Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ppt-ส่งเสริมสุขภาพทารก-Henderson

ppt-ส่งเสริมสุขภาพทารก-Henderson

Published by jidapa.p, 2021-11-01 08:01:29

Description: ppt-ส่งเสริมสุขภาพทารก-Henderson

Search

Read the Text Version

การพยาบาลเพอ่ื สรา้ งเสรมิ สขุ ภาพเดก็ วยั ทารก

เน้อื หา: ความตอ้ งการและการพยาบาลเดก็ ทารก ตามแนวคดิ ทฤษฎขี องเวอรจ์ เิ นยี แฮนเดอรส์ นั ดา้ นร่างกายของเดก็ ทารก 1. การหายใจเองไดอ้ ยา่ งปกติ (N1) 2. การไดร้ บั นา้ นมมารดา อาหารตามวยั และนา้ อยา่ งเพียงพอ (N2) 3. การขบั ถา่ ยไดอ้ ยา่ งอยา่ งปกติ (N3) 4. การเคลื่อนไหวรา่ งกาย การใชก้ ลา้ มเน้ือมดั ใหญแ่ ละกลา้ มเน้ือมดั เล็ก (N4) 5. การนอนหลบั และพกั ผอ่ นไดอ้ ยา่ งเพียงพอ (N5) 6. การเลอื กสวมใสเ่ ส้อื ผา้ ทเี่ หมาะสม (N6) 7. การรกั ษาอุณหภูมิรา่ งกายใหป้ กติ เลือกเส้อื ผา้ และปรบั สภาพแวดลอ้ มไดเ้ หมาะสม (N7) 8. การรกั ษารา่ งกายใหส้ ะอาดและสุขวทิ ยาสว่ นบุคคล N(8) 9. หลกี เลยี่ งภาวะอนั ตรายจากสงิ่ แวดลอ้ มและการทาใหผ้ อู้ น่ื ไดร้ บั บาดเจบ็ (N9)

ดา้ นจติ ใจ อารมณ์ การสอื่ สารและการเรยี นรู้ 10. การใชภ้ าษาสอื่ ความหมาย การแสดงอารมณค์ วามรูส้ กึ และความตอ้ งการของทารก (N10) 11.การเรยี นรูแ้ ละการพฒั นาการเรียนรูข้ องทารก (N14) ดา้ นจติ วิญญาณและจริยธรรม (Spiritual and Moral) 12. คณุ ธรรมจรยิ ธรรมและจติ วญิ ญาณ (N11) ดา้ นสงั คม (Sociologically Oriented to Occupation and Recreation) 13. การทากจิ กรรมใหป้ ระสบความสาเร็จ (N12) 14. การเลน่ หรอื สนั ทนาการเพ่ือผอ่ นคลายของทารก (N13)

ดา้ นร่างกายของเดก็ ทารก (Physiological Components)

การหายใจเองไดอ้ ยา่ งปกติ (Breath normally) (N1) • อายุ 2 เดอื นแรก  อตั ราการหายใจ 40-60 ครงั้ ตอ่ นาที • อายุ 2 เดอื น - 1 ปี  มีอตั ราการหายใจ 30-50 ครงั้ ตอ่ นาที • การนบั อตั ราการหายใจในทารก - ควรนบั ใหเ้ ต็มเวลาหน่ึงนาที - ไมน่ บั การหายใจขณะทที่ ารกรอ้ งไห้

การหายใจเองไดอ้ ยา่ งปกติ (Breath normally) (N1) (ต่อ) การพยาบาล • จดั ทา่ นอนใหท้ ารกในทา่ ทหี่ ายใจไดส้ ะดวก • การหอ่ ตวั ทารก  ไมร่ ดั แนน่ จนเกนิ ไป หรอื หายใจไมส่ ะดวก • สงั เกตและประเมนิ การหายใจทผ่ี ดิ ปกติ ไดแ้ ก่ หายใจเร็วหอบ หายใจ อกบุม๋ หายใจมเี สยี งวดิ๊ ขณะหายใจออก ภาวะเขยี วสผี ิวและรมิ ฝีปาก คลา้ หากพบอาการผิดปกตเิ หลา่ น้ีควรพาไปพบแพทย์

การไดร้ บั นา้ นมมารดา อาหารตามวยั และนา้ อย่างเพยี งพอ (Eat and drink adequately) (N2)

การไดร้ บั นา้ นมมารดา อาหารตามวยั และนา้ อยา่ งเพยี งพอ (Eat and drink adequately) (N2) ความตอ้ งการพลงั งาน - ทารก 6 เดอื นแรก ตอ้ งการพลงั งาน 108 กโิ ลแคลอร/ี กิโลกรมั /วนั - อายุ 6-12 เดอื น ตอ้ งการพลงั งาน 98 กโิ ลแคลอร/ี กิโลกรมั /วนั ตอ้ งการนา้ คอื 100 มลิ ลลิ ติ ร/กิโลกรมั /วนั

การไดร้ บั นา้ นมมารดา อาหารตามวยั และนา้ อยา่ งเพยี งพอ (Eat and drink adequately) (N2) การใหอ้ าหารเสรมิ - เรมิ่ เม่ือทารกอายุเพมิ่ ข้นึ เพอ่ื หลกี เลย่ี งการแพส้ ารอาหาร ดงั น้ี อายุ 6 เดอื น  ควรไดร้ บั 1 ม้ือ  ม้ือแรกควรเป็ นขา้ วบดไข่แดง  เรมิ่ ดว้ ยปรมิ าณ 1-2 ชอ้ นโตะ๊  เมื่อรบั ประทานอาหารเสรมิ แลว้ จงึ ตามดว้ ยนมจนทารกอม่ิ อายุ 9 เดอื น ควรไดร้ บั 2 ม้ือ อายุ 12 เดอื นควรไดร้ บั 3 ม้ือ การใหอ้ าหารเสรมิ ควรมีธาตุเหลก็ เพยี งพอ

การไดร้ บั นา้ นมมารดา อาหารตามวยั และนา้ อย่างเพยี งพอ (Eat and drink adequately) (N2) การพยาบาล • แนะนาใหน้ มแมอ่ ยา่ งตอ่ เน่ือง (แรกเกดิ - 6 เดอื น • ไมใ่ หอ้ าหารอน่ื นอกเหนือจากนม • ใหแ้ มก่ นิ อาหารทมี่ ปี ระโยชนใ์ หเ้ พียงพอและดม่ื นา้ มากๆ • กรณีทใ่ี หก้ นิ นมผสม - อธิบายชนิด-ปรมิ าณทเ่ี หมาะสม การทาความสะอาดขวดนม การจดั ทา่ ในการใหน้ ม อเุ่ รอลม • แนะนาการเรม่ิ อาหารเสริมอายุ 6 เดอื นข้นึ ไป-การจดั สง่ิ แวดลอ้ ม สง่ เสรมิ ลกั ษณะนิสยั การบรโิ ภคอาหารทเี่ หมาะสมสาหรบั ทารก

การขบั ถ่ายไดอ้ ย่างอยา่ งปกติ (Eliminate body wastes) (N3) - จานวนและความถี่ในการขบั ถ่ายใน Infant  จะลดจาก Newborn - บางคนอาจจะไมถ่ า่ ยใน 1-2 วนั ถือวา่ ปกตถิ า้ ยงั ดสู ุขสบาย สดชน่ื - อายุ 1-6 เดอื น ปัสสาวะ 9-12 ครง้ั /วนั อจุ จาระ1-2 ครง้ั ตอ่ วนั - อายุ 6-12 เดอื น ปัสสาวะ 6-10 ครงั้ /วนั - อุจาระปรมิ าณเพิ่ม จานวนครงั้ ลด

การขบั ถ่ายไดอ้ ย่างอยา่ งปกติ (Eliminate body wastes) (N3) การพยาบาล • 6 เดอื นแรก – จะถ่ายสะดวก • อายุ 6 เดอื นข้นึ ไป ทารกจะเรมิ่ สอื่ สารใหท้ ราบได้ - ป้ องกนั ภาวะทอ้ งผกู - ดูแลใหอ้ าหารเสริมมีผกั -ผลไม้ - ดแู ลใหด้ ม่ื นา้ / นมอยา่ งเพียงพอ • ไมค่ วรสวนทวารหนกั เพ่ือชว่ ยลดภาวะทอ้ งผกู ทบ่ี อ่ ยเกินไป (ทารกจะไมไ่ ดฝ้ ึกการเบง่ ถ่ายเอง) • ดแู ลความสะอาดหลงั การขบั ถ่ายใหท้ ารก

การเคลอ่ื นไหวร่างกาย การใชก้ ลา้ มเน้อื มดั ใหญแ่ ละกลา้ มเน้อื มดั เลก็ (N4)

การเคลอ่ื นไหวร่างกาย การใชก้ ลา้ มเน้อื มดั ใหญ่และกลา้ มเน้อื มดั เลก็ (N4) ตามหลกั ของพฒั นาการ Cephalocaudal และ proximal distal development • 1 เดอื น นอนควา่ ยกศีรษะไดเ้ ล็กนอ้ ย • 2 เดอื น เมอ่ื จบั นอนควา่ ยกศรี ษะได้ 45 องศา • 3 เดอื น เมือ่ จบั นอนควา่ ยกศีรษะได้ 90 องศา เรม่ิ ชนั คอได้ • 4 เดอื น เมื่อจบั นอนควา่ ยกอกข้ึนได้ คอแข็งขนั คอไดด้ ี ควา้ ของเลน่ • 5 เดอื น เม่ือจบั นงั่ สามารพยุงศีรษะได้ เอ้อื มมอื ควา้ ของได้ • 6 เดอื น ถือของได้ 2 มือ เปลี่ยนมือถือของ เคาะวตั ถ2ุ อนั นง่ั เองไดช้ ว่ั ครู่

การเคลอ่ื นไหวร่างกาย การใชก้ ลา้ มเน้อื มดั ใหญแ่ ละกลา้ มเน้อื มดั เลก็ (N4) (ต่อ) • 7 เดอื น เอ้อื มหยบิ ของทไ่ี กลตวั ใชน้ ้ิวหยบิ ของช้นิ เล็กได้ เกาะยนื ได้ • 8 เดอื น หยบิ ของใสถ่ ว้ ยหรอื กลอ่ งได้ คลาน ลุกนง่ั • 9 เดอื น หยบิ ของดว้ ยน้ิวหวั แมม่ ือและน้ิวอนื่ เหน่ียวเกาะยนื • 10 เดอื น เกาะยืน • 11 เดอื น ตง้ั ไข่ ยนื ไดช้ วั่ ขณะ • 12 เดอื น ดมื่ นา้ จากถว้ ย ยนื ไดน้ านกวา่ 10 วนิ าที และกา้ วเดนิ ได้

การเคลอื่ นไหวร่างกาย การใชก้ ลา้ มเน้อื มดั ใหญแ่ ละกลา้ มเน้อื มดั เลก็ (N4) (ต่อ) การพยาบาล 1 เดอื น – ใหเ้ ดก็ นอนควา่ ยกคางจากทน่ี อนชว่ั ครู่ - กระตนุ้ ใหม้ องตามวตั ถุไดถ้ งึ ก่ึงกลางลาตวั - สง่ เสริมใหเ้ ดก็ ฝึกการเคล่ือนไหว - กระตนุ้ สมั ผสั เชน่ ตกุ๊ ตาผา้ นิ่ม ตกุ๊ ตายางบีบมีเสยี ง ของเลน่ ยางสาหรบั กดั 2 เดอื น เปล่ียนทา่ นอน เป็นอุม้ เด็กใหห้ ลงั พิงกบั อกผู้ - ทอี่ ุม้ ใหเ้ ลน่ ของเลน่ เขยา่ มีเสยี ง อายุ 3-4 เดอื น – จะสนใจสง่ิ แวดลอ้ ม --ใหเ้ ลน่ ของเลน่ เขยา่ มเี สยี ง

การเคลอื่ นไหวร่างกาย การใชก้ ลา้ มเน้อื มดั ใหญแ่ ละกลา้ มเน้อื มดั เลก็ (N4) (ต่อ) การพยาบาล 5-6 เดอื น - ใหน้ อนควา่ ใหพ้ ลกิ ตวั ไปหยบิ ของได้ - มีของเลน่ กระตนุ้ การเอ้อื มหยิบของ - ใหฝ้ ึ กจบั ขวดนมดม่ื เอง - กระตนุ้ ใหเ้ ลน่ ถือบล็อกไมม้ าเคาะกนั 7-9 เดอื น – วางของเลน่ หา่ งจากตวั เด็ก-กระตนุ้ ใหค้ ลานไปหยิบของ - เลน่ ภายในบรเิ วณทป่ี ลอดภยั ควรจดั สภาพแวดลอ้ มใหเ้ หมาะสมกบั การเคลื่อนไหว 8-12 เดอื น -กระตนุ้ ใหฝ้ ึ กกา้ วเดนิ โดยใชข้ องเลน่ จงู มือเดนิ บอ่ ย ๆ - หดั ใหด้ มื่ นา้ จากแกว้ หดั จบั ดนิ สอขีดเขียนเลน่ ดรู ูปภาพและเรยี กชอื่ ใหเ้ ดก็ ฟังให้

การนอนหลบั และพกั ผ่อนไดอ้ ย่างเพยี งพอ (Sleep and rest) (N5)

การนอนหลบั และพกั ผ่อนไดอ้ ยา่ งเพยี งพอ (Sleep and rest) (N5) - ทารกนอนตดิ ตอ่ กนั ไดน้ านข้ึน - อายุ 3 เดอื นข้นึ ไป จะคอ่ ย ๆ พฒั นาความสามารถในการนอนหลบั ไดเ้ อง - นอนหลบั กลางคนื ไดน้ านมากข้นึ - เมอื่ ทารกพลิกตวั ตน่ื หรอื ขยบั ตวั ตน่ื กลางคนื - หลบั ตอ่ ดว้ ยตนเองได้ - ทารกมกั จะนอนหลบั 12-16 ชว่ั โมงตอ่ วนั นอนกลางวนั 2-3 ชวั่ โมงตอ่ วนั

การนอนหลบั และพกั ผ่อนไดอ้ ยา่ งเพยี งพอ (Sleep and rest) (N5) การพยาบาล • นอนหงาย/ นอนตะแคง ไมค่ วรนอนควา่ • ไมอ่ มุ้ กลอ่ มเดก็ จนหลบั คามอื • ไมค่ วรใหด้ ดู นมจากขวด- หลบั ขณะดูดนม • ดูแลใหเ้ ดก็ ไดน้ อนกลางวนั ดว้ ย • เรมิ่ ปรบั การใหน้ มในเวลากลางคนื -ลดลง ขณะตน่ื กลางดกึ -ลดปรมิ าณนม และ ไมน่ านเกนิ ไป • ปรบั สงิ่ แวดลอ้ มของหอ้ งนอน • 6-12 เดอื น ฝึกเขา้ นอนเป็นเวลา ใหท้ ารกใหน้ อนกบั สง่ิ ของที่ ตนเองชอบได้ เชน่ ตกุ๊ ตา หมอนขา้ ง

การเลือกเส้อื ผา้ ทเี่ หมาะสม (N6) การรกั ษาอุณหภูมิรา่ งกายใหป้ กติ และ ปรบั สภาพแวดลอ้ มไดเ้ หมาะสม (N7)

การเลอื กเส้อื ผา้ ที่เหมาะสม (N6) การรกั ษาอณุ หภูมิร่างกายใหป้ กตแิ ละปรบั สภาพแวดลอ้ มไดเ้ หมาะสม (N7) - ผวิ ทารกระคายเคอื งไดง้ า่ ย - การใสเ่ ส้อื ผา้ แลว้ สุขสบาย เชน่ ผา้ ฝ้ ายธรรมชาติ - เหมาะสมกบั สภาพอากาศ ฤดรู อ้ น-ไดท้ ง้ั เส้อื แขนสนั้ /ยาว บางเบา ระบายอากาศไดด้ ี ฤดูหนาว-หนานุ่ม ไมร่ ะคายเคอื งผวิ ใหค้ วามรูส้ กึ อนุ่ สบาย - เหมาะสมกบั พฒั นาการทารก เชน่ 1-2 เดอื นใสเ่ ส้อื แบบป้ าย ผูกดา้ นหนา้ - อณุ หภมู กิ ายปกตขิ องทารก 36.5 –37.4 องศาเซลเซยี ส

การเลอื กเส้อื ผา้ ท่ีเหมาะสม (N6) การรกั ษาอณุ หภมู ิร่างกายใหป้ กติ และปรบั สภาพแวดลอ้ มไดเ้ หมาะสม (N7) การพยาบาล • ไมห่ อ่ ตวั แนน่ จนเกนิ ไป • การเลอื กถุงมือถุงเทา้ • ไมค่ วรใสเ่ ส้อื ผา้ ใหห้ นาหลายชน้ั จนเกินไป • การผกู ปมเส้อื ผา้ ทารกควรผกู ดา้ นหลงั เส้อื แบบป้ ายทบั • สวมใสง่ ่าย รูส้ กึ อบอนุ่ และมน่ั คง • ไมว่ างทารกไวต้ รงตาแหนง่ ทลี่ มสมั ผสั ทารกโดยตรง • รกั ษาอุณหภูมกิ ายเพื่อป้ องกนั ภาวะ Hypothermia, Fever/ Hyperthermia

การรกั ษาร่างกายใหส้ ะอาด และสขุ วิทยาส่วนบคุ คล N(8) ALLPPT.com _ Free PowerPoint Templates, Diagrams and Charts

การรกั ษาร่างกายใหส้ ะอาดและสขุ วิทยาส่วนบคุ คล N(8) - อาบนา้ ทาความสะอาดรา่ งกายทุกวนั วนั ละ 1-2 ครง้ั - การทาความสะอาดสว่ นตา่ ง ๆ  ตา  ใบหู  จมกู ชอ่ งปาก  อวยั วะเพศของทารกเพศหญงิ และชาย/กน้ การตดั เล็บใหท้ ารก - การอาบนา้ ทารกในอา่ งอาบนา้ สาหรบั เด็ก ไมค่ วรปลอ่ ยทารกไวใ้ นอา่ งแตเ่ พียงลาพงั เชน่ เด็กทนี่ ง่ั ไดแ้ ลว้ ทาใหท้ ารกจมนา้ ได้

หลกี เลย่ี งภาวะอนั ตรายจากสง่ิ แวดลอ้ มและการไดร้ บั บาดเจบ็ (N9)

หลกี เลย่ี งภาวะอนั ตรายจากสงิ่ แวดลอ้ มและการไดร้ บั บาดเจบ็ (N9) • ทารกยงั ชว่ ยเหลอื ตนเองไมไ่ ด้ • การปลอ่ ยเดก็ อยตู่ ามลาพงั ในทส่ี งู –เสย่ี งตอ่ การพลดั ตกจากทสี่ ูง • การหยบิ สงิ่ ของเขา้ ปาก กดั แทะ หรอื อมวตั ถุตา่ ง ๆ - ทาใหเ้ กิดอนั ตรายจากสงิ่ ของ - ตดิ คอ - เดก็ เรม่ิ มีการเกาะเหน่ียวโตะ๊ เพ่ือเกาะยนื - สง่ิ ของลว่ งใสร่ า่ งกายเด็ก / เสย่ี งตอ่ นา้ รอ้ นลวก

หลกี เลย่ี งภาวะอนั ตรายจากสง่ิ แวดลอ้ มและการไดร้ บั บาดเจบ็ (N9) การพยาบาล - ระวงั การพลดั ตกจากทส่ี ูง / ลม้ กระแทก ไมป่ ลอ่ ยใหเ้ ดก็ อยตู่ ามลาพงั (พลิกควา่ หงายไดค้ ลอ่ ง คบื คลาน เกาะเหน่ียวโตะ๊ ยนื เกาะเดนิ ) - เลือกของเลน่ ทเ่ี หมาะสม ไมค่ วรมีขนาดเล็กเกินไป ของมีคม - สาลกั อาหาร/ ขนม /ของเลน่ เขา้ ไปในทางเดนิ หายใจ - ไมค่ วรมีหมอนหรอื ตุก๊ ตาขนาดใหญบ่ นทน่ี อน – กดทบั ใบหนา้ เด็ก • ชอ่ งซรี่ าวเตยี งหา่ งไมค่ วรเกนิ 6 ซม

หลกี เลย่ี งภาวะอนั ตรายจากสง่ิ แวดลอ้ มและการไดร้ บั บาดเจบ็ (N9) • สงั เกตลกั ษณะเฉพาะตวั ลูก • หา้ มจบั เดก็ เขยา่ • การโดยสารรถยนตอ์ ยา่ งปลอดภยั -นงั่ ดา้ นหลงั และหนั หนา้ ไปทางดา้ นหลงั รถ - อยา่ ท้งิ เดก็ ไวใ้ นรถตามลาพงั • จดั สงิ่ แวดลอ้ มใหป้ ลอดภยั ไดแ้ ก่ ควรเก็บสายไฟ กานา้ รอ้ น ฝาปิดปลกั๊ ไฟ • การสรา้ งเสรมิ ภูมคิ มุ้ กนั โรค

ดา้ นจติ ใจ อารมณ์ การสอ่ื สาร และการเรยี นรู้

การใชภ้ าษาสอื่ สาร การแสดงอารมณค์ วามรสู้ กึ และความตอ้ งการของทารก (N10) การเรยี นรู้ และการพฒั นาการเรยี นรขู้ องทารก (N14) 1ด. มองจอ้ งหนา้ ตอบสนองตอ่ เสยี งดงั 2ด. ย้มิ ตอบ สง่ เสยี งออ้ แอ้ 3ด. ย้มิ เอง หวั เราะ จาแมไ่ ด้ 4ด. หวั เราะสง่ เสยี งดงั 5ด. เลน่ เสยี ง 6ด.หนั หาเสยี งเรียก สง่ เสยี งปะ มะ 7ด. เลียนเสยี ง เขา้ ใจสหี นา้ ทา่ ทาง 8ด.พูดเสยี งหมา่ เลน่ จะ๊ เอ๋ พูดคามีความหมาย 1 คา 9ด. พูดตาม รูจ้ กั ชอ่ื 10ด. พูดบา๊ ยบาย พยกั หนา้ 11ด. เรียก พอ่ แม่ 12ด. พูดได1้ -2 คา ฟังคาสงั่ ง่ายๆ

การใชภ้ าษาสอื่ ความหมาย การแสดงอารมณค์ วามรสู้ กึ และความตอ้ งการของ ทารก (N10) การเรยี นรู้ และการพฒั นาการเรยี นรขู้ องทารก (N14) พฒั นาการทางสติปัญญาขนั้ ที่ 1 ระยะใชป้ ระสาทสมั ผสั และการเคลอื่ นไหว (Sensory motor period) ตามแนวคิดของเพยี เจท์ ระยะท่ี 1 (แรกเกดิ -1ด.) มปี ฏิกิรยิ าสะทอ้ น (Reflex) ระยะท่ี 2 (1-4 ด.) ประสานการทางานได้ เชน่ การประสานสายตากบั มารดาขณะดูดนม ระยะที่ 3 (4-8 ด.) เมือ่ ทาบางอยา่ งไดโ้ ดยบงั เอญิ จะมกี ารทาซา้ และการเลียนแบบ ระยะท่ี 4 (8-12 ด.)สามารถคาดการณไ์ ด้ เชน่ การหาของทซ่ี อ่ นใตผ้ า้ โดยการดงึ ผา้ ออก ระยะท่ี 5 (12-18 ด.) สามารถทดลองหาวธิ กี าร/ใชเ้ ครอื่ งมอื ง่าย ๆ เชน่ ดงึ เชอื ก ดงั นน้ั ทารกจะเรยี นรูแ้ ละแกป้ ัญหาจากการสมั ผสั สงิ่ เรา้ และจากการเคล่อื นไหวรา่ งกาย

ดา้ นจติ วิญญาณและจรยิ ธรรม (Spiritual and Moral)

คณุ ธรรมจรยิ ธรรมและจติ วิญญาณ (N11) - รบั รูก้ ารแสดงออกของพ่อแมแ่ ละผเู้ ล้ียงดไู ด้ - ตอ้ งการการยกยอ่ งชมเชยจากพ่อแมเ่ ม่ือสามารถทากิจกรรมตา่ ง ๆ สาเร็จ เชน่ การปรบมือให้ การโอบกอดการหอมแกม้ - ทารกสามารถรบั รูท้ า่ ทางหรอื การแสดงของพอ่ แมท่ ส่ี ะทอ้ นใหท้ ารกไดร้ บั รู้ วา่ ตวั เองทาใหผ้ อู้ น่ื รูส้ กึ เจบ็ หรอื ขวา้ งปาขา้ งของ - ทารกยงั สามารถรบั รูก้ ารสอนพฤตกิ รรมทางสงั คมได้ เชน่ การพูดคาวา่ ขอบคณุ คะ่ หรือ จบั มอื เด็กใหไ้ หวข้ อบคณุ

คุณธรรมจรยิ ธรรมและจติ วิญญาณ (N11) การพยาบาล • การเล้ยี งดูดว้ ยความรกั ดูแลใกลช้ ดิ เอาใจใสเ่ ด็ก • สงั เกตลกั ษณะเฉพาะตวั และพ้ืนอารมณข์ องทารก ซงึ่ จะแตกตา่ งกนั ในเดก็ แตล่ ะคน • พ่อแมค่ วรแสดงทา่ ทางหรอื สอื่ สารใหเ้ ด็กรูว้ า่ เจบ็ ปวด ดใี จ เสยี ใจ จากผลจากการการกระทาของทารก พรอ้ มกบั สอนคณุ ธรรมจรยิ ธรรมดว้ ยภาษาทเ่ี ขา้ ใจง่าย

ดา้ นสงั คม (Sociologically Oriented to Occupation and Recreation)

การทากจิ กรรมใหป้ ระสบความสาเรจ็ (N12) การเล่นหรอื สนั ทนาการเพอื่ ผ่อนคลายของทารก (N13) ระยะพฒั นาการขน้ั ท่ี 1 ความไวว้ างใจ กบั ความไม่ไวว้ างใจ (Trust & mistrust) - พึ่งพาอาศยั ผอู้ น่ื ในการดแู ลทุกดา้ น -การดแู ลเอาใจใส่ ใหค้ วามรกั ความอบอนุ่ - ดแู ลใหไ้ ดร้ บั การตอบสนองความตอ้ งการขนั้ พ้ืนฐานทง้ั ทางรา่ งกาย และอารม อยา่ งเพียงพอ  เดก็ จะเกิดการเรยี นรูท้ พ่ี ฒั นาเป็ นความไวว้ างใจคนอนื่ ๆ

การทากจิ กรรมใหป้ ระสบความสาเรจ็ (N12) การเล่นหรอื สนั ทนาการเพอ่ื ผ่อนคลายของทารก (N13) พฒั นาการดา้ นสงั คมของทารก ไดแ้ ก่  สามารถหนั หาสง่ิ แวดลอ้ มรอบขา้ งได้  เอ้อื มมือไขวค่ วา้ สง่ิ ของ ควา้ ของเลน่ ไดเ้ มือ่ สง่ ของเลน่ ให้  มองตามการเคลือ่ นไหวของสงิ่ รอบตวั เชน่ มคี นเดนิ ผา่ น  มองตามของเลน่ ทเี่ คลอ่ื นทไี่ ด้

การทากจิ กรรมใหป้ ระสบความสาเรจ็ (N12) การเล่นหรอื สนั ทนาการเพอื่ ผ่อนคลายของทารก (N13) การพยาบาล • ดแู ลเอาใจใส่ -ใหไ้ ดร้ กั ความอบอุน่ อุม้ โอบกอดดว้ ยความนุ่มนวล • ดูแลใหไ้ ดร้ บั การตอบสนองความตอ้ งการพ้ืนฐานทง้ั ดา้ นรา่ งกายและอารมณ - ทารกไดด้ ดู นมมารดาจนอมิ่ - เดก็ หลงั 6ด.ไดร้ บั อาหารเสรมิ ทม่ี ีคณุ คา่ -ปรมิ าณทเี่ พียงพอ - ไดร้ บั การเรยี นรูป้ ฏิกิรยิ าของเด็ก เขา้ ใจความตอ้ งการของเดก็ • ดแู ลความสุขสบาย และความปลอดภยั ทวั่ ไป เชน่ เปลย่ี นผา้ ออ้ ม อาบนา้ • สง่ เสรมิ ความผูกพนั ระหวา่ งมารดากบั ทารก (Bonding and attachment)

การทากจิ กรรมใหป้ ระสบความสาเรจ็ (N12) การเล่นหรอื สนั ทนาการเพอ่ื ผ่อนคลายของทารก (N13) การพยาบาล • จดั หาของเลน่ ทเี่ หมาะสมตามวยั เชน่ โมบายแขวน กลอ่ งเสยี งไขลานได้ • มกี ิจกรรมการเลน่ ทมี่ กี ารพูดคยุ กนั กบั เดก็ บอ่ ย ๆ • อา่ นหนงั สอื นิทานทมี่ ีรูปภาพใหเ้ ด็กฟัง • พูดคยุ กบั เดก็ ดว้ ยคางา่ ย ๆ ใหเ้ ลียนเสยี ง สอนการเรยี กชอื่ สง่ิ ของตา่ ง • 7-9 ด. พดู คยุ กบั เดก็ เลน่ จะ๊ เอ๋ บา๊ ยบาย • 8-12 ด. เลน่ เกมสข์ องหายและกลบี คนื มาใหม่ พาไปพบปะคนอน่ื • ควรกระตุน้ ใหเ้ ด็กไดเ้ ห็นสงิ่ ตา่ งๆ รอบตวั เชน่ กระตนุ้ ใหเ้ ดก็ คลาน เดนิ • จดั สภาพแวดลอ้ มใหเ้ หมาะสม ปลอดภยั

Question


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook