านถึงหนง่ึ ปี • เนอ้ื ไก่ท่ีปรงุ แล้ว หากทอด ผดั หรอื ปรงุ สกุ แบบต่าง ๆ จะเก็บในช่องธรรมดา ได้ไม่เกินสี่วัน แต่หากเก็บในช่องฟรีซจะเก็บไว้อุ่นกินได้ถึง 4 เดือน โดยก่อนเก็บให้แบ่งเอาไว้เปน็ ส่วนๆ ที่พอ สำหรับรับประทานแต่ละคร้งั เพือ่ ทยอยนำออกมาอนุ่ รับประทานได้หมดพอดี สำหรบั นกั เกต็ ไก่จะเก็บได้เพียง สองถึงสามเดอื นเท่านัน้

ไข่ • ไขท่ กุ ชนิดไม่ควรฟรีซเพื่อเก็บรกั ษา แตห่ ากแยกเป็นไขข่ าวเหลว และ ไขแ่ ดงออก มาแลว้ อยูใ่ นบรรจุภณั ฑส์ ำเร็จ เชน่ ไข่ขาวแกลลอน UHT สามารถฟรีซไวไ้ ดห้ นึ่งปี การฟรซี แล้วละลายควรใช้ให้หมดในแตล่ ะครั้ง หากฟรีซ-ละลายหลายครั้งคุณสมบตั ิ จะไม่เหมือนเดมิ • ไข่สดพร้อมเปลือก หากเกบ็ ในตเู้ ยน็ จะเก็บไดน้ านประมาณสามสปั ดาห์ โดยควรเก็บเอาไว้ ในตำแหนง่ ท่ีอุณหภมู ิคงที่ ไม่เกบ็ ทป่ี ระตตู เู้ ย็นเพราะอุณหภูมเิ ปลย่ี นแปลงข้ึนลงงา่ ยจากการเปดิ ปดิ ประตูตเู้ ยน็ • ไขท่ ีป่ รุงเปน็ เมนูแล้วหรอื เหลือจากการรับประทาน ไม่ควรฟรซี เกบ็ ในช่องปกติได้ไมเ่ กิน หน่ึงสปั ดาห์ เนื้อปลา • เนื้อปลาสดทุกชนิด เก็บในช่องปกติได้ไม่เกินสองวนั แตห่ ากเกบ็ ในช่องฟรซี แลว้ ปลาท่ีเป็นเนอื้ ลว้ น ไขมันตำ่ จะฟรีซไดน้ านถึงหกเดอื น ในขณะท่ปี ลามีไขมันสูง เช่น แซลมอน ดุก ชอ่ น สวาย จะเกบ็ ได้ไมเ่ กนิ สามเดือน • หากเป็นเมนปู ลาที่ปรงุ สุกแล้ว จะเก็บในชอ่ งธรรมดาไดส้ ูงสุดไมเ่ กนิ สว่ี นั แต่ หากฟรีซเอาไวก้ นิ นานๆ จะเก็บได้ถงึ 4-6 เดือน • อาหารทะเลชนิดอ่ืน เชน่ หอย ปู หมกึ ก้งุ หากฟรีซจะเก็บได้นานถึง 3-6 เดอื น แต่หากไว้ ในชอ่ งเยน็ จะไมเ่ กนิ สองวัน • อาหารกระป๋องท่ีเปน็ เน้อื ทะเล หากเปดิ กระป๋องแล้วเก็บในฟรซี จะไดน้ านสองเดือน ควร ถา่ ยออกจากกระป๋องก่อนฟรีซ แต่หากยังไม่เปิด และเกบ็ ในท่สี ะอาด ไม่มีความช้นื สะสม จะเกบ็ ได้นาน 3-5 ปี หรอื ตามท่รี ะบุบนกระป๋อง เพิม่ เติม - เนือ้ ปลาและเนื้อหอย เน้อื ทแ่ี ล่ และแกะเรยี บร้อยแล้ว สามารถรกั ษาได้ดว้ ยการแช่ในน้ำ แล้วเก็บ แชแ่ ขง็ ในอุณหภูมิ -17 องศาเซลเซยี สลงไป จะชว่ ยถนอมใหเ้ กบ็ ไดน้ าน 4-6 เดือน เม่ือต้องการนำมาทำ ประกอบอาหารใหใ้ สใ่ นชอ่ งเย็นธรรมดากอ่ น 1 คืน เพื่อทำการละลายน้ำแข็ง - ปลาหมึก ทาความสาดใหเ้ รียบรอ้ ยโดยสามารถหั่น หรือจะเกบ็ ท้ังตวั เลยก็ได้ แต่ทางทีด่ ีควรแบง่ เป็น สดั ส่วน ตามปริมาณทเ่ี ราต้องการใช้งานในแตล่ ะครง้ั แลว้ จึงเก็บแชใ่ นช่องแช่แข็ง - หอยเปลือกแขง็ สดๆ มีชวี ิต สามารถเก็บในตู้เยน็ ปกติ ในอุณหภมู ิ 1-3 องศาเซลเซยี ส ไดร้ าว 7-10 วนั - หอยนางรม และหอยแมลงภู่สดๆ สามารถเกบ็ ไวใ้ นถงุ พลาสติกปดิ สนทิ แล้วเกบ็ ในชอ่ งแขง็ ไดน้ าน สงู สุด 10 วนั การเตรยี มวตั ถดุ ิบกอ่ นการประกอบอาหาร การจัดเตรียมส่วนประกอบต่าง ๆของอาหารไว้ให้พร้อมก่อนการประกอบอาหาร ทำให้สะดวก ประหยดั เวลาในการประกอบอาหาร และอาหารได้รบั การ ปรุงอย่างถูกวิธี การเตรยี มอาหารประเภทเน้อื สตั ว์ แบง่ ออกเป็น 3 ประเภท - สตั วบ์ ก เชน่ เนื้อหมู เน้ือวัว

วิธีการเตรียม ล้างเนื้อหมูด้วยน้ำเปล่าโดยให้น้ำไหลผ่านให้สะอาด จากนั้นนำไปหั่นเป็นชิ้น เล็ก ๆ เพื่อนำไปทำอาหาร เช่น ถ้านำไปทำอาหารประเภท ปิง้ ผัด หรือยำ ควรหั่นเนอื้ หมใู หเ้ ป็นชนิ้ เลก็ แต่ถ้า นำมาทำอาหารประเภททอด แกง หรือตม้ ควรหัน่ เนอ้ื หมูให้เปน็ ชิ้นใหญ่ - สัตวป์ กี เช่น ไก่ เปด็ ห่าน วิธีการเตรียม ทำความสะอาดเนื้อไก่ เนื้อเป็ด เนื้อห่าน ด้วยน้ำสะอาดก่อนตัดแยกชิ้นส่วน เชน่ อก น่อง สะโพก ปีก ปีกบน - สตั ว์นำ้ เชน่ ปลา หอย กุ้ง ปลาหมึก วิธีการเตรียม - ปลาทม่ี ีเกล็ด ขอดเกล็ดปลาก่อนล้างนำ้ แล้วจึงควกั เหงือกและไส้ออก - ปลาไมม่ เี กล็ด นำปลาล้างนำ้ แล้วหาวัสดทุ มี่ ีผิวสากๆขดู เมือกออกจากนนั้ ควักเหงือกและไส้ - หอย ล้างหอยด้วยน้ำสะอาดใช้แปรงขัดหรือล้างน้ำหลายๆครัง้ หอยบางประเภทต้องนำมา แช่น้ำเกลือทงิ้ ไว้ เพอื่ ใหห้ อยคายโคลนออกมา - กงุ้ ลา้ งดว้ ยนำ้ สะอาด ตดั หัวกงุ้ ปอกเปลือกให้เหลือสว่ นหาง ใช้มีดผ่าหลังก้งุ ดึงเส้นดำออก การเกบ็ รกั ษาผัก ผลไม้ ปัญหาสารเคมีตกคา้ งในผลิตผลทางการเกษตรเปน็ ที่น่ากังวลในปัจจุบนั หากเราไม่ได้เลือกซื้อผัก ผลไมท้ ่ีมีมาตรฐานรองรับว่าเป็นออแกนกิ หรือเป็นผักอนามยั ต้องไมค่ วรมองขา้ มเรื่องการลา้ งผกั ผลไม้ กอ่ นกินด้วยวิธี ดังน้ี 1.เตรยี มผักก่อนล้าง ผกั หัว : ปอกเปลือกท่ไี ม่กินออก ผกั ราก : ปอกเปลือกตดั สว่ นท่ไี ม่กนิ ออก ผักใบ : แกะกลีบ/คล่ใี บ/ตัดราก ผลไม้ : ลา้ งทัง้ ผล 2.วิธีล้างผัก 1.แชผ่ กั ในนำ้ หรือนำ้ เกลอื 2.นำใสต่ ะกร้าหรือตะแกรง เปิดนำ้ ไหลผา่ น 3.ใช้มือช่วยถใู บประมาณ 2 นาที 3.วธิ ลี ้างผลไม้ 1.ผลไมเ้ ปลอื กบาง เชน่ ชมพู่ อง่นุ ให้แชน่ ้ำแลว้ ลา้ งท้ังผล 2.ผลไม้เปลอื กแขง็ เชน่ สม้ แอปเปิ้ล ฝรงั่ ใหแ้ ช่นำ้ แลว้ ใช้มือถบู รเิ วณผิว 4.หากตอ้ งลา้ งผักหรือผลไม้จำนวนมาก 1.ลา้ งดว้ ยสารโซเดียมไบคาร์บอเนต (ผงฟ)ู ½ ช้อนโต๊ะ ผสมนำ้ 10 ลิตร 2.ลา้ งดว้ ยน้ำสม้ สายชู 1 ชอ้ นโต๊ะ ผสมน้ำ 4 ลิตร แชท่ ิง้ ไว้ 10-15 นาที แลว้ ล้างผกั ผลไม้อีกครั้ง ดว้ ยน้ำสะอาด

เกบ็ รักษาผัก ผลไม้ ให้ถูกวิธี ยืดอายุ รกั ษาความสดได้นาน 1. หวั หอม วิธีเก็บหัวหอม หรือพืชในตระกูลหัวหอม เช่น หอมแดง หอมหวั ใหญ่ และกระเทียม ไวใ้ หน้ านท่สี ุด คอื ใสล่ งไปในถุงน่อง เพราะจะช่วยกรองอากาศให้เข้าถึงหัวหอมอย่างพอดี ไม่มาก เกินไป จึงคงความสดใหม่ได้ยาวนาน หลังจากนั้นก็มัดปมที่ขั้ว แยกแต่ละหัว เสร็จแล้วค่อยนำไปไวใ้ นท่ีที่เย็น แห้ง และมืด โดย ทางที่ดีควรใช้ถุงน่องคู่ใหม่ เพื่อช่วยให้ไม่มีกลิ่น นอกจากนี้ควร เก็บแยกจากผัก ผลไม้ หรืออาหารชนดิ อนื่ เนอ่ื งจากกลิ่นหัวหอม คอ่ นข้างแรงมาก 2. แครอต การเก็บรักษาแครอตไว้ให้นานที่สุด ขั้นตอนแรกให้ตัดก้านใบ สีเขียวที่ติดมากับแครอตออก เนื่องจากใบสามารถดูดสารอาหารออก จากแครอตได้ จากนั้นแช่แครอตลงในกล่องที่มีน้ำ เพราะแครอตเป็น พืชที่ชอบความชื้น แล้วก็ห่อด้วยพลาสติกแรป และนำไปเก็บไว้ใน ตู้เย็น หรือถ้าหากใครไม่อยากแช่ไว้ในน้ำจะห่อด้วยพลาสติกกัน กระแทก แลว้ นำไปเกบ็ ไวใ้ นต้เู ย็นแทนก็ได้เหมือนกัน 3. หนอ่ ไม้ฝรง่ั ถึงแมว้ ่าหน่อไมฝ้ ร่ังจะเก็บไวไ้ ด้ไมน่ านเทา่ ไร แต่ถ้าหากเราหอ่ กา้ นดว้ ยทิชชูเปยี ก หรือแช่ก้านลงในถ้วยทมี่ นี ้ำ คลา้ ยกบั เวลาปักแจกัน พรอ้ มคลุมดว้ ยถงุ พลาสติกด้านบน กจ็ ะช่วยถนอมและเกบ็ รกั ษาผกั ชนิดนี้ให้สดนานข้ึน 4. ผักกาดหอม สำหรับการเก็บรักษาผักกาดหอม ให้ใส่ไว้ในถ้วยเปล่า คลุม ด้วยกระดาษทิชชู จากนั้นห่อด้วยพลาสติกแรป เพราะกระดาษทิชชู จะช่วยดูดซับความชื้น ซึ่งทำให้ใบเปียกและเปลี่ยนสี ทว่าที่สำคัญ ตอ้ งอย่าลืมเปลี่ยนกระดาษทชิ ชบู ่อย ๆ หรือถา้ หากใครคดิ ว่าไอเดียนี้ ยุ่งยากเกินไป ก็สามารถใช้วิธีโรยเกลือลงบนใบเล็กน้อย รับรองว่า ช่วยดูดความชื้นสว่ นเกินออกมาได้เหมอื นกัน

5. บรอกโคลแี ละกะหลำ่ ดอก เพียงแค่เก็บบรอกโคลี่และกะหล่ำดอกไว้ในตู้เย็น โดยใส่ใน กล่องแยกต่างหาก ไมป่ ะปนกับผกั ผลไม้ หรอื อาหารชนดิ อน่ื ก็ช่วยยืด อายุใหก้ บั ผักแสนอรอ่ ยสองชนดิ นี้ไดแ้ ลว้ 6. ผกั สลดั และผักสมุนไพร วิธีเก็บผักสลัดและผักสมุนไพรให้สดนานขึ้น ให้ใส่ไว้ในถุงที่มี อากาศเล็กน้อย พร้อมปิดซีลอย่างแน่นหนา หรือเด็ดใบที่เน่าแล้ว ออกไปก่อน ห่อด้วยกระดาษทิชชูอเนกประสงค์ แล้วใสไ่ ว้ในถุงซิปลอ็ ก จึงค่อยนำไปแชต่ ู้เยน็ ก็ช่วยใหเ้ กบ็ ไว้ไดน้ านขนึ้ เหมอื นกนั 7. ผักใบเขียว ผักใบเขียว เช่น ผักกาด ผักโขม และผักคะน้า จะเก็บไว้ได้นานขึ้น ถ้าหากล้างให้สะอาด แล้วเช็ดด้วยกระดาษทิชชูหรือผ้าเช็ดจาน ก่อนนำไปใส่ กล่องหรือถุงพลาสติกและแช่เก็บไว้ในตู้เย็น ซึ่งนอกเหนือจากจะช่วยยืดอายุ การใช้งานแล้ว ยงั ทำให้ใชง้ านสะดวกขึ้นอกี ด้วย 8. มนั ฝรงั่ มันฝรั่งให้เก็บไว้กับแอปเปิล เพราะแอปเปิลผลิตก๊าซเอทิลีน ที่สามารถทำให้มันฝรั่งคงอยู่ได้ยาวนานมากถึง 8 สัปดาห์ หรือ 2 เดอื น แถมยังช่วยลดปญั หามันฝร่ังแตกหนอ่ หรอื รากงอกได้อกี ด้วย 9. มะเขือเทศ วิธีรักษามะเขือเทศให้อยู่ได้นานและรสชาติดีที่สุด ให้เก็บไว้นอก ตู้เย็นแต่ต้องไกลจากแสงแดดและความร้อน อาจจะเป็นบนเคาน์เตอร์หรือ ช้ันวางของกไ็ ด้ เนอ่ื งจากมะเขือเทศไมช่ อบอากาศหนาว ถ้าหากฝนื นำไปแช่ ไว้ จะทำให้เสยี รสชาติได้ นอกจากนถ้ี า้ เกดิ มะเขือเทศถูกตดั ก้านออกไปแล้ว ใหว้ างควำ่ เอาฝงั่ หัวลงด้านล่าง เพราะวา่ ส่วนนี้เป็นจุดท่ีสุกชา้ สดุ นั่นเอง

10. อะโวคาโด ถา้ สังเกตดี ๆ จะเห็นวา่ อะโวคาโดที่ผ่าคร่งึ แล้วสามารถ ได้นานขน้ึ เปลี่ยนสีได้ไวมาก เนื่องจากผลไม้ชนิดนี้มีเอนไซม์ที่จะผลิตสี น้ำตาลเมื่อสัมผัสกับออกซิเจน ฉะนั้นถ้าหากใครอยากยืดอายุ จะนำไปแช่ในตู้เย็นเฉย ๆ ไม่ได้ ต้องบีบน้ำมะนาวใส่ก่อน เพ่ือ ช่วยให้กรดซิตริกเข้าไปป้องกันการเปลี่ยนสี หรือไม่เช่นนั้น อาจจะใช้หัวหอมช่วยก็ได้ เพราะผักชนิดนี้มีก๊าซที่ช่วยยับยั้ง การเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่นในอะโวคาโด จึงส่งผลให้เก็บไว้กิน 11. ข้าวโพด การเก็บข้าวโพดที่ดีที่สุด คือ แช่ไว้ในตู้เย็นโดยไม่ต้อง เลาะแกลบหรือแกะเปลือกออกใด ๆ ทั้งสิ้น ส่วนข้าวโพดที่เลาะ แกลบหรือเปลือกออกแล้ว ให้นำไปต้มประมาณ 10 นาที แล้วนำ ออกมาแช่น้ำเย็นประมาณ 30 วินาที แล้วตั้งพักไว้ก่อน รอ จนกระท่ังไมม่ ีนำ้ หลงเหลืออยู่ จากน้ันก็ใส่ถุงหรือกล่องแล้วนำเข้า ช่องฟรีซได้เลย แต่สำหรับใครที่อยากแกะข้าวโพดเป็นเมล็ดให้ใช้ งานง่าย ให้ใช้วิธีต้มข้าวโพดประมาณ 2 นาที จากนั้นนำมาแช่น้ำ เย็น และตากไวจ้ นนำ้ ระเหยออกหมด เสรจ็ แลว้ กแ็ กะเมล็ดได้ตามใจชอบ แล้วนำเขา้ ช่องฟรีซไดต้ ามปกตเิ ลย 12. ส้ม ปกติแล้วผลไม้ตระกูลส้มอย่าง ส้ม ส้มโอ มะนาว สามารถ เก็บได้นานเป็นสัปดาห์ เพียงแค่วางไว้ในที่เย็นและห่างจากแสงแดด แต่ถ้าหากใครอยากยืดอายุให้สดใหม่ยาวนานขึ้นอีกละก็ ขอแนะนำ ให้แยกเก็บไว้ในกล่องใส่ผลไม้ในตู้เย็น หรือใส่ไว้ในถุงตาข่ายหรือ ถงุ พลาสตกิ ที่มรี พู รนุ แล้วนำไปแช่ต้เู ย็นแทน 13. กล้วย วิธีเก็บกล้วยให้อยู่ได้นาน ๆ กินได้ยาว ๆ ขั้นตอนแรกเริ่มด้วย การเด็ดกล้วยแต่ละลูกออกจากหวี จากนั้นหุ้มขั้วกล้วยด้วยพลาสติกแรป เท่านี้ก็จะช่วยหยุดการแพร่กระจายก๊าซเอทิลีน ตัวการสำคัญที่ทำให้ กลว้ ยเนา่ เสยี ไดแ้ ลว้ ทว่าถา้ หากพบวา่ กลว้ ยสกุ เกินไป ใหป้ อกเปลือกและ เกบ็ ไว้ในชอ่ งฟรซี เพอื่ นำมาทำเคร่ืองดืม่ สมูทตแี้ ทนได้

14. เลมอน เพื่อให้ใช้เลมอนหรือมะนาวได้อย่างคุม้ ค่าและยาวนาน ให้เรา เจาะมะนาวด้วยส้อมหรือไม้แหลมแทนหั่นครึ่ง แค่นี้ก็จะช่วยให้เราบีบ น้ำเลมอนหรือมะนาวได้ตามต้องการ โดยไม่ทำให้แห้งหมดทั้งลูก และ เกบ็ ไว้ใชภ้ ายหลงั ได้แล้ว 15. เบอรร์ ี ผลไม้ตระกูลเบอร์รี เช่น สตรอว์เบอร์รี ราสป์เบอร์รี บลูเบอร์รี แบล็กเบอร์รี ให้ล้างด้วยน้ำเปล่าผสมน้ำส้มสายชู ในอัตรา 3:1 ส่วน เพื่อให้สารในน้ำส้มสายชูช่วยทำลายเชื้อรา ในผลไม้ จนช่วยยืดอายุการเก็บออกไปได้อีกเป็นอาทิตย์ หลังจากนั้นก็ล้างน้ำออกอีกที พร้อมกับเช็ดให้แห้ง ใส่ไว้ใน กล่อง และเก็บในตเู้ ย็น 16. แอปเปิล ลูกแอปเปิลสามารถวางไว้นอกตู้เย็นได้นานเป็นสัปดาห์ แต่ถ้าหากเก็บไว้ในตู้เย็นจะอยู่ได้นานมากกว่าสัปดาห์ ส่วน สำหรับแอปเปิลที่หั่นแล้วกินไม่หมด ให้นำไปแช่ในน้ำเกลือเพื่อ ช่วยป้องกันการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น โดยให้ผสมน้ำเย็น ประมาณ 1 ลิตร เข้ากับเกลือไม่เกิน ½ ช้อนชา หลังจากนั้น ปลอ่ ยไว้ 5 นาที ค่อยนำมาทำให้แห้ง ใส่ในถงุ สุญญากาศ และแช่ ไวใ้ นตู้เย็น กจ็ ะช่วยยืดอายุใหเ้ ก็บไวไ้ ด้นานขน้ึ 17. สบั ปะรด เพียงแค่ตัดใบด้านบนออกแล้วคว่ำหัวลง ก็จะช่วยยืดอายุ ให้กับสับปะรดได้ง่าย ๆ แล้ว เพราะว่าการคว่ำหัวช่วยให้น้ำตาล กระจายตัวจากด้านบนลงมาสูด่ า้ นล่างได้อย่างทว่ั ถึงนั่นเอง

18. เชอรร์ ีและอง่นุ เชอรร์ ีและองุ่น อีกหนง่ึ ผลไมโ้ ปรดของคนส่วนใหญ่ ให้ เกบ็ ไวใ้ นถุงหรือกล่องพลาสติก แลว้ แชใ่ นตู้เย็นแบบไม่ต้องลา้ ง ทำความสะอาดอยา่ งเด็ดขาด จนกว่าจะถงึ เวลากนิ

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 เรือ่ ง การชง่ั การตวง วตั ถดุ บิ การชงั่ ตวงอาหาร การชั่งตวงอาหารเป็นสิ่งสำคัญ และจำเป็นมากในการประกอบอาหารเพื่อให้ผลของอาหารที่ปรุง ออกมาแนน่ อนและใกลเ้ คียงกนั ทุกคร้งั ซึง่ อนกจากจะต้องใชว้ ธิ ีประกอบอาหารเหมอื นกนั ทุกครงั้ แล้ว ยงั ตอ้ งมี การควบคุมเครื่องปรุงทั้งด้านคุณภาพและสัดส่วน อาหารจึงออกมามีลักษณะดี รสอร่อย และคุณภาพ เหมอื นกนั ทกุ คร้ัง ส่วนผสมของเครอ่ื งปรุงที่ผดิ พลาดไป ไมว่ ่าจะขาดหรอื เกิน จะทำใหไ้ มไ่ ด้อาหารรสดี ฉะน้ัน ทุกคร้ังทที ำอาหารควรมีสัดส่วนของเครื่องปรุงที่แน่นอน โดยใช้เคร่อื งชั่งตวงที่ได้มาตรฐานและต้องช่ังตวงโดย ถกู วิธดี ว้ ย การชงั่ อาหาร การชั่งจะต้องมีเครื่องชั่งที่เชื่อถือได้ ถ้าเครื่องชั่งไม่แน่นอนพอ การตวงอาจจะได้ผลดีกวา่ โดยเฉพาะ อย่างยง่ิ ของจำนวนน้อยๆ เช่น เกลือ โซดา ผงฟู และเครือ่ งเทศต่างๆ แต่การชงั่ อาจจะใช้ชั่งท่ีใช้มากๆ ชั่งเป็น กรัมหรอื กิโลกรัม โดยใชเ้ ครอ่ื งชงั่ ทีม่ ีความละเอยี ดขนาด 500 กรัม หรอื 1,000 กรัม เปน็ เคร่ืองชั่งชนิดที่มีเข็ม ชีบ้ อกอัตราเพราะดงู า่ ยและสะดวกดี วิธีการชั่งอาหารทำได้ดังนี้ คือ วางเครื่องชั่งบนโต๊ะที่มีลักษณะแบนราบให้เข็มชี้ที่เลขศูนย์ แล้วนำ อาหารท่ีจะชัง่ วางบนจานเครื่องชั่ง อ่านน้ำหนักตามเข็มชโ้ี ดยมีข้อปฏบิ ตั ดิ ังน้ี 1. ควรช่ังอาหารก่อนล้าง เพ่อื ทจี่ ะไดน้ ้ำหนกั ท่ีแทจ้ รงิ ไมร่ วมน้ำหนักน้ำไว้ด้วย ยกเวน้ ผกั ท่ีควรตัดส่วน ท่ีเนา่ เสยี หรือสว่ นท่ีไม่ตอ้ งการ เชน่ ราก ก่อนช่งั 2. ถ้าอาหารท่ีจะช่ังเพงิ่ เอาออกจากตู้นำ้ แขง็ และมนี ้ำแขง็ เกาะอยู่ คสรนำอาหารใสก่ ระชอนให้สะเด็ด น้ำก่อนทจ่ี ะข้ึนชงั่ 3. ถา้ เปน็ อาหารที่จะต้องใส่ภาชนะ ให้ชัง่ ภาชนะนัน้ เสียกอ่ น และควรใชภ้ าชนะน้ำหนักเบา เชน่ จาน พลาสตกิ จานกระดาษ กระดาษเทียนไข เมื่อชัง่ แล้วลบน้ำหนกั ภาชนะนั้นออก จะได้น้ำหนกั อาหารท่ตี อ้ งการ

การตวง 1. ถ้วยตวงของเหลว มีชนิดที่เป็นแก้วและพลาสติก มีเลขบอก 1 ถ้วย, 3/4 ถ้วย, 2/3 ถ้วย, 1/3 ถ้วย และ 1/4 ถ้วย ใช้สำหรับตวงของเหลว เช่น น้ำ น้ำมัน น้ำปลา ฯลฯ ใช้สำหรับตวงวัตถุดิบที่เป็น ของเหลวในปริมาณมากๆ เช่น น้ำ นม หรือน้ำมันพืชตามท้องตลาด มีทั้งแบบแก้วและแบบพลาสติก (ถ้าใช้ตวงของร้อนแนะนำเป็นถ้วยแก้ว) ขนาดมีตั้งแต่เล็กๆ 1 ถ้วย จนถึงไซส์ใหญ่ 1 ลิตรเลยก็มี หน่วย ในการวัดมีหลากหลาย สังเกตได้จากข้างถ้วยมีทั้งหน่วยถ้วยตวง (CUP) / มิลลิลิตร (ml.) /ออนซ์ (Oz.) และไพนต์ (Pint) 2. ถ้วยตวงของแห้ง มีชนิดที่เป็น อะลูมิเนียม เหล็กไร้สนิมและพลาสติก ใช้สำหรับตวงของแห้ง เช่น แปง้ เนย นำ้ ตาล ฯลฯ ใช้สำหรบั ตวงวตั ถดุ บิ ทเ่ี ป็นของแห้งในปริมาณมากๆ เชน่ แป้ง น้ำตาลในการทำเบ เกอรี หรือตวงผัก เนื้อสัตว์ ธัญพืชต่างๆ ในอาหารคาว ถ้วยตวงของแหง้ หนึ่งพวงจะมีด้วยกันต้ังแต่ 4-6 ขนาด โดยตามทอ้ งตลาดจะมเี พียงแค่ 4 ขนาด คอื 1 ถว้ ย ½ ถ้วย 1/3 ถ้วย และ¼ ถว้ ย


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook